NewsTitle
stringlengths
11
31.5k
Detail
stringlengths
9
78.4k
NewsDate
stringlengths
3
5.77k
Region
stringclasses
48 values
Province
stringclasses
99 values
Department
stringclasses
211 values
Link_News
stringlengths
3
903
v
stringclasses
812 values
พุทธศาสนิกชนชาวสงขลา และพื้นที่ใกล้เคียง ร่วมพิธียกฉัตรประดิษฐานบนปลียอดพระธาตุเจดีย์วัดควนนิมิตร อำเภอจะนะ จังหวัดสงขลา เพื่อเป็นสิริมงคลและให้ประชาชนได้สักการะ
บ่ายวันนี้ (31 มี.ค. 66) นายเจษฎา จิตรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ร่วมประกอบพิธียกฉัตรประดิษฐานบนปลียอดพระธาตุเจดีย์วัดควนนิมิตร ตําบลคลองเปียะ อําเภอจะนะ จังหวัดสงขลา เพื่อความเป็นสิริมงคล โดยมีพระเดชพระคุณ พระพรหมวชิรมงคล เจ้าอาวาสวัดราชาธิวาสวิหาร กรุงเทพมหานคร เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ ดร.นาที รัชกิจประการ ประธานฝ่ายฆราวาส พร้อมด้วยพระสงฆ์ทรงสมณศักดิ์ หัวหน้าส่วนราชการ พุทธศาสนิกชนในจังหวัดสงขลาและพื้นที่ใกล้เคียงเข้าร่วมพิธีจํานวนมากสําหรับวัดควนมิตร ตั้งอยู่เลขที่ 7 หมู่ที่ 2 ตําบลคลองเปียะ อําเภอจะนะ จังหวัดสงขลา ตั้งวัดในพระพุทธศาสนาเมื่อปีพุทธศักราช 2360 เป็นวัดที่มีความสําคัญวัดอีกวัดหนึ่งของจังหวัดสงขลา ซึ่งมีเจดีย์บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ และมีประวัติความเป็นมาอย่างยาวนานทั้งนี้ ในปี พ.ศ. 2561 พระเดชพระคุณ พระสุทธิสารสุธี เจ้าคณะจังหวัดสงขลา-สตูล (ธรรมยุต) ได้มารักษาการเจ้าอาวาสวัดควนมิตร และได้ประสานไปยังจังหวัดสงขลา เพื่อของบประมาณจากกองทุนไฟฟ้าโรงงานไฟฟ้าจะนะ จํานวนเงิน 2,500,000 บาท และได้รับงบประมาณจากคุณฉัตรแก้ว คชเสนี กรรมการผู้จัดการกลุ่มบริษัท ในเครือฉัตรทองพร็อพเพอร์ตี้ เป็นจํานวนเงิน 2,000,000 บาท เพื่อบูรณะเสนาสนะภายในวัด และพระธาตุเจดีย์วัดควนมิตร จนแล้วเสร็จสวยงามดังที่เห็นอยู่ในปัจจุบันพระเดชพระคุณ พระสุทธิสารสุธี จึงได้ปรึกษาคณะกรรมการและชาวบ้าน เพื่อร่วมกันจัดงานสมโภชพระธาตุเจดีย์ และจัดพิธียกฉัตรขึ้นประดิษฐานบนปลียอดพระธาตุเจดีย์วัดควนมิตร ระหว่างวันที่ 29-31 มีนาคม 2566 เพื่อสมโภชพระธาตุเจดีย์ที่บูรณปฏิสังขรณ์เสร็จสมบูรณ์แล้ว พร้อมทั้งเป็นการสืบทอดอายุพระพุทธศาสนา เปิดโอกาสให้เพื่อให้พุทธศาสนิกชนได้ร่วมทําบุญและสักการะพระบรมสารีริกธาตุที่บรรจุอยู่ในองค์เจดีย์ และเปิดโอกาสให้พุทธศาสนิกชนได้ฟังธรรม ปฏิบัติธรรม ฯศิริลักษณ์ แคล้วคลาด/ข่าว ประชา-วิทยา/ภาพสํานักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสงขลา 31 มี.ค. 66#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
31/3/2023
ภาคใต้
สงขลา
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสงขลา
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230331162900825
null
ชลบุรีจัดงานแถลงข่าวงานนมัสการพระพุทธสิหิงค์ งานสงกรานต์และงานกาชาดจังหวัดชลบุรี ประจำปี พ.ศ. 2566
วันที่ 31 มีนาคม 2566 เวลา 18.00 น. นายธวัชชัย ศรีทอง ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี พร้อมด้วย นางสาวประภัสรา ศรีทอง นายกเหล่ากาชาดจังหวัดชลบุรี นายนริศ นิรามัยวงศ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี นายนัทวัฒน์ ทองช่วง นายอําเภอเกาะสีชัง หัวหน้าส่วนราชการ เจ้าหน้าที่ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมงานแถลงข่าวงานนมัสการพระพุทธสิหิงค์ งานสงกรานต์จังหวัดชลบุรีและงานกาชาดจังหวัดชลบุรี ประจําปี พ.ศ. 2566 ณ สะพานอัษฎางค์ อําเภอเกาะสีชัง จ.ชลบุรี งานนมัสการพระพุทธสิหิงค์ฯ งานสงกรานต์จังหวัดชลบุรีและงานกาชาดจังหวัดชลบุรีในปีนี้ จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 91 ระหว่างวันที่ 11-19 เมษายน 2566 รวม 10 วัน ณ สนามหน้าศาลากลางจังหวัดชลบุรี โดยมีทั้งในส่วนของการจัดงานนมัสการพระพุทธสิหิงค์ พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองประจําจังหวัดชลบุรี ขบวนแห่สงกรานต์ การละเล่นพื้นบ้าน ร้านค้าและเกมต่าง ๆ และงานมัจฉากาชาด ซึ่งเป็นการรับมอบสิ่งของจากหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน เพื่อมารวบรวมจําหน่ายสลากให้ประชาชนได้ลุ้นรางวัลและร่วมทําบุญกับทางการชาดจังหวัดชลบุรี ซึ่งรายได้ทั้งหมด จะนําเงินที่ได้จากการออกร้านไปช่วยเหลือผู้ป่วย และผู้ประสบสาธารณภัยอย่างต่อเนื่องทั้งนี้ งานนมัสการพระพุทธสิหิงค์ งานสงกรานต์และงานกาชาดจังหวัดชลบุรี เป็นงานสืบสานวัฒนธรรมประเพณีอันดีงามของไทย อัตลักษณ์ของคนในท้องถิ่นชลบุรี และเป็นงานที่สนับสนุนให้ชาวชลบุรีได้สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ทํานุบํารุงพระศาสนา จึงขอเชิญชวนประชาชนทุกคนร่วมงานดังกล่าวระหว่าง 11-19 เมษายน นี้#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
31/3/2023
ภาคตะวันออก
ชลบุรี
สวท.ชลบุรี
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230331204828922
null
อำเภอเบตง จังหวัดยะลา จัดกิจกรรมสานสัมพันธ์ในเดือนรอมฎอน 2 แผ่นดิน ไทย-มาเลเซีย ประจำปี ฮิจเราะห์ศักราช 1444 ร่วมละศิลอด สานสัมพันธ์ของประชาชนในเมืองชายแดน ในเดือนรอมฎอนอันประเสริฐ ที่แสดงให้เห็นถึงความงดงามหลากหลายทางวัฒนธรรมของทั้งสองประเทศ
วันนี้ (31มี.ค.66) บรรยากาศการสานสัมพันธ์ของประชาชนในเมืองชายแดนทั้งสองประเทศ ช่วงเดือนรอมฎอนอันประเสริฐ ที่แสดงให้เห็นถึงความงดงามหลากหลายทางวัฒนธรรม โดยที่มัสยิดกลางอําเภอเบตง จังหวัดยะลา พันจ่าโท อนันต์ บุญสําราญ รองผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา เป็นประธานเปิดกิจกรรมสานสัมพันธ์ในเดือนรอมฎอน 2 แผ่นดิน ไทย-มาเลเซีย ประจําปีฮิจเราะห์ศักราช 1444 เชื่อมความสัมพันธ์อันดีงามระหว่างประชาชน ผู้นําศาสนา และส่วนราชการของทั้ง 2 ประเทศ โดยมี ดาโต๊ะ เมเออร์ รอสลัน บิน บิน ดาโต๊ะ เซอรี ฮัจญี เมเออร์ อาหะหมัด ราซีดี ผู้แทนสุลต่านฮูลูเปรัค ประเทศมาเลเซีย พลตรี ธนัช ฉิมพาลี ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจยะลา นายเอก ยังอภัย ณ สงขลา นายอําเภอเบตง นายอิสมาแอ หะยีมะนุส คณะกรรมการอิสลามประจําจังหวัดยะลา สาขาเบตง พร้อมด้วยผู้นําศาสนา ประชาชน และส่วนราชการของทั้ง 2 ประเทศ ร่วมละศิลอด ร่วมกันพันจ่าโท อนันต์ บุญสําราญ รองผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา กล่าวว่า อําเภอเบตง จังหวัดยะล กับอําเภอฮูลูเปรัค รัฐเปรัค และอําเภอบาลิ่ง รัฐเคดาห์ ประเทศมาเลเซีย เป็นอําเภอที่อยู่ติดกัน ซึ่งได้ร่วมกันจัดกิจกรรมเชื่อมความสัมพันธ์ด้วยดีมาตลอด สร้างความสัมพันธ์และความร่วมมือของข้าราชการ ผู้นําศาสนา ประชาชน ของทั้ง 2 ประเทศ ในเดือนรอมฎอนนี้ ซึ่งถือเป็นเดือนที่สําคัญยิ่งของชาวมุสลิมทั่วโลก การมีโอกาสมาร่วมละศีลอดด้วยกันของประชาชนเมืองชายแดนทั้ง 2 ประเทศ ถือเป็นการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน และขอให้เดือนรอมฎอนนี้ เป็นเดือนที่จะนําพาความสันติสุขให้เกิดขึ้นในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ต่อไปด้านนายอิสมาแอ หะยีมะนุส คณะกรรมการอิสลามประจําจังหวัดยะลา สาขาเบตง กล่าวว่า เดือนรอมฏอน ตามปฏิทินอิสลามเป็นเดือนสําคัญที่ทางหลักศาสนาได้กําหนด ให้มีการถือปฏิบัติตามหลักศาสนาประการหนึ่งคือ การถือศีลอด ซึ่งการถือศีลอด ตามความหมายทางศาสนาของอิสลาม คือ การงดเว้นจากการกิน การดื่ม การเสพ และการมีความสัมพันธ์ทางเพศ ตั้งแต่ดวงอาทิตย์ขึ้นจนถึงดวงอาทิตย์ตก ตลอดทั้งเดือนรอมฏอนของทุกปี ซึ่งอาจจะมีระยะเวลา 29 หรือ 30 วัน ซึ่งในทุก ๆ ปี เมื่อเข้าสู่เดือนรอมฏอน ของพี่น้องมุสลิมจะปฏิบัติภารกิจถือศีลอด เป็นการทดสอบความศรัทธาอันแรงกล้าต่อองค์พระผู้เป็นเจ้า ที่ประทานพระบัญญัติแก่มวลมนุษย์เพื่อฝึกฝนให้รู้จักความอดทนอดกลั้น มีจิตใจหนักแน่น และไม่ท้อถอยอย่างง่ายดาย ต่อความยากลําบาก โดยมีเจตนาว่าทําอิบาดะฮฺต่ออัลลอฮฺ ตะอาลา องค์เดียวเท่านั้นสําหรับบรรยากาศภายในงาน ได้อัญเชิญคัมภีร์อัลกุรอ่าน การบรรยายธรรม เรื่องความดีงาม ความประเสริฐของเดือนรอมฎอน การมอบของการมอบเงินสนับสนุนมัสยิด การมอบของที่ระลึก การมอบอินทผลัม การการกล่าวดูอาร์ละศีลอด การละศีลอด และการละหมาดมัฆริบโดยพร้อมเพรียงร่วมกัน#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
31/3/2023
ภาคใต้
ยะลา
สวท.เบตง จ.ยะลา
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230331223523941
null
ชาวพิจิตรเนืองแน่น ร่วมชมการแสดงโขนรามเกียรติ์ ชุด “พรหมพงศ์ วงศ์อสุรา” ในงานแผ่นดินสมเด็จพระเจ้าเสือและมหกรรมของดีเมืองพิจิตร 2566 สนับสนุน Soft Power ของไทย
วันที่ 31 มีนาคม 2566 ที่บริเวณพระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระเจ้าเสือ ภายในสนามกีฬาจังหวัดพิจิตร นายพยนต์ อัศวพิชยนต์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร พร้อมด้วยนายสิงหราช วงษ์เสงี่ยม รองผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร และส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ร่วมชมการแสดงโขนรามเกียรติ์ ชุด “พรหมพงศ์ วงศ์อสุรา” ในงานแผ่นดินสมเด็จพระเจ้าเสือและมหกรรมของดีเมืองพิจิตร 2566 ซึ่งเป็นตอนที่นําเสนอเรื่องราวของนนทก ชาติกําเนิดของทศกัณฐ์ นนทก เป็นยักษ์รับใช้ของพระอิศวร มีหน้าที่คอยล้างเท้าให้เทพก่อนเข้าเฝ้าพระอิศวรอยู่ที่ตีนเขาไกรลาส และถูกเหล่าเทวดากลั่นแกล้ง จึงไปเข้าเฝ้าพระอิศวร ทูลขอนิ้วเพชร มีฤทธิ์ชี้ไปที่ใครคนนั้นก็จะต้องตาย นนทกไล่ชี้นิ้วเพชรใส่เทวดาที่เคยแกล้งตนเพื่อให้หายแค้น จากนั้นเริ่มผยองไล่ฆ่าเทวดาไปทั่ว พระอิศวรจึงทรงโปรดให้พระนารายณ์ไปปราบ โดยแปลงเป็นนางอัปสรรูปงาม แกล้งยั่วให้นนทกร่ายรําตามตน จนหลงกลชี้นิ้วเพชรที่ขาของตัวเองจนขาหัก นนทกเห็นว่าพระนารายณ์เป็นฝ่ายได้เปรียบ พระนารายณ์จึงให้โอกาสแก่นนทกเพื่อสู้กันใหม่ในชาติหน้าให้มีสิบหน้ายี่สิบมือ นนทกจึงเกิดใหม่เป็นทศกัณฐ์ ส่วนพระนารายณ์เกิดเป็นพระราม สําหรับบรรยากาศภายในงานมีประชาชนชาวพิจิตรสนใจชมโขนรามเกียรติ์กันอย่างเนืองแน่น ซึ่งนอกจากได้รับชมการแสดงศิลปวัฒนธรรมไทยที่หาชมได้ยากแล้ว ยังเป็นการร่วมสนับสนุน Soft Power ของประเทศไทยอีกด้วย ส.ปชส.พิจิตร...ข่าว/ภาพ 31 มี.ค.66#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
31/3/2023
ภาคเหนือ
พิจิตร
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดพิจิตร
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230331223710942
null
รายงานพิเศษ : สรุปข่าวสิ่งแวดล้อม ประจำปี 2565
รายงานพิเศษ : สรุปข่าวสิ่งแวดล้อม ประจําปี 2565 ในปี 2565 ประเทศไทยเผชิญกับปัญหาสิ่งแวดล้อมในหลากหลายรูปแบบ ทั้งจากปัจจัยที่ควบคุมได้และควบคุมไม่ได้ โดยคืนวันที่ 25 มกราคมบริเวณทะเลฝั่งอ่าวไทยเกิดเหตุน้ํามันดิบรั่วไหลห่างจากท่าเรือมาบตาพุด 20 กิโลเมตรตรงจุดขนถ่ายน้ํามันในทะเลของ บริษัท สตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง จํากัด (มหาชน) ในนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด อ.เมือง จ.ระยอง โดยมีปริมาณน้ํามันไหลลงสู่ท้องทะเล 47,000 ลิตร จึงระดมกําลังเจ้าหน้าที่จากหลายหน่วยงานเข้าเก็บกู้คราบน้ํามันที่ลอยอยู่กลางทะเลและที่ถูกคลื่นซัดเข้าชายฝั่ง เพื่อลดผลกระทบต่อทรัพยากรธรรมชาติ สิ่งแวดล้อม และสัตว์ทะเลหายาก ด้วยการนําทุกวิธีที่สามารถกําจัดและเก็บกู้คราบน้ํามันดังกล่าวออกอย่างเร็วที่สุด เช่น ใช้บูมล้อมคราบน้ํามัน เทน้ํายาขจัดคราบ ใช้กระดาษซับน้ํามันบนชายหาด ประกาศปิดชายหาดแม่รําพึงเป็นพื้นที่ประสบภัยพิเศษห้ามเข้าออกและห้ามเล่นน้ํา จนสถานการณ์กลับเข้าสู่สภาวะปกติ ซึ่งหน่วยงานภาครัฐได้ฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายและให้จ่ายค่าชดเชยให้กับประชาชนที่ได้รับผลกระทบกว่า 300 ล้านบาท แล้วคุมเข้มมาตรการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุซ้ํารอยอีก สิ่งที่เห็นภาพได้ชัดเจนมากขึ้นเกี่ยวกับการแก้ปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ คือ หลายประเทศทั่วโลกได้ร่วมกันจัดตั้งกองทุนดูแลความสูญเสียและความเสียหายที่เกิดจากภัยพิบัติจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ (Loss and Damage Finance Fund) เพื่อช่วยเหลือประเทศกําลังพัฒนาที่ได้รับผลกระทบโดยตรงและรุนแรงจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ซึ่งเป็นผลลัพธ์จากเวทีการประชุมรัฐภาคีกรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ สมัยที่ 27 (COP 27) และการประชุมอื่นที่เกี่ยวข้อง ระหว่างวันที่ 6 - 18 พฤศจิกายน ณ เมืองชาร์ม-เอล-เชค สาธารณรัฐอาหรับอียิปต์ นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า กองทุนดังกล่าวจะช่วยขับเคลื่อนความเป็นธรรมทางสภาพภูมิอากาศที่รัฐบาลแต่ละประเทศที่พัฒนาแล้วและประเทศอุตสาหกรรมที่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกจํานวนมากต้องจ่ายเงินเป็นทุนสนับสนุนสําคัญให้กลุ่มประเทศกําลังพัฒนาและชุมชนที่ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากวิกฤติสภาพภูมิอากาศที่รุนแรงประมาณ 100,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯต่อปี ซึ่งเงินทุนไม่ใช่แค่การชดเชยความสูญเสียและเสียหายเท่านั้น แต่จะเป็นเงินที่นํามาสนับสนุนกลุ่มประเทศกําลังพัฒนาใช้ปรับตัวและรับมือกับวิกฤติของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศอย่างเต็มที่ โดยเฉพาะการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์และการเพิ่มศักยภาพการปรับตัวเพื่อการอยู่รอดจากวิกฤติโลกร้อนในปัจจุบัน ขณะที่ประเทศไทยเองได้นําเสนอแผนจัดการการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศระยะยาว เพราะไทยจะก้าวสู่การบรรลุเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอนในปี 2050 และการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ในปี 2065 จะช่วยสร้างโอกาสและเพิ่มมูลค่าสําหรับการลงทุนที่ปล่อยคาร์บอนต่ํา ซึ่งไทยได้ออกมาตรการและดําเนินการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกอย่างจริงจังมาโดยตลอด ในส่วนของค่าฝุ่นละออง PM 2.5 รัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจยังคงออกหรือเพิ่มมาตรการที่เหมาะสมสอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบันมากที่สุด โดยได้ประกาศใช้ "3 พื้นที่ 7 มาตรการ" รับมือและแก้ปัญหาไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละอองปี 2566 หลังคาดการณ์ฝุ่นละออง PM2.5 จะรุนแรงกว่าปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะกรุงเทพมหานครและปริมณฑลแหล่งกําเนิดฝุ่นละอองมาจากยานพาหนะเป็นหลัก จําต้องจํากัดจํานวนและลดการระบายมลพิษจากแหล่งกําเนิดลงให้ได้ ทําให้ภาครัฐต้องยกระดับมาตรการให้เข้มงวดขึ้นเพื่อลดมลพิษที่ระบายออกสู่ชั้นบรรยากาศ ด้านการแก้ปัญหาหมอกควันไฟป่าในภาคเหนือ 17 จังหวัด ตั้งเป้าลดจุดความร้อน (Hotspot) ในปี 2566 ในพื้นที่ป่าอนุรักษ์ให้ได้ร้อยละ 20 หลังปี 2565 ประสบความสําเร็จอย่างมากในการลดการเผาในเขตป่าและพื้นที่เกษตรกรรม ปิดท้ายสถานการณ์สิ่งแวดล้อมด้วยเรื่องสะเทือนวงการป่าไม้ช่วงปลายปี 2565 เมื่อช่วงเช้าวันที่ 27 ธันวาคม คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) , คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) และกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (ปปป.) ได้ร่วมกันเข้าจับกุม นายรัชฎา สุริยกุล ณ อยุธยา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช หลังได้รับแจ้งเบาะแสใช้อํานาจในตําแหน่งหน้าที่เรียกรับเงินจากผู้ใต้บังคับบัญชาเพื่อแลกกับการไม่ถูกโยกย้ายตําแหน่ง จึงได้วางแผนให้ผู้เสียหายนําเงินสด 98,000 บาท มอบให้และยังพบเงินสดใส่ซองสีขาวและสีน้ําตาล รวมประมาณ 5 ล้านบาท ขณะนี้อยู่ระหว่างสืบสวนสอบสวน เบื้องต้นผู้ถูกกล่าวหาได้ให้การภาคเสธและขอยื่นประกันตัวชั่วคราวด้วยวงเงิน 400,000 บาท โดยกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมได้ตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงเพื่อความเป็นธรรมของทุกฝ่าย
2/1/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230103140132672
null
รายงานพิเศษ : “ยกระดับป่าชุมชนบ้านโค้งตาบาง จังหวัดเพชรบุรี เป็นป่าชุมชนแห่งแรกสู่ตลาดคาร์บอนเครดิต”
รายงานพิเศษ : “ยกระดับป่าชุมชนบ้านโค้งตาบาง จังหวัดเพชรบุรี เป็นป่าชุมชนแห่งแรกสู่ตลาดคาร์บอนเครดิต” กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ยกระดับป่าชุมชนบ้านโค้งตาบาง จังหวัดเพชรบุรี เป็นป่าชุมชนแห่งแรกที่มีการขึ้นทะเบียนโครงการลดก๊าซเรือนกระจกภาคสมัครใจตามมาตรฐานของประเทศไทย (T-VER) หวังสร้างรายได้จากการขายคาร์บอนเครดิตให้ชุมชนและภาครัฐ ป่าชุมชนบ้านโค้งตาบาง จังหวัดเพชรบุรี ถือเป็นป่าชุมชนแห่งแรกที่มีการขึ้นทะเบียนโครงการลดก๊าซเรือนกระจกภาคสมัครใจตามมาตรฐานของประเทศไทย (T-VER) โดยผลจากการที่ชุมชนเข้ามามีบทบาทปกป้องรักษาป่าชุมชน อนุรักษ์ควบคุมดูแล ปลูกฟื้นฟูป่าชุมชนมาตลอด 7 ปี ทําให้ป่าชุมชนบ้านโค้งตาบางลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากการทําลายป่า ความเสื่อมโทรมของป่า และเพิ่มพูนการกักเก็บคาร์บอน ที่มีคาร์บอนเครดิตได้รับการรับรอง 5,259 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า จึงเป็นป่าชุมชนแห่งแรกของประเทศไทยที่พร้อมเข้าสู่ตลาดคาร์บอนเครดิต ประเทศไทยมีป่าชุมชนที่มีศักยภาพขึ้นทะเบียน T-VER อีก 16 ชุมชน ส่วนในปี 2564 - 2565 อยู่ระหว่างพิจารณาขึ้นทะเบียน T-VER ให้กับป่าชุมชนอื่นๆ ปัจจุบันไทยมีป่าชุมชนแล้ว 12,117 แห่งทั่วประเทศ สามารถรักษาพื้นที่ป่าได้ 6.64 ล้านไร่ หากดําเนินการทุกพื้นที่รวมกันจะกักเก็บก๊าซคาร์บอนไว้ได้ 42 ล้านตันคาร์บอน คาดว่า จะช่วยดูดซับก๊าซเรือนกระจกได้ประมาณ 6.27 ล้านตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่าต่อปี นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เล่าว่า กรมป่าไม้ เตรียมเสนอร่างระเบียบคณะกรรมการนโยบายป่าชุมชนว่าด้วยหลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขการใช้ประโยชน์จากผลผลิตและบริการป่าชุมชน พ.ศ..... โดยกําหนดสัดส่วนการแบ่งปันคาร์บอนเครดิตให้คณะกรรมการจัดการป่าชุมชนประจําป่าชุมชนที่ขึ้นทะเบียน ร้อยละ 90 และเป็นของรัฐโดยกรมป่าไม้ร้อยละ 10 เพื่อนําไปแก้ปัญหาไฟป่าหมอกควันและดูแลผืนป่าของประเทศ สําหรับโครงการที่กรมป่าไม้ดําเนินการเกี่ยวกับการลดก๊าซเรือนกระจกภาคป่าไม้ เช่น การพัฒนาป่าชุมชนเมืองเพื่อลดสภาวะโลกร้อน 512 แห่ง // จัดฝึกอบรมหลักสูตรสร้างป่าพัฒนาเมือง 167 รุ่น // ปรับปรุงและพัฒนาสวนสาธารณะ 80 แห่ง เพื่อเป็นแหล่งเรียนรู้ศึกษาธรรมชาติและบทบาทของต้นไม้ที่ช่วยลดสภาวะโลกร้อน // การพัฒนาแห่งเรียนรู้การกักเก็บคาร์บอนในป่าชุมชนเมือง 6 แห่ง รวม 600 ไร่ // โครงการศึกษาการกักเก็บคาร์บอนและความหลากหลายทางชีวภาพในป่าชุมชนอย่างมีส่วนร่วม 61 ป่าชุมชน เพื่อประเมินและส่งเสริมป่าชุมชนให้เป็นแหล่งกักเก็บปริมาณคาร์บอนและความหลากหลายทาง
6/1/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230106085726541
null
รายงานพิเศษ เรื่อง ภาชนะบรรจุอาหารจากใบจาก ใส่ใจสิ่งแวดล้อม ตอบรับ BCG Model
มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย ส่งเสริมและสนับสนุนนโยบายการเพิ่มขีดความสามารถของประชาชน นําเศษวัสดุจากใบจาก ในพื้นที่จังหวัดตรัง สู่การเพิ่มมูลค่าและสร้างรายได้อย่างยั่งยืนให้กับชุมชน ตอบรับ BCG Model BCG Model คือ การบูรณาการการพัฒนาเศรษฐกิจทั้ง 3 ด้าน ได้แก่ เศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน และเศรษฐกิจสีเขียวไปพร้อมกัน เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยให้เติบโตควบคู่กับการพัฒนาสังคมและการรักษาสิ่งแวดล้อมได้อย่างสมดุลและยั่งยืน จังหวัดตรัง ขับเคลื่อนเรื่องนี้อย่างไร ติดตามได้จากรายงานหน่วยวิจัยเทคโนโลยีการแปรรูปวัสดุ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย ได้ส่งเสริมและสนับสนุนนโยบายการเพิ่มขีดความสามารถของประชาชนในพื้นที่ โดยการนําเศษวัสดุจากใบจาก ในพื้นที่จังหวัดตรัง สู่การเพิ่มมูลค่าและสร้างรายได้อย่างยั่งยืนให้กับชุมชน ตอบรับ BCG Model รศ.ดร.ชาตรี หอมเขียว อาจารย์และหัวหน้าหน่วยวิจัยเทคโนโลยีการแปรรูปวัสดุ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย กล่าวว่า กลุ่มวิสาหกิจชุมชนทุ่งกระบือร่วมใจพัฒนา ตําบลทุ่งกระบือ อําเภอย่านตาขาว จังหวัดตรัง รวมกลุ่มแปรรูปผลิตภัณฑ์ที่ได้จากใบจาก เช่น นําใบจากมาลอกทํามวนบุหรี่ นําก้านจากมาสานตะกร้าและทําน้ําตาลจาก ทําให้มีเศษวัสดุจากใบจากหลงเหลือในพื้นที่เป็นจํานวนมาก คณะนักวิจัยจาก มทร.ศรีวิชัยและสมาชิกในกลุ่มวิสาหกิจชุมชนทุ่งกระบือร่วมใจพัฒนา จึงมีความเห็นตรงกันว่า จะนําใบจากมาผลิตเป็นภาชนะบรรจุอาหารรักษ์โลก สะอาด ปลอดภัยและใส่ใจสิ่งแวดล้อม เป็นการพัฒนาเศรษฐกิจ ควบคู่ไปกับการพัฒนาสังคมและการรักษาสิ่งแวดล้อมได้อย่างสมดุลให้เกิดความมั่นคงและยั่งยืนไปพร้อมกัน ตอบโจทย์ BCG Modelนอกจากนี้ ยังได้สร้างและจัดการช่องทางการจัดจําหน่ายจานใบจากทั้งในรูปแบบออฟไลน์และออนไลน์ เกิดการกระจายรายได้ลงสู่ชุมชน ลดความเหลื่อมล้ํา ชุมชนเข้มแข็ง มีความเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและการพัฒนาที่ยั่งยืน ในขณะที่ตลาดต่างประเทศหรือตลาดอาเซียน จะต้องมีการพัฒนาทั้งคุณภาพและยกระดับผลิตภัณฑ์ในระยะต่อไปทั้งนี้ เพื่อให้เกิดความยั่งยืนในชุมชนนวัตกรรมและการพึ่งพาตนเองได้ของกลุ่มวิสาหกิจชุมชนทุ่งกระบือร่วมใจพัฒนา ทางคณะวิจัยได้มีการพัฒนานวัตกรชาวบ้าน ผ่านกระบวนการดําเนินงานวิจัยและฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการหลักสูตร “ นวัตกรบรรจุภัณฑ์อาหารจากใบจากสู่เชิงพาณิชย์” อีกทั้งยังมีการสร้าง Learning and Innovation Platform โดยจัดทําเป็นค่มือกรรมวิธีการผลิตภาชนะบรรจุอาหารใบจาก เพื่อใช้ในการเรียนรู้และถ่ายทอดองค์ความรู้ให้แก่คนในชุมชนใกล้เคียงหรือชุมชนที่มีความสนใจต่อไป #สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
9/1/2023
ภาคใต้
ตรัง
สวท.ตรัง
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230109092956207
null
รายงานพิเศษ : “กรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม (สส.) และภาคเอกชน นำขยะอินทรีย์อบแห้งมาใช้ประโยชน์และสร้างรายได้ให้ชุมชน”
รายงานพิเศษ : “กรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม (สส.) และภาคเอกชน นําขยะอินทรีย์อบแห้งมาใช้ประโยชน์และสร้างรายได้ให้ชุมชน” กรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม (สส.) และภาคเอกชน นําขยะอินทรีย์อบแห้งมาใช้ประโยชน์และสร้างรายได้ให้ชุมชน โดยเฉพาะการแก้ปัญหาด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่เกิดจากขยะเศษอาหาร สถานการณ์ขยะมูลฝอยของประเทศไทย พบมีการผลิตขยะออกมา 24.98 ล้านตันต่อปี หรือประมาณ 68,000 ตันต่อวัน แบ่งเป็น ขยะอินทรีย์ร้อยละ 64 โดยขยะอินทรีย์ 1 ตัน ปล่อยก๊าซเรือนกระจกเท่ากับ 0.51 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า ซึ่งอัตราการผลิตขยะต่อคน 1.14 กิโลกรัมต่อวัน แต่นํากลับไปใช้ประโยชน์เพียงร้อยละ 32 ถูกส่งกําจัดอย่างถูกต้องเพียงร้อยละ 37 ส่วนที่เหลือนําไปกําจัดไม่ถูกต้องกว่าร้อยละ 31 ทําให้เกิดขยะสะสมกลายเป็นปัญหามลภาวะ เป็นแหล่งเพาะพันธุ์เชื้อโรค ก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพกับประชาชน และเป็นการทิ้งทรัพยากรไปโดยเปล่าประโยชน์ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ให้ความสําคัญกับโมเดลเศรษฐกิจ BCG และการพัฒนาคุณภาพสิ่งแวดล้อม โดยมีแนวทางปฏิบัติอย่างชัดเจนบริหารจัดงานที่คํานึงถึงสิ่งแวดล้อม เพื่อให้การดําเนินธุรกิจเป็นไปอย่างยั่งยืน กรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม และบริษัท เอ็น.ซี.ซี.แมนเนจเม้นท์ แอนด์ ดิเวลลอปเม้นท์ จํากัด ได้ร่วมกันสนับสนุนการนําขยะอินทรีย์อบแห้งมาใช้ประโยชน์ในงานวิจัยมุ่งมั่นในการทําให้ขยะไม่ใช่ขยะ เพื่อการส่งเสริมและสนับสนุนการจัดการขยะตั้งแต่ต้นทางด้วยการนําขยะอินทรีย์อบแห้งที่ผ่านการแปรรูปแล้ว ไปใช้ประโยชน์ในภาคการศึกษาและการวิจัยของประเทศ ส่งเสริมการเผยแพร่องค์ความรู้ด้วยการประชาสัมพันธ์และถ่ายทอดให้กับชุมชน เครือข่าย และประชาชน นายวรพล จันทร์?งาม รองอธิบดี?กรมส่งเสริ?ม?คุณภาพสิ่ง?แวดล้อม? เล่าว่า ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีที่จะทําให้การส่งเสริม สนับสนุน พัฒนา เพื่อการศึกษาวิจัยและบริการวิชาการด้านสิ่งแวดล้อมขยายผลออกในวงกว้างเป็นประโยชน์ต่อการแก้ไขปัญหาขยะ นําไปสู่การแก้ปัญหาที่สําคัญด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศอย่างเป็นรูปธรรมต่อไป สําหรับแผนแม่บทการบริหารจัดการขยะมูลฝอยของประเทศ (พ.ศ. 2559-2564) พบจัดการขยะมูลฝอยอย่างถูกต้อง สําเร็จร้อยละ 69 จากเป้าร้อยละ 75 // จัดการของเสียอันตรายชุมชน สําเร็จร้อยละ 22 จากเป้าร้อยละ 30 และจัดการมูลฝอยติดเชื้อ สําเร็จร้อยละ 90.85 จากเป้า 100 เปอร์เซ็นต์ ส่วนใหญ่ยังไม่บรรลุตามเป้าหมายที่กําหนดมีปัญหาอุปสรรคและข้อจํากัด เช่น สถานที่กําจัดขยะมูลฝอยชุมชนของรัฐและเอกชนส่วนใหญ่ไม่ถูกต้องตามหลักวิชาการ ระบบติดตาม กํากับและควบคุมการดําเนินงานของสถานที่กําจัดขยะมูลฝอยยังไม่ทั่วถึงและเพียงพอ รวมทั้ง กฎหมายการจัดการขยะมูลฝอยปัจจุบันไม่สามารถกํากับดูแลให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ดําเนินการอย่างถูกต้องตามหลักวิชาการ จึงจําเป็นต้องมีแผนปฏิบัติการด้านการจัดการขยะของประเทศ ฉบับที่ 2 (พ.ศ. 2565 – 2570) ขยะมูลฝอยชุมชนต้องได้รับการจัดการอย่างถูกต้อง ร้อยละ 80 โดยจะเพิ่มการคัดแยกขยะจากบ้านเรือนและนํากลับไปรีไซเคิล ร้อยละ 36 การกําจัดจะมุ่งเน้นการนําไปเผาผลิตเป็นพลังงาน เพื่อลดการเทกองและการเผาขยะอย่างไม่ถูกต้องและลดการนําขยะไปฝังกลบ // เพิ่มปริมาณการนําขยะกลับมาเป็นวัสดุรีไซเคิลในการผลิตให้มากขึ้น ร้อยละ 74 – 100 // ลดปริมาณขยะอาหารเหลือร้อยละ 28 เพื่อลดปัญหากลิ่นเหม็นที่กองขยะและลดก๊าซเรือนกระจก // ของเสียอันตรายชุมชนได้รับการจัดการอย่างถูกต้อง อย่างน้อย ร้อยละ 50 // มูลฝอยติดเชื้อและกากอุตสาหกรรมที่เป็นอันตรายต้องจัดการอย่างถูกต้องร้อยละ 100 เพื่อยกระดับการบริหารจัดการขยะมูลฝอยที่ให้ความสําคัญกับการจัดการที่ต้นทางตามวัฏจักรชีวิตผลิตภัณฑ์ (Product Life Cycle) ตั้งแต่ต้นทาง เช่น การออกแบบการผลิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม สอดคล้องกับการกําจัดขยะมูลฝอย ณ ปลายทาง เพื่อนําทรัพยากรกลับคืนจากของเสียให้มากที่สุด
13/1/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230113160059788
null
รายงานพิเศษ : “ยกระดับความช่วยเหลือผู้ป่วยฉุกเฉินและทางการแพทย์ทางทะเล”
รายงานพิเศษ : “ยกระดับความช่วยเหลือผู้ป่วยฉุกเฉินและทางการแพทย์ทางทะเล” กรมทรัพยากรทางทะเลชายฝั่ง (ทช.) และสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ ร่วมกันพัฒนาและยกระดับปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ป่วยฉุกเฉินและทางการแพทย์ในทะเลเพื่อคุ้มครองสิทธิการเข้าถึงระบบการแพทย์ฉุกเฉินอย่างเท่าเทียมและมีคุณภาพมาตรฐาน กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) พยายามผลักดันให้การช่วยเหลือและรักษาพยาบาลผู้ป่วยเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและทันต่อเหตุการณ์ ตั้งแต่การรับรู้ถึงสภาวะการเจ็บป่วยฉุกเฉินจนพ้นวิกฤติในพื้นที่ทุรกันดาร พื้นที่ห่างไกล และพื้นที่เกาะต่างๆ ซึ่งปัจจุบันมีลักษณะจําเพาะและท้าทายการปฏิบัติการในพื้นที่ทางน้ําที่เกิดจากความยากลําบาก จําเป็นต้องอาศัยเทคนิคและประสบการณ์ อาจส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยสําหรับผู้ปฏิบัติการ โดยการคุกคามจากภัยพิบัติทางน้ําและทางทะเลที่ดูเหมือนจะมากขึ้น ทําให้การแพทย์ฉุกเฉินทางน้ํามีความสําคัญอย่างมาก กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) และสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (สพฉ.) ได้ร่วมกันลงนามบันทึกความร่วมมือว่าด้วยการช่วยเหลือผู้ป่วยฉุกเฉินทางทะเล เพื่อคุ้มครองสิทธิในการเข้าถึงระบบการแพทย์ฉุกเฉินอย่างทั่วถึง เท่าเทียม และมีคุณภาพมาตรฐาน เนื่องจากปัจจุบันได้ทํากิจกรรมทางทะเลอยู่มากมายทั้งการประมง การท่องเที่ยว การแสวงประโยชน์จากทรัพยากรทางทะเล การจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมทางทะเลบริเวณชายฝั่ง การสํารวจและวิจัยวิทยาศาสตร์ทางทะเล ซึ่งอาจมีเหตุการณ์อุบัติเหตุเกิดขึ้นแบบคาดไม่ถึง เช่น เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานกลางทะเลประสบอุบัติเหตุ นักท่องเที่ยวเกิดอาการเจ็บป่วยกําเริบ หรือเกิดภัยพิบัติทางธรรมชาติขึ้นในทะเล นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) เล่าว่า ให้มีความพร้อมช่วยเหลือผู้ป่วยฉุกเฉินทางทะเล ซึ่งจําเป็นต้องใช้ระบบการลําเลียงหรือขนส่งให้ได้รับการบริการด้านการแพทย์ฉุกเฉินที่ดี มีคุณภาพอย่างทั่วถึง และเท่าเทียม ทั้งภาวะปกติและสาธารณภัย โดยเฉพาะส่งเสริมการพัฒนาระบบการแพทย์ฉุกเฉินให้มีประสิทธิภาพและได้มาตรฐานตามที่กฎหมายว่าด้วยการแพทย์ฉุกเฉินกําหนด ถือเป็นการคุ้มครองสิทธิการเข้าถึงระบบการแพทย์ฉุกเฉินที่มีคุณภาพและมาตรฐานขึ้น ขณะที่ เรืออากาศเอก นายแพทย์ อัจฉริยะ แพงมา เลขาธิการสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ เล่าว่า อดีตอุบัติเหตุหรือภัยพิบัติทางทะเลแต่ละปีจะเกิดขึ้นบ่อย แต่ให้การช่วยเหลือได้น้อยครั้ง ทําให้ครั้งนี้จะเป็นการบูรณาการทรัพยากรสนับสนุนปฏิบัติการฉุกเฉินให้พร้อมช่วยเหลือผู้ป่วยฉุกเฉินทางน้ําและทางทะเลอย่างมีประสิทธิภาพ โดย สพฉ. จะเป็นศูนย์กลางประสานงานหน่วยปฏิบัติการแพทย์ หน่วยปฏิบัติการอํานวยการ สถานพยาบาล และ ทช. ที่จะเป็นหน่วยรับผู้ป่วยฉุกเฉินนําส่งสถานพยาบาล แล้วเป็นศูนย์กลางประสานหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนทั้งในประเทศและต่างประเทศเกี่ยวกับการปฏิบัติการฉุกเฉิน จากนี้ไป ทช. จะเดินหน้ายกระดับปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ป่วยฉุกเฉินและทางการแพทย์ด้วยการส่งเสริมการพัฒนาเจ้าหน้าที่ของกรมให้มีความรู้ มีสมรรถนะ หน้าที่และความรับผิดชอบให้เป็นไปตามมาตรฐาน เพื่อให้การรักษาพยาบาลเบื้องต้นกับประชาชนที่เจ็บป่วยอย่างมีประสิทธิภาพและทันต่อเหตุการณ์ โดยเฉพาะพื้นที่ทุรกันดารห่างไกลที่อยู่ในความรับผิดชอบให้ได้รับบริการด้านการแพทย์ฉุกเฉินที่มีคุณภาพ
20/1/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230125103721255
null
พาณิชย์จังหวัดเพชรบุรี ร่วมกับคณะทำงานตรวจสต๊อกน้ำมันปาล์มคงเหลือ บริการการจัดการอุปทานน้ำมันปาล์มต่อเนื่อง
สํานักงานพาณิชย์จังหวัดเพชรบุรี โดยกลุ่มกํากับและพัฒนาเศรษฐกิจการค้า ร่วมกับคณะทํางานดําเนินการตรวจสอบสต็อกน้ํามันปาล์มคงเหลือทั้งระบบ ระดับจังหวัด เป็นประจําทุกสัปดาห์ เพื่อให้การบริหารจัดการอุปทานน้ํามันปาล์มมีความต่อเนื่อง ผลการตรวจ ณ วันอังคารที่ 31 มกราคม 2566 ของผู้ประกอบการ จํานวน 3 แห่ง 1) บริษัท ปาล์มออยล์ เอ็นเนอร์ยี่ อินดัสทรี จํากัด จํานวน 234.777 ตัน 2) บริษัท โอพีจีเทค จํากัด สาขา 3 จํานวน 15.860 ตัน 3) บริษัท สยาม ออยล์ โปรดักส์ จํากัด จํานวน 21.015 ตัน ปริมาณสต็อกน้ํามันปาล์มดิบ รวมทั้งสิ้น 271.652 ตัน และผลการตรวจจุดรับซื้อผลปาล์ม ลานเท ณ วันอังคารที่ 31 มกราคม 2566 ของผู้ประกอบการ จํานวน 2 แห่ง 1) ห้างหุ้นส่วนจํากัด เพชรปาล์ม ตําบลหนองหญ้าปล้อง อําเภอหนองหญ้าปล้อง มีการรับซื้อผลปาล์มสดในลานเท จํานวน 30 ตัน 2) ชิตลานปาล์ม สาขาแก่งกระจาน ตําบลพุสวรรค์ อําเภอแก่งกระจาน มีการรับซื้อผลปาล์มสดในลานเท จํานวน 22 ตัน สถานการณ์การรับซื้อผลผลิตปาล์มสดในพื้นที่จังหวัดเพชรบุรี ของลานเทซึ่งจะรับซื้อและรวบรวมผลปาล์มสดไปจําหน่ายในพื้นที่จังหวัดชลบุรี และจังหวัดกาญจนบุรี โดยราคารับซื้อ ณ วันที่ 31 มกราคม 2566 อยู่ที่ 4.10 บาท/กก. ซึ่งเป็นราคาที่ปรับขึ้นจากสัปดาห์ที่แล้ว 0.10 สตางค์ สวท.เพชรบุรี#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
1/2/2023
ภาคตะวันตก
เพชรบุรี
สวท.เพชรบุรี
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230201091743018
null
นายกรัฐมนตรี พร้อมส่งเสริมอุตสาหกรรมและเทคโนโลยี ผลักดันความร่วมมือไทย – ญี่ปุ่น
นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจําสํานักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อมส่งเสริมภาคอุตสาหกรรมและเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่อง ภายหลังกระทรวงอุตสาหกรรมลงนามบันทึกความร่วมมือ (MOU) ร่วมกับรัฐบาลท้องถิ่นประเทศญี่ปุ่น โดยเน้นย้ําให้หน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนบูรณาการการทํางานร่วมกัน ผลักดันความร่วมมือด้วยการสร้างเครือข่ายทางธุรกิจทั้งในระดับท้องถิ่นไปจนถึงนิคมอุตสาหกรรมเพื่อต่อยอดการค้าการลงทุนให้ไทยเป็นฐานการผลิตภาคอุตสาหกรรมที่มีศักยภาพในอนาคต จังหวัดอิชิกาวะ ประเทศญี่ปุ่น เป็นแหล่งอุตสาหกรรมที่มีศักยภาพ โดยเฉพาะด้านอุตสาหกรรมเครื่องจักรกล อุตสาหกรรมเส้นใยและสิ่งทอ อุตสาหกรรมการผลิตอาหาร และอุตสาหกรรมเกษตร และถือเป็นรัฐบาลท้องถิ่นแห่งที่ 23 ที่ได้มีการลงนามบันทึกความร่วมมือกับกระทรวงอุตสาหกรรม โดยกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (DIPROM) กระทรวงอุตสาหกรรม จะเป็นตัวแทนหลักในการประสานความร่วมมือในลักษณะพื้นที่ต่อพื้นที่เพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการของคู่ค้า รวมทั้งเชื่อมโยงความร่วมมือระหว่างกลุ่มผู้ประกอบการอุตสาหกรรม (Cluster) ภายใต้แนวคิด OTAGAI หรือ โอ-ทา-ไก ที่แปลว่า “การช่วยเหลือซึ่งกันและกัน” ซึ่งทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องที่จะร่วมกันการประชุมเครือข่ายความร่วมมือด้านการพัฒนาอุตสาหกรรม (OTAGAI Forum) ครั้งที่ 22 ที่เมืองนานาโอะในจังหวัดอิชิกาวะ ช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ 2566 นี้ เพื่อผลักดันความร่วมมือในสาขาอุตสาหกรรม Carbon-fiber-reinforced polymers จากการประยุกต์ใช้เส้นใยกัญชง เป็นความร่วมมือในสาขาอุตสาหกรรม BCG และความร่วมมือในสาขาอุตสาหกรรมการแปรรูปอาหาร ตลอดจนกระทรวงอุตสาหกรรมได้เชิญชวนนักลงทุนญี่ปุ่นให้เข้ามาลงทุนในไทยเพิ่มเติม ซึ่งปัจจุบันมีนักลงทุนญี่ปุ่นในไทยจํานวนกว่า 6,000 กิจการนายกรัฐมนตรี เน้นย้ําการบูรณาการการทํางานร่วมกันของทุกภาคส่วน โดยการส่งเสริมความร่วมมือและสร้างเครือข่ายผู้ประกอบการให้สอดคล้องกับความต้องการเริ่มตั้งแต่ในระดับท้องถิ่นเป็นปัจจัยสําคัญในการสร้างรากฐานที่แข็งแกร่ง รวมทั้งเป็นส่วนสนับสนุนให้มีความหลากหลายในทุกประเภทธุรกิจอุตสาหกรรม ตลอดจนสามารถขยายความร่วมมือไปยังมิติอื่นๆ ทําให้สินค้ามีศักยภาพมากขึ้น ซึ่งความร่วมมือจะเป็นโอกาสสนับสนุนนิคมอุตสาหกรรมของไทยที่มีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่องด้วย
1/2/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
Radio-สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230201102800052
null
สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดลำปาง จัดสัมมนาเชิงปฏิบัติการ “การพัฒนาธุรกิจและการตลาดเพื่อสิ่งแวดล้อม สู่การกระจายรายได้ชุมชนตามแนวทาง BCG Economy Model”
นายชัชวาลย์ ฉายะบุตร ผู้ว่าราชการจังหวัดลําปาง เป็นประธานพิธีเปิดการสัมมนาเชิงปฏิบัติการ "การพัฒนาธุรกิจและการตลาดเพื่อสิ่งแวดล้อม สู่การกระจายรายได้ชุมชนตามแนวทาง BCG Economy Model" เพื่อสร้างองค์ความรู้เกี่ยวกับการดําเนินธุรกิจและการตลาดที่คํานึงถึงสิ่งแวดล้อมเป็นสําคัญ การกระจายรายได้สู่ชุมชนและการสร้างแนวคิดในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ด้วยนวัตกรรมและสร้างช่องทางการตลาดเพื่อนําสินค้าสู่ผู้บริโภค โดยมี นายสุภชัย ไวยาวัจมัย อุตสาหกรรมจังหวัดลําปาง กล่าวรายงาน พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการ ผู้ประกอบการอุตสาหกรรมและผู้ประกอบการ SMEs ในจังหวัดลําปาง จํานวน 100 ราย เข้าร่วมสัมมนาฯ ณ ห้องจิตต์บัวคํา โรงแรมบุษย์น้ําทอง อําเภอเมืองลําปางสําหรับการพัฒนาธุรกิจและการตลาดเพื่อสิ่งแวดล้อม สู่การกระจายรายได้ชุมชนตามแนวทาง "BCG Economy Model" ภายใต้โครงการยกระดับการพัฒนาอุตสาหกรรมในส่วนภูมิภาค ประจําปีงบประมาณ 2566 เป็นการพัฒนาและส่งเสริมศักยภาพของอุตสาหกรรมให้สอดคล้องกับนโยบายและยุทธศาสตร์ของประเทศ รัฐบาล กระทรวงอุตสาหกรรม รวมทั้งส่งเสริมพัฒนาธุรกิจอุตสาหกรรมและการลงทุนให้มีโครงสร้างการผลิตที่สามารถรองรับการเจริญเติบโตของเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน รวมทั้งส่งเสริมการประกอบกิจการที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม สามารถบริหารจัดการธุรกิจให้มีผลิตภาพสูงขึ้น เป็นการกระจายรายได้สู่ชุมชน เพื่อลดการพึ่งพาเศรษฐกิจนอกประเทศในปัจจุบันที่มีความอ่อนไหวต่อความผันผวนของเศรษฐกิจโลกและการแข่งขันในสงครามการค้า โดยมีการจัดกิจกรรมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ทางด้านการกฎหมายและข้อบังคับต่างๆ ตามแนวทาง BCG Economy Model ทั้งนี้ การสัมมนาฯ ได้รับเกียรติจาก นายภิญญ วงค์ษา วิศวกรชํานาญการ หัวหน้ากลุ่มโรงงานอุตสาหกรรม สํานักงานอุตสาหกรรมจังหวัดลําพูน มาถ่ายทอดองค์ความรู้เกี่ยวกับการส่งเสริมการประกอบกิจการที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ทีมวิทยากรจากคณะผู้บริหารการคลังประจําจังหวัดลําปาง โดย นางกติพรรณ หงส์กิตตินันท์ นักตรวจสอบภาษีชํานาญการ สํานักงานสรรพากรพื้นที่ลําปาง และนางสาววราพร สีขันธ์ ผู้ช่วยผู้จัดการสาขาลําปาง ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย สาขาลําปาง มาถ่ายทอดองค์ความรู้เกี่ยวกับการเข้าหาแหล่งเงินทุนและสิทธิประโยชน์ด้านภาษี สําหรับผู้ประกอบการ และผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ศุภธณิศร์เติมสงวนวงศ์ ที่ปรึกษาตัวอย่างแห่งปี 2565 ด้านการตลาด (ยอดขายดีเด่น) กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม มาถ่ายทอดองค์ความรู้เกี่ยวกับการสร้างแนวคิดในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ด้วยนวัตกรรมและสร้างช่องทางการตลาดเพื่อนําสินค้าสู่ผู้บริโภคและการออกแบบผลิตภัณฑ์เพื่อพัฒนาอุตสาหกรรมเชิงสร้างสรรค์ตามแนวทาง BCG Economy Model โดยการนํานวัตกรรมมาใช้ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มและคํานึงถึงสิ่งแวดล้อมเป็นสําคัญ พร้อมทั้งกระจายรายได้สู่ชุมชนให้กับผู้ประกอบการอุตสาหกรรม วิสาหกิจชุมชน และผู้ประกอบการ SMEs ต่อไปได้#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
1/2/2023
ภาคเหนือ
ลำปาง
สวท.ลำปาง
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230201094119027
null
องค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน มอบรางวัล PATA ชุมชนบ้านโคกเมือง จ.บุรีรัมย์ เป็นต้นแบบด้านการท่องเที่ยว
นาวาอากาศเอก อธิคุณ คงมี ผู้อํานวยการ องค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน หรือ อพท. มอบหมายให้ นางสาววัชรี ชูรักษา ผู้ช่วยผู้อํานวยการ อพท. เป็นผู้แทนส่งมอบโล่รางวัล PATA Gold Award 2022 ให้แก่ชุมชนบ้านโคกเมือง อําเภอประโคนชัย จังหวัดบุรีรัมย์ ซึ่งรางวัลดังกล่าวเป็นความรับผิดชอบต่อสังคมด้านมรดก (Heritage) และถือเป็นรางวัลที่สมาคมส่งเสริมการท่องเที่ยวภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิก หรือ PATA มอบให้แก่โครงการด้านการท่องเที่ยวที่มีผลงานดีเด่นและประสบความสําเร็จเป็นที่ยอมรับในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวของภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิกอย่างไรก็ตาม อพท. ได้เริ่มเข้ามาพัฒนาตั้งแต่ปี 2561 โดยได้รับมอบหมายจากคณะกรรมการ นโยบายการท่องเที่ยวแห่งชาติ หรือ ททช. ให้ดําเนินการพัฒนาการท่องเที่ยวโดยชุมชนต้นแบบในพื้นที่เขตพัฒนาการท่องเที่ยวอารยธรรมอีสานใต้ พร้อมร่วมกับหน่วยงานภาคีเครือข่ายในพื้นที่จังหวัดบุรีรัมย์ ดําเนินการพัฒนาการท่องเที่ยวโดยชุมชน ยึดหลักการตามเกณฑ์การท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนโลก หรือ GSTC และมาตรฐานการท่องเที่ยวโดยชุมชนประเทศไทย หรือCBT Thailand ก่อให้เกิดเป็นต้นแบบด้านการท่องเที่ยว
1/2/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230201100552038
null
กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เตรียมแผนเปิดเจรจา FTA กับประเทศคู่ค้าใหม่ พร้อมเดินหน้า FTA ไทย – สหภาพยุโรป ตามข้อเสนอภาคเอกชน ตั้งเป้าเพิ่มสัดส่วนการค้าไทยกับคู่ FTA ให้เพิ่มขึ้น
กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เตรียมแผนเปิดเจรจา FTA กับประเทศคู่ค้าใหม่ พร้อมเดินหน้า FTA ไทย – สหภาพยุโรป ตามข้อเสนอภาคเอกชน ตั้งเป้าเพิ่มสัดส่วนการค้าไทยกับคู่ FTA ให้เพิ่มขึ้น นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า กรมฯ มีแผนการเจรจาจัดทําความตกลงการค้าเสรี (FTA) ของไทย เพื่อเพิ่มสัดส่วนการค้าระหว่างไทยกับคู่ FTA จากปัจจุบันที่มีสัดส่วนร้อยละ 63 ให้เพิ่มเป็นร้อยละ 80 ภายในปี 2570 โดยในปี 2566 จะเร่งเปิดเจรจา FTA ไทย-สหภาพยุโรป (อียู) โดยเร็ว ขณะนี้อยู่ระหว่างดําเนินการเพื่อเสนอคณะรัฐมนตรีให้ความเห็นชอบ เพื่อให้ไทยสามารถเปิดเจรจา FTA กับอียู ภายในไตรมาสแรกของปีนี้ ขณะเดียวกัน จะเร่งสรุปผลการเจรจา FTA ที่ค้างอยู่ 4 ฉบับ ได้แก่ เอฟตา แคนาดา ตุรกี และศรีลังกา ให้จบโดยเร็วภายในปี 2567 พร้อมวางแผนจัดการประชุมทุก 2-3 เดือน เพื่อให้การเจรจาคืบหน้าและสรุปผลได้ตามกําหนด นอกจากนี้ จะเร่งศึกษาประโยชน์และผลกระทบของการทํา FTA กับคู่ค้าใหม่ โดยเฉพาะกลุ่มคณะมนตรีความร่วมมือรัฐประเทศอ่าวอาหรับ หรือ GCC , กลุ่มพันธมิตรแปซิฟิก และกลุ่มประเทศแอฟริกา 55 ประเทศ เพื่อหาตลาดใหม่ที่จะช่วยขยายโอกาสการค้าไทยตามข้อเรียกร้องของภาคเอกชน ////////// เสียง อรมน ////////// ทั้งนี้ การเจราจา FTA ไทย-อียู เป็นเป้าหมายหลักในปีนี้ ซึ่งอียูถือเป็นคู่ค้าอันดับที่ 4 ของไทย รองจากจีน สหรัฐอเมริกา และญี่ปุ่น ในปี 2565 การค้าระหว่างไทยกับอียู มีมูลค่า 41,038 ล้านดอลลาร์สหรัฐ คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 7 ของการค้าไทยกับโลก ขณะที่กลุ่ม GCC ในปี 2565 มีมูลค่าการค้ากับไทย สูงถึง 39,618 ล้านดอลลาร์สหรัฐ คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 6.71 ของการค้าไทยกับโลก ส่วนการค้ากับกลุ่มพันธมิตรแปซิฟิก อยู่ที่ 6,239 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และกลุ่มประเทศแอฟริกา 55 ประเทศ อยู่ที่ 2,831 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งหากเจรจาเพิ่มได้ จะช่วยเพิ่มสัดส่วนการค้าของไทยกับคู่ FTA ได้เพิ่มขึ้น
1/2/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230201203933286
null
กระทรวงพาณิชย์ จัดโครงการ Local+ เพิ่มช่องทางการตลาดให้กับผู้ผลิตสินค้า ผลักดันเศรษฐกิจฐานราก สร้างรายได้ให้กับประเทศ
นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจําสํานักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตามนโยบายรัฐบาลที่มุ่งเน้นการสร้างความเข้มแข็งแก่เศรษฐกิจฐานราก กระทรวงพาณิชย์ ได้ขับเคลื่อนนโยบายดังกล่าวจนเกิดผลเป็นรูปธรรม และเพื่อให้การดําเนินการในเรื่องดังกล่าวขยายผลอย่างตรงเป้าได้มากขึ้น นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ จึงกําหนดเป้าหมายผลักดันสินค้าท้องถิ่น ภายใต้แนวทาง Local + (โลคัล พลัส) จํานวน 3 กลุ่มสินค้า ได้แก่ กลุ่ม BCG ที่มุ่งเน้นการรักษาทรัพยากรธรรมชาติ สิ่งแวดล้อม สุขภาพ สินค้าออร์แกนิก กลุ่มสินค้าอัตลักษณ์ ที่ต้องการรักษาภูมิปัญญา ความเฉพาะถิ่น คุณค่าทางวัฒนธรรม และกลุ่มสินค้านวัตกรรม ที่ต้องการรักษาความสามารถในการแข่งขันให้กับสินค้าชุมชน โดยจะเข้าไปช่วยเหลือในการให้ความรู้ด้านการผลิต การพัฒนาสินค้า และผลักดันออกสู่ตลาด ทั้งในประเทศและต่างประเทศ เพื่อเพิ่มช่องทางการตลาดให้กับผู้ผลิตสินค้า สร้างรายได้เข้าประเทศ สําหรับกลยุทธ์ที่จะนํามาใช้ในการพัฒนาสินค้า Local+ ได้แก่ การสร้างความรู้ ความเข้าใจด้านการตลาดให้กับเกษตรกร ผู้ประกอบการ และสร้างความตระหนักรู้ให้แก่ผู้บริโภคถึงคุณประโยชน์ของ Local+ มีการพัฒนาฐานข้อมูลที่ทันสมัย เพื่อใช้ในการวางแผนการตลาดเชิงรุกให้กับสินค้า ในรูปแบบ 2 ภาษา เพื่ออํานวยความสะดวกให้กับผู้ประกอบการที่มีศักยภาพส่งออก ขยายตลาดสินค้า Local+ ทั้งในและต่างประเทศ โดยกําหนดจัดงานแสดงสินค้าในระดับภูมิภาคทั้ง 4 ภาค สร้างความหลากหลายของสินค้า Local+ ให้ตรงตามความต้องการของตลาด พัฒนาสินค้าตัวใหม่ๆ สนับสนุนเชิงนโยบาย โดยหน่วยงานในกระทรวงพาณิชย์ จะร่วมมือกันพิจารณามาตรการสนับสนุน Local+ ในระดับนโยบาย เพื่อลดความซ้ําซ้อนในการช่วยเหลือ และเพิ่มประสิทธิภาพในการดําเนินการ กล่าว
1/2/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230201121843096
null
ประธานหอการค้าจังหวัดสุรินทร์ เศรษฐกิจโดยภาพรวมภาคอีสาน และจังหวัดสุรินทร์ เป็นไปในทิศทางบวกทุกมิติ เตรียมผลักดันขยายตลาดข้าวหอมมะลิสุรินทร์ในตลาดโลก
นายวีรศักดิ์ พิษณุวงษ์ ประธานหอการค้าจังหวัดสุรินทร์ เปิดเผยภายหลังการประชุม คณะกรรมการภาครัฐร่วมเอกชนในการแก้ปัญหาเศรษฐกิจจังหวัดสุรินทร์ (กรอ) ซึ่งมี นายพิจิตร บุญทัน ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์เป็นประธาน โดยประชุมร่วมกับประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดสุรินทร์ ประธานชมรมธนาคาร และส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ว่า มีการชี้แจง ตัวเลขเศรษฐกิจจากธนาคารแห่งประเทศไทย ทั้งภาพรวมภาคอีสานของจังหวัดสุรินทร์ โดยคลังจังหวัดสุรินทร์ คาดการณ์ว่าทั้งการใช้จ่ายภาครัฐ และภาคบริการในปี 2566 จะเป็นไปในทิศทางบวกทุกมิติ โดยเฉพาะด้านการเกษตร มีการเสนอให้พิจารณาทิศทางของการนําข้าวหอมมะลิสุรินทร์สู่สากล ให้มีการซื้อขาย และเกิดการยอมรับข้าวมะลิของจังหวัดสุรินทร์ มีหน่วยงานสนับสนุนกิจกรรมอย่างจัดเจน ให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน นอกจากนี้ ประเด็นเรื่องการก่อสร้างด่านศุลกากรช่องจอมแห่งใหม่ ที่ทางหอการค้าพยายามผลักดันมาโดยตลอด แต่ยังติดปัญหาด้านพื้นที่กับกรมอุทยานแห่งชาติ ทําให้ต้องกลับมาทบทวนพื้นที่อื่นอีกครั้ง#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
1/2/2023
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
สุรินทร์
สวท.สุรินทร์
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230201110545065
null
จังหวัดสตูล ประชุมรับฟังการนำเสนอรายละเอียดข้อมูลโครงการศึกษาความเหมาะสมทางด้านเศรษฐกิจ วิศวกรรมและผลกระทบสิ่งแวดล้อม การพัฒนาเส้นทางเชื่อมโยงระหว่างไทย - มาเลเซีย - เปอร์ลิส
วันนี้ (1 ก.พ. 66) เวลา 09.00 น. ที่ห้องประชุมวัฒนโกเมร ชั้น 4 ศาลากลางจังหวัดสตูล นางสาวธัญรัศม์ ไตรพันธ์รัชตะ หัวหน้าสํานักงานจังหวัดสตูล เป็นประธานการประชุมรับฟังการนําเสนอรายละเอียดข้อมูลโครงการศึกษาความเหมาะสมทางด้านเศรษฐกิจ วิศวกรรมและผลกระทบสิ่งแวดล้อม การพัฒนาเส้นทางเชื่อมโยงระหว่างไทย-มาเลเซีย-เปอร์ลิส โดยมีหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม เพื่อรับฟังข้อมูลความเป็นมาของโครงการ และวัตถุประสงค์ของการศึกษา จากกลุ่มบริษัทที่ปรึกษา พร้อมเสนอความคิดเห็นและข้อเสนอแนะ เพื่อนําไปประกอบการศึกษาโครงการฯ ต่อไปด้วยกรมทางหลวงได้ว่าจ้างกลุ่มบริษัทที่ปรึกษา ประกอบด้วย บริษัทอินเด็กซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล กรุ๊ป จํากัด(มหาชน) ร่วมกับบริษัท ดีเคด คอนซัลแตนท์ จํากัด บริษัท พีเอสเคคอนซัลแทนส์ จํากัด และบริษัท ยูในเต็ด แอนนาลิสต์ แอนด์ เอ็นจิเนียริ่ง คอนซัลแตนท์ จํากัด ดําเนินการศึกษาความเหมาะสมทางด้านเศรษฐกิจ วิศวกรรม และผลกระทบสิ่งแวดล้อม การพัฒนาเส้นทางเชื่อมโยงระหว่างไทย-มาเลเซีย สายสตูล-เปอร์ลิส เพื่อรองรับการพัฒนาโครงข่ายเชื่อมโยงระหว่างประเทศให้สอดคล้องกับสภาวการณ์ทางด้านเศรษฐกิจสังคม การค้า และการท่องเที่ยว สําหรับโครงการดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาโครงข่ายรูปแบบการพัฒนา และคัดเลือกแนวเส้นทางที่เหมาะสม ศึกษาความเหมาะสมทางด้านเศรษฐกิจและวิศวกรรมในการพัฒนาเส้นทางเชื่อมโยงจังหวัดสตูล-รัฐเปอร์ลิส ประเทศมาเลเซีย รวมถึงได้ศึกษา รวบรวม วิเคราะห์สภาพสิ่งแวดล้อมในปัจจุบัน และดําเนินการประเมินผลกระทบทางสังคมและสิ่งแวดล้อมที่จะเกิดขึ้นเนื่องจากการพัฒนาโครงการ รวมทั้งเสนอแนะมาตรการด้านสิ่งแวดล้อม แผนการจัดการด้านสิ่งแวดล้อมที่เหมาะสมและมีประสิทธิภาพ พร้อมทั้งจัดทํารายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA Report)ทั้งนี้ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับในโครงการฯนี้คือการพัฒนาเส้นทางเชื่อมโยงการคมนาคมขนส่ง การค้าและการท่องเที่ยวระหว่างประเทศไทย-มาเลเซีย สายสตูล - เปอร์ลิส รองรับการเพิ่มขึ้นของปริมาณจราจร การเติบโตทางด้านเศรษฐกิจและสังคมในอนาคต รวมทั้งช่วยให้การสัญจรของประชาชนในพื้นที่ ผู้ใช้เส้นทางมีความสะดวก รวดเร็ว และปลอดภัยยิ่งขึ้น จึงนําข้อมูลที่ได้ศึกษามานําเสนอให้จังหวัดได้รับทราบและเสนอความคิดเห็น เสนอแนะเพื่อนําไปประกอบการศึกษาโครงการฯ ต่อไป#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
1/2/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสตูล
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230201113931077
null
จังหวัดสมุทรปราการ เตรียมช่วยส่งเสริม 15 กลุ่มกิจการอาหารปลอดภัยให้เป็นผลิตภัณฑ์ของดีของจังหวัด
จังหวัดสมุทรปราการ นําโดย นายศุภมิตร ชิณศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการ มอบให้ นายสุจินต์ วาจากิจ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการ เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการประสานและขับเคลื่อนการพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากในพื้นที่ ณ ศาลาวัดใหญ่ ตําบลในคลองบางปลากด อําเภอพระสมุทรเจดีย์ จังหวัดสมุทรปราการ โดยมี นางสาวสุกานดา แสงวงษ์ พัฒนาการจังหวัดสมุทรปราการ เป็นเลขานุการในการประชุมฯ มีคณะกรรมการจากส่วนราชการ ผู้นําองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และผู้แทนภาคประชาชนเข้าร่วมกิจกรรมอย่างพร้อมเพรียงที่ประชุมมีมติเห็นชอบให้มีการพัฒนากลุ่มเป้าหมายโครงการส่งเสริมการสร้างรายได้จากกิจการอาหารปลอดภัยจังหวัดสมุทรปราการประจําปีงบประมาณพ.ศ.2566 จํานวน 15 กลุ่ม 3 ประเภท คือ 1).ด้านการเกษตร จํานวน 3 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มผลิตภัณฑ์พืชผักสวนครัสออแกนิกส์,กลุ่มไข่เป็ดปากน้ํา,กลุ่มผักสลัดไฮโดรโปนิกส์ 2).ด้านการแปรรูป จํานวน 9 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มผลิตภัณฑ์น้ําพริกปลาสลิด,กลุ่มไส้อั่วปลา,กลุ่มนมสดลูกชิด,กลุ่มเบเกอรี่, กลุ่มน้ําผักเคล,กลุ่มกุ้งเหยียด กลุ่มหมูฝอย ,กลุ่มน้ําพริก,กลุ่มธัญพืชผงชงดื่มและด้านการท่องเที่ยว 3).ด้านการท่องเที่ยวจํานวน 3 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มบางด้วนของดีบ้านฉัน วิถีชุมชนคนทําจาก ,กลุ่มบ้านโอทอปเพื่อการท่องเที่ยว บ้านคลองนาเกลือ และกลุ่มบ้านกลางสวน ท่องเที่ยวคุ้งบางกะเจ้า#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
1/2/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
สมุทรปราการ
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสมุทรปราการ
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230201114952080
null
ททท. ชูโครงการท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์สร้างสรรค์ นำร่องเส้นทางท่องเที่ยวคุณภาพสูงในภูมิภาคภาคกลางเส้นทางแรก ด้วยเส้นทาง “สามเหลี่ยมมหัศจรรย์ของทวารวดี”
นายกิตติพงษ์ ประพัฒน์ทอง ผู้อํานวยการภูมิภาคภาคกลาง การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ททท. ร่วมกับกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม และหอการค้าไทย จัดกิจกรรมเส้นทางประวัติศาสตร์นําร่องคุณภาพสูง โดยดําเนินการเส้นทางแรก ภายใต้ชื่อ “สามเหลี่ยมมหัศจรรย์ของทวารวดี” จัดขึ้นระหว่างวันที่ 19 – 21 มกราคม 2566 ที่ผ่านมา ณ จังหวัดราชบุรี กาญจนบุรี สุพรรณบุรี และนครปฐม โดยมุ่งหวังว่าในแต่ละเส้นทางประวัติศาสตร์ของโครงการจะสามารถต่อยอดไปสู่แหล่งท่องเที่ยวอารยะอื่น ๆ ได้ในอนาคต อีกทั้งส่งเสริมวิถีชีวิตชุมชน อาหาร ตลาดการค้าท้องถิ่น ตลอดจนพัฒนาผู้ประกอบการให้มีศักยภาพ พร้อมรองรับนักท่องเที่ยวได้ และขับเคลื่อน Amazing Experience ตามแนวคิด Happy Model ต่อไป
1/2/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230201140842129
null
จ.นครพนม เตรียมแผนกระตุ้นการท่องเที่ยว สร้างนครพนมบีช
วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2566 ที่หอประชุมที่ว่าอําเภอเมืองนครพนม จังหวัดนครพนม นายวันชัย จันทร์พร ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม นําคณะหัวหน้าส่วนราชการลงพื้นที่ติดตามการขับเคลื่อนนโยบายของรัฐบาล และภารกิจสําคัญของกระทรวง กรม และของจังหวัด พร้อมสร้างความเข้าใจและแนวทางการปฏิบัติราชการที่ผู้นําต้องทําก่อน เพื่อเป็นต้นแบบให้กับประชาชนในทุกๆ เรื่อง กับคณะหัวหน้าส่วนราชการ เจ้าหน้าที่ ในระดับอําเภอ ตําบล รวมถึงกํานัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านที่มีการประชุมประจําเดือน โดยได้มีการเน้นย้ําเป็นพิเศษในเรื่องอัคคีภัยที่ให้ผู้นําทุกคนได้ช่วยกันสํารวจระบบไฟฟ้าให้กับลูกบ้านแต่ละหลัง พร้อมกับการเตือนและให้คําแนะนําก่อนเกิดเหตุไฟไหม้ เนื่องจากในช่วงนี้พบว่าในพื้นที่จังหวัดนครพนมมีเหตุเกิดขึ้นในหลายๆ จุด และส่วนใหญ่สาเหตุมาจากไฟฟ้าลัดวงจร เนื่องจากอุปกรณ์ไฟฟ้าชํารุดเพราะใช้มานานจนนําไปสู่การสูญเสียในชีวิตและทรัพย์สินของพี่น้องประชาชน แต่ถ้าทุกคนมีการตรวจเช็ค ซ่อมบํารุง หรือเปลี่ยนใหม่ ก็จะลดการเกิดเหตุอัคคีภัยและการสูญเสียได้โดยในโอกาสนี้ยังได้มีการพูดถึงการขับเคลื่อนนโยบายหน้าบ้านน่ามอง ที่ให้ทุกคนช่วยกันดูแลรักษาความสะอาดบ้านเรือนของตนเองเพื่อสร้างความประทับใจให้กับนักท่องเที่ยว ประกอบกับการผลักดันตลาดถนนคนเดินหมู่บ้านวัฒนธรรมชนเผ่าทุกวันพฤหัสบดีเพื่อเพิ่มแหล่งช้อปและชม ทําให้ได้รับกระแสตอบรับเป็นอย่างดีจากนักท่องเที่ยว ส่งผลให้การท่องเที่ยวในช่วงที่ผ่านมาของจังหวัดนครพนมโตขึ้นจากเดิม 132 % เป็น 137 % และเพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจการท่องเที่ยวให้มากยิ่งขึ้นกว่าเดิม จังหวัดนครพนมก็มีการวางแผนเตรียมความพร้อมในการจัดงานเพื่อกระจายรายได้ให้กับพี่น้องประชาชนในพื้นที่ โดยในช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่จะมาถึงนี้ จะมีการใช้พื้นที่หมู่บ้านวัฒนธรรมชนเผ่าและบริเวณหาดทรายศรีโคตรบูร จัดงาน นครพนมบีช เพื่อให้ผู้ที่มาร่วมงานได้ ผ่อนคลาย สนุกสนาน และเพลิดเพลินไปกับการช้อป ชิม แชะ และแชร์ ซึ่งในอดีตเคยมีการจัดแข่งขันกอล์ฟกลางแม่น้ําโขงมาแล้ว แต่ในปีนี้จะจัดให้มีกิจกรรมที่หลากหลายรูปแบบมากยิ่งขึ้นให้เหมือนกับพัทยาบีช แต่จะดึงเอาจุดเด่นที่เป็นเอกลักษณ์ อัตลักษณ์เฉพาะตัวของชาวนครพนมมาโชว์กับการแสดงศิลปวัฒนธรรมวิถีชีวิต 9 ชนเผ่า 2 เชื้อชาติ นอกจากนี้ยังมี กิจกรรมขบวนแห่ กิจกรรมกีฬาชายหาด กิจกรรมเล่นน้ําสงกรานต์ รวมไปถึงการออกร้านจําหน่ายสินค้าดีสินค้าเด่น สินค้า OTOP สินค้าเกษตร ผลิตภัณฑ์ชุมชนแปรรูป อาหารพื้นถิ่น ซึ่งคาดว่าจะเป็นแรงดึงดูดให้นักท่องเที่ยวมาสัมผัสความยิ่งใหญ่ในอีกหนึ่งรูปแบบในช่วงสงกรานต์นี้ เพราะใน 1 ปี จะมีเฉพาะช่วงเวลานี้เท่านั้นที่นักท่องเที่ยวจะสามารถลงไปสัมผัสและยืนบนหาดทรายสีทองที่เกิดจากปรากฎการณ์น้ําในแม่น้ําโขงลด พร้อมกับการชมเทือกเขาหินปูนที่มีความสวยงามทอดยาวตามลําแม่น้ําโขง และทํากิจกรรมอื่นๆ ได้#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
1/2/2023
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
นครพนม
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนครพนม
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230201152228180
null
ธนาคารออมสิน ปรับขึ้นดอกเบี้ยเงินฝากและเงินกู้ เพื่อให้สอดคล้องกับอัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารแห่งประเทศไทย
นายวิทัย รัตนากร ผู้อํานวยการธนาคารออมสิน เปิดเผยว่า ตามที่คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ได้มีมติขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายร้อยละ 0.25 ต่อปี มีผลตั้งแต่วันที่ 25 มกราคม 2566 ที่ผ่านมา ธนาคารออมสินจึงได้มีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยทั้งเงินฝากและเงินกู้ เพื่อให้สอดคล้องกับอัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารแห่งประเทศไทย โดยปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินฝากสูงสุดร้อยละ 0.30 ต่อปี เพื่อมุ่งส่งเสริมการออมให้ประชาชนผู้ฝากเงินได้รับประโยชน์จากอัตราดอกเบี้ยขาขึ้น และช่วยเพิ่มกําลังซื้อในช่วงการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจที่มีทิศทางที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ ให้มีผลตั้งแต่วันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2566 เป็นต้นไป และได้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ทุกประเภทในอัตราร้อยละ 0.25 ต่อปี ตามทิศทางอัตราดอกเบี้ยของตลาด ซึ่งเป็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ครั้งแรกของธนาคารในรอบกว่า 2 ปี ตามนโยบายของกระทรวงการคลัง ในการช่วยดูแลลูกค้าและประชาชนกลุ่มเปราะบางที่ค่าครองชีพยังไม่กลับสู่ภาวะปกติ
1/2/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230201215519299
null
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานกาญจนบุรี แถลงข่าวการจัดงาน Sunset Coffee Fest 2023 เทศกาลกาแฟแห่งภาคตะวันตก ครั้งที่ 2
ที่ ร้าน MAS. Stay-at-Caf? อําเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี นางสาวสรียา บุญมาก ผู้อํานวยการสํานักงานการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สํานักงานกาญจนบุรี พร้อมด้วย นายประสาน ปานคง เกษตรจังหวัดกาญจนบุรี นายมนเทพ โพธิ์งาม เลขากลุ่มกาแฟพิเศษกาญจนบุรี และนายเอกราช ปุณยถิรวาณิชย์ ผู้บริหารร้าน MAS. Stay-at-Caf? ร่วมแถลงข่าวการจัดงาน "Sunset Coffee Fest 2023 เทศกาลกาแฟแห่งภาคตะวันตก ครั้งที่ 2 : Milky Way , The Way Of Coffee" ซึ่งกําหนดจัดงานระหว่างวันที่ 10-12 กุมภาพันธ์ 2566 ที่ The Zeit River Kwai Resort Kanchanaburi อําเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี เวลา 08.00-18.00น. เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวและพัฒนาเศรษฐกิจของจังหวัดกาญจนบุรี โดยให้กาแฟเป็นกลไกขับเคลื่อนพร้อมเปิดประสบการณ์ให้นักท่องเที่ยว ได้ลิ้มลองรสชาติและความหอมกรุ่นของกาแฟสายพันธุ์ต่าง ๆ นางสาวสรียา บุญมาก กล่าวว่า ปัจจุบันเทรนด์การท่องเที่ยวของคนไทยผูกเชื่อมกับเรื่องราว ของกาแฟอย่างแยกไม่ออก ในส่วนของผู้ประกอบการเองต่างคัดสรรคุณภาพเมล็ดกาแฟ กระบวนการผลิต รวมถึงวิธีการชง เพื่อเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวและผลักดันให้จังหวัดกาญจนบุรีเป็นเมืองแห่งกาแฟ พร้อมทั้งเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการธุรกิจกาแฟภาคตะวันตก ได้นําเสนอผลิตภัณฑ์กาแฟที่มีลักษณะพิเศษ พบปะแลกเปลี่ยนเรียนรู้เทคนิคการชงกาแฟจากบาริสต้าที่รับรองด้วยรางวัลระดับประเทศและระดับโลก อาทิ คุณแซน จาก Santa Caf? เจ้าของรางวัล CP Meiji Speed Latte Art Championship 2019-2022 และคุณต้อม จาก MAS. Stay-at-Caf? เจ้าของรางวัล SANREMO Thailand x BONSOY Latte Art Smackdown 2022 ที่การออกร้านแสดงผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวเนื่องกับกาแฟ พร้อมชมฟรีคอนเสิร์ตจากศิลปินที่มีชื่อเสียง ณัฏฐภัส เหลืองพฤกษชาติ / สวท.กาญจนบุรี#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
1/2/2023
ภาคตะวันตก
กาญจนบุรี
สวท.กาญจนบุรี
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230201173421245
null
ของดีชุมชนฟังทางนี้ พาณิชย์จัดโครงการ Local+ ดันเศรษฐกิจฐานราก พัฒนาสินค้าชุมชนออกสู่ตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศ
วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2566 นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจําสํานักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า กระทรวงพาณิชย์กําหนดเป้าหมายผลักดันสินค้าท้องถิ่น ภายใต้แนวทาง Local + (โลคัล พลัส) จํานวน 3 กลุ่มสินค้า ได้แก่ 1?. กลุ่ม BCG ที่มุ่งเน้นการรักษาทรัพยากรธรรมชาติ สิ่งแวดล้อม สุขภาพ สินค้าออร์แกนิก 2?. กลุ่มสินค้าอัตลักษณ์ ที่ต้องการรักษาภูมิปัญญา ความเฉพาะถิ่น คุณค่าทางวัฒนธรรม 3?. กลุ่มสินค้านวัตกรรม ที่ต้องการรักษาความสามารถในการแข่งขันให้กับสินค้าชุมชน โดยจะเข้าไปช่วยเหลือในการให้ความรู้ด้านการผลิต การพัฒนาสินค้า และผลักดันออกสู่ตลาด ทั้งในประเทศและต่างประเทศ เพื่อเพิ่มช่องทางการตลาดให้กับผู้ผลิตสินค้า และสร้างรายได้เข้าประเทศ โดยมี กลยุทธ์ที่จะนํามาใช้ในการพัฒนาสินค้า Local+ ได้แก่ 1.การสร้างความรู้ ความเข้าใจด้านการตลาดให้กับเกษตรกร ผู้ประกอบการ และสร้างความตระหนักรู้ให้แก่ผู้บริโภค ให้มีความรู้ความเข้าใจถึงคุณประโยชน์ของ Local+ 2.การพัฒนาฐานข้อมูลที่ทันสมัย เพื่อใช้ในการวางแผนการตลาดเชิงรุกให้กับสินค้า Local+ ในรูปแบบ 2 ภาษา เพื่ออํานวยความสะดวกให้กับผู้ประกอบการที่มีศักยภาพส่งออก 3.การขยายตลาดสินค้า Local+ ทั้งในและต่างประเทศ โดยกําหนดจัดงานแสดงสินค้าในระดับภูมิภาคทั้ง 4 ภาค ช่วงเดือน มี.ค.-พ.ค.2566 และจัดงานแสดงสินค้า เจรจาธุรกิจ และสัมมนาวิชาการ Thailand International Local Plus Expo 2023 (TILP Expo 2023) ช่วงเดือนมิ.ย.2566 เพื่อช่วยให้ความรู้ด้านการตลาด มาตรการ มาตรฐาน ขยายโอกาสของสินค้าเข้าสู่ตลาดเป้าหมายแก่ผู้ประกอบการ และจัดเจรจาจับคู่ธุรกิจออนไลน์ (OBM) 4.การสร้างความหลากหลายของสินค้า Local+ ให้ตรงตามความต้องการของตลาด โดยจะช่วยพัฒนาสินค้าตัวใหม่ๆ ตามความต้องการของตลาด 5.การสนับสนุนเชิงนโยบาย โดยหน่วยงานในกระทรวงพาณิชย์จะร่วมมือกันพิจารณามาตรการสนับสนุน Local+ ในระดับนโยบาย เพื่อลดความซ้ําซ้อนในการช่วยเหลือ และเพิ่มประสิทธิภาพในการดําเนินการ.ภาพ/ข่าว : นายอานนท์ บุญมาตุ้ย ผู้สื่อข่าว ส.ปชส.ลําพูน บรรณาธิการ : นางสาวมัณฑนา อาษากิจ ประชาสัมพันธ์จังหวัดลําพูน ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ https://lamphun.prd.go.th/th/page/item/index/id/12 #PRLAMPHUN #ลําพูนไม่ลําพังรวมพลังเพื่อคนลําพูน#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
1/2/2023
ภาคเหนือ
ลำพูน
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดลำพูน
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230201225135308
null
ประกาศปรับราคาขายปลีกน้ำมันกลุ่มเบนซินและแก๊สโซฮอล์ทุกชนิดลง 30 สตางค์ต่อลิตร ส่วนกลุ่มดีเซลคงเดิม
บริษัท ปตท. น้ํามันและการค้าปลีก จํากัด (มหาชน) และบริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จํากัด แจ้งว่า ตั้งแต่เวลา 05.00 น. ของวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2566 เป็นต้นไป ปรับราคาขายปลีกน้ํามันกลุ่มเบนซินและแก๊สโซฮอล์ทุกชนิดลง 30 สตางค์ต่อลิตร ส่วนกลุ่มดีเซลคงเดิม ส่งผลให้ราคาขายปลีก น้ํามันหน้าสถานีบริการในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล น้ํามันเบนซิน ราคาอยู่ที่ 43.76 บาทต่อลิตร แก๊สโซฮอล์ 95 ราคา 35.95 บาทต่อลิตร แก๊สโซฮอล์ 91 ราคา 35.68 บาทต่อลิตร และโซฮอล์ E20 ราคา 34.04 บาทต่อลิตร แก๊สโซฮอล์ E85 ราคา 34.49 บาทต่อลิตร ส่วนราคาดีเซลไฮพรีเมียม ดีเซล B7 ราคา อยู่ที่ 43.66 บาทต่อลิตร ขณะที่กลุ่มไฮดีเซล B7 ไฮดีเซล S และไฮดีเซล B20 S ราคา 34.94 บาทต่อลิตร ทั้งนี้ราคาดังกล่าวยังไม่รวมภาษีบํารุงแต่ละท้องที่
1/2/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230201215434298
null
พาณิชย์ระยอง จับมือพาณิชย์ 7 จังหวัดภาคตะวันออก จัด"งานมหกรรมสินค้าภาคตะวันออก อัตลักษณ์โดดเด่นสู่สากล” 1-5 ก.พ.66 เซ็นทรัล ระยอง
วันที่ 1 ก.พ. ที่ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล ระยอง จ.ระยอง นายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผวจ.ระยอง เป็นประธานเปิดงาน "มหกรรมสินค้าภาคตะวันออก อัตลักษณ์โดดเด่นสู่สากล" โดยมีนายวิทยากร มณีเนตร ผู้ตรวจราชการกระทรวงพาณิชย์ นางจิรนันท์ บัวคลี่ พาณิชย์จังหวัดระยอง พร้อมด้วยพาณิชย์จังหวัด 7 จังหวัดในภาคตะวันออก หน่วยงานราชการ และภาคธุรกิจท่องเที่ยว เข้าร่วมงานนางจิรนันท์ บัวสําลี พาณิชย์ จ.ระยอง ได้กล่าวว่า การจัดงานในครั้งนี้ เพื่อแสดงและจําหน่ายสินค้า ภายใต้ชื่องาน "มหกรรมสินค้าภาคตะวันออก อัตลักษณ์โดดเด่นสู่สากล" เพื่อเป็นการฟื้นฟูและเยียวยาผู้ประกอบการ ภาคตะวันออก และ สร้างโอกาสให้ผู้ประกอบการภาคตะวันออกได้หาคู่ค้ารายใหม่ และเปิดตลาดใหม่ รวมทั้งเป็นการกระตุ้นก่อให้เกิดการบริโภคภายในประเทศ จึงมีความจําเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องพัฒนาเกษตรกรและผู้ประกอบการให้สามารถนําสินค้าไปจําหน่ายในสถานที่ต่างๆได้ต่อไป นายวิทยากร มณีเนตร ผู้ตรวจราชการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า สําหรับงานครั้งนี้ เป็นการรวมตัวของพาณิชย์จังหวัดทั่วภาคตะวันออกที่คัดสรร นําเอาสินค้าชั้นนําของแต่ละจังหวัด ทั้งสินค้าอุปโภคบริโภค ร่วม 50 บริษัท มาจําหน่าย เพื่อเป็นการเชื่อมโยงระหว่างจังหวัดจนไปถึงต่างประเทศ ตามนโยบายของกระทรวงพาณิชย์ จึงขอเชิญชวนประชาชนในพื้นที่ภาคตะวันออก เข้ามาเลือกซื้อสินค้าภายในงาน ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 1-5 ก.พ.นี้นายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผวจ.ระยอง กล่าวว่า มหกรรมสินค้าครั้งนี้ นับเป็นความร่วมมือของภาครัฐและเอกชน นําสินค้าคุณภาพมาจําหน่าย เพื่อพัฒนาศักยภาพ ของผู้ประกอบการ BCG/GV/SMES/Biz Club/OTOP/การท่องเที่ยวและการโรงแรม ของผู้ประกอบการภาคตะวันออกให้มีขีดความสามารถในการแข่งขันและมีประสบการณ์ด้านการตลาดเพิ่ม นอกจากนี้ยังสามารถสร้างโอกาสในทั้งในและต่างประเทศ ขณะเดียวกันเพื่อยกระดับศักยภาพการเป็นผู้ประกอบการธุรกิจ Entrepreneur สู่การเป็น International Smart Entrepreneurภายในงานกิจกรรมการแสดงบนเวทีทุกวัน มีรายการนาทีทองขายสินค้า ในราคาต่ํากว่าต้นทุน เพลิดเพลินไปกับการแข่งขันร้องเพลงพระราชนิพนธ์ชิงรางวัลของเยาวชนอายุระหว่าง 7-12 ปีอีกด้วย.#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
1/2/2023
ภาคตะวันออก
ระยอง
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดระยอง
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230201232041320
null
กรมทางหลวงชนบท-ธนาคารโลกลงพื้นที่ร่วมฟังเสียงชาว "เกาะลันตาจังหวัดกระบี่" ก่อนตอกเสาเข็มสะพานเชื่อมเกาะลันตาปลายปี 2566
วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2566 นายวีรเดช ชีวาพัฒนานุวงศ์ วิศวกรใหญ่กรมทางหลวงชนบท นายดํารงศักดิ์ คงช่วย รักษาการแทนผู้อํานวยการสํานักงานทางหลวงชนบทที่ 14 นายวีระ ยิ้มแย้ม ผอ.แขวงทางหลวงชนบทจังหวัดกระบี่ นําผู้แทนธนาคารโลก (World Bank) และผู้แทนสํานักงานบริหารหนี้สาธารณะ กระทรวงการคลัง ลงพื้นที่ประชุมหารือและรับฟังความคิดเห็นของประชาชนใน “โครงการสะพานเชื่อมเกาะลันตา” ตําบลเกาะกลาง - ตําบลเกาะลันตาน้อย อําเภอเกาะลันตา จังหวัดกระบี่ ณ มัสยิดบ้านคลองหมากอําเภอเกาะลันตา โดยนายภาสกร บุญญลักษม์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ มอบหมายให้นายนพรัตน์ ศรีพรหม นายอําเภอเกาะลันตา เข้าร่วมสังเกตการณ์ มีตัวแทนผู้ประกอบการเดินเรือข้ามฝาก องค์การบริหารส่วนจังหวัดกระบี่ ผู้นําชุมชนชาวอูรักลาโว้ย ผู้นําชาวประมงบ้านหัวหิน และผู้อุทิศที่ดิน เข้าร่ามประชุมและแสดงความคิดเห็นในโครงการฯ ซึ่งประชาชนในพื้นที่เห็นด้วยกับการก่อสร้างสะพานดังกล่าว เพราะเป็นเรื่องที่ดีและประชาชนในพื้นที่ต้องการให้ก่อสร้างเพราะต้องแบกรับค่าใช้จ่ายในการเดินทางค่อนข้างแพง หากสะพานเกิดขึ้นจะทําให้ค่าใช้จ่ายลดลง และจะส่งผลในด้านการท่องเที่ยว เพราะการเดินทางที่สะดวก โดยเฉพาะโอกาสของบุตรหลานเข้าถึงการศึกษาเพิ่มมากขึ้น รวมถึงการเข้าถึงระบบสาธารณสุข การรักษาพยาบาลจะรวดเร็วขึ้น หรือเมื่อเกิดภัยพิบัติจะสามารถอพยพประชาชนได้ทันทีส่วนในด้านผลกระทบสิ่งแวดล้อมประชาชนในพื้นที่คิดว่าจะไม่ส่งผลกระทบเพราะมีการศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อมเรียบร้อยแล้วปัจจุบันเกาะลันตามีศักยภาพในการพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยว แต่พบปัญหาการเดินทางและการขนส่งที่ล่าช้า เนื่องจากมีทางเข้าออกเพียงทางเดียวและใช้เวลาเดินทางจากแผ่นดินใหญ่มายังเกาะลันตาน้อยนาน 1-2 ชั่วโมง นอกจากนี้เมื่อเกิดเหตุฉุกเฉินในช่วงกลางคืน ต้องเหมาแพขนานยนต์ ส่งผลให้เกิดความยากลําบากในการเดินทางของประชาชนในพื้นที่ ดังนั้นกรมทางหลวงชนบท จึงได้ดําเนินการ ตามนโยบายนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ในการอํานวยความสะดวกและปลอดภัยในการเดินทางให้กับประชาชน โดยได้ดําเนินการโครงการก่อสร้างสะพานเชื่อมเกาะลันตา เชื่อมต่อแผ่นดินใหญ่กับเกาะลันตาน้อย โดยมีจุดเริ่มต้นจากทางหลวงหมายเลข 4206 กม. ที่ 26 + 620 ตําบลเกาะกลาง ไปบรรจบกับทางหลวงชนบท กบ. 5035 ตําบลเกาะลันตาน้อย อําเภอเกาะลันตา จังหวัดกระบี่ รวมระยะทางทั้งสิ้น 2.240 กิโลเมตร โดยสถานะโครงการปัจจุบัน ออกแบบแล้วเสร็จ และผ่านการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) มีวงเงินค่าก่อสร้าง 1,800 ล้านบาท แบ่งเป็นเงินกู้ต่างประเทศ 1,260 ล้านบาท (70 %) และงบประมาณ 540 ล้านบาท (30 %) คาดว่าจะเริ่มดําเนินการก่อสร้างได้ในช่วงปลายปี 2566 และจะแล้วเสร็จเปิดใช้งานได้ในปี 2569#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
2/2/2023
ภาคใต้
กระบี่
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดกระบี่
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230202092344349
null
“ขนมปากหม้อ” สูตรโบราณอาชีพ สร้างรายได้
หากใครกําลังหาร้าน ขนมไทย อร่อยจริงๆ (ซือดะห์ ซูโงะ) ที่ร้านแถวย่านชานเมืองยะลา เปิดขายมานาน และเป็นที่ถูกใจของใครๆ อีกหลายคนสําหรับร้านนี้จะอยู่ที่แถวสี่แยกไฟแดง 12 เหรียญ ชุมชนบ้านตือเบาะ ต.สะเตงนอก อ.เมืองยะลา จ.ยะลา เป็นร้านเล็กๆ แต่มีลูกค้าอุดหนุนไม่ขาดสาย แค่ชื่อร้านก็ชนะกินใจแล้ว “ขนมปากหม้อ ร้านครัวกะหนิง สี่แยกตือเบาะยะลา” ขนมปากหม้อ หรือภาษายาวี ขนมปูโยะ มูโละปูโยะ ซึ่งมีแป้งเหนียวนุ่ม สูตรโบราณ แป้ง 3 สี ประกอบไปด้วย สีซึ่งทํามาจากดอกอัญชัน ใบเตย แป้งดั้งเดิม ส่วนไส้ของขนมปากหม้อ มีทั้งไส้เค็ม ไส้หวาน ไส้กุยช่าย ไส้หน่อไม้เห็ดหอม ซึ่งแต่ละวันทางร้านจะทําไส้ ได้ประมาณ 10 กิโลกรัม ขายขนมปากหม้อได้วันละ 200 กว่ากล่อง ในราคากล่องละ 25 บาทเท่านั้น ทําให้ขนมปากหม้อ เป็นขนมที่นิยมทาน ทุกเพศ ทุกวัยเจ้าของร้านแห่งนี้ ชื่อว่า น.ส.นาซีเราะห์ เจ๊ะซอ อยู่บ้านเลขที่ 119/27 หมู่ที่ 10 ต.สะเตงนอก อ.เมืองยะลา จ.ยะลา เธอเล่าว่า ดั้งเดิมคุณแม่ (น.ส.จิตรชื่น ขวัญนิมิตร อายุ 55 ปี) เป็นคนจังหวัดตรัง มาแต่งงานกับคุณพ่อที่อาศัยในพื้นที่จังหวัดยะลา และได้นําสูตรขนมปากหม้อมาจากคุณยายที่อยู่ในพื้นที่จังหวัดตรัง มาปรับปรุงให้มีความอร่อย กลมกล่อม มากกว่าเดิม ทานแล้วให้ถูกปากกับพี่น้องชาวยะลา“ขนมปากหม้อ” เป็นขนมที่คุณแม่ออกมาขายตั้งแต่เด็กๆ ตอนนี้ตนเองก็อายุ 21 ปีแล้ว ขอสานต่อสืบทอดจากคุณแม่ เป็นสูตรของคุณแม่ ส่วนซิกเนเจอร์ จะเป็นไส้ เนื่องจากไส้เค็มจะไม่มีเนื้อสัตว์ คนแก่ทานได้ เด็กทานได้ กินมังสวิรัติ คนที่ถือศีล สามารถกินได้ เพราะที่ร้านของตน กินแล้วจะรู้สึกเหมือนไส้เนื้อสัตว์ แต่ไม่ได้ใส่ รสชาติอร่อย มีทั้งหมด 3 ไส้จะเป็นไส้เค็ม ไส้หวาน ไส้กุยช่าย ที่ขายดีที่สุด จะเป็นไส้เค็มส่วนจํานวนที่มากสุดแต่ละวันก็จะขายได้วันละ 200 กล่องสําหรับผู้ที่สนใจ สามารถแวะเวียนไปซื้อ ชิมรสชาติ ได้ที่ “ขนมปากหม้อ ร้านครัวกะหนิง สี่แยกตือเบาะยะลา” ใกล้สี่แยกไฟแดง 12 เหรียญตือเบาะ โดยร้านจะเริ่มขายตั้งแต่เวลา 14.30 น.ไปจนถึง 21.00 น. หรือ สั่งซื้อได้ที่เบอร์ 065-2435589#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
2/2/2023
ภาคใต้
ยะลา
สทท.ยะลา
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230202092121348
null
จ.ประจวบฯ เร่งฟื้นฟูเศรษฐกิจด้วย Soft Power ภูมิปัญญาวัฒนธรรมอัตลักษณ์ท้องถิ่นใน 8 อำเภอ
นายอาชวันต์ กงกะนันท์ ผู้อํานวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สํานักงานประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยว่า จากการที่รัฐบาลมีนโยบายขับเคลื่อนฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศไทยผ่านการนําเสนอ Soft Power of Thailand ในส่วนของ จ.ประจวบฯ มีความพร้อมในการดําเนินงาน เพราะมีศักยภาพ มีอัตลักษณ์ที่โดดเด่นในทุกอําเภอสามารถต่อยอดสร้างมูลค่าเพิ่มด้านการท่องเที่ยวได้ เช่น ประเพณีส่งเคราะห์ทางทะเลที่ อ.หัวหิน ซึ่งเป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยว ตลาดถนนคนเดินริมอ่าวประจวบฯ อ.เมือง ซึ่งเป็นถนนคนเดินริมชายทะเลที่ยาวที่สุดในประเทศ มีการจําหน่ายอาหารพื้นถิ่นให้นักท่องเที่ยวได้ลิ้มลองรสชาติมากมายหลากหลายชนิดนอกจากนี้ ยังมีสถานที่ที่กองถ่ายทําภาพยนตร์และโฆษณาทั้งในและต่างประเทศเคยมาถ่ายทํา สามารถที่จะสร้างกระแสการเดินทางตามรอยได้ รวมถึงกิจกรรมสําคัญที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 4-6 กุมภาพันธ์นี้ คืองาน Amazing Muaythai Festival 2023 โดยมีไฮไลท์คือการจัดไหว้ครูมวยไทยด้วยจํานวนคนที่มากที่สุดในโลกที่อุทยานราชภักดิ์ อ.หัวหิน เพื่อบันทึกสถิติ กินเนส เวิร์ล เร็คคอร์ด เป็นโอกาสในการเผยแพร่ซอฟต์พาวเวอร์มวยไทย ศิลปะการต่อสู้ประจําชาติให้เป็นรู้จักของคนทั่วโลก#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
2/2/2023
ภาคตะวันตก
ประจวบคีรีขันธ์
สวท.ประจวบคีรีขันธ์
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230202093008353
null
นายกรัฐมนตรี ยินดีภาคการท่องเที่ยวไทยฟื้นตัว คาดปี 2566 นักท่องเที่ยวต่างประเทศถึง 28 ล้านคน
นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจําสํานักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม รับทราบแนวโน้มการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยวในประเทศไทยในปี 2566 จากจํานวนนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้น ทั้งจากจํานวนนักท่องเที่ยวไทยเองและนักท่องเที่ยวต่างชาติ ซึ่งได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องประเมินสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง จากสถิติของนักท่องเที่ยวต่างชาติ ช่วงเดือนธันวาคม 2565 มีจํานวนมากถึง 2,241,195 คน โดยอันดับ 1 เป็นนักท่องเที่ยวจากมาเลเซีย จุดมุ่งหมายที่ได้รับความนิยม ได้แก่ กรุงเทพมหานคร เชียงใหม่ ชลบุรี สงขลา และ ภูเก็ต โดยศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจ ทีทีบี หรือ ttb analytics ประเมินการเริ่มกลับมาของนักท่องเที่ยวต่างชาติในปี 2566 ช่วยเพิ่มความคึกคักให้กับภูมิภาคปลายทางของนักท่องเที่ยวต่างชาติในพื้นที่ กทม. และปริมณฑล ภาคใต้ และภาคตะวันออก ฟื้นตัว และคาดว่า ในปี 2566 จะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติมาเยือนประเทศไทย เป็นจํานวนถึง 28 ล้านคน สร้างมูลค่าการท่องเที่ยวกว่า 1.44 ล้านล้านบาท โดยมีปัจจัยหนุนจากกลุ่มนักท่องเที่ยว ได้แก่ กลุ่มตะวันออกกลาง กลุ่มนักท่องเที่ยวจากอินเดีย และกลุ่มนักท่องเที่ยวที่มีระยะพักแรมนาน หรือ expat เช่น กลุ่มยุโรป และสหรัฐอเมริกา ซึ่งในปีนี้คาดว่า มูลค่าการท่องเที่ยวไทยเติบโตในอัตราเร่ง 2.25 ล้านล้านบาทนายกรัฐมนตรี เชื่อมั่นในศักยภาพด้านการท่องเที่ยว รวมทั้งเอกลักษณ์ เสน่ห์ของไทย ที่จูงใจนักท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศได้ไม่ยาก รวมทั้งเชื่อมั่นในโครงสร้างระบบเศรษฐกิจของไทยที่สนับสนุนให้เกิดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ ส่งเสริมการสร้างงาน สร้างอาชีพ สร้างรายได้ให้กับคนในทุกพื้นที่ ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี ขอบคุณทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและขอให้ทุกภาคส่วนร่วมกัน เสริมสร้างภาพลักษณ์และชื่อเสียงด้านการท่องเที่ยวให้กับประเทศ โดยได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานปฏิบัติตามกฎระเบียบของประเทศที่ถูกต้องเหมาะสม
2/2/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
Radio-สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230202085551332
null
พ่อเมืองเลย ย้อนยุคนั่งสามล้อถีบเปิดงาน “ดอกฝ้ายบาน สืบสานวัฒนธรรมไทเลย” ประจำปี 2566 โชว์ขบวนแห่ 14 อำเภอ อย่างยิ่งใหญ่ตระการตาสุดประทับใจ
นายทวี เสริมภักดีกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดเลย เป็นประธานพิธีเปิดงาน “ดอกฝ้ายบาน สืบสานวัฒนธรรมไทเลย” ประจําปี 2566 อย่างยิ่งใหญ่อลังการ โชว์ขบวนแห่ศิลปวัฒนธรรมจาก 14 อําเภอ พร้อมย้อนยุคนั่งสามล้อถีบเปิดงานสร้างบรรยากาศสีสันในงานอย่างสนุกสนาน โดยมี ผู้พิพากษา หัวศาลจังหวัดเลย ผู้พิพากษา หัวหน้าศาลคดีเยาวชนและครอบครัว ผู้แทนมณฑลทหารบกที่ 28 รองผู้บังคับการตํารวจภูธรจังหวัดเลย อัยการจังหวัดเลย นายกเหล่ากาชาดจังหวัดเลย รองผู้ว่าราชการจังหวัดเลย นายอําเภอ หัวหน้าส่วนราชการ หน่วยงานรัฐวิสาหกิจ ภาคเอกชน ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กํานัน ผู้ใหญ่บ้าน นักท่องเที่ยว พี่น้องประชาชน และสื่อมวลชน ร่วมงานเป็นจํานวนมาก นายทวี เสริมภักดีกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดเลย กล่าวว่า การจัดงานดอกฝ้ายบานสืบสานวัฒนธรรมไทเลย ได้มีการพัฒนาให้มีความน่าสนใจและก่อประโยชน์ให้กับพี่น้องชาวเลยมากยิ่งๆ ขึ้นไปทุกปี โดยการจัดงานในปีนี้พี่น้องชาวจังหวัดเลยรวมถึงนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ จะได้ชมการออกร้านของส่วนราชการและหน่วยงานเอกชน ที่มีชีวิตและแสดงให้เห็นถึงอัตลักษณ์ของจังหวัดเลย การแสดงแฟชั่นโชว์เลย เมืองแห่งผ้าฝ้าย การประกวดร้องเพลงลูกทุ่งท้องที่ท้องถิ่นไทเลย การประกวดเพลงรณรงค์โครงการจังหวัดสะอาด การแก้ไขปัญหายาเสพติดผ่านโครงการทูบีนัมเบอร์วัน การประกวดธิดาดอกฝ้ายบานฯ การประกวดแม่สาวลูกสวย การแสดงทางวัฒนธรรม การแข่งขันกีฬา และเพลิดเพลินกับมหรสพที่น่าสนใจอีกมากมายภายในงานฯ นอกจากจะได้เที่ยวชมงานและเลือกซื้อสินค้ามากมายแล้ว ยังจะได้ร่วมทําบุญทํากุศลกับร้านมัจฉากาชาดจังหวัดเลย ซึ่งถือเป็นการพักผ่อนที่ได้กุศลอีกด้วย นายบุญเติม เรณุมาศ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเลย กล่าวว่า จังหวัดเลยจัดงานกาชาดครั้งแรกในปี 2522 โดยตั้งชื่องานกาชาดตามพืชเศรษฐกิจของจังหวัด ได้แก่ ฝ้าย จึงใช้ชื่องานว่า “งานกาชาด ดอกฝ้ายบาน ที่เมืองเลย” และต่อมาในปี 2529 ได้เปลี่ยนชื่อเป็น “งานกาชาด ดอกฝ้ายบานมะขามหวานเมืองเลย” และในปี 2557 ใช้ชื่อว่า “งานดอกฝ้ายบาน สืบสานวัฒนธรรมไทเลย” มาจนถึงปัจจุบัน โดยมีวัตถุประสงค์ในการจัดงาน ดังต่อไปนี้1. เพื่อเผยแพร่ประเพณี วัฒนธรรมและสถานที่ท่องเที่ยวของจังหวัด2. เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัดให้เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวาง3. เพื่อจัดหารายได้ไว้ใช้จ่ายในกิจการสาธารณประโยชน์ สาธารณกุศล และช่วยเหลือผู้ด้อยโอกาสของคณะกรรมการเหล่ากาชาดจังหวัดเลย4. เพื่อให้ประชาชนชาวจังหวัดเลยได้พักผ่อนหย่อนใจหลังจากเสร็จสิ้นฤดูกาลเก็บเกี่ยวผลผลิต5. ส่วนราชการ ภาคเอกชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น สถานศึกษาและสื่อมวลชนทุกแขนง ได้มีโอกาสแสดงออกซึ่งผลงานและแนวความคิดในการพัฒนาจังหวัดเลย ให้เป็นเมืองแห่งการท่องเที่ยว การค้า และการลงทุน ภายใต้การพัฒนาที่ยั่งยืน ให้ผู้มาเที่ยวงานได้ชมการจัดงานในครั้งนี้ได้ให้ความสําคัญกับกิจกรรมเทิดพระเกียรติ การส่งเสริมการสืบสานวัฒนธรรมประเพณีกิจกรรมส่งเสริมการใส่ผ้าไทเลย การรณรงค์จังหวัดสะอาด การแก้ไขปัญหายาเสพติด/ผ่านโครงการ ทูบีนัมเบอร์วัน ซึ่งได้รับความร่วมมือร่วมใจอย่างดียิ่งจากทุกภาคส่วน ได้แก่ ส่วนราชการ อําเภอ สถาบันการศึกษา องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ ภาคเอกชน และประชาชนในพื้นที่จังหวัดเลย#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
2/2/2023
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
เลย
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเลย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230202102631371
null
ททท.พังงา ชวน 28 เอเจ้นท์ภูเก็ตเจรจาธุรกิจกระตุ้นท่องเที่ยวชาวไทยเที่ยวพังงาในวันธรรมดาเพิ่มขึ้น
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สํานักงานพังงา จัดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวภายใต้โครงการพังงาวันธรรมดาที่ไม่ธรรมดา กระตุ้นการท่องเที่ยวพังงาช่วงวันธรรมดา วันจันทร์ - วันศุกร์ ระหว่างเดือนกุมภาพันธ์ถึงเดือนเมษายนนี้ เพื่อกระตุ้นนักท่องเที่ยวชาวไทยเดินทางท่องเที่ยวและทํากิจกรรมท่องเที่ยวในพื้นที่พังงา ในวันธรรมดาเพิ่มมากขึ้น โดยจับมือกับชมรมไทยบริการท่องเที่ยวส่วนภูมิภาคภาคใต้ตอนบน (TTAA Upper south) และสมาคมผู้ประกอบการนําเที่ยวภูเก็ต (PTAA) จัด Agent FAM Trip นําสมาชิกซึ่งเป็นบริษัท นําเที่ยวจํานวน 28 ราย มาสํารวจเส้นทางท่องเที่ยวและทดสอบกิจกรรมท่องเที่ยว พร้อมทั้งพบปะเจรจาธุรกิจกับผู้ประกอบการตัวเมืองพังงาในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2566 ณ โรงแรมบ่อแสนวิลล่า อําเภอทับปุด จังหวัดพังงา อาทิ โรงแรม ร้านอาหาร ร้านกาแฟ ชุมชนท่องเที่ยวที่ได้จัดทําโปรโมชั่นพร้อมข้อเสนอพิเศษให้เอเจ้นท์จากภูเก็ตเสนอขายชวนนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวภูเก็ตเดินทางมาท่องเที่ยวพังงาในวันธรรมดาเพิ่มขึ้นนายอุทิศ ลิ่มสกุล ผู้อํานวยการ ททท. สํานักงานพังงา กล่าวว่า จากข้อมูลสถานการณ์ท่องเที่ยวจังหวัดพังงา มีจํานวนผู้เยี่ยมเยือนชาวไทยซึ่งส่วนใหญ่เป็นคนภูเก็ตเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในพื้นที่มากที่สุดเป็นลําดับแรกและนับเป็นตลาดนักท่องเที่ยวขนาดใหญ่ ออกเดินทางท่องเที่ยวได้ทันที และนิยมเดินทางในช่วงวันหยุดวันเสาร์ - อาทิตย์ ทําให้มีอัตราการเข้าพักในวันธรรมดาเฉลี่ยอยู่ที่ร้อยละ 10 จากจํานวนที่พักในอําเภอเมืองและใกล้เคียง 22 แห่ง รวมจํานวนห้องพักประมาณ 454 ห้อง โดยเห็นว่าจุดขายที่สําคัญในตัวเมืองพังงา เป็นอาหารพื้นเมือง ร้านอาหารที่ได้รับรางวัลมิชลิน ร้านบะหมี่ ร้านขนมจีน ร้านซีฟู๊ด หลายตลาดชุมชนที่เป็นอัตลักษณ์ของพื้นที่ มีร้านกาแฟที่นับเป็นจุดพักผ่อนนั่งทํางานได้เพิ่มขึ้น อีกทั้งสถานที่พักที่มีการปรับปรุงห้องพักพร้อมสิ่งอํานวยความสะดวกตอบโจทย์เที่ยวด้วยทํางานได้และยังเชื่อมโยงกับวิถีชุมชนที่มีความสงบ เรียบง่าย ที่สําคัญความเป็นมิตรของผู้คนชาวพังงา การต้อนรับ การให้บริการรวมถึงความสะอาดของที่พักโดยได้รับรางวัล “เมืองต้อนรับนักท่องเที่ยวที่ดีที่สุดในประเทศไทย หรือ Thailand’s most welcoming province” ของ Booking. com นับเป็นจุดแข็งสามารถกระตุ้นการท่องเที่ยว เพิ่มสัดส่วนการกระจายตัวของนักท่องเที่ยวทั้งจากพื้นที่แหล่งท่องเที่ยวกระแสหลักสู่ตัวเมือง และช่วงหยุดสุดสัปดาห์สู่วันธรรมดา วันจันทร์- วันศุกร์ได้เป็นอย่างดี สอดคล้องกับแนวทางดําเนินงานด้านการตลาดในปีท่องเที่ยวไทยส่งเสริมการท่องเที่ยวภายในประเทศ “365 วันมหัศจรรย์เมืองไทยเที่ยวได้ทุกวัน” จึงได้จัดทํากิจกรรมส่งเสริม การท่องเที่ยวภายใต้โครงการพังงาวันธรรมดาที่ไม่ธรรมดา 2 แคมเปญ ได้แก่ “พังงา วันธรรมดาที่ไม่ธรรมดา” โดยร่วมกับชมรมไทยบริการท่องเที่ยวภาคใต้ตอนบนและสมาคมบริษัทนําเที่ยวภูเก็ตเสนอขายแพ็คเก็จ “พังงาวันธรรมดาที่ไม่ธรรมดา” โดยมอบข้อเสนอพิเศษค่าอาหาร 250 บาท/คน/มื้อจํานวน 500 คน สําหรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางเป็นหมู่คณะ และแคมเปญ“เที่ยววันธรรมดาให้ปัง ต้องพังงา” โดยมอบคูปองเงินสดมูลค่า 100 บาท/คน/1 การจอง จํานวน 500 คนแรกสําหรับนักท่องเที่ยวชาวไทยที่เดินทางมาใช้บริการที่พักในตัวเมืองพังงาและใกล้เคียงนําไปใช้แทนเงินสดกับร้านอาหาร ร้านกาแฟ และกิจกรรมท่องเที่ยวที่เข้าร่วมแคมเปญตั้งแต่วันที่ 15 กุมภาพันธ์ ถึง 30 เมษายนนี้นอกจากนี้หน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนในพังงายังได้จัดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยว และสร้างบรรยากาศการท่องเที่ยว เพื่อส่งมอบความสุขผ่านงานเทศกาลประเพณีตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์เริ่มต้นด้วยงานกาชาดและงานประจําปี เสน่ห์กราภูงา เมืองพังงาผาสุกในวันที่ 17-26 กุมภาพันธ์ ณ สนามศาลากลางหลังเก่า อําเภอเมืองพังงา ต่อด้วยงานสานสัมพันธ์บ้านพี่เมืองน้อง พังงา-ภูเก็ต วันที่ 17-19 กุมภาพันธ์ ณ สะพานสารสิน ชายหาดท่านุ่น อําเภอตะกั่วทุ่ง ส่วนเดือนมีนาคมพลาดไม่ได้กับงานประเพณีอนุรักษ์เต่าทะเลที่จัดขึ้นระหว่างวันที่ 1 - 10 มีนาคม ณ บริเวณหน้าหาดท้ายเหมือง อําเภอท้ายเหมือง ตามด้วยงานแห่ผ้าขึ้นธาตุพระธาตุคีรีเขต ณ วัดพระธาตุคีรีเขต อําเภอตะกั่วป่า และงานประเพณีแห่ผ้าขึ้นธาตุ ณ วัดบางเหรียง อําเภอทับปุด ในวันที่ 4 - 6 มีนาคม สําหรับสายสปอร์ตพบกับงาน T60th TKP.HOSPITAL ANNIVERSARY RUN ในวันที่ 12 มีนาคม ณ สวนสาธารณะทุ่งพระโพธิ์ อําเภอตะกั่วป่า และงาน Phangnga Surf & Rock Festival ที่จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 24 - 26 มีนาคม ณ ชายหาดหน้าบริเวณโรงแรมเขาหลัก ซีวิว อําเภอตะกั่วป่า เรียกได้ว่ามีกิจกรรมตลอดทั้งเดือนกุมภาพันธ์ - มีนาคม ที่พร้อมจะส่งมอบความสุขให้นักท่องเที่ยวทุกเดือน ทั้งนี้ติดตามข้อมูลท่องเที่ยวเพิ่มเติมได้ที่ Facebook : ททท.สํานักงานพังงา : TAT Phangnga Office และ โทร. 097-9923563, 076-413400-2 “เที่ยวใต้ให้ปังต้องพังงา”#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
2/2/2023
ภาคใต้
พังงา
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดพังงา
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230202102103369
null
หารือการเปิดด่านฝั่งตรงข้ามจังหวัดหนองคาย ฟื้นฟูเศรษฐกิจชายแดน เชื่อมโยงการท่องเที่ยว
นายกีรติ รัชโน ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า เดินทางเยือนนครหลวงเวียงจันทน์ สปป.ลาว เข้าพบนายพูขง บันนะวง รองเจ้าครองนครหลวงเวียงจันทน์ เพื่อหารือการเปิดด่านท้องถิ่นและด่านประเพณี ของนครหลวงเวียงจันทน์ ที่อยู่ตรงข้ามจังหวัดหนองคาย หลังจากปิดด่านไปเกือบ 3 ปี เนื่องจากการระบาดของโควิด-19 ซึ่งในส่วนของด่านฝั่งไทยมีความพร้อมเปิดทันทีที่ สปป.ลาว พร้อมดําเนินการ ทั้งนี้ สปป.ลาว แจ้งว่า อยู่ระหว่างเตรียมความพร้อมด้านโครงสร้างพื้นฐาน ระบบการปฏิบัติงานและบุคลากร เพื่ออํานวยความสะดวกให้มากขึ้นกว่าที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม นครหลวงเวียงจันทน์ จะเร่งเปิดด่านที่มีความพร้อมอย่างเร็วที่สุด เพื่อให้ประชาชนสองประเทศได้กลับมาซื้อขายสินค้าตามปกติและต้อนรับการท่องเที่ยวที่กําลังฟื้นตัวในทั้งสองประเทศ นอกจากนี้ ทั้งสองฝ่ายยังเห็นพ้องให้มีการเชื่อมโยงการท่องเที่ยวระหว่างกันและในภูมิภาค เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดร่วมกันด้วยปัจจุบันไทยได้เปิดด่านชายแดนแล้ว 80 แห่ง จากทั้งหมด 97 แห่ง ซึ่งไทยมีด่านชายแดนด้าน สปป.ลาว รวม 49 แห่ง โดยด่านฝั่งไทยเปิดแล้ว 44 แห่ง ขณะที่ สปป.ลาว เปิด 36 แห่งทั้งนี้ ในปี 2565 การค้าชายแดนไทย-สปป.ลาว มีมูลค่า 260,081 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 21.1 คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 94.7 ของการค้ารวมไทย-สปป.ลาว โดยการค้าชายแดนไทย-สปป.ลาว ด้านจังหวัดหนองคาย ซึ่งติดกับนครหลวงเวียงจันทน์ มีมูลค่า 86,508 ล้านบาท เป็นอันดับ 1 ของการค้าชายแดนระหว่างไทย-สปป.ลาว
2/2/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230202111503401
null
ธปท.เผยเศรษฐกิจภาคเหนือ ปรับตัวดีขึ้นจากไตรมาสก่อน
ธนาคารแห่งประเทศไทย สํานักงานภาคเหนือ เผยเศรษฐกิจภาคเหนือปรับตัวดีขึ้นจากไตรมาสก่อน ตามกิจกรรมทางเศรษฐกิจและภาคการท่องเที่ยวที่ฟื้นตัวได้ต่อเนื่อง คาดจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติ กลับเข้ามาในประเทศเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้ วันนี้ (2 ก.พ. 66) ที่ห้องประชุมธนาคารแห่งประเทศไทย สํานักงานภาคเหนือ นางพรวิภา ตั้งเจริญมั่นคง ผู้อํานวยการอาวุโส ธนาคารแห่งประเทศไทย สํานักงานภาคเหนือ แถลงข่าวภาวะเศรษฐกิจและการเงินภาคเหนือ ไตรมาสที่ 4 ปี 2565 พบว่าปรับตัวดีขึ้นจากไตรมาสก่อน ตามกิจกรรมทางเศรษฐกิจและภาคการท่องเที่ยวที่ฟื้นตัวได้ต่อเนื่อง ด้านตลาดแรงงานปรับดีขึ้น ส่วนรายได้ของภาคเกษตรขยายตัวจากด้านราคาเป็นสําคัญ ซึ่งเป็นปัจจัยที่สนับสนุนให้การบริโภคขยายตัว แต่ยังคงมีแรงกดดันจากค่าครองชีพที่อยู่ในระดับสูง ขณะที่ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมได้ปรับตัวลดลงเล็กน้อย จากการผลิตเพื่อส่งออกที่หดตัวตามเศรษฐกิจโลกที่ชะลอลง อย่างไรก็ตาม การผลิตเพื่อบริโภคภายในประเทศได้ปรับตัวดีขึ้น แต่การลงทุนของภาคเอกชนปรับตัวลดลง เนื่องจากได้มีการเร่งลงทุนไปมากในช่วงครึ่งปีแรก ประกอบกับอุปสงค์ต่างประเทศชะลอลง ส่วนการลงทุนก่อสร้างมีทิศทางปรับดีขึ้น ด้านอัตราเงินเฟ้อทั่วไป ปรับลดลงจากไตรมาสก่อน จากราคาพลังงานและอาหารสดที่ชะลอตัวลง ขณะที่อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานอยู่ในระดับใกล้เคียงกับไตรมาสก่อนสําหรับแนวโน้มเศรษฐกิจภาคเหนือไตรมาสที่ 1/2566 คาดว่าอยู่ในทิศทางที่ฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง ตามภาคการท่องเที่ยวจากนักท่องเที่ยวต่างชาติ ที่เริ่มกลับเข้ามาเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้ ประกอบกับกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่กลับสู่ภาวะปกติ และตลาดแรงงานที่ทยอยฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง ส่วนรายได้ภาคการเกษตรยังคงขยายตัวได้ดี ซึ่งจะเป็นปัจจัยสนับสนุนการบริโภคให้อยู่ในทิศทางที่ฟื้นตัว แม้จะยังคงมีปัจจัยกดดันจากค่าครองชีพที่อยู่ในระดับสูง อย่างไรก็ตาม ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมเพื่อการส่งออก คาดว่าจะได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจโลกที่ชะลอลง ยกเว้นในกลุ่มอาหารที่มีอุปสงค์ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ ยังคงต้องติดตามการเพิ่มขึ้นของราคาสินค้าและต้นทุน รวมถึงอุปสงค์จากต่างประเทศที่อาจชะลอตัวมากกว่าที่คาดการณ์ไว้#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
2/2/2023
ภาคเหนือ
เชียงใหม่
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงใหม่
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230202112655409
null
ผู้ว่าฯ ชัยนาท นำหัวหน้าส่วนราชการ บวงสรวงสิ่งศักดิ์สิทธิ์ก่อนเริ่มงานมหกรรมหุ่นฟางนก และของดีศรีท้องถิ่นจังหวัดชัยนาท ประจำปี 2566 ครั้งที่ 38
เช้าวันนี้ 2 กุมภาพันธ์ 2566 นายนที มนตริวัต ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยนาท พร้อมด้วย รองผู้ว่าราชการจังหวัดชัยนาท ทหาร ตํารวจ หัวหน้าส่วนราชการ และเจ้าหน้าที่ ทําพิธีบวงสรวงสักการะศาลหลักเมือง สักการะพระบรมราชานุสาวรีย์ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ศาลตายาย นมัสการรูปหล่อหลวงปู่ศุข สิ่งศักดิ์สิทธิ์ภายในสวนนกชัยนาท อนุสาวรีย์ นายกุศล ศาลติธรรม ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยนาท ผู้ที่ริเริ่มโครงการสร้างสวนนกชัยนาทแห่งนี้ และอนุสาวรีย์ ดร.ไพรัตน์ เตชะรินทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยนาท ที่ก่อสร้างสวนนกชัยนาท ที่ใหญ่ที่สุดในเอเซีย เพื่อขอพรในการจัดงานมหกรรมหุ่นฟางนก และของดีศรีท้องถิ่นจังหวัดชัยนาท ประจําปี 2566 ครั้งที่ 38 ให้รุร่วงไปด้วยดี ทั้งนี้ งานมหกรรมหุ่นฟางนก และของดีศรีท้องถิ่นจังหวัดชัยนาท ประจําปี 2566 ครั้งที่ 38 จัดขึ้นระหว่างวันที่ 2 - 12 กุมภาพันธ์ 2566 นี้ ที่บริเวณสนามกีฬาเฉลิมพระเกียรติฯ และเขื่อนเรียงหิน หน้าศาลากลางจังหวัดชัยนาท ส.ปชส.ชัยนาท#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
2/2/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
ชัยนาท
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดชัยนาท
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230202115045430
null
พังงา-ตื่นตา...ทะเลแหวกหนวดมังกร ผืนทรายขาวน้ำทะเลใสยาวเกือบ 4 กิโลเมตร ที่คุระบุรี
ผู้ประกอบการท่องเที่ยวพื้นที่ในอําเภอคุระบุรี ได้นําผู้สื่อข่าวและคณะลงเรือหัวโทงจากท่าเรือบ้านหินลาด ต.คุระ อ.คุระบุรี จ.พังงา ไปเที่ยวชมแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมในทะเลโซนเกาะระ-เกาะพระทอง อ.คุระบุรี จ.พังงา โดยมีไกด์ท้องถิ่นนําเที่ยวชม มุ่งหน้าไปชมแหล่งท่องเที่ยวที่สุดอเมซิ่งสุดสวยงามที่ต้องห้ามพลาด นั่นก็คือ “ทะเลแหวกหนวดมังกร” ที่เกิดมาจากความมหัศจรรย์ของธรรมชาติในยามที่น้ําทะเลลดลง ก็จะเกิดปรากฏการณ์ที่ เรียกว่า “ทะเลแหวก” ขึ้นและเผยให้เห็นส่วนของสันทรายขาวละเอียดทอดตัวเป็นแนวยาวสุดลูกหูลูกตา โดยเฉพาะพื้นทรายที่เนียนละเอียดนุ่มเท้า เวลาที่จะเดินย่ําไปบนพื้นทรายรู้สึกถึงความนุ่มสบายเท้าและน้ําทะเลที่ใส โดยเฉพาะเมื่อถ่ายภาพมุมสูงด้วยโดรน แต่ช่วงที่ไปถึงน้ําทะเลยังลงไม่สุด ทะเลแหวกจึงยังโผล่ขึ้นมาไม่มากนักไกด์ท้องถิ่นบอกว่าทะเลแหวกหนวดมังกร อยู่บริเวณระหว่างเกาะระและเกาะทุ่งนางดํา อ.คุระบุรี จ.พังงา ในช่วงที่น้ําลงเต็มที่ จะมีความยาวเกือบ 4 กิโลเมตร และเป็นผืนทรายกว้างเป็นริ้วๆเหมือนกับหนวดของมังกร ประกอบกับบนเกาะทุ่งนางดํานั้น มีวิหารเซียน 1 ใน 3 แห่งของประเทศไทย ซึ่งซินแสบอกว่าจุดที่ตั้งวิหารเซียนที่เกาะทุ่งนางดํา คือส่วนหัวของพญามังกร จึงได้ตั้งชื่อว่า “ทะเลแหวกหนวดมังกร” และได้กลายเป็นจุดท่องเที่ยวที่ต้องห้ามพลาดอีกจุดหนึ่งของอําเภอคุระบุรี สําหรับการเดินทางมาเที่ยวชมนั้นจะต้องอาศัยจังหวะตอนที่น้ําทะเลลงมากเท่านั้น#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
2/2/2023
ภาคใต้
พังงา
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดพังงา
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230202130244443
null
รัฐบาลหวังแก้ปัญหาสลากเกินราคาก่อนครบวาระรัฐบาล ย้ำขายสลากเกินราคาผิดกฎหมายแน่นอน
นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจําสํานักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการแก้ไขปัญหาสลากเกินราคา โดยยืนยันว่า การขายสลากเกินราคาถือว่าผิดกฎหมายแน่นอน เพราะเป็นการเอาเปรียบประชาชน เอาเปรียบสังคม แต่โทษอาจจะไม่หนักมาก ส่วนการดําเนินการในส่วนอื่นที่เกี่ยวเนื่องกัน ไม่ว่าจะเป็นแหล่งที่มาของการขายสลากเกินราคา หรือปัญหายี่ปั๊ว เป็นหน้าที่ของกองสลาก แต่ไม่สามารถนํามาเป็นข้ออ้างได้ว่ามีการแกะสลักเกินราคาอยู่แล้ว และในระยะยาวจะทําให้ไม่สามารถแก้ไขปัญหาสลากเกินราคาได้นายอนุชา กล่าวว่า รัฐบาลตั้งใจจะแก้ไขปัญหาเกินราคา ให้ได้ก่อนหมดวาระของรัฐบาลชุดนี้ แต่ยอมรับว่า การแก้ไขปัญหาไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะการขายสลากเกินราคาเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นมายาวนาน ขณะเดียวกันก็ต้องคํานึงถึงผู้ค้าสลากที่มีความเดือดร้อนจริงๆ ด้วย อย่างไรก็ตาม การดําเนินการแก้ไขปัญหามีความคืบหน้าไปมากแล้ว แต่ที่ยังไม่แล้วเสร็จ เพราะเรื่องอยู่ระหว่างกระบวนการยุติธรรม จะต้องรอคําสั่งศาลก่อน หากดําเนินการอะไรตอนนี้ อาจจะมีผลต่อรูปคดีในอนาคต
2/2/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
Radio-สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230202143224496
null
จังหวัดนครศรีธรรมราช เดินหน้าทบทวนแผนพัฒนาพื้นที่ตำบลที่วัง อำเภอทุ่งสง เตรียมพร้อมสู่การเป็นเมืองอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ
วันนี้ (2 ก.พ.66) ที่ห้องประชุมเดอะโกลด์ โรงแรมเดอะโกลด์ นายอภินันท์ เผือกผ่อง ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นประธานเปิดการสัมมนาเชิงปฎิบัติการ เพื่อทบทวนแผนปฎิบัติการ ตลอดจนแนวทางการส่งเสริมพัฒนาเชิงพื้นที่เตรียมความพร้อมสู่การเป็นเมืองอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ (Pre-EIT) จังหวัดนครศรีธรรมราช ประจําปีงบประมาณ 2566 ตามที่มติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 8 มีนาคม 2559 เห็นชอบให้ปรับปรุงและพัฒนากฎหมาย ที่มีอยู่ให้เอื้อต่อการพัฒนาเมืองอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ โดยอุตสาหกรรมจังหวัดนครศรีธรรมราช จัดสัมมนาฯ ขึ้น เพื่อเป็นการทบทวนและปรับปรุงแผนปฏิบัติการพัฒนาเมืองอุตสาหกรรมเชิงนิเวศของจังหวัดนครศรีธรรมราชให้สอดคล้องกับสภาพสิ่งแวดล้อมทั้งภายในและภายนอกที่มีการเปลี่ยนแปลง เพื่อนําเรื่องการพัฒนาเมืองอุตสหกรรมเชิงนิเวศมากําหนดเป็นยุทธศาสตร์ชาติ 250 ปี (พ.ศ.2564-2580) เพื่อให้บรรลุเป้าหมายยุทธศาสตร์ชาติ ด้านการสร้างการเติบโตบนคุณภาพชีวิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ภายในปี 2579 ประเทศไทยมีต้นแบบ “เมืองน่าอยู่ คู่อุตสาหกรรม” ไม่น้อยกว่า 50 พื้นที่ ใน 39 จังหวัด ซึ่งจังหวัดนครศรีธรรมราชได้กําหนดให้พื้นที่ตําบลที่วัง อําเภอทุ่งสง เป็นพื้นที่เมืองอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ ดังนั้นเพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมในการพัฒนาเป็นเมืองอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ ระยะที่ 3 จึงได้ร่วมมือกันจัดทําแผนปฏิบัติการ จากทุกภาคส่วน นําไปสู่การขอรับจัดสรรงบประมาณ เพื่อพัฒนาสู่เมืองอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ การพัฒนาอุตสาหกรรมให้สามารถอยู่ร่วมกับชุมชนได้อย่างยั่งยืน โดยให้ภาคอุตสาหกรรมเป็นตัวขับเคลื่อนการพัฒนาเศรษฐกิจของแต่ละพื้นที่ เชื่อมโยงกับการพัฒนาเศรษฐกิจชุมชน พร้อมกับยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนควบคู่กับการดูแลสิ่งแวดล้อมในพื้นที่ โดยมีผู้แทนจากหน่วยงานภาครัฐ เอกชน ภาคการศึกษา ประชาชน และกองทุนพัฒนาอุตสนาหกรรมเชิงนิเวศ กรมโรงงานอุตสาหกรรม เข้าร่วมสัมมนาสร้างการมีส่วนร่วม เป็นเวทีสนทนาการแสดงความคิดเห็น ตลอดจนการบูรณาการร่วมกันในการขับเคลื่อนการพัฒนาเมืองอุตสาหกรรมเชิงนิเวศของจังหวัดนครศรีธรรมราชในอนาคตสําหรับพื้นที่ตําบลที่วัง อําเภอทุ่งสง จังหวัดนครศรีธรรมราช ปัจจุบันมีสถานประกอบกิจการโรงงาน อุตสาหกรรมที่เปิดดําเนินกิจการอยู่ในพื้นที่จํานวน 19 ราย มีอุตสาหกรรมที่สําคัญ ได้แก่ อุตสาหกรรมยางและผลิตภัณฑ์จากยางพารา อุตสาหกรรมแปรรูปไม้ยางพารา อุตสาหกรรมซีเมนต์ วัสดุก่อสร้างและอุตสาหกรรมผลิตกระแสไฟฟ้า อีกทั้งยังมีอุตสาหกรรมพื้นฐานประเภทเหมืองหินและเหมืองแร่ ได้แก่ หินอุตสาหกรรมชนิดหินปูนเพื่ออุตสาหกรรมก่อสร้าง ยิปซัม แอนไฮไดรต์ เฟลด์สปาร์ ทั้งนี้มีประชากร 6,486 ครัวเรือน 11 หมู่บ้าน ประชากรร้อยละ 70 ของจํานวนครัวเรือนประกอบอาชีพเกษตรกรรม เช่น สวนยางพารา สวนปาล์มน้ํามัน เป็นต้น#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILANDพรรณี มณีวรรณ/ภาพ-ข่าวบุณณดา/ณัฐนันท์/ ภาพสํานักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนครศรีธรรมราช2 กุมภาพันธ์ 2566
2/2/2023
ภาคใต้
นครศรีธรรมราช
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนครศรีธรรมราช
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230202163941584
null
พาณิชย์ตรังลงพื้นที่ติดตามราคาสินค้าอุปโภคบริโภค เพื่อกำกับดูแลผู้ประกอบการ ร้านค้า ให้ปิดป้ายแสดงราคาจำหน่ายสินค้าอย่างชัดเจน ไม่ให้มีการฉวยโอกาสขึ้นราคาสินค้าโดยไม่มีเหตุอันควร
นางสาวสุภากิตติ์ เกลี้ยงสงค์ พาณิชย์จังหวัดตรัง มอบหมายเจ้าหน้าที่กลุ่มงานกํากับและพัฒนาเศรษฐกิจการค้า ลงพื้นที่ติดตามราคาสินค้า ณ ตลาดท่ากลาง ตําบลทับเที่ยง อําเภอเมือง จังหวัดตรัง เพื่อติดตามสถานการณ์ ปริมาณและราคาสินค้าอุปโภคบริโภค กํากับดูแลผู้ประกอบการ/ร้านค้า ให้ปิดป้ายแสดงราคาจําหน่ายสินค้าอย่างชัดเจน ไม่ให้มีการฉวยโอกาสขึ้นราคาสินค้าโดยไม่มีเหตุอันควร ป้องกันการกักตุนและปฏิเสธการจําหน่ายสินค้า จากการลงพื้นที่ สรุปผลดังนี้- ไก่สดทั้งตัวรวมเครื่องใน ราคา กก.ละ 70-75 บาท- สะโพก/น่อง/ปีกไก่สด ราคา กก.ละ 80 บาท- อกไก่สด ราคา กก.ละ 85 บาท- ไขไก่ เบอร์ 3 ราคาแผงละ 128 บาท- หมูเนื้อแดง ราคา กก.ละ 175-180 บาท- หมูสามชั้น ราคา กก.ละ 200 บาท- ผักคะน้า ราคา กก.ละ 30 บาท- ถั่วฝักยาว ราคา กก.ละ 50-60 บาท- กระหล่ําปลี ราคา กก.ละ 30 บาท- ผักกวางตุ้ง ราคา กก.ละ 30-35 บาท- ผักกาดขาวปลี ราคา กก.ละ 50 บาท- ผักบุ้งจีน ราคา กก.ละ 40-50 บาท- ต้นหอม ราคา กก.ละ 80-90 บาท- ผักชี ราคา กก.ละ 80-120 บาท- พริกขี้หนูจินดาแดง ราคา กก.ละ 70-80 บาททั้งนี้ สํานักงานพาณิชย์จังหวัดตรัง ได้เน้นย้ําให้ผู้ประกอบการปิดป้ายแสดงราคา ซึ่งผู้ประกอบการได้ปิดป้ายแสดงราคาชัดเจน หากผู้บริโภคไม่ได้รับเป็นธรรมทางการค้า หรือได้รับความเดือดร้อนจากการฉวยโอกาสขึ้นราคาสินค้าและบริการ สามารถร้องเรียนได้ที่ สํานักงานพาณิชย์จังหวัดตรัง โทร 075-223076 หรือ สายด่วน 1569#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
2/2/2023
ภาคใต้
ตรัง
สวท.ตรัง
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230202154815555
null
กรมหม่อนไหมร่วมกับภาคเอกชน พัฒนาผ้าไหมถัก-ผ้าไหมยืด สร้างมูลค่าเพิ่ม
นายประกอบ เผ่าพงศ์ อธิบดีกรมหม่อนไหม เปิดเผยว่า กรมหม่อนไหมเป็นหน่วยงานที่ดูแลรับผิดชอบงานด้านหม่อนไหมทั้งระบบครบวงจร ซึ่งมีภารกิจสําคัญหนึ่งในเรื่องการศึกษา วิจัย ทดลองและพัฒนา การแปรรูป นวัตกรรมและยกระดับสินค้าและผลิตภัณฑ์หม่อนไหมให้มีมาตรฐานและได้รับการยอมรับทั้งในประเทศและในระดับสากล จึงได้มีแนวคิดในการพัฒนาผ้าไหมมาตรฐานตรานกยูงพระราชทานให้มีคุณสมบัติที่เหมาะสมแก่การสวมใส่ในชีวิตประจําวัน ตอบโจทย์ผู้บริโภคตามนโยบายตลาดนําการผลิตของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ล่าสุดได้หารือร่วมกับ บริษัท เวิลด์นิตติ้ง เท็กซ์ไทล์ จํากัด ซึ่งเป็นบริษัทผู้ผลิตและแปรรูปผ้าไหมด้วยวิธีการถักโดยใช้เครื่องจักรอุตสาหกรรม และผ่านการรับรองมาตรฐานผลิตภัณฑ์ผ้าไหมไทยตรานกยูงพระราชทานชนิดสีเขียวจากกรมหม่อนไหมแล้ว เพื่อหาแนวทางความร่วมมือในการพัฒนา การสร้างมูลค่าเพิ่ม รวมทั้งหาช่องทางการจําหน่ายผ้าไหมถักที่แปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เช่น ผ้าไหมยืด ผ้าพันคอ เสื้อผ้าลําลอง ชุดกีฬาและชุดชั้นใน เพื่อให้ผู้บริโภคผ้าไหมสามารถสวมใส่ในชีวิตประจําวันได้ ด้วยคุณสมบัติของเนื้อผ้าและโครงสร้างผ้าไหมถักที่มีความโดดเด่นด้านความยืดหยุ่นสูง จึงทําให้สวมใส่สบายและสามารถระบายอากาศลดกลิ่นอับชื้นจากเหงื่อได้ดีมาก ยังได้หารือเกี่ยวกับแนวทางการสร้างและการบูรณาการความร่วมมือระหว่างภาคีเครือข่ายและผู้เกี่ยวข้องในกระบวนการผลิตผ้าไหมถักตั้งแต่ต้นน้ํา กลางน้ําตลอดจนถึงปลายน้ํา โดยมุ่งเป้าหมายเพื่อยกระดับการผลิตของเกษตรกรหม่อนไหมให้มีคุณภาพ ผ่านการรับรองมาตรฐาน ซึ่งจะส่งผลถึงการสร้างรายได้ที่เพิ่มขึ้นและการประกอบอาชีพที่ยั่งยืนให้กับเกษตรกรต่อไป
2/2/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
Radio-สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230202183229650
null
รองผู้ว่าการฝ่ายกีฬาอาชีพและกีฬามวย เข้าพบหารือ ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา ในมาตรการทางการแพทย์ให้กับผู้แข่งขัน Amazean Jungle Trail
วันนี้ (2 ก.พ.66) เวลา 13.00 น. ที่ห้องฉลองเมือง ศาลากลางจังหวัดยะลา นายสุพจน์ รอดเรือง ณ หนองคาย ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา ได้ให้การต้อนรับ นายทนุเกียรติ จันทร์ชุม รองผู้ว่าการฝ่ายกีฬาอาชีพและกีฬามวยและคณะ เข้าพบหารือเรื่องการจัดงานวิ่งเทรล Amazean Jungle Trail ในมาตรการการดูแลความปลอดภัย ผู้เข้าแข่งขัน การจัดทีมแพทย์เพื่อรองรับการประสบอุบัติเหตุระหว่างการแข่งขัน การจัดที่พักให้เพียงพอต่อผู้ที่จะเข้ามาแข่นขันและท่องเที่ยวสําหรับ Amazean Jungle Trail กีฬาแห่งประเทศไทย ได้พยายามผลักดัน และสนับสนุนการวิ่งเทรลให้ก้าวสู่ระดับสากล ยกระดับมาตรฐานการทํางานเพื่อมุ่งหวังให้ประเทศไทยมีรายการแข่งขันในระดับชั้นนําของโลก และในปีนี้ Doi Inthanon Thailand by UTMBได้รับการคัดเลือกให้เป็น 1 ใน 3 ของสนามเมเจอร์ของโลก และเกิด World Series สนามที่สองของประเทศไทย Amazean Jungle Thailand by UTMB ที่อําเภอเบตง จังหวัดยะลาทั้งนี้ มีกําหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 17-19 กุมภาพันธ์ 2566 ณ อําเภอเบตง จังหวัดยะลา ขณะนี้มีผู้สมัครร่วมเข้าแข่งขัน Amazean Jungle Thailand by UTMB 2023 เกือบ 2,000 คน แบ่งสัดส่วนเป็นคนไทย 60% และต่างชาติ 40% จาก 30 ประเทศ โดยมีชาติที่ให้ความสนใจ อาทิ มาเลเซีย สิงค์โปร์ เวียดนาม จีน ญี่ปุ่น อังกฤษ นอกจากนี้ยังมีโครงการคู่ขนาน Amazing Betong Festival ระหว่างวันที่ 9-19 กุมภาพันธ์ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ และการท่องเที่ยวในอําเภอเบตง และ จชต. นักท่องเที่ยวจะได้วิ่ง เที่ยว ดื่ม กิน เช็คอิน @เบตง มีเทศกาลไฟประดับเมือง OTOP EXPO เทศกาลอาหารเบตง กิจกรรมยิงธนูโบราณ หรือธนูเทรดดี้ Amazean Jungle Camping ด้วย#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
2/2/2023
ภาคใต้
ยะลา
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดยะลา
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230202160655567
null
Amazean Jungle Thailand by UTMB 2023" จัดยิ่งใหญ่!! เปิดเส้นทางวิ่งข้ามพรมแดน ไทย-มาเลเซีย วันที่ 17 ก.พ.นี้ มีผู้สมัครแข่งขันจาก 30 ประเทศ กว่า 2,000 คน คาด ก้าวเป็นสนามเมเจอร์ของโลกในอนาคต
วันนี้ (2ก.พ.66) ที่ห้องประชุมน้อมเกล้า ศูนย์อํานวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา (กกท.) ร่วมกับ ศอ.บต. การกีฬาแห่งประเทศไทย จังหวัดยะลา การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) หน่วยเฉพาะกิจยะลา และสมาคมพ่อค้าเบตง จ.ยะลา ร่วมแถลงข่าว ความพร้อมในการจัดการแข่งขัน Amazean Jungle Thailand by UTMB 2023 ระหว่างวันที่ 17 -19 กุมภาพันธ์ 2566 ณ อําเภอเบตง จังหวัดยะลา และ โครงการ Amazing Betong Festival 2023 ซึ่งจัดระหว่างวันที่ 9-19 กุมภาพันธ์ 2566พลเรือตรี สมเกียรติ ผลประยูร เลขาธิการ ศอ.บต. กล่าวถึงความเป็นมาของการจัดการแข่งขันในครั้งนี้ว่า ศอ.บต. ผลักดันโครงการเมืองต้นแบบ สามเหลี่ยมมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน โดยในส่วนของเมืองเบตงได้ผลักดันให้เป็นเมืองการท่องเที่ยวต้นแบบ มีการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน พัฒนาแหล่งท่องเที่ยวใหม่ๆ และจัดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวในทุกมิติ ซึ่งกิจกรรมวิ่งเทรลเป็นหนึ่งในกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยว โดยเริ่มต้นความพร้อมในปี 2565 ผ่านความเห็นชอบจากคณะกรรมการยุทธศาสตร์ ด้านการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (กพต.) จัดการแข่งขัน Amazean Jungle Thailand by UTMB และได้รับการประกาศเป็นสนาม World Series และมีกําหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 17 -19 กุมภาพันธ์ 2566 ณ อ.เบตง จ.ยะลา ขณะนี้มีผู้สมัครร่วมเข้าแข่งขัน Amazean Jungle Thailand by UTMB 2023 เกือบ 2,000 คน แบ่งสัดส่วนเป็นคนไทย 60 % และต่างชาติ 40% จาก 30 ประเทศ โดยมีชาติที่ให้ความสนใจ อาทิ มาเลเซีย สิงค์โปร์ เวียดนาม จีน ญี่ปุ่น อังกฤษ นอกจากนี้ยังมีโครงการคู่ขนาน Amazing Betong Festival ระหว่างวันที่ 9-19 กุมภาพันธ์ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ และการท่องเที่ยวในอ.เบตง และ จชต. นักท่องเที่ยวจะได้ วิ่ง เที่ยว ดื่ม กิน เช็คอิน @เบตง มีเทศกาลไฟประดับเมือง OTOP EXPO เทศกาลอาหารเบตง กิจกรรมยิงธนูโบราณ หรือธนูเทรดดี้ Amazean Jungle Campingด้าน นายสิรภพ ดวงสอดศรี ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า นับตั้งแต่ปี 2560 เป็นต้นมากระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา โดยการกีฬาแห่งประเทศไทย ได้พยายามผลักดัน และสนับสนุนการวิ่งเทรลให้ก้าวสู่ระดับสากล ยกระดับมาตรฐานการทํางานเพื่อมุ่งหวังให้ประเทศไทยมีรายการแข่งขันในระดับชั้นนําของโลก และในปีนี้ Doi Inthanon Thailand by UTMB ได้รับการคัดเลือกให้เป็น 1 ใน 3 ของสนามเมเจอร์ของโลก และเกิด World Series สนามที่สองของประเทศไทย Amazean Jungle Thailand by UTMB ที่อําเภอเบตง จังหวัดยะลา ในวันนี้ประเทศไทยคือ "หนึ่งในศูนย์กลางกีฬาวิ่งเทรลของโลก " มีสนามที่เป็นอันดับหนึ่งของทวีปเอเชีย-แปซิฟิก และเชื่อเหลือเกินว่า Amazean Jungle Thailand by UTMB ที่บูรณาการนําการกีฬา มาผนวกกับกิจกรรมการท่องเที่ยว Amazing Betong Festival จะสร้างความประทับใจให้กับนักวิ่งชาวไทย และต่างประเทศได้อย่างแน่นอน และจะสามารถยกระดับความสามารถก้าวขึ้นเป็นหนึ่งในสนามเมเจอร์ของโลกในอนาคตอันใกล้ เป็นแหล่งรายได้ใหม่ของประเทศ ที่จะสร้างผลกระทบทางเศรษฐกิจในแต่ละปีนับร้อยล้านบาทให้กับจังหวัดชายแดนใต้นายทนุเกียรติ จันทร์ชุม รองผู้ว่าการ ฝ่ายกีฬาอาชีพและกีฬามวย การกีฬาแห่งประเทศไทย กล่าวถึงรายละเอียด ของประเภทการจัดการแข่งขัน ว่า การแข่งขันครั้งนี้มี 5 ระยะทางแข่งขัน ได้แก่ Betong 160K, Betong 100K,Betong 50K, Betong 25K, Betong 10K และการวิ่ง Fun run Saturday Night Run 5K สําหรับเส้นทางการแข่งขันในปีนี้ นักวิ่งจะมีโอกาสวิ่ง ผ่านทุกไฮไลท์ของป่าภาคเบตง และนับเป็นประวัติศาสตร์ครั้งสําคัญสําหรับนักวิ่งเบตงระยะทาง 160 และ 50 K ที่จะได้วิ่ง ข้ามพรมแดนไปยังประเทศมาเลเซีย นับเป็นความร่วมมือครั้งสําคัญด้านการกีฬาของสองประเทศ ด้าน นายธีรุตม์ ศุภวิบูลย์ผล รองผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา กล่าวว่า ขณะนี้มีความพร้อมอย่างมากที่จะต้อนรับนักวิ่งจากทั่วโลก โดยชาวยะลาทุกคน ทั้งภาครัฐ และภาคเอกชน พร้อมเป็นเจ้าบ้านที่ดี ต้อนรับแขกผู้มาเยือนทุกคน และเชื่อมั่นว่าผู้เข้าร่วมกิจกรรมทุกคนจะได้ความทรงจําที่ดี และความประทับใจกลับไปแน่นอน ด้านความปลอดภัยในการเดินทางของนักกีฬา รวมถึงการบริการด้านการแพทย์ และการช่วยเหลือฉุกเฉิน จังหวัดยะลาได้บูรณาการการทํางานร่วมกันกับทุกหน่วยงานทั้งทหารและตํารวจในการดูแลด้านความปลอดภัย ส่วนความพร้อมด้านการแพทย์ ได้รับความร่วมมือจากสํานักงานสาธารณสุขจังหวัดยะลา เป็นหน่วยงานหลักด้านการแพทย์ ให้มั่นใจว่า นักกีฬาทุกคนจะได้รับการบริการอย่างสมบูรณ์ ตามมาตรฐานในระดับสากล ในส่วนของการส่งเสริมการท่องเที่ยว นางสาวนวพร ชัวชมเกตุ ผู้อํานวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สํานักงานนราธิวาส กล่าวว่า การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ได้เตรียมแนวทางการขับเคลื่อนกลยุทธ์การตลาดต่างประเทศ โดยจะพลิกโฉม การท่องเที่ยวสู่มิติใหม่ ด้วยกลยุทธ์ดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติ จากการสร้างคุณค่าและประสบการณ์การท่องเที่ยวมิติใหม่จากสินค้าท่องเที่ยวที่มีเอกลักษณ์โดดเด่น ผ่านวัฒนธรรมความเป็นไทยหรือ "ซอฟต์เพาเวอร์" (Soft Power) โดยกําหนดสินค้าท่องเที่ยว "5F" ได้แก่ Food วัฒนธรรมการกิน, Fashion แฟชั่นเครื่องแต่งกายแบบไทย, Film ภาพยนตร์หรือซีรีส์, Fight มวยไทย และFestival การละเล่นในเทศกาลที่สําคัญในส่วนของมาตรการดูแลรักษาความปลอดภัยระหว่างการจัดการแข่งขัน พลตรีธนัช ฉิมพาลี ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจยะลา กล่าวว่า ในด้านการรักษาความปลอดภัยนั้น เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องมีการวางแผนอย่างเป็นระบบในทุกจุด เพื่อดูแลและ สร้างความประทับใจให้แก่ผู้มาเยือน โดยมีกําลังพลจากกองทัพภาคที่ 4 พร้อมให้การสนับสนุนและช่วยเหลือให้การจัดแข่งขันครั้งนี้บรรลุดังเป้าหมายที่ตั้งไว้ทั้งนี้จากความสําเร็จของการจัดการแข่งขันในปีที่ผ่านมา ส่งผลต่อการกระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่เป็นอย่างมาก นายสกุล เล็งลัคน์กุล สมาคมพ่อค้าเบตง ได้กล่าวถึงผลตอบรับในปีที่ผ่านมาว่า การกระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่เบตงจากการแข่งขัน ในปีที่ผ่านมา ประสบความสําเร็จด้วยดี มีนักท่องเที่ยว นักกีฬา และผู้ติดตามสนใจเป็นจํานวนมาก สามารถสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจให้ชุมชนหลายล้านบาท เป็นตัวเลขจํานวนเงิน ที่ "สะพัด" ในระยะเวลา ไม่กี่วัน พื้นที่เบตงเต็มไปด้วย "ผู้คน" และ "นักกีฬา" ที่หลั่งไหลสู่เมืองที่มี ’เอกลักษณ์และอัตลักษณ์เฉพาะ รวมถึงโรงแรม และที่พักบริเวณโดยรอบ กว่า 100 แห่ง 4,000 ห้อง มีการ ’จอง’ และเข้าพัก ’เต็มทุกห้อง’ Amazean Jungle Thailand by UTMB และ Amazing Betong Festival เป็นการ "พลิกโฉม" การท่องเที่ยวในรูปแบบใหม่ของเบตงเป็นอย่างดี#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAIL
2/2/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สวท.ยะลา
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230203010042723
null
มูลค่านำเข้าส่งออกสินค้าผ่านด่านสิงขรในรอบ 4 เดือน สูงกว่า 707 ล้านบาท ส่งสัญญาณการฟื้นตัวของเศรษฐกิจการค้าชายแดน
(2 ก.พ.66) ที่ห้องประชุมเกาะหลัก ชั้น 5 ศาลากลางจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ นายคมกริช เจริญพัฒนสมบัติ รองผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการศูนย์สั่งการชายแดนไทยกับประเทศเพื่อนบ้านด้านเมียนมา จ.ประจวบคีรีขันธ์ มีหัวหน้าส่วนราชการและผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจากภาครัฐและเอกชนร่วมประชุม โดยสํานักงานด่านศุลกากรจังหวัดฯ ได้รายงานข้อมูลการนําเข้าส่งออกสินค้าผ่านจุดผ่อนปรนพิเศษด่านสิงขร ต.คลองวาฬ อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งปัจจุบันอนุญาตให้มีการขนถ่ายสินค้าข้ามแดนได้ตั้งแต่วันจันทร์- อาทิตย์ เวลา 06.30 - 18.30 น. พบว่ามีแนวโน้มการนําเข้าส่งออกเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยในรอบ 4 เดือนของปีงบประมาณ 2566 คือตั้งแต่เดือน ต.ค.65 - ม.ค.66 มีมูลค่าการนําเข้าสินค้ารวมประมาณ 653 ล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นสินค้าประมงจาก จ.มะริด สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา เช่น ปู กุ้ง กั้ง มีชีวิต , ปูแสมดองน้ําเกลือ , หมึกกล้วยแช่แข็ง , ปลาดาบแช่แข็ง , ปลาลิ้นหมาแช่แข็ง ส่วนตัวเลขการส่งออกสินค้าผ่านด่านสิงขร ตั้งแต่เดือน ต.ค.65 - ม.ค.66 มีมูลค่ารวมประมาณ 54 ล้านบาท สินค้าส่งออกสําคัญ เช่น ลูกกุ้งขาว ปลากด ปลาริวกิว กระป๋องเปล่าพร้อมฝาปิด กระเบื้องเซรามิคปูพื้น ถือเป็นสัญญาณที่ดีในการฟื้นตัวของเศรษฐกิจการค้าชายแดน แม้ว่ามูลค่าการนําเข้าสินค้าจะสูงกว่าการส่งออกค่อนข้างมาก แต่จะส่งผลดีต่อเนื่องถึงระบบเศรษฐกิจในภาพรวม โดยปัจจุบันผู้ประกอบการที่จะขนถ่ายสินค้าผ่านด่านสิงขรต้องแจ้งเป็นหนังสือ ระบุเวลาเข้า-ออก ข้อมูลสินค้า ยานพาหนะ ผู้ควบคุมสินค้า ผู้ขนถ่ายสินค้าให้จังหวัดทราบล่วงหน้าไม่น้อยกว่า 1 วัน เพื่อประโยชน์ในการบริหารจัดการพื้นที่ขนถ่ายสินค้า การจัดระเบียบการจราจรและการป้องกันแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมบริเวณพื้นที่ขนถ่ายสินค้า ส่วนการนํายานหานะของทั้ง 2 ฝ่าย เข้า-ออกเพื่อขนถ่ายสินค้า ให้ถือปฏิบัติตามกฎหมายศุลกากรและกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้องโดยเคร่งครัด#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
2/2/2023
ภาคตะวันตก
ประจวบคีรีขันธ์
สวท.ประจวบคีรีขันธ์
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230202165014586
null
พร้อมเบิกจ่าย โอนเงินให้แก่หน่วยงานและร้านค้าที่รับชำระค่าสินค้าและบริการ ผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ
นางสาววารี แว่นแก้ว รองอธิบดีกรมบัญชีกลาง ในฐานะโฆษกกรมบัญชีกลาง เปิดเผยว่า กรมบัญชีกลาง ได้อัปเดตการเบิกจ่ายและโอนเงินให้กับผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ประจําเดือนกุมภาพันธ์ 2566 โดยทุกวันที่ 1 ของเดือน ได้รับวงเงินซื้อสินค้า 200/300 บาทต่อเดือน ส่วนลดค่าซื้อก๊าซหุงต้ม 100 บาทต่อ 3 เดือน (ม.ค. - มี.ค. 66) ค่าโดยสารรถ บขส. ค่าโดยสารรถไฟ ค่าโดยสารรถ ขสมก./รถไฟฟ้า (MRT/BTS/ARL) 500 บาทต่อเดือน ซึ่งวงเงินดังกล่าวไม่สามารถถอนเป็นเงินสดได้และไม่สะสมในเดือนถัดไป ส่วนทุกวันที่ 18 ของเดือน จะได้รับเงินชดเชยค่าไฟฟ้า ไม่เกิน 315 บาทต่อครัวเรือนต่อเดือน เงินชดเชยตามจํานวนเงินที่ชําระค่าน้ําประปา ไม่เกิน 100 บาทต่อครัวเรือนต่อเดือน สามารถถอนเป็นเงินสดได้ และสะสมในเดือนถัดไปได้ และทุกวันที่ 22 ของเดือน สําหรับผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ที่มีบัตรประจําตัวคนพิการและได้รับเงินเบี้ยความพิการ จะได้เงินเพิ่มเบี้ยความพิการ 200 บาทต่อเดือน สามารถถอนเป็นเงินสดได้และสะสมในเดือนถัดไปได้สําหรับเดือนมกราคม 2566 กรมบัญชีกลาง ได้ทําการจ่ายเงินให้แก่หน่วยงาน/ร้านค้าที่รับชําระเงินด้วยบัตรสวัสดิการแห่งรัฐและการโอนเงินเข้ากระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ (e-Money) รวมจํานวนเงินทั้งสิ้น 6,785 ล้านบาทผู้ที่มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ยังสามารถใช้บัตรฯ ต่อไปได้ตามปกติ จนกว่ากระทรวงการคลังจะประกาศให้เริ่มใช้บัตรประชาชนแทน
2/2/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230202183047646
null
พ่อเมืองอำนาจเจริญจัดรายการวิทยุ
วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2566 ณ สวท.อํานาจเจริญ นายชนาส ชัชวาลวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดอํานาจเจริญ ได้มอบหมายให้นายพิชิต โสภาลุน ป้องกันจังหวัดอํานาจเจริญ มาร่วมจัดรายการวิทยุ พร้อมด้วย นายณัฐพงค์ ตั้งสกุลกุลพัฒน์ นายกเทศมนตรีเมืองอํานาจเจริญ นายพีระพล บัวทอง ผู้ช่วยประชาสัมพันธ์จังหวัดอํานาจเจริญ ผู้ดําเนินรายการ ออกอากาศทาง สวท.อํานาจเจริญ ระบบ FM คลื่นความถี่ 103.25 MHz.นายพิชิต โสภาลุน ป้องกันจังหวัดอํานาจเจริญ เปิดเผยว่า การอนุญาตให้มีการเข้า ออก ของบุคคล ยานพาหนะและสิ่งของ ที่จุดผ่อนปรนการค้าบ้านยักษ์คุ อําเภอชานุมาน จังหวัดอํานาจเจริญ ตรงข้ามกับบ้านเหล่าหมากหูด เมืองไซพูทอง แขวงสะหวันนะเขต สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว และอําเภอชานุมาน จังหวัดอํานาจเจริญ ได้เปิดทําการจุดผ่อนปรนการค้าบ้านยักษ์คุ เพื่อเป็นการผ่อนปรนให้ประชานตามบริเวณชายแดนของทั้งสองประเทศ ซื้อขายแลกเปลี่ยนสินค้าอุปโภค บริโภคที่จําเป็นและเพื่อประโยชน์ทางเศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม และความสัมพันธ์อันดีระหว่างประชาชน ของทั้งสองประเทศ จังหวัดอํานาจเจริญได้ประกาศเปิดจุดผ่อนปรนการค้าบ้านยักษ์คุตั้งแต่วันที่ 10 เมษายน 2549 เป็นต้นมา โดยยึดถือปฏิบัติตามบันทึกข้อตกลง ตามที่เคยได้ถือปฏิบัติมาของสองประเทศ โดยจุดผ่อนปรนการค้าบ้านยักษ์คุ อําเภอชานุมาน จังหวัดอํานาจเจริญ ทําการเปิดทําการสัปดาห์ละ 5 วัน ได้แก่ วันพุธ พฤหัสบดี ศุกร์ เสาร์ และวันอาทิตย์ ระหว่างเวลา 06.00 น. - 18.00 น. เพื่อเป็นการเสริมสร้างความสัมพันธ์อันดีงาม ต่อกันให้ดียิ่งขึ้น ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม การท่องเที่ยวและวัฒนธรรมที่ดีของทั้งสองประเทศ นายกเทศมนตรีเมืองฯ ได้กล่าวถึง การจัดกิจกรรมภายในงานนมัสการพระมงคลมิ่งเมือง ประจําปี 2566 ระหว่างวันที่ 30 มกราคม ถึงวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2566 โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อเป็นการสืบทอดขนบธรรมเนียมประเพณีและธํารงรักษาพระพุทธศาสนา และให้พุทธศาสนิกชนชาวอํานาจเจริญ และจังหวัดไกล้เคียงมานมัสการพระมงคลมิ่งเมือง และร่วมพิธีเวียนเทียนในวันเพ็ญเดือน 3 และเสริมสร้างการเรียนรู้ประวัติศาสตร์พระพุทธศาสนา และ ท้องถิ่นให้เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลาย ส่งเสริมให้เด็ก เยาวชน และประชาชน ได้ร่วมกันจัดกิจกรรมทางศาสนา ศิลปะและวัฒนธรรมอนุรักษ์วิถีวัฒนธรรมวิถีพุทธ พร้อมทั้งเป็นการเพิ่มช่องทางการจําหน่ายผลิตภัณฑ์ OTOP เสริมสร้างรายได้ให้กับชุมชนและประชาสัมพันธ์ชุมชนท่องเที่ยว ของจังหวัดอํานาจเจริญให้รู้จักอย่างแพร่หลาย โดยกิจกรรมที่จัดขึ้นประกอบด้วยกิจกรรมทางศาสนา ขบวนแห่เครื่องสักการะพระมงคลมิ่งเมืองของชาวอํานาจเจริญ การแสดงตนเป็นพุทธมามกะ การเจริญพระพุทธมนต์ การสาธยายพระไตรปิฎก การประกวดทํานองสรภัญญะ การประกวดบรรยายธรรม การทําบุญผ้าป่ามหากุศล การตักบาตร 108 การตักบาตรวันเกิด การตักบาตรสวรรค์ การตักบาตรประตู การประพรมน้ําพระพุทธมนต์ การเสี่ยงทายพระ การเสี่ยงทายเซียมซี และการบูชาวัตถุมงคลและยังมีกิจกรรมอื่น ๆ อีกมากมาย ประกอบด้วยกิจกรรมการการแข่งขันกีฬา ประเภทการแข่งขันฟุตซอล การแข่งขันเซปักตะกร้อ การแข่งขันสตรีทบาสเกตบอล การแข่งขันเปตอง กิจกรรมประกวดแข่งขันศิลปวัฒนธรรม มีการประกวดแข่งขันการจัดพานบายศรี 3 ชั้น การประกวดแข่งขันขับร้องสรภัญญะ การแสดงศิลปวัฒนธรรมหมอลํา การแสดงศิลปวัฒนธรรมดีดพิณ กิจกรรมวาดภาพระบายสี การสาธิตถ่ายทอดการทําเครื่องสักการะบูชาอีสาน การเขียนอักษรโบราณ การสาธิตถ่ายทอด การทําอาหารขนมพื้นบ้าน การสาธิตถ่ายทอดการทําเครื่องจักสานด้วยไม้ไผ่ ใบไม้ การสาธิตถ่ายทอดการทําขัน หมากเบ็ง การสาธิตถ่ายทอดการประดิษฐ์งานศิลปะจากเศษผ้าและวัสดุเหลือใช้ การสาธิตถ่ายทอดการทําธุงใยแมงมุม การแสดงศิลปะวัฒนธรรมจากสถานศึกษาโดยโรงเรียนอํานาจเจริญ โรงเรียนสาธิตเทศบาลเมืองอํานาจเจริญ โรงเรียนเทศบาล 1 วัดเทพมงคล โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 54 จังหวัดอํานาจเจริญ และการแสดงศิลปะวัฒนธรรมพื้นบ้านกิจกรรมภาคกลางวันมีการแสดงหมอลําคู่ หมอลํากลอนและการแสดงมหรสพภาคกลางคืนการแสดงดนตรีของศิลปินดัง และกิจกรรมการประกวดร้องเพลงรําวงมหาดไทย
2/2/2023
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
อำนาจเจริญ
สวท.อำนาจเจริญ
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230203001450714
null
จังหวัดสตูล แถลงข่าวเตรียมจัดงานจัดงานมรกตอันดามันมหัศจรรย์อาหารอร่อยของดีที่ละงู ครั้งที่ 15 ประจำปี 2566 (La-ngu food festival 2023) ระหว่างวันที่ 13 – 14 กุมภาพันธ์ 2566
จังหวัดสตูล โดยเทศบาลตําบลกําแพง ร่วมกับองค์การบริหารส่วนจังหวัดสตูล การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยสํานักงานสตูล และชมรมผู้ประกอบการร้านอาหารและแผงลอยในพื้นที่เทศบาลตําบลกําแพง อําเภอละงู จังหวัดสตูล ร่วมแถลงข่าวการจัดงานมรกตอันดามันมหัศจรรย์อาหารอร่อยของดีที่ละงู ครั้งที่ 15 ประจําปี 2566 (La-ngu food festival 2023) ระหว่างวันที่ 13 – 14 กุมภาพันธ์ 2566 ณ สนามกีฬาตรงข้ามสํานักงานเทศบาลตําบลกําแพงเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวและประชาสัมพันธ์อาหารและสินค้าพื้นเมืองในพื้นที่อําเภอละงู ของจังหวัดสตูลให้เป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้นอีกทั้งเพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่หลังสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลายภายในงานฯ จะมีการออกร้านจําหน่ายอาหารทั้งในและนอกพื้นที่ ,การแข่งขันนกกรงหัวจุกและนกบินหลาดง เพื่อแสดงออกถึงวิถีชีวิตของคนในพื้นที่ ,การจําหน่ายสินค้าโอทอปจากทั่วประเทศ รวมถึงกิจกรรมภาคความบันเทิงจากศิลปินนักร้องทุกค่ําคืน และการประกวดมิสมรกตอันดามัน 2023ทั้งนี้ คาดว่า การจัดงานมรกตอันดามันมหัศจรรย์อาหารอร่อยของดีที่ละงู ครั้งที่ 15 จะเป็นช่องทางสร้างรายได้ให้กับประชาชนในพื้นที่ได้เป็นอย่างดีอีกทั้งอําเภอละงูยังเป็นพื้นที่ที่มีความโดดเด่นด้านการท่องเที่ยวทั้งทางบกและทางทะเล ซึ่งจะสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวและผู้สนใจเข้าร่วมได้เป็นจํานวนมากอีกด้วย #สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
2/2/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สวท.สตูล
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230202184222655
null
ผ่าน 3 สัปดาห์ ถนนคนเดินหมู่บ้านวัฒนธรรมชนเผ่า จ.นครพนม เริ่มเป็นที่รู้จักนักท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้น
วันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2566 ที่บริเวณถนนสวรรค์ชายโขง หมู่บ้านวัฒนธรรมชนเผ่า ริมฝั่งแม่น้ําโขง อําเภอเมือง จังหวัดนครพนม ซึ่งเป็นสถานที่ที่จังหวัดนครพนมได้บูรณาการร่วมกับเทศบาลเมืองนครพนม ตลอดจนหน่วยงานต่างๆ จัดให้มีตลาดถนนคนเดินในทุกวันพฤหัสบดี โดยสัปดาห์นี้เป็นสัปดาห์ที่ 3 ที่มีการเปิดตลาด และมีการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนตลอดจนนักท่องเที่ยวได้รู้จัก เพื่อที่จะได้มาเยี่ยมชมและเดินจับจ่ายซื้อหา เลือกของฝากของที่ระลึก ไม่ว่าจะเป็นสินค้าพื้นถิ่น พื้นเมือง สินค้าโอทอป สินค้าเกษตร เสื้อผ้า เครื่องแต่งกาย และเมนูอาหารต่าง ๆ ทําให้เป็นที่ติดอกติดใจของหลายๆ คน และมีการพูดแบบปากต่อปากถึงบรรยากาศ ทําให้สัปดาห์นี้เริ่มมีนักท่องเที่ยวจากต่างพื้นที่มาเดินเลือกหาสิ่งของที่ต้องการมากยิ่งขึ้น ขณะเดียวกันพ่อค้าแม่ค้าที่มาทดลองจําหน่ายสินค้าในช่วง 2 สัปดาห์แรก ก็มีการปรับรูปแบบสินค้าให้มีความหลากหลายเพื่อให้ตรงกับความต้องการของผู้บริโภคมากยิ่งขึ้นด้วยเช่นเดียวกัน นายวันชัย จันทร์พร ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม เปิดเผยว่า บริเวณหมู่บ้านวัฒนธรรมชนเผ่าเป็นอีกหนึ่งความภาคภูมิใจของคนนครพนม ที่พร้อมจะให้ประชาชนตลอดจนนักท่องเที่ยวได้มาสัมผัสความงดงาม ตามแบบวิถีชีวิตดังเดิมของชาวนครพนม ซึ่งผู้ที่มาจะได้เห็นหมู่บ้านชนเผ่าที่ตั้งเรียงเป็นแถวยาวตามลําแม่น้ําโขง มีความแตกต่างกันด้วยเอกลักษณ์และอัตลักษณ์เฉพาะหลัง ขณะเดียวกันก็สามารถมองเห็นทัศนียภาพที่งดงามริมฝั่งโขงในช่วงยามเย็นได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะในช่วงนี้ที่น้ําน้ําในแม่น้ําโขงลดลงทําให้พื้นที่ด้านล่างกลายเป็นหาดทรายสีทองเมื่อต้องแสงตะวันเป็นธรรมชาติที่เมื่อใครเห็นต้องหยิบกล้องขึ้นมาถ่าย โดยในทุกวันพฤหัสบดีที่มีตลาดถนนคนเดินจังหวัดนครพนมยังได้มีการบูรณาการหน่วยงานในพื้นที่จัดกิจกรรมดนตรีริมฝั่งโขง@นครพนม มาแสดงเพื่อขับกล่อมทุกคนให้ได้เพลิดเพลิน พร้อมกับการจับจ่ายเลือกซื้อสินค้าและอาหารมานั่งรับประทานตามบ้านชนเผ่า ซึ่งจะมีทั้งการน้อมนําเพลงพระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร มาบรรเลงให้ทุกคนได้ฟังเพื่อน้อมรําลึกถึงพระอัฉริยภาพด้านดนตรีและพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ รวมถึงการแสดงดนตรีทั่วไป และการแสดงที่หน่วยงานรับผิดชอบนํามาให้ชม อย่างในสัปดาห์นี้หน่วยงานในสังกัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และหน่วยงานในสังกัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เป็นเจ้าภาพก็ได้นําการแสดงฟ้อนนครพนม รําวงมหาดไทย รําภูไท รําศรีโคตรบูร และรํามนต์รักพระธาตุพนมมาให้ทุกคนได้ชม นอกจากนี้ในช่วงเทศกาลสงกรานต์จังหวัดนครพนม ยังมีแผนเตรียมที่จะเนรมิตสถานที่บริเวณนี้ให้เป็นนครพนมบีช เพื่อให้ทุกคนได้มาสนุก ผ่อนคลาย และเล่นน้ําสงกรานต์แบบชุ่มฉ่ํา พร้อมชมการแสดงศิลปวัฒนธรรม 9 ชนเผ่า 2 เชื้อชาติและขบวนแห่ต่าง ๆ รวมถึงการจําหน่ายสินค้าต่าง ๆ ให้ผู้ที่มาร่วมงานได้เลือกหาเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวเพื่อกระจายรายได้ให้กับพี่น้องประชาชนด้วย #สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILANDข่าว/ส.ปชส.นครพนม
2/2/2023
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
นครพนม
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนครพนม
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230202194722672
null
รองผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา นำคณะกรรมการกลั่นกรองฯ โรงแรม จังหวัดพังงา ลงพื้นที่ตรวจสอบการขอต่ออายุใบอนุญาตประกอบธุรกิจโรงแรม
รองผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา นําคณะกรรมการกลั่นกรองฯ โรงแรม จังหวัดพังงา ลงพื้นที่ตรวจสอบการขอต่ออายุใบอนุญาตประกอบธุรกิจโรงแรมของโรงแรม เดอะ ฮอทสปริง บีช รีสอร์ท แอนด์ สปา 1 วันนี้ (2 ก.พ. 66) นายเอกรัฐ หลีเส็น ผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา มอบหมายให้ นางสาวนิรชา บัณฑิตย์ชาติ รองผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา นําคณะกรรมการกลั่นกรองการดําเนินการตามพระราชบัญญัติโรงแรม พ.ศ. 2547 จังหวัดพังงา ลงพื้นที่ตรวจสอบอาคารสถานที่ขอต่ออายุใบอนุญาตประกอบธุรกิจโรงแรมของห้างหุ้นส่วนจํากัด ดุสิต ฮอทสปริง บีช รีสอร์ท แอนด์ สปา เนื่องด้วยได้ยื่นคําขอต่อนายทะเบียนตามพระราชบัญญัติโรงแรม พ.ศ.2547 เพื่อขอต่ออายุใบอนุญาตประกอบธุรกิจโรงแรม ชื่อว่า โรงแรม เดอะ ฮอทสปริง บีช รีสอร์ท แอนด์ สปา 1 (The Hotspring Beach Resort & Spa 1) เป็นโรงแรมประเภท 2 จํานวนห้องพัก 70 ห้อง ตั้งอยู่ เลขที่ 79 หมู่ที่ 8 ตําบลนาเตย อําเภอท้ายเหมือง จังหวัดพังงาในส่วนนี้อําเภอท้ายเหมืองในฐานะหน่วยรับเรื่องราวคําร้องขออนุญาตประกอบธุรกิจโรงแรม ตามข้อ 2 ในประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการในการพิจารณาการขอใบอนุญาตและการออกใบอนุญาตให้ประกอบธุรกิจโรงแรม โดยคณะกรรมการตรวจสอบกลั่นกรองการขอรับใบอนุญาตประกอบธุรกิจโรงแรม ตามคําสั่งอําเภอท้ายเหมืองได้ตรวจสอบคุณสมบัติและตรวจสอบเอกสารหลักฐานประกอบคําขอต่ออายุใบอนุญาต พร้อมลงพื้นที่ตรวจสอบอาคารสถานที่ขอต่ออายุใบอนุญาตประกอบธุรกิจโรงแรมในเบื้องต้นแล้ว ปรากฏว่าผู้ขอรับใบอนุญาตมีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้ามตามมาตรา 16 แห่งพระราชบัญญัติโรงแรม พ.ศ.2547 เอกสารหลักฐานประกอบคําขอครบถ้วน ตามประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการในการขอต่ออายุใบอนุญาตประกอบธุรกิจโรงแรม และขอรับใบอนุญาตประกอบธุรกิจโรงแรม ไม่ขัดต่อหลักเกณฑ์ตามกฎกระทรวงกําหนดประเภทและหลักเกณฑ์การประกอบธุรกิจโรงแรม พ.ศ.2551 ทั้งนี้ ทางคณะกรรมการฯ ได้เข้าตรวจสอบอย่างละเอียดเพิ่มเติม อาทิ ตรวจสอบความพร้อมของเครื่องดับเพลิงทุกจุด ตรวจสอบห้องพัก ตรวจสอบสภาพอาคารสถาน การบําบัดน้ําเสีย ท่อน้ํา ตรวจสอบยาและเวชภัณฑ์ชุดปฐมพยาบาลเบื้องต้น จากนั้นได้ประชุมร่วมกัน ซึ่งที่ประชุมลงมติว่ายังมีบางส่วนที่จะต้องได้รับการปรับปรุงแก้ไข ให้เกิดความปลอดภัยโดยได้แจ้งกับทางโรงแรมให้ดําเนินการให้ถูกต้องต่อไป#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
2/2/2023
ภาคใต้
พังงา
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดพังงา
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230202201754677
null
จ.นครพนม ประชุมหารือแก้ไขปัญหาพื้นที่เศรษฐกิจพิเศษนครพนม
วันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2566 เวลา 09.00 น. นายชวนินทร์ วงศ์สถิตจิรกาล รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม เป็นประธานการประชุมหารือแก้ไขปัญหาพื้นที่เศรษฐกิจพิเศษนครพนม โดยมีหัวหน้าส่วนราชการ เจ้าหน้าที่จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุมโดยพร้อมเพรียง ณ ห้องประชุมด่านศุลกากรนครพนม (แห่งใหม่) ชั้น 2 ด่านศุลกากรนครพนม ตําบลอาจสามารถ อําเภอเมืองนครพนม จังหวัดนครพนมโดยในที่ประชุมได้ร่วมลงพื้นที่สํารวจถนนและสิ่งปลูกสร้างในพื้นที่เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษนครพนม และร่วมประชุมหารือเพื่อหาแนวทางแก้ไขปัญหาในพื้นที่ดังกล่าว โดยที่ประชุมได้มีมติเห็นชอบ1. การขอต่อใบอนุญาตการใช้ประโยชน์ในที่ดินสาธารณประโยชน์แปลง "โคกภูกระแต - บ้านไผ่ล้อม" ให้อําเภอเมืองนครพนม ร่วมกับองค์การบริหารส่วนตําบลอาจสามารถ จัดประชุมรับฟังความคิดเห็นประชาชนในพื้นที่และนําเข้าสภาองค์การบริหารส่วนตําบลให้ความเห็นชอบและแจ้งผลการประชาคมให้สํานักงานที่ดินจังหวัดนครพนมทราบโดยเร็ว และให้สํานักงานที่ดินจังหวัดนครพนมดําเนินกระบวนการต่อใบอนุญาตพื้นที่ดังกล่าว ให้แล้วเสร็จ ภายในวันที่ 31 มีนาคม 25662. การขอใช้ประโยชน์สิ่งปลูกสร้าง (อาคารคลังสินค้า R12 และ อาคารตลาดกลางสินค้า) ให้สํานักงานธนารักษ์พื้นที่นครพนมพิจารณาแนวทางการใช้ประโยชน์อาคารราชพัสดุตามระเบียบและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 25663.การปรับปรุงซ่อมแชมถนนบริเวณหน้าอาคารศูนย์บริการเบ็ดเสร็จต้านการลงทุน (OSS) ให้แขวงทางหลวงนครพนมและแขวงทางหลวงชนบทนครพนมปรับปรุงซ่อมแซมถนนดังกล่าวในเบื้องต้น และให้สํานักงานจังหวัดนครพนมหารือร่วมกับสํานักงานส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นจังหวัดนครพนม ในการรับโอนถนนดังกล่าว4. การร้องเรียนของราษฎรที่ได้รับความเดือดร้อนเรื่องฝุ่นละออง ให้องค์การบริหารส่วนตําบลอาจสามารถดําเนินการฉีดล้างถนน ในบริเวณพื้นที่เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษนครพนม อย่างน้อยวันละ 1 ครั้ง โดยให้ด่านศุลกากรนครพนม ประสานบริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จํากัด เพื่อขอรับการสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการฉีดล้างถนนขององค์การบริหารส่วนตําบลอาจสามารถ และให้สํานักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดนครพนมจัดทําโครงการปลูกตันไม้ เพื่อลดฝุ่นละอองในพื้นที่ดังกล่าว โดยขอรับการสนับสนุนงบประมาณจังหวัด ปี 25685. การปรับปรุงซ่อมแชมรั้วและซุ้มประตู ให้สํานักงานจังหวัดนครพนมประสานสํานักงานโยธาธิการและผังเมืองจังหวัดนครพนมสํารวจและจัดทํา โครงการปรับปรุงช่อมแชมรั้วและซุ้มประตูเพื่อเสนอขอรับการสนับสนุนงบประมาณจังหวัด ปี 2568#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
2/2/2023
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
นครพนม
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนครพนม
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230202203248681
null
จังหวัดสตูล แถลงข่าวเตรียมจัดงานจัดงานมรกตอันดามันมหัศจรรย์อาหารอร่อยของดีที่ละงู ครั้งที่ 15 ประจำปี 2566 (La-ngu food festival 2023) ระหว่างวันที่ 13-14 กุมภาพันธ์ 2566 เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจสร้างรายได้ให้กับประชาชนในพื้นที่
วันนี้ (2 ก.พ.66) เวลา 18.00 น. ที่หน้าสํานักงานเทศบาลตําบลกําแพง อําเภอละงู จังหวัดสตูล นายชูชีพ ธรรมเพชร รองผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล พร้อมด้วยนายสัมฤทธิ์ เลียงประสิทธิ์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสตูล, นายพีรพัฒน์ เงินเจริญ นายอําเภอละงู, นายไพรัช สุขงาม ผู้อํานวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สํานักงานสตูล และนายวิชิต แซ่ลิ่ม นายกเทศมนตรีตําบลกําแพง ร่วมแถลงข่าวการจัดงานมรกตอันดามันมหัศจรรย์อาหารอร่อยของดีที่ละงู ครั้งที่ 15 ประจําปี 2566 (La-ngu food festival 2023) ระหว่างวันที่ 13-14 กุมภาพันธ์ 2566 ณ สนามกีฬาตรงข้ามสํานักงานเทศบาลตําบลละงู เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวและประชาสัมพันธ์อาหารและสินค้าพื้นเมืองในพื้นที่อําเภอละงูของจังหวัดสตูลให้เป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้น อีกทั้งเพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจสร้าง รายได้ให้กับประชาชนหลังสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลายภายในงานฯ จะมีการออกร้านจําหน่ายอาหารทั้งในและนอกพื้นที่, การแข่งขันนกกรงหัวจุกและนกบินหลาดง เพื่อแสดงออกถึงวิถีชีวิตของคนในพื้นที่, การจําหน่ายสินค้าโอทอปจากทั่วประเทศ รวมถึงกิจกรรมภาคความบันเทิงจากศิลปินนักร้องทุกค่ําคืน และการประกวดมิสมรกตอันดามัน 2023 ทั้งนี้คาดว่าการจัดงานมรกตอันดามันมหัศจรรย์อาหารอร่อยของดีที่ละงู ครั้งที่ 15 จะเป็นช่องทางสร้างรายได้ให้กับประชาชนในพื้นที่ได้เป็นอย่างดี อีกทั้งอําเภอละงูยังเป็นพื้นที่ที่มีความโดดเด่นด้านการท่องเที่ยวทั้งทางบกและทางทะเล ซึ่งจะสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวและผู้สนใจเข้าร่วมงานไม่น้อยกว่า 15,000 คน#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
2/2/2023
ภาคใต้
สตูล
สวท.สตูล
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230202204015682
null
ผู้ว่าฯ เพชรบุรี นมัสการปิดทองรอยพระพุทธบาทเขาลูกช้าง ร่วมพิธีฉลองครบรอบ 137 ปี ที่ล้นเกล้ารัชกาลที่ 5 เสด็จมานมัสการรอยพระพุทธบาทจังหวัดเพชรบุรี ทั้งอิ่มบุญ และปิติในดวงใจ
เวลา 18.00 น.วันนี้ (2 ก.พ.66) นายณัฏฐชัย นําพูลสุขสันติ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี นายอําเภอท่ายาง นายสิริศักดิ์ สมบัติทวีพูน นายกเทศมนตรีตําบลท่าไม้รวก พร้อมทั้งหัวหน้าส่วนราชการ และประชาชน ร่วมนมัสการปิดทองรอยพระพุทธบาทเขาลูกช้างและรูปหล่อหลวงพ่อจ้วน ผู้สร้างวัดพระพุทธบาทเขาลูกช้าง ตําบลท่าไม้รวก อําเภอท่ายาง จังหวัดเพชรบุรี นายณัฏฐชัย นําพูลสุขสันติ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี เปิดเผยว่า การได้มานมัสการรอยพระพุทธบาท สักการะสิ่งสําคัญทางพระพุทธศาสนาถือเป็นมงคลยิ่ง สําหรับรอยพระพุทธบาทเขาลูกช้างจังหวัดเพชรบุรี เมื่อปี 2429 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ได้เสด็จประพาสเพชรบุรี และได้เสด็จนมัสการรอยพระพุทธบาทแห่งนี้ จังหวัดเพชรบุรีได้ร่วมกับพุทธศาสนิกชน จัดพิธี ฉลองครบรอบ 137 ปี ที่ล้นเกล้ารัชกาลที่ 5 เสด็จมานมัสการรอยพระพุทธบาท ร่วมสืบสานประเพณีและวัฒนธรรมให้คงอยู่คู่กับท้องถิ่น พร้อมย้ําทุกภาคส่วนทํานุบํารุงพระพุทธศาสนา นอกจากนั้นผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรีได้กล่าวเพิ่มเติมว่า งานปิดทองรอยพระพุทธบาทเขาลูกช้าง ยังเป็นการสร้างโอกาสให้หน่วยงานภาครัฐได้พบปะกับประชาชนอย่างใกล้ชิด ตั้งแต่ระดับบุตรหลานในชุมชน ได้ร่วมใจกันทํากิจกรรมมีส่วนร่วมทุกภาคส่วน การแสดงผลงานท้องถิ่น รวมถึงร่วมแสดงออกถึงอัตลักษณ์วิถีชีวิตของชุมชนดั้งเดิมทางวัฒนธรรม เช่นการแสดงหนังตะลุงของจังหวัดเพชรบุรี และยังช่วยให้ชาวบ้านมีรายได้โดยนําผลิตภัณฑ์พื้นบ้านมาจําหน่าย เสริมสร้างการท่องเที่ยวอีกรูปแบบหนึ่ง สําหรับการจัดงานประจําปีนมัสการปิดทองรอยพระพุทธบาทเขาลูกช้างและรูปหล่อหลวงพ่อจ้วน ผู้สร้างวัดพระพุทธบาทเขาลูกช้าง ได้กําหนดจัดงาน “ นมัสการปิดทองรอยพระพุทธบาทเขาลูกช้าง ประจําปี 2566 ระหว่างวันที่ 2-6 กุมภาพันธ์ 2566 ณ วัดพระพุทธบาทเขาลูกช้าง ตําบลท่าไม้รวก อําเภอท่ายาง จังหวัดเพชรบุรี ขอเชิญชวนพุทธศาสนิกชน ร่วมนมัสการปิดทองรอยพระพุทธบาทเขาลูกช้าง ฉลองครบรอบ 137 ปี ที่ล้นเกล้ารัชกาลที่ 5 เสด็จมานมัสการรอยพระพุทธบาท ทั้งอิ่มบุญ และ ปิติในดวงใจ #สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILANDจามรี อนุรัตน์ ประชาสัมพันธ์จังหวัดเพชรบุรี รายงาน
2/2/2023
ภาคตะวันตก
เพชรบุรี
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเพชรบุรี
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230202210439690
null
คลัง จ.ประจวบคีรีขันธ์ ยืนยัน ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐกว่า 67,000 คน ยังใช้สิทธิได้ จนกว่าจะมีการประกาศวันใช้สิทธิโครงการรายใหม่ผ่านบัตรประชาชนสมาร์ทการ์ด
นางพิศมัย แก้วแจ่มใส คลังจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยว่า จากกรณีที่กระทรวงการคลัง ได้เลื่อนการประกาศผลการตรวจสอบคุณสมบัติผู้ร่วมโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ ปี 2565 เนื่องจากต้องใช้เวลาในการตรวจสอบข้อมูลให้ถูกต้องครบถ้วนตามหลักเกณฑ์นั้น ในส่วนของผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐในจังหวัดซึ่งมีจํานวนกว่า 67,000 คน ยังคงสามารถใช้สิทธิได้ต่อไปได้จนกว่าจะมีการประกาศวันใช้สิทธิโครงการรอบใหม่ผ่านบัตรประชาชนแบบสมาร์ทการ์ดโดยขณะนี้กรมบัญชีกลาง ได้โอนเงินสวัสดิการให้แก่ผู้ถือบัตรรายเดิมตามปกติในรอบเดือนกุมภาพันธ์ 2566อย่างไรก็ตาม หากมีการประกาศผลการตรวจสอบแล้วปรากฏว่าผู้ที่ลงทะเบียนไว้ไม่ผ่านเกณฑ์ ยังสามารถยื่นขออุทธรณ์สิทธิได้ผ่านทางเว็บไซต์ https://บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ.mof.go.th หรือ https://welfare.mof.go.th หรือที่หน่วยรับลงทะเบียน หากอุทธรณ์ผ่าน ก็จะได้รับสิทธิประโยชน์ย้อนหลัง#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
3/2/2023
ภาคตะวันตก
ประจวบคีรีขันธ์
สวท.ประจวบคีรีขันธ์
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230203091327736
null
กระทรวงการคลัง เลื่อนการประกาศผลและยืนยันตัวตน ผู้เข้าร่วมโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ ปี 2565 
นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อํานวยการสํานักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง กล่าวว่า กระทรวงการคลัง ได้แจ้งเลื่อนการประกาศผลการตรวจสอบคุณสมบัติผู้ร่วมโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ ปี 2565 ออกไปก่อน จากเดิมที่จะต้องประกาศผลและยืนยันตัวตนผู้ผ่านคุณสมบัติภายในเดือนมกราคมนี้ เนื่องจากต้องตรวจสอบข้อมูลจากหลายหน่วยงาน เพื่อให้ข้อมูลมีความถูกต้องครบถ้วน ปัจจุบันมีประชาชนเข้าร่วมโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐปี 2565 จํานวน 21 ล้าน 2 หมื่นคน ในจํานวนนี้มีการตรวจสอบผ่านคุณสมบัติส่วนบุคคลจากกรมการปกครองแล้ว 19 ล้าน 6 แสน 3 หมื่นคน สําหรับสิทธิที่ประชาชนจะได้รับ อยู่ระหว่างการพิจารณาของคณะกรรมการประชารัฐสวัสดิการฯ แต่เบื้องต้นยังคงแบ่งวงเงินการใช้จ่ายเป็น 2 กลุ่ม โดยกลุ่มแรก เป็นค่าใช้จ่ายเพื่อการอุปโภค-บริโภค และกลุ่มที่สอง เป็นค่าใช้จ่ายในการเดินทาง จะพิจารณาความเหมาะสมของตัวเลขให้สอดคล้องกับสถานเศรษฐกิจ ย้ําว่ากระทรวงการคลัง จะเร่งดําเนินการและประกาศผลให้ประชาชนรับทราบโดยเร็วโฆษกกระทรวงการคลัง ยังกล่าวว่า การแจ้งเลื่อนผลการตรวจสอบคุณสมบัตรการลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐปี 2565 ไม่ส่งผลกระทบต่อผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐรายเดิม ที่มีอยู่จํานวน 13 ล้าน 1 แสน 8 หมื่นคน เพราะผู้ถือบัตรรายเดิมยังสามารถใช้บัตรได้ ก่อนจะมีการเริ่มสิทธิตามโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการของรัฐรอบใหม่ ซึ่งกรมบัญชีกลาง ยังคงดําเนินการโอนเงินสวัสดิการให้ผู้ถือบัตรรายเดิมในเดือนกุมภาพันธ์นี้ วันที่ 1 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ได้โอนเงินซื้อสินค้า 200 บาทต่อคนต่อเดือน , ส่วนลดค่าก๊าซหุงต้ม 100 บาทต่อ 3 เดือน ช่วงเดือนมกราคม- มีนาคม 2566 , ค่ารถโดยสารรถ บขส. รถไฟ รถ ขสมก. และรถไฟฟ้า 500 ต่อเดือน //วันที่ 18 กุมภาพันธ์ ได้รับเงินคืนค่าไฟฟ้า เงินคืนค่าน้ําประปา และวันที่ 22 กุมภาพันธ์ เงินเพิ่มเบี้ยคนพิการ สําหรับผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่ถือมีบัตรประจําตัวคนพิการ
3/2/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230203085954728
null
จังหวัดตรัง ออกตรวจสต็อกน้ำมันปาล์มดิบในแหล่งผลิตสำคัญอย่างเข้มงวดต่อเนื่อง พร้อมสกัดกั้นการลักลอบนำเข้าน้ำมันปาล์มทุกรูปแบบ
นางสาวสุภากิตติ์ เกลี้ยงสงค์ พาณิชย์จังหวัดตรัง ในฐานะประธานคณะทํางานตรวจสอบสต็อกน้ํามันปาล์มคงเหลือทั้งระบบระดับจังหวัด จังหวัดตรัง เปิดเผยว่า คณะทํางานตรวจสอบสต็อกน้ํามันปาล์มคงเหลือทั้งระบบระดับจังหวัด จังหวัดตรัง ได้ดําเนินการตรวจสอบสต็อกน้ํามันปาล์มคงเหลือ ของโรงงานสกัดน้ํามันปาล์มดิบและโรงผลิตไบโอดีเซล ทั้ง 5 แห่งในจังหวัดตรัง ได้แก่ 1) บริษัท พิทักษ์ปาล์มออยล์ จํากัด 2) บริษัท เอส.พี.โอ.อะโกร จํากัด 3) บริษัท ล่ําสูง (ประเทศไทย) จํากัด(มหาชน) 4) บริษัท ตรังน้ํามันปาล์ม จํากัด5) บริษัท พารากอน-อกรีเทค จํากัด ทั้งนี้ ได้ดําเนินการออกตรวจสต็อกน้ํามันปาล์มดิบในแหล่งผลิตสําคัญอย่างเข้มงวดต่อเนื่อง เพื่อตรวจสอบปริมาณคงเหลือของสต๊อกน้ํามันปาล์มดิบในพื้นที่ และมีการประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการสกัดกั้นการลักลอบนําเข้าน้ํามันปาล์มทุกรูปแบบ เพื่อป้องกันการลักลอบนําเข้า หลังมีข้อกังวลเกิดขึ้นว่า ยังมีการลักลอบนําเข้าน้ํามันปาล์ม จนเข้ามาสร้างปัญหากระทบต่ออุตสาหกรรมภายในประเทศด้วย#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
3/2/2023
ภาคใต้
ตรัง
สวท.ตรัง
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230203092321741
null
ด่านศุลกากร จ.ประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยมูลค่านำเข้าส่งออกสินค้าผ่านด่านสิงขรในรอบ 4 เดือน สูงกว่า 707 ล้านบาท ส่งสัญญาณการฟื้นตัวของเศรษฐกิจการค้าชายแดน
นายคมกริช เจริญพัฒนสมบัติ รองผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการศูนย์สั่งการชายแดนไทยกับประเทศเพื่อนบ้านด้านเมียนมา จ.ประจวบคีรีขันธ์ มีหัวหน้าส่วนราชการและผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจากภาครัฐและเอกชนร่วมประชุม โดยสํานักงานด่านศุลกากรจังหวัดฯ ได้รายงานข้อมูลการนําเข้าส่งออกสินค้าผ่านจุดผ่อนปรนพิเศษด่านสิงขร ต.คลองวาฬ อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งปัจจุบันอนุญาตให้มีการขนถ่ายสินค้าข้ามแดนได้ตั้งแต่วันจันทร์- อาทิตย์ เวลา 06.30 - 18.30 น. พบว่ามีแนวโน้มการนําเข้าส่งออกเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยในรอบ 4 เดือนของปีงบประมาณ 2566 คือตั้งแต่เดือน ต.ค.65 - ม.ค.66 มีมูลค่าการนําเข้าสินค้ารวมประมาณ 653 ล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นสินค้าประมงจาก จ.มะริด สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา เช่น ปู กุ้ง กั้ง มีชีวิต , ปูแสมดองน้ําเกลือ , หมึกกล้วยแช่แข็ง , ปลาดาบแช่แข็ง , ปลาลิ้นหมาแช่แข็ง ส่วนตัวเลขการส่งออกสินค้าผ่านด่านสิงขร ตั้งแต่เดือน ต.ค.65 - ม.ค.66 มีมูลค่ารวมประมาณ 54 ล้านบาท สินค้าส่งออกสําคัญ เช่น ลูกกุ้งขาว ปลากด ปลาริวกิว กระป๋องเปล่าพร้อมฝาปิด กระเบื้องเซรามิคปูพื้น ถือเป็นสัญญาณที่ดีในการฟื้นตัวของเศรษฐกิจการค้าชายแดน แม้ว่ามูลค่าการนําเข้าสินค้าจะสูงกว่าการส่งออกค่อนข้างมาก แต่จะส่งผลดีต่อเนื่องถึงระบบเศรษฐกิจในภาพรวม โดยปัจจุบันผู้ประกอบการที่จะขนถ่ายสินค้าผ่านด่านสิงขรต้องแจ้งเป็นหนังสือ ระบุเวลาเข้า-ออก ข้อมูลสินค้า ยานพาหนะ ผู้ควบคุมสินค้า ผู้ขนถ่ายสินค้าให้จังหวัดทราบล่วงหน้าไม่น้อยกว่า 1 วัน เพื่อประโยชน์ในการบริหารจัดการพื้นที่ขนถ่ายสินค้า การจัดระเบียบการจราจรและการป้องกันแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมบริเวณพื้นที่ขนถ่ายสินค้า ส่วนการนํายานพาหนะของทั้ง 2 ฝ่าย เข้า-ออกเพื่อขนถ่ายสินค้า ให้ถือปฏิบัติตามกฎหมายศุลกากรและกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้องโดยเคร่งครัด#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
3/2/2023
ภาคตะวันตก
ประจวบคีรีขันธ์
สวท.ประจวบคีรีขันธ์
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230203103120767
null
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานตรัง ร่วมกับ เทศบาลนครตรัง กำหนดจัดงาน TRANG Food FestiWOW : Season of Love
นางสาวลดาวัลย์ ช่วยชาติ ผู้อํานวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สํานักงานตรัง เปิดเผยว่า การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สํานักงานตรัง ร่วมกับ เทศบาลนครตรัง กําหนดจัดงาน TRANG Food FestiWOW: Season of Love เที่ยวตรัง อิ่มท้อง อิ่มใจ แบกหัวใจเต็มไปด้วยรัก ระหว่างวันที่ 10-14 กุมภาพันธ์ 2566 ณ สวนทับเที่ยง อ.เมือง จ.ตรัง เพื่อตอกย้ําภาพลักษณ์จังหวัดตรังเป็น Destination สําหรับคู่รักและเป็นเมืองท่องเที่ยวเชิงอาหาร ภายใต้การตกแต่งที่แสนโรแมนติก กว่า 13 ร้าน ในแบบนานาชาติ ไทย จีน ญี่ปุ่น ยุโรป ทะเล ท้องนาและป่าเขาทั้งนี้ ขอเชิญชวนนักท่องเที่ยวมาเปิดประสบการณ์ความว้าวWOW กับ 3 รูปแบบ ภายในงาน ประกอบด้วย WOW อาหาร สัมผัส รูป รส กลิ่น เสียง กับเมนูอาหารจานเด็ด โดยการนําเสนอเมนูอาหารจากเชฟรุ่นเก๋าและคนรุ่นใหม่จากร้านอาหารชื่อดังในจังหวัดตรัง ซึ่งรังสรรค์อาหารจากวัตถุดิบท้องถิ่นเมืองตรัง , WOW การตกแต่งแช๊ะภาพ กับจุดเช็คอินต่างๆ แชร์และบอกต่อกับภาพความประทับใจในบรรยากาศโรแมนติก และ WOW การแสดง การแสดงดนตรีบรรเลงบทเพลง สร้างกลิ่นไออบอวลไปด้วยความรัก โดยภายในงานแบ่งออกเป็น 10 โซน คือ โซนที่ 1 Asaian Style : ร้านกวนนิโต้ / ครามคูน , โซนที่ 2 Chinese Style: ร้านคู้แจ้นเมี่ยนเปา/ ร้านซัมบาลา , โซนที่ 3 Forest & Field : ร้านไร่มีตาลตะวัน/ ร้านโบทานิคคาเฟ่/ ขนมไทยครูทราย/ พญาบาติก/ E-co print บ้านไร่สุขโสภา , โซนที่ 4 Sea Style: จาระวีคาเฟ่/ บ้านไอติมริมเล , โซนที่ 5 Western Style: เชฟกริลล์/ กวาวา/ มอมอฟาร์ม , โซนที่ 6 Thai Style : กะช่องฮิลล์/ มหาวิทยาลัยสวนดุสิตตรัง/ Van Cafe , โซนที่ 7 จุดเช็คอินทางเข้า และโซนที่ 8-10 จุดถ่ายรูป#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
3/2/2023
ภาคใต้
ตรัง
สวท.ตรัง
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230203110403799
null
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย จัดโครงการ Amazing Ruk Rim Lay Fastival 2023 ภายใต้คอนเซ็ปท์ “Love On The Beach พบรักนี้ที่ตรัง”
นายขจรศักดิ์ เจริญโสภา ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง เปิดเผยในรายการ”เล่าเรื่องกับพ่อเมืองตรัง” ออกอากาศทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย จังหวัดตรัง, อสมท.ตรัง และเครือข่ายวิทยุบริการธุรกิจ 5 สถานี ว่า การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยได้กําหนดจัดโครงการ Amazing Ruk Rim Lay Fastival 2023 ภายใต้คอนเซ็ปท์ “Love On The Beach พบรักนี้ที่ตรัง” วันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2566 ณ หาดราชมงคล จังหวัดตรัง เวลา 15.00 น.-22.00 น โดยกิจกรรมในงานมีทั้งดนตรีดีๆ จากศิลปิน วงซีซั่นไฟว์, ตู่ภพธร,เอิ๊ต ภัทรวี และเบล วริศรา มุมถ่ายภาพสวยๆ และฟินด้วยของกินอร่อย ซึ่งการจัดงาน Amazing Thailand ruk rim lay festival เกิดขึ้นภายใต้แนวคิด Love on the beach สอดคล้องกับช่วงของการจัดงานที่ใกล้กับวันแห่งความรัก วันวาเลนไทน์เป็นการสร้างบรรยากาศการท่องเที่ยวในช่วงเทศบาล กระตุ้นการท่องเที่ยวของคนภายในจังหวัดและภูมิภาคทั้งนี้ เพื่อเป็นการต่อยอดเศรษฐกิจสร้างสรรค์ด้วยการใช้ดนตรีส่งเสริมการท่องเที่ยว กระตุ้นให้นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติเกิดการเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย และสร้างเงินหมุนเวียนในอุตสาหกรรมท่องเที่ยว#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
3/2/2023
ภาคใต้
ตรัง
สวท.ตรัง
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230203111544811
null
ผู้ว่าฯ ยะลา เดินหน้าพัฒนางานด้านความมั่นคงควบคู่เศรษฐกิจ มอบนโยบาย ฝ่ายปกครอง ย้ำ พัฒนาตนเอง ให้ทันยุคสมัย
วันนี้ (3 ก.พ.66) นายสุพจน์ รอดเรือง ณ หนองคาย ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา ได้พบปะมอบนโยบายแนวทางในการปฏิบัติงานให้แก่กํานัน ผู้ใหญ่บ้าน แพทย์ประจําตําบล สารวัตรกํานัน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ฝ่ายปกครอง อ.เมืองยะลา ในการประชุมกํานัน ผู้ใหญ่บ้านฯ ครั้งที่ 5 ประจําปี 2566 โดยมีนายวิทศักดิ์ จําเริญนุสิต นายอําเภอเมืองยะลา และภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วม ณ หอประชุมพัฒนรัฐ(สุขเจริญ) ชั้น 2 อําเภอเมืองยะลา จังหวัดยะลาโดยที่ประชุม ได้พูดคุยด้านการปฏิบัติงานด้านความมั่นคงและความสงบเรียบร้อยของพื้นที่เขตอําเภอเมืองยะลา ในการบูรณาการทํางานร่วมกัน ชี้แจงข้อราชการ อาทิ การจัดเก็บข้อมูลความจําเป็นพื้นฐาน(จปฐ.) ปี 2566 การขับเคลื่อนงานกองทุนแม่ของแผ่นดิน การเตรียมการจัดกิจกรรมพบปะยามเช้า ผู้ใหญ่บ้าน-กํานันแลกเปลี่ยนเรียนรู้หาแนวทางขับเคลื่อนการพัฒนาตามนโยบายของผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา การจัดกิจกรรมวันคล้ายวันสถาปนากองอาสารักษาดินแดน ประจําปี 2566 ในวันที่ 10 ก.พ.66 การดําเนินการจัดตั้งศูนย์ฟื้นฟูสภาพทางสังคม จ.ยะลา สาขา อําเภอ/อปท. พร้อมกับชี้แจงแนวทางการสํารวจสภาพปัญหายาเสพติดในระดับหมู่บ้าน/ชุมชน โดย อ.เมืองยะลา จะดําเนินการอย่างต่อเนื่อง ปีละ2 ครั้ง ในส่วนของปี2566 จะออกสํารวจสภาพปัญหาให้ห้วงเดือน มกราคม-มีนาคม2566 จําแนกเป็น 4 ระดับ คือ แดง เหลือง เขียว ขาว นอกจากนี้ ได้แจ้งผลการพิจารณาการคัดเลือกผู้ได้รับรางวัลกํานัน ผู้ใหญ่บ้านยอดเยี่ยม ประจําปี 2566 ได้แก่ นายวิสุทธิ์ หัวเพ็ชร์ ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 1 ต.ยุโป อ.เมืองยะลา สร้างขวัญและกําลังใจให้กับผู้ปฏิบัติงาน และเป็นแบบงานที่ดีในการปฏิบัติหน้าที่ต่อไปนายสุพจน์ รอดเรือง ณ หนองคาย กล่าวว่า กํานันผู้ใหญ่บ้าน มีความสําคัญในการจัดการบ้านเมือง ตั้งแต่ระดับรากฐานสู่ระดับชาติ บ้านเมือง ใกล้ชิดกับประชาชน เพราะฉะนั้นเป็นเรื่องต้องพัฒนาตนเอง ให้มีความทันสมัย ทันต่อโลกที่เปลี่ยนแปลง มีความกล้าหาญ กล้าในการตัดสินใจ การแต่งตั้งผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านให้พิจารณาคนที่ช่วยเหลืองานจริงๆ หลายหมู่บ้านแต่งตั้งขึ้นมาแล้วทะเลาะกัน ไม่ทํางานก็มี หากจะปลดก็ต้องรายงานให้กรรมการฯสอบก็เกิดความล่าช้าในการทํางาน ต้องคัดกรองเรื่องนี้ให้ดี รวมถึงให้พัฒนากลไกให้เข้มแข้ง การรักษาความสงบควบคู่กับเศรษฐกิจ ซึ่งด้านผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา พยายามพัฒนาบ้านเมือง พยายามพัฒนาในเขตเมืองก่อน หลักๆ ในเรื่องความมั่นคง แผนพัฒนาหมู่บ้านเป็นเรื่องที่จําเป็นอย่างมาก อีกทั้งให้ดําเนินงานควบคู่กับส่วนราชการ ให้ศึกษาดําเนินการข้อกฎหมายให้ถี่ถ้วนด้วย#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
3/2/2023
ภาคใต้
ยะลา
สทท.ยะลา
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230203113502818
null
ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ ต้อนรับผู้โดยสารเที่ยวบินปฐมฤกษ์ สิงคโปร์-เชียงใหม่
ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ร่วมต้อนรับผู้โดยสารเที่ยวบินปฐมฤกษ์ สิงคโปร์-เชียงใหม่ เผยชาวเชียงใหม่พร้อมด้วยรับผู้มาเยือนทุกท่านด้วยน้ําใจไมตรี และความอ่อนหวานที่เป็นเอกลักษณ์ของล้านนา วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2566 ที่อาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ ท่าอากาศยานเชียงใหม่ นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมด้วย นายวิจิตต์ แก้วไทรเทียม ผู้อํานวยการท่าอากาศยานเชียงใหม่ ร่วมแถลงข่าวและต้อนรับผู้โดยสารสายการบินไทยแอร์เอเชีย เที่ยวบินที่ FD369 ซึ่งเป็นเที่ยวบินปฐมฤกษ์ (ขาเข้า) สิงคโปร์-เชียงใหม่ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า จังหวัดเชียงใหม่เป็นจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ด้วยมีความพร้อมในทุกๆ ด้าน ทั้งด้านการเดินทาง การกระจายผู้โดยสาร สถานที่ท่องเที่ยว โรงแรม ที่พัก ร้านอาหาร ของฝากของที่ระลึก ซึ่งหากนักท่องเที่ยวมีแผนที่จะเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในจังหวัดเชียงใหม่ ขอให้ตัดสินใจและซื้อตั๋วบินมายังจังหวัดเชียงใหม่ได้เลย ชาวเชียงใหม่พร้อมต้อนรับผู้มาเยือนทุกท่านด้วยน้ําใจไมตรี และความอ่อนหวานที่เป็นเอกลักษณ์ของล้านนาขณะที่ นายวิจิตต์ แก้วไทรเทียม ผู้อํานวยการท่าอากาศยานเชียงใหม่ กล่าวว่า ท่าอากาศยานเชียงใหม่ มีความพร้อมรับนักท่องเที่ยวมาตั้งแต่การเปิดประเทศในปี 2565 โดยปัจจุบันท่าอากาศยานเชียงใหม่ ต้อนรับผู้โดยสารเฉลี่ยวันละ 24,000-25,000 คน อย่างไรก็ตาม ท่าอากาศยานเชียงใหม่ ได้มีการบริหารจัดการอย่างเต็มศักยภาพ เพื่อพร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวในทุกๆ วัน ตามนโยบายของผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมยืนยันว่าท่าอากาศยานเชียงใหม่ เป็นสนามบินที่มีความปลอดภัยเป็นอย่างมาก#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
3/2/2023
ภาคเหนือ
เชียงใหม่
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงใหม่
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230203115107822
null
สำนักงานพาณิชย์จังหวัดเลย ยกทัพเหล่าดีไซเนอร์จังหวัดเลย ร่วมจัดแสดงแฟชั่นโชว์ “เลย .. เมืองแห่งผ้าฝ้าย” ในงานดอกฝ้ายบาน สืบสานวัฒนธรรมไทเลย ประจำปี 2566
นางเบญจวรรณ ตัญญู พาณิชย์จังหวัดเลย เปิดเผยว่า สํานักงานพาณิชย์จังหวัดเลย จัดแสดงแฟชั่นโชว์ Designer of Loei ภายใต้แนวคิด “เลย ... เมืองแห่งผ้าฝ้าย” ในงานดอกฝ้ายบาน สืบสานวัฒนธรรมไทเลย ประจําปี 2566 บริเวณเวทีกลาง สนามหน้าศาลากลางจังหวัดเลย อําเภอเมืองเลย จังหวัดเลย โดยมี นายทวี เสริมภักดีกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดเลย ร่วมชมการแสดงแฟชั่นโชว์จากเหล่าดีไซเนอร์จังหวัดเลย กว่า 20 ราย ที่ได้นําเอาผลิตภัณฑ์ผ้าฝ้าย อัตลักษณ์ของเมืองเลย ทั้งเครื่องแต่งกาย และของใช้ โดยเฉพาะการออกแบบลวดลายผ้าพระราชทาน ผ้าฝ้ายลายอัตลักษณ์ประจําจังหวัดเลย “ลายดอกฝ้ายเมืองเลย” บนผืนผ้าฝ้าย รวมถึง ผ้าฝ้ายพื้นถิ่นเมืองเลย นํามาออกแบบและตัดเย็บเป็นชุดร่วมสมัย กว่า 50 ชุด ให้นางแบบและนายแบบเดินเฉิดฉายโชว์ความสวยงามของผ้าฝ้ายบนเวทีเพื่อเผยแพร่วิถีวัฒนธรรมการแต่งกายของชาวจังหวัดเลย ตั้งแต่อดีตที่มีการปลูกฝ้ายในพื้นที่ และนํามาทอเป็นผืนผ้า พร้อมตัดเย็บเป็นเครื่องแต่งกายให้มีเอกลักษณ์โดดเด่นสวยงาม จนปัจจุบันกลายมาเป็นมรดกวัฒนธรรมอันล้ําค่าของจังหวัดเลย นอกจากนี้ ยังเป็นการร่วมมือระหว่างสํานักงานพาณิชย์จังหวัดเลย เครือข่ายธุรกิจบิสคลับ คลัสเตอร์สิ่งทอ และดีไซเนอร์จังหวัดเลย ในการช่วยกันผลักดันผลิตภัณฑ์ผ้าฝ้ายเมืองเลย สู่เส้นทางตลาดแฟชั่นระดับสากล#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
3/2/2023
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
เลย
สวท.เลย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230203125707854
null
ระวังมิจฉาชีพแอบอ้างการรับสิทธิโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ
นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อํานวยการสํานักเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ปัจจุบันมีมิจฉาชีพแอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่กระทรวงการคลัง หลอกลวงให้ประชาชนหลงเชื่อว่าเป็นผู้ได้รับสิทธิตามโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ ปี 2565 และให้ทําธุรกรรมในลักษณะต่างๆ ตามคําแนะนําของมิจฉาชีพ กระทรวงการคลัง ขอย้ําว่า ขณะนี้โครงการฯ ปี 2565 ยังไม่ได้มีการประกาศรายชื่อผู้ได้รับสิทธิ เนื่องจากข้อมูลตามโครงการมีจํานวนมากต้องมีการตรวจสอบคุณสมบัติจากหน่วยตรวจสอบสิทธิหลายหน่วยงานเพื่อให้มีความถูกต้อง ครบถ้วน สมบูรณ์ ซึ่งจะเร่งดําเนินการให้แล้วเสร็จและประกาศให้ประชาชนทราบโดยเร็วต่อไป กระทรวงการคลังไม่มีนโยบายให้เจ้าหน้าที่โทรศัพท์ไปแจ้งผลการตรวจสอบสิทธิให้แก่ประชาชนรับทราบ และ/หรือแนะนําให้มีการดําเนินธุรกรรมใดๆ ขอให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อและดําเนินการธุรกรรมใดๆ ตามคําหลอกลวงของมิจฉาชีพ สําหรับประชาชนที่ตกเป็นเหยื่อมิจฉาชีพ สามารถร้องทุกข์หรือแจ้งเบาะแสได้ที่สถานีตํารวจในท้องที่ หรือสํานักงานตํารวจแห่งชาติ รวมทั้งติดตามข้อมูลข่าวสารได้ผ่านเว็บไซต์ https://บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ.mof.go.th
3/2/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230203134107882
null
สำนักงาน ธ.ก.ส.จังหวัดนราธิวาส จัดกิจกรรมจับรางวัลเงินฝากออมทรัพย์ทวีโชค ครั้งที่ 22565 มูลค่าของรางวัลรวมกว่า 4.5 ล้านบาท
วันนี้ (3 ก.พ.66) นายสมภพ พานทอง ผู้ช่วยผู้อํานวยการฝ่ายกิจการสาขาภาคใต้ตอนล่าง เป็นประธานเปิดกิจกรรมจับรางวัลเงินฝากออมทรัพย์ทวีโชค ครั้งที่ 2/2565 ที่โรงยาง บางนรา อําเภอเมืองนราธิวาส ซึ่งมีผู้บริหาร ผู้จัดการสาขา พนักงานสํานักงาน ธ.ก.ส. ผอ.สวท.นราธิวาส ผู้แทนจากสมาชิกสภา อบจ.นราธิวาส สื่อมวลชน และผู้เกี่ยวข้องร่วมในกิจกรรมนายธันว์ ภู่อาภรณ์ ผู้อํานวยการสํานักงาน ธ.ก.ส.จังหวัดนราธิวาส กล่าวว่า ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร หรือ ธ.ก.ส.เป็นธนาคารของรัฐบาล สังกัดกระทรวงการคลัง ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ธ.ก.ส.ดําเนินงานด้วยความมุ่งมั่นเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตให้เกษตรกรเติบโตอย่างยั่งยืน โดยยึดหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงเป็นหัวใจสําคัญ เพื่อสร้างความมั่นคง ยั่งยืนสู่เกษตรกร และเศรษฐกิจของประเทศ ภายใต้วิสัยทัศน์ “เป็นธนาคารพัฒนาชนบทที่ยั่งยืน” และยึดหลังธรรมาภิบาลในการดําเนินงาน รวมถึงมีการเปิดเผยข้อมูลสารสนเทศด้วยความโปร่งใสตรวจสอบได้ นอกจากนี้ ธ.ก.ส.ยังมีบริการด้านเงินฝาก เพื่อเป็นแหล่งเงินทุนให้กับเกษตรกร บุคคลทั่วไป ทั้งภาครัฐและเอกชน อาทิ เงินฝากออมทรัพย์ทวีโชค ซึ่งเป็นหนึ่งในผลิภัณฑ์เงินฝากหลักของ ธ.ก.ส. ประเภทเงินฝากมีรางวัลทั้งนี้ ในวันนี้ (3 ก.พ.66) ธนาคารได้จัดกิจกรรมงานจับรางวัลเงินฝากออมทรัพย์ทวีโชค ครั้งที่ 2/2565 ให้แก่ลูกค้าเงินฝากทวีโชค จํานวน 214,411 บัญชี จํานวนเงิน 2,972 ล้านบาท ซึ่งมีบัตรจับรางวัลทั้งสิ้น 2,756,808 ใบ รางวัลประกอบด้วย รางวัลที่ 1 รถยนต์เก๋ง ซูซุกิ เซเลริโอ จํานวน 1 รางวัล//รางวัลที่ 2 รถจักรยานยนต์ ซูซูกิ สแมช จํานวน96 รางวัล//รางวัลที่ 3 สร้อยคอทองคํา หนัก 1 สลึง จํานวน 57 รางวัล รวมมูลค่าของรางวัลทั้งสิ้น 4,597,641 บาท#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
3/2/2023
ภาคใต้
นราธิวาส
สวท.นราธิวาส
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230203142512921
null
กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ตั้งเป้าพัฒนา 30 เมืองอัจฉริยะ มั่นใจสร้างโอกาสการลงทุนได้กว่า 6 หมื่นล้านบาท
นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กล่าวในการลงพื้นที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ติดตามโครงการ Smart city HuaHin ว่า ปัจจุบันมีเมืองที่ได้รับการประกาศเป็นเมืองอัจฉริยะแล้ว 30 เมืองทั่วประเทศ ประเมินว่าการพัฒนาเมืองอัจฉริยะจะช่วยให้เกิดโอกาสการลงทุนจากหน่วยภาครัฐและเอกชนมูลค่ากว่า 60,000 ล้านบาท รวมถึงจะมีการสร้างมูลค่าการลงทุนที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง สําหรับการพัฒนาหัวหินสู่เมืองอัจฉริยะจะช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชน พร้อมรองรับนักท่องเที่ยว ยกระดับการเป็นเมืองน่าอยู่สร้างคุณภาพชีวิตที่ดี ปลอดภัย ไร้อาชญากรรม นอกจากนี้ ยังติดตามโครงการศูนย์ดิจิทัลชุมชน โรงเรียนตํารวจตระเวนชายแดนบ้านย่านซื่อ อําเภอกุยบุรี ที่ได้พัฒนาระบบนิเวศจัดให้มีศูนย์บริการอินเทอร์เน็ตสาธารณะ และระบบจัดการศูนย์ดิจิทัลชุมชน พร้อมขยายการดําเนินงานไป 1,722 ศูนย์ ครอบคลุมทั่วประเทศ ซึ่งศูนย์ดังกล่าวจะให้บริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง อุปกรณ์ดิจิทัล และส่งเสริมการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลในระดับท้องถิ่น เพื่อลดช่องว่างทางด้านดิจิทัลให้กับชุมชนได้ใช้ประโยชน์ด้านการศึกษา อาชีพ เช่น ผู้ประกอบการชุมชน วิสาหกิจชุมชน รวมถึงกลุ่มเปราะบาง อีกทั้งยังทําหน้าที่ในการเพิ่มช่องทางกระจายข่าวสาร บริการดิจิทัลต่อยอดสู่การสร้างโอกาสและรายได้ในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจระดับฐานรากในอนาคต
3/2/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230203213921059
null
กระทรวงพาณิชย์ Kick off โครงการ “เสน่ห์ใต้” พัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการอัญมณีและเครื่องประดับ 4 จังหวัดภาคใต้ หวังดึงนักท่องเที่ยวมาชม ช้อป เพิ่มรายได้ท้องถิ่น
วันนี้ (3 กุมภาพันธ์ 2566) กระทรวงพาณิชย์ โดยสถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ GIT ลงพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราช ณ โรงแรมแกรนด์ฟอร์จูน Kick off โครงการ “เสน่ห์ใต้” เพื่อพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการท้องถิ่น ในการพัฒนากระบวนการผลิตเครื่องประดับท้องถิ่นให้มีความทันสมัย ตรงตามที่ตลาดต้องการ แต่ยังคงอัตลักษณ์ความเป็นท้องถิ่น เพิ่มมูลค่าสินค้า และผลักดันต่อยอดให้ชุมชนหรือแหล่งผลิตเครื่องประดับ สร้างแหล่งท่องเที่ยวด้านอัตลักษณ์ รวมถึงแหล่งท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติ อันจะช่วยดึงดูดนักท่องเที่ยว ทั้งชาวไทยและต่างชาติ ให้เข้ามาเยี่ยมชม ก่อเกิดรายได้ให้กับผู้ประกอบการและจังหวัด โดยนําร่อง 4 จังหวัดภาคใต้ ได้แก่ นครศรีธรรมราช พังงา สตูล และภูเก็ตสําหรับจังหวัดนครศรีธรรมราชมีอารยธรรมและศิลปวัฒนธรรมที่โดดเด่นเป็นอย่างมาก โดยในส่วนของเครื่องประดับที่ถือว่าเป็นไฮไลน์ของชาวนครศรีธรรมราชที่ไม่ว่าใครก็ต้องรู้จัก นั่นคือ “เครื่องถมนครศรีธรรมราช” และอักขระ “นะโม” รวมถึงแหล่งท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติ และเชิงวัฒนธรรมมากมาย ซึ่งโครงการ “เสน่ห์ใต้” นอกจากจะได้พัฒนาศักยภาพของตนเองเพิ่มเติมแล้ว ยังสามารถนําไปต่อยอดในการทําธุรกิจได้อีกทางหนึ่งด้วยนอกจากนี้ โครงการเสน่ห์ใต้ยังมีกิจกรรมเพื่อสร้างโอกาสให้ผู้ประกอบการในการขยายช่องทางการจําหน่ายสู่ตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยการขายผ่านแพลตฟอร์ม e-Commerce ชั้นนํา และการนําเข้าร่วมงานแสดงสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับระดับนานาชาติ เพื่อเปิดตัวสินค้าออกสู่สายตาต่างประเทศ และเพิ่มโอกาสในการส่งออก#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
3/2/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สวท.นครศรีธรรมราช
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230203175405011
null
รมว.ดีอีเอส ลงพื้นที่ จ.ประจวบฯ ผลักดัน “หัวหิน” สู่เมืองอัจฉริยะ ยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชนและส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจ
(3 ก.พ.66) นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) พร้อมด้วย ศ.พิเศษวิศิษฏ์ วิศิษฏ์สรอรรถ ปลัดกระทรวงฯ ดร.เวทางค์ พ่วงทรัพย์ รองปลัดกระทรวงฯ ประชุมหารือร่วมกับ นายเสถียร เจริญเหรียญ ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ นายนพพร วุฒิกุล นายกเทศมนตรีเมืองหัวหิน และคณะผู้บริหารเทศบาลฯ เตรียมความพร้อมโครงการ Smart city Hua Hin ณ ห้องประชุมนเรศดําริห์ สํานักงานเทศบาลเมืองหัวหิน นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กล่าวว่า ประเทศไทยมีการนําเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ในหน่วยงานและองค์กรภาครัฐ มีการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานอย่างต่อเนื่องในการพัฒนาเมืองและพื้นที่ต่างๆ สู่การเป็นเมืองอัจฉริยะเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพความเป็นอยู่และคุณภาพชีวิตของประชาชนอย่างทั่วถึง ปัจจุบันมีเมืองที่ได้รับการประกาศเป็นเมืองอัจฉริยะแล้ว 30 เมืองทั่วประเทศ โดยมีการประเมินว่าการพัฒนาเมืองอัจฉริยะจะช่วยให้เกิดโอกาสการลงทุนจากหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนรวมมูลค่ากว่า 60,000 ล้านบาท รวมถึงจะมีการสร้างมูลค่าการลงทุนที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องทั้งในปัจจุบันและอนาคต กระทรวงดิจิทัลฯ โดย ดีป้า (depa) ดําเนินการส่งเสริมและสนับสนุนการพัฒนาเมืองอัจฉริยะในระดับท้องถิ่นอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้สอดคล้องกับแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 13 หมุดหมายที่ 8 ไทยมีพื้นที่และเมืองอัจฉริยะที่น่าอยู่ ปลอดภัย เติบโตได้อย่างยั่งยืน การลงพื้นที่ครั้งนี้ก็ได้หารือและประชุมกับผู้ว่าราชการจังหวัดฯ และทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องในการเตรียมความพร้อมการพัฒนาหัวหินสู่เมืองอัจฉริยะ Smart City Hua Hin ช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชนในพื้นที่อย่างทั่วถึง เท่าเทียม พร้อมรองรับนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ นอกจากนี้ยังได้เยี่ยมชมศูนย์ CCTV และห้องควบคุม เพื่อติดตามการดําเนินงานด้านการส่งเสริมการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อบริหารจัดการพื้นที่ ตรวจสอบเมืองให้มีประสิทธิภาพและเหมาะสมต่อการอยู่อาศัย สร้างคุณภาพชีวิตที่ดี ปลอดภัย ไร้อาชญากรรมผศ.ดร.ณัฐพล นิมมานพัชรินทร์ ผู้อํานวยการสํานักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล หรือ ดีป้า กล่าวว่า การส่งเสริมและสนับสนุนการพัฒนาเมืองอัจฉริยะในระดับท้องถิ่นดําเนินการในหลากหลายมิติ ตั้งแต่การสนับสนุนพื้นที่ให้พัฒนาแผนเมืองอัจฉริยะของตนเอง สามารถระบุพื้นที่พัฒนาเมืองโดยมีขอบเขตชัดเจน มองเห็นศักยภาพและปัญหา อีกทั้งสามารถเตรียมความพร้อมเรื่องระบบบริการทั้ง 7 Smarts ได้ตรงตามบริบทของพื้นที่ และวางโครงสร้างพื้นฐานทั้งทางกายภาพและด้านดิจิทัลรองรับระบบบริการเมือง รวมถึงบริหารจัดการข้อมูลอย่างมีประสิทธิภาพ โดยคํานึงถึงความยั่งยืนและเกิดประโยชน์สูงสุดกับภาคประชาชน นอกจากนี้ ดีป้า ยังมีการส่งเสริมคนรุ่นใหม่ที่มีใจต้องการพัฒนาภูมิลําเนามาเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อน การพัฒนาเมืองน่าอยู่ร่วมกับหน่วยงานในพื้นที่ผ่านโครงการนักดิจิทัลพัฒนาเมืองรุ่นใหม่ (The Smart City Ambassadors) ซึ่ง จ.ประจวบคีรีขันธ์ เข้าร่วมโครงการ 2 พื้นที่ มีเจ้าหน้าที่ร่วมฝึกอบรม 2 ราย และมี Ambassadors ปฏิบัติหน้าที่สนับสนุนงานพัฒนาเมือง 2 ราย โดยปัจจุบันเทศบาลเมืองหัวหินเป็นหนึ่งในเขตส่งเสริมเมืองอัจฉริยะนายเสถียร เจริญเหรียญ ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า วิสัยทัศน์ของจังหวัดประจวบฯ คือ "เมืองท่องเที่ยวทรงคุณค่าระดับนานาชาติ เกษตรปลอดภัย ด่านสิงขรระเบียงเศรษฐกิจแห่งอนาคต สังคมผาสุก ภายใต้หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง" ซึ่งจังหวัดมีความโดดเด่นด้านการท่องเที่ยวและการเกษตรที่ถือเป็นภาคเศรษฐกิจที่สําคัญของจังหวัด และพร้อมสนับสนุนท้องถิ่นในการพัฒนาพื้นที่ตามศักยภาพและส่งเสริมการบูรณาการการทํางาน รวมถึงการบูรณาการข้อมูลที่จะนําไปสู่การพัฒนาด้านต่างๆ เพื่อประโยชน์และคุณภาพชีวิตของประชาชน และเทศบาลหัวหินถือเป็นหนึ่งพื้นที่สําคัญในการนําร่องการพัฒนา Smart City ของจังหวัดฯนายนพพร วุฒิกุล นายกเทศมนตรีเมืองหัวหิน กล่าวว่า เทศบาลเมืองหัวหินตั้งเป้าหมายที่จะเป็นเมืองท่องเที่ยวปลอดภัย สะอาด น้ําใส ไร้ PM 2.5 โดยอาศัยเทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามาช่วยบริหารจัดการและตรวจสอบเมืองให้มีประสิทธิภาพและเหมาะสมต่อการอยู่อาศัย สร้างคุณภาพชีวิตที่ดี ปลอดภัย ไม่มีอาชญากรรม โดยมีแผนที่จะดําเนินการพัฒนาระบบ Smart ต่างๆ ส่งเสริมการท่องเที่ยว เข่น การติดตั้งระบบ CCTV สอดส่องความปลอดภัยสร้างความเชื่อมั่นแก่นักท่องเที่ยวและประชาชนในพื้นที่ ตั้งเป้าลดอาชญากรรม 50% ติดตั้ง Smart Pole ระบบติดตามคุณภาพอากาศเพื่อสุขภาพคนหัวหินและนักท่องเที่ยว Wired Network ที่ครอบคลุมอํานวยความสะดวกผู้มาเยือนส่งเสริมเศรษฐกิจในพื้นที่ พร้อมรับมือปัญหาขยะจากจํานวนนักท่องเที่ยวที่จะเพิ่มขึ้นด้วยระบบ GPS Tracking ช่วยบริหารจัดการขยะ ตั้งเป้าลดขยะตกค้างในพื้นที่ไม่น้อยกว่า 80% รวมถึงระบบจัดเก็บและบริหารข้อมูลของเมือง (City Data Platform: CDP) รวมศูนย์ข้อมูลเพื่อการบูรณาการการทํางานระหว่างหน่วยงาน ในพื้นที่และระหว่างท้องถิ่น เพื่อการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพสูงสุด#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
3/2/2023
ภาคตะวันตก
ประจวบคีรีขันธ์
สวท.ประจวบคีรีขันธ์
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230203161027971
null
นายอำเภอเบตง ตรวจเยี่ยมสนามยิงปืนไทกันส์ และสถานที่ก่อสร้างรีสอร์ทสุดชิค และร่วมกันเพาะเมล็ดทานตะวัน เตรียมต้นกล้าเพื่อจัดทำเป็นทุ่งทานตะวันบ้านบ่อน้ำร้อนเป็นแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ดึงดูดนักท่องเที่ยว
นายอําเภอเบตงตรวจเยี่ยมสนามยิงปืนไทกันส์ และสถานที่ก่อสร้างรีสอร์ทสุดชิค และร่วมกันเพาะเมล็ดทานตะวัน เตรียมต้นกล้าเพื่อจัดทําเป็นทุ่งทานตะวันบ้านบ่อน้ําร้อนเป็นแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ดึงดูดนักท่องเที่ยววันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2566 นายเอก ยังอภัย ณ สงขลา นายอําเภอเบตง พร้อมด้วยรองนายก อบต.ตาเนาะแมเราะและปลัดอําเภอผู้เป็นหัวหน้าประจําตําบลตาเนาะแมเราะ ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมสนามยิงปืนไทกันส์ เพื่อติดตามความพร้อมในการเปิดให้บริการสนามซ้อมยิงปืน โดยได้ทดสอบช่องยิงปืนระยะสั้น ช่องยิงรางมอเตอร์ จุดพักคอย ห้องเก็บปืน พร้อมตรวจเยี่ยมและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นการก่อสร้างแกลมปิ้งรีสอร์ต สไตล์แคมป์สุดหรู มีพูลวิลล่า ใกล้ชิดธรรมชาติ ณ สมาคมไทกันส์ ตําบลตาเนาะแมเราะ อําเภอเบตง จังหวัดยะลาจากนั้น นายอําเภอเบตง พร้อมด้วยนายกกิ่งกาชาดอําเภอเบตง เกษตรอําเภอเบตง ร่วมกันเพาะเมล็ดทานตะวัน เตรียมต้นกล้าเพื่อจัดทําเป็นทุ่งทานตะวันในพื้นที่ชุมชนวัฒนธรรมลาหู่ บ้านบ่อน้ําร้อน ตําบลตาเนาะแมเราะ โดยมี ผู้นําท้องที่และชาวลาหู่ที่อาศัยในพื้นที่บ้านบ่อน้ําร้อนร่วมกันเพาะเมล็ดทานตะวัน โดยมีเป้าหมายให้ทุ่งทานตะวันเป็นแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยว ส่งเสริมให้ชาวลาหู่ที่อาศัยในพื้นที่บริเวณโดยรอบได้มีอาชีพ จําหน่ายผลผลิตทางการเกษตรและผลิตภัณฑ์ชุมชนได้ต่อไป#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
3/2/2023
ภาคใต้
ยะลา
สวท.เบตง จ.ยะลา
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230203172349999
null
อบต.เกาะหมาก จ.ตราด เล็งปรับเปลี่ยนรถขององค์กรให้เป็นรถไฟฟ้าทั้งหมด ตอกย้ำแหล่งท่องเที่ยวคาร์บอนต่ำ หลังจากติด TOP 100 แหล่งท่องเที่ยวยั่งยืนโลก 2022
(3 ก.พ. 66) นายนล สุวัจนานนท์ นายกองค์การบริหารส่วนตําบลเกาะหมาก จังหวัดตราด เปิดเผยว่า ปัจจุบันมีการตื่นตัวในการหันมาใช้รถยนต์ไฟฟ้า หรือมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า ประกอบกับพื้นที่ตําบลเกาะหมากติด TOP 100 แหล่งท่องเที่ยวยั่งยืนโลก 2022 จากการเป็นแหล่งท่องเที่ยวคาร์บอนต่ํา (Low Carbon Destination) ดังนั้นเพื่อให้การขับเคลื่อนพื้นที่เกาะหมากโลว์คาร์บอนสามารถจับต้องได้ เกิดผลเป็นรูปธรรม ทางองค์การบริหารส่วนตําบลเกาะหมากจึงได้มีแผนการที่จะปรับเปลี่ยนให้รถของ อบต.เกาะหมาก เป็นรถไฟฟ้าให้หมดในอนาคต เพื่อเป็นแบบอย่างให้กับประชาชนในพื้นที่ ในส่วนของผู้ประกอบการรีสอร์ท โรงแรมที่พัก ในพื้นที่เกาะหมาก ก็ให้ความสนใจนํารถไฟฟ้า รถจักรยานไฟฟ้า มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า สําหรับเช่าในการให้บริการนักท่องเที่ยวมากขึ้น ในขณะที่ธุรกิจรถจักรยานยนต์เช่าบนเกาะหมากมีจํานวนลดลง ซึ่งตรงข้ามกับผู้ประกอบที่พักที่หันมาทําธุรกิจเช่ารถไฟฟ้ามากขึ้น #สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
3/2/2023
ภาคตะวันออก
ตราด
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดตราด
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230203183826018
null
สว. พบประชาชนภาคตะวันออก ลงพื้นที่รับฟังความคืบหน้าโครงการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบัง เฟส 3 และการดำเนินโครงการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) จ.ชลบุรี
วันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2566 เวลา 09.00 น. ณ ห้องประชุมสโมสร ศูนย์สวัสดิการพนักงานท่าเรือแหลมฉบัง อําเภอศรีราชา จังหวัดจังหวัดชลบุรี คณะกรรมการโครงการสมาชิกวุฒิสภาพบประชาชนในพื้นที่จังหวัดภาคตะวันออก นําโดย พลเอก สิงห์ศึก สิงห์ไพร รองประธานวุฒิสภา คนที่หนึ่ง ในฐานะประธานกรรมการโครงการสมาชิกวุฒิสภาพบประชาชน พลเอก วรพงษ์ สง่าเนตร รองประธานกรรมการ คนที่หนึ่ง และคณะกรรมการการฯ รวมทั้ง นางสาวชนิดา จันทรนคร ผู้เชี่ยวชาญด้านติดตามการปฏิบัติราชการในพื้นที่ภาคกลาง (ผู้แทนผู้ตรวจราชการสํานักนายกรัฐมนตรี เขต 8 ลงพื้นที่รับฟังข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะของประชาชนในพื้นที่จังหวัดชลบุรี และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในประเด็นการดําเนินโครงการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก ผลกระทบและประโยชน์ที่ประชาชนจะได้รับจากโครงการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก โดยมี นางสาวฐิติลักษณ์ คําพา รองผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี ให้การต้อนรับคณะกรรมการฯ ได้รับฟังข้อมูล ความคิดเห็นและข้อเสนอแนะเกี่ยวกับ ความคืบหน้าโครงการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบัง ระยะที่ 3 และการดําเนินโครงการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ในประเด็นการพัฒนาเครือข่าย 5G ในพื้นที่ EEC สู่เทคโนโลยีดิจิทัล และนวัตกรรมขั้นสูง แนวทางการแก้ไขปัญหา การขับเคลื่อนและพัฒนาด้านการศึกษา ด้านบุคลากร ด้านแรงงานที่เป็นประชากรแฝงที่มีฝีมือและไม่มีฝีมือ ด้านอุตสาหกรรม การคมนาคมและขนส่ง ด้านสาธารณสุข ด้านสังคมและสิ่งแวดล้อม และด้านการบริหารจัดการน้ําในพื้นที่ EEC รวมทั้งรับฟังข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะจากประชาชนที่ได้รับประโยชน์และผลกระทบจากโครงการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก โดยมี นายธัชพล กาญจนกูล รองเลขาธิการสายงานพื้นที่และชุมชน สํานักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) คณะผู้บริหารที่เกี่ยวข้องของ สกพอ. และหัวหน้าหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง ร่วมให้ข้อมูลจากนั้น เวลา 13.00 นาฬิกา คณะกรรมการฯ ลงพื้นที่พบปะ เยี่ยมเยียน และพูดคุยกับประชาชนในพื้นที่ชุมชนบ้านแหลมฉบัง เพื่อรับฟังความคิดเห็นเกี่ยวกับโครงการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) พร้อมมอบถุงยังชีพให้กับประชาชน จํานวน 30 ชุด เพื่อเป็นขวัญและกําลังใจ นอกจากนี้ ได้ลงพื้นที่เยี่ยมชมพื้นที่ก่อสร้างท่าเรือแหลมฉบัง ระยะที่ 3 ทั้งนี้ คณะกรรมการฯ จะนําข้อมูล ข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะต่าง ๆ ที่ได้รับฟังในครั้งนี้ นํามาเป็นข้อมูลในการดําเนินการตามหน้าที่และอํานาจของวุฒิสภาต่อไป #สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
3/2/2023
ภาคตะวันออก
ชลบุรี
สวท.ชลบุรี
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230203195143043
null
ชาวเมืองเพชรบุรี ดูหนังกลางแปลง อรรถรสบรรยากาศกลางทุ่ง สนุกทั้งความสุนทรีทางอารมณ์ย้อนยุค ทุกรูปแบบ อาหาร ขนม รำวง ปูเสื่อ ดูหนัง “สันติ-วีณา”
เมื่อเวลา 18.00 น. วันนี้(3 กุมภาพันธ์ 2566) นายธรรมนูญ ศรีวรรธนะ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี หัวหน้าส่วนราชการ ประชาชน ร่วมกิจกรรมฉายหนังกลางแปลงเรื่อง “สันติ-วีณา” ในพื้นที่ลานนาบุญข้าวหอม ตําบลไร่ส้ม อําเภอเมืองเพชรบุรี จังหวัดเพชรบุรี นายธรรมนูญ ศรีวรรธนะ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี เปิดเผยว่า ความตื่นตาตื่นใจของชาวบ้านชุมชนลานนาบุญข้าวหอม ตําบลไร่ส้ม ที่หน่วยงานภาครัฐและชุมชน ได้ผนึกความร่วมมือจัดกิจกรรมฉายหนังกลางแปลง กลางทุ่งนา เรื่อง “สันติ-วีณา” ซึ่งเป็นภาพยนตร์ในอดีตที่ได้รับความนิยม และที่สําคัญฉากสําคัญในเรื่องเป็นการถ่ายทําในพื้นที่จังหวัดเพชรบุรี การจัดฉายหนังกลางแปลง ได้รับความสนใจจากประชาชนและนักท่องเที่ยวที่หลั่งไหลมาดูหนังกลางแปลง ซึ่งได้อรรถรสบรรยากาศกลางทุ่ง สนุกทั้งความสุนทรีทางอารมณ์ย้อนยุค ทุกรูปแบบ มีอาหารคาว หวาน ขนม รําวง ครบเครื่อง กินอาหารไปด้วย ดูหนังกลางแปลงไปด้วย มีทั้งน้ําแข็งบอก หรือไอติมปั่นโบราณ ขนมครกร้อน ๆ กล้วยทอดมันทอด ข้าวหลามเผาแบบภูมิปัญญาโบราณ สําหรับหนังไทยเรื่อง “สันติ-วีณา”เป็นภาพยนตร์ไทยเรื่องยาวเรื่องแรกที่ถ่ายทําด้วยฟิล์มสี 35 มม. สร้างจากบทประพันธ์ของ โรเบิร์ด จี นอร์ท จุดเด่นนอกจากเรื่องราวของความรักแล้ว ยังเป็นการถ่ายทํา ฉากการแสดงวิถีชีวิตในชนบทไทยยังงดงาม ตื่นตา ตื่นใจ สะท้อนถึงความเชื่อทางสังคม ขนบประเพณี ศาสนา และเป็นภาพยนตร์ไทยเรื่องแรกที่ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เสด็จพระราชดําเนินทอดพระเนตรรอบปฐมทัศน์ที่โรงภาพยนตร์เอ็มไพร์ และเป็นภาพยนตร์ไทยเรื่องแรกที่ได้รับรางวัลจากการประกวดนานาชาติ ที่ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ได้รับ 3 รางวัล คือ ถ่ายภาพยอดเยี่ยม ,กํากับศิลป์ยอดเยี่ยม , และรางวัลพิเศษเป็นกล้องถ่ายภาพยนตร์ จากสมาคมผู้สร้างภาพยนตร์แห่งอเมริกา จามรี อนุรัตน์ ประชาสัมพันธ์จังหวัดเพชรบุรี รายงาน#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
3/2/2023
ภาคตะวันตก
เพชรบุรี
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเพชรบุรี
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230204002921092
null
พาณิชย์เพชรบุรี และคณะทำงานฯ ตรวจสอบสต็อกข้าวตามโครงการชดเชยดอกเบี้ยให้ผู้ประกอบการค้าข้าว ปีการผลิต 2565/66
นางสาวจินตะณา ปิ่นสุภา พาณิชย์จังหวัดเพชรบุรี หัวหน้ากลุ่มกํากับและพัฒนาเศรษฐกิจการค้า พร้อมด้วยคณะทํางานตรวจสอบสต็อกข้าวฯ และธนาคารพาณิชย์ ซึ่งมีผู้ได้รับอนุมัติให้เข้าร่วมโครงการ จํานวน 2 ราย ดังนี้ คือ โรงสีทวีรวมมิตร 2 (มูลค่าตั๋วสัญญาใช้เงิน 123 ล้านบาท) ผลการตรวจสอบ มีปริมาณข้าว 11,036.355 ตัน คิดเป็นมูลค่ารวม 137,223,570 บาท ครอบคลุมมูลค่าตั๋วสัญญาใช้เงิน และบริษัทเพชรบุรีอินเตอร์ไรซ์ จํากัด (มูลค่าตั๋วสัญญาใช้เงิน 170 ล้านบาท) ผลการตรวจสอบ มีปริมาณข้าว 22,853.6 ตัน คิดเป็นมูลค่ารวม 322,235,760 บาท ครอบคลุมมูลค่าตั๋วสัญญาใช้เงิน ทั้งนี้ การดําเนินการตรวจสอบปริมาณและมูลค่าข้าวของผู้ได้รับอนุมัติให้เข้าร่วมโครงการชดเชยดอกเบี้ยฯ เป็นมาตรการคู่ขนาน โครงการประกันรายได้เกษตรกรสวท.เพชรบุรี#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
3/2/2023
ภาคตะวันตก
เพชรบุรี
สวท.เพชรบุรี
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230203221455063
null
ชมรม Korat Friend Coffee เตรียมจัดงาน ESAN COFFEE FAIR 2023 มหกรรมเทศกาลงานกาแฟ พร้อมชิมกาแฟหลักแสน
วันนี้ (3 ก.พ. 66) ณ ลานกิจกรรมหน้า Korat Hall ชั้น 4 ศูนย์การค้าเซ็นทรัล โคราช นายสยาม ศิริมงคล ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เป็นประธานแถลงข่าวการจัดงาน ESAN COFFEE FAIR 2023 มหกรรมเทศกาลงานกาแฟ โดยมี นายแพทย์เจษฎ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ และทีมผู้จัด แถลงวัตถุประสงค์การจัดงานในครั้งนี้ พร้อมด้วย คุณสุริยา ตันเจริญ ผู้อํานวยการเขตภาคตะวันออก เซ็นทรัลพัฒนา กล่าวสนับสนุนพื้นที่การจัดงาน มีคุณนิสา ชาภู่พวง ผู้จัดการทั่วไปศูนย์การค้า เซ็นทรัล โคราช ผู้สื่อข่าวและสมาชิกชมรม Korat Friend Coffee ร่วมการแถลงข่าวก่อนจะมีการเปิดตัวชมรม Korat Friend Coffeeนายแพทย์เจษฎ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ เปิดเผยว่า ชมรม Korat Friend Coffee เตรียมจัดมหกรรมสุดยิ่งใหญ่เอาใจคนรักกาแฟ "ESAN COFFEE FAIR 2023" เปิดอาณาจักรเทศกาลงานกาแฟแบบครบวงจรที่สุดระดับประเทศ 27-30 เม.ย.66 เซ็นทรัลโคราช จังหวัดนครราชสีมา ร่วมกับกลุ่มพลังใจโคราช ชมรม Korat Friend Coffee (KFC) และศูนย์การค้าเซ็นทรัลโคราช จัดงาน ESAN COFFEE FAIR 2023 มหกรรมของคนกาแฟสุดยิ่งใหญ่ระดับประเทศ ครั้งแรกในภาคอีสาน รวมพลของคนรักกาแฟ พร้อมทั้งสินค้านวัตกรรมและวัตถุดิบ ตั้งแต่ต้นทางไปจนถึงปลายทางมาจัดแสดงโชว์ อาทิ เมล็ดกาแฟ เครื่องคั่ว เครื่องชง เบเกอรี่ บรรจุภัณฑ์ การออกแบบตกแต่ง รวมถึงสถาบันการเงิน เพิ่มการเข้าถึงกลุ่มคนรักกาแฟและ เพิ่มการขยายฐานลูกค้า ร่วมพบปะลูกค้ากลุ่มเป้าหมายที่เข้าร่วมงานมากกว่า 20,000 คน ตลอด 4 วันเต็ม เชื่อมโยงผู้ผลิต ผู้ประกอบการ ผู้ซื้อและผู้ที่สนใจ โซลูชั่นคาเฟ่แบบครบวงจร พัฒนาต่อยอดและยกระดับธุรกิจร้านกาแฟให้มีคุณภาพครบครันทุกด้านและที่พลาดไม่ได้เลยไฮไลท์ของงานพบกับ King and Queen Of Latte Art ระดับโลก พร้อมกิจกรรมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น การแข่งขันบาริสต้า กิจกรรม Work Shop เสริมองค์ความรู้จากผู้เชี่ยวชาญและเหล่าเซเลบริตี้ในวงการกาแฟ เปิดประสบการณ์ชิมกาแฟพันธุ์หายากก่อนใคร สนุกสนานกับมินิคอนเสิร์ตจากศิลปินชื่อดัง และบูธร้านกาแฟชื่อดังต่างๆ อีกมากมายภายในงาน มาพบกันเริ่ม 27-30 เมษายน 2566 ชั้น 4 KORAT HALL ศูนย์การค้าเซ็นทรัลโคราช ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ Facebook : Esan Coffee Fair 2023 หรือ 095-6100652#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
3/2/2023
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
นครราชสีมา
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนครราชสีมา
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230203223242064
null
พช.โคราช ลงพื้นที่เยี่ยมชมการดำเนินงานของกลุ่มวิสาหกิจชุมชน OTOP บ้านท่าช้าง เขาใหญ่ ตำบลหมูสี อำเภอปากช่อง
วันนี้(3 กุมภาพันธ์ 2566) นางอรุณรัตน์ ชิงชนะ พัฒนาการจังหวัดนครราชสีมา ลงพื้นที่เยี่ยมชมการดําเนินงานของกลุ่มวิสาหกิจชุมชน OTOP บ้านท่าช้าง เขาใหญ่ ตําบลหมูสี อําเภอปากช่อง เพื่อหาแนวทางการส่งเสริม สนับสนุน และขยายผลผลิตภัณฑ์ OTOP และแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศ ให้เป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวทั้งภายในและนอกจังหวัด โดยมี นางสาวพรรณิ ภา ไกรรักษ์ พัฒนาการอําเภอปากช่อง เจ้าหน้าที่พัฒนาชุมชนอําเภอปากช่อง นางชิณพร ณิลังโสประธานเครือข่าย OTOP อําเภอปากช่อง และสมาชิกกลุ่มวิสาหกิจฯ ร่วมให้การต้อนรับ นางผ่องอําไผ สร้อยสระน้อย ประธานกลุ่มวิสาหกิจชุมชน OTOP บ้านท่าช้าง เขาใหญ่ เปิดเผยว่า วิสาหกิจชุมชนบ้านท่าช้าง OTOP เขาใหญ่ เริ่มต้นจากการรวมตัวของกลุ่มแม่บ้านท่าช้าง ตําบลหมูสี มาฝึกอบรมการทําอาหารแปรรูปผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร โดยสถาบันพัฒนาฝีมือแรงงานภาค 5 จังหวัดนครราชสีมา ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากเทศบาลตําบลหมูสี อําเภอปากช่อง เพื่อสร้างรายได้เสริมให้กับกลุ่มแม่บ้านท่าช้าง ทั้งนี้กลุ่มแม่บ้านได้นําผลิตภัณฑ์แปรรูป ได้แก่ น้ําพริกปลาร้า น้ําพริกตาแดงปลาย่าง น้ําเห็ดถั่งเช่าสีทอง ไข่เค็มอินทรีย์ ฯลฯ ไปขอขึ้นทะเบียน OTOP ที่สํานักงานพัฒนาชุมชนอําเภอปากช่อง ภายใต้แบรนด์ เขาใหญ่ฟู้ด และนําไปจําหน่ายที่โรงแรม รีสอร์ท และออกบูธงานต่างๆ ที่การท่องเที่ยวจังหวัดนครราชสีมาให้การสนับสนุน ต่อมาเกษตรอําเภอปากช่องได้แนะนําให้กลุ่มแม่บ้าน ไปจดทะเบียนวิสาหกิจชุมชนบ้านท่าช้าง OTOP เขาใหญ่ เมื่อวันที่ 22 ธันวาคม 2560ต่อมาวิสาหกิจชุมชนบ้านท่าช้างฯ ได้เข้าร่วมกิจกรรมจิตอาสาอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม โดยการพายเรือเก็บขยะในลําตะคอง – น้ําผุดธรรมชาติ ตําบลหมูสี ทําให้ลําตะคอง - น้ําผุดธรรมชาติ สวย สะอาด น้ําใส บรรยากาศดี น่าท่องเที่ยวเป็นอย่างยิ่ง วิสาหกิจชุมชนบ้านท่าช้างฯ จึงได้ขออนุญาตเทศบาลตําบลหมูสี จัดกิจกรรมให้บริการพายเรือคายัคแก่นักท่องเที่ยวที่ลําตะคอง - น้ําผุดธรรมชาติ เพื่อสร้างงานสร้างรายได้ ให้แก่สมาชิกวิสาหกิจชุมชนบ้านท่าช้างฯ และคนในชุมชน ตําบลหมูสี โดยใช้หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง และแบ่งปันรายได้ที่ได้รับให้แก่ชุมชน บ้าน วัด โรงเรียน ในหมู่บ้านท่าช้าง และช่วยเหลือสาธารณะ ประโยชน์ต่างๆ แก่ชุมชนในเขาใหญ่ อําเภอปากช่อง ตลอดมา ซึ่งในปัจจุบัน เทศบาลตําบลหมูสีได้ส่งคณะ อบต. ต่างๆ ทั่วประเทศที่มาศึกษาดูงานที่เทศบาลหมูสีให้มาศึกษาดูงานโรงเรือนแปรรูปอาหาร เพื่อให้ได้มาตรฐาน อย. และการบริหารจัดการของวิสาหกิจชุมชนบ้านท่าช้างฯ อย่างโปร่งใส ตรวจสอบได้ ด้วยระบบการทําบัญชีของกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ ตามโครงการพัฒนาผู้ประกอบการวิสาหกิจชุมชนโอกาสนี้ นางอรุณรัตน์ ชิงชนะ พัฒนาการจังหวัดนครราชสีมา ได้กล่าวชื่นชม ในการบริหารจัดการกลุ่มที่มีความเข้มแข็ง ในการรวมกลุ่ม และพัฒนาผลิตภัณฑ์ OTOP ได้ตรงตามมาตรฐานที่กําหนด พร้อมหาแนวทางในการผลักดันผลิตภัณฑ์ สินค้า ส่งเสริม สนับสนุนในการรวมกลุ่มการจัดตั้งตลาดชุมชน และจัดทําผลิตภัณฑ์ชุมชนที่ผลิตโดยชุมชน ให้มีความหลากหลาย สามารถเป็นของฝาก-ของที่ระลึก ของชุมชม ร่วมกับหน่วยงานภาคีเครือข่าย อีกทั้งได้ให้คําแนะนําการทําการตลาดออนไลน์ การประชาสัมพันธ์แหล่งท่องเที่ยวชุมชน ผ่านช่องทางต่างๆ ให้มีความต่อเนื่อง เพื่อให้เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลายยิ่งขึ้น#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
3/2/2023
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
นครราชสีมา
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนครราชสีมา
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230204002319089
null
เทศบาลตำบลราไวย์ จังหวัดภูเก็ต จัดโครงการหลาดแลเล ประจำปีงบประมาณ 2566 พัฒนาเศรษฐกิจชุมชนในพื้นที่ และร่วมสืบสานวิถีราไวย์
วันนี้ (3 กุมภาพันธ์ 2566) เวลา 18.00 น. นายอรุณ โสฬส นายกเทศมนตรีตําบล คณะผู้บริหาร สมาชิกสภาเทศบาล หัวหน้าส่วนราชการ พนักงานและเจ้าหน้าที่ เทศบาลตําบลราไวย์ จัดโครงการหลาดแลเล ประจําปีงบประมาณ 2566 ระหว่างเดือนกุมภาพันธ์-มีนาคม 2566 ณ บริเวณหน้าหาดราไวย์ ตําบลราไวย์ จังหวัดภูเก็ต โดยได้รับเกียรติจาก นายไพโรจน์ ศรีละมุล นายอําเภอเมืองภูเก็ต พร้อมทั้งกํานันผู้ใหญ่บ้านตําบลราไวย์ กลุ่มองค์กรตําบลราไวย์ ประชาชน และนักท่องเที่ยวเข้าร่วมฯทั้งนี้ งานหลาดแลเล มีการจัดเป็นประจําทุกปี ซึ่งแต่ละครั้งจะได้รับกระแสตอบรับดีมากจากประชาชนทั้งในพื้นที่และนอกพื้นที่รวมทั้งร้านค้าที่เข้าร่วมกิจกรรมฯ ในครั้งนี้เทศบาลตําบลราไวย์ ร่วมกับ มหาวิทยาลัยศิลปากร กําหนดจัดกิจกรรมหลาดแลเล เป็นเวลา 2 เดือน เริ่มตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ ถึงเดือนมีนาคม 2566 โดยจัดทุกวันศุกร์ และวันเสาร์ของสัปดาห์ ภายในบริเวณงานมีการออกร้านจําหน่ายสินค้า อาหารทะเล อาหารพื้นเมือง จํานวนกว่า 120 ร้านค้าโดย วัตถุประสงค์ของการจัดหลาดแลเล เพื่อเพิ่มศักยภาพและพัฒนาเศรษฐกิจชุมชนในพื้นที่ เป็นการส่งเสริมและสร้างรายได้ให้กับประชาชนทั้งในและนอกพื้นที่ตําบลราไวย์ เห็นได้จากการที่ประชาชนหรือกลุ่มต่าง ๆ ในพื้นที่นําสินค้า ผลิตภัณฑ์ของกลุ่มมาวางจําหน่าย ตลอดจนอาหารขึ้นชื่อต่าง ๆ ในจังหวัดภูเก็ต อีกทั้งมีการจัดแสดงสินค้าพื้นเมือง การสาธิตการทําอาหาร ทําขนมพื้นเมืองทุกสัปดาห์ สาธิตการถักอวน การแสดงมวยกาหยง รองเง็ง ที่แสดงให้เห็นถึงอัตลักษณ์ของตําบลราไวย์ ซึ่งเป็นทุนทางวัฒนธรรมมาสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจให้กับประชาชนในพื้นที่และนักท่องเที่ยวได้เลือกซื้อสินค้า พร้อมรับชมการแสดงประกอบกับสถานที่จัดกิจกรรมยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติให้ความสนใจที่จะมาพักผ่อนหย่อนใจ ทําให้เหมาะที่จะจัดกิจกรรมรวมถึงเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวได้อีกทางหนึ่ง#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
3/2/2023
ภาคใต้
ภูเก็ต
สวท.ภูเก็ต
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230204000917082
null
พาณิชย์จังหวัดเพชรบุรี ส่งเสริม ยกระดับสินค้า GI ชมพู่เพชร เพิ่มช่องทางการจำหน่าย ผ่านเพจ สำนักงานพาณิชย์เพชรบุรี และ tiktok ของเด็ดเพชรพาณิชย์
พาณิชย์จังหวัดเพชรบุรี ส่งเสริม ยกระดับสินค้า GI ชมพู่เพชร เพิ่มช่องทางการจําหน่าย ผ่านเพจ สํานักงานพาณิชย์เพชรบุรี และ tiktok ของเด็ดเพชรพาณิชย์ นางสาวจินตะณา ปิ่นสุภา พาณิชย์จังหวัดเพชรบุรี กล่าวว่า สํานักงานพาณิชย์จังหวัดเพชรบุรี โดยกลุ่มส่งเสริมการประกอบธุรกิจการค้าและการตลาด ลงพื้นที่รับสมัครเกษตรกรผู้ปลูกชมพู่เพชรสายรุ้ง ที่ต้องการเข้ารับการตรวจสอบคุณภาพใช้ตราสัญลักษณ์สิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ไทย สินค้า GI "ชมพู่เพชร" ปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 เพื่อให้สินค้าเด่นและมีชื่อเสียงของจังหวัดได้รับความคุ้มครองสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ ดูแลรักษามาตรฐานและสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่สินค้า ณ ตําบลหนองจอก ตําบลท่าไม้รวก และตําบลท่าคอย อําเภอท่ายาง จังหวัดเพชรบุรี โดยสํานักงานพาณิชย์จังหวัดเพชรบุรี มีแผนลงพื้นที่ตรวจสอบควบคุมคุณภาพในช่วงวันที่ 13-17 กุมภาพันธ์ 2566 นอกจากนี้ ได้ลงพื้นที่ประชาสัมพันธ์ชมพู่เพชรให้แก่เกษตรกรผู้ปลูกชมพู่เพชร ในอําเภอท่ายาง จังหวัดเพชรบุรี เพื่อเป็นการส่งเสริมและยกระดับสินค้า GI ชมพู่เพชรในจังหวัดเพชรบุรีให้มีช่องทางการจําหน่ายที่มากขึ้น หากประชาชนสนใจสั่งซื้อสินค้า GI ชมพู่เพชร สามารถเข้าไปกดสั่งซื้อได้ที่แอพพลิเคชั่น Moc agri mart และ tiktok บุญยืน คําเทศ และติดตามการประชาสัมพันธ์ผ่านเพจสํานักงานพาณิชย์เพชรบุรี และ tiktok ของเด็ดเพชรพาณิชย์ สวท.เพชรบุรี/4 ก.พ.66#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
4/2/2023
ภาคตะวันตก
เพชรบุรี
สวท.เพชรบุรี
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230204082648101
null
ตั้งแต่ต้นปี 2566 มีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าไทยกว่า 1.9 ล้านคน
นางสาวไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจําสํานักนายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการรัฐบาลเล่าเรื่อง โดยทีมนารีสโมสร เรื่องสถานการณ์การท่องเที่ยวไทย ว่า หลังสถานการณ์โรคโควิด-19 คลี่คลาย และเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้ามาท่องเที่ยวได้ปกติทําให้ข้อมูลเมื่อวันที่ 28 มกราคมที่ผ่านมามีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย 1,905,560 คน ประเทศที่เดินทางมามากที่สุดประกอบด้วย มาเลเซีย รัสเซีย เกาหลีใต้ อินเดียและจีน โดยนักท่องเที่ยวจีนที่หายไปตั้งแต่ช่วงโควิด 3 ปีที่แล้ว เริ่มเดินทางเข้าไทยและติดอันดับ 1 ใน 5 ของประเทศที่เดินทางมามากที่สุด คาดว่าระยะต่อไปจะมีนักท่องเที่ยวจากจีนเข้าไทยสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากไทยเป็น 1 ใน 20 ประเทศนําร่องที่ทางการจีนเลือกให้ชาวจีนเดินทางมาท่องเที่ยวแบบกรุ๊ปทัวร์ ซึ่งกรุ๊ปทัวร์จากจีนจะเริ่มเดินทางเข้าไทยในวันที่ 6 กุมภาพันธ์นี้ ทั้งนี้ขอประชาชนอย่ากังวลเรื่องการติดเชื้อโรคโควิด เนื่องจากรัฐบาลได้เตรียมแนวทางรับมืออย่างเข้มข้น จากต้นปีจนถึงขณะนี้ผู้ติดเชื้อในประเทศไทยอยู่ในระดับต่ําและมีผู้เสียชีวิตลดลง แม้ตั้งแต่วันที่ 8 มกราคม เป็นต้นมาจะมีนักท่องเที่ยวจีนเดินทางเข้าไทยมากขึ้น ทั้งนี้ตั้งแต่ต้นปีถึงปัจจุบันมีนักท่องเที่ยวจีนเดินทางเข้าไทยกว่า 80,000 คน
4/2/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230204141205160
null
รัฐบาลย้ำ เลื่อนประกาศคุณสมบัติโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐรอบใหม่ออกไปก่อน เพื่อการตรวจสอบที่ถูกต้อง ครบถ้วน
นางสาวไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจําสํานักนายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการรัฐบาลเล่าเรื่อง โดยทีมนารีสโมสร ว่า โครงการลงทะเบียนเพื่อบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ปี 2565 กระทรวงการคลังแจ้งว่ามีความจําเป็นต้องเลื่อนการประกาศรายชื่อผู้ผ่านคุณสมบัติออกไปก่อน จากเดิมที่จะประกาศผลและยืนยันตัวตนกับธนาคารภายในเดือนมกราคม เนื่องจากต้องมีการตรวจสอบคุณสมบัติจากหลายหน่วยงานเพื่อความถูกต้อง ครบถ้วน และจะประกาศผลโดยเร็ว ส่วนผู้ที่ถือบัตรเดิมยังสามารถใช้บัตรเดิมภายใต้วงเงินที่กําหนดจนกว่าจะมีประกาศเปลี่ยนแปลง เมื่อประกาศรายชื่อผู้ผ่านคุณสมบัติตามโครงการใหม่ ผู้ร่วมโครงการทุกคนจะต้องใช้จ่ายผ่านบัตรประจําตัวประชาชนแบบสมาร์ทการ์ดเท่านั้น ส่วนบัตรสวัสดิการเดิมจะถูกยกเลิกไป โดยประชาชนสามารถตรวจสอบได้ 3 ช่องทางคือ เว็บไซต์บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ. mof .go.th หรือตรวจสอบกับหน่วยงานที่ลงทะเบียนไว้ และโทรศัพท์สอบถามสํานักงานปลัดกระทรวงการคลัง 0948589794 หรือสํานักงานเศรษฐกิจการคลัง 022739020 ต่อ 3502 หรือ 0858427102-8 หรือคอลเซ็นเตอร์ 021092345
4/2/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230204183214190
null
รัฐบาล ปรับลดราคาขายปลีกน้ำมันดีเซล 50 สตางค์ต่อลิตร มีผล 15 กุมภาพันธ์นี้
นางสาวไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจําสํานักนายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการรัฐบาลเล่าเรื่อง โดยทีมนารีสโมสร ว่า เมื่อวานที่ 3 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารกองทุนน้ํามันเชื้อเพลิงเห็นชอบปรับลดขายปลีกน้ํามันดีเซลลง 50 สตางค์ต่อลิตร ทําให้ราคาขายปลีกน้ํามันดีเซลอยู่ที่ 34.50 บาท ต่อลิตร มีผลวันที่ 15 กุมภาพันธ์เป็นต้นไป ถือเป็นการปรับลดลงครั้งแรกในรอบ 7 เดือน ของน้ํามันดีเซล โดยกระทรวงพลังงานจะพิจารณสถานการณ์น้ํามันโลก รวมถึงรัฐบาลได้ขยายระยะเวลาการลดภาษีน้ํามันดีเซลลง 5 บาทต่อลิตร เป็นเวลา 4 เดือน ตั้งแต่วันที่ 21 มกราคม - 20 พฤษภาคม 2566 ภาพรวมกองทุนน้ํามันและเชื้อเพลิงมีสภาพคล่องดีขึ้นแล้วจึงได้อนุมัติราคาน้ํามันขายปลีกน้ํามันดีเซลลงเพื่อแบ่งเบาภาระประชาชน รวมถึงผู้ประกอบการขนส่งและหากในระยะต่อไปราคาตลาดโลกลดลงอีกจะปรับตามความเหมาะสมต่อไป
4/2/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230204140742156
null
รัฐบาลเตือนภัย สรรพากรไม่มีนโยบายติดต่อประชาชนผ่านทางโทรศัพท์ หรือให้กดลิ้งค์ใดๆ
นางสาวไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจําสํานักนายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการรัฐบาลเล่าเรื่อง โดยทีมนารีสโมสร ว่า ขณะนี้ไปจนถึงวันที่ 31 มีนาคมนี้ จะเป็นช่วงการยื่นแบบเพื่อเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาปีภาษี 2565 ซึ่งสามารถยื่นผ่านเว็บไซต์กรมสรรพากร หรือสํานักงานสรรพากรพื้นที่ โดยขอเตือนประชาชนระมัดระวังมิจฉาชีพแอบอ้างเรียกเก็บเงินภาษีผ่านการโทรศัพท์ติดต่อเหยื่อและติดต่อทางไลน์ เพื่อส่งลิ้งค์ที่จะสามารถเข้าไปดําเนินการในโทรศัพท์ของเหยื่อได้ โดยยืนยันว่ากรมสรรพากร ไม่มีนโยบายติดต่อประชาชนทางโทรศัพท์ หรือส่ง sms หากประชาชนได้รับการติดต่อให้ขอรายละเอียดไว้และติดต่อผ่านสรรพากรโดยตรงที่สายด่วน 1161 ห้ามกดลิ้งค์ หรือติดตั้งโปรแกรมที่ผู้อื่นส่งให้และไม่กดลิ้งค์ที่มีการส่งต่อกันทางสังคมออนไลน์อย่างเด็ดขาด
4/2/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230204183409191
null
ททท. จัดกิจกรรม Amazing Ruk Rim Lay พบรักนี้ที่ตรัง กระตุ้นเศรษฐกิจการท่องเที่ยวและส่งเสริมการท่องเที่ยวจังหวัดตรังในเดือนแห่งความรัก
กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา โดย การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กําหนดจัดกิจกรรม “AMAZING RUK RIM LAY พบรักนี้ที่ตรัง” ในเดือนแห่งความรัก เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวภายในประเทศ กระตุ้นเศรษฐกิจและกระจายรายได้สู่ชุมชน ฟื้นฟูอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไทย โดยจัดให้มีการแสดงดนตรีจากศิลปินชื่อดัง อาทิ ตู่ ภพธร SEASON FIVE เอิ๊ต ภัทรวี และเบล วริศรา ในวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2566 ณ หาดราชมงคล จังหวัดตรังการจัดงานในครั้งนี้ได้รับความร่วมมือจากจังหวัดตรัง มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย วิทยาเขตตรัง หน่วยงานภาครัฐ และเอกชน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อกระตุ้นให้เกิดการเดินทางของนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างชาติ ต่อยอดเศรษฐกิจสร้างสรรค์ด้วยการใช้ดนตรีเป็นสื่อในกิจกรรมทางการท่องเที่ยว ส่งเสริมภาพลักษณ์ทางการตลาดท่องเที่ยวของจังหวัดตรังในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ 2566 ตลอดจนเเป็นการกระจายรายได้สู่ชุมชนท้องถิ่นและผู้ประกอบการภาคอุตสาหกรรมท่องเที่ยวภายหลังจากสถานการณ์แพร่ระบาดของโรค COVID-19 ได้คลี่คลายและเริ่มฟื้นตัวกลับมา กิจกรรม Amazing Ruk Rim Lay เป็นกิจกรรมดนตรีผสมผสานกับการจัด Installation Art ภายใต้แนวคิด "LOVE ON THE BEACH พบรักนี้ที่ตรัง" ภายในงานจัดให้มีการออกร้านอาหารจากชุมชนท้องถิ่น/Food Truck บริการความอร่อย และกิจกรรมสุดพิเศษ PhotoBooth จุดถ่ายภาพสุดประทับใจบริการฟรี สอดคล้องกับช่วงเวลาการจัดงานในเดือนแห่งความรักเป็นการสร้างบรรยากาศการท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลวันวาเลนไทน์ ตอกย้ําภาพลักษณ์ Love Destination เพื่อสร้างคุณค่าสร้างประสบการณ์ท่องเที่ยวที่มีความหมายให้แก่นักท่องเที่ยวต่อไป ทั้งนี้ สามารถเข้าร่วมชมกิจกรรมได้ฟรีตั้งแต่เวลา 15.00-22.00 น. และติดตามรายละเอียดได้ที่ Facebook Fanpage : 1. Thailand Festival 2. TAT Trang ททท. สํานักงานตรัง 3. เที่ยวใต้ by ททท.#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
4/2/2023
ภาคใต้
ตรัง
สวท.ตรัง
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230204083318105
null
กระทรวงพลังงานเดินหน้าขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศ ดึงดูดการค้าการลงทุนจากนานาประเทศ
นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวในรายงานคุยเรื่องบ้าน คุยเรื่องเมือง คุยทุกเรื่องกับรัฐมนตรี ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย ว่า ในช่วง 3 ปีที่ประเทศไทยเผชิญกับมหาวิกฤติโควิด-19 และการประคับประครองวิกฤติพลังงานจากความขัดแย้งรัสเซีย-ยูเครน กระทั่งสถานการณ์เศรษฐกิจและสถานะทางการเงินปรับตัวดีขึ้น เริ่มมีรายได้จากการท่องเที่ยวและด้านต่างๆ เพิ่มขึ้น เป็นผลมาจากความเข้มแข็งของการวางรากฐานโครงสร้างพื้นฐาน อุตสาหกรรมใหม่และการแก้ไขปัญหาอย่างจริงจัง พร้อมที่จะขยายตลาดการค้าการลงทุน โดยเฉพาะการสนับสนุนอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าและจักรยานยนต์ไฟฟ้าในปีที่ผ่านมาได้มากเกือบ 4 หมื่นคัน พร้อมตั้งเป้าที่จะเป็นฐานการผลิตในภูมิภาคภายใน 2 ปี อีกทั้งยังขยายการดําเนินงานด้าน BCG เพื่อดึงดูดการลงทุนจากต่างชาติจากการที่ไทยได้ประกาศในเวทีโลก มุ่งสู่การเป็นกลางการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของประเทศร้อยละ 40 มุ่งสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน การปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์และด้านอีอีซี ทําให้นานาประเทศให้ความสนใจเข้ามาลงทุนและจัดกิจกรรมไทย ล่าสุดญี่ปุ่นยังได้เลือกไทยในการจัดประชุมสภาธุรกิจด้วย
4/2/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230204183502192
null
รัฐบาล เร่งพัฒนาการค้าการลงทุนภายในประเทศอุตสาหกรรมที่ยั่งยืนรองรับโลกอนาคต
นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวในรายการคุยเรื่องบ้าน คุยเรื่องเมือง คุยทุกเรื่องกับรัฐมนตรี ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย ว่า จากการที่รัฐบาลตั้งเป้าหมายเปลี่ยนโครงสร้างอุตสาหกรรมดั้งเดิมไปสู่โครงสร้างอุุตสาหกรรมที่ยั่งยืนรองรับโลกอนาคตที่เน้นการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และความเป็นกลางทางคาร์บอนของภาคพลังงาน ซึ่งที่ผ่านมาได้มีการพัฒนาระบบโครงสร้างพื้นฐานกลายเป็นจุดแข็งของไทยที่ดึงดูดการค้าการลงทุนได้แล้ว จึงเดินหน้าสร้างกระบวนการลดโลกร้อนที่กําลังเป็นจับตามองจากนานาประเทศ รวมถึงกระแสการเดินทางท่องเที่ยวเชิงนิเวศที่ได้กําลังได้รับความสนใจ โดยจะมีการหารือกับกระทรวงศึกษาธิการในการเพิ่มเติมการเป็นพลเมืองของประชากรโลกในการลดโลกร้อนในหลักสูตรวิชาหน้าที่พลเมือง ส่วนการขยายตลาดต่างประเทศจะส่งเสริมให้เกิดการค้าการลงทุนกับซาอุดีอาระเบียซึ่งเป็นตลาดสําคัญที่สามารถขยายไปยังกลุ่มประเทศแอฟริกาได้ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ยังกล่าวถึงการลงพื้นที่ติดตามการดําเนินนโยบายของรัฐบาลได้เห็นถึงความเปลี่ยนแปลงด้านโครงสร้างพื้นที่และการพัฒนาระบบขนส่งโลจิตสิกอย่างชัดเจน มาตรการช่วยเหลือประชาชนโดยเฉพาะโครงการคนละครึ่งที่ประสบความสําเร็จมีผู้ใช้ได้รับประโยชน์ครอบคลุมทั่วประเทศ ทําให้ผู้ประกอบการรายย่อยมีรายได้ ประชาชนมีความรู้เรื่องดิจิทัลมากขึ้น รวมถึงความสําเร็จของโครงการภูเก็ตแซนบ็อกเป็นต้นแบบในการทําระบบติดตามนักท่องเที่ยวช่วงโควิด-19 ทําให้หลายประเทศมั่นใจที่จะเดินทางมาท่องเที่ยวในไทย
4/2/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230204183550193
null
ททท.พังงาชูแคมเปญ “พังงาวันธรรมดาที่ไม่ธรรมดา” สโลแกน เที่ยวใต้ให้ปังต้องพังงา
นายอุทิศ ลิ่มสกุล ผู้อํานวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยสํานักงานพังงา กล่าวว่า ได้ทําความร่วมมือกับชมรมไทยบริการท่องเที่ยวส่วนภูมิภาคภาคใต้ตอนบน (TTAA Upper south) และสมาคมผู้ประกอบการนําเที่ยวภูเก็ต (PTAA) จัด Agent FAM Trip นําสมาชิกซึ่งเป็นบริษัท นําเที่ยวจํานวน 28 ราย มาสํารวจเส้นทางท่องเที่ยวและทดสอบกิจกรรมท่องเที่ยว พร้อมทั้งพบปะเจรจาธุรกิจกับผู้ประกอบการตัวเมืองพังงาเพื่อเสนอแคมเปญพังงาวันธรรมดาที่ไม่ธรรมดา ชูสโลแกน เที่ยวใต้ให้ปังต้องพังงา เน้นดึงกลุ่มตลาดนักท่องเที่ยวชาวไทยให้พักค้างในพื้นที่อําเภอเมืองพังงาซึ่งมีที่พักทั้งหมด 21 แห่ง รวม 428 ห้อง พร้อมมอบคูปองมูลค่า 100 บาทเพื่อใช้บริการร้านคาเฟ่และมอบส่วนลดค่าอาหาร 250 บาท จํากัด 500 คน โดยดําเนินโครงการระหว่างวันที่ 15 กุมภาพันธ์ ถึง 30 เมษายน 2566โดยในช่วงสถานการณ์โควิด-19 ยอดนักท่องเที่ยวชาวไทยเดินทางเข้าพื้นที่ร้อยละ 70 และนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติอยู่ที่ร้อยละ 30 ซึ่งตัวเลขจะสลับกันในช่วงก่อนโควิดกล่าวคือ ช่วงก่อนโควิด-19 มีตัวเลขนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติร้อยละ 70 และนักท่องเที่ยวชาวไทยอยู่ที่ร้อยละ 30 โครงการพังงาวันธรรมดาที่ไม่ธรรมดาจึงเน้นการทวงตลาดหลักรักษาตลาดไทยและขยายตลาด ติดต่อขอข้อมูลการท่องเที่ยวเพิ่มเติมได้ที่ Facebook : ททท.สํานักงานพังงา : TAT Phangnga Office และ โทร. 097-9923563, 076-413400-2
4/2/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
กรมประชาสัมพันธ์
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230204140427152
null
จังหวัดนครศรีธรรมราชร่วมกับภาคส่วนต่าง ๆ จัดงานเทศกาลดนตรีริมชายหาดอำเภอขนอม "Chang Music Connection presents Khanom Festival 8" เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวในพื้นที่
นายอภินันท์ เผือกผ่อง ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช เปิดเผยว่า งานเทศกาลดนตรี "Chang Music Connection presents Khanom Festival 8" จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 8 ในวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2566 ณ ชายหาดหน้าด่าน อําเภอขนอม จังหวัดนครศรีธรรมราช ซึ่งอําเภอขนอมเป็นอําเภอที่ตั้งอยู่ระหว่างจังหวัดนครศรีธรรมราชและจังหวัดสุราษฎร์ธานี เมื่อนักท่องเที่ยวมาร่วมงานนี้แล้ว ก็สามารถที่จะเดินทางไปท่องเที่ยวต่อได้ใน 2 พื้นที่ โดยมีแหล่งท่องเที่ยวที่สําคัญมากมาย ด้านจังหวัดนครศรีธรรมราชมีการท่องเที่ยวสายมู เช่น สักการะบูชาพระบรมธาตุเจดีย์ วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร ตาไข่วัดเจดีย์ ตาพรานบุญวัดยางใหญ่ พระเจ้าตากสินวัดเขาขุนพนม พ่อท่านคล้ายวาจาสิทธิ์ เป็นต้น นอกจากนี้ ยังมีการท่องเที่ยวสายธรรมชาติ เขา ป่า นา เล ทําให้การท่องเที่ยวครบทุกอรรถรส ส่วนชายหาดขนอมนั้นก็มีความสวยงามที่ไม่เป็นรองใครการจัดงาน "Chang Music Connection presents Khanom Festival 8" ในครั้งนี้ ได้มีการดูแลความปลอดภัยทั้งจุดจอดรถและเส้นทางที่จะเดินทางมาท่องเที่ยว เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้รับความสะดวกปลอดภัย มีการบูรณาการความร่วมมือจากเจ้าหน้าที่ตํารวจสถานีตํารวจภูธรขนอม ตํารวจท่องเที่ยวนครศรีธรรมราช และตํารวจตระเวนชายแดน ที่ได้สนับสนุนตํารวจหน่วยเก็บกู้และตรวจสอบระเบิด (EOD) มาสแกนค้นหาวัตถุแปลกปลอมในพื้นที่ เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับพี่น้องประชาชนและนักท่องเที่ยวที่มาร่วมงานนางพิชญ์สินี ทัศนิยม ผู้อํานวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สํานักงานนครศรีธรรมราช กล่าวว่า ต้องขอขอบคุณสมาคมท่องเที่ยวขนอมที่ได้รังสรรค์กิจกรรมดี ๆ ทําให้อําเภอขนอมเป็นจุดหมายปลายทางของการท่องเที่ยวที่มากกว่าการพักผ่อน ในพื้นที่อําเภอขนอมมีการท่องเที่ยวครบทุกสาย ทั้งสายมู สายธรรมชาติ และสายหลงคือหลงรัก โดยมีความเชื่อว่าถ้าใครมาท่องเที่ยวขนอมแล้วได้เจอโลมาสีชมพู ก็แปลว่าได้เจอรักนิรันดร์ เพราะโลมาสีชมพูจะอาศัยอยู่เป็นครอบครัว นอกจากนี้ ยังมีหินแพนเค้กร๊อค หรือ เขาหินพับผ้า ก็จะสื่อความหมายว่าความรักมั่นคงดั่งหินผา และตอบโจทย์การท่องเที่ยวของจังหวัดนครศรีธรรมราช "มานะ มานคร มาหาศรัทธา" พอเข้าสู่เดือนกุมภาพันธ์ก็จะเพิ่ม "มาหารัก" โดย ททท.ได้ส่งเสริมการท่องเที่ยวเชื่อมโยงระหว่างจังหวัดนครศรีธรรมราช จังหวัดสุราษฎร์ธานี และพื้นที่เกาะสมุย โดยก่อนหน้านี้มีการกระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่อําเภอขนอม ด้วยการนํานักท่องเที่ยวจากมาเลเซียเข้าพักในพื้นที่ ภายใต้การนําของ ททท. KL และจะมีนักท่องเที่ยวจากโซนยุโรปเดินทางเข้ามาในช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์ 2566 ด้วยศักยภาพของพื้นที่อําเภอขนอม ที่มีความพร้อมทั้งด้านที่พัก การท่องเที่ยวชุมชน ทําให้เกิดการส่งเสริมการท่องเที่ยวในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง ทําให้นักท่องเที่ยวที่มาเยือนเกิดความประทับใจ "โมเม้นท์ที่ใช่ สร้างได้ไม่ต้องรอ"ซื้อบัตรเข้าร่วมงานเทศกาลดนตรีริมชายหาดอําเภอขนอม "Chang Music Connection presents Khanom Festival 8" ทาง TICKETMELON : https://www.ticketmelon.com/khanomnakhonsri/khanomfestival8 และสมาคมท่องเที่ยวขนอม LINE: @gokhanom https://lin.ee/WTOJ0lg, Facebook: Go Khanom, https://www.facebook.com/khanomnakhonsri/#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
4/2/2023
ภาคใต้
สุราษฎร์ธานี
null
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230204111452128
null
ททท. เปิดรับผู้ประกอบการธุรกิจการท่องเที่ยว เข้าร่วมกิจกรรมเสนอขายด้วยโปรโมชั่นพิเศษผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ LAZADA
นางสาวยุรีพรรณ แสนใจยา ผู้อํานวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สํานักงานลําปาง เปิดเผยว่า การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เชิญชวนผู้ประกอบการธุรกิจการท่องเที่ยวทุกภาคส่วน เข้าร่วมกิจกรรมเสนอขายด้วยโปรโมชั่นพิเศษผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ LAZADA ภายใต้โครงการ 365 วัน มหัศจรรย์เมืองไทยเที่ยวได้ทุกวัน ในส่วนของแคมเปญที่ 3 Wonder Deal ดีลเด็ดกระตุ้นทุกสิ้นเดือน เพื่อเปิดโอกาสทางธุรกิจและเพิ่มช่องทางการขายสินค้าให้แก่สถานประกอบการฯ โดยสมัครได้ถึงวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2566ทั้งนี้ ผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวและผู้ที่สนใจโปรโมชั่นท่องเที่ยวดีลพิเศษ สามารถติดตามรายละเอียดได้ที่เว็บไซต์ tourismthailand.org ,Facebook : Amazing Thailand หรือ TAT Contact Center โทร.1672 Travel Buddy โทร. 02-2505500 ต่อ 1309 หรือ บจก.คอมอาร์ต โทร.0647391699ทั้งนี้ ททท. จัดโครงการ “365 วัน มหัศจรรย์เมืองไทย เที่ยวได้ทุกวัน” ภายใต้แนวคิดหลัก “เที่ยวได้ทุกวันมหัศจรรย์ทั้งปี” สําหรับกระตุ้นตลาดในประเทศ ระยะเวลาโครงการเดือนมกราคม - กันยายน 2566 โดยผนึกกําลังบูรณาการร่วมกับแพลตฟอร์ม e-commerce LAZADA นํานวัตกรรมเข้ามาช่วยกระตุ้นการเดินทางท่องเที่ยวด้วยการเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวได้นําเสนอขายสินค้าและบริการทางการท่องเที่ยว มอบดีลพิเศษสุดแก่นักเดินทาง รวมทั้ง มีแคมเปญย่อยเพื่อกระตุ้นการเดินทางท่องเที่ยวในประเทศตลอดทั้งปี ซึ่งจะช่วยสร้างความเชื่อมั่นของนักท่องเที่ยวภายในประเทศให้กลับคืนมาเร็วที่สุด รวมถึงช่วยเหลือผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวตลาดในประเทศ อาทิ โรงแรม ที่พัก แหล่งท่องเที่ยว ร้านอาหาร สปา ฯลฯ และเป็นแรงจูงใจในการเพิ่มความถี่ในการเดินทางท่องเที่ยว และสร้างรายได้จากการท่องเที่ยวบนพื้นฐานความสมดุลระหว่างเศรษฐกิจสังคมและสิ่งแวดล้อม#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
4/2/2023
ภาคเหนือ
ลำปาง
สวท.ลำปาง
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230204125431136
null
คืบหน้าเราเที่ยวด้วยกันเฟส 5 คาดสร้างรายได้กว่า 10,000 ล้านบาท เริ่ม 8 มีนาคมนี้
นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการ ททท. กล่าวถึงที่ประชุมคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 24 มกราคมที่ผ่านมา มีมติอนุมัติมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจด้านการท่องเที่ยว โครงการ “เราเที่ยวด้วยกัน เฟส 5” ภายใต้งบประมาณ 2,016 ล้านบาท เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจและช่วยเหลือผู้ประกอบการภายในอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ - กันยายน 2566 โดยถือเป็นการผลักดันการสร้างรายได้ทางการท่องเที่ยวให้เป็นไปตามเป้าหมายอยู่ที่ 2.38 ล้านล้านบาท และคาดว่าโครงการดังกล่าว จะสร้างรายได้หมุนเวียนด้านการท่องเที่ยวกว่า 12,539 ล้านบาทนอกจากนี้ ททท. เดินหน้าหารือขั้นตอนการดําเนินการ ร่วมกับธนาคารกรุงไทยและได้ข้อสรุปว่า โครงการ “เราเที่ยวด้วยกัน เฟส 5” มีจํานวนสิทธิ์ทั้งสิ้น 560,000 สิทธิ์ โดยยังคงเงื่อนไขรัฐบาลสนับสนุนค่าใช้จ่ายโรงแรม/ที่พักร้อยละ 40 สูงสุด 3,000 บาทต่อห้อง รับสิทธิ์สูงสุด 5 สิทธิ์/ห้อง/คืนต่อคน และสนับสนุนคูปอง E-Voucher 600 บาทต่อวันแต่จะไม่มีการสนับสนุนค่าใช้จ่ายบัตรโดยสารเครื่องบินเหมือนเฟสที่ผ่านมา สําหรับการเปิดระบบรับสมัครผู้ประกอบการโรงแรม/ที่พักรายใหม่เข้าร่วมโครงการฯ กําหนดระหว่างวันที่ 8-15 กุมภาพันธ์นี้ ผ่านเว็บไซต์ เราเที่ยวด้วยกัน.com จากนั้นจะเปิดให้ประชาชนใช้สิทธิเพื่อจองโรงแรม/ที่พักในวันที่ 8 มีนาคม และเริ่มเข้าพักได้ในวันที่ 11 มีนาคม–30 เมษายนนี้
4/2/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230204185702201
null
จังหวัดนครปฐมจัดกิจกรรม พาณิชย์ลดราคาออนทัวร์ ทั่วไทย เพื่อลดภาระค่าครองชีพให้แก่ประชาชน
ที่บริเวณโดมองค์พระปฐมเจดีย์ อําเภอเมือง จังหวัดนครปฐม นายสมเกียรติ พูลสุขเสริม รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม เป็นประธานเปิดโครงการพาณิชย์ลดราคาออนทัวร์ ทั่วไทย โดยกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ จัดขึ้นเพื่อกระตุ้นการค้าภายในประเทศ อีกทั้งเพื่อลดภาระค่าครองชีพให้แก่ประชาชน ตลอดจนเพิ่มช่องทางการจําหน่ายสินค้าให้แก่ผู้ประกอบการและเกษตรกร อาทิ สมาคม ผู้ค้าส่ง Supplier กลุ่มเกษตรกร วิสาหกิจชุมชน SME และ Startup นายพงศ์สุธี สุขศิริ พาณิชย์จังหวัดนครปฐม กล่าวว่า การจัดโครงการดังกล่าว ประกอบด้วย กิจกรรมจัดงานจําหน่ายสินค้า ครั้งที่ 1 ระหว่างวันที่ 3-4 กุมภาพันธ์ 2566 ณ บริเวณองค์พระปฐมเจดีย์ อําเภอเมืองนครปฐม ครั้งที่ 2 ระหว่างวันที่ 10-12 กุมภาพันธ์ 2566 ณ บริเวณตลาดกิเลน อําเภอพุทธมณฑล ครั้งที่ 3 ระหว่างวันที่ 17-19 กุมภาพันธ์ 2566 ณ บริเวณวัดไร่ขิง อําเภอสามพราน อีกทั้งกิจกรรมการส่งเสริมการจําหน่ายสินค้าที่จําเป็นต่อการครองชีพ ได้แก่ หมูสด ราคาไม่เกินกิโลกรัมละ 150 บาท จํานวน 500 กิโลกรัมต่อวัน, ไก่สด ราคาไม่เกินกิโลกรัมละ 60 บาท จํานวน 500 กิโลกรัมต่อวัน, ไข่สด ราคาไม่เกินแผงละ 90 บาท จํานวน 1,000 แผงต่อวัน, น้ํามันพืชปาล์ม ราคาไม่เกินขวดละ 45 บาท จํานวน 1,000 ขวดต่อวัน, น้ําตาลทราย ราคาไม่เกินกิโลกรัมละ 18 บาทจํานวน 1,000 กิโลกรัมต่อวัน, ข้าวสารเจ้า ราคาไม่เกินถุงละ 90 บาท (ถุงละ 5 กิโลกรัม) จํานวน 250 ถุงต่อวัน, ข้าวสารหอม ราคาไม่เกิน 110 บาทต่อถุง (ถุงละ 5 กิโลกรัม) จํานวน 250 ถุงต่อวัน และสินค้าโชว์ห่วย ราคาต่ํากว่าท้องตลาด 5-20% นอกจากนี้ยังมี 5 กลุ่มสินค้า ที่นํามาจําหน่ายได้แก่ สินค้าอาหาร เครื่องดื่ม เสื้อผ้า เครื่องแต่งกาย สินค้าสมุนไพรที่ไม่ใช่อาหาร สินค้าของใช้ในครัวเรือน และสินค้าอื่นๆ อีกมากมาย#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
4/2/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนครปฐม
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230204135508148
null
เดินหน้าขับเคลื่อนระเบียงเศรษฐกิจชายแดนใต้ ยกระดับพื้นที่เมืองชายแดน เชื่อมโยงสร้างงาน สร้างอาชีพ
รองเลขาธิการ ศอ.บต. หารือพัฒนาโจทย์วิจัย “ยกระดับเศรษฐกิจร่วมของพื้นที่เมืองชายแดน” ประจําปีงบประมาณ 2566 ย้ําวิจัยต้องเชื่อมโยงการสร้างงานสร้างอาชีพ ต้องเป็นวิจัยที่ไม่ขึ้นหิ้งวันนี้ (4 ก.พ.2566) นายชนธัญ แสงพุ่ม รองเลขาธิการศูนย์อํานวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) และ นายจักรพงษ์ อภิมหาธรรม ผอ.กองส่งเสริมและสนับสนุนงานพัฒนาฝ่ายพลเรือน (กสพ.) พร้อมเจ้าหน้าที่ ศอ.บต. เข้าร่วมประชุมหารือการพัฒนาโจทย์วิจัย กรอบการวิจัย “การยกระดับเศรษฐกิจร่วมของพื้นที่เมืองชายแดน” ประจําปีงบประมาณ 2566 ร่วมกับ รศ.ดร.ปุ่น เที่ยงบูรณธรรม รองผู้อํานวยการฝ่ายแผนและยุทธศาสตร์องค์กร หน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการพัฒนาระดับพื้นที่ (บพท.) และ รศ.ดร.ธนิต เฉลิมยานนท์ รักษาการรองอธิการบดีฝ่ายวางแผนและการเงิน มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องโดยการประชุมในครั้งนี้ มุ่งเน้นให้เกิดการยกระดับเศรษฐกิจร่วมของพื้นที่ชายแดนที่ไปสู่การเพิ่มมูลค่าการลงทุนในพื้นที่ชายแดน และการยกระดับเมืองและชุมชนชายแดนที่นําไปสู่การพัฒนาคุณภาพชีวิตและลดความเหลื่อมล้ําของคนในพื้นที่ชายแดน โดยเกิดเมืองชายแดนที่ประสบความสําเร็จในการพัฒนาตามเกณฑ์ที่กําหนดโดยใช้ผลงานวิจัย องค์ความรู้ เทคโนโลยีและนวัตกรรมกรอบการวิจัย “การยกระดับเศรษฐกิจร่วมของพื้นที่เมืองชายแดน” ประจําปีงบประมาณ 2566 นี้ ได้วางเป้าหมายการพัฒนาเมืองชายแดนเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตจากการจ้างงาน สร้างรายได้ การสร้างเศรษฐกิจ หมุนเวียนในพื้นที่ชายแดนประเทศไทย โดยการสร้างเศรษฐกิจฐานรากรองรับความเปลี่ยนแปลงการสร้างพื้นที่ เศรษฐกิจพิเศษชายแดนให้เข้มแข็งด้วยการใช้จุดแข็งของพื้นที่ทั้งทรัพยากรพื้นถิ่น ตัวคน กลไกในพื้นที่รวมถึงภูมิ ปัญญาในพื้นที่จึงจําเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีการพัฒนาพื้นที่เมืองชายแดนและยกระดับเศรษฐกิจของเมืองที่ สอดคล้องกับความต้องการของประชาชนในพื้นที่ การยกระดับวิสาหกิจชุมชนและกลุ่มสหกรณ์ การเพิ่มโอกาสให้ เศรษฐกิจฐานราก การสร้างมูลค่า การพัฒนาและปรับใช้ประโยชน์ที่ดินให้มีประสิทธิภาพ การเพิ่มมูลค่าการค้า การลงทุนควบคู่ไปกับการเตรียมรับผลกระทบที่มีต่อประชาชนในพื้นที่ รวมถึงการสนับสนุนการร่วมลงทุนระหว่าง ภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชนในพื้นที่ในโครงการพัฒนารวมถึงกระตุ้นให้เกิดปัจจัยจูงใจให้เกิดการลงทุนจาก ต่างประเทศ เพื่อให้เกิดการลงทุนในพื้นที่อันจะนําไปสู่การพัฒนาคุณภาพชีวิตและการยกระดับด้านพื้นที่เศรษฐกิจ ในพื้นที่ต่อไปเพื่อผลักดันให้เกิดการพัฒนาเมืองแห่งการเรียนในประเทศรองเลขาธิการ ศอ.บต. กล่าวว่า “งานวิจัยที่ ศอ.บต. จะร่วมมือกับ บพท. และ ม.อ.ในครั้งนี้จะให้ความสําคัญกับการมีส่วนร่วมของคนในพื้นที่ และงานวิจัยที่เกิดขึ้นในพื้นที่ ไม่อยากให้เป็นงานวิจัยที่ขึ้นหิ้ง แต่อยากให้เป็นงานวิจัยที่สามารถเชื่อมโยงการสร้างงานสร้างอาชีพให้กับคนในพื้นที่ได้ สิ่งที่งานวิจัยต้องศึกษาให้ได้คือ จะทําอย่างไรให้สามารถกระตุ้นคนในพื้นที่ให้ความสําคัญกับเรื่องของการแปรรูปสินค้า ต้องเกิดกลุ่มแปรรูปที่มีมาตรฐานและมีฮาลาล มีความพร้อมในการผลิต สามารถส่งออกไปยังต่างประเทศได้ โดยในระยะสั้น ระยะกลาง วางเป้าหมายในการแก้ไขปัญหาความยากจนให้มีอาชีพให้ได้ ส่วนกรอบระยะยาวอยากให้เกิดอุตสาหกรรมที่เกิดจากการดําเนินการในระยะสั้นระยะกลางและดําเนินการต่อเนื่องไปสู่การดําเนินการในระยะยาว ทั้งนี้ งานวิจัยต้องสามารถเชื่อมโยงงานในลักษณะต้นน้ํา กลางน้ํา ปลายน้ํา และหน่วยงานวิจัยกับหน่วยงานขับเคลื่อนต้องร่วมมือกัน เพื่อให้สามารถขับเคลื่อนงานไปได้ เช่นที่ผ่านมา โครงการปูทะเลโลกของ ศอ.บต. ร่วมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสามารถขยายผลไปในเรื่องการท่องเที่ยวในพื้นที่ได้ด้วย”ด้าน รศ.ดร.ปุ่นฯ รอง ผอ.บพท. กล่าวที่ประชุมตอนหนึ่งว่า “การมาประชุมในครั้งนี้ บพท.มีความตั้งใจจะร่วมขับเคลื่อนระเบียงเศรษฐกิจชายแดนใต้ร่วมกับ ศอ.บต. และหน่วยงานต่าง ๆ ในพื้นที่ และเห็นตรงกันกับ ศอ.บต. ในการให้ความสําคัญกับการมีส่วนร่วมของประชาชน โดยให้ประชาชนเป็นตัวตั้งในการศึกษาวิจัย และในระยะแรกวางเป้าหมายในการแก้ไขปัญหาความยากจนให้มีอาชีพให้ได้”#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
4/2/2023
ภาคใต้
ยะลา
สทท.ยะลา
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230204142127170
null
จ.สกลนคร ประชาชนให้ความสนใจเลือกซื้อสินค้าพาณิชย์ลดราคา ออนทัวร์ ทั่วไทย บรรยากาศคึกคัก
ที่สนามมิ่งเมืองสกลนคร อําเภอเมืองสกลนคร จังหวัดสกลนคร ประชาชนต่างทยอยเข้าแถวซื้อสินค้าอุปโภค บริโภค ในงานพาณิชย์ลดราคา ออนทัวร์ ทั่วไทย โดยเฉพาะไข่ไก่ ปกติแผงละ 120 บาท ราคาพิเศษเพียง แผงละ 90 บาท หมูเนื้อแดง กิโลกรัมละ 150 บาท น้ํามันพืชขวดละ 45 บาท ข้าวหอมมะลิถุง 5 กิโลกรัม 110 บาท ข้าวขาว 5% ถุง 5 กิโลกรัม 80 บาท น้ําตาลทรายกิโลกรัมละ 18 บาทนางเกศินี พวงประดิษฐ์ พาณิชย์จังหวัดสกลนคร กล่าวว่า โครงการพาณิชย์ลดราคา ออนทัวร์ ทั่วไทย เดือนกุมภาพันธ์นี้ จังหวัดสกลนคร กําหนดจัดขึ้น 4 ครั้ง ในพื้นที่ 4 อําเภอ โดยครั้งแรกกําหนดจัดระหว่าง 4-6 กุมภาพันธ์ 2566 ที่อําเภอเมืองสกลนคร จําหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคราคาถูกกว่าท้องตลาด นอกจากนี้ ยังเปิดพื้นที่ให้ผู้ประกอบการอาหาร เครื่องดื่ม เสื้อผ้า เครื่องแต่งกาย ของที่ระลึก สินค้าโอทอป สินค้าพื้นเมือง ร่วมจําหน่ายในงานเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจอีกด้วย ได้รับความสนใจจากผู้ประกอบการลงทะเบียนร่วมออกร้านจําหน่ายสินค้ากว่า 100 ราย สําหรับการจัดงานอีก 3 ครั้ง กําหนดจัดที่สนามโรงเรียนอนุบาลโคกศรีสุพรรณ ระหว่าง 10-12 กุมภาพันธ์ 2566 สนามหน้าที่ว่าการอําเภอพรรณานิคม ระหว่าง 16-18 กุมภาพันธ์ 2566 และสนามหน้าที่ว่าการอําเภอวานรนิวาส ระหว่าง 27 กุมภาพันธ์ – 1 มีนาคม 2566#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
4/2/2023
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
สกลนคร
สวท.สกลนคร
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230204152239179
null
จังหวัดแพร่จับมือเอกชน ดัน Soft Power สินค้าเกษตรชุมชนสู่ตลาดออนไลน์
จังหวัดแพร่ โดยสํานักงานพาณิชย์จังหวัดแพร่ นําทีมประกันสังคมจังหวัดแพร่ ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดแพร่ สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยว คปภ.แพร่ เครือข่ายธุรกิจบิสคลับจังหวัดแพร่ และเซลล์แมนจังหวัดแพร่ จัดกิจกรรม "พาณิชย์แพร่...พาชมสวน” นําโดย นางสาวนิติยา พงษ์พานิช รองผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ เยี่ยมชมสวนส้ม สาธิตการทําโกโก้ การจําหน่ายสินค้าชุมชน ณ วังคําฟาร์ม ตําบลวังชิ้น อําเภอวังชิ้น จังหวัดแพร่ พร้อมถ่ายทอดสดเฟซบุ๊กไลฟ์ ผ่าน Facebook Fanpage สํานักงานพาณิชย์จังหวัดแพร่ ในการขยายช่องทางการจําหน่ายด้านตลาดออนไลน์ให้แก่เกษตรกร ผู้ประกอบการการจัดกิจกรรมในครั้งนี้ นางอารีย์ เหลืองหิรัญ พาณิชย์จังหวัดแพร่ กล่าวว่า เป็นการแนะนําแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรพร้อมจัดจําหน่ายสินค้าชุมชน สินค้าเกษตร และสินค้าเกษตรแปรรูป โดยใช้โมเดลเศรษฐกิจสร้างสรรค์ 5 F คือ Food, Film, Fashion, Fighting, Festival นําเสนอ Soft Power ด้านอาหารสินค้าเกษตรของจังหวัดแพร่ เชื่อมโยงการจําหน่ายผ่านช่องทางออนไลน์มาช่วยในการประชาสัมพันธ์สินค้าอัตลักษณ์ของจังหวัด ซึ่งเป็นเครื่องมือสําคัญที่จะช่วยเพิ่มมูลค่าเศรษฐกิจให้แก่เกษตรกรและผู้ประกอบการมีช่องทางการจําหน่ายสินค้าเพิ่มมากขึ้นอีกทางหนึ่ง และยังได้แสดงความพร้อมในการต้อนรับนักท่องเที่ยวเข้ามาเยี่ยมชมถึงแหล่งผลิตสินค้าเกษตร ซึ่งจะเป็นการสร้างรายได้จากการท่องเที่ยวต่อไป#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
4/2/2023
ภาคเหนือ
แพร่
สวท.แพร่
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230204160905184
null
จับกุมผู้ลักลอบขนย้ายมะพร้าวผลแก่นำเข้าจากต่างประเทศ ส่งดำเนินคดีตามกฎหมาย
นายอุดม ศรีสมทรง รองอธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า นําทีมเจ้าหน้าที่สายตรวจ ร่วมกับพาณิชย์จังหวัดชลบุรีและเจ้าหน้าที่ตํารวจตั้งจุดตรวจสอบการขนย้ายสินค้าเกษตร บริเวณท่าเรือแหลมฉบัง พบรถบรรทุกคอนเทรนเนอร์ห้องเย็น จํานวน 5 คัน กระทําความผิดฐานฝ่าฝืนประกาศคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ ฉบับที่ 28 พ.ศ. 2565 เรื่อง การควบคุมการขนย้ายมะพร้าวผลแก่ เนื้อมะพร้าวขาว และเนื้อมะพร้าวแห้งที่นําเข้าจากต่างประเทศ โดยรถบรรทุกดังกล่าวได้ขนย้ายมะพร้าวผลแก่ที่นําเข้าจากประเทศอินโดนีเซียเข้ามาในเขตอําเภอศรีราชา ซึ่งเป็นพื้นที่ควบคุมการขนย้ายมะพร้าวตามกฎหมาย เพื่อนําสินค้าไปส่งยังจังหวัดสมุทรสาคร ปริมาณรวม 152 ตันเศษ ซึ่งไม่มีหนังสืออนุญาตการขนย้ายฯ จึงได้ดําเนินการจับกุมผู้ขับขี่ทั้ง 5 ราย พร้อมนําส่งของกลางให้พนักงานสอบสวนคดีตามกฎหมายต่อไปรองอธิบดีกรมการค้าภายใน ย้ําว่า จะตรวจสอบการนําเข้าและการขนย้ายสินค้าเกษตรให้มีการปฏิบัติตามกฎหมายโดยเคร่งครัดอย่างต่อเนื่อง พร้อมเน้นย้ําให้ผู้ประกอบการปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด หากพบว่ามีการลักลอบขนย้ายสินค้าเกษตร ต้องระวางโทษสูงสุดจําคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจําทั้งปรับ ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ. 2542 หากพบเห็น หรือทราบเบาะแสสามารถแจ้งได้ที่ สายด่วนกรมการค้าภายใน 1569
4/2/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230204185357194
null
พาณิชย์ลดราคา ออนทัวร์ทั่วไทย LOT21 ช่วยชาวสกลนคร
พาณิชย์ลดราคา ออนทัวร์ทั่วไทย LOT 21 ช็อปสินค้าราคาถูก สินค้าอุปโภคบริโภคนํามาลดราคากว่า 40% แบ่งเบาภาระค่าครองชีพ ช่วยชาวสกลนครวันนี้ (4 ก.พ 66) จังหวัดสกลนคร ร่วมกับ กระทรวงพาณิชย์ โดยสํานักงานพาณิชย์จังหวัดสกลนคร จัดงาน “พาณิชย์...ลดราคา ออนทัวร์ ทั่วไทย” LOT 21? ครั้งที่ 1 ระหว่างวันที่ 4-6 กุมภาพันธ์ 2566 ณ สนามมิ่งเมืองสกลนคร โดยมีนางเกศินี พวงประดิษฐ์ พาณิชย์จังหวัดสกลนคร เป็นประธานในพิธีเปิด มีหัวหน้าส่วนราชการ ภาคเอกชน หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ผู้ประกอบการร้านค้า ร่วมงาน ภายในงานมีการนําสินค้าราคาถูก ผลิตภัณฑ์จากชุมชน อาหารพร้อมทาน สินค้าอุปโภคบริโภคมาจําหน่าย โดยเฉพาะ ไข่ไก่ น้ํามันพืช น้ําตาลทราย ลดราคาถูกกว่าท้องตลาด กว่า 40%นางเกศินี พวงประดิษฐ์ พาณิชย์จังหวัดสกลนคร กล่าวว่า สืบเนื่องจากสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 เริ่มคลี่คลาย และมีการผ่อนปรนมาตรการต่าง ๆ เพื่อให้เศรษฐกิจภายในประเทศฟื้นตัวได้ รัฐบาลได้มีนโยบายในการช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่ประชาชน เพิ่มช่องทางการจําหน่ายสินค้าให้แก่ผู้ประกอบการและเกษตรกร กระทรวงพาณิชย์ จึงได้ดําเนินโครงการ? “พาณิชย์...ลดราคา ออนทัวร์ ทั่วไทย” LOT 21 ขึ้น ซึ่งจังหวัดสกลนคร กําหนดจัด 4 ครั้ง ครั้งที่ 1 วันที่ 4-6 กุมภาพันธ์ ณ สนามมิ่งเมืองอําเภอเมืองสกลนคร ครั้งที่ 2 วันที่ 10-12 กุมภาพันธ์ ณ สนามโรงเรียนอนุบาลโคกศรีสุพรรณ อําเภอโคกศรีสุพรรณ ครั้งที่ 3 วันที่ 16-18 กุมภาพันธ์ ณ สนามหน้าที่ว่าการอําเภอพรรณานิคม ครั้งที่ 4 วันที่ 27 กุมภาพันธ์ - 1 มีนาคม ณ สนามหน้าที่ว่าการอําเภอวานรนิวาส#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
4/2/2023
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
สกลนคร
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสกลนคร
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230204191705211
null
ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ผลักดัน“วนอุทยานเขานางพันธุรัต “ เป็นแหล่งอนุรักษ์ซากดึกดำบรรพ์ของ จังหวัดเพชรบุรี พร้อมเชิญชวน นักท่องเที่ยวเยี่ยมชมความสวยงาม
เมื่อเวลา 14.30 น. วันนี้ (4 กุมภาพันธ์ 2566) นายยุทธพล อังกินันทน์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หัวหน้าส่วนราชการ เจ้าหน้าที่และประชาชนร่วมกิจกรรมเครือข่ายอาสาสมัครพิทักษ์อุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช ณ วนอุทยานเขานางพันธุรัต จังหวัดเพชรบุรี นายยุทธพล อังกินันทน์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เปิดเผยว่า เป็นเรื่องที่น่ายินดีสําหรับจังหวัดเพชรบุรี คือการค้นพบแหล่งซากดึกดําบรรพ์ที่ วนอุทยานเขานางพันธุรัต อ.ชะอํา จ.เพชรบุรี เป็นการค้นพบหลักฐานซากดึกดําบรรพ์ของสิ่งมีชีวิตที่อาศัยอยู่ในทะเลเป็นจํานวนมาก กระจายตัวอยู่ตามก้อนหินปูนที่หลุดและร่วงลงมาตามเชิงเขา ซึ่งได้แก่ ปะการังไครนอยด์หรือพลับพลึงทะเล พร้อมเปลือกหอยต่างๆ จํานวนมาก มีทั้งหอยฝาเดียว หอยสองฝา และกลุ่มหอยตะเกียง คาดว่าน่าจะมีอายุประมาณ 250-270 ล้านปี ทั้งนี้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จึงได้จัดเตรียมพัฒนาพื้นที่วนอุทยานเขานางพันธุรัต จังหวัดเพชรบุรี ให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรณีวิทยา เพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติอีกทางหนึ่งพร้อมเชิญชวน นักท่องเที่ยวเยี่ยมชมความสวยงาม หลังจากนั้นได้มอบบัตรอาสาสมัครพิทักษ์อุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช (อส.อส.) พร้อมทั้งมอบแนวทางการปฏิบัติงานให้กับกลุ่มเครือข่ายอาสาสมัครพิทักษ์อุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ถึงการค้นพบแหล่งซากดึกดําบรรพ์ที่วนอุทยานเขานางพันธุรัตด้วย จามรี อนุรัตน์ ประชาสัมพันธ์จังหวัดเพชรบุรี รายงาน#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
4/2/2023
ภาคตะวันตก
เพชรบุรี
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเพชรบุรี
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230204213147225
null
รอง ผบ.ทบ. เปิดงาน ‘AMAZING THAILAND MUAY THAI FESTIVAL 2023’ ส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงกีฬา สร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจด้วย Soft Power ศิลปะการต่อสู้ประจำชาติ
ช่วงค่ําวันที่ 4 ก.พ.66 ที่อุทยานราชภักดิ์ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ พล.อ.เจริญชัย หินเธาว์ รองผู้บัญชาการทหารบก พร้อมด้วย นายอภิชัย ฉัตรเฉลิมกิจ รองผู้ว่าการด้านสินค้าและธุรกิจท่องเที่ยว การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) นายคมกริช เจริญพัฒนสมบัติ รองผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ร่วมเปิดงาน ‘AMAZING THAILAND MUAY THAI FESTIVAL 2023’ มี พ.อ.ธนพล ภักดีภูมิ เลขานุการบริหารสภามวยโลกมวยไทย นายมัวริซิโอ สุไลมาน ประธานสภามวยโลก WBC ประชาชนและนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาตินับพันคนร่วมพิธี โดยงานดังกล่าวจัดขึ้นเพื่อเผยแพร่มวยไทยมรดกของชาติที่ทั่วโลกให้การยอมรับและส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงกีฬา สร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจด้วย Soft Power จัดขึ้นระหว่างวันที่ 4 - 6 ก.พ.66 ตั้งแต่เวลา 16.00 - 22.00 น. ณ อุทยานราชภักดิ์ อ.หัวหิน ไฮไลท์ภายในงาน คือวันที่ 6 ก.พ.66 มีการแสดงไหว้ครูมวยไทยครั้งยิ่งใหญ่และโชว์แม่ไม้มวยไทยด้วยจํานวนคนที่มากที่สุดในโลกกว่า 5,000 คน นําโดย “บัวขาว” หรือ ร.ท.สมบัติ บัญชาเมฆ เพื่อบันทึกสถิติโลก กินเนสส์ เวิรลด์เรคคอร์ด (Guinness World Records : GWR)นอกจากนี้ ยังมีการแข่งขันมวยไทยชิงแชมป์โลก การแสดงนาฎลีลามวยไทย 4 ภาคสืบทอดมาจากมวยโบราณ ได้แก่ มวยโคราชจากภาคอีสาน มวยลพบุรีจากภาคกลาง มวยไชยาจากภาคใต้ และมวยท่าเสาจากภาคเหนือ กิจกรรมความเชื่อและศรัทธา อาทิ สาธิตการสักยันต์จากอาจารย์สักยันต์ 4 ท่าน ที่มีความเชี่ยวชาญพร้อมอุปกรณ์ที่ได้มาตรฐานและเป็นสมาชิกของสมาคมสักยันต์แห่งประเทศไทย การสาธิตการเขียนยันต์และสอนพันผ้าคาดเชือก การสาธิตการถักมงคลและถักผ้าประเจียด กิจกรรม Interactive เกี่ยวกับมวยไทย การจําหน่ายสินค้าจากสถาบันสอนมวยไทยและสินค้าเกี่ยวกับมวยไทย การจัดกิจกรรมนวดคลายเส้นและนวดแผนไทย แฟชั่นโชว์ชุดมวยไทยจากนายแบบและนางแบบ การแสดงมินิคอนเสิร์ต จึงขอเชิญนักท่องเที่ยวร่วมกิจกรรมงาน Amazing Thailand Muay Thai Festival 2023 โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายที่อุทยานราชภักดิ์#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
4/2/2023
ภาคตะวันตก
ประจวบคีรีขันธ์
สวท.ประจวบคีรีขันธ์
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230204215309228
null
สมาคมกีฬาแห่งจังหวัดจันทบุรี จัดการแข่งขัน Colorful Night Run X Central Chanthaburi
สมาคมกีฬาแห่งจังหวัดจันทบุรี จัดการแข่งขัน Colorful Night Run X Central Chanthaburi เพื่อรณรงค์สร้างกระแสการออกกําลังกายกับประชาชนในจังหวัดจันทบุรี และใกล้เคียง รวมถึงส่งเสริมการท่องเที่ยว เศรษฐกิจ และสร้างภาพลักษณ์ที่ดีแก่จังหวัดจันทบุรีเย็นวันนี้ ( 4 ก.พ.66 ) ที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลจันทบุรี นายสันติ รังษิรุจิ รองผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี เป็นประธานเปิดการแข่งขัน Colorful Night Run X Central Chanthaburi การจัดกิจกรรม Colorful Night Run X Central Chanthaburi งานวิ่งกลางเมืองจันท์ กับสีสันคัลเลอร์ฟูล ยามค่ําคืน ในครั้งนี้ เพื่อรณรงค์สร้างกระแสการออกกําลังกายกับประชาชนในจังหวัดจันทบุรี และใกล้เคียง รวมถึงส่งเสริมการท่องเที่ยว เศรษฐกิจ และสร้างภาพลักษณ์ที่ดีแก่จังหวัดจันทบุรี การจัดการแข่งขันครั้งนี้จัดขึ้นบนพื้นที่แลนมาร์คเมืองจันทบุรี ด้านข้างศูนย์การค้าเซ็นทรัลจันทบุรี เลียบคลองภักดีรําไพ โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดําริลําดับสุดท้าย ที่พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ได้พระราชทานแก่จังหวัดจันทบุรี ยังประโยชน์มหาศาลต่อปวงราษฎร ชาวจังหวัดจันทบุรีให้รอดพ้นจากปัญหาอุทกภัย ปัญหาขาดแคลนน้ําเพื่อการอุปโภคและบริโภคในฤดูแล้ง รวมทั้งอุดหนุนภาคการเกษตร ซึ่งเปรียบดังสายน้ําแห่งชีวิตชาวจันทบุรี กิจกรรม Colorful Night Run X Central Chanthaburi งานวิ่งกลางเมืองจันท์ กับสีสันคัลเลอร์ฟูล ยามค่ําคืน ได้ปิดรับสมัครเรียบร้อย กับยอดนักวิ่งจากทั่วสารทิศร่วม 1,000 คน#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
4/2/2023
ภาคตะวันออก
จันทบุรี
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดจันทบุรี
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230204223409232
null
ตลาดผ้าไหมสุรินทร์ยังคงคึกคัก จัด 118 ครั้ง ยอดจำหน่ายร่วม 100 ล้านบาท ผู้สนใจไปเลือกซื้อได้ทุกเช้าวันเสาร์ หน้าศาลากลางหลังเก่า
นางชุติมา บุญประเสริฐสิทธิ์ ผู้อํานวยการกลุ่มงานสารสนเทศการพัฒนาชุมชน สํานักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดสุรินทร์ เปิดเผยว่า การจัดตลาดนัดผ้าไหมสุรินทร์ ครั้งที่ 118 ณ บริเวณลานกว้างหน้าศาลากลางจังหวัดสุรินทร์ (หลังเก่า) ถนนหลักเมือง อําเภอเมืองสุรินทร์ เมื่อวันเสาร์ที่ 4 กุมภาพันธ์ 2566 ที่ผ่านมา มีผู้ผลิต ผู้ประกอบการ นําผลิตภัณฑ์ผ้าไหม และสินค้า OTOP มาจําหน่าย จํานวน 77 ร้าน ยอดจําหน่ายรวมทั้งสิ้น 1,030,650 บาท ร้านขายดีประจําสัปดาห์นี้ 3 ลําดับแรก ได้แก่ อันดับที่ 1 ร้านลิขิตผ้าไหม อําเภอชุมพลบุรี (ผลิตภัณฑ์ ผ้าไหม) ยอดจําหน่าย 60,000 บาท อันดับที่ 2 ร้านเพลินจารัตน์ อําเภอท่าตูม (ผลิตภัณฑ์ผ้าไหม) ยอดจําหน่าย 40,000 บาท และอันดับที่ 3 กลุ่มทอผ้าไหมบ้านทับมะระ อําเภอลําดวน (ผลิตภัณฑ์ ผ้าไหม) ยอดจําหน่าย 39,000 บาท ซึ่งจากการจัดตลาดนัดผ้าไหมสุรินทร์ตั้งแต่ครั้งที่ 1-118 มียอดจําหน่ายรวมทั้งสิ้น 97,156,944 บาท โดยตนได้เยี่ยมชมผลิตภัณฑ์ผ้าไหม และให้กําลังใจผู้ประกอบการ OTOP ในครั้งนี้ด้วยทั้งนี้ ตลาดนัดผ้าไหมสุรินทร์ จัดทุกวันเสาร์ของสัปดาห์ ตั้งแต่เช้าจนถึง 12.00 น. โดยนายพิจิตร บุญทัน ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ ได้มอบหมายให้สํานักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดสุรินทร์ดําเนินการ เป็นหนึ่งในกิจกรรมลานวัฒนธรรมหน้าศาลากลางจังหวัดสุรินทร์ ได้บูรณาการเชื่อมโยงการจัดตลาดนัดคนไทยยิ้มได้ รวมทั้งช่วยประชาสัมพันธ์ส่งเสริมการขายอย่างต่อเนื่อง#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
5/2/2023
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
สุรินทร์
สวท.สุรินทร์
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230205085102271
null
ททท. สำนักงานแม่ฮ่องสอน จัดงาน Maesariang Motocamp Fest 2023 โมเมนต์ที่ใช่สร้างได้ไม่ต้องรอ...ส่งแสงสุดท้ายของฤดูหนาว
ช่วงค่ําวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2566 นายศรัณยู มีทองคํา รองผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน เป็นประธานในพิธีเปิดงาน Maesariang Motocamp Fest 2023 โมเมนต์ที่ใช่สร้างได้ไม่ต้องรอ...ส่งแสงสุดท้ายของฤดูหนาว ณ อําเภอแม่สะเรียง จังหวัดแม่ฮ่องสอน โดยมี ว่าที่ร้อยตรี ภาณุวัฒน์ ขัดนาค ผู้อํานวยการ ททท.สํานักงานแม่ฮ่องสอน กล่าวรายงานการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สํานักงานแม่ฮ่องสอน ได้ดําเนินโครงการ “Maehongson on the road” ด้วยการนําเสนอเส้นทางท่องเที่ยวในรูปแบบของการขับรถเที่ยว สร้างประสบการณ์ทรงคุณค่าแก่ผู้ชื่นชอบในการขับขี่รถประเภทต่างๆ ทั้งรถยนต์และมอเตอร์ไซด์ ซึ่งแม่ฮ่องสอน มีถนนที่คดเคี้ยวและท้าทาย แต่บนความท้าทาย กลับถูกรายล้อมด้วยธรรมชาติที่งดงามชวนให้หลงใหล และงานดังกล่าว ททท. สํานักงานแม่ฮ่องสอน ได้ร่วมกับชมรมส่งเสริมการท่องเที่ยวแม่ฮ่องสอนสายใต้ (แม่สะเรียง แม่ลาน้อย สบเมย) และหน่วยงานภาคีเครือข่ายการท่องเที่ยวทั้งภาครัฐและภาคเอกชน ร่วมจัดกิจกรรมดังกล่าว ภายใต้แนวคิดด้านการจัดการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน ด้วยการนําวัฒนธรรมท้องถิ่นผสมผสานกับยุคปัจจุบัน นําเสนอสู่การรวมตัวกันของกลุ่มผู้ชื่นชอบการขับขี่มอเตอร์ไซด์ในรูปแบบและประสาบการณ์ที่แตกต่างออกไป ซึ่งเป็นการรวมจุดเด่นและเอกลักษณ์สําคัญของอําเภอแม่สะเรียงได้เป็นอย่างดี อาทิ โคมแม่สะเรียง ร้านอาหารถิ่นที่มีชื่อเสียง นอกจากนี้ ยังสอดแทรกแนวคิดด้านสังคมและสิ่งแวดล้อมด้วยการรณรงค์การลดใช้พลาสติกด้วยการใช้วัสดุทดแทน และกิจกรรมช่วยเหลือสังคมในกิจกรรม “รวมพลังชาวไบเกอร์ลดฝุ่น” รวบรวมสิ่งของและเงินบริจาคช่วยเหลือทีมงานไฟป่าแม่สะเรียง เพื่อลดปัญหาหมอกควันในพื้นที่ที่จะเกิดขึ้นในห้วงฤดูร้อนต่อไปโดยมีกลุ่มผู้ขับขี่สองล้อและชาวแค้ปเปอร์ ให้ความสนใจเข้าร่วมงานเป็นจํานวนมากและต่างร่วมแชร์ โมเมนต์ที่ใช่สร้างได้ไม่ต้องรอของความสุขบนประสบการณ์แปลกใหม่ในรูปแบบคอนเสิร์ตชาวร๊อค แต่ถูกจัดวางบนพื้นที่ขนาด 13 ไร่ สุดโรแมนติกของการชม “แสงสุดท้าย” และรายล้อมด้วย บรรยากาศของโคมแม่สะเรียงเอกลักษณ์ท้องถิ่น เป็นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลายถึง “โคมแม่สะเรียง” ที่จะจัดขึ้นในช่วงประเพณีออกพรรษาที่ชาวแม่สะเรียงต่างภาคภูมิใจและสืบทอดมรดกภูมิปัญญาท้องถิ่นหลายชั่วอายุคนงานนี้ นับเป็นการจัดงานครั้งแรกในฐานะชมรมฯ ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดีทั้งจากคนในพื้นที่และกลุ่มนักท่องเที่ยว โดยมีจํานวนผู้เข้าร่วมงานกว่า 1,000 คน แบ่งสัดส่วนเป็นคนในพื้นที่ ร้อยละ 30 คนจากต่างจังหวัด ร้อยละ 70 ยอดการเข้าพักแรมในสถานประกอบการด้านที่พักแรมในอําเภอแม่สะเรียง มีสูงกว่าร้อยละ 95 ส่งผลให้เกิดรายได้จากการท่องเที่ยวไม่น้อยกว่า 1,000,000 บาท#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
5/2/2023
ภาคเหนือ
แม่ฮ่องสอน
สวท.แม่ฮ่องสอน
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230205094339278
null
รัฐบาล ส่งเสริมการพัฒนาเมืองอัจฉริยะ หรือ Smart City ต่อเนื่อง ตั้งเป้าปี 2566 เพิ่มเมืองอัจฉริยะอีก 15 แห่ง
นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจําสํานักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ยินดีที่ในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา (พ.ศ. 2564-2565) มีเมืองที่ผ่านการรับรองตราสัญลักษณ์เป็นเมืองอัจฉริยะ (Smart City) กว่า 30 แห่ง ทุกภูมิภาคทั่วประเทศ ขอบคุณทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันทํางานช่วยพัฒนาเมือง สําหรับการพัฒนาเมืองอัจฉริยะ ถือเป็นหมุดหมายสําคัญของแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 13 ในการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่ทันสมัย เพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการ และการบริหารจัดการเมือง สามารถลดค่าใช้จ่ายและการใช้ทรัพยากร เน้นการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน ช่วงต้นปีที่ผ่านมา นายกรัฐมนตรียังได้เป็นประธานในพิธีมอบตราสัญลักษณ์เมืองอัจฉริยะประเทศไทยประจําปี 2565 แก่ผู้พัฒนาเมืองที่ได้รับการประกาศรับรองเป็นพื้นที่เมืองอัจฉริยะ จํานวน 15 เมือง ซึ่งได้รับการประเมินว่าจะช่วยให้เกิดการลงทุนเพื่อพัฒนาเมืองอัจฉริยะน่าอยู่จากทั้งภาครัฐและภาคเอกชนมูลค่ารวมกว่า 15,000 ล้านบาท ทั้งนี้ในปี 2566 รัฐบาล และสํานักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล หรือดีป้า ตั้งเป้าเพิ่มเมืองอัจฉริยะอีก 15 แห่ง เช่น ในพื้นที่บ้านฉาง จ.ชลบุรี และ พื้นที่เทศบาลในพื้นที่ จ.เชียงใหม่ รวมถึงบางพื้นที่ในกรุงเทพมหานคร ซึ่งจะทําให้มีเมืองอัจฉริยะเพิ่มขึ้นเป็น 45 แห่ง
5/2/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230205111356292
null
หนองคาย ทะเลหมอกกลับมาให้ชมอีกครั้ง
บรรยากาศการท่องเที่ยวตามภูสูงในเขตอําเภอสังคม จังหวัดหนองคาย ยังคงคึกคัก มีนักท่องเที่ยวที่ส่วนใหญ่มาเป็นครอบครัวและกลุ่มเพื่อนเดินทางมาท่องเที่ยวสัมผัสธรรมชาติ ซึ่งก็ไม่ผิดหวัง มีทะเลหมอกเกิดขึ้นหนาแน่น สวยงาม กลับมาให้ได้สัมผัสกันอีกครั้ง เนื่องจากฝนที่ตกก่อนหน้านี้ ส่งผลให้มีความชื้นในอากาศสูงบรรยากาศการท่องเที่ยวในวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ที่จังหวัดหนองคาย โดยเฉพาะตามภูสูงในเขต ต.บ้านม่วง อําเภอสังคม มีนักท่องเที่ยวที่ส่วนใหญ่มากันเป็นครอบครัว และกลุ่มเพื่อนเดินทางมาท่องเที่ยวสัมผัสธรรมชาติกันคึกคักวันนี้นักท่องเที่ยว ที่ขึ้นภูหนองไม่ผิดหวัง มีทะเลหมอกเหนือลําแม่น้ําโขงสองประเทศไทย-ลาว ที่สวยงามกลับมาให้ชมอีกครั้วันนี้นักท่องเที่ยว ที่ขึ้นภูหนองไม่ผิดหวังง เนื่องจากฝนที่ตกก่อนหน้านี้ ส่งผลให้มีความชื้นในอากาศสูง เหมาะสมกับการเกิดทะเลหมอก โดยเฉพาะที่ภูหนองวันนี้ มีเพียงลมพัดเบา ๆ ในช่วงเช้าเกิดทะเลหมอกฟุ้งกระจาย ซึ่งลมที่พัดทําให้หมอกบาง ๆ ไหลผ่านตัวนักท่องเที่ยว สร้างความสดชื่นและเป็นที่ประทับใจของนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก ก่อนที่ช่วงสายจะเป็นทะเลหมอกที่ลอยต่ํา หนาแน่น และสวยงาม ท่ามกลางสภาพอากาศที่เย็นสบาย อุณหภูมิต่ําสุดบนภูสูงอยู่ที่ 18 - 19 องศาเซลเซียส นักท่องเที่ยวได้ขึ้นถ่ายรูปบนสะพานไม้ ที่ยาวที่สุดบนภูสูงในจังหวัดหนองคาย ความยาวกว่า 50 เมตร มีทะเลหมอกเป็นฉากหลังสวยงาม#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
5/2/2023
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
หนองคาย
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดหนองคาย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230205102914284
null
ผู้ว่าราชการจังหวัดอุตรดิตถ์ เผยรายได้จากการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ชุมชนเดือนตุลาคม 2565 - มกราคม 2566 สะสม 452.71 ล้านบาท
นายสมหวัง พ่วงบางโพ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุตรดิตถ์ เปิดเผยว่า จากการทํา MOU กับหน่วยงานภาคี 48 หน่วยงาน เพื่อขับเคลื่อนนโยบายสําคัญ "12 เป้าหมายร่วมจังหวัดอุตรดิตถ์" ด้าน เศรษฐกิจฐานรากเจริญเติบโต เพื่อร่วมกันขับเคลื่อนและบูรณาการร่วมกันในพื้นที่จังหวัดอุตรดิตถ์ อย่างเป็นรูปธรรมในระดับต้นน้ํา กลางน้ํา และปลายน้ํา ได้จัดกิจกรรมส่งเสริมช่องทางการตลาด ทั้งตลาดออฟไลน์ ได้แก่ งานประเพณีต่างๆ ตลาดนัดคนไทยยิ้มได้ ถนนคนเดินอุตรดิตถ์ ศูนย์จําหน่ายสินค้า OTOP และตลาดออนไลน์ ได้แก่ Click ชุมชน, Facebook OTOP อุตรดิตถ์ OTOP TODAY Shopee และ Lazada ทําให้เกิดรายได้จากการจําหน่ายผลิตภัณฑ์ชุมชน (OTOP) เดือน มกราคม 2566 ที่ผ่านมา จํานวน 108 ล้านบาท รายได้สะสม (ต.ค.65 – ม.ค. 66) สะสม 452.71 ล้านบาท จากเป้าหมายปี 2566 จํานวน 2,453,009.45 บาท#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
5/2/2023
ภาคเหนือ
อุตรดิตถ์
สวท.อุตรดิตถ์
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230205104629288
null
อบจ.ลำพูน จัดกิจกรรมวิ่งฮาล์ฟมาราธอน "อบจ.ลำพูน RUN มหัศจรรย์ 106 @ วัดพระพุทธบาทตากผ้า" เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัดลำพูนให้เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลาย
วันนี้ (5 กุมภาพันธ์ 2566) นายวิชัย บุญอุดมพร รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดลําพูน พร้อมด้วย นายชัยภัทร สะคําปัน เลขานายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดลําพูน นายบุญเวทย์ ศรีพวงใจ ผู้เชี่ยวชาญพิเศษ ด้านการส่งเสริมการท่องเที่ยว นายกเทศมนตรีตําบลมะกอก สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดลําพูน เขตอําเภอป่าซาง และเจ้าหน้าที่องค์การบริหารส่วนจังหวัดลําพูน ร่วมเปิดกิจกรรม"อบจ.ลําพูน RUN มหัศจรรย์ 106 @ วัดพระพุทธบาทตากผ้า" โดยมีนักวิ่งมืออาชีพ และผู้ที่รักในการวิ่ง เข้าร่วมกิจกรรมจํานวนกว่า 1,500 คน ณ วัดพระพุทธบาทตากผ้า อ.ป่าซาง จ.ลําพูนสําหรับกิจกรรมดังกล่าว จัดขึ้นตามโครงการส่งเสริมการตลาดและการท่องเที่ยวจังหวัดลําพูน ผ่านกิจกรรมส่งเสริมการตลาดท่องเที่ยวในรูปแบบการท่องเที่ยวเชิงกีฬา (Sport Tourism) เพื่อประชาสัมพันธ์แหล่งท่องเที่ยวของจังหวัดลําพูนให้เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลายนอกจากนั้น ยังเป็นการดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในจังหวัดลําพูนมากขึ้น ทําให้เกิดการกระจายรายได้สู่ชุมชน#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
5/2/2023
ภาคเหนือ
ลำพูน
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดลำพูน
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230205113501300
null
สุดคึกคัก!! คนเที่ยวชมแสงสุดท้ายของฤดูหนาว ในงาน Maesariang Motocamp Fest 2023
เย็นวานนี้ (4 ก.พ. 2566) เวลา 18.00 น. ที่บ้านสวนริมน้ํา อําเภอแม่สะเรียง จังหวัดแม่ฮ่องสอน นายศรัณยู มีทองคํา รองผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน เป็นประธานเปิดงาน Maesariang Motocamp Fest 2023 พร้อมด้วย นายกฤตพล รชตเมธานนท์ นายอําเภอแม่ลาน้อย นายสงกรานต์ นิธิศดํารง ปลัดอาวุโสอําเภอแม่สะเรียง ว่าที่ร้อยตรี ภาณุวัฒน์ ขัดนาค ผู้อํานวยการสํานักงานการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) แม่ฮ่องสอน ว่าที่ร้อยตรี พูนศักดิ์ ดีมั่น นายกเทศมนตรีตําบลแม่สะเรียง พันตํารวจโท วิศรุต โพธิ์เงิน สารวัตรอํานวยการ สภ.แม่สะเรียง นายภานุเดช ไชยสกูล นายกสามคมธึรกิจท่องเที่ยวจังหวัดแม่ฮ่องสอน นายศึกษากร ศุภลักษณ์ ประธานชมรมส่งเสริมการท่องเที่ยวแม่ฮ่องสอนสายใต้ (แม่สะเรียง แม่ลาน้อย สบเมย) นายอิทธิพล อร่ามวงศ์ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 2 ตําบลแม่สะเรียง นายธิตินัย ไทยตรง เจ้าของที่ดินบ้านสวนริมน้ําแม่สะเรียง นายปรีชาชัย มโนวงค์ นายกสมาคมกู้ชีพกู้ภัยแม่สะเรียง และผู้ขับขี่สองล้อและชาวแค้ปเปอร์เข้าร่วมงาน“แม่สะเรียง” จุดหมายปลายทางแรกสู่แม่ฮ่องสอน โมเมนต์ที่ใช่ของผู้ที่รักการเดินทางด้วยสองล้อ คําเล่าลือปากต่อปากถึงจุดแวะพักแรกตลอดการเดินทางคดเคี้ยวลัดเลาะไต่เขา เมืองแม่สะเรียง จึงเป็นค่ําคืนแห่งการพักผ่อน ชิมอาหารอร่อย ๆ มีความสุขบนความเรียบง่ายของวิถีชีวิตที่ไม่พลุกพล่าน คือ จุดสําคัญเล็กๆ ในการก่อเกิดเป็นงาน Maesariang Motocamp Fest 2023 นายศรัณยู มีทองคํา รองผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน กล่าวว่า ปัจจุบันมีการวัดระยะพระอาทิตย์ตกในเส้นเขตแดนตะวันตกสุดแดนสยาม ซึ่งอําเภอแม่สะเรียงเป็นอําเภอที่อยู่สุดเขตแดนตะวันตกของไทย โดยจะเริ่มนับที่อําเภอแม่สะเรียง ตั้งแต่วันที่ 6 มีนาคม 2566 เป็นต้นไป และช่วงต้นกุมภาพันธ์ช่วงเวลาจัดงานถือเป็นช่วงปลายฤดูหนาว ซึ่งเป็นช่วงปลายฤดูกาลท่องเที่ยวของจังหวัดแม่ฮ่องสอน โดยพระอาทิตย์ตกช่วงปลายฤดูหนาว ในบรรยากาศของท้องฟ้าทอแสงเปลี่ยนสี เป็นช่วงเวลาที่สวยงามที่สุด นับเป็นโอกาสอันดีที่ผู้เข้าร่วมงาน ได้มีโมนเมนต์ที่ใช่ร่วมกัน #สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
5/2/2023
ภาคเหนือ
แม่ฮ่องสอน
สวท.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230205115435304
null