NewsTitle
stringlengths
11
31.5k
Detail
stringlengths
9
78.4k
NewsDate
stringlengths
3
5.77k
Region
stringclasses
48 values
Province
stringclasses
99 values
Department
stringclasses
211 values
Link_News
stringlengths
3
903
v
stringclasses
812 values
สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พระราชทานพระราชวโรกาสให้คณะผู้บริหารโครงการหอสังเกตการณ์นิวทริโนไอซ์คิวบ์ สหรัฐอเมริกา เฝ้าทูลละอองพระบาท
วันนี้ 21 มกราคม 2566 เวลา 13 นาฬิกา 27 นาที สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จออก ณ วังสระปทุม พระราชทานพระราชวโรกาสให้ ศาสตราจารย์ไพรัช ธัชยพงษ์ กรรมการและเลขาธิการมูลนิธิเทคโนโลยีสารสนเทศตามพระราชดําริ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี นําคณะผู้บริหารโครงการหอสังเกตการณ์นิวทริโนไอซ์คิวบ์ สหรัฐอเมริกา เฝ้าทูลละอองพระบาท กราบบังคมทูลรายงานความก้าวหน้า และแผนการดําเนินความร่วมมือระหว่างประเทศไทยกับกลุ่มวิจัยไอซ์คิวบ์ในอนาคต สถานีตรวจวัดนิวทริโนไอซ์คิวบ์ หรือไอซ์คิวบ์ ซึ่งตั้งอยู่ใกล้สถานีขั้วโลกใต้อมันด์เซน-สก็อตต์ ในทวีปแอนตาร์ติก สร้างเสร็จเมื่อปี 2553 และมหาวิทยาลัยวิสคอนซิน-แมดิสัน ร่วมกับสถาบันชั้นนําอื่นๆ จัดตั้งหอสังเกตการณ์นิวทริโนในทวีปแอนตาร์กติกา หรือไอซ์คิวบ์ ซึ่งเป็นเครื่องตรวจวัดขนาดใหญ่ที่เกิดจากการร้อยอุปกรณ์ Digital Optical Module ผ่านลวดสตริงจํานวนมาก ฝังลึกลงไปใต้น้ําแข็งเกือบ 3 พันเมตร จากพื้นผิวที่ขั้วโลกใต้ ความรู้ที่ได้จากการสร้างหอสังเกตการณ์และการศึกษาอนุภาค ที่วัดได้จากเครื่องตรวจวัดนั้น จะนํามาซึ่งองค์ความรู้มหาศาลที่มีประโยชน์ต่อมวลมนุษยชาติ ซึ่งประเทศไทย มีความร่วมมือกับไอซ์คิวบ์ ในโครงการนักศึกษาภาคฤดูร้อนและภาคีความร่วมมือพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและกําลังคนที่เกี่ยวข้องกับหอสังเกตการณ์นิวทริโน ในทวีปแอนตาร์กติกา ตามพระราชดําริของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในปี 2565 นอกจากนี้ มหาวิทยาลัยวิสคอนซิน-แมดิสัน ได้ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายทุนแด่สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เพื่อพระราชทานทุนดังกล่าวให้แก่นักศึกษาที่เข้าร่วมโครงการนักศึกษาภาคฤดูร้อนของหอสังเกตการณ์นิวทริโนไอซ์คิวบ์ ณ มหาวิทยาลัยวิสคอนซิน-แมดิสัน สหรัฐอเมริกา ปีละจํานวน 2 ทุน เป็นระยะเวลา 3 ปี เพื่อให้นักศึกษาไทยได้มีโอกาสเข้าร่วมการอบรมเชิงปฏิบัติการด้านซอฟต์แวร์ของไอซ์คิวบ์ และมีโอกาสได้เรียนรู้เรื่องงานวิจัยของหอสังเกตการณ์นิวทริโนไอซ์คิวบ์ในเชิงลึกมากขึ้น สําหรับความมือกับไอซ์คิวบ์ครั้งนี้ ประเทศไทยจะได้รับประโยชน์ด้านการขยายองค์ความรู้เรื่องงานวิจัยทางด้านฟิสิกส์ของนิวทริโน พลังงานสูงจากอวกาศและเครื่องตรวจวัดเชเรนคอฟน้ําแข็ง การพัฒนาวิศวกรรมขุดเจาะน้ําแข็งด้วยการส่งวิศวกรไปเรียนรู้เชิงวิศวกรรมที่มหาวิทยาลัยวิสคอนซิน-แมดิสัน สหรัฐอเมริกา และปฏิบัติภารกิจ ณ ขั้วโลกใต้ รวมถึงการพัฒนาทางด้านอิเล็กทรอนิกส์ FPGA (เอฟ-พี-จี-เอ)ของ Digital Optical Module ในโครงการ IceCube Upgrade หรือการเพิ่มลวดสตริงที่แก่นของเครื่องตรวจวัดที่ขั้วโลกใต้ และ IceCube Gen 2 หรือการขยายขนาดของเครื่องตรวจวัดมากกว่า 10 เท่าจากขนาดปัจจุบันเพื่อเพิ่มศักยภาพในการตรวจวัดนิวทริโนพลังงาน สูงกว่า EeV(อี-อี-วี) ด้วย ข่าวในพระราชสํานัก สทท.
21/1/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230122140740477
null
สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินไปในการพระราชทานเพลิงศพนายจุตินันท์ ภิรมย์ภักดี
เวลา 17 นาฬิกา 37 นาที วันนี้ 21 มกราคม 2566 สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดําเนินไปยังเมรุวัดพระศรีมหาธาตุวรมหาวิหาร เขตบางเขน กรุงเทพมหานคร ในการพระราชทานเพลิงศพนายจุตินันท์ ภิรมย์ภักดี ซึ่งถึงแก่กรรมด้วยโรคมะเร็งต่อมน้ําเหลืองในระบบประสาทส่วนกลาง เมื่อวันที่ 13 กันยายน 2565 สิริอายุ 65 ปี นายจุตินันท์ ภิรมย์ภักดี บิดา-มารดาชื่อนายจํานงค์และคุณหญิงสุภัจฉรี ภิรมย์ภักดี (สกุลเดิม รัตตกุล) เกิดเมื่อวันที่ 9 เมษายน 2500 สําเร็จการศึกษาเศรษฐศาสตรบัณฑิต จากมหาวิทยาลัยบอสตัน รัฐแมสซาชูเสต สหรัฐอเมริกา, บริหารธุรกิจดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์(การเงิน) จากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร และบริหารธุรกิจดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ (การจัดการ) มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร ด้านหน้าที่การงาน นายจุตินันท์ฯ ได้ดํารงตําแหน่งสําคัญต่างๆ อาทิ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จํากัด โดยบริหารงานจนสามารถสร้างความเจริญเติบโตขององค์กร บนพื้นฐานของธรรมาภิบาลควบคู่กับการดูแลสังคม, กรรมการการกีฬาแห่งประเทศไทย, ประธานคณะกรรมการพาราลิมปิกแห่งประเทศไทย เป็นผู้ที่ให้ความสําคัญต่อการพัฒนาวงการกีฬาคนพิการของไทย และผลักดันให้นักกีฬาคนพิการสามารถสร้างผลงานประสบความสําเร็จอยู่แถวหน้าของโลกหลายรายการ รวมทั้งเป็นผู้ผลักดันภาครัฐในการดูแลนักกีฬาอย่างเท่าเทียม ระหว่างนักกีฬาปกติและนักกีฬาคนพิการ และก่อตั้งโครงการสานฝันฮีโร่ เพื่อพัฒนาความสามารถและคุณภาพชีวิต ให้ทหาร ตํารวจที่ทุพพลภาพจากการปฏิบัติหน้าที่ สามารถเข้าร่วมการแข่งขันกีฬาคนพิการจากความมุ่งมั่นตั้งใจทํางานเพื่อสังคม ทําให้ได้รับการประกาศเกียรติคุณให้เป็นผู้บริหารกีฬาดีเด่น (กีฬาคนพิการ) การกีฬาแห่งประเทศไทย กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาประจําปี 2558 ด้านชีวิตครอบครัว สมรสกับหม่อมหลวงปิยาภัสร์ ภิรมย์ภักดี (สกุลเดิม กฤดากร) มีลูกด้วยกัน 3 คน ข่าวในพระราชสํานัก สทท.
21/1/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230122141008479
null
สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก บำเพ็ญพระกุศล เนื่องในวันคล้ายวันสถาปนาวัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม เป็นปีที่ 153
วันนี้ 22 มกราคม 2566 เวลา 9 นาฬิกา สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก เสด็จลงพระวิหาร วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร ทรงบําเพ็ญพระกุศลทักษิณานุประทานถวายสมเด็จพระบูรพมหากษัตริยาธิราชเจ้าผู้ทรงสถาปนาและพระราชทานพระบรมราชูปถัมภ์พระอาราม พร้อมด้วยอดีตเจ้าอาวาส และบูรพาจารย์วัดราชบพิธ เนื่องในอภิลักขิตสมัยคล้ายวันสถาปนาวัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม เป็นปีที่ 153 โอกาสนี้ ประทานพระวโรกาส ให้สมเด็จพระมหาวีรวงศ์ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม เลขานุการสมเด็จพระสังฆราช กรรมการมหาเถรสมาคม เฝ้าถวายจตุปัจจัยไทยธรรม เนื่องในวาระเจริญอายุ 73 ปี และทรงเป็นประธานในพิธี บําเพ็ญกุศลฉลองอายุ ประทานพรและน้ําพระพุทธมนต์แก่สมเด็จพระมหาวีรวงศ์ ในการนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ให้เชิญน้ําสรง ดอกไม้ธูปเทียน พุ่มบัว และผ้าไตรพระราชทาน สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง พร้อมด้วยสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ให้เชิญพุ่มบัว และผ้าไตรพระราชทาน สมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี โปรดให้เชิญพุ่มบัว และผ้าไตรพระราชทาน มาถวายแด่สมเด็จพระมหาวีรวงศ์ เนื่องในวาระเจริญอายุ 73 ปี ด้วย ช่วงบ่าย สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก เสด็จลงพระอุโบสถ วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม ทรงเป็นประธานในพิธีเททองหล่อพระพุทธอังคีรสจําลอง และพระพุทธรูปปางนาคปรกศิลาจําลอง เพื่อเชิญไปประดิษฐานเป็นพระพุทธปฏิมาประธาน ณ สถานปฏิบัติธรรมสมเด็จพระสังฆราช (อมฺพรมหาเถร) (อํา-พะ-ระ-มะ-หา-เถ-ระ) คลองเก้า อําเภอลําลูกกา จังหวัดปทุมธานี ซึ่งสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ประทานพระนโยบายให้ก่อสร้างขึ้นสําหรับเป็นสถานที่บําเพ็ญกุศลและเจริญกรรมฐาน ทั้งนี้ทรงอนุญาตให้มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย ใช้พื้นที่เป็นสถาบันอบรมกรรมฐานของมหาวิทยาลัย โดยประทานนามว่า สถาบันกรรมฐานศึกษาสมเด็จพระสังฆราช (อมฺพรมหาเถร) อนึ่ง สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายกโปรดให้สมเด็จพระมหาวีรวงศ์ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม เลขานุการสมเด็จพระสังฆราช ปฏิบัติแทนพระองค์ในการบวงสรวงก่อนพิธีเททองหล่อพระพุทธปฏิมา ณ ลานหน้าพระอุโบสถ วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม ข่าวในพระราชสํานัก สทท.
22/1/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230124113021939
null
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงประกอบพิธีสังเวยพระป้าย เนื่องในเทศกาลตรุษจีน ประจำปี 2566
วันนี้ 22 มกราคม 2566 เวลา 15 นาฬิกา 27 นาที พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จลงบริเวณด้านหน้าพระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต เขตดุสิต ทรงประกอบพิธีสังเวยพระป้าย เนื่องในเทศกาลตรุษจีน ประจําปี 2566 ในการนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงจุดเทียนทอง เทียนเงิน และธูปที่โต๊ะเครื่องสังเวย แล้วทรงจุดธูปหางแล้วทรงปักที่เครื่องสังเวย สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงจุดธูปหางแล้วทรงปักที่เครื่องสังเวย เสร็จแล้ว ทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยถวายสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ และทรงเผากระดาษเงิน กระดาษทอง พิธีสังเวยพระป้ายคือ การถวายอาหารไหว้บรรพบุรุษตามธรรมเนียมจีน เริ่มตั้งแต่สมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เดิมประกอบพระราชพิธีสังเวยพระป้าย ณ พระที่นั่งเวหาศจํารูญ พระราชวังบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ในวันไหว้ของจีน ส่วนวันตรุษจีน หรือวันขึ้นปีใหม่จีน จะมีการสังเวยพระป้ายที่พระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต โดยพระป้าย หรือที่ชาวจีนเรียกว่า "เกสิน" หมายถึง ป้ายชื่อของบรรพบุรุษ บุพการี ที่ตั้งไว้สําหรับบูชาประจําบ้าน ซึ่งพระป้ายที่พระที่นั่งอัมพรสถาน มีลักษณะเป็นเทวรูปหล่อ ทรงเครื่องกษัตริยาธิราช พระหัตถ์ขวาทรงพระแสงขรรค์ พระหัตถ์ซ้ายจีบเสมอพระอุระ เหมือนกับพระสยามเทวาธิราช แต่พระพักตร์มีลักษณะคล้ายพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระสยามเทวมหามกุฎวิทยมหาราช ประดิษฐานในซุ้มเรือนแก้วแบบเก๋งจีน ทําด้วยไม้จันทน์จําหลักลงรักปิดทอง จารึกพระปรมาภิไธยเป็นอักษรจีน ที่ด้านหลังซุ้มเรือนแก้ว มีฉัตรทอง 5 ชั้น 2 ข้าง ข่าวในพระราชสํานัก สทท.
22/1/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230124113248940
null
สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา เสด็จไปทรงปฏิบัติพระกรณียกิจในพื้นที่จังหวัดสกลนคร
เวลา 14 นาฬิกา 21 นาที วันนี้ 23 มกราคม 2566 สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา เสด็จไปทรงเปิด "อาคารเฉลิมพระเกียรติ 36 พรรษา สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา วิชชาลัยดอนกอยวิถีแห่งการพัฒนาที่ยั่งยืน" ตั้งอยู่ที่ หมู่ 2 บ้านดอนกอย ตําบลสว่าง อําเภอพรรณานิคม จังหวัดสกลนคร ซึ่งกระทรวงมหาดไทย โดยกรมการพัฒนาชุมชน จัดสร้างขึ้นเพื่อเป็นแหล่งรวบรวมภูมิปัญญาเรื่องผ้าทอพื้นเมืองของจังหวัดสกลนคร รวมทั้งเป็นแหล่งถ่ายทอดองค์ความรู้ กระบวนการทอผ้าและการเรียนรู้นวัตกรรมให้แก่ผู้ที่สนใจสามารถนําไปประกอบอาชีพได้ ในการนี้ ทอดพระเนตร การเตรียมเนื้อครามและสาธิตวิธีการย้อมคราม โดยเริ่มตั้งแต่การเก็บต้นครามซึ่งกลุ่มทอผ้าย้อมครามบ้านดอนกอย จะใช้ต้นคราม พันธุ์ฝักงอเป็นหลัก นํามาแช่น้ําไว้ประมาณ 18 ถึง 24 ชั่วโมง ก่อนเข้าสู่กระบวนการกวนคราม และนอนครามเพื่อให้ได้เนื้อคราม สําหรับเป็นวัตถุดิบหลักในการย้อมคราม แล้วเตรียมก่อหม้อย้อมครามด้วยวัตถุดิบจากธรรมชาติ อาทิ เหมือดแอ่เหมือดยาว ที่ช่วยให้สีผ้าติดทน แล้วเข้าสู่กระบวนการย้อม ซึ่งสามารถกําหนดเฉดสีได้ตั้งแต่สีฟ้าอ่อน ถึงสีกรมท่า จากนั้น ทอดพระเนตรต้นแบบตราสัญลักษณ์ดอนกอยโมเดล ซึ่งใช้ภาพหัวใจที่ประกอบขึ้นจากใจด้าย สื่อความรักและความใส่ใจในการสร้างสรรค์ผ้าทอมือที่เป็นภูมิปัญญาท้องถิ่นและใช้สีน้ําเงินเฉดครามเป็นสีของตราสัญลักษณ์ การไลฟ์สดขายสินค้าและผลิตภัณฑ์ของสมาชิก 11 กลุ่ม ในโครงการดอนกอยโมเดลเฟส 3 ผ่านทางเฟซบุ๊กผ้าไทยใส่ให้สนุก และเพจ OTOP สกลละเบ๋อ เป็นการช่วยเพิ่มช่องทางการจําหน่ายสินค้าให้กับชาวบ้านอีกทางหนึ่ง นอกจากนี้ มีการจัดแสดงผลิตภัณฑ์ของกลุ่มสมาชิก อาทิ ผ้าฝ้ายมัดหมี่ย้อมสีธรรมชาติของกลุ่มทอผ้าย้อมครามบ้านคําประมง มีลวดลายที่โดดเด่น ทั้งลายโค้งภูพานและลายกรีบมะเฟือง กลุ่มทอผ้าฝ้ายย้อมสีเปลือกไม้บ้านผักคําภู เป็นผ้าฝ้ายเข็นมือย้อมสีธรรมชาติ ศูนย์เรียนรู้บ้านครามสวลี มีผลิตภัณฑ์ผ้ามัดย้อมและเย็บย้อมจากคราม และสีธรรมชาติ เป็นการสนองพระดําริ เรื่องการนําสีธรรมชาติมาใช้ในการพัฒนาลวดลายให้หลากหลาย ทั้งยังมีนิทรรศการให้ความรู้เกี่ยวกับลายผ้าโบราณชุมชนดอนกอย ผ้าย้อมสีธรรมชาติสีสันจากภูมิปัญญาท้องถิ่น องค์ความรู้เรื่องการย้อมคราม ข้อมูลกลุ่มสมาชิกที่เข้าร่วมโครงการดอนกอยโมเดล ในการนี้ ทรงทดลองทอผ้าด้วยกี่พระราชทาน ในลายต้นกล้วยสลับฟันปลา โดยใช้สีจากใบยูคาลิปตัสในการย้อมผ้า ต่อจากนั้น ทอดพระเนตรกระบวนการเตรียมเส้นใยการทอ เริ่มตั้งแต่การมัดหมี่ โดยใช้เชือกฟางมัดเส้นด้าย เพื่อขึ้นลายก่อนนําไปย้อม ล้าง และตาก สําหรับกระบวนการเตรียมเส้นด้าย ประกอบด้วย การกวัก การค้นหูก สืบหูก และการปั่นหลอด รวมถึงการทอผ้า โดยการเสด็จครั้งนี้ มีผู้ประสานงานสหประชาชาติประจําประเทศไทยร่วมศึกษาดูงานด้วย สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ทรงสืบสาน รักษา ต่อยอด พระราชปณิธานของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ในการบําบัดทุกข์บํารุงสุข พัฒนาคุณภาพชีวิตของราษฎรให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นและสามารถรักษาเอกลักษณ์ภูมิปัญญาไทยให้คงอยู่ ก่อเกิดเป็น "โครงการดอนกอยโมเดล" ที่ทรงมุ่งหวังให้เป็นโครงการกลุ่มทอผ้าต้นแบบ วางรากฐานการพัฒนาคุณภาพการทอผ้าแบบครบวงจร ทั้งคุณภาพของเส้นใย การย้อมสี และการนําไปออกแบบตัดเย็บสู่ท้องตลาดเป็นวงกว้าง โอกาสนี้ ทอดพระเนตรการแสดงรําภูไท ประวัติพรรณานิคมของราษฎร 4 ตําบล ในพื้นที่อําเภอพรรณานิคม จํานวน 90 คน เวลา 16 นาฬิกา 50 นาที เสด็จไปยังวัดป่าสุทธาวาส ตําบลธาตุเชิงชุม อําเภอเมืองสกลนคร ในการนี้ ทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการท้ายที่นั่ง บูชาพระพุทธสุโขทัยธรรมาธิราชองคาพยพศรีอยุธยามหามุนี ซึ่งเป็นพระประธานในอุโบสถ วัดป่าสุทธาวาส ตั้งอยู่ใกล้เทือกเขาภูพาน สร้างขึ้นเมื่อปี 2479 โดยหลวงปู่เสาร์ กันตสีโล ธุดงค์มาพักเป็นรูปแรก ต่อมาผู้มีจิตศรัทธาได้ถวายที่ดินและสร้างกุฏิเป็นที่พักสงฆ์ ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาเมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม 2492 พระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต เคยธุดงค์ไปจําพรรษา และได้มรณภาพที่วัดแห่งนี้ เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน 2492 ปัจจุบันเป็นวัดป่ากลางเมือง เป็นสํานักเรียนของพระภิกษุ-สามเณรในจังหวัดสกลนครและจังหวัดใกล้เคียง ข่าวในพระราชสํานัก สทท.
23/1/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230124113835942
null
สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จออก ณ วังสระปทุม พระราชทานพระราชวโรกาสให้คณะบุคคลต่างๆ เฝ้าทูลละอองพระบาท
วันนี้ 22 มกราคม 2566 เวลา 14 นาฬิกา 28 นาที สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จออก ณ วังสระปทุม พระราชทานพระราชวโรกาสให้คณะบุคคลต่างๆ เฝ้าทูลละอองพระบาท ตามลําดับดังนี้ พันเอกหญิง ท่านผู้หญิงจิตรวดี จุลานนท์ ประธานกรรมการอํานวยการร้านสมเด็จองค์สภานายิกาสภากาชาดไทย นําคณะภริยาองคมนตรี พร้อมด้วยคณะกรรมการและเจ้าหน้าที่ร้านสมเด็จองค์สภานายิกาสภากาชาดไทย เฝ้าทูลละอองพระบาท ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายเงินรายได้จากการออกร้านสมเด็จองค์สภานายิกาสภากาชาดไทย ประจําปี 2565 เพื่อบํารุงสภากาชาดไทย นายขรรค์ ประจวบเหมาะ ผู้อํานวยการสํานักงานจัดหารายได้ สภากาชาดไทย นํานางสาวปภาภรณ์ ชุณหชัชราชัย และครอบครัว เฝ้าทูลละอองพระบาท ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายเงิน สมทบเงินทุนฉุกเฉินเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติ สภากาชาดไทย นายสมชัย เลิศสุทธิวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จํากัด (มหาชน) นําคณะผู้บริหารบริษัทฯ เฝ้าทูลละอองพระบาท กราบบังคมทูลรายงานการจัดการแข่งขันโครงการนําเสนอผลงานวิชาการ "ดิ เอดูเคเตอร์ส ไทยแลนด์" (The Educators Thailand) ประจําปี 2565 ชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีในโอกาสนี้ ครูผู้ได้รับรางวัล "ผู้นําด้านสื่อนวัตกรรม ด้านการเรียนการสอนระดับประเทศ" จากการนําเสนอผลงานฯ เฝ้าทูลละอองพระบาท รับพระราชทานประกาศนียบัตร นางสาวสิริธิดา สมิตะสิริ กรรมการผู้จัดการบริษัท พี. แอนด์ เอส. แบไรท์ ไมน์นิ่ง จํากัด พร้อมด้วยนางธิดาพร สมิตะสิริ ประธานกรรมการบริหารบริษัทฯ และคณะ เฝ้าทูลละอองพระบาท ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายเงิน สมทบทุนมูลนิธิสายใจไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์และน้อมเกล้าน้อมกระหม่อมถวายผลิตภัณฑ์ปรับสภาพดิน เพื่อพระราชทานตามพระราชอัธยาศัย นายยูริ ยาร์วียาโฮ (Mr. Jyri J?rviaho) เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐฟินแลนด์ประจําประเทศไทย เฝ้าทูลละอองพระบาท ในโอกาสเข้ารับหน้าที่ ข่าวในพระราชสํานัก สทท.
23/1/2023
null
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230124114207944
null
พอ.สว.ประจำวันที่ 23 มกราคม 2566 ออกให้บริการประชาชน
พอ.สว.ประจําวันที่ 23 มกราคม 2566 ออกให้บริการประชาชน วันนี้ 23 มกราคม 2566 หน่วยทันตกรรมเคลื่อนที่เพื่อประชาชนด้วยโอกาสฯ พอ.สว. ออกให้บริการประชาชนในพื้นที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน ที่หมู่ 2 ศูนย์การเรียนชุมชนชาวไทยภูเขาบ้านแม่แป ตําบลสันติคีรี อําเภอแม่ลาน้อยขอเชิญชวนประชาชน ในพื้นที่ดังกล่าวไปรับบริการโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ
23/1/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230123123843634
null
สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จออก ณ วังสระปทุม พระราชทานพระราชวโรกาสให้คณะบุคคลต่างๆ เฝ้าทูลละอองพระบาท
วันนี้ 24 มกราคม 2566 เวลา 9 นาฬิกา 30 นาที สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จออก ณ วังสระปทุม พระราชทานพระราชวโรกาสให้ นายขรรค์ ประจวบเหมาะ ผู้อํานวยการสํานักงาน จัดหารายได้ สภากาชาดไทย นําพันตํารวจโท กุลธน ประจวบเหมาะ นายกสมาคมกีฬารักบี้ฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ และคณะ เฝ้าทูลละอองพระบาท ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายเงินรายได้ จากการจัดการแข่งขันกีฬารักบี้ฟุตบอล 15 คน ประเพณี ทหารรวม - พลเรือนรวม ชิงถ้วยพระราชทาน สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เพื่อบํารุงสภากาชาดไทย ข่าวในพระราชสํานัก สทท.
24/1/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230125094619220
null
สมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี ทรงเป็นประธานการประชุมติดตามความก้าวหน้าการดำเนินโครงการมะเร็งตับและท่อน้ำดี ไทเกอร์แอลซี ประจำปี 2566
วันนี้ 24 มกราคม 2566 เวลา 9 นาฬิกา 46 นาที สมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี องค์ประธานสถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ เสด็จไปยังห้องประชุม 1 ศูนย์ประชุมสถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ เขตหลักสี่ กรุงเทพมหานคร ทรงเป็นประธานการประชุมติดตามความก้าวหน้าการดําเนินโครงการมะเร็งตับและท่อน้ําดี Thailand’s Initiative in Genomics and Expression Research for Liver Cancer (ไทยแลนด์ อินิชิเอทีฟ อิน จีโนมิกส์ แอนด์ เอ็กซ์เพรสชั่น รีเสิร์ช ฟอร์ ลิเว่อร์ แคนเซอร์) หรือ TIGER-LC ประจําปี 2566 ซึ่งสถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ จัดขึ้น ระหว่างวันที่ 24-25 มกราคม 2566 เพื่อหาแนวทางช่วยเหลือประชาชนจากโรคมะเร็งตับและท่อน้ําดี ในพื้นที่ ที่มีอุบัติการณ์ของโรคสูง และเพื่อแก้ไขปัญหาสาธารณสุขของประเทศ โดยมีนักวิจัยและผู้เชี่ยวชาญจาก โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ , สถาบันมะเร็งแห่งชาติ สหรัฐอเมริกา , สถาบันมะเร็งแห่งชาติ ประเทศไทย, มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และมหาวิทยาลัยขอนแก่น เข้าร่วม คณะวิจัยจากสถาบันมะเร็งแห่งชาติ สหรัฐอเมริกา รายงานเกี่ยวกับการใช้เทคโนโลยีต่างๆ เพื่อศึกษาโรคมะเร็งตับและท่อน้ําดี ในระดับโมเลกุล เพื่อแยกกลุ่มย่อยของผู้ป่วย ที่จะทําให้เพิ่มประสิทธิภาพในการรักษาได้ดีขึ้น รวมถึงงานวิจัย เรื่องโรคมะเร็ง ในการพัฒนาการรักษาผู้ป่วยโดยใช้ยาแบบมุ่งเป้า ที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการเสื่อมของเซลล์ , การศึกษา Metabolite (เมแทบอไลต์ ) และบทบาทของ Microbiome (ไมโครไบโอม) กับการเกิดโรคมะเร็งและการป้องกันโรคมะเร็งตับในระดับชุมชน อีกทั้งการประชุมได้มีการหารือเกี่ยวกับการวางแผน ขยายผลการดําเนินโครงการฯ เพื่อศึกษาและการเก็บตัวอย่างเบื้องต้น จากผู้ป่วยมะเร็งตับและท่อน้ําดี ในพื้นที่จังหวัดภาคใต้อีกด้วย โครงการมะเร็งตับและท่อน้ําดี (ไทเกอร์-แอลซี) จัดตั้งขึ้นตามพระดําริ ของสมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี ด้วยทรงห่วงใยประชาชนที่ป่วยด้วยมะเร็งตับและท่อน้ําดี ซึ่งเป็นชนิดที่พบมากเป็นอันดับ 1 ของประเทศ และเป็นสาเหตุให้มีผู้เสียชีวิต กว่า 15,000 คน ต่อปี ทั้งนี้ ทรงเห็นความจําเป็นเร่งด่วนที่จะต้องทําการวิจัยเพื่อหาแนวทางในการป้องกัน การตรวจวินิจฉัย พยากรณ์ และการรักษาให้ผู้ป่วยโรคนี้ได้มีชีวิตที่ยืนยาวขึ้น และสามารถใช้ชีวิตได้อย่างปกติ นํามาสู่ความร่วมมือกับสถาบันชั้นนําระดับประเทศและระดับโลก บูรณาการองค์ความรู้ที่จะนําไปสู่การป้องกันและรักษาโรคอย่างมีประสิทธิภาพ ข่าวในพระราชสํานัก สทท.
24/1/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230125094831222
null
สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ทอดพระเนตรผลิตภัณฑ์ผ้าไทยและงานหัตถกรรมชุมชนของผู้ผลิตและผู้ประกอบการ OTOP ในพื้นที่จังหวัดสกลนคร
วันนี้ 24 มกราคม 2566 เวลา 13 นาฬิกา 48 นาที สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา เสด็จไปยังพิพิธภัณฑ์บ้านป้าทุ้ม - ป้าไท้ อําเภอโคกศรีสุพรรณ จังหวัดสกลนคร ซึ่งมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง และราษฎรบ้านหนองแข้ จัดตั้งขึ้นโดยนําบ้านนางไท้ แสงวงค์ มาทําเป็นพิพิธภัณฑ์เพื่อสืบทอดให้คงอยู่เป็นสมบัติของลูกหลานราษฎรบ้านหนองแข้ ส่วนบ้านป้าทุ้ม เป็นหนึ่งในบ้านเรือนที่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เสด็จพระราชดําเนินไปทรงเยี่ยมราษฎรในปี 2521,2523, และ 2525 โดยทรงรับราษฎรบ้านหนองแข้เป็นสมาชิกศิลปาชีพฯ เพื่อให้มีรายได้เสริมจากการทอผ้าและอนุรักษ์ลวดลายผ้าไทย โอกาสนี้ มีพระปฏิสันถารกับนางเหมือย สุพร ลูกสาวป้าทุ้ม พร้อมบุตรหลานป้าทุ้ม-ป้าไท้ แล้วทอดพระเนตรการทอผ้าไหมลายโคมยอดสน ของนางไพบูลย์ ตองตาสี ซึ่งเป็นหลานสาวป้าไท้ และเป็นสมาชิกกลุ่มทอผ้าไหมบ้านหนองแข้ ที่ยังสืบทอดการทอผ้าเป็นอาชีพเสริมสร้างรายได้มาถึงปัจจุบัน สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ทรงเลือกทอผ้าไหมลายโคมยอดสนเป็นลายเดียวกับฉลองพระองค์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง และได้ย้อมสีไหมด้วยสีย้อมธรรมชาติจากเปลือกต้นสะเดาโดยเส้นพุ่งย้อมเปลือกสะเดาแล้วลงน้ําสนิมที่มีอยู่บ่อเดียวในอําเภอโคกสุพรรณช่วยเปลี่ยนสีให้เห็นชัดขึ้น พร้อมกับทอดพระเนตรประวัติความเป็นมาของพิพิธภัณฑ์บ้านป้าทุ้ม-ป้าไท้ และการจัดแสดงฉลองพระองค์ผ้าไหมมัดหมี่ของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง (จําลอง) ซึ่งนางไท้ แสงวงค์ ได้รับพระราชทานมาเป็นต้นแบบอนุรักษ์ลวดลายโบราณ อีกทั้งมีการจัดแสดงลายผ้าต่างๆ เช่น ลายโบราณเครือสองข้อ ลายนกนางแอ่นและลายไอ่คํา จากนั้น ทอดพระเนตรผลิตภัณฑ์ผ้าไทยและงานหัตถกรรมชุมชนของกลุ่มผู้ผลิต ผู้ประกอบการ OTOP ในจังหวัดสกลนครทั้ง 18 อําเภอ อาทิ กลุ่มทอผ้าบ้านกุดจิก อําเภอวานรนิวาส ที่ประกอบอาชีพทอผ้าจําหน่าย มีการทอผ้าต่างๆ ได้แก่ ผ้าขาวม้า ผ้าย้อมคราม ผ้ามัดหมี่และผ้าฝ้าย โดยนําลายผ้าพระราชทาน"ลายขอเจ้าฟ้าสิริวัณณวรีฯ" มาทอผ้าฝ้ายจําหน่ายเป็นผ้าชุดสําหรับตัดเย็บเสื้อผ้า กลุ่มทอผ้ากี่กระตุกบ้านนางัว อําเภอสว่างแดนดิน ซึ่งได้มีการแปรรูปผลิตภัณฑ์ผ้าทอเป็นผ้าพันคอ ผ้าคลุมไหล่ หมวก กระเป๋า ยาม และกลุ่มทอผ้าวงศ์พระจันทร์ อําเภอโพนนาแก้ว ที่คิดค้นสีย้อมธรรมชาติจากดอกดินหรือดอกข้าวก่ําใช้ย้อมผ้าได้เป็นสีม่วงพาสเทล นอกจากนี้ผลิตภัณฑ์ส่วนใหญ่เป็นผลิตภัณฑ์ผ้าย้อมคราม ผลิตภัณฑที่มีชื่อเสียงของจังหวัดสกลนคร ต่อจากนั้น ทรงพระดําเนินไปยังศูนย์แสดง จําหน่าย ออกแบบผลิตภัณฑ์ผ้าคราม ไหมย้อมคราม พระราชทานพระวโรกาสให้กลุ่มทอผ้าและหัตถกรรม 14 กลุ่มเฝ้ารับพระราชทานคําแนะนําในการพัฒนาลายผ้าเพื่อยกระดับผ้าไทยให้มีความร่วมสมัยแต่ยังคงไว้ซึ่งอัตลักษณ์ความเป็นธรรมชาติและการบอกเล่าเรื่องราวประจําถิ่น ให้เป็นที่ยอมรับและความต้องการของตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยมีผู้เชี่ยวชาญด้านผ้าและแฟชั่นแนวหน้าของเมืองไทยไปร่วมให้คําแนะนําและให้คําปรึกษาแก่กลุ่มทอผ้าที่ไปเฝ้ารับเสด็จ ก่อนเสด็จกลับ ได้ทอดพระเนตรการแสดงมนต์เสน่ห์ภูไท เป็นการฟ้อนภูไทซึ่งเป็นการแสดงพื้นเมืองของจังหวัดสกลนคร ข่าวในพระราชสํานัก สทท.
24/1/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230125095247223
null
สมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี ทรงงานวิสัญญีสัตวแพทย์ ณ โรงพยาบาลสัตว์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
วันนี้ 25 มกราคม 2566 เวลา 7 นาฬิกา 28 นาที สมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี เสด็จไปทรงงานวิสัญญีสัตวแพทย์ ร่วมกับทีมสัตวแพทย์ ณ ศูนย์ศัลยกรรมและการผ่าตัดผ่านลํากล้อง ชั้น 2 อาคารเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา บรมราชินีนาถ โรงพยาบาลสัตว์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร เพื่อผ่าตัดทําหมันให้กับสุนัข สายพันธุ์ผสม เพศเมีย อายุ 3 ปี และผ่าตัดเนื้องอกที่หน้าอกและขูดหินปูนให้กับสุนัขพันธุ์ ชิสุห์ เพศเมีย อายุ 6 ปี ในการนี้ ทรงเตรียมอุปกรณ์และเครื่องมือทางสัตวแพทย์ สําหรับการทรงงานวิสัญญีและการผ่าตัดภายในห้องศัลยกรรมปลอดเชื้อ ตามขั้นตอนและมาตรฐานทางสัตวแพทย์ โดยทีมสัตวแพทย์ ทําการเตรียมสุนัขสําหรับการผ่าตัด จากนั้น ทรงให้ยานําสลบผ่านทางหลอดเลือดสุนัขและทรงใช้ยาดมสลบเพื่อคงภาวะการสลบตลอดระยะเวลาการผ่าตัด ทั้งนี้ ทรงติดตามเฝ้าระวังสัญญาณชีพของสุนัขอย่างใกล้ชิด ผ่านจอมอนิเตอร์ที่แสดงผลอัตราการเต้นของหัวใจ อัตราการหายใจ ความดันโลหิต รวมถึงอุณหภูมิของร่างกาย เพื่อทรงประเมินความ ปลอดภัยของสุนัขระหว่างการผ่าตัดให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ สําหรับเนื้องอกในสุนัข สามารถพบได้ร้อยละ 40 ของจํานวนประชากรสุนัขในปัจจุบัน ทั้งนี้ ควรหมั่นสังเกตความผิดปกติของสัตว์เลี้ยง หากพบว่าเป็นเนื้องอกที่ผิวหนัง ควรนําสัตว์เลี้ยงไปตรวจวินิจฉัยอย่างละเอียด เพื่อป้องกันการกลายพันธุ์เป็นมะเร็งในอนาคต หากตรวจพบตั้งแต่ระยะเริ่มต้นก็จะมีโอกาสรักษาให้หายขาดได้ โดยการรักษาจะมุ่งเป้าที่การผ่าตัดและให้เคมีบําบัด รวมถึงการฉายรังสี เป็นการกําจัดเซลล์มะเร็งให้หมดไปจากร่างกายของสัตว์ได้ นอกจากนี้ ในสุนัขเพศเมีย มักจะพบภาวะมดลูกอักเสบ ซึ่งเจ้าของสัตว์เลี้ยงสามารถป้องกันได้ด้วยการนําสุนัขเข้ารับการผ่าตัดทําหมัน ข่าวในพระราชสํานัก สทท.
25/1/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230126104421678
null
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า โปรดกระหม่อม ให้ส่งข้อความพระราชสาส์น อำนวยพรไปยังประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐอินเดีย ในโอกาสวันสาธารณรัฐของสาธารณรัฐอินเดีย ซึ่งตรงกับวันที่ 26 มกราคม 2566
ข้อความพระราชสาส์น มีดังนี้ ฯพณฯ นางเทราปที มุรมู ประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐอินเดีย กรุงนิวเดลี ในโอกาสวันสาธารณรัฐของสาธารณรัฐอินเดีย ข้าพเจ้าขอส่งคําอํานวยพรและความปรารถนาดีด้วยใจจริง เพื่อพลานามัยที่สมบูรณ์และความสุขสวัสดิ์ของท่านประธานาธิบดี ทั้งเพื่อความสําเร็จและความเจริญรุ่งเรืองของประเทศและประชาชนชาวอินเดีย ประเทศไทยและสาธารณรัฐอินเดียมีสัมพันธไมตรีที่ใกล้ชิดสนิทสนมมายาวนาน ตลอด 75 ปีของความสัมพันธ์ทางการทูตที่มีต่อกัน ข้าพเจ้าเชื่อมั่นว่า ด้วยความสัมพันธ์ร่วมมือ ทางวัฒนธรรม ตลอดจนความมุ่งมั่นในการสร้างสันติภาพและความเจริญรุ่งเรืองร่วมกัน ประเทศเราทั้งสองจะยังคงร่วมมือกันเพื่อเสริมสร้างความเป็นหุ้นส่วนและความร่วมมือในทุกๆ ด้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านการค้า การลงทุน การท่องเที่ยว ตลอดจนการแลกเปลี่ยนทางการศึกษาและวัฒนธรรม ให้กระชับแน่นแฟ้น เพื่อประโยชน์สุขยิ่งขึ้นของประเทศและประชาชนทั้งสองฝ่าย พระปรมาภิไธย มหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ข่าวในพระราชสํานัก สทท.
26/1/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230127091830977
null
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า โปรดกระหม่อม ให้ส่งข้อความพระราชสาส์น อำนวยพรไปยังผู้สำเร็จราชการแห่งเครือรัฐออสเตรเลีย ในโอกาสวันออสเตรเลียของเครือรัฐออสเตรเลีย ซึ่งตรงกับวันที่ 26 มกราคม 2566
ข้อความในพระราชสาส์นมีดังนี้ ฯพณฯ พลเอก เดวิด เฮอร์ลีย์ ผู้สําเร็จราชการแห่งเครือรัฐออสเตรเลีย กรุงแคนเบอร์รา ในโอกาสวันออสเตรเลีย ข้าพเจ้าขอแสดงความยินดีด้วยใจจริงและขออํานวยพร ให้ท่านมีพลานามัยสมบูรณ์แข็งแรงและประสบแต่ความสุขสวัสดี ทั้งขอให้ประเทศและประชาชนชาวออสเตรเลียประสบความสําเร็จและเจริญรุ่งเรืองยิ่งขึ้นไป ข้าพเจ้ามีความยินดีที่ได้เห็นความสัมพันธ์อันใกล้ชิดระหว่างประเทศไทยและเครือรัฐออสเตรเลียกระชับแน่นแฟ้นและเจริญงอกงามเสมอมา และเชื่ออย่างแน่แท้ว่า ความสัมพันธ์ฉันมิตรดังกล่าวจะมีส่วนสําคัญช่วยเสริมสร้างความสัมพันธ์ระหว่างประชาชนของประเทศทั้งสองให้แนบแน่นและพัฒนาความร่วมมือระหว่างกันให้เพิ่มพูน โดยเฉพาะอย่างยิ่งความเป็นหุ้นส่วนในด้านการค้า การลงทุน รวมถึงความร่วมมือในการแลกเปลี่ยนด้านการศึกษาและเทคโนโลยี อันจะก่อเกิดประโยชน์สุขร่วมกัน แก่ประเทศและประชาชนทั้งสองฝ่ายสืบไป พระปรมาภิไธย มหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ข่าวในพระราชสํานัก สทท.
26/1/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230127092034978
null
สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจ ดังนี้
วันนี้ 26 มกราคม 2566 เวลา 9 นาฬิกา 22 นาที สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จออก ณ วังสระปทุม พระราชทานพระราชวโรกาสให้ คณะบุคคลต่างๆ เฝ้าทูลละอองพระบาท ตามลําดับดังนี้ นายพฤฒิไกร ไกรพิพัฒน์ ประธานกรรมการมูลนิธิ "ไกรพิพัฒน์"เพื่อการศึกษา นําคณะผู้บริหารโครงการเดิน - วิ่งการกุศล มินิมาราธอน 2562 ชิงถ้วยพระราชทานของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เฝ้าทูลละอองพระบาท ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายเงินรายได้ส่วนหนึ่งจากการจัดการแข่งขันดังกล่าว สมทบทุนมูลนิธิชัยพัฒนา รองศาสตราจารย์สุปรียา ควรเดชะคุปต์ พร้อมครอบครัวเฝ้าทูลละอองพระบาท ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายเงินรายได้จากการทํางานหลังเกษียณอายุราชการโดยเสด็จพระราชกุศลตามพระราชอัธยาศัย นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี นําผู้บริหารราชบัณฑิตยสภาและคณะกรรมการบริหารอินเตอร์แนชันนัล ยูเนียน ออฟ อะคาเดมีส์ เฝ้าทูลละอองพระบาท ในโอกาสที่จะเดินทางมาประชุมคณะกรรมการบริหารองค์กรปราชญ์ระหว่างประเทศ ในฐานะแขกของราชบัณฑิตยสภา เวลา 16 นาฬิกา 19 นาที พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จออกแทนพระองค์ ณ พระที่นั่งจักรีมหาปราสาท พระบรมมหาราชวัง พระราชทานพระราชวโรกาสให้ ศาสตราจารย์ นายแพทย์อภิชาติ อัศวมงคลกุล รองประธานมูลนิธิรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหิดล ในพระบรมราชูปถัมภ์ นําผู้ได้รับพระราชทานรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหิดล ประจําปี 2565 เฝ้าทูลละอองพระบาท รับพระราชทานรางวัล ดังนี้ สาขาการแพทย์ ศาสตราจารย์ นายแพทย์ราล์ฟ เอ. ดีฟรอนโซ ศาสตราจารย์ สาขาวิชาเบาหวาน ภาควิชาอายุรศาสตร์ มหาวิทยาลัยเท็กซัส ซานอันโตนิโอ รัฐเท็กซัส สหรัฐอเมริกา มีผลงานการศึกษากลไกการเกิดโรคเบาหวาน และพิสูจน์ได้ว่า "โรคอ้วน" โดยเฉพาะโรคอ้วนลงพุง ทําให้เกิดการเปลี่ยนแปลงระดับโมเลกุลที่ทําให้เกิดภาวะดื้อต่ออินซูลิน ซึ่งเป็นกลไกสําคัญของการเกิดโรคเบาหวานชนิดที่ 2 รวมถึงพบว่าผู้ป่วยกลุ่มนี้มีการดูดน้ําตาลกลับที่ไตเพิ่มขึ้น ผ่านช่องทางขนส่งร่วมระหว่างเกลือโซเดียมและน้ําตาลกลูโคส การศึกษาดังกล่าว ทําให้ยาเมทฟอร์มิน (metformin) และยาในกลุ่มที่ยับยั้งการดูดกลับน้ําตาลผ่านช่องทางขนส่งร่วมที่ไต เป็นที่ยอมรับ ให้ใช้เป็นยาตัวแรกในการรักษาผู้ป่วยโรคเบาหวานชนิดที่ 2 นอกจากนี้ ยังนําเสนอแนวทางการรักษาโรคเบาหวานแบบเฉพาะบุคคล ซึ่งแนวคิดและผลการศึกษาดังกล่าวได้รับการนําไปใช้ในการศึกษาต่อยอด และเป็นแนวทางที่สําคัญในการป้องกันและรักษาโรคเบาหวานชนิดที่ 2 อย่างแพร่หลายทั่วโลก ส่งผลให้มีจํานวนผู้ป่วยและการเกิดภาวะแทรกซ้อนเรื้อรังลดลงทั่วโลก ทําให้ผู้ป่วยโรคเบาหวานชนิดที่ 2 มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ก่อเกิดประโยชน์ต่อสุขภาพอนามัยและชีวิตผู้ป่วยเบาหวานหลายร้อยล้านคนทั่วโลก สาขาการสาธารณสุข นายแพทย์ดักลาส อาร์. โลวี รองผู้อํานวยการสถาบันมะเร็งแห่งชาติ สถาบันสุขภาพแห่งชาติ สหรัฐอเมริกา ดร.จอห์น ที. ชิลเลอร์ นักวิจัยดีเด่น สถาบันสุขภาพแห่งชาติ และรองหัวหน้าห้องปฏิบัติการมะเร็งระดับเซลล์ สถาบันมะเร็งแห่งชาติ สถาบันสุขภาพแห่งชาติ สหรัฐอเมริกา ศาสตราจารย์ นายแพทย์เอียน เอช. เฟรเซอร์ ศาสตราจารย์เกียรติคุณ มหาวิทยาลัยควีนส์แลนด์ เครือรัฐออสเตรเลีย เนื่องจากศาสตราจารย์ นายแพทย์เอียน เอช. เฟรเซอร์ ไม่สามารถมาเฝ้าทูลละอองพระบาท ได้ จึงพระราชทานพระราชานุญาตให้นางสาวแอนเจลา เจน แม็กดอนัลด์ เอกอัครราชทูตเครือรัฐออสเตรเลียประจําประเทศไทย เฝ้าทูลละอองพระบาท รับพระราชทานรางวัลแทน นายแพทย์ดักลาส อาร์. โลวี และ ดร.จอห์น ที. ชิลเลอร์ ได้ร่วมกันศึกษาวิจัยที่สถาบันมะเร็งแห่งชาติ สถาบันสุขภาพแห่งชาติ สหรัฐอเมริกา และค้นพบว่าโปรตีนหลักของอนุภาคไวรัสของฮิวแมนแปบปิลโลมาไวรัส สามารถประกอบร่างกันได้เองเป็นอนุภาคคล้ายไวรัส (VLP) ซึ่งสามารถกระตุ้นภูมิคุ้มกันต่อต้านฮิวแมนแปบปิลโลมาไวรัสได้ดี ขณะเดียวกัน ศาสตราจารย์ นายแพทย์เอียน เอช. เฟรเซอร์ ได้ค้นพบกลไกการประกอบร่างของอนุภาคคล้ายไวรัสนี้เช่นกันในระหว่างที่ทําการศึกษาวิจัยที่มหาวิทยาลัยควีนส์แลนด์ เครือรัฐออสเตรเลีย การค้นพบนี้นําไปสู่การพัฒนากระบวนการผลิตอนุภาคคล้ายไวรัสจากโปรตีนรีคอมบิแนนท์ ซึ่งนําไปสู่การพัฒนาวัคซีนต่อต้านฮิวแมนแปบปิลโลมาไวรัสที่มีประสิทธิภาพสูง ผลงานดังกล่าว เป็นงานต่อยอดของศาสตราจารย์เกียรติคุณ นายแพทย์ฮารัลด์ ซัวร์ เฮาเซ่น จากสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี ผู้ได้รับพระราชทานรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหิดล สาขาการสาธารณสุข ประจําปี 2548 และรางวัลโนเบล สาขาการแพทย์ ประจําปี 2551 ซึ่งค้นพบเชื้อฮิวแมนแปบปิลโลมาไวรัส (เอชพีวี) ที่เป็นสาเหตุของการเกิดมะเร็งปากมดลูก นําไปสู่การพัฒนาวัคซีนป้องกันฮิวแมนแปบปิลโลมาไวรัส ซึ่งเป็นวัคซีนที่ได้ถูกนําไปใช้อย่างกว้างขวางทั่วโลก และช่วยป้องกันการเกิดมะเร็งปากมดลูก และมะเร็งอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับฮิวแมนแปบปิลโลมาไวรัส และลดการเสียชีวิตได้จํานวนมากมายทั่วโลก ในโอกาสนี้ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พระราชทานพระราชดํารัส ต่อจากนั้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จออกแทนพระองค์ ณ พระที่นั่งบรมราชสถิตยมโหฬาร ในพระบรมมหาราชวัง พระราชทานเลี้ยงอาหารค่ํา แก่ผู้ได้รับพระราชทานรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหิดล ประจําปี 2565 และคู่สมรสฯ สําหรับปีพุทธศักราช 2565 มีผู้ได้รับการเสนอชื่อเข้ารับพระราชทานรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหิดล จํานวน 88 คน จาก 34 ประเทศ คณะกรรมการรางวัลนานาชาติ ได้พิจารณาจากผู้ได้รับการเสนอชื่อรวม 3 ปี คือ ปี 2564, 2563, 2562 และนําเสนอต่อคณะกรรมการมูลนิธิรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหิดลฯ ซึ่งสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงเป็นประธาน พิจารณาตัดสินเป็นขั้นสุดท้าย ข่าวในพระราชสํานัก สทท.
26/1/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230127094354995
null
สมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี ทรงงานวิสัญญีสัตวแพทย์ ณ โรงพยาบาลสัตว์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
วันนี้ 26 มกราคม 2566 เวลา 7 นาฬิกา 50 นาที สมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี เสด็จไปยังอาคารเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา บรมราชินีนาถ โรงพยาบาลสัตว์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร ทรงงานวิสัญญีสัตวแพทย์ ร่วมกับทีมสัตวแพทย์ศูนย์ศัลยกรรมและการผ่าตัดผ่านลํากล้อง ในการผ่าตัดทําหมัน พร้อมกับแก้ไขภาวะไส้เลื่อนที่สะดือ และภาวะทองแดง ให้กับสุนัข พันธุ์ปอมเมอเรเนียน เพศผู้ อายุ 3 ปี ในการนี้ ทรงให้ยานําสลบผ่านทางหลอดเลือดและทรงใช้ยาดมสลบเพื่อคงภาวะการสลบตลอดระยะเวลาการผ่าตัด พร้อมกับทรงติดตามเฝ้าระวังสัญญาณชีพของสุนัขอย่างใกล้ชิด เพื่อทรงประเมินความปลอดภัยของสุนัขระหว่างการผ่าตัด ให้เป็นไปอย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพสูงสุด ภาวะไส้เลื่อนในสุนัข พบได้บ่อยในสุนัขพันธุ์เล็ก ส่วนมากเป็นบริเวณสะดือ,ขาหนีบ,ถุงอัณฑะ และบริเวณข้างทวารหนัก ซึ่งภาวะไส้เลื่อนที่สะดือ มีสาเหตุเกิดจากผนังกล้ามเนื้อบริเวณหน้าท้องตรงตําแหน่งของสะดือ มีช่องว่างเกิดขึ้น ทั้งเป็นมาแต่กําเนิดและเกิดขึ้นภายหลัง เช่น เกิดจากอุบัติเหตุ การถูกกระแทกบริเวณช่องท้อง ทําให้เยื่อไขมันในช่องท้อง หรืออวัยวะภายในช่องท้อง เช่น ลําไส้,ตับ ,ม้าม ลอดผ่านช่องว่างออกมาได้ จนเนื้อเยื่อบริเวณรอบสะดือมีอาการปูดบวม อาการดังกล่าวอาจหายเองได้ในสุนัขที่มีสุขภาพแข็งแรง แต่ในกรณีที่มีอาการรุนแรงต้องทําการผ่าตัดดันอวัยวะที่ลอดออกมากลับเข้าช่องท้อง และเย็บปิดช่องว่างดังกล่าว แต่ในกรณีที่รุนแรง เนื้อเยื่อหรืออวัยวะภายใน ที่ไหลออกมาเกิดการบิดและพันกัน จะทําให้เลือดไม่สามารถไปเลี้ยงอวัยวะส่วนนั้นได้ ก่อให้เกิดเนื้อเยื่อตาย สุนัขจะมีอาการปวด บวม แสบร้อน แดงบริเวณที่มีไส้เลื่อน รวมถึงอาจมีอาการอาเจียน ซึม ไม่กินอาหาร มีไข้ และอาจส่งผลให้เสียชีวิตได้ ดังนั้น หากพบสัตว์เลี้ยงมีอาการดังกล่าว หรือมีลักษณะของสะดือที่ผิดปกติ ควรรีบพาไปพบสัตวแพทย์เพื่อประเมินอาการและรับการรักษาโดยเร็ว ข่าวในพระราชสํานัก สทท.
26/1/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230127094622996
null
สมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี ทรงบรรยายความรู้เรื่องโรคมะเร็ง พระราชทานแก่นักศึกษาระดับปริญญาโทและปริญญาเอก สถาบันบัณฑิตศึกษาจุฬาภรณ์ ปีการศึกษา 2565 เป็นครั้งที่ 3
วันนี้ 26 มกราคม 2566 เวลา 12 นาฬิกา สมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี เสด็จไปยังอาคารสถาบันบัณฑิตศึกษาจุฬาภรณ์ เขตหลักสี่ กรุงเทพมหานคร ทรงบรรยาย เรื่องการเกิดโรคมะเร็ง อองโคจีเนซิส พระราชทานแก่นักศึกษาระดับปริญญาโทและปริญญาเอก ชั้นปีที่ 1 และ 2 สาขาวิชาพิษวิทยาสิ่งแวดล้อมและสาขาวิชาวิทยาศาสตร์ชีวภาพประยุกต์ อนามัยสิ่งแวดล้อม สถาบันบัณฑิตศึกษาจุฬาภรณ์ ปีการศึกษา 2565 เป็นครั้งที่ 3 โอกาสนี้ ทรงบรรยายในหัวข้อ "การควบคุมการเพิ่มจํานวนของเซลล์และการเกิดเซลล์ตาย และ เม-แท-บอ-ลิ-ซึม (Metabolism) ของเซลล์มะเร็ง" โดยทรงบรรยายเกี่ยวกับความสําคัญของวัฏจักรของเซลล์ หรือวงจรการแบ่งตัวของเซลล์ ซึ่งมี 4 ระยะ ในแต่ละระยะจะมีจุดที่ตรวจสอบและควบคุมความถูกต้องและคุณภาพการทํางานของเซลล์ ความสําคัญของกระบวนการส่งสัญญาณเข้าสู่เซลล์ ที่นําไปสู่การตอบสนองของเซลล์ ภาวะที่เซลล์เข้าสู่ความชราภาพหรือเรียกว่า ซีเนสเซนส์และกระบวนการตายที่เรียกว่า อะพอพโตชิส ซึ่งปกติร่างกายจะมีการควบคุมให้มีความสมดุลและเหมาะสม หากเกิดความผิดปกติเกี่ยวกับการควบคุมในระบบเหล่านี้ จะนําไปสู่การเกิดมะเร็งได้ เซลล์มะเร็งมีการแบ่งตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จึงจําเป็นต้องปรับรูปแบบของกระบวนการทางชีววิทยาของเซลล์ ซึ่งประกอบด้วยปฏิกิริยาต่างๆ ที่เกิดขึ้นตามลําดับ เพื่อช่วยรักษาสมดุลในร่างกาย ทําให้เกิดการเปลี่ยนแปลง เพื่อให้นําเข้าสารอาหารเพิ่มมากขึ้น สําหรับนําไปสร้างสารที่จําเป็นรวมถึงพลังงานให้เพียงพอกับความต้องการของเซลล์มะเร็ง โดยความเข้าใจในเรื่องชีววิทยาของเซลล์มะเร็ง ตลอดจนกลไกในแต่ละขั้นตอนหรือกระบวนการเจริญเติบโต การเพิ่มจํานวนเซลล์นั้น จะเป็นพื้นฐานสําคัญที่จะนําไปสู่การพัฒนาวิธีการวินิจฉัยโรคมะเร็ง ตั้งแต่ในระยะเริ่มต้น ไปจนถึงการพัฒนายาและการรักษาที่มีประสิทธิภาพ จากนั้น ทรงบรรยายต่อเนื่องในหัวข้อ "กลไกการเกิดพยาธิสภาพ ของมะเร็งในระดับโมเลกุลและระดับเซลล์ กุญแจไปสู่การรักษาในอนาคต" ซึ่งในปัจจุบัน มีการใช้เทคนิคการตรวจสอบการเปลี่ยนแปลงและแสดงออกของยีนต่างๆ ในผู้ป่วยแต่ละคน ที่แยกความแตกต่างของมะเร็งแต่ละชนิดในระดับยีนได้ ทําให้การพยากรณ์โรคมีความแม่นยํามากขึ้น ช่วยให้แพทย์เลือกแผนการรักษาและยาที่ตรงกับการเปลี่ยนแปลงของโรค ทําให้ผลการรักษาดีขึ้น สมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี ทรงบรรยายพระราชทานแก่นักศึกษา เป็นครั้งที่ 3 สร้างความรู้ความเข้าใจ ตั้งแต่พื้นฐานการเกิดโรคมะเร็ง กลไกการเกิดพยาธิสภาพของมะเร็งในระดับโมเลกุลและระดับเซลล์ ที่จะนําไปสู่การพัฒนาวิธีการวินิจฉัยโรคมะเร็ง ซึ่งเป็นความหวังที่จะทําให้การรักษาโรคมะเร็งมีประสิทธิภาพที่ดีขึ้น ผู้ป่วยได้มีอายุยืนยาวขึ้นและอาจทําให้หายขาดจากโรคร้ายได้ในอนาคต ข่าวในพระราชสํานัก สทท.
26/1/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230127094900998
null
ข้อความพระราชสาส์นอำนวยพร ในโอกาสวันออสเตรเลียของเครือรัฐออสเตรเลีย
ด้วย วันที่ 26 มกราคม 2566 ตรงกับวันออสเตรเลียของเครือรัฐออสเตรเลีย พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ส่งข้อความพระราชสาส์นอํานวยพรไปยังผู้สําเร็จราชการแห่งเครือรัฐออสเตรเลีย ในโอกาสวันออสเตรเลีย ข้าพเจ้าขอแสดงความยินดีด้วยใจจริงและขออํานวยพรให้ท่านมีพลานามัยสมบูรณ์แข็งแรงและประสบแต่ความสุขสวัสดิ์ ทั้งขอให้ประเทศและประชาชนชาวออสเตรเลียประสบความสําเร็จและเจริญรุ่งเรืองยิ่งขึ้นไป ข้าพเจ้ามีความยินดีที่ได้เห็นความสัมพันธ์อันใกล้ชิตระหว่างประเทศไทยและเครือรัฐออสเตรเลียกระชับแน่นแฟันและเจริญงอกงามเสมอมา และเชื่ออย่างแน่แท้ว่า ความสัมพันธ์ฉันมิตรตังกล่าวจะมีส่วนสําคัญช่วยเสริมสร้างความสัมพันธ์ระหว่างประชาชนของประเทศทั้งสองให้แนบแน่นและพัฒนาความร่วมมือระหว่างกันให้เพิ่มพูน โดยเฉพาะอย่างยิ่งความเป็นหุ้นส่วนในด้านการค้า การลงทุน รวมถึงความร่วมมือในการแลกเปลี่ยนด้านการศึกษาและเทศโนโลยี อันจะก่อเกิดประโยชน์สุขร่วมกันแก่ประเทศและประชาชนทั้งสองฝ่ายสืบไป (พระปรมาภิไธย) มหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว
26/1/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230127091139974
null
ข้อความพระราชสาส์นอำนวยพรในโอกาสวันสาธารณรัฐของสาธารณรัฐอินเดีย
ด้วย วันที่ 26 มกราคม 2566 ตรงกับวันสาธารณรัฐของสาธารณรัฐอินเดีย พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ส่งข้อความพระราชสาส์นอํานวยพรไปยังประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐอินเดีย ในโอกาสวันสาธารณรัฐของสาธารณรัฐอินเดีย ข้าพเจ้าขอส่งคําอํานวยพรและความปรารถนาดีด้วยใจจริง เพื่อพลานามัยที่สมบูรณ์และความสุขสวัสดิ์ของท่านประธานาธิบดี ทั้งเพื่อความสําเร็จและความเจริญรุ่งเรืองของประเทศและประซาชนชาวอินเดีย ประเทศไทยและสาธารณรัฐอินเดียมีสัมพันธไมตรีที่ใกล้ชิตสนิทสนมมายาวนานตลอด 75 ปีของความสัมพันธ์ทางการทูตที่มีต่อกัน ข้าพเจ้าเชื่อมั่นว่า ด้วยความสัมพันธ์ร่วมมือทางวัฒนธรรม ตลอดจนความมุ่งมั่นในการสร้างสันติภาพและความเจริญรุ่งเรืองร่วมกัน ประเทศเราทั้งสองจะยังคงร่วมมือกันเพื่อเสริมสร้างความเป็นหุ้นส่วนและความร่วมมือในทุกๆ ด้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านการค้า การลงทุน การท่องเที่ยว ตลอดจนการแลกเปลี่ยนทางการศึกษาและวัฒนธรรมให้กระชับแน่นแฟ้น เพื่อประโยชน์สุขยิ่งขึ้นของประเทศและประชาชนทั้งสองฝ่าย (พระปรมาภิไธย) มหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว
26/1/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230127091349975
null
สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจ ดังนี้
วันนี้ 27 มกราคม 2566 เวลา 9 นาฬิกา สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดําเนินไปยัง โรงแรมเซ็นทารา แกรนด์ และบางกอก คอนเวนชันเซ็นเตอร์ เซ็นทรัลเวิลด์ เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร ทรงเปิดการประชุมวิชาการนานาชาติประจําปีรางวัสสมเด็จเจ้าฟ้ามหิดล ประจําปี 2566 ที่มูลนิธิรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหิดล ร่วมกับกระทรวงสาธารณสุขมหาวิทยาลัยมหิดล และองค์กรระดับโลก อาทิ องค์การอนามัยโลก ธนาคารโลก องค์การเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศของสหรัฐฯ องค์กรความร่วมมือระหว่างประเทศของญี่ปุ่น มูลนิธิร็อกกี้เฟลเลอร์ และหน่วยงานระดับนานาชาติ จัดขึ้นระหว่างวันที่ 27 ถึง 29 มกราคม 2566 ในหัวข้อ สร้างวาระใหม่ทางสุขภาพ : ณ จุดเชื่อมโยงของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ สิ่งแวดล้อมและความหลากหลายทางชีวภาพ โดยมีผู้ทรงคุณวุฒิ นักวิชาการและเจ้าหน้าที่ระดับสูงของหน่วยงานระดับนานาชาติเข้าร่วมประชุมและเสนอประเด็นนโยบายด้านสุขภาพที่สําคัญ ก่อให้เกิดประโยชน์แก่นักวิชาการและผู้นําด้านสาธารณสุขทั่วโลก และส่งผลดีต่อประเทศไทยในการแสดงบทบาททางด้านการแพทย์และสาธารณสุขให้ประจักษ์แก่เวทีโลก โอกาสนี้ ทรงรับฟังการบรรยายในหัวข้อที่เชื่อมโยงระหว่างสิ่งแวดล้อมโลกในปัจจุบัน ที่มีความสําคัญต่อสุขภาพของมนุษย์ การเปลี่ยนแปลงอื่นๆ ในระบบธรรมชาติของโลก มีผลกระทบต่อสุขภาพของมนุษย์ โดยนายบัณฑูร ล่ําซํา ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารกสิกรไทย และคุณวันทนา ศิวะ ผู้ก่อตั้งมูลนิธิวิจัยเพื่อวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนิเวศวิทยา ประเทศอินเดีย จากนั้น ทรงเปิดนิทรรศการภายในการประชุมนานาชาติประจําปีรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหิดล ประจําปี 2566 เนื่องในโอกาส 100 ปีประสูติ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ พระราชธิดาในสมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก หัวข้อ "Contribution to Thailand" แสดงพระกรณียกิจ "ทําอะไรเพื่อประเทศไทย" สิ่งที่ปลูกฝังในครอบครัว "มหิดล" ตั้งแต่ทรงพระเยาว์และทรงบําเพ็ญตลอดพระชนม์ชีพ ด้วยจิตวิญญาณความเป็นครู นอกจากทรงงานเป็นสมเด็จอาจารย์ในมหาวิทยาลัยหลายแห่ง ยังทรงพัฒนาต่อยอดหน่วยงาน องค์กร มูลนิธิในพระอุปถัมภ์และที่ทรงเป็นประธาน ทั้งด้านการศึกษา การแพทย์ การสังคมสงเคราะห์ แม้ว่าจะสิ้นพระชนม์กว่า 10 ปีแล้ว หน่วยงานต่างๆ ยังเติบโตก้าวหน้า สร้างประโยชน์ให้สังคมไทยอย่างต่อเนื่อง ผลของพระกรณียกิจเป็นที่ประจักษ์ องค์การศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ(ยูเนสโก) จึงประกาศพระนามยกย่องในฐานะบุคคลสําคัญของโลก ในโอกาส 100 ปีประสูติ พุทธศักราช 2566 เวลา 14 นาฬิกา 17 นาที สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จออก ณ วังสระปทุม พระราชทานพระราชวโรกาสให้คณะบุคคลต่างๆ เฝ้าทูลละอองพระบาท ตามลําดับ ดังนี้ นายขรรค์ ประจวบเหมาะ ผู้อํานวยการสํานักงานจัดหารายได้ สภากาชาดไทย พร้อมด้วยคณะผู้บริหารและเจ้าหน้าที่สภากาชาดไทย นํานายกองเอก เปล่งศักดิ์ ประกาศเภสัช รองประธานรักษาการประธานมูลนิธิอาสารักษาดินแดนในพระบรมราชินูปถัมภ์ และคณะ เฝ้าทูลละอองพระบาท ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายเงินเนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 90 พรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง 12 สิงหาคม 2565 ในนามมูลนิธิอาสารักษาดินแดน ในพระบรมราชินูปถัมภ์ และในนามคณะกรรมการ มูลนิธิอาสารักษาดินแดน ในพระบรมราชินูปถัมภ์ และผู้มีจิตศรัทธา เพื่อบํารุงสภากาชาดไทย นางสาวปาริษา จอนงามเนตร์ ประธานกรรมการบริษัท อยู่เจริญธัญญะ คลอง 4 จํากัด และครอบครัว เฝ้าทูลละอองพระบาท ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายเงิน เพื่อบํารุงสภากาชาดไทย นางสาวสมทรง ยนตรรักษ์ รองประธานฝ่ายจัดหาทุนมูลนิธิช่วยการสาธารณสุขชุมชน (ม.ส.ช.) เฝ้าทูลละอองพระบาท ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายเงิน โดยเสด็จพระราชกุศลตามพระราชอัธยาศัย เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันเกิด วันที่ 18 ธันวาคม 2565 ในโอกาสนี้ คณะบุคคลร่วมเข้าเฝ้าทูลละอองพระบาทด้วย ข่าวในพระราชสํานัก สทท.
27/1/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230128223031496
null
ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี ทรงติดตามการดำเนินงานโครงการ ทูบีนัมเบอร์วัน จังหวัดนครสวรรค์
วานนี้ 26 มกราคม 2566 เวลา 19 นาฬิกา 30 นาที ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี เสด็จไปยังโรงเรียนนวมินทราชูทิศ มัชฌิม อําเภอเมืองนครสวรรค์ จังหวัดนครสวรรค์ ทรงเปิดชมรมทูบีนัมเบอร์วันและศูนย์เพื่อนใจ ทูบีนัมเบอร์วัน โรงเรียนนวมินทราชูทิศ มัชฌิม จัดตั้งขึ้นเมื่อปี 2529 เปิดสอนในระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ถึง 6 แบบสหศึกษา โดยน้อมนําหลักการดําเนินโครงการทูบีนัมเบอร์วัน มาเป็นแนวทางในการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดภายในสถานศึกษา โดยชมรมทูบีนัมเบอร์วัน ยึดหลักการดําเนินงาน คือ เป็นหนึ่งโดยไม่พึ่งยาเสพติดพัฒนาศักยภาพในด้านที่ตัวเองสนใจ อาทิ การร้อง การเล่นดนตรีและการเต้น Cover Dance เพื่อให้ผู้เรียนใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ ศูนย์เพื่อนใจทูบีนัมเบอร์วัน มุ่งเน้นช่วยเหลือ ดูแล และพัฒนาเพื่อนสมาชิก ให้มีคุณภาพและความสุขแบบ "เพื่อนช่วยเพื่อน พี่ช่วยน้อง" ภายใต้แนวคิด "ปรับทุกข์ สร้างสุข แก้ปัญหา พัฒนา EQ" ทั้งจากการเรียนรู้ด้วยตนเองและการเข้าร่วมกิจกรรม จากนั้น ทรงติดตามผลการดําเนินงานโครงการทูบีนัมเบอร์วันของจังหวัดนครสวรรค์และพระราชทานเข็มที่ระลึกแก่ผู้ถวายเงินสนับสนุนโครงการ โอกาสนี้ พระราชทานพระอนุญาตให้สมาชิก "ใครติดยายกมือขึ้น" จากสถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนจังหวัดนครสวรรค์ และศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชนเขต 6 ซึ่งเคยติดยาเสพติดและมีความมุ่งมั่นที่จะเลิกเสพ เข้าเฝ้า ในการนี้ ได้พระราชทานกําลังใจและพระราชทานคําแนะนําเพื่อป้องกันความผิดพลาดซ้ํา ต่อจากนั้นทรงเป็นประธานการแสดงคอนเสิร์ตทูบีนัมเบอร์วัน ร่วมกับทูบีนัมเบอร์วันไอดอล ข่าวในพระราชสํานัก สทท.
27/1/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230128223214498
null
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ให้ส่งข้อความพระราชสาส์นแสดงความยินดีไปยังนายอเล็คซันเดอร์ ฟัน แดร์ เบลเลิน (Mr. Alexander Van Der Bellen) ในโอกาสเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐออสเตรียสมัยที่ 2
ข้อความพระราชสาส์น มีดังนี้ ฯพณฯ นายอเล็คซันเดอร์ ฟัน แดร์ เบลเลิน ประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐออสเตรียกรุงเวียนนา ในโอกาสที่ท่านเข้ารับตําแหน่งประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐออสเตรียอีกวาระหนึ่ง ข้าพเจ้าขอแสดงความยินดีด้วยใจจริงและขออํานวยพรให้ท่านประธานาธิบดีประสบแต่ความสุขสวัสดี และความสําเร็จในภาระหน้าที่ความรับผิดชอบแห่งรัฐทุกประการ ทั้งขอให้ประเทศและประชาชนชาวออสเตรียมีความก้าวหน้ารุ่งเรืองสืบไป ข้าพเจ้ามั่นใจว่า ประสบการณ์ในการดํารงตําแหน่งที่ผ่านมา กอปรกับการสนับสนุนของท่านจะช่วยเสริมสร้างความสัมพันธ์อันเข้มแข็งและรุ่งเรืองที่มีอยู่ระหว่างประเทศเราทั้งสองให้มั่นคงยิ่งขึ้นไป ประเทศไทยยังคงมุ่งมั่นที่จะร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับสาธารณรัฐออสเตรียในการสร้างเสริมความเป็นหุ้นส่วนระหว่างกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านการค้า การลงทุน การท่องเที่ยว และการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ให้กระชับแน่นแฟ้น และในขณะเดียวกันจะแสวงหาโอกาสในการพัฒนาความร่วมมือด้านใหม่ๆ เพื่อประโยชน์สุขของประเทศและประชาชนทั้งสองฝ่ายเป็นอเนกประการ (พระปรมาภิไธย) มหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ข่าวในพระราชสํานัก สทท.
27/1/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230128223408500
null
พระราชสาส์นแสดงความยินดี
ด้วย พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ส่งข้อความพระราชสาส์นแสดงความยินดีไปยัง นายอเล็คซันเดอร์ ฟัน แดร์ เบลเลิน (Mr. Alexander Van der Bellen) ในโอกาสสาบานตนเข้ารับตําแหน่งประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐออสเตรีย สมัยที่ 2 ในวันที่ 26 มกราคม 2566 ในโอกาสที่ท่านเข้ารับตําแหน่งประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐออสเตรียอีกวาระหนึ่ง ข้าพเจ้าขอแสดงความยินดีด้วยใจจริงและขออํานวยพรให้ท่านประธานาธิบดีประสบแต่ความสุขสวัสดีและความสําเร็จในภาระหน้าที่ความรับผิดชอบแห่งรัฐทุกประการ ทั้งขอให้ประเทศและประชาชนชาวออสเตรียมีความก้าวหน้ารุ่งเรืองสืบไป ข้าพเจ้ามั่นใจว่า ประสบการณ์ในการดํารงตําแหน่งที่ผ่านมา กอปรกับการสนับสนุนของท่าน จะช่วยเสริมสร้างความสัมพันธ์อันเข้มแข็งและรุ่งเรืองที่มีอยู่ระหว่างประเทศเราทั้งสองให้มั่นคงยิ่งขึ้นไป ประเทศไทยยังคงมุ่งมั่นที่จะร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับสาธารณรัฐออสเตรียในการสร้างเสริมความเป็นหุ้นส่วนระหว่างกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านการค้า การลงทุน การท่องเที่ยว และการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ ให้กระชับแน่นแพ้น และในขณะเตียวกันจะแสวงหาโอกาสในการพัฒนาความร่วมมือด้านใหม่ๆ เพื่อประโยชน์สุขของประเทศและประชาชนทั้งสองฝ่ายเป็นอเนกประการ (พระปรมาภิไธย) มหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว
27/1/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230127194706295
null
สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ทรงเป็นประธานในพิธีบำเพ็ญกุศลถวายแด่ สมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงชินวราลงกรณ สมเด็จพระสังฆราชพระองค์ที่ 18
วันนี้ 28 มกราคม 2566 เวลา 9 นาฬิกา 9 นาที สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก เสด็จลง ณ พระวิหาร วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร ทรงเป็นประธานในพิธีบําเพ็ญกุศลถวายแด่ สมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงชินวราลงกรณ สมเด็จพระสังฆราชพระองค์ที่ 18 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ ทรงเป็นเจ้าอาวาสวัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม ยุคที่ 4 ทรงเป็นพระราชอุปัธยาจารย์ในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และเป็นสมเด็จพระอุปัชฌายะของสมเด็จพระสังฆราชพระองค์ปัจจุบัน ซึ่งคณะศิษยานุศิษย์และผู้เคารพเลื่อมใส ได้จัดพิธีบําเพ็ญกุศลถวาย เป็นประจําทุกวันเสาร์สุดท้ายของเดือน นับแต่สิ้นพระชนม์ เมื่อวันเสาร์ที่ 27 สิงหาคม 2531 เป็นต้นมา สมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงชินวราลงกรณ ประสูติเมื่อวันที่ 2 มีนาคม 2440 ทรงได้รับการสถานาขึ้นเป็นสมเด็จพระสังฆราช พระองค์ที่ 18 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ ในปี 2517 สิ้นพระชนม์ เมื่อวันที่ 27 สิงหาคม 2531 สิริพระชันษา 91 ปี ตลอดพระชนม์ชีพ ได้ทรงปฏิบัติพระกรณียกิจเพื่อการพระพุทธศาสนาและประเทศชาติ เป็นอเนกอนันต์ ทรงพัฒนาระบบการศึกษาชั้นสูงของคณะสงฆ์ไทย ทรงพระปรีชาสามารถด้านการประพันธ์ร้อยแก้วร้อยกรอง มีผลงานพระนิพนธ์มากมาย อีกทั้งทรงสร้างและประทานพระอุปถัมภ์แก่ วัด สํานักเรียนพระปริยัติธรรม มหาวิทยาลัย โรงเรียน โรงพยาบาลและสถานศึกษาต่างๆ จํานวนมาก ข่าวในพระราชสํานัก สทท.
28/1/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230129204055621
null
สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินไปในการพระราชทานเพลิงศพ นายสวง (สะ-หว๋ง) ศรีผ่อง ครูและศิลปินดนตรีไทยแห่งจังหวัดพระนครศรีอยุธยา
วันนี้ 28 มกราคม 2566 เวลา 14 นาฬิกา 50 นาที สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดําเนินไปยัง เมรุวัดพระงาม อําเภอบางปะหัน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ในการพระราชทานเพลิงศพ นาย สวง (สะ-หว๋ง) ศรีผ่อง ครูและศิลปินดนตรีไทย นายสวง ศรีผ่อง เกิดเมื่อวันที่ 5 มิถุนายน 2480 ที่จังหวัดพระครศรีอยุธยา เป็นลูกชายของนาย ไสว (สะ-ไหว) กับนางสังเวียน ศรีผ่อง ในวัยเด็กมีความสนใจในด้านศิลปะดนตรีไทย จนได้รับโอกาสไปศึกษาด้านดนตรีกับครูผู้เชี่ยวชาญระดับศิลปินแห่งชาติและระดับประเทศหลากหลายสาขา อาทิ นายประสิทธิ์ ถาวร ศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดง (ดนตรีไทย) หลวงประดิษฐไพเราะ (ศร ศิลปบรรเลง) ศิลปินดนตรีไทยและนักประพันธ์ และนายเผือด นักระนาด ศิลปินระนาดเอก โดยตลอดการฝึกฝนได้รับการถ่ายทอดทั้งวิชาดนตรีไทยและการประพันธ์เพลงจนแตกฉาน จนสามารถสร้างผลงานตนเองให้มีชื่อเสียงและเป็นที่รู้จักในเวลาต่อมา อาทิ การประพันธ์เพลง "พรมงคล" ถวายพระพรชัยมงคลแด่ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เนื่องในวโรกาส ทรงครองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี การประพันธ์ทางเดี่ยวระนาดเอก เพลง "การเวกเถา" การประพันธ์ทางเดี่ยวฆ้องวงใหญ่ เพลง "สุดสงวน" อัตรา 3 ชั้น และการประพันธ์ทางเดี่ยว เพลง "ค้างคาวกินกล้วย " อัตราชั้นเดียว ในการบรรเลงประกวดดนตรีไทย จนได้รับรางวัลชนะเลิศอันดับ 1 ประเภท ระนาดเอก ฆ้องวงใหญ่ ฆ้องวงเล็กและระนาดทุ้ม ด้านการเผยแพร่ศิลปวัฒนธรรมได้จัดตั้ง "บ้านดนตรีไทยศรีผ่อง" ขึ้นเพื่อถ่ายทอดวิชาดนตรีแก่เยาวชนรุ่นหลังจนเป็นที่นับถือในฐานะครูและศิลปินดนตรีไทยแห่งจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ภายหลังได้มีโอกาสร่วมกับกองทัพเรือและมูลนิธิราชสกุลอาภากร ในพลเอก พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ จัดการประกวดดนตรีไทยแห่งชาติ เฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ชิงถ้วยพระราชทาน "สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารี" ตั้งแต่ปี 2549 ถึง 2561 รวม 12 ปี ด้านชีวิตครอบครัว สมรสกับนางสายหยุด ศรีผ่อง มีลูก 4 คน นายสวง (สะ-หว๋ง) ศรีผ่อง ถึงแก่กรรมด้วยอาการปอดติดเชื้อสัมพันธ์กับก้อนเนื้อทรวงอก เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม 2565 สิริอายุ 85 ปี ข่าวในพระราชสํานัก สทท.
28/1/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230129204427623
null
สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา เสด็จไปทรงปฏิบัติพระกรณียกิจในพื้นที่จังหวัดสุรินทร์
วันนี้ 29 มกราคม 2566 เวลา 13 นาฬิกา สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา เสด็จไปยังคณะเทคโนโลยีการจัดการ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน วิทยาเขตสุรินทร์ อําเภอเมืองสุรินทร์ จังหวัดสุรินทร์ เพื่อทอดพระเนตรการแสดงฟ้อนรับเสด็จ ชุด เรือนอัปสรสราญ (อับ-สอน-สะ-ราน) โดยนักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏสุรินทร์ ซึ่งเป็นระบําที่คิดค้นขึ้นใหม่ โดยนํารูปแบบท่ารําตามแบบฉบับพื้นเมืองสุรินทร์ มาผสมผสานท่ารําที่เป็นแบบแผนทางนาฏศิลป์ไทยและขอม เพลงที่ใช้ประกอบการแสดง เป็นเพลงที่แสดงให้เห็นถึงความอ่อนช้อย สง่างามและสนุกสนาน บรรเลงประกอบการร้องเป็นภาษาเขมรสุรินทร์ แบ่งเป็น 5 ทํานองเพลง จากนั้น เสด็จไปยังห้องประชุมชมพูพันธุ์ทิพย์ ชั้น 3 เพื่อทอดพระเนตรนิทรรศการและการจัดงานแสดงผลิตภัณฑ์ผ้าไทย และงานหัตถกรรมชุมชนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งกระทรวงมหาดไทย โดยกรมการพัฒนาชุมชน จัดขึ้นเพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้ศิลปหัตถกรรมภูมิปัญญาไทย ของแต่ละจังหวัดในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อีกทั้งเป็นการอนุรักษ์ และเผยแพร่ผลงานอัตลักษณ์ศิลปหัตถกรรมภูมิปัญญาไทย ของกลุ่มผู้ประกอบการผลิตภัณฑ์ชุมชน หรือ OTOP ให้สามารถเพิ่มช่องทางการตลาดให้กับกลุ่มผู้ผลิต และผู้ประกอบการฯ จาก 19 จังหวัดของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งเคยมีพระวินิจฉัยให้พัฒนา ประยุกต์ และปรับเปลี่ยนผลิตภัณฑ์ให้มีความร่วมสมัยมากขึ้น โดยเฉพาะการย้อมสี พระราชทานคําแนะนําให้ใช้สีย้อมจากธรรมชาติ อาทิ ผ้าโสร่งโบราณ จากวิสาหกิจชุมชนปลูกหม่อนเลี้ยงไหม อําเภอท่าตูม จังหวัดสุรินทร์ ที่เป็นผ้านุ่งสําหรับผู้ชาย คล้ายกับผ้าขาวม้า แต่จะมีลายตารางที่มีขนาดใหญ่กว่า การทอสลับกันเป็นลายตารางหมากรุก หรือลายทอ โดยทอแบบผ้าพื้น 2 ตะกอ ใช้ไหมพุ่ง 2 เส้น 2 สีควบให้เป็นเส้นเดียว เรียกว่า การตีเกลียวทําหางกระรอก กระเป๋าจักสานกก ลายขอเจ้าฟ้าสิริวัณณวรีฯ จากกลุ่มวิสาหกิจชุมชนสหกรณ์จักสานกกเหล่าพัฒนา อําเภอนาหว้า จังหวัดนครพนม เป็นผลิตภัณฑ์ที่ใช้หน่อกก ที่ปลูกในพื้นที่สาธารณะของชุมชน โดยนําภูมิปัญญาท้องถิ่นผสมผสานการพัฒนารูปแบบ และลวดลายให้ทันสมัย จนได้รับคัดเลือกให้เป็นของที่ระลึกในการประชุมผู้นําเขตเศรษฐกิจเอเปค ครั้งที่ 29 ผ้าไหมมัดหมี่สีธรรมชาติ จากกลุ่มผ้าทอผ้าไหมบ้าน แฝกโนนสําราญ อําเภอสีดา จังหวัดนครราชสีมา เป็นผลิตภัณฑ์ที่สมาชิกใช้เวลาว่าง เว้นหลังจากการทํานา มาปลูกหม่อน เลี้ยงไหม และทอผ้าผืน สําหรับใช้ในครัวเรือน ต่อมาได้พัฒนาทักษะรูปแบบการผลิตผ้าไหมและการใช้สีธรรมชาติ เพื่อสุขภาพและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ทําให้เกิดเฉดสีใหม่ที่มีความสวยงาม สะดุดตา รวมไปถึงการรวบรวมกระบวนการย้อมสีธรรมชาติ จากผาสาทแก้ว ผ้าทอลายโบราณ (เครือข่ายย้อมสีธรรมชาติ) จังหวัดมหาสารคาม ซึ่งทรงให้รวบรวมองค์ความรู้ เรื่องกระบวนการย้อมสีธรรมชาติจากครั่ง พร้อมบันทึกเป็นข้อมูลในสีที่แตกต่างจากสีหลัก และให้ทดลองใช้เชือกกล้วยมัดอย่างโบราณ เพื่อให้ได้เกล็ดหมี่ที่เล็ก คม และสวยงาม โอกาสนี้ พระราชทานพระวโรกาสให้ สมาชิกศิลปาชีพ และกลุ่มผู้ประกอบการผลิตภัณฑ์ชุมชน เฝ้ารับพระราชทานคําแนะนํา โดยทรงนําประสบการณ์ทั้งจากการทรงงาน และทรงศึกษาผ้าทอพื้นเมือง รวมทั้งพระปรีชาสามารถด้านการออกแบบที่นําสมัยมาถ่ายทอดสู่สมาชิกกลุ่มทอผ้าและช่างทอผ้า เพื่อให้เกิดการสร้างอาชีพ สร้างรายได้ อาทิ กลุ่มจักสานไม้ไผ่ลายขิด จากโครงการส่งเสริมศิลปาชีพบ้านดอนคํา-เสนานฤมิตร บ้านหนองแต้ อําเภอคําตากล้า จังหวัดสกลนคร ทรงแนะนําให้ย้อมได้เฉดสีที่สวยงามก่อนจะขึ้นรูปทรง และผ้าไหมมัดหมี่ จากกลุ่มทอผ้าไหม โครงการส่งเสริมศิลปาชีพ อําเภอห้วยทับทัน จังหวัดศรีสะเกษ ทรงแนะนําให้ย้อมสีผ้าให้สม่ําเสมอ เนื่องจากสีไม่ซึมเข้าผ้าทําให้ลายผ้าไม่ชัดเจน นอกจากนี้ โปรดให้ ผู้ทรงคุณวุฒิ ผู้เชี่ยวชาญด้านผ้าไทย และดีไซน์เนอร์ที่มีชื่อเสียงระดับประเทศให้คําปรึกษาและคําแนะนําแก่ผู้ผลิต ผู้ประกอบการ OTOP และช่างทอผ้า เพื่อยกระดับการพัฒนาผลิตภัณฑ์ เทรนด์สีสัน เทรนด์แฟชั่นผ้าไทย การออกแบบคอลเลกชั่นผ้าไทย การเลือกใช้เส้นใยที่มีคุณภาพ การพัฒนาบรรจุภัณฑ์สําหรับผ้าไทย และการสร้างแบรนด์ ต่อจากนั้น ทอดพระเนตรผลิตภัณฑ์ผ้าทอจากกลุ่มวิสาหกิจชุมชนจังหวัดเลย ศรีสะเกษ และหนองบัวลําภู เช่น ผ้าไหมขิด Eco Print นารีรัตนราชกัญญา จากศูนย์การเรียนรู้ขวัญตา (กลุ่มเย็บผ้าด้วยมือขวัญตา) จังหวัดหนองบัวลําภู ที่นําลายพระราชทาน มาออกแบบผสมผสานกับลายดอกบัว ดอกไม้ประจําจังหวัดหนองบัวลําภู นอกจากนี้ นํามาพัฒนาต่อยอดโดยการใช้หลักการทํางาน Eco Print เพื่อให้เกิดลวดลายใหม่ๆ จากธรรมชาติของใบไม้และดอกไม้ต่างๆ ในพื้นถิ่น รวมทั้งทอดพระเนตรการสาธิตและแสดงกระบวนการพัฒนาภูมิปัญญาท้องถิ่นจากศูนย์หม่อนไหมเฉลิมพระเกียรติฯ จังหวัดสุรินทร์, นิทรรศการผ้าไทยลายอัตลักษณ์ของจังหวัดสุรินทร์ 7 ลาย ประกอบด้วย ผ้าหางกระรอก, ผ้าสาคู, ผ้าละเบิก, ผ้าสมอ, ผ้าโฮล, ผ้าอัมปรม และอันลูญซีม รวมไปถึงการจัดแสดงผลิตภัณฑ์ของสมาชิกศูนย์ส่งเสริมศิลปาชีพอีสานใต้ จังหวัดสุรินทร์ อาทิ ผ้าไหม กระเป๋า สบู่ และเครื่องเงิน ในการนี้ ทรงสนพระทัยกลุ่มทอผ้าไหม จากโรงเรียนเมืองสุรินทร์ ที่มีการส่งเสริมและสอนการทอผ้าไหมในกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนแก่นักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ถึง 6 ที่สนใจ โดยสอนตั้งแต่การถักไหม ย้อมสี และทอผ้า ซึ่งผลิตภัณฑ์ที่จําหน่ายได้ รายได้หลังหักค่าต้นทุน จะแบ่งให้แก่นักเรียนผู้ทอ และนําไปสนับสนุนการศึกษาดูงานนอกสถานที่ ในการนี้ ทอดพระเนตรการแสดงศิลปวัฒนธรรมรํากันตรึมจากนักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏสุรินทร์, ประชาชนจากเทศบาลเมืองสุรินทร์ และกลุ่มสตรีแม่บ้านองค์การบริหารส่วนตําบลนอกเมือง โดยการแสดงรํากันตรึม สื่อให้เห็นถึงความสนุกสนาน รื่นเริง และความสวยงามของหญิงสาวชาวเขมรสุรินทร์ มีการนําจังหวะเพลงที่มีจังหวะเร็วมาบรรเลงและขับร้องต่อกันเป็นภาษาเขมร ใช้วงดนตรีพื้นบ้านกันตรึม ซึ่งเป็นวงดนตรีที่นิยมในเขตอีสานใต้ในแถบจังหวัดสุรินทร์ ต่อจากนั้น เวลา 17 นาฬิกา 42 นาที สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา เสด็จไปยังกลุ่มทอผ้ายกทองจันทร์โสมา ของอาจารย์วีรธรรม ตระกูลเงินไทย บ้านท่าสว่าง อําเภอเมืองสุรินทร์ จังหวัดสุรินทร์ เพื่อทอดพระเนตรผ้าไหมยกทองและการทอผ้าไหมยกทอง โดยมีนายสันทัด แสนทอง รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ อาจารย์วีรธรรม ตระกูลเงินไทย ประธานกลุ่มทอผ้ายกทองจันทร์โสมา และคณะ ร่วมเฝ้ารับเสด็จฯ กลุ่มทอผ้ายกทองจันทร์โสมา มีจุดเริ่มต้นจากเมื่อครั้งที่ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง มีพระราชเสาวนีย์ให้หาวิธีการผลิตผ้าไหมให้มีเนื้อนุ่มเนียน คุณภาพเทียบเท่าผ้าไหมโบราณ อาจารย์วีรธรรม จึงได้กลับมารือฟื้นกระบวนการผลิตผ้าไหมของบรรพบุรุษ จนเกิดเป็นแรงบันดาลใจในการฟื้นฟูการทอผ้าแบบราชสํานัก การทอผ้าไหมของกลุ่มจันทร์โสมา มีความโดดเด่นที่ความละเอียด และความนุ่มของเนื้อผ้า ที่เกิดจากการเลือกเส้นไหมเส้นเล็กและบางเบา นํามาผ่านกรรมวิธีฟอกต้ม และย้อมด้วยสีธรรมชาติ โอกาสนี้ ทอดพระเนตรการย้อมผ้าไหม จากสีธรรมชาติของจังหวัดสุรินทร์ ได้แก่ สีแดง ได้จาก ครั่ง เป็นรังของแมลงชนิดหนึ่ง ที่อยู่ตามต้นไม้ใหญ่ สีเหลืองอ่อน ได้จากเปลือกมะพูด เปลือกแห้งของต้นมะพูด สีเหลืองแก่ ได้จากแก่นเขหรือแกแล เป็นต้นไม้เถาวัลย์ชนิดหนึ่ง สีน้ําเงิน ได้จากคราม โดยกรรมวิธีโบราณ และสีเหลืองทอง ได้จากเปลือกผลทับทิม ส่วนสีสันอื่นๆ เกิดจากการผสม สีจากแม่สีหลักดังกล่าว การมัดหมี่ด้วยลวดลายวิจิตร ซับซ้อน เน้น โทนสีน้ําตาล ดําแดง เป็นโทนเข้ม และมีการยกทองเพิ่มความงามเป็นเอกลักษณ์ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ทรงสนพระทัย ในความโดดเด่น ของกรรมวิธีในการทอผ้าของกลุ่มทอผ้ายกทองจันทร์โสมา ด้วยกรรมวิธีการทอผ้า ที่สอดแทรกการยกดอกด้วยไหมทอง ที่ทําจากเงินแท้มารีดเป็นเส้นเล็กๆ ปั่นควบกับเส้นด้าย มีเทคนิคการทอแบบเนื้อ 3 ตะกอ ที่ใช้ตะกอเส้นพุ่งพิเศษทําให้เกิดลายจํานวนตะกอมากกว่าร้อยตะกอ จึงต้องใช้คนทอ 4 ถึง 5 คนต่อผืน ความละเอียดของการทอและเนื้องาน ทําให้ระยะเวลาการทอ สามารถทอได้แค่ 5 ถึง 7 เซนติเมตรต่อวัน เท่านั้น ผ้าไหมแต่ละผืน หลังทอเสร็จเรียบร้อย จะมีความยาวเฉลี่ย 2 เมตร ใช้ระยะเวลาในการทอประมาณ 2 เดือน ราคาของผ้าไหมยกทองของจันทร์โสมาจึงมีราคาเฉลี่ยถึงเมตรละ 5 หมื่นบาท จนถึงหลักแสนบาท จากนั้น ทอดพระเนตร ห้องจัดแสดงงานฝีมือ ที่ปักฉลองพระองค์ บรมขัติราชภูษิตาภรณ์ และพระวิสูตรทองแผ่ลวด ประดับมณฑป พระกระยาสนาน สําหรับสรงพระมุรธาภิเษก สําหรับพระราชพิธีพระบรมราชาภิเษก พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โรงทอ "อาจารย์วีรธรรม" ยังสะสมผ้าโบราณจํานวนหลายพันผืน ซึ่งได้จัดเก็บรักษาเป็นอย่างดี เพราะผืนผ้าแต่ละชิ้นล้วนมีคุณค่าทางประวัติศาสตร์และคุณค่าทางภูมิปัญญา โดยท่านได้ก่อสร้างอาคารต่างๆ เพื่อจัดเป็นสถานที่แสดงนิทรรศการ และพิพิธภัณฑ์ผ้าโบราณ ให้ประชาชนทั่วไปได้เยี่ยมชมอีกด้วย ข่าวในพระราชสํานัก สทท.
29/1/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230130153011795
null
สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินไปในการพระราชทานเพลิงศพ พระราชญาณมงคล (เสน่ห์ ปภงฺกโร)(ปะ-ภัง-กะ-โร)
วันนี้ 29 มกราคม 2566 เวลา 17 นาฬิกา 41 นาที สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดําเนินไปยังเมรุชั่วคราว วัดปรมัยยิกาวาส วรวิหาร อําเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี ในการพระราชทานเพลิงศพ พระราชญาณมงคล (เสน่ห์ ปภงฺกโร)(ปะ-ภัง-กะ-โร) อดีตเจ้าอาวาสวันปรมัยยิกาวาส และอดีตเจ้าคณะตําบลปากเกร็ด พระราชญาณมงคล เป็นพระเถราจารย์เชื้อสายไทย-รามัน มีนามเดิมว่า เสน่ห์ แดงเฟื่อง เกิดเมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม 2493 เมื่ออายุ 12 ปี บรรพชาที่วัดใหญ่สว่างอารมณ์ จังหวัดนนทบุรี มีพระนันทวิริยาจารย์ (กุหลาบ ธัมมวิริโย) เจ้าคณะอําเภอปากเกร็ด เป็นพระอุปัชฌาย์ และเมื่ออายุครบ 20 ปี อุปสมบทที่วัดเสาธงทอง จังหวัดนนทบุรี มีพระไตรสรณธัช (มาลัย ปุปผทาโม) วัดปรมัยยิกาวาส จังหวัดนนทบุรี เป็นพระอุปัชฌาย์ , พระใบฎีกาจําปี วัดโปรดเกษ จังหวัดนนทบุรี เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระครูใบฎีกาพร้อม วัดเสาธงทอง จังหวัดนนทบุรี เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับสมณฉายาว่า "ปภงฺกโร"(ปะ-ภัง-กะ-โร) แปลว่า ผู้กระทําซึ่งแสงสว่างตลอดระยะเวลาที่ปฏิบัติหน้าที่เป็นเจ้าวัดปรมัยยิกาวาส ได้ทํานุบํารุงวัดให้งดงาม จัดระเบียบการปกครองให้พระภิกษุสามเณรทุกรูปปฏิบัติตามพระธรรมวินัยและกฎของมหาเถรสมาคมอย่างเคร่งครัด ด้านการเผยแพร่หลักธรรม ใช้ธรรมะสอนชาวบ้านให้ประกอบสัมมาชีพด้วยความซื่อสัตย์สุจริต ขยันหมั่นเพียร ปฏิบัติตนเป็นแบบอย่างในการใช้ชีวิตอย่างสมถะและพอเพียง นอกจากนี้ยังเป็นผู้เอาใจใส่ศิลปวัฒนธรรมและงานประเพณีของชาวไทยเชื้อสายรามัญเสมอมา เจริญพระพุทธมนต์และแสดงพระธรรมเทศนาภาษารามัญ ถูกต้องตามอักขรวิธี พระราชญาณมงคล (เสน่ห์ ปภงฺกโร) (ปะ-ภัง-กะ-โร) มรณภาพ เมื่อวันที่ 21 มีนาคม 2564 สิริอายุ 70 ปี พรรษา 51 ข่าวในพระราชสํานัก สทท.
29/1/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230130153123798
null
สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงติดตามการดำเนินงานโครงการพัฒนาเด็กและเยาวชน ตามพระราชดำริ โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน จังหวัดบึงกาฬและจังหวัดเลย ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์
วันนี้ 30 มกราคม 2566 เวลา 9 นาฬิกา 30 นาที สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จออก ณ วังสระปทุม ทรงติดตามการดําเนินงานโครงการพัฒนาเด็กและเยาวชน ตามพระราชดําริ ศูนย์การเรียนตํารวจตระเวนชายแดนบ้านห้วยดอกไม้ ตําบลวิศิษฐ์ อําเภอเมืองบึงกาฬ จังหวัดบึงกาฬ ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ (ออนไลน์) โรงเรียนแห่งนี้มีนักเรียน 36 คน ครู ตชด.5 นาย และครูโรงเรียนคู่พัฒนา 1 คน ด้านการเรียนการสอนในปีการศึกษา 2564 นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 มีผลการทดสอบความสามารถพื้นฐานระดับชาติ หรือ NT ด้านภาษาไทยสูงกว่าระดับประเทศ ส่วนด้านคณิตศาสตร์ต่ํากว่าระดับประเทศ ส่วนนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 พบว่า วิชาภาษาไทย ,วิทยาศาสตร์ ,คณิตศาสตร์ และภาษาอังกฤษ มีผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติ หรือ O-NET ต่ํากว่าระดับประเทศ ทางโรงเรียนแก้ไขด้วยการจัดค่ายพัฒนา O-NET ทุกปี รวมทั้งให้ครูผู้สอนไปแนะนําผู้ปกครองให้ร่วมพัฒนาการเรียนการสอนของนักเรียนที่บ้าน นอกจากนี้ ยังจัดส่งครูไปอบรมกับหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อพัฒนาการเรียนการสอนต่อไป ภายในโรงเรียนยังจัดกิจกรรมด้านต่างๆ อาทิ กิจกรรมห้องสมุด มีบรรณารักษ์น้อยคอยแนะนําการใช้ห้องสมุด กิจกรรมวาดภาพระบายสีและจดบันทึกในกระดาษ โดยให้นักเรียนอ่านนิทานเรื่อง "เมืองแห่งรอยยิ้ม"แล้วนําความประทับใจมาวาดภาพและจดบันทึก โอกาสนี้ มีพระราชดํารัสให้นักเรียนอ่านหนังสือทุกวัน จะได้เรียนหนังสือได้ดีขึ้น กิจกรรมสหกรณ์นักเรียน ให้นักเรียนรู้จักกิจกรรมร้านค้า จัดจําหน่ายเครื่องเขียน, ลูกประคบคลายเส้น, ยาหม่อง, น้ํามัลเบอร์รี่, แยมมัลเบอร์รี่ และกิจกรรมออมทรัพย์ รวมทั้งพาไปทัศนศึกษาดูงานในสถานที่ต่างๆ โอกาสนี้ มีพระราชดํารัส ให้สอนการทําบัญชีสหกรณ์แก่นักเรียนและฝึกให้นักเรียนเขียนความประทับใจของการไปทัศนศึกษาด้วย กิจกรรมห้องพยาบาล มีโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตําบลวิศิษฏ์ เข้ามาดูแลด้านสุขภาพอนามัยของนักเรียนทุกปี โอกาสนี้ ทรงแนะนําให้ส่งเสริมอาหารที่ถูกสุขลักษณะแก่นักเรียนที่มีปัญหาสุขภาพด้วย กิจกรรมโครงการเกษตรเพื่ออาหารกลางวัน สอนให้นักเรียนได้เรียนรู้และฝึกปฏิบัติจริง เช่น การปลูกพืชผักสวนครัว เน้นการปลูกผักยกแคร่และปลูกผักในล้อยาง การเลี้ยงไก่พันธุ์ไข่แบบปล่อยลาน การเลี้ยงปลาดุกในบ่อคอนกรีตและในบ่อดิน รวมทั้งการเลี้ยงปลานิลในกระชัง ผลผลิตที่ได้เพียงพอต่อการบริโภคภายในโรงเรียน ส่งผลให้นักเรียนมีสุขภาพแข็งแรง สมองแจ่มใส สามารถเรียนหนังสือได้ดี กิจกรรมอาชีพนักเรียน ทําผลิตภัณฑ์แปรรูปสมุนไพร เช่น น้ํามันไพล ขี้ผึ้งเสลดพังพอน ส่งจําหน่ายที่สหกรณ์โรงเรียนและตามตลาดนัด นอกจากนี้ สํานักงานพัฒนาฝีมือแรงงานบึงกาฬ ได้สนับสนุนและต่อยอดการถักกระเป๋าจากเชือกมัดฟาง ทั้งด้านการออกแบบและการตลาดออนไลน์ เพื่อให้กลุ่มแม่บ้านบ้านห้วยดอกไม้มีอาชีพเสริมและรายได้เพิ่มขึ้น โอกาสนี้กลุ่มเศรษฐกิจพอเพียงในชุมชนจังหวัดบึงกาฬ กราบบังคมทูลรายงานผลการดําเนินงานตามพระราชดําริในการฝึกอบรมความรู้ด้านการเกษตร การทําบัญชีครัวเรือน การลดรายจ่าย เพิ่มรายได้และเพิ่มความมั่นคงทางอาหาร ปัจจุบันมีสมาชิกเพิ่มขึ้นจาก 30 ราย เป็น 207 ราย โอกาสนี้พระราชทานพระราโชวาท ให้ทุกคนทุกฝ่าย ช่วยกันปฏิบัติงาน ปฏิบัติหน้าที่ ให้เกิดการพัฒนา อย่างต่อเนื่องและยั่งยืน เวลา 13 นาฬิกา 38 นาที ทรงติดตามการดําเนินงานโครงการพัฒนาเด็กและเยาวชน ตามพระราชดําริ โรงเรียนตํารวจตระเวนชายแดนเฉลิมราษฎร์บํารุง อําเภอด่านซ้าย จังหวัดเลย ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ (ออนไลน์) โรงเรียนนี้ อยู่ในพื้นที่รับผิดชอบของกองกํากับการตํารวจตระเวนชายแดนที่ 24 จังหวัดอุดรธานี เปิดทําการเรียนการสอนตั้งแต่ปฐมวัยถึงประถมศึกษาปีที่ 6 มีนักเรียน 29 คน ครู ตชด. 5 นาย ครูโรงเรียนคู่พัฒนาและครูอาสา 3 คน สําหรับผลการทดสอบความสามารถพื้นฐานระดับชาติ หรือ NTของชั้นประถมศึกษาปีที่3 วิชาคณิตศาสตร์ และภาษาไทย สูงกว่าระดับประเทศ และคะแนนสอบ O-net ของชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 วิทยาศาสตร์ สูงกว่าระดับประเทศ มีการฝึกใช้คอมพิวเตอร์ ในการศึกษาหาความรู้ ค้นคว้าข้อมูล เพื่อเพิ่มพูนทักษะด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ ทั้งยังมีการดําเนินโครงการส่งเสริมพัฒนาการเด็กปฐมวัยในถิ่นทุรกันดาร ตามพระราชดําริ โดยกรมสุขภาพจิต ร่วมกับสาธารณสุขและครู จัดกิจกรรม tripple-p (ทริปเปิ้ล-พี) เพื่อส่งเสริมการเลี้ยงดูเด็กปฐมวัย ในด้านพัฒนาการและความฉลาดทางอารมณ์ โดยได้รับการสนับสนุนชุดของเล่นพระราชทาน ซึ่งดําเนินกิจกรรมไปแล้ว 2 ครั้ง มีแผนการดําเนินกิจกรรมอีกครั้งในเดือนมีนาคม 2566 และจะมีการประเมินผลหลังเสร็จสิ้นกิจกรรม กิจกรรมห้องสมุด มีการฝึกทําหน้าที่บรรณารักษ์น้อย ดูแลห้องสมุด และได้รับพระราชทานหนังสือระดับชั้นมัธยมศึกษา จากสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี โดยมีนักเรียนและเยาวชน ในพื้นที่เข้าไปใช้บริการในช่วงวันหยุดและปิดเทอม นอกจากนี้ ยังมีการส่งเสริมให้นักเรียนมีทักษะอาชีพ เช่น การทํากระปุกออมสินผีตาโขน เป็นการสืบทอดวัฒนธรรมและภูมิปัญญาท้องถิ่น นํามาประยุกต์ใช้เพื่อสร้างรายได้และการแปรูปผลผลิตที่หาได้จากในพื้นที่ เช่น น้ําพริกแจ่วดําน้ําผักสะทอน ที่นําผักสะทอนไปหมักและเคี่ยวทําน้ําปรุงรสที่เป็นเอกลักษณ์ ให้รสชาติเค็มกลมกล่อม สามารถใช้แทนน้ําปลา มีวิตามินที่เป็นประโยชน์และการแปรรูปกล้วยหอมส้ม เป็นกล้วยฉาบรสชาติต่างๆ สําหรับโครงการเกษตรเพื่ออาหารกลางวัน เนื้อสัตว์ ถั่วเมล็ดแห้ง ผักและผลไม้ เพียงพอต่อความต้องการและเหลือจําหน่าย จัดตั้งเป็นฐานการเรียนรู้ให้บริการประชาชน ในการปลูกพืชผัก ปศุสัตว์และประมง เพื่อนําไปปรับใช้ในพื้นที่ของตนเอง ทั้งนี้จังหวัดเลย ยังได้ร่วมโครงการสร้างป่า สร้างรายได้ ตั้งแต่ปี 2557 ปัจจุบันมีจํานวน 11 อําเภอ เช่น อําเภอนาแห้ว ร่วมกันปลูกสมุนไพร ทําลูกประคบ น้ําพริก น้ําสมุนไพรแช่เท้า แปรรูปแมคคาเดเมีย อําเภอด่านซ้าย จัดตั้งกลุ่มเพาะพันธุ์กล้าไม้ เป็นวิสาหกิจชุมชนจําหน่ายกล้าไม้ เช่น สัก มันเทศญี่ปุ่นและมะขาม สามารถสร้างรายได้ให้สมาชิกมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น โอกาสนี้พระราชทานพระราโชวาท ให้ครู ช่วยกันดูแลนักเรียน ทั้งด้านส่งเสริมความรู้ใหม่ๆ กระตุ้นพัฒนาการ จะได้เป็นประชาชนที่มีคุณภาพต่อไป ข่าวในพระราชสํานัก สทท.
30/1/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230131094623009
null
สมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี ทรงออกหน่วยสัตวแพทย์อาสาจุฬาภรณ์ ในพื้นที่จังหวัดชลบุรี
วันนี้ 30 มกราคม 2566 เวลา 7 นาฬิกา สมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี เสด็จไปยังหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน ค่ายกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ อําเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี ทรงออกหน่วยสัตวแพทย์อาสาจุฬาภรณ์ เพื่อควบคุมและป้องกันการแพร่ระบาดของโรคพิษสุนัขบ้า โอกาสนี้ พระราชทานพระวโรกาสให้นายธวัชชัย ศรีทอง ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี เฝ้า รับพระราชทานวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า จํานวน 500 โดส เพื่อนําไปฉีดสร้างภูมิคุ้มกันให้กับสัตว์เลี้ยงของประชาชนและสัตว์จรจัดในพื้นที่ พร้อมกับทรงฉีดวัคซีนให้แก่สุนัข จํานวน 2 ตัว จากนั้น ทรงงานวิสัญญีทางด้านสัตวแพทย์ ภายใน "รถผ่าตัดเคลื่อนที่" ซึ่งติดตั้งอุปกรณ์ที่มีมาตรฐานและความปลอดภัยสูง ร่วมกับทีมสัตวแพทย์อาสาจุฬาภรณ์ เพื่อผ่าตัดทําหมันและรักษาโรคมดลูกอักเสบ ให้กับสุนัข รวม 11 ตัว สําหรับการทําหมันให้สุนัข มีผลดีทั้งในเรื่องช่วยลดการเกิดโรคทางระบบสืบพันธุ์ในสุนัข อาทิ ภาวะมดลูกอักเสบ ลดอัตราการเกิดเนื้องอกบริเวณเต้านมของสุนัขเพศเมีย ที่อาจจะกลายเป็นมะเร็งได้ อีกทั้งช่วยลดภาวะต่อมลูกหมากโตในสุนัขเพศผู้ โดยสัตวแพทย์จะแนะนําให้นําสัตว์เลี้ยงเข้ารับการผ่าตัดทําหมัน ตั้งแต่วัยก่อนเข้าสู่วัยเจริญพันธุ์ ซึ่งจะลดความเสี่ยงจากการเกิดโรคดังกล่าวได้ นอกจากนี้ การทําหมันยังเป็นการควบคุมการขยายพันธุ์ของสุนัขจรจัดและตัดวงจรการแพร่ระบาดของโรคพิษสุนัขบ้ามาสู่คนได้เป็นอย่างดี ในการนี้ ทรงติดตามเฝ้าระวังสัญญาชีพของสุนัขอย่างใกล้ชิดตลอดระยะเวลาการผ่าตัด เพื่อทรงประเมินความปลอดภัยของสุนัขให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุดตามมาตรฐานวิชาชีพทางสัตวแพทย์ จังหวัดชลบุรี ยังพบการแพร่ระบาดของโรคพิษสุนัขบ้า โดยเฉพาะในสุนัขจรจัด ซึ่งช่วงต้นเดือนมกราคม พบผู้เสียชีวิตจากโรคพิษสุนัขบ้า จํานวน 1 ราย อาศัยในพื้นที่อําเภอบ้านบึง มีประวัติถูกสุนัขที่เป็นพาหะข่วนและไม่ได้เข้ารับการรักษา ทางจังหวัดชลบุรี ได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งดําเนินการป้องกันและควบคุมโรคพิษสุนัขบ้าอย่างทันท่วงที โดยดําเนินการฉีดวัคซีนและทําหมัน โดยเฉพาะในกลุ่มสัตว์จรจัด รวมทั้งให้ความรู้แก่ประชาชนในการป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าและวิธีการดูแลตนเองให้ปลอดภัย ซึ่งหากถูกสัตว์กัด ข่วน หรือเลียบาดแผล ให้รีบไปพบแพทย์เพื่อฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าทันที่ สําหรับการออกหน่วยสัตวแพทย์อาสาจุฬาภรณ์ครั้งนี้ มีหน่วยงานด้านปศุสัตว์ในพื้นที่ร่วมให้บริการฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าให้กับสุนัขและแมว จํานวน 133 ตัว และผ่าตัดทําหมัน จํานวน 126 ตัว เพื่อช่วยเหลือแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายของประชาชนเจ้าของสัตว์เลี้ยงและเป็นส่วนหนึ่งในการกําจัดโรคพิษสุนัขบ้าให้หมดไปจากประเทศไทยตามพระปณิธานอย่างยั่งยืน ทั้งนี้มูลนิธิจุฬาภรณ์ ขอเชิญชวนประชาชนร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการกําจัดโรคพิษสุนัขบ้าให้หมดไปจากประเทศไทย โดยสบทบทุนจัดซื้อเครื่องมือและอุปกรณ์ทางการสัตวแพทย์ในรถผ่าตัดเคลื่อนที่ พร้อมรับเสื้อลายภาพวาดฝีพระหัตถ์ "คุณไหมทอง" สุนัขทรงเลี้ยงเป็นที่ระลึก ที่ธนาคารไทยพาณิชย์ เลขที่บัญชี 468-116003-1 เงินบริจาคนําไปลดหย่อนภาษีได้ 2 เท่า รายละเอียดเพิ่มเติมที่ แฟนเพจเฟซบุ๊ก : ปันน้ําใจ สู้ภัยพิษสุนัขบ้า ข่าวในพระราชสํานัก สทท.
30/1/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230131094840010
null
สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงติดตามการดำเนินงานโครงการพัฒนาเด็กและเยาวชนตามพระราชดำริ โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน ในพื้นที่อำเภอนายูง จังหวัดอุดรธานี ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์
วันนี้ 31 มกราคม 2566 เวลา 9 นาฬิกา 23 นาที สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จออก ณ วังสระปทุม ทรงติดตามการดําเนินงานโครงการพัฒนาเด็กและเยาวชนตามพระราชดําริ โรงเรียนตํารวจตระเวนชายแดนบ้านเมืองทอง ตําบลโนนทอง อําเภอนายูง จังหวัดอุดรธานี ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ (ออนไลน์) เปิดทําการเรียนการสอนตั้งแต่ปี 2532 ระดับอนุบาลถึงระดับประถมศึกษาปีที่ 6 ปัจจุบันมีนักเรียนจํานวน 54 คน ครู ตชด.จํานวน 5 นาย และบุคลากรทางการศึกษา จํานวน 4 คน อยู่ในพื้นที่รับผิดชอบของกองกํากับการตํารวจตะเวนชายแดนที่ 24 จังหวัดอุดรธานี ด้านการเรียนการสอน ในปีการศึกษา 2564 นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 มีผลการประเมินความสามารถพื้นฐานระดับชาติ (NT) ด้านภาษาไทยและด้านคณิตศาสตร์ สูงกว่าระดับประเทศ ส่วนผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติ หรือ O-NET ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 คะแนนเฉลี่ย 4 กลุ่มสาระ ต่ํากว่าระดับประเทศ แก้ไขโดยการจัดการเรียนสอนซ่อมเสริมเป็นรายบุคคลในช่วงเวลาหลังเลิกเรียนและกิจกรรมพี่สอนน้อง นักเรียนในพระราชานุเคราะห์ มีจํานวน 25 คน ปัจจุบันกําลังศึกษาอยู่ จํานวน 4 คน ได้พระราชทานคําแนะนํา ให้ศึกษาความรู้วิชาการและพัฒนาตนเองเพิ่มเติม นอกจากนี้ ชมรมศิษย์เก่าฯ ได้เข้ามาพัฒนาและสนับสนุนทุนการศึกษาให้แก่นักเรียน อาทิ การจัดทําผ้าป่าการศึกษา ปรับปรุงภูมิทัศน์ภายในโรงเรียนและกิจกรรมเลี้ยงอาหารกลางวัน โดยในวันนี้มีการสาธิตการเรียนการสอนวิชาวิทยาศาสตร์ เรื่องการจําแนกหิน เนื่องจากบริเวณนี้เป็นพื้นที่ภูเขาและติดแม่น้ํา จึงมีหินหลากหลายชนิด ทั้งนี้เพื่อให้นักเรียนสามารถจําแนกหินที่มีอยู่ในพื้นที่ได้และนําไปใช้ประโยชน์ได้ถูกต้องตามประเภทของหิน กิจกรรมห้องสมุดของโรงเรียนฯ มีการส่งเสริมให้นักเรียนมีนิสัยรักการอ่าน โดยจัดมุมหนังสือ แบ่งตามหมวดหมู่เพื่อสะดวกต่อการค้นหา ตามความสนใจของนักเรียน รวมถึงหนังสือแบบเรียนพระราชทาน สําหรับทบทวนนอกเวลาเรียน ด้านการฝึกอาชีพ ส่งเสริมให้นักเรียนใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ สร้างมูลค่าเพิ่มจากผลผลิตที่ปลูกได้ อาทิ การทําสเปรย์ตะไคร้หอมไล่ยุง จากสวนสมุนไพรของโรงเรียน ส่งขายในสหกรณ์โรงเรียน ชุมชนและผ่านช่องทางออนไลน์ ฝึกการใช้เทคโนโลยีใกล้ตัว นอกจากนี้ ยังได้รับรางวัล ระดับเหรียญทอง การประกวดโครงงานอาชีพ จากสํานักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุดรธานี เขต 4 โครงการเกษตรเพื่ออาหารกลางวัน มีผลผลิตเพียงพอกับความต้องการ ในการประกอบอาหารเลี้ยงภายในโรงเรียน โดยฝึกให้นักเรียนหมุนเวียนกัน รับผิดชอบ ดูแลแปลงพืชผัก โรงเรือนปลูกเมล่อน กิจกรรมปศุสัตว์ อาทิ ไก่ไข่ แพะ และหมูป่า กิจกรรมประมง เลี้ยงปลาตะเพียน ปลาดุก ปลานิล กุ้งก้ามกราม และหอยเชอรี่สีทอง ผลผลิตที่ได้ ขายผ่านร้านค้าสหกรณ์ของโรงเรียนและขยายผลสู่ชุมชนโดยการแจกต้นกล้าพันธุ์ผักและไก่พันธุ์พื้นเมือง เพื่อลดค่าใช้จ่ายในครัวเรือน เวลา 13 นาฬิกา 32 นาที สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จออก ณ วังสระปทุม ทรงติดตามการดําเนินงานโครงการพัฒนาเด็กและเยาวชนตามพระราชดําริ โรงเรียนตํารวจตระเวนชายแดนบ้านห้วยเวียงงาม ตําบลนายูง อําเภอนายูง จังหวัดอุดรธานี ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ (ออนไลน์) ปัจจุบันมีนักเรียน จํานวน 117 คน ครู ตชด. 4 นาย และครูอัตราจ้าง ครูผู้ดูแลเด็กและครูอาสา รวมจํานวน 7 คน เปิดสอนตั้งแต่ระดับชั้นอนุบาลถึงระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ผลการประเมินความสามารถพื้นฐานระดับชาติ (NT) ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ปีการศึกษา 2564 มีคะแนนเฉลี่ยต่ํากว่าระดับประเทศ ส่วนผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติ หรือ O-NET ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ปีการศึกษา 2564 ทั้ง 4 สาระ ต่ํากว่าระดับประเทศ ทางโรงเรียนแก้ไขด้วยการปรับกระบวนการเรียนการสอน มีการสอนซ่อมเสริม เน้นการใช้สื่อการเรียนการสอนเพิ่มขึ้น รวมทั้งมีการโค้ชชิ่งให้กับครู เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการสอน กิจกรรมห้องสมุด มีหนังสือพระราชนิพนธ์และหนังสือแบบเรียนพระราชทาน รวมทั้งมีการสาธิตการค้นหาคําศัพท์จากพจนานุกรม กิจกรรมสหกรณ์นักเรียน มีการรวมกลุ่มนักเรียน เช่น กลุ่มปลูกผัก กลุ่มเลี้ยงไก่ไข่ กลุ่มเลี้ยงกบและกลุ่มเลี้ยงปลา แล้วทําบันทึกบัญชีฟาร์มและตั้งราคาขาย เพื่อเป็นการฝึกฝนให้เด็กรู้เรื่องสหกรณ์ ที่ผ่านมาโรงเรียนได้รับรางวัลรองชนะเลิศ อันดับ 1 การประกวดการบันทึกรายงานการประชุมในสหกรณ์นักเรียนปีงบประมาณ 2565 โอกาสนี้ ผู้แทนศูนย์สุขภาพจิตที่ 8 กราบบังคมทูลรายงานผลการดําเนินงานโครงการส่งเสริมพัฒนาเด็กปฐมวัยในพื้นที่ทุรกันดาร ตามพระราชดําริ โดยการใช้โปรแกรมการส่งเสริมพัฒนาการและสร้างวินัยเชิงบวกโดยครอบครัวมีส่วนร่วม หรือ Tripple P (ทริปเปิ้ล พี) ประเมินเด็ก 3 ด้านคือ พัฒนาการเด็ก EQ ทักษะการเลี้ยงดูเด็กของผู้ปกครอง จํานวน 29 ครอบครัว พบว่า มีเด็กพัฒนาการล่าช้า 2 คนและเด็ก EQ ล่าช้า 2 คน ได้ส่งเด็กไปให้โรงพยาบาลนายูงและโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตําบลห้วยทรายดูแลแล้ว กิจกรรมการเกษตรเพื่ออาหารกลางวัน มีการปลูกผักสวนครัวและส่งเสริมให้เด็กเลี้ยงไก่ไข่กรงตับ ได้ไข่ไก่วันละ 160 ฟอง และเลี้ยงเป็ดไข่ ได้ไข่เป็ดวันละ 75 ฟอง ส่งขายสหกรณ์โรงเรียน เพื่อนําไปประกอบเลี้ยงอาหารกลางวัน ทําให้นักเรียนมีอาหารทานครบทุกมื้อ ส่วนที่เหลือส่งขายในกิจกรรมตลาดผลผลิตเคลื่อนที่ยามเย็นให้กับผู้ปกครอง นอกจากนี้ ยังจัดทําฟาร์มสคูล เพื่อบูรณาการภาษาอังกฤษกับการทําการเกษตร ส่งผลให้นักเรียนมีความรู้ด้านภาษาอังกฤษและการเกษตรดีขึ้น กิจกรรมแปรรูปผลผลิตทางการเกษตร เนื่องจากโรงเรียนผลิตไข่ได้มาก จีงสอนการแปรรูปไข่เค็มและการทําปลานิลหยองและปลาส้ม ในการนี้ ทางโรงเรียนจัดแสดงโปงลาง โดยปราชญ์ชาวบ้านที่มีจิตอาสาเข้ามาช่วยสอนนักเรียนทุกวัน ซึ่งนอกจากจะเป็นการฝึกความกล้าในการแสดงออกแล้ว ยังเป็นการอนุรักษ์และสืบทอดวัฒนธรรมและภูมิปัญญาท้องถิ่นให้คงอยู่ด้วย โอกาสนี้ พระราชทานพระราชวโรกาส ให้กองบัญชาการตํารวจตระเวนชายแดน และบริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จํากัด (มหาชน) ส่วนบริการจังหวัด เฝ้าทูลละอองพระบาทและมีพระราชดํารัส แก่ทุกคนทุกฝ่ายเพื่อเป็นขวัญกําลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ ให้เกิดการพัฒนาต่อไป ข่าวในพระราชสํานัก สทท.
31/1/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230201110446064
null
รายงานพิเศษ : “สถานการณ์และการบริหารจัดการไฟป่าหมอกควันพื้นที่ภาคเหนือช่วงหน้าแล้ง”
รายงานพิเศษ : “สถานการณ์และการบริหารจัดการไฟป่าหมอกควันพื้นที่ภาคเหนือช่วงหน้าแล้ง” ช่วงเดือนมีนาคมนี้ประเทศไทยจะเข้าสู่ฤดูร้อนหรือหน้าแล้งอย่างเต็มตัวแล้ว ส่งผลให้หลายพื้นที่เกิดความแห้งแล้งและเสี่ยงเกิดไฟป่าที่มาจากการจุดไฟเผาในเขตป่าอนุรักษ์ ป่าสงวนแห่งชาติ และพื้นที่เกษตรกรรม โดยเฉพาะในพื้นที่ 17 จังหวัดภาคเหนือ ทําให้ปีนี้จําเป็นต้องยกระดับมาตรการให้เข้มข้นขึ้น เพื่อลดความรุนแรงจากไฟป่าและหมอกควัน ปีนี้ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้ยกระดับการป้องกันและแก้ปัญหาไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 ในพื้นที่ 17 จังหวัดภาคเหนืออย่างเข้มข้นขึ้น หลังช่วงเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมาเกิดไฟป่าและหมอกควัน หรือฝุ่น PM 2.5 รุนแรงจนกระทบต่อสุขภาพของประชาชน สาเหตุหลักเกิดจากปัจจัยสภาพอากาศภายในประเทศ ส่วนผลกระทบจากจุดความร้อน (Hotspot) ของประเทศเพื่อนบ้านต่อไทยมีไม่เกินร้อยละ 5 ของปริมาณฝุ่นที่เกิดขึ้น ทําให้ไทยจําเป็นต้องออกมาตรการภายในประเทศที่ชัดเจนมาควบคุม ด้วยการให้กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืชประกาศปิดพื้นที่ป่าอนุรักษ์หรืออุทยานแห่งชาติที่มีจุดความร้อนสูงสุดและเสี่ยงเกิดไฟป่ารุนแรงกว่า 10 แห่งในพื้นที่ 17 จังหวัดภาคเหนือ ยกเว้นส่วนที่ให้บริการการท่องเที่ยวที่มีความปลอดภัย เพื่อให้เจ้าหน้าที่เข้าพื้นที่ควบคุมจุดความร้อนได้คล่องตัวมากขึ้นและปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด เช่น เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าลุ่มน้ําปาย // อุทยานแห่งชาติผาแดง // อุทยานแห่งชาติถ้ําผาไท // อุทยานแห่งชาติออบหลวง // เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอมก๋อย // อุทยานแห่งชาติแม่ปิง // อุทยานแห่งชาติศรีน่าน // เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าแม่ตื่น ส่วนพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติกรมป่าไม้อยู่ระหว่างวิเคราะห์จุดที่มีความเสี่ยงสูงเสนอผู้ว่าราชการจังหวัดขอเข้าควบคุมเส้นทางในพื้นที่มีความเสี่ยงสูง เพื่อควบคุมการเกิดจุดความร้อนและปฏิบัติการดับไฟป่าได้อย่างรวดเร็ว เนื่องจากคาดการณ์การเติบโตของระบบเศรษฐกิจและการสะสมของเชื้อเพลิงช่วง 2 - 3 ปีที่ผ่านมา พบมีพื้นที่เสี่ยงต่อการเกิดไฟป่าในพื้นที่ป่าอนุรักษ์ 17 จังหวัดภาคเหนือ โดยเฉพาะพื้นที่ไฟไหม้ซ้ําซากพบเกิดในพื้นที่อุทยานแห่งชาติ 7 แห่ง // เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า 6 แห่ง และวนอุทยานแห่งชาติ 2 แห่ง นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง และรักษาราชการแทนอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช เล่าว่า ปีนี้ไฟป่าเกิดขึ้นเร็วเริ่มมาตั้งแต่ต้นเดือนกุมภาพันธ์กระจายอยู่ในพื้นที่ภาคเหนือตอนบน ภาคเหนือตอนล่าง และภาคกลาง พบจุดความร้อนมากสุดที่จังหวัดกาญจนบุรีเกือบ 4,000 จุด รองลงมาเป็นตากและเชียงใหม่ที่มีความรุนแรงและดับยากขึ้น แล้วหลายพื้นที่ต้องส่งกําลังเจ้าหน้าที่เข้าไปลึกมากเพื่อดับไฟ โดยเฉพาะช่วงป่ารอยต่อ สาเหตุมาจากประชาชนจุดไฟเผาเพื่อหาของป่าและจุดให้หญ้าขึ้นเพื่อเป็นอาหารสัตว์ยิ่งทําให้ไฟป่ากระจายตัว ทั้งนี้ คาดการณ์จากนี้ 1 - 2 สัปดาห์ สถานการณ์อาจทวีความรุนแรงขึ้นเมื่อเข้าสู่ฤดูร้อนเต็มตัวจะเสี่ยงเกิดไฟไหม้ป่าอีกครั้ง จึงต้องเฝ้าระวังพื้นที่ในจังหวัดแม่ฮ่องสอน กาญจนบุรี เชียงใหม่ ลําพูน เพชรบูรณ์ เลย และน่าน เพื่อป้องกันเกิดไฟป่าในพื้นที่ที่เข้าถึงยากไปจนถึงสิ้นเดือนมีนาคมนี้ “ไฟป่า” ส่วนใหญ่ของประเทศไทยเกือบ 100 เปอร์เซ็นต์เกิดจากฝีมือของมนุษย์ โดยเฉพาะการเผาเตรียมพื้นที่ทําเกษตรกรรม แล้วลุกลามต่อไปยังพื้นที่ป่าใกล้เคียง จุดไฟเผาในพื้นที่เขตป่า จุดไฟเผาเพื่อล่าสัตว์หรือเพื่อเก็บของป่า แต่สิ่งที่ได้รับผลกระทบกลับเป็นผืนป่าสมบูรณ์ถูกทําลาย ลดทอนความสามารถการเจริญเติบโตของต้นไม้ และสัตว์ป่าโดนทําลายถิ่นที่อยู่อาศัย ส่วนมนุษย์ต้องสูดดมควันไฟ หมอกควัน และฝุ่นละออง PM 2.5 เข้าไปจนเกิดปัญหาของทางเดินระบบหายใจ กระทบระบบเศรษฐกิจ ภาคการท่องเที่ยว และการคมนาคมขนส่ง สําหรับบทลงโทษมีตั้งแต่สถานเบาไปจนถึงหนัก จะเริ่มจากการตักเตือนจนถึงขั้นดําเนินคดีตามกฎหมาย โดยบทลงโทษของบุคคลใดที่เผาป่าในอุทยานแห่งชาติ วนอุทยาน สวนพฤกษศาสตร์ หรือสวนรุกขชาติ ต้องระวางโทษจําคุกตั้งแต่ 4 - 20 ปี หรือปรับตั้งแต่ 400,000 - 2,000,000 บาท หรือทั้งจําทั้งปรับ ตามมาตรา 41 แห่งพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2562
1/3/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230301131850137
null
***รายงานพิเศษ*** จ.นราธิวาส อนุรักษ์ประเพณีวิถีพื้นบ้าน “ลงแขกเกี่ยวข้าว” แปลงนาโครงการฟาร์มตัวอย่างฯ บ้านตอหลัง อ.ระแงะ พร้อมต่อยอดแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรตามแนวพระราชดำริ
ประเพณีลงแขกเกี่ยวข้าว เป็นประเพณีไทยที่งดงามอีกอย่างหนึ่งของชาวนาไทย เป็นวัฒนธรรมประเพณีแห่งการเกื้อกูลกันของสังคมคนในอดีต งานที่มักจะมีการลงแขก เช่น การลงแขกทํานา ซึ่งมีการลงแขกดํานา ลงแขกเกี่ยวข้าวลงแขกตีข้าว (นวดข้าว) เป็นต้น ช่วยงานกันคนละมือละไม้ใช้เวลาไม่นานงานก็สําเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี ปัจจุบันกิจกรรมการลงแขกนับวันจะสูญหายจากสังคมไทย ในพื้นที่จังหวัดนราธิวาส จึงได้มีการจัดกิจกรรมลงแขกเกี่ยวข้าวเพื่อสืบสานอนุรักษ์ประเพณีที่งดงามไม่ให้สูญหายไป ซึ่งที่อําเภอระแงะ ทางพันเอก ทวีรัตน์ เบญจาทิกุล ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 45 นํากําลังพลในสังกัดพร้อมด้วยสมาชิกโครงการฟาร์มตัวอย่างฯ และประชาชนชาวไทยพุทธ ไทยมุสลิมในพื้นที่ ร่วมกิจกรรมลงแขกเกี่ยวข้าว บริเวณแปลงนาภายในโครงการฟาร์มตัวอย่างในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถพระบรมราชชนนีพันปีหลวง บ้านตอหลัง ตําบลตันหยงลิมอ อําเภอระแงะ จังหวัดนราธิวาสพันเอก ทวีรัตน์ กล่าวว่า นอกจากการจัดกิจกรรมฯ จะแสดงออกถึงความมีน้ําใจ ช่วยเหลือเกื้อกูลกัน ความสามัคคีของคนในชุมชนแล้ว ยังช่วยเสริมสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างเจ้าหน้าที่รัฐกับประชาชน และร่วมกันอนุรักษ์ประเพณีวิถีพื้นบ้าน พร้อมนํากําลังพลศึกษาเรียนรู้“...เรื่องหลักเศรษฐกิจพอเพียง เป็นนโยบายของพลเอก ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก ในการให้กําลังพลลงพื้นที่ไปศึกษาเรียนรู้ ซึ่งได้นําเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการกิจการพลเรือนของหน่วย ร่วมกับกองร้อยทหารพรานที่ 4505 ศึกษาเรียนรู้เกี่ยวกับเกษตรทฤษฎีใหม่ เกษตรตามแนวเศรษฐกิจพอเพียง เพื่อนําไปประยุกต์ใช้กับหน่วย อีกทั้งต่อยอดในครอบครัว ขยายผลให้กับประชาชนด้วย...”ด้านนางสาวนันทนา สุขเต๊ะ เจ้าหน้าที่งานพืชและประมง โครงการฟาร์มตัวอย่างฯ บ้านตอหลัง กล่าวว่า แปลงนาที่ร่วมกันลงแขกเกี่ยวข้าวครั้งนี้ เป็นพื้นที่โครงการฟาร์มตัวอย่างฯ ต้านภัยโควิด-19 แปลงเกษตรทฤษฎีใหม่ ซึ่งทางศูนย์อํานวยการใหญ่โครงการจิตอาสาพระราชทาน ได้จัดทําโครงการฯ เพื่อช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 กลับถิ่นฐานภูมิลําเนา ตกงาน ขาดรายได้ โดยน้อมนําโครงการฟาร์มตัวอย่างในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ในการช่วยเหลือประชาชนอย่างมีประสิทธิภาพและเกิดประโยชน์สูงสุด“...ขอขอบพระคุณพระองค์ท่าน ที่ทําให้มีรายได้เสริมจากการที่ทํางานอยู่บ้าน ได้นําความรู้จากฟาร์มฯ ไปเผยแพร่ให้ชาวบ้านได้มีกิจกรรม และนํากลับมาขายในฟาร์มฯ ...”ภายในบริเวณแปลงนา โครงการฟาร์มตัวอย่างฯ ต้านภัยโควิด-19 มีเนื้อที่รวม 5 ไร่ ข้าวที่ปลูกเป็นข้าวพันธุ์พื้นเมือง “ซีบูกันตัง” ซึ่งจะนําไปจําหน่ายสร้างรายได้ และแจกจ่ายให้กับประชาชนกลุ่มเปราะบาง อาทิ ผู้ยากไร้ ผู้ป่วยติดเตียง เพื่อช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อน ลดรายจ่ายในครัวเรือน ปัจจุบันหลังสถานการณ์โควิด-19 เริ่มคลี่คลาย ได้เปิดเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรให้ผู้สนใจทั่วไปได้เข้ามาศึกษาเรียนรู้ตามหลักเศรษฐกิจพอเพียง มีโซนแปลงนาข้าว โซนปลูกผัก โซนเลี้ยงสัตว์ โซนประมง อีกทั้งภายในบริเวณฟาร์มตัวอย่างฯ ยังมีกิจกรรมต่าง ๆ ที่น่าสนใจอีกมากมาย ทั้งนี้ผู้สนใจจะเดินทางไปศึกษาดูงานที่โครงการฟาร์มตัวอย่างฯ สามารถติดต่อประสานงานได้ที่คุณสุพรรณี ไชยแก้ว ผู้จัดการฟาร์ม มือถือ 093-4121177#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
1/3/2023
ภาคใต้
นราธิวาส
สวท.นราธิวาส
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230301104114047
null
รายงานพิเศษ : “ก.ทรัพย์ฯ เร่งสร้างเครือข่ายผู้ประกอบการร้านกาแฟที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม 5 แห่ง ในพื้นที่ 3 จังหวัด”
รายงานพิเศษ : “ก.ทรัพย์ฯ เร่งสร้างเครือข่ายผู้ประกอบการร้านกาแฟที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม 5 แห่ง ในพื้นที่ 3 จังหวัด” กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เร่งสร้างการรับรู้และเครือข่ายผู้ประกอบการร้านกาแฟที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม (Green Coffee Shop) 5 แห่ง ในพื้นที่ 3 จังหวัด พร้อมตั้งเป้าดึงผู้ประกอบการร้านกาแฟแบรนด์ท้องถิ่นตามแหล่งท่องเที่ยวและชุมชนเข้าร่วมอีก 20 แห่งปีนี้ ในทุกวันนี้ “กาแฟ” กลายมาเป็น 1 ในปัจจัยสําคัญของการใช้ชีวิตของประชาชน โดยเฉพาะคนทํางานที่ต้องดื่มอย่างน้อย 1 แก้วต่อวัน จนเกิดธุรกิจร้านกาแฟขึ้นจํานวนมากทั้งในเขตเมืองใหญ่ ชานเมือง แหล่งท่องเที่ยว และชุมชนต่างๆ จนอาจลืมนึกไปว่าขยะจากแก้วกาแฟและหลอดพลาสติกถูกทิ้งเป็นขยะเพิ่มขึ้นเช่นกัน โดยกาแฟ 1 แก้วสร้างขยะมากถึง 4 – 5 ชิ้น เช่น ถุงหิ้ว หลอดดูดน้ํา ฝาครอบ แก้ว กระดาษทิชชู กระดาษห่อหลอด น้ําแข็งที่เหลือในแก้ว หากเฉลี่ยจะดื่มกาแฟหมดภายในเวลาประมาณ 20 นาที แต่ขยะพลาสติกนี้จะอยู่กับโลกไปนานถึง 450 ปี แล้วเมื่อกินกาแฟต่อวัน 1 แก้วไปนาน 40 ปี จะสร้างปริมาณขยะสูงถึง 58,400 ชิ้นต่อคน แล้วภาพรวมการสังเกตพฤติกรรมการทิ้งแก้วกาแฟส่วนใหญ่ยังไม่ถูกวิธี ส่งผลให้เกิดอุปสรรคกับกระบวนการคัดแยกนําไปรีไซเคิลใหม่ ช่วง 10 ปีที่ผ่านมา “ประเทศไทย” มีขยะพลาสติกเกิดขึ้นประมาณร้อยละ 12 ของปริมาณขยะที่เกิดขึ้นทั้งหมด หรือประมาณปีละ 2 ล้านตัน พบนําขยะพลาสติกกลับไปใช้ประโยชน์เฉลี่ยเพียงประมาณปีละ 500,000 ตัน แล้วที่เหลือ 1.5 ล้านตัน ส่วนใหญ่เป็นพลาสติกแบบใช้ครั้งเดียว (Single-Use Plastics) เช่น ถุงร้อน ถุงเย็น ถุงหูหิ้ว แก้วพลาสติก หลอดพลาสติก กล่องพลาสติก โดยไม่นํากลับไปใช้ประโยชน์หรือเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจหมุนเวียน ถือเป็นการเสียโอกาสการใช้ทรัพยากรให้คุ้มค่า ซึ่งข้อมูลจากกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) ระบุว่าไทยมีปริมาณขยะมูลฝอยประเภทแก้วพลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวเกิดขึ้น 9,750 ล้านใบต่อปี และหลอดพลาสติกเกิดขึ้น 5,000 ล้านหลอดต่อปี โดยมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นจากพฤติกรรมการบริโภคและการเติบโตทางเศรษฐกิจในกลุ่มธุรกิจร้านกาแฟและตลาดกาแฟในไทยด้วย ที่ผ่านมา “กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม” มีความตั้งใจปรับเปลี่ยนรูปแบบการผลิต การบริการ และการบริโภคที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมที่คํานึงถึงการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรอย่างคุ้มค่า เกิดประโยชน์สูงสุด ลดปริมาณขยะและผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมให้น้อยที่สุด โดยเฉพาะการดึงผู้ประกอบการร้านกาแฟมาเข้าร่วมเป็นร้านกาแฟที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม (Green Coffee Shop) นางภาวินี ณ สายบุรี รองอธิบดีกรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม เล่าว่า ปีนี้เน้นรณรงค์สร้างการรับรู้และประชาสัมพันธ์เครือข่ายผู้ประกอบการร้านกาแฟที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม (Green Coffee Shop) 5 แห่ง ในพื้นที่ 3 จังหวัด คือ เชียงใหม่ , ขอนแก่น และกาญจนบุรี เพื่อรณรงค์และขยายผลการขับเคลื่อนร้านกาแฟที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม สร้างสังคมแห่งการผลิต การบริการ และการบริโภคที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน พร้อมตั้งเป้าจะขับเคลื่อนร้านกาแฟที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม (Green Coffee Shop) จาก 30 แบรนด์ชั้นนําไปสู่ร้านกาแฟแบรนด์ท้องถิ่นตามแหล่งท่องเที่ยวและชุมชนให้เข้าร่วมโครงการนี้เพิ่มอีก 20 แห่ง สําหรับการสร้าง “ร้านกาแฟที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม (Green Coffee Shop)” สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี (พ.ศ. 2561 - 2580) , ยุทธศาสตร์ด้านการสร้างการเติบโตบนคุณภาพชีวิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และ Roadmap การจัดการขยะพลาสติก พ.ศ. 2561 – 2573 ซึ่งจะช่วยกระตุ้นจิตสํานึกอย่างมีส่วนร่วมให้กับประชาชน เกิดการคัดแยกบรรจุภัณฑ์หรือวัสดุใช้แล้วหลังจากบริโภค หรือนํากลับเข้าสู่กระบวนการรีไซเคิลหรือการหมุนเวียนกลับมาใช้ประโยชน์ใหม่ ตามหลักการเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy)
3/3/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230303160659029
null
รายงานพิเศษเรื่อง การบริหารจัดการน้ำของจังหวัดตรัง เพื่อความมั่นคงด้านทรัพยากรน้ำในพื้นที่และการอยู่ดี กินดี ของประชาชน
ผู้ประกาศ : ท่านผู้ฟังคะ/ครับ จังหวัดตรัง มีการบริหารจัดการน้ําของเพื่อความมั่นคงด้านทรัพยากรน้ําในพื้นที่ เพื่อแก้ปัญหาน้ําท่วม น้ําแล้ง เพิ่มแหล่งน้ําระดับชุมชนและการอยู่ดี กินดี ของประชาชนอย่างไร ติดตามได้จากรายงานค่ะ/ครับ ผู้รายงาน : การลงพื้นที่ตรวจราชการในพื้นที่ภาคใต้ ของพลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้อํานวยการกองอํานวยการน้ําแห่งชาติ (กอนช.) เพื่อติดตามสถานการณ์น้ําในพื้นที่ภาคใต้และแผนงานพัฒนาโครงการต่างๆ ให้เกิดความมั่นคงด้านทรัพยากรน้ําในพื้นที่จังหวัดตรัง เพื่อบรรเทาและแก้ไขปัญหาน้ําท่วมน้ําแล้งในพื้นที่ให้กับพี่น้องประชาชนได้อย่างยั่งยืน โดยพลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้อํานวยการกองอํานวยการน้ําแห่งชาติ (กอนช.) กล่าวว่า รัฐบาลให้ความสําคัญในการพัฒนาสร้างรากฐานความมั่นคงด้านทรัพยากรน้ําเป็นลําดับแรก จึงได้สนับสนุนงบประมาณให้กรมทรัพยากรน้ําบาดาลดําเนินการโครงการต่างๆ เพื่อช่วยเหลือประชาชนให้มีน้ําอุปโภคบริโภคได้ตลอดทั้งปีและแก้ไขปัญหาขาดแคลนน้ําภาคครัวเรือน โดยโครงการพัฒนาน้ําบาดาลเพื่อความมั่นคงระดับชุมชน ตําบลนาโต๊ะหมิง อําเภอเมือง จังหวัดตรัง จะช่วยประชาชนในพื้นที่ได้อยู่ดี กินดี และมีความสุข ปล่อยเสียงพลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีรองนายกรัฐมนตรี ได้มอบหมายให้ สทนช. กํากับ ติดตาม การดําเนินโครงการด้านทรัพยากรน้ําให้แล้วเสร็จตามแผน รวมทั้งบูรณาการหน่วยงานดําเนินการตามมาตรการรองรับฤดูแล้งอย่างเคร่งครัด เนื่องจากอาจมีบางพื้นที่ที่อาจประสบปัญหาฝนน้อยหรือทิ้งช่วงได้ ด้านนายขจรศักดิ์ เจริญโสภา ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง กล่าวว่า จังหวัดตรัง มีความพร้อมในการบริหารจัดการน้ําและการแก้ไขปัญหาน้ําท่วมน้ําแล้งอย่างเป็นระบบ มีการบูรณาการร่วมกันระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการจัดทําแผนและกําหนดมาตรการในการบริหารจัดการน้ําให้สอดคล้องกับสถานการณ์ในพื้นที่ด้วยปล่อยเสียงนายขจรศักดิ์ เจริญโสภา ผู้ว่าราชการจังหวัดตรังทั้งนี้ รองนายกรัฐมนตรี ได้มอบหมายให้จังหวัดตรัง กรมทรัพยากรน้ําบาดาล กรมชลประทาน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง สํารวจพื้นที่เสี่ยงขาดแคลนน้ํา และเตรียมแผนรับมือให้ทันต่อสถานการณ์ รวมทั้งจัดหาแหล่งน้ําสํารองเพื่อป้องกันการขาดแคลนน้ําและรองรับความต้องการน้ําในอนาคต เพื่อยกระดับความมั่นคงด้านน้ําในพื้นที่ รวมถึงสํารวจปัญหาด้านน้ําในทุกมิติ ทั้งน้ําแล้ง น้ําท่วม และคุณภาพน้ํา รายงานคณะอนุกรรมการทรัพยากรน้ําจังหวัด และคณะกรรมการลุ่มน้ํา เพื่อกําหนดมาตรการในการแก้ปัญหาด้านน้ําในพื้นที่อย่างยั่งยืนโดยดําเนินการคู่ขนานไปกับการสร้างการรับรู้ให้ประชาชนทราบถึงสถานการณ์น้ําอย่างต่อเนื่องรวมถึงการรณรงค์การใช้น้ําอย่างประหยัดอย่างต่อเนื่องด้วย#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
4/3/2023
ภาคใต้
ตรัง
สวท.ตรัง
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230304080022197
null
รายงานพิเศษ “ชายหาดบ้านทอน” จ.นราธิวาส
หาดทรายขาว เครื่องบินผ่านหัว กอและจําลอง กระจูดจักสาน...ที่นี่บ้านทอน” “ชายหาดบ้านทอน” เป็นชายหาดหนึ่งที่มีความสวยงามของจังหวัดนราธิวาส และกําลังได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยว ชายหาดที่ทอดยาวสะอาด สวยงาม สภาพธรรมชาติที่ยังคงงดงาม อุดมสมบูรณ์ อีกทั้งเป็นจุดที่เครื่องบินเตรียมลงจอดเห็นเครื่องบินได้ในระยะใกล้ สามารถเก็บภาพความประทับใจแบบเดียวกับที่จังหวัดภูเก็ต และจะเห็นทิวทัศน์ของสวนมะพร้าว บางคนบอกว่าไม่แตกต่างจากฮาวายว่าที่ร้อยตรี จิรัสย์ ศิริวัลลภ นายอําเภอเมืองนราธิวาส กล่าวว่า ชายหาดบ้านทอนตั้งอยู่ในพื้นที่ตําบลโคกเคียนอําเภอเมืองนราธิวาส ห่างจากตัวจังหวัดนราธิวาสประมาณ 12 กิโลเมตร ห่างจากสนามบานนราธิวาส ประมาณ 1 กิโลเมตร เสน่ห์ของชายหาดบ้านทอน เป็นหมู่บ้านชาวประมงที่ยังคงรักษาวิถีชีวิตแบบชาวประมงพื้นบ้านดั้งเดิมตลอดเส้นทางที่จะเดินทางชายหาดบ้านทอน ยังมีความน่าสนใจเพราะจะได้เรียนรู้โครงการตามแนวพระราชดําริด้วย“...ในช่วงมรสุมชาวประมงจากออกเรือไม่ได้ ถ้าเทียบสถานะทางเศรษฐกิจความเป็นอยู่กับคนในพื้นที่ทําการเกษตรคนบ้านทอนจะยากจนมาก จนกระทั่งคนบ้านทอนได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากในหลวงรัชกาลที่ 9 และพระพันปีหลวงที่ทรงโปรดให้มีโครงการศิลปาชีพพิเศษขึ้น มุ่งเน้นชาวบ้านมีรายได้ โดยใช้วัตถุดิบต้นทุนทางสังคมของพื้นที่ ใช้ภูมิปัญญาของท้องถิ่น ที่สําคัญคือไม่ทําให้ชาวบ้านต้องออกไปหางาน...” ในพื้นที่บ้านทอน จะมีโครงการศีลปาชีพที่สําคัญ 2 ส่วน คือ กลุ่มทํากระจูด และกลุ่มทําเรือกอและจําลองนางซาเราะห์ มามะ กลุ่มผลิตภัณฑ์เสื่อกระจูดบ้านทอนฮีเล กล่าวว่า สมัยก่อนจะทําลวดลายโบราณ จนกระทั่งสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เสด็จพระราชดําเนินมาปฏิบัติพระราชกรณียกิจที่จังหวัดนราธิวาส ทรงมีพระราชดําริให้มีการพัฒนาผลิตภัณฑ์กระจูด จัดทําลายใหม่ ๆ ที่มีความสวยงามเช่น ลายอาลีบาบา ลายวงแหวน ลายธนู เป็นต้น สามารถสร้างงาน สร้างรายได้ให้กับประชาชน ได้มีคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ด้านนายซารีฟ เจ๊ะเต๊ะ กลุ่มผลิตภัณฑ์เรือกอและจําลอง กล่าวว่า ในช่วงมรสุมจะออกเรือประมงไม่ได้ ประกอบกับมีอู่ต่อเรือในพื้นที่ จึงมีแนวคิดนําเศษไม้มาทําเรือกอและจําลอง ต่อมาสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถพระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงมีรับสั่งให้มีการตั้งกลุ่มขึ้น มีการจัดประกวดในงานของดีเมืองนรา เพื่อให้เกิดการพัฒนาฝีมือและมีรายได้ ทุกวันนี้ชุมชนบ้านทอน นอกเหนือจากโครงการศิลปาชีพ ยังมีสินค้าโอทอปที่ได้รับการสนับสนุนจากทางราชการอาทิสํานักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดนราธิวาส แต่ในช่วง 5-6 ปีที่ผ่านมา มีเรื่องของการท่องเที่ยวเกิดขึ้นในชุมชนบ้านทอนมีร้านกาแฟเก๋ ๆ ร้านอาหาร โฮมสเตย์เล็ก ๆ น่ารักอบอุ่น ที่พร้อมรับนักท่องเที่ยวมาเยี่ยมเยือนสิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นภายใต้โครงสร้างชุมชนที่เข้มแข็ง มีความเป็นเอกภาพของคณะกรรมการหมู่บ้าน คณะกรรมการมัสยิด องค์กรสตรี เยาวชนและผู้นําศาสนา ทําให้เกิดการลงทุน ผู้คนที่จะเดินทางมาท่องเที่ยวชายหาดบ้านทอนมีความมั่นใจในเรื่องของความปลอดภัย และยังได้สัมผัสวิถีชีวิตชุมชนประมงดั้งเดิมที่ผสมผสานกับโครงสร้างที่เข้มแข็งของบ้านทอน สามารถรองรับการพัฒนาได้อย่างยั่งยืน#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
5/3/2023
ภาคใต้
นราธิวาส
สวท.นราธิวาส
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230305111218381
null
อาจารย์หลักสูตรบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยมหิดล วิทยาเขตกาญจนบุรี เสนอแนะวัฒนธรรม 12 เดือน ชาวมอญสังขละบุรี หาชมได้ยาก เป็นเสน่ห์แห่งการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมและชาติพันธุ์ของจังหวัดกาญจนบุรี
วัฒนธรรม 12 เดือน ชาวมอญ อําเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรีอาจารย์หลักสูตรบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยมหิดล วิทยาเขตกาญจนบุรี เสนอแนะวัฒนธรรม 12 เดือน ชาวมอญสังขละบุรี หาชมได้ยาก เป็นเสน่ห์แห่งการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมและชาติพันธุ์ ของจังหวัดกาญจนบุรี จังหวัดกาญจนบุรี มีศักยภาพของแหล่งท่องเที่ยวในรูปแบบการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม และชาติพันธุ์ โดยเฉพาะกลุ่มชาติพันธุ์มอญ อําเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งมีวิถีชีวิต ขนบธรรมเนียม ประเพณีที่สืบทอดกันมาและเป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่เข้มแข็ง อีกทั้งมีรูปแบบของการท่องเที่ยวชุมชน หากต้องการให้เกิดการท่องเที่ยวที่ประสบความสําเร็จควรมุ่งเน้นความร่วมมือระหว่างชุมชน ภาครัฐ และเอกชนในพื้นที่ มีการจัดโปรแกรมและส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างต่อเนื่อง ตลอดจนการขอความร่วมมือกับนักท่องเที่ยวเพื่อให้ความสําคัญ สร้างการตระหนักรู้ และสร้างการมีส่วนร่วมในการท่องเที่ยวชุมชน เพื่อสัมผัสวัฒนธรรมดังกล่าว เช่น การเคารพในกฎระเบียบของชุมชน การจัดการขยะ การปฏิบัติตามประเพณีและวิถีชุมชน เพื่อร่วมกันสืบสาน ประเพณีและอนุรักษ์วิถีชุมชนดังกล่าว รวมทั้ง ช่วยกันสื่อสาร เพื่อกระตุ้นให้เกิดการท่องเที่ยวในทุกเทศกาล สร้างความเชื่อมโยงระหว่างแหล่งท่องเที่ยวชุมชน ประเพณีและวิถีชีวิตของชาวมอญกับแหล่งท่องเที่ยวหลักของอําเภอสังขละบุรี ผศ.ดร.เฉลิมพล ศรีทอง อาจารย์ประจําหลักสูตรบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยมหิดล วิทยาเขตกาญจนบุรีและคณะ ได้เสนอความเห็นด้านการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมและชาติพันธุ์ที่น่าสนใจของจังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งมีความเชื่อมโยงเกี่ยวกับด้านพระพุทธศาสนาและวีถีชีวิตของชาวมอญ อําเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี โดยได้จัดทําเป็นปฏิทินกิจกรรม 12 เดือน เดือนมกราคม ประเพณีลงแขกเกี่ยวข้าวและลงแขกกวัดข้าว ซึ่งปัจจุบันหาชมได้ยาก เดือนกุมภาพันธ์ ประเพณีทํา "ข้าวยาคู" ชาวมอญเรียกว่า "อะคากกะน้า ฮะปักเปิงยิกุ" เดือนมีนาคม ประเพณีบูชาสักการะพระเจดีย์ เป็นงานประจําปีเพื่อการสักการะพระเจดีย์พุทธคยา ซึ่งอยู่ใกล้กับวัดวังก์วิเวการาม เดือนเมษายน ประเพณีมหาสงกรานต์ เดือน 5 ซึ่งถือเป็นวันขึ้นปีใหม่ของชาวมอญ และประเพณี ยกฉัตรเจดีย์ทราย จัดวันสุดท้ายของเทศกาลสงกรานต์ เดือนพฤษภาคม ประเพณีรดน้ําต้นโพธิ์ จัดขึ้นในวันเพ็ญขึ้น 15 ค่ํา เดือน 6 ตรงกับวันวิสาขบูชา ของทุกปี และประเพณีออกร้านตลาดนิพพาน ตรงกับวันวิสาขบูชา เดือนมิถุนายน ประเพณีขอขมาพระอุปชา และประเพณีบรรพชาอุปสมบท เดือนกรกฎาคม ประเพณีเข้าพรรษา วันอาสาฬหบูชา ชาวมอญจะถือดอกไม้ ผ้าอาบน้ําฝน เทินเครื่องไทยธรรมมาถวายพระ เดือนสิงหาคม ประเพณีบุญข้าวนิ เดือนกันยายน ประเพณีลอยเรือสะเดาะเคราะห์ และประเพณีตักบาตรน้ําผึ้ง เดือนตุลาคม ประเพณีตักบาตรเทโวโลหนะ จัดขึ้นตรงกับวันออกพรรษา ขึ้น 15 ค่ํา เดือน 11 ของทุกปี เดือนพฤศจิกายน ประเพณีทอดกฐิน โดยเรียกตามภาษามอญว่า "อะแลกะท่อน" แปลว่า ทอดกฐินในเดือนสิบสอง เดือนธันวาคม ประเพณีตําข้าวเม่า "มอญตําข้าวเม่า จัดขึ้นในช่วงเดือนอ้ายใกล้ฤดูเก็บเกี่ยว "ข้าวเม่า" หรือภาษามอญว่า "อะงาน" อีกหนึ่งรูปแบบการท่องเที่ยวของจังหวัดกาญจนบุรี ที่อยากจะแนะนําให้นักท่องเที่ยวได้ร่วมสัมผัส และเป็นการสร้างประสบการณ์การท่องเที่ยวบนพื้นฐานมรดกทางวัฒนธรรมของชุมชนที่หายาก ณัฏฐภัส เหลืองพฤกษชาติ / สวท.กาญจนบุรี#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
5/3/2023
ภาคตะวันตก
กาญจนบุรี
สวท.กาญจนบุรี
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230305111945382
null
สกู๊ป ช่างไฟฟ้าประจำหมู่บ้าน
อัคคีภัยเป็นหนึ่งภัยที่สร้างความสูญเสียในชีวิตและทรัพย์สินให้กับประชาชน โดยสาเหตุส่วนใหญ่มาจากระบบไฟฟ้าลัดวงจร เนื่องจากอุปกรณ์และเครื่องใช้ไฟฟ้ามีความชํารุด ดังนั้นจึงเป็นที่มาของการส่งบุคคลากรลงพื้นที่ตรวจซ่อม ให้คําแนะนําแก่ประชาชน เพื่อเสริมสร้างความเข้าใจและปรับเปลี่ยนพฤติกรรมที่จะทําให้ลดการสูญเสีย แต่ด้วยบุคลากรที่เชี่ยวชาญมีไม่เพียงพอ จังหวัดนครพนมจึงเตรียมสร้าง ช่างไฟฟ้าประจําหมู่บ้านนายวันชัย จันทร์พร ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม กล่าวว่า จะให้ชาวบ้านที่พอมีความรู้เรื่องช่างไฟฟ้ามาอบรมในเรื่องของการดูระบบไฟฟ้า ใช้เวลา 1 วันสําหรับการอบรม ซึ่งจะให้เจ้าหน้าที่ของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคระดับอําเภอมาสอนวิธีการตรวจ การเช็ค การทําระบบไฟฟ้าให้ถูกต้อง เพื่อให้ชาวบ้านที่มาอบรมมีความเข้าใจ สามารถทําได้และมีความปลอดภัย โดยหลังการอบรมจะได้นําเอาความรู้ที่ได้รับไปใช้ตรวจ ไปวัด ไปดูระบบไฟฟ้าที่ในตอนนี้พบว่าแต่ละหลังคาเรือนมีระบบไฟฟ้าที่เก่ามาก ทําให้มีความเสี่ยงสูงที่จะเกิดการลัดวงจร โดยเฉพาะอย่างยิ่งปลั๊กไฟ ก็ควรให้คําแนะนําที่ถูกต้องไม่ใช่ปลั๊กเดียวพวงต่อกันไป 3-4 จุด แล้วยังต่อกันเพิ่มไปอีกเพราะมีโอกาสสูงที่จะช๊อตได้เราจะเห็นว่านอกจากประชาชนจะได้รับประโยชน์แล้ว ผู้ที่มาอบรมเป็นช่างก็จะมีอาชีพติดตัวไปในอนาคตได้ด้วย#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
7/3/2023
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
นครพนม
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนครพนม
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230307163950917
null
รายงานพิเศษ : “เพิ่มจุด Drop Off ของเสียอันตรายจากชุมชนกว่า 5,000 แห่ง”
รายงานพิเศษ : “เพิ่มจุด Drop Off ของเสียอันตรายจากชุมชนกว่า 5,000 แห่ง” ภาครัฐและภาคเอกชน เพิ่มจุด Drop Off ของเสียอันตรายจากชุมชนกว่า 5,000 แห่ง เพื่อเก็บรวบรวมและแยกทิ้งของเสียอันตรายจากชุมชนอย่างถูกต้อง หลังยังพบกําจัดอย่างวิธีเพียงร้อยละ 13 เท่านั้น เมื่อปี 2565 “ประเทศไทย” มีของเสียอันตรายจากชุมชนเกิดขึ้นประมาณ 600,000 ตัน โดยถูกนํากลับไปใช้ประโยชน์และจัดการอย่างถูกต้องเพียงร้อยละ 13 เนื่องจากประชาชนส่วนใหญ่ยังไม่แยกทิ้งของเสียอันตรายออกจากขยะมูลฝอยทั่วไป จุดทิ้งยังไม่ครอบคลุมเพียงพอที่จะอํานวยความสะดวกให้กับประชาชน ทําให้เกิดแนวคิดเก็บรวบรวมของเสียอันตรายจากชุมชน ภายใต้โครงการความร่วมมือระหว่างภาครัฐกับภาคเอกชน เพื่อสนับสนุนการจัดให้มีจุดทิ้งของเสียอันตรายจากชุมชน หรือ “จุด Drop Off” พร้อมส่งเสริมให้ประชาชนแยกทิ้งของเสียอันตรายจากชุมชนออกจากขยะมูลฝอยทั่วไป ซึ่งเริ่มดําเนินการมาแล้วตั้งแต่ปี 2560 นําร่องรับของเสีย 4 ประเภท ได้แก่ หลอดไฟ ถ่ายไฟฉาย ภาชนะบรรจุสารเคมี ซากโทรศัพท์เคลื่อนที่และอุปกรณ์ต่อพ่วง เพราะของเสียอันตรายเหล่านี้หากทิ้งรวมกับมูลฝอยทั่วไปและจัดการไม่ถูกวิธีจนเกิดการรั่วไหลสู่สิ่งแวดล้อม อาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อมทั้งระยะสั้นและระยะยาวได้ ในปีนี้ "กรมควบคุมมลพิษ (คพ.)" มีแผนที่จะขยายโครงการดังกล่าวให้ครอบคลุม 77 จังหวัดทั่วประเทศ ด้วยการร่วมกับ หน่วยงานภาครัฐ สถาบันการศึกษา สมาคม ภาคเอกชนที่เป็นเจ้าของแบรนด์ขนาดใหญ่ และบริษัทรับกําจัดของเสียอันตรายรวม 50 องค์กร ประกาศเจตนารมณ์ความร่วมมือเก็บรวบรวมของเสียอันตรายจากชุมชน โดยตั้งเป้าจัดให้มีจุด Drop Off กว่า 5,000 แห่ง นายปิ่นสักก์ สุรัสวดี อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) กล่าวว่า เป็นการอํานวยความสะดวกให้กับประชาชน ในการทิ้งขยะอันตรายเพื่อรวบรวมส่งให้กรุงเทพมหานครและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นนําไปบําบัด หรือกําจัดอย่างถูกต้องตามหลักวิชาการ ซึ่งจะทําให้ประชาชนเกิดความเข้าใจและให้ความสําคัญกับอันตรายจากของเสียอันตรายจากชุมชนและมีการแยกทิ้งของเสีย ทําให้เก็บรวบรวมของเสียอันตรายจากชุมชนเข้าสู่ระบบมากขึ้น ได้รับการจัดการอย่างถูกต้อง และเป็นการสร้างเครือข่ายจัดการของเสียอันตรายจากชุมชนทั้งในระดับพื้นที่และระดับประเทศ ทั้งนี้ “ของเสียอันตรายจากชุมชน” เกิดจากกิจกรรมในครัวเรือนและสถานประกอบการพาณิชยกรรมต่างๆในชุมชนที่มีแหล่งกําเนิดมาจากบ้านพักอาศัย การพาณิชยกรรม และเกษตรกรรม ถือเป็นเรื่องเร่งด่วนต้องดําเนินการยกระดับตั้งแต่ระดับสถาบันการศึกษาและท้องถิ่น เพื่อคัดแยกขยะตั้งแต่ต้นทางและทิ้งแยกประเภทให้ถูกหลักวิชาการ
10/3/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230310082618798
null
***รายงานพิเศษ***สำนักงานชลประทานที่ 17 เตรียมแผนการบริหารจัดการน้ำในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ช่วงหน้าแล้ง ปี 2566 เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชน พร้อมเตรียมการจัดการน้ำในพื้นที่ป่าพรุเพื่อป้องกันไฟไหม้ ติดตามได้จากรายงาน…
ปัญหาภัยแล้ง ถือเป็นอีกปัญหาหนึ่งที่รัฐบาลได้บูรณาการหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อแก้ไขปัญหาและบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน โดยภายหลังกรมอุตุนิยมวิทยา ได้ประกาศการเข้าสู่ฤดูร้อนของประเทศไทย ปี 2566 ตั้งแต่วันที่ 5 มีนาคม ที่ผ่านมา และคาดว่าฤดูร้อนจะสิ้นสุดประมาณกลางเดือนพฤษภาคม สํานักงานชลประทานที่ 17 ได้ปรับแผนการบริหารจัดการน้ําในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ นราธิวาส ยะลาและปัตตานี เตรียมรับสถานการณ์และบริหารจัดการในช่วงหน้าแล้งนายเฉลิมชัย ตรีนรินทร์ ผู้อํานวยการสํานักงานชลประทานที่ 17 กล่าวว่า การดําเนินงานอยู่ภายใต้ 10 มาตรการรองรับฤดูแล้ง สู่ 6 แนวทางปฏิบัติ เช่น มีการเก็บกักน้ําของอาคารชลประทานทุกแห่ง เตรียมความพร้อมด้านเครื่องจักรเครื่องมือ การบริหารจัดการน้ํา การส่งน้ําเพื่อการอุปโภค-บริโภค การรักษาระบบนิเวศ อุตสาหกรรมและการเกษตร เป็นต้น...(เสียงแหล่งข่าว) “...คิดว่าในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ไม่ขาดแคลนน้ําเหมือนภาคอื่น เพราะมีป่าที่อุดมสมบูรณ์ มีการพัฒนาแหล่งน้ําของกรมชลประทาน ทั้งโครงการขนาดใหญ่ ขนาดกลาง ขนาดเล็ก ที่สําคัญยังมีโครงการด้านการพัฒนาแหล่งน้ําอันเนื่องมาจากพระราชดําริที่กระจายตามพื้นที่หมู่บ้าน/ตําบล กว่า 1,200 โครงการ...”นอกจากนี้ สํานักงานชลประทานที่ 17 ยังได้เตรียมการป้องกันปัญหาไฟไหม้พื้นที่โครงการพรุบาเจาะ-ไม้แก่นอันเนื่องมาจากพระราชดําริ ซึ่งมีอาคารชลประทานสําหรับปิดกั้นเพื่อเก็บกักน้ําในพรุ เพื่อพื้นที่เพาะปลูกปาล์มน้ํามันกว่า 7 หมื่นไร่ ส่วนป่าพรุโต๊ะแดง ได้มีการเก็บกักน้ําภายในพรุ และติดตามสถานการณ์ระดับน้ําทุกวัน...(เสียงแหล่งข่าว) “...มีมาตรการเสริมในการทําทํานบซองเพื่อเก็บน้ําในลําน้ําสายต่าง ๆ ที่เชื่อมต่อระหว่างพื้นที่พรุเพื่อไม่ให้น้ําไหลออกจากพรุ อีกทั้งการสูบน้ําเข้าไปเติมในพื้นที่พรุ...”ที่สําคัญยังมีการวางแผนติดตั้งเครื่องสูบน้ําเคลื่อนที่เพื่อช่วยเหลือพื้นที่ทํานาปี 20 แห่ง และสูบน้ําช่วยเหลือพื้นที่ภัยแล้ง 13 แห่ง พร้อมสั่งการทุกโครงการชลประทานบริหารจัดการน้ําให้เหมาะสมสอดคล้องกับสถานการณ์และเน้นย้ําให้ประชาสัมพันธ์ถึงสถานการณ์น้ําปัจจุบันเพื่อสร้างการรับรู้ให้กับประชาชน เกษตรกรให้รับทราบอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตามในปีที่ผ่านมา (2565) ไม่มีการประกาศพื้นที่ประสบภัยแล้งแต่อย่างใด#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
15/3/2023
ภาคใต้
นราธิวาส
สวท.นราธิวาส
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230315092104157
null
นายกรัฐมนตรี ตรวจราชการจังหวัดเชียงใหม่
พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ตรวจราชการจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อรับฟังข้อเสนอการสนับสนุนแผนแม่บทโครงการเสนอชื่อครูบาเจ้าศรีวิชัยเป็นบุคคลสําคัญของโลกต่อยูเนสโก ณ วัดพระธาตุดอยสุเทพราชวรวิหาร พร้อมติดตามผลการดําเนินงานตามนโยบายรัฐบาล เช่นโครงการฟื้นฟูสุขภาพช่องปากด้วยรากฟันเทียมที่พัฒนาขึ้นเองของคณะทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ โครงการปรับปรุงอาคารผู้ป่วยหลวงปู่แหวน “สุจิณโณ” รพ.มหาราชนครเชียงใหม่ การดําเนินงานด้านพลังงานสะอาด พลังงานทดแทน การแก้ไขปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์และนวัตกรรมเพื่อชุมชน ณ ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติเฉลิมพระเกียรติฯ อําเภอเมืองเชียงใหม่“สื่อสารภารกิจรัฐบาล” กับสํานักโฆษก สํานักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี
17/3/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230317084041963
null
รายงานพิเศษ : “ยกระดับมาตรการมาตรการป้องกันและแก้ปัญหามลพิษจากฝุ่นละออง PM 2.5 ช่วงสถานการณ์วิกฤติในพื้นที่ 17 จังหวัด”
รายงานพิเศษ : “ยกระดับมาตรการมาตรการป้องกันและแก้ปัญหามลพิษจากฝุ่นละออง PM 2.5 ช่วงสถานการณ์วิกฤติในพื้นที่ 17 จังหวัด” ภาครัฐ ยกระดับมาตรการป้องกันและแก้ปัญหามลพิษจากฝุ่นละอองช่วงสถานการณ์วิกฤติในพื้นที่ 17 จังหวัด และมาตรการระยะยาวสําหรับปี 2567 – 2570 เพื่อลดผลกระทบหมอกควันและฝุ่นละออง PM 2.5 ที่เกิดเพราะไฟป่าจากฝีมือของมนุษย์ “ไฟป่า” ในประเทศไทย ปัจจุบันมีความรุนแรงมากขึ้นจนกลายเป็นสร้างความเสียหายอย่างมากต่อระบบนิเวศ โดยเฉพาะช่วงหน้าแล้งจะมีความรุนแรงมากที่สุด สาเหตุจากการแปรปรวนของสภาพภูมิอากาศและกิจกรรมของมนุษย์ที่แสวงหาผลประโยชน์จากป่า โดยไม่คํานึงถึงผลกระทบระยะยาวที่จะตามมา แล้วยังส่งผลกระทบต่อคุณภาพอากาศแย่ลง เกิดมลพิษทางอากาศเพิ่มขึ้น เป็นอันตรายต่อระบบทางเดินหายใจของมนุษย์ และเกิดการเปลี่ยนแปลงของระบบนิเวศในรูปแบบที่มาจาก “หมอกควันและฝุ่นละออง PM 2.5” ดังนั้น การแก้ปัญหาไฟป่าให้ภาครัฐทําเพียงฝ่ายเดียวคงไม่สามารถควบคุมหรือดับไฟป่าที่เกิดขึ้นลงได้ แต่จําเป็นต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วนจัดการ ซึ่งการมีส่วนร่วมของภาคประชาชนสําคัญมากในการบริหารและจัดการปัญหาดังกล่าว ปีนี้ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม ถึง 3 มีนาคมที่ผ่านมา พบค่าฝุ่นละออง PM 2.5 ในพื้นที่ 17 จังหวัดภาคเหนือสูงมากในระดับสีแดงจนกระทบต่อสุขภาพประชาชนในพื้นที่ โดยเฉพาะช่วงวันที่ 1 – 3 มีนาคมปริมาณฝุ่น PM 2.5 สูงสุดถึง 225 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร สอดคล้องกับการเกิดจุดความร้อน (Hotspot) ทั้งประเทศระหว่างวันที่ 1 มกราคม – 1 มีนาคม อยู่ที่ 56,439 จุด ซึ่งในพื้นที่ 17 จังหวัดภาคเหนืออยู่ที่ 31,719 จุด ถือว่าเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 195 ส่วนใหญ่เกิดขึ้นในพื้นที่ป่ามากกว่าร้อยละ 80 ทั้งป่าอนุรักษ์และป่าสงวนแห่งชาติ รองลงมาเป็นพื้นที่เกษตรร้อยละ 15 ทําให้คณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ (บอร์ดสิ่งแวดล้อม) จําเป็นต้องยกระดับมาตรการป้องกันและแก้ปัญหามลพิษจากฝุ่นละอองช่วงสถานการณ์วิกฤติในพื้นที่ 17 จังหวัด แผนการดําเนินงาน และมาตรการระยะยาวสําหรับปี 2567 – 2570 ให้สอดคล้องกับแนวทางการดําเนินงานตามแผนปฏิบัติการขับเคลื่อนวาระแห่งชาติ "การแก้ไขปัญหามลพิษด้านฝุ่นละออง" นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เล่าว่า แผนฝุ่นดังกล่าวต้องการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง คือ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม , กระทรวงมหาดไทย , กระทรวงคมนาคม , สํานักงานตํารวจแห่งชาติ , กรุงเทพมหานคร , กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ , กระทรวงสาธารณสุข , กระทรวงอุตสาหกรรม , กระทรวงการคลัง , กระทรวงพาณิชย์ , กระทรวงการต่างประเทศ , กระทรวงศึกษาธิการ และสถาบันการศึกษา เร่งดําเนินการให้กลับสู่สภาวะปกติโดยเร็วใน 3 พื้นที่ ทั้งพื้นที่เมือง พื้นที่ป่า และพื้นที่การเกษตร แบ่งเป็น มาตรการเร่งด่วน พื้นที่ป่า ปิดป่าและห้ามเผาทุกพื้นที่ // พื้นที่เมือง จํากัดเวลา-พื้นที่ จํากัดจํานวนรถบรรทุกเข้าเมือง , เข้มงวดกฎหมายเน้นตรวจจับปรับควันดํา และลงโทษผู้ลักลอบเผา // พื้นที่การเกษตร งดรับซื้ออ้อยไฟไหม้ ส่วนการปกป้องประชาชน ทําฝนหลวง , จัดห้องปลอดฝุ่น แจกอุปกรณ์ป้องกัน ยารักษาโรค และเร่งสื่อสารต่อเนื่อง ขณะที่มาตรการระยะยาว ระหว่างปี 2567 - 2570 ในพื้นที่ป่า ลดความร้อนในพื้นที่ป่า (รายแห่ง) // พื้นที่เมือง นํารถเก่าออกจากระบบ , จํากัดปริมาณรถและโรงงาน , เพิ่มระบบติดตามตรวจสอบบ่งชี้แหล่งกําเนิด // พื้นที่การเกษตร เกษตรปลอดการเผา , เพิ่มการรับซื้อชีวมวล และลดการนําเข้าสินค้าเกษตรที่ทําให้เกิด PM 2.5 ส่วนการปกป้องประชาชน สร้างความเข้มแข็งประชาชน , เร่งพัฒนานวัตกรรม , จัดห้องปลอดฝุ่น , หน่วยตรวจสุขภาพคลินิกมลพิษ ซึ่งปีนี้จําเป็นต้องยกระดับมาตรการให้เข้มข้นขึ้น เพื่อลดความรุนแรงจากไฟป่าและหมอกควัน
17/3/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230317100653012
null
รายงานพิเศษ : “กรมอุทยานฯ ใช้โดรนตรวจจับความร้อนสำรวจประชากรและผลักดันช้างป่าที่ออกนอกพื้นที่ป่าอนุรักษ์”
รายงานพิเศษ : “กรมอุทยานฯ ใช้โดรนตรวจจับความร้อนสํารวจประชากรและผลักดันช้างป่าที่ออกนอกพื้นที่ป่าอนุรักษ์” ปีนี้ กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช จะใช้อากาศยานไร้คนขับระยะไกล (โดรน) ตรวจจับความร้อนสํารวจประชากรและผลักดันช้างป่าที่ออกนอกพื้นที่ป่าอนุรักษ์ หลังสํารวจประเทศไทยมีประชากรช้างป่าเพิ่มขึ้นกว่า 4,400 ตัว กระจายใน 13 กลุ่มป่า จนเกิดปัญหาความขัดแย้งขึ้นระหว่างคนกับช้างป่าบริเวณแนวรอยต่อเขตป่ากับชุมชน ปัจจุบันไทยมีประชากรช้างป่าอาศัยอยู่ตามธรรมชาติประมาณ 4,013 - 4,422 ตัว ในพื้นที่อนุรักษ์ ทั้งเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าและอุทยานแห่งชาติ 91 แห่ง และป่าสงวนแห่งชาติบางแห่ง มีพื้นที่เป็นแหล่งอาศัยของช้างป่าประมาณ 52,000 ตารางกิโลเมตร กระจายในพื้นที่ 13 กลุ่มป่า โดยกลุ่มป่าที่สําคัญต่อการอนุรักษ์ประชากรช้างป่า คือ กลุ่มป่าตะวันตก // กลุ่มป่าตะวันออก // กลุ่มป่าดงพญาเย็น-เขาใหญ่ // กลุ่มป่าภูเขียว-น้ําหนาว และกลุ่มป่าแก่งกระจาน ภาพรวมแนวโน้มประชากรช้างป่าเพิ่มขึ้น จนประสบกับปัญหาความขัดแย้งระหว่างคนกับช้างป่าเกิดขึ้นในพื้นที่อนุรักษ์บางพื้นที่ ในอนาคตกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืชมีแผนใช้อากาศยานไร้คนขับระยะไกล (โดรน) ตรวจจับความร้อนสํารวจประชากรช้างป่าทั้งประเทศ เพื่อให้ได้ตัวเลขที่ชัดเจนมากขึ้นและผลักดันช้างป่าออกจากแนวเขตระหว่างรอยป่ากับชุมชน จากเดิมประเมินประชากรช้างป่าไว้ในปี 2560 พบกลุ่มป่าตะวันตกมีอัตราการเพิ่มขึ้นมากร้อยละ 8.2 แต่มีพื้นที่อยู่อาศัยและแหล่งอาหารจํากัด ที่ผ่านมา กรมอุทยานฯ ยังคงเดินหน้าจัดตั้งชุดเฉพาะกิจปฏิบัติการเฝ้าระวังและผลักดันช้างป่า // จัดตั้งกองทุนช่วยเหลือเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากช้างป่าและสัตว์ป่าอื่นๆ // จัดตั้งพื้นที่ควบคุมเพื่อปรับพฤติกรรมช้างป่า // ศึกษาการใช้วัคซีนคุมกําเนิด // จัดสรรเงินอุดหนุนเครือข่ายเฝ้าระวังผลักดันช้างป่า รวมทั้ง สร้างเครือข่ายชุมชนอนุรักษ์ช้างป่าส่งเสริมให้เกิดป่าชุมชนร่วมกับภาครัฐ และสร้างกลุ่มอาสาสมัครเฝ้าระวังป้องกันและแจ้งเตือนภัยจากช้างป่าต่อเนื่อง ซึ่งกลางเดือนมีนาคมได้จัดตั้งเจ้าหน้าที่ชุดเคลื่อนที่เร็วเฝ้าระวังเพื่อผลักดันช้างป่าและแก้ปัญหาช้างป่าออกนอกพื้นที่อนุรักษ์เพิ่มเติม โดยเฉพาะการผลักดันช้างป่าในเขตป่ารอยต่อ 5 จังหวัด ที่เป็นผืนป่าขนาดใหญ่ในภาคตะวันออกครอบคลุมจังหวัดฉะเชิงเทรา จันทบุรี ระยอง ชลบุรี และสระแก้ว กําลังประสบปัญหาช้างป่าออกนอกพื้นที่ป่าอนุรักษ์จํานวนมากจนเกิดปัญหาการสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สิน จึงจําเป็นต้องป้องกันอันตราย ลดความสูญเสีย และกู้ภัยให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ประสบเหตุช้างป่าทั้งในและนอกป่าอนุรักษ์ซึ่งเน้นพื้นที่ 7 จังหวัดกลุ่มป่าภาคตะวันออก คือ ชลบุรี ฉะเชิงเทรา ระยอง จันทบุรี ตราด ปราจีนบุรี ครอบคลุม อ.กบินทร์บุรี-ศรีมหาโพธิ และสระแก้ว นายเผด็จ ลายทอง ผู้อํานวยการสํานักอนุรักษ์สัตว์ป่า กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช เล่าว่า ปีนี้จะประเมินตัวเลขช้างป่าที่ชัดเจนอีกครั้งด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่ที่ตรวจจับความร้อนจากตัวช้างป่าได้ทั้งหมด ที่สําคัญช่วยลดความเสี่ยงและสูญเสียในชีวิตของเจ้าหน้าที่ชุดลาดตระเวนและผลักดันช้างป่าให้มีความปลอดภัยมากขึ้น สอดคล้องกับร่างแผนการจัดการช้างป่าแห่งชาติ (แผน 20 ปี) เพื่ออนุรักษ์และการจัดการช้างป่า ควบคู่กับจัดทําแผนการจัดการช้างป่าระดับกลุ่มป่า (แผน 10 ปี) และแผนการจัดการช้างปาระดับพื้นที่ (แผนการจัดการช้างปาระยะเร่งด่วน) ใน 3 พื้นที่ คือ ป่าอนุรักษ์ // แนวเขตป่าอนุรักษ์และแนวกันชน และชุมชนที่ได้รับผลกระทบจากช้างป่า ขณะที่ คณะอนุกรรมการอนุรักษ์และจัดการช้างป่า ได้เห็นความสําคัญของปัญหาช้างป่าจึงพิจารณาโครงการเพิ่มประสิทธิภาพการเฝ้าระวังและผลักดันช้างป่า เพื่อขอใช้งบประมาณรายจ่ายงบกลาง // การพิจารณาแนวทางการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากช้างป่าและสัตว์ป่าอื่นๆ และพิจารณาพื้นที่รองรับช้างป่าเพื่อการจัดการอย่างยั่งยืน เสร้างความสมดุล และบรรเทาความเดือดร้อนให้ประชาชน โดยจะเสนอให้คณะกรรมการอนุรักษ์และจัดการช้าง ที่มี พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานพิจารณาในวันที่ 5 เมษายนนี้
24/3/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230324092938332
null
รายงานพิเศษ : “ยกระดับมาตรการแก้ปัญหาไฟป่า หมอกควัน และฝุ่น PM 2.5 ในภาคเหนือของประเทศ”
รายงานพิเศษ : “ยกระดับมาตรการแก้ปัญหาไฟป่า หมอกควัน และฝุ่น PM 2.5 ในภาคเหนือของประเทศ” รัฐบาล ยกระดับมาตรการป้องกันและแก้ปัญหามลพิษจากฝุ่นละอองช่วงสถานการณ์วิกฤติเป็นการเร่งด่วน พร้อมเร่งสร้างความรู้ความเข้าใจความเสียหายที่เกิดจากการลักลอบเผาป่าในพื้นที่ภาคเหนือ 17 จังหวัด โดยให้ทุกหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวดและดําเนินคดีให้ถึงที่สุด ตลอดทั้งสัปดาห์ที่ผ่านมาพื้นที่ภาคเหนือ 17 จังหวัดและภาคตะวันออกเฉียงเหนือบางพื้นที่เกิดไฟป่ารุนแรงมากในรอบหลายปี จากการจุดไฟเผาในเขตป่าเพื่อหาของป่าและล่าสัตว์ป่า และการเผาในพื้นที่เกษตรกรรมเพื่อเตรียมแปลงเพาะปลูกฤดูกาลใหม่ ส่งผลให้ควันไฟดังกล่าวกลายเป็นหมอกควันและฝุ่นละออง PM 2.5 วิกฤติรุนแรงในหลายจังหวัด โดยเฉพาะเชียงราย เชียงใหม่ น่าน แม่ฮ่องสอน ที่มีระดับค่าฝุ่นเฉลี่ยสูง 100 – 550 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ส่งผลกระทบอันตรายต่อสุขภาพของประชาชน ระบบเศรษฐกิจ ระบบการคมนาคมขนส่ง และภาคการท่องเที่ยวต้องหยุดชะงักชั่วคราว ประกอบกับ ประเทศไทย ยังได้รับผลกระทบจากหมอกควันข้ามแดนของประเทศเพื่อนบ้านที่เผาในที่โล่งและเขตป่าจนเกิดจุดความร้อน (Hotspot) สูงทะลุกว่า 10,000 จุด จนเกิดหมอกควันหนาแน่นแล้วถูกกระแสลมพัดมาสมทบกับฝุ่น PM 2.5 ในไทย ยิ่งทําให้สถานการณ์รุนแรงขึ้นต่อเนื่อง รัฐบาล จึงประกาศยกระดับมาตรการป้องกันและแก้ปัญหามลพิษจากฝุ่นละอองช่วงสถานการณ์วิกฤติเป็นการเร่งด่วน พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่ากระทรวงกลาโหม ได้เน้นย้ําให้กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืชทํางานเชิงรุกมากขึ้น ด้วยการจัดชุดกําลังผสมร่วมกับท้องถิ่นและฝ่ายปกครองเข้าพูดคุยกับประชาชนที่่เข้าไปใช้ประโยชน์ในเขตป่า พร้อมย้ําจะบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวดมากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มที่ไม่ให้ความร่วมมือและใครฝ่าฝืนต้องดําเนินคดีตามกฎหมายอย่างเด็ดขาด เพราะการเผาป่าส่งผลกระทบเป็นวงกว้าง โดย นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง รักษาราชการแทนอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช กล่าวว่า ได้กําชับให้ทุกหน่วยงานปฏิบัติการเชิงรุกและหยุดการเผาป่า พร้อมระดมกําลัง เครือข่ายอาสาสมัคร อุปกรณ์เครื่องมือ อากาศยานในการลาดตระเวนเฝ้าระวัง และปฏิบัติการดับไฟอย่างเข้มข้น ขณะเดียวกันให้ลงพื้นที่ชุมชนที่มีปัญหาไฟป่าเคาะประตูบ้านเพื่อประชาสัมพันธ์และป้องปรามการลักลอบเผาป่า เพราะสาเหตุการเกิดไฟป่าหมอกควันมาจากการกระทําของมนุษย์ที่จุดไปเผาป่าและพื้นที่เกษตรกรรม จึงขอให้ทุกหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายกับผู้ลักลอบเผา หรือผู้กระทําผิดอย่างเข้มงวด หากพบการกระทําความผิดจับกุมดําเนินคดีให้ถึงที่สุด รวมทั้ง ให้กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืชและกรมป่าไม้เร่งจัดทําแผนการหรือมาตรการลดและจัดการจุดความร้อน (Hotspot) ในพื้นที่ป่าอนุรักษ์และป่าสงวนแห่งชาติรายพื้นที่ ภาพรวมความเสียหายจากไฟป่าที่เกิดขึ้นในพื้นที่เขตป่าอนุรักษ์ พบพื้นที่ป่าเสียหายโดยสิ้นเชิงไปแล้วกว่า 1 ล้านไร่ ส่วนใหญ่เกิดไฟไหม้บริเวณหน้าดิน ซึ่งปกติจะสามารถฟื้นฟูได้เองตามธรรมชาติ ทั้งนี้ หากเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันกับปีก่อนเกิดไฟป่ารุนแรงมากกว่าถึง 2 เท่า เนื่องจากมีการสะสมของเชื้อเพลิงในช่วง 2 - 3 ปีที่ผ่านมา ทําให้ไฟลุกลามเร็วและเป็นวงกว้าง
31/3/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230402155859304
null
สกุ๊ปวันข้าราชการพลเรือนจังหวัดอุดรธานี ประจำปี 2566
วันที่ 1 เมษายนของทุกปี เป็นวันข้าราชการพลเรือน วันแห่งความภาคภูมิใจของข้าราชการไทย และยังเป็นวันที่มีการยกย่องเชิดชูเกียรติ ข้าราชการพลเรือน ที่มีผลการปฏิบัติงานดีเด่น เพื่อเป็นเกียรติ ขวัญ กําลังใจในการปฏิบัติงานแก่ข้าราชการ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานพระบรมราโชวาท เนื่องในวันข้าราชการพลเรือน ประจําปี 2566 ความว่า "การเป็นข้าราชการนั้น สําคัญที่สุดคือต้องมีความสุจริต กล่าวคือ ต้องทําแต่สิ่งที่ดีที่ถูกต้อง พูดแต่สิ่งที่ดีที่เหมาะสม และคิดแต่สิ่งที่ดีที่เป็นธรรม จึงขอให้ข้าราชการทุกคน ปลูกฝังอบรมคุณธรรมข้อนี้ให้เจริญงอกงาม" พระปรมาภิไธย มหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว พระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต วันที่ 22 มีนาคม พุทธศักราช 2566 จังหวัดอุดรธานี มีข้าราชการฝ่ายพลเรือน และลูกจ้างประจํา 20,949 คน แยกเป็นข้าราชการครู 12,646 คน ข้าราชการตํารวจ 2,166 นาย ข้าราชการส่วนภูมิภาค/ส่วนกลาง 6,137 คน จึงมีข้าราชการพลเรือนดีเด่นได้ 4 คน จาก 4 กลุ่มตําแหน่งและระดับ คือ กลุ่มที่ 1 ตําแหน่งประเภทอํานวยการ ระดับต้น ระดับสูง ตําแหน่งประเภทวิชาการ ระดับเชี่ยวชาญ, กลุ่มที่ 2 ตําแหน่งประเภทวิชาการ ระดับชํานาญการ ระดับชํานาญการพิเศษ ตําแหน่งประเภททั่วไประดับอาวุโส ระดับทักษะพิเศษ กลุ่มที่ 3 ตําแหน่งประเภทวิชาการ ระดับปฏิบัติการ ตําแหน่งทั่วไประดับปฏิบัติงาน ระดับชํานาญงาน และกลุ่มที่ 4 กลุ่มลูกจ้างประจํา ในปี 2565 จังหวัดอุดรธานีมีผู้เสนอชื่อเข้ารับการคัดเลือกจาก 4 กลุ่มรวม 22 คน ผลการคัดเลือกข้าราชการพลเรือนดีเด่นประจําปี 2565 ได้แก่ กลุ่มที่ 1 ตําแหน่งประเภทอํานวยการ ระดับต้น และระดับสูง และตําแหน่งประเภทวิชาการระดับเชี่ยวชาญ จํานวน 1 คน ได้แก่ นางศศินี อภิชนกิจ ตําแหน่ง นายแพทย์เชี่ยวชาญ สังกัด โรงพยาบาลอุดรธานี กลุ่มที่ 2 ตําแหน่งประเภทวิชาการ ระดับชํานาญการ และระดับชํานาญการพิเศษ และตําแหน่งประเภททั่วไป ระดับอาวุโส และระดับทักษะพิเศษ จํานวน 3 คน ได้แก่ -นายสุรเชษฐ์ ไขโพธิ์ ตําแหน่งจ่าจังหวัดอุดรธานี สังกัด ที่ทําการปกครองจังหวัดอุดรธานี, -นางสายสมร ทองอยู่ ตําแหน่งนักวิชาการคลังชํานาญการพิเศษ สังกัด สํานักงานคลังจังหวัดอุดรธานี -และ พ.ต.อ.วีรชัย เสนาลอย ตําแหน่ง ผู้กํากับการ (สอบสวน) สังกัด ตํารวจภูธรจังหวัดอุดรธานี ซึ่งทั้ง 4 คน เข้ารับเข็มเชิดชูเกียรติ "ครุฑทองคํา" และเกียรติบัตรจากนายวันชัย คงเกษม ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี ในงานวันข้าราชการพลเรือน ประจําปี พ.ศ.2566 ณ หอประชุมทองใหญ่ และได้รับการบันทึกประวัติลงในฐานข้อมูลข้าราชการพลเรือนดีเด่นของสํานักงานข้าราชการพลเรือน และในหนังสือที่ระลึกข้าราชการพลเรือนดีเด่นประจําปี 2565ทีมข่าว ส.ปชส.อด. ศรีภูมิ ทองใหญ่ ณ อยุธยา ข่าว /ภาพ /รายงาน#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
31/3/2023
null
อุดรธานี
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดอุดรธานี
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230401011935004
null
สวทช. เตรียมนำผลความก้าวหน้างานวิจัย จัดแสดงในงาน NAC2023 สวทช. : ขุมพลังหลัก วทน. เร่งขับเคลื่อนโมเดลเศรษฐกิจ BCG สู่ความยั่งยืน 28-31 มี.8. นี้ เผยแพร่องค์ความรู้ด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม ต่อสาธารณชนให้เห็นถึงศักยภาพของนักวิจัยไทย
ศาสตราจารย์ ดร.สุกิจ ลิมปิจํานงค์ ผู้อํานวยการสํานักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ หรือ สวทช. กล่าวถึงการจัดการประชุมวิชาการประจําปี สวทช.ครั้งที่ 18 (NAC2023) ภายใต้แนวคิด สวทช. : ขุมพลังหลัก วทน.เร่งการขับเคลื่อนโมเดลเศรษฐกิจ BCG สู่ความยั่งยืน ว่า เป็นการเผยแพร่องค์ความรู้ด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม (วทน.) ต่อสาธารณชน เพื่อแสดงให้เห็นถึงศักยภาพของนักวิจัยไทยที่พร้อมขับเคลื่อนประเทศด้วย วทน. โดยจะมีการนําผลสําเร็จของงานวิจัยจากการขับเคลื่อน BCG ในภาคส่วนต่างๆ ทั้งในเชิงงานวิจัย และการพัฒนาเชิงพื้นที่มีการนําแนว BCG Economy Model ไปปรับใช้ ของนักวิจัย สวทช.และหน่วยงานพันธมิตร มาจัดแสดงมากกว่า 70 ผลงาน อาทิ การพัฒนาอุตสาหกรรมเพาะเลี้ยงสัตว์น้ําด้วยวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม / การพัฒนาผลิตภัณฑ์แปรรูปและผลิตภัณฑ์มูลค่าสูงจาก มะพร้าวน้ําหอมราชบุรี เป็นต้น โดยในพิธีเปิดงานวันที่ 28 มีนาคมนี้ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตน์ราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เป็นองค์ประธานในพิธีเปิดการประชุมวิชาการประจําปี สวทช.ซึ่งจะมีการถ่ายทอดสดทางสถานีโทรทัศน์ช่อง NBT ตั้งแต่เวลา 09:00 น เป็นต้นไปด้านนายวรรณพ วิเศษสงวน ผู้อํานวยการศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ หรือไบโอเทค สวทช. กล่าวด้วยว่า การจัดงาน NAC 2023 ในปีนี้ จะจัดแบบ on site เต็มรูปแบบหลังสถานการณ์โควิด 19 คลี่คลาย หน่วยจะมีการจัดสัมมนาที่มีมากกว่า 40 หัวข้อเช่น พลิกโฉมการพัฒนาประเทศด้วยโมเดลเศรษฐกิจ BCG / การปรับเปลี่ยนของอุตสาหกรรมยาไทยหลังโควิด รวมทั้งนิทรรศการอีกกว่า 70 ผลงาน ที่แต่ละเรื่องจะมีนักวิจัยเจ้าของผลงานมานําเสนองานวิจัย รวมทั้งจะมีกิจกรรม Open House การเปิดบ้านให้ผู้ประกอบการและนักลงทุนได้เยี่ยมชมการนําเสนอเทคโนโลยีจากความชํานาญของห้องปฏิบัติการชั้นนํา ตลอดจนนวัตกรรมที่ตอบโจทย์ธุรกิจจากบริษัทชั้นนําด้านเทคโนโลยีที่จะเป็นตัวช่วยให้การนําวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีไปเพิ่มศักยภาพและกําไรให้กับธุรกิจ ซึ่งผู้สนใจสามารถร่วมงานได้ระหว่างวันที่ 18-31 มีนาคมนี้ ที่อุทยานวิทยาศาสตร์ประเทศไทย จังหวัดปทุมธานี โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย
1/3/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230301112753087
null
สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน ขับเคลื่อนมาตรการส่งเสริมการศึกษาเอกชนและการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของโรงเรียนเอกชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด 19
นายมณฑล ภาคสุวรรณ์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (เลขาธิการ กช.) กล่าวถึงมาตรการส่งเสริม สนับสนุน และให้ความช่วยเหลือนักเรียน ครู และโรงเรียนเอกชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 ว่า ที่ผ่านมา สํานักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน หรือ สช.ได้ดําเนินการตามมาตรการ สนองนโยบายของรัฐบาลและกระทรวงศึกษาธิการ อย่างเป็นรูปธรรมแล้ว ทั้งมาตรการเสริมสภาพคล่องทางการเงินในการบริหารจัดการโรงเรียนจากกองทุนส่งเสริมโรงเรียนในระบบ โรงละไม่เกิน 3 ล้านบาท ระยะเวลาการชําระหนี้ 6 ปี / มาตรการผ่อนผันการชําระหนี้เงินกู้ยืมและเงินยืม และการพิจารณางดเบี้ยปรับให้แก่โรงเรียนเอกชนที่เป็นลูกหนี้รายเดิม / ส่งเสริมและพัฒนาการเรียนรู้ในสถานศึกษาเอกชน เพื่อส่งเสริมการพัฒนาหลักสูตรจัดการเรียนการสอน รวมทั้งมีการสนับสนุนเงินช่วยเหลือผู้ปกครองและนักเรียนเพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายด้านการศึกษา / ปรับเพิ่มอัตราเงินอุดหนุนรายบุคคลสําหรับนักเรียนพิการในโรงเรียนเอกชนประเภทสามัญศึกษาและอาชีวศึกษา (ปวช.) รวมทั้งผู้เรียนการศึกษาขั้นพื้นฐาน / ปรับเพิ่มค่าอาหารกลางวันให้แก่นักเรียนระดับชั้นเด็กเล็กถึงระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ในอัตราตามขนาดของโรงเรียนส่วนด้านครู ผู้สอน และบุคคลากรทางการศึกษา ได้มีการปรับปรุงสวัสดิการกองทุนสงเคราะห์เพื่อช่วยเหลือผู้อํานวยการ ครู และบุคลากรทางการศึกษา / เพิ่มเพดานการเบิกเงินสวัสดิการค่ารักษาพยาบาล มาตรการทางดอกเบี้ยเงินกู้และการขยายการให้สินเชื่อสมาชิกกองทุยสงเคราะห์ นอกจากนี้ สช.อยู่ระหว่างการผลักดันการแก้ไข พรบ.โรงเรียนเอกชนฯ ทบทวนและปรับลดกฎระเบียบที่เป็นปัญหาอุปสรรคต่อการดําเนินกิจการของโรงเรียนเอกชนรวมถึงการส่งเสริมสิทธิประโยชน์และการลดหย่อนภาษีให้แก่โรงเรียนเอกชนทั้งในระบบและนอกระบบ
1/3/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230301202814363
null
นักวิทยาศาสตร์ สถาบันวิจัยแสงซินโครตรอน (องค์การมหาชน) รับรางวัล “นักวิจัยวัสดุรุ่นใหม่” ตั้งเป้าพัฒนาวัสดุหน้าขั้นสูงสู่การใช้งานได้จริงในภาคอุตสาหกรรม เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจจากองค์ความรู้ที่สร้างมาเกือบทศวรรษ
นายพินิจ กิจขุนทด หัวหน้าฝ่ายวิจัยและประยุกต์ใช้แสงซินโครตรอน เข้ารับรางวัลนักวิจัยวัสดุรุ่นใหม่ดีเด่น ประจําปี 2565 จากผลงานศึกษาวิจัยด้านการพัฒนาเทคนิค และการศึกษาโครงสร้างของวัสดุขั้นสูงด้วยเทคนิคการดูดกลืนรังเอกซ์ (XAS) จากแสงซินโครตรอน ภายในการประชุมวิชาการนานาชาติสมาคมวิจัยวัสดุประเทศไทย ครั้งที่ 4 (MRS-Thailand 2023) จัดโดยสมาคมวิจัยวัสดุประเทศไทย ร่วมกับ มหาวิทยลัยอุบลราชธานี ระหว่างวันที่ 28 ก.พ. - 4 มี.ค.66 ที่จังหวัดอุบลราชธานี พร้อมกล่าวว่า ดีใจมากที่ได้รับรางวัลอันทรงเกียรตินี้ ขอบคุณครอบครัว ทีมวิจัยที่สถาบันวิจัยแสงซินโครตอน และสมาชิกวิจัยที่ได้ร่วมการวิจัยกันมาเป็นระยะเวลาเกือบ 10 ปี ในการวิจัยการใช้แสงซินโครตอนวิเคราะห์โครงสร้างของวัสดุขั้นสูง จนทําให้ได้รับผลงานวิจัยจํานวนมากทั้งนี้ ทีมวิจัยได้ร่วมกันพัฒนาเทคนิคการดูดกลืนรังสีเอกซ์สําหรับศึกษาโครงสร้างของวัสดุหน้าที่พิเศษขั้นสูงต่างๆ เช่น ตัวเร่งปฏิกิริยาสําหรับแบตเตอรี่ เพื่อพัฒนานวัตกรรมต่างๆ โดยมีเป้าหมายที่จะต่อยอดงานวิจัยสู่การใช้งานจริงทางอุตสาหกรรม ซึ่งเป็นการต่อยอดองค์ความรู้ที่ได้ศึกษาและค้นคว้ามาเป็นเวลาเกือบทศวรรษ ให้สร้างผลกระทบทางเศรษฐกิจมูลค่าได้ต่อไปในอนาคต
1/3/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230301202330359
null
สำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ เยี่ยมชม โครงการจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการวิจัยรังสีรักษาจากโบรอนจับยึดนิวตรอน มทส. และ สถาบันวิจัยแสงซินโครตรอน (องค์การมหาชน)
วันนี้ (1 มีนาคม 2566) มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี (มทส.) ผศ. ดร. ชิโนรัตน์ กอบเดช หัวหน้าโครงการจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการวิจัยรังสีรักษาจากโบรอนจับยึดนิวตรอน (Boron Neutron Capture Therapy ; BNCT) พร้อมด้วย อาจารย์ ดร.ฉัตรเพชร ยศพล และ รศ. ดร.เนตรนภิส ตันเต็มทรัพย์ คณะอนุกรรมการฝ่ายความปลอดภัยและสิ่งแวดล้อม (BNCT) ร่วมให้การต้อนรับ เจ้าหน้าที่จาก สํานักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ นําโดย คุณธีระพล ติษยาธิคม หัวหน้ากลุ่มงานคุ้มครองสิทธิมนุษยชน และคณะ จํานวน 6 ท่าน ในโอกาสเข้าเยี่ยมชม โครงการจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการวิจัยรังสีรักษาจากโบรอนจับยึดนิวตรอน มทส. พร้อมกันนี้ ทางคณะฯ ยังได้เข้าเยี่ยมชม สถาบันวิจัยแสงซินโครตรอน (องค์การมหาชน) ; Synchrotron Light Research Institute (Public Organization)) โดยมี ดร.สมชาย ตันชรากรณ์ หัวหน้าส่วนความปลอดภัย ร่วมให้การต้อนรับและนําชม#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
1/3/2023
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
นครราชสีมา
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนครราชสีมา
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230302230851802
null
นักวิจัยนาโนเทค สวทช. พัฒนาสเปรย์ทำความเย็นอัดแก๊สแรงดันสูง ‘iPlant Multipurpose Spray’ ลดอุณหภูมิภายในของพืช ลดการคายน้ำจากอากาศร้อน ช่วยให้พืชสดชื่น ไม่เหี่ยวเฉา ตอบความต้องการธุรกิจไม้ดอก ไม้ประดับ
นายวรล อินทะสันตา ผู้อํานวยการกลุ่มวิจัยวัสดุผสมและการเคลือบนาโน ศูนย์นาโนเทคโนโลยีแห่งชาติ (นาโนเทค) สํานักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) กล่าวว่า งานวิจัยนี้ เป็นการพัฒนาสเปรย์ทําความเย็นอัดแก๊สแรงดันสูงที่มีส่วนประกอบของสารสกัดจากธรรมชาติรวมถึงธาตุอาหารเสริมและรอง เพื่อช่วยลดอุณหภูมิภายในของพืช ลดการคายน้ําจากอากาศที่ร้อนจัด ทําให้พืชสามารถทนทานกับสภาพแวดล้อมที่รุนแรงได้ดียิ่งขึ้น ปกติ ไม้เมืองหนาวที่ต้องอยู่ในสภาพอากาศร้อนถึงร้อนจัดในไทย ทําให้พืชมีความเครียดเนื่องจากต้องสูญเสียน้ํา โดยเฉพาะทางใบ การรดน้ําต้นไม้ช่วยได้ในระดับหนึ่งและเป็นวิธีการแก้ปัญหาที่มีต้นทุนสูง เมื่อนําสเปรย์ทําความเย็น iPlant มาประยุกต์ใช้พ่นบนใบของพืช พบว่า ได้ผลดี สามารถลดอุณหภูมิได้มากถึง 2-3 องสาเซลเซียส ยืดเวลาในการเหี่ยวเฉาออกไปได้ สามารถนําไปประยุกต์ใช้กับไม้เมืองหนาวเช่นต้นกุหลาบ ต้นไฮเดรนเยีย และต้นไซคลาเมน นวัตกรรมและเทคโนโลยีที่ทางทีมวิจัยจากศูนย์นาโนเทคโนโลยีแห่งชาติได้ผลิตขึ้นนี้ นับเป็นครั้งแรกโดยอยู่ระหว่างการยื่นจดสิทธิบัตร คาดว่า หากสามารถถ่ายทอดเทคโนโลยีไปถึงมือผู้ใช้ จะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งกับอุตสาหกรรมไม้เมืองหนาวที่นํามาปลูกในประเทศไทย โดยเฉพาะในกลุ่มของไม้เมืองหนาวราคาสูง ที่จะเป็นแหล่งรายได้ให้กับเกษตรกร โดยผลิตภัณฑ์ดังกล่าว จะนําไปร่วมจัดแสดงในงานประชุมวิชาการประจําปี สวทช. ครั้งที่ 18 (18th NSTDA Annual Conference: NAC2023) ระหว่างวันที่ 28-31 มีนาคม พ.ศ. 2566 ณ อุทยานวิทยาศาสตร์ประเทศไทย จ.ปทุมธานี
2/3/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230302141400549
null
ครั้งแรก กับสเปรย์เติมความ “สด” ให้พืช ‘iPlant Multipurpose Spray’ ตอบโจทย์ธุรกิจส่งออกพืชเมืองหนาว ฝีมือนักวิจัยไทย
อากาศยิ่งร้อน พืชพรรณก็ยิ่งเฉา นักวิจัยนาโนเทค สวทช. พัฒนาสเปรย์ทําความเย็นอัดแก๊สแรงดันสูงที่มีส่วนประกอบของสารสกัดจากธรรมชาติ รวมถึงธาตุอาหารเสริมและรอง ในชื่อ ‘iPlant Multipurpose Spray’ ช่วยลดอุณหภูมิภายในของพืช ลดการคายน้ําจากอากาศร้อน ช่วยให้พืชสดชื่น ไม่เหี่ยวเฉา ตอบความต้องการธุรกิจไม้ดอก ไม้ประดับ โดยเฉพาะอุตสาหกรรมไม้เมืองหนาวราคาสูงที่นํามาปลูกในประเทศไทย ดร.วรล อินทะสันตา ผู้อํานวยการกลุ่มวิจัยวัสดุผสมและการเคลือบนาโน ศูนย์นาโนเทคโนโลยีแห่งชาติ (นาโนเทค) สํานักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) กล่าวว่า ปัจจุบันสภาพอากาศเป็นปัจจัยสําคัญในการเจริญเติบโตและความอยู่รอดของพืช สภาพอากาศที่เหมาะสมจะเป็นตัวแปรสําคัญในการดํารงชีวิตของพืช โดยทั่วไปอากาศที่ร้อนจัดมักจะส่งผลกระทบต่อพืชได้มากกว่าอากาศหนาว เนื่องจากอากาศร้อนจะทําให้พืชเกิดการคายน้ําอย่างรุนแรง และนํามาซึ่งการเสียสมดุลของน้ําภายในพืช จนกระทั่งทําให้พืชเหี่ยวเฉาและตายในที่สุด “งานวิจัยนี้ เป็นการพัฒนาสเปรย์ทําความเย็นอัดแก๊สแรงดันสูงที่มีส่วนประกอบของสารสกัดจากธรรมชาติรวมถึงธาตุอาหารเสริมและรอง เพื่อช่วยลดอุณหภูมิภายในของพืช รวมถึงลดการคายน้ําจากอากาศที่ร้อนจัด และทําให้พืชสามารถทนทานกับสภาพแวดล้อมที่รุนแรงได้ดียิ่งขึ้น” นักวิจัยนาโนเทคเผยปกติไม้เมืองหนาวที่ต้องอยู่ในสภาพอากาศร้อนถึงร้อนจัดในไทย ทําให้พืชมีความเครียดเนื่องจากต้องสูญเสียน้ําโดยเฉพาะทางใบ การรดน้ําต้นไม้ช่วยได้ในระดับหนึ่งและเป็นวิธีการแก้ปัญหาที่มีต้นทุนสูงสําหรับบางพื้นที่ ดร.วรลเผยว่า เมื่อนําสเปรย์ทําความเย็น iPlant มาประยุกต์ใช้พ่นบนใบของพืชพบว่า ได้ผลดี สามารถลดอุณหภูมิได้มากถึง 2-3 องสาเซลเซียส ยืดเวลาในการเหี่ยวเฉาออกไปได้ iPlant สามารถนําไปประยุกต์ใช้กับไม้เมืองหนาวเช่นต้นกุหลาบ ต้นไฮเดรนเยีย และต้นไซคลาเมน ซึ่งเป็นกลุ่มของไม้เมืองหนาวที่มีราคาสูงและทํารายได้ให้กับเกษตรกรเป็นจํานวนมากนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่ทางทีมวิจัยจากศูนย์นาโนเทคโนโลยีแห่งชาติได้ผลิตขึ้นนี้ นับเป็นครั้งแรกโดยอยู่ระหว่างการยื่นจดสิทธิบัตร ซึ่งคาดว่า หากสามารถถ่ายทอดเทคโนโลยีไปถึงมือผู้ใช้ จะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งกับอุตสาหกรรมไม้เมืองหนาวที่นํามาปลูกในประเทศไทย โดยเฉพาะในกลุ่มของไม้เมืองหนาวราคาสูง ที่จะเป็นแหล่งรายได้ให้กับเกษตรกร ‘iPlant Multipurpose Spray’
3/3/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
สมุทรปราการ
หน่วยงานสำนักข่าว
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230303150509980
null
สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ สนับสนุนนวัตกรรมผ้าไหมไทยถิ่นอีสาน ส่งเสริมผลิตภัณฑ์ชุมชน จากภูมิปัญญาท้องถิ่น
น.ส.วิภารัตน์ ดีอ่อง ผู้อํานวยการสํานักงานการวิจัยแห่งชาติ หรือ วช. กล่าวว่า วช.ได้ให้การสนับสนุนทีมงานวิจัยจากมหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์ ที่นําเสนอโครงการเพิ่มมูลค่าผ้ามัดหมี่ทอมือของกลุ่มทอผ้าตําบลสายตะกู อําเภอบ้านกรวด จังหวัดบุรีรัมย์ เป็นการต่อยอดสร้างงานสร้างรายได้ให้ชาวบ้านสามารถพึ่งพาตนเอง จากภูมิปัญญาท้องถิ่นที่มีอยู่เดิม ยกระดับผลิตภัณฑ์ผ้าทอพื้นเมืองสู่มาตรฐานสากล มีการออกแบบลวดลายผ้าที่ทันสมัยด้วยกระบวนการผลิตวิถีธรรมชาติ มีการถ่ายทอดองค์ความรู้เรื่องการตลาดอย่างครบวงจรรองศาสตราจารย์สมบัติ ประจญศานต์ อาจารย์สาขาวิชาเทคโนโลยีสถาปัตยกรรม คณะเทคโนโลยีอุตสาหกรรม มหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์ ในฐานะหัวหน้าโครงการเพิ่มมูลค่าผ้ามัดหมี่ทอมือ เปิดเผยว่า ด้วยสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติในพื้นที่ตําบลสายตะกุ อําเภอบ้านกรวด จังหวัดบุรีรัมย์ ติดกับชายแดนไทยกัมพูชา ประชากรส่วนใหญ่จะประกอบอาชีพภาคการเกษตร มีชาวบ้านส่วนหนึ่งเป็นแรงงานนอกภาคการเกษตร จึงขับเคลื่อนพัฒนาองค์ความรู้ให้กับชาวบ้านตั้งแต่กระบวนการผลิต สู่การนําไปจําหน่ายให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาด ในโลกออนไลน์ ส่งเสริมศักยภาพภูมิปัญญาท้องถิ่นจากผลิตภัณฑ์ชุมชนผ้าไหมมัดหมี่ทอมือ ออกแบบลวดลาย สีสัน ต่างๆ ให้ทันสมัย ในเรื่องการออกแบบลวดลายมัดหมี่ลายเครื่องแขวนไทยดอกไม้สด และจัดอบรมเชิงวิชาการเรื่องการย้อมสีจากพืชพันธุ์ในท้องถิ่น ตามวิถีธรรมชาติฃ ทําให้ได้เฉดสีที่มีความสวยงามละมุนตา และเพื่อยกระดับผลิตภัณฑ์ชุมชน ได้ขอรับมาตรฐานผลิตภัณฑ์ชุมชน ( มผช. ) ปัจจุบันอยู่ในระหว่างขั้นตอนการตรวจสอบจากกระทรวงอุตสาหกรรม การออกแบบและผลิตบรรจุภัณฑ์ที่ส่งเสริมภาพลักษณ์ของสินค้า Eco Friendly Product เพิ่มมูลค่าให้กับสินค้าตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค
4/3/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230304172341309
null
สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย ร่วมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ มุ่งต่อยอดวิจัยพัฒนาบริการนวัตกรรมสมุนไพร เวชสำอาง
ศ. (วิจัย) ดร.ชุติมา เอี่ยมโชติชวลิต ผู้ว่าการสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) และ นพ.ธงชัย เลิศวิไลรัตนพงศ์ อธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ร่วมแลกเปลี่ยนเรียนรู้และต่อยอดด้านการวิจัยพัฒนาบริการนวัตกรรมสมุนไพรและเวชสําอาง พร้อมว่า วว. โดย ศูนย์เชี่ยวชาญนวัตกรรมผลิตภัณฑ์สมุนไพร มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญมากกว่า 50 ปี ในการวิจัยและพัฒนาด้านเทคโนโลยีการสกัดสารสําคัญจากสมุนไพรและศึกษาฤทธิ์ทางเภสัชวิทยาและพิษวิทยา เพื่อต่อยอดงานวิจัยพัฒนาเป็นยา ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ผลิตภัณฑ์เวชสําอางสมุนไพร นอกจากนี้ ยังมุ่งให้บริการและถ่ายทอดเทคโนโลยี เพื่อยกระดับผลิตเชิงพาณิชย์ให้กับผู้ประกอบการ วิสาหกิจชุมชน SMEs และพร้อมส่งเสริมและสนับสนุนให้เกิดความร่วมมือระหว่างหน่วยงานในอนาคต เพื่อร่วมกันขับเคลื่อนนําองค์ความรู้ทางวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม มาพัฒนาต่อยอดให้เกิดประโยชน์จากทรัพยากรพืชท้องถิ่นของไทยได้อย่างสูงสุด เพื่อเสริมสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจของประเทศอย่างยั่งยืนนพ.ธงชัย เลิศวิไลรัตนพงศ์ อธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ กล่าวว่า ถือเป็นโอกาสอันดีที่จะร่วมกันขับเคลื่อนส่งเสริมและสนับสนุนความร่วมมือระหว่างกันในอนาคต เพื่อต่อยอดด้านการวิจัยพัฒนา บริการนวัตกรรมสมุนไพรและเวชสําอางให้เป็นที่ประจักษ์ทั้งในและต่างประเทศ โดยสามารถนําผลลัพธ์จากสมุนไพร หรืองานวิจัยที่ได้มาใช้ประโยชน์ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของมาตรการสร้างเสริมสุขภาวะของคนไทย สอดคล้องกับนโยบายภาครัฐ พร้อมทั้งนําองค์ความรู้จากงานวิจัยมาพัฒนาต่อยอดในเกิดผลลัพธ์อย่างเป็นรูปธรรมต่อไป
4/3/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230304171331304
null
วช. ขับเคลื่อนการใช้งานวิจัยและนวัตกรรมทางวิทยาศาสตร์ช่วยเกษตรกรในการผลิตดอกเบญจมาศ อุบลราชธานี
ศ.ดร.พีระศักดิ์ ศรีนิเวศน์ ผู้ทรงคุณวุฒิ สํานักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) พร้อมคณะ ลงพื้นที่เยี่ยมชมโครงการวิจัย “การเพิ่มผลผลิตและคุณภาพดอกเบญจมาศบ้านตาติดด้วยปุ๋ยอินทรีย์เคมี” เพื่อติดตามผลสําเร็จของโครงการวิจัยในการขยายผลองค์ความรู้จากงานวิจัยในการผลิตต้นพันธุ์เบญจมาศ โดยใช้นวัตกรรมทางวิทยาศาสตร์ในการแก้ไขปัญหาและเพิ่มรายได้ให้เกษตรกรและชุมชน ณ บ้านตาติด จังหวัดอุบลราชธานี พร้อมกล่าวว่า คณะนักวิจัย ดําเนินการพัฒนาต้นเบญจมาศสายพันธุ์ใหม่ เพิ่มความหลากหลายของสายพันธุ์สู่ระบบการผลิตดอกเบญจมาศ โดยใช้องค์ความรู้จากการวิจัย ประสบการณ์และทรัพยากรพันธุกรรมจากสายพันธุ์ใหม่ที่เป็นต้นแม่พันธุ์ เพื่อการพัฒนาให้เกิดการกลายพันธุ์และสร้างสายพันธุ์ใหม่ โดยเกษตรกรในชุมชนได้รับองค์ความรู้จากคณะนักวิจัยที่ช่วยแก้ไขปัญหาที่เกษตรกรได้รับและช่วยสร้างรายได้ให้เกษตรกร และที่สําคัญได้รับความร่วมมือจากเกษตรกรในพื้นที่ซึ่งมีการรวมกลุ่มการผลิตจนเป็นเกษตรแปลงใหญ่ได้ผลผลิตสูง ได้รับการชื่นชมจากผู้ซื้อจนมีชื่อเสียงพร้อมทั้งได้รับรางวัลจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องนางกนกอร อัมพรายน์ แห่งสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) หัวหน้าโครงการวิจัย ณ บ้านตาติด ตําบลโนนผึ้ง อําเภอวารินชําราบ จังหวัดอุบลราชธานี กล่าวว่า ได้ใช้พื้นที่บ้านตาติด ในจังหวัดอุบลราชธานี เป็นพื้นที่ดําเนินการวิจัย เนื่องจากมีกลุ่มวิสาหกิจชุมชน “วิสาหกิจชุมชนกลุ่มผู้ผลิตดอกเบญจมาศบ้านตาติด” จัดตั้งขึ้นเมื่อ พ.ศ.2559 เพื่อการต่อรองราคาในการขายผลผลิตและการซื้อปัจจัยการผลิต ทีมนักวิจัยได้รับการสนับสนุนทุนวิจัยจาก วช. และหลายหน่วยงานที่เกี่ยยวข้องร่วมกันแก้ปัญหาให้แก่เกษตรกรในพื้นที่ ซึ่งผลสําเร็จของโครงการวิจัยจะนําไปสู่การยกระดับการท่องเที่ยวบนฐานเศรษฐกิจ BCG ด้วยความเป็นเลิศทางงานวิจัยในการพัฒนาพันธุ์ใหม่ที่ดีกว่าพันธุ์เดิม ตรงที่รูปทรงดอก สีสัน และความคงทนของดอกที่มากขึ้นสู่ตลาดสากลดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เดินทางมาในพื้นที่เพื่อชมความงามของสวนดอกเบญจมาศและสร้างรายได้เข้าสู่ชุมชน ตลอดจนจะเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมอย่างยั่งยืน
5/3/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230305193541460
null
วิทยาลัยเทคนิคระยอง โชว์ทักษะวิชาชีพด้านเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์แก่ครู นักเรียนสถานศึกษาในพื้นที่ที่สนใจเรียนด้านเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์เพื่ออุตสาหกรรมใน EEC
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ว่าที่เรือตรี ชูชีพ อรุณเหลือง ผู้อํานวยการวิทยาลัยเทคนิคระยอง พร้อมผู้บริหาร และครูวิทยาลัยเทคนิคระยอง ให้การต้อนรับคณะครู นักเรียน โรงเรียนอัสสัมชัญระยอง จํานวน 29 คน ที่เดินทางเข้ามาเยี่ยมชมศูนย์ปัญญาประดิษฐ์ขั้นพื้นฐาน ที่มีความสนใจในสาขาอาชีพด้านดิจิทัลและเทคโนโลยี เพื่อเพิ่มทักษะ Upskill พัฒนาศักยภาพ และทักษะวิชาชีพด้านเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ในภาคอุตสาหกรรมในพื้นที่ EEC ที่ห้องศูนย์ปัญญาประดิษฐ์เพื่ออุตสาหกรรม วิทยาลัยเทคนิคระยองสําหรับศูนย์ปัญญาประดิษฐ์เพื่ออุตสาหกรรมดังกล่าว วิทยาลัยเทคนิคระยอง มุ่งยกระดับด้านการศึกษาและพัฒนาทักษะด้าน AI ของนักศึกษาและบุคลากรในภาคอุตสาหกรรม สร้างคนที่มีความรู้ความสามารถที่จะเป็นพลังสําคัญร่วมขับเคลื่อนภาคอุตสาหกรรมไทยเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัลเต็มรูปแบบ และสนับสนุนการพัฒนาโซลูชั่นที่ตอบโจทย์และสามารถนําไปใช้งานได้จริงในภาคธุรกิจยุคอุตสาหกรรม 4.0 ซึ่งจะเป็นการเพิ่มศักยภาพภาคอุตสาหกรรมไทย รองรับการเติบโตของเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก หรือ อีอีซี (EEC) ที่เป็นพื้นที่ยุทธศาสตร์ในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศตามนโยบายประเทศไทย 4.0#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
7/3/2023
ภาคตะวันออก
ระยอง
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดระยอง
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230307141041845
null
มทร.ศรีวิชัย สงขลา พุ่งเป้าสร้างนวัตกรสู่ชุมชนนวัตกรรม
มทร.ศรีวิชัย จัดกิจกรรมการติดตามโครงการวิจัยชุมชนนวัตกรรม (field visit) ระยะ 9 เดือน ที่กลุ่มอนุรักษ์และฟื้นฟูทรัพยากรชายฝั่งบ้านสวนกง ตําบลนาทับ อําเภอจะนะ จังหวัดสงขลา จากคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิหน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการพัฒนาระดับพื้นที่ (บพท.) ภายใต้ชุดโครงการ “การพัฒนาชุมชนระดับตําบลแบบมีส่วนร่วมด้วยเทคโนโลยีพร้อมใช้เพื่อยกเศรษฐกิจฐานรากในพื้นที่จังหวัดสงขลา” ประจําปีงบประมาณ 2565 ซึ่งมีฝ่ายวิจัยและบริการวิชาการ สถาบันวิจัยและพัฒนา สํานักการจัดการนวัตกรรมและถ่ายทอดเทคโนโลยี มทร.ศรีวิชัย พร้อมด้วยทีมนักวิจัย และชุมชนภาคีเครือข่าย ร่วมต้อนรับผู้ทรงคุณวุฒิ โดยได้รับเกียรติจากผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.อภิรักษ์ สงรักษ์ รองอธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย กล่าวต้อนรับผู้ทรงคุณวุฒิ กิจกรรมภายในงานได้มีการจัดแสดงนิทรรศการเทคโนโลยีที่เหมาะสมและนวัตกรรมพร้อมใช้ในแผนงานวิจัย “การพัฒนาชุมชนระดับตําบลแบบมีส่วนร่วมด้วยเทคโนโลยีพร้อมใช้เพื่อยกเศรษฐกิจฐานรากในพื้นที่จังหวัดสงขลา” โดยมีรองศาสตราจารย์ ดร.ชาตรี หอมเขียว เป็นผู้อํานวยการแผนงาน ประกอบด้วย 4 โครงการย่อย ได้แก่ โครงการ "การวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีพร้อมใช้แบบมีส่วนร่วมเพื่อยกระดับวิสาหกิจชุมชน กลุ่มกาแฟโรบัสต้า จังหวัดสงขลา อย่างยั่งยืน" โดยมี ผศ.สุภาวดี มากอ้น วิทยาลัยรัตภูมิ เป็นหัวหน้าโครงการวิจัย , โครงการการประยุกต์เทคโนโลยีพร้อมใช้สําหรับผลิตภัณฑ์ผ้าทอ ผ้ามัดย้อมแบบมีส่วนร่วมของวิสาหกิจชุมชนเพื่อยกเศรษฐกิจฐานรากในพื้นที่ชายแดนใต้ โดยมี ผศ.อารีนา อีสามะ คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ เป็นหัวหน้าโครงการวิจัย , โครงการวิจัยการจัดการเทคโนโลยีพร้อมใช้สําหรับปลาทะเลแปรรูปจากชุมชนประมงชายฝั่งอ่าวไทยในจังหวัดสงขลาโดยกระบวนการมีส่วนร่วมเพื่อยกระดับเศรษฐกิจฐานราก โดยมีอาจารย์จิราวรรณ จันทร์สุวรรณ เป็นหัวหน้าโครงการวิจัย และโครงการการประเมินการยอมรับนวัตกรรมชุมชน และการประเมินผลกระทบทางเศรษฐกิจของโครงการวิจัย ภายใต้แผนงานวิจัย นําโดย ผศ.ดร.สุดคนึง ณ ระนอง รองผู้อํานวยการสถาบันวิจัยและพัฒนา เป็นหัวหน้าโครงการวิจัยโครงการวิจัยชุมชนนวัตกรรมดังกล่าว ได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานภาคีเครือข่ายภาครัฐและภาคเอกชนในพื้นที่จังหวัดสงขลามากกว่า 10 แห่ง เข้าร่วมหารือและให้การสนับสนุนแผนงานวิจัยในการสร้างพื้นที่เรียนรู้ต้นแบบของชุมชนนวัตกรรม เพื่อขับเคลื่อนผลงานวิจัยนวัตกรรมในการพัฒนาเชิงพื้นที่ของ มทร.ศรีวิชัย ให้มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องสู่การพัฒนาทักษะใหม่ให้เกิดนวัตกรชุมชนด้วยการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีพร้อมใช้สนับสนุนเครือข่ายเสริมสร้างชุมชนอย่างยั่งยืน
7/3/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
หน่วยงานสำนักข่าว
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230307163221908
null
5 หน่วยงานหลัก ร่วมมือด้านการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมภูมิสารสนเทศเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรที่ประสบภัยแล้ง
ศาสตราจารย์สิริฤกษ์ ทรงศิวิไล ปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เป็นประธานในพิธีลงนามบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมภูมิสารสนเทศเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรที่ประสบภัยแล้ง ระหว่าง กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม โดยสํานักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) หรือ GISTDA และสํานักงานการวิจัยแห่งชาติ, กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยสํานักงานปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กรมส่งเสริมการเกษตร และกรมชลประทาน , กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม โดยกรมอุตุนิยมวิทยา, กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย และสํานักงานทรัพยากรน้ําแห่งชาติ ร่วมลงนามบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมภูมิสารสนเทศเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรที่ประสบภัยแล้ง ณ โรงแรมรามาการ์เด้นส์ กรุงเทพมหานครโดยศาสตราจารย์นายแพทย์ สิริฤกษ์ ทรงศิวิไล ปลัดกระทรวง อว. กล่าวว่า ความร่วมมือกันในครั้งนี้นับเป็นเป็นเรื่องที่จะเกิดประโยชน์อย่างมากทั้งในเรื่องการบริหารจัดการน้ําของประเทศ รวมทั้งเกษตรดรและประชาชนยังสามาร ถเข้าถึงข้อมูลต่างๆ ได้โดยตรงน.ส.วิภารัตน์ ดีอ่อง ผู้อํานวยการสํานักงานการวิจัยแห่งชาติ หรือ วช.กล่าวว่า วช.ได้สนับสนุนทุนการวิจัยและนวัตกรรม แก่ สํานักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) หรือ GISTDA พัฒนาแพลตฟอร์มสนับสนุนการตัดสินใจในการช่วยเหลือผู้ประสบภัยแล้งบนพื้นฐานข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ ซึ่งเกิดจากการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีภูมิสารสนเทศมาจัดทําแบบจําลอง ประเมินพื้นที่เสี่ยงภัยแล้งและความเสียหายของพืชเกษตรรายแปลงแบบอัตโนมัติ ในกลุ่มพืชเศรษฐกิจหลัก 4 ชนิด ได้แก่ ข้าว ข้าวโพด มันสําปะหลัง และอ้อย โดยนําร่องในพื้นที่ 6 จังหวัดที่ประสบภัยแล้งอย่างต่อเนื่อง ได้แก่ กําแพงเพชร อุทัยธานี นครราชสีมา สุรินทร์ ร้อยเอ็ด และสกลนคร ซึ่งแพลตฟอร์มดังกล่าว จะสามารถนําไปขยายผลสู่การใช้ประโยชน์ในการบริหารจัดการภัยพิบัติในมิติอื่นๆ ต่อไป ได้นายปกรณ์ อาภาพันธุ์ ผู้อํานวยการ GISTDA กล่าวว่า นับเป็นจุดเริ่มต้นของการขับเคลื่อนการใช้ประโยชน์จากแพลตฟอร์มฯในการช่วยเหลือเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากภัยแล้งในภาคการเกษตร ภัยพิบัติ รวมทั้งการบริหารจัดการน้ํา เพื่อให้เกษตรกรและประชาชนทุกพื้นที่สามารถเข้าถึงข้อมูล ข้อเท็จจริง ที่เป็นหลักฐานเชิงประจักษ์จากดาวเทียม ในการเตรียมพร้อมรับมือและแก้ไขปัญหาผลกระทบจากภัยแล้ง
9/3/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230309111950504
null
กอ.รมน.สุรินทร์ ร่วมฝึกอบรมและถ่ายทอดเทคโนโลยีพร้อมรับมอบโครงการใช้ประโยชน์จากนวัตกรรมเครื่องอบแห้งอินฟราเรดแบบถังหมุน
วันที่ 9 มี.ค.66 พ.อ.กิตติพงษ์ พุทธิมณี รอง ผอ.รมน.จังหวัด ส.ร.(ท.) มอบหมายให้ พ.อ.สุดใจ แพงพรมมา หน.ฝ่ายนโยบายและแผน ร่วมพิธีการฝึกอบรมและการถ่ายทอดเทคโนโลยี พร้อมรับมอบโครงการใช้ประโยชน์จากนวัตกรรมเครื่องอบแห้งอินฟราเรดแบบถังหมุน เพื่อยกระดับคุณภาพผลผลิตทางการเกษตรอย่างยั่งยืน ตามกิจกรรมส่งเสริมและสนับสนุนสนุนการวิจัยและนวัตกรรม ภายใต้โครงการจัดการความรู้วิจัยและถ่ายทอดเพื่อการใช้ประโยชน์ ประจําปี 2565 โดยสํานักงานวิจัยแห่งชาติ วช. ร่วมกับ กอ.รมน. ดําเนินการโดย คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ณ วิสาหกิจชุมชนเกษตรอินทรีย์บ้านปรือเกียน ต.นอกเมือง อ.เมืองสุรินทร์ จ.สุรินทร์#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
9/3/2023
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
สุรินทร์
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสุรินทร์
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230309231431785
null
มทร.อีสาน ร่วมกับภาคีเครือข่ายเปิดตัวจากต้นแบบงานวิจัยสู่ ศูนย์แปลงยานยนต์ไฟฟ้า (EV Conversion) และสถาบันรับรองมาตรฐานยานยนต์ไฟฟ้าภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
รองศาสตราจารย์ ดร.โฆษิต ศรีภูธร อธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน (มทร.อีสาน) นําทีม รองอธิการบดี คณบดี ผู้อํานวยการสถาบันยานยนต์ไฟฟ้า และทีมอาจารย์นักวิจัยสถาบันยานยนต์ไฟฟ้า มทร.อีสาน นครราชสีมา เปิดตัวศูนย์แปลงยานยนต์ไฟฟ้า (EV Conversion) และสถาบันรับรองมาตรฐานยานยนต์ไฟฟ้าภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ร่วมกับบริษัท ช ทวี จํากัด (มหาชน) บริษัท เล็กสุวงษ์ ขนส่ง จํากัด และจังหวัดนครราชสีมา โดยได้รับการสนับสนุนจากกองทุนส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (กองทุนส่งเสริม ววน.) และหน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการพัฒนาระดับพื้นที่ (บพท.) สํานักงานสภานโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติ (สอวช.) ปีงบประมาณ 2565 เพื่อพัฒนา “ต้นแบบระบบนิเวศเมืองคาร์บอนต่ําที่น่าอยู่ กรณีศึกษาการพัฒนาระบบโครงข่ายขนส่งสาธารณะเมืองโคราช (A Model for Low Carbon & Livable City Urban Ecosystems : A Case Study of the Development of Public Transportation Network System in Korat City)” ภายใต้ Platform 4 การวิจัยและสร้างนวัตกรรมเพื่อการพัฒนาเชิงพื้นที่และลดความเหลื่อมล้ํา Program 15 พัฒนาเมืองน่าอยู่และการกระจายศูนย์กลางความเจริญโดยใช้วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม แผนงานการพัฒนาเมืองและกลไกการเติบโตใหม่ ประเด็นริเริ่มสําคัญ การพัฒนาเมืองคาร์บอนต่ําที่น่าอยู่ และมีเป้าหมาย พัฒนาและใช้ความรู้ เทคโนโลยีและนวัตกรรมเพื่อพัฒนาเมืองศูนย์กลางในภูมิภาคและเชื่อมโยงความเจริญสู่ชนบท โดยมี อาจารย์ ดร.สฤษดิ์ ติยะวงศ์สุวรรณ และทีมนักวิจัยจากสถาบันยานยนต์ไฟฟ้า มทร.อีสาน ร่วมกับคณะกรรมการขับเคลื่อนการพัฒนาเมืองอัจฉริยะฯ สํานักงานจังหวัดนครราชสีมา เป็นทีมดําเนินการหลักต้นแบบรถ EV Conversion ข้างต้นนี้ได้ทดลองใช้จริงในภาคขนส่งมวลชน สาย 4131 บ้านโนนค่า-บ้านกุดจิก-บขส.เก่า นครราชสีมา รวมทั้งรับส่งนักศึกษาและบุคลากรจากศูนย์กลางนครราชสีมา-ศูนย์การศึกษาหนองระเวียง มทร.อีสาน ผลทดสอบจะนําไปสู่ผลลัพธ์เชิงบูรณาการหลายภาคส่วน อาทิ การลดทุนการให้บริการเดินรถขนส่งมวลชน การลดมลภาวะและคาร์บอนให้กับเมือง ตลอดจนการเรียนรู้ประยุกต์เทคโนโลยียานยนต์ไฟฟ้าสมัยใหม่ของผู้ผลิตและผู้ประกอบการของไทย และการร่วมเรียนรู้และผลิตหลักสูตรต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับระบบนิเวศน์ยานยนต์ไฟฟ้า เช่น หลักสูตรระยะสั้น หลักสูตรโมดูล และหลักสูตร Sandbox ด้านยานยนต์ไฟฟ้า ของ มทร.อีสาน เพื่อเป็นกลจักรสําคัญในการสร้างกําลังแรงงานคุณภาพสูง สู่ความเป็นผู้นําในอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า ตามแผนยุทธศาสตร์ มทร.อีสาน และประเทศชาติ ให้เกิดการสร้างรายได้และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศอย่างสมดุลและยั่งยืนต่อไป#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
12/3/2023
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
นครราชสีมา
สวท.นครราชสีมา
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230312163734359
null
อบจ.ลำปาง เปิดรับสมัครการแข่งขัน ROBOT CONTEST ชิงเงินรางวัลรวม 40,000 บาท
องค์การบริหารส่วนจังหวัดลําปาง ร่วมกับสํานักงานอุตสาหกรรมจังหวัดลําปาง และสภาอุตสาหกรรมจังหวัดลําปาง กําหนดจัดการแข่งขัน ROBOT CONTEST ในงานลําปางอุตสาหกรรมแฟร์ “Lampang industrial technology and innovation fair” วันที่ 19 มีนาคม 2566 ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลลําปาง ชิงเงินรางวัลรวม 40,000 บาทการแข่งขันแบ่งเป็น 4 รุ่น ประกอบด้วย ประเภทหุ่นยนต์แบบใช้ Micro bit ระดับประถมศึกษา ประเภทหุ่นยนต์แบบใช้ Micro bit ระดับประมัธยมศึกษาตอนต้น ประเภทหุ่นยนต์แบบ Open ระดับประถมศึกษา และประเภทหุ่นยนต์แบบ Open ระดับประมัธยมศึกษาตอนต้นผู้สนใจสามารถสมัครเข้าร่วมการแข่งขัน (ฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย) ตั้งแต่บัดนี้ ถึงวันที่ 17 มีนาคม 2566 โดยสมัครได้ที่ https://forms.gle/DaUQzcRCQxpNLnqJ6 และติดตามประกาศ เรื่อง หลักเกณฑ์การแข่งขัน ROBOT CON ได้ที่ https://drive.google.com/.../1Qsu19R7B.../view... สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ สภาอุตสาหกรรมจังหวัดลําปาง โทร. 08 3861 3514#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
15/3/2023
ภาคเหนือ
ลำปาง
สวท.ลำปาง
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230315085526142
null
นักวิทย์ซินโครตรอนปลูกฟ้าทะลายโจรด้วย LED ตั้งเป้าเพิ่มสารออกฤทธิ์ทางยา
นักวิทยาศาสตร์ระบบลําเลียงแสงของสถาบันวิจัยแสงซินโครตรอน (องค์การมหาชน) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ศึกษาการปลูกฟ้าทะลายโจรด้วยแสง LED ตั้งเป้าช่วยเกษตรกรปรับปรุงการปลูกเพื่อเพิ่มสารออกฤทธิ์ทางยา พร้อมใช้แสงซินโครตรอนวิเคราะห์ได้ผลการปลูกด้วยแสงสีแดงให้สารสําคัญมากกว่าการปลูกด้วยแสงแดดประมาณ 2 เท่าดร.นิชาดา เจียรนัยกูร นักวิทยาศาสตร์ระบบลําเลียงแสง สถาบันวิจัยแสงซินโครตรอน กล่าวว่า ได้ลงพื้นที่ร่วมกับคณะกรรมาธิการกระทรวง อว. ไปยัง อ.วานรนิวาส จ.สกลนคร เมื่อเดือนกันยายน 2564 ซึ่งได้รับการส่งเสริมการปลูกฟ้าทะลายโจร และช่วงเวลาดังกล่าวมีการระบาดของโควิด-19 จึงพยายามปรับปรุงการปลูกให้ฟ้าทะลายโจรผลิตสารสําคัญได้เพิ่มขึ้นเพื่อนําไปผลิตเป็นยา โดยฟ้าทะลายโจรมีสารแอนโดรกราโฟไลด์ ที่มีฤทธิ์ลดการอักเสบ ลดไข้ ลดอาการหวัด ไอ เจ็บคอ“เกษตรกรในพื้นที่พยายามปรับปรุงการปลูกฟ้าทะลายโจร ทั้งเรื่องดินและน้ํา แต่ยังไม่มีใครทําเรื่องแสง ซึ่งเป็นปัจจัยหนึ่งในการเจริญเติบโตของพืช เราจึงได้นําเสนอแก่คณะกรรมาธิการกระทรวง อว. เรื่องการทดลองใช้แสง LED ปลูกฟ้าทะลายโจร เนื่องจากสถาบันวิจัยแสงซินโครตรอนเคยมีงานวิจัยที่ทําการทดลองปลูกผักสลัดและพืชสมุนไพรด้วยหลอด LED และได้ผลดีมาก โดยสามารถเพิ่มน้ําหนักของผักสลัดและได้สมุนไพรที่มีกลิ่นหอมมากกว่าการปลูกด้วยแสงธรรมดา เราจึงวิจัยว่าจะสามารถเพิ่มสารสําคัญให้ฟ้าทะลายโจรจากการปลูกด้วยหลอด LED หรือไม่” ดร.นิชาดากล่าวจากการวิจัยที่พบว่าคลอโรฟิลด์ที่พืชใช้สังเคราะห์แสง จะดูดกลืนแสงสีแดงและสีน้ําเงินมากที่สุด นักวิทยาศาสตร์สถาบันวิจัยแสงซินโครตรอน จึงนํามาเป็นหลักการปรับการให้แสงแก่ฟ้าทะลายโจรที่แตกต่างกันใน 3 สภาวะ คือ ให้แสงสีน้ําเงินมากกว่าแสงสีแดง 2 เท่า ให้แสงสีน้ําเงินและแสงสีแดงเท่ากัน และให้แสงสีแดงมากกว่าแสงสีน้ําเงิน 2 เท่า เพื่อดูว่าอัตราส่วนไหนที่จะสามารถสร้างเสริมการออกฤทธิ์สารสําคัญได้ ผลการทดลองปลูกเป็นระยะเวลา 2-3 เดือน พบว่าหากให้แสงสีแดงเท่ากับแสงสีน้ําเงินหรือแสงสีแดงมากกว่าแสงสีน้ําเงิน ฟ้าทะลายโจรจะผลิตสารออกฤทธิ์สําคัญได้มากกว่าสภาวะการปลูกโดยใช้แสงธรรมชาติ โดยส่วนที่ให้สารสําคัญมากที่สุดคือส่วนใบทั้งนี้ นักวิจัยได้ใช้แสงซินโครตรอนย่านอินฟราเรด วิเคราะห์สารออกฤทธิ์ในฟ้าทะลายโจร ซึ่งมีข้อดีตรงที่สามารถนําฟ้าทะลายโจร ที่อบแห้งและบดเป็นผงแล้วมาวิเคราะห์หาสารสําคัญได้เลย โดยไม่ต้องใช้สารเคมีในการสกัดเอาสารสําคัญออกมาเหมือนวิเคราะห์ด้วยห้องปฏิบัติการทั่วไป ซึ่งช่วยลดต้นทุนในการวิเคราะห์หาสารสําคัญ และลดขั้นตอนที่ยุ่งยาก หลังจากนี้ ดร.นิชาดาจะศึกษาการให้แสง LED เสริมแก่ฟ้าทะลายโจรในช่วงไม่มีแสงแดด เพื่อหาระยะเวลาการเสริมแสงที่เหมาะสม เพื่อให้พืชสร้างสารสําคัญได้ และจะทดลองปรับวิธีการปลูกและการให้แสงที่สามารถลดต้นทุนแต่ได้สารสําคัญเพิ่มขึ้น เพื่อถ่ายทอดแก่เกษตรกรต่อไป#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
15/3/2023
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
นครราชสีมา
สวท.นครราชสีมา
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230315132727241
null
นักวิทยาศาสตร์ระบบลำเลียงแสงของสถาบันวิจัยแสงซินโครตรอน (องค์การมหาชน) ศึกษาการปลูกฟ้าทะลายโจร ด้วยแสง LED
นางสาวนิชาดา เจียรนัยกูร นักวิทยาศาสตร์ระบบลําเลียงแสงสถาบันวิจัยแสงซินโครตรอน กล่าวว่า หลังจากลงพื้นที่อําเภอวานรนิวาส จ.สกลนคร ร่วมกับคณะกรรมาธิการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ช่วงเดือนกันยายนปี 2564 ที่ผ่านมา ซึ่งได้รับการส่งเสริมการปลูกฟ้าทะลายโจร และเนื่องจากเป็นช่วงการระบาดโควิด-19 จึงนําเสนอคณะกรรมาธิการกระทรวง อว. เรื่องการทดลองใช้แสง LED ปลูกฟ้าทะลายโจร เนื่องจากสถาบันวิจัยแสงซินโครตรอน เคยมีงานวิจัยที่ทําการทดลองปลูกผักสลัดและพืชสมุนไพรด้วยหลอด LED และได้ผลดีมาก สามารถเพิ่มน้ําหนักของผักสลัดและได้สมุนไพรที่มีกลิ่นหอมมากกว่าการปลูกด้วยแสงธรรมดา นักวิทยาศาสตร์สถาบันวิจัยแสงซินโครตรอน จึงนํามาเป็นหลักการปรับการให้แสงแก่ฟ้าทะลายโจรที่แตกต่างกันใน 3 สภาวะ คือ ให้แสงสีน้ําเงินมากกว่าแสงสีแดง 2 เท่า ให้แสงสีน้ําเงินและแสงสีแดงเท่ากัน และให้แสงสีแดงมากกว่าแสงสีน้ําเงิน 2 เท่า เพื่อดูว่าอัตราส่วนไหนที่จะสามารถสร้างเสริมการออกฤทธิ์สารสําคัญได้ ผลการทดลองปลูกเป็นระยะเวลา 2-3 เดือน พบว่า หากให้แสงสีแดงเท่ากับแสงสีน้ําเงินหรือแสงสีแดงมากกว่าแสงสีน้ําเงิน ฟ้าทะลายโจร จะผลิตสารออกฤทธิ์สําคัญได้มากกว่าสภาวะการปลูกโดยใช้แสงธรรมชาติ โดยส่วนที่ให้สารสําคัญมากที่สุดคือส่วนใบทั้งนี้ นักวิจัย ได้ใช้แสงซินโครตรอนย่านอินฟราเรด วิเคราะห์สารออกฤทธิ์ในฟ้าทะลายโจร ซึ่งมีข้อดีตรงที่สามารถนําฟ้าทะลายโจร ที่อบแห้งและบดเป็นผงแล้วมาวิเคราะห์หาสารสําคัญได้เลย โดยไม่ต้องใช้สารเคมีในการสกัดเอาสารสําคัญออกมาเหมือนวิเคราะห์ด้วยห้องปฏิบัติการทั่วไป ช่วยลดต้นทุนในการวิเคราะห์หาสารสําคัญ และลดขั้นตอนที่ยุ่งยาก หลังจากนี้ จะศึกษาการให้แสง LED เสริมแก่ฟ้าทะลายโจรในช่วงช่วงไม่มีแสงแดด เพื่อหาระยะเวลาการแสงเสริมที่เหมาะสม เพื่อให้พืชสร้างสารสําคัญได้ และจะทดลองปรับวิธีการปลูกและการให้แสงที่สามารถลดต้นทุนแต่ได้สารสําคัญเพิ่มขึ้น เพื่อถ่ายทอดแก่เกษตรกรต่อไป
15/3/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230315200213469
null
อธิบดีกรมพัฒนาที่ดิน ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมและติดตามความก้าวหน้าการดำเนินงาน ของกรมพัฒนาที่ดิน ที่ศูนย์ถ่ายทอดเทคโนโลยีด้านการพัฒนาที่ดิน ต.หลุ่งประดู่ อ.ห้วยแถลง จ.นครราชสีมา
วันนี้(18 มีนาคม 2566) เวลา 09.00 น. นายปราโมทย์ ยาใจ อธิบดีกรมพัฒนาที่ดิน พร้อมด้วยนายสุรเดช เตียวตระกูล ที่ปรึกษากรมพัฒนาที่ดิน และคณะเจ้าหน้าที่ฯ กรมพัฒนาที่ดิน ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมและติดตามความก้าวหน้าการดําเนินงาน ของกรมพัฒนาที่ดิน ณ ศูนย์ถ่ายทอดเทคโนโลยีด้านการพัฒนาที่ดิน บ้านหลุ่งประดู่ หมู่ที่ 12 ตําบลหลุ่งประดู่ อําเภอห้วยแถลง จังหวัดนครราชสีมา พื้นที่ของนายสุบรร อันทินทา หมอดินอาสาประจําอําเภอห้วยแถลง ซึ่งการลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมฯ ครั้งนี้ นายชาติชาย ประสาระวัน ผู้อํานวยการสํานักงานพัฒนาที่ดินเขต 3 นางสาวเสาวนีย์ ประจันศรี ผู้เชี่ยวชาญด้านวางระบบการพัฒนาที่ดิน นายวิรุธ คงเมือง ผู้อํานวยการสถานีพัฒนาที่ดินนครราชสีมา พร้อมคณะผู้อํานวยการสถานีพัฒนาที่ดิน ชัยภูมิ บุรีรัมย์ และสุรินทร์ คณะผู้อํานวยการกลุ่ม หัวหน้าฝ่าย ข้าราชการ เจ้าหน้าที่และผู้เกี่ยวข้องในสังกัดสํานักงานพัฒนาที่ดินเขต 3 ให้การต้อนรับ อธิบดีกรมพัฒนาที่ดิน และที่ปรึกษากรมพัฒนาที่ดินท่านอธิบดี ในการลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมและติดตามความก้าวหน้าผลการดําเนินงาน พร้อมมอบแนวทางการดําเนินงานด้านการพัฒนาที่ดิน รวมถึงการรับฟังความคิดเห็นข้อเสนอแนะจากหมอดินอาสาประจําอําเภอพิมาย อําเภอชุมพวง อําเภอจักราช และอําเภอห้วยแถลง จังหวัดนครราชสีมา เพื่อให้ทราบถึงปัญหาและสามารถขับเคลื่อนงานของกรมพัฒนาที่ดิน ให้บรรลุตามเป้าหมายตามวัตถุประสงค์ ตลอดจนก่อให้เกิดประโยชน์ และเกิดผลสําเร็จอย่างมีประสิทธิภาพ#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
18/3/2023
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
นครราชสีมา
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนครราชสีมา
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230318235313581
null
ผลการแข่งขัน ROBOT CONTEST ในงานลำปางอุตสาหกรรมแฟร์
นางสาวตวงรัตน์ โล่ห์สุนทร นายก อบจ.ลําปาง มอบหมายให้นายวราวุฒิ หน่อคํา รองนายก อบจ.ลําปาง เป็นผู้มอบรางวัลการแข่งขัน ROBOT CONTEST ที่จัดขึ้นในงานลําปางอุตสาหกรรมแฟร์ "Lampang industrial technology and innovation fair" ภายใต้โครงการ Lampang World Class Fair (เซรามิคและหัตถอุตสาหกรรม) ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลลําปาง ซึ่งจัดโดยองค์การบริหารส่วนจังหวัดลําปาง ร่วมกับ สํานักงานอุตสาหกรรมจังหวัดลําปาง และสภาอุตสาหกรรมจังหวัดลําปาง โดยมีทีมที่เข้าร่วมการแข่งขันประเภท robot open ระดับประถมศึกษา 6 ทีม ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น 4 ทีม และประเภท robot micro bit และระดับประถมศึกษา 13 ทีม ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น 7 ทีมผลการแข่งขันประเภทหุ่นยนต์แบบใช้ Micro bit ระดับประถมศึกษา รางวัลชนะเลิศ (5,000 บาท) ทีม abms 1โรงเรียนอนุบาลแม่เมาะ (ชุมชน 1), รางวัลรองชนะเลิศ อันดับ 1 (3,000 บาท) ทีม tungcho robot โรงเรียนวัดทุ่งโจ้, รางวัลรองชนะเลิศ อันดับ 2 (2,000 บาท) ทีม laor-bot โรงเรียนสาธิตละอออุทิศ ลําปาง มหาวิทยาลัยสวนดูสิต ผลการแข่งขันประเภทหุ่นยนต์แบบใช้ Micro bit ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น รางวัลชนะเลิศ (5,000 บาท) ทีม bf โรงเรียนชุมชนบ้านฟ่อนวิทยา, รางวัลรองชนะเลิศ อันดับ 1 (3,000 บาท) ทีม Kls 1 โรงเรียนกิ่วลมวิทยา, รางวัลรองชนะเลิศ อันดับ 2 (2,000 บาท) ทีม Kls 2 โรงเรียนกิ่วลมวิทยา ผลการแข่งขันประเภทหุ่นยนต์แบบ Open ระดับประถมศึกษา จํากัดขนาดกว้างไม่เกิน 25 ซม. ยาวไม่เกิน 25 ซม. ไม่จํากัดความสูงและน้ําหนัก รางวัลขนะเลิศ (5,000 บาท) ทีม ranker โรงเรียนอัสสัมชัญลําปาง, รางวัลรองชนะเลิศ อันดับ 1 (3,000 บาท) ทีม double A โรงเรียนอัสสัมชัญลําปาง รางวัลรองชนะเลิศ อันดับ 2 (2,000 บาท) ทีม foboss โรงเรียนอัสสัมชัญลําปาง ผลการแข่งขันประเภทหุ่นยนต์แบบ Open ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น จํากัดขนาดกว้างไม่เกิน 25 ซม. ยาวไม่เกิน 25 ซม. ไม่จํากัดความสูงและน้ําหนัก รางวัลชนะเลิศ (5,000 บาท) ทีม turbosnail โรงเรียนอัสสัมชัญลําปาง, รางวัลรองชนะเลิศ อันดับ 1 (3,000 บาท) ทีม sloth10 โรงเรียนอัสสัมชัญลําปาง, รางวัลรองชนะเลิศ อันดับ 2 (2,000 บาท) ทีม bws-robot โรงเรียนบุญวาทย์วิทยาลัย#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
20/3/2023
ภาคเหนือ
ลำปาง
สวท.ลำปาง
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230320110620826
null
นักวิทย์ซินโครตรอนปลูกฟ้าทะลายโจรด้วย LED ตั้งเป้าเพิ่มสารออกฤทธิ์ทางยา
นักวิทยาศาสตร์ระบบลําเลียงแสงของ สถาบันวิจัยแสงซินโครตรอน (องค์การมหาชน) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ศึกษาการปลูกฟ้าทะลายโจรด้วยแสง LED ตั้งเป้าช่วยเกษตรกรปรับปรุงการปลูกเพื่อเพิ่มสารออกฤทธิ์ทางยา พร้อมใช้แสงซินโครตรอนวิเคราะห์ได้ผลการปลูกด้วยแสงสีแดงให้สารสําคัญมากกว่าการปลูกด้วยแสงแดดประมาณ 2 เท่า ดร.นิชาดา เจียรนัยกูร นักวิทยาศาสตร์ระบบลําเลียงแสงสถาบันวิจัยแสงซินโครตรอน กล่าวว่า ได้ลงพื้นที่ร่วมกับคณะกรรมาธิการกระทรวง อว. ไปยัง อ.วานรนิวาส จ.สกลนคร เมื่อเดือนกันยายนปี พ.ศ.2564 ที่ผ่านมา ซึ่งได้รับการส่งเสริมการปลูกฟ้าทะลายโจร และช่วงเวลาดังกล่าวมีการระบาดของโควิด-19 จึงมีพยายามปรับปรุงการปลูกให้ฟ้าทะลายโจรผลิตสารสําคัญได้เพิ่มขึ้นเพื่อนําไปผลิตเป็นยา โดยฟ้าทะลายโจรมีสารแอนโดรกราโฟไลด์ ที่มีฤทธิ์ลดการอักเสบ ลดไข้ ลดอาการหวัด ไอ เจ็บคอเกษตรกรในพื้นที่พยายามปรับปรุงการปลูกฟ้าทะลายโจรทั้งเรื่องดินและน้ํา แต่ยังไม่มีใครทําเรื่องแสงซึ่งเป็นปัจจัยหนึ่งในการเจริญเติบโตของพืช เราจึงได้นําเสนอแก่คณะกรรมาธิการกระทรวง อว. เรื่องการทดลองใช้แสง LED ปลูกฟ้าทะลายโจร เนื่องจากสถาบันวิจัยแสงซินโครตรอนเคยมีงานวิจัยที่ทําการทดลองปลูกผักสลัดและพืชสมุนไพรด้วยหลอด LED และได้ผลดีมาก โดยสามารถเพิ่มน้ําหนักของผักสลัดและได้สมุนไพรที่มีกลิ่นหอมมากกว่าการปลูกด้วยแสงธรรมดา เราจึงวิจัยว่าจะสามารถเพิ่มสารสําคัญให้ฟ้าทะลายโจรจากการปลูกด้วยหลอด LED หรือไม่จากการวิจัยที่พบว่าคลอโรฟิลด์ที่พืชใช้สังเคราะห์แสงจะดูดกลืนแสงสีแดงและสีน้ําเงินมากที่สุด นักวิทยาศาสตร์สถาบันวิจัยแสงซินโครตรอนจึงนํามาเป็นหลักการปรับการให้แสงแก่ฟ้าทะลายโจรที่แตกต่างกันใน 3 สภาวะ คือ ให้แสงสีน้ําเงินมากกว่าแสงสีแดง 2 เท่า ให้แสงสีน้ําเงินและแสงสีแดงเท่ากัน และให้แสงสีแดงมากกว่าแสงสีน้ําเงิน 2 เท่า เพื่อดูว่าอัตราส่วนไหนที่จะสามารถสร้างเสริมการออกฤทธิ์สารสําคัญได้ ผลการทดลองปลูกเป็นระยะเวลา 2-3 เดือน พบว่าหากให้แสงสีแดงเท่ากับแสงสีน้ําเงินหรือแสงสีแดงมากกว่าแสงสีน้ําเงิน ฟ้าทะลายโจรจะผลิตสารออกฤทธิ์สําคัญได้มากกว่าสภาวะการปลูกโดยใช้แสงธรรมชาติ โดยส่วนที่ให้สารสําคัญมากที่สุดคือส่วนใบทั้งนี้ นักวิจัยได้ใช้แสงซินโครตรอนย่านอินฟราเรดวิเคราะห์สารออกฤทธิ์ในฟ้าทะลายโจร ซึ่งมีข้อดีตรงที่สามารถนําฟ้าทะลายโจรที่อบแห้งและบดเป็นผงแล้วมาวิเคราะห์หาสารสําคัญได้เลย โดยไม่ต้องใช้สารเคมีในการสกัดเอาสารสําคัญออกมาเหมือนวิเคราะห์ด้วยห้องปฏิบัติการทั่วไป ซึ่งช่วยลดต้นทุนในการวิเคราะห์หาสารสําคัญ และลดขั้นตอนที่ยุ่งยาก หลังจากนี้ ดร.นิชาดาจะศึกษาการให้แสง LED เสริมแก่ฟ้าทะลายโจรในช่วงช่วงไม่มีแสงแดด เพื่อหาระยะเวลาการแสงเสริมที่เหมาะสมเพื่อให้พืชสร้างสารสําคัญได้ และจะทดลองปรับวิธีการปลูกและการให้แสงที่สามารถลดต้นทุนแต่ได้สารสําคัญเพิ่มขึ้น เพื่อถ่ายทอดแก่เกษตรกรต่อไป #สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
20/3/2023
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
นครราชสีมา
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนครราชสีมา
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230321004209104
null
เชิญชวนประชาชนร่วมชมปรากฎการณ์ “ดวงจันทร์บังดาวศุกร์” 24 มีนาคมนี้
นายศุภฤกษ์ คฤหานนท์ ผู้อํานวยการศูนย์บริการวิชาการและสื่อสารทางดาราศาสตร์ สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) (สดร.) กล่าวว่า ในช่วงหัวค่ําวันที่ 24 มีนาคม 2566 จะเกิดปรากฏการณ์ดวงจันทร์บังดาวศุกร์ เริ่มสังเกตการณ์ได้ตั้งแต่ช่วงหัวค่ําทางทิศตะวันตก วัตถุทั้งสองอยู่เคียงกันสูงจากขอบฟ้าประมาณ 32 องศา ในช่วงเวลาประมาณ 18.37 น. ดวงจันทร์จะค่อยๆ เคลื่อนที่ไปบังดาวศุกร์ และจะเคลื่อนที่ออกจากดาวศุกร์ ในเวลาประมาณ 19.45 น. โดยการบังกันของวัตถุท้องฟ้า เป็นปรากฏการณ์ที่วัตถุท้องฟ้าหนึ่งเคลื่อนที่ผ่านหน้ามาบังอีกวัตถุหนึ่งเมื่อสังเกตจากแนวสายตา เช่น ดวงจันทร์บังดาวเคราะห์ ดวงจันทร์บังดาวฤกษ์ ดาวเคราะห์บังดาวฤกษ์ ดาวเคราะห์บังกันเอง ฯลฯ สามารถใช้ปรากฏการณ์ดังกล่าว คํานวณหาขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางของวัตถุ คํานวณหาระยะห่างระหว่างโลกกับดวงจันทร์ ตรวจหาและศึกษาโครงสร้างของชั้นบรรยากาศ รวมถึงการใช้ตรวจหาวงแหวนของดาวเคราะห์ชั้นนอกได้อีกด้วย เป็นอีกหนึ่งปรากฏการณ์สําคัญที่เป็นประโยชน์ต่อวงการวิจัยดาราศาสตร์ ทั้งยังเป็นปรากฏการณ์ดาราศาสตร์ที่หาชมยาก เกิดขึ้นไม่บ่อยนัก โดยเฉพาะในประเทศไทย ขอเชิญชวนผู้สนใจร่วมชมความสวยงามด้วยตาเปล่า หากชมผ่านกล้องโทรทรรศน์จะสังเกตเห็นดาวศุกร์ค่อยๆ ลับหายไปหลังดวงจันทร์และโผล่พ้นออกมาทั้งดวงได้อย่างชัดเจน สดร. เตรียมจัดกิจกรรมสังเกตการณ์ “ดวงจันทร์บังดาวศุกร์” เวลา 18.00 - 22.00 น. ณ จุดสังเกตการณ์หลัก 4 แห่ง ได้แก่ อุทยานดาราศาสตร์สิรินธร อําเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ และหอดูดาวเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษา นครราชสีมา ฉะเชิงเทรา สงขลา ชมแบบเต็มตาผ่านกล้องโทรทรรศน์ ขณะเกิดปรากฏการณ์ในช่วงหัวค่ํา หรือรับชมถ่ายทอดสดปรากฏการณ์ ผ่านทางเฟซบุ๊ก NARIT สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ ตั้งแต่เวลา 18.00 เป็นต้นไป
21/3/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230321105558185
null
โฆษกสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ ยืนยัน ยังไม่พบการรั่วไหลของสารซีเซียม 137 จากโรงงานหลอมเหล็ก
นางเพ็ญนภา กัญชนะ รองเลขาธิการสํานักงานปรมาณูเพื่อสันติ และโฆษกสํานักงานปรมาณูเพื่อสันติ กล่าวถึงการตรวจสอบหาสารซีเซียม 137 หลังพบวัสดุกัมมันตรังสีในโรงงานหลอมเหล็กแห่งหนึ่งในจังหวัดปราจีนบุรี ว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างขั้นตอนการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ตํารวจ ซึ่งในส่วนของโรงหลอมเหล็กของโรงงานดังกล่าว จะแยกส่วนออกมาจากโกดังเก็บวัสดุ ซึ่งจากการตรวจสอบฝุ่นแดงที่เกิดจากการหลอมเหล็ก พบสารซีเซียม 137 ในระดับที่สูงกว่าปกติ โดยได้มีการประสานเจ้าหน้าที่สาธารณสุขจังหวัด ส่งเจ้าหน้าที่มาเจาะเลือดตรวจร่างกายพนักงาน และตรวจสอบการปนเปื้อนภายนอกร่างกาย เก็บตัวอย่างปัสสาวะ เพื่อตรวจสอบการปนเปื้อนรังสีในร่างกาย ขณะนี้ยังรอผลการตรวจสอบจากห้องปฏิบัติการอยู่ ส่วนการตรวจสอบสุขภาพ ยังไม่พบว่าพนักงานคนใดมีสุขภาพไม่ปกติ ทั้งนี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ได้สั่งการให้มีการเฝ้าระวังและติดตามสารกัมมันตรังสีดังกล่าว โดยให้ทุกหน่วยงานในกระทรวงทํางานร่วมกัน เน้นย้ําให้ดูแลความปลอดภัยของประชาชนและสิ่งแวดล้อม ทั้งดิน น้ํา และอากาศ พร้อมตั้งศูนย์เฝ้าระวังและติดตาม เพื่อสื่อสารให้กับประชาชนเข้าใจ ทั้งนี้สํานักงานปรมาณูเพื่อสันติ ประสานไปยังโรงงานที่ได้รับใบอนุญาตให้เพิ่มมาตรการตรวจสอบ และการเก็บรักษาวัสดุที่ได้รับอนุญาตเพิ่มมากขึ้น เพื่อป้องกันการเกิดเหตุลักษณะดังกล่าว ขณะที่ร้านรับซื้อของเก่าเจ้าหน้าที่ได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติม พร้อมรูปภาพประกอบ หากพบเห็นอุปกรณ์ลักษณะดังกล่าวไม่ให้เข้าใกล้และแจ้งเจ้าหน้าที่ทันที ส่วนประชาชนขอให้สบายใจได้ เจ้าหน้าที่ได้มีการตรวจสอบพื้นที่ใกล้เคียงโรงงานทั้ง 2 แห่ง รวมถึงพื้นที่อื่นๆ ด้วย มีการตรวจสอบสภาพอากาศทุกวัน ไม่น่ากังวลแต่อย่างใดอย่างไรก็ตามระบบการหลอมของโรงงานเป็นระบบปิด โอกาสที่จะหลุดออกสู่ภายนอกเป็นไปได้ยาก เพราะมีกระบวนการดักฝุ่นที่ได้จากการหลอมเหลวลงในถุงบิ๊กแบ็ค ซึ่งมีโอกาสหลุดออกไปสู่สภาพแวดล้อมภายนอกน้อย ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ยังคงติดตามสารซีเซียม 137 ที่สูญหายอยู่ หากผู้ใดพบเห็นวัสดุที่มีลักษณะเป็นแท่งกลมๆ สามารถแจ้งเจ้าหน้าที่ ได้ที่สายด่วน 1296 และห้ามเข้าใกล้ด้วยเด็ดขาด ส่วนที่ถูกหลอมเหลว เจ้าหน้าที่ได้เก็บถุงบิ๊กแบ็คทั้งหมดไว้ในที่ปลอดภัยแล้ว
22/3/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
Radio-สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230322210603843
null
สวทช. ร่วมกับ กสทช. เปิดตัว“โครงการยกระดับศักยภาพอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์หุ่นยนต์บริการ และผลิตภัณฑ์ IoT ของไทยสู่อาเซียน”
ศาสตราจารย์ ดร.ชูกิจ ลิมปิจํานงค์ ผู้อํานวยการสํานักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) เปิดงานสัมมนาเปิดตัว โครงการยกระดับศักยภาพอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์หุ่นยนต์บริการและผลิตภัณฑ์ Internet of Things (IoT) ของไทยสู่อาเซียน” กล่าวว่า ผลิตภัณฑ์หุ่นยนต์ จะแบ่งออกได้เป็น 2 กลุ่มใหญ่ คือ หุ่นยนต์ที่ใช้ในโรงงาน ที่ส่วนใหญ่จะอยู่ในรูปแบบของแขนกล กับหุ่นยนต์ขนย้ายวัสดุสินค้า AGV หรือ หุ่นยนต์อุตสาหกรรม และหุ่นยนต์บริการ เมื่อรวมเข้ากับการทํางานของ AI หรือ ปัญญาประดิษฐ์ ยิ่งทําให้หุ่นยนต์พัฒนาการทํางานให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ทําให้อุตสาหกรรมหุ่นยนต์เติบโตขึ้นได้อย่างรวดเร็ว ก้าวขึ้นมาเป็นฟันเฟืองหนึ่งที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจในยุคที่ประเทศไทยต้องพึ่งพาหุ่นยนต์มากขึ้นเรื่อยๆ ดังนั้น การที่จะช่วยผลักดันให้ผลิตภัณฑ์ของไทยสามารถออกสู่ตลาดในภูมิภาค และการนําเข้าสินค้าผลิตภัณฑ์หุ่นยนต์บริการและผลิตภัณฑ์ IoT จากต่างประเทศเข้ามาใช้งานในประเทศ ให้มีความมั่นคงปลอดภัยและสอดคล้องกับกฎระเบียบต่าง ๆ ของประเทศไทยและในระดับสากล จําเป็นต้องมีหน่วยงานที่เป็นกลาง ทําหน้าที่เป็นกลไกในการส่งเสริม พัฒนา ให้คําปรึกษาตลอดจนทดสอบคุณภาพมาตรฐาน เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับผู้ใช้งานดร.ภัทราวดี พลอยกิติกูล ผู้อํานวยการเขตอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ประเทศไทย สวทช. กล่าวว่า โครงการนี้มุ่งมั่นพัฒนาแพลตฟอร์มการให้บริการเพื่อยกระดับผู้ประกอบการผลิตภัณฑ์หุ่นยนต์บริการ และผลิตภัณฑ์ IoT สู่อาเซียน เริ่มตั้งแต่การให้บริการพัฒนานวัตกรรม ที่มุ่งเน้นการฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการเข้มข้น การให้คําปรึกษาทั้งทางด้านเทคโนโลยีและด้านธุรกิจ การสนับสนุนโครงสร้างพื้นฐาน และ ผลิตภัณฑ์ IoT ที่ได้รับการรับรองมาตรฐานในระดับสากลแบบครบวงจรให้เกิดขึ้นในประเทศไทย และเป็นแห่งแรกในภูมิภาคอาเซียน
23/3/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230323161127155
null
สวทช. จัดงาน ‘NAC2023’ โชว์ขุมพลังวิจัย เร่งการขับเคลื่อน BCG 28-31 มี.ค.นี้ ที่อุทยานวิทยาศาสตร์ประเทศไทย จ.ปทุมธานี
สํานักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) จัดงานประชุมวิชาการประจําปี สวทช. ครั้งที่ 18 (18th NSTDA Annual Conference: NAC2023) ภายใต้หัวข้อ สวทช. : ขุมพลังหลัก วทน. เร่งการขับเคลื่อนโมเดลเศรษฐกิจ BCG สู่ความยั่งยืน ระหว่างวันที่ 28-31 มีนาคม ณ อุทยานวิทยาศาสตร์ประเทศไทย จ.ปทุมธานี โดยภายในงาน NAC2023 จะมีกิจกรรมสําคัญมากมายทั้ง ‘การสัมมนาวิชาการ’ ในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการวิจัยด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม (วทน.) และการนํา วทน. ไปใช้ขับเคลื่อนประเทศ ‘นิทรรศการด้าน วทน.’ นําเสนอผลงานวิจัยเด่นรวมถึงการให้บริการด้านโครงสร้างพื้นฐาน โดย สวทช. และหน่วยงานพันธมิตร กิจกรรม ‘Open House’ เปิดบ้านให้ที่ผู้สนใจระบบบริการจาก สวทช. และประชาคมอุทยานวิทยาศาสตร์ประเทศไทย เยี่ยมชมห้องปฏิบัติการรวมถึงระบบโครงสร้างพื้นฐานต่าง ๆ กิจกรรมเสวนาเพื่อสร้างแรงบันดาลใจในการศึกษาด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และกิจกรรมเชิงปฏิบัติการ (Workshop) สําหรับผู้ดําเนินงานด้านการศึกษาและเยาวชนทั้งนี้ สวทช. ได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดําเนินมาเป็นองค์ประธานในพิธีเปิดการประชุมในวันที่ 28 มีนาคม ซึ่งมีการถ่ายทอดสดทางช่อง 11 หรือ NBT ตั้งแต่เวลา 09.00 นาฬิกาเป็นต้นไป ผู้สนใจเข้าร่วมงาน NAC2023 สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมและลงทะเบียนเข้าร่วมงานฟรีได้ที่เว็บไซต์ www.nstda.or.th/nac หรือสอบถามเพิ่มเติม โทร. 0-2564-8000
27/3/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230327121830049
null
ชูทุเรียนเมืองนนท์ พ้นวิกฤตน้ำเค็ม รักษามรดกทางวัฒนธรรม เตรียมพร้อมส่งออกต่างประเทศ
นางจันทรวิภา ธนะโสภณ ผู้ทรงคุณวุฒิสํานักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) นําคณะเยี่ยมชมโครงการวิจัย เรื่อง “การพัฒนาเกษตรกรไทยสู่ smart farmer (กรณีศึกษาการพัฒนาเกษตรกรผู้ปลูกทุเรียนเพื่อการส่งออก)” มี รศ.ดร.วรภัทร วชิรยากรณ์ สาขาวิชาเทคโนโลยีการเกษตร คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เป็นผู้บริหารจัดการโครงการวิจัย และนักวิชาการส่งเสริมการเกษตรชํานาญการพิเศษ รักษาราชการแทนเกษตรอําเภอเมืองนนทบุรี ให้การต้อนรับ ณ สวนอลิษา จ.นนทบุรี พร้อมกล่าวว่า สวนทุเรียนอลิษา อําเภอเมือง จังหวัดนนทบุรี เป็นสวนทุเรียนที่เก่าแก่ แต่มีปัญหาในเรื่องน้ําเค็ม ซึ่ง วช.ได้นํานวัตกรรมใหม่ๆ ที่จะทําให้ต้นทุเรียนรอดจากน้ําเค็มและทําให้ต้นทุเรียนเจริญเติบโต มีทุเรียนอร่อยให้รับประทาน ซึ่งทุเรียนที่นี้ขายได้ราคาดี เมื่อราคาดีก็อยากให้ต้นทุเรียนยั่งยืนอยู่นานและมีผลผลิตมากๆนายเฉลิมศักดิ์ ผมพันธ์ นักวิชาการส่งเสริมการเกษตรชํานาญการพิเศษ รักษาราชการแทนเกษตรอําเภอเมืองนนทบุรี กล่าวว่า สถานการณ์ปัจจุบันพื้นที่ปลูกทุเรียนในอําเภอเมืองที่ขึ้นทะเบียนมีอยู่ 1,168 ไร่ เก็บเกี่ยวได้ประมาณ 100 กว่าไร่ ปีที่แล้วสํารวจผลผลิตได้ประมาณ 5,000 ลูก ปีนี้อยู่ในระหว่างการสํารวจ รู้สึกยินดีที่ วช. ได้นํางานวิจัยลงพื้นที่มาช่วย ซึ่งขณะนี้สวนทุเรียนประสบปัญหา เรื่องน้ําเค็ม สภาพภูมิอากาศ โรคและแมลง ในบางสวน ซึ่งวันนี้เป็นโอกาสดีที่จะได้นํางานวิจัยไปเผยแพร่ให้เกษตรกรที่ทําสวนทุเรียนในจังหวัดนนทบุรีต่อไปรศ.ดร.วรภัทร วชิรยากรณ์ สาขาวิชาเทคโนโลยีการเกษตร คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เป็นผู้บริหารจัดการโครงการวิจัยฯ กล่าวว่า มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้รับการสนับสนุนทุนวิจัยจาก วช. ในการดําเนินโครงการพัฒนาเกษตรกรไทยสู่ Smart farmer (กรณีศึกษาการพัฒนาเกษตรกรผู้ปลูกทุเรียน เพื่อการส่งออก) ภายใต้กรอบการวิจัยหลักการเพิ่มผลผลิตด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยี โดยคณะนักวิจัย ได้ถ่ายทอดนวัตกรรมการผลิตทุเรียนคุณภาพสูงจากการวิจัยและพัฒนาการชักนํารากลอย (Reborn Root Ecosystem: RRE) เป็นนวัตกรรมที่สร้างระบบนิเวศน์ให้มีฮิวมัสและสารคีเลตเพื่อให้รากฝอย หาน้ําและแร่ธาตุร่วมกับระบบจุลินทรีย์ในดินอย่างสมดุล และนวัตกรรมการให้น้ําแบบที่ราบลุ่ม ที่ให้น้ําตามการปิดเปิดปากใบของทุเรียน และสภาพน้ําขึ้นน้ําลง เพื่อชักนําให้ทุเรียนสร้างกลิ่นหอม และรสชาติดี ส่งผลให้ต้นทุเรียนฟื้นจากอิทธิพลน้ําเค็มหนุน และน้ําเสียจากการขยายตัวของชุมชนเมือง มีการออกดอกติดผลและให้ผลผลิตมีคุณภาพที่ดีมาก และยังสามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ก่อนทุกแปลงใน จังหวัดนนทบุรีอีกด้วย
29/3/2023
null
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230329214553101
null
ผักผลไม้เมืองปราจีนบุรี ปลอดภัยแน่นอน กระทรวง อว. ตรวจซ้ำอีกรอบผลตรวจละเอียดผักผลไม้ที่ปราจีนบุรี “ปลอดภัย ไม่พบซีเซียม-137”
ศ.ดร.นพ. สิริฤกษ์ ทรงศิวิไล ปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เปิดเผยว่า สถาบันเทคโนโลยีนิวเคลียร์แห่งชาติ (สทน.) ได้ทําการตรวจผัก ผลไม้ และผลิตผลการเกษตร ที่ จ.ปราจีนบุรี ทั้งที่ตลาดสดและในแปลงปลูก โดยวิธีมาตรฐานสากลในห้องปฏิบัติการสินค้าส่งออก พบว่าปลอดภัย ไม่มีการปนเปื้อนของซีเซียม-137 และสารกัมมันตรังสีต่าง ๆ ทั้งนี้ หน่วยงานต่างๆ ของกระทรวง อว. ได้เข้าไปปฏิบัติงานในพื้นที่ จ.ปราจีนบุรี โดยในแต่ละวันสํานักงานปรมาณูเพื่อสันติ (ปส.) ได้ตรวจสอบคุณภาพอากาศ น้ํา และดิน รวมทั้งใช้รถวัดระดับรังสีทั้งภายในโรงงาน พื้นที่วงรอบโรงงาน และแต่ละจุดในจังหวัด พบว่าระดับกัมมันตรังสีอยู่ในระดับปกติ รวมทั้งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยได้ทําการตรวจยืนยันผลเช่นเดียวกัน "ในส่วนของพืช ผัก ผลไม้ ผลิตผลการเกษตรและอาหาร สทน. ได้ร่วมกับ จ.ปราจีนบุรีและเกษตรกรในพื้นที่ทําการตรวจพืชผักผลไม้อย่างต่อเนื่อง โดยใช้ 3 วิธี คือ การวัดรังสีโดยตรงโดยเครื่องมือวัดแบบพกพา การเช็ดหรือขูดที่ผิวของผักผลไม้เพื่อตรวจแบบสเมียร์เทสต์ และการตรวจละเอียดในห้องปฏิบัติการสินค้าส่งออกซึ่งเป็นวิธีมาตรฐาน มีความไวและแม่นยําสูงสุด “โดยล่าสุด สทน. รายงานว่าพืชผักผลไม้จาก จ.ปราจีนบุรี ทั้งจากตลาดและจากสวน ทุกตัวอย่างตรวจไม่พบซีเซียม-137” รศ.ดร.ธวัชชัย อ่อนจันทร์ ผอ.สทน. ให้รายละเอียดเพิ่มเติมว่า ในการตรวจผักผลไม้เบื้องต้นกว่าหลายร้อยตัวอย่างในตลาดและในสวน โดยการตรวจวัดรังสีโดยตรงและวิธีสเมียร์เทสต์ไม่พบการปนเปื้อน จึงได้ตรวจยืนยันผลเพิ่มเติมโดยนําเอาตัวอย่าง เช่น ทุเรียน ผักบุ้ง หอมแดง เห็ด ผลโกโก้ มาตรวจละเอียดในห้องปฏิบัติการ โดยเทคนิคแกมมาสเปคโตรเมตรี (gamma spectrometry) ซึ่งใช้ผักผลไม้จํานวนมาก นําวิเคราะห์ใช้การกระตุ้นธาตุต่าง ๆ ให้เข้าสู่สภาวะไม่เสถียร ซึ่งจะมีการปล่อยแสงซึ่งจะมีความถี่เฉพาะของธาตุต่าง ๆ แล้วทําการอ่านสัญญาณซึ่งแปลเป็นธาตุต่าง ๆ ได้ เป็นเทคนิคที่มีความไวและความจําเพาะสูงมาก ใช้เวลาตรวจยืนยันและวิเคราะห์ประมาณ 2-3 วัน ซึ่งขณะนี้ได้รายงานผลแล้วว่า พืชผักผลไม้ ปลอดภัย ไม่พบซีเซียม-137 หรือสารกัมมันตรังสี#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
30/3/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดปราจีนบุรี
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230330195334427
null
วช. สนับสนุนโครงการศูนย์ต้นแบบการเรียนรู้คนเลี้ยงชันโรง ยกระดับคุณภาพชีวิตของคนในชุมชน
นางสาววิภารัตน์ ดีอ่อง ผู้อํานวยการสํานักงานการวิจัยแห่งชาติ หรือ วช. กล่าวว่า วช.ได้ให้การสนับสนุนโครงการวิจัยต่างๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชน ยกระดับคุณภาพชีวิตของชาวชุมชน โดยเฉพาะภาคการเกษตรที่จําเป็นต้องมีแนวทางในการบริหารจัดการ ใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ให้เกิดประโยชน์สูงสุด สร้างช่องทางในการหารายได้จากหลายผลิตภัณฑ์ อย่างพื้นที่ในอําเภอบางกล่ํา จังหวัดสงขลา เกษตรกรได้จัดสรรพื้นที่สวนยาง เพื่อการเพาะปลูกไม้ผล ไม้ยืนต้น พืชผัก พืชสมุนไพรและการเลี้ยงชันโรง ส่งผลให้สามารถเก็บผลผลิตจากชันโรงออกจําหน่าย สามารถชดเชยระดับราคาน้ํายางพาราที่ลดต่ําลง สร้างชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นให้กับเกษตรกร สามารถใช้เป็นแหล่งเรียนรู้การเกษตรแบบผสมผสานนางสาวฉัตรธิดา หยูคง อาจารย์โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ (ฝ่ายมัธยมศึกษา) คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ เปิดเผยว่า พื้นที่ตําบลบางกล่ํา จังหวัดสงขลา นับเป็นพื้นที่อุดมสมบูรณ์ทางธรรมชาติ เป็นพื้นที่สีเขียว พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นพื้นที่การเกษตรสวนผลไม้ และสวนยางพาราตั้งอยู่ลุ่มน้ําคลองอู่ตะเภาและคลองบางกล่ํา ตลอดจนเป็นพื้นที่ที่ปลอดจากโรงงานอุตสาหกรรมและมลพิษ จึงถือเป็นต้นทุนทางทรัพยากรทางธรรมชาติของชุมชนที่สําคัญ และสัมพันธ์โดยตรงต่อคุณภาพของผลผลิตทางการเกษตรและน้ําผึ้งชันโรง สามารถขับเคลื่อนการทําเกษตรแบบผสมผสาน ซึ่งเป็นการน้อมนําแนวพระราชดําริของในหลวงรัชกาลที่ 9 มาประยุกต์ใช้ในการทําเกษตรสามารถจัดสรรพื้นที่สวนยาง เพื่อการเพาะปลูกไม้ผล ไม้ยืนต้น พืชผัก พืชสมุนไพร และการเลี้ยงชันโรง ออกจําหน่ายชดเชยรายได้ในช่วงราคายาง หรือราคาพืชผลทางการเกษตรตกต่ําสําหรับการการขยายผลต่อยอดจากการเลี้ยงชันโรงในหลายๆ ด้าน อาทิ การผลิตกล่องเลี้ยงชันโรง การจําหน่ายขี้ชัน การจําหน่ายผลิตภัณฑ์แปรรูปชันโรงเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ เช่น น้ําผึ้งชันโรง น้ําเถาคันผสมชันโรง สบู่ก้อน สบู่เหลว แชมพู โลชั่น ลิปบาล์ม ลิปสติก ครีมบํารุงใต้ตา และตะลิงปลิงอบแห้งผสมชันโรง รวมถึงการสร้างศูนย์ต้นแบบการเรียนรู้คนเลี้ยงชันโรงในชุมชน เพื่อให้นักเรียน นักศึกษา และประชาชนทั่วไปสามารถเข้ามาเรียนรู้กระบวนการเลี้ยงชันโรงผ่านการลงมือปฏิบัติจริง
31/3/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230331101901556
null
กรมวิทยาศาสตร์บริการ ร่วมกับกรมส่งเสริมการเกษตร ตรวจวิเคราะห์ตัวอย่างเกลือทะเล ผลักดันสู่ GAP ลดภาระค่าใช้จ่ายและสร้างรายได้อย่างยั่งยืน
นางสาวภัทริยา ไชยมณี รองอธิบดีกรมวิทยาศาสตร์บริการ (วศ.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) กล่ายถึงความร่วมมือว่าด้วยการตรวจวิเคราะห์ตัวอย่างเกลือทะเล กับกรมส่งเสริมการเกษตร ว่า ที่ผ่านมา วศ. ได้ร่วมมือกับกรมส่งเสริมการเกษตร ในการให้บริการด้านการตรวจวิเคราะห์ตัวอย่างเกลือทะเลในห้องปฏิบัติการที่มีมาตรฐาน ตลอดจนพัฒนาวิธีการทดสอบเกลือทะเลให้เป็นไปตามมาตรฐานสินค้าเกษตร เกลือทะเลธรรมชาติ มกษ.8402-2562 เพื่อช่วยเหลือและบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายให้กับเกษตรกรผู้ทํานาเกลือ และนับเป็นเรื่องน่ายินดีที่ วศ. ได้ร่วมมืออย่างจริงจัง เพื่อร่วมมือยกระดับมาตรฐานผลิตภัณฑ์เกลือทะเลให้มีมาตรฐานและคุณภาพ ซึ่งจะช่วยสร้างรายได้และเพิ่มมูลค่าสินค้าที่ยั่งยืน นายครองศักดิ์ สงรักษา รองอธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวว่า ปัจจุบันประเทศไทย มีเกษตรกรผู้ทํานาเกลือทะเล ปีการผลิต 2564/65 รวม 949 ครัวเรือน 1,627 แปลง เนื้อที่ 48,321.81 ไร่ ปริมาณผลผลิต 666,736 ตัน ซึ่งการจัดทําบันทึกข้อตกลงความร่วมมือว่าด้วยการตรวจวิเคราะห์ตัวอย่างเกลือทะเล ร่วมกันเพื่อสนับสนุนให้เกษตรกรผู้ทํานาเกลือทะเลไทยสามารถส่งตัวอย่างเกลือทะเลจากแปลงนาของตนมาขอรับการตรวจวิเคราะห์ได้ฟรี เพื่อลดต้นทุนการทดสอบ พร้อมที่จะยื่นขอรับรองมาตรฐานเกลือทะเลต่อไป ซึ่งจะนําไปสู่การสร้างรายได้เพิ่มขึ้นให้แก่เกษตรกรผู้ทํานาเกลือทะเลอย่างยั่งยืน และสามารถต่อยอดไปสู่การแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์อื่นได้สามารถสอบถามข้อมูลได้ที่สํานักงานเกษตรอําเภอหรือสํานักงานเกษตรจังหวัดในพื้นที่ เพื่อดําเนินการจัดเก็บตัวอย่างเกลือทะเลจากแปลงต้นแบบ นําส่งให้กรมส่งเสริมการเกษตรดําเนินการส่งตัวอย่างให้กรมวิทยาศาสตร์บริการต่อไป
31/3/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230331144820741
null
ออสเตรเลียและนิวซีแลนด์จุดดอกไม้ไฟตระการตา ฉลองปีใหม่ 2566
หลายประเทศฉลองปีใหม่กันอย่างคึกคักตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา โดยออสเตรเลีย เป็นประเทศแรกที่เข้าสู่ปี 2566 มีการจุดดอกไม้ไฟหลายพันนัดที่อ่าวซิดนีย์ซึ่งตกแต่งไฟหลากสีสวยงาม นับเป็นครั้งแรกในรอบ 3 ปี หลังเกิดการระบาดของโรคโควิด-19 ขณะที่นิวซีแลนด์ก็เป็นประเทศแรกๆ ในโลกที่ฉลองเข้าสู่ปีใหม่แล้ว โดยมีการจุดดอกไม้ไฟเหนืออาคารระฟ้า “สกายทาวเวอร์” ในเมืองโอ๊กแลนด์ อย่างยิ่งใหญ่ ทั้งนี้ ประเทศในพื้นที่โอเชียเนีย ซึ่งเป็นกลุ่มประเทศและหมู่เกาะในมหาสมุทรแปซิฟิก รวมทั้งทวีปออสเตรเลีย เข้าสู่ปีใหม่ก่อนพื้นที่อื่นๆ ในโลก
1/1/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230101005122004
null
ประธานาธิบดีจีนและรัสเซียอวยพรปีใหม่ซึ่งกันและกัน
ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน และประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย อวยพรปีใหม่ซึ่งกันและกันเมื่อวานนี้ โดยประธานาธิบดีสีได้กล่าวแสดงความยินดีและความปรารถนาดี ต่อประธานาธิบดีปูตินและประชาชนชาวรัสเซีย สาส์นอวยพรปีใหม่ของประธานาธิบดีสีถึงประธานาธิบดีปูตินระบุว่า พร้อมจับมือกับผู้นํารัสเซีย ในการเสริมสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจกันทั้งด้านกลยุทธ์และการเมือง ตลอดจนขยายความร่วมมือรอบด้านในระดับทวิภาคี ขณะที่ประธานาธิบดีปูตินก็ได้แสดงความยินดีและปรารถนาดีต่อชาวจีน โดยขอให้ชาวจีนมีความสุขและสุขภาพดี และผู้นํารัสเซียยังกล่าวแสดงความเชื่อว่า ความพยายามร่วมกันในปีที่ผ่าน จะทําให้ความร่วมมือของทั้งสองฝ่ายยกระดับขึ้น และจะทําให้เกิดประโยชน์ต่อทั้งประชาชนชาวจีนและชาวรัสเซีย
1/1/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230101005305005
null
พิธีปลงพระศพอดีตสมเด็จพระสันตะปาปาเบเนดิกต์ที่ 16 จะมีขึ้นที่มหาวิหารเซนต์ปีเตอร์บาซิลิกา หลังสิ้นพระชนม์เมื่อวานนี้
สํานักวาติกันแถลงหลังการสิ้นพระชนม์ของอดีตสมเด็จพระสันตะปาปาเบเนดิกต์ที่ 16 เมื่อวานนี้ว่า จะมีพิธีปลงพระศพที่หลุมฝังศพในมหาวิหารเซนต์ปีเตอร์บาซิลิกาวันพฤหัสบดีนี้ โดยสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิสเป็นประธาน ทั้งนี้ สํานักวาติกันประกาศเมื่อวานนี้ว่า สมเด็จพระสันตะปาปาเบเนดิสต์ที่ 16 สิ้นพระชนม์อย่างสงบ ขณะมีพระชนมายุ 95 พรรษา ที่อารามมาแตร์ เอ็กเกลเซีย ในวาติกัน หลังมีพระอาการประชวรอย่างหนักช่วงหลายวันที่ผ่านมา พระองค์ทรงดํารงตําแหน่งประมุขแห่งคริสตจักรนิกายโรมันคาทอลิก เมื่อปี 2548 และพระองค์ได้สละสมณศักดิ์เมื่อปี 2556 นับเป็นพระสันตะปาปาพระองค์แรกในรอบ 600 ปี ที่สละตําแหน่งขณะมีพระชนม์ชีพ
1/1/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230101005315006
null
บรรดาผู้นำโลกแสดงความเสียใจต่อการสิ้นพระชนม์ของอดีตสมเด็จพระสันตะปาปาเบเนดิกต์ที่ 16
บรรดาผู้นําโลกแสดงความเสียใจต่อการสิ้นพระชนม์ของอดีตสมเด็จพระสันตะปาปาเบเนดิกต์ที่ 16 โดยประธานาธิบดีโจ ไบเดน แห่งสหรัฐ ได้กล่าวแสดงความเสียใจและยกย่องพระองค์ว่า ทรงอุทิศพระองค์ต่อคริสตจักร และพระองค์จะได้รับการจดจําในฐานะที่ทรงเป็นนักเทววิทยาที่มีชื่อเสียง ขณะที่ประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง ของฝรั่งเศส ได้สดุดีและยกย่องพระองค์ว่า ทรงปฏิบัติภารกิจเพื่อโลก ด้านนายกรัฐมนตรีริชี ซูนัค ของอังกฤษ ได้ทวิตข้อความว่า เสียใจต่อการสิ้นพระชนม์ของพระองค์ และยกย่องว่า ทรงเป็นนักศาสนศาสตร์ที่ยิ่งใหญ่ การเยือนสหราชอาณาจักรเมื่อปี 2553 ของพระองค์ เป็นช่วงเวลาแห่งประวัติศาสตร์สําหรับประชาชนทั้งประเทศ
1/1/2023
null
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230101005338007
null
สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส ทรงมีพระดำรัสรำลึกถึงอดีตสมเด็จพระสันตะปาปาเบเนดิกต์ที่ 16 หลังสิ้นพระชนม์เมื่อวานนี้
สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส ประมุขแห่งคริสตจักรโรมันคาทอลิก จะมีพระดํารัสรําลึกถึงอดีตสมเด็จพระสันตะปาปาเบเนดิกต์ที่ 16 ที่สํานักวาติกันวันนี้ หลังอดีตประมุขแห่งคริสตจักรโรมันคาทอลิกสิ้นพระชนม์ ขณะมีพระชนมายุ 95 พรรษา ขณะที่เมื่อวานนี้ สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิสได้ตรัสแสดงความชื่นชมและยกย่องอดีตสมเด็จพระสันตะปาปาเบเนดิกต์ที่ 16 ว่า ทรงเป็นอดีตผู้นําทางศาสนาที่เปี่ยมไปด้วยคุณธรรมและความเมตตา ซึ่งพระองค์ทรงดํารงตําแหน่งประมุขแห่งคริสตจักรนิกายโรมันคาทอลิก เมื่อปี 2548 และได้สละสมณศักดิ์เมื่อปี 2556 นับเป็นพระสันตะปาปาพระองค์แรกในรอบ 600 ปี ที่สละตําแหน่งขณะมีพระชนม์ชีพ และในวันนี้สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิสจะเป็นองค์ประธานเนื่องในโอกาศวันสันติภาพโลก ที่มหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ส บาซิลิกา ก่อนที่จะมีพระดํารัสที่จัตุรัสแองเจลัส ในมหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ส เวลา 18.00 น. วันนี้ ตามเวลาประเทศไทย ขณะที่พิธีปลงพระศพ ซึ่งอยู่ระหว่างการเตรียมการ จะมีขึ้นช่วงเช้าวันพฤหัสบดีนี้ ตามเวลาท้องถิ่น ซึ่งสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิสจะเป็นองค์ประธานในพิธี
1/1/2023
null
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230101125020159
null
ประธานาธิบดีจีนกล่าวว่า “มีแสงสว่างแห่งความหวัง” ในการต่อสู้กับโรคโควิด-19
ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน กล่าววานนี้ว่า “มีแสงสว่างแห่งความหวังอยู่ข้างหน้า” ขณะที่ประเทศเผชิญจํานวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 พุ่งสูง หลังยกเลิกมาตรการเข้มงวดเพื่อควบคุมการระบาดของโรคดังกล่าว โดยเฉพาะนโยบาย “โควิดเป็นศูนย์” ที่บังคับใช้มานาน 3 ปี ประธานาธิบดีสีกล่าวสุนทรพจน์ในโอกาสฉลองปีใหม่ว่า การป้องกันและควบคุมการระบาดของโรคโควิด-19 เข้าสู่ระยะใหม่แล้ว ทุกคนออกไปทํางานอย่างกล้าหาญ และมีแสงสว่างแห่งความหวังอยู่ข้างหน้าทุกคน ถ้อยแถลงเกี่ยวกับสถานการณ์โควิด-19 ดังกล่าวของผู้นําจีนมีขึ้นเป็นครั้งที่ 2 ในสัปดาห์นี้ โดยเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ประธานาธิบดีสีได้เรียกร้องให้ใช้มาตรการเพื่อปกป้องชีวิตของประชาชนอย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้ จีนซึ่งมีประชากร 1,400 ล้านคน รายงานผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่กว่า 7,000 คน และเสียชีวิต 1 คนเมื่อวานนี้ แต่ตัวเลขอาจคาดเคลื่อนจากความเป็นจริง
1/1/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230101124931157
null
กองทัพเกาหลีใต้ระบุว่า เกาหลีเหนือยิงขีปนาวุธพิสัยใกล้ลงสู่ทะเลช่วงเช้าวันนี้
กองทัพเกาหลีใต้ระบุว่า เกาหลีเหนือยิงขีปนาวุธพิสัยใกล้ 1 ลูกลงสู่ทะเลวันนี้ ซึ่งเป็นวันปีใหม่ นับเป็นลูกที่ 2 ในช่วงหลายวันที่ผ่านมา สํานักข่าวยอนฮัพรายงานโดยอ้างแถลงการณ์ของคณะเสนาธิการทหารร่วมที่ระบุว่า ขีปนาวุธดังกล่าวถูกยิงมาจากเขตยงซอง เมืองเอกของกรุงเปียงยาง และตกในทะเลตะวันออก หรือที่รู้จักกันในชื่อ ทะเลญี่ปุ่น โดยเจ้าหน้าที่ตรวจจับได้ว่ามีการปล่อยขีปนาวุธดังกล่าวเมื่อเวลา 00.50 น. วันนี้ ตามเวลาประเทศไทย โดยมีวิถีไกลราว 400 กิโลเมตร ก่อนจะตกลงในทะเล ทั้งนี้ เมื่อวานนี้เกาหลีเหนือก็ยิงขีปนาวุธพิสัยใกล้ 3 ลูก เพียง 1 วันหลังเกาหลีใต้ประสบความสําเร็จในการทดสอบยานพาหนะปล่อยจรวดเชื้อเพลิงแข็ง
1/1/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230101124907155
null
หลายประเทศใช้มาตรการตรว จหาเชื้อโควิด-19 สำหรับผู้ที่เดินทางมาจากจีน ขณะที่จำนวนผู้ติดเชื้อโรคดังกล่าวในจีนพุ่งสูง
ผู้ที่เดินทางมาจากจีนจะเผชิญมาตรการเข้มงวดเมื่อเข้าสู่ประเทศต่างๆ กว่า 12 ประเทศ เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ระลอกใหม่ในจีน ที่ขณะนี้จํานวนผู้ติดเชื้อพุ่งสูง โดยออสเตรเลียเป็นประเทศล่าสุดที่ต้องการให้ผู้ที่เดินทางมาจากจีนต้องมีผลตรวจโรคโควิด-19 เป็นลบ ก่อนเข้าสู่ประเทศ รัฐมนตรีสาธารณสุขออสเตรเลีย กล่าวอ้างวันนี้ว่า ข้อมูลเกี่ยวกับจํานวนผู้ติดเชื้อโรคโควิด-19 ของจีนไม่ครอบคลุม จึงจําเป็นต้องให้มีการตรวจคัดกรองผู้ที่เดินทางมาจากจีน ก่อนเข้าสู่ประเทศ โดยให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 5 มกราคมนี้เป็นต้นไป ขณะที่ช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา แคนาดา สหรัฐ สหราชอาณาจักร ฝรั่งเศส อิตาลี สเปน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และไต้หวัน ได้บังคับใช้มาตรการเข้มงวดต่อผู้ที่เดินทางมาจากจีน โดยระบุให้ต้องมีผลตรวจโรคโควิด-19 เป็นลบ หรือต้องตรวจหาเชื้อโรคดังกล่าวเมื่อเดินทางมาถึงประเทศตน ส่วนโมร็อกโกก็เคลื่อนไหวเพื่อห้ามผู้ที่เดินทางมาจากจีนทุกคนเข้าสู่ประเทศเมื่อวานนี้
1/1/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230101163826298
null
ผู้นำเกาหลีเหนือมีคำสั่งให้พัฒนาขีปนาวุธพิสัยไกลข้ามทวีปชนิดใหม่ และอาวุธนิวเคลียร์ที่ใหญ่ยิ่งขึ้น
สื่อทางการเกาหลีเหนือรายงานวันนี้ว่า นายคิม จอง อึน ผู้นําเกาหลีเหนือ มีคําสั่งให้พัฒนาขีปนาวุธพิสัยไกลข้ามทวีปหรือไอซีบีเอ็ม รุ่นใหม่ และพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ให้ใหญ่ยิ่งขึ้น เพื่อต่อต้านภัยคุกคามที่นําโดยสหรัฐ ท่ามกลางความตึงเครียดระหว่างเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้ ที่ทวีความรุนแรงยิ่งขึ้น โดยระหว่างการประชุมพรรคแรงงานของเกาหลีเหนือ นายคิมได้เน้นย้ําความจําเป็นในการสนับสนุนอํานาจด้านทหารอย่างมากล้น เพื่อจะได้ป้องกันอธิปไตยและความมั่นคงของประเทศ การประชุมดังกล่าวมีขึ้นท่ามกลางความตึงเครียดระหว่างเกาหลีเหนือและใต้ หลังเกาหลีเหนือบินโดรนรุกล้ําน่านฟ้าเกาหลีใต้ และปล่อยขีปนาวุธหลายลูก รวมทั้งไอซีบีเอ็ม ขณะที่นายคิมกล่าวหาสหรัฐและเกาหลีใต้ว่า พยายามจะโดดเดี่ยวและบีบคั้นเกาหลีเหนือ ด้วยการระดมอาวุธนิวเคลียร์เข้าไปในเกาหลีใต้
1/1/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230101164514306
null
เกิดเหตุระเบิดใกล้ฐานทัพอากาศในกรุงคาบูล เมืองหลวงของอัฟกานิสถาน ทำให้มีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก
เจ้าหน้าที่กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า เกิดเหตุระเบิดขึ้นที่บริเวณประตูใหญ่ทางเข้าฐานทัพอากาศในกรุงคาบูล เมืองหลวงของอัฟกานิสถาน ทําให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจํานวนมาก ขณะที่โฆษกกระทรวงมหาดไทยกล่าวว่า สาเหตุของเหตุระเบิดที่เกิดขึ้นใกล้สนามบินานาชาติในกรุงคาบูลยังไม่ชัดเจน และว่า เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการสอบสวน ด้านเจ้าหน้าที่รัฐบาลตอลิบานอ้างว่า ได้พัฒนาด้านความมั่นคงแล้ว ตั้งแต่กลับมามีอํานาจเมื่อเดือนสิงหาคม 2564 แต่ยังคงเกิดเหตุระเบิดและโจมตีหลายครั้ง และหลายครั้งในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น กลุ่มไอเอสอ้างว่าเป็นผู้ก่อเหตุ ขณะที่เมื่อเดือนที่แล้วก็เกิดเหตุกลุ่มมือปืนบุกโจมตีโรงแรมหรูในกรุงคาบูล ซึ่งนักธุรกิจจีนนิยมเข้าพัก ทําให้ชาวจีนเสียชีวิตอย่างน้อย 5 คน และกลุ่มไอเอสก็อ้างว่าเป็นผู้ก่อเหตุดังกล่าว
1/1/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230101163749297
null
ไต้หวันเสนอให้ความช่วยเหลือจีน หลังจำนวนผู้ติดเชื้อโรคโควิด-19 ในจีนพุ่งสูง
ประธานาธิบดีไช่ อิง-เหวิน ของไต้หวัน เสนอให้ความช่วยเหลือจีน หากจีนต้องการ หลังจํานวนผู้ติดเชื้อโรคโควิด-19 ในจีนกลับมาพุ่งสูงอีกครั้ง หลังทางการจีนยกเลิกมาตรการเข้มงวด เพื่อควบคุมการระบาดของโรคดังกล่าวอย่างกะทันหัน ผู้นําไต้หวันกล่าวสุนทรพจน์เนื่องในวันปีใหม่ว่า ตราบเท่าที่จีนต้องการ ไต้หวันเต็มใจที่จะให้การช่วยเหลือที่จําเป็น บนพื้นฐานของความกังวลด้านมนุษยธรรม และกล่าวแสดงความหวังว่า ความช่วยเหลือของชาวไต้หวัน จะช่วยให้ประชาชนหลุดพ้นจากการระบาดของโรคโควิด-19 ได้เพิ่มมากขึ้น และมีสุขภาพที่ดีและปลอดภัยในปีใหม่นี้
1/1/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230101163838299
null
นายลูอิซ อินาซิโอ ลูลา ดา ซิลวา จะสาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีบราซิลสมัยที่ 3 วันนี้
นายลูอิซ อินาซิโอ ลูลา ดา ซิลวา จะสาบานตนเข้ารับตําแหน่งประธานาธิบดีบราซิลสมัยที่ 3 วันนี้ ถือเป็นการกลับสู่ตําแหน่งผู้นําประเทศอีกครั้ง ในช่วงเวลาไม่ถึง 5 ปี หลังถูกจําคุก เนื่องจากข้อหาทุจริต พิธีสาบานตนเข้ารับตําแหน่งประธานาธิบดีของนายลูลา วัย 77 ปี จะมีขึ้นท่ามกลางการรักษาความมั่นคงอย่างเข้มงวด โดยทางการได้ระดมตํารวจราว 8,000 นาย รักษาความสงบเรียบร้อย ซึ่งนับเป็นการระดมกําลังรักษาความสงบเรียบร้อยในพิธีสาบานตนเข้ารับตําแหน่งประธานาธิบดีครั้งใหญ่ ทั้งนี้ มาตรการรักษาความมั่นคงดังกล่าวมีขึ้น หลังผู้สนับสนุนประธานาธิบดีฌาอีร์ โบลโซนารู ถูกจับกุมเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เนื่องจากนําระเบิดไปติดไว้กับรถบรรทุกบริเวณใกล้สนามบินในกรุงบราซิเลีย เพื่อหวังก่อเหตุวุ่นวายก่อนพิธีสาบานเข้ารับตําแหน่งประธานาธิบดีของนายลูลา ดา ซิลวา ที่จะมีขึ้นในวันนี้
1/1/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230101163846300
null
สหภาพยุโรปจะประชุมวันพุธนี้ เพื่อหารือเกี่ยวกับการร่วมกันรับมือผู้ที่เดินทางมาจากจีน ท่ามกลางความกังวลเรื่องการระบาดของโรคโควิด-19
สวีเดน ในฐานประธานสหภาพยุโรป หรือ อียู ระบุว่า ประเทศสมาชิกอียู จะประชุมกันวันพุธนี้ เพื่อหารือเกี่ยวกับการรับมือผู้ที่เดินทางมาจากจีน ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับจํานวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในจีนที่กลับมาพุ่งสูงอีกครั้ง แถลงการณ์ของรัฐบาลสวีเดนระบุว่า สวีเดนจะหานโยบายร่วมกันกับสมาชิกอียูทั้งหมด เกี่ยวกับการบังคับใช้มาตรการเข้มงวดเรื่องการเข้าประเทศ ซึ่งจําเป็นอย่างยิ่งที่ต้องบังคับใช้มาตรการดังกล่าวโดยเร็ว หลังจีนยุตินโยบาย “โควิดเป็นศูนย์” ส่งผลให้จํานวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในจีนเพิ่มมากขึ้นอย่างรวดเร็ว ทําให้หลายประเทศสมาชิกอียู บังคับใช้มาตรการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ในผู้ที่เดินทางมาจากจีน ขณะที่ฝรั่งเศส อิตาลี และสเปน เริ่มบังคับใช้มาตรการดังกล่าวแล้วในสัปดาห์นี้ ส่วนเยอรมนีระบุว่า ยังไม่จําเป็นต้องบังคับใช้มาตรการดังกล่าว และอยู่ระหว่างแสวงหาระบบในการเฝ้าติดตามเชื้อกลายพันธุ์ที่สนามบินต่างๆ ทั่วทั้งยุโรป
2/1/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230102012007366
null
ฝรั่งเศสเริ่มการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ชาวจีนก่อนเข้าสู่ประเทศ เพื่อติดตามร่องรอยเชื้อกลายพันธุ์แล้ว
นายฟรังซัวส์ บรอน รัฐมนตรีสาธารณสุขฝรั่งเศสกล่าวว่า ฝรั่งเศสเริ่มการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ในผู้โดยสารที่เดินทางมาจากจีนแล้วเมื่อวานนี้ เพื่อติดตามร่องรอยของเชื้อกลายพันธุ์ นายบรอนกล่าวที่สนามบินชาร์ลส์ เดอ โกล ทางเหนือของกรุงปารีส ว่า มาตรการควบคุมการเข้าเมืองดังกล่าว ไม่ใช่การควบคุมเพื่อไม่ให้พลเมืองเข้าสู่ดินแดนฝรั่งเศส แต่เป็นการควบคุมทางวิทยาศาสตร์ ซึ่งจะทําให้สามารถตรวจหาเชื้อกลายพันธุ์ที่แตกต่างออกไปได้อย่างแม่นยํา ทั้งนี้ จนกระทั่งถึงเมื่อวานนี้ ผู้ที่เดินทางมาจากจีนต้องสวมหน้ากากอนามัย และต้องแสดงผลตรวจโรคโควิด-19 เมื่อเดินทางถึงฝรั่งเศส และตั้งแต่วันพฤหัสบดีนี้ ผู้ที่เดินทางจะต้องแสดงผลตรวจแบบพีซีอาร์ หรือ การตรวจแอนติเจน ที่เป็นลบไม่เกิน 48 ชั่วโมง ก่อนออกเดินทาง
2/1/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230102012101367
null
ประชาชนหลายหมื่นคนติดค้างอยู่ที่สนามบินต่างๆ ในฟิลิปปินส์ เนื่องจากกระแสไฟฟ้าดับ
ผู้ที่เดินทางหลายหมื่นคนติดค้างอยู่ที่สนามบินต่างๆ ในฟิลิปปินส์เมื่อวานนี้ หลังเกิดกระแสไฟฟ้าดับ ส่งผลกระทบต่อการสื่อสารและอุปกรณ์เรดาร์ ที่สนามบินที่มีผู้ใช้บริการมากที่สุดในกรุงมะนิลา ทําให้หลายร้อยเที่ยวบินถูกยกเลิก ล่าช้า หรือ เปลี่ยนเส้นทางบิน เจ้าหน้าที่การบินพลเรือน ตรวจพบความผิดปกติด้านเทคนิค ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับศูนย์กลางการบริหารจัดการการจราจรทางอากาศ ที่สนามบินทั้งภายในประเทศและระหว่างประเทศในกรุงมะนิลาช่วงเช้าวานนี้ ส่งผลให้กว่า 360 เที่ยวบินทั้งเข้าและออกจากกรุงมะนิลา ถูกยกเลิก ล่าช้า หรือ เปลี่ยนเส้นทางบิน ส่งผลกระทบต่อผู้โดยสารราว 56,000 คน อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถระบุสาเหตุของเหตุไฟดับดังกล่าวได้
2/1/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230102012153368
null
พระศพของอดีตสมเด็จพระสันตะปาปาเบเนดิกต์ที่ 16 จะถูกจัดตั้งไว้ที่วาติกัน 3 วัน เพื่อให้ประชาชนเข้าถวายสักการะ
ชาวคริสต์นิกายโรมันคาทอลิก จะสามารถเข้าถวายสักการะพระศพของอดีตสมเด็จพระสันตะปาปาเบเนดิกต์ที่ 16 ได้ที่มหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ส บาซิลิกา ในวาติกัน ตั้งแต่วันนี้จนกระทั่งถึงวันพุธ รวม 3 วัน ก่อนที่จะมีพิธีปลงพระศพในวันพฤหัสบดีที่ 5 มกราคมนี้ ซึ่งสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส ประมุขแห่งคริสตจักรนิกายโรมันคาทอลิก จะเป็นองค์ประธานในพิธีปลงพระศพ ก่อนที่จะนําพระศพของพระองค์ไปไว้ที่หลุมพระศพใต้มหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ส บาซิลิกัน ทั้งนี้ สมเด็จพระสันตะปาปาเบเนดิสต์ที่ 16 สิ้นพระชนม์อย่างสงบ ขณะมีพระชนมายุ 95 พรรษา ที่อารามมาแตร์ เอ็กเกลเซีย ในวาติกัน หลังมีพระอาการประชวรอย่างหนักช่วงหลายวันที่ผ่านมา พระองค์ทรงดํารงตําแหน่งประมุขแห่งคริสตจักรนิกายโรมันคาทอลิก เมื่อปี 2548 และพระองค์ได้สละสมณศักดิ์เมื่อปี 2556 นับเป็นพระสันตะปาปาพระองค์แรกในรอบ 600 ปี ที่สละตําแหน่งขณะมีพระชนม์ชีพ
2/1/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230102104843393
null
อีกหลายประเทศจะใช้มาตรการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ในประชาชนที่มาจากจีน ท่ามกลางจำนวนผู้ติดเชื้อโรคดังกล่าวในจีน ที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
ผู้ที่เดินทางมาจากจีนจะเผชิญมาตรการเข้มงวดเมื่อเข้าสู่ประเทศต่างๆ กว่า 12 ประเทศ เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ระลอกใหม่ในจีน ที่ขณะนี้จํานวนผู้ติดเชื้อพุ่งสูง โดยออสเตรเลียเป็นประเทศล่าสุดที่ต้องการให้ผู้ที่เดินทางมาจากจีนต้องมีผลตรวจโรคโควิด-19 เป็นลบ ก่อนเข้าสู่ประเทศ รัฐมนตรีสาธารณสุขออสเตรเลีย กล่าวอ้างวานนี้ว่า ข้อมูลเกี่ยวกับจํานวนผู้ติดเชื้อโรคโควิด-19 ของจีนไม่ครอบคลุม จึงจําเป็นต้องให้มีการตรวจคัดกรองผู้ที่เดินทางมาจากจีน ก่อนเข้าสู่ประเทศ โดยให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 5 มกราคมนี้เป็นต้นไป ขณะที่ช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา แคนาดา สหรัฐ สหราชอาณาจักร ฝรั่งเศส อิตาลี สเปน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และไต้หวัน ได้บังคับใช้มาตรการเข้มงวดต่อผู้ที่เดินทางมาจากจีน โดยระบุให้ต้องมีผลตรวจโรคโควิด-19 เป็นลบ หรือต้องตรวจหาเชื้อโรคดังกล่าวเมื่อเดินทางมาถึงประเทศตน ส่วนโมร็อกโกก็เคลื่อนไหวเพื่อห้ามผู้ที่เดินทางมาจากจีนทุกคนเข้าสู่ประเทศเมื่อวานนี้
2/1/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230102104908395
null
สมเด็จพระจักรพรรดิแห่งญี่ปุ่นทรงพระราชทานพรปีใหม่แก่พสกนิกร นับเป็นครั้งแรกตั้งแต่ปี 2563 ที่ปรากฏพระองค์ต่อสาธารณะ
สมเด็จพระจักรพรรดินารุฮิโตะ แห่งญี่ปุ่น ทรงพระราชพรปีใหม่ 2566 แก่พสกนิกร นับเป็นครั้งแรกตั้งแต่ปี 2563 ที่ปรากฎพระองค์ต่อสาธารณะ สมเด็จพระจักรพรรดินารุฮิโตะ พร้อมด้วยสมเด็จพระจักรพรรดินีมาซาโกะ มีกําหนดเสด็จออกมาที่เฉลียงซึ่งติดตั้งกระจก ที่พระราชวังอิมพีเรียล ระยะสั้นๆ 6 ครั้งตลอดทั้งวันนี้ เพื่อพระราชทานพรปีใหม่ ซึ่งพระองค์ทรงปารถนาให้ทุกคนมีความสุข และนอกจากทั้งสองพระองค์แล้วยังมีเจ้าหญิงไอโกะ พระราชธิดาพระองค์เดียวของทั้งสองพระองค์ อดีตสมเด็จพระจักรพรรดิอากิฮิโตะ และอดีตสมเด็จจักรพรรดินีมิชิโกะ พระราชบิดาและพระราชมารดาของสมเด็จพระจักรพรรดินารุฮิโตะ รวมทั้งสมาชิกราชวงศ์อื่นๆ ร่วมเสด็จออกพระราชทานพรปีใหม่ด้วย ซึ่งพระองค์ทรงตรัสว่า พระองค์มีความสุขจริงๆ ที่สามารถฉลองปีใหม่กับทุกคน หลังจาก 3 ปี ที่ต้องงดไป เนื่องจากการระบาดของโรคโควิด-19 ขณะที่ เมื่อวานนี้ สํานักพระราชวังได้ออกแถลงการณ์ ซึ่งมีเนื้อหาเป็นพรปีใหม่ที่ระบุว่า พระองค์ขอให้ชาวญี่ปุ่น และชาวโลก ก้าวเดินต่อไปด้วยความหวัง และกรณีสงครามที่เกิดขึ้นโดยเฉพาะในยูเครน พระองค์ทรงตระหนักถึงความสําคัญของการเจรจา และขอให้ประชาคมโลกร่วมมือกันอย่างสร้างสรรค์ เพื่อก้าวข้ามความแตกต่าง
2/1/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230102163340488
null
สนามบินหลักของฟิลิปปินส์กลับมาให้บริการได้อีกครั้งแล้ว หลังเกิดกระแสไฟฟ้าดับ
สนามบินในกรุงมะนิลา ซึ่งเป็นทางหลักในการเข้าสู่ประเทศฟิลิปปินส์ ยังคงลดปฏิบัติการลงในวันนี้ หลังเผชิญกระแสไฟฟ้าดับช่วงปีใหม่ ขณะที่เจ้าหน้าที่หน่วยงานควบคุมการจราจรทางอากาศและเจ้าหน้าที่อื่นๆ ร่วมกันใช้ความพยายามเพื่อกลับมาเปิดปฏิบัติการให้ได้เต็มที่ หลังต้องยกเลิกกว่า 300 เที่ยวบิน ผู้จัดการทั่วไปการท่าอากาศยานนานาชาติมะนิลา กล่าวว่า ท่าอากาศยานนานาชาตินินอย อากีโน สามารถให้บริการได้สูงสุด 15 เที่ยวบินขาเข้าต่อชั่งโมง จากปกติ 20 เที่ยวบิน ช่วงเช้าวันนี้ และว่า กระแสไฟฟ้าดับเป็นผลมาจากการจ่ายกระแสไฟฟ้าที่ล้มเหลวทั้งครั้งที่ 1 และ 2 และจะใช้เวลาราว 72 ชั่วโมงสําหรับการกลับมาปฏิบัติการตามปกติของสายการบินต่างๆ
2/1/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230102163352490
null
เกาหลีใต้และสหรัฐหารือเกี่ยวกับการซ้อมรบนิวเคลียร์ร่วมกัน
ประธานาธิบดียุน ซอก-ยอล ของเกาหลีใต้กล่าวว่า เกาหลีใต้และสหรัฐอยู่ระหว่างการหารือเกี่ยวกับการวางแผนและการซ้อมรบร่วมกัน ซึ่งจะมีทรัพยากรด้านนิวเคลียร์ของสหรัฐเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย เพื่อตอบโต้ภัยคุกคามจากเกาหลีเหนือ ซึ่งมีอาวุธนิวเคลียร์ไว้ในครอบครอง ประธานาธิบดียุนกล่าวระหว่างให้สัมภาษณ์หนังสือพิมพ์โชซุน อิลโบ ฉบับวันนี้ว่า สิ่งที่เรียกว่า “ร่มนิวเคลียร์” และ การป้องกันที่ขยายขอบเขตออกไปของสหรัฐ ไม่เพียงพอต่อการทําให้ชาวเกาหลีใต้เกิดความมั่นใจอีกต่อไป และว่า อาวุธนิวเคลียร์เป็นของสหรัฐ แต่แผนการ การแบ่งปันข้อมูล และการฝึกซ้อม ต้องดําเนินการร่วมกันระหว่างเกาหลีใต้และสหรัฐ ขณะที่สหรัฐก็มีท่าทีเห็นด้วยกับแนวคิดดังกล่าว
2/1/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230102163956496
null
รายงานพิเศษ : สรุปสถานการณ์ต่างประเทศประจำปี 2565
รายงานพิเศษ : สรุปสถานการณ์ต่างประเทศประจําปี 2565ผู้ประกาศ : สถานการณ์ต่างประเทศในรอบปีที่ผ่านมา มีหลากหลายเหตุการณ์ ตั้งแต่การสูญเสียบุคคลสําคัญของโลก ไปจนกระทั่งเหตุภัยพิบัติ รายละเอียดจะเป็นอย่างไร ติดตามจากรายงานสรุปสถานการณ์ต่างประเทศประจําปี 2565ผู้รายงาน : สถานการณ์ต่างประเทศสําคัญที่เกิดขึ้นเมื่อปีที่แล้ว เริ่มที่การเสด็จสวรรคตของสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 แห่งสหราชอาณาจักร ขณะมีพระชนมพรรษา 96 พรรษา ณ ปราสาทแบลมอรัล ในสก็อตแลนด์ เมื่อวันที่ 8 กันยายน 2565 หลังทรงครองราชย์ 70 ปี นับเป็นกษัตริย์ผู้ครองราชย์ยาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์สหราชอาณาจักร โดยพิธีฝังพระบรมศพจัดขึ้นอย่างสมพระเกียรติเมื่อวันที่ 19 กันยายน 2565 ณ เวสต์มินสเตอร์ แอบบีย์ และโบสถ์น้อยเซนต์จอร์จ ปราสาทวินด์เซอร์ หลังการเสด็จสวรรคตของสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ มกุฎราชกุมาร ซึ่งดํารงพระยศ “เจ้าชายแห่งเวลส์” มาอย่างยาวนาน ได้ทรงสืบทอดราชบัลลังก์เป็น “สมเด็จพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3” กษัตริย์พระองค์ใหม่แห่งสหราชอาณาจักร ส่วนหนึ่งในเรื่องที่สร้างความตกตะลึงไปทั่วโลกก็คือ เหตุลอบสังหารอดีตนายกรัฐมนตรีชินโซะ อาเบะ ของญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 8 กรกฎาคมปีที่แล้ว ระหว่างที่เขากําลังปราศรัยหาเสียงช่วยสมาชิกพรรคเสรีประชาธิปไตยหรือแอลดีพี ในเมืองนาระ จังหวัดนาระ ขณะที่เหตุการณ์ที่รัสเซียบุกโจมตียูเครน อย่างเต็มรูปแบบ เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2565 ได้สร้างความตกตะลึงไปทั่วโลก โดยประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นํารัสเซีย ประกาศเริ่มปฏิบัติการพิเศษทางทหารในยูเครน เพื่อรักษาสันติภาพในแคว้นโดเนตสก์และลูฮันสก์ของยูเครน ซึ่งรัสเซียรับรองให้เป็นรัฐอิสระ และปกป้องความมั่นคงของประเทศจากการขยายอิทธิพลของชาติตะวันตก ขณะที่ การทําสงครามครั้งนี้ ยูเครนได้รับการสนับสนุนอาวุธยุทโธปกรณ์ที่ทันสมัย และความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมจากสหรัฐฯ และพันธมิตรชาติตะวันตก สงครามครั้งนี้สร้างความเสียหายอย่างใหญ่หลวงให้แก่ยูเครน ซึ่งรวมถึงกรุงเคียฟ เมืองหลวงของประเทศ อีกทั้งยังทําให้กําลังพลของทั้งสองฝ่าย และพลเรือนยูเครนเสียชีวิตจํานวนมาก ขณะที่กองทัพรัสเซีย ยังคงเดินหน้าโจมตีโครงสร้างพื้นฐานที่สําคัญของยูเครน โดยเฉพาะโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงาน ทําให้ชาวยูเครนหลายสิบล้านคน ไม่มีไฟฟ้าและน้ําประปาใช้ รวมทั้งไม่มีพลังงานสร้างความอบอุ่นในช่วงฤดูหนาว เพื่อตอบโต้เหตุระเบิดบนสะพานเคิร์ช ซึ่งเป็นเส้นทางสําคัญที่เชื่อมระหว่างรัสเซียกับไครเมีย เมื่อเดือนตุลาคมปีที่แล้ว ส่วนภาพรวมเศรษฐกิจโลกในปี 2565 มีสัญญาณชะลอตัวอย่างชัดเจน จากอัตราเงินเฟ้อทั่วโลกที่พุ่งสูงขึ้นจนแตะระดับสูงสุดในรอบหลายทศวรรษ ซึ่งเป็นผลมาจากความต้องการสินค้าและบริการที่เพิ่มมากขึ้น หลังสถานการณ์โควิด-19 ในหลายประเทศ เริ่มคลี่คลายลง นอกจากนี้ การสู้รบระหว่างรัสเซียกับยูเครน ยิ่งทําให้ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ อาทิ น้ํามัน ก๊าซธรรมชาติ ปุ๋ย ธัญพืช และอาหารสัตว์ พุ่งสูงขึ้น จนธนาคารกลางหลายประเทศ ตัดสินใจปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยนโยบาย เพื่อแก้ปัญหาเงินเฟ้อ ขณะที่ในรอบปีที่ผ่านมา ศรีลังกา เป็นหนึ่งในประเทศที่เผชิญวิกฤตเศรษฐกิจที่รุนแรงอย่างที่ไม่เคยมาก่อน ซึ่งเป็นผลจากการบริหารเศรษฐกิจที่ผิดพลาดของรัฐบาล ประกอบกับผลกระทบจากมาตรการควบคุมโรคโควิด-19 อัตราเงินเฟ้อที่พุ่งสูงขึ้น การขาดแคลนเชื้อเพลิง และทุนสํารองระหว่างประเทศที่ลดลงอย่างมาก ส่งผลให้ประชาชนกร กว่า 22 ล้านคน เผชิญปัญหาขาดแคลนปัจจัยพื้นฐานในการดํารงชีวิต อาทิ อาหาร ยารักษาโรค พลังงาน และสินค้าจําเป็นที่ต้องนําเข้าจากต่างประเทศ จนในที่สุดชาวศรีลังกาออกมาชุมนุมประท้วงขับไล่รัฐบาล และทําให้ประธานาธิบดี ต้องหลบหนีออกนอกประเทศและประกาศลาออก ส่วนอีกหนึ่งเหตุการณ์สําคัญที่ทั่วโลกติดตามอย่างใกล้ชิดในรอบปีที่ผ่านมา คือการที่ ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นําจีน วัย 69 ปี ดํารงตําแหน่งประธานาธิบดี และเลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์จีน สมัยที่ 3 อย่างเป็นทางการ ทําให้ประธานาธิบดีสี กลายเป็นผู้นําจีนที่ทรงอํานาจที่สุด นับตั้งแต่สมัยประธาน เหมา เจ๋อตุง ขณะที่ การเดินทางเยือนไต้หวันของ นางแนนซี เปโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ในช่วงต้นเดือนสิงหาคมปีที่แล้ว ทําให้สถานการณ์บริเวณช่องแคบไต้หวัน ทวีความตึงเครียดยิ่งขึ้น โดยกองทัพปลดปล่อยประชาชนจีน ตอบโต้ด้วยการซ้อมรบครั้งใหญ่รอบเกาะไต้หวัน ซึ่งรวมถึงการซ้อมรบด้วยกระสุนจริง นอกจากนี้ ปีที่แล้วยังมีการประชุมที่สําคัญถึง 4 เวที ไม่ว่าจะเป็นการประชุมรัฐภาคีกรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ครั้งที่ 27 หรือ คอป 27 ระหว่างวันที่ 6-18 พฤศจิกายน ที่อียิปต์ การประชุมสุดยอดอาเซียน ระหว่างวันที่ 10-13 พฤศจิกายน ในกัมพูชา การประชุมกลุ่มประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่ 20 ชาติหรือจี 20 ระหว่างวันที่ 15-16 พฤศจิกายนในอินโดนีเซีย และการประชุมความร่วมมือทางเศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิก ระหว่างวันที่ 18-19 ที่ไทยเป็นเจ้าภาพ ซึ่งที่ประชุมมุ่งขับเคลื่อนการฟื้นฟูเศรษฐกิจและส่งเสริมการเติบโตระยะยาวที่สมดุล ยั่งยืน และครอบคลุม พร้อมรับการเปลี่ยนแปลง โดยมีแนวคิดเศรษฐกิจ ชีวภาพ หมุนเวียน และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม หรือ บีซีจี เป็นหัวใจหลัก ส่วนเหตุการณ์ที่เรียกเสียงประณามจากทั่วโลกช่วงท้ายปี เป็นเรื่องที่รัฐบาลตอลิบานของอัฟกานิสถานประกาศห้ามผู้หญิงทํางานในองค์กรนอกภาครัฐทุกแห่ง ส่งผลให้เอ็นจีโอ จํานวนมาก ยุติการปฏิบัติงานในอัฟกานิสถาน ส่งผลกระทบต่อการให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมในประเทศ ขณะที่ก่อนหน้านี้ไม่กี่วัน กลุ่มตอลิบานได้ประกาศห้ามผู้หญิงอัฟกันเข้าศึกษาในมหาวิทยาลัย ทั้งภาครัฐและเอกชน ทําให้ผู้หญิงอัฟกันมีสิทธิเรียนได้สูงสุดแค่ระดับประถม ส่วนสถานการณ์โควิด-19 ในปี 2565 หลายประเทศเริ่มผ่อนคลายมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดโรคโควิด-19 และหันไปใช้นโยบายอยู่ร่วมกับโควิด-19 แม้ยังคงพบผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตจากโรคโควิด-19 ก็ตาม ขณะที่ หน่วยงานสาธารณสุขของหลายประเทศ อนุมัติให้มีการใช้วัคซีนโควิด-19 สูตรปรับปรุง ให้ต้านเชื้อกลายพันธุ์โอมิครอน ของไฟเซอ์-ไบโอเอ็นเทค และโมเดอร์นา เพื่อเป็นวัคซีนเข็มกระตุ้นให้แก่ประชาชน ส่วนทางการจีน ประกาศผ่อนคลายนโยบายโควิด-19 เป็นศูนย์ ที่ยึดถือมานานกว่า 3 ปี เมื่อช่วงต้นเดือนธันวาคมที่ผ่านมา หลังประชาชนในหลายเมืองใหญ่ ออกมาประท้วงการบังคับใช้มาตรการควบคุมการแพร่ระบาดโรคโควิด-19 ที่เข้มงวด อย่างไรก็ตาม หลายฝ่ายแสดงความกังวลว่า ยอดผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตจากโรคโควิด-19 ในจีน จะพุ่งสูงขึ้นในปีนี้ และล่าสุดทางการจีนประกาศเตรียมเปิดประเทศอีกครั้งในวันที่ 8 มกราคมนี้ ทําให้ชาวจีนจํานวนมากสืบค้นข้อมูลสถานที่ท่องเที่ยวนอกจีน โดยมีมาเก๊า ฮ่องกง ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และไทย เป็นจุดหมายที่มีการสืบค้นมากที่สุด ขณะที่คณะกรรมการด้านสุขภาพแห่งชาติจีน ได้ประกาศยกเลิกมาตรการกักตัวเพื่อเฝ้าระวังโรคโควิด-19 สําหรับผู้เดินทางมาจากต่างประเทศ ตั้งแต่วันที่ 8 มกราคมปีนี้ แต่ยังคงต้องแสดงผลตรวจด้วยวิธี"อาร์ที-พีซีอาร์" เป็นลบ ภายใน 48 ชั่วโมง ก่อนออกเดินทาง นอกจากนี้ยังได้ลดระดับมาตรการจัดการโรคโควิด-19 จากระดับเอ ซึ่งเป็นระดับที่มีเข้มงวดมากที่สุด มาเป็นระดับบี หลังโรคมีความรุนแรงน้อยลง นอกจากนี้ ในปีที่ผ่านมา ยังพบการระบาดของโรคฝีดาษวานร นอกทวีปแอฟริกา ซึ่งโรคดังกล่าวเป็นโรคประจําถิ่น โดยมีรายงานพบผู้ติดเชื้อโรคฝีดาษวานรสะสม มากกว่า 81,400 ราย ในกว่า 100 ประเทศทั่วโลก ซึ่งผู้ติดเชื้อส่วนใหญ่เป็นกลุ่มชายรักชาย ขณะที่ องค์การอนามัยโลก จะเริ่มมีการใช้ชื่อ “เอ็มพอกซ์” แทนชื่อโรคฝีดาษวานร เพื่อลดการเลือกปฏิบัติ และขจัดความเข้าใจผิดที่เกี่ยวข้องกับโรคดังกล่าวมากขึ้น สุดท้ายนี้ ปี 2565 ยังคงเป็นอีกหนึ่งปีที่มีเหตุภัยพิบัติ และอุบัติภัยร้ายแรง เกิดขึ้นมากมาย อาทิ เหตุแผ่นดินไหวรุนแรงในพื้นที่ทางตะวันออกของอัฟกานิสถาน ซึ่งทําให้มีผู้เสียชีวิตมากว่า 1,000 คน เหตุการณ์โศกนาฏกรรมในย่านอิแทวอน แหล่งท่องเที่ยวยามราตรีชื่อดังในกรุงโซล เมืองหลวงของเกาหลีใต้ หลังประชาชนราว 1 แสนคน เดินทางมาฉลองเทศกาลฮาโลวีนที่ย่านดังกล่าว จนทําให้เกิดการเหยียบกันตาย ซึ่งมีผู้เสียชีวิตมากกว่า 150 คน และเหตุอุทกภัยครั้งใหญ่ในปากีสถาน ซึ่งครอบคลุมพื้นที่ ราว 1 ใน 3 ของประเทศ โดยมีผู้เสียชีวิตมากกว่า 1,100 คน และบาดเจ็บอีก ราว 1,600 คน ส่งผลกระทบต่อประชาชนกว่า 33 ล้านคน ขณะที่ภัยพิบัติส่งท้ายปี เป็นเหตุพายุฤดูหนาวรุนแรงพัดกระหน่ําสหรัฐฯ และแคนาดา ส่งผลให้เกิดหิมะตกหนักและไฟฟ้าดับ ในพื้นที่ส่วนใหญ่ของทั้งสองประเทศ ทําให้ประชาชนต้องฉลองเทศกาลคริสต์มาสท่ามกลางอุณหภูมิจุดเยือกแข็ง----------------------------------------------ทีมข่าวต่างประเทศเรียบเรียง
3/1/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230103161148744
null
ประชาชนหลายหมื่นคนเดินทางไปสักการะพระศพของอดีตสมเด็จพระสันตะปาปาเบเนดิกต์ที่ 16 ที่มหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ส บาซิลิกา
ประชาชนหลายหมื่นคนหลั่งไหลไปยังมหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ส บาซิลิกา เมื่อวานนี้ เพื่อเข้าไปสักการะพระศพของอดีตสมเด็จพระสันตะปาปาเบเนดิกต์ที่ 16 ซึ่งจัดตั้งไว้ให้ประชาชนได้สักการะเป็นเวลา 3 วันตั้งแต่เมื่อวานนี้ ก่อนที่จะมีพิธีปลงพระศพในวันพฤหัสบดีนี้ ทั้งนี้ สมเด็จพระสันตะปาปาเบเนดิกต์ที่ 16 สิ้นพระชนม์อย่างสงบ ขณะมีพระชนมายุ 95 พรรษา ที่อารามมาแตร์ เอ็กเกลเซีย ในวาติกัน หลังมีพระอาการประชวรอย่างหนัก พระองค์ทรงดํารงตําแหน่งประมุขแห่งคริสตจักรนิกายโรมันคาทอลิก เมื่อปี 2548 และได้สละสมณศักดิ์เมื่อปี 2556 นับเป็นพระสันตะปาปาพระองค์แรกในรอบ 600 ปี ที่สละตําแหน่งขณะมีพระชนม์ชีพ
3/1/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230103000205542
null
ยูเครนอ้างว่า เป็นผู้ปฏิบัติการโจมตีในเมืองมาคียิฟกา ทำให้ทหารรัสเซียเสียชีวิตจำนวนมาก
ยูเครนกล่าวอ้างวานนี้ว่า เป็นผู้ปฏิบัติการโจมตีกองกําลังรัสเซียในพื้นที่ทางตะวันออกของยูเครน หลังรัสเซียระบุว่า ทหารรัสเซีย 63 นายเสียชีวิตในเมืองมาคียิฟกา แถลงการณ์ของนายทหารระดับสูงของกองทัพยูเครนระบุว่า เมื่อวันที่ 31 ธันวาคมที่ผ่านมา อุปกรณ์ทางทหารชนิดต่างๆ ของศัตรูมากถึง 10 ยูนิต ในเมืองมาคียิฟกา เขตโดเนตส์ค ถูกทําลายและได้รับความเสียหาย และก่อนหน้านี้ยูเครนก็อ้างว่า ได้สังหารทหารรัสเซียราว 400 นาย ในปฏิบัติการโจมตีด้วยขีปนาวุธในเขตโดเนตส์ค ที่ถูกรัสเซียยึดครอง โดยขีปนาวุธได้โจมตีอาคารแห่งหนึ่งในเมืองมาคียิฟกา ซึ่งคาดว่า เป็นที่ประจําการของกองกําลังรัสเซีย
3/1/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230103000217543
null
ผู้นำเกาหลีเหนือปลดทหารระดับสูงอันดับ 2 ออกจากตำแหน่ง
สํานักข่าวกลางเกาหลีหรือเคซีเอ็นเอ ของทางการเกาหลีเหนือรายงานวานนี้ว่า นายคิม จอง อึน ผู้นําเกาหลีเหนือ สั่งปลดพลเอกปัก จอง ชอน นายทหารที่ทรงอิทธิพลลําดับที่ 2 รองจากนายคิม โดยที่ประชุมคณะกรรมการกลางพรรคแรงงานประจําปีเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ได้ปลดนายปัก ซึ่งดํารงตําแหน่งประธานคณะกรรมาธิการกลางด้านการทหารของพรรคแรงงาน และเลขาธิการของคณะกรรมการกลางของพรรคแรงงานออกจากตําแหน่ง และได้แต่งตั้งนายรี ยอง กิล เข้ารับตําแหน่งแทน โดยนายรี ซึ่งเป็นทหารระดับสูง ดํารงตําแหน่งสําคัญหลายตําแหน่ง รวมทั้งตําแหน่งหัวหน้าคณะเสนาธิการทหารบกและรัฐมนตรีกลาโหม อย่างไรก็ตาม เคซีเอ็นเอ ไม่ได้รายงานเหตุผลของการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว
3/1/2023
null
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230103000336545
null
ญี่ปุ่นยืนยันผู้เสียชีวิต 2 คน หลังเกิดดินถล่มในพื้นที่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ
เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นญี่ปุ่นกล่าวว่า ประชาชน 2 คนได้รับการยืนยันว่าเสียชีวิตเมื่อวานนี้ หลังเจ้าหน้าที่พบร่างของพวกเขาในที่เกิดเหตุดินถล่ม ในพื้นที่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ เจ้าหน้าที่ในเมืองทซุรุโอกะ จังหวัดยามากาตะ กล่าวว่า เจ้าหน้าที่กู้ภัยพบเหยื่อ 2 คนในที่เกิดเหตุดินถล่มในเขตภูเขาเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ซึ่งทําให้อาคารราว 10 หลังได้รับความเสียหายหนัก และคู่สามีภรรยาสูงอายุ ซึ่งผู้หญิงวัย 70 ปีเศษ และสามีของเธอวัย 80 ปีเศษสูญหาย และในเวลาต่อมาตํารวจกล่าวว่า กําลังพยายามระบุให้ได้ว่า ร่างที่พบ 2 คนคือคู่สามีภรรยาที่สูญหายหรือไม่
3/1/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230103000246544
null
ประชาชนในเมืองต่างๆ ของจีน กลับสู่การทำกิจกรรมตามปกติ ท่ามกลางจำนวนผู้ติดเชื้อ โควิด-19 ที่เพิ่มมากขึ้น
ประชาชนบางคนในกรุงปักกิ่ง นครเซี่ยงไฮ้ และเมืองอู่ฮั่น ของจีน ฝ่าอากาศหนาวและจํานวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่เพิ่มมากขึ้น ออกไปทํากิจกรรมต่างๆ ตามปกติเมื่อวานนี้ โดยบางคนออกไปเล่นสเก็ตน้ําแข็งในกรุงปักกิ่ง ทั้งนี้ ทางการจีนได้ยกเลิกมาตรการ “โควิดเป็นศูนย์” ซึ่งเป็นมาตรการเข้มงวดที่สุดเพื่อควบคุมการระบาดของโรคโควิด-19 เมื่อวันที่ 7 ธันวาคมปีที่แล้ว โดยปรับเปลี่ยนมาใช้ยุทธศาสตร์ที่มุ่งเน้นการใช้ชีวิตอยู่กับโรคดังกล่าว และประกาศเปิดประเทศวันที่ 8 มกราคมนี้ อย่างไรก็ตาม หลังยกเลิกนโยบายดังกล่าว จํานวนผู้ติดเชื้อกลับมาพุ่งสูงทั่วประเทศ ทําให้หลายประเทศกังวลและบังคับใช้มาตรการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ในประชาชนที่เดินทางมาจากจีน
3/1/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230103130611650
null
จีนประณามมาตรการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ในประชาชนที่เดินทางจากจีนของประเทศต่างๆ และเตือนว่า จะมีมาตรการตอบโต้
จีนประณามมาตรการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ในประชาชนที่เดินทางจากจีน ของ 12 ประเทศ และเตือนว่า จะมีมาตรการตอบโต้ นายเหมา หนิง โฆษกกระทรวงต่างประเทศจีน กล่าวระหว่างการแถลงข่าวว่า บางประเทศที่ใช้มาตรการเข้มงวดต่อผู้ที่เดินทางจากจีน ไร้ซึ่งมูลฐานทางวิทยาศาสตร์ และการปฏิบัติต่อชาวจีนและประชาชนที่เดินทางจากจีนก็ไม่สามารถยอมรับได้ พร้อมกล่าวเตือนว่า จีนจะใช้มาตรการตอบโต้บนพื้นฐานของหลักการแลกเปลี่ยนซึ่งกันและกัน ทั้งนี้ แคนาดา สหรัฐ สหราชอาณาจักร ฝรั่งเศส อิตาลี สเปน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ไต้หวัน และออสเตรเลีย บังคับใช้มาตรการเข้มงวดต่อผู้ที่เดินทางมาจากจีน โดยระบุให้ต้องมีผลตรวจโรคโควิด-19 เป็นลบ หรือต้องตรวจหาเชื้อโรคดังกล่าวเมื่อเดินทางมาถึงประเทศตน ส่วนโมร็อกโกได้ห้ามผู้ที่เดินทางมาจากจีนทุกคนเข้าสู่ประเทศ
3/1/2023
null
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230103161111743
null
เกาหลีใต้ระบุว่า อยู่ระหว่างการเจรจาเกี่ยวกับแผนปฏิบัติการนิวเคลียร์กับสหรัฐ
ทําเนียบประธานาธิบดีเกาหลีใต้ระบุวันนี้ว่า เกาหลีใต้และสหรัฐอยู่ระหว่างการหารือเกี่ยวกับแผนการและการเริ่มปฏิบัติการนิวเคลียร์ของสหรัฐ เพื่อต่อต้านเกาหลีเหนือ แม้ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐจะกล่าวว่า จะมีการซ้อมรบนิวเคลียร์ร่วมกันระหว่างสหรัฐกับเกาหลีใต้ แถลงการณ์ดังกล่าวมีขึ้นหลังประธานาธิบดีไบเดนระบุว่า สหรัฐไม่ได้อยู่ระหว่างการหารือการซ้อมรบนิวเคลียร์ร่วมกับเกาหลีใต้ ซึ่งดูเหมือนจะขัดแย้งกับคํากล่าวของประธานาธิบดียุน ซอก-ยอล ของเกาหลีใต้ ที่ให้สัมภาษณ์หนังสือพิมพ์ท้องถิ่นก่อนหน้านี้ ขณะที่แถลงการณ์ของเลขานุการด้านสื่อของผู้นําเกาหลีใต้ระบุว่า เพื่อเป็นการตอบโต้อาวุธนิวเคลียร์เกาหลีเหนือ เกาหลีใต้และสหรัฐกําลังหารือเพื่อหาทางแบ่งปันข้อมูลเกี่ยวกับปฏิบัติการของทรัพยากรด้านนิวเคลียร์สหรัฐ และการวางแผนร่วม และการดําเนินการที่สอดคล้องกัน
3/1/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230103160926740
null
ประธานาธิบดีฟิลิปปินส์เดินทางเยือนจีน เพื่อเจรจากับประธานาธิบดีจีน เกี่ยวกับประเด็นทะเลจีนใต้
ประธานาธิบดีเฟอร์ดินานด์ มาร์กอส จูเนียร์ ของฟิลิปปินส์ จะเดินทางเยือนจีน 3 วันตั้งแต่วันนี้ ซึ่งเขาคาดว่าจะหารือกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน หลายประเด็น รวมทั้งประเด็นข้อพิพาทในทะเลจีนใต้ ซึ่งฟิลิปปินส์ระบุว่า การดําเนินกิจกรรมต่างๆ ของจีนในทะเลจีนใต้ เป็นสิ่งผิดกฎหมาย ประธานาธิบดีมาร์กอส กล่าวก่อนที่จะขึ้นเครื่องบินว่า เขาตั้งตารอที่จะได้พบประธานาธิบดีสี ซึ่งจะเป็นการพบกันแบบซึ่งหน้าครั้งที่ 2 ระหว่างผู้นําทั้งสอง หลังการพบกันระหว่างการประชุมในไทยเมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา และการพบกันครั้งนี้มีขึ้นขณะที่ฟิลิปปินส์มีความกังวลมากขึ้น เกี่ยวกับรายงานที่ว่า จีนกําลังดําเนินกิจกรรมเพื่อการก่อสร้างในทะเลจีนใต้ และส่งเรือหลายลําเข้าไปในน่านน้ําทะเลจีนใต้
3/1/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230103160859738
null