NewsTitle
stringlengths
11
31.5k
Detail
stringlengths
9
78.4k
NewsDate
stringlengths
3
5.77k
Region
stringclasses
48 values
Province
stringclasses
99 values
Department
stringclasses
211 values
Link_News
stringlengths
3
903
v
stringclasses
812 values
ปิดอ่าวฝั่งทะเลอันดามัน 3 เดือน ฟื้นฟูสัตว์น้ำวัยอ่อน ในพื้นที่ภูเก็ต พังงา กระบี่ ตรัง
นายเฉลิมชัย สุวรรณรักษ์ อธิบดีกรมประมง เปิดเผยว่า กรมประมงได้มีการดําเนินมาตรการบริหารจัดการทรัพยากรสัตว์น้ําในฤดูสัตว์น้ํามีไข่ วางไข่ เลี้ยงตัวอ่อนฝั่งทะเลอันดามันมาอย่างต่อเนื่องกว่า 38 ปี เพื่อให้สัตว์น้ําได้วางไข่แพร่ขยายพันธุ์ พร้อมที่จะเจริญเติบโตและนํากลับมาใช้ประโยชน์ได้อย่างคุ้มค่า ซึ่งผลการศึกษาทางวิชาการในช่วงการประกาศใช้มาตรการฯ ปี 2565 พบสัตว์น้ําวัยอ่อนมีความหนาแน่นสูงสุดถึง 1,197 ตัว/1,000 ลูกบาศก์เมตร มากกว่าช่วงก่อนประกาศใช้มาตรการฯ อีกทั้งยังพบว่าปลาเศรษฐกิจหลายชนิดมีความสมบูรณ์เพศสูง ประกอบกับ สถิติผลการจับสัตว์น้ําของเรือประมงพาณิชย์และพื้นบ้านทางฝั่งทะเลอันดามันตอนล่าง ในพื้นที่ประกาศใช้มาตรการ ในปี 2565 มีผลการจับปลาทู ซึ่งเป็นสัตว์น้ําเศรษฐกิจที่สําคัญมีปริมาณมากถึง 8,858 ตัน สูงกว่าเมื่อปี 2560 ก่อนการปรับปรุงมาตรการฯ จึงเป็นการยืนยันได้ว่ามาตรการฯ ที่ใช้มีความสอดคล้อง ถูกต้อง และเหมาะสมทั้งในด้านพื้นที่และช่วงเวลาการประกาศใช้มาตรการฯ และเป็นผลดีต่อการฟื้นฟูทรัพยากรสัตว์น้ําเศรษฐกิจที่สําคัญในปีนี้ กรมประมง จึงคงมาตรการปิดอ่าวฝั่งทะเลอันดามัน ในช่วงเวลา พื้นที่ และเครื่องมือที่อนุญาตให้ใช้เช่นเดิม ตามประกาศกรมประมงฯ พ.ศ. 2561 คือ ในเขตพื้นที่บางส่วนของจังหวัดภูเก็ต พังงา กระบี่ และตรัง ตั้งแต่ปลายแหลมพันวา อําเภอเมืองภูเก็ต จังหวัดภูเก็ต ถึงปลายแหลมหยงสตาร์ อําเภอปะเหลียน จังหวัดตรัง ครอบคลุมพื้นที่ 4,696 ตารางกิโลเมตร ระหว่างวันที่ 1 เมษายน – 30 มิถุนายน 2566 ขอเน้นย้ําให้พี่น้องชาวประมงโปรดให้ความร่วมมือ ในการปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัดและระมัดระวังการทําประมง โดยให้ทําประมงเฉพาะเครื่องมือที่ประกาศให้ใช้ได้เท่านั้น เครื่องมืออื่นๆ ห้ามทําโดยเด็ดขาด หากผู้ใดฝ่าฝืนจะเป็นความผิดตามมาตรา 70 แห่งพระราชกําหนดการประมง พ.ศ. 2558 ต้องระวางโทษปรับตั้งแต่ห้าพันบาทถึงสามสิบล้านบาท ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับขนาดของเรือประมง หรือปรับจํานวนห้าเท่าของมูลค่าสัตว์น้ําที่ได้จากการทําการประมง แล้วแต่จํานวนใดจะสูงกว่าและต้องได้รับโทษทางปกครอง
30/3/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
Radio-สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230330160134314
null
จังหวัดสุราษฎร์ธานีร่วมติดตามและหาแนวทางรับมือปัญหาการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ
บ่ายวันนี้ (30 มี.ค.66) นายวิชวุทย์ จินโต ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี มอบหมายให้นายมนตรา พรมสินธุ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ประชุมคณะทํางานด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศระดับจังหวัด โครงการพัฒนาศักยภาพสํานักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัด เพื่อพัฒนาแผนงานด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศระดับจังหวัด ครั้งที่ 1/2566 ณ ห้องประชุมเมืองคนดี ชั้น 5 ศาลากลางจังหวัดสุราษฎร์ธานี เพื่อติดตามการดําเนินงานในส่วนที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ การจัดทํารายงานข้อมูลก๊าชเรือนกระจก แผนการลดก๊าชเรือนกระจก รวมทั้งรายงานสภาพการณ์ความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของจังหวัดสุราษฎร์ธานี และแผนปฏิบัติการในระดับพื้นที่ เพื่อรับมือกับปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และการปรับตัวเพื่อลดผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ โดยปัจจุบันพบว่าประเทศไทยได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเป็นลําดับต้นๆ ของโลก และมีแนวโน้มที่จะทวีความรุนแรงมากขึ้นในอนาคต ซึ่งการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเกิดจากปริมาณก๊าซเรือนกระจกที่ถูกปล่อยสู่ชั้นบรรยากาศที่มากเกินขีดความสามารถในการดูดซับของธรรมชาติ โดยสาเหตุหลักมาจากการใช้พลังงานโดยเฉพาะเชื้อเพลิงฟอสซิลที่มากขึ้น ตั้งแต่ยุคปฏิวัติอุตสาหกรรมเป็นต้นมา ผนวกกับการเพิ่มขึ้นของประชากรที่ทําให้มีการเปลี่ยนแปลงการใช้ประโยชน์ที่ดินเพื่อเกษตรกรรมและรองรับการขยายตัวของเมือง โดยก๊าซเรือนกระจกที่ปล่อยออกสู่ชั้นบรรยากาศที่สําคัญได้แก่ ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) ก๊าซมีเทน (CH4) และก๊าซไนตรัสออกไซด์ (N2O) ซึ่งส่งผลต่อสมดุลพลังงานจากดวงอาทิตย์ที่แผ่ลงมาสู่พื้นผิวโลก เนื่องจากก๊าซเหล่านี้ มีคุณสมบัติในการดูดซับความร้อนจากพื้นผิวโลกไม่ให้สะท้อนกลับสู่อวกาศ และมีการแผ่พลังงานส่วนหนึ่งกลับลงยังพื้นผิวโลก ส่งผลให้พื้นผิวโลกและบรรยากาศชั้นล่างอบอุ่นและร้อนกว่าปกติ ทั้งนี้การปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทําให้ความเข้มข้นของ CO2 ในชั้นบรรยากาศโลกเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ให้ปรากฏการณ์เรือนกระจกมีความรุนแรงเพิ่มมากขึ้นด้วย ก่อให้เกิดภาวะโลกร้อนที่สูงขึ้นและสภาพภูมิอากาศของโลกมีการเปลี่ยนแปลง และหากพิจารณาปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของประเทศไทย พบว่าภาคพลังงานมีสัดส่วนมากที่สุด รองลงมาได้แก่ ภาคเกษตร ภาคอุตสาหกรรมและการใช้ผลิตภัณฑ์ และภาคของเสีย ตามลําดับ#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
30/3/2023
ภาคใต้
สุราษฎร์ธานี
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสุราษฎร์ธานี
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230330154945305
null
ผู้ว่าฯ ลพบุรี นำส่วนราชการเข้าร่วมประชุมติดตาม และแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควันและฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5
วันที่ 30 มีนาคม 2566 เวลา 10.30 น. ที่ห้องประชุมพระปรางค์สามยอด ชั้น 4 ศาลากลางจังหวัดลพบุรี นายอําพล อังคภากรณ์กุล ผู้ว่าราชการจังหวัดลพบุรี นําส่วนราชการเข้าร่วมประชุมติดตาม และแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควันและฝุ่นละอองขนาดเล็กอย่างเร่งด่วน โดยมี นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานการประชุมพร้อมด้วย นายโชตินรินทร์ เกิดสม รองปลัดกระทรวงมหาดไทย หัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านสาธารณภัยและพัฒนาเมือง นายบุญธรรม เลิศสุขีเกษม อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ผู้บริหารระดับสูงของกระทรวง และผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศเข้าร่วมประชุม ผ่านระบบวิดีทัศน์ทางไกล จากห้องประชุม 1 อาคาร 3 ชั้น 5 กรมป้องกันบรรเทาสาธารณภัย โดยที่ประชุมได้รายงานสถานการณ์ การป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นมลพิษ PM 2.5 ในหลายพื้นที่เกิดความรุนแรงเพิ่มมากขึ้นโดยเฉพาะพื้นที่ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และล่าสุดคือพื้นที่ภาคกลางที่เกิดเหตุการณ์ไฟป่าขึ้นที่จังหวัดนครนายก และสระบุรี นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า ผู้ว่าราชการจังหวัดต้องตื่นตัวแก้ปัญหาอย่างรวดเร็วให้แก่ประชาชน ขณะนี้มีจังหวัดที่มีเหตุการณ์ไฟป่าและมีหมอกควันรุนแรง ซึ่งทุกภาคส่วนต้องช่วยกัน ทั้งนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดในฐานะที่เป็นผู้บัญชาเหตุการณ์ ต้องทําให้สังคมเห็นการทํางานของภาครัฐที่ดําเนินการอย่างเต็มที่ ซึ่งต้องพูดคุยกับประชาชน กับสื่อมวลชนให้ชัดเจน ถึงขั้นตอนการปฏิบัติราชการการทํางาน แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นทุ่มเท เพื่อสร้างความอุ่นใจให้กับประชาชน อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมาทุกจังหวัดได้ปฏิบัติการให้ปัญหาเรื่องหมอกควันไฟป่าอยู่ในวงที่สามารถดูแลได้ ซึ่งยังไม่มีเหตุการณ์ที่อาสาสมัครได้รับบาดเจ็บ แต่ทั้งนี้ ขอให้มีระบบในการวางแผนคํานึงถึงความปลอดภัยของพี่น้องจิตอาสาและอาสาสมัครอย่างเต็มที่ ในส่วนของจังหวัดลพบุรี จากผลการตรวจวัดคุณภาพอากาศในพื้นที่ ต.ทะเลชุบศร อ.เมืองลพบุรี พบปริมาณฝุ่นละออง ขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM2.5) ณ วันที่ 30 มีนาคม 2566 เวลา 14.00 น. ผลการตรวจวัด มีค่า 30 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร (?g/m3) อยู่ในเกณฑ์ คุณภาพอากาศดี ข่าว : สํานักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดลพบุรี#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
30/3/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
ลพบุรี
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดลพบุรี
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230330174809368
null
กรมฝนหลวงขึ้นบินทำฝนหลวงต่อเนื่องช่วยบรรเทาหมอกควันและไฟป่า ในพื้นที่ภาคเหนือ 5 จังหวัด
นายรังสรรค์ บุศย์เมือง ผู้อํานวยการศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคเหนือตอนบน จังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า ในช่วงเช้าวันนี้ได้ประชุมร่วมเจ้าหน้าที่หน่วยปฏิบัติการฝนหลวง จังหวัดเชียงใหม่ขี้นบินปฏิบัติการเพื่อบรรเทาปัญหาหมอกควันและไฟป่า และช่วยเหลือพื้นที่การเกษตร โดยใช้เครื่องบินเกษตร ชนิด CASA จํานวน 2 ลํา ขึ้นปฎิบัติการช่วงเวลาตั้งแต่ 09.30 น. ทําฝนหลวงในบริเวณพื้นที่เป้าหมาย จํานวน 26 พื้นที่ เพื่อช่วยบรรเทาปัญหาหมอกควันและไฟป่า ยังเน้นไปยังพื้นที่ป่าไม้ตอนเหนือ โดยบริเวณพื้นที่เป้าหมาย :1.พื้นที่ป่าไม้ และพื้นที่การเกษตร จ.เชียงราย2.พื้นที่ป่าไม้ จ.เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน ลําพูน ตากเนื่องจากในพื้นที่ดังกล่าวมีปัญหาด้านมลพิษทางอากาศ ทําให้ต้องเร่งทําให้เกิดฝนตกลงมาเพื่อชะล้างฝุ่นควัน ลดปริมาณฝุ่นควันให้ลดลง พร้อมกับทําความชุ่มชื่นในพื้นที่ป่า เพื่อไม่ให้เกิดไฟป่าเกิดขึ้นของพื้นที่ดังกล่าวทั้งนี้ ประชาชนสามารถแจ้งข้อมูลสถานการณ์ความต้องการฝน ในพื้นที่โดยตรงทางโทรศัพท์หมายเลข 0-5327-5051 และสามารถติดตามข้อมูลข่าวสารได้ ทางเว็บไซต์กรมฝนหลวงและการบินเกษตร www.royalrain.go.th หรือทาง Facebook ศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคเหนือ #สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
30/3/2023
ภาคเหนือ
แม่ฮ่องสอน
สวท.แม่ฮ่องสอน
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230330161135322
null
จังหวัดระนองให้บริการเกษตรกร จัดโครงการคลินิกเกษตรเคลื่อนที่
วันนี้ (30 มี.ค.66) ที่อาคารโรงคลุม เทศบาลตําบลละอุ่น อําเภอละอุ่น จังหวัดระนอง นายศักระ กปิลกาญจน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดระนอง เป็นประธานในการเปิดกิจกรรมคลินิกเกษตรเคลื่อนที่ ประจําไตรมาส 2 ปีงบประมาณ 2566 โดยมี นายอํานวย แออุดม เกษตรจังหวัดระนอง กล่าวรายงานถึงการจัดงานในครั้งนี้ว่า โครงการคลินิกเกษตรเคลื่อนที่ จัดขึ้นเพื่อให้เกษตรกรที่มีปัญหาด้านการเกษตรในพื้นที่หางไกล สามารถเข้าถึงบริการทางวิชาการ และได้รับการแก้ไขปัญหาด้านการเกษตรอย่างครบวงจรในคราวเดียวกัน โดยเป็นการบูรณาการความร่วมมือระหว่างหน่วยงานวิชาการ และหน่วยงานส่งเสริมในการให้บริการและแก้ไขปัญหาทางการเกษตรร่วมกัน อาทิ การงวิเคราะห์ดิน การวินิจฉัยโรคพืช โรคสัตว์ โรคสัตว์น้ํา รวมถึงการถ่ายทอดเทคโนโลยีและฝึกอบรมความรู้ การเกษตรเสริมเพิ่มเติมควบคู่กันไปด้วย นายศักระ กปิลกาญจน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดระนอง กล่าวว่า คลินิกเกษตรเคลื่อนที่ในพระราชานุเคราะห์ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ไตรมาส 2 ปีงบประมาณ 2566 เป็นรูปแบบหนึ่งในการแก้ไขปัญหาให้กับเกษตรกรในพื้นที่ เป็นโครงการสําคัญโดยเกษตรกรจะได้รับการถ่ายทอดความรู้และได้รับบริการแบบครบวงจรในทุกด้าน ซึ่งหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้นําบุคลากร อุปกรณ์ เครื่องมือ และองค์ความรู้ด้านการเกษตร เพื่อเสริมสร้างทักษะในวิชาชีพให้มีความมั่นคง ยั่งยืน ทั้งนี้เกษตรกรในพื้นที่อําเภอละอุ่น ได้เข้าร่วมกิจกรรมเป็นจํานวนมาก โดยเข้ารับบริการคลินิกทั้งด้านดิน พืช ปศุสัตว์ ประมง ชลประทาน สหกรณ์ บัญชี กฎหมาย ข้าว และคลินิกอื่นๆ พร้อมทั้งมีการแสดงและจําหน่ายผลิตภัณฑ์ผลงานของ Young Smart Farmer กลุ่มแม่บ้านเกษตรกร วิสาหกิจชุมชน และกิจกรรมอื่นๆ อีกมากมาย #สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILANDส.ปชส.ระนอง/ภาพ/ข่าว
30/3/2023
ภาคใต้
ระนอง
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดระนอง
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230330162033325
null
“รมต.อนุชา” ถือฤกษ์เปิดโครงการ “โคล้านครอบครัว” นำร่องที่ชัยนาทหวังกระตุ้นเศรษฐกิจฐานราก สร้างรายได้สร้างความมั่นคงให้สมาชิกกองทุนหมู่บ้าน
วันนี้ 30 มีนาคม 2566 เวลา 13.30 น. ณ หอประชุมศรีโพธิ์สุข โรงเรียนศึกษาพิเศษชัยนาท ตําบลชัยนาท อําเภอเมือง จังหวัดชัยนาท นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจําสํานักนายกรัฐมนตรี ในฐานะรัฐมนตรีกํากับดูแลสํานักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ (สทบ.) เป็นประธานเปิดงาน “สร้างเศรษฐกิจฐานราก สร้างชาติมั่นคง” ภายใต้โครงการเสริมสร้างเศรษฐกิจฐานราก เพื่อการพัฒนาหมู่บ้านและชุมชนเข้มแข็งอย่างยั่งยืน จัดโดย สํานักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ (สทบ.) โดยมี นายเบญจพล นาคประเสริฐ ผู้อํานวยการสํานักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ นายนที มนตริวัต ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยนาท นายธัชชญาณ์ณัช เจียรธนัทกานนท์ เลขานุการรัฐมนตรีประจําสํานักนายกรัฐมนตรี นายชนะศักดิ์ อัตถาวงศ์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีประจําสํานักนายกรัฐมนตรี หัวหน้าส่วนราชการ สมาชิกกองทุนหมู่บ้าน ฯ เข้าร่วมงาน นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจําสํานักนายกรัฐมนตรี ในฐานะรัฐมนตรีกํากับดูแลสํานักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ (สทบ.) กล่าวว่า การจัดงาน “สร้างเศรษฐกิจฐานราก สร้างชาติมั่นคง” ครั้งนี้ แสดงให้เห็นผลสําเร็จการดําเนินงานของสมาชิกกองทุน ฯ ทั่วประเทศ โดยได้ดําเนินการในพื้นที่ 4 ภูมิภาค 14 กลุ่มจังหวัด เพื่อเป็นเวทีแสดงผลงานและแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ระหว่างสมาชิกกองทุน ฯ และประชาชนที่สนใจ ส่งต่อแนวคิดสู่กองทุนหมู่บ้าน ฯ ในพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศ ตลอดจนส่งเสริมความรู้ ความเข้าใจ เพื่อพัฒนาทักษะโมเดลเศรษฐกิจ BCG ในบริบทของแต่ละพื้นที่ เพื่อนําไปต่อยอดและพัฒนาการบริหารงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองให้เกิดความเข้มแข็งต่อไป โดยการจัดกิจกรรมในวันนี้ ถือเป็นการเปิดตัวครั้งแรก มีสมาชิกกองทุนหมู่บ้าน จาก 9 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดชัยนาท จังหวัดลพบุรี จังหวัดสระบุรี จังหวัดพระนครศรีอยุธยา จังหวัดนนทบุรี จังหวัดปทุมธานี จังหวัดสระบุรี จังหวัดสิงห์บุรี และจังหวัดอ่างทอง ร่วมงาน ภายในงานประกอบด้วย กิจกรรมเสวนากองทุนหมู่บ้านต้นแบบ "ทําแล้ว ทําง่าย ทําได้...ไม่ยาก" โดยกองทุนหมู่บ้านต้นแบบประจําจังหวัดชัยนาท ได้แก่ สถาบันการเงินชุมชนบ้านวังหัวเรือ กองทุนหมู่บ้านวังหัวเรือ ตําบลวังตะเคียน อําเภอหนองมะโมง จังหวัดชัยนาท, กิจกรรม Upskill เรื่อง “โครงการโคล้านครอบครัว” จากผู้เชี่ยวชาญ, กิจกรรม Business Matching เพื่อต่อยอดโอกาสทางการค้า และกิจกรรมการจัดแสดงนิทรรศการเพื่อเผยแพร่องค์ความรู้ของกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง เพื่อนําความรู้ที่ได้กลับไปพัฒนาชุมชนเมืองของตน นายอนุชา กล่าวต่อไปว่า รัฐบาลได้ตระหนักถึงความสําคัญในการสร้างความเข้มแข็งให้เศรษฐกิจฐานรากของประเทศมาโดยตลอด โดยได้สนับสนุนให้เกิดกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง ที่มีกระจายอยู่ทุกหมู่บ้านและชุมชนทั่วประเทศ จํานวน 79,610 แห่ง มีสมาชิกทั่วประเทศกว่า 13 ล้านคน เพื่อส่งเสริมให้ประชาชนในชุมชนมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ด้วยการมุ่งเน้นให้กองทุนหมู่บ้านเป็นแหล่งเงินทุนหมุนเวียน เพื่อสร้างอาชีพ สร้างงาน และรายได้ให้คนในชุมชน ตามอัตลักษณ์และความโดดเด่นของแต่ละชุมชน โดยมีเป้าหมายเพื่อแก้ไขปัญหาความยากจน ลดความเหลื่อมล้ํา รวมถึงยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนทุกพื้นที่ “ปัจจุบันรัฐบาลยังคงเดินหน้าสนับสนุนการดําเนินงานของกองทุนหมู่บ้านอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้พี่น้องประชาชนทั่วประเทศหลุดพ้นจากความยากจน และช่วยแก้ไขปัญหาหนี้สินที่ประชาชนหลายครัวเรือนประสบอยู่ ภายหลังจากได้รับผลจากกระทบสถานการณ์แพร่ระบาดโควิด-19 และสถานการณ์ภัยพิบัติทางธรรมชาติ ทั้งนี้ พบว่าสมาชิกกองทุน ฯ ส่วนมากประกอบอาชีพเกษตรกร แม้จะได้รับการสนับสนุนเงินทุนเพื่อจัดทําโครงการที่ผ่านมา แต่ก็ยังไม่ตอบโจทย์ สมาชิกหลายครัวเรือนยังไม่สามารถลืมตาอ้าปากได้ บางรายยังมีปัญหาหนี้สิน ในช่วงที่ตนกํากับดูแลกองทุนหมู่บ้าน ฯ จึงได้มีการหารือถึงแนวทางให้ความช่วยเหลือ และทําให้ประชาชนหลุดพ้นจากความยากจนอย่างยั่งยืน จนกระทั่งเกิดเป็นโครงการ “โคล้านครอบครัว” ที่ล่าสุดคณะรัฐมนตรีได้อนุมัติโครงการนี้เป็นที่เรียบร้อย จากการทดลองโครงการนําร่องที่จังหวัดสุโขทัย ประกอบกับได้ศึกษาค้นคว้ามาเป็นระยะเวลานาน ผมมั่นใจว่าการทําปศุสัตว์ เช่น การเลี้ยงโค จะเป็นทางออกที่ช่วยให้ประชาชนมีรายได้เพิ่มขึ้น จนกระทั่งสามารถปลดหนี้ มีเงินเก็บ และร่ํารวยได้ในอนาคต เพราะโคเลี้ยงไม่ยาก กินแต่หญ้า เบื้องต้นทางกองทุน ฯ จะให้การสนับสนุนเงินทุนสําหรับจัดหาโค 2 ตัว/ครัวเรือน เป็นเงินจํานวน 50,000 บาท ภายใน 1 ปีโคออกลูก สามารถทําเงิน ปลดหนี้ได้ ปีต่อ ๆ ไป จะมีลูกหลานเพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณ หากเลี้ยงดีๆ พี่น้องกองทุน ฯ อาจมีโอกาสร่ํารวย ได้จับเงินล้าน ซึ่งเป็นสิ่งที่ทางรัฐบาลคาดหวังให้เศรษฐกิจฐานรากเงินหมุนเวียนเพิ่มขึ้น มีกําลังซื้อที่จะส่งผลต่อการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศได้ในอนาคต” นายอนุชา กล่าว สําหรับกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองได้ดําเนินงานมาเป็นระยะเวลา 21 ปี ที่ผ่านมามีพัฒนาการในหลาย ๆ ด้านที่ดีขึ้นเป็นลําดับ โดยกองทุนหมู่บ้าน ฯ เป็นแหล่งเงินทุนหมุนเวียนเพื่อการลงทุนในการสร้างอาชีพ สร้างงาน และรายได้ของประชาชนในชุมชน มีการส่งเสริมและสนับสนุนให้เกิดการออมของประชาชน จัดระบบสวัสดิการของหมู่บ้านและชุมชนเพื่อเป็นภูมิคุ้มกันทางสังคม ปัจจุบันมีกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองทั่วประเทศ จํานวน 79,610 กองทุน ประกอบด้วย กองทุนหมู่บ้าน จํานวน 75,000 กองทุน กองทุนชุมชนเมือง จํานวน 3,872 กองทุน และกองทุนชุมชนทหาร จํานวน 738 กองทุน มีเงินทุนหมุนเวียนกว่า 3 แสนล้านบาท จํานวนสมาชิกประมาณ 13 ล้านคน ส.ปชส.ชัยนาท#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
30/3/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
ชัยนาท
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดชัยนาท
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230330173334362
null
เกษตรกันตัง จังหวัดตรัง ถ่ายทอดความรู้การผลิตสารชีวภัณฑ์ในการปลูกพืช แก่เกษตรกรในพื้นที่ หมู่ที่ 3 ตำบลกันตังใต้ อำเภอกันตัง
นางบุญญาพร กายเพ็ชร นักวิชาการส่งเสริมการเกษตรชํานาญการ ปฏิบัติราชการแทนเกษตรอําเภอ มอบหมายให้นางสาวอมรรัตน์ ชูเมฆ นักวิชาการส่งเสริมการเกษตรปฏิบัติการ และ นางสาวสุคน ศรีเกตุ นักวิชาการส่งเสริมการเกษตร ถ่ายทอดความรู้การผลิตสารชีวภัณฑ์ในการปลูกพืช เพื่อเป็นการลดต้นทุนการผลิต และเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตโดยไม่ต้องใช้สารเคมี โดยมีการถ่ายทอดความรู้ สาธิตการทําเชื้อราไตรโคเดอร์มา การทําน้ําหมักน้ําซาวข้าว สมุนไพรไล่แมลง และการทําจุลินทรีย์สังเคราะห์แสง แก่เกษตรกรในพื้นที่ หมู่ที่ 3 ตําบลกันตังใต้ อําเภอกันตัง โดยมีนายขจรศักดิ์ สุวรรณวัฒน์ ผู้ใหญ่บ้าน ช่วยประสานงาน และเข้าร่วมกิจกรรม สําหรับเชื้อราไตรโคเดอร์มา เป็นเชื้อราชั้นสูง เจริญได้ดีในดินที่มีเศษซากพืช ซากของสิ่งมีชีวิตต่าง ๆ และวัสดุอินทรีย์ตามธรรมชาติ เชื้อราไตรโคเดอร์มา สามารถควบคุมโรคพืชในดินได้หลายชนิด เช่น เชื้อราไฟทอปธอรา (Phytophthora spp.) สาเหตุโรครากโคนเเน่า เชื้อราพิเทียม (Pythium spp.) สาเหตุโรคเมล็ดเน่า โรคโคนเน่าระดับดิน เชื้อราฟิวซาเรียม (Fusarium spp.) สาเหตุโรคโรคเหี่ยว เชื้อราสเคลอโรเทียม (Sclerotium spp.) สาเหตุของโรคโคนเน่า โรคเหี่ยวของผัก เชื้อราไรซอกโทเนีย (Rhizoctonia solani) สาเหตุโรคเน่าระดับดินของพืชผัก โรคใบติดของทุเรียน โรคกาบใบแห้งของข้าว ส่วน จุลินทรีย์สังเคราะห์แสง คือจุลินทรีย์ที่ช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกันโรคพืชได้ดี ทําให้เปลือกหรือลําต้นแข็งแรง ทนต่อการกัดกินของแมลง ช่วยกระตุ้นเซลล์เจริญบริเวณปลายรากพืชให้ขยายตัวและแตกแขนงได้ดี มีรากฝอยที่หากินเก่งจํานวนมากจึงทําให้พืชสามารถเพิ่มผลผลิตได้ดีเนื่องจากการสะสมอาหารได้มากขึ้น#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
30/3/2023
ภาคใต้
ตรัง
สวท.ตรัง
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230330165252343
null
ก.ทรัพย์ เร่งสร้างความรู้ความเข้าใจความเสียหายที่เกิดจากการลักลอบเผาป่าในพื้นที่ภาคเหนือ 17 จังหวัด พร้อมให้ทุกหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวดและดำเนินคดีให้ถึงที่สุด
กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เร่งสร้างความรู้ความเข้าใจความเสียหายที่เกิดจากการลักลอบเผาป่าในพื้นที่ภาคเหนือ 17 จังหวัด พร้อมให้ทุกหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวดและดําเนินคดีให้ถึงที่สุด นายสิทธิชัย เสรีส่งแสง ผู้ตรวจราชการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า จากการประชุมติดตามสถานการณ์และแก้ปัญหาไฟป่าหมอกควัน (ส่วนหน้าภาคเหนือ) ในพื้นที่จังหวัดเชียงรายและจังหวัดภาคเหนือ บริเวณสํานักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 15 (เชียงราย) เพื่อแก้ปัญหามลพิษจากฝุ่นละอองช่วงสถานการณ์วิกฤติเป็นการเร่งด่วน โดยให้ทุกหน่วยงานปฏิบัติการเชิงรุกและหยุดการเผาป่า พร้อมระดมกําลัง เครือข่ายอาสาสมัคร อุปกรณ์เครื่องมือ อากาศยานในการลาดตระเวนเฝ้าระวัง และปฏิบัติการดับไฟอย่างเข้มข้น ขณะเดียวกันกําชับให้แต่ละจังหวัดลงพื้นที่ชุมชนที่มีปัญหาไฟป่าเคาะประตูบ้านเพื่อประชาสัมพันธ์และป้องปรามการลักลอบเผาป่า เพราะสาเหตุการเกิดไฟป่าหมอกควันมาจากการกระทําของมนุษย์ที่จุดไปเผาป่าและพื้นที่เกษตรกรรม จึงขอให้ทุกหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายกับผู้ลักลอบเผา หรือผู้กระทําผิดอย่างเข้มงวด หากพบการกระทําความผิดจับกุมดําเนินคดีให้ถึงที่สุด ทั้งนี้ ให้กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืชและกรมป่าไม้เร่งจัดทําแผนการหรือมาตรการลดและจัดการจุดความร้อน (Hotspot) ในพื้นที่ป่าอนุรักษ์และป่าสงวนแห่งชาติรายพื้นที่
30/3/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230330165317345
null
จังหวัดตรัง จัดประชุมคณะกรรมการการเลือกตั้งสมาชิกสภาเกษตรกรประจำจังหวัดตรัง พิจารณาประกาศผลการเลือกตั้งสมาชิกสภาเกษตรกรจังหวัดตรัง ประเภทผู้แทนเกษตรกร
วันนี้ (30 มีนาคม 2566) นายสกุล ดํารงเกียรติกุล ปลัดจังหวัดตรัง เป็นประธานประชุมคณะกรรมการการเลือกตั้งสมาชิกสภาเกษตรกรประจําจังหวัดตรัง ครั้งที่ 3/2566 ณ ห้องประชุมสํานักงานสภาเกษตรกรจังหวัดตรัง อาคาร อ.ต.ก.เขต 4 ชั้น 2 ต.บางรัก อ.เมืองตรัง จ.ตรัง ตามที่ สํานักงานสภาเกษตรกรแห่งชาติ โดยเลขาธิการสภาเกษตรกรแห่งชาติ ได้ประกาศให้มีการเลือกตั้งและกําหนดวันเลือกตั้งสมาชิกสภาเกษตรกรจังหวัด ประเภทผู้แทนเกษตรกรพร้อมกันทั่วประเทศ ในวันอาทิตย์ที่ 19 มีนาคม 2566 จํานวน 9 เขต ที่ต้องจัดให้มีการเลือกตั้งประกบด้วย อําเภอเมืองตรัง 2 เขต อําเภอนาโยง 1 เขต อําเภอรัษฎา 1 เขต อําเภอห้วยยอด 2 เขต อําเภอกันตัง 1 เขต อําเภอวังวิเศษเขต 2 มีผู้มีสิทธิเลือกตั้ง 126,617 คน จํานวน 104 หน่วยเลือกตั้ง ผู้มาใช้สิทธิ์ 23,023 ราย โดยคณะกรรมการคณะกรรมการการเลือกตั้งสมาชิกสภาเกษตรกรจังหวัด ประจําอําเภอได้ดําเนินการตรวจสอบความถูกต้องของรายงานผลการนับคะแนนเลือกตั้งสมาชิกสภาเกษตรกรจังหวัด ประเภทผู้แทนเกษตรกร ในหน่วยเลือกตั้งเสร็จสิ้นแล้ว ตามข้อ 124 ของระเบียบสภาเกษตรกรแห่งชาติ ว่าด้วย หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการเลือกตั้งสมาชิกสภาเกษตรกรจังหวัด ประเภทผู้แทนเกษตรกร พ.ศ.2565 ทั้งนี้ ที่ประชุมได้พิจารณาประกาศผลการเลือกตั้งสมาชิกสภาเกษตรกรจังหวัดตรัง ประเภทผู้แทนเกษตรกร ให้เป็นไปด้วยความสุจริตและเที่ยงธรรม ไม่มีเรื่องร้องเรียน คัดค้านและโปร่งใส จึงประกาศผลการเลือกตั้งสมาชิกสภาเกษตรกรจังหวัดตรัง ประเภทผู้แทนเกษตรกร โดยประกาศรายชื่อผู้สมัครที่ได้คะแนนเสียงเลือกตั้งมากที่สุดเป็นรายเขตต่อไป#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
30/3/2023
ภาคใต้
ตรัง
สวท.ตรัง
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230330170109349
null
จังหวัดร้อยเอ็ด ร่วมประชุมติดตาม และแก้ไขปัญหากรณีไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละอองขนาดเล็ก
วันนี้ 30 มีนาคม 2566 เวลา 10.30 น. นายทรงพล ใจกริ่ม ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด มอบหมายให้ นายสนอง ดลประสิทธิ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด ร่วมรับฟังการประชุมติดตาม และแก้ไขปัญหากรณีไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละอองขนาดเล็ก ผ่านระบบวิดีทัศน์ทางไกล (VCS)? ณ ห้องศูนย์บัญชาการยุทธศาสตร์ (Smart Room)? ชั้น 2 ศาลากลางจังหวัดร้อยเอ็ด โดยมี นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรงมหาดไทย เป็นประธานการประชุม พร้อมด้วย นายโชตินรินทร์ เกิดสม รองปลัดกระทรวงมหาดไทย และนายบุญธรรม เลิศสุขีเกษม อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ร่วมประชุมติดตาม และแก้ไขปัญหากรณีไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละอองขนาดเล็กทั้งนี้ ประธานในที่ประชุม ได้ติดตามสถานการณ์ไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละอองขนาดเล็ก จากจังหวัดที่มีสถานการณ์ และได้รับผลกระทบสูง พร้อมเน้นย้ําให้ผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัด ติดตาม และใช้วิธีการที่สามารถควบคุมสถานการณ์ไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละอองขนาดเล็ก ต้องดําเนินการอย่างรวดเร็ว เฉียบขาด การปฏิบัติงานขอให้เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายใช้ความรอบคอบ ยึดข้อกฎหมายเป็นหลัก ขณะเดียวกันต้องคํานึงถึงความปลอดภัยด้วย และให้จังหวัดใช้การสื่อสารเชิงรุก เพื่อสร้างการรับรู้ ความเข้าใจให้กับประชาชนและสังคม ในการแก้ไขปัญหาสถานการณ์ไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละอองขนาดเล็กสวท.ร้อยเอ็ด#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
30/3/2023
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ร้อยเอ็ด
สวท.ร้อยเอ็ด
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230330174828369
null
จังหวัดสงขลา คัดเลือกสิ่งประดิษฐ์จากขยะรีไซเคิล (ถุงนม) ของศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก ในสังกัดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เพื่อรณรงค์การคัดแยกขยะพร้อมปลูกฝังให้เด็กและเยาวชนมีจิตสำนึกในการรักษ์สิ่งแวดล้อม
วันนี้ (30 มี.ค. 66) ที่ห้องประชุม CEO ศาลากลางจังหวัดสงขลา นายวรณัฎฐ์ หนูรอต รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา นําคณะกรรมการร่วมพิจารณาคัดเลือกสิ่งประดิษฐ์จากขยะรีไซเคิล (ถุงนม) ของศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก ในสังกัดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น มีการประกวดสิ่งประดิษฐ์จากขยะรีไซเคิล (ถุงนม) ของ ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กในสังกัดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เพื่อรณรงค์การคัดแยกขยะตั้งแต่ต้นทาง และปลูกฝังให้เด็กและเยาวชนมีจิตสานึกในการคัดแยกขยะและรักษ์สิ่งแวดล้อม ตลอดจนเรียนรู้การนําขยะรีไซเคิลกลับมาใช้ประโยชน์ตามที่ จังหวัดสงขลาได้ดําเนินการตามแผนบริหารจัดการขยะมูลฝอยชุมชน “จังหวัดสะอาด” เป็นประจําทุกปี โดยแจ้งให้อําเภอ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ส่วนราชการ และภาคส่วนต่างๆ บูรณาการการทํางานให้เป็นไปตามเป้าหมายที่กําหนด ทั้งนี้ จังหวัดสงขลามีศูนย์พัฒนาเด็กเล็กในสังกัดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จํานวน 317 แห่ง และปัจจุบันถุงนมที่เกิดจากศูนย์พัฒนาเด็กเล็กในแต่ละวันมีจํานวนมาก และไม่ได้ถูกนําไปใช้ประโยชน์ ดังนั้นเพื่อเป็นการปลูกจิตสํานึกให้กับเด็กเล็กในการคัดแยกขยะและเรียนรู้การนําขยะมารีไซเคิล เพื่อใช้ให้เกิดประโยชน์ จึงจัดให้มีการประกวดสิ่งประดิษฐ์จากขยะรีไซเคิล (ถุงนม) ของศูนย์พัฒนาเด็กเล็กขึ้นสําหรับการจัดประกวดสิ่งประดิษฐ์จากขยะรีไซเคิล (ถุงนม) ในครั้งนี้ มีศูนย์พัฒนาเด็กเล็กเข้าร่วม จํานวน 12 แห่ง ประกอบด้วย ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านบางเหรียง อําเภอควนเนียง ชื่อผลงาน กระเป๋าอเนกประสงค์จากถุงนม, ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านช่องเขา อําเภอจะนะ ชื่อผลงาน ตะกร้าจากกล่องนมและเสื้อกันเปื้อนจากถุงนม, ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กปฐมวัยเทศบาลตําบลนาทวี อําเภอนาทวี ชื่อผลงาน จักสานพาเพลิน, ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านหนองขวน อําเภอบางกล่ํา ชื่อผลงาน โซฟาโมเดล, ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กวัดบางดาน อําเภอเมืองสงขลา ชื่อผลงาน ถุงนมเพิ่มบุญ, ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านยางเอน อําเภอระโนด ชื่อผลงาน กระเป๋าสะพายสบายกระเป๋า,ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านเขารักเกียรติ อําเภอรัตภูมิชื่อผลงาน สื่อการสอน ชุดมารยาทในการรับประทานอาหาร, ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กชุมชนร่วมใจบ้านนางเหล้า อําเภอสทิงพระ ชื่อผลงาน รักแม่รักษ์โลก, ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กองค์การบริหารส่วนตําบลพังลา อําเภอสะเดา ชื่อผลงาน กระเป๋าสะพายจากถุงนมกล่องนม, ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านทับยาง อําเภอสะบ้าย้อย ชื่อผลงาน ร่มหรรษา, ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กมัสยิดยามีอัลอิสลาม อําเภอสิงหนคร ชื่อผลงาน ดอกไม้จากถุงนม และศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านโคกขี้เหล็ก อําเภอหาดใหญ่ ชื่อผลงาน เสื้อกันฝนจากถุงลมศิริลักษณ์ แคล้วคลาด/ข่าว ประชา-ชนพลพล/ภาพสํานักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสงขลา 30 มี.ค. 66#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
30/3/2023
ภาคใต้
สงขลา
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสงขลา
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230330185258408
null
“รมต.อนุชา” ถือฤกษ์เปิดโครงการ “โคล้านครอบครัว” นำร่องที่ชัยนาท หวังกระตุ้นเศรษฐกิจฐานราก
“รมต.อนุชา” ถือฤกษ์เปิดโครงการ “โคล้านครอบครัว” นําร่องที่ชัยนาท หวังกระตุ้นเศรษฐกิจฐานราก สร้างรายได้สร้างความมั่นคงให้สมาชิกกองทุนหมู่บ้านวันนี้ (30 มีนาคม 2566) เวลา 13.30 น. ณ หอประชุมศรีโพธิ์สุข โรงเรียนศึกษาพิเศษชัยนาท ตําบลชัยนาท อําเภอเมือง จังหวัดชัยนาท นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจําสํานักนายกรัฐมนตรี ในฐานะรัฐมนตรีกํากับดูแลสํานักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ (สทบ.) เป็นประธานเปิดงาน “สร้างเศรษฐกิจฐานราก สร้างชาติมั่นคง” ภายใต้โครงการเสริมสร้างเศรษฐกิจฐานราก เพื่อการพัฒนาหมู่บ้านและชุมชนเข้มแข็งอย่างยั่งยืน จัดโดย สํานักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ (สทบ.) โดยมี นายเบญจพล นาคประเสริฐ ผู้อํานวยการสํานักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ นายนที มนตริวัต ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยนาท นายธัชชญาณ์ณัช เจียรธนัทกานนท์ เลขานุการรัฐมนตรีประจําสํานักนายกรัฐมนตรี นายชนะศักดิ์ อัตถาวงศ์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีประจําสํานักนายกรัฐมนตรี หัวหน้าส่วนราชการ สมาชิกกองทุนหมู่บ้าน ฯ เข้าร่วมงานนายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจําสํานักนายกรัฐมนตรี ในฐานะรัฐมนตรีกํากับดูแลสํานักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ (สทบ.) กล่าวว่า การจัดงาน “สร้างเศรษฐกิจฐานราก สร้างชาติมั่นคง” ครั้งนี้ แสดงให้เห็นผลสําเร็จการดําเนินงานของสมาชิกกองทุน ฯ ทั่วประเทศ โดยได้ดําเนินการในพื้นที่ 4 ภูมิภาค 14 กลุ่มจังหวัด เพื่อเป็นเวทีแสดงผลงานและแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ระหว่างสมาชิกกองทุน ฯ และประชาชนที่สนใจ ส่งต่อแนวคิดสู่กองทุนหมู่บ้าน ฯ ในพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศ ตลอดจนส่งเสริมความรู้ ความเข้าใจ เพื่อพัฒนาทักษะโมเดลเศรษฐกิจ BCG ในบริบทของแต่ละพื้นที่ เพื่อนําไปต่อยอดและพัฒนาการบริหารงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองให้เกิดความเข้มแข็งต่อไป โดยการจัดกิจกรรมในวันนี้ ถือเป็นการเปิดตัวครั้งแรก มีสมาชิกกองทุนหมู่บ้าน จาก 9 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดชัยนาท จังหวัดลพบุรี จังหวัดสระบุรี จังหวัดพระนครศรีอยุธยา จังหวัดนนทบุรี จังหวัดปทุมธานี จังหวัดสระบุรี จังหวัดสิงห์บุรี และจังหวัดอ่างทอง ร่วมงาน ภายในงานประกอบด้วย กิจกรรมเสวนากองทุนหมู่บ้านต้นแบบ "ทําแล้ว ทําง่าย ทําได้...ไม่ยาก" โดยกองทุนหมู่บ้านต้นแบบประจําจังหวัดชัยนาท ได้แก่ สถาบันการเงินชุมชนบ้านวังหัวเรือ กองทุนหมู่บ้านวังหัวเรือ ตําบลวังตะเคียน อําเภอหนองมะโมง จังหวัดชัยนาท, กิจกรรม Upskill เรื่อง “โครงการโคล้านครอบครัว” จากผู้เชี่ยวชาญ, กิจกรรม Business Matching เพื่อต่อยอดโอกาสทางการค้า และกิจกรรมการจัดแสดงนิทรรศการเพื่อเผยแพร่องค์ความรู้ของกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง เพื่อนําความรู้ที่ได้กลับไปพัฒนาชุมชนเมืองของตนนายอนุชา กล่าวต่อไปว่า รัฐบาลได้ตระหนักถึงความสําคัญในการสร้างความเข้มแข็งให้เศรษฐกิจฐานรากของประเทศมาโดยตลอด โดยได้สนับสนุนให้เกิดกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง ที่มีกระจายอยู่ทุกหมู่บ้านและชุมชนทั่วประเทศ จํานวน 79,610 แห่ง มีสมาชิกทั่วประเทศกว่า 13 ล้านคน เพื่อส่งเสริมให้ประชาชนในชุมชนมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ด้วยการมุ่งเน้นให้กองทุนหมู่บ้านเป็นแหล่งเงินทุนหมุนเวียน เพื่อสร้างอาชีพ สร้างงาน และรายได้ให้คนในชุมชน ตามอัตลักษณ์และความโดดเด่นของแต่ละชุมชน โดยมีเป้าหมายเพื่อแก้ไขปัญหาความยากจน ลดความเหลื่อมล้ํา รวมถึงยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนทุกพื้นที่“ปัจจุบันรัฐบาลยังคงเดินหน้าสนับสนุนการดําเนินงานของกองทุนหมู่บ้านอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้พี่น้องประชาชนทั่วประเทศหลุดพ้นจากความยากจน และช่วยแก้ไขปัญหาหนี้สินที่ประชาชนหลายครัวเรือนประสบอยู่ ภายหลังจากได้รับผลจากกระทบสถานการณ์แพร่ระบาดโควิด-19 และสถานการณ์ภัยพิบัติทางธรรมชาติ ทั้งนี้ พบว่าสมาชิกกองทุน ฯ ส่วนมากประกอบอาชีพเกษตรกร แม้จะได้รับการสนับสนุนเงินทุนเพื่อจัดทําโครงการที่ผ่านมา แต่ก็ยังไม่ตอบโจทย์ สมาชิกหลายครัวเรือนยังไม่สามารถลืมตาอ้าปากได้ บางรายยังมีปัญหาหนี้สิน ในช่วงที่ตนกํากับดูแลกองทุนหมู่บ้าน ฯ จึงได้มีการหารือถึงแนวทางให้ความช่วยเหลือ และทําให้ประชาชนหลุดพ้นจากความยากจนอย่างยั่งยืน จนกระทั่งเกิดเป็นโครงการ “โคล้านครอบครัว” ที่ล่าสุดคณะรัฐมนตรีได้อนุมัติโครงการนี้เป็นที่เรียบร้อย จากการทดลองโครงการนําร่องที่จังหวัดสุโขทัย ประกอบกับได้ศึกษาค้นคว้ามาเป็นระยะเวลานาน ผมมั่นใจว่าการทําปศุสัตว์ เช่น การเลี้ยงโค จะเป็นทางออกที่ช่วยให้ประชาชนมีรายได้เพิ่มขึ้น จนกระทั่งสามารถปลดหนี้ มีเงินเก็บ และร่ํารวยได้ในอนาคต เพราะโคเลี้ยงไม่ยาก กินแต่หญ้า เบื้องต้นทางกองทุน ฯ จะให้การสนับสนุนเงินทุนสําหรับจัดหาโค 2 ตัว/ครัวเรือน เป็นเงินจํานวน 50,000 บาท ภายใน 1 ปี โคออกลูก สามารถทําเงิน ปลดหนี้ได้ปีต่อ ๆ ไป จะมีลูกหลานเพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณ หากเลี้ยงดีๆ พี่น้องกองทุน ฯ อาจมีโอกาสร่ํารวย ได้จับเงินล้าน ซึ่งเป็นสิ่งที่ทางรัฐบาลคาดหวังให้เศรษฐกิจฐานรากเงินหมุนเวียนเพิ่มขึ้น มีกําลังซื้อที่จะส่งผลต่อการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศได้ในอนาคต” นายอนุชา กล่าว #สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
30/3/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
ชัยนาท
สวท.ชัยนาท
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230330200142428
null
ค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ที่ จ.สุรินทร์ อยู่ในเกณฑ์คุณภาพอากาศ ปานกลาง 45.1 ไมโครกรัมลูกบาศก์เมตร ปภ.เน้นย้ำประชาชนช่วยกันรณรงค์งดการเผา
นายทวีศักดิ์ บัวพา นายช่างโยธาอาวุโส รักษาราชการแทน หัวหน้าสํานักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จังหวัดสุรินทร์ กล่าวถึง สถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน หรือ PM 2.5 ในพื้นที่จังหวัดสุรินทร์ ขณะนี้ว่า อยู่ในเกณฑ์คุณภาพอากาศ ปานกลาง ค่าฝุ่นละอองสูงที่สุดอยู่ที่อําเภอชุมพลบุรี 45.1 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร ต่ําที่สุดที่อําเภอพนมดงรัก 34.7 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร ภาพรวมทั้ง 17 อําเภอของจังหวัดสุรินทร์ อยู่ที่ 40.3 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร ส่วนภาพรวมของภาคตะวันออกเฉียงเหนืออยู่ในเกณฑ์ดี 23-48 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร โดยกรมควบคุมมลพิษคาดการณ์ว่า คุณภาพอากาศช่วง 2-3 วันข้างหน้า ปริมาณฝุ่นละอองมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นในบางพื้นที่ จึงยังคงเน้นย้ําให้ประชาชนช่วยกันเฝ้าระวังสุขภาพ สอดส่องดูแล และประชาสัมพันธ์ รณรงค์การงดการเผาทุกชนิดในช่วงเวลานี้ เพื่อลดมลพิษดังกล่าว#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
30/3/2023
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
สุรินทร์
สวท.สุรินทร์
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230330181330385
null
เกษตรวังวิเศษ เยี่ยมโครงการเกษตรเพื่ออาหารกลางวันโรงเรียนบ้านในปง หมู่ที่ 14 ตำบลอ่าวตง อำเภอวังวิเศษ จังหวัดตรัง
วันนี้ (30 มีนาคม 2566) นายนิกร ชิดเชื้อ เกษตรอําเภอวังวิเศษ พร้อมด้วย นายบดินทร์ ภักดี นักวิชาการส่งเสริมการเกษตรปฏิบัติการ สํานักงานเกษตรอําเภอวังวิเศษ เยี่ยมโครงการเกษตรเพื่ออาหารกลางวัน โรงเรียนบ้านในปง ได้นําแหนแดงไปสนับสนุนสําหรับกิจกรรมการเลี้ยงปลา รวมทั้ง ช่วยวางแผนการปลูกผัก/วัสดุในการเตรียมดินปลูก สร้างความพร้อมให้กับทางโรงเรียนได้ขยายผลโครงการต่อไป และโครงการนี้ได้รับความร่วมมือจากบุคลากรครูและนักเรียนเป็นอย่างดี ณ โรงเรียนบ้านในปง หมู่ที่ 14 ตําบลอ่าวตง อําเภอวังวิเศษ จังหวัดตรัง#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
30/3/2023
ภาคใต้
ตรัง
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดตรัง
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230330190824413
null
เกษตรวังวิเศษ เยี่ยมเกษตรกรแปลงใหญ่ทุเรียนหมู่ที่ 15 ตำบลอ่าวตง อำเภอวังวิเศษ จังหวัดตรัง
วันนี้ (30 มีนาคม 2566) นายนิกร ชิดเชื้อ เกษตรอําเภอวังวิเศษ สํานักงานเกษตรอําเภอวังวิเศษ มอบหมายให้นางสาวสุมนรัตน์ ตรึกตรอง นักวิชาการส่งเสริมการเกษตรชํานาญการพิเศษ จัดเวทีเยี่ยมเยี่ยนเกษตรกรแปลงใหญ่ผู้ปลูกทุเรียน นายวิสูตร แก้วสังข์ ซึ่งเป็นสมาชิกเกษตรแปลงใหญ่ทุเรียน หมู่ที่ 15 ตําบลอ่าวตง อําเภอวังวิเศษ จังหวัดตรัง มีการให้น้ําทุเรียนในช่วงฤดูแล้ง โดยระบบสูบน้ําพลังงานแสงอาทิตย์แบบเคลื่อนที่ (Mobile Solar pumping) ขนาดกําลังผลิตติดตั้งไม่น้อยกว่า 3,000 วัตต์ พร้อมระบบสูบน้ําท่อ 2 นิ้ว โครงการวางเสริมพลังงานทางเลือก (โซล่าเซลล์) แก่กลุ่ม/สถาบันเกษตรกรผู้ปลูกไม้ผลจังหวัดตรัง ดําเนินการโดยสํานักงานเกษตรจังหวัดตรัง และสํานักงานพลังงานจังหวัดตรัง และได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้ประสบการณ์การผลิตทุเรียนฤดูกาล 2566 ซึ่งอยู่ในระยะติดผลเล็ก และระยะดอกในช่วงมะเขือพวง และปัญหาอุปสรรคในการผลิตทุเรียน เช่น การคาดการณ์ในการขาดแคลนแหล่งน้ําที่อาจเกิดขึ้นถ้ามีการแล้งต่อเนื่อง หลักระบบให้น้ําของทุเรียน การใช้สารชีวภัณฑ์เพื่อลดต้นทุนการผลิตทุเรียน การจัดการธาตุอาหารในทุเรียน การตัดแต่งกิ่งทุเรียน ณ หมู่ที่ 15 ตําบลอ่าวตง อําเภอวังวิเศษ จังหวัดตรัง #สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
30/3/2023
ภาคใต้
ตรัง
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดตรัง
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230330191318416
null
เกษตรย่านตาขาว ลงพื้นที่ติดตามการดำเนินงานแปลงใหญ่กาแฟตำบลนาชุมเห็ด
วันนี้ (30 มีนาคม 2566) นายนนท์นภนต์ นาพอ เกษตรอําเภอย่านตาขาว มอบหมายให้นายธีรภัทร์ บุญฤทธิ์ และนางสาวเกศรินทร์ สุวรรณวัฒน์ นักวิชาการส่งเสริมการเกษตรปฏิบัติการ ลงพื้นติดตามการดําเนินงานของแปลงใหญ่กาแฟตําบลนาชุมเห็ด โดยติดตามการดําเนินงานเรื่อง การรับซื้อผลผลิตกาแฟของเกษตรกรผู้ปลูกกาแฟโดยรับซื้อกิโลกรัมละ 17 บาท (ผลสุกสีแดงเข้ม) ติดตามกระบวนการตากกาแฟ และติดตามการแปรรูปผลผลิตกาแฟ โดยปีการผลิตกาแฟ 2565/2566 กลุ่มรับซื้อผลผลิตจากสมาชิกกลุ่มจํานวน 4,000 - 5,000 กก. สามารถสร้างรายได้ให้แก่สมาชิกกลุ่ม จํานวน 1,700 - 8,500 บาทต่อราย ปัจจุบันกลุ่มดําเนินการรับซื้อผลผลิตกาแฟจากสมาชิกกลุ่มและเกษตรกรทั่วไปทั้งในและนอกอําเภอย่านตาขาว ผู้สนใจซื้อขายผลผลิตกาแฟ ติดต่อ 0946899246 นายเกษม ทองรอด ประธานแปลงใหญ่กาแฟตําบลนาชุมเห็ด อําเภอย่านตาขาว จังหวัดตรัง#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
30/3/2023
ภาคใต้
ตรัง
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดตรัง
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230330221741444
null
เกษตรย่านตาขาว ลงพื้นที่ร่วมประชุมสมาชิกกลุ่มผลิตปุ๋ยอินทรีย์บ้านปากคลองกลาง ตำบลโพรงจระเข้
วันนี้ (30 มีนาคม 2566) นายนนท์นภนต์ นาพอ เกษตรอําเภอย่านตาขาว มอบหมายให้นางแพรวพรรณ ทองพิทักษ์ นักวิชาการส่งเสริมการเกษตรชํานาญการ ร่วมกับนายปรีชา นิคะ ผู้ใหญ่บ้าน ลงพื้นที่ร่วมประชุมสมาชิกกลุ่มผลิตปุ๋ยอินทรีย์บ้านปากคลองกลาง หมู่ที่ 5 ตําบลโพรงจระเข้ อําเภอย่านตาขาว จังหวัดตรัง เพื่อชี้แจงหุ้นและงบประมาณในการก่อสร้างโรงเรือน ซึ่งปัจจุบันกลุ่มมีสมาชิกร่วมถือหุ้นจํานวน 33 ราย 188 หุ้น ๆ ละ 100 เป็นเงิน 18,800 บาท ซึ่งกําหนดผลิตปุ๋ยอินทรีย์ในวันที่ 20 เมษายน 2566 เพื่อส่งเสริมให้เกษตรกรในชุมชนใช้ปุ๋ยอินทรีย์ลดปริมาณปุ๋ยเคมี ในการลดต้นทุนการผลิตในภาคการเกษตร เนื่องจากปัจจุบันราคาปุ๋ยเคมีราคาสูงขึ้น แต่ในทางกลับกันราคาผลผลิตทางการเกษตรลดลงอย่างต่อเนื่อง และปัจจุบันคุณภาพของดินในพื้นที่ตําบลโพรงจระเข้ค่อนข้างเสื่อมโทรม ส่งผลให้เกษตรกรประสบปัญหาด้านต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้น ผลผลิตตกต่ํา ทางกลุ่มจึงคิดหาแนวทางในการลดต้นทุนในการผลิต โดยการรวมกลุ่มเพื่อผลิตปุ๋ยหมักอินทรีย์ และลดปริมาณการใช้ปุ๋ยเคมี เป็นการลดต้นทุนในภาคการเกษตร และสามารถกระจายรายได้ให้กับเกษตรกรในชุมชนให้มีรายได้เสริม อีกทั้งส่งเสริมให้คุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ของเกษตรกรในชุมชนมีความเข้มแข็งและยั่งยืนต่อไป และได้ร่วมกันจดทะเบียนวิสาหกิจชุมชนเพื่อขอรับการส่งเสริมหรือสนับสนุนจากคณะกรรมส่งเสริมวิสาหกิจชุมชน และเพื่อพัฒนากลุ่มให้มีความเข้มแข็งและยั่งยืนต่อไป #สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
30/3/2023
ภาคใต้
ตรัง
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดตรัง
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230330221848445
null
ก.ทรัพย์ เร่งติดตามสถานการณ์และแก้ปัญหาไฟป่าในพื้นที่ภาคเหนือ 17 จังหวัดเชิงรุก โดยให้เจ้าหน้าที่ลงพื้นที่เคาะประตูบ้านประชาสัมพันธ์และป้องปรามการลักลอบเผาป่า
กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เร่งติดตามสถานการณ์และแก้ปัญหาไฟป่าในพื้นที่ภาคเหนือ 17 จังหวัดเชิงรุก โดยให้เจ้าหน้าที่ลงพื้นที่เคาะประตูบ้านประชาสัมพันธ์และป้องปรามการลักลอบเผาป่า หากพบกระทําผิดบังคับใช้กฎหมายทันที นายสิทธิชัย เสรีส่งแสง ผู้ตรวจราชการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พร้อมด้วย นายปิ่นสักก์ สุรัสวดี อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) ได้ร่วมกันประชุมติดตามสถานการณ์และแก้ปัญหาไฟป่าหมอกควัน (ส่วนหน้าภาคเหนือ) ในพื้นที่จังหวัดเชียงรายและจังหวัดภาคเหนือ บริเวณสํานักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 15 (เชียงราย)หลังจากได้ยกระดับมาตรการป้องกันและแก้ปัญหามลพิษจากฝุ่นละอองช่วงสถานการณ์วิกฤติเป็นการเร่งด่วน เบื้องต้นกําชับให้ทุกหน่วยงานปฏิบัติการเชิงรุกและหยุดการเผาป่า ด้วยการให้ปิดป่าส่วนที่มีสถานการณ์ไฟป่าอยู่ในระดับวิกฤติ หรือเสี่ยงต่อการเกิดไฟป่าขั้นรุนแรง พร้อมระดมสรรพกําลัง เครือข่ายอาสาสมัคร อุปกรณ์เครื่องมือ อากาศยานในการลาดตระเวนเฝ้าระวัง และปฏิบัติการดับไฟอย่างเข้มข้น เนื่องจากปัญหาไฟป่าเป็นวิกฤติระดับชาติให้ร่วมกับฝ่ายปกครองและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ชุมชนที่มีปัญหาไฟป่าเคาะประตูบ้านเพื่อประชาสัมพันธ์และป้องปรามการลักลอบเผาป่า หากพบการกระทําความผิดจับกุมดําเนินคดีให้ถึงที่สุด โดยเฉพาะให้ทุกหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายกับผู้ลักลอบเผา หรือผู้กระทําผิดอย่างเข้มงวด ขณะเดียวกันให้กรมอุทยานฯและกรมป่าไม้จัดทําแผนการหรือมาตรการลดและจัดการจุดความร้อน (Hotspot) ในพื้นที่ป่าอนุรักษ์และป่าสงวนแห่งชาติรายพื้นที่ ทั้งนี้ ยังได้เน้นย้ําความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่เป็นสําคัญและต้องแสดงสถานะตําแหน่งระหว่างปฏิบัติงานตลอดเพื่อความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ รวมทั้ง ให้บริหารจัดการศูนย์ปฏิบัติการไฟป่า (WAR ROOM) อย่างต่อเนื่อง และเฝ้าระวังอย่าให้ไฟป่าลุกลามเป็นวงกว้าง
30/3/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230330191803418
null
โรงงาน จ.สงขลา เร่งขจัดก๊าซแอมโมเนียรั่ว ด้านชาวบ้านอพยพอยู่วัดมากว่า 3 คืน
วันนี้ (30 มีนาคม 2566) ความคืบหน้าเหตุการณ์ก๊าซแอมโมเนียรั่ว ภายในโรงงานซึ่งเป็นโรงงานผลิตอาหารแช่แข็งส่งออกต่างประเทศ ตั้งอยู่ในพื้นที่หมู่ 1 ต.ท่าข้าม อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา หลังเกิดเหตุเมื่อช่วงเวลา 22.00 น. คืนวันที่ 27 มีนาคมที่ผ่านมา ทําให้ต้องอพยพคนงานที่พักอยู่ในโรงงานนับร้อยคนออกมา ส่วนใหญ่เป็นแรงงานชาวเมียนมา พร้อมกันนี้ยังอพยพชาวบ้านโดยรอบโรงงานในรัศมี 300 เมตร ไปอยู่ที่วัดแม่เตย เพื่อความปลอดภัยด้านชาวบ้านที่อยู่อาศัยบริเวณนั้น ระบุว่ายังคงได้กลิ่นก๊าซแอมโมเนียอยู่เป็นระยะๆ โดยเฉพาะตอนกลางคืน ขณะนี้ไม่สามารถพักที่บ้านของตนเองได้ เพราะเกรงว่ากลิ่นของแอมโมเนียจะมีผลต่อสุขภาพ ขณะเดียวกันตอนนี้ต้นไม้ที่ปลูกอยู่ด้านหน้าโรงงาน และต้นทุเรียนของชาวบ้าน ก็พบว่า ใบของต้นไม้ทยอยร่วงลงมาเรื่อยๆ เชื่อว่าเป็นผลจากก๊าซที่รั่วออกมา ชาวบ้านบอกว่า ไม่เคยเจอปรากฎการณ์เช่นนี้มาก่อน ช่วงนี้จึงต้องอาศัยอยู่ภายในวัดไปก่อน แม้จะอยู่อย่างยากลําบากกว่าการอยู่ที่บ้าน และสูญเสียรายได้ไปบ้าง ซึ่งโรงงาน และภาครัฐท้องถิ่นได้เข้ามาดูแลเรื่องของอาหารในทุกมื้อ อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ต้องการมากที่สุดตอนนี้ คือ ความชัดเจนในการแก้ปัญหาให้จบโดยเร็ว เพื่อที่จะได้กลับไปใช้ชีวิตได้ตามปกติ แต่ก็พยายามเข้าใจทางโรงงานที่ต้องไล่แก้ไขปัญหาไปที่ละจุด เพื่อคนในพื้นที่และคนงาน ได้ใช้ชีวิตปกติ เพราะเราต้องพึ่งพาอาศัยกันในการดํารงชีพ ล่าสุด นายสินธพ อินทรัตน์ นายก อบต.ท่าข้าม ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่ดูแลพื้นที่ พร้อมด้วย นส.สุนารี บุญชุบ ปภ.สงขลา, เจ้าหน้าที่สํานักงานอุตสากรรมจังหวัด, สํานักงานสิ่งแวดล้อมและควบคุมมลพิษที่ 16, ตัวแทนโรงงาน, วิศวกร และภาคส่วนที่เกี่ยว ได้ออกมาตั้งโต๊ะแถลง หลังมีการเข้าไปตรวจสอบในรั้วโรงงานเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา จากการตรวจสอบ ของสํานักงานสิ่งแวดล้อมและควบคุมมลพิษที่ 16 ซึ่งเป็นการตรวจสอบค่าแอมโมเนีย ที่ลอยในอากาศบริเวณภายนอกของโรงงาน โดยเริ่มตรวจคุณอากาศมาตั้งแต่วันที่ 28 มีนาคม หลังเกิดเหตุ จํานวน 8 จุด ค่าที่ตรวจวัดได้อยู่ 3 ถึง 5 ppm / 29 มีนาคม อยู่ที่ประมาณ 3 ถึง 12 ppm แต่ส่วนของหน้าโรงงานค่อนข้างที่จะสูง อยู่ที่ 27 ppm / ส่วนวันนี้ 30 มีนาคม ช่วงเวลาประมาณ 09.00 น. อยู่ที่ 2.5 ถึง 6.5 ppm ซึ่งด้านมาตรฐานความปลอดภัยที่แพทย์แนะนํา คือ ต้องไม่เกิน 25 ppmสําหรับกระบวนการลดความเข้มข้นของแอมโมเนีย ที่อัดอยู่ในห้องหล่อเย็น ขณะนี้เจ้าหน้าที่กําลังใช้วิธีการเป่าระบายตัวก๊าซเหลืออยู่ประมาณ 140 ลูกบาศก์เมตร ออกมา..พร้อมกับฉีดพ่น ฉีดม่านน้ํา ดักจับไม่ให้ก๊าซแพร่กระจายออกนอกพื้นที่ ส่วนน้ําที่ไหลมาจากม่านน้ํา ซึ่งปนเปื้อนแอมโมเนีย ทางโรงงานได้มีการปิดกั้น ไม่ให้ไหลลงสู่ลํารางสาธารณะ และนําน้ําที่ปนเปื้อน ผลักเข้าสู่กระบวนการบําบัดน้ําเสีย แต่โดยปกติแล้วแอมโมเนียสามารถละลายกับน้ําได้ดี และระเหยหายไปภายในประมาณ 3 วัน ทั้งนี้ กระบวนการลดความเข้มข้นของแอมโมเนีย ต้องมีการวางแผนอย่างรัดกุม เนื่องจากว่ามีการฟุ้งกระจายออกมาเป็นระยะๆ โดยภายในห้องที่เกิดเหตุ ก็มีก๊าซสะสมอยู่ภายในปริมาณที่มากพอสมควร ตรงนี้จะต้องหารือเพื่อหาวิธีดําเนินการต่อไป..ด้านวิศวกรจากบริษัท ฤทธา จํากัด ซึ่งเป็นผู้ออกแบบและก่อสร้างโรงงาน ได้เข้ามาตรวจสอบโครงสร้างอาคารที่เอนเอียงผิดรูป ระบุว่า อาคารนี้เป็นอาคารคอนกรีตเสริมเหล็ก ก่อสร้างมาเป็นเวลา 17 ปีแล้ว จากการตรวจสอบเบื้องต้นด้วยตาเปล่า เนื่องจากยังไม่สามารถเข้าไปที่ห้องเกิดเหตุได้ พบว่า ฝาผนังห้องเย็นมีการทรุดตัว ทําให้ตัวโครงสร้างตัวหลังคาหลุดลงมา แต่ตอนนี้เข้าสู่ภาวะปกติแล้ว คาดว่า ตัวอาคารจะไม่มีการทรุดตัวลงไปมากกว่านี้ โดยหลังจากนี้จะมีการตรวจสอบโดยละเอียดอีกครั้ง หลังจากที่ปริมาณแอมโมเนียลดลงในระยะปลอดภัย ยืนยันว่า ในระยะนี้หากไม่มีเอฟเฟคภายนอกเข้ากระทบ ตัวอาคารจะไม่ทรุดตัวอีกแน่นอน ระหว่างนี้ต้องปิดตัวอาคารไม่ให้ใครเข้าไปในบริเวณโดยรอบ และภายในได้โดยเด็ดขาดไปก่อน ส่วนกรณีที่ชาวบ้าน บอกว่า ได้ยินเสียงคล้ายระเบิดดังขึ้น ด้านผู้แทนวิศวกรโรงงาน ยืนยัน ไม่มีเหตุระเบิดขึ้นอย่างแน่นอน เสียงที่ได้ยินมาจากโครงการอาคารที่ยุบตัว เป็นเสียงของการกระแทกซึ่งอาจคล้ายกับเสียงระเบิด สําหรับการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบ ทั้งประชาชนโดยรอบ และคนงาน ด้าน นางสาวสโรช ดวงมณี ผู้บริหารส่วนงานบริหาร บริษัท นิสซุย (ประเทศไทย) จํากัด ยืนยันว่ าจะมีการดูแลเยียวยาบรรเทาความเดือดร้อนอย่างแน่นอน โดยจะมีการสํารวจอีกครั้งเพื่อนําข้อมูลมาดูว่า ได้รับผลกระทบด้านใดบ้าง ทั้งการใช้ชีวิต ชุมชน สัตว์เลี้ยง สิ่งของ รวมถึงสิ่งแวดล้อม แล้วนํามาสรุปว่า มีจํานวนผู้ได้รับผลกระทบจํานวนเท่าไหร่ เพื่อดูแลให้ครอบคลุม รวมถึงพนักงานของโรงงานด้วย ทั้งนี้ หากถามว่า แล้วประชาชนจะได้กลับไปอาศัยที่บ้านของตนเองได้ตามปกติเมื่อไหร่นั้น ต้องมีการตรวจสอบความคุณภาพอากาศอีกครั้ง เพื่อความปลอดภัย แต่คงใช้เวลาอีกไม่นาน พร้อมกับขอโทษต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นด้วย เป็นอุบัติเหตุที่ไม่มีใครคาดคิด หลังจากนี้ต้องวางระบบ วางแผนกันใหม่เพื่อความรัดกุม ไม่ให้เกิดเหตุซ้ําขึ้นมาอีก ส่วนอาการป่วยจากผลกระทบของก๊าซแอมโมเนีย ทางโรงพยาบาล และหน่วยงานสาธารณสุขในพื้นที่จังหวัดสงขลา ได้เข้ามาตั้งหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ ภายในวัดแม่เตยตั้งแต่วันแรก พบว่า มีผู้เข้ารับการคัดกรองทั้งสิ้น 178 ราย บางรายมีอาการระคายเคียงผิวหนัง แสบตา หายใจติดขัด และมี 2 รายที่อาการหอบหืดกําเริบ โดยภาพรวมส่วนใหญ่ ไม่พบอาการรุนแรง และยังไม่พบความผิดปกติ โดยเฉพาะทางระบบทางเดินทางเดินหายใจ ซึ่งหน่วยแพทย์ฯ ได้จัดรถเอ็กซเรย์ไว้บริการด้วย #สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
30/3/2023
ภาคใต้
สงขลา
สทท.สงขลา
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230330224523465
null
สถาบันปิดทองหลังพระฯ เดินหน้าโครงการซ่อมแซมเสริมศักยภาพแหล่งน้ำขนาดเล็ก เพื่อการเกษตรทฤษฎีใหม่ต่อเนื่อง พร้อมพัฒนาแหล่งน้ำในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 9 จังหวัดลุ่มน้ำมูล
สถาบันส่งเสริมและพัฒนากิจกรรมปิดทองหลังพระ สืบสานแนวพระราชดําริ เดินหน้าโครงการซ่อมแซมเสริมศักยภาพแหล่งน้ําขนาดเล็ก เพื่อการเกษตรทฤษฎีใหม่ต่อเนื่อง พร้อมพัฒนาแหล่งน้ําในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 9 จังหวัดลุ่มน้ํามูล เพื่อให้มชประชาชนมีน้ําเพียงพอ นายกฤษฎา บุญราช ประธานกรรมการสถาบันส่งเสริมและพัฒนากิจกรรมปิดทองหลังพระ สืบสานแนวพระราชดําริ กล่าวว่า จากการลงพื้นที่ ต.วังหิน อ.โนนแดง และ ต.กําปัง อ.โนนไทย จ.นครราชสีมา ติดตามโครงการซ่อมแซมเสริมศักยภาพแหล่งน้ําขนาดเล็ก เพื่อการเกษตรทฤษฎีใหม่และเป็นการสืบสาน รักษา ต่อยอด และขยายผลโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดําริ โดยพื้นที่นี้หน่วยราชการปกติไม่สามารถดึงน้ําในฝายที่อยู่ต่ําขึ้นที่สูงเพื่อกระจายน้ําเข้าสู่แปลงของเกษตรกรได้ สถาบันปิดทองหลังพระฯจึงได้นําอดีตข้าราชการด้านยุทธศาสตร์น้ํา สํานักงานทรัพยากรน้ําแห่งชาติ เป็นวิศวกรที่มีความเชี่ยวชาญด้านน้ํามาช่วยออกแบบ เพื่อยกน้ําขึ้นที่สูงและให้น้ําไหลเข้าแปลงของเกษตรกรผ่านระบบท่อใต้ดิน มีข้อดีคือไม่เสียพื้นที่ทําเกษตรสามารถใช้หน้าดินเพาะปลูกได้เต็มศักยภาพ แต่มีเงื่อนไขสําคัญต้องมาจากความต้องการที่แท้จริงของชุมชนโดยประชาชนมีส่วนร่วมสละแรงงานในการซ่อมแซม และหลังจากซ่อมแซมแล้วเสร็จต้องตั้งคณะกรรมการกลุ่มผู้ใช้น้ําเพื่อช่วยกันดูแลบํารุงรักษาให้สามารถใช้งานได้ต่อเนื่อง ทั้งนี้ สถาบันปิดทองหลังพระฯ ได้รับงบประมาณเงินอุดหนุนจากกรมทรัพยากรน้ําและเงินบริจาคของมูลนิธิตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยรวม 42.88 ล้านบาท มาสนับสนุนให้หน่วยราชการในจังหวัดและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ จากนั้นหารือกับประชาชนประสบปัญหาและมีความต้องการให้ซ่อมแซมหรือเสริมศักยภาพแหล่งน้ําขนาดเล็กอะไรบ้าง ที่ถูกปล่อยไว้ไม่มีหน่วยงานใดเข้ารับผิดชอบ เนื่องจากขาดแคลนงบประมาณและไม่มีระเบียบราชการที่เปิดช่องทางให้ สําหรับพื้นที่ขอรับการสนับสนุนจากสถาบันปิดทองหลังพระฯได้ต้องเป็นพื้นที่ประชาชนมีความต้องการโดยยินดีที่จะสละแรงงานและเวลามาร่วมก่อสร้างซ่อมแซม ซึ่งปีนี้มีพื้นที่ดําเนินการรวม 9 จังหวัดในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ใช้งบประมาณ 42.88 ล้านบาท รวม 139 โครงการ คาดว่า ประชาชนจะได้รับประโยชน์ไม่น้อยกว่า 9,751 ครัวเรือน และพื้นที่ทําการเกษตร ได้รับน้ํา 46,800 ไร่
30/3/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230330204227439
null
“รมต.อนุชา” เผยโมเดลโครงการ“ โคล้านครอบครัว” สร้างความมั่งคั่งให้ประชาชนได้จริงที่ตำบลสะพานหิน จังหวัดชัยนาท
นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจําสํานักนายกรัฐมนตรี กล่าวหลังเป็นประธานเปิดงานสร้างเศรษฐกิจฐานราก เพื่อการพัฒนาหมู่บ้านและชุมชนเข้มแข็งอย่างยั่งยืน ณ หอประชุมศรีโพธิ์สุข โรงเรียนศึกษาพิเศษชัยนาท ว่า โครงการ “โคล้านครอบครัว” มุ่งเน้นช่วยเหลือประชาชนให้สามารถหลุดพ้นจากความยากจน เพราะวัวกินแต่หญ้า ถ้าเป็นวัวเพศเมียเมื่อถึงปีจะออกลูกออกหลาน ถ้าครั้งแรกที่ซื้อวัวมีลูกติดท้องมา ในระยะเวลา 3 ปี ท่านจะมีวัว 10 ตัว ภายใน 3 ปี ท่านสามารถมีเงินแสน และใน 6 ปีท่านจะมีเงินล้าน เพราะวัวจะออกลูกออกหลานได้ถึง 42 ตัว คิดเป็นเงินกว่า 1 ล้านบาท มีตัวอย่างให้ไปดูได้ที่ ตําบลสะพานหิน อําเภอหนองมะโมง ซึ่งเราได้ทําการทดลองแล้วประสบความสําเร็จ จาก 300 ครอบครัว มาเป็น 1,000 ครอบครัว ในตําบลสะพานหินเป็นแบบอย่างที่สามารถเห็นได้ชัด ที่สามารถสร้างให้มีความมั่งคั่งมากที่สุด จากที่เคยเป็นตําบลที่จนที่สุดในจังหวัดชัยนาท ด้วยเวลาเพียง 3 ปี ตรงนี้กองทุนหมู่บ้านพยายามที่จะทําให้ลูกหลานของกองทุนหมู่บ้านประสบความสําเร็จในชีวิต ด้วยวิธีการที่กองทุนหมู่บ้านคิด และเป็นนโยบายที่รัฐบาลให้งบประมาณมาแล้ว ถือได้ว่าเป็นก้าวแรกที่จะเกิดการเปลี่ยนแลงประเทศของเราโดยเฉพาะอย่างยิ่งในส่วนของพี่น้องกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติทั้ง 13 ล้านคน #สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
30/3/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
ชัยนาท
สวท.ชัยนาท
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230331014309494
null
นักวิจัยอียิปต์นำฝุ่น PM2.5 ในตะวันออกกลางมาวิเคราะห์ด้วยซินโครตรอนที่โคราช
นักวิจัยอียิปต์นําฝุ่น PM2.5 ในตะวันออกกลางและกรุงไคโรมาวิเคราะห์ด้วยแสงซินโครตรอนจากเครื่องกําเนิดในโคราช เพื่อทําความเข้าใจลักษณะเฉพาะของฝุ่นและโมเลกุลต่างๆ ที่ประกอบอยู่ในอนุภาคฝุ่น คาดหวังจะได้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อการแก้ปัญหามลภาวะทางอากาศศ.ดร.อับดัลลาห์ เอ.เชาท์ทูท (Prof. Dr. Abdallah A. Shaltout) อาจารย์จากภาควิชาสเปกโตรสโกปี สถาบันวิจัยฟิสิกส์ ศูนย์วิจัยแห่งชาติอียิปต์ พร้อมด้วย ดร.ซาฟาอ์ เอส.เอ็ม. อาลี (Dr.Safaa S.M. Ali) ผู้ช่วยวิจัยจากภาควิชาสเปกโตรสโกปี จากศูนย์วิจัยเดียวกัน ได้นําตัวอย่างฝุ่น PM2.5 ซึ่งเป็นตัวอย่างฝุ่นในแถบตะวันออกกลางและกรุงไคโรของอียิปต์ มาศึกษาด้วยเทคนิคการดูดกลืนรังสีเอกซ์ (XAS) ณ ระบบลําเลียงแสงที่ 7.2 ของสถาบันวิจัยแสงซินโครตรอน (องค์การมหาชน) ซึ่งตั้งอยู่ที่ จ.นครราชสีมา เพื่อทําความเข้าใจลักษณะเฉพาะของฝุ่นและโมเลกุลต่างๆ ที่ประกอบอยู่ในอนุภาคฝุ่นศ.ดร.อับดัลลาห์ เอ.เชาท์ทูท กล่าวว่า “โชคดีที่เราได้มาทําวิจัยที่นี่นาน 2 เดือนจึงมีเวลามากพอที่จะได้ศึกษาเรื่องอนุภาคฝุ่น ซึ่งมีอยู่ทั่วไปในชั้นบรรยากาศ ยิ่งอนุภาคฝุ่นมีขนาดเล็กมากจะยิ่งเข้าสู่ปอดของเราได้ง่ายขึ้นผ่านระบบหายใจ แล้วเข้าสู่กระแสเลือด ซึ่งจะสร้างปัญหาใหญ่หลวงต่อสุขภาพได้ เราได้ศึกษาปัญหามลภาวะและอนุภาคฝุ่นละเอียดมานานหลายปีแล้ว ในครั้งนี้เราได้นําตัวอย่างฝุ่นซึ่งมีฝุ่นขนาดเล็ก PM2.5 มาศึกษา ฝุ่นดังกล่าวสามารถเข้าสู่ระบบหายใจของเราได้ง่าย”“เราประสบความสําเร็จในการจําแนกบางลักษณะของตัวอย่างฝุ่น แม้จะยังไม่ครบถ้วน แต่ก็หวังว่าข้อมูลที่ได้จะเป็นประโยชน์ต่อการแก้ปัญหามลภาวะทางอากาศ” ศ.ดร.อับดัลลาห์ เอ.เชาท์ทูท กล่าว และบอกด้วยว่า แสงซินโครตรอนให้ข้อมูลได้มากกว่าข้อมูลจากเครื่องมือทดสอบในห้องปฏิบัติการทั่วไป โดยวิเคราะได้ง่ายกว่า และให้ข้อมูลที่มีรายละเอียดมากกว่า นอกจากการศึกษาฝุ่นขนาดเล็กแล้ว ศ.ดร.อับดัลลาห์ เอ.เชาท์ทูท และผู้ช่วยวิจัยยังนําตัวอย่างนิ่วในไตจากโรงพยาบาลในอียิปต์มาวิเคราะห์ด้วยแสงซินโครตรอน เพื่อศึกษาลักษณะของนิ่วในไตซึ่งสามารถวิเคราะห์เข้าไปถึงแกนกลางของนิ่วและแต่ละชั้นของนิ่วได้ ซึ่งการเดินทางมาวิจัยที่ประเทศไทยของนักฟิสิกส์จากอียิปต์ครั้งนี้ได้รับทุนสนับสนุนจากโครงการ LAAAMP (Lightsources for Africa, the Americas, Asia, Middle East and Pacific) โครงการที่เปิดโอกาสให้อาจารย์และนักศึกษาจากทั่วโลกได้มีประสบการณ์ในการทําวิจัยด้วยแสงซินโครตรอน โดยได้ทํางานร่วมกับนักวิจัยสองท่านของสถาบันวิจัยแสงซินโครตรอน คือ ดร.สมชาย ตันชรากรณ์ และ ดร.วราภรณ์ ตัณฑนุช#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
30/3/2023
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
นครราชสีมา
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนครราชสีมา
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230331064140513
null
โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาลำตะคอง จัดการประชุมเกษตรกรผู้ใช้น้ำชลประทานคลองส่งน้ำสายใหญ่ฝั่งซ้าย (LMC)
วันนี้ (30 มีนาคม 2566) เวลา 09.30 น. นายสุคนธ์ เต็มยศยิ่ง ผู้อํานวยการโครงการส่งน้ําและบํารุงรักษาลําตะคอง มอบหมายให้ นายอํานาจ วรรณมาโส หัวหน้าฝ่ายจัดสรรน้ําและปรับปรุงระบบชลประทาน และ นายนพปฎล เทพรัตน์ หัวหน้าฝ่ายส่งน้ําและบํารุงรักษาที่ 4 จัดการประชุมเกษตรกรผู้ใช้น้ําชลประทานคลองส่งน้ําสายใหญ่ฝั่งซ้าย (LMC) กม.0+000-3+000 ประตูระบายน้ําโคกแฝก ตําบลโคกแฝก อําเภอขามทะเลสอ จังหวัดนครราชสีมา ในการนี้มี นายสุรรกุล แสนลา ปลัดอําเภอขามทะเลสอ เข้าร่วมประชุมด้วย เพื่อรับฟังปัญหาและสาเหตุ พร้อมข้อเสนอแนะการบริหารจัดการน้ําในพื้นที่ และร่วมกันชี้แจงแนวทางการปรับปรุงคลอง LMC เพื่อนําข้อมูลที่ได้ไปใช้เป็นข้อมูลในการออกแบบ โครงการปรับปรุงคลองส่งน้ําสายใหญ่ฝั่งซ้าย (LMC) ประตูระบายน้ําโคกแฝก ซึ่งได้จัดเข้าแผนงานก่อสร้างประจําปีงบประมาณ พ.ศ. 2567-2569 เพื่อให้เป็นไปตามระเบียบสํานักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการรับฟังเสียงประชาชน พ.ศ. 2548 ณ ศาลาวัดโคกแฝก ตําบลขามทะเลสอ อําเภอขามทะเลสอ จังหวัดนครราชสีมา#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
30/3/2023
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
นครราชสีมา
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนครราชสีมา
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230331022229506
null
ปภ. ขอความร่วมมือทุกภาคส่วนทั้งภาคประชาชน ภาคอุตสาหกรรม ภาคก่อสร้าง ร่วมกันลดการเกิดฝุ่น PM2.5
นายบุญธรรม เลิศสุขีเกษม อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กล่าวถึงแผนปฏิบัติการของ ปภ. เกี่ยวกับสถานการณ์ไฟป่า หมอกควันและฝุ่น PM2.5 ว่า ปภ. จะช่วยสนับสนุนตามที่จังหวัดร้องขอความช่วยเหลือตามสถานการณ์ของแต่ละจังหวัด โดยแบ่งเป็น 2 ส่วนคือ ส่วนแรกการช่วยจังหวัดจัดการต้นเหตุของการเกิดไฟป่าด้วยการส่งเครื่องมืออุปกรณ์ช่วยดับไฟป่าสนับสนุนทางภาคพื้นดิน และส่วนที่ 2 การใช้อากาศยานบินหรือเฮลิคอปเตอร์ KA 32 ช่วยเหลือในพื้นที่ ขณะนี้จากที่พื้นที่ภาคเหนือเกิดสถานการณ์ฝุ่น PM2.5 ที่เกินเกณฑ์ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจึงได้เข้าไปช่วยเหลือตามที่จังหวัดร้องขอ เช่น ใช้เครื่องพ่นละอองฝอยเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นในอากาศ รวมถึงยังได้ดําเนินการตามแผนปฏิบัติการขับเคลื่อนวาระแห่งชาติการแก้ไขปัญหามลพิษด้านฝุ่นละออง ซึ่งมีทั้งการแก้ปัญหาระยะสั้นและระยะยาว โดยในระยะสั้น ปภ. ได้เตรียมการล่วงหน้าตั้งแต่ก่อนเข้าหน้าแล้งด้วยการให้ผู้ว่าราชการจังหวัดประเมินสถานการณ์ความแห้งแล้งของพื้นที่ที่อาจเกิดไฟป่าและฝุ่น PM2.5 การกําหนดระยะเวลาห้ามเผา อย่างไรก็ตาม การแก้ปัญหาฝุ่น PM2.5 ให้ประสบผลสําเร็จจะต้องขอความร่วมมือทุกภาคส่วนทั้งภาคประชาชน ภาคอุตสาหกรรมและภาคการก่อสร้าง ที่ต้องร่วมกันลดการเกิดฝุ่น PM2.5 ตั้งแต่ต้นทาง เช่น ลดการเผาและใช้เครื่องยนต์ที่ไม่ก่อให้เกิดมลพิษ
31/3/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230331090156526
null
ชาวสวนระยอง ดีใจ ผลผลิตทุเรียนปีนี้เพิ่มขึ้น ได้คุณภาพ แถมราคาดี มีผู้สั่งซื้อล่วงหน้าถึงสวน ขณะที่อธิบดีกรมวิชาการเกษตร เปิดจุดให้บริการเกษตกรตรวจสอบทุเรียนคุณภาพ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่สวนสร้างสุขระยองฮิ กลุ่มแปลงใหญ่ทุเรียนบ้านหินแท่น หมู่ 2 ต.วังจันทร์ อ.วังจันทร์ จ.ระยอง นายระพีภัทร์ จันทรศรีวงศ์ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร พร้อมด้วย นายพิทวัฒน์ อ่อนทองหลาง ผู้อํานวยการสํานักวิจัยและพัฒนาการเกษตรเขตที่ 6 นายธนโชค พงษ์ชวลิต เกษตรและสหกรณ์จังหวัดระยอง นายนพดล แดงพวง ผู้อํานวยการศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรระยอง นางสาวนิธินาฏ เมืองแมน นักวิชาการเกษตรชํานาญการ ผู้แทนเกษตรจังหวัดระยอง นายมานพ โปษยาอนุวัตร์ เกษตรอําเภอวังจันทร์ ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมติดตามสถานการณ์การผลิตสินค้าเกษตร (ทุเรียนและไม้ผล) ภาคตะวันออก และการให้บริการของจุดบริการสํานักงานเกษตรอําเภอในการตรวจความสุกแก่ของทุเรียนระยอง เพื่อควบคุมคุณภาพทุเรียนที่จะจําหน่ายออกสู่ตลาดในฤดูกาลนี้ รวมทั้งติดตามผลกระทบจากวาตภัยจากพายุฤดูร้อนที่มีการแจ้งเตือนช่วงวันที่ 28-29 มี.ค.66 นี้นายระพีภัทร์ จันทรศรีวงศ์ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร กล่าวว่า วันนี้มีความห่วงใยพี่น้องเกษตกรในพื้นที่ภาคตะวันออก พบปะพี่น้องเกษตรกรจํานวนหลายราย ที่นําตัวอย่างทุเรียนมาส่งตรวจความสุกแก่ของทุเรียนระยอง ที่จะจําหน่ายออกสู่ตลาดในฤดูกาลนี้ มีการตรวจเปอร์เซนต์แป้งในทุเรียนเพื่อแสดงถึงความสุกแก่ของทุเรียน เป็นมาตรการหนึ่งที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ต้องการรักษาคุณภาพทุเรียนที่จะออกจําหน่ายสู่ผู้บริโภคทั้งภายในประเทศและส่งออกไปจําหน่ายยังต่างประเทศ จากการมาตรวจเยี่ยมฯ ทําให้เห็นว่า พี่น้องเกษตรกรเห็นถึงความสําคัญจําเป็นนี้ และให้ความร่วมมือเป็นอย่างดีในการนําตัวอย่างทุเรียนมาส่งตรวจ และรับหนังสือรับรองจากเจ้าหน้าที่ ณ จุดบริการของสํานักงานเกษตรอําเภอ ทุกแห่ง จึงมั่นใจได้ว่า ผลผลิตทุเรียนของจังหวัดระยอง รวมทั้งจังหวัดต่างๆ จะเก็บเกี่ยวเฉพาะทุเรียนแก่และมีคุณภาพออกจําหน่าย ผู้บริโภคทั้งภายในประเทศและต่างประเทศจะได้รับประทานทุเรียนจากประเทศไทยที่มีคุณภาพและมาตรฐานเดียวกัน นายระพีภัทร์ กล่าวอีกว่า เนื่องจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน) รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (นางมนัญญา ไทยเศรษฐ์) มีความห่วงใยในสถานการณ์ดังกล่าว ซึ่งจากการมาลงพื้นที่ในจังหวัดระยอง นับเป็นโชคดีของพี่น้องเกษตรกรจังหวัดระยอง ที่มีการคาดการณ์ว่าจะมีปริมาณผลผลิตกว่า 164,000 ตัน ในพื้นที่ให้ผลผลิตกว่า 74,000 ไร่ ไม่ได้รับความเสียหายจากวาตภัยครั้งนี้ แต่จังหวัดใกล้เคียงคือ จันทบุรี และตราด ได้รับผลกระทบและเกิดความเสียหายในสวนทุเรียน ผลทุเรียนร่วง และบางส่วนถึงกับต้นหักโค่นลงมา ขณะนี้มีประมาณการความเสียหายรวมกว่า 1,500 ตัน ทางกรมวิชาการเกษตร และหน่วยงานต่างๆ ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รวมทั้งจังหวัด และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กําลังเร่งรัดสํารวจความเสียหาย เพื่อให้การช่วยเหลืออย่างเร่งด่วนต่อไปด้านนายจรูญ โพธิ์ทอง ประธานกลุ่มแปลงใหญ่ทุเรียนบ้านเขาหินแท่น อ.วังจันทร์ จ.ระยอง กล่าวว่า ผลผลิตทุเรียนระยองปีนี้แบ่งออกเป็น 3 รุ่น คือต้นเดือนเมษายน 40 เปอร์เซ็นต์ ต้นเดือน พ.ค. 20 เปอร์เซ็นต์ และต้นเดือน มิ.ย.อีกประมาณ 20 เปอร์เซ็นต์ ทยอยออกสู่ตลาด ส่วนเรื่องผลกระทบจากพายุฤดูร้อน ในพื้นที่ระยองยังไม่ได้รับความเสียหาย ปีนี้คาดว่าทุเรียนระยองจะมีราคาค่อนข้างดี มีการติดต่อขอซื้อในราคาสูงกว่าปีที่แล้วมาก เพราะเรามีการยกระดับเป็นทุเรียนคุณภาพ จาก 32 เปอร์เซ็นต์แป้ง เป็น 35 เปอร์เซ็นต์แป้ง จะไม่มีการนําทุเรียนด้อยคุณภาพออกสู่ตลาดแน่นอนสําหรับผู้ที่ต้องการเดินทางมาท่องเที่ยวจังหวัดระยอง และต้องการบริโภคผลไม้ชนิดอื่นๆ แนะนําให้มาในช่วงเดือนพฤษภาคมเพราะจะมีเงาะ มังคุด ลองกอง ออกสู่ตลาดด้วย ส่วนช่วงเดือนเมษายนจะมีแต่ทุเรียนอย่างเดียว#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
31/3/2023
ภาคตะวันออก
ระยอง
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดระยอง
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230331091331533
null
กรมชลประทาน เดินหน้ากำจัดวัชพืชในหลายพื้นที่อย่างต่อเนื่อง เพิ่มประสิทธิภาพการส่งน้ำให้กับเกษตรกร
นายประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า กรมชลประทาน ติดตั้งเครื่องจักร เครื่องมือและนําเรือเล็ก เข้าไปกําจัดวัชพืชและสิ่งกีดขวางทางน้ําในแหล่งน้ําสําคัญๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการส่งน้ําให้เกษตรกรได้เพาะปลูกในช่วงฤดูแล้งนี้อย่างเต็มศักยภาพ อาทิ ที่สํานักงานชลประทานที่ 7 ติดตั้งเครื่องสูบน้ําเคลื่อนที่ ขนาด 12 นิ้ว จํานวน 2 เครื่อง เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรที่เพาะปลูกข้าวนาปรัง โครงการชลประทานปทุมธานี กําจัดวัชพืชบริเวณสะพานถนนติวานนท์จ.ปทุมธานี โครงการชลประทานชุมพร กําจัดวัชพืชบริเวณคูรอบหนองใหญ่จุดที่ 2 อําเภอเมือง จังหวัดชุมพร สํานักงานชลประทานที่ 15 ดําเนินการติดตั้งเครื่องสูบน้ําจํานวน 7 เครื่อง เพื่อกําจัดน้ําเค็ม บริเวณเหนือน้ําคลองดอนเขาพังไกร จังหวัดนครศรีธรรมราช และที่สํานักงานชลประทานที่ 17 ติดตั้งเครื่องสูบน้ําเคลื่อนที่ ขนาดท่อ 8 นิ้ว จํานวน 1 เครื่อง เพื่อช่วยเหลือปลูกข้าวนาปีปลายฤดูกรมชลประทาน กําชับให้เจ้าหน้าที่ติดตามและเฝ้าระวัง วัชพืชและสิ่งกีดขวางทางน้ํา พร้อมกําจัดอย่างต่อเนื่อง เพื่อรักษาคุณภาพน้ําให้ดีอยู่เสมอ และยังทําให้การบริหารจัดการน้ําในช่วงฤดูแล้งเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ สามารถส่งน้ําให้กับเกษตรกรในพื้นที่เป้าหมายได้อย่างทั่วถึง ตามแผนจัดสรรน้ําช่วงแล้งที่วางไว้
31/3/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
Radio-สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230331102147566
null
กรมส่งเสริมการเกษตร ร่วมกับกรมวิทยาศาสตร์บริการ ตรวจวิเคราะห์เกลือทะเลให้เกษตรกรไม่เสียค่าใช้จ่าย
นายสุรเดช สมิเปรม รองปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานลงนามในบันทึกข้อตกลงว่าด้วยการตรวจวิเคราะห์ตัวอย่างเกลือทะเล ระหว่างกรมส่งเสริมการเกษตร กับกรมวิทยาศาสตร์บริการ โดยมีนายครองศักดิ์ สงรักษา รองอธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร เป็นตัวแทนลงนามของกรมส่งเสริมการเกษตร พร้อมกล่าวว่า ปัจจุบันประเทศไทยมีเกษตรกรผู้ทํานาเกลือทะเล ปีการผลิต 2564/65 กว่า 949 ครัวเรือน 1,627 แปลง ปริมาณผลผลิต 666,736 ตัน และเพื่อเข้าสู่การรับรองตามระบบมาตรฐานสินค้าเกษตร เกษตรกรจะต้องได้รับการตรวจประเมินแปลงและการทดสอบตัวอย่างเกลือทะเลจากห้องปฏิบัติการที่ได้มาตรฐานเป็นที่ยอมรับและเชื่อถือของหน่วยงานทั้งภายในและต่างประเทศเบื้องต้นก่อน แต่เนื่องด้วยการทดสอบดังกล่าวมีค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง กรมส่งเสริมการเกษตรจึงได้จัดทําบันทึกข้อตกลงความร่วมมือครั้งนี้ เพื่อสนับสนุนให้เกษตรกรผู้ทํานาเกลือทะเลไทยสามารถส่งตัวอย่างเกลือทะเลจากแปลงนาของตนมาขอรับการตรวจวิเคราะห์ได้ฟรี เพื่อลดต้นทุนการทดสอบดังกล่าว พร้อมที่จะยื่นขอรับรองมาตรฐานเกลือทะเลต่อไป ซึ่งจะนําไปสู่การสร้างรายได้เพิ่มขึ้นให้แก่เกษตรกรผู้ทํานาเกลือทะเลอย่างยั่งยืน และสามารถต่อยอดไปสู่การแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์อื่นได้สําหรับเกษตรกรผู้สนใจขอรับการตรวจวิเคราะห์ตัวอย่างเกลือทะเล จะต้องขึ้นทะเบียนกับกรมส่งเสริมการเกษตรและต้องการได้รับการรับรองมาตรฐานสินค้าเกษตรเกลือทะเลธรรมชาติ โดยสามารถติดตามเข้าร่วมการตรวจวิเคราะห์ตัวอย่างเกลือทะเลฟรีที่สํานักงานเกษตรอําเภอ หรือสํานักงานเกษตรจังหวัดในพื้นที่ เพื่อดําเนินการจัดเก็บตัวอย่างเกลือทะเลจากแปลงต้นแบบ นําส่งให้กรมส่งเสริมการเกษตรดําเนินการส่งตัวอย่างให้กรมวิทยาศาสตร์บริการต่อไป ซึ่งกระบวนการตรวจวิเคราะห์แต่ละครั้งใช้ระยะเวลาประมาณ 5-6 เดือน และคาดว่าในแต่ละปีจะให้บริการตรวจวิเคราะห์จํานวน 10 ตัวอย่างเท่านั้น เป็นระยะเวลา 5 ปี นับตั้งแต่วันที่ 31 มีนาคม 2566 – 31 มีนาคม 2571 เป็นไปตามเป้าหมายของคณะกรรมการพัฒนาเกลือทะเลไทย ที่กําหนดให้ปีนี้ เป็นปีแห่งการส่งเสริมและพัฒนาสู่มาตรฐานเกลือทะเลไทย ตลอดจนสามารถแก้ไขปัญหาการผลิตและการตลาดเกลือทะเลของไทย
31/3/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
Radio-สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230331102413569
null
จังหวัดสงขลา เปิดงาน เที่ยวสงขลา กินปลากะพง 3 น้ำ ครั้งที่ 3 Songkhla Seafood Festival เพื่อเพิ่มช่องทางการตลาด แก่เกษตรกรผู้เลี้ยงปลากะพง 3 น้ำ และผู้ประกอบการ สินค้าเกษตร สินค้าอัตลักษณ์พื้นถิ่น
จังหวัดสงขลา เปิดงาน เที่ยวสงขลา กินปลากะพง 3 น้ํา ครั้งที่ 3 Songkhla Seafood Festival เพื่อเพิ่มช่องทางการตลาด แก่เกษตรกรผู้เลี้ยงปลากะพง 3 น้ํา และผู้ประกอบการ สินค้าเกษตร สินค้าอัตลักษณ์พื้นถิ่นที่บริเวณ ศาลาทรงไทย แหลมสมิหลา อําเภอเมือง จังหวัดสงขลา นายกองเอกพุทธ กฤชคงพันธ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา เป็นประธาน เปิดงาน เที่ยวสงขลา กินปลากะพง 3 น้ํา ครั้งที่ 3 Songkhla Seafood Festival เพื่อเพิ่มช่องทางและโอกาสทางการตลาดแก่เกษตรกรผู้เลี้ยงปลากะพง 3 น้ํา และผู้ประกอบการอาหารทะเล สินค้าเกษตร สินค้าอัตลักษณ์พื้นถิ่น ตลอดจนเป็นการประชาสัมพันธ์และส่งเสริมการบริโภคปลากะพง 3 น้ํา และอาหารทะเลของจังหวัดสงขลานางสาวฉัตร์สุดา ชุมแสง พาณิชย์จังหวัดสงขลา กล่าวว่า งานเที่ยวสงขลา กินปลากะพง 3 น้ํา Songkhla Seafood Festival จัดขึ้นระหว่างวันที่ 30 มีนาคม -2 เมษายน 2566 ภายในงานมีการออกร้านของเกษตรกรผู้เลี้ยงปลากะพง 3 น้ํา และผลิตภัณฑ์แปรรูปจากปลากะพง ตลอดจนร้านอาหารขึ้นชื่อภายในจังหวัดสงขลา ทั้งในรูปแบบคูหาปกติ และแบบฟู้ดทรัค และยังมีสินค้าเด่น สินค้าอัตลักษณ์ของจังหวัดสงขลา รวมทั้งสิ้น 100 คูหา จึงขอเชิญชวนชาวสงขลาและนักท่องเที่ยว มาเที่ยวงาน เที่ยวสงขลา กินปลากะพง 3 น้ํา Songkhla Seafood Festival ณ ศาลาทรงไทย แหลมสมิหลา อําเภอเมือง จังหวัดสงขลา#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
31/3/2023
ภาคใต้
สงขลา
สวท.สงขลา
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230331093334540
null
ก.ทรัพย์ ใช้เฮลิคอปเตอร์ขึ้นบินทิ้งน้ำสกัดไฟป่าในจังหวัดนครนายก พร้อมเพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่เสริมกำลังภาคพื้นดิน
กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ใช้เฮลิคอปเตอร์ขึ้นบินทิ้งน้ําสกัดไฟป่าในจังหวัดนครนายก พร้อมเพิ่มกําลังเจ้าหน้าที่เสริมกําลังภาคพื้นดิน เช้าวันนี้ ( 31 มี.ค.66) เฮลิคอปเตอร์ ของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมได้ปฏิบัติการดับไฟป่าบริเวณเขาแหลมและเขาชะพลู อ.เมืองนครนายก จ.นครนายก ด้วยการบินทิ้งน้ําสกัดไฟป่าบริเวณที่เกิดไฟไหม้และจุดที่ยังคงมีควันครุกรุ่นอยู่ โดยเฉพาะจุดที่เข้าถึงยากและเสี่ยงอันตราย เพื่อเพิ่มความชื้นให้ดินช่วยลดอุณหภูมิความร้อน ป้องกันไฟลุกลาม และทําให้สามารถเดินเท้าเข้าดับไฟได้ หลังเจ้าหน้าที่ช่วยกันทําแนวกันไฟบริเวณเขาตะแบกป้องกันไฟลุกลามเข้าพื้นที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ห่างประมาณ 2 กิโลเมตร ภาพรวมไฟป่ายังไม่ลุกลามเข้าเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ เบื้องต้นได้ประเมินความเสียหายของพื้นที่ไปแล้วประมาณ 600 ไร่ รวมทั้ง ได้เพิ่มกําลังเจ้าหน้าที่สนับสนุนภาคพื้นดินและอากาศ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการดับไฟให้มากขึ้น
31/3/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230331094858547
null
ผู้ว่าราชการจังหวัดนครนายก ย้ำ สามารถควบคุมไฟป่าให้อยู่ในวงจำกัดได้แล้ว โดยเหลือจุดไฟไหม้ใหญ่ที่ต้องเฝ้าระวังเพียงจุดเดียว
ผู้ว่าราชการจังหวัดนครนายก ย้ํา สามารถควบคุมไฟป่าให้อยู่ในวงจํากัดได้แล้ว โดยเหลือจุดไฟไหม้ใหญ่ที่ต้องเฝ้าระวังเพียงจุดเดียว นายบัญชา เชาวรินทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครนายก กล่าวถึงความคืบหน้าปฏิบัติการดับไฟป่าบริเวณเขาแหลมและเขาชะพลู อ.เมืองนครนายก จ.นครนายก ว่า จากการใช้เฮลิคอปเตอร์ขึ้นบินทิ้งน้ําสกัดและดับไฟป่าเมื่อวานนี้ (30 มี.ค.66) ภาพรวมสามารถควบคุมไฟป่าให้อยู่ในวงจํากัดได้แล้วเหลือเพียงบางกลุ่มไฟเท่านั้น แม้พบอุปสรรคของทิศทางลมที่เป็นปัจจัยควบคุมไม่ได้ เบื้องต้นเหลือจุดไฟไหม้ใหญ่ที่ต้องเฝ้าระวังเพียงจุดเดียวจากเดิม 3 จุด โดยเป็นจุดที่อยู่ตรงกลางระหว่างแนวรอยต่อเขาตะแบกกับเขาแหลม ซึ่งเป็นเขาลูกเล็กๆจํานวนมากบริเวณช่องเขา ขณะเดียวกันได้ปฏิบัติการภาคพื้นดินควบคู่กับภาคอากาศเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทํางาน โดยเริ่มปฏิบัติการมาตั้งแต่ช่วงเช้าแล้วทั้งจัดชุดลาดตระเวนภาคพื้นที่และขึ้นบนตรวจการณ์สภาพเขาที่เกิดไฟไหม้ เพื่อประเมินแผนการทํางานวันนี้
31/3/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230331095237549
null
สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ 16 สาขาแม่สะเรียง เร่งส่งกำลังเจ้าหน้าที่ทีมพญาเสือ ออกเคาะประตูชาวบ้านในการร่วมกันแก้ไขสถานการณ์ไฟป่าในพื้นที่เขตอุทยานแห่งชาติสาละวินและเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสาละวิน
วันที่ 31 มีนาคม 2566 ที่สํานักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ 16 สาขาแม่สะเรียง นายพรเทพ เจริญสืบสกุล ผู้อํานวยการสํานักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ 16 สาขาแม่สะเรียง ได้มอบหมายให้กําลังพล ชุดปฏิบัติการเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติสาละวินและเขตรักษาพันธ์สัตว์ป่าสาละวิน จัดเจ้าหน้าที่ออกประชาสัมพันธ์ในการขอความร่วมมือจากประชาชนในพื้นที่แบบเคาะประตูบ้านตามแนวทางของนายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง รักษาราชการแทนอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ที่สั่งการให้ทีมพญาเสือกระจายกําลังลงพื้นที่เคาะประตูบ้าน เพื่อทําความเข้าใจกับประชาชนในการขอความร่วมมือการเผาป่าโดยล่าสุด นายอาคม บุญโนนแต้เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสาละวินได้ ได้รายงานว่า มีการจัดกําลังเจ้าหน้าที่เพื่ออกเคาะประตูชาวบ้านในพื้นที่ป่า ขอความร่วมมือในการจุดไฟเผาป่า โดยได้กําหนดแนวทางในการปฏิบัติงานป้องกันไฟป่าในเขตพื้นที่ป่าอนุรักษ์ ในพื้นที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน ตามแผนงานการประสัมพันธ์และมวลชนสัมพันธ์ ทั้งนี้ได้จัดเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการศูนย์ 2 (สายน้ํา) เข้าดําเนินการประชาสัมพันธ์ ราษฎรบ้านอูหลู่ หมู่ที่ 7 ตําบลแม่คง อําเภอแม่สะเรียง จังหวัดแม่ฮ่องสอน ขอความร่วมมือไม่เผาป่า สําหรับการเผาในพื้นที่ทํากินให้ดําเนินการได้ต้องแจ้งและได้รับอนุญาตจากเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง และเจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสาละวิน โดยให้มีการทําแนวกันไฟในพื้นที่ทํากิน ระยะเวลาดําเนินการช่วงเดือนมีนาคม-เมษายน 2566นอกจากนั้น นายติณณ์ วงรินยอง หัวหน้าอุทยานเเห่งชาติสาละวิน ส่งทีมพญาเสือยังได้ลงพื้นที่ พื้นที่ 1 ห้วยเเม่เเต๊ะน้อย ต.เสาหิน อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน จํานวน 5 จุด ได้ดําเนินการเเจ้งไปยัง จนท.อช.สาละวิน ร่วมกับชาวบ้าน รวมทั้งสิ้น 10 นาย ประกอบไปด้วย จนท. อช. สาละวิน จํานวน 6 นาย ชาวบ้านจํานวน 4 นายบริเวณพื้นที่ 2 ห้วยคาหาน ต.แม่ยวม อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน จํานวน 8 จุด ได้ดําเนินการเเจ้งไปยัง จนท.อช.สาละวิน ร่วมกับชาวบ้าน รวมทั้งสิ้น 10 นาย ประกอบด้วย จนท.อช. สาละวิน จํานวน 6 นาย ชาวบ้าน จํานวน 4 นาย บริเวณพื้นที่ 3 ห้วยบง ต.แม่ยวม อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน จํานวน 5 จุด ได้ดําเนินการประสานงานไปยัง จนท.อช.สาละวิน จํานวน 6 นายบริเวณพื้นที่ 4 บ้านหม้อเหล้า ต.แม่ยวม อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน จํานวน 4 จุด ได้ดําเนินการประสานงานไปยัง จนท.อช.สาละวิน จํานวน 6 นาย นอกจากนั้นยังพบปัญหาและอุปสรรค เพราะพื้นที่ใหญ่เป็นภูเขาสลับซับซ้อนผลการ ปฏิบัติงาน และเนื่องจากการติดต่อสื่อสารทางวิทยุสื่อสารไม่มีสัญญาณโทรศัพท์ นอกจากนั้นยังได้จัดกําลังเจ้าหน้าที่ได้อยู่ในพื้นที่หมด พร้อมที่จะเข้าดับไฟทั้งหมด 32 นาย ขณะที่เจ้าหน้าที่สถานีควบคุมไฟป่าเเม่สะเรียง เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติ?สาละวิน ร่วมออกประชาสัมพันธ์? พร้อมกับประชุมชี้แจง? ทําความรู้ความเข้าใจ? ขอความร่วมมือ?ในการงดเผาในพื้นที่โล่ง? พื้นที่การเกษตร? การชิงเผาแบบเชิงวิชาการ? ให้กับชาวบ้าน เนื่องจากมีปัญหาเรื่องของหมอกควัน และจุดความร้อนที่ขึ้นในพื้นที่รับผิดชอบ และร่วมหารือแนวทางการแก้ไขปัญหาดังกล่าวกับทางผู้นําชุมชนและชาวบ้าน หมู่บ้านจอมกิตติ ตําบลแม่ยวม อําเภอ?แม่สะเรียง จังหวัดแม่ฮ่องสอน#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
31/3/2023
ภาคเหนือ
แม่ฮ่องสอน
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดแม่ฮ่องสอน
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230331102755570
null
กรมส่งเสริมการเกษตร คุมเข้มคุณภาพไม้ผลภาคตะวันออก โดยเฉพาะทุเรียน ซึ่งปีนี้มีผลผลิตเพิ่มขึ้น
นายเข้มแข็ง ยุติธรรมดํารง อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวว่า สถานการณ์ไม้ผลภาคตะวันออกในภาพรวม ปี 2566 พบว่า ผลผลิตไม้ผลทุกชนิดมีปริมาณลดลง ยกเว้นทุเรียนที่มีผลผลิตเพิ่มสูงขึ้นทั้ง 3 จังหวัดภาคตะวันออก คือ จังหวัดจันทบุรี ตราด และจังหวัดระยอง เนื่องจากมีเนื้อที่ให้ผลผลิตทุเรียนในภาพรวมเพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมา คิดเป็นร้อยละ 4.85 ซึ่งเป็นผลมาจากการที่เกษตรกรผู้ปลูกมังคุด เงาะ และลองกอง ตัดสินใจโค่นต้นทิ้งและปรับเปลี่ยนพื้นที่มาปลูกทุเรียนแทนจากปัจจัยราคาทุเรียนที่ดีอย่างต่อเนื่องหลายปี ประกอบกับสภาพอากาศแปรปรวน ฝนตกชุกต่อเนื่อง รวมทั้งเกษตรกรยังมีการบํารุงดูแลทุเรียนและไม้ผลอื่นที่ให้ราคาดีเป็นอย่างดีสําหรับทุเรียน คาดการณ์ว่าจะมีผลผลิตปี 2566 คาดว่าจะมีผลผลิต 756,465 ตัน เพิ่มขึ้น 24,135 ตัน เมื่อเปรียบเทียบกับในปี 2565 และจะมีผลผลิตออกสู่ตลาดมากสุดในเดือนเมษายน 2566 โดยได้มีการกําหนดมาตรการควบคุมคุณภาพทุเรียนภาคตะวันออก ปี 2566 เพื่อป้องกัน ทุเรียนอ่อนและเพื่อป้องกันความเสียหายจากการส่งทุเรียนไม่มีคุณภาพออกสู่ตลาดด้วยขณะที่ มังคุด คาดการณ์จะมีผลผลิตในปีนี้ จํานวน184,632 ตัน ผลผลิตออกสู่ตลาดมากสุดในเดือนเมษายน 2566 ด้าน เงาะ คาดการณ์จะมีผลผลิตในปี 2566 จํานวน 102,292 ตัน และจะมีผลผลิตออกสู่ตลาดมากสุดในเดือนพฤษภาคมนี้ส่วนลองกอง คาดการณ์จะมีผลผลิตในปี 2566 จํานวน 202,204 ตัน สู่ตลาดมากสุดในเดือนกรกฎาคม นี้ โดย จะเห็นได้ว่า สถานการณ์ไม้ผลภาคตะวันออกภาพรวมในปีนี้ ค่อนข้างจะไม่เป็นที่น่ากังวล มีเพียงทุเรียนที่คาดว่าจะมีผลผลิตมากขึ้น ซึ่งกรมส่งเสริมการเกษตรในฐานะฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการพัฒนาและบริหารจัดการผลไม้ ได้มอบหมายให้สํานักงานส่งเสริมและพัฒนาการเกษตรที่ 3 จังหวัดระยอง ประสานงานอํานวยความสะดวก และร่วมปฏิบัติภารกิจในการดูแลภาพรวมการบริหารจัดการไม้ผลภาคตะวันออกอย่างใกล้ชิดร่วมกับจังหวัดจันทบุรี ตราด และจังหวัดระยอง เพื่อให้ได้ตามแผนที่วางไว้
31/3/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
Radio-สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230331113408613
null
ภาพรวมสถานการณ์ไฟป่าจังหวัดนครนายกสามารถควบคุมไฟให้อยู่ในวงจำกัดได้แล้ว โดยเหลือจุดไฟไหม้ใหญ่ที่ต้องเฝ้าระวังเพียงจุดเดียว
ภาพรวมสถานการณ์ไฟป่าจังหวัดนครนายกสามารถควบคุมไฟให้อยู่ในวงจํากัดได้แล้ว โดยเหลือจุดไฟไหม้ใหญ่ที่ต้องเฝ้าระวังเพียงจุดเดียว ขณะที่ยังคงใช้เฮลิคอปเตอร์ขึ้นบินทิ้งน้ําสกัดไฟป่า พร้อมเพิ่มเจ้าหน้าที่เสริมกําลังภาคพื้นดิน ตั้งแต่เช้าช่วงจนถึงขณะนี้เฮลิคอปเตอร์ของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมและกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ได้ปฏิบัติการดับไฟป่าบริเวณเขาแหลมและเขาชะพลู อ.เมืองนครนายก จ.นครนายก ต่อเนื่อง ด้วยการบินทิ้งน้ําสกัดไฟป่าบริเวณที่เกิดไฟไหม้และจุดที่ยังคงมีควันครุกรุ่นอยู่ป้องกันเกิดไฟปะทุขึ้นอีก โดยเฉพาะจุดที่เข้าถึงยากและเสี่ยงอันตราย เพื่อเพิ่มความชื้นให้ดินช่วยลดอุณหภูมิความร้อน ป้องกันไฟลุกลาม และทําให้สามารถเดินเท้าเข้าดับไฟได้ หลังเจ้าหน้าที่ช่วยกันทําแนวกันไฟบริเวณเขาตะแบกป้องกันไฟลุกลามเข้าพื้นที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ห่างประมาณ 2 กิโลเมตร ภาพรวมไฟป่ายังไม่ลุกลามเข้าเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ เบื้องต้นได้ประเมินความเสียหายของพื้นที่ไปแล้วประมาณ 600 - 700 ไร่ ขณะที่ความคืบหน้าปฏิบัติการดับไฟป่า นายบัญชา เชาวรินทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครนายก กล่าวว่า จากการใช้เฮลิคอปเตอร์ขึ้นบินทิ้งน้ําสกัดและดับไฟป่าเมื่อวานนี้ (30 มี.ค.66) ทั้งหมด 3 ลํา รวม 90 เที่ยวบิน ทิ้งน้ําดับไฟไปแล้ว 154,500 ลิตร สามารถควบคุมไฟป่าให้อยู่ในวงจํากัดได้แล้ว เบื้องต้นเหลือจุดไฟไหม้ใหญ่ที่ต้องเฝ้าระวังเพียงจุดเดียวจากเดิม 3 จุด โดยเป็นจุดที่อยู่ตรงกลางระหว่างแนวรอยต่อเขาตะแบกกับเขาแหลม ซึ่งเป็นเขาลูกเล็กๆจํานวนมากบริเวณช่องเขา พร้อมทั้งปฏิบัติการภาคพื้นดินควบคู่กับภาคพื้นอากาศเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทํางาน โดยเริ่มปฏิบัติการมาตั้งแต่ช่วงเช้าแล้วทั้งจัดชุดลาดตระเวนภาคพื้นที่และขึ้นบนตรวจการณ์สภาพเขาที่เกิดไฟไหม้เพื่อประเมินแผนการทํางาน โดยวันนี้ (31 มี.ค.66) ยังคงปฏิบัติการทางอากาศ เฝ้าระวัง และเตรียมพร้อมป้องกันไฟบริเวณตีนเขา ซึ่งเจ้าหน้าที่หน่วยต่างๆได้สนธิกําลังกว่า 300 นาย ปฏิบัติการภาคพื้นดินเดินขึ้นเขาดับไฟและทําแนวกันไฟกว่า 100 นาย ส่วนช่วงบ่ายได้รับการสนับสนุนเฮลิคอปเตอร์เพิ่มจาก ปภ. 3 ลํา และกระทรวงทรัพย์ฯ 2 ลําขึ้นบินดับไฟ คาดว่า วันนี้จะสามารถปฏิบัติการได้ตามแผนที่วางไว้และดีขึ้น สําหรับจุดอพยพประชาชนยังให้คงแผนไว้กรณีเกิดเหตุฉุกเฉิน คือ วัดวังรี และวัดเขาทุเรียน โดยให้ชุดสุขภาพจิตของสาธารณสุขอําเภอลงพื้นที่ให้ความรู้ความเข้าใจกับประชาชนในชุมชนต่างๆ ภาพรวมประชาชนในชุมชนส่วนใหญ่มีความเข้าใจแต่มีข้อกังวลบ้างเล็กน้อย
31/3/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230331115450623
null
กรมประมง พร้อมช่วยเหลือเกษตรกรรับมือภัยแล้ง เร่งลงพื้นที่สร้างการรับรู้ป้องกันและลดผลกระทบ
นายถาวร ทันใจ รองอธิบดีกรมประมง เปิดเผยในฐานะโฆษกกรมประมงว่า ด้วยสภาพอากาศในช่วงฤดูร้อนจะมีลักษณะอากาศร้อนอบอ้าวและร้อนจัดในหลายพื้นที่ ซึ่งได้ส่งผลให้อุณหภูมิน้ําทั้งในแหล่งน้ําธรรมชาติและแหล่งน้ําชลประทานเกิดการเปลี่ยนแปลงสูงขึ้น กระทบต่อการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ํา ซึ่งเป็นสาเหตุให้สัตว์น้ําที่เกษตรกรเลี้ยงไว้เกิดความเครียด อ่อนแอ มีโอกาสติดเชื้อโรคได้ง่ายและอาจตายได้ เพื่อเป็นการป้องกันและบรรเทาความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น กรมประมงจึงได้จัดทําแผนเตรียมรับสถานการณ์ในช่วแล้ง ประจําปีนี้ ไว้ 3 ระยะคือ การเตรียมรับสถานการณ์ก่อนเกิดภัย การให้ความช่วยเหลือขณะเกิดภัย และการให้ความช่วยเหลือหลังเกิดภัย พร้อมทั้งสั่งการให้เจ้าหน้าที่ ทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาคเฝ้าติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดและประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนแก่เกษตรกรผู้เพาะเลี้ยงสัตว์น้ําเพื่อเตรียมตัวรับกับสถานการณ์ รวมทั้งหาวิธีการป้องกัน แก้ไขและหลีกเลี่ยงความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น เน้นการเฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ภัยแล้ง นอกจากนี้ ยังให้คําแนะนําทางวิชาการแก่เกษตรกรผู้เพาะเลี้ยงสัตว์น้ําเพื่อเตรียมการป้องกันอีกด้วย และควรหมั่นตรวจสุขภาพสัตว์น้ําอย่างสม่ําเสมอ เมื่อพบสิ่งผิดปกติ ให้รีบหาสาเหตุและแก้ไขได้ทันทีในขณะเดียวกันควรแจ้งให้ผู้เพาะเลี้ยงสัตว์น้ําอื่นๆ ที่อยู่ใกล้เคียงทราบ เพื่อที่จะได้หามาตรการป้องกันการแพร่กระจายโรค กรณีที่มีสัตว์น้ําป่วยตายควรกําจัดโดยการฝัง หรือเผา ไม่ควรทิ้งสัตว์น้ําป่วยในบริเวณบ่อและแหล่งน้ําที่เลี้ยงเป็นอย่างยิ่ง เพราะเป็นการแพร่กระจายเชื้อโรคทําให้การระบาดของโรคเป็นไปได้อย่างรวดเร็ว อย่างไรก็ตาม เกษตรกรควรติดตามข่าวสารการพยากรณ์อากาศและสถานการณ์น้ําจากทางราชการอย่างใกล้ชิด และหากมีปัญหาในการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ํา สามารถขอรับคําปรึกษาและคําแนะนําได้ที่ สํานักงานประมงอําเภอ สํานักงานประมงจังหวัด ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ําจืด /สัตว์น้ําชายฝั่ง ศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงน้ําจืดทุกแห่งทั่วประเทศ
31/3/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
Radio-สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230331134708674
null
นายกรัฐมนตรี สั่งการกองทัพร่วมมือหน่วยงานทุกภาคส่วน เร่งคลี่คลายสถานการณ์ไฟป่า จังหวัดนครนายกให้ยุติโดยเร็ว
นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจําสํานักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ติดตามสถานการณ์ไฟป่าบริเวณเขาแหลม เขาชะภู เขาตะแบก ตําบลพรหมณี จังหวัดนครนายก อย่างต่อเนื่อง กําชับให้หน่วยงานกองทัพ ร่วมมือกับหน่วยงานทุกภาคส่วน เร่งคลี่คลายสถานการณ์ให้ยุติโดยเร็ว พร้อมส่งกําลังใจและความห่วงใยมาถึงเจ้าหน้าที่จากทุกหน่วย ที่กําลังปฏิบัติงานอยู่ในพื้นที่ ทั้งช่วยกันดับไฟ เร่งทําแนวกันไฟ เฝ้าระวังบริเวณโดยรอบพื้นที่อย่างเต็มกําลัง โดยขอให้ทุกคนปลอดภัยศูนย์บัญชาการกระทรวงกลาโหม สรุปสถานการณ์วันนี้ พบว่าสถานการณ์ไฟป่าเบาบางลง ไม่พบเปลวไฟ มีเพียงกลุ่มควันเล็กๆ ประมาณ 2-3 จุด บริเวณยอดเขาตะแบก โดยยังคงต้องเฝ้าระวังกระแสลมกระโชกแรงที่พัดไปทางทิศเหนือ อาจทําให้เปลวเพลิงปะทุขึ้นได้อีก ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อชุมชนในพื้นที่รอยต่อจังหวัดสระบุรีได้ แผนปฏิบัติการต่อจากนี้ ในการปฏิบัติการทางอากาศ จะใช้อากาศยานของกองทัพบก กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เข้าดับไฟที่บริเวณเขาพระ ที่ยังไม่ดับสนิท ขณะที่การปฏิบัติภาคพื้น จะจัดกําลังจากโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า และมณฑลทหารบกที่ 12 เฝ้าระวังบริเวณโดยรอบพื้นที่เกิดไฟป่า ป้องกันการลุกลามเข้าสู่บ้านเรือนประชาชน
31/3/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230331144740740
null
จ.พิจิตร ขอความร่วมมือประชาชนงดเผาในที่โล่งและงดกิจกรรมที่ก่อให้เกิดฝุ่นละอองขนาดเล็กทุกประเภทอย่างต่อเนื่อง แก้ไขปัญหาฝุ่นละออง PM 2.5
วันนี้ (31 มี.ค.66) ที่ห้องประชุมสํานักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดพิจิตร กองอํานวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดพิจิตร ร่วมประชุมติดตามสถานการณ์การป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควันและฝุ่นละออง ภาคเหนือประจําสัปดาห์ ศอ.ปกป. จังหวัด 8 จังหวัดภาคเหนือตอนล่างผ่านระบบ video conference ล่าสุด ค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM 2.5) วันนี้ค่าเฉลี่ย 24 ชั่วโมง อยู่ที่ 47 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร คุณภาพอากาศอยู่ในระดับปานกลาง ประชาชนสามารถทํากิจกรรมกลางแจ้งได้ตามปกติ ส่วนผู้ที่มีโรคประจําตัวเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ หากมีอาการเบื้องต้น เช่น ไอ หายใจลําบาก ระคายเคืองตา ควรลดระยะเวลาการทํากิจกรรมกลางแจ้ง ขณะที่ จํานวนจุดความร้อน (Hotspots) ล่าสุดข้อมูล ณ วันที่ 30 มี.ค.66 พบจุดความร้อน 14 จุด ในพื้นที่ อ.วังทรายพูน อ.โพทะเล อ.ทับคล้อ อ.บึงนาราง อ.เมืองพิจิตร อ.ดงเจริญ และ อ.โพธิ์ประทับช้าง ทั้งนี้ ยังคงขอความร่วมมือประชาชนงดการเผาในที่โล่ง และงดกิจกรรมที่ก่อให้เกิดฝุ่นละอองขนาดเล็กทุกประเภท พร้อมทั้งบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัดกรณีพบผู้กระทําความผิด ขณะที่ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทุกแห่ง จัดทําป้ายประชาสัมพันธ์รณรงค์งดเผา เพื่อสร้างการรับรู้ให้แก่ประชาชน ส.ปชส.พิจิตร...ข่าว/ภาพ 31 มี.ค.66#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
31/3/2023
ภาคเหนือ
พิจิตร
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดพิจิตร
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230331131849656
null
เกษตรและสหกรณ์จังหวัดระยอง เผยปีนี้ ผลผลิตทุเรียนระยองมีคุณภาพ และปริมาณเพิ่มขึ้น ส่วนผลไม้อื่น ๆ ผลผลิตลดลง
นายธนโชค พงษ์เชาวลิต เกษตรและสหกรณ์จังหวัดระยอง เปิดเผยถึง ผลไม้เศรษฐกิจของจังหวัดระยอง โดยเฉพาะทุเรียน ปีนี้จะมีผลผลิตออกสู่ตลาด 164,000 ตัน เพิ่มขึ้น จากปีก่อน ที่มี 140,000 ตัน ส่วนมังคุด มีผลผลิต 40,000 ตัน ผลผลิตลดลง ซึ่งเป็นผลมาจากการที่เกษตรกรผู้ปลูกมังคุด เงาะ และลองกอง ตัดสินใจโค่นต้นทิ้งและปรับเปลี่ยนพื้นที่มาปลูกทุเรียน แทน จากปัจจัยราคาทุเรียนที่ดีขึ้น ต่อเนื่องหลายปี ส่งผลให้มีราคาสูงขึ้น นอกจากนี้ จังหวัดระยอง ได้รณรงค์ให้เกษตรกร เจ้าของสวน และล้ง ตัดทุเรียนที่มีเปอร์เซ็นต์แป้ง เป็นไปตามเกณฑ์ ไม่ต่ํากว่า 32 % ทุเรียนจะมีคุณภาพ โดยเจ้าของสวนสามารถนําทุเรียนไปตรวจเปอร์เซ็นต์แป้ง ได้ที่ สํานักงานเกษตรอําเภอทุกอําเภอ ซึ่งเปิดให้บริการทุกวัน ไม่มีวันหยุด ก่อนที่จะตัดทุเรียนออกขายนายธนโชค พงษ์เชาวลิต เกษตรและสหกรณ์จังหวัดระยอง กล่าวเพิ่มเติมว่า สถานการณ์ไม้ผลจังหวัดระยอง ภาพรวมในปีนี้ ไม่เป็นที่น่ากังวล สวนผลไม้ของเกษตรกรจังหวัดระยอง ไม่ได้รับผลกระทบจากพายุฤดูร้อน ไม่มีความสูญเสีย ทําให้เกษตรกรผู้ปลูกทุเรียน ทําทุเรียนให้มีคุณภาพ มีผลผลิตออกสู่ตลาด ซึ่งนับเป็นโอกาสดีของเกษตรกรจังหวัดระยองในปีนี้ และขอเชิญชวนผู้บริโภคซื้อทุเรียนคุณภาพจากจังหวัดระยอง #สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
31/3/2023
ภาคตะวันออก
ระยอง
สวท.ระยอง
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230331132157657
null
เจ้าหน้าที่จากหน่วยต่างๆ ยังคงร่วมกันปฏิบัติภารกิจภาคพื้นดินและทางอากาศ เพื่อสกัดและดับไฟป่าในจังหวัดนครนายกต่อเนื่องท่ามกลางอากาศที่ร้อนจัด
เจ้าหน้าที่จากหน่วยต่างๆ ยังคงร่วมกันปฏิบัติภารกิจภาคพื้นดินและทางอากาศ เพื่อสกัดและดับไฟป่าในจังหวัดนครนายกต่อเนื่องท่ามกลางอากาศที่ร้อนจัด เจ้าหน้าที่จากหน่วยต่างๆยังคงปฏิบัติการดับไฟป่าบริเวณเขาแหลมและเขาชะพลู อ.เมืองนครนายก จ.นครนายก ต่อเนื่องอด้วยการสนธิกําลังปฏิบัติการภาคพื้นดินเดินเท้าขึ้นเขาสกัดจุดที่มีโอกาสปะทุจนเกิดไฟลุกไหม้ขึ้นอีก พร้อมทําแนวกันไฟป้องกันไม่ให้ไฟลุกลามท่ามกลางอากาศที่ร้อนจัด ควบคู่กับปฏิบัติการทางอากาศไปพร้อมกัน โดยกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมและกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ใช้เฮลิคอปเตอร์ตักน้ําบริเวณอ่างเก็บน้ําห้วยปรือแล้วบินทิ้งน้ําสกัดไฟป่าบริเวณที่เกิดไฟไหม้และจุดที่ยังคงมีควันปะทุอยู่ เพื่อเพิ่มความชื้นในดินและลดความร้อนสะสมของดินลง เนื่องจากไฟได้ลุกลามลงมาตีนเขาตะแบกที่มีแนวเขตใกล้กับชุมชน โดยมีเจ้าหน้าที่ภาคดินกับทางอากาศค่อยระวังและสกัดไฟอยู่ คาดว่า ปฏิบัติการวันนี้จะช่วยให้สถานการณ์ไฟป่าดีขึ้น ส่วนบริเวณศูนย์อํานวยการป้องกันและแก้ไขปัญหาอัคคีภัย ไฟป่า และหมอกควันในพื้นที่ตําบลเข้าพระ องค์การบริหารส่วนตําบลเขาพระ อ.เมืองนครนายก จ.นครนายก มีประชาชน หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชนต่างๆ ได้นําสิ่งของจําเป็น น้ําดื่ม และอาหารมาให้กับเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติภารกิจดับไฟป่าในครั้งนี้ โดยมีจิตอาสาพระราชทานและทหารคอยอํานวยความสะดวก
31/3/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230331145803754
null
กรมฝนหลวงเเละการบินเกษตร ปฎิบัติการทำฝนต่อเนื่อง เพื่อดับไฟป่าเขาชะพลู-เขาแหลม พร้อมช่วยพื้นที่พื้นที่ภาคเหนือ และภาคกลาง ที่ประสบปัญหาหมอกควันและฝุ่นละอองทาง
นายสุพิศ พิทักษ์ธรรม อธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตร เปิดเผยว่า จากที่เมื่อวานนี้ (30 มีนาคม 2566) ได้สั่งการให้หน่วยปฏิบัติการฝนหลวงจังหวัดจันทบุรี ขึ้นบินปฏิบัติการภารกิจพื้นที่ไฟป่าจากเหตุการณ์ไฟไหม้ป่าบริเวณเขาชะพลู ตําบลพรหมณี อําเภอเมือง จังหวัดนครนายก บริเวณด้านหลังโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า และได้ลุกลามไปยังเขาแหลมที่อยู่ติดกันตั้งแต่เมื่อวันที่ 29 มีนาคม 2566 ที่ผ่านมา จากผลการปฏิบัติการฝนหลวงเมื่อวานนี้ทําให้มีฝนตกบริเวณพื้นที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ จ.ปราจีนบุรี จ.นครราชสีมา ซึ่งเป็นบริเวณที่ใกล้เคียงกับเขาชะพลู เขาแหลม จ.นครนายก อย่างไรก็ตาม เนื่องจากกลุ่มเมฆที่หน่วยปฏิบัติการฝนหลวง จ.จันทบุรี ขึ้นบินปฏิบัติการอยู่บริเวณทิศตะวันออกเฉียงเหนือของพื้นที่ไฟป่าเขาชะพลู เขาแหลม จ.นครนายก โดยทิศทางลมขณะปฏิบัติการเป็นลมทิศตะวันออกเฉียงเหนือที่ระดับความสูง 5,000-10,000 ฟุต ส่งผลให้กลุ่มเมฆที่พัฒนาตัวก่อให้เกิดฝน เคลื่อนตัวไม่ถึงพื้นที่ปัญหาไฟป่า โดยในวันนี้ยังคงมีไฟลุกลามบริเวณสันเขาอยู่นั้น ทางกรมฝนหลวงและการบินเกษตร จึงได้สั่งการและเน้นย้ําให้หน่วยปฏิบัติการฝนหลวงจังหวัดจันทบุรี ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดและวางแผนเพื่อขึ้นบินปฏิบัติการฝนหลวงช่วยเหลืออย่างต่อเนื่อง ซึ่งในเช้าวันนี้จากข้อมูลสภาพอากาศพบว่ามีความชื้นสัมพัทธ์มากกว่า 60% เป็นค่าความชื้นสัมพัทธ์ที่สามารถก่อเมฆได้ และมีโอกาสเกิดฝนตก หน่วยฯ จันทบุรี จึงได้วางแผนบินในเวลา 08.50 น. โดยใช้เครื่องบินขนาดเล็ก จํานวน 3 ลํา ปฏิบัติการ 3 เที่ยวบิน ใช้สารฝนหลวง จํานวน 2,100 กิโลกรัม บินที่ความสูง 6,500 ฟุต บริเวณอําเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา ถึงอําเภอประจันตคาม จังหวัดปราจีนบุรี เพื่อช่วยเหลือพื้นที่เป้าหมาย ได้แก่ พื้นที่การเกษตรจังหวัดปราจีนบุรี และพื้นที่ไฟป่าจังหวัดนครนายก สําหรับสถานการณ์หมอกควันและฝุ่นละอองทางพื้นที่ภาคเหนือ และภาคกลางยังคงส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนและมีสาถานการณ์ที่น่าเป็นห่วง ทางกรมฝนหลวงและการบินเกษตร ยังคงมีการปฏิบัติการฝนหลวงช่วยเหลือทุกวัน ซึ่งเมื่อวานนี้ ได้ขึ้นบินปฏิบัติการฝนหลวงช่วยเหลือพื้นที่ประสบปัญหาหมอกควันและไฟป่าบริเวณจังหวัดเชียงราย เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน ตาก ลําพูน ลําปาง และพะเยา ซึ่งสามารถช่วยบรรเทาปัญหาได้ในระดับหนึ่ง ขณะเดียวกันก็ได้ปฏิบัติการฝนหลวงช่วยเหลือพื้นที่การเกษตรบางส่วนของจังหวัดปราจีนบุรีและนครราชสีมา และในวันนี้ หน่วยฯ เชียงใหม่ ได้วางแผนบินช่วยบรรเทาปัญหาหมอกควันและไฟป่าและช่วยเหลือพื้นที่การเกษตรบริเวณจังหวัดเชียงราย และแม่ฮ่องสอน หน่วยฯ แพร่ ช่วยเหลือพื้นที่ประสบปัญหาหมอกควันและไฟป่าบริเวณจังหวัดแพร่ จังหวัดน่าน
31/3/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
Radio-สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230331154439804
null
สถานการณ์หมอกควันในพื้นที่จังหวัดพะเยา ยังวิกฤติ ด้านสาธารณสุขพะเยาพบผู้ป่วยเพิ่มต่อเนื่อง
สถานการณ์หมอกควันในพื้นที่จังหวัดพะเยายังคงวิกฤตต่อเนื่อง มีค่าสูงเกินมาตรฐานส่งผลกระทบต่อสุขภาพประชาชน โดยรู้สึกได้จากอาการแสบตา แสบจมูก รวมทั้งระบบทางเดินหายใจ ขณะที่ประชาชนส่วนใหญ่เริ่มลดกิจกรรมในที่โล่งแจ้ง ล่าสุดวันนี้ (31 มี.ค.66) จังหวัดพะเยาพบค่า PM 2.5 อยู่ที่ 237 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ค่า PM 10 อยู่ที่ 224 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร และค่า AQI หรือดัชนีคุณภาพอากาศ อยู่ที่ 287 มีผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนด้านสํานักงานสาธารณสุขจังหวัดพะเยา ระบุข้อมูลในห้วงตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม ถึง 25 มีนาคม 2566 พบผู้ป่วยโรคที่เกี่ยวระบบทางเดินหายใจ ซึ่งประกอบด้วย กลุ่มโรคหัวใจและหลอดเลือด กลุ่มโรคทางเดินหายใจ โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง กลุ่มโรคเยื่อบุตาขาวอักเสบ กลุ่มโรคผิวหนังอักเสบ เนื่องจากผลกระทบจากปัญหาหมอกควันมากถึง 34,413 ราย และในห้วงสัปดาห์ที่ผ่านมาพบผู้ป่วยระบบทางเดินหายใจและกลุ่มโรคที่เกี่ยวข้องกว่า 2,873 ราย ทั้งนี้ ประชาชนกลุ่มเสี่ยง ได้แก่ กลุ่มเด็กเล็ก ผู้สูงอายุ หญิงตั้งครรภ์ ผู้ที่มีโรคประจําตัว เช่น โรคหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง โรคปอด หอบหืด ภูมิแพ้ หากได้รับมลพิษจากหมอกควันเข้าสู่ร่างกาย อาจทําให้เกิดการเจ็บป่วยหรือมีผลกระทบต่อสุขภาพที่รุนแรงมากกว่าประชาชนทั่วไป หากมีอาการผิดปกติควรพบแพทย์ใกล้บ้านทันที #สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
31/3/2023
ภาคเหนือ
พะเยา
สวท.พะเยา
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230331151922770
null
ปศุสัตว์จันทบุรี ดำเนินโครงการจันทบูร หมู่บ้านปศุสัตว์พัฒนา และเฝ้าระวังโรคไข้หวัดนกเชิงรุก แบบเคาะประตูบ้านเกษตรกร
(31 มี.ค.66) น.สพ.ชาติชาย ยิ้มเครือ ปศุสัตว์จังหวัดจันทบุรี พร้อม สพ.ญ.นพสิริ นาคสิทธิวงศ์ นายสัตวแพทย์ปฏิบัติการ และนายนที มาทรัพย์ เจ้าพนักงานสัตวบาล ลงพื้นที่ บ้านเก่า ม.4 ต.บางกะจะ อ.เมืองจันทบุรี ซึ่งเป็นหมู่บ้านที่ร่วมโครงการจันทบูร หมู่บ้านปศุสัตว์พัฒนา มีเกษตรกร รวม 13 คน เลี้ยงไก่พื้นเมือง ประมาณ 500 ตัว โดยมี นายสิทธิรัตน์ ศรีจันทร์ นายก อบต.บางกะจะ เป็นประธาน สาธิตการทําวัคซีนป้องกันโรคระบาดสัตว์ ตรวจเยี่ยมคณะกรรมการหมู่บ้านที่ดูแลคลังเวชภัณฑ์ ติดตามการปฏิบัติงานของอาสาปศุสัตว์และเครือข่ายเกษตรกร ในการเฝ้าระวังโรคไข้หวัดนกเชิงรุก แบบเคาะประตูบ้าน ขอความร่วมมือจากเกษตรกรให้ดูแลสุขภาพสัตว์ปีกอย่างใกล้ชิดในช่วงที่มีอากาศแปรปรวน หากพบสัตว์ปีกป่วยหรือตายผิดปกติ ห้ามนําไปจําหน่าย จ่ายแจก หรือนําไปประกอบอาหารโดยเด็ดขาด ให้แจ้งเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์อําเภอ อาสาปศุสัตว์ในพื้นที่ทันที เพื่อจะได้ตรวจสอบและดําเนินการตามมาตรการการควบคุมโรคระบาดสัตว์ของกรมปศุสัตว์ จากการตรวจเยี่ยมไม่พบสัตว์ปีกป่วยหรือตายผิดปกติในหมู่บ้าน พร้อมนี้ได้มอบเวชภัณฑ์และน้ํายาฆ่าเชื้อโรคแก่เกษตรกร และให้คําแนะนําในการพัฒนาฟาร์มตามระบบการป้องกันโรคและการเลี้ยงสัตว์ที่เหมาะสม(GFM)#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
31/3/2023
ภาคตะวันออก
จันทบุรี
สวท.จันทบุรี
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230331154131802
null
เกษตรจังหวัดตรัง ประชุมเกษตรอำเภอประจำเดือน ครั้งที่ 32566
วันนี้ (31 มีนาคม 2566) นายวสันต์ สุขสุวรรณ เกษตรจังหวัดตรัง ประธานในที่ประชุม พร้อมด้วยหัวหน้ากลุ่ม/ฝ่าย และเกษตรอําเภอทุกอําเภอ เข้าร่วมการประชุมเกษตรอําเภอประจําเดือน ครั้งที่ 3/2566 ณ ห้องประชุมสํานักงานเกษตรจังหวัดตรัง อําเภอเมืองตรัง จังหวัดตรังทั้งนี้ เพื่อวางแผนการดําเนินงานส่งเสริมการเกษตร โดยมีระเบียบวาระการประชุม อาทิเช่น รายงานการเบิกจ่ายงบประมาณรายจ่าย ประจําปีงบประมาณ พ.ศ.2566 รายงานผลการจําหน่ายตลาดเกษตรกรจังหวัดตรังและตลาดเกษตรกร เครือข่ายระดับอําเภอ ผลการสํารวจการใช้งานและจํานวนเต็นท์ของตลาดเกษตรกรระดับอําเภอ โครงการสร้างมูลค่าเพิ่มพืชอัตลักษณ์ประจําถิ่น กิจกรรมส่งเสริมการปลูกพริกไทยพันธุ์ปะเหลียนเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์จังหวัดตรัง รายงานสถานการณ์การเพาะปลูกพืชฤดูแล้ง จําแนกตามพื้นที่ จังหวัดตรัง โครงการยกระดับคุณภาพมาตรฐานสินค้าเกษตร การจําหน่ายสินค้า ณ ศูนย์แสดงและจําหน่ายผลิตภัณฑ์วิสาหกิจชุมชนจังหวัดตรัง ความก้าวหน้า โครงการยกระดับแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรให้ได้มาตรฐานรองรับการท่องเที่ยวเชิงเกษตรวิถีใหม่ (New Normal) ระบบรายงานแปลงพยากรณ์และระบบเตือนการระบาดศัตรูพืช ระบบรายงานแปลงพยากรณ์และระบบเตือนการระบาดศัตรูพืช ประจําเดือน มีนาคม 2566 โครงการส่งเสริมการผลิตและใช้ปุ๋ยอินทรีย์และวัสดุอินทรีย์ ปี 2566 ผลการเบิกจ่ายงบประมาณตามแผนจัดสรรงบประมาณโครงการส่งเสริมการเกษตรประจําปีงบประมาณ พ.ศ.2566 โครงการสร้างมูลค่าเพิ่มพืชอัตลักษณ์ประจําถิ่น กิจกรรมส่งเสริมการปลูกข้าวเบายอดม่วง เพื่อรองรับการจดทะเบียนสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์จังหวัดตรัง ปีงบประมาณ 2566 การประกวดแปลงใหญ่ ปี งบประมาณ 2566 การจัดชั้นคุณภาพแปลงใหญ่ ประจําปี 2566 ผลการประกวดวิสาหกิจชุมชนดีเด่นระดับจังหวัดตรัง ประจําปี 2566 สิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ สินค้า “ผ้าทอนาหมื่นศรี” การคัดเลือกอาสาสมัครดีเด่น ประเภทอาสาสมัครเฝ้าระวังทางวัฒนธรรม ประจําปี 2566 การประกวดศูนย์เรียนรู้การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตร สรุปผลการจัดเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้ระดับอําเภอ (District Workshop: DW ) ครั้งที่ 2 ปี 2566 การจัดสรรงบประมาณโครงการส่งเสริมการเกษตรประจําปีงบประมาณ พ.ศ.2566 (ครั้งที่ 2) การคัดเลือกเกษตรกร บุคคลทางการเกษตรและสถาบันเกษตรกรดีเด่นระดับจังหวัด ประจําปี 2566 การคัดเลือกบุคคลดีเด่นระดับจังหวัด เกษตรกรเข้าร่วมกิจกรรมเสวนายางพาราแห่งชาติครั้งที่ 1 (Rubber Expo 2023) แผนการนิเทศงานส่งเสริมการเกษตรครั้งที่ 3 ประจําปี งบประมาณ 2566 #สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
31/3/2023
ภาคใต้
ตรัง
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดตรัง
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230331155908808
null
อบจ.นครพนม บูรณาการร่วม อปท. 38 แห่ง แก้ปัญหาขยะอันตรายชุมชน สร้างความยั่งยืนแบบครบวงจร
ที่อาคารแสดงสินค้าหนึ่งตําบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ (OTOP) ตําบลหนองญาติ อําเภอเมืองนครพนม จังหวัดนครพนม นายศิริพงษ์ แสนสุข รองปลัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครพนม เป็นประธานเปิดโครงการบริหารจัดการของเสียอันตรายชุมชนจังหวัดนครพนม แบบครบวงจรมุ่งสู่เมืองสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน ประจําปี พ.ศ.2566 (ครั้งที่ 1) ที่องค์การบริหารส่วนจังหวัดนครพนม ร่วมกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในเขตอําเภอทั้ง 12 อําเภอของจังหวัดนครพนมจัดขึ้น เพื่อร่วมกันแก้ไขปัญหาขยะในพื้นที่ให้เป็นไปตามที่รัฐบาลได้กําหนดให้การแก้ไขปัญหาขยะมูลฝอยเป็นวาระแห่งชาติ ซึ่งได้มีแผนแม่บทการจัดการขยะมูลฝอยของประเทศ เพื่อใช้ในการจัดการขยะมูลฝอยอย่างครบวงจร โดยมุ่งเน้นการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน รวมถึงการส่งเสริมและสนับสนุนให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมีการรวมกลุ่มกันในการเก็บรวบรวมและขนส่งของเสียอันตรายแบบศูนย์รวม เพื่อบริหารจัดการของเสียอันตรายแบบครบวงจร โดยใช้เทคโนโลยีที่เหมาะสม และเน้นการนํากลับมาใช้ประโยชน์ในรูปแบบของทรัพยากรใหม่ หรือแปรรูปเป็นพลังงานทดแทน เป็นการเสริมสร้างสมรรถภาพด้านการจัดการของเสียอันตรายจากชุมชนให้กับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นซึ่งก่อนหน้านี้ทางองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครพนม ได้ร่วมกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในเขตอําเภอทั้ง 12 อําเภอของจังหวัดนครพนม ดําเนินการส่งเสริมให้ประชาชนในพื้นที่ได้มีการคัดแยกขยะในครัวเรือน แก้ไขปัญหาขยะมูลฝอยและของเสียอันตรายชุมชน ด้วยการนําหลัก 3 Rs คือ ใช้น้อย ใช้ซ้ํา และนํากลับมาใช้ใหม่ ลดการเกิดของเสียที่แหล่งกําเนิด เพิ่มศักยภาพการจัดการของเสียอันตราย และลดสารพิษที่ปนเปื้อนสู่สิ่งแวดล้อม จึงเป็นที่มาของโครงการบริหารจัดการของเสียอันตรายชุมชนจังหวัดนครพนม แบบครบวงจรมุ่งสู่เมืองสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน ประจําปี พ.ศ.2566 (ครั้งที่ 1) ในครั้งนี้ ที่จะร่วมกันนําของเสียอันตรายชุมชนไปกําจัดที่จังหวัดปทุมธานี โดยผู้นําองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ทั้ง 38 แห่ง ได้มีการรวบรวมของเสียอันตรายจากประชาชนในพื้นที่ตามหลักสุขาภิบาล ได้ทั้งสิ้น 2,835 กิโลกรัม #สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
31/3/2023
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
นครพนม
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนครพนม
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230401212546159
null
จังหวัดยโสธร จัดคลินิกเกษตรเคลื่อนที่ในพระราชานุเคราะห์ฯ ที่อำเภอมหาชนะชัย
วันที่ 29 มีนาคม 2566 ที่สนามโรงเรียนบ้านคูเมือง ตําบลคูเมือง อําเภอมหาชนะชัย จังหวัดยโสธร นายไกร เอี่ยมจุฬา รองผู้ว่าราชการจังหวัดยโสธร เป็นประธานเปิดโครงการคลินิกเกษตรเคลื่อนที่ในพระราชานุเคราะห์ฯ เนื่องในวโรกาสอันเป็นมิ่งมหามงคลที่พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว เมื่อครั้งทรงดํารงพระราชอิสริยยศเป็นสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ทรงมีพระชนมายุครบ 50 พรรษา ทั้งนี้ สํานักงานเกษตรจังหวัดยโสธร จัดกิจกรรมขึ้นเพื่อให้บริการแก่เกษตรกร แก้ไขปัญหาให้แก่เกษตรกรให้สามารถทําการผลิตทางการเกษตรได้อย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน เป็นการปฏิบัติงานในเชิงรุกที่ทําให้เกษตรกรในพื้นที่เป้าหมายที่มีปัญหาได้รับบริการทางการเกษตร เช่น การวิเคราะห์ดิน การวินิจฉัยโรคพืช โรคสัตว์ โรคสัตว์น้ํา รวมถึงการถ่ายทอดเทคโนโลยีและฝึกอบรมความรู้การเกษตรเสริมเพิ่มเติมควบคู่กันไปด้วย โดยมีการบูรณาการความร่วมมือกันระหว่าง หน่วยงานวิชาการ หน่วยงานส่งเสริม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมพัฒนา ซึ่งภายในงานมีการให้บริการคลินิกเกษตรของหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ หน่วยงานภาครัฐและเอกชนในพื้นที่ ได้แก่ คลินิกดิน คลินิกพืช คลินิกข้าว คลินิกปศุสัตว์ คลินิกประมง คลินิกสหกรณ์ คลินิกบัญชี คลินิกชลประทาน คลินิกกฎหมาย คลินิกหม่อนไหม คลินิกยางพารา คลินิกส่งเสริมการเกษตรและคลินิกอื่นๆ และมีการจัดแสดงและจําหน่ายผลผลิต ผลิตภัณฑ์ของกลุ่มแม่บ้านเกษตรกร วิสาหกิจชุมชน Young Smart Farmer ของจังหวัดยโสธรและจังหวัดใกล้เคียง โดยมีนายประสิทธ์ สิงห์ชาแทนเกษตรจังหวัดยโสธร หัวหน้าส่วนราชการในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์จังหวัดยโสธร หัวหน้าส่วนราชการในระดับอําเภอ เกษตรกรและประชาชนในพื้นที่อําเภอมหาชนะชัย เข้าร่วมโครงการฯ และรับบริการคลินิกเกษตรกว่า 200 คน#สํานักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดยโสธร#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
31/3/2023
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ยโสธร
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดยโสธร
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230331165016844
null
สถานการณ์ไฟป่าจังหวัดนครนายกดีขึ้นไม่พบจุดความร้อนในพื้นที่แล้ว ยกเว้นกลุ่มควันตามช่องเขา ขณะที่เจ้าหน้าที่ยังปฏิบัติภารกิจภาคพื้นดินและทางอากาศต่อเนื่อง เพื่อสกัดและทำแนวป้องกันไฟปะทุหรือลุกลามลงตีนเขา
สถานการณ์ไฟป่าจังหวัดนครนายกดีขึ้นไม่พบจุดความร้อน (Hotspot) ในพื้นที่แล้ว ยกเว้นกลุ่มควันตามช่องเขา ขณะที่เจ้าหน้าที่ยังปฏิบัติภารกิจภาคพื้นดินและทางอากาศต่อเนื่อง เพื่อสกัดและทําแนวป้องกันไฟปะทุหรือลุกลามลงตีนเขา ตลอดทั้งวันที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ยังคงปฏิบัติการดับไฟป่าบริเวณเขาแหลมและโดยรอบหลังโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า อ.เมืองนครนายก จ.นครนายก เนื่องจากบางจุดยังพบมีกลุ่มควันลอยขึ้นมาตามช่องเขา แต่ภาพรวมวันนี้ (31 มี.ค.66) สถานการณ์ดีขึ้นจากปฏิบัติการทั้งภาคพื้นดินและทางอากาศไปพร้อมกัน โดยไม่พบจุดความร้อน (Hotspot) ในพื้นที่แล้ว ยกเว้นกลุ่มควัน จึงได้จัดชุดเจ้าที่ของกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช กรมป่าไม้ และหน่วยงานอื่นๆที่สนธิกําลังเข้าพื้นที่ดับไฟในส่วนที่ยังหลงเหลืออยู่เพื่อไม่ให้เกิดไฟปะทุขึ้นอีก พร้อมสํารวจพื้นที่ยังมีไฟไหม้อยู่หรือไม่ หากพบให้เร่งดับทันที ส่วนอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ได้จัดทําแนวกันไฟห่างจากจุดที่ไฟไหม้ประมาณ 1 กิโลเมตร ป้องกันไม่ให้ไฟลุกลามเข้าเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ขณะที่ นายนฤพนธ์ ทิพย์มณฑา ผู้อํานวยสํานักป้องกัน ปราบปรามและควบคุมไฟป่า กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช กล่าวว่า ช่วงบ่ายที่ผ่านมามีไฟปะทุขึ้นอีกรอบ โดยเจ้าหน้าที่ชุดดับไฟป่าที่ขึ้นเขาไปทําแนวดักหัวไฟและได้ดับไฟดังกล่าวด้วยการจุดไฟสวนกลับ เพื่อควบคุมไฟไม่ให้ลุกลามหรือปะทุขึ้นอีก ควบคู่กับใช้เฮลิคอปเตอร์ของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม , กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) และกองทัพบกขึ้นบินทิ้งน้ําสกัดและทําแนวควบคุมไฟป่าไม่ให้ลุกลามลงมาตีนเขาที่มีแนวเขตใกล้กับชุมชน เพื่อเพิ่มความชื้นในดินและลดความร้อนสะสมของดินลงด้วย สําหรับในช่วงค่ําวันนี้ (31 มี.ค.66) นายบัญชา เชาวรินทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครนายก พร้อมชุดเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการดับไฟป่า และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะมีการประเมินแผนงานทั้งหมด ณ ศูนย์บัญชาการเฉพาะกิจ บริเวณศูนย์อํานวยการป้องกันและแก้ไขปัญหาอัคคีภัย ไฟป่า และหมอกควันในพื้นที่ตําบลเขาพระ องค์การบริหารส่วนตําบลเขาพระ อ.เมืองนครนายก จ.นครนายก
31/3/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230331171416859
null
ค่าฝุ่น PM 2.5 ในพื้นที่ภาคเหนือ 17 จังหวัด ปรับตัวสูงขึ้นอยู่ในระดับสีแดง 21 พื้นที่ โดย ต.เวียงใต้ อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน สูงสุดอยู่ที่ 376 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร
ค่าฝุ่น PM 2.5 ในพื้นที่ภาคเหนือ 17 จังหวัด ปรับตัวสูงขึ้นอยู่ในระดับสีแดง 21 พื้นที่ โดย ต.เวียงใต้ อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน สูงสุดอยู่ที่ 376 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร นายปิ่นสักก์ สุรัสวดี อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) ในฐานะประธานศูนย์แก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศ (ศกพ.) กล่าวว่า วันนี้ (31 มี.ค.66) ค่าฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM 2.5) ในพื้นที่ภาคเหนือ 17 จังหวัดปรับตัวสูงขึ้น เกินมาตรฐานในระดับสีแดง 21 พื้นที่ ใน จ.แม่ฮ่องสอน เชียงราย น่าน ลําปาง ลําพูน พะเยา น่าน และเชียงใหม่ ส่วนใหญ่ค่าฝุ่นเฉลี่ยประมาณ 96 – 376 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร พบสูงสุดที่ ต.เวียงใต้ อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน โดยยังพบการเผาในเขตป่าจํานวนมาก , ผลกระทบจุดความร้อน (Hotspot) จากประเทศเพื่อนบ้านที่ค่อนข้างรุนแรง และการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศที่มีผลต่อการสะสมของฝุ่น จึงขอให้ประชาชนในพื้นที่ควรงดกิจกรรมกลางแจ้ง กลุ่มเสี่ยงให้เฝ้าระวังอาการผิดปกติ และปฏิบัติตามคําแนะนําของแพทย์อย่างเคร่งครัด พร้อมขอความร่วมมือประชาชนงดการบริหารจัดการเชื้อเพลิงต่อเนื่องจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลายลง ทั้งนี้ ในพื้นที่ 17 จังหวัดภาคเหนือมีแนวโน้มฝุ่นละอองขึ้นสูงบริเวณภาคเหนือตอนบน โดยเฉพาะจังหวัดที่มีพื้นที่ติดกับประเทศเพื่อนบ้านต้องเฝ้าระวังพิเศษช่วงวันที่ 1 - 7 เมษายน แต่ระหว่างวันที่ 1 - 3 เมษายน สถานการณ์อาจบรรเทาลงได้บ้างเนื่องจากสภาพอากาศเปิดมากขึ้น ส่วนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ พบค่าฝุ่น PM 2.5 ปรับตัวสูงขึ้นเช่นกัน เกินมาตรฐานในระดับสีส้ม 4 พื้นที่ ใน จ. เลย , หนองคาย , นครพนม และมุกดาหาร อยู่ที่ 51 - 84 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ขณะที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑลคุณภาพอากาศดีมากต่อเนื่อง โดยคาดการณ์ถึงวันที่ 6 เมษายนมีแนวโน้มดีขึ้นจากสภาพอากาศเปิดมากขึ้น เพดานการลอยตัวอากาศที่สูงขึ้น ประกอบกับ ลมทางใต้ที่กําลังแรงช่วยพัดพาฝุ่นละอองออกจากพื้นที่ ทั้งนี้ สามารถติดตามสถานการณ์คุณภาพอากาศได้ทางแอปพลิเคชั่น Air4Thai
31/3/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230331174025869
null
ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสงคราม ลงพื้นที่เยี่ยมเยียน การขับเคลื่อนโครงการหนึ่งตำบล หนึ่งหมู่บ้านยั่งยืน (Sustainable Village) อำเภอบางคนที
นายสมนึก พรหมเขียว ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสงคราม พร้อมด้วยนายรนัสถ์ชัย พุ่มเจริญ ปลัดจังหวัดสมุทรสงคราม หัวหน้าสํานักงานจังหวัดสมุทรสงคราม พัฒนาการจังหวัดสมุทรสงคราม และหัวหน้าส่วนราชการระดับจังหวัด ลงพื้นที่เยี่ยมเยียน ให้กําลังใจ พบปะ พี่น้องชาวอําเภอบางคนที ในการขับเคลื่อนโครงการหนึ่งตําบล หนึ่งหมู่บ้านยั่งยืน (Sustainable Village) ณ บ้านยายแพง หมู่ 2 ตําบลยายแพง อําเภอบางคนที และบ้านบางคนที หมู่ 5 ตําบลบางคนที อําเภอบางคนที มีนายวุฒิชัย ยามโคกสูง นายอําเภอบางคนที พร้อมผู้นําท้องที่ ผู้นําท้องถิ่นในพื้นที่ให้การต้อนรับและนําเสนอโดยนายสมนึก พรหมเขียว ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสงคราม กล่าวว่า "กระทรวงมหาดไทยได้จัดทําโครงการหนึ่งตําบลหนึ่งหมู่บ้านยั่งยืน (Sustainable Vilage) เพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน พร้อมทั้งขับเคลื่อนเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน (Sustainable Development Goals : SDGs) โดยมีหมู่บ้าน/ชุมชนเป้าหมาย โดยใช้ฐานข้อมูลจาก กชช.2ค. ซึ่งมีองค์ประกอบที่สําคัญ คือ การน้อมนําแนวพระราชดําริโครงการ “บ้านนี้มีรัก ปลูกผักกินเอง” และโครงการ “ทางนี้มีผล ผู้คนรักกัน” ของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี มาใช้พร้อมกับนําไปแบ่งปันให้แก่คนในชุมชนและการส่งเสริมสิ่งแวดล้อมที่ดี เช่น การจัดทําถังขยะเปียกลดโลกร้อน ซึ่งการลงพื้นที่ในวันนี้เป็นการลงติดตามและให้กําลังใจการทํางานของ "ทีมหมู่บ้าน" หากมีปัญหาความต้องการ ที่ต้องการสนับสนุนขอให้หมู่บ้าน ดําเนินการจัดทําข้อมูลรายละเอียด เพื่อประสานงบประมาณมาให้การสนับสนุนต่อไป จากนั้นผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสงคราม พร้อมคณะได้เยี่ยมชมการปลูกผักสวนครัว และการดําเนินการโครงการถังขยะเปียกลดโลกร้อนของครัวเรือนในพื้นที่รุ่งนภา/ข่าว/ธิติมา/เรียบเรียงทีมงานสํานักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสมุทรสงคราม31 มีนาคม 2566#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
31/3/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
สมุทรสงคราม
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสมุทรสงคราม
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230331175655873
null
จิสด้า ใช้ดาวเทียมติดตามการเกิดไฟป่าพบจุดความร้อนในไทยสูงเกือบ 3,000 จุด ยังพบมากในเขตป่าสงวนแห่งชาติและป่าอนุรักษ์ ส่วนประเทศเพื่อนบ้านสูงสุดที่เมียนมาเกือบ 8,000 จุด
สํานักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) หรือ GISTDA (จิสด้า) ใช้ดาวเทียมติดตามการเกิดไฟป่าพบจุดความร้อนในไทยสูงเกือบ 3,000 จุด ยังพบมากในเขตป่าสงวนแห่งชาติและป่าอนุรักษ์ ส่วนประเทศเพื่อนบ้านสูงสุดที่เมียนมาเกือบ 8,000 จุด สํานักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) หรือ GISTDA (จิสด้า) ได้เปิดเผยข้อมูลจากดาวเทียมซูโอมิ เอ็นพีพี (Suomi NPP) ของระบบเวียร์ (VIIRS) เมื่อวานนี้ (30 มี.ค.66) พบจุดความร้อน (Hotspot) ทั้งประเทศสูงถึง 2,963 จุด พบมากที่สุดในพื้นป่าอนุรักษ์มากที่สุดถึง 1,540 จุด // ป่าสงวนแห่งชาติ 1,018 จุด // พื้นที่เกษตร 161 จุด // พื้นที่ชุมชนอื่นๆ 158 จุด // พื้นที่เขต สปก. 77 จุด และพื้นที่ริมทางหลวง 9 จุด ส่วนจังหวัดที่พบจุดความร้อนมากที่สุด คือ แม่ฮ่องสอน 574 จุด , เชียงใหม่ 545 จุด และเชียงราย 332 จุด ทั้งนี้ จากการตรวจสอบค่าฝุ่น PM 2.5 ผ่านแอปพลิเคชัน “เช็คฝุ่น” พบหลายจังหวัดมีค่าฝุ่นอยู่ในระดับสีแดง และมีผลกระทบต่อสุขภาพ โดยเฉพาะแม่ฮ่องสอนค่าฝุ่นสูงสุดกว่า 400 ไมโครกรัม รองลงมาเป็นเชียงราย เชียงใหม่ พะเยา น่าน ลําปาง ลําพูน แพร่ ตาก และเลย จึงควรสวมหน้ากากอนามัยทุกครั้งเพื่อป้องกันโรคระบบทางเดินหายใจที่อาจจะตามมา ขณะที่ทุกพื้นที่ของกรุงเทพมหานครและปริมณฑลอยู่ในระดับดีมากต่อเนื่อง สําหรับจุดความร้อนของประเทศเพื่อนบ้านสูงสุดต่อเนื่องในเมียนมา 7,918 จุด รองลงมาคือ สปป.ลาว 1,970 จุด // กัมพูชา 356 จุด // เวียดนาม 237 จุด และมาเลเซีย 45 จุด ส่งผลกระทบต่อประเทศไทยในรูปแบบของหมอกควันข้ามแดนปกคลุมหนาแน่น
31/3/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230331174943870
null
พาณิชย์ฯ ตาก โชว์ศักยภาพกาแฟดีจังหวัดตาก พร้อมชูการเป็นพืชที่เป็นมิตร กับสิ่งแวดล้อม พร้อมเสริมสร้างศักยภาพเกษตรกร ผู้ปลูกกาแฟ และผู้ประกอบการกาแฟ ในงาน Tak Exotic Coffee Championship Thailand 2023 “มหัศจรรย์กาแฟดีจังหวัดตาก” ครั้งที่ 2
จังหวัดตาก โดยสํานักงานพาณิชย์จังหวัดตาก ระดมเกษตรกร ผู้ปลูกกาแฟ และผู้ประกอบการ ร้านกาแฟ ร่วมโชว์ศักยภาพกาแฟดีจังหวัดตากในงาน Tak Exotic Coffee Championship Thailand 2023 “มหัศจรรย์กาแฟดีจังหวัดตาก” ครั้งที่ 2 ตอกย้ําภาพลักษณ์การเป็นแหล่งผลิตกาแฟคุณภาพสูงที่มีอัตลักษณ์ พร้อมชูจุดเด่นในการเป็นพืชที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ช่วยอนุรักษ์ป่า และเชื่อมโยงกิจกรรมการท่องเที่ยวภายในจังหวัด ผู้ว่าราชการจังหวัดตาก นายสมชัย กิจเจริญรุ่งโรจน์ เปิดเผยถึงการจัดงาน Tak Exotic Coffee Championship Thailand 2023 “มหัศจรรย์กาแฟดีจังหวัดตาก” ครั้งที่ 2 ภายใต้โครงการประชาสัมพันธ์และส่งเสริมการตลาดผลิตภัณฑ์กาแฟ จังหวัดตาก ประจําปีงบประมาณ 2566 ซึ่งจัดขึ้นเมื่อวันที่ 25-26 มีนาคม 2566 ณ บริเวณสวนริมแม่น้ําปิง เทศบาลเมืองตาก อําเภอเมือง จังหวัดตาก ได้รับความสนใจจากประชาชนในพื้นที่และนักท่องเที่ยวที่เข้ามาร่วมชมงานเป็นจํานวนมาก โดยจังหวัดตากมีเป้าหมายในการพัฒนาจังหวัดเพื่อให้ประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ด้วยการสร้างมูลค่าเพิ่มจากสินค้าทางการเกษตร สร้างรายได้จากการท่องเที่ยว ธุรกิจบริการ และการค้าการลงทุนในพื้นที่ ซึ่งพื้นที่จังหวัดตากมีศักยภาพทางภูมิศาสตร์สูง มีความสมบูรณ์ของระบบนิเวศและสิ่งแวดล้อม และเป็นแหล่งปลูกพืชเศรษฐกิจหลายชนิด เช่น ทุเรียน อะโวคาโด ข้าวเหนียวดําลืมผัว และกาแฟ เป็นต้น ซึ่งที่ผ่านมาจังหวัดตาก โดยสํานักงานพาณิชย์จังหวัดตากได้ให้ความสําคัญกับการส่งเสริมการตลาดพืชกาแฟ เนื่องจากเป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้รับความนิยมจากประชาชนและผู้คนทั่วโลก สามารถขยายโอกาสและช่องทางการตลาดได้เพิ่มมากขึ้น จึงได้จัดงาน Tak Exotic Coffee Championship Thailand 2023 “มหัศจรรย์กาแฟดีจังหวัดตาก”ครั้งที่ 2 เพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์ กระตุ้นการรับรู้ของผู้บริโภคยุคใหม่ โดยเน้นการสร้างมาตรฐานผลิตภัณฑ์กาแฟจังหวัดตากให้เป็นที่ยอมรับของตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศ และช่วยเสริมสร้างความเข้มแข็ง ยกระดับให้แก่เกษตรกรและชุมชนผู้ปลูกกาแฟในการผลิตกาแฟที่มีคุณภาพได้มาตรฐานสากลเป็นการส่งเสริมภาพลักษณ์กาแฟดีจังหวัดตาก ที่ได้ชื่อว่ามีอัตลักษณ์ด้านรสชาติ เพราะเป็นกาแฟที่ปลูกในสภาพพื้นที่สูงจากระดับน้ําทะเล 800-1,300 เมตร โดยปลูกภายใต้ร่มเงาป่าไม้ จึงทําให้ผลผลิตกาแฟมีไซส์เม็ดพรีเบอร์รี่ ที่เชื่อกันว่ามีความหนาแน่นและชัดเจน มีความแตกต่างจากแหล่งผลิตอื่น โดยมีรสชาติออกเปรี้ยวเหมือนส้มโอ และมีความหวานแบบแตงโม ซึ่งเป็นรสชาติกาแฟที่มีความกลมกล่อม หอมกรุ่น และยังมีคาเฟอีนต่ําอีกด้วย“ทั้งนี้ ในปี 2565 ราคากาแฟในตลาดโลกได้มีการปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเป็นผลสืบเนื่องมาจากวิกฤตสภาพอากาศที่แปรปรวน ซึ่งส่งผลกระทบต่อผลผลิตกาแฟ ในขณะที่สถานการณ์ตลาดกาแฟในบ้านเรานั้น แม้ผู้ประกอบการจะมีต้นทุนกาแฟต่อแก้วที่สูงขึ้น แต่ภาพรวมของตลาดก็ยังคงเติบโต และมีการขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จึงเชื่อมั่นว่าการจัดงานครั้งนี้จะสามารถขยายโอกาส และสร้างช่องทางการตลาดให้แก่เกษตรกรผู้ปลูกกาแฟจังหวัดตาก และผู้ประกอบกิจการจําหน่ายกาแฟได้เพิ่มมากขึ้น”ด้าน นางสาวปาริชาติ พงค์พันเทา พาณิชย์จังหวัดตาก กล่าวถึงไฮไลท์สําคัญของการจัดงานในครั้งนี้ นอกจากการออกแสดงและจําหน่ายผลิตภัณฑ์กาแฟและผลิตภัณฑ์ต่อเนื่องของเกษตรกร กลุ่มผู้ปลูกกาแฟ และผู้ประกอบการกาแฟ รวมกว่า 40 ร้านค้าแล้ว ยังมีกิจกรรมการสกัดกาแฟด้วยเครื่องสกัดแบบดริป pour-over (Drip) และการแข่งขันชงเครื่องดื่ม Esyen ด้วย Moka Pot ที่เปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการร้านกาแฟ และผู้สนใจได้เข้าร่วมแข่งขันประชันฝีมือในการชงกาแฟ ซึ่งจะเป็นการยกระดับมาตรฐานให้กับผู้ประกอบการร้านกาแฟด้วยอีกทางหนึ่ง โดยการสนับสนุนจากสมาคมกาแฟและชาไทย และกรรมการตัดสินผู้ทรงคุณวุฒิระดับสากล ซึ่งผู้ที่ได้รับรางวัลชนะเลิศประเภท การสกัดกาแฟด้วยเครื่องสกัดแบบดริป ได้แก่ คุณอาภาวลี เกษวงศ์รอด จากจังหวัดตาก และผู้ชนะเลิศประเภทการแข่งขันชงเครื่องดื่ม Esyen ด้วย Moka Pot ได้แก่ คุณธีรพัฒน์ สุขทรัพย์ จากร้าน Alternative Slowbar : Roaster จังหวัดกําแพงเพชร นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมการเสวนา หัวข้อ “โอกาสและอนาคตของกาแฟตาก” “คราฟซ็อคโกแลตจังหวัดตาก” และโดยวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิและมีความเชี่ยวชาญด้านกาแฟ และซ็อคโกแลต ซึ่งได้รับความสนใจจากผู้เข้าร่วมกิจกรรมเป็นอย่างมาก“การจัดงานในครั้งนี้นับเป็นการเชื่อมโยงกิจกรรมการท่องเที่ยวภายในจังหวัด รวมถึงจังหวัดข้างเคียง ทําให้เกษตรกร กลุ่มผู้ปลูกกาแฟ ผู้ประกอบการ และประชาชนในพื้นที่มีรายได้เพิ่มขึ้น และยังได้รับการส่งเสริมด้านศักยภาพผ่านกิจกรรมการแข่งขันชงกาแฟ รวมถึงยังเป็นการประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้ผลิตภัณฑ์กาแฟจังหวัดตากให้เป็นที่รู้จักในกลุ่มผู้บริโภคกาแฟรุ่นใหม่ ทําให้เกิดการต่อยอด และขยายโอกาสทางการตลาดเพิ่มมากขึ้นต่อไปอีกด้วย” #สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
31/3/2023
ภาคตะวันออก
ระยอง
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดระยอง
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230331181537881
null
ผู้ว่าฯ สระบุรี ลงพื้นที่สร้างแนวกันไฟป่า เขตพื้นที่ติดต่อจังหวัดนครนายกหลังเกิดไฟไหม้ป่า
วันนี้ (31 มี.ค.66) ที่หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ชญ.15 (ชะอม)ตําบลชะอม อําเภอแก่งคอย จังหวัดสระบุรี นายผล ดําธรรม ผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรีลงพื้นที่เพื่อติดตามการสร้างแนวกันไฟป่าในพื้นที่ หลังไหม้ป่าในจังหวัดนครนายก และมีความเสี่ยงที่จะข้ามเขาไปในพื้นที่ อ.ชะอม จ.สระบุรี ซึ่งสถานการณ์ไฟไหม้ป่านครนายก ยังมีเปลวไฟและกลุ่มควันปะทุอยู่ เจ้าหน้าที่และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจึงต้องเร่งระดมกําลังทางภาคพื้นที่ เดินทางเข้าไปทําแนวกันไฟ นายผล ดําธรรม ผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรี เปิดเผยว่า ในวันนี้ได้บูรณาการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่เพื่อทําแนวป้องกันไฟป่า เพื่อเตรียมการป้องกันการลุกลามของไฟป่าในพื้นที่นครนายกมายังในพื้นที่ตําบลชะอม โดยแม้ว่าทางจังหวัดนครนายกจะสามารถควบคุม ไฟไหม้ป่าไว้ในวงจํากัดแล้ว พร้อมประชาสัมพันธ์ให้พี่น้องประชาชนในพื้นที่ร่วมกันเฝ้าระวังและห้ามจุดไฟเผาในพื้นที่ทั้งนี้นายผล ดําธรรม ผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรี ได้ฝากเตือนมายังประชาชนว่า ด้วยปรากฏว่าภัยแล้งของทุกปี มักจะเกิดไฟป่าขึ้นเป็นประจํา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเขตพื้นที่ป่าอนุรักษ์ ป่าสงวนแห่งชาติ ป่าตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พุทธศักราช 2484 รวมถึงในพื้นที่ชุมชน พื้นที่ทางการเกษตร และในเขตทางทําความเสียหายต่อทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นจํานวนมหาศาลทําให้รัฐต้องสูญเสียงบประมาณ ในการระดมกําลัง เจ้าหน้าที่ เครื่องมือ เครื่องใช้ และยานพาหนะ เพื่อที่จะเข้าดําเนินการระงับไฟป่าเป็นจํานวนมาก ซึ่งสาเหตุประการหนึ่ง เกิดจากการเผาไร่ ฟางข้าว ซังข้าวโพด หญ้าและวัชพืชในที่ดิน ที่ทํากินของเกษตรกร เพื่อเตรียมพื้นที่เพาะปลูก โดยไม่มีการควบคุมในที่สุดไฟก็ไหม้ลุกลามเข้าไปติดป่ากลายเป็นไฟป่าสําหรับเขตควบคุมไฟป่าขึ้นไว้ ดังนี้ กําหนดให้เขตอุทยานแห่งชาติ เขตห้ามล่าสัตว์ป่า สวนพฤกษศาสตร์ ศูนย์ฝึกอบรมป่าสงวนแห่งชาติ พื้นที่ชุมชน พื้นที่ทางการเกษตร พื้นที่ริมทางหลวง และพื้นที่ริมทางหลวงท้องถิ่นเป็นเขตควบคุมไฟป่า กําหนดมาตรการเพื่อควบคุมไฟป่าสําหรับเขตควบคุมไฟป่า ดังนี้ ในเขตพื้นที่ชุมชนห้ามมิให้กําจัดวัชพืช ขยะ หรือสิ่งอื่นใด โดยการเผาอย่างเด็ดขาด เมื่อมีความจําเป็นต้องเผาไร่ วัชพืชในที่ดินทํากิน ในพื้นที่ชุมชน และในพื้นที่ทางการเกษตร ขอความร่วมมือให้ราษฎรผู้ครอบครองที่ดินดังกล่าว จัดทําแนวกันไฟและควบคุมไฟไม่ให้ลุกลามไปยังพื้นที่อื่นๆ โดยให้ประสานกับหน่วยป้องกันและพัฒนาป่าไม้ท้องที่ สถานีควบคุมไฟป่าเจ็ดสาวน้อย-สามหลั่น หรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ที่อยู่ที่ใกล้เคียง เพื่อจัดเจ้าหน้าที่คอยควบคุมในการดําเนินการดังกล่าวด้วย หากราษฎรผู้ใดไม่แจ้งขออนุญาตต่อกํานัน ผู้ใหญ่บ้าน หรือขออนุญาตแล้วแต่ไม่จัดทําแนวกันไฟและมิได้ควบคุมไฟให้อยู่ในพื้นที่ ที่ตนถือครอง จนเป็นเหตุให้ไฟลุกลามไหม้ป่า ให้กํานัน หรือผู้ใหญ่บ้าน แจ้งต่อนายอําเภอท้องที่ เพื่อดําเนินคดีตามกฎหมายแก่ราษฎรที่ฝ่าฝืน หรือปล่อยปละละเลยโดยเฉียบขาดทุกราย โดยเฉพาะราษฎรที่บุกรุกเข้าไปแผ้วถางป่าในเขตอุทยานแห่งชาติ เขตห้ามล่าสัตว์ป่า ป่าสงวนแห่งชาติ จังหวัดจะพิจารณาใช้นโยบายอพยพราษฎรผู้บุกรุกพื้นที่ดังกล่าวออกจากป่าตามที่เห็นสมควรและจะดําเนินคดีตามความผิดที่เกิดขึ้น ในเขตควบคุมไฟป่า ราษฎรต้องให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ในการดับไฟป่า ในกรณีที่ทางราชการร้องขอ และหากพบเห็นผู้กระทําความผิดจุดไฟเผาป่า หรือเมื่อพบเห็นไฟไหม้ป่าบริเวณใดให้ช่วยกันดับไฟป่าโดยเร็ว เพื่อมิให้ไฟขยายเป็นวงกว้าง หากไฟป่ารุนแรงไม่สามารถดับได้ ขอให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่จะได้เข้าไปดําเนินการดับไฟและจับกุมผู้กระทําผิดได้ทันการณ์ กรณีจุดไฟเผาป่า หรือปล่อยให้ไฟลุกลามเข้าไปในพื้นที่ป่าตามพระราชบัญญัติป่าไม้ มีความผิดตามกฎหมายเกี่ยวกับการป่าไม้แล้ว ยังอาจมีความผิดเกี่ยวกับกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้องอีก ข้าราชการในพื้นที่ทุกคน ทุกสังกัด นายกเทศมนตรี นายกองค์การบริหารส่วนตําบล กํานัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน สารวัตรกํานัน คณะกรรมการหมู่บ้าน คณะกรรมการชุมชน และสมาชิกสภาองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ให้ถือเป็นหน้าที่ที่ต้องสอดส่องดูแลเอาใจใส่ และร่วมชี้แจงให้ประชาชนในท้องที่ปฏิบัติตามประกาศอย่างเข้มงวด#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
31/3/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
สระบุรี
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสระบุรี
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230331185705898
null
จ.ตราด “Kick-off ลานตีราคามังคุดวัดดงกลาง ประจำฤดูกาลผลิต 2566” ผ่านแพลตฟอร์มช่องทางการตลาดกลางสินค้าเกษตร
วันนี้ (31 มี.ค. 66) นายชํานาญวิทย์ เตรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดตราด เป็นประธานในกิจกรรม “Kick-off ลานตีราคามังคุดวัดดงกลาง ประจําฤดูกาลผลิต 2566” บริเวณตลาดกลางมังคุดวัดดงกลาง อําเภอเขาสมิง ซึ่งสํานักงานพาณิชย์จังหวัดตราด ดําเนินการร่วมกับกลุ่มวิสาหกิจชุมชนกลุ่มมังคุดคุณภาพดงกลาง จัดขึ้นโดยมีการประมูลมังคุดของสมาชิกเกษตรกรผ่านแพลตฟอร์มช่องทางการตลาดกลางสินค้าเกษตรนางวรัญญา ถนอมพันธ์ พาณิชย์จังหวัดตราด กล่าวว่า สืบเนื่องจากปัญหาราคาผลผลิตตมังคุดตกต่ําในฤดูกาลผลิต 2565 ที่ผ่านมา จังหวัดตราดได้เพิ่มช่องทางตลาดประมูลสินค้ามังคุด ณ ลานตีราคามังคุดวัดดงกลาง ในการเข้าแทรกแซงปัญหาดังกล่าวโดยไม่ใช้งบประมาณ โดยในฤดูกาลผลิต 2565 มีการซื้อขายมังคุดของสมาชิกเกษตรกรประมาณ 8,000 ตัน และของบุคคลภายนอกอีกกว่า 8,000 ตัน ในช่วงที่ผลผลิตออกสู่ตลาดมาก สามารถยกระดับราคาผลผลิตมังคุดให้แก่เกษตรกรได้ถึงกิโลกรมัละ 5 -10 บาท ปริมาณกว่า 2,000 ตัน ทางจังหวัดตราดจึงได้มอบหมายให้สํานักงานพาณิชย์จังหวัดตราด ต่อยอดการดําเนินกิจกรรมเพื่อประโยชน์ของเกษตรกรผู้ปลูกมังคุด โดยสนับสนุนงบประมาณตามแผนปฏิบัติราชการประจําปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ตามโครงการส่งเสริมและพัฒนาศักยภาพการเกษตร การค้า การท่องเที่ยว และบริการ ด้วยการพัฒนาแพลตฟอร์มช่องทางการตลาดกลางสินค้าเกษตร แก่สมาชิกเกษตรกรและกลุ่มวิสาหกิจชุมชนกลุ่มมังคุดคุณภาพดงกลาง โดยแพลตฟอร์มดังกล่าวนับเป็นเครื่องมือที่ช่วยสนับสนุนช่องทางการตลาดสินค้าเกษตรของจังหวัดตราด สร้างความเป็นธรรมให้กับเกษตรกรผู้ปลูกมังคุดและผู้รับซื้อมังคุดจากเกษตรกร #สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
31/3/2023
ภาคตะวันออก
ตราด
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดตราด
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230331203340919
null
จ.แม่ฮ่องสอน สั่งการเพิ่มความเข้มข้น มาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละออง โดยขอความร่วมมือประชาชน และทุกหน่วยงาน ชะลอมาตรการบริหารจัดการเชื้อเพลิง ลดพื้นที่เผาไหม้ และปริมาณฝุ่นPM2.5
วันที่ (31 มี.ค.66) เวลา 09.30 น. ที่ห้องประชุมศูนย์ปฏิบัติการไฟป่าจังหวัดแม่ฮ่องสอน สํานักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดแม่ฮ่องสอน นายเชษฐา โมสิกรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน มอบหมายให้นายประเสริฐ จิตต์พลีชีพ รองผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน เป็นประธานการประชุมคณะทํางานศูนย์ปฏิบัติการไฟป่าจังหวัดแม่ฮ่องสอน ครั้งที่ 9 ประจําปี 2566 เพื่อติดตามผลการดําเนินงาน และกําหนดแนวทางการแก้ไขสถานการณ์ไฟป่า และหมอกควัน โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม รองผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน กล่าวว่า สถานการณ์ไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละอองจังหวัดแม่ฮ่องสอนหลังจากนี้ มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นทั้งจุดความร้อนและพื้นที่เผาไหม้ ดังนั้นจึงเน้นย้ําให้ทุกหน่วยงานปฏิบัติการตามมาตรการที่กําหนดไว้อย่างเข้มข้น ทุกมาตรการ โดยงดการบริหารจัดการเชื้อเพลิงในระยะนี้ การจัดทําห้องปลอดฝุ่นของหน่วยงานราชการ โรงพยาบาล โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพประจําตําบล ศูนย์ดูแลเด็กเล็ก เพื่อให้บริการประชาชน และการรณรงค์ประชาสัมพันธ์การดูแลตนเองของประชาชนโดยเฉพาะกลุ่มเปราะบางทั้งนี้ในที่ประชุมได้รายงานผลการดําเนินการ แก้ไข ปัองกันไฟป่า หมอกควันและฝุ่นละออง ระหว่างวันที่ 1 มกราคม - 29 มีนาคม 2566 พบว่ามีจุดความร้อนสะสมทั้งหมด 7,283 จุด คิดเป็นร้อยละ 77.66 ของค่าเป้าหมายปี 2566 โดยปีนี้จังหวัดแม่ฮ่องสอนตั้งค่าเป้าหมายไม่เกิน 9,378 จุด โดยอําเภอที่มีจุดความร้อนมากที่สุดในขณะนี้ ได้แก่ อําเภอแม่สะเรียง อําเภอเมือง และอําเภอสบเมย ตามลําดับ ขณะที่ค่า PM2.5 เกินเกณฑ์มาตรฐาน จํานวน 39 วันจากนั้นผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน รับมอบหน้ากากอนามัย N95 จากนางสาวชนเขตน์ บุญยขันธ์ ประธานที่ปรึกษาอาวุโส หอการค้าจังหวัดแม่ฮ่องสอน และส่งมอบต่อให้กับนางเทพินท์ พงษ์วดี ประธานชุมชนกาดเก่า ตัวแทนชุมชนเทศบาลเมืองแม่ฮ่องสอน ทั้งนี้ หน้ากากอนามัยส่วนที่เหลือจะนําไปมอบให้กับศูนย์ปฏิบัติงานไฟฟ้าแต่ละอําเภอ นําไปมอบให้กับชุมชนแต่ละพื้นที่ต่อไป#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
31/3/2023
ภาคเหนือ
แม่ฮ่องสอน
สวท.แม่ฮ่องสอน
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230331210038930
null
จังหวัดระยองแต่งงานปู อนุรักษ์และขยายพันธุ์ปูแสม ปูดำ ฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติที่แกลง
ที่บริเวณสะพานรักษ์แสม อําเภอแกลง จังหวัดระยอง มีการตั้งขบวนขันหมากแห่ ‘ปูเจ้าบ่าว’ นําโดย นายไชยรัตน์ เอื้อตระกูล นายกเทศมนตรีตําบลปากน้ําประแส มาสู่ขอ ‘ปูเจ้าสาว’ นําโดย นายมณฑล โพธิ์ประเสริฐ นายกเทศมนตรีตําบลเนินฆ้อ เพื่อทําพิธีมงคลสมรสปู โดยมีนายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง เป็นประธานในพิธี และมีนางสาวกานต์จรัส เอียดทองใส นายอําเภอแกลง นายประสานต์ พฤกษาชาติ รองนายก อบจ.ระยอง นายวรวุฒิ ด่านสมพงศ์ วัฒนธรรมจังหวัดระยอง นายวิเชียร ทองด้วง อุตสาหกรรมจังหวัดระยอง ภาคเอกชน และประชาชนร่วมเป็นเกียรติในพิธีดังกล่าว ภายในงานมีการจัดพิธีอย่างจริงจัง มีการนําดอกดาวเรืองโรยสินสอดทองหมั้นประกอบด้วยต้นโกงกางและ สวมมงคลแฝดและรดน้ําสังข์อวยพรคู่บ่าวสาว ก่อนที่จะส่งตัวปูบ่าวสาวส่งเข้าเรือนหอซึ่งเป็นคอกสําหรับเพาะเลี้ยงปูแสมและปูดําที่ป่าโกงกางบริเวณดังกล่าว พร้อมร่วมกันนําต้นโกงกางไปลงแปลงเพาะปลูกและปล่อยหอยพอกสู่ธรรมชาติเพื่อการอนุรักษ์และขยายพันธุ์ต่อไป นอกจากนี้ยังมีการมอบป้าย “เขตพื้นที่อนุรักษ์สัตว์น้ําวัยอ่อน” แก่ อปท.และผู้นําชุมชน พร้อมทั้งมอบใบประกาศเกียรติคุณแก่ผู้ให้การสนับสนุนโครงการพัฒนาการท่องเที่ยวในตําบลและรับมอบเงินสนับสนุนโครงการจากกลุ่ม ปตท.ทั้งนี้ การแต่งงานปูแสม ปูดํา นั้นนอกจากเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวงานเสน่ห์วิถีถิ่น แผ่นดินระยอง “เที่ยวชุมชน ยลวิถี ชมของดี ที่เนินฆ้อ” แล้ว ยังมีจุดมุ่งหมายในการขยายพันธุ์สัตว์น้ําเพื่อการอนุรักษ์ บํารุงระบบนิเวศ เพื่อคงความอุดมสมบูรณ์ของทรัพยากรธรรมชาติในพื้นที่ดังกล่าว โดยป่าชายเลนนั้นมีความสําคัญมากต่อการดํารงชีวิตของสัตว์น้ําและชาวบ้าน เพราะเป็นแหล่งอาหารสําคัญของสัตว์น้ํา เป็นที่อยู่อาศัย เป็นแหล่งอนุบาลสัตว์น้ําในระยะตัวอ่อนซึ่งจมีผลต่อจํานวนสัตว์บริเวณดังกล่าวในอนาคต ทั้งยังเป็นแหล่งสําหรับลดความรุนแรงของคลื่น ป้องกันการพังทลายของดินชายฝั่ง ช่วยชะลอความเร็วของลม พายุให้ลดลงก่อนที่จะขึ้นสู่ฝั่งไม่ให้เกิดความเสียหายอย่างรุนแรงแก่ที่อยู่อาศัยและพื้นที่ทํากินของชาวบ้านที่ตั้งถิ่นฐานอยู่บริเวณใกล้เคียง และช่วยเพิ่มพื้นที่ตามชายฝั่งทําให้เกิดดินเลนงอกใหม่ในพื้นที่ดังกล่าวอีกด้วย#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
31/3/2023
ภาคตะวันออก
ระยอง
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดระยอง
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230331232648943
null
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ส่งข้อความพระราชสาส์นอำนวยพรไปยังประธานาธิบดีแห่งสหพันธ์สาธารณรัฐบราซิล กรุงบราซิเลีย ในโอกาสที่ท่านเข้าดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีแห่งสหพันธ์สาธารณรัฐบราซิล เป็นสมัยที่ 3
ข้อความพระราชสาส์น มีดังนี้ พณฯ นายลุยช์ อีนาซิว ลูลา ดา ซิววา ประธานาธิบดีแห่งสหพันธ์สาธารณรัฐบราซิล กรุงบราซิเลีย ในโอกาสที่ท่านเข้าดํารงตําแหน่งประธานาธิบดีแห่งสหพันธ์สาธารณรัฐบราซิล เป็นสมัยที่ 3 ข้าพเจ้าขอส่งคําอํานวยพรและความปรารถนาดีด้วยใจจริง เพื่อความสําเร็จและความสุขสวัสดิ์ ของท่านประธานาธิบดี ทั้งเพื่อความร่มเย็นเป็นสุขและความเจริญรุ่งเรืองของประเทศและประชาชนชาวบราซิล ข้าพเจ้าเชื่อมั่นอย่างยิ่งว่า ด้วยการสนับสนุนของท่านประธานาธิบดีและความมุ่งมั่นตั้งใจร่วมกัน ประเทศไทยและสหพันธ์สาธารณรัฐบราซิลจะสร้างความเจริญรุดหน้าในการกระชับสัมพันธไมตรีระหว่างกันให้แน่นแฟ้น และขยายขอบเขตความร่วมมือและความเป็นหุ้นส่วนให้กว้างขวางออกไป อันก่อเกิดประโยชน์สุขยิ่งขึ้นแก่ประเทศและประชาชนทั้งสองฝ่าย พระปรมาภิไธย มหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ข่าวในพระราชสํานัก สทท.
1/1/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230102130459454
null
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ ส่งข้อความพระราชสาส์นอำนวยพรไปยังประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐคิวบา กรุงฮาวานา ในโอกาสวันแห่งชัยชนะการปฏิวัติของสาธารณรัฐคิวบา
ข้อความพระราชสาส์น มีดังนี้ ฯพณฯ นายมิเกล มาริโอ ดิอัซ-กาเนล เบร์มูเดซ ประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐคิวบา กรุงฮาวานา ในโอกาสวันแห่งชัยชนะการปฏิวัติของสาธารณรัฐคิวบา ข้าพเจ้าขอแสดงความยินดีอย่างยิ่ง และขออํานวยพรให้ท่านประธานาธิบดีประสบแต่ความสุขสวัสดีและมีพลานามัยสมบูรณ์แข็งแรง ทั้งขอให้ประเทศและประชาชนชาวคิวบามีความร่มเย็นเป็นสุขและความเจริญรุ่งเรืองสืบไปประเทศไทยยังคงมุ่งมั่นที่จะแสวงหาโอกาสในการเสริมสร้างความสัมพันธ์อันดีและความร่วมมือกับสาธารณรัฐคิวบา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านการค้า การท่องเที่ยว และการสาธารณสุข ให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น เพื่อประโยชน์สุขของประเทศและประชาชนทั้งสองฝ่ายเป็นอเนกประการ พระปรมาภิไธย มหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ข่าวในพระราชสํานัก สทท.
1/1/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230102130607456
null
สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ประทานคติธรรม เนื่องในโอกาสวันขึ้นปีใหม่ พุทธศักราช 2566
บัดนี้ บรรลุอภิลักขิตสมัยขึ้นปีใหม่ พุทธศักราช 2566 เมื่อถึงวาระเถลิงศก เราทั้งหลายคงได้เห็นการแสดงน้ําใจไมตรีต่อกันอย่างเป็นรูปธรรม เช่น การส่งบัตรอวยพร การขอขมาลาโทษ การกล่าวถ้อยคําอวยชัยให้พรแก่กัน การมอบของขวัญ เป็นต้น ล้วนเป็นกิริยาวาจาอันดีงาม สมควรแก่การอนุโมทนายินดี เพราะเป็นวิถีปฏิบัติซึ่งส่องสะท้อนความรู้สึกนึกคิดของมนุษย์ผู้เจริญ ในอันที่จะผดุงสันติสุขให้ดํารงอยู่ได้ในวงสังคมที่ตนอยู่ ซึ่งย่อมเป็นปัจจัย เสริมสร้างสันติสุขในระดับประเทศชาติและในระดับโลก โดยอาศัยอานุภาพแห่งเมตตาธรรมเป็นเครื่องค้ําจุน ตามธรรมดาของสังคมซึ่งมีความแตกต่างหลากหลายทางความคิด ความเชื่อ ตามทิฐิมานะของแต่ละ ปัจเจกบุคคล อาจเกิดความโกลาหล มีการกระทบกระทั่งกันบ้าง จนถึงขั้นเบียดเบียนประทุษร้ายกันเป็นปกติ ซึ่งล้วนเป็นสภาวะที่ไม่มีใครชอบ ไม่มีใครปรารถนา แต่ก็น่าแปลกที่คนเรา แม้รู้ทั้งรู้ว่าการคิด การพูด และการกระทําดี จักนํามาซึ่งผลดีทั้งแก่ตนและแก่ผู้อื่น กลับยังไม่สมัครใจเร่งขวนขวายในอันที่จะกระทําความดีให้งดงามไพบูลย์ยิ่งขึ้น โดยอาจเริ่มต้นด้วยการรักตัวตนของตนเองให้น้อยลง รักความชอบธรรมให้มากขึ้น ยิ่งถ้าพิเคราะห์ดูก็จะเห็นได้ชัดว่า การปฏิบัติตามศีลธรรมอันดีงามตามหลักศาสนาและตามหลักกฎหมายทางราชอาณาจักรนั้น ย่อมเป็นเหตุที่ให้คนดี รู้สึกปลอดโปร่งโล่งใจโดยประการต่างๆ เหตุฉะนี้ คนที่รักใครใน "ธรรม" จึงมักเป็นผู้ร่มเย็นเองและนําความเจริญมาสู่ผู้อื่นอยู่เป็นนิตย์ ขออานุภาพแห่งคุณพระศรีรัตนตรัยและคุณความดีที่ทุกท่านร่วมกันบําเพ็ญ เป็นปัจจัยนําพาสันติสุขมาสู่ประเทศชาติและประชาชน ดลความโสมนัสพระราชหฤทัย ให้บังเกิดมีในสมเด็จบรมบพิตร พระราชสมภารเจ้าทั้งสองพระองค์ ผู้ทรงพระคุณอันประเสริฐ พร้อมด้วยพระบรมวงศานุวงศ์ เพื่อจักได้ทรงเพียบเพ็ญด้วยพระบารมีทวีคูณพระราชธรรมจริยาคุ้มครองอาณาราษฎรตลอดกาล และขอปวงประชาชาติไทยจงภิญโญสโมสร ด้วยความสมัครสมานสามัคคี ประสบความสวัสดีเกษมศานต์ ตลอดพุทธศักราช 2566 นี้ โดยทั่วหน้ากัน เทอญ สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม 1 มกราคม 2566
1/1/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230102130820457
null
พระราชสาส์นอำนวยพรในโอกาสวันแห่งชัยชนะการปฏิวัติของสาธารณรัฐคิวบา
ด้วยวันที่ 1 มกราคม 2566 ตรงกับวันแห่งชัยชนะการปฏิวัติของสาธารณรัฐคิวบา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ส่งข้อความพระราชสาส์นอํานวยพรไปยังประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐคิวบา ดังนี้ ในโอกาสวันแห่งชัยชนะการปฏิวัติของสาธารณรัฐคิวบา ข้าพเจ้าขอแสดงความยินดีอย่างยิ่ง และขออํานวยพรให้ท่านประธานาธิบดีประสบแต่ความสุขสวัสดีและมีพลานามัยสมบูรณ์แข็งแรงทั้งขอให้ประเทศและประชาชนชาวคิวบามีความร่มเย็นเป็นสุขและความเจริญรุ่งเรืองสืบไป ประเทศไทยยังคงมุ่งมั่นที่จะแสวงหาโอกาสในการเสริมสร้างความสัมพันธ์อันดีและความร่วมมือกับสาธารณรัฐคิวบา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านการค้า การท่องเที่ยว และการสาธารณสุข ให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น เพื่อประโยชน์สุขของประเทศและประชาชนทั้งสองฝ่ายเป็นอเนกประการ (พระปรมาภิไธย) มหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว
1/1/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230101192249346
null
พระราชสาส์นแสดงความยินดี
ด้วย พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ส่งข้อความพระราชสาส์นแสดงความยินดีไปยัง นายลุยซ์ อีนาซิว ลูลา ดา ซิววา (Mr. Luiz In?cio Lula da Silva) ในโอกาสสาบานตน เข้ารับตําแหน่งประธานาธิบดีแห่งสหพันธ์สาธารณรัฐบราซิล สมัยที่ 3 ในวันที่ 1 มกราคม 2566 ดังนี้ ในโอกาสที่ท่านเข้าดํารงตําแหน่งประธานาธิบดีแห่งสหพันธ์สาธารณรัฐบราซิล เป็นสมัยที่ 3 ข้าพเจ้าขอส่งคําอํานวยพรและความปรารถนาดีด้วยใจจริง เพื่อความสําเร็จและความสุขสวัสดิ์ของท่านประธานาธิบดี ทั้งเพื่อความร่มเย็นเป็นสุขและความเจริญรุ่งเรืองของประเทศและประชาชนชาวบราซิล ข้าพเจ้าเชื่อมั่นอย่างยิ่งว่า ด้วยการสนับสนุนของท่านประธานาธิบดีและความมุ่งมั่นตั้งใจร่วมกัน ประเทศไทยและสหพันธ์สาธารณรัฐบราซิลจะสร้างความเจริญรุดหน้าในการกระชับสัมพันธไมตรีระหว่างกันให้แน่นแฟ้น และขยายขอบเขตความร่วมมือและความเป็นหุ้นส่วนให้กว้างขวางออกไปอันก่อเกิดประโยชน์สุขยิ่งขึ้นแก่ประเทศและประชาชนทั้งสองฝ่าย (พระปรมาภิไธย) มหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว
1/1/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230101192102344
null
สมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี พระราชทานผ้าห่มกันหนาว แก่ผู้ประสบภัยหนาวในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา
วันนี้ 2 มกราคม 2566 เวลา 10 นาฬิกา 43 นาที สมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี เสด็จเป็นการส่วนพระองค์ ไปยังกองบัญชาการช่วยรบที่ 2 อําเภอเมืองนครราชสีมา จังหวัดนครราชสีมา ในการนี้ นายสยาม สิริมงคล ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา นายเดชาธร เทวเดช รองอธิบดีผู้พิพากษาภาค 3 พลโท สวราชย์(สะ-วะ-ราด) แสงผล แม่ทัพภาคที่ 2 พลตํารวตตรี อิทธิพล นาคคํา ผู้บังคับการตํารวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา พร้อมด้วยคณะแม่บ้านเหล่าทัพและข้าราชการเฝ้า รับเสด็จ จากนั้น เสด็จไปยังหอประชุมพันตรีเจริญ จ้อยทรัพย์ พระราชทานพระวโรกาสให้ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา นํานายอําเภอทั้ง 32 อําเภอ และตัวแทนประชาชนชาวจังหวัดนครราชสีมา เฝ้ารับ พระราชทาน ผ้าห่มกันหนาว สําหรับเชิญไปมอบให้กับประชาชนในพื้นที่ต่างๆ เพื่อเป็นขวัญกําลังใจและบรรเทาความหนาว จังหวัดนครราชสีมา ตั้งอยู่บนที่ราบสูง ได้รับผลกระทบจากอากาศหนาวเย็นประจําปี ซึ่งในห้วงเดือนธันวาคมถึงเดือนมกราคม เป็นช่วงที่มีอากาศหนาวเย็นที่สุด จากการสํารวจความต้องการเครื่องกันหนาวพบว่า มีประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ห่างไกล ทุรกันดาร ผู้สูงอายุ เด็ก ผู้พิการ ผู้มีรายได้น้อย ยังมีความต้องการเครื่องกันหนาวเป็นจํานวนมาก ซึ่งขณะนี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น มูลนิธิ และภาคเอกชน ได้ให้ความช่วยเหลือในเบื้องต้นแล้ว ข่าวในพระราชสํานัก สทท.
2/1/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230103143056685
null
สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงปฎิบัติพระราชกรณียกิจ ดังนี้
วันนี้ 3 มกราคม 2566 เวลา 7 นาฬิกา 17 นาที สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดําเนินไปยัง คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร ทรงบาตรพระสงฆ์ ร่วมกับอธิการบดีจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย คณบดีคณะอักษรศาสตร์ คณาจารย์ บุคลากร นิสิตเก่า และนิสิตปัจจุบัน เนื่องในโอกาส 106 ปี คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย คณะอักษรศาสตร์ เป็นอาคารเรียนหลังแรกของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 3 มกราคม 2458 เดิมมีชื่อว่า "ตึกบัญชาการ" ต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็นตึกอักษรศาสตร์ 1 และใช้เป็นอาคารเรียนของคณะอักษรศาสตร์ กระทั่งได้มีการบูรณะและเปลี่ยนชื่อเป็นอาคารมหาจุฬาลงกรณ์ เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระผู้พระราชทานกําเนิดจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ปัจจุบัน คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มี 11 ภาควิชา ทั้งยังมีศูนย์ความเป็นเลิศและศูนย์บริการทางวิชาการต่างๆ เปิดการเรียนการสอนในหลักสูตร ระดับปริญญาตรี ปริญญาโท และปริญญาเอก หลักสูตรสําหรับบุคคลภายนอก รวมทั้งงานบริการสังคม เพื่อมุ่งพัฒนาวิชาการด้านมนุษยศาสตร์ที่ลุ่มลึกและทันสมัย โดยเฉพาะมนุษยศาสตร์ดิจิทัล สร้างบัณฑิตที่มีความรู้ความเข้าใจในวิชาการด้านมนุษยศาสตร์ มีทัศนคติสอดคล้องกับความเป็นพลเมืองโลก เพื่อเป็นกําลังสําคัญของประเทศ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงเข้าศึกษาในคณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เมื่อปี 2516 ทรงสําเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี สาขาวิชาประวัติศาสตร์ และระดับปริญญาโท สาขาวิชาบาลี-สันสกฤต เวลา 14 นาฬิกา 46 นาที สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จออก ณ วังสระปทุม พระราชทานพระราชวโรกาสให้ นายสว่าง กองอินทร์ กรรมการมูลนิธิเทพรัตนเวชชานุกูล นําคณะบุคคลต่างๆ เฝ้าทูลละอองพระบาท ตามลําดับดังนี้ นักศึกษาวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร หลักสูตรป้องกันราชอาณาจักร (วปอ.) รุ่นที่ 63 (หมู่สิงโต) เฝ้าทูลละอองพระบาท น้อมเกล้าน้อมกระหม่อมถวายเตียงปรับระดับไฟฟ้า เพื่อใช้ในภารกิจของมูลนิธิเทพรัตนเวชชานุกูล นายธนทัต ชวาลดิฐ(ชะ-วาน-ดิด) กรรมการบริหารบริษัท เอสบีเฟอร์นิเจอร์เฮ้า จํากัด เฝ้าทูลละอองพระบาท น้อมเกล้าน้อมกระหม่อมถวายเตียงปรับระดับไฟฟ้า เพื่อใช้ในภารกิจของมูลนิธิเทพรัตนเวชชานุกูล นายธนบัตร พุทธรัก ประธานกรรมการบริหารบริษัท ธนบัตร ลาว อินเตอร์ จํากัด เฝ้าทูลละอองพระบาท ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายเงิน สมทบทุนมูลนิธิเทพรัตนเวชชานุกูล นายภราดร พุทธรัก ประธานกรรมการบริหารบริษัท พุทธรัก คอร์ปอเรชั่น จํากัด เฝ้าทูลละอองพระบาท ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายเงิน สมทบทุนมูลนิธิเทพรัตนเวชชานุกูล นายราเจนดร้า รักฮูนัท วาสนิก(วา-สะ-หนิก) และนางสาววรัญญา วาสนิก(วา-สะ-หนิก)จากบริษัท อาร์ดับบลิว โกลบอล จํากัด เฝ้าทูลละอองพระบาททูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายเงิน สมทบทุนมูลนิธิเทพรัตนเวชชานุกูล นางสาวรสิกา ธูปทอง กรรมการผู้จัดการบริษัท เวลตี้ ครีเอชั่น จํากัด เฝ้าทูลละอองพระบาท ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายเงิน สมทบทุนมูลนิธิเทพรัตนเวชชานุกูล นางสาวปานตา พิทักษ์ธรรม เฝ้าทูลละอองพระบาท ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายเงิน สมทบทุนมูลนิธิเทพรัตนเวชชานุกูล นายสรวิศ(สอ-ระ-วิด) พิทักษ์ธรรม เฝ้าทูลละอองพระบาท ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายเงิน สมทบทุนมูลนิธิเทพรัตนเวชชานุกูล นางสาวอติภา ประภาสะวัต ประธานกรรมการบริหาร สถาบันพัฒนาวิสาหกิจร่มเกล้า เฝ้าทูลละอองพระบาท ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายเงิน สมทบทุนมูลนิธิเทพรัตนเวชชานุกูลในโอกาสนี้ คณะบุคคล ร่วมเข้าเฝ้าทูลละอองพระบาทด้วย ต่อจากนั้น สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงเป็นประธานการประชุมสามัญประจําปี ครั้งที่ 1/2565 ของมูลนิธิเทพรัตนเวชชานุกูล ซึ่งมีระเบียบวาระการประชุม อาทิ การตรวจเยี่ยมโรงพยาบาลที่มูลนิธิฯให้การสนับสนุนจํานวน 11 แห่ง, ความคืบหน้าการจัดหาระบบ SMART HOSPITAL สําหรับ 5 โรงพยาบาล, ผลการดําเนินงานในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรควิด-19 ด้วยระบบ SMART HOSPITAL ของโรงพยาบาลที่มูลนิธิฯให้การสนับสนุน, การให้บริการหน่วยแพทย์อาสาของมูลนิธิฯ ในส่วนกลาง, แผนยุทธศาสตร์การพัฒนาโรงพยาบาลชุมชนเฉลิมพระเกียรติปี 2566-2570, การแต่งตั้งกรรมการมูลนิธิฯเพิ่มเติม และการจัดทําเว็บไซด์และแอปพลิเคชันของมูลนิธิฯ ทั้งนี้ มูลนิธิเทพรัตนเวชชานุกูล จัดตั้งขึ้นเพื่อส่งเสริมสนับสนุนการดําเนินงานทางการแพทย์และออกหน่วยแพทย์อาสาฯ ในการดูแลผู้ป่วยยากไร้ ตลอดจนให้คําปรึกษาแก่แพทย์ และบุคลากรในพื้นที่โดยใช้ "แอปพลิเคชัน ดีวี คอนซัลท์" ในการให้คําปรึกษาระหว่างแพทย์ของโรงพยาบาลเทพรัตนเวชชานุกูลเฉลิมพระเกียรติ 60 พรรษา อําเภอแม่แจ่มและโรงพยาบาลวัดจันทร์เฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา อําเภอกัลยาณิวัฒนา จังหวัดเชียงใหม่ กับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อเพิ่มศักยภาพในการรักษาผู้ป่วย ที่เข้ารับบริการในโรงพยาบาลทั้ง 2 แห่ง อย่างมีประสิทธิภาพ ข่าวในพระราชสํานัก สทท.
3/1/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230104213205123
null
สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ทรงบำเพ็ญพระกุศลทักษิณานุปทานอุทิศถวายแด่สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช เนื่องในงานวันทหารม้า ประจำปี 2566
วันนี้ 4 มกราคม 2566 เวลา 12 นาฬิกา 11 นาที สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา เสด็จไปยังศูนย์การทหารม้า ค่ายอดิศร อําเภอเมือง จังหวัดสระบุรี โอกาสนี้ ทรงวางพานพุ่มดอกไม้และทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยถวายราชสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช จากนั้น เสด็จไปยังอาคารประมณฑ์ผลาสินธุ์ ทรงบําเพ็ญพระกุศลทักษิณานุปทานอุทิศถวายแด่สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช เนื่องในงานวันทหารม้า ประจําปี 2566 ซึ่งจัดขึ้นเพื่อน้อมสํานึกในพระมหากรุณาธิคุณ และรําลึกถึงวีรกรรมอันกล้าหาญและพระปรีชาสามารถของสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ที่ทรงต่อสู้กับข้าศึกจนทรงได้รับชัยชนะ เมื่อวันที่ 4 มกราคม 2309 ณ บ้านพรานนก ปัจจุบันคืออําเภออุทัย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ทหารม้าจึงถวายพระเกียรติและยกย่องให้ทรงเป็นบูรพาจารย์แห่งการรบบนหลังม้าและเป็นพระบิดาของเหล่าทหารม้า พร้อมทั้งกําหนดให้วันที่ 4 มกราคมของทุกปีเป็นวันทหารม้า สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ทรงดํารงตําแหน่งเป็นผู้อํานวยการกองการศึกษาโรงเรียนทหารม้า ศูนย์การทหารม้า โดยทรงปฏิบัติพระกรณียกิจอันเป็นคุณูปการต่อศูนย์การทหารม้าในด้านต่างๆ ทรงมีพระดําริให้จัดสร้างโรงฝึกขี่ม้าหลังคาสูงและปรับปรุงคู่มือวิชาการขี่ม้าให้ทันสมัยเพื่อยกระดับสู่ความเป็นสากล ทั้งยังมีพระประสงค์ให้ผู้เข้ารับการศึกษาในหลักสูตรของโรงเรียนทหารม้า เข้าปฏิบัติงานจริงที่หน่วยม้าทรงประจําพระองค์ฯ ศูนย์การทหารม้า ดําเนินการฝึกศึกษาเกี่ยวกับวิทยาการและกิจการของเหล่าทหารม้า รวมถึงการวิจัยและพัฒนา และจัดทําตําราในทางวิทยาการที่เกี่ยวข้อง ปัจจุบันมีพลตรี จิรวัฒน์ นาคะรัตน์ เป็นผู้บัญชาการศูนย์การทหารม้า ข่าวในพระราชสํานัก สทท.
4/1/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230105184916436
null
สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าทีปังกรรัศมีโชติ มหาวชิโรตตมางกูร สิริวิบูลยราชกุมาร เสด็จไปทรงลงพระนามถวายพระพร สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา
เวลา 10 นาฬิกา 25 นาที วันนี้ 4 มกราคม 2566 สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าทีปังกรรัศมีโชติ มหาวชิโรตตมางกูร สิริวิบูลยราชกุมาร เสด็จเป็นการส่วนพระองค์ ไปยังอาคารภูมิสิริมังคลานุสรณ์ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร เพื่อทรงเยี่ยมพระอาการ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดาโดยมีรองศาสตราจารย์ นายแพทย์ ฉันชาย สิทธิพันธุ์ ผู้อํานวยการโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ และผู้บริหารโรงพยาบาลฯ พร้อมด้วยประชาชน เฝ้ารับเสด็จ โอกาสนี้ ทรงลงพระนามถวายพระพรที่หน้าพระรูป สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา ณ บริเวณชั้น 1 อาคารภูมิสิริมังคลานุสรณ์ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย ก่อนเสด็จกลับ ทรงเยี่ยมและมีพระปฏิสันถารกับประชาชนที่ไปเฝ้ารับเสด็จสร้างความปลื้มปีติแก่ประชาชนเป็นอย่างยิ่ง ข่าวในพระราชสํานัก สทท.
4/1/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230105185110438
null
สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ประทานผ้าไตรในโครงการบรรพชาอุปสมบท 99 รูป ถวายพระพรสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา
วันนี้ 4 มกราคม 2566 เวลา 16 นาฬิกา สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก เสด็จลงพระวิหาร วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร เพื่อประทานผ้าไตร ในโครงการบรรพชาอุปสมบท 99 รูป ถวายพระพรแด่สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา ซึ่งกระทรวงมหาดไทย ร่วมกับมหาเถรสมาคม กําหนดจัดพิธีบรรพชาอุปสมบท ณ วัดที่แต่ละจังหวัดกําหนดขึ้น ทั่วประเทศ ภายในเดือนมกราคม 2566 เป็นเวลา 15 วัน ข่าวในพระราชสํานัก สทท.
4/1/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230105185201440
null
สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงปฎิบัติพระราชกรณียกิจ ดังนี้
วันนี้ 4 มกราคม 2566 เวลา 9 นาฬิกา 1 นาที พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จออกแทนพระองค์ ณ วังสระปทุม ทรงเจิมเทวรูปพระอิศวร พระอุมา พระพิฆเนศวร พระขันธกุมาร พระพรหม พระสุรัสวดี พระนารายณ์ พระลักษมี และพระภูมิเทวี ในการพระราชพิธีตรียัมพวาย - ตรีปวาย ในการนี้ พระราชทานเงินแก่หัวหน้าคณะพราหมณ์ ผู้เป็นประธานในการประกอบพิธี ต่อจากนั้นสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พระราชทาน พระราชวโรกาสให้พระภิกษุและคณะบุคคลต่างๆ เฝ้า และเฝ้าทูลละอองพระบาท ตามลําดับดังนี้ นายชัยเดช เครือเปรม ประธานชมรมครุภักดิ์แทนคุณแผ่นดิน นําคณะบุคคล เฝ้าทูลละอองพระบาท ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายเงิน เพื่อสมทบกองทุนพัฒนาเด็กและเยาวชนในถิ่นทุรกันดาร และทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายผลิตภัณฑ์ของจังหวัดสุราษฎร์ธานี จังหวัดกระบี่ และบัตรถวายพระพรชัยมงคลเนื่องในโอกาสวันขึ้นปีใหม่ 2566 พร้อมทั้งกราบบังคมทูลรายงานการจัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติฯ 2 เมษายน 2565 และในโอกาสนี้ พระภิกษุ ร่วมเข้าเฝ้าถวายเงิน และพระพุทธรูปด้วย นายดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ พร้อมคณะผู้บริหารกระทรวงการต่างประเทศและคู่สมรส เฝ้าทูลละอองพระบาท ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายเงินรายได้จากการจําหน่ายสลากบัวแก้วนําโชค ประจําปี 2564 และเงินสนับสนุนเพิ่มเติมจากชมรมคู่สมรส ข้าราชการกระทรวงการต่างประเทศ เพื่อบํารุงสภากาชาดไทย นางสาวปิยนันท์ คุ้มครอง ผู้ช่วยผู้อํานวยการด้านจัดหาโลหิตและสื่อสารองค์กร ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย นํานางสาวลักขณา ลีละยุทธโยธิน ประธานอนุกรรมการรณรงค์เพิ่มผู้บริจาคโลหิต และนางมธุวลี สถิตยุทธการ ประธานโครงการแบรนด์ พลังเลือดใหม่ 2565 และคณะ เฝ้าทูลละอองพระบาท ทูลเกล้า ทูลกระหม่อมถวายเงิน เพื่อสนับสนุนกิจการของศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ และในโอกาสนี้ ผู้ชนะเลิศการประกวดกิจกรรม "แบรนด์ ยัง บลัดเกมส์ครีเอเทอะ" (BRAND’S Young Blood Game Creator)ร่วมเข้าเฝ้าทูลละอองพระบาทด้วย นางเมตตา ศรีเกื้อกลิ่น ผู้อํานวยการโรงเรียนพระตําหนักสวนกุหลาบ นํานางสาวนันทวัน ทองนพคุณ ครูผู้ช่วย โรงเรียนพระตําหนักสวนกุหลาบ พร้อมครอบครัว เฝ้าทูลละอองพระบาท ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายเงิน โดยเสด็จพระราชกุศลตามพระราชอัธยาศัย เวลา 14 นาฬิกา 10 นาที พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จออกแทนพระองค์ ณ วังสระปทุม พระราชทานพระราชวโรกาสให้ นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ประธานกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ นําศิลปินแห่งชาติ ประจําปี 2564 เฝ้าทูลละอองพระบาท รับพระราชทานโล่และเข็มเชิดชูเกียรติ และในโอกาสนี้ ผู้บริหารกระทรวงวัฒนธรรม และผู้เกี่ยวข้องร่วมเข้าเฝ้าทูลละอองพระบาทด้วย ต่อจากนั้น สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พระราชทานพระราชวโรกาสให้ นางสาววิลาวรรณ วนดุรงค์วรรณ กรรมการและเหรัญญิกมูลนิธิชัยพัฒนา นํานางสาววิมลมาลย์ สวัสดี นายกสโมสรไลออนส์ ดุสิตา กรุงเทพ และคณะ เฝ้าทูลละอองพระบาท ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายเงิน สมทบทุนมูลนิธิชัยพัฒนา และน้อมเกล้าน้อมกระหม่อมถวายรูปภาพสีน้ํามันวาดโดยนางอนงค์ ทรรทรานนท์ สมาชิกไลออนส์อาวุโส ข่าวในพระราชสํานัก สทท.
4/1/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230105185725446
null
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ส่งข้อความพระราชสาส์น แสดงความเสียพระราชหฤทัยไปยังสมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิส ในการที่ สมเด็จพระสันตะปาปากิตติคุณเบเนดิกต์ที่ 16 สิ้นพระชนม์ เมื่อวันที่ 31 ธันวาคม 2565
ข้อความพระราชสาส์น มีดังนี้ สมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิส นครรัฐวาติกัน ข้าพเจ้าและพระราชินีรู้สึกเศร้าสลดใจอย่างยิ่งต่อการสิ้นพระชนม์ของสมเด็จพระสันตะปาปากิตติคุณเบเนดิกต์ที่ 16 ผู้ทรงเป็นที่เลื่อมใสศรัทธาและทรงได้รับการชื่นชมในทุกแห่งหน ในอดีตที่ผ่านมานั้น ประเทศไทยและประชาชนชาวไทยมีความมั่นใจตลอดมาว่า พระสันตะปาปากิตติคุณทรงมีเราอยู่ในใจเสมอ ในคําสวดขอพรต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์ท่าน ข้าพเจ้าเองก็รู้สึกปีติยินดีในฐานะผู้แทนพระองค์ของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร พระราชบิดาของข้าพเจ้า ที่ได้ต้อนรับผู้แทนพระองค์ของสมเด็จพระสันตะปาปากิตติคุณ ในการเชิญคําถวายพระพรและความปรารถนาดีมาถวาย เนื่องในโอกาสที่ทรงครองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี ในปี 2549 ความเมตตาอาทรต่อเพื่อนมนุษย์ ความศรัทธาและจิตบรรลุธรรมอันสูงส่งของสมเด็จพระสันตะปาปากิตติคุณ ล้วนเป็นพลังรวมใจ ไม่เพียงต่อคริสตจักรในประเทศไทยเท่านั้น แต่ยังรวมถึงคริสตจักรคาทอลิกทั่วโลกอีกด้วย ข้าพเจ้าในนามของประชาชนชาวไทย ขอแสดงความอาลัยและความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อการสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่นี้ พระปรมาภิไธย มหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ข่าวในพระราชสํานัก สทท.
4/1/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230105185903448
null
สมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี เสด็จไปพระราชทานผ้าห่มกันหนาวแก่ราษฎรที่ประสบภัยหนาว ในพื้นที่จังหวัดชัยภูมิและจังหวัดเพชรบูรณ์
วันนี้ 4 มกราคม 2566 เวลา 10 นาฬิกา 35 นาที สมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี เสด็จไปยังหอประชุมรวมใจครูชัยภูมิ สํานักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาชัยภูมิ เขต 1 อําเภอเมืองชัยภูมิ จังหวัดชัยภูมิ ทรงติดตามสถานการณ์ภัยหนาวและพระราชทานผ้าห่มกันหนาว จํานวน 500 ผืน แก่นายอําเภอทั้ง 16 อําเภอและผู้แทนราษฎร เพื่อนําไปมอบแก่ผู้ประสบภัยหนาวในจังหวัดชัยภูมิ โดยมีนายโสภณ สุวรรณรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ เฝ้ารับเสด็จ เวลา 11 นาฬิกา 35 นาที เสด็จโดยเฮลิคอปเตอร์พระที่นั่งเป็นการส่วนพระองค์ ไปยังท่าอากาศยานเพชรบูรณ์ อําเภอเมืองเพชรบูรณ์ จังหวัดเพชรบูรณ์ เพื่อพระราชทานผ้าห่มกันหนาว จํานวน 500 ผืน แก่นายอําเภอทั้ง 11 อําเภอและผู้แทนราษฎร เพื่อนําไปมอบแก่ผู้ประสบภัยหนาวในจังหวัดเพชรบูรณ์ โดยมีนายกฤษณ์ คงเมือง ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ เฝ้ารับเสด็จ กราบทูลรายงานสถานการณ์ภัยหนาว จังหวัดชัยภูมิและจังหวัดเพชรบูรณ์ ได้รับผลกระทบจากอากาศหนาวเย็นเป็นประจําในทุกปี จากการสํารวจความต้องการเครื่องกันหนาวพบว่ามีประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ห่างไกล ทุรกันดาร ยังมีความต้องการเครื่องกันหนาวจํานวนมาก ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ดําเนินการให้ความช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้นแล้วทั้งนี้การเสด็จไปพระราชทานผ้าห่มกันหนาวด้วยพระองค์เองในครั้งนี้ ยังความปลื้มปีติและสํานึกในพระกรุณาธิคุณแก่ผู้ประสบภัยหนาวอย่างหาที่สุดมิได้ ข่าวในพระราชสํานัก สทท.
4/1/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230105190022449
null
พระราชสาส์นแสดงความเสียพระราชหฤทัย
ด้วย พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ส่งข้อความพระราชสาส์นแสดงความเสียพระราชหฤทัยไปยังสมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิส ในการที่ สมเด็จพระสันตะปาปากิตติคุณเบเนดิกต์ที่ 16 สิ้นพระชนม์ เมื่อวันที่ 31 ธันวาคม 2565 ดังนี้ ข้าพเจ้าและพระราชินีรู้สึกเศร้าสลดใจอย่างยิ่งต่อการสิ้นพระชนม์ของสมเด็จพระสันตะปาปากิตติคุณเบเนดิกต์ที่ 16 ผู้ทรงเป็นที่เลื่อมใสศรัทธาและทรงได้รับการชื่นชมในทุกแห่งหน ในอดีตที่ผ่านมานั้น ประเทศไทยและประชาชนชาวไทยมีความมั่นใจตลอดมาว่า พระสันตะปาปากิตติคุณทรงมีเราอยู่ในใจเสมอในคําสวดขอพรต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์ท่าน ข้าพเจ้าเองก็รู้สึกปีติยินดีในฐานะผู้แทนพระองค์ของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร พระราชบิดาของข้าพเจ้า ที่ได้ต้อนรับผู้แทนพระองค์สมเด็จพระสันตะปาปากิตติคุณ ในการเชิญคําถวายพระพรและความปรารถนาดีมาถวาย เนื่องในโอกาสที่ทรงครองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี ในปี 2549 ความเมตตาอาทรต่อเพื่อนมนุษย์ ความศรัทธาและจิตบรรลุธรรมอันสูงส่งของสมเด็จพระสันตะปาปากิตติคุณ ล้วนเป็นพลังรวมใจไม่เพียงต่อคริสจักรในประเทศไทยเท่านั้น แต่ยังรวมถึงคริสตจักรคาทอลิกทั่วโลกอีกด้วย ข้าพเจ้าในนามของประชาชนชาวไทย ขอแสดงความอาลัยและความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อการสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่นี้ (พระปรมาภิไธย) มหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว
4/1/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
Radio-สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230104211823122
null
สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงปฎิบัติพระราชกรณียกิจ ดังนี้
วันนี้ 5 มกราคม 2566 เวลา 9 นาฬิกา 34 นาที สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จออก ณ วังสระปทุม พระราชทานพระราชวโรกาสให้คณะบุคคลต่างๆ เฝ้าทูลละอองพระบาท ตามลําดับ ดังนี้ นางสาววิลาวรรณ วนดุรงค์วรรณ กรรมการและเหรัญญิกมูลนิธิชัยพัฒนา นําคณะบุคคลเฝ้าทูลละอองพระบาท ดังนี้ นางอนงค์ ไพจิตรประภาภรณ์ ผู้อํานวยการสถาบันอาหาร กระทรวงอุตสาหกรรม และคณะ เฝ้าทูลละอองพระบาท ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายเงิน สมทบทุนมูลนิธิชัยพัฒนา เพื่อใช้ในการปรับปรุงอาคารโรงสีข้าวมูลนิธิชัยพัฒนาลาดบัวหลวง ตําบลลาดบัวหลวง อําเภอลาดบัวหลวง จังหวัดพระนครศรีอยุธยา นายสุริยนต์ จันทร์ศิริ ประธานสหภาพแรงงานธนาคารกรุงไทย และคณะ เฝ้าทูลละอองพระบาท ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายเงิน สมทบทุนมูลนิธิชัยพัฒนา นายวุฒิกร ทัพพ์ธันยบูรณ์ กรรมการผู้จัดการบริษัท เจเจไฮเทคเซ็นเตอร์ จํากัด และคณะ เฝ้าทูลละอองพระบาท ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายอากาศยานไร้คนขับ (โดรน) สําหรับการเกษตร เพื่อทรงใช้ตามพระราชอัธยาศัย นางสาวมะลิวัน มาเหง่า ผู้อํานวยการสํานักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาสระบุรี นําคณะผู้บริหารสํานักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาสระบุรี และคณะผู้บริหารโรงเรียนหนองแซงวิทยา อําเภอหนองแซง จังหวัดสระบุรี เฝ้าทูลละอองพระบาท ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายแผ่นศิลาฤกษ์ เพื่อทรงพระสุหร่ายและทรงเจิม สําหรับเชิญไปประกอบพิธีวางศิลาฤกษ์ในการสร้างอาคารเรียนเพื่อทดแทนอาคารเรียน ไม้หลังเก่าที่ชํารุดเนื่องจากใช้งานมานานถึง 48 ปี โอกาสนี้ นายวิบูลย์ สุขอนันตธรรม ประธานอุปถัมภ์โรงเรียนหนองแซงวิทยา และนางอรุณลักษณ์ รติสุขพิมล ที่ปรึกษาโรงเรียนหนองแซงวิทยา ร่วมเข้าเฝ้าทูลละอองพระบาท ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายเงินโดยเสด็จพระราชกุศลตามพระราชอัธยาศัย เวลา 17 นาฬิกา 55 นาที สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดําเนินไปยังอาคารโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดําริ สํานักงานมูลนิธิชัยพัฒนา เขตบางพลัด กรุงเทพมหานคร โดยมีนายสุเมธ ตันติเวชกุล ประธานกรรมการมูลนิธิอุทกพัฒน์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ คณะกรรมการมูลนิธิฯ และผู้เกี่ยวข้อง เฝ้าทูลละอองพระบาทรับเสด็จ โอกาสนี้ พระราชทานพระราชวโรกาสให้ผู้สนับสนุนการดําเนินงานของมูลนิธิอุทกพัฒน์ฯ เข้ารับพระราชทานเข็มที่ระลึกของมูลนิธิฯ และผู้แทนเครือข่ายแกนนําเยาวชนเพาะพันธุ์กล้าไม้ ตําบลขุนควร อําเภอปง จังหวัดพะเยา ที่ชนะการประกวด โครงการ"พี่นําน้องรักษ์น้ํา ตามแนวพระราชดําริ ปีที่ 9 : สู่ความยั่งยืน" เฝ้าทูลละอองพระบาท รับพระราชทานโล่รางวัล จากนั้น ทรงเป็นประธานการประชุมสามัญประจําปี 2566 ของมูลนิธิอุทกพัฒน์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ โดยมีระเบียบวาระการประชุมต่างๆ อาทิ ผลการดําเนินงานของมูลนิธิฯ ตั้งแต่ก่อตั้งเมื่อปี 2555 จนถึงปัจจุบัน โดยดําเนินงานร่วมกับทุกภาคส่วน ด้านการบริหารจัดการน้ําชุมชน ตามแนวพระราชดําริของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร จนเกิดพิพิธภัณฑ์ธรรมชาติจัดการน้ําชุมชนตามแนวพระราชดําริ จํานวน 26 แห่ง เกิดพื้นที่ไม้ 3 อย่าง ประโยชน์ 4 อย่าง ใน 28 ชุมชน มีพื้นที่ป่าเพิ่มจากเดิม กว่า 19,000 ไร่ สามารถสร้างรายได้ ลดรายจ่ายในครัวเรือนของราษฎรในพื้นที่ นอกจากนี้ มีการรวมกลุ่มองค์กรบริหารจัดการน้ําในพื้นที่ เพื่อฟื้นฟูและพัฒนา จนสามารถบรรเทาปัญหาอุทกภัยและภัยแล้ง อีกทั้งเพิ่มปริมาณน้ําสํารอง กว่า 4 ล้านลูกบาศก์เมตร เพียงพอต่อการทําเกษตรตลอดทั้งปี ข่าวในพระราชสํานัก สทท.
5/1/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230106161903732
null
สมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี ทรงงานวิสัญญีสัตวแพทย์ ร่วมกับทีมสัตวแพทย์ ณ โรงพยาบาลสัตว์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
วันนี้ 5 มกราคม 2566 เวลา 7 นาฬิกา 45 นาที สมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี เสด็จไปยังอาคารเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา บรมราชินีนาถ โรงพยาบาลสัตว์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร ทรงงานวิสัญญีสัตวแพทย์ ร่วมกับทีมสัตวแพทย์ ศูนย์ศัลยกรรมและการผ่าตัดผ่านลํากล้อง ในการวางยาสลบสุนัขทรงเลี้ยงใน พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอทิตยาทรกิติคุณ ชื่อคุณเขียวน้อย พันธุ์ไทย เพศผู้ อายุ 8 ปี เข้ารับการตัดหาง เนื่องจากเป็นแผลจากการกัดแทะที่หาง และสุนัขพันธุ์ชิสุห์ เพศผู้ เข้ารับการผ่าตัดเนื้องอกขนาดใหญ่ที่ใบหน้าข้างขวาในการนี้ ทรงติดตามเฝ้าระวังสัญญาณชีพของสุนัขด้วยพระองค์เองอย่างใกล้ชิด ทั้งนี้ การกัดแทะหาง จนเป็นแผลของสุนัข มีสาเหตุหลายประการ เช่น สุนัขมีความเครียด เกิดความเจ็บปวดหรือคันที่บริเวณหาง หากสุนัขมีการกัดแทะหางตัวเอง ควรรีบพาไปพบสัตวแพทย์ เพื่อตรวจหาสาเหตุและรับการรักษา ส่วนเนื้องอกในสัตว์เลี้ยงร้อยละ 30 ถึง 40 เป็นเนื้องอกที่เกิดขึ้นบริเวณผิวหนัง พบได้ทั้งเนื้องอกธรรมดาและเนื้องอกที่สามารถลุกลามไปเป็นมะเร็ง หากสัตว์เลี้ยงได้รับการตรวจวินิจฉัยว่าก้อนเนื้อมีความผิดปกติหรือเป็นมะเร็งตั้งแต่ระยะแรก จะทําให้สามารถวางแผนการรักษาได้อย่างมีประสิทธิภาพ ข่าวในพระราชสํานัก สทท.
5/1/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230106162049733
null
สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าทีปังกรรัศมีโชติ มหาวชิโรตตมางกูร สิริวิบูลยราชกุมาร ทรงร่วมกิจกรรมจิตอาสาพระราชทาน "เราทำความดี ด้วยหัวใจ"
เวลา 9 นาฬิกา 21 นาที วันนี้ 5 มกราคม 2566 สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าทีปังกรรัศมีโชติ มหาวชิโรตตมางกูร สิริวิบูลยราชกุมาร เสด็จไปยังวัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร เขตบางกอกใหญ่ กรุงเทพมหานคร ในการนี้ ทรงวางพวงมาลัย แล้วทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยถวายราชสักการะ พระบรมราชานุสาวรีย์ พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย จากนั้นเสด็จไปยังพระอุโบสถ ทรงวางพวงมาลัย แล้วทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการบูชาพระพุทธธรรมมิศรราชโลกธาตุดิลก (พระ-พุด-ทะ-ทํา-มิด-สะ-ระ-ราด-โลก-กะ-ทาด-ดิ-หลก) พระประธานประจําพระอุโบสถ ทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยถวายราชสักการะ พระบรมราชสรีรางคาร พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย เมื่อพระพรหมวัชรเมธี เจ้าคณะภาค 9 และเจ้าอาวาสวัดอรุณราชวราราม ถวายศีลจบ ทรงกล่าวคําถวายสังฆทาน แล้วทรงประเคนเครื่องสังฆทาน ทรงหลั่งทักษิโณทก เสร็จแล้ว พระพรหมวัชรเมธี ถวายอนุโมทนา และถวายหนังสือที่ระลึกวัดอรุณราชวราราม, พระพุทธธรรมมิศรราชโลกธาตุดิลก ขนาดหน้าตัก 7 นิ้ว เนื้อทองเหลืองรมดํา และสร้อยคอทองคําพร้อมรูปหล่อลอยองค์เลี่ยมพญายักษ์ วัดอรุณราชวราราม (ท้าวเวสสุวรรณ) ขนาด 1.5 นิ้ว จากนั้น ทรงพระดําเนินไปยังชานหน้าพระอุโบสถ/ทรงวางพวงมาลัย และทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยบูชาพระพุทธนฤมิต (พระ-พุด-ทะ-นะ-รึ-มิด) พระพุทธรูปฉลองพระองค์ รัชกาลที่ 2 ในการนี้ มีพระปฏิสันถาร กับพลเรือเอก เชิงชาย ชมเชิงแพทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ ด้วยทรงห่วงใยและพระราชทานกําลังใจแก่กําลังพล และครอบครัวของกําลังพล จากเหตุการณ์เรือหลวงสุโขทัยอับปาง เมื่อวันที่ 18 ธันวาคม 2565 แล้วเสด็จไปยังบริเวณลานหน้าวัดอรุณราชวราราม พระราชทานถุงเครื่องอุปโภค-บริโภค จํานวน 350 ชุด แก่นายสมหวัง ชัยประกายวรรณ์ ผู้อํานวยการเขตบางกอกใหญ่ เพื่อนําไปมอบแก่ผู้สูงอายุ ผู้ป่วยติดเตียง ผู้พิการ และผู้ยากไร้ ในพื้นที่เขตบางกอกใหญ่และทรงร่วมกิจกรรมจิตอาสาพระราชทาน "เราทําความดี ด้วยหัวใจ" โดยการปรับภูมิทัศน์บริเวณรอบพระปรางค์ และภายในบริเวณวัดอรุณราชวราราม ด้วยมีพระประสงค์ที่จะสนองพระราชปณิธานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เรื่องการบําเพ็ญสาธารณประโยชน์ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนและแก้ไขปัญหาต่างๆ รวมทั้งเป็นการปลูกจิตสํานึกในการช่วยเหลือสังคมและส่งเสริมการมีส่วนร่วม ระหว่างหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน ชุมชนและประชาชน นอกจากนี้ ทรงประกอบอาหาร เมนูข้าวผัดไส้กรอก ร่วมกับกําลังพลจากกรมพลาธิการทหารเรือ พระราชทานแก่จิตอาสาและประชาชนที่ไปเฝ้ารับเสด็จ ข่าวในพระราชสํานัก สทท.
5/1/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230106162423738
null
ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี ทรงร่วมบันทึกเทปรายการ "ทูบี นัมเบอร์ วัน วาไรตี้"
ค่ําวานนี้ 5 มกราคม 2566 ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี เสด็จมายังสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย ถนนวิภาวดีรังสิต เขตดินแดง กรุงเทพมหานคร โดยมีนางทัศนีย์ ผลชานิโก นางสุดฤทัย เลิศเกษม รองอธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ พร้อมด้วยนางจริยา ประสพทรัพย์ ผู้อํานวยการสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย นางสาวชนิสา ชมศิลป์ ผู้อํานวยการสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย และผู้เกี่ยวข้อง เฝ้ารับเสด็จ ในการนี้ ทรงร่วมบันทึกเทปรายการ "ทูบี นัมเบอร์ วัน วาไรตี้" ช่วง "TALK TO THE PRINCESS" ทรงตอบจดหมายสมาชิกทูบีนัมเบอร์วัน ที่เขียนไปขอพระราชทานคําแนะนําในการแก้ไขปัญหาเรื่องต่างๆ ทั้งเรื่องส่วนตัวและส่วนรวม โดยมีนายธโนทัย เอื้ออมรรัตน์ นายพงศภัค อุดมโภชน์ และนางสาวแคริส เจน สมิท เป็นผู้ดําเนินรายการ สําหรับรายการ "ทูบี นัมเบอร์ วัน วาไรตี้" เป็นรายการที่กรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข ร่วมกับสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย กรมประชาสัมพันธ์ จัดทําขึ้น เพื่อทําหน้าที่เป็นสื่อกลางระหว่างโครงการทูบีนัมเบอร์วันกับสมาชิกฯ นอกจากนี้ ยังเป็นการส่งเสริมเยาวชนคนรุ่นใหม่ให้ห่างไกลยาเสพติด โดยออกอากาศทางสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย NBT2HD ทุกวันเสาร์ เวลา 20 นาฬิกา 30 นาที ถึง 21 นาฬิกา 30 นาที ข่าวในพระราชสํานัก สทท.
6/1/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230107191954967
null
สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงปฎิบัติพระราชกรณียกิจ ดังนี้
วันนี้ 6 มกราคม 2566 เวลา 9 นาฬิกา 13 นาที สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จออก ณ วังสระปทุม พระราชทานพระราชวโรกาสให้ คณะบุคคลต่างๆ เฝ้าทูลละอองพระบาท ตามลําดับดังนี้ นางสาวปวันรัตน์ (ปะ-วัน-รัด) ทังสุพานิช และคณะ เฝ้าทูลละอองพระบาท ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายเงินจากการประกอบธุรกิจจําหน่ายอุปกรณ์โรงสีข้าว ซึ่งปิดกิจการแล้ว โดยเสด็จพระราชกุศลตามพระราชอัธยาศัย นางมาลี ตั้งสิน ประธานกรรมการโรงแรมแม่น้ํารามาดาพลาซาและประธานกรรมการมูลนิธิตั้งสินอุปถัมภ์และคณะ เฝ้าทูลละอองพระบาท ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายเงิน สมทบกองทุนพัฒนาเด็กและเยาวชนในถิ่นทุรกันดาร รองศาสตราจารย์ศิริเดช สุชีวะ ประธานสภาคณบดีคณะครุศาสตร์ ศึกษาศาสตร์แห่งประเทศไทย นําคณะผู้บริหารสภาคณบดี ฯ ประธานสภาคณบดีเกียรติยศ และผู้ได้รับรางวัลดีเด่นแห่งชาติทางครุศาสตร์ ศึกษาศาสตร์ ประจําปี 2565 เฝ้าทูลละอองพระบาท รับพระราชทานประกาศเกียรติคุณ และโล่เกียรติคุณ ในโอกาสนี้ รองศาสตราจารย์ศิริเดช สุชีวะ ประธานสภาคณบดีคณะครุศาสตร์ ศึกษาศาสตร์แห่งประเทศไทย เฝ้าทูลละอองพระบาท ทูลเกล้าทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายเงินโดยเสด็จพระราชกุศลตามพระราชอัธยาศัยด้วย เวลา 17 นาฬิกา 36 นาที สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จออก ณ วังสระปทุม ทรงเป็นประธานการประชุมสามัญประจําปี 2565 ของมูลนิธิราชสุดา (ราด-สุ-ดา) โดยมีระเบียบวาระต่างๆ อาทิ รายงานความก้าวหน้างานวิจัยเรื่องคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง การจัดโครงการ เดิน-วิ่ง มินิมาราธอนเพื่อคนพิการ ชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี การรายงานผลการดําเนินงานของวิทยาลัยราชสุดา การเงินของมูลนิธิราชสุดา และการพิจารณาทุนสนับสนุนการศึกษาระดับปริญญาตรี สาขาหูหนวกศึกษา และระดับปริญญาเอก สาขาวิชาการพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ เป็นต้น มูลนิธิราชสุดา จัดตั้งขึ้นเมื่อปี 2534 เพื่อสนับสนุนการศึกษาและการวิจัยในเรื่องของคนพิการทางกาย ให้มีโอกาสทางการศึกษาในระดับอุดมศึกษา สนับสนุนการศึกษาในคนปกติที่มีความประสงค์จะทํางานบริการคนพิการ ในด้านการบริหารงานเกี่ยวกับคนพิการ ครูการศึกษาพิเศษ นักวิชาการงานฟื้นฟูสมรรถภาพคนพิการ รวมไปถึงการให้บริการที่หลากหลายแก่คนพิการ และขยายการช่วยเหลือออกไปสู่ผู้พิการประเภทอื่นๆ ข่าวในพระราชสํานัก สทท.
6/1/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230107192252968
null
สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ประทานพระวโรกาสให้พระภิกษุ ในโครงการบรรพชาอุปสมบท 99 รูป ถวายพระพรชัยมงคลแด่สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา เฝ้าถวายสักการะและรับประทานพระโอวาท
วันนี้ 7 มกราคม 2566 สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก เสด็จลงพระอุโบสถ วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม ประทานพระวโรกาสให้พระภิกษุ 99 รูป ซึ่งบรรพชาอุปสมบท เพื่อถวายพระพรชัยมงคลแด่ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา เฝ้าถวายสักการะ โอกาสนี้ สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ประทานพระโอวาท ความตอนหนึ่งว่า "พระพุทธศาสนานั้น เป็นศาสนาแห่งการศึกษาเล่าเรียน ผู้นับตนเป็นพุทธบริษัท ไม่ว่าบรรพชิตหรือคฤหัสถ์ จึงมีหน้าที่ศึกษาเล่าเรียนพระธรรม ซึ่งสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสไว้ดีแล้ว การเป็นชาวพุทธที่แท้ จึงอยู่ที่การนับถือพระรัตนตรัยเป็นสรณะสูงสุด และพากเพียรเล่าเรียนพระธรรมวินัย พร้อมทั้งปฏิบัติอบรมตนตามพระธรรมวินัยที่ได้สดับตรับฟังมานั้น หาใช่อยู่ที่การขึ้นทะเบียน หรือการทําพิธีกรรมใดๆ เพราะฉะนั้น ในเมื่อท่านทั้งหลายมาบวช แม้จะเป็นชั่วระยะเวลาอันสั้น แต่ก็จักไม่ไร้ค่า ไม่เปล่าประโยชน์ ข่าวในพระราชสํานัก สทท.
7/1/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230108203714175
null
สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา พระราชทานพระวโรกาสให้ คณะบุคคล เฝ้า ดังนี้
เวลา 15 นาฬิกา 38 นาที วันนี้ 7 มกราคม 2566 สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา เสด็จออก ณ วังศุโขทัย พระราชทานพระวโรกาสให้ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดอกเตอร์ ปมทอง มาลากุล ณ อยุธยา รองอธิการบดีจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และรองประธานมูลนิธิอารยศิลป์ สิริวัณณวรีนารีรัตน์ พร้อมคณะกรรมการ และคณะทํางานมูลนิธิฯ นําผู้แทนธนาคารออมสิน เฝ้าถวายเงินสนับสนุนการดําเนินงานของมูลนิธิอารยศิลป์ สิริวัณณวรีนารีรัตน์ (สิ-ริ-วัน-วะ-รี) และนํานิสิต นักศึกษา เฝ้า รับพระราชทานทุนการศึกษา "โครงการทุนเรียนดี มูลนิธิอารยศิลป์ สิริวัณณวรีนารีรัตน์" มูลนิธิอารยศิลป์ สิริวัณณวรีนารีรัตน์ ได้ดําเนินการตามพระประสงค์ ในการส่งเสริมศิลปะแขนงต่างๆ และสนับสนุนบุคคลที่มีทักษะด้านศิลปะ เพื่อให้มีการพัฒนาและเผยแพร่ผลงานด้านศิลปะ ให้เป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติและสังคม โดยคัดเลือกนิสิต นักศึกษาจากสถาบันการศึกษาที่มีการเรียนการสอนทางศิลปะทุกภูมิภาค 24 สถาบัน ที่มีผลการเรียนดี มีความสามารถทางศิลปะสูง เพื่อรับพระราชทานรางวัลเรียนดี จํานวน 10 คน จาก 10 สถาบันการศึกษา เวลา 15 นาฬิกา 56 นาที ศาสตราจารย์พิเศษ เอนก เหล่าธรรมทัศน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม และคณะผู้บริหารฯ นําคณะกรรมการดําเนินงานและบริหารจัดการทุนการศึกษาด้านศิลปะ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา อธิการบดีมหาวิทยาลัย อาจารย์ล่ามภาษามือ นิสิต และนักศึกษา เฝ้ารับพระราชทานทุนการศึกษาด้านศิลปะ จํานวน 5 คน ข่าวในพระราชสํานัก สทท.
7/1/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230108203951176
null
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินไปในการพระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศล ฉลองพระชนมายุ 3 รอบ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา
เวลา 17 นาฬิกา 44 นาที วันนี้ 8 มกราคม 2566 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดําเนินพร้อมด้วย สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ไปยังพระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย ในพระบรมมหาราชวัง ในการพระราชพิธีทรงบําเพ็ญพระราชกุศลฉลองพระชนมายุ 3 รอบ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ในการนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการพานทองสองชั้น บูชาพระพุทธปฏิมาชัยวัฒน์ รัชกาลที่ 9 ที่หน้าพระแท่นพระนพปฏลมหาเศวตฉัตร สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการทองทิศ จากนั้น ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ทรงจุดเทียนพระมหามงคลที่พระแท่นพระนพปฏลมหาเศวตฉัตรเล่มที่ตั้งอยู่ด้านพระราชอาสน์, เทียนเท่าพระองค์ในตู้ข้างพระแท่นพระนพปฏลมหาเศวตฉัตร และธูปเทียนบูชา พระพุทธรูป เทวรูปเทวดานพเคราะห์ที่โต๊ะหมู่ ด้านพระราชอาสน์ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ทรงจุดเทียนพระมหามงคลที่พระแท่นพระนพปฏลมหาเศวตฉัตรเล่มที่ตั้งอยู่ด้านพระบรมวงศ์เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท, เทียนเท่าพระองค์ในตู้ข้างพระแท่นพระนพปฏลมหาเศวตฉัตร และธูปเทียนบูชาพระพุทธรูป เทวรูปเทวดานพเคราะห์ที่โต๊ะหมู่ ด้านพระบรมวงศ์เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท เสร็จแล้ว ทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการเครื่องแก้ว จากนั้น ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา เสด็จไปถวายพัดรองที่ระลึกการพระราชพิธีฉลองพระชนมายุ 3 รอบ แด่พระสงฆ์ที่เจริญพระพุทธมนต์ จนครบ 37 รูป เมื่อพระสงฆ์ เจริญพระพุทธมนต์ฯ ถึงบททําน้ําพระพุทธมนต์ ทรงจุดเทียนที่ฝาพระครอบเฟือง แล้วเจ้าพนักงานเชิญไปตั้งที่โต๊ะหน้าสมเด็จพระราชาคณะ แล้วทรงประเคนพระครอบเฟืองแด่สมเด็จพระราชาคณะ เมื่อพระสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์ จบ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงจุดเทียนดูหนังสือเทศน์พระราชทานแก่เจ้าพนักงานพระราชพิธีเชิญไปปักที่จงกลธรรมาสน์ จากนั้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี และสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ทรงจุดธูปเทียนเครื่องทรงธรรม เสร็จแล้ว พระธรรมวชิรมุนี ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ ถวายศีล และถวายพระธรรมเทศนา เมื่อจบ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ทรงประเคนจตุปัจจัยไทยธรรมบูชากัณฑ์เทศน์แด่พระธรรมวชิรมุนี แล้วทรงประเคนจตุปัจจัยไทยธรรมและย่ามที่ระลึกฯ แด่สมเด็จพระราชาคณะ และพระราชาคณะ ในการนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ที่หน้าพระราชอาสน์ พระราชทานน้ําพระมหาสังข์ ใบมะตูม แล้วทรงเจิม จากนั้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงหลั่งทักษิโณทก และทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ทรงหลั่งทักษิโณทก จากนั้น พระสงฆ์ถวายอนุโมทนา ถวายอดิเรก ถวายพระพรลา ก่อนเสด็จพระราชดําเนินกลับ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดําเนินไปทรงกราบที่หน้าเครื่องนมัสการหน้าพระแท่นพระนพปฏลมหาเศวตฉัตร และทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา เสด็จไปทรงกราบที่หน้าเครื่องนมัสการหน้าพระแท่นพระนพปฏลมหาเศวตฉัตร ด้วย ข่าวในพระราชสํานัก สทท.
8/1/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230109111305241
null
สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พระราชทานพระราชวโรกาสให้คณะบุคคลเฝ้าทูลละอองพระบาท
วันนี้ 8 มกราคม 2566 เวลา 9 นาฬิกา 11 นาที พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จออกแทนพระองค์ ณ วังสระปทุม พระราชทานพระราชวโรกาสให้ คณะพราหมณ์ที่ประกอบพระราชพิธี ตรียัมพวาย - ตรีปวาย เฝ้าทูลละอองพระบาท ถวายพระพรชัยมงคล และทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายสิ่งของเครื่องพิธีแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี และสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในโอกาสนี้ พระราชทานเงินแก่คณะพราหมณ์ ด้วย ข่าวในพระราชสํานัก สทท.
8/1/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230109111510243
null
สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินไปในการพระราชทานเพลิงศพ พลเอกแป้ง มาลากุล ณ อยุธยา
วันนี้ 8 มกราคม 2566 เวลา 17 นาฬิกา 24 นาที สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดําเนินไปยังเมรุหลวงหน้าพลับพลาอิศริยาภรณ์ วัดเทพศิรินทราวาส เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กรุงเทพมหานคร ในการพระราชทานเพลิงศพ พลเอกแป้ง มาลากุล ณ อยุธยา ซึ่งถึงแก่อนิจกรรมเนื่องจากภาวะหัวใจล้มเหลว เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2565 สิริอายุ 83 ปี พลเอกแป้ง มาลากุล ณ อยุธยา เกิดเมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม 2482 เป็นบุตรของหม่อมหลวงปีกทิพย์ มาลากุล และนางชนัฏ มาลากุล ณ อยุธยา สําเร็จการศึกษาชั้นมัธยมศึกษาจากโรงเรียนเทพศิรินทร์ โรงเรียนวชิราวุธวิทยาลัย และโรงเรียนอํานวยศิลป์ จากนั้นได้เข้าศึกษาที่โรงเรียนเตรียมนายร้อย รุ่น 16 โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า รุ่น 9 และได้ไปศึกษาต่อทางด้านการทหารที่ประเทศอังกฤษ และออสเตรเลีย นอกจากนี้ยังได้ศึกษาหลักสูตรพิเศษต่างๆ ทําให้เป็นผู้ที่มีความรู้ความสามารถ ดํารงตําแหน่งสําคัญต่างๆ อาทิ เจ้ากรมกิจการพลเรือนทหารบก รองเสนาธิการทหารบก หัวหน้าคณะนายทหารฝ่านเสนาธิการประจําผู้บังคับบัญชา ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษกองทัพบก และประธานคณะที่ปรึกษากองทัพบก อีกทั้งได้รับความไว้วางใจให้ปฏิบัติหน้าที่สําคัญๆ เช่น ราชองครักษ์พิเศษ ตุลาการศาลทหารสูงสุด ผู้อํานวยการโครงการพัฒนาดอยตุง , ผู้อํานวยการสถานี โทรทัศน์กองทัพบก ประธานโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย นายกสมาคมนักเรียนเก่าวชิราวุธวิทยาลัย และกรรมการมูลนิธิแม่ฟ้าหลวง ในพระบรมราชูปภัมภ์ ด้านครอบครัว สมรสกับคุณหญิงศิริรัตน์ มาลากุล ณ อยุธยา มีลูกด้วยกัน 4 คน ข่าวในพระราชสํานัก สทท.
8/1/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230109111833247
null
แถลงการณ์สำนักพระราชวัง เรื่อง สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา ทรงพระประชวร ฉบับที่ 3
ตามที่สํานักพระราชวัง ได้มีแถลงการณ์ เรื่อง สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา ทรงพระประชวรหมดพระสติ ด้วยพระอาการทางพระหทัย และทรงเข้ารับการรักษาพระองค์ ที่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย เมื่อวันที่ 15 ธันวาคม พุทธศักราช 2565 ความทราบทั่วกันแล้วนั้น คณะแพทย์ผู้ถวายการรักษาฯ ได้สรุปการวินิจฉัยว่าพระอาการประชวรหมดพระสติ เกิดจากการเต้นผิดจังหวะของพระหทัยแบบรุนแรง จากการอักเสบของพระหทัยจากเชื้อไมโคพลาสมา (Mycoplasma) ทําให้ทรงพระประชวรหมดพระสติในเวลาต่อมา พระอาการโดยรวมในขณะนี้ยังไม่ทรงรู้พระองค์ คณะแพทย์ยังคงถวายพระโอสถและเครื่องมือเพื่อช่วยการทํางานของพระหทัย พระปัปผาสะ (ปอด) พระวักกะ (ไต) รวมทั้งพระโอสถปฏิชีวนะและติดตามพระอาการอย่างใกล้ชิดต่อไป จึงประกาศให้ทราบโดยทั่วกัน สํานักพระราชวัง 7 มกราคม พุทธศักราช 2566 ข่าวในพระราชสํานัก สทท.
8/1/2023
null
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230109112019248
null
สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ทรงบำเพ็ญพระกุศลเนื่องในโอกาสวันคล้ายวันประสูติ วันที่ 8 มกราคม 2566 และพระราชทานพระวโรกาสให้ คณะบุคคล เฝ้าถวายพระพรชัยมงคล
วันนี้ 8 มกราคม 2566 เวลา 11 นาฬิกา 20 นาที สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา เสด็จลงหน้าพระตําหนักไม้ วังศุโขทัย พระราชทานพระวโรกาสให้ ข้าราชการระดับสูงจากกรมปศุสัตว์ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช รวมทั้งกรมประมง เฝ้าถวายพระพรชัยมงคลและถวายพันธุ์สัตว์ เพื่อทรงบําเพ็ญพระกุศลเนื่องในวันคล้ายวันประสูติ วันที่ 8 มกราคม 2566 ในการนี้ ทรงปล่อยโค 1 คู่ ที่กรมปศุสัตว์ถวายเป็นพระกุศล โดยจะนําเข้าโครงการธนาคารโค-กระบือเพื่อเกษตรกรตามพระราชดําริ ซึ่งกรมปศุสัตว์จะนําไปให้ความช่วยเหลือแก่นายประดิษฐ์ แสนสุข เกษตรกรอําเภอสนม จังหวัดสุรินทร์ เพื่อเลี้ยงดูแลและใช้ประโยชน์ทางการเกษตร ตามวัตถุประสงค์โครงการฯ จากนั้น ทรงปล่อยนกปรอดหัวโขน ปลาดุก และเต่าส่วนพระองค์ อย่างละ 37 ตัว โอกาสนี้ กรมประมง ถวายพันธุ์ปลาน้ําจืด จํานวน 9 ชนิด รวม 4 แสน 9 หมื่นตัว ประกอบด้วย ปลาตะเพียนขาว ปลาตะเพียนทอง ปลายี่สกไทย ปลาแก้มช้ํา ปลาสร้อยขาว ปลากระแห ปลาเทพา ปลาโพงและปลากระโห้ โดยจะเชิญไปปล่อย ณ ท่าวาสุกรี เพื่อเป็นการอนุรักษ์และขยายพันธุ์สัตว์น้ําให้เจริญเติบโตตามระบบนิเวศตามธรรมชาติในแม่น้ําเจ้าพระยาต่อไป จากนั้น ทรงพระดําเนินไปยังหน้าพระตําหนักใหญ่ พระราชทานพระวโรกาสให้ ข้าราชบริพาร หน่วยราชการในพระองค์ เฝ้าถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันประสูติ ต่อจากนั้น เสด็จขึ้นพระตําหนักใหญ่ ทรงรับแจกันดอกไม้พระราชทาน ซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ พลอากาศเอก สถิตย์พงษ์ สุขวิมล ราชเลขานุการในพระองค์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เชิญมาถวาย เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันประสูติ เวลา 11 นาฬิกา 43 นาที สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา เสด็จออก ณ พระตําหนักใหญ่ พระราชทานพระวโรกาสให้คณะบุคคลต่างๆ เฝ้าถวายพระพรชัยมงคล ประกอบด้วย พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ ประธานองคมนตรี พร้อมคณะองคมนตรี และคู่สมรส พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อมคณะรัฐมนตรี และคู่สมรส ประธานศาลฎีกา พร้อมผู้บริหารฝ่ายตุลาการ ปลัดกระทรวงกลาโหม พร้อมข้าราชการสังกัดกระทรวงกลาโหมและคู่สมรส คณะผู้บัญชาการเหล่าทัพ ปลัดกระทรวงมหาดไทย นายกสมาคมแม่บ้านมหาดไทย พร้อมข้าราชการกระทรวงมหาดไทยและคู่สมรส ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมผู้บริหารในสังกัดกรุงเทพมหานคร ข่าวในพระราชสํานัก สทท.
8/1/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230109112354250
null
แถลงการณ์สำนักพระราชวัง เรื่อง สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา ทรงพระประชวร ฉบับที่ 3
แถลงการณ์สํานักพระราชวังเรื่อง สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดาทรงพระประชวรฉบับที่ 3----------------------------------- ตามที่สํานักพระราชวัง มีแถลงการณ์ เรื่อง สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา ทรงพระประชวรหมดพระสติ ด้วยพระอาการทางพระหทัย และทรงเข้ารับการรักษาพระองค์ที่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย เมื่อวันที่ 15 ธันวาคม พุทธศักราช 2565 ความทราบทั่วกันแล้วนั้น คณะแพทย์ผู้ถวายการรักษา ฯ ได้สรุปการวินิจฉัยว่าพระอาการประชวรหมดพระสติเกิดจากการเต้นผิดจังหวะของพระหทัยแบบรุนแรง จากการอักเสบของพระหทัยจากเชื้อไมโคพลาสมา (Mycoplasma) ทําให้ทรงพระประชวรหมดพระสติในเวลาต่อมา พระอาการโดยรวมในขณะนี้ยังไม่ทรงรู้พระองค์ คณะแพทย์ยังคงถวายพระโอสถและเครื่องมือเพื่อช่วยการทํางานของพระหทัย พระปัปผาสะ (ปอด) พระวักกะ (ไต) รวมทั้งพระโอสถปฏิชีวนะ และติดตามพระอาการอย่างใกล้ชิดต่อไป จึงประกาศมาให้ทราบโดยทั่วกัน สํานักพระราชวัง 7 มกราคม พุทธศักราช 2566
8/1/2023
null
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230108074355995
null
สมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี ทรงงานวิสัญญีสัตวแพทย์ ร่วมกับทีมสัตวแพทย์ ณ โรงพยาบาลสัตว์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
วันนี้ 9 มกราคม 2566 เวลา 7 นาฬิกา 40 นาที สมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี เสด็จไปทรงงานวิสัญญีสัตวแพทย์ ร่วมกับทีมสัตวแพทย์ ณ ศูนย์ศัลยกรรมและการผ่าตัดผ่านลํากล้อง ชั้น 2 อาคารเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา บรมราชินีนาถ โรงพยาบาลสัตว์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร ในการนี้ ทรงจัดเตรียมอุปกรณ์ที่ถูกจัดเก็บในห้องปลอดเชื้อโรค ตามขั้นตอนและมาตรฐานทางสัตวแพทย์ สําหรับการทรงงานวิสัญญีและการผ่าตัดให้กับสุนัข เพศผู้ สายพันธุ์ โกลเด้น รีทรีฟเวอร์ อายุ 12 ปี ซึ่งเข้ารับการผ่าตัดนิ่วในกระเพาะปัสสาวะและตัดถุงอัณฑะร่วมกับการทําหมัน เนื่องจากพบเนื้องอกที่อัณฑะทั้ง 2 ข้าง จากนั้น ทรงให้ยานําสลบผ่านทางหลอดเลือดและทรงใช้ยาดมสลบเพื่อคงภาวะการสลบตลอดระยะเวลาการผ่าตัด โดยทรงติดตามเฝ้าระวังสัญญาณชีพของสุนัขด้วยพระองค์เองอย่างใกล้ชิด ผ่านจอมอนิเตอร์ที่แสดงผลอัตราการเต้นของหัวใจ อัตราการหายใจ ความดันโลหิต รวมถึงอุณหภูมิของร่างกาย เพื่อทรงประเมินความปลอดภัยของสุนัขระหว่างการผ่าตัดให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ สําหรับโรคเนื้องอกอัณฑะในสุนัข เป็นโรคที่เกิดขึ้นโดยไม่มีสาเหตุที่แน่ชัด อาทิ ความบกพร่องทางพันธุกรรม , การสัมผัสกับสารพิษ , การบาดเจ็บ หรือฮอร์โมนที่ผิดปกติและการอักเสบบริเวณอัณฑะเป็นประจํา นอกจากนี้ในสัตว์ที่เป็นภาวะทองแดง มีแนวโน้มที่จะเกิดเนื้องอกในอัณฑะสูงมากกว่าปกติ ปัจจุบันมีการตรวจพบมากที่สุด 3 ชนิดคือ เนื้องอกชนิดเซอร์ทอร์ไลเซลล์ ชนิดอินเตอร์สติเชียลเซลล์ และชนิดเซมิโนมา ซึ่งหากพบอาการผิดปกติในสุนัข อาทิ ปัสสาวะมีเลือดปะปน อัณฑะข้างใดข้างหนึ่งมีการหดตัว หรืออาจมีการหดตัวทั้งสองข้าง อัณฑะมีขนาดไม่เท่ากัน อวัยวเพศหดตัวลง น้ําหนักลดลง ผิวซีด ขนร่วงในบริเวณที่เกิดเนื้องอก มีจุดด่างดําบนผิวหนัง มีก้อนเนื้ออยู่ในช่องท้องหรือบริเวณขาหนีบ รวมถึงมีลักษณะเหมือนเพศเมีย อาทิ มีการดึงดูดสุนัขในเพศเดียวกันหรือมีของเหลวไหลออกจากเต้านม เจ้าของสัตว์เลี้ยงควรนําสุนัขไปพบสัตวแพทย์เพื่อทําการตรวจ วินิจฉัยและรับการรักษา ป้องกันไม่ให้ลุกลามไปยังอวัยวะอื่นๆ ต่อไป ข่าวในพระราชสํานัก สทท.
9/1/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230110163245765
null
สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พระราชทานพระราชวโรกาสให้คณะบุคคลเฝ้าทูลละอองพระบาท
วันนี้ 9 มกราคม 2566 เวลา 9 นาฬิกา 35 นาที สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จออก ณ วังสระปทุม พระราชทานพระราชวโรกาสให้คณะบุคคลต่างๆ เฝ้าทูลละอองพระบาท ตามลําดับดังนี้ ศาสตราจารย์เกียรติคุณ แพทย์หญิงชนิกา ตู้จินดา ที่ปรึกษาคณะกรรมการจัดการประชุมวิชาการ "บีดีเอ็มเอส โกลเดน จูบิลี ไซแอนทิฟิก อะคาเดมิก คอนเฟอเร็นซ์ 2022" (BDMS Golden Jubilee Scientific Academic Conference 2022) นําคณะกรรมการจัดงานประชุมฯ เฝ้าทูลละอองพระบาท ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายเงินรายได้จากการลงทะเบียนงานประชุมดังกล่าว โดยเสด็จพระราชกุศลตามพระราชอัธยาศัย นายเกียรติศักดิ์ เทพผดุงพร กรรมการบริหารบริษัท เทพผดุงพร จํากัด พร้อมครอบครัวเทพผดุงพร เฝ้าทูลละอองพระบาท ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายเงินรายได้จากการร่วมออกร้านงานกาชาดประจําปี 2565 เพื่อบํารุงสภากาชาดไทย และเงินรายได้จากการจําหน่ายน้ํามันมะพร้าวสกัดเย็นให้กับบริษัท โอเร็กซ์เทรดดิ้ง จํากัด เพื่อผลิตยาสีฟันสิรินเด้นท์ สมทบทุนมูลนิธิเทพรัตนเวชชานุกูล นายช่วงระวี กรรณสูต นํานายทวีรัตน์ ทองมาก นายกสมาคมสืบสานศิลปกรรมถิ่นใต้ เฝ้าทูลละอองพระบาท ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายงานหัตถศิลป์รูปหนังตะลุง ผลงานของครูสุชาติ ทรัพย์สิน (ศิลปินแห่งชาติ) และผลงานของเยาวชนสมาชิกสมาคมสืบสานศิลปกรรมถิ่นใต้ ในโอกาสนี้ นายทิพากร สมคะเน และคณะดําเนินงานโครงการจัดตั้งพิพิธภัณฑ์พื้นถิ่นภาคใต้ในชุมชนบ้านลิปะใหญ่ เกาะสมุย และในชุมชนบ้านจังหูน จังหวัดนครศรีธรรมราช เฝ้าทูลละอองพระบาท ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายเงิน โดยเสด็จพระราชกุศลตามพระราชอัธยาศัย เวลา 14 นาฬิกา 3 นาที สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จออก ณ วังสระปทุม พระราชทานพระราชวโรกาสให้คณะบุคคลต่างๆ เฝ้าทูลละอองพระบาท ตามลําดับดังนี้ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ประยูร เชี่ยววัฒนา นายกสมาคมส่งเสริมเทคโนโลยี (ไทย - ญี่ปุ่น) นําคณะผู้บริหารสมาคมฯ พร้อมด้วยกรรมการฝ่ายจัดการแข่งขันหุ่นยนต์ ส.ส.ท. ชิงแชมป์ประเทศไทย ประจําปี 2565 ชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และผู้สนับสนุนการจัดการแข่งขันฯ เฝ้าทูลละอองพระบาท ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายเงิน สมทบทุนมูลนิธิเทพรัตนเวชชานุกูล ในโอกาสนี้ ผู้ชนะเลิศการแข่งขันฯ ร่วมเข้าเฝ้าทูลละอองพระบาทด้วย นางมิลลิเซนต์ ครุซ-ปาเรเดส (Mrs. Millicent Cruz-Paredes) เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐฟิลิปปินส์ประจําประเทศไทย เฝ้าทูลละอองพระบาท ในโอกาสเข้ารับหน้าที่ ข่าวในพระราชสํานัก สทท.
9/1/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230110163711766
null
สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พระราชทานพระราชวโรกาสให้คณะบุคคลต่างๆ เฝ้าทูลละอองพระบาท
วันนี้ 10 มกราคม 2566 เวลา 13 นาฬิกา 59 นาที สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จออก ณ วังสระปทุม พระราชทานพระราชวโรกาสให้คณะบุคคลต่างๆ เฝ้าทูลละอองพระบาท ตามลําดับดังนี้ นายขรรค์ ประจวบเหมาะ ผู้อํานวยการสํานักงานจัดหารายได้ สภากาชาดไทย นํานายมานูเอล มอนตาน่า ประธานกลุ่มมิชลินประจําภาคพื้นเอเชียตะวันออกและออสเตรเลีย และคณะ เฝ้าทูลละอองพระบาท ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายเงิน เพื่อบํารุงสภากาชาดไทย สมทบโครงการส่งเสริมและพัฒนาการพูด อ่าน เขียนภาษาไทย ของสํานักงานบริหารกิจการเหล่ากาชาดและทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายหนังสือพร้อมทั้งของที่ระลึกสัญลักษณ์มิชลิน ศาสนาจารย์ทวีศักดิ์ มหชวโรจน์ ประธานมูลนิธิแห่งสภาคริสตจักรในประเทศไทย นําคณะกรรมการที่ปรึกษาและคณะกรรมการพิพิธภัณฑ์หมอเจ้าฟ้าในพระราชูปถัมภ์สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เฝ้าทูลละอองพระบาท กราบบังคมทูลรายงาน การดําเนินงานจัดตั้ง "พิพิธภัณฑ์หมอเจ้าฟ้า" และการจัดสร้างพระราชานุสาวรีย์สมเด็จพระมหิตลาธิเบศรอดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก และสมเด็จพระศรีนครินทรา บรมราชชนนี ณ โรงพยาบาลแมคคอร์มิคจังหวัดเชียงใหม่ และทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายเงิน โดยเสด็จพระราชกุศลตามพระราชอัธยาศัย พร้อมทั้งเหรียญทองที่ระลึกสมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก ข่าวในพระราชสํานัก สทท.
10/1/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230111091311892
null
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี พระราชทาน พระบรมราชวโรกาสให้คณะบุคคล เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท
วันนี้ 10 มกราคม 2566 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินี เสด็จออก ณ พระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้คณะบุคคลต่างๆ เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ตามลําดับดังนี้ เวลา 18 นาฬิกา 28 นาที พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ นายซัยฟ์ อับดุลลอฮ์ มุฮัมมัด คอลฟาน อัชชามิซีย์ (Mr. Saif Abdulla Mohammed Khalfan Alshamisi) เอกอัครราชทูตสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ประจําประเทศไทย เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท กราบบังคมทูลลา ในโอกาสที่จะพ้นจากหน้าที่ เวลา 18 นาฬิกา 41 นาที พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี นํานายนริศ ขํานุรักษ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ถวายสัตย์ปฏิญาณก่อนเข้ารับหน้าที่ เวลา 18 นาฬิกา 45 นาที พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ศาสตราจารย์เกียรติยศ นายแพทย์สงคราม ทรัพย์เจริญ ประธานกรรมการมูลนิธิสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาชัยนาทนเรนทร นํานักการสาธารณสุขดีเด่น ประจําปี 2565 ประกอบด้วย ศาสตราจารย์เกียรติคุณ นายแพทย์เกษม วัฒนชัย นักการสาธารณสุขดีเด่น ประเภทบริหาร นายแพทย์วีรวัฒน์ มโนสุทธิ นักการสาธารณสุขดีเด่น ประเภทบริการ ศาสตราจารย์นายแพทย์ยง ภู่วรวรรณ นักการสาธารณสุขดีเด่น ประเภทวิชาการ นายณัฐพล ทองไหล นักการสาธารณสุขดีเด่น ประเภทผู้นําชุมชน นายพนม นามผาญ นักการสาธารณสุขดีเด่น ประเภทประชาชน เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท รับพระราชทานรางวัลชัยนาทนเรนทร ในโอกาสนี้ ศาสตราจารย์เกียรติยศ นายแพทย์สงคราม ทรัพย์เจริญ ประธานกรรมการมูลนิธิสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาชัยนาทนเรนทร เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายเงินโดยเสด็จพระราชกุศลตามพระราชอัธยาศัย ในการนี้ คณะกรรมการมูลนิธิสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาชัยนาทนเรนทร และคณะกรรมการรางวัลชัยนาทนเรนทร ร่วมเข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ด้วย ข่าวในพระราชสํานัก สทท.
10/1/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230111091624897
null
สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงติดตามการดำเนินงานโครงการพัฒนาเด็กและเยาวชน ตามพระราชดำริ ในพื้นที่จังหวัดตาก ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์
วันนี้ 11 มกราคม 2566 เวลา 9 นาฬิกา 22 นาที สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จลง ณ ห้องประชุม วังสระปทุม ทรงติดตามการดําเนินงานโครงการพัฒนาเด็กและเยาวชน ตามพระราชดําริ ในพื้นที่จังหวัดตาก ในการนี้ พระราชทานพระราชวโรกาสให้ผู้แทนหน่วยงานเข้าร่วมประชุมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ (ออนไลน์) ด้วย โอกาสนี้ ทรงกดกระดิ่ง เพื่อเปิดป้ายศูนย์การเรียนตํารวจตระเวนชายแดนธนาคารออมสินอุปถัมภ์ (บ้านเทอคี) ตั้งอยู่ที่ บ้านเทอคี หมู่ 8 ตําบลแม่ตื่น อําเภอแม่ระมาด จังหวัดตาก หมู่บ้านเทอคี ตั้งอยู่ในพื้นที่ห่างไกล เป็นภูเขาสลับซับซ้อน เส้นทางสัญจรทุรกันดาร ไม่มีสถานศึกษา โดยปีที่ผ่านมามีการสร้างศูนย์การเรียนฯ โดยใช้ใต้ถุนบ้านของผู้ปกครอง เป็นห้องเรียนชั่วคราว เป็นโรงอาหารและที่พักนักเรียนบ้านไกล ปัจจุบันธนาคารออมสิน ได้สนับสนุนงบประมาณจัดสร้างอาคารเรียน โรงอาหาร และห้องน้ํา ทําให้มีความพร้อมในการจัดการศึกษาแก่เด็กและเยาวชนในพื้นที่มากขึ้น ด้านการศึกษา เน้นส่งเสริมให้นักเรียนซึ่งเป็นชาวไทยภูเขาเผ่ากะเหรี่ยง ฝึกอ่าน ฝึกเขียน ฝึกสะกดคําและมีการจัดกิจกรรมส่งเสริมให้นักเรียนรักการอ่าน ในการนี้ มีพระราชดําริให้นักเรียนฝึกอ่านออกเสียงบ่อยๆ จะได้พูดภาษาไทยได้คล่องขึ้น เรียนหนังสือได้เข้าใจมากขึ้น ด้านโครงการเกษตรเพื่ออาหารกลางวัน มีสํานักงานเกษตรจังหวัดตาก และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมสนองพระราชดําริ ทั้งด้านการจัดหาแหล่งน้ํา ปรับโครงสร้างดิน ปรับพื้นที่ลาดชันให้สามารถเพาะปลูกได้ นอกจากนี้ยังมีเจ้าหน้าที่จากศูนย์พัฒนาโครงการหลวงเลอตอ ช่วยทําโรงเรือนปลูกผัก สนับสนุนเมล็ดพันธุ์ผัก อบรมให้ความรู้เรื่องการปลูกผักผลไม้เมืองหนาว อาทิ เบบี้ฮ้องเต้และอโวคาโด้ โดยผลผลิตเจริญงอกงามดี สามารถนําไปประกอบอาหารกลางวันได้แล้ว นักเรียนทุกคนได้รับประทานอาหาร ครบ 5 หมู่ จากความร่วมมือกันของหน่วยงานต่างๆ ทําให้ศูนย์การเรียน ตชด. แห่งนี้ ดําเนินงานไปได้ด้วยดี ในอนาคตจะขยายการพัฒนาจากสถานศึกษาสู่ชุมชน ทําให้ชุมชนเข้มแข็ง พึ่งตนเองได้ สร้างความร่วมมือและเครือข่ายเชื่อมโยงระหว่างกันตลอดไป เวลา 13 นาฬิกา 23 นาที ทรงติดตามการดําเนินงานโครงการพัฒนาเด็กและเยาวชน ตามพระราชดําริ ศูนย์การเรียนตํารวจตระเวนชายแดนบ้านตีนดอย ตําบลแม่หละ อําเภอท่าสองยาง ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ (ออนไลน์) ศูนย์การเรียนแห่งนี้ อยู่ในพื้นที่รับผิดชอบของกองกํากับการตํารวจตระเวนชายแดนที่ 34 เปิดทําการเรียนการสอนตั้งแต่ปี 2547 ในระดับชั้นปฐมวัย ถึงประถมศึกษาปีที่ 6 มีนักเรียน จํานวน 102 คน เป็นชาวไทยภูเขาเผ่าปกาเกอะญอทั้งหมด มีครูตํารวจตระเวนชายแดน จํานวน 5 นาย ครูอัตราจ้าง จํานวน 3 คน ได้ดําเนินการสนองพระราชดําริ เพื่อให้เด็กและยาวชนมีคุณภาพชีวิตที่ดี ได้รับการพัฒนาศักยภาพอย่างเต็มที่และพัฒนาไปสู่การเป็นศูนย์บริการทางความรู้ แก่นักเรียน ผู้ปกครองและชุมชน ด้านการเรียนการสอน ในกลุ่มสาระวิชาคณิตศาสตร์ ภาษาอังกฤษ และวิทยาศาสตร์ มีแนวโน้มระดับคะแนนสูงขึ้น ส่วนความสามารถในการฟัง พูด อ่าน เขียน พบปัญหาการอ่านและการเขียน แก้ไขโดยเน้นการอ่านในชั่วโมงเรียน คัดกรองนักเรียนที่มีปัญหาเข้าโครงการอ่านออกเขียนได้ นักเรียนในพระราชานุเคราะห์สามารถไปศึกษาต่อในระดับที่สูงขึ้นทุกคน นอกจากนี้ ชมรมศิษย์เก่าของโรงเรียนฯ เข้ามาช่วยซ่อมแซม ดูแลอาคาร สถานที่ และพัฒนาโรงเรียนเป็นประจํา ทั้งยังได้รับการอนุเคราะห์จากสมาคมแม่บ้านตํารวจ สนับสนุนแบตเตอรี่ สําหรับการใช้พลังงานจากโซลาเซลล์ การฝึกอาชีพนักเรียน มีการสอนแปรรูปผลิตภัณฑ์ต่างๆ จากผลผลิตทางการเกษตรที่ปลูกเอง เช่น น้ํามัลเบอร์รี่ ชาใบหม่อนและกล้วยตาก ส่งขายในสหกรณ์โรงเรียน ชุมชน และรับออร์เดอร์จากนอกพื้นที่ สร้างอาชีพและรายได้ โครงการเกษตรเพื่ออาหารกลางวัน มีการปลูกพืชผักและไม้ผล อาทิ ผักคะน้า ผักกาดหัว ผักบุ้ง มะละกอ ขนุน กล้วยน้ําว้า สําหรับประกอบอาหาร เหลือจําหน่าย และแจกจ่ายในชุมชน มีการทําโรงเพาะกล้าผัก กําหนดระยะเวลาในการให้ผลผลิตได้ตลอดทั้งปี นอกจากนี้ ยังฝึกให้นักเรียนใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ โดยการเล่นดนตรี เช่น การสีไวโอลิน ซึ่งครูและนักเรียน ร่วมกันฝึกซ้อม โดยรับการสนับสนุนเครื่องดนตรีจากกองบังคับการตํารวจตระเวนชายแดนภาค 3 ข่าวในพระราชสํานัก สทท.
11/1/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230112154039435
null
สมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี ทรงงานวิสัญญีสัตวแพทย์ ณ โรงพยาบาลสัตว์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
วันนี้ 11 มกราคม 2566 เวลา 7 นาฬิกา 54 นาที สมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี เสด็จไปทรงงานวิสัญญีสัตวแพทย์ ร่วมกับทีมสัตวแพทย์ ณ ศูนย์ศัลยกรรมและการผ่าตัดผ่านลํากล้อง ชั้น 2 อาคารเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา บรมราชินีนาถ โรงพยาบาลสัตว์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ในการนี้ ทอดพระเนตรผลการเอกซเรย์ อาการป่วยของสุนัข เพศผู้ สายพันธุ์ชิสุ อายุ 7 ปี ที่มาเข้ารับการศัลยกรรม ซ่อมเอ็นเข่าไขว้หน้า (ขวา) ฉีกขาด เสร็จแล้ว ทรงเตรียมอุปกรณ์และเครื่องมือทางสัตวแพทย์ สําหรับการทรงงานวิสัญญีและการผ่าตัดภายในห้องศัลยกรรมปลอดเชื้อ ตามขั้นตอนและมาตรฐานทางสัตวแพทย์ โดยทีมสัตวแพทย์ ทําการเตรียมสุนัข สําหรับการผ่าตัดรักษาอาการป่วย จากนั้น ทรงให้ยานําสลบผ่านทางหลอดเลือดและทรงใช้ยาดมสลบเพื่อคงภาวะการสลบตลอดระยะเวลาการผ่าตัด โดยทรงติดตามเฝ้าระวังสัญญาณชีพของสุนัขอย่างใกล้ชิด ผ่านจอมอนิเตอร์ที่แสดงผลอัตราการเต้นของหัวใจ อัตราการหายใจ ความดันโลหิต รวมถึงอุณหภูมิของร่างกาย เพื่อทรงประเมินความปลอดภัยของสุนัขระหว่างการผ่าตัดให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ภาวะเอ็นเข่าไขว้หน้าฉีกขาดในสัตว์เลี้ยง มักเกิดจากสาเหตุการอ่อนแอหรือความเสื่อมของเส้นเอ็นของสัตว์ที่มีอายุมาก รวมทั้งสัตว์ที่ได้รับอุบัติเหตุ ซึ่งเจ้าของสัตว์เลี้ยงควรสังเกตอาการผิดปกติ ในกรณีที่สัตว์เลี้ยงไม่วางน้ําหนักที่ส่วนขา ให้พาไปรับการตรวจรักษา โดยสัตวแพทย์จะใช้วิธีการผ่าตัดศัลยกรรมสร้างเอ็นเข่าเทียม เพื่อเสริมความแข็งแรงของข้อเข่า สําหรับการดูแลภายหลังจากการผ่าตัด งดการออกกําลังกายหนัก แต่ให้มีการใช้ขา เพื่อให้บริเวณข้อมีความยืดหยุ่นได้ตลอดเวลา สามารถกลับมาใช้งานตามปกติได้อย่างรวดเร็ว ข่าวในพระราชสํานัก สทท.
11/1/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230112154226436
null
ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี ทรงติดตามการดำเนินงานโครงการ ทูบีนัมเบอร์วัน จังหวัดมหาสารคาม
วานนี้ 10 มกราคม 2566 เวลา 17 นาฬิกา 50 นาที ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี เสด็จไปยังวิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีมหาสารคาม อําเภอเมืองมหาสารคาม จังหวัดมหาสารคาม ทรงเปิดชมรมและศูนย์เพื่อนใจ ทูบีนัมเบอร์วัน ซึ่งยึดหลักการดําเนินงาน เป็นหนึ่งโดยไม่พึ่งยาเสพติด พัฒนาศักยภาพในด้านที่ตัวเองสนใจ โดยมีเพื่อนช่วยเพื่อน พี่ช่วยน้อง ภายใต้แนวคิด "ปรับทุกข์ สร้างสุข แก้ปัญหา พัฒนา EQ"อาทิ การพัฒนาบุคลิกภาพ การร้องเพลง การเต้น การแข่งขันกีฬา E-SPORT การพัฒนาทักษะและส่งเสริมอาชีพต่างๆ ส่งผลให้สมาชิกเกิดความภาคภูมิใจในตนเอง สามารถดําเนินชีวิตในสังคมได้อย่างมีความสุข ทั้งนี้ วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีมหาสารคาม ได้น้อมนําหลักการดําเนินโครงการทูบีนัมเบอร์วัน เป็นแนวทางในการป้องกันและแก้ไขยาเสพติดในวิทยาลัยฯ ซึ่งมีนักเรียนนักศึกษาในระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ ถึงปริญญาตรี รวม 2,016 คน มีการจัดกิจกรรมสร้างสรรค์ พัฒนาเยาวชนให้เป็นคนเก่งและดี โดยยึดหลักการปฏิบัติงานที่สอดคล้องกับปรัชญาของวิทยาลัยฯ ที่ว่า "ทักษะเยี่ยม เปี่ยมภูมิรู้ คู่คุณธรรม นําชุมชน" โอกาสนี้ ทรงติดตามผลการดําเนินงานโครงการทูบีนัมเบอร์วันของจังหวัด และพระราชทานเข็มที่ระลึกแก่ผู้ถวายเงินสนับสนุนโครงการทู บี นัมเบอร์ วัน จากนั้น พระราชทานพระอนุญาตให้สมาชิก "ใครติดยายกมือขึ้น" จากสถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนจังหวัดมหาสารคามและสํานักงานคุมประพฤติจังหวัดมหาสารคามซึ่งเคยติดยาเสพติดและมีความมุ่งมั่นที่จะเลิกเสพ เข้าเฝ้า ในการนี้ ได้พระราชทานกําลังใจและพระราชทานคําแนะนําเพื่อป้องกันความผิดพลาดซ้ําและทรงแสดงคอนเสิร์ตทูบีนัมเบอร์วัน ร่วมกับทูบีนัมเบอร์วันไอดอล ข่าวในพระราชสํานัก สทท.
11/1/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230112154838439
null
สมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี ทรงบรรยายพิเศษพระราชทานแก่นักศึกษาระดับปริญญาโทและปริญญาเอก สถาบันบัณฑิตศึกษาจุฬาภรณ์
วันนี้ 12 มกราคม 2566 เวลา 12 นาฬิกา 8 นาที สมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี เสด็จไปยังสถาบันบัณฑิตศึกษาจุฬาภรณ์ เขตหลักสี่ กรุงเทพมหานคร โอกาสนี้ทรงบรรยายพิเศษ พระราชทาน แก่นักศึกษาระดับปริญญาโทและปริญญาเอก สาขาวิชาพิษวิทยาสิ่งแวดล้อม และสาขาวิชาวิทยาศาสตร์ชีวภาพประยุกต์ อนามัยสิ่งแวดล้อม ในเรื่อง "การเกิดโรคมะเร็ง (อองโคจีเนซิส) Oncogenesis" เนื่องจากปัจจุบันประเทศไทย มีจํานวนผู้ป่วยโรคมะเร็งเพิ่มขึ้น และมีอัตราการเสียชีวิตเป็นอันดับหนึ่ง โดยโรคมะเร็งที่พบมากที่สุดและพบผู้เสียชีวิตสูงสุดของโลกคือ มะเร็งตับ มะเร็งท่อน้ําดี และมะเร็งปอด ซึ่งโรคมะเร็งไม่ได้เกิดจากพันธุกรรมเพียงอย่างเดียว แต่มีปัจจัยเสี่ยงจากสิ่งแวดล้อมและการใช้ชีวิต รวมถึงการสัมผัสสารเคมี ไวรัสก่อมะเร็งและรังสีร่วมด้วย โรคมะเร็ง ได้รับการศึกษาและวิจัยอย่างกว้างขวางในวงการวิทยาศาสตร์การแพทย์ โดยเฉพาะในประเทศที่มีการพัฒนาก้าวไกลทางวิทยาศาสตร์ เพื่อหาวิธี ที่จะนําไปสู่การตรวจวินิจฉัยโรคและการรักษาพยาบาลอย่างมีประสิทธิภาพ โดยอาศัยความรู้พื้นฐานทางวิทยาศาสตร์ ที่จําเป็นต่อการศึกษา การเกิดโรค รวมทั้งกลไกและการเปลี่ยนแปลงในระดับเซลล์ ตั้งแต่ระยะเริ่มต้น ไปจนถึงการพัฒนายารักษาที่มีคุณสมบัติเฉพาะ จนสามารถระงับการเกิดโรคมะเร็งได้มากกว่าในอดีต ในการนี้ ทรงบรรยายในหัวข้อ "กระบวนการและขั้นตอนของการเกิดมะเร็ง และชีววิทยาของเซลล์มะเร็ง" ซึ่งกระบวนการการเกิดมะเร็ง มีความซับซ้อน ตั้งแต่ขั้นเริ่มต้น, ขั้นก่อตัว, และขั้นกระจายตัว รวมทั้งทรงยกตัวอย่าง สารก่อมะเร็งที่ทําลายดีเอ็นเอโดยตรง จํานวน 2 ชนิดคือ สารอะฟลาท๊อกซิน (Aflatoxin) คือสารพิษจากเชื้อราพบได้ในเมล็ดธัญพืชชนิดต่างๆ และสารไนโตรซามีน ที่พบในอาหารทั่วไป อาทิ กะปิ และปลาร้า ทั้งนี้ เซลล์ที่ผิดปกติในก้อนมะเร็ง ระยะรวมตัว มีโอกาสรักษาให้หายได้ หากตรวจพบในช่วงระยะแรก แต่หากผ่านไปในระยะที่เซลล์มะเร็งแพร่กระจายไปยังเนื้อเยื่อหรืออวัยวะต่างๆ จะทําให้เกิดความยากต่อการรักษา อันเป็นสาเหตุที่ทําให้ผู้ป่วยเสียชีวิตได้ ในช่วงท้าย ทรงบรรยาย ความรู้พื้นฐานด้านชีววิทยาของเซลล์มะเร็ง โดยทรงกล่าวถึงลักษณะสําคัญของเซลล์มะเร็ง ที่มีการแบ่งตัว ที่คงอยู่ถาวรในร่างกายของผู้ป่วย เชื้อจะอยู่ได้และคงสภาพจากการปรับใช้โปรตีนที่อยู่ในร่างกายของมนุษย์ จนในที่สุดเซลล์ต่างๆ จะมีการปรับเปลี่ยนรูปร่างและส่งผลต่อระบบภูมิคุ้มกัน ตลอดการบรรยาย ทรงยกตัวอย่าง ที่สามารถทําให้นักศึกษาแพทย์สามารถเข้าใจเนื้อหาบทเรียนได้อย่างง่ายดายและสามารถนําไปปรับใช้ในการวินิจฉัยและรักษาผู้ป่วยโรคมะเร็งได้อย่างมีประสิทธิภาพเมื่อจบหลักสูตร ข่าวในพระราชสํานัก สทท.
12/1/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230113160245789
null
ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี ทรงติดตามการดำเนินงานโครงการ ทูบีนัมเบอร์วัน จังหวัดกาฬสินธุ์
วานนี้ 12 มกราคม 2566 เวลา 19 นาฬิกา 10 นาที ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี เสด็จไปยังโรงเรียนบัวขาว อําเภอกุฉินารายณ์ จังหวัดกาฬสินธุ์ ทรงเปิดชมรมทูบีนัมเบอร์วันและศูนย์เพื่อนใจทูบีนัมเบอร์วันของโรงเรียน พร้อมทั้งทอดพระเนตรกิจกรรมของสมาชิกทูบีนัมเบอร์วัน เช่น กิจกรรมหัตถกรรมจักสานลายขิด กิจกรรมประดิษฐ์ใบตองดอกไม้สด กิจกรรมพับเหรียญโปรยทาน กิจกรรมมาลัยไม้ไผ่ รวมทั้งกิจกรรมเทคโนโลยีหุ่นยนต์กู้ภัย ด้วยความร่วมมือจากคณะครู นักเรียน ภาครัฐ เอกชน ส่งผลให้สมาชิกทูบีนัมเบอร์วัน มีความเป็นผู้นํา กล้าคิด กล้าทํา กล้าแสดงออก สําหรับศูนย์เพื่อนใจทูบีนัมเบอร์วัน มีบริการให้คําปรึกษา พัฒนาอีคิว การร้องเพลง เต้น เล่นเกมฝึกสมองและงานศิลปะ โอกาสนี้ ทรงติดตามการดําเนินโครงการทูบีนัมเบอร์วันของจังหวัดกาฬสินธุ์ ภายใต้แนวคิด "เป็นหนึ่ง โดยไม่พึ่งยาเสพติด" สร้างภูมิคุ้มกันทางจิตใจให้แก่เยาวชน เป็นเยาวชนรุ่นใหม่ที่มีความเชื่อมั่น เกิดความภาคภูมิใจในตนเอง หลีกเลี่ยงและห่างไกลจากยาเสพติด และพระราชทานเข็มที่ระลึกแก่ผู้ถวายเงินสนับสนุนโครงการทู บี นัมเบอร์ วัน จากนั้น พระราชทานพระอนุญาตให้สมาชิก "ใครติดยายกมือขึ้น" จากสํานักงานคุมประพฤติจังหวัดกาฬสินธุ์ซึ่งเคยติดยาเสพติด และมีความมุ่งมั่นที่จะเลิกเสพ เข้าเฝ้า ในการนี้ ได้พระราชทานกําลังใจและพระราชทานคําแนะนําเพื่อป้องกันความผิดพลาดซ้ํา พร้อมกับมีพระปฏิสันถารแก่สมาชิกทูบีนัมเบอร์วันโรงเรียนบัวขาว และสถานศึกษาในจังหวัดกาฬสินธุ์ ที่ไปเฝ้าขอพระราชทานคําปรึกษาเกี่ยวกับปัญหาต่างๆ และทรงแสดงคอนเสิร์ตทูบีนัมเบอร์วัน ร่วมกับทูบีนัมเบอร์วันไอดอล ปัจจุบันจังหวัดกาฬสินธุ์ มีสมาชิกทูบีนัมเบอร์วัน 2 แสน 1 หมื่นคน มีชมรมทูบีนัมเบอร์วันในสถานศึกษา ชุมชน สถานประกอบการ เรือนจํา สถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน และสํานักงานคุมประพฤติ ครอบคลุมทุกประเภท รวม 1,261 แห่ง ข่าวในพระราชสํานัก สทท.
13/1/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230114201450233
null
สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงติดตามการดำเนินงานโครงการพัฒนาเด็กและเยาวชน ตามพระราชดำริ ในพื้นที่จังหวัดตาก ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์
วันนี้ 13 มกราคม 2566 เวลา 9 นาฬิกา 26 นาที สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จออก ณ วังสระปทุม ทรงติดตามการดําเนินงานโครงการพัฒนาเด็กและเยาวชน ตามพระราชดําริโรงเรียนตํารวจตระเวนชายแดนเทคนิคอาสา 1 อําเภอท่าสองยาง จังหวัดตาก ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ (ออนไลน์) โรงเรียนตํารวจตระเวนชายแดนเทคนิคอาสา 1 เปิดการเรียนการสอนตั้งแต่ระดับอนุบาลถึงประถมศึกษาปีที่ 6 มีนักเรียนจํานวน 264 คน ส่วนใหญ่เป็นชาวไทยภูเขาเผ่าปกาเกอะญอ มีครู ตชด. 9 นาย และครูอัตราจ้าง 5 คน ด้านการเรียนการสอน ในปีการศึกษา 2564 ผลการทดสอบความสามารถพื้นฐานของผู้เรียนระดับชาติ (National Test) ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 กลุ่มสาระวิชาภาษาไทยและคณิตศาสตร์สูงกว่าระดับประเทศ และผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน O-NET กลุ่มสาระวิชาภาษาไทยคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และภาษาอังกฤษต่ํากว่าระดับประเทศ จึงได้มีการสอนเสริมแก่นักเรียนในรายวิชาดังกล่าว และมีการจัดกิจกรรมเพื่อส่งเสริมการเรียนให้แก่นักเรียน อาทิ กิจกรรมงานอาชีพ เช่น การทําพวงกุญแจจากไม้มะขาม การทําไม้กวาดดอกหญ้า และการทอผ้าพื้นเมืองกะเหรี่ยงด้วยด้ายสีเคมี นํามาตัดเย็บเป็นผ้าม่านและกระเป๋า ด้านโครงการเกษตรเพื่ออาหารกลางวัน มีการปลูกผักสวนครัว การเลี้ยงปลาดุกในบ่อซีเมนต์ การเลี้ยงไก่ไข่ และไก่พื้นเมือง และได้ขยายผลสู่ชุมชนโดยการให้ความรู้เรื่องการเกษตรแก่ผู้ปกครองนักเรียน สําหรับน้ําอุปโภคและบริโภค เพียงพอตลอดทั้งปี จากนั้น ทอดพระเนตรกิจกรรมอนุรักษ์และสืบทอดวัฒนธรรมและภูมิปัญญาท้องถิ่น การแสดงรําตง ซึ่งเป็นศิลปะการแสดงพื้นบ้านของชาวเขาเผ่ากะเหรี่ยง นอกจากนี้ โรงเรียนได้รับรางวัลโรงเรียนส่งเสริมด้านสื่อและนวัตกรรมพัฒนาการอ่านออกเขียนได้ สําหรับเด็กบนพื้นที่สูง ระดับจังหวัด ประจําปี 2564 โอกาสนี้ พระราชทานพระราโชวาท แก่เจ้าหน้าที่และผู้ปฎิบัติงาน เพื่อเป็นแนวทางในการดําเนินงาน ข่าวในพระราชสํานัก สทท.
13/1/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230114201634235
null
สมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี ทรงออกหน่วยแพทย์พระราชทาน พอ.สว. และหน่วยสัตวแพทย์อาสาจุฬาภรณ์ ในพื้นที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี
วันนี้ 15 มกราคม 2566 เวลา 7 นาฬิกา 40 นาที สมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี เสด็จไปทรงออกหน่วยแพทย์พระราชทานมูลนิธิแพทย์อาสาสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี หรือ พอ.สว. และหน่วยสัตวแพทย์อาสาจุฬาภรณ์ ภายใต้โครงการสัตว์ปลอดโรค คนปลอดภัยจากโรคพิษสุนัขบ้า ตามพระปณิธานฯ ณ มหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี อําเภอเมืองสุราษฎร์ธานี จังหวัดสุราษฎร์ธานี ด้วยทรงตระหนักถึงความสําคัญของการเสริมสร้างสุขภาพอนามัยที่ดีของประชาชน รวมถึงรณรงค์ป้องกันและควบคุมการเกิดโรคพิษสุนัขบ้าในพื้นที่ภาคใต้ ในการนี้ ทรงเยี่ยมและพระราชทานกําลังใจแก่สมาชิก พอ.สว. จังหวัดสุราษฎร์ธานี จากสํานักงานสาธารณสุขจังหวัดสุราษฎร์ธานี, โรงพยาบาลสุราษฎร์ธานี, โรงพยาบาลกาญจนดิษฐ์, โรงพยาบาลบ้านนาสาร และโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชเวียงสระ ที่ไปร่วมให้บริการตรวจสุขภาพและรักษาโรคทั่วไป พร้อมให้คําแนะนําปรึกษาด้านสุขอนามัยที่ดีแก่ประชาชนในพื้นที่ รวมถึงให้บริการด้านทันตกรรมและแพทย์แผนไทย โดยมีผู้เข้ารับบริการ รวมจํานวน 118 คน ปัญหาสุขภาพส่วนใหญ่คือ โรคปวดกล้ามเนื้อและความผิดปกติของการเคลื่อนไหวและโรคระบบไหลเวียนโลหิต ต่อจากนั้น ทอดพระเนตรการอบรมให้ความรู้แก่อาสาปศุสัตว์และประชาชนเจ้าของสัตว์เลี้ยง เกี่ยวกับการป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าอย่างถูกวิธีและข้อควรพึงระวังถึงอันตรายร้ายแรงแก่ชีวิต เมื่อถูกสัตว์ที่ติดเชื้อกัด หรือข่วน โดยควรให้สุนัขและแมวได้รับวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าเป็นประจําทุกปี รวมถึงนําไปผ่าตัดทําหมันเพื่อลดการขยายพันธุ์ โอกาสนี้ พระราชทานวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า จํานวน 500 โดส แก่นายสัตวแพทย์เดชา จิตรภิรมย์ ปศุสัตว์จังหวัดสุราษฎร์ธานี เพื่อนําไปฉีดสร้างภูมิคุ้มกันแก่สัตว์เลี้ยงและสัตว์จรจัดในพื้นที่ต่อไป จากนั้น ทรงฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าให้กับสุนัขของประชาชน จํานวน 2 ตัว และพระราชทานป้ายห้อยคอสุนัข ในโครงการ "สัตว์ปลอดโรค คนปลอดภัย จากโรคพิษสุนัขบ้า ตามพระปณิธานฯ" เป็นที่ระลึกด้วย พร้อมกันนี้ ทรงงานวิสัญญีทางสัตวแพทย์ เพื่อผ่าตัดทําหมันและรักษาโรคให้กับสุนัข จํานวน 6 ตัว ร่วมกับทีมสัตวแพทย์อาสาจุฬาภรณ์ ซึ่งการผ่าตัดทําหมันสัตว์ นอกจากจะเป็นการคุมกําเนิดถาวรที่ให้ผลดีที่สุดแล้ว ยังช่วยลดโอกาสอัตราการเกิดโรคต่างๆ อาทิ โรคมดลูกอักเสบ เนื้องอกเต้านมและต่อมลูกหมากโต อีกทั้งยังจะช่วยลดพฤติกรรมก้าวร้าวลงได้ เนื่องจากระดับฮอร์โมนเทสทอสเทอโรน (Testosterone) ที่ลดลงด้วย การเสด็จไปทรงงานทางสัตวแพทย์ด้วยพระองค์เอง เป็นยุทธศาสตร์สําคัญในการดําเนินการดูแลและป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า ให้กับสุนัขและแมวได้ไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของจํานวนประชากรทั้งหมด สอดรับกับเป้าหมายขององค์การอนามัยโลกในการกําจัดโรคพิษสุนัขบ้าให้หมดไปภายใน ปี 2573 และตั้งแต่เริ่มดําเนินโครงการสัตว์ปลอดโรค คนปลอดภัย จากโรคพิษสุนัขบ้า ตามพระปณิธานฯ ในปี 2560 จนถึงปัจจุบัน พบว่า ผู้เสียชีวิตจากโรคพิษสุนัขบ้ามีจํานวนลดลงอย่างมาก สอดคล้องกับจํานวนสัตว์ป่วยด้วยโรคพิษสุนัขบ้าที่ลดลงเช่นเดียวกัน ซึ่งในพื้นที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี ไม่พบผู้เสียชีวิตจากโรคพิษสุนัขบ้า ตั้งแต่ปี 2561 เป็นต้นมา สําหรับในวันนี้มีประชาชนนําสุนัขและแมว ไปรับบริการฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า จํานวน 200 ตัว และมีการผ่าตัดทําหมันให้กับสุนัขและแมว จํานวน 187 ตัว และผ่าตัดเนื้องอกบริเวณราวนม จํานวน 2 ตัว ทั้งนี้ เพื่อสนองพระปณิธานในการกําจัดโรคพิษสุนัขบ้าให้หมดไปจากประเทศไทย มูลนิธิจุฬาภรณ์ ขอเชิญร่วมสมทบทุนเพื่อจัดซื้อเครื่องมือและอุปกรณ์ทางการสัตวแพทย์ในรถผ่าตัดเคลื่อนที่ พร้อมรับเสื้อลายภาพวาดฝีพระหัตถ์ "คุณไหมทอง" สุนัขทรงเลี้ยงเป็นที่ระลึก ได้ที่ ธนาคารไทยพาณิชย์ เลขที่บัญชี 468-116003-1 เงินบริจาคสามารถนําไปลดหย่อนภาษีได้ 2 เท่า และติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ แฟนเพจเฟซบุ๊ก : ปันน้ําใจ สู้ภัยพิษสุนัขบ้า ข่าวในพระราชสํานัก สทท.
15/1/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230116104532453
null
สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินไปในการพระราชทานเพลิงศพพระพรหมวชิรเมธาจารย์ (อิ่ม อรินทโม) อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาส วัดโสมนัสราชวรวิหาร
วันนี้ 15 มกราคม 2566 เวลา 17 นาฬิกา 25 นาที สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดําเนินไปยังพลับพลาอิศริยาภรณ์ เมรุหลวง วัดเทพศิรินทราวาส ในการพระราชทานเพลิงศพ พระพรหมวชิรเมธาจารย์ (อิ่ม อรินทโม) อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาส วัดโสมนัสราชวรวิหาร ซึ่งมรณภาพเนื่องจากปอดติดเชื้อ เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2565 สิริอายุ 94 ปี พรรษา 74 โอกาสนี้ สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก เสด็จไปในการนี้ด้วย พระพรหมวชิรเมธาจารย์ มีนามเดิมว่า อิ่ม แกล้วทนง เกิดเมื่อวันที่ 13 มกราคม 2471 ที่จังหวัดสงขลา เมื่ออายุ 21 ปี ได้เข้าอุปสมบท มีสมเด็จพระวันรัต (จับ ฐิตธัมโม) เจ้าอาวาสวัดโสมนัสราชวรวิหาร เป็นพระอุปัชฌาย์, สมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณสังวร วัดบวรนิเวศวิหาร เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระครูสุวัฒนประสาท เจ้าอาวาสวัดเกสรชลธี เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายาว่า "อรินทโม" พระพรหมวชิรเมธาจารย์ ได้ศึกษาพระปริยัติธรรม แผนกธรรม สอบได้นักธรรมชั้นตรี-โท-เอก ที่สํานักเรียนคณะจังหวัดสงขลา และสอบได้เปรียญธรรม 5 ประโยค ที่สํานักเรียนวัดโสมนัสราชวรวิหาร ได้รับความไว้วางใจจากสมเด็จพระวันรัต (จับ ฐิตธัมโม) อดีตเจ้าอาวาสวัดโสมนัสราชวรวิหาร ให้ปฏิบัติงานด้านการปกครอง การศึกษาและเผยแผ่พระพุทธศาสนา นอกจากนี้ ยังเป็นกรรมการอบรมพระธรรมทูตไปต่างประเทศ (ธรรมยุต) เป็นประธานกํากับดูแลคณะสงฆ์ภาคพื้นยุโรป (ธรรมยุต) ด้านการศึกษาสงเคราะห์ ได้ก่อตั้งโรงเรียนพระปริยัติธรรมวัดโกเมศรัตนาราม เพื่อส่งเสริมการศึกษาแก่เยาวชนชาย และสร้างกองทุนไว้สําหรับสามเณร รวมทั้งก่อตั้งโรงเรียนธรรมจาริณีวิทยา เพื่อช่วยเหลือนักเรียน ข่าวในพระราชสํานัก สทท.
15/1/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230116104916454
null
สมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี เสด็จไปทรงงานด้านสัตวแพทย์ ในพื้นที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี
วันนี้ 16 มกราคม 2566 เวลา 14 นาฬิกา 3 นาที สมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี เสด็จไปยังห้องสมุดประชาชน เฉลิมราชกุมารี อําเภอกาญจนดิษฐ์ จังหวัดสุราษฎร์ธานี ทรงงานทางด้านสัตวแพทย์ ร่วมกับทีมสัตวแพทย์อาสาจุฬาภรณ์ ในการออกหน่วยฉีดวัคซีนและทําหมันให้กับสุนัขและแมว ภายใต้โครงการสัตว์ปลอดโรค คนปลอดภัยจากโรคพิษสุนัขบ้า ตามพระปณิธานฯ ในการนี้ ทรงติดตามการรักษาอาการต่อเนื่อง ของสุนัขพันธุ์ผสม เพศเมีย อายุ 10 ปี ที่เข้ารับการผ่าตัดทําหมันและตัดก้อนเนื้องอกขนาดใหญ่ที่เต้านม รวมทั้งทรงฉีดยาแก้ปวดให้กับสุนัข ทรงให้ยาปฏิชีวนะและยาแก้อาเจียนผ่านน้ําเกลือ พร้อมกับทอดพระเนตรแผลผ่าตัดของสุนัข เพื่อประเมินอาการ ซึ่งเนื้องอกเต้านม เป็นอีกปัญหาสําคัญของสุนัขที่เกี่ยวกับโรคในระบบสืบพันธุ์ โดยพบมากในสุนัขเพศเมียที่มีอายุมาก มีปัจจัยเสี่ยงคือ ผลจากฮอร์โมนเพศในสุนัขเพศเมียที่ยังไม่ทําหมัน มีโอกาสเกิดเนื้องอกชนิดนี้ได้มากถึง 7 เท่า เมื่อเปรียบเทียบกับสุนัขที่ทําหมันแล้ว โดยร้อยละ 50 เป็นเนื้องอกชนิดไม่รุนแรง และอีกร้อยละ 50 เป็นมะเร็ง ซึ่งครึ่งหนึ่งของเนื้องอกที่เป็นมะเร็ง สามารถรักษาให้หายได้ด้วยการศัลยกรรม ส่วนอีกครึ่งหนึ่งเป็นกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูงที่จะแพร่กระจายและต้องรักษาด้วยวิธีอื่นเพิ่มเติม ดังนั้น การทําหมันให้กับสุนัขที่อายุน้อย ก่อนเข้าสู่วัยเจริญพันธุ์ จึงมีผลดีต่อการลดความเสี่ยงของการเกิดเนื้องอกเต้านมในสุนัขได้ถึงร้อยละ 99.5 ซึ่งสัตวแพทย์แนะนําวิธีป้องกันโดยการทําหมันให้กับสุนัขเพศเมียก่อนอายุครบ 8 เดือน อีกทั้งยังเป็นการป้องกันการเกิดมดลูกอักเสบที่เป็นอันตรายต่อชีวิตสุนัขและช่วยควบคุมการขยายพันธุ์ของสุนัข ตัดวงจรการแพร่ระบาดของโรคพิษสุนัขบ้าอีกด้วย จากนั้นทรงพระราชทานคําแนะนํา พระราชทานยาและเวชภัณฑ์ แก่ปศุสัตว์จังหวัดสุราษฎร์ธานีและเจ้าของสุนัข ให้นําไปใช้ในการดูแลรักษาต่อเนื่อง เพื่อให้สัตว์เลี้ยงที่อยู่ใกล้ชิดกับคนได้มีสุขอนามัยที่ดี อันยังประโยชน์ถึงคุณภาพชีวิตที่ดีของประชาชนต่อไป ข่าวในพระราชสํานัก สทท.
16/1/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230117202608103
null
สมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี เสด็จไปทรงงาน ออกหน่วยแพทย์พระราชทาน พอ.สว.และหน่วยสัตวแพทย์อาสาจุฬาภรณ์ ในพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราช
วันนี้ 17 มกราคม 2566 เวลา 7 นาฬิกา 24 นาที สมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี เสด็จไปยังอาคารไทยบุรี (ไทย-บุ-รี) มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ อําเภอท่าศาลา จังหวัดนครศรีธรรมราช ทรงออกหน่วยแพทย์พระราชทาน และหน่วยสัตวแพทย์อาสาจุฬาภรณ์ เพื่อพระราชทานความช่วยเหลือแก่ประชาชนให้เข้าถึงบริการด้านการแพทย์และสาธารณสุขที่มีประสิทธิภาพ รวมทั้งผ่าตัดทําหมัน และฉีดวัคซีนให้กับสุนัขและแมวในพื้นที่ เพื่อป้องกันการระบาดของโรคพิษสุนัขบ้า ภายใต้โครงการ "สัตว์ปลอดโรค คนปลอดภัย จากโรคพิษสุนัขบ้า ตามพระปณิธานฯ" ในการนี้ ทรงเยี่ยมหน่วยแพทย์พระราชทาน มูลนิธิแพทย์อาสาสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี หรือ พอ.สว. ที่โปรดให้ออกหน่วยบริการตรวจรักษาโรคทั่วไป พร้อมให้คําปรึกษาด้านสุขภาพ รวมถึงบริการทันตกรรม แพทย์แผนไทย และแพทย์แผนจีน แก่ประชาชนในพื้นที่ โดยในวันนี้มีผู้เข้ารับบริการ รวม 156 คน ปัญหาสุขภาพส่วนใหญ่ที่พบคือ โรคระบบกล้ามเนื้อและกระดูก รองลงมาคือ โรคระบบทางเดินหายใจ จากนั้น ทรงตรวจเยี่ยมหน่วยสัตวแพทย์อาสาจุฬาภรณ์ ที่จัดการฝึกอบรมให้ความรู้ในการป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าในสัตว์เลี้ยงและการดูแลตนเองให้ปลอดภัย รวมถึงการปลูกจิตสํานึกการเลี้ยงสัตว์อย่างมีความรับผิดชอบ เพื่อสร้างความตระหนักรู้แก่ประชาชนเจ้าของสัตว์เลี้ยง อาสาปศุสัตว์ รวมถึงเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องด้านปศุสัตว์ เพื่อนําความรู้ที่ถูกต้องไปถ่ายทอดสู่ชุมชน ซึ่งจะเป็นกําลังสําคัญในการแก้ไขโรคพิษสุนัขบ้าในอนาคต ทรงฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า ให้กับสุนัขจํานวน 2 ตัว และพระราชทานป้ายห้อยคอสุนัข ในโครงการฯ เป็นที่ระลึกและทรงงานวิสัญญีทางสัตวแพทย์ ร่วมกับทีมสัตวแพทย์อาสาจุฬาภรณ์ ในการผ่าตัดทําหมันและรักษาโรคให้กับสุนัข ได้แก่ โรคเนื้องอกที่ผิวหนัง ภาวะทองแดงและมดลูกอักเสบ รวมทั้งสิ้น 6 ตัว ภายในรถผ่าตัดเคลื่อนที่ติดตั้งเครื่องมือและอุปกรณ์ที่จําเป็น เพื่อให้มีประสิทธิภาพและความปลอดภัยสูงสุดในการผ่าตัด อันจะเป็นการช่วยเหลือและแบ่งเบาภาระของประชาชน โดยวันนี้หน่วยสัตวแพทย์อาสาจุฬาภรณ์ ร่วมกับหน่วยงานอื่นๆ ให้บริการฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า ให้กับสุนัขและแมว จํานวน 150 ตัว รวมทั้งผ่าตัดทําหมัน จํานวน 145 ตัว ซึ่งเป็นวิธีป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคในสัตว์ เพื่อลดอัตราการเสียชีวิตจากโรคพิษสุนัขบ้าที่ตามมาด้วย ปัจจุบันจังหวัดนครศรีธรรมราชสามารถควบคุมการแพร่ระบาดของโรคได้เป็นที่เรียบร้อย ก่อนเสด็จกลับ ทรงติดตามอาการของสุนัขที่ทรงงานวิสัญญีสัตวแพทย์ เพื่อทําการผ่าตัดทําหมันและรักษาโรคต่างๆ โดยสุนัขมีการฟื้นตัวภายหลังการผ่าตัด อย่างปกติและปลอดภัยทุกตัว ทั้งนี้ เพื่อสนองพระปณิธานในการกําจัดโรคพิษสุนัขบ้าให้หมดไปจากประเทศไทย มูลนิธิจุฬาภรณ์ ขอเชิญร่วมสมทบทุนเพื่อจัดซื้อเครื่องมือและอุปกรณ์ทางการสัตวแพทย์ในรถผ่าตัดเคลื่อนที่ พร้อมรับเสื้อลายภาพวาดฝีพระหัตถ์ "คุณไหมทอง" สุนัขทรงเลี้ยงเป็นที่ระลึก ได้ที่ ธนาคารไทยพาณิชย์ เลขที่บัญชี 468-116003-1 เงินบริจาคสามารถนําไปลดหย่อนภาษีได้ 2 เท่า และติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ แฟนเพจเฟซบุ๊ก : ปันน้ําใจ สู้ภัยพิษสุนัขบ้า ข่าวในพระราชสํานัก สทท.
17/1/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230118132420248
null
สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พระราชทานพระราชวโรกาสให้คณะบุคคลต่างๆ เฝ้าทูลละอองพระบาท
วันนี้ 18 มกราคม 2566 เวลา 9 นาฬิกา 24 นาที สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จออก ณ วังสระปทุม พระราชทานพระราชวโรกาสให้คณะบุคคลต่างๆ เฝ้าทูลละอองพระบาท ตามลําดับดังนี้ นางสาววิลาวรรณ วนดุรงค์วรรณ กรรมการและเหรัญญิกมูลนิธิชัยพัฒนา นํานายลวรณ แสงสนิท ประธานกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล และคณะ เฝ้าทูลละอองพระบาท ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายเงินสมทบทุนมูลนิธิชัยพัฒนา เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร วันที่ 5 ธันวาคม 2565 นายขรรค์ ประจวบเหมาะ ผู้อํานวยการสํานักงานจัดหารายได้ สภากาชาดไทย นํานายชัยณรงค์ อุดมรัตนวงค์ ประธานศาลเจ้าพ่อเสือ หาดใหญ่ และคณะ เฝ้าทูลละอองพระบาท ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายเงิน เพื่อสนับสนุนภารกิจของเหล่ากาชาดจังหวัดสงขลา ในการช่วยเหลือผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนและผู้ด้อยโอกาส นางจันทรา บูรณฤกษ์ ประธานชมรมกอล์ฟมาแตร์เดอีวิทยาลัย นํา คณะกรรมการจัดการแข่งขันกอล์ฟการกุศลชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เฝ้าทูลละอองพระบาท ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายเงินรายได้จากการแข่งขันฯ เพื่อสนับสนุนการศึกษาของโรงเรียนตํารวจตระเวนชายแดน คุณหญิงณฐนนท ทวีสิน ประธานโครงการจัดงาน เดิน - วิ่งการกุศล "รู้รักสามัคคี 48 ปี กชส." มูลนิธิการศึกษาเพื่อชีวิตและสังคม นํานางสาวเย็นฤดี วงศ์พุฒ ประธานมูลนิธิการศึกษาเพื่อชีวิตและสังคม และคณะ เฝ้าทูลละอองพระบาท ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายเงินรายได้ส่วนหนึ่ง จากการจัดงานดังกล่าว โดยเสด็จพระราชกุศลตามพระราชอัธยาศัย และทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายของที่ระลึก ในโอกาสนี้ พระภิกษุ ร่วมเข้าเฝ้าด้วย นายรุ่งโรจน์ เจริญธัญรักษ์ นายกก่อตั้งสโมสรไลออนส์ บึงแก่นนคร เซนเทนเนียล ขอนแก่น นําคณะบุคคล เฝ้าทูลละอองพระบาท ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายเงิน สมทบทุนมูลนิธิสายใจไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ และน้อมเกล้าน้อมกระหม่อมถวายครุภัณฑ์และอุปกรณ์ทางการแพทย์ เพื่อพระราชทานแก่โรงพยาบาลพระยืนและโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชกระนวน จังหวัดขอนแก่น ในโอกาสนี้ พระราชทานพระราชวโรกาสให้ผู้ชนะเลิศการประกวดสุนัขนานาพันธุ์, สุนัขอารักขา, การประกวดร้องเพลงยุวชน - เยาวชน ผู้สูงอายุ, การแข่งขันกีฬาวอลเลย์บอล, บาสเกตบอล, เซปักตระกร้อ, ฟุตซอล, ชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เฝ้าทูลละอองพระบาท รับพระราชทานประกาศนียบัตรด้วย ข่าวในพระราชสํานัก สทท.
18/1/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230120215359227
null
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ส่งข้อความพระราชสาส์นแสดงความเสียพระราชหฤทัยไปยังประธานาธิบดีแห่งเนปาล กรณีเกิดเหตุการณ์เครื่องบินของสายการบินเยติ(Yeti Airlines) ประสบอุบัติเหตุตกที่เมืองโพคารา (Pokhara) เนปาล เมื่อวันที่ 15 มกราคม 2566
ข้อความพระราชสาส์น มีดังนี้ ฯพณฯ ประธานาธิบดีแห่งเนปาล กรุงกาฐมาณฑุ ข้าพเจ้าและพระราชินีรู้สึกเศร้าสะเทือนใจอย่างยิ่ง ที่ได้ทราบข่าวเหตุการณ์เครื่องบินของสายการบินเยติตกที่เมืองโพคารา ทําให้มีผู้โดยสารและลูกเรือเสียชีวิตเป็นจํานวนมาก และยังมีผู้สูญหายอีกด้วย ข้าพเจ้าและพระราชินี ในนามของประชาชนชาวไทย ขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งมายังท่าน และโดยเฉพาะอย่างยิ่งครอบครัวของผู้เสียชีวิตที่ต้องประสบความสูญเสียอันไม่คาดคิดและความทุกข์ยิ่งจากเหตุการณ์อันน่าเศร้าครั้งนี้ พระปรมาภิไธย มหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ข่าวในพระราชสํานัก สทท.
18/1/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230120215518228
null
สมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี ทรงบรรยาย เรื่อง การเกิดโรคมะเร็ง พระราชทานแก่นักศึกษาสถาบันบัณฑิตศึกษาจุฬาภรณ์ ประจำปีการศึกษา 2565
วันนี้ 19 มกราคม 2566 เวลา 12 นาฬิกา 56 นาที สมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี เสด็จไปยังห้องประชุมใหญ่ ชั้น 2 อาคารสถาบันบัณฑิตศึกษาจุฬาภรณ์ เขตหลักสี่ กรุงเทพมหานคร ทรงบรรยายความรู้ เรื่อง การเกิดโรคมะเร็ง พระราชทานแก่นักศึกษาระดับปริญญาโทและปริญญาเอก สาขาวิชาพิษวิทยาสิ่งแวดล้อม และวิทยาศาสตร์ชีวภาพประยุกต์ อนามัยสิ่งแวดล้อม ของสถาบันบัณฑิตศึกษาจุฬาภรณ์ ประจําปีการศึกษา 2565 ในหัวข้อเรื่อง อองโคยีน หรือยีนมะเร็ง กับการควบคุมการเจริญของเซลล์และหัวข้อเรื่องยีนยับยั้งการเกิดมะเร็ง สําหรับโรคมะเร็ง เกิดได้จากการกลายพันธุ์ของเซลล์ที่แบ่งตัว ซึ่งจะมีการเจริญเติบโตหรือขยายตัวอย่างรวดเร็ว ไม่สามารถควบคุมได้และอาจเกิดได้จากไวรัสที่แทรกแซงเข้าไปในเซลล์ ทําการควบคุมการทํางานของยีนในเซลล์ปกติ จากการศึกษาวิจัยในระดับโมเลกุล พบว่า ยีนที่ถูกไวรัสควบคุม จะเกิดการกลายพันธุ์ ทําให้เกิดการย้ายตําแหน่งของโครโมโซม จนสามารถเพิ่มจํานวนของยีนได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งปกติเซลล์จะถูกควบคุมโดยกลุ่มของโปรตีนให้มีการแบ่งตัวในอัตราที่เหมาะสม แต่เมื่อเซลล์ผิดปกติจะเกิดกระบวนการต่อต้านการเกิดมะเร็งและเกิดการทําลายตัวเองแบบอัตโนมัติ ทั้งนี้นอกจากยีนก่อมะเร็งแล้ว ยังมียีนยับยั้งการเกิดมะเร็งหลายชนิด ทําหน้าที่ยับยั้งการเจริญเติบโตของมะเร็งที่แตกต่างกัน อาทิ ยีน p53 (พี-ฟิฟตี้ทรี) เป็นยีนที่มีความสําคัญ ทําหน้าที่สร้างโปรตีนจําเพาะ มีกลไกตรวจจับเซลล์ที่ผิดปกติทางพันธุกรรม ผ่านกระบวนการที่ซับซ้อน ปัจจุบันมีนักวิจัยจํานวนมากเร่งศึกษาโครงสร้างของเซลล์มะเร็ง ในกลุ่มผู้ป่วยโรคมะเร็งหลอดอาหารและมะเร็งลําไส้ เพื่อให้เกิดการรักษาที่มีประสิทธิภาพ ข่าวในพระราชสํานัก สทท.
19/1/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230120214228223
null
สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พระราชทานพระราชวโรกาสให้คณะบุคคลต่างๆ เฝ้าทูลละอองพระบาท
วันนี้ 19 มกราคม 2566 เวลา 15 นาฬิกา 4 นาที สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จออก ณ วังสระปทุม พระราชทานพระราชวโรกาสให้คณะบุคคลต่างๆ เฝ้าทูลละอองพระบาท ตามลําดับดังนี้ นายอภิลาศ โอสถานนท์ ประธานมูลนิธิไทย - เยอรมันเพื่อการพัฒนา นําคณะกรรมการมูลนิธิฯ เฝ้าทูลละอองพระบาท ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายเงินจากการปิดการดําเนินกิจการมูลนิธิไทย - เยอรมันเพื่อการพัฒนา สมทบทุนมูลนิธิอานันทมหิดล ศาสตราจารย์เกียรติคุณ คุณหญิงไขศรี ศรีอรุณ กรรมการและเลขานุการมูลนิธิสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา นําคณะชมรมนิสิตเก่าจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย รุ่น 2515 เฝ้าทูลละอองพระบาท ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายเงินรายได้หลังหักค่าใช้จ่ายจากการจัดการแข่งขันกอล์ฟประเพณี น้องใหม่จุฬาฯ ครบ 50 ปี ชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี สมทบทุนมูลนิธิสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา นายพงศ์ศักดิ์ เกตุสวัสดิวงศ์ ประธานกรรมการมูลนิธิโรงพยาบาลพระจอมเกล้า จังหวัดเพชรบุรี ในพระราชูปถัมภ์สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี นําคณะบุคคล เฝ้าทูลละอองพระบาท ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายเงิน โดยเสด็จพระราชกุศลตามพระราชอัธยาศัย และทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายของที่ระลึก พร้อมกับน้อมเกล้าน้อมกระหม่อมถวาย เครื่องวัดความโค้งกระจกตา วัดรูม่านตา และตรวจวัดค่าสายตาแบบอัตโนมัติ เพื่อพระราชทานแก่โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ อําเภอเมืองอุบลราชธานี จังหวัดอุบลราชธานี และโรงพยาบาลศรีสะเกษ อําเภอเมืองศรีสะเกษ จังหวัดศรีสะเกษ นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นําข้าราชการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เฝ้าทูลละอองพระบาท กราบบังคมทูลรายงานความก้าวหน้าโครงการส่งเสริมการเรียนรู้เพื่อการอนุรักษ์และฟื้นฟูสิ่งแวดล้อมอันเนื่องมาจากพระราชดําริ อําเภอแม่สอด จังหวัดตาก ข่าวในพระราชสํานัก สทท.
19/1/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230120214506224
null
สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงร่วมการประชุมสุดยอดนักวิทยาศาสตร์เยาวชนโลก ประจำปี 2566 ณ สาธารณรัฐสิงคโปร์ ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ (ออนไลน์)
วันนี้ 19 มกราคม 2566 เวลา 10 นาฬิกา สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จออก ณ วังสระปทุม พระราชทานพระราชวโรกาส ให้ศาสตราจารย์ไพรัช ธัชยพงษ์ กรรมการและเลขาธิการมูลนิธิเทคโนโลยีสารสนเทศตามพระราชดําริสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และรองศาสตราจารย์ คุณหญิงสุมณฑา พรหมบุญ อธิการบดีสถาบันเทคโนโลยีจิตรลดา และกรรมการมูลนิธิเทคโนโลยีสารสนเทศตามพระราชดําริฯ เฝ้าทูลละอองพระบาท ในการนี้ ทรงร่วมการประชุมสุดยอดนักวิทยาศาสตร์เยาวชนโลก ประจําปี 2566 หรือ GYSS2023( จีวายเอสเอส 2023) ณ สาธารณรัฐสิงคโปร์ ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ (ออนไลน์) ทรงรับฟังการบรรยายเรื่อง Opening the Infrared Treasure Chest with the James Webb Space Telescope โดย ด็อกเตอร์ จอห์น เมเทอร์ นักวิทยาศาสตร์รางวัลโนเบล สาขาฟิสิกส์ ปี 2549 จากผลงานการทําโครงการดาวเทียมสํารวจพื้นหลังของเอกภพ ในปี 2532 ด็อกเตอร์ เมเทอร์ เป็นนักฟิสิกส์ดาราศาสตร์อาวุโส ศูนย์การบินอวกาศกอดดาร์ด ขององค์การบริหารการบินอวกาศสหรัฐฯ หรือนาซา เป็นหนึ่งในนักวิทยาศาสตร์ ที่มีบทบาทสําคัญในโครงการกล้องโทรทรรศน์อวกาศเจมส์เวบบ์ ซึ่งเป็นกล้องโทรทรรศน์อวกาศที่ตรวจวัดรังสีอินฟราเรด เนื่องจากมีความไวต่อรังสีอินฟราเรดหรือร่องรอยความร้อนจางๆ ในห้วงอวกาศสูง ทําให้กล้องสามารถส่องทะลุ กลุ่มหมอกของฝุ่นและก๊าซ จนสามารถมองเห็นพื้นที่ให้กําเนิดดวงดาวต่างๆ และบันทึกแสงจากกาแล็กซีเก่าแก่ที่สุดเท่าที่มนุษย์เคยรู้จัก ซึ่งมีอายุกว่าหมื่นล้านปี จึงทําให้มนุษย์เห็นภาพจักรวาลได้ลึกแบบที่ไม่เคยมีมาก่อน สําหรับการประชุมสุดยอดนักวิทยาศาสตร์เยาวชนโลก มูลนิธิวิจัยแห่งชาติสิงคโปร์จัดขึ้นเพื่อเป็นศูนย์กลางการแลกเปลี่ยนความรู้ และสร้างเครือข่ายวิชาการ โดยเน้นกลุ่มเป้าหมายคือ ผู้ได้รับรางวัลโนเบล นักวิทยาศาสตร์ชั้นนําของโลก นักวิจัยรุ่นใหม่และนักศึกษาจากทั่วโลก สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี มีพระราชประสงค์ให้นักวิทยาศาสตร์รุ่นใหม่ของไทย ได้มีโอกาสเปิดโลกทัศน์ทางวิชาการด้านวิทยาศาสตร์แบบใหม่ๆ จากประสบการณ์ ที่ได้แลกเปลี่ยนกับนักวิทยาศาสตร์รางวัลโนเบลและนักวิทยาศาสตร์ชั้นนําของโลก เพื่อพัฒนาวงการวิทยาศาสตร์ไทยให้เทียบเท่าระดับสากล จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ให้สํานักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ ร่วมกับมูลนิธิเทคโนโลยีสารสนเทศตามพระราชดําริฯ จัดตั้งคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ เพื่อคัดเลือกบุคคลเข้าร่วมโครงการและทรงมีพระราชวินิจฉัยคัดเลือกผู้แทนประเทศไทยเข้าร่วมงานประชุมในแต่ละปี การประชุมสุดยอดนักวิทยาศาสตร์เยาวชนโลกปีนี้ จัดขึ้นระหว่างวันที่ 17 ถึง 20 มกราคม 2566 ณ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีและการออกแบบสิงคโปร์ สาธารณรัฐสิงคโปร์ มีนักวิทยาศาสตร์รางวัลโนเบลและนักวิทยาศาสตร์ชั้นนําของโลก จํานวน 21 คน และนักวิทยาศาสตร์รุ่นเยาว์ กว่า 800 คน จาก 38 ประเทศ เข้าร่วม ซึ่งในจํานวนนี้เป็นผู้แทนจากประเทศไทย จํานวน 10 คน และเข้าร่วมชมแบบออนไลน์ อีกจํานวน 11 คน ข่าวในพระราชสํานัก สทท.
19/1/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230120214713225
null
สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงเปิดนิทรรศการ "คิดถึง ถวัลย์ ดัชนี"
วันนี้ 20 มกราคม 2566 เวลา 17 นาฬิกา 29 นาที สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดําเนินไปยังหอศิลป์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เขตพระนคร ทรงเปิดนิทรรศการ "คิดถึง ถวัลย์ ดัชนี" ซึ่งจัดแสดงผลงานศิลปะในมิติต่างๆ ที่สะท้อนชีวิตของอาจารย์ถวัลย์ ดัชนี ตั้งแต่ปี 2482 ถึง 2557 รวม 75 ปี จากมุมมองของคนที่รักและคิดถึง นําเสนอ เรื่องราวชีวิตส่วนตัวที่ได้รับการถ่ายทอดผ่านการจําลองพื้นที่ส่วนต่างๆ ภายในบ้านนวธานี อาทิ ห้องนอน ห้องนั่งเล่น และห้องทํางาน รวมถึงผลงานที่ไม่มีใครเคยเห็นมาก่อน อย่างภาพวาดการ์ตูนที่วาดทับลงไปบนกระดาษหนังสือพิมพ์หรือเอกสารเหลือทิ้ง รวมถึงการอุทิศตนให้กับการทํางานศิลปะ จวบจนวาระสุดท้าย ที่เป็นแรงบันดาลใจ และเป็นแบบอย่างให้กับคนรุ่นหลัง นอกจากนี้ ยังมีการจัดแสดงเสื้อผ้า และเครื่องแต่งกายของอาจารย์ถวัลย์ ที่ใส่ในโอกาสสําคัญ และในชีวิตประจําวัน โดยแต่ละชุดได้รับการออกแบบอย่างพิถีพิถัน โอกาสนี้ ทรงทอดพระเนตร การแสดงแฟชั่นโชว์ ที่ได้รับแรงบันดาลใจ จากการนําผลงานศิลปะของอาจารย์ถวัลย์ ดัชนี มาออกแบบสร้างสรรค์ โดยดีไซเนอร์ผู้ก่อตั้งแบรนด์ NAGARA (นาการ่า) จํานวน 52 ชุด สําหรับนิทรรศการ "คิดถึง ถวัลย์ ดัชนี" จะจัดแสดงไปจนถึงวันที่ 25 เมษายน 2566 โดยแต่ละเดือนจะมีเวทีเสวนาด้านศิลปะ โดยศิลปินและนักวิชาการสาขาต่างๆ ที่จะมาถ่ายทอดความรู้เกี่ยวกับงานศิลปะ เพื่อร่วมรําลึก ถึงอาจารย์ถวัลย์ ดัชนี ศิลปินแห่งชาติ สาขาทัศนศิลป์ (จิตรกรรม) ปี 2544 ซึ่งได้ถึงแก่กรรมเมื่อวันที่ 3 กันยายน 2557 ซึ่งตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาอาจารย์ถวัลย์ ได้รับการยกย่องและเป็นแรงบันดาลใจในการสร้างงานศิลปะ จนได้ชื่อว่า เป็นสื่อกลางเชื่อมโลกตะวันออกและตะวันตกเข้าหากันในยุคปัจจุบัน ข่าวในพระราชสํานัก สทท.
20/1/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230120214933226
null