NewsTitle
stringlengths
11
31.5k
Detail
stringlengths
9
78.4k
NewsDate
stringlengths
3
5.77k
Region
stringclasses
48 values
Province
stringclasses
99 values
Department
stringclasses
211 values
Link_News
stringlengths
3
903
v
stringclasses
812 values
เทศบาลตำบลโคกหล่อ อำเภอเมืองตรัง จังหวัดตรัง รื้อฟื้นกี่ทำบุญทานไฟ ซึ่งเป็นประเพณีที่ห่างหายมากว่า 10 ปี เพื่อให้ลูกหลานอนุรักษ์ประเพณีอันดีงามนี้ให้คงอยู่สืบไป
ที่อาคารเอนกประสงค์เทศบาลตําบลโคกหล่อ อําเภอเมืองตรัง จังหวัดตรัง นายธนกฤต ภูมิมาตร นายกเทศมนตรีตําบลโคกหล่อมอบหมายให้นางสุภัชญา จันทร์เกิด ประธานชมรมผู้สูงอายุเทศบาลตําบลโคกหล่อ การทํากิจกรรมทําบุญทานไฟในสมัยโบราณนั้นในวันที่ 31 ธันวาคม หลังจากที่เฉลิมฉลองเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ โดยช่วงเช้าจะนิมนต์พระสงฆ์มารอรับบิณฑบาต ซึ่งอากาศในช่วงเช้านั้นค่อนข้างจะหนาว จึงได้ก่อกองไฟเป็นกองๆ เพื่อให้ประชาชนและพระสงฆ์ได้ผิงไฟคลายความหนาวเย็น แต่เมื่อเป็นเวลาในช่วงเช้าทําให้ประชาชนที่มารอทําบุญนั้นเกิดความหิวจึงได้ทําขนมครก ขนมโค ขนมจาก เพื่อนําไปถวายพระสงฆ์ ส่วนที่เหลือจากถวายพระแล้วนั้นประชาชนจะมารับประทานร่วมกัน จึงเป็นการสร้างความรักความสามัคคีในหมู่คณะ ทั้งนี้ การทําบุญทานไฟนั้น เคยจัดงานเมื่อกว่า10 ปีที่ผ่านมา ที่วัดควนนาแค อําเภอเมืองตรัง และพิธีทําบุญทานไฟจะใช้มากที่จังหวัดนครศรีธรรมราช การทําบุญทานไฟนั้นมีความเชื่อว่าเป็นการทําบุญให้กับประชาชน ปู่ย่า ตายาย ที่มาร่วมพิธีทําบุญตักบาตรวันขึ้นปีใหม่หรือผู้ที่ตื่นเช้าออกไปประกอบอาชีพให้กินให้อิ่มก่อนที่จะไปทํางาน มีพละกําลังในการทํากิจวัตรประจําวัน การทําบุญทานนั้นห่างหายจากจังหวัดตรัง ประมาณ 10 กว่าปีแล้ว ทางเทศบาลตําบลโคกหล่อได้มีการรื้อฟื้นการทําบุญทานไฟขึ้นมาใหม่ และอนุรักษ์ให้คนรุ่นหลังได้รู้ว่าขนมโบราณมีขนมชนิดใดบ้าง คนโบราณนั้นใช้ถ่านและสิ่งที่เหลือใช้มาเป็นเชื้อเพลิง ไม่ได้ใช้ก๊าซหุงต้มเหมือนปัจจุบันและลดค่าใช้จ่ายภายในครอบครัวได้ การทําบุญทานไฟนั้นจะทําขนมส่วนใหญ่เป็นขนมครก ขนมโค ขนมรู ขนมจาก หรือขนมที่ประชาชนแต่ละพื้นที่ชื่นชอบ ส่วนที่ตําบลโคกหล่อมีขนมอีกชนิดที่เรียกว่าขนมฝามี ทําจากแป้ง ผสมกับมะพร้าว เอามานึ่งจนสุก เอามารับประทานกับกาแฟโบราณ เป็นที่ชื่นชอบของประชาชนอย่างมาก #สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
13/1/2023
ภาคใต้
ตรัง
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดตรัง
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230113134836724
null
จังหวัดระยอง บูรณาการการทำงานทุกภาคส่วน ขับเคลื่อนเป็นจังหวัดคุณธรรม
นายอนันต์ นาคนิยม รองผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง กล่าวว่า จังหวัดระยอง เป็นจังหวัดที่มีความหลากหลาย ทั้งความเป็นเมือง และความเป็นชนบทไม่ว่าจะเป็นศิลปวัฒนธรรม สิ่งแวดล้อม ธรรมชาติ และอุตสาหกรรม ซึ่งความหลากหลายนําไปสู่แผนพัฒนาจังหวัดระยอง ที่มุ่งเน้นการพัฒนามาตรฐานการดํารงชีวิตของประชาชน ทั้งภาคการเกษตร การท่องเที่ยว และภาคอุตสาหกรรม ให้อยู่ร่วมกันได้อย่างยั่งยืน ต้องสร้างจิตสํานึกร่วมกันเป็นเจ้าของจังหวัดระยองเป็น 1 ใน 8 จังหวัด ที่ได้เข้าร่วมกระบวนการขับเคลื่อนเพื่อขยายผลสู่การเป็นจังหวัดคุณธรรม และบูรณาการการทํางานด้านต่างๆ อย่างต่อเนื่องในระยะ 3-5 ปี ตามแผนปฎิบัติการด้านการส่งเสริมคุณธรรมแห่งชาติระยะที่ 2 ปี 2566-2570 ซึ่งเป็นโอกาสที่ดีที่มิติด้านคุณธรรมจะเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาการอยู่ร่วมกันของชาวระยองให้เกิดความยั่งยืน#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
13/1/2023
null
ระยอง
สวท.ระยอง
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230113173001841
null
ศรีสะเกษบำเพ็ญกุศลสตมวารและบรรจุสรีระสังขาร พระราชกิตติรังษี ที่พระวิหารวัดเจียงอีศรีมงคลวราราม พระอารามหลวง
วันนี้ (13 ม.ค. 65) ที่พระวิหารวัดเจียงอีศรีมงคลวราราม พระอารามหลวง อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ พระธรรมราชานุวัตร เจ้าคณะภาค 10 เป้นประธานฝ่ายสงฆ์ นายสํารวย เกษกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ เป็นประธานในพิธีบําเพ็ญกุศลสตมวาร (ครบ 100 วัน) และบรรจุสรีระสังขารพระเดชพระคุณ พระราชกิตติรังษี อดีตที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค 10 อดีตเจ้าอาวาสวัดเจียงอีศรีมงคลวราราม พระอารามหลวง มรณภาพอย่างสงบ เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 6 ต.ค.2565 ที่โรงพยาบาลศรีสะเกษ สิริอายุ 81 ปี พรรษา 60 หลังเข้ารับการรักษาอาการอาพาธ ตั้งแต่เมื่อวันที่ 26 ก.ย.2565 ด้วยอาการติดเชื้อในกระแสโลหิต และปอดอักเสบ โดยมีหัวหน้าส่วนราชการ พุทธศาสนิกชน ศิษยานุศิษย์ ร่วมพิธีกันอย่างหนาตาพระราชกิตติรังษี มีนามเดิม บุญทัน บุญวงศ์ เกิดเมื่อวันที่ 23 พ.ค.2484 สิริอายุ 81 ปี พรรษา 60 สังกัดมหานิกาย วุฒิการศึกษา นักธรรมชั้นเอก,#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
13/1/2023
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ศรีสะเกษ
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดศรีสะเกษ
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230113183830882
null
Kick off พื้นที่การขับเคลื่อนทุนทางวัฒนธรรมเมืองปากน้ำโพ “ตลาดวัฒนธรรมสร้างสรรค์ เมืองสวรรค์ปากน้ำโพ”
วันที่ 13 มกราคม 2566 ที่ลานศิลป์นครสวรรค์ นายชุมพิชญ์ เดชะรัฐ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครสวรรค์ เป็นประธานเปิดงาน Kick off พื้นที่การขับเคลื่อนทุนทางวัฒนธรรมเมืองปากน้ําโพ “ตลาดวัฒนธรรมสร้างสรรค์ เมืองสวรรค์ปากน้ําโพ” พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการ คณะมหาวิทยาลัยเจ้าพระยา และประชาชนชาวจังหวัดนครสวรรค์ เข้าร่วมงานฯ ในครั้งนี้โดยทางมหาวิทยาลัยเจ้าพระยา ได้ดําเนินการจัดการขับเคลื่อนทุนทางวัฒนธรรมเมืองปากน้ําโพ สู่การขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากจังหวัดนครสวรรค์ มีเป้าหมายที่จะสํารวจและการพัฒนาผู้ประกอบการวัฒนธรรมและนวัตกรทางวัฒนธรรม เพื่อที่จพสืบสาน ถ่ายทอดและต่อยอดองค์ความรู้ศิลปวัฒนธรรม เพื่อส่งเสริมรายได้ การออกร้านจําหน่ายสินค้าของผู้ประกอบการต่างๆ และกิจกรรม Workshop ส่งเสริมการเรียนรู้ศิลปะ วัฒนธรรม และภูมิปัญญาในพื้นที่ภายในงานมีนิทรรศการมากมาย ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากหลายหน่วยงานในจังหวัดนครสวรรค์ เช่น เทศบาลนครนครสวรรค์ สํานักงานท่องเที่ยวและกีฬา สมาคมธุรกิจและร้านอาหาร และมูลนิธิส่งเสริมงานประเพณีแห่เจ้าพ่อ-เจ้าแม่ปากน้ําโพ ตลอดจนภาคภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วน#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILANDสํานักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนครสวรรค์
13/1/2023
null
นครสวรรค์
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนครสวรรค์
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230114105322035
null
จังหวัดหนองบัวลำภู จัดกิจกรรม สวมผ้าไทย ใส่บาตร เนื่องในโอกาส วันคล้ายวันประสูติสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวลี นารีรัตนราชกัญญา
วันที่ 14 มกราคม 2566 ณ ลานตักบาตรทหน้าหอพระบางคู่ วัดมหาชัย อําเภอเมือง จังหวัดหนองบัวลําภู นายอนุพงษ์ คําภูแก้ว รองผู้ว่าราชการจังหวัดพร้อม ด้วยหัวหน้าส่วนราชการผู้ทหาร ตํารวจ บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ข้าราชการ เจ้าหน้าที่ และประชาชนชาวจังหวัดหนองบัวลําภู ร่วมพิธีทําบุญตักบาตรทุกวันพระ เพื่อเฉลิมพระเกียรติเนื่องในวันคล้ายวันประสูติสมเด็จสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญาโดยผู้ที่มาร่วมในพิธีทําบุญตักบาตร ได้พร้อมกันสวมใส่ผ้าไทย ผ้าทอมือ เพื่อเป็นการน้อมนําแนวพระราชดําริ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ในการส่งเสริมการสวมใส่ผ้าไทย #สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
13/1/2023
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
หนองบัวลำภู
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดหนองบัวลำภู
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230114113403053
null
ททท.เดินหน้ายกระดับวัฒนธรรมอาหารไทย-อีสาน สู่สากล
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เดินหน้ายกระดับวัฒนธรรมอาหารไทย-อีสาน สู่สากล จัดแถลงข่าว "THE MICHELIN EXPERIENCE @ ISAN มิชลินถิ่นอีสาน" ที่จังหวัดอุดรธานีวันที่ 13 มกราคม 2566 ที่พิพิธภัณฑ์เมืองอุดรธานี ตําบลหมากแข้ง อําเภอเมืองอุดรธานี จังหวัดอุดรธานี นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย หรือ ททท. เป็นประธานการแถลงข่าว "THE MICHELIN EXPERIENCE @ ISAN มิชลินถิ่นอีสาน" ต่อยอด Soft Power of Thailand สู่ High Value Tourism มอบประกาศนียบัตรแก่ผู้ประกอบการธุรกิจร้านอาหารที่ได้รับรางวัลมิชลิน ’บิบ กูร์มองด์’ ประจําปี 2566 จํานวน 33 ราย จาก 4 เมืองตัวแทนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ตอกย้ําภาพลักษณ์ประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวเชิงอาหาร (Gastronomy Tourism) สอดรับการก้าวสู่ปีที่ 2 ของปีท่องเที่ยวไทย 2566 โดยมี นายวันชัย คงเกษม ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี นายสยาม ศิริมงคล ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา นายฉัททันต์ กุญชร ณ อยุธยา รองผู้ว่าการด้านสื่อสารการตลาด ททท. และนางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ รองผู้ว่าการด้านตลาดในประเทศ ททท.หัวหน้าส่วนราชการ หน่วยงานภาครัฐ เอกชน สื่อมวลชนในพื้นที่ร่วมงานตามที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา โดย ททท. ได้สนับสนุนโครงการ The MICHELIN Guide Thailand ต่อเนื่องเป็นระยะที่ 2 ตั้งแต่ พ.ศ. 2565-2569 ซึ่งเป็นหนึ่งในโครงการที่ผลักดัน Soft Power ในด้านอาหาร (F-Food) หรือการท่องเที่ยวเชิงอาหาร (Gastronomy Tourism) ของประเทศไทยที่มีความโดดเด่นและแข็งแกร่ง โดยปีนี้ได้จัดทําหนังสือคู่มือปีที่ 6 ขยายพื้นที่สํารวจครอบคลุมสู่ 4 จังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือ คือ จังหวัดอุบลราชธานี อุดรธานี ขอนแก่น และนครราชสีมา และจัดแถลงข่าว "THE MICHELIN EXPERIENCE @ ISAN มิชลินถิ่นอีสาน" เพื่อส่งสัญญาณความพร้อมก้าวสู่ปีที่ 2 ของปีท่องเที่ยวไทย 2566 ด้วยการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงอาหารอย่างเต็มรูปแบบ และกระตุ้นให้เกิดการยกระดับและพัฒนาห่วงโซ่อุปทาน (Shape Supply) ให้พร้อมรองรับกลุ่มนักท่องเที่ยวคุณภาพภายในงาน ททท. จัดพิธีมอบประกาศนียบัตรแสดงความยินดีกับธุรกิจร้านอาหารที่ได้รับการจัดอันดับในคู่มือ ’มิชลิน ไกด์’ ฉบับปี 2566 ซึ่งเป็นฉบับที่ 6 ของไทย โดย 9 ร้านอยู่ใน จังหวัดนครราชสีมา, 11 ร้าน ในจังหวัดขอนแก่น, 6 ร้าน ในจังหวัดอุบลราชธานี และ 7 ร้าน ในจังหวัดอุดรธานี ซึ่ง 7 ร้านมิชลินของจังหวัดอุดรธานี ได้จัดเสิร์ฟเมนูอาหารเลิศรส ประกอบด้วย แหนมเนืองและพันหอม จากร้าน VT แหนมเนือง เมี่ยงทอดมัจฉาและปลาทับทิมอกแตก จากสวนอาหารมัจฉาผาสุข ปลาส้มทอด แกงคั่วหอยขม และข้าวเหนียวห่อใบตอง จากครัวคุณนิด ก๋วยเตี๋ยวเป็ดตุ๋นและข้าวหน้าเป็ด จากร้านเป้งก๋วยเตี๋ยวเป็ด ขนมปังสามสหายและสตูซี่โครงหมู จากร้านมาดามพาเท่ห์ 2515 เมี่ยงทอดและแหนมคลุก จากร้านอรุณีแหนมเนือง แซลมอนแช่น้ําปลาร้า และพวงนมทอดกระเทียม จากร้านลาบนัว ชมการแสดงพื้นเมืองอีสาน และการบรรเลงบทเพลงจากวงดนตรีอะคูสติก เพื่อให้ผู้ร่วมงานดื่มด่ํากลิ่นอายและหลงรักแผ่นดินถิ่นอีสานอย่างเต็มอิ่มผลการดําเนินโครงการ The MICHELIN Guide Thailand ประจําปี 2560 - 2563 ที่ผ่านมา ได้มีการจัดทําวิจัยและสํารวจ จํานวน 2 ครั้ง ครั้งที่ 1 โดย บริษัท เคเนติกส์ คอนซัลติ้ง จํากัด และครั้งที่ 2 โดย Erst & Young (EY) พบว่า โครงการ The MICHELIN Guide Thailand สร้างมูลค่าส่วนเพิ่มด้านอาหารของประเทศไทยด้านการท่องเที่ยวมากถึง 842.40 ล้านบาท เกิดการจ้างงานในอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องมากกว่า 4,800 ตําแหน่ง รวมถึงสามารถดึงดูดเชฟชั้นนําชาวต่างชาติให้เดินทางเข้ามาทํางานด้านอาหารและลงทุนเปิดร้านอาหารระดับ Hi-End ในประเทศไทยเพิ่มมากขึ้น ต่อมาในปี 2565 ททท. ได้ทําการประเมินผลการท่องเที่ยวด้านอาหารและโครงการ The MICHELIN Guide Thailand ปี 2565 จํานวน 1 ครั้ง โดย บริษัท เคเนติกส์ คอนซัลติ้ง จํากัด พบว่านักท่องเที่ยวกลุ่มที่เคยได้รับประสบการณ์ที่ร้านอาหารมิชลินมีพฤติกรรมและทัศนคติที่ดีทั้งต่อร้านอาหารและประเทศไทยในแง่อื่น ๆ ทั้งในด้านการประชาสัมพันธ์ และเศรษฐกิจ อาทิ นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ร้อยละ 98 ที่เคยได้รับประทานอาหารมิชลินแล้ว จะแนะนําต่อ และนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ร้อยละ 94 ที่เคยได้รับประทานอาหารมิชลินแล้ว จะเดินทางไปลองทานอาหารที่ร้านอาหารมิชลินอื่นๆ ในประเทศไทยด้วย นอกจากนี้ ททท. ได้ผนึกกําลังกับพันธมิตรสายการบิน บริษัท ไทยแอร์เอเชีย จํากัด สนับสนุนการเดินทางของคณะสื่อมวลชนทั้งสื่อออฟไลน์และออนไลน์ที่เข้าร่วมผลิตเนื้อหาประชาสัมพันธ์เส้นทางท่องเที่ยวเชิงอาหาร (Gastronomy Tourism) ในพื้นที่จังหวัดอุดรธานี รวมทั้งเป็นกําลังในการส่งเสริมการเดินทางท่องเที่ยวเชิงอาหาร เพื่อสัมผัสเสน่ห์ของวัฒนธรรมอาหารเชื่อมโยงภายในภูมิภาค ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ทั้งนี้ นอกจากการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงอาหารแล้ว ททท. ยังให้ความสําคัญกับการประชาสัมพันธ์รางวัลดาวมิชลินรักษ์โลก (The MICHELIN Green Star) มอบแก่ร้านอาหารที่ส่งมอบประสบการณ์การรับประทานอาหารที่ยอดเยี่ยม โดยคู่มือ ’มิชลิน ไกด์ ประเทศไทย 2566’ ประกอบด้วย 3 ร้าน ได้แก่ ร้าน PRU (พรุ) จ.ภูเก็ต ร้านจําปา จ.ภูเก็ต ร้าน Haoma กรุงเทพฯ ร้านอาหารเหล่านี้เป็นร้านที่มีปณิธานด้านสิ่งแวดล้อมที่โดดเด่นและมุ่งสู่ความยั่งยืน พัฒนาคุณภาพร้านอาหาร พร้อมกับยกระดับวัตถุดิบของประเทศไทย ควบคู่ไปกับการรักษาสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน (Zero Food Waste) เพื่อส่งเสริมภาพลักษณ์ประเทศไทยในการเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมผ่านวัฒนธรรมและการท่องเที่ยวเชิงอาหาร (Gastronomy Tourism) ให้เป็นที่รู้จักระดับนานาชาติต่อไปทีมข่าว ส.ปชส.อด. ศรีภูมิ ทองใหญ่ ณ อยุธยา ข่าว/ภาพ#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
13/1/2023
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
อุดรธานี
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดอุดรธานี
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230113231636983
null
ผู้แสวงบุญ "อุมเราะห์" พร้อมนำหลักการทางศาสนา มาเปลี่ยนแปลงตนเอง คนในครอบครัว และชุมชน
คณะผู้แสวงบุญที่เดินทางไปประกอบพิธีอุมเราะห์ ร่วมรับฟังการบรรยายเกี่ยวกับการประกอบศาสนกิจที่สมบูรณ์ พร้อมนําหลักการทางศาสนา มาเปลี่ยนแปลงตนเอง คนในครอบครัว และชุมชนวันนี้ (14 ม.ค.66) เวลา 08.30 น. ตามเวลาท้องถิ่นประเทศซาอุดิอาระเบีย นาวาเอก จักรพงษ์ อภิมหาธรรม นําคณะผู้เดินทางไปประกอบพิธีอุมเราะห์ ตามกิจกรรมส่งเสริมคนดีมีคุณธรรมในจังหวัดชายแดนภาคใต้ไปประกอบพิธีอุมเราะห์ ประจําปีงบประมาณ 2565 (ฮิจเราะห์ศักราช 1444) ของศูนย์อํานวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ หรือ ศอ.บต จํานวน 120 คน รับฟังการบรรยายให้ความรู้หัวข้อ “การประกอบศาสนกิจที่สมบูรณ์” รวมไปถึงรายละเอียดต่างๆ อาทิ การนียัตอุมเราะห์ วิธีการฏอวาฟ การสะแอ รวมถึงการใช้ชีวิต ในนครเมกกะห์ ที่เป็นเกร็ดความรู้สําคัญๆในการเตรียมความพร้อมก่อนเข้าสู่วาระแห่งการประกอบพิธีอุมเราะห์ที่สมบูรณ์ต่อไปทั้งนี้คณะผู้เข้าร่วมกิจกรรม จะออกเดินจากนครมาดีนะห์ ไปสู่นครเมกกะห์ ในช่วงบ่ายของวันที่ 15 มกราคม 2566 และจะมีกําหนดถึงนครเมกกะห์ในช่วงค่ําของวันเดียวกัน ซึ่งผู้ที่เข้าร่วมกิจกรรมต่างมีความประทับใจ และให้ความร่วมมือกับทางเจ้าหน้าที่เป็นอย่างดี รวมถึงทุกคนในคณะยังคงมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง มีจิตใจที่เข้มแข็ง มุ่งมั่น และพร้อมที่จะปฏิบัติศาสนกิจตามที่กําหนดไว้อย่างสมบูรณ์พิธีแสวงบุญ “อุมเราะห์” เป็นการปฏิบัติศาสนกิจที่นครเมกกะ นอกเวลาประกอบพิธีฮัจญ์ สามารถกระทําได้ตลอดทั้งปี โดยในแต่ละเดือนจะมีชาวมุสลิมหลายหมื่นคนจากทั่วโลกเดินทางไปอุมเราะห์ ณ ประเทศซาอุดีอาระเบีย#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
14/1/2023
ภาคใต้
ยะลา
สทท.ยะลา
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230114162654180
null
ชาวอำเภอกะปงร่วมสืบสานประเพณีทำบุญให้ทานไฟเพิ่มความอบอุ่นให้พระสงฆ์ในฤดูหนาว
เวลา 05.30 น.วันที่ 14 มกราคม 2566 ที่วัดโฆษิตาราม (วัดกะปง) หมู่ที่ 2 ตําบลกะปง อําเภอกะปง จังหวัดพังงา นายเอกรัฐ หลีเส็น ผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา มอบหมายให้ นายเถลิงศักดิ์ นุชประหาร รองผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา เป็นประธานนําพุทธศาสนิกชนชาวอําเภอกะปง ร่วมสืบสานประเพณีทําบุญให้ทานไฟ ประจําปี 2566 โดยมี ว่าที่ร้อยเอก พงศ์ศักดิ์ เวทยาวงศ์ นายอําเภอเมืองพังงา นายเดชภูวิส ภักดีสนิท ปลัดอาวุโสอําเภอกะปง ผู้นําท้องถิ่น ผู้นําท้องที่ เด็ก เยาวชนและประชาชนเข้าร่วม นายรณพล ขวัญเซ่ง กํานันตําบลกะปง กล่าวว่า สมัยพุทธกาลในฤดูหนาวของประเทศอินเดีย อากาศหนาวเย็นมาก พระภิกษุสงฆ์ที่เผยแพร่พระพุทธศาสนาตามวัด และตามสถานที่ต่างๆ ประสบกับความทุกข์ยาก จากอากาศที่หนาวเย็น ด้วยมีผ้าครองเพียง 3 ผืน คือ สบง จีวร และสังฆาติ ประชาชนที่พบเห็นสงสารในสาวกของพระพุทธองค์ จึงได้ก่อกองไฟถวายพระภิกษุเหล่านั้นใช้ผิงให้เกิดความอบอุ่น ชนรุ่นหลังได้ถือปฏิบัติสืบต่อกันมา จนเป็นประเพณี เรียกว่า "ประเพณีให้ทานไฟ" ในช่วงใกล้รุ่ง และเห็นว่าเหลือเวลาไม่มากก็จะสว่าง ประชาชนจึงคิดหา เผือก มัน แป้ง ข้าวต่างๆ นํามาย่างไปถวายพระภิกษุด้วย ปัจจุบันได้วิวัฒนาการมาเป็นการก่อกองไฟถวายพระภิกษุ และทําขนมคาวหวานต่างๆ ตามความถนัดของแต่ละบ้านแต่ละท้องถิ่น เพื่อนํามาถวายพระไปพร้อมกัน สําหรับงานประเพณีให้ทานไฟของอําเภอกะปง เป็นประเพณีเก่าแก่ที่ถือปฏิบัติสืบทอดกันมายาวนาน จัดขึ้น ในช่วง "วันเด็กแห่งชาติ" ซึ่งตรงกับวันเสาร์ที่ 2 ของเดือนมกราคมของทุกปี และจัดต่อเนื่องเรื่อยมาจนถึงครั้งนี้นับเป็นครั้งที่ 30 เนื่องด้วยชาวอําเภอกะปงได้เล็งเห็นถึงความสําคัญของงานประเพณีที่เป็นเอกลักษณ์ของท้องถิ่น ซึ่งมีผลดีต่อการศึกษา ศาสนา วัฒนธรรมและประเพณีท้องถิ่น อีกทั้งเป็นการอนุรักษ์ ฟื้นฟูประเพณี วัฒนธรรมตามหลักทางพระพุทธศาสนา และภูมิปัญญาท้องถิ่น เพื่อปลูกฝังศีลธรรมจริยธรรมที่ดีแก่เด็กและเยาวชนให้เติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพ ในส่วนของอาหาร เครื่องดื่ม และขนมที่ทํามานอกจากถวายพระแล้วยังแจกจ่ายให้กับเด็กๆ และผู้มาร่วมงานรับประทานฟรี โดยส่วนใหญ่จะเป็นขนมพื้นบ้านประจําถิ่นซึ่งปรุงขึ้นมาใหม่ๆ ทั้งนั้น#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
14/1/2023
ภาคใต้
พังงา
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดพังงา
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230114180229201
null
ผู้แสวงบุญ "อุมเราะห์" พร้อมนำหลักการทางศาสนา มาเปลี่ยนแปลงตนเอง คนในครอบครัว และชุมชน
คณะผู้แสวงบุญที่เดินทางไปประกอบพิธีอุมเราะห์ ร่วมรับฟังการบรรยายเกี่ยวกับการประกอบศาสนกิจที่สมบูรณ์ พร้อมนําหลักการทางศาสนา มาเปลี่ยนแปลงตนเอง คนในครอบครัว และชุมชนวันนี้ (14 ม.ค.66) เวลา 08.30 น. ตามเวลาท้องถิ่นประเทศซาอุดิอาระเบีย นาวาเอก จักรพงษ์ อภิมหาธรรม นําคณะผู้เดินทางไปประกอบพิธีอุมเราะห์ ตามกิจกรรมส่งเสริมคนดีมีคุณธรรมในจังหวัดชายแดนภาคใต้ไปประกอบพิธีอุมเราะห์ ประจําปีงบประมาณ 2565 (ฮิจเราะห์ศักราช 1444) ของศูนย์อํานวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ หรือ ศอ.บต จํานวน 120 คน รับฟังการบรรยายให้ความรู้หัวข้อ “การประกอบศาสนกิจที่สมบูรณ์” รวมไปถึงรายละเอียดต่างๆ อาทิ การนียัตอุมเราะห์ วิธีการฏอวาฟ การสะแอ รวมถึงการใช้ชีวิต ในนครเมกกะห์ ที่เป็นเกร็ดความรู้สําคัญๆในการเตรียมความพร้อมก่อนเข้าสู่วาระแห่งการประกอบพิธีอุมเราะห์ที่สมบูรณ์ต่อไปทั้งนี้คณะผู้เข้าร่วมกิจกรรม จะออกเดินจากนครมาดีนะห์ ไปสู่นครเมกกะห์ ในช่วงบ่ายของวันที่ 15 มกราคม 2566 และจะมีกําหนดถึงนครเมกกะห์ในช่วงค่ําของวันเดียวกัน ซึ่งผู้ที่เข้าร่วมกิจกรรมต่างมีความประทับใจ และให้ความร่วมมือกับทางเจ้าหน้าที่เป็นอย่างดี รวมถึงทุกคนในคณะยังคงมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง มีจิตใจที่เข้มแข็ง มุ่งมั่น และพร้อมที่จะปฏิบัติศาสนกิจตามที่กําหนดไว้อย่างสมบูรณ์พิธีแสวงบุญ “อุมเราะห์” เป็นการปฏิบัติศาสนกิจที่นครเมกกะ นอกเวลาประกอบพิธีฮัจญ์ สามารถกระทําได้ตลอดทั้งปี โดยในแต่ละเดือนจะมีชาวมุสลิมหลายหมื่นคนจากทั่วโลกเดินทางไปอุมเราะห์ ณ ประเทศซาอุดีอาระเบีย#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
14/1/2023
null
ยะลา
สทท.ยะลา
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230114184725209
null
ผู้ว่าฯ ชัยภูมิ ควงหัวหน้าส่วนราชการเดินแบบผ้าไทยการกุศล ในงาน "สืบสานตำนาน ผ้าไทยชัยภูมิ"
วันที่ 13 มกราคม 2566 นายโสภณ สุวรรณรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ พร้อมด้วย นางบุษดี สุวรรณรัตน์ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดชัยภูมิ ร่วมเดินแบบเพื่อเป็นเกียรติประเภทกิตติมศักดิ์ ในการเดินแบบผ้าไทยการกุศล ประจําปี 2566 "สืบสานตํานาน ผ้าไทยชัยภูมิ" กับหัวหน้าส่วนราชการ หัวหน้าหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น นายอําเภอ ภาคเอกชน ภาคประชาสังคมสงเคราะห์ ณ เวทีกลาง งานเจ้าพ่อพญาแล ประจําปี 2566 โดยผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ สวมใส่ผ้าลายอําเภอภูเขียว ร่วมสร้างกระแส Soft Power ผ้าไทยในจังหวัดชัยภูมิ ซึ่งจังหวัดชัยภูมิได้มีการขับเคลื่อนการสวมใส่ผ้าไทยในจังหวัดชัยภูมิ เพื่อสืบสานพระปณิธานของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ในการอนุรักษ์และสืบสานภูมิปัญญาของคนไทย อนุรักษ์มรดกทางวัฒนธรรมและตอบสนองนโยบายของรัฐบาล ส่งเสริมเศรษฐกิจฐานราก สร้างรายได้กระจายสู่ชุมชนท้องถิ่นต่างๆ อย่างทั่วถึง ภายใต้กิจกรรม"ผ้าไทยใส่ให้สนุก" จากระยะเวลาตั้งแต่ปี 2564-ปัจจุบัน ผ้าไทยในจังหวัดชัยภูมิ ได้มีการเปลี่ยนแปลงอย่างมาก เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวาง ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชนในพื้นที่ได้สร้างสรรค์ลายผ้าที่รวมเอกลักษณ์ลายผ้าในพื้นที่ผสมผสานรวมกันเป็นลายผ้าอัตลักษณ์จังหวัดชัยภูมิ ทั้งนี้ ผู้ว่าฯโสภณ สุวรรณรัตน์ ได้กล่าวเปิดเวทีการเดินแบบว่า เชื่อว่าการใส่ผ้าไทยในทุกโอกาส จะเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจฐานรากในชุมชนและพื้นที่อย่างต่อเนื่อง เกิดการอนุรักษ์สืบสานการสวมใส่ผ้าถิ่นไทย ให้ภูมิปัญญาของคนไทยดํารงอยู่ เกิดความภาคภูมิใจการสวมใส่ผ้าไทยในทุกโอกาส และยังส่งผลให้เกิดความสุข สร้างรอยยิ้ม สร้างรายได้ให้กับช่างทอผ้า นักออกแบบ ช่างเย็บผ้า ต่อไป #สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
14/1/2023
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ชัยภูมิ
สวท.ชัยภูมิ
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230114184343208
null
คณะผู้เข้าร่วมประกอบพิธีอุมเราะห์ ศอ.บต. ซาบซึ้งใจ หลังเยี่ยมชมเราเฎาะห์ พื้นที่ส่วนหนึ่งของสรวงสวรรค์
คณะผู้เข้าร่วมประกอบพิธีอุมเราะห์ ของ ศอ.บต. ซาบซึ้งใจ หลังเยี่ยมชมเราเฎาะห์ พื้นที่ส่วนหนึ่งของสรวงสวรรค์ พร้อมดุอาร์ให้ชาวมุสลิมทุกคนได้เดินทางมาเยือนสถานที่แห่งนี้ผู้เข้าร่วมเดินทางไปประกอบพิธีอุมเราะห์ ตามกิจกรรมส่งเสริมคนดีมีคุณธรรมในจังหวัดชายแดนภาคใต้ไปประกอบพิธีอุมเราะห์ ประจําปีงบประมาณ 2565 (ฮิจเราะห์ศักราช 1444) ของศูนย์อํานวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ หรือ ศอ.บต จํานวน 120 คน ได้เดินทาง ไปประกอบพิธีอุมเราะห์ที่ประเทศซาอุดิอาระเบีย ตั้งแต่วันที่ 10 มกราคม 2566 ที่ผ่านมา และขณะนี้ทั้งหมดได้ปฏิบัติศาสนกิจและศึกษาประวัติศาสตร์ทางศาสนาที่นครมาดีนะห์ ประเทศซาอุดิอาระเบีย โดยมีกําหนดการอยู่ที่ นครมาดีนะห์ถึงวันที่ 15 มกราคมนี้ จากนั้นจะเดินทางเข้านครมักกะฮ์ เพื่อประกอบพิธีอุมเราะห์เมื่อวันที่ 13 มกราคม 2566 กลุ่มผู้เข้าร่วมกิจกรรมได้ปฏิบัติศาสนกิจที่มัสยิดอัลนะบะวีย์ ในนครมาดีนะห์ คณะได้เข้าเยี่ยมชม เราเฎาะฮ์ ซึ่งอยู่ภายในมัสยิดอัลนะบะวีย์ตั้งอยู่ ระหว่างมิมบัร หรือแท่นสําหรับอ่านธรรมเทศนาและบ้านของท่านนบีมูฮัมหมัด (ซอลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม) ซึ่งท่านได้กล่าวไว้ว่า “ระหว่างบ้านของฉันกับมิมบัรนั้น คือส่วนหนึ่งของสรวงสวรรค์ของอัลลอฮ” นอกจากนี้คณะได้ร่วมละหมาดสุนัตและร่วมขอพรให้กับตนเอง ครอบครัว ตลอดจนมุสลิมจากประเทศไทยและจากทั่วโลกให้ได้มีโอกาสมาเยือนในสถานที่ที่เรียกว่าดินแดนสรวงสวรรค์นี้ด้วยเช่นกัน โดยการเข้าเยี่ยมชมบริเวณเราเฎาะห์ คณะต่างซาบซึ้งทุกคนรู้สึกใกล้ชิดกับท่านนบีมูฮัมหมัด (ซอลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม) มากที่สุดในชีวิตหนึ่งในผู้ที่ได้รับคัดเลือกไปประกอบพิธีอุมเราะห์ของ ศอ.บต. เผยว่า ดีใจมากๆ ที่ครั้งหนึ่งในชีวิตได้มีโอกาสมายังดินแดนแห่งนี้ คิดมาตลอดว่า อยากมาที่ดินแดนแห่งนี้สักครั้ง และในที่สุดก็ได้มา และได้ขอดุอาร์ให้ทุกคนได้มาทึ่แห่งนี้เช่นกัน#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
14/1/2023
ภาคใต้
ยะลา
สทท.ยะลา
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230114072738001
null
จัดงานประเพณีบุญกุ้มข้าวใหญ่และของดีทางด้านวัฒนธรรมสืบสานประเพณีวัฒนธรรมท้องถิ่น อำเภอเมืองอำนาจเจริญ
วันที่13 มกราคม 2566 ณ บริเวณสนามหน้าที่ว่าการอําเภอเมืองอํานาจเจริญ นายชนาส ชัชวาลวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดอํานาจเจริญ เป็นประธานเปิดงานประเพณีบุญกุ้มข้าวใหญ่และของดีทางด้านวัฒนธรรมอําเภอเมืองอํานาจเจริญ จังหวัดอํานาจเจริญ ประจําปี 2566 พร้อมมอบเกียรติบัตรรางวัลการประกวดด้านวัฒนธรรมและเยี่ยมชมนิทรรศการและร่วมรับชมการประกวดรําบายศรีสมโภชน์กุ้มข้าวใหญ่ โดยมีส่วนราชการ ภาคเอกชน ประชาชนและนักท่องเที่ยวร่วมกิจกรรมในครั้งนี้นายธนูศักดิ์ เสมอภาค นายอําเภอเมืองอํานาจเจริญ กล่าวว่า การจัดงานประเพณีบุญกุ้มข้าวใหญ่และของดีด้านวัฒนธรรม อําเภอเมืองประจําปี 2566 นับเป็นปีที่ 13 ของการจัดงาน ซึ่งเกิดจากความคิดริเริ่มของคณะกรรมการสภาวัฒนธรรมอําเภอเมืองอํานาจเจริญ ภายใต้การสนับสนุนของส่วนราชการ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กํานัน ผู้ใหญ่บ้านและพี่น้องประชาชนชาวอําเภอเมืองอํานาจเจริญ และองค์การบริหารส่วนจังหวัดอํานาจเจริญ มีวัตถุประสงค์ เพื่อสืบสานงานประเพณีบุญกุ้มข้าวใหญ่ สร้างจิตสํานึกให้ประชาชนได้ร่วมกันอนุรักษ์ ฟื้นฟู ประเพณีวัฒนธรรมของท้องถิ่น ตามประเพณีฮีตสิบสองซึ่งสอดคล้องกับวิสัยทัศน์จังหวัดอํานาจเจริญ โดยจัดขึ้นในระหว่างวันที่ 12 - 14 มกราคม 2566 ณ บริเวณสนามหน้าที่ว่าการอําเภอเมืองอํานาจเจริญ กิจกรรมภายในงาน ประกอบด้วย การรวบรวมข้าวเปลือกเพื่อทําพิธีบายศรีสู่ขวัญ เจริญพระพุทธมนต์ พิธีสมโภชกุ้มข้าวใหญ่ และทําบุญตักบาตรตามประเพณี ตามประเพณี การประกวดศิลปวัฒนธรรม ประกอบด้วย การประกวดอาหารพื้นบ้านอาหารที่มีข้าวเป็นส่วนผสมที่ เช่น ข้าวเหนียวมูล ข้าวเหนียวมะม่วง เป็นต้น การประกวดพานบายศรีอีสาน การประกวดหมอพราหมณ์สูตรขวัญ การประกวดตําข้าวซ้อมมือ และการประกวดรําบายศรีกุ้มข้าวใหญ่ บวงสรวงแม่โพสพ การแสดงทางศิลปวัฒนธรรม คอนเสริตหมอลํา ชุด"เสียงลําเพลินคนรุ่นใหม่ Soft power มวยไทย อํานาจเจริญ" และการลําซิ่ง สมโภชน์กุ้มข้าวใหญ่ การจัดนิทรรศการ การจําหน่ายสินค้าพื้นเมือง จัดนิทรรศการชุมชนคุณธรรม นิทรรศการวิถีชีวิตเศรษฐกิจพอเพียง ภูมิปัญญาเรื่องข้าว รวมทั้งสํานักงานวัฒนธรรมจังหวัดอํานาจเจริญ ได้บูรณาการการจัดนิทรรศการวัฒนธรรม 5F และศูนย์ศึกษาพระพุทธศาสนาวันอาทิตย์ พลัง บวร ในมิติศาสนา ร่วมสืบสานงานประเพณีบุญกุ้มข้าวใหญ่ในครั้งนี้ด้วย โดยการจัดงานในครั้งนี้ ได้รับการอุดหนุนงบประมาณจากองค์การบริหารส่วนจังหวัดอํานาจเจริญ จํานวน 200,000 บาท จากกองทุนสภาวัฒนธรรมอําเภอเมืองอํานาจเจริญ ชมรมกํานันผู้ใหญ่บ้านอําเภอเมืองอํานาจเจริญ และพี่น้องในเขตอําเภอเมืองอํานาจเจริญร่วมบริจาคข้าวเปลือกจํานวน 29,968 กิโลกรัม หลังจากจําหน่ายข้าวเปลือกแล้วรายได้จะนําเข้าสมทบกองทุนชมรมกํานันผู้ใหญ่บ้าน เพื่อใช้ในกิจการสาธารณประโยชน์ต่อไป#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
14/1/2023
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
อำนาจเจริญ
สวท.อำนาจเจริญ
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230114220033253
null
จ.หนองคาย จัดประกวดร้องเพลง รำวงมหาดไทยเพื่อคนไทย
จังหวัดหนองคาย จัดประกวดร้องเพลง “รําวงมหาดไทยเพื่อคนไทย” จังหวัดหนองคาย เพื่อประชาสัมพันธ์การดําเนินงานของกระทรวงมหาดไทย ถ่ายทอดความคิดที่ “คนมหาดไทย” ได้ร่วมกันทํางานเสียสละ ทุ่มเทในการ “บําบัดทุกข์ บํารุงสุข” ให้กับประชาชน ให้มีความอยู่ดีกินดี สร้างความรัก ความสามัคคี จงรักภักดีต่อสถาบันหลักของชาติ และส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชนเย็นวันนี้ (14 มกราคม 2566) ณ เวทีตลาดแคมของหนองคาย หรือถนนคนเดินริมโขงหนองคาย ในเขตเทศบาลเมืองหนองคาย จังหวัดหนองคาย ได้จัดให้มีการประกวดร้องเพลง “รําวงมหาดไทยเพื่อคนไทย” จังหวัดหนองคาย โดยมีนายราชันย์ ซุ้นหั้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย เป็นประธานเปิดการประกวดฯสืบเนื่องจากกระทรวงมหาดไทย ได้ให้จังหวัดหนองคายจัดการประกวดร้องเพลง “รําวงมหาดไทยเพื่อคนไทย” เพื่อประชาสัมพันธ์การดําเนินงานของกระทรวงมหาดไทย ถ่ายทอดความคิดที่ “คนมหาดไทย” ได้ร่วมกันทํางานเสียสละ ทุ่มเทในการ “บําบัดทุกข์ บํารุงสุข” ให้กับประชาชน ให้มีความอยู่ดีกินดี สร้างความรัก ความสามัคคี จงรักภักดีต่อสถาบันหลักของชาติ และส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชน โดยกลุ่มเป้าหมายคือ ทีม “รําวงมหาไทยเพื่อคนไทย” ทีมละ 14 คน ไม่จํากัดอายุ มีนักร้องทั้งชายและหญิง ร้องเพลงสด พร้อมการแสดงทางทางประกอบดนตรี แต่งกายด้วยชุดผ้าไทยหรือผ้าพื้นเมืองสําหรับจังหวัดหนองคาย มีอําเภอส่งตัวแทนเข้าประกวด จํานวน 7 ทีม ประกอบด้วย อําเภอเมืองหนองคาย อําเภอท่าบ่อ อําเภอศรีเชียงใหม่ อําเภอสระใคร อําเภอเฝ้าไร่ อําเภอโพนพิสัย และอําเภอสังคมทีมที่ชนะเลิศในการประกวดฯครั้งนี้คือทีมอําเภอท่าบ่อ, รองชนะเลิศอันดับที่ 1 คือทีมโพนพิสัย และรองชนะเลิศอันดับที่ 2 คือทีมอําเภอศรีเชียงใหม่ ส่วนอีก 4 ทีมที่ร่วมประกวดได้รับรางวัลชมเชย.#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILANDจุมพล / หนองคาย
14/1/2023
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
หนองคาย
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดหนองคาย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230114223402259
null
อำเภอเมืองอำนาจเจริญ จัดงานประเพณีบุญกุ้มข้าวใหญ่และของดีทางด้านวัฒนธรรมสืบสานประเพณีวัฒนธรรมท้องถิ่น
ที่บริเวณสนามหน้าที่ว่าการอําเภอเมืองอํานาจเจริญ นายชนาส ชัชวาลวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดอํานาจเจริญ เป็นประธานเปิดงานประเพณีบุญกุ้มข้าวใหญ่และของดีทางด้านวัฒนธรรมอําเภอเมืองอํานาจเจริญ จังหวัดอํานาจเจริญ ประจําปี 2566 พร้อมมอบเกียรติบัตรรางวัลการประกวดด้านวัฒนธรรมและเยี่ยมชมนิทรรศการ และร่วมรับชมการประกวดรําบายศรีสมโภชน์กุ้มข้าวใหญ่ โดยมีส่วนราชการ ภาคเอกชน ประชาชนและนักท่องเที่ยวร่วมกิจกรรมในครั้งนี้นายธนูศักดิ์ เสมอภาค นายอําเภอเมืองอํานาจเจริญ กล่าวว่า การจัดงานประเพณีบุญกุ้มข้าวใหญ่และของดีด้านวัฒนธรรม อําเภอเมืองประจําปี 2566 นับเป็นปีที่ 13 ของการจัดงาน ซึ่งเกิดจากความคิดริเริ่มของคณะกรรมการสภาวัฒนธรรมอําเภอเมืองอํานาจเจริญ ภายใต้การสนับสนุนของส่วนราชการ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กํานัน ผู้ใหญ่บ้าน ประชาชนชาวอําเภอเมืองอํานาจเจริญ และองค์การบริหารส่วนจังหวัดอํานาจเจริญ มีวัตถุประสงค์ เพื่อสืบสานงานประเพณีบุญกุ้มข้าวใหญ่ สร้างจิตสํานึกให้ประชาชนได้ร่วมกันอนุรักษ์ ฟื้นฟู ประเพณีวัฒนธรรมของท้องถิ่น ตามประเพณีฮีตสิบสองซึ่งสอดคล้องกับวิสัยทัศน์จังหวัดอํานาจเจริญ โดยจัดขึ้นในระหว่างวันที่ 12 - 14 มกราคม 2566 ณ บริเวณสนามหน้าที่ว่าการอําเภอเมืองอํานาจเจริญกิจกรรมภายในงานประกอบด้วย การรวบรวมข้าวเปลือกเพื่อทําพิธีบายศรีสู่ขวัญ เจริญพระพุทธมนต์ พิธีสมโภชกุ้มข้าวใหญ่ และทําบุญตักบาตรตามประเพณี ตามประเพณี การประกวดศิลปวัฒนธรรม ประกอบด้วย การประกวดอาหารพื้นบ้านอาหารที่มีข้าวเป็นส่วนผสมที่ เช่น ข้าวเหนียวมูล ข้าวเหนียวมะม่วง เป็นต้น การประกวดพานบายศรีอีสาน การประกวดหมอพราหมณ์สูตรขวัญ การประกวดตําข้าวซ้อมมือ และการประกวดรําบายศรีกุ้มข้าวใหญ่ บวงสรวงแม่โพสพ การแสดงทางศิลปวัฒนธรรม คอนเสิร์ตหมอลํา ชุด"เสียงลําเพลินคนรุ่นใหม่ Soft power มวยไทย อํานาจเจริญ" และการลําซิ่ง สมโภชน์กุ้มข้าวใหญ่ การจัดนิทรรศการ การจําหน่ายสินค้าพื้นเมือง จัดนิทรรศการชุมชนคุณธรรม นิทรรศการวิถีชีวิตเศรษฐกิจพอเพียง ภูมิปัญญาเรื่องข้าว รวมทั้งสํานักงานวัฒนธรรมจังหวัดอํานาจเจริญ ได้บูรณาการการจัดนิทรรศการวัฒนธรรม 5F และศูนย์ศึกษาพระพุทธศาสนาวันอาทิตย์ พลัง บวร ในมิติศาสนา ร่วมสืบสานงานประเพณีบุญกุ้มข้าวใหญ่ ในครั้งนี้ด้วย โดยการจัดงานในครั้งนี้ ได้รับการอุดหนุนงบประมาณจากองค์การบริหารส่วนจังหวัดอํานาจเจริญ จํานวน 200,000 บาท จากกองทุนสภาวัฒนธรรมอําเภอเมืองอํานาจเจริญ ชมรมกํานันผู้ใหญ่บ้านอําเภอเมืองอํานาจเจริญ และพี่น้องในเขตอําเภอเมืองอํานาจเจริญร่วมบริจาคข้าวเปลือกจํานวน 29,968 กิโลกรัม หลังจากจําหน่ายข้าวเปลือกแล้วรายได้จะนําเข้าสมทบกองทุนชมรมกํานันผู้ใหญ่บ้าน เพื่อใช้ในกิจการสาธารณประโยชน์ต่อไป#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
14/1/2023
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
อำนาจเจริญ
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดอำนาจเจริญ
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230114230507265
null
จังหวัดสุพรรณบุรี สาวงามทั่วประเทศร่วมสมัครชิงตำแหน่งธิดาดอนเจดีย์คึกคัก
ที่ห้องประชุมองค์การบริหารส่วนจังหวัดสุพรรณบุรี บรรดาสาวงามจากทั่วประเทศเดินทางมาสมัครเข้าประกวดธิดาดอนเจดีย์ กันอย่างคึกคัก ซึ่งองค์การบริหารส่วนจังหวัดสุพรรณบุรี ได้เปิดโอกาสให้สาวงามจากทั่วประเทศมีสิทธิ์สมัครเข้าประกวดธิดาดอนเจดีย์ โดยสาวงามที่จะเข้าร่วมประกวดธิดาดอนเจดีย์ ต้องมีอายุระหว่าง 17-25 ปี สถานะโสด สัญชาติไทย มีความสูงไม่ต่ํากว่า 160 ซม. ซึ่งในปี 2566 นี้ มีสาวงามจากทั่วประเทศร่วมเข้าชิงตําแหน่งธิดาดอนเจดีย์กว่า 50 คน และได้จับหมายเลขประจําตัวผู้เข้าประกวดธิดาดอนเจดีย์ กันอย่างคึกคักสําหรับสาวงามที่ชนะได้ตําแหน่ง ธิดาดอนเจดีย์ จะได้รับรางวัลเงินสด 40,000 บาท สายสะพายพร้อมถ้วยเกียรติยศ รองชนะเลิศอันดับที่ 1 จะได้รางวัลเงินสด 30,000 บาท สายสะพายพร้อมถ้วยเกียรติยศ รองชนะเลิศอันดับ 2 จะได้ รับรางวัลเงินสด 20,000 บาท สายสะพายพร้อมถ้วยเกียรติยศ รางวัลพิเศษ 1.ชุดตะเบงมานงามตา รางวัลเงินสด 15,000 บาท สายสะพายพร้อมถ้วยเกียรติยศ ขวัญใจช่างภาพสื่อมวลชน รางวัลเงินสด 15,000 บาทพร้อมสายสะพายและถ้วยเกียรติยศ และตําแหน่งขวัญใจคนสุพรรณ จะได้รับรางวัลเงินสด 30,000 บาท พร้อมสายสะพายและถ้วยเกียรติยศ (นับคะแนนจากการซื้อดอกไม้ ซึ่งเงินรายได้จากการจําหน่ายดอกไม้ที่มอบให้สาวงาม จะมอบให้ศูนย์การศึกษาพิเศษ เขตการศึกษา 5 สุพรรณบุรี)นอกจากนี้ ยังมี รางวัล Popular Vote รางวัลเงินสด 10,000 บาท พร้อมสายสะพายและถ้วยเกียรติยศ (นับคะแนนจากยอดกดไลค์ในเพจเฟสบุ๊ค ศูนย์ประชาสัมพันธ์ อบจ.สุพรรณบุรี) ทั้งนี้การประกวดธิดาดอนเจดีย์จะมีขึ้นในวันที่ 25 มกราคม 2566 ณ เวทีกลางหน้าพระราชานุสรณ์ดอนเจดีย์ อําเภอดอนเจดีย์ จังหวัดสุพรรณบุรี#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
14/1/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
สุพรรณบุรี
สวท.สุพรรณบุรี
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230114110426043
null
บรรยากาศงานมหกรรมศิลปวัฒนธรรมไทย “สืบศิลป์ สร้างสรรค์ บัณฑิตพัฒนศิลป์ สู่แดนดินถิ่นบูรพา พ.ศ.2566 ที่วิทยาลัยนาฎศิลปจันทบุรี
วิทยาลัยนาฏศิลปจันทบุรี เป็นเจ้าภาพจัดมหกรรมศิลปวัฒนธรรมไทย “สืบศิลป์ สร้างสรรค์ บัณฑิตพัฒนศิลป์ สู่แดนดินถิ่นบูรพา ส่งเสริมประเพณี วัฒนธรรมอันทรงคุณค่า กระตุ้นเศรษฐกิจการท่องเที่ยวค่ําวานนี้ (14 ม.ค.66) ที่วิทยาลัยนาฏศิลปจันทบุรีนายวิสุทธิ์ ประกอบความดี รองผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรีได้กล่าวต้อนรับ นายขจร จิตสุขุมมงคล อุปนายกสภาสถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ ที่เดินทางมาเป็นประธานในพิธี โดยมี นางนิภา โสภาสัมฤทธิ์ อธิการบดีสถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ นําคณะผู้บริหาร ผู้เชี่ยวชาญ ผู้ทรงคุณวุฒิ ศิลปินแห่งชาติ คณาจารย์และนักเรียนนักศึกษาให้การต้อนรับ และกล่าววัตถุประสงค์ในการจัดงาน ศิลปวัฒนธรรมเป็นสิ่งแสดงถึงอัตลักษณ์ของชาติต่าง ๆ ประเทศไทยเป็นประเทศ ที่มีความมั่งคั่งทางศิลปวัฒนธรรม และมีแหล่งทรัพยากรทางศิลปวัฒนธรรมที่ทรงคุณค่า จํานวนมาก นับเป็นทุนทางวัฒนธรรมที่เหมาะแก่การนํามาสร้างสรรค์ เพื่อเพิ่มคุณค่าและ มูลค่าทางเศรษฐกิจและสังคม สถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์เป็นหน่วยงานการศึกษาที่มีพันธกิจ สําคัญ คือ การอนุรักษ์ พัฒนา สืบสาน สร้างสรรค์ และเผยแพร่ศิลปวัฒนธรรมไทย เล็งเห็น ถึงความสําคัญดังกล่าวและเพื่อเป็นการส่งเสริมสร้างสรรค์อุตสาหกรรมทางศิลปวัฒนธรรม อันนํามาสู่การสร้างงาน สร้างอาชีพ สร้างผลิตภัณฑ์ และบริการด้านศิลปวัฒนธรรม สถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ จึงได้จัดงานมหกรรมศิลปวัฒนธรรมไทย “สืบศิลป์ สร้างสรรค์ บัณฑิตพัฒนศิลป์ สู่แดนดินถิ่นบูรพา” ขึ้นเพื่อเป็นการอนุรักษ์ สร้างสรรค์ และเผยแพร่ศิลปวัฒนธรรมของชาติ ตลอดจน ศิลปวัฒนธรรมท้องถิ่นให้แพร่หลายเพิ่มศักยภาพในการท่องเที่ยวทางศิลปวัฒนธรรม ส่งเสริมสร้างความสามัคคีและความร่วมมือด้านศิลปวัฒนธรรม ระหว่างหน่วยงานในสังกัดสถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์และหน่วยงานภายนอก เป็นการแสดงศักยภาพ ด้านความรู้ และความสามารถของคณาจารย์ นักเรียน นักศึกษา สถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ให้เป็นที่แพร่หลาย การจัดงานในครั้งนี้ประกอบด้วยกิจกรรมต่างๆมากมาย อาทิ นิทรรศการเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และนิทรรศการแสดงผลงานทางทัศนศิลป์ สร้างสรรค์ระดับนานาชาติ การบรรเลงและการแสดงนาฏดุริยางคศิลป์มหกรรมศิลปวัฒนธรรมไทย และการ แสดงนาฏศิลป์สร้างสรรค์ระดับชาติ การบรรเลงและขับร้องนาฏดุริยางคศิลป์ไทยสากล และการแสดงพื้นบ้านโดยผู้เข้าร่วมกิจกรรมประกอบด้วยคณะผู้เชี่ยวชาญ ผู้บริหาร คณาจารย์ บุคลากร นักเรียนและนักศึกษา จากสถานศึกษาในสังกัดสถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ทั่วประเทศ รวมทั้งผู้ที่มีความสนใจด้านศิลปวัฒนธรรมไทย ในการจัดกิจกรรมในครั้งนี้ได้รับความอนุเคราะห์สนับสนุนอย่างดียิ่งจากหน่วยงาน ทั้งภาครัฐและเอกชนในจังหวัดจันทบุรีและได้รับความสนใจจากประชาชน นักท่องเที่ยวเข้าชมงานและให้กําลังใจจํานวนมากโดยงานไม่ได้เก็บค่าบัตรผ่านประตูแต่อย่างใด อีกทั้งมีที่จอดรถไว้บริการมากมายงานจัดขึ้นรวม 2 วัน#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
14/1/2023
ภาคตะวันออก
จันทบุรี
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดจันทบุรี
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230115105045293
null
ผู้ว่าฯพังงา เปิดงานมัสยิดปากีสถานบ้านบางคลี สัมพันธ์ ครั้งที่ 2
เมื่อวันที่ 14 มกราคม 66 ที่บริเวณสนามกีฬา นายเอกรัฐ หลีเส็น ผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา เปิดงานมัสยิดปากีสถานบ้านบางคลี สัมพันธ์ ครั้งที่ 2 โดยมีนายรักหมาน ปาทาน รองประธานกรรมการอิสามประจําจังหวัดพังงา นายเจษฎา ท่อทิพย์ รองประธานฯ ฝ่ายกิจการฮาลาล ผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง ผู้นําท้องที่ผู้นําท้องถิ่น มุส ลิมีน มุสลิมะห์ และประชาชน ร่วมงานเป็นจํานวนมาก การจัดงานครั้งเพื่อส่งเสริมและสนับสนุนให้เยาวชนหน่วยสอบที่ 73 จังหวัดพังงา ได้ศึกษาเล่าเรียนและเตรียมความพร้อมทักษะทางวิชาการเพื่อเข้าทดสอบให้เกิดความรู้ ความเข้าใจ อีกทั้งเป็นการระดมทุนนํารายได้มาใช้ปรับปรุงพัฒนามัสยิด รวมทั้งการศึกษาภาคศาสนาของเยาวชนในชุมชน และยังเป็นการพบปะแลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างศาสนิกชนร่วมสร้างความสัมพันธ์อันดี สร้างความสามัคคี อยู่ร่วมกันในสังคมร่วมกันอย่างมีความสุขในแบบสังคมพหุวัฒนธรรม และเพื่อให้เยาวชน ครู ตลอดจนประชาชนได้ใช้โอกาสนี้สานความสัมพันธ์ผ่านการทํากิจกรรมร่วมกัน โอกาสนี้ นายเอกรัฐ หลีเส็น ผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา ร่วมมอบเงินเพื่อสนับสนุนการศึกษาและพัฒนามัสยิดด้วยภายในงานจัดให้มีการตอบปัญหาทางวิชาการ การบรรยายธรรมโดยวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิ การจําหน่ายสินค้าต่างๆมากมาย ระหว่างวันที่ 13-14 มกราคม 2566 ณ สนามกีฬาหน้ามัรกัสบางคลี หมู่ 8 ตําบลนาเตย อําเภอท้ายเหมือง จังหวัดพังงา#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
15/1/2023
ภาคใต้
พังงา
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดพังงา
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230115071308276
null
จังหวัดสกลนคร สนองพระดำริ “เจ้าฟ้าสิริวัณณวรีฯ” แสดงแบบผ้าไทย “ผ้าไทยใส่ให้สนุก”
จังหวัดสกลนคร สนองพระดําริ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา จัดกิจกรรมแสดงแบบผ้าไทย “ผ้าไทยใส่ให้สนุก” ในงานรวมน้ําใจไทสกล จังหวัดสกลนคร ประจําปี 2566วันนี้ (15 ม.ค 66) ที่บริเวณเวทีกลาง ในงานรวมน้ําใจไทสกล จังหวัดสกลนคร ประจําปี 2566 ซึ่งเป็นวันที่ 3 ของการจัดงาน ได้ปรับให้เป็นเวทีแสดงแบบในกิจกรรม " ผ้าไทยใส่ให้สนุก" ทั้งนี้จังหวัดสกลนคร โดยสํานักงานส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นจังหวัดสกลนคร ได้รับมอบหมายให้จัดขึ้นเพื่อสนองแนวพระดําริ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ผู้ทรงมีพระปณิธานที่มุ่งมั่น แน่วแน่ ในการแบ่งเบาพระราชภาระของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ในการสืบสาน รักษา และต่อยอด แนวพระราชดําริของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ส่งเสริมให้เกิดการสร้างงาน สร้างอาชีพ สร้างรายได้จากภูมิปัญญา และเป็นการถ่ายทอดความสวยงามของผ้าย้อมคราม ผ้าอัตลักษณ์ของจังหวัดสกลนคร ให้เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลายโดยมีนางจุรีรัตน์ เทพอาสน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสกลนคร พร้อมด้วย รองผู้ว่าราชการจังหวัดและคู่สมรส ตลอดจนส่วนราชการ นายอําเภอทั้ง 18 อําเภอ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กํานัน ผู้ใหญ่บ้าน สถานศึกษา ภาคเอกชน ต่างสวมใส่ผ้าไทย ลวดลายที่เป็นเอกลักษณ์ ลายผ้าพระราชทานผ้าขิดลายนารีรัตน์ราชกัญญา ผ้าลายขอเจ้าฟ้าฯ ผ้าลายประจําจังหวัดสกลนครคือลายนครธรรม ที่ตัดด้วยรูปแบบที่ทันสมัย สามารถสวมใส่ได้ทุกเพศทุกวัย ร่วมในกิจกรรมเดินแบบ "ผ้าไทยใส่ให้สนุก" ในครั้งนี้ ด้วยความภาคภูมิใจ#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
15/1/2023
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
สกลนคร
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสกลนคร
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230115222050398
null
ชาวไทด่านร่วมงานประเพณีบุญข้าวเปลือกข้าวสาร (บุญคูณลานสู่ขวัญข้าว) ณ ลานวัฒนธรรมอำเภอด่านซ้าย จังหวัดเลย
วันที่ 15 มกราคม 2566 นายนที พรมภักดี นายอําเภอด่านซ้าย พร้อมด้วยนางจารุชา พรมภักดี ภริยานายอําเภอด่านซ้าย/กรรมการชมรมแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดเลย เจ้าพ่อกวน ดร.ถาวร เชื้อบุญมี เจ้าแม่นางเทียม หัวหน้าส่วนราชการ นายกองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ปกครองอําเภอด่านซ้าย สมาชิก อส.อ.ด่านซ้ายที่ 7 และประชาชนชาวอําเภอด่านซ้าย ร่วมกันทําบุญใส่บาตร ถวายภัตตาหารแด่พระสงฆ์ และสู่ขวัญข้าว เนื่องในงานประเพณีบุญข้าวเปลือกข้าวสาร (บุญคูณลานสู่ขวัญข้าว) ณ ลานวัฒนธรรมอําเภอด่านซ้าย จังหวัดเลยบุญคูนลานเป็นการทําบุญเพื่อรับขวัญข้าว เมื่อถึงเดือนยี่ หรือเดือนที่ 1 คือเดือนมกราคม (สัปดาห์ที่ 2 ของเดือนมกราคมของทุกปี) จุดมุ่งหมายของการทําบุญประเพณี "บุญคูนลาน" ก็เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ข้าวในลานของตน และเพื่อเป็นการขออานิสงส์ต่างๆ การสู่ขวัญข้าวจะกระทําที่ลานนา หรือที่ลานบ้านก็ตามแต่จะสะดวก หลังการสู่ขวัญข้าวเสร็จก็จะเป็นการขนข้าวขึ้นเล้า (ยุ้ง/ฉาง) ก่อนการขนข้าวขึ้นเล้า เจ้าของข้าวจะต้องไปเก็บเอาใบคูนและใบยอเสียบไว้ที่เสาเล้าทุกเสา ซึ่งถือเป็นเคล็ดลับว่า ขอให้ค้ําคูณ ยอๆ ยิ่งๆ ขึ้นไป และเชิญขวัญข้าวพร้อมทั้งแม่โพสพขึ้นไปยังเล้าด้วยตามธรรมเนียมประเพณีของอีสานบ้านเฮาหรือ "ฮีตสิบสอง คองสิบสี่" เมื่อถึงเวลาเดือนยี่ หรือเดือนสอง จะมีพิธีหรือมีบุญประเพณี เพื่อเป็นสิริมงคลแก่ชาวนา คือ "บุญคูณลาน" ความหมายของคําว่า "คูณ" หมายความว่าเพิ่มเข้าให้เป็นทวีคูณ หรือทําให้มากขึ้นนั่นเอง #สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
16/1/2023
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
เลย
สวท.ด่านซ้าย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230116085459407
null
ครูยะลา ร่วมทำบุญตักบาตร-ละหมาดฮายัติเนื่องในวันครูแห่งชาติ พร้อมจัดพิธีเชิดชูเกียรติ ผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษา
วันนี้ (16 ม.ค.66) เวลา 07.00 น. ที่หอประชุมเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา 5 ธันวาคม 2550 มหาวิทยาลัยราชภัฏยะลา ครูและบุคลากรทางการศึกษาในพื้นที่ จ.ยะลา ได้ร่วมทําบุญตักบาตรข้าวสาร อาหารแห้ง แก่พระสงฆ์จํานวน 45 รูป เนื่องในวันครูประจําปี 2566 โดยมี นายสุพจน์ รอดเรือง ณ หนองคาย ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา เป็นประธานในพิธี พร้อมด้วยคณะข้าราชการครู อาจารย์ และบุคลากรทางการศึกษาในพื้นที่จังหวัดยะลา เพื่อเป็นการอุทิศส่วนกุศลแด่ครูผู้มีพระคุณ และครูที่ได้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ตลอดห้วงระยะเวลาที่ผ่านมา ในขณะที่ บรรดาครูที่นับถือศาสนาอิสลาม ก็ได้ร่วมละหมาดฮายัติ ขอพร ณ อาคารละหมาดด้วยเช่นกันสําหรับ วันครูปีนี้ ทาง จ.ยะลา ได้จัดงานภายใต้ชื่อ"พลังครู คือหัวใจของการพลิกโฉมคุณภาพการศึกษา" โดยสํานักงานศึกษาธิการ จ.ยะลา ร่วมกับ หน่วยงานทางการศึกษาในพื้นที่จัดขึ้น ซึ่งภายในงานมีการอ่านสารของเลขาธิการคุรุสภาเนื่องในโอกาสวันครู ประจําปี 2566 โดยนายพิทยา เพชรรักษ์ ศึกษาธิการจังหวัดยะลา มีการกล่าวสวดคําฉันท์ ระลึกถึงพระคุณบูรพาจารย์ ทํานองสรภัญญะ โดยครูอาวุโสนอกประจําการ นายมนพ บุญทวิโรจน์ พิธีกล่าวคําปฏิญาณตนและพิธียืนสงบนิ่ง เพื่อไว้อาลัยแก่ครูที่วายชนม์นอกจากนี้ ยังได้จัดให้มีพิธีมอบโล่รางวัลและเกียรติบัตรเพื่อยกย่องเชิดชูเกียรติครูและบุคลากรทางการศึกษาซึ่งในปีนี้มีครูที่ได้รับรางวัลทั้งในระดับประเทศและระดับภาครวมจํานวนทั้งสิ้น 31 คน#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
16/1/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สวท.ยะลา
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230116085550408
null
คณะผู้เดินทางไปประกอบพิธีอุมเราะห์ ตามกิจกรรมสนับสนุนการประกอบพิธีอุมเราะห์ ของ ศอ.บต. เดินทางถึงเมืองมักกะห์ ประเทศซาอุดีอาระเบียอย่างปลอดภัย พร้อมปฎิบัติภารกิจได้ครบสมบูรณ์ตามขั้นตอน
วันที่ 15 มกราคม 2566 เวลา 22.15 น. ตามเวลาท้องถิ่นประเทศซาอุดีอาระเบีย คณะผู้เดินทางไปประกอบพิธีอุมเราะห์ ตามกิจกรรมส่งเสริมคนดีมีคุณธรรมในจังหวัดชายแดนภาคใต้ไปประกอบพิธีอุมเราะห์ ประจําปีงบประมาณ 2565 (ฮิจเราะห์ศักราช 1444) ของศูนย์อํานวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ หรือ ศอ.บต จํานวน 120 คน ได้เดินทางถึงเมืองมักกะห์ และได้เข้าพัก ณ โรงแรม อัลญูม ซึ่งตั้งอยู่ใกล้บริเวณมัสยิดฮารอม ทําให้สามารถเดินทางไปประกอบศาสนกิจ ได้อย่างสะดวกและในเวลา 23.59 น. คณะได้เดินทางไปยังมัสยิดฮารอมเพื่อประกอบ พิธีตอวาฟ (การเวียนรอบกะบะห์เจ็ดครั้ง โดยเริ่มต้นที่มุมหินดํา ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ โดยให้ไหล่ซ้ายอยู่ด้านหินดํา ต่อจากนั้นก็เดินรอบกะบะห์ด้วยความเร็วปกติจนครบ 7 รอบ) การแสะแอ (การเดินระหว่างเนินเขาซอฟา กับ เนินเขามัรวะห์ ๗ เที่ยว โดยให้เริ่มจากเนินเขาซอฟา ไปถึงเชิงเนินเขา มัรวะห์นับเป็น ๑ เที่ยว แล้วเริ่มนับเที่ยวที่ ๒ เดินจากเนินเขามัรวะห์ ถึง เนินเขาซอฟา นับต่อๆไปจนครบ ๗ เที่ยว) การตะห์โลน (การตัดเส้นผม สําหรับฮุจญาจชายจะดีที่สุด คือการโกนศีรษะ สําหรับฮุจญาจสตรีนั้น ส่งเสริมให้ตัดเส้นผม) ซึ่งเมื่อคณะปฎิบัติภารกิจได้ครบสมบูรณ์ตามขั้นตอนต่างๆ แล้ว ถือว่าได้รับอุมเราะห์ 1 ครั้ง ทั้งนี้ คณะผู้ไปประกอบพิธีอุมเราะห์ ต่างมีสุขภาพร่างกายสมบูรณ์ แข็งแรง พร้อมที่จะประกอบภารกิจในวันถัดไป สําหรับผู้ที่จะเดินทางเข้ามามักกะฮ์ เพื่อประกอบพิธีฮัจญ์และอุมเราะห์ จะต้องผ่านจุดที่เรียกว่า “มิกอต” ซึ่งเป็นสถานที่ตั้งเจตนา (เนียต) ครองเอี้ยะ รอม สําหรับฮุจยาตผู้เดินทางที่จะไปทําฮัจญ์หรืออุมเราะห์และได้พํานักอยู่ที่มาดีนะฮ์ จะต้องเนียตครองเอี้ยะรอม ณ มีกอต “ซุลฮุลัยฟะฮ์” ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของนครมาดีนะฮ์ ห่างจากมัสยิดอัลนะบะวีย์ประมาณ 13 กิโลเมตร และอยู่ห่างจากมักกะฮ์ ประมาณ 440 กิโลเมตร ถือว่าเป็นมิกอตที่อยู่ห่างจากมักกะฮ์มากที่สุด จากทั้งหมดมีอยู่ 5 มิกอต#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
16/1/2023
ภาคใต้
ยะลา
สวท.ยะลา
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230116090142411
null
เทศบาลตำบลห้วยยอด จังหวัดตรัง จัดประชุมติดตามการเตรียมความพร้อมการจัดงานประเพณีตรุษจีน (วันจ่ายตลาด) ประจำปี 2566
ที่ห้องประชุมเทศบาลตําบลห้วยยอด นายธวัชชัย วรพงศ์พัฒน์ นายกเทศมนตรีตําบลห้วยยอด เป็นประธานการประชุมติดตามการเตรียมความพร้อมการจัดงานวันเด็กแห่งชาติ และงานประเพณีตรุษจีน ประจําปี 2566 โดยมีคณะผู้บริหาร สมาชิกสภาเทศบาล หัวหน้าส่วนราชการ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุมสําหรับงานประเพณีตรุษจีน (วันจ่ายตลาด) กําหนดจัดขึ้นในวันที่ 20 มกราคม 2566 ณ บริเวณหน้าตลาดศรีศุภผล ถนนเพชรเกษม ห้วยยอด โดยปีนี้เทศบาลตําบลห้วยยอด งดจัดกิจกรรมบนเวทีใหญ่ แต่ยังคงจัดกิจกรรมสืบสานตํานานขายผัก กิจกรรมไหว้พระขอพรองค์ศักดิ์สิทธิ์ศาลเจ้าตั๋วแปะก๋ง การตกแต่งซุ้มประตู ถ่ายภาพสวยจากจุดเช็คอิน กิจกรรมเวทีเล็กของโรงเรียนต่างๆ และหน่วยงาน เพื่อสร้างบรรยากาศช่วงเทศกาลตรุษจีน#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
16/1/2023
null
ตรัง
สวท.ตรัง
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230116090936414
null
ประชาชนซื้อเครื่องเซ่นไหว้ “ตรุษจีน” เท่าที่จำเป็น หลังขยับขึ้นราคา
บรรยากาศร้านจําหน่ายเครื่องเซ่นไหว้เทศกาลตรุษจีน ที่ย่านการค้าถนนสายกลาง เขตเทศบาลนครยะลาคึกคักแล้ว หลังใกล้เทศกาลตรุษจีน ซึ่งในปีนี้วันตรุษจีน หรือวันเที่ยวจะตรงกับวันที่ 22 มกราคม 2566 วันจ่ายจะตรงกับวันที่ 20 มกราคม 2566 วันไหว้จะตรงกับที่ 21 มกราคม 2566 ซึ่งชาวไทยเชื้อสายจีน ส่วนมากก็จะนิยมมาซื้อเครื่องเซ่นไหว้ ซึ่งสามารถซื้อเก็บไว้ได้ก่อน ส่วนของไหว้ที่เป็นอาหารสด ผลไม้ ก็จะไปซื้อกันในวันจ่าย ทําให้ช่วงนี้จะมีชาวไทยเชื้อสายจีน เดินทางออกมาเลือกซื้อ เครื่องเซ่นไหว้ที่จําเป็นจัดเตรียมไว้ สําหรับการไหว้เทพเจ้า บรรพบุรุษ ไม่ว่าจะเป็น ธูปเทียน กระดาษเงิน กระดาษทอง ธูปเทียน แบงค์กงเต็ก ทองแท่ง เครื่องแต่งกาย หญิง ชาย กางเกง รองเท้า รถ นาฬิกา คอนโด ใบเบิกทาง ป้ายอวยพร ปะทัด และอื่นๆ รวมทั้ง โคมไฟประดับตกแต่งอาคารบ้านเรือน ขณะที่ราคาเครื่องเซ่นไหว้ในปีนี้ มีบางอย่างที่ปรับขึ้น บางอย่างยังราคาเดิม ประชาชนบอกว่าปีนี้มาซื้อเยอะ มีทั้งนําไปไหว้เจ้า ไหว้บรรพบุรุษ แต่ของแพงมากขึ้นราคา ส่วนใหญ่ก็จะซื้อครบชุด ทั้งเสื้อผ้า รองเท้า กระดาษเงิน กระดาษทองฯลฯ เลือกที่สําคัญที่จําเป็น ตามประเพณีที่ต้องไหว้เจ้าที่ พ่อ แม่ ตายายที่ล่วงลับ เพื่อแสดงความกตัญญู รักษาประเพณีชาวจีน ซึ่งปู่ก็มาจากเมืองจีน ตามปกติแล้วปีที่ผ่านๆ มาก็จะใช้จ่ายช่วงตรุษจีน ประมาณ 4-5 พันบาท ปีนี้น่าจะมากกว่านั้นของแพงทางด้าน นายธนิต นิรามัยสกุล เจ้าของร้าน “ชุนกวงพาณิชย์” บอกว่า ปีนี้เครื่องเซ่นไหว้ที่เป็นพวกกระดาษ ปรับตัวขึ้น 5 % อย่างกระดาษเงิน กระดาษทอง เสื้อผ้า รองเท้ากระดาษ ส่วนป้ายอวยพรราคาเท่าเดิม ทําให้ประชาชนซื้อน้อยลง อย่างเมื่อก่อนซื้อ 200 บาท ปีนี้ก็ปรับเหลือ 120-150 บาท ในส่วนของราคาเครื่องเช่นไหว้ครบชุด จะเริ่มต้นที่ 95 บาทขึ้นไปหรือน้อยกว่านี้ 50-60 บาท ก็ได้ ซึ่งจะมีสิ่งจําเป็นหลักๆ ก็พวกกระดาษเงิน กระดาษทอง ใบเบิกทาง เงินทองไหว้บรรพบุรุษตอนนี้ลูกค้าก็ทยอยกันมาซื้อแล้ว ไม่กระจุกตัวแน่นเหมือนก่อนวันตรุษจีน ส่วนเศรษฐกิจช่วงนี้ คิดว่า ขายเท่าที่ขายได้ สั่งมาน้อยลง กลัวขายไม่หมด อย่างโคมไฟซึ่งนําไปประดับ สั่งมาไม่มาก ลูกค้าไม่ค่อยจะซื้อ ขณะเดียวกัน อาหารที่จะนําไปไว้สําหรับวันไหว้เทศกาลตรุษจีน อย่างผลไม้กระป๋อง มีการปรับราคาขึ้น 4-5 บาท ส่วนผลไม้ เส้นหมี่ เห็ดแห้ง และอื่นๆ ส่วนใหญ่ยังราคาเดิม#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
16/1/2023
ภาคใต้
ยะลา
สทท.ยะลา
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230116092227420
null
ผู้ไปประกอบพิธีอุมเราะห์ ศอ.บต. เดินทางถึงเมืองมักกะห์ ประเทศซาอุดีอาระเบียอย่างปลอดภัย
คณะผู้เดินทางไปประกอบพิธีอุมเราะห์ ตามกิจกรรมสนับสนุนการประกอบพิธีอุมเราะห์ ของ ศอ.บต. เดินทางถึงเมืองมักกะห์ ประเทศซาอุดีอาระเบียอย่างปลอดภัย พร้อมปฎิบัติภารกิจได้ครบสมบูรณ์ตามขั้นตอน วันที่ 15 มกราคม 2566 เวลา 22.15 น. ตามเวลาท้องถิ่นประเทศซาอุดีอาระเบีย คณะผู้เดินทางไปประกอบพิธีอุมเราะห์ ตามกิจกรรมส่งเสริมคนดีมีคุณธรรมในจังหวัดชายแดนภาคใต้ไปประกอบพิธีอุมเราะห์ ประจําปีงบประมาณ 2565 (ฮิจเราะห์ศักราช 1444) ของศูนย์อํานวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ หรือ ศอ.บต จํานวน 120 คน ได้เดินทางถึงเมืองมักกะห์ และได้เข้าพัก ณ โรงแรม อัลญูม ซึ่งตั้งอยู่ใกล้บริเวณมัสยิดฮารอม ทําให้สามารถเดินทางไปประกอบศาสนกิจได้อย่างสะดวก และในเวลา 23.59 น. คณะได้เดินทางไปยังมัสยิดฮารอมเพื่อประกอบพิธีตอวาฟ (การเวียนรอบกะบะห์เจ็ดครั้ง โดยเริ่มต้นที่มุมหินดํา ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ โดยให้ไหล่ซ้ายอยู่ด้านหินดํา ต่อจากนั้นก็เดินรอบกะบะห์ด้วยความเร็วปกติจนครบ 7 รอบ) การแสะแอ (การเดินระหว่างเนินเขาซอฟา กับเนินเขามัรวะห์ 7 เที่ยว โดยให้เริ่มจากเนินเขาซอฟา ไปถึงเชิงเนินเขามัรวะห์นับเป็น 1 เที่ยว แล้วเริ่มนับเที่ยวที่ 2 เดินจากเนินเขามัรวะห์ ถึงเนินเขาซอฟา นับต่อๆ ไปจนครบ 7 เที่ยว) การตะห์โลน (การตัดเส้นผม สําหรับฮุจญาจชายจะดีที่สุด คือการโกนศีรษะ สําหรับฮุจญาจสตรีนั้น ส่งเสริมให้ตัดเส้นผม) ซึ่งเมื่อคณะปฎิบัติภารกิจได้ครบสมบูรณ์ตามขั้นตอนต่างๆ แล้ว ถือว่าได้รับอุมเราะห์ 1 ครั้ง ทั้งนี้ คณะผู้ไปประกอบพิธีอุมเราะห์ ต่างมีสุขภาพร่างกายสมบูรณ์ แข็งแรง พร้อมที่จะประกอบภารกิจในวันถัดไป สําหรับผู้ที่จะเดินทางเข้ามามักกะฮ์ เพื่อประกอบพิธีฮัจญ์และอุมเราะห์ จะต้องผ่านจุดที่เรียกว่า “มิกอต” ซึ่งเป็นสถานที่ตั้งเจตนา (เนียต) ครองเอี้ยะ รอม สําหรับฮุจยาตผู้เดินทางที่จะไปทําฮัจญ์หรืออุมเราะห์และได้พํานักอยู่ที่มาดีนะฮ์ จะต้องเนียตครองเอี้ยะรอม ณ มีกอต “ซุลฮุลัยฟะฮ์” ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของนครมาดีนะฮ์ ห่างจากมัสยิดอัลนะบะวีย์ประมาณ 13 กิโลเมตร และอยู่ห่างจากมักกะฮ์ ประมาณ 440 กิโลเมตร ถือว่าเป็นมิกอตที่อยู่ห่างจากมักกะฮ์มากที่สุด จากทั้งหมดมีอยู่ 5 มิกอต#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
16/1/2023
ภาคใต้
ยะลา
สทท.ยะลา
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230116091527417
null
เทศบาลเมืองเบตง ติดตั้งประดับโคมสีแดงต้อนรับเทศกาลตรุษจีน
วันที่ 16 มกราคม 2566 นายธงชัย เทพรอด ปลัดเทศบาลเมืองเบตง รักษาราชการแทน นายกเทศมนตรีเมืองเบตง ได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่กองช่างเทศบาลเมืองเบตง ดําเนินการติดตั้งประดับโคมไฟตรุษจีน บริเวณบันไดทางขึ้นพิพิธภัณฑ์เมืองเบตง จนถึงบริเวณประติมากรรม “111 ปีร้อยรวมใจเมืองเบตง” เป็นมือสองข้างขนาดใหญ่ประกบติดกันเป็นรูปหัวใจ เนื่องในโอกาสต้อนรับเทศกาลตรุษจีน ประจําปี 2566 เพื่อสร้างความประทับใจให้แก่นักท่องเที่ยวที่มาเยือนในช่วงเทศกาลตรุษจีนที่ใกล้จะมาถึง และเพื่อเสริมสร้างความเป็นสิริมงคลแก่พี่น้องชาวเบตง จะทําให้ในยามค่ําคืน สวยงาม สว่างไสว ไปด้วยแสงจากโคมไฟจีนสีแดง บริเวณบันไดใจกลางเมืองเบตงจะมีแสงโคมไฟจะสวยงาม เด่นตระการตาเป็นอย่างมาก ชาวเบตงและนักท่องเที่ยวเตรียมมาถ่ายรูปเช็คอินกันได้เลย นอกจากนี้ ทางเทศบาลเมืองเบตง ได้ขอเชิญชวน ชาวไทยเชื้อสายจีน ร้านค้า ห้างหุ้นส่วน บริษัท ต่างๆ ของชาวไทยเชื้อสายจีน ในพื้นที่อําเภอเบตง รวมกันทําความสะอาดหน้าบ้าน ประดับประดาโคมไฟ เพื่อความเป็นสิริมงคล และเป็นการต้อนรับเทศกาลตรุษจีน ปี 2566 ที่ใกล้จะมาถึงนี้ #สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
16/1/2023
ภาคใต้
ยะลา
สวท.เบตง จ.ยะลา
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230116134725531
null
เอกชัย ศรีวิชัย ตัวพ่อวงการลูกทุ่งไทย ดึงตำนานรัก “สะพานสารสิน” ภูเก็ต - พังงา สู่ภาพยนตร์ “สะพานรักสารสิน 2216” สะท้อนการดำเนินชีวิตครอบครัว ที่จบด้วยความสูญเสีย ผสมกับศิลปวัฒนธรรมท้องถิ่นโบราณ สู่สายตาชาวโลก 1 ใน Soft Power ไทย ผลักดันวงการ Film สร้างเม็ดเงินให้กับประเทศไทย
เอกชัย ศรีวิชัย นักร้องลูกทุ่งตัวพ่อ สู่ผู้กํากับภาพยนตร์ชื่อดัง ชาวใต้ นําทีมนักแสดงเปิดตัวภาพยนตร์ “สะพานรักสารสิน 2216” ที่กําหนดฉายวันแรก 19 มกราคม นี้ พร้อมกันทั่วประเทศ มาเปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่ ที่บริเวณสะพานสารสิน เขตรอยต่อระหว่าง 2 จังหวัดหรือบ้านพี่เมืองน้อง พังงา และ ภูเก็ต ซึ่งเอกชัย ศรีวิชัย ได้นําเอาตํานานความรักของ 2 หนุ่มสาว ที่ต้องจบด้วยความสูญเสียของครอบครัว และเป็น 1 ใน 4 ตํานานรักของไทย มาถ่ายทอดด้วยการดึงเอาศิลปวัฒนธรรมท้องถิ่นของชาวเลโบราณ มาผสมผสานกับเรื่องราวความรักระหว่างหนุ่มขับรถสองแถวและรับจ้างกรีดยาง กับ นักศึกษาวิทยาลัยครูที่ถูกเลี้ยงดูมาอย่างเข้มงวด และพ่อบังคับให้แต่งงานกับคนรวย ทําให้ทั้งคู่ตัดสินใจก่อเหตุโศกนาฏกรรมความรัก ที่มีตํานานมากว่า 50 ปี เอกชัย ศรีวิชัย ผู้กํากับภาพยนตร์ “สะพานรักสารสิน 2216” กล่าวถึงการจัดทําภาพยนตร์เรื่องนี้ เพื่อต้องการสะท้อนการใช้ชีวิตของครอบครัว ที่การตัดสินใจไม่ใช่จะต้องมาจากผู้ให้กําเนิด ควรดําเนินชีวิตด้วยเหตุผลและสติ จึงจะทําให้ครอบครัวเดินไปด้วยกันจนถึงความสําเร็จของทุกคน ซึ่งจะต่างจากการนําเสนอเรื่องราวในรูปแบบของประวัติตํานานความรัก ประกอบกับการถ่ายทําส่วนใหญ่เป็นสถานที่จริงในพื้นที่จังหวัดพังงาและภูเก็ต เพื่อบอกเล่าเรื่องราวความเป็นจริงให้ดีที่สุด และภาพยนตร์เรื่องนี้ได้นําเอาประเพณีเก่าแก่ ประเพณีลอยเรือของชาวมอร์แกน และการแสดงลิเกป่า หรือลิเกแขกแดง ที่เป็นการละเล่นพื้นบ้านประเภทหนึ่งของภาคใต้ เพื่อนํามาเผยแพร่ศิลปวัฒนธรรมภาคใต้ ให้เด็กเยาวชนยุคใหม่ และชาวต่างชาติ รู้จักและรักษาวัฒนธรรมให้คงต่อไปอยู่ สําหรับ นักแสดงนําภาพยนตร์ “สะพานรักสารสิน 2216” ประกอบด้วย ไพศาล ขุนหนู (ธํารงค์) ณริสสา ดําเนินผล (อิ้ว นักศึกษาวิทยาลัยครู) เอกชัย ศรีวิชัย (โกฮวด) มงคล สะอาดบุญญพัฒน์ สกุลตลา เทียนไพโรจน์ นาตยา จันทร์รุ่ง รุ่งรัตน์ ดวงขวัญนอกจากนี้ ทั้งชาวจังหวัดพังงาและจังหวัดภูเก็ต ต่างรู้สึกภูมิใจและดีใจกับการนําตํานานรักสะพานสารสิน มาทําเป็นภาพยนตร์อีกครั้ง ซึ่งจะทําให้ทั้ง 2 จังหวัดเป็นที่รู้จักมากขึ้น และเชื่อมั่นว่าหลังจากภาพยนตร์ได้นําเสนอไปแล้วทั่วโลกจะทําให้นักท่องเที่ยวอยากมาเที่ยวจังหวัดพังงาและภูเก็ตมากยิ่งขึ้น เพื่อมาตามรอยภาพยนตร์ “สะพานรัก สารสิน” จะทําให้การท่องเที่ยวและเศรษฐกิจของทั้ง 2 จังหวัดดียิ่งขึ้น#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
16/1/2023
ภาคใต้
ภูเก็ต
สวท.ภูเก็ต
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230116130538500
null
ศึกษาธิการจังหวัดนครพนม ประกอบพิธีบำเพ็ญกุศลอุทิศแด่บูรพาจารย์ เนื่องในวันครูแห่งชาติ ประจำปี 2566
วันจันทร์ที่ 16 มกราคม 2566 เวลา 09:00 น. นายวันชัย จันทร์พร ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม เป็นประธานนําคณะผู้บริหารสถานศึกษา คณะครูและเจ้าหน้าที่บุคคลากรทางการศึกษาในพื้นที่อําเภอเมืองนครพนม ประกอบพิธีบําเพ็ญกุศลถวายแด่คณะบูรพาจารย์ เนื่องในงานวันครูแห่งชาติ ประจําปี 2566 ครั้งที่ 67 อําเภอเมืองนครพนม ภายใต้คําขวัญวันครู “ครูดี ศิษย์ดี มีอนาคต" จากนั้นร่วมกันสวดคําฉันท์ระลึกพระคุณบูรพาจารย์และยืนสงบนิ่งเป็นเวลา 1 นาที เพื่อระลึกถึงพระคุณครูบูรพาจารย์ ก่อนที่ทุกคนจะพร้อมใจกันกล่าวคําปฏิญาณตน จะบําเพ็ญตนเป็นแบบอย่างที่ดีและเป็นประโยชน์แก่สังคม จากนั้น ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนมได้มอบประกาศเกียรติบัตรแก่ครูและคณะบุคลากรทางการศึกษา ผู้ทําคุณประโยชน์ให้กับโรงเรียนและทางการศึกษาสํานักงานศึกษาธิการจังหวัดนครพนม ได้จัดกิจกรรมวันครู ประจําทุกปี ในปีนี้เป็นครั้งที่ 67 ภายใต้คําขวัญวันครู “ครูดี ศิษย์ดี มีอนาคต" เพื่อระลึกถึงพระคุณครูบูรพาจารย์ ส่งเสริมสามัคคีธรรมระหว่างครู และความเข้าใจอันดีระหว่างครูกับประชาชน ส่งเสริมยกย่องเชิดชูเกียรติผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษาที่ประกอบคุณงามความดี หรือทําคุณประโยชน์ต่อวงการการศึกษาให้เป็นที่ประจักษ์แก่สาธารณะชนและเป็นแบบอย่างให้เยาวชนรุ่นหลังยึดถือปฏิบัติตาม โดยมีข้าราชการครู บุคลากรทางการศึกษาและเจ้าหน้าที่จากทุกโรงเรียนในพื้นที่อําเภอเมืองนครพนม ทั้งภาครัฐและเอกชนเข้าร่วมงานจํานวนมาก ณ ศูนย์ประชุมหนองบึก สหกรณ์ออมทรัพย์ครู นครพนม อําเภอเมืองนครพนม จังหวัดนครพนมวันครูแห่งชาติ ถือเป็นวันสําคัญสําหรับการระลึกถึงความสําคัญของครู ที่เป็นแม่พิมพ์ พ่อพิมพ์ของชาติ ซึ่งได้อบรมสั่งสอนลูกศิษย์ให้เป็นคนดีมีวิชาความรู้และประสบการณ์ โดยแต่ละประเทศจะมีการจัดการเฉลิมฉลองแตกต่างกันออกไปตามแต่ที่กําหนดเพื่อเป็นเกียรติสําหรับครู สําหรับประเทศไทยได้กําหนดให้วันที่ 16 มกราคมของทุกปีเป็นวันครูแห่งชาติ ซึ่งตรงกับวันที่ประกาศพระราชบัญญัติครูในราชกิจจานุเบกษาเมื่อปี 2488 ทีได้มีการกําหนดให้ครูทุกคนเป็นสมาชิกของ "คุรุสภา" โดยมีการจัดวันครูครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ.2500 เป็นต้นมา และในปีนี้ได้กําหนดคําขวัญวันครูประจําปี 2566 ว่า “ครูดี ศิษย์ดี มีอนาคต"#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
16/1/2023
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
นครพนม
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนครพนม
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230116173505650
null
ฮุจญาตที่เข้าร่วมกิจกรรมสนับสนุนการประกอบพิธีอุมเราะห์ เข้าพิธีเสร็จสิ้นสมบูรณ์แล้ว
ฮุจญาตที่เข้าร่วมกิจกรรมสนับสนุนการประกอบพิธีอุมเราะห์ เข้าพิธีเสร็จสิ้นสมบูรณ์แล้ว ต่างร่วมขอดุอาร์ให้เกิดสันติสุขในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้วันนี้ ( 16 มกราคม 2566 ) เวลา 03:30 น. ตามเวลาในประเทศซาอุดีอาระเบีย คณะผู้เดินทางไปประกอบพิธีอุมเราะห์ ตามกิจกรรมส่งเสริมคนดีมีคุณธรรมในจังหวัดชายแดนภาคใต้ไปประกอบพิธีอุมเราะห์ ประจําปีงบประมาณ 2565 (ฮิจเราะห์ศักราช 1444) ของศูนย์อํานวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ หรือ ศอ.บต จํานวน 120 คน ได้เข้าประกอบพิธีอุมเราะห์ ซึ่งจะประกอบด้วยกิจกรรม พิธีตอวาฟ (การเวียนรอบกะบะห์เจ็ดครั้ง โดยเริ่มต้นที่มุมหินดํา ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ โดยให้ไหล่ซ้ายอยู่ด้านหินดํา ต่อจากนั้นก็เดินรอบกะบะห์ด้วยความเร็วปกติจนครบ 7 รอบ) การแสะแอ (การเดินระหว่างเนินเขาซอฟา กับ เนินเขามัรวะห์ 7 เที่ยว โดยให้เริ่มจากเนินเขาซอฟา ไปถึงเชิงเนินเขา มัรวะห์นับเป็น 1 เที่ยว แล้วเริ่มนับเที่ยวที่ 2 เดินจากเนินเขามัรวะห์ ถึง เนินเขาซอฟา นับต่อๆไปจนครบ 7 เที่ยว) แล้วจบด้วยการตะห์โลน (การตัดเส้นผม สําหรับฮุจญาจชายจะดีที่สุด คือการโกนศีรษะ สําหรับฮุจญาจสตรีนั้น ส่งเสริมให้ตัดเส้นผม)โดยการเข้าไปประกอบพิธีอุมเราะห์ ในมัสยิดฮารอมนั้น ผู้เข้าร่วมโครงการฯ ต่างตื่นเต้น ซาบซึ้งใจ และตั้งจิตที่จะประกอบพิธีให้สมบูรณ์ที่สุด พร้อมขอดุอาร์ตามที่แต่ละคนหวังไว้ ให้ครบถ้วน โดย 1 ในคําขอ ทุกคนต่างพร้อมใจขอให้พื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ มีแต่ความสงบสุขและสันติสุข อยู่ด้วยความรัก ซึ่งการเข้าไปประกอบพิธีครั้งนี้ ถือว่าฮุจญาตทุกท่านแข็งแรงอย่างมาก ประกอบพิธีได้อย่างสมบูรณ์ ถึงแม้จะมีผู้สูงอายุอยู่บ้าง แต่ด้วยความตั้งใจของทุกคนที่มีความมุ่งมั่น จึงสามารถทําได้สําเร็จสมความตั้งใจ ถือเป็นการทําอีบาดะฮ์ที่ประเสริฐที่สุดนาวาเอก จักรพงษ์ อภิมหาธรรม ผู้อํานวยการกองส่งเสริมและสนับสนุนงานพัฒนาฝ่ายพลเรือน หัวหน้าคณะ กล่าวว่า ผู้เข้าร่วมโครงการ ผ่านบททดสอบที่หนักพอสมควร เพราะเป็นศาสนกิจที่ต้องใช้กําลังร่างกาย แต่ด้วยความเชื่อมั่นและพลังศรัทธาทําให้ทุกคนประกอบพิธีอุมเราะห์ ได้อย่างสมบูรณ์ ผ่านไปได้อย่างราบรื่น ทั้งนี้หลายคนที่ได้เห็นบัยตุลเลาะห์ครั้งแรกถึงกับร้องไห้ เพราะเป็นสิ่งที่พี่น้องมุสลิมปรารถนาอยากไปสักครั้งในชีวิต ขอขอบคุณทางรัฐบาลที่สร้างโอกาสเหล่านี้ ให้กับพี่น้องมุสลิมในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
16/1/2023
ภาคใต้
ยะลา
สทท.ยะลา
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230116201448697
null
ทำบุญตักบาตร งานวันราชประชาสมัย ประจำปี 2566 บ้านคำน้อย ตำบลโนนหนามแท่ง อำเภอเมืองอำนาจเจริญ จังหวัดอำนาจเจริญ
วันจันทร์ที่16 มกราคม 2566 เวลา 06.35 น. นาย ธนูศักดิ์ เสมอภาค นายอําเภอเมืองอํานาจเจริญ ประธานในพิธีงานวันราชประชาสมัย ประจําปี 2566 ณ อาครอเนกประสงค์ บ้านคําน้อย หมู่ที่ 13-14 ตําบลโนนหนามแท่ง อําเภอเมืองอํานาจเจริญนายสมควร ในทอง กํานันตําบลโนนหนามแท่ง นายเทียม สุพรรณ นายกองค์การบริหารส่วนตําบลโนนหนามแท่ง นําผู้บริหาร ผู้ใหญ่บ้าน พนักงานส่วนตําบล ประชาชน ร่วมทําบุญตักบาตร เนื่องในปีใหม่ 2566 และวันราชประชาสมัย ประจําปี 2566 ณ บริเวณอาคารเอนกประสงค์ ถนนสายกลางหมู่บ้านคําน้อย ตําบลโนนหนามแท่ง อําเภอเมืองอํานาจเจริญ จังหวัดอํานาจเจริญ เพื่อเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต น้อมรําลึกถึงวันสําคัญ เพื่อสร้างความรัก ความสามัคคีให้กับชุมชน มีการจัดนิทรรศการ และมอบของที่ระทึกให้กับผู้เข้าร่วมทํากิจกรรม#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
16/1/2023
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
อำนาจเจริญ
สวท.อำนาจเจริญ
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230116232755730
null
สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดบึงกาฬ ร่วมประชุมคณะกรรมการพิจารณาการขออนุญาตสร้างวัด อำเภอปากคาด จังหวัดบึงกาฬ
นางภัทรานิษฐ์ จริยาโสวรรณ ผู้อํานวยการสํานักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดบึงกาฬ พร้อมด้วย นางสาวสายแก้ว ศรีนาดวง และนางสาวปฏิญญา สิงห์สุนีย์ นักวิชาการศาสนาปฏิบัติการ ร่วมประชุมคณะกรรมการพิจารณาการขออนุญาตสร้างวัด ณ ที่พักสงฆ์โนนบุญมีวนาราม โดยมี พระครูโอภาสพัฒนานุกุล เจ้าคณะอําเภอปากคาด ที่ปรึกษาประธาน มีคณะกรรมการหมู่บ้าน หน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง ชาวบ้านร่วมรับฟังผลการพิจารณา คณะกรรมการพิจารณาการขออนุญาตสร้างวัด มีมติที่ประชุมเห็นชอบในการสร้างวัด ณ ที่พักสงฆ์โนนบุญมีวนาราม บ้านโนนบุญมี ตําบลสมสนุก อําเภอปากคาด จังหวัดบึงกาฬ#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
16/1/2023
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
บึงกาฬ
สวท.บึงกาฬ
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230117011823739
null
งานมหกรรมวัฒนธรรมแห่งชาติ วิถีถิ่น วิถีไทย “อารยธรรมแห่งสายน้ำ วัฒนธรรมจีนไทย สานสายใยชาติพันธุ์”
วธ. เปิดงานยิ่งใหญ่ “อารยธรรมแห่งสายน้ํา วัฒนธรรมจีนไทย สานสายใยชาติพันธุ์” 16- 20 ม.ค.นี้ ชวนสัมผัสวัฒนธรรมไทยจีน ในดินแดนภาคเหนือ เดินตลาดวัฒนธรรม ช้อปสินค้า CPOT ชิมอาหารพื้นถิ่นจาก 17 จังหวัดภาคเหนือ ชมการแสดงศิลปวัฒนธรรม ยกระดับเทศกาลประเพณีสู่ระดับนานาชาติ สร้างรายได้ สร้างอาชีพ กระตุ้นเศรษฐกิจอย่างยั่งยืนคืนวันที่ 16 มกราคม 2566 นายอิทธิพล คุณปลื้ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เป็นประธานเปิดงานมหกรรมวัฒนธรรมแห่งชาติ วิถีถิ่น วิถีไทย “อารยธรรมแห่งสายน้ํา วัฒนธรรมจีนไทย สานสายใยชาติพันธุ์” ณ จังหวัดนครสวรรค์ โดยมีนางยุพา ทวีวัฒนะกิจบวร ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม นายชยันต์ ศิริมาศ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครสวรรค์ ผู้บริหาร วธ. วัฒนธรรมจังหวัด 16 จังหวัดในภาคเหนือ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น สภาวัฒนธรรม ศิลปินพื้นบ้านภาคเหนือ เครือข่ายวัฒนธรรม และนักท่องเที่ยวเข้าร่วม ณ หาดทรายต้นแม่น้ําเจ้าพระยา อําเภอเมือง จังหวัดนครสวรรค์ เริ่มงานด้วยขบวนแห่ที่หลากหลาย อาทิ ขบวนดนตรีพื้นเมือง ขบวนแห่ชาติพันธุ์ ขบวนการแสดงวัฒนธรรมไทย-จีน เช่น สิงโตทอง สิงโตปักกิ่ง เสือไหหนํา รวมถึงขบวนกลองยาวและขบวนแห่เจ้าพ่อ-เจ้าแม่ ปากน้ําโพ เปิดงานด้วยการแสดงสุดอลังการ ชุด “อารยธรรมแห่งสายน้ํา วัฒนธรรมจีนไทย สานสายใยชาติพันธุ์” โดยสถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ การแสดงสิงโตโหงวซก (ห้าชาติพันธุ์) การแสดง “107 ปี มังกรเบิกฟ้า บุปผาเบ่งบาน” การแสดงคณะมังกรทอง เจ้าพ่อ- เจ้าแม่ปากน้ําโพ และการแสดงสิงโตกว๋องสิว “สิงโตเก้าขุนพล” นอกจากนี้กิจกรรมภายในงานยังมีนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว กราบสักการบูชาองค์เจ้าพ่อเจ้าแม่ปากน้ําโพ ชมนิทรรศการแสดงศิลปะ ตลาดวัฒนธรรม ชมสาธิตและจําหน่ายสินค้าผลิตภัณฑ์ทางวัฒนธรรม (CPOT) อาหารพื้นถิ่น 17 จังหวัดภาคเหนือ การแสดงทางศิลปวัฒนธรรม โดยศิลปินพื้นบ้านจาก 17 จังหวัดภาคเหนือ สมาคมศิลปินขับซอล้านนา และสมาคมกลองและศิลปะการแสดงล้านนา กิจกรรมเสวนาทางวิชาการ โดยกรมศิลปากร การไหว้เจ้าขอพร การแก้ชง และไหว้เสริมดวง ตลอดจน กิจกรรมอีกมากมายให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสถึงอารยธรรมวัฒนธรรมไทยจีนตลอดช่วงการจัดงานรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวอีกว่า กระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) จัดงานมหกรรมวัฒนธรรมแห่งชาติ “วิถีถิ่น วิถีไทย” ประจําปีงบประมาณ 2566 ขึ้น ในพื้นที่ 4 ภูมิภาค โดยครั้งนี้นับเป็นการจัดงานครั้งที่ 2 จัดขึ้นในพื้นที่ภาคเหนือ ภายใต้ชื่องาน “อารยธรรมแห่งสายน้ํา วัฒนธรรมจีนไทย สานสายใยชาติพันธุ์” ระหว่างวันที่ 16-20 มกราคม 2566 ณ บริเวณหาดทรายต้นแม่น้ําเจ้าพระยา และอาคารพาสาน อําเภอเมือง จังหวัดนครสวรรค์ ตามนโยบายส่งเสริมการสร้างความเข้มแข็งให้แก่ระบบเศรษฐกิจฐานราก ในระดับชุมชนและท้องถิ่น สนับสนุนนโยบายโมเดลเศรษฐกิจใหม่ BCG ของรัฐบาล รวมทั้งผลักดัน “Soft Power” เพื่อส่งเสริมความเป็นไทยและอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ นอกจากนี้การจัดงานครั้งนี้มีความพิเศษคือมีการบูรณาการร่วมกันกับงานประเพณีแห่เจ้าพ่อ-เจ้าแม่ ปากน้ําโพ ประจําปี 2565-2566 ระหว่างวันที่ 15-26 มกราคม 2566 เพื่อนําทุนทางวัฒนธรรมที่มีอยู่ในท้องถิ่นมาพัฒนาต่อยอดให้เกิดคุณค่าและมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจ สร้างงาน สร้างอาชีพ สร้างรายได้ให้กับศิลปิน เครือข่ายทางวัฒนธรรม ผู้ประกอบการสินค้าและบริการทางวัฒนธรรม ตลอดจนเป็นการเผยแพร่ศิลปะและวัฒนธรรมของชาติและท้องถิ่น ให้เป็นที่รับรู้อย่างกว้างขวาง เสริมฐานรากทางวัฒนธรรมให้เกิดความเข้มแข็ง ยกระดับการจัดงานในระดับท้องถิ่นให้เป็นงานระดับชาติ ตลอดจนยกระดับงานประเพณี แห่เจ้าพ่อ - เจ้าแม่ ปากน้ําโพ จังหวัดนครสวรรค์ ให้เป็นศูนย์กลางการจัดงานเทศกาลตรุษจีนของชาวจีน ในประเทศไทย ที่เลื่องลือ สร้างชื่อเสียงระดับโลกกว่า 107 ปี สร้างรายได้ กระตุ้นเศรษฐกิจท่องเที่ยวให้กับจังหวัดนครสวรรค์อย่างยั่งยืนทั้งนี้ งานมหกรรมวัฒนธรรมแห่งชาติฯ ครั้งต่อไป จะจัดขึ้นที่ภาคกลางและภาคตะวันออก “ดนตรีสานศิลป์ สองถิ่นวัฒนธรรม” วันที่ 9 - 13 มิถุนายน 2566 ณ บริเวณวัดป่าเลไลยก์วรวิหาร อําเภอเมือง จังหวัดสุพรรณบุรี และปิดท้ายที่ภาคใต้ “สานศิลป์ แดนดินใต้ เทิดไท้องค์ราชัน” วันที่ 26-30 กรกฎาคม 2566 ณ บริเวณสนามหน้าศาลากลางจังหวัดสุราษฎร์ธานี#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILANDสํานักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนครสวรรค์
17/1/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
นครสวรรค์
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนครสวรรค์
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230117092506757
null
จังหวัดตรัง เตรียมการป้องกันและเฝ้าระวังการเกิดอัคคีภัย ตลอดจนการเกิดอุบัติเหตุจากการจราจรที่อาจเกิดขึ้นในช่วงเทศกาลตรุษจีน
วันนี้ (17 มกราคม 2566) นายเถลิงศักดิ์ ภูวญาณพงษ์ หัวหน้าสํานักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดตรัง เปิดเผยว่า ตามธรรมเนียมและประเพณีปฏิบัติของคนไทยเชื้อสายจีนในช่วงตรุษจีน จะมีการประกอบพิธีเซ่นไหว้บรรพบุรุษ และทําความสะอาดบ้านเรือนของตน เพื่อความเป็นสิริมงคลและความเจริญรุ่งเรืองในชีวิต ซึ่งในเทศกาลตรุษจีนพบว่าเป็นอีกช่วงหนึ่งที่มีสถิติการเกิดอุบัติภัยสูงกว่าปกติ ทั้งเพลิงไหม้ อุบัติภัยจากประทัด รวมถึงอุบัติเหตุจราจรดังนั้น ขอให้ประชาชนเพิ่มความระมัดระวังในการจุดธูปเทียนบูชา การเผากระดาษเงิน กระดาษทอง ของเซ่นไหว้ รวมถึงการจุดประทัด และระมัดระวังในการใช้ก๊าซหุงต้ม เพื่อป้องกันการเกิดอัคคีภัย ทั้งนี้ ไม่ควรจุดธูปเทียนจํานวนมากในครั้งเดียวเพราะอาจทําให้ไฟลามได้ง่าย และควรจุดธูปเทียนในภาชนะทนไฟ ดูแลดับธูปเทียน กระดาษเงิน กระดาษทองให้สนิทก่อนออกจากบ้าน ควรประกอบพิธีในพื้นที่โล่งแจ้ง และห่างจากแหล่งเชื้อเพลิง ตลอดจน ขอให้ตรวจสอบระบบสายไฟฟ้าในบ้านพักอาศัยไม่ให้เสื่อมสภาพจนอาจเป็นอันตรายและเป็นเหตุให้เกิดอัคคีภัยได้ อย่างไรก็ตาม จังหวัดตรัง ได้เตรียมการป้องกันและเฝ้าระวังการเกิดอัคคีภัย ตลอดจนการเกิดอุบัติเหตุจากการจราจรที่อาจเกิดขึ้นในช่วงเวลาดังกล่าว พร้อมแจ้งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทุกแห่ง ได้สํารวจตรวจสอบและปรับปรุงข้อมูลสถานประกอบการ สถานบริการ พื้นที่ในชุมชนที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดอัคคีภัย และซักซ้อมการปฏิบัติงานให้เกิดความชัดเจน รวมทั้งเตรียมความพร้อมด้านบุคลากร อุปกรณ์ เครื่องมือเครื่องใช้ในการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย โดยให้จัดเจ้าหน้าที่และวางระบบสื่อสารให้พร้อมตลอด 24 ชั่วโมง#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
17/1/2023
ภาคใต้
ตรัง
สวท.ตรัง
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230117131147864
null
เจ้าหน้าที่กองช่างเทศบาลเมืองเบตง เร่งติดตั้งโคมไฟตรุษจีนประดับตกแต่งตามถนนสายต่างๆ ภายในย่านการค้า และสถานที่ท่องเที่ยวทั่วเมือง กว่า 1,800 ชุด เพื่อสร้างสีสันรองรับนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติ ในช่วงเทศกาลตรุษจีน เจ้าหน้าที่หน่วยความมั่นคงในพื้นที่พร้อมดูแลความสงบเรียบร้อยในช่วงดังกล่าว
วันนี้ (17 ม.ค.66) บรรยากาศการท่องเที่ยวที่ อ.เบตง จ.ยะลา เริ่มคึกคักรับเทศกาลตรุษจีนที่กําลังจะมาถึง โดย นายธงชัย เทพรอด ปลัดเทศบาลเมืองเบตง รักษาราชการแทน นายกเทศมนตรีเมืองเบตง ได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่กองช่างเทศบาลเมืองเบตง ดําเนินการติดตั้งประดับโคมไฟตรุษจีน บริเวณหอนาฬิกา ใจกลางเมืองเบตงและบริเวณบันไดทางขึ้นพิพิธภัณฑ์เมืองเบตง จนถึงบริเวณประติมากรรม “111 ปีร้อยรวมใจเมืองเบตง ให้เป็นซุ้มโคมไฟจีน โดยเจ้าหน้าที่เทศบาลเมืองเบตง ได้นําโคมไฟตรุษจีนมาติดตั้ง และประดับตกแต่งตามถนนสายต่างๆ ในย่านการท่องเที่ยวของ อ.เบตง กว่า 1,800 ชุด เพื่อสร้างสีสัน พร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย มาเลเซีย และสิงคโปร์ ที่จะเดินทางเข้ามาท่องเที่ยว อ.เบตง ในช่วงเทศกาลตรุษจีน คาดว่าจะคึกคักกว่าทุกปีที่ผ่านมาหลังการระบาดโควิด-19 คลี่คลายลง และมีการเดินทางข้ามพรมแดนได้ตามปกติ ขณะที่ตามอาคารบ้านเรือน โรงแรม ต่างออกมาทําความสะอาด ประดับตบแต่งโคมไฟ เพื่อต้อนรับเทศกาลตรุษจีนที่ใกล้จะมาถึงนี้ โดยคาดว่าจะคึกคักกว่าทุกปีที่ผ่านมาหลังการระบาดโควิด-19 คลี่คลายพ.ต.อ.เอกชัย? พราหมณกุล ผกก.สภ.เบตง กล่าวถึงมาตรการรักษาความปลอดภัย ในช่วงเทศกาลตรุษจีนว่า เจ้าหน้าที่หน่วยความมั่นคงในพื้นที่ได้เตรียมความพร้อมดูแลความสงบเรียบร้อย พร้อมอํานวยความสะดวกรองรับนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และต่างชาติที่จะเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในช่วงดังกล่าวใว้แล้ว โดยได้เน้นการบูรณาทุกร่วมตั้งจุดตรวจจุดสกัดเพื่อป้องกัน ทั้งปัญหาอาชญากรรม ความมั่นคง และพร้อมดูแลอํานวยความสะดวกให้แก่นักท่องเที่ยวที่จะเดินทางเข้ามาในเมืองเบตง ซึ่งเป็นย่านเศรษฐกิจ จะมีนักท่องเที่ยวจากมาเลเซีย สิงคโปร์ เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวเป็นจํานวนมาก เพื่อมาพบญาติ พี่น้อง ที่อยู่ในอําเภอเบตง #สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
17/1/2023
ภาคใต้
ยะลา
สวท.เบตง จ.ยะลา
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230117142623895
null
ชาวอำเภอเบตง จังหวัดยะลา ร่วมภาคภูมิใจกับชุมชนบ้านบ่อน้ำร้อน หลังได้รับการคัดเลือกจากกระทรวงวัฒนธรรม ให้เป็น 1 ใน 10 สุดยอดชุมชนต้นแบบ “เที่ยวชุมชน ยลวิถี” ประจำปี 2565
วันนี้ (17 ม.ค.66) ตามที่รัฐบาลได้กําหนดยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี มุ่ง “ประเทศไทยมีความมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน เป็นประเทศพัฒนาแล้ว ด้วยการพัฒนาตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง” พร้อมกับขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศไทย ด้วยโมเดลเศรษฐกิจใหม่ BCG พลิกโฉมประเทศไทยให้สามารถสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจได้อย่างเต็มศักยภาพ กระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) จึงดําเนินโครงการคัดเลือก 10 สุดยอดชุมชนต้นแบบ “เที่ยวชุมชน ยลวิถี” ประจําปี 2565 ซึ่งปีนี้ดําเนินการจัดโครงการดังกล่าวเป็นปีที่ 2 แล้ว เพื่อคัดเลือกชุมชนคุณธรรมน้อมนําหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ขับเคลื่อนด้วยพลังบวร ที่มีศักยภาพและความพร้อมด้านการท่องเที่ยว จากชุมชนคุณธรรมฯ ทั่วประเทศ จํานวน 228 ชุมชน คัดเลือกให้เหลือเพียง 10 ชุมชนเท่านั้น ที่มีศักยภาพและความพร้อมด้านการท่องเที่ยวในทุกมิติ และมีผลการดําเนินงานดีเด่นเป็นที่ประจักษ์ ด้าน นายศรัลวิชย์ นวลเจริญ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 2 บ้านบ่อน้ําร้อน กล่าวว่า ตนและชาวบ้านบ่อน้ําร้อน รู้สึกดีใจมาก ที่ชุมชนบ้านบ่อน้ําร้อนของพวกเรา ได้รับการคัดเลือกจากกระทรวงวัฒนธรรม ให้เป็น 1 ใน 10 สุดยอดชุมชนต้นแบบ “เที่ยวชุมชน ยลวิถี” ประจําปี 2565 ถือเป็นความภาคภูมิใจของชาวจังหวัดยะลา และชาวอําเภอเบตง จะทําให้ชุมชนของเราเป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้น ทางกระทรวงวัฒนธรรมเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ ให้เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวาง เป็นการปลุกกระแสการท่องเที่ยววิถีชุมชน ทําให้มีนักท่องเที่ยวเข้ามาท่องเที่ยวในชุมชนเพิ่มขึ้น พร้อมทั้งจับจ่ายซื้อผลิตภัณฑ์ ที่หลากหลายของชุมชน พร้อมมีที่พักบริการรองรับนักท่องเที่ยว สร้างอาชีพ สร้างรายได้ให้แก่คนในชุมชน ซึ่งจะเป็นแรงขับเคลื่อนที่สําคัญในการพัฒนาประเทศ และร่วมพลิกโฉมประเทศไทยสู่สังคมก้าวหน้า เศรษฐกิจสร้างมูลค่าอย่างยั่งยืนต่อไป สําหรับ 10 สุดยอดชุมชนต้นแบบ “เที่ยวชุมชน ยลวิถี” ปี 2565 ได้แก่ 1.ชุมชนคุณธรรมฯ แหลมสัก ต.แหลมสัก อ.อ่าวลึก จ.กระบี่ 2.ชุมชนคุณธรรมฯ บ้านเมืองรวง ต.แม่กรณ์ อ.เมืองเชียงราย จ.เชียงราย 3.ชุมชนคุณธรรมฯ วัดทรายขาว ต.ทรายขาว อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี 4.ชุมชนคุณธรรมฯ ย่านเมืองเก่าภูเก็ต ต.ตลาดใหญ่ อ.เมืองภูเก็ต จ.ภูเก็ต 5.ชุมชนคุณธรรมฯ บ้านภู ต.บ้านเป้า อ.หนองสูง จ.มุกดาหาร 6.ชุมชนคุณธรรมฯ บ้านบ่อน้ําร้อน ต.ตาเนาะแมเราะ อ.เบตง จ.ยะลา 7.ชุมชนคุณธรรมฯ วัดบางน้ําผึ้งใน ต.บางน้ําผึ้ง อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ 8.ชุมชนคุณธรรมฯ บ้านหนองบัว ต.กระโพ อ.ท่าตูม จ.สุรินทร์ 9.ชุมชนคุณธรรมฯ บ้านถ้ํากลองเพล ต.โนนทัน อ.เมืองหนองบัวลําภู จ.หนองบัวลําภู 10.ชุมชนคุณธรรมฯ บ้านเชียง ต.บ้านเชียง อ.หนองหาน จ.อุดรธานี#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
17/1/2023
ภาคใต้
ยะลา
สวท.เบตง จ.ยะลา
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230117174157006
null
อำเภอพยุห์ขับเคลื่อนอำเภอต้นแบบ “อำเภอศีล 5 ตามรอยพ่ออย่างพอเพียง”
ที่วัดพยุห์มงคลรัตนาราม ตําบลพยุห์ อําเภอพยุห์ จังหวัดศรีวสะเกษ พระอธิการสมภพ ตะกะสีโล เจ้าอาวาสวัดพยุห์มงคลรัตนาราม และนายทิวา รุ้งแก้ว นายกพุทธสมาคมจังหวัดศรีสะเกษ เป็นประธานขับเคลื่อนอําเภอต้นแบบ อําเภอศีล 5 ตามรอยพ่ออย่างพอเพียง โดยมีนายพันชาย สีคราม ครูผู้ทรงคุณค่าของสังคม นายวุฒิเดช ทองพูน อดีตสมาชิกสภาจังหวัดศรีสะเกษ เขตอําเภอวังหิน นางเนตรนภา สาระวรรณ ผู้อํานวยการโรงเรียนพยุห์วิทยา นายไพรวัลย์ จิรังดา ผู้ใหญ่บ้านพยุห์ หมู่ที่ 1 ตําบลพยุห์ พร้อมด้วย ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน สมาชิกสภาตําบลพยุห์ นําพุทธศาสนิกชนชาวบ้านพยุห์ คณะครูนักเรียนจากโรงเรียนอนุบาลพยุห์และโรงเรียนพยุห์วิทยา ร่วมทําบุญตักบาตรข้าวสารอาหารแห้ง ตามโครงการอําเภอต้นแบบ อําเภอศีล 5 ตามรอยพ่ออย่างพอเพียง และในวันนี้อําเภอพยุห์ได้พร้อมกันทําบุญตักบาตรข้าวสารอาหารแห้ง ทั้ง 5 ตําบล ประกอบด้วยตําบลพยุห์ ที่วัดพยุห์มงคลรัตนาราม ตําบลพรหมสว้สดิ์ ที่วัดบ้านเปือย ตําบลโนนเพ็ก ที่วัดศรีกรุง ตําบลตําแย ที่วัดบ้านตําแย และตําบลหนองค้า ที่วัดป่าบ้านหนองค้า จึงขอเชิญชวนพุทธศาสนิกชนชาวอําเภอพยุห์ ได้ร่วมขับเคลื่อนอําเภอต้นแบบ“อําเภอศีล5 ตามรอยพ่ออย่างพอเพียง” ร่วมทําบุญตักบาตรข้าวสารอาหารแห้ง ครั้งต่อไปในเดือนกุมภาพันธ์ 2566 นี้ด้วยนางวาสนา กัณหาสุข ผู้อํานวยการโรงเรียนอนุบาลพยุห์ กล่าวว่า อําเภอพยุห์ โดยการนําของพระครูจันทสารพิมล เจ้าคณะอําเภอพยุห์ และนายปวิช รัตวาลย์. นายอําเภอพยุห์ ได้นําพุทธศาสนิกชน กํานัน ผู้ใหญ่บ้าน นายกเทศมนตรีตําบลพยุห์ นายกองค์การบริหาร ส่วนตําบล สมาชิกสภาเทศบาล สมาชิกองค์การบริหารส่วนตําบล คณะครูนักเรียน ในเขตอําเภอพยุห์ ขับเคลื่อนโครงการอําเภอต้นแบบ อําเภอศีล 5 ตามรอยพ่ออย่างพอเพียง โดยทุกวันอังคารทุกตําบลของอําเภอพยุห์จะร่วมทําบุญตักบาตรข้าวสารอาหารแห้งทุกตําบล ผู้อํานวยการโรงเรียนอนุบาลพยุห์ กล่าวต่อไปว่า อําเภอศีล 5 ตามรอยพ่ออย่างพอเพียง มีลักษณะเด่น คือประชาชนที่นับถือศาสนาพุทธต้องเป็นสมาชิกหมู่บ้านรักษาศีล 5 ครบทุกคน, ชุมชน หรือองค์กรในอําเภอพยุห์มีการบริหารจัดการแบบ "บวร" บ้าน/ วัด/ โรงเรียน (ราชการ) มีการทําบุญตักบาตรข้าวสารอาหารแห้งอย่างน้อยเดือนละ 1 ครั้ง (ข้าวสารอาหารแห้งที่ได้จะแบ่งออกเป็น 3 ส่วน คือ ถวายพระคุณเจ้า ให้ อสม.นําไปมอบให้กับผู้ป่วยติดเตียงและผู้สูงอายุที่มีอายุตั้งแต่ 80 ปีขึ้นไป และมอบให้เป็นอาหารกลางวันสําหรับนักเรียนและศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก ลดละเลิกอบายมุข ในวันพระ พร้อมทั้งน้อมนําปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงสู่การปฏิบัติ ตามวิสัยทัศน์ที่ว่า สวนครัวรั้วกินได้ กล้วย 1 หน่อ ไผ่ 1 กอ มะละกอ 1 ต้น#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
17/1/2023
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ศรีสะเกษ
สวท.ศรีสะเกษ
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230117184129034
null
ผู้ว่าฯ ร้อยเอ็ด ลงพื้นที่เยี่ยมบ้านคุณยายสุมิตรา ทองเภ้า (คุณยายดำ) "ครู" ด้านการทอผ้ายกดอกลายโบราณ ของจังหวัดร้อยเอ็ด
วันที่ 17 มกราคม 2566 เวลา 10.30 น. นายทรงพล ใจกริ่ม ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด ลงพื้นที่เยี่ยมชมให้กําลังใจ คุณยายสุมิตรา ทองเภ้า (คุณยายดํา) และสมาชิกกลุ่มทอผ้ายกดอกลายโบราณ จังหวัดร้อยเอ็ด ที่บ้านเลขที่ 23 ถนนคุ้มศรีสุวรรณ ตําบลในเมือง อําเภอเมืองร้อยเอ็ด จังหวัดร้อยเอ็ด โดยมี นายพิศ นันทพูนพิพัฒน์ พัฒนาการจังหวัดร้อยเอ็ด นางสาววิภาดา รัตนโรจนา ประชาสัมพันธ์จังหวัดร้อยเอ็ด และเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้อง ร่วมเยี่ยมชมและให้กําลังใจคุณยายสุมิตรา ทองเภ้า (คุณยายดํา) เป็นลูกศิษย์เอก ของคุณยายพยอม สีนะพัฒน์ ศิลปินแห่งชาติ สาขาทัศนศิลป์ (ศิลปะงานผ้า)คุณยายดําถือเป็น "ครู" ช่างทอผ้ายกดอกลายโบราณจังหวัดร้อยเอ็ด โดยได้รับการยกย่องเชิดชูเกียรติจากสภามหาวิทยาลัยราชภัฎร้อยเอ็ด อนุมัติให้ได้รับปริญญาศิลปศาสตรมหาบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาวิชา การพัฒนาชุมชน (ช่างทอผ้ายกดอกลายโบราณจังหวัดร้อยเอ็ด) อีกทั้งยังเป็นบุคคลต้นแบบ ของการพัฒนาเชิงสร้างสรรค์ คือ การปรับ ประดิษฐ์ คิดค้น ลวดลายผ้าไหม จากแบบแผนปฏิบัติงานศิลป์ ลวดลายผ้าไหมแบบดั้งเดิม ถูกสร้างสรรค์เป็นผ้าไหมที่มีกลิ่นอายของประวัติศาสตร์ โดยได้นําลายหมี่ขอพระราชทานมาทอร่วมกับลายโบราณ ลายเทพพนม ลายพุ่มข้าวบิณฑ์ ผ่านการทอด้วยเทคนิคการยกดอกดิ้นทองโบราณของจังหวัดร้อยเอ็ด จนเกิดเป็นลวดลายที่สวยงาม ประณีต เป็นเอกลักษณ์ นายทรงพล ใจกริ่ม ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด เปิดเผยว่า คุณยายสุมิตรา ทองเภ้า (คุณยายดํา) ถือเป็น "ครู" ด้านการทอผ้ายกดอกลายโบราณที่ทรงคุณค่าของจังหวัดร้อยเอ็ด การผักทอผ้ายกดอกลายโบราณทุกผืนถูกสร้างสรรค์เป็นผ้าไหมที่มีกลิ่นอายของประวัติศาสตร์ ซึ่งมีความวิจิตรงดงาม โดยใช้ภูมิปัญญาดังเดิมด้านงานหัตถศิลป์ ต่อยอดให้เกิดลวดลาย ควรค่าแก่การอนุรักษ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการทอผ้ายกดอกลายโบราณ "ลายเทพพนม" ซึ่งเป็นการทอผ้ายกดอกด้วยดิ้นทอง เส้นยืนและเส้นพุ่งเป็นไหม ย้อมด้วยสีธรรมชาติ ใช้เวลาในการทอกว่า 3 เดือน มีกลิ่นอายของประวัติศาสตร์ ผืนผ้า ซึ่งมีความวิจิตรงดงามน่าพิสมัยยิ่ง โดยการใช้ภูมิปัญญาดั้งเดิมด้านงานหัตถศิลป์ ควรค่าแก่การอนุรักษ์มรดกความงดงาม สืบสาน อนุรักษ์ศิลป์ผ้าถิ่นไทย ดํารงไว้ในแผ่นดิน สืบไปทั้งนี้ ในวันที่ 29 มกราคม 2566 ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด พร้อมด้วยพัฒนาการจังหวัดร้อยเอ็ด จะได้นําคุณยายสุมิตรา ทองเภ้า และสมาชิกกลุ่มทอผ้ายกดอกลายโบราณ จังหวัดร้อยเอ็ด เข้าร่วมโครงการพัฒนาศักยภาพผู้ผลิต ผู้ประกอบการประเภทผ้าและหัตถกรรม พร้อมทั้งร่วมนิทรรศการและการจัดงานแสดงผลิตภัณฑ์ผ้าไทยและงานหัตถกรรมชุมชนภาคอีสาน ณ หอประชุมมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน วิทยาเขตสุรินทร์ ตําบลนอกเมือง อําเภอเมืองสุรินทร์ จังหวัดสุรินทร์ และนับเป็นพระมหากรุณาธิคุณที่จะได้มีโอกาสเข้าเฝ้าฯ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา เพื่อกราบทูลรายงาน ส่งการบ้านผลิตภัณฑ์ที่พัฒนาตามพระวินิจฉัย ซึ่งเมื่อคราวที่พระองค์ทรงเสด็จทอดพระเนตรผลิตภัณฑ์ผ้าและงานหัตถกรรมชุมชนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ที่จังหวัดมหาสารคาม เมื่อวันที่ 29 มกราคม 2565 พระองค์ทรงได้ชี้ให้เห็นถึงรายละเอียดงานแต่ละชิ้น พร้อมมีพระวินิจฉัย พระราชทานคําแนะนํา พร้อมกับโปรดให้ผู้เชี่ยวชาญด้านผ้าและแฟชั่นมาให้คําแนะนําแก่คุณยายสุมิตรา ทองเภ้า และสมาชิกกลุ่มทอผ้ายกดอกลายโบราณ จังหวัดร้อยเอ็ด เพื่อยกระดับการพัฒนาผลิตภัณฑ์ของให้ทันสมัยและเป็นสากลมากขึ้น#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILANDสวท.ร้อยเอ็ด
17/1/2023
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ร้อยเอ็ด
สวท.ร้อยเอ็ด
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230117233242120
null
เกษตรจังหวัดเพชรบุรี อนุรักษ์สืบสานภูมิปัญญาเกลือทะเล “ทำขวัญเกลือ” สร้างขวัญกำลังใจให้เกษตรกรชาวนาเกลือ
นางสาวสุจิรา กิจเจริญ หัวหน้ากลุ่มส่งเสริมและพัฒนาการผลิต รักษาราชการแทนเกษตรจังหวัดเพชรบุรี กล่าวว่า สํานักงานเกษตรจังหวัดเพชรบุรี จัดงานอนุรักษ์และสืบสานภูมิปัญญาด้านเกลือทะเล “ประเพณีการทําขวัญเกลือ” เพื่อเป็นขวัญและกําลังใจให้แก่เกษตรกรชาวนาเกลือ และรักษาคุณค่าทางประวัติศาสตร์ วัฒนธรรมการทํานาเกลือของประเทศไทย กระตุ้นและพัฒนากระบวนการผลิตเกลือทะเลไทยให้ได้มาตรฐาน เปิดโอกาสให้เกษตรกรได้เรียนรู้เทคโนโลยีใหม่ๆ ช่องทางการตลาด แหล่งข้อมูล และเทคโนโลยีที่เหมาะสม งานจัดขึ้นในพรุ่งนี้ (18 มกราคม 2566) ณ บริเวณแปลงนาเกลือของนาคคทาวุธ บุญมา เกษตรกรผู้ทํานาเกลือทะเล หมู่ 1 ตําบลแหลมผักเบี้ย อําเภอบ้านแหลม จังหวัดเพชรบุรี โดยมี นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ประธานคณะกรรมการพัฒนาเกลือทะเลไทย เปิดงาน ร่วมพิธีทําขวัญเกลือ และเยี่ยมชมการจัดนิทรรศการถ่ายทอดความรู้ด้านเกลือทะเล ภายใต้แนวคิด “อาชีพเกษตรกรรมทางเลือกเพื่อเพิ่มมูลค่าและรายได้ทางเศรษฐกิจ” การจําหน่ายสินค้าและอาหารแปรรูปจากเกลือทะเล ขอเชิญรับชมการถ่ายทอดสด (LIVE) งานอนุรักษ์และสืบสานภูมิปัญญาด้านเกลือทะเล "ประเพณีการทําขวัญเกลือ" ณ แปลงนาเกลือของ นายคทาวุธ บุญมา เกษตรกรผู้ทํานาเกลือ สหกรณ์เกษตรเกลือทะเลไทยเพชรบุรี ต.บ้านแหลม อ.บ้านแหลม จ.เพชรบุรี วันพุธที่ 18 มกราคม 2566 ทาง Facebook กรมส่งเสริมการเกษตร ตั้งแต่เวลา 09.00 น. เป็นต้นไป นภสวรรณ มีลิ/สวท.เพชรบุรี#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
17/1/2023
ภาคตะวันตก
เพชรบุรี
สวท.เพชรบุรี
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230117231143111
null
พุทธศาสนิกชน 2 ฝั่งโขง เตรียมร่วมนมัสการองค์พระธาตุพนม 29 ม.ค. - 6 ก.พ. นี้
วันที่ 17 มกราคม 2566 ที่บริเวณลานหน้าวัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร อําเภอธาตุพนม จังหวัดนครพนม พระเทพวนมุนี ที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค 10 เจ้าอาวาสวัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร พร้อมด้วย นายวันชัย จันทร์พร ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม พระครูพนมปรีชากร ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร พลตํารวจตรี ธวัชชัย ถุงเป้า ผู้บังคับการตํารวจภูธรจังหวัดนครพนม นายสรรชัย ธ.น.ตื้อ นายกเทศมนตรีตําบลธาตุพนม และนางสาวกนกวรรณ ดุงศรีแก้ว ผู้อํานวยการสํานักงานการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สํานักงานนครพนม ร่วมกันแถลงข่าวการเตรียมความพร้อมและการจัดงานนมัสการองค์พระธาตุพนม ประจําปี 2566 ที่จะมีขึ้นระหว่างวันที่ 29 มกราคม -6 กุมภาพันธ์ 2566 เพื่อสืบสานงานบุญประเพณีอันศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวจังหวัดนครพนมและพุทธศาสนิกชนถือปฏิบัติสืบทอดต่อกันมาอย่างยาวนาน ในห้วงวันขึ้น 8 ค่ํา เดือน 3 จนถึงวันแรม 1 ค่ํา เดือน 3 ของทุกปี รวม 9 วัน 9 คืน เพื่อเป็นพุทธบูชาถวายแด่ องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าและองค์พระธาตุพนม ซึ่งเป็นศาสนสถานอันศักดิ์สิทธิ์ เป็นที่ประดิษฐานพระอุรังคธาตุกระดูกส่วนหน้าอกของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเอาไว้ โดยในปีนี้จังหวัดนครพนมคาดว่าจะมีพุทธศาสนิกชนเดินทางมากราบไหว้องค์พระธาตุพนมเป็นจํานวนมาก ทั้งจากฝั่งไทย ฝั่ง สปป.ลาว และต่างชาติเนื่องจากในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทําให้การจัดงานอยู่ภายใต้มาตรการสาธารณสุข แต่ในปีนี้สามารถจัดได้เหมือนปกติที่ผ่านมา ดังนั้นจึงได้มีการเตรียมความพร้อมในด้านต่างๆ เพื่อรองรับผู้ที่จะมาร่วมงาน ซึ่งปัจจุบันมีความพร้อมแล้ว โดยในส่วนสถานที่ก็มีการปรับปรุงและประดับตกแต่งในหลาย ๆ ส่วนให้มีความสวยงามเพิ่มมากยิ่งขึ้นกว่าที่เป็นอยู่แล้ว ขณะที่ด้านการอํานวยความสะดวกและความปลอดภัย จะมีการบูรณาการหน่วยงานความมั่นคงและมูลนิธิต่างๆ ในพื้นที่ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันมาดูแลประชาชนตลอด 9 วัน 9 คืน โดยมีระบบกล้องวงจรปิดจํานวน 100 ตัว คอยติดตามสถานการณ์เมื่อมีเหตุเกิดขึ้น ขณะที่ด้านสาธารณสุขก็มีการมอบหมายให้สาธารณสุขจังหวัดนครพนม รับผิดชอบในการวางแผนเพื่อดูแลผู้ป่วยฉุกเฉินที่อาจจะเกิดเหตุภายในงานได้ ส่วนด้านความสะอาดทางเทศบาลตําบลธาตุพนมก็ได้เตรียมกําลังเจ้าหน้าที่และรถไว้เรียบร้อยแล้วพร้อมออกปฏิบัติการเก็บกวาดดูแลสถานที่ให้สะอาด สวยงามและน่ามองตลอดเวลา ในส่วนของศาสนพิธีในวันแรกคือ 29 มกราคม 2566 จะมีพิธีอัญเชิญพระอุปคุตขึ้นจากแม่น้ําโขงไปประดิษฐาน ณ พระวิหารหอพระแก้วในวัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร เพื่อขอพรให้ช่วยปกปักรักษา ป้องกันภัยอันตรายต่างๆ ไม่ให้เกิดขึ้นจนกว่างานจะแล้วเสร็จ โดยมีคณะญาติธรรมจากมหาวิทยาลัยขอนแก่น มหาสารคาม และนครพนม รวมถึงกลุ่มนักแสดง เต๋าภูศิลป์และคณะ มาร่วมขบวนแห่พระอุปคุตที่มีผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนมเป็นประธาน จากนั้นเป็นการถวายข้าวพีชภาค ในภาคบ่ายจะมีพิธีเปิดงานนมัสการองค์พระธาตุพนม โดยพลตํารวจเอก อดุลย์ แสงสิงแก้ว ที่เป็นลูกพระธาตุพนมและข้าโอกาส ส่วนช่วงเย็นจะมีการทําวัตรเย็น การแสดงพระธรรมเทศนา เวียนเทียน นอกจากนี้ยังเปิดโอกาสให้พุทธศาสนิกชนได้ร่วมกันแห่กองบุญถวายองค์พระธาตุพนม ตักบาตรคู่อายุ เสียค่าหัว แห่ผ้าห่มพระธาตุพนม โดยในโอกาสนี้ทางวัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร ยังได้แจ้งว่ามีการจัดสรรพื้นที่ส่วนหนึ่งด้านหลังวัดไว้ให้ญาติธรรมที่มาร่วมงานจอดรถได้ฟรีด้วย#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND ข่าว/ส.ปชส.นครพนม
17/1/2023
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
นครพนม
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนครพนม
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230117232216117
null
จังหวัดตรัง จัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังความปลอดภัยโดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีการจัดงานเฉลิมฉลองเทศกาลตรุษจีนและสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญของจังหวัดตรัง
นายขจรศักดิ์ เจริญโสภา ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง เปิดเผยว่า ช่วงเทศกาลตรุษจีนตามประเพณีของชาวไทยเชื้อสายจีน ระหว่างวันที่ 20-22 มกราคม 2566 มักมีการประกอบอาหาร การจุดธูปเทียนบูชาเทพเจ้าและบรรพบุรุษ การเผากระดาษเงิน กระดาษทอง จุดประทัด ทําให้มีความเสี่ยงต่อการเกิดเพลิงไหม้มากกว่าปกติ ดังนั้น เพื่อความปลอดภัย ขอให้ประชาชนเพิ่มความระมัดระวังในการประกอบกิจกรรมเกี่ยวกับไฟ เพื่อให้การประกอบพิธีกรรมตามประเพณีปฏิบัติเป็นการเริ่มต้นการดําเนินชีวิตที่เป็นสิริมงคลที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความสุขและความปลอดภัย ทั้งนี้ จังหวัดตรัง ได้จัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังสถานที่และกิจกรรมที่เสี่ยงต่อการเกิดอัคคีภัย พร้อมจัดหน่วยเคลื่อนที่เร็วพร้อมอุปกรณ์ดับเพลิง เตรียมพร้อมในพื้นที่เสี่ยง เพื่อเฝ้าระวังเหตุและพร้อมปฏิบัติงานได้ในทันทีที่เกิดภัย นอกจากนี้ ยังได้จัดเจ้าหน้าที่คอยอํานวยความสะดวกด้านการจราจร รักษาความสงบเรียบร้อยและเฝ้าระวังความปลอดภัยโดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีการจัดงานเฉลิมฉลองเทศกาลตรุษจีนและสถานที่ท่องเที่ยวสําคัญของจังหวัดตรังด้วย #สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
18/1/2023
ภาคใต้
ตรัง
สวท.ตรัง
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230118083021128
null
ชาวยะลา เลือกซื้อเสื้อสีแดงรับตรุษจีน “กระต่ายทอง”
เหลืออีก 2 วัน ในวันที่ 20 ม.ค 66 ก็จะเริ่มเข้าสู่เทศกาลตรุษจีน ซึ่งเป็นวันขึ้นปีใหม่ ของชาวจีน ทําให้ร้านขายเสื้อผ้า ย่านการค้าเขตเทศบาลนครยะลา ซึ่งนําเสื้อสีแดง รูปปีกระต่าย เสื้อตัวอักษรจีน อักษรไทย มั่งมีศรีสุข ครอบครัวสุขสันต์ ได้มีบรรดาชาวไทยเชื้อสายจีน ทั้งประชาชนทั่วไป และพ่อ แม่ ผู้ปกครอง ต่างก็ทยอยนําบุตรหลาน ไปเลือกซื้อเสื้อผ้าสีแดง เพื่อความสุข ความเป็นสิริมงคล กันอย่างต่อเนื่อง ซึ่งทางร้าน จะมีให้เลือกหลายแบบหลายลาย ทั้ง เสื้อยืด คอกลม คอวี ของเด็ก ผู้ใหญ่ รวมถึง ชุดกี่เพ้า ชุดเจ้าสัว ของเด็กๆ ให้ประชาชนได้มาเลือกซื้อ เลือกลองสวมใส่ ผู้ปกครอง บอกว่า ตรุษจีนปีนี้ มีวันหยุด 3 วัน เสาร์ อาทิตย์ จันทร์(หยุดชดเชย) จะพาลูกกลับบ้านที่สงขลา ก็เลยมาซื้อชุดให้ลูกใส่ส่วนแม่ไม่เป็นไรขณะที่ ราคาเสื้อยืดคอกลม คอวี ผู้ใหญ่เริ่มต้นที่ 150 บาท สําหรับเด็กเริ่มต้นที่ 130 บาท กี่เพ้าเด็ก เริ่มต้นที่ 99 บาท ไปจนถึง 200 กว่าบาทแล้วแต่เด็กโต เด็กเล็ก ส่วนชุดเจ้าสัวของเด็กผู้ชาย อยู่ที่ 179 บาทคุณฝน ร้านเพื่อนกัน ถนน ณ.นคร บอกว่า ปีนี้เงียบๆ เหงาๆ ไม่เหมือนปีก่อน อาจจะเป็นที่ชนกับวันปีใหม่ วันเด็ก วันตรุษจีนก็เลยเร็ว เงียบไปหน่อย น่าจะ 2 วันสุดท้าย ตอนที่ประชาชนจะมาซื้อผลไม้ ร้านใกล้ๆ น่าจะขายดีช่วงนั้นสําหรับราคาปีนี้ของจีนนําเข้าขึ้นราคาเยอะ กี่เพ้าปีที่แล้วที่เหลืออยู่ ก็จะขายถูกลง 40-50 บาท เสื้อยืด เสื้อโปดลก็เหมือนกัน ซึ่งที่ร้านก็จะมีสต๊อกเก่าที่ไม่ใช่ปีนักษัตร ก็นํามาขาย ขายราคาเดิมได้ น่าจะได้กับตัวนั้น ถ้าเป็นสต๊อกเก่าไม่ปรับ และยังลดราคาอีก อย่างปีที่แล้ว ขาย 199 บาท ปีนี้ลดเหลือ 150 บาท จะมีเฉพาะของใหม่ที่ปรับขึ้น ถ้าขึ้นตัวละ 10 บาท ทางร้านก็ปรับขึ้น 10 บาท ขึ้นมากกว่านั้นขายไม่ได้ สูงเกิน ยิ่งเศรษฐกิจช่วงนี้ ฝนตกตลอด เพิ่งจะมาแล้งในส่วนที่นิยมซื้อปีนี้ก็จะเป็นชุดกี่เพ้าเด็กขายดี เหมือนลูกค้าจะซื้อให้เด็กมากกว่า ของลูกต้องซื้อของแม่ใส่ตัวเก่าได้ ถ้าไม่ใช่ปีนักษัตร และส่วนมากจะขายตัวอักษรจีนมากกว่า กระต่ายก็ได้แค่ปีเดียว พอๆ กัน แต่ไม่เชียร์ สั่งมาไม่เยอะ ต้องขายให้หมด พูดถึงยอดสั่งก็เหมือนเดิม กลัวไม่มีของขาย ก็สั่งมาเยอะเหมือนเดิม แต่ก็กลังเหลือ ไม่รู้จะได้ทุนคืนหรือไม่ สั่งมาเยอะขายทุกแบบพร้อมขายหมด ดูได้จากหน้าร้าน ถ้าขายไม่หมด ก็ต้องเก็บไว้ปีหน้าอีก#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
18/1/2023
ภาคใต้
ยะลา
สทท.ยะลา
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230118084048133
null
ว่าวไทยเล่นได้สนุก
ทันที ที่ลมว่าว มาถึง ยะลา เหมาะกับการเล่นว่าว ทาง ลุงวรรลภ วีระศักดิ์ วัยกว่า 80 ปี ก็ได้นําว่าวผ้า ว่าวเรนโบว์สีรุ้ง ทรงสามเหลี่ยม ที่เป็นลายการ์ตูน สีสันสดใส หลากหลายแบบ หลายราคา ตัวเล็ก ตัวใหญ่ เริ่มต้นที่ 25 บาท ขึ้นไป มาวางขาย ที่ บริเวณสวนสาธารณะสนามโรงพิธีช้างเผือก เทศบาลนครยะลา ลุงวรรลภ บอกว่า เพิ่งเริ่มนําว่าว มาวางขายเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว จริงๆ แล้วว่าวจะนิยมเล่นกันมากในช่วง มี.ค ถึง เม.ย ตอนนี้เด็กก็ทยอยมาซื้อเล่น แต่ไม่มากเหมือนเมื่อก่อน อย่างว่าของเล่นโบราณเดี๋ยวนี้มีของเล่นใหม่ๆ เยอะ แต่เด็กบางคนก็ยังชอบเล่นอยู่ ที่นํามาก็จะเป็นว่าวผ้า ปักเป้า ว่าวนกฮูก การ์ตูน สั่งซื้อวัสดุ อุปกรณ์มา แล้วนํามาประกอบตัดแต่ง ใส่หาง ใส่เชือก ต่างๆ อาศัยว่าเมื่อก่อนเคยทําว่าวกระดาษ มาก่อน ส่วนราคาตอนนี้ก็ปรับขึ้นจากปีที่แล้ว 5-10 บาท แล้วแต่แบบ ของแพงขณะที่ บรรยากาศโดยทั่วไป บรรดา แม่ แม่ ทั้งหลายก็ได้นําลูก ๆ มาเลือกซื้อว่าว ที่ชื่นชอบ ทั้งนํากลับไปเล่นที่บ้าน และซื้อนําไปวิ่งเล่นที่บริเวณสนามหญ้า ซึ่งเป็นลานกว้างให้เด็ก ๆ ผู้ปกครองได้เล่นสนุกไปพร้อมๆ กับลูกๆ สร้างความสนุกสนานให้กับเด็กเป็นอย่างมาก ส่วนทางคุณพ่อ คุณแม่ ก็เหนื่อยไปตามกัน หลังจากต้องคอยปล่อยว่าว และวิ่งไล่ตามว่าว ตามลูกๆ และสอนหนูๆให้เล่น ด้วย#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
18/1/2023
ภาคใต้
ยะลา
สทท.ยะลา
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230118085912135
null
ชาวไทยเชื้อสายจีนใน จ.สงขลา นำเครื่องเซ่นไหว้ไปกราบไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองที่ศาลเจ้าพ่อหลักเมืองสงขลาล่วงหน้า เนื่องในเทศกาลตรุษจีน เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ตนเอง และครอบครัว
บรรยากาศที่ศาลเจ้าพ่อหลักเมืองสงขลา อ.เมือง จ.สงขลา มีชาวไทยเชื้อสายจีนพาครอบครัวนําเครื่องเซ่นไหว้ ไปกราบไหว้พระ และเจ้าพ่อหลักเมืองสงขลา สิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองที่ชาวสงขลาเคารพนับถือ เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ตนเอง และครอบครัว โดยเป็นการทําพิธีไหว้ล่วงหน้าแม้วันไหว้จะมีขึ้นในวันที่ 21 มกราคม 2566ทั้งนี้ เนื่องจากในวันที่ 21 มกราคม 2566 ซึ่งเป็นวันไหว้จริง หลายครอบครัวจะต้องเดินทางกลับภูมิลําเนาเพื่อไปทําพิธีไหว้พระ และบรรพบุรุษที่บ้านเกิดของตนเอง และศาลเจ้าในพื้นที่ จึงต้องเดินทางมากราบไหว้พระ และเจ้าพ่อหลักเมืองสงขลาก่อนล่วงหน้า เนื่องจากได้ถือปฏิบัติมาเป็นประจําทุกปีในช่วงเทศกาลตรุษจีนที่จะต้องเดินทางมากราบไหว้พระ และเจ้าพ่อหลักเมืองก่อนวันไหว้จริงสําหรับในวันไหว้เจ้า เทศกาลตรุษจีนปีนี้ ช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการกราบไหว้ เทพเจ้าแห่งโชคลาภ“ไฉ่ซิ้งเอี้ย” ที่ชาวจีนเคารพนับถือเพื่อให้เกิดโชคลาภ ความมั่งคั่ง ความร่ํารวย คือช่วงเวลาของคืนวันที่ 21 ม.ค.66 เวลา 23.00-02.59 น. ต่อเนื่องวันที่ 22 ม.ค.66 โดยปีนี้องค์ไท้ส่วยจะเสด็จมาทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ เพื่อประทานพรโชคลาภ ความมั่งคั่ง ความร่ํารวยแก่ชาวจีน ให้มีความสุข ความเจริญ มีโชคมีลาภเป็นสิริมงคล เนื่องในวันตรุษจีน หรือวันขึ้นปีใหม่ของชาวจีน#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
18/1/2023
null
สงขลา
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสงขลา
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230118102657160
null
จังหวัดสมุทรสาคร แจกส้มเพื่อความเป็นสิริมงคลเนื่องในเทศกาลตรุษจีน
วันนี้ (18 มกราคม 2566) เวลา 11.00 น. นายณรงค์ รักร้อย ผู้ว่าราชการจังหวัด พร้อมด้วย นายอุดม ไกรวัตนุสสรณ์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสมุทรสาคร นายชุมพล จันทร์จรัสวัฒนา นายกเทศมนตรีนครสมุทรสาคร หัวหน้าส่วนราชการ ผู้บริหาร สมาชิกสภาเทศบาลนครสมุทรสาคร ร่วมกันแจกส้มมงคล จํานวน 4 ลูก (ส้ม 4 ลูก ถือเป็นมงคล และส้ม 8 ลูก ถือเป็น มหามงคล) และอวยพร พ่อค้า แม่ค้า ประชาชนทั่วไป ที่มาค้าขายและจับจ่ายซื้อของที่ตลาดมหาชัย เนื่องในเทศกาลตรุษจีน ซึ่งทุกคนได้พร้อมใจกันสวมใส่เสื้อสีแดง เล่ง เกีย ฉู่ สืบสานตํานานมังกร เพื่อประชาสัมพันธ์การจัดงาน สําหรับการจัดงานเทศกาลตรุษจีน เล่ง เกีย ฉู่ สืบสานตํานานมังกร จังหวัดสมุทรสาคร ร่วมกับเทศบาลนครสมุทรสาคร องค์การบริหารส่วนจังหวัดสมุทรสาคร เทศบาลนครสมุทรสาคร ศาลเจ้าพ่อหลักเมืองจังหวัดสมุทรสาคร สํานักงานการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ททท.สมุทรสงคราม กระทรวงวัฒนธรรม ภาครัฐ ภาคเอกชน ที่ได้ผุดไอเดียดึงวิถีชีวิตของคนสมุทรสาคร ที่มีเชื้อสายจีน มีการค้าขายกับชาวจีนจึงเกิดเป็นบ้านท่าจีน ตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา จึงได้ริเริ่มจัดงานเทศกาล "ตรุษจีน เล่งเกียฉู่ สืบสานตํานานมังกร "ขึ้น ซึ่งในปีนี้ จะจัดระหว่างวันที่ 19 - 23 มกราคม 2566 ไฮไลท์ของงานอยู่ที่พิธีเทพเจ้าไฉ่ซิงเอี้ย เทพเจ้าแห่งโชคลาภ ตอนเที่ยงคืนในวันที่ 20 มกราคม 2566 โดยผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาครจะนําประชาชนไหว้ขอพร การตีกลอง เอาฤกษ์เอาชัย และจะมีจัดกิจกรรมเชิดมังกรไฟกลางน้ํา และการจุดพลุอย่างยิ่งใหญ่อลังการกลางแม่น้ําท่าจีน จังหวัดสมุทรสาคร จึงขอเชิญชวนประชาชนชาวจังหวัดสมุทรสาคร จังหวัดใกล้เคียง และนักท่องเที่ยว เที่ยวงานตรุษจีน เล่ง เกีย ฉู่ สืบสานตํานานมังกร ซึ่งจะได้พบกับการแสดงศิลปวัฒนธรรมไทย-จีน การแสดงแสง สี เสียง, น้ําพุเต้นระบํา, ผัดหมี่กระทะยักษ์, การแสดงเชิดสิงโต มังกร, การแสดงการเขียนภาพพู่กันจีน ไหว้ขอพรเทพเจ้าไฉ่ซิงเอี้ย เทพเจ้าแห่งโชคลาภ และการแสดงคอนเสิร์ตของศิลปินที่มีชื่อเสียง ได้แก่ วันที่ 19 พบกับ คุณไรอัล กาจบัณฑิต (แชมป์ไมค์หมดหนี้ 200 สมัย) วันที่ 20 พบกับ เอ๊ะ จิรากร วันที่ 21 พบกับ เท่ห์ อุเทน วันที่ 22 พบกับ เก่ง ธชย วันที่ 23 พบกับ แซ็ค ชุมแพ อีกด้วย#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
18/1/2023
null
สมุทรสาคร
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสมุทรสาคร
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230118190630383
null
อุดรธานีจัดงานวันที่ระลึกการก่อตั้งเมืองอุดรธานี 130 ปี
จังหวัดอุดรธานี จัดพิธีเฉลิมฉลองการก่อตั้งเมืองอุดรธานี 130 ปี ประกอบพิธีทางพระพุทธศาสนา ทําบุญตักบาตรพระสงฆ์ 130 รูป ถวายราชสักการะถวายราชสดุดีเทิดพระเกียรติ บายศรีสู่ขวัญบ้านสู่ขวัญเมือง และรําบวงสรวงสดุดีพลตรีพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงประจักษ์ศิลปาคม น้อมรําลึกในพระกรุณาธิคุณ วันที่ 18 มกราคม 2566 ที่บริเวณลานหน้าพระอนุสาวรีย์ พลตรีพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงประจักษ์ศิลปาคม พระผู้ก่อตั้งเมืองอุดรธานี “ 5 แยกกรมหลวงประจักษ์” นายพลากร สุวรรณรัตน์ องคมนตรี เป็นประธานประกอบพิธีวันที่ระลึกเฉลิมฉลองการก่อตั้งเมืองอุดรธานีลุสู่ปีที่ 130 โดยมีทายาทราชสกุลทองใหญ่นําโดยหม่อมหลวงสุพิชาน์ ทองใหญ่ อัศวานันท์ หม่อมหลวงสวรรณศิริ ทองใหญ่ หม่อมหลวงทิพย์วรรณ ทองแถม นายวันชัย คงเกษม ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี นางนงรัตน์ คงเกษม ประธานแม่บ้านนายกเหล่ากาชาดจังหวัดอุดรธานี หัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการ ประชาชนชาวอุดรธานีร่วมพิธี ในเวลา 06.15 น. นายพลากร สุวรรณรัตน์ องคมนตรี นําชาวอุดรธานีประกอบพิธีสงฆ์ ทําบุญตักบาตรพระสงฆ์ 130 รูป ประกอบพิธีถวายราชสักการะด้วยพานพุ่มดอกไม้สด พิธีบายศรีสู่ขวัญบ้านสู่ขวัญเมือง ถวายเครื่องสังเวยบูชา และอ่านประกาศสดุดีเฉลิมพระเกียรติ พลตรีพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงประจักษ์ศิลปาคม ที่เลือกบ้านหมากแข้งเป็นชัยภูมิตั้งบ้านแปลงเมืองจนเจริญเติบโตเป็นเมืองอุดรธานีในปัจจุบัน การรําบวงสรวงสดุดีน้อมรําลึกในพระกรุณาธิคุณของพลตรีพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงประจักษ์ศิลปาคม พระผู้ก่อตั้งเมืองอุดรธานี ที่ถือเป็นประเพณีที่จัดขึ้นทุกปี โดยในปีนี้มีประชาชนมาร่วมรํารอบอนุสาวรีย์ และกระจายออกไปบนถนน 5 สาย จํานวนมาก ซึ่งถือเป็นพลังแห่งความศรัทธาที่มากล้นของพี่น้องประชาชนชาวอุดรธานีที่มีต่อพลตรีพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงประจักษ์ศิลปาคม ซึ่งเชื่อว่าพระองค์ท่านยังคอยปกปักษ์รักษา คุ้มครองเมือง และชาวอุดรธานี ให้อยู่เย็นเป็นสุขตราบทุกวันนี้ และถือเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวจังหวัดอุดรธานีที่ทุกภาคส่วนร่วมบูรณาการพลังสามัคคีเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันในการน้อมรําลึกในพระกรุณาธิคุณ พลตรี พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงประจักษ์ศิลปาคม ทรงเป็นพระราชโอรสองค์ที่ 25 ในพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 กับเจ้าจอมมารดาสังวาลย์ ประสูติเมื่อวันที่ 5 เมษายน พุทธศักราช 2399 มีพระนามเดิมว่า “พระเจ้าลูกยาเธอ พระองค์เจ้าทองกอง ก้อนใหญ่” พระองค์ทรงเป็นต้นราชสกุล “ทองใหญ่” เมื่อรัตนโกสินทร์ศก 112 ซึ่งตรงกับปีพุทธศักราช 2436 ในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ไทยเกิดกรณีพิพาทเรื่องดินแดนกับประเทศฝรั่งเศส โดยฝรั่งเศสได้ส่งเรือรบเข้ามาปิดปากแม่น้ําเจ้าพระยาและบังคับให้ไทยยกดินแดนฝั่งซ้ายของแม่น้ําโขง อันได้แก่ บริเวณประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวในปัจจุบันให้แก่ฝรั่งเศส โดยไทยจะต้องไม่มีกองกําลังทหารในรัศมี 25 กิโลเมตร บนฝั่งฟากตะวันตกของแม่น้ําโขง ซึ่งในขณะนั้น พลตรีพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงประจักษ์ศิลปาคม ทรงดํารงตําแหน่งข้าหลวงต่างพระองค์ ผู้สําเร็จราชการมณฑลฝ่ายเหนือ มีกองบัญชาการตั้งอยู่ ณ เมืองหนองคาย จําเป็นต้องย้ายที่ตั้งกองบัญชาการลงมาทางใต้ เมื่อวันที่ 18 มกราคม พุทธศักราช 2436 และทรงเห็นว่า “บ้านหมากแข้ง” มีทําเล และชัยภูมิเหมาะสมที่จะตั้งกองบัญชาการ สามารถใช้เป็นศูนย์กลางบังคับบัญชา ดูแลปกครองหัวเมืองโดยรอบได้จึง#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
18/1/2023
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
อุดรธานี
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดอุดรธานี
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230119063651512
null
ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม ลงพื้นที่ยะลาเปิดตัวสุดยอดชุมชนคุณธรรมต้นแบบ “เที่ยวชุมชนยลวิถี” ชุมชนบ้านบ่อน้ำร้อน อ.เบตง สร้างงาน สร้างรายได้ หนุนเศรษฐกิจยั่งยืน
วันที่ 18 มกราคม 2566 นางยุพา ทวีวัฒนะกิจบวร ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม เป็นประธานพิธีเปิดตัวสุดยอดชุมชนต้นแบบ “เที่ยวชุมชน ยลวิถี” ชุมชนคุณธรรมบ้านบ่อน้ําร้อน อําเภอเบตง จังหวัดยะลา ซึ่งได้รับการคัดเลือกให้เป็น 1 ใน 10 สุดยอดชุมชนต้นแบบ “เที่ยวชุมชน ยลวิถี” ประจําปี 2565 ของกระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) โดยมีนายอํานาจ ชูทอง รองผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา นางทัศนีย์ ผลชานิโก รองอธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ นางโชติกา อัครกิจโสภากุล รองปลัดกระทรวงวัฒนธรรม ผู้บริหารกระทรวงวัฒนธรรม หัวหน้าส่วนราชการจังหวัด วัฒนธรรม 14 จังหวัดภาคใต้ ศิลปินพื้นบ้าน ผู้นําชุมชนฯ ชาวชุมชนบ้านบ่อน้ําร้อน และสื่อมวลชน เข้าร่วม ณ ชุมชนคุณธรรมฯ บ้านบ่อน้ําร้อน อําเภอเบตง จังหวัดยะลา โอกาสนี้ มีการเชิดสิงโตเยาวชน ของชมรมสิงโต ต้อนรับปลัด วธ. อย่างสนุกสนาน รับชมการแสดง สานสัมพันธ์พหุวัฒนธรรม ของเยาวชนชุมชนบ้านบ่อน้ําร้อน ชาวเผ่าลาหู่ และมโนราห์ เยี่ยมชมการสาธิตอาหารพื้นบ้าน อาทิ กุยช่าย, โรตี ชาชัก, บะจ่าง, เฉาก๊วย, ไก่สับเบตง, ข้าวยํา, หมี่ผัดเบตง รวมถึงผลิตภัณฑ์ทางวัฒนธรรมของชุมชน อาทิ จักสานตะกร้าไม้ไผ่, ผ้ามัดย้อม, ผลิตภัณฑ์สมุนไพรเห็ดหลินจือ, กระเป๋าผ้าปาเต๊ะ จากนั้นชมความงามของไม้ดอกนานาพันธุ์เรียนรู้วิธีการปลูกต้นไม้เมืองหนาว ณ สวนไม้ดอกเมืองหนาว ในโครงการตามแนวพระราชดําริ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารี อีกด้วยนางยุพา กล่าวว่า ชุมชนคุณธรรมฯ บ้านบ่อน้ําร้อน เป็นชุมชนที่มีต้นทุนทางธรรมชาติและวัฒนธรรม ที่หลากหลายในวิถีพหุวัฒนธรรม อีกทั้งยังมีกลุ่มชาติพันธุ์ “ลาหู่” หรือ มูเซอ ที่รักษาวัฒนธรรมการแต่งกาย ศิลปะการแสดง ตลอดจนประเพณีอย่างมีเอกลักษณ์ เป็นเมืองแห่งการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมที่มีชื่อเสียง เป็นที่รู้จักทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ กําเนิดของชุมชนมาจากชาวจีนอพยพเข้ามาตั้งถิ่นฐานได้ค้นพบธารน้ําที่มีความร้อนของกรดกํามะถัน มีสรรพคุณมากมายในการรักษาโรคทําให้กล้ามเนื้อผ่อนคลาย ปัจจุบันจึงได้รับการพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยววิถีใหม่ ที่เรียกว่า บ่อน้ําพุร้อนเบตง เป็นบ่อน้ําร้อนธรรมชาติขนาดใหญ่ สามารถอาบน้ําแร่ แช่เท้าผ่อนคลายกล้ามเนื้อ ต้มไข่ออนเซน 7 นาที ในตะกร้าไม้ไผ่ที่สานด้วยตัวเองแบบง่ายๆ สไตล์พื้นเมือง พร้อมที่พักไว้รองรับนักท่องเที่ยวในรูปแบบโฮมสเตย์ นอกจากนี้ สามารถเดินทางไปวัดบ่อน้ําร้อนกราบไหว้ขอพรหลวงปู่ทวดองค์ใหญ่ เข้าอุโมงค์ดินปิยะมิตร เรียนรู้ประวัติศาสตร์ทางวัฒนธรรมของชุมชน แวะเดินสวนหมื่นบุปผา สวนดอกไม้เบตง ชมความสวยงามของดอกไม้ที่ปลูกเรียงรายเป็นทิวแถว สวนส้มโชกุนปลูกบนภูเขาแบบขั้นบันใด สวนทุเรียนมูซังคิง หรือ เหมาซานหวัง ตลอดจนแวะสถานที่เชื่อมโยงที่มีชื่อเสียง จุดชมวิวทะเลหมอกอัยเยอร์เวง ที่มีทะเลหมอกให้ชมตลอดทั้งปี และที่เบตงมีเมนูขึ้นชื่อให้ต้องมาลิ้มลอง เช่น ไก่เบตง ผักน้ํา ปลานิลสายน้ําไหล ส้มโชกุน ทุเรียนมูซังคิง เฉาก๊วยเบตง เพิ่มเสน่ห์การท่องเที่ยวด้วยโปรแกรมการท่องเที่ยวแบบวันเดย์ทริป, 3 วัน 2 คืน เชื่อมโยงไปยังเครือข่ายทางวัฒนธรรมการท่องเที่ยวชุมชนทั้งในและนอกพื้นที่ชุมชน โดยมีมัคคุเทศก์มืออาชีพนําเที่ยว พร้อมอุดหนุนของที่ระลึกและผลิตภัณฑ์ทางวัฒนธรรมที่เป็นอัตลักษณ์ของชุมชน เช่น ชะลอมไม้ไผ่ สมุนไพรเห็ดหลินจือ เฉาก๊วยโบราณ เสื้อมัดย้อม เสื้อสกรีน “OK เบตง” ทั้งนี้ วธ. เปิดตัวสุดยอดชุมชนต้นแบบ “เที่ยวชุมชน ยลวิถี” ชุมชนคุณธรรมฯ บ้านบ่อน้ําร้อน ตามนโยบายรัฐบาลที่มุ่งขับเคลื่อนโมเดลเศรษฐกิจใหม่ BCG และ Soft Power ของไทย ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของวธ. ในการปรับบทบาทจากกระทรวงสังคม สู่กระทรวงสังคมกึ่งเศรษฐกิจ ขับเคลื่อนชุมชนอย่างต่อเนื่องผ่านกิจกรรมรูปแบบการท่องเที่ยวด้านวัฒนธรรม สไตล์ New Normal โดยในปี 2564 การส่งเสริม “เที่ยวชุมชน ยลวิถี” สามารถทํารายได้กว่า 200 ล้านบาท เป็นที่รู้จักของผู้คนมากขึ้น ได้มีการเผยแพร่ในสื่อต่างๆ และคาดว่าจะมียอดนักท่องเที่ยวและรายได้เพิ่มเติมในปีต่อๆไปอีกมากในอนาคต#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
19/1/2023
ภาคใต้
ยะลา
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดยะลา
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230119141156652
null
ศอ.บต. นำคณะผู้แสวงบุญชาวไทย ประกอบพิธีอุมเราะห์ครั้งที่ 3
วันนี้ (19 มกราคม 2566 ) เวลา 00:15 น. ตามเวลาในประเทศซาอุดีอาระเบีย คณะผู้เดินทางไปประกอบพิธีอุมเราะห์ ตามกิจกรรมส่งเสริมคนดีมีคุณธรรมในจังหวัดชายแดนภาคใต้ไปประกอบพิธีอุมเราะห์ ประจําปีงบประมาณ 2565 (ฮิจเราะห์ศักราช 1444) ของศูนย์อํานวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ หรือ ศอ.บต. จํานวน 120 คน ได้ประกอบพิธีอุมเราะห์ครั้งที่ 3 เสร็จสมบูรณ์แล้ว ซึ่งการเข้าไปประกอบพิธีอุมเราะห์ในมัสยิดฮารอมครั้งที่ 3 นั้น ถึงแม้ผู้เข้าร่วมโครงการฯบางท่าน จะมีสุขภาพไม่ค่อยแข็งแรง แต่ทุกคนล้วนมีความตั้งใจที่จะประกอบพิธีอุมเราะห์ให้ได้มากที่สุดผู้แทนจิตอาสาที่ได้มาประกอบพิธีอุมเราะห์ กล่าวว่า ?การจะได้อุมเราะห์มับรูร หรืออุมเราะห์ที่ได้รับการตอบรับนั้น อยู่ที่ตัวเรา ตนมีความคาดหวังว่าจากการทําอุมเราะห์ในครั้งนี้ จะทําให้เกิดการเปลี่ยนแปลง 3 ประการ ได้แก่ การเปลี่ยนแปลงตนเองให้ดีขึ้นกว่าเดิม สองคือเปลี่ยนครอบครัวของตนให้เป็นครอบครัวที่เป็นแบบอย่างที่ดี และการเปลี่ยนแปลงสังคม โดยเอาสิ่งที่ได้รับมาปรับใช้ในสังคมในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อให้เป็นสังคมที่ยั่งยืน ภายใต้ ความเข้าใจ เข้าถึง และพัฒนาหนึ่งในผู้เข้าร่วมโครงการ กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า รู้สึกตื้นตันใจอย่างบอกไม่ถูก น้ําตาไหลอย่างไม่รู้ตัว ที่ได้มาประกอบพิธีอุมเราะห์ในรอบนี้ อยากจะฝากถึงฮุจญาจคนอื่นๆ ให้ทุกคนมีความอดทน ตั้งใจปฏิบัติกิจกรรมทางศาสนาให้สมบูรณ์ สุดท้ายขอขอบคุณ ศอ.บต. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ที่ดูแลฮุจญาจทุกคนได้เป็นอย่างดีด้านนายแพทย์มูฮําหมาด ละใบจิ กล่าวว่า สําหรับฮุจญาจที่เดินทางมาประกอบพิธีอุมเราะห์ทั้ง 120 ท่าน ตอนนี้ฮุจญาจบางท่านเริ่มมีอาการไม่ค่อยสบายแต่ไม่มาก ขอให้ครอบครัวและญาติพี่น้องของผู้ที่เดินทางไปประกอบพิธีอุมเราะห์ ได้ร่วมกันดุอาร์ให้คณะฮุจญาจมีสุขภาพร่างกายแข็งแรงในระหว่างที่ใช้ชีวิตอยู่ที่นี่ และกลับภูมิลําเนาอย่างปลอดภัย ขอให้ทุกคนเชื่อมั่นว่าคณะทํางานที่ร่วมเดินทางมาในครั้งนี้ มีการเตรียมความพร้อมทุกด้านในการดูแลฮุจญาจทุกท่าน ทั้งในส่วนของเครื่องมือ อุปกรณ์ทางการแพทย์ ตลอดจนยารักษาโรค เพื่อที่จะดูแลคณะฮุจญาจ ได้อย่างดีที่สุด#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
19/1/2023
ภาคใต้
ยะลา
สทท.ยะลา
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230119160256702
null
ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม เป็นประธานเปิดตัวสุดยอดชุมชนต้นแบบ “เที่ยวชุมชน ยลวิถี” ชุมชนคุณธรรมวัดทรายขาว อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี
วันนี้ (19 ม.ค. 66) เวลา 10.30 น. นางยุพา ทวีวัฒนะกิจบวร ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม เป็นประธานในพิธีเปิดตัวสุดยอดชุมชนต้นแบบ “เที่ยวชุมชน ยลวิถี” ชุมชนคุณธรรมวัดทรายขาว อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี โดยมี นายอับดุลการีม ยีดํา นายอําเภอโคกโพธิ์ จังหวัดปัตตานี เป็นผู้แทนผู้บริหารจังหวัดปัตตานีให้การต้อนรับ ร่วมกับ ประธานสภาวัฒนธรรมจังหวัดปัตตานี วัฒนธรรมจังหวัดทั้ง 14 จังหวัดภาคใต้ หัวหน้าส่วนราชการในจังหวัดปัตตานี และพี่น้องชาว อ.โคกโพธิ์โอกาสนี้ ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม ได้สักการะพระประธาน และนมัสการ พระครูปราโมท ศรีตะคุณ อาวาสวัดทรายขาว ณ อุโบสถมหาอุด และสักการะหลวงพ่อทวดสิทธิชัย หลวงพ่อทวด และ หลวงพ่อทวดหมาน ณ วิหาร 3 ทวด รับชมการแสดงทางวัฒนธรรม และเป็นประธานในการเปิดป้าย “เที่ยวชุมชน ยลวิถี” ชุนคุณธรรม วัดทรายขาว เยี่ยมชมตลาดวัฒนธรรม และนั่งรถจิ๊ป ชมอุทยานแห่งชาติน้ําตกทรายขาว มัสยิด 300 ปีหรือมัสยิดนัจมุดดีนปลัดกระทรวงวัฒนธรรม ได้กล่าวว่า การได้ลงมาเยี่ยมชุมชนคุณธรรม วัดทรายขาว ในครั้งนี้ได้เห็นว่าชุมชนมีผู้นําและเครือข่ายในการขับเคลื่อนที่เข้มแข็ง คนในชุมชนอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข มีความรักความสามัคคีมีการอนุรักษ์สืบสานศิลปวัฒนธรรมของท้องถิ่น มีทุนทางวัฒนธรรมที่ล้ําค่า และมีความพร้อมในการต้อนรับนักท่องเที่ยวเป็นอย่างดี ถือเป็นตัวอย่างของการยกระดับชุมชนคุณธรรม ให้เป็นแหล่งท่องเที่ยววิถีชุมชนและนําทุนทางวัฒนธรรมมาต่อยอดสร้างคุณค่า และเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจ ไปสู่การขับเคลื่อนโมเดลเศรษฐกิจใหม่ หรือ BCG MODEL และ SOFT POWER ความเป็นไทยของรัฐบาล จนได้รับคัดเลือกเป็น 1 ใน 10 สุดยอดชุมชนต้นแบบ “เที่ยวชุมชน ยลวิถี” ประจําปี 2565 ของกระทรวงวัฒนธรรมการจัดกิจกรรมในครั้งนี้ นางทัศนีย์ ผลชานิโก รองอธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ และ ดร.ธีรพงศ์ เพชรรัตน์ ผู้อํานวยการสํานักประชาสัมพันธ์เขต 6 สงขลากรมประชาสัมพันธ์ ร่วมให้การต้อนรับ ด้วย#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
19/1/2023
ภาคใต้
ปัตตานี
สวท.ปัตตานี
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230119165100736
null
ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม เปิดตัวชุมชนคุณธรรมฯ วัดทรายขาว สุดยอดชุมชนคุณธรรมต้นแบบ "เที่ยวชุมชน ยลวิถี" จังหวัดปัตตานี
วันที่ 19 มกราคม 2566 นางยุพา ทวีวัฒนะกิจบวร ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม เป็นประธานเปิดตัวสุดยอดชุมชนต้นแบบ "เที่ยวชุมชน ยลวิถี" ชุมชนคุณธรรมฯ วัดทรายขาว ตําบลทรายขาว อําเภอโคกโพธิ์ จังหวัดปัตตานี พร้อมด้วยนางทัศนีย์ ผลชานิโก รองอธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ และวัฒนธรรมจังหวัด 14 จังหวัดภาคใต้ ซึ่งชุมชนคุณธรรม วัดทรายขาวเป็น 1 ใน 10 สุดยอดชุมชนคุณธรรมต้นแบบระดับประเทศ "เที่ยวชุมชน ยลวิถี" เพื่อประชาสัมพันธ์การดําเนินการของชุมชน ที่ประสบความสําเร็จ และได้รับการคัดเลือกเป็น 1 ใน 10 สุดยอดชุมชน "เที่ยวชุมชน ยลวิถี" ของกระทรวงวัฒนธรรม เพื่อกระตุ้นให้เกิดการท่องเที่ยวชุมชม ส่งเสริมการสร้างงาน สร้างรายได้ ให้แก่ประชาชน โดยมีนายอําเภอโคกโพธิ์ หัวหน้าส่วนราชการ ผู้นําท้องถิ่น เครือข่ายภาคเอกชน สื่อมวลชน และเครือข่ายทางวัฒนธรรม เข้าร่วมกิจกรรมฯโดยชุมชนคุณธรรม วัดทรายขาว มีศักยภาพและมีความพร้อมด้านการท่องเที่ยวในทุกมิติ ได้น้อมนําหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง การขับเคลื่อนด้วยพลังบวร การประกาศยกย่องเชิดชูเกียรติ สร้างขวัญกําลังใจแก่ชุมชนและผู้ให้การสนับสนุนขับเคลื่อน พร้อมการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ชุมชน ให้เป็นที่รู้จักแพร่หลายในวงกว้าง เกิดการพัฒนาต่อยอด และขยายผลความสําเร็จไปยังชุมชนอื่นๆ ปลุกกระแสการท่องเที่ยววิถีชุมชน สร้างโอกาส สร้างรายได้ เสริมสร้างเศรษฐกิจฐานราก ให้มีความเข้มแข็งอย่างยั่งยืนกิจกรรมการเปิดเส้นทางท่องเที่ยวครั้งนี้ มีการแนะนําเส้นทางการท่องเที่ยวชุมชนคุณธรรมวัดทรายขาว ซึ่งเป็นชุมชน 2 วิถี อันมีเอกลักษณ์ที่โดดเด่น พึ่งพาอาศัยอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุข ทั้งพี่น้องชาวไทยที่นับถือพุทธ และที่นับถือศาสนาอิสลาม ร่วมกิจกรรมฯ เดินทางด้วยรถจิ๊ป ไปอุทยานแห่งชาติน้ําตกทรายขาว ชมทัศนียภาพของชุมชนบ้านทรายขาว เยี่ยมชมความสวยงามของมัสยิดโบราณ (มัสยิดนัจมุดดีน) อันมีอายุเก่าแก่มากกว่า 300 ปี กลุ่มกล้วยเส้นปรุงรส กลุ่มทําจานกาบหมาก กลุ่มส้มแขกแปรรูป และกลุ่มวิสาหกิจชุมชนในพื้นที่ตําบลทรายขาวด้วย.#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
19/1/2023
ภาคใต้
ปัตตานี
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดปัตตานี
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230119165354738
null
จังหวัดมุกดาหาร จัดงานรำลึกครบรอบวันละสังขารหลวงปู่หล้า เขมปัตโต ปีที่ 27 (งานวันค้ำคูณผู้ไทย ไหว้เจดีย์หลวงปู่หล้า) ประจำปี 2566
ที่วัดบรรพตคีรี (วัดภูจ้อก้อ) นายวรญาณ บุญณราช ผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร เป็นประธานเปิดงานรําลึกครบรอบวันละสังขาร หลวงปู่หล้า เขมปัตโต ปีที่ 27 (งานวันค้ําคูณผู้ไทย ไหว้เจดีย์หลวงปู่หล้า) ประจําปี 2566 โดยมีคณะสงฆ์จากทั่วทุกสารทิศ ศิษยานุศิษย์ พุทธศาสนิกชน เข้าร่วมพิธีและร่วมกันห่มผ้าเจดีย์หลวงปู่หล้า เพื่อเป็นสิริมงคล และน้อมรําลึกพระคุณอาจาริยบูชาโดยวัดบรรพตคีรี หรือวัดภูจ้อก้อแห่งนี้ หากย้อนกลับไปเมื่อปี 2500 หลวงปู่หล้า เขมปัตโต พระกรรมฐาน ลูกศิษย์ในสํานักของพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต ซึ่งภายหลังจากองค์หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ได้ละสังขารแล้ว องค์หลวงปู่หล้า ได้จาริกเดินธุดงค์แสวงหาทางพ้นทุกข์ มาปฏิบัติภาวนา ในพื้นที่จังหวัดมุกดาหาร และได้มาจําพรรษาอยู่ที่วัดภูจ้อก้อ บ้านแวง ตําบลหนองสูงใต้แห่งนี้ ซึ่งในกาลเวลาต่อมา จากการปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบของท่าน ทําให้มีลูกศิษย์ ทั้งพระสงฆ์ และฆารวาส เข้ามาศึกษาปฏิบัติธรรม ฟังเทศน์ อบรม คําสั่งสอนของท่านเป็นจํานวนมาก องค์หลวงปู่หล้า ถือเป็นพระอริยะสงฆ์ที่เป็นที่เคารพศรัทธา ของพุทธศาสนิกชน ในแถบถิ่นนี้เป็นจํานวนมาก และในปัจฉิมวัย ท่านได้ละสังขาร เมื่อวันที่ 19 มกราคม 2539หลังจากนั้น คณะศิษย์ยานุศิษย์ จึงได้พร้อมใจก่อสร้างองค์เจดีย์เพื่อบรรจุพระอัฐิธาตุขององค์ท่านไว้ ชื่อว่า "เขมปัตตเจดีย์" เพื่อให้ลูกหลานศรัทธา สาธุชนกราบไหว้สักการบูชา รําลึกถึงองค์ท่าน และเมื่อถึงวันครบรอบวันละสังขารดังกล่าว คณะศิษย์ยานุศิษย์ ทั้งและฆราวาสทั้งหลาย ได้เดินทางมาพร้อมกัน ณ วัดภูจ้อก้อแห่งนี้ เพื่อน้อมรําลึกพระคุณของท่าน จึงถือเป็นงานพิธี ที่สําคัญของชาวอําเภอหนองสูง มาจนถึงปัจจุบัน ในเวลาต่อมา ภาคส่วนราชการในพื้นที่อําเภอหนองสูง โดยเฉพาะองค์การบริหารส่วนตําบลหนองสูงใต้ ได้ตระหนักถึงความสําคัญในโอกาสดังกล่าว จึงได้กําหนดจัดงานขึ้นอย่างเป็นทางการ เป็นปฏิทินจัดกิจกรรมงานในพื้นที่อําเภอหนองสูง ภายใต้งานชื่อว่า "งานรําลึก ครบรอบวันละสังขารหลวงปู่หล้า เขมปัตโต ปีที่ 27 หรืองานวันค้ําคูณผู้ไทย ไหว้เจดีย์หลวงปู่หล้า" ในปี 2566 ได้จัดงานขึ้นเป็นครั้งที่ 16 แล้วเพื่อจรรโลง ค้ําจุนพระพุทธศาสนาและรําลึกถึงพระคุณขององค์หลวงปู่หล้า ที่มีต่อพระพุทธศาสนาและพุทธศาสนิกชน อีกทั้งเป็นการอนุรักษ์วัฒนธรรมประเพณีอันดีงาม ดลอดทั้งวิถีชีวิตของชาวผู้ไทยให้คงอยู่ให้ตลอดจนสาธุชนได้ร่วมกันสักการบูชา องค์หลวงปู่หล้า เขมปัตโต ในโอกาสสําคัญเป็นประจําทุกปี#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
19/1/2023
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
มุกดาหาร
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดมุกดาหาร
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230119200915830
null
วัฒนธรรม ชวน “เที่ยวชุมชน ยลวิถี” ชุมชนคุณธรรมฯ วัดทรายขาว จ.ปัตตานี 2 วิถี 2 วัฒนธรรม
วัฒนธรรม ชวน “เที่ยวชุมชน ยลวิถี” ชุมชนคุณธรรมฯ วัดทรายขาว จ.ปัตตานี 1 ใน 10 สุดยอดชุมชนต้นแบบ“เที่ยวชุมชนยลวิถี” ประจําปี 2565 นั่งรถจิ๊ปสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ชม 2 วิถี 2วัฒนธรรม พุทธ-มุสลิม สร้างงาน สร้างรายได้ให้ชุมชน ดันการท่องเที่ยวด้วย BCG สู่ความยั่งยืนวันนี้(19 ม.ค.2565) ที่ ชุมชนคุณธรรมวัดทรายขาว อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี นางยุพา ทวีวัฒนะกิจบวร ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม เป็นประธานเปิดตัวสุดยอดชุมชนต้นแบบ “เที่ยวชุมชน ยลวิถี” ชุมชนคุณธรรมฯ วัดทรายขาว พร้อมด้วย นางโชติกา อัครกิจโสภากุล รองปลัดกระทรวงวัฒนธรรม นางทัศนีย์ ผลชานิโก รองอธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ ดร.ธีรพงษ์ เพชรรัตน์ ผอ.สํานักประชาสัมพันธ์ เขต 6 กรมประชาสัมพันธ์ นายอับดุลการรีม ยีดํา นายอําเภอโคกโพธิ์ ประธานสภาวัฒนธรรมจังหวัด วัฒนธรรม14จังหวัดภาคใต้ หัวหน้าส่วนราชการ ผู้นําชุมชนคุณธรรมฯวัดทรายขาว ประชาชน รวมถึงนักแสดงสาวทับทิม อัญรินทร์ ธีราธนันพัฒน์ เข้าร่วม ได้สร้างสีสันให้กับชาวบ้านเป็นอย่างมากสําหรับกิจกรรมในวันนี้ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม และคณะ ได้สักการะพระประธาน นมัสการพระครูปราโมท ศรีตะคุณ เจ้าอาวาสวัดทรายขาว ที่ อุโบสถมหาอุด และสักการะหลวงพ่อทวดสิทธิชัย หลวงพ่อทวด และหลวงพ่อทวดหมาน ณ วิหาร 3 ทวด จากนั้นรับชมการแสดงทางวัฒนธรรม (การแสดงดีกา มโนราห์ กลองยาว) และเปิดป้าย “เที่ยวชุมชน ยลวิถี” ชุมชนคุณธรรมฯ วัดทรายขาวอย่างทางการ รวมถึง เยี่ยมชมตลาดวัฒนธรรม สาธิตภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม และนั่งรถจี๊ป ชมอุทยานแห่งชาติน้ําตกทรายขาว มัสยิดนัจมุดดีนนางยุพา ทวีวัฒนะกิจบวร ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวว่า การได้ลงมาเยี่ยมชุมชนคุณธรรมฯ วัดทรายขาว ในวันนี้ทําให้เห็นว่าชุมชนฯ มีผู้นําและเครือข่ายในการขับเคลื่อนที่เข้มแข็ง คนในชุมชนอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข มีความรักสามัคคีมีการอนุรักษ์สืบสานศิลปวัฒนธรรมของท้องถิ่น มีทุนทางวัฒนธรรมที่ล้ําค่า และมีความพร้อมในการต้อนรับนักท่องเที่ยวผู้มาเยือนเป็นอย่างดี ถือเป็นตัวอย่างของการยกระดับชุมชนคุณธรรมฯให้เป็นแหล่งท่องเที่ยววิถีชุมชนและนําทุนทางวัฒนธรรม มาต่อยอดสร้างคุณค่า และมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจ ไปสู่การขับเคลื่อนโมเดลเศรษฐกิจใหม่ BCG และ Soft Power ความเป็นไทยของรัฐบาล จนได้รับคัดเลือกเป็น 1 ใน 10 สุดยอดชุมชนต้นแบบ “เที่ยวชุมชน ยลวิถี” ประจําปี 2565 ของกระทรวงวัฒนธรรมและเข้ารับโล่เมื่อวันที่ 23 ธันวาคม 2565จากท่านนายกรัฐมนตรี ณ ทําเนียบรัฐบาล ที่ผ่านมา#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
19/1/2023
ภาคใต้
ยะลา
สทท.ยะลา
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230119184741783
null
ตรุษจีนโคราชเริ่มแล้ว เชิดมังกร ยาว 55 เมตร โชว์ในงานเทศกาลตรุษจีนโคราช จอมพลถนนหัวมังกร 108 ปี ถนนแห่งวัฒนธรรม ฉลองครบรอบ 555 ปี เมืองนครราชสีมา
วันนี้ (20 ม.ค. 66) ที่บริเวณศาลหลักเมือง ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครราชสีมา นายสยาม ศิริมงคล ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา พร้อมนางอรจิรา? ศิริมงคล? นายกเหล่ากาชาดจังหวัด? และพี่น้องประชาชนคนไทยเชื้อสายจีน? ในจังหวัดนครราขสีมา? ร่วมชมการแสดงเชิดมังกร? ขนาดความ? ยาว? 55? เมตร? ในงานเทศกาลตรุษจีนโคราช จอมพลถนนหัวมังกร 108 ปี ถนนแห่งวัฒนธรรม ที่จะมีขึ้นระหว่างวันที่ 22-24 มกราคม 2566 ?นี้? ณ.บริเวณถนนจอมพล หลังอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี เขตเทศบาลนครนครราชสีมา เพื่อเป็นการสืบสาน วัฒนธรรมให้กับคนรุ่นหลังได้รับรู้รับทราบถึงประวัติศาสตร์วัฒนธรรม รวมถึงขนบธรรมเนียมประเพณีอันดีงามของชาวไทยเชื้อสายจีนให้คงอยู่อย่างยั่งยืนอีกทั้งยังเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัดนครราชสีมา โดยภายในงานนักท่องเที่ยวที่มาร่วมงานจะได้สัมผัสบรรยากาศกลิ่นอายวัฒนธรรมไทย-จีน ชม ชิม ช้อป อาหารระดับ ภัตตาคารของเมืองโคราชและร้านค้าร้านอาหารภายในงานมากว่า 120 ร้าน รวมทั้งชมการแสดงเชิดมังกร ความยาว 55 เมตร เพื่อร่วมฉลองครบรอบ 555 ปี เมืองนครราชสีมา และการแสดงสิงโตดอกเหมย การแสดงศิลปวัฒนธรรมจีนร่วมสมัย พิธีไหว้สักการะเจ้าพ่อไฉ่ซิงเอี้ย พิธีสวดมนต์ ทําบุญสะเดาะเคราะห์ ไทย - จีน การแสดงจากเยาวชนโรงเรียนโคราชวิทยา กิจกรรมการประกวดการแต่งกาย Mr Chinese New Year 2023 กิจกรรมการประกวดการแต่งกาย Mriss Chinese New Year 2023 การประกวดการแต่งกาย Kid Chinese New Year 2023 และการร้องเพลงจีนโดยองค์กรคนไทยเชื้อสายจีน เป็นต้น#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
20/1/2023
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
นครราชสีมา
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนครราชสีมา
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230120095728923
null
ประดับโคมแดงไฟถนน รับตรุษจีน ยะลา
เทศบาลนครยะลา ประดับโคมแดงไฟถนน ต้อนรับ”ตรุษจีน” สร้างสีสันเมืองยะลาสวยงาม ประดับตกแต่งโคมไฟสีแดง ต้อนรับเทศกาลตรุษจีน 2566 ซึ่งทางเทศบาลนครยะลา โดย ทีมช่างไฟได้ติดตั้งโคมไฟ หลอดไฟ ตลอดถนนสายสิโรรส เขตเทศบาลฯ เพื่อสร้างสีสันยามค่ําคืน ให้กับเมืองยะลาสําหรับโคมไฟ นี้ เป็นของคนไทยเชื้อสายจีนในจังหวัดยะลา ที่ได้จัดซื้อและให้ทีมช่างไฟเทศบาลนครยะลา เป็นผู้ติดตั้งให้ในช่วงเทศกาลตรุษจีน ซึ่งเริ่มต้นตั้งแต่ วันที่ 20 ม.ค 66 ไปจนถึงวันที่ 22 ม.ค 66ขณะเดียวกัน ตามบ้านเรือน ร้านค้าของชาวไทยเชื้อสายจีน รวมทั้ง ศาลเจ้าต่างๆ ในพื้นที่เขตเทศบาลฯ ก็ได้เร่งทําความสะอาด จัดสถานที่ ประดับดวงไฟ โคมแดง สีแดง ซึ่งเป็นสัญลักษณ์มงคลของชาวไทยเชื้อสายจีน ตกแต่งไว้อย่างสวยงาม ทั้งบริเวณด้านหน้าศาลเจ้า และภายใน เพื่อความเป็นสิริมงคล ต้อนรับเทศกาล “ตรุษจีน” เช่นกัน#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
20/1/2023
ภาคใต้
ยะลา
สทท.ยะลา
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230120095059918
null
ศอ.บต. นำคนดีมีคุณธรรมในพื้นที่ จชต. ไปปฏิบัติธรรมตามรอยบาทพระศาสดาสู่ดินแดนพุทธภูมิ ณ อินเดีย-เนปาล
ศอ.บต. นําคนดีมีคุณธรรมในพื้นที่ จชต. ไปปฏิบัติธรรมตามรอยบาทพระศาสดาสู่ดินแดนพุทธภูมิ ณ อินเดีย-เนปาล ขณะ เลขาธิการ ศอ.บต. ย้ําให้ทุกคนปฏิบัติศาสนกิจอย่างตั้งใจ ให้บรรลุตามเป้าหมายวันนี้ (20 มกราคม 2566) เวลา 03.30 น. ที่ ห้องประชุมน้อมเกล้า ชั้น 1 อาคารศูนย์อํานวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ อําเภอเมือง จังหวัดยะลา พลเรือตรี สมเกียรติ ผลประยูร เลขาธิการศูนย์อํานวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) เป็นประธานในพิธีส่งผู้เข้าร่วมกิจกรรมส่งเสริมคนดีมีคุณธรรมในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ไปปฏิบัติธรรมแหล่งสังเวชนียสถาน ณ ประเทศอินเดีย - เนปาล ประจําปีงบประมาณ 2565 ระหว่างวันที่ 20 - 30 มกราคม 2565 ซึ่งศูนย์อํานวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) จัดขึ้นเพื่อสร้างขวัญกําลังใจให้แก่พี่น้องไทยพุทธในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยมีผู้เข้าร่วม กิจกรรมทั้งสิ้น จํานวน 80 คนพลเรือตรี สมเกียรติ ผลประยูร เลขาธิการ ศอ.บต. กล่าวในโอกาสนี้ว่า ทุกคนในที่นี้ถือเป็นญาติธรรมที่จะร่วมกันไปปฏิบัติธรรมยังดินแดนของพระพุทธศาสนาและเป็นดินแดนแห่งพุทธภูมิ ซึ่งพุทธศาสนิกทุกคนวาดฝันว่าจะได้ไปสักครั้งหนึ่งในชีวิต จึงเป็นสิ่งที่น่าภาคภูมิใจของทุกท่านที่ได้รับเลือกให้ร่วมการเดินทางเข้าสู่แดนพุทธภูมิในครั้งนี้ จึงอยากให้ทุกคนได้ซึมซับพร้อมตั้งใจปฏิบัติธรรมอย่างเคร่งครัด เพื่อกลับมาเผยแพร่เรื่องดีๆ ของชาวพุทธให้คนในพื้นที่ได้รับทราบต่อไทั้งนี้ กิจกรรมส่งเสริมคนดีมีคุณธรรมในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ไปปฏิบัติธรรมสังเวชนียสถาน ณ ประเทศอินเดีย - เนปาล ของศูนย์อํานวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) นอกจากจะสร้างขวัญกําลังใจแก่พระภิกษุสงฆ์และพี่น้องไทยพุทธในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้แล้ว ยังเป็นการสืบทอด เผยแผ่ และทํานุบํารุงพระพุทธศาสนาให้คงอยู่กับสังคมไทย ถือเป็นการส่งเสริม สนับสนุน ให้นําหลักธรรมคําสอนของพระพุทธเจ้ามาประยุกต์ใช้ในการดํารงชีวิตประจําวัน ตลอดจนยังเป็นการปลูกฝังศีลธรรมและจริยธรรม ให้กับประชาชนไทยพุทธในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
20/1/2023
ภาคใต้
ยะลา
สทท.ยะลา
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230120095304921
null
ศอ.บต. นำคนดีมีคุณธรรมในพื้นที่ จชต. ไปปฏิบัติธรรมตามรอยบาทพระศาสดาสู่ดินแดนพุทธภูมิ ณ อินเดีย-เนปาล ด้านเลขาธิการ ศอ.บต. ย้ำให้ทุกคนปฏิบัติศาสนกิจอย่างตั้งใจ ให้บรรลุตามเป้าหมาย
วันนี้ (20 มกราคม 2566) เวลา 03.30 น. ที่ ห้องประชุมน้อมเกล้า ชั้น 1 อาคารศูนย์อํานวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ อําเภอเมือง จังหวัดยะลา พลเรือตรี สมเกียรติ ผลประยูร เลขาธิการศูนย์อํานวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) เป็นประธานในพิธีส่งผู้เข้าร่วมกิจกรรมส่งเสริมคนดีมีคุณธรรมในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ไปปฏิบัติธรรมแหล่งสังเวชนียสถาน ณ ประเทศอินเดีย - เนปาล ประจําปีงบประมาณ 2565 ระหว่างวันที่ 20 - 30 มกราคม 2565 ซึ่งศูนย์อํานวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) จัดขึ้นเพื่อสร้างขวัญกําลังใจให้แก่พี่น้องไทยพุทธในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยมีผู้เข้าร่วม กิจกรรมทั้งสิ้น จํานวน 80 คนในการนี้ พลเรือตรี สมเกียรติ ผลประยูร เลขาธิการ ศอ.บต. กล่าวในโอกาสนี้ว่า ทุกคนในที่นี้ถือเป็นญาติธรรมที่จะร่วมกันไปปฏิบัติธรรมยังดินแดนของพระพุทธศาสนาและเป็นดินแดนแห่งพุทธภูมิ ซึ่งพุทธศาสนิกทุกคนวาดฝันว่าจะได้ไปสักครั้งหนึ่งในชีวิต จึงเป็นสิ่งที่น่าภาคภูมิใจของทุกท่านที่ได้รับเลือกให้ร่วมการเดินทางเข้าสู่แดนพุทธภูมิในครั้งนี้ จึงอยากให้ทุกคนได้ซึมซับพร้อมตั้งใจปฏิบัติธรรมอย่างเคร่งครัด เพื่อกลับมาเผยแพร่เรื่องดีๆ ของชาวพุทธให้คนในพื้นที่ได้รับทราบต่อไปทั้งนี้ กิจกรรมส่งเสริมคนดีมีคุณธรรมในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ไปปฏิบัติธรรมสังเวชนียสถาน ณ ประเทศอินเดีย - เนปาล ของศูนย์อํานวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) นอกจากจะสร้างขวัญกําลังใจแก่พระภิกษุสงฆ์และพี่น้องไทยพุทธในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้แล้ว ยังเป็นการสืบทอด เผยแผ่ และทํานุบํารุงพระพุทธศาสนาให้คงอยู่กับสังคมไทย ถือเป็นการส่งเสริม สนับสนุน ให้นําหลักธรรมคําสอนของพระพุทธเจ้ามาประยุกต์ใช้ในการดํารงชีวิตประจําวัน ตลอดจนยังเป็นการปลูกฝังศีลธรรมและจริยธรรม ให้กับประชาชนไทยพุทธในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
20/1/2023
null
ยะลา
สวท.ยะลา
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230120105512968
null
ผู้ว่าฯ สุรินทร์ ร่วมตักบาตรยามเช้า และพบปะนักเรียนโรงเรียนหนองอียอวิทยา ตำบลหนองอียอ อำเภอสนม
วันที่ 20 มกราคม 2566 เวลา 06.30 น. ที่บริเวณถนนด้านหน้าวัดอารีราษฏร์วราราม บ้านอาเลา หมู่ที่ 6 ตําบลหนองอียอ อําเภอสนม จังหวัดสุรินทร์ นายพิจิตร บุญทัน ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ พร้อมด้วย นางนุชจรินทร์ บุญทัน นายกเหล่ากาชาดจังหวัดสุรินทร์ นายสรสาสน์ สีเพ็ง รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ นายประภาส ศรีจันทร์เวียง ปลัดจังหวัดสุรินทร์ นายอําเภอสนม หัวหน้าส่วนราชการระดับจังหวัดและระดับอําเภอ ร่วมทําบุญตักบาตรกับชาวบ้านในพื้นที่ และพบปะทักทายชาวบ้านยามเช้า จากนั้น เวลา 08.00 น. เข้าพบปะพูดคุยกับนักเรียน แนะแนวทางการเรียนให้กับนักเรียน และมอบทุนการศึกษาให้กับนักเรียนโรงเรียนหนองอียอวิทยา จํานวน 5 ทุน ๆ ละ 1,000 บาท ชมรมแม่บ้านมหาดไทย มอบทุนการศึกษา จํานวน 5 ทุน ๆ ละ 1,000 บาท และมอบรถจักรยานให้นักเรียน เรียนดีแต่ยากจน จํานวน 5 คัน#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
20/1/2023
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
สุรินทร์
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสุรินทร์
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230120134945033
null
บรรยากาศในช่วงวันจ่าย เทศกาลตรุษจีน ที่จังหวัดตราดประชาชนชาวไทยเชื้อสายจีน ต่างพากันออกมาซื้อของเตรียมกราบไหว้บรรพบุรุษ
(20 ม.ค. 66) บรรยากาศการจับจ่ายซื้อสินค้าในช่วงเทศกาลตรุษจีนปีนี้ที่จังหวัดตราด ประชาชนออกมาจับจ่ายซื้อของกันตลอดทั้งวันทั้งของคาว ของหวานและผลไม้ เพื่อจัดเตรียมไว้ไหว้ขอพรเทพเจ้า และบรรพบุรุษ ตามความเชื่อของประชาชนที่มีเชื้อสายจีน โดยที่ร้านค้าของ นายบุญลือ สิงห์ศุภรัฐ ที่เป็นร้านค้า หัวหมู เป็ด ไก่ รายหนึ่งของจังหวัดตราด ตั้งอยู่บริเวณข้างวัดเกาะตะเคียน ตําบลวังกระแจะ อําเภอเมืองตราด มีการนําหัวหมู ไก่ต้ม เป็ดต้ม มีประชาชนให้ความสนใจเดินทางมาเลือกซื้อเพื่อนําไปใช้ประกอบพิธีวันไหว้เทศกาลตรุษจีน ในวันพรุ่งนี้นายบุญลือ สิงห์ศุภรัฐ ผู้ประกอบการร้านจําหน่ายเครื่องเซ่นไหว้ กล่าวว่า ในปีนี้ของปรับราคาขึ้น เนื่องจากราคาในท้องตลาดมีการปรับขึ้นจากเดิมปีที่แล้ว โดยหัวหมูจากราคา 480 บาท ปีนี้ขยับขึ้นเป็น 800 บาท หมูชิ้นปีที่แล้วขายกิโลละ 160 บาท ปีนี้ก็ขยับขึ้นเป็นกิโลกรัมละ 250 บาท ไก่ต้มปีที่แล้ว ราคาตัวละ 200 บาท ปีนี้ขยับขึ้นเป็น 250 บาท ส่วนราคาเป็ดต้มคงที่ ราคาตัวละ 400 บาท ส่วนสินค้าอื่น ๆ ราคายังคงเดิมเท่ากับปีที่ผ่านมาในส่วนของขนมไหว้ในตลาดซอยไร่รั้ง เทศบาลเมืองตราด มีการราคาปรับราคา ขึ้น อาทิ ขนมเทียน จากปีที่ผ่านมา จําหน่ายลูกละ 3 บาท ปีนี้จําหน่ายที่ลูกละ 5 บาท ขนมมัดไต้ปีที่แล้วชิ้นละ 10 บาท ปีนี้ชิ้นละ15 บาท ขนมถ้วยฟู ปีที่แล้วลูกละ 5 บาท ปีนี้จําหน่ายที่ราคา 3 ลูก 20 บาท ในขณะที่ ขนมเข่งปีที่แล้วราคาลูกละ 10 บาท ปีนี้ราคาลูกละ 15 บาท ในส่วนของเครื่องเซ่นไหว้บรรพบุรุษ จําพวก กระดาษเงิน กระดาษทอง ราคายังคงเดิม #สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
20/1/2023
ภาคตะวันออก
ตราด
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดตราด
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230120170006132
null
ชาวมุกดาหาร ร่วมจัดงานบุญข้าวยาคู บูชาพระบรมสารีริกธาตุ ประจำปี 2566
นายศศิพงษ์ จันทรสาขา คณะกรรมการจัดงานบุญข้าวยาคู บูชาพระบรมสารีริกธาตุ กล่าวว่า ชาวจังหวัดมุกดาหารได้ร่วมกันจัดงานบุญข้าวยาคู บูชาพระบรมสารีริกธาตุ ประจําปี 2566 ระหว่างวันที่ 18-20 มกราคม 2566 ณ วัดป่าศิลาวิเวก อําเภอเมือง จังหวัดมุกดาหาร โดยมีพิธีอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุขึ้นประดิษฐานในมณฑปบริเวณมณฑลพิธี การจัดขบวนอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ ขบวนเกวียนข้าวยาคู เคลื่อนขบวนไปตามเส้นทางในเขตเทศบาลเมืองมุกดาหาร เพื่อให้ประชาชนชาวจังหวัดมุกดาหาร ได้สักการะเพื่อเป็นสิริมงคล การรําบูชาพระบรมสารีริกธาตุ โดยคณะนางรํารวมเผ่าไทมุกดาหาร และการแสดงพระธรรมเทศนา จากหลวงพ่ออินทร์ถวาย สันตุสสโก วัดป่านาคําน้อย จ.อุดรธานี โดยมี พลตํารวจเอก ประชา พรหมนอก อดีตรองนายกรัฐมนตรี และประธานที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ สมาคมเครื่อข่ายมุกดาหารเมืองสามธรรม เป็นประธานในพิธีฯโดยพระบรมสารีริกธาตุได้รับประทานจากสมเด็จพระสังฆราชศรีลังกา (สมเด็จพระมหานายกะ ฝ่ายอักษะคีรียา สยามนิกาย คีรีลังกา) ซึ่งพระบรมสารีริกธาตุประดิษฐานไว้ที่วัดป่าศิลาวิเวก เพื่อให้ประชาชนได้กราบไหว้สักการะต่อไปสําหรับข้าวยาคู เป็นคํามาจากภาษาบาลีแต่เดิม เป็นชื่อของยาชนิดหนึ่งที่หมอชีวกโกมารภัจจ์ ปรุงเป็นโอสถถวายพระพุทธองค์ เมื่อทรงประชวรด้วยโรคลมอันเกิดจากช่องท้อง และมีที่มาในพระวินัยปิฎก มหาวรรคเล่มที่ 5 หมวด-เภสัชชขันธกะ หน้า 82 ข้อ 49 ความว่า พระอานนท์ดําริว่าแม้เมื่อก่อนพระผู้มีพระภาคเจ้าประชวรโรคลมเกิดในอุทรก็ทรงพระสําราญได้ด้วยยาคู ปรุงด้วยของ 3 อย่าง คือ งา ข้าวสาร และถั่วเขียว มาปรุงรวมกัน แล้วถวายพระพุทธองค์ ตั้งแต่สมัยพุทธกาลข้าวยาคูให้คุณประโยชน์ 10 อย่าง คือ ผู้ให้ข้าวยาคูชื่อว่าให้อายุ ให้ผิวพรรณ ให้ความสุข ให้กําลัง ให้ปฏิภาณให้กําจักความหิว บรรเทาความกระหาย ทําให้ลมเดินคล่อง ล้างลําไส้ และย่อยอาหารใหม่ที่ยังเหลืออยู่#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
20/1/2023
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
มุกดาหาร
สวท.มุกดาหาร
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230120151916092
null
จังหวัดชลบุรี สวนนงนุชพัทยา ต้อนรับเทศกาลตรุษจีน จัดขบวนช้างแสนรู้เชิดสิงโต อวยพรให้นักท่องเที่ยวเพื่อเสริมความเป็นสิริมงคล
วันที่ 20 ม.ค.66 สวนนงนุชพัทยา อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ได้จัดขบวนแห่ช้างเชิดสิงโต ต้อนรับเทศกาลตรุษจีน ประจําปี 2566 ขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ เพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยวชาวไทย ชาวไทยเชื้อสายจีน และนักท่องเที่ยวต่างชาติ ที่เดินทางเข้ามาเที่ยวชมสวนนงนุชพัทยา มีการจัดขบวนช้างเชิดสิงโต 8 เชือก โดยยังมีเหล่าบรรดานางฟ้า นางสวรรค์ที่มาร่ายรําอํานวยอวยพรจํานวนมากกว่า 50 คน ร่วมเฉลิมฉลองกับนักท่องเที่ยวอย่างสนุกสนาน โดยกิจกรรมดังกล่าว จัดเพื่อเป็นการกระตุ้นการท่องเที่ยวแบบไทยเที่ยวไทยและต้อนรับนักท่องเที่ยวชาวไทยและนักท่องเที่ยวต่างชาติ ที่เดินทางเข้ามาเที่ยวชมสวนนงนุชพัทยา โดยสร้างบรรยากาศความสนุกสนานกับช้างแสนรู้ของสวนนงนุชพัทยา ท่ามกลางนักท่องเที่ยวจํานวนมาก ซึ่งกิจกรรมจะจัดขึ้นระหว่าง วันที่ 20 ม.ค.- 22 ม.ค. 66 เพื่อให้นักท่องเที่ยวทั่วไปได้ชมและถ่ายรูปเป็นที่ระลึกและเสริมความเป็นสิริมงคลในช่วงเทศกาลตรุษจีนทั้งนี้นักท่องเที่ยวยังสามารถชื้อบัตรเข้าชมการแสดงได้ในราคาพิเศษ 100 บาทต่อท่าน สามารถเข้าชมการแสดงนงนุชโชว์ และการแสดงช้างแสนรู้ ได้วันละ 3 รอบ คือ รอบเช้า 10.30 น. รอบบ่าย 2 รอบ 13.30 น. และ 15.00 น. ส่วนกิจกรรมต่างๆ ของสวนนงนุชพัทยาเปิดบริการทุกวันตั้งแต่ 08.00 น.- 18.00 น.บัณฑิต มันปาฏิ...ภาพ/ข่าว#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
20/1/2023
ภาคตะวันออก
ชลบุรี
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดชลบุรี
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230120172020137
null
วัฒนธรรมจังหวัดลำปาง ร่วมจัดการแสดงศิลปะวัฒนธรรม "ปูจานันทะเภรีสะหรีนครลำปาง" ในงานประเพณีแห่เจ้าพ่อ-เจ้าแม่ ปากน้ำโพ ครั้งที่ 107
ดร.ทัศนีย์ ดอนเนตร์ วัฒนธรรมจังหวัดลําปาง เปิดเผยว่า สํานักงานวัฒนธรรมจังหวัดลําปาง จัดการแสดงศิลปะวัฒนธรรม "ปูจานันทะเภรีสะหรีนครลําปาง" โดยสมาคมก๋องปู่จาและศิลปะการแสดงพื้นบ้านนครลําปาง เข้าร่วมในงานประเพณีแห่เจ้าพ่อ-เจ้าแม่ ปากน้ําโพ ครั้งที่ 107 ปี 2565-2566 มังกรเบิกฟ้า บุปผาเบ่งบาน และงานมหกรรมวัฒนธรรมแห่งชาติ วิถีถิ่น วิถีไทย "อารยธรรมแห่งสายน้ํา วัฒนธรรมจีนไทย สานสายใยชาติพันธุ์" ณ หาดทรายต้นแม่น้ําเจ้าพระยา อําเภอเมืองนครสวรรค์ จังหวัดนครสวรรค์ ระหว่างวันที่ 15-20 มกราคม 2566 โดยมี นางสาวมะลิวรรณ ปันแก้ว นักวิชาการวัฒนธรรมปฏิบัติการ และนายธนกฤต สมบัติวรรณทนา นักวิชาการวัฒนธรรมปฏิบัติการ ร่วมประสานงานการแสดง ภายในงานมีการจัดนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว กราบสักการบูชาองค์เจ้าพ่อเจ้าแม่ปากน้ําโพ ชมนิทรรศการแสดงศิลปะ ตลาดวัฒนธรรม ชมสาธิตและจําหน่ายสินค้าผลิตภัณฑ์ทางวัฒนธรรม (CPOT) อาหารพื้นถิ่น 17 จังหวัดภาคเหนือ การแสดงทางศิลปวัฒนธรรม โดยศิลปินพื้นบ้านจาก 17 จังหวัดภาคเหนือ สมาคมศิลปินขับซอล้านนา และสมาคมกลองและศิลปะการแสดงล้านนา กิจกรรมเสวนาทางวิชาการ โดยกรมศิลปากร การไหว้เจ้าขอพร การแก้ชง และไหว้เสริมดวง ตลอดจน กิจกรรมอีกมากมายให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสถึงอารยธรรมวัฒนธรรมไทยจีนตลอดช่วงการจัดงานทั้งนี้ กระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) ได้บูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงานต่างๆ จัดงานมหกรรมวัฒนธรรมแห่งชาติ “วิถีถิ่น วิถีไทย” ประจําปีงบประมาณ 2566 ขึ้น ตามนโยบายส่งเสริมการสร้างความเข้มแข็งให้แก่ระบบเศรษฐกิจฐานราก ในระดับชุมชนและท้องถิ่น สนับสนุนนโยบายโมเดลเศรษฐกิจใหม่ BCG ของรัฐบาล รวมทั้งผลักดัน “Soft Power” เพื่อส่งเสริมความเป็นไทยและอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ โดยเฉพาะด้านเทศกาลและประเพณี เพื่อนําทุนทางวัฒนธรรมที่มีอยู่ในท้องถิ่นมาพัฒนาต่อยอดให้เกิดคุณค่าและมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจ สร้างงาน สร้างอาชีพ สร้างรายได้ให้กับศิลปิน เครือข่ายทางวัฒนธรรม ผู้ประกอบการสินค้าและบริการทางวัฒนธรรม ตลอดจนเป็นการเผยแพร่ศิลปะและวัฒนธรรมของชาติและท้องถิ่น ให้เป็นที่รับรู้อย่างกว้างขวาง เสริมฐานรากทางวัฒนธรรมให้เกิดความเข้มแข็ง#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
20/1/2023
ภาคเหนือ
ลำปาง
สวท.ลำปาง
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230120152520098
null
จังหวัดมุกดาหารจัดพิธีเปิดงานตรุษจีนมุก ครั้งที่ 3 ผสมผสานเชื่อมโยง พหุวัฒนธรรม ไทยลาวเวียดนามจีน
เมื่อวันที่ 19 มกราคม 2566 เวลา 16.30 น. นายวรญาณ บุญณราช ผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร เป็นประธานในพิธีเปิดงานตรุษจีนมุกครั้งที่ 3 โดยมี นายจู ดึ๊ก หยุง กงสุลใหญ่สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม ณ จังหวัดขอนแก่น นายอธิปัตย์ โรจนไพบูลย์ กงสุลใหญ่ ณ แขวงสะหวันนะเขต รองผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร นายกเหล่ากาชาดจังหวัดมุกดาหาร นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดมุกดาหาร นายกเทศมนตรีเมืองมุกดาหาร หัวหน้าส่วนราชการ บริษัท ห้างร้านเอกชน ประชาชน และนักท่องเที่ยว เข้าร่วมกิจกรรมเป็นจํานวนมาก ที่บริเวณ เมืองเก่ามุกดาหารถนนสองนางสถิตย์ (สี่แยกโรงแรมฮั่วนํา)เทศกาลตรุษจีนมุกครั้งที่ 3 เริ่มต้นงานด้วยกิจกรรมผู้ว่าพาไหว้ โดยมีคณะเชิดสิงโตนําประธานในพิธีและคณะ ไหว้สักการะสถานที่สําคัญของจังหวัดมุกดาหาร เริ่มต้นที่ศาลหลักเมืองมุกดาหาร ศาลเจ้าพ่อเจ้าฟ้ามุงเมือง และศาลเจ้าแม่สองนางสถิตย์ และพิธีเปิด ณ บริเวณเวทีกลาง สี่แยกหน้าโรงแรมฮั่วนํา โดยมีไฮไลท์เป็นการแสดงโชว์เชิดสิงโต พร้อมจุดประทัดเปิดงานจํานวน 10,000 นัด พิธีมอบส้มมงคลให้ผู้มาร่วมงาน จากนั้นประธานในพิธีพร้อมคณะได้เดินทางไปยังตึกมังกร มูลนิธิการกุศลมุกดาหาร เพื่อทําการสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ และเดินพบปะบันทึกภาพร่วมกับผู้ที่มาออกร้านภายในบริเวณงานและประชาชนนักท่องเที่ยวอย่างเป็นกันเองงานตรุษจีนมุกครั้งที่ 3 จัดขึ้นภายใต้ความร่วมมือระหว่างจังหวัดมุกดาหาร มูลนิธิการกุศลมุกดาหาร “เต็กก่า” จีหมกเกาะ สมาคมชาวไทยเชื้อสายเวียดนาม หอการค้าจังหวัดมุกดาหาร กลุ่มผู้ประกอบการรุ่นใหม่ YECมุกดาหาร และกลุ่มมุก Lovers ภายใต้แนวคิดเริ่มจากเล็กไปใหญ่ แต่เต็มไปด้วยรายละเอียดน่าจดจํา ภายในบริเวณงานมีการประดับประดาด้วยโคมไฟ จีนและเวียดนาม แสงสี การละเล่น Street Art พร้อมมุมถ่ายภาพ กิจกรรมออกร้านจําหน่ายสินค้าและอาหาร Food truck คลอเคล้าบรรยากาศด้วยเสียงดนตรีตลอดทั้งงาน ประชาชนและนักท่องเที่ยวที่สนใจสามารถร่วมกิจกรรมงานตรุษจีนมุก ครั้งที่ 3 ได้ระหว่างวันที่ 19-22 มกราคม 2566 ณ บริเวณเมืองเก่ามุกดาหาร ถนนสองนางสถิตย์ (สี่แยกโรงแรมฮั่วนํา) ตั้งแต่เวลา 17:00 น เป็นต้นไป ข่าว ณัฐรัชต์ หงษ์คําภาพ ณัฐรัชต์ หงษ์คํา, อรรถพล หมื่นทุม, สุระณรงค์ อ่อนสนิท#สํานักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดมุกดาหาร#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
20/1/2023
null
มุกดาหาร
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดมุกดาหาร
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230120162913125
null
ผู้เข้าร่วมประกอบพิธีอุมเราะห์ของ ศอ.บต. ตื้นตันใจ และขอขอบคุณคณะเจ้าหน้าที่ทุกท่าน ที่ดูแลฮุจญาจทุกคนได้เป็นอย่างดี
วันนี้ (20 มกราคม 2566) เวลา 12.30 น. ตามเวลาท้องถิ่นในประเทศซาอุดีอาระเบีย คณะผู้ประกอบพิธีอุมเราะห์ ของศูนย์อํานวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ จํานวน 120 คน ได้ร่วมกันละหมาดวันศุกร์ ณ มัสญิดหะรอม และร่วมขอดุอาร์ ให้ทุกคนที่มาทําอุมเราะห์ในครั้งนี้มีสุขภาพร่างกายสมบูรณ์แข็งแรง พร้อมทําอามาล อีบาดัตได้อย่างเต็มที่ ก่อนจะเดินทางกลับภูมิลําเนาในวันที่ 24 มกราคม 2566 นี้นาวาเอก จักรพงษ์ อภิมหาธรรม หัวหน้าคณะฯ กล่าวว่า ห่วงใยผู้เข้าร่วมกิจกรรมในการประกอบพิธีอุมเราะห์ทุกๆคน เนื่องจากบางท่านมีสภาพร่างกายที่ไม่ค่อยสมบูรณ์พร้อม แต่ผู้เข้าร่วมกิจกรรมทุกท่าน ดูแลช่วยเหลือซึ่งกันและกัน เหมือนพี่น้อง จึงทําให้ทุกอย่างผ่านไปได้ด้วยดี ทาง ศอ.บต. และทีมงาน จะคอยดูแลและอํานวยความสะดวกให้กับผู้เข้าร่วมกิจกรรม ได้ดําเนินภารกิจให้เสร็จลุล่วงตามเป้าหมาย ที่วางไว้หนึ่งในผู้เข้าร่วมโครงการ กล่าาว่า ตนเองมีความสุขใจ ดีใจ ปลื้มใจ มากๆ ที่ได้มาบ้านของอัลลอฮฺ ได้ใกล้ชิดกับอัลลอฮฺ เชื่อว่าอัลลอฮฺจะตอบรับทุกคําดุอาร์ และขอขอบคุณทางศอ.บต ที่ให้โอกาสกับครอบครัว ทําให้ได้มาประกอบพิธีอุมเราะห์ในครั้งนี้ และยังดูแลสุขภาพของฮุจญาจทุกท่านอีกด้วยอย่างไรก็ตาม การประกอบพิธีอุมเราะห์ครั้งนี้ สร้างความประทับใจให้กับฮุจญาจเป็นอย่างมาก ฮุจญาจทุกท่านได้ร่วมประกอบศาสนกิจตามที่ตนเองตั้งใจ โดยเฉพาะการร่วมขอดุอาร์ ถวายแด่ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา ให้พระองค์ทรงหายจากพระอาการประชวรโดยเร็ววัน และขอดุอาร์ให้ตนเอง ครอบครัวและขออภัยโทษกับสิ่งที่กระทําที่ผ่านมาอีกด้วย#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
20/1/2023
ภาคใต้
ยะลา
สทท.ยะลา
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230120164800129
null
จังหวัดลพบุรี เฝ้าระวัง เตรียมความพร้อมป้องกันภัยช่วงเทศกาลตรุษจีน
นายอําพล อังคภากรณ์กุล ผู้ว่าราชการจังหวัดลพบุรี แจ้งว่า ด้วยในช่วงวันที่ 20 -22 มกราคม 2566 เป็นช่วงเทศกาลตรุษจีน ตามประเพณีปฏิบัติของชาวไทยเชื้อสายจีนจะมีการสักการะบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ โดยการจุดธูปเทียนบูชาเซ่นไหว้ เผากระดาษเงินกระดาษทอง จุดพุล ประทัด ดอกไม้เพลิง ซึ่งอาจเป็นสาเหตุของการเกิดอัคคีภัยตลอดจนอุบัติภัยขนาดใหญ่ได้จังหวัดลพบุรี ได้แจ้งให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นสํารวจตรวจสอบและปรับปรุงข้อมูลพื้นที่ที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดอัคคีภัย รวมถึงซักซ้อมแนวทางการปฏิบัติงานร่วมกันของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ชัดเจน โดยให้เข้มงวดตรวจตราอาคารสถานที่ โป๊ะ ท่าเทียบเรือโดยสารที่มีสภาพไม่มั่นคงแข็งแรง อาจก่อให้เกิดสาธารณภัยได้โดยง่าย พร้อมทั้ง เตรียมความพร้อมบุคลากร อุปกรณ์ เครื่องจักรกลสาธารณภัยให้พร้อมปฏิบัติงานตลอด 24 ชั่วโมง และจัดกําลังเจ้าหน้าที่ เฝ้าระวัง ตรวจตรา อาคารบ้านเรือน พื้นที่ชุมชน สถานประกอบการและสถานบริหาร โดยเฉพาะสถานที่ที่มีการจัดงาน และมีการจุดพลุ ประทัด ดอกไม้เพลิง เพื่อเตรียมความพร้อมกรณีเกิดภัยทั้งนี้ ให้จัดชุดเจ้าหน้าที่ สมาชิกกองอาสารักษาดินแดน (อส.) อาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน (อป.พร) บูรณาการร่วมกับหน่วยราชการ ทหาร ตํารวจ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และประชาชนจิตอาสา เฝ้าระวังสถานที่และกิจกรรมที่เสี่ยงต่อการเกิดอัคคีภัย เช่น การจุดประทัด ดอกไม้เพลิง รวมทั้งความเสี่ยงที่อาจจะทําให้เกิดอุบัติภัย ในกรณีอื่นๆ ได้โดยง่าย พร้อมทั้งจัดหน่วยเคลื่อนที่เร็วพร้อมอุปกรณ์ดับเพลิง อุปกรณ์กู้ภัย และไฟฟ้าส่องสว่าง เตรียมความพร้อมในพื้นที่หรือชุมชนที่มีความเสี่ยงภัยเพื่อเฝ้าระวังเหตุ และพร้อมปฏิบัติงานได้ทันที สําหรับพื้นที่มีการจัดงานวัดตรุษจีนและสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ ขอให้จัดระเบียบการจราจรและอํานวยความสะดวกด้านการจราจร พร้อมทั้งเฝ้าระวังความปลอดภัยบริเวณที่มีประชาชนหนาแน่นด้วย#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
20/1/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
ลพบุรี
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดลพบุรี
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230120171624136
null
เปิดงาน “ตรุษจีนนครตรัง และเทศกาลอาหาร ประจำปี 2566” คึกคัก เริ่มแล้ว 20 – 22 ม.ค. นี้ ประดับโคมไฟจีนสว่างไสวรับเทศกาลตรุษจีน
วันนี้ (20 ม.ค. 66) ที่เวทีกลาง ถ.วิเศษกุล (หน้าสํานักงานเทศบาลนครตรัง) อ.เมือง จ.ตรัง นายขจรศักดิ์ เจริญโสภา ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง เป็นประธานเปิดงานตรุษจีนนครตรัง และเทศกาลอาหาร ประจําปี 2566 โดยมี ดร.สัญญา ศรีวิเชียร นายกเทศบาลนครตรัง กล่าวรายงานการจัดงานฯ พร้อมด้วยนางสาวสุภากิตติ์ เกลี้ยงสงค์ พาณิชย์จังหวัดตรัง หัวหน้าส่วนราชการ และประชาชนเข้าร่วมกิจกรรมจํานวนมากภายในงาน “ตรุษจีนนครตรัง และเทศกาลอาหาร ประจําปี 2566” วันแรก มีการแสดงเชิดสิงโตมงคล การออกร้านจําหน่ายอาหาร กิจกรรมรังสรรค์เมนู ตรุษจีนมหามงคล การแสดงบนเวที พร้อมทั้งมีการประดับโคมไฟจีนสว่างไสวรับเทศกาลตรุษจีน สร้างบรรยากาศคึกคัก แต่งแต้มสีสันแห่งสิริมงคลรับปีใหม่จีน เพื่อความเป็นสิริมงคลรับปีกระต่าย โดยเทศบาลนครตรัง ร่วมกับสํานักงานพาณิชย์จังหวัดตรัง จัดงาน “ตรุษจีนนครตรัง และเทศกาลอาหาร” ระหว่างวันที่ 20 - 22 มกราคม 2566 เพื่ออนุรักษ์ขนบธรรมเนียมประเพณีของชาวไทยเชื้อสายจีน และเพื่อเป็นการส่งเสริมให้อาหารตรัง เข้าสู่ตลาดทั่วประเทศและมีชื่อเสียงระดับโลก เป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจ รองรับนักท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลตรุษจีนสําหรับการจัดงานครั้งนี้ ยังคงไว้ซึ่งวัฒนธรรมที่ดีงามของชาวไทยเชื้อสายจีน มีการจัดนิทรรศการประวัติงานตรุษจีน , การตั้งโต๊ะรับเทพเจ้าแห่งโชคลาภ (ไฉ่ซิ้งเอี้ย) , ซุ้มเขียนคําอวยพรอักษรจีนด้วยพู่กันจีน , บูทจําหน่ายสินค้าอาหารตรัง อาหารทะเล อาหารอัตลักษณ์พื้นถิ่น และ สินค้าชุมชน , การรังสรรค์เมนูอาหารตรุษจีนมหามงคลจากเชฟชื่อดัง , ชมการแสดงตํานานตรุษจีน เชิดสิงโต ,ร่วมเชียร์ การประกวดมิสไชนิส นครตรัง และกิจกรรมร่วมสนุกรับอั่งเปาตรุษจีน ทั้งนี้ วันตรุษจีน ถือเป็นวันมหามงคลที่ชาวจีนและชาวไทยเชื้อสายจีน ต่างพากันประกอบพิธีกราบไหว้บูชาฟ้าดิน บูชาเทพเจ้า เพื่อความเป็นสิริมงคล นํามาซึ่งความสุข ความเจริญในชีวิต หน้าที่การงาน ธุรกิจการค้ามีความเจริญรุ่งเรือง มีโชคลาภ ร่ํารวยด้วยทรัพย์สินเงินทอง มีสุขภาพร่างกายแข็งแรง ปราศจากโรคภัย ทั้งแก่ตนเองและครอบครัว#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
20/1/2023
ภาคใต้
ตรัง
สวท.ตรัง
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230120202520189
null
ครอบครัวชาวไทยเชื้อสายจีน ตั้งโต๊ะ ไหว้เจ้า- บรรพบุรุษ “ตรุษจีน” แสดงความกตัญญู เพื่อความเป็นสิริมงคล
วันนี้ 21 มกราคม 2566 บรรยากาศวันไหว้ ตรุษจีน ในเขตเทศบาลนครยะลา ชาวไทยเชื้อสายจีน ต่างก็ได้ตั้งโต๊ะ ภายใน ภายนอกบ้านเรือน หน้าร้านค้า นําเครื่องเซ่นไหว้มงคล ต่างๆ ซึ่งมีอาหาร คาว หวาน ผลไม้ หมู เป็ด ไก่ ขนมเข่ง ขนมเทียน ขนมถ้วยฟู ขนมสาลี่ ส้ม แอปเปิล องุ่น กล้วย น้ําชา เหล้า ฯลฯ กระดาษเงิน กระดาษทอง เสื้อผ้ากระดาษ มาวางไว้ เพื่อให้บุคคลในครอบครัว ได้ร่วมไหว้เทพเจ้า ไหว้บรรพบุรุษ พ่อแม่ญาติพี่น้องที่ถึงแก่กรรมไปแล้ว เพื่อแสดงถึงความกตัญญู สืบสานประเพณีวัฒนธรรมของชาวจีน ตลอดจน ขอพรให้เกิดความเป็นสิริมงคลต่อตนเองและครอบครัว ในวันขึ้นปีใหม่จีน โดยหลังพิธีไหว้เทพเจ้า ไหว้บรรพบุรุษ และไหว้ผีพี่น้องที่ล่วงลับไปแล้ว ก็จะมีการเผากระดาษเงิน กระดาษทอง เสื้อผ้ากระดาษ ต่างๆ เพื่อเป็นการอุทิศแด่ผู้ล่วงลับ ส่งไปให้บรรพบุรุษได้ใช้ รวมทั้ง จุดประทัดเพื่อขับไล่สิ่งที่ไม่ดี สําหรับในวันนี้ ชาวไทยเชื้อสายจีน ก็จะสวมใส่เสื้อสีแดง สัญลักษณ์แห่งความเป็นสิริมงคล วันตรุษจีน ของชาวจีนขณะที่ ในวันพรุ่งนี้ 22 มกราคม 2566 ก็จะเป็นวันตรุษจีน หรือ วันเที่ยว ถือเป็นวันขึ้นปีใหม่ ของชาวจีน ซึ่งจะตรงกับวันอาทิตย์ โดยทางรัฐบาล ได้กําหนดให้ วันตรุษจีน ซึ่งเป็นวันสําคัญของชาวไทยเชื้อสายจีน เป็นวันหยุดกรณีพิเศษ ทําให้ วันจันทร์ที่ 23 มกราคม 2566 จะเป็นวันหยุดราชการชดเชย เนื่องในวันตรุษจีน อีก 1 วัน ซึ่งหลายครอบครัว ก็จะถือโอกาสในช่วงเทศกาลตรุษจีนที่มีวันหยุด 3 วันในปีนี้ กลับไป ยังภูมิลําเนา เพื่อร่วมเฉลิมฉลองเทศกาลตรุษจีน กับครอบครัว#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
21/1/2023
ภาคใต้
ยะลา
สทท.ยะลา
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230121084049262
null
จังหวัดลำปาง ประกาศขึ้นทะเบียนมรดกจังหวัดลำปาง ประเภทย่านชุมชนเก่า อันนำไปสู่หลักเกณฑ์การพิจารณามรดกของชาติต่อไป
นายชัชวาลย์ ฉายะบุตร ผู้ว่าราชการจังหวัดลําปาง เปิดเผยว่า จังหวัดลําปาง โดยคณะอนุกรรมการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมธรรมชาติและศิลปกรรมประจําจังหวัดลําปาง ได้ดําเนินการพิจารณาแหล่งศิลปกรรมซึ่งเป็นมรดกทางวัฒนธรรม เพื่อประกาศเป็นแหล่งมรดกของจังหวัด อันเป็นการส่งเสริมและอนุรักษ์แหล่งศิลปกรรมซึ่งเป็นมรดกทางวัฒนธรรม ให้มีสิ่งแวดล้อมที่เอื้อต่อการดํารงไว้ซึ่งความภาคภูมิใจในความอุดมสมบูรณ์ความโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ และความเจริญรุ่งเรืองของท้องถิ่น โดยพิจารณาตามหลักเกณฑ์ในการพิจารณามรดกของชาติ อยู่บนพื้นฐานของการมีส่วนร่วมของภาคส่วนต่างๆ อันจะนําไปสู่หลักเกณฑ์ในการพิจารณามรดกของชาติต่อไปจังหวัดลําปางจึงได้พิจารณาแหล่งศิลปกรรมซึ่งเป็นมรดกทางวัฒนธรรม ประเภทย่านชุมชนเก่าให้เป็นแหล่งมรดกจังหวัดลําปางดังนี้ 1. ย่านชุมชนเก่าบ้านกล้วย ตําบลกล้วยแพะ อําเภอเมืองลําปาง จังหวัดลําปาง 2. ย่านชุมชนเก่าบ้านหลุก ตําบลนาครัว อําเภอแม่ทะ จังหวัดลําปาง 3. ย่านชุมชนเก่าลําปางหลวง ตําบลลําปางหลวง อําเภอเกาะคาจังหวัดลําปาง 4. ย่านชุมชนเก่าไหล่หิน ตําบลไหล่หิน อําเภอเกาะคา จังหวัดลําปางทั้งนี้ ขอให้ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องได้ร่วมกันดูแลรักษามรดกจังหวัดลําปางเพื่อเป็นสมบัติของชาติสืบไป#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
21/1/2023
ภาคเหนือ
ลำปาง
สวท.ลำปาง
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230121090529263
null
กู้ภัยแม่กอเหนี่ยวยะลา ไหว้แม่ยางนางรถ เสริมเป็นสิริมงคล “ตรุษจีน”
กู้ภัยแม่กอเหนี่ยวยะลา ไหว้แม่ยางนางรถ เสริมเป็นสิริมงคล “ตรุษจีน” ปีกระต่าย สร้างขวัญกําลังใจเจ้าหน้าที่ วันนี้ 21มกราคม 2566 ซึ่งเป็นวันไหว้ในช่วงเทศกาลตรุษจีน และเป็นฤกษ์ดี ในช่วงวันขึ้นปีใหม่จีน เวลา 09.00 น. ทาง ศูนย์กู้ภัยแม่กอเหนี่ยวยะลา ได้ตั้งโต๊ะนําเครื่องเซ่นไหว้ ทั้ง อาหารคาว อาหารหวาน ผลไม้ น้ําชา ต่างๆ รวมทั้งดอกไม้ ไปติดไว้ที่รถกู้ภัย จํานวน กว่า 12 คัน ก่อนร่วมกันไหว้แม่ย่านางของรถเพื่อความเป็นสิริมงคล เสริมสร้างขวัญกําลังใจ เจ้าหน้าที่ ในวันไหว้เทศกาลตรุษจีน โดยมี นายพิชิต มั่นสิทธิกุล หัวหน้าศูนย์ นํา เจ้าหน้าที่ กู้ชีพ กู้ภัย กราบไหว้สิ่งศักดิ์ สิทธิ์ เพื่อขอบคุณในห้วงการทํางานที่ผ่านมา ที่ได้ปกปักษ์ คุ้มครอง เจ้าหน้าที่ รวมถึงรถยนต์ที่ปฎิบัติงาน ให้มีความปลอดภัย และขอพรให้การปฎิบัติงานตลอดทั้งปีเป็นไปด้วยความเรียบร้อย นอกจากนี้ก็ยังมีการเชิดสิงโต ตัวน้อยของลูกหลานกู้ภัย ของทางมูลนิธิ รวมทั้งการเชิดสิงโต ของเครือข่ายมูลนิธิแม่กอเหนี่ยว รวมไปถึง การจุดประทัด จํานวน 10,000 นัด ขับไล่สิ่งไม่ดี พร้อมทั้ง เปิดไซเรน รถกู้ชีพ กู้ภัย พร้อมกัน เสียงดังสนั่น ก่อนที่จะเริ่มต้น ออกปฎิบัติงานช่วยเหลือประชาชนที่เจ็บป่วย ในพื้นที่ จ.ยะลาและใกล้เคียงหัวหน้าศูนย์กู้ภัยแม่กอเหนี่ยวยะลา บอกว่า สําหรับการไหว้แม่ย่างนางรถ ทางศูนย์กู้ภัยจัดขึ้นทุกปี ในวันไหว้ตรุษจีน เพื่อเป็นการไหว้ขอบคุณสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่ในศาลเจ้าให้คุ้มครองรถทุก คัน และ พนักงานทุกคนให้แคล้วคลาดปลอดภัยอยู่เย็นเป็นสุข ซึ่งรถปฎิบัติงานทั้งหมดจะมี จํานวน 12 คัน นอกจากนี้ก็ยังมีรถของทางเจ้าหน้าที่ด้วย นอกจากนี้ก็ยังมีการจุดประทัด 1 หมื่นนัด เพื่อขับไล่สิ่งไม่ดีด้วย#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
21/1/2023
ภาคใต้
ยะลา
สทท.ยะลา
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230121120247288
null
ชาวไทยเชื้อสายจีนในจังหวัดขอนแก่น นำเครื่องเซ่นไหว้มาประกอบพิธีเซ่นไหว้เทพเจ้าตามธรรมเนียมเนื่องในเทศกาลตรุษจีนแน่นศาลหลักเมือง
บรรยากาศการไหว้เจ้าตรุษจีน ที่ศาลหลักเมืองขอนแก่น สิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมือง ถนนศรีจันทร์ ในเขตเทศบาลนครขอนแก่น พบว่าชาวไทยเชื้อสายจีนพร้อมใจสวมใส่เสื้อแดง นําเครื่องเซ่นไหว้ อาหารคาว หมู เป็ด ไก่ อาหารหวาน ขนม ผลไม้ ขนมเข่ง ขนมเทียน ขนมถ้วยฟู ขนมสาลี่ ส้ม แอปเปิ้ล องุ่น กล้วย น้ําชา เหล้า มาตั้งเรียงไว้บนโต๊ะ ที่ทางเจ้าหน้าที่เทศบาลได้เตรียมไว้อํานวยความสะดวกสําหรับคนที่มาประกอบพิธีเซ่นไหว้เทพเจ้าตามธรรมเนียมและวิธีปฏิบัติตามการไหว้ เนื่องในเทศกาลตรุษจีน ประจําปี 2566 เพื่อความเป็นสิริมงคลให้กับตนเองและครอบครัว รับวันปีใหม่จีนเทศกาลตรุษจีนปีนี้นายธีระศักดิ์ ฑีฆายุพันธุ์ นายกเทศมนตรีนครขอนแก่น กล่าวว่า เทศบาลนครขอนแก่นได้นํา โต๊ะ เก้าอี้ และเจ้าหน้าที่ ในการอํานวยความสะดวกให้กับผู้ที่เดินทางมาไหว้ศาลหลักเมืองขอนแก่นและสิ่งศักดิ์สิทธิ์โดยรอบ เพื่อให้การไหว้ตามลําดับขั้นตอนนั้นเป็นไปด้วยความเรียบร้อย เทศกาลตรุษจีนของชาวจีน จะเริ่มตั้งแต่ช่วงเช้ามืด เป็นการไหว้เทพเจ้าต่างๆ เพื่อให้เกิดความสุข ความเจริญแก่ครอบครัวคนในครอบครัว ตอนสายจะเป็นการไหว้บรรพบุรุษ หรือญาติพี่น้องที่ล่วงลับไปแล้ว และในตอนบ่ายจะเป็นการไหว้ผีพี่น้อง และผีไร้ญาติ ซึ่งหลังจากทําพิธีไหว้เทพเจ้า บรรพบุรุษ ก็จะมีการเผากระดาษเงิน กระดาษทอง เสื้อผ้ากระดาษ และอื่นๆ เพื่อเป็นการอุทิศแด่ผู้ล่วงลับ ส่งไปให้บรรพบุรุษได้ใช้ รวมทั้งจุดประทัดเพื่อขับไล่สิ่งที่ไม่ดี อีกด้วยและการประกอบพิธีที่บ้านที่จะต้องตรวจสอบในเรื่องของการจุดธูปเทียน ที่หากไหว้เสร็จแล้วจะต้องดับธูปเทียนทันที รวมทั้งการเผากระดาษเงิน กระดาษทอง และเครื่องเซ่นไหว้ที่ส่งถึงบรรพบุรุษ ที่จะต้องตรวจสอบว่าดับสนิทแล้วหรือไม่ เพื่อป้องกันการเกิดเพลิงไหม้ที่อาจจะเกิดขึ้นได้ ขณะที่ การประกอบพิธีไหว้ตามจุดต่าง ๆ พบว่าทุกคนปฏิบัติตามมาตรฐานความปลอดภัยด้านสาธารณสุขอย่างเข้มงวด#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
21/1/2023
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ขอนแก่น
สวท.ขอนแก่น
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230121114357284
null
ยะลาคึกคัก ไหว้เจ้า-บรรพบุรุษ ตรุษจีน ขณะที่ศูนย์กู้ภัยแม่กอเหนี่ยวยะลา ตั้งเครื่องเซ่นไหว้ ไหว้รถกู้ชีพกู้ภัย 16 คัน เอาฤกษ์เอาชัย
วันนี้ 21 ม.ค.66 บรรยากาศวันไหว้ เทศกาลวันตรุษจีน ในพื้นที่จังหวัดยะลา ที่บริเวณถนนนวลสกุล ในเขตเทศบาลนครยะลา ชาวไทยเชื้อสายจีน ในพื้นที่ได้นําเครื่องเซ่นไหว้ ทั้ง อาหารคาว อาหารหวาน ผลไม้ หมู เป็ด ไก่ ขนมเข่ง ขนมเทียน ขนม ถ้วยฟู ขนมสาลี่ ส้ม แอปเปิล องุ่น กล้วย ธูปเทียน น้ําชา เหล้า มาตั้งจัดเรียงไว้บนโต๊ะ ที่บริเวณหน้าบ้าน พร้อมให้บุคคลในครอบครัว ร่วมไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ เทวดาฟ้าดิน เพื่อขอพร ให้เกิดความสิริมงคลในวันขึ้นปีใหม่จีน รวมทั้ง บรรพบุรุษ พ่อแม่ ญาติพี่น้องที่ล่วงลับไปแล้ว เพื่อแสดงออกความกตัญญูกตเวทิตาขณะที่บรรยากาศที่ศาลเจ้ามูลนิธิแม่กอเหนี่ยวยะลา (ศูนย์กู้ภัยแม่กอเหนี่ยว) อ.เมือง จ.ยะลา เจ้าหน้าที่กู้ภัยแม่กอเหนี่ยวยะลา ไหว้รถกู้ชีพกู้ภัยและรถพยาบาลในการช่วยเหลือผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ ทั้งอุบัติเหตุทั่วไป และเหตุการณ์ความไม่สงบที่เกิดขึ้นในพื้นที่ มาจอดเรียงรายภายในมูลนิธิจํานวน 16 คัน และตั้งเครื่องเซ่นไหว้ เพื่อเอาฤกษ์เอาชัยในช่วงเทศกาลตรุษจีน และพร้อมออกช่วยเหลือผู้ประสบภัยตลอด 24 ชม.#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
21/1/2023
ภาคใต้
ยะลา
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดยะลา
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230121120658290
null
จังหวัดมหาสารคาม ประกอบพิธีบูชามเหศักดิ์หลักเมือง งานประเพณีบุญเบิกฟ้าและงานกาชาดจังหวัดมหาสารคาม ประจำปี 2566
วันนี้ (21 มกราคม 2566) เวลา 08.00 น. ที่บริเวณศาลหลักเมืองมหาสารคาม นายเกียรติศักดิ์ ตรงศิริ ผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม เป็นประธานในพิธีบูชามเหศักดิ์หลักเมือง งานประเพณีงานบุญเบิกฟ้าและงานกาชาดจังหวัดมหาสารคาม ประจําปี 2566 โดยมี นางพรศรี ตรงศิริ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดมหาสารคาม นายธัญญวัฒน์ ชาญพินิจ นายวิวัฒน์ อินทร์ไทยวงศ์ นายนพสิทธิ์ อุดมสุวรรณกุล รองผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม หัวหน้าส่วนราชการ และประชาชนชาวจังหวัดมหาสารคาม เข้าร่วมพิธี เพื่อเป็นการบูชาขอพรให้การจัดงานประเพณีบุญเบิกฟ้าและงานกาชาดจังหวัดมหาสารคาม ประจําปี 2566 เป็นไปด้วยความเรียบร้อย“ประเพณีบุญเบิกฟ้า” เป็นประเพณีที่ชาวอีสานได้ถือปฏิบัติสืบทอดกันมาแต่โบราณ โดยมีความเชื่อว่า เมื่อถึงวันขึ้น 3 ค่ํา เดือน 3 ของทุกปี ฟ้าจะไขเปิดประตูฝนให้ตกลงสู่โลกมนุษย์ ชาวอีสานจึงถือเอาฤกษ์สําคัญนี้นําปุ๋ยคอก ที่ได้จากมูลโค กระบือ ไปใส่ในเรือกสวนไร่นาของตนเอง เพื่อเป็นการฟื้นฟูบํารุงดิน ทั้งนี้ จังหวัดมหาสารคาม ถือได้ว่าเป็นจังหวัดเดียวในภาคอีสานที่ได้นําเอาประเพณีบุญเบิกฟ้ามาจัดเป็นงานประจําปีของจังหวัด เพื่อให้ชาวบ้านได้ร่วมกันตระหนักถึงความสําคัญในการฟื้นฟูบํารุงดิน เพื่อเตรียมสําหรับการเพาะปลูกต่อไปวิศิษฎ์ เย็นศิริ-ข่าว/พรชัย-ภาพ#สํานักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดมหาสารคาม#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
21/1/2023
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
มหาสารคาม
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดมหาสารคาม
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230121121002292
null
ภูเก็ตบรรยากาศชาวภูเก็ตเชื้อสายจีนตั้งโต๊ะไหว้ในเทศกาลตรุษจีน
เช้าวันที่ 21 ม.ค.66 ชาวภูเก็ตเชื้อสายจีนจะประกอบพิธีไหว้เจ้าที่และพระในบ้าน จากนั้นช่วงสาย แต่ไม่เกินเที่ยงวันจะประกอบพิธีไว้บรรพบุรุษ โดยช่วงบ่ายจะประกอบพิธีไหว้สัมภเวสี และในช่วงกลางดึก (เวลา 23.00-02.59 น.) จะประกอบพิธีไหว้ไฉ่ซิ่งเอี๊ย ซึ่งแต่ละบ้าน ห้างร้าน บริษัทต่างๆได้มีการตั้งโต๊ะด้านหน้ากันอย่างคึกคัก โดยส่วนใหญ่การไหว้เจ้าที่และเทพเจ้า ตลอดจนพระในบ้านจะนิยม เช่น ใช้สําหรับไหว้เจ้า เจ้าที่ ตี่จู้เอี้ย ทีกง แป๊ะกง เพื่อความเป็นสิริมงคล ขอพร ขอโชคลาภ เพื่อตอบแทนที่ท่านช่วยให้ประสบความสําเร็จ สิ่งที่ต้องใช้ไหว้ งิ่งเตี๋ย 3 แผ่น ตั่วกิม (คอซี) 1 ชุด เทียนเถ่าจี้ 1 ชุด ด้านในฉลุคําอวยพรต่างๆคํามงคลด้านสุขภาพ ครอบครัว ธูป 1 ชุด ทองแท่ง กิมตุ้ง 1 กล่อง อ่วงป้อตั่วกิมหรือวงจักร 1 ชุด เทียนแดง 1 คู่ ส่วนการไหว้บรรพบุรุษจะนิยมใช้ตั่วกิม กิมจั้ว กระดาษไหว้บรรพบุรุษ หรือกระดาษเงิน กระดาษทอง แบงค์เงินในบ้านหรือในโลกปัจจุบัน เพื่อเป็นใบเปิดทางที่จะส่งของพวกนี้ไปให้บรรพบุรุษ อย่างกระดาษเงินกระดาษทอง มีการออกแบบมาให้ทันยุคทันสมัย ส่วนการไหว้ไฉ่ซิ่งเอี๊ย จะประกอบด้วย น้ําชา 5 ถ้วย ข้าว 5 ถ้วย ขนมอี้ 5 ถ้วย ส้ม 5 ลูก หรือผลไม้ 5 อย่าง ขนมจันอับ เจฉ่าย 5 อย่าง กระดาษไหว้ เทียน ธูป องค์ไฉ่ซิ่งเอี๊ยจะเสด็จมาทางทิศตะวันออก โดยผู้ไหว้จะหันหน้าไปทางทิศตะวันออก เพื่อเป็นสิริมงคลแก่ผู้สักการะ โดยชาวภูเก็ตเชื้อสายจีนจะสวมใส่เสื้อผ้าใหม่ในชุดสีแดง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในวันที่ 22 ม.ค.66 ซึ่งเป็นวันขึ้นปีใหม่ของชาวจีนหรือเทศกาลตรุษจีน#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
21/1/2023
ภาคใต้
ภูเก็ต
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดภูเก็ต
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230121131848309
null
ศรีสะเกษเปิดงานเทศกาล “หอมแดง กระเทียมดี ยางชุมน้อย” ประชาสัมพันธ์สินค้าเกษตรขึ้นชื่อให้เป็นที่รู้จัก เพิ่มช่องทางการจำหน่ายให้ผู้บริโภคได้ซื้อจากเกษตรกรโดยตรง คาดว่าทั้งปีสร้างรายได้ได้ไม่ต่ำกว่า 1,000 ล้านบาท
เย็นวานนี้ 20 มกราคม 2566 ที่สนามหน้าที่ว่าการอําเภอยางชุมน้อย นายสํารวย เกษกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ เป็นประธานพิธีเปิดงาน “เทศกาลหอมแดง กระเทียมดี ที่ยางชุมน้อย” ครั้งที่ 45 ประจําปี 2566 โดยกําหนดจัดกิจกรรมในระหว่างวันที่ 20 - 24 มกราคม 2566 จํานวน 5 วัน ณ บริเวณสนามหน้าที่ว่าการอําเภอยางชุมน้อย โดยมีวัตถุประสงค์ ดังนี้ 1. เพื่อเป็นการส่งเสริมสนับสนุนอาชีพการปลูกหอมแดงและกระเทียมของอําเภอยางชุมน้อย 2. เพื่อส่งเสริมบํารุงศิลปะ จารีต ประเพณี ภูมิปัญญาท้องถิ่นการสร้างขวัญและกําลังใจให้แก่เกษตรกร 3. เพื่อสือสานภูมิปัญญาคุณค่าทางวัฒนธรรม จารีต ประเพณีและวิถีของชุมชน 4. เพื่อสนับสนุน ส่งเสริม ประชาสัมพันธ์หอมแดงและกระเทียมคุณภาพดี แหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร ตลอดจนผลิตภัณฑ์ชุมชนของอําเภอยางชุมน้อย และพื้นที่ทั่วไปของจังหวัดศรีสะเกษ ให้เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลายมากยิ่งขึ้น 5. เพื่อเป็นการส่งเสริมให้เกษตรกรผู้ปลูกหอมแดงได้เข้ามามีส่วนร่วมในการมีกิจกรรมที่แสดงออกถึงเอกลักษณ์ท้องถิ่นของชาวอําเภอยางชุมน้อย และหอมแดงถือเป็นพืชเศรษฐกิจของจังหวัดศรีสะเกษ 6. เพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งของเศรษฐกิจชุมชนให้เกิดความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน ตามแผนการดําเนินงานการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ชาติ กิจกรรมประกอบด้วย 1. กิจกรรมการประกวดธิดาหอมแดง 2. กิจกรรมการประกวดมิสกระเทียม 3. กิจกรรมการประกวดผลผลิตทางการเกษตร 4. กิจกรรมการประกวดร้องเพลงลูกทุ่ง(หมอลํา) 5. กิจกรรมการประกวดขบวนแห่ 6. การแสดงศิลปวัฒนธรรม ประเพณี ของอําเภอยางชุมน้อย 7. การแสดงและจําหน่ายสินค้า ผลิตภัณฑ์ OTOP สินค้าผลิตภัณฑ์ชุมชน จากกลุ่มวิสาหกิจ และกลุ่มเกษตรกร ผู้ประกอบการโดยมี นางผ่องศรี แซ่จึง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรศรีสะเกษ เขต 8 นางมัลลิกา เกษกุล นายกเหล่ากาชาดจังหวัด/ประธานแม่บ้านมหาดไทยจังหวัด นางสาวชนมณัฐ รอดบุญธรรม รองผู้ว่าราชการจังหวัด ปลัดจังหวัด เกษตรจังหวัด หัวหน้าสํานักงานสภาเกษตรกรจังหวัด ผู้แทนหัวหน้าส่วนราชการประจําจังหวัด นายอําเภอยางชุมน้อย สมาชิกเหล่ากาชาด สมาชิกชมรมแม่บ้านมหาดไทย หัวหน้าส่วนราชการอําเภอยางชุมน้อยสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้บริหารสถานศึกษา กํานัน ผู้ใหญ่บ้าน แขกผู้มีเกียรติ และสื่อมวลชน ร่วมในพิธี#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
21/1/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สวท.ศรีสะเกษ
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230122080259402
null
ผวจ.นครศรีธรรมราช ร่วมพิธีตรุษจีน เก๋งจีนพระเจ้าตาก ณ เก๋งจีน วัดประดู่พัฒนาราม
วันนี้ (21 มกราคม 2566) นายอภินันท์ เผือกผ่อง ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นประธานในการประกอบพิธีตรุษจีน เก๋งจีนพระเจ้าตาก วัดประดู่พัฒนาราม อําเภอเมืองนครศรีธรรมราช โดยมี ดร.ชินเวศ สารสาส เหลนพระยานครกุลเชษฐ์มเหศรภัคดี (เอียดณ นคร) และลูกหลานสายสัมพันธ์ ณ นคร คนไทยเชื้อสายจีน ร่วมพิธีตรุษจีน โดยก่อนประกอบพิธีตรุษจีน ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช วางมาลัยกราบสักการะพระไหว้สักการะ บัวบรรจุพระอัฐิสมเด็จพระอริยวงษณาณ สมเด็จพระสังฆราช (สี) จากนั้น ไหว้เก๋งพระเจ้าตาก วัดประดู่พัฒนาราม จังหวัดนครศรีธรรมราช วางพวงมาลัยกราบสักการะพระอัฐิสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช และอัฐิเจ้าพระยานครศรีธรรมราช (น้อย) และบรรพชน ณ นคร จุดธูปเทียนสักการะพระอัฐิสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช และอัฐิเจ้าพระยานครศรีธรรมราช (น้อย) และบรรพชน ณ นคร ถวายน้ําชา วางพวงมาลัยขอพร และพวงมาลัยคล้องม้าศึก 2 ตัว ไหว้เจ้าที่ พร้อมเผาเครื่องไหว้ พิธีถวายเครื่องไหว้สักการะพระอัฐิสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช และอัฐิเจ้าพระยานครศรีธรรมราช (น้อย) และบรรพชน ณ นคร ถวายเครื่องเซ่นไหว้ โปรยดอกไม้ ร่วมเผาเครื่องไหว้ ชมการเชิดสิงโต ขอพร ลาเครื่องถวายไหว้ มอบให้แก่ผู้เข้าร่วมพิธี เพื่อความเป็นศิริมงคลจากนั้น เดินทางไปกราบสักการบูชาพระพุทธสิหิงค์ ณ ศาลากลางจังหวัดนครศรีธรรมราช พร้อมถวายพวงมาลัย กราบสักการะพระอัฐิสมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาศักดิพลเสพ วังหน้ารัชกาลที่ 3 เชื้อสายราชวงศ์จักรี และอัฐิเจ้าเมืองนครศรีธรรมราช เชื้อสายกรุงธนบุรี และบรรพชน ณ นครเก๋งจีนวัดประดู่ หรือ เก๋งพระเจ้าตาก ตั้งอยู่ภายในบริเวณวัดประดู่พัฒนาราม จ.นครศรีธรรมราช สร้างขึ้นในปี พ.ศ.2358 ก่อสร้างในสมัย ต้นรัตนโกสินทร์ โดยเจ้าพระยานครศรีธรรมราช (น้อยกลาง)เจ้าเมืองนครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นบุตรเจ้าพระยานครศรีธรรมราช (น้อย) ผู้เป็นโอรสของสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช กับเจ้าจอมมารดาปราง ในช่วงปลายรัชกาลที่ 3 ท่านได้บรรจุพระบรมอัฐิของสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชพระอัยกาและพระอัฐิเจ้าพระยานครศรีธรรมราช (น้อย) ท่านบิดาไว้ในบัวทรงเจดีย์องค์เดียวกัน ดูแลโดยกรมศิลปากร และสายสกุล ณ นคร สายสกุลเจ้าเมืองนครศรีธรรมราช มาแต่โบราณสําหรับ วันตรุษจีน 2566 ตรงกับวันอาทิตย์ที่ 22 มกราคม 2566 เป็นหนึ่งในเทศกาลที่สําคัญที่สุดของชาวจีน ถือเป็นวันขึ้นปีใหม่ตามปฎิทินจีน (คล้ายกับวันสงกรานต์ของไทย) ชาวจีนทุกคนให้ความสําคัญกับวันนี้อย่างมาก มีการหยุดงานเป็นเวลายาว เพื่อตระเตรียมจัดงานปีใหม่นี้ ในช่วงวันตรุษจีนจะมีการทําความสะอาดบ้านเรือนผ่านปีใหม่อย่างสะอาดสดใส ร้านค้า ห้างสรรพสินค้า ต่างเต็มไปด้วยผู้คนมาจับจ่ายใช้สอย ซื้อเสื้อผ้าใหม่ให้แก่เด็กๆ ซื้อของขวัญให้แก่ญาติสนิทมิตรสหาย ซื้อบัตรอวยพรในโอกาสมงคล ชาวไทยเชื้อสายจีนจะถือประเพณีปฏิบัติอยู่ 3 วัน คือวันจ่าย วันไหว้ และวันเที่ยวพรรณี มณีวรรณ/ภาพ-ข่าวบุณณดา ภัทรธันยพงศ์/ภาพสํานักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนครศรีธรรมราช 21 มกราคม 2566#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
21/1/2023
ภาคใต้
นครศรีธรรมราช
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนครศรีธรรมราช
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230121144045319
null
ชาวตราดเชื้อสายจีนสวมใส่เสื้อสีแดง เดินทางไหว้ศาลเจ้าพ่อหลักเมืองตราดอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งวัน
(21 ม.ค. 66) บรรยากาศวันไหว้เทศกาลตรุษจีนหลายพื้นที่ของจังหวัดตราด ประชาชนชาวตราดที่มีเชื้อสายจีน ต่างนําสิ่งของเครื่องเซ่นไหว้ ไปไหว้บรรพบุรุษ และนําไปไหว้ตามศาลเจ้าต่างๆ ในพื้นที่ โดยเฉพาะที่ศาลเจ้าพ่อหลักเมืองตราด มีประชาชนทยอยนําเครื่องเซ่นไหว้ไปกราบไหว้เพื่อขอพรอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งวันสําหรับสิ่งของที่นําไปไหว้ส่วนใหญ่ยังเป็นไก่ต้ม รองลงมา ได้แก่ หัวหมู และเป็ด รวมทั้งขนม และผลไม้ต่าง ๆ จํานวนมาก ทั้งนี้ เนื่องจากศาลเจ้าพ่อหลักเมืองตราดแห่งนี้ เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ คู่บ้านคู่เมือง ที่ชาวจังหวัดตราด และชาวตราดที่มีเชื้อสายจีน ให้ความเคารพสักการะบูชานับถือกันมาช้านาน โดยในทุกปี จะมีการนําสิ่งของเครื่องเซ่นไหว้ เดินทางมากราบไหว้ เนื่องจากเป็นวันแห่งการเริ่มต้นปีใหม่ของชาวจีน ซึ่งส่วนใหญ่ มักจะมากันเป็นครอบครัว เป็นคู่ หรือมาเพียงลําพัง เพื่อขอพรให้ประกอบการค้าขายรุ่งเรืองและประสบความสําเร็จในการประกอบอาชีพ การดํารงชีวิต และเพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ตนเองและครอบครัว #สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
21/1/2023
ภาคตะวันออก
ตราด
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดตราด
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230121152142325
null
รองผู้ว่าฯ เพชรบุรี ส่งเสริมประเพณีเปิดงานผูกพัทธสีมา-ปิดทองฝังลูกนิมิต วัดทุ่งจับญวณ
ที่วัดทุ่งจับญวณ ตําบลห้วยทรายเหนือ อําเภอชะอํา จังหวัดเพชรบุรี นายธรรมนูญ ศรีวรรธนะ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี เป็นประธานเปิดงานผูกพัทธสีมา-ปิดทองฝังลูกนิมิต วัดทุ่งจับญวณ ตัดริบบิ้นปล่อยแพร และปิดทองลูกนิมิ ทั้ง 9 ลูก ณ อุโบสถด้วย ตามประเพณีโบราณเกี่ยวกับการก่อสร้างศาสนสถาน การได้เป็นเจ้าภาพสร้างโบสถ์คืออุโบสถ หรือได้ร่วมบุญในการสร้างโบสถ์ จนถึงได้มีโอกาสทําบุญในการปิดทองฝังลูกนิมิต จัดว่าเป็นบุญอันยิ่งใหญ่ และในช่วงเดือนมกราคม – พฤษภาคม ของทุกปี วัดที่สร้างอุโบสถเกือบแล้วเสร็จหรือเสร็จเรียบร้อยแล้ว ท่านเจ้าอาวาสจะได้ทําหนังสือเสนอทางบ้านเมืองและทางคณะสงฆ์ตามลําดับจนถึงกรมการศาสนานําเรื่องเข้าขอรับพระราชทานวิสุงคามสีมา ครั้นได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาแล้วกระทรวงศึกษาธิการรับสนองพระบรมราชองค์การ แล้วแจ้งแก่วัด สําหรับวัดทุ่งจับญวณได้กําหนดให้มีงานผูกพัทธสีมา-ปิดทองฝังลูกนิมิต ระหว่างวันที่ 21 – 29 มกราคม 2566 เพื่อให้ประชาชนทั่วไปได้ร่วมทําบุญ เป็นกุศลต่อชีวิต ชัยพัทธ์ รชตเหมภาส / ข่าว สํานักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเพชรบุรี#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
21/1/2023
ภาคตะวันตก
เพชรบุรี
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเพชรบุรี
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230121163156333
null
อำเภอเลิงนกทา จังหวัดยโสธร จัดงานประเพณีบุญคูณลาน และของดีเลิงนกทา ประจำปี 2566 เพื่อเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวและรักษาขนบธรรมเนียมประเพณีอันดีงามให้คงอยู่สืบไป
เมื่อวานนี้ 20 ม.ค. 66 เวลา 17.00 น. ที่บริเวณสนามหน้าที่ว่าการอําเภอเลิงนกทา จังหวัดยโสธร นายสุวัฒน์ เข็มเพชร รองผู้ว่าราชการจังหวัดยโสธร เปิดงานประเพณีบุญคูณลาน และของดีเลิงนกทา ประจําปี 2566 โดยมี นายสุพิช สามารถ นายอําเภอเลิงนกทา พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการ หน่วยงานรัฐวิสาหกิจ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้บริหารสถานศึกษา ผู้นําท้องที่ กํานัน ผู้ใหญ่บ้าน ภาคเอกชน และประชาชนในอําเภอเลิงนกทา เข้าร่วมงานเป็นจํานวนมาก พร้อมนําข้าวเปลือกมาร่วมบริจาค จํานวนกว่า 25 ตัน ทั้งนี้เพื่อเป็นการรักษา ขนบธรรมเนียมประเพณีวัฒนธรรมอันดีงาม และส่งเสริมประชาสัมพันธ์ผลิตภัณฑ์ชุมชน ท้องถิ่น และวัฒนธรรมประเพณี ร่วมทั้งเป็นการ ส่งเสริมการท่องเที่ยว และกระตุ้นเศรษฐกิจ ในพื้นที่จังหวัดยโสธรให้มากยิ่งขึ้นสําหรับกิจกรรมภายในงาน ประกอบด้วย การประกวดซุ้มวิถีอีสาน การประกวดข้าวหอมมะลิ 105 การแสดงโชว์ไก่ชนสวยงาม การแสดงของนักเรียนในพื้นที่ การแสดงโชว์แอโรบิค การประกวดธิดาแม่โพสพ การประกวดร้องเพลงลูกทุ่งพร้อมหางเครื่อง การออกร้านผลิตภัณฑ์ชุมชน วัฒนธรรมประเพณีของแต่ละตําบล และการแสดงการเดินแบบผ้าไทยงานประเพณีบุญคูณลานและของดีเลิงนกทา จัดขึ้นครั้งแรก เมื่อปี พ.ศ. 2544 โดยสภาวัฒนธรรมอําเภอเลิงนกทา เพื่อเป็นการฟื้นฟูอนุรักษ์ประเพณีเอาไว้ และได้จัดทํามาเป็นประจําทุกปีจนถึงปัจจุบัน เพื่อธํารงรักษาไว้ซึ่งวัฒนธรรมอันดีงาม รวมทั้งส่งเสริมประชาสัมพันธ์ผลิตภัณฑ์ชุมชน ท้องถิ่น ส่งเสริมวัฒนธรรมประเพณีและภูมิปัญญาท้องถิ่น เป็นการทําบุญร่วมกันของพี่น้องประชาชน และเป็นการสร้างความรัก ความสามัคคีของคนในชุมชนอีกด้วย#ข่าวสํานักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดยโสธร#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
21/1/2023
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ยโสธร
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดยโสธร
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230121164600337
null
อำเภอเลิงนกทา จังหวัดยโสธร จัดงานประเพณีบุญคูณลาน และของดีเลิงนกทา ประจำปี 2566 เพื่อเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวและรักษาขนบธรรมเนียมประเพณีอันดีงามให้คงอยู่สืบไป
เมื่อวานนี้ 20 ม.ค. 66 เวลา 17:00 น. ที่บริเวณสนามหน้าที่ว่าการอําเภอเลิงนกทาจังหวัดยโสธร นายสุวัฒน์ เข็มเพชร รองผู้ว่าราชการจังหวัดยโสธร เปิดงานประเพณีบุญคูณลาน และของดีเลิงนกทา ประจําปี 2566 โดยมีนายสุพิช สามารถ นายอําเภอเลิงนกทา พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการ หน่วยงานรัฐวิสาหกิจ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้บริหารสถานศึกษา ผู้นําท้องที่ กํานัน ผู้ใหญ่บ้าน ภาคเอกชน และประชาชนในอําเภอเลิงนกทา เข้าร่วมงานเป็นจํานวนมากพร้อมนําข้าวเปลือกมาร่วมบริจาค จํานวนกว่า 25 ตันทั้งนี้ เพื่อเป็นการรักษา ขนบธรรมเนียมประเพณีวัฒนธรรมอันดีงาม และส่งเสริมประชาสัมพันธ์ผลิตภัณฑ์ชุมชน ท้องถิ่น และวัฒนธรรมประเพณี ร่วมทั้งเป็นการ ส่งเสริมการท่องเที่ยว และกระตุ้นเศรษฐกิจ ในพื้นที่จังหวัดยโสธรให้มากยิ่งขึ้นสําหรับกิจกรรมภายในงานประกอบด้วย การประกวดซุ้มวิถีอีสาน / การประกวดข้าวหอมมะลิ 105/ การแสดงโชว์ไก่ชนสวยงาม / การแสดงของนักเรียนในพื้นที่ / การแสดงโชว์แอโรบิค / การประกวดธิดาแม่โพสพ / การประกวดร้องเพลงลูกทุ่งพร้อมหางเครื่อง การออกร้านผลิตภัณฑ์ชุมชน วัฒนธรรมประเพณีของแต่ละตําบล และการแสดงการเดินแบบผ้าไทยงานประเพณีบุญคูณลานและของดีเลิงนกทา จัดขึ้นครั้งแรก เมื่อปี พ.ศ. 2544 โดยสภาวัฒนธรรมอําเภอเลิงนกทา เพื่อเป็นการฟื้นฟูอนุรักษ์ประเพณีเอาไว้ และได้จัดทํามาเป็นประจําทุกปีจนถึงปัจจุบัน เพื่อธํารงรักษาไว้ซึ่งวัฒนธรรมอันดีงาม รวมทั้งส่งเสริมประชาสัมพันธ์ผลิตภัณฑ์ชุมชน ท้องถิ่น ส่งเสริมวัฒนธรรมประเพณีและภูมิปัญญาท้องถิ่น เป็นการทําบุญร่วมกันของพี่น้องประชาชน และเป็นการสร้างความรัก ความสามัคคีของคนในชุมชนอีกด้วย#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
21/1/2023
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ยโสธร
สวท.ยโสธร
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230121171648344
null
ผู้ว่าฯ สงขลา ไหว้ขอพรศาลเจ้าแม่ทับทิมสงขลา เนื่องในวันตรุษจีน ประจำปี 2566 พร้อมกล่าวขอพรให้พี่น้องชาวไทยเชื้อสายจีนเปี่ยมล้นไปด้วยความสุขตลอดปี 2566
วันนี้ (21 ม.ค. 66) นายเจษฎา จิตรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา พร้อมด้วย นายวันชัย ปริญญาศิริ นายกเทศมนตรีนครสงขลา ร่วมไหว้ขอพร ณ ศาลเจ้าแม่ทับทิมสงขลา ถนนรามวิถี อําเภอเมือง จังหวัดสงขลา เนื่องในวันตรุษจีน ประจําปี 2566 พร้อมได้กล่าวขอพรให้พี่น้องชาวไทยเชื้อสายจีน เปี่ยมล้นไปด้วยความสุข มีสุขภาพพลานามัยที่สมบูรณ์แข็งแรง ทํามาค้าขายและประกอบอาชีพด้วยความเจริญรุ่งเรือง มั่งคั่งตลอดปีกระต่ายสําหรับในวันพรุ่งนี้ 22 มกราคม 2566 ก็จะเป็นวันตรุษจีน หรือ วันเที่ยว ถือเป็นวันขึ้นปีใหม่ ของชาวจีน ซึ่งจะตรงกับวันอาทิตย์ โดยทางรัฐบาล ได้กําหนดให้วันตรุษจีน ซึ่งเป็นวันสําคัญของชาวไทยเชื้อสายจีน เป็นวันหยุดกรณีพิเศษ ทําให้วันจันทร์ที่ 23 มกราคม 2566 จะเป็นวันหยุดราชการชดเชย เนื่องในวันตรุษจีน อีก 1 วัน เพื่อให้ชาวไทยเชื้อสายได้ถือโอกาสไปไหว้พระ ขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เพื่อความเป็นสิริมงคล รวมถึงไปพักผ่อน ท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลตรุษจีน เพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจการท่องเที่ยว อีกด้วยศิริลักษณ์ แคล้วคลาด/ข่าว ประชา โชคผ่อง/ภาพสํานักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสงขลา#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
21/1/2023
ภาคใต้
สงขลา
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสงขลา
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230121182753358
null
งาน “ น้อมรำลึกสมเด็จพระนเรศวรมหาราช กู้แผ่นดิน ประจำปี 2566 ” ณ ค่ายสุรนารี กองทัพภาคที่ 2 เริ่มแล้ว
วันนี้ (21 ม.ค. 2566) นายสยาม ศิริมงคล ผู้ว่าราชการจังหวัด นครราชสีมาเป็นประธานพิธีเปิดงานน้อมรําลึกสมเด็จพระนเรศวรมหาราช กู้แผ่นดิน ประจําปี 2566 โดยมีพลตรีวรเชษฐ์ ชวนะนรเศรษฐ์ รองแม่ทัพภาคที่2 นําคณะหน่วยทหาร กองทัพภาคที่ 2 และหัวหน้าส่วนราชการจังหวัดนครราชสีมา ร่วมชมงาน ภายในงานมีการแสดงโขน เรื่องรามเกียรติ์ “ตอนพระรามรบทศกัณฑ์” การแสดง Light & Sound “สมเด็จพระนเรศวรมหาราช จอมกษัตริย์นักรบ” ทั้งนี้บริเวณจัดงานจากประตูค่ายสุรนารี จนถึง พระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระนเรศวรมหาราช มีการออกร้านอาหารและ ตลาดย้อนยุค เป็นตลาดน้ํา ให้บรรยากาศร่มเย็น สวยงามยิ่งนัก งานน้อมรําลึกสมเด็จพระนเรศวร กู้แผ่นดินจัดขึ้นระหว่างวันที่ 21-22 มกราคม 2566 เวลา 17.00 น. ณ บริเวณลานหน้าพระบรมราชานุสาวรีย์ สมเด็จพระนเรศวรมหาราชิค่ายสุรนารี อําเภอเมืองนครราชสีมา จังหวัดนครราชสีมา โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่พระเกียรติคุณ และน้อมรําลึกพระมหากรุณาธิคุณ ที่ทรงกอบกู้เอกราชของชาติไทย#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
21/1/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนครราชสีมา
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230121191426364
null
รองผู้ว่าฯ เพชรบุรี ส่งเสริมประเพณีเปิดงานผูกพัทธสีมา-ปิดทองฝังลูกนิมิต วัดเสาวคนธ์
วันนี้ (21 ม.ค. 66) เวลา 17.00 น. ที่วัดเสาวคนธ์ หมู่ 9 ตําบลหัวสะพาน อําเภอเมืองเพชรบุรีจังหวัดเพชรบุรี เจ้าประคุณสมเด็จพระธีรญาณมุนี เจ้าอาวาสวัดเทพศิรินทราวาส ประธานฝ่ายสงฆ์ นางวันเพ็ญ มังศรี รองผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี เป็นประธานฝ่ายฆรวาส เปิดงานผูกพัทธสีมา-ปิดทองฝังลูกนิมิต วัดเสาวคนธ์ ตัดริบบิ้นปล่อยแพร และปิดทองลูกนิมิ ทั้ง 9 ลูก ณ อุโบสถด้วย ตามประเพณีโบราณเกี่ยวกับการก่อสร้างศาสนสถาน การได้เป็นเจ้าภาพสร้างโบสถ์คืออุโบสถ หรือได้ร่วมบุญในการสร้างโบสถ์ จนถึงได้มีโอกาสทําบุญในการปิดทองฝังลูกนิมิต จัดว่าเป็นบุญอันยิ่งใหญ่ และในช่วงเดือนมกราคม – พฤษภาคม ของทุกปี วัดที่สร้างอุโบสถเกือบแล้วเสร็จหรือเสร็จเรียบร้อยแล้ว ท่านเจ้าอาวาสจะได้ทําหนงสือเสนอทางบ้านเมืองและทางคณะสงฆ์ตามลําดับจนถึงกรมการศาสนานําเรื่องเข้าขอรับพระราชทานวิสุงคามสีมา ครั้นได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาแล้วกระทรวงศึกษาธิการรับสนองพระบรมราชองค์การ แล้วแจ้งแก่วัด สําหรับวัดเสาวคนธ์ ได้กําหนดให้มีงานผูกพัทธสีมา-ปิดทองฝังลูกนิมิต ระหว่างวันที่ 21 – 29 มกราคม 2566 เพื่อให้ประชาชนทั่วไปได้ร่วมทําบุญ เป็นกุศลต่อชีวิต ชัยพัทธ์ รชตเหมภาส / ข่าวสํานักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเพชรบุรี#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
21/1/2023
ภาคตะวันตก
เพชรบุรี
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเพชรบุรี
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230121191911366
null
จังหวัดมหาสารคาม เปิดงานประเพณีบุญเบิกฟ้าและงานกาชาดจังหวัดมหาสารคาม ประจำปี 2566 9 วัน 9 คืน (21 – 29 มกราคม 2566) ณ บริเวณหน้าที่ว่าการอำเภอเมืองมหาสารคาม
วันนี้ (21 มกราคม 2566) เวลา 17.00 น. ที่บริเวณหน้าที่ว่าการอําเภอเมืองมหาสารคาม นายเกียรติศักดิ์ ตรงศิริ ผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม เป็นประธานเปิด “งานประเพณีบุญเบิกฟ้าและงานกาชาดจังหวัดมหาสารคาม ประจําปี 2566” โดยมี นางพรศรี ตรงศิริ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดมหาสารคาม นายธัญญวัฒน์ ชาญพินิจ นายวิวัฒน์ อินทร์ไทยวงศ์ นายนพสิทธิ์ อุดมสุวรรณกุล รองผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม นายผดุงศักดิ์ อิ่มเอิบ ปลัดจังหวัดมหาสารคาม หัวหน้าส่วนราชการ และประชาชนเข้าร่วมทั้งนี้ จังหวัดมหาสารคาม กําหนดจัดงานประเพณีบุญเบิกฟ้าและงานกาชาดจังหวัดมหาสารคาม ประจําปี 2566 ระหว่างวันที่ 21 - 29 มกราคม 2566 รวม 9 วัน 9 คืน ณ สนามหน้าที่ว่าการอําเภอเมืองมหาสารคาม ภายในงานมีกิจกรรมที่น่าสนใจมากมาย เช่น พิธีบูชามเหศักดิ์หลักเมือง พิธีกรรมบวงสรวงแม่โพสพ วันขึ้น 3 ค่ํา เดือน 3 ที่แสดงถึงเอกลักษณ์ วัฒนธรรม วิถีชีวิตของชาวจังหวัดมหาสารคาม และชมความสวยงามของขบวนแห่ในพิธีเปิดงานประเพณีบุญเบิกฟ้าและงานกาชาดจังหวัดมหาสารคาม การประกวดผลผลิตทางการเกษตร ชมการประกวดร้องเพลงลูกทุ่งผู้นําท้องที่ การแสดงแบบเส้นสายลายผ้ามหาสารคาม การประกวดนางสาวมหาสารคาม เป็นต้น รวมทั้ง เพลิดเพลินกับการเลือกซื้อสินค้า OTOP และลุ้นรับรางวัลใหญ่กับร้านมัจฉากาชาด อาทิ รถจักรยานยนตร์ รถจักรยาน ทีวี ตู้เย็น ฯลฯนอกจากนี้ เหล่ากาชาดจังหวัดมหาสารคาม ร่วมกับจังหวัดมหาสารคาม ได้จัดจําหน่ายสลากกาชาดสมนาคุณ ฉบับละ 50 บาท ลุ้นรับรางวัลใหญ่ รถยนต์เก๋ง TOYOTA YARIS Sport และของรางวัลอื่นๆ อีกจํานวนมาก โดยผู้สนใจสามารถสั่งซื้อสลากกาชาดสมนาคุณได้ที่ ศาลากลางจังหวัดมหาสารคาม (โทร.043 777115) ,สํานักงานเหล่ากาชาดจังหวัดมหาสารคาม (โทร 043 713691) และที่ว่าการอําเภอทุกอําเภอ โดยกําหนดวันออกสลากกาชาด ในวันอาทิตย์ ที่ 29 มกราคม 2566 วิศิษฎ์ เย็นศิริ-ข่าว/พรชัย พรศรีสุราช-ภาพ สํานักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดมหาสารคาม#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
21/1/2023
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
มหาสารคาม
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดมหาสารคาม
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230121230205379
null
ชาวไทยเชื้อสายจีนคึกคัก ไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ขอพรเทพเจ้าแห่งโชคลาภ ไฉ่ซิงเอี๊ยะ รับตรุษจีน แม่กอเหนี่ยวยะลา
บรรยากาศ เทศกาลตรุษจีนยะลา คึกคัก ชาวไทยเชื้อสายจีน ตลอดจนชาวไทยพุทธที่มีความศรัทธา ทั้งเด็ก ผู้ใหญ่ ต่างสวมใส่เสื้อผ้าสีแดง สดใส สวยงาม เดินทางไปไหว้ขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ภายในศาลเจ้าแม่กอเหนี่ยวยะลา เพื่อความเป็นสิริมงคล ต้อนรับวันขึ้นปีใหม่จีน กันอย่างต่อเนื่อง ซึ่งหลังสถานการณ์โควิดคลี่คลาย ในค่ําคืนวันนี้ 21 มกราคม 2566 ทางศาลเจ้าแม่กอเหนี่ยวยะลา ได้จัดงานเทศกาลวันตรุษจีน เพื่อสืบสานขนบธรรมเนียมประเพณีในวันตรุษจีน ตลอดจนขอพรต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในศาลเจ้าเนื่องในวันขึ้นปีใหม่จีน และยังเป็นการเปิดโอกาสให้ประชาชนชาวไทยเชื้อสายจีนในพื้นที่เขตเทศบาลนครยะลา ได้มีโอกาสมาพบปะพูดคุย ร่วมกิจกรรมต่างๆ เพื่อสร้างความสามัคคี ซึ่งมี นายพงษ์ศักดิ์ ยิ่งชนม์เจริญ นายกเทศมนตรีนครยะลา เป็นประธานกล่าวเปิดงาน พร้อมทั้งได้ร่วมอวยพรประชาชนที่เข้าร่วมงาน ร่วมกับ นายยู่สิน จินตภากร รองนายกเทศมนตรีนครยะลา /ประธานชมรมชาวไทยเชื้อสายจีน นายจักรกฤษ ธัญญคุณากรสกุล ประธานมูลนิธิแม่กอเหนี่ยว ยะลา นอกจากนี้นายกเทศมนตรีนครยะลา พร้อมครอบครัว ยังได้ร่วมไหว้สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ภายในงานเจ้า และไหว้ขอพร เทพเจ้าไฉ่ซิ้งเอี้ย อีกด้วยขณะที่กิจกรรมในงาน ก็จะมีการไหว้ขอพรต่อสิ่งศักดิ์สิทธ์ องค์ไต๋งกงโจ่วซือ องค์เจ้าแม่กอเหนี่ยว และสิ่งศักดิ์สิทธ์ภายในศาลเจ้า เนื่องในเทศกาลวันตรุษจีน รวมถึงไหว้ขอพรต่อเทพเจ้าแห่งโชคลาภ (เทพเจ้าไฉ่ซิ้งเอี้ย) รับโชคลาภ และสิ่งที่เป็นมงคล นอกจากนี้ ก็ยังมีการแสดง การร้องเพลงของชมรมวัฒนธรรมจีน ฉื่อเฉี่ยงตึ๊ง ยะลา (กลุ่มฮวาอิง) การแสดงของชมรมอนุรักษ์วัฒนธรรม นําสันติสุข กศน. อ.เมืองยะลา ร่วมจิบน้ําชา รับประทานของว่าง พร้อมรับของแจก ของรางวัลมากมาย ซึ่งได้รับความสนใจจากชาวไทยเชื้อสายจีนเข้าร่วมงานกันจํานวนมาก#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
21/1/2023
ภาคใต้
ยะลา
สทท.ยะลา
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230121230645382
null
ผู้ร่วมกิจกรรมพิธีอุมเราะห์ เดินทางเยี่ยมชมเมืองฏออีฟ ประเทศซาอุดีอาระเบีย และมีกำหนดทำอุมเราะห์ครั้งที่ 4 ในคืนนี้
วันนี้ (21 มกราคม 2566) เวลา 07.30 น. ตามเวลาประเทศซาอุดีอาระเบีย คณะผู้ประกอบพิธีอุมเราะห์ ตามกิจกรรมส่งเสริมคนดีมีคุณธรรมในจังหวัดชายแดนภาคใต้ไปประกอบพิธีอุมเราะห์ ประจําปีงบประมาณ 2565 (ฮิจเราะห์ศักราช 1444) ของศูนย์อํานวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ หรือ ศอ.บต จํานวน 120 คน เดินทางเยี่ยมชมเมืองฏออีฟ ซึ่งเป็นเมืองเก่าแก่แห่งหนึ่งของ นครมักกะห์ ประเทศซาอุดีอาระเบีย รวมถึงเป็นเมืองที่ศาสดามูฮัมหมัด (ซล.) เคยเดินทางไปเผยแผ่ศาสนาอิสลามด้วยตนเอง โดยเมืองฏออีฟตั้งอยู่ห่างจากนครมักกะห์ประมาณ 100 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางโดยรถบัสประมาณ 2 ชั่วโมง ซึ่งอยู่บนเขาสูง ทําให้มีสภาพอากาศเย็นสบายตลอดปี และบางช่วงจะมีหิมะตกและในวันเดียวกันนี้ ทางคณะได้เดินทางไปเยี่ยมชมสถานที่สําคัญต่างๆ ของเมืองฏออีฟ ได้แก่ มัสญิดอิบนูอับบาส มัสญิดกออฺ สวนองุ่น โรงกลั้นน้ําหอม ตลาดผลไม้ และเยี่ยมชมบรรยากาศเมืองซาฟา เป็นต้น ซึ่งสร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับทางคณะผู้เข้าร่วมกิจกรรมเป็นอย่างมากทั้งนี้ ภายหลังจากการเสร็จสิ้นการเยือนเมืองฏออีฟแล้ว คณะฮุจญาตได้ทําการเนียตทําอุมเราะห์ครั้งที่ 4 ที่ มิกอต ก๊อรฺนุลมะนาซิล เมืองฏออีฟ ประเทศซาอุดีอาระเบีย อีกครั้งด้วยอย่างไรก็ตาม คณะผู้ประกอบพิธีอุมเราะห์ ตามกิจกรรมส่งเสริมคนดีมีคุณธรรมในจังหวัดชายแดนภาคใต้ไปประกอบพิธีอุมเราะห์ ประจําปีงบประมาณ 2565 (ฮิจเราะห์ศักราช 1444) ของศูนย์อํานวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ หรือ ศอ.บต. จํานวน 120 คน จะยังคงประกอบศาสนกิจอยู่ที่เมืองมักกะห์ ประเทศซาอุดีอาระเบีย จนถึงวันที่ 23 มกราคม 2566 และมีกําหนดเดินทางกลับประเทศไทยในวันที่ 24 มกราคม 2566 นี้#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
21/1/2023
ภาคใต้
ยะลา
สทท.ยะลา
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230121231005384
null
จังหวัดมุกดาหารจัดงานน้อมรำลึก กรมพระยาดำรงราชานุภาพและงาน "มูลมังอีสาน"
วานนี้ 20 มกราคม 2566 เวลา 17.30 น. นายวรญาณ บุญณราช ผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร เป็นประธานในพิธีน้อมรําลึกพระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดํารงราชานุภาพ และกิจกรรมส่งเสริมอนุรักษ์วัฒนธรรมประเพณีท้องถิ่น ”มูลมังอีสาน ”โดยมี นางอัญชลี กัลมาพิจิตร นายกเหล่ากาชาดจังหวัดมุกดาหาร นางนภาภรณ์ เมฆฉิม รองนายกเหล่ากาชาดจังหวัดมุกดาหาร ผู้แทนนายอําเภอนิคมคําสร้อย ผู้บริหาร อบต.นากอก พร้อมหัวหน้าส่วนราชการและประชาชน ร่วมงาน ณ องค์การบริหารส่วนตําบลนากอก อําเภอนิคมคําสร้อย จังหวัดมุกดาหาร นายวรญาณ บุญณราช ผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร กล่าวว่า สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดํารงราชานุภาพ ทรงเป็นพระราชโอรสองค์ที่ 57 ในพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 และเจ้าจอมมารดาชุ่ม พระองค์ได้ทรงประกอบพระกรณียกิจด้านต่างๆ ซึ่งล้วนแต่เป็นงานใหญ่ และงานสําคัญอย่างยิ่งของบ้านเมือง ทรงเป็นกําลังสําคัญในการบริหารประเทศหลายด้าน และทรงเป็นที่ไว้วางพระราชหฤทัยในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 เป็นอย่างสูง ผลงานด้านต่างๆ ของพระองค์ แสดงให้เห็นถึงพระอัจฉริยภาพอันสูง เป็นที่ประจักษ์แก่มหาชนทุกยุคทุกสมัย สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดํารงราชานุภาพ ทรงเป็นคนไทยพระองค์แรกที่ "เนสโก" หรือองค์การศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ ประกาศยกย่องให้เป็น "บุคคลสําคัญของโลก" การเสด็จมาประทับแรมที่บ้านนากอก อําเภอนิคมคําสร้อย จังหวัดมุกดาหาร นับเป็นประวัติศาสตร์ สําคัญ ของจังหวัดมุกดาหาร นายไชยณรงค์ วงษ์ประชา นายกองค์การบริหารส่วนตําบลนากอก ในนามคณะกรรมการดําเนินงาน กล่าวว่า สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดํารงราชานุภาพ ได้เสด็จออกมาทรงตรวจราชการหัวเมืองอีสาน เมื่อ พ.ศ.2449 ก่อนที่จะมีการปรับปรุงการปกครองส่วนภูมิภาคเป็น จังหวัดและอําเภอ พระองค์ท่านได้เสด็จมาประทับแรมที่บ้านนากอก เมื่อวันที่ 21 มกราคม 2449 เป็นเวลา 1 คืน ชาวบ้านนากอกจึงได้ช่วยกันสร้างพลับพลาประทับให้ท่าน และจัดลํากลอนมาถวายด้วย องค์การบริหารส่วนตําบลนากอก จึงกําหนดจัดกิจกรรมน้อมรําลึก ในวันที่ 21 มกราคม ของทุกปี และจัดงาน “มูลมังอีสาน ”เป็นงานบุญประจําปี เพื่ออนุรักษ์วัฒนธรรมประเพณีประจําท้องถิ่นและส่งเสริมการท่องเที่ยว สําหรับงานในปีนี้ จัดขึ้นระหว่างวันที่ 20-21 มกราคม 2566 ในงานมี กิจกรรมแสดงนิทรรศการพระราชกรณียกิจของสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดํารงราชานุภาพขบวนแห่เครื่องสักการะ (แบบอีสาน) และการรําถวายสักการะพิธีถวายเครื่องราชสักการะพระนุสาวรีย์สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดํารงรานุภาพ นิทรรศการมูลมังอีสาน และจําหน่ายสินค้าและผลผลิตทางการเกษตรนิทรรศการด้านศิลปวัฒนธรรม ของโรงเรียนในพื้นที่ การแสดงศิลปวัฒนธรรมท้องถิ่นอีสาน และการเดินแบบผ้าไทย ซึ่งเป็นกิจกรรมที่เสริมสร้างความรัก ความสามัคคี และความเป็นน้ําหนึ่งใจเดียวกันของประชาชนในพื้นที่ รวมทั้งส่งเสริมฟื้นฟูและอนุรักษ์วัฒนธรรมประเพณีของท้องถิ่นอันเป็นมรดกของอีสานให้คนรุ่นหลังได้สืบสานต่อไป#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
21/1/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดมุกดาหาร
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230121232713389
null
จ.มหาสารคาม เปิดร้านมัจฉากาชาดฯ ในงาน“ประเพณีบุญเบิกฟ้าและงานกาชาดจังหวัดมหาสารคาม ประจำปี 2566”
วันนี้ (21 มกราคม 2566) เวลา 18.00 น. ที่บริเวณหน้าที่ว่าการอําเภอเมืองมหาสารคาม นายเกียรติศักดิ์ ตรงศิริ ผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม เป็นประธานเปิดร้านมัจฉากาชาดจังหวัดมหาสารคาม ในงาน“ประเพณีบุญเบิกฟ้าและงานกาชาดจังหวัดมหาสารคาม ประจําปี 2566” โดยมี นางพรศรี ตรงศิริ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดมหาสารคาม นายธัญญวัฒน์ ชาญพินิจ นายวิวัฒน์ อินทร์ไทยวงศ์ นายนพสิทธิ์ อุดมสุวรรณกุล รองผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม นายผดุงศักดิ์ อิ่มเอิบ ปลัดจังหวัดมหาสารคาม หัวหน้าส่วนราชการ สมาชิกเหล่ากาชาดจังหวัดมหาสารคามและประชาชนเข้าร่วมทั้งนี้ เหล่ากาชาดจังหวัดมหาสารคาม กําหนดจัดมีกิจกรรมร่วมกับจังหวัด 2 กิจกรรม ได้แก่ 1. การจําหน่ายสลากกาชาดสมนาคุณ 2. การออกร้านมัจฉากาชาดจังหวัดมหาสารคาม โดยทั้ง 2 กิจกรรม มีวัตถุประสงค์เพื่อหารายได้ไว้ใช้จ่ายตามพันธกิจของเหล่ากาชาดจังหวัด เช่น การบรรเทาทุกข์ผู้ประสบสาธารณภัย การส่งเสริมสุขภาพอนามัยและการพัฒนาคุณภาพชีวิต การรับบริจาคโลหิต ดวงตาและอวัยวะ การสังคมสงเคราะห์ราษฎรที่ประสบความทุกข์ยากเดือดร้อน การสนับสนุนและส่งเสริมกิจการกาชาด ยุวกาชาด อาสากาชาด การดําเนินการตามโครงการในพระราชดําริ การส่งเสริมการเผยแพร่อุดมการณ์กาชาดและหลักการกาชาด ตลอดจนภารกิจที่สภากาชาดไทย สําหรับการออกร้านมัจฉากาชาดจังหวัดมหาสารคาม ประจําปี 2566 ในครั้งนี้ได้รับความอนุเคราะห์จากทุกภาคส่วน ทั้งภาคราชการ ภาคเอกชน และพี่น้องประชาชนชาวจังหวัดมหาสารคาม บริจาคเงินสดและสิ่งของเพื่อเป็นของรางวัลในการออกร้านมัจฉากาชาดโดยร้านมัจฉากาชาดกําหนดเปิดให้ประชาชนมาเสี่ยงโชคลุ้นรับรางวัล ตั้งแต่เวลา 16.00 น. ถึง เวลา 23.00 น. ตลอด 9 วัน 9 คืน โดยจําหน่ายบัตรราคาใบละ 20 บาท มีรางวัลสําหรับเสี่ยงโชคมากมาย มูลค่ารวมไม่ต่ํากว่า 1 ล้านบาท อาทิ รถจักรยานยนต์ รถจักรยานไฟฟ้าทีวี ตู้เย็น เครื่องซักผ้า จักรยาน พัดลม และอื่น ๆ อีกมากมาย สําหรับสลากกาชาดสมนาคุณ จําหน่ายฉบับละ 50.-บาท ลุ้นรับรางวัลใหญ่ รถยนต์เก๋ง TOYOTA YARIS Sport และของรางวัลอื่นๆ อีกจํานวนมากวิศิษฎ์ เย็นศิริ-ข่าว/พรชัย พรศรีสุราช-ภาพ สํานักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดมหาสารคาม#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
21/1/2023
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
มหาสารคาม
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดมหาสารคาม
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230121233217390
null
เลขาธิการ ศอ.บต. ร่วมกับพี่น้องชาวไทยเชื้อสายจีน ไหว้เทพเจ้าแห่งโชคลาภ “ไฉ่ซิงเอี๊ยะ” รับวันตรุษจีน
ที่มูลนิธิแม่กอเหนี่ยวยะลา (ฉือเซียงตึ้ง) อ.เมืองยะลา ซึ่งได้มีการจัดงานเทศกาลวันตรุษจีน เพื่อสืบสานขนบธรรมเนียมประเพณี พลเรือตรี สมเกียรติ ผลประยูร เลขาธิการศูนย์อํานวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ พร้อมด้วย นางสาวเกษร บุญถนอม ผู้ช่วยเลขาธิการ ศอ.บต.ได้เดินทางเข้าร่วมสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ภายในศาลเจ้าฯ และไหว้ขอพรเทพเจ้าแห่งโชคลาภ “ไฉ่ซิงเอี๊ยะ” รับวันตรุษจีน ปี 2566 ร่วมกับ ชาวไทยเชื้อสายจีนในพื้นที่จังหวัดยะลา จํานวนมาก ซึ่งทางมูลนิธิแม่กอเหนี่ยวยะลา ได้จัดเตรียมสถานที่ และโต๊ะตั้งเครื่องเซ่นไหว้ ไว้สําหรับให้ชาวไทยเชื้อสายจีน ได้ไหว้ขอพรองค์“ไฉ่ซิงเอี๊ยะ” เพื่อเสริมความเป็นสิริมงคลแก่ตนเอง และครอบครัว ร่ํารวยเงินทองและ โชคดีตลอดปีสําหรับ เทพเจ้าไฉ่ซิงเอี๊ย เป็นเทพเจ้าของจีน ในเรื่องของการให้พรความร่ํารวย มีโชคลาภ ความเจริญรุ่งเรือง ประสบผลสําเร็จตามที่หวังไว้แก่ผู้ที่เซ่นไหว้ โดย ชาวจีนจะกราบไหว้ไฉ่ซิงเอี๊ยะ เป็นองค์แรกในวันตรุษจีน เพราะสําคัญที่สุดในการเปลี่ยนช่วงเข้าสู่ปีนักษัตรใหม่ ส่วนฤกษ์การไหว้ไฉ่ซิงเอี๊ยะ คือเวลา 23.00 – 1.00 น. ซึ่งเป็นเวลาที่เทพเจ้าเสด็จลงมาประทานพรความร่ํารวย โชคลาภให้แก่ผู้นับถือเซ่นไหว้ ในวันตรุษจีนเพียงปีละครั้ง#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
22/1/2023
ภาคใต้
ยะลา
สทท.ยะลา
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230122075900401
null
ชาวไทยเชื้อสายจีนใน อ.เบตง จ.ยะลา ร่วมกันไหว้ "ไฉ่ซิงเอี้ย" เทพเจ้าแห่งโชคลาภและการเงิน ในช่วงเทศกาลตรุษจีน 2566
กลางดึกของวันที่ 22 ม.ค.66 ชาวไทยเชื้อสายจีนใน อ.เบตง จ.ยะลา ได้ตั้งโต๊ะพร้อมของไหว้ ได้แก่ อาหารเจ 5 อย่าง , น้ําชา 5 ถ้วย , ขนมบัวลอย 5 ถ้วย ส้มมงคล 1 จาน , ขนมจันอับ 1 จาน , ถังเงินถังทอง 1 คู่ และกระดาษเงินกระดาษทองชิ้นใหญ่ มีตัวหนังสือสีแดงเขียนว่า "เผ่งอัง" แปลว่า "โชคดี" โดยได้ร่วมกันไหว้แสดงความเคารพนับถือ "ไฉ่ซิงเอี้ย" เทพเจ้าแห่งโชคลาภและการเงิน ในช่วงเทศกาลตรุษจีน 2566 เป็นฤกษ์ดีที่เหมาะกับการไหว้เจ้าขอพรให้โชคดีและร่ํารวยต้อนรับศักราชใหม่ อีกทั้งช่วยเสริมสิริมงคลอีกด้วย สําหรับ "ไฉ่ซิงเอี้ย" เป็นเทพเจ้าจีนที่คนไทยเชื้อสายจีนคุ้นเคยกันดี ถือเป็นเทพเจ้าที่มีความสําคัญมากที่สุดในช่วงเปลี่ยนผ่านของปี (ช่วงขึ้นปีใหม่) ในแต่ละปีท่านจะลงมาจากสวรรค์เพียงวันเดียวเท่านั้นคือ “วันตรุษจีน” ตามความเชื่อของคนจีนนั้น เทพองค์นี้เป็นเทพเจ้าแห่งความร่ํารวย มั่งคั่ง และโชคลาภด้านเงินทอง คนไทยเชื้อสายจีนจึงนิยมกราบไหว้ในวันสําคัญต่างๆ โดยเฉพาะในวันตรุษจีนนางกรรณิการ์ กล่าวว่า ชาวจีนเชื่อกันว่าการได้กราบไหว้ขอพรจาก ไฉ่ซิงเอี้ย จะทําให้กิจการเจริญรุ่งเรืองก้าวหน้า ประสบความสําเร็จ และนํามาซึ่งโชคลาภเงินทอง นอกจากนี้เทพเจ้าไฉ่ซิงเอี้ยยังช่วยดลบันดาลให้ผู้ที่บูชาให้มีลาภลอยเข้ามาในชีวิต ตลอดจนเสริมดวงในด้านความโชคดีต่างๆ ด้วย โดยต้องหันหน้าไปทางทิศต่างๆ ที่เชื่อว่าไฉ่ซิงเอี้ยจะเสด็จลงมา ซึ่งจะแตกต่างกันไปในแต่ละปี ซึ่งปีนี้ทิศในการไหว้ไฉ่ซิงเอี้ยของปี 2566 ให้ตั้งโต๊ะไหว้หันหน้าไปทาง "ทิศตะวันออก" เพราะเชื่อว่าปีนี้เทพจะเสด็จมาในทิศตะวันออกนั้นเอง#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
22/1/2023
ภาคใต้
ยะลา
สวท.เบตง จ.ยะลา
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230122082007406
null
จังหวัดลำปาง ประกาศขึ้นทะเบียนมรดกจังหวัดลำปาง ประเภทย่านชุมชนเก่า อันนำไปสู่หลักเกณฑ์การพิจารณามรดกของชาติต่อไป
นายชัชวาลย์ ฉายะบุตร ผู้ว่าราชการจังหวัดลําปาง เปิดเผยว่า จังหวัดลําปาง โดยคณะอนุกรรมการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมธรรมชาติและศิลปกรรมประจําจังหวัดลําปาง ได้ดําเนินการพิจารณาแหล่งศิลปกรรมซึ่งเป็นมรดกทางวัฒนธรรม เพื่อประกาศเป็นแหล่งมรดกของจังหวัด อันเป็นการส่งเสริมและอนุรักษ์แหล่งศิลปกรรมซึ่งเป็นมรดกทางวัฒนธรรม ให้มีสิ่งแวดล้อมที่เอื้อต่อการดํารงไว้ซึ่งความภาคภูมิใจในความอุดมสมบูรณ์ความโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ และความเจริญรุ่งเรืองของท้องถิ่น โดยพิจารณาตามหลักเกณฑ์ในการพิจารณามรดกของชาติ อยู่บนพื้นฐานของการมีส่วนร่วมของภาคส่วนต่างๆ อันจะนําไปสู่หลักเกณฑ์ในการพิจารณามรดกของชาติต่อไปจังหวัดลําปางจึงได้พิจารณาแหล่งศิลปกรรมซึ่งเป็นมรดกทางวัฒนธรรม ประเภทย่านชุมชนเก่าให้เป็นแหล่งมรดกจังหวัดลําปางดังนี้ 1. ย่านชุมชนเก่าบ้านกล้วย ตําบลกล้วยแพะ อําเภอเมืองลําปาง จังหวัดลําปาง 2. ย่านชุมชนเก่าบ้านหลุก ตําบลนาครัว อําเภอแม่ทะ จังหวัดลําปาง 3. ย่านชุมชนเก่าลําปางหลวง ตําบลลําปางหลวง อําเภอเกาะคาจังหวัดลําปาง 4. ย่านชุมชนเก่าไหล่หิน ตําบลไหล่หิน อําเภอเกาะคา จังหวัดลําปางทั้งนี้ ขอให้ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องได้ร่วมกันดูแลรักษามรดกจังหวัดลําปางเพื่อเป็นสมบัติของชาติสืบไป#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
22/1/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สวท.ลำปาง
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230122081451405
null
ชาวอำเภอนิคมคำสร้อยจัดงานมูลมังอีสานตามรอยกรมพระยาดำรงราชานุภาพ
นายวรญาณ บุญณราช ผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร เป็นประธานในพิธีน้อมรําลึกพระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดํารงราชานุภาพ และกิจกรรมส่งเสริมอนุรักษ์วัฒนธรรมประเพณีท้องถิ่น ”มูลมังอีสาน ”ตามที่อําเภอนิคมคําสร้อย จังหวัดมุกดาหารจัดขึ้น ณ ลานพระรูปสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดํารงราชานุภาพ องค์การบริหารส่วนตําบลนากอก อําเภอนิคมคําสร้อย จังหวัดมุกดาหารนายวรญาณ บุญณราช ผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร กล่าวว่า สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดํารงราชานุภาพ ทรงเป็นพระราชโอรสองค์ที่ 57 ในพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 และเจ้าจอมมารดาชุ่ม พระองค์ได้ทรงประกอบพระกรณียกิจด้านต่างๆ ซึ่งล้วนแต่เป็นงานใหญ่ และงานสําคัญอย่างยิ่งของบ้านเมือง ทรงเป็นกําลังสําคัญในการบริหารประเทศหลายด้าน และทรงเป็นที่ไว้วางพระราชหฤทัยในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 เป็นอย่างสูงผลงานด้านต่างๆ ของพระองค์ แสดงให้เห็นถึงพระอัจฉริยภาพอันสูง เป็นที่ประจักษ์แก่มหาชนทุกยุคทุกสมัย สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดํารงราชานุภาพ ทรงเป็นคนไทยพระองค์แรกที่ "เนสโก" หรือองค์การศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ ประกาศยกย่องให้เป็น "บุคคลสําคัญของโลก" การเสด็จมาประทับแรมที่บ้านนากอก อําเภอนิคมคําสร้อย จังหวัดมุกดาหาร นับเป็นประวัติศาสตร์ สําคัญ ของจังหวัดมุกดาหารนายไชยณรงค์ วงษ์ประชา นายกองค์การบริหารส่วนตําบลนากอก ในนามคณะกรรมการดําเนินงาน กล่าวว่า สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดํารงราชานุภาพ ได้เสด็จออกมาทรงตรวจราชการหัวเมืองอีสาน เมื่อ พ.ศ.2449 ก่อนที่จะมีการปรับปรุงการปกครองส่วนภูมิภาคเป็น จังหวัดและอําเภอ พระองค์ท่านได้เสด็จมาประทับแรมที่บ้านนากอกเมื่อวันที่ 21 มกราคม 2449 เป็นเวลา1คืน ชาวบ้านนากอกจึงได้ช่วยกันสร้างพลับพลาประทับให้ท่าน และจัดลํากลอนมาถวายด้วยองค์การบริหารส่วนตําบลนากอก จึงกําหนดจัดกิจกรรมน้อมรําลึก ในวันที่ 21 มกราคม ของทุกปี และจัดงาน “มูลมังอีสาน ”เป็นงานบุญประจําปี เพื่ออนุรักษ์วัฒนธรรมประเพณีประจําท้องถิ่นและส่งเสริมการท่องเที่ยวสําหรับงานในปีนี้ จัดขึ้นระหว่างวันที่ 20-21 มกราคม 2566 ในงานมี กิจกรรมแสดงนิทรรศการพระราชกรณียกิจของสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดํารงราชานุภาพขบวนแห่เครื่องสักการะ (แบบอีสาน) และการรําถวายสักการะพิธีถวายเครื่องราชสักการะพระนุสาวรีย์สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดํารงรานุภาพ นิทรรศการมูลมังอีสาน และจําหน่ายสินค้าและผลผลิตทางการเกษตรนิทรรศการด้านศิลปวัฒนธรรม ของโรงเรียนในพื้นที่ การแสดงศิลปวัฒนธรรมท้องถิ่นอีสาน และการเดินแบบผ้าไทย ซึ่งเป็นกิจกรรมที่เสริมสร้างความรัก ความสามัคคี และความเป็นน้ําหนึ่งใจเดียวกันของประชาชนในพื้นที่ รวมทั้งส่งเสริมฟื้นฟูและอนุรักษ์วัฒนธรรมประเพณีของท้องถิ่นอันเป็นมรดกของอีสานให้คนรุ่นหลังได้สืบสานต่อไป#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
22/1/2023
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
มุกดาหาร
สวท.มุกดาหาร
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230122074603393
null
เลขาธิการ ศอ.บต. ร่วมกับพี่น้องชาวไทยเชื้อสายจีน ไหว้เทพเจ้าแห่งโชคลาภ “ไฉ่ซิงเอี๊ยะ” รับวันตรุษจีน
บรรยากาศในพื้นที่จังหวัดยะลา ที่มูลนิธิแม่กอเหนี่ยวยะลา (ฉือเซียงตึ้ง) พลเรือตรี สมเกียรติ ผลประยูร เลขาธิการศูนย์อํานวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) พร้อมด้วย นางสาวเกษร บุญถนอม ผู้ช่วยเลขาธิการ ศอ.บต. ร่วมกับชาวไทยเชื้อสายจีนในพื้นที่จังหวัดยะลาจํานวนมาก นําโดย นายจักรกฤษณ์ ธัญญคุณากรสกุล ประธานมูลนิธิแม่กอเหนี่ยวยะลา (ฉือเซียงตึ้ง) ไหว้ขอพรเทพเจ้าแห่งโชคลาภ “ไฉ่ซิงเอี๊ยะ” รับวันตรุษจีน ปี 2566 บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก โดยมูลนิธิแม่กอเหนี่ยวยะลา ได้จัดเตรียมสถานที่ โต๊ะพิธี เครื่องเซ่นไหว้ ไว้สําหรับให้ชาวไทยเชื้อสายจีนไหว้เพื่อเสริมความเป็นสิริมงคลแก่ตนเอง และครอบครัว ร่ํารวยเงินทองและ โชคดีตลอดปี พร้อมทั้งการแสดงของกลุ่มสตรีจากศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย อีกด้วยตามความเชื่อของชาวจีน เทพเจ้าไฉ่ซิงเอี๊ย เป็นเทพเจ้าของจีน ในเรื่องของการให้พรความร่ํารวย มีโชคลาภ ความเจริญรุ่งเรือง ประสบผลสําเร็จตามที่หวังไว้แก่ผู้ที่เซ่นไหว้ ชาวจีนจะกราบไหว้ไฉ่ซิงเอี๊ยเป็นองค์แรกในวันตรุษจีน เพราะสําคัญที่สุดในการเปลี่ยนช่วงเข้าสู่ปีนักษัตรใหม่ ฤกษ์การไหว้ไฉ่ซิงเอี๊ย คือเวลา 23.00 – 1.00 น. ซึ่งเป็นเวลาที่เทพเจ้าเสด็จลงมาประทานพรความร่ํารวย โชคลาภให้แก่ผู้นับถือเซ่นไหว้ ในวันตรุษจีนแค่ปีละครั้ง#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
22/1/2023
ภาคใต้
ยะลา
สวท.ยะลา
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230122074758394
null
ประชาชน รับ “ตรุษจีน” ไหว้สักการะ”หลักเมืองยะลา” เสริมสิริมงคลปีกระต่าย
วันนี้ 22 มกราคม 2566 ซึ่งเป็นวันตรุษจีน ที่ศาลหลักเมืองยะลา ได้มีพี่น้องชาวไทยเชื้อสายจีน เดินทางไปพร้อมกับครอบครัวบุตรหลาน เลือกซื้อดอกไม้ ธูปเทียน เพื่อไปไหว้สักการะ เจ้าพ่อหลักเมือง ซึ่งเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมือง ที่ยึดเหนี่ยวจิตใจชาวยะลา และพื้นที่ใกล้เคียง เพื่อความเป็นสิริมงคล กันอย่างต่อเนื่อง สําหรับในวันนี้ ซึ่งเป็นวันขึ้นปีใหม่ ของชาวจีน ทุกคนก็จะสวมใส่เสื้อกี่เพ้า เสื้อสีแดง ที่เป็นสีแห่งความเป็นสิริมงคลของชาวจีน พร้อมกับสวมหน้ากากอนามัยเพื่อป้องกันโควิดส่วนการขอพรปีใหม่ ก็จะขอให้ตนเอง ครอบครัว รวมถึงญาติพี่น้อง มีความสุข ความเจริญรุ่งเรือง มีโชคมีลาภ ร่ํารวย สุขภาพดี ปราศจากโรคภัยไข้เจ็บ ตลอดปีตลอดไป นอกจากจะได้ไหว้เจ้าพ่อหลักเมือง เพื่อความเป็นสิริมงคลแล้ว ก็ยังได้ทําบุญ ซื้ออาหารให้ปลา ซึ่งอยู่ภายในสระน้ํารอบศาลหลักเมืองยะลา อีกด้วยขณะเดียวกันทางร้านขายดอกไม้ ภายในศาลเจ้าพ่อหลักเมืองยะลา ต่างก็ได้แต่งกายด้วยชุดกี่เพ้า อย่างสวยงามเพื่อรับเทศกาลตรุษจีน ซึ่งทาง คุณศิริพรรณ ลาภาพันธุ์ บอกว่า ตรุษจีน ปีนี้เหงาๆ ไปหน่อย ฝนตกอย่างต่อเนื่องตั้งแต่เมื่อวานทําให้คนน้อยลง บางคนก็ออกนอกพื้นที่หยุด 3 วัน บางคนก็ได้ไหว้เมื่อปีใหม่บ้างแล้ว แต่คาดว่า หลังฝนซาจะมีประชาชนทยอยกันมาไหว้สักการะเจ้าพ่อหลักเมืองเพื่อความเป็นสิริมงคลในวันขึ้นปีใหม่ของชาวจีนสําหรับเทศกาลตรุษจีนปี 2566 จะมีวันหยุดราชการ 3 วัน ในวันที่ 21-23 ม.ค 66 ชาวไทยเชื้อสายจีน บางครอบครัว ก็จะถือโอกาสไปไหว้พระ สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เพื่อความเป็นสิริมงคลในสถานที่ต่างๆ รวมถึงเดินทางออกนอกพื้นที่ เพื่อไปพักผ่อน ท่องเที่ยวแต่อย่างใดก็ตาม ในช่วงฉลองเทศกาลตรุษจีน ประชาชนส่วนใหญ่ยังคงป้องกันตนเองด้วยการสวมใส่หน้ากากอนามัย เมื่อออกไปในสถานที่ชุมชนมีคนจํานวนมาก เพื่อลดเสี่ยงโควิด #สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
22/1/2023
ภาคใต้
ยะลา
สทท.ยะลา
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230122110237427
null
ชาวจังหวัดลำปางและนักท่องเที่ยว ร่วมเฉลิมฉลองเทศกาลตรุษจีน Chinatown@Lampang กันอย่างคึกคัก
นายกิตติ จิวะสันติการ รองนายกเทศมนตรีนครลําปาง เป็นประธานในพิธีลั่นกลองจีนเพื่อเปิดงานสืบสานส่งเสริมองค์ความรู้ด้านศิลปวัฒนธรรม เนื่องในเทศกาลตรุษจีน ประจําปี 2566 “Chinatown@Lampang” โดยมีคณะผู้บริหาร สมาชิกสภาเทศบาล หัวหน้าส่วนราชการเทศบาลนครลําปาง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมพิธีฯ ณ เวทีบริเวณหน้าศาลเจ้าปุนเถ่ากง ถนนประสานไมตรี ต.สบตุ๋ย อ.เมือง จ.ลําปางจากนั้น ร่วมรับชมการแสดงงิ้วเปลี่ยนหน้ากาก การบรรเลงเพลงจีน และการประกวดหนูน้อย Chinese Nakhon Lampang 2023 โดยภายในงานมีนิทรรศการองค์ความรู้ศิลปวัฒนธรรมจีน กิจกรรม DIY สไตล์จีน จุดถ่ายภาพเช็คอินการประดับตกแต่งโคมไฟจีนสวยงาม และมีร้านค้าอาหารจีนมากมาย โดยมีประชาชนและนักท่องเที่ยวให้ความสนใจร่วมงานกันอย่างคึกคักตลอดทั้งคืน ทั้งนี้ กิจกรรมดังกล่าวจัดขึ้นระหว่างวันที่ 21 - 22 มกราคม 2566 เวลา 17.00 น. เป็นต้นไป ณ ถนนประสานไมตรี อ.เมืองลําปาง จ.ลําปาง#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
22/1/2023
ภาคเหนือ
ลำปาง
สวท.ลำปาง
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230122125506447
null
โรงเรียนอนุบาลศีขรภูมิ จ.สุรินทร์ จัดกิจกรรมวันตรุษจีน ประจำปีการศึกษา 2566
ที่บริเวณลานเอนกประสงค์ โรงเรียนอนุบาลศีขรภูมิ นายหลักเขต มุ่งสันติ ผู้อํานวยการโรงเรียนอนุบาลศีขรภูมิ อ.ศีขรภูมิ จ.สุรินทร์ พร้อมด้วยคณะครูโรงเรียน จัดกิจกรรมวันตรุษจีน โดยครูแต่ละสายชั้น ได้จัดบูธกิจกรรมแต่ละสายชั้น สร้างการศึกษาเรียนรู้ และปฏิบัติกิจกรรมอย่างหลากหลาย ส่วนกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ ได้จัดกิจกรรมโครงการภาษาและวัฒนธรรมจีนปีการศึกษา 2565 เพื่อการส่งเสริมทักษะภาษาจีนขั้นพื้นฐาน ให้นักเรียนได้มีโอกาสเรียนรู้วัฒนธรรมและภาษาจีน มีทักษะการพูด กล้าแสดงออก รวมทั้งการฟัง การอ่าน การเขียน เพื่อเตรียมความพร้อมในการศึกษาภาษาจีนขั้นสูง และเพื่อเป็นการพัฒนาคุณภาพมาตรฐานการศึกษาสู่โรงเรียนมาตรฐานสากลและอาเซียนต่อไปการจัดกิจกรรมวันตรุษจีน ปีการศึกษา 2565 ได้รับความร่วมมือจากคณะครูบุคลากรโรงเรียนและนักเรียนโรงเรียนอนุบาลศีขรภูมิ โดยกิจกรรมต่างๆ ประกอบไปด้วย การแสดงโชว์ประกอบเพลงภาษาจีนของนักเรียน 2 ชั่วงชั้น การกล่าวสุนทรพจน์จีนจากตัวแทนนักเรียนที่เข้าแข่งขันรายการพูดสุนทรพจน์จีนและได้รับรางวัลรองชนะเลิศ 1 เหรียญทอง ระดับเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาจังหวัดสุรินทร์เขต 1 งานศิลปะหัตกรรมนักเรียน ครั้งที่ 703 การแสดงร้องเพลงจีนและบูธกิจกรรมของแต่ละสายชั้น เพื่อเข้าศึกษาความรู้และปฏิบัติกิจกรรมทั้งหมด 6 บูธ ได้แก่ บูธหน้ากากจีน บูธศิลปะการเขียนพู่กันจีน บูธตัดกระดาษตัวอักษรจีน บูธทําโคมจีน บูธสัตว์มงคล และบูธอาหารมงคล#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
22/1/2023
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
สุรินทร์
สวท.สุรินทร์
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230122123037438
null
ผู้ว่าฯ ยะลาเปิดงานตรุษจีนเบตง ผสมผสานเชื่อมโยง พหุวัฒนธรรม ไทย - จีน
วันนี้ 22 มกราคม 2566 ที่บริเวณปากอุโมงค์เบตงมงคลฤทธิ์ ในเขตเทศบาลเมืองเบตง อ.เบตง จ.ยะลา นายสุพจน์ รอดเรือง ณ หนองคาย ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา เป็นประธานในพิธีเปิดงานตรุษจีนเบตง โดยมี พันจ่าโท อนันต์ บุญสําราญ รองผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา นายเอก ยังอภัย ณ สงขลา นายอําเภอเบตง นางมุกดา ยังอภัย ณ สงขลา นายกกิ่งกาชาดกาชาดอําเภอเบตง นายสกุล เล็งลัคน์กุล ตัวแทนสมาคมจีนอําเภอเบตง หัวหน้าส่วนราชการ บริษัท ห้างร้านเอกชน ประชาชน ชาวไทย และชาวไทยเชื้อสายจีน และนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซีย เข้าร่วมกิจกรรมเป็นจํานวนมาก งานเทศกาลตรุษจีน เริ่มต้นด้วยการลงนามถวายพระพร ให้ "พระองค์ภา" ทรงหายจากพระอาการประชวร และทําบุญตักบาตร เพื่อเป็นสิริมงคลในวันตรุษจีน กิจกรรมผู้ว่าฯ พาไหว้ โดยมีคณะเชิดสิงโตนําประธานในพิธี และคณะไหว้สักการะฟ้าดินและสักการะสถานที่สําคัญของอําเภอเบตง โดยไฮไลท์เป็นการแสดงโชว์เชิดสิงโต พร้อมจุดประทัดเปิดงานจํานวน 1,000 นัด พิธีมอบส้มมงคลให้ผู้มาร่วมงาน จากนั้นประธานในพิธีพร้อมคณะได้เดินทางไปยังหน้าศูนย์ ตส.(ตาสัปปะรด) เพื่อทําการสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ และเดินพบปะบันทึกภาพร่วมกับผู้ที่มาร่วมทําบุญตักบาตร บริเวณงานและประชาชน นักท่องเที่ยวชาวมาเลเซีย อย่างเป็นกันเองงานตรุษจีนเบตง จัดขึ้นภายใต้ความร่วมมือระหว่างอําเภอเบตง สมาคมชาวไทยเชื้อสายจีน หอการค้าจังหวัดยะลาสาขาเบตง และกลุ่มผู้ประกอบการ โดยมีประชาชนและนักท่องเที่ยวที่มาร่วมงานเป็นจํานวนมากท่ามกลางรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
22/1/2023
ภาคใต้
ยะลา
สวท.เบตง จ.ยะลา
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230122123632439
null
บรรยากาศงาน Chinatown @Lampang ค่ำคืนแรกคึกคัก ประชาชนและนักท่องเที่ยวร่วมฉลองเทศกาลตรุษจีน
นายกิตติ จิวะสันติการ รองนายกเทศมนตรีนครลําปาง เป็นประธานในพิธีลั่นกลองจีนเพื่อเปิดงานสืบสานส่งเสริมองค์ความรู้ด้านศิลปวัฒนธรรม เนื่องในเทศกาลตรุษจีน ประจําปี 2566 “Chinatown @Lampang” โดยมีคณะผู้บริหาร สมาชิกสภาเทศบาล หัวหน้าส่วนราชการเทศบาลนครลําปาง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมพิธีฯ ณ เวทีบริเวณหน้าศาลเจ้าปุนเถ่ากง – ม่า สบตุ๋ย ถนนประสานไมตรี เมื่อช่วงเย็นวันเสาร์ที่ 21 มกราคม ที่ผ่านมาภายในงานมีการแสดงงิ้วเปลี่ยนหน้ากาก การบรรเลงเพลงจีน และการประกวดหนูน้อย Chinese Nakhon Lampang 2023 การนิทรรศการองค์ความรู้ศิลปวัฒนธรรมจีน กิจกรรม DIY สไตล์จีน การประดับตกแต่งโคมไฟจีน และร้านค้าอาหารจีนมากมาย โดยมีประชาชนและนักท่องเที่ยวให้ความสนใจร่วมงานกันอย่างคึกคักตลอดทั้งคืน โดยงาน “Chinatown @Lampang” จะจัดถึงวันอาทิตย์ที่ 22 มกราคมนี้#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
22/1/2023
ภาคเหนือ
ลำปาง
สวท.ลำปาง
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230122124131441
null
ไหว้พระนอน ขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ วัดคูหาภิมุขยะลา รับตรุษจีนคึกคัก
ไหว้พระนอน ขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ วัดคูหาภิมุขยะลา รับตรุษจีนคึกคัก วันนี้ 22 มกราคม 2566 วัดคูหาภิมุข หรือ วัดถ้ํายะลา ต.หน้าถ้ํา อ.เมือง จ.ยะลา คึกคักไปด้วย พี่น้องประชาชนชาวไทยเชื้อสายจีน ทั้งในพื้นที่ จ.ยะลา นราธิวาส ปัตตานี และพื้นที่จังหวัดต่างๆ ที่ได้เดินทางนําครอบครัว บุตรหลาน ญาติพี่น้อง ไปไหว้สักการะขอพรพระพุทธไสยาสน์ พระนอนขนาดใหญ่อายุนับพันปี และพระพุทธรูปต่างๆ ซึ่งประดิษฐ์ฐานภายในถ้ํา รวมทั้ง ยักษ์วัดถ้ํา หรือพ่อเจ้าเขา เพื่อความเป็นสิริมงคล แก่ตนเอง และครอบครัว เนื่องในวันตรุษจีน หรือวันขึ้นปีใหม่ของชาวจีน โดยส่วนใหญ่ก็จะขอพรให้มีความสุข มีสุขภาพที่แข็งแรง ปราศจากโรคภัยไข้เจ็บการงานรุ่งเรือง มีเงินมีทอง ไปตลอดปีและตลอดไปถึงแม้นว่าตลอดทั้งวันนี้ จะมีฝนตกลงมาเป็นระยะๆ อย่างต่อเนื่อง แต่ด้วยความศรัทธา และเพื่อความเป็นสิริมงคลซึ่งวันตรุษจีนถือเป็นวันสําคัญของชาวจีน ชาวไทยเชื้อสายจีน ก็ยังทยอยเข้าร่วมสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ภายในวัดถ้ํา กันอย่างต่อเนื่องชาวปัตตานี บอกว่า เป็นประจําทุกปี ในวันตรุษจีน วันขึ้นปีใหม่จีน ก็จะเดินทางพาครอบครัวไปไหว้ขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เพื่อความเป็นสิริมงคล โดยจะมา 2 วัด คือ วัดช้างไห้ และวัดถ้ํา ส่วนการขอพรก็จะขอให้คุ้มครองครอบครัว ตนเอง ให้อยู่เย็นเป็นสุข สุขภาพแข็งแรง การงานรุ่งเรือง มีเงินมีทองต่างๆซึ่งนอกจากการได้ไหว้พระ ขอพรต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เพื่อเป็นกําลังใจ ในการดําเนินชีวิตแล้ว ประชาชนส่วนใหญ่ก็จะไม่ลืมที่จะเลือกมุมสวยๆ ถ่ายรูป เก็บไว้เป็นที่ระลึก รวมถึง เยี่ยมชมสินค้าชุมชน ผ้าสีมายาเพื่อซื้อติดไม้ติดมือกลับบ้านอีกด้วย#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
22/1/2023
ภาคใต้
ยะลา
สทท.ยะลา
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230122140804478
null
คณะผู้ประกอบพิธีอุมเราะห์ ของ ศอ.บต. ยังคงปฏิบัติศาสนกิจ ณ มัสญิดหารอม
คณะผู้ประกอบพิธีอุมเราะห์ ของ ศอ.บต. ยังคงปฏิบัติศาสนกิจ ณ มัสญิดหารอม พร้อมนําความรู้ด้านศาสนาที่ถูกต้องมาเผยแพร่เพื่อสร้างความสงบสุขใน จชต.วันนี้ (22 มกราคม 2566) เวลา 08.30 น. ตามเวลาท้องถิ่นประเทศซาอุดีอาระเบีย คณะผู้ประกอบพิธีอุมเราะห์ ตามกิจกรรมส่งเสริมคนดีมีคุณธรรมในจังหวัดชายแดนภาคใต้ไปประกอบพิธีอุมเราะห์ ประจําปีงบประมาณ 2565 (ฮิจเราะห์ศักราช 1444) ของศูนย์อํานวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ หรือ ศอ.บต กําหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 10 มกราคม 2566 ถึงวันที่ 24 มกราคม 2566 โดยขณะนี้ทั้ง 120 คน? ได้ประกอบพิธีอุมเราะห์เสร็จสิ้นสมบูรณ์แล้ว แต่ยังคงมุ่งประกอบศาสนกิจร่วมละหมาดและศึกษาประวัติศาสตร์ทางศาสนาในนครมักกะห์ ประเทศซาอุดีอาระเบียต่อไป จนเสร็จสิ้นนาวาเอก จักรพงษ์ อภิมหาธรรม หัวหน้าคณะ กล่าวว่า การเดินทางมายังดินแดนอันศักดิ์สิทธิ์เป็นเป้าหมายสูงสุดในชีวิตของผู้ที่นับถือศาสนาอิสลาม ศอ.บต. และรัฐบาล ส่งเสริมและให้โอกาสไปปฏิบัติศาสนกิจทุกๆปี เมื่อกลับมาแล้วไม่ได้มุ่งหวังให้ตอบแทนสิ่งใด แต่ให้นําความรู้ ความเข้าใจที่ถูกต้องตามหลักศาสนา มาเผยแพร่แก่ครอบครัว สังคม ชุมชน และนําหลักการของศาสนามาสร้างความสงบสุขในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ผู้ได้รับผลกระทบที่เข้าร่วมกิจกรรม กล่าวว่า ขอบคุณ ศอ.บต. ที่ให้โอกาสไปประกอบพิธีอุมเราะห์ และขอสัญญาว่าเมื่อกลับมาแล้วจะนําความรู้ที่ได้ มาเผยแพร่และปฏิบัติตนให้ถูกต้องตามหลักการศาสนาอิสลามต่อไปสําหรับกิจกรรมสนับสนุนการประกอบพิธีอุมเราะห์ จัดขึ้นเพื่อดูแลผู้ได้รับผลกระทบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่นับถือศาสนาอิสลาม ให้รู้สึกมีที่พึ่งทางจิตใจ และให้ความรู้สึกว่า หน่วยงานภาครัฐไม่ทอดทิ้ง ทั้งนี้สําหรับผู้ได้รับผลกระทบที่นับถือศาสนาพุทธในพื้นที่ ศอ.บต. จัดกิจกรรมส่งเสริมคนดีมีคุณธรรมในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ไปปฏิบัติธรรมสังเวชนียสถาน ณ ประเทศอินเดีย - เนปาล เพื่อสร้างขวัญกําลังใจพี่น้องไทยพุทธในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ และยังเป็นการส่งเสริม สนับสนุน ตลอดจนยังเป็นการปลูกฝังศีลธรรมและจริยธรรม ให้กับประชาชนชาวไทยพุทธในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้อีกด้วย#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
22/1/2023
ภาคใต้
ยะลา
สทท.ยะลา
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230122141208480
null
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โปรดเกล้าฯ ผู้แทนพระองค์ เสด็จไปในพิธีสังเวยพระป้ายเทศกาลตรุษจีน 2566 ณ พระที่นั่งเวหาศจำรูญ พระราชวังบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ พลเอก หม่อมเจ้าเฉลิมศึก ยุคล เสด็จแทนพระองค์ ไปยังพระที่นั่งเวหาศจํารูญ พระราชวังบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ในพิธีสังเวยพระป้าย เนื่องในเทศกาลตรุษจีน 2566 วันนี้ ( 22 มกราคม 2566 ) เวลา 10.34 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ พลเอก หม่อมเจ้าเฉลิมศึก ยุคล เสด็จโดยรถยนต์พระประเทียบไปทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจแทนพระองค์ใน พิธีสังเวยพระป้าย เนื่องในเทศกาลตรุษจีน พุทธศักราช 2566 ณ พระที่นั่งเวหาศจํารูญ พระราชวังบางปะอิน อําเภอบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยมี นายนิวัฒน์ รุ่งสาคร ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา พร้อมด้วย นางวัชราภรณ์ รุ่งสาคร นายกเหล่ากาชาดจังหวัดพระนครศรีอยุธยา หัวหน้าส่วนราชการพลเรือน ศาล ทหาร ตํารวจ นายอําเภอบางปะอิน รับ-ส่งเสด็จฯ ในการนี้ พลเอก หม่อมเจ้าเฉลิมศึก ยุคล ทรงจุดเทียนทอง เทียนเงิน ธูปที่โต๊ะเครื่องสังเวย และทรงจุดธูปหางปักที่เครื่องสังเวยทั้งสองโต๊ะ จากนั้น ทรงเผากระดาษทอง กระดาษเงิน เพื่อถวายราชสักการะตามประเพณีเนื่องในเทศกาลตรุษจีน พระราชวังบางปะอิน สร้างครั้งแรกในสมัยพระเจ้าปราสาททองพระมหากษัตริย์องค์ที่ 24 แห่งกรุงศรีอยุธยา แต่พระราชวังบางปะอินที่ปรากฏอยู่ในทุกวันนี้ สร้างขึ้นอีกครั้งในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระที่นั่งเวหาศจํารูญ มีนามตามภาษาจีนว่า "เทียน เหมง เต้ย" แปลว่า พระที่นั่งฟ้าสว่าง เป็นพระที่นั่ง 2 ชั้น ศิลปะ แบบจีน สร้างแล้วเสร็จในปี พ.ศ.2432 ด้วยเงินภาษีอากรที่ทําการค้ากับพ่อค้าชาวจีน เรียกว่า "กรมท่าซ้าย" พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เสด็จประทับในฤดูหนาว และใช้ว่าราชการ ภายในห้องกลางชั้นบนพระที่นั่งฯ เป็นที่ประดิษฐานพระป้ายอยู่ในพระวิมานจีน ทําด้วยไม้แกะสลักผูกลายมังกรชิงแก้ว ส่วนกระจังหน้าพระวิมานแกะสลักเป็นรูปกิเลน มีบานประตูไม้ฉลุลาย สามารถเปิด - ปิดได้ 3 คู่ คู่ที่ 1 ภายในพระวิมานด้านซ้าย ประดิษฐานพระป้ายอักษรจีน จารึกตัวทองพระปรมาภิไธย พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และพระนามาภิไธย กรมสมเด็จพระเทพศิรินทรามาตย์ ซึ่งพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม สร้างถวาย และอัญเชิญมาประดิษฐานไว้ในพระวิมาน เมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน พุทธศักราช 2433 คู่ที่ 2 ตรงกลางประดิษฐ์สถานพระรูป ในการประกอบพิธีสังเวยพระป้าย คู่ที่ 3 ภายในพระวิมานด้านขวา ประดิษฐานพระป้ายอักษรจีน จารึกตัวทองพระปรมาภิไธยพระสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และพระนามาภิไธยสมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถ ซึ่งพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ให้สร้างถวายและอัญเชิญมาประดิษฐานไว้ในพระวิมาน เมื่อพุทธศักราช 2470 ปัจจุบัน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้บําเพ็ญพระราชกุศลสังเวยพระป้ายในวันตรุษจีน ทุกปี ข่าว : สํานักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดพระนครศรีอยุธย#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
22/1/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
พระนครศรีอยุธยา
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230122142711483
null
ตรุษจีนที่ อ.หัวหิน จ.ประจวบฯ คึกคัก นักท่องเที่ยวกราบสักการะขอพร หลวงพ่อทวดองค์ใหญ่ วัดห้วยมงคล เพื่อความเป็นสิริมงคล และพักผ่อนริมชายหาดหัวหิน
วันนี้ 22 ม.ค.66 บรรยากาศการท่องเที่ยวในข่วงเทศกาลตรุษจีน ที่วัดห้วยมงคล อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ มีประชาชนนักท่องเที่ยวจํานวนมากทั้งชาวไทยและต่างชาติเดินทางไปกราบสักการะขอพร หลวงพ่อทวดองค์ใหญ่ พระนามาภิไธย ย่อ สก เพื่อความเป็นสิริมงคลในชีวิตอย่างไม่ขาดสาย ส่วนที่บริเวณชายหาดหัวหิน มีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติจํานวนมากพากันมาพักผ่อน ลงเล่นน้ําทะเล ขี่ม้าชายหาด และนั่งรับประทานอาหารทะเลท่ามกลางอากาศแจ่มใส โดยมี ตํารวจท่องเที่ยวหัวหิน สายตรวจชายหาด สภ.หัวหิน และเจ้าหน้าที่เทศกิจคอยดูแลอํานวยความสะดวก ขณะที่ น้ําตกป่าละอู แหล่งท่องเที่ยวดังใน ต.ห้วยสัตว์ใหญ่ พบว่ามีนักท่องเที่ยวเดินทางไปชมธรรมชาติ พร้อมกางเต็นท์ค้างแรมโดยมีเจ้าหน้าที่อุทยานคอยดูแลดวามปลอดภัยใกล้ชิด#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
22/1/2023
ภาคตะวันตก
ประจวบคีรีขันธ์
สวท.ประจวบคีรีขันธ์
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230122143347485
null
ผู้ว่าฯยะลา เปิดงานโครงการตรุษจีน 2566 ยิ่งใหญ่ สร้างสีสันเมืองรับนักท่องเที่ยว ทำบุญตักบาตร กราบไหว้เทพเจ้าประจำเมือง เพื่อความเป็นสิริมงคล
วันนี้ 22 ม.ค.66เมื่อเวลา 07.30 น. ที่บริเวณปากอุโมงค์เบตงมงคลฤทธิ์ ฝั่งหอนาฬิกาเทศบาลเมืองเบตง อ.เบตง จ.ยะลา นายสุพจน์ รอดเรือง ณ หนองคาย ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา ได้เป็นประธานเปิดงานวันตรุษจีน ประจําปี 2566 ที่เทศบาลเมืองเบตง ส่วนราชการ สมาคม พ่อค้า นักธุรกิจ และพี่น้องชาวไทยเชื้อสายจีน จัดขึ้น เพื่อสืบสานวัฒนธรรมขนบธรรมเนียมประเพณีของพี่น้องชาวไทยเชื้อสายจีน โดยมี พ.จ.ท.อนันต์ บุญสําราญ รองผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา นายเอก ยังอภัย ณ สงขลา นายอําเภอเบตง หัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการ พ่อค้า สมาคม ประชาชน สวมใส่เสื้อผ้าสีแดง สีสันสดใส เข้าร่วม ท่ามกลางการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวดจากเจ้าหน้าที่ตํารวจ ตชด. ทหาร ฝ่ายปกครองสําหรับกิจกรรมวันตรุษจีน ที่ทางเทศบาลเมืองเบตงจัดขึ้น เริ่มจาก ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา หัวหน้าส่วนราชการ ประชาชน ร่วม ลงนามถวายพระพร สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา ขอให้ทรงหายจากพระอาการประชวร และมีพระพลานามัยแข็งแรงสมบูรณ์โดยเร็ววัน จากนั้น ก็นําข้าวสารอาหารแห้ง ร่วมทําบุญตักบาตรพระสงฆ์ และร่วมกราบไว้เทพเจ้า สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ที่เคารพ ดูแลรักษาปกป้องเมืองเบตง ตามแบบฉบับประเพณีของพี่น้องชาวไทยเชื้อสายจีนที่สืบทอดกันมาอย่างยาวนาน เพื่อความเป็นสิริมงคล แก่ตนเองและครอบครัว เนื่องในวันตรุษจีน หรือวันปีใหม่ของชาวจีน ทั้งนี้ ภายในงานที่บริเวณหอนาฬิกาเทศบาลเมืองเบตง ซึ่งเป็นสถานที่จัดกิจกรรมไหว้เทพเจ้าสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ยังมีการจัดกิจกรรมการแสดงเชิดสิงโต ของคณะ สมาคมต่างๆ ในพื้นที่ อ.เบตง ซึ่งก็ได้รับความสนใจจากพี่น้องประชาชน นักท่องเที่ยว และผู้ที่มาร่วมงาน มาร่วมรอชมกันเป็นอย่างมาก#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
22/1/2023
ภาคใต้
ยะลา
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดยะลา
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230122145200487
null
ชาวเพชรบุรี รื่นเริงตรุษจีน “ ผัดหมี่ซั่ว” กระทะยักษ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรีชี้ วันแห่งความสุข วันแห่งความรื่นเริง แสดงถึงความอุดมสมบูรณ์ของเมืองเพชรบุรี ความสามัคคีของชุมชนเชื้อสายจีน สื่อถึงความรักที่มีต่อกัน
เมื่อเวลา 18.00 น. วันนี้ (22 มกราคม 2566) นายณัฏฐชัย นําพูลสุขสันติ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี นายกสมาคมชาวจีนเพชรบุรี นายกเทศมนตรีเมืองเพชรบุรี คณะกรรมการสหสมาคม-มูลนิธิสมาคมชาวจีน 7 คณะ นักท่องเที่ยวและประชาชนชาวไทยเชื้อสายจีนเข้าร่วมงานเทศกาลตรุษจีนที่บริเวณแยกวัดธ่อ ถนน 18 เมตร อําเภอเมืองเพชรบุรี จังหวัดเพชรบุรี นายณัฏฐชัย นําพูลสุขสันติ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี ได้กล่าวถึงการร่วมกันจัดงานตรุษจีนที่เกิดจากความร่วมมือกันของทุกฝ่าย ทั้งส่วนราชการ ชาวบ้านในชุมชน ชาวไทยเชื้อสายจีน เป็นวันแห่งความสุข วันแห่งความรื่นเริง แสดงถึงความอุดมสมบูรณ์ของเมืองเพชรบุรี ความสามัคคีของชุมชนเชื้อสายจีน สื่อถึงความรักที่มีต่อกัน สรรสร้างสังคมแห่งความปรองดอง ชาวบ้านแต่ละชุมชนอยู่ดีมีสุข นอกจากนั้น ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี ยังได้ร่วมกับพี่น้องชาวไทยเชื้อสายจีน สักการะเทพเจ้า เพื่อความเป็นสิริมงคล และร่วมกับชาวบ้านผัดหมี่ซั่วด้วยตะหลิวยื่นยาวบนกระทะกว้างแบนใหญ่ ยักษ์ แจกจ่ายให้ผู้มาร่วมงานได้ลิ้มชิมรสชาติอย่างอิ่มอร่อย สร้างความสุขทางใจ จากความเชื่อหากได้รับประทานหมี่ซั่วผัด ในวันตรุษจีน อายุจะยืนยาว สําหรับเทศกาลตรุษจีน ประจําปี 2566 เทศบาลเมืองเพชรบุรี ร่วมกับสหสมาคม-มูลนิธิสมาคมชาวจีน 7 คณะ จัดขึ้นเพื่อเป็นการเฉลิมฉลองเทศกาลตรุษจีน สืบสานประเพณีของชาวไทยเชื้อสายจีน มีการตั้งศาลเจ้าจําลองเพื่อให้ประชาชนได้มีโอกาสเดินทางมากราบไหว้เทพเจ้า ขอพร ขอให้โชคดี ค้าขาย ร่ํารวย นอกจากนั้นบนเวทียังมีการแสดงศิลปะจีน การแสดงจินตลีลานาฏศิลป์จีนจากโรงเรียนต่างๆ การแสดงเชิดสิงโต เชิดมังกรทอง สวยงามตระการตา บรรยากาศคึกคัก ดึงดูดเรียกร้องความสนใจจากนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ จามรี อนุรัตน์ ประชาสัมพันธ์จังหวัดเพชรบุรี รายงาน#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
22/1/2023
ภาคตะวันตก
เพชรบุรี
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเพชรบุรี
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230122201713532
null