NewsTitle
stringlengths
11
31.5k
Detail
stringlengths
9
78.4k
NewsDate
stringlengths
3
5.77k
Region
stringclasses
48 values
Province
stringclasses
99 values
Department
stringclasses
211 values
Link_News
stringlengths
3
903
v
stringclasses
812 values
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดงาน “Amazing Ruk Rim Lay”
วันนี้ (13 ก.พ.2566) ที่บริเวณชายหาดราชมงคล อําเภอสิเกา จังหวัดตรัง นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นประธานในพิธีเปิดงาน “อะเมชซิ่ง รักริมเล “Amazing Ruk Rim Lay” โดยมี นายขจรศักดิ์ เจริญโสภา ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง กล่าวต้อนรับจังหวัดตรังเป็น “เมืองแห่งคุณภาพชีวิตที่ดีและยั่งยืน” เป็น “เมืองกีฬา” เป็น “จังหวัดที่มีแหล่งท่องเที่ยว ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมที่อุดมสมบูรณ์ เป็นเมืองที่มีมนต์เสน่ห์ในด้านศิลปวัฒนธรรม ตลอดจนมีเมนูอาหารอร่อยที่หลากหลาย ปัจจุบันจึงมีนักท่องเที่ยวเดินทางมาเยือนจังหวัดตรังเพิ่มขึ้นเป็นจํานวนมาก โดยอุตสาหกรรมภาคการท่องเที่ยวและบริการที่ผ่านมาสามารถสร้างรายได้หลักและช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่ให้มีศักยภาพยิ่งขึ้น โดยเฉพาะในเดือนกุมภาพันธ์ซึ่งถือเป็นเดือนแห่งความรัก และงานรักริมเล ในค่ําคืนนี้ ได้มีการจัดคอนเสิร์ตเฉลิมฉลองความรักร่วมกับพี่น้องชาวตรัง ซึ่งเป็นครั้งแรกของจังหวัดตรังที่จะมีการเนรมิตหาด ให้กลายเป็นสีชมพู โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ขอมอบความสุขแก่พี่น้องชาวตรัง ได้พักผ่อนกับเสียงดนตรีร่วมกัน ท่ามกลางบรรยากาศสบายๆ ริมทะเลที่ขึ้นชื่อว่า เป็น Hidden Gem ของตรัง #สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
13/2/2023
ภาคใต้
ตรัง
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดตรัง
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230213203454740
null
สำนักงานพาณิชย์จังหวัดตาก จัดงาน Shop Chic Chill@เกาะลอย สินค้าอัตลักษณ์เมืองตาก
วันนี้ 13 กุมภาพันธ์ 2566 เวลา 18.00 น.นายสมชัย กิจเจริญรุ่งโรจน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดตาก เปิดงาน Shop Chic Chill@เกาะลอย สินค้าอัตลักษณ์เมืองตาก ณ บริเวณลานเอนกประสงค์หนองน้ํามณีบรรพต อําเภอเมืองตาก จังหวัดตากสํานักงานพาณิชย์จังหวัดตาก ได้เล็งเห็นความสําคัญ ในการส่งเสริมการตลาด เพิ่มช่องทางการจําหน่ายสินค้าทางการเกษตร เกษตรพื้นที่สูง เกษตรแปรรูป และผลิตภัณฑ์ต่อเนื่องของจังหวัดตาก เพื่อให้เกษตรกรจังหวัดตาก สามารถจําหน่ายสินค้าได้เพิ่มขึ้น มีรายได้เข้าสู่ชุมชน โดยมุ่งเน้นการประชาสัมพันธ์สินค้า ให้สอดคล้องกับกลุ่มผู้บริโภค เพื่อสร้างการรับรู้ถึงสินค้าที่เป็นอัตลักษณ์ของจังหวัดตาก มุ่งเสริมสร้างความเข้มแข็ง ให้เกษตรกรและยังเป็นการกระจายรายได้ลงสู่ชุมชนเศรษฐกิจของจังหวัดตากให้ดีขึ้นโดยภายในงาน ประกอบด้วย กิจกรรมการจําหน่ายสินค้าเกษตรสินค้า GI สินค้าเด่นที่เป็นอัตลักษณ์ของจังหวัดตาก และการจําหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภค นอกจากนี้ยังได้รับความร่วมมือ จากหน่วยงานภาคีเครือข่ายทั้งภาครัฐและเอกชน ร่วมจัดนิทรรศการและออกร้านในแต่ละครั้ง ทําให้เกิดกิจกรรมที่หลากหลาย สามารถดึงดูดความสนใจในการเข้าร่วมงานได้เป็นอย่างดี #สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
13/2/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
ตาก
สวท.ตาก
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230213211555751
null
ชาวตำบลหนองตาด อำเภอเมืองบุรีรัมย์ จังหวัดบุรีรัมย์ ร่วมใจกันจัดงาน “ตลาดซุม...เฮา” ร่วมกระตุ้นเศรษฐกิจภายในพื้นที่
วันนี้ (13 ธ.ค. 66) บริเวณลานแสดงสินค้าตรงข้ามมานาคาเฟ่ บ้านสําโรงเหนือ หมู่ที่ 21 ตําบลหนองตาด อําเภอเมืองบุรีรัมย์ จังหวัดบุรีรัมย์ นายอุกฤษ หงส์ไธสง ปลัดอําเภออาวุโส ประธานในพิธีเปิด “ตลาดซุม...เฮา” โดยมี นางกนกอร โพธิ์สิงห์ พัฒนาการจังหวัดบุรีรัมย์ พัฒนาการอําเภอ กํานันตําบลหนองตาด ชมรมกํานัน-ผู้ใหญ่บ้าน ตําบลหนองตาด และประชาชนในพื้นที่เข้าร่วมโดยนายธีรศักดิ์ ทองทรวง กํานันตําบลหนองตาด กล่าวว่า การจัดกิจกรรมในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์หลักคือ การเพิ่มช่องทางการตลาดให้กับสินค้าจากหมู่บ้านสินค้าทางการเกษตร ผลิตภัณฑ์OTOP ผลิตภัณฑ์ชุมชน และผู้ประกอบการในตําบลหนองตาด เพื่อสร้างรายได้ สร้างการเรียนรู้ ให้กับผู้ผลิตผู้ประกอบการของตําบลหนองตาด และเป็นการยกระดับสินค้าชุมชนและส่งเสริมเศรษฐกิจฐานรากในชุมชนซึ่งวันนี้ได้มีการจัดกิจกรรมมากมาย ทั้งการมอบจักรยานให้เด็กยากไร้ 3 คัน ซึ่งเป็นการสนับสนุนจากชมรมกํานันผู้ใหญ่บ้าน ต.หนองตาด ร่วมกับสํานักงานพัฒนาชุมชน อ.หนองตาด การจัดจําหน่ายสินค้าจากผู้ผลิตผู้ประกอบการ จาก 22 หมู่บ้านในพื้นที่ตําบลหนองตาด จํานวน 79 ราย ประกอบด้วย อาหารท้องถิ่น เครื่องดื่ม สินค้าโอทอป บริการนวด และมีต้นไม้หลากหลายสสายพันธุ์ มาจําหน่ายในราคาไม่แพง ส่วนการแสดงในวันนี้ ได้จัดให้มี การแสดงจากเยาวชน หมู่ที่ 11 บ้านโนนสมบูรณ์ ตําบลหนองตาด มาในชื่อชุด หนูน้อยเอวเด้ง และการแสดงเซิ้งบุญบั้งไฟ จากเยาวชน หมู่ที่ 17 บ้านหนองมะเกลือ สร้างความสนุกสนานให้ผู้เข้าร่วมงานอีกด้วย โดย“ตลาดซุม...เฮา”จะจัดวันพรุ่งนี้ เป็นวันสุดท้าย และจะมีกําหนดการจัดอีกครั้งในเดือนหน้า#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
13/2/2023
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
บุรีรัมย์
สวท.บุรีรัมย์
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230213212641754
null
จังหวัดสตูล เปิดงานมรกตอันดามัน มหัศจรรย์อาหารอร่อยของดีที่ละงู ครั้งที่ 15 กระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่
วันนี้ (13 ก.พ.66) เวลา 20.00 น. ที่สนามหน้าเทศบาลตําบลกําแพง อําเภอละงู จังหวัดสตูล นายชาตรี ณ ถลาง รองผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล เป็นประธานเปิดงานมรกตอันดามัน มหัศจรรย์อาหารอร่อยของดีที่ละงู ครั้งที่ 15 พร้อมกล่าวว่า งานฯนี้ เป็นการนําเทศกาลอาหารมาเป็นจุดขาย เพื่อสร้างรายได้และกระตุ้นเศรษฐกิจภายในจังหวัด เกิดการสร้างงานสร้างรายได้ให้กับประชาชนจากการจําหน่ายอาหารและสินค้า ซึ่งได้รับความร่วมมือจากภาคส่วนต่าง ๆ อีกทั้งยังเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวของอําเภอละงูให้เป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวได้อย่างแพร่หลาย และด้วยศักยภาพด้านการท่องเที่ยวที่มีความโดดเด่นของจังหวัดสตูล สามารถนําไปสู่การพัฒนาเศรษฐกิจตั้งแต่ระดับชุมชนสู่ระดับจังหวัด และระดับประเทศต่อไปได้บรรยากาศพิธีเปิดงานฯ มีการแสดงชุด "นาฏยลีลาภูษาลายบูดิง"จากนักเรียนโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 42 จังหวัดสตูล และการแสดงดนตรีจากวงกัวลาบารา ศิลปินชาวสตูล โดยมีประชาชนในพื้นที่ร่วมงานเป็นจํานวนมาก สําหรับงานมรกตอันดามัน มหัศจรรย์อาหารอร่อยของดีที่ละงู ครั้งที่ 15 จัดขึ้นตั้งแต่วันที่ 13 - 19 กุมภาพันธ์ 2566 มีการออกร้านจําหน่ายอาหารราว 100 บูธ , การแสดงแสงสีเสียงทุกค่ําคืน (13 ก.พ. ตั๊กแตน ชลดา , 14 ก.พ. มีนตรา อินทิรา , 15 ก.พ. บ่าววี , 16 ก.พ. แอมป์ ซีทู , 17 ก.พ. วงกางเกง , 18 ก.พ. พ็อก บิ๊กอายส์ และ 19 ก.พ. ประกวดมิสมรกตอันดามัน 2023 ) และการแข่งขันนกกรงหัวจุกและนกบินหลาดง ทั้งนี้คาดว่าตลอดการจัดงานฯ จะสามารถกระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่ได้กว่า 10 ล้านบาท#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
13/2/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สวท.สตูล
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230213230927775
null
จังหวัดสตูล โดยสำนักงานเทศบาลตำบลกำแพง จัดพิธีเปิดงานมรกตอันดามัน มหัศจรรย์อาหารอร่อยของดีที่ละงู ครั้งที่ 15 ประจำปี 2566 (La-Ngu Food Festival 2023) ส่งเสริมการท่องเที่ยวและประชาสัมพันธ์เทศกาลอาหาร สนับสนุนการมีส่วนร่วมของประชาชนในท้องถิ่น สร้างรายได้สู่ชุมชน
วันนี้ (13 ก.พ. 66) ที่สนามตรงข้ามเทศบาลตําบลกําแพง อําเภอละงู จังหวัดสตูล ชาตรี ณ ถลาง รองผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล เป็นประธานในพิธีเปิดงานมรกตอันดามัน มหัศจรรย์อาหารอร่อยของดีที่ละงู ครั้งที่ 15 ประจําปี 2566 (La-Ngu Food Festival 2023) โดยมี นายสัมฤทธิ์ เลียงประสิทธิ์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสตูล นายวิชิต แซ่ลิ่ม นายกเทศมนตรีตําบลกําแพง นายไพรัช สุขงาม ผู้อํานวยการสํานักงานท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย จังหวัดสตูล หัวหน้าส่วนราชการ นายอําเภอละงู สมาชิกสภาเทศบาลตําบลกําแพง นักท่องเที่ยวและประชาชนร่วมในพิธีเปิดจํานวนมาก นายวิชิต แซ่ลิ่ม นายกเทศมนตรีตําบลกําแพง กล่าวว่า งาน “มรกตอันดามัน มหัศจรรย์อาหารอร่อย ของดีที่ละงู” ครั้งที่ 15 ทางเทศบาลตําบลกําแพง ร่วมกับองศ์การบริหารส่วนจังหวัดสตูล สํานักงานการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สํานักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดสตูล ชมรมผู้ประกอบการร้านอาหารและแผงลอยเทศบาลตําบลกําแพง ดําเนินการจัดขึ้นระหว่างวันที่ 13-19 กุมภาพันธ์ 2566 ณ บริเวณสนามตรงข้ามเทศบาลตําบลกําแพง เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวประชาสัมพันธ์อาหารของดีอําเภอละงู และสินค้าพื้นเมืองของจังหวัดสตูล ให้เป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวมากยิ่งขึ้น สําหรับการจัดงานในครั้งนี้ เพื่อส่งเสริมและประชาสัมพันธ์เทศกาลอาหาร และการท่องเที่ยวของเทศบาลและจังหวัดสตูล ซึ่งเน้นการส่งเสริมและสนับสนุนการมีส่วนร่วมของประชาชนในท้องถิ่น เป็นการสร้างงานสร้างรายได้ให้กับชุมชน จากการออกร้านจําหน่ายอาหารนานาชนิด สินค้าพื้นเมืองและผลิตภัณฑ์อาหารพื้นบ้าน โดยได้รับความร่วมมืออย่างดีจากผู้ประกอบการ 100 กว่าร้านค้า นักท่องเที่ยวหรือประชาชนทั่วไปสามารถเที่ยวฟรี ชมฟรี ตลอดงาน 7 วัน 7 หลังจากได้ว่างเว้นจากการจัดงานฯ เป็นระยะเวลา 2 ปี อันเนื่องมาจากสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทั้งนี้ ในพิธีเปิดยังมีการมอบป้าย clean food good taste ให้แก่ร้านค้า จํานวน 13 ร้าน ที่ได้รับการคัดเลือกจากเทศบาลตําบลกําแพงและยังมีการแสดง แสง สี เสียง บนเวทีของเยาวชนนักเรียนในพื้นที่อําเภอละงู การแสดงของศิลปินชื่อดังในทุกค่ําคืน การประกวด “มิสมรกตอันดามัน 2019” การจําหน่ายอาหารอร่อยของดีเมืองสตูล รวมไปถึงการจําหน่ายสินค้า OTOP และของที่ระลึกอีกมากมาย #สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
13/2/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสตูล
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230213234054777
null
หารือความร่วมมือผลักดันเศรษฐกิจ สร้างงาน สร้างอาชีพแก่เยาวชนในพื้นที่ จชต
ผู้บริหาร GISB HOLDINGS ประเทศมาเลเซีย เข้าพบ เลขาธิการ ศอ.บต. หารือความร่วมมือผลักดันเศรษฐกิจ สร้างงาน สร้างอาชีพแก่เยาวชนในพื้นที่ จชต.ที่ห้องประชุมน้อมเกล้า ศูนย์อํานวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) พลเรือตรี สมเกียรติ ผลประยูร เลขาธิการ ศอ.บต. พร้อมด้วยนางสุนิสา รามแก้ว ผู้ช่วยเลขาธิการ ศอ.บต. (กรมประชาสัมพันธ์) และนางสาวเยาวภา อินชะนะ ผู้ช่วยเลขาธิการ ศอ.บต. ให้การต้อนรับนายต่วนนาซีรุดดีน มูฮัมมัดอาลี ประธานกรรมการใหญ่ บริษัท GISB HOLDINGS , ประธานกรรมการบริหาร , คณะกรรมการที่ปรึกษา , หัวหน้ามุสลิมะห์ผู้หญิง และหัวหน้ากลุ่มเยาวชนและคณะในเครือของ บริษัท GISB HOLDINGS ซึ่งเข้าพบผู้บริหาร ศอ.บต. เพื่อนําเสนอ และแนะนําบริษัท GISB HOLDINGS เป็นบริษัทที่ผลักดันผลิตภัณฑ์การบริการในด้านต่าง ๆ สู่ตลาดโลก ซึ่งมีบริษัทในเครือ 18 บริษัท อาทิ บริษัท จีเอเอสบี มาร์ท จํากัด ที่ให้บริการเกี่ยวกับห้างสรรพสินค้าและร้านสะดวกซื้อ , บริษัท จีเอเอสบี อุตสาหกรรม จํากัด ที่ให้บริการทางด้านการแปรรูปอาหาร , บริษัท การพาณิช จํากัด ที่ให้บริการในการส่งออกสินค้า นอกจากนี้ทางบริษัท GISB HOLDINGS ได้ร่วมหารือกับผู้บริหาร ศอ.บต. ถึงแนวทางการลงทุนการทําเกษตรกรรมในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่อําเภอหนองจิก จังหวัดปัตตานี ภายใต้โครงการสามเหลี่ยม มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน ซึ่งเป็นเจตนารมณ์ของนายตวนนาซีรุดดีน มูฮัมมัดอาลี ประธานกรรมการใหญ่ บริษัท GISB HOLDINGS ที่ต้องการสร้างคนดีควบคู่กับการพัฒนาเศรษฐกิจพลเรือตรี สมเกียรติ ผลประยูร เลขาธิการ ศอ.บต. กล่าวว่า ในส่วนของ ศอ.บต. มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ต้อนรับทุกท่าน ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้มีพื้นที่พร้อมที่จะร่วมมืออยู่ 3 จังหวัด คือ อําเภอหนองจิก จังหวัดปัตตานี สบันสนุนภาคเกษตรแปรรูป โรงอุตสาหกรรมเกษตร , อําเภอเบตง จังหวัดยะลา สนับสนุนการท่องเที่ยวทุกด้าน และอําเภอสุไหงโกลก จังหวัดนราธิวาส สนับสนุนการส่งเสริมการค้าชายแดน และการค้าข้ามแดน บริษัท GISB HOLDINGS มี 18 บริษัทในเครือกระจายไป 17 สาขาทั่วโลก เป็นบริษัทขนาดใหญ่ทาง ศอ.บต. ยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ทางบริษัทไม่ได้เน้นภาคธุรกิจแต่เน้นคุณธรรมที่อยู่ร่วมกัน การให้ความสําคัญกับเยาวชน โดยเฉพาะเยาวชนในโรงเรียนปอเนาะ ของจังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่อยากจะสร้างงานสร้างอาชีพให้กับกลุ่มเยาวชนกลุ่มนี้ ในประเด็นต่าง ๆ ในวันนี้สิ่งที่บริษัทได้กล่าว ทาง ศอ.บต. ได้ดําเนินการอยู่แล้วและมีความสอดคล้องกัน โดยเฉพาะเยาวชนในพื้นที่ เราพร้อมที่จะเดินไปด้วยกันทาง ศอ.บต. เองพร้อมที่จะผลักดัน ร่วมมือ ให้เป็นรูปประธรรมให้เร็วที่สุดและยินดีที่จะเดินไปข้างหน้าด้วยกัน และถ้าหากมีความสําเร็จเกิดขึ้นของทางประเทศไทย และประเทศมาเลเซียจะเป็นความสําเร็จร่วมกันทั้ง 2 ประเทศด้านนายตวนนาซีรุดดีน มูฮัมมัดอาลี ประธานกรรมการใหญ่ บริษัท GISB HOLDINGS กล่าวว่า ขอขอบคุณที่ให้การต้อนรับเป็นอย่างดี การมาประเทศไทย ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ในครั้งนี้ได้พบปะผู้นําศาสนา และนักธุรกิจในจังหวัดชายแดนภาคใต้ คณะของบริษัทมีหัวหน้าเยาวชนที่จะมาพัฒนาเยาวชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ต่อไป อยากที่จะสร้างงานสร้างอาชีพให้บุคคลเหล่านี้ ในด้านวิชาชีพและเรื่องเศรษฐกิจ การท่องเที่ยวและอื่น ๆ อีกมากมายเพื่อที่จะทําให้เยาวชนได้อยู่ห่างไกลจากยาเสพติด และอยากที่จะให้ทุกภาคส่วนร่วมมือกันเพื่อที่จะผลักดันทั้งเศรษฐกิจและเยาวชนไทยต่อไป#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
14/2/2023
ภาคใต้
ยะลา
สทท.ยะลา
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230214071449779
null
บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) วิเคราะห์แนวโน้มความต้องการน้ำมันในตลาดโลกปรับตัวเพิ่มขึ้น หลังจีนเปิดประเทศ และรัสเซียลดแผนการผลิตน้ำมันดิบในเดือนมีนาคมนี้
ทีมวิเคราะห์ตลาดต่างประเทศ บริษัท ปตท. จํากัด (มหาชน) วิเคราะห์แนวโน้มสถานการณ์ตลาดน้ํามันประจําสัปดาห์ที่ผ่าน ราคาน้ํามันดิบ ICE Brent และ NYMEX WTI เฉลี่ยสัปดาห์ที่ผ่านมาปรับตัวเพิ่มขึ้น โดย ICE Brent ราคาขยับขึ้น 1.07 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล อยู่ที่ 84.13 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล NYMEX WTI ราคาอยู่ที่ 77.50 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล หรือเปลี่ยนแปลง 1.01 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ซึ่งเป็นผลจากความกังวลว่า อุปทานน้ํามันดิบมีแนวโน้มตึงตัว หลังรัสเซียเปิดเผยแผนลดการผลิตน้ํามันดิบในเดือนมีนาคมนี้ลงอีก 500,000 บาร์เรลต่อวัน หรือประมาณร้อยละ 5 ของปริมาณการผลิตของรัสเซีย เพื่อตอบโต้ชาติตะวันตกที่ออกมาตรการตั้งเพดานราคาน้ํามัน (Price Cap) จากรัสเซียซึ่งขนส่งทางทะเล ตั้งแต่วันที่ 5 ธันวาคม 2565 ที่ผ่านมา อีกทั้งความต้องการน้ํามันโลกมีแนวโน้มฟื้นตัวหลังจีนยกเลิกมาตรการ Zero-COVID จึงคาดการณ์อุปสงค์น้ํามันของจีนในปีนี้ จะเพิ่มขึ้น 1 ล้านบาร์เรลต่อวัน ส่วนราคาน้ํามันสําเร็จรูปดูไบ ปรับตัวลดลงอยู่ในที่ 81.47 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล พร้อมคาดการณ์สัปดาห์นี้ระหว่างวันที่ 13 – 17 กุมภาพันธ์ 2566 ราคาน้ํามันดิบ ICE Brent จะเคลื่อนไหวอยู่ระหว่าง 83 - 88 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรลอย่างไรก็ตาม เลขาธิการองค์การกลุ่มประเทศผู้ส่งน้ํามันออก หรือ OPEC คาดว่าอุปสงค์น้ํามันโลกในปีนี้(66) จะอยู่ที่ 102 ล้านบาร์เรลต่อวัน ซึ่งสูงกว่าระดับก่อนการแพร่ระบาดโควิด-19 และจะเติบโตสู่ 110 ล้านบาร์เรลต่อวัน ภายในปี 2568
14/2/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230214102655825
null
กบข. เตือนอย่าหลงเชื่อมิจฉาชีพแอบอ้างหลอกลงทุน กบข.ไม่มีนโยบายเชิญชวนสมาชิกลงทุนผ่านช่องทางส่วนบุคคล
นางศรีกัญญา ยาทิพย์ เลขาธิการคณะกรรมการกองทุนบําเหน็จบํานาญข้าราชการ (กบข.) เปิดเผยว่า กบข. ได้รับแจ้งว่ามีมิจฉาชีพแอบอ้างเป็นผู้บริหาร กบข. เชิญชวนให้เข้ากลุ่มไลน์ เพื่อหลอกลวงให้ร่วมลงทุน โดยมีพฤติกรรมสร้างบัญชีไลน์ ใช้ชื่อและรูปของผู้บริหาร กบข. เพื่อให้เข้าใจว่า กบข. เป็นผู้ชักชวน หลังจากนั้นได้ส่งข้อความหาสมาชิก กบข. และกระตุ้นให้เข้าร่วมกลุ่มไลน์และให้โอนเงินประกันผลตอบแทนเข้าระบบอย่างต่อเนื่อง ซึ่งอ้างว่าเป็นการทําภารกิจเพื่อให้ได้ผลกําไร พฤติการณ์ดังกล่าวเป็นการกระทําของมิจฉาชีพ ที่ทําให้สมาชิกต้องสูญเสียทรัพย์สินและเกิดความเสียหายกบข. ขอชี้แจงว่า กบข. ไม่มีนโยบายเชิญชวนให้สมาชิกลงทุนผ่านสื่อต่างๆ เช่น LINE Facebook หรือช่องทางส่วนบุคคล นอกเหนือจากการเลือกแผนการลงทุนตามที่กฎหมายกําหนดเท่านั้น ซึ่งเงินสะสมของสมาชิกจะถูกหักจากบัญชีเงินเดือนและนําส่ง กบข. โดยเจ้าหน้าที่การเงินของหน่วยงานสมาชิกเท่านั้น ไม่มีการให้สมาชิกโอนเงินเข้าบัญชีด้วยตนเองและขอแจ้งเตือนไปยังสมาชิกและประชาชนทั่วไปให้ใช้ความระมัดระวังไม่หลงเชื่อคําเชิญชวนต่างๆ หรือการติดต่อแอบอ้างจากช่องทางอื่นๆ ที่ใช้ชื่อ “กบข.” “ตราสัญลักษณ์” หรือ “ภาพผู้บริหาร กบข.” ที่ไม่ใช่ช่องทางการสื่อสารหลักของ กบข.หากพบเห็นพฤติกรรมดังกล่าว หรือโฆษณาชักชวนลงทุนที่ผิดสังเกตสามารถแจ้งมาได้ที่ศูนย์บริการข้อมูลสมาชิก โทร. 1179 ทั้งนี้ กบข. กําลังรวบรวมหลักฐาน และส่งเรื่องจากผู้เสียหายที่มีหลักฐานครบถ้วนถึงการกระทําผิดที่เกี่ยวกับ กบข. ให้พนักงานสอบสวนดําเนินคดีอย่างถึงที่สุด
14/2/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
Radio-สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230214095510805
null
ผู้ขับรถแท็กซี่ นำมิเตอร์เข้ารับบริการปรับจูน ณ สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ จนถึงปัจจุยันกว่า 30,000 คัน พร้อมกำชับหลังปรับอัตราค่าโดยสารใหม่แล้ว ต้องไม่ปฏิเสธและปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด
นายเสกสม อัครพันธุ์ รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก และโฆษกกรมการขนส่งทางบก เปิดเผยถึงผลการอํานวยความสะดวกในการปรับจูนมิเตอร์ให้ผู้ขับรถแท็กซี่ตามอัตราค่าโดยสารใหม่ ณ สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ (สถานีกลางบางซื่อ) ว่า หลังจากกระทรวงคมนาคม มีประกาศปรับอัตราค่าโดยสารรถแท็กซี่ในเขตกรุงเทพมหานคร กรมการขนส่งทางบก ได้ประชาสัมพันธ์ให้ผู้ขับรถแท็กซี่นํามิเตอร์ไปปรับจูนกับบริษัทผู้จําหน่ายมิเตอร์ และนํามิเตอร์ที่ปรับจูนแล้วมารับรองความถูกต้องที่กรมการขนส่งทางบก อีกทั้ง กรมการขนส่งทางบกได้ร่วมมือกับ 4 บริษัทเอกชน เข้ามาดําเนินการภายในสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ ตั้งแต่วันที่ 16 มกราคม – 11 กุมภาพันธ์ 2566 มีจํานวนทั้งสิ้น 34,812 คัน ผู้ขับรถแท็กซี่ที่ใช้มิเตอร์สามารถนํามิเตอร์มาปรับจูนที่สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ไปจนถึงวันนี้ 28 กุมภาพันธ์ 2566 ในวันจันทร์-วันเสาร์ ตั้งแต่เวลา 08.00-17.00 น.สําหรับผู้ขับรถแท็กซี่ที่ใช้มิเตอร์จากบริษัทอื่นๆ นอกเหนือจาก 4 บริษัทที่ให้บริการที่สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ สามารถรวมกลุ่มกันไปดําเนินการกับบริษัทที่ปรับจูนมิเตอร์ที่มีให้บริการกว่า 10 บริษัท และนํามิเตอร์ที่ปรับจูนแล้วมารับรองความถูกต้องที่สํานักงานขนส่งกรุงเทพมหานครพื้นที่ 5 ส่วนตรวจสภาพรถ งานตรวจสภาพรถรับจ้างและรถอื่น อาคาร 4 พร้อมเน้นย้ําว่า หลังจากนํามิเตอร์มาปรับจูนตามอัตราค่าโดยสารใหม่แล้ว ต้องพัฒนาคุณภาพในการให้บริการประชาชน ไม่ปฏิเสธผู้โดยสาร เมื่อรับผู้โดยสารแล้วต้องกดมิเตอร์ทุกครั้ง และไม่เรียกเก็บค่าโดยสารเกินอัตราที่กฎหมายกําหนด รวมถึงให้ปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยรถยนต์และกฎหมายว่าด้วยการจราจรทางบกอย่างเคร่งครัด
14/2/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230214103549826
null
กรมการค้าต่างประเทศ เดินหน้าประชาสัมพันธ์ข้าวไทย รักษาส่วนแบ่งตลาดข้าวไทยในตลาดโลก
นางมนัสนิตย์ จิรวัฒน์ รองอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า กรมการค้าต่างประเทศ จัดคณะผู้แทน เข้าร่วมงาน BIOFACH 2023 ครั้งที่ 33 ในระหว่างวันที่ 14–17 กุมภาพันธ์นี้ ซึ่งเป็นงานแสดงสินค้าเกษตรอินทรีย์นานาชาติที่ใหญ่ที่สุดของโลก จัดขึ้นเป็นประจําทุกปี ณ สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี โดยกรมฯ จะจัดนิทรรศการให้ความรู้เกี่ยวกับข้าวอินทรีย์ไทย พร้อมแสดงตัวอย่างสินค้าข้าวอินทรีย์ไทย เช่น ข้าวหอมมะลิไทยอินทรีย์ และข้าวไรซ์เบอร์รี่อินทรีย์ ขณะเดียวกัน ยังได้นําผู้ประกอบการข้าวไปจัดแสดงตัวอย่างสินค้าข้าวอินทรีย์ไทยและผลิตภัณฑ์จากข้าวอินทรีย์ของไทย รวมถึงการเจรจาธุรกิจการค้ากับผู้นําเข้าข้าวภายในงานด้วย นอกจากนี้ กรมฯ ได้เข้าร่วมงาน Gulfood 2023 ครั้งที่ 28 ในระหว่างวันที่ 20–24 กุมภาพันธ์นี้ ซึ่งเป็นงานแสดงสินค้าอาหารและเครื่องดื่มที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคตะวันออกกลาง จัดขึ้นเป็นประจําทุกปี ณ เมืองดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ โดยจะจัดนิทรรศการให้ความรู้เกี่ยวกับความหลากหลายของข้าวไทย ควบคู่กับเครื่องหมายรับรองข้าวหอมมะลิไทย พร้อมทั้งมีการสาธิตการหุงข้าวไทยและแจกให้ผู้เข้าเยี่ยมชมได้ทดลองชิมคู่กับอาหารไทยด้วย การเข้าร่วมงานดังกล่าว ที่มีผู้ประกอบการสินค้าอาหารและเครื่องดื่มมาจัดแสดงสินค้าและพบปะเจรจาธุรกิจระหว่างกัน นับว่าเป็นโอกาสและช่องทางที่ดีในการประชาสัมพันธ์ข้าวไทยให้ผู้นําเข้าและผู้บริโภคในต่างประเทศเกิดการรับรู้ จดจํา และเชื่อมั่นในคุณภาพของข้าวไทยทซึ่งจะช่วยรักษาส่วนแบ่งตลาดและกระตุ้นการซื้อข้าวไทยและผลิตภัณฑ์จากข้าวไทยในสหภาพยุโรปและตะวันออกกลางให้เพิ่มมากขึ้น
14/2/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230214100909810
null
พัฒนาชุมชนจังหวัดลพบุรี ชวนอุดหนุนสินค้าชุมชน “OTOP To The King Narai Reign Fair 35th 2023” ในงานแผ่นดินสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ครั้งที่ 35 ประจำปี 2566
สํานักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดลพบุรี นําโดย นางบัณฑิตา หมื่นพรม พัฒนาการจังหวัดลพบุรี พร้อมด้วย ผู้อํานวยการกลุ่มงาน พัฒนาการอําเภอทุกอําเภอ นักวิชาการพัฒนาชุมชนและเจ้าหน้าที่ ร่วมจัดงาน “OTOP To The King Narai Reign Fair 35th 2023” กิจกรรมการจําหน่ายผลิตภัณฑ์ OTOP และตลาดย้อนยุคจากผู้ผลิตผู้ประกอบการในจังหวัดลพบุรี และต่างจังหวัด กว่า 70 ร้านค้า ใน“งานแผ่นดินสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ประจําปี 2566” ระหว่างวันที่ 10-19 กุมภาพันธ์ 2566 เพื่ออนุรักษ์ฟื้นฟูและสืบสานศิลปวัฒนธรรมอันดีงามของท้องถิ่น ตลอดจนส่งเสริมสนับสนุนผู้ผลิต ผู้ประกอบการ OTOP ให้มีช่องทางการตลาด มีรายได้จากการจําหน่ายผลิตภัณฑ์ชุมชนเพิ่มขึ้น นําไปสู่การกระจายรายได้สู่เศรษฐกิจฐานราก อีกทั้งยังเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวและสร้างรายได้ให้แก่จังหวัดลพบุรี กิจกรรมภายในงาน มีการจัดแสดงและจําหน่ายผลิตภัณฑ์สินค้า OTOP ที่ผ่านการคัดเลือกจากสัมมาชีพชุมชน ผู้ลงทะเบียนตลาดประชารัฐ และผู้ผลิต ผู้ประกอบการ OTOP จังหวัดลพบุรี และต่างจังหวัด กว่า 70 ร้านค้า โดยมุ่งเน้นตลาดปลอดภัย ตลาดสะอาด และลด ละ เลิก ภาชนะโฟมบรรจุอาหาร (No Foam) โดยมีการจําหน่ายสินค้าหลากหลาย เช่น อาหารพร้อมรับประทาน อาหารสดแปรรูป สินค้าเกษตร พืชผักผลไม้ รวมทั้งสินค้า OTOP ต่าง ๆ โดยสีสันของตลาด คือ ผู้ค้าแต่งกายชุดไทยในสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช และซื้อ-ขายสินค้าด้วยการแลกเบี้ยนอกจากนั้น ยังมีการแสดงศิลปวัฒนธรรมบนเวทีการแสดงทุกคืน และกิจกรรมส่งเสริมการขาย แจกคูปองแทนเงินสดหน้าเวทีกลางแสดงทุกวัน รางวัลละ 100 บาท วันละ 30 รางวัล#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
14/2/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
ลพบุรี
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดลพบุรี
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230214101128813
null
รองผู้ว่าการด้านการตลาดในประเทศ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เปิดงาน “Love Trang by วิวาห์ใต้สมุทร 2023”
วันนี้ (14 ก.พ.2566) ที่ท่าเรือปากเมง อ.สิเกา จ.ตรัง นางฐาปณีย์ เกียรติไพบูลย์ รองผู้ว่าการด้านการตลาดในประเทศ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เป็นประธานเปิดงาน “Love Trang by วิวาห์ใต้สมุทร 2023” โดยมี นายขจรศักดิ์ เจริญโสภา ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง กล่าวต้อนรับ และมี นายธีรวัฒน์ หวังศิริเลิศ ประธานหอการค้าจังหวัดตรัง กล่าวรายงาน โดยมีหัวหน้าส่วนราชการ ภาคเอกชน และคู่บ่าวสาว 6 คู่ เข้าร่วมพิธี"งาน “Love Trang by วิวาห์ใต้สมุทร 2023” ได้จัดขึ้นโดยมีจุดเริ่มต้นมาจากงานวิวาห์ใต้สมุทร เป็นกิจกรรมบําเพ็ญประโยชน์เพื่ออนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติใต้ท้องทะเลในชื่อโครงการคืนธรรมชาติ สู่แหล่งปะการัง ซึ่งการจัดกิจกรรมในครั้งนั้นเป็นจุดเริ่มต้นที่ได้สร้างความประทับใจและสานสัมพันธ์ให้กับหนุ่มสาวนักดําน้ําคู่หนึ่งที่ได้มาพบกันเมื่อครั้งมาร่วมดําน้ําเก็บขยะใต้ทะเล จนเป็นแรงบันดาลใจให้เกิดงาน “Love Trang by วิวาห์ใต้สมุทร 2023”“Love Trang by วิวาห์ใต้สมุทร 2023” ในครั้งนี้เป็นความตั้งใจที่จะจัดงานอย่างดีที่สุดและด้วยความร่วมแรงร่วมใจของทุก ๆ ฝ่ายเป็นไปอย่างราบรื่น และในปีนี้มีคู่รัก 6 คู่ที่มาเฉลิมฉลองวันสําคัญในวันนี้ โดยการจัด Love Trang by เทศกาลวิวาห์ใต้สมุทร เป็นหนึ่งในอัตลักษณ์ของจังหวัดและความภาคภูมิใจของการท่องเที่ยวไทย เพราะเคยได้รับบันทึกเป็นสถิติโลกใน Guinness World Of Record จากการเป็นสถานที่จัดการจดทะเบียนสมรสใต้ทะเลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก นอกจากนั้นการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยยังได้บรรจุให้พิธีวิวาห์ใต้สมุทรจังหวัดตรังเป็นหนึ่งในกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวในระดับนานาชาติของประเทศไทยอีกด้วย#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
14/2/2023
ภาคใต้
ตรัง
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดตรัง
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230214110323844
null
จังหวัดลพบุรี จัดกิจกรรม แต่งชุดไทยจดทะเบียนสมรส "ละโว้ธานี รักนี้ไม่ลืมเลือน" ในงานแผ่นดินสมเด็จพระนารายณ์มหาราชประจำปี 2566
วันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2566 เวลา 08.45 น. ที่บริเวณหน้าตึกเขียว ในพระนารายณ์ราชนิเวศน์ อําเภอเมืองลพบุรี จังหวัดลพบุรี นายวชิระ เกตุพันธุ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดลพบุรี เป็นประธานในพิธีเปิดกิจกรรม "แต่งชุดไทยจดทะเบียนสมรส" วันแห่งความรัก โดยจะมีการตั้งขบวนแห่ขันหมาก ของฝ่ายเจ้าบ่าวแต่งชุดไทยอย่างสวยงาม พร้อมทั้งขบวนกลองยาวได้เดินแห่จากเทวสถานปรางค์แขก เข้าสู่ พระนารายณ์ราชนิเวศน์ บริเวณหน้าตึกเขียว ที่มีการจัดรูปแบบตามขนบธรรมเนียมของไทย ซึ่งนับว่าเป็นแห่งเดียวของไทยที่จัดให้มีการจดทะเบียนสมรสภายในพระราชวังเก่าที่มีอายุกว่า 300 ปี รวมทั้งได้เคยเป็นที่ประทับของสมเด็จพระนารายณ์มหาราชที่ยังคงมีความสมบูรณ์ ซึ่งการจัดกิจกรรมครั้งนี้ เป็นกิจกรรมหนึ่ง ในงานแผ่นดินสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ประจําปี 2566 เพื่อส่งเสริม ฟื้นฟูศิลปวัฒนธรรมอันดีของท้องถิ่น ส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัดลพบุรี และเป็นการส่งสริมความสัมพันธ์ที่ดี แก่สถาบันครอบครัว โดยได้กําหนดคอนเซ็ปต์ในการจัดกิจกรรม คือ นุ่งโจง ห่มสไบ แต่งชุดไทยจดทะเบียนสมรส ภายใต้สโลแกน"ละโว้ธานี รักนี้ไม่ลืมเลือน" ซึ่งได้เปิดรับสมัครคู่สมรส ตั้งแต่ต้นเดือนมกราคม 2566 จนถึงวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2566 มีคู่สมรสที่สมัครเข้าร่วมกิจกรรม จํานวน 9 คู่ โดยมีนายอําเภอเมืองลพบุรี เป็นผู้รับจดทะเบียน และรองผู้ว่าราชการจังหวัดลพบุรีและหัวหน้าส่วนราชการประจําจังหวัด เป็นผู้มอบทะเบียนสมรสและแผ่นทองคําสื่อรัก จํานวน 1 ชุด ให้คู่รักที่ได้โชคดีในวันวาเลนไทน์นี้ นอกจากนี้อําเภอเมืองลพบุรี ยังรับจดทะเบียนสมรส ให้กับคู่สมรสที่ประสงค์จะจดทะเบียนสมรส ในวันแห่งความรัก 14 กุมภาพันธ์ 2566 ณ สํานักทะเบียนอําเภอเมืองลพบุรี อีกด้วย รองผู้ว่าราชการจังหวัดลพบุรี กล่าวว่า การจัดกิจกรรมแต่งชุดไทยจดทะเบียนสมรสเป็นกิจกรรมหนึ่ง ในงานแผ่นดินสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ประจําปี 2566 ทั้งนี้เป็นการส่งเสริมฟื้นฟูศิลปวัฒนธรรมอันดีของท้องถิ่น ส่งเสริมการท่องเที่ยวจังหวัดลพบุรี และเป็นการส่งเสริมความสัมพันธ์ที่ดีแก่สถาบันครอบครัว อันเป็นรากฐานที่มั่นคง และสําคัญของสังคมไทย คู่สมรสที่มาร่วมจดทะเบียนสมรสในวันนี้ ซึ่งเป็นวันแห่งความรัก นับว่าเป็นนิมิตหมายอันดียิ่ง เป็นการเริ่มต้นการใช้ชีวิตคู่ ร่วมแรงร่วมใจกันสร้างความรัก สร้างฐานะครอบครัวให้เป็นปึกแผ่น มั่นคงเชื่อได้ว่าชีวิตการครองเรือนของคู่สมรสจะประสบแต่ความเจริญรุ่งเรือง และประสบความสําเร็จในชีวิตการครองเรือน ตลอดไป ข่าว : สํานักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดลพบุรี#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
14/2/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
ลพบุรี
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดลพบุรี
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230214112231858
null
จังหวัดตรัง ข้าวเหนียวแก้วสินค้าขึ้นชื่อกลุ่มแม่บ้านเกษตรรักษ์ถิ่นทุ่งค่าย อ.ย่านตาขาว จ.ตรัง
จังหวัดตรัง ข้าวเหนียวแก้วสินค้าขึ้นชื่อกลุ่มแม่บ้านเกษตรรักษ์ถิ่นทุ่งค่าย อ.ย่านตาขาว จ.ตรัง ตัวอย่างกลุ่มคนวัยเกษียณที่สืบทอดการทําขนมจนกลายเป็นสินค้าขึ้นชื่อของกลุ่มและจังหวัดตรังมายาวนานร่วม 16 ปี ส่งขายออนไลน์ทั่วประเทศ สร้างรายได้เดือนละ 30,000-40,000 บาท หรือปีละ 360,000-400,000 บาทที่กลุ่มข้าวเหนียวแก้วรวมใจ แม่บ้านเกษตรกรรักษ์ถิ่นทุ่งค่าย วิสาหกิจชุมชนรักษ์ถิ่นทุ่งค่าย หมู่ที่ 2 ตําบลทุ่งค่าย อําเภอย่านตาขาว จังหวัดตรัง ทางกลุ่มกําลังเร่งจัดทําข้าวเหนียวแก้ว เพื่อเตรียมส่งให้กับลูกค้าที่มีออเดอร์เข้ามาจํานวน 10 กก. เพื่อนําไปช่วยงานเลี้ยงในพื้นที่ โดยสมาชิกในกลุ่มมีกันประมาณ 10 คน โดยอยู่ในวัยทํางานไม่กี่คน ที่เหลือส่วนใหญ่เป็นวัยเกษียณ อายุระหว่าง 60-72 ปี ซึ่งพยายามรักษาและสืบทอดการทําข้าวเหนียวแก้วสินค้าหนึ่งเดียวที่ขึ้นชื่อของกลุ่มและของ จ.ตรัง เอาไว้มายาวนานร่วม 16 ปี หรือนับตั้งแต่ปี 2550 โดยแต่ละคนบอกว่าแรกๆ เมื่อ 16 ปีที่ผ่านมารวมตัวกันทําข้าวเหนียวแก้ว เพราะต้องการมีรายได้เสริมและใช้เวลาว่างจากงานในครอบครัวให้เกิดประโยชน์ แต่ขณะนี้เพิ่มเหตุผลมาอีก 3 ข้อ ได้แก่ ได้รักษาการทําขนมที่ขึ้นชื่อของกลุ่มเอาไว้ต่อไป ได้ออกกําลังกาย เพราะทุกคนต้องหมุนเวียนช่วยกันกวน เนื่องจากการกวนในแต่ละกระทะรวมทุกขั้นตอนจะต้องใช้เวลากวนรวมๆ ประมาณ 3 ชม. จึงจะได้ข้าวเหนียวแก้วที่เหนียวหนึบ หอมหวานอร่อย และได้มีเวลามาพบปะพูดคุยสนทนาสนุกสนานกันในกลุ่มวัยเกษียณ ซึ่งผูกพันและทํางานร่วมกันมานาน จะได้ไม่เหงาหากอยู่บ้านเฉยๆก็ไม่มีประโยชน์ แต่การได้มาทํางานร่วมกันเป็นกลุ่ม ได้รอยยิ้ม ได้เสียงหัวเราะสนุกสนานในทุกๆวันที่เจอกัน ทําให้สุขภาพจิตดี ไม่เครียด ทั้งนี้ ข้อสําคัญของการกวนข้าวเหนียวแก้ว โดยเฉพาะขั้นตอนการกวนนั้น นับตั้งแต่การกวนเฉพาะน้ํากะทิกับเกลือ มาถึงใส่ส่วนผสม และสุดท้ายการกวนเมื่อใส่ข้าวเหนียวที่นึ่งเสร็จแล้วลงสู่กระทะ สมาชิกในกลุ่มทุกคนต้องหมุนเวียนช่วยกันกวน ซึ่งจะกวนคนเดียวไม่ได้เลย ต้องผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนช่วยกันกวนครั้งละ 2 คน ส่วนผสมของการทําข้าวเหนียวแก้ว ประกอบด้วย ข้าวเหนียวคัดอย่างดี, มะพร้าว, แบะแซ ,น้ําตาลทราย, น้ําตาลปี๊บ และเกลือ นางยินดี สังข์ทอง อายุ 71 ปี ประธานกลุ่มข้าวเหนียวแก้วรวมใจ แม่บ้านเกษตรกรรักษ์ถิ่นทุ่งค่าย วิสาหกิจชุมชนรักษ์ถิ่นทุ่งค่าย บอกว่า รวมตัวกันจัดตั้งกลุ่มและทําข้าวเหนียวแก้วส่งขายมาตั้งแต่ปี 2550 หรือเข้าสู่ปีที่ 16 แล้ว แต่ละคนอยู่ในวัยเกษียณ อายุมากสุด 72 ปี ทํากันมายาวนาน โดยทําส่งไปขายตามร้านค้า ร้านขายของฝากในจ.ตรัง หลายแห่ง รวมทั้งพ่อค้าแม่ค้าเจ้าประจําตามตลาดต่างๆ นอกจากนั้นมีออเดอร์จากลูกค้าที่จะเอาไปเลี้ยงในงานต่างๆ รวมทั้งเป็นขนมใส่ขันหมาก และออเดอร์สั่งซื้อจากทั่วประเทศ โดยข้าวเหนียวแก้วของกลุ่มขึ้นชื่อมายาวนาน โดยเฉพาะช่วงที่ในพื้นที่มีงานแต่ง งานศพ รวมทั้งเทศกาลต่างๆ บางครั้ง 2 วัน ต้องทําถึง 150 กิโลกรัม แต่ละเดือนมีออเดอร์เข้ามาประมาณ 200-250 กิโลกรัม ไม่แน่นอน แต่หากในพื้นที่มีงานมากทั้งงานแต่ง งานศพ ออเดอร์จะเข้ามามาก แต่ละเดือนมีรายได้เข้ากลุ่มประมาณเดือนละ 30,000-40,000 บาท หรือปีละ 360,000-400,000 บาท โดยเฉพาะในช่วงปีใหม่และตลอดเดือนมกราคมที่ผ่านมาซึ่งมีเทศกาลตรุษจีนด้วย ทําเกือบทุกวันบางวัน 2 วัน ทําถึง 150 กก.โดยราคาขายกก.ละ 160 บาท มานานประมาณ 3-4 ปีแล้ว แต่ปัญหาขณะนี้คือ วัตถุดิบปรับราคาขึ้นมาทั้งหมด ทั้งข้าวเหนียว ถุงพลาสติก ส่วนผสมอื่นๆ และโดยเฉพาะก๊าซหุงต้มจะมีการปรับราคาขึ้นอีก จึงทําให้ทางกลุ่มอาจจะต้องมีการปรับราคาขึ้นอีกกก.ละ 10 บาท หรือเป็นกก.ละ 170 บาท โดยขณะนี้ยังขายกก.ละ 160 บาท ใครสนใจสั่งซื้อ นําไปเป็นของฝากจาก จ.ตรัง ช่วยงานเลี้ยง หรือเป็นขนมขันหมาก สามารถติดต่อทางเพจ กลุ่มข้าวเหนียวแก้วรวมใจ แม่บ้านเกษตรกรรักษ์ถิ่นทุ่งค่าย โทร 080-6940407, 086-2970855 #สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
14/2/2023
ภาคใต้
ตรัง
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดตรัง
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230214111925855
null
รองผู้ว่าการด้านการตลาดในประเทศ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เปิดงาน “Love Trang by วิวาห์ใต้สมุทร 2023”
วันนี้ (14 ก.พ.66) ที่ท่าเรือปากเมง อ.สิเกา จ.ตรัง นางฐาปณีย์ เกียรติไพบูลย์ รองผู้ว่าการด้านการตลาดในประเทศ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เป็นประธานเปิดงาน “Love Trang by วิวาห์ใต้สมุทร 2023” โดยมี นายขจรศักดิ์ เจริญโสภา ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง กล่าวต้อนรับ และมี นายธีรวัฒน์ หวังศิริเลิศ ประธานหอการค้าจังหวัดตรัง กล่าวรายงาน โดยมีหัวหน้าส่วนราชการ ภาคเอกชน และคู่บ่าวสาว 6 คู่ เข้าร่วมพิธีงาน “Love Trang by วิวาห์ใต้สมุทร 2023” ได้จัดขึ้นโดยมีจุดเริ่มต้นมาจากงานวิวาห์ใต้สมุทร เป็นกิจกรรมบําเพ็ญประโยชน์เพื่ออนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติใต้ท้องทะเลในชื่อโครงการคืนธรรมชาติ สู่แหล่งปะการัง ซึ่งการจัดกิจกรรมในครั้งนั้นเป็นจุดเริ่มต้นที่ได้สร้างความประทับใจและสานสัมพันธ์ให้กับหนุ่มสาวนักดําน้ําคู่หนึ่งที่ได้มาพบกันเมื่อครั้งมาร่วมดําน้ําเก็บขยะใต้ทะเล จนเป็นแรงบันดาลใจให้เกิดงาน “Love Trang by วิวาห์ใต้สมุทร 2023”“Love Trang by วิวาห์ใต้สมุทร 2023” ในครั้งนี้ เป็นความตั้งใจที่จะจัดงานอย่างดีที่สุดและด้วยความร่วมแรงร่วมใจของทุกๆ ฝ่ายเป็นไปอย่างราบรื่น และในปีนี้มีคู่รัก 6 คู่ที่มาเฉลิมฉลองวันสําคัญในวันนี้ โดยการจัด Love Trang by เทศกาลวิวาห์ใต้สมุทร เป็นหนึ่งในอัตลักษณ์ของจังหวัดและความภาคภูมิใจของการท่องเที่ยวไทย เพราะเคยได้รับบันทึกเป็นสถิติโลกใน Guinness World Of Record จากการเป็นสถานที่จัดการจดทะเบียนสมรสใต้ทะเลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก นอกจากนั้น การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยยังได้บรรจุให้พิธีวิวาห์ใต้สมุทรจังหวัดตรังเป็นหนึ่งในกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวในระดับนานาชาติของประเทศไทยอีกด้วย#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
14/2/2023
ภาคใต้
ตรัง
สวท.ตรัง
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230214115326896
null
จังหวัดตรังจัดกิจกรรม “Love Trang by วิวาห์ใต้สมุทร 2023” ต่อยอดในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและนำรายได้เข้าสู่จังหวัดตรัง อันจะช่วยส่งผลดีต่อเศรษฐกิจภาพรวมของประเทศ
จังหวัดตรังจัดกิจกรรม “Love Trang by วิวาห์ใต้สมุทร 2023” เพื่อกระตุ้นการเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในพื้นที่จังหวัดตรัง รวมถึงตอกย้ําภาพลักษณ์ของจังหวัดตรัง ที่ได้รับการบันทึกสถิติโลกใน Guinness World Records ในการเป็นสถานที่จัดการจดทะเบียนสมรสใต้ทะเลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก โดยมีจุดเริ่มต้นมาจากกิจกรรมบําเพ็ญประโยชน์ เพื่ออนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติใต้ท้องทะเลที่ได้สร้างความประทับใจและสานสัมพันธ์ให้กับหนุ่มสาวนักดําน้ํา จนเป็นแรงบันดาลใจให้เกิดงาน “Love Trang by วิวาห์ใต้สมุทร 2023”นางฐาปณีย์ เกียรติไพบูลย์ รองผู้ว่าการด้านการตลาดในประเทศ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย กล่าวว่า การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยได้บรรจุกิจกรรมวิวาห์ใต้สมุทรจังหวัดตรังเป็นหนึ่งในปฏิทินกิจกรรมของประเทศไทย โดยมีการเพิ่มกิจกรรมให้มีความหลากหลาย สามารถตอบสนองกลุ่มนักท่องเที่ยวได้ทุกกลุ่ม เพื่อเป็นการต่อยอดในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและนํารายได้เข้าสู่จังหวัดตรัง อันจะช่วยส่งผลดีต่อเศรษฐกิจภาพรวมของประเทศ#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
14/2/2023
ภาคใต้
ตรัง
สวท.ตรัง
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230214120334901
null
กรมชลประทาน เปิดให้เยี่ยมชมพระตำหนักและสักการะพระนารายณ์ทรงสุบรรณ เป็นครั้งแรก กระตุ้นเศรษฐกิจ
นายประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า กิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงเกษตรและวัฒนธรรมท้องถิ่น เป็นการบูรณาการร่วมกันระหว่างหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชน เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและส่งเสริมการท่องเที่ยวในเขตลุ่มน้ําปากพนัง จังหวัดนครศรีธรรมราช โดยได้เปิดให้ประชาชนได้เข้าไปเยี่ยมชมพระตําหนักและสักการะพระนารายณ์ทรงสุบรรณเป็นครั้งแรก พร้อมชูอัตลักษณ์วิถีชีวิตชาวลุ่มน้ําปากพนังที่สืบทอดจากรุ่นสู่รุ่น ตลอดจนการพัฒนาต่อยอดผลผลิตทางการเกษตร มีการถ่ายทอดองค์ความรู้และทักษะจากการส่งเสริมสนับสนุนภูมิปัญญาท้องถิ่น รวมไปถึงการจัดแสดงผลการดําเนินงานของโครงการพัฒนาพื้นที่ลุ่มน้ําปากพนังอันเนื่องมาจากพระราชดําริ ซึ่งจัดขึ้นบริเวณประตูระบายน้ําอุทกวิภาชประสิทธิ อําเภอปากพนัง จังหวัดนครศรีธรรมราช ในวันนี้ (14 กุมภาพันธ์ 2566) ตั้งแต่เวลา 08.30 น.-19.00 น. ภายในงาน นอกจากจะได้เข้าไปเยี่ยมชมพระตําหนักและสักการะพระนารายณ์ทรงสุบรรณแล้ว ยังจะได้ดื่มด่ํากับการชมทัศนียภาพของประตูระบายน้ําอุทกวิภาชประสิทธิที่งดงาม มีการจําหน่ายสินค้าจากเกษตรกรศูนย์เรียนรู้ตามแนวพระราชดําริและศูนย์การเรียนรู้และท่องเที่ยวชุมชนเชิงเกษตรวิถีชีวิตชาวลุ่มน้ําปากพนัง เพื่อสร้างรายได้สู่ชุมชนและท้องถิ่น รวมทั้งรับชมนิทรรศการย้อนอดีตลุ่มน้ําปากพนัง ต้นกําเนิดโครงการพัฒนาพื้นที่ลุ่มน้ําปากพนังอันเนื่องมาจากพระราชดําริ เพื่อน้อมรําลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ตลอดจนสัมผัสวิถีเกษตรทฤษฎีใหม่ตามหลักเศรษฐกิจพอเพียง นอกจากนี้ ยังเปิดให้ชมและเชียร์กิจกรรมการแข่งขันเซปักตะกร้อชายหาดมาราธอนและวอลเล่ย์บอลชายหาด พร้อมเปิดโอกาสพิเศษให้คู่รักได้จดทะเบียนสมรสเนื่องในโอกาสวันแห่งความรัก 14 กุมภาพันธ์ หรือวันวาเลนไทน์ เพื่อบันทึกเรื่องราวของความรักท่ามกลางบรรยากาศริมน้ําอีกด้วย
14/2/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
สมุทรปราการ
Radio-สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230214160639012
null
วาเลนไทน์ โคราช ฮือฮา คู่รัก LGBTQ สาวหล่อ-หนุ่มสวย ควงแขนจดทะเบียนสมรส
ที่ ชั้น 20 โรงแรมเซ็นทารา โคราช นายสามารถ สุวรรณมณี ปลัดจังหวัดนครราชสีมา เป็นประธานจดทะเบียนสมรสหมู่ เนื่องในเทศกาลวาเลนไทน์ ปี2566 โดยมีคู่รักจํานวน 30 คู่ เข้ามาจดทะเบียนสมรสต้อนรับวันวาเลนไทน์ ซึ่งในงานนี้คู่รักที่เป็นไฮไลท์ของงาน คือคู่รัก LGBTQ มาร่วมพิธีจดทะเบียนสมรสหมู่ในครั้งนี้ด้วย ได้แก่นางสาวรจนีย์ อิ่มแม้น หรือน้อยจอย เจ้าบ่าว อายุ 24 ปี สาวทอม จูงมือนายโสมนัส เกิดเทศ น้องแบส์ค เจ้าสาว อายุ 29 ปี สาวประเภทสอง มาร่วมจดทะเบียนสมรส ให้ถูกต้องตามกฎหมาย ก่อนคู่รักทั้ง 30 คู่ จะนั่งรถรางเดินทางไปกราบสักการะอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารีเพื่อความเป็นสิริมงคล พร้อมกับลอดประตูชุมพลนายโสมนัส เกิดเทศ หรือน้องแบส์ค เจ้าสาว อายุ 29 ปี สาวประเภทสอง กล่าวว่า ตนเองและน้องจอยคบหาดูใจกันได้ เกือบ 1 ปี พบรักกันผ่านทางโลกออนไลน์ หลังจากนั้นได้พูดคุยก่อน จะตัดสินใจคบหาดูใจกัน ส่วนความประทับใจนั้นรู้สึกว่าคบกับน้องจอยแล้วเข้าใจซึ่งกันและกัน และมองว่าความรักไม่ได้กําจัดเพศ ขึ้นอยู่ว่าใช้ชีวิตด้วยกันแล้วมีความสุขโดยไม่มีข้อแม้ไม่มีอะไรมาตีกรอบเราได้เพราะทุกคนมีอิสระในเรื่องทางเพศอยู่แล้ว และพร้อมจะสร้างอนาคตไปด้วยกัน นอกจากนี้ตนเองและน้องจอยได้มีบุตรด้วยกันแล้วตอนนี้น้องจอยตั้งท้องได้3สัปดาห์ #สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
14/2/2023
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
นครราชสีมา
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนครราชสีมา
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230214131801917
null
สำนักงานพาณิชย์จังหวัดตรัง จัดโครงการ “พาณิชย์ลดราคา ! ออนทัวร์ทั่วไทย Lot 21” จังหวัดตรัง นำสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็นต่อการครองชีพ กว่า 100 ร้านค้า มาจำหน่ายในราคาประหยัด เพื่อลดภาระค่าครองชีพแก่ประชาชน
นางสาวสุภากิตติ์ เกลี้ยงสงค์ พาณิชย์จังหวัดตรัง เปิดเผยว่า โครงการ “พาณิชย์ลดราคา ! ออนทัวร์ทั่วไทย Lot 21” ซึ่งทางกระทรวงพาณิชย์ โดยกรมการค้าภายใน ได้รับงบกลางปี 2566 รายการเงินสํารองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจําเป็น วงเงิน 422.75 ล้านบาท จากคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 5 ตุลาคม 2565 ที่ผ่านมา เพื่อให้ดําเนินโครงการลดค่าครองชีพให้กับคนไทยทั้งประเทศสําหรับจังหวัดตรัง ทางสํานักงานพาณิชย์จังหวัดตรัง นําสินค้าอุปโภคบริโภค ที่จําเป็นต่อการครองชีพ นํามาลดราคากว่า 30-40% อีกทั้งยังมีผู้ประกอบการในพื้นที่นําสินค้า อาหารเด่น OTOP/SMES ของจังหวัดตรัง อีก 100 ร้านค้า มาร่วมจําหน่ายในราคาประหยัด เพื่อลดภาระค่าครองชีพแก่ประชาชน เพิ่มช่องทางการตลาดและเสริมสร้างรายได้ให้กับผู้ประกอบการในพื้นที่ที่ได้สมัครเข้าร่วมโครงการ นอกจากนี้ ยังมีสินค้าส่งเสริมการขายในราคาพิเศษ เช่น หมูเนื้อแดง ,น่องไก่ติดสะโพก ไข่ไก่ น้ําตาลทราย น้ํามันพืช ข้าวสารทั้งนี้ กําหนดจัดโครงการ “พาณิชย์ลดราคา ! ออนทัวร์ทั่วไทย Lot 21” จังหวัดตรัง ครั้งที่ 1 ในระหว่างวันที่ 22-24 กุมภาพันธ์ 2566 ณ หน้าศาลากลางหลังเก่า อําเภอเมืองตรัง , ครั้งที่ 2 มีกําหนดจัดขึ้นในระหว่างวันที่ 1-3 มีนาคม 2566 ณ บริเวณสนามกีฬาศูนย์ราชการอําเภอย่านตาขาว , ครั้งที่ 2 มีกําหนดจัดขึ้นในระหว่างวันที่ 10-12 มีนาคม 2566 ณ วัดเขาพระวิเศษ อําเภอวังวิเศษ และครั้งที่ 4 กําหนดจัดขึ้นในระหว่างวันที่ 17-19 มีนาคม 2566 ณ บริเวณลานเฉลิมพระเกียรติท่าแพขนานยนต์ อําเภอกันตัง สํานักงานพาณิชย์จังหวัดตรัง จึงขอเชิญชวนประชาชนในพื้นที่ดังกล่าว เลือกซื้อสินค้าราคาประหยัดจากโครงการ “พาณิชย์ลดราคา ! ออนทัวร์ทั่วไทย Lot 21” จังหวัดตรัง ซึ่งมั่นใจว่า จะช่วยลดภาระค่าครองชีพให้กับประชาชนได้เป็นอย่างดี#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
14/2/2023
ภาคใต้
ตรัง
สวท.ตรัง
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230214132122920
null
สำนักงานพาณิชย์จังหวัดตรัง เดินหน้าผลักดันสินค้าท้องถิ่น ภายใต้แนวทาง Local + ใน 3 กลุ่มสินค้า 14 รายการ ให้ผู้บริโภครู้จักสินค้า Local+ และสามารถขยายตลาด รวมทั้งเพิ่มมูลค่าสินค้าได้มากขึ้น
นางสาวสุภากิตติ์ เกลี้ยงสงค์ พาณิชย์จังหวัดตรัง เปิดเผยว่า กระทรวงพาณิชย์ กําหนดเป้าหมายผลักดันสินค้าท้องถิ่น ภายใต้แนวทาง Local + (โลคัล พลัส) จํานวน 3 กลุ่มสินค้า ได้แก่1. กลุ่ม BCG ที่มุ่งเน้นการรักษาทรัพยากรธรรมชาติ สิ่งแวดล้อม สุขภาพ สินค้าออร์แกนิก2. กลุ่มสินค้าอัตลักษณ์ ที่ต้องการรักษาภูมิปัญญา ความเฉพาะถิ่น คุณค่าทางวัฒนธรรม3. กลุ่มสินค้านวัตกรรม ที่ต้องการรักษาความสามารถในการแข่งขันให้กับสินค้าชุมชนทั้งนี้ ได้ลงพื้นที่คัดเลือกของดี ของเด็ด สินค้าที่มีศักยภาพ ทั้ง 3 กลุ่ม เพื่อทําเป็นฐานข้อมูลสินค้า Local+ของจังหวัดตรัง ประกอบด้วย สินค้ากลุ่ม BCG จํานวน 5 สินค้า ได้แก่ ผลิตภัณฑ์เตยปาหนันบ้านดุหุน , ผลิตภันฑ์จากก้านจากบ้านนายอดทอง , ก้างปลาทอดกรอบของบริษัท กันตังซีฟู๊ด จํากัด, พญาบาติก และ ครามคูน / กลุ่มสินค้าอัตลักษณ์ 5 สินค้า ได้แก่ ข้าวเบายอดม่วง , พริกไทยตรัง , ผงหมักหมูย่าง , เครื่องแกงบ้านสุดา และมีดพร้านาป้อ ส่วนกลุ่มสินค้านวัตกรรม 4 สินค้า ได้แก่ ผงปรุงรสจากผักเวจต้า ผลิตภัณฑ์จากปาล์มน้ํามันแบรนด์ “ Peora หรือ พีโอร่า” , ผ้าทอนาหมื่นศรี(ผ้าพันคอ ผ้าคลุมไหล่ ผลิตจากคอลลาเจนนาโน) และ Eco print ของวิสาหกิจชุมชนศิลปหัตถกรรมสตรีตําบลช่อง อ.นาโยง จ.ตรังโดยพาณิชย์จังหวัดตรังในฐานะเซลส์แมนจังหวัด จะเข้าไปช่วยส่งเสริมทั้งด้านการผลิต การพัฒนาตัวสินค้า ดีไซน์สร้างเรื่องราว เพื่อให้มีคุณลักษณะพิเศษมีคุณค่าต่อจิตใจ ไม่ว่าจะเป็นการรักสิ่งแวดล้อมรักษ์โลก การช่วยสืบทอดวัฒนธรรม เพื่อช่วยให้ผู้บริโภครู้จักสินค้า Local+ และสามารถขยายตลาด รวมทั้งเพิ่มมูลค่าสินค้าได้มากขึ้น#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
14/2/2023
ภาคใต้
ตรัง
สวท.ตรัง
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230214143252956
null
สำนักงานพาณิชย์จังหวัดตรัง จัด Mini Exhibition Showcase เปิดตัวสินค้า Local Plus ดันสินค้าศักยภาพ เพิ่มรายได้ให้กับท้องถิ่นและชุมชน
นางสาวสุภากิตติ์ เกลี้ยงสงค์ พาณิชย์จังหวัดตรัง เปิดเผยว่า สํานักงานพาณิชย์จังหวัดตรัง จัด Mini Exhibition Showcase เปิดตัวสินค้าของดีของเด่น Local Plus ใน 3 กลุ่มสินค้า คือ สินค้า BCG สินค้าอัตลักษณ์ และสินค้านวัตกรรม กว่า 10 รายการ ตามนโยบายของ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ภายในงาน TRANG Food FestiWOW: Season of Love โซน Asaian Style โดยร่วมกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สํานักงานตรัง เทศบาลนครตรัง มีกิจกรรมที่น่าสนใจ อาทิ การประชาสัมพันธ์สินค้าไลฟ์สดจําหน่ายสินค้า Local Plus และกิจกรรมการแสดงต่างๆ บนเวทีย่อย เช่น ดนตรีโฟล์คซอง การประชาสัมพันธ์สินค้าทุกวัน และเปิดประสบการณ์ความว้าว กับ WOW กับเมนูอาหารสื่อรัก จากวัตถุดิบท้องถิ่นเมืองตรัง WOW กับจุดเช็คอินในบรรยากาศสุดโรแมนติก WOW กับดนตรีบรรเลงบทเพลง สร้างกลิ่นไออบอวลไปด้วยความรัก โดยงานได้จัดขึ้นในระหว่างวันที่ 10 - 14 กุมภาพันธ์ 2566 เวลา 16.00-22.00 น. ณ สวนทับเที่ยง อําเภอเมือง จังหวัดตรังสําหรับสินค้า Local+ของจังหวัดตรัง ประกอบด้วย สินค้ากลุ่ม BCG จํานวน 5 สินค้า ได้แก่ ผลิตภัณฑ์เตยปาหนันบ้านดุหุน , ผลิตภันฑ์จากก้านจากบ้านนายอดทอง , ก้างปลาทอดกรอบของบริษัท กันตังซีฟู๊ด จํากัด, พญาบาติก และ ครามคูน / กลุ่มสินค้าอัตลักษณ์ 5 สินค้า ได้แก่ ข้าวเบายอดม่วง , พริกไทยตรัง , ผงหมักหมูย่าง , เครื่องแกงบ้านสุดา และมีดพร้านาป้อ ส่วนกลุ่มสินค้านวัตกรรม 4 สินค้า ได้แก่ ผงปรุงรสจากผักเวจต้า ผลิตภัณฑ์จากปาล์มน้ํามันแบรนด์ “ Peora หรือ พีโอร่า” , ผ้าทอนาหมื่นศรี(ผ้าพันคอ ผ้าคลุมไหล่ ผลิตจากคอลลาเจนนาโน) และ Eco print ของวิสาหกิจชุมชนศิลปหัตถกรรมสตรีตําบลช่อง อ.นาโยง จ.ตรัง#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
14/2/2023
ภาคใต้
ตรัง
สวท.ตรัง
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230214143545958
null
อำเภอหันคา จัดแถลงข่าว "มหกรรมเดินป่าชมพรรณไม้ ย้อนตำนานเสือร้าย กินหน่อไม้เขาราวเทียน และเทศกาลดนตรีริมเขา " ประจำปี 2566 ครั้งที่ 12
วันนี้ 14 กุมภาพันธ์ 2566 เวลา 10.00 น. ณ บริเวณป้าชุมชนเขาราวเทียน บ้านบุทางรถ หมู่ที่ 5 ตําบลเด่นใหญ่ อําเภอหันคา จังหวัดชัยนาท นางสาวชไมพร อําไพจิตร รองผู้ว่าราชการจังหวัดชัยนาท เป็นประธานการแถลงข่าวการจัดงาน "มหกรรมเดินป่าชมพรรณไม้ ย้อนตํานานเสือร้าย กินหน่อไม้เขาราวเทียน และเทศกาลดนตรีริมเขา " ประจําปี 2566 โดยมี นายอําเภอหันคา สํานักงานท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดชัยนาท นายกองค์การบริหารส่วนตําบลเด่นใหญ่ และคณะกรรมการป่าชุมชนเขาราวเทียน ร่วมแถลงข่าว โดยจังหวัดชัยนาท ร่วมกับ อําเภอหันคา สํานักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดชัยนาท สํานักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดชัยนาท องค์การบริหารส่วนตําบลเด่นใหญ่ ส่วนราชการ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ภาคเอกชน และคณะกรรมการป่าชุมขนเขาราวเทียน ได้กําหนดจัดงาน "มหกรรมเดินป่าชมพรรณไม้ ย้อนตํานานเสือร้าย กินหน่อไม้เขาราวเทียน และเทศกาลดนตรีริมเขา" ประจําปี 2566 ระหว่างวันที่ 17-19 กุมภาพันธ์ 2566 ทั้งนี้ ประชาชนชาวอําเภอหันคา มีความตื่นตัว และตระหนักถึงความสําคัญของคุณค่าที่มีอยู่ในพื้นที่ โดยเฉพาะคุณค่าของทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมที่มีความเชื่อมโยงของป่า และชุมชน จนทําให้เกิดความร่วมมือร่วมใจกันจัดงาน และมีส่วนสําคัญในการส่งเสริมให้เกิดการพัฒนาศักยภาพแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สําคัญของอําเภอ ให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเขาราวเทียน เป็นแหล่งศึกษาเรียนรู้ทางธรรมชาติที่สําคัญ ซึ่งประชาชนในพื้นที่มีการใช้ประโยชน์ และการดูแลรักษาป่า เพื่อให้เกิดการอนุรักษ์ป่าอย่างยั่งยืน การผนวกการท่องเที่ยวทางธรรมชาติ การศึกษาเรียนรู้ตํานานเสือ และการจัดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยว เช่น กิจกรรมประจําปีของท้องถิ่นที่มีความเชื่อมโยงของป่าและชุมชน และเป็นการบูรณาการกิจกรรมที่จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจภาคการท่องเที่ยว และผลิตภัณฑ์ของชุมชน ให้เพิ่มขึ้นเป็นการเพิ่มรายได้ให้ประชาชนในพื้นที่ ซึ่งจะช่วยพัฒนาเศรษฐกิจในภาพรวมของจังหวัดชัยนาท และของประเทศ นอกจากนี้ ยังมีการจดทะเบียนสมรสนอกสถานที่ ให้กับคู่รัก 7 คู่ เนื่องในวันวาเลนไทน์ อีกด้วย ส.ปชส.ชัยนาท#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
14/2/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
ชัยนาท
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดชัยนาท
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230214160450011
null
สำนักงานพาณิชย์จังหวัดตรัง เดินหน้าผลักดันสินค้าท้องถิ่น ภายใต้แนวทาง Local + ใน 3 กลุ่มสินค้า 14 รายการ ให้ผู้บริโภครู้จักสินค้า Local+ และสามารถขยายตลาด รวมทั้งเพิ่มมูลค่าสินค้าได้มากขึ้น
นางสาวสุภากิตติ์ เกลี้ยงสงค์ พาณิชย์จังหวัดตรัง เปิดเผยว่า กระทรวงพาณิชย์ กําหนดเป้าหมายผลักดันสินค้าท้องถิ่น ภายใต้แนวทาง Local + (โลคัล พลัส) จํานวน 3 กลุ่มสินค้า ได้แก่1. กลุ่ม BCG ที่มุ่งเน้นการรักษาทรัพยากรธรรมชาติ สิ่งแวดล้อม สุขภาพ สินค้าออร์แกนิค2. กลุ่มสินค้าอัตลักษณ์ ที่ต้องการรักษาภูมิปัญญา ความเฉพาะถิ่น คุณค่าทางวัฒนธรรม3. กลุ่มสินค้านวัตกรรม ที่ต้องการรักษาความสามารถในการแข่งขันให้กับสินค้าชุมชนทั้งนี้ ได้ลงพื้นที่คัดเลือกของดี ของเด็ด สินค้าที่มีศักยภาพทั้ง 3 กลุ่ม เพื่อทําเป็นฐานข้อมูลสินค้า Local+ของจังหวัดตรัง ประกอบด้วย สินค้ากลุ่ม BCG จํานวน 5 สินค้า ได้แก่ ผลิตภัณฑ์เตยปาหนันบ้านดุหุน, ผลิตภันฑ์จากก้านจากบ้านนายอดทอง, ก้างปลาทอดกรอบของบริษัท กันตังซีฟู๊ด จํากัด, พญาบาติก และครามคูน/กลุ่มสินค้าอัตลักษณ์ 5 สินค้า ได้แก่ ข้าวเบายอดม่วง, พริกไทยตรัง, ผงหมักหมูย่าง, เครื่องแกงบ้านสุดา และมีดพร้านาป้อ ส่วนกลุ่มสินค้านวัตกรรม 4 สินค้า ได้แก่ ผงปรุงรสจากผักเวจต้า ผลิตภัณฑ์จากปาล์มน้ํามันแบรนด์ “Peora หรือ พีโอร่า”, ผ้าทอนาหมื่นศรี (ผ้าพันคอ ผ้าคลุมไหล่ ผลิตจากคอลลาเจนนาโน) และ Eco print ของวิสาหกิจชุมชนศิลปหัตถกรรมสตรีตําบลช่อง อําเภอนาโยง จังหวัดตรัง โดยพาณิชย์จังหวัดตรังในฐานะเซลส์แมนจังหวัดจะเข้าไปช่วยส่งเสริมทั้งด้านการผลิต การพัฒนาตัวสินค้า ดีไซน์สร้างเรื่องราว เพื่อให้มีคุณลักษณะพิเศษมีคุณค่าต่อจิตใจ ไม่ว่าจะเป็นการรักสิ่งแวดล้อมรักษ์โลก การช่วยสืบทอดวัฒนธรรม เพื่อช่วยให้ผู้บริโภครู้จักสินค้า Local+ และสามารถขยายตลาด รวมทั้งเพิ่มมูลค่าสินค้าได้มากขึ้น#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
14/2/2023
ภาคใต้
ตรัง
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดตรัง
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230214144009961
null
งานพระนครคีรี - เมืองเพชร พร้อมรอต้อนรับนักท่องเที่ยว ผู้ว่าฯเพชรบุรี ขอเชิญร่วมย้อนตำนานเมืองเพชรบุรี...” เยือนถิ่นเมืองพริบพรี สดุดีจอมราชัน แดนสร้างสรรค์อาหารไทย”อิ่มอร่อย คาว-หวาน สุขสำราญทุกรูปแบบ ชมพลุหลากสี มหรสพครบเครื่อง 17 – 26 มีนาคม 2566
เมื่อเวลา 10.00 น. วันนี้ (14 กุมภาพันธ์ 2566) นายณัฏฐชัย นําพูลสุขสันติ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี ,รองผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี หัวหน้าส่วนราชการ และคณะกรรมการร่วมประชุมติดตามผลความก้าวหน้าของการจัดงานพระนครคีรี - เมืองเพชร ครั้งที่ 36 ประจําปี 2566 ณ ห้องประชุมศาลากลางจังหวัดเพชรบุรี นายณัฏฐชัย นําพูลสุขสันติ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี เปิดเผยว่า สิบวัน สิบคืน ที่พร้อมเติมเต็มความสุขทุกรูปแบบ อรรถรสที่หลากหลาย ทั้งมหรสพ การแสดง ระบํา รําฟ้อน ที่จะนํามาซึ่งความเพลิดเพลิน สนุกสนานกับกิจกรรมบนเวที มากมาย การประกวดร้องเพลงของกํานัน ผู้ใหญ่บ้าน และที่พลาดไม่ได้มาชิมอาหารพื้นบ้าน เลือกซื้อสินค้าพื้นเมือง บรรยากาศพื้นถิ่น โดย ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี ได้กล่าวเชิญชวนชาวเพชรบุรี นักท่องเที่ยวมาร่วมงานพระนครคีรี - เมืองเพชร วันเปิดงาน วันที่ 17 มีนาคม 2566 ตั้งแต่ช่วงเช้า 07.00 น. พิธีบวงสรวง และพิธีเจริญพระพุทธมนต์ ณ ศาลหลักเมืองจังหวัดเพชรบุรี และในเวลา 09.00 น. พิธีบวงสรวงพระบรมราชานุสาวรีย์ รัชกาลที่ 4 ณ อุทยานเฉลิมพระเกียรติฯ และมาตื่นตาตื่นใจชมการจุดพลุหลากสี บนเขาวัง พระนครคีรี เหมือนวิมานบนฟ้า ทุกค่ําคืนชมการจุดพรุ ไฮไลต์ ของงานที่ยิ่งใหญ่กว่าทุกปี นอกจากนั้น ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี กล่าวเพิ่มเติมว่า ทั่วทั้งบริเวณงาน ยังมีการสาธิตงานสกุลช่างเมืองเพชร วิถีชีวิตชาติพันธุ์ ศิลปะร่วมสมัย การสาธิตอาหารสร้างสรรค์ โชว์สํารับเมืองเพชร การสาธิตการทําอาหารร้านเด่น เชฟดัง ชิมฟรี ดูฟรี ที่นี่ที่เดียว จามรี อนุรัตน์ ประชาสัมพันธ์จังหวัดเพชรบุรี รายงาน#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
14/2/2023
ภาคตะวันตก
เพชรบุรี
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเพชรบุรี
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230214161345017
null
สำนักงานพาณิชย์จังหวัดกาญจนบุรี เตรียมจัดโครงการพาณิชย์ลดราคา ออนทัวร์ ทั่วไทย จังหวัดกาญจนบุรี นำสินค้าอุปโภคบริโภคจำหน่ายต่ำกว่าท้องตลาด
นางสาวยุพา นาคา พาณิชย์จังหวัดกาญจนบุรี เปิดเผยว่า สํานักงานพาณิชย์จังหวัดกาญจนบุรี จัดโครงการ "พาณิชย์ลดราคา ออนทัวร์ ทั่วไทย จังหวัดกาญจนบุรี" ในพื้นที่ 4 อําเภอ ได้แก่ อําเภอเมือง ณ บริเวณลานจอดรถ ศูนย์การค้าโรบินสันไลฟ์สไตล์ กาญจนบุรี ระหว่างวันที่ 23-25 กุมภาพันธ์ 2566 ครั้งที่ 2 อําเภอท่าม่วง ณ วัดอินทาราม ระหว่างวันที่ 3-5 มีนาคม 2566 ครั้งที่ 3 อําเภอพนมทวน ณ ที่ว่าการอําเภอพนมทวน ระหว่างวันที่ 9-11 มีนาคม 2566 และครั้งสุดท้าย อําเภอด่านมะขามเตี้ย ณ วัดด่านมะขามเตี้ย ระหว่างวันที่ 16-18 มีนาคม 2566 โครงการพาณิชย์ลดราคา ออนทัวร์ ทั่วไทย จังหวัดกาญจนบุรี ได้นําสินค้าอุปโภคบริโภคจําหน่าย ในราคาพิเศษลดราคาไม่น้อยกว่า 50% อย่างน้อย 5 รายการสินค้า/วัน เลือกซื้อสินค้าจากจังหวัดอื่น เช่น ถั่วลายเสือและป๊อบคอนดอย จากจังหวัดแม่ฮ่องสอน ปาท่องโก่สเปน โรตี ชาชัก จากจังหวัดสตูล อาหารทะเลแห้ง อาหารทะเลแปรรูป จากจังหวัดชุมพร อาหาร อาหารแปรรูป จากผู้ประกอบการจังหวัดสระบุรี สินค้าราคาพิเศษจากห้างสรรสินค้าในจังหวัดกาญจนบุรี และสินค้าจําเป็นต่อการครองชีพราคาพิเศษ ได้แก่ หมูเนื้อแดง 100 บาทต่อกิโลกรัม น่องไก่ติดสะโพก 40 บาทต่อกิโลกรัม ไข่ไก่ 90 บาทต่อแผง น้ําตาลทราย 15 บาทต่อกิโลกรัม น้ํามันพืชปาล์ม ขวดละ 1 ลิตร 40 บาทต่อขวด ข้าวสารหอมมะลิ 5 กิโลรัม 110 บาทต่อถุง และข้าวขาว5% 5 กิโลกรัม 80 บาทต่อถุง พร้อมทั้งยังมีกิจกรรมนาทีทอง นาทีถูก กิจกรรมเล่นเกมส์แจกบัตรกํานัลแทนเงินสด (Gift Voucher) และกิจกรรมสุ่มแจกรางวัลเครื่องใช้ไฟฟ้าให้แก่ผู้เข้าร่วมงาน ที่ซื้อสินค้าภายในงานณัฏฐภัส เหลืองพฤกษชาติ / สวท.กาญจนบุรี#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
14/2/2023
ภาคตะวันตก
กาญจนบุรี
สวท.กาญจนบุรี
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230214162903036
null
กรมสรรพากร ร่วมกับ ธ.กรุงไทย เพิ่มทางเลือกใหม่ให้ผู้เสียภาษี สามารถยืนยันตัวตนทางอิเล็กทรอนิกส์ผ่านแอปพลิเคชันเป๋าตังได้
นายลวรณ แสงสนิท อธิบดีกรมสรรพากร เปิดเผยว่า กรมสรรพากรได้ร่วมกับธนาคารกรุงไทย อํานวยความสะดวกให้แก่ผู้เสียภาษี โดยให้บริการพิสูจน์และยืนยันตัวตนทางอิเล็กทรอนิกส์ผ่านแอปพลิเคชันเป๋าตัง ซึ่งเป็นแอปพลิเคชันที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย และเป็นอีกหนึ่งทางเลือกให้ผู้เสียภาษี สามารถยืนยันตัวตนก่อนเข้าถึงบริการทางอิเล็กทรอนิกส์ต่าง ๆ ที่กรมสรรพากรได้จัดเตรียมไว้ให้กับผู้เสียภาษี เช่น บริการยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ผ่านอินเทอร์เน็ต (e-Filing) ระบบตรวจสอบข้อมูลทางภาษี ระบบภาษีหัก ณ ที่จ่าย ระบบตรวจสอบเงินบริจาค ระบบยื่นแบบแสดงรายการและชําระภาษี และระบบรับชําระอากรแสตมป์เป็นตัวเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ รวมทั้งบริการอื่น ๆ ที่จะพัฒนาเพิ่มอีกในอนาคต ซึ่งการให้บริการยืนยันตัวตนทางอิเล็กทรอนิกส์บนแอปพลิเคชันเป๋าตัง เป็นไปตามมาตรฐานความปลอดภัย และส่งเสริมให้ประชาชนสามารถเข้าถึงบริการทางดิจิทัลต่าง ๆ ได้สะดวกขึ้นอธิบดีกรมสรรพากร กล่าวเพิ่มเติมว่า ขณะนี้ อยู่ในช่วงของการเปิดให้ผู้มีเงินได้ เข้ามายื่นแบบชําระภาษีประจําปี จนถึง 31 มีนาคม นี้ ล่าสุด ผู้ยื่นแบบชําระภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาแล้วกว่า 2.4 ล้านราย ประสงค์ขอคืนภาษีจํานวน 1.4 ล้านคน โดยกรมสรรพากรได้ดําเนินการคืนภาษีแล้วประมาณร้อยละ 70 ส่วนที่เหลืออยู่ระหว่างการตรวจสอบ ส่วนใหญ่เป็นการยื่นแบบทางระบบออนไลน์ เพราะมีความสะดวก รวดเร็ว ทั้งนี้ หากไม่พบความผิดปกติในการยื่นแบบชําระภาษี กรมฯจะคืนภาษีภายใน 3 วันทําการ
14/2/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230214163853045
null
ประมงจังหวัดระยอง บ.SPRC ร่วมจัดโครงการปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำ ฟื้นฟูทะเลชายฝั่ง เปิดตลาดซีฟู้ดรับวาเลนไทน์
นายเสรี เรือนหล้า ประมงจังหวัดระยอง กล่าวว่า โครงการปล่อยพันธุ์สัตว์น้ําเพื่อฟื้นฟูทะเลชายฝั่งระยองนี้ จัดขึ้นเพื่อสนับสนุนโครงการพัฒนาคุณภาพชีวิตแก่ชุมชนประมงท้องถิ่นจังหวัดระยอง จํานวน 15 ชุมชน มีตัวแทนจากกลุ่มประมงเรือเล็กปากคลองตากวน กลุ่มประมงเรือเล็กเก้ายอด กลุ่มประมงเรือเล็กพลา-อู่ตะเภาสามัคคี กลุ่มประมงพื้นบ้านชุมชนแหลมรุ่งเรือง กลุ่มประมงเรือเล็กพื้นบ้านสวนสน อบต.แกลง 1 และ อบต. แกลง 3 กลุ่มประมงพัฒนาบ้านเพ และกลุ่มประมงดําหอยบ้านเพ ร่วมกิจกรรมเพื่อฟื้นฟูและเพิ่มทรัพยากรสัตว์น้ําทะเลชายฝั่งให้อุดมสมบูรณ์โดย ปล่อยปลาฉลามกบ ปลาเก๋า ปลากะพง หอยหวาน และกุ้งกุลาดํารวมจํานวน 1 ล้านตัว ณ สถานแสดงพันธุ์สัตว์น้ําระยอง นอกจากการปล่อยพันธุ์สัตว์น้ําแล้ว ภายในงานยังมีการจัดตลาดจําหน่ายผลิตภัณฑ์และสินค้าประมงแปรรูป ภายใต้ชื่อ Fisherman Market @ Rayong ในเทศกาลวันแห่งความรัก และเพื่อเป็นการสนับสนุนการท่องเที่ยวและสร้างรายได้ให้กลุ่มชาวประมงและชุมชนในพื้นที่อีกด้วย#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
14/2/2023
ภาคตะวันออก
ระยอง
สวท.ระยอง
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230214173633073
null
เอกอัครราชทูตนอรเวย์ประจำประเทศไทย หารือแนวทางการส่งเสริมการท่องเที่ยวนอร์เวย์กับจังหวัดภูเก็ต
วันนี้ (14 ก.พ. 66) ที่ห้องรับรองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต นางแอสทริ เอมิเลีย เฮลเลอ เอกอัครราชทูตนอร์เวย์ ประจําประเทศไทย เข้าเยี่ยมคารวะนายณรงค์ วุ่นซิ้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต โดยมีนางสาวเสมอจิต ลิ่มลิขิต หัวหน้าสํานักงานหนังสือเดินทางชั่วคราว จังหวัดภูเก็ต นายเลิศชาย หวังตระกูลดี ผอ.ททท. สํานักงานภูเก็ต หัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม สําหรับประเด็นหารือหลัก ทางเอกอัครราชทูตนอร์เวย์ประจําประเทศไทยได้หารือด้านการขนส่งเสริมการท่องเที่ยวระหว่างประเทศนอร์เวย์กับทางจังหวัดภูเก็ต และได้มีการแลกเปลี่ยนประสบการณ์และองค์ความรู้ด้านการรักษาสิ่งแวดล้อม การรักษาทรัพยากรทางทะเลอย่างยั่งยืน รวมทั้งการทําประมงทูน่า ซึ่งปัจจุบันเรือประมงเบ็ดราวทูน่าไต้หวันกลับมาขนถ่ายที่ภูเก็ต โดยทางจังหวัดเตรียมผลักดันเป็นทูน่าฮับโดยให้ภูเก็ตเป็นศูนย์กลางการค้าปลาทูน่า นอกจากนี้ยังได้มีการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ด้านการจัดการพลังงานสะอาด เช่น รถ EV การใช้พลังงานแสงอาทิตย์ ตลอดจนการดูแลรักษาความปลอดภัยและอํานวยความสะดวกนักท่องเที่ยวชาวนอร์เวย์ที่มาท่องเที่ยวในจังหวัดภูเก็ต#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
14/2/2023
ภาคใต้
ภูเก็ต
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดภูเก็ต
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230214190713111
null
จังหวัดระยอง สนธิกำลังตรวจจับทุเรียนอ่อนหลังชาวบ้านร้องวางขายริมถนนทางหลวง เตือนห้ามนำทุเรียนอ่อนมาจำหน่ายในพื้นที่และระวังเกิดอุบัติเหตุ
เวลา 15.00 น.วันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ว่าที่ ร.ต.พิรุณ เหมะรักษ์ รอง ผวจ. ระยอง พร้อมด้วย น.ส.วรนุช สีแดง เกษตรจังหวัดระยอง นายธนโชค พงษ์ชวลิต เกษตรและสหกรณ์จังหวัดระยอง นายวรพงษ์ มีวัตร รอง ผอ.แขวงทางหลวงระยอง นายจีรวัส เปรมดิษฐ์ ผอ.ศูนย์ดํารงธรรมจังหวัดระยอง นายคีรีวัฒน์ อ้นพร้อม ประชาสัมพันธ์จังหวัดระยอง และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองจังหวัดระยอง และเจ้าหน้าที่ตํารวจ ออกสุ่มตรวจแผงจําหน่ายทุเรียนริมถนนบายพาสสาย 36 ตลอดสายระหว่างเขตอําเภอเมืองระยอง และอําเภอนิคมพัฒนา หลังชาวบ้านร้องเรียนผ่านศูนย์ดํารงธรรมจังหวัดระยอง ว่ามีการนําทุเรียนอ่อนมาจําหน่าย จึงได้บูรณาการการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องออกตรวจสอบ เพื่อเป็นการป้องกัน ป้องปรามและประชาสัมพันธ์ให้ทราบถึงโทษการลักลอบนําทุเรียนอ่อนมาวางขาย ซึ่งนอกจากจะมีโทษจําคุกและปรับแล้ว ยังจะส่งผลเสียทุเรียนของจังหวัดระยองด้วย ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ได้ขอความร่วมมือพ่อค้าแม่ค้า เมื่อถึงฤดูผลผลิตทุเรียนของเกษตรกรชาวสวนระยองออกสู่ตลาดให้สนับสนุนเกษตรกร เอาทุเรียนระยองมาขายแทน เพื่อเป็นการช่วยเหลือเกษตรกรกระจายผลผลิต นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ยังได้ว่ากล่าวตักเตือนให้พ่อค้าแม่ค้าที่วางขายทุเรียนริมถนนให้ปฏิบัติตามกฎหมายไม่ตั้งขายชิดขอบทาง ให้ถอยห่างเส้นทึบสีขาวไหล่ทางระยะห่าง 5 เมตร เพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุทางถนนด้วย#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
14/2/2023
ภาคตะวันออก
ระยอง
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดระยอง
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230214201151131
null
อำเภอเกาะลันตาแถลงข่าวพร้อมจัดงานเทศกาลลานตา ลันตา ครั้งที่ 18 ชูอัตลักษณ์พหุวัฒนธรรม และทรัพยากร ธรรมชาติที่สวยงาม
วันนี้ (14 ก.พ.66) เวลา 16.20 น. นายอนุวรรตน์ โหมดพริ้ง รองผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ เป็นประธานการแถลงข่าวเทศกาลลานตา ลันตา ครั้งที่ 18 (LAANTA LANTA FESTIVAL 2023) พร้อมด้วยนายนพรัตน์ ศรีพรหม นายอําเภอเกาะลันตา,นายอะหมาน หมาดอะดัม ผอ.ททท.สนง.กระบี่, นายกิตติชัย เอ่งฉ้วน รองนายก อบจ กระบี่ ,นายสนาน หวังผล นายกเทศมนตรีตําบลเกาะลันตาใหญ่, นายวิชิต ยะลา นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวเกาะลันตา และนางกัญญาณัฐ พูลสวัสดิ์ นายกสมาคมผู้ประกอบการโรงแรมเกาะลันตาร่วมกันแถลงข่าวนายนพรัตน์ ศรีพรหม นายอําเภอเกาะลันตา กล่าวว่า อําเภอเกาะลันตา เป็น 1 ใน 8 อําเภอของจังหวัดกระบี่ที่มีประวัติความเป็นมายาวนานกว่า 122 ปี มีความอุดมสมบูรณ์ของทรัพยากรทางธรรมชาติ ทะเล ท้องฟ้า หาดทราย เกาะแก่งน้อยใหญ่ รวม53 เกาะ รวมกันเป็นอําเภอเกาะลันตา บ้านเมืองของเราเป็น "สังคมพหุวัฒนธรรม" ประกอบด้วย พี่น้องมุสลิม ไทยพุทธ ชาวไทยเชื้อสายจีน และชาวเล (หรือชาวไทยใหม่) งาน "เทศกาลลานตา ลันตา" ถือเป็นงานสําคัญประจําปีของชาวเกาะลันตา ที่มุ่งหวังนําเสนอวิถีชีวิต วัฒนธรรม ความเป็นอยู่ วิถีแห่งความภาคภูมิใจของชาวลันตา บ้านเมืองของเรามีของดีมากมายทั้ง"ภูมิประเทศ ผู้คน การเดินทาง การดํารงอยู่ วัฒนธรรม" ของดีมากมายที่เกาะลันตาจนละลานตาไปหมด" สําหรับงานเทศกาลลานตา ลันตา ครั้งที่ 18 (LAANTA LANTA FESTIVAL 2023) กําหนดจัดขึ้นในระหว่างวันที่ 3 - 5 มีนาคม 2566 ณ เมืองเก่าลันตา บ้านศรีรายา (ลานหน้าที่ว่าการอําเภอหลังเก่า) ตําบลเกาะลันตาใหญ่ อําเภอเกาะลันตา จังหวัดกระบี่ จึงขอเชิญสัมผัสเรื่องราวของชาวลันตา ลันตา ไทม์แมชชีน "ผู้คน การเดินทาง การดํารงอยู่ วัฒนธรรมและการรักษาสิ่งแวดล้อม" ภายในงานพบกับการออกร้านของชุมชนท่องเที่ยว 11 แห่งถนนคนเดินศรีรายา ลานลานตาราตรี การออกร้านของโรงแรม สถานประกอบการ การแสดงดนตรี การแสดงของนักเรียน วันที่ 3 มีนาคม 2566 พบกับพิธีเปิดที่ยิ่งใหญ่ การแสดงของนักเรียนในพื้นที่ การประกวดขบวนพาเหรดของ 6 องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นขบวนเรือ "เปิดเล เขเรือ" การประกวดประติมากรรมขยะ ร่วมสนุกสนานกับการแข่งขันการละเล่นพื้นบ้าน การแข่งขันขูดทิ่มข้าวเม่า ปีนเสาน้ํามัน ฯลฯ การเสวนา "เหลียวหลังแลหน้า ลันตาบ้านเรา" ข้านเมืองของเราจะไปในทิศทางไหนดี ปีดท้ายด้วยการแสดงของนักเรียน ร่วมอิ่มอร่อยกับการประกวดเมนูพื้นบ้าน อาหารพื้นถิ่น ของคนลันตา"แกงแพะ ข้าวยํา" และอิ่มอร่อยกับพิซซ่าลันตา และการแสดงของนักเรียน" #สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
14/2/2023
ภาคใต้
กระบี่
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดกระบี่
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230214191811114
null
จังหวัดเพชรบุรี เปิดตลาดช่วยชาวบ้าน สมาชิกกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี ขายเอง ขายตรง ส่งเสริมช่องทางการตลาด
จังหวัดเพชรบุรี เปิดตลาดช่วยชาวบ้าน สมาชิกกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี ขายเอง ขายตรง ส่งเสริมช่องทางการตลาด ช่วยเสริมสร้างรายได้อย่างถาวร มั่นใจคุณภาพผลิตภัณฑ์ ของดี ของเด่น ของกิน ของใช้ ของแต่ละอําเภอ ดีและถูก ตั้งแต่วันนี้จนถึง 16 กุมภาพันธ์นี้ ณ บริเวณศาลากลางจังหวัดเพชรบุรี เวลา 17.30 น. วันนี้ (14 ก.พ.66) นายณัฏฐชัย นําพูลสุขสันติ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี นายธรรมนูญ ไขว้พันธุ์ พัฒนาการจังหวัดเพชรบุรี หัวหน้าส่วนราชการ คณะอนุกรรมการกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีจังหวัดเพชรบุรี และประชาชน ร่วมพิธีเปิด “โครงการส่งเสริมช่องทางการตลาดผลิตภัณฑ์กลุ่มอาชีพสมาชิกกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี” ณ บริเวณศาลากลางจังหวัดเพชรบุรี นายณัฏฐชัย นําพูลสุขสันติ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี แสดงความขอบคุณทุกฝ่าย โดยเฉพาะคณะอนุกรรมการกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีจังหวัดเพชรบุรี ที่ร่วมกันส่งเสริมช่องทางการตลาด จัดจําหน่ายผลิตภัณฑ์ของสมาชิกกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี ซึ่งกลุ่มอาชีพมีความเชี่ยวชาญในด้านการผลิต แต่อาจมีปัญหาในการจัดจําหน่าย นับเป็นความภาคภูมิใจและชื่นชมในความร่วมมือ ซึ่งไม่เพียงเป็นการส่งเสริมช่องทางการตลาด ของทุกกลุ่มอาชีพ แต่เป็นการประกาศให้รู้ ถึงผลิตภัณฑ์ หลากหลายชนิด ที่ล้วนน่าซื้อ น่ากิน น่าใช้ การเปิดตลาดช่วยชาวบ้าน คือการช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจระดับฐานราก ที่ช่วยส่งเสริมการขายสินค้าชุมชน ให้พี่น้องในชุมชนได้นําสินค้ามาวาง ขายเอง หรือสามารถขายตรง ส่งตรง ช่วยเพิ่มช่องทางการตลาด ที่จะกระจายรายได้ไปสู่ท้องถิ่น ให้ชาวบ้านมีรายได้อย่างมั่นคง และที่สําคัญช่วยสร้างความมั่นคงของกองทุน มีเงินทุนหมุนเวียนช่วยชาวบ้านชุมชนอย่างต่อเนื่อง สําหรับการส่งเสริมช่องทางการตลาดผลิตภัณฑ์กลุ่มอาชีพสมาชิกกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี ผู้สนใจสามารถมาเลือกซื้อสินค้า ของดี ของเด่น ของกิน ของใช้ ของแต่ละอําเภอ ดีและถูก ทั้งขนม อาหารทะเลแปรรูป ผักสดจากไร่ ไข่เป็ด ไข่ไก่จากเล้าสดๆ ตั้งแต่วันนี้จนถึง 16 กุมภาพันธ์นี้ ตั้งแต่เวลา 10.00 - 18.00 น. ณ บริเวณศาลากลางจังหวัดเพชรบุรี #สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILANDจามรี อนุรัตน์ ประชาสัมพันธ์จังหวัดเพชรบุรีรายงาน
14/2/2023
ภาคตะวันตก
เพชรบุรี
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเพชรบุรี
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230214204438140
null
เทศบาลตำบลชากบก เปิดงานทำบุญข้าวใหม่เดือนสาม เผาข้าวหลาม มีขบวนแห่ทางวัฒนธรรมประเพณีอย่างยิ่งใหญ่ ผู้เข้าร่วมขบวนแห่ 142 คน
เวลา 20.00 น.วันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2566 ที่บริเวณลานด้านหน้าเทศบาลตําบลชากบก ต.ชากบก อ.บ้านค่าย จ.ระยอง นายฉันท์ แป้นเพชร นายอําเภอบ้านค่าย เป็นประธานงานทําบุญข้าวใหม่เดือนสาม เผาข้าวหลามชากบก ประจําปี 2566 ซึ่งจัดขึ้นโดยเทศบาลตําบลชากบก และชาวบ้านในพื้นที่ 10 หมู่บ้าน ระหว่างวันที่ 13-15 ก.พ.นี้ มีนายปิยะ ปิตุเตชะ นายก อบจ.ระยอง นายนาค ระยอง นายกเทศมนตรีตําบลชากบก หัวหน้าส่วนราชการจังหวัด ผู้นํา อปท.กํานัน ผู้ใหญ่บ้านในอําเภอบ้านค่าย ร่วมเป็นเกียรติฯ โดยพิธีเปิดได้จัดให้มีขบวนแห่ทางวัฒนธรรมประเพณีอย่างยิ่งใหญ่ มีผู้เข้าร่วมแสดงในขบวนรวม 142 คน นอกจากนี้ยังมีการเผาข้าวหลาม 11,000 กระบอกนํามาขายในขาย เพื่อนําเงินไปช่วยเหลืองานสาธารณประโยชน์ และมีการแสดงคอนเสิร์ตของศิลปินชื่อดังด้วย งานดังกล่าวจัดขึ้นมีวัตถุประสงค์เพื่ออนุรักษ์ สืบสานศลิปะประเพณีท้องถิ่นให้คงอยู่สืบไป รวมทั้งเป็นการส่งเสริมความรู้ภูมิปัญญาท้องถิ่นและถ่ายทอดประเพณีวัฒนธรรมท้องถิ่นของตําบลชากบกให้กับเด็กและเยาวชนรุ่นหลังได้ร่วมสืบสานและเห็นคุณค่าอันดีงาม นอกจากนี้ยังเป็นการส่งเสริมให้ประชาชนในพื้นที่เกิดความรัก ความสามัคคีร่วมมือร่วมใจกันอนุรักษ์ประเพณีท้องถิ่น ตลอดจนเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยว ส่งเสริมอาชีพการเผาข้าวหลามให้กับประชาชนในพื้นที่อีกด้วย#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
14/2/2023
ภาคตะวันออก
ระยอง
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดระยอง
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230214203801139
null
เทศบาลนครภูเก็ต แถลงข่าวสัญจร “นานาสาระกับนายกเทศมนตรีนครภูเก็ต" เผยแผนการพัฒนาเมือง ฟื้นเศรษฐกิจชุมชน
วันนี้ (14 ก.พ.66) นายสาโรจน์ อังคณาพิลาส นายกเทศมนตรีนครภูเก็ต แถลงข่าวสัญจร “นานาสาระกับนายกเทศมนตรีนครภูเก็ต” พร้อมด้วย นางสาวอรไพลิน ตระกูลปริพนธ์ นายศุภโชค ละอองเพชร และนายประสิทธิ์ สินเสาวภาคย์ รองนายกเทศมนตรีนครภูเก็ต นายนิติ เพ็ชรประดับสกุล นายสุทธิพันธ์ สกุลเทพ เลขานุการนายกเทศมนตรีนครภูเก็ต นายเชื้อ คงจีน ที่ปรึกษานายกเทศมนตรีนครภูเก็ต นายเฉลิมพร ปิยณรงค์โรจน์ ปลัดเทศบาลนครภูเก็ต นายธวัชชัย ทองมั่ง ประธานชมรมกีฬาตกปลาภูเก็ต นายศิลป์ชัย ปังประเสริฐกุล เลขาชมรมกีฬาตกปลาภูเก็ตรองปลัดเทศบาลนครภูเก็ต สมาชิกสภาเทศบาล หัวหน้าส่วนราชการ ร้านอาหารภูเก็ต ปลอดขยะ (Zero Waste Restaurant) ผู้ผ่านการอบรมหลักสูตรผู้สัมผัสอาหารตามกฎกระทรวง สุขลักษณ์สถานที่จําหน่ายอาหาร พ.ศ. 2561 แขกผู้มีเกียรติ และสื่อมวลชน เข้าร่วมจํานวนมาก บริเวณสนามเด็กเล่น ข้างศูนย์พัฒนาทักษะและการเรียนรู้ CIC เทศบาลนครภูเก็ต ทั้งนี้ ก่อนการแถลงข่าว นายสาโรจน์ อังคณาพิลาส นายกเทศมนตรีนครภูเก็ต ได้มอบตราสัญลักษณ์ 21 ร้านอาหารภูเก็ตปลอดขยะ (Zero Waste Restaurant) พร้อมมอบประกาศนียบัตรผู้ผ่านการอบรมหลักสูตรผู้สัมผัสอาหารตามกฎกระทรวง สุขลักษณะสถานที่จําหน่ายอาหาร พ.ศ. 2561 จากนั้น แถลงถึงการจัดอบรมเชิงปฏิบัติการ Creative Junior Chef ต่อยอด Phuket City of Gastronomy การจัดแข่งขันกีฬาตกปลาจังหวัดภูเก็ต ครั้งที่ 14 และแผนการพัฒนาเมืองด้วยสตรีทอาร์ต (Street Art) ให้มีชีวิตชีวา ส่งเสริมการท่องเที่ยวในเขตเมือง พร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวจีนและนักท่องเที่ยวทั่วทุกมุมโลกจากนั้น พาสื่อมวลชนนั่งรถโพธิ์ถ้อง สํารวจจุดแลนด์มาร์คและศิลปะสตรีทอาร์ต (Street Art) ในเขตเทศบาลนครภูเก็ต อย่างวงเวียนสุรินทร์ (วงเวียนหอนาฬิกา) วงเวียนสุริยเดช (วงเวียนน้ําพุ) สี่แยกธนาคารชาร์เตอร์ และรับฟังแนวคิดการพัฒนาพื้นที่ริมคลองสู่ตลาดชุมชน บริเวณชุมชนโกมารภัจจ์ ดึงต้นทุนชุมชน เพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจให้แก่ท้องถิ่น พร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวตลอด 365 วัน ไม่ต้องรอวันหยุด หรือรอคอยช่วงฤดูกาลท่องเที่ยว#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
14/2/2023
ภาคใต้
ภูเก็ต
สวท.ภูเก็ต
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230214211238151
null
สนง.อุตสาหกรรมจังหวัดเพชรบูรณ์ ประชุมคณะกรรมการพิจารณาให้การรับรองแสดงเครื่องหมายมาตรฐานผลิตภัณฑ์ชุมชน (มผช.)
เมื่อวันอังคารที่ 14 กุมภาพันธ์ 2566 นายพสุ สุครีวก อุตสาหกรรมจังหวัดเพชรบูรณ์ ขับเคลื่อนนโยบายมิติที่ 1 ความสําเร็จทางธุรกิจ การแข่งขันด้านประสิทธิภาพ และต้นทุน เพิ่มความเข้มแข็งให้กับอุตสาหกรรมฐานราก โดยจัดประชุมคณะกรรมการรับรองมาตรฐานผลิตภัณฑ์ชุมชนจังหวัดเพชรบูรณ์ ครั้งที่ พช 20-1/2566 เพื่อพิจารณาให้การรับรองแสดงเครื่องหมายมาตรฐานผลิตภัณฑ์ชุมชน (มผช.) ที่ผ่านการตรวจสอบจากหน่วยวิเคราะห์ทดสอบ จํานวน 9 คําขอ 10 ผลิตภัณฑ์ ณ ห้องประชุมเพชรพระนารายณ์ สํานักงานอุตสาหกรรมจังหวัดเพชรบูรณ์ โดยมีคณะกรรมการฯ จากหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และสถาบันการศึกษา เข้าร่วมประชุมในครั้งนี้ ทั้งนี้ได้รับเกียรติจาก นายชนก มากพันธุ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ เป็นประธานการประชุมเพลินจิต สวนศิลป์พงศ์ สวท.เพชรบูรณ์แหล่งข้อมูล : สนง.อุตสาหกรรมจังหวัดเพชรบูรณ์#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
15/2/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
เพชรบูรณ์
สวท.เพชรบูรณ์
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230215084143218
null
พาณิชย์จังหวัดเพชรบุรี ส่งเสริมการประกอบธุรกิจการค้าและการตลาด ตรวจสอบการใช้ตรา GI ชมพู่เพชรสายรุ้ง
พาณิชย์จังหวัดเพชรบุรี ส่งเสริมการประกอบธุรกิจการค้าและการตลาด ตรวจสอบการใช้ตรา GI ชมพู่เพชรสายรุ้ง นางสาวจินตณา ปิ่นสุภา พาณิชย์จังหวัดเพชรบุรี กล่าวว่า สํานักงานพาณิชย์จังหวัดเพชรบุรี โดยกลุ่มส่งเสริมการประกอบธุรกิจการค้าและการตลาด ร่วมกับคณะทํางานควบคุมตรวจสอบกระบวนการผลิตและจําหน่ายสินค้า" GI ชมพู่เพชร" ได้แก่ สํานักงานเกษตรจังหวัด สํานักงานเกษตรและสหกรณ์จังหวัด สํานักงานสหกรณ์จังหวัด สํานักงานศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตร องค์การบริหารส่วนตําบลบ้านกุ่มและท่าแร้ง มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรี ลงพื้นที่ควบคุมตรวจสอบกระบวนการผลิตและจําหน่ายของเกษตรกร และผู้ประกอบการชมพู่เพชรสายรุ้ง ที่ต้องการขอใช้ตรา GI "ชมพู่เพชร" ประจําปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ณ ตําบลท่าแร้ง อําเภอบ้านแหลม 8 ราย ตําบลท่าคอย อําเภอท่ายาง 2 ราย ตําบลท่าไม้รวก อําเภอท่ายาง 2 ราย ตําบลถ้ํารงค์ อําเภอบ้านลาด 1 ราย โดยมีเกษตรกรและผู้ประกอบการเข้าร่วมประเมินทั้งสิ้น 13 ราย ทั้งนี้ ผลการควบคุมตรวจสอบเกษตรกรและผู้ประกอบการได้ผ่านการประเมิน ทั้ง 13 ราย สวท.เพชรบุรี/15 ก.พ.66#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
15/2/2023
ภาคตะวันตก
เพชรบุรี
สวท.เพชรบุรี
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230215082856211
null
การรถไฟแห่งประเทศไทย ชี้แจงข้อเท็จจริงการดำเนิน โครงการจัดหาหุ่นยนต์ฆ่าเชื้อโรค (UV-C) เป็นไปตามระเบียบทุกขั้นตอน
การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) ชี้แจงกรณีมีการเผยแพร่ ว่า การรถไฟฯ ได้จัดหาหุ่นยนต์ฆ่าเชื้อโรค (UV-C) โดยวางทิ้งไว้ไม่นํามาใช้งานนั้น เป็นความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน หรือได้รับข้อมูลจากแหล่งข่าวที่มีข้อมูลไม่ถูกต้อง ปัจจุบันการรถไฟฯ ยังมีการนําหุ่นยนต์ออกมาใช้งานฆ่าเชื้อโรคภายในขบวนรถโดยสาร และสถานีรถไฟอยู่เป็นประจําอย่างต่อเนื่อง โดยนําออกมาในช่วงเวลากลางคืน หรือเวลาที่ไม่มีประชาชนหรือผู้โดยสารอยู่ในพื้นที่แล้ว เพื่อให้เกิดความสะอาด ปลอดภัย และป้องกันไม่ให้รังสียูวีชี (UV-C) ที่มีความเข้มข้นสูงพิเศษ โดยใช้รังสีอัลตราไวโอเลตชนิด C ที่มีความสามารถในการทําลาย DNA และ RNA ของสิ่งมีชีวิตขนาดเล็กและเชื้อโรคต่างๆ ทั้งแบคทีเรีย ไวรัส สปอร์ของเชื้อ ไวรัสโควิด-19 ได้ดี และมีประสิทธิภาพ ค่าใช้จ่ายต่อครั้งต่ํากว่าการฆ่าเชื้อโรคโดยวิธีฉีดพ่นสารเคมี และการเช็ดทําความสะอาดด้วยแอลกอฮอล์ และไม่ทิ้งสารเคมีที่เป็นอันตรายไว้หลังการใช้งานอย่างไรก็ตาม ยืนยันว่า การรถไฟฯ ได้แต่งตั้งคณะกรรมการดําเนินการจัดหาหุ่นยนต์ฆ่าเชื้อโดยใช้รังสียูวีซี (UV-C) ตามระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการซื้อจัดจ้างและบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560 เปิดให้มีการเสนอราคา ทําการประมูลแข่งขันอย่างเป็นธรรม ตามระเบียบอย่างเคร่งครัด โดยมีการสอบราคาตามขั้นตอนที่ถูกต้อง โปร่งใส ครบถ้วน จนกระทั่งสามารถจัดหา หุ่นยนต์ฆ่าเชื้อไวรัสด้วยรังสีอุลตร้าไวโอเล็ต ซึ่งเป็นหุ่นยนต์ที่มีเทคโนโลยีทันสมัย จํานวน 20 ตัว รวมวงเงิน 96.25 ล้านบาทรวมถึงการดูแลบํารุงรักษา การซ่อมแซมและรับประกันตลอด 2 ปีเต็ม จากสถิติตั้งแต่มีการนําหุ่นยนต์ฆ่าเชื้อมาใช้งานเห็นได้ว่า จํานวนของผู้โดยสารที่เดินทางรถไฟในช่วงระยะเวลาดังกล่าวกว่า 17 ล้านคน ไม่มีผู้โดยสารที่ติดเชื้อโควิด-19 จากการเดินทางโดยรถไฟหรือมาใช้บริการที่สถานีเลย ซึ่งถือเป็นความคุ้มค่าในการช่วยป้องกันยับยั้งการแพร่ระบาดในขณะนั้น
15/2/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230215100926245
null
จังหวัดสุรินทร์ จัดงานมหกรรมงานแสดงสินค้าของดีภาคอีสาน ร่วมส่งเสริมสินค้าและผลิตภัณฑ์ OTOP สู่ตลาดยุคใหม่ในสังคมดิจิทัล
สมาคมองค์การบริหารส่วนจังหวัดแห่งประเทศไทย และสมาพันธ์องค์การบริหารส่วนจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ร่วมกับ จังหวัดสุรินทร์ จัดกิจกรรมเปิดงานมหกรรมงานแสดงสินค้าของดีภาคอีสาน เพื่อส่งเสริมสินค้าและผลิตภัณฑ์ OTOP สู่ตลาดยุคใหม่ในสังคมดิจิทัล ระหว่างวันที่ 11-17 กุมภาพันธ์ 2566 บริเวณสวนเฉลิมพระเกียรติฯ 80 พรรษา (สวนใหม่) อําเภอเมืองสุรินทร์ เพื่อสร้างอาชีพและรายได้ให้กับประชาชนในชุมชน ท้องถิ่น ส่งเสริมและพัฒนาเศรษฐกิจชุมชนให้เข้มแข็งอย่างยั่งยืน เป็นรากฐานเศรษฐกิจ โดยการจําหน่ายสินค้าของดีผลิตภัณฑ์ OTOP ภาคอีสาน 20 จังหวัด (รวมทั้งจังหวัดสุรินทร์) / "เทศกาลกินข้าว" และจําหน่ายอาหารอร่อยขึ้นชื่อของจังหวัดสุรินทร์และภาคอีสาน / การแสดงศิลปวัฒนธรรมพื้นบ้าน นาฎศิลป์ นางรํา กันตรึม และวงดนตรีลูกทุ่ง จากสถาบันการศึกษาจังหวัดสุรินทร์ และกิจกรรมการแสดงช้างแสนรู้ (Mini Elephant Show) จากโครงการโลกของช้าง วันละ 2 รอบ คือรอบเวลา 18.30 น. และรอบ 19.30 น. ชาวสุรินทร์ หรือผู้สนใจ ไปชมงานได้ตามวันและเวลาดังกล่าว#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
15/2/2023
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
สุรินทร์
สวท.สุรินทร์
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230215090036223
null
ม.ราชภัฏโคราช ยกระดับศักยภาพสินค้าเศรษฐกิจ GI เครื่องปั้นดินเผาด่านเกวียน สู่สินค้าระดับโลก
วันนี้ (15 ก.พ. 66) มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา โดยผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร. โชติมา ไชยวงศ์เกียรติ อาจารย์ประจําหลักสูตรการจัดการโลจิสติกส์และห่วงโซ่อุปทาน ได้ดําเนินโครงการการพัฒนาการจัดการโลจิสติกส์ และซัพพลายเชนเครื่องปั้นดินเผาต่อการส่งเสริมอัตลักษณ์ และสินค้าเชิงวัฒนธรรมวิถีชีวิตชุมชนบ้านด่านเกวียน ต.ด่านเกวียน อ.โชคชัย จ.นครราชสีมา เพื่อยกระดับศักยภาพเศรษฐกิจ และเป็นการกระตุ้นการท่องเที่ยวในพื้นที่ โดยทางมหาวิทยาลัยราชภัฎนครราชสีมา ได้นําเครือข่ายชาวบ้านจากนอกพื้นที่ เดินทางไปศึกษาดูงานที่ศูนย์เรียนรู้วิถีคนด่านเกวียน และเข้าศึกษาในฐานการเรียนรู้ต่างๆ เช่น การทําผ้ามัดย้อมสี เทเบิ้ลแวร์ภาชนะจากดิน เครื่องหอมจากดิน คนด่านปั้นดิน และเสียงดนตรีจากดินด้านผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร. โชติมา ไชยวงศ์เกียรติ อาจารย์ประจําหลักสูตรการจัดการโลจิสติกส์และห่วงโซ่อุปทานทางมหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา กล่าวว่า การจัดกิจกรรมในครั้งนี้ มุ่งเน้นส่งเสริมอัตลักษณ์ของชุมชนเพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการ มุ่งเน้นพัฒนาตัวผลิตภัณฑ์ และการท่องเที่ยวที่สอดคล้องกับภูมิศาสตร์และวิถีชุมชน รวมทั้ง มุ่งเน้นพัฒนากลไกการจัดการด้านเครือข่ายของผู้ประกอบการให้สามารถขับเคลื่อนตามความต้องการของตลาดในปัจจุบัน และมุ่งเน้นให้เกิดการสร้างช่องทางการสื่อสารด้านการตลาด และการทําสื่อประชาสัมพันธ์ในพื้นที่ตําบลด่านเกวียน จนนํามาสู่การพัฒนาความรู้ ทักษะ ที่เชื่อมโยงจากภูมิปัญญา ศิลปวัฒนธรรมชุมชน อัตลักษณ์ท้องถิ่น ก่อให้เกิดการพัฒนาด้านโลจิสติกส์การท่องเที่ยวอย่างมั่นคง เศรษฐกิจภายในจังหวัดนครราชสีมาได้รับการกระตุ้นทั้งในภาคการท่องเที่ยว การผลิต การจัดจําหน่ายสินค้าสู่ระดับภูมิภาคทั้งในประเทศและต่างประเทศ#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
15/2/2023
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
นครราชสีมา
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนครราชสีมา
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230215091742229
null
คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน สนับสนุนการใช้พลังงานหมุนเวียน พลังงานสีเขียวตามแนวทาง BCG รักษาความมั่นคงทางพลังงานในประเทศ
นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจําสํานักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ยินดีที่คณะกรรมการกํากับกิจการพลังงาน (กกพ.) ขานรับแนวทางการดําเนินนโยบายของรัฐบาลที่ให้ความสําคัญกับสิ่งแวดล้อมตาม BCG เพื่อเพิ่มการแข่งขันในกิจการพลังงาน ทั้งกิจการก๊าซธรรมชาติ อาจปรับปรุงโครงสร้างรองรับการแข่งขัน พร้อมกับรักษาความมั่นคงด้านพลังงาน โดยสนับสนุนการใช้พลังงานสีเขียว ในระยะเร่งด่วน ให้ความสําคัญกับการใช้เชื้อเพลิงทางเลือก เช่น พลังน้ํา และพลังงานหมุนเวียน ส่วนระยะยาว จะให้ความสําคัญกับการผลิตพลังงานไฟฟ้า เพื่อรองรับการใช้พลังงานสีเขียว ตอบสนองความต้องการภาคธุรกิจการค้าและการลงทุนของภาคเอกชนระหว่างประเทศ ซึ่งมีความต้องการซื้อและได้รับการรับรองการใช้ไฟฟ้าจากพลังงานสะอาดในการลดอุปสรรคทางการค้าและการลงทุนจากมาตรการภาษีคาร์บอนข้ามแดน และข้อกีดกันทางการค้าการลงทุนอื่นๆ หนึ่งในกลไกสําคัญได้แก่ ไฟฟ้าสีเขียว ที่ออกแบบให้มีการขายไฟฟ้าพร้อมใบรับรอง สามารถระบุที่มาของแหล่งผลิตไฟฟ้าเป็นการอํานวยความสะดวกให้กับภาคอุตสาหกรรมที่ต้องการใช้ไฟฟ้าสีเขียว โดยไม่ต้องสร้างโรงไฟฟ้า ส่วนของโครงสร้างการซื้อขายไฟฟ้าของไทย ที่ซื้อขายแบบ Regulated Market มีแนวคิดที่จะนําไฟฟ้าที่ผลิตได้จากการจัดหาไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน แบบ FiT พ.ศ. 2565 – 2573 จํานวน 5,203 เมกะวัตต์ และจะยังมีการขยายผลให้รวมการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนของ กฟผ. ในอนาคต ตลอดจนในช่วงเวลาของการเปลี่ยนผ่านนี้ จะส่งเสริมพลังงานหมุนเวียน เพิ่มมากขึ้นเข้าสู่ระบบไฟฟ้า ส่งเสริมการผลิตพลังงานหมุนเวียนเพื่อใช้เองและสนับสนุนให้มีพลังงานสีเขียวมากขึ้นในภาคอุตสาหกรรม
15/2/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230215103250252
null
จังหวัดตรัง กำหนดจัดงาน Bikini Run TRANG ครั้งที่ 4 มั่นใจจะช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัดตรังได้เป็นอย่างดีและจะมีเงินสะพัด ประมาณ 3-4 ล้านบาท
จังหวัดตรัง ร่วมกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สํานักงานตรัง(ททท) สํานักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดตรัง สมาคมการท่องเที่ยวและโรงแรมจังหวัดตรัง ชมรมผู้ประกอบการร้านอาหารหาดปากเมง และองค์การบริหารส่วนจังหวัดตรัง ร่วมกันจัดงาน Bikini Run TRANG ครั้งที่ 4 ประจําปี 2566 ณ ชายหาดปากเมง อําเภอสิเกา จังหวัดตรัง ในวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2566 นายสมศักดิ์ เสือบุญทอง นายกสมาคมการท่องเที่ยวและโรงแรมจังหวัดตรัง กล่าวว่า กิจกรรมบิกินี่รันในปีนี้ กําหนดจัดยิ่งใหญ่กว่าทุกครั้งที่ผ่านมา เน้นเส้นทางวิ่งที่ตกแต่งอย่างสวยงาม อีกทั้งในช่วงเวลาประมาณ 17.00-18.00 น. ช่วงปล่อยตัวนักวิ่ง เป็นเวลาที่พระอาทิตย์ตก ทําให้บรรยากาศของหาดปากเมงงดงามมากยิ่งขึ้น ทั้งนี้ มีนักท่องเที่ยวที่สมัครเข้าร่วมกิจกรรมประมาณ 600 คน จะช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัดตรังได้เป็นอย่างดีและจะมีเงินสะพัด ประมาณ 3-4 ล้านบาท#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
15/2/2023
ภาคใต้
ตรัง
สวท.ตรัง
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230215093603233
null
การรถไฟแห่งประเทศไทย ชี้แจงข้อเท็จจริงการดำเนินโครงการจัดหาหุ่นยนต์ฆ่าเชื้อโรค (UV-C) เป็นไปตามระเบียบทุกขั้นตอนด้วยความโปร่งใส และนำมาใช้งานตามแผนที่กำหนด
การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) ชี้แจงกรณีมีการเผยแพร่ ว่า การรถไฟฯ ได้จัดหาหุ่นยนต์ฆ่าเชื้อโรค (UV-C) โดยวางทิ้งไว้ไม่นํามาใช้งานนั้น เป็นความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนหรือได้รับข้อมูลจากแหล่งข่าวที่มีข้อมูลไม่ถูกต้อง ปัจจุบันการรถไฟฯ ยังมีการนําหุ่นยนต์ออกมาใช้งานฆ่าเชื้อโรคภายในขบวนรถโดยสาร และสถานีรถไฟอยู่เป็นประจําอย่างต่อเนื่อง โดยนําออกมาในช่วงเวลากลางคืน หรือเวลาที่ไม่มีประชาชนหรือผู้โดยสารอยู่ในพื้นที่แล้ว เพื่อให้เกิดความสะอาด ปลอดภัย และป้องกันไม่ให้รังสียูวีชี (UV-C) ที่มีความเข้มข้นสูงพิเศษ โดยใช้รังสีอัลตราไวโอเลตชนิด C ที่มีความสามารถในการทําลาย DNA และ RNA ของสิ่งมีชีวิตขนาดเล็กและเชื้อโรคต่างๆ ทั้งแบคทีเรีย ไวรัส สปอร์ของเชื้อ ไวรัสโควิด-19 ได้ดี และมีประสิทธิภาพ ค่าใช้จ่ายต่อครั้งต่ํากว่าการฆ่าเชื้อโรคโดยวิธีฉีดพ่นสารเคมี และการเช็ดทําความสะอาดด้วยแอลกอฮอล์ และไม่ทิ้งสารเคมีที่เป็นอันตรายไว้หลังการใช้งานอย่างไรก็ตาม ยืนยันว่า การรถไฟฯ ได้แต่งตั้งคณะกรรมการดําเนินการจัดหาหุ่นยนต์ฆ่าเชื้อโดยใช้รังสียูวีซี (UV-C) ตามระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการซื้อจัดจ้างและบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560 เปิดให้มีการเสนอราคา ทําการประมูลแข่งขันอย่างเป็นธรรม ตามระเบียบอย่างเคร่งครัด โดยมีการสอบราคาตามขั้นตอนที่ถูกต้อง โปร่งใส ครบถ้วน จนกระทั่งสามารถจัดหา หุ่นยนต์ฆ่าเชื้อไวรัสด้วยรังสีอุลตร้าไวโอเล็ต ซึ่งเป็นหุ่นยนต์ที่มีเทคโนโลยีทันสมัย จํานวน 20 ตัว รวมวงเงิน 96.25 ล้านบาท รวมถึงการดูแลบํารุงรักษา การซ่อมแซม และรับประกันตลอด 2 ปีเต็ม จากสถิติตั้งแต่มีการนําหุ่นยนต์ฆ่าเชื้อมาใช้งานเห็นได้ว่า จํานวนของผู้โดยสารที่เดินทางรถไฟในช่วงระยะเวลาดังกล่าวกว่า 17 ล้านคน ไม่มีผู้โดยสารที่ติดเชื้อโควิด-19 จากการเดินทางโดยรถไฟหรือมาใช้บริการที่สถานีเลย ซึ่งถือเป็นความคุ้มค่าในการช่วยป้องกันยับยั้งการแพร่ระบาดในขณะนั้น
15/2/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230215112508281
null
ธ.ก.ส. โอนเงินมาตรการช่วยเหลือและยกระดับรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปี 2565/66
นายกษาปณ์ เงินรวง รองผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่า ในวันนี้ (15 ก.พ.66) ธ.ก.ส.โอนเงินช่วยเหลือเกษตรกร ผ่านมาตรการช่วยเหลือและยกระดับรายได้เกษตรกร ผู้ปลูกข้าว ปี 2565/66 เข้าสู่บัญชีเกษตรกรโดยตรง อีกจํานวนกว่า 22 ล้านบาท มีผู้ได้รับประโยชน์ 9,266 ครัวเรือน แบ่งเป็นโครงการสนับสนุนค่าบริหารจัดการและพัฒนาคุณภาพผลผลิตเกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปีการผลิต 2565/66 (โครงการไร่ละพัน) ครั้งที่ 11 เป็นเงินกว่า 21.41 ล้านบาท และโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปีการผลิต 2565/66 งวดที่ 18 และงวดที่ 1 - 17 (เพิ่มเติม) เป็นเงินกว่า 1.36 ล้านบาทเกษตรกรสามารถตรวจสอบผลการโอนเงินได้ ทางแอปพลิเคชัน ธ.ก.ส. A-Mobile และ A-Mobile Plus ตลอด 24 ชั่วโมง และจะมีข้อความแจ้งเตือนเงินเข้าบัญชีผ่าน LINE Official BAAC Family กรณีที่ลูกค้าสมัครใช้บริการ BAAC Connect รวมถึงสามารถเบิกถอนเงินสดผ่านตู้ ATM ของ ธ.ก.ส. ทั่วประเทศ
15/2/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230215141933360
null
กระทรวงการคลัง เร่งสรุปผลผู้ได้รับสิทธิบัตรสวัสดิการแห่งรัฐรอบใหม่
นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยความคืบหน้าโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ปี 2565 หลังนายกรัฐมนตรี สั่งการให้เร่งดําเนินการนําเรื่องเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีโดยเร็ว เพื่อที่จะสามารถโอนเงินให้กับผู้ได้รับสิทธิได้ทันในวันที่ 1 มีนาคมนี้ ว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อมูลให้ชัดเจน โดยกระทรวงการคลังกําลังเร่งพิจารณารายชื่อเพื่อเสนอคณะรัฐมนตรีให้ความเห็นชอบภายใน 1-2 สัปดาห์นี้ ส่วนจะทันจ่ายเงินในวันที่ 1 มีนาคมนี้ตามกําหนดการเดิมหรือไม่ ต้องไปดูตารางเวลาอีกครั้งว่าจะต้องมีการปรับแก้ไขอย่างไร ทั้งนี้ เบื้องต้นคาดว่าจํานวนผู้ลงทะเบียนทั้งหมดกว่า 20 ล้านคน เมื่อผ่านการคัดกรองคุณสมบัติร่วมกับหน่วยที่เกี่ยวข้องแล้ว จะเหลือผู้ที่ได้รับสิทธิที่ผ่านเกณฑ์รอบใหม่ ประมาณ 13 ล้านคน ใกล้เคียงกับรอบที่ผ่านมา ซึ่งในรอบนี้มีการตรวจสอบที่ละเอียดกว่าในอดีต จึงทําให้เกิดความล่าช้าและต้องเลื่อนการประกาศผลจากกรอบเวลาเดิม ที่จะต้องมีการประกาศผลและยืนยันตัวตนผู้ผ่านคุณสมบัติในช่วงเดือนมกราคมที่ผ่านมา
15/2/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230215152423411
null
ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดเลย เตรียมความพร้อมยกระดับชุมชนบ้านพองหนีบ อำเภอภูกระดึง จังหวัดเลย สู่ตลาดการท่องเที่ยวจังหวัดเลย
นางสาวจุฑามาศ กุลรัตน์ ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดเลย พร้อมด้วยกลุ่มงานประชาสัมพันธ์ ลงพื้นที่ส่งเสริมภาพลักษณ์การท่องเที่ยวโดยชุมชนและเตรียมความพร้อมเพื่อยกระดับการท่องเที่ยวโดยชุมชนบ้านพองหนีบสู่การตลาด ณ ชุมชนบ้านพองหนีบ อําเภอภูกระดึง จังหวัดเลยด้วยสํานักงานพื้นที่พิเศษ 5 (อพท.5) ได้จัดทําแผนปฏิบัติการการพัฒนาการท่องเที่ยวโดยชุมชนบ้านพองหนีบ ประจําปีงบประมาณ 2566 ร่วมกับชุมชน ด้านการพัฒนาศักยภาพการท่องเที่ยว โดยชุมชนสามารถเชื่อมโยงสู่ตลาด ด้วยวัตถุประสงค์พัฒนาศักยภาพและส่งเสริมองค์ความรู้ด้านการจัดทําช่องทางประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวของชุมชน และค้นหารวบรวมข้อมูลในการจัดทําสื่อประชาสัมพันธ์ท่องเที่ยวชุมชนบ้านพองหนึบ ทําให้กิจกรรมในครั้งนี้ มีการตื่นตัวและสนุกการเรียนรู้การลงพื้นที่ทําสื่อประชาสัมพันธ์ท่องเที่ยวภายในชุมชม และจัดเตรียมสถานที่เพื่อยกระดับการท่องเที่ยวต่อไปอีกทั้ง สํานักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดเลย ยังได้ทําการประชาสัมพันธ์การรับสมัครการประเมินโฮมสเตย์ไทย ประจําปี 2566 ให้แก่ชุมชนหรือบ้านพักที่สนใจร่วมประเมิน ถึงวันที่ 7 เมษายนนี้ #สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
15/2/2023
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
เลย
สวท.เลย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230215143932377
null
พัฒนาชุมชนจังหวัดเลย เชิญชวนอุดหนุนผลิตภัณฑ์ชุมชน ผ่าน Click ชุมชน รับสิทธิพิเศษส่วนลดสูงสุด 50%
นายคมสิทธิ์ สุริยวรรณ พัฒนาการจังหวัดเลย เปิดเผยว่า กรมการพัฒนาชุมชน ได้จัดทําโครงการ “ลด OTOP สูงสุด 50% ผ่าน Click ชุมชน” เป็นของขวัญปีใหม่ 2566 ของกระทรวงมหาดไทยเพื่อมอบให้ประชาชน โดยมีผลิตภัณฑ์ OTOP ทั่วประเทศ เข้าร่วมโครงการ จํานวน 1,300 ผลิตภัณฑ์ และชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถี จํานวน 130 ชุมชน สําหรับจังหวัดเลย มีผลิตภัณฑ์ OTOP เข้าร่วมโครงการ จํานวน 17 ผลิตภัณฑ์ และชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถี จํานวน 2 ชุมชนจึงขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนชาวจังหวัดเลย อุดหนุนสินค้า OTOP และชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถี ผ่านแพลตฟอร์ม “Click ชุมชน” เพื่อรับสิทธิพิเศษในโครงการ “ลด OTOP สูงสุด 50% ผ่าน Click ชุมชน” ตั้งแต่บัดนี้ถึงวันที่ 31 มีนาคม 2566#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
15/2/2023
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
เลย
สวท.เลย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230215164615459
null
เตือนผู้ประกอบการและประชาชนอย่าหลงเชื่อ มิจฉาชีพแอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ หลอกลวง หรือรีดไถเงิน
นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมสรรพสามิต เปิดเผยว่า ขณะนี้มีกลุ่มมิจฉาชีพ หลอกหลวงประชาชนในหลากหลายรูปแบบเพิ่มเป็นจํานวนมาก โดยเฉพาะในหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการจัดเก็บภาษี จึงได้มอบนโนบายให้เจ้าหน้าที่กรมสรรพสามิต ช่วยกันเฝ้าระวังและให้ข้อมูลกับประชาชนเพื่อไม่ให้ตกเป็นเหยื่อมิจฉาชีพ หากผู้ประกอบการ หรือประชาชน ได้รับการแอบอ้างจากมิจฉาชีพว่าเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ เข้าจับกุมตรวจค้นในการปฏิบัติงาน เจ้าหน้าที่ต้องแสดงตัวโดยต้องแต่งเครื่องแบบกรมสรรพสามิต พร้อมแสดงบัตรข้าราชการในขณะปฏิบัติหน้าที่และดําเนินการตามขั้นตอนของระเบียบการตรวจค้นทุกประการ และเมื่อจับกุมแล้วต้องทําบันทึกจับกุม สําหรับประเด็นการเปรียบเทียบปรับ สามารถไปดําเนินการเปรียบเทียบคดีนอกสถานที่ตั้งปกติของสํานักงานได้ โดยใช้สถานที่ของหน่วยงานราชการอื่นแทน ส่วนการหลอกลวงทางโทรศัพท์ ให้ Add line หรือผ่านทางช่องทางออนไลน์ใดๆ ขอให้ประชาชนระมัดระวัง โดยสามารถตรวจสอบกลับมาที่สํานักงานสรรพสามิตภาค หรือพื้นที่ หรือกรมสรรพสามิต เพื่อความปลอดภัย ทั้งนี้ การชําระภาษีสรรพสามิต สามารถเลือกชําระได้หลายรูปแบบ อาทิ การชําระเงินด้วยบัตรเดบิต เครดิต QR Code Internet Banking ย้ําว่าก่อนการโอนเงินหรือทําธุรกรรมการเงินทุกครั้ง ขอให้ตรวจสอบให้แน่ใจ เพื่อไม่ให้เป็นช่องทางของมิจฉาชีพในการรีดไถ รวมถึงการเก็บหลักฐานต่างๆ ไว้เผื่อกรณีที่อาจเกิดปัญหาตามมา
15/2/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230215191832543
null
สำนักงานพาณิชย์จังหวัดสมุทรสงคราม จัดโครงการพาณิชย์ลดราคา ออนทัวร์ ทั่วไทย พร้อมนำสินค้าอุปโภค บริโภค มาจำหน่ายให้กับประชาชน เพื่อลดภาระค่าครองชีพ เพิ่มช่องทางให้กับผู้ประกอบการ
วันนี้ (15 กุมภาพันธ์ 2566) ที่สนามหน้าศาลากลางจังหวัดสมุทรสงคราม นายกรกฎ วงษ์สุวรรณ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสงคราม เป็นประธาน เปิดโครงการ “พาณิชย์..ลดราคา ออนทัวร์ ทั่วไทย” จังหวัดสมุทรสงคราม ครั้งที่ 1 ซึ่งสํานักงานพาณิชย์จังหวัดสมุทรสงคราม จัดขึ้นระหว่างวันที่ 15 -17 กุมภาพันธ์ 2566 ในรูปแบบคูหาจําหน่ายสินค้า มีสินค้าอุปโภค บริโภค อาทิ ไข่ไก่ เนื้อหมู ไก่ ในราคาถูก ให้กับประชาชนได้เลือกซื้อไว้ใช้จ่ายนายกรกฎ วงษ์สุวรรณ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสงคราม กล่าวว่า จากสถานการณ์เศรษฐกิจในปัจจุบันที่มีภาวะเงินเฟ้อปรับสูงขึ้น เกิดความผันผวนทางการเงิน สินค้ากลุ่มพลังงานโดยเฉพาะน้ํามันเชื้อเพลิงปรับตัวสูงขึ้น ตามกลไกราคาตลาดโลก ส่งให้ต้นทุนการผลิตต่าง ๆ สูงขึ้นทั้งการขนส่งบรรจุภัณฑ์และวัตถุดิบ ทําให้ราคาอาหาร ราคาสินค้าอุปโภคบริโภคปรับตัวสูงขึ้นมาอย่างต่อเนื่องจากสถานการณ์ดังกล่าว ส่งผลกระทบโดยตรงต่อค่าครองชีพและชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน รัฐบาลได้ตระหนักถึงปัญหาดังกล่าว ซึ่งการดําเนินโครงการนี้เป็นประโยชน์ต่อประชาชนในการช่วยบรรเทาความเดือดร้อนลดภาระค่าครองชีพช่วยเพิ่มช่องทางการจําหน่ายสินค้าเสริมสร้างศักยภาพให้แก่ผู้ประกอบการและกลุ่มเกษตรของจังหวัดสมุทรสงครามอย่างไรก็ตาม สําหรับครั้งต่อไป ซึ่งเป็นครั้งที่ 2 วันที่ 28 กุมภาพันธ์-ถึงวันที่ 2 มีนาคม 2566 ณ บริเวณพื้นที่อําเภอบางคนที จังหวัดสมุทรสงคราม รุ่งนภา/ข่าว/วุฒิชัย/ภาพ/ธิติมา/เรียบเรียงทีมงานสํานักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสมุทรสงคราม#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
15/2/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
สมุทรสงคราม
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสมุทรสงคราม
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230215170419473
null
สำนักงานพาณิชย์จังหวัดสมุทรสงคราม จัดโครงการพาณิชย์ลดราคา ออนทัวร์ ทั่วไทย พร้อมนำสินค้าอุปโภค บริโภค มาจำหน่ายให้กับประชาชน เพื่อลดภาระค่าครองชีพ เพิ่มช่องทางให้กับผู้ประกอบการ
วันนี้ (15 กุมภาพันธ์ 2566) ที่สนามหน้าศาลากลางจังหวัดสมุทรสงคราม นายกรกฎ วงษ์สุวรรณ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสงคราม เป็นประธาน เปิดโครงการ “พาณิชย์..ลดราคา ออนทัวร์ ทั่วไทย” จังหวัดสมุทรสงคราม ครั้งที่ 1 ซึ่งสํานักงานพาณิชย์จังหวัดสมุทรสงคราม จัดขึ้นระหว่างวันที่ 15 -17 กุมภาพันธ์ 2566 ในรูปแบบคูหาจําหน่ายสินค้า มีสินค้าอุปโภค บริโภค อาทิ ไข่ไก่ เนื้อหมู ไก่ ในราคาถูก ให้กับประชาชนได้เลือกซื้อไว้ใช้จ่าย นายกรกฎ วงษ์สุวรรณ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสงคราม กล่าวว่า จากสถานการณ์เศรษฐกิจในปัจจุบันที่มีภาวะเงินเฟ้อปรับสูงขึ้น เกิดความผันผวนทางการเงิน สินค้ากลุ่มพลังงานโดยเฉพาะน้ํามันเชื้อเพลิงปรับตัวสูงขึ้น ตามกลไกราคาตลาดโลก ส่งให้ต้นทุนการผลิตต่าง ๆ สูงขึ้นทั้งการขนส่งบรรจุภัณฑ์และวัตถุดิบ ทําให้ราคาอาหารราคาสินค้าอุปโภคบริโภคปรับตัวสูงขึ้นมาอย่างต่อเนื่องจากสถานการณ์ดังกล่าว ส่งผลกระทบโดยตรงต่อค่าครองชีพและชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน รัฐบาลได้ตระหนึกถึงปัญหาดังกล่าว ซึ่งการดําเนินโครงการนี้เป็นประโยชน์ต่อประชาชนในการช่วยบรรเทาความเดือดร้อนลดภาระค่าครองชีพช่วยเพิ่มช่องทางการจําหน่ายสินค้าเสริมสร้างศักยภาพให้แก่ผู้ประกอบการและกลุ่มเกษตรของจังหวัดสมุทรสงคราม อย่างไรก็ตาม สําหรับครั้งต่อไป ซึ่งเป็นครั้งที่ 2 วันที่ 28 กุมภาพันธ์-ถึงวันที่ 2 มีนาคม 2566 ณ บริเวณพื้นที่อําเภอบางคนที จังหวัดสมุทรสงคราม รุ่งนภา/ข่าว/วุฒิชัย/ภาพ/ธิติมา/เรียบเรียง ทีมงานสํานักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสมุทรสงคราม#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
15/2/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
สมุทรสงคราม
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสมุทรสงคราม
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230215170728474
null
พาณิชย์จังหวัดระนองจัดโครงการพาณิชย์ ลดราคา! ออนทัวร์ ทั่วไทย ครั้งที่ 2
วันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2566 เวลา 16.30 น. ณ บริเวณตลาดนัดประชารัฐกะเปอร์ ตําบลกะเปอร์ อําเภอกะเปอร์ จังหวัดระนอง ว่าที่ร้อยตรี กิตติภพ รอดดอน ปลัดจังหวัดระนอง เป็นประธานเปิดงาน "โครงการพาณิชย์...ลดราคา! ออนทัวร์ ทั่วไทย(จังหวัดระนอง) ครั้งที่ 2 โดยมี พาณิชย์จังหวัดระนอง หัวหน้าส่วนราชการ นายกองค์การบริหารส่วนตําบลกะเปอร์ ผู้ประกอบการ และประชาชนชาวอําเภอกะเปอร์มาร่วมงานเป็นจํานวนมากซึ่งได้จัดขึ้นในวันนี้ (ครั้งที่ 1) ได้จัดไปแล้วในระหว่างวันที่ 8-10 กุมภาพันธ์ 2566 ณ บริเวณลานเอนกประสงค์หน้าเทศบาลเมืองระนอง อําเภอเมืองระนอง จังหวัดระนอง ซึ่งโดยสภาพทางเศรษฐกิจโดยรวมของจังหวัดระนองขึ้นกับภาคการประมงเป็นสําคัญ รวมถึงอุตสาหกรรมที่เกี่ยวเนื่องกับการประมงด้วย รองลงมาคือการเพาะปลูกพืช เช่น ผลไม้ ยางพารา และปาล์มน้ํามัน โดยต่างประสบปัญหาความผันผวนของราคาที่ขึ้นอยู่กับปัจจัยภายนอกประเทศเป็นสําคัญ ส่งผลต่อเนื่องมาถึงรายได้ของประชาชนที่ขึ้นลงตามปัจจัยภายนอกประเทศ ด้วย จังหวัดระนองมีรายได้เฉลี่ยต่อคนต่อปี 83,881.29 บาท/คน ในส่วนของอําเภอกะเปอร์มีสภาพเศรษฐกิจส่วนใหญ่ขึ้นอยู่กับการเพาะปลูกพืช ส่งผลให้ประชาชนของทุกอําเภอในจังหวัดระนอง และมีรายจ่ายเฉลี่ยต่อคนต่อปี 48,860.08 บาท/คน/ปี ดังนั้น การลดภาระค่าครองชีพให้แก่ประชาชนและ กระตุ้นเศรษฐกิจให้เกิดการหมุนเวียนทางเศรษฐกิจเพิ่มขึ้น จึงมีความสําคัญมาก ซึ่งการจัดกิจกรรมการจําหน่ายสินค้าที่จําเป็นต่อการครองชีพ ภายใต้กิจกรรมโครงการพาณิชย์...ลดราคา! ออนทัวร์ ทั่วไทย (จังหวัดระนอง) ครั้งที่ 2 ในระหว่างวันที่ 15-17 กุมภาพันธ์ 2566 จะเป็นเครื่องมือสําคัญในการช่วยบรรเทาปัญหาดังกล่าวทั้งนี้ การจัดกิจกรรมภายในงานมีการจําหน่ายสินค้าที่จําเป็นต่อการครองชีพในราคาประหยัด จํานวน 100 คูหา และสินค้าส่งเสริมการขายในราคาพิเศษ อาทิเช่น หมูเนื้อแดงกิโลกรัมละ 150 บาท เนื้อไก่น่องติดสะโพก กิโลกรัมละ 60 บาท ไข่ไก่เบอร์ Mหรือเบอร์ 2-3 แผงละ ๙๐ บาท น้ําตาลทราย1กิโลกรัม ถุงละ 18 บาท น้ํามันพืชปาล์ม ขวดขนาด 1 ลิตร ขวดละ 45 บาท ข้าวสารขนาดถุง 5 กิโลกรัม ข้าวหอมถุงละ 110 บาท และ ข้าวขาว 5% ถุงละ 80 บาท ส.ปชส.ระนอง/ภาพ/ข่าว
15/2/2023
ภาคใต้
ระนอง
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดระนอง
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230215222943600
null
อบต.ท่าข้าม จับมือ อบจ.สงขลา และอุทยานวิทยาศาสตร์ มอ. แถลงข่าวการจัดกิจกรรม “ท่าข้ามเทรล” ครั้งที่ 1 ยกระดับคุณภาพการท่องเที่ยวเชิงกีฬา
วันนี้ (15 ก.พ.66) ที่ ห้องประชุมบ้านท่าข้าม องค์การบริหารส่วนตําบลท่าข้าม อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา จัดงานแถลงข่าวกิจกรรม “ท่าข้ามเทรล” ตะลุยทุ่งนา ฝ่าเนินเขา วิ่งนี้เพื่อน้อง เพื่อผู้ด้วยโอกาสและเพื่อสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืน โดยมีนายสุรสิทธิ์ ศรีอินทร์ รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา ผศ.คํารณ พิทักษ์ ผู้อํานวยการอุทยานวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลับสงขลานครินทร์ และ ดร.สินธพ อินทรัตน์ นายกองค์การบริหารส่วนตําบลท่าข้าม ร่วมในการแถลงข่าวครั้งนี้นายกองค์การบริหารส่วนตําบลท่าข้าม กล่าวว่า กิจกรรมแข่งขันวิ่งเทรลข้ามทุ่ง “ท่าข้ามเทรล” เป็นกิจกรรมแนวผจญภัยในเส้นทางธรรมชาติ ส่งเสริมให้ประชาชนใช้กิจกรรมวิ่งตามภูมิประเทศ ผู้เข้าแข่งจะได้วิ่งผ่านบบรรยากาศทุ่งนา ภูเขา และเส้นทางชุมชน ที่มีภูมิทัศน์สวยงาม มีความท้าทายไม่ยากจนเกินไป โดยการจัดกิจจกรมครั้งนี้ เพื่อยกระดับยคุณภาพการท่องเที่ยวเชิงกีฬาและส่งเสริมให้มีกิจกรรมการท่องเที่ยวเชิงกีฬาในพื้นที่ จ.สงขลา รณรงค์ให้ประชาชนใส่ใจสุขภาพ และยังเป้นการกระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่อีกด้วยสําหรับเส้นทางการวิ่ง มี 4 ระยะ ได้แก่ 22 กม. 13 กม. 7 กม. และ 4 กม. มีการแบ่งรุ่นอายุผู้เข้าร่วมแข่งขันและมีเงินรางวัลให้ผู้เข้าเส้นลําดับที่ 1-5 ของแต่ละรุ่นอายุ โดยกิจกรรมจัดในวันที่ 5 มีนาคม 2566 ตั้งแต่เวลา 05.00 น.เป็นต้นไป ที่ องค์การบริหารส่วนตําบลท่าข้าม อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ผู้สนใจสามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เฟสบุ๊กแฟนเพจ Thakham rail ท่าข้ามเทรล หรือโทร 065-9266532 หรือ 062-6972823#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
15/2/2023
ภาคใต้
สงขลา
สวท.สงขลา
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230215224654603
null
พาณิชย์จังหวัดนครพนม ร่วมกิจกรรม "กินข้าว กับผู้ว่าฯ ปรับทุกข์ ผูกมิตร" ประจำปี 2566
วันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2566 นางจุฑารัตน์ ศรีโมรา พาณิชย์จังหวัดนครพนม พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ร่วมกิจกรรม “กินข้าว กับผู้ว่าฯ ปรับทุกข์ ผูกมิตร” ประจําปี 2566 เวลา 07.00 น. ณ บริเวณจวนผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม อําเภอเมืองนครพนม จังหวัดนครพนม โดยมีกลุ่มเป้าหมาย ประกอบด้วยผู้ยากไร้ ด้อยโอกาส คนพิการและผู้สูงอายุที่พักอาศัยอยู่ในชุมชนในเขตเทศบาลเมืองนครพนม จํานวน 150 คน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการสร้างขวัญกําลังใจให้กลุ่มเป้าหมายได้มีโอกาส พบปะ พูดคุย กับท่านผู้ว่าราชการ ในการนําความต้องการของกลุ่มเป้าหมายไปใช้เป็นแนวทางในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนในจังหวัดนครพนมให้ดียิ่งขึ้น ในการจัดกิจกรรมดังกล่าว มีส่วนราชการร่วมนําอาหารเช้า ขนม ฯลฯ เพื่อให้ผู้เข้าร่วมกิจกรรม ได้ร่วมรับประทาน โดยมีนายวันชัย จันทร์พร ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม เป็นประธาน นางจุฑารัตน์ ศรีโมรา พาณิชย์จังหวัดนครพนม ได้สนับสนุนขนมเปียกปูน จํานวน 100 ชุด เพื่อร่วมในกิจกรรมครั้งนี้#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
15/2/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สวท.นครพนม
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230216092457684
null
นายอำเภอแก้งสนามนางเปิดจุดเช็คอินใหม่ที่ป่าจาน พร้อมชมดอกจานบานในป่ากว่า100ไร่
วันนี้ (15 กุมภาพันธ์ 2566) เวลา 09.00 น. ที่ป่าจานเฉลิมพระเกียรติบ้านหินลาด หมู่6 ตําบลโนนสําราญ นายวีระศิลป์ ทินราช นายอําเภอแก้งสนามนาง เปิดแหล่งท่องเที่ยวป่าจานเฉลิมพระเกียรติ ครั้งที่16 ประจําปี2566 ร่วมกับนายวิโรจน์ ปัดชา นายกองค์การบริการส่วนตําบลโนนสําราญ นายทองใบ จําปาหล้า กํานันตําบลโนนสําราญ และผู้ใหญ่บ้านตําบลโนนสําราญ ซึ่งขณะนี้เป็นช่วงฤดูดอกจานบาน เชิญชวนผู้สนใจไปเที่ยวชมทุ่งป่าจาน ไปสัมผัสความงามของดอกจานสีแสด สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ที่ทําการปกครองอําเภอแก้งสนามนาง โทร 0 4433 9088, ศูนย์ประสานงาน อบจ.นครราชสีมา เขตอําเภอแก้งสนามนาง โทร. 0 4433 9034#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
15/2/2023
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
นครราชสีมา
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนครราชสีมา
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230216001133641
null
พาณิชย์จังหวัดระนองนำ100 ร้านค้าร่วมโครงการพาณิชย์ ลดราคา! ออนทัวร์ ทั่วไทย ครั้งที่ 2 ลดภาระค่าครองชีพให้แก่ประชาชนอำเภอกะเปอร์และพื้นที่อำเภอใกล้เคียง
วันนี้ (15 กุมภาพันธ์ 2566) เวลา 16.30 น. ว่าที่ร้อยตรี กิตติภพ รอดดอน ปลัดจังหวัดระนอง เป็นประธานเปิดงาน "โครงการพาณิชย์...ลดราคา! ออนทัวร์ ทั่วไทย(จังหวัดระนอง) ครั้งที่ 2 ณ บริเวณตลาดนัดประชารัฐกะเปอร์ ตําบลกะเปอร์ อําเภอกะเปอร์ จังหวัดระนอง โดยมี นางสาวอลเวง ศรีหิรัญ พาณิชย์จังหวัดระนอง หัวหน้าส่วนราชการ นายกองค์การบริหารส่วนตําบลกะเปอร์ ผู้ประกอบการ และประชาชนชาวอําเภอกะเปอร์ อําเภอใกล้เคียงมาร่วมงานเป็นจํานวนมากเนื่องจากสภาพเศรษฐกิจในปัจจุบันที่เกิดภาวะเงินเฟ้อสูงขึ้น เกิดความผันผวนทางการเงิน สินค้ากลุ่มพลังงานปรับตัวสูงขึ้นตามกลไกราคาในตลาดโลก ซึ่งเป็นต้นทุนการผลิตต่าง ๆ ทั้งการขนส่งบรรจุภัณฑ์ วัตถุดิบ ทําให้ราคาอาหาร ราคาสินค้าปรับตัวสูงขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งสินค้าที่จําเป็นต่อการครองชีพ เช่น เนื้อหมู เนื้อไก่ ไข่ไก่ น้ําตาลทราย และน้ํามันพืช ทําให้ส่งผลกระทบต่อผู้บริโภคเป็นลูกโซ่ การดูแลปากท้องของประซาชนจึงเป็นสิ่งที่มีความจําเป็นเร่งด่วน โดยเฉพาะการลดภาระค่าครองชีพให้แก่ประชาชนจากสถานการณ์ปัจจุบัน รวมทั้งเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนและเพิ่มซ่องทางการจําหน่ายสินค้าให้แก่ผู้ประกอบการและเกษตรกร เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจให้เกิดการหมุนเวียนทางเศรษฐกิจเพิ่มขึ้น การจัดกิจกรรมการจําหน่ายสินค้าที่จําเป็นต่อการครองชีพ ภายใต้กิจกรรมโครงการพาณิชย์...ลดราคา! ออนทัวร์ ทั่วไทย (จังหวัดระนอง) จะเป็นเครื่องมือสําคัญในการลดภาระค่ครองชีพให้แก่ประชาชนจากสถานการณ์ในปัจจุบัน บรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน และกระตุ้นให้เกิดการขยายตัวทางเศรษฐกิจของจังหวัดระนองในลําดับถัดไปภายในงานมีการจําหน่ายสินค้าที่จําเป็นต่อการครองชีพในราคาประหยัด สินค้าอาหารเด่น/ OTOP/SMES ของจังหวัดระนอง และสินค้า OTOP/SME ที่มีศักยภาพและมีโอกาสทางการตลาดจากจังหวัดต่าง ๆ เพื่อเป็นการเสริมสร้างรายได้ให้ประกอบการ และเปิดโอกาสให้ผู้บริโภคใด้เลือกซื้อสินค้าที่จําเป็นต่อการครองชีพในราคาประหยัด จํานวน 100 ร้านค้า และสินค้าส่งเสริมการขายในราคาพิเศษ อาทิเช่น หมูเนื้อแดง กิโลกรัมละ 150 บาท เนื้อไก่น่องติดสะโพก กิโลกรัมละ 60 บาท ไข่ไก่เบอร์ M หรือเบอร์ 2-3 แผงขนาด 30 ฟอง แผงละ 90 บาท น้ําตาลทรายถุงละ 1 กิโลกรัม ถุงละ 18 บาท น้ํามันพืชปาล์มชวดขนาด 1 ลิตร ขวดละ 45 บาท ข้าวสารขนาดถุง 5 กิโลกรัม ข้าวหอมถุงละ 110 บาท และข้าวขาว 5% ถุงละ 80 บาทโดยสํานักงานพาณิชย์จังหวัดระนอง ได้จัดโครงการพาณิชย์ ลดราคา! ออนทัวร์ ทั่วไทย ครั้งที่ 1 เมื่อวันที่ 8-10 กุมภาพันธ์ 2566 ณ บริเวณ ลานเอนกประสงค์หน้าเทศบาลเมืองระนอง ถนนเพิ่มผล อําเภอเมืองระนอง จังหวัดระนอง สําหรับครั้งที่ 2 จัดระหว่างวันที่ 15 – 17 กุมภาพันธ์ 2566 ณ บริเวณตลาดนัดประชารัฐกะเปอร์ ตําบลกะเปอร์ อําเภอกะเปอร์ จังหวัดระนอง ได้รับการตอบจากประชาชน มีผู้สนใจเข้าร่วมงานเป็นจํานวนมาก#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
15/2/2023
ภาคใต้
ระนอง
สวท.ระนอง
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230215231316614
null
เฮง เฮง เฮง OTOP ของดีเมืองสองนาง ในงานสืบสานประเพณีบุญข้าวจี่ อำเภอเสนางคนิคม ประจำปี 2566
วันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2566 นายธานี สีวัง พัฒนาการอําเภอเสนางคนิคม มอบหมายให้ นางสาวพรรณฑิตรา การะเนตร นักวิชาการพัฒนาชุมชนปฏิบัติการ นําทีมเครือข่าย OTOP อําเภอเสนางคนิคม ร่วมจัดแสดง/จําหน่าย สินค้า OTOP ในงานสืบสานประเพณีบุญข้าวจี่ อําเภอเสนางคนิคม ประจําปี 2566 ณ บริเวณตลาดสดเทศบาลตําบลเสนางคนิคม อําเภอเสนางคนิคม จังหวัดอํานาจเจริญโดยมีกลุ่มที่เข้าร่วมกิจกรรม อาทิเช่น กลุ่มทอผ้าลายขิดภูไทนาสะอาด นางวันเพ็ญ ศรประสิทธิ์ กลุ่มทอผ้าบ้านเนินกุง นางสงวน นาเวียง เครือข่ายโคกหนองนา อําเภอเสนางคนิคม กลุ่มวิสาหกิจชุมชนแปรูปผลผลิตทางการเกษตรตําบลหนองสามสี กลุ่มแสงอรุณ (ข้าวก่ํา ข้าวเหนียวดํา ข้าวกล้อง) เห็มสุขออร์แกนิก เป็นต้น#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
15/2/2023
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
อำนาจเจริญ
สวท.อำนาจเจริญ
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230216093618696
null
กระทรวงพาณิชย์ เดินหน้าเจรจาจัดทำความตกลงการค้าเสรี ระหว่างไทยกับสหภาพยุโรป เพิ่มสัดส่วนการค้า
นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยถึงความคืบหน้าการเจรจา FTA ไทย-สหภาพยุโรป หลังจากที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ผ่านความเห็นชอบให้กระทรวงพาณิชย์ เข้าร่วมเจรจาจัดทําความตกลงการค้าเสรี (FTA) ระหว่างไทยกับสหภาพยุโรป และกรอบการเจรจา FTA ไทย –สหภาพยุโรป ว่า หลังจากนี้กระทรวงพาณิชย์จะเริ่มเจรจา โดยแจ้งให้รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีการกระทรวงพาณิชย์ของอียู หรือสหภาพยุโรปรับทราบ เพื่อดําเนินการขอความเห็นชอบจากประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป 27 ประเทศ คาดว่าจะใช้ระยะเวลาประมาณ 1-2 ปีหลังจากนี้ ในการจัดทํา FTA เมื่อได้ผลสรุปจากการเจรจาแล้วจะมีการนําเสนอต่อรัฐสภา เพื่อขอความเห็นชอบให้ประเทศไทย ไปให้สัตยาบันผลการเจรจาจึงจะมีผลบังคับใช้ ถือเป็นผลสําเร็จของรัฐบาลไทยที่ให้ความสําคัญต่อการจัดทํา FTA ตามนโยบายเพิ่มสัดส่วนการค้าเพิ่มขึ้น ร้อยละ 80 ภายในปี 2570 การจัดทํา FTA จะช่วยให้ผู้ประกอบการไทยได้แต้มต่อจากประเทศคู่ค้า FTA ไม่ว่าจะเป็นการยกเว้นการจัดเก็บภาษี ศุลกากรกับสินค้าที่นําเข้าจากไทย อีกทั้งยังเป็นการดึงดูดการลงทุน สร้างงาน สร้างรายได้ในประเทศไทยเพิ่มขึ้น ผลักดันให้ GDP ของไทยขยายตัวร้อยละ 1.28 ทั้งนี้ เนื่องจากสหภาพยุโรปมีประเทศสมาชิกถึง 27 ประเทศ ไทยมีสัดส่วนการค้ากับสหภาพยุโรปร้อยละ 7 จากการค้าทั่วโลก ถือเป็นกลุ่มประเทศที่มีความสําคัญด้านการค้าการลงทุนของไทยอย่างไรก็ตาม ปัจจุบันไทยมีการจัดทํา FTA 14 ฉบับ ใน 18 ประเทศคู่ค้า ประกอบด้วย สมาชิกกลุ่มอาเซียน 9 ประเทศ จีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ อินเดีย เปรู ชิลี และฮ่องกง รวมมูลค่าการค้าในปี 2565 ที่ผ่านมาถึง 12.55 ล้านล้านบาท หรือประมาณ 359,000 ล้านสหรัฐฯ คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 61 ของการค้าทั้งหมดทั่วโลกกับไทย
16/2/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230216105903730
null
ทีมผู้นำนักขับเคลื่อนยุทธศาสตร์นำการเปลี่ยนแปลง ลงพื้นที่เยี่ยมให้กำลังใจกลุ่มอาชีพบ้านทุ่งม่านเหนือ อ.เมืองลำปาง
นายธนารัฐ สายเทพ นายอําเภอเมืองลําปาง พร้อมด้วยทีมผู้นํานักขับเคลื่อนยุทธศาสตร์นําการเปลี่ยนแปลง ภายใต้โครงการอําเภอบําบัดทุกข์ บํารุงสุข แบบบูรณาการอย่างยั่งยืนอําเภอเมืองลําปาง ลงพื้นที่เยี่ยมเยียนให้กําลังใจกลุ่มผู้ผลิต ผู้ประกอบการ OTOP ข้าวแต๋นน้ําแตงโมบุญทวี และวิสาหกิจชุมชนกลุ่มเกษตรกรบ้านทุ่งม่านเหนือ หมู่ที่ 2 ตําบลบ้านเป้า อําเภอเมือง จังหวัดลําปาง โดยมีประธานกลุ่มฯ ได้พาเยี่ยมชม นําเสนอผลการดําเนินงานของกลุ่ม แนะนําผลิตภัณฑ์ ตลอดจนช่องทางการจําหน่ายของกลุ่ม ที่ทําให้กลุ่มมีรายได้ สามารถสร้างงานและสร้างรายได้ให้แก่สมาชิกกลุ่มทั้งนี้ นางนงค์รัก พรมฟอง พัฒนาการอําเภอเมืองลําปาง พร้อมด้วยทีมงานสํานักงานพัฒนาชุมชนอําเภอเมืองลําปาง ได้ลงพื้นที่รายงานการส่งเสริมสนับสนุนและพัฒนากลุ่มอาชีพฯ ให้แก่ทีมผู้นําฯ ทราบ เพื่อวางแผนในการช่วยเหลือ บําบัดทุกข์ บํารุงสุข ในพื้นที่อําเภอเมืองลําปางต่อไป#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
16/2/2023
ภาคเหนือ
ลำปาง
สวท.ลำปาง
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230216094639704
null
พาณิชย์จังหวัดเพชรบุรี ลงพื้นที่ตรวจสอบกระบวนการผลิตและจำหน่ายสินค้า GI ชมพู่เพชร ที่ต้องการขอใช้ตรา GI "ชมพู่เพชร" ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566
สํานักงานพาณิชย์จังหวัดเพชรบุรี โดยกลุ่มส่งเสริมการประกอบธุรกิจการค้าและการตลาด ร่วมกับคณะทํางานควบคุมตรวจสอบกระบวนการผลิตและจําหน่ายสินค้า" GI ชมพู่เพชร" ได้แก่ สํานักงานเกษตรจังหวัด สํานักงานเกษตรและสหกรณ์จังหวัด สํานักงานสหกรณ์จังหวัด สํานักงานศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตร องค์การบริหารส่วนตําบลบ้านกุ่มและท่าแร้ง มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรี ลงพื้นที่ควบคุมตรวจสอบกระบวนการผลิตและจําหน่ายของเกษตรกร และผู้ประกอบการชมพู่เพชรสายรุ้ง ที่ต้องการขอใช้ตรา GI "ชมพู่เพชร" ประจําปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ณ ตําบลหนองโสน อําเภอเมือง 14 ราย ตําบลหนองจอก อําเภอท่ายาง 3 ราย ตําบลนายาง อําเภอชะอํา 1 ราย โดยมีเกษตรกรและผู้ประกอบการเข้าร่วมประเมินทั้งสิ้น 18 ราย โดยผลการควบคุมตรวจสอบเกษตรกรและผู้ประกอบการได้ผ่านการประเมิน ทั้ง 18 รายสวท.เพชรบุรี#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
16/2/2023
ภาคตะวันตก
เพชรบุรี
สวท.เพชรบุรี
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230216104949722
null
ธ.ก.ส. ปรับขึ้นดอกเบี้ยเงินฝากสูงสุดร้อยละ 0.52 ต่อปี สนับสนุนการออมให้ลูกค้าได้รับผลตอบแทนที่เพิ่มขึ้น
นายธนารัตน์ งามวลัยรัตน์ ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่า ตามที่คณะกรรมการนโยบายการเงิน มีมติให้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายร้อยละ 0.25 ต่อปี จากเดิมที่ร้อยละ 1.25 มาอยู่ที่ร้อยละ 1.50 ต่อปีในปัจจุบัน ตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทย ทั้งด้านการอุปโภค บริโภคและการท่องเที่ยว ซึ่ง ธ.ก.ส. ในฐานะสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐที่มีบทบาทในการดูแลภาคการเกษตรและการพัฒนาระบบเศรษฐกิจฐานรากของประเทศให้มีความเข้มแข็ง ได้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินฝากสูงสุดร้อยละ 0.52 ต่อปี เพื่อสนับสนุนการออมและทําให้ผู้ฝากได้รับผลตอบแทนที่เพิ่มขึ้นตามทิศทางอัตราดอกเบี้ยในตลาด โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2566 เป็นต้นไป
16/2/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230216105201724
null
พาณิชย์จังหวัดสิงห์บุรีเปิดจุดจำหน่ายสินค้าเกษตรและชุมชนเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจชุมชน
นางสาวจรรยวรรธน์ อ้วนตา พาณิชย์จังหวัดสิงห์บุรี พร้อม ข้าราชการ และเจ้าหน้าที่สํานักงานพาณิชย์จังหวัดสิงห์บุรี จัดจุดจําหน่ายสินค้าเกษตรและชุมชนโครงการร่วมค้าเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจชุมชนปี 2566 ในพื้นที่และนอกพื้นที่จังหวัดสิงห์บุรี บริเวณข้างเสาธงสนามหญ้าหน้าศาลากลางจังหวัดสิงห์บุรี (ฝั่งพระบรมราชาอนุสาวรีย์รัชกาลที่ 5) ตั้งแต่เวลา 08.00 น. ระหว่างวันที่ 16 -17 กุมภาพันธ์ 2566 โดยมีข้าราชการ และประชาชนจังหวัดสิงห์บุรี มาเดินเลือกซื้อสินค้า สินค้าเกษตร สินค้าเกษตรแปรรูป ไข่ไก่อารมณ์ดี (จากฟาร์มหนองลาด) ผักสดปลอดภัย ส้มโอทับทิมสยาม น้ําพริก ลูกชิ้นปิ้ง ขนมจีนน้ํายา และอื่นๆ เลือกซื้อกุ้งก้ามกรามสด กุ้งขาว จากเกษตรกรจังหวัดสุพรรรณบุรีมาจําหน่ายโดยตรง เพื่อเชื่อมโยง-เพิ่มช่องทาง การจําหน่ายสินค้าจากเกษตรกรถึงผู้บริโภคโดยตรงราคาไม่แพง สร้างรายได้ให้เกษตรกรและช่วยลดค่าครองชีพของประชาชน ขอเชิญประชาชนมาเดินเลือกซื้อสินค้าเกษตรกรและชุมชน มีโปรโมชั่นนาทีทอง ส่งเสริมการขายในราคาไม่แพง ช่วยส่งเสริมการขายให้เกษตรกรและพ่อค้าแม่ค้าอีกด้วย#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
16/2/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
สิงห์บุรี
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสิงห์บุรี
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230216112201739
null
SME D Bank ขยายช่องทางให้บริการผ่านแอปพลิเคชันเป๋าตัง นำร่องเฟสแรก เดือน มี.ค.นี้ ตอบโจทย์ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีให้เข้าถึงบริการได้ง่ายขึ้น
นางสาวนารถนารี รัฐปัตย์ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย หรือ SME D Bank เปิดเผยว่า SME D Bank ร่วมกับ ธนาคารกรุงไทย เปิดให้บริการระบบของ SME D Bank ในแอปพลิเคชันเป๋าตัง โดยเป็นบริการเพิ่มเติมควบคู่กับช่องทางประจําต่าง ๆ ที่ธนาคารมีอยู่แล้ว โดยจะเริ่มเปิดให้บริการระยะแรก ตั้งแต่ช่วงต้นเดือนมีนาคมนี้ เป็นต้นไป อาทิ บริการเรียกดูรายการชําระสินเชื่อย้อนหลัง บริการชําระค่างวดสินเชื่อ และบริการข้อมูลข่าวสารผลิตภัณฑ์สินเชื่อ และงานพัฒนาจาก SME D Bank ช่วยให้ผู้ประกอบการเข้าถึงบริการความรู้คู่เงินทุน และในอนาคต จะขยายบริการใหม่ ๆ เพิ่มเติมอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ SME D Bank เป็นสถาบันการเงินแห่งแรก นอกเหนือจากธนาคารกรุงไทยที่ให้บริการผ่านแอปพลิเคชันเป๋าตัง สร้างประโยชน์ให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีเข้าถึงบริการด้านการเงินและการพัฒนาของ SME D Bank ได้ง่าย สะดวกรวดเร็ว สนับสนุนให้ธุรกิจเพิ่มประสิทธิภาพ คว้าโอกาสเติบโตเต็มศักยภาพจากกําลังซื้อภายในประเทศและเศรษฐกิจไทยที่ฟื้นตัว
16/2/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230216133601811
null
อุทยานแห่งชาติตะรุเตา จังหวัดสตูล เผยสถิตินักท่องเที่ยว 5 วัน (9-13 ก.พ.66) ชาวไทยและต่างชาตินับ 10,000 คนเดินทางมาท่องเที่ยวในพื้นที่เกิดรายได้กว่า 700,000 บาท
วันนี้ (16 ก.พ.66) นายมงคล แดงกัน นักวิชาการป่าไม้ชํานาญการ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติตะรุเตา เปิดเผยว่า ช่วงระยะเวลานี้เป็นฤดูกาลการท่องเที่ยวทางทะเลของจังหวัดสตูล (15 ต.ค. – 15 พ.ค.ของทุกปี) ทําให้มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาท่องเที่ยวอย่างต่อเนื่อง โดยสถิตินักท่องเที่ยวและเงินรายได้ที่อุทยานแห่งชาติตะรุเตาจัดเก็บได้ระหว่างวันที่ 9 - 13 กุมภาพันธ์ 2566 รวม 5 วัน มีนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างชาติที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวราว 10,000 คน รวมเงินรายได้ทั้งหมดกว่า 700,000 บาท สําหรับอัตราค่าบริการเข้าอุทยานแห่งชาติทั่วประเทศ โดยอุทยานแห่งชาติตะรุเตา อยู่ในกลุ่มที่ 2 มีอัตราค่าบริการ ดังนี้ ชาวไทย เด็ก 20 บาท/คน ผู้ใหญ่ 40 บาท/คน ส่วนชาวต่างประเทศ เด็ก 100 บาท/คน ผู้ใหญ่ 200 บาท/คน ในกรณีของผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป และเด็กอายุต่ํากว่า 3 ขวบ ไม่ต้องชําระค่าบริการ ทั้งนี้ นักท่องเที่ยวสามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับการท่องเที่ยวในเขตอุทยานแห่งชาติตะรุเตาเพิ่มเติมได้ที่ ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวปากบารา โทรศัพท์ 0 7478 3485 #สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
16/2/2023
ภาคใต้
สตูล
สวท.สตูล
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230216113935755
null
นักท่องเที่ยวชาวยุโรป สัมผัสวิธีดำนา สาธิตการลงแขกดำนาเอามื้อสามัคคี ตามแนวทางเศรษฐกิจพอเพียง โคกหนองนา โมเดล
วันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2566 ที่แปลงครัวเรือนต้นแบบ โคก หนอง นา เฟิร์นริมธารรีสอร์ท นายธวัชชัย น้าทิพากร บ้านหัวน้ําแม่สะกึด อําเภอเมือง จังหวัดแม่ฮ่องสอน นายเชษฐา โมสิกรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน ร่วมลงดํานาสาธิตการปลูกข้าวในนาปรัง ให้กับกลุ่มนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาจังหวัดแม่ฮ่องสอน เพื่อร่วมสัมผัสชีวิตของปลูกข้าวในแปลงนาสาธิตแบบขั้นบันได โดยกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวยุโรป ทั้งฝรั่งเศษ สวีเดน อังกฤษ เยอรมัน กว่า 30 คน ต่างตื่นเต้นและสนุกสนาม ในกิจกรรมร่วมดํานา แบบไทยๆ ลงแขกดํานาเอามื้อสามัคคี ในพื้นที่แปลงต้นแบบตามโครงการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิตตามหลักทฤษฏีใหม่ประยุกต์สู่ โคก หนอง นา โมเดล และโครงการพัฒนาหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียง เพื่อน้อมรําลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพล อดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ที่ทรงพระราชทานหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง เพื่อให้ประชาชนชาวไทยได้น้อมนํามาเป็นหลักปฏิบัติในการดํารงชีวิตและเพื่อฟื้นฟู วิถีชีวิต วัฒนธรรมประเพณีดั่งเดิมของไทยให้สืบต่อสําหรับกิจกรรม ลงแขกดํานาเอามื้อสามัคคี ในพื้นที่แปลงต้นแบบ ตามหลักทฤษฏีใหม่ประยุกต์สู่ โคก หนอง นา โมเดล ได้มีการสาธิตการดํานา ปลูกข้าว นอกจากนั้นยังได้มีการมอบเมล็ดพันธุ์ผักชนิดต่างๆ ให้แก่ครัวเรือนต้นแบบ เพื่อนําไปขยายผลการน้อมนําแนวทางพระราชดําริ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ดําเนินงานปลูกพืชผักสวนครัว เพื่อสร้างความมั่นคงทางอาหาร และขับเคลื่อนโครงการหมู่บ้านนี้มีรัก ปลูกผักกินเอง ทุกครัวเรือน กิจกรรมสาธิตการทําถังขยะเปียกลดโลกร้อน กิจกรรมห่มดิน เลี้ยงดิน เพื่อให้ดินเลี้ยงพืช กิจกรรมปล่อยปลากิจกรรมหาอยู่หากินบน โคก หนอง นาสําหรับ โคก หนอง นา โมเดล เป็นแนวคิดหลักในการจัดการพื้นที่ในบริเวณพื้นที่ลุ่ม เป็นการต่อยอดโครงการตามแนวพระราชดําริ "เศรษฐกิจพอเพียง" ตามทฤษฎีใหม่ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้ทรงดําริและดําเนินการ โครงการ โคก หนอง นา โมเดล เพื่อเป็นการสร้าง ความมั่นคง ในแหล่งทํากินด้านการเกษตร#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
16/2/2023
ภาคเหนือ
แม่ฮ่องสอน
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดแม่ฮ่องสอน
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230216132503804
null
จังหวัดแพร่จัดจำหน่ายสินค้าราคาประหยัดในโครงการพาณิชย์..ลดราคา ออนทัวร์ ทั่วไทย ลดภาระค่าครองชีพให้ประชาชนแล้วกว่า 1.3 ล้านบาท
จังหวัดแพร่ โดยสํานักงานพาณิชย์จังหวัดแพร่ ร่วมกับหอการค้าจังหวัด สภาอุตสาหกรรมจังหวัด เครือข่ายธุรกิจจังหวัดแพร่ นําผู้ประกอบการและเกษตรกร ร่วมออกบูธจําหน่ายสินค้าราคาประหยัดในโครงการ พาณิชย์...ลดราคา ออนทัวร์ ทั่วไทย เพื่อเพิ่มช่องทางการจําหน่ายสินค้าและเสริมสร้างศักยภาพผู้ประกอบการ เกษตรกร วิสาหกิจชุมชน SMEs และ Start Up รวมทั้งเป็นการช่วยลดภาระค่าครองชีพของประชาชนชาวจังหวัดแพร่และกระตุ้นเศรษฐกิจให้มีการจับจ่ายใช้สอยเพิ่มมากขึ้น โดยนําสินค้าอุปโภคบริโภค อาหาร ของใช้ประจําวัน สินค้าชุมชนกว่า 10 หมวด มาจําหน่ายราคาถูกกว่าท้องตลาด อาทิ หมูเนื้อแดง น่องไก่ติดสะโพก ไข่ไก่เบอร์ 2-3 น้ําตาลทราย เป็นต้นโดยจัดขึ้นแล้วจํานวน 2 ครั้งที่อําเภอเมืองแพร่ บริเวณลานจอดรถด้านหน้าห้างสรรพสินค้าโลตัส สาขาแพร่ ตําบลทุ่งกวาว และที่อําเภอเด่นชัย บริเวณตลาดนัดคลองถมวันศุกร์ ตําบลเด่นชัย สามารถช่วยกระตุ้นการใช้จ่ายและลดภาระค่าครองชีพได้แล้วรวม 1,352,301 บาท ทั้งนี้ ประชาชนชาวจังหวัดแพร่สามารถไปเลือกซื้อสินค้าราคาประหยัดในโครงการ พาณิชย์...ลดราคา ออนทัวร์ ทั่วไทย ได้อีกหนึ่งครั้งที่อําเภอสอง บริเวณลานกิจกรรมกาดริมน้ํา ตําบลบ้านหนุน ในวันที่ 18-20 กุมภาพันธ์ 2566#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
16/2/2023
ภาคเหนือ
แพร่
สวท.แพร่
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230216155951874
null
อุปนายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวอำเภอเบตงเผยความคิดเห็นในการเตรียมจัดเก็บค่าธรรมเนียมการท่องเที่ยวภายในประเทศของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ (TTF) หรือค่าเหยียบแผ่นดิน
วันนี้ (16 ก.พ. 66) ภายหลังจากที่ ครม.เห็นชอบจัดเก็บค่าธรรมเนียมการท่องเที่ยวภายในประเทศของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ (TTF) หรือค่าเหยียบแผ่นดิน ตามที่คณะกรรมการนโยบายการท่องเที่ยวแห่งชาติ (ท.ท.ช.) นําเสนอ ซึ่งคาดว่าจะมีผลในวันที่ 1 มิถุนายน 2566 นี้ โดยจะเก็บค่าการท่องเที่ยวภายในประเทศของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่เดินทางเข้าไทย โดยช่องทางทางอากาศ 300 บาทต่อคน ส่วนช่องทางทางบกและน้ํา 150 บาทต่อคนต่อครั้ง โดยยกเว้นการจัดเก็บค่าธรรมเนียมสําหรับผู้หนังสือเดินทางเพื่อการทูต กงสุล หรือการปฏิบัติราชการ ผู้ได้รับอนุญาตให้ประกอบอาชีพในประเทศไทย (Work Permit) หรือหนังสืออนุญาตให้คนต่างด้าวทํางานในราชอาณาจักรเป็นการเฉพาะตามที่กระทรวงแรงงานกําหนด เด็กอายุไม่เกิน 2 ปี และบุคคลอื่นตามที่คณะกรรมการ ท.ท.ช. กําหนด ทั้งนี้เพื่อใช้จ่ายในการบริหารและพัฒนาการท่องเที่ยว รวมทั้งใช้ในการจัดให้มีประกันภัยแก่นักท่องเที่ยวต่างชาติในระหว่างเที่ยวภายในประเทศไทยนายนรินทร์ เรืองวงศา อุปนายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวอําเภอเบตง เปิดเผยว่า ตนเห็นด้วย ที่จะเก็บค่าธรรมเนียมดังกล่าว ในการเดินทางโดยช่องทางทางอากาศ 300 บาทต่อคน เพราะนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้มีศักยภาพ ตั้งใจจะมาเที่ยว พร้อมที่จะชําระเงินค่าธรรมเนียมส่วนนี้ และพร้อมที่ใช้จ่าย ด้านต่างๆ ในการเดินทางมาเที่ยวเมืองไทย ส่วนเมืองชายแดนอย่าง อ.เบตง จ.ยะลา ที่ติดกับประเทศมาเลเซียและใช้ช่องทางทางบกในการเดินทางเป็นหลักนั้น ตนไม่เห็นด้วยต่อการเก็บค่าธรรมเนียมฯ 150 บาทต่อคน ต่อครั้ง เนื่องจากจะมีผลต่อการกันนักท่องเที่ยว และการค้าชายแดนอย่าง เพราะส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซีย ที่เดินทางเข้า-ออก เมืองเบตง แทบทุกวัน ในแบบ มาเช้า เย็นกลับ มาทานอาหาร มาซื้อสินค้า มาค้าขาย หรือแวะเที่ยวสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆในเมืองเบตง ซึ่งเม็ดเงินส่วนนี้กระตุ้นการใช้จ่าย ฟื้นฟูเศรษฐกิจฐานรากมากกว่าการจัดเก็บค่าธรรมเนียมดังกล่าวด้วยซ้ํา และอาจจะส่งผลกระทบต่อภาคธุรกิจการท่องเที่ยว ร้านอาหาร โรงแรม รวมไปถึงสถิตินักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่เดินทางเข้าเมืองลดลง หากนักท่องเที่ยวตัดสินใจไม่เดินทางมาเที่ยวเบตงสําหรับการเดินทางของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ผ่านด่านพรมแดนเบตง อ.เบตง จ.ยะลา ในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ หรือช่วงเทสกาล จะมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาเฉลี่ยวันละ 1,500 -2,500 คน ส่วนวันธรรมดาเฉลี่ยวันละ 800-1,000 คน ซึ่งในเดือนมกราคมที่ผ่านมามีนักท่องเที่ยวเข้าประเทศ จํานวน 42,270 คน โดยส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวจากมาเลเซียและสิงคโปร์อย่างไรก็ตาม ประเทศไทยไม่ใช่ประเทศแรกที่เรียกเก็บค่าธรรมเนียมจากนักท่องเที่ยวต่างชาติ ปัจจุบันมีกว่า 40 ประเทศทั่วโลกที่เรียกเก็บค่าธรรมเนียมในรูปแบบที่แตกต่างกัน แต่ประเทศไทยเป็นประเทศแรกของโลกที่เก็บค่าธรรมเนียมแล้วมีสวัสดิการคืนแก่นักท่องเที่ยวผ่านประกันอุบัติเหตุ การเสียชีวิต และการส่งศพกลับประเทศ เพื่อดูแล ช่วยเหลือ เยียวยานักท่องเที่่ยว ซึ่งจะเป็นการส่งเสริมภาพลักษณ์ความเชื่อมั่นด้านความปลอดภัยให้แก่นักท่องเที่ยวต่างชาติ#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
16/2/2023
ภาคใต้
ยะลา
สวท.เบตง จ.ยะลา
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230216160824881
null
จังหวัดนครศรีธรรมราช เตรียมพร้อมต้อนรับนายกรัฐมนตรีและคณะในการลงพื้นที่รับฟังปัญหาและแนวทางในการพัฒนาการท่องเที่ยวของจังหวัด
วันนี้ (16 ก.พ. 66) ที่ห้องประชุมศรีวิชัย ชั้น 5 ศาลากลางจังหวัดนครศรีธรรมราช นายอภินันท์ เผือกผ่อง ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นประธานประชุมการเตรียมการรับนายกรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา และคณะ ในโอกาสเดินทางลงพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราช เพื่อรับฟังปัญหาและแนวทางในการพัฒนาการท่องเที่ยวของจังหวัดนครศรีธรรมราช ในวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2566 โดยในการประชุมครั้งนี้มี นางเรืองอุไร บุญช่วยชูพันธุ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช พลตํารวจตรี สมชาย ซื่อต่อตระกูล ผู้บังคับการตํารวจภูธรจังหวัดนครศรีธรรมราช หัวหน้าส่วนราชการ ผู้แทนหน่วยงานภาครัฐ เอกชนและภาคีเครือข่ายที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุมโดยในการลงพื้นที่ครั้งนี้ นายกรัฐมนตรีและคณะมีกําหนดจะติดตามและรับฟังความคืบหน้าการก่อสร้างอาคารที่พักผู้โดยสารหลังใหม่ ,การเดินทางไปตรวจราชการและติดตามการดําเนินงานตามโครงการของรัฐ และพบปะส่วนราชการ ผู้นําชุมชนและภาคประชาชน เพื่อรับฟังปัญหาและความต้องการของประชาชนในพื้นที่อําเภอจุฬาภรณ์ ,ร่วมรับฟังบรรยายสรุปเกี่ยวกับโครงการเพิ่มศักยภาพการบริการทางการแพทย์สู่ความเป็นเลิศในเขตภาคใต้ตอนบน ,การลงพื้นที่เพื่อรับฟังปัญหาและแนวทางในการพัฒนาการท่องเที่ยววัดยางใหญ่ อําเภอท่าศาลา และวัดเจดีย์ อําเภอสิชล รวมทั้ง ลงพื้นที่เพื่อสํารวจพื้นที่ที่ได้รับความเสียหายจากอุทกภัยพื้นที่บ้านเขาทราย ตําบลเปลี่ยน อําเภอสิชล เพื่อรับทราบปัญหาและแนวทางการแก้ไขปัญหาตามลําดับอุไรวรรณ/ข่าว พรรณี-ณัฐนันท์-รัชดาภรณ์/ภาพสํานักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนครศรีธรรมราช16 กุมภาพันธ์ 2566#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
16/2/2023
ภาคใต้
นครศรีธรรมราช
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนครศรีธรรมราช
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230216161243884
null
ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง รับมอบชุดอุปกรณ์ต้นแบบการทำไม้กวาดจากขวดพลาสติก ภายใต้โครงการ ขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมฐานรากหลังโควิดด้วยเศรษฐกิจ BCG (U2T for BCG ระยะที่ 3)
วันนี้ (16 ก.พ.2566) ที่ ศูนย์ประชุมเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบพระชนมพรรษา มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตตรัง อําเภอเมือง จังหวัดตรัง นายขจรศักดิ์ เจริญโสภา ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง รับมอบชุดอุปกรณ์ต้นแบบการทําไม้กวาดจากขวดพลาสติก จํานวน 2 ชุด จาก ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.พงค์เทพ สุธีวุฒิ รองอธิการบดีวิทยาเขตตรัง ภายใต้โครงการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมฐานรากหลังโควิดด้วยเศรษฐกิจ BCG (U2T for BCG ระยะที่ 3) ชุดต้นแบบประกอบด้วยอุปกรณ์ 3 ชิ้น ได้แก่ เครื่องตัดขวด เครื่องรีดเส้น และเครื่องพันเส้น โครงการดังกล่าวต่อยอดจากโครงการระยะที่ 2 ซึ่งพื้นที่ตําบลบ้านควน จังหวัดตรัง ได้คว้า Champion of พลังงานและวัสดุ ระดับภูมิภาคใต้ตอนบน โดยเปลี่ยนจากเศษพลาสติกน้อยค่า สู่ผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าสร้างและกระจายรายได้ให้ชุมชนในรูปแบบไม้กวาดจากขวดพลาสติก ซึ่งนําไปสู่เศรษฐกิจหมุนเวียนในพื้นที่และชุมชนเข้มแข็ง ทั้งนี้ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.กฤติยา ดวงมณี หัวหน้าโครงการฯ เปิดเผยว่า ภายหลังจากนี้จะมอบชุดอุปกรณ์ต้นแบบไปยังชุมชนต่าง ๆ ในจังหวัดตรัง รวมถึงการถ่ายทอดเทคโนโลยีและฝึกปฏิบัติ โดยมีหน่วยงานภาคีเครือข่ายให้การสนับสนุนในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป ผู้สนใจเข้าร่วมโครงการฯ สามารถติดตามได้จากช่องทางการสื่อสารของ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตตรัง#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
16/2/2023
ภาคใต้
ตรัง
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดตรัง
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230216165011903
null
จังหวัดตราดเลือกวัดบุปผาราม เป็น Unseen New Chapter ปี 2566
วันนี้ (16 ก.พ. 66) นางพัศลินทร์ เศวตรัตน์ ผู้อํานวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สํานักงานตราด เปิดการประชุมหารือคัดเลือกแหล่งท่องเที่ยวจังหวัดตราด ตามโครงการ Unseen New Chapter ซึ่ง ททท. สํานักงานตราด จัดขึ้นโดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐ และเอกชนด้านการท่องเที่ยวเข้าร่วมที่ห้องประชุมสวนผลอําไพ ตําบลทุ่งนนทรี อําเภอเขาสมิงผู้อํานวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สํานักงานตราด กล่าวว่า ตามที่การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ได้ดําเนินโครงการ Unseen New Chapter ภายใต้กลยุทธ์กระตุ้นการเดินทางและการใช้จ่ายของกลุ่มนักท่องเที่ยวคุณภาพ โดยการคัดเลือกแหล่งท่องเที่ยวที่มีความสวยงามและมีการบริหารจัดการด้านการท่องเที่ยวที่ดี แต่ยังไม่เป็นที่รู้จักในวงกว้างและมีคุณสมบัติตามที่ ททท.กําหนด จังหวัดละ 1 แห่ง รวมทั้งสิน 77 แห่งจาก 77 จังหวัด เพื่อนํามาดําเนินการด้านการตลาดท่องเที่ยว ก่อให้เกิดการเดินทางสู่พื้นที่ในปีท่องเที่ยวไทย 2566 และ Visit Thailand Year 2023 : Unseen New Chapter ทั้งนี้ปีที่ผ่านมาได้มีการคัดเลือก พระพุทธสิริภูวดลมงคลชัย (พระจมน้ํา) เป็น 1 ใน 25 จังหวัด ซึ่งการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ได้ดําเนินการทําประชาสัมพันธ์ออกไปแล้วอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2566 จึงได้มีการคัดเลือกแหล่งท่องเที่ยว 1 แห่งของจังหวัดตราด ที่มีเงื่อนไขกําหนดไว้ เช่น แหล่งท่องเที่ยวนั้นจะต้องเข้าถึงได้ง่าย/มีจุดถ่ายภาพที่หลากหลาย/มีเรื่องราวที่น่าสนใจ/เชื่อมโยงหรือเกี่ยวข้อง BCG Model หรือการท่องเที่ยวอย่างรับผิดชอบ และยังไม่เคยได้รับรางวัลที่เป็น Unseen ในพื้นที่ ทาง ททท.สํานักงานตราด จึงได้จัดประชุมหารือคัดเลือกแหล่งท่องเที่ยวจังหวัดตราดในครั้งนี้ขึ้น โดยนําเสนอ 4 แหล่งท่องเที่ยวที่เป็น Unseen ของจังหวัดตราด เข้าทําการคัดเลือกในครั้งนี้ ประกอบด้วย 1.วัดบุปผาราม 2. มุมสตรีทอาร์ต ผนังของสถานกักขังกลางจังหวัดตราด 3.น้ําตกท่าเส้น 4.หาดหวายแฉก ซึ่งผลการหารือครั้งนี้ปรากฏว่าผู้เข้าร่วมได้คัดเลือกวัดบุปผารามเป็น Unseen New Chapter ของปี 2566 เนื่องจากมีคุณสมบัติครบตามเงื่อนไขที่กําหนดไว้ ทั้งนี้ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) จะได้มีการประชาสัมพันธ์แหล่งท่องเที่ยว วัดบุปผาราม ต่อไป อาทิ การเพิ่มป้ายประชาสัมพันธ์ การประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อออนไลน์ เป็นต้น#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
16/2/2023
ภาคตะวันออก
ตราด
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดตราด
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230216175912925
null
ม.อ.ตรัง มอบชุดอุปกรณ์ต้นแบบการทำไม้กวาดจากขวดพลาสติก ภายใต้โครงการ ขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมฐานรากหลังโควิดด้วยเศรษฐกิจ BCG (U2T for BCG ระยะที่ 3)
วันนี้ (16 ก.พ.66) ที่ศูนย์ประชุมเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบพระชนมพรรษา มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตตรัง อําเภอเมือง จังหวัดตรัง นายขจรศักดิ์ เจริญโสภา ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง รับมอบชุดอุปกรณ์ต้นแบบการทําไม้กวาดจากขวดพลาสติก จํานวน 2 ชุด จากผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.พงค์เทพ สุธีวุฒิ รองอธิการบดีวิทยาเขตตรัง ภายใต้โครงการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมฐานรากหลังโควิดด้วยเศรษฐกิจ BCG (U2T for BCG ระยะที่ 3)สําหรับชุดต้นแบบประกอบด้วยอุปกรณ์ 3 ชิ้น ได้แก่ เครื่องตัดขวด เครื่องรีดเส้น และเครื่องพันเส้น โครงการดังกล่าวต่อยอดจากโครงการระยะที่ 2 ซึ่งพื้นที่ตําบลบ้านควน จังหวัดตรัง ได้คว้า Champion of พลังงานและวัสดุ ระดับภูมิภาคใต้ตอนบน โดยเปลี่ยนจากเศษพลาสติกน้อยค่า สู่ผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าสร้างและกระจายรายได้ให้ชุมชนในรูปแบบไม้กวาดจากขวดพลาสติก ซึ่งนําไปสู่เศรษฐกิจหมุนเวียนในพื้นที่และชุมชนเข้มแข็งทั้งนี้ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.กฤติยา ดวงมณี หัวหน้าโครงการฯ เปิดเผยว่า ภายหลังจากนี้จะมอบชุดอุปกรณ์ต้นแบบไปยังชุมชนต่างๆ ในจังหวัดตรัง รวมถึงการถ่ายทอดเทคโนโลยีและฝึกปฏิบัติ โดยมีหน่วยงานภาคีเครือข่ายให้การสนับสนุนในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป ผู้สนใจเข้าร่วมโครงการฯ สามารถติดตามได้จากช่องทางการสื่อสารของมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตตรัง#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
16/2/2023
ภาคใต้
ตรัง
สวท.ตรัง
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230216173801921
null
ผู้ว่าฯ จังหวัดจันทบุรี นำคณะผู้บริหารเยือนจังหวัดพระตะบอง
ผู้ว่าฯ จังหวัดจันทบุรี นําคณะผู้บริหารเยือนจังหวัดพระตะบอง ราชอาณาจักรกัมพูชา กระชับความสัมพันธ์ ส่งเสริมการค้า การลงทุน การท่องเที่ยว และความมั่นคงชายแดน ระหว่างจังหวัดจันทบุรีและจังหวัดพระตะบอง กระตุ้นเศรษฐกิจหลังโควิด-19 คลี่คลายวันนี้ (16 ก.พ.66) ที่ศาลากลางจังหวัดพระตะบอง ราชอาณาจักรกัมพูชา นายมนต์สิทธิ์ ไพศาลธนวัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี นําหัวหน้าส่วนราชการ และคณะผู้บริหารสมาคมการค้าและการท่องเที่ยวชายแดนไทย-กัมพูชา จังหวัดจันทบุรี ตัวแทนผู้ประกอบการส่งออกสินค้า ผู้ผลิตสินค้าเกษตรและสินค้าแปรรูป เดินทางไปเยือนกระชับสัมพันธไมตรีระหว่างจังหวัดจันทบุรี กับผู้บริหารจังหวัดพระตะบอง ราชอาณาจักรกัมพูชา โดยมี นายซก ลู ผู้ว่าราชการจังหวัดพระตะบอง พร้อมผู้บริหารจังหวัดพระตะบอง และผู้ประกอบการ ร่วมหารือ ทั้งนี้เพื่อสานต่อความร่วมมือที่มีมายาวนานกว่า 10 ปี เนื่องจากมีชายแดนติดกัน โดยมีจุดผ่านแดนถาวร 1 จุดคือ จุดผ่านแดนถาวรบ้านแหลม ติดกับบ้านกร็อมเรียง อําเภอกร็อมเรียง จังหวัดพระตะบอง และมีจุดผ่อนปรน 2 จุด คือ จุดผ่อนปรนการค้าบ้านสวนส้ม ตําบลสะตอน อําเภอสอยดาว ติดกับบ้านโอลั๊ว อําเภอกร็อมเรียง จังหวัดพระตะบอง จุดผ่อนปรนการค้าบ้านซับตารี ตําบลทุ่งขนาน อําเภอสอยดาว ติดกับบ้านโอลําดวน อําเภอพนมปรึก จังหวัดพระตะบองโดยได้มีการหารือในเรื่องการอํานวยความสะดวกให้กับทางเจ้าหน้าที่ของทางจังหวัดพระตะบอง ที่เข้าไปปฏิบัติงานในพื้นที่จังหวัดจันทบุรี การดูแลแรงงานกัมพูชาที่เข้าไปทํางานในจังหวัดจันทบุรี ปัญหายาเสพติดที่จะต้องช่วยกันปราบปราม และเรื่องการท่องเที่ยวระหว่างจังหวัดจันทบุรีกับพระตะบอง ซึ่งขณะนี้มีความพร้อมในการที่จะต้อนรับนักท่องเที่ยว และในอนาคตทางรัฐบาลกัมพูชา มีโครงการที่จะสร้างรถไฟความเร็วสูง สนามบิน เพื่ออํานวยความสะดวกให้กับนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางมายังจังหวัดพระตะบองภายหลังเสร็จสิ้นการประชุมผู้ว่าราชการจังหวัดพระตะบอง ได้นําคณะผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี เยี่ยมชมห้องรับรองภายในศาลากลางจังหวัดที่ได้จัดเป็นพิพิธภัณฑ์แสดงเกี่ยวศิลปวัฒนธรรมและวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของคนกัมพูชาด้วย#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
16/2/2023
ภาคตะวันออก
จันทบุรี
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดจันทบุรี
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230216180240926
null
สมาคมโรงแรมจังหวัดกระบี่ เตรียมจัดงาน ตลาดนัดแรงงาน krabi hotel Expo2023 หวังดึงแรงงานเข้าสู่ภาคการท่องเที่ยว หลังจาก ธรุกิจโรงแรมในจังหวัดกระบี่ ขาดแรงงานเป็นจำนวนมาก
นางสาววิชุพรรณ ภูเก้าล้วน ศรีสัญญา นายกสมาคมโรงแรมจังหวัดกระบี่ กล่าวว่า ในช่วงไฮซีซั่น และพีคซีซั่นในเดือนกุมภาพันธ์มีจํานวนนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามายังจังหวัดกระบี่ อย่างต่อเนื่องและเพิ่มจํานวนมากขึ้นเรื่อย ๆทําให้แรงงานภาคการท่องเที่ยวโดยเฉพาะธุรกิจโรงแรมที่พัก ยังขาดแรงงานหลายตําแหน่งด้วยกัน โดยเฉพาะแผนกแม่บ้าน อาหารและเครื่องดื่ม ที่ยังไม่เพียงพอต่อความต้องการของโรงแรม ซึ่งทางสมาคมโรงแรมจังหวัดกระบี่ ไม่ได้นิ่งนอนใจในเรื่องของการขาดแคลนแรงงาน ล่าสุดได้มีการประชุมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและภาคเอกชน เพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว เพื่อที่จะหาแรงงานให้เพียงพอต่อความต้องการของภาคการท่องเที่ยวในส่วนของธุรกิจโรงแรม ของจังหวัดกระบี่ ซึ่งในที่ประชุม มีมติให้ทางสมาคมโรงแรมจังหวัดกระบี่ จัดงาน krabi hotel Expo2023 ที่จะจัดขึ้นในเร็วๆนี้ เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการโรงแรมต่างๆได้มาออกบูธ พบปะแรงงานโดยตรง ซึ่งเป็นช่องทางหนึ่งที่จะช่วยเหลือผู้ประกอบการ และช่วยให้แรงงานภาคการท่องเที่ยวได้เลือกงานในตําแหน่งที่ตนเองถนัด และสามารถเข้าทํางานได้ทันทีนอกจากนั้นทางสมาคมโรงแรม ต้องเดินสายไปยังสถานศึกษาในระดับอุดมศึกษาและมหาวิทยาลัยต่างทั้งในพื้นที่จังหวัดกระบี่และจังหวัดใกล้เคียง รวมทั้งทุกภาคของประเทศไทย เพื่อติดต่อกับนักศึกษาที่กําลังจะจบ ในสถานศึกษานั้นๆให้เข้าสู่ ภาคการท่องเที่ยวของจังหวัดกระบี่ เพื่อป้อนแรงงานให้กับธุรกิจโรงแรมในจังหวัดกระบี่ นอกจากนี้ ทางสมาคมโรงแรมจังหวัดกระบี่ยังมีกิจกรรม จะมีการสร้างแรงบันดาลใจในปลายเดือนกุมภาพันธ์นี้ โดยจะเข้าไปสร้างแรงบันดาลใจให้กับนักเรียนนักศึกษาในพื้นที่จังหวัดกระบี่ เพื่อให้เข้าใจถึงการทํางานในภาคโรงแรมและการท่องเที่ยว มีองค์ความรู้ ความสามารถ คุณสมบัติที่ทางนายจ้างและทางโรงแรมต้องการ รวมทั้งสวัสดิการต่างๆ การทํางานภาคการท่องเที่ยวดีอย่างไร เพื่อให้น้องๆนักเรียนนักศึกษาได้เข้าใจบทบาทหน้าที่ภาคการท่องเที่ยวมากขึ้น ในฐานะที่จังหวัดกระบี่ เป็นเมืองท่องเที่ยว ซึ่งทางสมาคมโรงแรมจังหวัดกระบี่ ส่งเสริมให้น้องๆที่เข้าสู่ภาคแรงงานด้านธุรกิจโรงแรมเป็นคนกระบี่ ไม่อยากให้น้องๆที่เรียนจบแล้วไปทํางานที่อื่นหรือไปเรียนต่อที่อื่นเรียนจบแล้วก็ไปทํางานที่อื่น กลายเป็นพลังให้กับจังหวัดอื่นๆอยากให้น้องๆเป็นพลังขับเคลื่อนภาคธุรกิจการท่องเที่ยวของจังหวัดกระบี่ไปด้วยกัน ปัจจุบันภาคการท่องเที่ยวกลับมาเกือบ100 % แล้ว เมื่อเทียบกับช่วงก่อนโควิค 19 มีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามายังจังหวัดกระบี่ 70-80%ของนักท่องเที่ยวเดิมที่เคยมาท่องเที่ยวในจังหวัดกระบี่ แต่ในส่วนของแรงงานภาคธุรกิจโรงแรมต่างๆยังไม่กลับมาเต็ม 100%ตามอัตราจ้าง เป็นเพราะว่า แรงงานออกไปทํางานต่างประเทศในช่วงโควิค 19 ที่ผ่านมา ซึ่งยังไม่กลับมาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของจังหวัดกระบี่ และกลุ่มคนที่ไปอยู่ในพื้นที่อื่นๆที่มีเซอร์วิสชาร์จดีกว่าจังหวัดกระบี่ ทําให้จังหวัดกระบี่ประสบขาดแคลนแรงงานภาคธุรกิจโรงแรมอยู่ในขณะนี้#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
16/2/2023
ภาคใต้
กระบี่
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดกระบี่
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230216193708972
null
คณะบริหารธุรกิจ มจพ.จัดสัมมนาวิชาการ “บริบทใหม่ประเทศไทย ก้าวไกลด้วยผู้นำเชิงนวัตกรรม” เพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้ประสบการณ์จากผู้นำธุรกิจ
คณะบริหารธุรกิจ มจพ.จัดสัมมนาวิชาการ “บริบทใหม่ประเทศไทย ก้าวไกลด้วยผู้นําเชิงนวัตกรรม” เพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้ประสบการณ์จากผู้นําธุรกิจ ด้าน ดร.ไพรินทร์ ชูโชติถาวร ระบุในอนาคต นวัตกรรมปัญญาประดิษฐ์จะเข้ามามีบทบาทมากขึ้น ทําให้รูปแบบการเรียนการสอนจากการเรียนเพื่อหาคําตอบ ไปสู่การเรียนเพื่อตั้งคําถามและหาคําตอบได้ทันทีวันนี้ (16 ก.พ.66) ที่ห้องประชุมใหญ่ ชั้น 3 อาคารคณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ วิทยาเขตระยอง ศาสตราจารย์ ดร.ธานินทร์ ศิลป์จารุ รองอธิการบดี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ(มจพ.) เป็นประธานเปิดงานสัมมนาวิชาการ “บริบทใหม่ประเทศไทย ก้าวไกลด้วยผู้นําเชิงนวัตกรรม” INNOVATIVE LEADERSHIP FOR THAILAND IN THE NEXT CHAPTER โดยเปิดเผยว่า งานสัมมนาครั้งนี้เป็นการสัมมนาของนักศึกษาหลักสูตรบริหารธุรกิจดุษฎีบัณฑิต X-DBA รุ่นที่ 8 คณะบริหารธุรกิจ สาขาวิชาบริหารธุรกิจอุตสาหกรรม มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ (มจพ.) ซึ่งจัดขึ้นเป็นประจําทุกปี ปีนี้ได้เล็งเห็นความสําคัญของผู้นําเชิงนวัตกรรมเป็นสิ่งจําเป็นที่จะช่วยให้องค์กรของเราไปสู่เป้าหมาย โดยเฉพาะในโลกยุคปัจจุบันมีความผันผวนและเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ไม่เว้นแม้กระทั่งองค์กรที่เคยประสบความสําเร็จมาแล้ว เพราะฉะนั้นจึงเป็นเรื่องจําเป็นอย่างยิ่งที่ผู้บริหารจะต้องใช้ทั้งเทคนิคในการบริหารจัดการและความเป็นผู้นํา เพื่อนําพาองค์กรสู่ความสําเร็จ ดังนั้นการพัฒนาภาวะผู้นําเชิงนวัตกรรมจึงมีความสําคัญและจําเป็นอย่างยิ่ง โดยผู้เข้าร่วมโครงการสัมมนาวิชาการจะได้รับความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับผู้นําเชิงนวัตกรรม เพื่อนํามาปรับใช้ในองค์กร เพื่อยกระดับเศรษฐกิจของประเทศไทยในการแข่งขันกับชาติอื่นในโลก รวมถึงผู้เข้าร่วมจะได้แลกเปลี่ยนความรู้ และประสบการณ์ ระหว่างวิทยากรกับผู้เข้าร่วมการสัมมนาเพื่อให้เกิดองค์ความรู้ใหม่ๆการจัดงานสัมมนาวิชาการ “บริบทใหม่ประเทศไทย ก้าวไกลด้วยผู้นําเชิงนวัตกรรม” ครั้งนี้ ได้รับเกียรติจาก ดร.ไพรินทร์ ชูโชติถาวร ประธานกรรมการ บริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จํากัด (มหาชน) ปาฐกถาพิเศษ เรื่อง บริบทใหม่ประเทศไทย ก้าวไกลด้วยผู้นําเชิงนวัตกรรมว่า โลกปัจจุบันกําลังเปลี่ยนผ่านเข้าสู่การศึกษาแบบ 4.0 ที่ถูกขับเคลื่อนด้วยปัญญาประดิษฐ์ ทําให้วงการการศึกษาต้องปรับตัวรับกับการเปลี่ยนแปลงนี้ ซึ่งในอดีตรูปแบบการเรียนการสอนครูจะเป็นผู้หาความรู้ผ่านหนังสือแล้วนํามาถ่ายทอดให้กับนักเรียนนักศึกษาได้เข้าใจเนื้อหา แต่ในอนาคต นวัตกรรมปัญญาประดิษฐ์ Chat GPT จะเข้ามามีบทบาทมากขึ้น เพราะข้อมูลต่างๆ จะถูกจัดเก็บอยู่ใน Cloud ทําให้นักเรียนนักศึกษาสามารถค้นหาคําตอบผ่านการตั้งคําถามจากสิ่งที่สงสัยได้ทันทีนอกจากนี้ภายในงานยังมีการจัดเสวนาวิชาการหัวข้อ ผู้นํากับการใช้นวัตกรรมในการขับเคลื่อนธุรกิจ โดยได้รับเกียรติจากรองศาสตราจารย์ ดร.วีริศ อัมระปาล ผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย, คุณกฤษณ์ อิ่มแสง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไออาร์พีซี จํากัด (มหาชน), ดร.นิรันดร์ จาวลา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โกลเบิ้ล พร๊อพเพอร์ตี้ คอนเซ้าติ้ง แอนด์ แมเนจเม้นท์ จํากัด ดําเนินรายการโดย คุณวิลาสินี แวน ฮาเรน โดยมีการพูดถึงคุณสมบัติของผู้นําที่จะนํานวัตกรรมมาใช้ในการขับเคลื่อนธุรกิจ ไม่จําเป็นต้องรู้ทุกนวัตกกรรม แต่ต้องเข้าใจและรู้ลึกเกี่ยวกับนวัตกรรมที่จะนํามาใช้ในองค์กรผ่านการสื่อสารกับคนในองค์กรและติดตามผลลัพธ์กับทุกกลุ่มเป้าหมายของบริษัท#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
16/2/2023
ภาคตะวันออก
ระยอง
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดระยอง
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230216193032969
null
อำเภอแก้งสนามนาง จังหวัดนครราชสีมา เชิญเที่ยวงานประจำปี เทศกาลดอกจานบาน ที่แก้งสนามนาง ครั้งที่ 16
นายวิโรจน์ ปัดชา นายกองค์การบริหารส่วนตําบลโนนสําราญ เปิดเผยว่า องค์การบริหารส่วนตําบลโนนสําราญ อําเภอแก้งสนามนาง จังหวัดนครราชสีมา ได้จัดงานเทศกาลดอกจานบานที่แก้งสนามนาง มีเนื้อที่กว่า 200 ไร่ มีต้นจานกว่า 10,000 ต้น (ทองกวาว) ซึ่งเป็นต้นไม้ประจําถิ่นของอําเภอแก้งสนามนาง ซึ่งในช่วงเดือนมกราคมถึงเดือนมีนาคม ต้นจานจะผลิดอกสีส้มหรือสีแสดแดงสวยงามมาก การจัดงานฯเพื่อเป็นการอนุรักษ์รักษาทรัพยากรธรรมชาติซึ่งเป็นมรดกโลก ในปี 2546 สภาวัฒนธรรมอําเภอแก้งสนามนาง ร่วมกับทุกภาคส่วนได้เข้ามาดูแลรักษาและปลูกฝังทําความเข้าใจให้ประชาชนในพื้นที่ ได้สํานึกรักธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมและได้ร่วมกันปรับปรุงภูมิทัศน์อนุรักษ์และปลูกพันธุ์ไม้หายากเพิ่มเติม เพื่อรักษาต้นน้ําลําธารแม่น้ําชีให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์และสถานที่พักผ่อนของอําเภอแก้งสนามนาง ตลอดจนนักท่องเที่ยวทั่วไป โดยตั้งชื่อแหล่งท่องเที่ยวเป็น “ป่าจานเฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษา” เพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ ในมหามงคลโอกาสเฉลิมพระชนมพรรษา 72 พรรษานายกองค์การบริหารส่วนตําบลโนนสําราญ กล่าวอีกว่า อําเภอแก้งสนามนาง จังหวัดนครราชสีมา ได้กําหนดจัดงานประจําปี เทศกาลดอกจานบาน ที่แก้งสนามนาง ซึ่งปีนี้จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 16 เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวในรูปแบบธรรมชาติ ให้เป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้นองค์การบริหารส่วนตําบลโนนสําราญ อําเภอแก้งสนามนาง จังหวัดนครราชสีมา จึงขอเชิญทุกท่านเที่ยวชมงาน “เทศกาลดอกจานบาน ที่แก้งสนามนาง ครั้งที่ 16 ตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2566 ณ ป่าจานเฉลิมพระเกียรติฯ บ้านหินลาด หมู่ที่ 6 ตําบลโนนสําราญ อําเภอแก้งสนามนาง จังหวัดนครราชสีมา โดยสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ที่ทําการองค์การบริหารส่วนตําบลโนนสําราญ โทร. 08 1955 2103
16/2/2023
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
นครราชสีมา
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนครราชสีมา
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230216201107991
null
อำเภอแก้งสนามนาง จังหวัดนครราชสีมา เชิญเที่ยวงานประจำปี เทศกาลดอกจานบาน ที่แก้งสนามนาง ครั้งที่ 16
นายวิโรจน์ ปัดชา นายกองค์การบริหารส่วนตําบลโนนสําราญ เปิดเผยว่า องค์การบริหารส่วนตําบลโนนสําราญ อําเภอแก้งสนามนาง จังหวัดนครราชสีมา ได้จัดงานเทศกาลดอกจานบานที่แก้งสนามนาง มีเนื้อที่กว่า 200 ไร่ มีต้นจานกว่า 10,000 ต้น (ทองกวาว) ซึ่งเป็นต้นไม้ประจําถิ่นของอําเภอแก้งสนามนาง ซึ่งในช่วงเดือนมกราคมถึงเดือนมีนาคม ต้นจานจะผลิดอกสีส้มหรือสีแสดแดงสวยงามมาก การจัดงานฯเพื่อเป็นการอนุรักษ์รักษาทรัพยากรธรรมชาติซึ่งเป็นมรดกโลก ในปี 2546 สภาวัฒนธรรมอําเภอแก้งสนามนาง ร่วมกับทุกภาคส่วนได้เข้ามาดูแลรักษาและปลูกฝังทําความเข้าใจให้ประชาชนในพื้นที่ ได้สํานึกรักธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมและได้ร่วมกันปรับปรุงภูมิทัศน์อนุรักษ์และปลูกพันธุ์ไม้หายากเพิ่มเติม เพื่อรักษาต้นน้ําลําธารแม่น้ําชีให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์และสถานที่พักผ่อนของอําเภอแก้งสนามนาง ตลอดจนนักท่องเที่ยวทั่วไป โดยตั้งชื่อแหล่งท่องเที่ยวเป็น “ป่าจานเฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษา” เพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ ในมหามงคลโอกาสเฉลิมพระชนมพรรษา 72 พรรษานายกองค์การบริหารส่วนตําบลโนนสําราญ กล่าวอีกว่า อําเภอแก้งสนามนาง จังหวัดนครราชสีมา ได้กําหนดจัดงานประจําปีเทศกาลดอกจานบาน ที่แก้งสนามนาง ซึ่งปีนี้จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 16 เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวในรูปแบบธรรมชาติ ให้เป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้นองค์การบริหารส่วนตําบลโนนสําราญ อําเภอแก้งสนามนาง จังหวัดนครราชสีมา จึงขอเชิญทุกท่านเที่ยวชมงาน “เทศกาลดอกจานบาน ที่แก้งสนามนาง ครั้งที่ 16 ตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2566 ณ ป่าจานเฉลิมพระเกียรติฯ บ้านหินลาด หมู่ที่ 6 ตําบลโนนสําราญ อําเภอแก้งสนามนาง จังหวัดนครราชสีมา โดยสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ที่ทําการองค์การบริหารส่วนตําบลโนนสําราญ โทร. 08 1955 2103
16/2/2023
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
นครราชสีมา
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนครราชสีมา
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230216201346993
null
นายอำเภอวังน้ำเขียวย้ำนักท่องเที่ยวไปเที่ยวชมงานเทศกาลเบญจมาศบานในม่านหมอก ที่ตำบลไทยสามัคคีได้ตามปกติ
นายสมภพ มุกดาสนิท นายอําเภอวังน้ําเขียว เปิดเผยว่า ตามที่ได้มีฝนตกและลมกรรโชกแรงพัดเข้าใส่แปลงเบญจมาศและร้านจําหน่ายสินค้าในงานเทศกาลเบญจมาศบานในม่านหมอก ต.ไทยสามัคคี อ.วังน้ําเขียว จ.นครราชสีมา ซึ่งอําเภอวังน้ําเขียว อบต.ไทยสามัคคี และเกษตรกรชาวตําบลไทยสามัคคี ได้ร่วมกันดําเนินการแก้ไขตกแต่งแปลงเบญจมาศและซ่อมแซมบริเวณร้านจําหน่ายสินค้าโดยเร่งด่วน สามารถให้บริการนักท่องเที่ยวได้ตามปกติแล้วนั้น วันนี้ (16 ก.พ.66) เวลา 09.00 น. นายสมภพ มุกดาสนิท นายอําเภอวังน้ําเขียว และนายประกอบ ศิริวงศ์เทาสะอาด นายก อบต.ไทยสามัคคี ร่วมเก็บภาพบรรยากาศภายในบริเวณงาน พบว่าแปลงเบญจมาศได้รับการซ่อมแซมแล้วเสร็จมีความสมบูรณ์สวยงาม พร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาชื่นชมความงดงามและสีสันสวยสดของเบญมาศหลากหลายสายพันธุ์ทัังนี้ ในห้วงวันหยุดสุดสัปดาห์ที่จะถึงนี้ (17-19 ก.พ.66) จากพยากรณ์อากาศของกรมอุตุนิยมวิทยา จังหวัดนครราชสีมา มีอากาศเย็นสบาย ไม่มีฝนตก เหมาะสมกับการท่องเที่ยวกลางแจ้ง เป็นอย่างยิ่ง จึงขอเชิญชวนนักท่องเที่ยวไปเที่ยวชมงานเทศกาลเบญจมาศบานในม่านหมอก ที่ ตําบลไทยสามัคคี อําเภอวังน้ําเขียว จังหวัดนครราชสีมา ได้
16/2/2023
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
นครราชสีมา
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนครราชสีมา
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230216212905014
null
เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐเกาหลีประจำประเทศไทย หาเข้าหารือกับผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ถึงความร่วมมือและแลกเปลี่ยน Soft Power ด้านต่างๆ ร่วมกัน
วันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2566 นายไชยวัฒน์ จุนถิระพงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ พร้อมด้วยรองผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ หัวหน้าส่วนราชการ ภาคเอกชน ให้การต้อนรับ นายมุน ซึงฮย็อน เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐเกาหลีประจําประเทศไทย และคณะ ศาลากลางจังหวัดบุรีรัมย์ พร้อมทั้งหารือนําเสนอและแลกเปลี่ยน Soft Power ด้านต่างๆ เพื่อส่งเสริมความร่วมมือด้านวัฒนธรรม การท่องเที่ยว การกีฬา การเกษตร อุตสาหกรรม การค้าการลงทุน และด้านอื่นๆ ระหว่างกันได้อย่างเป็นรูปธรรม ภายหลังจากเข้าเยี่ยมชมกิจกรรมของโรงเรียนกระสังพิทยาคม และโรงเรียนโนนสุวรรณพิทยาคม ซึ่งในพื้นที่จังหวัดบุรีรัมย์ โรงเรียนโนนสุวรรณพิทยาคม เป็น 1 ใน 10 ที่ได้รับคัดเลือกและสนับสนุนจากมูลนิธิเกาหลีเพื่อการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ทางวัฒนธรรมระหว่างประเทศ ร่วมกับค่าย YG Entertainment ต้นสังกัดของ ลิซ่า BLACKPINK หรือ นางสาวลลิษา มโนบาล โดยมีศูนย์เรียนรู้ K – POP ห้อง Creative Room ห้องมัลติมีเดีย ตลอดทั้งอุปกรณ์ต่างๆ มีครูผู้เชียวชาญด้านการเรียน การสอนเต้น K-Pop ทําให้เด็ก เยาวชน และผู้ที่มีความสนใจ ได้มีโอกาสได้เรียนรู้พัฒนาทักษะตัวเองโดยมี ลิซ่า BLACKPINK เป็นต้นแบบด้านนายมุน ซึงฮย็อน เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐเกาหลีประจําประเทศไทย กล่าวว่า เดิมประเทศเกาหลีเป็นประเทศที่ยากจน เช่นคล้ายกับจังหวัดบุรีรัมย์ในอดีต ปัจจุบันประชาชนชาวเกาหลีรู้จักและให้ความสนใจประเทศไทย และจังหวัดบุรีรัมย์ มากขึ้นเนื่องจากเป็นบ้านเกิดของ “ลิซ่า” ซึ่งมีบุคลิกอ่อนหวาน อ่อนน้อมถ่อมตน มีความคิดสร้างสรรค์ ในภาพประกอบเพลงยังปรากฏ บ้านเรือน วัด และสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ทําให้วัฒนธรรมประเทศเกาหลี และประเทศไทย เป็นที่รู้จักไปทั่วโลก นอกจากนั้นกีฬาฟุตบอลของสโมสรบุรีรัมย์ยูไนเต็ด เป็นที่รู้จักในประชาชนเกาหลี และยังพบว่าประชาชนคนไทยและประชาชนชาวเกาหลีมีการคบหาและแต่งงานเป็นสามี ภรรยามากขึ้น ทําให้วัฒนธรรมมีความคล้ายคลึงกันสามารถส่งเสริมความร่วมมือด้านต่างๆด้าน นายไชยวัฒน์ จุนถิระพงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ กล่าวว่า ในอดีตจังหวัดบุรีรัมย์เป็นจังหวัดที่ยากจน แต่ด้วยความคิดริเริ่มของภาคเอกชนที่สร้างสนามฟุตบอล สนามแข่งรถที่ได้มาตรฐานโลก และนํากีฬามาตรฐานโลกมาจัดในพื้นที่จังหวัดบุรีรัมย์ ควบคู่กับการส่งเสริมการท่องเที่ยวทางอารยธรรม ส่วนราชการให้การสนับสนุน ประชนมีส่วนร่วม เกิดการกระจายรายได้สู่ชุมชน ทําให้ในระยะ 10 ปี บุรีรัมย์มีความเติบโตอย่างก้าวกระโดด และเป็นที่รู้จักทั่วโลก เด็กเยาวชนก็ให้ความสนใจในวัฒนธรรมเกาหลีมากขึ้น โดยมี ลิซ่า BLACKPINK เป็นต้นแบบ จึงอยากให้ช่วยแนะนําจังหวัดบุรีรัมย์ในสาธารณรัฐเกาหลี ที่มีความคล้ายคลึงกันเพื่อจะได้ริเริ่มทําความรู้จักสานสัมพันธ์ แลกเปลี่ยนการเยือน นําไปสู่ความสัมพันธ์เมืองพี่ เมืองน้องอันจะทําให้สามารถส่งเสริมความร่วมมือต่างๆระหว่างกันอย่างเป็นรูปธรรม#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
16/2/2023
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
บุรีรัมย์
สวท.บุรีรัมย์
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230217004408037
null
สกต.บุรีรัมย์ จำกัด จัดตลาดนัดข้าวเปลือก รับซื้อข้าวเปลือกจากเกษตรกรในราคาที่เป็นธรรม หลังราคาข้าวในตลาดลดน้อยลง
บรรยากาศการจัดตลาดนัดข้าวเปลือกในวันนี้ (16 ก.พ. 66 ) เป็นไปอย่างครึกครื้น บรรดาเกษตรกรผู้ปลูกข้าว ต่างทยอยนําข้าวเปลือกมาขายให้กับทาง ศูนย์ธุรกิจ สกต.บุรีรัมย์ จํากัด หลังเปิดรับข้าวเปลือกหอมมะลิในราคาที่เป็นธรรม พร้อมสิทธิพิเศษ ในระหว่างวันที่ 16-17 กุมภาพันธ์ 2566โดยนางสาวนิตยา จันทร์ภักดี ผู้จัดการสหกรณ์การเกษตรเพื่อการตลาดลูกค้า ธ.ก.ส.บุรีรัมย์ จํากัด เปิดเผยว่า ขณะนี้ ทาง สกต.บุรีรัมย์ จํากัด ได้เปิดตลาดนัดข้าวเปลือก ที่บริเวณศูนย์ธุรกิจ สกต.บุรีรัมย์ จํากัด และศูนย์ธุรกิจ สกต.พุทไธสง จํากัด เพื่อเปิดโอกาสให้เกษตรกรนําข้าวหอมมะลิ กข 105 มาขายในราคาสูงกว่าท้องตลาด เนื่องจากราคาข้าวเปลือกในตลาดลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยการจัดตลาดนัดข้าวเปลือกในครั้งนี้ ทาง สกต.บุรีรัมย์จํากัด ได้ให้สิทธิพิเศษสําหรับสมาชิก ไม่ว่าจะเป็น การได้รับเงินสด, การให้บริการเป็นกันเอง, มีปันผลเฉลี่ยคืนให้สมาชิก, ให้ราคายุติธรรม และตาชั่งได้มาตรฐาน แต่ข้าวที่นํามาขายต้องมีความชื้นไม่เกิน 15% สิ่งเจือปนไม่เกิน 2% ชั่งข้าวเปลือกจํานวน 100 กรัม กะเทาะเมล็ดแดงต้องไม่เกิน 22 เมล็ด ข้าวเปลือกไม่ติดเหลือง ส่วนราคารับซื้อ หากข้าวเปลือก 20-25 กรัม ราคารับซื้อปกติอยู่ที่ 14,100 บาท/ตัน, ข้าวเปลือก 26-30 กรัม ราคารับซื้ออยู่ที่ 14,300/ตัน, ข้าวเปลือก 31-35 กรัม ราคารับซื้อ 14,500 บาท/ตัน, 36 กรัมขึ้นไป ราคารับซื้อ 14,700 บาท/ตัน หากเข้าร่วมโครงการชะลอการขายข้าวกับ สกต จะได้รับค่าฝากเพิ่ม 500 บาท/ตัน สําหรับเกษตรกรที่สนใจ ต้องเตรียมสําเนาบัตรประชาชน, สําเนาทะเบียนบ้าน, สมุดประจําตัวทะเบียนเกษตรกร ที่ปรับสมุดเป็นปัจจุบัน กรณีที่ไม่มีสมุดทะเบียน ให้ขอใบรับรองจากสํานักงานเกษตรอําเภอ ผู้สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร 044-690-255#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
16/2/2023
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
บุรีรัมย์
สวท.บุรีรัมย์
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230217004602038
null
องค์การบริหารส่วนจังหวัดบุรีรัมย์ ทุ่มงบกว่า 14 ล้านบาท ขุดลอกอ่างวุฒิสวัสดิ์เขากระโดงเพิ่มความจุกักเก็บน้ำแก้ภัยแล้งทั้งปรับภูมิทัศน์รับ นักท่องเที่ยว
นายรณภพ ณรงค์ หัวหน้าเขตห้ามล่าสัตว์ป่าเขากระโดง เปิดเผยว่า ขณะนี้องค์การบริหารส่วนจังหวัดบุรีรัมย์ได้วางงบประมาณ 14,800,002 บาท ขุดลอกอ่างเก็บน้ําวุฒิสวัสดิ์ เขตห้ามล่าสัตว์ป่าเขากระโดง ต.เสม็ด อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ ที่มีสภาพตื้นเขินไม่เคยขุดลอกมานานกว่า 40 ปี โดยโครงการขุดลอกอ่างเก็บน้ําวุฒิสวัสดิ์ดังกล่าว มีขนาดปากอ่างกว้าง 311 เมตร ยาวโดยรอบ 919 เมตร ลึกประมาณ 10.30 เมตร ซึ่งจะสามารถกักเก็บน้ําได้เพิ่มขึ้นจากเดิมเท่าตัว โดยอ่างเก็บน้ําวุฒิสวัสดิ์แห่งนี้จะเป็นแหล่งอาศัยและหากินของสัตว์ป่าที่มีปริมาณเพิ่มขึ้น อาทิ นก กระรอก กระแต งู เต่า และสัตว์ชนิดอื่นที่อาศัยอยู่ในเขตห้ามล่าสัตว์ป่าเขากระโดงแห่งนี้ ทั้งยังจะสถานที่พักผ่อนหย่อนใจ ออกกําลัง และเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ รองรับนักท่องเที่ยวที่จะมาเที่ยวภูเขาไฟกระโดงด้วย ซึ่งจากสถิติก่อนเกิดสถานการณ์โควิดมีนักท่องเที่ยวเดินทางมาเที่ยวเขากระโดงกว่า 4 แสนคน เมื่อเกิดสถานการณ์โควิดระบาดนักท่องเที่ยวก็ลดลงเหลือประมาณ 1 แสนคน ส่วนปีนี้หลังจากโควิดคลี่คลายลงก็มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาเที่ยวเพิ่มขึ้น คาดว่าตลอดทั้งปีไม่น้อยกว่า 3 แสนคน สําหรับอ่างเก็บน้ําวุฒิสวัสดิ์ดังกล่าวเดิมเป็นสระน้ําโบราณมีเนื้อที่ประมาณ 40 ไร่ เป็นแหล่งอาศัยหากินของสัตว์ป่าในเขตห้ามล่าสัตว์ป่าเขากระโดง ทั้งชาวบ้านใกล้เคียง และส่วนราชการก็ใช้ประโยชน์จากแหล่งน้ําดังกล่าวด้วย แต่เมื่อ 3-4 ปีที่ผ่านมาประสบปัญหาภัยแล้งทําให้อ่างดังกล่าวมีสภาพตื้นเขินกระทบต่อการดํารงชีวิตของสัตว์ป่า จึงได้เสนอไปยังทางจังหวัด และทาง อบจ.ก็ได้สนับสนุนงบประมาณมาดําเนินการขุดลอกอ่างดังกล่าว ซึ่งขณะนี้ได้ดําเนินการขุดลอกเสร็จเรียบร้อยแล้ว หลังจากนี้ก็จะทําการปรับภูมิทัศน์โดยรอบ หลังจากขุดลอกแล้วเสร็จก็จะมีน้ําเพียงพอเป็นแหล่งอาศัยหากินของสัตว์ป่า ทั้งยังจะเป็นสถานที่พักผ่อน ออกกําลังกาย และแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติด้วย #สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
16/2/2023
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
บุรีรัมย์
สวท.บุรีรัมย์
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230217005141040
null
ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรมีชัย ราชอาณาจักรกัมพูชา เข้าพบผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ หารือแผนการพัฒนาจุดผ่อนปรนการค้าช่องสายตะกู สู่จุดผ่านแดนถาวร
วันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2566 ที่ศาลากลางจังหวัดบุรีรัมย์ นายไชยวัฒน์ จุนถิระพงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการ ให้การต้อนรับ นายแปน โกะซอล ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรมีชัย ราชอาณาจักรกัมพูชา พร้อมคณะ หลังเดินทางมาพบปะหารือเพื่อกระชับความสัมพันธ์อันดีระหว่าง 2 จังหวัด โดยประเด็นหลักที่นํามาหารือในวันนี้คือ การร่วมผลักดันจุดผ่อนปรนการค้าช่องสายตะกู ตําบลจันทบเพชร อําเภอบ้านกรวด จังหวัดบุรีรัมย์ ราชอาณาจักรไทย และช่องจุ๊บโกกี อําเภอบันเตียอัมปึล จังหวัดอุดรมีชัย ราชอาณาจักรกัมพูชา ให้เป็นจุดผ่านแดนถาวร เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจภายในพื้นที่ เนื่องจากปัจจุบัน จุดผ่อนปรนทางการค้า ได้อนุญาตเฉพาะประชาชนอําเภอบ้านกรวด กับประชาชนชาวกัมพูชา ที่สามารถข้ามแดนเพื่อติดต่อ ซื้อขาย แลกเปลี่ยนสินค้าระหว่างกันสัปดาห์ละ 5 วัน เพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจหลังโควิด-19ซึ่งในกรณีนี้ นายไชยวัฒน์ จุนถิระพงศ์ เปิดเผยว่า แผนการพัฒนาจุดผ่อนปรนการค้าเป็นจุดผ่านแดนถาวรนั้น อยู่ในแผนการพัฒนาจังหวัดแล้ว เพียงแต่รอกระบวนการเพิกถอนพื้นที่บางส่วนของอุทยานแห่งชาติตาพระยา ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของผืนป่ามรดกโลก(ดงพญาเย็น-เขาใหญ่) ซึ่งจะต้องเป็นไปตามขั้นตอน ทั้งนี้ยืนยันว่าจังหวัดบุรีรัมย์ พร้อมส่งเสริมการค้าชายแดนอย่างมาก หากยกระดับจุดผ่อนปรนการค้าชายแดนไทย-กัมพูชา “ช่องสายตะกู” ให้เป็นจุดผ่านแดนถาวร และพัฒนาอาคารสนามบินได้สําเร็จจะเป็นผลดีต่อจังหวัด เพราะนักท่องเที่ยวที่มาจากประเทศกัมพูชา สามารถเดินทางเข้ามาเที่ยวต่อในจังหวัดบุรีรัมย์ได้ ผ่านจุดผ่านแดนถาวร และสามารถมาเที่ยวปราสาทหินพนมรุ้ง ดูฟุตบอล ดูการแข่งรถ รวมถึงสถานที่อื่น ๆ ซึ่งจะเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจในจังหวัดให้ดีขึ้น ทําให้ประชาชนมีรายได้เพิ่มมากขึ้นทางด้าน นายแปน โกะซอล ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรมีชัย ราชอาณาจักรกัมพูชา ได้เสนอให้เพิ่มวันทําการจุดผ่อนปรนการค้าช่องสายตะกู-จุ๊ปโกกี จากเดิม 5 วัน เวลา 08.00 -15.00 น. เป็น 7 วันต่อสัปดาห์ เวลา 08.00-18.00 น. อนุญาตให้ประชาชนเดินทางข้ามแดนได้ทั่วทั้งจังหวัด ร่วมผลักดันในการอนุญาตให้รถบรรทุกสินค้าผ่านแดน ซึ่งประเด็นดังกล่าวจะมีการนําเข้าที่ประชุมคณะกรรมการศูนย์สั่งการชายแดนไทยกับประเทศเพื่อนบ้านด้านกัมพูชา จังหวัดบุรีรัมย์ ซึ่งจะมีหน่วยงานด้านความมั่นคงและส่วนราชการที่เกี่ยวข้องร่วมกันพิจารณาให้ความเห็นชอบอีกครั้ง#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
16/2/2023
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
บุรีรัมย์
สวท.บุรีรัมย์
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230217010144043
null
บรรดานักวิ่งเทรลทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติกว่า 1,300 คน ต่างเดินทางมารับอุปกรณ์การแข่งขันวิ่งเทรล Amazean Jungle Thailand by UTMB ที่จะมีขึ้นระหว่างวันที่ 17-19 กุมภาพันธ์นี้
บรรดานักวิ่งเทรลทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติกว่า 1,300 คน ต่างเดินทางมารับอุปกรณ์การแข่งขันวิ่งเทรล Amazean Jungle Thailand by UTMB ที่จะมีขึ้นระหว่างวันที่ 17-19 กุมภาพันธ์นี้ ขณะที่นักวิ่งชาวต่างชาติเผยความประทับใจที่ได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นจากคนในพื้นที่ อ.เบตง จ.ยะลา เย็นวันนี้ (16ก.พ.66) ที่สนามกีฬาเทศบาลเมืองเบตง อ.เบตง จ.ยะลา บรรดานักวิ่งเทรลทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติกว่า 1,300 คน ที่เข้าร่วมแข่งขันวิ่งเทรล Amazean Jungle Thailand by UTMB ระหว่างวันที่ 17-19 กุมภาพันธ์ 2566 ต่างเดินทางมารับอุปกรณ์การแข่งขันของทุกระยะ (ระยะทาง 160 กิโลเมตร, 100 กิโลเมตร, 50 กิโลเมตร, 25 กิโลเมตร, 10 กิโลเมตร) และร่วมประชุมกติกาการแข่งขันของนักวิ่งในระยะ 160 กิโลเมตร พร้อมศึกษาเส้นทางและข้อมูลจําเพาะของสนามและร่วม สร้างจิตสํานึกของตัวเองและผู้ที่เกี่ยวข้อง ให้มีความเคารพต่อธรรมชาติ ผู้คน และกฎกติกาของการแข่งขัน พร้อมสร้างจิตสํานึกของตัวเองและผู้ที่เกี่ยวข้อง ให้มีความเคารพต่อธรรมชาติ ผู้คน และกฎกติกาของการแข่งขัน ก่อนที่จะมีการปล่อยตัวในวันพรุ่งนี้ ตั้งแต่เวลา 10.00น.เป็นต้นไป ที่หน้าอุโมงค์เบตงมงคลฤทธิ์ สําหรับการแข่งขันในระยะ 160 กิโลเมตร นับเป็นระยะทางที่โหดที่สุดในการแข่งขันครั้งนี้ นักวิ่งจะต้องผ่านป่า เขา และสภาพภูมิอากาศที่คาดเดาได้ยาก ที่ต้องเผชิญลม อากาศหนาว หมอก และฝน รวมไปถึงระดับความสูง ผ่านจุดต่างๆ 18 จุด ซึ่งรายการนี้นอกจากจะมีนักวิ่งชาวไทยแล้ว จะมีนักวิ่งชาวต่างชาติที่ผ่านการวิ่งจากรายการ Thailand ดอยอินทนนท์ by UTMB มาแล้ว และบางคนก็เคยเข้าร่วมรายการ UTMB สนามที่ประเทศฝรั่งเศส วิ่งรอบยอดเขามงบล็อง ผ่าน 3 ประเทศ ได้แก่ประเทศฝรั่งเศส สวิตเซอร์แลนด์ และอิตาลี ที่เป็นสนามเทรลชั้นนําของโลก เรียกว่าเป็นโอลิมปิกของนักวิ่งเทรลก็ว่าได้ นายโจนาธาน นักวิ่งเทรลชาวเยอรมนี ที่เคยวิ่งสนามเทรลชั้นนําของโลก เล่าว่า นับเป็นครั้งแรกที่เดินทางมา อ.เบตง จ.ยะลา เพื่อมาร่วมการแข่งขันวิ่งเทรล Amazean Jungle Thailand by UTMB ในครั้งนี้ หลังจากที่ตนได้ทําการรีเสิร์ชข้อมูลจากการแข่งขันครั้งแรก นับเป็นสนามที่มีความท้าทายเป็นอย่างมากสําหรับนักวิ่ง จึงตัดสินใจเดินทางมากับเพื่อนๆ มาร่วมวิ่งการแข่งขันในระยะ 160 กิโลเมตร เพื่อพิชิตเส้นชัยให้สําเร็จ ส่วนเหตุความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้นั้น ตนไม่มีความกังวลเลย เชื่อมั่นในการดูแลรักษาความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ แถมยังได้รับการต้อนรับอย่างดีและอบอุ่นจากคนในพื้นที่ ซึ่งตนมีความพร้อมกับการแข่งขันในครั้งนี้เป็นอย่างมาก แต่ก็แอบเสียดายที่ทางผุ้จัดได้มีการยกเลิกเส้นทางวิ่งเข้าสู่ประเทศมาเลเซีย ซึ่งตนตั้งใจอยากจะวิ่งเทรลข้ามพรมแดนของทั้ง 2 ประเทศ ทั้งไทยและมาเลเซีย แม้จะเปลี่ยนแปลงอะไรไม่ได้แล้ว แต่ตนก็จะพยายามทําการวิ่งครั้งนี้ให้ดีที่สุด ท้ายนี้โจนาธานยังบอกอีกว่าตนชื่นชอบอาหาร และวัฒนธรรมของไทยเป้นอย่างมาก หลังทัวร์นาเมนต์รายการนี้คงต้องหาอาหารที่ขึ้นชื่อของเมืองเบตงลิ้มลองสักครั้งก่อนเดินทางกลับ#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
16/2/2023
ภาคใต้
ยะลา
สวท.เบตง จ.ยะลา
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230217012416050
null
กรมทรัพย์สินทางปัญญา ร่วมกับ ม.ราชภัฏบุรีรัมย์ จัดประชุมสินค้าสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ไทย GI ยกระดับผ้าไหมมัดหมี่ซิ่นตีนแดงบุรีรัมย์
วันนี้ (16 ก.พ.66) เวลา 09.30 น. ที่ห้องประชุมพุทธรักษา ชั้น 3 อาคารเฉลิมพระเกียรติ 50 พรรษามหาวชิราลงกรณ มหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์ จังหวัดบุรีรัมย์ นายไชยวัฒน์ จุนถิระพงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ เป็นประธานเปิดการ “ประชุมสร้างความเข้าใจในระบบควบคุมคุณภาพและมาตรฐานสินค้าสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ไทย (Internal Control) สินค้า GI (Geographical IndicationsI) ผ้าไหมมัดหมี่ซิ่นตีนแดงบุรีรัมย์ เพื่อสร้างภูมิพลังแผ่นดิน” โดยมี นายสุทธิศักดิ์ พรหมบุตร พาณิชย์จังหวัดบุรีรัมย์ ผู้แทนวัฒนธรรมจังหวัดบุรีรัมย์ ผู้แทนพัฒนาชุมชนจังหวัดบุรีรัมย์ กลุ่มผู้ผลิตและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ทั้งภาครัฐและเอกชน ในจังหวัดบุรีรัมย์ เครือข่ายผู้ประกอบการ OTOP จังหวัดบุรีรัมย์ หอการค้าจังหวัดบุรีรัมย์ และสภาอุตสาหกรรมจังหวัดบุรีรัมย์ จํานวนกว่า 120 คนเข้าร่วมประชุมโดย ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ กล่าวภายหลังเปิดการประชุมว่า จังหวัดบุรีรัมย์ ให้ความสําคัญกับภูมิปัญญาการผลิตผ้าไหมทอมือ โดยเฉพาะผ้าไหมมัดหมี่ ซิ่นตีนแดง ที่เป็นการรักษาวัฒนธรรมและต่อยอดเป็นสินค้า OTOP ผ้าเอกลักษณ์ของจังหวัดบุรีรัมย์ และได้ขอขึ้นทะเบียนและกรมทรัพย์สินทางปัญญาได้ขึ้นทะเบียน “ผ้าไหมมัดหมี่ซิ่นตีนแดงบุรีรัมย์” เป็นสินค้าสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ ตั้งแต่วันที่ 2 สิงหาคม 2558 แต่ปัจจุบันยังไม่มีผู้ผลิตรายใดได้รับอนุญาตใช้ตรา GI ซึ่งตราสินค้า GI จะสามารถตรวจสอบถึงแหล่งที่มาของสินค้าได้ ต้องขอขอบคุณกลุ่มผู้ผลิตทุกท่านที่มีความสนใจเข้าร่วมกิจกรรม และสมัครขอใช้ตราสินค้า GI เพื่อยกระดับสินค้าผ้าซิ่นตีนแดงของบุรีรัมย์ให้ได้มาตรฐานเป็นที่ยอมรับในระดับสากล และในอนาคตหากเรามีตราสินค้า GI ติดบนสินค้า จะสามารถเพิ่มมูลค่าสินค้า สร้างงานสร้างรายได้ให้กับชุมชน และกลุ่มผู้ผลิตเพิ่มขึ้นด้วย#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
16/2/2023
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
บุรีรัมย์
สวท.บุรีรัมย์
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230217010421044
null
กฟผ.แม่เมาะ เปิดตัวอาคาร The Blocks พร้อมนำเสนอแบรนด์ผักน้องใหม่ Mae Moh Fresh ในงาน Happy Veggie & Coffee in Love
ที่บริเวณลานหน้าอาคาร The Blocks ข้างอาคารประชาสัมพันธ์แม่เมาะ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) แม่เมาะ อ.แม่เมาะ จ.ลําปาง นายสุทธิพงษ์ เฉลิมเกียรติ ผู้ช่วยผู้ว่าการผลิตไฟฟ้า 2 นายประจวบ ดอนคํามูล ผู้ช่วยผู้ว่าการเหมืองแม่เมาะ พร้อมด้วยผู้บริหารและผู้ปฏิบัติงาน กฟผ.แม่เมาะ และประชาชนในพื้นที่ อ.แม่เมาะ ร่วมงาน Happy Veggie & Coffee in Love จัดโดยโครงการแม่เมาะเมืองน่าอยู่ เพื่อเปิดตัวอาคาร The Blocks และกิจกรรมออกบูธร้านกาแฟ จาก อ.แม่เมาะ และ จ.ลําปาง พร้อมเปิดให้ผู้สนใจงานลงทะเบียนร่วมโหวตร้านที่ผ่านรอบคัดเลือกเป็นผู้ประกอบการของอาคาร The Blocks ในกิจกรรม coffee contest โดยมีผู้เชี่ยวชาญด้านกาแฟเป็นคณะกรรมการในการคัดเลือกผู้ประกอบการในครั้งนี้ด้วย ซึ่งร้าน At Mine Cafe จาก อ.แม่เมาะ ได้รับคัดเลือกในกิจกรรมดังกล่าว และจะพร้อมเปิดให้บริการที่อาคาร The Blocks ภายในเดือนเมษายน 2566 นอกจากนี้ ภายในงานยังมีกิจกรรมเปิดตัวแบรนด์ผัก "Mae Moh Fresh" ที่ดําเนินการโดยกลุ่มวิสาหกิจบริหารจัดการเกษตรกรรมแนวตั้ง อ.แม่เมาะ โดยนํากลุ่มเยาวชนที่เข้าร่วมโครงการพลังงานร่วมใจ สร้างงาน พัฒนาชุมชน (New Jobber) ของ กฟผ.แม่เมาะ และได้รับการฝึกปฏิบัติทักษะการปลูกพืชแนวตั้งแบบครบวงจรจากบริษัท ไดสตาร์ เฟรช ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการทําเกษตรกรรมแนวตั้ง (Vertical Farm) ในประเทศไทย มาบริหารจัดการและต่อยอดการทําเกษตรกรรมแนวตั้ง โดยใช้พื้นที่หน้าอาคาร The Blocks เป็นพื้นที่จัดตั้งโรงเรือนนําร่องในการเพาะปลูกผักแนวตั้ง ซึ่งผู้ที่สนใจสามารถสั่งซื้อผักคุณภาพดีและติดตามข่าวสาร Mae Moh Fresh ได้ที่ Facebook: Mae Moh Fresh, IG : MaeMoh.Fresh และ Line ID : @323wzkunสําหรับอาคาร The Blocks กฟผ. ได้ร่วมกับสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) วิจัยเรื่องการพัฒนาโรงงานต้นแบบการผลิตบล็อกประสานจากวัตถุพลอยได้ของโรงไฟฟ้าแม่เมาะ ที่นําเถ้าหนักมาเป็นส่วนผสมที่สําคัญ ซึ่งอาคาร The Blocks เป็นอาคารตัวอย่างที่เป็นผลลัพธ์จากงานวิจัยและเป็นโมเดลต้นแบบ สามารถเป็นตัวอย่างให้แก่ผู้สนใจ ได้เห็นถึงการใช้ประโยชน์จากเถ้าหนักของโรงไฟฟ้าแม่เมาะซึ่งยังไม่มีการนํามาใช้งานและสามารถนํามาจําหน่ายในเชิงพาณิชย์มากนักให้ถูกนํามาใช้ประโยชน์อย่างสูงสุด ซึ่งปัจจุบันอาคาร The Blocks แห่งนี้จะกลายเป็นศูนย์จําหน่ายเครื่องดื่ม และอาหารที่มีผักคุณภาพดีจาก Mae Moh Fresh เป็นส่วนประกอบ พร้อมจําหน่ายสินค้าชุมชน อ.แม่เมาะ แก่ผู้ที่เข้ามาในพื้นที่ กฟผ.แม่เมาะ #สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
17/2/2023
ภาคเหนือ
ลำปาง
สวท.ลำปาง
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230217091410060
null
สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดลำปาง เปิดรับผู้ประกอบการในพื้นที่จังหวัดลำปาง เชียงใหม่ ลำพูน และแม่ฮ่องสอน พัฒนาอุตสาหกรรมตามแนวคิดโมเดล BCG
สํานักงานอุตสาหกรรมจังหวัดลําปาง เชิญชวนผู้ประกอบการภาคอุตสาหกรรมการผลิตในพื้นที่จังหวัดลําปาง เชียงใหม่ ลําพูน และแม่ฮ่องสอน ที่สนใจพัฒนาอุตสาหกรรมตามแนวคิดโมเดล BCG สมัครเข้าร่วมกิจกรรมให้คําปรึกษาเชิงลึกในด้านการส่งเสริมและพัฒนาตามแนวทางเศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน และเศรษฐกิจสีเขียว ภายใต้งบกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 1 ผู้ประกอบการที่ได้รับคัดเลือกเข้าร่วมกิจกรรม จะได้รับการส่งเสริมและพัฒนา โดยการนําเทคโนโลยี นวัตกรรม กรอบแนวคิด BCG มาใช้ในสถานประกอบการ ได้รับการให้คําปรึกษาแนะนําเชิงลึกแบบตัวต่อตัวจากผู้เชี่ยวชาญด้านการส่งเสริมและพัฒนาตามแนวทางเศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน และเศรษฐกิจสีเขียว และสามารถนําแผนไปใช้ในสถานประกอบการของท่านได้ อาทิ การลดต้นทุนการผลิต การลดของเสีย เพิ่มประสิทธิภาพในกระบวนการผลิต และสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผลิตภัณฑ์ โดยกิจกรรมในโครงการ ประกอบด้วย ผู้เชี่ยวชาญเข้าสํารวจและวิเคราะห์กลุ่มเป้าหมาย ณ สถานประกอบการ และผู้เชี่ยวชาญให้คําปรึกษาแนะนําเชิงลึกเฉพาะราย จํานวน 7 Man-dayผู้ประกอบการสามารถสมัครได้ที่ https://cmu.to/dYVWR ตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2566 ฟรีตลอดทั้งโครงการ หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร. 098-4515146 (ทราย) อีเมล์ : kharnyakhorn@step.cmu.ac.th#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
17/2/2023
ภาคเหนือ
ลำปาง
สวท.ลำปาง
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230217092918066
null
ปชส.สุราษฎร์ธานี ครม. เห็นชอบร่างประกาศคณะกรรมการนโยบายการท่องเที่ยวแห่งชาติ เรื่อง การจัดเก็บค่าธรรมเนียมการท่องเที่ยวภายในประเทศของนักท่องเที่ยวต่างชาติ
นายณรงค์ หลักกําจร ประชาสัมพันธ์จังหวัดสุราษฎร์ธานี กล่าวถึงจัดเก็บค่าธรรมเนียมเหยียบแผ่นดินของนักท่องเที่ยวต่างชาติ ว่า คณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบร่างประกาศคณะกรรมการนโยบายการท่องเที่ยวแห่งชาติ เรื่อง การจัดเก็บค่าธรรมเนียมการท่องเที่ยวภายในประเทศของนักท่องเที่ยวต่างชาติ โดยกําหนดเกณฑ์ วิธีการ เงื่อนไขในการจัดเก็บค่าธรรมเนียม ดังนี้ นักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางผ่านช่องทางอากาศ อยู่ที่ 300 บาท/คน/ครั้ง นักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางผ่านช่องทางบกและน้ํา อยู่ที่ 150 บาท/คน/ครั้ง และยกเว้นการจัดเก็บค่าธรรมเนียม ได้แก่ ผู้ถือหนังสือเดินทางเพื่อการทูต กงสุล หนังสือเดินทางราชการ ผู้ที่ได้รับอนุญาตให้ประกอบอาชีพในประเทศไทย ผู้ที่โดยสารผ่าน (transit passenger) และทารก เด็กอายุไม่เกิน 2 ปี หรือบุคคลอื่นตามที่คณะกรรมการกําหนดทั้งนี้ การเก็บค่าธรรมเนียมดังกล่าว จะนํามาใช้จ่ายในการบริหารพัฒนาการท่องเที่ยว รวมทั้งใช้ในการจัดประกันภัยแก่นักท่องเที่ยวต่างชาติในระหว่างที่เที่ยวในประเทศไทย ซึ่งไทยเป็นประเทศแรกของโลกที่มีการเก็บค่าธรรมเนียมแล้วมีสวัสดิการคืนให้แก่นักท่องเที่ยว ผ่านประกันอุบัติเหตุ การเสียชีวิต และการส่งศพกลับประเทศ โดยการดําเนินการดังกล่าวจะลดภาระงบประมาณในการดูแลเยียวยานักท่องเที่ยวต่างชาติ ในเรื่องสาธารณสุข จากการเก็บค่ารักษาพยาบาลไม่เต็มจํานวน ซึ่งเดิมใช้งบประมาณในการดูแลนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้ประมาณ 300 - 400 ล้านบาท/ปี โดยได้กําหนดกรอบเวลาของการบังคับใช้ ซึ่งจะมีผลบังคับเมื่อพ้น 90 วัน นับแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษา#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
17/2/2023
ภาคใต้
สุราษฎร์ธานี
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสุราษฎร์ธานี
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230217093705069
null
ธอส. จัดทำมาตรการแก้หนี้ ช่วยเหลือข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ในงานมหกรรมการเงินเพื่อครูไทย 4 ภูมิภาค
นายฉัตรชัย ศิริไล กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยว่า ธอส. นํามาตรการแก้หนี้และผลิตภัณฑ์ทางการเงินเข้าร่วมงานมหกรรมการเงินเพื่อครูไทย 4 ภูมิภาค ที่จัดขึ้นโดยกระทรวงศึกษาธิการ ร่วมกับสถาบันการเงินของรัฐ สหกรณ์ออมทรัพย์ครูและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยการจัดงานครั้งที่ 1 จัดขึ้นระหว่างวันที่ 18-19 กุมภาพันธ์นี้ ที่จังหวัดกาฬสินธุ์ มาตรการแก้หนี้ของ ธอส. ประกอบด้วย มาตรการ 22 [M22] สําหรับลูกค้าข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาของรัฐหรือเอกชน ที่ยังคงรับราชการและ/หรือเป็นข้าราชการบํานาญ สถานะ NPL ให้ผ่อนเงินงวดต่ํา พร้อมลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้พิเศษ อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 0 นาน 10 เดือน สําหรับผู้ที่สนใจเข้ามาตรการความช่วยเหลือฯ จะต้องเป็นข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาของรัฐและเอกชน พร้อมทั้งแสดงหลักฐานการได้รับผลกระทบจากการประกอบอาชีพหรือผลกระทบทางด้านเศรษฐกิจ เช่น หลักฐานรายได้ หรือหนังสือรับรองจากหน่วยงานจากต้นสังกัดสําหรับการจัดงานมหกรรมการเงินเพื่อครูไทย 4 ภูมิภาคครั้งต่อไป จะจัดขึ้นในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ วันที่ 4-5 มีนาคมนี้ ที่จังหวัดอุดรธานี ครอบคลุมการให้ความช่วยเหลือข้าราชการครูในจังหวัดอุดรธานี บึงกาฬ เลย หนองคาย และจังหวัด หนองบัวลําภู
17/2/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230217144623188
null
ทกจ.ระยองร่วมกับ อบจ ระยองและสภาอุตสาหกรรมท่องเทียวจ.ระยองจัดพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยวและศึกษาดูงานพื้นที่ต้นแบบการจัดการท่องเที่ยวเพื่อรองรับเศรษฐกิจ BCG
วันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2566 เวลา 09.30 น. นายวีระพงษ์ ฤทธิ์รอด รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานเปิดโครงการส่งเสริมการท่องเที่ยวพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยวจังหวัดระยองปี 2566 โดยมี นางกัญญ์ชลา สุขิตรกูล ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดระยอง กล่าวรายงาน นายมนตรี ชนะชัยวิบูลวัฒน์ ที่ปรึกษานายก อบจ.ระยอง นางสุวรรณา โดตี้ ประธานสภาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวจังหวัดระยอง กล่าวต้อนรับ หัวหน้าส่วนราชการภาครัฐ ผู้ประกอบด้านการท่องเที่ยวจังหวัดระยอง ร่วมกิจกรรม ณ โรงแรมดวงตะวันจังหวัดเชียงใหม่นางกัญญ์ชล สุจิตรกูล ท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า ประเทศที่มีรายได้สูงโดยกําหนดแผนกการขับเคลื่อนประเทศไทยด้วยโมเดลเศรษฐกิจ BCG พ.ศ 2564 - 2560 เน้นการขับเคลื่อนประเทศไทยไปสู่เศรษฐกิจ BCG ใช้จุดเด่นและศักยภาพของประเทศไทยและเรื่องของการเกษตร สาธารณสุข การท่องเที่ยว เพิ่มขีดความสามารถให้มากขึ้นโดยจะประกาศให้ BCG เป็นวาระแห่งชาติเช่นเดียวกับนโยบายประเทศไทย 4.0 แล้วจะต้องดําเนินสําเร็จภายใน 5 ปีลดการพึ่งพาจากต่างประเทศรวมถึงให้ประเทศไทยเป็นดินแดนแห่งความปลอดภัยในด้านสาธารณสุขภายใต้การดําเนินงานการพัฒนาเศรษฐกิจชีวภาพเศรษฐกิจหมุนเวียนเศรษฐกิจสีเขียว ทั้งนี้ จังหวัดระยองเห็นความสําคัญและนํานโยบายจากรัฐบาลมาเป็นแนวทางในการปฏิบัติเพื่อขับเคลื่อนการพัฒนา BCG ด้านการท่องเที่ยวและเป็นการสั่งการของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา จึงได้ดําเนินการจัดโครงการดังกล่าวขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์พัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการสร้างความร่วมมือเพื่อการขับเคลื่อนการท่องเที่ยวสีขาวภายใต้โมเดลเศรษฐกิจ BCG อย่างเป็นรูปธรรม ส่งเสริมการพัฒนาสถานประกอบการและผลิตภัณฑ์การท่องเที่ยวเพื่อตอบสนองกระแสนิยมการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนและลดการใช้ทรัพยากรของเหลือทิ้งและลดคาร์บอน หรือโรคาร์บอนที่เกิดจากการท่องเที่ยวเพื่อการท่องเที่ยวที่ยั่งยืน ซึ่งการจัดกิจกรรมดังกล่าวกําหนดจัดขึ้นการระหว่างวันที่ 16 -20 กุมภาพันธ์ 2566 มีรูปแบบการจัดการบรรยายให้ความรู้ หัวข้อ BCG กับการทองเที่ยวอย่างยั่งยืน การขับเคลื่อนเศรษฐกิจแบบ BCG และการศึกษาดูงานพื้นที่ต้นแบบการดําเนินการจัดการท่องเที่ยวภายใต้โมเดลเศรษฐกิจ BCG จังหวัดเชียงใหม่ ทั้งนี้ การจัดกิจกรรมดังกล่าวได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานทุกภาคส่วน ได้แก่ หน่วยงานภาครัฐ วิสาหกิจ เอกชนทั่วจังหวัดระยองและจังหวัดเชียงใหม่ที่ร่วมกันส่งเสริมสนับสนุนการดําเนินงานให้เกิดภาพลักษณ์การบูรณาการการทํางานร่วมกันทุกภาคส่วน ผู้ประกอบการได้พัฒนาต่อยอดธุรกิจตนเองให้มีความยั่งยืนต่อไป#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
17/2/2023
ภาคตะวันออก
ระยอง
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดระยอง
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230217123351124
null
ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จ.สมุทรปราการ แถลงความพร้อมในการให้บริการผู้โดยสารที่เพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ภายหลังการฟื้นตัวของการเดินทางทางอากาศ
วันนี้ (17 ก.พ.66) เวลา 10.00 น. นายกิตติพงศ์ กิตติขจร ผู้อํานวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ พร้อมด้วย นายกีรติ กิจมานะวัฒน์ รองกรรมการผู้อํานวยการใหญ่ (สายงานวิศวกรรมและการก่อสร้าง) บริษัท ท่าอากาศยานไทย จํากัด (มหาชน) (ทอท.) ร่วมกันแถลงความพร้อมในการให้บริการผู้โดยสารที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ภายหลังประเทศไทยเปิดรับนักท่องเที่ยวอย่างเต็มรูปแบบ รวมถึงสาธารณรัฐประชาชนจีนเปิดประเทศเมื่อวันที่ 8 มกราคม 2566 ที่ผ่านมานายกิตติพงศ์ กิตติขจร ผู้อํานวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ทอท. เปิดเผยว่า สถิติเที่ยวบิน และผู้โดยสารในภาพรวมของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ทสภ.) เพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด โดยเฉพาะภายหลังจากสาธารณรัฐประชาชนจีนเปิดประเทศ เมื่อวันที่ 8 มกราคม 2566 รวมถึงได้อนุญาตให้บริษัทนําเที่ยวจัดกรุ๊ปทัวร์นํานักท่องเที่ยวชาวจีนเดินทางออกนอกประเทศเพื่อท่องเที่ยวต่างประเทศ ทั้งนี้ ทสภ. คาดการณ์ว่าจํานวนผู้โดยสารเที่ยวบินขาเข้าจากจีนจะแตะ 500,000 คน ภายในประมาณวันที่ 1 พฤษภาคม 2566 และแตะ 1,000,000 คน ภายในประมาณวันที่ 20 สิงหาคม 2566ในส่วนของความพร้อมในการให้บริการผู้โดยสารที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จนส่งผลให้เกิดความแออัดคับคั่งของผู้โดยสารโดยเฉพาะในช่วงเวลาชั่วโมงเร่งด่วน (Peak Hour) นั้น ทสภ. มีความคืบหน้าในการดําเนินการแก้ไขและ หลังจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ร่วมกันแก้ไขปัญหาดังกล่าว สถิติเที่ยวบินที่กระเป๋าล่าช้ามากกว่า 30 นาที จากเดิมเมื่อเดือนธันวาคม 2565 มีจํานวนประมาณ 50 เที่ยวบินต่อวัน เดือนมกราคม 2566 ประมาณ 30 เที่ยวบินต่อวัน ปัจจุบันเดือนกุมภาพันธ์ 2566 ลดลงเหลือประมาณ 15-20 เที่ยวบินต่อวัน คิดเป็นประมาณร้อยละ 7 ของเที่ยวบินทั้งหมด ซึ่งจะเห็นได้ว่ามีแนวโน้มที่ดีขึ้นตามลําดับ พร้อมทั้งยังเป็นการเพิ่มขีดความสามารถในการรองรับปริมาณเที่ยวบิน และจํานวนผู้โดยสารที่จะเดินทางเข้ามายังประเทศไทยให้กับ ทสภ. และได้เร่งดําเนินการแก้ไขปัญหารถแท็กซี่สาธารณะขาดแคลน ให้เป็นไปด้วยความคล่องตัวเพื่อให้ผู้โดยสารได้รับความสะดวกสบายและใช้เวลาในการรอคิวน้อยที่สุด โดยผู้ใช้บริการสามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน SAWASDEE by AOT เพื่อดูข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับ ทสภ. และจองการใช้บริการรถ TAXI ได้ เพื่อเพิ่มความสะดวกรวดเร็วด้าน นายกีรติ กิจมานะวัฒน์ รองกรรมการผู้อํานวยการใหญ่ (สายงานวิศวกรรมและการก่อสร้าง) ทอท. เปิดเผยว่า ทอท.อยู่ระหว่างเตรียมการแก้ไขปัญหาความแออัดคับคั่งบริเวณพื้นที่ตรวจหนังสือเดินทางภายในอาคารผู้โดยสาร ทสภ. โดยมีแผนการเพิ่มขีดความสามารถของจุดตรวจหนังสือเดินทาง ณ ทสภ. แบ่งเป็น 2 ระยะ ดังนี้ระยะที่ 1 ติดตั้งเครื่องตรวจหนังสือเดินทางอัตโนมัติ Auto channel เพื่อรองรับผู้โดยสารขาออกได้ทุกประเทศที่มีการใช้งาน E-Passport ทําให้ผู้โดยสารสามารถใช้บริการผ่าน Auto channel ได้ สะดวก รวดเร็ว ในขณะที่ผู้โดยสารขาเข้านอกจากผู้โดยสารชาวไทยแล้ว ประเทศไทยได้มีบันทึกข้อตกลงในการผ่านเข้าประเทศ ทําให้ผู้โดยสารกลุ่มนี้ สามารถใช้บริการ Auto channel ได้ ซึ่งการดําเนินการอยู่ระหว่างการขออนุมัติงบประมาณ และคาดว่าจะสามารถเริ่มกระบวนการจัดหาพัสดุ ได้ประมาณเดือน มิถุนายน 2566 และเริ่มทยอยทําการติดตั้งเครื่อง Auto channel ได้ตั้งแต่เดือน พฤศจิกายน 2566 ไปจนครบภายในเดือนสิงหาคม 2567 ทําให้มีขีดความสามารถในการรองรับผู้โดยสารขาออก จาก 6,200 คน/ชั่วโมง เป็น 8,800 คน/ชั่วโมง และสามารถรองรับผู้โดยสารขาเข้า จาก 11,000 คน/ชั่วโมง เป็น 13,300 คน/ชั่วโมงระยะที่ 2 ก่อสร้างพื้นที่เพิ่มเติมบริเวณพื้นที่ว่าง ที่อยู่ระหว่างอาคารผู้โดยสารกับ อาคาร Concourse D เพื่อเป็นโถงรองรับผู้โดยสารขาเข้า และผู้โดยสาร Visa on Arrival (VOA) ซึ่งการดําเนินการอยู่ระหว่างการขออนุมัติงบประมาณ และจัดทําข้อกําหนดรายละเอียด (TOR) โดยจะสามารถเริ่มงานได้ประมาณ เดือน พฤศจิกายน 2566 และจะแล้วเสร็จในเดือน พฤษภาคม 2568 โดยเมื่อการดําเนินงานแล้วเสร็จ จะเพิ่มขีดความสามารถในการรองรับผู้โดยสารขาเข้าได้อีกประมาณ 2,000 คน/ชั่วโมง และเพิ่มการรองรับในส่วนของผู้โดสาร Visa on Arrival (VOA) ได้อีก ประมาณ 400 คน/ชั่วโมง #สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
17/2/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
สมุทรปราการ
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสมุทรปราการ
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230217124118127
null
สมาชิกวุฒิสภาเดินทางมาฟังข้อเสนอ ข้อคิดเห็น ปัญหาและอุปสรรค ในการดำเนินการของแหล่งท่องเที่ยว "น้ำตกร้อน" ในการจัดหารายได้จากการท่องเที่ยว แล้วนำรายได้ที่ ไปพัฒนาชุมชนโดยไม่หวังพึ่งพางบประมาณอุดหนุนจากภาครัฐแต่เพียงฝ่ายเดียว
วันนี้ 17 ก.พ.66 พลเอก บุญธรรม โอริส สมาชิกวุฒิสภาพร้อมคณะได้เดินทางพบปะประชาชนในพื้นที่จังหวัดกระบี่ ณ องค์การบริหารส่วนตําบลคลอมท่อมเหนือ อ.คลองท่อม จ.กระบี่ โดยมีนายไพศาล ศรีเทพ นายอําเภอคลองท่อมจังหวัดกระบี่ กล่าวต้อนรับ พลเอก บุญธรรม โอริส สมาชิกวุฒิสภา กล่าวว่า การเดินทางมาพบปะประชาชนในพื้นที่อําเภอคลองท่อม จังหวัดกระบี่ในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อรับฟังข้อเสนอ ข้อคิดเห็น ปัญหาและอุปสรรค ในการดําเนินการของศูนย์บริการนักท่องเที่ยวเกี่ยวกับกลยุทธ์ การหารายได้จากการบริหารจัดการแหล่งท่องเที่ยว ขององค์การบริหารส่วนตําบลคลองท่อมเหนือ แหล่งท่องเที่ยว "น้ําตกร้อน" องค์การบริหารส่วนตําบลคลองท่อมเหนือ อําเภอคลองท่อม เป็นจุดตัวอย่างของการบริหารจัดการ ในการจัดหารายได้จากการท่องเที่ยว แล้วนํารายได้ที่ เกิดขึ้นประมาณปีละ 36 ล้านบาท ไปพัฒนาชุมชนโดยไม่หวังพึ่งพางบประมาณอุดหนุนจากภาครัฐแต่เพียงฝ้ายเดียว "น้ําตกร้อน" นับเป็นหนึ่งในแหล่งท่องเที่ยว unseen Thailand อีกแห่งหนึ่งของจังหวัดกระบี่ ตัวน้ําตกตั้งอยู่ใน อ.คลองท่อม จ.กระบี่ ซึ่งก็ใกล้ๆ กับสระมรกต เป็นอ่างอาบน้ําธรรมชาติกลางป่ารองรับ สายน้ําตก ที่ไหลหลั่นลง มาจากเนินเขา เป็นน้ําตกร้อน สายน้ําแร่ ที่ไหลมาพร้อมๆ กับไออุ่นเพื่อสุขภาพโดยเฉพาะ มีลักษณะ เป็นธารน้ําพุร้อนผุด ขึ้นมาจากใต้ดินตาม ธรรมชาติ มีสารกํามะถัน เจือจางเป็นส่วนประกอบ มีอุณหภูมิพอเหมาะตกลงมาในแอ่งสามารถอาบน้ําได้ บริเวณ ธารน้ําตกร้อนขนาดเล็ก ที่ไหลลดหลั่นกันมาตามธรรมชาติ ในน้ําพุร้อนประกอบไปด้วยแร่ธาตุต่างๆ ที่ช่วยให้ผ่อนคลาย เชื่อว่าสามารถบําบัดอาการไขข้ออักเสบ ปวดหลัง และเกี่ยวกับผิวหนังได้ เมื่อเราเดินทางไปถึง ก็จะต้องเดินเท้าเข้าไปอีกประมาณ 400 เมตร ก็จะถึงตัวน้ําตก ผ่านเส้นทาง ศึกษา ธรรมชาติระหว่างทาง อาจพบกับหินรูปหน้าหน้าตาประหลาดใต้น้ําอีกด้วย นอกจากนี้ ยังมีบ่อกักเก็บน้ําร้อนก่อน ทางเข้าน้ําตก นักท่องเที่ยมักลงไปแช่น้ําเพื่อรักษาสุขภาพ และความสบายตัว มีอุณหภูมิประมาณ 40-50 องศาจึงเป็นแหล่งรวมของคนรักสุขภาพที่ต้องการมาบําบัดร่างกายคลายปวดเมื่อยล้าตามส่วนต่างๆและยังเป็นที่พักใจ ให้สบายจากความรื่นรมย์ของธรรมชาติป่าเขา บ่อน้ําตกร้อนที่มากด้วยสรรพคุณ น้ําตกร้อนคลองท่อมจึงเป็นสปา ธรรมชาติชั้นเลิศ จะมีทั้งนักท่องเที่ยว และชาวบ้านมาเที่ยวและเล่นน้ํากันค่อนข้างมาก ค่าธรรมเนียมการเข้าชมคนไทย เด็ก 10 บาท ผู้ใหญ่ 20 บาทต่างชาติ เด็ก 100 บาท ผู้ใหญ่ 200 บาท เปิดให้เข้าชมตั้งแต่ 08.30 น. ถึง 17.00 น. ทุกวัน#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
17/2/2023
ภาคใต้
กระบี่
สวท.กระบี่
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230217125402136
null
ทกจ.ระยอง ร่วมกับ อบจ.ระยองและสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจ.ระยองจัดพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยวรองรับเศรษฐกิจ BCG
วันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2566 เวลา 09.30 น นายวีระพงษ์ ฤทธิ์รอด รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานเปิดโครงการส่งเสริมการท่องเที่ยวพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยวจังหวัดระยองปี 2566 โดยมี นางกัญญ์ชลา สุขิตรกูล ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดระยอง กล่าวรายงาน นายมนตรี ชนะชัยวิบูลวัฒน์ ที่ปรึกษานายก อบจ.ระยอง นางสุวรรณา โดตี้ ประธานสภาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวจังหวัดระยอง กล่าวต้อนรับ หัวหน้าส่วนราชการภาครัฐ ผู้ประกอบด้านการท่องเที่ยวจังหวัดระยอง ร่วมกิจกรรม ณ โรงแรมดวงตะวัน จังหวัดเชียงใหม่นางกัญญ์ชลา สุจิตรกูล ท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า ประเทศที่มีรายได้สูงโดยกําหนดแผนกการขับเคลื่อนประเทศไทยด้วยโมเดลเศรษฐกิจ BCG พ.ศ 2564 - 2560 เน้นการขับเคลื่อนประเทศไทยไปสู่เศรษฐกิจ BCG ใช้จุดเด่นและศักยภาพของประเทศไทยและเรื่องของการเกษตร สาธารณสุข การท่องเที่ยว เพิ่มขีดความสามารถให้มากขึ้นโดยจะประกาศให้ BCG เป็นวาระแห่งชาติเช่นเดียวกับนโยบายประเทศไทย 4.0 แล้วจะต้องดําเนินสําเร็จภายใน 5 ปีลดการพึ่งพาจากต่างประเทศรวมถึงให้ประเทศไทยเป็นดินแดนแห่งความปลอดภัยในด้านสาธารณสุขภายใต้การดําเนินงานการพัฒนาเศรษฐกิจชีวภาพเศรษฐกิจหมุนเวียนเศรษฐกิจสีเขียว ทั้งนี้จังหวัดระยองเห็นความสําคัญและนํานโยบายจากรัฐบาลมาเป็นแนวทางในการปฏิบัติเพื่อขับเคลื่อนการพัฒนา BCG ด้านการท่องเที่ยวและเป็นการสั่งการของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา จึงได้ดําเนินการจัดโครงการดังกล่าวขึ้น โดยมีวัตถุประสงค์พัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการสร้างความร่วมมือเพื่อการขับเคลื่อนการท่องเที่ยวสีขาวภายใต้โมเดลเศรษฐกิจ BCG อย่างเป็นรูปธรรม ส่งเสริมการพัฒนาสถานประกอบการและผลิตภัณฑ์การท่องเที่ยวเพื่อตอบสนองกระแสนิยมการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนและลดการใช้ทรัพยากรของเหลือทิ้งและลดคาร์บอน หรือโรคาร์บอนที่เกิดจากการท่องเที่ยวเพื่อการท่องเที่ยวที่ยั่งยืน ซึ่งการจัดกิจกรรมดังกล่าวกําหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 16 - 20 กุมภาพันธ์ 2566 มีรูปแบบการจัดการบรรยายให้ความรู้ หัวข้อ BCG กับการทองเที่ยวอย่างยั่งยืน การขับเคลื่อนเศรษฐกิจแบบ BCG และการศึกษาดูงานพื้นที่ต้นแบบการดําเนินการจัดการท่องเที่ยวภายใต้โมเดลเศรษฐกิจ BCG จังหวัดเชียงใหม่ ทั้งนี้ การจัดกิจกรรมดังกล่าวได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานทุกภาคส่วน ได้แก่ หน่วยงานภาครัฐ วิสาหกิจ เอกชนทั่วจังหวัดระยองและจังหวัดเชียงใหม่ที่ร่วมกันส่งเสริมสนับสนุนการดําเนินงานให้เกิดภาพลักษณ์การบูรณาการการทํางานร่วมกันทุกภาคส่วน ผู้ประกอบการได้พัฒนาต่อยอดธุรกิจตนเองให้มีความยั่งยืนต่อไป#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
17/2/2023
ภาคตะวันออก
ระยอง
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดระยอง
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230217174317311
null
รองผู้ว่าฯ ชลบุรี ให้การต้อนรับคณะเจ้าหน้าที่จากมณฑลเจียงซู สาธารณรัฐประชาชนจีนในโอกาสมาเยือนจังหวัดชลบุรี
เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 17 ก.พ. 66 ที่ห้องรับรองผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี ชั้น 2 ศาลากลางจังหวัดชลบุรี นายธวัชชัย ศรีทอง ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี มอบหมายให้ นางสาวฐิติลักษณ์ คําพา รองผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี ให้การต้อนรับ คณะเจ้าหน้าที่จากมณฑลเจียงซู สาธารณรัฐประชาชนจีน นางสาวหวัง เวิ่นฮุ่ย รองผู้อํานวยการกองกิจการเอเชีย สํานักงานการต่างประเทศมณฑลเจียงซู สาธารณรัฐประชาชนจีน และคณะ ในโอกาสมาเยือนจังหวัดชลบุรี เพื่อเข้าพบหารือเพื่อพุดคุย รับฟังรายงานเกี่ยวกับผลการดําเนินงานของจังหวัดชลบุรีและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในเรื่องต่างๆ และเพื่อให้เป็นการสร้างความสัมพันธไมตรีกับมณฑลเจียงซู สาธารณรัฐประชาชนจีนอีกด้วยจังหวัดชลบุรีเป็นเมืองที่มีเศรษฐกิจมั่งคั่งมั่นคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง และเป็นแหล่งที่น่าลงทุนเนื่องจากเป็นพื้นที่ที่รู้จักของนักลงทุนทั่วโลก ในฐานะพื้นที่ชั้นนําในการพัฒนาอุตสาหกรรมของอาเซียน การมีนักลงทุนทั่วโลกอยู่ในพื้นที่ ทําให้เกิดความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการ การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งอยู่ในระดับดี ทั้งทางถนน รถไฟ ท่าเรือ และนิคมอุตสาหกรรม อีกทั้งยังเป็นศูนย์กลางการขนส่งทางน้ําของอาเซียน สําหรับคนทั่วไปแล้ว จังหวัดชลบุรีเป็นที่รู้จักในฐานะเมืองตากอากาศชายทะเลที่ใกล้กรุงเทพฯ โดยเฉพาะหาดบางแสน และพัทยา ซึ่งได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยว ทั้งชาวไทย และชาวต่างประเทศโดยเฉพาะนักท่องเที่ยวชาวจีน ต่างก็เดินทางเข้ามาสัมผัสความสวยสดงดงามของชายทะเลตะวันออกอันมีมนต์เสน่ห์แห่งนี้ จังหวัดชลบุรีอยู่ในเขตพื้นที่เศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก ทําให้มีเศรษฐกิจมั่นคง มั่งคั่ง เติบโตอย่างต่อเนื่องและเป็นแหล่งที่น่าลงทุนเนื่องจากเป็นพื้นที่ที่รู้จักของนักลงทุนทั่วโลกในฐานะพื้นที่ชั้นนําในการพัฒนาอุตสาหกรรมของอาเซียนการมีนักลงทุนทั่วโลกอยู่ในพื้นที่ ทําให้เกิดความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการ การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งอยู่ในระดับดี ทั้งทางถนน รถไฟ ท่าเรือ และนิคมอุตสาหกรรม อีกทั้งยังเป็นศูนย์กลางการขนส่งทางน้ําของอาเซียนบัณฑิต มันปาฏิ...ภาพ/ข่าว#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
17/2/2023
ภาคตะวันออก
ชลบุรี
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดชลบุรี
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230217143428183
null
คณะเจ้าหน้าที่จากมณฑลเจียงซู สาธารณรัฐประชาชนจีนเยือนจังหวัดชลบุรี
วันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2566 นางสาวฐิติลักษณ์ คําพา รองผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี ให้การต้อนรับ คณะเจ้าหน้าที่จากมณฑลเจียงซู สาธารณรัฐประชาชนจีน นําโดย นางสาวหวัง เวิ่นฮุ่ย รองผู้อํานวยการกองกิจการเอเชีย สํานักงานการต่างประเทศมณฑลเจียงชู สาธารณรัฐประชาชนจีน และคณะ ณ ห้องรับรองผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี ชั้น 2 ศาลากลางจังหวัดชลบุรีนางสาวหวัง เวิ่นฮุ่ย รองผู้อํานวยการกองกิจการเอเชีย สํานักงานการต่างประเทศมณฑลเจียงชู สาธารณรัฐประชาชนจีน และคณะ ได้เดินทางมาเยือนจังหวัดชลบุรี เพื่อเข้าพบหารือเพื่อพุดคุย รับฟังรายงานเกี่ยวกับผลการดําเนินงานของจังหวัดชลบุรี และแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในเรื่องต่างๆ และเพื่อให้เป็นการสร้างความสัมพันธไมตรีกับมณฑลเจียงชู สาธารณรัฐประชาชนจีนอีกด้วยด้านนางสาวฐิติลักษณ์ คําพา รองผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี เปิดเผยว่า จังหวัดชลบุรีเป็นเมืองที่มีเศรษฐกิจมั่งคั่งมั่นคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง และเป็นแหล่งที่น่าลงทุนเนื่องจากเป็นพื้นที่ที่รู้จักของนักลงทุนทั่วโลก ในฐานะพื้นที่ชั้นนําในการพัฒนาอุตสาหกรรมของอาเซียน การมีนักลงทุนทั่วโลกอยู่ในพื้นที่ ทําให้เกิดความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการ การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งอยู่ในระดับดี ทั้งทางถนน รถไฟ ท่าเรือ และนิคมอุตสาหกรรม อีกทั้ง ยังเป็นศูนย์กลางการขนส่งทางน้ําของอาเชี่ยน สําหรับคนทั่วไปแล้ว จังหวัดชลบุรีเป็นที่รู้จักในฐานะเมืองตากอากาศชายทะเลที่ใกล้กรุงเทพฯ โดยเฉพาะหาดบางแสน และพัทยา ซึ่งได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยว ทั้งชาวไทย และชาวต่างประเทศโดยเฉพาะนักท่องเที่ยวชาวจีน ต่างก็เดินทางเข้ามาสัมผัสความสวยสดงดงามของชายทะเลตะวันออกอันมีมนต์เสน่ห์แห่งนี้นอกจากนี้ จังหวัดชลบุรีอยู่ในเขตพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก ทําให้มีเศรษฐกิจมั่นคง มั่งคั่ง เติบโตอย่างต่อเนื่องและเป็นแหล่งที่น่าลงทุนเนื่องจากเป็นพื้นที่ที่รู้จักของนักลงทุนทั่วโลกในฐานะพื้นที่ชั้นนําในการพัฒนาอุตสาหกรรมของอาเซียนการมีนักลงทุนทั่วโลกอยู่ในพื้นที่ ทําให้เกิดความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการ การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งอยู่ในระดับดี ทั้งทางถนน รถไฟ ท่าเรือ และนิคมอุตสาหกรรม อีกทั้งยังเป็นศูนย์กลางการขนส่งทางน้ําของอาเซียนปริญญา/ข่าว/ภาพ#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
17/2/2023
ภาคตะวันออก
ชลบุรี
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดชลบุรี
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230217144926193
null
EXIM BANK เปิดตัวโครงการ “EXIM เพื่อคนตัวเล็ก”เร่งสร้าง SMEs ขับเคลื่อนภาคการส่งออกและเศรษฐกิจไทย
นายรักษ์ วรกิจโภคาทร กรรมการผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนําเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) กล่าวภายในงานครบรอบ 29 ปี ของธนาคารว่า ได้เปิดโครงการ “EXIM เพื่อคนตัวเล็ก” ซึ่งเป็นโครงการที่จะช่วยเหลือและเสริมสร้างศักยภาพของผู้ประกอบการไทยให้สามารถเริ่มต้น หรือขยายธุรกิจระหว่างประเทศได้ ไม่ว่าจะเป็นบุคคลธรรมดา วิสาหกิจชุมชน หรือผู้ประกอบการ SMEs ที่ทําธุรกิจเชื่อมโยงกับ Supply Chain การส่งออก โดยปัจจุบันประเทศมี SMEs 3.17 ล้านรายอยู่ในระบบการส่งออกเพียง 30,000 ราย หรือคิดเป็น ร้อยละ 1 เท่านั้น Exim Bank ได้เตรียมวงเงินสินเชื่อจํานวน 5,000 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 6 ต่อปี วงเงินสินเชื่อต่อราย รายละ 200,000-2,000,000 บาท เพื่อสนับสนุน SMEs ที่มีศักยภาพเข้าสู่ตลาดการส่งออก โดยเฉพาะในกลุ่มประเทศ CLMV อาเซียน และยุโรป โดยตลอดทั้งปี 2566 ตั้งเป้าจะมี SMEs ที่สามารถเข้าสู่ระบบส่งออกได้ถึง 40,000 รายนอกจากนี้ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนําเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) ยังกล่าวอีกว่า ในเดือนมีนาคม 2566 Exim Bank /SME D Bank และ บสย. จะร่วมกันเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ที่เป็นการช่วยเหลือและส่งเสริมให้กลุ่ม SMEs บนฐานข้อมูลเดียวกันเพื่อส่งเสริมตามศักยภาพของแต่ละธุรกิจ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ส่วนสื่อสารองค์กร ฝ่ายส่งเสริมภาพลักษณ์และสื่อสารองค์กร โทร. 0 2271 3700
17/2/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
Radio-สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230217150328214
null
สิงห์บุรี กลุ่มจักสานหมู่บ้านอ่าวยายเกิด สานกระเป๋าสร้างรายได้ตลอดปี
นางวิณุรา คงทอง ประธานกลุ่มจักสานหมู่บ้านอ่าวยายเกิดและสมาชิก บ้านเลขที่ 50/1 หมู่ 12 ตําบลหัวไผ่ อําเภอเมือง จังหวัดสิงห์บุรี ทําผลิตภัณฑ์จักสานหวายไม้ไผ่งานฝีมือรายได้ดีมีออเดอร์ตลอดทั้งปี เช่น กระเป๋า ตระกร้า ที่ใส่แก้วน้ํา กําไร และตามที่ลูกค้าสั่ง ใช้เวลาทํานาน 2-3 เดือน ราคาหลักหมื่นถึงหลักแสนบาท กลุ่มจักสานหมู่บ้านอ่าวยายเกิด เคยไปประกวดในงาน Otop เมืองทองธานีจนได้รับรางวัลชมเชย ประเภทหัตถกรรม การประกวดผ้าลายขิดพระราชทาน ผ้าขิดลายนารีรัตนราชกัญญา จากสมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารัตนราชกัญญา พระราชทานใบเกียรติคุณ สร้างความปลาบปลื้มใจให้ตนเองและครอบครัว ทําให้อยากนําผลงานจักสานไปจัดแสดงทุกปีเพราะลูกค้าชื่นชอบผลงานและเห็นคุณค่าในงานจักสานหวายไม้ไผ่ที่แข็งแรงทนทานรับประกันซ่อมฟรี จนทําไม่ทัน สามารถสร้างรายได้เลี้ยงดูตนเองและครอบครัวได้ ปัจจุบันช่างฝีมืองานจักสานมีน้อยแล้วเพราะเป็นงานละเอียดต้องมีความอดทนสูง จึงอยากให้คนรุ่นใหม่ผู้ที่สนใจอยากสร้างรายได้ มาเรียนกับตนเองสอนให้ฟรี เป็นการสืบสานงานฝีมือหัตถกรรมจักรสานให้คงอยู่กับคนไทยของเราตลอดไป โทร.063-2680052#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
17/2/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
สิงห์บุรี
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสิงห์บุรี
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230217150213213
null
ททท. เปิดจองใช้สิทธิ์โครงการ “เราเที่ยวด้วยกัน เฟส 5” เร็วขึ้นเป็นวันที่ 7 มีนาคมนี้
นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการ ททท. กล่าวว่า ททท. เตรียมเปิดจองใช้สิทธิ์โครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ “เราเที่ยวด้วยกัน เฟส 5” เร็วขึ้นจากเดิม วันที่ 8 มีนาคม 2566 เป็นวันที่ 7 มีนาคมนี้ สําหรับประชาชนที่ไม่เคยลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการเราเที่ยวด้วยกันในเฟส 1 -4 สามารถลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการฯ ได้ตั้งแต่วันที่ 27 กุมภาพันธ์ – 2 มีนาคม 2566 ตั้งแต่เวลา 06.00 น.- 21.00 น. ผ่านเว็บไซต์ www.เราเที่ยวด้วยกัน.com ขณะที่ผู้ที่เคยลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการเราเที่ยวกัน เฟส 1 - 4 แล้ว สามารถกดยอมรับข้อตกลงและเงื่อนไขบนแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” และจองใช้สิทธิ์ได้ ตั้งแต่วันที่ 7 มีนาคมเป็นต้นไปสําหรับผู้เข้าร่วมโครงการฯ สามารถเริ่มเดินทางใช้สิทธิ์ได้ ระหว่างวันที่ 10 มีนาคม - 30 เมษายน โดยผู้ใช้สิทธิ์จะต้องติดต่อจองที่พักกับผู้ประกอบการโดยตรง อย่างน้อย 3 วันล่วงหน้าก่อนวันเข้าพัก และชําระค่าที่พัก ร้อยละ 60 ผ่านช่องทาง G Wallet บนแอปพลิเคชันเป๋าตัง ซึ่งกําหนดให้เป็นการเดินทางข้ามจังหวัดได้ทั่วประเทศ โดยจะเปิดให้จองที่พักได้จนถึงวันที่ 26 เมษายน และสามารถเช็กอินเข้าที่พักวันสุดท้ายได้วันที่ 29 เมษายน ซึ่งผู้เข้าร่วมโครงการจะต้องเช็คเอ้าท์ออกจากที่พัก ภายในวันที่ 30 เมษายน โดยถือเป็นวันสิ้นสุดโครงการ
17/2/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230217150129208
null
จังหวัดสตูล คึกคักหน่วยงานพร้อมจัดกิจกรรมกระตุ้นการท่องเที่ยวอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดประชุมเตรียมพร้อมจัดแข่งขันตกปลา 2 ประเทศ “Satun - Langkawi Fishing Thru Andaman ปี 2566”
วันนี้ (17 ก.พ.66) นายชาตรี ณ ถลาง รองผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล เป็นประธานประชุมเตรียมความพร้อมจัดการแข่งขันตกปลา Satun - Langkawi Fishing Thru Andaman ปี 2566 ณ ห้องประชุมสํานักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดสตูล ตําบลคลองขุด อําเภอเมือง จังหวัดสตูล โดยมีคณะกรรมการโครงการฯ จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ เข้าร่วมพร้อมแลกเปลี่ยนข้อมูลอย่างกว้างขวางทั้งนี้ ตามที่จังหวัดสตูล โดยสํานักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดสตูล ได้กําหนดจัดโครงการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงกีฬา ตามแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาจังหวัดสตูล เพื่อส่งเสริมการจัดการแข่งขันกีฬาและนันทนาการ ซึ่งเป็นปัจจัยที่สําคัญในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนและเป็นเครื่องมือสําคัญส่งเสริมการท่องเที่ยวและกระตุ้นเศรษฐกิจของจังหวัดสตูลในภาพรวมได้เป็นอย่างดีสําหรับการแข่งขันตกปลา Satun - Langkawi Fishing Thru Andaman ปี 2566 ในวันที่ 16 - 19 มีนาคม 2566 โดยมีกลุ่มเป้าหมายคือนักตกปลาชาวไทยและชาวต่างชาติ (ประเทศมาเลเซีย) ประมาณ 500 คน เบื้องต้นทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจากเกาะลังกาวีแจ้งยืนยันมีทีมร่วมแข่งขันแล้ว 10 ทีม ประมาณ 100 คน ส่วนที่เหลือจะเป็นทีมในประเทศไทย กําหนดพื้นที่จัดการแข่งขันที่จุดชมวิวชายหาดปากบารา (ลาน 18 ล้าน) อําเภอละงู จังหวัดสตูลโดยการจัดงานฯ ในครั้งนี้ เป็นความร่วมมือระหว่างจังหวัดสตูล ประเทศไทย และ Langkawi Development Authority (LADA) เกาะลังกาวี ประเทศมาเลเซีย จึงได้กําหนดให้มีการแถลงข่าวเพื่อประชาสัมพันธ์จังหวัดสตูลและกิจกรรมฯ นี้ ให้นักท่องเที่ยวจากทั่วโลกได้รู้จักจังหวัดสตูลและแหล่งท่องเที่ยวในจังหวัดสตูลได้มากขึ้น ซึ่งกําหนดให้มีการแถลงข่าวรวม 2 ครั้ง คือที่เกาะลังกาวี 1 ครั้ง และที่จังหวัดสตูล 1 ครั้ง ในวันที่ 16 มีนาคม 2566 ณ คฤหาสน์กูเด็น อําเภอเมือง จังหวัดสตูล#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
17/2/2023
ภาคใต้
สตูล
สวท.สตูล
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230217154306255
null
การรถไฟแห่งประเทศไทย ประกาศหยุดให้บริการขบวนรถไฟสายเหนือ วันนี้ (17 ก.พ.) 3 ขบวน หลังเกิดเหตุขบวนรถไฟตกรางที่สถานีรถไฟท่าแค จ. ลพบุรี
นายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย ลงพื้นที่ติดตามเหตุขบวนรถสินค้าที่ 643 ตกรางบริเวณสถานีท่าแค อําเภอเมือง จังหวัดลพบุรี เป็นเหตุให้รถพ่วงกีดขวางการเดินรถ ส่งผลให้ขบวนรถในเส้นทางสายเหนือเกิดความล่าช้าทุกขบวน พร้อมสั่งการให้เจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องเร่งดําเนินการยกรถที่ตกรางดังกล่าว เพื่อให้สามารถเปิดการเดินรถในเส้นทางสายเหนือได้ตามปกติโดยเร็ว โดยคาดการณ์ว่าจะสามารถยกขบวนรถที่ตกราง รวมทั้งซ่อมปรับปรุงสภาพทางให้แล้วเสร็จ พร้อมเปิดใช้งานได้ตามปกติได้ภายในวันนี้(17 ก.พ.) และจากเหตุรถไฟตกรางในพื้นที่ดังกล่าว การรถไฟฯ จึงประกาศขบวนรถรถไฟสายเหนือ หยุดให้บริการ 3 ขบวน ในวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2566 ประกอบด้วย ขบวนรถด่วนพิเศษที่ 9 (สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์-เชียงใหม่) ขบวนรถด่วนที่ 13 (สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์-เชียงใหม่) และขบวนรถเร็วที่ 107 (สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์-เด่นชัย) ทั้งนี้ ผู้โดยสาร สามารถคืนเงินค่าตั๋วโดยสารได้เต็มราคานอกจากนี้ การรถไฟฯ ยังปรับเปลี่ยนสถานีต้นทางปลายทางของขบวนรถเส้นทางสายเหนือเป็นการชั่วคราว และมีการจัดเตรียมและดูแลผู้โดยสารระหว่างการเดินทางในขบวนรถ ทั้งหมด 5 ขบวน เพื่อทําการขนถ่ายผู้โดยสาร
17/2/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
นนทบุรี
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230217192023355
null
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้าโครงการสำคัญเพื่อขับเคลื่อนการพัฒนาโครงข่ายคมนาคมในพื้นที่จังหวัดสระบุรี
วันนี้ (17 ก.พ.66) นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้าโครงการสําคัญเพื่อขับเคลื่อนการพัฒนาด้านคมนาคมในพื้นที่จังหวัดสระบุรี พร้อมด้วย นายชยธรรม์ พรหมศร ปลัดกระทรวงคมนาคม นายสรพงศ์ ไพฑูรย์พงษ์ รองปลัดกระทรวงคมนาคม รักษาราชการแทนอธิบดีกรมเจ้าท่า นายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก รักษาราชการแทนรองปลัดกระทรวงคมนาคม และผู้บริหารหน่วยงานในสังกัดกระทรวงคมนาคม ร่วมลงพื้นที่ โดยมี นายพลวรรธน์ เทียนชัยมงคล รองผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรี ผู้บริหาร เจ้าหน้าที่หน่วยงานในพื้นที่ และประชาชน ให้การต้อนรับ ณ พื้นที่ก่อสร้างอุโมงค์ 1 โครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ช่วงมาบกะเบา - ชุมทางถนนจิระนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ กล่าวว่า จากนโยบายของรัฐบาลภายใต้การนําของ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่มุ่งมั่นพัฒนาระบบการคมนาคมขนส่งในทุกมิติให้ครอบคลุมทั่วถึงทุกพื้นที่ และสามารถเชื่อมโยงการเดินทางได้อย่างไร้รอยต่อ ส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจ สังคม และการท่องเที่ยวในภูมิภาค ยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนให้สามารถเข้าถึงระบบขนส่งสาธารณะได้อย่างทั่วถึงและเท่าเทียม เพื่อให้ประชาชนเดินทางได้อย่างสะดวก รวดเร็ว ปลอดภัย มีคุณภาพชีวิตที่ดี สร้างงาน สร้างรายได้ให้กับประชาชนในพื้นที่ กระทรวงคมนาคมได้เร่งรัดผลักดันการดําเนินโครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมอย่างต่อเนื่อง เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ ลดต้นทุนโลจิสติกส์ รวมถึงเป็นการอํานวยความสะดวกในการเดินทางให้แก่ประชาชน ลดมลพิษและแก้ไขปัญหาจราจรติดขัดในพื้นที่เขตเมืองสําหรับโครงการสําคัญในการขับเคลื่อนการพัฒนาด้านคมนาคมในพื้นที่จังหวัดสระบุรี ครอบคลุมทุกมิติทั้งทางถนน ทางราง และทางน้ํา มีดังนี้ มิติการพัฒนาทางถนน 1. การพัฒนาโครงข่ายทางหลวงจังหวัดสระบุรี ประกอบด้วย1.1 โครงการทางหลวงที่ดําเนินการแล้วเสร็จและเปิดให้บริการแล้ว ได้แก่ 1) สะพานกลับรถ หนองแค - สระบุรี (ขาออก) เปิดให้บริการเมื่อเดือนพฤษภาคม 2563 2) สะพานกลับรถบน ทล.1 กม. ที่ 90+000และ 104+200 (ขาเข้า) เปิดให้บริการเมื่อเดือนกันยายน 2564 3) ทล.33 สาย อ.บางปะหัน - อ.นครหลวง - อ.ภาชี - หินกอง (329 เดิม) ตอน บ.ภาชี - บ.หินกอง ตอน 2 เปิดให้บริการเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2563 4) สะพานข้ามจุดตัดทางรถไฟ ทล.3188 ทางเข้าเมืองแก่งคอย เปิดให้บริการเมื่อเดือนกันยายน 2563 และ 5) ทล.3222 สาย อ.แก่งคอย - อ.บ้านนา ตอน ต.ชาผักแพว - ต.ชะอม เปิดให้บริการเมื่อเดือนกรกฎาคม 25651.2 โครงการทางหลวงที่อยู่ระหว่างดําเนินการก่อสร้าง ระยะทางรวม 196 กิโลเมตร งบประมาณก่อสร้าง 79,271.31 ล้านบาท ได้แก่ 1) โครงการสะพานข้ามทางแยกจุดตัด ทล.362 กับ ทล.3041 ถนนวงแหวนรอบ เมืองสระบุรีด้านตะวันตก (แยกเลี่ยงเมืองเสาไห้) มีความก้าวหน้า 74.70% คาดว่าจะเปิดให้บริการในปี 2566 2) โครงการก่อสร้างสะพานข้ามจุดตัดทางรถไฟ ทล.3188 สาย ขอนหอม - บ้านเหนือ (ทางเข้าเมืองแก่งคอย) มีความก้าวหน้า 50.26% คาดว่าจะเปิดให้บริการในปี 2567 3) โครงการก่อสร้างสะพานข้ามจุดตัดทางรถไฟ ทล.3224 สาย บ้านป่า - ท่าคร้อ มีความก้าวหน้า 40.12% คาดว่าจะเปิดให้บริการในปี 2567 และ 4) โครงการมอเตอร์เวย์ M6 สายบางปะอิน - นครราชสีมา มีความก้าวหน้า 88.00% คาดว่าจะเปิดให้บริการในปี 2567 สําหรับโครงข่ายทางหลวงที่อยู่ระหว่างการดําเนินการ ซึ่งเป็นโครงการที่ได้รับงบประมาณปี 2566 ระยะทางรวม 3.133 กิโลเมตร งบประมาณก่อสร้าง 141.29 ล้านบาท ได้แก่ 1) โครงการก่อสร้างทางหลวงผ่านย่านชุมชน ทล.3188 ตอน ท่าเยี่ยม - ขอนหอม ช่วง กม. ที่ 2+135 - 2+735 มีความก้าวหน้า 3.009% 2) โครงการพัฒนาสะพานและระบบระบายน้ําบน ทล.2 ตอน สระบุรี - ตาลเดี่ยว ช่วง กม. ที่ 5+957 - 7+415 มีความก้าวหน้า 8.895% 3) โครงการก่อสร้างเพิ่มประสิทธิภาพ ทล.2 ตอน ตาลเดี่ยว - ซับบอน ช่วง กม. ที่ 9+560 - 10+125 มีความก้าวหน้า 5.398% และ 4) โครงการก่อสร้างเพิ่มประสิทธิภาพ ทล.3520 ตอน ไผ่ต่ํา - หนองแค ช่วง กม. ที่ 2+055 - 2+565 มีความก้าวหน้า 6.707% นอกจากนี้ กระทรวงคมนาคมมีแผนพัฒนาโครงข่ายทางหลวงในอนาคตในพื้นที่จังหวัดสระบุรีจํานวน 5 โครงการ ระยะทางรวม 4.700 กิโลเมตร งบประมาณก่อสร้าง 1,890 ล้านบาท2. การพัฒนาทางหลวงชนบทจังหวัดสระบุรี ประกอบด้วย2.1 โครงการที่อยู่ระหว่างการดําเนินการและได้รับงบประมาณปี 2566 จํานวน 31 โครงการ งบประมาณก่อสร้าง 449.9266 ล้านบาท แบ่งเป็น งานก่อสร้างทางและสะพาน จํานวน 9 โครงการ งานบํารุงรักษาทางและสะพาน จํานวน 11 โครงการ และงานอํานวยความปลอดภัย จํานวน 11 โครงการ อาทิ โครงการบํารุงถนนสาย สบ.4005 แยก ทล. 2247 - บ้านวังม่วง อ.มวกเหล็ก และวังม่วง จ.สระบุรี ขณะนี้อยู่ระหว่างลงนามในสัญญา2.2 โครงการที่อยู่ระหว่างเตรียมของบประมาณปี 2567 จํานวน 67 โครงการ วงเงินทั้งสิ้น 818.8330 ล้านบาท แบ่งเป็น งานก่อสร้างทางและสะพาน จํานวน 11 โครงการ งานบํารุงรักษาทางและสะพาน จํานวน 29 โครงการ และงานอํานวยความปลอดภัย จํานวน 27 โครงการ อาทิ โครงการจ้างที่ปรึกษาศึกษาความเหมาะสม ถนนสาย ข2 และ ง3 ผังเมืองรวมเมืองสระบุรี อ.เมือง จ.สระบุรี3. แผนแม่บทการพัฒนาโครงข่ายทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองและระบบราง MR-MAPในปี 2564 แผนแม่บทโครงข่าย MR-MAP ได้ศึกษาแล้วเสร็จ และคณะกรรมการจัดระบบการจราจรทางบก (คจร.) ได้เห็นชอบแล้วในปี 2565 หน่วยงานที่รับผิดชอบได้แก่ กรมทางหลวง และการรถไฟแห่งประเทศไทย จะได้ดําเนินการสํารวจและออกแบบในรายโครงการต่อไป ปัจจุบันอยู่ระหว่างดําเนินการออกแบบเส้นทางเบื้องต้น ได้แก่ MR2 (ช่วงชลบุรี - นครราชสีมา) MR5 (ช่วงนครราชสีมา - อุบลราชธานี) และ MR8 (ช่วงชุมพร - ระนอง) โดยจะเริ่มก่อสร้างเส้นแรกได้ในช่วงปี 2566 และเปิดให้บริการได้ในปี 2568 โดยมีเส้นทางที่ผ่านพื้นที่ จ.สระบุรี MR2 : กรุงเทพฯ/ชลบุรี (แหลมฉบัง) - หนองคาย (ด่านหนองคาย)4. การเชื่อมโยงการขนส่งสาธารณะในจังหวัดสระบุรี สามารถเดินทางจากสถานีขนส่งผู้โดยสารไปยังสถานที่ต่าง ๆ โดยรถหมวด 1 จํานวน 8 เส้นทาง มีการเดินรถจริง 2 เส้นทาง และรถหมวด 4 จํานวน 35 เส้นทาง มีการเดินรถจริง 18 เส้นทาง นอกจากนี้ มีโครงการและแผนงานที่สําคัญ ได้แก่ การรณรงค์ป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนในช่วงเทศกาลปีใหม่ การตรวจวัดควันดําเพื่อลดมลพิษ PM 2.5 กิจกรรมตรวจและทดสอบสารอันเกิดจากการเสพยาเสพติดให้โทษของพนักงานขับรถ การพัฒนาระบบการขนส่งด้วยรถโดยสารประจําทางจังหวัดสระบุรี เพื่อรองรับการขนส่งทางรางมิติการพัฒนาทางราง 1. โครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ช่วงมาบกะเบา - ชุมทางถนนจิระ ระยะทาง 132 กิโลเมตร 19 สถานี วงเงินลงทุน 27,453.80 ล้านบาท โดยก่อสร้างทางรถไฟใหม่ 1 ทาง ขนานกับทางรถไฟเดิม มีย่านกองเก็บสินค้า (CY) จํานวน 1 แห่ง ที่สถานีกุดจิก ศูนย์ควบคุมการเดินรถ จํานวน 1 แห่ง ที่สถานีนครราชสีมา และการก่อสร้างอุโมงค์รถไฟ 3 แห่ง ขณะนี้อยู่ระหว่างก่อสร้าง คาดว่าจะก่อสร้างสัญญาที่ 1 และ 3 แล้วเสร็จ ในปี 2566 และสัญญาที่ 2 อยู่ระหว่างเปรียบเทียบแนวเส้นทางของโครงการรถไฟทางคู่กับแนวเส้นทาง MR-MAP ตามนโยบายของกระทรวงคมนาคม2. โครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ช่วงชุมทางถนนจิระ - อุบลราชธานี ระยะทาง 308 กิโลเมตร 35 สถานี วงเงินลงทุน 36,683 ล้านบาท ปัจจุบันอยู่ระหว่างจัดทําข้อมูลเพื่อเสนอขออนุมัติโครงการต่อคณะรัฐมนตรีภายในปี 25663. โครงการรถไฟความเร็วสูงไทย - จีน ระยะที่ 1 ช่วงกรุงเทพฯ - นครราชสีมา ระยะทาง 253 กิโลเมตร 6 สถานี ได้แก่ สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ ดอนเมือง อยุธยา สระบุรี ปากช่อง และสิ้นสุดที่นครราชสีมา วงเงินลงทุน 179,413 ล้านบาท ศูนย์ซ่อมบํารุง (Depot) 1 แห่ง (เชียงรากน้อย) หน่วยซ่อมบํารุงทาง 2 แห่ง (สระบุรี และโคกสะอาด) รวมถึงการก่อสร้างอุโมงค์รถไฟ 1 แห่ง ระยะทาง 12.23 กิโลเมตร (เฉพาะอุโมงค์ความยาว 8 กิโลเมตร) ตั้งอยู่ระหว่างสถานีอยุธยา และปากช่อง วงเงินลงทุน 4,279.33 ล้านบาท ปัจจุบัน อยู่ระหว่างการก่อสร้าง มีกําหนดเปิดให้บริการปี 2570มิติการพัฒนาทางน้ํา1. โครงการขุดลอกแม่น้ําป่าสัก ต.นาโฉง อ.เมือง จ.สระบุรี อยู่ระหว่างดําเนินงานปีงบประมาณ 25662. การติดตามเรื่องร้องเรียน ร้องทุกข์ โดยออกสํารวจบริเวณตลิ่งริมแม่น้ําป่าสักที่ได้รับผลกระทบจากน้ําท่วม การระบายน้ําทําให้ดินสไลด์ และทรุดตัว พร้อมทั้งรายงานพื้นที่ที่ได้รับความเสียหาย เพื่อขอรับการสนับสนุนงบประมาณในการพิจารณาสร้างเขื่อนป้องกันน้ําเซาะในโอกาสนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมได้ลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้าการก่อสร้างอุโมงค์ 1 โครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ช่วงมาบกะเบา - ชุมชนถนนจิระ ซึ่งเป็นอุโมงค์รถไฟที่มีความยาวมากที่สุดในประเทศ มีลักษณะเป็นอุโมงค์คู่ - ทางเดี่ยว ความยาว 5.42 กิโลเมตร กว้าง 7.5 เมตร สูง 7 เมตร พร้อมสั่งการให้การรถไฟแห่งประเทศไทยและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมบูรณาการทํางาน เพื่อประสิทธิภาพสูงสุดในการดําเนินงาน นอกจากนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมได้รับฟังความคิดเห็นและความต้องการของประชาชน เกี่ยวกับการพัฒนาเส้นทางคมนาคมและการขนส่งสินค้าในพื้นที่ อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี และพื้นที่ใกล้เคียงด้วย#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
17/2/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
สระบุรี
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสระบุรี
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230217170629297
null
ชาวพรรณนานิคม ห้ามพลาดพาณิชย์จังหวัดสกลนคร ยกทัพสินค้าราคาถูกลดค่าครองชีพ ครั้งที่ 3
ที่บริเวณที่ว่าการอําเภอพรรณานิคม จ.สกลนคร นางสาวภิรมย์ ก้อนแพง ปลัดอาวุโสอําเภอพรรณานิคม เปิดงาน พาณิชย์ลดราคา ออนทัวร์ทั่วไทย LOT 21 สินค้าราคาถูก โดยมี นางเกศินี พวงประดิษฐ์ พาณิชย์จังหวัดสกลนคร นําสินค้าอุปโภคบริโภค ลดราคากว่า 40% นํามาจําหน่ายให้กับประชาชนชาวอําเภอพรรณานิคม ระหว่างวันที่ 16-18 กุมภาพันธ์ 2566 ภายในงานมีการนําสินค้าราคาถูก ผลิตภัณฑ์จากชุมชน อาหารพร้อมรับประทาน สินค้าอุปโภคบริโภคมาจําหน่าย โดยเฉพาะ ไข่ไก่ น้ํามันพืช น้ําตาลทราย เครื่องปรุงรส อาหารแห้งนางเกศินี พวงประดิษฐ์ พาณิชย์จังหวัดสกลนคร กล่าวว่าเนื่องจากสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 เริ่มคลี่คลาย และมีการผ่อนปรนมาตรการต่าง ๆ เพื่อให้เศรษฐกิจภายในประเทศฟื้นตัวได้ รัฐบาลได้มีนโยบายในการช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่ประชาชน เพิ่มช่องทางการจําหน่ายสินค้าให้แก่ผู้ประกอบการและเกษตรกร กระทรวงพาณิชย์ จึงได้ดําเนินโครงการ พาณิชย์ลดราคา ออนทัวร์ ทั่วไทย LOT 21 ขึ้นซึ่งจังหวัดสกลนคร กําหนดจัด 4 ครั้ง ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 3 งานมีไปถึง 18 กุมภาพันธ์ ณ สนามหน้าที่ว่าการอําเภอพรรณานิคม และครั้งที่ 4 วันที่ 27 กุมภาพันธ์ - 1 มีนาคม ณ สนามหน้าที่ว่าการอําเภอวานรนิวาส จึงขอเชิญชวนประชาชนที่เหลืออีก 1 อําเภอ ไปร่วมซื้อสินค้าราคาถูกตามวันเวลาดังกล่าวราคาสินค้าในงาน เช่น หมูเนื้อแดง ราคา 150 บาท/กก. เนื้อไก่น่องติดสะโพก ราคา 60 บาท/กก. ไข่ไก่เบอร์ (2-3) ราคา 90 บาท/ แผงน้ําตาลทราย ราคา 18 บาท/ถุง น้ํามันพืชปาล์ม 1 ลิตร ราคา 45 บาท/ขวด ข้าวสาร (ถุง 5 กก.) ข้าวหอมมะลิ ราคา 110 บาท/ 5 กก. ข้าวขาว 5% ราคา 80 บาท/ 5 กก.#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
17/2/2023
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
สกลนคร
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสกลนคร
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230217205317385
null
ปัญหาชายแดนสุไหงโก-ลก-ตากใบ ส่วนหนึ่งได้รับการแก้ไขแล้วภายหลังมีการเรียกร้องผ่านนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์? รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์
ปัญหาชายแดนสุไหงโก-ลก-ตากใบ ส่วนหนึ่งได้รับการแก้ไขแล้วภายหลังมีการเรียกร้องผ่านนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์? รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เมื่อครั้งลงพื้นที่ อ.ตากใบ จ.นราธิวาสความคืบหน้าเกี่ยวกับข้อเรียกร้องจากจังหวัดนราธิวาส เมื่อครั้งนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์? รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้ลงพื้นที่มาติดตามสถานการณ์การค้าชายแดนที่ด่านพรมแดนตากใบ อําเภอตากใบ จังหวัดนราธิวาสในห้วงเดือนพฤศจิกายน 2565 ล่าสุดข้อเรียกร้องหลายข้อได้รับการดําเนินการแล้ว และอีกส่วนหนึ่งอยู่ระหว่างดําเนินการ ประกอบด้วย 1.ขอให้เปิด-ปิดด่านพรมแดนสุไหงโก-ลก จากเวลา 07.00-19.00น. ปัจจุบันด่านศุลกากรสุไหงโก-ลกได้เปิดให้บริการ เวลา 06.00-21.00น.แล้ว 2.ขอให้ด่านตรวจคนเข้าเมืองเพิ่มช่องประทับตราหนังสือเดินทาง-หนังสือผ่านแดนในช่วงวันพฤหัสบดี ศุกร์ และเสาร์ เพื่ออํานวยความสะดวกให้นักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาอย่างหนาแน่นในวันดังกล่าว ปัจจุบันด่านตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดนราธิวาส ได้เพิ่มช่องประทับตราหนังสือเดินทาง โดยจะมีการประเมินสถานการณ์และพิจารณาปรับเพิ่มช่องบริการทุกวัน เพื่อให้ผู้มาใช้บริการได้รับความสะดวกมากที่สุด 3.กรณีนํารถจากประเทศมาเลเซียเข้ามาต้องเดินทางไปขอเอกสารเดินทางเข้าประเทศจากเดิมต้องไปขอที่สํานักงานขนส่งจังหวัดนราธิวาส ขอให้สามารถยื่นขออนุญาตที่สํานักงานขนส่งจังหวัดนราธิวาส สาขาสุไหงโก-ลก ในเรื่องนี้ปัจจุบันในส่วนของระดับนโยบายของกรมการขนส่งทางบกได้เห็นชอบแนวทางดังกล่าวแล้ว และขณะนี้นายสนั่น พงษ์อักษร ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาสกําลังกําหนดแนวทางการดําเนินการใน 2 รูปแบบ คือ เปิดลงทะเบียนออนไลน์ และสามารถยื่นเอกสารขอใบอนุญาตที่สํานักงานขนส่งจังหวัดนราธิวาส สาขาสุไหงโก-ลก โดยคาดว่าจะสามารถดําเนินการอย่างเป็นรูปธรรมเร็วๆนี้ 4.ขอให้เปิดจุดผ่อนปรน หรือเปิดช่องทางพิเศษจากด่านพรมแดนตากใบให้นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางไปจับจ่ายซื้อสินค้าที่ตลาดตาบา ล่าสุดด่านศุลกากรตากใบ ได้เปิดช่องทางพิเศษให้แล้ว โดยให้เฉพาะผู้ที่เดินทางเข้า-ออกระหว่างประเทศ ใช้เส้นทางดังกล่าว ซึ่งจะมีการตรวจสอบการเดินทางเข้า-ออก เสมือนช่องทางหลักหน้าด่านพรมแดนตากใบ แต่จะทําให้นักท่องเที่ยวได้จับจ่ายซื้อสินค้า ส่งเสริมเศรษฐกิจการค้าชายแดนได้ดียิ่งขึ้น#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
17/2/2023
ภาคใต้
นราธิวาส
สวท.สุไหงโกลก จ.นราธิวาส
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230217180148318
null
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ลงพื้นที่จังหวัดภูเก็ต เพื่อรับฟังปัญหาด้านการท่องเที่ยวจากภาคเอกชนและผู้ประกอบการ เพื่อพัฒนาการท่องเที่ยวให้มีความยั่งยืนหลังเข้าสู่ฤดูกาลท่องเที่ยวอย่างเต็มรูปแบบ
วันนี้ (17 กุมภาพันธ์ 2566) ที่ ห้องประชุมศูนย์ประสานการส่งเสริมสุขภาพอันดามัน มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตภูเก็ต นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ลงพื้นที่จังหวัดภูเก็ต เพื่อรับฟังปัญหาด้านการท่องเที่ยว จากภาคเอกชนและผู้ประกอบการ เพื่อเป็นการพัฒนาการท่องเที่ยวให้มีความยั่งยืน หลังเข้าสู่ฤดูการท่องเที่ยวอย่างเต็มรูปแบบ โดยมี รองศาสตราจารย์ ดร.พันธ์ ทองชุมนุม รองอธิการบดีมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตภูเก็ต ในฐานะผู้อํานวยการศูนย์ประสานการส่งเสริมสุขภาพอันดามัน มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตภูเก็ต พร้อมด้วยผู้ประกอบการภาคการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ตและจังหวัดพังงารวมทั้งกลุ่มอันดามันได้เข้าร่วม เสนอแนวคิดด้านการพัฒนาภาคการท่องเที่ยวในช่วงฤดูกาลท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนรองศาสตราจารย์ ดร.พันธ์ ทองชุมนุม ได้นําเสนอในส่วนของมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตภูเก็ต ในการพัฒนาเป็นศูนย์กลางทางการแพทย์หรือ Medical Hub รวมถึงการผลักดันโครงการภ Phuket Health Sandbox ในการประชุม ครม.สัญจร ที่จังหวัดกระบี่ เมื่อปี 2564 และ ครม.ได้มีการอนุมัติงบประมาณให้ดําเนินโครงการโดยงบประมาณ 5,116 ล้านบาท เมื่อวันที่ 11 ตุลาคม 2565 จากนั้น ครม.ได้มีการอนุมัติงบประมาณเฉพาะในส่วนของโรงพยาบาลงบประมาณ 3,140 ล้านบาท เมื่อวันที่ 24 มกราคม 2566 ซึ่งศูนย์สุขภาพนานาชาติอันดามัน มีเป้าหมายในการดําเนินงาน 5 ภารกิจหลัก คือ วิทยาลัยสุขภาพนานาชาติ โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ ภูเก็ต ศูนย์ทันตกรรมดิจิทัลสงขลานครินทร์ ศูนย์บริการเทคนิคการแพทย์ และโรงพยาบาลแพทย์แผนไทยทั้งนี้ ในช่วงของการนําเสนอแนวคิดทางผู้ประกอบการภาคการท่องเที่ยวจังหวัดพังงาและฝั่งอันดามัน ได้เสนอในการเชื่อมโยงการท่องเที่ยว 2 จังหวัด เพื่อส่งต่อกลุ่มนักท่องเที่ยวและขยายตลาดการท่องเที่ยวแบบเชื่อมโยง รองรับเศรษฐกิจภาคการท่องเที่ยวที่เติบโตขึ้นในทุกขณะนอกจากนี้ ในส่วนของผู้ประกอบการภาคการท่องเที่ยวของจังหวัดภูเก็ต ได้มีการเสนอในส่วนของการพัฒนาระบบสาธารณูปโภค ให้สามารถรองรับปริมาณนักท่องเที่ยวที่เพิ่มมากขึ้น รวมทั้ง ขอให้มีการผลักดันการดําเนินโครงการที่เกี่ยวเนื่องกับการพัฒนาจังหวัดเพื่อรองรับการเติบโตของเมืองด้วยอย่างไรก็ตาม การลงพื้นที่ของ นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ในครังนี้ เป็นการลงพื้นที่รับฟังความคิดเห็นภาคการท่องเที่ยว เพื่อเพิ่มศักยภาพด้านการท่องเที่ยวของทั้งจังหวัดภูเก็ต พังงา และฝั่งอันดามัน ให้สามารถใช้ทรัพยากรร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพและสามารถสร้างรายได้จากการท่องเที่ยวให้เพิ่มขึ้นต่อไป#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
17/2/2023
ภาคใต้
ภูเก็ต
สวท.ภูเก็ต
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230217183851332
null
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ลงพื้นที่จังหวัดภูเก็ต เพื่อรับฟังปัญหาด้านการท่องเที่ยวจากภาคเอกชนและผู้ประกอบการ เพื่อพัฒนาการท่องเที่ยวให้มีความยั่งยืนหลังเข้าสู่ฤดูกาลท่องเที่ยวอย่างเต็มรูปแบบ
วันนี้ (วันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2566) ที่ห้องประชุมศูนย์ประสานการส่งเสริมสุขภาพอันดามัมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตภูเก็ต นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ลงพื้นที่จังหวัดภูเก็ต เพื่อรับฟังปัญหาด้านการท่องเที่ยว จากภาคเอกชนและผู้ประกอบการ เพื่อเป็นการพัฒนาการท่องเที่ยวให้มีความยั่งยืน หลังเข้าสู่ฤดูการท่องเที่ยวอย่างเต็มรูปแบบ โดยมี รองศาสตราจารย์ ดร.พันธ์ ทองชุมนุม รองอธิการบดีมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตภูเก็ต ในฐานะผู้อํานวยการศูนย์ประสานการส่งเสริมสุขภาพอันดามัน มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตภูเก็ต พร้อมด้วยผู้ประกอบการภาคการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ตและจังหวัดพังงารวมทั้งกลุ่มอันดามันได้เข้าร่วม เสนอแนวคิดด้านการพัฒนาภาคการท่องเที่ยวในช่วงฤดูกาลท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน รองศาสตราจารย์ ดร.พันธ์ ทองชุมนุม ได้นําเสนอในส่วนของมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตภูเก็ต ในการพัฒนาเป็นศูนย์กลางทางการแพทย์หรือ Medical Hub รวมถึงการผลักดันโครงการ Phuket Health Sandbox ในการประชุม ครม.สัญจร ที่จังหวัดกระบี่ เมื่อปี 2564 และ ครม.ได้มีการอนุมัติงบประมาณให้ดําเนินโครงการโดยงบประมาณ 5,116 ล้านบาท เมื่อวันที่ 11 ตุลาคม 2565 จากนั้น ครม.ได้มีการอนุมัติงบประมาณเฉพาะในส่วนของโรงพยาบาลงบประมาณ 3,140 ล้านบาท เมื่อวันที่ 24 มกราคม 2566 ซึ่งศูนย์สุขภาพนานาชาติอันดามัน มีเป้าหมายในการดําเนินงาน 5 ภารกิจหลัก คือ วิทยาลัยสุขภาพนานาชาติ โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ ภูเก็ต ศูนย์ทันตกรรมดิจิทัลสงขลานครินทร์ ศูนย์บริการเทคนิคการแพทย์ และโรงพยาบาลแพทย์แผนไทย ทั้งนี้ ในช่วงของการนําเสนอแนวคิดทางผู้ประกอบการภาคการท่องเที่ยวจังหวัดพังงาและฝั่งอันดามัน ได้เสนอในการเชื่อมโยงการท่องเที่ยว 2 จังหวัด เพื่อส่งต่อกลุ่มนักท่องเที่ยวและขยายตลาดการท่องเที่ยวแบบเชื่อมโยง รองรับเศรษฐกิจภาคการท่องเที่ยวที่เติบโตขึ้นในทุกขณะ นอกจากนี้ ในส่วนของผู้ประกอบการภาคการท่องเที่ยวของจังหวัดภูเก็ต ได้มีการเสนอในส่วนของการพัฒนาระบบสาธารณูปโภค ให้สามารถรองรับปริมาณนักท่องเที่ยวที่เพิ่มมากขึ้น รวมทั้ง ขอให้มีการผลักดันการดําเนินโครงการที่เกี่ยวเนื่องกับการพัฒนาจังหวัดเพื่อรองรับการเติบโตของเมืองอีกด้วย ทั้งนี้ เพื่อเป็นการเพิ่มศักยภาพด้านการท่องเที่ยวของทั้งสองจังหวัดให้สามารถใช้ทรัพยากรร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพและสามารถสร้างรายได้จากการท่องเที่ยวให้เพิ่มขึ้นต่อไป#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
17/2/2023
ภาคใต้
ภูเก็ต
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดภูเก็ต
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230217184520333
null