NewsTitle
stringlengths
11
31.5k
Detail
stringlengths
9
78.4k
NewsDate
stringlengths
3
5.77k
Region
stringclasses
48 values
Province
stringclasses
99 values
Department
stringclasses
211 values
Link_News
stringlengths
3
903
v
stringclasses
812 values
กกต. นับรวมคนต่างชาติที่เข้าเกณฑ์ในการแบ่งเขตเลือกตั้ง ไม่ใช่แรงงานต่างด้าว ยืนยันใช้ในการคำนวณเท่านั้นไม่มีสิทธิเลือกตั้ง
นายแสวง บุญมี เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง กล่าวถึงกรณีที่ กกต. นับรวมคนต่างด้าวในการแบ่งเขตเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรครั้งนี้ ว่า กกต. ได้นําจํานวนราษฎรที่กระทรวงมหาดไทยประกาศมาคํานวณเพื่อแบ่งเขตการเลือกตั้ง โดยครั้งนี้กระทรวงมหาดไทยแยกผู้มีสัญชาติไทยกับผู้ไม่มีสัญชาติไทยออกจากกัน ซึ่งคําว่า ราษฎร ตามความเข้าใจของประชาชน หมายถึงทุกคนที่อยู่ในประเทศไทย แต่ ราษฎร ที่ทาง กกต. นํามาใช้นั้นเป็นไปตามกฎหมายทะเบียนราษฎรคือ ราษฎรประเภท 1 คนไทยที่มีเลข 3 นําหน้าในบัตรประจําตัวประชาชน และคนที่เป็นราษฎรได้อีกกรณีหนึ่ง จะมี 2 ประเภทคือ คนที่มีสัญชาติไทยและคนที่ไม่มีสัญชาติไทย สําหรับคนที่ไม่มีสัญชาติไทยจะถือเป็นราษฎรได้นั้นต้องมี 2 เงื่อนไข จะไม่ใช่คนที่เป็นแรงงานต่างด้าวเข้ามาทํางานในประเทศไทย ทั้งนี้คนที่เป็นราษฎรต้องมีเลขประจําตัว 13 หลักทุกคน แต่คนต่างด้าวจะได้รับเลข 13 หลักได้ต้องเข้าเกณฑ์ตามกฎหมายไทย คือ พ.ร.บ. บัตรประชาชนและกฎหมายทะเบียนราษฎรเป็นเรื่องความมั่นคง โดยคนต่างด้าวประเภทนี้ถือเป็นประเภทที่ 8 ไม่ถือสัญชาติไทย แต่ได้รับอนุญาตให้อยู่ในเมืองไทยโดยถูกกฎหมายและมีใบสําคัญคนต่างด้าว หรือคนที่แปลงสัญชาติ และเงื่อนไขที่ 2 มีทะเบียนบ้านในประเทศไทย ไม่ใช่แรงงานต่างด้าวที่มาทํางาน แม้จะเข้าเมืองถูกกฎหมายก็ตาม แต่หากไม่เข้า 2 เงื่อนไข ก็ไม่ถือเป็นราษฎร แต่ต่างชาติที่เข้าเงื่อนไขตามกฎหมายทะเบียนราษฎร จึงมีสิทธิที่จะได้รับบริการ ทํางานให้บ้านเราเสียภาษี ซึ่งคนกลุ่มนี้นํามาใช้ในการคํานวณจํานวน ส.ส. เท่านั้น อย่างไรก็ตามยืนยันว่า ไม่ใช่ผู้ที่มีสิทธิในการเลือกตั้ง
9/2/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230209144252586
null
รองนายกรัฐมนตรี ระบุ เป็นหน้าที่ กกต.ตรวจสอบการลงพื้นที่ของพลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ ผิดหรือไม่
นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่นายสมชัย ศรีสุทธิยากร ประธานยุทธศาสตร์ขับเคลื่อนนโยบายพรรคเสรีรวมไทย และอดีตกรรมการการเลือกตั้ง ร้องเรียนให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ตรวจสอบการลงพื้นที่ของ พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐว่า อาจเป็นการใช้ตําแหน่งทางราชการเอื้อประโยชน์ทางการเมืองว่า ถ้านายสมชัยยื่นเรื่องร้องเรียนต่อ กกต.แล้ว ก็ต้องให้ กกต.เป็นผู้วินิจฉัย ส่วนการลงพื้นที่ของ พลเอก ประวิตร มีความสุ่มเสี่ยงที่จะผิดกฎหมายการเลือกตั้งหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า กรณีนี้ไม่มีความสุ่มเสี่ยง แต่กรณีอื่นไม่แน่ใจ อย่างไรก็ตาม การเดินทางไปตรวจราชการถือเป็นการทํางาน ซึ่งรัฐมนตรีคนอื่นไม่ว่าในสมัยไหนก็ทําเช่นนี้ทั้งนั้น เพราะในเมื่อเขามีตําแหน่งเป็นรัฐมนตรี ก็ต้องไปปฏิบัติหน้าที่และถ้าจะไปทําอย่างอื่นโดยอยู่ในช่วงเวลาหลังราชการก็สามารถทําได้
9/2/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
Radio-สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230209142825578
null
หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย มองว่าทุกพรรคเป็นประชาธิปไตย โดยเฉพาะการเลือกตั้งปี 2566 ถือเป็นประชาธิปไตยเต็มใบ
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงกรณีที่นางสาวแพรทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทยให้สัมภาษณ์สดพาดพิงถึงพรรคภูมิใจไทยที่มาร่วมรัฐบาลกับพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และพลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ มองว่าเป็นฝ่ายเผด็จการไม่เป็นประชาธิปไตยที่แท้จริง โดยตนเองยังไม่ได้ฟังการสัมภาษณ์ดังกล่าว จึงขอไปฟังบทสัมภาษณ์ก่อน ซึ่งพรรคการเมืองก็เป็นประชาธิปไตยทุกพรรค ในปี 2566 น่าจะเป็นประชาธิปไตยเต็มใบ ไม่มีการเปลี่ยนผ่านสามารถใช้นโยบายในการแข่งขันกัน ไม่มีสิ่งที่ต้องกังวลว่าจะเปลี่ยนจากระบอบ คสช.มาเป็นประชาธิปไตย พร้อมกันนี้ ยังยอมรับว่า มีการแข่งขันสูงทุกพื้นที่ ไม่ใช่แค่จังหวัดนครราชสีมา ที่พลเอก ประยุทธ์ เตรียมจะเดินทางลงปราศรัยใหญ่ เพราะที่จังหวัดบุรีรัมย์ ก็มีการแข่งขันหลายพรรค จะทําให้ดีที่สุด
9/2/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230209142559576
null
กทม. ออกหน่วยแพทย์และสาธารณสุขเคลื่อนที่ครั้งที่ 8 ดูแลสุขภาพประชาชนย่านบางซื่อ
นายแพทย์สุขสันต์ กิตติศุภกร รองปลัดกรุงเทพมหานคร เป็นประธานพิธีเปิดการออกหน่วยแพทย์และสาธารณสุขเคลื่อนที่ “โครงการกรุงเทพฯ ห่วงใย ใส่ใจสุขภาพ” ครั้งที่ 8 โดยกล่าวว่า กรุงเทพมหานคร มีหน้าที่ดูแลประชาชนอย่างครบวงจร ด้วยภารกิจในการให้บริการอันหลากหลาย ทั้งการแพทย์สาธารณสุข การศึกษา การส่งเสริมอาชีพ และด้านอื่นๆ โดยกรุงเทพมหานคร ได้จัดหน่วยแพทย์และสาธารณสุขเคลื่อนที่ เดือนละ 2 ครั้ง ในครั้งนี้จัดขึ้นที่เขตบางซื่อ กรุงเทพมหานครทั้งนี้ กิจกรรมประกอบด้วย การตรวจคัดกรองสุขภาพ รักษาโรคเบื้องต้น บริการฉีดวัคซีนโควิด 19 ให้บริการรถเคลื่อนที่ ได้แก่ รถคัดกรองมะเร็งสตรี รถตรวจจอประสาทตา รถเอกซเรย์เคลื่อนที่ รถทันตกรรม หน่วยสัตวแพทย์เคลื่อนที่ ทําหมัน ฉีดวัคซีน ฉีดไมโครชิป สุนัข/แมว กิจกรรมเสริมภูมิคุ้มกันให้คําปรึกษาเรื่องยาเสพติด ให้คําแนะนําเรื่องการใช้ยา อาหารเสริม ให้คําปรึกษาสุขภาพจิต การให้ความรู้/เฝ้าระวังโรคติดต่อในพื้นที่ นอกจากนี้ มูลนิธิช่วยการสาธารณสุขชุมชนฯ ให้การสนับสนุนแว่นสายตายาวอีกด้วย
9/2/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
กรมประชาสัมพันธ์
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230209144808594
null
ผู้แทนโฆษกชาวบ้าน , กลุ่มเครือข่ายมวลชน , ผู้นำศาสนา และฝ่ายปกครอง 4 อำเภอของจังหวัดสงขลา เข้าพบแม่ทัพภาคที่ 4 หารือถึงปัญหาในพื้นที่
ผู้แทนโฆษกชาวบ้าน , กลุ่มเครือข่ายมวลชน , ผู้นําศาสนา และฝ่ายปกครอง 4 อําเภอของจังหวัดสงขลา เข้าพบแม่ทัพภาคที่ 4 หารือถึงปัญหาในพื้นที่วันนี้ (9 กุมภาพันธ์ 2566) พลโท ศานติ ศกุนตนาค แม่ทัพภาคที่ 4/ผู้อํานวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ให้การต้อนรับผู้แทนโฆษกชาวบ้าน , กลุ่มเครือข่ายมวลชน , ผู้นําศาสนา และฝ่ายปกครอง ในพื้นที่ 4 อําเภอของจังหวัดสงขลา ซึ่งเดินทางเข้าพบแม่ทัพภาคที่ 4 เพื่อร่วมหารือถึงปัญหาในชุมชน โดยเฉพาะปัญหายาเสพติดในพื้นที่ ก่อนมอบกระเช้าที่ระลึกแก่แม่ทัพภาคที่ 4 โดยมี พลตรี กรกฎ ภู่โชติ รองผู้อํานวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า พร้อมด้วยคณะผู้บังคับบัญชาเข้าร่วม ณ ห้องรับรอง กองอํานวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ค่ายสิรินธร ตําบลเขาตูม อําเภอยะรัง จังหวัดปัตตานีพลโท ศานติ ศกุนตนาค แม่ทัพภาคที่ 4/ผู้อํานวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 กล่าวว่า "ที่ผ่านมาทุกคนได้มีการทํางานร่วมกันกับ กอ.รมน.ภาค 4 สน. ซึ่งงานก็ดําเนินไปได้ด้วยดี และหวังอย่างยิ่งว่าการทํางานของเราในอนาคตก็จะดําเนินต่อไปอย่างต่อเนื่อง หากมีข้อติดขัดตรงไหนก็มาร่วมกันแก้ไข ในส่วนของปัญหายาเสพติด ยังคงเน้นย้ําให้ทุกหน่วยช่วยกันดูแลเพราะเป็นความเดือดร้อนของประชาชนทุกชุมชน หากพบผู้ค้าในพื้นที่ไหนก็จะดําเนินการจับกุมดําเนินคดีทันที หากพบผู้เสพก็จะนําเข้าร่วมโครงการต่างๆ เพื่อบําบัดรักษา และหากพบผู้คลุ้มคลั่งก็จะส่งไปรักษายังโรงพยาบาลธัญรักษ์ เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อชุมชน แต่ที่สําคัญคือ อยากให้ประชาชนทุกคนเป็นหูเป็นตา พวกเราต้องช่วยกัน ทั้งผู้ปกครอง ผู้นําชุมชน พบเบาะแสเมื่อไหร่สามารถแจ้งเจ้าหน้าที่ หน่วยในพื้นที่ หรือโทรมาที่สายตรงแม่ทัพภาคที่ 4 061-1732999 ได้ทันที"นอกจากนี้ ผู้แทนโฆษกชาวบ้าน , กลุ่มเครือข่ายมวลชน , ผู้นําศาสนา และฝ่ายปกครอง ในพื้นที่ 4 อําเภอของจังหวัดสงขลา ยังได้หารือถึงปัญหาอื่นๆ ในชุมชน อาทิ ปัญหาพนันออนไลน์ , ปัญหาการจ้างงาน ฯลฯ ซึ่งแม่ทัพภาคที่ 4 ก็ได้รับทราบทุกปัญหา และจะหาแนวทางในการให้ความช่วยเหลือ เพื่อประโยชน์สุขของพี่น้องประชาชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ต่อไป#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
9/2/2023
ภาคใต้
ยะลา
สทท.ยะลา
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230209162823653
null
พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รอง ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.สมประสงค์ เย็นท้วม ผบช.ภ.3 นำร่างของผู้กล้ามาประกอบพิธีบำเพ็ญกุศล
วันนี้ (9 ก.พ.66) เวลา 15.30 น. ที่วัดโป่งกะสัง ต.หนองน้ําแดง อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมาพล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รองผู้บัญชาการตํารวจแห่งชาติ ร่วมพิธีเคลื่อนย้ายร่างและเป็นเจ้าภาพพิธีบําเพ็ญกุศลสวดพระอภิธรรมศพ ส.ต.ต.อรรถพล บุญมี ผู้บังคับหมู่ป้องกันปราบปราม สถานีตํารวจภูธรปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา ที่เสียชีวิตในระหว่างปฏิบัติหน้าที่ เมื่อวันที่ 7 ก.พ.66 เวลาประมาณ 21.10 น. บริเวณถนนปากช่อง-หนองมะค่า (เทศบาล 5) บ้านหนองน้อย หมู่ 12 ตําบลปากช่อง อําเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา ขณะพบรถจักรยานยนต์ฮอนด้า เวฟ สีน้ําเงิน ต้องสงสัย ดัดแปลงท่อเสียงดัง ก่อนเรียกตรวจสอบ แต่คนร้ายไม่หยุด ผู้ตายขี่ไล่ติดตามจนคนร้ายได้ใช้ปืนยิงใส่บริเวณใบหน้าได้รับบาดเจ็บสาหัส และได้เสียชีวิตที่โรงพยาบาลปากช่องนานา ทั้งนี้ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รองผู้บัญชาการตํารวจแห่งชาติ ได้ร่วมกันแบกโลงที่บบรจุร่างของ ส.ต.ต.อรรถพล บุญมี ขึ้นไปตั้งบนศาลาวัด พร้อมมอบเงินช่วยเหลือตามสิทธิและเงินส่วนตัวให้แก่ครอบครัว โดยมี พล.ต.ท.สมประสงค์ เย็นท้วม ผู้บัญชาการตํารวจภูธรภาค 3 พล.ต.ต.สิทธิชัย โล่กันภัย รองผู้บัญชาการตํารวจภูธรภาค 7 พล.ต.ต.พรชัย นลวชัย รองผู้บัญชาการตํารวจภูธรภาค 3 พล.ต.ต.ระพีพงษ์ สุขไพบูลย์ รองผู้บัญชาการตํารวจภูธรภาค 3 พล.ต.ต.อิทธิพล นาคคํา ผู้บังคับการตํารวจภูรจังหวัดนครราชสีมา นําข้าราชการตํารวจสังกัดตํารวจภูธรภูธรภาค 3 เข้าร่วมพิธี#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
9/2/2023
null
นครราชสีมา
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนครราชสีมา
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230209225234768
null
สำนักงานคุมประพฤติจังหวัดตรัง ร่วมประชุมชี้แจงหลักเกณฑ์และแนวทางการคุมความประพฤติ โครงการ “สร้างงาน สร้างอาชีพ ฝึกทักษะการทำงานในภาคอุตสาหกรรม”
นายอภัย เอียดบัว ผู้อํานวยการสํานักงานคุมประพฤติและยุติธรรมจังหวัดตรัง มอบหมายให้ นางวิพรรัตน์ รัตนะ พนักงานคุมประพฤติชํานาญการพิเศษ หัวหน้ากลุ่มยุทธศาสตร์และอํานวยการ พร้อมด้วยหัวหน้ากลุ่มคุมประพฤติพื้นที่ ร่วมประชุมชี้แจงการดําเนินการตามหลักเกณฑ์และแนวทางการคุมความประพฤติ การพักการลงโทษกรณีมีเหตุพิเศษ โครงการ “สร้างงาน สร้างอาชีพ ฝึกทักษะการทํางานในภาคอุตสาหกรรม” ในรูปแบบการประชุมทางไกล ( Online Conference) ผ่านระบบ Webex Meeting ณ ห้องประชุมเจ้าไหม สํานักงานคุมประพฤติจังหวัดตรัง โดยมี พันตํารวจโท มนตรี บุณยโยธิน รองอธิบดีกรมคุมประพฤติ เป็นประธานการประชุมทั้งนี้ รองอธิบดีกรมคุมประพฤติ ได้กล่าวถึงนโยบายของนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ซึ่งมีนโยบายด้านการพัฒนาพฤตินิสัย โดยการสร้างงานสร้างอาชีพให้กับผู้กระทําผิด เพื่อให้โอกาสแก้ไขปรับปรุงตนเอง สามารถกลับไปอยู่ร่วมกับผู้อื่นในสังคมอย่างเป็นสุข ไม่กลับมากระทําผิดซ้ําอีก ลดความแออัดในเรือนจํา รวมทั้งเป็นการส่งเสริมศักยภาพของนักโทษเด็ดขาดที่ได้รับการพักการลงโทษให้ได้รับการฝึกอาชีพในภาคอุตสาหกรรม และได้รับโอกาสประกอบอาชีพที่มั่นคง สังคมเกิดความเชื่อมั่นและเป็นการเปลี่ยนภาระให้เป็นพลังใหม่ในการขับเคลื่อนภาคเศรษฐกิจ และให้อยู่ในเงื่อนไขการคุมประพฤตินอกจากนี้ ที่ประชุมได้ชี้แจงประกาศของกรมราชทัณฑ์เรื่องคุณสมบัติและหลักเกณฑ์การพักการลงโทษกรณีมีเหตุพิเศษ โครงการ “สร้างงาน สร้างอาชีพ ฝึกทักษะการทํางานในภาคอุตสาหกรรม” และแนวทางการคุมประพฤติที่เกี่ยวกับโครงการพักการลงโทษกรณีมีเหตุพิเศษดังกล่าวฯ เพื่อให้สํานักงานคุมประพฤติทราบและใช้เป็นแนวทางในการดําเนินโครงการฯ หลังจากนั้นได้มีการนําเสนอผลการดําเนินโครงการฯ ของสํานักงานคุมประพฤตินําร่อง 7 แห่ง ได้แก่ จังหวัดสมุทรปราการ สมุทรสาคร ปทุมธานี ลําพูน พระนครศรีอยุธยา ชลบุรี และจังหวัดฉะเชิงเทรา และได้ร่วมกันแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและข้อเสนอแนะ เพื่อนํามาพัฒนาปรับปรุงการดําเนินงานโครงการฯ ต่อไป#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
10/2/2023
null
ตรัง
สวท.ตรัง
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230210090911806
null
นายกรัฐมนตรี เตรียมลงพื้นที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี 13 กุมภาพันธ์นี้ ตรวจเยี่ยมการบริหารจัดการน้ำ
นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจําสํานักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มีกําหนดการปฏิบัติราชการในพื้นที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี ในวันจันทร์ที่ 13 กุมภาพันธ์นี้ โดยเวลาประมาณ 13.30 น. นายกรัฐมนตรีและคณะ จะออกเดินทางออกจากท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 (บน.6) ดอนเมือง กรุงเทพมหานคร ไปยังท่าอากาศยานทหารกองบิน 7 จังหวัดสุราษฎร์ธานี โดยเครื่องบินของกองทัพอากาศ และเดินทางต่อไปยังวัดพระบรมธาตุไชยาราชวรวิหาร เพื่อสักการะบูชาพระบรมธาตุไชยา นมัสการพระครูพิทักษ์เจติยานุกูล เจ้าคณะอําเภอไชยา รักษาการเจ้าอาวาสวัดพระบรมธาตุไชยาราชวรวิหารเสร็จแล้ว นายกรัฐมนตรีเดินทางไปที่ว่าการอําเภอไชยา เขตเทศบาลตําบลตลาดไชยา เพื่อตรวจติดตามการบริหารจัดการน้ํา การแก้ไขปัญหาอุทกภัยพื้นที่อําเภอไชยา และปัญหาที่ดินทํากิน โดยนายกรัฐมนตรีจะตรวจเยี่ยมบริเวณน้ําท่วมหน้าอําเภอไชยา ซึ่งเป็นพื้นที่ราบลุ่มรับน้ําจากตําบลเวียง ก่อนออกสู่ทะเล และประสบปัญหาน้ําท่วมซ้ําซากมาโดยตลอด และเป็นประธานสักขีพยานการมอบหนังสืออนุญาตให้เข้าทําประโยชน์ในเขตปฏิรูปที่ดิน (ส.ป.ก. 4-01) ได้แก่ เขตปฏิรูปที่ดินโครงการป่าชนะ อําเภอไชยา และเขตปฏิรูปที่ดินโครงการป่าใสท้อนและป่าคลองโซง อําเภอชัยบุรี พร้อมพบปะกับประชาชนผู้ได้รับความเดือดร้อนด้วยส่วนช่วงเย็นเวลาประมาณ 18.00 น. นายกรัฐมนตรี จะเป็นประธานเปิดงานมหกรรมว่าวสุราษฎร์ธานี บริเวณหาดนายอําเภอ อําเภอไชยา จังหวัดสุราษฎร์ธานี ก่อนเดินทางกลับถึงกรุงเทพมหานครในเวลาประมาณ 21.00 น. การลงพื้นที่ในครั้งนี้ นายกรัฐมนตรี ต้องการไปตรวจติดตามการบริหารจัดการน้ํา การแก้ไขปัญหาอุทกภัย ปัญหาที่ดินทํากิน รวมทั้งส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัดสุราษฎร์ธานี ศิลปวัฒนธรรมและภูมิปัญญาท้องถิ่น โดยใช้พระเพณีการเล่นว่าวของจังหวัดสุราษฎร์ธานีเป็นสื่อกลางในการประชาสัมพันธ์แหล่งท่องเที่ยว และของดีจังหวัดสุราษฎร์ธานีให้เป็นที่รู้จัก หวังให้เป็น Soft power สร้างแรงดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ เพื่อส่งเสริมกระตุ้นเศรษฐกิจให้กับชุมชน ท้องถิ่น และจังหวัดสุราษฎร์ธานี
10/2/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230210101939846
null
พรรคชาติไทยพัฒนา เปิดปราศรัยใหญ่เวทีแรก ที่จังหวัดสุพรรณบุรี เย็นนี้ เตรียมนำเสนอนโยบาย "ว้าว ไทยแลนด์"
นายวราวุธ ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา พร้อมแกนนําและสมาชิกพรรคชาติไทยพัฒนา เตรียมเปิดเวทีปราศรัยใหญ่เวทีแรก ที่จังหวัดสุพรรณบุรี พร้อมสู้ศึกเลือกตั้ง ในเวลา 17.00 น. วันนี้ (10 ก.พ.66) ที่บริเวณลานหน้าศาลเจ้าพ่อหลักเมืองสุพรรณบุรี โดยนายวราวุธ กล่าวว่า ขอเชิญชวนประชาชนชาวจังหวัดสุพรรณบุรีสละเวลาร่วมฟังการปราศรัยใหญ่ของพรรคเพื่อรับฟังนโยบาย “ว้าว ไทยแลนด์” ในการเลือกตั้งครั้งนี้ เพื่อรับฟังนําสิ่งดีๆ ที่พรรคจะทําให้กับประชาชนทั้ง 76 จังหวัด หรือ 66 ล้านคน โดยนโยบาย “ว้าวไทยแลนด์” (WOW Thailand) ถือเป็นนโยบายที่สร้างความมั่งคั่ง สร้างโอกาส สร้างคุณภาพชีวิตที่ดีเพื่อทุกคน ให้ประชาชนเข้มแข็ง เกษตรกรแข่งขันได้ ธุรกิจขยับขยายและคนไทยแข็งแรง ด้วย 10 นโยบาย ที่ทําได้จริงคือ 1. รัฐธรรมนูญฉบับประชาชน (บรรหารโมเดล ปี 40) เราทําสําเร็จมาแล้ว 2. เกษตรรุ่นใหม่ ขายคาร์บอนเครดิตได้ 3. แจกพันธุ์ข้าว ฟรี ทั่วประเทศ 60 ล้านไร่ 4. ขยายเขตไฟฟ้าการเกษตรทั่วประเทศ หน่วยละ 2 บาท 5. บาดาล ขนาดใหญ่ ทุกตําบล น้ําสะอาด ทุกหมู่บ้าน 6. งบลงทุน ท้องถิ่น 10 ล้านบาท 7. เรียนในสิ่งที่ใช่ ใช้ในสิ่งที่เรียน 8. สุขภาพดีมีเงินคืน 3,000 บาท สวัสดิการอัพเกรดได้ 9. สร้างงาน สร้างรายได้ แก่ผู้สูงอายุ เบี้ยคนพิการเดือนละ 3,000 บาท 10. ขนส่งมวลชน เข้าถึงเท่าเทียม สําหรับผู้ปราศรัยจะได้เวลาพูดเฉลี่ยคนละไม่เกิน 10 นาทีสําหรับลําดับขึ้นปราศรัย ประกอบด้วย นายประภัตร โพธสุธน เลขาธิการพรรค , นางสาวกัญจนา ศิลปอาชา ประธานคณะกรรมการอํานวยการพรรค , นายกนก วงษ์ตระหง่าน กรรมการนโยบายและยุทธศาสตร์ของพรรค , นายประภาส ยงควิสัย ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กาฬสินธุ์ เขต 1 , นายสรชัด สุจิตต์ ส.ส.สุพรรณบุรี , นายอุดม โปร่งฟ้า กรรมการบริหารพรรค , นายวราวุธ ศิลปอาชา หัวหน้าพรรค
10/2/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230210095630841
null
กระทรวงแรงงาน แนะนำคนไปทำงานต่างประเทศ สมัครสมาชิกกองทุนช่วยเหลือคนหางานฯ ก่อนเดินทางไปทำงานต่างประเทศ หากประสบเหตุไม่คาดคิดระหว่างอยู่ในต่างประเทศ มีกองทุนช่วยดูแล
นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า กระทรวงแรงงานอยากให้คนไทยที่จะเดินทางไปทํางานต่างประเทศเห็นถึงความสําคัญของกองทุนเพื่อช่วยเหลือคนหางานไปทํางานในต่างประเทศ เพราะหากเป็นสมาชิกกองทุนฯ เมื่อเกิดเหตุไม่คาดคิด หรือเกิดสถานการณ์ฉุกเฉิน ในขณะที่เป็นสมาชิกกองทุนฯ จะได้รับความคุ้มครอง และสิทธิประโยชน์ที่กฎหมายกําหนด อาทิ กรณีประสบปัญหาจากภัยสงคราม ภัยธรรมชาติ หรือโรคระบาด กรณีประสบอันตรายก่อนไปทํางานหรือขณะทํางานในต่างประเทศ กรณีถูกเลิกจ้างจากสาเหตุประสบอันตราย กรณีประสบอันตรายจนพิการ กรณีถูกส่งกลับเนื่องจากเป็นโรคต้องห้าม และกรณีถูกทอดทิ้งในต่างประเทศ โดยผู้มีสิทธิสมัครเป็นสมาชิกกองทุนฯ ได้แก่ คนหางานที่เดินทางไปทํางานต่างประเทศโดยบริษัทจัดหางานเป็นผู้จัดส่ง คนหางานที่เดินทางไปทํางานต่างประเทศโดยกรมการจัดหางานเป็นผู้จัดส่ง และคนหางานที่แจ้งการเดินทางไปทํางานต่างประเทศด้วยตนเอง โดยมีค่าสมัครเพียง 300, 400 และ 500 บาท ตามแต่ประเทศที่เดินทางไปทํางาน ส่วนกรณีประเทศตุรกี ถือเป็นการประสบภัยธรรมชาติ และเสียชีวิตในต่างประเทศ หากเป็นสมาชิกกองทุน จะได้รับการสงเคราะห์ 40,000 บาทด้านนายไพโรจน์ โชติกเสถียร อธิบดีกรมการจัดหางาน กล่าวว่า คนที่เดินทางไปทํางานในต่างประเทศและประสงค์สมัครสมาชิกกองทุนฯสามารถสมัครผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์การบริหารแรงงานไทยไปต่างประเทศ ที่เว็บไซต์ toea.doe.go.th ชําระเงินผ่าน Mobile Banking หรือผ่านเคาน์เตอร์ ธนาคารกรุงไทย จํากัด (มหาชน) ตรวจสอบใบเสร็จรับเงิน และตรวจสอบบัตรสมาชิกกองทุนฯ ผ่านเว็บไซต์ หรือ Application "Smart TOEA " หรือที่กองบริหารแรงงานไทยไปต่างประเทศ ชั้น 10 อาคารสํานักงานประกันสังคม เขตพื้นที่ 3 หรือที่สํานักงานจัดหางานกรุงเทพมหานครทุกพื้นที่ หรือสํานักงานจัดหางานจังหวัดทั่วประเทศ
10/2/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
Radio-สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230210141412934
null
นวัตกรรม “รั้วไร้สาย” ที่สำนักงานวิจัยและพัฒนาการทางทหาร กองทัพเรือ คิดค้นเป็นผลงานวิจัยเพื่อความมั่นคง ป้องกันการลักลอบเข้าเมืองแบบผิดกฎหมายผ่านช่องทางธรรมชาติบริเวณรอยต่อชายแดนประเทศไทยและประเทศเพื่อนบ้าน
พลเรือตรี อนุสรณ์ ยังคุ้มญาติ หัวหน้าโครงการฯ กล่าวว่า สํานักงานวิจัยและพัฒนาการทางทหาร กองทัพเรือ ได้รับการสนับสนุนทุนจากสํานักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม คิดค้น “รั้วไร้สาย (ปรับปรุงปี 2564)” เพื่อป้องกันการลักลอบเข้าเมืองแบบผิดกฎหมายผ่านช่องทางธรรมชาติต่าง ๆ บริเวณชายแดนประเทศไทยและประเทศเพื่อนบ้าน โดยใช้เซนเซอร์ตรวจจับความเคลื่อนไหวของบุคคลและยานพาหนะ ซึ่งคงทนต่อสภาพแวดล้อมที่มีฝนตกชุกหรืออากาศร้อนได้ดี เน้นการซ่อนพรางไว้ในบริเวณต่าง ๆ ครอบคลุมพื้นที่ขนาดใหญ่โดยเฉพาะพื้นที่ที่เป็นป่ารกทึบได้เป็นอย่างดี ทําให้เกิดประสิทธิภาพในการทํางานได้ดีปัจจุบัน ผลงาน “รั้วไร้สาย” ได้นําไปใช้จริงในพื้นที่ชายแดนไทย – กัมพูชา บริเวณจังหวัดจันทบุรี และนําไปประยุกต์ใช้ในการแจ้งเตือนภัยพิบัติให้กับประชาชนในพื้นที่บ้านผามูบ อําเภอลับแล จังหวัดอุตรดิตถ์ บ้านบ่อหลวง อําเภอบ่อเกลือ จังหวัดน่าน อีกทั้งยังได้ทดสอบการใช้งานแจ้งเตือนช้างป่าเข้ามาในพื้นที่ชุมชน ตําบลทับช้าง อําเภอสอยดาว จังหวัดจันทบุรี ด้วย และนักวิจัยได้นํามาจัดแสดงในงาน “วันนักประดิษฐ์ ประจําปี 2566” ระหว่างวันที่ 2 – 6 กุมภาพันธ์ 2566 ที่ผ่านมาอีกด้วย
10/2/2023
null
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230210102742850
null
ระทึก - เกิดเหตุคนร้ายคลุ้มคลั่งใช้อาวุธปืนยิงผู้โดยสารบนรถมินิบัส สาย ภูเก็ต-พัทลุง มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ปิดถนนเทพกระษัตรี เป็นระยะทาง 1 กิโลเมตร หวั่นเกิดอันตรายกับผู้สัญจรไป-มา คนร้ายยังหลบบอยู่บนรถ และอยู่ระหว่างเจรจาของเจ้าหน้าที่
วันนี้ (วันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2566) เมื่อเวลาประมาณ 06.30 น. มีเหตุคนร้ายเป็นชายอายุประมาณ 30 ปี ใช้อาวุธปืนยิงผู้โดยสารบนรถมินิบัส สายภูเก็ต-พัทลุง มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย เป็นชาย 1 คน หญิง 1 คน เหตุเกิดบนถนนเทพกระษัตรี ขาออกนอกเมือง บริเวณช่วงโค้งควนดินแดง ตําบลเกาะแก้ว อําเภอเมืองภูเก็ต ซึ่งขณะเกิดเหตุมีผู้โดยสารที่อยู่บนรถรวม 10 คน เมื่อมีเสียงปืนดึง คนขับรถรีบจอดรถข้างทาง ทําให้ผู้โดยสารได้รีบวิ่งกรูหนีลงจากรถทันที ขณะที่คนเจ็บทั้ง 2 ราย เจ้าหน้าที่ช่วยเหลือและนําตัวส่งโรงพยาบาลแล้วทั้งนี้ เหตุได้เกิดหลังจากรถออกจาก สถานีขนส่งจังหวัดภูเก็ต 2 (บขส.ภูเก็ต 2) ได้เพียง 1 กิโลเมตรเท่านั้น โดยคนร้ายที่ก่อเหตุยังคงหลบอยู่บนรถมินิบัสคันเกิดเหตุ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตํารวจได้ทําการปิดถนนเทพกระษัตรีในระยะ 1 กิโลเมตรหวั่นเกิดอันตรายกับผู้สัญจรไป-มา และได้เจรจากับคนร้ายเพื่อหาสาเหตุและแนวทางจับกุมตัว สําหรับความคืบหน้าจะนํามาเสนอให้ทราบต่อไป#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
10/2/2023
ภาคใต้
ภูเก็ต
สวท.ภูเก็ต
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230210095002839
null
กทม. ส่งเจ้าหน้าที่กู้ภัย 10 นาย ร่วมทีม? USAR Thailand ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบภัยแผ่นดินไหวตุรกี
รศ.ทวิดา? กมลเวชช? รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร? ร่วมส่งทีม USAR Thailand ซึ่งประกอบด้วยทีม USAR Thailand จํานวน 42 คน และสุนัขกู้ภัย 2 ตัว พร้อมอุปกรณ์ค้นหาและกู้ภัย เพื่อเข้าร่วมสนับสนุนการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากเหตุแผ่นดินไหวที่สาธารณรัฐตุรกี? โดยมีนายนริศ ขํานุรักษ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานในพิธี?ที่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขตดุสิต รัฐบาลไทยเปิดปฏิบัติการ “Thailand for Turkiye” ส่งทีมค้นหาและกู้ภัยในเขตเมือง (Urban Search and Rescue) หรือทีม USAR Thailand พร้อมด้วยเครื่องมืออุปกรณ์ สุนัขกู้ภัย ยาและเวชภัณฑ์ สนับสนุนการช่วยเหลือผู้ประสบภัยแผ่นดินไหวที่สาธารณรัฐตุรกี จากเหตุแผ่นดินไหวขนาด 7.8 ความลึก 17.9 กม. ศูนย์กลางใกล้เมืองกาซีอันเท็พ ทางภาคตะวันออกเฉียงใต้ของสาธารณรัฐตุรกี ส่งผลกระทบต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนจํานวนมาก รัฐบาลไทยได้พิจารณาให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมแก่สาธารณรัฐตุรกี ภายใต้ปฏิบัติการ “Thailand for Turkiye” โดยส่งทีมค้นหาและกู้ภัยในเขตเมือง? (Urban Search and Rescue) หรือทีม USAR Thailand จํานวน 42 คน และสุนัขกู้ภัย 2 ตัว พร้อมอุปกรณ์ค้นหาและกู้ภัยเพื่อเข้าร่วมสนับสนุนการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากเหตุแผ่นดินไหว ซึ่งเป็นการประกอบกําลังของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กระทรวงมหาดไทย สํานักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกรุงเทพมหานคร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจะรายงานความคืบหน้าของปฏิบัติการครั้งนี้ได้ทาง Facebook : กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย DDPM และ Twitter : @DDPMNews
10/2/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
กรมประชาสัมพันธ์
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230210102153848
null
จ.นราธิวาส เพิ่มความเข้มงวดหลังเกิดเหตุลอบวางระเบิดในพื้นที่ อ.รือเสาะ เตรียมปรับแผนการทำงานเน้นประชาชนมีส่วนร่วม
วันนี้ (10 ก.พ.66) พันเอก สิทธิชัย บํารุงเขต ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 46 กล่าวว่า จากเหตุการณ์คนร้ายลอบวางระเบิดชุดรักษาความปลอดภัยเส้นทางรถไฟ พื้นที่อําเภอรือเสาะ จังหวัดนราธิวาส เมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 17.20 น. หลังจากเสร็จภารกิจรักษาความปลอดภัยรถไฟท้องถิ่นขบวนสุดท้าย เส้นทางบาลอ-รือเสาะ ในระหว่างเดินเท้าถึงบ้านสาวอฮูลู หมู่ที่ 2 ตําบลสาวอ อําเภอรือเสาะ ได้เกิดเหตุระเบิดทําให้เจ้าหน้าที่ทหารและเจ้าหน้าที่ อส. ชุดคุ้มครองตําบลสาวอ อําเภอรือเสาะ ได้รับบาดเจ็บรวม 8 นาย และขณะนี้พักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลรือเสาะและโรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์ทางหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 46 ซึ่งรับผิดชอบพื้นที่อําเภอรือเสาะ ได้เข้าควบคุมพื้นที่ ตลอดจนหาพยานหลักฐานบริเวณที่เกิดเหตุ อีกทั้งเพิ่มความเข้มงวดในการรักษาความปลอดภัย ซึ่งหลังจากนี้จะมีการปรับแผนการทํางานเน้นภาคประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในการดูแลพื้นที่จุดเสี่ยงต่าง ๆ ทั้งนี้ในช่วงบ่ายวันนี้ (10 ก.พ.66) จะมีการประชุมสภาประชาธิปไตยประจําตําบลสาวอกับตําบลรือเสาะออก เพื่อวางแนวทางป้องกันการก่อเหตุรุนแรงในพื้นที่ต่อไป#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
10/2/2023
null
นราธิวาส
สวท.นราธิวาส
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230210112125872
null
ภูเก็ตเกิดเหตุคนร้ายยิงผู้โดยสารภายในรถบัสสายภูเก็ต-พัทลุงเจ็บไป 2 เจ้าหน้าที่ปิดถนนเจรจากว่า 4 ชั่วโมง สุดท้ายคนร้ายยิงตัวตายบนรถ
เมื่อเวลา 07.00 น.วันที่ 10 ก.พ.66 พ.ต.ท.สุชาติ หมีลําพอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองภูเก็ตได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่าเกิดเหตุคนร้ายยิงผู้โดยสารที่นั่งอยู่ภายในรถบัสสายภูเก็ต-พัทลุง ขณะรถกําลังแล่นผ่านบริเวณโค้งควนดินแดง ถ.เทพกระษัตรี ต.รัษฎา อ.เมือง มีผู้บาดเจ็บจํานวน 2 รายและคนร้ายยังซ่อนตัวอยู่ภายในรถ ขอรถพยาบาลรับคนเจ็บและขอกําลังเจ้าหน้าที่ตํารวจเข้าเจรจาและจับกุมคนร้าย จากนั้น พล.ต.ต.เสริมพันธ์ุ ศิริคง ผบก.ภ.จว.ภูเก็ตพร้อมด้วย พ.ต.อ.ประเทือง ผลมานะ ผกก.สภ.เมืองภูเก็ตนํากําลังสายตรวจ-นปพ.ภ. จว.ภูเก็ตกว่า 30 นายอาวุธครบมือรุดไปตรวจสอบ ที่เกิดเหตุเป็นถนนสายหลักเข้าออกตัวเมืองภูเก็ต บริเวณทางโค้งหักศอก ซึ่งเป็นถนนขาออกนอกเมือง พบรถบัสสีชมพู-ขาว รถโดยสารประจําทางสายภูเก็ต-พัทลุง ทะเบียนป้ายเหลือง 10-2160 ภูเก็ตจอดสตาร์ทเครื่องอยู่ริมถนน ภายในรถไม่พบผู้โดยสาร มีเพียงชายต้องสงสัยจํานวน 1 คนอยู่ภายในรถ เจ้าหน้าที่จึงจําเป็นต้องปิดถนนขาออกตั้งแต่สามแยกไฟแดงควนดินแดง-บ้านสะปํา ถ.เทพกระษัตรี ต.รัษฎา อ.เมือง เพื่อความปลอดภัยของประชาชนที่ใช้รถใช้ถนนพร้อมกับให้ทีมเจรจาเข้าพูดคุยกับชายดังกล่าวที่อยู่ภายในรถ เบื้องต้นได้รับแจ้งจากนายสมยศ บัวแก้ว อายุ 42 ปี คนขับรถโดยสารคันดังกล่าวว่ามีผู้โดยสารจํานวน 2 คน ชาย 1 หญิง 1 คน ถูกชายดังกล่าวใช้อาวุธปืนยิงได้รับบาดเจ็บ ถูกนําตัวส่ง รพ.มิชชั่นภูเก็ตแล้ว นายสมยศคนขับรถเล่าว่า ได้ขับรถออกจาก บขส.2 ถ.เทพกระษัตรี ต.รัษฎา อ.เมืองตามปกติเพื่อจะมุ่งหน้าไปยัง จ.พัทลุง และเมื่อขับรถใกล้จะถึงสามแยกไฟแดงควนดินแดง ถ.เทพกระษัตรี ซึ่งห่างจาก บขส.ไม่ถึง 1 กม.ได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 1 นัด จากนั้น มีน้องผู้หญิงที่นั่งมาในรถวิ่งมาบอกตนเอง"ช่วยด้วยๆถูกยิง" ตนเองจึงขับรถแอบข้างถนน ทันใดนั้นได้ยินเสียงปืนดังขึ้นอีก 1 นัด ถูกผู้โดยสารเป็นชายอีก 1 คนได้รับบาดเจ็บ โดยขณะเกิดเหตุมีผู้โดยสารเพียง 9 คน จากนั้นได้จอดรถแล้วเปิดประตูออกมา ขณะเดียวกันผู้โดยสารต่างหนีตายออกจากรถกันได้ทั้งหมด โดยคนร้ายยังอยู่ภายในรถเพียงลําพัง ซึ่งไม่ทราบสาเหตุที่คนร้ายก่อเหตุดังกล่าว ความคืบหน้าล่าสุดเมื่อเวลา 11.00 น. (10 ก.พ. 66) พล.ต.ท.สุรพงษ์ ถนอมจิตร ผบช.ภ.8 พร้อมด้วย นายณรงค์ วุ่นซิ้ว ผวจ.ภูเก็ตร่วมกันสั่งการให้ชุด นปพ.บก.สส.ภ.8 และ นปพ.ภ.จว.ภูเก็ต นําญาตินายนาวิน อายุ 24 ปี คนร้ายที่หลบซ่อนตัวอยู่บนรถบัส ซึ่งเดินทางมาจาก อ.อ่าวลึก จ.กระบี่ เข้าพูดคุยกับนายนาวิน เพื่อให้ลงจากรถบัสมามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตํารวจ โดยใช้เวลากว่า 30 นาที แต่ไม่เป็นผล จากนั้น ชุดปฏิบัติการพิเศษได้ยิงแก๊สน้ําตาตามยุทธวิธีเข้าไปภายในรถพร้อมกับบุกชาร์ตขึ้นไปบนรถ โดยพบร่างนายนาวินนอนคว่ําหน้าจมกองเลือดอยู่ที่พื้น สวมเสื้อยืดสีน้ําเงิน นุ่งกางเกงยีนส์ขายาวสีน้ําเงิน ใส่รองเท้าผ้าใบสีดํา โดยมีปืนไม่ทราบขนาดตกอยู่ 1 กระบอก(ไทยประดิษฐ์) สภาพศพถูกอาวุธปืนจ่อยิงเข้าที่บริเวณหัวนมซ้าย 1 นัด จากนั้น แพทย์ รพ.วชิระภูเก็ตพร้อมด้วย พฐ.ภูเก็ตเข้าตรวจสอบและชันสูตรศพเบื้องต้นบนรถก่อนที่จะนําศพส่งชันสูตรอย่างละเอียดที่ รพ.วชิระภูเก็ต ขณะเดียวกันผู้ที่ได้รับบาดเจ็บทราบชื่อในเวลาต่อมาคือ น.ส.จุไรพร รักษ์บรรจง อายุ 49 ปีและนายนภณัฐ มณีชาตรี อายุ 26 ปีถูกกระสุนเข้าที่ตามร่างกายได้รับบาดเจ็บ โดยแพทย์ได้รักษาจนพ้นขีดอันตรายแล้ว พล.ต.ต.เสริมพันธุ์ ศิริคง ผบก.ภ.จว.ภูเก็ตกล่าวภายหลังเหตุการณ์ดังกล่าวเข้าสู่ภาวะปกติว่า จากการสอบถามญาตินายนาวินทราบว่า นายนาวิน เคยเป็นทหารเกณฑ์ 2 ปีและสมัครต่ออีก 1 ปี จากนั้นได้ปลดประจําการออกมา โดยนายนาวินพักอาศัยอยู่กับยายสองคน ก่อนเกิดเหตุได้บอกกับยายว่าจะออกไปใช้ชีวิตตามเส้นทางของตัวเองและหายตัวออกจากบ้านไป ซึ่งญาติๆ ระบุว่านายนาวินมีอาการทางจิตและเคยเข้ารักษาตัวที่ รพ.ใน อ.อ่าวลึก จ.กระบี่ แต่ไม่ได้ทานยาต่อเนื่อง จนกระทั่งมาก่อนเหตุ ส่วนอาวุธปืนที่ใช้ในการก่อเหตุนั้น เป็นอาวุธปืนลูกซองไทยประดิษฐ์ โดยบนรถบัสพบปลอกกระสุนปืนลูกซองเบอร์ 12 จํานวน 2 ปลอก และอีก 1 ปลอกคาอยู่ในรังเพลิงของปืนกระบอกดังกล่าว ซึ่งคาดว่านัดสุดท้ายนายนาวินใช้จ่อยิงตัวเองเสียชีวิตดังกล่าว โดยญาติๆ ที่เดินทางมา เพื่อพยายามเจรจากับนายนาวินเห็นเหตุการณ์ทุกอย่าง เห็นการปฏิบัติหน้าที่ของตํารวจ ไม่ได้ติดใจการเสียชีวิตของนายนาวินแต่อย่างใด หลังจากนั้นทาง นายณรงค์ วุ่นซิ้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ได้เดินทางไปเยี่ยมผู้บาดเจ็บทั้ง 2 ราย ที่โรงพยาบาลวชิระภูเก็ตเพื่อให้กําลังใจและปลอบขวัญแก่ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บในเหตุการณ์ครั้งนี้#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
10/2/2023
ภาคใต้
ภูเก็ต
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดภูเก็ต
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230210140559925
null
กกต.กทม. พร้อมฟังทุกเสียงสะท้อนแบ่งเขตเลือกตั้ง สมาชิกสภาผู้แทนราษฏร ยืนยัน ยึดตามหลักเกณฑ์และกฏหมาย
นายสําราญ ตันพานิช ผู้อํานวยการสํานักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจํากรุงเทพมหานคร กล่าวถึงกรณีที่มีผู้ยื่นคัดค้านและแสดงความไม่เห็นด้วยกับรูปแบบการแบ่งเขตเลือกตั้ง ส.ส.กทม.ทั้ง 8 รูปแบบว่า ช่วงนี้อยู่ระหว่างการเปิดรับฟังความคิดเห็นจากพรรคการเมืองและประชาชนในพื้นที่ กทม. โดยสามารถแสดงความคิดเห็นเข้ามาได้ว่า เห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยอย่างไร ซึ่งทุกความเห็นล้วนเป็นประโยชน์ต่อการพิจารณาแบ่งเขตเลือกตั้ง ทั้งนี้เมื่อครบกําหนด กกต.กทม.จะรวบรวมทุกความเห็นที่เสนอเข้ามาทุกช่องทางที่เข้าหลักเกณฑ์ นํามาประมวลและสรุปเป็นรายงานเพื่อเสนอให้ กกต.พิจารณาเลือกรูปแบบการแบ่งเขตเลือกตั้งที่เหมาะสมที่สุดนายสําราญ ยืนยัน ไม่กังวลเรื่องการแบ่งเขต เพราะต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์อย่างเคร่งครัดและต้องดําเนินการตามกฎหมายอยู่แล้ว
10/2/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
Radio-สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230210160215015
null
พรรคเพื่อชาติ เปิดนโยบายกลางของพรรคที่มีการศึกษาและลงพื้นที่รับฟังปัญหาจากประชาชนโดยตรง
นางสาวปวิศรัฐฐ์ ติยะไพรัช หัวหน้าพรรคเพื่อชาติ พร้อมผู้บริหารของพรรค รวมถึง ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. ร่วมแถลงเปิดนโยบายบางส่วนในแต่ละด้าน ที่มีการศึกษาและลงพื้นที่รับฟังปัญหาต่างๆ จากประชาชนโดยตรงมาจัดทําเป็นนโยบาย ซึ่งมีทั้งนโยบายเพื่อการศึกษา เพราะพรรคเห็นว่า การศึกษาถือเป็นหัวใจของการพัฒนา โดยจะมีการปฏิรูป กศน.ให้ทันสมัย ปฏิรูปอาชีวะที่จะมีเงินเดือนเทียบเท่ากับปริญญาตรี ส่วนนโยบายด้านเด็กและเยาวชน : โดยจะยกเลิกชุดนักเรียนนักศึกษา เพื่อลดภาระค่าใช้จ่าย รวมถึงเพิ่มงบประมาณอาหารกลางวัน สําหรับนโยบายเพื่อเกษตรกรและสิ่งแวดล้อม : จะมีการเก็บรักษาเมล็ดพันธุ์ จัดตั้งธนาคารเมล็ดพันธุ์ ขณะที่ นโยบายด้านสาธารณสุข จะมีการตรวจสุขภาพคนไทยฟรีทุก 4 ปี มีสวัสดิการแว่นสายตาทั่วหน้าและผ้าอนามัยฟรี ส่วนนโยบายด้านสิทธิมนุษยชนและความยุติธรรมจะมีกฎหมายแรงงาน platform เพื่อสร้างความเป็นธรรมโปร่งใสให้ทุกฝ่าย นโยบายด้านเศรษฐกิจ มีการจัดตั้งกองทุนเพื่อ SME จัดทําบัตรเครดิตถ้วนหน้า 3,000 บาท โดยนโยบายที่กล่าวมานี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งของนโยบายทั้งหมดของพรรคที่มีกว่า 40 นโยบาย ซึ่งเชื่อว่า สามารถตอบโจทย์แก้ไขปัญหาให้กับประชาชนและประเทศได้จริง
10/2/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
Radio-สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230210160509018
null
ธนาคารโลก ณ กรุงวอชิงตัน หารือร่วม แม่ทัพภาค 4 ส่งเสริมความร่วมมือด้านสันติภาพ มุ่งพัฒนาทุกมิติ เพื่อความมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน แก่ประชาชนใน จชต.
ธนาคารโลก ณ กรุงวอชิงตัน พบ แม่ทัพภาคที่ 4 และคณะฯ หารือการส่งเสริมความร่วมมือด้านสันติภาพ มุ่งการพัฒนาทุกมิติ เพื่อความมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน แก่ประชาชนในจังหวัดชายแดนภาคใต้ วันนี้ ( 10 กุมภาพันธ์ 2566 ) พลโท ศานติ ศกุนตนาค แม่ทัพภาคที่ 4 / ผู้อํานวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 พร้อมด้วย พลตรี ไพศาล หนูสังข์ รองแม่ทัพภาคที่ 4/ รองผู้อํานวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า , พลตรี ปราโมทย์ พรหมอินทร์ รองแม่ทัพภาคที่ 4/รองผู้อํานวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า และคณะฯ ให้การต้อนรับ นาง สุขคีนา เคน ผู้อํานวยการกลุ่มงานด้านความเปราะบาง ความขัดแย้งและความรุนแรง ประจําสํานักงานธนาคารโลก ณ กรุงวอชิงตัน และคณะฯในโอกาส เข้าพบเพื่อหารือเกี่ยวกับแนวทางการส่งเสริมความร่วมมือด้านสันติภาพ และการพัฒนาระหว่างกลุ่มธนาคารโลกกับส่วนราชการไทย ณ ห้องรับรอง กองอํานวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ค่ายสิรินธร ตําบลเขาตูม อําเภอยะรัง จังหวัดปัตตานี โอกาสนี้ พลโท ศานติ ศกุนตนาค แม่ทัพภาคที่ 4 / ผู้อํานวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 กล่าวต้อนรับและยินดีให้การสนับสนุนการประสานการทํางานอย่างใกล้ชิด ตลอดจนการช่วยเหลือร่วมกันอย่างเต็มที่ และขอขอบคุณแทนประชาชนที่อยู่ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่จะได้รับโครงการที่ดีในอนาคตข้างหน้า หวังเป็นอย่างยิ่งว่า โครงการที่จะนําเสนอนั้นต้องมุ่งเน้นส่งเสริมความเป็นอยู่และเกิดประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชนโดยส่วนรวมให้มากที่สุด เพื่อบรรเทาความเดือนร้อนของประชาชนในพื้นที่ ยืนยันเศรษฐกิจ ตามแนวชายแดนไทย-มาเลเซีย ภายหลังสถานการณ์โควิด-19 ลดลง ปัจจุบันนี้ดีขึ้นตามลําดับ ด้วยการค้าขายระหว่างสองประเทศอยู่ตลอดเวลาตามช่องทางที่ถูกต้องและตรงตามกฎหมาย ซึ่งมีหน่วยป้องกันชายแดนได้ทําหน้าที่อย่างเข้มงวดในการเฝ้าระวังสกัดกั้นลักลอบค้าขายสิ่งของผิดกฎหมายทุกชนิดตามช่องทางธรรมชาติและตามแนวชายแดนนาง สุขคีนา เคน ผู้อํานวยการกลุ่มงานด้านความเปราะบาง ความขัดแย้งและความรุนแรง ประจําสํานักงานธนาคารโลก กล่าวว่า มีความสนใจร่วมงานกับรัฐบาลไทยเนื่องจากมีประสบการณ์ทํางานในพื้นที่กลุ่มเปราะบางและความขัดแย้ง มุ่งมั่นขจัดความยากจนและการส่งเสริมเศรษฐกิจควบคู่กันไป เพื่อการพัฒนาและสร้างสันติภาพ พร้อมย้ําว่าจะเสนอโครงการมุ่งเน้นประชาชนเข้ามามีส่วนร่วม และดูแลเรื่องปัญหาเศรษฐกิจฐานรากของประเทศในพื้นที่ที่มีความลําบากยากจนใน 10 จังหวัดของประเทศไทย ซึ่งจังหวัดปัตตานีเป็นหนึ่งในโครงการฯ ยืนยันจะแบ่งปันการทํางานสร้างสันติภาพจากประเทศทั่วโลกเพื่อขจัดความยากจนแก่ประชาชน ภายใต้การทํางานร่วมกับหน่วยงานรัฐบาลไทยอย่างใกล้ชิด มุ่งเน้นแนวทางเสริมสร้างภูมิต้านทานให้แก่ประชาชนกลุ่มเปราะบาง เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตให้ดียิ่งขึ้นอย่างไรก็ตาม กองอํานวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า มุ่งมั่น สร้างสันติภาพให้เกิดสันติสุข และพร้อมให้การสนับสนุน การทํางานร่วมกับสํานักงานธนาคารโลก ณ กรุงวอชิงตันในการพัฒนาประชาชนในทุกมิติ เพื่อนําความสงบสุขสู่แผ่นดินปลายด้ามขวาน#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
10/2/2023
ภาคใต้
ยะลา
สทท.ยะลา
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230210143603954
null
ป.ป.ส. เปิดตัวแจ้งเบาะแสยาเสพติด ผ่านระบบบล็อกเชนครั้งแรก พร้อมโอนเงินรางวัลนำจับร้อยละ 5 เข้าบัญชีเงินดิจิทัล สร้างความมั่นใจด้านการเก็บข้อมูลผู้แจ้งเป็นความลับขั้นสูงสุด
นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เปิดตัวการแจ้งเบาะแสยาเสพติด ผ่านระบบ Blockchain พร้อมระบุว่า ที่ผ่านมา การแจ้งเบาะแสยาเสพติดทางโทรศัพท์มีน้อยมากโดยข้อมูลตั้งแต่ปี 2561 มีการแจ้งเบาะแสประมาณ 16,000 ครั้งในแต่ละปี เชื่อว่า สาเหตุมาจากประชาชนอาจเกรงในเรื่องความปลอดภัย ดังนั้น สํานักงานคณะกรรมการและปราบปรามยาเสพติด หรือ ป.ป.ส. จึงสร้างระบบแจ้งเบาะแสที่รักษาความลับของผู้แจ้งขั้นสูงสุด โดยนํามาสู่การนําระบบบล็อกเชนมาใช้ เพื่อให้การเก็บข้อมูลเป็นความลับ โดยผู้จะรู้รายละเอียดมีเพียงเลขาธิการ ป.ป.ส. และทุกชั้นดําเนินการ จะเป็นความลับ โดยได้มีการทดสอบการเจาะระบบเพื่อให้เกิดความเชื่อมั่นด้านความปลอดภัย ทั้งนี้ เมื่อข้อมูลเบาะแสยาเสพติด นําไปสู่การจับกุมและยึดทรัพย์ผู้ค้ายาเสพติด ผู้แจ้งเบาะแส ก็จะได้รางวัลนําจับ ร้อยละ 5 ของทรัพย์สินที่ยึดได้เชื่อว่า จะช่วยทําให้ประชาชน แจ้งเบาะแสได้มากขึ้นด้านนายวิชัย ไชยมงคล เลขาธิการ เลขาธิการ ป.ป.ส. กล่าวว่า ในส่วนของระบบบล็อกเชน จะมีบัญชีอิเล็กทรอกนิกส์ สําหรับการรับเงินรางวัลนําจับ โดยที่ผู้แจ้งไม่ต้องมารับเงินรางวัลด้วยตัวเอง จึงไม่จําเป็นต้องเปิดตัวตนในทุกขั้นตอน ซึ่งการแจ้งเบาะแสยาเสพติดผ่านระบบบล็อกเชน สามารถทําได้ ผ่าน 1386.ongb.go.th โดยแจ้งเบาะแส สถานที่กระทําผิด / ข้อมูลบุคคลต้องสงสัย / ทรัพย์สินของกลุ่มผู้ค้ายาเสพติด / รูปถ่ายเบาะแส และ รายละเอียดของผู้แจ้ง ที่สามารถเลือกได้ว่า ไม่ประสงค์ให้ข้อมูล แต่ให้ใส่ข้อมูลวอลเล็ตแอดเดรส หรือ กระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ สําหรับรับเงินรางวัล ซึ่งสามารถเปิดกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ที่รองรับเงินดิจิทัลสกุล USDT หรือ อิเธอเรียม เมื่อคดีถึงที่สุด ป.ป.ส. จะโอนเงินดิจิทัลสกุล USDT ไปยังผู้แจ้งเบาะแส จากนั้น สามารถนําไปแลกเปลี่ยนเป็นเงินบาทไทยที่กระดานเทรดต่าง ๆ ได้
10/2/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สวท.จันทบุรี
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230210160535019
null
สำนักงานอัยการสูงสุด เตรียมจัดโครงการคลินิกอัยการอาสาเคลื่อนที่คุ้มครองสิทธิประชาชนระหว่างประเทศ ให้ความรู้ทางกฎหมายแก่คนไทยที่มีนิติสัมพันธ์กับคนต่างชาติ และคนต่างชาติที่อยู่ในไทยที่ จ.เชียงใหม่ 14 ก.พ. นี้
สํานักงานอัยการสูงสุด โดยสํานักงานคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายแก่ประชาชน (สคช.) กําหนดจัดโครงการคลินิกอัยการอาสาเคลื่อนที่คุ้มครองสิทธิประชาชนระหว่างประเทศ ประจําปีงบประมาณ พ.ศ.2566 ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อให้ความรู้ทางกฎหมายให้กับคนไทยที่มีนิติสัมพันธ์กับคนต่างชาติและคนต่างชาติที่อยู่ในประเทศไทย เนื่องจากกฎหมายที่เกี่ยวข้องมีความแตกต่างไปจากการมีนิติสัมพันธ์ระหว่างคนไทยด้วยกันเอง และเป็นการคุ้มครองทางกฎหมายแก่คนต่างชาติที่อยู่ในประเทศด้วยโดยภายในงานมีกิจกรรมต่างๆ ประกอบด้วย การบรรยายเกี่ยวกับการให้ความช่วยเหลือของสํานักงานอัยการสูงสุดแก่ประชาชนทั่วไป, กฎหมายปกครอง, กฎหมายคนเข้าเมือง และกฎหมายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง อาทิ การเกณฑ์ทหารของคนสองสัญชาติ, การถือครองทรัพย์สินและมรดกของคนต่างชาติในไทย เป็นต้น และยังมีการเปิดคลินิกกฎหมายให้คําปรึกษาเป็นการเฉพาะรายด้วยสําหรับผู้ที่สนใจสามารถเข้าร่วมกิจกรรม “โครงการคลินิกอัยการอาสาเคลื่อนที่คุ้มครองสิทธิประชาชนระหว่างประเทศ” ได้ในวันอังคารที่ 14 กุมภาพันธ์ 2566 ตั้งแต่เวลา 08.30 – 17.00 น. ณ โรงแรมดิเอ็มเพรส อําเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายแต่อย่างใด สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ สํานักงานอัยการพิเศษฝ่ายคุ้มครองสิทธิประชาชนระหว่างประเทศ โทร. 02 – 142 1532 หรือสํานักงานอัยการคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายแก่ประชาชนและการบังคับคดีจังหวัดเชียงใหม่ (สคชจ.เชียงใหม่) โทร. 053 – 112 564 รายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อสํานักงานอัยการพิเศษฝ่ายคุ้มครองสิทธิประชาชนระหว่างประเทศสํานักงานคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายแก่ประชาชน สํานักงานอัยการสูงสุด ชั้น 2 อาคารราชบุรีดิเรกฤทธิ์ ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติฯ ถนนแจ้งวัฒนะ เขตหลักสี่ กรุงเทพฯ 10210 โทรศัพท์ 02 – 142 1532 ถึง 3 โทรสาร 02 – 143 9179 อีเมล humanrights@ago.go.th เว็บไซต์ https://www3.ago.go.th/humanrights/ เฟซบุ๊กแฟนเพจ https://www.facebook.com/oipptha
10/2/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
หน่วยงานสำนักข่าว
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230210151952979
null
จังหวัดร้อยเอ็ด จัดงานวันคล้ายวันสถาปนากองอาสารักษาดินแดน ครบรอบ 69 ปี ประจำปี 2566
ที่หอประชุมจังหวัดร้อยเอ็ด อําเภอเมืองร้อยเอ็ด จังหวัดร้อยเอ็ด นายทรงพล ใจกริ่ม ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด เป็นประธานในพิธีเนื่องในวันคล้ายวันสถาปนากองอาสารักษาดินแดน ครบรอบปีที่ 69 ประจําปี 2566 โดยมี นายสนอง ดลประสิทธิ์ ,นายชูศักดิ์ ราชบุรี รองผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด พลตรี จักรพันธ์ ขันมั่น ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 27 พันตํารวจเอกภูมิวิทย์ เวชกามา รองผู้บังคับการตํารวจภูธรจังหวัดร้อยเอ็ด นายไพโรจน์ จิตจักร์ ปลัดจังหวัดร้อยเอ็ด พร้อมด้วย หัวหน้าส่วนราชการ นายอําเภอ คณะกรรมการเหล่ากาชาดจังหวัดร้อยเอ็ด สมาชิกกองอาสารักษาดินแดน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมพิธีโดย กองบังคับการกองอาสารักษาดินแดนจังหวัดร้อยเอ็ด ประกอบด้วย กองกําลัง 21 กองร้อย ได้แก่ กองร้อยบังคับการและบริการ 1 กองร้อย และกองร้อยอาสารักษาดินแดนอําเภอ จํานวน 20 กองร้อย กําลังพลที่บรรจุสั่งใช้ จํานวน 192 นาย แยกเป็น ชาย 175 นาย และหญิง 17 นาย ซึ่งการจัดพิธีชุมนุมของผู้บังคับบัญชาเจ้าหน้าที่ และสมาชิกกองอาสารักษาดินแดน ขึ้นในครั้งนี้ เพื่อรําลึกถึงคุณงามความดีในการรักษาความสงบเรียบร้อยและรักษาบ้านเมืองให้เป็นปกติสุข ตลอดจนเป็นการเชิดชูเกียรติสร้างขวัญกําลังใจให้แก่สมาชิกกองอาสารักษาดินแดน โดยได้มีการทําพิธีทางศาสนา ทําบุญอุทิศส่วนกุศลให้แก่เจ้าหน้าที่และสมาชิกกองอาสารักษาดินแดนที่เสียชีวิตจากการปฏิบัติหน้าที่ ระลึกถึงวีรกรรมของเหล่าวีรชนกองอาสารักษาดินแดนที่ได้ทุ่มเทเสียสละพลีชีพเพื่อรักษาประเทศชาติ การอ่านสารของผู้บัญชาการกองอาสารักษาดินแดน และการมอบเครื่องหมายรักษาดินแดนยิ่งชีพให้กับผู้บังคับกองร้อยอาสารักษาดินแดนอําเภอ จํานวน 2 นาย เข็มอาสารักษาดินแดนสดุดีให้เจ้าหน้าที่และสมาชิกกองอาสารักษาดินแดน จํานวน 4 นาย รางวัลกองร้อยมาตรฐาน จํานวน 2 กองร้อย และพิธีมอบทุนการศึกษา ของมูลนิธิอาสารักษาดินแดนในพระบรมชาชินูปถัมภ์ ให้บุตรสมาชิกกองอาสารักษาดินแดน เป็นทุนต่อเนื่อง จํานวน 5 ทุน รวมทั้งมอบทุนการศึกษาแก่บุตรข้าราชการ พนักงานราชการสังกัดกระทรวงมหาดไทยนายทรงพล ใจกริ่ม ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด กล่าวว่า บุคลากรของกองอาสารักษาตินแดนทั้งผู้บังคับบัญชา เจ้าหน้าที่ และสมาชิกกองอาสารักษาดินแดน ถือเป็นบุคลากรที่มีความสําคัญและเป็นกําลังหลักในการขับเคลื่อนนโยบายของรัฐบาลและภารกิจของกองอาสารักษาตินแดน โดยเฉพาะในด้านการรักษาความสงบเรียบร้อย การแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน การป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดการบรรเทาสาธารณภัย การรักษาสถานที่สําคัญ การรายงานข่าว และการสนับสนุนกําลังให้แก่ฝ่ายทหาร ซึ่งถือเป็นหน้าที่ที่สําคัญของฝ่ายปกครองในการ "บําบัดทุกข์ บํารุงสุข" ให้แก่ประชาชนในพื้นที่ ดังนั้น บุคลากรของกองอาสารักษาตินแดน จึงต้องมีความสํานึกในหน้าที่มีจิตอาสาในการบําเพ็ญสาธารณประโยชน์ มีความจงรักภักดีต่อสถาบันหลักของชาติ และดํารงตนภายใต้หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง รวมทั้งต้องหมั่นฝึกฝนและพัฒนาตนเองให้เป็นผู้ที่มีความรู้ความสามารถในหน้าที่ของตนเอง ซึ่งจากผลการปฏิบัติงานที่ผ่านมา เป็นที่ประจักษ์แล้วว่าบุคลากรของกองอาสารักษาดินแดน สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพและบรรลเป้าหมายของกองอาสารักษาดินแดน ผมจึงขอแสดงความชื่นชมในความมุ่งมั่นตั้งใจ และขอให้ทุกท่านมีความภาคภูมิใจในเกียรติและศักดิ์ศรีของกองอาสารักษาดินแดน รวมทั้งขอให้ทุกท่านปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มกําลังความสามารถ ภายใต้กรอบแนวคิด "พื้นที่เข้มแข็ง ประชาชนผาสุกในสังคมที่มั่นคงปลอดภัย อย่างยั่งยืน"ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด กล่าวเพิ่มเติมว่า ในการปฏิบัติภารกิจหน้าที่ปัจจุบัน แม้สถานการณ์ได้เปลี่ยนแปลงไป แต่ขอให้ผู้บังคับบัญชา เจ้าหน้าที่ และสมาชิกกองอาสารักษาดินแดน ได้ตระหนักถึงคุณค่าของท่านในฐานะกองกําลังประจําถิ่น เป็นกองทัพของประชาชน และเป็นกลไกสําคัญของสังคมที่พร้อมสนับสนุนช่วยเหลือทางราชการ และประชาชนได้ตลอดเวลา ให้ปฏิบัติตนเป็นแบบอย่างที่ดีงามแก่พี่น้องประชาชน น้อมนําพระราชดํารัสของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เรื่อง "การรู้รักสามัคคี การประหยัด และปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง" รวมถึงนํานโยบายสําคัญของรัฐบาลและกระทรวงมหาดไทยมาปฏิบัติ พร้อมทั้งประสานการปฏิบัติ ให้เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรม ดํารงไว้ซึ่งเกียรติประวัติ และศักดิ์ศรีของกองอาสารักษาดินแดน เพื่อประโยชน์สูงสุดของประเทศชาติและประชาชน ให้มีความมั่นคงยั่งยืนสืบไป#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
10/2/2023
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ร้อยเอ็ด
สวท.ร้อยเอ็ด
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230210161033023
null
เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม สั่งการประกันสังคม จ.ภูเก็ต ช่วยเหลือเหยื่อบาดเจ็บถูกคนร้ายยิงบนรถโดยสารประจำทาง ภูเก็ต-พัทลุง
นายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ เลขาธิการสํานักงานประกันสังคม เปิดเผยถึงเหตุคนร้ายใช้ปืนยิงผู้โดยสารบนรถโดยสารประจําทางภูเก็ต-พัทลุง บนถนนเทพกษัตริย์ตรี ฝั่งขาออก ควนดินแดง ตําบลรัษฏา อําเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต ทําให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย ว่า ทันทีที่ทราบข่าว ได้สั่งการให้นายประโยก กุลเจริญ ประกันสังคมจังหวัดภูเก็ต เร่งประสานงาน ให้ความช่วยเหลือผู้ประสบเหตุโดยเร่งด่วน พร้อมเข้าตรวจสอบข้อเท็จจริง ทราบว่า ผู้ประสบเหตุที่ได้รับบาดเจ็บทั้ง 2 ราย คือ นายนภณัฐ มณีชาตรี เป็นผู้ประกันตนมาตรา 33 ทํางานที่ บริษัท ภูเก็ตทรัพย์ธุรกิจ จังหวัดภูเก็ต ถูกยิงบริเวณหลัง เข้ารับการรักษาที่ โรงพยาบาลมิชชั่นภูเก็ต ซึ่งเป็นโรงพยาบาลตามสิทธิ ขณะเกิดเหตุได้นั่งรถกลับบ้านไปยังจังหวัดพัทลุง ส่วนอีก 1 ราย ชื่อนางสาวจุไรพร รักษ์บรรจง เคยเป็นผู้ประกันตนมาตรา 40 และลาออก เมื่อปี พ.ศ. 2558 ถูกยิงที่บริเวณชายโครง กระสุนฝังใน รอการผ่าตัด โดยใช้สิทธิบัตรทอง ล่าสุดผู้ประสบเหตุทั้ง 2 ราย อาการปลอดภัยแล้วทั้งนี้ เลขาธิการสํานักงานประกันสังคม มอบหมายให้ประกันสังคมจังหวัดภูเก็ต เข้าเยี่ยมพร้อมมอบของเพื่อสร้างขวัญกําลังใจแก่ผู้ประสบเหตุทั้ง 2 ราย และชี้แจงสิทธิประโยชน์จากสํานักงานประกันสังคมให้รับทราบความคุ้มครองและหลักประกันความมั่นคงในชีวิต
10/2/2023
null
กรุงเทพมหานคร
Radio-สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230210154727007
null
สำนักงานสภาเกษตรกรจังหวัดสตูล เร่งประชาสัมพันธ์ให้เกษตรกรที่สนใจสมัครลงเลือกตั้งสมาชิกสภาเกษตรกร ย้ำสมัครได้ถึงพรุ่งนี้ (12 ก.พ.66) เท่านั้น และจะเลือกตั้งพร้อมกันทั่วประเทศ 19 มีนาคมนี้
สํานักงานสภาเกษตรกรจังหวัดสตูล เร่งประชาสัมพันธ์ให้เกษตรกรที่สนใจสมัครลงเลือกตั้งสมาชิกสภาเกษตรกร ย้ําสมัครได้ถึง (12 ก.พ. 66) เท่านั้น และจะเลือกตั้งพร้อมกันทั่วประเทศ 19 มีนาคมนี้วันนี้ (11 ก.พ. 66) นายวิศาล กิตติประโยค หัวหน้าสํานักงานสภาเกษตรกรจังหวัดสตูล เปิดเผยว่า ขณะนี้สํานักงานสภาเกษตรกรแห่งชาติ เปิดรับสมัครเกษตรกรที่สนใจ ลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นผู้แทนเกษตรกรจังหวัด ประเภทผู้แทนเกษตรกร ซึ่งได้มีการเปิดรับสมัครมาแล้วตั้งแต่วันที่ 8 กุมภาพันธ์ เป็นต้นมา จนถึงวันพรุ่งนี้ (12 ก.พ. 66) เท่านั้น และจะมีการเลือกตั้งพร้อมกันทั่วประเทศในวันอาทิตย์ที่ 19 มีนาคม 2566 ตั้งแต่เวลา 08.00-17.00 น.โดยขอเชิญชวนเกษตรกรที่สนใจและมีคุณสมบัติครบถ้วน สามารถสมัครได้ที่ว่าการอําเภอทุกอําเภอ โดยจังหวัดสตูลสามารถมีสมาชิกสภาเกษตรกรได้รวม 16 ราย สําหรับจังหวัดสตูลขณะนี้มีผู้สมัครแล้วในทุกอําเภอ โดยบางเขตมีผู้สมัครมากกว่า 4 ราย ขณะที่บางเขตยังมีผู้สมัครเพียงรายเดียวเท่านั้น ซึ่งผู้ที่ได้รับเลือกตั้งจากเกษตรกรในจังหวัดสตูล ที่มีสิทธิ์เลือกตั้ง 89,388 ราย ในแต่ละเขตจะเป็นตัวแทนเพื่อร่วมกันขับเคลื่อนและแก้ปัญหาให้แก่พี่น้องเกษตรกรในทุกระดับ นอกจากนี้ประธานสภาเกษตรกรจังหวัดสตูลจะได้เป็นสมาชิกสภาเกษตรกรแห่งชาติ สําหรับเป็นตัวแทนในการนําเสนอปัญหาในระดับพื้นที่ นําไปสู่การแก้ไขได้ในอนาคต ทั้งนี้ สําหรับเกษตรกรทั่วไปสามารถตรวจสอบรายชื่อในประกาศบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้งสมาชิกสภาเกษตรกรจังหวัดได้ ณ ที่ทําการปกครองอําเภอ หรือหน่วยเลือกตั้งสมาชิกสภาเกษตรกรจังหวัดใกล้บ้าน สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมสํานักงานสภาเกษตรกรจังหวัดสตูล โทร 0 7472 2450#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
11/2/2023
ภาคใต้
สตูล
สวท.สตูล
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230211190753294
null
รัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ จะลงพื้นที่ จ.นครศรีธรรมราช ติดตามผลการดำเนินงานโครงการของรัฐ และรับฟังปัญหาของประชาชนในพื้นที่วันพรุ่งนี้
นายธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีประจําสํานักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มอบหมายให้ลงพื้นที่ตรวจราชการ ที่จังหวัดนครศรีธรรมราชวันพรุ่งนี้ (12 ก.พ.66 ) ติดตามการดําเนินงานตามโครงการของรัฐ พร้อมพบปะผู้นําส่วนราชการและภาคประชาชน เพื่อรับฟังปัญหาและความต้องการของประชาชนในพื้นที่อําเภอจุฬาภรณ์ และอําเภอชะอวด เพื่อประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งเข้าไปดําเนินการแก้ปัญหาให้กับประชาชนโดยเร็วเป็นวัตถุประสงค์ของนายกรัฐมนตรีที่ต้องการให้รัฐบาลลงพื้นที่รับฟังปัญหาจากประชาชนอย่างใกล้ชิด เพื่อจะได้เข้าไปแก้ปัญหาได้ถูกจุด และตรงกับที่ประชาชนต้องการให้รัฐบาลเข้าไปช่วยเหลืออย่างแท้จริง
11/2/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230211102815231
null
กระทรวงการต่างประเทศ เตรียมส่งเจ้าหน้าไปตุรกี ช่วยดำเนินการส่งร่างผู้เสียชีวิตชาวไทยจากเหตุแผ่นดินไหวในตุรกีกลับประเทศ
นางกาญจนา ภัทรโชค อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยว่า สถานเอกอัครราชทูต ณกรุงอังการา อยู่ระหว่างประสานการดําเนินการส่งร่างสตรีที่เสียชีวิต 1 ราย กลับประเทศไทยโดยเครื่องบินทหารของไทย ซึ่งกรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศจะส่งเจ้าหน้าที่ร่วมเดินทางไปยังตุรกี เพื่อช่วยดําเนินการ โดยขณะนี้อยู่ระหว่างดําเนินการขั้นตอนต่าง ๆ ตามระเบียบ รวมทั้งจะมอบของบรรเทาทุกข์แก่ชาวไทยผู้ประสบภัยในพื้นที่ด้วยนอกจากนี้ ยังได้ประสานงานกับสภากาชาดไทยในการส่งร่างผู้เสียชีวิตกลับบ้านเกิดที่ จังหวัดชัยภูมิ
11/2/2023
null
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230211193927296
null
คณะกรรมการจัดการเลือกตั้ง ได้จัดการเลือกตั้งคณะกรรมการบริหารสมาคมคนตาบอดชาวอีสานด้วยเครื่องลงคะแนนเลือกตั้งอิเล็กทรอนิกส์
วันนี้ (12 ก.พ.66) สํานักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งจังหวัดสุรินทร์ โดยมี ร.ต.อ.นิยม เพ็ชรโกมล เป็นประธานคณะกรรมการจัดการเลือกตั้ง ได้จัดให้มีการเลือกตั้งคณะกรรมการบริหารสมาคมคนตาบอดชาวอีสาน กรณีครบวาระ ซึ่งมาจาก 20 จังหวัด จํานวนสมาชิกทั้งหมด 4,890 คน ผู้ติดตามและอาสาสมัคร รวมทั้งสิ้น 6,600 คน ณ หอประชุมโรงยิมเผ่าแผน สนามกีฬาศรีณรงค์ ตําบลนอกเมือง อําเภอเมือง จังหวัดสุรินทร์#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
12/2/2023
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
สุรินทร์
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสุรินทร์
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230212152221406
null
สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดบึงกาฬย้ำเตือนประชาชน ร่วมแสดงความคิดเห็นในรูปแบบการแบ่งเขตเลือกตั้ง ส.ส. จังหวัดบึงกาฬ ซึ่งในครั้งนี้ จังหวัดบึงกาฬ จะมี ส.ส. 3 คน
สํานักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจําจังหวัดบึงกาฬย้ําเตือนประชาชน เนื่องจากวันพรุ่งนี้เป็น "วันสุดท้าย" ที่ประชาชน จ.บึงกาฬจะสามารถร่วมแสดงความคิดเห็นในรูปแบบการแบ่งเขตเลือกตั้ง ส.ส. จังหวัดบึงกาฬ ซึ่งในครั้งนี้ จังหวัดบึงกาฬ จะมี ส.ส. 3 คนโดยประชาชนสามารถแสดงความเห็นลงในแบบสอบถาม เพื่อรับฟังความคิดเห็นเกี่ยวกับรูปแบบของการแบ่งเขตเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดบึงกาฬตามแนบท้ายประกาศนี้ ได้จนถึงวันที่ 13 ก.พ.66 โดยสามารถยื่นต่อผู้อํานวยการการเลือกตั้งประจําจังหวัดบึงกาฬ ณ สํานักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจําจังหวัดบึงกาฬ เลขที่ 251-251/1 ถนนรักสงบ ตําบลวิศิษฐ์ อําเภอเมือง จังหวัดบึงกาฬ 38000 หรือ E-mail : bungkan@ect.go.th หรือ ID line : ectbuengkan#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
12/2/2023
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
บึงกาฬ
สวท.บึงกาฬ
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230212204936445
null
ตำรวจไซเบอร์ แนะวิธีป้องกันถูกหักเงินในบัตรเครดิตไปจ่ายค่าโฆษณาสื่อโซเชียลโดยไม่รู้ตัว
พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ โฆษกกองบัญชาการตํารวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) เตือนภัยกรณีที่ปรากฏเป็นข่าวในสื่อสังคมออนไลน์ ว่ามีผู้เสียหายหลายรายถูกหักเงินในบัตรเครดิตไปชําระค่าโฆษณาสื่อสังคมออนไลน์ต่างๆ รายละกว่า 10,000 บาท โดยยืนยันว่าไม่ได้ทําธุรกรรมดังกล่าว ไม่เคยผูกบัตรเครดิตไว้กับแอปพลิเคชันใดๆ รวมทั้งไม่ได้รับรหัส OTP เพื่อยืนยันการทําธุรกรรมใดๆ โดยจากการตรวจสอบพบว่ามักจะเกิดได้จากผู้เสียหายเผลอให้ข้อมูลบัตรกับมิจฉาชีพ หรือการให้บัตรเครดิตไปกับผู้อื่นเพื่อทําธุรกรรมการเงิน อีกกรณีอาจเกิดจากการกดลิงก์ติดตั้งแอปพลิเคชันปลอม หรือลิงก์โฆษณาต่างๆ ที่ฝังมัลแวร์ดักรับข้อมูลของมิจฉาชีพ ขอให้ประชาชนให้ระมัดระวังการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล โดยเฉพาะข้อมูลเลขหลังบัตรเครดิต หรือเดบิตร (CVV) หรือรหัสยืนยัน OTP ต่างๆ ใช้บัตรเมื่อจําเป็น ไม่เปิดเผยข้อมูลให้ผู้อื่นรู้และอย่าให้บัตรคลาดสายตาเมื่อต้องใช้บัตร หลีกเลี่ยงการทําธุรกรรมออนไลน์ที่ไม่น่า ต้องกรอกข้อมูลเลขด้านหน้าบัตร และรหัส 3 ตัวหลังบัตร (CVV) และระวังการกรอกข้อมูลบนเว็บไซต์ปลอม ไม่กดลิงก์หรือติดตั้งแอปพลิเคชันที่ไม่รู้จัก ควรใช้บัตรเดบิตชําระค่าสินค้าโดยโอนเงินเข้าบัตรเพื่อชําระสินค้าหรือบริการเท่าที่จะชําระโดยเฉพาะ ตั้งค่าการแจ้งเตือนการทํารายการผ่านข้อความ (SMS) หรือแอปพลิเคชันไลน์ (Line) ไม่บันทึกรายละเอียดบัตรไว้กับเบราว์เซอร์ เช่น Chrome, Firefox หรือ Safari โดยเด็ดขาด ควรนําแผ่นสติกเกอร์ทึบแสงปิดรหัส 3 ตัวด้านหลังบัตร (CVV) แล้วจํารหัส 3 ตัวดังกล่าวเอาไว้ หมั่นตรวจสอบรายการบัญชีอย่างสม่ําเสมอ หากพบสิ่งผิดปกติให้รีบแจ้งไปยังสถาบันการเงิน เพื่อทําการอายัดบัตรและปฏิเสธการชําระเงินค่าสินค้า หรือบริการทางออนไลน์โดยทันที
12/2/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230212205531447
null
อธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง สั่งคุมเข้มงานก่อสร้างระบบระบายน้ำหลักเพื่อบรรเทาปัญหาน้ำท่วมพื้นที่ชุมชนเมืองเชียงใหม่ ป้องกันทุกขั้นตอน ไม่ให้น้ำเสียจากชุมชน ไหลลงคลองแม่ข่าระหว่างการก่อสร้าง
อธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง สั่งคุมเข้มงานก่อสร้างระบบระบายน้ําหลักเพื่อบรรเทาปัญหาน้ําท่วมพื้นที่ชุมชนเมืองเชียงใหม่ ป้องกันทุกขั้นตอน ไม่ให้น้ําเสียจากชุมชน ไหลลงคลองแม่ข่าระหว่างการก่อสร้าง นายพงศ์รัตน์ ภิรมย์รัตน์ อธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง พร้อมด้วย นายวิรัช ตั้งมั่นคงวรกูล โยธาธิการและผังเมืองจังหวัดเชียงใหม่ ลงพื้นที่ติดตามความก้าวหน้าการก่อสร้างโครงการระบบระบายน้ําหลัก เพื่อบรรเทาปัญหาน้ําท่วมพื้นที่ชุมชนเมืองเชียงใหม่ โดย อธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง กล่าวว่า รัฐบาลมีแนวคิดในการพัฒนาพื้นที่คลองแม่ข่า ให้เป็นระเบียงการพัฒนาเชิงยุทธศาสตร์ของเมืองเชียงใหม่ โดยพิจารณาในด้านศิลปวัฒนธรรม การจัดการน้ําเสีย ที่อยู่อาศัย เศรษฐกิจชุมชน และสิ่งแวดล้อม ซึ่งที่ผ่านมา คลองแม่ข่าเป็นทางระบายน้ํา ทั้งน้ําฝนและน้ําเสียจากชุมชนโดยตรง ทําให้เกิดปัญหาน้ําเน่าเสีย กรมโยธาธิการและผังเมือง จึงก่อสร้างโครงการระบบระบายน้ําหลัก เพื่อบรรเทาปัญหาน้ําท่วมพื้นที่ชุมชนเมืองเชียงใหม่ระยะที่ 2 ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการพัฒนาและแก้ไขปัญหาคลองแม่ข่า? เพื่อผันน้ําท่วม พร้อมระบายน้ําเสียออกจากพื้นที่ชุมชนช้างเผือก จากเดิมเคยไหลลงสู่คลองแม่ข่าโดยตรง เปลี่ยนเป็นลงอุโมงค์ระบายน้ําขนาดใหญ่ ลอดใต้คลองแม่ข่า ผ่านการบําบัดน้ําเสีย ก่อนปล่อยลงแม่น้ําปิง ซึ่งปัจจุบันโครงการฯ อยู่ระหว่างดําเนินการก่อสร้าง จึงได้สั่งการให้เร่งรัดดําเนินการให้เรียบร้อยและแล้วเสร็จโดยเร็ว พร้อมกําชับให้มีการป้องกันและระมัดระวังอย่างรอบครอบทุกขั้นตอน ไม่ให้น้ําเสียจากชุมชนไหลลงคลองแม่ข่าในระหว่างการก่อสร้าง ทั้งนี้ หากโครงการฯนี้ แล้วเสร็จ จะทําให้การพัฒนาและแก้ไขปัญหาคลองแม่ข่า? เห็นผลเป็นรูปธรรม และมีความยั่งยืนมากยิ่งขึ้น
12/2/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สวท.จันทบุรี
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230212174525422
null
นายกรัฐมนตรี เตรียมลงพื้นที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี บ่ายวันพรุ่งนี้ (13 ก.พ.66) ตรวจเยี่ยมการบริหารจัดการน้ำ
พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อมคณะ เตรียมลงพื้นที่ตรวจราชการที่จังหวัดสุราษฎร์ธานีช่วงบ่ายวันพรุ่งนี้ (13 ก.พ.66) โดยออกเดินทางจากท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 (บน.6) ดอนเมือง กรุงเทพมหานคร ไปยังท่าอากาศยานทหาร กองบิน 7 จังหวัดสุราษฎร์ธานี เมื่อเดินทางถึงจะไปสักการะพระบรมธาตุไชยาและนมัสการพระครูพิทักษ์เจติยานุกูล เจ้าคณะอําเภอไชยา รักษาการเจ้าอาวาส วัดพระบรมธาตุไชยาราชวรวิหาร จากนั้น จะไปตรวจเยี่ยมบริเวณพื้นที่ประสบอุทกภัยซ้ําซาก พร้อมพบปะประชาชนผู้ได้รับผลกระทบ ณ ที่ว่าการอําเภอไชยา เขตเทศบาลตําบลตลาดไชยา และตรวจติดตามแนวทางการแก้ไขปัญหาอุทกภัยพื้นที่อําเภอไชยา รวมทั้งปัญหาที่ดินทํากิน ณ ศาลาประชาคม ที่ว่าการอําเภอไชยา พร้อมเปิดงานมหกรรมว่าวสุราษฎร์ธานี บริเวณหาดนายอําเภอ อําเภอไชยา จังหวัดสุราษฎร์ธานีการลงพื้นที่ครั้งนี้ นายกรัฐมนตรี ต้องการไปตรวจติดตามการบริหารจัดการน้ํา การแก้ไขปัญหาอุทกภัย ปัญหาที่ดินทํากิน และการส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัดสุราษฎร์ธานี โดยใช้ประเพณีการเล่นว่าวของจังหวัดสุราษฎร์ธานี ประชาสัมพันธ์แหล่งท่องเที่ยว มุ่งหวังให้เป็น Soft power สร้างแรงดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ กระตุ้นเศรษฐกิจให้กับชุมชน
12/2/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230212210410461
null
ที่ประชุมวุฒิสภา เตรียมพิจารณาวาระกระทู้ถามรัฐบาล และร่างพระราชบัญญัติราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ (ฉบับที่ ..) พ..ศ ....
การประชุมวุฒิสภา ในเวลา 09.30 น. วันนี้(13 ก.พ.66) มีวาระพิจารณากระทู้ถามที่สมาชิกตั้งถามรัฐบาลหลายเรื่อง เช่น การแก้ไขเยียวยาบุคลากรสาธารณสุขหลังการถ่ายโอน รพ.สต. , เรื่องสอบถามผลการดําเนินงานและความคืบหน้าของคณะกรรมการดําเนินการปฏิรูปกฎหมาย และเรื่องการมีกฎหมายคุณธรรมเพื่อกระบวนการบริหารงานบุคคลภาครัฐ จากนั้นเป็นการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ (ฉบับที่ ..) พ..ศ .... ซึ่งสภาผู้แทนราษฎรลงมติเห็นชอบแล้ว เป็นร่างพระราชบัญญัติเกี่ยวด้วยการเงิน วุฒิสภาต้องพิจารณาให้เสร็จภายใน 30 วัน นับแต่วันที่ 10 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา และพิจารณาให้ความเห็นชอบบุคคลผู้ได้รับการเสนอชื่อให้ดํารงตําแหน่งเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินนอกจากนี้ ยังมีวาระพิจารณารายงานการพิจารณาศึกษา เรื่อง “แนวทางการขับเคลื่อนศูนย์ส่งเสริมพัฒนาประชาธิปไตย (ศส.ปชต.)" ซึ่งคณะกรรมาธิการการพัฒนาการเมืองและการมีส่วนร่วมของประชาชนพิจารณาเสร็จแล้ว
13/2/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230213090625484
null
คณะทำงานเศรษฐกิจ พรรคเพื่อไทย ลงพื้นที่สาทร สะท้อนปัญหาประชาชนทุกระดับรายได้
นางสาวจุฑาพร เกตุราทร ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. กทม. เขตสาทร บางรัก ปทุมวัน และโฆษกคณะทํางานเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย ลงพื้นที่เขตสาทร พร้อมด้วยนายพิชัย นริพทะพันธุ์ รองประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทยด้านเศรษฐกิจ เพื่อรับฟังปัญหาของประชาชนในพื้นที่ ของคนในชุมชน โดยประชาชนในทุกระดับรายได้ต่างสะท้อนถึงภาวะเศรษฐกิจที่ย่ําแย่ การต้องแบกภาระดอกเบี้ยที่เพิ่มสูงขึ้นและยังมีแนวโน้มที่จะต้องจ่ายดอกเบี้ยสูงขึ้นไปอีก อีกทั้งค่าครองชีพที่สูงมาก จากเงินเฟ้อปีที่แล้วสูงที่สุดในรอบ 24 ปี และเงินเฟ้อเดือนมกราคมปีนี้ก็ยังสูงต่อเนื่องถึงร้อยละ 5.02 ซึ่งซ้ําเติมเงินเฟ้อเดิมที่สูงอยู่แล้ว ทําให้สินค้าอุปโภคบริโภคราคาแพง รายได้ไม่พอค่าใช้จ่าย โดยเฉพาะอย่างยิ่งราคาพลังงานที่พุ่งสูงขึ้น ไม่ว่าจะเป็นค่าไฟฟ้าที่พุ่งสูง โดยเฉพาะค่าไฟฟ้าของภาคธุรกิจที่สูงถึงหน่วยละ 5.33 บาท ซึ่งภาคธุรกิจได้เรียกร้องขอให้ลดราคาลงให้ต่ํากว่าหน่วยละ 5 บาท ซึ่งสามารถทําได้จากราคาค่าพลังงานของโลกที่ราคาลดลง โดยเฉพาะก๊าซ LNG ราคาลดลง จากฤดูหนาวของประเทศฝั่งตะวันตกใกล้จะพ้นแล้ว อีกทั้งค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นและปริมาณก๊าซธรรมชาติที่นําขึ้นมาจากอ่าวไทยที่มีราคาถูกได้มีปริมาณมากขึ้น น่าจะสามารถลดราคาไฟฟ้าได้แล้วนอกจากนี้ ราคาน้ํามันดีเซลที่จะลดเพียง 50 สตางค์ก็ลดราคาน้อยเกินไป เพราะราคาน้ํามันดิบตลาดโลกได้ลดลงมาเท่ากับก่อนสงครามรัสเซียยูเครนแล้ว อีกทั้งเงินบาทก็แข็งค่า ปัจจุบันมีการเก็บเงินเข้ากองทุนน้ํามันของน้ํามันดีเซลอยู่สูงถึงกว่าลิตรละ 6 บาท ซึ่งควรจะต้องลดการเก็บเงินเข้ากองทุนลงบ้างเพื่อช่วยประชาชน จากการลงพื้นที่สาทร ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ประชาชนมีรายได้สูงและอาจจะสูงที่สุดเขตหนึ่งของประเทศ ประชาชนยังลําบากขนาดนี้ ดังนั้นจึงอยากให้มั่นใจได้ว่า หากพรรคเพื่อไทยได้รับความไว้วางใจให้เป็นรัฐบาล ราคาพลังงานที่เป็นต้นทุนของสินค้าเกือบทุกชนิดจะต้องลดลง เพื่อลดภาระค่าครองชีพของประชาชน ซึ่งพรรคเพื่อไทยได้มีแผนงานไว้แล้ว อีกทั้งยังมีนโยบายเพิ่มรายได้ให้กับประชาชนในทุกกลุ่ม รวมถึงการสร้างโอกาสใหม่ๆให้กับคนรุ่นใหม่ที่จะหารายได้เพิ่มขึ้น
13/2/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
Radio-สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230213092429490
null
จังหวัดลำพูน ยกระดับศักยภาพของบุคลากรของจังหวัด สู่การขับเคลื่อนยุทธศาสตร์การพัฒนาจังหวัดลำพูนอย่างมีประสิทธิภาพ
วันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2566 ที่ห้องประชุมทาทุ่งหลวง กัซซัน ขุนตาล กอล์ฟ แอนด์ รีสอร์ท อําเภอแม่ทา จังหวัดลําพูน นายสันติธร ยิ้มละมัย ผู้ว่าราชการจังหวัดลําพูน เป็นประธานเปิดโครงการฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการพัฒนาศักยภาพสนับสนุนขับเคลื่อนยุทธศาสตร์การพัฒนาจังหวัดลําพูนสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs.) (รุ่นที่1) ระหว่างวันที่ 13-14 กุมภาพันธ์ 2566 เพื่อยกระดับศักยภาพการเสริมขีดความสามารถของบุคลากรของจังหวัดในการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์การพัฒนาจังหวัดลําพูนอย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล โดยมีกลุ่มเป้าหมาย รวมทั้งสิ้นจํานวน 100 คน แบ่งการฝึกอบรมเป็น 2 รุ่น ๆ ละ 50 คน จัดอบรมรวม 2 วัน ในวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2566 มีบุคลากรจากส่วนราชการสังกัดราชการส่วนกลางและราชการส่วนภูมิภาค จํานวน 50 คน และในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2566 มีบุคลากรจากอําเภอทุกอําเภอ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จํานวน 50 คน โดยมี นายบุญส่ง ไชยมณี หัวหน้าสํานักงานจังหวัดลําพูน นายประกอบ ยอดยา นายอําเภอแม่ทา ผศ.ดร.วันชาติ นภาศรี ที่ปรึกษาในการจัดทําแผนพัฒนาจังหวัดลําพูน ดร.ขวัญนภา สุขคร ผู้อํานวยการมหาวิทยาลัยสวนดุสิต ศูนย์การศึกษานอกที่ตั้งลําปาง ผู้แทนสํานักงานพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมภาคเหนือ นายโกสินทร์ นิยะกิจ ผู้อํานวยการกลุ่มงานยุทธศาสตร์และข้อมูลเพื่อการพัฒนาจังหวัดและผู้เข้าร่วมการฝึกอบรมฯ เข้าร่วมโครงการ หัวหน้าสํานักงานจังหวัดลําพูน กล่าวว่า เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน Sustainable Development Goals หรือ SDGs เป็นกรอบการพัฒนาของโลก เพื่อร่วมกันบรรลุการพัฒนาทางสังคม เศรษฐกิจ และสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน โดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง ภายในปี ค.ศ. 2030 เสนอโดยองค์การสหประชาชาติ (United Nations) ซึ่งประเทศไทยและประเทศสมาชิกสหประชาชาติรวม 193 ประเทศ ร่วมลงนามรับรองวาระการพัฒนาที่ยั่งยืน ค.ศ. 2030 โดยกําหนดให้มีเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน จํานวน 17 เป้าหมาย เพื่อเป็นแนวทางให้แต่ละประเทศดําเนินการร่วมกัน สําหรับในปี 2565 สํานักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ได้นําเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน มาปรับใช้เป็นกรอบในการปรับปรุงตัวชี้วัดการพัฒนา ระดับจังหวัด เพื่อให้จังหวัดมีข้อมูลตัวชี้วัดที่สะท้อนระดับการพัฒนาในพื้นที่ และสอดคล้องกับเป้าหมายการจัดทําตัวชี้วัด SDGS ในระดับพื้นที่ของประเทศ ใน 5 มิติ หรือ 5P ได้แก่ (1) การพัฒนาคน (People) สิ่งแวดล้อม (Planet) (3) เศรษฐกิจและความมั่งคั่ง (Prosperity) (4) สันติภาพและความยุติธรรม (Peace) และ (5) ความเป็นหุ้นส่วนการพัฒนา (Partnership) ผลปรากฏว่าดัชนีรวมการพัฒนาของจังหวัดลําพูน อยู่ในจังหวัดกลุ่มที่ 4 ค่าดัชนีผสมสูงกว่าค่ากลางของประเทศ แสดงว่าเป็นจังหวัดที่มีความเข้มแข็งและพร้อมขยายผลพัฒนาต่อยอดในมิติต่างๆ ได้ โดยมิติการพัฒนาของจังหวัดลําพูนที่มีความเข้มแข็งและพร้อมขยายผลไปภายนอก คือ มิติที่ 1 การพัฒนาคน มิติที่ 2 สิ่งแวดล้อม มิติที่ 3 เศรษฐกิจและความมั่งคั่ง ด้านผู้ว่าราชการจังหวัดลําพูน กล่าวว่า จังหวัดลําพูนได้มีการจัดทําแผนพัฒนาจังหวัดลําพูน 5 ปี (พ.ศ.2570) และจัดทําแผนปฏิบัติราชการประจําปี ของจังหวัด เพื่อใช้เป็นกรอบและทิศทางในการพัฒนาจังหวัดและการแก้ไขปัญหาเชิงพื้นที่ โดยบูรณาการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนผ่านแผนพัฒนา และงบประมาณทุกระดับ อาทิ แผนพัฒนากลุ่มจังหวัด แผนงานของส่วนราชการภูมิภาคและส่วนราชการส่วนกลางที่มีที่ตั้งในพื้นที่ แผนพัฒนาจังหวัด แผนพัฒนาอําเภอ และแผนพัฒนาขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เพื่อขับเคลื่อนการดําเนินงานให้เกิดผลสําเร็จอย่างเป็นรูปธรรมในพื้นที่ สืบเนื่องจากพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยการบริหารงานเชิงพื้นที่แบบบูรณาการ พ.ศ. 2565 ซึ่งมีผลใช้บังคับแล้วตั้งแต่ 20 สิงหาคม 2565 ซึ่งได้มีการปรับปรุงกฎระเบียบโครงสร้าง อํานาจ หน้าที่ ระบบงาน และการบริหารจัดการ เพื่อให้การบริหารงานเชิงพื้นที่เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และเกิดประสิทธิภาพ นําไปสู่การพัฒนาพื้นที่อย่างยั่งยืน อาทิ การกําหนดเป้าหมายการพัฒนาจังหวัด 20 ปี การจัดทําแผนพัฒนาจังหวัดและกลุ่มจังหวัดการบริหารงบประมาณงบประมาณเชิงพื้นที่ การบริหารจัดการสินทรัพย์ การบริหารงานบุคคลและการกํากับและติดตามประเมินผล เป็นต้น สํานักงานจังหวัดลําพูน ในฐานะฝ่ายเลขานุการในการจัดทําแผนพัฒนาจังหวัดลําพูน จึงได้จัดทําโครงการพัฒนาศักยภาพเพื่อสนับสนุนการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์การพัฒนาจังหวัดลําพูนในยุควิถีใหม่และอนาคตสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) ขึ้น#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND#ประชาสัมพันธ์จังหวัดลําพูน https://lamphun.prd.go.th/th/page/item/index/id/12 #PRLAMPHUN
13/2/2023
ภาคเหนือ
ลำพูน
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดลำพูน
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230213111436543
null
จังหวัดลำพูน มุ่งขับเคลื่อนงานตามนโยบายของรัฐบาล และภารกิจสำคัญของกระทรวงมหาดไทย เน้นย้ำ ประชาชนต้องได้รับประโยชน์สูงสุด
วันนี้ (13 ก.พ.66) เวลา 10.00 น. ที่ศาลากลางจังหวัดลําพูน นายสันติธร ยิ้มละมัย ผู้ว่าราชการจังหวัดลําพูน พร้อมด้วย นายชาตรี กิตติธนดิตถ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดลําพูน นายโยธิน ประสงค์ความดี ปลัดจังหวัดลําพูน หัวหน้าส่วนราชการกระทรวงมหาดไทย เข้าร่วมประชุมขับเคลื่อนและติดตามนโยบายของรัฐบาล และภารกิจสําคัญของกระทรวงมหาดไทย ประจําปีงบประมาณ พ.ศ.2566 เดือนกุมภาพันธ์ 2566 ผ่านระบบวีดิทัศน์ทางไกล (VCS) โดยมี พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานโดยสาระสําคัญของการติดตามในครั้งนี้ จะเป็นในเรื่องของการติดตามผลการดําเนินงานตามนโยบายของรัฐบาลและภารกิจสําคัญของกระทรวงมหาดไทย โดยผู้แทนแต่ละกรมภายใต้สังกัดกระทรวงมหาดไทยชี้แจงผลการดําเนินงานที่ผ่านมา อาทิ การบรรเทาความเดือดร้อนและการช่วยเหลือประชาชนเมื่อประสบเหตุฉุกเฉิน การควบคุมการออกใบอนุญาตอาวุธปืน มาตรการป้องกันการออกใบอนุญาตที่ดินโดยมิชอบด้วยกฎหมาย เป็นต้นทั้งนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้เน้นย้ําให้ผู้ว่าราชการจังหวัด และทุกหน่วย ดําเนินงานด้วยความสุจริต โปร่งใส มุ่งเน้นการสร้างประโยชน์สูงสุดแก่ประชาชนเป็นหลักสําคัญ เพื่อความมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืนของประเทศสืบไป#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILANDติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่...https://lamphun.prd.go.th/th/page/item/index/id/12#PRLAMPHUN#ลําพูนไม่ลําพังรวมพลังเพื่อคนลําพูน
13/2/2023
ภาคเหนือ
ลำพูน
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดลำพูน
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230213111643544
null
จังหวัดลำพูน ร่วมขับเคลื่อนงานตามนโยบายของรัฐบาล และภารกิจสำคัญของกระทรวงมหาดไทย เพื่อประโยชน์ของประชาชน
ที่ห้องประชุม POC ชั้น 3 ศาลากลางจังหวัดลําพูน นายสันติธร ยิ้มละมัย ผู้ว่าราชการจังหวัดลําพูน พร้อมด้วย นายชาตรี กิตติธนดิตถ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดลําพูน นายโยธิน ประสงค์ความดี ปลัดจังหวัดลําพูน หัวหน้าส่วนราชการกระทรวงมหาดไทย ร่วมประชุมขับเคลื่อนและติดตามนโยบายของรัฐบาล และภารกิจสําคัญของกระทรวงมหาดไทย ประจําปีงบประมาณ 2566 เดือนกุมภาพันธ์ 2566 ผ่านระบบวีดิทัศน์ทางไกล (VCS) โดยมี พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานในการประชุมดังกล่าว สําหรับการประชุมในครั้งนี้จะเป็นการติดตามผลการดําเนินงานตามนโยบายของรัฐบาล และภารกิจสําคัญของกระทรวงมหาดไทย โดยผู้แทนแต่ละกรม และจังหวัด โดยมี ผู้ว่าราชการจังหวัด หัวหน้าส่วนราชการ ภายใต้สังกัดกระทรวงมหาดไทย ชี้แจงผลการดําเนินงานที่ผ่านมา อาทิ การบรรเทาความเดือดร้อนและการช่วยเหลือประชาชนเมื่อประสบเหตุฉุกเฉิน การควบคุมการออกใบอนุญาตอาวุธปืน มาตรการป้องกันการออกใบอนุญาตที่ดินโดยมิชอบด้วยกฎหมาย เป็นต้น ทั้งนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้เน้นย้ําให้ผู้ว่าราชการจังหวัด และทุกหน่วย ดําเนินงานด้วยความสุจริต โปร่งใส มุ่งเน้นการมีส่วนร่วมกับหน่วยงาน และประชาชน เพื่อสร้างประโยชน์แก่ประชาชนเป็นหลักสําคัญ สู่ความมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืนของประเทศสืบไป#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILANDนายคมศักดิ์ หล่อเถิน .... ข่าว/ภาพ 13 กุมภาพันธ์ 2566
13/2/2023
ภาคเหนือ
ลำพูน
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดลำพูน
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230213111933553
null
ประชุมการขับเคลื่อนและติดตามนโยบายของรัฐบาล และภารกิจสำคัญของกระทรวงมหาดไทย
วันนี้ (13 ก.พ.66) ที่ห้องประชุมราชสีห์ ศาลาว่าการกระทรวงมหาดไทย พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานการประชุมการขับเคลื่อนและติดตามนโยบายของรัฐบาล และภารกิจสําคัญของกระทรวงมหาดไทย โดยผ่านระบบวีดิทัศน์ทางไกล (VCS) โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัดเป็นประธานแต่ละจังหวัด เข้าร่วมรับฟังการประชุมฯในครั้งนี้ด้วยโดยทางจังหวัดนครสวรรค์ นายชยันต์ ศิริมาศ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครสวรรค์ เป็นประธานในการรับฟังการขับเคลื่อนและติดตามนโยบายของรัฐบาล และภารกิจสําคัญของกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยรองผู้ว่าราชการจังหวัดนครสวรรค์ หัวหน้าส่วนราชการ และข้าราชการเข้าร่วมประชุมด้วย โดยในการประชุมเป็นการชี้แจ้งข้อราชการสําคัญของหน่วยงานในสังกัดกระทรวงมหาดไทยและกรุงเทพมหานคร โดยให้หน่วยงานเลือกประเด็นที่สําคัญและประเด็นที่เร่งด่วนเชิงนโยบายนําเสนอในที่ประชุม สุดท้ายสรุปการขับเคลื่อนและติดตามนโยบายของรัฐบาล และภารกิจสําคัญของกระทรวงมหาดไทย โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILANDสํานักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนครสวรรค์
13/2/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
นครสวรรค์
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนครสวรรค์
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230213112128554
null
จังหวัดสุราษฎร์ธานีร่วมขับเคลื่อนและติดตามนโยบายของรัฐบาลและภารกิจสำคัญของกระทรวงมหาดไทย ผ่านระบบวีดิทัศน์ทางไกล
วันนี้ (13 ก.พ.66) ที่ศาลากลางจังหวัดสุราษฎร์ธานี นายวิชวุทย์ จินโต ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี มอบหมายให้นายชูศักดิ์ รู้ยิ่ง รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี พร้อมด้วยนายมนตรา พรมสินธุ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ร่วมประชุมขับเคลื่อนและติดตามนโยบายของรัฐบาล และภารกิจสําคัญของกระทรวงมหาดไทย ประจําปีงบประมาณ 2566 เพื่อรับทราบนโยบายและแนวทางการปฏิบัติงานจากพลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และผู้บริหารจากส่วนกลาง ผ่านระบบวีดิทัศน์ทางไกล (VCS) ในการนี้ได้มีการติดตามและชี้แจงแนวทางการขับเคลื่อนนโยบายของรัฐบาล และภารกิจสําคัญของกระทรวงมหาดไทย ได้แก่ การป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด การควบคุมการออกใบอนุญาตอาวุธปืน การควบคุมการดําเนินงานมูลนิธิและสมาคม กรณีชาวต่างชาติเข้ามาประกอบธุรกิจในไทยโดยใช้วีซ่าผิดประเภท มาตรการป้องกันการออกโฉนดที่ดินโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย การป้องกันการทําธุรกรรมผิดกฎหมายของชาวต่างชาติ และการขับเคลื่อนการดําเนินงานขจัดความยากจนฯ ปี 2566 เป็นต้นนอกจากนนี้ยังมีในเรื่องของการกํากับดูแลอาคารเพื่อป้องกันผลกระทบจากแผ่นดินไหว โดยพื้นที่ที่ต้องพิจารณาแรงแผ่นดินไหวตามกฎกระทรวงฯ พ.ศ.2564 พื้นที่เสี่ยงภัยในระดับสูง จํานวน 12 จังหวัด ได้แก่ จังหวัด กาญจนบุรี/เชียงใหม่/เชียงราย/ตาก/น่าน/พะเยา/แพร่/แม่ฮ่องสอน/ลําปาง/ลําพูน/สุโขทัย และจังหวัดอุตรดิตถ์ ขณะที่เสี่ยงภัยระดับปานกลางมีจํานวน 17 จังหวัด และพื้นที่เฝ้าระวังจํานวน 14 จังหวัด โดยพลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้กล่าวชื่นชมและขอบคุณหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วน ที่ร่วมบูรณาการความร่วมมือ ช่วยกันขับเคลื่อนนโยบายของรัฐบาลและภารกิจสําคัญของกระทรวงมหาดไทย ร่วมทั้งภารกิจบําบัดทุก บํารุงสุข ต่างๆ ให้สําเร็จลุล่วงตามวัตถุประสงค์และเป้าหมายที่วางไว้#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
13/2/2023
ภาคใต้
สุราษฎร์ธานี
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสุราษฎร์ธานี
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230213115108574
null
นายกรัฐมนตรี สั่งสืบสวนสอบสวนกรณีตำรวจระดับนายพล เข้าไปเกี่ยวข้องคดีเว็บไซต์พนันออนไลน์ ย้ำไม่ปกป้องคนผิด
พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงกรณีมีตํารวจระดับนายพลเข้าไปเกี่ยวข้องกับคดีเว็บไซต์พนันออนไลน์ ว่ากําลังอยู่ในขั้นตอนการสืบสวนสอบสวน ได้เน้นย้ําไปแล้วว่าหากมีหลักฐานชัดเจนว่าเกี่ยวข้องก็ให้ลงโทษต้องทําตามกฎหมาย และเมื่อวันก่อน ได้มีการออกระเบียบข้าราชการทุกประเภทให้มีบทลงโทษสถานหนักทั้งทางวินัยและอาญาให้ออกจากราชการไว้ก่อน พร้อมย้ําว่าต้องช่วยกันแก้ไขและยืนยันว่าไม่ปกป้องใครทั้งสิ้นส่วนต้องเร่งปฏิรูปตํารวจให้แล้วเสร็จก่อนหมดสมัยรัฐบาลหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ต้องเข้าใจว่าการปฏิรูปตํารวจ ทั้งด้านการทํางานและโครงสร้างต่างๆ ซึ่งพระราชบัญญัติตํารวจแห่งชาติ ผ่านการพิจารณาจากสภาผู้แทนราษฎรแล้ว ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นเรื่องของคุณธรรมและจริยธรรมตํารวจ แต่ละคนก็มีปัญหาอยู่ คนที่ดีก็ต้องให้กําลังใจ คนที่ไม่ดีต้องขจัดออกไป และสิ่งที่พูดอยู่เสมอ คือการสร้างอุดมการณ์ สร้างคุณธรรมจริยธรรม ยืนยันได้ว่า ตนเองไม่เคยทุจริตแม้แต่บาทเดียว ย้ําว่าขอให้พอในเรื่องการทุจริตแสวงหาผลประโยชน์ส่วนตัว
13/2/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230213140659622
null
นายกรัฐมนตรี ไม่ทราบกระแสข่าวจะปล่อยให้เกิดปัญหาองค์ประชุมไม่ครบ ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจแบบไม่ลงมติ
พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงการเตรียมความพร้อมอภิปรายไม่ไว้วางใจแบบไม่ลงมติตามมาตรา 152 ที่รัฐบาลกําหนดวันอภิปรายวันที่ 15-16 กุมภาพันธ์นี้ หลังมีกระแสข่าวว่าจะปล่อยให้เกิดปัญหาองค์ประชุมไม่ครบ ว่าตนเองไม่ทราบกระแสข่าวดังกล่าว แต่ทุกคนยืนยันว่ายินดีเข้าร่วมประชุม และก็ยินดีที่จะเข้าไปตอบคําถาม ขอให้รอดู พร้อมยืนยันตนเองสามารถชี้แจงได้ทั้งหมด เพราะคงเป็นเรื่องที่เคยอภิปรายกันไปแล้วส่วนใหญ่ และเรื่องใหม่คงเป็นเรื่องของตํารวจ ซึ่งก็ต้องชี้แจงไปว่าทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย กระบวนการยุติธรรมสําหรับพรุ่งนี้เป็นวันแห่งความรัก หรือวันวาเลนไทน์ จะมีอะไรมอบให้กับประชาชนหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า “ มีความรักให้ทุกคน ทุกวัน ส่วนหลังจากวันพรุ่งนี้ มีการลงพื้นที่หรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ยังไม่ทราบ พร้อมชี้แจงว่า การลงพื้นที่คือ การไปพูดให้ประชาชนเข้าใจให้เห็นอนาคต ซึ่งตนเองได้ทําตัวอย่างมา 8 ปีให้เห็นแล้ว ซึ่งการลงพื้นที่จะไปพูดถึงสิ่งที่ที่ได้ทําไปแล้ว กับสิ่งที่จะทําต่อไป ย้ําว่าการไปหาเสียง ก็มีความสําคัญ เพราะเป็นกระบวนการเลือกตั้ง แต่ต้องดูว่าการพูดหาเสียง ก็ต้องมีหลักการและเหตุผลที่ดี ต้องดูแลประชาชนและหารายได้เข้าประเทศให้มากขึ้น
13/2/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230213140900625
null
พรรคเพื่อไทย เปิดยุทธการกระชากหน้ากากคนดี ในการอภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติ ไม่กังวลองค์ประชุมล่ม
นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่านและหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ในการอภิปรายทั่วไปตามมาตรา 152 โดยไม่มีการลงมติ ซึ่งจะเกิดขึ้นในวันที่ 15-16 กุมภาพันธ์ 2566 ใช้เวลารวม 32 ชั่วโมง การอภิปรายครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้ายในสมัยอายุของสภาผู้แทนราษฎรชุดที่ 25 ซึ่งครบ 4 ปี ในญัตติโดยรวมจะสอบถามข้อเท็จจริง เสนอแนะแก้ปัญหาจากการบริหารราชการแผ่นดินของรัฐบาลพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ตามนโยบายที่แถลงไว้ต่อรัฐสภา โดยเฉพาะนโยบายเร่งด่วน 12 ประการ ซึ่งมีข้อเท็จจริงปรากฎว่าไม่สามารถดําเนินการตามนโยบายได้ ซึ่งส่งผลกระทบต่อพี่น้องประชาชน รัฐบาลต้องตอบคําถามให้กับพี่น้องประชาชนในหลายเรื่องที่ไม่มีความชัดเจน เช่น กรณีธุรกิจสีเทา ภัยด้านดิจิทัลและเทคโนโลยี การทุจริตคอร์รัปชัน จะถูกหยิบยกขึ้นมา ทั้งนี้ ขอตั้งชื่อการอภิปรายครั้งนี้ว่ายุทธการกระชากหน้ากากคนดี มาจากที่สื่อมวลชนตั้งชื่อรัฐบาลหน้ากากคนดี เพื่อให้พี่น้องประชาชนได้รู้ว่า หน้ากากคนดีที่แท้จริงเป็นอย่างไร ทั้งนี้สิ่งที่ได้รับรู้มาคือ จะมีการปิดกั้นไม่ให้อภิปรายจากการที่ ส.ส.ฝ่ายรัฐบาล จะไม่เป็นองค์ประชุม ส่วนตัวเชื่อว่า จะไม่เกิดขึ้น เพราะหากมีการจงใจไม่ทําหน้าที่ของตัวเองตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ ย่อมส่งผลต่อระบอบการปกครอง จึงเชื่อว่าฝ่ายนิติบัญญัติที่มีหน้าที่เป็นผู้แทนประชาชนจะไม่กระทําการใดที่เป็นการทําลายระบอบการปกครองนี้ด้านนายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม และรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานวิปฝ่ายค้าน กล่าวว่า การอภิปรายครั้งนี้จะเป็นการสรุปรวบยอด ตรวจข้อสอบให้คะแนนรัฐบาลและส่งให้ประชาชนดู จากนโยบายที่แถลงต่อสภาไว้ ทําได้หรือไม่ รวมถึงแนะนําถึงช่วงเวลาที่เหลือและสมัยหน้าควรทําอย่างไร รัฐบาลชุดนี้ย้ําว่าเข้ามาปราบปรามทุจริต มีรัฐธรรมนูญปราบโกง แต่เราจะชี้ให้เห็นว่า สถานการณ์การโกงที่เกิดขึ้นถูกจัดอันดับไว้อย่างไรขณะที่ นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เชียงใหม่ และรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า พรรคร่วมฝ่ายค้านมีความพร้อมมาก เพราะได้ยื่นญัตตินี้ตั้งแต่ปลายเดือนธันวาคม 2565 เตรียมตัวมาระยะหนึ่งแล้ว ฝ่ายค้านได้เวลา 12 ชั่วโมงต่อวัน ส่วนรัฐบาล 3 ชั่วโมง โดยรัฐบาลประสงค์ที่จะไม่ให้มีการอภิปรายยืดเยื้อ จึงขอเวลาเท่านี้ ทั้งนี้ ได้รับทราบรายชื่อและประเด็นอภิปราย มีผู้อภิปรายรวม 35 คน ตลอด 2 วัน เปิดการอภิปรายและเข้าญัตติโดย นายแพทย์ชลน่าน ตามด้วยหัวหน้าพรรคและผู้ใช้สิทธิ์หัวหน้าพรรค 5-6 คน จึงเข้าเนื้อหา แบ่งเป็น กลุ่มปัญหาเศรษฐกิจ กลุ่มปัญหาสังคม ยาเสพติด และกลุ่มการเมือง ที่มีกลไกบิดเบี้ยว สถานการณ์ไม่ปกติ และกลุ่มสุดท้ายคือ การทุจริต การอภิปรายจะจบประมาณเที่ยงคืนของวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2566 โดยนายสุทินจะเป็นผู้ปิดการอภิปราย
13/2/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
Radio-สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230213154613659
null
จังหวัดแม่ฮ่องสอน พร้อมขับเคลื่อนและติดตามนโยบายของรัฐบาล และภารกิจสำคัญของกระทรวงมหาดไทย
วันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2566 เวลา 10.00 น. พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานการประชุมการขับเคลื่อนและติดตามนโยบายของรัฐบาล และภารกิจกระทรวงมหาดไทย ประจําปีงบประมาณ 2566 โดยมีนายเชษฐา โมสิกรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน พร้อมด้วย นายศรัณยู มีทองคํา รองผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน หัวหน้าส่วนราชการ และหัวหน้าส่วนรัฐวิสาหกิจ ร่วมขับเคลื่อนและติดตามนโยบายของรัฐบาล และภารกิจสําคัญของกระทรวงมหาดไทย ผ่านระบบ video conference ณ ห้องประชุมราชธรรมพิทักษ์ ศาลากลางจังหวัดแม่ฮ่องสอนทั้งนี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้ประชุมชี้แจงข้อราชการสําคัญของผู้บริหารกระทรวงมหาดไทย พร้อมทั้งซักถามและแลกเปลี่ยนความเห็นร่วมกันระหว่างหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานในสังกัดกระทรวงมหาดไทยและจังหวัดต่างๆ เพื่อร่วมกันขับเคลื่อนติดตามนโยบายของรัฐบาลและภาระกิจสําคัญของปลัดกระทรวงมหาดไทย ตลอดจนจังหวัดแม่ฮ่องสอนรับทราบข้อสั่งการและนํานโยบายสําคัญมาปรับใช้ในพื้นที่จังหวัดแม่ฮ่องสอนต่อไป#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
13/2/2023
ภาคเหนือ
แม่ฮ่องสอน
สวท.แม่ฮ่องสอน
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230213160956665
null
พรรคพลังประชารัฐ เปิดเวทีปราศรัยใหญ่ครั้งแรกของพื้นที่ภาคกลาง ที่จังหวัดกาญจนบุรี พร้อมปลุกกระแสก้าวข้ามทุกปัญหาความขัดแย้ง
พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ( พปชร.) พร้อมด้วยแกนนําพรรค อาทิ นายสันติ พร้อมพัฒน์ เลขาธิการพรรค นายวิรัช รัตนเศรษฐ รองหัวหน้าพรรค และนายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ ลงพื้นที่พบปะพี่น้องประชาชน จังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งเป็นการเปิดเวทีปราศรัยใหญ่ครั้งแรกของพื้นที่ภาคกลาง บริเวณเกาะรัตนกาญจน์ ตําบลบ้านเหนือ อําเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งมีประชาชนมารอต้อนรับอย่างเนืองแน่นและชูป้ายให้กําลังใจ ขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไป พร้อมกับการชูแคมเปญ “เปลี่ยนคน เปลี่ยนเมือง เพื่อคนเมืองกาญจน์ของเรา " พร้อมกับการเปิดนโยบายแก้จนภายใต้แคมเปญ “มีเรา ไม่มีแล้ง มีน้ําไม่มีจน” “มีเรา มีที่ทํากิน มีที่ดินไม่มีจน” และ”ลุงป้อม 700” พร้อมไปกับการเปิดตัวว่าที่ผู้สมัครของพรรคพลังประชารัฐ ทั้ง 5 เขต และ ส.ส.บัญชีรายชื่อพลเอก ประวิตร กล่าวด้วยว่า พรรคพลังประชารัฐไม่ต้องการขัดแย้งกับฝ่ายใดเพราะถ้าหากมัวแต่ทะเลาะกัน บ้านเมืองก็จะไม่ไปไหน ทุกคนจะต้องมีเป้าหมายสร้างความสมานฉันท์และทํางานร่วมกัน เพื่อให้ประเทศเดินหน้าและให้ประชาชนอยู่ดีกินดี และวันแห่งความรัก ขอถือโอกาสนี้มอบความรักและความปรารถนาดีให้กับพี่น้องชาวจังหวัดกาญจนบุรี และพี่น้องคนไทยทั่วประเทศ ขอให้เชื่อมั่นในความรัก ความสามัคคี ขอให้บ้านเมืองมีความสงบสุขและขอให้ประเทศชาติมั่นคง ประชาชนมีความสุข ซึ่งพรรคพลังประชารัฐจะก้าวข้ามความขัดแย้งขจัดทุกปัญหา พัฒนาทุกพื้นที่
14/2/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
Radio-สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230214090808791
null
วุฒิสภา เตรียมพิจารณาให้ความเห็นชอบบุคคลผู้ได้รับการเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่งกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ
การประชุมวุฒิสภา ในเวลา 09.30 น. วันนี้ (14 ก.พ.66) มีวาระพิจารณา เรื่องด่วนให้ความเห็นชอบบุคคลผู้ได้รับการเสนอชื่อให้ดํารงตําแหน่งกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) และพิจารณารายงานของผู้สอบบัญชีและรายงานการเงินสํานักงานศาลยุติธรรม สําหรับปีสิ้นสุด วันที่ 30 กันยายน 2564 นอกจากนี้ ยังมีรายงานกิจการประจําปี งบดุล และบัญชีกําไรขาดทุน ของธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย สําหรับปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2564 , รายงานผลการปฏิบัติงานของสํานักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ประจําปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 และสรุปผลการปฏิบัติงานของสํานักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ประจําปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 (1 ตุลาคม 2563 - 30 กันยายน 2564)
14/2/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230214090525790
null
กระทรวงคมนาคม เตรียมเสนอ ครม.ขอรับการจัดสรรงบกลางกว่า 3,700 ล้านบาท ฟื้นฟูโครงสร้างพื้นฐาน
การประชุมคณะรัฐมนตรีวันนี้ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ทําหน้าที่ประธานการประชุม โดยมีวาระที่น่าสนใจ อาทิ กระทรวงคมนาคม ขอรับการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจําปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 งบกลาง รายการเงินสํารองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจําเป็น วงเงิน 3,786.55 ล้านบาท เพื่อฟื้นฟูโครงสร้างพื้นฐานที่ได้รับความเสียหายจากอุทกภัยและภัยพิบัติ จํานวน 32 จังหวัด ของกรมทางหลวงและกรมทางหลวงชนบทกระทรวงศึกษาธิการ ขออนุมัติปรับระยะเวลาและแผนการดําเนินงานโครงการส่งเสริมการผลิตครูที่มีความสามารถพิเศษทางวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์ ระยะที่ 4 เป็นปี พ.ศ. 2566-2569 กระทรวงมหาดไทย รายงานความคืบหน้าการดําเนินการตามมติคณะรัฐมนตรี เรื่องมาตรการป้องกันการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ในการบังคับใช้กฎหมายเกี่ยวกับป้ายโฆษณาบนทางสาธารณะ กระทรวงกลาโหม เสนอร่างกฎกระทรวง ออกตามความในพระราชบัญญัติเครื่องแบบทหาร พุทธศักราช 2477 ว่าด้วยเครื่องแบบทหารเรือ และร่างกฎกระทรวง ออกตามความในพระราชบัญญัติเครื่องแบบนักเรียนของโรงเรียนในสังกัดกระทรวงกลาโหม พ.ศ. 2521 ว่าด้วยเครื่องแบบนักเรียนพยาบาลทหารเรือ รวม 2 ฉบับกระทรวงการคลัง เสนอร่างพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ร่างพระราชบัญญัติสัญญาซื้อขายล่วงหน้า ร่างพระราชบัญญัติทรัสต์เพื่อธุรกรรมในตลาดทุน และร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมพระราชกําหนดการประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล พ.ศ. 2561 รวม 4 ฉบับ กระทรวงพาณิชย์ เสนอการเข้าร่วมเจรจาจัดทําความตกลงการค้าเสรีระหว่างไทยกับสหภาพยุโรปนอกจากนี้ ตัองจับตากระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เสนอโครงการประกันรายได้ยางพาราปี 4 วงเงิน 7,643 ล้านบาท โดยกําหนดราคาประกัน ยางแผ่นดิบคุณภาพดี 60 บาท/กิโลกรัม น้ํายางสด (DRC 100%) 57 บาท/กิโลกรัม และยางก้อนถ้วย (DRC 50%) 23 บาท/กิโลกรัม แบ่งสัดส่วนรายได้ เจ้าของสวน ร้อยละ 60 และคนกรีด ร้อยละ 40 ของรายได้ทั้งหมด คนละไม่เกิน 25 ไร่ ระยะเวลาประกันรายได้ 2 เดือนคือ เดือนตุลาคม – พฤศจิกายน 2565
14/2/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
Radio-สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230214085800780
null
นายธนกร วังบุญคงชนะ ไม่ทราบข่าวพรรครวมไทยสร้างชาติ ดึงผู้สมัคร ส.ส.พรรคชาติไทยพัฒนา
นายธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีประจําสํานักนายกรัฐมนตรี ในฐานะคณะกรรมการกําหนดแนวทางและยุทธศาสตร์พรรคการเมือง พรรครวมไทยสร้างชาติ กล่าวถึงกรณีมีกระแสข่าวว่า แกนนําพรรคชาติไทยพัฒนาไม่พอใจที่พรรครวมไทยสร้างชาติ ชักชวนผู้สมัคร ส.ส. จังหวัดสุพรรณบุรี ของพรรคชาติไทยพัฒนาไปลงสมัครพรรครวมไทยสร้างชาติว่า เรื่องนี้ไม่ทราบและเข้าใจว่าเรื่องของการย้ายพรรค เป็นเรื่องของการเมืองและก็ต้องให้เกียรติ ส.ส. และผู้สมัคร ส.ส. ก็ย่อมรู้ว่าหากอยู่ตรงไหนแล้วจะได้รับการเลือกตั้งเข้ามา ฉะนั้นจึงไม่อยากให้ไปตําหนิติเตียนกลไกเหล่านี้ เพราะทุกพรรคก็มีการขยับขยายกัน อีกทั้งการเลือกตั้งผู้สมัครต้องมีองค์ประกอบหลายอย่างที่จะให้ประชาชนเลือกส่วนที่มีการมองว่าถือเป็นเรื่องของมารยาททางการเมือง นายธนกร กล่าวว่า ทุกพรรคก็ต้องมีมารยาททั้งนั้น แต่อยู่ที่ว่าแต่ละพรรคเข้าใจมารยาทแบบไหนมากกว่า แล้ววันนี้ต้องยอมรับ จากการที่ตนเองลงพื้นที่หลายครั้ง กระแสของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ยังมีอยู่สูงมาก ทั้งนี้มีนักการเมืองหลายคนติดต่อที่จะมาสมัคร อยู่กับพรรครวมไทยสร้างชาติจํานวนมาก และวันนี้พรรคได้เตรียมผู้สมัครไว้เกือบหมดแล้ว ซึ่งยอมรับมีปัญหาพื้นที่ทับซ้อนกันบ้าง แต่พรรคก็จะใช้กลไกพิจารณาและเลือกผู้สมัครที่ประชาชนไว้วางใจสําหรับวันที่ 20 ก.พ.นี้ พลเอก ประยุทธ์ จะลงพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราช ในการตรวจราชการและในส่วนผู้สมัคร ส.ส.จังหวัดนครศรีธรรมราช พรรคได้เตรียมการไว้หมดแล้ว พร้อมเชื่อว่าการเลือกตั้งครั้งนี้โอกาสที่จะได้ ส.ส. นครศรีธรรมราชยกทั้งจังหวัดมีสูง ส่วนที่พลเอก ประยุทธ์ จะขึ้นเวทีปราศรัยประตูสู่อีสาน ที่จังหวัดนครราชสีมา ในวันที่ 25 ก.พ.นั้น นายธนกร กล่าวว่า คณะกรรมการกําหนดแนวทางและยุทธศาสตร์พรรคการเมืองของพรรครวมไทยสร้างชาติ ได้ประชุมกันทุกสัปดาห์ โดยนายเสกสกล อัตถาวงศ์ ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี ในฐานะกํากับดูแลพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือได้เตรียมการไว้หมดแล้ว โดยคาดว่าจะมีคนไปร่วมฟังเวทีปราศรัย 4-5 หมื่นคน
14/2/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
Radio-สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230214104713832
null
นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง พร้อมชี้แจงการอภิปรายทั่วไปโดยไม่ลงมติ ตามมาตรา 152
นายธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีประจําสํานักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการอภิปรายทั่วไปโดยไม่ลงมติ ตามมาตรา 152 ระหว่างวันที่ 15-16 กุมภาพันธ์ 2566 ว่า นายกรัฐมนตรีไม่ได้กังวลอะไร ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้พูดคุยกับตนเองว่าไม่ได้กังวลอะไรและพร้อมไปชี้แจงในประเด็นที่ฝ่ายค้านจะอภิปราย ซึ่งไม่ต้องเตรียมความพร้อมมาก เพราะหัวข้อมีจํานวนไม่มาก ดังนั้นนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรี ยืนยันพร้อมชี้แจงอย่างแน่นอนส่วนที่มีกระแสข่าวว่าแกนนําพรรคพลังประชารัฐบางคน พยายามปิดกั้นไม่ให้มีการอภิปราย โดยให้พรรคร่วมรัฐบาลไม่ต้องลงชื่อเป็นองค์ประชุมในการอภิปราย เพื่อให้การอภิปรายเกิดปัญหาองค์ประชุมไม่ครบ นายธนกร กล่าวว่า ไม่มีความจําเป็นที่ต้องทําเช่นนั้น เพราะขณะนี้เข้าสู่โหมดการเลือกตั้ง และจะยุบสภาในเดือนหน้า ซึ่งเจตนาของฝ่ายค้านพยายามทําทุกวิถีทางที่จะดิสเครดิตรัฐบาล แต่หากมองอีกมุมก็ถือเป็นเวทีที่รัฐบาลจะได้ชี้แจง
14/2/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
Radio-สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230214105219835
null
ศธ. ประชาสัมพันธ์กิจกรรมอาสาสมัครผู้สูงอายุกระทรวงศึกษาธิการ ตั้งเป้าสร้างแกนนำกว่า 30,000 คน ช่วยพัฒนาและเพิ่มศักยภาพผู้สูงวัยในระดับพื้นที่ทั่วประเทศ
ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี นางสาวตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ และคณะผู้บริหาร เข้าพบ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ณ โถงกลาง ตึกสันติไมตรี ทําเนียบรัฐบาล เพื่อประชาสัมพันธ์กิจกรรมอาสาสมัครผู้สูงอายุกระทรวงศึกษาธิการ (อส.ศธ.) โดยนายกรัฐมนตรี เยี่ยมชมภารกิจโครงการและแนวทางการขับเคลื่อนกิจกรรมระยะต่าง ๆ รวมทั้งการสมัครเข้าร่วมโครงการ และได้ลงทะเบียนอาสาสมัครผู้สูงอายุพร้อมรับบัตรประจําตัวด้วย สําหรับกิจกรรมอาสาสมัครผู้สูงอายุกระทรวงศึกษาธิการ ตั้งเป้ารับมือกับภาวะสังคมผู้สูงวัยที่กําลังมีแนวโน้มสูงขึ้น ภายใต้แนวคิด “สร้างอาชีพ สร้างรายได้ สร้างคุณค่า” เพื่อสร้างความสุขให้กับกลุ่มผู้สูงอายุ คือ ครูเกษียณอายุราชการ กลุ่มแรงงานไม่มีสวัสดิการ กลุ่มผู้เชี่ยวชาญทางวิชาชีพ กลุ่มที่ต้องการอาชีพเสริม และกลุ่ม NEED โดยการขับเคลื่อนระยะสั้น จะเปิดรับสมัครอาสาสมัครผู้สูงอายุกระทรวงศึกษาธิการ ผ่านระบบออนไลน์ ตั้งเป้าหมายมากกว่า 30,000 คน เพื่อดําเนินการร่วมกับหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง ในการช่วยพัฒนากําลังคนทุกกลุ่มวัยในระดับพื้นที่ทั่วประเทศ ผู้สูงอายุที่สนใจสามารถตรวจสอบคุณสมบัติและสมัครได้ที่เว็บไซต์ volunteers.moe.go.th หรือ www.moe.go.th หัวข้อ “ข่าวประชาสัมพันธ์” และสามารถขอรับใบสมัครได้ที่สํานักงานศึกษาธิการจังหวัดทุกจังหวัด ในเวลาราชการ ตั้งแต่บัดนี้ - 26 กุมภาพันธ์นี้
14/2/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230214102327823
null
นายสมศักดิ์ เทพสุทิน ย้ำ ยังอยู่กับพรรคพลังประชารัฐ และไม่ทราบ ส.ส.ในกลุ่มสามมิตร เตรียมย้ายไปพรรคเพื่อไทย
นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ในฐานะกรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐ ยืนยันแนวทางการเมืองของตนเอง ยังอยู่กับพรรคพลังประชารัฐ ซึ่งได้ยืนยันกับพลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐแล้ว ทั้งนี้ยอมรับไม่ทราบมาก่อนว่ามีสมาชิกกลุ่มสามมิตรของจังหวัดสุโขทัยจะย้ายไปพรรคเพื่อไทยส่วนล่าสุดที่ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา เข้ามามีบทบาทในพรรคพลังประชารัฐ โดยได้ดูแลพื้นที่ภาคเหนือนั้น นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ตนเองไม่ได้มีปัญหากับร้อยเอก ธรรมนัสและการทํางานไม่ได้เลือกที่รักมากที่ชัง หรือชอบไม่ชอบใคร มุ่งเน้นการทํางานทําตามสั่งผู้บังคับบัญชาและแนวนโยบายของพรรคมากกว่ารัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ยังกล่าวถึงกรณีของแบมกับตะวัน ผู้ต้องหาคดีมาตรา 112 ว่า ได้พูดคุยกับกรรมการสิทธิมนุษยชนแล้ว ถึงการปฏิรูปกฎหมายต่างๆ จะมีการรายงานให้กับคณะรัฐมนตรีรับทราบ เพราะเป็นเรื่องงานที่ยังค้างคาอยู่แต่ไม่มีสิทธิ์ที่จะไปเกี่ยวข้องในเรื่องของการประกันตัว ซึ่งเป็นอํานาจหน้าที่ของศาล ไม่ใช่อํานาจของกระทรวงยุติธรรม จึงอยากขอให้ประชาชนเข้าใจด้วย
14/2/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
Radio-สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230214104851833
null
หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย มั่นใจ ถ้านโยบายดี ผู้สมัครดี มีโอกาสที่จะได้รับการพิจารณาจากประชาชน
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงกรณีที่ กกต. แบ่งเขตการเลือกตั้ง พรรคภูมิใจไทยจะได้เปรียบหรือเสียเปรียบอย่างไรนั้น ว่าพรรคภูมิใจไทยยอมรับทุกกติกา เพราะการแบ่งเขตการเลือกตั้งอยู่นอกเหนือการควบคุมของพรรค ชอบหรือไม่ก็คือ ประกาศตามกฏหมาย ซึ่งทางพรรคจะดําเนินการจัดสรรคนที่มีความสามารถและชํานาญในพื้นที่ลงไปแข่งขัน เชื่อว่า ถ้านโยบายดี ผู้สมัครดี ก็มีโอกาสที่จะได้รับการพิจารณาจากประชาชน สําหรับตอนนี้ไม่มีความกังวลกับเรื่องนี้ เพราะได้ทําทุกอย่างที่คิดว่าดีที่สุดให้กับประชาชน สําหรับการลงพื้นที่เขตคลองเตยบ่อยครั้งนั้นมีนัยสําคัญหรือไม่ นายอนุทินกล่าวยืนยันว่า ไม่มี เป็นเพียงการลงพื้นที่ตามคิวเท่านั้น อยู่ที่ผู้สมัครแต่ละเขตพื้นที่ พร้อมจัดปราศรัยย่อยได้บ่อยครั้ง ก็จะเชิญมา ซึ่งปกติช่วงเวลาเย็นหลังเลิกงานทุกวันจันทร์ถึงวันพฤหัสบดี ถ้าผู้สมัครท่านใดในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล จะให้ไปพบปะกับพี่น้องประชาชนก็สามารถเรียกมาได้ตามตารางคิว ส่วนวันศุกร์เย็นเป็นต้นไปจนถึงวันอาทิตย์จะออกต่างจังหวัดเดินสายทั่วประเทศ ส่วนประเด็นที่ทาง กกต. นับรวมคนต่างชาติในการคํานวนราษฎรเพื่อการแบ่งเขตเลือกตั้งนั้น ในเรื่องนี้ไม่มีความเห็น ไม่เกี่ยวกับพรรคภูมิใจไทย ซึ่งทางพรรคเพียงเสนอนโยบาย ซึ่งคนที่มีสิทธิ์ลงคะแนนเสียงได้คือประชาชน ที่ต้องรอประกาศจากทาง กกต. อีกครั้งว่าใครมีสิทธิ์เลือกตั้งได้ สําหรับประเด็นที่พรรคภูมิใจไทยดูด ส.ส. ให้มาอยู่ที่พรรคนั้น ยืนยันว่า พรรคภูมิใจไทยไม่เคยดูด และเนื่องในวันนี้เป็นวันแห่งความรัก นายอนุทิน ยังกล่าวอีกว่า ขอให้ทุกท่านและโลกนี้มีความรักกันมากๆ ให้รักกัน ห่วงใยกัน เกรงใจกัน ทุกอย่างก็จะเป็นไปได้ด้วยดี ส่วนตนเองนั้นทุกวันเป็นวันวาเลนไทน์ รักทุกวัน
14/2/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230214105102834
null
จังหวัดชลบุรี ผู้ช่วยจเรกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร พร้อมคณะ ลงพื้นที่ตรวจการปฏิบัติราชการและประเมินผลการปฏิบัติงานในพื้นที่จังหวัดชลบุรี
วันที่ 14 ก.พ. 2566 เวลา 09.30 น. ที่ห้องประชุมชลบุรี ศาลากลางจังหวัดชลบุรี อําเภอเมืองชลบุรี จังหวัดชลบุรี พลตรี รัชชพล บุญวัฒนะกุล ผู้ช่วยจเรกองอํานวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร พร้อมคณะ ลงพื้นที่ตรวจการปฏิบัติราชการและประเมินผลการปฏิบัติงานในพื้นที่จังหวัดชลบุรี โดยการตรวจราชการครั้งนี้ ได้เข้าร่วมประชุมรับฟังติดตามแผนงาน การดําเนินงาน และโครงการตามยุทธศาสตร์ของกองอํานวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ที่ได้ปฏิบัติงานในรอบปี ซึ่งมีหน้าที่หลักคือติดตามสถานการณ์ที่อาจก่อให้เกิดภัยคุกคามด้านความมั่นคงภายในจังหวัด สร้างความเข้าใจให้ประชาชนตระหนักในหน้าที่ที่ต้องพิทักษ์รักษาไว้ซึ่งชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ สร้างความปรองดองของคนในชาติ รวมทั้งให้คนในชาติมีส่วนร่วมในการป้องกันและแก้ไขปัญหา ด้านต่างๆ ที่มีผลกระทบต่อความมั่นคง ความเป็นอยู่ของประชาชน โดย นายชัยพร แพภิรมย์รัตน์ ปลัดจังหวัดชลบุรี พันเอก ยุทธนา มีเจริญ รอง ผอ.รมน.จังหวัดชลบุรี(ทหาร) พร้อมคณะ กอ.รมน.จังหวัดชลบุรี และหน่วยงานส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมประชุมหารือโดยทาง พลตรี รัชชพล บุญวัฒนะกุล ผู้ช่วยจเรกองอํานวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร พร้อมคณะ ได้รับฟังการสรุปผลการปฏิบัติงาน ประจําปี 2565 (โดยเฉพาะการริเริ่มดําเนินการร่วมกับส่วนราชการของจังหวัด จนเกิดผลดีต่อประชาชน) การปฏิบัติตามงาน แผนงาน / โครงการ ประจําปี 2566, ศปป.1, 2, 3 และ 4 ทั้งนี้ทางด้านผู้ช่วยจเรกองอํานวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร พร้อมคณะยังได้รับฟังปัญหา และข้อเสนอแนะ วิธีการแก้ไข การปรับปรุงงานให้กับทาง คณะ กอ.รมน.จังหวัดชลบุรี และหน่วยงานส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง อีกด้วยบัณฑิต มันปาฏิ...ภาพ/ข่าว
14/2/2023
ภาคตะวันออก
ชลบุรี
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดชลบุรี
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230214144000960
null
นายกรัฐมนตรี อวยพรวันวาเลนไทน์ ขอให้ทุกคนมีความรักที่ดีและขอบคุณติดอันดับคนไทยอยากมอบดอกกุหลาบให้
พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงการลงพื้นที่พบประชาชนในวันวาเลนไทน์ว่า ส่วนตัวนั้นมีความรักให้แก่ทุกคน ทุกวัน ส่วนวันวาเลนไทน์นี้ขอแสดงความยินดีกับคู่รักทุกคู่ แต่หากใครที่ยังไม่มีแฟนก็ขอให้มีแฟนทุกคน ใครยังไม่แต่งงานก็ขอให้ได้แต่งงานทุกคน ส่วนที่มีการโหวตให้นายกรัฐมนตรีติด 1 ใน 5 อันดับ บุคคลที่คนไทยอยากมอบดอกกุหลาบให้ในวันวาเลนไทน์ นายกรัฐมนตรี ขอขอบคุณและขอมอบดอกไม้ในดวงใจให้เช่นกัน พร้อมระบุว่า ส่วนตัวนายกรัฐมนตรีไม่มีปัญหากับใครทั้งสิ้น อีกทั้งมีความปรารถนาดีให้คนทุกกลุ่มทุกฝ่าย อย่างไรก็ตาม เห็นว่าทุกคนควรจะมอบความรัก ความปรารถนาดีให้กันนายกรัฐมนตรี ยังกล่าวว่า ความรักจะก่อให้เกิดความร่วมมือและปัญหาต่างๆ ก็จะแก้ไขไปได้พร้อมๆ กัน ด้วยความเข้าใจซึ่งกันและกัน ส่วนเรื่องต่างๆ ยึดตามหลักการและเหตุผล ไม่สามารถให้ร้ายใครได้ ต้องปฏิบัติตามกฎหมายทั้งหมด ดังนั้นทุกอย่างต้องมีหลักฐานที่ชัดเจน จึงเห็นว่าวันนี้มีหลายเรื่องเข้ามา ตนเองก็ได้สั่งการให้ดําเนินคดีหมดและให้สอบสวนตามข้อเท็จจริง โดยหากใครเห็นว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมให้แจ้งมาที่สํานักนายกรัฐมนตรี ตนเองจะสั่งติดตามให้
14/2/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
Radio-สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230214150316984
null
นายกรัฐมนตรี กำชับคณะรัฐมนตรี เร่งดำเนินการโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เพื่อให้สามารถโอนเงินได้ 1 มีนาคมนี้
พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เปิดเผยว่า ในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ตนเองได้สั่งการให้เร่งนําโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐเข้าพิจารณา เพื่ออนุมัติและจะได้เริ่มโอนเงินให้ประชาชนได้ในวันที่ 1 มีนาคม 2566 โดยข้อมูลผู้มีสิทธิแต่ละคน จะได้รับการคุ้มครองข้อมูลภายใต้ พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งเรื่องนี้ตนเองได้เข้มงวดไปแล้วว่าไม่ให้มีการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของผู้มีสิทธิโดยเด็ดขาด เพราะจะไม่ประกาศชื่อในที่สาธารณะ แต่ผู้ที่ลงทะเบียนต้องสามารถเข้าไปตรวจสอบรายชื่อของตนเองได้
14/2/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
Radio-สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230214155220002
null
ผู้ว่าฯ โคราช เปิดงานประชุมสภากาแฟ จังหวัดนครราชสีมา ประจำเดือนกุมภาพันธ์ 2566
นายสยาม ศิริมงคล ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เป็นประธานเปิดการประชุมสภากาแฟ จังหวัดนครราชสีมาสัญจร ณ สํานักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษานครราชสีมา เพื่อเปิดโอกาสในการพบปะแลกเปลี่ยนเรียนรู้ หารือข้อราชการ ในการประสานการทํางานร่วมกันระหว่างผู้ว่าราชการจังหวัด หัวหน้าส่วนราชการ และผู้เกี่ยวข้อง โดยมีนายศุภภิมิตร เปาริก และนายสมเกียรติ วิริยะกุลนันท์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ดร.ยลดา หวังศุภกิจโกศล นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครราชสีมา เข้าร่วมฯ ทั้งนี้ เวทีการประชุมสภากาแฟ จังหวัดนครราชสีมาสัญจร ครั้งต่อไปจะจัดขึ้นโดย หน่วยงานในสังกัดกระทรวงมหาดไทย ในโอกาสนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมาได้ประกาศเจตนารมณ์ขับเคลื่อนจังหวัดนครราชสีมาเป็น “เมืองรู้เท่าทันสื่อ” เพื่อให้เด็ก เยาวชน และประชาชนในจังหวัด มีความปลอดภัยในการใช้สื่ออย่างยั่งยืน#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
14/2/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนครราชสีมา
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230214145930978
null
นายกรัฐมนตรี สั่งเข้มงวดป้องกันมิจฉาชีพหลอกลวงประชาชนผ่านโซเชียลมีเดีย
พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี ว่า ในที่ประชุมตนเองได้สั่งการ เข้มงวดป้องกันมิจฉาชีพที่หลอกลวงประชาชนให้โอนเงิน หรือดูดเงินประชาชนจากบัญชีธนาคารผ่านโซเชียล สร้างความเสียหายแก่ประชาชนจํานวนมาก โดยมิจฉาชีพเหล่านี้จะอ้างรูปแบบต่างๆ โดยเฉพาะอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐอย่างแนบเนียนทําให้ประชาชนหลงเชื่อ สําหรับข้อมูล 10 เดือนแรกของปี 2565 ของกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม พบว่า มีคดีออนไลน์วันละ 800 คดี ซึ่งต้องเร่งดําเนินการตามกฎหมายและขณะนี้ได้ร่าง พ.ร.บ.การรักษาความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ ไว้แล้ว จะเร่งดําเนินการให้มีผลบังคับใช้โดยเร็วที่สุด เมื่อประกาศใช้แล้วจะให้อํานาจตํารวจไซเบอร์ในการจับผู้กระทําความผิดและสามารถทํางานร่วมกับสถาบันการเงินได้ คิดว่าจะทําให้ทุกอย่างดีขึ้น อย่างไรก็ตาม หน่วยงานที่มักจะถูกแอบอ้างคือ กรมสรรพากร กรมศุลกากร กรมสรรพสามิต กระทรวงการคลัง ซึ่งกระทรวงการคลัง ยืนยันว่าไม่มีนโยบายให้เจ้าหน้าที่ติดต่อคืนภาษีผ่านไลน์ หรือระบบอื่นๆ อีกทั้งตอนนี้กําลังร่าง พ.ร.ก.อาชญากรรมทางเทคโนโลยี เพื่อแก้ปัญหาการปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ให้กระทรวงดีอีเอส กสทช. ส่งเอสเอ็มเอส แจ้งเตือนประชาชน และขอให้ประชาชนจําไว้ว่าหากมีโทรศัพท์เข้ามาแต่ไม่รู้จักอย่าไปรับเท่านั้นเอง ซึ่งในร่าง พ.ร.ก.อาชญากรรมทางเทคโนโลยีนั้น กําหนดให้ผู้เปิดบัญชีอิเล็กทรอนิกส์ โดยไม่มีเจตนาใช้เพื่อตัวเอง หรือกิจการที่ตัวเองเกี่ยวข้อง หรือที่เรียกว่า บัญชีม้า มีความผิดทุกประการจะลงโทษทางคดีอาญาอย่างเต็มที่
14/2/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
Radio-สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230214155551004
null
ครม. อนุมัติจัดตั้งศูนย์การเรียนรู้แห่งชาติ บริเวณถนนราชดำเนิน เป็นศูนย์เรียนรู้รูปแบบใหม่ เชื่อมโยงเอกลักษณ์วิถีชีวิตและมรดกวัฒนธรรมในพื้นที่ ผลักดันเป็นเมืองแห่งการเรียนรู้ที่ทันสมัย
น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ รองโฆษกประจําสํานักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรี มีมติเห็นชอบให้ดําเนินโครงการจัดตั้งศูนย์การเรียนรู้แห่งชาติ บริเวณพื้นที่ของสํานักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ ตามที่สํานักงานบริหารและพัฒนาองค์ความรู้ (องค์การมหาชน) (สบร.) เสนอ ซึ่งศูนย์การเรียนรู้ดังกล่าวเป็นศูนย์การเรียนรู้รูปแบบใหม่สําหรับประชาชนทุกช่วงวัยที่ส่งเสริมการเรียนรู้ สร้างแรงบันดาลใจ ปลูกฝังนิสัยรักการเรียนรู้ตลอดชีวิต กระตุ้นให้เกิดการค้นพบศักยภาพของตนเอง ผ่านกิจกรรมการเรียนรู้และพัฒนาทักษะที่ทันสมัย หลากหลาย โดยเฉพาะทักษะความรู้ที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีสมัยใหม่ที่สอดคล้องกับแนวโน้มการพัฒนาของโลกและทักษะการมีปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่น กําหนดระยะเวลาก่อสร้าง 3 ปี 9 เดือน ตั้งแต่ปี 2567-2569 งบประมาณ 970 ล้านบาทสําหรับศูนย์การเรียนรู้แห่งชาตินี้ ตั้งอยู่บริเวณถนนราชดําเนินกลาง ประกอบด้วยอาคาร 2 หลังติดกัน พื้นที่รวม 6 ไร่ แบ่งเป็น 2 อาคาร คือ อาคารแรก จัดเป็นศูนย์การเรียนรู้รูปแบบใหม่ ประกอบด้วยพื้นที่ต่างๆ ได้แก่ พื้นที่ห้องสมุดมีชีวิต พื้นที่เรียนรู้และพัฒนาทักษะและพัฒนาทักษะแห่งอนาคต และพื้นที่แสดงออก โดยจะย้ายพื้นที่ TK park จากชั้น 8 เซ็นทรัลเวิล์ดมารวมไว้ในอาคารนี้ อาคารที่2 ประกอบด้วยพื้นที่จัดกิจกรรมทางวิชาการ จัดแสดงนิทรรศการและผลงานหลากหลายสาขา โดยจะย้ายสํานักงานบริหารและพัฒนาองค์ความรู้ (องค์การมหาชน) จากอาคารวิทยาลัยการจัดการ มหาวิทยาลัยมหิดล มารวมไว้ในอาคารนี้
14/2/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230214161709020
null
ครม. อนุมัติร่างประกาศคณะกรรมการนโยบายการท่องเที่ยวแห่งชาติ จัดเก็บค่าธรรมเนียมนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้าประเทศไทย
น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจําสํานักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า คณะรัฐมนตรี(ครม.) เห็นชอบร่างประกาศคณะกรรมการนโยบายการท่องเที่ยวแห่งชาติ เรื่อง การจัดเก็บค่าธรรมเนียมการท่องเที่ยวภายในประเทศของนักท่องเที่ยวต่างชาติ พ.ศ.... ตามที่คณะกรรมการนโยบายการท่องเที่ยวแห่งชาติ(ท.ท.ช.) เสนอ โดยกําหนดค่าธรรมเนียม นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่เดินทางเข้ามาในประเทศไทย 300 บาทต่อคนต่อครั้ง สําหรับผู้เดินทางเข้าประเทศไทยผ่านช่องทางอากาศ และ 150 บาทต่อคนต่อครั้งสําหรับผู้เดินทางเข้าช่องทางบกและช่องทางน้ํา ยกเว้นผู้ถือหนังสือเดินทางเพื่อการทูต กงสุล หรือการปฏิบัติราชการ ผู้ที่เข้ามาทํางานในประเทศไทย ทารกและเด็กอายุไม่เกิน 2 ปี และบุคคลอื่นตามที่คณะกรรมการ ท.ท.ช. กําหนด และให้สํานักงานตรวจคนเข้าเมือง (สตม.) กําหนด หลักเกณฑ์และเงื่อนไขการตรวจลงตรา และกฎหมายที่เกี่ยวข้องที่ออกตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ. 2522 โดยกําหนดให้ใช้หลักฐานการชําระค่าธรรมเนียมการท่องเที่ยวภายในประเทศของนักท่องเที่ยวต่างชาติ เป็นเอกสารประกอบการอนุญาตเข้าเมืองและ และให้ สตม. เป็นผู้ตรวจสอบหลักฐานการชําระค่าธรรมเนียมเพื่อประกอบการพิจารณาอนุญาตเข้าเมืองต่อไป สําหรับการจัดเก็บค่าธรรมเนียมการท่องเที่ยวภายในประเทศของนักท่องเที่ยวต่างชาติ เพื่อใช้จ่ายในการบริหารและพัฒนาการท่องเที่ยว รวมทั้งใช้ในการจัดให้มีประกันภัยแก่นักท่องเที่ยวต่างชาติในระหว่างเที่ยวภายในประเทศไทยนอกจากนี้ ยังบัญญัติให้จัดตั้งกองทุนเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวไทย เพื่อใช้เป็นทุนหมุนเวียนในการพัฒนาการท่องเที่ยว การพัฒนาทักษะด้านการการบริหาร การตลาด หรือการอนุรักษ์ทรัพยากรท่องเที่ยวในชุมชน ดูแลรักษาคุณภาพแหล่งท่องเที่ยว ส่งเสริมสินค้าทางการท่องเที่ยวใหม่ในท้องถิ่น รวมถึงการจัดให้มีประกันภัยแก่นักท่องเที่ยวต่างชาติ ซึ่งจะช่วยลดภาระงบประมาณในการดูแล เยียวยานักท่องเที่ยว และด้านสาธารณสุข จากการเก็บค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลไม่เต็มจํานวนมีความสูญเสียงบประมาณแผ่นดินปีละประมาณ 300-400 ล้านบาทต่อปี รวมถึงงบประมาณสําหรับการดูแลแหล่งท่องเที่ยว สิ่งแวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาติที่เกิดความเสื่อมโทรมจากการท่องเที่ยว รวมทั้งงบประมาณสําหรับการดูแลพัฒนาสาธารณูปโภคที่จะสนับสนุนการท่องเที่ยวให้ปลอดภัย
14/2/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230214162713034
null
ครม. อนุมัติให้ บริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย ดำเนินโครงการเตรียมความพร้อมให้บริการเดินอากาศ ณ สนามบินอู่ตะเภาวงเงิน 1,256 ล้านบาท
น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจําสํานักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี อนุมัติการดําเนินโครงการจัดเตรียมความพร้อมในการให้บริการเดินอากาศ ณ สนามบินอู่ตะเภา ของบริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จํากัด วงเงินลงทุน 1,256 ล้านบาท พร้อมกับอนุมัติการจัดหาแหล่งเงินลงทุนสําหรับโครงการจากเงินกู้ระยะยาววงเงิน 1,256 ล้านบาท โดยมีกระทรวงการคลังไม่ค้ําประกันวงเงินกู้ และให้กระทรวงคมนาคมรับข้อคิดเห็นของหน่วยงานเกี่ยวข้องไปพิจารณาดําเนินการต่อไปสําหรับการดําเนินโครงการฯ จะเป็นการเตรียมความพร้อมในการให้บริการเดินอากาศ ณ สนามบินอู่ตะเภา ให้สามารถเปิดให้บริการได้อย่างมีประสิทธิภาพ เป็นไปตามมาตรฐานภายในปี 2568 และให้สอดคล้องตามกรอบระยะเวลาการดําเนินโครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออก ซึ่งเป็นโครงการรองรับการเติบโตของเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) และเป็นสนามบินหลักหลักแห่งที่ 3 ของ กรุงเทพฯ โดยกระทรวงคมนาคม คาดการณ์ปริมาณการจราจรทางอากาศอยู่ที่ 241,100 เที่ยวบิน ในปี 2591 โดยบริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จํากัด จะให้บริการ 4 ด้าน ประกอบด้วย การบริการจัดการจราจรทางอากาศ, บริการระบบสื่อสาร ระบบช่วยการเดินอากาศและระบบติดตามอากาศยาน, บริการข่าวสารการบิน และ บริการออกแบบวิธีปฏิบัติการบินด้วยเครื่องวัดประกอบการบิน พร้อมประเมินผลตอบแทนทางการเงินของโครงการ จะมีอัตราผลตอบแทนอยู่ที่ร้อยละ 4.26 ผลตอบแทนทางเศรษฐกิจร้อยละ 56.96 นอกจากนี้ ยังมีประโยชน์จากโครงการ ได้แก่ การสร้างโอกาสในการจ้างงาน การท่องเที่ยว และเพิ่มการขยายตัวทางเศรษฐกิจ การเพิ่มความปลอดภัยทางการบินในพื้นที่ เพิ่มความสามารถในการรองรับเที่ยวบินในบริเวณกรุงเทพฯ และลดการกระจุกตัวของเที่ยวบิน และลดความล่าช้าให้กับเที่ยวบิน
14/2/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230214163142038
null
ครม. เห็นชอบขยายระยะเวลาปรับลดอัตราเงินนำส่งเข้ากองทุนพัฒนาระบบสถาบันการเงินเฉพาะกิจเหลือร้อยละ 0.125 ต่อไปอีก 1 ปี เพื่อสนับสนุนสถาบันการเงินของรัฐ ช่วยเหลือลูกหนี้จากผลกระทบโควิด19 ที่ยังอยู่ระหว่างการฟื้นตัว
น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจําสํานักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า คณะรัฐมนตรีเห็นชอบการขยายระยะเวลาการปรับลดอัตราเงินนําส่งเข้ากองทุนพัฒนาระบบสถาบันการเงินเฉพาะกิจของสถาบันการเงินเฉพาะกิจ 4 แห่ง ได้แก่ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร(ธ.ก.ส.) ธนาคารออมสิน ธนาคารอาคารสงเคราะห์ และธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย(ธอท.) โดยปรับลดเงินนําส่งเหลือร้อยละ 0.125 ต่อปีของยอดเงินที่ได้รับจากประชาชน โดยมีผลบังคับตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม -31 ธันวาคม 2566 และให้กลับไปใช้อัตราร้อยละ 0.25 ต่อปี สําหรับการนําส่งตั้งแต่ปี 2567 เป็นต้นไปทั้งนี้ กระทรวงการคลัง รายงานว่า เนื่องด้วยการแพร่ระบาดของโควิด19 ได้ส่งผลต่อลูกค้าของสถาบันการเงินเฉพาะกิจ ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ผู้ประกอบการรายย่อยและประชาชนทั่วไป ซึ่งเป็นกลุ่มเปราะบาง หรือกลุ่มฐานราก ทําให้ไม่สามารถกลับมาชําระหนี้ได้ตามปกติ ประกอบกับขณะนี้อัตราดอกเบี้ยเงินกู้และราคาสินค้าอุปโภคบริโภคได้ปรับตัวสูงขึ้น ส่งผลกระทบต่อภาระค่าใช้จ่ายและค่าครองชีพของประชาชน สถาบันการเงินเฉพาะกิจยังจําเป็นต้องดําเนินมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้อย่างต่อเนื่อง รวมทั้งผ่อนปรนภาระให้กับลูกหนี้ผ่านการปรับโครงสร้างหนี้ ดังนั้น เพื่อให้สถาบันการเงินเฉพาะกิจสามารถดําเนินมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการและประชาชนได้ต่อเนื่อง กระทรวงการคลังจึงเห็นสมควรเสนอให้ขยายระยะเวลาการปรับลดอัตราเงินนําส่งเข้ากองทุนพัฒนาสถาบันการเงินของธนาคารเฉพาะกิจทั้ง 4 แห่งออกไปอีก 1 ปี
14/2/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230214165149052
null
ป.ป.ช. เดินหน้าพัฒนานวัตกรรม หลักสูตรการเรียนรู้สมัยใหม่ ขับเคลื่อนหลักสูตรต้านทุจริตศึกษา สร้างผลกระทบเชิงบวกยกระดับ CPI
ที่โรงแรมโนโวเทล บางนา เขตประเวศ กรุงเทพมหานคร นางแก้วตา ชัยมะโน ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. เป็นประธานเปิดการประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อหาแนวทางพัฒนานวัตกรรม และหลักสูตรการเรียนรู้สมัยใหม่ ภายใต้โครงการพัฒนาหลักสูตรต้านทุจริตศึกษา จัดโดยสํานักต้านทุจริตศึกษา ผู้เข้าร่วมประชุมเชิงปฏิบัติการ ประกอบด้วย ผู้ทรงคุณวุฒิจากหลากหลายสาขาอาชีพ ผู้แทนจากหน่วยงานต่าง ๆ สภาเด็กและเยาวชน ตลอดจนสื่อมวลชนนางสวรรยา รัตนราช ผู้อํานวยการสํานักต้านทุจริตศึกษา กล่าวว่า การพัฒนาหลักสูตรต้านทุจริตศึกษามุ่งหวังให้สร้างสรรค์เนื้อหาใหม่ ที่มีความทันสมัย สอดคล้องกับสถานการณ์ปัญหาการทุจริตในแต่ละช่วงเวลา ซึ่งจะดําเนินการพัฒนาหลักสูตร ชุดการเรียนรู้ในปี 2567 โดยแบ่งเป็นกลุ่มหลักสูตรสําหรับสถาบันครอบครัว หลักสูตรสถานศึกษา หลักสูตรสําหรับประชาชน/เอกชน หลักสูตรสําหรับข้าราชการ เจ้าหน้าที่ของรัฐ และรัฐวิสาหกิจ หลักสูตรสําหรับนักการเมืองระดับชาติและระดับท้องถิ่น โดยมีการอภิปรายแนวโน้มการทุจริตในสังคมไทยและสังคมโลก สู่การพัฒนาหลักสูตรการเรียนรู้ และนวัตกรรมต่อต้านการทุจริต เพื่อสร้างผลกระทบเชิงบวกทางสังคม และเชื่อมโยงกับการผลักดันการยกระดับค่าคะแนนดัชนีการรับรู้การทุจริต (CPI)ผู้อํานวยการสํานักต้านทุจริตศึกษา กล่าวเพิ่มเติมว่า การสร้างและพัฒนาหลักสูตรต้านทุจริตศึกษา ได้ดําเนินการมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2561 มีชุดวิชาประกอบด้วย การคิดแยกแยะผลประโยชน์ส่วนตนกับผลประโยชน์ส่วนรวม ความละอายและความไม่ทนต่อการทุจริต STRONG : จิตพอเพียงต้านทุจริต พลเมืองกับความรับผิดชอบต่อสังคม ปี 2564 ชุดวิชาประกอบด้วย การต้านทุจริตในสถานการณ์การเปลี่ยนฉับพลันทางเทคโนโลยีดิจิทัล การพิทักษ์ทรัพยากรธรรมชาติทางธรณี ทรัพยากรธรรมชาติน้ําและน้ําบาดาล ปี 2565 ชุดวิชาประกอบด้วยการพิทักษ์ทรัพยากรป่าไม้ ทรัพยากรทางทะเล และชายฝั่งในการนี้ สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทยจังหวัดสกลนคร (สวท.สกลนคร) ได้เป็นผู้แทนสื่อมวลชน เข้าร่วมการออกแบบพัฒนาหลักสูตรต้านทุจริตศึกษา เนื่องจากมีผลการดําเนินงานที่ได้รับการสนับสนุนเงินจากกองทุน ป.ป.ช. สร้างเครือข่ายเด็กและเยาวชน ผลิตสื่อสร้างค่านิยมไม่ทนต่อการทุจริตมาอย่างต่อเนื่อง#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
14/2/2023
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
สกลนคร
สวท.สกลนคร
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230214180635092
null
สภาผู้แทนราษฎร เตรียมพิจารณาญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อซักถามข้อเท็จจริงหรือเสนอแนะปัญหาต่อคณะรัฐมนตรี
การประชุมสภาผู้แทนราษฎร เป็นพิเศษ ในเวลา 09.30 น. วันนี้ (15 ก.พ.66) มีวาระพิจารณาญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อซักถามข้อเท็จจริง หรือเสนอแนะปัญหาต่อคณะรัฐมนตรี โดยไม่มีการลงมติตามรัฐธรรมนูญมาตรา 152 ที่นายแพทย์ ชลน่าน ศรีแก้ว กับคณะ จํานวน 135 คน เป็นผู้เสนอ ทั้งนี้ เนื้อหาของญัตติฝ่ายค้านเน้นตั้งคําถามถึงการบริหารราชการแผ่นดินของรัฐบาลตามนโยบายที่แถลงไว้ต่อรัฐสภา โดยเฉพาะนโยบายเร่งด่วน 12 ประการ โดยแบ่งกลุ่มปัญหาเศรษฐกิจ สังคม ยาเสพติดและกลุ่มการเมือง โดยเฉพาะเรื่องการทุจริตกรณีธุรกิจสีเทา ภัยด้านดิจิทัลและเทคโนโลยีและการทุจริตคอร์รัปชันสําหรับกําหนดกรอบเวลาการอภิปราย รวม 32 ชั่วโมง ให้เวลาฝ่ายค้าน 24 ชั่วโมง และรัฐบาลล 8 ชั่วโมง ซึ่งวันแรกประชุมระหว่างเวลา 09.30 น. – 02.30 น. ทั้งนี้ ฝ่ายค้านจะใช้เวลาในการอภิปรายไม่น้อยกว่า 12 ชั่วโมง ในกรอบเวลาไม่เกินเวลา 23.00 น. และเวลาจากนั้น จัดสรรให้คณะรัฐมนตรีตอบคําถามชี้แจง ส่วนในวันที่ 16 กุมภาพันธ์ จะเริ่มอภิปรายในเวลา 09.00 น. ให้แล้วเสร็จภายในเวลา 24.00 น.
15/2/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230215095256240
null
ร่างพระราชกำหนดมาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พ.ศ.... ถือเป็นมาตรการทางกฎหมายคุ้มครองประชาชนจากมิจฉาชีพทางออนไลน์
นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจําสํานักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ร่างพระราชกําหนดมาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พ.ศ.... มีทั้งหมด 14 มาตรา เพื่อใช้มาตรการทางกฎหมายควบคุมเป็นการเฉพาะจากมิจฉาชีพที่หลอกลวงให้โอนเงินผ่านการติดต่อทางโทรศัพท์ หรือวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ โดยเฉพาะการหลอกลวงประชาชนให้โอนเงินไปยังบัญชีผู้อื่นที่อยู่ในขบวนการ หรือบัญชีม้า ซึ่งหากสถาบันการเงินหรือผู้ประกอบธุรกิจรับทราบการกระทําอาชญากรรมออนไลน์เกิดขึ้นสามารถระงับธุรกรรมได้ทันที เช่นเดียวกับประชาชนที่ได้รับความเสียหายสามารถแจ้งเรื่องกับผู้ประกอบการและสถาบันการเงินได้ทันทีก่อนไปแจ้งความที่สถานีตํารวจภายใน 72 ชั่วโมง พร้อมย้ําประชาชนให้เปิดบัญชีธนาคารเฉพาะความจําเป็นเท่านั้นหากมีใครชวนขอให้ปฏิเสธทันที สําหรับประชาชนที่ถูกมิจฉาชีพหลอกลวง ให้แจ้งความได้ที่สถานีตํารวจทุกแห่ง หรือกองบัญชาการตํารวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือแจ้งความออนไลน์ที่ www.thaipoliceonline.com สําหรับบทลงโทษผู้กระทําผิดตามพระราชกําหนดนี้ จะมีความเข้มข้นมากขึ้น เช่น ผู้รับจ้างเปิดบัญชีม้า มีโทษจําคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 300,000 บาท หรือทั้งจําทั้งปรับ
15/2/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230215101204246
null
ครม. อนุมัติร่างพิธีสารแก้ไขบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือระหว่างสำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก กับรัฐบาลมณฑลกวางตุ้ง ขยายระยะเวลาร่วมมือด้านเศรษฐกิจ การลงทุน อุตสาหกรรมสำคัญ เชื่อมโยง EEC-กวางตุ้ง-ฮ่องกง–มาเก๊า
น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ รองโฆษกประจําสํานักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยผลการประชุมคณะรัฐมนตรี ว่าที่ประชุมได้เห็นชอบและอนุมัติร่างพิธีสารแก้ไขบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือระหว่างสํานักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) กับรัฐบาลมณฑลกวางตุ้ง เพื่อขยายระยะเวลาบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือระหว่างสํานักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) กับรัฐบาลมณฑลกวางตุ้ง มีระยะเวลาบังคับใช้ 3 ปี ระหว่างวันที่ 22 ตุลาคม 2562 -21 ตุลาคม 2565 ออกไปจนกว่าจะมีการประชุมระดับสูงไทย - มณฑลกวางตุ้งครั้งที่ 2 ในปีนี้ คาดว่าจะจัดขึ้นในช่วงเดือนสิงหาคม เพื่อสร้างความร่วมมือด้านเศรษฐกิจระหว่างสองฝ่ายได้อย่างต่อเนื่อง โดยจะจัดพิธีลงนามผ่านระบบออนไลน์ภายหลังจากที่คณะรัฐมนตรีให้ความเห็นชอบ /ในการประชุมระดับสูงไทย - มณฑลกวางตุ้ง ครั้งที่ 2 ทั้งสองฝ่าย จะพิจารณาร่วมกันจัดทําและรับรองบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านเศรษฐกิจฯ ฉบับใหม่ ในช่วงการประชุมดังกล่าวด้วยสําหรับความร่วมมือด้านเศรษฐกิจระหว่างสํานักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก กับรัฐบาลมณฑลกวางตุ้งครั้งนี้ เป็นการเสริมสร้างความเข้มแข็งและความร่วมมือด้านเศรษฐกิจใน สาขาที่ทั้งสองฝ่ายมีความสนใจร่วมกัน ได้แก่ การสร้างความเชื่อมโยงระหว่างเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออกกับมณฑลกวางตุ้งและเขตอ่าวกวางตุ้ง - ฮ่องกง - มาเก๊า ความร่วมมือด้านการพัฒนาอุตสาหกรรมเป้าหมายด้านการวิจัยและพัฒนาและนวัตกรรม รวมทั้งด้านการศึกษาและการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ ในอนาคตจะเพิ่มเติมการให้ความสําคัญกับอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาระบบขนส่งที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอย่างเป็นรูปธรรม รวมทั้งผลักดันการพัฒนาอุตสาหกรรมภายในไทยให้มีความเข้มแข็ง ตลอดจนร่วมวิจัยพัฒนาถ่ายทอดเทคโนโลยีระหว่างกัน
15/2/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230215114433299
null
สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด บูรณาการทุกภาคส่วนทำงานเชิงรุกแก้ปัญหายาเสพติด
นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจําสํานักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงการปฏิบัติการป้องกันปราบปรามและแก้ไขปัญหายาเสพติดอย่างจริงจัง ตามนโยบายรัฐบาล ล่าสุด กระทรวงยุติธรรม โดยสํานักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (สํานักงาน ป.ป.ส.) ได้บูรณาการหน่วยงานต่างๆ ดําเนินการปราบปรามผู้ค้ายาเสพติดในพื้นที่ โดยผลการปฏิบัติเรื่องร้องเรียนยาเสพติดและผลการจับกุมเจ้าหน้าที่รัฐในคดีความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด ระหว่างเดือนตุลาคม-ธันวาคม 2565 ผลการดําเนินงานเรื่องร้องเรียนยาเสพติด ระหว่างวันที่ 1 ตุลาคม-31 ธันวาคม 2565 ร้องเรียนผ่านศูนย์รับเรื่องร้องเรียนยาเสพติด 1386 สํานักงาน ป.ป.ส. จํานวน 4,787 เรื่อง และร้องเรียนผ่านสํานักงานปลัดสํานักนายกรัฐมนตรี 1111 จํานวน 7 เรื่อง รวมเรื่องร้องเรียน จํานวน 4,794 เรื่อง คิดเป็นร้อยละ 44.68 และ (2) ขณะที่ ผลการดําเนินงานจับกุมผู้ต้องหาที่เป็นเจ้าหน้าที่รัฐในคดีความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด สามารถดําเนินการจับกุมผู้ต้องหาที่เป็นเจ้าหน้าที่รัฐในคดีความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดรวม จํานวน 7 ราย จําแนกประเภทเป็น เจ้าหน้าที่ตํารวจ 3 ราย เจ้าหน้าที่รัฐวิสาหกิจ 1 ราย เจ้าหน้าที่สมาชิกสภาองค์กรส่วนท้องถิ่น 1 ราย ลูกจ้างปกครองส่วนท้องถิ่น 2 ราย จําแนกตามข้อหาคือ สมคบกันกระทําความผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติด 2 ราย และครอบครองเพื่อการค้า 4 ราย และเสพ 1 ราย โดยสามารถยึดทรัพย์รวมมูลค่ากว่า 4 ล้าน 4 แสนบาท การดําเนินงานที่เกิดผลเป็นรูปธรรม เป็นนโยบายนายกรัฐมนตรีที่เน้นย้ําทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งขับเคลื่อนให้เกิดผลทํางานเชิงรุก ทั้งการปราบปราม จับกุมผู้ค้ายาเสพติดในพื้นที่ ขยายผลไปสู่การทําลายเครือข่าย จับกุมนายทุนและผู้ที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนการปราบปรามเจ้าหน้าที่ของรัฐที่เข้าไปเกี่ยวข้องกับยาเสพติด ควบคู่ประสานความร่วมมือทุกฝ่ายในสังคม นําผู้เสพเข้าสู่การบําบัดรักษา รัฐบาลขอความร่วมมือประชาชนทุกภาคส่วนร่วมกันเป็นหูเป็นตากับภาครัฐ และแจ้งเบาะแสยาเสพติดมาได้ทางสายด่วน 1386 สํานักงาน ป.ป.ส. หรือทางสายด่วน 1111 สํานักงานปลัดสํานักนายกรัฐมนตรี เพื่อร่วมกันขับเคลื่อนประเทศไทยให้มีความมั่นคง และเป็นสังคมปลอดภัยยาเสพติด
15/2/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230215103135251
null
หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เชื่อพรรคประชาธิปัตย์ ไม่ใช่ปัจจัยทำให้องค์ประชุมไม่ครบ เพราะได้กำชับสมาชิกทุกคนให้เข้าร่วมการประชุม
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการอภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติในวันนี้ หลังมีกระแสข่าวจะเกิดปัญหาองค์ประชุมไม่ครบ จนไม่สามารถอภิปรายได้ ยืนยันว่าพรรคประชาธิปัตย์จะไม่ทําให้เกิดปัญหาดังกล่าวแน่นอนเพราะจะอยู่เป็นองค์ประชุม อีกทั้งพรรคประชาธิปัตย์สนับสนุนแนวทางกระบวนการสภาและเป็นพรรคการเมืองตามระบอบประชาธิปไตย ได้กําชับสมาชิกพรรคทุกคนแล้วให้ร่วมการประชุม ในฐานะผู้แทนประชาชน หากมีประเด็นที่ต้องชี้แจงให้กับประชาชน ต้องทําหน้าที่อย่างเต็มที่ เชื่อว่าการอภิปรายในครั้งนี้ ไม่เกิดการเปลี่ยนแปลง เนื่องจากเป็นการอภิปรายที่ไม่ได้ลงมติ ส่วนกระแสข่าวมีการโน้มน้าว หรือล็อบบี้ ส.ส.ในแต่ละพรรค เพื่อไม่ให้อยู่เป็นองค์ประชุม ส่วนตัวไม่สามารถตอบได้ แต่เชื่อว่าไม่มี ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์แน่นอน
15/2/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230215104010256
null
นายกรัฐมนตรี เข้าร่วมการอภิปรายทั่วไป โดยไม่ลงมติตามมาตรา 152 ที่รัฐสภาแล้ว พร้อมให้ไปสอบถามสมาชิก กรณีปัญหาองค์ประชุมไม่ครบ
พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เดินทางมายังอาคารรัฐสภา เข้าร่วมการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณาญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปโดยไม่ลงมติตามรัฐธรรมนูญมาตรา 152 โดยผู้สื่อข่าวถามว่าเตรียมตัวมาพร้อม 100% หรือไม่ นายกรัฐมนตรีกล่าวเพียงว่า ไม่มีอะไร ส่วนความกังวลในเรื่องขององค์ประชุม คงต้องไปถามสมาชิก
15/2/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230215104100257
null
หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา ทำความเข้าใจ หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ ยืนยันไม่นำการเมืองเกี่ยวข้องงานพรรคร่วมรัฐบาล
นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในฐานะหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวถึงกรณีที่พรรครวมไทยสร้างชาติ ส่งผู้สมัคร ส.ส. สุพรรณบุรี พื้นที่ของพรรคชาติไทยพัฒนา ว่า ต้องขอบคุณ นายพีระพันธ์ สารีรัฐวิภาค ในฐานะหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ ที่เมื่อวานนี้ได้มีการพูดคุยและรับทราบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ในที่ประชุม ครม. ต้องขอบคุณที่ให้เกียรติมาชี้แจง ว่าเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้น ซึ่งการเลือกตั้งแต่ละครั้งก็จะเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ หนักนิดเบาหน่อย เราเดินกันไปด้วยกัน และเมื่อผลการเลือกตั้งผ่านไปแล้วค่อยมาว่ากันใหม่ ไม่ใช่เรื่องแปลก ต่างฝ่ายต่างทําหน้าที่ เข้าใจแต่ละพรรคมีหน้าที่ต้องทําให้ดีที่สุด มีปัญหาอะไรก็มาพูดคุยกัน ซึ่งการทํางานในฐานะพรรรคร่วมรัฐบาล พรรคชาติไทยพัฒนา ไม่เคยนําประเด็นการเมืองใดเข้ามาเกี่ยวข้องกับการทํางานให้ประเทศชาติ หรือแม้แต่ในฐานะพรรคร่วมรัฐบาล เราจะทํางานกันอย่างเต็มที่ แม้เป็นช่วงเลือกตั้ง ตราบใดที่ยังมีรัฐมนตรีอยู่ เราก็จะยังทําหน้าที่พรรคร่วมรัฐบาล และทําหน้าที่รัฐมนตรีของประเทศไทยอย่างเต็มความสามารถ ไม่เอาการเมืองมาเกี่ยวข้องส่วนที่พรรครวมไทยสร้างชาติ จะส่งผู้สมัครในพื้นที่สุพรรณบุรี เป็นเรื่องนโยบายของแต่ละพรรค แต่พรรคชาติไทยพัฒนาก็ไม่ประมาท จะทํางานอย่างเต็มที่ส่งผู้สมัครครบทั้ง 5 เขตของจังหวัดสุพรรณบุรี เพื่อให้ได้โอกาสเข้ามาทํางานเพื่อชาวสุพรรณบุรีอีกครั้ง รวมถึงพื้นที่จังหวัดอื่นๆ ด้วย ที่พรรคชาติไทยพัฒนา ส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งสําหรับเรื่องที่ กกต.จะส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความ เรื่องการแบ่งเขตเลือกตั้ง นายวราวุธ กล่าวว่า คงไม่เกินเดือนพฤษภาคม เพราะกฎหมายเขียนไว้ชัดเจนว่าสภาชุดนี้จะหมดวาระลงในวันที่ 22 มีนาคม 2566 ดังนั้นหากจะเกิดการยุบสภาก็จะต้องก่อนวันที่ 22 มีนาคม 2566 และหากปล่อยให้สภาหมดวาระ ก็คงไม่เกินเดือนกลางเดือนพฤษภาคม 2566 ดังนั้นหากมีการยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความ กรอบกติกาของกฎหมายก็มีอยู่ มั่นใจว่า 7 หรือ 14 พฤษภาคม 2566 จะมีการเลือกตั้งเกิดขึ้นแน่นอนนายวราวุธ กล่าวว่า เรามีความเป็นมืออาชีพมากพอ เมื่อการเลือกตั้งจบ ทุกอย่างก็จบ เหมือนการแข่งฟุตบอล ช่วง 90 นาที อาจโดนใบเหลืองบ้าง ใบแดงบ้าง มีการถกเถียงกัน ต่อว่ากรรมการ แต่เมื่อครบเวลา 90 นาที ออกจากสนามทุกอย่างต้องจบ ซึ่งจากนี้ไป 90 วัน ก็อาจมีหนักนิดเบาหน่อย มีการต่อว่ากรรมการบ้าง แต่หวังว่าคงไม่มีใบเหลืองหรือใบแดง เมื่อพ้นวันลงคะแนนไปแล้วเราก็มาทํางานกันใหม่
15/2/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
Radio-สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230215103741254
null
ประธานวิปฝ่ายค้าน เปิดเผยมีแผนรองรับแล้ว หากเกิดปัญหาองค์ประชุมไม่ครบ มั่นใจ ฝ่ายค้านเข้าร่วมทุกคน
นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานวิปฝ่ายค้าน กล่าวถึงการอภิปรายทั่วไป แบบไม่ลงมติตามรัฐธรรมนูญมาตรา 152ว่า ผู้นําฝ่ายค้านจะแถลงญัตติ และขยายความในภาพรวมที่จะอภิปราย จากนั้นหัวหน้าพรรคร่วมฝ่ายค้านจะทยอยอภิปราย เริ่มที่นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล และไล่เรียงมาอย่างต่อเนื่อง โดยจะพูดในประเด็นเศรษฐกิจ พลังงาน และการต่างประเทศ ยาเสพติด ปัญหาสังคมและการทุจริต พรรคร่วมฝ่ายค้าน มั่นใจว่าสมาชิกจะมาครบทุกคน แต่สําหรับพรรคร่วมรัฐบาลนั้น ขณะนี้มีเพียงพรรคประชาธิปัตย์ที่แจ้งมาว่าจะเข้าร่วมประชุม ส่วนภูมิใจไทย ยังไม่มีสัญญาณหรือความชัดเจนใดๆ แต่ย้ําว่าหากเกิดปัญหาองค์ประชุมไม่ครบ ฝ่ายค้านมีแผนรองรับไว้อยู่แล้ว หากเกิดปัญหาดังกล่าวตั้งแต่วันแรกก็จะอภิปรายต่อในวันถัดไป แต่ถ้าเกิดขึ้นอีกในวันที่สอง ก็จะเปิดเวทีอภิปรายที่โพเดียม ที่รัฐสภาอย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมา ได้พูดคุยกับวิปรัฐบาลไปแล้วว่า ให้ช่วยกันรักษาระบบรัฐสภา จึงอยู่ที่สํานึกของสมาชิกที่จะต้องร่วมมือกัน
15/2/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230215103450253
null
ผู้นำฝ่ายค้านแถลง การบริหารราชการแผ่นดินไม่ดำเนินการให้เป็นไปตามนโยบายที่ได้แถลงไว้ต่อรัฐสภา
นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว ผู้นําฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า การบริหารราชการแผ่นดินของคณะรัฐมนตรีภายใต้การนําของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ตลอดระยะเวลากว่าสามปีที่ผ่านมามิได้ปฏิบัติหรือดําเนินการให้เป็นไปตามนโยบายที่ได้แถลงไว้ต่อรัฐสภา ที่รัฐบาลประกาศว่าจะเร่งดําเนินการก็มิได้มีการปฏิบัติที่เป็นรูปธรรมแต่อย่างใด เช่น การแก้ปัญหาในการดํารงชีวิตของประชาชน พบว่าประชาชนระดับฐานรากยังมีคุณภาพชีวิตที่ต่ํากว่ามาตรฐาน มีความเหลื่อมล้ําระหว่างคนในสังคมสูงมากขึ้น เกิดภาวะรวยกระจุกจนกระจาย คนไร้ที่อยู่อาศัยมีจํานวนเพิ่มมากขึ้น ปัญหาประมงพื้นบ้านยังไม่ได้รับการแก้ไข การบริหารประเทศของคณะรัฐมนตรี มิได้คํานึงถึงผลประโยชน์ของประเทศชาติและความผาสุกโดยรวมของประชาชนเป็นที่ตั้ง มีการใช้จ่ายงบประมาณและการก่อหนี้สาธารณะจํานวนมหาศาล ส่งผลให้หนี้สินต่อครัวเรือนและต่อหัวประชากรสูงขึ้นเป็นลําดับ แต่กลับไม่สามารถแก้ปัญหาเศรษฐกิจและความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนได้ ทําให้การบริหารงานด้านเศรษฐกิจล้มเหลวโดยสิ้นเชิง
15/2/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
หน่วยงานสำนักข่าว
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230215110424263
null
นายกฯ ติดตามสถานการณ์หมอกควันไฟป่าอย่างใกล้ชิด หลังยังพบค่า PM 2.5 เพิ่มสูง กระทบต่อสุขภาพประชาชน ขอความร่วมมือทุกพื้นที่งดการเผาทุกกรณี
นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจําสํานักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ติดตามสถานการณ์หมอกควันไฟป่าอย่างต่อเนื่องด้วยสถานการณ์ไฟป่าในหลายพื้นที่มีความรุนแรง ทั้งจากภาวะความแห้งแล้งจัด รวมถึงการลักลอบเข้าป่าและจุดไฟเผาป่า เพื่อแสวงผลประโยชน์จากป่า โดยไม่คํานึงถึงภาพรวม และผลกระทบที่เกิดขึ้นต่อธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ส่งผลให้หมอกควันจากไฟป่าลอยปกคลุม ค่า PM2.5 เพิ่มสูงขึ้นเกินมาตรฐาน กระทบต่อสุขภาพประชาชน นายกรัฐมนตรี สั่งการหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประชุมหารือแนวทางการป้องกันและรับมือของแต่ละหน่วยงาน เพื่อการถอดบทเรียนปัญหาไฟป่า ป้องกันการลุกลาม สร้างความเสียหายต่อทรัพยากรธรรมชาติ พื้นที่การเกษตร บ้านเรือนประชาชน อีกทั้งป้องกันไม่ให้เกิดฝุ่นละออง PM 2.5 เพิ่มขึ้นในอากาศ ลดผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน พร้อมขอความร่วมมือทุกพื้นที่ “งดการเผาทุกกรณี” 89 วัน ระหว่างวันที่ 1 กุมภาพันธ์-30 เมษายน 2566 หากฝ่าฝืนมีโทษ และเน้นย้ําทุกหน่วยงาน เร่งประชาสัมพันธ์เชิงรุกสร้างความเข้าใจ และขอความร่วมมือประชาชน
15/2/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230215131553332
null
ตำรวจไซเบอร์ เรียกสารวัตรใหม่มอบนโยบาย กำชับทำงานด้วยความสุจริตแก้ไขอาชญากรรมไซเบอร์
พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผู้บัญชาการ กองบัญชาการตํารวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) ได้เรียกประชุมตํารวจระดับสารวัตร ที่ได้รับการแต่งตั้งให้มาดํารงตําแหน่งในสังกัด สอท. เพื่อมอบนโยบายการทํางาน โดยเน้นย้ําเรื่องการทํางานด้วยความสุจริต เนื่องจากอาชญากรรมทางไซเบอร์ มีเพิ่มมากขึ้นทุกวัน และเป็นนโยบายของผู้บังคับบัญชาให้เร่งแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน โดยทาง สอท. มีมาตรการตรวจสอบการทํางานของตํารวจระดับสารวัตร ถึงผู้บังคับการ หากทํางานบกพร่องก็มีแนวทางการลงโทษทางปกครองส่วนกรณีที่มีกระแสข่าวที่ตํารวจ บช.สอท. เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับการเรียกรับผลประโยชน์กับเว็บพนันออนไลน์ ยอมรับว่า มีเพียงเล็กน้อย แต่ก็ต้องพิสูจน์ให้เห็นว่ามีการปราบปรามเว็บไซต์พนัน
15/2/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230215144002378
null
ปภ. เผย ทีมกู้ภัย USAR ขวัญกำลังใจดี เตรียมพร้อมกลับประเทศไทยหลังเสร็จสิ้นภารกิจ
นางปนัดดา ภู่เจริญศิลป์ ผู้อํานวยการกองส่งเสริมการป้องกันสาธารณภัย กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กล่าวในกิจกรรมรวมพลส่งใจไปตุรกี และเป็นกําลังใจให้กับทีม K9 USAR Thailand ณ อิมแพ็ค เมืองทองธานี ว่า สถานการณ์ของทีม USAR ทั้ง 42 นาย และสุนัขกู้ภัย 2 ตัว ปัจจุบันมีขวัญและกําลังใจดี โดยผลการปฎิบัติงานของทีมกู้ภัยเมื่อไปถึงที่สาธารณรัฐตุรกีได้ประสานงานกับศูนย์ประสานงานทีมกู้ภัยนานาชาติ หรือ UCC และได้รับมอบหมายให้ทําการค้นหาและกู้ภัยในพื้นที่ทิศเหนือและทิศใต้รวมถึงในหมู่บ้านต่างๆ ของเมือง ฮาไต โดยได้ปฎิบัติการค้นหาและกู้ภัยจนถึงเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา และขณะนี้ได้สิ้นสุดภารกิจค้นหาและกู้ภัยแล้ว อยู่ระหว่างเตรียมถอนกําลังเพื่อเดินทางกลับประเทศไทย โดยคาดว่า จะเดินทางกลับถึงประเทศไทยในวันเสาร์ที่ 18 กุมภาพันธ์ นี้ขณะที่ นาย อลงกต ชูแก้ว รองผู้อํานวยการองค์การสุนัขกู้ภัยแห่งชาติ กล่าวว่า กิจกรรมวันนี้จัดขึ้นเพื่อส่งกําลังใจให้กับทีมกู้ภัย USAR ของไทย และผู้ประสบภัยในตุรกีให้สามารถผ่านพ้นวิกฤติในครั้งนี้ไปให้ได้ พร้อมยืนยันว่าสุขภาพร่างกายของสุนัขกู้ภัย K9 ทั้งสองตัวยังแข็งแรงดี
15/2/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230215134303343
null
ศาลจังหวัดยะลา พิพากษา เหตุลอบยิงตำรวจตำรวจภูธรบันนังสตา เสียชีวิต เมื่อวันที่ 14 ต.ค. 2549
จากเหตุการณ์ลอบยิง ดาบตํารวจยูโซะ แววานิ เจ้าหน้าที่ตํารวจสถานีตํารวจภูธรบันนังสตา จนเสียชีวิต บริเวณบ้านเลขที่ 19 หมู่ที่ 2 ตําบลบันนังสตา อําเภอบันนังสตา จังหวัดยะลา เมื่อวันที่ 14 ตุลาคม 2549 นั้น ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาทางเจ้าหน้าที่ตํารวจพยายามติดตามสอบสวน และรวบรวมพยานหลักฐาน จนสืบทราบผู้ต้องหา คือ นายนูรุดดิน โดยสาเหตุที่กระทําไปนั้น เนื่องจากต้องการทําร้ายและ ตอบโต้ปฏิบัติการของเจ้าหน้าที่ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยเจ้าหน้าที่ได้เร่งดําเนินคดีตามกฎหมายมาอย่างต่อเนื่อง ภายใต้หลักสิทธิมนุษยชน ตามนโยบายของ พลโท ศานติ ศกุนตนาค แม่ทัพภาคที่ 4 / ผู้อํานวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ซึ่งล่าสุดเมื่อวันที่ 29 ธันวาคม 2565 ที่ผ่านมา ศาลจังหวัดยะลา ได้มีคําพิพากษาตัดสินคดีดังกล่าว โดยพิพากษาลงโทษ นายนูรุดดิน กี ผู้ต้องหาในคดีด้านความมั่นคง โดยให้จําคุกตลอดชีวิต ทั้งนี้ กองอํานวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ได้ให้ความสําคัญในการสืบสวนหาตัวผู้กระทําผิดในคดีต่างๆ มาดําเนินการตามกฎหมายด้วยความโปร่งใส เป็นธรรม และตรวจสอบได้ในทุกขั้นตอน พร้อมทั้งยังเปิดโอกาสให้ผู้ที่หลงผิดได้แสดงตนเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงได้ด้วยตนเอง ผ่านช่องทางสายตรงแม่ทัพภาคที่ 4 โทร. 061-1732999 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง โดยเจ้าหน้าที่รัฐพร้อมอํานวยความสะดวกในการเข้าสู่กระบวนยุติธรรม เพื่อร่วมสร้างสันติสุขในพื้นที่อย่างยั่งยืน#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
15/2/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สวท.ยะลา
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230215172614487
null
ส.ส.พรรคประชาชาติ อภิปรายการแก้ไขสัญญาโครงการทางด่วนขั้นที่ 2 ศรีรัช และทางพิเศษอุดรรัถยา ทำให้ประชาชนเดือดร้อน
พันตํารวจเอก ทวี สอดส่อง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรคประชาชาติ อภิปราย กล่าวว่า การแก้ไขสัญญาโครงการทางด่วนขั้นที่ 2 ศรีรัช และทางพิเศษอุดรรัถยา ซึ่งนายกรัฐมนตรี ได้ใช้อํานาจอนุมัติสัญญาผ่านคณะรัฐมนตรี ทําให้ประชาชนเดือดร้อน ขณะที่ศาลปกครองสูงสุด มีคําวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงค่าทางด่วนควรถูกลง 20-25 บาท แต่รัฐบาลนี้กลับเอื้อประโยชน์กับบริษัททางด่วน โดยการอนุมัติแก้ไขและขยายสัญญาทั้งนี้การอภิปรายช่วงบ่ายมีการประท้วงเล็กน้อย จาก ส.ส. ฝ่ายรัฐบาล เนื่องจากเห็นว่า การอภิปรายเป็นเรื่องเก่าๆ และมีการอภิปรายซ้ําซาก ไม่เข้าประเด็น
15/2/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
Radio-สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230215144124379
null
ศาลจังหวัดยะลา พิพากษา เหตุลอบยิงตำรวจภูธรบันนังสตา เสียชีวิต เมื่อวันที่ 14 ต.ค. 2549
จากเหตุการณ์ลอบยิง ดาบตํารวจยูโซะ แววานิ เจ้าหน้าที่ตํารวจสถานีตํารวจภูธรบันนังสตา จนเสียชีวิต บริเวณบ้านเลขที่ 19 หมู่ที่ 2 ตําบลบันนังสตา อําเภอบันนังสตา จังหวัดยะลา เมื่อวันที่ 14 ตุลาคม 2549 นั้น ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาทางเจ้าหน้าที่ตํารวจพยายามติดตามสอบสวน และรวบรวมพยานหลักฐาน จนสืบทราบผู้ต้องหา คือ นายนูรุดดิน โดยสาเหตุที่กระทําไปนั้น เนื่องจากต้องการทําร้ายและตอบโต้ปฏิบัติการของเจ้าหน้าที่ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยเจ้าหน้าที่ได้เร่งดําเนินคดีตามกฎหมายมาอย่างต่อเนื่อง ภายใต้หลักสิทธิมนุษยชน ตามนโยบายของ พลโท ศานติ ศกุนตนาค แม่ทัพภาคที่ 4 / ผู้อํานวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4ล่าสุดเมื่อวันที่ 29 ธันวาคม 2565 ที่ผ่านมา ศาลจังหวัดยะลา ได้มีคําพิพากษาตัดสินคดีดังกล่าว โดยพิพากษาลงโทษ นายนูรุดดิน กาจะลากี ผู้ต้องหาในคดีด้านความมั่นคง โดยให้จําคุกตลอดชีวิตทั้งนี้ กองอํานวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ได้ให้ความสําคัญในการสืบสวนหาตัวผู้กระทําผิดในคดีต่างๆ มาดําเนินการตามกฎหมายด้วยความโปร่งใส เป็นธรรม และตรวจสอบได้ในทุกขั้นตอน พร้อมทั้งยังเปิดโอกาสให้ผู้ที่หลงผิดได้แสดงตนเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงได้ด้วยตนเอง ผ่านช่องทางสายตรงแม่ทัพภาคที่ 4 โทร. 061-1732999 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง โดยเจ้าหน้าที่รัฐพร้อมอํานวยความสะดวกในการเข้าสู่กระบวนยุติธรรม เพื่อร่วมสร้างสันติสุขในพื้นที่อย่างยั่งยืน#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
15/2/2023
ภาคใต้
ยะลา
สทท.ยะลา
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230215174805503
null
ส.ส.ฝ่ายค้าน เน้นอภิปรายประเด็นการประมูลโครงการภาครัฐที่อาจมีการสมยอมราคาและเป็นบุคคลใกล้ชิดนายกรัฐมนตรี
การอภิปรายทั่วไปโดยไม่ลงมติตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 152 ช่วงที่ผ่านมา นางสาวจิราพร สิทธุไพร ส.ส.ร้อยเอ็ด พรรคเพื่อไทย อภิปรายตั้งข้อสังเกตถึงการประมูลโครงการของรัฐโดยบริษัทของหลานชายพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่อาจมีการสมยอมราคา หลังได้ลงพื้นที่ตรวจสอบพบว่า บริษัทคู่เปรียบเทียบราคาในการประมูลที่สู้ราคาสูงหลายสิบล้านบาท มีสภาพสิ่งปลูกสร้างที่ไม่น่าจะสามารถประกอบกิจการและไม่น่ามีศักยภาพในการประมูลโครงการหลายสิบล้านบาทได้ จึงอยากให้รัฐบาลชี้แจงข้อเท็จจริงในเรื่องนี้ว่ามีการสมยอมราคากันหรือไม่ อีกทั้งยังพบมีพฤติกรรมเดียวกันในการประมูลหลายโครงการที่เกิดขึ้นด้วย นอกจากนี้ ยังได้อภิปรายปัญหากลุ่มทุนจีนกับโครงการของรัฐที่นําเข้ารถยนต์โดยสารสําแดงแหล่งกําเนิดสินค้าเป็นเท็จจริง
15/2/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230215151249399
null
การไฟฟ้านครหลวง เตือน ประชาชนระวังพายุฝนฟ้าคะนอง แนะนำการใช้ไฟฟ้าให้ปลอดภัย
นายคมกริช สาคริก ผู้อํานวยการฝ่ายสื่อสารองค์กรการไฟฟ้านครหลวง หรือ MEA เปิดเผยว่า ในช่วงพายุฝนฟ้าคะนองระยะนี้ อาจทําให้เกิดพายุฝนลมแรง จึงแนะนําให้ตรวจสอบโครงสร้างป้ายโฆษณาให้อยู่ในสภาพที่แข็งแรง มั่นคง ปลอดภัย และตรวจสอบระยะห่างของป้ายโฆษณากับสายไฟฟ้าให้มากขึ้น เพราะอาจส่งผลกระทบกับระบบไฟฟ้า อาจทําให้ไฟฟ้าดับ และขอให้ประชาชนอยู่ห่างจากป้ายโฆษณา ต้นไม้ใหญ่ และสิ่งก่อสร้างที่ไม่แข็งแรงใกล้แนวสายไฟฟ้าเพราะกิ่งไม้อาจหักโค่นจากลมกระโชกแรง และพาดลงมาทําให้เสาไฟฟ้าล้ม หรือสายไฟฟ้าขาด เกิดอันตรายต่อชีวิตและทรัพย์สิน อีกทั้ง แนะนําให้ประชาชนตรวจสอบอุปกรณ์ไฟฟ้า หากชํารุดเร่งซ่อมแซมแก้ไข และสํารวจต้นไม้ที่ปลูกในบริเวณบ้านของตนเอง ให้กิ่งไม้อยู่ในระดับที่ปลอดภัยไม่ระสายไฟฟ้า เพราะอาจทําให้ไฟฟ้าดับ รวมไปถึง อาจจะทําให้มีกระแสไฟฟ้ารั่วมาตามกิ่งไม้ที่เปียกน้ําจากฝนฟ้าคะนองได้ผู้อํานวยการฝ่ายสื่อสารองค์กรการไฟฟ้านครหลวง ยืนยันว่า มีความพร้อมในการดูแลระบบไฟฟ้าให้มีประสิทธิภาพ ตลอดจนสถานีสูบน้ําให้มีความมั่นคง ปลอดภัย เพื่อให้การทํางานของเครื่องสูบน้ําเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
15/2/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สวท.จันทบุรี
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230215151532401
null
รัชดาฯ รองโฆษกรัฐบาล แจ้งคืบหน้าโครงการช่วยเหลือเยียวยาซื้อเรือประมงในพื้นที่ จ.ปัตตานี
นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจําสํานักนายกรัฐมนตรี ในฐานะกรรมการผู้แทนพิเศษของรัฐบาลในการแก้ปัญหาจังหวัดชายแดนใต้ กล่าวว่า ตามที่พี่น้องชาวประมงปัตตานีได้สอบถามถึงความคืบหน้าการจ่ายเงินเยียวยาซื้อเรือประมงในพื้นที่จังหวัดปัตตานี ตามโครงการนําเรือประมงออกนอกระบบเพื่อการจัดการทรัพยากรประมงทะเลที่ยั่งยืนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นกรณีเร่งด่วน (เรือชุดที่ 1 จํานวน 96 ลํา) ซึ่งทางศูนย์อํานวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ได้สรุปเรื่องเสนอไปยังสํานักงบประมาณ ในฐานะหน่วยงานรัฐที่กํากับดูแลงบกลาง การใช้จ่ายงบประมาณ รายการเงินสํารองจ่ายเพื่อกรณีฉุเฉินหรือจําเป็นขณะนี้ นายกรัฐมนตรี ได้ให้ความเห็นชอบตามที่สํานักงบประมาณเสนอขอใช้งบกลางแล้ว จากนี้จะได้ดําเนินการตามขั้นตอนที่เกี่ยวข้องเพื่อเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาต่อไป
15/2/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
หน่วยงานสำนักข่าว
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230215154548425
null
องคมนตรี ประชุมติดตามการดำเนินงานของหน่วยงานในพื้นที่ จชต. ด้าน เลขาธิการ ศอ.บต. เผย ดัชนีความเชื่อมั่นชายแดนใต้ ไตรมาส 4 ปรับตัวดีขึ้น
วันนี้ ( 15 กุมภาพันธ์ 2566 ) พลเอกไพบูลย์ คุ้มฉายา องคมนตรี เดินทางไปยัง ห้องประชุม 1 กองอํานวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ค่ายสิรินธร ตําบลเขาตูม อําเภอยะรัง จังหวัดปัตตานี เพื่อรับฟังบรรยายสรุปสถานการณ์ที่สําคัญในห้วงที่ผ่านมา , แนวโน้มสถานการณ์ และแนวทางการปฏิบัติงานของกองอํานวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า และศูนย์อํานวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ตลอดจนรับฟังสรุปความคืบหน้าคดีสําคัญจากกองกําลังตํารวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ พร้อมหารือและสรุปแนวทางการดําเนินงานในการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น โดยมี พลเอก พรศักดิ์ พูลสวัสดิ์ กรรมการผู้แทนพิเศษของรัฐบาลฯ ด้านความมั่นคง ,พลโท ศานติ ศกุนตนาค แม่ทัพภาคที่ 4 / ผู้อํานวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า,พลเรือตรี สมเกียรติ ผลประยูร เลขาธิการศูนย์อํานวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) , พลตํารวจโท นันทเดช ย้อยนวล ผู้บัญชาการตํารวจภูธรภาค 9 / ผู้บัญชาการศูนย์ปฏิบัติการสํานักงานตํารวจแห่งชาติส่วนหน้า, นายสุพจน์ รอดเรือง ณ หนองคาย ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา นางพาตีเมาะ สะดียามู ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี,คณะผู้บังคับบัญชาหน่วยขึ้นตรงกองอํานวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ตลอดจนส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ร่วมประชุม ในการนี้ ผู้แทนจากกองอํานวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้าได้บรรยายสรุปสถานการณ์และการปฏิบัติงานที่สําคัญด้านความมั่นคงในห้วงที่ผ่านมา และผู้แทนจากกองกําลังตํารวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ได้บรรยายสรุปความคืบหน้าคดีสําคัญในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ในส่วนของศูนย์อํานวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) พลเรือตรี สมเกียรติ ผลประยูร เลขาธิการ ศอ.บต.ได้นําเสนอผลการดําเนินงานที่สําคัญในห้วงที่ผ่านมาโดยเฉพาะอย่างยิ่งดัชนีความเชื่อมั่นจังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่ง ศอ.บต. ร่วมกับสํานักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า กระทรวงพาณิชย์ จัดทําดัชนีความเชื่อมั่นจังหวัดชายแดนภาคใต้ทุกไตรมาส ต่อเนื่องมาระยะเวลา 2 ปี ซึ่งในไตรมาสที่ 8 ไตรมาส 4 ปี 2565) สํารวจครอบคลุมใน 3 ด้าน คือ ด้านความมั่นคง ด้านเศรษฐกิจ และด้านสังคม รวมทั้งสิ่งที่เป็นปัญหาและความต้องการ และประเด็นอื่นๆ ที่จําเป็นต่อการพัฒนา โดยใช้บัณฑิตอาสามาตุภูมิครอบคลุม 2,249 หมู่บ้าน สํารวจความคิดเห็นของประชาชน 30,738 คน ในพื้นที่ 5 จังหวัด ซึ่งผลสรุปในรอบที่ผ่านมา ดัชนีความเชื่อมั่น ณ ปัจจุบัน รวม 5 จังหวัด อยู่ที่ร้อยละ 50.42 ซึ่งเป็นการพ้นเขตแดงขึ้นมาเป็นครั้งแรก หรือกล่าวได้ว่ามีความเชื่อมั่น ซึ่งเป็นการปรับเพิ่มขึ้นมาอยู่ในช่วงเชื่อมั่นครั้งแรกในรอบ 7 ไตรมาส สําหรับดัชนีความเชื่อมั่นในอนาคต ซึ่งคาดการณ์ล่วงหน้าปรับตัวสูงขึ้นเป็นลําดับ แบ่งเป็นประเภท ด้านความมั่นคงจะมีระดับความเชื่อมั่นสูงสุด รองลงมาคือ ด้านเศรษฐกิจ และด้านสังคม หากจําแนกดัชนีความเชื่อมั่นรายจังหวัด อยู่ในเกณฑ์เชื่อมั่นทุกจังหวัดหรือเกินกว่าร้อยละ 50 ทุกจังหวัด โดยจังหวัดสตูล มีความเชื่อมั่นโดยรวมสูงสุด รองลงมา ได้แก่ จังหวัดสงขลา ปัตตานี นราธิวาส และยะลา และมีระดับความเชื่อมั่นปรับตัวเพิ่มขึ้นเกือบทุกจังหวัด ยกเว้นจังหวัดสงขลาที่ปรับลดลงเล็กน้อย#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
15/2/2023
ภาคใต้
ยะลา
สทท.ยะลา
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230215182802521
null
การอภิปรายทั่วไปวันแรก ฝ่ายค้านเน้นไปที่การบริหารราชการแผ่นดินของรัฐบาล
การอภิปรายญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปโดยไม่มีการลงมติ ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 152 วันแรก ตลอดทั้งวันที่ผ่านมา เป็นการอภิปรายของฝ่ายค้าน โดยนายแพทย์ ชลน่าน ศรีแก้ว ผู้นําฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า ตลอด 3 ปีกว่าที่ผ่านมา รัฐบาลบริหารงานผิดพลาดตั้งแต่นโยบายเร่งด่วน 12 ประการ มีการใช้เงินเพื่อรักษาไว้ซึ่งอํานาจทางการเมืองโดยไม่คํานึงถึงความถูกต้องชอบธรรม เป็นภารกับงบประมาณ ทั้งยังก่อให้เกิดทุจริต เอื้อประโยชน์กลุ่มทุนและพวกพ้อง ปล่อยให้กลุ่มทุนข้ามชาติเข้ามาหาประโยชย์ ไม่สามารถแก้ปัญหาอาชญากรรมได้ ทั้งอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติ การพนันออนไลน์ เกิดปัญหาความเหลื่อมล้ําในสังคมประชาชนประสบปัญหาความยากจน พร้อมย้ําว่าแม้การอภิปรายครั้งนี้จะไม่มีการลงมติ แต่เป็นสิทธิของฝ่ายค้านที่จะนําข้อมูลมาเปิดเผยให้ประชาชนไปใช้ประกอบตัดสินใจในการใช้สิทธิเลือกตั้งที่กําลังจะมีขึ้น สําหรับภาพรวมการอภิปรายของฝ่ายค้าน ได้สลับกันอภิปรายเน้นภาพรวมการบริหารราชการแผ่นดินของรัฐบาลที่ไม่เห็นผลเป็นรูปธรรม ความผิดพลาดในการแก้ปัญหาเศรษฐกิจที่ทําให้ไทยเสียโอกาส มีการเอื้อประโยชน์พวกพ้องและกลุ่มทุน รวมถึงมุ่งเน้นใช้เงินงบประมาณเพื่อประโยชน์ทางการเมืองและการปล่อยให้องค์กรอาชญากรรมข้ามชาติมาใช้ประเทศไทยแสวงหาประโยชน์ขณะที่ช่วงเย็นที่ผ่านมา พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ชี้แจงข้อซักถามของฝ่ายค้าน ยืนยัน ไม่เคยปล่อยปะละเลยการแก้ปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้น ทั้งการแก้ปัญหาเศรษฐกิจและปัญหาความยากจนแบบพุ่งเป้า ส่วนเรื่องทุจริตที่ฝ่ายค้านนํามาอภิปรายยืนยันพร้อมให้ตรวจสอบและการแก้ปัญหาทุจริตที่เกิดขึ้นเป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม ซึ่งตลอดการบริหารงานที่ผ่านมาไม่เคยเอื้อประโยชน์ให้กับพวกพ้อง หรือคนใกล้ชิด โดยขอให้ไปตรวจสอบข้อเท็จจริงให้ชัดเจนก่อนมีการกล่าวหา พร้อมย้ําไม่อยากให้อํานาจนิติบัญญัติก้าวล่วงการทํางานของฝ่ายบริหารและไม่อยากให้ฝ่ายค้านอภิปรายให้เกิดความเสียหาย ส่วนการอภิปรายของฝ่ายค้านช่วงเย็นที่ผ่านมา ได้เน้นอภิปรายถึงการแก้ปัญหาเศรษฐกิจของรัฐบาลที่ไม่สามารถบรรเทาความเดือดร้อนแก่ประชาชนได้ โดยเฉพาะปัญหาราคาพลังงานที่ปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง
15/2/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230215190647534
null
นายกรัฐมนตรี ยืนยันในการอภิปรายทั่วไปข้อกล่าวหาของฝ่ายค้าน ไม่เป็นความจริง
พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ชี้แจงข้อซักถามของฝ่ายค้าน ยืนยันการแก้ปัญหาเศรษฐกิจ ได้ดูแลประชาชนทุกกลุ่ม แก้ปัญหาความยากจนแบบพุ่งเป้า ส่วนเรื่องการทุจริตต่างๆ ยืนยันเป็นไปตามกระบวนการยุติธรรมและไม่เคยเอื้อประโยชน์ให้กับพวกพ้อง หรือคนใกล้ชิด อย่างที่มีการกล่าวหา และขอให้ไปตรวจสอบข้อเท็จจริงให้ชัดเจน ก่อนมีการกล่าวหาและขอให้ไปดําเนินการตามกฎหมาย หากมีการกระทําผิด พร้อมย้ําไม่อยากให้อํานาจนิติบัญญัติก้าวล่วงการทํางานของฝ่ายบริหาร เพราะคนละอํานาจกันและในการอภิปรายครั้งนี้ ไม่อยากให้ฝ่ายค้านอภิปรายให้เกิดความเสียหายต่อรัฐบาล
15/2/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230215190407531
null
ปฏิบัติการ ”ยุทธการคชสาร ขจัดสิ้นยาเสพติด อำเภอสังขะ”
เมื่อวันนี้ 14 ก.พ.66 เวลา 22.30 น. ตามปฏิบัติการ ”ยุทธการคชสาร ขจัดสิ้นยาเสพติด อําเภอสังขะ” ภายใต้การอํานวยการของนายพิจิตร บุญทัน ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ นายชํานาญ ชื่นตา รอง ผวจ.สร. และนายประภาส ศรีจันทร์เวียง ปลัดจังหวัดสุรินทร์ นายสันติ โอฆะพนม นายอําเภอสังขะ/ผอ.ศป.ปส.อ.สังขะ ได้มอบหมายให้ฝ่ายความมั่นคงอําเภอสังขะ, ร้อย.อส.อ.สังขะที่ 8 ร่วมกับกํานัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้ช่วยฯ และชุด ชรบ. ตําบลตาคง ออกลาดตระเวน ตรวจสอบในพื้นที่ตําบลตาคง กรณีมีผู้ร้องเรียนว่ามีกลุ่มวัยรุ่นขับขี่จักรยานยนต์ก่อกวนภายในหมู่บ้านและพื้นที่ไกลเคียงและมีพฤติกรรมบิดคันเร่งทําให้เสียงดังและได้ยินเสียงคล้ายอาวุธปืนดังหลายนัด โดยได้ออกตรวจสอบ บ้านตราด ม.6 บ้านโคกกลาง ม.12 บ้านโคกระเปา ม.11 และ บ้านโคกชัย ม.10 ต.ตาคง ผลการปฏิบัติเจอกลุ่มวัยรุ่นขับขี่รถจักรยานยนต์ตามกันมา 3-4 คันจํานวน 6 คน และสามารถควบคุม ผตห.ได้ 1 ราย คือ นายบรรง หรืออ๊อด อายุ 27 อยู่บ้านเลขที่ 14 ม.3 ต.ตาคง อ.สังขะ จ.สุรินทร์ ซึ่งยอมรับว่าเสพยาเสพติด จริง และผลการตรวจเบื้องต้นเป็นบวกจึงบันทึกเป็นหลักฐานและส่งเข้ารับการบําบัด รพ.สังขะ ส่วนที่เหลือได้ว่ากล่าวตักเตือน เก็บข้อมูลไว้ และปล่อยตัวไปเนื่องจากไม่พบการกระทําผิดกฏหมาย แต่อย่างใด#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
15/2/2023
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
สุรินทร์
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสุรินทร์
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230216090836670
null
สภาผู้แทนราษฎร เตรียมพิจารณาญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปโดยไม่ลงมติ ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 152 ต่อเนื่องเป็นวันที่สอง
การประชุมสภาผู้แทนราษฎร ในเวลา 09.00 น. วันนี้ (16 ก.พ.66) เป็นการพิจารณาญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปโดยไม่ลงมติ ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 152 ต่อเนื่องเป็นวันที่สอง หลังวานนี้(15 ก.พ.66) ประธานได้สั่งพักการประชุมไปเมื่อเวลา 01.30 น. โดยภาพรวมการอภิปรายวัยแรก ฝ่ายค้านเน้นอภิปรายประเด็นเรื่อง การบริหารราชการแผ่นดินที่ล้มเหลว ไม่สามารถก้าวข้ามกับดักรายได้ปานกลาง รวมทั้งปัญหาการทุจริต ยาเสพติด กลุ่มทุนจีนสีเทา พนันออนไลน์ และการเอื้อประโยชน์ให้กับภาคเอกชนและพวกพ้อง ขณะที่รัฐบาล โดย พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ชี้แจงยืนยันว่า รัฐบาลไม่ได้ล้มเหลวในการบริหารประเทศ ซึ่งรัฐบาลได้พลิกโฉมประเทศใหม่ โดยมีการลงทุนในโครงสร้างระบบโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ การแก้ปัญหาเศรษฐกิจ และแกปัญหาน้ําอย่างเป็นระบบ รวมทั้งไม่เคยเอื้อประโยชน์ให้กับพวกพ้องอย่างที่กล่าวหา เช่นเดียวกับรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องได้ผลัดเปลี่ยนกันชี้แจงถึงผลสําเร็จและประโยชน์ที่ประชาชนได้รับในการบริหารราชการที่ผ่านมาสําหรับกรอบเวลาการอภิปราย วันนี้ (16 ก.พ.66) กําหนดแล้วเสร็จภายในเวลา 24.00 น. โดยการใช้เวลาของแต่ละฝ่ายพรรคร่วมฝ่ายค้านเหลือ 12 ชั่วโมง คณะรัฐมนตรีเหลือเวลาตอบชี้แจง 3 ชั่วโมง
16/2/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230216085629662
null
รมว.ดิจิทัลฯ ขอบคุณฝ่ายค้านที่ให้ข้อเสนอแนะหลายด้าน โดยเฉพาะกลุ่มทุนจีนสีเทา ที่รัฐบาลเร่งแก้ปัญหา ด้วยการออกพระราชกำหนดมาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี
นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม หรือ ดีอีเอส กล่าวถึงการอภิปรายทั่วไปเมื่อวานนี้ ซึ่งเป็นวันแรก โดยขอบคุณฝ่ายค้านที่พูดประเด็นปัญหาหลายอย่าง ซึ่งหลายเรื่องเป็นเรื่องที่สะสมมานาน รัฐบาลพยายามแก้ไขนําไปสู่นโยบายของพรรคการเมืองต้างๆ ในการแก้ปัญหาให้กับประชาชนในรัฐบาลสมัยหน้า โดยเฉพาะธุรกิจสีเทาที่ผ่านมา รัฐบาลได้ดําเนินการปราบปรามมาอย่างต่อเนื่อง และที่มีข่าวในช่วงนี้ เนื่องจากผู้บัญชาการตํารวจแห่งชาติ ได้มอบหมายเจ้าหน้าที่ตํารวจไปปราบปรามและดําเนินคดีอย่างจริงจัง ธุรกิจสีเทานี้ เป็นปัญหาเชิงโครงสร้าง จึงต้องแก้ที่กฎหมายและกฎระเบียบ เพื่อลดปัญหาดังกล่าว และให้ธุรกิจสามารถเดินหน้าต่อไปได้ ส่วนตัวไม่ทราบว่าเรื่องนี้ จะส่งผลต่อการตัดสินใจของประชาชนในการเลือกตั้งครั้งหน้าหรือไม่ แต่เห็นว่า ธุรกิจสีเทาเกิดขึ้นมานาน และมีอดีตนายกรัฐมนตรีมีความเชื่อมโยงในทุกสมัย พร้อมยืนยันว่า พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องส่วนที่มีการเปิดภาพทุนจีนสีเทาไปพบกับพลเอกประวิตร ที่มูลนิธิป่ารอยต่อ 5 จังหวัดนั้น เรื่องนี้ต้องให้ความเป็นธรรมกับพลเอกประวิตร และนักการเมืองด้วย เพราะบุคคลเหล่านั้นมักชอบถ่ายรูปกับผู้ที่มีชื่อเสียง โดยที่ไม่มีการรู้จักเป็นการส่วนตัว ดังนั้น จึงไม่ทราบว่าแต่ละคนทําธุรกิจ ย้ําว่ส ขณะนี้กระทรวงฯได้ผลักดันพระราชกําหนดมาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี เพื่ออายัดบัญชี หยุดเส้นทางการเงิน โดยเฉพาะบัญชีม้า ที่ขณะนี้ผ่านที่ประชุมคณะรัฐมนตรีแล้ว รอขั้นตอนการประกาศใช้ หากมีกฎหมายฉบับนี้แล้วจะทําให้ภาครัฐสามารถอายัดบัญชีที่ต้องสงสัยเกี่ยวกับธุรกิจผิดกฎหมายได้ พร้อมเตือนประชาชนให้หยุดรับจ้างเปิดบัญชีม้า เพราะมีความผิด จําคุก 3 ปี ปรับ 3 แสนบาท และหากกฎหมายฉบับนี้บังคับใช้แล้วถือว่ามีความผิดทันที
16/2/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230216103318714
null
ผู้นำฝ่ายค้าน พอใจภาพรวมการอภิปรายทั่วไปโดยไม่ลงมติวันแรก
นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ผู้นําฝ่ายค้านฯ กล่าวว่า ฝ่ายค้านได้ทําหน้าที่ในการอภิปรายแบบทั่วไปได้ดีและเป็นไปตามเป้าหมายที่ฝ่ายค้านได้ตั้งไว้ โดยมีการนําข้อเท็จจริง มาบอกกับสภาฯและส่งต่อไปยังคณะรัฐมนตรี หากมีข้อมูลชัดเจนที่ฝ่ายค้านได้อภิปราย ก็จะยื่นต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริต หรือ ป.ป.ช. ตามมาตรา 151 โดยเฉพาะประเด็นที่มีหลักฐานข้อเท็จจริงก็จะดําเนินการ ส่วนจะดําเนินการเมื่อไหร่ ก็จะดูจังหวะที่เหมาะสม ทั้งในประเด็นการประกอบธุรกิจที่ไม่ชอบ เกิดการฮั้วประมูล แม้ไม่ได้เกี่ยวข้องโดยตรง แต่มีความผูกพันเกี่ยวเนื่องนั่นก็คือ เรื่องจริยธรรม และย้ําว่า การอภิปรายเมื่อวานนี้ไม่ได้ชี้ว่าใครถูกผิด แต่ได้ชี้ให้เห็นว่า นี่คือปัญหาที่เกิดขึ้นในบ้านเมือง ที่ปรากฏขึ้น และเกิดความเสียหาย และคณะรัฐมนตรี จะต้องเข้าไปดูว่าข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น เป็นจริงตามที่ฝ่ายค้านได้พูดไว้หรือไม่ส่วนที่ฝ่ายรัฐบาล มองว่า เป็นข้อมูลเดิมไม่ใช่ข้อมูลใหม่ และใช้วิธีนี้ในการหาเสียง นพ.ชลน่าน กล่าวว่า คงจะไม่แก้ตัว เพราะข้อเท็จจริงคือ สิ่งที่เกิดขึ้นแต่รัฐบาลได้บริหารจัดการแก้ไขปัญหาหรือไม่ และย้ําว่า ไม่ใช้การหาเสียง ในเวทีสภาฯ ขึ้นอยู่กับประชาชนจะตัดสินใจเอง หลังจากที่ฝ่ายค้านได้นําเสนอข้อมูลไป ขณะเดียวกันเมื่อกล่าวหาว่าฝ่ายค้าน นําข้อมูลเดิมมานําเสนอแต่ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ก็ยังเลี่ยงที่จะตอบและชี้แจง โดยเฉพาะในเรื่องของครอบครัว พลเอก ประยุทธ์ จะปฏิเสธในเรื่องของความผูกพันไม่ได้ ไม่ใช่จะดูแลแค่ครอบครัวตัวเองเท่านั้น ญาติย่อมมีผลทางกฎหมาย เพราะพี่ชายของนายกรัฐมนตรี ก็เป็นสมาชิกวุฒิสภา ดังนั้น จึงเกี่ยวข้องกับการใช้อํานาจและหน้าที่ด้วย และในวันนี้ก็มีหมัดเด็ดในการอภิปราย
16/2/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
Radio-สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230216114205757
null
ปภ. รายงานเกิดเหตุวาตภัย 9 จังหวัด เร่งสำรวจความเสียหายและช่วยเหลือผู้ประสบภัย
กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) รายงานว่า จากความกดอากาศสูงกําลังค่อนข้างแรงระลอกใหม่จากประเทศจีน ได้แผ่ลงมาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ขณะที่ บริเวณประเทศไทยตอนบน มีอากาศร้อน ทําให้ในช่วงวันที่ 14 – 15 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เกิดพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางแห่งในพื้นที่ 9 จังหวัด ได้แก่ อุตรดิตถ์ เชียงรายกาฬสินธุ์ อํานาจเจริญ ศรีสะเกษ ยโสธร สุรินทร์ มหาสารคาม และอุบลราชธานี รวม 18 อําเภอ 26 ตําบล 33 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนเสียหาย 181 หลัง ซึ่งกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ได้ประสานจังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ให้การช่วยเหลือประชาชนในเบื้องต้นแล้ว พร้อมสํารวจความเสียหาย เพื่อดําเนินการช่วยเหลือตามระเบียบหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้องต่อไป ทั้งนี้ ประชาชนสามารถแจ้งเหตุและขอความช่วยเหลือทางไลน์ “ปภ.รับแจ้งเหตุ 1784” และสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง
16/2/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สวท.จันทบุรี
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230216105337725
null
ศาลจังหวัดทองผาภูมิจัดพิธีเปิด “พิพิธภัณฑ์ศาลจังหวัดทองผาภูมิ” เนื่องในวาระครบรอบ 33 ปี เปิดทำการศาลจังหวัดกาญจนบุรี (ทองผาภูมิ) เมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2533 ภายใต้โครงการ “รักษ์ศาลสีขาว”
ศาลจังหวัดทองผาภูมิ ตําบลท่าขนุน อําเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี นางชมภูนุช สุจริตกุล เชาวลิต ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัดทองผาภูมิ เป็นประธานเปิดโครงการ “พิพิธภัณฑ์ศาลจังหวัดทองผาภูมิ” ภายใต้โครงการ “รักษ์ศาล สีขาว” ซึ่งเป็นไปตามนโยบายประธานศาลฏีกา ข้อ 1 รักศาล พร้อมมอบของที่ระลึก และเลี้ยงเครื่องดื่มและของว่างแก่ผู้เข้าร่วมกิจกรรมโดยมีบุคลากรศาลจังหวัดทองผาภูมิเข้าร่วมพิธีเปิดและรับฟังกิจกรรมเสวนา หัวข้อ "การทํางานในศาลจังหวัดกาญจนบุรี (ทองผาภูมิ) ในยุคแรก สู่ศาลจังหวัดทองผาภูมิในยุคปัจจุบัน"ในการนี้ได้เชิญผู้ที่เคยทํางานกับศาลในยุคแรกเปิดทําการมาร่วมเสวนา ได้แก่ นางทปุมวรรณ ศิลปานานท์ ผู้พิพากษาสมทบ นางแดงต้อย สายรัตนี อดีตผู้พิพากษาสมทบ นางฉันทนา นาเจริญ ผู้ประนีประนอม นายชัยยศ ชูประเสริฐ ทนายความ นางกชนัฑ บุญธนรักษา ผู้อํานวยการฯ นางสาววิชุดา เสตะพันธ์ และนายนพดล รวยรื่น เจ้าหน้าที่ศาลจังหวัดทองผาภูมิ ร่วมพูดคุยถึงบรรยากาศการทํางานในยุคที่เป็นสาขาของศาลจังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งมีผู้พิพากษาจากศาลจังหวัดกาญจนบุรีมาเข้าเวร การทําหน้าที่ผู้พิพากษาสมทบ ผู้ประนีประนอม และทนายความในยุคนั้น นอกจากนี้ได้ร่วมกันยืนไว้อาลัยแก่อดีตเจ้าหน้าที่ศาลซึ่งมาปฏิบัติหน้าที่และเป็นไข้มาลาเรียถึงแก่ความตายด้วยโครงการนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อปรับภูมิทัศน์บริเวณโถงทางเข้าศาลชั้นล่างให้เป็นพิพิธภัณฑ์สําหรับเก็บรวบรวมสิ่งของมีคุณค่าทางจิตใจของศาล และเพื่อให้ทางเข้าศาลมีความสง่างาม โดยเริ่มดําเนินการตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2565 เป็นต้นมาดังนี้1 รวบรวมสิ่งของมีคุณค่าตามห้องต่าง ๆ มาขึ้นทะเบียน2 ส่งตู้ไม้ของเก่าไปซ่อมให้มีสภาพดี3 นําตอไม้ต้นคูณที่ตัดแต่งมาทําที่วางกระถางต้นไม้ตกแต่งทั่วบริเวณ4 นําภาพศาลเก่าและเอกสารการเปิดทําการศาลใส่กรอบตั้งจัดแสดง5 จัดทําป้ายแผนผังบุคลากรของ สํานักงานศาลยุติธรรมมาติดตั้งเพื่อความสวยงาม6 ติดตั้งผนังไม้ปิดหน้าต่างบานเลื่อนที่ไม่ได้ใช้งาน เพื่อจัดแสดงผลงานต่าง ๆ ของศาลอีกทั้งยังเป็นการเผยแพร่ประวัติการมาจัดตั้งศาลในพื้นที่ห่างไกล ซึ่งมีเขตอํานาจศาลในอําเภอทองผาภูมิ และสังขละบุรี แสดงถึงความเสียสละของบุคลากรตั้งแต่ในอดีตที่มาปฏิบัติหน้าที่เพื่ออํานวยความยุติธรรมแก่ประชาชน ให้ประชาชนรับทราบนอกจากนี้บุคลากรในหน่วยงานได้ทราบประวัติความเป็นมาของศาลจังหวัดทองผาภูมิ เสริมสร้างค่านิยมให้รักศาล อนุรักษ์ หวงแหนทรัพย์สินมีค่าของศาล สร้างความสามัคคี และการมีส่วนร่วมกับผู้ที่ทําหน้าที่ต่าง ๆ ในกระบวนการยุติธรรมที่เกี่ยวข้องกับศาลรวมถึงการสร้างสภาพแวดล้อมที่ดีในการทํางานช่วยส่งเสริมให้เพื่อนร่วมงานมีน้ําใจต่อกัน#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
16/2/2023
ภาคตะวันตก
กาญจนบุรี
สวท.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230216120343769
null
ส.ปชส.ตราด ประชาสัมพันธ์ การประชุมสภาเพื่อเปิดอภิปรายรัฐบาลทั่วไปแบบไม่ลงมติตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 152
(16 ก.พ. 66) สํานักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดตราด รายงานว่า ตามมติที่ประชุมวิป 3 ฝ่าย คือ คณะรัฐมนตรี วิปฝ่ายค้าน และวิปรัฐบาล ได้กําหนดวันอภิปรายทั่วไปโดยไม่ลงมติตามรัฐธรรมนูญมาตรา 152 เป็นวันที่ 15 - 16 ก.พ. 66 นับเป็นครั้งสุดท้ายของสภาผู้แทนราษฎร ชุดที่ 25การอภิปรายในวันที่ 15 ก.พ. 66 เริ่มตั้งแต่เวลา 09.30 น. และคาดว่าจะสิ้นสุดในเวลา 02.00 น. ของวันที่ 16 กุมภาพันธ์ ส่วนวันที่ 16 กุมภาพันธ์ จะเริ่มอภิปรายในเวลา 09.00 น. โดยกําหนดให้แล้วเสร็จภายในเวลา 24.00 น. โดยฝ่ายค้านได้สัดส่วนเวลาในการอภิปราย 24 ชั่วโมง มี ส.ส.อภิปราย 35 คน ขณะที่คณะรัฐมนตรี และ ส.ส.ฝ่ายรัฐบาลมีเวลาในการชี้แจงรวมกัน 8 ชั่วโมงหากสภาฯล่ม จะถือว่าสิ้นสุดญัตติหรือไม่?ก่อนหน้านี้มีประเด็นถกเถียงกันว่า หากองค์ประชุมไม่ครบ หรือสภาฯ ล่มตั้งแต่การอภิปรายวันแรกจะถือว่าจบการอภิปรายและสิ้นสุดญัตติหรือไม่ ซึ่งประเด็นดังกล่าว นายสุชาติ ตันเจริญ รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 1 ได้ประชุมคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร (วิป 2 ฝ่าย) เพื่อพิจารณาแนวทางปฏิบัติกรณีดังกล่าว โดยชี้แจงว่า ตามข้อบังคับการประชุมสภาผู้แทนราษฎรไม่มีการระบุว่า การที่องค์ประชุมไม่ครบ ไม่ถือเป็นการสิ้นสุดญัตติ แต่เป็นเพียงการทําให้ญัตติดังกล่าวสะดุดลง ต้องเลิกประชุมเนื่องจากไม่เป็นองค์ประชุม และต้องนํากลับมาพิจารณาต่อ ในการประชุมคราวต่อไปโดยญัตติจะสิ้นสุดเมื่อใด ต้องดูตามข้อบังคับการประชุมสภาฯ ซึ่งระบุในข้อ 73 ว่า การอภิปรายจะยุติ เมื่อ 1. ไม่มีผู้ใดอภิปราย 2. ที่ประชุมลงมติให้ปิดอภิปราย และ 3. ที่ประชุมลงมติให้ยกเรื่องอื่นขึ้นปรึกษา และข้อ 74 ที่ว่าในกรณีที่ประธานพิจารณา เห็นว่าได้อภิปรายกันพอสมควรแล้วจะขอให้ที่ประชุมวินิจฉัยว่าจะปิดอภิปรายหรือไม่ก็ได้การอภิปรายครั้งนี้นับเป็นช่วงโค้งสุดท้ายของรัฐบาลและของสภาผู้แทนราษฎรชุดนี้ ดังนั้น การอภิปรายดังกล่าวจึงถูกจับตาจากทุกฝ่ายว่า ฝ่ายค้านจะมีการเปิดประเด็นอะไรที่จะส่งแรงกระเพื่อมถึงการเลือกตั้งครั้งหน้าได้หรือไม่ หรือฝ่ายรัฐบาลจะสามารถชี้แจงข้อสงสัยต่าง ๆ จนนําไปสู่การสร้างความเชื่อมั่น และสร้างการรับรู้ถึงผลงานต่าง ๆ ที่ทํามาตลอดสมัยของการเป็นรัฐบาลได้หรือไม่ ประเด็นที่คาดว่าจะมีการอภิปรายในครั้งนี้ ได้แก่1. ปัญหาราคาพลังงาน (ราคาน้ํามัน/ค่าไฟฟ้าภาคครัวเรือน/ ค่าไฟฟ้าภาคอุตสาหกรรม)2. ปัญหาการทุจริตในระบบราชการ (ตํารวจ/อุทยาน)3. ผลกระทบจากกัญชา และปัญหายาเสพติด4. ปัญหาการพนันออนไลน์5. การใช้งบประมาณเพื่อสร้างคะแนนนิยมให้กับรัฐบาลทั้งนี้การอภิปรายตามมาตรา 152 เป็นการอภิปรายแบบไม่มีการลงคะแนนเสียง เพื่อให้ฝ่ายค้านได้ซักถามข้อเท็จจริง และเสนอแนะเกี่ยวกับการทํางานของรัฐบาล โดยใช้ จํานวน ส.ส. 1 ใน 10 ของสภาฯ เข้าชื่อร่วมกันเพื่อเสนอญัตติอภิปรายได้ ซึ่งแตกต่างจากการอภิปรายไม่ไว้วางใจ (ตามมาตรา 151) และจะมีการลงคะแนนไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีที่ถูกอภิปรายไม่ให้ดํารงตําแหน่งต่อไป ซึ่งในสมัยของรัฐบาลที่ผ่านมาพบว่าเปิดศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจ (ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 151) ไปแล้ว 4 ครั้ง และการอภิปรายทั่วไป แบบไม่ลงมติ (ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 152) อีก 3 ครั้ง ดังนี้ - อภิปรายไม่ไว้วางใจ (ตามมาตรา 151) ครั้งที่ 1 วันที่ 24 - 27 ก.พ. 63 ครั้งที่ 2 วันที่ 16 - 19 ก.พ. 64 ครั้งที่ 3 วันที่ 31 ส.ค. - 3 ก.ย. 64 ครั้งที่ 4 (ครั้งสุดท้าย) วันที่ 19 - 22 ก.ค.65- อภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติ (ตามมาตรา 152) ครั้งที่ 1 วันที่ 18 ก.ย. 62 ครั้งที่ 2 วันที่ 6 ก.ย.63 ครั้งที่ 3 วันที่ 17 - 18 ก.พ. 65โดยในการอภิปรายครั้งล่าสุด เป็นการอภิปรายไม่ไว้วางใจ (ตามมาตรา 151) เมื่อเดือน กรกฎาคม 2565 ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ ได้รับคะแนนไว้วางใจ 256 ต่อไม่ไว้วางใจ 206 คะแนนในการอภิปรายครั้งนั้น #สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
16/2/2023
ภาคตะวันออก
ตราด
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดตราด
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230216123935782
null
ส.ปชส.ตราด ประชาสัมพันธ์ ครม. เคาะ! เก็บเงิน “ค่าเหยียบแผ่นดิน” นักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้าไทย เพื่อใช้เป็นทุนหมุนเวียนดูแลนักท่องเที่ยว
(16 ก.พ. 66) สํานักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดตราด รายงานว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 14 ก.พ. 66 มีมติเห็นชอบร่างประกาศคณะกรรมการนโยบายการท่องเที่ยวแห่งชาติ เรื่อง การจัดเก็บค่าธรรมเนียมการท่องเที่ยวภายในประเทศของนักท่องเที่ยวต่างชาติ ที่เดินทางเข้ามาประเทศไทย เพื่อใช้จ่ายในการบริหารและพัฒนาการท่องเที่ยว รวมทั้งใช้จ่ายในการจัดให้มีการประกันภัยแก่นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติในระหว่างท่องเที่ยวภายในประเทศสําหรับอัตราจัดเก็บค่าธรรมเนียม แบ่งออกเป็น• ผู้เดินทางผ่านช่องทางอากาศ 300 บาท/คน/ครั้ง• ผู้เดินทางผ่านทางบกและทางน้ํา 150 บาท/คน/ครั้งทั้งนี้ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้ศึกษาเชิงเปรียบเทียบแล้วพบว่า ประเทศไทยไม่ใช่ประเทศแรกที่เรียกเก็บค่าธรรมเนียมจากนักท่องเที่ยวต่างชาติ ปัจจุบันมีกว่า 40 ประเทศทั่วโลก ที่เรียกเก็บค่าธรรมเนียมในรูปแบบที่แตกต่างกัน แต่ประเทศไทยเป็นประเทศแรกของโลกที่เก็บค่าธรรมเนียมแล้วมีสวัสดิการคืนแก่นักท่องเที่ยวผ่านประกันอุบัติเหตุ การเสียชีวิต และการส่งศพกลับประเทศ เพื่อดูแล ช่วยเหลือ เยียวยานักท่องเที่ยว ซึ่งจะเป็นการส่งเสริมภาพลักษณ์ความเชื่อมั่นด้านความปลอดภัยให้แก่นักท่องเที่ยวต่างชาติขณะเดียวกันยังช่วยลดภาระงบประมาณในการดูแลเยียวยานักท่องเที่ยวและด้านสาธารณสุข จากการเก็บค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลไม่เต็มจํานวน มีความสูญเสียงบประมาณแผ่นดินปีละประมาณ 300 - 400 ล้านบาทต่อปีซึ่งการเก็บค่าธรรมเนียมนี้จะมีผลบังคับใช้เมื่อพ้น 90 วัน นับแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษา #สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
16/2/2023
ภาคตะวันออก
ตราด
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดตราด
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230216124312786
null
นายกฯ ยืนยัน การอภิปรายทั่วไปโดยไม่ลงมติถึงข้อกล่าวหาการทุจริตและกลุ่มทุนจีนสีเทาได้สั่งการให้ดำเนินการตามกระบวนการของกฎหมายโดยไม่ก้าวก่ายหรือแทรกแซง เพราะทุกคนต้องอยู่ภายใต้กฎหมายเดียวกัน
การอภิปรายทั่วไปโดยไม่ลงมติตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 152 ในช่วงที่ผ่านมา พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ชี้แจงครั้งแรกของวันนี้ (16 ก.พ.66) กรณีข้อกล่าวหาของฝ่ายค้านทั้งเร่งกลุ่มทุนจีนสีเทาต่าง ๆ โดยขณะนี้อยู่ในขั้นตอนของกระบวนการสอบสวนและสามารถจับกุมขยายผลผู้มีส่วนเกี่ยวข้องหลายราย รวมถึงกรณีที่อภิปรายถึง ส.ว.เข้าไปเกี่ยวข้องว่า ได้สั่งการให้มีการสอบสวน ยืนยันไม่ช่วยเหลือใครทั้งสิ้น ซึ่งอยู่ในขั้นตอนของกระบวนการยุติธรรมจึงไม่สามารถเข้าไปก้าวก่ายได้ อีกทั้งข้อกล่าวหาเจ้าหน้าที่ตํารวจเข้าไปเกี่ยวข้องได้ตั้งคณะกรรมการสอบแล้วเช่นกัน ซึ่งหากพบความผิดต้องถูกดําเนินการทางวินัยและทางอาญาโดยไม่ยกเว้น เพราะทุกคนต้องอยู่ภายใต้กฎหมายเดียวกัน ส่วนประเด็นการแก้ปัญหายาเสพติด นายกรัฐมนตรี ยืนยันการแก้ปัญหาของรัฐบาลไม่ได้ล้มเหลวมีการแก้ปัญหาครอบคลุมทุกมิติ โดยเฉพาะการปรับปรุงกฎหมายเพื่อให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นนายกรัฐมนตรี ยังชี้แจงข้อกล่าวหาการทํางานของกองอํานวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) ว่า เป็นการบูรณาการการทํางานร่วมกันเพื่อความมั่นคงของประเทศ โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคใต้ที่จําเป็นต้องมีหน่วยงานเฉพาะกิจเข้าไปดูแล ซึ่งหากในอนาคตปัญหาความไม่สงบหมดไปสามารถยกเลิกได้ และย้ําว่าการแก้ปัญหาความไม่สงบในพื้นที่ภาคใต้มีความคืบหน้ามาโดยลําดับ.
16/2/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230216130240795
null
รัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ ยืนยัน รัฐบาลให้ความสำคัญกับการแก้ปัญหายาเสพติดและไม่ได้เอื้อประโยชน์ให้กับสมาชิกวุฒิสภาที่มีส่วนเกี่ยวพันกับคดียาเสพติด ตามที่มีการอภิปรายพาดพิง
นายธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีประจําสํานักนายกรัฐมนตรี ชี้แจงกรณีนายรังสิมันต์ โรม ส.ส.พรรคก้าวไกล อภิปรายพาดพิงตั้งข้อสังเกตว่า รัฐบาลมีส่วนเกี่ยวข้องกับสมาชิกสุฒิสภา หรือ ส.ว. มีคดียาเสพติด เนื่องจากอาคารที่ทําการพรรครวมไทยสร้างชาติ ส.ว. คนดังกล่าวเป็นเจ้าของ ว่า พรรครวมไทยสร้างชาติ ได้เช่าอาคารดังกล่าวอย่างถูกต้องตามกฎหมาย และจากข้อมูลพบว่า ส.ว. คนดังกล่าว เคยเป็นเจ้าของตั้งแต่ปี 2562 แต่ปัจจุบันไม่ได้เป็นเจ้าของแล้ว ซึ่งมีหลักฐานสามารถตรวจสอบได้ทั้งหมด และนายกรัฐมนตรี รวมถึงหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างขาติ พร้อมชี้แจงข้อเท็จจริงทุกอย่าง มั่นใจว่าไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้อง หรือข่วยเหลือผู้ที่ต้องคดี นอกจากนี้ รัฐบาลให้ตวามสําคัญกับการแก้ปัญหายาเสพติดมาโดยตลอด ซึ่งนายกรัฐมนตรี สั่งเจ้าหน้าที่ตํารวจและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดําเนินการปราบปรามอย่างเต็มที่
16/2/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230216130649797
null
เชิญติดตามการประชุมสภาเพื่อเปิดอภิปรายรัฐบาลทั่วไปแบบไม่ลงมติตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 152
สํานักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดแพร่รายงานว่า ตามมติที่ประชุม 3 ฝ่าย คือ คณะรัฐมนตรี ฝ่ายค้าน และฝ่ายรัฐบาล ได้กําหนดวันอภิปรายทั่วไปโดยไม่ลงมติตามรัฐธรรมนูญมาตรา 152 ในวันที่ 15-16 กุมภาพันธ์ 2566 การอภิปรายครั้งนี้นับเป็นช่วงโค้งสุดท้ายของรัฐบาลและของสภาผู้แทนราษฎรชุดนี้ เนื่องจากสภาราษฎรชุดนี้ใกล้จะหมดวาระลงแล้ว การอภิปรายจึงมีความสําคัญที่จะส่งผลต่อการเลือกตั้งในครั้งต่อไปว่า ฝ่ายไหนจะเข้าตาประชาชนมากที่สุด ทั้งฝ่ายค้านที่หาประเด็นมากระทุ้ง และฝ่ายรัฐบาลที่จะสามารถชี้แจงข้อสงสัยต่าง ๆ จนนําไปสู่การสร้างความเชื่อมั่น และสร้างการรับรู้ถึงผลงานต่างๆ ที่ทํามาตลอดสมัยของการเป็นรัฐบาลได้หรือไม่การอภิปรายตามมาตรา 152 คืออะไร การอภิปรายตามมาตรา 152 เป็นการอภิปรายแบบไม่มีการลงคะแนนเสียง เพื่อให้ฝ่ายค้านได้ซักถามข้อเท็จจริง และเสนอแนะเกี่ยวกับการทํางานของรัฐบาล โดยใช้จํานวน ส.ส. 1 ใน 10 ของสภาฯเข้าชื่อร่วมกันเพื่อเสนอญัตติอภิปรายได้ ซึ่งแตกต่างจากการอภิปรายไม่ไว้วางใจ (ตามมาตรา 151) และจะมีการลงคะแนนไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีที่ถูกอภิปรายไม่ให้ดํารงตําแหน่งต่อไป ซึ่งในสมัยของรัฐบาลที่ผ่านมาพบว่าเปิดศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจ (ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 151) ไปแล้ว 4 ครั้ง และการอภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติ (ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 152) อีก 3 ครั้ง #สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
16/2/2023
ภาคเหนือ
แพร่
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดแพร่
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230216143532840
null
การจัดเก็บค่าธรรมเนียมเหยียบแผ่นดินของนักท่องเที่ยวต่างชาติ เพื่อนำมาใช้จ่ายในการบริหารพัฒนาการท่องเที่ยว รวมถึงการจัดประกันภัยให้ในระหว่างที่ท่องเที่ยวอยู่ในประเทศไทย
สํานักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดแพร่รายงานว่า ทางคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบร่างประกาศคณะกรรมการนโยบายการท่องเที่ยวแห่งชาติ เรื่อง การจัดเก็บค่าธรรมเนียมการท่องเที่ยวภายในประเทศของนักท่องเที่ยวต่างชาติ โดยกําหนดเกณฑ์ วิธีการ เงื่อนไขในการจัดเก็บค่าธรรมเนียม ดังนี้ นักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางผ่านช่องทางอากาศ อยู่ที่ 300 บาท/คน/ครั้ง, นักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางผ่านช่องทางบกและน้ํา อยู่ที่ 150 บาท/คน/ครั้ง, ยกเว้นการจัดเก็บค่าธรรมเนียม ได้แก่ ผู้ถือหนังสือเดินทางเพื่อการทูต กงสุล หนังสือเดินทางราชการ ผู้ที่ได้รับอนุญาตให้ประกอบอาชีพในประเทศไทย ผู้ที่โดยสารผ่าน (transit passenger) และทารก เด็กอายุไม่เกิน 2 ปี หรือบุคคลอื่นตามที่คณะกรรมการกําหนดการเก็บค่าธรรมเนียมดังกล่าว เพื่อนํามาใช้จ่ายในการบริหารพัฒนาการท่องเที่ยว รวมทั้งใช้ในการจัดประกันภัยแก่นักท่องเที่ยวต่างชาติในระหว่างที่เดินทางท่องเที่ยวอยู่ในประเทศไทย ซึ่งไทยเป็นประเทศแรกของโลกที่มีการเก็บค่าธรรมเนียมแล้วมีสวัสดิการคืนให้แก่นักท่องเที่ยว ผ่านการประกันอุบัติเหตุ การเสียชีวิต และการส่งศพกลับประเทศ การดําเนินการดังกล่าวจะลดภาระงบประมาณในการดูแลเยียวยานักท่องเที่ยวต่างชาติ ในเรื่องสาธารณสุข จากการเก็บค่ารักษาพยาบาลไม่เต็มจํานวน ซึ่งเดิมใช้งบประมาณในการดูแลนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้ประมาณ 300-400 ล้านบาท/ปี โดยได้กําหนดกรอบเวลาของการบังคับใช้ ซึ่งจะมีผลบังคับเมื่อพ้น 90 วัน นับแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษา#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
16/2/2023
ภาคเหนือ
แพร่
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดแพร่
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230216143732843
null
กรมทางหลวง ชี้แจงหลังถูกอภิปรายพาดพิงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางถนน ยืนยันดำเนินการอย่างถูกต้องตามหลักวิศวกรรม ประชาชนได้รับประโยชน์สูงสุดและเป็นไปตามระเบียบกฎหมาย
นายสราวุธ ทรงศรีวิไล อธิบดีกรมทางหลวง ชี้แจงข้อเท็จจริงในประเด็นที่เกี่ยวข้อง หลังถูกฝ่ายค้านอภิปรายพาดพิงวานนี้ โดยกรณีการทําผิวทางลาดยางแบบพาราแอสฟัลต์ นํายางพาราผสมกับยางมะตอยที่โรงงานผลิต แต่ราคาสูงกว่าผิวทางลาดยาวที่ใช้อยู่ ย้ําว่า ปัจจุบันกรมทางหลวงไม่มีการก่อสร้างผิวทางลาดยางแบบพาราแอสฟัลต์แล้ว ในปี 2563 รัฐบาลมีนโยบายให้หน่วยงานต่างๆ ช่วยเหลือเกษตรกรชาวสวนยาง นํางานวิจัยในการทํายางพารามาทําหลักนําทางยางพารา และแผ่นยาวครอบแท่งแบริเออร์ เพื่อเพิ่มความปลอดภัย โดยการตั้งงบประมาณคํานึงถึงความคุ้มค่า ความพร้อมในการก่อสร้าง ความสําคัญของโครงข่าย ส่วนกรณีกล่าวหามีการลักลอบขุดดินจากที่ สปก . มาก่อสร้างถนนสายท่าดอกแก้ว -ศรีสงคราม จังหวัดนครพนม เรื่องนี้ บ่อดินที่ใช้มีเอกสารสิทธิ์เป็นโฉนดที่ดิน และผ่านการตรวจสอบคุณภาพตามข้อกําหนดมาตรฐาน และการขุดดินจากที่ สปก.ดังกล่าว ไม่เกี่ยวข้องกับโครงการก่อสร้างนี้ กรมทางหลวง ยืนยันว่า การดําเนินการในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางถนน ดําเนินการอย่างถูกต้องตามหลักวิศวกรรม มีความคุ้มค่ากับการใช้เงินงบประมาณ ประชาชนได้รับประโยชน์สูงสุด และเป็นไปตามระเบียบกฎหมายสําหรับประเด็นตั้งข้อสังเกตถึงโครงการก่อสร้างทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองสายบางปะอิน นครราชสีมา จะก่อสร้างเสร็จเมื่อใด อธิบดีกรมทางหลวง กล่าวว่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม สั่งการให้กรมทางหลวงเร่งรัดเดินหน้าก่อสร้างอย่างเต็มที่ เน้นย้ําถึงคุณภาพให้เป็นไปตามมาตรฐาน คาดว่าปลายปี 2566 จะสามารถเปิดทดลองวิ่งช่วงปากช่องถึงปลายทางที่ทางเลี่ยงเมืองนครราชสีมารวมถึงการส่งมอบพื้นที่ก่อสร้างให้เอกชนสัญญาร่วมทุน การดําเนินงานและบํารุงรักษา เพื่อเร่งรัดงานติดตั้งระบบต่างๆ จะเริ่มทดสอบระบบ และทยอยเปิดทดลองให้บริการได้ในปี 2567 และเปิดใช้งานมอเตอร์เวย์บางปะอิน-สระบุรี -นครราชสีมาอย่างเต็มรูปในปี 2568 ต่อไป
16/2/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230216151000855
null
ลอบวางเพลิงเผารถเกรด- รถทำถนนหลายคัน ที่ บันนังสตา- ธารโต ผู้การฯ ยะลา สั่ง ยกระดับ เพิ่มความเข้มงวด
เกิดเหตุลอบวางเพลิงเผารถเกรด- รถทําถนนหลายคัน ในพื้นที่ บันนังสตา - ธารโต ผู้การฯ ยะลา สั่ง ทุก ชป.ยกระดับ เพิ่มความเข้มความระมัดระวังทุกภารกิจ ช่วงค่ําวันนี้ (16 ก.พ 66) เวลาประมาณ 21.00 น. มีรายงานว่า พื้นที่ อ.บันนังสตา จ.ยะลา ได้เกิดเหตุรถทําถนน ถูกลอบวางเพลิงได้รับความเสียหาย จํานวน 6 คัน โดยจุดที่แรกที่บ้านสนามบิน หมู่ 1 ต.เขื่อนบางลาง พบรถบดถนน ถูกวางเพลิงเผาเสียหาย 2 คัน และที่บ้านบือซู หมู่ 6 ต.บันนังสตา จ.ยะลา พบรถตักดิน และรถทําถนนถูกวางเพลิงเสียหายรวม 4 คัน เบื้องต้น เจ้าหน้าที่กําลังเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุโดยก่อนหน้านี้ เมื่อช่วงเช้าวันนี้ (16 ก.พ.66) ในพื้นที่ อ.ธารโต หมู่ที่ 9 ต.บ้านแหร อ.ธารโต จ.ยะลา พบรถเกรดถนน ถูกคนร้ายไม่ทราบจํานวน วางเพลิงจนได้รับความเสียหายขณะที่ ทางด้าน พล.ต.ต.เสกสันต์ ชูรังสฤษฎิ์ ผู้บังคับการตํารวจภูธรจังหวัดยะลา ได้สั่งการให้ทุกชุดปฎิบัติการเพิ่มความเข้มความระมัดระวังทุกภารกิจ หลังมีข่าวแจ้งเตือนฝ่ายตรงข้ามเตรียมก่อเหตุ ร้านค้า ปั้มน้ํามัน สถานที่ราชการ โดยย้ําให้ทุกหน่วยสังเกตกลุ่มบุคคลต้องสงสัยที่เข้ามาในพื้นที่และสิ่งแปลกปลอมต่างๆ พบเห็นแจ้ง 191 หรือ สภ.พื้นที่รับผิดชอบทันที #สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
16/2/2023
ภาคใต้
ยะลา
สทท.ยะลา
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230217012654051
null
ผู้ช่วยเลขานุการด้านการเมือง จากสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ เยือนชายแดนใต้ เพื่อรับทราบสถานการณ์และแนวทางการพัฒนาด้านการเมือง ในพื้นที่ จชต.
พลตรี เฉลิมพงศ์ คงบัว เลขาธิการ กองอํานวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า พร้อมคณะ ให้การต้อนรับ (Erin Mahrer, Political Attache) นางสาวเอริน มาเรอร์ ผู้ช่วยเลขานุการด้านการเมือง จากสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกา ประจําประเทศไทย ซึ่งรับผิดชอบและติดตามสถานการณ์ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้โดยเฉพาะ พร้อมด้วย นางสาวจันทร์เจ้า จันทร์ศิริ เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นประจําสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ในโอกาสเข้าพบเพื่อมารับทราบข้อมูลเกี่ยวกับสถานการณ์ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ รวมถึงแนวทางการพัฒนาด้านการเมืองในพื้นที่และความสัมพันธ์ระหว่างชุมชนชาวไทยพุทธกับชาวไทยมุสลิม และการเตรียมการเลือกตั้งในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ และมารับฟังสอบถามถึงนโยบายแนวทางในการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ของรัฐบาลไทย และการทํางานของกองอํานวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ในการแก้ไขปัญหาพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ณ ห้องรับรองรวงผึ้ง กองอํานวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ตําบลเขาตูม อําเภอยะรัง จังหวัดปัตตานีนางสาวเอริน มาเรอร์ ผู้ช่วยเลขานุการด้านการเมือง จากสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ กล่าวว่า ขอบคุณคณะ ของกองอํานวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ที่ให้โอกาสเข้าพบ และให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ ทําให้รู้จักพื้นที่จังหวัดชายภาคใต้มากยิ่งขึ้น รวมถึงยังได้รับทราบถึงแนวทางการทํางานเพื่อแก้ไขปัญหาในพื้นที่ จากการได้พบปะพูดคุยและข้อมูลที่ได้รับจะนําไปบอกกล่าวต่อยังท่านเอกอัครราชฑูตสหรัฐฯ เพราะท่านให้ความสนใจตามข่าวสถานการณ์ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้เสมอ นับเป็นประสบการณ์ใหม่ที่มาเยือนจังหวัดชายแดนภาคใต้ เพราะพึ่งจะได้ตําแหน่งเข้ามารับผิดชอบ ติดตามสถานการณ์ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ขอบคุณที่ให้ข้อมูลเป็นประโยชน์เนื่องจากเป็นเรื่องใหม่สําหรับบทบาทนี้ และมองว่าสิ่งที่รัฐบาลไทยดําเนินการอยู่เป็นสิ่งที่ดี และเชื่อว่าสันติสุขจะเกิดขึ้น หากรัฐบาลไทยดําเนินการตามแผนงานนโยบายที่วางไว้ เพราะเรื่องของความรุนแรงไม่มีประเทศที่ใดบนโลกนี้เห็นด้วยกับความรุนแรงทุกรูปแบบที่เกิดขึ้น เช่นเดียวกับความรุนแรงที่เกิดขึ้นจากน้ํามือของผู้ก่อเหตุรุนแรงในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพราะประชาชนคือเหยื่อของความรุนแรง และได้รับความเดือดร้อนจากเรื่องดังกล่าวโดย พลตรี เฉลิมพงศ์ คงบัว เลขาธิการ กองอํานวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า กล่าวว่า ขอบคุณที่มาเยี่ยมพบปะ และขอบคุณที่มารับฟังเรื่องราวข้อเท็จจริงของสถานการณ์ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่ผู้คนภายนอกยังคงเกิดความเข้าใจผิดต่อเหตุการณ์ความรุนแรงในพื้นที่ ซึ่งปัจจุบันเหตุการณ์ดีขึ้นตามลําดับ สถิติของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นน้อยลง สืบเนื่องด้วยส่วนหนึ่งเกิดจากมีความร่วมมือจากประชาชน ที่ให้ความร่วมมือช่วยกันกับหน่วยงานรัฐ เพราะประชาชนส่วนใหญ่ในพื้นที่ ต้องการความสงบสุข มีคุณภาพชีวิตที่ดี และไม่มีใครเห็นด้วยกับความรุนแรงในทุกรูปแบบ ด้านการดูแลประชาชนรัฐบาลไทยให้ความสําคัญและให้สิทธิเสรีภาพเท่าเทียมกันไม่มีการเลือกปฏิบัติแต่อย่างใด หวังเป็นอย่างยิ่งว่าการมาเยือนของคณะทูตฯ ในครั้งนี้ จะส่งผลให้ผู้คนทั้งในและนอกพื้นที่รวมไปถึงต่างชาติจะเข้าใจและรับรู้ถึงข้อเท็จจริงของสถานการณ์ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้มากยิ่งขึ้น#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
17/2/2023
ภาคใต้
ยะลา
สทท.ยะลา
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230217100844080
null
ที่ประชุมร่วมกันของรัฐสภา เตรียมพิจารณาร่างพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. ....
การประชุมร่วมกันของรัฐสภา ในเวลา 10.00 น. วันนี้ (17 ก.พ.66) มีวาระพิจารณาร่างพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. .... ซึ่งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาเสร็จแล้ว โดยเป็นการพิจารณาต่อจากการประชุมร่วมกันของรัฐสภา เป็นพิเศษ วันอังคารที่ 24 มกราคมที่ผ่านมา นอกจากนี้ ยังมีวาระพิจารณาเรื่องด่วน รวม 5 ฉบับ ได้แก่ ร่างพระราชบัญญัติส่งเสริมจริยธรรมและมาตรฐานวิชาชีพสื่อมวลชน พ.ศ. .... ที่คณะรัฐมนตรีเป็นผู้เสนอ โดยพิจารณาต่อจากการประชุมร่วมกันของรัฐสภา เป็นพิเศษ วันอังคารที่ 7 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เพื่อลงมติวาระที่หนึ่งขั้นรับหลักการ , ร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยแก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ....แก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 159 และยกเลิกมาตรา 272 ที่นายแพทย์ ชลน่าน ศรีแก้ว กับคณะเป็นผู้เสนอ และร่างกฎหมายที่คณะรัฐมนตรีเป็นผู้เสนอ รวม 4 ฉบับ ประกอบด้วย ร่างพระราชบัญญัติการอุดมศึกษา (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ....ร่างพระราชบัญญัติการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ การวิจัยและนวัตกรรม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... , ร่างพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... และร่างพระราชบัญญัติสภานโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ....
17/2/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230217083631054
null
ผอ.รมน.จ.นราธิวาส ประชุมบูรณาการ 3 ฝ่าย เน้นย้ำการขับเคลื่อนงานตามนโยบายสำคัญ 5 ด้าน โดยเฉพาะการสร้างความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินให้กับประชาชน
นายสนั่น พงษ์อักษร ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส/ผู้อํานวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดนราธิวาส เป็นประธานการประชุมบูรณาการ 3 ฝ่าย ประจําไตรมาสที่ 1 ปีงบประมาณ พ.ศ.2566 ที่ห้องประชุม หน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส ค่ายกัลยาณิวัฒนา อําเภอเมืองนราธิวาส ซึ่งมี พลตรี เฉลิมพร ขําเขียว ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจนราธิวาสพันตํารวจเอก ปัตตะ มะดาวา รองผู้บังคับการตํารวจภูธรจังหวัดนราธิวาส และผู้เกี่ยวข้องเข้าร่วมการประชุมผู้อํานวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดนราธิวาส ได้มอบรางวัลให้กับหน่วยที่มีผลการปฏิบัติงานดีเด่น ประกอบด้วย กองบังคับการควบคุมสุริโยทัย หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 45 หน่วยเฉพาะกิจตํารวจนราธิวาส 93 หน่วยปฏิบัติการพิเศษร่วมประจําจังหวัดนราธิวาส พร้อมกล่าวว่า ขอแสดงความยินดีซึ่งถือเป็นเกียรติยศ ความมุ่งมั่นทุ่มเทในการปฏิบัติหน้าที่อย่างดีเยี่ยม ในนามของชาวจังหวัดนราธิวาส ขอขอบคุณและชื่นชมในความตั้งใจในการทํางานที่ผ่านมาของทุกหน่วย รวมถึงกําลังพลทุกนายที่มีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนการป้องกันและแก้ไขปัญหาให้กับประเทศชาติ โดยเฉพาะการสร้างความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินให้กับประชาชนทางพลโท ศานติ สกุนตนาค แม่ทัพภาคที่ 4/ผู้อํานวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ได้มีนโยบายสําคัญใน 5 ด้าน ได้แก่ งานควบคุมพื้นที่ให้มีความปลอดภัย งานป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด งานส่งเสริมการอยู่ร่วมกันภายใต้สังคมพหุวัฒนธรรมที่เข้มแข็ง งานบูรณาการด้านความมั่นคง และด้านการพัฒนา และงานการเสริมสร้างความเข้าใจ ทั้งนี้ ที่ผ่านมาทุกคนได้ร่วมกันทํางานตามนโยบายเป็นอย่างดี และในการประชุมครั้งนี้ถือเป็นโอกาสในการทบทวนผลการปฏิบัติงาน เพื่อนํามาปรับปรุงการปฏิบัติในห้วงต่อไป#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
17/2/2023
ภาคใต้
นราธิวาส
สวท.นราธิวาส
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230217094233072
null
ปชส.สุราษฎร์ธานี การอภิปรายรัฐบาลตามมาตรา 152 เป็นการอภิปรายแบบไม่มีการลงคะแนนเสียง เพื่อให้ฝ่ายค้านได้ซักถามข้อเท็จจริงและเสนอแนะเกี่ยวกับการทำงานของรัฐบาล
นายณรงค์ หลักกําจร ประชาสัมพันธ์จังหวัดสุราษฎร์ธานี กล่าวถึงการประชุมสภาเพื่อเปิดอภิปรายรัฐบาลทั่วไปแบบไม่ลงมติตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 152 ว่า การอภิปรายครั้งนี้นับเป็นช่วงโค้งสุดท้ายของรัฐบาลและของสภาผู้แทนราษฎรชุดนี้ ดังนั้นจึงถูกจับตาจากทุกฝ่ายว่า ฝ่ายค้านจะมีการเปิดประเด็นอะไรที่จะส่งแรงกระเพื่อมถึงการเลือกตั้งครั้งหน้าได้หรือไม่ หรือฝ่ายรัฐบาลจะสามารถชี้แจงข้อสงสัยต่างๆ จนนําไปสู่การสร้างความเชื่อมั่น และสร้างการรับรู้ถึงผลงานต่างๆ ที่ทํามาตลอดสมัยของการเป็นรัฐบาลได้หรือไม่ ทั้งนี้ การอภิปรายตามมาตรา 152 เป็นการอภิปรายแบบไม่มีการลงคะแนนเสียง เพื่อให้ฝ่ายค้านได้ซักถามข้อเท็จจริง และเสนอแนะเกี่ยวกับการทํางานของรัฐบาล โดยใช้ จํานวน ส.ส. 1 ใน 10 ของสภาฯ เข้าชื่อร่วมกันเพื่อเสนอญัตติอภิปรายได้ ซึ่งแตกต่างจากการอภิปรายไม่ไว้วางใจ (ตามมาตรา 151) และจะมีการลงคะแนนไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีที่ถูกอภิปรายไม่ให้ดํารงตําแหน่งต่อไป ซึ่งในสมัยของรัฐบาลที่ผ่านมาพบว่าเปิดศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจ (ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 151) ไปแล้ว 4 ครั้ง และการอภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติ (ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 152) อีก 3 ครั้ง โดยในการอภิปรายก่อนหน้านี้ เป็นการอภิปรายไม่ไว้วางใจ (ตามมาตรา 151) เมื่อเดือนกรกฎาคม 2565 ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ ได้รับคะแนนไว้วางใจ 256 ต่อไม่ไว้วางใจ 206 คะแนนในการอภิปรายครั้งนั้น#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
17/2/2023
ภาคใต้
สุราษฎร์ธานี
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสุราษฎร์ธานี
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230217093339067
null
นายกรัฐมนตรี เตรียมลงพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราช 20 กุมภาพันธ์นี้ ตรวจติดตามแนวทางการพัฒนาอำเภอจุฬาภรณ์
นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจําสํานักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เตรียมลงพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราช ในวันจันทร์ที่ 20 กุมภาพันธ์ 2566 เพื่อตรวจติดตามผลการดําเนินงานตามนโยบายของรัฐบาลและข้อสั่งการนายกรัฐมนตรี ประเด็นการแก้ไขปัญหาพื้นที่ประสบอุทกภัยซ้ําซากและการบริหารจัดการในน้ําในพื้นที่ โดยกําหนดการช่วงเช้า เวลาประมาณ 07.30 น. นายกรัฐมนตรีพร้อมคณะ เดินทางออกจากท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 (บน.6) ไปยังท่าอากาศยานนครศรีธรรมราช ตําบลปากพูน จังหวัดนครศรีธรรมราช จากนั้น เดินทางโดยเฮลิคอปเตอร์ ไปยังอําเภอจุฬาภรณ์ จังหวัดนครศรีธรรมราช เพื่อตรวจติดตามแนวทางการพัฒนา อําเภอจุฬาภรณ์ และพบปะประชาชนในพื้นที่อําเภอจุฬาภรณ์และพื้นที่ใกล้เคียง ณ หอประชุมที่ว่าการอําเภอจุฬาภรณ์ ศูนย์ราชการอําเภอจุฬาภรณ์ เสร็จแล้ว นายกรัฐมนตรี เดินทางไปตรวจติดตามการพัฒนาความมั่นคงด้านการพัฒนาคุณภาพชีวิต ณ โรงพยาบาลมหาราชนครศรีธรรมราช อําเภอเมือง นครศรีธรรมราช ซึ่งได้รับงบประมาณในการดําเนินโครงการเพิ่มศักยภาพการบริหารทางการแพทย์สู่ความเป็นเลิศในภาคใต้ตอนบน มีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มศักยภาพในการดูแลสุขภาพของประชาชนอย่างครบวงจรช่วงบ่าย นายกรัฐมนตรี สักการะหลวงพ่อวัดยางใหญ่ และนมัสการพระครูวินัยธร ณัฏฐาสันต์ สิทธิญาโณ เจ้าอาวาสวัดยางใหญ่ ณ วิหารหลวงพ่อวัดยางใหญ่ อําเภอท่าศาลา และไหว้บูชาตาพรานบุญ ณ วิหารปฐมบรมครูตาพรานบุญ จากนั้น นายกรัฐมนตรีเดินทางไปวัดเจดีย์ อําเภอสิชล กราบสักการะพระประธาน และนมัสการพระครูพุทธเจติยาภิมณฑ์ เจ้าอาวาสวัดเจดีย์ รวมทั้งไหว้บูชาตาไข่ เพื่อความเป็นสิริมงคล จากนั้น นายกรัฐมนตรีตรวจติดตาม “วาระเมืองสิชลยุติภัยพิบัติซ้ําซาก เพิ่มพูนศักยภาพการจัดการน้ํา” และทักทายประชาชน ณ วัดเจดีย์ต่อจากนั้น นายกรัฐมนตรี เดินทางไปพื้นที่คลองเปลี่ยน ตรวจติดตามการแก้ไขปัญหาพื้นที่ประสบอุทกภัยซ้ําซากบริเวณคลองเปลี่ยนพื้นที่รอยต่อ ตําบลเปลี่ยน และ ตําบลเทพราช อําเภอสิชล โดยอําเภอสิชลและพื้นที่ใกล้เคียงเป็นพื้นที่ที่มีปัญหาในด้านการบริหารจัดการน้ํา ในฤดูฝนและฤดูน้ําหลาก มักเกิดภาวะน้ําท่วมขังและอุทกภัยซ้ําซาก ส่งผลให้เกิดความเสียหายต่อทรัพย์สินประชาชนเป็นวงกว้าง รวมทั้งพบปัญหาการขาดแคลนน้ําเพื่อการอุปโภคบริโภคและเพื่อการเกษตรในช่วงฤดูแล้ง มีแนวโน้มรุนแรงยิ่งขึ้นจากการบุกรุกทําลายพื้นที่ป่าต้นน้ํา การใช้ประโยชน์จากที่ดินที่ไม่เหมาะสม ส่งผลให้เกิดวามเสื่อมโทรมของระบบนิเวศ จึงมีความจําเป็นต้องกําหนดแนวทางในการลดความรุนแรงและบรรเทาปัญหาที่เกิดขึ้น ทั้งการแก้ไขปัญหาพื้นที่น้ําท่วมซ้ําซาก การลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน การสนับสนุนด้านงบประมาณ พร้อมความต้องการขอรับความช่วยเหลือในด้านต่างๆ ทั้งในระยะสั้น และระยะยาว โดยในเบื้องต้นองค์การบริหารส่วนตําบลเปลี่ยน อําเภอสิชล ได้เสนอโครงการก่อสร้างทางน้ําล้นสายเขาทราย-อ่าววาโย หมู่ที่ 7 ตําบลเปลี่ยน เพื่อแก้ไขปัญหาพื้นที่อุทกภัยซ้ําซาก โดยได้เสนอผ่านกรมทรัพยากรน้ํา จังหวัดนครศรีธรรมราชและองค์การบริหารส่วนจังหวัดทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีและคณะ จะเดินทางกลับถึงท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 (บน.6) ดอนเมือง ในเวลาประมาณ 18.15 น.
17/2/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
Radio-สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230217095902077
null
การอภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติ ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 152 ผ่านพ้นไปด้วยดี รัฐบาลขอบคุณทุกฝ่ายที่ร่วมรับฟังการชี้แจง เชื่อประชาชนเห็นถึงความมุ่งมั่นของนายกรัฐมนตรี ในการเดินหน้าปฏิรูปประเท
นางสาวทิพานัน ศิริชนะ รองโฆษกประจําสํานักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขอขอบคุณประชาชนที่ร่วมฟังการอภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติ ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 152 ตลอด 2 วันที่ผ่านมา ซึ่ง พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อมด้วยคณะรัฐมนตรี สามารถชี้แจงในประเด็นที่ฝ่ายค้านอาจมีความเข้าใจคลาดเคลื่อนจากความเป็นจริงได้อย่างครบถ้วนและชัดเจน ที่สําคัญคือ ท่าทีนายกรัฐมนตรีที่ยืนยันชัดเจนในการทําหน้าที่ ไม่เอื้อประโยชน์ให้กับผู้ใดและพร้อมลงโทษผู้กระทําผิดตามกฎหมาย เพราะทุกคนอยู่ภายใต้กฎหมายเดียวกัน หากมีการกระทําความผิดไม่มีการละเว้น ซึ่งตรงนี้เชื่อว่าประชาชนที่ติดตามการอภิปรายจะเห็นถึงสปิริตของผู้นําและความสุจริตใจในการบริหารประเทศอย่างแน่นอนทั้งนี้รัฐบาลยังเดินหน้าปฏิรูปประเทศด้านต่างๆ โดยได้ผลักดันกฎหมายที่สร้างความเป็นธรรมให้กับสังคม 5 ฉบับ ประกอบด้วย พระราชบัญญัติมาตรการป้องกันการกระทําความผิดซ้ําในความผิดเกี่ยวกับเพศหรือที่ใช้ความรุนแรง พ.ศ. 2565 ,พระราชบัญญัติกําหนดระยะเวลาดําเนินงานในกระบวนการยุติธรรม พ.ศ. 2565 ซึ่งจะทําให้ประชาชนได้รับความยุติธรรมโดยไม่ล่าช้า ,พระราชบัญญัติว่าด้วยการปรับเป็นพินัย พ.ศ. 2565 กําหนดให้ผู้ที่ผ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามกฎหมายที่ไม่ใช่ความผิดร้ายแรง ชําระค่าปรับตามที่กําหนด โดยไม่เป็นโทษอาญา ไม่มีการจําคุกหรือกักขังแทนค่าปรับ ไม่มีการลงบันทึกประวัติอาชญากรรม ,พระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทําให้บุคคลสูญหาย พ.ศ. 2565 แก้ปัญการกระทําทรมาน และการกระทําให้บุคคลสูญหาย ขจัดปัญหาการละเมิดสิทธิมนุษยชน และพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ฉบับที่ 6) พ.ศ. 2565 เพื่ออุดช่องโหว่ของกฎหมาย ที่ไม่มีบทบัญญัติคุ้มครองผู้เสียหายในความผิดมูลฐานจะเห็นได้ว่า พลเ้อก ประยุทธ์ มีผลงานในการปฏิรูปประเทศอย่างเป็นรูปธรรม ควบคู่ไปกับการขับเคลื่อนพัฒนาทางด้านเศรษฐกิจ ตามนโยบาย Thailand 4.0 เพื่อให้ประเทศเจริญก้าวหน้า
17/2/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
Radio-สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230217100047078
null