NewsTitle
stringlengths 11
31.5k
⌀ | Detail
stringlengths 9
78.4k
⌀ | NewsDate
stringlengths 3
5.77k
⌀ | Region
stringclasses 48
values | Province
stringclasses 99
values | Department
stringclasses 211
values | Link_News
stringlengths 3
903
⌀ | v
stringclasses 812
values |
---|---|---|---|---|---|---|---|
คืบหน้า คนร้ายแอบเผา รถทำถนน อบันนังสตา - ธารโต จ.ยะลา จำนวนหลายคัน จนท.เร่งติดตามจับกุม
|
จากเหตุการณ์ ของวันที่ 16 ก.พ.66 ที่ผ่านมา ได้มีคนร้ายไม่ทราบกลุ่มและจํานวนแอบลอบวางเพลิงเครื่องจักรทําถนน จนได้รับความเสียหาย จํานวน 6 คัน โดยจุดแรก เกิดเหตุในพื้นที่ หมู่ที่ 1 บ้านสนามบิน ต.เขื่อนบางลาง พบรถบดถนน ถูกวางเพลิงเผาเสียหาย 2 คัน ต่อมาในพื้นที่ หมู่ที่ 6 บ้านบือซู ต.บันนังสตา อ.บันนังสตา จ.ยะลา พบรถตักดิน ถูกวางเพลิงเสียหาย จํานวน 1 คันขณะที่ในพื้นที่ อ.ธารโต มีรายงานจากผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 9 ต.บ้านแหร อ.ธารโต จ.ยะลา พบรถเกรดถนน ถูกคนร้ายไม่ทราบจํานวน ลอบวางเพลิงจนได้รับความเสียหาย จํานวน 3 คันล่าสุดวันนี้ 17 ก.พ.66 พ.ต.อ.รณน สุระวิทย์ ผกก.สภ.บันนังสตา จ.ยะลา ได้นํากําลัง เจ้าหน้าที่ ชุด เก็บกู้และทําลายวัตถุระเบิด (EOD.) ศรศึก-ศรชัย ภ.จว.ยะลา เจ้าหน้าที่ตํารวจ ทหารพรานที่ 30 และ เจ้าหน้าที่จากศูนย์พิสูจน์หลักฐานที่ 10 ยะลา ลงพื้นที่บริเวณที่เกิดเหตุทั้ง 2 จุด โดยเจ้าหน้าที่ 3 ฝ่าย ที่เข้าไปตรวจสอบที่เกิดเหตุต้องใช้ความระมัดระวัง เป็นกรณีพิเศษ เกรงว่ากลุ่มคนร้ายที่เคลื่อนไหวอยู่ในพื้นที่ ล่อให้เจ้าหน้าที่ที่เข้าปฏิบัติหน้าที่เข้าตรวจสอบแล้วอาจกดระเบิดเพื่อหวังเอาชีวิตได้โดยทางเจ้าหน้าที่พบจุดเกิดเหตุจุดแรก ริมถนนด้านหน้ามัสยิดนูรุลอิสลาม (บ้านคอลอบือซู) บริเวณบ้านสนามบิน หมู่ที่ 1 ต.เขื่อนบางลาง ซึ่งเป็นรถทําถนน ของบริษัทยะลาไฮเวย์ เส้นทางศรีบางลาง ถูกวางเพลิงบริเวณเบาะนั่งคนขับ ได้รับความเสียหายจากเพลิงไหม้ จํานวน 2 คันส่วนจุดที่สอง ริมถนนในพื้นที่ หมู่ที่ 6 บ้านบือชู ต.บันนังสตา เจ้าหน้าที่พบรถตักล้อยาง ถูกไฟไหม้ได้รับความเสียหาย จํานวน 1 คัน สําหรับในพื้นที่ อ.ธารโต จ.ยะลา พ.ต.อ.ธนพล เยาวพักตร์ ผกก.สภ.ธารโต ได้นํากําลังเจ้าหน้าที่ 3 ฝ่าย และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ หมู่ที่ 9 ต.บ้านแหร อ.ธารโต จ.ยะลา เข้าตรวจสอบเหตุลอบวางเพลิงเครื่องจักรทําถนน พบว่าเป็นรถทําถนน ของหน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 42 สํานักงานพัฒนาภาค 4 หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา (นพค.42) พบรถเกรด , รถแบคโฮ , รถบดถนน รวมจํานวน 3 คัน ได้รับความเสียหาย เจ้าหน้าที่จึงได้เก็บชิ้นส่วนต่างๆในแต่ละพื้นที่ เพื่อรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน ในการเร่งหาเครือข่ายของกลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุเพื่อดําเนินคดีตามกฎหมายต่อไปส่วนสาเหตุเบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตํารวจคาดว่าเป็นการก่อเหตุของกลุ่มแนวร่วมในพื้นที่ อย่างไรก็ตาม มีความเป็นไปได้ว่ากลุ่มที่ก่อเหตุครั้งนี้อาจจะสร้างสถานการณ์เพื่อเรียกเก็บค่าคุ้มครองในการดําเนินงานก็เป็นได้#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
|
17/2/2023
|
ภาคใต้
|
ยะลา
|
สทท.ยะลา
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230217111852102
| null |
เจ้าหน้าที่ตรวจสอบ คนร้ายลอบวางเพลิงรถเกรด-รถทำถนนในพื้นที่บันนังสตา เสียหาย 6 คัน
|
จากเหตุการณ์คนร้ายก่อเหตุเผารถเกรด รถทําถนน จํานวน 2 จุด ได้รับความเสียหาย 6 คัน ในพื้นที่อําเภอบันนังสตา จ.ยะลา เมื่อช่วงค่ําเวลา 21.00 น. ของวันที่ 16 กพ.66 ที่ผ่านมาวันนี้ (17 ก.พ.66) นายมนตรี เสฏฐปัญโญ นายอําเภอบันนังสตา/ผู้อํานวยการศูนย์ปฏิบัติการอําเภอบันนังสตา พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตํารวจ สภ.บันนังสตา เจ้าหน้าที่ทหารพราน หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 30 เจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้และทําลายวัตถุระเบิด ศรศึก-ศรชัย ตํารวจภูธรจังหวัดยะลา และเจ้าหน้าที่ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 10 ได้เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ ทั้ง 2 จุด จุดแรก ที่บริเวณบ้านบือซู ม.6 ต.บันนังสตา เป็นแคมป์ทํางานของ หจก.ยะลาไฮเวย์ พบรถแบคโฮ ตักดิน ถูกเพลิงไหม้ได้รับความเสียหายจากเพลิงไหม้บริเวณเบาะนั่งคนขับ และห้องเครื่อง 1 คัน รถสิบล้อบรรทุกดิน ถูกเพลิงไหม้ที่บริเวณล้อด้านซ้ายหน้า 1 คัน และรถบดดินเสียหายบริเวณเบาะคนขับ จํานวน 2 คัน จุดที่สอง บริเวณหมู่ที่ 1 บ้านกําปงบารูต ต.เขื่อนบางลาง อ.บันนังสตา จ.ยะลา รถบดถนนจํานวน 2 คัน ได้รับความเสียหายเล็กน้อยที่เบาะคนขับ โดยทางเจ้าหน้าที่ได้ทําการตรวจสอบพื้นที่ และเก็บรวบรวมพยานหลักฐาน พยานแวดล้อมในที่เกิดเหตุโดยละเอียด เพื่อตรวจสอบหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ เร่งหาสาเหตุของการก่อเหตุในครั้งนี้ เบื้องต้นอยู่ระหว่างการสอบสวนของทางเจ้าหน้าที่ ว่าเป็นเรื่องการขัดผลประโยชน์ในการดําเนินการก่อสร้างถนนในพื้นที่ หรือไม่ ทั้งนีี้ ยังไม่ตัดทิ้งประเด็นการก่อเหตุสร้างสถานการณ์#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
|
17/2/2023
|
ภาคใต้
|
ยะลา
|
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดยะลา
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230217112234103
| null |
สำนักงานบังคับคดีจังหวัดสงขลา sandbox 9 จัดโครงการมหกรรมไกล่เกลี่ยข้อพิพาทชั้นบังคับคดี ประจำปีงบประมาณ 2566 เพื่อช่วยเหลือลูกหนี้ในพื้นที่จังหวัดสงขลา และอำนวยความยุติธรรมให้กับประชาชน
|
วันนี้ (17 ก.พ.66) ที่โรงแรม บีพี สมิหลา บีช สงขลา อําเภอเมือง จังหวัดสงขลา นายเสกสรร สุขแสง รองอธิบดีกรมบังคับคดี เป็นประธานเปิดโครงการมหกรรมไกลเกลี่ยข้อพิพาทชั้นบังคับคดี ประจําปีงบประมาณ 2566 ซึ่งจัดโดยสํานักงานบังคับคดีจังหวัดสงขลา Sandbox 9 เพื่อช่วยเหลือลูกหนี้ในพื้นที่จังหวัดสงขลา โดยมี นายประพันธ์ เอี่ยมปลัด ยุติธรรมจังหวัดสงขลา นางดวงจันทร์ สุขแสง ผู้อํานวยการสํานักงานบังคับคดีจังหวัดสงขลา ส่วนราชการและเจ้าหน้าที่สังกัดกรมบังคับคดี สถาบันเจ้าหนี้ และประชาชนเข้าร่วมโครงการนางดวงจันทร์ สุขแสง ผู้อํานวยการสํานักงานบังคับคดีจังหวัดสงขลา กล่าวรายงานว่า โครงการมหกรรมไกลเกลี่ยข้อพิพาทชั้นบังคับคดี มีวัตถุประสงค์เพื่อเปิดโอกาสให้ลูกหนี้หลังคําพิพากษาได้เจรจาหรือผ่อนชําระหนี้กับเจ้าหนี้ด้วยความสมานฉันท์ เพื่อให้ลูกหนี้ไม่ถูกบังคับคดี อายัดสิทธิ เรียกร้อง ยึดทรัพย์สิน และขายทอดตลาดทรัพย์ ลูกหนี้และเจ้าหนี้สามารถเจรจาไกล่เกลี่ยข้อพิพาท หรือผ่อนผันการชําระหนี้ ด้วยความพึงพอใจร่วมกันทั้งสองฝ่าย ช่วยลดปริมาณคดีที่เข้าสู่กระบวนการบังคับคดี และยังเป็นการเปิดโอกาสให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการยุติการบังคับคดีด้วยตนเองโดยมี ผู้ไกล่เกลี่ยข้อพิพาทของกรมบังคดี ทําหน้าที่เป็นคนกลางในการเจรจาไกล่เกลี่ยและอํานวยความยุติธรรมให้กับประชาชนสําหรับการไกล่เกลี่ยในวันนี้ได้รับความร่วมมือจากสถาบันเจ้าหนี้ รวม 14 สถาบันออกหมายแจ้ง ได้แก่ 1.ธนาคารออมสิน 2.ธนาคารอาคารสงเคราะห์ 3.ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย 4.ธนาคารกรุงไทย จํากัด (มหาชน) 5.ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร 6 .ธนาคารกรุงเทพจํากัด (มหาชน) 7.บริษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อมฯ (บสย.) 8.บริษัทโตโยต้าลีสซิ่ง (ประเทศไทย) จํากัด 9.บริษัท ชูเกียรติมอเตอร์ (1996) จํากัด 0.กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา 11. บริษัท เจ เอ็มที เน็ทเวิดร์ค เซอร์วิสเซส จํากัด 12. บริษัทบริหารสินทรัพย์ เจ จํากัด 13.บริษัท บริหารสินทรัพย์ เจ เค จํากัด 14.บริษัท เคบีเจ แคปปิตอล จํากัด โดยมีลูกหนี้ รวม 2,146 ราย ทุนทรัพย์ 911 ล้านบาทณ.กัลย์ ณะช้อย /ข่าววิทยา สันบู /ภาพ สํานักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสงขลา 17 กุมภาพันธ์ 2566#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
|
17/2/2023
|
ภาคใต้
|
สงขลา
|
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสงขลา
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230217113609106
| null |
คนร้ายวางระเบิด – ซุ่มยิง ตำรวจบันนังสตา ขณะเข้าตรวจสอบเหตุเผารถทำถนน
|
จากเหตุการณ์ ของวันที่ 16 ก.พ.66 ที่ผ่านมา ได้มีคนร้ายไม่ทราบกลุ่มและจํานวน ลอบลอบวางเพลิงเครื่องจักรทําถนน (รถตักล้อยาง , รถเกรด , รถบดถนน , รถแบคโฮ) ในพื้นที่ของ อ.บันนังสตา และ อ.ธารโต จ.ยะลา ส่งผลทําให้เครื่องจักรทําถนน ได้รับความเสียหาย จํานวน 6 คันโดยในช่วงเช้านี้ (17 ก.พ. 66) นายมนตรี เสฏฐปัญโญ นายอําเภอบันนังสตา พร้อมด้วย พ.ต.อ.รณน สุระวิทย์ ผกก.สภ.บันนังสตา จ.ยะลา ได้นํากําลัง เจ้าหน้าที่ ชุด เก็บกู้และทําลายวัตถุระเบิด (EOD.) ศรศึก-ศรชัย ภ.จว.ยะลา เจ้าหน้าที่ตํารวจ ทหารพรานที่ 30 และ เจ้าหน้าที่จากศูนย์พิสูจน์หลักฐานที่ 10 ยะลา ลงพื้นที่เกิดเหตุทั้ง 2 จุด อย่างระมัดระวัง เกรงว่ากลุ่มคนร้ายที่เคลื่อนไหวอยู่ในพื้นที่อาจกดระเบิดและซุ่มยิงเพื่อหวังเอาชีวิตล่าสุด วันนี้ 17 ก.พ.66 เวลา 11.30 น. ศูนย์วิทยุ สภ.บันนังสตา จ.ยะลา ได้รับแจ้งว่า ขณะที่เจ้าหน้าที่ตํารวจกําลังเดินทางเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ โดยใช้รถยนต์กระบะ 4 ประตู ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นรีโว่ สีขาว ของทางราชการตํารวจ ระหว่างทางใกล้ถึงจุดเกิดเหตุ ได้เกิดระเบิดขึ้นเสียงดังสนั่นทําให้รถยนต์เสียหลักพลิกคว่ําข้างถนน และคนร้ายยังได้ระดมยิงมาจากข้างทางภายในป่าสวนยางพารา บริเวณ หมู่ที่ 1 บ้านสนามบิน ต.เขื่อนบางลาง อ.บันนังสตา จ.ยะลา ส่งผลให้ ร.ต.อ.ประสาน คงประสิทธิ์ เสียชีวิต ส่วน ส.ต.ท.สุทัศน์ มูลเงิน โดนสะเก็ดระเบิดบริเวณปาก จ.ส.ต.สุวิทย์ ธนะวงค์ ปวดต้นขา ส.ต.ท.ไกรสีห์ โรจโนดม โดนสะเก็ดที่ปาก ส.ต.ต.ภาสกร คําดี โดนสะเก็ดระเบิดตามตัวและถูกแรงกระแทกของระเบิด อาการสาหัส ชุดกู้ชีพ-กู้ภัย ในพื้นที่รีบนําตัวส่งโรงพยาบาลบันนังสตา และแพทย์ - พยาบาล ได้ส่งตัวต่อไปยังโรงพยาบาลศูนย์ยะลา เพื่อช่วยชีวิตเป็นการด่วน ขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ 3 ฝ่าย กําลังเคลียร์พื้นที่และปูพรมค้นหากลุ่มคนร้ายซึ่งทางเจ้าหน้าที่คาดว่ากลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุยังหลบซ่อนตัวในพื้นที่ดังกล่าว#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
|
17/2/2023
|
ภาคใต้
|
ยะลา
|
สทท.ยะลา
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230217150047207
| null |
สำนักงานคุมประพฤติจังหวัดตรัง นำอาสาสมัครคุมประพฤติ เข้าอบรมเกี่ยวกับพระราชบัญญัติมาตรการป้องกันการกระทำความผิดซ้ำในความผิดเกี่ยวกับเพศหรือที่ใช้ความรุนแรง พ.ศ. 2565
|
นายอภัย เอียดบัว ผู้อํานวยการสํานักงานคุมประพฤติและยุติธรรมจังหวัดตรัง มอบหมายให้ นายจารุวัฒน์ นวลนิ่ม พนักงานคุมประพฤติชํานาญการ หัวหน้ากลุ่มคุมประพฤติพื้นที่ 3 พร้อมด้วยอาสาสมัครคุมประพฤติจังหวัดตรัง เข้าอบรมความรู้เกี่ยวกับพระราชบัญญัติมาตรการป้องกันการกระทําความผิดซ้ําในความผิดเกี่ยวกับเพศหรือที่ใช้ความรุนแรง พ.ศ. 2565 ในรูปแบบการประชุมทางไกล ( Online Conference ) ณ ห้องประชุมสายรุ้ง สํานักงานคุมประพฤติจังหวัดตรัง ทั้งนี้ พระราชบัญญัติมาตรการป้องกันการกระทําความผิดซ้ําในความผิดเกี่ยวกับเพศหรือที่ใช้ความรุนแรง พ.ศ. 2565 มีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 23 มกราคม 2566 ที่ผ่านมา นับเป็นภารกิจใหม่ของกรมคุมประพฤติที่จะต้องดําเนินการกับกลุ่มเป้าหมายที่มีพฤติการณ์แห่งคดีที่รุนแรง และมีความเสี่ยงที่จะกระทําผิดซ้ําสูง ซึ่งพนักงานคุมประพฤติมีบทบาทหน้าสําคัญในการติดตามเฝ้าระวังพฤติกรรมผู้พ้นโทษตามคําสั่งของศาล และต้องดําเนินการด้วยความระมัดระวังรอบคอบ เพื่อให้สามารถทําหน้าที่ในการสร้างความปลอดภัยให้กับสังคมได้ตามเจตนารมณ์ของกฎหมาย#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
|
17/2/2023
|
ภาคใต้
|
ตรัง
|
สวท.ตรัง
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230217150207212
| null |
ยะลา คนร้าย ลอบวางระเบิด ขณะ จนท.เข้าตรวจสอบเหตุเผารถ เสียชีวิต 1 สาหัส 4
|
เมื่อเวลา 11.30 น.วันที่ 17 ก.พ. พ.ต.อ.รณน สุระวิทย์ ผกก.สภ.บันนังสตา จ.ยะลา ได้รับแจ้งเหตุคนร้ายลอบวางระเบิดและระดมยิงโจมตีเจ้าหน้าที่ตํารวจชุดสืบ สภ.บันนังสตา เป็นเหตุให้ได้รับบาดเจ็บหลายนาย เหตุเกิดที่บ้านสนามบิน หมู่ 1 ต.เขื่อนบางลาง ต่อมา สนธิกําลัง 3 ฝ่ายรุดไปตรวจสอบ ที่เกิดเหตุอยู่บนถนนศรีบางลาง ทางเข้าเขื่อนบางลาง พบรถกระบะยี่ห้อโตโยต้าสีขาวทะเบียน 7 กอ 4908 กทม. ถูกแรงอัดระเบิดรถหงายท้องอยู่ริมถนน พบหลุมระเบิดลึกกว้างราว 1x1.5เมตร สะเก็ดระเบิด ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ พร้อมกระสุนปืนเอ็ม.16 กระจัดกระจายในบริเวณดังกล่าว ส่วนผู้บาดเจ็บทราบว่า เป็นเจ้าหน้าที่ตํารวจชุดสืบ มีจํานวน 4 นาย มี ร.ต.อ.ประสาน คงประสิทธิ์ รอง สว.สส.ถูกแรงอัดระเบิดอาการสาหัส จ.ส.ต.สุวิทย์ ธนะวงค์ ผบ.หมู่ มีอาการปวดต้นขา ส.ต.ท.ไกรสีห์ โรจโนดม ผบ.หมู่ โดนสะเก็ดระเบิดที่ปาก ส.ต.ท.สุทัศน์ มูลเงิน ผบ.หมู่ โดนสะเก็ดระเบิดบริเวณปาก และ ส.ต.ต.ภาสกร คําดี โดนแรงอัดระเบิดสาหัส ถูกลําเลียงส่ง รพ.บันนังสตา แพทย์ได้เยียวยาอาการเบื้องต้นแล้วรีบส่งต่อไปยัง รพ.ศูนย์ยะลา ทั้ง 5 นาย ปรากฏว่า ร.ต.อ.ประสาน คงประสิทธิ์ เสียชีวิตในเวลาต่อมาจากการสอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ พ.ต.อ.รณน สุระวิทย์ ผกก.สภ.บันนังสตา สั่งการให้ พ.ต.ท.สถาพร เหล่ามูล รอง ผกก.สส.สภ. บันนังสตา เป็นหัวหน้าชุด วางแผนนํากําลังพร้อมชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด ภ.จ.ยะลา ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 10 ยะลา เข้าตรวจสอบเก็บหลักฐานที่เกิดเหตุคนร้ายลอบเผารถบด รถอัดถนนของบริษัทยะลาไฮเวย์ จํากัด สํานักงานตั้งอยู่เลขที่ 2 ถนนประชานุกูล เขตเทศบาลนครยะลา อ.เมืองยะลา เป็นผู้รับเหมาปรับปรุงถนนสายดังกล่าว ที่บ้านบือซู หมู่ 6 ต.บันนังสตา และที่บ้านสนามบิน หมู่ 1 ต.เขื่อนบางลาง ทั้ง 2 จุดห่างกันราว 4 กม.เหตุเกิดหัวค่ําวันที่ 16 ก.พ.ที่ผ่านมา โดยให้ ร.ต.อ.ประสาน คงประสิทธิ์ รอง สว.สส.จัดกําลัง จํานวน 4 นาย แบ่งเป็นชุดย่อยนําชุดเก็บกู้วัตถุระเบิดและศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 10 ยะลา ชุดสํารอง ไปตรวจสอบพื้นที่เกิดเหตุอีกจุดที่บ้านสนามบิน โดยชุดของ ร.ต.อ.ประสาน ใช้รถกระบะโตโยต้าสีขาว ทะเบียน 7 กอ 4908 กทม.เมื่อเจ้าหน้าที่ตํารวจชุดดังกล่าวขับรถไปก่อนถึงจุดเกิดเหตุเผารถ พวกคนร้ายซึ่งคาดว่าได้วางแผนนําระเบิดแสวงเครื่องอัดถังแก๊สปิกนิกน้ําหนักว่า 10 กก.ไปฝังใต้พื้นถนน จุดชนวนให้ระเบิดทํางานเสียงระเบิดดังไปถึงตลาดบันนังสตา เป็นเหตุให้รถกระบะพลิกคว่ําหงายท้อง เจ้าหน้าที่ตํารวจทั้ง 5 นายบาดเจ็บสาหัส หลังจากนั้น พวกคนร้ายได้ใช้อาวุธปืนสงครามระดมยิงถล่ม เจ้าหน้าที่ตํารวจที่บาดเจ็บแต่ยังแข็งใจยังสามารถใช้อาวุธปืนยิงตอบโต้พวกคนร้ายจนต้องหลบหนีไป จากเหตุดังกล่าวทําให้ ร.ต.อ.ประสาน เสียชีวิตในเวลาต่อมา เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นการวางแผนสร้างสถานการณ์ของกลุ่มก่อความไม่สงบในพื้นที่เพื่อให้เกิดความรุนแรง เพื่อให้เกิดผลกระทบกับชีวิตประชาชนผู้บริสุทธิ์ ทางเจ้าหน้าที่ตํารวจจะได้ดําเนินการตรวจสอบกล้อวงจรปิดและเร่งตรวจหาสารพันธุกรรมของคนร้ายหาตัวนําไปดําเนินคดีตามกฎหมายต่อไป#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
|
17/2/2023
|
ภาคกลางและปริมณฑล
|
กรุงเทพมหานคร
|
สวท.ยะลา
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230217153234239
| null |
เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงในพื้นที่อำเภอเบตง จังหวัดยะลา วางกำลังตรวจสอบบุคคลต้องสงสัย ยานพาหนะ ที่เข้ามายังภายในตัวเมืองเบตง เพื่อป้องกันการฉวยโอกาสของกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบลักลอบเข้ามาก่อเหตุในพื้นที่ หลังคนร้ายลอบวางระเบิดซุ่มยิงเจ้าหน้าที่ตำรวจ
|
เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงในพื้นที่อําเภอเบตง จังหวัดยะลา วางกําลังตรวจสอบบุคคลต้องสงสัย ยานพาหนะ ที่เข้ามายังภายในตัวเมืองเบตง เพื่อป้องกันการฉวยโอกาสของกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบลักลอบเข้ามาก่อเหตุในพื้นที่ หลังคนร้ายลอบวางระเบิดซุ่มยิงเจ้าหน้าที่ตํารวจ เสียชีวิต 1 นาย และได้รับบาดเจ็บ 4 นาย วันนี้17 ก.พ.66 ภายหลังเกิดเหตุระเบิดและซุ่มยิง เจ้าหน้าที่ ขณะที่นํารถยนต์กระบะ 4 ประตู ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นรีโว่ ของทางราชการของตํารวจเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ กรณีคนร้ายลอบเผารถทําถนนของ บริษัทยะลาไฮเวย์ (เมื่อคืนนี้ที่ผ่านมา) บริเวณในพื้นที่ บ้านสนามบิน หมู่ที่ 1 ต.เขื่อนบางลาง อ.บันนังสตา จ.ยะลา ในเบื้องต้น ทําให้เจ้าหน้าที่ตํารวจ เสียชีวิต 1 นาย และได้รับบาดเจ็บ 4 นายภายหลังเกิดเหตุ พ.ต.ท.ทศพล พลอยงาม รอง ผกก.ป.สภ.เบตง อํานวยการสั่งการให้ เจ้าหน้าที่ตํารวจในพื้นที่ตั้งจุดตรวจ จุดสกัด และวางกําลังตรวจสอบบุคคลต้องสงสัย ยานพาหนะ ที่เข้ามายังภายในตัวเมืองเบตง รวมทั้งเส้นทางสายรอง เพื่อป้องกันการฉวยโอกาสของกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบลักลอบเข้ามาก่อเหตุในพื้นที่ หลังคนร้ายลอบวางระเบิดซุ่มยิงเจ้าหน้าที่ตํารวจ เสียชีวิต 1 นาย และได้รับบาดเจ็บ 4 นาย และในช่วง 1-2 วันที่ผ่านมา ยังคงเกิดเหตุความไม่สงบต่อเนื่องในหลายพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
|
17/2/2023
|
ภาคใต้
|
ยะลา
|
สวท.เบตง จ.ยะลา
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230217153932246
| null |
คนร้าย กดระเบิดซ้ำ ซุ่มยิง เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบเหตุเผารถเกรดทำถนนที่บันนังสตา
|
จากเหตุการณ์คนร้ายก่อเหตุเผารถเกรด - รถทําถนน จํานวน 2 จุด ได้รับความเสียหาย 6 คัน ในพื้นที่อําเภอบันนังสตา จ.ยะลา เมื่อช่วงค่ําเวลา 21.00 น. ของวันที่ 16 กพ.66 ที่ผ่านมา เช้านี้ 17ก.พ.66 ทางเจ้าหน้าที่หน่วยงานความมั่นคง โดย นายมนตรี เสฏฐปัญโญ นายอําเภอบันนังสตา/ผู้อํานวยการศูนย์ปฏิบัติการอําเภอบันนังสตา พร้อมด้วย พ.ต.อ.รณน สุระวิทย์ ผกก.สภ.บันนังสตา จ.ยะลา สนธิกําลัง เจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้และทําลายวัตถุระเบิด (EOD.) ศรศึก-ศรชัย ตํารวจภูธรจังหวัดยะลา เจ้าหน้าที่หน่วยเฉพาะกิจ กรมทหารพรานที่ 30 และ เจ้าหน้าที่จากศูนย์พิสูจน์หลักฐานที่ 10 ยะลา ลงพื้นที่ตรวจสอบ เกิดเหตุทั้ง 2 จุด อย่างระมัดระวัง เพื่อป้องกันการลวงเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบพื้นที่ แล้วกดระเบิดซ้ํากระทั่งเวลา 11.30 น. ขณะที่ทางเจ้าหน้าที่ตํารวจ สภ.บันนังสตา นําโดย พ.ต.ต. ประสาน คงประสิทธิ์ ตําแหน่ง สว.สส.สภ.บันนังสตา นํากําลังเจ้าหน้าที่ตํารวจ 5 นายเข้าตรวจสอบพื้นที่ จากจุดแรกไปยังจุดที่สอง โดยใช้รถยนต์กระบะ 4 ประตู ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นรีโว่ สีขาว ของทางราชการตํารวจ ระหว่างทางบริเวณสามแยก ได้เกิดระเบิดขึ้นเสียงดังสนั่นหวั่นไหว ทําให้รถยนต์เสียหลักพลิกคว่ําข้างถนน จากคนร้ายได้กระหน่ํายิง เกิดการปะทะกัน 15 นาที ที่บริเวณ หมู่ที่ 1 บ้านสนามบิน ต.เขื่อนบางลาง อ.บันนังสตา จ.ยะลา หลังเสียงปืนสงบลง คนร้ายได้อาศัยความชํานาญในพืื้นที่หลบหนีอย่างร็วดเร็วหลังเกิดเหตุ พ.ต.ต. ประสาน คงประสิทธิ์ ตําแหน่ง สว.สส.สภ.บันนังสตา (เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ) 2. จ.ส.ต. สุวิทย์ ธนะวงค์ ตําแหน่ง ผบ.หมู่ (ป.) สภ.บันนังสตา ได้รับบาดเจ็บ 3. ส.ต.ท. ไกรสีห์ โรจโนตม ตําแหน่ง ผบ.หมู่ (ป.) สภ.บันนังสตา ได้รับบาดเจ็บ 4 ส.ต.อ. ภาสกร คําดี ตําแหน่ง ผบ.หมู่ (ป.) สภ.บันนังสตา ได้รับบาดเจ็บ 5. ส.ต.ท.สุทัศน์ มูลเงิน ตําแหน่ง ผบ.หมู่ (ป.) สภ.บันนังสตา ได้รับบาดเจ็บ เจ้าหน้าที่ชุด กู้ชีพ-กู้ภัย ในพื้นที่รีบนําตัวส่งโรงพยาบาลบันนังสตา และแพทย์ - พยาบาล ได้ส่งตัวต่อไปยังโรงพยาบาลศูนย์ยะลา เพื่อช่วยชีวิตเป็นการด่วน ซึ่งในขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่หน่วยงานความมั่นคง 3 ฝ่าย กําลังปิดล้อมพื้นที่เพื่อติดตามไล่ล่าคนร้ายอย่างกระชั้นชิด#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
|
17/2/2023
|
ภาคใต้
|
ยะลา
|
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดยะลา
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230217160906272
| null |
ศอ.บต. เดินหน้าผลักดัน “โคบาลชายแดนใต้” สู่ความยั่งยืนแก่เกษตรกร และสามารถพึ่งพาตนเองได้
|
สืบเนื่องจากศูนย์อํานวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ หรือ ศอ.บต. ได้นําเรื่องการขับเคลื่อนโครงการโคบาลชายแดนใต้เข้าที่ประชุมคณะกรรมการยุทธศาสตร์ด้านการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ หรือ กพต. ซึ่งมี พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ เป็นประธาน เพื่อเสนอเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ล่าสุดเมื่อวันที่ 3 มกราคม 2566 ที่ประชุม ครม. ได้มีมติเห็นชอบ และเตรียมผลักดันจังหวัดชายแดนภาคใต้ไปสู่ “มหานครแห่งอาหารและบริการฮาลาล สู่ ตลาดโลก” โดยการเพิ่มจํานวนฐานแม่วัวพันธุ์พื้นเมือง รองรับการพัฒนาอุตสาหกรรมอาหารฮาลาลจังหวัดชายแดนภาคใต้ จํานวนไม่น้อยกว่า 50,000 ตัว เป็นของขวัญปีใหม่ 2566 แก่พี่น้องจังหวัดชายแดนใต้สําหรับการขับเคลื่อนโครงการโคบาลชายแดนใต้นั้น ทาง พลเรือตรี สมเกียรติ ผลประยูร เลขาธิการศูนย์อํานวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) กล่าวว่า ในภาพใหญ่ภาคใต้กําลังจะถูกผลักดันเป็นระเบียงเศรษฐกิจฮาลาลจังหวัดชายแดนภาคใต้ ภายใต้ระเบียงเศรษฐกิจฮาลาล ประกอบด้วยกิจกรรมทางเศรษฐกิจหลายด้าน หนึ่งในนั้นคือเมืองปศุสัตว์ชายแดนใต้ ซึ่งหลักๆ คือเรื่องการเลี้ยงโคหรือโคเนื้อ ซึ่ง ศอ.บต.ได้มีการผลักดันให้มีการเลี้ยงโคอย่างครบวงจร รวมถึงการเลี้ยงแพะ การเลี้ยงไก่ โดยโคจะเป็นการนําร่องใช้ชื่อโครงการว่าโคบาลชายแดนใต้ เดินหน้ามาแล้ว 2 ปี ในต้นเดือนมกราคม 2566 จะเป็นการเริ่มต้นในการขับเคลื่อนอย่างเป็นรูปธรรมชัดเจน เป็นการผลักดันส่งเสริมให้มีการเลี้ยงโคเนื้อให้กับเกษตรกรที่รวมกลุ่มเป็นวิสาหกิจชุมชน จังหวัดละประมาณ 200 กลุ่ม 5 จังหวัด รวม 1,000 กลุ่ม กลุ่มละประมาณ 10 คน เป็นอย่างน้อย โครงการโคบาลชายแดนใต้จะเป็นโครงการที่มีการบูรณาการวางแผนอย่างเป็นระบบ ต้นน้ํา กลางน้ํา ปลายน้ํา เป็นการผลิตตั้งแต่ลูกโค ในการเลี้ยง ในการขุน แปรรูป และภาคการตลาด วางระบบไว้ครบวงจร เป็นระยะเวลา 5 ปีเต็ม บวกช่วงท้ายในการคืนทุนอีก 2 ปี รวมระยะเวลาทั้งหมด 7 ปี โดยบูรณาการร่วมกันหลายภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นสถาบันการศึกษา กรมปศุสัตว์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ สภาเกษตรกรแห่งชาติ สภาเกษตรจังหวัด ศอ.บต. และหน่วยงานอื่นๆ ร่วมบูรณาการกันพลเรือตรี สมเกียรติ ผลประยูร เลขาธิการ ศอ.บต. ยังกล่าวอีกว่า ในส่วนของด้านตลาดเองมีความต้องการเป็นอย่างมาก เนื่องจากผลิตไม่เพียงพอ รวมถึงประเทศเพื่อนบ้านยังมีความต้องการ และที่สําคัญคือการฟื้นฟูความสัมพันธ์กับราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย ซึ่งปัจจุบันเริ่มมีการเชื่อมต่อกันมากขึ้น เป็นอีกหนึ่งตลาดที่มีความยั่งยืนและมีความต้องการจํานวนมาก และในเรื่องการพัฒนาองค์ความรู้แก่เกษตรกรและผู้เข้าร่วมโครงการนั้นถือเป็นเรื่องที่ทาง ศอ.บต. ให้ความสําคัญเป็นอันดับต้น ซึ่งผู้ที่เข้าร่วมโครงการจะต้องผ่านการอบรม ผ่านการเตรียมความพร้อมโดยมหาวิทยาลัยในพื้นที่ ไม่ว่าจะเป็นมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏยะลา มหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์ เราจะติดอาวุธทางปัญญาให้ก่อน ทั้งนี้คุณสมบัติของผู้ที่เข้าร่วมโครงการนั้น จะต้องเป็นผู้ที่ทําอยู่เดิมก่อนแล้ว ต้องมีประสบการณ์เป็นอันดับแรก ต้องเป็นเกษตรกรหรือต้องเป็นผู้เลี้ยงโค หรือประกอบอาชีพปศุสัตว์อยู่เดิมเป็นอันดับแรก และคนในชุมชน หน่วยงานภาครัฐ เกษตรตําบล เกษตรอําเภอ ปศุสัตว์ ต้องให้ความเห็นชอบว่ากลุ่มเหล่านี้ไปต่อได้ แล้วค่อยขยายไปยังประชาชนส่วนอื่น โครงการนี้จะนําไปสู่ความยั่งยืน และสามารถพึ่งพาตนเองได้ ต้องวางระบบให้มีความเชื่อมโยงตั้งแต่ต้นน้ํา กลางน้ํา ปลายน้ํา มีระบบการตรวจสอบอย่างชัดเจน เป็นโครงการนําร่องอีก 1 โครงการ ที่จะสร้างความยั่งยืนในอนาคต
|
17/2/2023
|
ภาคกลางและปริมณฑล
|
กรุงเทพมหานคร
|
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230217192104356
| null |
รัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ ลงพื้นที่ จ.ราชบุรี ส่งเสริมเศรษฐกิจฐานราก สนับสนุนการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม และแก้ปัญหาสถานการณ์น้ำ
|
นายธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีประจําสํานักนายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่จังหวัดราชบุรี เพื่อตรวจราชการตามที่ได้รับมอบหมายจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม โดยเดินทางไปยังศาลากลาง จ.ราชบุรี เพื่อรับฟังรายงานสรุปจากส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง โดยมีนายรณภพ เหลืองไพโรจน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี กล่าวต้อนรับ โยธาธิการและผังเมืองราชบุรี รายงานสรุปโครงการพัฒนาพื้นที่ส่งเสริมการท่องเที่ยวทางน้ําเชิงประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมและโครงการพัฒนาพื้นที่แหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติชุมชนอย่างยั่งยืน “อุทยานหินเขางู” ทั้งนี้ รัฐมนตรีประจําสํานักนายกรัฐมนตรี ได้รับฟังปัญหาและแนวทางการบูรณาการร่วมกันจากทุกหน่วยงาน พร้อมมอบนโยบายว่า ทั้งสองโครงการจะสําเร็จได้ด้วยความร่วมมือและการบูรณาการจากหน่วยงานต่างๆในพื้นที่ และพร้อมที่จะเชื่อมประสานหน่วยงานเพื่อทําให้เกิดการขับเคลื่อนต่อไป โดยรัฐบาลได้สนับสนุนงบประมาณที่บรรจุอยู่ในโครงการแล้ว หากมีความจําเป็นจะต้องใช้งบกลางในการดําเนินงาน จะเสนอนายกรัฐมนตรีเพื่อพิจารณา ซึ่งรัฐบาลได้สนับสนุนงบประมาณพัฒนาจังหวัดราชบุรีอย่างต่อเนื่อง พร้อมย้ําว่าในการลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมจังหวัดราชบุรีของนายกรัฐมนตรีที่ผ่านมา และการมาตรวจติดตามในครั้งนี้ ทําให้เกิดการพัฒนาที่ก้าวหน้าและน่าจะเป็นต้นแบบแก่จังหวัดอื่นๆได้ นอกจากนี้ ขอชื่นชมผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรีและทุกภาคส่วนที่ช่วยกันพัฒนาจังหวัดอย่างเข้มแข็งจากนั้นได้เดินทางไปยังวัดช่องลม อ.เมือง จ.ราชบุรี สักการะหลวงพ่อแก่นจันทร์ และนมัสการเจ้าอาวาสวัดช่องลม พร้อมตรวจราชการโครงการพัฒนาพื้นที่เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวทางน้ําเชิงประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม ณ บริเวณริมเขื่อนวัดช่องลม ก่อนเดินทางไปยังเขื่อนรัฐประชาพัฒนา อ.เมือง จ.ราชบุรี เพื่อติดตามการดําเนินงานโครงการที่เกี่ยวข้องตามผลการประชุมระหว่างนายกรัฐมนตรีกับผู้ว่าราชการจังหวัด ผู้แทนภาคเอกชน และผู้บริหารท้องถิ่น เพื่อขับเคลื่อนการพัฒนากลุ่มจังหวัดภาคกลางตอนล่าง 1 (กาญจนบุรี ราชบุรี และสุพรรณบุรี)นอกจากนี้ รัฐมนตรีประจําสํานักนายกรัฐมนตรี เดินทางไปยังอุทยานหินเขางู เทศบาลตําบลเขางู อ.เมือง จ.ราชบุรี เพื่อตรวจราชการและติดตามการดําเนินงานโครงการพัฒนาพื้นที่แหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติชุมชนอย่างยั่งยืน “อุทยานหินเขางู” ด้วย พร้อมระบุว่า ขณะนี้หลายโครงการมีความคืบหน้าไปอย่างมาก
|
17/2/2023
|
ภาคกลางและปริมณฑล
|
กรุงเทพมหานคร
|
Radio-สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230217182858328
| null |
คนร้ายกดระเบิดหวังทำร้าย จนท.ขณะเข้าตรวจสอบเหตุลอบวางเพลิงรถเกรด-รถทำถนนในพื้นที่บันนังสตา จ.ยะลา
|
จากกรณีที่ได้เกิดเหตุคนร้ายไม่ทราบกลุ่มและจํานวน ได้ทําการวางเพลิงรถทําถนนในพื้นที่อ.บันนังสตา จ.ยะลา เมื่อช่วงค่ําวันที่ 16 ก.พ. 2566 ที่ผ่านมา ทําให้มีรถได้รับความเสียหายไปจํานวนทั้งสิ้น 6 คัน วันนี้ 17ก.พ.66 ทางเจ้าหน้าที่หน่วยงานความมั่นคง นําโดย นายมนตรี เสฏฐปัญโญ นายอําเภอบันนังสตา/ผู้อํานวยการศูนย์ปฏิบัติการอําเภอบันนังสตา พร้อมด้วย พ.ต.อ.รณน สุระวิทย์ ผกก.สภ.บันนังสตา จ.ยะลา สนธิกําลัง เจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้และทําลายวัตถุระเบิด (EOD.) ลงพื้นที่ตรวจสอบ เกิดเหตุทั้ง 2 จุดด้วยความระวัง เพื่อป้องกันการลวงเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบพื้นที่แล้วมีระเบิดซ้ํา จนกระทั่งเวลา 11.30 น. ขณะที่ทางเจ้าหน้าที่ตํารวจ สภ.บันนังสตา นําโดย พ.ต.ต. ประสาน คงประสิทธิ์ ตําแหน่ง สว.สส.สภ.บันนังสตา นํากําลังเจ้าหน้าที่ตํารวจ 5 นายเข้าตรวจสอบพื้นที่ จากจุดแรกไปยังจุดที่สอง โดยใช้รถยนต์กระบะ 4 ประตู ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นรีโว่ สีขาว ของทางราชการตํารวจ ระหว่างทางบริเวณสามแยก ได้เกิดระเบิดขึ้นเสียงดังสนั่น ทําให้รถยนต์เสียหลักพลิกคว่ําข้างถนน จากนั้น คนร้ายได้กระหน่ํายิงเข้าใส่และเกิดการปะทะกันเป็นเวลา 15 นาที ที่บริเวณ หมู่ที่ 1 บ้านสนามบิน ต.เขื่อนบางลาง อ.บันนังสตา จ.ยะลา หลังเสียงปืนสงบลง คนร้ายได้อาศัยความชํานาญในพืื้นที่หลบหนีอย่างร็วดเร็ว โดยหลังเกิดเหตุ พ.ต.ต. ประสาน คงประสิทธิ์ ตําแหน่ง สว.สส.สภ.บันนังสตา เสียชีวิตในที่เกิดเหตุทันที ส่วนนายตํารวจที่มาด้วยกันอีก 4 นาย ได้รับบาดเจ็บนําตัวส่ง รพ.อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ได้ทําการตรวจสอบพื้นที่ และเก็บรวบรวมพยานหลักฐาน พยานแวดล้อมในที่เกิดเหตุโดยละเอียด เพื่อตรวจสอบหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ เร่งหาสาเหตุของการก่อเหตุในครั้งนี้ เบื้องต้นอยู่ระหว่างการสอบสวนของทางเจ้าหน้าที่ ว่าเป็นเรื่องการขัดผลประโยชน์ในการดําเนินการก่อสร้างถนน หรือไม่ ทั้งนี้ ยังไม่ตัดทิ้งประเด็นการก่อเหตุสร้างสถานการณ์#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
|
17/2/2023
|
ภาคกลางและปริมณฑล
|
กรุงเทพมหานคร
|
สวท.ยะลา
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230217172733307
| null |
แม่ทัพภาคที่ 4 แสดงความเสียใจต่อครอบครัวเจ้าหน้าที่ที่เสียชีวิต และผู้ได้รับบาดเจ็บ จากเหตุคนร้านลอบวางระเบิด ตร.บันนังสตา สั่ง เร่งสืบสวนหาตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษตามกฎหมายโดยเร็วที่สุด
|
ตามที่คนร้ายลอบวางเพลิงเผารถก่อสร้างถนนของบริษัทยะลาไฮเวย์ ที่ใช้ในการปรับปรุง พัฒนาถนน เส้นทางศรีบางลาง จํานวน 2 จุด ในพื้นที่อําเภอบันนังสตา จังหวัดยะลา เมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2566 เวลา 20.20 น. ทําให้รถก่อสร้างถนนได้รับความเสียหาย จํานวน 6 คัน โดยจุดแรกที่บ้านสนามบิน หมู่ที่ 1 ตําบลเขื่อนบางลาง พบรถบดถนน ถูกวางเพลิงเผาเสียหาย จํานวน 2 คัน และจุดที่ 2 ที่บ้านบือซู หมู่ที่ 6 ตําบลบันนังสตา พบรถตักดิน และรถทําถนนถูกวางเพลิงเสียหาย จํานวน 4 คันต่อมาเมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2566 เวลา 11.30 น. เจ้าหน้าที่ตํารวจจัดกําลังเข้าตรวจสอบความเสียหายเมื่อเดินทางใกล้ถึงพื้นที่เกิดเหตุ คนร้ายได้จุดชนวนระเบิดแสวงเครื่อง แรงระเบิดทําให้เจ้าหน้าที่ตํารวจเสียชีวิต 1 นาย ได้รับบาดเจ็บ 4 นาย ประกอบด้วย พันตํารวจตรี ประสาน คงประสิทธิ์ ตําแหน่ง สารวัตรสืบสวนสถานีตํารวจภูธรบันนังสตา (เสียชีวิต) จ่าสิบตํารวจ สุวิทย์ ธนะวงค์ ตําแหน่ง ผู้บังคับหมู่ทําหน้าที่ป้องกันปราบปราม สถานีตํารวจภูธรบันนังสตา สิบตํารวจเอก ภาสกร คําดี ตําแหน่ง ผู้บังคับหมู่ทําหน้าที่ป้องกันปราบปราม สถานีตํารวจภูธรบันนังสตา สิบตํารวจโท ไกรสีห์ โรจโนตม ตําแหน่ง ผู้บังคับหมู่ทําหน้าที่ป้องกันปราบปราม สถานีตํารวจภูธรบันนังสตา สิบตํารวจโท สุทัศน์ มูลเงิน ตําแหน่ง ผู้บังคับหมู่ทําหน้าที่ป้องกันปราบปราม สถานีตํารวจภูธรบันนังสตาภายหลังเกิดเหตุ พลโท ศานติ ศกุนตนาค แม่ทัพภาคที่ 4 / ผู้อํานวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ได้กล่าวแสดงความเสียใจต่อครอบครัวเจ้าหน้าที่ที่เสียชีวิต และผู้ได้รับบาดเจ็บ รวมทั้งสั่งการหน่วยต้นสังกัดของกําลังพลดังกล่าวเร่งดูแลด้านสิทธิสวัสดิการของเจ้าหน้าที่ที่เสียชีวิต และผู้ได้รับบาดเจ็บ และให้เร่งสืบสวนหาตัวผู้กระทําผิดมาลงโทษตามกฎหมายโดยเร็วที่สุด พร้อมทั้งเน้นย้ําให้หน่วยในพื้นที่เพิ่มความระมัดระวัง ปรับเปลี่ยนรูปแบบ และวิธีการในการออกปฏิบัติงานอย่างสม่ําเสมอทั้งนี้ หากพี่น้องประชาชนพบข้อมูลหรือเบาะแสของคนร้าย สามารถแจ้งได้ที่เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงประจําพื้นที่ หรือโทรสายตรง แม่ทัพภาคที่ 4 / ผู้อํานวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 หมายเลข 061-1732999 หรือทางสายด่วน 1341 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง โดยข้อมูลของท่านจะได้รับการปกปิดเป็นความลับ#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
|
17/2/2023
|
ภาคใต้
|
ยะลา
|
สทท.ยะลา
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230217174750312
| null |
เลขาฯ ศอ.บต. ยันพร้อมดูแลนักกีฬา และนักท่องเที่ยว ให้ปลอดเหตุ-ปลอดภัย ช่วงเทศกาล Amazean Jungle Thailand by UTMB 2023 ตั้งจุดเช็คฯ 14 จุด ลาดตระเวน 24 ชั่วโมง ด้านโฆษกประจำสำนักนายกฯ เผย รัฐบาลผลักดันซอฟเพาเวอร์เบตง ด้านกีฬา เป็นจุดขาย ดึงนักท่องเที่ยว
|
วันนี้ (17 ก.พ.2566) พลเรือตรี สมเกียรติ ผลประยูร เลขาธิการศูนย์อํานวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) พร้อมด้วย ดร. รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจําสํานักนายกรัฐมนตรี นายเอก ยังอภัย ณ สงขลา นายอําเภอเบตง และ นางสาวปิยฉัตร กุลรักษา นายด่านศุลกากรเบตง และหัวหน้าส่วนราชการในพื้นที่ ตรวจเยี่ยมความพร้อมการรองรับนักท่องเที่ยวและนักกีฬา ณ ด่านพรมแดนเบตง จ.ยะลา พร้อมตรวจเยี่ยมการรักษาความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ ตลอดเส้นทางวิ่งเทรล ในกิจกรรม Amazean Jungle Thailand by UTMB 2023เลขาธิการ ศอ.บต. ยืนยันว่า หน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่ พร้อมด้วยจังหวัดยะลา อําเภอเบตง ได้ระดมสรรพกําลังทั้งเจ้าหน้าที่ทหาร ตํารวจ อาสาสมัคร กํานันผู้ใหญ่บ้าน และประชาชนในพื้นที่ เข้าดูแลเส้นทางวิ่งสายหลัก ในระยะ 160 กิโลเมตร 50 กิโลเมตร และ 25 กิโลเมตร มีจุดเช็คพอยท์หลัก 14 จุด และมีเจ้าหน้าที่ลาดตระเวนดูแลความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง โดยยืนยันว่า พื้นที่พร้อมดูแลนักกีฬาจาก 30 ประเทศ กว่า 1,600 คน และนักกีฬาที่ลงทะเบียนวิ่ง saturday night run กว่า 2,000 คน อย่างเต็มกําลังนายเอก ยังอภัย ณ สงขลา นายอําเภอเบตง กล่าวว่า การดูแลความปลอดภัยในช่วงการจัดกิจกรรมฯ แบ่งเป็น 2 ส่วนคือ ส่วนที่ 1 การให้บริการบุคคลที่เดินทางมาจากต่างประเทศ โดยเฉพาะทางด่านพรมแดนเบตง ส่วนที่ 2 ได้จัดตั้งกองอํานวยการร่วมรักษาความปลอดภัย โดยบูรณาการกําลังทุกภาคส่วน ทั้งพลเรือน ตํารวจ ทหาร ในการช่วยกันดูแลความปลอดภัย มีการลาดตระเวน และยุทธวิธีต่างๆ ผนวกกับแผนของ หน่วยเฉพาะกิจจังหวัด และทุกภาคส่วน ซึ่งให้ความร่วมมือเป็นอย่างดีในการทําให้พื้นที่ปลอดเหตุ ประชาชนปลอดภัยด้านรองโฆษกของรัฐบาล เผยว่า รัฐบาลโดยนโยบายนายกรัฐมนตรี ผลักดันการท่องเที่ยวในประเทศ สําหรับ อ.เบตงผลักดันโดยใช้ซอฟเพาเวอร์ด้านกีฬา เป็นจุดขายดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งไทยและเทศ โดยมั่นใจได้ว่า พื้นที่ยะลาและจังหวัดชายแดนภาคใต้มีความสงบสุข และปลอดภัยสําหรับนักท่องเที่ยวแน่นอนเจ้าหน้าที่ฝ่ายตรวจสอบพาสปอร์ต เผยว่า ในวันที่ 16-17 ก.พ. 2566 มีนักท่องเที่ยวและนักกีฬาเดินทางเข้าและออกทางด่านพรมแดนเบตง จ.ยะลา ตลอดทั้งวัน กว่า 2,000 คน และคาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวและนักกีฬาเข้ามาเพิ่มขึ้นในช่วงวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ ส่วนใหญ่จะเป็นนักท่องเที่ยวจากประเทศมาเลเซียและสิงคโปร์ อย่างไรก็ตาม จากการจัดกิจกรรม Amazean Jungle Thailand by UTMB 2023 ส่งผลให้ด่านพรมแดนเบตงและอ.เบตง ครึกครื้นไปด้วยนักท่องเที่ยวทั้งไทยและเทศ ซึ่งเป็นโอกาสดีของชาวเบตง ในการนําเสนอบ้านเมืองด้วยอัตลักษณ์ ประเพณี ความสวยงามของพื้นที่#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
|
17/2/2023
|
ภาคใต้
|
ยะลา
|
สวท.เบตง จ.ยะลา
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230217175539315
| null |
นายกฯ พบผู้ประกอบการรุ่นใหม่ YEC ขอบคุณหอการค้าฯ สนับสนุนการดำเนินงานภาครัฐทุกมิติ
|
นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย นําคณะผู้ประกอบการรุ่นใหม่ YEC (Young Entrepreneurs Chamber of Commerce) หอการค้าทั่วประเทศ จํานวน 77 คน จาก 77 จังหวัด เข้าเยี่ยมคารวะ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ณ ตึกสันติไมตรีหลังนอก ทําเนียบรัฐบาล โดยนายกรัฐมนตรี กล่าวขอบคุณและชื่นชมในการดําเนินการของ YEC นับเป็นส่วนหนึ่งของการสืบสาน รักษา ต่อยอด ตามดําริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รวมทั้งขอบคุณสภาหอการค้าแห่งประเทศไทยและหอการค้าทั่วประเทศ ที่เป็นภาคีสําคัญในการสนับสนุนการดําเนินงานของภาครัฐในทุกมิติ รวมทั้งสร้างความร่วมมือกับทุกภาคส่วนอย่างมีประสิทธิภาพและประสบผลสําเร็จด้วยดีเสมอมา โดยเฉพาะการดําเนินงานในระดับพื้นที่และท้องถิ่นที่ต้องบูรณาการความร่วมมือกันหลายฝ่ายและทุกระดับ นับตั้งแต่สภาหอการค้าฯ นําคณะ YEC เข้าพบ พร้อมนําเสนอแผนงานโครงการและมุมมองของคนรุ่นใหม่ในการพัฒนาจังหวัดในปีที่ผ่านมา รู้สึกยินดีที่มีการนําโครงการต่าง ๆ มาขับเคลื่อนสานต่อให้เป็นรูปธรรม อันก่อให้เกิดประโยชน์อย่างยิ่งต่อประเทศและภาคเศรษฐกิจไทย พร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรี ได้แสดงความขอบคุณทีม YEC ที่เข้ามามีส่วนร่วมในกิจกรรมต่าง ๆ ในโอกาสที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมความร่วมมือทางเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก หรือการประชุมเอเปค (APEC 2022) ในช่วงเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ซึ่งมีการนําเสนอแนวคิดการพัฒนาเชิงนโยบายและแลกเปลี่ยนวิสัยทัศน์กับผู้แทนประเทศต่าง ๆ นับเป็นส่วนสําคัญในการสร้างความสําเร็จร่วมกัน นายกรัฐมนตรี เน้นย้ําการดําเนินโครงการของ YEC ขอให้มีการใช้จ่ายงบประมาณอย่างคุ้มค่ามีประสิทธิภาพและสามารถตรวจสอบได้ ทั้งนี้ YEC เป็นกําลังสําคัญในการขับเคลื่อน และเป็นผู้เชื่อมต่อช่องว่างระหว่างคนรุ่นเก่ากับคนรุ่นใหม่ ขอให้ทุกคนทําหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุดเพื่อประเทศ ร่วมขับเคลื่อนประเทศเดินหน้าไปด้วยกัน สิ่งสําคัญคือต้องตระหนักคุณค่าของประวัติศาตร์ชาติไทยในตอนท้าย นายกรัฐมนตรี ยังได้กล่าวถึงภาคการท่องเที่ยวและการบริการที่เป็นจุดแข็ง ซึ่งอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวจะกลับมาเป็นฟันเฟืองสําคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยในอนาคต ซึ่งรัฐบาลมุ่งส่งเสริมการท่องเที่ยวที่มีคุณค่าและความหมาย ด้วยการสนับสนุนเศรษฐกิจรูปแบบใหม่ที่เรียกว่า “เศรษฐกิจสร้างสรรค์” เชื่อมโยงกับภาคการท่องเที่ยวโดยใช้ Soft Power เป็นเครื่องมือสําคัญในการขับเคลื่อน โดยเฉพาะอุตสาหกรรมวัฒนธรรมสร้างสรรค์ที่มีศักยภาพ 5 F ได้แก่ อาหาร (Food) ภาพยนตร์และวีดิทัศน์ (Film) ผ้าไทยและการออกแบบแฟชั่น (Fashion) มวยไทย (Fighting) และเทศกาลประเพณี (Festival) พร้อมกับการนําแนวคิด BCG Model มาส่งเสริมการท่องเที่ยว
|
17/2/2023
|
ภาคกลางและปริมณฑล
|
กรุงเทพมหานคร
|
Radio-สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230217182308327
| null |
บึงกาฬ จับกุมขบวนการลักลอบขนยาเสพติดข้ามชาติ 3 ล้านเม็ดมูลค่ากว่า 150 ล้าน
|
ยาบ้าทะลักข้ามโขงเพียงครึ่งเดือนถูกจับไปแล้ว 2 ราย ต้นเดือน 4 ล้านเม็ดได้ผู้ต้องหาและมีเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องหลายรายทั้งฝ่ายปกครองท้องที่ ตํารวจและทหาร วันนี้จับอีก 1 รายยาบ้า 3 ล้านเม็ดมูลค่า 150 ล้านบาท ผู้ต้องหา 1 รายกําลังขยายผล รวมครึ่งเดือนได้ยาบ้ากว่า 7 ล้านเม็ดแล้วเมื่อเวลา 11.00 น.วันที่ 17 ก.พ.ที่สํานักงานตํารวจภูธรจังหวัดบึงกาฬ นายนฤชา โฆษาศิวิไลซ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดบึงกาฬ เป็นประธานเปิดการแถลงข่าวร่วมกับ พล.ต.ต.ธนชาติ รอดคลองตัน รอง ผบช.ภ.4, พล.ต.ต.ณัฐนนท์ ประชุม ผบก.สส.ภ.4 ,พล.ต.ต.ตรีวิทย์ ศรีประภา ผบก. ภ.จว.บึงกาฬ , พ.ต.อ.พงศ์พัชร์ แจ้งหมื่นไว รอง ผบก.ภ.จว.บึงกาฬ พ.ต.อ.จรูญศักดิ์ ลําพุทธา ผกก.สส.ภ.จว.บึงกาฬ, พ.ต.อ.สมชาย นิลเพ็ชร ผกก.สภ.เหล่าหลวง พ.ต.อ.อรรถพร สุริยเลิศ รอง ผบก.สส.ภ.4 พ.ต.อ.ชาญณรงค์ มากพิสุทธิ์ ผกก.สส.1 บก.สส.ภ.4 และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งทหารกองกําลังสุรศักดิ์มนตรี หน่วยเรือ นรข.ปปส.ภาค 4 ตํารวจตรวจคนเข้าเมือง ตํารวจพิสูจน์หลักฐาน ตํารวจน้ํา ฝ่ายปกครอง ด่านศุลกากรบึงกาฬ แถลงการจับกุม นายอนุวัฒน์ อาย 31 ปี ที่อยู่ 177 หมู่ 15 ต.หนองกรุงธนสาร อ.กูเวียง จ.ขอนแก่น ได้ที่บริเวณริมถนนหมายเลข 2026 เขตหมู่ บ้านโพธิ์หมากแข้ง หมู่1 ต.บึงโขงหลง อ.บึงโขงหลง จ.บึงกาฬ ยึดของกลางมี1.เมทแอมเฟตามีน หรือ ยาบ้า จํานวน 7.5 กระสอบ จํานวน 3,000,000 เม็ดมูลค่ากว่า 150 ล้าน2.รถยนต์กระบะแค๊ป สีขาว ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นรีโว ติดแผ่นป้ายทะเบียน ฒฉ-6209 กทม.3.โทรศัพท์มือถือ จํานวน 2 เครื่อง โดยกล่าวหาว่า "ร่วมกันนําเข้ามาในราชอาณาจักรซึ่งยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน) หรือยาบ้า โดยไม่ได้รับอนุญาต, ร่วมกันจําหน่ายโดยการมีไว้ในครอบครอบเพื่อจําหน่ายซึ่งยาเสพติดให้โทษประเภท 1อันก่อให้เกิดผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐ หรือความปลอดภัยของประชาชน "ทั้งนี้ จากการสืบทราบของ พล.ต.ท.ยรรยง เวชโอสถ ผบช.ภ.4 ว่าจะมีการลักลอบขนยาเสพติดประเภท 1 ข้ามน้ําโขงเข้ามายังฝั่งประเทศไทยพื้นที่ อ.บึงโขงหลง จ.บึงกาฬ จึงได้สั่งให้ชุดสืบสวนตํารวจภูธร ภาค 4 สนธิกําลังกับ พล.ต.ต.ตรีวิทย์ ศรีประภา ผบก.ภ.จ.บึงกาฬ ตํารวจในพื้นที่ และเจ้าหน้าที่ส่วนเกี่ยวข้อง โดยจัดกําลังออกเป็นหลายชุดดักรออยู่ตามถนนสายหลักและสายรอง จนกระทั่งเวลาประมาณ 1:30 น.ขณะที่ได้มีการวางกําลังตามเส้นทางในพื้นที่ ต.เหล่าหลวง ต.บึงโขงหลง อ.บึงโขงหลง จ.บึงกาฬ เพื่อสกัดกั้นการลักลอบขนยาเสพติด ได้พบรถยนต์กระบะต้องสงสัยยี่ห้อ TOYOTA รุ่น REVO สีขาว แต่งโหลดเตี้ย ขับผ่านมาด้วยความเร็วโดยมีสิ่งของบรรทุกอยู่กระบะด้านหลังคลุมด้วยผ้าใบสีฟ้า จึงได้วิทยุแจ้งเพื่อตรวจสอบรถยนต์คันดังกล่าว และได้แสดงตัวเป็น จนท.สั่งให้คนขับหยุดรถ แต่ไม่ยอมหยุดโดยขับฝ่าด่านตรวจบริเวณบ้านโพธิ์หมากแข้ง ต.บึงโขงหลง จึงถูกวางตะปูเรือใบทําให้ล้อรถทั้ง 4 เส้นแตก แต่กระนั้นยังขับหนีต่อไปได้กว่า 500 เม็ด ชายที่มาในรถ 2 คน จึงจอดรถทิ้งไว้แล้ววิ่งหลบหนีเข้าป่าไปในความมืด เมื่อเข้าตรวจสอบกระบะด้านหลังพบกระสอบ 8 กระสอบ ด้านในบรรจุยาบ้าจํานวนมาก เมื่อตรวจนับคร่าวๆ เป็นยาบ้าจํานวนประมาณ 3,000,000 เม็ดจากการสืบสวนขยายผลทราบว่า นายอนุวัฒน์ อาย 31 ปี ซึ่งเป็นผู้รับงานและสั่งการกลุ่มนักบิน ได้หนีไปกบดานในพื้นที่ อ.นาวัง จ.หนองบัวลําภู จึงได้ขออนุมัติหมายศาลติดตามไปจับกุมตัวได้ดังกล่าว ขณะนี้ทราบถึงเครือข่ายกลุ่มนักบินแล้วอยู่ระหว่างการติดตามจับกุมคนร้ายเพิ่มเติมเพื่อนํามาดําเนินคดีตามกฎหมาย รวมถึงสืบสวนสอบสวนขยายผลเพื่อดําเนินคดีกับบุคคลที่มีส่วนเกี่ยวข้องและกลุ่มนายทุนที่มีการสั่งการในครั้งนี้ เพื่อดําเนินคดีตามกฎหมายให้ถึงที่สุด ตํารวจภูธรภาค 4 ฝากเตือนถึงกลุ่มผู้กระทําผิดเกี่ยวกับยาเสพติดรวมถึงนายทุนผู้สั่งการในการลักลอบขนยาเสพติดเข้ามาในประเทศ ตํารวจภูธรภาค 4 ได้มีการปราบปราม สืบสวนสอบสวน จับกุมและขยายผลถึงขบวนการค้ายาเสพติดอย่างเข้มงวดมาโดยตลอด และมีการดําเนินคดีตามกฎหมายยาเสพติด กฎหมายฟอกเงิน และกฎหมายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอย่างเข้มชัน อย่างตรงไปตรงมา หากพบว่ามีผู้ใดเกี่ยวข้องกับการกระทําผิดเกี่ยวกับยาเสพติดจะต้องถูกดําเนินคดี ถูกยึดทรัพย์ตามกฎหมายจนถึงที่สุดขอบคุณผู้สื่อข่าว : พี่หมอน นิธิศักดิ์ เศรษฐแสงศรี#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
|
17/2/2023
|
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
|
บึงกาฬ
|
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดบึงกาฬ
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230217200043373
| null |
นายกฯ ระบุ การแต่งตั้งโยกย้ายนายทหารเป็นไปตามวาระ หากยุบสภาแล้วมีเรื่องเร่งด่วน ต้องให้คณะกรรมการการเลือกตั้งเห็นชอบอนุมัติ
|
พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงกรณีการแต่งตั้งโยกย้ายนายทหาร จะต้องทําให้เสร็จก่อนที่จะมีการยุบสภาหรือไม่ว่า เป็นไปตามวาระ หากเป็นการย้ายด้วยเหตุหรือตามระเบียบก็เป็นไปตามกติกา แต่หากต้องทําด้วยความจําเป็นเร่งด่วน ต้องหารือคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ เพื่อให้เห็นชอบอนุมัติส่วนกรณีเรือหลวงสุโขทัยอัปปาง จะต้องมีการลงโทษก่อนการโยกย้ายหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เป็นคนละเรื่องกัน เพราะยังหาคนผิดไม่ได้ ต้องดูเรื่องการสอบสวน ทั้งทางเทคนิค หรือเป็นความผิดพลาดจากการปฏิบัติงาน อีกทั้งยังมีหลายปัจจัย ซึ่งมีคณะกรรมการตรวจสอบหลายคณะ และรายงานความคืบหน้ามายังตนเองอย่างต่อเนื่อง แต่สุดท้ายต้องนําเรือขึ้นมาตรวจสอบ เพราะเป็นหลักฐานสําคัญส่วนงบประมาณในการกู้เรือ ต้องใช้งบของกองทัพเรือหรือไม่นั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า คงต้องของบกลาง เพราะต้องดูแล ขณะนี้กองทัพเรือถูกตัดงบประมาณ จึงต้องดูแลกัน เพราะเป็นผลประโยชน์โดยรวม
|
17/2/2023
|
ภาคกลางและปริมณฑล
|
กรุงเทพมหานคร
|
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230217191811353
| null |
รอง มทภ.4 ติดตามตรวจเยี่ยมกำลังภาคประชาชน พร้อมกำชับการปฏิบัติ เสริมสร้างความเข้มแข็ง มั่นคงปลอดภัยในพื้นที่ อำเภอยะหา จังหวัดยะลา
|
วันนี้ (17 กุมภาพันธ์ 2566) พลตรี ไพศาล หนูสังข์ รองแม่ทัพภาคที่ 4 / รองผู้อํานวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า พร้อมคณะฯ ลงพื้นที่กองร้อยเฉพาะกิจทหารพรานสนับสนุน หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 47 ตรวจเยี่ยมการปฎิบัติงานของกําลังภาคประชาชนในพื้นที่ ตําบลปะแต อําเภอยะหา จังหวัดยะลาโดย พลตรี ไพศาล หนูสังข์ รองแม่ทัพภาคที่ 4 / รองผู้อํานวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ได้กําชับให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงบูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องภายใต้หลักสิทธิมนุษยชน และหลักกฎหมาย ตามนโยบายของแม่ทัพภาคที่ 4 / ผู้อํานวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 เพื่อการพัฒนาคุณภาพชีวิตแก่พี่น้องประชาชนให้ดียิ่งขึ้นจากนั้น รองแม่ทัพภาคที่ 4 พร้อมคณะฯ เดินทางลงพื้นที่ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน บ้านบาจุ หมู่ที่ 5 ตําบลปะแต อําเภอยะหา จังหวัดยะลา เพื่อรับฟังผลการปฏิบัติงานของชุดคุ้มครองตําบล ตลอดจนมอบสิ่งของอุปโภค-บริโภค เพื่อเป็นขวัญกําลังใจ รวมทั้งสอบถามปัญหาข้อขัดข้องในการปฏิบัติที่ผ่านมา พร้อมมอบแนวทางการปฏิบัติงาน เน้นย้ําการปฏิบัติหน้าที่ต้องมีสติ ตั้งมั่นอยู่บนความไม่ประมาท ให้คํานึงถึงความปลอดภัยเป็นหลัก และต้องมีการเตรียมพร้อม หมั่นทบทวนการปฏิบัติด้านแผนการรักษาความปลอดภัยตําบล/หมู่บ้าน, การตั้งจุดตรวจ-จุดสกัด, แผนป้องกันเหตุ, แผนเผชิญเหตุ, รวมถึงแผนการปฏิบัติการต่าง ๆ เพื่อให้การปฏิบัติงานเกิดประสิทธิภาพสูงสุด เสริมสร้างความเข้มแข็ง มั่นคง ให้พื้นที่ปลอดเหตุ ประชาชนปลอดภัย#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
|
17/2/2023
|
ภาคใต้
|
ยะลา
|
สทท.ยะลา
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230217203741381
| null |
อำเภอเบตงปล่อยแถวหน่วยกำลังร่วม ปฎิบัติหน้าที่รักษาความปลอดภัยการจัดแข่งขัน Amazean Jungle Thailand by UTMB 2023 พร้อมตรวจเยี่ยมกองอำนวยการร่วมรักษาความปลอดภัย และให้กำลังใจหน่วยกำลังพื้นที่
|
วันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2566 ที่บริเวณปากอุโมงค์เบตงมงคลฤทธิ์ (ฝั่งรูปปั้นไก่) เทศบาลเมืองเบตง อําเภอเบตงจังหวัดยะลา นายเอก ยังอภัย ณ สงขลา นายอําเภอเบตง เป็นประธานปล่อยแถวหน่วยกําลังร่วมและอาสาสมัครปฎิบัติหน้าที่รักษาความปลอดภัยการจัดการแข่งขัน Amazean Jungle Thailand by UTMB 2023 เพื่อสร้างเครือข่ายในการป้องกันอาชญากรรม ระดมกวาดล้างอาชญากรรม และทําพื้นที่ให้ปลอดภัย พร้อมออกตรวจตราปฏิบัติหน้าที่ตามจุดตรวจ จุดสกัดในพื้นที่ โดยมี พ.ต.อ.สัญญา ทองสวัสดิ์ ผู้กํากับการสถานีตํารวจภูธรเบตง พร้อมด้วยปลัดอําเภอ นายบัณฑิต ประเสริฐคงแก้ว ผู้บังคับกองพัน อรม.เบตง จนท.ตร. ตชด. อส. กองกําลังภาคประชาชนกู้ชีพกู้ภัย เข้าร่วม จากนั้น นายอําเภอเบตงได้ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมกองอํานวยการร่วมรักษาความปลอดภัย (กอ.รปภ.)การจัดการแข่งขันAmazean Jungle Thailand by UTMB 2023 เพื่อรับทราบ ปัญหา อุปสรรค และมอบแนวทางการปฏิบัติแก่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พร้อมกันนี้ได้ตรวจเยี่ยมให้กําลังใจกําลังพล อส. จนท.ตร.สภ.ยะรม จนท.ตร.ตชด. ชรบ. พร้อมมอบแนวทางการปฏิบัติงานการตั้งจุดตรวจ/จุดสกัดภายในหมู่บ้าน ตรวจสอบบุคคลยานพาหนะที่เข้ามาในพื้นที่รับผิดชอบ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นแก่ประชาชน และป้องกันการลักลอบเข้ามาก่อเหตุของกลุ่มผู้ไม่หวังดี #สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
|
17/2/2023
|
ภาคใต้
|
ยะลา
|
สวท.เบตง จ.ยะลา
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230217204720383
| null |
เหตุลอบวางระเบิดรถยนต์สารวัตรสืบ ฯ สภ.บันนังสตา จ.ยะลา เสียชีวิต คาดตอบโต้ จนท.แสดงศักยภาพ
|
คืบหน้าเหตุคนร้ายลอบวางระเบิดรถยนต์ สารวัตรสืบ ฯ สภ.บันนังสตา จ.ยะลา เสียชีวิต ขณะนํากําลังเข้าตรวจสอบเหตุวางเพลิงเผาเครื่องจักรกลทําถนน จนท.คาดตอบโต้ฝ่ายความมั่นคงแสดงศักยภาพความคืบหน้า กรณีคนร้ายไม่ทราบกลุ่มและจํานวน ได้ลอบวางระเบิดรถยนต์กระบะของเจ้าหน้าที่ตํารวจ สภ.บันนังสตา จ.ยะลา ขณะที่ พ.ต.ต.ประสาน พรมประสิทธิ์ สว.สส.สภ.บันนังสตา พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตํารวจ สภ.บันนังสตา ประกอบด้วย ส.ต.อ.ภาสกร คําดี ผบ.หมู่ สส.สภ.บันนังสตา ,จ.ส.ต.สุวิทย์ ธนะวงศ์ ผบ.หมู่ สส.สภ.บันนังสตา , ส.ต.อ.สุทัศน์ มูลเงิน ผบ.หมู่ สส.สภ.บันนังสตา, ส.ต.อ.ไกรสีห์ โรจโนดม ผบ.หมู่ สส.สภ.บันนังสตา ซึ่งใช้รถยนต์กระบะโตโยต้า วีโก้ สีขาว 4 ประตู เข้าไปที่เกิดเหตุ ที่หมู่ 1 บ้านสนามบิน ต.เขื่อนบางลาง อ.บันนังสตา จ.ยะลา เพื่อตรวจสอบที่เกิดเหตุ หลังจากช่วงค่ําของวันที่ 16 ก.พ.66 ได้เกิดเหตุคนร้ายไม่ทราบกลุ่มและจํานวน ก่อเหตุลอบวางเพลิงเครื่องจักรกล รถตักดิน รถบดถนน ได้รับความเสียหายซึ่งหลังเกิดเหตุ ในช่วงสายของวันนี้ (17 กพ.66) เวลาประมาณ 11.30 น.ขณะที่ พ.ต.ต.ประสาน พรมประสิทธิ์ สว.สส.สภ.บันนังสตา นํากําลังเจ้าหน้าที่เพื่อเข้าตรวจสอบ ระหว่างทาง ได้ถูกคนร้าย คาดว่า น่าจะเป็นกลุ่มก่อเหตุเดียวกัน กดชนวนระเบิดที่ฝังไว้ใต้ผิวถนน ขณะที่ตํารวจชุดดังกล่าว ผ่านเส้นทางที่เกิดเหตุ แรงระเบิดทําให้ รถยนต์กระบะของเจ้าหน้าที่พลิกคว่ํา เจ้าหน้าที่ที่อาศัยมากับรถยนต์ดังกล่าวถูกแรงระเบิดได้รับบาดเจ็บ ส่วน พ.ต.ต.ประสาน พรมประสิทธิ์ สว.สส.สถ.บันนังสตา ถูกแรงระเบิดอัดจนร่างติดอยู่ภายในรถยนต์ที่ประสบเหตุ หลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ได้อีกชุดซึ่งได้รับแจ้ง ได้เข้าช่วยเหลือผู้ประสบเหตุที่บาดเจ็บ และนําผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาลเป็นการด่วนภายหลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด กองกํากับการสืบสวน กองบังคับการตํารวจภูธรจังหวัดยะลา ได้เข้าทําการตรวจสอบ ที่เกิดเหตุ พบว่า คนร้ายได้ใช้ระเบิดแสวงเครื่อง เชื่อว่าเป็นระเบิดที่ประกอบขึ้นเองด้วยถังแก๊สหุงต้มขนาด 7 กิโลกรัม ฝังไว้ใต้ถนน และใช้สายไฟลากไปข้างทาง พร้อมจุดชนวนระเบิด ด้วยวิทยุสื่อสารจากการตรวจสอบพื้นที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่พบหลักฐาน เป็นเศษชิ้นส่วนของถังแก๊สหุงต้ม และเศษเหล็กเส้น ตัดยาวสั้น คละขนาดจํานวนมาก กระจายเกลื่อนพื้นที่ ขณะที่รถยนต์ที่ถูกแรงอัดระเบิดบริเวณด้านซ้ายของตัวรถ จนเสียหาย พลิกคว่ํากลางถนน เจ้าหน้าที่จึงทําการเก็บหลักฐาน เพื่อนําไปตรวจขยายผลจากเหตุการณ์ดังกล่าว มีความเป็นไปได้ว่า กลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุในครั้งนี้ ได้มีการเตรียมแผนการ ในการลอบวางเพลิงเครื่องจักรกล เพื่อลวงให้เจ้าหน้าที่เข้าทําการตรวจสอบและลอบกดชนวนระเบิด เพื่อหวังสังหารเจ้าหน้าที่ และอาจจะเป็นการตอบโต้ฝ่ายความมั่นคง หลังจากที่ศาลจังหวัดยะลา ได้มีคําพิพากษา จําคุกตลอดชีวิต นายนูรุดดิน กาจะลากี ผู้ต้องหาคดียิงดาบตํารวจ ยูโซะ แววานิ เจ้าหน้าที่ตํารวจ สภ.บันนังสตา เสียชีวิต เมื่อปี 2549 ซึ่งจากเหตุการณ์ลอบยิง ดาบตํารวจยูโซะ แววานิ เมื่อวันที่ 14 ตุลาคม 2549 นั้น โดยตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาทางเจ้าหน้าที่ตํารวจพยายามติดตามสอบสวน และรวบรวมพยานหลักฐาน จนสืบทราบผู้ต้องหา คือ นายนูรุดดิน โดยเจ้าหน้าที่ได้เร่งดําเนินคดีตามกฎหมายมาอย่างต่อเนื่อง จนล่าสุดเมื่อวันที่ 29 ธันวาคม 2565 ที่ผ่านมา ศาลจังหวัดยะลา ได้มีคําพิพากษาตัดสินคดีดังกล่าว โดยพิพากษาลงโทษ นายนูรุดดิน กาจะลากี ผู้ต้องหาในคดีด้านความมั่นคง โดยให้จําคุกตลอดชีวิต จึงอาจจะเป็นชนวนเหตุให้กลุ่มคนร้ายลงมือก่อเหตุ เพื่อแสดงศักยภาพ การเคลื่อนไหวก่อเหตุ และตอบโต้เจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคง#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
|
17/2/2023
|
ภาคใต้
|
ยะลา
|
สทท.ยะลา
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230217222657395
| null |
จังหวัดบึงกาฬ แถลงข่าวการจับกุมขบวนการลักลอบขนยาเสพติดข้ามชาติ 3,000,000 เม็ด ซึ่งทุกภาคส่วนของจังหวัดบึงกาฬยังคงร่วมมือกันอย่างแข็งขันเพื่อกวาดล้างยาเสพติดอย่างจริงจังต่อไป
|
ที่ สํานักงานตํารวจภูธรจังหวัดบึงกาฬ นายนฤชา โฆษาศิวิไลซ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดบึงกาฬ เป็นประธานเปิดการแถลงข่าวร่วมกับ พล.ต.ต.ธนชาติ รอดคลองตัน รอง ผบช.ภ.4, พล.ต.ต.ณัฐนนท์ ประชุม ผบก.สส.ภ.4 ,พล.ต.ต.ตรีวิทย์ ศรีประภา ผบก.ภ.จว.บึงกาฬ , พ.ต.อ.พงศ์พัชร์ แจ้งหมื่นไว รอง ผบก.ภ.จว.บึงกาฬ พ.ต.อ.จรูญศักดิ์ ลําพุทธา ผกก.สส.ภ.จว.บึงกาฬ, พ.ต.อ.สมชาย นิลเพ็ชร ผกก.สภ.เหล่าหลวง พ.ต.อ.อรรถพร สุริยเลิศ รอง ผบก.สส.ภ.4 พ.ต.อ.ชาญณรงค์ มากพิสุทธิ์ ผกก.สส.1 บก.สส.ภ.4 และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งทหารกองกําลังสุรศักดิ์มนตรี หน่วยเรือ นรข.ปปส.ภาค 4 ตํารวจตรวจคนเข้าเมือง ตํารวจพิสูจน์หลักฐาน ตํารวจน้ํา ฝ่ายปกครอง ด่านศุลกากรบึงกาฬ แถลงการจับกุม นายอนุวัฒน์ อาย 31 ปี ที่อยู่ 177 หมู่ 15 ต.หนองกรุงธนสาร อ.กูเวียง จ.ขอนแก่น ได้ที่บริเวณริมถนนหมายเลข 2026 เขตหมู่ บ้านโพธิ์หมากแข้ง หมู่1 ต.บึงโขงหลง อ.บึงโขงหลง จ.บึงกาฬของกลางที่ยึดได้ มีดังนี้ 1.เมทแอมเฟตามีน หรือ ยาบ้า จํานวน 7.5 กระสอบ จํานวน 3,000,000 เม็ดมูลค่ากว่า 150 ล้าน 2.รถยนต์กระบะแค๊ป สีขาว ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นรีโว ติดแผ่นป้ายทะเบียน ฒฉ-6209 กทม. 3.โทรศัพท์มือถือ จํานวน 2 เครื่องข้อกล่าวหาของขบวนการลักลอบขนยาเสพติดในครั้งนี้คือ "ร่วมกันนําเข้ามาในราชอาณาจักรซึ่งยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน) หรือยาบ้า โดยไม่ได้รับอนุญาต, ร่วมกันจําหน่ายโดยการมีไว้ในครอบครอบเพื่อจําหน่ายซึ่งยาเสพติดให้โทษประเภท 1อันก่อให้เกิดผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐ หรือความปลอดภัยของประชาชน "ทั้งนี้ จากการสืบทราบของ พล.ต.ท.ยรรยง เวชโอสถ ผบช.ภ.4 ว่าจะมีการลักลอบขนยาเสพติดประเภท 1 ข้ามน้ําโขงเข้ามายังฝั่งประเทศไทยพื้นที่ อ.บึงโขงหลง จ.บึงกาฬ จึงได้สั่งให้ชุดสืบสวนตํารวจภูธร ภาค 4 สนธิกําลังกับ พล.ต.ต.ตรีวิทย์ ศรีประภา ผบก.ภ.จ.บึงกาฬ ตํารวจในพื้นที่ และเจ้าหน้าที่ส่วนเกี่ยวข้อง โดยจัดกําลังออกเป็นหลายชุดดักรออยู่ตามถนนสายหลักและสายรอง จนกระทั่งเวลาประมาณ 1:30 น. ขณะที่ได้มีการวางกําลังตามเส้นทางในพื้นที่ ต.เหล่าหลวง ต.บึงโขงหลง อ.บึงโขงหลง จ.บึงกาฬ เพื่อสกัดกั้นการลักลอบขนยาเสพติด ได้พบรถยนต์กระบะต้องสงสัยยี่ห้อ TOYOTA รุ่น REVO สีขาว แต่งโหลดเตี้ย ขับผ่านมาด้วยความเร็วโดยมีสิ่งของบรรทุกอยู่กระบะด้านหลังคลุมด้วยผ้าใบสีฟ้า จึงได้วิทยุแจ้งเพื่อตรวจสอบรถยนต์คันดังกล่าว และได้แสดงตัวเป็น จนท.สั่งให้คนขับหยุดรถ แต่ไม่ยอมหยุดโดยขับฝ่าด่านตรวจบริเวณบ้านโพธิ์หมากแข้ง ต.บึงโขงหลง จึงถูกวางตะปูเรือใบทําให้ล้อรถทั้ง 4 เส้นแตก แต่กระนั้นยังขับหนีต่อไปได้กว่า 500 เมตร ชายที่มาในรถ 2 คน จึงจอดรถทิ้งไว้แล้ววิ่งหลบหนีเข้าป่าไปในความมืด เมื่อเข้าตรวจสอบกระบะด้านหลังพบกระสอบ 8 กระสอบ ด้านในบรรจุยาบ้าจํานวนมาก เมื่อตรวจนับคร่าวๆ เป็นยาบ้าจํานวนประมาณ 3,000,000 เม็ดซึ่งจากข้อมูลของเดือน ก.พ. 2566 ยาบ้าทะลักข้ามโขงเพียงครึ่งเดือนถูกจับไปแล้ว 2 ราย ต้นเดือน 4 ล้านเม็ดได้ผู้ต้องหาและมีเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องหลายรายทั้งฝ่ายปกครองท้องที่ ตํารวจและทหาร วันนี้จับอีก 1 รายยาบ้า 3 ล้านเม็ดมูลค่า 150 ล้านบาท ผู้ต้องหา 1 รายกําลังขยายผล รวมครึ่งเดือนได้ยาบ้ากว่า 7 ล้านเม็ดแล้วจากการสืบสวนขยายผลทราบว่า นายอนุวัฒน์ โสภาศรี อาย 31 ปี ซึ่งเป็นผู้รับงานและสั่งการกลุ่มนักบิน ได้หนีไปกบดานในพื้นที่ อ.นาวัง จ.หนองบัวลําภู จึงได้ขออนุมัติหมายศาลติดตามไปจับกุมตัวได้ดังกล่าว ขณะนี้ทราบถึงเครือข่ายกลุ่มนักบินแล้วอยู่ระหว่างการติดตามจับกุมคนร้ายเพิ่มเติมเพื่อนํามาดําเนินคดีตามกฎหมาย รวมถึงสืบสวนสอบสวนขยายผลเพื่อดําเนินคดีกับบุคคลที่มีส่วนเกี่ยวข้องและกลุ่มนายทุนที่มีการสั่งการในครั้งนี้ เพื่อดําเนินคดีตามกฎหมายให้ถึงที่สุด ตํารวจภูธรภาค 4 ฝากเตือนถึงกลุ่มผู้กระทําผิดเกี่ยวกับยาเสพติดรวมถึงนายทุนผู้สั่งการในการลักลอบขนยาเสพติดเข้ามาในประเทศ ตํารวจภูธรภาค 4 ได้มีการปราบปราม สืบสวนสอบสวน จับกุมและขยายผลถึงขบวนการค้ายาเสพติดอย่างเข้มงวดมาโดยตลอด และมีการดําเนินคดีตามกฎหมายยาเสพติด กฎหมายฟอกเงิน และกฎหมายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอย่างเข้มชัน อย่างตรงไปตรงมา หากพบว่ามีผู้ใดเกี่ยวข้องกับการกระทําผิดเกี่ยวกับยาเสพติดจะต้องถูกดําเนินคดี ถูกยึดทรัพย์ตามกฎหมายจนถึงที่สุด#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
|
17/2/2023
|
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
|
บึงกาฬ
|
สวท.บึงกาฬ
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230218075809403
| null |
รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ยืนยัน รัฐบาลทำงานด้วยความตั้งใจ เพื่อพี่น้องประชาชน และเพื่อประเทศชาติ พร้อมยึดหลักต้องโปร่งใสตรวจสอบได้
|
น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ รองโฆษกประจําสํานักนายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการรัฐบาลเล่าเรื่องกับทีมนารีสโมสร ถึงการอภิปราย ทั่วไปโดยไม่มีการลงมติ ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 152 ที่เสร็จสิ้นลงแล้ว โดยนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรี ได้ชี้แจงความกังวลใจและคลายข้อสงสัยให้กับฝ่ายค้านและประชาชนในทุกประเด็น พร้อมยืนยันว่า รัฐบาลทํางานด้วยความตั้งใจ เพื่อพี่น้องประชาชนและเพื่อประเทศชาติ และที่สําคัญต้องโปร่งใสตรวจสอบได้รองโฆษกประจําสํานักนายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึง ปัญหาอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ซึ่งคณะรัฐมนตรี ได้เห็นชอบร่างพระราชกําหนดมาตรการป้องกันปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี เพื่อคุ้มครองให้ประชาชนปลอดภัยจากมิจฉาชีพ ที่มาหลอกโอนเงิน โดยเฉพาะการโอนเงินไปยังบัญชีผู้อื่น หรือบัญชีม้า
|
18/2/2023
|
ภาคกลางและปริมณฑล
|
กรุงเทพมหานคร
|
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230218123337450
| null |
คุมเข้มเมืองยะลา หลังคนร้ายวางระเบิด-ซุ่มยิงตำรวจ
|
คุมเข้มเมืองยะลา หลังคนร้ายวางระเบิด-ซุ่มยิงตํารวจจากเหตุคนร้ายได้ลอบวางระเบิด และซุ่มยิงตํารวจ สภ.บันนังสตา จ.ยะลา เมื่อวานนี้ 17 ก.พ 66 ที่บ้านสนามบิน ม.1 ต.เขื่อนบางลาง อ.บันนังสตา จ.ยะลา เป็นเหตุให้มีเจ้าหน้าที่ตํารวจเสียชีวิต 1 นาย บาดเจ็บ 5 นาย ทาง พลโท ศานติ ศกุนตนาค แม่ทัพภาคที่ 4 ได้เน้นย้ําให้หน่วยในพื้นที่เพิ่มความระมัดระวัง ปรับเปลี่ยนรูปแบบ และวิธีการในการออกปฏิบัติงานอย่างสม่ําเสมอ รวมทั้ง พล.ต.ต.เสกสันต์ ชูรังสฤษฎิ์ ผบก.ภ.จว.ยะลา ได้กําชับทุกด่านตรวจ จุดตรวจ ตํารวจ ให้เพิ่มความเข้มงวด และความระมัดระวังในการปฏิบัติหน้าที่ทุกภารกิจ หลังแหล่งข่าวแจ้งเตือนฝ่ายตรงข้ามเตรียมก่อเหตุ พื้นที่เป้าหมาย ร้านค้า สถานที่ชุมชน ปั้มน้ํามัน สถานที่ราชการ อย่างต่อเนื่อง ในขณะที่จุดตรวจ กําลังร่วม เจ้าหน้าที่ ตํารวจ สภ.เมืองยะลา และ อส.เมือง ได้ตั้งด่านตรวจ เข้มข้นบุคคล รถยนต์ รถจักรยานยนต์ รวมทั้งสิ่งของต้องสงสัย ที่จะเข้าพื้นที่รอบในเขตเมืองยะลาเพื่อป้องกัน สกัดกั้นคนร้ายที่อาจจะฉวยโอกาส แฝงตัว นําอาวุธ วัตถุระเบิด เข้ามาก่อเหตุ นอกจากนี้ ยังได้กระจายกําลังรักษาความปลอดภัยตามสถานที่สุ่มเสี่ยงต่างๆ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนในพื้นที่#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
|
18/2/2023
|
ภาคใต้
|
ยะลา
|
สทท.ยะลา
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230218082243410
| null |
คมนาคม เปิดเส้นทางบริการรถโดยสารพลังงานไฟฟ้าเพิ่ม 2 สายในกทม. ตั้งเป้าปี 2566 ขยายรถโดยสารพลังงานไฟฟ้าเพิ่มอีก 1,850 คัน ใน 45 เส้นทาง
|
นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจําสํานักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม รับทราบการเปิดให้บริการเดินรถโดยสารพลังงานไฟฟ้าเพิ่ม 2 สาย ได้แก่ สาย 38 มหาวิทยาลัยรามคําแหง วิทยาเขตบางนา-อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ และสาย 48 มหาวิทยาลัยรามคําแหง วิทยาเขตบางนา-ท่าช้าง ของบริษัท ไทย สมายล์ บัส จํากัด ภายใต้แนวคิด “Thai Smile Change For The Better” เปลี่ยนเพื่อสิ่งที่ดีกว่า อํานวยความสะดวกให้ประชาชนพร้อมแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อม ได้ขอบคุณหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งภาครัฐและภาคเอกชน ที่มุ้งเน้นให้ความสําคัญกับการสร้างสรรค์ พัฒนาบริการที่ดีแก่ประชาชน และให้ความสําคัญต่อนโยบายของรัฐบาล ในการเพิ่มประสิทธิภาพรถโดยสารสาธารณะ เพื่อให้บริการประชาชน และสนับสนุนให้ผู้คนที่เดินทางมาใช้บริการขนส่งสาธารณะที่มีคุณภาพ สะดวก สะอาด ปลอดภัย ช่วยการแก้ปัญหามลพิษ PM 2.5 รวมถึงปัญหาสิ่งแวดล้อม และการจราจรของกรุงเทพมหานครโฆษกประจําสํานักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ในปี 2565 ภาครัฐและภาคเอกชนได้ร่วมมือจัดสรรให้บริการรถโดยสารพลังงานไฟฟ้าแก่ประชาชนกว่า 1,250 คัน ใน 77 เส้นทาง เพิ่มความสะดวกให้กับประชาชน และในปี 2566 กระทรวงคมนาคมได้ตั้งเป้าหมายให้มีรถโดยสารพลังงานไฟฟ้าให้บริการประชาชนเพิ่มขึ้นอีก 1,850 คัน เพื่อขยายผลบริการรถโดยสารสาธารณะที่มีคุณภาพ โดยภาคเอกชนมีการพัฒนาคุณภาพบริการรถโดยสารเอกชนจากรถที่ใช้เชื้อเพลิงฟอสซิลไปเป็นรถโดยสารพลังงานไฟฟ้า ในอีก 45 เส้นทาง ตั้งเป้าภายในปี 2566 จะมีรถโดยสารพลังงานไฟฟ้าให้บริการถึง 3,100 คัน
|
18/2/2023
|
ภาคกลางและปริมณฑล
|
กรุงเทพมหานคร
|
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230218124244456
| null |
กระทรวงการต่างประเทศ เดินหน้าส่งเสริมความสัมพันธ์และความร่วมมือกับนานาประเทศ เกิดผลเป็นรูปธรรมหลายมิติ ทั้งการค้า-การลงทุน และการท่องเที่ยว
|
นายดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวในรายการคุยเรื่องบ้านคุยเรื่องเมือง คุยทุกเรื่องกับรัฐมนตรี ถึงการดําเนินงานด้านต่างประเทศที่ผ่านมามีหลายเรื่องที่ประสบความสําเร็จ โดยเฉพาะการรื้อฟื้นความสัมพันธ์กับประเทศซาอุดีอาระเบีย หลังจาก พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เดินทางเยือนประเทศซาอุดีอาระเบียอย่างเป็นทางการในช่วงวันที่ 25-26 มกราคมที่ผ่านมา สามารถฟื้นความสัมพันธ์ที่ห่างหายไประหว่าง 2 ประเทศให้คืนกลับสู่ระดับปกติ และมีผลเป็นรูปธรรม ทั้งการเปิดเส้นทางการบินและการตั้งสภาความร่วมมือระหว่างไทย-ซาอุดีอาระเบีย รวมถึงมกุฎราชกุมารและนายกรัฐมนตรีแห่งราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย ยังได้ตอบรับเดินทางมายังประเทศไทยเพื่อเข้าร่วมการประชุมผู้นําเขตเศรษฐกิจเอเปกที่ไทยเป็นเจ้าภาพเมื่อปี 2565 และล่าสุดวานนี้ (17 ก.พ.) รัฐบาลซาอุดีอาระเบีย ยังได้เชิญตนเองผ่านทางสถานทูตฯ เยือนซาอุดีอาระอีกครั้ง เพื่อกระชับความสัมพันธ์และสานต่อความร่วมมือในด้านต่างๆ ให้ใกล้ชิดมากขึ้น เพื่อประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชนของทั้งสองฝ่ายนอกจากซาอุดีอาระเบียแล้ว ไทยยังมีความสัมพันธ์ที่ดีกับสาธารณรัฐประชาชนจีน และสหรัฐฯ ซึ่งทั้ง 2 ประเทศ ถือเป็นประเทศมหาอํานาจ และท่ามกลางความขัดแย้ง ไทยได้ดําเนินนโยบายที่จะทําให้เกิดความสมดุลและเกิดความร่วมมือ เพื่อลดความขัดแย้งที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะหลังสถานการณ์โควิด 19 เพื่อทําให้ทุกประเทศมีบรรยากาศที่ดี เกิดโอกาสในการขยายการค้า-การลงทุน และการท่องเที่ยว จะเป็นประโยชน์ต่อประเทศในภูมิภาคและโลก
|
18/2/2023
|
ภาคกลางและปริมณฑล
|
กรุงเทพมหานคร
|
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230218124543458
| null |
สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ประเมิน แม้อยู่ในช่วงรอยต่อของการเลือกตั้ง แต่พื้นฐานเศรษฐกิจไทยยังแข็งแกร่ง ในปี 2566 ยังมีปัจจัยบวกหลายด้าน และพร้อมรับความผันผวนจากต่างประเทศ
|
น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจําสํานักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า แม้จะเป็นช่วงปลายของรัฐบาลและกําลังจะเข้าสู่การเลือกตั้ง รัฐบาลยังคงให้ความสําคัญกับการทําหน้าที่เพื่อดูแลเศรษฐกิจภายในประเทศให้เข้มแข็ง สามารถรับกับผลความผันผวนและความไม่แน่นอนสูงของเศรษฐกิจโลก ทั้งการติดตามเร่งรัดขับเคลื่อนการการลงทุนในโครงการต่างๆ ที่ผ่านการอนุมัติ มีการผูกพันงบประมาณตามขั้นตอนไปแล้วให้ดําเนินไปตามแผนงาน เบิกจ่ายงบประมาณทั้งรายจ่ายประจําและลงทุนให้เป็นไปตามเป้าหมาย โดยในปีงบประมาณ 2566 มีงบประมาณที่เป็นงบลงทุนถึง 6.64 แสนล้านบาท ที่พร้อมจะถูกผลักดันเข้าไปหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจน.ส.ไตรศุลี กล่าวด้วยว่า รัฐบาลให้ความสําคัญกับการการรักษาแรงส่งของภาคการท่องเที่ยวที่ขณะนี้กําลังฟื้นตัวได้ดี โดยเร่งแก้ไขในจุดที่ยังเป็นปัญหา ให้เกิดความพร้อม รองรับการกลับมาของนักท่องเที่ยวต่างชาติ ควบคู่กับการส่งเสริมการท่องเที่ยวภายในประเทศ ซึ่งนายกรัฐมนตรียังกําชับให้ทุกหน่วยงานดูแลเรื่องการเบิกจ่ายการลงทุนให้เป็นไปตามเป้าหมาย เพราะเม็ดเงินจากภาครัฐจะมีส่วนสําคัญต่อการขับเคลื่อนการเติบโตของเศรษฐกิจ โดยข้อมูลของสํานักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ หรือ สศช. ชี้ให้เห็นว่าพื้นฐานเศรษฐกิจไทยยังแข็งแกร่ง ปี 2566 ยังมีปัจจัยบวกทั้งการท่องเที่ยว การลงทุนรัฐ เอกชน การบริโภคในประเทศ หากขับเคลื่อนทุกส่วนเป็นไปตามเป้าหมายเศรษฐกิจไทยก็ยังสามารถเติบโตได้แม้อยู่ในช่วงรอยต่อของการเลือกตั้งสําหรับกรณีที่มีข้อกังวลว่าระหว่างมีการเลือกตั้งและรอการจัดตั้งรัฐบาลชุดถัดไปอาจจะส่งผลให้กระบวนการจัดทํางบประมาณรายจ่ายประจําปี 2567 และการเริ่มมีผลบังคับของ พ.ร.บ.งบฯ ปี 2567 ล่าช้ากว่ากรอบเวลาปกตินั้น กรณีจะไม่กระทบต่องบประมาณรายจ่ายประจําและงบประมาณที่เป็นส่วนดูแลสวัสดิการกลุ่มเปราะบางต่างๆ เนื่องจาก พ.ร.บ.วิธีการงบประมาณ ได้กําหนดไว้ว่าหากเกิดกรณีล่าช้าให้สามารถใช้งบประมาณของปีก่อนหน้าไปพลางก่อนตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่ผู้อํานวยการสํานักงบประมาณกําหนด ดังนั้นแม้จะมีความล่าช้าของ พ.ร.บ.งบฯปี 2567 ส่วนของงบรายจ่ายประจําก็ไม่มีปัญหาสะดุดแต่อย่างใด
|
18/2/2023
|
ภาคกลางและปริมณฑล
|
กรุงเทพมหานคร
|
Radio-สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230218123938455
| null |
กระทรวงการต่างประเทศ ขับเคลื่อนโครงการยุวทูตความดี เตรียมความพร้อมให้เด็กและเยาวชนมีคุณภาพ เพิ่มขึดความสามารถการแข่งขันในอนาคต
|
นายดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวในรายการคุยเรื่องบ้าน คุยเรื่องเมือง คุยทุกเรื่องกับรัฐมนตรี ผ่านทางเพจเฟสบุ๊คสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย ถึงความภาคภูมิใจตลอดระยะเวลาการทํางาน 8 ปีในด้านต่างประเทศ คือได้ทํางานที่เป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติและประชาชน รวมถึงให้ความสําคัญกับเยาวชนเป็นอนาคตของประเทศชาติ ผ่านการขับเคลื่อนโครงการยุวทูตความดี เพื่อเตรียมความพร้อมให้เด็กและเยาวชนเป็นคนที่มีคุณภาพ มีจิตสํานึกที่ดี มีความสามารถในการแข่งขันในอนาคต
|
18/2/2023
|
ภาคกลางและปริมณฑล
|
กรุงเทพมหานคร
|
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230218123639453
| null |
ผบ.พล.ร.15 นำกำลังพล ร่วมเดินทางไกลประจำเดือน เสริมสร้างศักยภาพความเข้มแข็งของร่างกาย เน้นย้ำกำลังพลต้องมีความพร้อมในการตอบสนองทุกภารกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ
|
กรมทหารราบที่ 153 ค่ายสมเด็จพระสุริโยทัย ตําบลบ่อทอง อําเภอหนองจิก จังหวัดปัตตานี พลตรี เฉลิมพร ขําเขียว ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 15 เดินทางมาเป็นประธานพิธีเปิดการตรวจสภาพความพร้อมรบ และเดินทางไกลประจําเดือน ของ กรมทหารราบที่ 153 และหน่วยขึ้นตรงกองพลทหารราบที่ 15 เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมในการปฏิบัติงานทุกภารกิจของกองทัพบก และความพร้อมของเครื่องมือยุทโธปกรณ์ทางทหาร ตลอดจนเป็นการเสริมสร้างสุขภาพร่างกาย และจิตใจให้สมบูรณ์ แข็งแรง พร้อมในการปฏิบัติภารกิจต่าง ๆ ได้ในทุกเมื่อ รวมถึงเพื่อทดสอบขีดความสามารถ และความแข็งแรงของร่างกายและจิตใจ ถือเป็นการสร้างขวัญกําลังใจ ก่อเกิดความสามัคคีให้แก่กําลังพล ในการนี้ พลตรี เฉลิมพร ขําเขียว ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 15 ได้รับชมการสาธิต และตรวจสภาพความพร้อมรบ พร้อมทั้งเยี่ยมชมโครงการศูนย์พันธุ์ไก่เบตงพระราชทาน” เพื่อนช่วยเพื่อน”ภาคใต้ตอนล่าง ,เยี่ยมชมโครงการสถานรับเลี้ยงสุนัข ของกองพันทหารราบที่ 1 กรมทหารราบที่ 153 และเยี่ยมชมโครงการเกษตรทฤษฏีใหม่ครบวงจร โดยมี พันเอก ณรงค์ ตันติสิทธิพร รองผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 15 ตลอดจนผู้บังคับหน่วยขึ้นตรงกองพลทหารราบที่ 15 เข้าร่วมกิจกรรมโดยพร้อมเพรียง ทั้งนี้ พลตรี เฉลิมพร ขําเขียว ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 15 กล่าวว่า ตามวิสัยทัศน์ของกองทัพบกเป็นกองทัพบกที่มีศักยภาพทันสมัย เป็นที่เชื่อมั่นของประชาชน และเป็นหนึ่งในกองทัพบก ชั้นนําของภูมิภาค โดยมีพันธกิจ ในการเตรียมกําลังและการใช้กําลัง การตรวจสภาพความพร้อมรบ ถือได้ว่าเป็นส่วนหนึ่งของการเตรียมกําลัง ทั้งด้านกําลังพล และอาวุธยุทโธปกรณ์ ให้มีความพร้อมในการรับมอบภารกิจ และเชื่อมั่นว่า กองพลทหารราบที่ 15 จะมีความพร้อม และสามารถปฏิบัติภารกิจ ที่ได้รับมอบหน่วยเหนือได้เป็นอย่างดี มีประสิทธิภาพ และก่อเกิดเป็นประโยชน์ให้แก่กองทัพบกต่อไป#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
|
18/2/2023
|
ภาคใต้
|
ปัตตานี
|
สวท.ปัตตานี
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230218110732433
| null |
รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ระบุ การเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการของนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ส่งผลดีต่อการพัฒนาเศรษฐกิจในพื้นที่ชายแดนไทย - มาเลเซีย
|
นายดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวถึงการเยือนไทยอย่างเป็นทางการ ของ ดาโตะ เซอรี อันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย เมื่อวันที่ 9-10 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ในโอกาสเข้ารับตําแหน่งใหม่ตามธรรมเนียมปฏิบัติของประเทศสมาชิกอาเซียน ซึ่งการเยือนครั้งนี้ นายกรัฐมนตรีของไทย และนายกรัฐมนตรีของมาเลเซีย ได้หารือเชื่อมโยงการพัฒนาเศรษฐกิจในพื้นที่ชายแดนไทย - มาเลเซียให้สามารถเดินหน้าต่อได้ เชื่อว่าเป็นโอกาสดีทําให้ประเทศเกิดความสงบสุข และเศรษฐกิจขยายตัว เป็นประโยชน์ต่อประชาชนทั้งสองประเทศส่วนสถานการณ์ในเมียนมา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า ไทยได้มีการประคับประคองและหาทางออกใช้แนวทางสันติเพื่อความสงบสุข จะส่งผลดีต่อประชาชน และภูมิภาคตะวันออกเฉียงใต้ หรืออาเซียน
|
18/2/2023
|
ภาคกลางและปริมณฑล
|
กรุงเทพมหานคร
|
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230218123441451
| null |
ผบ.ตร.บินด่วนลงใต้ติดตามคืบหน้าคดีระเบิดตำรวจบันนังสตา พร้อมเป็นประธานรดน้ำศพ วางพวงหรีดผู้กล้า
|
ผบ.ตร.ลงพื้นที่ ติดตามคดีเหตุคนร้ายลอบวางระเบิด - ซุ่มยิง รถยนต์ตํารวจตาย 1 เจ็บ 4 กําชับเร่งล่าตัวมือก่อเหตุมาดําเนินคดี พร้อมเป็นประธานรดน้ําศพ วางพวงหรีด เยี่ยมให้กําลังใจผู้บาดเจ็บวันนี้ 18 ก.พ.66 ที่ ศูนย์ปฏิบัติการตํารวจแห่งชาติ ส่วนหน้ายะลา (ศปก.ตร.สน.) อ.เมืองยะลา จ.ยะลา พล.ต.อ.ดํารงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. และคณะได้เดินทางลงมาตรวจเยี่ยมบํารุงขวัญข้าราชการตํารวจ พร้อมทั้งประชุมติดตามความคืบหน้าการสืบสวนสอบสวนกรณีเหตุคนร้ายไม่ทราบกลุ่มและจํานวน ลอบวางระเบิดและระดมยิงโจมตีเจ้าหน้าที่ตํารวจ ชุด สืบ สภ.บันนังสตา ขณะขับขี่รถยนต์กระบะ 4 ประตู ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นรีโว่ สีขาว ทะเบียน 7 กอ - 4908 กรุงเทพฯ บนถนนศรีบางลาง ทางเข้าเขื่อนบางลาง ในพื้นที่บ้านสนามบิน หมู่ที่ 1 ต.เขื่อนบางลาง อ.บันนังสตา จ.ยะลา ส่งผลให้ พ.ต.ต.ประสาน คงประสิทธิ์ สว.สส.สภ.บันนังสตา เสียชีวิต และยังทําให้ 1.จ.ส.ต.สุวิทย์ ธนะวงศ์ ผบ.หมู่ (ป.) สภ.บันนังสตา ได้รับบาดเจ็บ 2.ส.ต.ท.ไกรสีห์ โรจน์โนตม ผบ.หมู่ (ป.) สภ.บันนังสตา ได้รับบาดเจ็บ 3.ส.ต.อ.ภาสกร คําดี ผบ.หมู่ (ป.)สภ.บันนังสตา ได้รับบาดเจ็บ 4.ส.ต.ท.สุทัศน์ มูลเงิน ผบ.หมู่ (ป.)สภ.บันนังสตา ได้รับบาดเจ็บ โดยเหตุเกิดเมื่อวันที่ 17 ก.พ.66 ที่ผ่านมา ทั้งนี้ ผบ.ตร. ได้กําชับให้ พล.ต.ท.นันทเดช ย้อยนวล ผบช.ภ.9 เร่งสืบสวนสอบสวนติดตามกลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุ เพื่อนําตัวกลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุ เพื่อมาลงโทษตามกฎหมายต่อไป สําหรับคนร้ายที่ก่อเหตุในครั้งนี้ ทางเจ้าหน้าที่คาดว่าจะเป็นฝีมือของกลุ่มคนร้ายที่เคลื่อนไหวในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ส่วนแนวทางการเยียวยาช่วยเหลือ โดยสํานักงานตํารวจแห่งชาติ ได้สั่งการให้กองสวัสดิการ สํานักงานกําลังพล ให้เร่งดําเนินการปูนบําเหน็จ และสิทธิต่างๆ ให้กับทายาทผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บจากการปฏิบัติหน้าที่ โดยทาง พ.ต.ต.ประสาน พรมประสิทธิ์ สว.สส.สภ.บันนังสตา จ.ยะลา ที่เสียชีวิต ได้รับสิทธิประโยชน์เลื่อนเงินเดือนกรณีพิเศษจํานวน 7 ขั้น ส่วนเจ้าหน้าที่ตํารวจ อีก 4 นาย ที่ได้รับบาดเจ็บก็ให้ดําเนินการดูแลสวัสดิการและสิทธิประโยชน์ต่างๆ ตามระเบียบอย่างเต็มที่จากนั้นได้เดินทางไปเป็นประธานในพิธีวางพวงหรีดเคารพศพ พ.ต.ต.ประสาน คงประสิทธิ์ สว.สส.สภ.บันนังสตา ที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์ดังกล่าว และเป็นประธานรดน้ําศพ มอบเงินช่วยเหลือเยียวยา แก่ครอบครัว และทายาท ตํารวจผู้กล้า และได้เดินทางต่อไปยัง รพ.ยะลา รพ.ยะลาสิริรัตนรักษ์ ภายในศูนย์ปฏิบัติการสํานักงานตํารวจ แห่งชาติส่วนหน้า (ศปก.ตร.สน.)เยี่ยมให้กําลังใจผู้บาดเจ็บ พร้อมมอบเงินเยียวยาช่วยเหลือพล.ต.อ.ดํารงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. เปิดเผยว่า วันนี้ได้มาติดตามความคืบหน้าลอบวางระเบิดบันนันสตาเมื่อวานนี้ จากการติดตามทางทีมงานตํารวจภูธรภาค 9 ได้ความคืบหน้าทางด้านคดีได้รวบรวมหลักฐานพอสมควร คิดว่าสามารถติดตามคนร้ายได้เร็วๆ นี้ เป็นลักษณะเป็นการทําเหตุต่างๆ มาก่อนๆ เพื่อให้ลวงตํารวจเข้าไปในพื้นที่ จริงๆ แล้วเรามีบทเรียนแล้ว แต่คราวนี้เพียงแต่ว่ามีบางจุดที่เราอาจจะเชื่อมั่นว่า เราสามารถควบคุมสถานการณ์ได้แต่ก็มีเกิดการข้อผิดพลาดบ้าง ซึ่งก็ถือว่าทางเจ้าหน้าที่เองก็ตั้งใจทํางานอย่างเต็มที่ ซึ่งผู้เสียชีวิตก็พึ่งได้รับเลื่อนตําแหน่งสูงขึ้น เขาก็ตั้งใจในการทํางาน เราก็จะทําสิ่งที่เกิดในวันนี้ปรับปรุงเรื่องอุปกรณ์เครื่องมือเครื่องใช้ โดยเฉพาะยานพาหนะก็คงต้องมีความปลอดภัยมากขึ้น เชื่อว่ายานพาหนะเราใช้มีเครื่องป้องกันดีมากกว่านี้ ก็น่าจะป้องกันความสูญเสียได้ วันนี้ก็มีการเน้นย้ําว่าจะช่วยกันในการทําข้อมูลให้เร็วและก็รวบรวมพยานหลักฐานให้เร็วที่สุด เพื่อติดตามคนร้ายให้เร็วที่สุด วันนี้ถือโอกาสมารดน้ําศพผู้เสียชีวิตด้วย และมาเยี่ยมคนเจ็บ วันนี้ก็นําเงินบางส่วนของสวัสดิการตํารวจ มามอบให้กับผู้เสียชีวิตและมอบให้กับผู้บาดเจ็บ วันนี้จากการรวบรวมตัวเงินที่ของผู้เสียชีวิต ทั้งในส่วนของภาคใต้ก็ดี ซึ่งมีเงินเยียวยาพอสมควรและของ ต.ร.(ตํารวจ) เองก็ 4 ล้านเศษ ส่วนของผู้บาดเจ็บก็หลายแสนและของคู่บาดเจ็บธรรมดาก็เกือบแสนบาดเพื่อเป็นขวัญกําลังใจให้กับครอบครัวผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บต่อไป#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
|
18/2/2023
|
ภาคใต้
|
ยะลา
|
สทท.ยะลา
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230218134733460
| null |
ผบ.ตร.บินด่วนลงใต้ ประชุมติดตามเหตุระเบิด - ซุ่มยิง สารวัตรสืบเสียชีวิต
|
วันนี้ 18 ก.พ.66 เวลา 10.15 น. ที่ศูนย์ปฏิบัติการสํานักงานตํารวจแห่งชาติ ส่วนหน้า อ.เมือง จ.ยะลา พล.ต.อ.ดํารงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตํารวจแห่งชาติ พร้อมคณะ เดินทางลงพื้นที่จังหวัดยะลา ประชุมติดตามสถานการณ์ความไม่สงบ เหตุคนร้ายลอบวางระเบิดเจ้าหน้าที่ตํารวจ สภ.บันนังสตา ขณะนํากําลังเจ้าหน้าที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุคนร้ายลอบวางเพลิงเผารถเกรด ทําถนน ในพื้นที่ อ.บันนังสตา เป็นเหตุให้เจ้าหน้าที่ตํารวจเสียชีวิต 1 นาย ได้รับบาดเจ็บ 4 นาย โดยมี พล.ต.ท.นันทเดช ย้อยนวล ผู้บัญชาการตตํารวจภุธรภาค 9 ผู้บังคับบัญชา ร่วมให้การต้อนรับ พล.ต.อ.ดํารงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตํารวจแห่งชาติ กล่าวว่า ขณะนี้ทางตํารวจภูธรภาค 9 ได้แจ้งมีความคืบหน้าเป็นลําดับ โดยเฉพาะด้านคดี ได้รวบรวมหลักฐานพอสมควร คิดว่าสามารถติดตามคนร้ายได้เร็วๆ นี้ ซึ่งลักษณะการก่อเหตุ คือลวงเจ้าหน้าที่ตํารวจเข้าไปในพื้นที่ ที่ผ่านเจ้าหน้าที่ก็มีความระมัดระวังในการเข้าตรวจสอบอยู่แล้ว แต่ครั้งนี้ นี้เพียงมีบางจุด ที่คนร้ายพยายามจ้องเพื่อทําร้ายเจ้าหน้าที่ อย่างไรก็ตาม สําหรับว่าที่ พ.ต.ต.ประสาน คงประสิทธิ์ สว.สส.สภ.บังนังสตา ก่อนหน้านี้เป็นเจ้าหน้าที่การข่าวในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และเพิ่งย้ายมารับตําแหน่งที่ สภ.บันนังสตา ในคําสั่งตํารวจ ที่เพิ่งมีการประกาศไป โดยได้เดินทางมารับตําแหน่งได้เพียงแค่ 2 วันเท่านั้นผบ.ตร.ได้แสดงความเสียใจอย่างยิ่งต่อครอบครัว พ.ต.ต.ประสาน พรมประสิทธิ์ ที่มีจิตวิญญาณผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ ปฏิบัติหน้าที่เสียสละเพื่อประเทศชาติ นับเป็นการสูญเสียครั้งสําคัญของสํานักงานตํารวจแห่งชาติ ได้สั่งการให้ดูแลสวัสดิการ พิจารณาปูนบําเหน็จสิทธิประโยชน์ต่างๆ ตามระเบียบราชการอย่างเต็มที่ รวมทั้งการจัดพิธีศพให้สมเกียรติ ส่วนข้าราชการตํารวจที่ได้รับบาดเจ็บ ให้เข้าช่วยเหลือดูแลการรักษา สิทธิประโยชน์ต่างๆ ให้เรียบร้อยจากนั้น ผบ.ตร.ได้เดินทางไปยังฌาปนสถาน วัดเมืองยะลา พระอารามหลวง อ.เมือง จ.ยะลา เพื่อเป็นประธานวางพวงหรีดเคารพศพ พ.ต.ต. ประสาน คงประสิทธิ์ ที่เสียชีวิตจากเหตุระเบิด พร้อมทั้งประกอบพิธีรดน้ําศพ และมอบเงินช่วยเหลือจากทางสํานักงานตํารวจแห่งชาติ ให้กับครอบครัว พร้อมทั้งเดินทางไปยังโรงพยาบาลยะลา และโรงพยาบาลสิริรัตนรักษ์ ภายในศูนย์ปฏิบัติการสํานักงานตํารวจแห่งชาติ ส่วนหน้า เพื่อเข้าเยี่ยมเจ้าหน้าที่ตํารวจที่ได้รับบาดเจ็บทั้ง 4 นาย มอบเงินช่วยเหลือจากสํานักงานตํารวจแห่งชาติ พร้อมทั้งสร้างขวัญกําลังในการปฏิบัติหน้าที่ #สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
|
18/2/2023
|
ภาคกลางและปริมณฑล
|
กรุงเทพมหานคร
|
สวท.ยะลา
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230218140513463
| null |
ผบ.ตร.บินด่วนลงใต้ ติดตามเหตุระเบิดที่ยะลา ประธานวางพวงหรีด รดน้ำศพ พร้อมเยี่ยมผู้บาดเจ็บ
|
วันนี้ 18 ก.พ.66 เวลา 10.15 น. ที่ศูนย์ปฏิบัติการสํานักงานตํารวจแห่งชาติ ส่วนหน้า อ.เมือง จ.ยะลา พล.ต.อ.ดํารงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตํารวจแห่งชาติ พร้อมคณะ เดินทางลงพื้นที่จังหวัดยะลา ประชุมติดตามสถานการณ์ความไม่สงบ เหตุคนร้ายลอบวางระเบิดยเจ้าหน้าที่ตํารวจ สภ.บันนังสตา ขณะนํากําลังเจ้าหน้าที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุคนร้ายลอบวางเพลิงเผารถเกรดทําถนนในพื้นที่ อ.บันนังสตา เป็นเหตุให้เจ้าหน้าที่ตํารวจเสียชีวิต 1 นาย ได้รับบาดเจ็บ 4 นาย โดยมี พล.ต.ท.นันทเดช ย้อยนวล ผู้บัญชาการตตํารวจภุธรภาค 9 ผู้บังคับบัญชา ร่วมให้การต้อนรับจากนั้นเดินทางไปยังฌาปนสถาน วัดเมืองยะลา พระอารามหลวง อ.เมือง จ.ยะลา เพื่อเป็นประธานวางพวงหรีดเคารพศพ พ.ต.ต. ประสาน คงประสิทธิ์ ตําแหน่ง สว.สส.สภ.บันนังสตา ที่เสียชีวิตจากเหตุระเบิด พร้อมทั้งประกอบพิธีรดน้ําศพ และมอบเงินช่วยเหลือจากทางสํานักงานตํารวจแห่งชาติ ให้กับครอบครัว ท่ามกลางความเศร้าโศกเสียใจของภรรยา บุตรธิดา และครอบครัว รวมทั้งเพื่อนตํารวจ และเจ้าหน้าที่หน่วยงานความมั่นคง ทหาร ฝ่ายปกครอง เข้าร่วม จากนั้นเดินทางไปยังโรงพยาบาลยะลา และโรงพยาบาลสิริรัตนรักษ์ ภายในศูนย์ปฏิบัติการสํานักงานตํารวจแห่งชาติ ส่วนหน้า เพื่อเข้าเยี่ยมเจ้าหน้าที่ตํารวจที่ได้รับบาดเจ็บทั้ง 4 นาย มอบเงินช่วยเหลือจากสํานักงานตํารวจแห่งชาติ พร้อมทั้งสร้างขวัญกําลังในการปฏิบัติหน้าที่พล.ต.อ.ดํารงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตํารวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า วันนี้ก็มาติดตามความคืบหน้าลอบวางระเบิดในพื้นที่ อ.บันนันสตา จากการติดตามทางทีมงานตํารวจภูธรภาค 9 ได้ความคืบหน้าทางด้านคดีได้รวบรวมหลักฐานพอสมควร ทั้งพยานหลักฐาน และดีเอ็นเอ สามารถติดตามคนร้ายได้เร็วๆ นี้ ซึ่งคนร้ายที่ก่อเหตุ ขณะนี้รู้กลุ่มผู้ก่อเหตุแล้ว ที่ผ่านมามีหมายจับ ป.วิอาญา หลายหมาย ขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่เร่งติดตามคนร้ายอย่างใกล้ชิด เป็นลักษณะการก่อเหตุ เคยเกิดขึ้นมาก่อนหน้านี้ เพื่อให้ลวงตํารวจเข้าไปในพื้นที่ ซึ่งที่ผ่านทางเจ้าหน้าที่มีความระมัดระวังในการเข้าตรวจสอบ แต่คราวนี้เพียงมีบางจุด ที่คนร้ายพยายามจ้องเพื่อทําร้ายเจ้าหน้าที่ ซึ่งเชื่อมั่นว่าสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ แต่ก็มีเกิดการข้อผิดพลาดบ้าง ซึ่งก็ถือว่าทางเจ้าหน้าที่เองก็ตั้งใจทํางานอย่างเต็มที่ ซึ่งผู้เสียชีวิตก็พึ่งได้รับเลื่อนตําแหน่งสูงขึ้น เขาก็ตั้งใจในการทํางาน เราก็จะทําสิ่งที่เกิดในวันนี้ปรับปรุงเรื่องอุปกรณ์เครื่องมือเครื่องใช้ โดยเฉพาะยานพาหนะก็คงต้องมีความปลอดภัยมากขึ้น เชื่อว่ายานพาหนะเราใช้มีเครื่องป้องกันดีมากกว่านี้ ก็น่าจะป้องกันความสูญเสียได้ วันนี้ก็มีการเน้นย้ําว่าจะช่วยกันในการทําข้อมูลให้เร็วและก็รวบรวมพยานหลักฐานให้เร็วที่สุด เพื่อติดตามคนร้ายให้เร็วที่สุด และมารดน้ําศพผู้เสียชีวิต และเยี่ยมผู้บาดเจ็บ นําเงินบางส่วนของสวัสดิการตํารวจ มามอบให้กับผู้เสียชีวิตและมอบให้กับผู้บาดเจ็บ ซึ่งทางสํานักงานตํารงวจแห่งชาติ พร้อมให้การช่วยเหลืออย่างเต็มที่#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
|
18/2/2023
|
ภาคใต้
|
ยะลา
|
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดยะลา
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230218141023464
| null |
รัฐบาล จัดแข่งกีฬายิงธนูโบราณ ที่สนามกีฬากลางเทศบาลเมืองเบตง จ.ยะลา ส่งเสริมกีฬาและวัฒนธรรมท้องถิ่น
|
นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกรัฐบาลในฐานะผู้แทนพิเศษของรัฐบาลในการแก้ปัญหาจังหวัดชายแดนใต้ด้านประสานการมีส่วนร่วม เยี่ยมชมการแข่งขันกีฬายิงธนูเทรดดี้ (กีฬายิงธนูโบราณ) Amazean Archery 2023 @BETONG ซึ่งจัดขึ้นภายใต้การแข่งขันวิ่งเทรล Amazean jungle Thailand by UTMB 2023 ระหว่าง 17-19 กุมภาพันธ์นี้ ที่ สนามกีฬากลางเทศบาลเมืองเบตง จังหวัดยะลา ภายในงานมีการแข่งขันประเภทต่างๆ อาทิ การแข่งขัน Fun Game, Night shooting ซึ่งนักกีฬายิงธนูจะใส่ชุดพื้นเมือง ชุดประจําถิ่นหรือชุดรายอ และผ้าลือปัส หรือสมูตาตลอดที่ทําการแข่งขัน ถือเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของกีฬาธนูเทรดดี้ ทั้งนี้ กีฬายิงธนูโบราณ ถือเป็นกีฬาด้านการสร้างศิลปวัฒนธรรม ควบคู่กับวิถีชีวิตของคนในพื้นที่ สอดคล้องกับวิถีชีวิต วัฒนธรรมความเป็นมลายู รัฐบาลจึงให้การสนับสนุนและได้นํามาบรรจุเป็นกิจกรรมคู่ขนานกับการแข่งขันรายการ Amazean jungle Thailand by UTMB 2023 ขณะนี้เยาวชนให้ความสนใจกีฬาชนิดนี้เพื่มมากขึ้น เริ่มมีการสนับสนุนในระดับโรงเรียน แสดงให้เห็นถึงกีฬาและวัฒนธรรมเป็นของคู่กัน โดยภาครัฐพร้อมให้การสนับสนุน
|
18/2/2023
|
ภาคกลางและปริมณฑล
|
กรุงเทพมหานคร
|
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230218191728522
| null |
ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองเชียงใหม่ร่วมตำรวจท่องเที่ยวรวบหนุ่มชาวอังกฤษลักลอบเข้าเมือง
|
พล.ต.อ.ดํารงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตํารวจแห่งชาติ กําชับให้สํานักงานตรวจคนเข้าเมือง ดําเนินการตรวจสอบชาวต่างชาติที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมในขณะที่พํานักอาศัยอยู่ในประเทศไทย กระทําผิดกฎหมาย หรือกลุ่มคนร้ายข้ามชาติที่เข้ามาแฝงตัวอยู่ก่อเหตุกับคนไทยหรือชาวต่างชาติ โดยใช้ประเทศไทยเป็นฐานในการกระทําความผิดล่าสุด พ.ต.อ.ศราวุธ วะเท ผกก.ตม.จว.เชียงใหม่ และ พ.ต.ท.หญิง พัสษลพร ศุกระศร รอง ผกก.ตม.จว.เชียงใหม่ มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ งานสืบสวนปราบปรามฯ ทําการสืบสวนเพื่อจับกุมคนต่างด้าว ซึ่งได้กระทําความผิด ตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมือง โดยวันที่ 18 ก.พ.66 ตม.จว.เชียงใหม่ บูรณาการร่วมกับ สายตรวจตร.ท่องเที่ยว ทท.1กก.2 บก.ทท.2 ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุ ตร.ท่องเที่ยว ว่ามีชายชาวต่างชาติ ไม่จ่ายค่าที่พัก และมีพฤติกรรมมึนเมาก่อความวุ่นวาย ภายในบริเวณโรงแรมย่านช้างเผือก อ.เมือง จ.เชียงใหม่ จึงได้เข้าตรวจสอบยังสถานที่ดังกล่าว พบบุคคลต่างด้าวสัญชาติบริติช อายุประมาณ 23 ปี เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมฯ จึงได้ตรวจสอบหนังสือเดินทางบุคคลต่างด้าวรายดังกล่าวเบื้องต้น พบว่า บุคคลดังกล่าวได้เดินทางออกจากประเทศไทยไปเมื่อเดือน ตุลาคม และไม่มีตราประทับการเดินทางเข้าประเทศไทยอีก จากการสอบถามให้การรับสารภาพว่าได้หลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย จึงได้จับกุมบุคคลต่างด้าวสัญชาติบริติช รายดังกล่าว ในข้อหา “เป็นบุคคลต่างด้าวเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต” นําส่งพนักงานสอบสวน สภ.ช้างเผือก เพื่อดําเนินคดีตามกฎหมายต่อไป#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
|
18/2/2023
|
ภาคเหนือ
|
แม่ฮ่องสอน
|
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดแม่ฮ่องสอน
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230218205306530
| null |
อำเภอเทพารักษ์บูรณาการหลายหน่วยงานร่วมกันตรวจยึดไม้กระยาเลยในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าดงกระสังเเละป่าลำพญากลาง
|
นายบรรดูลย์ พูนรัตนบัณฑิตย์ นายอําเภอเทพารักษ์ มอบหมายให้นายรัชชานนท์ เชียรพิมาย ปลัดอําเภอฝ่ายความมั่นคง นํากําลังอส.ร่วมกับ จนท.หน่วยป้องกันและพัฒนาป่าไม้ด่านขุนทด จนท.ป่าไม้หน่วยป้องกันรักษาป่าไม้นม.7(ด่านขุนทด) จนท.ตํารวจกก.3ยก.ปทส. จนท.ศูนย์ป้องกันและปราบปรามที่ 2 จนท.ตํารวจสภ.เทพารักษ์ ผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ ร่วมกันตรวจยึดไม้กระยาเลยจํานวน 23 ท่อน/ปริมาตร6.031 ลบ.ม. บริเวณพื้นที่หมู่ที่ 3 ตําบลบึงปรือ ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าดงกระสังเเละป่าลําพญากลาง โดยทําการแจ้งความร้องทุกข์/กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวนสภ.เทพารักษ์เพื่อสืบสวนหาตัวผู้กระทําความผิดมาดําเนินคดีตาทกฏหมายต่อไป #สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
|
18/2/2023
|
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
|
นครราชสีมา
|
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนครราชสีมา
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230218204842528
| null |
ผบ.ตร. แถลงจับกุมยาเสพติดตรวจยึด อายัดทรัพย์สินมูลค่ากว่า 3,000,000 บาท
|
ที่ศูนย์ปฏิบัติการตํารวจแห่งชาติ ส่วนหน้ายะลา (ศปก.ตร.สน.) อ.เมืองยะลา จ.ยะลา พล.ต.อ.ดํารงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร.. พล.ต.อ.ชินภัทร สารสิน รอง ผบ.ตร., พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผู้ช่วย ผบ.ตร.. พล.ต.ท.นันทเดช ย้อยนวล ผบช.ก.9 และคณะ พร้อมด้วย เลขาธิการ ป.ป.ส. ผอ.ปปส.ภาค 9 ได้ร่วมกันแถลงผลการจับกุม ยาบ้า 800,000 เม็ด, ไอซ์ จํานวน 30 กิโลกรัมพร้อมตรวจยึดของกลาง และผู้ต้องหาสําหรับการจับกุมในครั้งนี้ สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2566 เวลาประมาณ 15.00 น. จนท.ตร.สภ.ทุ่งตําเสา ภ.จว.สงขลา ได้ตรวจยึดของกล่องพัสดุจํานวน 10 ลัง ตรวจสอบพบ ยาบ้า จํานวน 800,000 เม็ด และ ไอซ์ จํานวน 30 กิโลกรัม บริเวณป่าพงหญ้าริมถนนทางเข้านิคมอุตสาหกรรมฉลุง ม.4 ต.ณลุง อ.หาดใหญ่ จ.สงขลาต่อมาเวลาประมาณ 19.30 น. ทางจนท.ตร.กก.สส.3 บก.สส.ภ.9 และ จนท.ป.ป.ส.ภาค 9 ได้ร่วมกันขยายผลผู้ที่มารับกล่องพัสดุทั้ง 10 ลัง ซึ่งภายในกล่องพัสดุบรรจุยาบ้า จํานวน 800,000 เม็ด และไอซ์ จํานวน 30 กิโลกรัม ได้จํานวน 3 คน คือ นายวีรยุทธ ทส. อายุ 38 ปี ที่อยู่ 1642/1 ม.3 ถ.สนามบิน-ลพบุรีราเมศวร์ ต.ควนลัง อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา นายสรายุทธ อายุ 37 ปี ที่อยู่ 209 ถ.สันติราษฎร์ ต.หาดใหญ่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา และ นายทรงพล อายุ 34 ปี ที่อยู่ 434/20 ถ.กาญจนวนิช ต.บ้านพรุ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา สถานที่จับกุม ริมถนนเพชรเกษม ตรงข้ามที่ว่าการอําเภอหาดใหญ่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ขณะผู้ถูกจับทั้ง 3 คน มารับกล่องพัสดุจํานวน 10 กล่องที่บรรจุยาเสพติดอยู่ภายในโดยกล่าวหา ว่า "ร่วมกันมีไว้ในครอบครองซึ่งยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า และไอซ์) ไว้เพื่อจําหน่าย อันเป็นการกระทําเพื่อการค้าและเป็นการก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชนโดยไม่ได้รับอนุญาต"จากการตรวจสอบประวัติของผู้ถูกจับกุมทั้ง 3 คน เคยต้องโทษในคดียาเสพติดและเพิ่งพ้นโทษมาได้ระยะหนึ่ง สําหรับนายสรายุทธหรือปอน ราหู เศรษฐรินทร์ สมัครใจรับว่าได้กระทําในลักษณะดังกล่าวนี้มาแล้ว จํานวน 4 ครั้ง นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ยังได้ตรวจยึด อายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวเนื่องกับการค้ายาเสพติด ประกอบด้วย รถยนต์เก๋ง MG สีขาว ทะเบียนสงขลา จํานวน 1 คัน รถยนต์ Mitsubishi Pajero Sport สีเทา ทะเบียนสงขลา จํานวน 1 คัน รถยนต์เก๋ง ฮอนด้า ชีวิค สีดํา ทะเบียนสงขลา จํานวน 1 คัน อายัดบัญชีธนาคารจํานวน 3 บัญชี (อยู่ระหว่างตรวจสอบ) รวมมูลค่าทรัพย์สินประมาณ 3,000,000 บาท#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
|
19/2/2023
|
ภาคใต้
|
ยะลา
|
สทท.ยะลา
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230219081004550
| null |
ผบ.ตร.แถลง ตร.ภูธรภาค 9 จับยาบ้า-ไอซ์ พร้อมของกลางรวมจำนวนกว่า 3 ล้านบาท
|
วันนี้(19กพ.66) ที่ศูนย์ปฎิบัติการสํานักงานตํารวจแห่งชาติ ส่วนหน้า อ.เมือง จ.ยะลา พล.ต.อ.ดํารงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร.แถลงข่าวการจับกุมและตรวจยึดยาบ้าจํานวน 800,000 เม็ด และยาไอซ์อีกจํานวน 30 กิโลกรัมเมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2566 ที่ผ่านมา โดยจนท.ตร.สภ.ทุ่งตําเสา ภ.จว.สงขลา ตรวจยึดของกล่องพัสดุจํานวน 10 ลัง ตรวจสอบพบ ยาบ้า จํานวน 800,000 เม็ด และ ไอซ์ จํานวน 30 กิโลกรัม บริเวณป่าพงหญ้าริมถนนทางเข้านิคมอุตสาหกรรมฉลุง ม.4 ต.ฉลุง อ.หาดใหญ่ จ.สงขลาต่อมาเวลาประมาณ 19.30 น. จนท.ตร.กก.สส.3 บก.สส.ภ.9 และ จนท.ป.ป.ส.ภาค 9 ร่วมกันขยายผล ผู้ที่มารับกล่องพัสดุทั้ง 10 ลัง ซึ่งภายในกล่องพัสดุบรรจุยาบ้าจํานวน 800,000 เม็ดและไอซ์ จํานวน 30 กิโลกรัม ได้จํานวน 3 คน คือ นายวีรยุทธ อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 1642/1 ม.3 ถ.สนามบิน-ลพบุรีราเมศวร์ต.ควนลัง อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา 2.นายสรายุทธ อายุ 37 ปี อยู่บ้านเลขที่ 209 ถ.สันติราษฎร์ ต.หาดใหญ่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา และ 3.นายทรงพลอายุ 34 ปี อยู่บ้านเลขที่ 434/20 ถ.กาญจนวนิช ต.บ้านพรุ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา โดยจับกุมได้ที่บริเวณริมถนนเพชรเกษม ตรงข้ามที่ว่าการอําเภอหาดใหญ่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ขณะผู้ถูกจับกุมทั้ง 3 คน มารับกล่องพัสดุจํานวน 10 กล่องที่บรรจุยาเสพติดอยู่ภายใน ซึ่งทาง จนท.กล่าวหาผู้ถูกจับกุมทั้ง 3 คน ว่า “ร่วมกันมีไว้ในครอบครองซึ่งยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า และไอซ์) ไว้เพื่อจําหน่าย อันเป็นการกระทําเพื่อการค้าและเป็นการก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชนโดยไม่ได้รับอนุญาต” ทั้งนี้ จากการตรวจสอบประวัติของทั้ง 3 คน เคยต้องโทษในคดียาเสพติดและเพิ่งพ้นโทษมาได้ ระยะหนึ่ง โดยนายสรายุทธหรือปอน ราหู เศรษฐรินทร์สมัครใจรับว่าได้กระทําในลักษณะดังกล่าวนี้มาแล้วจํานวน 4 ครั้ง สําหรับของกลางที่ตรวจยึดได้ ประกอบด้วยรถยนต์เก๋ง MG สีขาว ทะเบียน งข 5796 สงขลา จํานวน 1 คัน ,รถยนต์ Mitsubishi Pajero Sport สีเทา ทะเบียน ขต 144 สงขลา จํานวน 1 คัน ,รถยนต์เก๋ง ฮอนด้า ซีวิค สีดํา ทะเบียน กร 6236 สงขลา จํานวน 1 คัน ,อายัดบัญชีธนาคารจํานวน 3 บัญชี (อยู่ระหว่างตรวจสอบ) รวมมูลค่าทรัพย์สินประมาณ 3,000,000 บาท#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
|
19/2/2023
|
ภาคใต้
|
ยะลา
|
สวท.ยะลา
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230219081558552
| null |
ทหารเรือ นรข.บึงกาฬ และมนุษย์กบ ร่วมกันทะลายขบวนการ “รถแลกยา” ข้ามชาติ ตรวจยึดยาบ้าได้ถึง 3.2 ล้านเม็ด พร้อมรถยนต์อีก 7 คัน
|
วันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2566 เวลา 13.00 น. ณ สถานีเรือบึงกาฬ อําเภอเมืองบึงกาฬ จังหวัดบึงกาฬ? นายนฤชา โฆษาศิวิไลซ์? ผู้ว่าราชการจังหวัดบึงกาฬ พล.ร.ต.สมาน ขันธพงษ์? ผบ.นรข.? นายนพดล จอมเพชร? ปลัดจังหวัดบึงกาฬ? นายธีระพล ขุนพานเพิง นายอําเภอเมืองบึงกาฬ? น.อ.จิรัฏฐ์ ผูกทอง? ผบ.นรข.เขตหนองคาย แถลงข่าวจับกุมยาบ้า 3.2 ล้านเม็ด โดยเหตุการ?ณ์เมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2566 เวลาประมาณ 16.30 น. ภายใต้การอํานวยการของ พล.ร.ต. สมาน ขันธพงษ์ ผบ.นรข และ น.อ.จิรัฏฐ์ ผูกทอง ผบ.นรข เขตหนองคาย โดย น.ท. ศิริพงษ์ นพไธสง หน.สน.เรือบึงกาฬ ได้รับแจ้งจากสายลับว่าจะมีการลักลอบขนยาเสพติดจากประเทศเพื่อนบ้านเข้ามา ในพื้นที่รับผิดชอบของ สน.เรือบึงกาฬ นรข,เขตหนองคาย บริเวณพื้นที่บ้านคําหมื่น ตําบลไคสี อําเภอเมือง จังหวัดบึงกาฬ จึงได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ พร้อมกับสั่งการให้ชุดสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติด สน.เรือบึงกาฬ วางแผนในการสกัดกั้น และจับกลุ่ม ร่วมกับหน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่ โดยวางกําลังในพื้นที่ ที่สายลับแจ้งและบริเวณใกล้เคียง จนกระทั่งเวลาประมาณ 21:10 น เจ้าหน้าที่ชุดซุ่มเฝ้าตรวจบริเวณริมฝั่งแม่น้ําโขง (ด้านใต้ท่าทรายอดิศักดิ์รวี) บ้านคําหมื่น ตําบลไคสี อําเภอเมือง จังหวัดบึงกาฬ ได้ใช้กล้องตรวจการณ์กลางคืนตรวจพบเรือกีบจํานวน 1 ลํา บนเรือมีกลุ่มบุคคลประมาณ 4-5 คน นั่งมากับเรือ โดยเรือได้แล่นจากกลางลําน้ําโขง และเข้ามาจอดเทียบฝั่งห่างจากจุดที่ชุดซุ่มเฝ้าตรวจได้ดักซุ่ม ระยะประมาณ 100 เมตร เจ้าหน้าที่ชุดซุ่มเฝ้าตรวจจึงได้ออกจากจุดซุ่ม และเคลื่อนตัวเข้าไปเฝ้าสังเกตพฤติกรรมกลุ่มบุคคลดังกล่าว ต่อมาได้มีรถยนต์ต้องสงสัย จํานวน 1 คัน วิ่งเข้ามาตามถนนลูกรัง ซอยโยธาธิการ น.ค.2045 มาจอดบริเวณกระท่อมไม่มีเลขที่ ภายในสวนยางพาราใกล้กับจุดเรือจอด จากนั้นกลุ่มบุคคลที่มากับเรือได้ช่วยกันลําเลียงวัตถุต้องสงสัยที่บรรทุกมากับเรือขึ้นมาใส่ไว้ในรถยนต์คันดังกล่าว เจ้าหน้าที่ชุดซุ่มตรวจได้ใช้วิทยุสื่อสารติดต่อให้ชุดสกัดทางบกนํารถยนต์วิ่งเข้ามาตามถนนลูกรัง ซอยโยธาธิการ นค.2045 เพื่อสกัดกั้นการหลบหนีและได้ออกจากจุดซุ่มพร้อมกับแสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่นรข. เพื่อขอทําการตรวจสอบ แต่คนขับเรือไหวตัวทันจึงขับเรือแล่นกลับไปยังฝั่งประเทศเพื่อนบ้านทันที เจ้าหน้าที่ไม่สามารถติดตามได้เนื่องจากเกรงว่าจะเกิดอันตรายเนื่องจากเป็นเวลากลางคืน ในขณะเดียวกันคนขับรถยนต์ต้องสงสัยคันดังกล่าวได้ขับรถยนต์ออกไปจากจุดที่จอดอยู่ทันทีต่อมาชุดสกัดทางบกได้ขับรถยนต์มาตามทางถนนลูกรัง ซอยโยธาธิการ นค.2045 ได้ตรวจพบรถยนต์นั่งส่วนบุคคลจํานวน 1 คัน พบเป็นตราอักษรโตโยต้า รุ่นยาริส สีขาว หมายเลขทะเบียน 3 ขช 3246 กรุงเทพมหานคร จอดอยู่ข้างถนนลูกรัง ซอยโยธาธิการ นค.2045 บริเวณคอกวัวสวนยางพารา บ้านคําหมื่น ตําบลไคสี อําเภอเมือง จังหวัดบึงกาฬ ลักษณะดับเครื่องยนต์ไม่เปิดไฟหน้า หันหัวรถออกไปทางถนนทางหลวงหมายเลข 212 ลักษณะต้องสงสัย จึงได้แสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ นรข. เข้าทําการตรวจสอบ ผลการตรวจสอบไม่พบผู้ขับขี่ คาดว่าจะไหวตัวทันและอาศัยความมืดหลบหนีไปได้ จากการใช้ไฟฉายส่องดูภายในห้องโดยสารด้านหน้ารถ พบวัตถุต้องสงสัยสีดํา จํานวน 1 กระสอบ วางอยู่ที่เบาะนั่งด้านหน้าข้างคนขับ เมื่อทําการเปิดประตูด้านหลัง ซึ่งไม่ได้ล็อค พบว่ามีวัตถุต้องสงสัยสีดําวางอยู่จํานวน 6 กระสอบรวมทั้งสิ้น 7 กระสอบ และเมื่อแกะวัตถุต้องสงสัยสีดําดังกล่าวออกเพื่อตรวจสอบ พบว่าเป็นยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) จํานวนประมาณ 3,200,000 เม็ดในขณะเดียวกัน เวลาประมาณ 23.30 น. ที่ บริเวณท่าทราย บ้านท่าอินทร์แปลง ตําบลโคกก่อง อําเภอเมืองบึงกาฬ จังหวัดบึงกาฬ ชุดปฏิบัติการพิเศษ นรข. และชุดปฏิบัติการพิเศษ ศูนย์อํานวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดกองทัพเรือ ร่วมกับสถานีเรือบึงกาฬ ได้ทําการตรวจยึดรถยนต์กระบะจํานวน 7 คัน ซึ่งกําลังลักลอบนําออกราชอาณาจักร โดยผิดกฎหมาย โดยจากการข่าวทราบว่า กลุ่มขบวนการทั้งสองมีความเชื่อมโยงระหว่างกัน คาดว่าจะเป็นกลุ่มขบวนการลักลอบนํารถยนต์ข้ามโขงเพื่อแลกกับยาเสพติดคดีดังกล่าว#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
|
19/2/2023
|
ภาคกลางและปริมณฑล
|
กรุงเทพมหานคร
|
สวท.บึงกาฬ
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230219191811636
| null |
กกต.จังหวัดนราธิวาส ร่วมสังเกตการณ์การประชุมจัดตั้งสาขาพรรครวมไทยสร้างชาติ ประจำจังหวัดนราธิวาส เขตเลือกตั้งที่ 1
|
วันนี้ (19 ก.พ.66) นายเสน่ห์ รักษ์รงค์ ผู้อํานวยการสํานักงาน กกต.ประจําจังหวัดนราธิวาส มอบให้หมายให้เจ้าหน้าที่ กกต.นราธิวาส ร่วมสังเกตการณ์การประชุมจัดตั้งสาขาพรรครวมไทยสร้างชาติ ประจําจังหวัดนราธิวาส เขตเลือกตั้งที่ 1 ที่ห้องประชุม โรงแรมตันหยง อําเภอเมืองนราธิวาส เพื่อให้การดําเนินการเป็นไปตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ.2560 และที่แก้ไขเพิ่มเติม และเพื่อเตรียมความพร้อมในการส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งที่จะมีขึ้นในอนาคต ซึ่งหลังเสร็จสิ้นการประชุมจะมีการจัดส่งเอกสารต่าง ๆ ให้หัวหน้าพรรค เพื่อจัดส่งไปยัง กกต.ในฐานะนายทะเบียนพรรคการเมือง ตรวจสอบต่อไปในการจัดประชุมของพรรครวมไทยสร้างชาติ ทาง นายวิสุทธิ์ ธรรมเพชร รองหัวหน้าพรรค ได้กล่าวพบปะปราศรัยทางการเมืองกับสมาชิกพรรคที่เข้าร่วมกิจกรรมในวันนี้ (19 ก.พ.66) กว่า 500 คน จากนั้น นายเอกนัฏ พร้อมพันธ์เลขาธิการพรรค เปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.พรรครวมไทยสร้างชาติ 4 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และพบปะสมาชิกพรรคพร้อมมอบเสื้อพรรครวมไทยสร้างชาติให้กับ นายกูเซ็ง ยาวอหะซัน นายก อบจ.นราธิวาส ในฐานะผู้กํากับดูแล ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.จังหวัดนราธิวาสสําหรับรายชื่อว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.พรรครวมไทยสร้างชาติ จังหวัดนราธิวาส ประกอบด้วย เขต 2 นายสารี สะมะแอ เขต 3 นายมะหามัด ฮามิ เขต 5 นายอามีน โต๊ะนากายอ ส่วนเขต 1 และ 4 ยังไม่เปิดตัวผู้สมัคร #สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
|
19/2/2023
|
ภาคใต้
|
นราธิวาส
|
สวท.นราธิวาส
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230219192713637
| null |
ที่ประชุมวุฒิสภา เตรียมพิจารณากระทู้ถามรัฐบาลถึงความพร้อมรับการตรวจประเมินมาตรฐานทางทะเล
|
การประชุมวุฒิสภา ในเวลา 09.30 น. วันนี้ (20 ก.พ.66) มีวาระพิจารณากระทู้ถามที่สมาชิกตั้งถามรัฐบาลหลายเรื่อง เช่น ความพร้อมรับการตรวจประเมินมาตรฐานทางทะเลจากองค์การทางทะเลระหว่างประเทศ (IMO) เรื่องการผลักดันให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการผลิตอาหารอนาคตแห่งอาเซียน เรื่องการแก้ไขเยียวยาบุคลากรสาธารณสุขหลังการถ่ายโอน รพ.สต. เรื่องการพัฒนาความสามารถทางเชาวน์ปัญญา (ไอคิว) ของคนไทย เรื่องสอบถามผลการดําเนินงานและความคืบหน้าของคณะกรรมการดําเนินการปฏิรูปกฎหมาย และเรื่องการมีกฎหมายคุณธรรมเพื่อกระบวนการบริหารงานบุคคลภาครัฐนอกจากนี้ ยังมีวาระพิจารณาเรื่องที่คณะกรรมาธิการพิจารณาเสร็จแล้ว รวม 6 ฉบับ เช่น รายงานการพิจารณาศึกษา เรื่องการพิจารณาศึกษา ขับเคลื่อน เร่งรัดการปฏิรูประบบทันตสาธารณสุขไทย และการเข้าถึงบริการด้านทันตกรรม เรื่องการพัฒนาระบบและโครงสร้างการบริหารจัดการการศึกษาและการพัฒนาบุคลากรทางการศึกษาของกองทัพ เรื่องบทบาทองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นกับการปฏิรูปการจัดการศึกษาของท้องถิ่น และเรื่องแนวทางการขับเคลื่อนแผนระบบโครงข่ายไฟฟ้าอัจฉริยะ (Smart Grid) ของประเทศไทย เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด
|
20/2/2023
|
ภาคกลางและปริมณฑล
|
กรุงเทพมหานคร
|
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230220103816708
| null |
รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ยืนยันนายกรัฐมนตรีและพรรครวมไทยสร้างชาติ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกลุ่มทุนสีเทา
|
นายธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีประจําสํานักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีพรรครวมไทยสร้างชาติ ออกคําชี้แจงที่มีผู้อภิปรายในสภาผู้แทนราษฎรพาดพิงพรรคเกี่ยวข้องกับกลุ่มทุนสีเทาว่า พรรคจําเป็นต้องรักษาเกียรติยศของพรรค เพราะได้ชี้แจงแล้วว่า ได้เช่าพื้นที่ทําการพรรคอย่างถูกต้องตามกฎหมายและผู้ที่เป็นเจ้าของตึก ไม่ได้ถูกดําเนินคดีอะไร และได้มีการฟ้องร้องเพื่อรักษาสิทธิ์ไปแล้ว และย้ําว่าพรรครวมไทยสร้างชาติ ไม่เกี่ยวข้องกับทุนสีเทาและไม่มีวันเกี่ยวข้อง ซึ่งพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ยืนยันชัดเจน ว่านายกรัฐมนตรีและคนในพรรคไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง หากใครเกี่ยวข้อง สั่งดําเนินการตามกฎหมายอย่างเด็ดขาดทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี จะดําเนินการฟ้องร้องผู้ที่พาดพิงหรือไม่ นายธนกร กล่าวว่า ส่วนตัวเชื่อว่า นายกรัฐมนตรี ไม่อยากให้มีคดีขึ้นศาล ถ้าหากจําเป็นก็จะให้ฝ่ายกฎหมายไปดู ซึ่งอันที่จริงแล้ว ไม่มีใครอยากให้มีการฟ้องร้อง เพราะการอภิปรายเป็นกลไกของสภาผู้แทนราษฎร แต่ต้องมีข้อเท็จจริงด้วย ไม่ใช่เอาเรื่องไม่จริงมากล่าว หาพาดพิง ถ้าชี้แจงแล้วจบก็จบไป แต่ถ้าไม่จบก็ต้องให้ฝ่ายกฎหมายดูส่วนเรื่องที่ยังมีการพูดพาดพิง ทั้งยังเป็นช่วงการหาเสียงนั้น นายธนกร กล่าวว่า ได้มีการชี้แจงไปแล้ว ว่าเกี่ยวข้องกับพรรคใดบ้างและอดีตรัฐมนตรีคนไหนบ้าง และเชื่อว่าประชาชนรับทราบข้อมูลดังกล่าว ซึ่งต้องติดตามต่อไป
|
20/2/2023
|
ภาคกลางและปริมณฑล
|
กรุงเทพมหานคร
|
Radio-สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230220102645705
| null |
นายกรัฐมนตรี พร้อมคณะ ลงพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราช รับฟังปัญหาและแนวทางในการพัฒนาการท่องเที่ยวของจังหวัดนครศรีธรรมราช
|
วันนี้ (20 ก.พ.66) เวลา 09.00 น. พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อมคณะ ประกอบด้วย พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน นายธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีประจําสํานักนายกรัฐมนตรี นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค เลขาธิการนายกรัฐมนตรี และ นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมืองและโฆษกประจําสํานักนายกรัฐมนตรี เดินทางถึงท่าอากาศยานนครศรีธรรมราช โดยมี นายอภินันท์ เผือกผ่อง ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช พร้อมด้วยนางสาวจรรยา ปัญจเพรี รักษาราชการแทน ผอ.ท่าอากาศยานนครศรีธรรมราช หัวหน้าส่วนราชการ ให้การต้อนรับ พร้อมรายงานความคืบหน้าการก่อสร้างอาคารผู้โดยสารท่าอากาศยานนครศรีธรรมราช แห่งใหม่สําหรับอาคารผู้โดยสารที่ก่อสร้างใหม่นั้น เป็นอาคารสูง 2 ชั้น ติดกับอาคารผู้โดยสารหลังเดิม แบ่งโซนผู้โดยสารในประเทศและต่างประเทศ มีหลุมจอดประชิดอาคาร 4 หลุม สะพานเทียบเครื่องบิน หรืองวงช้าง 2 ชุด สายพานรับกระเป๋า 3 สาย มีการเพิ่มความยาวของเส้นทาง หรือรันเวย์ จาก 2,100 เมตร เป็น 2,990 เมตร นอกจากนี้ ด้านหน้าอาคารใหม่ มีการสร้างพื้นที่จอดรถเพิ่มขึ้น ทั้งลานจอดรถ และอาคารจอดรถ สามารถจอดรถได้ถึง 1,000 คัน ปัจจุบันการก่อสร้าง คืบหน้ามากกว่าร้อยละ 98 และเมื่อก่อสร้างแล้วเสร็จ จะเปิดใช้อย่างเป็นทางการประมาณเดือนพฤษภาคม 2566 ซึ่งจะสามารถรองรับผู้โดยสารได้ 1,600 คน/ชั่วโมง หรือ 4,600,000 คนต่อปี จากเดิมรองรับผู้โดยสารได้เพียงแค่ 1,600,000 คนต่อปีเท่านั้นโดยนายกรัฐมนตรียืนยันพร้อมให้การสนับสนุนการพัฒนาจังหวัดนครศรีธรรมราชเพื่อความเป็นอยู่ที่ดีของพี่น้องประชาชน โดยเฉพาะท่าอากาศยานนานาชาตินครศรีธรรมราชจะเร่งรัดให้ดําเนินการให้แล้วเสร็จทันตามเวลาที่กําหนด เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวและการเจริญเติบโตของเมืองนครศรีธรรมราชต่อไป#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
|
20/2/2023
|
ภาคใต้
|
นครศรีธรรมราช
|
สวท.นครศรีธรรมราช
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230220114403749
| null |
นายกฯ พร้อมคณะ ลงพื้นที่ จ.นครศรีธรรมราช ตรวจติดตามแนวทางการพัฒนา อ.จุฬาภรณ์ พร้อมตรวจติดตามวาระเมืองสิชลยุติภัยพิบัติซ้ำซาก เพิ่มพูนศักยภาพการจัดการน้ำ
|
วันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2566 พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อมคณะ ได้ลงพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราช เพื่อตรวจติดตามผลการดําเนินงานตามนโยบายของรัฐบาล และข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี ประเด็นการแก้ไขปัญหาพื้นที่ประสบอุทกภัยซ้ําซากและการบริหารจัดการน้ําในพื้นที่ โดยเวลา 08.30 น. ได้เดินทางถึงท่าอากาศยานนครศรีธรรมราช ต.ปากพูน อ.เมืองนครศรีธรรมราช จากนั้น เดินทางโดยเฮลิคอปเตอร์ ไปยังจุดจอด ฮ. สนามหน้าที่ว่าการ อ.จุฬาภรณ์ จ.นครศรีธรรมราช เพื่อตรวจติดตามแนวทางการพัฒนา อ.จุฬาภรณ์ และพบปะพี่น้องประชาชนในพื้นที่ อ.จุฬาภรณ์ และพื้นที่ใกล้เคียง ณ หอประชุมที่ว่าการอําเภอจุฬาภรณ์ ศูนย์ราชการอําเภอจุฬาภรณ์ โดยมี นายอภินันท์ เผือกผ่อง ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช หัวหน้าส่วนราชการ นายอําเภอจุฬาภรณ์ นายกองค์การบริหารส่วนตําบลสามตําบล ผู้นําท้องที่ท้องถิ่น ภาครัฐ ภาคเอกชน ให้การต้อนรับจากนั้น เวลา 11.15 น. นายกรัฐมนตรีพร้อมคณะ เดินทางไปตรวจติดตามการพัฒนาความมั่นคงด้านการพัฒนาคุณภาพชีวิต ณ อาคารอํานวยการและผู้ป่วยนอก ชั้น G โรงพยาบาลมหาราชนครศรีธรรมราช อ.เมืองนครศรีธรรมราช ซึ่งได้รับงบประมาณในการดําเนินโครงการเพิ่มศักยภาพการบริหารทางการแพทย์สู่ความเป็นเลิศในภาคใต้ตอนบน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มศักยภาพในการดูแลสุขภาพของประชาชนอย่างครบวงจร ช่วงบ่าย นายกรัฐมนตรีได้เดินทางไปยังวัดยางใหญ่ อ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช สักการะหลวงพ่อวัดยางใหญ่ และนมัสการพระครูวินัยธร ณัฏฐาสันต์ สิทธิญาโณ เจ้าอาวาสวัดยางใหญ่ ณ วิหารหลวงพ่อวัดยางใหญ่ และไหว้บูชาตาพรานบุญ ณ วิหารปฐมบรมครูตาพรานบุญ จากนั้น นายกรัฐมนตรีเดินทางไปวัดเจดีย์ อ.สิชล กราบสักการะพระประธาน และนมัสการพระครูพุทธเจติยาภิมณฑ์ เจ้าอาวาสวัดเจดีย์ รวมทั้งไหว้บูชาตาไข่ เพื่อความเป็นสิริมงคล จากนั้น นายกรัฐมนตรีตรวจติดตาม “วาระเมืองสิชลยุติภัยพิบัติซ้ําซาก เพิ่มพูนศักยภาพการจัดการน้ํา” และทักทายประชาชน ณ วัดเจดีย์ ต่อจากนั้น นายกรัฐมนตรีไปจุดพื้นที่คลองเปลี่ยน ตรวจติดตามการแก้ไขปัญหาพื้นที่ประสบอุทกภัยซ้ําซากบริเวณคลองเปลี่ยนพื้นที่รอยต่อ ต.เปลี่ยน และ ต.เทพราช อ.สิชล โดย อ.สิชล และพื้นที่ใกล้เคียงเป็นพื้นที่ที่มีปัญหาในด้านการบริหารจัดการน้ําในฤดูฝนและฤดูน้ําหลาก มักเกิดภาวะน้ําท่วมขังและอุทกภัยซ้ําซาก ส่งผลให้เกิดความเสียหายต่อทรัพย์สินประชาชนเป็นวงกว้าง ซึ่งข้อเสนอวาระเมืองสิชล มุ่งเน้นการพัฒนาพื้นที่ให้รอดพ้นจากภัยพิบัติซ้ําซาก สร้างความปลอดภัยในชีวิตทรัพย์สินของประชาชน สร้างความมั่นคงต่อยอดบริหารจัดการน้ํารองรับการเกษตรกรรมสร้างความมั่นคงโครงข่ายคมนาคม เสริมสร้างศักยภาพรองรับการท่องเที่ยว อ.สิชล อ.ขนอม และ อ.ท่าศาลาจากนั้น เสร็จสิ้นภารกิจ นายกรัฐมนตรีและคณะ ได้เดินทางกลับไปยังท่าอากาศยานนครศรีธรรมราช และเดินทางต่อไปยังท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 (บน.6) ดอนเมือง กรุงเทพฯ ในเวลาประมาณ 18.15 น. #สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
|
20/2/2023
|
ภาคใต้
|
นครศรีธรรมราช
|
สวท.นครศรีธรรมราช
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230220125245763
| null |
กกต.กาฬสินธุ์ ติวเข้มเสริมสร้างความรู้ประชาธิปไตย เตรียมพร้อมเลือกตั้ง ส.ส.
|
กกต.กาฬสินธุ์ จัดอบรมเสริมสร้างความรู้ประชาธิปไตยแก่คณะกรรมการศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาประชาธิปไตย เพื่อเตรียมพร้อมในการจัดการเลือกตั้ง เพื่อรองรับการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรวันนี้ (20 ก.พ.66) ที่หอประชุมธรรมาภิบาล เทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ นายสุเทพ ชัยวัฒน์ นายอําเภอเมืองกาฬสินธุ์ เป็นประธานเปิดการอบรมเสริมสร้างความรู้ประชาธิปไตยแก่คณะกรรมการศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาประชาธิปไตย ซึ่งสํานักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจําจังหวัดกาฬสินธุ์จัดขึ้น เพื่อขับเคลื่อนภารกิจสร้างความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับการปกครองระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข รวมทั้งสร้างความรู้ ความเข้าใจและเตรียมพร้อมในการจัดการเลือกตั้ง เพื่อรองรับการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร โดยการอบรมครั้งนี้มีคณะกรรมการศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาประชาธิปไตย (กก.ศส.ปชต. จากตําบลลําคลอง ตําบลลําปาว ตําบลเหนือ ตําบลไผ่ ตําบลหลุบ ตําบลลําพาน ตําบลเชียงเครือ และตําบลนาจารย์ ของอําเภอเมืองกาฬสินธุ์ เข้ารับการอบรม จํานวน 131 คนนายสุรพงษ์ ทิพย์โอสถ ผู้อํานวยการสํานักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจําจังหวัดกาฬสินธุ์ กล่าวว่า จังหวัดกาฬสินธุ์มีศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาประชาธิปไตย จํานวน 135 แห่ง มีคณะกรรมการศูนย์ฯ 2,190 คน ซึ่งคณะกรรมการกลุ่มนี้จะเข้ารับการอบรมเพื่อเพิ่มพูนทักษะความรู้เกี่ยวกับหลักสูตรพลเมืองดีวิถีประชาธิปไตยและการเลือกตั้ง ซึ่งมีเป้าหมายจัดบอรมทุกตําบลในจังหวัดกาฬสินธุ์ ผู้ที่ผ่านการอบรมก็จะไปทําหน้าที่ขยายความรู้พลเมืองดีวิถีประชาธิปไตย และช่วยเหลือการเลือกตั้ง เช่น ไปเป็นกรรมการประจําหน่วยเลือกตั้ง เป็นผู้สังเกตการณ์เลือกตั้ง เพื่อให้การเลือกตั้งที่จะมีขึ้นในอนาคตอันใกล้นี้จะเป็นการเลือกตั้งที่มีคุณภาพ
|
20/2/2023
|
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
|
กาฬสินธุ์
|
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดกาฬสินธุ์
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230220133025774
| null |
มูลนิธิเปรม ติณสูลานนท์ มอบทุนการศึกษาให้กับนักเรียนที่เรียนดีในพื้นที่ภาคอีสาน ประจำปี 2566 จำนวน 711 เป็นเงิน 2,339,300 บาท
|
ที่ห้องศรีพัชรินทร สโมสรร่วมเริงไชย ค่ายสุรนารี อําเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา พลโท สวราชย์ แสงผล แม่ทัพภาคที่ 2 ในฐานะประธานมูลนิธิเปรม ติณสูลานนท์ จังหวัดนครราชสีมา เป็นประธานในพิธีมอบทุนการศึกษามูลนิธิเปรม ติณสูลานนท์ ประจําปี 2566 โดยมี นายสยาม สิริมงคลผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา พร้อมด้วย หัวหน้าส่วนราชการ ภาครัฐ ภาคเอกชน ประชาชน นักเรียน นักศึกษาร่วมในพิธีมอบทุนการศึกษาฯ ทั้งนี้การมอบทุนการศึกษาในปี 2566 คณะกรรมการมูลนิธิฯ มีมติให้มอบทุนฯ จํานวน 711 ทุน เป็นเงิน 2,339,300 บาท มอบให้กับ นักเรียน นักศึกษา บุตรหลาน ผู้ที่ได้ผลกระทบจากเหตุความรุนแรงในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา เมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2563 และมอบให้กับ ผู้แทนจังหวัดทั้ง 19 จังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ได้นําไปมอบให้กับผู้ที่ได้รับทุนการศึกษาของแต่ละจังหวัด เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนการศึกษาแก่นักเรียน นักศึกษาที่เรียนดีมีความประพฤติเรียบร้อย แต่ขาดทุนทรัพย์ สนับสนุนการกีฬา ส่งเสริมสนับสนุนกิจกรรมเพื่อพัฒนาการเรียนรู้ของนักเรียน นักศึกษา ส่งเสริมสนับสนุนศิลปวัฒนธรรม และประเพณีอันดีงามของภาคตะวันออกเฉียงเหนือมูลนิธิเปรม ติณสูลานนท์ จังหวัดนครราชสีมา จัดตั้งขึ้นตามแนวความคิดของ พลเอก เปรม ติณสูลานนท์เริ่มจดทะเบียนเป็นมูลนิธิฯ ตั้งแต่วันที่ 2 สิงหาคม 2528 เริ่มแรกมูลนิธิฯ มีเงินกองทุนเพียงสามล้านบาทสืบเนื่องมาจากความศรัทธาและความเคารพนับถือต่อท่าน พลเอกเปรมฯ จึงมีผู้มีจิตศรัทธาร่วมบริจาคเงินสมทบทุนมูลนิธิฯ เป็นประจําทุกๆ ปี จนทําให้ ณ ปัจจุบัน มูลนิธิฯ มีเงินทั้งสิ้น 81,588,354.74 บาท เป็นเงินกองทุน จํานวน 78,000,000 บาท เงินบริจาคคงเหลือจากปีที่ผ่านมา 2,693,041.50 บาท และดอกเบี้ยปีนี้ 895,313.24 บาท จนถึงปัจจุบันมูลนิธิฯ ได้มอบทุนการศึกษารวมทั้งสิ้น 58,777 ทุน เป็นเงินทั้งสิ้น 153,490,89 บาท โดยในวันนี้ มีผู้มีจิตศรัทธาร่วมบริจาคเงินสมทบทุนมูลนิธิฯ จํานน 94 ราย รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 2,959,649 บาท โอกาสนี้ พลโท สวราชย์ แสงผล แม่ทัพภาศที่ 2 ได้ให้โอวาทแก่ผู้ได้รับทุนการศึกษาว่า ขอให้ผู้ที่ได้รับทุนการศึกษา นําทุนการศึกษาไปใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อการศึกษา ขอให้ตั้งใจศึกษาเล่าเรียน เพื่vพัฒนาชาติบ้านเมืองให้เจริญก้าวหน้า ประพฤติปฏิบัติตนอยู่ในระเบียบวินัย มีความจงรักภักดีเทิดทูนสถาบันชาติ ศาสนาพระมหากษัตริย์ มีความกตัญญู และตอบแทนบุญคุณแผ่นดินด้วยการทําความดี ตามที่ พลเอก เปรม ติณสูลานนท์ ได้ประพฤติเป็นแบบอย่างตลอดมา#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
|
20/2/2023
|
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
|
นครราชสีมา
|
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนครราชสีมา
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230220142551801
| null |
ตำรวจภูธรยะลา หน่วยเฉพาะกิจตำรวจยะลา 91 ร่วมกำลัง 4 ฝ่าย ปล่อยแถว ซักซ้อมแผนเผชิญเหตุความไม่สงบเมืองเศรษฐกิจ ในเขตอำเภอเมืองยะลา
|
วันนี้ 20 ก.พ.66 ที่กองบังคับการตํารวจภุธรจังหวัดยะลา อ.เมือง จ.ยะลา พ.ต.อ.ดุลยมาน แยนา รองผู้บังคับการตํารวจภูธรจังหวัดยะลา เป็นประธานปล่อยแถว ซักซ้อมแผน รปภ.เมืองเศรษฐกิจ ในเขตเมืองยะลา โดยมี พ.อ.วรจิตร ศาสตร์ศิลป์ รองผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจยะลา พ.ต.อ.จุฬาชัย แสงกุล ผบ.ฉก.ตร.ยะลา 91/ผกก.ปพ.ภ.จว.ยะลา พ.ต.อ.ธัชพิชัย จารย์วรานนท์ ผกก.สส.ภ.จว.ยะลา นายอาซัน เด็งระกีนา ปลัด อ.เมืองยะลา หน.กลุ่มงานมั่นคง และหน่วยกองกําลัง ทหาร ตํารวจ ฝ่ายปกครอง เจ้าหน้าที่ อป.พร. กองกําลังภาคประชาชน ทส.ปช.และหน่วยกู้ชีพกู้ภัย จํานวน 200 นาย เข้าร่วม ทั้งนี้เป็นไปตามนโยบายของกองอํานวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ซึ่งได้กําหนดให้มีการซ้อมแผนรักษาความปลอดภัยเมืองเศรษฐกิจ 8 เมืองหลัก โดยอําเภอเมืองยะลา เป็น 1 ในอําเภอที่อยู่ในกรอบการปฏิบัติ และเป็นจุดศูนย์กลางของหน่วยงานราชการ เป็นพื้นที่เชิงสัญลักษณ์ ที่กลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรง ยังมีความมุ่งหมายที่จะก่อเหตุ เพื่อทําลายความน่าเชื่อถือของอํานาจรัฐ ทําให้ทุกหน่วยในพื้นที่ ต้องช่วยกันป้องกัน ระงับยับยั้ง ความพยายามในการก่อเหตุของฝ่ายตรงข้ามร่วมกัน หลังจากสถานการณ์การก่อเหตุรุนแรง ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ยังคงมีอยู่อย่างต่อเนื่องการซักซ้อมแผนเผชิญเหตุความไม่สงบเมืองเศรษฐกิจ มีการจําลองเหตุการณ์ ได้เกิดเหตุคนร้าย ใช้รถกระบะ 4 ประตู ขว้างระเบิดไปป์บอมบ์ เข้าไปในฐาน ชคต.เบอร์เส้ง ในพื้นที่ ต.สะเตงนอก อ.เมือง จ.ยะลา ทําให้เจ้าหน้าที่ อส.ประจําฐานปฏิบัติการ ชคต.ได้รับบาดเจ็บ 2 นาย หลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ได้เข้าพิสูจน์ทราบ และทําการปิดพื้นที่ นําคนเจ็บส่งโรงพยาบาล พร้อมทั้งตรวจสอบเส้นทางคนร้ายหลบหนี กระทั่ง พบรถต้องสงสัยที่ใช้ในการก่อเหตุ คนร้ายพยายามขับรถหลบหนี จนมาถึงบริเวณด้านข้างสนามโรงพิธีช้างเผือก เจ้าหน้าที่ได้ทําการปิดล้อมพื้นที่ ใช้การปฏิบัติตามยุทธวิธี กระทั่งสามารถวิสามัญคนร้าย และทําการควบคุมพื้นที่ โดยการจําลองสถานการณ์ ได้มีการร่วมสังเกตการณ์ ณ ศูนย์ cctv ภูธรจังหวัดยะลา พร้อมทั้งการสรุปแผนการปฏิบัติซักซ้อมแผน ถึงปัญหา อุปสรรค เพื่อเตรียมความพร้อมอยู่ตลอดเวลาในการดูแลรักษาความสงบ และสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนประชาชนในพื้นที่#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
|
20/2/2023
|
ภาคใต้
|
ยะลา
|
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดยะลา
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230220142936805
| null |
ทหารพราน 41 ร่วมดูแลพื้นที่ให้ปลอดภัย เพื่อความอุ่นใจของประชาชนในพื้นที่
|
หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 41 ประสานการปฏิบัติร่วมกับเจ้าหน้าที่รัฐ และอาสาสมัครประจําพื้นที่ ในการเฝ้าระวังการก่อเหตุบริเวณเส้นทาง สะพาน ท่อลอด รวมถึงสถานที่ราชการ ระบบสาธารณูปโภค เสาไฟฟ้าแรงสูง สถานีขนส่ง และเส้นทางคมนาคมต่าง ๆ ในพื้นที่อําเภอรามัน จังหวัดยะลา เพื่อเฝ้าระวัง ป้องกันการก่อเหตุความรุนแรงที่อาจจะเกิดขึ้น โดยในพื้นที่อําเภอรามัน จังหวัดยะลา หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 41 ได้บูรณาการความร่วมมือเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง ทั้งทหาร ตํารวจ และฝ่ายปกครอง ในการดําเนินการวางมาตรการด้านการรักษาความปลอดภัยและดูแลความสงบเรียบร้อยในพื้นที่อย่างเข้มข้น ทั้งการตั้งจุดตรวจ จุดสกัด และเพิ่มความถี่ในการลาดตระเวนในสถานที่สําคัญ แหล่งท่องเที่ยว สถานที่ราชการ และแหล่งชุมชน เพื่อความอุ่นใจของประชาชนในพื้นที่ทั้งนี้ ขอความร่วมมือพี่น้องประชาชน หากพบข้อมูลหรือเบาะแสของคนร้ายสามารถแจ้งได้ที่เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงประจําพื้นที่ หรือโทรสายตรง แม่ทัพภาคที่ 4 / ผู้อํานวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 หมายเลข 061-1732999 หรือทางสายด่วน 1341 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
|
20/2/2023
|
ภาคใต้
|
ยะลา
|
สทท.ยะลา
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230220145732816
| null |
มทภ.4 เยี่ยมผู้บาดเจ็บ เหตุคนร้ายลอบวางระเบิดตำรวจบันนังสตา พร้อมนำความห่วงใยจากผู้บัญชาการทหารบก เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจ
|
มทภ.4 เยี่ยมผู้บาดเจ็บ เหตุคนร้ายลอบวางระเบิดเจ้าหน้าที่ตํารวจบันนังสตา พร้อมนําความห่วงใยจากผู้บัญชาการทหารบก เพื่อเป็นขวัญและกําลังใจ สร้างความมั่นคงปลอดภัยแก่พี่น้องประชาชนวันนี้ 20 ก.พ.66 ที่โรงพยาบาลยะลาสิริรัตนรักษ์ ตําบลสะเตง อําเภอเมืองยะลา จังหวัดยะลา พลโท ศานติ ศกุนตนาค แม่ทัพภาคที่ 4/ผู้อํานวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 เยี่ยมให้กําลังใจกําลังพลที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุคนร้ายลอบวางระเบิด เป็นเจ้าหน้าที่ตํารวจ 3 นาย ได้แก่ จ่าสิบตํารวจ สุวิทย์ ธนะวงค์ , สิบตํารวจโท ไกรสีห์ โรจโนตม และสิบตํารวจโท สุทัศน์ มูลเงิน ทั้งหมดตําแหน่ง ผู้บังคับหมู่ทําหน้าที่ป้องกันปราบปราม สถานีตํารวจภูธรบันนังสตาจากนั้น พลโท ศานติ ศกุนตนาค แม่ทัพภาคที่ 4/ ผู้อํานวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 พร้อมคณะฯ เดินทางไปยังแผนกอุบัติเหตุ โรงพยาบาลศูนย์ยะลา อําเภอเมือง จังหวัดยะลา เพื่อเยี่ยมให้กําลังใจ อาสาสมัครทหารพราน กามารอซาลี มะลีเย็ง กําลังพลสังกัดกรมทหารพรานที่ 33 ซึ่งได้รับบาดเจ็บข้อเข่าข้างขวาแตก ขณะทําการเข้าไปช่วยเหลือเจ้าหน้าที่จากเหตุคนร้ายลอบวางระเบิดในพื้นที่อําเภอบันนังสตา จังหวัดยะลา เมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2566 ที่ผ่านมา จํานวน 2 จุด คือ ที่บ้านสนามบิน หมู่ที่ 1 ตําบลเขื่อนบางลาง และบ้านบือซู หมู่ที่ 6 ตําบลบันนังสตา โดยเหตุการณ์ดังกล่าวยังทําให้เจ้าหน้าที่ตํารวจเสียชีวิต 1 นาย คือ พันตํารวจตรี ประสาน คงประสิทธิ์ สารวัตรสืบสวนสถานีตํารวจภูธรบันนังสตา และได้รับบาดเจ็บจํานวน 5 ราย ขณะนี้รักษาตัวที่โรงพยาบาลยะลาสิริรัตนรักษ์ , โรงพยาบาลศูนย์ยะลา และโรงพยาบาลสงขลานครินทร์ อาการเบื้องต้นปลอดภัยดี โอกาสนี้ พลโท ศานติ ศกุนตนาค แม่ทัพภาคที่ 4/ ผู้อํานวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ได้สอบถามอาการ และเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมทั้งนําความห่วงใยจาก พลเอก ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบกมายังกําลังพลเจ้าหน้าที่ทุกนาย ชื่นชมในความกล้าหาญ ทุ่มเทและเสียสละเป็นกําลังสําคัญในการระงับยับยั้งการก่อเหตุความรุนแรงต่อชีวิตและทรัพย์สินของพี่น้องประชาชนส่วนรวม ขอให้มีกําลังใจที่ดีในการทําหน้าที่เพื่อสร้างความมั่นคงในพื้นที่ต่อไป พร้อมเน้นย้ําหน่วยต้นสังกัดเรื่องสวัสดิการ ด้านการรักษาพยาบาลอย่างดีที่สุด กําชับทุกฝ่ายเร่งสืบสวนรวบรวมหลักฐานในการติดตามตัวผู้ก่อเหตุมาดําเนินคดีตามกฎหมายต่อไป ส่วนด้านยุทธวิธีการปฏิบัติต่อกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงยังคงเป็นการใช้ความพยายามบังคับใช้กฎหมายด้วยสันติวิธี หน่วยทุกหน่วยคุมเข้มเรื่องระบบรักษาความปลอดภัยสถานที่ตั้ง เฝ้าระวังและสอดส่องสิ่งผิดกฎหมาย ตลอดจนป้องกันเป้าหมายอ่อนแอให้ครอบคลุมทุกมิติ เพื่อไม่ให้เกิดการสูญเสียต่อเจ้าหน้าที่และประชาชนอีกด้วย#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
|
20/2/2023
|
ภาคใต้
|
ยะลา
|
สทท.ยะลา
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230220160432844
| null |
นายกรัฐมนตรี เตรียมลงพื้นที่จังหวัดจันทบุรี- ระยอง 22 กุมภาพันธ์นี้
|
พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เตรียมลงพื้นที่จังหวัดจันทบุรีและระยอง ในวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2566 โดยพบปะประชาชนเพื่อรับฟังปัญหาการกัดเซาะพื้นที่ชายฝั่งทะเล อําเภอแหลมสิงห์ ที่วัดเขาตาหน่วย ตําบลเกาะเปริด พร้อมกล่าวมอบนโยบาย จากนั้นตรวจเยี่ยมการดําเนินงานของโรงพยาบาลพระปกเกล้า ตําบลวัดใหม่ อําเภอเมืองจันทบุรี แล้วเดินทางต่อไปพบประชาชน เพื่อรับฟังปัญหาพื้นที่ทับซ้อน เขตอําเภอเมืองจันทบุรี ที่วัดโค้งสนามเป้า ตําบลท่าช้าง ส่วนช่วงบ่ายเป็นประธานในพิธีเปิดงานมหกรรมยางพาราและพืชเศรษฐกิจ EEC 2023 ที่สํางานตลาดกลางยาวพารา จังหวัดระยอง ตําบลชุมแสง อําเภอวังจันทร์ จังหวัดระยอง และเป็นสักขีพยานในโอกาสการลงนามการจับคู่ธุรกิจ โดยบันทึกความร่วมมือในการทําธุรกิจร่วมกันในประเทศไทย แล้วเยี่ยมชมนิทรรศการการประยุกต์และพัฒนาเทคโนโลยีทางการเกษตรอุตสาหกรรม ที่ตอบสนองต่อความต้องการของตลาด จากนั้นเดินทางกลับกรุงเทพมหานครต่อจากนั้นวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2566 มีรายงานข่าวว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในฐานะประธานคณะกรรมการกําหนดแนวนโยบายและยุทธศาสตร์พรรคการเมือง พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) มีกําหนดการขึ้นเวทีปราศรัยที่จังหวัดนครราชสีมา
|
20/2/2023
|
ภาคกลางและปริมณฑล
|
กรุงเทพมหานคร
|
Radio-สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230220223422935
| null |
ที่ประชุมวุฒิสภา เตรียมพิจารณาให้ความเห็นชอบหรือไม่ให้ความเห็นชอบผลการลงมติของสภาผู้แทนราษฎร
|
การประชุมวุฒิสภา ในเวลา 09.30 น. วันนี้ (21 ก.พ.66) มีวาระพิจารณาเรื่องด่วน ให้ความเห็นชอบหรือไม่ให้ความเห็นชอบผลการลงมติของสภาผู้แทนราษฎรในญัตติขอให้สภามีมติส่งเรื่องที่มีเหตุสมควรจะให้มีการออกเสียงประชามติให้คณะรัฐมนตรีดําเนินการ พร้อมรายงานของคณะกรรมาธิการสามัญพิจารณาญัตติขอให้สภามีมติส่งเรื่องที่มีเหตุสมควรจะให้มีการออกเสียงประชามติให้คณะรัฐมนตรีดําเนินการ (ตามข้อบังคับ ข้อ 39/2)จากนั้น มีวาระพิจารณาเรื่องที่คณะกรรมาธิการพิจารณาเสร็จแล้ว จํานวน 5 ฉบับ ได้แก่ รายงานการพิจารณาศึกษา เรื่องข้อเสนอเชิงนโยบายการนําเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ประโยชน์เพื่อการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย เรื่องการมีส่วนร่วมขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและประชาชน ในการจัดทําและจัดสรรงบประมาณที่คํานึงถึงความเสมอภาคระหว่างเพศและวัย เรื่องการพัฒนาสหกรณ์ภาคการเกษตรให้มีความเข้มแข็ง เรื่องการส่งเสริมการแปรรูปผลิตภัณฑ์ยางในประเทศ กรณีศึกษา : ถุงมือยาง และเรื่องการขยายโอกาสการมีงานทําและส่งเสริมการจ้างงานผู้สูงอายุที่เหมาะสมกับวัยและประสบการณ์
|
21/2/2023
|
ภาคกลางและปริมณฑล
|
กรุงเทพมหานคร
|
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230221085457962
| null |
แม่ทัพภาคที่ 4”ย้ำ”กำลังพล เพิ่มความระมัดระวัง หลังเหตุระเบิด ตร.บันนังสตา เผยทุกพื้นที่สามารถเกิดเหตุได้
|
แม่ทัพภาคที่ 4”ย้ํา”กําลังพล เพิ่มความระมัดระวัง หลังเหตุระเบิด ตร.บันนังสตา เผยทุกพื้นที่สามารถเกิดเหตุได้จากเหตุการณ์เมื่อ 17 ก.พ.66 ซึ่งได้มีคนร้าย ลอบวางระเบิดและซุ่มยิงเจ้าหน้าที่ตํารวจ ชุดสืบ สภ.บันนังสตา ขณะขับขี่รถยนต์กระบะ 4 ประตู ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นรีโว่ สีขาว ทะเบียน 7 กอ - 4908 กรุงเทพฯ บนถนนศรีบางลาง ทางเข้าเขื่อนบางลาง ในพื้นที่บ้านสนามบิน หมู่ที่ 1 ต.เขื่อนบางลาง อ.บันนังสตา จ.ยะลา เป็นเหตุให้ มีเจ้าหน้าที่ตํารวจเสียชีวิต 1 นาย และได้รับบาดเจ็บ 5 ราย ทางด้าน พลโท ศานติ ศกุนตนาค แม่ทัพภาคที่ 4/ ผู้อํานวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ได้มีความห่วงใยเจ้าหน้าที่ โดยเฉพาะพื้นที่ที่เป็นแนวร่วมในพื้นที่นั้น ตอนนี้ก็ได้จัดกําลังพลลงไปทําความเข้าใจกับประชาชนให้มาก พร้อมทั้งได้เน้นย้ําให้ทางเจ้าหน้าที่เพิ่มความระมัดระวังให้มากขึ้น ทุกพื้นที่สามารถที่จะเกิดเหตุได้แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องใช้ความสามารถกําลังพลของ ทหาร ตํารวจ พลเรือน ช่วยกันดูแลในพื้นที่ให้ดี จะพยายามไม่ให้เกิดสถานการณ์แบบนี้อีก#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
|
21/2/2023
|
ภาคใต้
|
ยะลา
|
สทท.ยะลา
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230221090358969
| null |
คนร้ายเชี่ยวชาญการประกอบระเบิดแสวงเครื่องยิงต่อสู้เจ้าหน้าที่ เป็นผลให้คนร้ายเสียชีวิต 1 ราย
|
วันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2566 เวลา 04.30 น. เจ้าหน้าที่หน่วยปฏิบัติการพิเศษร่วมสนธิกําลัง 3 ฝ่ายเข้าพิสูจน์ทราบเป้าหมาย ซึ่งประชาชนให้ข้อมูลว่ามีผู้ก่อเหตุรุนแรงที่เกี่ยวข้องกับเหตุระเบิดในพื้นที่ เข้าไปอาศัยหลบซ่อนอยู่ในบ้านเลขที่ 24 หมู่ที่ 1 ตําบลบ้านแหร อําเภอธารโต จังหวัดยะลา โดยการปฏิบัติเจ้าหน้าที่ได้ดําเนินการตามขั้นตอนอย่างเคร่งครัดด้วยการเจรจาเกลี้ยกล่อมให้คนร้ายที่หลบซ่อนอยู่ภายในบ้านออกมามอบตัวพร้อมทั้งขอความร่วมมือจากผู้นําท้องที่และผู้นําศาสนาเข้าร่วมเจรจาด้วยแต่ไม่เป็นผล จนกระทั่งเวลา 05.45 น. คนร้ายตัดสินใจใช้อาวุธปืนยิงเข้าใส่เจ้าหน้าที่เพื่อเปิดทางหลบหนี ทําเกิดการยิงต่อสู้กันขึ้นเป็นผลให้คนร้ายเสียชีวิต 1 ราย ทราบชื่อคือ นายอิบรอเฮม อายุ 42 ปี มีความเชี่ยวชาญในการประกอบระเบิดแสวงเครื่อง จากการรวบรวมหลักฐานพบว่ามีส่วนร่วมในการลอบวางระเบิดปั๊มน้ํามัน ปตท. สาขาธารโต รวมทั้งลอบวางระเบิดรถเจ้าหน้าที่ตํารวจซึ่งเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุคนร้ายวางเพลิงเผาเครื่องจักรและยานพาหนะที่ใช้ในการก่อสร้างถนนของบริษัทยะลาไฮเวย์ จนทําให้เจ้าหน้าที่ตํารวจเสียชีวิต 1 นาย ได้รับบาดเจ็บ 4 นาย เหตุเกิดเมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2566 รวมทั้ง นายอิบรอเฮม ฯ ยังมีหมายจับในคดีความมั่นคงจํานวน 1 หมาย ซึ่งเกี่ยวข้องกับเหตุระเบิดในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ยังตรวจยึดอาวุธปืนพกขนาด 9 มิลลิเมตร ที่คนร้ายใช้ก่อเหตุเพื่อนําไปพิสูจน์ทราบหาที่มาและประวัติการก่อเหตุต่อไป ทางด้าน พลโท ศานติ ศกุนตนาค แม่ทัพภาคที่ 4 / ผู้อํานวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ได้กล่าวแสดงความเสียใจต่อญาติของผู้เสียชีวิตพร้อมทั้งขอให้พี่น้องประชาชนมีความมั่นใจในมาตรการควบคุมพื้นที่และการบังคับใช้กฎหมาย ซึ่งได้ดําเนินการด้วยความระมัดระวังในทุกขั้นตอน ใช้มาตรการจากเบาไปหาหนัก แต่ความสูญเสียที่เกิดขึ้นเกิดจากผู้ก่อเหตุรุนแรงยิงใส่เจ้าหน้าที่จึงจําเป็นต้องตอบโต้จนนําไปสู่ความสูญเสียดังกล่าว ทั้งนี้ กองอํานวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ยังคงยืนยันเจตนารมณ์ในการแก้ปัญหาด้วยสันติวิธีพร้อมเปิดโอกาสให้ผู้กระทําผิดเข้ามอบตัวเพื่อต่อสู้และพิสูจน์ตัวเองตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป ส่วนผู้ให้ที่พักพิงแก่คนร้ายจะต้องเข้าสู่กระบวนการตามกฎหมายอย่างถึงที่สุด กองอํานวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ขอขอบคุณพี่น้องประชาชนที่ได้ให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อการปฏิบัติดังกล่าว ซึ่งหากพบเห็นการกระทําผิดกฎหมายหรือพบเบาะแสผู้ก่อเหตุรุนแรง สามารถแจ้งได้ที่ เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงประจําพื้นที่ หรือหมายเลขสายด่วนกองอํานวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า หมายเลข 1341 หรือ หมายเลขโทรศัพท์สายตรงแม่ทัพภาคที่ 4 ผู้อํานวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 หมายเลข 061-1732999 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
|
21/2/2023
|
ภาคกลางและปริมณฑล
|
กรุงเทพมหานคร
|
สวท.ยะลา
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230221095355005
| null |
ยิงปะทะวิสามัญคนร้าย เชื่อมโยงเหตุลอบวางระเบิดปั๊มน้ำมัน ปตท. ธารโต - ระเบิดรถยนต์ ตำรวจ สภ.บันนังสตา
|
ยะลา จนท.สามฝ่ายเข้าปิดล้อมตรวจค้น ยิงปะทะ วิสามัญ ผู้เชี่ยวชาญการประกอบระเบิดแสวงเครื่อง ในพื้นที่ อ.ธารโต จ.ยะลา 1 ราย พบเชื่อมโยงลอบวางระเบิดปั๊มน้ํามัน ปตท. สาขาธารโต วางระเบิดรถยนต์ ตํารวจ สภ.บันนังสตา วันนี้ 21 ก.พ.66 เวลาประมาณ 04.30 น. เจ้าหน้าที่หน่วยปฏิบัติการพิเศษร่วมสนธิกําลัง 3 ฝ่ายเข้าพิสูจน์ทราบเป้าหมายซึ่งประชาชนให้ข้อมูลว่ามีผู้ก่อเหตุรุนแรงที่เกี่ยวข้องกับเหตุระเบิดในพื้นที่ เข้าไปอาศัยหลบซ่อนตัว ในพื้นที่หมู่บ้านมายอ หมู่ที่ 6 ต.ธารโต อ.ธารโต จ.ยะลาโดยการปฏิบัติเจ้าหน้าที่ได้ดําเนินการตามขั้นตอนอย่างเคร่งครัดด้วยการเจรจาเกลี้ยกล่อมให้คนร้ายที่หลบซ่อนอยู่ภายในบ้านออกมามอบตัวพร้อมทั้งขอความร่วมมือจากผู้นําท้องที่และผู้นําศาสนาเข้าร่วมเจรจาด้วยแต่ไม่เป็นผล จนกระทั่งเวลาประมาณ 05.45 น. คนร้ายตัดสินใจใช้อาวุธปืนยิงเข้าใส่เจ้าหน้าที่เพื่อเปิดทางหลบหนี ทําเกิดการยิงต่อสู้กันขึ้นเป็นผลให้คนร้ายเสียชีวิต 1 ราย ทราบชื่อนายอิบรอเฮม อายุ 42 ปี อยู่ที่ 24 บ้านแหร หมู่ที่ 1 ต.บ้านแหร ต.ธารโต อ.ธารโต จ.ยะลา มีความเชี่ยวชาญในการประกอบระเบิดแสวงเครื่อง จากการรวบรวมหลักฐานพบว่ามีส่วนร่วมในการลอบวางระเบิดปั๊มน้ํามัน ปตท. สาขาธารโต รวมทั้งลอบวางระเบิดรถยนต์ เจ้าหน้าที่ตํารวจ สภ.บันนังสตา ซึ่งเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุคนร้ายวางเพลิงเผาเครื่องจักรและยานพาหนะที่ใช้ในการก่อสร้างถนนของบริษัทยะลาไฮเวย์ ในพื้นที่บ้านสนามบิน หมู่ที่ 1 ต.เขื่อนบางลาง อ.บันนังสตา จ.ยะลา จนทําให้ พ.ต.ต.ประสาน คงประสิทธิ์ สว.สส.สภ.บันนังสตา เสียชีวิต และมีเจ้าหน้าที่ตํารวจ ได้รับบาดเจ็บ 4 นาย เหตุเกิดเมื่อวันที่ 17 ก.พ.66 ที่ผ่านมา รวมทั้ง นายอิบรอเฮม ยังมีหมายจับในคดีความมั่นคง จํานวน 1 หมาย ซึ่งเกี่ยวข้องกับเหตุระเบิดในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ยังตรวจยึดอาวุธปืนพกสั้น ขนาด 9 มม. ที่คนร้ายใช้ก่อเหตุเพื่อนําไปพิสูจน์ทราบหาที่มาและประวัติการก่อเหตุต่อไปทางด้าน พล.ท.ศานติ ศกุนตนาค แม่ทัพภาคที่ 4 / ผู้อํานวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ได้กล่าวแสดงความเสียใจต่อญาติของผู้เสียชีวิตพร้อมทั้งขอให้พี่น้องประชาชนมีความมั่นใจในมาตรการควบคุมพื้นที่และการบังคับใช้กฎหมายซึ่งได้ดําเนินการด้วยความระมัดระวังในทุกขั้นตอน ใช้มาตรการจากเบาไปหาหนัก แต่ความสูญเสียที่เกิดขึ้นเกิดจากผู้ก่อเหตุรุนแรงยิงใส่เจ้าหน้าที่จึงจําเป็นต้องตอบโต้จนนําไปสู่ความสูญเสียดังกล่าว ทั้งนี้ กองอํานวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ยังคงยืนยันเจตนารมณ์ในการแก้ปัญหาด้วยสันติวิธีพร้อมเปิดโอกาสให้ผู้กระทําผิดเข้ามอบตัวเพื่อต่อสู้และพิสูจน์ตัวเองตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป ส่วนผู้ให้ที่พักพิงแก่คนร้ายจะต้องเข้าสู่กระบวนการตามกฎหมายอย่างถึงที่สุด กองอํานวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ขอขอบคุณพี่น้องประชาชนที่ได้ให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อการปฏิบัติดังกล่าว ซึ่งหากพบเห็นการกระทําผิดกฎหมายหรือพบเบาะแสผู้ก่อเหตุรุนแรง สามารถแจ้งได้ที่ เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงประจําพื้นที่ หรือหมายเลขสายด่วนกองอํานวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า หมายเลข 1341 หรือ หมายเลขโทรศัพท์สายตรงแม่ทัพภาคที่ 4 ผู้อํานวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 หมายเลข 061-1732999 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
|
21/2/2023
|
ภาคใต้
|
ยะลา
|
สทท.ยะลา
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230221123756071
| null |
กกต.ออกกฎจะใช้เวลาพิจารณายุบพรรคเร็วขึ้น ยอมรับกลัวซ้ำรอยถูกยุบพรรคมากที่สุด
|
นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวถึง?กรณีที่นายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีตคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. ตั้งข้อสังเกตจากการที่ กกต. ออกระเบียบว่าด้วยการรวบรวมข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานของนายทะเบียนพรรคการเมือง พ.ศ.2566 ที่ปรับแก้เรื่องการยุบพรรคการเมือง จะถือเป็นการทําให้รวดเร็วขึ้นหรือไม่ เนื่องจากพรรคพลังประชารัฐ มีประเด็นกลุ่มทุนจีนสีเทาบริจาคเงินให้พรรค ถือว่ามีนัยทางการเมืองหรือไม่ ว่า กกต. ถือเป็น 1 ใน 10 หน่วยงานที่มีสิทธิ์ที่จะออกประกาศได้ตามกฎหมาย และเป็นไปตามแนวทางของการปฎิรูปประเทศตามกระบวนการยุติธรรม ซึ่งมีผลบังคับในวันที่ 23 มกราคมที่ผ่านมา ซึ่งการประกาศจากเดิมใช้ระยะเวลา 3 ปี 7 ปี แต่เมื่อมาใช้ 3-7 เดือน คงต้องมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากประชาชน อีกทั้งยังยอมรับว่าประกาศดังกล่าวมีผลย้อนหลังกับทุกพรรคที่มีคดีความอยู่ แต่ก็มีความแตกต่างกันไป พร้อมย้ําว่าในอดีตการพิจารณามีความล่าช้าแต่เมื่อมีการปรับให้มีความรวดเร็ว ก็จะทําให้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์ได้ว่าทําถูกต้องหรือไม่ และยังมองว่า ในการทํากฎหมายต้องทําประชาพิจารณ์หลายรอบ สําหรับประเด็นที่สังคมมองว่าพรรคพลังประชารัฐ จะถูกยุบพรรคเป็นพรรคแรกหลังออกประกาศ เนื่องจากมีประเด็นร้อนรับเงินบริจาคจากกลุ่มทุนจีนสีเทานั้น เรื่องนี้ต้องถามไปยังฝ่ายกฎหมายพรรคพลังประชารัฐ สําหรับตนเองนั้นไม่ได้ทําหน้าที่ตรงนี้ พร้อมทั้งปฏิเสธว่าจะต้องเตรียมความพร้อมอย่างไรรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม? ยังกล่าวอีกว่า ในชีวิตการเมืองมีประสบการณ์ถูกยุบพรรคมาแล้วถึง 2 ครั้ง ตั้งแต่สมัยพรรคไทยรักไทยและพรรคมัชฌิมาธิปไตย ถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง 5 ปี พร้อมมองว่า การยุบพรรคสามารถทําได้ง่ายเหมือนกัน ถ้าหากต้องการให้ยุบหรือมีพลังอะไรเข้ามา ซึ่งต้องดูว่าถ้าพรรคการเมืองมีพลังต่อต้านการยุบก็คงไม่ง่าย พร้อมยอมรับการยุบพรรคการเมืองเป็นสิ่งที่กลัวที่สุด ซึ่งก็ต้องมีเหตุแห่งปัญหา
|
21/2/2023
|
ภาคกลางและปริมณฑล
|
กรุงเทพมหานคร
|
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230221150657143
| null |
กกต.โคราชจัดประชุมใหญ่? ติวเข้ม?คณะกรรมการศูนย์ประชาธิปไตยประจำตำบลเตรียมพร้อมเลือกตั้ง
|
ที่ห้องโคราช?ฮอลล์? ศูนย์การค้าเซนทรัล?โคราช? อ.เมือง? จ.นครราชสีมา? นายสยาม? ศิริมงคล? ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา? เป็นประธานเปิดการอบรมกรรมการศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาประชาธิปไตยตําบล จัดขึ้นโดยสํานักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งจังหวัดนครราชสีมา? เพื่อเป็นกลไกสําคัญในการขับเคลื่อนงานส่งเสริมและพัฒนาประชาธิปไตยในพื้นที่ มีบทบาทหน้าที่เป็นศูนย์กลางการพัฒนาประชาธิปไตย ทําหน้าที่ให้ความรู้ประชาธิปไตยและการเลือกตั้งส่งเสริมสนับสนุนกิจกรรมประชาธิปไตย พัฒนาต่อยอดการสร้างและขยายเครือข่ายพลเมืองและส่งเสริมการมีส่วนร่วมในกระบวนการเลือกตั้งให้กับประชาชนในตําบลและชุมชน รวมถึงส่งเสริมให้กรรมการส่งเสริมพัฒนาประชาธิปไตยได้เข้ามามีส่วนร่วมทางการปฏิบัติหน้าที่เป็นคณะกรรมการประจําหน่วยเลือกตั้ง? ซึ่งมีผู้เข้าร่วมเป็นคณะกรรมการพัฒนาประชาธิปไตยระดับตําบล พื้นที่?อ.เมืองนครราชสีมา? กว่า1,000? คน? ร่วมในการอบรม? เนื้อหาสําคัญของการอบรมประกอบด้วยวิชาความภาคภูมิใจในความเป็นไทยวิชาการเป็นพลเมืองคุณภาพ? วิชาการขับเคลื่อนส่งเสริมพัฒนาประชาธิปไตย วิชาการเลือกตั้ง ส.ส. และการปฏิบัติงานของเจ้าพนักงานผู้ดําเนินการเลือกตั้ง#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
|
21/2/2023
|
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
|
นครราชสีมา
|
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนครราชสีมา
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230221124544074
| null |
คนร้ายเชี่ยวชาญการประกอบระเบิดแสวงเครื่องยิงต่อสู้เจ้าหน้าที่เสียชีวิต 1 ราย
|
วันนี้ 21 ก.พ.66 เวลาประมาณ 04.30 น. เจ้าหน้าที่หน่วยปฏิบัติการพิเศษร่วมสนธิกําลัง 3 ฝ่ายเข้าพิสูจน์ทราบเป้าหมายซึ่งประชาชนให้ข้อมูลว่ามีผู้ก่อเหตุรุนแรงที่เกี่ยวข้องกับเหตุระเบิดในพื้นที่ เข้าไปอาศัยหลบซ่อนตัว ในพื้นที่หมู่บ้านมายอ หมู่ที่ 6 ต.ธารโต อ.ธารโต จ.ยะลา โดยการปฏิบัติเจ้าหน้าที่ได้ดําเนินการตามขั้นตอนอย่างเคร่งครัดด้วยการเจรจาเกลี้ยกล่อมให้คนร้ายที่หลบซ่อนอยู่ภายในบ้านออกมามอบตัวพร้อมทั้งขอความร่วมมือจากผู้นําท้องที่และผู้นําศาสนาเข้าร่วมเจรจาด้วยแต่ไม่เป็นผล จนกระทั่งเวลาประมาณ 05.45 น. คนร้ายตัดสินใจใช้อาวุธปืนยิงเข้าใส่เจ้าหน้าที่เพื่อเปิดทางหลบหนี ทําเกิดการยิงต่อสู้กันขึ้นเป็นผลให้คนร้ายเสียชีวิต 1 ราย ทราบชื่อนายอิบรอเฮม อายุ 42 ปี อยู่ที่ 24 บ้านแหร หมู่ที่ 1 ต.บ้านแหร ต.ธารโต อ.ธารโต จ.ยะลา มีความเชี่ยวชาญในการประกอบระเบิดแสวงเครื่อง จากการรวบรวมหลักฐานพบว่ามีส่วนร่วมในการลอบวางระเบิดปั๊มน้ํามัน ปตท. สาขาธารโต รวมทั้งลอบวางระเบิดรถยนต์ เจ้าหน้าที่ตํารวจ สภ.บันนังสตา ซึ่งเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุคนร้ายวางเพลิงเผาเครื่องจักรและยานพาหนะที่ใช้ในการก่อสร้างถนนของบริษัทยะลาไฮเวย์ ในพื้นที่บ้านสนามบิน หมู่ที่ 1 ต.เขื่อนบางลาง อ.บันนังสตา จ.ยะลา จนทําให้ พ.ต.ต.ประสาน คงประสิทธิ์ สว.สส.สภ.บันนังสตา เสียชีวิต และมีเจ้าหน้าที่ตํารวจ ได้รับบาดเจ็บ 4 นาย เหตุเกิดเมื่อวันที่ 17 ก.พ.66 ที่ผ่านมา รวมทั้ง นายอิบรอเฮม ยังมีหมายจับในคดีความมั่นคง จํานวน 1 หมาย ซึ่งเกี่ยวข้องกับเหตุระเบิดในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ยังตรวจยึดอาวุธปืนพกสั้น ขนาด 9 มม. ที่คนร้ายใช้ก่อเหตุเพื่อนําไปพิสูจน์ทราบหาที่มาและประวัติการก่อเหตุต่อไปทางด้าน พล.ท.ศานติ ศกุนตนาค แม่ทัพภาคที่ 4 / ผู้อํานวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ได้กล่าวแสดงความเสียใจต่อญาติของผู้เสียชีวิตพร้อมทั้งขอให้พี่น้องประชาชนมีความมั่นใจในมาตรการควบคุมพื้นที่และการบังคับใช้กฎหมายซึ่งได้ดําเนินการด้วยความระมัดระวังในทุกขั้นตอน ใช้มาตรการจากเบาไปหาหนัก แต่ความสูญเสียที่เกิดขึ้นเกิดจากผู้ก่อเหตุรุนแรงยิงใส่เจ้าหน้าที่จึงจําเป็นต้องตอบโต้จนนําไปสู่ความสูญเสียดังกล่าว ทั้งนี้กองอํานวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ยังคงยืนยันเจตนารมณ์ในการแก้ปัญหาด้วยสันติวิธีพร้อมเปิดโอกาสให้ผู้กระทําผิดเข้ามอบตัวเพื่อต่อสู้และพิสูจน์ตัวเองตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป ส่วนผู้ให้ที่พักพิงแก่คนร้ายจะต้องเข้าสู่กระบวนการตามกฎหมายอย่างถึงที่สุด กองอํานวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ขอขอบคุณพี่น้องประชาชนที่ได้ให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อการปฏิบัติดังกล่าว ซึ่งหากพบเห็นการกระทําผิดกฎหมายหรือพบเบาะแสผู้ก่อเหตุรุนแรง สามารถแจ้งได้ที่ เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงประจําพื้นที่ หรือหมายเลขสายด่วนกองอํานวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า หมายเลข 1341 หรือ หมายเลขโทรศัพท์สายตรงแม่ทัพภาคที่ 4 ผู้อํานวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 หมายเลข 061-1732999 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
|
21/2/2023
|
ภาคใต้
|
ยะลา
|
สทท.ยะลา
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230221123414069
| null |
เจ้าหน้าที่สนธิกำลังปิดล้อมตรวจค้น คนร้ายยิ่งใส่เจ้าหน้าที่วิสามัญมือระเบิด 1 ราย ที่ธารโต พบเชื่อมโยงเหตุระเบิดปั๊ม ปตท.ธารโต และเหตุลอบวางระเบิดเจ้าหน้าที่ ตำรวจ สภ.บันนังสตา
|
วันนี้ 21 ก.พ.66 เวลา 04.30 น. เจ้าหน้าที่หน่วยปฏิบัติการพิเศษร่วมสนธิกําลัง 3 ฝ่ายเข้าพิสูจน์ทราบเป้าหมายซึ่งประชาชนให้ข้อมูลว่ามีผู้ก่อเหตุรุนแรงที่เกี่ยวข้องกับเหตุระเบิดในพื้นที่ เข้าไปอาศัยหลบซ่อนอยู่ในบ้านเลขที่ 24 หมู่ที่ 1 ตําบลบ้านแหร อําเภอธารโต จังหวัดยะลาโดยการปฏิบัติเจ้าหน้าที่ได้ดําเนินการตามขั้นตอนอย่างเคร่งครัดด้วยการเจรจาเกลี้ยกล่อมให้คนร้ายที่หลบซ่อนอยู่ภายในบ้านออกมามอบตัวพร้อมทั้งขอความร่วมมือจากผู้นําท้องที่และผู้นําศาสนาเข้าร่วมเจรจาด้วยแต่ไม่เป็นผล จนกระทั่งเวลา 05.45 น. คนร้ายตัดสินใจใช้อาวุธปืนยิงเข้าใส่เจ้าหน้าที่เพื่อเปิดทางหลบหนี ทําเกิดการยิงต่อสู้กันขึ้นเป็นผลให้คนร้ายเสียชีวิต 1 ราย ทราบชื่อคือ นายอิบรอเฮม อายุ 42 ปี มีความเชี่ยวชาญในการประกอบระเบิดแสวงเครื่อง จากการรวบรวมหลักฐานพบว่ามีส่วนร่วมในการลอบวางระเบิดปั๊มน้ํามัน ปตท. สาขาธารโต รวมทั้งลอบวางระเบิดรถเจ้าหน้าที่ตํารวจสถานีตํารวจภูธรบันนังสตา ซึ่งเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุคนร้ายวางเพลิงเผาเครื่องจักรและยานพาหนะที่ใช้ในการก่อสร้างถนนของบริษัทยะลาไฮเวย์ จนทําให้เจ้าหน้าที่ตํารวจเสียชีวิต 1 นาย ได้รับบาดเจ็บ 4 นาย เหตุเกิดเมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2566 รวมทั้งนายอิบรอเฮม พบ มีหมายจับในคดีความมั่นคง จํานวน 1 หมาย ซึ่งเกี่ยวข้องกับเหตุระเบิดในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ยังตรวจยึดอาวุธปืนพกขนาด 9 มิลลิเมตร ที่คนร้ายใช้ก่อเหตุเพื่อนําไปพิสูจน์ทราบหาที่มาและประวัติการก่อเหตุต่อไป ทางด้าน พลโท ศานติ ศกุนตนาค แม่ทัพภาคที่ 4 / ผู้อํานวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ได้กล่าวแสดงความเสียใจต่อญาติของผู้เสียชีวิตพร้อมทั้งขอให้พี่น้องประชาชนมีความมั่นใจในมาตรการควบคุมพื้นที่และการบังคับใช้กฎหมายซึ่งได้ดําเนินการด้วยความระมัดระวังในทุกขั้นตอน ใช้มาตรการจากเบาไปหาหนัก แต่ความสูญเสียที่เกิดขึ้นเกิดจากผู้ก่อเหตุรุนแรงยิงใส่เจ้าหน้าที่จึงจําเป็นต้องตอบโต้จนนําไปสู่ความสูญเสียดังกล่าว ทั้งนี้ กองอํานวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ยังคงยืนยันเจตนารมณ์ในการแก้ปัญหาด้วยสันติวิธีพร้อมเปิดโอกาสให้ผู้กระทําผิดเข้ามอบตัวเพื่อต่อสู้และพิสูจน์ตัวเองตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป ส่วนผู้ให้ที่พักพิงแก่คนร้ายจะต้องเข้าสู่กระบวนการตามกฎหมายอย่างถึงที่สุด กองอํานวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ขอขอบคุณพี่น้องประชาชนที่ได้ให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อการปฏิบัติดังกล่าว ซึ่งหากพบเห็นการกระทําผิดกฎหมายหรือพบเบาะแสผู้ก่อเหตุรุนแรง สามารถแจ้งได้ที่ เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงประจําพื้นที่ หรือหมายเลขสายด่วนกองอํานวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า หมายเลข 1341 หรือ หมายเลขโทรศัพท์สายตรงแม่ทัพภาคที่ 4 ผู้อํานวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 หมายเลข 061-1732999 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
|
21/2/2023
|
ภาคใต้
|
ยะลา
|
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดยะลา
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230221124555075
| null |
ครม.ไฟเขียวหนุนงบฯ กว่า 163 ล้านบาท เยียวยาซื้อเรือประมงปัตตานี
|
ครม. อนุมัติงบฯ กว่า 163 ล้านบาท เยียวยาซื้อเรือประมงปัตตานี ตามข้อเสนอ กพต. หลัง ศอ.บต. ชง พิจารณา ในโครงการนําเรือประมงออกนอกระบบ เพื่อการจัดการทรัพยากรประมงทะเลที่ยั่งยืนวันนี้ (21 ก.พ. 2566) คณะรัฐมนตรี นําโดย พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พิจารณาอนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจําปี พ.ศ. 2566 งบกลาง ในรายการเงินสํารองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉิน หรือจําเป็น สําหรับเป็นค่าใช้จ่ายช่วยเหลือเยียวยาซื้อเรือประมงในพื้นที่จังหวัดปัตตานี ในโครงการนําเรือประมงออกนอกระบบเพื่อการจัดการทรัพยากรประมงทะเลที่ยั่งยืน พื้นที่ จชต. เป็นกรณีเร่งด่วน ตามการเสนอของคณะกรรมการยุทธศาสตร์ด้านการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (กพต.) ซึ่งมี พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน กพต. โดยวันนี้ ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี อนุมัตินําเรือประมงออกนอกระบบชุดแรก จํานวน 96 ลํา งบประมาณกว่า 163 ล้านบาท เพื่อสนับสนุนมาตรการลดจํานวนเรือประมงของรัฐบาล และให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการกิจการประมง และธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับการประมงในจังหวัดชายแดนภาคใต้โดยเรือประมง 96 ลํา ในชุดแรกที่มีการพิจารณาอนุติในวันนี้ ผ่านการตรวจสอบประวัติ เกี่ยวกับการใช้แรงงานเด็ก คุณสมบัติเรือประมง และเจ้าของเรือพื้นที่จังหวัดปัตตานี จากคณะทํางานด้านการตรวจสอบประวัติความถูกต้องและคุณสมบัติเรือประมง โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี เป็นประธานคณะทํางานแล้ว โดยหลังจากนี้มีการเยียวยาเรือประมงที่ได้รับอนุมัติในลําต่อไปสําหรับโครงการนําเรือประมงออกนอกระบบเพื่อการจัดการทรัพยากรประมงทะเลที่ยั่งยืนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นกรณีเร่งด่วน (เรือชุดที่ 1) เป็นโครงการที่ กพต. มีมติเห็นชอบ และได้ดําเนินการคู่ขนานพร้อมกับการทํางานของคณะกรรมการนโยบายประมงแห่งชาติ โดยมี ศอ.บต.เป็นหน่วยประสานงานกลางทุกส่วนราชการ และดําเนินการตามความเห็นของสํานักงบประมาณที่ต้องการให้การดําเนินการเรื่องดังกล่าวเกิดความเป็นธรรม โปร่งใส และไม่สร้างความเหลื่อมล้ําทางการปฏิบัติที่จะต้องให้กลุ่มชาวประมงในจังหวัดต่างๆ ได้รับการช่วยเหลือที่เป็นไปตามมาตรฐานเดียวกัน#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
|
21/2/2023
|
ภาคใต้
|
ยะลา
|
สทท.ยะลา
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230221132540092
| null |
ยอดเงินบริจาคพรรคการเมือง ธันวาคม 2566 พรรคชาติไทยพัฒนา 23.5 ล้านบาท พรรคสร้างอนาคตไทย 23 ล้านบาท
|
สํานักงาน กกต. เปิดเผยบัญชีรายชื่อผู้บริจาคและจํานวนเงินบริจาค 19 พรรคการเมือง ประจําเดือนธันวาคม 2565 โดยพรรคที่มีเงินบริจาคสูงสุดคือ พรรคชาติไทยพัฒนา 23,520,000 บาท รองลงมาคือ พรรคสร้างอนาคตไทย 23,000,000 บาท พรรคภูมิใจไทย 16,977,500 บาท พรรคเพื่อไทย 10,000,000 บาท พรรคพลังชล 3,381,500 บาท พรรคก้าวไกล 2,292,706 บาท พรรคเศรษฐกิจไทย 1,500,000 บาท พรรคประชาธิปัตย์ 729,000 บาท พรรคพลังปวงชนไทย 710,000 บาท พรรคกล้า 700,000 บาท พรรคเสรีรวมไทย 565,000 บาท พรรคชาติพัฒนากล้า 360,000 บาท พรรคไทยศรีวิไลย์ 300,000 บาท พรรคประชาชาติ 250,000 บาท พรรคทางเลือกใหม่ 200,000 บาท พรรคเส้นทางใหม่ 100,000 บาท พรรคมิติใหม่ 31,000 บาท พรรครวมพลัง 25,000 บาท และ พรรครักษ์ธรรม 21,000 บาท สําหรับรายการเงินบริจาคที่น่าสนใจ อาทิ พรรคชาติไทยพัฒนา มีผู้บริจาค 8 รายการ วงเงิน 23,520,000 บาท โดยนางสาวกัญจนา ศิลปอาชา อดีตหัวหน้าพรรค บริจาคเงินถึง 8,500,000 บาท ขณะที่นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หัวหน้าพรรค บริจาคเป็นประโยชน์อื่นใด รวม 660,000 บาท นอกจากนี้ ยังมีเอกชนร่วมบริจาค เช่น บริษัท ลานทอง1987 จํากัด บริจาค 5,000,000 บาท บริษัท โรงสี อ.การเกษตร 2011 จํากัด บริจาค 4,000,000 บาท และบริษัท โรงสีข้าวสุพรรณรุ่งโรจน์ บริจาค 5,000,000 บาท ขณะที่พรรคสร้างอนาคตไทย มีผู้บริจาครวม 4 รายการ วงเงิน 23,000,000 บาท ได้แก่ นายสกล เปาอินทร์ 5,000,000 บาท นายกิตติพันธ์ คงสวัสดิ์เกียรติ 6,000,000 บาท นายธีรวิทย์ พุทธฤดีสุข 6,000,000 บาท และนายสันติ กีระนันทน์ 6,000,000 บาทพรรคเพื่อไทย มีผู้บริจาครวม 2 รายการ วงเงิน 10,000,000 บาท ได้แก่ นายเฉลิมเกียรติ ภูตินาถ กรรมการบริษัท สยาม อินคูเบเตอร์ ซีสเต็ม จํากัด บริจาค 5,000,000 บาท และ หจก.กลุ่มบ้านตาลพัฒนา ธุรกิจรับขนขยะมูลฝอย บริจาค 5,000,000 บาท ส่วนพรรคภูมิใจไทย มีผู้บริจาค 80 รายการ รวม 16,977,500 บาท ในจํานวนนี้มีบริษัท ไรท์แมน จํากัด บริจาคเงิน 2 ครั้ง เป็นเงิน 9,800,000 บาท หจก.เพชรมีชัยเทรดดิ้ง บริจาค 1,998,000 บาท นายพิทักษ์สิทธิ์ ชีวรัฐพัฒน์ บริจาค 999,500 บาท พรรคพลังชล ที่เริ่มกลับมามีความเคลื่อนไหวอีกครั้ง โดยผู้บริจาคเงินจํานวนหลักล้านบาท จํานวน 2 ราย รวม 3,381,500 บาท คือ นายเอกสิทธิ์ งามพิเชษฐ์ ที่ปรึกษาสมาคมนักธุรกิจและการท่องเที่ยวเมืองพัทยา บริจาคประโยชน์อื่นใด 1,313,500 บาท และนางสติล คุณปลื้ม ภรรยานายสมชาย คุณปลื้ม หรือ “กํานันเป๊าะ” บริจาคเป็นประโยชน์อื่นใด 2,068,000 บาท
|
21/2/2023
|
ภาคกลางและปริมณฑล
|
กรุงเทพมหานคร
|
Radio-สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230221150310136
| null |
นายกรัฐมนตรี ไม่กังวลมนต์ดำเข้าตัว เชื่อกรรมดีจะคุ้มครอง
|
พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงกรณีที่นายชินวรณ์ บุญเกียรติ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ ออกมาเตือนนายกรัฐมนตรีถึงการทําพิธีที่วัดยางใหญ่ ระหว่างการลงพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราชเมื่อวานนี้ ว่าหากทําไม่ถูกต้อง อาจเกิดความวิบัติและมนต์ดําเข้าตัวได้ว่า สิ่งที่ตนเองทํามาตลอดคือ การทําความดีและทําเพื่อประเทศชาติมามากพอสมควร จึงคิดว่ากรรมดีจะคุ้มครองตนเองได้ ซึ่งสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายตนเองก็เคารพนับถือและไหว้ทุกที่ เพราะเป็นคนไทย มีความเชื่อมั่นและศรัทธา ซึ่งส่วนตัวมองว่าไม่ใช่ความเสียหาย ทั้งนี้สิ่งแรกที่ตนเองขอคือ ชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ปลอดภัย พร้อมขอพรให้ประชาชนทั้งประเทศมีความสุขมากขึ้นเรื่อยๆ และให้ประเทศไทยเข้มแข็ง รวมทั้งขอให้ตนเองมีสุขภาพแข็งแรง มีกําลังกายและใจในการทําหน้าที่ ตราบใดที่ยังมีภาระอยู่ ส่วนได้ขอพรให้เป็นนายกรัฐมนตรีอีกสมัยหรือไม่ นายกรัฐมนตรี ยืนยันไม่ได้ขอพรเรื่องนั้น
|
21/2/2023
|
ภาคกลางและปริมณฑล
|
กรุงเทพมหานคร
|
Radio-สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230221150920146
| null |
นายกรัฐมนตรี ยืนยัน ลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐรอบใหม่ แล้วเสร็จทันวันที่ 1 มี.ค.นี้
|
พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ยืนยันว่า การลงทะเบียนโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จะแล้วเสร็จทันวันที่ 1 มี.ค.นี้ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบสิทธิ์ให้ถูกต้อง และมีการขยายกฏเกณฑ์ทําให้มีผู้ได้รับสิทธิ์เพิ่มมากขึ้นทุกปี เพื่อให้ทุกคนได้รับความเป็นธรรมทั้งนี้ที่ประชุมครม.ได้อนุมัติแก้ปัญหา และเยียวยาประชาชน ทั้งเรื่องประมง การซื้อเรือ กองทุนฟื้นฟูของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ซึ่งรัฐบาลมีเวลาจํากัด เรื่องใดที่เป็นความเดือดร้อนของประชาชน ถ้าสามารถแก้ปัญหาได้ก็จะดําเนินการให้มากที่สุด ซึ่งไม่ใช่เพื่อการหาเสียงแต่อย่างใด แต่เป็นหน้าที่รัฐบาลต้องดูแลส่วนกรณีสํานักงานตํารวจแห่งชาติ ของบประมาณเพื่อดําเนินโครงการจัดหากล้องบันทึกภาพและเสียงตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทําให้บุคคลสูญหาย พ.ศ. 2565 นั้น นายกรัฐมนตรี ชี้แจงว่า จําเป็นต้องมีการจัดหาอุปกรณ์ให้กับตํารวจ เพื่อจะได้สอดคล้องกับกฏหมายที่ออกไปส่วนการจัดหารถยนต์หุ้มเกราะกันกระสุนทดแทนที่ใช้ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เป็นการจัดหารถยนต์หุ้มเกราะทดแทนของเดิมที่มีอายุการใช้งานมานานกว่า 10 ปี ซึ่งรถยนต์หุ้มเกราะที่ใช้อยู่ปัจจุบันมีร่องรอยกระสุนเต็มไปหมด จึงมีความจําเป็น เพราะต้องคํานึงถึงชีวิตของผู้ปฏิบัติงานด้วย และให้ไปดําเนินการจัดซื้อจัดจ้างให้เป็นไปอย่างถูกต้อง
|
21/2/2023
|
ภาคกลางและปริมณฑล
|
กรุงเทพมหานคร
|
Radio-สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230221194522269
| null |
คณะรัฐมนตรี อนุมัติกว่า 1,500 ล้านบาท ให้กองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร แก้ไขปัญหาหนี้ NPL และ NPA
|
นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจําสํานักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี ว่า ที่ประชุม อนุมัติงบกว่า 1,500 ล้านบาท ให้กองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร เพื่อจัดการหนี้ให้แก่เกษตรกรสมาชิก โดยเฉพาะกรณีหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ หรือ NPL และการซื้อทรัพย์คืน โดยมีเกษตรกรกลุ่มเป้าหมาย 3,148 ราย ทั้งนี้ การได้รับงบประมาณจะทําให้กองทุนฯ มีงบประมาณเพียงพอ สามารถดําเนินแก้ไขปัญหาหนี้ของเกษตรกรสมาชิกและฟื้นฟูอาชีพและพัฒนาเกษตรกรสมาชิกได้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งพระราชบัญญัติกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกรแก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2563 ให้อํานาจกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกรสามารถจัดการหนี้ของเกษตรกรกรณีบุคคล ค้ําประกันได้ รวมทั้งช่วยเหลือเกษตรกรสมาชิก ที่แตกต่างและไม่ซ้ําซ้อนกับการดําเนินงานของหน่วยงานของรัฐหรือธนาคารของรัฐ เช่น การจัดการหนี้ให้แก่เกษตรกรสมาชิก กรณีหนี้ NPL และการซื้อทรัพย์สินคืน ซึ่งเมื่อบุคคลได้รับการจัดการหนี้เหล่านี้ จะต้องเข้าสู่แผนการฟื้นฟูอาชีพด้วยโฆษกประจําสํานักนายกรัฐมนตรี ยังเปิดเผยว่า นายกรัฐมนตรีได้สั่งการเพิ่มเติมให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดําเนินการตรวจสอบสิทธิให้ถูกต้อง รวมทั้งสั่งการให้มีการแก้ไขปัญหาหนี้ได้โดยเร็ว
|
21/2/2023
|
ภาคกลางและปริมณฑล
|
กรุงเทพมหานคร
|
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230221212109297
| null |
ครม. รับทราบ การชี้แจงขั้นตอนรายละเอียดและข้อห้ามการปฏิบัติ หากเกิดการยุบสภา ย้ำ ยุบสภาภายในเดือนมีนาคมนี้อย่างแน่นอน
|
นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจําสํานักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ได้ชี้แจงขั้นตอนรายละเอียดและข้อห้ามต่าง ๆ ที่ครม.ไม่สามารถปฏิบัติได้ ตามระเบียบของคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต.กรณีสภาผู้แทนราษฎรจะครบวาระ ในวันที่ 23 มีนาคม 2566 ซึ่งตามรัฐธรมนูญกําหนดว่าหากครบวาระในวันที่ 23 มี.ค. 66 ต้องจัดเลือกตั้งภายใน 45 วัน แต่หากกรณีที่มีการยุบสภา รัฐธรรมนูญกําหนดวันเลือกตั้งไม่น้อยกว่า 45 วัน แต่ไม่เกิน 60 วัน /ทั้งนี้ย้ําว่าไม่ว่าจะยุบ หรือ สส.ครบวาระ จะเกิดขึ้นภายในเดือนมีนาคมนี้อย่างแน่นอน/ ส่วนวันเลือกตั้งอยู่ในกรอบระยะเวลาของแต่ละกรณี แต่ขณะนี้คาดว่าการเลือกตั้งเกิดขึ้นต้นเดือนพฤษภาคม 2566 นี้ จากนั้นเป็นการประกาศผลประมาณต้นเดือนกรกฎาคม ที่จะประกาศผลรับรองสส. ทั้ง 500 คน จากนั้นจะเป็นขึ้นตอนต่อไปตามปกติ คือการ เสด็จพระราชดําเนินเปิดสภาฯ/ขั้นตอนการตั้งประธานสภาผู้แทนราษฎร ประมาณกลางเดือน ก.ค. จากนั้น เป็นการเลือกนายกรัฐมนตรี และโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งนายกรัฐมนตรี //หลังได้นายกรัฐมนตรี ขั้นตอนต่อไปคือแต่งตั้งคณะรัฐมนตรี และจะได้คณะรัฐมนตรีช่วงเดือนสิงหาคม อย่างไรก็ตามช่วงนี้รัฐบาลทําหน้าที่รักษการจนถึงประมาณ เดือนสิงหาคม 2566
|
21/2/2023
|
ภาคกลางและปริมณฑล
|
กรุงเทพมหานคร
|
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230221203911287
| null |
ครม.เห็นชอบการรับรองวัดคาทอลิก 33 แห่ง ใน 18 จังหวัด
|
น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจําสํานักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี เห็นชอบการรับรองวัดคาทอลิก จํานวน 33 แห่ง ใน 18 จังหวัด ตามที่ กระทรวงวัฒนธรรมเสนอ ซึ่งเป็นการดําเนินการตาม ระเบียบสํานักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยแนวทางพิจารณาในการจัดตั้งวัดบาทหลวงโรมันคาทอลิก พ.ศ. 2564 ซึ่งทั้งหมดเป็นวัดที่มีอยู่ก่อนวันที่ระเบียบฯ จะมีผลบังคับ และต้องรับรองให้แล้วเสร็จภายใน 2 ปี หลังจากวันบังคับ(ภายใน 15 มิ.ย. 66) ซึ่งเมื่อรวมกับการอนุมัติครั้งนี้แล้วจะมีวัดที่มีอยู่ก่อนระเบียบฯ มีผลบังคับได้รับการรับรองแล้วรวม 76 แห่ง และยังเหลือการรับรองอีก 276 แห่งทั้งนี้ ก่อนเสนอต่อ ครม. วัดคาทอลิกทั้ง 33 แห่ง ได้ผ่านการพิจารณาจากคณะกรรมการพิจารณากลั่นกรองคําขอจัดตั้งวัดคาทอลิก เมื่อวันที่ 30 พ.ย. 65 ซึ่งเป็นไปตามหลักเกณฑ์ นอกจากนี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้พิจารณาแล้วได้ให้ความเห็นชอบและไม่ขัดข้องในหลักการในการรับรองวัดคาทอลิกทั้ง 33 แห่ง โดยมีความเห็นเพิ่มเติมเกี่ยวกับการใช้ประโยชน์ในที่ดินว่า วัดทั้ง 33 แห่งไม่มีการตั้งบนที่ราชพัสดุ แต่หามีกรณีมิซซังได้เข้าไปใช้ที่ราชพัสดุจะต้องดําเนินการขออนุญาตเข้าไปใช้ประโยชน์ต่อกรมธนารักษ์ หากมีการเข้าไปตั้งวัดในเขตพื้นที่ป่าต้องได้รับอนุญาตตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
|
21/2/2023
|
ภาคกลางและปริมณฑล
|
กรุงเทพมหานคร
|
Radio-สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230221200129274
| null |
รอง ผอ.รมน.ภาค 4 สน. ต้อนรับคณะโรงเรียนเสนาธิการทหารบก ศึกษาดูงาน ร่วมพัฒนาชายแดนใต้
|
รอง ผอ.รมน.ภาค 4 สน. ต้อนรับคณะโรงเรียนเสนาธิการทหารบก ศึกษาดูงาน ร่วมพัฒนาชายแดนใต้ มุ่งขจัดปัญหาและยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชนให้เกิดความยั่งยืนทุกมิติวันนี้ (21 กุมภาพันธ์ 2566) พลตรี กรกฎ ภู่โชติ รองผู้อํานวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ให้การต้อนรับ คณะโรงเรียนเสนาธิการทหารบก หลักสูตรการพัฒนาองค์ความรู้ก่อการร้ายและการก่อความไม่สงบ (หลักสูตร พรส.) รุ่นที่ 16 เพื่อเข้ารับฟังบรรยายสรุปการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ และประเมินผลที่ผ่านมา ในกิจกรรม “นักวิชาการพบนักรบจังหวัดชายแดนภาคใต้” โดยมี พลตํารวจโท นันทเดช ย้อยนวล ผู้บัญชาการตํารวจภูธรภาค 9, ผู้แทน ศูนย์อํานวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ และผู้แทนหน่วยขึ้นตรงกองอํานวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า เข้าร่วม ณ ห้องประชุม 1 กองอํานวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ค่ายสิรินธร ตําบลเขาตูม อําเภอยะรัง จังหวัดปัตตานีโอกาสนี้ รองผู้อํานวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า กล่าวต้อนรับคณะฯ พร้อมย้ําว่า กองอํานวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า รับผิดชอบในการ บูรณาการงานการแก้ปัญหา งานการป้องกันปัญหา และการเสริมความมั่นคงในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อรักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน พัฒนายกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนให้ดีขึ้น และนําสันติสุขกลับสู่จังหวัดชายแดนภาคใต้อย่างยั่งยืน ภายใต้บริบทของสังคมพหุวัฒนธรรม ในการนี้ ผู้แทนจากกองอํานวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้าได้บรรยายสรุปสถานการณ์และการปฏิบัติงานที่สําคัญด้านความมั่นคงในห้วงเดือนตุลาคม 2565 - มกราคม 2566 และผู้บัญชาการตํารวจภูธรภาค 9 บรรยายสรุปสถิติการเกิดเหตุ ผลการปฏิบัติ และคําพิพากศาคดีความมั่นคงในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ รวมถึงผู้แทนศูนย์อํานวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ บรรยายสรุปผลการปฏิบัติงานที่สําคัญ ตลอดจนตัวแทนนักศึกษาหลักสูตรฯ ได้นําเสนอผลงานผ่านหัวข้อ “ยุทธศาสตร์การสื่อสาร เพื่อความผาสุกของพี่น้องประชาชนใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้” พร้อมหารือและสรุปแนวทางการดําเนินงานในการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นทั้งนี้ หลักสูตรการพัฒนาองค์ความรู้การก่อการร้ายและการก่อความไม่สงบ สําหรับผู้บริหาร (หลักสูตร พรส.) รุ่นที่ 16 ได้นําผู้เข้ารับการศึกษาเดินทางตรวจ / ศึกษาภูมิประเทศพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ระหว่างวันที่ 20 - 22 กุมภาพันธ์ 2566 เพื่อพัฒนาสัมพันธ์ แลกเปลี่ยนประสบการณ์ ระดับผู้บริหารได้กําหนดนโยบายการป้องกันและปราบปรามการก่อความไม่สงบ มุ่งเน้นวางแผนการส่งเสริมการมีส่วนร่วมของภาคประชาชนต่อการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ให้มีประสิทธิภาพและเป็นไปในทิศทางเดียวกันภายใต้สังคมพหุวัฒนธรรมที่เข้มแข็ง#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
|
21/2/2023
|
ภาคใต้
|
ยะลา
|
สทท.ยะลา
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230221201543282
| null |
สภาผู้แทนราษฎร เตรียมพิจารณาร่างพระราชบัญญัติกัญชา กัญชง พ.ศ. .... ต่อจากการประชุมครั้งที่แล้ว
|
การประชุมสภาผู้แทนราษฎร ในเวลา 09.30 น. วันนี้ (22 ก.พ.66) ภายหลังเปิดให้สมาชิกปรึกษาหารือปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนตามข้อบังคับการประชุมแล้ว ที่ประชุมมีวาระพิจารณา เรื่องที่ที่ประชุมเห็นชอบให้เลื่อนขึ้นมาพิจารณาก่อน จํานวน 3 ฉบับ ได้แก่ ร่างพระราชบัญญัติกัญชา กัญชง พ.ศ. .... โดยพิจารณาต่อจากการประชุมเมื่อวันพุธที่ 1 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ร่างพระราชบัญญัติคู่ชีวิต พ.ศ. .... และร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... รวมถึงวาระพิจารณาเรื่องที่คณะกรรมาธิการพิจารณาเสร็จแล้ว รวม 8 ฉบับ คือ ร่างพระราชบัญญัติการเข้าชื่อเพื่อถอดถอนสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ. .... ร่างพระราชบัญญัติการขนส่งทางราง พ.ศ. .... ร่างพระราชบัญญัติอาหาร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ร่างพระราชบัญญัติว่าด้วยการเวนคืนและการได้มาซึ่งอสังหาริมทรัพย์ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ร่างพระราชบัญญัติล้มละลาย (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ร่างพระราชบัญญัติการแลกเปลี่ยนข้อมูลเพื่อปฏิบัติตามความตกลงระหว่างประเทศเกี่ยวกับภาษีอากร พ.ศ. .... ร่างพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยนเรศวร พ.ศ. .... และร่างพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลภาษีอากรและวิธีพิจารณาคดีภาษีอากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ....นอกจากนี้ ยังมีวาระเรื่องด่วนที่คณะรัฐมนตรีเป็นผู้เสนอ จํานวน 9 ฉบับ เช่น ร่างพระราชบัญญัติกําหนดวิธีการที่ประชาชนจะเข้ามามีส่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็น และได้รับการเยียวยาที่จําเป็นอันเกิดจากผลกระทบของการทําหนังสือสัญญาที่อาจมีผลกระทบต่อความมั่นคงทางเศรษฐกิจ สังคม หรือการค้าหรือการลงทุนของประเทศอย่างกว้างขวาง พ.ศ. .... ร่างพระราชบัญญัติยกเลิกพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ.2534 พ.ศ. .... ร่างพระราชบัญญัติประกันชีวิต (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ร่างพระราชบัญญัติมาตรการของฝ่ายบริหารในการป้องกันและปราบปรามการทุจริต (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... และร่างพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้ายและการแพร่ขยายอาวุธที่มีอานุภาพทําลายล้างสูง (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ....
|
22/2/2023
|
ภาคกลางและปริมณฑล
|
กรุงเทพมหานคร
|
Radio-สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230222100838391
| null |
หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งแก้ปัญหาภัยอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พร้อมผลักดันพระราชกำหนดมาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พ.ศ.... ให้เป็นเครื่องมือสำคัญในการป้องกันความเสียหายที่เกิดขึ้น
|
นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจําสํานักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กําชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องติดตามและแก้ไขปัญหาอาชญากรรมไซเบอร์ที่สร้างความเสียหายให้ประชาชนคนไทยเพิ่มขึ้นทุกปี ซึ่งเชื่อมั่นว่าเมื่อร่างพระราชกําหนดมาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พ.ศ.... มีผลบังคับใช้จะเป็นเครื่องมือสําคัญในการป้องกันความเสียหายที่เกิดขึ้น โดยธนาคารสามารถระงับธุรกรรมที่ผิดปกติ หรือต้องสงสัยได้ทันที โดยคาดการณ์ว่าจะมีผลบังคับใช้ภายในเดือนกุมภาพันธ์นี้นอกจากนี้ สํานักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงกิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ผู้ให้บริการสัญญาณโทรศัพท์มือถือ และ NT ผู้ให้บริการโซเชียลมีเดีย ได้ร่วมกันดําเนินกันตรวจสอบปิดไลน์ปลอมของธนาคาร ควบคุมและจัดการชื่อผู้ส่ง SMS ปลอม ปิดกั้น URL ที่เป็นอันตราย พร้อมทั้งหารือแนวทางกับธนาคารสมาชิก พัฒนาระบบความปลอดภัยแชร์เทคนิคและแนวทางการป้องกันภัย
|
22/2/2023
|
ภาคกลางและปริมณฑล
|
กรุงเทพมหานคร
|
Radio-สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230222093836380
| null |
หน่วยงานภาครัฐและเอกชน บูรณาการความร่วมมือเดินหน้าขยายตลาดส่งออกไป สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ได้เป็นผลสำเร็จ
|
นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจําสํานักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า จากนโยบายของ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในการเพิ่มตลาดระหว่างประเทศสร้างโอกาสให้เศรษฐกิจไทยและกระทรวงพาณิชย์ร่วมกับภาคเอกชน บูรณาการความร่วมมือเมื่อช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา โดยได้หารือเพื่อขยายตลาดส่งออกสินค้าไทยกับภาครัฐและภาคเอกชนสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ณ เมืองดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE)ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี รับทราบผลการดําเนินงานดังกล่าว พร้อมทั้งขอบคุณหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่ร่วมกันผลักดันความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างไทยกับ UAE จนประสบความสําเร็จ เห็นผลลัพธ์เป็นรูปธรรม ขยายตลาดส่งออกสินค้าไทย เพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจให้ประเทศจํานวนมหาศาล และเป็นโอกาสขยายความร่วมมือไปยังกลุ่มคณะมนตรีความร่วมมือรัฐประเทศอ่าวอาหรับ (Gulf Cooperation Council: GCC) อื่นๆ ต่อไปทั้งนี้ในการเดินหน้าขยายความร่วมมือดังกล่าว ภาคเอกชนไทยกับ UAE สามารถลงนามสัญญาซื้อขายจริงรวมมูลค่ากว่า 1,330 ล้านบาท โดยเป็นการจับคู่เซ็นสัญญา 5 คู่ ในกลุ่มธุรกิจเกี่ยวกับอาหาร สุขภัณฑ์ ชิ้นส่วนยานยนต์ และเมลามีน นอกจากนี้ ทั้งสองฝ่ายได้มีการลงนามเพื่อจัดตั้งสภาธุรกิจไทยกับสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ซึ่งมีความสําคัญอย่างยิ่งต่อการค้าการลงทุนระหว่างไทยกับ UAE ในอนาคต สร้างเม็ดเงินให้ประเทศ เพิ่มขึ้นประมาณ 30,000 ล้านบาท สําหรับปี 2566 และเป็นโอกาสขยายตลาดส่งออกไทยไปยังประเทศในตะวันออกกลางและกลุ่มประเทศอ่าวอาหรับมากขึ้น ผ่านความร่วมมือกับ UAE ในการเป็นประตูเชื่อมโยงการค้าการลงทุนไปยังประเทศอื่นในภูมิภาค อย่างไรก็ตาม การขยายตลาดส่งออกไทยอย่างต่อเนื่อง ช่วยเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจให้ประเทศ จึงขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งสรุปผลการเจรจา FTA ที่ค้างอยู่ให้สําเร็จ และเปิดการเจรจา FTA กับคู่ค้าใหม่ที่มีศักยภาพต่อไป
|
22/2/2023
|
ภาคกลางและปริมณฑล
|
กรุงเทพมหานคร
|
Radio-สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230222101958398
| null |
สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร หารือปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนในพื้นที่ ปัญหาน้ำท่วม น้ำแล้ง
|
การประชุมสภาผู้แทนราษฎรวันนี้ เริ่มขึ้นเวลา 09.30 น.นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ทําหน้าที่ประธานการประชุม ซึ่งเป็นการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติกัญชา กัญชง พ.ศ. .... ที่คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาเสร็จแล้ว โดยเป็นการพิจารณาต่อจากการประชุมเมื่อวันพุธที่ 1 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา แต่ก่อนเข้าสู่ระเบียบวาระประธานเปิดโอกาสให้สมาชิกได้หารือถึงปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนในพื้นที่ ไม่ว่าจะเป็นปัญหาที่ดินทํากิน ไฟฟ้าส่องสว่าง การขุดคลอกแม่น้ําลําคลองที่ตื้นเขิน การบริหารจัดการน้ํา โดยนายกองตรี อาญาสิทธิ์ ศรีสุวรรณ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรนครศรีธรรมราช พรรคพลังประชารัฐ หารือปัญหาน้ําอุปโภคบริโภค พื้นที่ตําบลทุ่งโป่ง จังหวัดนครศรีธรรมราช บริเวณทํานบเขาเต่า ซึ่งเป็นแหล่งเก็บน้ํา เพื่อใช้ผลิตน้ําประปาและน้ําใช้เพื่อการเกษตร ตื้นเขิน ประชาชนต้องการให้แก้ไขปัญหาโดยการขุดลอก นอกจากนี้ ยังขอให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เร่งรัดก่อสร้างอาคารบังคับน้ําและพรวนดิน พร้อมระบบส่งน้ํา สําหรับใช้เพื่อการเกษตรในหน้าแล้ง ประชาชนต้องการให้แก้ไข ขุดลอกลําน้ํา เพื่อกักเก็บน้ําไว้ใช้ในหน้าแล้ง ขอให้เกษตรเร่งรัดสร้างอาคารบังคับน้ําในพื้นที่่ 3 ตําบลด้านนางสาวละออง ติยะไพรัช สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดเชียงราย พรรคเพื่อไทย หารือประธานผ่านไปยังกรมโยธาธิการและผังเมือง กระทรวงมหาดไทย และสํานักงานทรัพยากรน้ําแห่งชาติ ให้เร่งแก้ไขปัญหาน้ําท่วมน้ําแล้ง น้ําล้นตลิ่งในพื้นที่อําเภอแม่จัน เพื่อแก้ปัญหาน้ําท่วมซ้ําซากและน้ําแล้งในพื้นที่เช่นเดียวกับ นายประสิทธิ์ วุฒินันชัย สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดเชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย หารือปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนอําเภอฝาง อําเภอแม่อายและอําเภอไชยปราการ ประสบปัญหาแห้งแล้งและน้ําท่วมซ้ําซาก ซึ่งสํานักงานชลประทานที่ 1 จังหวัดเชียงใหม่ ประกาศว่าโครงการสร้างอ่างเก็บน้ําบางมะขามป้อม บรรจุอยู่ในแผนงบประมาณปี 2566 วงเงินงบประมาณ 403 ล้านบาท แต่ปัจจุบันก็ยังไม่เริ่มดําเนินการก่อสร้าง จึงอยากเรียกร้องหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ขอให้เร่งดําเนินการก่อสร้างให้แล้วเสร็จตามโครงการที่วางไว้ รวมทั้งอยากให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เร่งสํารวจ ช่วยเหลือเยียวยาให้กับพี่น้องเกษตรกรในพื้นที่ด้วย เนื่องจากเมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา มีพายุลูกเห็บพัทลุงที่อําเภอฝาง ตําบลบ้านปิง ตําบลโป่งน้ําร้อน และตําบลสันทราย ทําให้พืชผลทางการเกษตรได้รับความเสียหายอย่างมากนอกจากนี้ ยังมีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัด หารือถึงความเดือดร้อนของประชาชนในพื้นที่จังหวัดอํานาจเจริญ ถนนระหว่างหมู่บ้านชํารุดเสียหายเดินทางลําบาก เนื่องจากเป็นเส้นทางที่ใช้ในการขนถ่ายผลผลิตทางการเกษตร แต่ก็ยังไม่ได้รับการดูแล
|
22/2/2023
|
ภาคกลางและปริมณฑล
|
กรุงเทพมหานคร
|
Radio-สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230222142848520
| null |
สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการแจ้งข้อมูล หรือเบาะแสการแข่งรถในทาง
|
นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจําสํานักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลตระหนักและให้ความสําคัญในการแก้ไขปัญหาการแข่งรถในทางโดยไม่ได้รับอนุญาตของเด็กและเยาวชน อันเป็นปัญหาที่สร้างอุบัติเหตุบนท้องถนน เกิดความไม่ปลอดภัยต่อผู้ใช้รถใช้ถนน และสร้างความเดือดร้อนรําคาญให้แก่ประชาชนในชุมชนและสังคม มุ่งหวังให้ทุกภาคส่วนมีส่วนร่วมแก้ไขปัญหาดังกล่าว โดยสํานักงานตํารวจแห่งชาติ เปิดให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการแจ้งข้อมูล หรือเบาะแสการแข่งรถในทาง เมื่อพบเห็นเหตุการณ์ เช่น การแข่งรถในทางโดยไม่ได้รับอนุญาต ขับรถโดยไม่คํานึงถึงความปลอดภัยหรือความเดือดร้อนของผู้อื่น หรือรู้ตัวผู้จัด ผู้สนับสนุนหรือส่งเสริมให้มีการแข่งรถ ให้ประชาชนบันทึกภาพและคลิปด้วยตนเองพร้อมข้อมูลรายละเอียดแล้วแจ้งผ่าน 3 ช่องทางคือ ศูนย์ 191 สายด่วน 1599 หรือเพจเฟซบุ๊กศูนย์โซเชียลมีเดีย ศปก.ตร.สําหรับข้อมูลที่ได้รับแจ้งจากประชาชน สามารถนําไปสู่การจับกุมผู้กระทําความผิดการแข่งรถในทางได้ ผู้แจ้งจะได้รับค่าตอบแทน รายละ 3,000 บาท โดยโอนเงินเข้าบัญชีผู้แจ้ง ปัจจุบันมีประชาชนที่ให้ข้อมูล หรือเบาะแสได้รับค่าตอบแทนแล้ว จํานวน 23 ราย เป็นเงิน 69,000 บาท
|
22/2/2023
|
ภาคกลางและปริมณฑล
|
กรุงเทพมหานคร
|
Radio-สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230222143045521
| null |
นายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่รับฟังปัญหากัดเซาะชายฝั่ง จังหวัดจันทบุรี
|
พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เดินทางมารับฟังปัญหาการกัดเซาะ พื้นที่ชายฝั่งทะเล อําเภอแหลมสิงห์ จังหวัดจันทบุรี โดยนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สภาพภูมิอากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย การกัดเซาะจะมากขึ้น แต่ปลัดกระทรวงและรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องจะดูแลเรื่องนี้อย่างเต็มที่และจะดําเนินการตามวิธีที่เหมาะสมที่สุด เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนนอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เดินทางตรวจราชการที่จังหวัดจันทบุรี สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจําจังหวัด ที่ศาลหลักเมืองจันทบุรี โดยนายกรัฐมนตรีนําคณะสวดบูชาศาลหลักเมือง พร้อมผูกผ้าสามสี ที่เสาหลักเมือง จากนั้นสักการะศาลสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ที่อยู่ด้านข้าง พร้อมขอให้มีชัยชนะในการทุกเรื่อง
|
22/2/2023
|
ภาคกลางและปริมณฑล
|
กรุงเทพมหานคร
|
Radio-สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230222141318511
| null |
จังหวัดแม่ฮ่องสอนเตรียมขับเคลื่อน การเลือกตั้งสมาชิกสภาเกษตรจังหวัดประจำจังหวัดแม่ฮ่องสอน
|
วันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2566 ที่ห้องประชุมผดุงม่วยต่อ ชั้น 4 ศาลากลางจังหวัดแม่ฮ่องสอน นายเชษฐา โมสิกรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน มอบหมายให้นายประเสริฐ จิตต์พลีชีพ รองผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน เป็นประธานการประชุมคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนการปฏิบัติงานของคณะกรรมการการเลือกตั้งสมาชิกสภาเกษตรจังหวัดประจํา จังหวัดแม่ฮ่องสอน ครั้งที่ 1 โดยที่ประชุมได้รับทราบ ความพร้อมในการเตรียมการเลือกตั้งสมาชิกสภาเกษตรกรจังหวัดประเภทผู้แทนเกษตรกรทั่วประเทศ และการเลือกตั้งสมาชิกสภาเกษตรกรจังหวัดแม่ฮ่องสอน โดยในส่วนของจังหวัดแม่ฮ่องสอนจะมีการเลือกตั้งสมาชิกสภาเกษตรจังหวัดใน 7 อําเภอ ซึ่งจังหวัดแม่ฮ่องสอนมีเขตเลือกตั้งทั้งหมดจํานวน 16 เขต และมีเขตเลือกตั้งที่มีผู้สมัครเพียงรายเดียวจํานวน 12 เขตทั้งนี้เขตเลือกตั้งที่มีผู้สมัครหลายคน จํานวน 4 เขต มีเกษตรกรที่มีสิทธิ์การเลือกตั้งจํานวน 24,414 คน ทั้งนี้ขอเชิญชวนเกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนเป็นเกษตรกรกับสํานักงานสภาเกษตรกรแห่งชาติ หรือหน่วยงานสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ไปใช้สิทธิ์การเลือกตั้งสมาชิกสภาเกษตรจังหวัด เพื่อเป็นตัวแทนของจังหวัดต่อไปโดยหน่วยการเลือกตั้งใน 4 อําเภอ ประกอบด้วย อําเภอเมืองมี 8 หน่วยเลือกตั้ง เขตในตําบลปางหมู ตําบลหมอกจําแป่ และตําบลห้วยผา อําเภอแม่สะเรียง มี 5 หน่วยเลือกตั้ง ได้แก่ ตําบลบ้านกาด และตําบลแม่สะเรียง อําเภอแม่ลาน้อยมี 7 หน่วยเลือกตั้งได้แก่ ตําบลแม่ลาน้อย ตําบลแม่นาจาง ตําบลแม่โถ ตําบลสันติคีรี และตําบลแม่ลาหลวง ส่วนอําเภอสบเมยมีจํานวน 3 หน่วยเลือกตั้ง ได้แก่ ตําบลกองก๋อย และตําบลป่าโป่งสําหรับการเลือกตั้งสมาชิกสภาเกษตรกรจังหวัดแม่ฮ่องสอนและทั่วประเทศจะมีในวันอาทิตย์ที่ 19 มีนาคม 2566 เวลา 08.00 น-17.00 น. งานหน่วยเลือกตั้งที่ท่านมีรายชื่อใกล้บ้านเลือกได้ 1 เขต 1 เบอร์ ทั้งนี้ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอนขอให้ทุกคนออกไปใช้สิทธิ์ในการเลือกตั้งสมาชิกสภาเกษตรกรจังหวัดเพื่อให้เกษตรกรเข้ามาเป็นตัวแทนแก้ไขและพัฒนาภาคเกษตรกรรมให้กับเกษตรกรและกลุ่มเกษตรกรมีความเข้มแข็งในการประกอบอาชีพ#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
|
22/2/2023
|
ภาคเหนือ
|
แม่ฮ่องสอน
|
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดแม่ฮ่องสอน
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230222112411443
| null |
รองนายกรัฐมนตรี ระบุ ไทม์ไลน์เลือกตั้งวันที่ 7 พฤษภาคมนี้ นายกรัฐมนตรีไม่ได้เป็นคนกำหนด
|
นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญจะวินิจฉัยคําร้องของคณะกรรมการเลือกตั้ง หรือ กกต.เกี่ยวกับการนําผู้ไม่มีสัญชาติไทย หรือ ต่างด้าว มาคํานวณ ส.ส. เพื่อแบ่งเขตเลือกตั้ง ในวันที่ 3 มีนาคมนี้ว่า เป็นการดีและเร็ว ส่วนจะกระทบไทม์ไลน์การเลือกตั้งหรือไม่ ยังไม่ทราบ เพราะต้องรอศาลรัฐธรรมนูญว่าจะตัดสินอย่างไร แต่เท่าที่ประสานกับ กกต.ทราบว่ามีการเตรียมแผนรองรับไว้ทุกรูปแบบแล้ว ไม่ว่าจะนับรวมผู้ไม่มีสัญชาติไทยหรือไม่ก็ตามและอยู่ในกรอบเวลาที่วางไว้ พร้อมยอมรับกรอบเวลาการเลือกตั้งแนวโน้มเป็นวันที่ 7 พ.ค. นี้ ส่วนที่ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ระบุว่า จะเลือกตั้งในวันที่ 7 พ.ค. นั้น ยังไม่ยืนยัน เพราะนายกรัฐมนตรีกําหนดไม่ได้ เป็นเพียงการพูดตามที่ กกต.วางกรอบไว้ ซึ่งสอดคล้องกับที่ตนเองเคยอธิบายมาตลอดว่าวันเลือกตั้งควรจะเป็นวันอาทิตย์และห่างจากวันที่ยุบสภาไม่เกิน 60 วันส่วนที่นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า จะยุบสภาต้นเดือนมีนาคมนี้ ประกอบกับศาลรัฐธรรมนูญจะวินิจฉัยคําร้อง กกต.ในวันที่ 3 มีนาคม จะทําให้มีการยุบสภาหลังวันดังกล่าวเลยหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ส่วนตัวไม่ทราบ อยู่ที่นายกรัฐมนตรีตัดสินใจ ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้เคยเปรยว่าจะหารือภายในกับพรรคร่วมรัฐบาล แต่ไม่ถึงขั้นหารือในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี เพราะการยุบสภาครั้งนี้ไม่ได้เกิดจากความขัดแย้งระหว่างรัฐบาลกับสภาผู้แทนราษฎร และการยุบสภาต้องประกาศเป็นพระราชกฤษฎีกา ที่ออกได้โดยไม่ต้องผ่านความเห็นชอบจาก ครม. ส่วนการทําหน้าที่ของรัฐบาลรักษาการจะพ้นเมื่อรัฐบาลชุดใหม่เข้าเฝ้าฯถวายสัตย์ปฏิญาณ ดังนั้นการยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สิน ต้องยื่นภายใน 60 วัน นับแต่วันที่พ้นจากตําแหน่ง ทั้งนี้นายวิษณุ ยังระบุด้วยว่า การนับการดํารงตําแหน่ง 8 ปีของนายกรัฐมนตรี รัฐธรรมนูญกําหนดไว้ชัดเจนว่าไม่นับรวมระยะเวลาที่ทําหน้าที่รักษาการขณะเดียวกัน นายวิษณุ ยังกล่าวว่า การทําหน้าที่ของข้าราชการประจําในช่วงรัฐบาลรักษาการ ให้ทํางานตามปกติ เพราะไม่ว่าจะยุบสภา เลือกตั้งใหม่ หรือแต่งตั้งรัฐบาลชุดใหม่ ก็ไม่เกี่ยวกับข้าราชการประจํา แต่ในส่วนของข้าราชการการเมืองต้องระมัดระวังการทําหน้าที่
|
22/2/2023
|
ภาคกลางและปริมณฑล
|
กรุงเทพมหานคร
|
Radio-สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230222141605515
| null |
นายกรัฐมนตรี ระบุ คำขวัญ "ทำแล้ว ทำอยู่ ทำต่อ" เป็นการชี้ให้เห็นถึงการทำงาน เพื่อรองรับโลกที่เปลี่ยนแปลง
|
พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงประเด็นคําขวัญใหม่ที่พูดระหว่างลงพื้นที่จังหวัดจันทบุรีในวันนี้ (22 ก.พ.66) ว่า "ทําแล้ว ทําอยู่ ทําต่อ" พร้อมระบุว่า ตนเองคิดมาตลอด สิ่งที่ทําต้องรู้ว่าอะไรทําไปแล้ว และอะไรที่ทําอยู่แต่ยังไม่เสร็จ ก็ต้องทําให้เสร็จ เพื่อที่จะเดินหน้าทําเรื่องใหม่ๆ ต่อไป มิเช่นนั้นอาจจะเป็นปัญหาในอนาคต โดยเฉพาะช่วงนี้ที่โลกมีการเปลี่ยนแปลงในหลายด้าน ทั้งสิ่งแวดล้อม ภัยพิบัติต่างๆ จึงต้องเตรียมความพร้อมตลอดทุกวันและขออย่ามุ่งแต่ทะเลาะกันส่วนที่ประชาชนให้ความสําคัญกับนายกรัฐมนตรี โดยให้เป็นหลักสําคัญของประเทศอันดับที่ 4 พลเอก ประยุทธ์ กล่าวว่า ขึ้นอยู่กับประชาชน บังคับไม่ได้อยู่แล้วและก่อนกลับนายกรัฐมนตรีได้เดินทางขึ้นรถ พร้อมระบุว่า อย่าไปสนใจข่าวมโนสาเร่ให้มาก ก็ทํางานต่อไป
|
22/2/2023
|
ภาคกลางและปริมณฑล
|
กรุงเทพมหานคร
|
Radio-สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230222143222522
| null |
สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ยื่นหนังสือลาออก
|
นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร แจ้งให้ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ทราบถึงการสิ้นสุดสมาชิกภาพของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร โดยยื่นหนังสือลาออก และลาออกจากสมาชิกพรรคการเมือง จํานวน 4 คน ได้แก่ นายมงคลกิตติ์ สุขสินทรานนท์ ส.ส.พรรคไทยศรีวิไลย์ ลาออกจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร นางสาวไพรินทร์ เทียนสุวรรณ ส.ส. พรรคพลังประชารัฐ ลาออกจากการเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร นายอนุชา นาคาศัย ลาออกจากสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ และนายภาคิน สมมิตรธรกุล ลาออกจากสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ ส่งผลให้สมาชิกภาพของทั้ง 4 คนสิ้นสุดลง ที่ประชุมรับทราบประกาศสภาผู้แทนราษฎร เรื่องให้ผู้มีชื่ออยู่ในลําดับถัดไปของบัญชีรายชื่อพรรคการเมืองเลื่อนขึ้นมาเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แทนตําแหน่งที่ว่าง 2 คน ได้แก่ นายปฏิวัติ พิจารณ์ พรรคประชาธิปไตยใหม่ และนางสาวภคอร จันทรคณา พรรคไทยศรีวิไลย์ ประธานสภาผู้แทนราษฎร ได้แจ้งให้ที่ประชุมทราบ ว่า วันพรุ่งนี้(23 ก.พ.) ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของสมัยประชุมนี้ แต่ยังมีเรื่องที่ตั้งใจจะให้ผ่านการพิจารณาให้หมด คือ ผลงานของกรรมาธิการ จึงได้เชิญกรรมการแต่ละคณะมาหารือด้วย ดังนั้นขอความร่วมมือวันพรุ่งนี้ ช่วงการพิจารณาเรื่องที่กรรมาธิการพิจารณาเสร็จแล้ว ขอให้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ทุกคน อยู่ร่วมกันพิจารณาวาระดังกล่าวก่อนที่จะปิดสมัยประชุม เพื่อผ่านเป็นผลงานของสมาชิก
|
22/2/2023
|
ภาคกลางและปริมณฑล
|
กรุงเทพมหานคร
|
Radio-สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230222141129509
| null |
ฝ่ายค้าน เรียกร้อง ครม.ส่งร่าง พ.ร.ก.ขยายเวลาใช้ พ.ร.บ. ป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ.2565 เข้าสภาภายในวันศุกร์นี้
|
นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย พร้อมพรรคร่วมฝ่ายค้าน กล่าวถึงกรณี ครม.เห็นชอบร่างพระราชกําหนด (พ.ร.ก.) แก้ไขเพิ่มเติม พระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทําให้บุคคลสูญหาย พ.ศ.2565 พ.ศ. .... ซึ่งเป็นการแก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทําให้บุคคลสูญหาย พ.ศ.2565 ทั้งที่กฎหมายดังกล่าว มีสาระสําคัญที่สภาเห็นความสําคัญคือ เรื่องสิทธิมนุษยชนของผู้ที่ถูกกระทําโดยกระบวนการที่ไม่ชอบ โดยเฉพาะกระบวนการที่เกี่ยวเนื่องกับกระบวนการยุติธรรม สภาจึงเร่งตราพระราชบัญญัติฉบับนี้ออกไปด้วยความเห็นพ้องของทุกฝ่าย ย้ําว่า พิจารณาอย่างรอบคอบ ซึ่งสภาเห็นความจําเป็นของวันบังคับใช้ จึงได้เขียนในมาตรา 2 อย่างชัดเจนว่า ให้มีผลบังคับใช้หลังจากพระราชบัญญัตินี้ประกาศ 120 วัน แต่ ครม.กลับตราพระราชกําหนดดังกล่าว แม้ว่าฝ่ายค้านได้ทักท้วง แต่ก็ไม่มีผลใดๆนพ.ชลน่าน กล่าวอีกว่า พระราชกําหนดฉบับนี้ขยายกําหนดเวลาให้ เฉพาะมาตรา 22-25 ซึ่งเป็นมาตราเกี่ยวกับสิทธิเสรีภาพในการเข้าควบคุมตัวและการเข้าถึงข้อมูลของผู้ถูกควบคุมตัวใน พ.ร.บ.ดังกล่าว ไปมีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2566 เป็นต้นไป จากเดิมที่เริ่มจะมีผลบังคับใช้วันนี้ (22 ก.พ.) ดังนั้น ฝ่ายค้านเห็นว่า การที่ออกพระราชกําหนดเลื่อนวันบังคับใช้เช่นนี้ เป็นการละเมิดสิทธิและเสรีภาพของประชาชนในกระบวนการยุติธรรมที่จะได้รับความคุ้มครอง และพระราชกําหนดฉบับนี้ยังขัดต่อเจตนารมณ์ของกฎหมายอย่างชัดเจน เพราะการตราพระราชกําหนดไม่เข้าเงื่อนไข จึงไม่ชอบด้วยบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ ขอเรียกร้องให้ ครม.ส่งให้พระราชกําหนดให้สภาพิจารณาโดยเร็ว การอ้างว่าไม่ทันนั้น ถือว่าเป็นเหตุผลที่ไม่ชอบ ซึ่งจากกรณีดังกล่าว ยังสามารถทักท้วงด้วยการส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยความชอบของการตราพระราชกําหนดนี้ด้วยด้านนายสมชัย ศรีสุทธิยากร ประธานคณะทํางานด้านยุทธศาสตร์พรรคเสรีรวมไทย กล่าวว่า 4 เดือนที่ผ่านมารัฐบาลไม่ทําอะไร หรือเตรียมการความพร้อมรองรับการบังคับใช้กฎหมายดังกล่าว และเมื่อถึงวันที่ 14 กุมภาพันธ์ รัฐบาลก็มอบความรักด้วยการเลื่อนบังคับใช้กฎหมายออกไปจนถึงวันที่ 1 ตุลาคม 2567
|
22/2/2023
|
ภาคกลางและปริมณฑล
|
กรุงเทพมหานคร
|
Radio-สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230222140951506
| null |
นายกรัฐมนตรี รับฟังปัญหาการกัดเซาะพื้นที่ชายฝั่งทะเลที่จังหวัดจันทบุรี
|
พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ลงพื้นที่จังหวัดจันทบุรี พบประชาชนเพื่อรับฟังปัญหาการกัดเซาะพื้นที่ชายฝั่งทะเลอําเภอแหลมสิงห์ และตรวจพื้นที่บริเวณบ้านประชาชน ที่ได้รับผลกระทบการกัดเซาะชายฝั่งทะเล ณ วัดเขาตาหน่วย ตําบลเกาะเปริด อําเภอแหลมสิงห์ พร้อมรับฟังแนวทางการแก้ไขปัญหาการกัดเซาะชายฝั่งทะเลและบริหารจัดการพื้นที่ชายฝั่งอย่างเป็นระบบโอกาสนี้ นายกรัฐมนตรี ตรวจพื้นที่บริเวณบ้านประชาชน ที่ได้รับผลกระทบการกัดเซาะชายฝั่งทะเล ซึ่งประชาชนขอให้นายกรัฐมนตรีดําเนินการแก้ไขปัญหาผลกระทบที่เกิดจากการกัดเซาะชายฝั่งทะเลดังกล่าว รวมถึงการสนับสนุนงบประมาณสําหรับดําเนินโครงการเขื่อนป้องกันตลิ่งริมทะเล บริเวณองค์การบริหารส่วนตําบลเกาะเปริดด้วย โดยนายกรัฐมนตรีได้สอบถามถึงปัญหาและผลกระทบที่เกิดขึ้นด้วยความห่วงใย พร้อมมอบหมายให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กรมโยธิการและผังเมืองและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องบูรณาการทํางานร่วมกันในการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น และในจุดวิกฤตให้เร่งหาแนวทางแก้ปัญหาก่อนภายใน 3 เดือน โดยกรมโยธาธิการและผังเมืองได้นําเสนอโครงการเขื่อนป้องกันตลิ่งริมทะเล ด้วยการก่อสร้างแบบผสมผสานโดยใช้ทั้งหินและไม้ไผ่ พิจารณาตามสภาพปัญหาบริเวณที่ถูกกัดเซาะ ซึ่งหากบริเวณใดที่ถูกกัดเซาะมากก็จะก่อสร้างด้วยหิน ส่วนบริเวณใดที่มีสภาพถูกกัดเซาะไม่มากจะเป็นการดําเนินการด้วยไม้ไผ่ ใช้งบประมาณดําเนินการประมาณไม่เกิน 100 ล้านบาทนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การเดินทางมาจังหวัดจันทบุรีครั้งนี้ เพื่อรับฟังปัญหาความเดือดร้อนที่เกิดขึ้นของประชาชนในพื้นที่ รวมถึงการติดตามการแก้ไขปัญหาการกัดเซาะชายฝั่งทะเลอําเภอแหลมสิงห์อย่างใกล้ชิดด้วยตัวเอง โดยรับทราบถึงสาเหตุของปัญหาที่เกิดขึ้นและเข้าใจถึงความเดือดร้อนของปัญหานี้ส่งผลกระทบต่อประชาชนในพื้นที่อย่างยิ่ง ทั้งความเสียหายต่อบ้านเรือน ที่พักอาศัย พื้นที่เศรษฐกิจ และพื้นที่สาธารณะต่างๆ ซึ่งได้มอบหมายให้หน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องบูรณาการการทํางานและดําเนินการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นนี้อย่างเร่งด่วน ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในพื้นที่ ทั้งนี้พร้อมรับเรื่องที่ประชาชนร้องขอให้รัฐบาลช่วยเหลือ ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดําเนินการโดยเร็วเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชนนายกรัฐมนตรี ย้ําว่า ขณะนี้ต้องเร่งพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากให้เข้มแข็งขึ้น โดยต้องมีการทําอาชีพอื่นควบคู่การทําการเกษตรด้วยเพื่อสร้างรายได้เพิ่มขึ้น ขณะที่การปลูกพืชและผลไม้ต้องผลิตให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาด และการลดต้นทุนการผลิต ซึ่งจังหวัดจันทบุรีถือเป็นจังหวัดที่มีศักยภาพสูงในทุกด้าน ทั้งในด้านการเกษตร อาหาร การท่องเที่ยว รวมถึงแหล่งผลิตอัญมณีที่สําคัญ ซึ่งต้องมีการพัฒนาต่อเนื่อง เพื่อเพิ่มมูลค่าให้มากขึ้น
|
22/2/2023
|
ภาคกลางและปริมณฑล
|
กรุงเทพมหานคร
|
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230222143443524
| null |
นายกรัฐมนตรียืนยันประโยชน์ของประชาชนสำคัญที่สุด พร้อมผลักดันให้คนไทยทุกคนอยู่ดีกินดี มีที่อาศัย ที่ทำกิน
|
พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อมคณะ พบประชาชนเพื่อรับฟังปัญหาพื้นที่ทับซ้อนเขตอําเภอเมืองจันทบุรี จังหวัดจันทบุรี โดยนายกรัฐมนตรีได้รับฟังรายงานสรุปความเป็นมาของปัญหาพื้นที่ทับซ้อนเขตอําเภอเมืองจันทบุรี ซึ่งเป็นบริเวณที่ดินราชพัสดุแปลงสนามยิงปืนทุ่งฟ้าผ่า ครอบคลุมพื้นที่ตําบลท่าช้างและตําบลวัดใหม่ อําเภอเมืองจันทบุรี มีปัญหาประชาชนบุกรุกถือครองโดยมิชอบด้วยกฎหมาย จํานวน 1,027 แปลง เนื้อที่ 3,187 – 1 – 14 ไร่ หรือร้อยละ 73.82 ของพื้นที่ทั้งหมด เนื่องจากประชาชนได้อาศัยทํากินมาเป็นระยะเวลานานและกรมธนารักษ์ได้ให้การรับรองสิทธิการใช้ประโยชน์ในที่ราชพัสดุแก่ประชาชนที่ประสบปัญหา ด้วยวิธีจัดให้เช่าตามกฎหมายและผ่อนปรนค่าเช่าในอัตราพิเศษให้แก่ประชาชนที่ประสงค์จะเข้าสู่กระบวนการเช่าที่ราชพัสดุ มีราษฎรเช่าที่ดินแปลงดังกล่าว จํานวน 488 ราย และเมื่อครบกําหนดระยะเวลาการผ่อนปรนแล้วปรากฏว่ามีผู้แจ้งความประสงค์ขอเช่าที่ราชพัสดุ เพียง 87 ราย จาก 3,000 กว่าราย โดยส่วนที่เหลือต้องการให้ทางราชการออกโฉนดที่ดินให้ จึงยังไม่ยินยอมเข้าสู่ระบบการแก้ไขปัญหาของทางราชการโอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า รู้สึกยินดีและอบอุ่นในการต้อนรับของชาวจันทบุรี ซึ่งรัฐบาลพร้อมรับฟังและติดตามการแก้ไขปัญหาต่างๆ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนด้วยความเข้าใจและไม่นิ่งนอนใจแต่อย่างใด โดยได้มอบหมายให้หน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องดําเนินการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นอย่างเร่งด่วน เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในทุกพื้นที่ รัฐบาลเห็นใจและเข้าใจในปัญหาที่เกิดขึ้น จะพิจารณาดําเนินการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ได้ข้อยุติโดยเร็ว ทั้งนี้ ต้องพิสูจน์หลักฐานและดําเนินการอย่างจริงจังให้เป็นไปตามกรอบของกฎหมาย โดยยืนยันว่ารัฐบาลไม่มีเจตนาทําร้ายประชาชนและจะบรรเทาปัญหาความเดือดร้อนที่เกิดขึ้นให้ได้โดยเร็วที่สุดนายกรัฐมนตรี กล่าวต่อว่า พื้นที่ต่างๆ นั้น ทหารเป็นผู้ดูแลไม่ใช่เจ้าของพื้นที่ ที่ดินทั้งหมดเป็นที่ราชพัสดุ รัฐบาลจะพิจารณาดําเนินการหาทางออก โดยจะดําเนินการอย่างเต็มที่และยืนยันความตั้งใจของรัฐบาลในการแก้ไขปัญหาและดําเนินนโยบายต่างๆ ของรัฐบาล ทั้งในสิ่งที่ได้ดําเนินการผ่านมาแล้ว เช่น ด้านโครงสร้างพื้นฐานคมนาคม การพัฒนาด้านดิจิทัล เศรษฐกิจ และสินค้า GI เป็นต้น ส่วนสิ่งที่กําลังเดินเนินการหรือกําลังทําอยู่ และยังไม่แล้วเสร็จจะทําต่อให้เสร็จ และทําเพิ่มมากขึ้น เพื่อให้ประชาชนเข้าถึงด้วยโอกาสที่เท่าเทียมกัน ร่วมสร้างโอกาสให้กับประชาชนทุกคน ขอให้คนทุกคนรักกัน ยืนยันว่ารัฐบาลเห็นประโยชน์ของประชาชนสําคัญที่สุดและมาเป็นอันดับแรกเสมอ พร้อมผลักดันให้คนไทยทุกคนได้อยู่ดีกินดี มีที่อาศัย มีที่ทํากิน เพื่อให้เกิดประโยชน์อย่างยั่งยืนสืบไป
|
22/2/2023
|
ภาคกลางและปริมณฑล
|
กรุงเทพมหานคร
|
Radio-สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230222144808533
| null |
นายกรัฐมนตรี พร้อมคณะ ตรวจราชการที่จังหวัดจันทบุรี และจังหวัดระยอง
|
บ่ายวันนี้ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน นายธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีประจําสํานักนายกรัฐมนตรี พร้อมคณะ ลงพื้นที่จังหวัดระยอง ตรวจราชการ และเป็นประธานเปิดงานมหกรรมยางพาราและพืชเศรษฐกิจ EEC 2023 ที่ ตลาดกลางยางพาราจังหวัดระยอง ต.ชุมแสง อ.วังจันทร์ จ.ระยองดร.อุทัย สอนหลักทรัพย์ นายกสมาคมสหพันธ์ชาวสวนยางแห่งประเทศไทย ในฐานะผู้แทนเกษตรกรสวนยางพารา ภาคีเครือข่ายเกษตรกรพืชเศรษฐกิจจังหวัดระยอง เกษตรกรภาคตะวันออก และ เกษตรกรสวนยางในประเทศไทย ผู้ประกอบการธุรกิจ ภาคอุตสาหกรรม ผู้แทนสถาบันการศึกษา พี่น้องเกษตรกร ได้กราบขอบพระคุณ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่กรุณาให้เกียรติมาเป็นประธานเปิดงานมหกรรมยางพาราและพืชเศรษฐกิจ EEC 2023 ในวันนี้นายอุทัย สอนหลักทรัพย์ สมาคมสหพันธ์ชาวสวนยางแห่งประเทศไทย สมาคมนักวิชาการยางและถุงมือยาง และ มหาวิทยาลัยแม่โจ้ พร้อมเครือข่ายองค์กรภาครัฐ ภาคเอกชน ร่วมกันจัดงาน “มหกรรมยางพาราและพืชเศรษฐกิจ EEC 2023” เพื่อผลักดันพืชยางพาราให้เป็นเป้าหมายคลัสเตอร์ที่ 6 ตามแผนปฏิบัติการพัฒนาการเกษตรในเขตพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) พ.ศ. 2566 – 2570 ปี พ.ศ. 2566 ทั้งนี้ มุ่งหวังเพื่อให้รัฐบาลเห็นความสําคัญของยางพารา และพืชเศรษฐกิจภาคตะวันออกของประเทศ พร้อมทั้ง ผลักดันให้ยางพาราเป็นพืชวาระแห่งชาติ เพื่อก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางยางพาราหรือ Hub ของโลก กระทั่ง เกิดความมั่นคงด้านอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์ยางพารา อีกทั้งการผลักดัน นโยบายระบบเกษตรสุขภาพรักษ์สิ่งแวดล้อมให้เป็นวาระประเทศไทย โดยมี เป้าหมาย หรือ Goal ที่จะสร้างความมั่นคงทางอาหาร ยกระดับคุณภาพชีวิตคนไทยหลังสถานการณ์การแพร่ระบาดของโลกโควิด -19 สู่ระบบเศรษฐกิจสร้างสรรค์ ภายใต้ตัวชี้วัดการพัฒนาที่ยั่งยืน หรือ SDGs Target เพื่อประเทศไทย ประชาชนไทยมีความมั่นคงทางอาหาร มีความมั่งคั่งทางเศรษฐกิจที่ยั่งยืนตลอดไป#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
|
22/2/2023
|
ภาคตะวันออก
|
ระยอง
|
สวท.ระยอง
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230222163437588
| null |
สจร.กอ.รมน.ติดตามการปฏิบัติงาน กอ.รมน.ภาค 4 สน. มุ่งดำรงภารกิจป้องกันชีวิตและทรัพย์สินประชาชน สร้างสันติสุขพื้นที่ปลายด้ามขวาน
|
วันนี้ (22 กุมภาพันธ์ 2566) พลโท บุญชัย เกษตรตระการ รองจเรกองอํานวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร พร้อมคณะฯ ติดตามการปฎิบัติงานของกองอํานวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ประจําปีงบประมาณ 2566 เพื่อให้คําแนะนําต่อการควบคุมกํากับดูแลการใช้สิ่งอุปกรณ์ประเภท 5 และยุทโธปกรณ์พิเศษให้พร้อมใช้งานมีความปลอดภัยและสามารถตรวจสอบได้ ตามนโยบายของผู้บังคับบัญชา โดยมี พลตรี รักชาติ รัตนาศักดิ์ รองผู้อํานวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ให้การต้อนรับ ณ ห้องประชุม 1 กองอํานวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ค่ายสิรินธร ตําบลเขาตูม อําเภอยะรัง จังหวัดปัตตานีจากนั้น คณะชุดตรวจสํานักจเรกองอํานวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร รับฟังคําบรรยายสรุป ข้อชี้แจงการปฏิบัติมาตรการควบคุมการใช้งาน ยุทโธปกรณ์ สอบถามปัญหาอุปสรรคข้อเสนอแนะ และตอบข้อซักถามเกี่ยวกับการปฏิบัติราชการของกองอํานวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้าโดย พลตรี รักชาติ รัตนาศักดิ์ รองผู้อํานวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า กล่าวถึงการปฏิบัติภารกิจแก้ไขปัญหาพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ของกองอํานวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ยังคงยึดถือปฏิบัติตามกรอบแนวทางยุทธศาสตร์พระราชทาน และปฏิบัติตามยุทธศาสตร์ชาติ แผนแม่บทประเด็นความมั่นคง ตลอดจนแผนปฏิบัติการด้านการบริหาร และการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ.2566 - 2570 มุ่งเน้นการบูรณาการร่วมกับทุกภาคส่วนด้วยสันติวิธี เพื่อพื้นที่ปลอดเหตุประชาชนปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน และอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุขภายใต้สังคมพหุวัฒนธรรมที่เข้มแข็ง พร้อมย้ําว่าสิ่งอุปกรณ์และยุทโธปกรณ์พิเศษที่ได้รับการสนับสนุนปฏิบัติราชการทุกชนิด หน่วยได้กําชับ ควบคุม กํากับดูแลการใช้อาวุธ ยุทโธปกรณ์ ให้ปรนนิบัติบํารุงและพร้อมใช้งานให้มีความปลอดภัยอยู่เสมอโอกาสนี้ พลโท บุญชัย เกษตรตระการ รองจเรกองอํานวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ได้กําชับหน่วยที่รับผิดชอบใช้อาวุธยุทโธปกรณ์ หากชํารุด และหากสูญหายให้ดําเนินการตามระเบียบการใช้งาน แต่หากตรวจพบการกระทําทุจริตภายในหน่วยงานต้องดําเนินการตามระเบียบและถือเป็นความผิดวินัยอย่างร้ายแรง พร้อมเน้นย้ําให้ กองอํานวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ปฏิบัติตามนโยบายของเลขาธิการกองอํานวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร พร้อมกําชับหน่วยงานหากมีปัญหาการร้องทุกข์ ร้องเรียนให้ใช้หลักเหตุผลควบคู่กับหลักการอ่อนตัว และหากตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้วเป็นเรื่องที่มีมูลความผิดให้ตั้งคณะกรรมการ เพื่อตรวจสอบและพิจารณาลงโทษ ส่วนการเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องในการกระทําความผิดของเจ้าหน้าที่ขอให้ผู้บริหารทุกระดับชั้นติดตามและประเมินผลการปฎิบัติงานอย่างเคร่งครัด โดยมีสํานักจเรกองอํานวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (สจร.กอ.รมน.) มีหน้าที่ตรวจการปฏิบัติราชการในการตรวจสอบการปฏิบัติให้เกิดผลสัมฤทธิ์สูงสุด#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
|
22/2/2023
|
ภาคใต้
|
ยะลา
|
สทท.ยะลา
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230222171043611
| null |
จังหวัดศรีสะเกษ จัดพิธีมอบสิ่งของพระราชทานมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์เพื่อให้ความช่วยเหลือผู้ประสบอัคคีภัย 2 ครอบครัว ในพื้นที่อำเภออำเภอโนนคูณ
|
นายนพ พงศ์ผลาดิสัย รองผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ ในฐานะรองประธานกรรมการมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ประจําจังหวัดศรีสะเกษ เป็นประธานพิธีมอบเงินและสิ่งของพระราชทานแก่ผู้ประสบอัคคีภัย 2 ครอบครัว ในพื้นที่อําเภออําเภอโนนคูณรองผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ เปิดเผยว่าเมื่อเวลา 15.20 น.ของวันที่ 9 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ได้เกิดไฟฟ้าลัดวงจรที่บ้านเลขที่ 18 บ้านนาเมือง ตําบลเหล่ากวาง อําเภอโนนคูณ ของนายเพียรศักดิ์ ไชยโคตร ได้รับความเสียหายทั้งหลังพร้อมทรัพย์สิน มูลค่าความเสียหายประมาณ 137,822.- และ ยังได้ลุกลามไปยังบ้านเลขที่ 25 ของนาย เสริม ไชยโคตร อายุ 62 ปี ซึ่งปลูกอยู่ติดกันได้รับความเสียหายบางส่วน มูลค่าความเสียหาย 7,600.- บาท เหตุอัคคีภัยในครั้งนี้ราษฎรได้รับความเดือนร้อน 2 ครัวเรือน ผู้อยู่อาศัยรวม 9 คนพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ให้มูลนิธิราชประชานุเคราะห์ในพระบรมราชูปถัมภ์ เชิญเงินและสิ่งของพระราชทานไปมอบให้แก่ครอบครัวผู้ประสบอัคคีภัย นําความซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้นอย่างหาที่สุดมิได้แก่ทั้งสองครอบครัวเป็นอย่างยิ่ง#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
|
22/2/2023
|
ภาคกลางและปริมณฑล
|
กรุงเทพมหานคร
|
สวท.ศรีสะเกษ
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230222175300628
| null |
นายกฯ เปิดมหกรรมยางพาราและพืชเศรษฐกิจ EEC 2023 ประกาศลดต้นทุนการผลิตยาง ส่งเสริมการส่งออกและในประเทศ
|
พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานในพิธีเปิดงานมหกรรมยางพาราและพืชเศรษฐกิจ EEC 2023 ที่สํานักงานตลาดกลางยางพาราจังหวัดระยอง ต.ชุมแสง อ.วังจันทร์ จ.ระยอง โดยเปิดงานว่า ประเทศไทยเป็นประเทศที่มีวัฒนธรรมหลากหลาย มีคนอยู่หลายสัญชาติ อยู่ร่วมกันแบบพหุวัฒนธรรม? ตนเองจึงอยากให้ทุกอย่างเป็นไปด้วยความเข้าใจกัน ที่ผ่านมารัฐบาลพยายามทําในเรื่องของเกษตร ที่มีอยู่ 6 ชนิด ซึ่งต้องใช้การประกันราคาทั้งสิ้น ปัจจุบันราคายางตกด้วยสถานการณ์โลก จึงต้องช่วยกันคิดว่าจะทําอย่างไรให้ราคายางนั้นสูงขึ้น เพราะไทยเป็นประเทศที่ผลิตยางได้เป็นอันดับต้นๆของโลก และคิดว่าประเทศผู้ผลิตยางจะสามารถรวมกลุ่มกันได้ เพื่อที่จะเกิดการต่อรองในเวทีโลก และทําอย่างไรชาวสวนยางจะมีรายได้ที่ดีขึ้นและลดต้นทุนการผลิตให้มากขึ้น พร้อมย้ําการเกษตรจะต้องไม่ทําลายสิ่งแวดล้อมลดการใช้สารเคมี การปลูกพืชในพื้นที่ที่ไม่ถูกต้องตามกฏหมาย ซึ่งเรื่องนี้จะต้องระมัดระวังและหลายประเทศ ต้องตรวจสอบที่มาของผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร ซึ่งคิดว่าหลายคนคงเตรียมความพร้อมไว้บ้างแล้ว พร้อมขอชื่นชมที่สามารถผลิตยางออกมาได้เป็นจํานวนมาก วันนี้เราต้องพัฒนา ติดตามสถานการณ์โลกและทําให้ทุกประเทศในโลกเลือกซื้อยางจากไทยนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า หลังจากมีกระแสข่าวว่าถุงมือยางจากประเทศไทย ถูกจํากัดการส่งออก ตนเองได้สั่งการให้ตรวจสอบและแก้ไขทันที ส่วนการจัดตั้งอีอีซี มีประโยชน์ ขอให้ทุกคนมองให้ไกล เพื่อที่ประเทศจะได้มีจีดีพีที่สูงขึ้น และรัฐบาลได้วางโครงสร้างพื้นฐานไปแล้ว และบางอย่างรัฐบาลกําลังทําอยู่ และบางอย่างต้องทําต่อ ยืนยันว่าจะให้ความร่วมมือกับชาวสวนยาง และพร้อมที่จะรับข้อเสนอนําไปแก้ไข ส่งเสริมการใช้ยาง เช่น นําไปผลิตยางรถยนต์ โดยประเทศไทยได้ทํากติกาและ สัญญาการลงทุนให้กับผู้ประกอบการไว้แล้ว จะต้องใช้ผลิตผลภายในประเทศจากนั้น นายกฯ เป็นสักขีพยานในโอกาสการลงนามการจับคู่ธุรกิจ โดยบันทึกความร่วมมือในการทําธุรกิจร่วมกันในประเทศไทย และเยี่ยมชมนิทรรศการการประยุกต์และพัฒนาเทคโนโลยีทางการเกษตรอุตสาหกรรม ที่ตอบสนองต่อความต้องการของตลาด พร้อมกันนี้ ได้ทดลอง กรีดยาง ด้วยเครื่องกรีดยางไฟฟ้า สวมถุงมือผ้าเคลือบยางฟองน้ํา
|
22/2/2023
|
ภาคกลางและปริมณฑล
|
กรุงเทพมหานคร
|
Radio-สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230222195821671
| null |
นายกรัฐมนตรี เปิดงานมหกรรมยางพาราและและพืชเศรษฐกิจ EEC 2023 ที่ระยอง
|
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พลเอกอนุพงศ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน นายธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีประจําสํานักนายกรัฐมนตรี พร้อมคณะ เดินทางมาเป็นประธานเปิดมหกรรมยางพาราและพืชเศรษฐกิจ EEC 2023 ที่สํานักงานตลาดกลางยางพาราจังหวัดระยอง ต.ชุมแสง อ.วังจันทร์ จ.ระยอง โดยมีนายสาธิต ปิตุเตชะ รมช.สธ.นายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผวจ.ระยอง นายณกรณ์ ตรรกวิรพัท ผู้ว่าการยางแห่งประเทศไทย นายอุทัย สอนหลักทรัพย์ นายกสมาคมสมาพันธ์ชาวสวนยางแห่งประเทศไทย และนายอํานวย ปะติเส นายกสมาคมนักวิชาการยางและถุงมือยาง ร่วมพิธีเปิด โดยนายกรัฐมนตรี ได้มอบโล่แก่ผู้สนับสนุนการจัดงาน มอบทุนการศึกษาให้กับบุตรหลานของเกษตรกรชาวสวนยางจังหวัดระยอง และเป็นสักขีพยานในโอกาสลงนามจับคู่เจรจาธุรกิจ โดยบันทึกความร่วมมือในการทําธุรกิจร่วมกันกับนักลงทุนชาวต่างชาติในประเทศไทย รวมทั้งเยี่ยมชมนิทรรศการการประยุกต์และพัฒนาเทคโนโลยีทางการเกษตรอุตสาหกรรม ทั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นเวทีให้ภาคประชาชน และภาคธุรกิจได้เข้าใจและรับรู้ความเป็นมาและความก้าวหน้าการขับเคลื่อนของเขตพัฒนาพิเศษ EEC อย่างถ่องแท้ จนสามารถนําไปประกอบการตัดสินใจใน ภารกิจส่วนตัว ส่วนองค์กรและส่วนรวมได้อย่างถูกต้อง เพื่อให้เกิดเครือข่ายการประสานงานกันระหว่างภาคเอกชน ภาคเกษตรกร ภาคราชการในเขต EEC อย่างไกล้ชิดโดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องเกี่ยวกับการพัฒนายางพาราและผลิตภัณฑ์ยาง รวมทั้งพืชเศรษฐกิจอื่นๆ ทั้งพืชสมุนไพร พืชผลไม้ เป็นต้น และเพื่อเปิดโอกาสให้มีการทําธุรกิจค้าขายกัน ทั้งในระหว่างธุรกิจในกลุ่ม EEC และนอกกลุ่ม EEC อันเป็นการเร่งรัดการขยายตัวทางเศรษฐกิจในเขต EEC ให้สูงขึ้นเพื่อเปิดเวทีทางวิชาการให้มีการปรึกษาถึงปัญหาและแนวทางแก้ไขปัญหาในระยะสั้น ระยะปานกลางและระยะยาว เกี่ยวกับพืชเศรษฐกิจ รวมทั้งการระดมสมองเพื่อให้เกิดความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันในทิศทางของการสร้างความก้าวหน้าให้กับ EEC รวมทั้งเพื่อเป็นการแสดงความขอบคุณต่อรัฐบาลที่มุ่งมั่นในการขับเคลื่อนการพัฒนาพิเศษอย่างจริงจัง จนมีความก้าวหน้าเป็นที่ประจักษ์ขึ้นในช่วงเวลา 8 ปีที่ผ่านมา และคาดหวังว่าจะก้าวต่อเนื่องไปอีกตามวัตถุประสงค์แห่งความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืนเป็นต้นแบบของการพัฒนาภาคพิเศษของไทยต่อไปพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวชม ว่าภาษาระยองไพเราะดี ก่อนจะกล่าวถึงราคายางที่กําลังตกต่ํา เพราะสถานการณ์กําลังเปลี่ยนแปลง จึงต้องร่วมมือกันแก้ไข รัฐบาลก็ได้ทําไปแล้วหลายอย่าง เช่นโรงงานทําถุงมือยางที่ผลิตได้ตามเกณฑ์กําหนดเรื่องผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม เกี่ยวกับโปรตีนที่อยู่ในเกณฑ์กําหนด จนเป็นที่ยอมรับ ต่อมาได้เดินชมบูธต่างๆ ส่วนใหญ่เป็นสินค้าที่แปรรูปจากยางพารา และสินค้าจากพืชผลทาฃการเกษตร จนครบทุกบูธ สร้างความประทับใจให้กับผู้ประกอบการที่นําสินค้ามาโชว์ ซึ่งมีนักลงทุนชาวจีนและชาวบ้านมาขอถ่ายรูป ก่อนที่จะขึ้นรถตู้สีขาว ยี่ห้อ โตโยต้าอัลพาร์ด ทะเบียน กม-7000 ระยอง ไปขึ้นเฮลิคอปเตอร์ ที่สนามโรงเรียนขุมแสงวิทยาคม เดินทางกลับต่อไป#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
|
22/2/2023
|
ภาคกลางและปริมณฑล
|
กรุงเทพมหานคร
|
สวท.ระยอง
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230222201730680
| null |
กรมโยธาธิการและผังเมือง หาแนวทางป้องกันตลิ่งริมทะเลแก้ปัญหาการกัดเซาะพื้นที่ทำกินจังหวัดจันทบุรี
|
กรมโยธาธิการและผังเมือง บูรณาการร่วมกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง หาแนวทางป้องกันตลิ่งริมทะเลแก้ปัญหาการกัดเซาะพื้นที่ทํากิน อําเภอแหลมสิงห์ จังหวัดจันทบุรี นายพงศ์รัตน์ ภิรมย์รัตน์ อธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง กล่าวถึงความคืบหน้าการดําเนินงานโครงการเขื่อนป้องกันตลิ่งริมทะเล พร้อมปรับปรุงภูมิทัศน์ พื้นที่ชายฝั่งทะเล บริเวณองค์การบริหารส่วนตําบลเกาะเปริด อําเภอแหลมสิงห์ จังหวัดจันทบุรี ภายใต้โครงการศึกษาเพื่อกําหนดแนวทางการป้องกันและแก้ไขปัญหาการกัดเซาะชายฝั่ง พร้อมเดินหน้าบูรณาการความร่วมมือกับกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หาแนวทางคัดเลือกรูปแบบในการป้องกันและแก้ไขปัญหาการกัดเซาะชายฝั่งในพื้นที่อย่างเหมาะสม เพื่อแก้ไขปัญหาการกัดเซาะพื้นที่ทํากินของประชาชน ทั้งนี้ รัฐบาลได้ให้ความสําคัญในการป้องกันและแก้ไขปัญหาชายฝั่งทะเลทั้งระบบ โดยกําหนดนโยบายการจัดการชายฝั่งแบบบูรณาการอย่างเป็นองค์รวม เพื่อวางรูปแบบการจัดการที่เหมาะสมกับศักยภาพสภาพปัญหาและการใช้ประโยชน์ที่ดินในแต่ละพื้นที่ ทั้งนี้ กรมโยธาธิการและผังเมือง ได้รับมอบหมายให้ศึกษาแนวทางการป้องกันและแก้ไขปัญหาการกัดเซาะชายฝั่งพร้อมเริ่มก่อสร้างเขื่อนป้องกันการกัดเซาะชายฝั่งทะเล มาตั้งแต่ ปี 2533 เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของชุมชนริมชายฝั่ง ป้องกันชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนและหน่วยงานราชการในช่วงมรสุมที่มีคลื่นลมแรง กรมโยธาธิการและผังเมือง รวมถึหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ร่วมกันพิจารณาเลือกวิธีการแก้ไขปัญหาที่เหมาะกับสภาพพื้นที่ สําหรับพื้นที่ชายฝั่งทะเลบริเวณองค์การบริหารส่วนตําบลเกาะเปริด อําเภอแหลมสิงห์ จังหวัดจันทบุรี ผลการศึกษาพบว่า มีอัตราการกัดเซาะชายฝั่งเฉลี่ย 2.46 เมตรต่อปี ผลวิเคราะห์ความเปราะบางต่อการกัดเซาะชายฝั่ง (CEVI) มีความเปราะบางในระดับสูง และจากการสํารวจพื้นที่ในช่วงระหว่างปี พ.ศ.2564 – 2565 พบว่าชายฝั่งบริเวณนี้ประสบปัญหาการกัดเซาะคันบ่อเพาะเลี้ยงสัตว์น้ํา โดยมีโครงสร้างคันบ่อหลายแห่งเสียหายและยังพบแนวปักไม้ไผ่ชะลอคลื่นมีสภาพชํารุดเสียหาย ดังนั้นจากปัญหาดังกล่าว กรมโยธาธิการและผังเมือง ได้บูรณาการความร่วมมือกับกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องขับเคลื่อนนโยบายของรัฐบาลในการป้องกันและแก้ไขปัญหาการกัดเซาะชายฝั่งทะเล โดยได้ดําเนิน “โครงการเขื่อนป้องกันตลิ่งริมทะเล พร้อมปรับปรุงภูมิทัศน์ พื้นที่ชายฝั่งทะเล บริเวณองค์การบริหารส่วนตําบลเกาะเปริด อําเภอแหลมสิงห์ จังหวัดจันทบุรี ภายใต้โครงการศึกษาเพื่อกําหนดแนวทางการป้องกันและแก้ไขปัญหาการกัดเซาะชายฝั่ง” เพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาการกัดเซาะชายฝั่ง ซึ่งเป็นทั้งที่อยู่อาศัยและพื้นที่ทํากินของประชาชนเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนด้วยการศึกษา สํารวจและออกแบบ พร้อมทั้งจัดการประชุมรับฟังความคิดเห็นต่อโครงการ ภายใต้การมีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วนในพื้นที่ รวมทั้งได้บูรณาการความร่วมมือกับกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ร่วมกันกําหนดพื้นที่ แนวทางและคัดเลือกรูปแบบการแก้ไขปัญหาที่เหมาะสม โดยได้กําหนดแนวทางและรูปแบบในการป้องกันและแก้ไขปัญหาการกัดเซาะชายฝั่งในพื้นที่ร่วมกัน ด้วยการผสมผสานระหว่างรูปแบบโครงสร้างแข็งทางวิศวกรรมและการปักไม้ไผ่ชะลอคลื่น เพื่อให้สอดคล้องกับศักยภาพและการใช้ประโยชน์เชิงพื้นที่ บนพื้นฐานการสร้างความสมดุลของทรัพยากรธรรมชาติทางทะเล พร้อมกับการพัฒนาชุมชนและยกระดับคุณภาพชีวิตของพี่น้องประชาชนในพื้นที่อย่างยั่งยืน อย่างไรก็ตามโครงการศึกษาและก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งริมทะเล เพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาการกัดเซาะชายฝั่ง จะช่วยบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนจากปัญหาการกัดเซาะชายฝั่งทะเลแล้วยังต่อยอดเรื่องการเสริมสร้างทัศนียภาพของชายหาดให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีความสวยงาม รวมถึงเพิ่มศักยภาพ ให้ประชาชนสามารถเข้าถึงและใช้ประโยชน์พื้นที่ชายฝั่งทะเลได้อย่างเท่าเทียมก่อให้เกิดประโยชน์ต่อการพัฒนาสังคม เศรษฐกิจ และสิ่งแวดล้อมในภาพรวมของประเทศ
|
22/2/2023
|
ภาคกลางและปริมณฑล
|
กรุงเทพมหานคร
|
Radio-สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230222202301691
| null |
สภาผู้แทนราษฎร เตรียมพิจารณวาระกระทู้ถามเรื่องความคืบหน้าในการแก้ปัญหาแก่ชาวประมง
|
การประชุมสภาผู้แทนราษฎร ในเวลา 09.30 น. วันนี้ (23 ก.พ.66) ภายหลังเปิดให้สมาชิกปรึกษาหารือปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนตามข้อบังคับการประชุมแล้ว จากนั้นมีวาระพิจารณากระทูถ้ามสดด้วยวาจาและกระทู้ถามทั่วไป ที่สมาชิกตั้งถามรัฐบาลหลายเรื่อง เช่น เรื่องความคืบหน้าในการแก้ปัญหาแก่ชาวประมง และความคืบหน้าในการแก้ไขพระราชกําหนดการประมง พ.ศ. 2558 และเรื่องการแก้ไขปัญหาการรับเงินตอบแทน หรือเบี้ยหวัดเสี่ยงภัยให้กับบุคลากรที่ทํางานในมหาวิทยาลัยสงฆ์ ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ รวมถึงวาระพิจารณาเรื่องที่คณะกรรมาธิการพิจารณาเสร็จแล้ว รวม 15 ฉบับ เช่น รายงานผลการพิจารณาศึกษา เรื่อง การวางแนวทางการพัฒนานวัตกรรมเพื่อแก้ปัญหาการจราจรและขนส่ง เรื่อง พิจารณาติดตาม ตรวจสอบ การใช้เงินตามพระราชกําหนด 3 ฉบับ เพื่อแก้ไขปัญหา เยียวยาและฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคม ที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เรื่องปัญหาหนี้สินในครัวเรือน หนี้สินภาครัฐ รวมทั้งค่าครองชีพสูงจากราคาน้ํามัน แก๊ส ไฟฟ้า และญัตติเพื่อพิจารณาศึกษาการปรับโครงสร้างราคาพลังงานและกองทุนน้ํามันให้เป็นระบบและยั่งยืนนอกจากนี้ ยังมีวาระเรื่องด่วน ซึ่งเป็นร่างกฎหมายที่ ส.ส.ฝ่ายค้าน และ ส.ส.รัฐบาล ได้เสนอ รวม 7 ฉบับ ได้แก่ พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมพระราชกําหนดการประมง พ.ศ. 2558 พ.ศ. ....
|
23/2/2023
|
ภาคกลางและปริมณฑล
|
กรุงเทพมหานคร
|
Radio-สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230223084713739
| null |
รวมไทยสร้างชาติตั้งเวทีขนาดใหญ่พร้อมจอ IED ขนาดยักษ์ รองรับการปราศรัยของ”นายกลุงตู่” ครั้งแรกในภาคอีสาน พร้อมเปิดตัวผู้สมัคร 132 เขต 20 จว.
|
นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีและแกนนําพรรครวมไทยสร้างชาติได้เดินทางไปที่บริเวณสนามหน้าศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา อ.เมืองนครราชสีมา เพื่อตรวจดูสถานที่และเวทีเตรียมการปราศรัยใหญ่ เปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.พรรค รทสช.ทั้ง 132 เขต ใน 20 จังหวัดภาคอีสาน ในวันเสาร์ที่ 25 กุมภาพันธ์ 2566 นี้ โดยมีการตั้งเวทีปราศรัยขนาดใหญ่ความยาว 40 เมตร ลึก 15 เมตร พร้อมกับมีการตั้งโครงเหล็กหลังเวที เพื่อเตรียมที่จะติดตั้งจอ LED ยักษ์ ขนาดความกว้าง 40 เมตร สูง 5 เมตร บนเวทีปราศรัย อีกทั้งจะมีการติดตั้งเครื่องเสียงทั่วบริเวณ ติดตั้งจอ LED ขนาด 4X6 เมตร ทั้ง 4 มุมของสนามหน้าศาลากลางจังหวัดนครราชสีมาและที่บริเวณลานอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี(ย่าโม) รับนายกรัฐมนตรีสักการะท้าวสุรนารีอีกด้วย เพื่อให้ผู้ที่มาร่วมฟังการปราศรัย ได้เห็นหน้า พล.อ.ประยุทธ์ฯ ขึ้นปราศรัยใหญ่อย่างทั่วถึง ซึ่งทีมงานได้เตรียมเก้าอี้ไว้จํานวนกว่า 3 หมื่นตัว เพื่อรองรับประชาชนที่จะเดินทางมาจาก 20 จังหวัดทั่วทั้งภาคอีสาน เพื่อมาร่วมฟังการปราศรัยในครั้งนี้ โดยพรรครวมไทยสร้างชาติ ตั้งเป้าไว้ว่าจะมีผู้เดินทางมาฟังการปราศรัยใหญ่ของ พล.อ.ประยุทธ์ฯ ไม่ต่ํากว่า 5 หมื่นคนนายเสกสกล อัตถาวงศ์ ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี และแกนนําพรรครวมไทยสร้างชาติ กล่าวว่า ในการลงพื้นที่ปราศรัยใหญ่ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี วันเสาร์ที่ 25 กุมภาพันธ์ 2566 ที่หน้าศาลากลางจังหวัดนครราชสีมานั้น พรรครวมไทยสร้างชาติ จะมีการเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ของพรรค ทั้ง 132 เขต ในภาคอีสาน พร้อมกับนําผลงานต่างๆ ที่ พล.อ.ประยุทธ์ฯ ในฐานะเป็นนายกรัฐมนตรีได้สร้างไว้ 8 ปี มานําเสนอ โดยมีสโลแกนว่า “ทําแล้ว ทําอยู่ ทําต่อ” อย่างเช่น การเพิ่มเงินให้บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ซึ่งตนไม่อยากเรียกว่าบัตรคนจน แต่หลายคนบอกว่าเป็น “บัตรลุงตู่” โดยอยากจะเพิ่มจากปัจจุบัน 500 บาท ให้ได้ถึง 1,000 บาทในอนาคต และจะเพิ่มจํานวนบัตรให้กับประชาชนอีก ทั้งนี้ยังมีอีกหลายเรื่องที่ “ลุงตู่” อยากจะทําต่อนายเสกสกลฯ กล่าวอีกว่า ในส่วนของ จ.นครราชสีมา พรรครวมไทยสร้างชาติ ก็พยายามจะทําให้เรื่องการแบ่งแนวเขตอุทยานทับลาน ตามแนวเขตของปี 43 ให้เสร็จโดยเร็ว เพื่อแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนที่มีมาอย่างยาวนาน ซึ่งตนมั่นใจว่า คณะกรรมการฯพิจารณาเรื่องนี้ ที่มี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน จะประชุมในวันที่ 23 ก.พ.นี้ หากผ่านการพิจารณาแล้ว ก็จะเสนอเข้าที่ประชุม ครม.ให้แล้วเสร็จก่อนที่ พล.อ.ประยุทธ์ฯ จะประกาศยุบสภาได้ทันแน่นอน ส่วนตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.นครราชสีมานั้น ตอนนี้พรรครวมไทยสร้างชาติ มีตัวครบแล้วทั้ง 16 เขต ซึ่งจะขึ้นโชว์ตัวอย่างเป็นทางการในวันที่ 25 ก.พ.นี้แน่นอน ส่วนคนที่มีพื้นที่ทับซ้อนกันก็จะไม่ทิ้งกันจะเชิญขึ้นโชว์ตัวทั้งหมดสําหรับกระแสของพรรครวมไทยสร้างชาติในพื้นที่ภาคอีสานนั้น ตอนนี้ถือว่าดีมาก เพราะจากโพลสํานักต่างๆ ที่ผ่านมา แม้ว่านายกฯ “ลุงตู่” จะเพิ่งเปิดตัวกับพรรคฯ เพียงแค่ไม่กี่เดือนแต่ปรากฏว่าติดโผของโพลสํานักต่างๆ เป็นอันดับ 2 อันดับ 3 มาโดยตลอด ส่วนพรรคอันดับ 1 คือพรรคเพื่อไทยนั้น ต้องยอมรับว่าเขาเดินหน้าหาเสียงไว้นานแล้ว มีตัว ส.ส. มีการติดป้ายหาเสียง มีการลงพื้นที่หาเสียงไว้นานแล้ว จึงไม่แปลกที่ติดอยู่อันดับ 1 แต่ตอนนี้กระแสของพรรคเพื่อไทยก็เริ่มแผ่วลงเรื่อยๆ สังเกตได้จากการปราศรัยช่วงหลังๆ จะมีกลุ่มคนทยอยเดินออกจากเวทีเป็นจํานวนมาก เพราะเขาเบื่อการเมืองแบบเก่าๆ ขนาดคนเสื้อแดงที่เคยอยู่ด้วย ก็พากันออกจากพรรคเพื่อไทยมากมาย แม้แต่คนที่เคยวางตัวจะให้เป็นผู้สมัคร ส.ส.ก็ยังถูกหักหลัง ปล่อยลอยแพเลย เขาจึงพากันหมดศรัทธาเพราะเป็นพรรคที่ไม่มีจุดยืนที่ชัดเจน และที่เคยมั่นใจว่าจะแลนด์สไลด์ในภาคอีสานนั้น ตอนนี้อย่าไปคาดหวังเลย แม้แต่การขึ้นปราศรัยของ “อุ๋งอิ้ง” แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวพรรคเพื่อไทย ก็ต้องมีนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ และนายชลน่าน ศรีแก้ว คอยประกบ ป้อนคําพูดให้ตลอด ตนเองจึงมองว่า “อุ๋งอิ้ง” ไม่มีภาวะความเป็นผู้นําที่จะขึ้นมาเป็นนายกรัฐมนตรีเลย เมื่อเทียบกับ พล.อ.ประยุทธ์ฯ หรือลุงตู่แล้วคนละเรื่องกัน เพราะลุงตู่ มีภาวะผู้นําสูงมาก และมีภาพลักษณ์ ใจซื่อ มือสะอาด ไม่เคยมีประวัติทุจริตคอรัปชั่นประเทศชาติบ้านเมืองเลยแม้แต่บาทเดียว ดังนั้นตนเองจึงมั่นใจว่าการลงพื้นที่มาปราศรัยใหญ่ในภาคอีสานครั้งนี้ จะทําให้กระแสคนรักลุงตู่พุ่งกระฉูดแซงหน้าขึ้นมาเป็นอันดับ 1 ในภาคอีสานได้อย่างแน่นอนนายเสกสกลฯกล่าวสําหรับกําหนดการเดินทางมาปราศรัย ที่จ.นครราชสีมา ของพลเอกประยุทธ์ฯในวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2566 เวลา 16.30 น. เดินทางถึงร้านอเมซอลหน้าอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี รับประทานอาหารว่าง เวลา 17.30 น. ประกอบพิธีบวงสรวงท่านท้าวสุรนารี เวลา 18.00 น. เดินทางจากลานย่าโมไปยังเวทีปราศรัยที่สนามหน้าศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา และ 18.30 น. ขึ้นเวทีปราศรัยและเปิดตัวผู้สมัคร จนถึงเวลา 19.30 น. เสร็จสิ้นการปราศรัย#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
|
23/2/2023
|
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
|
นครราชสีมา
|
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนครราชสีมา
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230223125034835
| null |
กกต.จังหวัดอำนาจเจริญ ขับเคลื่อนศูนย์ส่งเสริมพัฒนาประชาธิปไตย (ศส.ปชต.) เสริมสร้างความรู้ ความเข้าใจในบทบาทหน้าที่ สร้างภาคีเครือข่ายในชุมชน
|
นายนิวัติ บุญศรี ผู้อํานายการสํานักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจําจังหวัดอํานาจเจริญ กล่าวว่า สํานักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจําจังหวัดอํานาจเจริญ นอกจากจะมีหน้าที่ในการจัดการเลือกตั้งแล้ว กกต.ยังมีหน้าที่ ส่งเสริมสนับสนุนให้หน่วยงานของรัฐ สถาบันการศึกษา องค์กรเอกชน ในการสร้างความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องให้แก่ประชาชนเกี่ยวกับการปกครองระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข การมีส่วนร่วมทางการเมืองของประชาชน โดยมุ่งหวังให้ ศส.ปชต. มีบทบาทสําคัญในการขับเคลื่อนการปฏิรูประเทศในระดับตําบล หมู่บ้าน ดังปรากฏตามแผนการปฏิรูปประเทศด้านการเมือง เป็นการเตรียมการให้ประชาชนมีคุณภาพ โดยมีวัตถุประสงค์ เป็นศูนย์กลางการพัฒนาประชาธิปไตย ให้ความรู้เกี่ยวกับการเป็นพลเมืองคุณภาพ ส่งเสริมสนับสนุนกิจกรรมประชาธิปไตยที่สอดคล้องวิถีชีวิตประจําวัน พัฒนาต่อยอดการเสริมสร้างและขยายเครือข่ายพลเมือง สร้างการมีส่วนร่วมในกระบวนการเลือกตั้ง ปัจจุบันนี้ กกต. มี MOU กับหน่วยงานต่างๆ เพื่อขับเคลื่อนการเป็นพลเมืองคุณภาพเพื่อรองรับการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่เกิดขึ้นเร็วๆนี้#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
|
23/2/2023
|
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
|
อำนาจเจริญ
|
สวท.อำนาจเจริญ
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230223124549830
| null |
ปชส.สุราษฎร์ธานี เผย ครม. เห็นชอบหลักการร่างประกาศคณะกรรมการแรงงานวิสาหกิจสัมพันธ์ 3 ฉบับ เพื่อยกระดับมาตรฐานขั้นต่ำของสภาพการจ้าง
|
นายณรงค์ หลักกําจร ประชาสัมพันธ์จังหวัดสุราษฎร์ธานี กล่าวถึงกรณี ครม.ไฟเขียว ลูกจ้าง หยุดพิเศษ - ลาคลอด 98 วัน ว่า คณะรัฐมนตรี มีมติเห็นชอบหลักการร่างประกาศคณะกรรมการแรงงานวิสาหกิจสัมพันธ์ 3 ฉบับ ตามที่กระทรวงแรงงานเสนอ เพื่อยกระดับมาตรฐานขั้นต่ําของสภาพการจ้างในรัฐวิสาหกิจในบางประเด็นให้มีความเหมาะสมมากยิ่งขึ้นตามข้อเรียกร้องของสมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ รวมทั้งแก้ไขเพิ่มเติมเกี่ยวกับหลักเกณฑ์และอัตราค่ารักษาพยาบาลกรณีผู้ป่วยโรคโควิด-19 ให้สอดคล้องกับหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการกําหนดค่าใช้จ่ายในการดําเนินการผู้ป่วยฉุกเฉินวิกฤตทั้งนี้ รัฐบาลได้ให้ความสําคัญกับสวัสดิการลูกจ้างทุกกลุ่มและรับฟังความคิดเห็นของผู้มีส่วนได้เสียโดยตรง ดังนั้นร่างประกาศคณะกรรมการแรงงานวิสาหกิจสัมพันธ์ 3 ฉบับนี้เป็นการเพิ่มสวัสดิการ ยกระดับมาตรฐานสภาพการจ้าง ให้เหมาะสมมากยิ่งขึ้นและ เป็นไปตามข้อเรียกร้องของสมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
|
23/2/2023
|
ภาคใต้
|
สุราษฎร์ธานี
|
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสุราษฎร์ธานี
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230223133033853
| null |
สภาผู้แทนราษฎร ประชุมนัดสุดท้ายก่อนปิดสมัย ส.ส.รัฐบาล ส.ส.ฝ่ายค้าน เข้าร่วมประชุมพร้อมเพรียง
|
การประชุมสภาผู้แทนราษฎร วันนี้ ( 23 ก.พ.66) ซึ่งเป็นวันสุดท้ายก่อนปิดสมัยการประชุมสามัญประจําปี มีวาระสําคัญคือ การพิจารณาร่างพระราชบัญญัติแก้ไขพระราชกําหนดการประมง 2558 หลัง ส.ส.ฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้าน เห็นตรงกันให้เลื่อนร่างกฎหมายดังกล่าวขึ้นพิจารณาก่อน สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมาได้มีการอภิปรายจนครบถ้วนแล้วสําหรับร่างกฎหมายดังกล่าว ถูกเสนอโดยพรรคพรรคประชาธิปัตย์ พรรคเพื่อไทย พรรคชาติไทยพัฒนา พรรคภูมิใจไทย พรรคก้าวไกลและพรรคประชาชาติ เสนอแก้ไข รวม 7 ฉบับ มีเนื้อหาเพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ แก้ปัญหาที่เกิดกับชาวประมงมากที่สุดอยู่ทุกวันนี้ เพื่อฟื้นการประมงพาณิชย์ไทยและทําให้ประมงพื้นบ้าน สามารถเดินหน้าประกอบอาชีพได้คล่องตัวยิ่งขึ้น บนพื้นฐานมาตรการที่สอดคล้องกับ IUU Fishing หรือการทําประมงที่ไม่ผิดกฎหมาย มีการรายงานและมีการควบคุมทั้งนี้ระหว่างการรอลงมติ ได้มี ส.ส.พรรคก้าวไกล ขอให้ประธานในที่ประชุมอนุญาตให้ชาวประมงที่มาเรียกร้องและเดินทางมาสภาฯในวันนี้ ให้นั่งอยู่ในห้องประชุมสภาฯระหว่างการลงมติรับหรือไม่รับร่างกฎหมายฉบับนี้ โดยนายศุภชัย โพธิ์สุ รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่สอง ในฐานะประธานในที่ประชุม ได้อนุญาตให้ชาวประมงร่วมเป็นพยานในการลงมติของสภาฯในครั้งนี้ด้วยที่ประชุมมีมติรับหลักการวาระแรกด้วยคะแนนเสียง 297 เสียง ไม่มีผู้ไม่เห็นด้วยพร้อมเสนอตั้งกรรมาธิการศึกษาจํานวน 25 คน กําหนดระยะเวลาแปรญัตติ 7 วัน และใช้ร่างของนายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว จากพรรคเพื่อไทย เป็นร่างหลักของกรรมาธิการฯส่วนร่างกฎหมายที่สภาผู้แทนราษฎร พิจารณาไม่แล้วเสร็จในวาระที่ 3 ทั้งร่าง พ.ร.บ.กัญชา กัญชง ,ร่าง พ.ร.บ.คู่ชีวิต ,ร่าง พ.ร.บ. สมรสเท่าเทียม และร่างกฎหมายอื่นๆ ให้ถือว่าเป็นอันตกไป เว้นแต่คณะรัฐมนตรีชุดใหม่จะร้องขอให้สภาพิจารณาต่อได้ โดยคณะรัฐมนตรีจะต้องร้องขอต่อสภาภายใน 60 วัน นับแต่วันที่มีรัฐพิธีเรียกประชุมรัฐสภาครั้งแรกหลังการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้น
|
23/2/2023
|
ภาคกลางและปริมณฑล
|
กรุงเทพมหานคร
|
Radio-สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230223155411969
| null |
รัฐบาล ยึดแผนที่แนวเขตที่ดินของรัฐแบบูรณาการ หรือ One Map และหลักกฎหมาย แก้ปัญหาพื้นที่ทับซ้อน และให้ความเป็นธรรมกับประชาชน
|
รัฐบาล ยึดแผนที่แนวเขตที่ดินของรัฐแบบูรณาการ หรือ One Map และหลักกฎหมาย แก้ปัญหาพื้นที่ทับซ้อน และให้ความเป็นธรรมกับประชาชน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณรอง รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะอนุกรรมการนโยบาย แนวทางและมาตรการการบริหารจัดการที่ดินและทรัพยากรที่ดิน ครั้งที่ 1/66 ณ มูลนิธิป่ารอยต่อฯ ผ่านระบบ VTC โดยรับทราบ ความคืบหน้าผลการตรวจสอบพื้นที่ที่ยื่นคําขอ เพื่อจัดให้มีฉโนดชุมชน จํานวน 486 ชุมชน โดยสามารถดําเนินการตาม คณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ หรือ คทช.ได้ 322 ชุมชน และอนุญาตได้ตามกฎหมายของหน่วยงานเจ้าของพื้นที่ 35 ชุมชน อยู่ระหว่างตรวจสอบ 63 ชุมชน ไม่สามารถดําเนินการได้ 66 ชุมชน และที่ประชุม ให้ความเห็นชอบ ให้กรมป่าไม้ เพิกถอนพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติเขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์ ที่ ทภ.3 ส่งคืนป่าไม้ ในพื้นที่ที่มีสภาพการใช้ประโยชน์ เป็นพื้นที่เกษตร พื้นที่เอกชนและพื้นที่ส่วนราชการใช้ประโยชน์ รวมทั้งพื้นที่ตรวจยึดดําเนินคดี และพื้นที่ที่ยังไม่ได้รังวัด เนื้อที่ 75,675 ไร่ และให้กรมธนารักษ์ไปดําเนินการตามกฎหมายที่ราชพัสดุ สําหรับพื้นที่คงสภาพป่าไม้ เนื้อที่ 12,688 ไร่ เพื่อรักษาสภาพป่า และให้จัดทําแผนบริหารจัดการและหลักเกณฑ์การเข้าทําประโยชน์ที่เหมาะสม รวมทั้ง ดําเนินงานในพื้นที่ที่ตรวจยึดดําเนินคดีตามกระบวนการยุติธรรม พร้อมทั้งเห็นชอบแนวทางการใช้เส้นปรับปรุงการสํารวจแนวเขต ปี 43 ปรับปรุงแผนที่แนวเขตที่ดินของรัฐแบบบูรณาการ ( One Map ) พื้นที่อุทยานทับลาน จังหวัดปราจีนบุรี และนครราชสีมา และดําเนินคดีกับผู้กระทําผิดตามกระบวนการยุติธรรม โดยให้กรมอุทยานแห่งชาติ และกรมป่าไม้ ส่งมอบพื้นที่กันออกจากเขตอุทยานทับลาน ให้ ส.ป.ก. ดําเนินการจัดที่ดินให้ประชาชนอยู่อาศัยทํากินตามแนวทาง คทช. รวมทั้ง การทบทวนการจัดหาประโยชน์ในที่ดินของรัฐ แปลง “ดงน้ําจั่น ดงบ้านอ้น และดงเหล่าแขม” ต.กมลาไสย ต.หลักเมือง อ.กมลาไสย จว.กาฬสินธุ์ และแนวทางการสร้างมูลค่าที่ดินที่รัฐจัดให้กับประชาชน ตามแนวทาง 3 ด้าน ประกอบด้วย การปรับปรุงกฎหมายและระเบียบ การกําหนดแนวทางการประเมินมูลค่าที่ดินและทรัพย์สินที่รัฐจัดให้กับประชาชน และการจัดให้มีระบบหรือสถาบันที่ให้สินเชื่อ ระยะกลางและระยะยาว
|
23/2/2023
|
ภาคกลางและปริมณฑล
|
กรุงเทพมหานคร
|
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230223162201987
| null |
ส.ปชส.ตราด ประชาสัมพันธ์ ครม.ไฟเขียว ลูกจ้าง หยุดพิเศษ - ลาคลอด 98 วัน
|
(23 ก.พ. 66) สํานักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดตราด รายงานว่า คณะรัฐมนตรี มีมติเห็นชอบหลักการร่างประกาศคณะกรรมการแรงงานวิสาหกิจสัมพันธ์ 3 ฉบับ ตามที่กระทรวงแรงงานเสนอ เพื่อยกระดับมาตรฐานขั้นต่ําของสภาพการจ้างในรัฐวิสาหกิจในบางประเด็นให้มีความเหมาะสมมากยิ่งขึ้นตามข้อเรียกร้องของสมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ รวมทั้งแก้ไขเพิ่มเติมเกี่ยวกับหลักเกณฑ์และอัตราค่ารักษาพยาบาลกรณีผู้ป่วยโรคโควิด-19 ให้สอดคล้องกับหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการกําหนดค่าใช้จ่ายในการดําเนินการผู้ป่วยฉุกเฉินวิกฤตร่างประกาศคณะกรรมการแรงงานวิสาหกิจสัมพันธ์แต่ละฉบับ มีสาระสําคัญดังนี้1.ร่างประกาศคณะกรรมการแรงงานวิสาหกิจสัมพันธ์เรื่องมาตรฐานขั้นต่ําของสภาพการจ้างในรัฐวิสาหกิจ (ฉบับที่...) มีเพิ่มเติมประเด็นสําคัญ อาทิกําหนดเพิ่มเติมให้นายจ้างจัดให้ลูกจ้างมีวันหยุดพิเศษตามมติ ครม. ตามความเหมาะสมและจําเป็นของกิจการกําหนดเพิ่มสิทธิลาคลอดบุตร จากเดิม 90 วัน เป็น 98 วันกําหนดเพิ่มเติมให้เงินทดแทนที่นายจ้างจะต้องจ่ายให้ลูกจ้างกรณีประสบอันตราย เจ็บป่วย หรือสูญหาย เนื่องจากการทํางาน ไม่อยู่ในความรับผิดแห่งการบังคับคดี2. ร่างประกาศคณะกรรมการแรงงานวิสาหกิจสัมพันธ์เรื่อง หลักเกณฑ์ การจ่ายค่าทดแทนการขาดรายได้กรณีทุพพลภาพ และค่าทดแทนการตายอันมิใช่เนื่องจากการทํางาน เพิ่มเติมประเด็นสําคัญ อาทิกําหนดเพิ่มเติมให้ลูกจ้างซึ่งทํางานติดต่อกันครบ 10 ปีขึ้นไปและถึงแก่ความตายอันมิใช่เนื่องจากการทํางานในปีที่จะเกษียณอายุมีสิทธิได้รับค่าทดแทนในอัตราเดียวกันกับเงินที่จะได้รับกรณีเกษียณกําหนดให้นายจ้างไม่ต้องจ่ายค่าทดแทนดังกล่าวกรณีที่ลูกจ้างตายด้วยเหตุละทิ้งหน้าที่เป็นเวลา 3 วันติดต่อกัน โดยไม่มีเหตุอันสมควร, กระทําความผิดอาญาโดยเจตนา, เสพของมึนเมาหรือสิ่งเสพติดอื่น, ฆ่าตัวตาย3. ร่างประกาศคณะกรรมการแรงงานวิสาหกิจสัมพันธ์เรื่อง หลักเกณฑ์และอัตราค่ารักษาพยาบาลกรณีเจ็บป่วยฉุกเฉินวิกฤต (กรณีโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด -19) เป็นการปรับปรุงหลักเกณฑ์และอัตราค่ารักษาพยาบาลกรณีผู้ป่วยโรคโควิด -19 ให้สอดคล้องกับสิทธิ UCEP ตามมติ ครม. วันที่ 8 มีนาคม 2565กําหนดให้ลูกจ้างที่เป็นผู้ป่วยโรคโควิด -19 ที่มีลักษณะเป็นผู้ป่วยฉุกเฉินวิกฤต (ผู้ป่วย กลุ่มสีเหลืองและสีแดง) มีสิทธิได้รับค่ารักษาพยาบาลสําหรับตนเอง หรือคู่สมรสหรือบุตรของตนเอง ตามที่กระทรวงสาธารณสุขกําหนด (สิทธิ UCEP)ส่วนในกรณีที่ไม่เข้าลักษณะผู้ป่วยฉุกเฉินวิกฤต (ผู้ป่วยกลุ่มสีเขียว) ให้มีสิทธิได้รับค่ารักษาพยาบาลตามที่สํานักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กําหนดทั้งนี้รัฐบาลได้ให้ความสําคัญกับสวัสดิการลูกจ้างทุกกลุ่มและรับฟังความคิดเห็นของผู้มีส่วนได้เสียโดยตรง ดังนั้นร่างประกาศคณะกรรมการแรงงานวิสาหกิจสัมพันธ์ 3 ฉบับนี้เป็นการเพิ่มสวัสดิการ ยกระดับมาตรฐานสภาพการจ้าง ให้เหมาะสมมากยิ่งขึ้นและเป็นไปตามข้อเรียกร้องของสมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
|
23/2/2023
|
ภาคตะวันออก
|
ตราด
|
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดตราด
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230223150058915
| null |
ส.ปชส.ตราด ประชาสัมพันธ์ ครม.เห็นชอบ สินเชื่อโครงการบ้านล้านหลัง เฟส 3 วงเงิน 2 หมื่นล้านบาท
|
(23 ก.พ. 66) สํานักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดตราด รายงานว่า คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้ธนาคารอาคารสงเคราะห์ สานต่อ โครงการบ้านล้านหลัง ระยะที่ 3 ภายใต้กรอบวงเงินรวม 20,000 ล้านบาท มุ่งช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยที่เริ่มต้นทํางานสร้างครอบครัวและผู้สูงอายุ ได้มีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง จากความสําเร็จของการดําเนินโครงการสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยแห่งรัฐ หรือโครงการบ้านล้านหลัง ระยะที่ 1 และระยะที่ 2 ซึ่ง ธอส. ได้จัดทําขึ้นตามนโยบายรัฐบาลที่ต้องการสร้างโอกาสให้ประชาชนได้มีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเองเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นสําหรับโครงการในระยะที่ 2 ที่ผ่านมา มียอดคําขอสินเชื่อเต็มกรอบวงเงินแล้ว โดยมียอดอนุมัติสินเชื่อแล้ว จํานวน 22,240 ราย เป็นจํานวนเงิน 19,937.46 ล้านบาท ซึ่งสัดส่วนของจํานวนผู้ที่ได้รับการอนุมัติสินเชื่อภายใต้โครงการบ้านล้านหลัง ระยะที่ 2 มีการกระจายตัวอยู่ในช่วงวงเงิน ได้แก่ ต่ํากว่า 500,000 บาท (11%), 500,001 – 1,000,000 บาท (47%) และ 1,000,001 – 1,500,000 บาท (42%) โดยอยู่ในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล (36%) และจังหวัดภูมิภาค (64%) เห็นได้ว่า สัดส่วนการปล่อยสินเชื่อให้กับประชาชนผู้มีรายได้น้อยส่วนใหญ่อยู่ระหว่างช่วงระดับราคาที่ 500,001 – 1,500,000 บาท และอยู่ในพื้นที่จังหวัดภูมิภาคหลักเกณฑ์ และเงื่อนไขของโครงการบ้านล้านหลัง เฟส 3เป็นที่อยู่อาศัยใน กทม. และปริมณฑล และต่างจังหวัด ในราคาซื้อขายไม่เกิน 1.5 ล้านบาท/หน่วย เช่น ที่อยู่อาศัยที่สร้างบนที่ดินของตนเอง หรือที่อยู่อาศัยที่สร้างใหม่ สร้างเสร็จพร้อมอยู่ที่สร้างบนที่ดินของเอกชน ผู้ประกอบธุรกิจพัฒนา อสังหาริมทรัพย์ หรือที่ดินของรัฐ ที่ดินของการเคหะแห่งชาติ บ้านมือสองและทรัพย์สินรอการขาย (Non-Performing Assets : NPAs) ของสถาบันการเงิน ของรัฐ (SFI) ทรัพย์สินรอการขายของบริษัท บริหารสินทรัพย์ กรุงเทพพาณิชย์ จํากัด (มหาชน) (BAM) และบริษัท บริหารสินทรัพย์สุขุมวิท จํากัด (SAM) รวมทั้งทรัพย์รอการขายของกรมบังคับคดี เป็นต้นกลุ่มเป้าหมาย : เน้นเฉพาะ กลุ่มผู้มีรายได้น้อยที่ไม่สามารถเข้าถึงสินเชื่อของธนาคารพาณิชย์ กลุ่มวัยทํางาน หรือผู้ที่มีรายได้ต่อเดือนไม่เกิน 25,000 บาท เข้าร่วมโครงการเป็นลําดับแรก เป็นกลุ่มประชาชนที่กําลังเริ่มต้นสร้างครอบครัว รวมถึงกลุ่มผู้สูงอายุวงเงินโครงการ : 20,000 ล้านบาทประเภทสินเชื่อ/ วงเงินกู้/ ระยะเวลาการกู้ : วงเงินกู้ต่อรายไม่เกิน 1.5 ล้านบาท/หน่วย ระยะเวลากู้สูงสุดไม่เกิน 40 ปีอัตราดอกเบี้ย : ปีที่ 1-5 : อัตราดอกเบี้ยคงที่ร้อยละ 3 ต่อปี ปีที่ 6-7 : อัตราดอกเบี้ยร้อยละ MRR - 2.00 ต่อปี ปีที่ 8 ตลอดจนอายุสัญญากู้เงิน - กรณีรายย่อยทั่วไป อัตราดอกเบี้ยร้อยละ MRR - 0.75 ต่อปี - กรณีสวัสดิการหักเงินเดือน อัตราดอกเบี้ยร้อยละ MRR - 1.00 ต่อปี - กรณีกู้ซื้ออุปกรณ์ฯ อัตราดอกเบี้ยร้อยละ MRRฟรีค่าธรรมเนียม : ค่าประเมินราคาหลักประกัน ไม่เกิน 2,300 บาท และค่าจดทะเบียน นิติกรรมจํานอง ร้อยละ 1 ของวงเงินจํานองระยะเวลา โครงการ ฯ : ยื่นคําขอกู้เงินตั้งแต่วันที่ ครม. มีมติเห็นชอบถึงสิ้นสุดโครงการวันที่ 30 ธ.ค.2568 หรือเมื่อ ธอส. ให้สินเชื่อเต็มตามกรอบวงเงินของโครงการแล้วทั้งนี้ ธอส. ได้ผ่อนปรนเงื่อนไขสําหรับลูกค้าที่เข้าร่วมโครงการบ้านล้านหลัง ระยะที่ 3 เพื่อช่วยเพิ่มโอกาสให้ลูกค้าได้รับวงเงินสินเชื่อที่เหมาะสม รวมถึงกลุ่มลูกค้าที่ประกอบอาชีพประจําหรืออาชีพอิสระ สามารถนําหลักฐานการชําระค่าเช่าบ้าน หรือผ่อนชําระเงินดาวน์บ้านไม่น้อยกว่า 12 เดือนมาแสดงให้กับธนาคารเพื่อประกอบการพิจารณาสินเชื่อเพิ่มเติมได้ และหากไม่สามารถแสดงหลักฐานที่มาของรายได้ ลูกค้าสามารถลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการ Financial Literacy และออมอย่างสม่ําเสมอไม่น้อยกว่าเงินงวดผ่อนชําระเป็นระยะเวลาไม่น้อยกว่า 9 เดือน เพื่อใช้เป็นหลักฐานการพิจารณาสินเชื่อกับธนาคารได้ต่อไป #สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
|
23/2/2023
|
ภาคตะวันออก
|
ตราด
|
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดตราด
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230223144904907
| null |
กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดนราธิวาส บูรณาการ กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจับกุมยาบ้า
|
เมื่อ 22 ก.พ.66 ภายใต้การอํานวยการของ นายสนั่น พงษ์อักษร ผวจ.น.ธ./ผอ.รมน.จว.น.ธ. โดย น.อ.ศิลป์ชัย ประสมศรี ร.น. รองผู้อํานวยการสํานักประสานภารกิจรักษาความมั่นคงภายในจังหวัด กลุ่มที่ 1 สํานักงานประสานภารกิจด้านความมั่นคงกับกองอํานวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร กองทัพเรือ/รอง ผอ.รมน.จังหวัด น.ธ.(ท.) มอบหมายให้ ฝขว.กอ.รมน.จว.น.ธ. บูรณาการร่วมกับ ป้องกันจังหวัดนราธิวาส (นายสุวิทย์ นาคเป้า) ส.รน.3 กก.7 บก.รน. และ ชปส.ตชด.444 เข้าทําการจับกุมผู้ค้ายาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) จํานวน 3,806 เม็ด เวลาประมาณ 18.00 น. - เวลาประมาณ 19.00 น. ซึ่งเป็นบ้านไม่มีเลขที่ บ้านรามา ม.5 ต.ลําภู อ.เมืองนราธิวาส จ.นราธิวาส พิกัด ละติจูด 6.343666 ลองจิจูด 101.807031 (จุดเกิดเหตุที่ 1) บริเวณบ้านเลขที่ 12 ม.3 ต.บางปอ อ.เมืองนราธิวาส จ.นราธิวาส พิกัด ละติจูด 6.348104 ลองจิจูด 101.782232 (จุดเกิดเหตุที่ 2) ได้ร่วมกันทําการจับกุมตัว นายซัมมือรี อายุ 39 ปี อยู่บ้านเลขที่ 12 ม.3 ต.บางปอ อ.เมืองนราธิวาส จ.นราธิวาส เชื้อชาติไทย-สัญชาติไทย พร้อมยึดของกลางในคดี 1.ยาเสพติดให้โทษประเภท๑ (เมทแอมเฟตามีน/ยาบ้า) ลักษณะเม็ดกลม-แบน สีแดง มีอักษร wy ประทับบนเม็ดยาอีกด้านเรียบ บรรจุในถุงพลาสติกใสปิดหัวท้ายด้วยความร้อนจํานวน 4 เม็ด 1 ถุง และบรรจุจํานวน 2 เม็ด 1 ถุง รวมยาบ้าจํานวน ๖ เม็ด ซึ่งบรรจุอยู่ในขวดพลาสติกสีขาวแบบฝาปิดเกลียวอีกชั้นหนึ่ง 2.ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน/ยาบ้า) ลักษณะเม็ดกลม-แบน สีแดง มีสีเขียวปะปน มีอักษร wy ประทับบนเม็ดยาอีกด้านเรียบ บรรจุในถุงพลาสติกสีน้ําเงินและสีชมพู แบบดึงเปิด-กดปิด ถุงละประมาณ 200 เม็ด จํานวน 10 ถุง (1มัด) มัดรวมกันด้วยหนังยางพันทับด้วยกระดาษสาสีขาวประทับอักษรภาษาอังกฤษ A ห่อด้วยพลาสติกใส ห่อด้วยถุงเท้าสีดําและบรรจุอยู่ในกระเป๋าผ้าอีกชั้นหนึ่ง รวมยาบ้า 2,000 เม็ด 3.ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน/ยาบ้า) ลักษณะเม็ดกลม-แบน สีแดง มีอักษร wy ประทับบนเม็ดยาอีกด้านเรียบ บรรจุในถุงพลาสติกสีน้ําเงิน จํานวน 9 ถุงๆ ละ 200 เม็ด รวมยาบ้า 1,800 เม็ด รวมยาบ้าทั้งหมดจํานวน 3,806 เม็ด น้ําหนักเฉพาะยาบ้าเม็ดละประมาณ 0.08 กรัม รวมน้ําหนักเฉพาะยาบ้าทั้งสิ้น 304.48 กรัม 4.รถจักรยานยนต์ยี่ห้อ KEEWAY สีดํา หมายเลขทะเบียนยะลา จํานวน 1 คัน 5.โทรศัพท์มือถือยี่ห้อ VIVO สีน้ําเงิน จํานวน 1 เครื่อง (ของผู้ถูกจับกุม)โดยกล่าวหาว่า จําหน่ายโดยมีไว้เพื่อจําหน่ายซึ่งยาเสพติดให้โทษประเภท1 (เมทแอมเฟตามีน/ยาบ้า)อันเป็นการกระทําเพื่อการค้าและก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน, เสพยาเสพติดให้โทษประเภท1 (เมทแอมเฟตามีน)โดยไม่ได้รับอนุญาต, เป็นผู้ขับขี่รถเสพยาเสพติดให้โทษประเภท1 (เมทแอมเฟตามีน)โดยไม่ได้รับอนุญาตในการนี้เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้อาศัยอํานาจเจ้าพนักงาน ป.ป.ส.ของ พ.ต.ท.วีระศักดิ์ คงเพชร ผบ.ร้อยกก.ตชด.44 หมายเลข 602967 ตาม พรบ.วิธีพิจารณาคดียาเสพติด (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2564 มาตรา 11/1 (4) , 11/6 ควบคุมตัวผู้ถูกจับกุมไว้เพื่อสืบสวนสอบสวนขยายผลซึ่งหลังเสร็จสิ้นการขยายผลแล้ว ได้ทําบันทึกจับกุมผู้ต้องหาพร้อมของกลางนําส่งเพื่อดําเนินคดีตามกฎหมายต่อไป#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
|
23/2/2023
|
ภาคใต้
|
นราธิวาส
|
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนราธิวาส
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230223155326968
| null |
จ.กาฬสินธุ์ แถลงผลจับกุมพ่อค้ายาบ้า ยึดของกลางร่วม 2 แสนเม็ด
|
ยุทธการฟ้าแดดสงยาง ระดมกวาดล้างยาเสพติด ตํารวจ สภ.ยางตลาด ร่วมกับฝ่ายปกครองอําเภอยางตลาด จังหวัดกาฬสินธุ์ ตํารวจชุดสืบสวนภาค 4 และชุดสืบสวน สภ.นากุง จับกุมพ่อค้ายาเสพติด 3 ราย ยึดของกลางยาบ้า 198,000 เม็ดวันนี้ (23 ก.พ.66) ที่สภ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ นายศุภศิษย์ กองเจริญยศ ผวจ.กาฬสินธุ์ พล.ต.ต.สุวรรณ์ เชี่ยวนาวินธวัช ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ นายเอกรัตน์ มิสา นายอําเภอยางตลาด พ.ต.อ.สมยศ ศรีพระคุณ ผกก.สภ.ยางตลาด พร้อมด้วยตํารวจ สภ.ยางตลาด เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอําเภอยางตลาด ตํารวจชุดสืบสวนภาค 4 และชุดสืบสวน สภ.นากุง ร่วมกันแถลงผลการจับกุมผู้ต้องหาค้ายาบ้า 3 ราย ประกอบด้วย 1.นายชรินทร์ หรือทุย แซ่โค้ว อายุ 65 ปี ชาว ต.ลํานารายณ์ อ.ชัยบาดาล จ.ลพบุรี 2.นายศุภกฤต หรือจอร์จ อาสาคติ อายุ 24 ปี ชาว ต.สําราญ อ.เมือง จ.ขอนแก่น และนายพีรบูรณ์ หรือฟลุค สินนภาโชคอนันท์ อายุ 26 ปี ชาว ต.บัวบาน อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ พร้อมของกลางยาบ้า 198,000 เม็ดทั้งนี้ สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 22 ก.พ. 2566 เวลาประมาณ 17.00 น. เจ้าหน้าที่ตํารวจ สภ.ยางตลาด ชุดจับกุม ได้รับแจ้งจากสายลับว่าจะมีการรับ-ส่งยาบ้ากันที่หลักกิโลเมตรที่ 9 ถ.ชลประทานปากทางเขื่อนลําปาว บริเวณบ้านแดง หมู่ 3 ต.บัวบาน อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ เจ้าหน้าที่ตํารวจ สภ.ยางตลาด จึงได้ประสานชุดสืบสวนภาค 4 เจ้าหน้าที่ ตํารวจ สภ.นากุง และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอําเภอยางตลาด เพื่อร่วมกันจับกุม และร่วมประชุมวางแผนจากนั้น เจ้าหน้าที่ได้วางแผนซุ่มอยู่โดยรอบบริเวณดังกล่าว กระทั่งพบชายไทยนั่งอยู่ในป่าห่างจากหลัก กิโลเมตร ที่ 4 ถ.ชลประทานปากทางเขื่อนลําปาวประมาณ 10 เมตร จากการสอบถาม ทราบชื่อสกุลจริงคือ นายชรินทร์ หรือทุย ก่อนยอมรับว่านายบอย มาส่งตนไว้ที่ดังกล่าว เพื่อมาเฝ้ายาบ้า ไว้จนกว่าจะมีคนมารับยาบ้า ซึ่งตนและนายบอยได้ตกลงกันว่า นายบอยจะให้ค่าจ้างแก่ตนเป็นเงินจํานวน 5,000 บาท ในขณะที่กําลังสอบถาม นายชรินทร์อยู่นั้น ปรากฏว่ามีชายไทย 2 คน ขับขี่รถจักรยานยนต์ ซ้อนท้ายกันมา โดยคนขับรถจักรยานยนต์ได้สวมเสื้อสีขาว อีกคนหนึ่งสวมเสื้อสีดําได้นั่ง ซ้อนท้าย คนนั่งซ้อนท้ายถือตะกร้าพลาสติก แบบใส่เสื้อผ้า ซึ่งมีตําหนิ รูปพรรณตรง ตามที่สายลับได้แจ้งไว้ เจ้าหน้าที่จึงได้ขับรถยนต์ติดตามไปตรวจสอบ เมื่อพบเห็นชายไทยทั้ง 2 คน จึงได้แสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตํารวจและส่งสัญญาณให้ชายไทยทั้ง 2 คนหยุดรถ เมื่อบุคคล ทั้ง 2 หยุดรถแล้ว จึงได้ขอทําการตรวจค้น สอบถามโดยชายทั้ง 2 คนทราบชื่อสกุลจริงคือ นายศุภกฤต หรือจอร์จ ซึ่งเป็นผู้ขับขี่รถ จักรยานยนต์ และ นายพีรบูรณ์ หรือฟลุค เป็นผู้นั่งซ้อนท้าย และในขณะนั้นยังมีสายโทรศัพท์ผ่านระบบแมสเซ็นเจอร์โทรเข้ามาที่โทรศัพท์ของ นายศุภกฤต หรือจอร์จ สอบถามทั้ง 2 คน ได้ความว่า ผู้ที่โทรเข้ามาคือนาย ท.(นามสมมุติ) ใช้ให้มาดูจุดที่จะมารับ-ส่งยาบ้า โดย ท. ตกลงจะให้ค่าจ้างพวกตนทั้ง 2 คน ๆ ละ 5,000 บาทเจ้าหน้าที่ตํารวจชุดจับกุมจึงได้ นําตัวทั้ง 3 คน มานําชี้จุดที่ซ่อนยาบ้า ปรากฏว่าพบถุงพลาสติก สีดํา จํานวน 2 ถุง มีของอยู่ข้างในเป็นห่อๆ เจ้าหน้าที่ตํารวจ ชุดจับกุมจึงได้ตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าเป็นยาบ้าซุกซ่อนอยู่ในห่อในถุงนั้น จึงได้ตรวจยึด ถุงยาบ้าทั้ง 2 ถุง และควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 3 คน มาที่ สภ.ยางตลาด และตรวจนับยาบ้ารวมของกลางยาบ้า 198,000 เม็ด นําตัวส่งพนักงานสอบสวน ดําเนินคดีตามกฎหมาย พร้อมแจ้งข้อหาร่วมกันมียาเสพติดให้โทษ ประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีนหรือยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อจําหน่ายอันเป็นการ กระทําเพื่อการค้าก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชนและเป็นการกระทําให้เกิด ผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐหรือความปลอดภัยของประชาชนทั่วไปโดยไม่ได้รับ อนุญาต และขยายผลติดตามผู้ร่วมขบวนการต่อไปดวงใจ หงษ์จันทร์ /ข่าว#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
|
23/2/2023
|
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
|
กาฬสินธุ์
|
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดกาฬสินธุ์
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230223170918999
| null |
อำเภอเมืองภูเก็ต จับกุมบุหรี่ไฟฟ้า-บุหรี่นอกเถื่อน พร้อมยึดของกลางจำนวนมาก เร่งป้องปราบระบาดในกลุ่มเยาวชน
|
นายไพโรจน์ ศรีละมุล นายอําเภอเมืองภูเก็ต เปิดเผยถึงการจับกุมสิ่งผิดกฎหมายในพื้นที่อําเภอเมืองภูเก็ต โดยเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอําเภอเมืองภูเก็ต นําโดย นายวิเชฐ สูยะนันท์ ปลัดอําเภอหัวหน้ากลุ่มงานบริหารงานปกครอง นายดนัย ใจแข็ง ปลัดอําเภอฝ่ายความมั่นคง นํากําลัง อส. ร่วมกับ พ.ต.อ.ประเทือง ผลมานะ ผกก.สภ.เมืองภูเก็ต และเจ้าหน้าที่ตํารวจร่วมกันจับกุมผู้ต้องหาเกี่ยวกับบุหรี่ไฟฟ้า-บุหรี่หนีภาษีและสุรา จํานวน 2 คดี เมื่อช่วงค่ําของวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2566 ที่ผ่านมา ทั้งนี้ คดีแรก เจ้าหน้าที่ร่วมกันจับกุม ผู้ต้องหาเกี่ยวกับบุหรี่ไฟฟ้า-บุหรี่หนีภาษี พร้อมของกลางบุหรี่ไฟฟ้า 12 ตัว ได้ที่่ริมถนนหน้าร้านขายของชําบริเวณ ถ.เยาวราช ต.ตลาดเหนือ อ.เมืองภูเก็ต โดยแจ้งข้อหาช่วยซ่อนเร้น ช่วยจําหน่าย ช่วยพาเอาไปเสีย ซื้อ รับจํานํา หรือรับไว้โดยประการใดซึ่งของอันตนรู้ว่าเป็นของที่ยังมิได้เสียค่าภาษีหรือของต้องจํากัด หรือของต้องห้าม หรือที่เข้ามาในราชอาณาจักรโดยยังมิได้ผ่านศุลกากรโดยถูกต้องก็ดี หรือเป็นของที่นําเข้ามาในราชอาณาจักรโดยหลีกเลี่ยงอากร ตาม พ.ร.บ.ศุลการ พ.ศ.2560 โดยผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ จากการสอบถามได้ข้อมูลว่าเพิ่งซื่อบุหรี่ไฟฟ้ามาจากร้านค้าแห่งหนึ่งที่ ถ.เยาวราช ต.ตลาดเหนือ อ.เมืองภูเก็ต ซึ่งเป็นที่เกิดเหตุ จากนั้น ได้ขยายผลเข้าจับกุมอีก 1 ราย พร้อมของกลางบุหรี่ต่างประเทศไม่ติดอากรแสตมป์ไทยจํานวน 240 หมอน หรือ 2,400 ซอง 48,000 ตัว บุหรี่ไฟฟ้าจํานวน 90 ตัว คอยบุหรี่ไฟฟ้าจํานวน 107 อัน หัวดูดบุหรี่ไฟฟ้าจํานวน 87 อัน น้ํายาบุหรี่ไฟฟ้าจํานวน 69 ขวด เหล้าต่างประเทศไม่ติดอากรแสตมป์ไทยรวม จํานวน 13 ขวด เงินสดจากการขายบุหรี่ไฟฟ้า จํานวน 2,000 บาท ควบคุมตัวนําส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองภูเก็ต เพื่อดําเนินคดีตามกฎหมายต่อไป ทั้งนี้ พฤติการณ์ในการตรวจค้นและจับกุม เนื่องจากเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้รับแจ้งจากพลเมืองดี ซึ่งเป็นผู้ปกครองนักเรียนว่าที่ร้านขายของชําที่บริเวณ ถนนเยาวราช ต.ตลาดเหนือ อ.เมือง มีการจําหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าให้กับเด็กนักเรียน จึงให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองและเจ้าหน้าที่ตํารวจเข้าไปดําเนินการสืบสวนจับกุม ซึ่งร้านดังกล่าวพบว่าเคยถูกผู้ปกครองนักเรียนร้องเรียน ผวจ.ภูเก็ตมาแล้วก่อนหน้านี้ว่าขายบุหรี่ให้เด็กนักเรียน เมื่อเจ้าหน้าที่ตรวจสอบได้หยุดขายไปช่วงหนึ่ง และต่อมาได้เปิดขายอีก เจ้าหน้าที่จึงเข้าทํากาตรวจค้นจับกุม เมื่อสอบถามได้ให้ข้อมูลว่าได้รับค่าจ้างในการขายบุหรี่เดือนละ 10,000 บาท#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
|
23/2/2023
|
ภาคใต้
|
ภูเก็ต
|
สวท.ภูเก็ต
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230223173049007
| null |
ผวจ.นครศรีธรรมราช แถลงข่าวผลการจับกุมคดียาเสพติด ได้ของกลางยาบ้ากว่า 137,749 เม็ด
|
วันนี้ (23 กุมภาพันธ์ 2566) ที่ห้องประชุมศรีวิชัย ชั้น 5 ศาลากลางจังหวัดนครศรีธรรมราช นายอภินันท์ เผือกผ่อง ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช พร้อมด้วย นายสมพงษ์ มากมณี รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช พ.ต.อ.สุวัฒน์ สุขศรี รองผู้บังคับการตํารวจภูธรจังหวัดนครศรีธรรมราช และนางศลิตา เสนา ป้องกันจังหวัดนครศรีธรรมราช นายณัฐวัฒน์ พรหมนวล ผบ.ร้อย อสจ.ที่ 1 และนายวีรศักดิ์ บัวศรี นายอําเภอลานสกา ร่วมแถลงข่าวการกวาดล้างจับกุมผู้ค้ายาเสพติด และการป้องกัน ปราบปราม และแก้ไขปัญหายาเสพติดในพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราช ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช กล่าวว่า ปัญหายาเสพติดได้ก่อเหตุการณ์ความรุนแรงส่งผลกระทบ ต่อชีวิต ร่างกาย และความปลอดภัยของพี่น้องประชาชน จังหวัดนครศรีธรรมราช จึงได้กําหนดให้การแก้ไขปัญหายาเสพติด เป็นวาระเร่งด่วนอันดับ 1 ของจังหวัด โดยได้มีการมอบหมายแนวทางการดําเนินการด้านยาเสพติด ให้กับหน่วยงานด้านความมั่นคง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อีกทั้ง ได้มีการกําหนด 9 มาตรการเร่งด่วนตามนโยบายป้องกันและปราบปรามยาเสพติดของจังหวัดนครศรีธรรมราช ไม่ว่าจะเป็นการจัดทําป้ายแจ้งเบาะแส การสุ่มตรวจปัสสาวะบุคลากรของรัฐ การปราบปรามผู้ค้ายาเสพติด การเสริมสร้างการมีส่วนร่วมของหมู่บ้าน/ชุมชน การฝึกทบทวนชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) "ชรบ.ต้านยาเสพติด"การฟื้นฟูสมรรถนะผู้ป่วยจิตเวชการนําเด็กและเยาวชนเข้าวัดฟังธรรม และการตรวจสอบอาวุธปืนของผู้ที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด ซึ่งที่ผ่านมาทุกหน่วยงานได้มีการดําเนินการ อย่างเข้มข้นและมีผลการดําเนินการเป็นรูปธรรมมาอย่างต่อเนื่อง สําหรับการแถลงข่าวผลการจับกุมยาเสพติดล็อตใหญ่ในวันนี้ เป็นการดําเนินการโดยชุดเฉพาะกิจเคลื่อนที่เร็วประจําชุดปฏิบัติการพิเศษฝ่ายปกครองจังหวัดนครศรีธรรมราช จํานวน 3 คดี จับกุมผู้ต้องหาได้ 4 ราย ยาเสพติด (ยาบ้า) 137,749 เม็ด ไอซ์ 3.2 กรัม เงินสด 36,770 บาท และโทรศัพท์ จํานวน 3 เครื่อง โดยคดีแรกจับกุมคดียาเสพติดในพื้นที่หมู่ที่ 3 ตําบลสิชล อําเภอสิชล จับกุมผู้ต้องหา จํานวน 2 ราย พร้อมของกลาง (1) ยาเสพติดประเภท 1 เมทแอมเฟตามีน (ยาบ้า) จํานวน 711 เม็ด ไอซ์ 2.2 กรัม โทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง และเงินสด 33,000 บาท คดีที่ 2 จับกุมผู้ต้องหา 2 รายในพื้นที่ หมู่ที่ 4 ตําบลทุ่งปรัง อําเภอสิชล ได้ของกลางยาบ้า 3,038 เม็ด ไอซ์ 1 กรัม โทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง และเงินสด 3,770 บาท ส่วนคดีที่ 3 จับกุมผู้ค้ายาเสพติดรายใหญ่ที่จัดส่งยาบ้าในพื้นที่ หมู่ที่ 2 ตําบลลานสกา อําเภอลานสกา จากการรับแจ้งของพลเมืองดี ว่ามีการซุกซ่อนยาเสพติดอยู่ในกระเป๋าสะพายหลังลายพลาง 2 ใบ จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ไม่พบตัวผู้ต้องหา แต่สามารถตรวจยึดยาเสพติดได้ของกลางยาบ้าที่ตรวจพบ จํานวน 134,000 เม็ด เบื้องต้นเจ้าหน้าหน้าที่ได้ตรวจยึดของกลาง และขยายผลเพื่อดําเนินคดีกับผู้กระทําผิดต่อไปพรรณี มณีวรรณ/ภาพ-ข่าว บุณณดา-รัชดาภรณ์/ภาพ สํานักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนครศรีธรรมราช 23 กุมภาพันธ์ 2566#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
|
23/2/2023
|
ภาคใต้
|
นครศรีธรรมราช
|
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนครศรีธรรมราช
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230223182427020
| null |
ฝ่ายความมั่นคง อ.สุไหงโก-ลก ซักซ้อมแผนรักษาความปลอดภัยเมืองเศรษฐกิจ 8เมืองหลัก
|
ฝ่ายความมั่นคง อ.สุไหงโก-ลก ซักซ้อมแผนรักษาความปลอดภัยเมืองเศรษฐกิจ 8 เมืองหลัก เพื่อให้ทุกฝ่ายพร้อมรับมือสถานการณ์ฉุกเฉินอย่างมีประสิทธิภาพนายอนิรุทร บัวอ่อน นายอําเภอสุไหงโก-ลก เป็นประธาน ติดตามสถานการณ์ การซักซ้อมแผนการรักษาความปลอดภัยเมืองเศรษฐกิจ 8 เมืองหลัก อําเภอสุไหงโก-ลก ณ ถนนสายเลี่ยงเมืองอรกานต์-ซรายอ อําเภอสุไหงโก-ลก จังหวัดนราธิวาส โดยมีหน่วยงานความมั่นคง 3 ฝ่าย ส่วนราชการและกําลังภาคประชาชน เข้าร่วมการซักซ้อมแผน เพื่อให้มีความพร้อมทุกด้าน ทั้งการบัญชาการเหตุการณ์ กําลังพล ยานพาหนะ และการสื่อสาร ในการรับมือสถานการณ์ฉุกเฉินที่อาจจะเกิดขึ้น อีกทั้งทําให้พื้นที่อําเภอสุไหงโก-ลก ซึ่งเป็นพื้นที่ศูนย์ราชการ แหล่งท่องเที่ยวและย่านเศรษฐกิจมีความปลอดภัย ตลอดจนสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนและนักท่องเที่ยว ทั้งนี้ ในการซักซ้อมแผนฯ ได้มีการประชุมชี้แจงกําหนดแผนก่อนการปฏิบัติ การสื่อสารระหว่างเกิดเหตุ และมาตรการหลังเกิดเหตุ เพื่อให้ทุกฝ่ายเกิดความเข้าใจถึงสถานการณ์ สามารถประสานการปฎิบัติงานอย่างชัดเจน เป็นเอกภาพ นายอนิรุทร บัวอ่อน นายอําเภอสุไหงโก-ลก ระบุ การซักซ้อมแผนถือเป็นสิ่งสําคัญด้านความพร้อมในการทํางานร่วมกันของทุกฝ่าย เพื่อเป็นการเพิ่มทักษะความชํานาญ ในการแก้ไขเหตุการณ์รุนแรง ที่อาจจะเกิดขึ้นเมื่อเกิดเหตุความไม่สงบเกิดขึ้นในเมืองเศรษฐกิจ แผนการรักษาความปลอดภัยที่มีประสิทธิภาพ สามารถรองรับ และป้องกันสถานการณ์ความรุนแรงที่อาจจะเกิดขึ้น โดยมุ่งเน้นการสร้างความปลอดภัยในชีวิต และทรัพย์สินของประชาชนเป็นสําคัญ#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
|
23/2/2023
|
ภาคใต้
|
นราธิวาส
|
สวท.สุไหงโกลก จ.นราธิวาส
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230223181406017
| null |
จังหวัดนครศรีธรรมราช ประชุมคณะกรรมการรักษาความมั่นคงและความสงบเรียบร้อยจังหวัดนครศรีธรรมราช เพื่อติดตามผลการดำเนินงานด้านความมั่นคงในรอบเดือนที่ผ่านมา
|
วันนี้ (23 กุมภาพันธ์ 2566) ที่ห้องประชุมศรีวิชัย ชั้น 5 ศาลากลางจังหวัดนครศรีธรรมราช จังหวัดนครศรีธรรมราช โดยกองบังคับการตํารวจภูธรจังหวัดนครศรีธรรมราช จัดประชุมคณะกรรมการรักษาความมั่นคงและความสงบเรียบร้อยจังหวัดนครศรีธรรมราช ครั้งที่ 2/2566 โดยมีนายสมพงษ์ มากมณี รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นประธานการประชุม มี พล.ต.ต.สุวัฒน์ สุขศรี รองผู้บังคับการตํารวจภูธรจังหวัดนครศรีธรรมราช รอง ผอ.ศรชล.จว.นศ. อัยการจังหวัดนครศรีธรรมราช หัวหน้าส่วนราชการ และผู้เกี่ยวข้อง ร่วมประชุมโดยการประชุมในวันนี้มีวาระสําคัญต่าง ๆ เพื่อติดตามผลการดําเนินงานด้านความมั่นคงของจังหวัดนครศรีธรรมราชในรอบเดือนมกราคม 2566 ที่ผ่านมา ประกอบด้วย การเปรียบเทียบสถิติสําคัญเกี่ยวกับสถานภาพอาชญากรรมและคดีที่น่าในใจในรอบเดือน ทั้งคดีสําคัญเกี่ยวกับยาเสพติด คดีอุบัติเหตุจราจร การจับกุมผู้กระทําผิดเกี่ยวกับจราจรทางบก 10 ข้อหาหลัก สถานการณ์การค้ามนุษย์ แรงงานต่างด้าวและหลบหนีเข้าเมือง การป้องกันปราบปรามการกระทําผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ผลการปฎิบัติงานด้านการประมง ด้านศุลกากร ด้านสรรพสามิต การจัดระเบียบสังคม การจัดสวัสดิการเด็กและเยาวชน รวมถึงการวิเคราะห์เหตุการณ์และการใช้กฎหมายที่สําคัญในพื้นที่ทั้งนี้ จากรายงานผลการดําเนินงานด้านการปราบปรามยาเสพติดประจําเดือนมกราคม 2566 ของกองบังคับการตํารวจภูธรจังหวัดนครศรีธรรมราช (ภ.จว.นครศรีธรรมราช) ระหว่างวันที่ 1-31 มกราคม 2566 ภ.จ.ว.นครศรีธรรมราช สามารถจับกุมผู้ต้องหาในคดียาเสพติดได้ทั้งหมด 901 ราย ผู้ต้องหา 906 คน พร้อมของกลาง ยาบ้า 43,472 เม็ด และไอซ์ 28.66 กรัม ส่วนในรอบปีงบประมาณ 2566 ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2565 ถึงวันที่ 31 มกราคม 2566 ภ.จว.นครศรีธรรมราช สามารถจับกุมผู้ต้องหาในคดียาเสพติดได้ทั้งหมด 3,508 ราย ผู้ต้องหา 3,549 คน พร้อมของกลาง ยาบ้า 1,965,189 เม็ด ไอซ์ 851.16 กรัม เฮโรอีน 3.93 กิโลกรัม และเคตามีน 1.58 กรัม สําหรับในส่วนของการรายงานสถิติอุบัติเหตุทางถนนจังหวัดนครศรีธรรมราช ในรอบเดือนที่ผ่านมา มีอุบัติเหตุเกิดขึ้น 59 ครั้ง บาดเจ็บ 49 คน มีผู้เสียชีวิต 16 คน แบ่งเป็นชาย 11 คน และหญิง 5 คน ซึ่งนายสมพงษ์ มากมณี รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้กล่าวชื่นชมพื้นที่ต้นแบบลดอุบัติเหตุทางถนนของ อบต.ท่าซัก หรือท่าซักโมเดล และตําบลนาเคียน (Nakean Safety Zone) ที่มีผลการดําเนินการบูรณาการกับภาคส่วนที่เกี่ยวข้องเน้นการใช้ด่านครอบครัวให้เป็นฟันเฟืองสําคัญในการลดอุบัติเหตุในพื้นที่ ควบคู่กับการอบรมและเฝ้าระวังกลุ่มเสี่ยงให้เกิดการตระหนักรู้ถึงการขับขี่ปลอดภัย จนส่งผลให้อุบัติเหตุทางถนนในพื้นที่ลดลงและพื้นที่อื่น ๆ สามารถนําไปเป็นแบบอย่างได้ ซึ่งในเรื่องของการลดอุบัติเหตุทางถนนนั้น ทางผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้ฝากเน้นย้ําให้ช่วยกันรณรงค์และประชาสัมพันธ์เรื่องโครงการคนนครวินัยจราจร 100 เปอร์เซ็นต์ ที่ประกอบด้วย 5 เรื่องหลัก ๆ คือ การสวมหมวกนิรภัย การไม่ขับรถเร็ว การเมาไม่ขับ ไม่ขับรถตัดหน้ากระชั้นชิด และ การไม่ขับรถย้อนศร ซึ่งหากทุกคนให้ความร่วมมือมีวินัยจราจร อุบัติเหตุทางถนนจะลดลงได้อย่างแน่นอน#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
|
23/2/2023
|
ภาคใต้
|
นครศรีธรรมราช
|
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนครศรีธรรมราช
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230223182713021
| null |
นครศรีธรรมราช แถลงผลการจับกุมคดียาเสพติดล็อตใหญ่ โดยชุดเฉพาะกิจเคลื่อนที่เร็วประจำชุดปฏิบัติการพิเศษฝ่ายปกครอง ได้ของกลางยาบ้ากว่า 137,000 เม็ด
|
นายอภินันท์ เผือกผ่อง ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช กล่าวว่า จังหวัดนครศรีธรรมราชได้กําหนดให้การแก้ไขปัญหายาเสพติด เป็นวาระเร่งด่วนอันดับ 1 ของจังหวัด โดยได้มีการมอบหมายแนวทางการดําเนินการด้านยาเสพติด ให้กับหน่วยงานด้านความมั่นคง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อีกทั้ง ได้มีการกําหนด 9 มาตรการเร่งด่วนตามนโยบายป้องกันและปราบปรามยาเสพติดของจังหวัดนครศรีธรรมราช ไม่ว่าจะเป็นการจัดทําป้ายแจ้งเบาะแส การสุ่มตรวจปัสสาวะบุคลากรของรัฐ การปราบปรามผู้ค้ายาเสพติด การเสริมสร้างการมีส่วนร่วมของหมู่บ้าน/ชุมชน การฝึกทบทวนชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) "ชรบ.ต้านยาเสพติด" การฟื้นฟูสมรรถนะผู้ป่วยจิตเวช การนําเด็กและเยาวชนเข้าวัดฟังธรรม และการตรวจสอบอาวุธปืนของผู้ที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด ซึ่งที่ผ่านมาทุกหน่วยงานได้มีการดําเนินการ อย่างเข้มข้นและมีผลการดําเนินการเป็นรูปธรรมมาอย่างต่อเนื่องซึ่งล่าสุดได้จับกุมยาเสพติดล็อตใหญ่ โดยชุดเฉพาะกิจเคลื่อนที่เร็วประจําชุดปฏิบัติการพิเศษฝ่ายปกครองจังหวัดนครศรีธรรมราช จํานวน 3 คดี พื้นที่อําเภอสิชล และอําเภอลานสกา จับกุมผู้ต้องหาได้ 4 ราย ยาเสพติด (ยาบ้า) 137,749 เม็ด ไอซ์ 3.2 กรัม เงินสด 36,770 บาท และโทรศัพท์ จํานวน 3 เครื่อง ซึ่งเจ้าหน้าหน้าที่ได้ตรวจยึดของกลาง และขยายผลเพื่อดําเนินคดีกับผู้กระทําผิดต่อไป#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
|
23/2/2023
|
ภาคใต้
|
นครศรีธรรมราช
|
สวท.นครศรีธรรมราช
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230223191809047
| null |
ไทยและกัมพูชา หารือในประเด็นที่เป็นประโยชน์ร่วมกัน ส่งเสริมความร่วมมือ ฟื้นฟูเศรษฐกิจ
|
นายปรัก สุคน รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศและความร่วมมือระหว่างประเทศราชอาณาจักรกัมพูชา เข้าเยี่ยมคารวะ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ที่ห้องสีงาช้าง ตึกไทยคู่ฟ้า ทําเนียบรัฐบาล ในโอกาสเยือนไทยอย่างเป็นทางการโดยทั้งสองฝ่ายได้หารือในประเด็นที่เป็นประโยชน์ร่วมกัน นายกรัฐมนตรี เชื่อมั่นว่าไทยและกัมพูชา จะร่วมมือกันเชื่อมโยงเศรษฐกิจสองประเทศ ช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจอย่างมั่นคงและยั่งยืน ให้สามารถบรรลุเป้าหมายการค้า 15,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ภายในปี 2568 ขณะที่ รองนายกรัฐมนตรีกัมพูชา กล่าวยินดีที่การค้าระหว่างสองประเทศเพิ่มมากขึ้น โดยปีที่ผ่านมามูลค่าการค้าเพิ่มขึ้นมากกว่าก่อนสถานการณ์โควิด-19 และเชื่อมั่นเช่นกันว่าทั้งสองประเทศจะสามารถบรรลุตามเป้าหมายการค้าที่ตั้งไว้ได้อย่างแน่นอนนายกรัฐมนตรีกล่าวขอบคุณกัมพูชาสําหรับความร่วมมือ ในการจัดการปัญหาขบวนการหลอกลวงทางโทรศัพท์ข้ามชาติ (แก๊งคอลเซ็นเตอร์) ที่กัมพูชาย้ําถึงความพร้อมจะร่วมมือกับไทยอย่างเต็มที่ พร้อมเห็นพ้องที่จะตั้งคณะทํางานร่วม เพื่อเป็นกลไกหลักในการประสานงานการแก้ไขปัญหาอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น เนื่องจากปัญหาดังกล่าวไม่เพียงส่งผลเสียต่อทั้งสองประเทศ แต่ส่งผลเสียรวมถึงในภูมิภาค พร้อมกันนี้ ยังได้กล่าวขอบคุณไปยังนายกรัฐมนตรีฮุน เซน ที่สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องของกัมพูชา ร่วมมือกับฝ่ายไทย เก็บกู้ทุ่นระเบิดเพื่อมนุษยธรรมในพื้นที่ชายแดนทันที เนื่องจากรัฐบาลไทยห่วงใยประชาชนทั้งสองประเทศ ซึ่งโอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีได้กล่าวกับรองนายกรัฐมนตรีกัมพูชาว่า อาจพิจารณาเริ่มดําเนินการในพื้นที่นําร่อง 10 แห่ง ซึ่งไทยได้เสนอให้กัมพูชาพิจารณาแล้ว กัมพูชาก็พร้อมเดินหน้าร่วมมือกับไทยอย่างเต็มที่ เพื่อความปลอดภัยของประชาชน
|
23/2/2023
|
ภาคกลางและปริมณฑล
|
กรุงเทพมหานคร
|
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230223195943061
| null |
นรข.นครพนม บูรณาการร่วมกับหน่วยงานความมั่นคง ยึดยาบ้าลักลอบข้ามโขง 1.4 ล้านเม็ด
|
วันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2566 ที่สโมสรสัญญาบัตร หน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลําแม่น้ําโขง อําเภอเมือง จังหวัดนครพนม นายวันชัย จันทร์พร ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม พร้อมด้วย พล.ร.ต. สมาน ขันธพงษ์ ผู้บัญชาการหน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลําแม่น้ําโขง (ผบ.นรข.) น.อ.กษิติ กลิ่นศรีสุข ผบ.นรข.เขตนครพนม พ.ต.อ.(ญ) จีรนันท์ ธนะสิงห์ ผกก.พิสูจน์หลักฐาน ภ.จว.นครพนม น.ต.สมเจตน์ ค้าทวี หน.สน.เรือบ้านแพง นางนิภาวรรณ ใยบัวเทศ นายด่านศุลกากรจังหวัดนครพนม นางจินตนา สุมขุนทด หัวหน้าด่านตรวจพืชนครพนม และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันแถลงผลการตรวจยึดยาบ้าจํานวน 1.4 ล้านเม็ด และกัญชา 25 กิโลกรัม ภายหลังการบูรณาการหน่วยความมั่นคงดําเนินการเฝ้าระวังป้องกันและปราบปรามยาเสพติดตามแนวชายแดนโดยแบ่งเป็นเหตุเมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ ที่ สน.เรือบ้านแพง ได้จัดกําลังพลลงพื้นที่ชุ่มเฝ้าตรวจตามพื้นที่เสี่ยงและคาดว่าจะมีการกระทําความผิดกฎหมาย กระทั่งเวลา 19.00 น. ชุดลาดตระเวน นรข. ได้ตรวจพบเรือต้องสงสัยกําลังแล่นเรือมาจากฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน มุ่งหน้าสู่บ้านหาดทรายเพ ตําบลหนองเทา อําเภอท่าอุเทน เมื่อใกล้ถึงฝั่งได้ดับเครื่องยนต์และพายเรือเข้าเทียบ จากนั้นชาย 2 คนที่อยู่บนเรือได้ทําการยกวัตถุต้องสงสัยมีลักษณะคล้ายกระสอบมาวางกองไว้ริมฝั่งแม่น้ําโขง เมื่อเห็นดังนั้นชุดลาดตระเวนจึงได้ทําการประชิดระยะและแสดงตัวขอเข้าตรวจค้น ซึ่งเป็นจังหวะที่ชายทั้ง 2 คน ติดเครื่องยนต์เรือและผลักหัวเรือออกจากฝั่งขับหายไปในความมืดด้วยความรวดเร็ว ทําให้เจ้าหน้าที่ไม่สามารถติดตามได้ทัน จึงได้เข้าทําการตรวจสอบบริเวณดังกล่าว พบกระสอบสีฟ้า 5 กระสอบ สีเหลือง 4 กระสอบวางอยู่ ภายในเป็นยาบ้า 1,456,000 เม็ด จึงได้บันทึกการตรวจยึดไว้เป็นหลักฐาน พร้อมนําของกลางทั้งหมดส่งพนักงานสอบสวน สภ.ท่าอุเทน เพื่อติดตามหาผู้กระทําผิดมาดําเนินการตามกฎหมายต่อไป ขณะที่อีกเหตุการณ์เป็นวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2566 ระหว่างลาดตระเวน เจ้าหน้าที่ นรข. ได้ตรวจพบเรือต้องสงสัยล่องเข้ามายังบริเวณบ้านดอนแพง ตําบลบ้านแพง อําเภอบ้านแพง จากนั้นมีกลุ่มคน ประมาณ 10 คน เข้ามาทําการขนถ่ายวัตถุต้องสงสัยสีดําบนเรือไปวางไว้ริมฝั่งแม่น้ําโขง ไม่นานก็มีรถกระบะ สีบรอนซ์ทอง ไม่ทราบยี่ห้อและหมายเลขทะเบียนวิ่งเข้ามาจอดเทียบและกลุ่มดังกล่าวก็ได้ช่วยกันขนวัตถุต้องสงสัยขึ้นท้ายรถกระบะ เมื่อเห็นดังนั้นเจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตัวเข้าตรวจค้น ซี่งเมื่อเห็นเจ้าหน้าที่ทั้ง 10 คน มีอาการตกใจพร้อมกับกระโดขึ้นรถขับออกไปด้วยความเร็วและความชํานาญในพื้นที่ แม้เจ้าหน้าที่จะเร่งติดตามแต่ก็ไม่ทัน ดังนั้นจึงได้ย้อนกลับมาตรวจสอบบริเวณเกิดเหตุ พบถุงสีดําขนาดใหญ่ จํานวน 1 ถุง วางอยู่บนพื้นลักษณะเหมือนวัตถุที่กลุ่มบุคคลข้างต้น ขนขึ้นรถกระบะแล้วขับหลบหนีไปได้ ตรวจสอบภายในเป็นกัญชาแห้ง (ส่วนช่อดอก) บรรจุอยู่ในกระสอบห่อด้วยถุงพลาสติกสีดําอย่างดี น้ําหนักประมาณ 25 กิโลกรัม จึงไต้ทําบันทึกตรวจยึดไว้เป็นหลักฐาน พร้อมนําของกลางทั้งหมดส่งพนักงานสอบสวน สภ.บ้านแพง เพื่อดําเนินการตามกฎหมายต่อไปภาพ/ข่าว/.ส.ปชส.นครพนม#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
|
23/2/2023
|
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
|
นครพนม
|
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนครพนม
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230223204141080
| null |
Subsets and Splits
No community queries yet
The top public SQL queries from the community will appear here once available.