NewsTitle
stringlengths 11
31.5k
⌀ | Detail
stringlengths 9
78.4k
⌀ | NewsDate
stringlengths 3
5.77k
⌀ | Region
stringclasses 48
values | Province
stringclasses 99
values | Department
stringclasses 211
values | Link_News
stringlengths 3
903
⌀ | v
stringclasses 812
values |
---|---|---|---|---|---|---|---|
จังหวัดแพร่จัดฝึกอบรม เพื่อสร้างอาชีพและรายได้ให้แก่เกษตรกรผู้ปลูกห้อม
|
วันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2566 เวลา 09.15 น. ที่โรงแรมแพร่นครา อําเภอเมืองแพร่ นายชุติเดช มีจันทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ มอบหมายให้นางสาวนิติยา พงษ์พานิช รองผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ เป็นประธานเปิดการฝึกอบรมเพื่อสร้างอาชีพและรายได้ให้แก่เกษตรกรผู้ปลูกห้อมของจังหวัดแพร่ ตามโครงการเพิ่มศักยภาพการผลิตสินค้าเกษตรคุณภาพ อาหารปลอดภัย การเสริมสร้างการใช้นวัตกรรมทางการเกษตร และการสร้างเครือข่ายทางการเกษตร กิจกรรมเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและพัฒนาผลิตภัณฑ์ผ้าหม้อห้อมสืบทอดภูมิปัญญาห้อมแพร่ โดยมีกลุ่มเป้าหมายการดําเนินโครงการ ประกอบด้วย เกษตรกร และเจ้าหน้าที่ จํานวน 60 คน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างอาชีพและรายได้ให้แก่เกษตรกรในจังหวัดแพร่ โดยผู้เข้าร่วมกิจกรรมจะได้รับการถ่ายทอดความรู้ในเรื่องสถานการณ์การตลาดห้อมสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ เทคโนโลยีการผลิตห้อม การขยายพันธุ์ห้อมการปลูกดูแลรักษาห้อมในสภาพธรรมชาติ การแปรรูปห้อมเปรอะ แนวทางการจัดทํา BCG Model ห้อม การผลิตห้อมรูปแบบโรงเรือน เทคโนโลยีและนวัตกรรมการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตห้อมและการแปรรูปห้อม เป็นต้น#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
|
14/2/2023
|
ภาคเหนือ
|
แพร่
|
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดแพร่
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230214132630924
| null |
ปศุสัตว์จันทบุรี ร่วมกับ ม.ราชมงคลจันทบุรี จัดกิจกรรมมอบความรักสู่สัตว์เลี้ยง เนื่องในวันวาเลนไทน์
|
วันนี้ (14 ก.พ.66) น.สพ.ชาติชาย ยิ้มเครือ ปศุสัตว์จังหวัดจันทบุรี ร่วมกับ ผศ.ดร.เทอดศักดิ์ ปุระมงคล คณบดีคณะเทคโนโลยีอุตสาหกรรมการเกษตร มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก วิทยาเขตจันทบุรี นายสมฤกษ์ ม่วงไหมทอง ปศุสัตว์อําเภอเขาคิชฌกูฏ สพ.ญ.ปิยากร ทองสุข นายสัตวแพทย์ปฏิบัติการ นางสาวประภาพรรณ ครองเคหา เจ้าพนักงานสัตวบาล เจ้าหน้าที่ในสังกัด นักศึกษาและคณาจารย์ จัดกิจกรรมมอบความรักสู่สัตว์เลี้ยง เนื่องในวันแห่งความรัก( วันวาเลนไทน์ ) ณ บริเวณจัดงานวันราชมงคลรักษ์เหลืองจันทร์ ครั้งที่ 21 โดยออกหน่วยบริการฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า ผ่าตัดทําหมันสัตว์เลี้ยง ให้ความรู้การป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าแก่ประชาชน พร้อมแจกของที่ระลึกให้เจ้าของสัตว์ เช่น ชามอาหารสัตว์ ปลอกคอ แชมพูอาบน้ํา รวมทั้ง ตรวจสุขภาพสัตว์ เพื่อสุขภาพที่ดีของสัตว์เลี้ยง และสร้างความปลอดภัยจากโรคพิษสุนัขบ้าต่อประชาชน ผลการปฏิบัติงานผ่าตัดทําหมันสุนัข แมว รวม 125 ตัว ฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า สุนัข แมว รวม 125 ตัว มีประชาชนให้ความสนใจนําสัตว์เลี้ยงมารับบริการจํานวนมาก#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
|
14/2/2023
|
ภาคตะวันออก
|
จันทบุรี
|
สวท.จันทบุรี
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230214172145066
| null |
สมุทรสาคร จัดกิจกรรม พี. เอส. พี. ปันรัก ถังหมักปุ๋ยอินทรีย์ เพื่อท้องถิ่นรักษ์โลก
|
วันนี้ (14 กุมภาพันธ์ 2566) เวลา 10.30 น. ที่ศูนย์การศึกษานอกระบบอําเภอเมืองสมุทรสาคร ตําบลท่าจีน อําเภอเมืองสมุทรสาคร นายณรงค์ รักร้อย ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร เป็นประธานในพิธีเปิดกิจกรรม พี. เอส. พี. ปันรัก ถังหมักปุ๋ยอินทรีย์ เพื่อท้องถิ่นรักษ์โลก โดยมี นางเตือนจิตร์ รักร้อย นายกเหล่ากาชาดจังหวัดสมุทรสาคร นายอาวุธ วิเชียรฉาย รองผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร นายอุดม ไกรวัตนุสสรณ์ นายก อบจ.สมุทรสาคร หัวหน้าส่วนราชการ นายรังสรรค์ เจียระนัย นายกเทศมนตรีตําบลท่าจีน รวมถึง ส.อบจ. สมุทรสาคร ผู้นําองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เครือข่าย ทสม. สมุทรสาคร ภาคเอกชน และประชาชนเข้าร่วมกิจกรรม สําหรับการจัดงานในครั้งนี้ ทาง บริษัท พี.เอส.พี.สเปเชียลตีส์ จํากัด (มหาชน) ได้ตระหนักถึงและแสดงออกถึงการสํานึกรักษ์ ห่วงใยสังคม สิ่งแวดล้อมเป็นสําคัญ จึงร่วมกับจังหวัดสมุทรสาคร จัดกิจกรรมในครั้งนี้โดยมีการส่งมอบถังขยะเปียกรักษ์โลก จํานวน 3,000 ใบ ให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในจังหวัดสมุทรสาคร จํานวน 10 แห่ง โดยอยู่ในพื้นที่อําเภอบ้านแพ้ว 9 แห่ง และพื้นที่อําเภอกระทุ่มแบน 1 แห่ง โดยมีเป้าหมาย เพื่อรณรงค์คัดแยกขยะมูลฝอยในชุมชน และปลูกฝังวินัยให้ประชาชน ลูกหลานเยาวชนคนรุ่นหลังให้เกิดจิตสํานึก ในการคัดแยกขยะอย่างจริงจังและต่อเนื่อง เพื่อให้เกิดผลเป็นรูปธรรม ต่อไป#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
|
14/2/2023
|
ภาคกลางและปริมณฑล
|
สมุทรสาคร
|
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสมุทรสาคร
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230214174553079
| null |
ชาวตำบลแม่งอน อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ ร่วมกันทำแนวกันไฟ แก้ไขปัญหาหมอกไฟป่า
|
ชาวตําบลแม่งอน อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ ร่วมกันทําแนวกันไฟ รวมระยะทางประมาณ 1 กิโลเมตร เพื่อ ป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าหมอกไฟป่าเช้าวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2566 ที่บริเวณป่าชุมชน หมู่ที่ 9 บ้านสันมะกอกหวาน ตําบลแม่งอน อําเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่ ว่าที่ร้อยตรี นพรัตน์ ศุภกิจโกศล นายอําเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่ เปิดโครงการป้องกันและแก้ไขปัญหาหมอกควันและไพปา ประจําปี 2566 เพื่อรณรงค์ให้ประชาชนเกิดความตระหนักถึงปัญหาหมอกควันที่มีผลกระทบต่อสุขภาพอนามัยในการดํารงชีวิตประจําวัน เศรษฐกิจ ธุรกิจและการท่องเที่ยว ส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชนในป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าหมอกควันจากการเผาทั้งนี้ ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์-เมษายน ของทุกปี ในพื้นที่ป่าของตําบลแม่งอน มักจะมีการลักลอบเผาป่าในพื้นที่ และในเขตอําเภอใกล้เคียง รวมถึงการเผาป่าของประเทศเมียนมา สาเหตุหลักที่ทําให้เกิดหมอกควัน ได้แก่ การเผาเศษหญ้าวัชพืชเพื่อเตรียมดินในการเพาะปลูก, การเผาเพื่อหาของป่าและล่าสัตว์ ทําให้มีหมอกควันจากการเผาปกคลุมในพื้นที่ ส่งผลให้มีค่ฝุ่นละอองเกินค่ามาตรฐาน และส่งผลกระทบต่อสุขภาพอนามัยของประชาชน, ทําให้ทัศนวิสัยการขับขี่ลดลง รวมทั้งมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจ ธุรกิจและการท่องเที่ยว องค์การบริหารส่วนตําบลแม่งอนจึงได้จัดกิจกรรมทําแนวกันไฟนี้ขึ้น โดยมีระยะทางประมาณ 1 กิโลเมตร โดยบูรณาการหน่วยงานทุกภาคส่วน ประกอบด้วย กํานัน, ผู้ใหญ่บ้าน, อุทยานแห่งชาติดอยผ้าห่มปก, ทหาร, โรงงานหลวงอาหารสําเร็จรูปที่ 1 ฝาง, สมาชิกสภา อบต.แม่งอน, ประชาชน และจิตอาสาทําความดีด้วยหัวใจ รวมกว่า 200 คน ร่วมกันทําแนวกันไฟ ในครั้งนี้#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
|
14/2/2023
|
ภาคเหนือ
|
เชียงใหม่
|
สวท.ฝาง
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230214160334009
| null |
อลงกรณ์ลงพื้นที่ เยี่ยมชมตลาดกลางอินทรีย์ท้ายเกาะ สามโคก ปทุมธานี ยกเป็นโมเดลตลาดกลางสินค้าเกษตรอินทรีย์
|
วันนี้ (14 ก.พ.66) เวลา 09.30 น. ที่ตลาดกลางเกษตรอินทรีย์ท้ายเกาะ ถนนปทุมธานี-เสนา ต.ท้ายเกาะ อ.สามโคก จ.ปทุมธานี นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และประธานคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนเกษตรกรรมยั่งยืน เดินทางเยี่ยมชมโครงการตลาดกลางเกษตรอินทรีย์ท้ายเกาะและปาฐกถาพิเศษ "ยุทธศาสตร์การขับเคลื่อนระบบเกษตรกรรมยั่งยืนของประเทศไทย" โดยมี ดร.อนุรักษ์ เรืองรอบ นายกสมาคมการค้าเกษตรกรรมยั่งยืนไทยรองประธานสภาเกษตรอินทรีย์ พี จี เอส แห่งประเทศไทย และอนุกรรมการขับเคลื่อนเกษตรกรรมยั่งยืน นายณฐกร สุวรรณธาดา คณะที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายพิศาล พงศาพิชณ์ เลขาธิการสํานักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ (มกอช.) นายอุดม ศรีสมทรง รองอธิบดีกรมการค้าภายใน นายวิเชียร สวาทยานนท์ เจ้าของตลาดโรงเกลือท้ายเกาะ ร่วมให้การต้อนรับดร.อนุรักษ์ เรืองรอบ นายกสมาคมการค้าเกษตรกรรมยั่งยืนไทย เปิดเผยว่า ตลอดระยะเวลากว่า 1 ปีที่ผ่านมา ผมมีโอกาสนําความรู้ด้านการบริหารธุรกิจมาทํางานพัฒนาธุรกิจเกษตรอินทรีย์ ผมเดินทางไปทั่วประเทศ พบปะกับพี่น้องเกษตรกร ผู้ประกอบการเกษตรอินทรีย์หน่วยงานภาคีต่างๆ มากมาย สิ่งที่ผมเห็นคือ Gap หรือช่องว่าง ที่พี่น้องเกษตรกรทําเกษตรอินทรีย์แล้วเข้าไม่ถึงตลาด และผมเห็นความต้องการผลผลิตเกษตรอินทรีย์จากผู้ประกอบการและผู้บริโภค แต่ก็สามารถเข้าถึงผลผลิตเกษตรอินทรีย์ได้น้อยมาก เกษตรกรทําอินทรีย์แล้วเข้าไม่ถึงมาตรฐาน ขาดความรู้การทําเกษตรอินทรีย์ที่เป็นวิทยาศาสตร์ ขาดความรู้ในการทําเกษตรอินทรีย์เชิงพาณิชย์ ขาดความรู้ที่จะแปรรูปผลผลิตเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่ม ขาดเงินทุนหมุนเวียนธุรกิจ ขาดการจัดการเชื่อมโยงผลผลิตซึ่งพอมีอยู่อย่างกระจัดกระจายทั่วประเทศ ขาดศูนย์รวบรวมและกระจายสินค้าเกษตรอินทรีย์ โดยรวมแล้วความท้าทายหลักของเกษตรกร คือมีจุดอ่อน ในด้านการประกอบการ มีขีดจํากัดด้านการตลาด จึงได้เริ่มบูรณาการความร่วมมือกับทุกภาคส่วนแบบประชารัฐ นําไปสู่การลงนาม "บันทึกข้อตกลงความร่วมมือสร้างสัมมาชีพเต็มพื้นที่โดยใช้พื้นที่เป็นตัวตั้ง สู่เศรษฐกิจฐานรากที่ยั่งยืนตามแนวทางประชารัฐ" กับ 35 หน่วยงาน เมื่อวันที่ 13 มกราคม 2559 และต่อมาได้จัดตั้งกลไกวิสาหกิจเพื่อสังคม หรือ Social Enterprise เพื่อส่งเสริมและขับเคลื่อนห่วงโซ่เกษตรอินทรีย์ ในรูปของสมาพันธ์เกษตรกรรมยั่งยืนจังหวัด และสหพันธ์เกษตรกรรมยั่งยืนแห่งประเทศไทย เพื่อขับเคลื่อนการรับรองแปลงเกษตรอินทรีย์แบบมีส่วนร่วม หรือ PGS-Participatory Guarantee System ภายใต้แบรนด์ SDGSPGS และกลไกธุรกิจในแต่ละจังหวัดเพื่อจัดการผลผลิตจากแปลงเกษตรอินทรีย์ที่ได้รับการรับรองสู่ตลาด และต่อมาได้ยกระดับจัดตั้งเป็นสมาคมการค้าเกษตรกรรมยั่งยืนไทย เพื่อการเชื่อมโยงธุรกิจเกษตรอินทรีย์ในเครือข่ายที่กว้างขวางและมั่นคงขึ้นนายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า ต้องขอชื่นชมสมาคมการค้าเกษตรกรรมยั่งยืน สภาเกษตรอินทรีย์ พี จี เอส แห่งประเทศไทย การมีตลาดกลางอินทรีย์ท้ายเกาะถือว่าเป็นต้นแบบของตลาดกลางอินทรีย์ของประเทศไทย ถือว่าเป็นสามโคกโมเดล เป็นความร่วมมือของภาคเอกชนภาครัฐและกลุ่มเกษตรกร ยุทธศาสตร์เกษตรกรรมยั่งยืน ยุทธศาสตร์เกษตรปลอดภัย ถือว่าเป็น 2 ใน 5 ยุทธศาสตร์ที่ ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มอบนโยบายไว้ และเกษตรอินทรีย์เป็น 1 ใน 5 สาขาของเกษตรกรรมยั่งยืน ซึ่งตรงนี้ตอบโจทย์อนาคต ซึ่งเราส่งเสริมให้คนไทยกินอาหารเป็นยาไม่ใช่กินยาเป็นอาหารเพราะฉะนั้นเกษตรอินทรีย์เป็นคําตอบที่ดีสําหรับอนาคต โดยมีนโยบายส่งเสริมให้ทุกจังหวัดรวมกรุงเทพมหานคร มีตลาดกลางเกษตรอินทรีย์ ทั้งนี้ ต้องขอบคุณทุกภาคส่วนที่ร่วมเป็นฟันเฟืองขับเคลื่อน ซึ่งทุกวันนี้สินค้าเกษตรอินทรีย์กําลังเป็นเทรนที่ทั่วโลกกําลังนิยมหลังจากโรคโควิดระบาด คนก็กังวลเรื่องสุขภาพ การขับเคลื่อนตลาดเกษตรอินทรีย์ในวันนี้เป็นสัญญาณที่ดี ที่จะก่อให้เกิดตลาดอินทรีย์แบบยั่งยืนใน 77จังหวัดด้านคุณวิเชียร สวาทยานนท์ เปิดเผยว่า ตนเองมีความตั้งใจจะสร้างให้เกิดความเจริญขึ้นในชุมชน โดยมุ่งหวังให้เป็นแหล่งรวมของสินค้า ตั้งแต่ระดับตําบล อําเภอ จนถึงระดับจังหวัด เพื่อส่งเสริมให้เกิดรายได้ที่มั่นคงและยั่งยืนแก่ชุมชน เรามีความมั่นใจว่าจะบรรลุวัตถุประสงค์ได้ไม่ยาก เนื่องจากปทุมธานีเป็นจังหวัดที่มีศักยภาพสูง ด้วยปัจจัยที่เอื้ออํานวยมากมาย อาทิ เป็นจังหวัดที่ไม่ไกลจากเมืองที่มีกําลังซื้อสูงอย่างกรุงเทพฯ และเป็นเส้นทางผ่านไปยังจังหวัดต่างๆ มากมาย ตลาดโรงเกลือท้ายเกาะให้ความสนใจด้านเทคโนโลยีที่มีการเปลี่ยนแปลงและพัฒนาอยู่ตลอดเวลา โดยมีเป้าหมายที่จะเป็นตลาดกลางซื้อขายสินค้าออนไลน์ให้กับร้านค้าในตลาด เพื่อโอกาสทางการค้าที่เท่าทันกับยุคสมัย และจะเริ่มรณรงค์อย่างต่อเนื่องให้เป็นตลาดไร้เงินสด ด้วยการรับชําระค่าเช่าและค่าสาธารณูปโภคผ่านระบบธุรกรรมออนไลน์ และตลาดกลางเกษตรอินทรีย์ (Organic World Thailand) แห่งนี้เกิดจากความร่วมมือกับสมาพันธ์เกษตรกรรมยั่งยืนไทย ในการรวบรวมสินค้าเกษตรอินทรีย์จากเกษตรกรทั่วประเทศ ซึ่งถือเป็นแห่งแรกในประเทศไทยที่เป็นศูนย์กลางการซื้อขายสินค้าเกษตรอินทรีย์แบบครบวงจร โดยจะเก็บค่าเช่า 1 บาท เป็นเวลา 24 เดือนสําหรับเกษตรกรที่นําสินค้ามาจําหน่ายสามารถติดต่อสอบถามได้ที่ สํานักงานตลาดกลางอินทรีย์ท้ายเกาะ อ.สามโคก จ.ปทุมธานี#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
|
14/2/2023
|
ภาคกลางและปริมณฑล
|
ปทุมธานี
|
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดปทุมธานี
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230214155732005
| null |
สมุทรสาครจัดกิจกรรมรักษ์สิ่งแวดล้อม ขยะกำพร้า ไม่อาภัพ
|
วันนี้ (14 กุมภาพันธ์ 2566) เวลา 09.00 น. ที่โรงเรียนเทศบาลวัดแหลมสุวรรณาราม (วัฒนรวมวิทยา) อ.เมือง จ.สมุทรสาคร นายณรงค์ รักร้อย ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร เป็นประธานเปิดกิจกรรม ขยะกําพร้า ไม่อาภัพ รักษ์สิ่งแวดล้อม ร่วมใจคัดแยก ขยะกําพร้า โดยมี นายอุดม ไกรวัตนุสสรณ์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสมุทรสาคร, นายชุมพล จันทร์จรัสวัฒนา นายกเทศมนตรีนครสมุทรสาคร,นายวัฒนา พรประเสริฐ ผู้อํานวยการสํานักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดสมุทรสาคร, เครือข่าย ทสม. คณะครูอาจารย์ เด็กนักเรียน โรงเรียนเทศบาลวัดแหลมสุวรรณาราม เข้าร่วมกิจกรรมเป็นจํานวนมาก สําหรับการจัดกิจกรรมขยะกําพร้า ไม่อาภัพ รักษ์สิ่งแวดล้อม ร่วมใจคัดแยก ขยะกําพร้า เป็นการร่วมมือระหว่างองค์การบริหารส่วนจังหวัดสมุทรสาคร สํานักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดสมุทรสาคร เทศบาลนครสมุทรสาคร และเทศบาลเมืองกระทุ่มแบน จัดกิจกรรมฯ ภายใต้โครงการบริหารจัดการขยะมูลฝอยและของเสียอันตรายชุมชนขึ้น เพื่อสนับสนุนให้เกิดการจัดการขยะกําพร้าอย่างถูกวิธี โดยเทศบาลฯ จะเป็นผู้เก็บรวบรวมขยะกําพร้าจากชุมชนในพื้นที่ และองค์การบริหารส่วนจังหวัดสมุทสาครจะเป็นผู้ประสานงานขอความอนุเคราะห์จากภาคเอกชนที่รับกําจัดขยะกําพร้า ได้แก่ บริษัท เอ็น 15 เทคโนโลยี จํากัด) เพื่อนําขยะกําพร้าไปเผาด้วยอุณหภูมิสูง ภายใต้การควบคุมมลพิษและระบบกําจัดไอเสีย โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อสนับสนุนให้มีการคัดแยกขยะกําพร้าเข้าสู่กระบวนการจัดการที่ถูกต้องตามหลักวิชาการ, เพื่อเสริมสร้างจิตสํานึกและการมีส่วนร่วมขอประชาชนในการแก้ปัญหาขยะมูลฝอยของจังหวัดสมุทรสาครในการลักลอบทิ้งขยะกําพร้าในพื้นที่,เพื่อลดปัญหามลพิษสิ่งแวดล้อมและปัญหาก๊าซเรือนกระจก จากการฝังกลบขยะขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น โดยกิจกรรมภายในงาน ประกอบด้วย การมอบป้ายประชาสัมพันธ์ "ขยะกําพร้า ไม่อาภัพ" ให้กับเทศบาลนครสมุทรสาคร เพื่อนําไปติดตั้งประชาสัมพันธ์ในโรงเรียนเพื่อรับขยะกําพร้าในชุมชนสังกัดเทศบาลนครสมุทรสาครทั้ง 6 แห่ง รวมทั้งบริเวณจุดรับขยะรวม จํานวน 40 ชุด และการรับมอบขยะกําพร้าซึ่งนักเรียนโรงเรียนเทศบาลวัดแหลมสุวรรณารามฯ ได้คัดแยกนํามาส่งมอบให้แก่องค์การบริหารส่วนจังหวัดสมุทรสาคร จํานวน 470 กิโลกรัม เพื่อนําไปจัดการอย่างถูกต้องตามหลักวิชาการต่อไป ตลอดจนมีการบรรยายให้ความเกี่ยวกับ "ขยะกําพร้า ขยะทะเล และผลกระทบต่อสัตว์ทะเลหายาก" อีกด้วย#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
|
14/2/2023
|
ภาคกลางและปริมณฑล
|
สมุทรสาคร
|
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสมุทรสาคร
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230214180616091
| null |
จังหวัดลำพูนตรวจวัดควันดำตามนโยบายของจังหวัดลำพูน ในการลดค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM.2.5
|
หน่วยงานราชการในจังหวัดลําพูน ร่วมนํารถยนต์ราชการตรวจวัดควันดํา ตามนโยบายของจังหวัดลําพูนในการลดค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM.2.5ที่ศาลากลางจังหวัดลําพูน นายสันติธร ยิ้มละมัย ผู้ว่าราชการจังหวัดลําพูน ได้เชิญชวนส่วนราชการ ภายในศาลากลางจังหวัดลําพูน นํารถยนต์ราชการตรวจวัดควันดํา ตามนโยบายของจังหวัดลําพูนในการลดค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM.2.5 โดยมีนางสุภมาส ลีลารักษ์สกุล ขนส่งจังหวัดลําพูน นายธนา นวลปลอด หัวหน้าสํานักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดลําพูน ร่วมตรวจเยี่ยมการงาน ของเจ้าหน้าที่ สํานักงานขนส่งจังหวัดลําพูน ที่บริการตรวจวัดควันดํารถหน่วยงานราชการ ตามมาตรการป้องกันและลดมลพิษที่ต้นทาง (แหล่งกําเนิด) และมาตรการด้านการขนส่งและการจราจร ด้วยเครื่องตรวจวัดควันดําระบบวัดความทึบแสงแบบพกพา สําหรับผลการตรวจวัดควันดํา ในครั้งนี้ มีรถยนต์จากส่วนราชการเข้ารับบริการ จํานวน ทั้งสิ้น 15 คัน ซึ่งไม่พบค่ามลพิษจากรถ (ควันดํา) เกินเกณฑ์ที่กฎหมายกําหนด ทั้งนี้เป็นการตรวจวัดค่ามลพิษ ควันดํา เพื่อลดค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM.2.5) ตั้งแต่ต้นทางในจังหวัดลําพูน นอกจากนี้จังหวัดลําพูนได้มีการมาตรการ และการรณรงค์เพื่อป้องกันแก้ไขปัญหาไฟป่าหมอกควัน และฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 อย่างต่อเนื่อง เพื่อสุขอนามัยที่ดีของประชาชนชาวจังหวัดลําพูน#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILANDนายคมศักดิ์ หล่อเถิน ข่าว/ภาพ 14 กุมภาพันธ์ 2566
|
14/2/2023
|
ภาคเหนือ
|
ลำพูน
|
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดลำพูน
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230214161221016
| null |
ถอดบทเรียน “หมูเถื่อน” วนเวียนเข้า-ออกไทย บิดเบือนกลไกราคา เกษตรกรต้องระวังตัว
|
ปี 2565 ที่ผ่านมา “หมูเถื่อน” ให้บทเรียนกับอุตสาหกรรมการเลี้ยงหมูของไทยไม่น้อย โดยเฉพาะความยากลําบากของเกษตรกรผู้เลี้ยง ทั้งจากความเสี่ยงของโรคระบาด ASF ที่มีโอกาสเกิดซ้ําได้ หากไม่ป้องกันเข้มแข็ง ทําให้ผลผลิตหมูยังลุ่มๆ ดอนๆ กลับไปยืนที่เดิม 18-19 ล้านตัวต่อปีไม่ได้ และจากราคาหมูเป็นหน้าฟาร์มที่ไม่สะท้อนต้นทุนที่แท้จริง เพราะผู้เลี้ยงร่วมมือภาครัฐช่วยตรึงราคาไว้ 100 บาทต่อกิโลกรัม เป็นปี แต่ตอนนี้ราคาลงมาต่ําสุดที่ 86 บาทต่อกิโลกรัม ต่ํากว่าต้นทุนเฉลี่ยที่ 90 บาทต่อกิโลกรัมด้วยซ้ํา เพราะถูก “หมูเถื่อน” นับเป็นการบิดเบือนราคา กระทบผู้เลี้ยงไทยต้องหวั่นใจไม่กล้านําหมูรุ่นใหม่เข้าเลี้ยง บทเรียนวันที่ 10 มกราคม 2565 ไทยประกาศพบโรคระบาด ASF เป็นเวลาครบ 1 ปี หลังการประกาศดังกล่าวที่ กรมปศุสัตว์ ระบุว่าปริมาณสุกรแม่พันธุ์และจํานวนสุกรขุนหายไป 50% ผลผลิตในปีที่ผ่านมาเหลือเพียง 15 ล้านตัวเท่านั้น ส่งผลให้ราคาในประเทศปรับขึ้นตามลําดับตั้งแต่เดือนมกราคม 2566 เป็นต้นมา และปรับลงบ้างหลังเจ้าหน้าที่ภาครัฐ เช่น กรมปศุสัตว์และกรมศุลกากร ร่วมกันตรวจสอบห้องเย็นทําให้สต๊อกระบายออกสู่ตลาด ราคาหมูเนื้อแดงเฉลี่ยเคยปรับไปสูงสุดถึง 210 บาทต่อกิโลกรัม ตามกลไกตลาด เวลานั้นร้านหมูปิ้ง-หมูสเต๊ะต้องขอปรับขึ้นราคาไม้ละ 1-2 บาท ร้านอาหารตามสั่งขอปรับราคาขึ้นจานละ 5 บาท จุดเริ่มต้น “หมูเถื่อน” ราคาเนื้อหมูแพงเป็นประวัติการณ์ในไทย คือ “โอกาสทอง” ของ “โจร” การปรับราคาหมูเนื้อแดงขึ้นตามอุปสงค์ อุปทาน กลายเป็นช่องทางของกระบวนการลักลอบนําเข้าหมูจากต่างประเทศ สบช่องเอาหมูนอกเข้ามาทํากําไรก้อนโต การลักลอบมาในรูปแบบของชิ้นส่วนแช่แข็งราคาต่ํา เพราะเมื่อรวมกับค่าขนส่งถึงไทยยังสามารถขายได้ในราคา 135-145 บาทต่อกิโลกรัม สัตวแพทย์ลงความเห็นว่าขายราคาต่ําขนาดนี้ได้ อาจเป็นหมูติดโรค มีเชื้อรา หรือ สารปนเปื้อนอื่นๆ โดยเฉพาะสารเร่งเนื้อแดงที่หลายประเทศ ทั้งสหรัฐอเมริกา และอีกหลายประเทศอนุญาตให้ใช้ในการเลี้ยงหมูได้อย่างเสรี ชิ้นส่วนหมูส่วนใหญ่ เป็นส่วนที่ประเทศต้นทางไม่นิยมบริโภค และต้องการกําจัดทิ้งอยู่แล้ว สรุปคือไทยรับ “หมูขยะ” มาบริโภคต่อนั่นเอง ”หมูเถื่อน” เข้ามาไทยได้อย่างไร ท่าเรือแหลมฉบังเป็นแหล่งพักขนาดใหญ่ผู้เลี้ยงหมูประสานเสียงชี้เป้าเดียวกันตั้งแต่เริ่มต้นว่า แหลมฉบังคือศูนย์กลางพักสินค้าหมูลักลอบ ก่อนจะกระจายไปจําหน่ายทั่วประเทศ มีต้นทางมาจากบราซิล สหรัฐฯ เดนมาร์ก เม็กซิโก สเปน เยอรมันนี เนเธอร์แลนด์ โดยกรมศุลกากร ยืนยันว่ามีการสําแดงเท็จเป็นอาหารทะเล หรือวัตถุดิบผลิตอาหารสัตว์ หรือซุกซ่อนมาในตู้คอนเทนเนอร์ทําให้ตรวจไม่พบ แม้จะติดตั้งเทคโนโลยีสแกนขั้นสูงสําหรับตู้สินค้า ในปีที่ผ่านมามีการจับกุมโดยกรมศุลกากร 5 ครั้ง และเป็นการจับกุมสินค้านอกท่าเรือทั้งสิ้น งานนี้ถ้าจับได้ที่ท่าเรือต้นทาง และส่งดําเนินคดีอย่างถึงที่สุด จะเป็นการช่วยเหลือเกษตรกร และประชาชนคนไทยได้เป็นอย่างมาก ”หมูเถื่อน” พักรอตามห้องเย็นเป้าหมายในหลายจังหวัดพบว่าห้องเย็นในหลายจังหวัด ทั้งสมุทรปราการ สมุทรสาคร นครปฐม และเชียงใหม่ เป็นแหล่งพักเพื่อรอการกระจายสินค้าตามคําสั่งซื้อ จนถึงขณะนี้ภาครัฐยังจําเป็นต้องตรวจสอบห้องเย็นเป้าหมายอย่างต่อเนื่อง กําหนดเป็นแผนปูพรมทุกจังหวัด กวาดล้างให้สิ้นซาก เพราะ “หมูเถี่อน” ยังมีอยู่จริง ที่สําคัญหมูผิดกฎหมายเหล่านี้ ไม่ผ่านการตรวจสอบคุณภาพตามมาตรฐานกรมปศุสัตว์ เกิดอะไรขึ้นกับผู้บริโภคหาผู้รับผิดชอบไม่เจอ ที่สําคัญการเคลื่อนย้ายหมูอมโรคเหล่านี้เป็นการแพร่โรคระบาดสัตว์ไปในพื้นที่ต่างๆ ทั่วไทยอย่างที่ยากจะควบคุม ทําให้โอกาสเกิดโรค โดยเฉพาะ ASF ซ้ํามีมาก ภาครัฐต้องตรวจจับจริง ครึ่งแรกปี 2565 ทั้งกรมปศุสัตว์และกรมศุลกากร จับกุมหมูเถื่อนร่วมกันได้ไม่เกิน 10 ครั้ง พอได้เป็นข่าวบ้าง แต่เทียบกับราคาที่ตกลงและเกษตรกรขายหมูหน้าฟาร์มไม่ได้ หมูเถื่อนขาย “ฉลุย” หมูไทยขาย “ชะลอ” ทั้งที่หมูไทยปลอดภัยกว่า 100 เท่า แต่ปล่อยให้หมูเถื่อนขายกันโจ๋งครึ่ม ผ่านช่องทางโซเชียล เฟสบุ๊ค ช้อปขายหมู ลูกค้าหลัก คือ ร้านหมูกระทะ ร้านอาหารตามสั่ง ร้านอาหารอีสาน หลังจากฤดูกาลโยกย้ายแต่งตั้งข้าราชการของภาครัฐ กรมปศุสัตว์ ได้จัดทัพใหม่ ส่งมือปราบปศุสัตว์ได้สนธิกําลังตํารวจ-ทหาร มาช่วยผู้เลี้ยงหมูไทยให้อยู่รอด เร่งจับห้องเย็นสัปดาห์ละ 1-2 แห่ง แทบทุกสัปดาห์ ราคาหมูไทยดีขึ้นจนสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ ออกมาขอบคุณ อธิบดีกรมปศุสัตว์คนใหม่ สมชวน รัตนมังคลานนท์ และเจ้าหน้าที่ ขอให้ดําเนินการต่อเนื่อง เพื่อสร้างโอกาสและความมั่นใจให้กับผู้เลี้ยงหมู ปราบหนัก “หมูเถื่อน” ขายยาก ขวากหนามเยอะ ขบวนการลักลอบนําเข้าหมู เริ่มเปลี่ยนรูปแบบการขายหนีการจับกุม หาช่องทางใหม่ ย้ายจากท่าเรือแหลมฉบัง ที่สินค้าออกจากท่าเรือลําบากมากขึ้น เพราะต้องผ่านการตรวจสอบเข้มงวด ออกมาได้ยังต้องเสี่ยงเจอด่านตรวจอีก จึงหันหัวเรือเข้าเวียดนาม กัมพูชา ลาว มาเลเซีย ลัดเลาะเข้าไทยตามตะเข็บชายแดนด้วยกองทัพมด ผ่านทางมุกดาหาร อุบลราชธานี สระแก้ว สงขลา เชียงราย ผลงานสําคัญของการปราบปรามอย่างหนักที่ปรากฎ คือ ต้นปี 2566 กรมปศุสัตว์ เป็นเจ้าภาพการฝังทําลายชิ้นส่วนเครื่องในและเนื้อสุกรของกลางมากถึง 723,786 กิโลกรัม คิดเป็นมูลค่า 123 ล้านบาท ถือเป็นจํานวนมากที่สุดในประวัติศาสตร์ แต่สมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ คาดการณ์ว่านั่นเป็นเพียง 5% ของหมูทั้งหมดที่มีการลักลอบเท่านั้น อย่างไรก็ตาม การทําลายซากครั้งนี้ ส่งสัญญาณไปถึงพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี สั่งการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องภาครัฐให้ปราบปรามเคร่งครัดและรัดกุม อย่าให้เกษตรกรและผู้บริโภคได้รับความเดือนร้อนจาก “หมูเถื่อน” จุดสําคัญที่สุดของการถอดบทเรียนหมูเถื่อนครั้งนี้ คือ ภาครัฐที่เกี่ยวข้องต้องผนึกกําลังกันปราบให้จริงจังและเข้มแข็งมากขึ้น ต้องตรวจจับ ดําเนินคดีกับผู้กระทําผิด เพื่อประโยชน์สูงสุดของผู้บริโภค ผู้เลี้ยงสุกร และประเทศชาติบทเรียนต่อไปที่ภาครัฐควรเดินหน้าต่อ คือ การจับกุมตัวการใหญ่ ที่ทําให้เกิดขบวนการนําเข้าหมูเถื่อนมาลงโทษสูงสุดตามกฎหมาย ทั้งจําทั้งปรับ ไม่ให้เกิดการเลียนแบบ เพราะโทษเกิดกับคนไทยและผู้เลี้ยงหมูทั้งประเทศ
|
14/2/2023
|
ภาคกลางและปริมณฑล
|
กรุงเทพมหานคร
|
สำนักพัฒนานโยบายและแผนการประชาสัมพันธ์
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230214163115037
| null |
หน่วยงานราชการในจังหวัดลำพูน ร่วมนำรถยนต์ราชการตรวจวัดควันดำ ตามนโยบายของจังหวัดลำพูนในการลดค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM.2.5
|
ที่ศาลากลางจังหวัดลําพูน นายสันติธร ยิ้มละมัย ผู้ว่าราชการจังหวัดลําพูน ได้เชิญชวนส่วนราชการ ภายในศาลากลางจังหวัดลําพูน นํารถยนต์ราชการตรวจวัดควันดํา ตามนโยบายของจังหวัดลําพูนในการลดค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM.2.5 โดยมีนางสุภมาส ลีลารักษ์สกุล ขนส่งจังหวัดลําพูน นายธนา นวลปลอด หัวหน้าสํานักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดลําพูน ร่วมตรวจเยี่ยมการงาน ของเจ้าหน้าที่ สํานักงานขนส่งจังหวัดลําพูน ที่บริการตรวจวัดควันดํารถหน่วยงานราชการ ตามมาตรการป้องกันและลดมลพิษที่ต้นทาง (แหล่งกําเนิด) และมาตรการด้านการขนส่งและการจราจร ด้วยเครื่องตรวจวัดควันดําระบบวัดความทึบแสงแบบพกพาสําหรับผลการตรวจวัดควันดําในครั้งนี้ มีรถยนต์จากส่วนราชการเข้ารับบริการ จํานวน ทั้งสิ้น 15 คัน ซึ่งไม่พบค่ามลพิษจากรถ (ควันดํา) เกินเกณฑ์ที่กฎหมายกําหนด ทั้งนี้เป็นการตรวจวัดค่ามลพิษ ควันดํา เพื่อลดค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM.2.5) ตั้งแต่ต้นทาง ในจังหวัดลําพูน นอกจากนี้จังหวัดลําพูนมีการมาตรการ และการรณรงค์เพื่อป้องกันแก้ไขปัญหา ไฟป่าหมอกควัน และฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 อย่างต่อเนื่อง เพื่อสุขอนามัยที่ดีของประชาชนชาวจังหวัดลําพูน#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
|
14/2/2023
|
ภาคเหนือ
|
ลำพูน
|
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดลำพูน
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230214185051106
| null |
บ้านนี้มีรัก ปลูกผักกินเอง เทศบาลตำบลตะกาง
|
พืชผักสวนครัว และพืชสมุนไพร หายาก เจริญเติบโตเต็มพื้นที่เทศบาลตําบลตะกาง อําเภอเมือง จังหวัดตราด เช่น กะเพรา มะเขือเปราะ มะกรูด มะนาว พริก ข่า ตะไคร้ เร่วหอม ดีปลี ว่านกาบหอย เนียนหอม เขยตายแม่ยายหักหมก ไพล เป็นต้น ทําให้พื้นที่นี้ จึงกลายเป็นแรงบันดาลใจในการเสริมสร้างความมั่นคงทางอาหาร ที่สามารถช่วยลดรายจ่าย ทั้งยังสามารถสร้างรายได้เข้าสู่ครอบครัว นายอภิเดช บุญล้อม นายกเทศมนตรีตําบลตะกาง จัดทําโครงการ บ้านนี้มีรัก ปลูกผักกินเอง” น้อมนําพระราชดําริสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี“ ที่ให้ประชาชนมีความมั่นคงทางอาหาร โดยสร้างเป็นแหล่งเรียนรู้ให้กับประชาชนผู้ที่สนใจ อีกทั้งยังเป็นการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดําริสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เพราะพืชผักเหล่านี้มีความหลากหลาย และสามารถเก็บเมล็ดพันธุ์เอาไว้เป็นความมั่นคงระยะยาวให้กับเพื่อนบ้าน หรือขยายไปยังพื้นที่เพาะปลูกอื่นๆ พืชบางชนิดสามารถแยกหน่อ เพื่อขยายพันธุ์ อีกทั้งยังได้บูรณาการในเรื่องการจัดการปัญหาขยะ อย่างเศษกิ่งไม้ใบไม้ ขี้เลื่อย กระสอบ นํามากองทับถมไว้ให้เกิดการย่อยสลายตามธรรมชาติแล้วนํามาปลูกพืช โดยพืชสมุนไพรเฉพาะถิ่น เร่วหอม ที่มีมากในพื้นที่ จังหวัดจันทบุรีและตราด สามารถขยายไปปลูกตามบ้านเรือน โดยใช้เศษวัสดุเหลือใช้ กระสอบ และเศษใบไม้ ขี้เลื่อย สะดวกและง่ายต่อการเก็บผลผลผลิตด้วย
|
14/2/2023
|
ภาคตะวันออก
|
ตราด
|
สวท.ตราด
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230214174142076
| null |
สำนักงานขนส่งจังหวัดปราจีนบุรีปฏิบัติงานตามแผนปฏิบัติการป้องกันแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ตรวจวัดควันของรถตามกฎหมายว่าด้วยการขนส่งทางบกจำนวน 34 คัน พบรถที่มีควันดำเกินค่ามาตรฐาน 1 คัน
|
สํานักงานขนส่งจังหวัดปราจีนบุรี ปฏิบัติงานตามแผนปฏิบัติการป้องกันแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ตรวจวัดควันของรถตามกฎหมายว่าด้วยการขนส่งทางบกจํานวน 34 คัน พบรถที่มีควันดําเกินค่ามาตรฐาน 1 คัน วันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2566 ว่าที่ร้อยตรี ชาญชัย ก้อนสันทัด ขนส่งจังหวัดปราจีนบุรี ได้มอบหมายให้ผู้ตรวจการ สํานักงานขนส่งจังหวัดปราจีนบุรีไปปฏิบัติงานตามแผนปฏิบัติการแก้ไขปัญหาฝุ่นละออง PM 2.5 ตามนโบายของกรมการขนส่งทางบก และดําเนินงานตามโครงการป้องกันและปราบปรามรถผิดกฎหมาย บริเวณทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 33 ตําบลบ้านนา อําเภอกบินทร์บุรี จังหวัดปราจีนบุรี โดยได้ตรวจสอบรถคนขับรถและพบการกระทําความผิด ดังนี้ (1) ตรวจสอบรถ/คนขับรถตามกฎหมายว่าด้วยการขนส่งทางบกจํานวน 133 คัน/ราย พบการกระทําความผิด จํานวน 16 ราย โดยออกคําสั่งผู้ตรวจการ จํานวน 11 ราย ทําการเปรียบเทียบปรับจํานวน 5 ราย (2) ตรวจสอบรถ/คนขับรถตามกฎหมายว่าด้วยรถยนต์ จํานวน 63 คัน/ราย พบการกระทําความผิดจํานวน 14 ราย โดยได้ออกคําสั่งผู้ตรวจการ จํานวน 9 ราย ทําการเปรียบเทียบปรับ จํานวน 5 ราย (3) สุ่มตรวจวัดควันของรถตามกฎหมายว่าด้วยการขนส่งทางบกจํานวน 34 คัน พบรถที่มีควันดําเกินค่ามาตรฐาน 1 คัน โดยได้ทําการพ่นห้ามใช้และออกคําสั่งนายทะเบียน#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND#ขนส่งจังหวัดปราจีนบุรี
|
14/2/2023
|
ภาคกลางและปริมณฑล
|
กรุงเทพมหานคร
|
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดปราจีนบุรี
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230214201701133
| null |
เกษตรจังหวัดนครพนม “เปิดคลินิกพืช” ร่วมให้บริการโครงการจังหวัดเคลื่อนที่ “บริการการเกษตร พร้อมมอบต้นกล้าผักสวนครัว สร้างความมั่นคงด้านอาหารในชุมชนอำเภอวังยาง
|
วันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2566 ที่วัดบ้านโนนฮัง หมู่ที่ 3 บ้านโนนฮัง ตําบลโคกสี อําเภอวังยาง จังหวัดนครพนม สํานักงานเกษตรจังหวัดนครพนม ร่วมกับสํานักงานเกษตรอําเภอวังยาง “เปิดคลินิกพืช” ร่วมให้บริการในโครงการจังหวัดเคลื่อนที่ บําบัดทุกข์ บํารุงสุข สร้างรอยยิ้มให้ประชาชน โดยบริการด้านการเกษตรกับเกษตรกรในพื้นที่ พร้อมกับมอบต้นกล้าพืชผักสวนครัวหลากหลายชนิด เพื่อให้เกษตรกรนําไปปลูกในพื้นที่ของตนเอง เป็นการสร้างความมั่นคงด้านอาหารให้กับตรัวเรือนและชุมชน โดยมีนายวันชัย จันทร์พร ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม เป็นประธานเปิดงาน ภายในงานมีหน่วยงานภาครัฐและเอกชนร่วมให้บริการต่าง ๆ ซึ่งมีประชาชนในพื้นที่เข้ารับบริการอย่างหนาแน่นนางสาวกัญณฐา อภินนท์ธนา เกษตรจังหวัดนครพนม เปิดเผยว่า สําหรับกิจกรรมในวันนี้ทางสํานักงานเกษตรจังหวัดนครพนม ได้ร่วมบูรณาการกับสํานักงานเกษตรอําเภอวังยาง ในการร่วมให้บริการด้านการเกษตรในพื้นที่ เช่น การใช้สารชีวภัณฑ์ ป้องกันกําจัดศัตรูพืช การทําการเกษตรปลอดการเผา และการสร้างแหล่งอาหารที่มั่นคงของชุมชน โดยได้มอบสารชีวภัณฑ์ เช่น ไตรโครเดอร์มา และต้นกล้าพืชผัก เช่น พริก มะเขือเปราะ คื่นฉ่าย ต้นแค หอมแบ่ง เป็นต้น ให้กับเกษตรกรและประชาชนที่เข้าร่วมภายในงานนําไปปลูกภายในบ้าน ซึ่งจะช่วยลดค่าใช้จ่าย และสามารถเรียนรู้การปลูกพืชผักที่ปลอดภัยได้ด้วยตนเอง และต่อยอดความรู้ไปสู่การประกอบอาชีพในอนาคต ซึ่งมุ่งหวังว่าเกษตรกรต้องสามารถพึ่งพาตนเองได้อย่างมั่นคง เกิดชุมชนที่เข้มแข็ง สําหรับคลินิกพืช จะเปิดให้บริการในทุกครั้งพร้อมกับการจัดโครงการจังหวัดเคลื่อนที่ในพื้นที่เป้าหมาย ซึ่งพี่น้องเกษตรกรที่สนใจสามารถเข้าไปรับบริการและสามารถสอบถามข้อมูลด้านการเกษตรต่างๆ ได้อย่างรวดเร็วนอกจากนี้ภายในงานยังมีการจัดกิจกรรม Zero Burn เกษตรปลอดการเผา ที่เป็นการบณูณาการร่วมกับภาคเอกชน ซึ่งมีการสาธิตการไถกลบตอฟาง การหว่านปอเทือง การอัดฟาง และการบริโดรนด้านการเกษตร ซึ่งจัดโดยบริษัทคูโบต้า เลาเจริญนครพนม จํากัด เป็นการส่งเสริมและสร้างจิตสํานึกให้กับเกษตรกรในการหยุดเผาในพื้นที่การเกษตร พร้อมสาธิตการใช้วัสดุการเกษตรสร้างรายได้เสริมให้แก่เกษตรกร เพื่อเป็นการถ่ายทอดความรู้และพัฒนาศักยภาพเกษตรกร ให้มีความรู้ความเข้าใจในการทําเกษตรปลอดการเผา และเป็นการทําการเกษตรที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ซึ่งมีเกษตรกรในพื้นที่ให้ความสนใจเข้าร่วมกิจกรรมเป็นจํานวนมาก#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
|
14/2/2023
|
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
|
นครพนม
|
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนครพนม
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230215010504186
| null |
อ.หนองเรือ จ.ขอนแก่น บูรณาการกำลังร่วมกันดับไฟป่า ที่ไหม้ลุกลามจากเขาภูเม็ง เป็นบริเวณกว้าง
|
นายกองโท พิชัย วันตา นายอําเภอหนองเรือ/หน.ชุดเคลื่อนที่เร็ว อ.หนองเรือ พร้อมด้วย นายสมชัย ทองสาย หน.อุทยานแห่งชาติน้ําพอง นายวรวุฒิ หล้าทุม นายกเทศมนตรีตําบลยางคํา ผู้ใหญ่บ้าน นางิ้ว ม.5,12 สมาชิก สท.ทต.ยางคํา สมาชิก อปพร. จนท.ดับเพลิงเทศบาลตําบลยางคํา สมาชิก อส.กองร้อย อส.อ.หนองเรือ ที่ 12 และพี่น้องประชาชน ได้ร่วมกันดับไฟป่า ที่ไหม้ลุกลามจากเขาภูเม็ง เป็นบริเวณกว้าง และไหม้ลุกลามลงมาข้างล่าง จนถึงแนวเชิงเขาบริเวณที่ดินราษฎร บ้านนางิ้ว ม.12 อาศัยอยู่นายกองโท พิชัย วันตา นายอําเภอหนองเรือ เปิดเผยว่า ผลการปฏิบัติการในครั้งนี้ สามารถดับไฟไม่ให้ลุกลามได้ สําหรับบนเขาภูเม็ง ได้ประสานเจ้าหน้าที่ชุดลาดตระเวนเชิงเขา Smart Patrol ของหน่วยพิทักษ์ฯ ที่ นพ.5(ห้วยเข) และ นพ.2(ภูเม็ง) ทําการดับไฟป่าอยู่พื้นที่ด้านบนป่าภูเม็ง และได้ประสานขอกําลังจากหน่วยฯ ไฟป่าน้ําพอง มาช่วยเหลือปฏิบัติการอีกชุด พร้อมทั้งได้กําชับชุดเคลื่อนเร็วตําบลยางคําเฝ้าระวังการลักลอบเผาในที่โล่งอย่างใกล้ชิด หากเกิดเหตุให้เข้าดับไฟทันที เพื่อไมาให้ลุกลามออกไปจนส่งผลกระทบกับประชาชนและพื้นที่ป่า#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
|
14/2/2023
|
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
|
ขอนแก่น
|
สวท.ขอนแก่น
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230215002036175
| null |
ลพบุรีเข้ม ตรวจจับ ปรับจริง ห้ามใช้รถควันดำ เพื่อลดฝุ่น PM2.5
|
วานนี้ 14 กุมภาพันธ์ 2566 นายธีระพงษ์ วิมลจิตรานนท์ ผู้อํานวยการสํานักงานสิ่งแวดล้อมและควบคุมมลพิษที่ 7 และเจ้าหน้าที่สํานักงานสิ่งแวดล้อมและควบคุมมลพิษที่ 7 (สระบุรี) นํากําลังเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานตรวจสอบและห้ามใช้รถยนต์ควันดําในพื้นที่จังหวัดลพบุรี ณ จุดตรวจสอบตรวจจับรถควันดํา บริเวณริมถนนสายสระบุรี-หล่มสัก หน้าหน่วยบริการประชาชนตํารวจทางหลวงพัฒนานิคม ตําบลดีลัง อําเภอพัฒนานิคม จังหวัดลพบุรี โดยร่วมกับสํานักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดลพบุรี สํานักงานขนส่งจังหวัดลพบุรี สถานีตํารวจภูธรพัฒนานิคม และเทศบาลตําบลดีลัง โดยผลการปฏิบัติเรียกรถยนต์ตรวจสอบ จํานวน 76 คัน ควันดําเกินค่ามาตรฐาน จํานวน 3 คัน แบ่งออกเป็น รถยนต์ตาม พ.ร.บ.สิ่งแวดล้อมฯ จํานวน 31 คัน ไม่พบควันดําเกินค่ามาตรฐาน และรถยนต์ตาม พ.ร.บ. ขนส่งฯ จํานวน 45 คัน พบควันดําเกินค่ามาตรฐาน จํานวน 3 คัน พนักงานเจ้าหน้าที่ออกคําสั่งห้ามใช้รถชั่วคราว ทั้ง 3 คัน ทั้งนี้ เจ้าของรถที่โดนคําสั่งห้ามใช้รถชั่วคราวจะต้องนํารถไปปรับปรุงแก้ไขให้ค่าควันดําเป็นไปตามมาตรฐาน ภายใน 30 วัน หลังจากนั้นให้นํารถไปปลดคําสั่งได้ที่สํานักงานขนส่งจังหวัดทั่วประเทศต่อไป ข่าว : สํานักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดลพบุรี#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
|
15/2/2023
|
ภาคกลางและปริมณฑล
|
ลพบุรี
|
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดลพบุรี
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230215093840235
| null |
ชื่นชมตลาดจริงใจ ของชาวจังหวัดเชียงใหม่ ตอบโจทย์จำหน่ายผักและผลไม้ปลอดภัย มาตรฐาน GAP และอินทรีย์
|
นายระพีภัทร์ จันทรศรีวงศ์ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร เปิดเผยว่า กรมวิชาการเกษตร และ จังหวัดเขียงใหม่ ได้มีการลงนามบันทึกข้อตกลงว่าด้วยความร่วมมือเพื่อขับเคลื่อนเกษตรปลอดภัย เพื่อขับเคลื่อนเกษตรปลอดภัย ยกระดับการผลิตสินค้าที่มีคุณภาพมาตรฐานและส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงเกษตร ของจังหวัดเชียงใหม่ โดย Tops Green ร้านจําหน่ายผักและผลไม้ปลอดภัย ตามมาตรฐาน GAP และ Organic Thailand ที่จริงใจมาร์เกตเชียงใหม่ ถือได้ว่าเป็นตลาดที่มีจุดขายคือ เป็นตลาดที่จําหน่ายสินค้าและผลิตผลทางการเกษตรที่ปลอดภัย ผัก ผลไม้ที่นํามาจําหน่าย จะต้องมีความปลอดภัยตามมาตรฐานของผักออร์แกนิคและผักปลอดภัย เนื่องจากผู้ก่อตั้งได้มีวัตถุประสงค์ที่จะส่งเสริมให้เกษตรกรลดการใช้สารเคมีในด้านเกษตรกรรม ทําให้ตลาดแห่งนี้มีเอกลักษณ์โดดเด่นในเรื่องของความปลอดภัยและคุณภาพของผลิตผลทางด้านการเกษตร และสินค้าก็มักจะจําหน่ายโดยตัวเกษตรกรเองเป็นส่วนใหญ่ รวมถึงยังสามารถหาซื้อผักพื้นเมืองที่หาซื้อได้ยาก ซึ่งนอกจากผลิตผลทางการเกษตรแล้วตลาดจริงใจก็ยังมีการจําหน่ายสินค้าแฮนด์เมด สินค้าพื้นเมือง ที่ทํากันขึ้นมาเอง มีความสวยงามและมีเอกลักษณ์ เน้นการขายไอเดีย ทําให้เป็นตลาดที่มีผู้มาจับจ่ายใช้สอยทั้งคนในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ รวมถึงนักท่องเที่ยวจากทั้งในและต่างประเทศ ถือได้ว่าเป็นตลาดที่มีความนิยมสูงและเป็นช่องทางการตลาดสําหรับเกษตรกรผู้ที่มีความตั้งใจที่จะผลิตพืชผักและผลไม้ที่มีความปลอดภัย และสามารถจําหน่ายได้ในราคาที่เป็นที่พึงพอใจจากความร่วมมือในครั้งนี้ จึงสามารถที่จะขยายผลและประชาสัมพันธ์ให้กับเกษตรกรชาวเชียงใหม่และจังหวัดใกล้เคียง มีความตระหนักและเห็นถึงความสําคัญของการรับรองแหล่งผลิตพืชให้ได้รับเครื่องหมาย GAP และอินทรีย์ของกรมวิชาการเกษตรได้มากขึ้น เป็นการสนับสนุนให้มีการขับเคลื่อนเกษตรปลอดภัยและเกษตรอินทรีย์ ซึ่งถือเป็นภารกิจสําคัญที่หน่วยงานจะต้องร่วมกันดําเนินงาน เพื่อให้ผู้บริโภคได้บริโภคอาหารที่สะอาดปลอดภัย ปราศจากสารพิษและสารปนเปื้อน และส่งเสริมการท่องเที่ยว เนื่องจากจังหวัดเชียงใหม่เป็นเมืองที่มีศักยภาพ และมีความโดดเด่นด้านการท่องเที่ยวที่หลากหลาย
|
15/2/2023
|
ภาคกลางและปริมณฑล
|
กรุงเทพมหานคร
|
Radio-สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230215102945250
| null |
สำนักงานปศุสัตว์จังหวัดเลย ดำเนินโครงการฝึกอบรมเกษตรกร โครงการรักษ์น้ำเพื่อพระแม่ของแผ่นดิน (ลุ่มน้ำหมัน) ปีงบประมาณ 2566 หลักสูตร "การสร้างกระบวนการเรียนรู้แบบมีส่วนร่วม"
|
ดร.สุวัฒน์ มัตราช ปศุสัตว์จังหวัดเลย มอบหมายให้กลุ่มส่งเสริมและพัฒนาการปศุสัตว์ สํานักงานปศุสัตว์จังหวัดเลย ร่วมกับสํานักงานปศุสัตว์อําเภอด่านซ้าย และศูนย์พัฒนาปศุสัตว์ตามพระราชดําริ อําเภอด่านซ้าย จังหวัดเลย - ดําเนินโครงการฝึกอบรมเกษตรกร โครงการรักษ์น้ําเพื่อพระแม่ของแผ่นดิน (ลุ่มน้ําหมัน) ปีงบประมาณ 2566 หลักสูตร "การสร้างกระบวนการเรียนรู้แบบมีส่วนร่วม" เกษตรกรเข้ารับการอบรมฯ จํานวน 10 ราย ในหัวข้อ - หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง - ประสบการณ์การดําเนินงานของกลุ่มเกษตรกร - หลัก VRIO Model และกําหนดแผนการผลิตเพื่อการบริโภคและสร้างรายได้ในอาชีพ ณ ศาลาประชาคมบ้านหมากแข้ง บ้านหมากแข้ง หมู่ที่ 4 ตําบลกกสะทอน อําเภอด่านซ้าย จังหวัดเลย#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
|
15/2/2023
|
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
|
เลย
|
สวท.ด่านซ้าย
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230215094820237
| null |
กอนช. เฝ้าระวังฝนฟ้าคะนองทางตอนบนของประเทศบางพื้นที่ พร้อมระวังระดับน้ำทะเลหนุนสูงในพื้นที่ลุ่มต่ำริมปากแม่น้ำช่วง 19 – 22 ก.พ.
|
กองอํานวยการน้ําแห่งชาติ (กอนช.) เฝ้าระวังฝนฟ้าคะนองทางตอนบนของประเทศบางพื้นที่ พร้อมระวังระดับน้ําทะเลหนุนสูงในพื้นที่ลุ่มต่ําริมปากแม่น้ําช่วงวันที่ 19 – 22 กุมภาพันธ์ นายสุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสํานักงานทรัพยากรน้ําแห่งชาติ (สทนช.) ในฐานะรองผู้อํานวยการกองอํานวยการน้ําแห่งชาติ (กอนช.) กล่าวถึงสถานการณ์น้ําภาพรวมของประเทศวันนี้ (15 ก.พ.66) ว่า ภาพรวมประเทศไทยมีพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางแห่ง อาจมีฟ้าผ่าเกิดขึ้นได้ แล้วอุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศาเซลเซียส กับมีลมแรง ช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมามีฝนตกปานกลางถึงหนักบริเวณ จ.อํานาจเจริญ , ยโสธร และชลบุรี เนื่องจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงในระยะนี้ ส่งผลให้ฝุ่นละอองในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือเกิดการสะสมฝุ่นละอองและหมอกควันอยู่ในเกณฑ์ปานกลางถึงมาก เพราะการระบายอากาศไม่ดี ส่วนภาคอื่นๆมีฝุ่นละอองสะสมอยู่ในเกณฑ์เล็กน้อยถึงปานกลาง รวมทั้ง ต้องเฝ้าระวังระดับน้ําทะเลหนุนสูงในพื้นที่ลุ่มต่ําริมปากแม่น้ํา หลังกรมอุทกศาสตร์ กองทัพเรือ และสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ํา (องค์การมหาชน) ได้คาดการณ์น้ําทะเลหนุนสูงช่วงวันที่ 19 – 22 กุมภาพันธ์ โดยระดับน้ําทะเลหนุนจะขึ้นสูงสุดในวันที่ 20 กุมภาพันธ์อาจก่อให้เกิดน้ําเค็มรุกตัวเข้าสู่บริเวณปากแม่น้ําในพื้นที่ลุ่มต่ําริมชายฝั่งทะเลอ่าวไทย ส่งผลกระทบต่อคุณภาพน้ําใช้อุปโภค-บริโภค และการใช้น้ําเพื่อการเกษตร จึงเน้นย้ําให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกันบริหารจัดการน้ําและควบคุมค่าความเค็มบริเวณแม่น้ําเจ้าพระยา และเตรียมพร้อมรับมือและระวังน้ําเค็มรุกต่อเนื่อง เพื่อแก้ปัญหาคุณภาพน้ําช่วงน้ําทะเลหนุนตลอดช่วงแล้งนี้
|
15/2/2023
|
ภาคกลางและปริมณฑล
|
กรุงเทพมหานคร
|
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230215095155239
| null |
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ยอมรับ ปัญหาฝุ่น pm2.5 ภาคเหนือหนักหลายจังหวัด
|
นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวถึงการแก้ปัญหาฝุ่น pm2.5 โดยเฉพาะพื้นที่ภาคเหนือที่ได้รับผลกระทบหนัก ว่า ได้กําชับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปแล้ว เพราะเป็นไปตามคาดการณ์ จากปีนี้ที่จะเริ่มภาวะแล้งทําให้มีการเผามากขึ้น ต่างจากช่วง 2 ปีที่ผ่านมาคือ 2564 และ 2565 เจอปรากฎการณ์ลานีญา มีฝนตกเยอะทําให้มีความชื้นในพื้นที่สูง โดยขณะนี้ทั้งกรมป่าไม้และกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช จัดกําลังเจ้าหน้าที่ลงไปตรวจสอบดูแลเข้มงวด ไม่ให้ประชาชนเผาป่า รวมถึงใช้เฮลิคอปเตอร์ขนน้ําจากจุดต่างๆ มาบรรเทาสถานการณ์ไฟป่า แต่สิ่งสําคัญคือ ต้องขอความร่วมมือประชาชนในพื้นที่หยุดการเผา ทั้งนี้จากการศึกษาของนักวิชาการ ได้สะท้อนให้เห็นว่า พื้นที่ที่มีการเผา กับกําลังเจ้าหน้าที่แตกต่างกันมาก ดังนั้นถ้าจะแก้ปัญหา pm2.5 เราจะต้องใช้ความเข้าใจความอดทนและใช้เวลา แต่วันนี้อยากขอความกรุณาประชาชนในช่วงมีสถานการณ์หมอกควัน อย่าเพิ่งเผา ให้เว้นช่วงไปก่อน เพื่อให้สภาพอากาศลดปริมาณความหนาแน่นไปก่อน เพราะตอนนี้ในภาคเหนือมีจํานวนคนป่วย มะเร็งทางเดินหายใจเพิ่มมากขึ้น ผลกระทบเหล่านั้นไม่ได้เกิดขึ้นกับใคร เพราะเมื่อท่านเผาแล้ว คนที่ท่านทําร้ายที่สุดก็ คือคนที่ท่านรัก พร้อมย้ําว่ากระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จะดําเนินการตามกฎหมายอย่างเข้มงวด หากจับกุมคนที่เผาป่าได้ แต่ในทางปฏิบัติเวลาเดินเข้าไปในป่านับแสนไร่ จะหาแค่คนๆ เดียวที่เผา โดยใช้เจ้าหน้าที่เป็นร้อยไม่ใช่เรื่องง่าย จึงขอให้ประชาชนตระหนักและรับรู้ถึงปัญหาที่เกิดผลกระทบระยะยาวนายวราวุธ ยังระบุว่า สถานการณ์ pm2.5 ที่หนักและส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตของประชาชน เห็นด้วยที่จะให้โรงเรียน ในจุดที่มีค่าฝุ่นสูง อาจจะพิจารณาหยุดเรียนไปก่อน หรืองดทํากิจกรรมกลางแจ้ง มาใช้ห้องที่เป็นเซฟโซน จนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย แต่ทั้งนี้อีกปัญหาคือ การเดินทางจากบ้านมาโรงเรียน ก็เจอปัญหาสภาพอากาศด้วยเช่นกัน จึงเน้นย้ําขอให้สวมใส่หน้ากากอนามัยเพื่อป้องกัน แม้จะป้องกันได้ในระดับหนึ่ง เพราะหัวใจสําคัญที่เป็นต้นตอของ pm2.5 ที่เกิดขึ้นมาจากการเผา นี่เป็นสิ่งที่ทุกคนต้องร่วมมือกัน
|
15/2/2023
|
ภาคกลางและปริมณฑล
|
กรุงเทพมหานคร
|
Radio-สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230215104447258
| null |
ค่าฝุ่น PM 2.5 ในภาคเหนือยังสูงในระดับสีแดง 20 พื้นที่ โดยมี 3 พื้นที่สูงมากกว่า 200 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ส่วน กทม.และปริมณฑลต้องเฝ้าระวังฝุ่นสูงขึ้น 18 - 20 ก.พ.นี้
|
ค่าฝุ่น PM 2.5 ในภาคเหนือยังสูงในระดับสีแดง 20 พื้นที่ โดยมี 3 พื้นที่สูงมากกว่า 200 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ส่วนกรุงเทพมหานครและปริมณฑลต้องเฝ้าระวังฝุ่นสูงขึ้นวันที่ 18 - 20 กุมภาพันธ์นี้ นายปิ่นสักก์ สุรัสวดี อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) ในฐานะประธานศูนย์แก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศ (ศกพ.) กล่าวว่า วันนี้ (15 ก.พ.66) ค่าฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM 2.5) ในพื้นที่ภาคเหนือ 17 จังหวัด พบหลายพื้นที่ค่าฝุ่น PM 2.5 ยังสูงต่อเนื่อง ทั้งในระดับสีส้ม 9 พื้นที่ และระดับสีแดง 20 พื้นที่ โดยพบมีค่าสูงในระดับสีแดงมีผลกระทบต่อสุขภาพมากกว่า 213 – 264 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร บริเวณ ต.หางดง อ.ฮอด , ต.ช่างเคิ่ง อ.แม่แจ่ม และ ต.เมืองนะ อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ // ต.ลี้ อ.ลี้ จ.ลําพูน จากการเผาในที่โล่งและการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศที่มีผลต่อการสะสมของหมอกควัน พร้อมขอความร่วมมือประชาชนงดการการบริหารจัดการเชื้อเพลิงจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลายลง โดยต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษถึงวันที่ 22 กุมภาพันธ์นี้ ขณะที่ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ พบหลายพื้นที่ค่าฝุ่น PM 2.5 ลดลงมาก ยกเว้น ต.กุดป่อง อ.เมือง จ.เลย ยังสูงในระดับสีส้มเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ อยู่ที่ 51 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร สําหรับกรุงเทพมหานครและปริมณฑลคุณภาพอากาศดีมากถึงเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ โดยค่าฝุ่นยังคงดีต่อเนื่องในทุกพื้นที่ จากสภาพอากาศเปิด มีฝนตก และมีลมพัดช่วยลดการสะสมของฝุ่นลง ยกเว้นบริเวณริมถนนกาญจนาภิเษก เขตบางขุนเทียน อยู่ในระดับสีส้มเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ จากสภาพการจราจรที่ค่อนข้างหนาแน่น ทั้งนี้ ศูนย์แบบจําลองคุณภาพอากาศและภูมิศาสตร์สารสนเทศ กรมควบคุมมลพิษ (คพ.) ได้คาดการณ์สถานการณ์ฝุ่นละออง PM 2.5 ช่วงวันที่ 18 – 20 กุมภาพันธ์ มีแนวโน้มฝุ่นละอองขึ้นสูงได้บางพื้นที่ โดยเฉพาะวันที่ 18 กุมภาพันธ์ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ ทั้งนี้ สามารถติดตามสถานการณ์คุณภาพอากาศได้ทางแอปพลิเคชั่น Air4Thai และ AirBKK
|
15/2/2023
|
ภาคกลางและปริมณฑล
|
กรุงเทพมหานคร
|
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230215101623248
| null |
แจ้งเตือนหลายพื้นที่ทั่วประเทศเกิดฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง ลูกเห็บตก จากอากาศที่แปรปรวนจนถึง 17 กุมภาพันธ์นี้
|
ว่าที่ร้อยตรี ธนะสิทธิ์ เอี่ยมอนันชัย รองอธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา กล่าวว่า จากความกดอากาศสูงกําลังค่อนข้างแรงจากประเทศจีนที่แผ่ลงมาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่ได้ปะทะกับอากาศร้อนในช่วงนี้ ส่งผลให้วานนี้พื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ตั้งแต่จังหวัดนครราชสีมาจนถึงจังหวัดอุบลราชธานี ได้รับผลกระทบจากพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง เกิดความเสียหายในหลายพื้นที่ ล่าสุดได้แผ่มาปกคลุมพื้นที่ภาคตะวันออก ภาคกลาง รวมถึงกรุงเทพมหานครและปริมณฑลแล้ว ทําให้เช้าวันนี้จังหวัดในบริเวณดังกล่าวเกิดฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง บางพื้นที่มีลูกเห็บตกและเกิดฟ้าผ่า หลังจากนั้นอุณหภูมิจะลดลงไปจนถึงวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2566 ซึ่งภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนืออุณหภูมิจะลดลง 4 - 6 องศาเซลเซียส ส่วนภาคตะวันออก ภาคกลาง กรุงเทพมหานครและปริมณฑลจะลดลง 1 - 4 องศาเซลเซียสแล้วแต่พื้นที่ ขอให้ประชาชนดูแลสุขภาพระมัดระวังอันตรายจากอากาศที่แปรปรวน หลังจากนั้นมวลอากาศเย็นจะค่อยๆ อ่อนลง อุณหภูมิจะกลับมาสูงขึ้นก่อนที่จะเข้าสู่ฤดูร้อนในช่วงสิ้นเดือนนี้ ซึ่งกรมอุตุนิยมวิทยาจะประกาศอย่างเป็นทางการต่อไป สําหรับภาคใต้จะมีฝนเพิ่มขึ้นในช่วงนี้เช่นกัน คลื่นลมบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันจะมีกําลังแรงอ่าวไทยคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูง 2 - 3 เมตร ขอให้ชาวเรือเพิ่มความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง
|
15/2/2023
|
ภาคกลางและปริมณฑล
|
กรุงเทพมหานคร
|
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230215110804267
| null |
จังหวัดเพชรบุรี ร่วมประชุมกับกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง ติดตามสถานการณ์ไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM 2.5)
|
วันนี้ (15 ก.พ.66) เวลา 09.30 น. ที่ห้องประชุมสํานักงานที่ดินจังหวัดเพชรบุรี นายปิยพงศ์ ชูวงศ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี นายวิรัช เพ็ญจันทร์ หัวหน้าสํานักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเพชรบุรี และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมประชุมกองอํานวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก.) เพื่อติดตามสถานการณ์ไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละอองขนาดเล็ก ผ่านระบบซูม โดยอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ผู้อํานวยการกลาง ซึ่งที่ประชุมได้นําเสนอ สภาพอากาศในห้วงที่ผ่านมาและคาดการณ์สภาพอากาศในระยะต่อไปที่อาจส่งผลกระทบต่อสถานการณ์ไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละอองขนาดเล็ก ร่วมกันวิเคราะห์การเกิดจุความร้อนในพื้นที่ต่างๆ นําเสนอแผน มาตรการ แนวทางการดําเนินการแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก ข้อสั่งการของกองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ ผลการดําเนินการ และการสนับสนุนการปฏิบัติในพื้นที่ 17 จังหวัดภาคเหนือ ทั้งภาคพื้นดิน และภาคอากาศ สําหรับผลการดําเนินการของหน่วยงาน และประเด็นการประสานการปฏิบัติ มีการติดตามการป้องกันและลดมลพิษจากแหล่งกําเนิด การเผาในพื้นที่โล่ง พื้นที่ป่า พื้นที่การเกษตร การคมนาคม การสนับสนุนการปฏิบัติงานของหน่วยทหาร ผลการบังคับใช้กฎหมาย และผลกระทบต่อสุขภาพประชาชน และการดําเนินการที่เกี่ยวข้อง และติดตามสถานการณ์ในพื้นที่สวท.เพชรบุรี#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
|
15/2/2023
|
ภาคตะวันตก
|
เพชรบุรี
|
สวท.เพชรบุรี
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230215112611282
| null |
จังหวัดอำนาจเจริญเตือนประชาชน ค่าฝุ่น PM2.5 สูงมาก อยู่ในระดับมีผลกระต่อสุขภาพ
|
วันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2566 นายแพทย์ปฐมพงศ์ ปรุโปร่ง นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดอํานาจเจริญ เปิดเผยว่า สถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 เฉลี่ย 24 ชั่วโมง ในพื้นที่จังหวัดอํานาจเจริญอยู่ในระดับเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ ถึงมีผลกระทบต่อสุขภาพ โดยที่สถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศ รพ.สต.โคกเจริญ ต.โคกสาร อ.ชานุมาน พบค่า PM2.5 เท่ากับ 125 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร และที่สถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศ ต.รัตนวารี อ.หัวตะพาน ต.พระเหลา อ.พนา พบค่า PM2.5 อยู่ที่ระดับ 74-82 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตรขอให้ประชาชนในพื้นที่ดังกล่าว ลด/งด ทํากิจกรรมออกนอกบ้าน หลีกเลี่ยงกิจกรรมหรือออกกําลังกายกลางแจ้ง สวมหน้ากากอนามัยเมื่ออยู่นอกบ้าน หากมีอาการผิดปกติควรพบแพทย์ สําหรับกลุ่มเด็กเล็ก หญิงมีครรภ์ ผู้สูงอายุ และผู้มีโรคประจําตัว งดการทํากิจกรรมนอกบ้าน สวมหน้ากากอนามัยเมื่ออยู่นอกบ้าน หากมีอาการผิดปกติให้รีบพบแพทย์#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND#อํานาจเจริญ #ฝุ่นPM25 #ฝุ่นละออง
|
15/2/2023
|
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
|
อำนาจเจริญ
|
สวท.อำนาจเจริญ
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230215114611300
| null |
สำนักงานเกษตรจังหวัดสตูล ติดตามการดำเนินงานโครงการส่งเสริมการเกษตร ประจำปีงบประมาณ 2566
|
วันนี้ (15 ก.พ.66) นายชาญณรงค์ วิรุณสาร เกษตรจังหวัดสตูล เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่กลุ่มส่งเสริมและพัฒนาการผลิต กลุ่มอารักขาพืช สํานักงานเกษตรจังหวัดสตูล ร่วมกับสํานักงานส่งเสริมและพัฒนาการ เกษตรที่ 5 จังหวัดสงขลา นําโดย นางสุนิภา คีรีนารถ ผู้อํานวยการกลุ่มส่งเสริมและพัฒนาการผลิต ลงพื้นที่ติดตามการดําเนินงานโครงการยกระดับคุณภาพมาตรฐานสินค้าเกษตร , โครงการเพิ่มประสิทธิภาพการ ผลิตพืชผักครบวงจร , โครงการสร้างมูลค่าเพิ่มจากวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร และการดําเนินงานศูนย์จัดการดินปุ๋ยชุมชน (ศดปช.) ในพื้นที่อําเภอควนโดน อําเภอทุ่งหว้า และอําเภอท่าแพ ระหว่างวันที่ 13-14 กุมภาพันธ์ 2566 ที่ผ่านมาทั้งนี้ เพื่อเป็นการกํากับ ดูแล ติดตาม และให้คําแนะนําแก่เกษตรกรในการขับเคลื่อนการดําเนินงานโครงการฯ ให้บรรลุตามวัตถุประสงค์ พร้อมรับฟังปัญหาอุปสรรคจากเกษตรกรกลุ่มเป้าหมาย เพื่อนําไปปรับปรุงวิธีการทํางานเพื่อให้สอดคล้องและเกิดประโยชน์ต่อพี่น้องเกษตรกรในพื้นที่ให้ได้มากที่สุด#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
|
15/2/2023
|
ภาคใต้
|
สตูล
|
สวท.สตูล
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230215120036310
| null |
เกษตรอำเภอเบตงคัดเลือกวิสาหกิจชุมชนทะเลหมอกจาเราะกางา&ถ้ำลับแลจาเราะอายัม เป็นตัวแทนระดับอำเภอ เข้ารับการประกวดวิสาหกิจชุมชนดีเด่นระดับจังหวัด ประจำปี 2566
|
วันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2566 นายอารีฟ มหัศนียนนท์ เกษตรอําเภอเบตง พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สํานักงานเกษตรอําเภอเบตง ให้การต้อนรับคณะกรรมการประกวดวิสาหกิจชุมชนดีเด่นระดับจังหวัด ประจําปี 2566 ซึ่งอําเภอเบตงได้คัดเลือกวิสาหกิจชุมชนทะเลหมอกจาเราะกางา&ถ้ําลับแลจาเราะอายัม ณ ชุมชนกาเราะกางา ตําบลเบตง อําเภอเบตง จังหวัดยะลา เป็นตัวแทนระดับอําเภอ เข้ารับการประกวดวิสาหกิจชุมชนดีเด่นระดับจังหวัด ประจําปี 2566โดยทางกลุ่มวิสาหกิจชุมชนทะเลหมอกจาเราะกางา&ถ้ําลับแลจาเราะอายัม ได้ดําเนินกิจกรรมนําเที่ยวทะเลหมอก และจําหน่ายกระเป๋าผ้าปาเต๊ะ ปัจจุบันได้พัฒนาขึ้นเป็นแหล่งท่องเที่ยวทะเลหมอก สัมผัสบรรยากาศ 360 องศา สามารถชมวิวทะเลหมอก 2 แผ่นดิน (ไทย – มาเลเซีย) ที่อยู่ในเขตเทศบาลเมืองเบตง และในเวลาที่ไม่มีหมอกสามารถมองเห็นวิวเมืองเบตง และสามารถชมหมอกได้ตลอดทั้งปีสําหรับถ้ําลับแล มีที่มาจากเรื่องเล่าขานตํานานดึกดําบรรพ์ (ถ้ําลับแล) เรื่องมีอยู่ว่า “ถ้ําดังกล่าว เป็นที่พักอาศัยของผู้คนอีกมิติหนึ่ง ซึ่งสมัยก่อนผู้คนเหล่านั้นสามารถสื่อสารกับคนได้ แต่คนที่จะสื่อสารได้จะต้องมีวิชาอาคม ทางด้านไสยศาสตร์ (ขณะนั้นมีอยู่ 2 คน) ในการสื่อสารนั้น มีเงื่อนไขบางอย่าง โดยเฉพาะที่เกี่ยวกับการช่วยเหลือ ในการจัดเลี้ยง เป็นการให้ยืมเครื่องใช้ครัวเรือนทุกชนิดและไก่สีขาว จํานวนตามร้องขอ ซึ่งวิถีชีวิตของผู้คนในสมัยก่อนนั้นอยู่กันอย่างมีความสุข ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ต่อมา ผู้รู้ 2 ท่านนี้ได้เสียชีวิตลง การเป็นอยู่ การสื่อสารระหว่างคนสองมิติก็ยังเหมือนเดิม ยังติดต่อได้จนกระทั่งวันหนึ่ง ชาวบ้านท่านหนึ่งได้ยืมเครื่องใช้ครัวเรือน แต่ได้ทําแตกจึงไปหาซื้อมาทดแทนคนลับแล จึงรู้สึกโกรธ ที่ซื้อมาชดใช้ให้ ผิดเงื่อนไขที่ได้ตกลงไว้ พวกเขาคิดว่าคนในชุมชนไม่จําเป็นต้องพึ่งพาพวกเขาอีกแล้ว หลังจากนั้นเขาจึงได้ทําการปิดถ้ําลับแล ไม่มีใครสามารถพบเจอ หรือขอยืมเครื่องครัวได้อีกจนถึงปัจจุบัน”#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
|
15/2/2023
|
ภาคใต้
|
ยะลา
|
สวท.เบตง จ.ยะลา
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230215163843453
| null |
จังหวัดเพชรบุรีร่วมประชุมติดตามสถานการณ์ไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5
|
วันนี้ (15 ก.พ. 66) เวลา 09.30 น. ที่ห้องประชุมสํานักงานที่ดินจังหวัดเพชรบุรี อําเภอเมืองเพชรบุรี จังหวัดเพชรบุรี นายปิยพงศ์ ชูวงศ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี พร้อมด้วย ปภ.จังหวัด และส่วนราชการร่วมประชุมติดตามสถานการณ์ไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 ผ่านระบบ Web Conference โดยมี นายบุญธรรม เลิศสุขีเกษม อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เป็นประธานการประชุม ตามที่กองอํานวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง ได้ติดตามสถานการณ์ไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 พบว่าตั้งแต่เดือนมกราคม 2566 เป็นต้นมาเกิดจุดความร้อน (Hotspot) เพิ่มขึ้นในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะพื้นที่เกษตรและพื้นที่ป่า ประกอบกับเกิดสถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 ที่มีค่าสูงเกินค่ามาตรฐานติดต่อกันหลายวัน ส่งผลกระทบต่อปัญหาสุขภาพของประชาชนเป็นอย่างมาก กองอํานวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก.) ได้มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดําเนินการติดตามสถานการณ์ สถานการณ์ไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 กําหนดมาตรการแนวทางการดําเนินการแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก พร้อมให้มีการบูรณาการเพื่อลดปัญหาดังกล่าว ชัยพัทธ์ รชตเหมภาส/ข่าวสํานักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเพชรบุรี#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
|
15/2/2023
|
ภาคตะวันตก
|
เพชรบุรี
|
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเพชรบุรี
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230215132741340
| null |
กรมประมง ประกาศปิดอ่าวไทย ปี 66 เพื่อคุ้มครองพ่อแม่พันธุ์ปลาทูและสัตว์น้ำมีไข่ เพื่อเพิ่มผลผลิตและฟื้นฟูทรัพยากรสัตว์น้ำอย่างยั่งยืน
|
นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยหลังเป็นประธานในพิธีประกาศใช้มาตรการบริหารจัดการทรัพยากรสัตว์น้ํามีไข่ วางไข่ เลี้ยงตัวอ่อน ในพื้นที่ทะเลอ่าวไทย ประจําปี 2566 เพื่อคุ้มครองพ่อแม่พันธุ์ปลาทูและสัตว์น้ํามีไข่ให้แพร่ขยายพันธุ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ว่า ขอแสดงความชื่นชมและเป็นกําลังใจให้กับทุกภาคส่วน ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้มอบนโยบาย 3 ป. คือ ป้อง ปราม ปราบ เพื่อให้พี่น้องชาวประมงร่วมมือและสร้างความเข้าใจต่อมาตรการ และลดความเสี่ยงต่อการละเมิดมาตรการ ตลอดจนบังคับใช้กฎหมายต่อผู้ที่กระทําผิด ซึ่งทั้ง 3 มาตรการ จะนํามาซึ่งความสําเร็จ อย่างไรก็ตาม ขอความร่วมมือพี่น้องชาวประมงทุกภาคส่วน ร่วมกันรักษาความอุดมสมบูรณ์ของทรัพยากรสัตว์น้ํา ที่จะป็นแหล่งรายได้ และขอให้ช่วยกันอนุรักษ์ป่าชายเลนด้วย เพราะจะเป็นที่อนุบาลของสัตว์น้ํา ภายใต้แนวทางระเบียงเศรษฐกิจสีน้ําเงิน ในพื้นที่ก้นอ่าวไทย หรืออ่าวไทยโดยรวม ถือเป็นแนวทางการพัฒนาอย่างยั่งยืนด้านนายเฉลิมชัย สุวรรณรักษ์ อธิบดีกรมประมง กล่าวเพิ่มเติมว่า สําหรับมาตรการปิดอ่าวไทยในปีที่ผ่านมา พบว่า การประกาศใช้มาตรการปิดอ่าวไทย ทําให้พ่อแม่พันธุ์ปลาทูมีความสมบูรณ์เพศและมีการแพร่กระจายของลูกปลาทูและสัตว์น้ําเศรษฐกิจชนิดอื่นในพื้นที่ที่ประกาศใช้มาตรการอย่างชัดเจน ส่วนพื้นที่อ่าวไทยบริเวณบางส่วนของจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เมื่อเปรียบเทียบองค์ประกอบของลูกปลาทูและสัตว์น้ําชนิดอื่น พบว่า ระยะเวลาและพื้นที่บังคับใช้มาตรการ มีการปรับปรุงประกาศให้สอดคล้องกับสภาวะทรัพยากรและสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงในแต่ละช่วงเวลา นอกจากนี้ พบว่าในห้วงเวลาก่อนการประกาศปิดอ่าวไทยตอนกลาง ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา (ปี 64 – 65) ในช่วงวันที่ 1 – 14 กุมภาพันธ์ พบพ่อแม่ปลาทูมีความสมบูรณ์เพศในอัตราที่สูงสุดถึงร้อยละ 100 ซึ่งแสดงให้เห็นว่าปลาทูมีความสมบูรณ์เพศก่อนช่วงมาตรการปิดอ่าวไทยตอนกลาง ซึ่งพร้อมสืบพันธุ์วางไข่จึงมีข้อเสนอแนะทางวิชาการว่าเห็นควรปรับปรุงมาตรการปิดอ่าวไทยตอนกลางให้สอดคล้องกับสภาวะทรัพยากรและสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลง ซึ่งจากการรับฟังความคิดเห็นของชาวประมงในพื้นที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์และสุราษฎร์ธานีเห็นด้วย โดยสมาคมการประมงแห่งประเทศไทยได้มีข้อเสนอว่าควรปรับช่วงเวลาปิดอ่าวตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ ในปี 2567
|
15/2/2023
|
ภาคกลางและปริมณฑล
|
กรุงเทพมหานคร
|
Radio-สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230215134830345
| null |
กรมวิชาการเกษตร จัดงานถ่ายทอดเทคโนโลยี ภาคเหนือฉลองครบรอบ 50 ปี พร้อมลงนามความร่วมมือขับเคลื่อนเกษตรปลอดภัยยกระดับการผลิตสินค้าที่มีคุณภาพมาตรฐาน พร้อมส่งเสริมท่องเที่ยวเชิงเกษตร
|
นายระพีภัทร์ จันทรศรีวงศ์ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร เป็นประธานในพิธีเปิดงานวันถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิตพืชภาคเหนือตอนบน นวัตกรรมพืชพร้อมใช้ พัฒนาเกษตรกรไทยยั่งยืนที่ จังหวัดเชียงใหม่ ระหว่างวันที่ 15-16 กุมภาพันธ์ 2566 คาดเกษตรกรร่วมงานกว่า 2,000 ราย พร้อมลงนามบันทึกข้อตกลงว่าด้วยความร่วมมือเพื่อขับเคลื่อนเกษตรปลอดภัย ยกระดับการผลิตสินค้าที่มีคุณภาพมาตรฐาน และส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงเกษตร จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อขับเคลื่อนเกษตรปลอดภัย ยกระดับการผลิตสินค้าที่มีคุณภาพมาตรฐาน ส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงเกษตร ของจังหวัดเชียงใหม่ โดยอธิบดีกรมวิชาการเกษตร กล่าวย้ําว่า นับเป็นเรื่องน่ายินดีและเหมาะสมอย่างยิ่ง ที่หน่วยงานได้ร่วมกันดําเนินการจัดงานเพื่อร่วมเฉลิมฉลองเนื่องในโอกาสที่กรมวิชาการเกษตรก่อตั้งครบ 50 ปี อีกทั้งยังเป็นการเผยแพร่ผลงานของกรมวิชาการเกษตรที่ได้ผลิตงานวิจัยด้านพืช และเทคโนโลยีการเกษตรที่มีคุณค่า ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาการเกษตรของประเทศเป็นจํานวนมาก เป็นการกระตุ้น เร่งเร้าให้หน่วยงานต่าง ๆ หาทางเร่งรัดช่วยเหลือเกษตรกรให้เรียนรู้ และมีความเข้าใจ ในกระบวนการผลิตพืชที่ถูกต้องตามหลักวิชาการ เหมาะสมกับสภาพของแต่ละพื้นที่และคุ้มค่ากับการลงทุน โดยได้กล่าวขอบคุณทุกภาคส่วนที่มีส่วนร่วมในการจัดงานครั้งนี้
|
15/2/2023
|
ภาคกลางและปริมณฑล
|
กรุงเทพมหานคร
|
Radio-สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230215143757376
| null |
เกษตรจังหวัดตรัง อบรมให้ความรู้โครงการ 1 อำเภอ 1 กลุ่มเกษตรสูงวัย ณ กลุ่มโรงเรียนผู้สูงอายุเทศบาลตำบลโคกหล่อ
|
วันนี้ ( 15 กุมภาพันธ์ 2566 ) นายวสันต์ สุขสุวรรณ เกษตรจังหวัดตรัง มอบหมายให้นางกนกกาญจน์ คงแก้ว นักวิชาการส่งเสริมการเกษตรชํานาญการ และนางสาวจิราณี คชภูมิ นักวิชาการส่งเสริมการเกษตรปฏิบัติการ กลุ่มส่งเสริมและพัฒนาเกษตรกร ร่วมกับสํานักงานเกษตรอําเภอเมืองตรัง อบรมถ่ายทอดความรู้ด้านการเตรียมความพร้อมเข้าสู่วัยผู้สูงอายุทั้ง 5 มิติและการพัฒนาครัวเรือนเป็นบ้านเกษตรสมบูรณ์ ณ กลุ่มโรงเรียนผู้สูงอายุเทศบาลตําบลโคกหล่อ ตําบลโคกหล่อ อําเภอเมือง จังหวัดตรัง ทั้งนี้ เพื่อส่งเสริมบทบาทเกษตรกรสูงวัยและเตรียมเข้าสู่สังคมสูงอายุของภาคเกษตร เพื่อให้เกษตรกรสูงวัยสามารถนําความรู้ไปประยุกต์ใช้ในการพัฒนาคุณภาพชีวิตในครัวเรือนและเตรียมความพร้อมเข้าสู่สังคมเกษตรสูงวัยได้อย่างเหมาะสม พร้อมทั้งสามารถนําไปประยุกต์ใช้ในการประกอบอาชีพเพื่อสร้างรายได้เสริมในครัวเรือนเกษตรสูงวัย และเกิดเครือข่ายเกษตรกรสูงวัยเพื่อการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ในการพัฒนาคุณภาพชีวิตและการสร้างรายได้ต่อไป#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
|
15/2/2023
|
ภาคใต้
|
ตรัง
|
สวท.ตรัง
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230215173101491
| null |
จังหวัดอุบลราชธานีร่วมประชุมติดตามสถานการณ์ไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5
|
วันนี้ (15 ก.พ.66) เวลา 09.30 น. ที่ห้องประชุมสํานักงานป้องกันบรรเทาสาธารณภัย จังหวัดอุบลราชธานี นายชลธี ยังตรง ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี มอบหมายให้ นายสมเพชร สร้อยสระคู รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี พร้อมด้วย ว่าที่ ร.ต.มนต์สง่า ลีลาศสง่างาม หัวหน้าสํานักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดอุบลราชธานี และส่วนราชการร่วมประชุมติดตามสถานการณ์ไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 ผ่านระบบ Web Conference โดยมี นายบุญธรรม เลิศสุขีเกษม อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เป็นประธานการประชุม ตามที่กองอํานวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง ได้ติดตามสถานการณ์ไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 พบว่าตั้งแต่เดือนมกราคม 2566 เป็นต้นมาเกิดจุดความร้อน (Hotspot) เพิ่มขึ้นในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะพื้นที่เกษตรและพื้นที่ป่า ประกอบกับเกิดสถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 ที่มีค่าสูงเกินค่ามาตรฐานติดต่อกันหลายวัน ส่งผลกระทบต่อปัญหาสุขภาพของประชาชนเป็นอย่างมาก กองอํานวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก.) ได้มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดําเนินการติดตามสถานการณ์ สถานการณ์ไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 กําหนดมาตรการแนวทางการดําเนินการแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก พร้อมให้มีการบูรณาการเพื่อลดปัญหาดังกล่าว#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
|
15/2/2023
|
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
|
อุบลราชธานี
|
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดอุบลราชธานี
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230215145544392
| null |
นายกเทศมนตรีนครตรัง ลงพื้นที่ชุมชนในเขตเทศบาลนครตรัง รณรงค์เรื่องการจัดทำถังขยะเปียกลดโลกร้อน ตามโครงการ “ถังขยะเปียก ลดโลกร้อน” ในชุมชน
|
ดร.สัญญา ศรีวิเชียร นายกเทศมนตรีนครตรัง พร้อมด้วย นายจเร ไกรเทพ หัวหน้าฝ่ายบริหารงานสาธารณสุข และ อสม. ร่วมลงพื้นที่ชุมชนเขตเทศบาลนครตรัง รณรงค์เรื่องการจัดทําถังขยะเปียกลดโลกร้อน ตามโครงการ “ถังขยะเปียก ลดโลกร้อน” ในชุมชน เพื่อขานรับนโยบายของกระทรวงมหาดไทย และนโยบายจังหวัด ในการดําเนินโครงการถังขยะเปียกลดโลกร้อน ทั้งนี้ ได้ให้คําแนะนําแก่ประชาชนถึงวิธีการจัดทําถังขยะเปียก ประโยชน์ในการจัดทําถังขยะเปียก และรณรงค์ให้มีการจัดทําถังขยะเปียก ลดโลกร้อน เพื่อให้ประชาชนคัดแยกขยะ และนําขยะเปียกที่ได้จากครัวเรือนทั้งเศษอาหารและขยะเปียกอื่นๆ ไปกําจัดอย่างถูกวิธี เพื่อสามารถลดปริมาณขยะในพื้นที่และค่าใช้จ่ายในการกําจัดขยะ ลดภาวะโลกร้อน สร้างสิ่งแวดล้อมที่ดีนําไปสู่เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนต่อไป#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
|
15/2/2023
|
ภาคใต้
|
ตรัง
|
สวท.ตรัง
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230215173420493
| null |
จังหวัดสตูล ร่วมประชุมกับกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง ติดตามสถานการณ์ไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM 2.5)
|
วันนี้ (15 ก.พ. 66) ที่ห้องประชุมโต๊ะหยงกง ชั้น 3 ศาลากลางจังหวัดสตูล นายชาตรี ณ ถลาง รองผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมประชุมกองอํานวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก.) เพื่อติดตามสถานการณ์ไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละอองขนาดเล็ก ผ่านระบบซูม โดยอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เป็นประธานการประชุมฯ สําหรับในที่ประชุมได้รายงานสภาพอากาศในห้วงที่ผ่านมาและคาดการณ์สภาพอากาศในระยะต่อไปที่อาจส่งผลกระทบต่อสถานการณ์ไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละอองขนาดเล็ก พร้อมร่วมกันวิเคราะห์การเกิดจุความร้อนในพื้นที่ต่างๆ นําเสนอแผน มาตรการ แนวทางการดําเนินการแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก ข้อสั่งการของกองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ ผลการดําเนินการ และการสนับสนุนการปฏิบัติในพื้นที่ 17 จังหวัดภาคเหนือ ทั้งภาคพื้นดิน และภาคอากาศซึ่งผลการดําเนินการของหน่วยงาน และประเด็นการประสานการปฏิบัติ มีการติดตามการป้องกันและลดมลพิษจากแหล่งกําเนิด การเผาในพื้นที่โล่ง พื้นที่ป่า พื้นที่การเกษตร การคมนาคม การสนับสนุนการปฏิบัติงานของหน่วยทหาร ผลการบังคับใช้กฎหมาย ผลกระทบต่อสุขภาพประชาชน และการดําเนินการที่เกี่ยวข้อง รวมถึงติดตามสถานการณ์ในพื้นที่อีกด้วย#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
|
15/2/2023
|
ภาคกลางและปริมณฑล
|
กรุงเทพมหานคร
|
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสตูล
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230215173614495
| null |
กรมการข้าว ส่งเสริมศักยภาพการทำงานผ่านโครงการผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าวศูนย์ข้าวชุมชน
|
นายณัฏฐกิตติ์ ของทิพย์ อธิบดีกรมการข้าว เปิดเผยหลังเป็นประธานเปิดการอบรมเชิงปฎิบัติการ หลักสูตรการพัฒนาทักษะและความสัมพันธ์ในการทํางานเพื่อเสริมสร้างศักยภาพการดําเนินงานโครงการเสริมสร้างศักยภาพการผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าวของศูนย์ข้าวชุมชน ปี 2566 ว่าการจัดอบรมดังกล่าว เพื่อพัฒนาทักษะและการสร้างความเข้าใจในการทํางานให้กับเจ้าหน้าที่ผู้ปฎิบัติงาน เพิ่มพูนองค์ความรู้เกี่ยวกับกระบวนการรับรองการผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าวและความสําคัญของการเข้าสู่ระบบการจําหน่ายเมล็ดพันธุ์ควบคุม (ข้าวเปลือก) ตามพระราชบัญญัติพันธุ์พืช พ.ศ. 2518 ให้แก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฎิบัติงาน ตลอดจนแนวทางและขั้นตอนการดําเนินงานของโครงการฯได้อย่างถูกต้องและชัดเจน พร้อมขอให้ทุกคนนึกถึงผลประโยชน์สูงสุดของชาวนาเป็นที่ตั้ง ในการปรับกลยุทธ์การทํางานให้เป็นการทํางานเชิงรุกมากขึ้น เพื่อการเข้าถึงพี่น้องเกษตรกรในทุกพื้นที่ ให้ได้รับประโยชน์จากกรมการข้าวมากที่สุด อีกทั้งในการแก้ไขปัญหาและได้รับองค์ความรู้ต่างๆ ด้านข้าวเพิ่มมากขึ้น รวมไปถึงการใช้เมล็ดพันธุ์ที่ดีต่อการเพาะปลูกที่เหมาะสมกับเเต่ละพื้นที่ พร้อมทั้งให้คําแนะนําและให้กําลังใจแก่เจ้าหน้าที่/บุคลากร ในการขับเคลื่อนองค์กรให้บรรลุวัตถุประสงค์ได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ สุดท้ายเน้นย้ํากําชับให้ข้าราชการและเจ้าหน้าที่ทุกคนถือปฎิบัติหน้าที่ที่ตนรับผิดชอบโดยสุจริต เที่ยงธรรม ไม่ใช้ตําแหน่งหน้าที่และกระทําการใดๆ ที่จะนํามาเพื่อประโยชน์แก่ตนเองและประโยชน์ทับซ้อน
|
15/2/2023
|
ภาคกลางและปริมณฑล
|
กรุงเทพมหานคร
|
Radio-สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230215144310381
| null |
จังหวัดสตูล ประชุมคณะอนุกรรมการบริหารกองทุนหมุนเวียนเพื่อการกู้ยืมแก่เกษตรกรและผู้ยากจนส่วนจังหวัด
|
วันนี้ (15 ก.พ. 66) ที่ห้องประชุมสํานักงานเกษตรและสหกรณ์จังหวัดสตูล อําเภอเมืองสตูล จังหวัดสตูล นายชูชีพ ธรรมเพชร รองผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล เป็นประธานประชุมคณะอนุกรรมการบริหารกองทุนหมุนเวียนเพื่อการกู้ยืมแก่เกษตรกรและผู้ยากจนส่วนจังหวัด จังหวัดสตูล ครั้งที่ 1/2566 โดยมีหัวหน้าส่วนราชการ และคณะกรรมการฯ เข้าร่วมประชุม เพื่อทราบถึงหลักเกณฑ์การให้ความช่วยเหลือกองทุนหมุนเวียนเพื่อการกู้ยืมแก่เกษตรกรและผู้ยากจน ผลการดําเนินงานกองทุนหมุนเวียนเพื่อการกู้ยืมแก่เกษตรกรของจังหวัดสตูล และการกําหนดเป้าหมายการดําเนินงานกองทุนหมุนเวียนเพื่อการกู้ยืมแก่เกษตรกรและผู้ยากจน ปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 และการประชาสัมพันธ์กองทุนหมุนเวียนเพื่อการกู้ยืมแก่เกษตรกรและผู้ยากจนนอกจากนี้ ในที่ประชุมได้ร่วมพิจารณาอนุมัติคําขอกู้เงินจากกองทุนฯของเกษตรกร วงเงินกู้จํานวน 350,000 บาท #สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
|
15/2/2023
|
ภาคกลางและปริมณฑล
|
กรุงเทพมหานคร
|
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสตูล
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230215175912506
| null |
ปศุสัตว์จันทบุรี เปิดงานวันถ่ายทอดเทคโนโลยีเพื่อเริ่มต้นฤดูกาลผลิตใหม่ (Field Day) กลุ่มแปลงใหญ่เขาคิชฌกูฏ
|
(15 ก.พ.66) เวลา 09.00 น. น.สพ.ชาติชาย ยิ้มเครือ ปศุสัตว์จังหวัดจันทบุรี เป็นประธานเปิดงานวันถ่ายทอดเทคโนโลยีเพื่อเริ่มต้นฤดูกาลผลิตใหม่(Field Day) ณ ศูนย์เรียนรู้การรวบรวมสินค้าเกษตรและการตลาด วิสาหกิจชุมชนมังคุดแปลงใหญ่คิชฌกูฏ ตั้งอยู่ ม.4 ต.ชากไทย อ.เขาคิชฌกูฏ โดยมี นายพีระศักดิ์ สนั่นเครื่อง นายอําเภอเขาคิชฌกูฏ กล่าวต้อนรับ นางสาวสวรส แดงท่าขาม เกษตรอําเภอเขาคิชฌกูฏ กล่าวรายงานวัตถุประสงค์ของการจัดงาน มีหัวหน้าส่วนราชการหรือผู้แทนสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายกสมาคมมังคุด ประธานแปลงใหญ่ กํานัน ผู้ใหญ่บ้านและเกษตรกรจาก อ.เขาคิชฌกูฏ และ อ.มะขาม เข้าร่วมกิจกรรม รวม 60 คน ภายในงานได้มีการจัดสถานีความรู้ให้เกษตรกรได้เรียนรู้ รวม 4 สถานี ได้แก่ เทคโนโลยีการผลิตมังคุดคุณภาพ พิชิตแมลงร้ายด้วยสบู่อ่อน รู้ทันฟ้า ทันฝน และพิชิตโรคพืชด้วยน้ําหมักเปลือกมังคุด เป็นการเปิดโอกาสให้มีการแลกเปลี่ยนความรู้ ประสบการณ์กันระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชน และเกษตรกร ส่วนราชการต่างๆ ได้จัดนิทรรศการ ให้คําปรึกษาแก่เกษตรกร เพื่อเตรียมความพร้อมก่อนเข้าสู่ฤดูกาลผลิตใหม่ สนับสนุนให้เกษตรกรมีองค์ความรู้ในการวางแผนการผลิต การเข้าถึงปัจจัยการผลิต และการบริหารจัดการความเสี่ยง โดยน้อมนําหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงและเกษตรทฤษฎีใหม่มายึดถือปฏิบัติ ซึ่งจะทําให้เกษตรกรมีความเข้มแข็งและพึ่งตนเองได้ต่อไป#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
|
15/2/2023
|
ภาคตะวันออก
|
จันทบุรี
|
สวท.จันทบุรี
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230215153811420
| null |
สมเด็จพระสังฆราช ประทานรางวัลโครงการธรรมจักรสีเขียวแก่ 10 วัดต้นแบบที่มีการจัดการพื้นที่ด้านสิ่งแวดล้อมที่ดี อยู่ร่วมกับธรรมชาติควบคู่กับพระพุทธศาสนา
|
สมเด็จพระสังฆราช ประทานรางวัลโครงการธรรมจักรสีเขียวแก่ 10 วัดต้นแบบที่มีการจัดการพื้นที่ด้านสิ่งแวดล้อมที่ดี อยู่ร่วมกับธรรมชาติควบคู่กับพระพุทธศาสนา สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก เสด็จลง ณ พระอุโบสถวัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม ทรงเป็นประธานเปิดโครงการ “ธรรมจักรสีเขียว” ประจําปี 2565 พร้อมประทานรางวัลให้กับวัดที่มีการจัดการพื้นที่ด้านสิ่งแวดล้อมที่ดี เป็นต้นแบบของวัดที่อยู่ร่วมกับธรรมชาติควบคู่กับพระพุทธศาสนา เพื่อความยั่งยืนตลอดไป โดยวัดที่ได้รับคัดเลือกเป็นวัดต้นแบบ 10 วัด ประกอบด้วย วัดบุญญาวาส จังหวัดชลบุรี // วัดโพธิคุณ จังหวัดตาก // วัดป่าน้อยดงเมือง จังหวัดศรีสะเกษ // วัดชัยภูมิพิทักษ์ จังหวัดชัยภูมิ // วัดป่าน้ําโจน จังหวัดพิษณุโลก // วัดป่าหนองไผ่ จังหวัดสกลนคร // วัดศรีประชารังสรรค์ จังหวัดศรีสะเกษ // วัดป่าดานวิเวก จังหวัดบึงกาฬ // วัดทรัพย์เจริญ จังหวัดขอนแก่น และวัดเขาถ้ําหมี จังหวัดสุพรรณบุรี โอกาสนี้ ประทานพระสัมโมทนียกถา ความตอนหนึ่งว่า ในนามคณะสงฆ์ ขอแสดงมุทิตาจิตถวายแด่ท่านพระสังฆาธิการที่มารับรางวัลในนามวัด ซึ่งช่วยการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ ปลูก ดูแล และพิทักษ์ป่า โดยกุศโลบายอัญชาญฉลาดตามแนวทางแห่งพระพุทธศาสนา ก่อให้เกิดคุณูปการต่อสังคมส่วนรวมสมกับฐานะของวัด ซึ่งเป็นแดนบุญของบ้านอย่างแท้จริง ด้าน นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า สมเด็จพระสังฆราชฯ มีพระดําริเรื่องเกี่ยวกับการปลูกต้นไม้แต่ละประเภทต้องดูลักษณะภูมิประเทศ จึงให้กรมป่าไม้รับไปดําเนินการต่อไป รวมถึง เรื่องวัดที่อยู่ในพื้นที่ป่าและพระวินัยของพระสงฆ์ที่ห้ามในเรื่องของการตัดต้นไม้ โดยทรงมีรับสั่งให้พระช่วยดูแลป่าอย่างดีที่สุด ปัจจุบันมีศาสนาสถานที่อยู่ในพื้นที่ป่าและยื่นขออนุญาตเข้าไปใช้ประโยชน์ในพื้นที่ป่ามีความสําคัญช่วยปกป้องคุ้มครองดูแลพื้นที่ป่าไม้ที่ยังคงอยู่ เพื่อเป็นตัวอย่างให้วัด ชุมชน ประชาชนมีส่วนร่วมดูแลทรัพยากรป่าไม้ การอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ การปลูกป่า การป้องกันการบุกรุกตัดไม้ทําลายป่า การดูแลบํารุงรักษา และใช้ประโยชน์ทรัพยากรธรรมชาติอย่างถูกต้อง ทั้งนี้ ยังส่งเสริมให้วัดเป็นสถานที่ศึกษาทางศาสนาพุทธ แหล่งศึกษาธรรมชาติและสถานที่พักผ่อนหย่อนใจ ถือเป็นการแก้ปัญหาพระสงฆ์ในพื้นที่ป่าไม้ ด้วยการส่งเสริมให้วัดหรือพระสงฆ์เข้ามาช่วยงานด้านป่าไม้ในการอนุรักษ์ป่าและป้องกันการบุกรุกตัดไม้ทําลายป่า พร้อมร่วมกันสร้างจิตสํานึกและหวงแหนทรัพยากรธรรมชาติให้ชุมชน
|
15/2/2023
|
ภาคกลางและปริมณฑล
|
กรุงเทพมหานคร
|
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230215160939437
| null |
นักวิจัย มทส. โคราช คิดค้นนวัตกรรม 2X PLUS น้ำยาวิเศษ คัดแยกเพศอสุจิโค สามารถกำหนดเพศโคตามความต้องการ ลดการสูญเสีย เพิ่มโอกาสสร้างรายได้และกำไรให้ผู้เลี้ยง เดินหน้าพัฒนาต่อยอดใช้ในสัตว์เศรษฐกิจชนิดอื่น
|
วันนี้ (15 ก.พ.66) ที่?ห้องสารนิเทศอาคารบริหาร มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี? อ.เมือง? จ.นครราชสีมา? รองศาสตราจารย์ ดร.อนันต์ ทองระ?อา? อธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี? พร้อมด้วยรองศาสตราจารย์? ดร.มารินา? เกตุทัต คาร์น และ ดร.สุเมธ? อิ่มสุนทรรักษา? หัวหน้าโครงการและนักวิจัย?นวัตกรรม 2X PLUS น้ํายา คัดแยกเพศอสุจิโค? ร่วมกันแถลงข่าวถึงความสําเร็จผลงานวิจัยและนวัตกรรม 2X PLUS น้ํายาคัดแยกเพศอสุจิโค ซึ่งเป็นนวัตกรรมที่นําไปใช้ประโยชน์ได้จริงช่วยลดการสูญเสีย และเพิ่มโอกาสการสร้างรายได้เพิ่มกําไรให้แก่ผู้เลี้ยงโคในประเทศไทย ดร.อนันต์ ทองระ?อา? อธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี? เปิดเผยว่า ทีมวิจัยได้นําปัญหาของเกษตรกรผู้เลี้ยงโคข้อหนึ่ง คือ ความต้องการเพิ่มจํานวนประชากรลูกโค "เพศเมีย" แม้ว่าปัจจุบัน การผสมเทียมจะเป็นวิธีการหนึ่งที่สําคัญ แต่ยังไม่สามารถกําหนดเพศของลูกโคได้ผลตามเป้าหมาย ทีมวิจัยจึงได้พัฒนาต่อยอดองค์ความรู้จากห้องปฏิบัติการเทคโนโลยีชีวภาพของมหาวิทยาลัย โดยเริ่มจากการเลี้ยงเซลส์ลูกผสม Hybridoma ที่สามารถสร้าง Anti-bovine Y sperm Antibody และทําแอนติบอดี้ให้บริสุทธิ์โดยการตกตะกอน ด้วยแอมโมเนียมซัลเฟต และผ่านโปรตีน A คอลัมภ์ จากนั้น วัดความเข้มข้นของแอนติบอดี้ที่บริสุทธิ์ แล้วบรรจุลงในขวดน้ํายา 2X PLUS พร้อมกับโปรตีนคอมพลิเมนต์และสารสําคัญอื่นๆ ในสภาวะปลอดเชื้อ ถือเป็นนวัตกรรมใหม่ เมื่อทําการทดลองในห้องปฏิบัติการ และทดลองใช้จริงในฟาร์มโค สามารถทําให้เกิดเพศเมียได้ถึง 80 เปอร์เซ็นต์ จึงนําไปสู่การพัฒนาต่อยอดผลงานวิจัยและนวัตกรรมออกสู่เชิงพาณิชย์เป็นผลสําเร็จทั้งนี้นวัตกรรม 2X PLUS น้ํายาคัดแยกเพศอสุจิโค ได้ถูกพัฒนาคิดค้นให้ใช้งานได้ง่ายคือ ผสมน้ําเชื้อโคแช่แข็งที่ต้องการเข้ากับ น้ํายา 2X PLUS? จากนั้นบ่มไว้ที่ 38 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 20 นาที ซึ่งในหลอดน้ํายาจะเกิดปฏิกิริยาการทําลายตัวเองของอสุจิเพศผู้ เหลือเพียงอสุจิเพศเมียที่จะถูกนําเข้าผสมกับไข่โค ตามขั้นตอนการผสมเทียมปกติทั่วไป ช่วยให้ประหยัดเวลา ลดการสูญเสีย เพิ่มโอกาสในการเกิดลูกโคเพศเมียตามความต้องการของตลาดดังนั้นเกษตรกรผู้เลี้ยงโคที่มีความชํานาญจึงสามารถนําผลิตภัณฑ์ไปใช้งานได้ทันที อย่างไรก็ตาม ผลงานวิจัยและนวัตกรรม 2X PLUS น้ํายาคัดแยกเพศอสุจิโค? ได้รับการสนับสนุนการวิจัยจากหน่วยงานภายนอกและภายในมหาวิทยาลัย เกิดการต่อยอดองค์ความรู้กว่า 10 ปี ประกอบด้วย สภาวิจัยแห่งชาติ เทคโนธานี มทส. และสํานักงานนวัตกรรมแห่งชาติ ทั้งด้านเงินทุนวิจัย ห้องปฏิบัติการทดลองเทคโนโลยีชั้นสูง การจัดสรรทุนนักวิจัย ทั้งสามารถพัฒนาผลงานวิจัยและนวัตกรรมสู่เชิงพาณิชย์เป็นผลสําเร็จเป็นที่ยอมรับทั้งในต่างประเทศ จําหน่ายหลอดละ 500 บาท ช่วยลดค่าใช้จ่ายจากการนําเข้าต่างประเทศได้ถึง 10 เท่า ที่สําคัญนวัตกรรม 2X PLUS น้ํายาคัดแยกเพศอสุจิโค ได้ถูกนําไปใช้ในฟาร์มโคในภาคอีสาน ภาคกลางของไทย ประเทศออสเตรเลีย และเกาหลีใต้ สามารถการันตีผลงานจากรางวัล Gold Prize ในงานจัดแสดงทรัพย์สินทางปัญญาระดับนานาชาติ ณ กรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ เมื่อพฤศจิกายน 2565 ที่ผ่านมา ถือเป็นอีกหนึ่งผลงานวิจัยและนวัตกรรมที่ประสบผลสําเร็จได้รับมาตรฐานเป็นที่ยอมรับในระดับสากล นอกจากนี้ยังได้มีการวิจัยพัฒนาต่อยอดเพื่อนําไปใช้ในสัตว์เศรษฐกิจชนิดอื่น เช่น ควาย หมู แพะ และแกะ อีกด้วย #สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
|
15/2/2023
|
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
|
นครราชสีมา
|
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนครราชสีมา
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230215164927461
| null |
กรมส่งเสริมการเกษตรจัด Kick Off โครงการพัฒนาพื้นที่โครงการหลวง สร้างการรับรู้เทคโนโลยีการเกษตรบนพื้นที่สูง พร้อมขยายผลสู่พื้นที่อื่นๆ ต่อไป
|
นายครองศักดิ์ สงรักษา รองอธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวว่า กรมส่งเสริมการเกษตรได้มอบหมายให้ศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาอาชีพการเกษตร จังหวัดเชียงใหม่ จัด Kick Off กิจกรรม สร้างการรับรู้เทคโนโลยีการเกษตรบนพื้นที่สูง ภายใต้โครงการพัฒนาพื้นที่โครงการหลวง ขึ้นเพื่อให้เกษตรกรสนใจเข้าร่วมงานมากกว่า 150 คน และได้รับความรู้เกี่ยวกับเทคโนโลยีการผลิตที่ประสบความสําเร็จของศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาอาชีพการเกษตร (เกษตรที่สูง) และสามารถนําความรู้เทคโนโลยีการเกษตรบนพื้นที่สูงไปใช้อย่างถูกต้องและเหมาะสมกับศักยภาพพื้นที่ของตนเองได้ อันจะเกิดประโยชน์แก่ตัวเกษตรกร และความยั่งยืนในอาชีพการเกษตรบนพื้นที่สูงต่อไป และในปี 2566 กรมส่งเสริมการเกษตรดําเนินโครงการพัฒนาพื้นที่โครงการหลวง ซึ่งเป็นโครงการที่สนับสนุนการดําเนินงานมูลนิธิโครงการหลวง ตามแผนปฏิบัติการด้านการพัฒนาพื้นที่โครงการหลวง ในพื้นที่ 6 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย แม่ฮ่องสอน ลําพูน พะเยา และจังหวัดตาก ครอบคลุมพื้นที่ดําเนินงานของศูนย์พัฒนาโครงการหลวง 39 แห่ง ตามที่คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบ เมื่อวันที่ 21 กันยายน 2564 ตามแผนปฏิบัติการด้านการพัฒนาพื้นที่โครงการหลวง ระยะ 5 ปี (พ.ศ. 2566 - 2570) เพื่อแก้ไขปัญหาการปลูกพืชเสพติด การบุกรุกตัดไม้ทําลายป่า การทําไร่เลื่อนลอย การทําลายแหล่งต้นน้ําลําธาร ลดการใช้สารเคมีป้องกันกําจัดศัตรูพืชบนพื้นที่สูง เกษตรกรสามารถน้อมนําแนวพระราชดําริไปปฏิบัติและได้ผลจริง ส่งเสริมและพัฒนาอาชีพด้านการเกษตรบนพื้นที่สูงให้เหมาะสมตามศักยภาพของพื้นที่ และสามารถนํามาปรับใช้ทําการเกษตรในพื้นที่ของตนเองได้อย่างเหมาะสม ส่งผลให้เกษตรกรมีอาหารบริโภคในครัวเรือนอย่างเพียงพอ ลดรายจ่ายและเพิ่มรายได้ มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นนําไปสู่ความมั่นคงด้านอาหารและความมั่นคงของประเทศ ซึ่งกรมส่งเสริมการเกษตรเป็นหน่วยงานร่วมบูรณาการในการส่งเสริมการเกษตรให้แก่เกษตรกร โดยนําเอาเทคโนโลยีจากโครงการหลวงที่ประสบผลสําเร็จหรือจากศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาอาชีพการเกษตร (เกษตรที่สูง) ไปถ่ายทอดให้แก่เกษตรกร ซึ่งเป็นการขยายผลไปสู่พื้นที่สูงอื่น ๆ
|
15/2/2023
|
ภาคกลางและปริมณฑล
|
กรุงเทพมหานคร
|
Radio-สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230215155119428
| null |
สำนักงานเกษตรจังหวัดสมุทรสงครามจัดโครงการคลินิกเกษตรเคลื่อนที่ในพระราชานุเคราะห์ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช ฯ สยามมกุฎราชกุมาร พร้อมหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรออกให้บริการเกษตรกร
|
วันนี้ (15 กุมภาพันธ์ 2566) ที่วัดบางกล้วย อําเภอบางคนที นายสมนึก พรหมเขียว ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสงคราม เป็นประธานเปิดโครงการคลินิกเกษตรเคลื่อนที่ในพระราชานุเคราะห์ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร โดยมี นายบรรจงศิลป์ วุฒิอุทัย เกษตรจังหวัดสมุทรสงคราม รายงานวัตถุประสงค์ เนื่องในโอกาสอันเป็นมิ่งมหามงคล ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเมื่อครั้งทรงดํารงพระอิสริยยศ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ทรงมีพระชนมายุ 50 พรรษา ในปีพุทธศักราช 2545 กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้ขอพระราชานุญาต จัดทําโครงการคลินิกเกษตรเคลื่อนที่ กราบบังคมทูลถวาย และสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช ฯ สยามมกุฎราชกุมาร ทรงรับโครงการไว้ในพระราชานุเคราะห์ และทรงพระราชทานพระราชานุญาตอัญเชิญพระนามาภิไธยย่อ ไว้ในเครื่องหมายตราสัญลักษณ์โครงการ และเมื่อสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ขึ้นทรงราชย์เป็นพระมหากษัตริย์รัชกาลที่ 10 ทางสํานักพระราชวัง จึงได้แจ้งหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องว่าโครงการพระราชดําริ ทุกโครงการของพระบรมวงศานุวงศ์ ยังคงใช้ชื่อเดิมโดยไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ ทั้งนี้ กิจกรรมภายในงาน ประกอบด้วย การให้เคลื่อนที่ คลินิกดิน คลินิกพืช คลินิกข้าว คลินิกปศุสัตว์ คลินิกประมงคลินิกชลประทาน คลินิกสหกรณ์ คลินิกบัญชี คลินิกเกษตรและสหกรณ์คลินิกอารักขาพืช และการให้บริการของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยมีหัวหน้าส่วนราชการ ผู้นําท้องถิ่น ผู้นําท้องที่และเกษตรกรร่วมงานและเข้ารับบริการ ทางการเกษตรเป็นจํานวนมากผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสงคราม กล่าวว่า โครงการคลินิกเกษตรเคลื่อนที่ในพระราชานุเคราะห์สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช ฯ สยามมกุฎราชกุมาร ได้จัดตั้งขึ้นเพื่อเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ ด้านวิชาการ นวัตกรรม และเทคโนโลยีของหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ต่อประชาชน ประชาสัมพันธ์สินค้าขององค์กรเกษตรกรในชุมชน และที่สําคัญเพื่อให้ความช่วยเหลือแก่เกษตรกรที่มีปัญหาด้านการเกษตร สามารถเข้าถึงการบริการคลินิกเกษตรเคลื่อนที่ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และให้ได้รับการแก้ไขปัญหาด้านการเกษตร อย่างครบวงจรในคราวเดียวกันนับว่าเป็นประโยชน์อย่างมาก ต่อเกษตรกรและผู้สนใจเข้าร่วมโครงการเพื่อจะได้นําความรู้ที่ได้รับมาประกอบการตัดสินใจในการปรับปรุง แก้ไข พัฒนาผลผลิตในพื้นที่ทํากินของท่าน ให้มีคุณภาพและมาตรฐาน ตรงตามความต้องการของตลาดและผู้บริโภค ก่อให้เกิดรายได้ที่ยั่งยืน เป็นผลดีต่อตนเองครอบครัวและสังคมโดยรวมต่อไป จากนั้น ผู้ว่าราชการจังหวัดและคณะได้พบปะพูดคุยกับเกษตรและเยี่ยมหน่วยงานต่างๆ ที่มาให้บริการเกษตรกร รุ่งนภา/ข่าว /ธิติมา/เรียบเรียง/ภาพ/สํานักงานเกษตรจังหวัดฯทีมงานสํานักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสมุทรสงคราม#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
|
15/2/2023
|
ภาคกลางและปริมณฑล
|
สมุทรสงคราม
|
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสมุทรสงคราม
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230215155113427
| null |
จ.สุรินทร์ จัดโครงการคลินิกเกษตรเคลื่อนที่ในพระราชานุเคราะห์ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช ฯ สยามมกุฎราชกุมาร ปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ไตรมาสที่ 2 ที่ อ.ศรีณรงค์
|
วันนี้ (15 กุมภาพันธ์ 2566) จังหวัดสุรินทร์ โดย สํานักงานเกษตรจังหวัดสุรินทร์ ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จัดโครงการคลินิกเกษตรเคลื่อนที่ในพระราชานุเคราะห์ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร จังหวัดสุรินทร์ ปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ไตรมาสที่ 2 บูรณาการร่วมกับโครงการจัดงานแสดงสินค้าเพื่อเพิ่มผลผลิตและการจัดการพื้นที่เกษตร ประจําปี พ.ศ. 2566 เพื่อให้บริการแก่เกษตรกรในการแก้ไขปัญหาการผลิตด้านการเกษตรได้อย่างรวดเร็ว และสอดคล้องกับความต้องการของเกษตรกรโดยตรง โดยมี นายพิจิตร บุญทัน ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ เป็นประธาน นายวันชัย ประยงค์หอม เกษตรจังหวัดสุรินทร์กล่าวรายงานการจัดงาน นายอําเภอศรีณรงค์ กล่าวต้อนรับ และนายกองค์การบริหารส่วนตําบลศรีสุข กล่าวรายงานสถานการณ์ในพื้นที่ พร้อมด้วยนายกเหล่ากาชาดจังหวัดสุรินทร์ และหัวหน้าส่วนราชการทั้งในระดับจังหวัดและอําเภอ เจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้อง นักเรียน นักศึกษา และประชาชนชาวอําเภอศรีณรงค์ร่วมกิจกรรมจํานวนมากกิจกรรมประกอบด้วย การมอบใบประกาศเกียรติคุณให้แก่นายกองค์การบริหารส่วนตําบลศรีสุข โดย ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ มอบเมล็ดพันธุ์พืชผักแก่เกษตรกรต้นแบบตําบลศรีสุข โดย สํานักงานเกษตรจังหวัดสุรินทร์ มอบพันธุ์ปลา จํานวน 50,000 ตัว ให้แก่กํานันตําบลศรีสุข จํานวน 1 ชุด โดย สํานักงานประมงจังหวัดสุรินทร์ มอบเวชภัณฑ์สัตว์ ให้แก่นายกองค์การบริหารส่วนตําบลศรีสุข จํานวน 1 ชุด โดย สํานักงานปศุสัตว์จังหวัดสุรินทร์ และการมอบใบประกาศเกียรติคุณให้แก่ผู้ชนะการประกวดผลผลิตทางการเกษตร รวมทั้งภายในงานบริเวณลานกิจกรรม ยังมีการแข่งขันตําข้าวลีลา การแข่งขันหว่านแหบก การแข่งขันตําข้าวลีลา การประกวดไก่ชนเพิ่มมูลค่า 3 ประเภท อีกด้วยโอกาสนี้ ผู้ว่าราชการจังทวัดสุรินทร์ ได้นําเยี่ยมชมการออกหน่วยบริการคลินิกเกษตร และนิทรรศการสถานศึกษาและผลิตภัณฑ์ชุมชนด้วย#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
|
15/2/2023
|
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
|
สุรินทร์
|
สวท.สุรินทร์
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230215164206456
| null |
รองผู้ว่าฯ เพชรบูรณ์ ลงพื้นที่สร้างความเข้าใจประชาชนงดเผาแก้ไขปัญหาไฟป่าหมอกควัน และฝุ่นละออง ในพื้นที่ที่อาจส่งผลกระทบกับสุขภาพของประชาชน
|
ที่ศาลาประชาคม บ้านเขาชะโงกเหนือ หมู่ที่ 7 ตําบลบ้านกล้วย อําเภอชนแดน จังหวัดเพชรบูรณ์ นายชัชวาลย์ เบญจสิริวงศ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ พร้อมด้วย พันเอกพศิน แสงคํา รองผู้อํานวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดเพชรบูรณ์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเพชรบูรณ์ นายอําเภอชนแดน หัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ หมู่ที่ 7 ตําบลบ้านกล้วย อําเภอชนแดน เข้าพบปะประชาชนในพื้นที่ สร้างการรับรู้ และประชาสัมพันธ์ขอความร่วมมือกับประชาชนในการงดเผา เนื่องจากเป็นพื้นที่พบจุดความร้อน Hot Spot จํานวนมาก เพื่อแก้ไขปัญหาไฟป่าหมอกควันและฝุ่นละอองที่อาจส่งผลกระทบกับสุขภาพของประชาชนนายชัชวาลย์ เบญจสิริวงศ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ กล่าวว่า ทางจังหวัดได้ทราบข้อมูลจากหน่วยเหนือว่าปัญหาไฟป่าหมอกควันและฝุ่นละอองมีปัญหารุนแรงใน 17 จังหวัดภาคเหนือ มีค่า PM2.5 สูงกว่าค่ามาตรฐาน โดยในส่วนของจังหวัดเพชรบูรณ์ปัจจุบันค่า PM2.5 ยังไม่เกินมาตรฐานแต่ก็มีค่าที่ไม่ดี ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ จึงมอบหมายให้ กอ.รมน.จังหวัดเพชรบูรณ์บูรณาการส่วนราชการที่เกี่ยวข้องลงมาสร้างความรู้ ความเข้าใจ กับประชาชนในการงดเผา โดยเลือกกลุ่มเป้าหมายสร้างการรับรู้เป็นพื้นที่ ที่พบจุดความร้อน Hot Spot จํานวนมาก ซึ่งในวันนี้เป็นตําบลบ้านกล้วย อําเภอชนแดน และ การลงพื้นที่ครั้งนี้จะมีส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง มาให้องค์ความรู้ในอํานาจหน้าที่ของตนเอง พร้อมรับฟังเสียงสะท้อนของประชนในพื้นที่ เพื่อนําข้อมูลและปัญหาที่เกิดขึ้นเสนอต่อผู้ว่าราชการจังหวัดเพื่อหาแนวทางแก้ไขปัญหาต่อไปรองผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ กล่าวต่อว่า ประชาชนทุกคนสามารถลดไฟป่าหมอกควันและฝุ่น PM2.5 ได้ เพียงทุกคนลดต้นตอของการผลิตฝุ่น ก็คือการเผา เช่น การเผาป่า การเผาพื้นที่ทางการเกษตร ซึ่งเป็นปัจจัยหลักที่ทําให้เกิดฝุ่นละออง และตั้งแต่วันที่ 16 กุมภาพันธ์-วันที่ 16 เมษายน 2566 จังหวัดเพชรบูรณ์ได้ออกประกาศห้ามมิให้มีการเผาใดๆ ทั้งสิ้น หากฝ่าฝืนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะเข้าดําเนินการตามอํานาจหน้าที่ตามกฎหมายทั้งนี้การจุดไฟเผาป่าหรือปล่อยไฟลุกลามเข้าไปในป่ามีความผิดตามกฎหมาย มาตรา 54 พระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ.2484 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มีโทษจําคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 5 หมื่นบาท หรือทั้งจําทั้งปรับ ในกรณีบุคคลใดเผ่าป่าเนื้อที่เกิน 25 ไร่ มีโทษจําคุกตั้งแต่ 2-15 ปี และปรับตั้งแต่ 1 หมื่น ถึง 1 แสนบาท และ ตามมาตรา 14 พระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ. 2507 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มีโทษจําคุกตั้งแต่ 1-10 ปี และปรับตั้งแต่ 2 หมื่น ถึง 2 แสน บาท ในกรณีบุคคลใดเผ่าป่าเนื้อที่เกิน 25 ไร่ มีโทษจําคุกตั้งแต่ 4-20 ปี และปรับตั้งแต่ 2 แสน ถึง 2 ล้านบาท #สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
|
15/2/2023
|
ภาคเหนือ
|
เพชรบูรณ์
|
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเพชรบูรณ์
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230215162114444
| null |
จ.พระนครศรีอยุธยา ร่วมประชุมกับกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง ติดตามสถานการณ์ไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM 2.5)
|
วันนี้ (15 กุมภาพันธ์ 2566) เวลา 09.30 น. ที่ห้องประชุมมหาธาตุ ชั้น 4 ศาลากลางจังหวัดพระนครศรีอยุธยา นายไพรัตน์ เพชรยวน รองผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา นายกฤษณ์ แก้วทองหลาง หัวหน้าสํานักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดพระนครศรีอยุธยา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมประชุมกองอํานวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก.) เพื่อติดตามสถานการณ์ไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละอองขนาดเล็ก(PM2.5) ผ่านระบบซูม โดยมี อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ผู้อํานวยการกลางโดยที่ประชุมได้นําเสนอ สภาพอากาศในห้วงที่ผ่านมา และคาดการณ์สภาพอากาศในระยะต่อไป ที่อาจส่งผลกระทบต่อสถานการณ์ไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละอองขนาดเล็ก ร่วมกันวิเคราะห์การเกิดจุดความร้อนในพื้นที่ต่างๆ รวมทั้งนําเสนอแผน มาตรการ แนวทางการดําเนินการแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก ข้อสั่งการของกองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ ผลการดําเนินการ และการสนับสนุนการปฏิบัติในพื้นที่ 17 จังหวัดภาคเหนือ ทั้งภาคพื้นดิน และภาคอากาศ สําหรับผลการดําเนินการของหน่วยงาน และประเด็นการประสานการปฏิบัติ มีการติดตามการป้องกันและลดมลพิษจากแหล่งกําเนิด การเผาในพื้นที่โล่ง พื้นที่ป่า พื้นที่การเกษตร การคมนาคม การสนับสนุนการปฏิบัติงานของหน่วยทหาร ผลการบังคับใช้กฎหมาย และผลกระทบต่อสุขภาพประชาชน และการดําเนินการที่เกี่ยวข้อง และติดตามสถานการณ์ในพื้นที่ทั้งนี้ ประธานฯ ได้กําชับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องบูรณาการณ์ร่วมกันเพื่อเฝ้าระวังมาตรการทางกฎหมายที่เคยปฏิบัติ โดยการห้ามเผาในพื้นที่โล่ง หรือการแนะนําให้การช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบต่อสุขภาพ และหากพบเหตุการณ์เผาในพื้นที่ต่าง ๆ ให้แจ้งสายด่วน 1784 ปภ. ได้ตลอด 24 ชั่วโมงข่าว : #สํานักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดพระนครศรีอยุธยา#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
|
15/2/2023
|
ภาคกลางและปริมณฑล
|
พระนครศรีอยุธยา
|
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230215155551430
| null |
จ.แม่ฮ่องสอน ร่วมประชุมกับกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง ติดตามสถานการณ์ไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM 2.5)
|
วันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2566 เวลา 09.30 น. นายเชษฐา โมสิกรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน นายประเสริฐ จิตต์พลีชีพ รองผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน รอง.ผอ กอ รมน จังหวัดแม่ฮ่องสอน หัวหน้าสํานักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมประชุมกองอํานวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก.) เพื่อติดตามสถานการณ์ไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละอองขนาดเล็ก ผ่านระบบซูม ณ ห้องประชุมสํานักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดแม่ฮ่องสอนโดยอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ผู้อํานวยการกลาง ซึ่งที่ประชุมได้นําเสนอ สภาพอากาศในห้วงที่ผ่านมาและคาดการณ์สภาพอากาศในระยะต่อไปที่อาจส่งผลกระทบต่อสถานการณ์ไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละอองขนาดเล็ก ร่วมกันวิเคราะห์การเกิดจุความร้อนในพื้นที่ต่างๆ นําเสนอแผน มาตรการ แนวทางการดําเนินการแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก ข้อสั่งการของกองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ ผลการดําเนินการ และการสนับสนุนการปฏิบัติในพื้นที่ 17 จังหวัดภาคเหนือ ทั้งภาคพื้นดิน และภาคอากาศ สําหรับผลการดําเนินการของหน่วยงาน และประเด็นการประสานการปฏิบัติ มีการติดตามการป้องกันและลดมลพิษจากแหล่งกําเนิด การเผาในพื้นที่โล่ง พื้นที่ป่า พื้นที่การเกษตร การคมนาคม การสนับสนุนการปฏิบัติงานของหน่วยทหาร ผลการบังคับใช้กฎหมาย และผลกระทบต่อสุขภาพประชาชน และการดําเนินการที่เกี่ยวข้อง และติดตามสถานการณ์ในพื้นที่ทั้งนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน กล่าวรายงานสถานการณ์หมอกควันไฟป่าในพื้นที่จังหวัดแม่ฮ่องสอนว่า สถานการณ์ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2566 พบว่า จุดความร้อนน้อยกว่าปีที่ผ่านมา ส่วนพื้นที่การเผาไหม้ และปริมาณค่าฝุ่นละออง PM 2.5 มีปริมาณเกินจากเป้าหมายที่ตั้งไว้เล็กน้อย ทั้งนี้ปริมาณฝุ่นละอองเกิดจากประเทศเพื่อนบ้านและพื้นที่ข้างเคียง ส่วนมาตรการต่างๆ ได้มีการเตรียมความพร้อมแล้ว ทั้งมาตรการการเฝ้าระวัง การออกปฏิบัติการ การให้ความช่วยเหลือกลุ่มเปราะบาง การสร้างความชุ่มชื้นในเขตชุมชน และการจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการในระดับอําเภอและจังหวัด#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
|
15/2/2023
|
ภาคเหนือ
|
แม่ฮ่องสอน
|
สวท.แม่ฮ่องสอน
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230215160201433
| null |
สำนักงานเกษตรอำเภอปะเหลียน จังหวัดตรัง ติดตามกลุ่มแม่บ้านเกษตรกรศิลาแก้ว ตามกิจกรรมร่วมบูรณาการกับโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนบ้านหินจอกจัดกิจกรรมการทำเครื่องแกง
|
วันนี้ ( 15 กุมภาพันธ์ 2566) นายสุภัทธ คงด้วง เกษตรอําเภอปะเหลียน มอบหมายให้นางสาวปราณี แข็งแรง นักวิชาการส่งเสริมการเกษตรชํานาญการ ติดตามกลุ่มแม่บ้านเกษตรกรศิลาแก้ว หมู่ที่ 6 ตําบลลิพัง อําเภอปะเหลียน จังหวัดตรัง นําโดยนางอรวรรณ กุลตัน ประธานกลุ่มแม่บ้านฯ ร่วมบูรณาการกับโรงเรียนตํารวจตระเวนชายแดนบ้านหินจอก จัดกิจกรรมการทําเครื่อง ได้แก่ แกงส้ม แกงกะทิ แกงผัดเผ็ดทั้งนี้ กิจกรรมดังกล่าว ได้มีการสาธิต และฝึกปฏิบัติให้นักเรียนได้เรียนรู้ขั้นตอน วิธีการทําเครื่องแกงตํามือ ซึ่งเครื่องแกงที่ได้จะนําไปจําหน่ายให้แก่สหกรณ์ของโรงเรียน ตลอดจนชาวบ้านในชุมชน และส่วนหนึ่งจะจําหน่ายให้แก่โรงเรียนเพื่อนําไปประกอบอาหารกลางวัน ทําให้กลุ่มมีรายได้หมุนเวียน ปัจจุบันสมาชิกกลุ่ม มีกิจกรรมหลักคือ การผลิตเครื่องแกงตํามือ และการผลิตไม้กวาดดอกหญ้า โดยการนําดอกหญ้า ซึ่งมีมากเฉพาะในพื้นที่มาทํา ซึ่งตลาดมีความต้องการสูง#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
|
15/2/2023
|
ภาคใต้
|
ตรัง
|
สวท.ตรัง
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230215182904522
| null |
รองผู้ว่าฯ สมุทรสงคราม นำหัวหน้าส่วนราขการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมประชุมกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก.) เพื่อติดตามสถานการณ์ไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5
|
วันนี้ (15 ก.พ.66) ที่ห้องประชุม ชั้น 4 ศาลากลางจังหวัดฯ นายศิริศักดิ์ ศิริมังคะลา รองผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสงคราม นําหัวหน้าส่วนราชการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมประชุมกองอํานวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก.) เพื่อติดตามสถานการณ์ไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 ผ่านระบบทางไกล โดยมีอธิบตีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย/ผู้อํานวยการกลาง เป็นประธานการประชุม ณ ห้องประชุม 1 อาคาร 3 ขั้น 5 ที่ประชุมแจ้งสภาพอากาศในห้วงที่ผ่านมาและคาดการณ์สภาพอากาศในระยะต่อไปที่อาจส่งผลกระทบต่อสถานการณ์ไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ข้อมูลวิเคราะห์การเกิดจุดความร้อน (Hotspot ในพื้นที่ต่างๆ เผยมาตรการแนวทางการดําเนินการแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 ประเด็นข้อสั่งการของกองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ ผลการดําเนินการ และการสนับสนุนการปฏิบัติในพื้นที่ 19 จังหวัดภาคเหนือทางภาคพื้นดินทางอากาศ ผลการดําเนินการของหน่วยงาน และประเด็นการประสานการปฏิบัติ การติดตามการป้องกันและลดมลพิษจากแหล่งกําเนิด (แหล่งกําเนิดที่มีแนวโน้มสูงขึ้น) การเผาในพื้นที่โล่ง พื้นที่ป่า/พื้นที่เกษตร ,การคมนาคมขนส่ง,การสนับสนุนการปฏิบัติงานของหน่วยทหาร รวมทั้งผลการบังคับใช้กฎหมาย เช่น การดําเนินคดี การลักลอบเผา รถควันดํา เป็นตัน และผลกระทบต่อสุขภาพประชาชน และการดําเนินการที่เกี่ยวข้องและการติดตามสถานการณ์ในระดับพื้นที่ รุ่งนภา/ข่าว /ธิติมา/เรียบเรียงทีมงานสํานักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสมุทรสงคราม#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
|
15/2/2023
|
ภาคกลางและปริมณฑล
|
สมุทรสงคราม
|
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสมุทรสงคราม
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230215162022443
| null |
เทศบาลเมืองพิชัย จ.ลำปาง จับมือเครือข่ายพื้นที่ตำบลพิชัย เดินหน้าเชิงรุก เตรียมเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงไฟป่าอย่างเข้มงวด ภายหลังจังหวัดลำปางประกาศห้ามเผา ฝ่าฝืนมีโทษตามกฎหมาย
|
นายสองเมือง วงค์ไชย นายกเทศมนตรีเมืองพิชัย เป็นประธานเปิดงานรณรงค์ป้องกันไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละอองขนาดเล็ก ประจําปี 2566 และปล่อยขบวนรถรณรงค์การป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าหมอกควัน เพื่อเป็นการแสดงถึงความตระหนักและสร้างความพร้อม ในการร่วมกันป้องกันและแก้ไขปัญหา อีกทั้งจังหวัดลําปาง ประกาศให้ทั้ง 13 อําเภอ งดเผาโดยเด็ดขาดตั้งแต่วันที่ 15 กุมภาพันธ์-วันที่ 30 เมษายนนี้ หากฝ่าฝืนทีโทษปรับตามกฎหมาย โดยมีเทศบาลตําบลต้นธงชัย, องค์การบริหารส่วนตําบลพิชัย, องค์การบริหารส่วนตําบลบ้านเสด็จ, สถานีตํารวจภูธรเมืองลําปาง, สายตรวจตําบลพิชัย รวมทั้งภาคีเครือข่ายภาคประชาสังคม กํานันตําบลพิชัย ผู้ใหญ่บ้าน เข้าร่วมกิจกรรม ณ บริเวณลานหน้าสํานักงานเทศบาลเมืองพิชัยทั้งนี้ เทศบาลเมืองพิชัยให้ความสําคัญกับปัญหาไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละอองขนาดเล็ก โดยดําเนินมาตรการในเชิงป้องกันมาตลอด ควบคู่กับการประสานความร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐและภาคประชาชนในพื้นที่ โดยได้เตรียมความพร้อมของบุคลากรและรถดับเพลิงพร้อมอุปกรณ์ ตลอดจนเฝ้าระวังพื้นที่ที่ติดกับป่าธรรมชาติ และประชาสัมพันธ์รณรงค์ป้องกันไฟป่าในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
|
15/2/2023
|
ภาคกลางและปริมณฑล
|
กรุงเทพมหานคร
|
สวท.ลำปาง
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230215162711447
| null |
ชาวอำเภอศรีณรงค์นับพันคน ร่วมงานคลินิกเกษตรเคลื่อนที่ฯ ไตรมาสที่ 2 พร้อมรับบริการบริการด้านต่างๆ อย่างคึกคัก ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ร่วมเปิดงานและให้กำลังใจ
|
การจัดโครงการคลินิกเกษตรเคลื่อนที่ในพระราชานุเคราะห์ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร จังหวัดสุรินทร์ ปีงบประมาณ 2566 ไตรมาสที่ 2 ซึ่งบูรณาการร่วมกับโครงการจัดงานแสดงสินค้าเพื่อเพิ่มผลผลิตและการจัดการพื้นที่เกษตร ประจําปี 2566 โดย สํานักงานเกษตรจังหวัดสุรินทร์ ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในการให้บริการเกษตรกรสําหรับการแก้ไขปัญหาการผลิตด้านการเกษตรได้อย่างรวดเร็ว และตรงตามความต้องการ มีเกษตรกรร่วม 1,000 คน เข้ารับบริการ อาทิ การขึ้นทะเบียนเกษตรกรกับสํานักงานเกษตรจังหวัด นําสุนัขมาทําหมันกับปศุสัตว์ ขอรับคําปรึกษาด้านการปลูกข้าวนาปรัง ปลูกพืชหมุนเวียน ปลูกพืชหน้าแล้ง และการบริหารจัดการน้ํากับโครงการชลประทาน รวมทั้งการร่วมกิจกรรมประกวดต่างๆ เช่น การแข่งขันตําข้าวลีลา การแข่งขันหว่านแหบก การประกวดไก่ชน โดย นายพิจิตร บุญทัน ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ ได้นําหัวหน้าส่วนราชการพบปะให้กําลังใจเจ้าหน้าที่ และประชาชนในครั้งนี้ด้วย#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
|
15/2/2023
|
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
|
สุรินทร์
|
สวท.สุรินทร์
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230215172415486
| null |
จังหวัดตราด ประชุมร่วม กอปภ.ก. ติดตามสถานการณ์ไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM 2.5)
|
(15 ก.พ. 66 ) ที่ห้องประชุมตราดสีทอง ศาลากลางจังหวัดตราด นายชํานาญวิทย์ เตรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดตราด มอบหมายให้ นายกัฬชัย เทพวรชัย รองผู้ว่าราชการจังหวัดตราด นําส่วนราชการที่เกี่ยวข้องประชุมร่วมกับกองอํานวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ (กอปภ.ก.) เพื่อติดตามสถานการณ์ไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM 2.5) ผ่านระบบ VDO Conference ที่มีนายบุญธรรม เลิศสุขีเกษม อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เป็นประธานจากห้องประชุมอาคาร 3 ชั้น 5 กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย พร้อมกันกับจังหวัดต่าง ๆ ทั่วประเทศ ทั้งนี้ ตามที่กองอํานวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง ได้ติดตามสถานการณ์ไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 พบว่าตั้งแต่เดือนมกราคม 2566 เป็นต้นมาเกิดจุดความร้อน (Hotspot) เพิ่มขึ้นในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะพื้นที่เกษตรและพื้นที่ป่า ประกอบกับเกิดสถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 ที่มีค่าสูงเกินค่ามาตรฐานติดต่อกันหลายวัน ส่งผลกระทบต่อปัญหาสุขภาพของประชาชนเป็นอย่างมาก กองอํานวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก.) ได้มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดําเนินการติดตามสถานการณ์ สถานการณ์ไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 กําหนดมาตรการแนวทางการดําเนินการแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก พร้อมให้มีการบูรณาการเพื่อลดปัญหาดังกล่าว อย่างไรก็ตามในส่วนของจังหวัดตราด ในช่วงสัปดาห์นี้ เริ่มมีฝนตกในหลายพื้นที่ ทําให้สภาพอากาศในวันนี้(15 ก.พ. 66) อยู่ในเกณฑ์คุณภาพดีมาก (อยู่ในระดับสีฟ้า) โดยเฉพาะค่า AQI (Air Quality Index) อยู่ที่ 20 ในขณะที่ PM 2.5 อยู่ที่ 18 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร หรือ มคก./ลบ.ม. หรือ ?g./m3 ซึ่งดีกว่าในช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ที่มีค่าเกินมาตรฐาน (อยู่ในระดับสีเหลือง) #สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
|
15/2/2023
|
ภาคตะวันออก
|
ตราด
|
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดตราด
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230215162730448
| null |
จังหวัดอุบลราชธานีติดตามสถานการณ์ไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5
|
วันนี้ ( 15 ก.พ.2566) ที่ห้องประชุมสํานักงานป้องกันบรรเทาสาธารณภัย จังหวัดหวัดอุบลราชธานี นายสมเพชร สร้อยสระคู รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องประชุมติดตามสถานการณ์ไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 ผ่านระบบ Web Conference โดยมี นายบุญธรรม เลิศสุขีเกษม อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เป็นประธานการประชุม ตามที่กองอํานวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง ได้ติดตามสถานการณ์ไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 พบว่าตั้งแต่เดือนมกราคม 2566 เป็นต้นมาเกิดจุดความร้อน เพิ่มขึ้นในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะพื้นที่เกษตรและพื้นที่ป่า ประกอบกับเกิดสถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 ที่มีค่าสูงเกินค่ามาตรฐานติดต่อกันหลายวัน ส่งผลกระทบต่อปัญหาสุขภาพของประชาชนเป็นอย่างมาก กองอํานวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก.) ได้มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดําเนินการติดตามสถานการณ์ สถานการณ์ไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 กําหนดมาตรการแนวทางการดําเนินการแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก พร้อมให้มีการบูรณาการเพื่อลดปัญหาดังกล่าว กรกช ภูมี สวท.อุบลฯ รายงาน #สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
|
15/2/2023
|
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
|
อุบลราชธานี
|
สวท.อุบลราชธานี
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230216082823647
| null |
จังหวัดมุกดาหารติดตาม ประเมินผล การดำเนินโครงการระบบสูบน้ำพลังงานแสงอาทิตย์เพื่อการเกษตรของสำนักงานพลังงานจังหวัดมุกดาหาร
|
นายวลัยพรรณ น้อยสันเทียะ รองผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร นําส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ติดตาม ประเมินผลและให้ข้อเสนอแนะ ในการทําการเกษตรด้วยระบบสูบน้ําพลังงานแสงอาทิตย์ ภายใต้โครงการพัฒนาและเสริมสร้างความเข้มแข็งของเศรษฐกิจฐานรากจังหวัดมุกดาหาร และโครงการตามแผนปฏิบัติราชการประจําปีจังหวัดมุกดาหาร ปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 ในพื้นที่ตั้งโครงการอําเภอเมืองมุกดาหาร จํานวน 3 จุด ได้แก่ โครงการพัฒนาและเสริมสร้างความเข้มแข็งของเศรษฐกิจฐานรากจังหวัดมุกดาหาร ขนาด 2,500 วัตต์ บ้านพังคอง (จุดที่ 1) หมู่ที่ 5 ตําบลบ้านโคก อําเภอเมือง จังหวัดมุกดาหารโครงการพัฒนาและเสริมสร้างความเข้มแข็งของเศรษฐกิจฐานรากจังหวัดมุกดาหาร ขนาด 2,500 วัตต์ บ้านโคกหินตั้ง (จุดที่ 2) หมู่ที่ 10 ตําบลบ้านโคก อําเภอเมือง จังหวัดมุกดาหาร และโครงการพัฒนาและเสริมสร้างความเข้มแข็งของเศรษฐกิจฐานรากจังหวัดมุกดาหาร ขนาด 2,500 วัตต์ บ้านคําตุนาง (จุดที่ 3) หมู่ที่ 1 ตําบลมุกดาหาร อําเภอเมือง จังหวัดมุกดาหารทั้งนี้ จังหวัดมุกดาหารได้มอบหมายให้สํานักงานพลังงานจังหวัดมุกดาหาร ดําเนินโครงการเสริมสร้างศักยภาพและเพิ่มขีดความสามารถในการทําการเกษตรด้วยระบบสูบน้ําพลังงานแสงอาทิตย์ จํานวน 50 โครงการ และโครงการติดตามแผนปฏิบัติราชการประจําปีจังหวัดมุกดาหาร ปีพ.ศ. 2565 จํานวน 7 โครงการ โดยการลงพื้นที่ในครั้งนี้เพื่อติดตาม ประเมินผลสําเร็จ ความคุ้มค่า ผลกระทบ และประโยชน์ที่ประชาชนได้รับ พร้อมทั้งดําเนินการวางแผนดูแลบํารุงรักษาและใช้ประโยชน์อย่างยั่งยืน#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND.
|
15/2/2023
|
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
|
มุกดาหาร
|
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดมุกดาหาร
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230216083810655
| null |
จังหวัดสุรินทร์ ประชุมติดตามสถานการณ์ไปป่า หมอกควัน และฝุ่นละอองขนาดเล็ก
|
วันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2566 กองอํานวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง จัดการประชุมเพื่อติดตามสถานการณ์ไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละอองขนาดเล็ก ผ่านระบบ web Conference โดยจังหวัดสุรินทร์มอบหมายให้นายชํานาญ ชื่นตา รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ เป็นประธานการประชุม ณ ห้องประชุมประคําสวย ชั้น 4 ศาลากลางจังหวัดสุรินทร์ โดยที่ประชุมได้รายงานสภาพอากาศและคาดการณ์สภาพอากาศที่อาจส่งผลกระทบต่อสถานการณ์ไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละอองขนาดเล็ก ข้อมูลวิเคราะห์ความร้อนในพื้นที่ต่างๆ แผนงาน มาตรการ แนวทางการดําเนินการแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก ข้อสั่งการของกองบัญชาการป้องกันบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ การติดตามการป้องกันและลดมลพิษจากแหล่งกําเนิด เช่น การเผาในพื้นที่โล่ง พื้นที่ป่า พื้นที่เกษตร การคมนาคมขนส่ง การบังคับใช้กฎหมาย เช่น การดําเนินคดี การลักลอบเผา และรถควันดํา เป็นต้นสําหรับ จังหวัดสุรินทร์มีความเสี่ยงต่อการเกิดมลพิษทางอากาศเกินค่ามาตรฐานช่วงเดือนธันวาคมถึงพฤษภาคมของทุกปี เนื่องจากสภาพอากาศแห้ง มีลมกรรโชกแรง การเผาไหม้จากยานพาหนะ การเผาขยะ การเผาเศษวัสดุทางการเกษตร การเผาในที่โล่ง การก่อสร้าง โดยจังหวัดสุรินทร์มีพื้นที่เสี่ยงการเกิดปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็กรวม 11 อําเภอ จาก 17 อําเภอ ประกอบด้วย อําเภอเมืองสุรินทร์ อําเภอปราสาท อําเภอกาบเชิง อําเภอพนมดงรัก อําเภอสังขะ อําเภอบัวเชด อําเภอศีขรภูมิ อําเภอรัตนบุรี อําเภอท่าตูม อําเภอชุมพลบุรี และอําเภอจอมพระ ดังนั้น เพื่อเตรียมป้องกัน และแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละอองขนาดเล็ก จังหวัดสุรินทร์จึงแต่งตั้งคณะทํางานติดตามสถานการณ์ไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละอองขนาดเล็ก จังหวัดสุรินทร์ พร้อมทั้งกําหนดมาตรการดําเนินการ เช่น การทบทวนและจะทําแผนเผชิญเหตุ เตรียมความพร้อมกําลังเจ้าหน้าที่ เครื่องมือ อุปกรณ์ เครื่องจักรกลสาธารณะ ป้องกันและลดการเกิดมลพิษที่ต้นทาง ให้อําเภอและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น สนับสนุนการนําวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรไปแปรรูปใช้ประโยชน์ หรือเพิ่มมูลค่าแทนการเผา และการดูแลสุขภาพประชาชน เป็นต้น#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
|
15/2/2023
|
ภาคกลางและปริมณฑล
|
กรุงเทพมหานคร
|
สวท.สุรินทร์
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230216084415658
| null |
รองผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง ร่วมประชุมกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก.) เพื่อติดตามสถานการณ์ไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละอองขนาดเล็ก
|
วันนี้ (15 กุมภาพันธ์ 2566) นายวิศิษฐ์ อนันต์วรปัญญา รองผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง ร่วมประชุมกองอํานวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก.) เพื่อติดตามสถานการณ์ไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละอองขนาดเล็ก ผ่านระบบวีดิทัศน์ทางไกล จากห้องประชุมกรมป้องกันสาธารณภัย ณ ห้องศรีตรัง ศาลากลางจังหวัดตรัง โดยมีกองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ ได้มีข้อสั่งการให้ทุกจังหวัด เตรียมการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM2.5) ปี 2565 – 2566 จัดตั้งคณะทํางานติดตามสถานการณ์ เน้นการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีในการสนับสนุน การอํานวยการ สั่งการ รวมทั้งสามารถแจ้งเตือนแก่ประชาชนอย่างทั่วถึง ทบทวน และจัดทําแผนเผชิญเหตุ ให้ความสําคัญกับการปรับปรุงข้อมูล แนวทางปฏิบัติในแต่ละระดับ ซักซ้อมแผนเผชิญเหตุร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างต่อเนื่อง เตรียมความพร้อมกําลังเจ้าหน้าที่ เครื่องจักรกลสาธารณภัยประสานการปฏิบัติ กับ อปท. และหน่วยงานต่าง ๆ รวมถึงการจัดตั้งชุดเฝ้าระวัง เน้นย้ําการป้องกันและลดการเกิดมลพิษที่ต้นทาง กําชับหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายโดยเคร่งครัดรวมถึงการประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้ให้ประชาชนทราบถึงสถานการณ์ มาตรการ ข้อกฎหมาย แนวทางปฏิบัติ ข้อมูลด้านสุขภาพของสาธารณสุข และการแก้ไขปัญหาของภาครัฐอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ ในที่ประชุม ทางกรมอุตุนิยมวิทยา ได้รายงานและคาดการณ์สภาพอากาศที่อาจส่งผลกระทบต่อสถานการณ์ไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ส่วนกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ได้นําเสนอมาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่า 2 มาตรการ 3 ระยะ 5 กิจกรรม ด้านกระทรวงสาธารณสุข ได้นําเสนอสถานการณ์ผลกระทบต่อสุขภาพและการดําเนินงานด้านการแพทย์และสาธารณสุขกรณีหมอกควันและฝุ่นละอองขนาดเล็ก ปี 2566 เพื่อคุ้มครองประชาชนกลุ่มเสี่ยงที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงและการลดจํานวนผู้ป่วยด้วยโรคที่เกี่ยวข้องกับมลพิษทางอากาศ ขณะที่กรมควบคุมมลพิษ ได้ชี้แจงแผนปฏิบัติการเพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาฝุ่นละออง PM.2.5 ภายใต้แผนเฉพาะกิจเพื่อการแก้ไขปัญหามลพิษด้านฝุ่นละออง ปี 2566 ด้วย#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
|
15/2/2023
|
ภาคใต้
|
ตรัง
|
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดตรัง
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230215201125575
| null |
ภูเก็ตติดตามสถานการณ์ไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM 2.5) พร้อมวางแนวทางการป้องกันฝุ่น PM2.5
|
วันนี้ (15 ก.พ.2566 )ที่สํานักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด.ภูเก็ต ชั้น 3 ศาลากลางจังหวัดภูเก็ต นายอานุภาพ รอดขวัญ ยอดระบํา รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานในการประชุมติดตามสถานการณ์ไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM 2.5) โดยมีนายอุดมพร กาญจน์ ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดภูเก็ต และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม นายอานุภาพ กล่าวว่า ด้วยกองอํานวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง ได้ติดตามสถานการณ์ไฟป่า หมอกควันและฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM2.5) พบว่า ตั้งแต่เดือนมกราคม 2566 เป็นต้นมา เกิดจุดความร้อน (Hotspot)เพิ่มขึ้นในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะพื้นที่การเกษตรและพื้นที่ป่า ประกอบกับเกิดสถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดเล็ก(PM2.5) ที่มีค่าสูงเกินมาตรฐานติดต่อกันหลายวัน ส่งผลกระทบต่อปัญหาสุขภาพของประชาชนเป็นอย่างมากเพื่อเป็นการเตรียมความพร้อม จังหวัดภูเก็ต จึงได้ให้ติดตามสถานการณ์ ตลอดจนการป้องกันและแก้ไขปัญหาดังกล่าวเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ กองอํานวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดภูเก็ต จึงแต่งตั้งคณะทํางานติดตามและเผ้าระวังไฟป่าโดยการขับเคลื่อนวาระแห่งชาติและตามแผนเฉพาะกิจปี 64 เพื่อการแก้ไขปัญหามลพิษด้านฝุ่นละอองปี 66 โดยกําหนด 3 พื้นที่ คือพื้นที่เมืองเฝ้าระวังโรงงานที่มีมลพิษสูง การบํารุงรักษาเครื่องยนต์และเพิ่มจุดตรวจควันดําริมถนน พื้นที่เกษตรกรรมจุดความร้อนลดลง 10% เผาอ้อยลดลง 5% และพื้นที่ป่าไม้ ลดจุดความร้อนพื้นที่ป่า 20% ย้อนหลัง 5 ปี 7 มาตรการ มีศูนย์เพื่อติดตามและดําเนินการตามแผน ทั้งนี้ เนื่องจากฤดูร้อนในปี 66 มาถึงเร็วกว่าในทุก ๆ ปี ทางจังหวัดภูเก็ตจึงต้องมีการแต่งตั้งคณะทํางานติดตามและเผ้าระวังไฟป่า เพื่อติดตามสถานการณ์และการเตรียมความพร้อมรับมือไฟป่า หมอกควันและฝุ่นละอองขนาดเล็ก(PM2.5)ในพื้นที่ เพื่อให้สามารถดําเนินการให้ทันต่อเหตุการณ์ที่อาจจะเกิดวิกฤตขึ้นได้#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
|
15/2/2023
|
ภาคใต้
|
ภูเก็ต
|
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดภูเก็ต
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230215192138549
| null |
ผู้ว่าฯภูเก็ต มอบเกียรติบัตรให้แก่นักเรียน ที่ได้รับรางวัลในการนำเสนอผลงานเพื่อการพัฒนาสิ่งแวดล้อมของจังหวัดภูเก็ต ของกิจกรรม Phuket Lifekathon 2022ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ
|
วันนี้( 15 กุมภาพันธ์ 2566) ที่ห้องรับรองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต นายณรงค์ วุ่นซิ้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธาน ในการมอบเกียรติบัตรให้แก่ นักเรียนและเยาวชน ที่ได้รับรางวัลในการนําเสนอผลงานเพื่อการพัฒนาสิ่งแวดล้อมของจังหวัดภูเก็ต ของกิจกรรม Phuket Lifekathon 2022 ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ โดยผู้ที่นําเสนอผลงานเป็นภาษาไทย รายการที่ 1. Retrash-sure ได้รับรางวัลชนะเลิศ รายการที่ 2. MAXESได้รับรางวัลรองชนะเลิศ อันดับ 1 รายการที่ 3. Jox Ranger rap ได้รับรางวัลชนะเลิศ อันดับ 2 รายการที่ 4. In your heart ได้รับรางวัลชมเชย ส่วนการนําเสนอผลงานเป็นภาษาอังกฤษ รายการที่ 1. Wastronomyได้รับ รางวัลชนะเลิศ รายการที่ 2. One Minute Mir ได้รับรางวัลรองชนะเลิศ อันดับ 1 รายการที่ 3. Camada ได้รับรางวัลรองชนะเลิศ อันดับ 2 รายการที่ 4. EarthAid wfhiy[รางวัลชมเชย ทั้งนี้ รายการที่นักเรียนที่ได้รับรางวัลในการนําเสนอผลงานเพื่อการพัฒนาสิ่งแวดล้อมของจังหวัดภูเก็ต ของกิจกรรม Phuket Lifekathon 2022 เป็นรายการที่มีความน่าสนใจและสามารถที่จะพัฒนาสิ่งแวดล้อมในจังหวัดภูเก็ตได้ ได้แก่ การสร้างชุด application เพื่อจัดการแก้ไข้ปัญหาขยะและแยกขยะในจังหวัดภูเก็ต จากโรงเรียนขจรเกียรติศึกษา วิธีการนําขยะอินทรีย์มาแปรรูปเป็นอาหารสัตว์จากโรงเรียนนานาชาติขจรเกียรติ ภูเก็ต และวิธีการจัดระบบการจัดการน้ํา เพื่อแก้ปัญหาน่ําท่วมในจังหวัดภูเก็ต จากโรงเรียนสตรีภูเก็ต ทั้งนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตได้กล่าวชื่นชมนักเรียนและเยาวชนที่ได้ทํากิจกรรมและสร้างชื่อเสียงให้กับตนเองครอบครัวและจังหวัดภูเก็ต#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
|
15/2/2023
|
ภาคใต้
|
ภูเก็ต
|
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดภูเก็ต
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230215192427555
| null |
เกษตรปะเหลียน ติดตามกลุ่มแม่บ้านเกษตรกรศิลาแก้ว ตามกิจกรรมร่วมบูรณาการกับโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนบ้านหินจอกจัดกิจกรรมการทำเครื่องแกง
|
วันนี้(15 ก.พ.2566) สํานักงานเกษตรอําเภอปะเหลียน โดยนายสุภัทธ คงด้วง เกษตรอําเภอปะเหลียน มอบหมายให้นางสาวปราณี แข็งแรง นักวิชาการส่งเสริมการเกษตรชํานาญการ ติดตามกลุ่มแม่บ้านเกษตรกรศิลาแก้ว หมู่ที่ 6 ตําบลลิพัง อําเภอปะเหลียน จังหวัดตรัง นําโดยนางอรวรรณ กุลตัน ประธานกลุ่มแม่บ้านฯ ร่วมบูรณาการกับโรงเรียนตํารวจตระเวนชายแดนบ้านหินจอก จัดกิจกรรมการทําเครื่อง ได้แก่ แกงส้ม แกงกะทิ แกงผัดเผ็ด โดยกิจกรรมดังกล่าว ได้มีการสาธิต และฝึกปฏิบัติให้นักเรียนได้เรียนรู้ขั้นตอน วิธีการทําเครื่องแกงตํามือ ซึ่งเครื่องแกงที่ได้จะนําไปจําหน่ายให้แก่สหกรณ์ของโรงเรียน ตลอดจนชาวบ้านในชุมชน และส่วนหนึ่งจะจําหน่ายให้แก่โรงเรียนเพื่อนําไปประกอบอาหารกลางวัน ทําให้กลุ่มมีรายได้หมุนเวียน ปัจจุบันสมาชิกกลุ่ม มีกิจกรรมหลักคือ การผลิตเครื่องแกงตํามือ และการผลิตไม้กวาดดอกหญ้า โดยการนําดอกหญ้า ซึ่งมีมากเฉพาะในพื้นที่มาทํา ซึ่งตลาดมีความต้องการสูง#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
|
15/2/2023
|
ภาคใต้
|
ตรัง
|
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดตรัง
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230215201311578
| null |
เกษตรจังหวัดตรัง หารือการจัดกิจกรรมการพัฒนาผู้ประกอบการ “Young Smart Farmer Innovative Entrepreneurship” ร่วมกับ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย วิทยาเขตสงขลา
|
วันนี้ (15 กุมภาพันธ์ 2566) นายวสันต์ สุขสุวรรณ เกษตรจังหวัดตรัง พร้อมด้วยนางสาวกําไลทิพย์ เศรษฐ์วิชัย หัวหน้ากลุ่มส่งเสริมและพัฒนาเกษตรกร นางณัฎฐินี ชูดํา นักวิชาการส่งเสริมการเกษตรชํานาญการ และนางสาวลีลา เที่ยงธรรม นักวิชาการส่งเสริมการเกษตรชํานาญการ ร่วมหารือการจัดกิจกรรมการพัฒนาผู้ประกอบการ “Young Smart Farmer Innovative Entrepreneurship” ภายใต้โครงการการพัฒนาสถานีเรียนรู้ด้านการเกษตร (Training hub) ให้เป็นแหล่งบ่มเพาะความรู้ ยกระดับศักยภาพ เกษตรกรแบบมีส่วนร่วม ส่งเสริมเศรษฐกิจชุมชน ด้วยองค์ความรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีตามแนวทางเศรษฐกิจ BCG กับมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย วิทยาเขตสงขลา ซึ่งสํานักการจัดการนวัตกรรมและถ่ายทอดเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย วิทยาเขตสงขลา ได้กําหนดจัดขึ้น มีวัตถุประสงค์เพื่อถ่ายทอดองค์ความรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ได้แก่ การผลิตไก่พื้นเมือง การผลิตพริกไทย และการพัฒนาผู้ประกอบการให้เป็นเกษตรกรรุ่นใหม่ มีศักยภาพในการแข่งขันและมีรายได้เพิ่มขึ้น และพัฒนานวัตถกรชุมชนและแพลตฟอร์มการเรียนด้านการผลิตไก่พื้นเมืองและการผลิตพริกไทยให้คนในชุมชน และพื้นที่ใกล้เคียง รวมถึงระบบการบริหารจัดการสถานีเรียนรู้การพัฒนาศักยภาพเกษตรกรรุ่นใหม่ ด้วยองค์ความรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โดยมีเป้าหมายคือ เกษตรกรผู้เลี้ยงไก่พื้นเมือง ผู้ปลูกพริกไทยและอื่นๆ ณ สํานักงานเกษตรจังหวัดตรัง#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
|
15/2/2023
|
ภาคใต้
|
ตรัง
|
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดตรัง
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230215201406579
| null |
จ.สุรินทร์ ร่วมประชุมกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก.) เพื่อติดตามสถานการณ์ไฟป่าหมอกควันและฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM2.5 ) ผ่านระบบ Web Conference
|
วันนี้ (15 ก.พ.66) จังหวัดสุรินทร์ นําโดย นายชํานาญ ชื่นตา รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ พร้อมหัวหน้าส่วนราชการ ร่วมประชุมกองอํานวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก.) เพื่อติดตามสถานการณ์ไฟป่าหมอกควันและฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM2.5 ) ผ่านระบบ Web Conference ณ ห้องประชุมประคําสวย ชั้น 4 ศูนย์ราชการจังหวัดสุรินทร์ โดยมี นายบุญธรรม เลิศสุขีเกษม อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เป็นประธานและมีกรมอุตุนิยมวิทยา สํานักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิศาสตร์สนเทศ กลุ่มควบคุมมลพิษ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย หน่วยงานที่เกี่ยวข้องและส่วนราชการทั้ง 76 จังหวัด เข้าร่วมประชุม ผ่านระบบ Web Conference โดยที่ประชุมฯ ได้ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง แจ้งให้ทราบ ในการนําระบบ Burn Check มาใช้ในการติดตามสถานการณ์ไฟป่าหมอกควันและฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM2.5 ) และในประเด็นสภาพอากาศ ในห้วงที่ผ่านมาและการคาดการณ์สภาพอากาศในระยะต่อไป ที่อาจส่งผลกระทบต่อสถานการณ์ไฟป่าหมอกควันและฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM2.5 ) ข้อมูลวิเคราะห์การเกิดจุดความร้อน Hotspot ในพื้นที่ต่างๆ แผน มาตรการ แนวทางการเมืองการแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็กปี 2566 และประเด็นข้อสั่งการของกองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ รวมถึงผลการดําเนินงานและการสนับสนุนการปฏิบัติในพื้นที่ 17 จังหวัดภาคเหนือ ทั้งภาคพื้นดินและทางอากาศ การสนับสนุนการปฏิบัติงานของหน่วยทหาร ผลการบัญชีผลการบังคับใช้กฎหมาย การดําเนินคดี การลักลอบเผาและรถควันดํา และผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน และการติดตามผลการดําเนินงานด้านการป้องกันและลดมลพิษจากแหล่งกําเนิด ที่มีแนวโน้มสูงขึ้น อาทิ การเผาในพื้นที่โล่ง พื้นที่ป่า พื้นที่เกษตร การคมนาคมขนส่ง และการดําเนินการที่เกี่ยวข้อง#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
|
15/2/2023
|
ภาคเหนือ
|
แพร่
|
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสุรินทร์
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230215201928584
| null |
ศูนย์อำนวยการสร้างอาวุธฯ นำเครื่องช่วยลดฝุ่น PM 2.5 ติดตั้งในสถานศึกษาและโรงเรียน เพื่อช่วยลดปัญหามลพิษทางอากาศฝุ่น PM 2.5 ให้แก่นักเรียนและนักศึกษาในพื้นที่จังหวัดลพบุรี
|
วันนี้ 15 กุมภาพันธ์ 2566 ศูนย์อํานวยการสร้างอาวุธ ศูนย์การอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ และพลังงานทหาร สํานักงานปลัดกระทรวงกลาโหม นํากําลังพลของหน่วยทําการเคลื่อนย้าย เครื่องบําบัดอากาศมลพิษ และฝุ่นขนาดเล็ก PM 2.5 ขนาดใหญ่ ซึ่งเป็นเครื่องบําบัดอากาศต้นแบบ ที่ผ่านการวิจัย พัฒนา และผลิตเอง จากโรงงานต้นแบบการวิจัยพัฒนาอาวุธ ศูนย์อํานวยการสร้างอาวุธ ศูนย์การอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ และพลังงานทหาร หมุนเวียนไปติดตั้งตามสถานศึกษาและโรงเรียน ต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่ 3 ณ โรงเรียนพระนารายณ์ ต.ท่าศาลา อ.เมือง จ.ลพบุรี เพื่อลดปัญหาฝุ่นละอองในอากาศที่เป็นมลพิษ ให้แก่เยาวชนนักเรียน และบุคลากรในสถานศึกษา และประชาชนในพื้นที่ใกล้เคียง ตามนโยบายของสํานักงานปลัดกระทรวงกลาโหม สําหรับอุปกรณ์ดังกล่าว เป็นเครื่องบําบัดอากาศ ในพื้นที่ซึ่งมีมลพิษและฝุ่นขนาดเล็ก(PM2.5) เกินมาตรฐานที่กําหนด ให้มีคุณภาพอากาศที่ดีขึ้น และอยู่ในระดับที่มีความปลอดภัย โดยตัวเครื่องมีขนาด กว้าง 100 ชม. ยาว 150 ซม. สูง 250 ซม. ครอบคลุมพื้นที่ 20,000 ตารางเมตร สามารถบําบัดอากาศได้ 2,500,000 ลิตร/ชม. โดยผ่านถังบรรจุน้ําขนาด 350 ลิตร โดยจะหมุนเวียนนําไปติดตั้งตามสถานศึกษา ชุมชน และแหล่งท่องเที่ยวในพื้นที่จังหวัดลพบุรี เพื่อลดปัญหาฝุ่นละอองในอากาศที่เป็นมลพิษ ให้แก่ เยาวชนนักเรียน และบุคลากรในสถานศึกษา และประชาชนในพื้นที่ใกล้เคียง ข่าว : สํานักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดลพบุรี#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
|
15/2/2023
|
ภาคกลางและปริมณฑล
|
ลพบุรี
|
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดลพบุรี
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230215200040568
| null |
จ.นครพนม รณรงค์ส่งเสริมการหยุดเผาในพื้นที่การเกษตร “หยุดเผาเราทำได้” เน้นสร้างมูลค่าเพิ่มวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร
|
(15 ก.พ.66) ที่ แปลงเกษตรกร หมู่ที่ 8 ตําบลนาเลียง อําเภอนาแก จังหวัดนครพนม สํานักงานเกษตรจังหวัดนครพนม ร่วมกับสํานักงานเกษตรอําเภอนาแก เปิดเวทีถ่ายทอดความรู้และพัฒนาศักยภาพเกษตรกรให้เป็นวิทยากรในการทําเกษตรปลอดการเผาในพื้นที่การเกษตร ภายใต้โครงการส่งเสริมการหยุดเผาในพื้นที่การเกษตร เพื่อเป็นการถ่ายทอดความรู้และพัฒนาศักยภาพเกษตรกร ให้มีความรู้ความเข้าใจในการทําเกษตรปลอดการเผา และเป็นการทําการเกษตรที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม โดยมี นายจิรศักดิ์ สีหามาตย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม เป็นประธานในพิธี ซึ่งมี นางสาวกัญณฐา อภินนท์ธนา เกษตรจังหวัดนครพนม พร้อมด้วย นายวิชาญ ซาตัน เกษตรอําเภอนาแก และส่วนราชการที่เกี่ยวข้องร่วมให้การต้อนรับปัจจุบันประเทศไทย ได้ประสบปัญหาหมอกควันปกคลุมและเกิดมลพิษทางอากาศ โดยมีสาเหตุหลักมาจากการเผาในพื้นที่โล่ง และในพื้นที่การเกษตร การเผาส่งผลกระทบต่อสุขภาพอนามัยของประชาชนและเศรษฐกิจเป็นอย่างมาก ทําให้เกิดฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 และเพิ่มความร้อนในบรรยากาศ อีกทั้งยังมีผลกระทบต่อโครงสร้าง ความอุดมสมบูรณ์ของดินและความเหมาะสมต่อการเพาะปลูกพืชสูญเสียหลังจากเก็บเกี่ยวข้าวในทุกๆ ปี จะมีเศษวัสดุที่เหลือในไร่นา ซึ่งเกษตรกรมักจะเผาทิ้งเพื่อทําความสะอาดแปลง หรือต้องการกําจัดศัตรูพืช เพื่อสะดวกในการไถเพื่อเตรียมแปลงในฤดูกาลผลิตต่อไป การเผาตอซัง ฟางข้าว หรือวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร จะทําให้เกิดมลพิษต่อสิ่งแวดล้อม เกิดความสูญเสียสภาพความอุดมสมบูรณ์ของดิน อีกทั้งก่อให้เกิดความเสียหายต่อทรัพย์สินของผู้อื่นจะมีความผิดทางกฎหมาย จึงขอให้นําวัสดุดังกล่าวไปใช้ทําปุ๋ยหมัก เพาะเห็ด คลุมแปลงผัก คลุมโคนต้นไม้ผลหรือทําการไถกลบตอซัง เพื่อลดการระเหยของน้ําในดินในช่วงฤดูแล้ง ซึ่งจะทําให้เกษตรกรได้ประโยชน์ จากเศษเหลือใช้ทางการเกษตรมากขึ้นด้านนางสาวกัญณฐา อภินนท์ธนา เกษตรจังหวัดนครพนม เปิดเผยว่า โครงการส่งเสริมการหยุดเผาในพื้นที่การเกษตร จัดขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์ในการถ่ายทอดความรู้และพัฒนาศักยภาพเกษตรกร ให้สามารถเป็นวิทยากรด้านการทําการเกษตรปลอดการเผาพื้นที่นําร่องกลุ่มใหม่ เพื่อลดการเผาในพื้นที่การเกษตร และกระตุ้นจิตสํานึกให้เกษตรกรหยุดเผาในพื้นที่การเกษตรในพื้นที่สุ่มเสี่ยงหรือเปราะบางที่อาจจะเกิดการเผาในพื้นที่การเกษตรหรือพื้นที่โล่งให้เกษตรกรตระหนักถึงข้อเสียของการเผาในพื้นที่การเกษตร และบุตรหลานที่จะได้รับผลกระทบจากฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 โดยมีเกษตรกรเป้าหมาย จํานวน 60 ราย#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
|
15/2/2023
|
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
|
นครพนม
|
สวท.นครพนม
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230215221249598
| null |
นายอำเภอแก้งสนามนาง ลงพื้นที่ตรวจแปลง โคก หนอง นา ที่บ้านหนองโน
|
วันนี้(15 กุมภาพันธ์ 2566) เวลา 14.00 น. ที่บ้านหนองโน หมู่ 3 ตําบลบึงสําโรง อําเภอแก้งสนามนาง จังหวัดนครราชสีมา นายวีระศิลป์ ทินราช นายอําเภอแก้งสนามนาง พร้อมด้วย นายสมระลึก สุระมาศ พัฒนาการอําเภอ ลงพื้นที่ตรวจแปลง โคก หนอง นา ให้เหมาะกับพื้นที่การเกษตร ซึ่งเป็นการผสมผสานเกษตรทฤษฎีใหม่ เข้ากับภูมิปัญญาพื้นบ้านที่อยู่อย่างสอดคล้องกับธรรมชาติในพื้นที่นั้น“โคก หนอง นา โมเดล” คือ การจัดการพื้นที่ซึ่งเหมาะกับพื้นที่การเกษตร ซึ่งเป็นผสมผสานเกษตรทฤษฎีใหม่ เข้ากับภูมิปัญญาพื้นบ้านที่อยู่อย่างสอดคล้องกับธรรมชาติในพื้นที่นั้น ๆ โคก หนอง นา โมเดล เป็นการที่ให้ธรรมชาติจัดการตัวมันเองโดยมี มนุษย์เป็นส่วนส่งเสริมให้มันสําเร็จเร็วขึ้น อย่างเป็นระบบ ซึ่งโคก หนอง นา โมเดล ซึ่งเป็นแนวทางทําเกษตรอินทรีย์และการสร้างชีวิตที่ยั่งยืน โดยมีองค์ประกอบ ดังนี้1. โคก : พื้นที่สูง ดินที่ขุดทําหนองน้ํานั้นให้นํามาทําโคก บนโคกปลูก “ป่า 3 อย่าง ประโยชน์ 4 อย่าง” ตามแนวทางพระราชดําริ ปลูกพืช ผัก สวนครัว เลี้ยงหมู เลี้ยงไก่ เลี้ยงปลา ทําให้พออยู่ พอกิน พอใช้ พอร่มเย็น เป็นเศรษฐกิจพอเพียงขั้นพื้นฐาน ก่อนเข้าสู่ขั้นก้าวหน้า คือ ทําบุญ ทําทาน เก็บรักษา ค้าขาย และเชื่อมโยงเป็นเครือข่าย ปลูกที่อยู่อาศัยให้สอดคล้องกับสภาพภูมิประเทศ และภูมิอากาศ 2. หนอง : หนองน้ําหรือแหล่งน้ํา ขุดหนองเพื่อกักเก็บน้ําไว้ใช้ยามหน้าแล้งหรือจําเป็น และเป็นที่รับน้ํายามน้ําท่วม (หลุมขนมครก) ขุด “คลองไส้ไก่” หรือคลองระบายน้ํารอบพื้นที่ตามภูมิปัญญาชาวบ้าน โดยขุดให้คดเคี้ยวไปตามพื้นที่เพื่อให้น้ํากระจายเต็มพื้นที่เพิ่มความชุ่มชื้น ลดพลังงานในการรดน้ําต้นไม้/ทําฝายทดน้ําเพื่อเก็บน้ําเข้าไว้ในพื้นที่ให้มากที่สุด โดยเฉพาะเมื่อพื้นที่โดยรอบไม่มีการกักเก็บน้ํา น้ําจะหลากลงมายังหนองน้ําและคลองไส้ไก่ ให้ทําฝายทดน้ําเก็บไว้ใช้ยามหน้าแล้ง พัฒนาแหล่งน้ําในพื้นที่ ทั้งการขุดลอก หนอง คู คลอง เพื่อกักเก็บน้ําไว้ใช้ยามหน้าแล้ง และเพิ่มการระบายน้ํายามน้ําหลาก3. นา : พื้นที่นานั้นให้ปลูกข้าวอินทรีย์พื้นบ้าน โดยเริ่มจากการฟื้นฟูดิน ด้วยการทําเกษตรอินทรีย์ยั่งยืน คืนชีวิตเล็ก ๆ หรือจุลินทรีย์กลับคืนแผ่นดินใช้การควบคุมปริมาณน้ําในนาเพื่อคุมหญ้า ทําให้ปลอดสารเคมีได้ ปลอดภัยทั้งคนปลูก คนกิน ยกคันนาให้มีความสูงและกว้าง เพื่อใช้เป็นที่รับน้ํายามน้ําท่วม ปลูกพืชอาหารตามคันนา #สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
|
15/2/2023
|
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
|
นครราชสีมา
|
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนครราชสีมา
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230215235540629
| null |
นายอำเภอพิมายประชุม คณะกรรมการการเลือกตั้งสมาชิกสภาเกษตรกรจังหวัด ประเภทผู้แทนเกษตรกร ปี 2566 อำเภอพิมาย
|
วันนี้(15ก.พ.66) เวลา 14.00น.นายจิรัฏฐไชย จี่พิมาย นายอําเภอพิมาย เป็นประธานประชุม คณะกรรมการการเลือกตั้งสมาชิกสภาเกษตรกรจังหวัด ประเภทผู้แทนเกษตรกร ปี 2566 อําเภอพิมาย โดยมีปลัดอําเภอหัวหน้ากลุ่มงานบริหารงานปกครอง เกษตรอําเภอ ปศุสัตว์อําเภอ ท้องถิ่นอําเภอ รวมทั้งผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง โดยจะมีการเลือกตั้ง ในวันอาทิตย์ที่ 19 มีนาคม 2566 ณ ห้องประชุมอําเภอพิมาย จ.นครราชสีมาสําหรับกลไกในการขับเคลื่อนการทางานของสภาเกษตรกรจังหวัด คือ สมาชิกสภาเกษตรกรจังหวัด ซึ่งมาจากการเลือกตั้ง ตามพระราชบัญญัติสภาเกษตรกรแห่งชาติ พ.ศ.2533 มาตรา ๓๑ สมาชิกสภาเกษตรกรจังหวัดมีสถานะเป็นผู้แทนสภาเกษตรกรตามพระราชบัญญัติสภาเกษตรกรแห่งชาติ พ.ศ.2553 มีองค์ประกอบ 2 ส่วน คือ ส่วนที่ 1 สมาชิกที่ได้รับการเลือกตั้ง จานวนสิบหกคน ในกรณีที่จังหวัดใดมีจานวนอําเภอมากกว่าสิบหกอําเภอ ให้เพิ่มจานวนผู้แทนเกษตรกรในจังหวัดนั้นให้เท่ากับจานวนของอําเภอ ส่วนที่ 2 สมาชิกผู้ทรงคุณวุฒิ ซึ่งสมาชิกตาม (1) เลือกจากผู้มีความรู้ ความเชี่ยวชาญด้านเกษตรกรรม จํานวนห้าคน โดยมาจากด้านพืช สัตว์ และด้านประมง อย่างน้อยด้านละหนึ่งคน ให้สานักงานจัดให้มีการเลือกตั้งเพื่อให้ได้สมาชิกตาม (1) และการเลือกเพื่อให้ได้สมาชิกผู้ทรงคุณวุฒิตาม (2) ทั้งนี้ หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่สภาเกษตรกรแห่งชาติกําหนดโดยประกาศในราชกิจจานุเบกษา การดํารงตําแหน่งสมาชิกสภาเกษตรกรแห่งชาติมีวาระอยู่ในตําแหน่งคราวละ 4 ปี นับแต่วันที่ประกาศรายชื่อตามมาตรา 15 และจะดารงตําแหน่งติดต่อกันเกิน 2 วาระไม่ได้ ให้สมาชิกสภาเกษตรกรแห่งชาติซึ่งพ้นจากตําแหน่งตามวาระ ยังคงปฏิบัติหน้าที่ต่อไปได้จนกว่าจะมีการประกาศรายชื่อสมาชิกสภาเกษตรกรแห่งชาติชุดใหม่การพ้นจากตําแหน่ง นอกจากการพ้นจากตําแหน่งตามวาระตามมาตรา 8 สมาชิกสภาเกษตรกรแห่งชาติพ้นจากตําแหน่งเมื่อ1. ตาย2. ลาออก3. ขาดคุณสมบัติหรือมีลักษณะต้องห้ามตามมาตรา 74. สภาเกษตรกรแห่งชาติมีมติให้พ้นจากตําแหน่งด้วยคะแนนเสียงไม่น้อยกว่าสองในสามของจานวนสมาชิกทั้งหมดที่มีอยู่5. ลาออกจากองค์กรเกษตรกรที่ตนเป็นตัวแทนในการได้รับเลือกเป็นสมาชิกตามมาตรา 5(2)6. ถูกจาคุกโดยคาพิพากษาถึงที่สุดให้จาคุก เว้นแต่ในความผิดอันได้กระทาโดยประมาทหรือความผิดลหุโทษ7. ขาดหรือลาการประชุมติดต่อกันเกินกว่า 5 ครั้งโดยไม่มีเหตุผลอันควร #สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
|
15/2/2023
|
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
|
นครราชสีมา
|
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนครราชสีมา
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230216001450642
| null |
สำนักงานสิ่งแวดล้อมและควบคุมมลพิษที่ 11เก็บตัวอย่างดินเพื่อประเมินค่าความเค็มโดยรอบพื้นที่โครงการเหมืองแร่โพแทช จังหวัดนครราชสีมา
|
นายบัญชา ขุนสูงเนิน ผู้อํานวยการส่วนตรวจและบังคับใช้กฎหมาย พร้อมด้วยนางสาวอัจฉรา อิ่มมณี นักวิชาการสิ่งแวดล้อมชํานาญการ นายยศฐ์วพงศ์ วัชรมโนภาส นักวิชาการสิ่งแวดล้อมชํานาญการ และเจ้าหน้าที่ ร่วมกับประชาชนบ้านหนองไทร ตําบลหนองไทร อําเภอด่านขุนทด จังหวัดนครราชสีมา ลงพื้นที่เก็บตัวอย่างดินโดยรอบบริเวณพื้นที่โครงการเหมืองแร่โพแทช ตําบลหนองไทร อําเภอด่านขุนทด จังหวัดนครราชสีมา จํานวน 37 ตัวอย่าง เพื่อประเมินค่าความเค็มและองค์ประกอบธาตุต่างๆ สําหรับใช้เป็นฐานข้อมูลเฝ้าระวังการเปลี่ยนแปลงและการปนเปื้อนของดินในอนาคตทั้งนี้ ตัวอย่างดินทั้งหมดจะส่งตรวจวิเคราะห์ในห้องปฏิบัติการสถาบันวิจัยแสงซินโครตรอน โดยสํานักงานสิ่งแวดล้อมและควบคุมมลพิษที่ 11 (นครราชสีมา) จะสรุปผลการตรวจสอบนําเรียนนคณะทํางานศึกษาและประเมินผลกระทบจากโครงการเหมืองแร่โพแทชทราบ ต่อไป#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
|
15/2/2023
|
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
|
นครราชสีมา
|
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนครราชสีมา
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230216001027640
| null |
หน่วยพิทักษ์สิ่งแวดล้อมที่ 11 บูรณาการ “รัฐเข้มตรวจจับ ปรับจริง–ห้ามใช้รถควันดำ” เพื่อลดฝุ่น PM2.5 จังหวัดนครราชสีมา
|
วันนี้(15 กุมภาพันธ์ 2566) นางสาวณัฐชนก พาละเอ็น นักวิชาการสิ่งแวดล้อมชํานาญการพิเศษ พร้อมด้วยนางสาวปริศนา สุตะพันธ์ และหน่วยพิทักษ์สิ่งแวดล้อมที่ 11 (นครราชสีมา) ร่วมกับสํานักงานขนส่งจังหวัดนครราชสีมา บูรณาการตั้งจุดปฏิบัติการตรวจจับควันดํา บริเวณทางหลวงหมายเลข 224 ตําบลท่าอ่าง อําเภอโชคชัย จังหวัดนครราชสีมาภายใต้กิจกรรม “รัฐเข้มตรวจจับ ปรับจริง –ห้ามใช้รถควันดํา” ตามนโยบายของ นายปิ่นสักก์ สุรัสวดี อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ เพื่อบรรเทาปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็กกว่า 2.5 ไมครอน (PM 2.5) จากการจราจรและการขนส่งทางบก - ผลการตรวจวัดควันดําจากรถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์ดีเซล จํานวน 67 คัน พบค่าควันดําเกินมาตรฐาน จํานวน 9 คัน แบ่งออกเป็น - รถตาม พ.ร.บ.ขนส่งทางบก พ.ศ. 2522 จํานวน 53 คัน พบค่าควันดําเกินมาตรฐาน 3 คัน พ่นสัญลักษณ์ห้ามใช้รถ 3 คัน- รถตาม พ.ร.บ. ส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ. 2535 จํานวน 14 คัน พบค่าควันดําเกินมาตรฐาน 6 คัน พนักงานเจ้าหน้าที่ออกคําสั่งให้ปรับปรุงแก้ไข และติดสติ๊กเกอร์ห้ามใช้รถยนต์ชั่วคราว จํานวน 6 คัน - ยอดตรวจสะสมตั้งแต่วันที่ 2 ธันวาคม 2565 รวมทั้งสิ้น 494 คัน พบค่าควันดําเกินมาตรฐานสะสมรวมทั้งสิ้น 71 คัน#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
|
15/2/2023
|
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
|
นครราชสีมา
|
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนครราชสีมา
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230216000916639
| null |
สำนักงานสิ่งแวดล้อมและควบคุมมลพิษที่ 11ร่วมประชุมติดตามสถานการณ์ ไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละอองขนาดเล็ก จังหวัดนครราชสีมา
|
วันนี้(15 กุมภาพันธ์ 2566) นายบุญธรรม เลิศสุขีเกษม อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เป็นประธานในการประชุมติดตามสถานการณ์ไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM 2.5) ณ ห้องประชุม อาคารกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย โดยมีผู้เข้าร่วมประชุมประกอบด้วย ผู้แทนกระทรวงกลาโหม กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ สํานักงานตํารวจแห่งชาติ กรมอุตุนิยมวิทยา สํานักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ สํานักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดทั้ง 76 จังหวัด สํานักงานสิ่งแวดล้อมและควบคุมมลพิษที่ 11 ได้มอบหมายนายสมพงษ์ บุญเฟรือง ผู้อํานวยการส่วนการจัดการคุณภาพน้ํา อากาศ และเสียง เข้าร่วมประชุมผ่านรับระบบวีดิทัศน์ทางไกล (VDO Conference) พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในระดับจังหวัด ณ ห้องประชุมสํานักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดนครรราชสีมา สรุปสาระการประชุมได้ดังนี้1.ผู้แทนกรมอุตุนิยมวิทยา นําเสนอสถานการณ์สภาพอากาศแลพคาดการณ์สภาพอากาศ ซี่งปัจจุบันกําลังเข้าสู่ช่วงฤดูร้อน โดยอุณหภูมิจะเริ่มสูงขึ้นตั้งแต่ปลายเดือนมีนาคม-เมษายน 25662.ผู้แทนสํานักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ นําเสนอจํานวนจุดความร้อน(Hot spot) ซึ่งพบว่าจุดความร้อนทั่วประเทศเมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2566 มีจํานวน 2,656 จุด ส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่ 17 จังหวัดภาคเหนือ จํานวน 2,166 จุด โดยมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นกว่าปีที่ผ่านมา 3.ผู้แทนกรมควบคุมมลพิษ นําเสนอแผนเฉพาะกิจเพื่อการแก้ไขปัญหามลพิษด้านฝุ่นละออง ปี 2566 ภายใต้กรอบ “สื่อสารเชิงรุก ยกระดับปฏิบัติการ สร้างการมีส่วนร่วม” รวม 7 มาตรการ ซึ่งครม.เห็นชอบ เมื่อวันที่ 3 มกราคม 2566 โดยเน้นหนักใน 3 พื้นที่ ประกอบด้วย พื้นที่เมือง พื้นที่ป่า และพื้นที่เกษตรกรรม โดยพื้นที่เกษตรกรรม ได้มีการพัฒนา application BURNCHECK เพื่อบริหารจัดการวัสดุเชื้อเพลิง และส่งเสริมให้มีการชิงเก็บ ลดเผา ทั้งนี้ในพื้นที่เมือง ส่งเสริมให้มีการผลิตน้ํามันมาตรฐาน EURO 5 ออกมาจําหน่ายก่อนกําหนด รวมทั้งการตรวจเชิงป้องกันโรงงานที่มีการใช้หม้อไอน้ํา และโรงไฟฟ้าในพื้นที่ กทม.และปริมณฑล จํานวน 890 แห่ง ส่วนโรงงานน้ําตาล มุ่งให้มีการส่งเสริมให้มีการรับซื้ออ้อยสด ซึ่งตามมติ ครม. สําหรับฤดูการหีบอ้อย ปี 2565/66 ต้องรับซื้ออ้อยเผาได้ไม่เกินร้อยละ 5ทั้งนี้ นายบุญธรรม เลิศสุขีเกษม อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ได้กําชับให้ทุกหน่วยงานดําเนินงานตามแผนปฏิบัติการแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็กอย่างเคร่งครัด และยกระดับการปฏิบัติการเมื่อสถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดเล็กมีแนวโน้มสูงขึ้น โดยขอให้องค์กรปกครอวส่วนท้องถิ่น หมั่นสอดส่อง มิให้มีการเผาในพื้นที่โล่ง การประกาศพื้นที่ห้ามเผา และการจัดให้มีสายด่วนเพื่อรับแจ้งเหตุต่างๆ#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
|
15/2/2023
|
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
|
นครราชสีมา
|
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนครราชสีมา
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230216000753637
| null |
นักวิจัย มทส. คิดค้นนวัตกรรม “2X PLUS น้ำยาคัดแยกเพศอสุจิโค” กำหนดเพศโคตามต้องการ ลดการสูญเสีย เพิ่มโอกาสสร้างรายได้และกำไรให้ผู้เลี้ยง .
|
นักวิจัยสาขาวิชาเทคโนโลยีชีวภาพ สํานักวิชาเทคโนโลยีการเกษตร มทส. คิดค้นน้ํายาคัดแยกเพศอสุจิโค สร้างองค์ความรู้ใหม่ประสบผลสําเร็จสามารถกําหนดเพศได้ตามต้องการถึง 80 เปอร์เซ็นต์ ช่วยเกษตรกรผู้เลี้ยงโคเพิ่มจํานวนประชากรโคเพศเมียมากขึ้นตามต้องการ ใช้งานง่าย ประหยัดเวลา ลดการสูญเสีย เพิ่มโอกาสการสร้างรายได้และกําไร พัฒนาผลิตภัณฑ์สู่มาตรฐานเป็นที่ยอมรับในระดับสากล วันนี้(15 กุมภาพันธ์ 2566) ณ ห้องสารนิเทศ อาคารบริหาร มทส.รองศาสตราจารย์ ดร.อนันต์ ทองระอา อธิการบดี มทส. กล่าวว่า “มหาวิทยาลัยมีนโยบายสนับสนุนคณาจารย์และนักวิจัย ในการพัฒนาองค์ความรู้ทางวิชาการ โดยการนําสภาพปัญหาของสังคมมาเป็นโจทย์หลักการวิจัยและพัฒนานวัตกรรมที่นํามาใช้ประโยชน์ได้จริง ผ่านการสนับสนุนด้านโครงสร้างพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์เทคโนโลยี อุปกรณ์เครื่องมือห้องปฏิบัติการที่ทันสมัย การสนับสนุนทุนวิจัย การมีนักวิจัยศักยภาพสูงปฏิบัติงานเต็มเวลา จากความเชี่ยวชาญของนักวิจัยผสานกับความร่วมมืออันดีกับเครือข่ายวิจัยระดับชาติและนานาชาติ ส่งผลให้งานวิจัยและนวัตกรรม “2X PLUS น้ํายาคัดแยกเพศอสุจิโค” เป็นอีกหนึ่งผลงานวิจัย “จากหิ้งสู่ห้าง” ที่ประสบผลสําเร็จนําไปใช้ประโยชน์สู่สังคม ที่น่าภูมิใจคือ ได้สร้างองค์ความรู้ใหม่ทางวิชาการเป็นที่ยอมรับในระดับสากล สร้างกําลังคนคุณภาพที่เชี่ยวชาญเฉพาะทางเพิ่มขึ้น และที่สําคัญคือ เป็นนวัตกรรมที่นําไปใช้ประโยชน์ได้จริงช่วยลดการสูญเสียเวลา และเพิ่มโอกาสการสร้างรายได้เพิ่มกําไรให้แก่ผู้เลี้ยงโคชาวไทย เป็นอีกทางเลือกหนึ่งในการพัฒนาคุณภาพชีวิต เศรษฐกิจ และสังคมให้ดีขึ้น ถือเป็นการสนับสนุนภารกิจของ มทส. ในการมุ่งสู่การเป็นมหาวิทยาลัยวิจัยและนวัตกรรมอย่างยั่งยืน” รองศาสตราจารย์ ดร.มารินา เกตุทัต-คาร์นส์ และ ดร.สุเมธ อิ่มสุนทรรักษา หัวหน้าโครงการและนักวิจัย เปิดเผยว่า “ทีมวิจัยได้นําปัญหาของเกษตรกรผู้เลี้ยงโคข้อหนึ่ง คือ ความต้องการเพิ่มจํานวนประชากรลูกโค “เพศเมีย” แม้ว่าปัจจุบัน การผสมเทียมจะเป็นวิธีการหนึ่งที่สําคัญ แต่ยังไม่สามารถกําหนดเพศของลูกโคได้ผลตามเป้าหมาย ทีมวิจัยจึงได้พัฒนาต่อยอดองค์ความรู้จากห้องปฏิบัติการเทคโนโลยีชีวภาพของมหาวิทยาลัย โดยเริ่มจากการเลี้ยงเซลล์ลูกผสม Hybridoma ที่สามารถสร้าง Anti-bovine Y sperm Antibody และทําแอนติบอดี้ให้บริสุทธิ์โดยการตกตะกอนด้วยแอมโมเนียมซัลเฟต และผ่านโปรตีน A คอลัมภ์ จากนั้น วัดความเข้มข้นของแอนติบอดี้ที่บริสุทธิ์ แล้วบรรจุลงในขวดน้ํายา 2X PLUS พร้อมกับโปรตีนคอมพลิเมนต์และสารสําคัญอื่นๆ ในสภาวะปลอดเชื้อ ถือเป็นนวัตกรรมใหม่ เมื่อทําการทดลองในห้องปฏิบัติการ และทดลองใช้จริงในฟาร์มโค สามารถทําให้เกิดเพศเมียได้ถึง 80 เปอร์เซ็นต์ จึงนําไปสู่การพัฒนาต่อยอดผลงานวิจัยและนวัตกรรมออกสู่เชิงพาณิชย์เป็นผลสําเร็จทั้งนี้ ผลงานวิจัยและนวัตกรรม “2X PLUS น้ํายาคัดแยกเพศอสุจิโค” ได้รับการสนับสนุนการวิจัยจากหน่วยงานภายนอกและภายในมหาวิทยาลัย เกิดการต่อยอดองค์ความรู้กว่า 10 ปี ประกอบด้วย สภาวิจัยแห่งชาติ เทคโนธานี มทส. และสํานักงานนวัตกรรมแห่งชาติ ทั้งด้านเงินทุนวิจัย ห้องปฏิบัติการทดลองเทคโนโลยีขั้นสูง การจัดสรรทุนนักวิจัยเต็มเวลา กระทั่งสามารถพัฒนาผลงานวิจัยและนวัตกรรมสู่เชิงพาณิชย์เป็นผลสําเร็จเป็นที่ยอมรับทั้งในประเทศและต่างประเทศ จําหน่ายหลอดละ 500 บาท ช่วยลดค่าใช้จ่ายจากการนําเข้าต่างประเทศได้ถึง 10 เท่า และเป็นที่น่ายินดีคือขณะนี้ “2X PLUS น้ํายาคัดแยกเพศอสุจิโค” ได้ถูกนําไปใช้ในฟาร์มโคในภาคอีสาน ภาคกลางของไทย ประเทศออสเตรเลีย และเกาหลีใต้ อีกทั้งยังสามารถการันตีผลงานจากรางวัล Gold Prize ในงานจัดแสดงทรัพย์สินทางปัญญาระดับนานาชาติ ณ กรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ เมื่อพฤศจิกายน 2565 ที่ผ่านมา ถือเป็นอีกหนึ่งผลงานวิจัยและนวัตกรรมที่ประสบผลสําเร็จได้รับมาตรฐานเป็นที่ยอมรับในระดับสากลผู้สนใจผลิตภัณฑ์ “2X PLUS น้ํายาคัดแยกเพศอสุจิโค” ติดต่อสอบถามได้ที่ สาขาวิชาเทคโนโลยีชีวภาพ สํานักวิชาเทคโนโลยีการเกษตร มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี หมายเลขโทรศัพท์ 0 44 224234 ได้ในวันและเวลาทําการ #สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
|
15/2/2023
|
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
|
นครราชสีมา
|
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนครราชสีมา
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230216000414633
| null |
จ.นครพนม รณรงค์ส่งเสริมการหยุดเผาในพื้นที่การเกษตร “หยุดเผาเราทำได้” เน้นสร้างมูลค่าเพิ่มวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร
|
“หยุดเผาเราทําได้” เกษตรจังหวัดนครพนม รณรงค์ส่งเสริมการหยุดเผาในพื้นที่การเกษตร พร้อมเปิดเวทีถ่ายทอดความรู้เกษตรกรให้เป็นวิทยากรในการทําเกษตรปลอดการเผาในพื้นที่การเกษตร เน้นสร้างมูลค่าเพิ่มวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2566 ที่แปลงเกษตรกร หมู่ที่ 8 ตําบลนาเลียง อําเภอนาแก จังหวัดนครพนม นายจิรศักดิ์ สีหามาตย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม เป็นประธานในพิธีเปิดเวทีถ่ายทอดความรู้และพัฒนาศักยภาพเกษตรกรให้เป็นวิทยากรในการทําเกษตรปลอดการเผาในพื้นที่การเกษตร ภายใต้โครงการส่งเสริมการหยุดเผาในพื้นที่การเกษตร ที่สํานักงานเกษตรจังหวัดนครพนม ร่วมกับสํานักงานเกษตรอําเภอนาแกจัดขึ้น เพื่อเป็นการถ่ายทอดความรู้และพัฒนาศักยภาพเกษตรกร ให้มีความรู้ความเข้าใจในการทําเกษตรปลอดการเผา และเป็นการทําการเกษตรที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม โดยมี นางสาวกัญณฐา อภินนท์ธนา เกษตรจังหวัดนครพนม พร้อมด้วย นายวิชาญ ซาตัน เกษตรอําเภอนาแก และหัวหน้าส่วนราชการ เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องร่วมให้การต้อนรับ ซึ่งมีเกษตรกรในพื้นที่ให้ความสนใจเข้าร่วมกิจกรรมเป็นจํานวนมากนายจิรศักดิ์ สีหามาตย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม กล่าวว่า สําหรับโครงการส่งเสริมการหยุดเผาในพื้นที่การเกษตร เป็นโครงการสําคัญตามนโยบายของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นอีกรูปแบบหนึ่งของการให้บริการแก่เกษตรกร โดยการถ่ายทอดความรู้ และแก้ไขปัญหาให้เกษตรกรในพื้นที่ในคราวเดียวกัน ซึ่งปัจจุบันประเทศไทย ได้ประสบปัญหาหมอกควันปกคลุมและเกิดมลพิษทางอากาศ โดยมีสาเหตุหลักมาจากการเผาในพื้นที่โล่ง และในพื้นที่การเกษตร การเผาดังกล่าวส่งผลกระทบต่อสุขภาพอนามัยของประชาชนและเศรษฐกิจเป็นอย่างมาก ทําให้เกิดฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 และเพิ่มความร้อนในบรรยากาศ อีกทั้งยังมีผลกระทบต่อโครงสร้างความอุดมสมบูรณ์ของดินและความเหมาะสมต่อการเพาะปลูกพืชสูญเสียไป นอกจากนี้หมอกควันจากการเผาอาจจะเป็นสาเหตุให้เกิดอัคคีภัยก่อให้เกิดทําความเสียหายแก่ทรัพย์สินของบุคคลอื่นได้หลังจากเก็บเกี่ยวข้าวในทุกๆ ปี โดยเฉพาะในฤดูนาปีจะมีเศษวัสดุที่เหลือในไร่นา เช่น ตอซังข้าว ฟางข้าว ที่ได้จากการนวดข้าว วัชพืช ซึ่งเกษตรกร มักมองไม่เห็นประโยชน์ และจะเผาทิ้งเพื่อทําความสะอาดแปลง หรือต้องการกําจัดศัตรูพืช เพื่อสะดวกในการไถเพื่อเตรียมแปลงในฤดูการผลิตต่อไปจากกรณีการเผาตอซัง ฟางข้าว หรือวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร จะทําให้เกิดมลพิษต่อสิ่งแวดล้อม เกิดความสูญเสียสภาพความอุดมสมบูรณ์ของดิน อีกทั้งหากการเผาดังกล่าว อาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อทรัพย์สินของผู้อื่นจะมีความผิดทางกฎหมาย จึงขอเตือนเกษตรกรไม่ให้เผาตอซัง ฟางข้าว หรือเศษวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร แล้วนําวัสดุดังกล่าวไปใช้ทําปุ๋ยหมัก เพาะเห็ด คลุมแปลงผัก คลุมโคนต้นไม้ผลหรือทําการไถกลบตอซัง เพื่อลดการระเหยของน้ําในดินในช่วงฤดูแล้ง ซึ่งจะทําให้เกษตรกรได้ประโยชน์ จากเศษเหลือใช้ทางการเกษตรดังกล่าวมากขึ้นด้านนางสาวกัญณฐา อภินนท์ธนา เกษตรจังหวัดนครพนม กล่าวว่า โครงการส่งเสริมการหยุดเผาในพื้นที่การเกษตร จัดขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์ในการถ่ายทอดความรู้และพัฒนาศักยภาพเกษตรกร ให้สามารถเป็นวิทยากรด้านการทําการเกษตรปลอดการเผาพื้นที่นําร่องกลุ่มใหม่ เพื่อลดการเผาในพื้นที่การเกษตร และกระตุ้นจิตสํานึกให้เกษตรกรหยุดเผาในพื้นที่การเกษตรในพื้นที่สุ่มเสี่ยงหรือเปราะบางที่อาจจะเกิดการเผาในพื้นที่การเกษตรหรือพื้นที่โล่งให้เกษตรกรตระหนักถึงข้อเสียของการเผาในพื้นที่การเกษตร และบุตรหลานที่จะได้รับผลกระทบจากฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 โดยมีเกษตรกรเป้าหมาย จํานวน 60 ราย โดยมีการจัดกิจกรรมสาธิตลดการเผาในพื้นที่การเกษตร1. ถ่ายทอดความรู้การทําการเกษตรปลอดการเผาและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม2. การให้สัตยาบันการหยุดเผาฯ3. การไถกลบตอฟางข้าวและหว่านเมล็ดปุ๋ยพืชสดเพื่อปรับปรุงบํารุงดิน4. การสาธิตการนําเศษวัสดุการเกษตรไปใช้ประโยชน์5. การสร้างและพัฒนาวิทยากรด้านการทําการเกษตรปลอดการเผา6. การสาธิตการนําเศษวัสดุการเกษตรไปใช้ประโยชน์7. สาธิตการใช้เทคโนโลยีการเกษตรทดแทนการเผาแก่เกษตรกร8. ส่งเสริมให้มีการจัดการเศษวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรอย่างยั่งยืนแทนการเผาทําลาย9. สาธิตการทําปุ๋ยหมักด้วยเศษวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรนอกจากนี้ยังมีการจัดกิจกรรมจากบริษัทคูโบต้า จังหวัดนครพนม ที่ร่วมให้ความรู้ด้านเครื่องจักรกลการเกษตรและร่วมรณรงค์ลดการเผาให้เกษตรกรหันมาไถกลบตอซังข้าว เพื่อปรับปรุงบํารุงดินทดแทน ซึ่งการจัดกิจกรรมในวันนี้จะช่วยสร้างจิตสํานึกที่ดีให้กับเกษตรในพื้นที่ในการลดปัญหาการเผาเศษวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร อันจะก่อให้เกิดมลภาวะทางอากาศ และส่งผลเสียต่างๆมากมาย ซึ่งการลดการเผาจะร่วมมือกัน ตามสโลแกนที่ว่า “หยุดเผาเราทําได้”#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
|
15/2/2023
|
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
|
นครพนม
|
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนครพนม
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230216094948705
| null |
พ่อเมืองลำปาง ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ไฟป่าหมอกควัน ย้ำเตือนการเผาในที่โล่งทุกชนิดมีความผิดตามกฎหมาย
|
นายชัชวาลย์ ฉายะบุตร ผู้ว่าราชการจังหวัดลําปาง เปิดเผยถึงการลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ปัญหาไฟป่าหมอกควัน พร้อมตรวจเยี่ยมเจ้าหน้าที่อาสาสมัคร ผู้ปฏิบัติงานประจําจุดตรวจจุดสกัด ณ ด่านเฝ้าระวังป่าชุมชน บ้านโทกหัวช้าง หมู่ที่ 3 ตําบลพระบาท บ้านหัวฝาย หมู่ที่ 4 และวัดสามัคคีบุญญาราม พร้อมด้วย นายชนาธิป เสมแย้ม รองผู้ว่าราชการจังหวัดลําปาง และคณะ เพื่อมอบเครื่องอุปโภคบริโภคแก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน ตลอดจนกําชับแนวทางปฏิบัติให้แก่เจ้าหน้าที่ประจําด่าน และเจ้าหน้าที่ดับไฟป่า ให้ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความระมัดระวัง เมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2566 ผู้ว่าราชการจังหวัดลําปาง กล่าวว่า สําหรับสถานการณ์ไฟป่าและหมอกควันในพื้นที่จังหวัดลําปาง ปัจจุบันในหลายพื้นที่ได้ประสบกับปัญหาไฟป่า จึงทําให้สถานการณ์จุดความร้อนเกิดขึ้นเป็นจํานวนมาก โดยเจ้าหน้าที่ได้มีการเข้มงวดกวดขันอย่างต่อเนื่อง พร้อมกับเข้าทําการดับไฟทันทีที่มีเหตุรายงาน และได้มีการเฝ้าระวังกลุ่มคนที่มีพฤติกรรมต้องสงสัยเกี่ยวกับการเผาป่า เป็นต้น นอกจากนี้ยังได้มอบหมายให้ นายชนาธิป เสมแย้ม รองผู้ว่าราชการจังหวัดลําปาง หัวหน้าสํานักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดลําปาง ผู้อํานวยการสํานักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดลําปาง นายอําเภอ เจ้าหน้าที่ปกครองอําเภอในพื้นที่ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประสานขอเฮลิคอปเตอร์ดับไฟป่าของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย และกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กรณีมีเหตุจําเป็นเร่งด่วน พร้อมมอบหมายให้อําเภอวิเคราะห์หาสาเหตุจากการเกิดไฟป่าที่เกิดขึ้นด้วยผู้ว่าราชการจังหวัดลําปาง กล่าวเพิ่มเติมว่า จากสถานการณ์ไฟป่าและหมอกควันที่เกิดขึ้น ขอให้มีการเฝ้าระมัดระวังปัญหาสุขภาพในประชาชนกลุ่มเสี่ยง ได้แก่ เด็ก คนชรา หญิงมีครรภ์ และกลุ่มผู้ป่วยที่มีโรคประจําตัวในกลุ่มโรคทางเดินหายใจ และโรคหัวใจและหลอดเลือด เนื่องจากคุณภาพอากาศมีผลกระทบต่อสุขภาพ ประชาชนทั่วไปและประชาชนกลุ่มเสี่ยงจึงควรหลีกเลี่ยงกิจกรรมกลางแจ้งทุกประเภท หลีกเลี่ยงพื้นที่ที่มีมลพิษทางอากาศสูง หรือใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเอง เช่น การสวมใส่หน้ากากอนามัย หากมีความจําเป็นต้องออกมายังพื้นที่ภายนอก อย่างไรก็ตาม หากมีอาการทางสุขภาพรุนแรงควรรีบปรึกษาแพทย์โดยด่วน สําหรับอาการป่วยที่พบโดยส่วนใหญ่มักเกี่ยวข้องกับระบบทางเดินหายใจ เช่น มีเสมหะ มีน้ํามูก และคัดจมูก เป็นต้น ซึ่งทางจังหวัดอยากขอให้ประชาชนหยุดการเผาในที่โล่งทุกชนิด โดยเฉพาะอย่างยิ่งบ้านเรือนที่อยู่ใกล้พื้นที่การเกษตร เพราะนอกจากจะทําให้สถานการณ์ไฟป่าและหมอกควันทวีความรุนแรงขึ้นแล้ว ยังมีโทษทางกฎหมายตามมาด้วยทั้งนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดลําปาง กล่าวย้ําเตือนว่า การเผาในที่โล่งทุกชนิดล้วนมีความผิดตามกฎหมาย โดยมีอัตราโทษ ดังนี้ (1) การเผาป่าในเขตป่าไม้ มีโทษจําคุกตั้งแต่ 2-5 ปี และปรับตั้งแต่ 10,000 ถึง 100,000 บาท (2) การเผาป่าในเขตป่าสงวนแห่งชาติ มีโทษจําคุกตั้งแต่ 2 ถึง 15 ปี และปรับตั้งแต่ 20,000 ถึง 150,000 บาท (3) การเผาป่าในเขตอุทยานแห่งชาติ มีโทษจําคุกตั้งแต่ 4 ถึง 20 ปี และปรับตั้งแต่ 400,000 ถึง 2,000,000 บาท หรือทั้งจําทั้งปรับ (4) การเผาป่าในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า มีโทษจําคุกตั้งแต่ 4 ถึง 20 ปี และปรับตั้งแต่ 400,000 ถึง 2,000,000 บาท หรือทั้งจําทั้งปรับ และ (5) การเผาหญ้า เผาขยะ เป็นเหตุรําคาญ หากไม่ทําตามที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในเขตพื้นที่แจ้ง มีโทษจําคุกไม่เกิน 3 เดือน หรือปรับไม่เกิน 25,000 บาท หรือทั้งจําทั้งปรับ ทั้งนี้ หากพบเหตุไฟป่าพื้นที่จังหวัดลําปางให้แจ้งสํานักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดลําปาง โทร. 1784 หรือโทรศัพท์ 054-265072-4 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าแก้ไขสถานการณ์ต่อไป#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
|
16/2/2023
|
ภาคเหนือ
|
ลำปาง
|
สวท.ลำปาง
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230216093807697
| null |
จ.ลำปาง เดินหน้าเชิงรุก รณรงค์การป้องกันผลกระทบด้านสุขภาพจากฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM 2.5)
|
นายชัชวาลย์ ฉายะบุตร ผู้ว่าราชการจังหวัดลําปาง พร้อมด้วย นายแพทย์ประเสริฐ กิจสุวรรณรัตน์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดลําปาง นายธนารัฐ สายเทพ นายอําเภอเมืองลําปาง รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดลําปาง และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่จัดกิจกรรมรณรงค์การป้องกันผลกระทบด้านสุขภาพจากฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM 2.5) สร้างความเข้าใจเกี่ยวกับปัญหาฝุ่น PM 2.5 พร้อมมอบหน้ากากอนามัยทางการแพทย์แก่ประชาชน เพื่อป้องกันและลดผลกระทบต่อสุขภาพจากฝุ่น PM2.5 ณ ตลาดสนามบิน ตําบลพระบาท อําเภอเมืองลําปางนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดลําปาง เปิดเผยว่า จังหวัดลําปาง ปัจจุบันพบปัญหาหมอกควันไฟป่าปกคลุมพื้นที่ โดยมีค่าปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 เกินค่ามาตรฐาน 50 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร และ PM10 เกินค่ามาตรฐาน 120 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ซึ่งเป็นอันตรายต่อสุขภาพของประชาชน สํานักงานสาธารณสุขจังหวัดลําปางได้เฝ้าระวังผู้ป่วยกลุ่มโรคที่มีผลกระทบ 4 กลุ่มโรค ประกอบด้วย โรคระบบทางเดินหายใจ โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคตา และโรคผิวหนัง พบว่า ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม-12 กุมภาพันธ์ ของปี 2565-2566 เพิ่มขึ้นจากปี 2565 โดยพบจํานวนผู้ป่วยนอกที่เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลด้วยโรคที่เฝ้าระวัง ปี 2565 จํานวน 3,958 ครั้ง และปี 2566 จํานวน 4,206 ครั้ง เพิ่มขึ้นร้อยละ 6.27 พบผู้ป่วยมากขึ้นโดยเฉพาะผู้ป่วยระบบทางเดินหายใจ เพิ่มขึ้นร้อยละ 11.52 และกลุ่มโรคทางตา เพิ่มขึ้นร้อยละ 11.52 ส่วนกลุ่มโรคผิวหนัง และโรคระบบหัวใจและหลอดเลือด พบจํานวนลดลง ร้อยละ 11.43 และร้อยละ 4.38 ตามลําดับ นอกจากนี้ สํานักงานสาธารณสุขจังหวัดลําปาง ยังได้สนับสนุนหน้ากาก N95 ให้หน่วยบริการ ทุกแห่ง 144 แห่ง จํานวน 13,000 ชิ้น เพื่อแจกจ่ายให้กับกลุ่มเปราะบาง และกลุ่มที่มีโรคประจําตัว โดยเฉพาะ โรคหืด และโรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง พร้อมทั้งให้โรงพยาบาลทุกแห่งเปิดดําเนินการคลินิกมลพิษ เพื่อให้คําปรึกษาประชาชน และเตรียมความพร้อมรองรับสถานการณ์กรณีพบผู้ป่วยที่ได้รับผลกระทบจากฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM 2.5)ด้าน ผู้ว่าราชการจังหวัดลําปาง กล่าวว่า จังหวัดลําปางได้ประกาศกําหนดให้ทั้ง 13 อําเภอของจังหวัดลําปาง “งดเว้นการเผา” เริ่มตั้งแต่วันที่ 15 กุมภาพันธ์ ถึงวันที่ 30 เมษายน 2566 ซึ่งจะมีเจ้าหน้าที่คอยตรวจสอบอย่างเข้มข้น โดยนําตัวผู้ฝ่าฝืนมาดําเนินการตามกฎหมาย และได้มอบหมายให้นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด แจกหน้ากากอนามัยให้แก่ประชาชน โดยติดต่อขอรับได้ที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตําบลใกล้บ้าน อีกทั้งได้กําชับให้โรงเรียนทั้ง 13 อําเภอ ได้จัดห้องเรียนพิเศษให้แก่นักเรียนอีกด้วยทั้งนี้ ประชาชนสามารถติดตามสถานการณ์ปริมาณฝุ่น PM 2.5 ในแต่ละวันจากกรมควบคุมมลพิษ ทางเว็บไซต์ Air 4 thai และให้ใช้สวมหน้ากากอนามัยป้องกันฝุ่นละอองขนาดเล็ก ชนิด N95 ซึ่งมีประสิทธิภาพในการป้องกันฝุ่น PM 2.5 ได้ดีกว่าหน้ากากอนามัยธรรมดา พร้อมทั้งงดกิจกรรมการออกกําลังกายกลางแจ้ง หรือหากมีมีอาการผิดปกติควรพบแพทย์ทันที#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
|
16/2/2023
|
ภาคเหนือ
|
ลำปาง
|
สวท.ลำปาง
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230216093953700
| null |
ผู้ว่าฯ ลำปาง ติดตามความคืบหน้าการติดตั้งม่านละอองน้ำเพิ่มความชุ่มชื้น ลดฝุ่น PM2.5
|
นายชัชวาลย์ ฉายะบุตร ผู้ว่าราชการจังหวัดลําปาง พร้อมด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้าการติดตั้งม่านละอองน้ํา ร่วมสร้างความชุ่มชื้นแก่เด็กนักเรียนและประชาชนผู้ใช้บริการสะพานลอย ณ บริเวณสะพานลอยหน้าโรงเรียนอนุบาลลําปาง เพื่อเป็นการช่วยลดปริมาณฝุ่นละอองสร้างคุณภาพอากาศที่ดีอีกทางหนึ่ง ซึ่งเป็นจุดเส้นทางที่มีการจราจรค่อนข้างหนาแน่น โดยเบื้องต้น จ.ลําปาง ได้กําหนดจุดติดตั้งม่านน้ํา จํานวน 5 จุด ได้แก่ สะพานลอยหน้าโรงเรียนอนุบาลลําปาง วิทยาลัยพยาบาล สนามกีฬา ม.ราชภัฏลําปาง และที่ศาลากลางจังหวัดลําปางทั้งนี้ จังหวัดลําปางปัจจุบันพบปัญหาหมอกควันไฟป่าปกคลุมพื้นที่ โดยมีค่าปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 เกินค่ามาตรฐาน 50 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร และ PM10 เกินค่ามาตรฐาน 120 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ซึ่งเป็นอันตรายต่อสุขภาพของประชาชน สํานักงานสาธารณสุขจังหวัดลําปางได้เฝ้าระวังผู้ป่วยกลุ่มโรคที่มีผลกระทบ 4 กลุ่มโรค ประกอบด้วย โรคระบบทางเดินหายใจ โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคตา และโรคผิวหนัง พบว่า ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม - 12 กุมภาพันธ์ ของปี 2565-2566 เพิ่มขึ้นจากปี 2565 โดยพบจํานวนผู้ป่วยนอกที่เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลด้วยโรคที่เฝ้าระวัง ปี 2565 จํานวน 3,958 ครั้ง และปี 2566 จํานวน 4,206 ครั้ง เพิ่มขึ้นร้อยละ 6.27 พบผู้ป่วยมากขึ้นโดยเฉพาะผู้ป่วยระบบทางเดินหายใจ เพิ่มขึ้นร้อยละ 11.52 และกลุ่มโรคทางตา เพิ่มขึ้นร้อยละ 11.52 ส่วนกลุ่มโรคผิวหนัง และโรคระบบหัวใจและหลอดเลือด พบจํานวนลดลง ร้อยละ 11.43 และร้อยละ 4.38 ตามลําดับ #สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
|
16/2/2023
|
ภาคเหนือ
|
ลำปาง
|
สวท.ลำปาง
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230216094504703
| null |
กรมวิชาการเกษตร ชูนวัตกรรมหอมแดงอบแห้งพร้อมใช้ พร้อมสร้างมูลค่าเพิ่มนำส่วนเหลือทิ้งผลิตเครื่องสำอางและเวชภัณฑ์
|
นายระพีภัทร์ จันทรศรีวงศ์ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร เปิดเผยว่า จังหวัดศรีสะเกษ เป็นแหล่งผลิตหอมแดงคุณภาพดี มีชื่อเสียงจนเรียกกันติดปากว่าหอมแดงศรีสะเกษ ซึ่งมีคุณลักษณะพิเศษคือ เปลือกมีสีแดงเข้ม ด้านในมีสีม่วง กลิ่นฉุนแรงเก็บรักษาได้ยาวนาน เป็นที่ต้องการของตลาดต่างประเทศที่นิยมอาหารไทย เช่น ยุโรปและญี่ปุ่น เป็นต้น โดยที่ผ่านมาเกษตรกรผู้ปลูกหอมแดงจังหวัดศรีสะเกษส่วนใหญ่ผลิตและจําหน่ายหัวหอมสดเพียงอย่างเดียว ซึ่งสามารถเก็บรักษาได้เพียง 2-3 เดือน ศูนย์วิจัยพืชสวนศรีสะเกษ กรมวิชาการเกษตรจึงได้ศึกษาวิจัยแปรรูปหอมสดเป็นหอมแดงพร้อมใช้ โดยการนําหอมสดมาหั่นแล้วแช่ในสารละลายแคลเซี่ยมคลอไรด์และกรดซิตริก เพื่อคงลักษณะทางกายภาพของหอมแดงสดไว้ จากนั้นอบด้วยลมร้อน ซึ่งหอมแดงอบแห้งสามารถเก็บรักษาไว้ได้นานประมาณ 8-12 เดือน เมื่อต้องการใช้ประกอบอาหาร นํามาแช่น้ําสะอาดเพื่อให้หอมแดงจะคืนตัวโดยมีลักษณะทางกายภาพและกลิ่นเหมือนหอมแดงสด นอกจากนี้ หลังจากการเก็บเกี่ยวหอมแดง เกษตรกรจะนําต้นหอมแดงมามัดให้เป็นกลุ่มๆ นํามาแขวนตากและจะแต่งทําความสะอาดมัดเป็นจุกก่อนการจําหน่าย ซึ่งจะมีส่วนที่ไม่ใช้ประโยชน์คือ เปลือก ราก ใบ ซึ่งเป็นสิ่งเหลือใช้มีปริมาณรวม 4,000 ตัน/ปี คิดเป็นร้อยละ 10 ของผลผลิต คณะนักวิจัยจึงได้วิจัยพัฒนาสร้างนวัตกรรมจากสิ่งเหลือใช้เป็นผลิตภัณฑ์ใหม่เพื่อเพิ่มมูลค่า โดยนําเปลือก ราก และใบหอมแดง มาสกัดสารสําคัญและกลั่นน้ํามันหอมระเหย ที่สามารถลดริ้วรอยตามวัย สร้างเซลล์ใหม่ได้รวดเร็ว และลดอาการหวัดคัดจมูกจากคุณสมบัติดังกล่าว ศูนย์วิจัยพืชสวนศรีสะเกษ จึงร่วมกับจังหวัดศรีสะเกษ มหาวิทยาลัยมหิดล และโรงพยาบาลเบญจลักษ์ เฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา วิจัยและพัฒนาสร้างเป็นผลิตภัณฑ์ที่ใช้สารสกัดหรือน้ํามันหอมระเหยมาทําเครื่องสําอาง ได้แก่ สบู่ ครีมบํารุงผิวหน้า เจลแต้มสิว โฟมล้างหน้า และเวชภัณฑ์ ได้แก่ สติกเกอร์แผ่นแปะ และน้ํามันหอมแดงช่วยบรรเทาอาการหวัดผลจากการวิจัยพัฒนาการแปรรูปหอมสดเป็นหอมแดงพร้อมใช้ นอกจากจะช่วยเพิ่มมูลค่าของหอมแดงแล้วยังทําให้สามารถกระจายผลผลิตและลดปริมาณหอมแดงไม่ให้ออกสู่ตลาดมากเกินความต้องการ ทําให้ราคามีเสถียรภาพ อํานาจการต่อรองของกลุ่มเกษตรกรและเกษตรกรจะมีมากขึ้น รวมทั้งการสร้างนวัตกรรมจากสิ่งเหลือใช้เป็นผลิตภัณฑ์เครื่องสําอางและเวชภัณฑ์จะเป็นส่วนช่วยให้เกิดการบริโภคหอมแดงในรูปแบบต่างๆ เพิ่มมากขึ้น ส่งผลให้ราคาหอมแดงสูงขึ้น ทําให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มมากขึ้นและการแปรรูปหอมแดงยังสามารถสร้างอาชีพใหม่ สร้างรายได้ที่เพิ่มขึ้นและสร้างความยั่งยืนให้กับกลุ่มเกษตรกรและเกษตรกร
|
16/2/2023
|
ภาคกลางและปริมณฑล
|
กรุงเทพมหานคร
|
Radio-สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230216110558735
| null |
ปศุสัตว์จังหวัดเพชรบุรี ออกหน่วยผ่าตัดทำหมันสุนัข-แมว ควบคุมประชากรสัตว์ และฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า
|
วานนี้ (15 ก.พ.66) องค์การบริหารส่วนตําบลห้วยท่าช้าง ร่วมกับ สํานักงานปศุสัตว์อําเภอเขาย้อย โดย นายประถมชัย ทองหวีและกลุ่มพัฒนาสุขภาพสัตว์ สํานักงานปศุสัตว์จังหวัดเพชรบุรี นําทีมโดยสพ.ญ.ภัทริน โอภาสชัยทัตต์ ดําเนินกิจกรรมให้บริการผ่าตัดทําหมันสุนัขและแมว ณ วัดกุญชรวชิราราม ตําบลห้วยท่าช้าง อําเภอเขาย้อย จังหวัดเพชรบุรี มีสุนัขและแมวจรจัดในวัดจํานวนมาก โดย ปศุสัตว์เพชรบุรีออกหน่วยผ่าตัดทําหมันสุนัข-แมว และฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า ครั้งที่ 39 ในปีงบประมาณ 2566 ภายใต้โครงการสัตว์ปลอดโรค คนปลอดภัย ตามพระปณิธาน ศาสตราจารย์ ดร.สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี ผลการปฏิบัติงาน ประชาชน 27 ราย พาสุนัขและแมวมารับการผ่าตัดทําหมัน รวมทั้งสิ้น 48 ตัว ประกอบด้วย สุนัข 23 ตัว (รวมสุนัขจรจัดในวัดด้วย) (เพศผู้ 3 ตัว เพศเมีย 20 ตัว) แมว 25 ตัว (รวมแมวจรจัดในวัดด้วย) (เพศผู้ 7 ตัว เพศเมีย 18 ตัว) พร้อมได้เน้นย้ําการดูแลและการป้อนยาให้สุนัขและแมวภายหลังการผ่าตัดทําหมันด้วยสวท.เพชรบุรี#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
|
16/2/2023
|
ภาคตะวันตก
|
เพชรบุรี
|
สวท.เพชรบุรี
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230216110835738
| null |
ผู้ว่าฯ ลำพูน ห่วงใยประชาชน หลังพบค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 เกินค่ามาตรฐาน ย้ำ ประชาชนห้ามเผาเด็ดขาด พร้อมสอดส่องหากพบไฟป่า แจ้ง 1362 ทันที
|
นายสันติธร ยิ้มละมัย ผู้ว่าราชการจังหวัดลําพูน เปิดเผยว่า จากข้อมูลของสํานักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดลําพูน ล่าสุดวันนี้ (16 ก.พ.66) รายงานคุณภาพอากาศ ณ สถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศ ตําบลบ้านกลาง อําเภอเมืองลําพูน และตําบลลี้ อําเภอลี้ มีค่าเฉลี่ยคุณภาพอากาศ ของฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 อยู่ที่ 99 และ 125 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ถือว่าอยู่ระดับสีแดง ประชาชนควรเฝ้าระวังสุขภาพ ถ้ามีอาการเบื้องต้น เช่น ไอ หายใจลําบาก ระคายเคืองตา ควรลดระยะเวลาการทํากิจกรรมกลางแจ้ง หรือใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเองหากมีความจําเป็นโดยขอความร่วมมือให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วน ดําเนินการเฝ้าระวังและป้องกันอย่างเต็มที่ หากพบจุด Hotspot ขณะเดียวกัน ยังได้ขอความร่วมมือประชาชนร่วมกันสอดส่อง ลดปัญหาการเผาในพื้นที่โล่งทุกชนิด เพราะเป็นต้นตอ หรือสาเหตุการสะสมของฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 นอกจากนี้ตั้งแต่วันที่ 15 กุมภาพันธ์-30 เมษายน 2566 ทางจังหวัดลําพูน ยังได้ประกาศงดเผาในพื้นที่โล่งทุกชนิด หากฝ่าฝืนอาจต้องระวางโทษจําคุก และถูกปรับสูงสุดเป็นเงินถึง 2 ล้านบาท#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILANDติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่...https://lamphun.prd.go.th/th/page/item/index/id/12#PRLAMPHUN#ลําพูนไม่ลําพังรวมพลังเพื่อคนลําพูน
|
16/2/2023
|
ภาคเหนือ
|
ลำพูน
|
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดลำพูน
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230216102625712
| null |
ศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุขจังหวัดพะเยา กรณีหมอกควันและฝุ่นละอองขนาดเล็ก แจ้งเตือนภัยค่าฝุ่นละอองขนาดเล็กเกินมาตรฐาน พร้อมแนะวิธีการปฏิบัติตน
|
นายแพทย์เอกชัย คําลือ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดพะเยา ในฐานะผู้บัญชาการเหตุการณ์ศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุขจังหวัดพะเยา กรณีหมอกควันและฝุ่นละอองขนาดเล็ก กล่าวภายหลังกาประชุมศูนย์ปฏิบัติการฯ เพื่อติดตามสถานการณ์หมอกควันและฝุ่นละอองขนาดเล็ก และความพร้อมด้านการแพทย์และสาธารณสุข ว่า จากข้อมูลการรายงานคุณภาพอากาศของศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุขจังหวัดพะเยา พบว่า สถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM 2.5) ในจังหวัดพะเยา ตั้งแต่ช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ 2566 มีค่าเกินเกณฑ์มาตรฐาน โดยคุณภาพอากาศเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ และตั้งแต่วันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2566 เป็นต้นมาจนถึงปัจจุบัน สถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดเล็กได้รุนแรงขึ้นเป็นพื้นที่สีแดง ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน และเกิดภัยสุขภาพที่ประชาชนมีโอกาสได้รับผลกระทบจากฝุ่นละอองขนาดเล็ก ได้แก่ โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง หอบหืด หัวใจขาดเลือด ตาอักเสบ และผิวหนังอักเสบ ประชาชนควรเฝ้าระวังสุขภาพ ลดเวลาการทํากิจกรรมกลางแจ้ง หรือใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเองหากมีความจําเป็นสําหรับผู้ที่เป็นกลุ่มเสี่ยงต้องดูแลสุขภาพเป็นพิเศษ ได้แก่ กลุ่มเด็ก ผู้สูงอายุ หญิงตั้งครรภ์ กลุ่มผู้ป่วยโรคระบบหัวใจและหลอดเลือดและโรคระบบทางเดินหายใจ ควรอยู่ภายในอาคารในห้องปลอดฝุ่น ควรงดการทํากิจกรรมกลางแจ้ง หรือหากมีความจําเป็นให้ใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเอง หากมีอาการทางสุขภาพ ควรปรึกษาแพทย์ทันทีและตรวจสอบคุณภาพอากาศก่อนออกจากบ้าน ซึ่งสามารถดาวน์โหลดได้จาก แอปพลิเคชั่น Air 4 Thai#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
|
16/2/2023
|
ภาคเหนือ
|
พะเยา
|
สวท.พะเยา
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230216103942718
| null |
จังหวัดแม่ฮ่องสอน จัดกิจกรรม "ลงแขกดำนาเอามื้อสามัคคี" ในพื้นที่แปลงต้นแบบ โคก หนอง นา เฟิร์นริมธารรีสอร์ ขับเคลื่อนสู่การแก้ไขปัญหาและพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนอย่างยั่งยืน
|
วันนี้ (16 ก.พ. 66) เวลา 08.30 น. นายเชษฐา โมสิกรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน เป็นประธานในพิธีเปิดกิจกรรม "ลงแขกดํานาเอามื้อสามัคคี" ในพื้นที่แปลงต้นแบบ โคก หนอง นา เฟิร์นริมธารรีสอร์ นายธวัชชัย น้าทิพากร บ้านหัวน้ําแม่สะกึด หมู่ที่ 10 ตําบลผาบ่อง อําเภอเมือง จังหวัดแม่ฮ่องสอน เพื่อเป็นต้นแบบสู่การขยายผลไปยังแปลงอื่น ๆ ในพื้นที่อําเภอเมืองแม่ฮ่องสอน และอําเภออื่นๆ ต่อไปผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน กล่าวว่า โครงการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิต ประยุกต์สู่ "โคก หนอง นา โมเดล" เป็นต้นแบบที่นํามาใช้ในการบริหารจัดการน้ํา และพื้นที่การเกษตร ผสมผสานกับภูมิปัญญาพื้นบ้าน เป็นการแบ่งพื้นที่ ออกเป็นส่วน 1 ซึ่งจะแตกต่างกันออกไป ตามความต้องการของพื้นที่ ความเหมาะสมของสภาพภูมิศาสตร์ และภูมิสังคม นับว่าเป็นนิมิตหมายที่ดีที่อําเภอเมืองแม่ฮ่องสอน ได้ดําเนินการขับเคลื่อนกิจกรรม "ลงแขกดํานาเอามื้อสามัคคี" ในพื้นที่แปลงต้นแบบ โคก หนอง นา เป็นการสร้างความต่อเนื่องในการดําเนินงาน เพื่อให้เกิดการเรียนรู้ของประชาชนหรือผู้ที่สนใจ ผ่านศูนย์เรียนรู้ "โคก หนอง นา" และจะเห็นได้ว่าการดําเนินงาน "โคก หนอง นา" นั้น มีกิจกรรมที่เชื่อมโยงกันอย่างเป็นระบบ โดยมีเป้าหมายหลักคือ การพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนอย่างยั่งยืนทั้งนี้ สืบเนื่องจากรัฐบาลได้มอบหมายให้กระทรวงมหาดไทย โดยกรมการพัฒนาชุมชนดําเนินโครงการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิต ประยุกต์สู่ "โคก หนอง นาโมเดล" ในปีงบประมาณ 2564 ซึ่งอําเภอเมืองแม่ฮ่องสอนมีครัวเรือนเข้าร่วม โครงการ ฯ จํานวน 3 แปลง และจากแนวทางการดําเนินงาน ต้องมีการขับเคลื่อนกิจกรรมในพื้นที่ศูนย์เรียนรู้ "โคก หนอง นา โมเดล" อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เป็นศูนย์เรียนรู้ เพื่อการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนอย่างแท้จริง#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
|
16/2/2023
|
ภาคเหนือ
|
แม่ฮ่องสอน
|
สวท.แม่ฮ่องสอน
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230216115759768
| null |
จังหวัดตราดเกิดวาตภัยจากสภาพอาการแปรปรวน ส่งผลให้ผลผลิตทุเรียนเสียหายกว่า 80 ไร่
|
ตามที่ได้เกิดวาตภัยในพื้นที่บริเวณอ่างเก็บน้ําสระฆ้อ ตําบลตะกาง อําเภอเมือง จังหวัดตราด ทําให้ผลทุเรียนร่วงหล่นเสียหายจํานวนมาก โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อช่วงเช้า 08.30 น. ของวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2566นายอภิเดช บุญล้อม นายกเทศมนตรีตําบลตะกาง กล่าวว่า เทศบาลตําบลตะกางได้ลงพื้นที่เพื่อสํารวจความเสียหาย พบว่า มีสวนทุเรียนได้รับความเสียหายกว่า 80 ไร่ เกษตรกรได้รับความเดือดร้อน จํานวน 5 ราย ผลผลิตร่วงหล่นเสียหายประมาณ 7,000-8,000 ลูก ทั้งนี้หน่วยงานภาครัฐจะเร่งให้ความช่วยเหลือเกษตรกรที่ได้รับความเดือดร้อนต่อไปส่วนผลผลิตทุเรียนที่เสียหาย เนื่องจากยังเป็นทุเรียนอ่อนไม่สามารถนําไปจําหน่ายหรือแปรรูปได้ ทางเทศบาลจึงจะนําไปทําลาย ด้วยการนําไปทําเป็นปุ๋ยให้กับต้นไม้ เพื่อป้องกันไม่ให้มีการลักลอบนําไปจําหน่ายสู่ท้องตลาดในรูปแบบของทุเรียนอ่อน สําหรับเกษตรกรรายใดที่ได้รับความเสียหายจากวาตภัย สามารถแจ้งเหตุได้ที่ องค์การปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ของตนเอง#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
|
16/2/2023
|
ภาคตะวันออก
|
ตราด
|
สวท.ตราด
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230216151832857
| null |
กรมชลประทาน เดินหน้าก่อสร้างอ่างเก็บน้ำลำสะพุงอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ต.หนองแวง จ.ชัยภูมิ แก้ปัญหาทั้งภัยแล้งและน้ำท่วมในพื้นที่ลุ่มน้ำชี
|
นายประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า กรมชลประทาน ได้ดําเนินโครงการอ่างเก็บน้ําลําสะพุงอันเนื่องมาจากพระราชดําริ จังหวัดชัยภูมิ ซึ่งเป็นหนึ่งในโครงการพัฒนาพื้นที่ราบภูเขียว ตามแนวพระราชดําริของ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร โดยมีลักษณะเป็นอ่างเก็บน้ําพร้อมระบบส่งน้ํา ความจุเก็บกัก 47 ล้าน ลบ.ม. เพื่อช่วยเหลือราษฎร อ.หนองบัวแดง และ อ.เกษตรสมบรูณ์ จ.ชัยภูมิ ให้มีน้ําทําการเกษตรและอุปโภคบริโภคตลอดทั้งปี ปัจจุบันดําเนินการก่อสร้างไปแล้วกว่า ร้อยละ 64 ของแผนฯ คาดว่าจะแล้วเสร็จทั้งโครงการในปี 2567 ตามแผนที่กําหนดไว้ หากดําเนินการแล้วเสร็จจะเป็นแหล่งน้ําต้นทุนเพื่อการอุปโภคบริโภคให้กับประชาชนกว่า 5,145 ครัวเรือน สร้างความมั่นคงทางด้านน้ําให้เกษตรกรได้มีน้ําสํารองไว้ใช้เพาะปลูกในช่วงฤดูฝนกว่า 40,000 ไร่ และในฤดูแล้งกว่า 8,000 ไร่ รวมทั้งจะมีน้ําสําหรับรักษาระบบนิเวศน์ในลําน้ําชีและลําน้ําสาขาเพิ่มอีกประมาณปีละ 17 ล้าน ลบ.ม. นอกจากนี้ ยังเป็นแหล่งเพาะพันธุ์สัตว์น้ําแห่งใหม่ ช่วยเสริมสร้างอาชีพประมงให้เกษตรกรมีรายได้เสริมเพิ่มมากขึ้น รวมทั้งเป็นแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ ให้ประชาชนได้พักผ่อนหย่อนใจอีกด้วย
|
16/2/2023
|
ภาคกลางและปริมณฑล
|
กรุงเทพมหานคร
|
Radio-สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230216200235988
| null |
จังหวัดลำพูน เปิดโครงการขยายเขตไฟฟ้าเพื่อการเกษตร
|
จังหวัดลําพูน เปิดโครงการขยายเขตไฟฟ้าเพื่อการเกษตร ยกระดับคุณภาพชีวิต เพิ่มรายได้ให้เกษตรกรในพื้นที่ บ้านใหม่สันมะนะ หมู่ที่ 6 และหมู่ที่ 8 ตําบลต้นธง อําเภอเมืองลําพูนที่บริเวณพื้นที่ทําการเกษตร บ้านใหม่สันมะนะ หมู่ที่ 8 ตําบลต้นธง อําเภอเมืองลําพูน นายสันติธร ยิ้มละมัย ผู้ว่าราชการจังหวัดลําพูน เป็นประธานเปิดโครงการขยายเขตไฟฟ้าเพื่อการเกษตร บ้านใหม่สันมะนะ หมู่ที่ 6 และหมู่ที่ 8 ตําบลต้นธง อําเภอเมืองลําพูน เพื่อรองรับความต้องการการใช้ไฟฟ้าในพื้นที่ทํากิน โดยมีนายสมาน กองแก้ว นายอําเภอเมืองลําพูน นายกเทศมนตรีตําบลต้นธง องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กํานัน ผู้ใหญ่บ้าน และประชาชนในพื้นที่ร่วมพิธี นายบรรพต ธรรมสโรช ผู้จัดการ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจังหวัดลําพูน กล่าวว่า การขยายเขตไฟฟ้าเพื่อการเกษตร เป็นโครงการของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ที่ดําเนินการมาอย่างต่อเนื่อง การให้บริการพลังงานไฟฟ้า ซึ่งเป็นปัจจัยสําคัญต่อการดําเนินงานทั้งภาครัฐและภาคเอกชน และการดํารงชีวิตของประชาชน สําหรับโครงการดังกล่าว เนื่องจากเกษตรกรในพื้นที่ตําบลต้นธง ซึ่งเป็นแหล่งเพาะปลูกพืชผลทางการเกษตรที่สําคัญ ของอําเภอเมืองลําพูน ประสบปัญหาการผันน้ําเข้าพื้นที่เกษตรกรรม และจากการสํารวจของเทศบาลตําบลต้นธง พบว่า เกษตรกรที่มีพื้นที่อยู่บริเวณลําเหมืองกลาง หมู่ที่ 6 และหมู่ที่ 8 ตําบลต้นธง อําเภอเมืองลําพูน จังหวัดลําพูน ยังไม่มีกระแสไฟฟ้าเพื่อใช้ในการเกษตร ประกอบกับการขยายเขตไฟฟ้าดังกล่าว ต้องใช้เงินงบประมาณจํานวนมากเกินกว่าศักยภาพ ของเทศบาลตําบลต้นธงที่จะดําเนินการได้ เทศบาลตําบลต้นธง จึงได้ประสานขอรับการสนับสนุน งบประมาณจากการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ตามแผนงานเร่งรัดขยายเขตไฟฟ้า ในพื้นที่ทํากินทางการเกษตร ปี 2564 ถึง 2565 โดยการก่อสร้างปักเสาพาดสาย พร้อมติดตั้งระบบไฟฟ้า ให้เกษตรกรสามารถเข้าถึงพื้นที่ใช้ไฟฟ้า เพื่อให้ราษฎรใช้ไฟฟ้าประกอบกิจการด้านเกษตรกรรม เพื่อลดต้นทุนการผลิต ลดภาระค่าใช้จ่ายของเกษตรกร ตลอดจนเพื่อเพิ่มความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน การยกระดับคุณภาพชีวิตของเกษตรกร ในการมอเตอร์ไฟฟ้าสูบน้ําแทนเครื่องยนต์ ดีเซลหรือเบนซิน ช่วยเพิ่มผลผลิตในพื้นที่ทํากินทางการเกษตรจากการใช้ไฟฟ้า ครอบคลุม พื้นที่ 172 ไร่ 2 งาน เกษตรผู้ได้รับประโยชน์จํานวน 63 ราย วงเงินงบประมาณ ที่ใช้ดําเนินการ ทั้งสิ้น 4,019,558.68 บาทโอกาสนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดลําพูน ได้เป็นประธานทําการกดจ่ายกระแสไฟฟ้า ให้แก่เกษตรกรในพื้นที่อย่างเป็นทางการ จากนั้นได้ร่วมกดสวิตช์ เปิดการจ่ายน้ําในภาคเกษตรกรรมด้วยระบบไฟฟ้า เพื่อลดต้นทุนการผลิต ลดภาระค่าใช้จ่ายของเกษตรกร ตลอดจนเพื่อเพิ่มความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ในการใช้มอเตอร์ไฟฟ้าสูบน้ําแทนเครื่องยนต์ อีกด้วย#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILANDนายคมศักดิ์ หล่อเถิน .... ข่าว/ภาพ 16 กุมภาพันธ์ 2566
|
16/2/2023
|
ภาคเหนือ
|
ลำพูน
|
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดลำพูน
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230216162054888
| null |
สุพรรณบุรี นายอำเภอบางปลาม้า ดูความคืบหน้าโครงการปลูกข้าวเฉลิมพระเกียรติ
|
ที่แปลงนาศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก ต.บ้านแหลม อ.บางปลาม้า จ.สุพรรณบุรี นายเชษฐา ขาวประเสริฐ นายอําเภอบางปลาม้า พร้อมด้วย นายจตุพร อุ่นวิจิตร ส.อบจ.เขต 3 อ.บางปลาม้า นายปรีชา น้อยอุทัย นายกเทศบาลตําบลบ้านแหลมพัฒนา นางนุชจรินทร์ อุ่นวิจิตร กํานัน ต.บ้านแหลม และชาวบ้าน ร่วมกันนําปิ่นโต กินข้าว ดูความคืบหน้าโครงการปลูกข้าวเฉลิมพระเกียรติ เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันประสูติ ครบ 3 รอบ 36 พรรษา สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ซึ่งเริ่มดําเนินการปลูกมาตั้งแต่วันที่ 24 มกราคม 2566นายเชษฐา กล่าวว่า โครงการปลูกข้าวเฉลิมพระเกียรติ เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันประสูติ ครบ 3 รอบ 36 พรรษา สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ทางอําเภอจึงได้คัดเลือกแปลงเพื่อที่จะทํานาอินทรีย์ เป็นต้นแบบให้ประชาชนเข้ามาเรียนรู้ โดยการประสานงานของ นายตุพร อุ่นวิจิตร ส.อบจ.ฯ และนางนุชจรินทร์ อุ่นวิจิตร กํานัน ต.บ้านแหลม รวมทั้งผู้นําท้องถิ่น ส่วนทางวิชาการในการทํานาครั้งนี้ได้ตัวแทนจากนาเฮียใช้ ซึ่งเป็นเจ้าตํารับของการทํานาอินทรีย์ และเมล็ดพันธุ์ข้าวมาแนะนํา ซึ่งมีชาวบ้านในพื้นที่ อ.บางปลาม้า ได้มาเรียนรู้ในการทํานาอินทรีย์ร่วมกัน และนําไปบริโภคอย่างมีสุขภาพสะอาดปลอดภัย และยังสามารถเพิ่มผลผลิต เพิ่มรายได้อีกด้วยนายเชษฐา กล่าวต่อว่า สําหรับผลผลิตที่ได้ ในแปลงดังกล่าวพื้นที่ 3 ไร่จะได้ผลผลิตประมาณ 3 ตันเศษ แบ่งเป็น 3 ส่วน ส่วนแรกให้กับศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก ส่วนที่ 2 เก็บไว้เป็นสาธารณประโยชน์ภายในตําบล และส่วน 3 เป็นภาพรวมทั้งอําเภอ โดยการนําข้าวสารไปแจกจ่ายคนด้อยโอกาส คนยากไร้นายนิทัศน์ เจริญธรรมรักษา ผู้ก่อตั้งนาเฮียใช้ กล่าวว่า โครงการปลูกข้าวเฉลิมพระเกียรติ ได้ตัวแทนนาเฮียใช้ มาเป็นพี่เลี้ยง เพื่อเป็นแปลงเรียนรู้ร่วมกันระหว่างเกษตรกรกับชุมชน โดยนําเทคโนโลยีในการทํานามาปฏิบัติกับนาแปลงนี้ โดยจะมีแผนในการปลูกว่า จากที่ปลักดําแล้ว จะต้องเตรียมความพร้อมด้านใดบ้าง การบริหารจัดการที่ถูกต้องในการทํานาดํา จะต้องมีอะไรบ้าง เพื่อนํามาซึ่งผลิตที่คุ้มค่ากับชาวนา เมื่อชาวนามาเห็นถึงประโยชน์ในการทํานาดําและทํานาอย่างถูกวิธี จะช่วยทําให้ผลผลิตมีคุณภาพ และผลิตที่สูงขึ้นและได้ข้าวที่มาบริโภคที่มีคุณภาพให้กับประชาชนที่มาร่วมโครงการนี้นายนิทัศน์ กล่าวต่อว่า หลังจากที่ปลูกข้าวพันธุ์ปทุมธานี 1 ไปเมื่อวันที่ 24 ม.ค.66 นั้น โดยอายุของพันธุ์ข้าวดังกล่าวอยู่ประมาณ 120 วัน หลังจากวันปักดํา ขณะนี้ปักดําได้ประมาณ 1 เดือน นับจากที่ไปอีกไม่เกิน 3 เดือนจะเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ นายนิทัศน์ กล่าวนายจตุพร อุ่นวิจิตร ส.อบจ.สุพรรณบุรี กล่าวว่า ก่อนที่จะร่วมกันดูความคืบหน้าผลผลิตของโครงการฯ ได้เชิญชวนชาวบ้านหิ้วปิ่นโตข้าว มานั่งรับประทานร่วมกัน เพื่อสร้างความรักความสามัคคีในชุมชนอีกด้วย#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
|
16/2/2023
|
ภาคกลางและปริมณฑล
|
สุพรรณบุรี
|
สวท.สุพรรณบุรี
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230216164602902
| null |
ก.ทรัพย์ ประกาศปิดอุทยานแห่งชาติที่มีจุดความร้อนสูงสุดและเสี่ยงเกิดไฟป่ารุนแรง 8 แห่งในพื้นที่ 17 จังหวัดภาคเหนือ หลังพบปัจจัยเสี่ยงเกิดจากสภาพอากาศในประเทศ
|
กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ประกาศปิดอุทยานแห่งชาติที่มีจุดความร้อนสูงสุดและเสี่ยงเกิดไฟป่ารุนแรง 8 แห่งในพื้นที่ 17 จังหวัดภาคเหนือ หลังพบปัจจัยเสี่ยงเกิดจากสภาพอากาศในประเทศและการสะสมของเชื้อเพลิงในช่วงหลายปี นายปิ่นสักก์ สุรัสวดี อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) ในฐานะประธานศูนย์แก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศ (ศกพ.) กล่าวถึงแนวทางการยกระดับการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควันและฝุ่น PM2.5 พื้นที่ 17 จังหวัดภาคเหนือ ของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมว่า ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาหมอกควัน หรือฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ที่เกิดขึ้นรุนแรงจนมีกระทบต่อสุขภาพของประชาชนเกิดจากสภาพอากาศและจุดความร้อน (Hotspot) ภายในประเทศไม่ได้เกิดจากผลกระทบจากจุดความร้อนสะสมที่เกิดจากการเผาของประเทศในอนุภูมิภาคแม่โขง แม้ช่วงวันที่ 1 มกราคม ถึง 14 กุมภาพันธ์จะเพิ่มขึ้นร้อยละ 55 โดยเฉพาะในเมียนมารเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 147 แต่ภาคเหนือของไทยเป็นปัจจัยมาจากสภาพอากาศภายในประเทศ ส่วนผลกระทบจากจุดความร้อนของประเทศเพื่อนบ้านต่อไทยมีไม่เกินร้อยละ 5 ของปริมาณฝุ่นที่เกิดขึ้น ทําให้ไทยจําเป็นต้องออกมาตรการภายในประเทศที่ชัดเจนมาควบคุม ด้วยการให้กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืชประกาศปิดพื้นที่ป่าอนุรักษ์หรืออุทยานแห่งชาติที่มีจุดความร้อนสูงสุดและเสี่ยงเกิดไฟป่ารุนแรง 8 แห่งในพื้นที่ 17 จังหวัดภาคเหนือ ยกเว้นส่วนที่ให้บริการการท่องเที่ยวที่มีความปลอดภัย เพื่อให้เจ้าหน้าที่เข้าพื้นที่ควบคุมจุดความร้อนได้คล่องตัวมากขึ้นและปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด คือ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าลุ่มน้ําปาย // อุทยานแห่งชาติผาแดง // อุทยานแห่งชาติถ้ําผาไท // อุทยานแห่งชาติออบหลวง // เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอมก๋อย // อุทยานแห่งชาติแม่ปิง // อุทยานแห่งชาติศรีน่าน และเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าแม่ตื่น มีผลตั้งแต่วันนี้ (16 ก.พ.66) เป็นต้นไป ส่วนพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติกรมป่าไม้อยู่ระหว่างวิเคราะห์จุดที่มีความเสี่ยงสูงเสนอผู้ว่าราชการจังหวัดขอเข้าควบคุมเส้นทางในพื้นที่มีความเสี่ยงสูง เพื่อควบคุมการเกิดจุดความร้อนและปฏิบัติการดับไฟป่าได้อย่างรวดเร็ว เนื่องจากคาดการณ์การเติบโตของระบบเศรษฐกิจและการสะสมของเชื้อเพลิงช่วง 2 - 3 ปีที่ผ่านมา พบมีพื้นที่เสี่ยงต่อการเกิดไฟป่าในพื้นที่ป่าอนุรักษ์ 17 จังหวัดภาคเหนือ โดยเฉพาะพื้นที่ไฟไหม้ซ้ําซากพบเกิดในพื้นที่อุทยานแห่งชาติ 7 แห่ง // เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า 6 แห่ง และวนอุทยานแห่งชาติ 2 แห่ง อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) กล่าวย้ําว่า ปัญหาฝุ่นละอองและหมอกควันพื้นที่ 17 จังหวัดภาคเหนือเกิดจากจุดความร้อนดูจากตัวเลขเมื่อวันที่16 กุมภาพันธ์ สูงถึง 793 จุด หรือร้อยละ 93.82 ส่วนใหญ่เกิดในพื้นที่ป่าอนุรักษ์และป่าสงวนแห่งชาติ หรือพื้นที่ที่ใช้ประโยชน์ในเขตป่า โดยช่วงวันที่ 1 มกราคมถึงปัจจุบันพบสูงถึง 19,781 จุด ทั้งนี้ จากการสํารวจพบช่วงวันที่ 1 มกราคม ถึง 15 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมาสถานการณ์ PM 2.5 และจุดความร้อนในพื้นที่ 17 จังหวัดภาคเหนือมีแนวโน้มรุนแรงกว่าช่วง 2 ปีที่ผ่านมา เนื่องจากการเติบโตของระบบเศรษฐกิจ สถานการณ์ของอุตุนิยมวิทยา สภาพดินฟ้าอากาศที่จะมีอากาศปิด มีอากาศเย็น และแห้งมากขึ้น ดูจากค่าเฉลี่ยปีนี้ PM 2.5 ช่วง 24 ชั่วโมงเพิ่มขึ้นร้อยละ 67 // จํานวนวันที่เกินมาตรฐานเพิ่มขึ้นร้อยละ 72 และจํานวน Hotspot ใน 17 จังหวัดเพิ่มขึ้นร้อยละ 118 ภาพรวมคาดการณ์ฝุ่น PM 2.5 ช่วงเดือนกุมภาพันธ์มีแนวโน้มรุนแรงไปจนถึงสิ้นเดือน สําหรับจุดความร้อนสะสมระหว่างวันที่ 1 มกราคม ถึง 14 กุมภาพันธ์ เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 118 ส่วนใหญ่เกือบร้อยละ 70 เกิดในพื้นที่ป่า แบ่งเป็น ป่าอนุรักษ์ร้อยล 50 และป่าสงวนแห่งชาติร้อยละ 50
|
16/2/2023
|
ภาคกลางและปริมณฑล
|
กรุงเทพมหานคร
|
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230216163255895
| null |
ปศุสัตว์จันทบุรี ส่งเสริมการเลี้ยงโคเนื้อของกลุ่มแปลงใหญ่ปลูกหญ้า เพิ่มรายได้ พัฒนาคุณภาพชีวิตเกษตรกร
|
วันนี้ (16 ก.พ.66) เวลา 10.00 น.น.สพ.ชาติชาย ยิ้มเครือ ปศุสัตว์จังหวัดจันทบุรี พร้อมนายศิรพงศ์ มาสําราญ นักวิชาการสัตวบาลชํานาญการ สํานักงานปศุสัตว์เขต 2 จ.ฉะเชิงเทรา นายภาณุ อินทฤทธิ์ หัวหน้ากลุ่มส่งเสริมและพัฒนาการปศุสัตว์ และนายสมชาย จันทร์สําราญ เจ้าพนักงานสัตวบาลอ.สอยดาว ลงพื้นที่ บ้านเตาถ่าน ม.5 ต.ทุ่งขนาน อ.สอยดาว ณ กลุ่มวิสาหกิจชุมชนแปลงใหญ่หญ้าเนเปียร์ ที่มีนายเสนาะ จูทัย เป็นประธานกลุ่ม สมาชิก 67 ราย ปลูกหญ้าเนเปียร์ในพื้นที่ 355 ไร่ ด้วยเครื่องจักรสมัยใหม่ ได้แก่ รถแทรกเตอร์ ชุดผานไถ ชุดผานชักร่อง ใช้เทรลเลอร์ระบบไฮโดรลิกใบมีดดันหน้าดินในการไถดินเตรียมแปลงปลูกหญ้า และใช้แผงโซล่าเซลล์พร้อมปั๊มน้ําซัมเมอร์สเพื่อสูบน้ําบาดาลขึ้นมารดแปลงหญ้า โดยกลุ่มจะผลิตหญ้าใช้เลี้ยงโคเนื้อของตนเอง และขายให้แก่เกษตรกรผู้เลี้ยงโคเนื้อ เลี้ยงกวางในพื้นที่ เจ้าหน้าที่ได้ติดตามการส่งเสริมการเลี้ยงโคเนื้อตามโครงการโคเนื้อสร้างอาชีพ โดยมีเกษตรกรได้รับสิทธิในการกู้เงินยืมเงินทุนจากกองทุนสงเคราะห์เกษตรกร จํานวน 10 ราย รายละ 250,000 บาท เพื่อนําไปจัดหาแม่โคเนื้อ 5 ตัวต่อราย และปรับปรุงโรงเรือนเลี้ยงสัตว์ โดยสัญญากู้ยืมกําหนดให้เกษตรกรเริ่มส่งเงินต้นตั้งแต่ปีที่ 4-7 ซึ่งจากการติดตามประเมินผลที่ผ่านมา พบว่าแม่โคให้ผลผลิตลูกโคเกิดใหม่อย่างสม่ําเสมอ ซึ่งช่วยให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้น ในขณะที่ต้นทุนการเลี้ยงโคต่ํา เนื่องจากมีแปลงปลูกหญ้าอาหารสัตว์เลี้ยงโคเอง ส่งผลทําให้ชีวิตความเป็นอยู่ของเกษตรกรดีขึ้น#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
|
16/2/2023
|
ภาคตะวันออก
|
จันทบุรี
|
สวท.จันทบุรี
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230216171541916
| null |
จังหวัดศรีสะเกษ ประชุมขับเคลื่อนวาระจังหวัดศรีสะเกษ ประเด็นวาระเกษตรบูรณาการ ด้านปศุสัตว์เศรษฐกิจ โคเนื้อ ไก่พื้นเมือง
|
ที่ห้องประชุมศูนย์สาระสนเทศการพัฒนาโคเนื้อ สํานักงานปศุสัตว์จังหวัดศรีสะเกษนายสํารวย เกษกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ เป็นประธานการประชุมขับเคลื่อนวาระจังหวัดศรีสะเกษ ประเด็นวาระเกษตรบูรณาการ : ปศุสัตว์เศรษฐกิจ โคเนื้อ ไก่พื้นเมืองโดยประชุมคณะกรรมการดําเนินงานเกษตรบูรณาการ : ปศุสัตว์เศรษฐกิจ โคเนื้อ ไก่พื้นเมือง ครั้งที่ 1/2566 มีประเด็นสําคัญ ดังนี้1. การติดตามผลการดําเนินงาน ปัญหา และอุปสรรค แนวทางแก้ไข และการพัฒนาโคเนื้อ และไก่พื้นเมืองศรีสะเกษ ปี 25662. สถานการณ์โคเนื้อ และไก่พื้นเมืองในพื้นที่จังหวัดศรีสะเกษ , BCG โคเนื้อ ไก่พื้นเมืองศรีสะเกษ มาตรฐาน , GFM , สุขภาพสัตว์ , และการผสมเทียม3. การติดตามภารกิจงานด้านสุขภาพโคเนื้อ ไก่พื้นเมือง , GFM , สถานการณ์การเคลื่อนย้ายโคเนื้อ ไก่พื้นเมืองภายในจังหวัด/ต่างจังหวัด4. การติดตามภารกิจงานด้านโรงฆ่าสัตว์(โคเนื้อ,ไก่พื้นเมือง) , การรับรองฟาร์มปลอดสารเร่งเนื้อแดง (โคเนื้อ,ไก่พื้นเมือง) , GAP โคเนื้อ ไก่พื้นเมืองศรีสะเกษ5. การติดตามการดําเนินการช่วยเหลือเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจาก Lumpy Skin disease และการฉีดวัคซีนรณรงค์สุขภาพสัตว์6. โครงการส่งเสริมการเลี้ยงโคเนื้อแบบครบวงจร "การจัดงานมหกรรมโคเนื้อ "Sisaket Premium Beef Festival" 7. กําหนดการลงพื้นที่ติดตามงานวาระจังหวัดศรีสะเกษ เกษตรบูรณาการ : ปศุสัตว์เศรษฐกิจ โคเนื้อ ไก่พื้นเมือง ในวันพฤหัสบดีที่ 16 กุมภาพันธ์ 2566 เวลา 13.30 น. ณ วิสาหกิจชุมชนโคเนื้อต้นน้ํา บ้านสะงํา ตําบลศรีสําราญ อําเภอวังหิน จังหวัดศรีสะเกษโดยมี นายอนุรัตน์ ธรรมประจําจิต รองผู้ว่าราชการจังหวัด ปศุสัตว์จังหวัด เกษตรและสหกรณ์จังหวัด สหกรณ์จังหวัด หัวหน้าสํานักงานจังหวัด พาณิชย์จังหวัด ผู้อํานวยการศูนย์การพัฒนาเกษตรภูสิงห์ฯ ผู้อํานวยการศูนย์วิจัยและบํารุงพันธุ์สัตว์ หัวหน้าด่านกักกันสัตว์ หัวหน้าสํานักงานตรวจบัญชีสหกรณ์จังหวัด ผู้แทนหัวหน้าส่วนราชการประจําจังหวัด นายชิดชัย จิณะแสน ประธาน ศพก.จังหวัด ผู้อํานวยการ ธกส. ศรีสะเกษ รองประธานหอการค้าจังหวัด ผู้แทนประธานโคเนื้อดอกลําดวน วิสาหกิจชุมชน คณะกรรมการขับเคลื่อนวาระจังหวัดศรีสะเกษ เกษตรบูรณาการ : ปศุสัตว์เศรษฐกิจ โคเนื้อ ไก่พื้นเมือง และผู้เกี่ยวข้องร่วมประชุม#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
|
16/2/2023
|
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
|
ศรีสะเกษ
|
สวท.ศรีสะเกษ
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230216185353949
| null |
ผู้ว่าฯศรีสะเกษ เยี่ยม พบปะให้กำลังใจ และร่วมแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็น กับกลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกทุเรียนภูเขาไฟศรีสะเกษ อำเภอกันทรลักษ์ พร้อมหารือเตรียมความพร้อมรจัดงานเทศกาลทุเรียนภูเขาไฟศรีสะเกษ ประจำปี พ.ศ.2566
|
ที่ศูนย์เรียนรู้ OTOP บ้านป่าโมง ตําบลภูเงิน อําเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ นายสํารวย เกษกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ เยี่ยม พบปะให้กําลังใจ และร่วมแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็น กับกลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกทุเรียนภูเขาไฟศรีสะเกษ ตําบลภูเงิน อําเภอกันทรลักษ์ เพื่อสร้างการรับรู้ การประชาสัมพันธ์การให้ความสําคัญต่อการผลิตทุเรียนภูเขาไฟศรีสะเกษ เพื่อให้ได้ผลผลิตที่มีความสมบูรณ์ ขนาดและคุณภาพ พร้อมทั้งการสร้างความเชื่อมั่น และความพึงพอใจแก่กลุ่มผู้บริโภค ซึ่งจะมีผลผลิตออกในปี 2566 โดยเริ่มตั้งแต่ เดือนพฤษภาคม - สิงหาคม 2566 พร้อมทั้งการหารือการเตรียมความพร้อมในการจัดกิจกรรมสินค้าและเทศกาลทุเรียนภูเขาไฟศรีสะเกษ ประจําปี พ.ศ.2566 ซึ่งจะนําไปสู่การกระตุ้นเศรษฐกิจ สร้างความเข้มแข็งให้แก่กลุ่มเกษตรกรชาวสวนทุเรียน และการท่องเที่ยวเชิงเกษตร อุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ทั้งยังสามารถสร้างรายได้ให้กับคนในชุมชนให้มีความมั่นคงเพิ่มมากยิ่งขึ้นโดยมี เกษตรและสหกรณ์จังหวัด ผู้แทนเกษตรจังหวัด หัวหน้าสํานักงานจังหวัด พัฒนาการจังหวัด คลังจังหวัด พาณิชย์จังหวัด ผู้อํานวยการศูนย์วิจัยพืชสวนศรีสะเกษ สถิติจังหวัด ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัด ประธานหอการค้าจังหวัด คปภ.จังหวัด ผู้แทนเกษตรจังหวัด ผู้แทนหัวหน้าส่วนราชการประจําจังหวัด นายอําเภอกันทรลักษ์ หัวหน้าส่วนราชการอําเภอกันทรลักษ์ เกษตรอําเภอ กํานัน ผู้ใหญ่บ้าน กลุ่มเกษตรผู้ปลูกทุเรียน สื่อมวลชน และพี่น้องประชาชน ร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็น#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
|
16/2/2023
|
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
|
ศรีสะเกษ
|
สวท.ศรีสะเกษ
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230216185531951
| null |
จังหวัดศรีสะเกษ ค่าฝุ่น PM 2.5 อยู่ในเกณฑ์ดีมาก เหมาะสำหรับกิจกรรมกลางแจ้งและการท่องเที่ยว
|
สํานักงานสิ่งแวดล้อมและควบคุมมลพิษที่ 12 ขอรายงานสถานการณ์ฝุ่น PM2.5 ในพื้นที่รับผิดชอบ ประจําวันที่ 16 ก.พ. 2566 ในพื้นที่จังหวัดศรีสะเกษ ตรวจวัดค่าฝุ่น PM2.5 เฉลี่ย 24 ชั่วโมง ณ เวลา 08.00 น. ได้ 10 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร อยู่ในระดับไม่เกินมาตรฐานกําหนด (ไม่เกิน 50 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร) และอยู่ การตรวจสอบจุดความร้อนในพื้นที่จังหวัดศรีสะเกษ ตามการรายงานของ gistda เมื่อวันที่ 15 ก.พ. 66 ไม่พบจุดความร้อนเกิดขึ้นในพื้นที่#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
|
16/2/2023
|
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
|
ศรีสะเกษ
|
สวท.ศรีสะเกษ
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230216190108956
| null |
ศูนย์อำนวยการจิตอาสาพระราชทานจังหวัดตราด ร่วมศูนย์จิตอาสาพระราชทาน หน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ เตรียมดำเนินโครงการจิตอาสาต้านภัยแล้ว ปี 2566
|
วันนี้ (16 ก.พ.66) นายชํานาญวิทย์ เตรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดตราด/ผู้อํานวยการศูนย์อํานวยการจิตอาสาพระราชทานจังหวัดตราด เป็นประธานการประชุมเตรียมดําเนินโครงการจิตอาสาต้านภัยแล้ว ปี 2566 ซึ่งศูนย์จิตอาสาพระราชทาน หน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 14 จัดขึ้น โดยมีจิตอาสา 904 จิตอาสาพระราชทาน จากหน่วยงานต่าง ๆ เข้าร่วมที่ห้องประชุมตราดสีทอง ศาลากลางจังหวัดตราด ทั้งนี้ตามที่ศูนย์จิตอาสาพระราชทาน ภาค 1 ได้ประสานศูนย์จิตอาสาพระราชทาน หน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ ร่วมกับศูนย์จิตอาสาพระราชทาน ให้ดําเนินโครงการจิตอาสาต้านภัยแล้ว ปี 2566 จังหวัดละ 1 กิจกรรม โดยจังหวัดตราดได้มีการเลือกดําเนินโครงการ กิจกรรมขุดลอกหนองน้ําเดิม ที่หมู่ที่ 10 บ้านคลองพีด ตําบลห้วยแร้ง อําเภอเมืองตราด ซึ่งลําคลองดังกล่าวมีความตื้นเขินจากเศษวัชพืชปกคลุม และมีตะกอนดินทับถม จนไม่สามารถกักเก็บน้ําได้ ทําให้ประชาชนขาดแคลน้ําสําหรับทําการเกษตร ได้มีการกําหนดดําเนินกิจกรรมในวันที่ 29 มีนาคม 2566 ภายหลังดําเนินการแล้วเสร็จ ประชาชนจะได้รับประโยชน์ 30 ครัวเรือน พื้นที่ทางการเกษตร 360 ไร่ ทางหน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 14 สํานักงานพัฒนาภาค 1 หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา จึงได้จัดประชุมเตรียมความพร้อมก่อนที่จะดําเนินโครงการดังกล่าวในพื้นที่จังหวัดตราดต่อไป #สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
|
16/2/2023
|
ภาคตะวันออก
|
ตราด
|
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดตราด
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230216181102928
| null |
หมูไทยโดนรุม “กินโต๊ะ” ทั้งหมูเถื่อนและหมูจากประเทศเพื่อนบ้าน
|
หมูไทยยังวนเวียนอยู่ในวังวนของปัญหา หลังผจญกับโรคระบาด ASF เมื่อปีที่ผ่านมา จนต้องทําลายทั้งแม่หมูและหมูขุนไปทั้งประเทศไม่น้อยกว่า 50% ของผลผลิตรวมของไทย และยังไม่สามารถฟื้นฟูผลผลิตได้ 100% จนถึงขณะนี้ ปัจจัยสําคัญที่ทําให้เกษตรกรผู้เลี้ยงหมูกล้าๆ กลัว ที่จะนําหมูเข้าเลี้ยงรอบใหม่ คือ “หมูเถื่อน” ที่ลักลอบนําเข้ามาขายราคาต่ํากว่าต้นทุนหมูไทย ราคาหมูไทยให้ตกต่ําและไม่มีเสถียรภาพจนเกษตรกรขายผลผลิตด้วยความยากลําบาก และโอกาสหมูเถื่อนจะเป็นพาหะนําเข้าโรค ASF มาระบาดซ้ําอีกครั้งก็เป็นไปได้สูงนายสัตวแพทย์ จากสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ ได้เตือนให้ระวังเกี่ยวกับ “หมูเถื่อน” ที่นําเข้ามาเป็นชิ้นส่วนหมูแช่แข็ง และดั๊มพ์ราคาขายในไทยได้เพราะเป็นชิ้นส่วนที่ประเทศต้นทางไม่นิยมบริโภค หรือ เป็นหมูที่มีปัญหาติดโรคระบาดสัตว์ และไม่ผ่านการตรวจสอบคุณภาพ ทําให้มีการส่งออกมาไทยในราคา “ขายทิ้ง”และสะดวกต่อการจัดจําหน่าย ขายปนกับหมูไทยบนเขียงหมูในตลาดสดแบบแยกไม่ออก หรือนําเสนอขายแบบทั้งกล่องให้กับผู้ประกอบการร้านอาหาร ซึ่งหมูเถื่อนคือ “ภัยร้าย” ต่อสุขภาพคนไทยทั้งประเทศนอกจาก “หมูเถื่อน” จะเป็นปัจจัยทําให้หมูไทยไม่สามารถแข่งขันได้แล้ว ขณะนี้หมูไทยยังเจอปัญหาการลักลอบนําเข้าหมูแช่แข็งและหมูร้อน จากประเทศเพื่อนบ้านเข้ามาตามแนวตะเข็บชายแดนทั้งจาก ลาว กัมพูชา เวียดนาม และมาเลเซีย ซึ่งคาดการณ์ว่าหมูแช่แข็งที่ลักลอบนําเข้าตามช่องทางนี้ เป็นหมูเถื่อนที่เปลี่ยนเส้นทางจากเมืองไทยไปหาช่องทางใหม่ หลังการมีการจับกุมอย่างจริงจังช่วงไตรมาส 4 ในปี 2565 ที่สําคัญภาคปศุสัตว์ของทั้งลาว กัมพูชา เวียดนาม มีแต้มต่อด้านต้นทุนการผลิตโดยเฉพาะวัตถุดิบอาหารสัตว์ต่ํากว่าไทยมาก เนื่องจากรัฐบาลมีนโยบายนําเข้าเสรี ขณะที่กัมพูชามีโครงการเกษตรแปลงใหญ่ปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ เพื่อใช้ในประเทศและส่งออก ต่างจากนโยบายของรัฐบาลไทยที่คุ้มครองพืชไร่ โดยกําหนดทั้งมาตรการภาษีและโควต้านําเข้าวัตถุดิบอาหารสัตว์ทั้งข้าวโพดเลี้ยงสัตว์และกากถั่วเหลือง โดยกําหนดราคาขั้นต่ําในการรับซื้อข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ แต่ไม่กําหนดราคาเพดานขั้นสูง เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับผู้ใช้ จากนโยบายดังกล่าว ส่งผลให้ต้นทุนการผลิตเนื้อสัตว์ในประเทศเหล่านี้ต่ํากว่าไทยมาก ราคาสุกรมีชีวิตหน้าฟาร์มจึงจูงใจให้มีการลักลอบส่งออกหมูร้อนมาหาประโยชน์ส่วนต่างราคาในประเทศไทย โดยเฉพาะลาวและกัมพูชา ที่มีพรมแดนติดกับไทยได้ไม่ยาก ผ่านจังหวัดสระแก้ว อุบลราชธานี และมุกดาหาร จากปัจจัยดังกล่าวข้างต้นโอกาสที่ “หมูไทย” จะฟื้นฟูการผลิตให้กลับมาอยู่ที่ 18-19 ล้านตัวต่อปี ตามที่รัฐบาลวางเป้าหมายไว้คงไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะความผันผวนของราคาทั้งหมูมีชีวิตหน้าฟาร์มและราคาเนื้อสตว์ที่ยังไม่มีเสถียรภาพ เป็นตัวแปรสําคัญในการสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้เลี้ยงหมู โดยเฉพาะ “หมูเถื่อน” ยังคงกดดันราคาหมูไทยขายได้ต่ํากว่าราคาต้นทุนการผลิตในปัจจุบัน เนื่องต้นทุนการผลิตวัตถุดิบอาหารสัตว์และปัจจัยการผลิตอื่นทั้งเวชภัณฑ์ และอุปกรณ์ป้องกันโรค ต้นทุนพลังงาน ยังอยู่ในระดับสูง ซึ่งสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติประเมินต้นทุนการผลิตช่วงไตรมาสที่ 1 ปี 2566 อยู่ที่ 100.30-101.06 บาทต่อกิโลกรัม เทียบกับราคาที่ผู้เลี้ยงหมูไทยขายได้แล้วขาดทุนแน่นอนวันนี้ หากต้องการให้ผู้เลี้ยงหมูไทยยืนหยัดเดินหน้ากิจการต่อไปได้ และฟื้นฟูผลผลิตหมูได้ตามเป้าหมายเพียงพอต่อการบริโภคในราคาที่เหมาะสมและเป็นธรรม ผู้บริโภคอยู่ได้ ผู้เลี้ยงอยู่รอด สําคัญที่สุดคือ “หมูไทย” ปลอดภัยกว่า “หมูเถื่อน” เพราะหมูไทยมีการตรวจสอบคุณภาพและสารปนเปื้อนตามมาตรฐานสากล เพื่อสร้างหลักประกันอาหารปลอดภัยให้กับผู้บริโภคทุกคน ดังนั้นภาครัฐควรมีมาตรการเด็ดขาดในการกําจัดหมูเถื่อนให้หมดไป เพื่อเปิดทางให้คนไทยได้บริโภคเนื้อสัตว์คุณภาพดี แทนหมูเถื่อนราคาถูกพร้อมของแถมที่มองไม่เห็นนรชาติ สรงอินทรีย์ ที่ปรึกษาด้านปศุสัตว์
|
16/2/2023
|
ภาคกลางและปริมณฑล
|
กรุงเทพมหานคร
|
สำนักพัฒนานโยบายและแผนการประชาสัมพันธ์
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230216181358930
| null |
กรมส่งเสริมการเกษตร มุ่งพัฒนาเจ้าหน้าที่ เพิ่มความสุขในที่ทำงาน สร้างความผูกพันให้คงอยู่ตลอดไป
|
นายเข้มแข็ง ยุติธรรมดํารง อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวว่า ตามที่สํานักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน ได้เผยแพร่ผลสํารวจความผูกพันของข้าราชการพลเรือนสามัญของกรมส่งเสริมการเกษตร ในปีงบประมาณ 2565 โดยผลสํารวจที่ออกมานั้นแสดงให้เห็นว่าข้าราชการพลเรือนสามัญของกรมส่งเสริมการเกษตรมีความมุ่งมั่นและมีความรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งกับงาน องค์กร และระบบราชการ ถึงร้อยละ 80 ซึ่งสูงกว่าคะแนนความผูกพันเฉลี่ยของภาคราชการที่ร้อยละ 78ทั้งนี้ ค่าความผูกพันในแต่ละมิติก็มีผลสํารวจที่สูงเช่นเดียวกันคือ ความผูกผันต่องาน ความผูกพันต่อองค์กรและแรงจูงใจในการบริหารสาธารณะ ทําให้ในปีนี้ กรมส่งเสริมการเกษตรเปิดโครงการที่จะใช้ระบบพี่เลี้ยงและผู้สอนงาน ดูแลและพัฒนาข้าราชการบรรจุใหม่ โดยมุ่งเน้นสร้างความผูกพันและทัศนคติที่ดีให้แก่ข้าราชการบรรจุใหม่ รวมทั้งพัฒนาผู้ที่ทําหน้าที่สอนงานและเป็นพี่เลี้ยงสําหรับข้าราชการบรรจุใหม่ให้มีความรู้ความเข้าใจมีทักษะที่จําเป็น และมีทัศนคติที่ดีสามารถปฏิบัติตนได้อย่างเหมาะสมกับบทบาทที่ได้รับอันจะนําไปสู่การพัฒนาตนเองให้เป็นนักส่งเสริมการเกษตรที่ดี สามารถพัฒนางานและองค์กรภาพรวมให้มีประสิทธิภาพและประสิทธิผลยิ่งขึ้น นอกจากนี้ หลักสูตรพัฒนาบุคลากรต่างๆ ที่มีก็จะได้รับการพัฒนาให้มีความทันสมัยเหมาะสมกับสถานการณ์ในปัจจุบัน อาทิ หลักสูตรเพื่อเพิ่มทักษะและพัฒนาความก้าวหน้าในอาชีพ ซึ่งจะสามารถตอบสนองความต้องการของเจ้าหน้าที่ได้อย่างต่อเนื่อง ตลอดจนเปิดโอกาสให้กับเจ้าหน้าที่ในการสมัครรับทุนการศึกษาหรือฝึกอบรม จาก สํานักงาน ก.พ ด้วยเช่นกัน
|
17/2/2023
|
ภาคกลางและปริมณฑล
|
กรุงเทพมหานคร
|
Radio-สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230217095522076
| null |
สำนักงานสิ่งแวดล้อมและควบคุมมลพิษที่ 2 บูรณาการร่วมหลายหน่วยงาน ตั้งจุดตรวจวัดควันดำรถยนต์ หวังลดต้นเหตุการเกิดฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 ในพื้นที่ จ.ลำปาง
|
นายชัชวาลย์ ฉายะบุตร ผู้ว่าราชการจังหวัดลําปาง ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมการตรวจควันดํารถยนต์ ณ ที่ทําการสายตรวจตําบลพิชัย สถานีตํารวจภูธเมืองลําปาง (ฝั่งตรงข้าม) ถนนลําปาง - งาว (ขาขึ้น) ซึ่งจังหวัดลําปางถือเป็นจังหวัดที่มีเส้นทางสัญจรหลักไปสู่จังหวัดอื่น ๆ ในพื้นที่ภาคเหนือตอนบน และเป็นจุดพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบเกิดปัญหาฝุ่น PM 2.5 ที่มาจากภาคการจราจรและการขนส่งทางบก ซึ่งมีรถยนต์ถูกเรียกตรวจควันดํา รวมจํานวน 154 คัน พบควันดําเกินมาตรฐาน จํานวน 6 คันนายระพีศักดิ์ มาลัยรุ่งสกุล ผู้อํานวยการสํานักงานสิ่งแวดล้อมและควบคุมมลพิษที่ 2 กล่าวว่า สํานักงานสิ่งแวดล้อมและควบคุมมลพิษที่ 2 ได้บูรณาการดําเนินงานร่วมกับสํานักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดลําปาง สํานักงานขนส่งจังหวัดลําปาง สถานีตํารวจภูธรเมืองลําปาง และเทศบาลเมืองพิชัย กําหนดจัดกิจกรรมตรวจวัดควันดําเพื่อดําเนินการเฝ้าระวัง ติดตามตรวจสอบ และควบคุมมลพิษทางอากาศที่มีสาเหตุมาจากยานพาหนะขนส่งทางบกที่ระบายมลพิษเกินมาตรฐาน ตามมาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 ให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งเพื่อรณรงค์ให้ประชาชนในพื้นที่เกิดความตระหนักในการที่จะดูแลบํารุงรักษาเครื่องยนต์ยานพาหนะให้ทํางานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และอีกส่วนหนึ่งเพื่อต้องการให้เกิดการบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจังกับรถยนต์ที่มีค่าควันดําเกินกว่าที่กฎหมายกําหนดผู้อํานวยการสํานักงานสิ่งแวดล้อมและควบคุมมลพิษที่ 2 กล่าวเพิ่มเติมว่า การตรวจวัดควันดําด้วยเครื่องวัดควันดําระบบวัดความทึบแสง ขณะเครื่องยนต์ไม่มีภาระ ค่าควันดําจะต้องไม่เกินมาตรฐานร้อยละ 30 หากเกินมาตรฐานเจ้าหน้าที่จะออกคําสั่งห้ามใช้รถชั่วคราว และให้เจ้าของรถนํารถไปปรับปรุงแก้ไขให้มีค่าควันดําเป็นไปตามมาตรฐานภายใน 30 วัน หากฝ่าฝืนคําสั่งห้ามจะมีความผิดตามพระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ. 2535 มีโทษปรับไม่เกิน 5,000 บาท และหากฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามคําสั่งพนักงานเจ้าหน้าที่ จะมีโทษจําคุกสูงสุด 1 เดือน ปรับสูงสุด 10,000 บาท หรือทั้งจําทั้งปรับทั้งนี้ รัฐบาลมีนโยบายเข้มงวดการตรวจวัดควันดํา "ตรวจจับ ปรับจริง-ห้ามใช้รถควันดํา" และบังคับใช้บทลงโทษสูงสุด เพื่อลดฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 ที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะในเขตเมืองที่มีขนาดใหญ่และมีการจราจรคับคั่ง เพื่อป้องกันและควบคุมมลพิษทางอากาศที่มีสาเหตุมาจากยานพาหนะ โดยดําเนินการตรวจสอบ ตรวจจับ และห้ามใช้รถยนต์ที่ระบายมลพิษเกินค่ามาตรฐาน#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
|
17/2/2023
|
ภาคเหนือ
|
ลำปาง
|
สวท.ลำปาง
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230217113907108
| null |
จ.จันทบุรี จัดงานโครงการคลินิกเกษตรเคลื่อนที่ในพระราชานุเคราะห์ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร และการออกหน่วยบริการเคลื่อนที่ (จังหวัดเคลื่อนที่) ตามโครงการบูรณาการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนแบบพุ่งเป้าทุกมิติอย่างยั่งยืน
|
วันนี้ (17 ก.พ.66) ที่เทศบาลตําบลปากน้ําแหลมสิงห์ อําเภอแหลมสิงห์ จังหวัดจันทบุรี นายธวัชชัย นามสมุทร รองผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี เป็นประธานเปิดจัดงานโครงการคลินิกเกษตรเคลื่อนที่ในพระราชานุเคราะห์ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร และการออกหน่วยบริการเคลื่อนที่ (จังหวัดเคลื่อนที่) ตามโครงการบูรณาการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนแบบพุ่งเป้าทุกมิติอย่างยั่งยืน จังหวัดจันทบุรีนายปัญญา ประดิษฐสาร เกษตรจังหวัดจันทบุรี กล่าวว่า การจัดงานโครงการคลินิกเกษตรเคลื่อนที่ในพระราชานุเคราะห์ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เป็นวิธีการดําเนินงาน อย่างหนึ่งที่สามารถให้การบริการทางวิชาการ และการถ่ายทอดเทคโนโลยีทางการเกษตรของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ บรรลุผลสําเร็จตามภารกิจที่รับผิดชอบ โดยเป็นการปฏิบัติงานในเชิงรุก ที่ทําให้เกษตรกรในพื้นที่เป้าหมายที่มีปัญหา ให้ได้รับบริการทางการเกษตรอย่างรวดเร็วทั่วถึง และครบวงจร เช่น การวิเคราะห์ดิน การวินิจฉัยโรคพืช โรคสัตว์ โรคสัตว์น้ํา และการให้วัคซีนป้องกันโรค รวมถึงการถ่ายทอดเทคโนโลยี และฝึกอบรมความรู้ด้านการเกษตรเพิ่มเติมควบคู่กันไปด้วยซึ่งจะเป็นการดําเนินการในลักษณะบูรณาการการทํางาน ระหว่างนักวิชาการเกษตรของหน่วยงานต่าง ๆ ในแต่ละสาขา ทั้งด้านพืช สัตว์ ประมง ดิน และน้ํา ฯลฯ พร้อมทั้งนําอุปกรณ์และเครื่องมือทางวิชาการด้านต่าง ๆ มาให้บริการ ในคลินิกเกษตรเคลื่อนที่ โดยสามารถเคลื่อนที่เข้าไปได้ถึงในระดับตําบล เพื่อให้เกษตรกรสามารถเข้ารับบริการทางการเกษตรได้อย่างถูกต้อง ครบถ้วนทุกด้านในคราวเดียวกันโดยภายในงานได้จัดให้มีบริการคลินิกเกษตรเคลื่อนที่ นิทรรศการ การสาธิต การจําหน่ายผลิตภัณฑ์ การฝึกอาชีพ และการตรวจวิเคราะห์ด้านต่างๆ โดยหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และภาคเอกชนที่เกี่ยวข้อง พร้อมทั้งร่วมบูรณาการการออกหน่วยเคลื่อนที่ (จังหวัดเคลื่อนที่) โดยส่วนราชการในพื้นที่จังหวัดจันทบุรี เข้าร่วมให้ความรู้ พร้อมทั้งรับฟังสภาพปัญหาจากพี่น้องประชาชนในพื้นที่ และดําเนินการประสานความร่วมมือในการแก้ไขเบื้องต้นให้แก่พี่น้องประชาชนในพื้นที่อําเภอแหลมสิงห์และพื้นที่ใกล้เคียง ที่มารับบริการและมาร่วมงาน ไม่น้อยกว่า 100 รายทั้งนี้ การจัดงานดังกล่าว สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทยจังหวัดจันทบุรี ได้ทําการถ่ายทอดเสียงผ่านทาง FM 90.25 MHz. และถ่ายทอดสด ทางแฟนเพจ สวท.จันทบุรี อีกด้วย#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
|
17/2/2023
|
ภาคตะวันออก
|
จันทบุรี
|
สวท.จันทบุรี
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230217122335115
| null |
จังหวัดภูเก็ตให้ความสถานการณ์ไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละอองขนาดเล็ก หรือ PM 2.5 พร้อมวางแนวทางการป้องกันฝุ่น PM 2.5 ในพื้นที่
|
นายอานุภาพ รอดขวัญ ยอดระบํา รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เปิดเผยถึงการติดตามสถานการณ์ไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละอองขนาดเล็ก หรือ PM 2.5 ในพื้นที่เนื่องจากตั้งแต่เดือนมกราคม 2566 เป็นต้นมา เกิดจุดความร้อน (Hotspot) เพิ่มขึ้นในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะพื้นที่การเกษตรและพื้นที่ป่า ประกอบกับเกิดสถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดเล็ก หรือ PM2.5 มีค่าสูงเกินมาตรฐานติดต่อกันหลายวัน ส่งผลกระทบต่อปัญหาสุขภาพของประชาชนอย่างมากจังหวัดภูเก็ตได้มีการติดตามสถานการณ์ พร้อมวางมาตราการป้องกันและแก้ไขปัญหาให้มีประสิทธิภาพเพื่อสุขภาพของประชาชน โดยกองอํานวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดภูเก็ต ได้แต่งตั้งคณะทํางานติดตามและเฝ้าาระวังไฟป่า เพื่อการแก้ไขปัญหามลพิษด้านฝุ่นละออง ปี 2566 โดยเฉพาะพื้นที่เมืองเฝ้าระวังโรงงานที่มีมลพิษสูง การบํารุงรักษาเครื่องยนต์ และเพิ่มจุดตรวจควันดําริมถนน รวมถึงพื้นที่เกษตรกรรมจุดความร้อนลดลง ร้อยละ 10 และพื้นที่ป่าไม้ ลดจุดความร้อน ร้อยละ 20 ซึ่งคณะทํางานต้องติดตามสถานการณ์ พร้อมรับมือกับเหตุการณ์ที่อาจจะเกิดวิกฤตขึ้นได้ในระยะนี้#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
|
17/2/2023
|
ภาคใต้
|
ภูเก็ต
|
สวท.ภูเก็ต
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230217115150111
| null |
สาธารณสุขจังหวัดพะเยา แจ้งเตือนกลุ่มเสี่ยง 4 กลุ่ม และประชาชนทั่วไป ให้เฝ้าระวังภาวะสุขภาพ กรณีฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5
|
นายแพทย์เอกชัย คําลือ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดพะเยา เปิดเผยว่า เนื่องจากวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2566 ฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 จังหวัดพะเยามีค่าสูงทะลุ 90 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตรต่อเนื่องเป็นวันที่ 5 (ระดับสีแดง) ซึ่งอยู่ในระดับที่มีผลกระทบต่อสุขภาพ โดยประชาชนทั่วไปควรลดหรืองดกิจกรรมนอกบ้าน ประชาชนกลุ่มเสี่ยง 4 กลุ่มควรงดออกจากบ้านและออกกําลังกายกลางแจ้ง หากจําเป็นต้องอยู่นอกบ้านให้สวมหน้ากากป้องกัน PM 2.5 ทุกครั้ง หากมีอาการผิดปกติ เช่น ไอบ่อย หายใจลําบาก หายใจถี่ หายใจไม่ออก หายใจมีเสียงวี๊ด แน่นหน้าอก เจ็บหน้าอก ใจสั่น คลื่นไส้ อาเจียน เมื่อยล้าผิดปกติ หรือวิงเวียนศีรษะให้พบแพทย์ทันที ผู้มีโรคประจําตัวควรเตรียมยาและอุปกรณ์ที่จําเป็นอย่างน้อย 5 วันสํานักงานสาธารณสุขจังหวัดพะเยา ได้เฝ้าระวังภาวะสุขภาพและแจ้งเตือนประชาชนต่อเนื่องตั้งแต่ต้นเดือนมกราคมเป็นต้นมา และเฝ้าระวังเข้มข้นขึ้นหลังจากประกาศห้ามเผาเด็ดขาดของจังหวัดพะเยา โดยจัดเตรียมวัสดุและทีมสนับสนุนการดําเนินงาน เพื่อเฝ้าระวังภาวะสุขภาพของประชาชนในพื้นที่ ซึ่งได้สนับสนุนหน้ากากอนามัยจํานวน 26,030 ชิ้น สื่อสารความรู้ให้กับประชาชน 341 ครั้ง ทีมหมอครอบครัวติดตามเยี่ยมบ้านกลุ่มเสี่ยง 695 ครั้ง จัดเตรียมห้องปลอดฝุ่น 104 แห่ง และมีหน่วยงานในสังกัดสํานักงานสาธารณสุขจังหวัดพะเยาจัดเตรียมห้องปลอดฝุ่นสําหรับบริการประชาชนจํานวน 17 แห่ง ปัจจุบันพบผู้ป่วยเข้ารับบริการในสถานพยาบาลในสังกัดยอดสะสมตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม - 11 กุมภาพันธ์ 2566 (6 สัปดาห์) จําแนกเป็นกลุ่มโรคระบบทางเดินหายใจ จํานวน 7,876 คน อัตราป่วย 1,706.86 ต่อแสนประชากร กลุ่มโรคหัวใจและหลอดเลือดรวม จํานวน 7,081 คน อัตราป่วย 1,534.57 ต่อแสนประชากร กลุ่มโรคเยื่อบุตาขาวอักเสบ จํานวน 566 คน อัตราป่วย 122.66 ต่อแสนประชากร และกลุ่มโรคผิวหนังอักเสบ จํานวน 736 คน อัตราป่วย 159.50 ต่อแสนประชากร ทั้งนี้ผู้ป่วยกลุ่มโรคระบบทางเดินหายใจมีแนวโน้มสูงขึ้น นอกจากนี้ สํานักงานสาธารณสุขจังหวัดพะเยา ได้เปิดศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินด้านแพทย์และสาธารณสุข กรณี PM 2.5 เมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2566 โดยมีข้อสั่งการให้หน่วยบริการทุกแห่งจัดเตรียมความพร้อมเพื่อรับสถานการณ์หากมีผู้ป่วยระบบทางเดินหายใจเพิ่มขึ้นทั้งนี้ขอความร่วมมือประชาชนจัดเตรียมห้องสะอาดหรือห้องปลอดฝุ่นในบ้านของตนเอง เพื่อเป็นที่หลบภัยในช่วงที่มีภาวะมลพิษทางอากาศ ลดความเสี่ยงจากการหายใจเอาฝุ่นเข้าสู่ร่างกาย สามารถจัดเตรียมง่ายๆโดยเลือกห้องปิดในบ้านอย่างน้อย 1 ห้อง นําสิ่งของที่เป็นแหล่งสะสมฝุ่นออกจากห้อง จัดหาเครื่องฟอกอากาศ หรือ ติดตั้งแอร์คอนดิชั่น หรือพัดลมไอน้ํา หมั่นทําความสะอาดห้องโดยใช้ผ้าชุบน้ําเป็นประจํา หากมีความจําเป็นต้องออกไปนอกบ้าน ต้องสวมหน้ากากกันฝุ่น PM2.5 ทุกครั้ง และประชาชนสามารถติดตามสถานการณ์คุณภาพอากาศจาก แอปพลิเคชั่น Air4Thai หรือ Facebook สํานักงานสาธารณสุขจังหวัดพะเยา และเว็บไซต์ คลินิกมลพิษออนไลน์ www.pollutionclinic.com เพื่อประเมินสถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 ประเมินภาวะสุขภาพของตนเอง เพื่อลดความเสี่ยงจากการหายใจเอาฝุ่นเข้าสู่ร่างกาย หากมีอาการผิดปกติควรพบแพทย์ใกล้บ้านทันที#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
|
17/2/2023
|
ภาคเหนือ
|
พะเยา
|
สวท.พะเยา
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230217131114143
| null |
กรมฝนหลวงและการบินเกษตร ส่งเฮลิคอปเตอร์ทิ้งน้ำดับไฟป่าบริเวณจังหวัดเชียงใหม่
|
นายสุพิศ พิทักษ์ธรรม รองอธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตร รักษาราชการแทนอธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตร เปิดเผยว่า ศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคเหนือได้ทําการส่งหน่วยปฏิบัติการฝนหลวงเคลื่อนที่เร็วให้นําเฮลิคอปเตอร์ตักน้ําดับไฟป่า เนื่องจากค่าคุณภาพอากาศของประเทศไทยโดยเฉพาะบริเวณพื้นที่ภาคเหนือ มีค่าเฉลี่ยสูงกว่าเกณฑ์มาตรฐาน จากการเกิดไฟป่าในพื้นที่ และเนื่องจากปัญหาไฟป่าเกิดขึ้นมาเป็นเวลานานหลายวัน ทําให้มีการสะสมของฝุ่นละอองเพิ่มมากขึ้นประกอบกับข้อมูลสถานการณ์ค่าคุณภาพอากาศจากกรมควบคุมมลพิษ เมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2566 พบว่า มีสารมลพิษทางอากาศที่ตรวจพบเกินมาตรฐาน ได้แก่ ฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน หรือ PM2.5 ตรวจพบค่าระหว่าง 19-165 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร เกินมาตรฐาน ฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 10 ไมครอน หรือ PM10 ตรวจพบค่าระหว่าง 18-191 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร เกินมาตรฐาน ซึ่งอยู่ในระดับเริ่มส่งผลกระทบต่อสุขภาพ (สีส้ม) ถึงระดับมีผลกระทบต่อสุขภาพ (สีแดง) โดยส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนในพื้นที่ภาคเหนือเป็นวงกว้างจากสถานการณ์ดังกล่าว กรมฝนหลวงและการบินเกษตร ได้มีการประสานงานและวางแผนร่วมมือกับหน่วยงานต่างๆ ทั้งหน่วยปฏิบัติการฝนหลวงเคลื่อนที่เร็ว จังหวัดเชียงใหม่ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยและหน่วยที่เกี่ยวข้อง ขึ้นบินสํารวจจุดความร้อน เพื่อวางแผนการบิน และหาแหล่งน้ําที่ใกล้กับบริเวณที่เกิดไฟป่า เพื่อรักษาปริมาณน้ําในถังให้ได้มากที่สุด โดยหน่วยปฏิบัติการฝนหลวงเคลื่อนที่เร็ว จังหวัดเชียงใหม่ ใช้เฮลิคอปเตอร์จํานวน 1 ลํา ปฏิบัติภารกิจดับไฟป่าบริเวณพื้นที่อําเภอฮอด และอําเภอจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่ ตั้งแต่วันที่ 9–11 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ใช้แหล่งน้ําจากอ่างเก็บน้ําศาลาฮ่อและอ่างเก็บน้ําบ้านโป่ง มีผลการปฏิบัติภารกิจจํานวน 3 วัน รวมจํานวน 37 เที่ยวบิน ใช้ปริมาณน้ํา รวมทั้งสิ้น 22,200 ลิตร
|
17/2/2023
|
ภาคกลางและปริมณฑล
|
กรุงเทพมหานคร
|
Radio-สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230217144959194
| null |
กรมวิชาการเกษตร ร่วมกับเอกชน จัดงานถ่ายทอดเทคโนโลยีเพิ่มประสิทธิภาพผลิตมันฝรั่งครบวงจร
|
นายระพีภัทร์ จันทรศรีวงศ์ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร กล่าวว่า กรมวิชาการเกษตร ร่วมกับภาคเอกชนและสหกรณ์ผู้ปลูกมันฝรั่งเชียงใหม่ สหกรณ์การเกษตรโหล่งขอดสามัคคี จํากัด สหกรณ์มันฝรั่งไชยปราการ-ฝาง จํากัด จัดงานการถ่ายทอดเทคโนโลยี มันฝรั่งเสริมสร้างความเข้มแข็งให้เกษตรกรไทยเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน ภายใต้โครงการส่งเสริมความเข้มแข็งของอุตสาหกรรมมันฝรั่งในประเทศไทยด้วยมันฝรั่งสายพันธุ์ใหม่ ซึ่งสนับสนุนโดย สถาบันพัฒนาชนบทเกาหลี สาธารณรัฐเกาหลี เพื่อลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือทางวิชาการว่าด้วยความร่วมมือการวิจัยพัฒนาพันธุ์ และเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตหัวพันธุ์และมันฝรั่ง สําหรับการแปรรูปและการบริโภค นอกจากนี้ ไฮไลท์ที่สําคัญของการจัดงานในครั้งนี้คือ ผู้เข้าร่วมงานจะได้สัมผัสกับการจัดทําแปลงต้นแบบเทคโนโลยีการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตมันฝรั่งและหัวพันธุ์มันฝรั่ง ตลอดจนขั้นตอนการแปรรูปเป็นมันฝรั่งแผ่นทอดกรอบ รวมถึง สามารถแลกเปลี่ยนความรู้ ประสบการณ์ ความคิดเห็นกับเกษตรกรต้นแบบที่ประสบความสําเร็จในการผลิตมันฝรั่ง รวมทั้งนักวิชาการเกษตรที่มีความเชี่ยวชาญในการผลิตมันฝรั่งแต่ละด้าน พร้อมตอบข้อซักถามต่างๆ ที่เกิดขึ้นในการผลิตมันฝรั่ง เพื่อให้เกษตรกร หรือผู้สนใจนําความรู้ในการผลิตมันฝรั่งกลับไปปรับใช้ให้เหมาะสมกับสภาพพื้นที่ของเกษตรกรต่อไป ขอเชิญชวนเกษตรกรและผู้ที่สนใจเข้าร่วมชมงาน ได้ในวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2566 ณ ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรเชียงใหม่ ตําบลโป่งน้ําร้อน อําเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่
|
17/2/2023
|
ภาคกลางและปริมณฑล
|
กรุงเทพมหานคร
|
Radio-สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230217145748204
| null |
จังหวัดพระนครศรีอยุธยา จัดโครงการคลินิกเกษตรเคลื่อนที่ในพระราชานุเคราะห์ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช ฯ สยามมกุฎราชกุมาร
|
วันนี้ (17 กุมภาพันธ์ 2566) นายนิวัฒน์ รุ่งสาคร ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นประธานในพิธีเปิดงานโครงการคลินิกเกษตรเคลื่อนที่ในพระราชานุเคราะห์ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช ฯ สยามมกุฎราชกุมาร ณ องค์การบริหารส่วนตําบลพระขาว ตําบลพระขาว อําเภอบางบาล จังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยมี ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 18 ผู้อํานวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ผู้แทนนายก อบจ.พระนครศรีอยุธยา หัวหน้าส่วนราชการ พี่น้องเกษตรกร เข้าร่วมพิธีจํานวนกว่า 160 คน และมี ดร.รุจีพัชร บุญจริง เกษตรจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นผู้กล่าวถึงวัตถุประสงค์ในการจัดโครงการฯนายนิวัฒน์ รุ่งสาคร ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระราชหฤทัยอันมุ่งมั่นในการสืบสาน รักษา และต่อยอด แนวพระราชดําริเพื่อเป็นแสงสว่างนําทางตามรอยพระราชปณิธานไปสู่ความผาสุกแก่ประชาชนและประเทศชาติ โครงการคลินิกเกษตรเคลื่อนที่ เป็นรูปแบบหนึ่งของการแก้ไขปัญหาให้กับเกษตรกรในพื้นที่ พร้อมกับถ่ายทอดความรู้ให้แก่เกษตรกรไปในคราวเดียวกัน เป็นโครงการที่เป็นประโยชน์ต่อเกษตรกรเป็นอย่างยิ่ง เพราะเกษตรกรจะได้รับบริการแบบครบวงจรในทุกๆ ด้าน ซึ่งเป็นการนําบุคลากรอุปกรณ์ เครื่องมือ และองค์ความรู้ ด้านการเกษตรมาให้บริการแก่พี่น้องเกษตรกร ถึงในพื้นที่ พ่อแม่พี่น้องเกษตรกร ที่มาร่วมงานในวันนี้ ขอให้ใช้โอกาสนี้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ตัวท่านเอง โดยเข้ารับบริการหรือปรึกษาเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ในส่วนของข้าราชการเจ้าหน้าที่ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ซึ่งมาปฏิบัติงานในครั้งนี้สําหรับการจัดงานในวันนี้ เกิดขึ้นจากความร่วมมือของหน่วยงานราชการสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงพลังงาน ในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา และจังหวัดใกล้เคียง องค์การบริหารส่วนจังหวัดพระนครศรีอยุธยา องค์การบริหารส่วนตําบลพระขาว และภาคีภาคเอกชนเพื่อให้บริการแก่เกษตรกร ในการแก้ไข ปัญหาการผลิต ด้านการเกษตร ได้อย่างรวดเร็ว อย่างทั่วถึง และสอดคล้อง กับความต้องการของเกษตรกร ซึ่งมีการบูรณาการ ความร่วมมือกัน ระหว่างหน่วยงานวิชาการ หน่วยงานส่งเสริม และหน่วยงานอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ร่วมพัฒนาฟื้นฟูเกษตรกร ให้สามารถทําการผลิตทางการเกษตร ได้อย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน โดยเป็นการปฏิบัติงานในเชิงรุกที่ทําให้เกษตรกรในพื้นที่เป้าหมาย ที่มีปัญหาให้ได้รับบริการทางการเกษตร เช่น การวิเคราะห์ดิน การวินิจฉัยโรคพืช โรคสัตว์ โรคสัตว์น้ํา รวมถึง การถ่ายทอดเทคโนโลยีด้านเกษตรกิจกรรมในการจัดงานครั้งนี้ ประกอบด้วย การให้บริการคลินิกเกษตรเคลื่อนที่จากหน่วยงานภาครัฐ และภาคีภาคเอกชนที่เกี่ยวข้อง จํานวน 23 หน่วยงาน โดยแบ่งเป็น 3 กลุ่ม ดังนี้ กลุ่มที่ 1 คลินิกแก้ปัญหาในพื้นที่ ประกอบด้วย 1) คลินิกดิน 2) คลินิกพืชและการอารักขาพืช กลุ่มที่ 2 คลินิกด้านวิชาการเกษตร ประกอบด้วย คลินิกปศุสัตว์ คลินิกประมง คลินิกชลประทาน คลินิกสหกรณ์ คลินิกบัญชี คลินิกกฎหมาย คลินิกข้าว คลินิกเครื่องจักรกลทางการเกษตร คลินิกฝนหลวง กลุ่มที่ 3 คลินิกการให้บริการ ประกอบด้วย การจําหน่ายสินค้าจากกลุ่มแม่บ้านและวิสาหกิจชุมชน ร้านธงฟ้าราคาประหยัดการให้บริการพันธุ์พืชพันธุ์ดี พันธุ์ปลาน้ําจืด และปัจจัยการผลิตเกษตร สารชีวภัณฑ์ ทางการเกษตร ทั้งนี้ มีเกษตรกรในพื้นที่ อําเภอบางบาล ประธานศูนย์เรียนรู้การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตร และผู้สนใจทั่วไป ผู้เข้ารับบริการคลินิกกว่า 160 คน ข่าว : #สํานักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดพระนครศรีอยุธยา#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
|
17/2/2023
|
ภาคกลางและปริมณฑล
|
พระนครศรีอยุธยา
|
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230217133908159
| null |
ปศุสัตว์จันทบุรี สนับสนุนอาหารพื้นถิ่น หมูชะมวงย่าง ผลิตภัณฑ์เด่น อำเภอแหลมสิงห์ ในงานคลินิกเกษตรเคลื่อนที่
|
(17 ก.พ.66) น.สพ.ชาติชาย ยิ้มเครือ ปศุสัตว์จังหวัดจันทบุรี พร้อมนางอนงค์ ธรรมเกษร ปศุสัตว์อําเภอแหลมสิงห์ สพ.ญ.ปิยากร ทองสุข นายสัตวแพทย์ปฏิบัติการ เจ้าหน้าที่ทุกอําเภอ และเจ้าหน้าที่กลุ่มพัฒนาสุขภาพสัตว์ ลงพื้นที่หอประชุมเทศบาลปากน้ําแหลมสิงห์ ต.ปากน้ําแหลมสิงห์ อ.แหลมสิงห์ สนับสนุนผลิตภัณฑ์อาหารพื้นถิ่น หมูชะมวงย่าง สูตรของนางยุวดี ตองอ่อน ชาวบ้าน ต.บางสระเก้า อ.แหลมสิงห์ ที่นําหมูมาหมักกับเครื่องแกงหมูชะมวง แล้วนํามาเสียบไม้ย่าง มีกลิ่นหอมของเครื่องแกง และได้สรรพคุณจากใบชะมวง ที่เป็นยาระบาย แก้ไข้ แก้ธาตุพิการ ช่วยบํารุงผิวพรรณ ช่วยย่อยอาหาร ช่วยลดอาการไอ และลดอาการเหน็บชา ซึ่งเป็นสินค้าเด่นของ อ.แหลมสิงห์ ร่วมในงานโครงการคลินิกเกษตรเคลื่อนที่ในพระราชานุเคราะห์ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ครั้งที่ 2 /2566 รวมกับกิจกรรมหน่วยจังหวัดเคลื่อนที่ โดยมี นายธวัชชัย นามสมุทร รองผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี เป็นประธาน พร้อมนี้ได้จัดหน่วยบริการฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า และผ่าตัดทําหมันสุนัข แมว ภายใต้โครงการสัตว์ปลอดโรค คนปลอดภัยจากโรคพิษสุนัขบ้า ตามพระปณิธาน ศาสตราจารย์ ดร.สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี ประชาสัมพันธ์ให้ความรู้ด้านโรคพิษสุนัขบ้า สร้างจิตสํานึกให้ประชาชนเลี้ยงสัตว์อย่างรับผิดชอบ มีประชาชนนําสุนัข แมวมารับบริการ ผ่าตัดทําหมัน รวม 57 ตัว ฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า รวม 57 ตัว สร้างความปลอดภัยแก่ประชาชน พร้อมประชาสัมพันธ์โครงการไข่สดปลอดภัย ใส่ใจผู้บริโภคหรือปศุสัตว์ OK เป็นทางเลือกให้แก่ผู้บริโภคในการซื้อสินค้าปศุสัตว์ปลอดภัย#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
|
17/2/2023
|
ภาคตะวันออก
|
จันทบุรี
|
สวท.จันทบุรี
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230217134747166
| null |
จังหวัดเพชรบุรี เร่งแก้ปัญหาสิ่งล่วงล้ำลำน้ำในพื้นที่อำเภอแก่งกระจาน ป้องกันผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม ทำลายธรรมชาติ
|
วานนี้ (16 กุมภาพันธ์ 2566) นายปิยพงศ์ ชูวงศ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี หัวหน้าส่วนราชการ และเจ้าหน้าที่ ร่วมประชุมการแก้ไขปัญหาสิ่งล่วงล้ําลําน้ําในพื้นที่อําเภอแก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี ณ สํานักงานเจ้าท่าภูมิภาค สาขาเพชรบุรี นายปิยพงศ์ ชูวงศ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี เปิดเผยว่าจังหวัดเพชรบุรี เข้มมาตรการการป้องกันที่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมทุกด้าน โดยเฉพาะปัญหาสิ่งปลูกสร้างต่างๆ ที่ล่วงล้ําลําน้ําในพื้นที่อําเภอแก่งกระจาน ทําลายทัศนียภาพทางน้ํา การไหลของทางน้ําที่อาจเป็นปัจจัยส่งผลกระทบในการระบายน้ําช่วงฤดูน้ําหลาก โดยได้ดําเนินการสํารวจสิ่งปลูกสร้างที่ล่วงล้ําลําน้ําเริ่มตั้งแต่ท้ายเขื่อนแก่งกระจานจนถึงบ้านถ้ําเสือ มีระยะทางโดยประมาณ 30 กิโลเมตร ซึ่งจากการสํารวจริมแม่น้ําทั้งสองฝั่งแม่น้ําเพชรบุรี ในบริเวณพื้นที่อําเภอแก่งกระจาน มีสิ่งปลูกสร้าง ในพื้นที่ ในที่ดินกรรมสิทธิ์และที่ราชพัสดุ , ในที่สาธารณประโยชน์ และปลูกสร้างในแม่น้ํา ลําคลอง รวมทั้งทางน้ํา Spillway ซึ่งได้ให้หน่วยงานที่รับผิดชอบเร่งจัดเตรียมข้อมูล รายละเอียด เพื่อใช้วางแผนในการลงตรวจสอบพื้นที่ต่อไป นอกจากนั้น รองผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี กล่าวเพิ่มเติมว่าเพื่อให้การแก้ไขปัญหาสิ่งล่วงล้ําลําน้ําในพื้นที่อําเภอแก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี ขับเคลื่อนได้อย่างรวดเร็ว ได้ประสานให้หน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง เร่งแก้ไขโดยเร็ว พร้อมทั้งเพิ่มเติมให้หน่วยงานที่ดินจังหวัดเพชรบุรีและโครงการส่งน้ําและบํารุงรักษาแก่งกระจาน เข้าเป็นคณะทํางาน เพื่อให้ครอบคลุมในการแก้ปัญหาสิ่งล่วงล้ําลําน้ําในพื้นที่อําเภอแก่งกระจาน เพื่อป้องกันผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม และป้องกันธรรมชาติถูกทําลาย จามรี อนุรัตน์ ประชาสัมพันธ์จังหวัดเพชรบุรี รายงาน#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
|
17/2/2023
|
ภาคตะวันตก
|
เพชรบุรี
|
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเพชรบุรี
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230217141624177
| null |
จ.พิจิตร ออกมาตรการบริหารจัดการเชื้อเพลิงในพื้นที่เกษตร สำหรับพื้นที่ที่มีความจำเป็นต้องเผาเฉพาะกรณี ให้แจ้งขออนุญาตก่อนการเผาไม่น้อยกว่า 5 วัน
|
วันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2566 ที่ห้องประชุมสํานักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดพิจิตร นายสิงหราช วงษ์เสงี่ยม รองผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมประชุมติดตามสถานการณ์การป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควันและฝุ่นละออง ภาคเหนือประจําสัปดาห์ ศอ. ปกป. จังหวัด 8 จังหวัดภาคเหนือตอนล่าง ผ่านระบบ video conference ล่าสุด ค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM 2.5) วันนี้ (17 ก.พ.66) ค่าเฉลี่ย 24 ชั่วโมง อยู่ที่ 24 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร คุณภาพอากาศดีมากทั้งนี้ จังหวัดพิจิตรยังคงรณรงค์งดเผาในที่โล่ง แต่สําหรับพื้นที่การเกษตรที่มีความจําเป็นต้องเผาเฉพาะกรณี เกษตรกรสามารถยื่นคําขออนุญาตบริหารจัดการเชื้อเพลิงในพื้นที่เกษตรที่สํานักงานเกษตรอําเภอ ล่วงหน้าก่อนการเผาไม่น้อยกว่า 5 วัน เพื่อให้เกษตรอําเภอตรวจสอบข้อเท็จจริงและเสนอเรื่องให้นายอําเภอเป็นผู้มีอํานาจพิจารณาอนุญาตตามความเหมาะสม โดยอนุญาตรายละไม่เกิน 30 ไร่/ครั้ง/วัน ใน 1 อําเภอ อนุญาตรวมไม่เกิน 900 ไร่/วัน นับเวลา 00.00 - 23.59 น. ค่า PM2.5 ต้องไม่เกิน 100 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ในวันที่มีการอนุญาต พื้นที่บริหารจัดการเชื้อเพลิงในพื้นที่เกษตร ต้องห่างจากพื้นที่ป่าไม่น้อยกว่า 200 เมตร และห่างจากแนวเขตทางหลวง ทางหลวงชนบทไม่น้อยกว่า 500 เมตร ต้องไม่ก่อให้เกิดเหตุรําคาญ และต้องมีการจัดทําแนวกันไฟ จัดเตรียมรถน้ําและอุปกรณ์ดับไฟไว้ให้พร้อม เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดไฟไหม้ลุกลามไปยังพื้นที่อื่น ทั้งนี้ การเผาทุกครั้งให้อยู่ในความควบคุมของกํานัน ผู้ใหญ่บ้าน หรือผู้นําชุมชน #สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILANDส.ปชส.พิจิตร...ข่าว/ภาพ17 ก.พ.66
|
17/2/2023
|
ภาคเหนือ
|
พิจิตร
|
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดพิจิตร
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230217134054161
| null |
อำเภอบ้านสร้าง จังหวัดปราจีนบุรี ร่วมภาคีเครือข่าย เอามื้อสามัคคี ฟื้นฟู และพัฒนาแหล่งน้ำชุมชน เพิ่มขีดความสามารถเอาชนะปัญหาสามน้ำ เพื่อรองรับภัยพิบัติและการพัฒนาคุณภาพชีวิตอย่างยั่งยืน
|
วันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2566 เวลา 09.00 น. นายเสฏฐวุฒิ วงศ์เลอวุฒิ นายอําเภอบ้านสร้าง บูรณาการความร่วมมือภาคีเครือข่าย ทุกภาคส่วน เร่งปูพรมเดินหน้าทํากิจกรรมเอามื้อสามัคคีพัฒนา และฟื้นฟูแหล่งน้ํา เพื่อป้องกันภัยพิบัติ และพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน ตามโครงการบ้านสร้างร่วมใจฯ ที่อําเภอบ้านสร้างจับมือร่วมกับภาคีเครือข่าย อาทิ ภาคเอกชน โดยบริษัท ที.ซี.ฟาร์มาซูติคอล อุตสาหกรรม จํากัด, ภาควิชาการ โดยองค์กร WWF ฝ่ายปกครองท้องที่ ท้องถิ่น ตลอดจนภาคสถานศึกษา และภาคประชาชน ไม่ว่าจะเป็นเกษตรกร หรือผู้ใช้น้ํา ร่วมขับเคลื่อนแผนงานกิจกรรมตั้งแต่ในมิติการส่งเสริมอาชีพ ไปจนถึงการเพิ่มศักยภาพในการบริหารจัดการน้ําของชุมชน ตั้งแต่ปี 2565 โดยมีแผนที่จะขยายผลให้ครอบคลุมทั้งอําเภอบ้านสร้าง นายอําเภอบ้านสร้างจะได้นําน้ําดื่ม และเครื่องดื่มจาก บริษัท ที.ซี.ฟาร์มาซูติคอล อุตสาหกรรม จํากัด และบริษัท Unilamp จํากัด ไปมอบให้ประชาชนจิตอาสาที่ร่วมกันทํากิจกรรมเอามื้อสามัคคี ในพื้นที่คลอง ชวด หลอด เพื่อสร้างขวัญกําลังใจในการทํางานแล้ว นายอําเภอบ้านสร้าง ยังได้ร่วมติดตามความก้าวหน้าในการกําจัดวัชพืช และฟื้นฟูแหล่งน้ํา เพื่อให้บรรลุเป้าหมายตามที่วางไว้ โดยเฉพาะการสํารองน้ําเพื่อการเกษตรกรรมให้ได้เพิ่มขึ้นอีก 500,000 ลบ.ม. ตามพื้นที่กักเก็บน้ําทุกขนาด ตั้งแต่ คลอง ชวด หลอด ที่ล้วนแล้วแต่เชื่อมร้อยต่อกัน เพื่อขยายผลให้ครอบคลุมพื้นที่ทั้งอําเภอ นายอําเภอบ้านสร้างยังได้ร่วมหารือกับองค์กร WWF, ฝ่ายปกครองท้องที่ และภาคประชาชน ในการจัดเตรียมข้อมูลเชิงวิชาการ และข้อมูลตามบริบทของสภาพพื้นที่ รวมถึงข้อมูลการใช้ประโยชน์จากแหล่งน้ํา เพื่อเร่งรัดจัดทําผังภูมิสังคม (Geo – social Map) ให้อําเภอบ้านสร้างสามารถขับเคลื่อนนโยบายกระทรวงมหาดไทย ที่มุ่งให้ชุมชนมีขีดความสามารถในการรับมือกับภัยพิบัติ และเพื่อการพัฒนาชีวิตได้อย่างยั่งยืน ให้เห็นผลเป็นรูปธรรม#อําเภอบ้านสร้าง #จังหวัดปราจีนบุรี#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
|
17/2/2023
|
ภาคกลางและปริมณฑล
|
กรุงเทพมหานคร
|
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดปราจีนบุรี
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230217142837181
| null |
เกษตรจังหวัดตรัง หารือการจัดกิจกรรมการพัฒนาผู้ประกอบการ “Young Smart Farmer Innovative Entrepreneurship” ร่วมกับ มทร.ศรีวิชัย วิทยาเขตสงขลา
|
นายวสันต์ สุขสุวรรณ เกษตรจังหวัดตรัง พร้อมด้วยนางสาวกําไลทิพย์ เศรษฐ์วิชัย หัวหน้ากลุ่มส่งเสริมและพัฒนาเกษตรกร และเจ้าหน้าที่สํานักงานเกษตรจังหวัดตรัง ร่วมหารือการจัดกิจกรรมการพัฒนาผู้ประกอบการ “Young Smart Farmer Innovative Entrepreneurship” ภายใต้โครงการการพัฒนาสถานีเรียนรู้ด้านการเกษตร (Training hub) ให้เป็นแหล่งบ่มเพาะความรู้ ยกระดับศักยภาพ เกษตรกรแบบมีส่วนร่วม ส่งเสริมเศรษฐกิจชุมชน ด้วยองค์ความรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีตามแนวทางเศรษฐกิจ BCG กับมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย วิทยาเขตสงขลา ณ สํานักงานเกษตรจังหวัดตรัง ทั้งนี้ สํานักการจัดการนวัตกรรมและถ่ายทอดเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย วิทยาเขตสงขลา กําหนดจัดโครงการดังกล่าวขึ้น โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อถ่ายทอดองค์ความรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ได้แก่ การผลิตไก่พื้นเมือง การผลิตพริกไทย และการพัฒนาผู้ประกอบการให้เป็นเกษตรกรรุ่นใหม่ มีศักยภาพในการแข่งขันและมีรายได้เพิ่มขึ้น และพัฒนานวัตถกรชุมชนและแพลตฟอร์มการเรียนด้านการผลิตไก่พื้นเมืองและการผลิตพริกไทยให้คนในชุมชน และพื้นที่ใกล้เคียง รวมถึงระบบการบริหารจัดการสถานีเรียนรู้การพัฒนาศักยภาพเกษตรกรรุ่นใหม่ ด้วยองค์ความรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โดยมีเป้าหมายคือ เกษตรกรผู้เลี้ยงไก่พื้นเมือง ผู้ปลูกพริกไทยและอื่นๆ #สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
|
17/2/2023
|
ภาคใต้
|
ตรัง
|
สวท.ตรัง
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230217151220226
| null |
รมว.เกษตรและสหกรณ์ มอบ ส.ป.ก. 4-01 และสัญญาเช่าที่ดินสำหรับสถาบันเกษตรกร เพื่อรับรองสิทธิ์การเข้าทำประโยชน์ในที่ดินจังหวัดชุมพร
|
วันนี้ (17 ก.พ. 66) ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ลงพื้นที่ตรวจราชการและพบปะเกษตรกรในพื้นที่โครงการจัดที่ดินทํากินให้ชุมชนตามนโยบายรัฐบาล (คทช.) ในเขตปฏิรูปที่ดินจังหวัดชุมพร และเป็นประธานในพิธีมอบปัจจัยการผลิตต่าง ๆ พร้อมทั้งมอบหนังสืออนุญาตให้เข้าทําประโยชน์ในที่ดิน (ส.ป.ก. 4-01) และหนังสือสัญญาเช่าที่ดินสําหรับสถาบันเกษตรกร เพื่อเป็นขวัญและกําลังใจแก่พี่น้องเกษตรกรของจังหวัดชุมพร โดยมี นายประยูร อินสกุล ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์, นายวิณะโรจน์ ทรัพย์ส่งสุข เลขาธิการสํานักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม, นายวิสาห์ พูลศิริรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร เข้าร่วม ณ แปลงหมายเลข 83 ตําบลหงษ์เจริญ อําเภอท่าแซะ จังหวัดชุมพร โดยมุ่งเน้นการสร้างความเข้มแข็งให้สถาบันเกษตรกรและเศรษฐกิจฐานราก เพื่อให้การขับเคลื่อนงานของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้เข้าถึงระดับรากหญ้า เปรียบเสมือนเป็นสมาชิกครอบครัวของเกษตรกรสําหรับจังหวัดชุมพรมีพื้นที่ดําเนินการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมครอบคลุมทั้ง 8 อําเภอ พื้นที่ดําเนินการทั้งสิ้น 570,620 ไร่ จัดที่ดินให้เกษตรกรเข้าทําประโยชน์ในที่ดินแล้ว จํานวน 33,583 ราย เนื้อที่ประมาณ 502,064 ไร่ ในการดําเนินงานตามโครงการจัดที่ดินให้ชุมชนตามนโยบายรัฐบาลในเขตปฏิรูปที่ดินของจังหวัดชุมพรรวมจํานวน 2 แปลง รวมเนื้อที่ประมาณ 7,235 ไร่ แบ่งเป็น 1) แปลงหมายเลข No.83 เนื้อที่ประมาณ 6,281 ไร่ โดยเกษตรกรได้จัดตั้งสถาบันเกษตรกรในรูปแบบสหกรณ์ ชื่อสหกรณ์การเกษตรในเขตปฏิรูปที่ดินหงษ์เจริญ จํากัด ได้ขอใช้ประโยชน์ที่ดินจาก ส.ป.ก.ชุมพรแล้ว เนื้อที่ประมาณ 2,197 ไร่ เกษตรกรได้รับการจัดที่ดินแล้วจํานวน 420 ราย พื้นที่อยู่ระหว่างการดําเนินการอีกประมาณ 1,595 ไร่ สามารถรองรับเกษตรกรได้อีก 234 ราย ซึ่งจะเร่งรัดให้แล้วเสร็จในปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 นี้ และ 2) แปลงเนื้อที่ประมาณ 954 ไร่ อยู่ระหว่างการดําเนินการจัดทําบัญชีคัดเลือกเกษตรกรเพื่อรองรับให้สถาบันเกษตรกรเข้ามาขอใช้ประโยชน์ต่อไป โดยคาดว่าสามารถรองรับเกษตรกรได้ จํานวน 97 รายดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า นับเป็นสิ่งที่น่ายินดีเป็นอย่างยิ่งที่จังหวัดชุมพรและสํานักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม ได้ให้ความสําคัญเกี่ยวกับปัญหาผู้ไร้ที่ดินทํากิน โดยมีการแก้ไขปัญหาการครอบครองที่ดินในเขตปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมโดยมิชอบด้วยกฎหมาย นํามาจัดสรรให้เกษตรกรผู้ไร้ที่ดินทํากินตามนโยบายรัฐบาลภายใต้คณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ (คทช.) ซึ่งจะจัดสรรในรูปแบบสหกรณ์การเกษตร เพื่อแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน และพัฒนาศักยภาพการใช้ประโยชน์ที่ดินให้เกิดประโยชน์สูงสุด ทั้งในด้านเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม และความมั่นคงของประเทศ มีการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน แหล่งน้ํา สาธารณูปโภค ส่งเสริมและพัฒนาอาชีพ ส่งเสริมสวัสดิการสังคม เพื่อให้เกษตรกรอยู่ได้อย่างยั่งยืน ภายใต้ศาสตร์พระราชาหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง และนโยบายตลาดนําการผลิตของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ซึ่งการมอบหนังสืออนุญาตให้เข้าทําประโยชน์ในเขตปฏิรูปที่ดินแก่เกษตรกร และมอบสัญญาเช่าที่ดิน ให้แก่สหกรณ์การเกษตรในเขตปฏิรูปที่ดินหงษ์เจริญ จํากัด ในวันนี้ จะเป็นการรับรองสิทธิ์การเข้าทําประโยชน์ในที่ดิน ที่แสดงถึงการลดความเหลื่อมล้ําเกี่ยวกับที่ดินทํากิน อันจะส่งผลต่อชีวิตความเป็นอยู่ของเกษตรกร ซึ่ง ส.ป.ก. จะเร่งดําเนินการจัดสรรที่ดินทํากินให้เกษตรกรที่มีคุณสมบัติครบถ้วนให้เรียบร้อยอย่างเร็วที่สุด ทั้งนี้ กระทรวงเกษตรฯ จะเข้าไปเป็นพี่เลี้ยงให้กับเกษตรกร โดยมีการสนับสนุนพันธุ์พืช พันธุ์สัตว์ ปุ๋ย รวมถึงส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมในการลดต้นทุนและเพิ่มผลผลิต อีกทั้งยังสนับสนุนพืชเศรษฐกิจอย่างทุเรียน โดยขอความร่วมมือในการรักษาคุณภาพ ลดการใช้สารเคมีและสารปนเปื้อน และการตัดทุเรียนอ่อน ซึ่งมั่นใจว่าจะสามารถส่งออกทุเรียนที่มีคุณภาพได้อย่างแน่นอน นอกจากนี้ ยังตั้งใจมารับทราบปัญหาจากเกษตรกรกลุ่มต่าง ๆ โดยนําผู้บริหารของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์มารับฟังปัญหาของพี่น้องชาวชุมพรโดยตรง หากสามารถดําเนินการได้จะดําเนินการทันที เพื่อลดความเดือดของพี่น้องเกษตรกรให้เร็วที่สุด#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
|
17/2/2023
|
ภาคใต้
|
ชุมพร
|
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดชุมพร
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230217144753192
| null |
จังหวัดแพร่ จัดโครงการคลินิกเกษตรเคลื่อนที่ในพระราชานุเคราะห์ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ครั้งที่ 2 ประจำปีงบประมาณ 2566
|
สํานักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดแพร่รายงานว่า วันนี้ (17 ก.พ.66) เวลา 10.00 น. ที่องค์การบริหารส่วนตําบลนาจักร อําเภอเมือง จังหวัดแพร่ นายชุติเดช มีจันทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ เป็นประธานเปิดโครงการคลินิกเกษตรเคลื่อนที่ในพระราชานุเคราะห์ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ไตรมาสสอง ประจําปีงบประมาณ 2566 ซึ่งสํานักงานเกษตรจังหวัดแพร่ ร่วมกับสํานักงานเกษตรอําเภอเมืองแพร่จัดขึ้น โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้บริการเกษตรกรในพื้นที่ห่างไกลให้สามารถเข้าถึงการบริการทางการเกษตรและได้รับการแก้ไขปัญหาด้านการเกษตรอย่างครบวงจรในคราวเดียวกัน โดยบูรณาการความร่วมมือระหว่างหน่วยงานวิชาการ หน่วยงานส่งเสริม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมพัฒนาฟื้นฟูเกษตรกรให้สามารถทําการผลิตทางการเกษตรได้อย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน ทั้งด้านพืช ประมง ปศุสัตว์ สหกรณ์การเกษตร พัฒนาที่ดิน ชลประทาน บัญชีสหกรณ์ และกฎหมายปฏิรูปที่ดิน โดยอาศัยเครื่องมืออุปกรณ์ สื่อนิทรรศการต่าง ๆ เข้าช่วยในการปฏิบัติงานให้บริการแก่เกษตรกร ณ จุดเดียว (One Stop Service) ในรูปแบบกิจกรรมให้บริการเคลื่อนที่เพื่อเป็นการกระตุ้นเกษตรกรให้เกิดการตื่นตัว ได้รับรู้เทคโนโลยีใหม่ ๆ ที่จะนําไปใช้ในไร่นา ทําให้เกิดการใช้และยอมรับนวัตกรรมใหม่ ๆ ตามความต้องการ และความเหมาะสมกับประชาชนแต่ละพื้นที่นายสมเกียรติ ทะฤาษี รักษาราชการแทนเกษตรจังหวัดแพร่ กล่าวว่า กิจกรรมภายในงานประกอบด้วย การเปิดบริการคลินิกเกษตร นิทรรศการ การให้บริการความรู้จากทุกหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ในจังหวัดแพร่ และหน่วยงานภาคี การจําหน่ายสินค้าแปรรูป สินค้าเกษตรจากสถาบันเกษตรกร กลุ่มเกษตรกรกลุ่มวิสาหกิจชุมชน และภาคเอกชน โดยมีเกษตรกรจากพื้นที่อําเภอเมืองแพร่มารับบริการนอกจากนี้ยังมีการมอบเกียรติบัตรสําหรับตัวแทนผู้สนับสนุนการจัดงาน จํานวน 13 ราย, มอบเกียรติบัตรกิจกรรมประกวดผลผลิตทางการเกษตร จํานวน 12 ราย มอบพันธุ์ปลาสําหรับตัวแทน อบต.และผู้นําชุมชน จํานวน 10 ราย เพื่อนําไปปล่อยเพิ่มผลผลิตในแหล่งน้ําสาธารณของชุมชน จํานวน 30 ถุง , เยี่ยมชมนิทรรศการของดีตําบลนาจักร, เยี่ยมชมนิทรรศการของหน่วยงานและบริษัทเอกชนที่ออกหน่วยบริการ#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
|
17/2/2023
|
ภาคเหนือ
|
แพร่
|
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดแพร่
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230217160518271
| null |
เกษตรอำเภอกันตัง จังหวัดตรัง ลงพื้นที่ตำบลนาเกลือ อำเภอกันตัง ให้บริการขึ้นทะเบียนและปรับปรุงทะเบียนเกษตรกร ปี 2566
|
นางบุญญาพร กายเพ็ชร นักวิชาการส่งเสริมการเกษตรชํานาญการปฏิบัติราชการแทนเกษตรอําเภอกันตัง มอบหมายให้นายปิยะวุฒิ แดงเหมือน นักวิชาการส่งเสริมการเกษตรปฏิบัติการ และนางสาวสุคน ศรีเกตุ นักวิชาการส่งเสริมการเกษตร ลงพื้นที่ให้บริการขึ้นทะเบียนและปรับปรุงทะเบียนเกษตรกร ปี 2566 ณ มัสยิด หมู่ที่ 3 ตําบลนาเกลือ อําเภอกันตัง จังหวัดตรัง โดยมี นายสะดล ศรีทอง อาสาสมัครเกษตร หมู่ที่ 3 ตําบลนาเกลือ ช่วยประสานงานและบริการเกษตรกร มีเกษตรกร มาใช้บริการจํานวน 60 รายทั้งนี้ เพื่อให้ข้อมูลการปลูกพืชในพื้นที่มีความถูกต้อง เป็นปัจจุบันและเพื่อรองรับโครงการหรือมาตรการของต่างๆ จากทางภาครัฐ สําหรับการขึ้นทะเบียนและปรับปรุงทะเบียนเกษตรกรในพื้นที่อําเภอกันตังนั้น เกษตรกรจะต้องนําเอกสารสิทธิ์ที่ดินตัวจริงหรือในกรณีติดจํานอง ให้นําสําเนาที่มีการรับรองจากสถาบันการเงินนั้นๆ มายื่นแสดงเพื่อขอปรับปรุงข้อมูลให้เป็นปีปัจจุบัน ณ สํานักงานเกษตรอําเภอกันตัง ได้ในวันและเวลาราชการ หรือที่จุดให้บริการในพื้นที่ ที่มีการให้บริการตามความเหมาะสม#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
|
17/2/2023
|
ภาคใต้
|
ตรัง
|
สวท.ตรัง
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230217161242276
| null |
Subsets and Splits
No community queries yet
The top public SQL queries from the community will appear here once available.