NewsTitle
stringlengths
11
31.5k
Detail
stringlengths
9
78.4k
NewsDate
stringlengths
3
5.77k
Region
stringclasses
48 values
Province
stringclasses
99 values
Department
stringclasses
211 values
Link_News
stringlengths
3
903
v
stringclasses
812 values
รมว.เกษตรฯ ลงพื้นที่ จ.อุบลราชธานี รณรงค์การถ่ายทอดเทคโนโลยีลดต้นทุนการผลิตข้าวให้ปฏิบัติได้จริง เน้นการใช้เมล็ดพันธุ์ข้าวคุณภาพดีและมีมาตรฐาน เพื่อลดต้นทุน เพิ่มประสิทธิภาพการผลิต
นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยหลังลงพื้นที่พบปะสมาชิกศูนย์ข้าวชุมชนและเป็นประธานเปิดงานรณรงค์การถ่ายทอดเทคโนโลยีลดต้นทุนการผลิตข้าวให้ปฏิบัติได้จริง จังหวัดอุบลราชธานี ว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ให้ความสําคัญกับนโยบาย ลดต้นทุนการผลิต จึงได้มอบหมายให้ทุกหน่วยงานขับเคลื่อนนโยบายนี้ กรมการข้าวจึงได้มีการสนับสนุนองค์ความรู้ เทคโนโลยี และนวัตกรรม ที่จะทําให้เกิดการลดต้นทุนการผลิตข้าวแก่เกษตรกรพี่น้องชาวนา ให้สามารถนําไปปฏิบัติจริงได้ เสริมสร้างความรู้และสั่งสมประสบการณ์ ก่อให้เกิดความเข้มแข็ง มีรายได้ที่มั่นคงและยั่งยืน นอกจากนี้ ยังเน้นการเพิ่มผลผลิตข้าว การยกระดับคุณภาพผลผลิตข้าว สนองความต้องการของตลาด และการปรับระบบการผลิตข้าวให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม โดยเชื่อมั่นว่าแนวทางการลดต้นทุนการผลิตนี้ จะสร้างผลประโยชน์แก่เกษตรกร คือ การได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐมากขึ้น ช่วยให้เกษตรกรเรียนรู้และวางแผนการทํานาอย่างเป็นระบบตลอดห่วงโซ่อุปทาน ช่วยลดต้นทุนการผลิต เพิ่มประสิทธิภาพการผลิต ยกระดับคุณภาพผลผลิต เกษตรกรมีความรู้เรื่องการตลาดสินค้าเกษตร สามารถผลิตสินค้าได้ตามที่ตลาดต้องการ ซึ่งภาครัฐสามารถช่วยกําหนดตลาดล่วงหน้าได้ และสอดรับกับทิศทางการเปลี่ยนแปลงของโลกที่ให้ความสําคัญกับการผลิตที่ต้องเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม การผลักดันการแปรรูปสินค้าเกษตรมูลค่าสูง การใช้การตลาดสมัยใหม่ ซึ่งมีโอกาสในการขยายตลาดไปช่องทางต่าง ๆ ได้มากขึ้น รวมถึงตลาดต่างประเทศด้วย
9/2/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
Radio-สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230209141620567
null
จ.ตราด เตรียมความพร้อมในการป้องกันผลผลิตทุเรียนด้อยคุณภาพออกสู่ตลาด คาดปีนี้มีผลผลิตทุเรียนของจังหวัดตราดออกสู่ตลาดรวม 88,251 ตัน
(9 ก.พ. 65) นายชยุทกฤดิ นนทแก้ว เกษตรจังหวัดตราด เป็นประธานการประชุมคณะทํางานมาตรการป้องกันผลผลิตทุเรียนด้อยคุณภาพออกสู่ตลาดจังหวัดตราด ระดับจังหวัด ซึ่งจังหวัดตราด โดยสํานักงานเกษตรจังหวัดตราดในฐานะเลขานุการคณะทํางานเป็นเจ้าภาพจัดขึ้นที่ห้อประชุมสํานักงานเกษตรจังหวัดตราดสําหรับการประชุมคณะทํางานมาตรการป้องกันผลผลิตทุเรียนด้อยคุณภาพออกสู่ตลาดจังหวัดตราด ระดับจังหวัด ในครั้งนี้ที่ประชุมได้มีการนําเสนอเรื่องเที่ยวข้องกับผลผลิตทุเรียน โดยจังหวัดตราด มีพื้นที่ปลูกทุเรียนทั้งหมด 89,926 ไร่ พื้นที่ให้ผลผลิต 38,171 ไร่ คาดว่าจะมีผลผลิตทุเรียนออกสู่ตลาด 88,251 ตัน เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมา ร้อยละ 2.22 โดยคาดว่าจะมีผลผลิตออกสู่ตลาดหลายรุ่น นอกจากนี้ที่ประชุมยังได้มีการนําเสนอการดําเนินงานตามนโยบายป้องกันและแก้ไขปัญหาทุเรียนด้อยคุณภาพ (ทุเรียนอ่อน) ของจังหวัดตราด ซึ่งได้มีการเตรียมออกประกาศจังหวัดตราด เรื่องมาตรการป้องกันผลผลิตทุเรียนด้อยคุณภาพออกสู่ตลาด รวม 3 ฉบับ ทั้งในเรื่องของโทษตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง การกําหนดเปอร์เซ็นต์น้ําหนักแห้งในเนื้อทุเรียน รวมทั้งการกําหนดวันเก็บเกี่ยวทุเรียนแต่ละพันธุ์ที่มีการกําหนดที่สอดคล้องกับแผนบริหารจัดการผลไม้ภาคตะวันออก ซึ่งมีการปะกาศวันเก็บเกี่ยวทุเรียน คือ ทุเรียนพันธุ์กระดุมและพวงมณี วันที่ 10 มีนาคม 2566 ทุเรียนพันธุ์ชะนี วันที่ 20 มีนาคม 2566 ทุเรียนพันธุ์หมอนทอง วันที่ 15 เมษายน 2566 อย่างไรก็ตาม การประชุมครั้งนี้ที่ประชุมยังได้มีการร่วมกันพิจารณาแนวทางการตรวจสอบทุเรียนด้อยคุณภาพ โดยเฉพาะการจัดทําคําสั่ง ประกาศต่าง ๆ การตั้งชุดเฉพะกิจป้องปรามทุเรียนด้อยคุณภาพออกสู่ตลาด รวมทั้งการเปิดให้บริการตรวจวัดเปอร์เซ็นต์น้ําหนักแห้งของเนื้อทุเรียน เพื่อให้เกษตรกรที่มีความต้องการตรวจวัดตรวจวัดเปอร์เซ็นต์น้ําหนักแห้งของเนื้อทุเรียน ก่อนที่จะทําการตัดทุเรียนแต่ละสายพันธุ์ก่อนวันประกาศ #สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
9/2/2023
ภาคตะวันออก
ตราด
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดตราด
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230209145445600
null
โคราช จัดโครงการสร้างเสริมความจงรักภักดีต่อสถาบัน บำบัดทุกข์ บำรุงสุข สร้างรอยยิ้มให้ประชาชน
วันนี้ (9 ก.พ.66) เวลา 09.30 น นายสยาม ศิริมงคล ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เป็นประธานเปิดโครงการสร้างเสริมความจงรักภักดีต่อสถาบันบําบัดทุกข์บํารุงสุขสร้างรอยยิ้มให้กับประชาชน ที่สํานักงานเทศบาลตําบลไทรโยง-ไชยวาล ต.ครบุรี อ.ครุบุรี จ.นครราชสีมา โดยได้นําหน่วยบริการประชาชนไปให้บริการแก่ประชาชนในพื้นที่ที่ห่างไกล เป็นการเพิ่มโอกาสและทางเลือกในการรับบริการจากภาครัฐ โอกาสนี้ นายสยาม ศิริมงคล ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ยังได้มอบทุนการศึกษาจากกองทุนการศึกษา มอบพันธุ์ปลา มอบถังขยะเปียกแก่ครัวเรือน มอบถุงยังชีพจากสํานักงานเหล่ากาชาดจังหวัดนครราชสีมา จํานวน 100 ชุด ให้กับประชาชนที่ประสบปัญหาความเดือดร้อน #สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
9/2/2023
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
นครราชสีมา
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนครราชสีมา
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230209144308589
null
ผู้ว่าฯ โคราช เปิดกิจกรรมจิตอาสาพัฒนา เอามื้อสามัคคี ตามโครงการอำเภอบำบัดทุกข์ บำรุงสุข แบบบูรณาการอย่างยั่งยืน
วันนี้ (9 ก.พ.66) เวลา 13.00 น. นายสยาม ศิริมงคล ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เป็นประธานในพิธีเปิดกิจกรรมจิตอาสาพัฒนา เอามื้อสามัคคี ตามโครงการอําเภอบําบัดทุกข์ บํารุงสุข แบบบูรณาการอย่างยั่งยืน ณ ศูนย์ศึกษาและพัฒนาชุมชนนครราชสีมา อําเภอหนองบุญมาก จังหวัดนครราชสีมา เพื่อสร้างจิตสํานึกของข้าราชการและประชาชนในพื้นที่ ให้เกิดความรักสามัคคี ร่วมกันปกป้องสถาบันสําคัญของชาติ มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับหลักการทรงงาน และการพัฒนาประเทศ ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร สามารถนํามาปรับใช้ในการปฏิบัติราชการเพื่อ บําบัดทุกข์ บํารุงสุข ให้แก่ประชาชน โอกาสนี้ นายสยาม ศิริมงคล ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ได้ทําร่วมกิจกรรมจิตอาสาพัฒนา เอามื้อสามัคคี ในการปลูกต้นไม้ ทําความสะอาดรอบสระน้ํา ถางหญ้า ตัดแต่งกิ่งไม้ และขุดคลองไส้ไก่ พร้อมเยี่ยมชมนิทรรศการโครงการเสริมสร้างศักยภาพชุมชน ด้านการป้องกันและ บรรเทาสาธารณภัย โดยอาศัยชุมชนเป็นฐาน (CBDRM) และเยี่ยมชมนิทรรศการการจัดทํา ถังขยะเปียกลดโลกร้อนและการบริหารจัดการขยะ ของอําเภอหนองบุญมาก#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
9/2/2023
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
นครราชสีมา
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนครราชสีมา
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230209144529590
null
“หมูเถื่อน” ตามหลอนผู้เลี้ยง รัฐต้องเร่งยกระดับกวาดล้าง
หลังผ่านเดือนแรกของปีเถาะ ผู้เลี้ยงหมูไทยก็ต้องรับมือกับปัญหาราคาหมูมีชีวิตหน้าฟาร์มตกต่ําทันที เมื่อราคาร่วงจากกิโลกรัมละ 100 บาท มาอยู่ที่กิโลกรัมละ 90-98 บาท แตกต่างกันไปในแต่ละภูมิภาค (ราคาประกาศจากสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ วันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2566) สวนทางกับต้นทุนการผลิตที่ปรับสูงขึ้นตามราคาวัตถุดิบอาหารสัตว์ เกษตรกรต้องแบกรับภาระขาดทุนอย่างหนัก โดยสาเหตุที่ราคาหมูอ่อนตัวลงนี้ไม่ได้เกิดจากปริมาณหมูที่เพิ่มขึ้นจนเกินความต้องการ ตรงกันข้ามผลผลิตหมูไทยยังไม่เพียงพอกับการบริโภคด้วยซ้ํา แต่ราคาที่ลดลงเกิดจากชิ้นส่วนหมู หรือ “หมูเถื่อน” ที่มีการลักลอบนําเข้ามาแย่งส่วนแบ่งตลาด“หมูเถื่อน” จึงเปรียบเสมือนภัยร้ายที่ตามหลอกหลอนผู้เลี้ยงหมูมากว่า 1 ปี นับตั้งแต่ไทยเผชิญกับวิกฤตการระบาดของโรค ASF ส่งผลให้หมูหายไปจากระบบกว่า 50% ดันราคาเนื้อหมูสูงเป็นประวัติการณ์ เปิดโอกาสให้มิจฉาชีพลักลอบนําเข้า “หมูเถื่อน” ไม่ผ่านการตรวจคุณภาพและความปลอดภัยมาขายในราคาถูกฟันกําไรจากส่วนต่าง โดยไม่สนใจผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นกับผู้บริโภค ซึ่งหลังจากเกษตรกรผู้เลี้ยงออกมาแถลงข่าวให้สังคมให้ทราบถึงปัญหา กรมปศุสัตว์ เจ้าหน้าที่ตํารวจ และทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องก็เดินหน้าปราบปรามหมูเถื่อนอย่างจริงจัง โดยเฉพาะไตรมาส 4 ของปี 2565 ที่มีการตรวจจับทําลายครั้งใหญ่ต่อเนื่อง จนมิจฉาชีพต้องหันหัวเรือจากท่าเรือแหลมฉบังไปยังประเทศเพื่อนบ้าน ทั้งเวียดนาม ลาว และกัมพูชา เพื่อเป็นฐานลักลอบนําเข้าหมูเถื่อนมาตามแนวชายแดนแทน ยืนยันได้จากรายงานการจับกุมกองทัพมดขนหมูเถื่อนอยู่เป็นระยะถึงแม้เดือนกลางเดือนมกราคมที่ผ่านมา กรมปศุสัตว์ ฝังทําลาย “หมูเถื่อน” ไปกว่า 7 แสนกิโลกรัม แต่มิจฉาชีพก็ไม่ละความพยายามหาช่องทางลักลอบนําเข้า โดยเฉพาะตามแนวชายแดนอยู่ตลอดเวลา ดังเช่นรายงานการจับกุมล่าสุดที่เชียงรายและอุบลราชธานี แต่ผู้เลี้ยงเชื่อว่า การปราบปรามหมูเถื่อนลักลอบนําเข้าที่รายงานนั้นไม่ถึง 5% ของปริมาณลักลอบนําเข้าจริง มิฉะนั้น ราคาหมูหน้าฟาร์มคงไม่ลดลงจนต่ํากว่าต้นทุนการผลิตเช่นนี้ เพราะไม่มีใครยอมเลี้ยงหรือขาย ทั้งๆ ที่ทราบว่าขาดทุนแน่นอน “หมูเถื่อน” เป็นปัญหาที่เกษตรกรแก้ไขด้วยตนเองไม่ได้ ขณะที่ผู้บริโภคชาวไทยยังต้องเสี่ยงกับ “หมูเถื่อน” คุณภาพต่ํา หมดอายุ มีสารอันตรายปนเปื้อน ที่มาจากความเห็นแก่ตัวของคนบางกลุ่มเท่านั้น และหากยังไม่จัดการ ”หมูเถื่อน” อย่างเด็ดขาด ก็เป็นการดับความหวังของไทยในการฟื้นฟูการผลิตสุกรสู่ภาวะปกติ เพื่อให้ชาวไทยได้บริโภคเนื้อหมูคุณภาพในราคาที่เหมาะสมภาครัฐต้องจัดการ “หมูเถื่อน” อย่างจริงจัง ตามที่พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้กําชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทํางานอย่างเคร่งครัดรัดกุม ถือเป็นการยกระดับการปราบปราม “หมูเถื่อน” เป็นวาระแห่งชาติ เพื่อระดมสรรพกําลังทั้งกรมปศุสัตว์ กรมศุลกากร ตํารวจ และทหาร ร่วมมือกันทํางาน ซึ่งการยกระดับปราบปรามคงไม่เพียงแต่การตรวจจับที่ต้องทําอย่างสม่ําเสมอเท่านั้น แต่เพื่อถอนรากถอนโคน “หมูเถื่อน” ให้สิ้นซาก ไม่ใช่จับเพียงคนขับรถขนส่ง หรือเจ้าของห้องเย็นที่รับฝากซากหมูเถื่อนเท่านั้น แต่ต้องสืบสวนขยายผลไปให้ถึง “ตัวการใหญ่” แล้วจับมาลงโทษตามกฎหมายอย่างเด็ดขาด ซึ่งที่ผ่านมายังไม่เคยมีรายงานการจับกุมตัวการได้แม้แต่ครั้งเดียว เพราะหากจัดการตัวการได้ก็จะป้องกันปัญหาไม่ให้เกิดขึ้นอีกในอนาคต ถือเป็นการรักษาผลประโยชน์ของชาติ ดูแลผู้บริโภคและช่วยให้ผู้เลี้ยงหมูไทยอยู่ได้ต่อไปวิศาล พูลเพิ่ม นักวิชาการด้านปศุสัตว์
9/2/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สำนักพัฒนานโยบายและแผนการประชาสัมพันธ์
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230209150652611
null
จังหวัดชัยนาทขับเคลื่อนนโยบายป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควันและฝุ่นละออง PM2.5
นายอดิศักดิ์ จันทรังษี ผู้อํานวยการสํานักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดชัยนาท เปิดเผยว่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมได้มอบนโยบายและเน้นย้ําการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละออง ปี 2566 หลักการ 3 พื้นที่ ได้แก่ พื้นที่เมือง พื้นที่ป่า และพื้นที่เกษตรกรรม 7 มาตรการ ตามกรอบ “สื่อสารเชิงรุก ยกระดับปฏิบัติการ สร้างการมีส่วนร่วม”ภายใต้แผนเฉพาะกิจฯ ซึ่งประกอบด้วย 1) เร่งรัดการประชาสัมพันธ์เชิงรุกและแจ้งเตือนล่วงหน้า 7 วันทุกพื้นที่ 2) ยกระดับมาตรการการดําเนินงานตามแผนปฏิบัติการขับเคลื่อนวาระแห่งชาติ “การแก้ไขปัญหา มลพิษด้านฝุ่นละออง” และแผนอื่นที่เกี่ยวข้อง 3) ยกระดับการบริหารจัดการเชื้อเพลิงแบบครบวงจร (ชิงเก็บ ลดเผา และ Burn Check) 4) กํากับดูแลการดําเนินการในทุกระดับอย่างเข้มงวด ติดตามผลการดําเนินการและประเมิน สถานการณ์เป็นระยะอย่างต่อเนื่อง 5) ลดจุดความร้อน ป้องกันและควบคุมการเกิดไฟในทุกพื้นที่ และพัฒนาระบบพยากรณ์ความรุนแรง และอันตรายของไฟ (Fire Danger Rating System : FDRS) 6) ผลักดันกลไกระหว่างประเทศ เพื่อให้การป้องกันและแก้ไขปัญหาหมอกควันข้ามแดนมี ประสิทธิภาพสูงสุด 7) ให้ทุกภาคส่วนเข้ามามีส่วนร่วมในการวางแผนและดําเนินการป้องกันและแก้ไขปัญหาหมอกควัน ไฟป่า และฝุ่นละออง ในส่วนของจังหวัดชัยนาท กองอํานวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดชัยนาท มีคําสั่งแต่งตั้งคณะทํางานติดตาม สถานการณ์ไฟป่า หมอกควัน ฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 ปี 2565 – 2566 จังหวัดชัยนาท ตามคําสั่ง ที่ 5/2565 ลว. 25 พฤศจิกายน 2565 และจัดทําแผนเผชิญเหตุไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM2.5) จังหวัดชัยนาท ปี พ.ศ. 2565 – 2566 และมีคําสั่งแต่งตั้งคณะทํางานติดตามตรวจสอบและกํากับดูแลการแก้ไขปัญหาการเผาในที่โล่งในพื้นที่จังหวัดชัยนาท ตามคําสั่ง 3536/2565 ลว 14 พฤศจิกายน 2565 รวมทั้งได้ออกประกาศจังหวัดชัยนาท เรื่อง งดเว้นการเผาวัสดุทางการเกษตร วัชพืช ขยะมูลฝอย และการเผาในที่โล่งอื่นๆ ทุกกรณีในพื้นที่จังหวัดชัยนาท ลว 29 พฤศจิกายน 2565 โดยกําหนดให้งดเว้นการเผาวัสดุทางการเกษตร วัชพืช ขยะมูลฝอย และการเผาในที่โล่งอื่นๆ ทุกกรณี รวมถึงงดเว้นการเผาในเขตพื้นที่ป่าไม้ ป่าสงวน แห่งชาติ และที่สาธารณประโยชน์ ในพื้นที่จังหวัดชัยนาท นับตั้งแต่วันที่ประกาศเป็นต้นไป (29 พ.ย. 65) และ สิ้นสุดเมื่อเข้าสู่ฤดูฝนตามประกาศของกรมอุตุนิยมวิทยาโดยผู้ใดฝ่าฝืนมีความผิดตามกฎหมาย#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
9/2/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
ชัยนาท
สวท.ชัยนาท
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230209153320622
null
จังหวัดสตูล ประชุมคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนการปฏิบัติงานของคณะกรรมการเลือกตั้งสมาชิกสภาเกษตรจังหวัด ประจำจังหวัดสตูล ครั้งที่ 1 ประจำปี 2566
วันนี้ (9 ก.พ. 66) ที่ห้องประชุมสํานักงานเกษตรจังหวัดสตูล อําเภอเมืองสตูล จังหวัดสตูล นางสาวธัญรัศม์ ไตรพันธ์รัชตะ หัวหน้าสํานักงานจังหวัดสตูล เป็นประธานการประชุมคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนการปฏิบัติงานของคณะกรรมการเลือกตั้งสมาชิกสภาเกษตรจังหวัด ประจําจังหวัดสตูล ครั้งที่ 1/2566 โดยมีนายวิศาล กิตติประโยค หัวหน้าสํานักงานสภาเกษตรกรจังหวัด พร้อมด้วยคณะอนุกรรมการฯเข้าร่วมประชุมโดยพร้อมเพรียงกันสําหรับการประชุมในครั้งนี้เพื่อติดตามและสรุปขอบเขตการทํางานโครงการประชาสัมพันธ์การเลือกตั้งสมาชิกสภาเกษตรกรจังหวัดและการเลือกตั้งสมาชิกสภาเกษตรกรแห่งชาติ ตามที่สํานักงานสภาเกษตรกรแห่งชาติ ได้จัดให้มีการเลือกตั้งภายใต้ระเบียบสภาเกษตรกรแห่งชาติ ว่าด้วยหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการเลือกตั้งสมาชิกสภาเกษตรกรจังหวัด ประเภทผู้แทนเกษตรกร พ.ศ. 2565 เพื่อให้ได้มาซึ่งสมาชิกสภาเกษตรกรจังหวัด ประเภทผู้แทนเกษตรกร มาทําหน้าที่เป็นตัวแทนเกษตรกร ในการคอยรับฟังปัญหาจากเกษตรกรมาเสนอต่อสภาเกษตรกรจังหวัดและสภาเกษตรกรแห่งชาติ เพื่อหาแนวทางแก้ไข โดยมุ่งรักษาผลประโยชน์ของเกษตรกร พร้อมพัฒนาการประกอบอาชีพเกษตรกรรมให้เข้มแข็งอย่างยั่งยืนทั้งนี้ ทางเลขาธิการสภาเกษตรกรแห่งชาติ ได้ประกาศกําหนดวันเลือกตั้งสมาชิกสภาเกษตรกรจังหวัด ประเภทผู้แทนเกษตรกร และการเลือกสมาชิกสภาเกษตรกรแห่งชาติ ในวันอาทิตย์ที่ 19 มีนาคม 2566 โดยจะมีการลงคะแนนเลือกตั้งพร้อมกันทั่วประเทศ ตั้งแต่เวลา 08.00 – 17.00 น. จึงขอเชิญชวนให้เกษตรกรผู้ที่สนใจลงสมัครรับเลือกตั้งฯ สามารถยื่นใบสมัครรับเลือกตั้งฯ พร้อมเอกสารหลักฐานได้ตั้งแต่วันที่ 8-12 กุมภาพันธ์ 2566 ณ ที่ทําการปกครองอําเภอในเขตพื้นที่จังหวัด หรือสถานที่อื่นที่ประกาศกําหนด โดยพี่น้องเกษตรกรสามารถตรวจสอบรายชื่อในประกาศบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้งได้ตั้งแต่วันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2566 เป็นต้นไป ณ ที่ทําการปกครองอําเภอ หรือหน่วยเลือกตั้งใกล้บ้าน#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
9/2/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสตูล
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230209155929639
null
ส่งขยะอันตรายจากชุมชนยะลา กว่า 6,000 กิโล ไปกำจัด เพื่อ“สร้างสิ่งแวดล้อมที่ดี”
วันนี้ ( 9 ก.พ.66) ที่ ศูนย์เครื่องจักรกล องค์การบริหารส่วนจังหวัดยะลา อ.เมือง จ.ยะลา นายมุขตาร์ มะทา นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดยะลา ได้เปิดโครงการสนับสนุนการจัดการขยะอันตรายจากชุมชนจังหวัดยะลา ประจําปี 2566 ส่งขยะอันตราย จากชุมชนยะลา ไปกําจัดอย่างถูกต้องตามหลักวิชาการ ร่วมกับ ดร.ระเด่น สะมะแอ รองนายกอบจ.ยะลา นายชัยศักดิ์ แสวงผล รองปลัด อบจ.ยะลา ท้องถิ่นจังหวัดยะลา องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และส่วนราชการที่เกี่ยวข้องสืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 16 มิถุนายน 2558 องค์การบริหารส่วนจังหวัดยะลาได้ลงนามบันทึกความร่วมมือกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่จังหวัดยะลาและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อประสานความร่วมมือในการจัดการขยะอันตรายจากชุมชนจังหวัดยะลาที่ถูกต้องโดยองค์การบริหารส่วนจังหวัดยะลาเป็นเจ้าภาพหลักในการรวบรวมขยะอันตรายจากชุมชน และส่งไปกําจัดอย่างถูกต้องตามหลักวิชาการ รวมถึงสนับสนุนการดําเนินงานขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นอื่นๆ และในปีงบประมาณ 2566 นี้ องค์การบริหารส่วนจังหวัดยะลาก็ได้ประสาน อปท.และส่วนราชการที่เกี่ยวข้องได้รวบรวมขยะอันตรายจากชุมชน ในพื้นที่รับผิดชอบส่งองค์การบริหารส่วนจังหวัดยะลา ระหว่างวันที่ 7-8 กุมภาพันธ์ 2566 โดยได้ปริมาณขยะอันตรายจากชุมชน จํานวน 6,336 กิโลกรัม แยกประเภทขยะอันตราย ได้แก่ ประเภทหลอดไฟ จํานวน 3,481 กิโลกรัม ประเภทภาชนะบรรจุสารเคมี/กระป้องสเปรย์ จํานวน 262 กิโลกรัม ประเภทแบตเตอรี่/ถ่านไฟฉาย จํานวน 352 กิโลกรัม รวมทั้งหมึกพิมพ์จํานวน 661 กิโลกรัม และขยะอันตรายจากโรงพยาบาล จํานวน 1,580 กิโลกรัม ทั้งนี้ยังมีกิจกรรมนิทรรศการให้ความรู้กําจัดขยะอันตรายอีกด้วยนายมุขตาร์ มะทา นายก อบจ.ยะลา เผยว่า อบจ.ยะลา ให้ความสําคัญกับปัญหาเรื่องการจัดการขยะมูลฝอยมาตลอด โดยเฉพาะการจัดการขยะอันตราย หากไม่จัดการอย่างถูกวิธีอาจก่อผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน ปนเปื้อนสู่สิ่งแวดล้อมได้ โดย อบจ.ยะลาได้ให้การสนับสนุนการจัดการขยะอันตรายจากชุมชนจ.ยะลามาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งการดําเนินการให้เกิดผลสัมฤทธิ์ต้องอาศัยความร่วมมือขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะการส่งเสริมให้พี่น้องประชาชนมีความรู้ความเข้าใจความตระหนัก ในการจัดการขยะอันตรายที่ถูกวิธี ไม่ว่าจะเป็นการลด การแยกทิ้งขยะอันตราย เพื่อให้จังหวัดยะลาเป็นจังหวัดที่ปลอดมลพิษ มีคุณภาพสิ่งแวดล้อมที่ดีส่งต่อให้รุ่นลูกหลานต่อไป#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
9/2/2023
null
ยะลา
สทท.ยะลา
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230209165652677
null
สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดตรัง ร่วมประชุมเครือข่ายพิทักษ์สิ่งแวดล้อมนาเมืองเพชร เพื่อการขับเคลื่อนเครือข่ายในการเฝ้าระวัง-ป้องกันการเกิดปัญหาด้านมลพิษ ที่อาจส่งผลกระทบต่อชุมชนและสิ่งแวดล้อม
นางพรทิพา อัครสุต อุตสาหกรรมจังหวัดตรัง มอบหมายให้ นายเทอด อักษรทอง หัวหน้ากลุ่มโรงงานอุตสาหกรรม สํานักงานอุตสาหกรรมจังหวัดตรัง เข้าร่วมประชุมเครือข่ายพิทักษ์สิ่งแวดล้อมนาเมืองเพชร โดยมีเรื่องเพื่อพิจารณาปรึกษาหารือ เพื่อการขับเคลื่อนเครือข่ายพิทักษ์สิ่งแวดล้อม ณ ห้องประชุมสภาเทศบาลตําบลนาเมืองเพชร ตําบลนาเมืองเพชร อําเภอสิเกา จังหวัดตรัง ทั้งนี้ รัฐบาลให้ความสําคัญกับการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม โดยเร่งส่งเสริมอนุรักษ์ รักษา เฝ้าระวังสิ่งแวดล้อม จากปัญหาความเสื่อมโทรมและผลกระทบที่เกิดจากชุมชน ภาคเกษตรกรรม การคมนาคมการท่องเที่ยวและบริการ รวมถึงภาคอุตสาหกรรมที่ขยายตัวไปพร้อมกับการพัฒนาประเทศ ซึ่งในปัจจุบันผลกระทบจากโรงงานอุตสาหกรรมต่อท้องถิ่นยังคงมีปัญหาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อคุณภาพสิ่งแวดล้อมและสุขภาพอนามัยของประชาชน ซึ่งพื้นที่ตําบลนาเมืองเพชร เป็นที่ตั้งของโรงงานอุตสาหกรรมหลายโรง ทางสํานักงานอุตสาหกรรมจังหวัดตรัง เล็งเห็นว่า การที่จะลดปัญหาเหล่านี้ต้องเริ่มจากการสร้างจิตสํานึกในองค์กรให้รักและหวงแหนสิ่งแวดล้อม พร้อมส่งเสริมให้ผู้ประกอบการภาคอุตสาหกรรมผลิตสินค้าที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และให้นําระบบธรรมาภิบาลสิ่งแวดล้อมมาใช้ในการป้องกันและเฝ้าระวังการเกิดปัญหาด้านมลพิษ ส่งผลกระทบต่อชุมชนและสิ่งแวดล้อม#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
9/2/2023
null
ตรัง
สวท.ตรัง
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230209170059679
null
สมุทรสาครตรวจโรงงานตามมาตรการควบคุมและลดมลพิษเพื่อป้องกันและแก้ไขฝุ่น PM2.5
วันนี้ (9 กุมภาพันธ์ 2566) เวลา 13.30 น. นายณรงค์ รักร้อย ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร พร้อมคณะส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง อาทิ สวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัด จัดหางานจังหวัด ประชาสัมพันธ์จังหวัด โยธาธิการและผังเมืองจังหวัด ท้องถิ่นจังหวัด อุตสาหกรรมจังหวัด พลังงานจังหวัด ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด ทหาร ตํารวจ อําเภอเมือง ผู้นําท้องถิ่นท้องที่ ลงพื้นที่ตรวจติดตามการดําเนินงานตามมาตรการควบคุมและลดมลพิษจากภาคอุตสาหกรรม เพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ให้คุณภาพอากาศอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานที่ไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพอนามัยของประชาชน ซึ่งเป็นการตรวจแบบบูรณาการด้านอื่นๆ ด้วย ที่บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จํากัด (มหาชน) ตําบลท่าทราย อําเภอเมืองสมุทรสาคร ซึ่งประกอบกิจการ ผลิตอาหารทะเลแช่แข็ง อาหารทะเลบรรจุกระป๋อง ถุง อาหารสําเร็จรูปและกึ่งสําเร็จรูป ซึ่งมีการใช้เชื้อเพลิงถ่านหิน ในเครื่องจักรหม้อไอน้ํา ซึ่งผลการลงพื้นที่การตรวจติดตามฯ พบว่า บริษัทดังกล่าวมีการดําเนินที่ถูกต้องตามกฎหมาย มีระบบที่ดีได้มาตรฐาน สําหรับการลงพื้นที่ตรวจฯ ในครั้งนี้ ด้วยกองอํานวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสมุทรสาครได้มีการแจ้งแผนเผชิญเหตุการป้องกันและแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM2.5) จังหวัดสมุทรสาคร ปีงบประมาณ พ.ศ.2566 และเพื่อขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองมาอย่างต่อเนื่อง จึงได้ประกาศใช้ 7 มาตรการเพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM2.5) ประกอบด้วย การควบคุมและลดมลพิษด้านการคมนาคมและขนส่ง, การควบคุมและลดมลพิษ จากการเผาในที่โล่ง, มาตรการควบคุมและลดมลพิษจากการก่อสร้างและผังเมือง, การควบคุม และลดมลพิษจากภาคอุตสาหกรรม, การทําความสะอาดและลดฝุ่นละอองในอากาศ, การป้องกันและลดผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน และมาตรการด้านสิ่งแวดล้อม จึงขอความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ร่วมมือกันขับเคลื่อนการดําเนินงานทั้ง 7 มาตรการ อย่างเคร่งครัดและต่อเนื่อง เพื่อลดปัญหาฝุ่นละออง มีสภาพอากาศดีขึ้น และประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดี ทั้งนี้ ยังได้มีตรวจด้านต่างๆ อีกด้วย ได้แก่ ด้านการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยในอาคารและสถานที่ การดําเนินมาตรการป้องกันและระงับอัคคีภัย เป็นไปตามบทบัญญัติใน พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร พ.ศ.2522 และ พ.ร.บ.ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย พ.ศ.2550 พ.ร.บ.ความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทํางาน พ.ศ.2554 และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง, การดําเนินมาตรการ ด้านการป้องกันโรคติดเชื้อวัสโคโรนา 2019 (COVID-19), การดําเนินการเกี่ยวกับกฎหมายว่าด้วยคนเข้าเมือง และกฎหมายว่าด้วยการทํางานของคนต่างด้าวและได้มีการสร้างความรู้ความเข้าใจในมาตรการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยให้แก่ลูกจ้างที่เป็นคนต่างด้าว, การดําเนินการเกี่ยวกับกฎหมายว่าด้วยโรงงาน ในส่วนที่เกี่ยวกับการป้องกันหรือระงับหรือบรรเทาอันตรายอันอาจนําไปสู่อัคคีภัยหรือสาธารณภัยอื่นๆ, กฎหมายว่าด้วยการควบคุมน้ํามันเชื้อเพลิง ดําเนินงานด้านความปลอดภัยและสิ่งแวดล้อมของกิจการในส่วนที่เกี่ยวข้องกับน้ํามันเชื้อเพลิงและก๊าซ ฯลฯ อีกด้วย#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
9/2/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
สมุทรสาคร
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสมุทรสาคร
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230209181130713
null
เกษตรย่านตาขาว ลงพื้นที่ติดตามผลการใช้เชื้อราไตรโคเดอร์มาป้องกันเชื้อราสาเหตุโรคพืช โรงเรียนบ้านควนโพธิ์ ตำบลย่านตาขาว
วันนี้ (9 กุมภาพันธ์ 2566)? นายนนท์นภนต์ นาพอ เกษตรอําเภอย่านตาขาว มอบหมายให้ นางสาวเกศรินทร์ สุวรรณวัฒน์ และนางสาวอภันตรี มีบุญ นักวิชาการส่งเสริมการเกษตรปฏิบัติการ ลงพื้นที่ติดตามผลการใช้เชื้อราไตรโคเดอร์มาป้องกันเชื้อราในแปลงผักของนักเรียน โรงเรียนบ้านควนโพธิ์ หมู่ที่ 3 ตําบลย่านตาขาว อําเภอย่านตาขาว จังหวัดตรัง ซึ่งผลจากการใช้เชื้อราไตรโคเดอร์มา พบว่าพืชผักในแปลง มีการเจริญเติบโตดี ไม่พบการระบาดของโรคที่เกิดจากเชื้อรา โดยวิธีการใช้คือ การนําเชื้อสด 1 ถุง(250 กรัม) ผสมน้ําสะอาด 50 ลิตร นําไปฉีดพ่นให้ทั่วแปลงผัก ทุก ๆ 3 วัน และนอกจากนั้น คุณครูและนักเรียนยังมีการผลิตขยายเชื้อราไตรโคเดอร์มาเพิ่มเพื่อนําไปใช้ป้องกันและควบคุมโรคพืชที่มีสาเหตุมาจากเชื้อราในแปลงพืชผักต่อไป#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
9/2/2023
null
ตรัง
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดตรัง
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230209185439722
null
จังหวัดปราจีนบุรี บูรณาการตามมาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก? (PM2.5)? ทำการตรวจวัดควันดำรถบรรทุก? รถกระบะ? และรถโดยสาร?? จำนวน? 59 คัน? มีค่าเกินกว่าที่กฎหมาย?กำหนด? จำนวน? 8 คัน
วันที่? 9 ก.พ. 2566? เวลา? 10.30 น.? นายรณรงค์? นครจินดา? ผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี? มอบหมายให้ นายพงษ์สิทธิ์? เนื่องจํานงค์? รองผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี? ตรวจเยี่ยมเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานตรวจวัดควันดํา? ตามมาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก? (PM2.5)? ณ? ถนนทางหลวงแผ่นดินหมายเลข? 3079 บริเวณหน้ามูลนิธิสว่างบําเพ็ญธรรมสถาน ใกล้เคียงสวนอุตสาหกรรม 304 อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี ตรวจวัดควันดําโดยใช้เครื่องตรวจวัดฯ จากสํานักงานสิ่งแวดล้อมและควบคุมมลพิษที่? 7? (สระบุรี)?? และสํานักงานขนส่งจังหวัดปราจีนบุรี โดยมีเจ้าหน้าที่หน่วยงานเข้าร่วม? ดังนี้ 1.นางมาละนี? จินดารัตน์ หน.สนง.ปภ.จ.ปราจีนบุรี? พร้อมเจ้าหน้าที่? 2.? นายชาญชัย? ก้อนสันทัด? ขนส่งจังหวัดปราจีนบุรี? พร้อมเจ้าหน้าที่? 3. นายสมเกียรติ สุสันพูลทอง ผู้อํานวยการสํานักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดปราจีนบุรี พร้อมเจ้าหน้าที่ 4. นายธีระพงษ์ วิมลจิตรานนท์ ผู้อํานวยการสํานักงานสิ่งแวดล้อมและควบคุมมลพิษที่ 7 (สระบุรี) พร้อมเจ้าหน้าที่ 5.? พ.ต.อ.มงคล โท้เป๋า ผู้กํากับการสถานีตํารวจภูธรศรีมหาโพธิ พร้อมเจ้าหน้าที่ตํารวจ? 6.? นายรัชกฤต นายอําเภอศรีมหาโพธิ พร้อมเจ้าหน้าที่ 7.? พ.อ. ธนเดช แม่นปืน ผู้แทน? รองผอ.กอ.รมน.จังหวัดปรา พร้อมเจ้าหน้าที่? ผลการตรวจวัดควันดํา 1.? ทําการตรวจวัดควันดํารถบรรทุก? รถกระบะ? และรถโดยสาร?? จํานวน? 59 คัน? มีค่าเกินกว่าที่กฏหมาย?กําหนด? จํานวน? 8 คัน 2.? พนักงานเจ้าหน้าที่ได้ทําการออกคําสั่งห้ามใช้รถชั่วคราว? โดยให้เจ้าของรถที่มีค่าควันดําเกินค่ามาตรฐานนํารถไปปรับปรุงแก้ไขและนํารถที่แก้ไขแล้วนํามาปลดคําสั่งฯ? ณ? สํานักงานขนส่งจังหวัด?ปราจีนบุรี หรือสํานักงานขนส่งจังหวัดทุกจังหวัด #สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
9/2/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดปราจีนบุรี
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230209194853732
null
สำนักงานปศุสัตว์อำเภอปากช่อง ตรวจสุขภาพกระบือทรงเลี้ยง ณ พระตำหนักทิพย์พิมาน โดยกระบือที่เคลื่อนย้ายมาจาก อ.ทัพพัน จ.อุทัยธานี
วันนี้ (9 กุมภาพันธ์ 2566) สํานักงานปศุสัตว์อําเภอปากช่อง ได้เข้าตรวจสุขภาพกระบือทรงเลี้ยง ณ พระตําหนักทิพย์พิมาน โดยกระบือได้มีการเคลื่อนย้ายมาจาก อ.ทัพพัน จ.อุทัยธานี จํานวน 2 ตัว 1.กระบือแม่พันธุ์ชื่อ คุณศรีเหมันต์ น้ําหนัก 568 กิโลกรัม สูง 140 เซนติเมตร2.ลูกกระบือสีเผือก ชื่อ คุณลมหนาว อายุ 3 เดือน เพศผู้ น้ําหนัก 142.5 กิโลกรัมจากการตรวจร่างกายภายนอก กระบือทั้งสองมีสุขภาพแข็งแรงสมบูรณ์ดี พบพยาธิภายนอก ได้แก่ เหา และแมลงดูดเลือด(เหลือบ) สํานักงานปศุสัตว์อําเภอปากช่องได้ให้คําแนะนําในการแยกกักโรค และใช้สารเคมีกําจัดแมลงด้วยการราดหลังและฉีดพ่นเพื่อป้องกันโรคที่มาจากแมลงพาหะนําโรค#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
9/2/2023
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
นครราชสีมา
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนครราชสีมา
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230209202118741
null
อำนาจเจริญ รณรงค์เกษตรกรชาวไร่อ้อยไม่เผาอ้อยก่อนตัดส่งโรงงานเพิ่มคุณภาพ ลด PM 2.5
นายเสนีย์ ส้มเขียวหวาน รองผู้ว่าราชการจังหวัดอํานาจเจริญ เป็นประธานในพิธีเปิดงานวันรณรงค์ตัดอ้อยสด สะอาด ได้คุณภาพ ลดปริมาณอ้อยไฟไหม้ ปีการผลิต 2565/66 ณ แปลงสาธิตเกษตรกรชาวไร่อ้อยบ้านทับเมย ตําบลโนนหนามแท่ง อําเภอเมืองอํานาจเจริญ จังหวัดอํานาจเจริญ โดยมี หัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยว ผู้บริหารและเจ้าหน้าที่โรงงานน้ําตาลมิตรอํานาจเจริญ พร้อมทั้งเกษตรกรชาวไร่อ้อยในพื้นที่ร่วมกิจกรรมในวันนี้ โดยมีการสาธิตการใช้เครื่องจักรกลทางการเกษตรเก็บเกี่ยวอ้อยสดคุณภาพดีจากโรงงานน้ําตาลมิตรอํานาจเจริญนายจรัส คําป้อง ผู้จัดการอาวุโสด้านอ้อยน้ําตาลมิตรอํานาจเจริญ โรงงานน้ําตาลมิตรอํานาจเจริญ กล่าวถึงการจัดกิจกรรมในวันนี้ว่า ปัจจุบันมีพื้นที่ปลูกอ้อยทั้งหมด 144,879 ไร่ จํานวนชาวไร่ 3,718 ราย ในส่วนของจังหวัดอํานาจเจริญ มีพื้นที่ปลูกอ้อย 34,242 ไร่ จํานวนชาวไร่ 1,187 ราย ทําให้เกิดการสร้างงาน สร้างอาชีพ สร้างรายได้ สร้างเศรษฐกิจให้กับชุมชน ในปีการผลิต 2565/66 นี้ โรงงานได้เริ่มหีบอ้อยตั้งแต่วันที่ 7 ธันวาคม 2565 จนถึงปัจจุบัน มีปริมาณอ้อยเข้าหีบทั้งหมด 823,119 ตัน มีปริมาณอ้อยสดคิดเป็น 64.16% จังหวัดอํานาจเจริญ ปริมาณอ้อย 170,770 ตัน มีปริมาณอ้อยสด คิดเป็น 60.44% โดยโรงงานน้ําตาลมิตรอํานาจเจริญ ส่งเสริมและสนับสนุนการเก็บเกี่ยวอ้อยสดเข้าสู่โรงงานฯ ดังนี้ 1.เพื่อส่งเสริมและพัฒนาชาวไร่ตั้งแต่กระบวนการเตรียมแปลงรองรับเครื่องจักรกลเกษตร เพื่อทดแทนแรงงานคน 2. ส่งเสริมชาวไร่รวมกลุ่มเกษตรแปลงใหญ่ ใช้รถตัดอ้อย ตัดอ้อยสด (ปัจจุบันมีรถตัดช่วยในการเก็บเกี่ยวอ้อยสด จํานวน 26 คัน คาดการณ์ปริมาณอ้อย 453,125 ตัน) 3. ส่งเสริมชาวไร่ใช้เครื่องสางใบ สางใบอ้อยก่อนตัดอ้อย ตัดอ้อยสด (ส่งเสริมเครื่องสางใบอ้อย จํานวน 50 ชุด และชาวไร่ได้รับการสนับสนุนจาก สอน.) 4.ส่งเสริมชาวไร่รายเล็กตัดอ้อยสด ส่งสถานีขนถ่ายใกล้บ้าน จํานวน 11 สถานี และ 5.ส่งเสริมการรับซื้อใบอ้อยเพื่อลดการเผาใบอ้อยหลังจากเก็บเกี่ยว จํานวน 9,800 ตันสําหรับการจัดงานงานวันรณรงค์ตัดอ้อยสด สะอาด ได้คุณภาพ ลดปริมาณอ้อยไฟไหม้ เพื่อเป็นการพัฒนาคุณภาพอ้อยให้เป็นที่ยอมรับทั้งในและต่างประเทศ โดยชาวไร่อ้อยต้องร่วมใจกันตัดอ้อยสด ลดการเผาอ้อยก่อนตัดเข้าเข้าสู่โรงงานเนื่องจากจะทําให้น้ําตาลไม่ได้คุณภาพและยังเป็นการทําลายสิ่งแวดล้อมเกิดปัญหา PM 2.5 ตลอดจนทําให้ความอุดมสมบูรณ์ของดินลดลงอย่างรวดเร็ว การตัดอ้อยสดจะส่งผลให้อ้อยที่ส่งเข้าหีบนั้นมีค่าความหวานที่เพิ่มขึ้น เกษตรชาวไร่อ้อยก็จะมีรายได้เพิ่มขึ้นอีกด้วย จึงขอความร่วมมือพี่น้องเกษตรกรชาวไร่อ้อยให้ตัดอ้อยสด โดยการตัดอ้อยชิดดิน ตัดยอดสั้น จะได้อ้อยที่มีคุณภาพและช่วยลดปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมมลภาวะ PM 2.5 ซึ่งเป็นปัญหาที่สําคัญระดับประเทศสํานักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดอํานาจเจริญ#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
9/2/2023
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
อำนาจเจริญ
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดอำนาจเจริญ
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230209202626743
null
สำนักงานสิ่งแวดล้อมและควบคุมมลพิษที่ 11 สนับสนุนหัวเชื้อน้ำหมักจุลินทรีย์ (EM) จังหวัดนครราชสีมา
วันนี้ (9 กุมภาพันธ์ 2566) สํานักงานสิ่งแวดล้อมและควบคุมมลพิษที่ 11 (นครราชสีมา) โดยส่วนการจัดการคุณภาพน้ํา อากาศและเสียง ให้การสนับสนุนหัวเชื้อน้ําหมักจุลินทรีย์ (EM) ให้แก่ กองสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม เทศบาลตําบลพุดซา อําเภอเมืองนครราชสีมา จังหวัดนครราชสีมา เพื่อใช้ในกิจกรรมส่งเสริมให้ประชาชนทุกครัวเรือนจัดทํา “ถังขยะเปียกลดโลกร้อน” ของกระทรวงมหาดไทย ตามนโยบายการดําเนินงานด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของประเทศไทย กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ตามนโยบายของรัฐบาล ซึ่งในการจัดทําถังขยะเปียก ประชาชนอาจได้รับผลกระทบจากกลิ่นที่เกิดจากการเน่าเสียของขยะเปียก เทศบาลฯ จึงขอรับการรับสนับสนุนจุลินทรีย์ดังกล่าว เพื่อแจกจ่ายให้กับประชาชน และเพื่อให้การดําเนินกิจกรรมเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ สํานักงานสิ่งแวดล้อมและควบคุมมลพิษที่ 11 (นครราชสีมา) จึงได้ให้การสนับสนุนหัวเชื้อน้ําหมักจุลินทรีย์ (EM) จํานวน 600 ลิตร และส่งมอบให้กับกองสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม สํานักงานเทศบาลตําบลพุดซา เพื่อใช้ในกิจกรรมดังกล่าว อันจะเป็นการใช้บรรเทากลิ่นเหม็นจากการเน่าเสียของขยะเปียก และเพื่อส่งเสริมการมีส่วนร่วม การในคัดแยกขยะเปียกในครัวเรือนต่อไป#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
9/2/2023
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
นครราชสีมา
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนครราชสีมา
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230209204806759
null
พัฒนาชุมชนจังหวัดร้อยเอ็ด ลงพื้นที่เยี่ยมชมความสำเร็จ การดำเนินงานโคกหนองนาแห่งน้ำใจ และความหวัง พร้อมขับเคลื่อนยกระดับพัฒนาให้เป็นศูนย์การเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียง
9 กุมภาพันธ์ 2566 เวลา 09.30 น. นายพิศ นันทพูนพิพัฒน์ พัฒนาการจังหวัดร้อยเอ็ด พร้อมด้วย นางสาววิภาดา รัตนโรจนา ประชาสัมพันธ์จังหวัดร้อยเอ็ด นายจิรพงษ์ นามกันยา ผู้แทนผู้บัญชาการเรือนจําจังหวัดร้อยเอ็ด พร้อมคณะ เดินทางลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมการดําเนินงาน พร้อมทั้งถ่ายทําวีดิทัศน์ โคก หนอง นา โมเดล ตามโครงการ "โคกหนองนาแห่งน้ําใจ และความหวัง กรมราชทัณฑ์" พัฒนาหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียง การพัฒนาศูนย์เรียนรู้ทฤษฎีใหม่ จํานวน 3 แปลงได้แก่ 1.นายชาตรี กอนจันดา บ้านบัวแดง อําเภอปทุมรัตต์ 2.นายชาลี คามบุตร บ้านหนองบัว อําเภออาสามารถ และ 3.นายปรีชา ใจกว้าง บ้านอาสามารถ อําเภออาสามารถ จังหวัดร้อยเอ็ดจังหวัดร้อยเอ็ด ได้ดําเนินการขับเคลื่อนโครงการโคกหนองนา ตั้งแต่ปีงบประมาณ พ.ศ.2564-2566 รวมทั้งสิ้น 2,607 แปลง โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อส่งเสริมการเรียนรู้การน้อมนําหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงประยุกต์สู่การปฏืบัติ พัฒนาพื้นที่ให้เป็นศูนย์เรียนรู้ ฟื้นฟูเศรษฐกิจท้องถิ่นและชุมชน สร้างงาน สร้างรายได้ และส่งเสริมให้ประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดี ในส่วนผลการดําเนินงาน จังหวัดร้อยเอ็ดมีแปลงโคกหนองนาต้นแบบที่เป็นแหล่งเรียนรู้และสามารถขยายผลได้ ทุกอําเภอ ทั้ง 20 อําเภอ มีการบูรณาการจัดกิจกรรมที่ดําเนินการ เช่น การเอามื้อสามัคคี การพัฒนาผลผลิต การแปรรูป การส่งเสริมช่องทางการตลาด การประชาสัมพันธ์ สําหรับโครงการ "โคกหนองนาแห่งน้ําใจ และความหวังจากกรมราชทัณฑ์" จังหวัดร้อยเอ็ดมีผู้ผ่านโครงการฯ จํานวน 4 ราย และมีแปลงโคกหนองนาที่ประสบความสําเร็จสามารถสร้างรายได้มากกว่า 1 หมื่นบาทต่อเดือน สามารถสร้างรายได้เพิ่มขึ้น เป็นที่ยอมรับของคนในชุมชน และนอกชุมชน นายพิศ นันทพูนพิพัฒน์ พัฒนาการจังหวัดร้อยเอ็ด กล่าวว่า จากพระราชปณิธานอันแน่วแน่ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในการสืบสาน รักษา และต่อยอด แนวพระราชดําริในพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ซึ่งเรื่องหนึ่งที่เป็นเรื่องสําคัญที่สุด คือ หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง และทฤษฎีใหม่ พระองค์ทรงเล็งเห็นถึงความสําคัญและทรงแน่วแน่ในการน้อมนําเอาแนวคิด หลักคิด วิธีการ มาเผยแพร่เพื่อให้พสกนิกรของพระองค์ท่านมีความสุขอย่างยั่งยืนโดยแท้ ผ่านการพระราชทานภาพฝีพระหัตถ์เกี่ยวกับโคก หนอง นา ในหลายภาพ และพระราชทานข้อความที่เกี่ยวข้องผ่านข้อความสั้น ๆ ชัดเจน เช่น “โคก หนอง นา แห่งน้ําใจและความหวัง” นอกจากนี้พระองค์ท่านได้ทรงประยุกต์ไปสู่หลักสูตรฝึกอบรมจิตอาสาพระราชทาน และพระราชทานให้ข้าราชบริพารได้เรียนรู้และฝึกปฏิบัติการทําโคก หนอง นา โดยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้ทรงเป็นต้นแบบ ทรงเป็นผู้นํา ในการลงมือปฏิบัติ ร่วมกับข้าราชบริพารของพระองค์ ดังปรากฏในภาพข่าวที่เผยแพร่ผ่านสื่อสารมวลชน อันเป็นภาพที่ย้ําเตือนพวกเราคนไทยทุกคน ในการร่วมกันสืบสาน รักษา และต่อยอดแนวพระราชดําริของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ดังที่พระองค์ทรงน้อมนํามาขับเคลื่อนเพื่อประโยชน์ของประชาชนทั้งนี้ การลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมโครงการโคกหนองนาแห่งน้ําใจ และความหวัง ของกรมราชทัณฑ์ทั้ง 3 แปลงตัวอย่าง ในวันนี้ พบว่า ครัวเรือนต้นแบบได้มีการพัฒนาพื้นที่อย่างต่อเนื่อง ทั้งการเลี้ยงสัตว์ ไก่ ปลา ปลูกต้นไม้ ไม้ยืนต้น ไม้ผล พืชผักสวนครัว ส่งผลให้สามารถลดรายจ่ายในครัวเรือนและเพิ่มรายได้จากการนําผลผลิตภายในแปลงออกขายได้ และจะเป็นศูนย์การเรียนรู้ของชุมชน เพื่อให้เกษตรกรในพื้นที่สามารถใช้เป็นโมเดลต้นแบบในการทําการเกษตรโดยนําหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงเข้ามาประยุกต์ใช้ในพื้นที่ของตนเอง พร้อมทั้งเชิญชวนผู้ที่สนใจได้มาเรียนรู้ ศึกษาดูงาน เพื่อนําไปปรับใช้ในชีวิตประจําวัน ให้มีคุณภาพชีวิตที่ดี มีชีวิตที่ยั่งยืน สามารถพึ่งพาตนเอง พึ่งพากันและกัน ด้วยวิถีพอเพียงได้อย่างยั่งยืนสวท.ร้อยเอ็ด#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
9/2/2023
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ร้อยเอ็ด
สวท.ร้อยเอ็ด
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230210002600779
null
ศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละออง PM 2.5 จังหวัดอุบลราชธานี แนะนำประชาชนระวังสุขภาพ
นายชลธี ยังตรง ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี เปิดเผยว่า จังหวัดอุบลราชธานี ได้ตั้งศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละออง PM 2.5 จากการติดตามสถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดเล็ก มีค่าสูงกว่ามาตรฐาน คือเกิน 50 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร และยังพบปัญหาเกี่ยวกับการเผา โดยเฉพาะการเผาขยะ การเผาพื้นที่การเกษตร และเตาเผาถ่าน ทําให้เกิดควันกระจายในหลายพื้นที่ ทําให้คุณภาพอากาศมีผลกระทบต่อสุขภาพ ศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละออง PM 2.5 จังหวัดอุบลราชธานี ขอแจ้งเตือนประชาชนซึ่งอยู่ในพื้นที่ฝุ่นละอองขนาดเล็กเกินค่ามาตรฐาน โดยประชาชนที่มีสุขภาพร่างกายปกติ ให้ลดระยะเวลาในการทํากิจกรรมกลางแจ้ง สวมใส่หน้ากากป้องกันฝุ่นละอองขณะอยู่กลางแจ้ง หากมีอาการผิดปกติควรรีบไปพบแพทย์ ส่วนผู้ป่วยโรคภูมิแพ้ทางเดินหายใจ โรคปอด โรคหัวใจ โรคเรื้อรังอื่น ควรพักอาศัยอยู่ในบ้านเรือน เลี่ยงการเปิดประตู/หน้าต่าง หลีกเลี่ยงการใช้ผ้าเช็ดหน้า ผ้าปิดจมูกทั่วไป ควรใช้อุปกรณ์ป้องกันระบบทางเดินหายใจ หรือหน้ากาก N 95 ลดกิจกรรมที่ต้องออกแรงเนื่องจากการออกกําลังกาย เพราะอาจเพิ่มอัตราการหายใจมากขึ้น ซึ่งจะนํามลพิษเข้าสู่ทางเดินหายใจได้มากขึ้น รวมทั้ง ลดแหล่งมลพิษอื่นภายในบ้าน เช่น การสูบบุหรี่ การใช้เตาถ่านทําอาหาร การใช้สเปรย์ฉีดพ่น และการจุดธูปเทียน #สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
10/2/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สวท.อุบลราชธานี
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230210093316826
null
จังหวัดยะลา จัดงานโครงการคลินิกเกษตรเคลื่อนที่ในพระราชานุเคราะห์ ฯครั้งที่ 22566 ณ อำเภอกาบัง
จ่าเอกเฉลิมพล ญาณวิสุทธิสกุล เกษตรและสหกรณ์จังหวัดยะลา มอบหมายให้ นส.จริยา ไชยประสิทธิ์ หัวหน้ากลุ่มช่วยเหลือเกษตรกรและโครงการพิเศษ พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่สํานักงานเกษตรและสหกรณ์จังหวัดยะลา เข้าร่วมงานโครงการคลินิกเกษตรเคลื่อนที่ในพระราชานุเคราะห์ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ครั้งที่ 2/2566 โดยมี นายอํานาจ ชูทอง รองผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา เป็นประธานในพิธีเปิดฯ มีนายอัมรันท์ บากา นายอําเภอกาบัง กล่าวต้อนรับ นายกัสมัน ยะมาแล เกษตรจังหวัดยะลา กล่าวรายงาน , หัวหน้าส่วนราชการ/หน่วยงานรัฐวิสาหกิจในจังหวัดยะลา ,องค์การบริหารส่วนจังหวัดยะลา, กํานัน , ผู้ใหญ่บ้าน , นายกองค์การบริหารส่วนตําบล , ข้าราชการ , และเกษตรกรในพื้นที่ เข้าร่วมงานฯ เป็นจํานวนมาก ณ อาคารอเนกประสงค์ที่ว่าการอําเภอกาบัง ตําบลกาบัง อําเภอกาบัง จังหวัดยะลาทั้งนี้ จังหวัดยะลาโดยสํานักงานเกษตรจังหวัดยะลา บูรณาการร่วมกับหน่วยงานสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ในพื้นที่จังหวัดยะลา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จัดงานโครงการคลินิกเกษตรเคลื่อนที่ฯ ครั้งที่ 2/2566 เพื่อให้เกษตรกรที่มีปัญหาด้านการเกษตรในพื้นที่ห่างไกล สามารถเข้าถึงการบริการทางวิชาการ ความรู้ด้านการเกษตร และได้รับการแก้ไขปัญหาด้านการเกษตรอย่างครบวงจร ผ่านคลินิกเกษตรต่างๆ ที่จัดขึ้น ซึ่งในวันนี้มีเกษตรกรมารับบริการจํานวน 350 รายโอกาสนี้ สํานักงานเกษตรและสหกรณ์จังหวัดยะลา ได้ออกหน่วยบริการประชาชน ในการประชาสัมพันธ์กองทุนสงเคราะห์เกษตรกร,กองทุนหมุนเวียนเพื่อการกู้ยืมแก่เกษตรกรและผู้ยากจน,ข้อมูลข่าวสารด้านการเกษตรและสหกรณ์, ข้อมูล พรบ.ส่งเสริมและพัฒนาระบบเกษตรพันธสัญญา, สินค้าเกษตรปลอดภัยเลือกใช้สินค้า Q, พร้อมทั้งแจกหนังสือองค์ความรู้และภูมิปัญญาของปราชญ์ชาวบ้านให้แก่เกษตรกรที่มารับบริการด้วย#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
10/2/2023
null
ยะลา
สทท.ยะลา
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230210090041800
null
จ.สุรินทร์ มุ่งพัฒนาเกษตรกรรุ่นใหม่ให้เป็น Young Smart Farmer เสริมแนวคิดการประกอบอาชีพเกษตรกรรม ที่พึ่งพาตนเองได้
นายวันชัย ประยงค์หอม เกษตรจังหวัดสุรินทร์ เปิดเผยว่า กลุ่มส่งเสริมและพัฒนาเกษตรกร สํานักงานเกษตรจังหวัดสุรินทร์ ได้จัดอบรมโครงการพัฒนาเกษตรกรปราดเปรื่อง (Smart Farmer) ปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 กิจกรรมการพัฒนาเกษตรกรรุ่นใหม่ (Young Smart Farmer) หลักสูตร “พัฒนาเกษตรกรรุ่นใหม่ให้เป็น Young Smart Farmer) เวทีที่ 1 จัดเวทีวิเคราะห์ตนเอง ปรับแนวคิด สร้างแรงจูงใจ แผนการผลิตรายบุคคล และจัดทําแผนที่กิจกรรม (แผนการผลิต/การตลาด) ณ ห้องประชุมหอมมะลิ สํานักงานเกษตรจังหวัดสุรินทร์ มีเกษตรกรรุ่นใหม่ จํานวน 40 ราย จาก 17 อําเภอในพื้นที่จังหวัดสุรินทร์ เข้าอบรม เพื่อเสริมแนวคิดในการประกอบอาชีพเกษตรกรรมที่พึ่งพาตนเองได้ และมีบทบาทสําคัญในการเป็นที่พึ่งแก่เพื่อนเกษตรกร สามารถสร้างแรงจูงใจและถ่ายทอดองค์ความรู้ ในการประกอบอาชีพการเกษตรให้แก่เยาวชน เกษตรกร และบุคคลทั่วไป รวมถึงสร้างเครือข่าย ความร่วมมือ ในการขับเคลื่อนงานส่งเสริมการเกษตรและองค์กรเกษตรกรได้อย่างมีประสิทธิภาพต่อไป#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
10/2/2023
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
สุรินทร์
สวท.สุรินทร์
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230210093435828
null
สำนักงานเกษตรอำเภอย่านตาขาว จังหวัดตรัง ลงพื้นที่อบรมถ่ายทอดความรู้ให้เกษตรกร แปลงใหญ่ยางพาราบ้านหนองยน ตำบลทุ่งกระบือ
นายนนท์นภนต์ นาพอ เกษตรอําเภอย่านตาขาว พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สํานักงานเกษตรอําเภอย่านตาขาว ลงพื้นที่อบรมถ่ายทอดความรู้ให้เกษตรกร แปลงใหญ่ยางพาราบ้านหนองยน ตําบลทุ่งกระบือ ตามโครงการระบบส่งเสริมเกษตรแบบแปลงใหญ่ ปี 2566 ณ ศาลาอเนกประสงค์ หมู่ที่ 8 ตําบลทุ่งกระบือ อําเภอย่านตาขาว จังหวัดตรัง ทั้งนี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต การลดต้นทุนการผลิต การพัฒนาศักยภาพของเกษตรกรสู่ Smart Farmer การตลาดและการเชื่อมโยงตลาด และการสร้างความเข้มแข็งของกลุ่มเกษตรกร ซึ่งการจัดกิจกรรมในครั้งนี้ เกษตรกรได้รับฟังการบรรยายเรื่องการบริหารจัดการสวนยางพาราและการปลูกพืชร่วมยางพารา จากนายทวีศักดิ์ ชูทอง นักวิชาการส่งเสริมการเกษตร จากการยางแห่งประเทศไทยสาขาย่านตาขาว และนางสาวเกศรินทร์ สุวรรณวัฒน์ นักวิชาการส่งเสริมการเกษตรปฏิบัติการ จากสํานักงานเกษตรอําเภอย่านตาขาว บรรยายเรื่อง โรคพืชและโรคที่เกิดในยางพารา #สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
10/2/2023
ภาคใต้
ตรัง
สวท.ตรัง
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230210092819818
null
กลุ่มอารักขาพืช สำนักงานเกษตรจังหวัดตรัง ตรวจสารพิษตกค้างในผลผลิตทางการเกษตรของเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการส่งเสริมการใช้สารชีวภัณฑ์และแมลงศัตรูธรรมชาติทดแทนสารเคมีทางการเกษตร
นายวสันต์ สุขสุวรรณ เกษตรจังหวัดตรัง มอบหมายให้นางสุภัชชา ณ พัทลุง หัวหน้ากลุ่มอารักขาพืช พร้อมเจ้าหน้าที่กลุ่มอารักขาพืช ดําเนินการตรวจสารพิษตกค้างในผลผลิต ของเกษตรกรอําเภอกันตัง จํานวน 20 ตัวอย่าง ที่เข้าร่วมโครงการส่งเสริมการใช้สารชีวภัณฑ์และแมลงศัตรูธรรมชาติทดแทนสารเคมีทางการเกษตร ทั้งนี้ จากการตรวจสารพิษตกค้างในผลผลิตทางการเกษตรของเกษตรกรใน 3 อําเภอ ได้แก่ อําเภอวังวิเศษ 20 ตัวอย่าง อําเภอย่านตาขาว 30 ตัวอย่าง อําเภอกันตัง 20 ตัวอย่าง รวมทั้งสิ้น 70 ตัวอย่าง ผลปรากฏว่า1.ไม่พบสารเคมีตกค้าง จํานวน 25 ตัวอย่าง2. พบสารพิษตกค้างในระดับปลอดภัย จํานวน 28 ตัวอย่าง3.พบสารพิษตกค้างในระดับที่ไม่ปลอดภัย จํานวน 17 ตัวอย่าง สําหรับตัวอย่างผลผลิตที่ตรวจพบสารพิษตกค้างในระดับที่ไม่ปลอดภัย ทางกลุ่มอารักขาพืชได้ประสานกับสํานักงานเกษตรอําเภอและเกษตรกรเจ้าของแปลง เพื่อปรับเปลี่ยนวิธีการป้องกันกําจัดศัตรูพืชโดยลดการใช้สารเคมีและเปลี่ยนมาใช้สารชีวภัณฑ์และศัตรูธรรมชาติในการป้องกันกําจัดศัตรูพืชแทน เพื่อให้ผลผลิตมีความปลอดภัยทั้งผู้ผลิตและผู้บริโภค#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
10/2/2023
ภาคใต้
ตรัง
สวท.ตรัง
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230210092918819
null
เกษตรอำเภอวังวิเศษ จังหวัดตรัง ประชุมตลาดเกษตรกร เดินหน้าช่วยเหลือทางด้านการตลาดให้แก่เกษตรกร ทำให้เกิดความเข้มแข็งและสามารถพึ่งพาตนเองได้อย่างยั่งยืน
นายนิกร ชิดเชื้อ เกษตรอําเภอวังวิเศษ พร้อมด้วย นายบดินทร์ ภักดี นักวิชาการส่งเสริมการเกษตรปฏิบัติการ สํานักงานเกษตรอําเภอวังวิเศษ ร่วมด้วย คณะกรรมการ/ผู้จําหน่ายในตลาดเกษตรกรอําเภอวังวิเศษ และคณะกรรมการแม่บ้านเกษตรกรอําเภอวังวิเศษ ประชุมตลาดเกษตรกรอําเภอวังวิเศษ เพื่อวางแผนการดําเนินงาน ร่วมกันแสดงความคิดเห็น ข้อเสนอแนะ ตลอดจนปัญหาอุปสรรคที่เกิดขึ้นในการดําเนินงานโครงการตลาดเกษตรกร ณ ห้องประชุมสํานักงานเกษตรอําเภอวังวิเศษ หมู่ที่ 7 ตําบลวังมะปรางเหนือ อําเภอวังวิเศษ จังหวัดตรัง ทั้งนี้ กรมส่งเสริมการเกษตร มีนโยบายให้ทุกจังหวัดดําเนินการ “ตลาดเกษตรกร” ซึ่งจังหวัดตรัง ได้ต่อยอดความสําเร็จของตลาดเกษตรกร โดยการจัดตั้งตลาดเกษตรกรระดับอําเภอ ทั้ง 10 อําเภอของจังหวัดตรัง อําเภอละ 1 แห่ง เพื่อเป็นสถานที่จําหน่ายผลผลิต และผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรที่มีความปลอดภัย ได้รับการรับรองมาตรฐาน GAP เกษตรอินทรีย์ และมาตรฐานเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ให้แก่ผู้บริโภค โดยเกษตรกรเป็นผู้จําหน่ายเอง โดยมีผู้จัดการตลาดเกษตรกรเป็นเจ้าหน้าที่ของสํานักงานเกษตรจังหวัด ทําหน้าที่ให้คําปรึกษา ให้คําแนะนํา ส่งเสริมสนับสนุน ผลักดัน และขับเคลื่อนในทุกมิติ สอดรับต่อนโยบายของรัฐบาล และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่ได้ให้ความสําคัญต่อการลดต้นทุนการผลิต และเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต อีกทั้ง ยังเป็นการเชื่อมโยงผลผลิตที่มีคุณภาพ และได้รับการรับรองมาตรฐานจากกิจกรรมแปลงใหญ่เข้าสู่ตลาดเกษตรกร สร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่สินค้าเกษตร สามารถเชื่อมโยงตลาดสู่ห้างสรรพสินค้า และตลาดในระดับที่สูงขึ้น เพื่อช่วยเหลือทางด้านการตลาดให้แก่เกษตรกร ทําให้เกิดความเข้มแข็ง และมั่นคง สามารถพึ่งพาตนเองได้อย่างยั่งยืน #สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
10/2/2023
ภาคใต้
ตรัง
สวท.ตรัง
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230210093040821
null
สำนักงานเกษตรอำเภอย่านตาขาว จังหวัดตรัง ผลิตขยายเชื้อราบิวเวอเรีย เพื่อแจกจ่ายให้เกษตรกรในพื้นที่อำเภอย่านตาขาว
นายนนท์นภนต์ นาพอ เกษตรอําเภอย่านตาขาว มอบหมายให้เจ้าหน้าที่สํานักงานเกษตรอําเภอย่านตาขาว ผลิตขยายเชื้อราบิวเวอเรีย เพื่อแจกจ่ายให้เกษตรกรในพื้นที่อําเภอย่านตาขาว ในวันศุกร์ที่ 24 กุมภาพันธ์ 2566 เวลา 07.00-09.00 น. ณ ตลาดเกษตรกรอําเภอย่านตาขาว ซึ่งตั้งอยู่บริเวณรั้วหน้าที่ว่าการอําเภอย่านตาขาว จังหวัดตรัง สําหรับเชื้อราบิวเวอเรีย เป็นจุลินทรีย์ที่จัดเป็นพวกเชื้อราทําลายแมลง สามารถทําลายแมลงได้หลายชนิดทําลายแมลงโดยผลิต เอนไซม์ที่เป็นพิษต่อศัตรูพืช และเป็นเชื้อราที่อาศัยและกินเศษซากที่ผุพัง ซึ่งการเข้าทําลายแมลงของเชื้อราบิวเวอเรีย สปอร์เชื้อราตกติดอยู่กับผนังลําตัวแมลงเข้าสู่ตัวแมลงทางผนังลําตัว รูหายใจ บาดแผลบนผนังลําตัว ความชื้นเหมาะสมกับการงอก สปอร์จะแทงทะลุผิวหนังลําตัว เชื้อราจะงอกสู่ช่องว่างลําตัวแมลงเจริญเติบโตสร้างเส้นใยมากมายทําลายแมลง เมื่อแมลงตาย เส้นใยจะแทงผ่านผนังลําตัวแมลงออกสู่ภายนอกตัวแมลง สปอร์จะแพร่กระจายไปตามลม ฝน หรือติดกับตัวแมลง เชื้อราจึงสามารถขยายพันธุ์ต่อได้ และเมื่อสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมก็จะทําลายแมลงศัตรูต่อไป เชื้อราบิวเวอเรียสามารถทําลายแมลงศัตรูพืชที่สําคัญ เช่น แมลงหวี่ขาว หนอนเจาะสมอฝ้าย ไรแดง เพลี้ยไฟ เพลี้ยอ่อน เพลี้ยไก่แจ้ส้ม เพลี้ยจักจั่น เพลี้ยกระโดดสีน้ําตาล ฯลฯ วิธีการใช้เชื้อราบิวเวอเรียในอัตราส่วนตามวิธีการดังนี้ 1. เชื้อราบิวเวอเรีย 1 กิโลกรัม ต่อน้ํา 100 ลิตร ผสมสารจับใบ (กรองเอาเฉพาะน้ํา) 2. ควรให้น้ําแปลงพืชที่จะควบคุมศัตรูพืชประมาณ 1 ชั่วโมง ก่อนทําการพ่นเชื้อราบิวเวอเรีย 3. นําเชื้อราไปฉีดพ่นเพื่อควบคุมศัตรูพืชโดยต้อง - พ่นให้ถูกตัวแมลงและศัตรูพืช หรือบริเวณที่แมลงศัตรูพืชอาศัยให้มากที่สุด - ช่วงเวลาพ่นควรเป็นช่วงเวลาเย็น โดยมีสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมต่อการงอกและเจริญเติบโตของเชื้อราคือ ความชื้นสูง และแดดอ่อน 4. ให้น้ํากับแปลงพืชในวันรุ่งขึ้น เพื่อเพิ่มความชื้น 5. สํารวจแปลงพืช ถ้ายังพบศัตรูพืชเป้าหมายให้พ่นเชื้อราบิวเวอเรียซ้ําอย่างสม่ําเสมอ #สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
10/2/2023
ภาคใต้
ตรัง
สวท.ตรัง
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230210093530830
null
อำเภอย่านตาขาว จังหวัดตรัง ประชุมคณะกรรมการช่วยเหลือประชาชนที่ประสบเหตุวาตภัย ตำบลโพรงจระเข้
นายทวีศักดิ์ หวังกา นายกองค์การบริหารส่วนตําบลโพรงจระเข้ อําเภอย่านตาขาว จังหวัดตรัง เป็นประธานประชุมคณะกรรมการช่วยเหลือประชาชนตําบลโพรงจระเข้ ณ องค์การบริหารส่วนตําบลโพรงจระเข้ อําเภอย่านตาขาว จังหวัดตรัง โดยมีนายนนท์นภนต์ นาพอ เกษตรอําเภอย่านตาขาว พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สํานักงานเกษตรอําเภอย่านตาขาว เข้าร่วม ทั้งนี้ ทางคณะกรรมการช่วยเหลือประชาชนตําบลโพรงจระเข้ ได้พิจารณาให้ความช่วยเหลือเเก่เกษตรกรที่ได้ประสบเหตุวาตภัย ช่วงเวลาเกิดภัยระหว่างวันที่ 14-20 ธันวาคม 2565 และระหว่างวันที่ 29-30 มกราคม 2566 ทําให้ที่อยู่อาศัยได้รับความเสียหาย จํานวน 30 ราย ซึ่งมติที่ประชุมเห็นชอบให้ความช่วยเหลือทั้ง 30 ราย เป็นเงินจํานวนทั้งสิ้น 35,968 บาท#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
10/2/2023
null
ตรัง
สวท.ตรัง
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230210093656832
null
สำนักงานเกษตรอำเภอเมืองตรัง จัดประชุมคณะกรรมการกลุ่มแม่บ้านเกษตรกรระดับอำเภอ เพื่อกำหนดแนวทางการขับเคลื่อนงานกลุ่มแม่บ้านเกษตรกร
นางนิตยา จันทร์ประทีป เกษตรอําเภอเมืองตรัง เปิดเผยว่า สํานักงานเกษตรอําเภอเมืองตรัง จัดประชุมคณะกรรมการกลุ่มแม่บ้านเกษตรกรระดับอําเภอเมืองตรัง ครั้งที่ 1/ 2566 ณ ห้องประชุมสํานักงานเกษตรอําเภอเมืองตรัง จังหวัดตรัง เพื่อกําหนดแนวทางการขับเคลื่อนงานกลุ่มแม่บ้านเกษตรกร การพัฒนาทักษะและผลิตภัณฑ์กลุ่ม การบริหารจัดการเงินกองทุนแม่บ้านเกษตรกรอําเภอเมืองตรัง และการประชาสัมพันธ์ตลาดเกษตรกรและข้อมูลข่าวสารด้านการเกษตรกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้ตระหนักถึงความสําคัญของสตรีในภาคเกษตร ซึ่งถือเป็นแกนนําสําคัญในการขับเคลื่อนการเกษตรและเศรษฐกิจฐานรากของไทย และได้กําหนดนโยบายให้ ปี 2566 เป็น “ปีแห่งการสร้างความเข้มแข็งให้แก่กลุ่มแม่บ้านเกษตรกร” โดยจะขับเคลื่อนและพัฒนากลุ่มแม่บ้านเกษตรกรผ่าน 5 แผนงาน ได้แก่1) การพัฒนาศักยภาพกลุ่มแม่บ้านเกษตรกรสู่การเป็นผู้ประกอบการด้านการเกษตร พัฒนากลุ่มเป็น Smart group มีความสามารถในการวิเคราะห์และวางแผน เพื่อการผลิตอย่างมีประสิทธิภาพ2) การส่งเสริมด้านตลาดสินค้าและผลิตภัณฑ์แปรรูปทางการเกษตร เพื่อแก้ไขปัญหาสินค้าเกษตรและให้ตรงกับความต้องการของตลาด3) การส่งเสริมและพัฒนากระบวนการผลิตและการแปรรูปผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร เพื่อเพิ่มมูลค่าให้ตรงกับความต้องการของตลาดและแก้ไขปัญหาราคาสินค้าเกษตรตกต่ําในช่วงฤดูกาล4) การส่งเสริมความมั่นคงด้านอาหารในครัวเรือนและชุมชน สร้างแหล่งอาหารในพื้นที่เพื่อการบริโภค รวมถึงการสร้างรายได้ และลดรายจ่ายในครัวเรือนเกษตรกรและชุมชน5) การสร้างภาวะผู้นําในกลุ่มแม่บ้านเกษตรกรให้สามารถประยุกต์ใช้นวัตกรรมและเทคโนโลยีทางการเกษตรอย่างเหมาะสมสอดคล้องกับพื้นที่และสินค้าอย่างมีประสิทธิภาพ ตลอดจนการเชื่อมโยงเครือข่ายภาคการเกษตรระดับประเทศเพื่อเป็นผู้นําการพัฒนาสู่ชุมชนอย่างแท้จริงทั้งนี้ เป้าหมายในการขับเคลื่อนแผนการดําเนินงานดังกล่าว จะก่อให้เกิดความเข้มแข็งของกลุ่มแม่บ้านเกษตรกร ส่งผลให้แม่บ้านเกษตรกรและครอบครัวเกษตร ชุมชนเกษตร มีคุณภาพชีวิตที่ดี มีการใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมในการประกอบอาชีพการเกษตรได้อย่างมีประสิทธิภาพ สร้างรายได้ที่มั่นคงและสามารถพึ่งพาตนเองได้อย่างยั่งยืน#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
10/2/2023
ภาคใต้
ตรัง
สวท.ตรัง
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230210093556831
null
สำนักงานเกษตรอำเภอปะเหลียน จังหวัดตรัง ร่วมประชุมการจัดทำแผนพัฒนาการเกษตรระดับหมู่บ้าน
นายสุภัทธ คงด้วง เกษตรอําเภอปะเหลียน มอบหมายให้นายอํานาจ เซ่งเซี่ยง นักวิชาการส่งเสริมการเกษตรชํานาญการพิเศษ และนางสาวปราณี แข็งแรง นักวิชาการส่งเสริมการเกษตรชํานาญการ ร่วมประชุมการจัดทําแผนพัฒนาการเกษตรระดับหมู่บ้าน ภายใต้โครงการขับเคลื่อนการเกษตรระดับหมู่บ้าน สู่การผลิตสินค้าเกษตรมูลค่าสูง ระดับอําเภอปะเหลียน ณ ศาลาเอนกประสงค์ หมู่ที่ 5 ตําบลทุ่งยาว อําเภอปะเหลียน จังหวัดตรัง โดยมีหน่วยงานสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เข้าร่วมประชุม ได้แก่ เกษตรและสหกรณ์จังหวัดตรัง สหกรณ์จังหวัดตรัง ประมงอําเภอปะเหลียน ปศุสัตว์อําเภอปะเหลียนทั้งนี้ ในการจัดทําแผนพัฒนาการเกษตรหมู่บ้าน ภายใต้โครงการขับการเกษตรระดับหมู่บ้านสู่การผลิตสินค้าเกษตรมูลค่าสูง มีวัตถุประสงค์เพื่อปรับโครงสร้างการผลิตในภาคการเกษตรในระดับพื้นที่ โดยส่งเสริมให้เกษตรกรและสถาบันเกษตรกรในพื้นที่ สามารถวิเคราะห์ศักยภาพ และโอกาส วางแผนการผลิตที่เชื่อมโยงกับความต้องการของตลาดจัดทําแผนธุรกิจเกษตรในการเข้าถึงแหล่งเงินทุน#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
10/2/2023
ภาคใต้
ตรัง
สวท.ตรัง
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230210093305825
null
สำนักงานเกษตรอำเภอรัษฎา จังหวัดตรัง ร่วมกับผู้นำชุมชน และอาสาสมัครเกษตรหมู่บ้าน ลงพื้นที่ปรับปรุงทะเบียนเกษตรกรให้กับเกษตรกร
นางฉลวย เวียนคํา เกษตรอําเภอรัษฎา จังหวัดตรัง พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สํานักงานเกษตรอําเภอรัษฎา ร่วมกับผู้นําชุมชน และอาสาสมัครเกษตรหมู่บ้าน ลงพื้นที่ปรับปรุงทะเบียนเกษตรกรให้กับเกษตรกรในพื้นที่หมู่ที่ 1 หมู่ที่ 6 และหมู่ที่ 12 ตําบลควนเมา ณ ศาลาอเนกประสงค์ หมู่ที่ 1 ตําบลควนเมา อําเภอรัษฎา จังหวัดตรัง และกําหนดลงพื้นที่ครั้งถัดไปในวันอังคารที่ 16 กุมภาพันธ์ 2565 เพื่อให้บริการเกษตรกรในพื้นที่ หมู่ที่ 2, 7 และ 15 ตําบลควนเมา ณ ศาลาอเนกประสงค์ หมู่ที่ 7 ตําบลควนเมา อําเภอรัษฎา จังหวัดตรังทั้งนี้ การแจ้งขึ้นทะเบียนและปรับปรุงทะเบียนเกษตรกรเป็นประจําทุกปี ข้อมูลจะมีความครบถ้วน เป็นปัจจุบันทําให้เกิดประโยชน์ต่อเกษตรกรเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากทําให้ภาครัฐ สามารถวางแผนการผลิต การตลาด ส่งเสริมสนับสนุนเกษตรกรได้อย่างถูกต้องเหมาะสมและจัดทําโครงการมาตรการต่างๆ เพื่อให้ความช่วยเหลือเกษตรกรได้อีกด้วย ดังจะเห็นได้จากการที่หน่วยงานภาครัฐเชื่อมโยงข้อมูลทะเบียนเกษตรกรไปใช้เป็นข้อมูลประกอบโครงการและมาตรการเพื่อให้การสนับสนุน และช่วยเหลือเกษตรกรเป็นจํานวนมาก#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
10/2/2023
ภาคใต้
ตรัง
สวท.ตรัง
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230210093204823
null
เกษตรอำเภอย่านตาขาว จังหวัดตรัง ลงพื้นที่ติดตามผลการใช้เชื้อราไตรโคเดอร์มาป้องกันเชื้อราสาเหตุโรคพืช โรงเรียนบ้านควนโพธิ์
นายนนท์นภนต์ นาพอ เกษตรอําเภอย่านตาขาว จังหวัดตรัง เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่สํานักงานเกษตรอําเภอย่านตาขาว ลงพื้นที่ติดตามผลการใช้เชื้อราไตรโคเดอร์มาป้องกันเชื้อราในแปลงผักของนักเรียน โรงเรียนบ้านควนโพธิ์ หมู่ที่ 3 ตําบลย่านตาขาว อําเภอย่านตาขาว จังหวัดตรัง ซึ่งผลจากการใช้เชื้อราไตรโคเดอร์มา พบว่าพืชผักในแปลง มีการเจริญเติบโตดี ไม่พบการระบาดของโรคที่เกิดจากเชื้อรา โดยวิธีการใช้คือ การนําเชื้อสด 1 ถุง(250 กรัม) ผสมน้ําสะอาด 50 ลิตร นําไปฉีดพ่นให้ทั่วแปลงผัก ทุก ๆ 3 วัน และนอกจากนั้นคุณครูและนักเรียนยังมีการผลิตขยายเชื้อราไตรโคเดอร์มาเพิ่มเพื่อนําไปใช้ป้องกันและควบคุมโรคพืชที่มีสาเหตุมาจากเชื้อราในแปลงพืชผักต่อไปทั้งนี้ ในสภาวะปัจจุบันสภาพดินในแปลงปลูกพืชทั่วไปมีความเสื่อมโทรมลงอย่างมาก เนื่องจากเกษตรกรมีการใช้สารเคมีปราบศัตรูพืชและปุ๋ยเคมีอย่างหนัก โดยไม่เคยปรับปรุงบํารุงดิน จึงทําให้ประสบปัญหาการระบาดของโรคเชื้อราทางดิน ซึ่งเมื่อพืชเป็นโรคแล้วไม่สามารถแก้ไขได้ การใช้สารเคมีจึงเป็นการสิ้นเปลืองและไม่คุ้มค่า นอกจากนั้นยังทําให้เกิดปัญหาหลายประการ การใช้เชื้อราไตรโคเดอร์ม่า เพื่อป้องกันกําจัดโรคร่วมกับการใช้ปุ๋ยอินทรีย์บํารุงดิน จึงเป็นวิธีการที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดในขณะนี้ เพราะเสียค่าใช้จ่ายน้อย และยังมีความปลอดภัยสูง วิธีการนี้จึงเป็นทางเลือกที่ดีอีกทางหนึ่งสําหรับเกษตรกร#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
10/2/2023
ภาคใต้
ตรัง
สวท.ตรัง
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230210091345813
null
สำนักงานเกษตรจังหวัดตรัง จัดอบรมและศึกษาดูงานโครงการพัฒนาประสิทธิภาพโลจิสติกส์เกษตรเพื่อลดการสูญเสีย
นายวสันต์ สุขสุวรรณ เกษตรจังหวัดตรัง มอบหมาย นางสาวลีลา เที่ยงธรรม นักวิชาการส่งเสริมการเกษตรชํานาญการ ผู้รับผิดชอบงานตลาดเกษตรกรระดับจังหวัดและนางสาวิตตรี ศรีหมอก นักวิชาการส่งเสริมการเกษตรชํานาญการ กลุ่มส่งเสริมและพัฒนาการผลิต จัดอบรมและศึกษาดูงานโครงการพัฒนาประสิทธิภาพโลจิสติกส์เกษตรเพื่อลดการสูญเสีย (ตลาดเกษตรกร) ได้นําสมาชิกตลาดเกษตรกรระดับอําเภอ อบรมและศึกษาดูงานการบริหารจัดการตลาดเกษตรกรอําเภอย่านตาขาว ซึ่งเป็นอําเภอที่มีผลการจําหน่ายสูงสุด การบริหารจัดการธุรกิจเกษตร การใช้นวัตกรรมทางการเกษตรและโลติสติกส์ การบริหารจัดการตลาดเกษตรกรระดับอําเภอ การตลาดออนไลน์ ออฟไลน์ ของแปลงเกษตรกรต้นแบบ 3 แปลง ได้แก่ 1. ถุงดินฟาร์ม ตําบลเกาะเปียะ อําเภอย่านตาขาว ทําเกษตรเกี่ยวกับการปลูกเมล่อน มะเขือเทศ และเกษตรผสมผสาน 2. บ้านสวนมรดก ตําบลทุ่งกระบือ อําเภอย่านตาขาว ทําการเกษตรเกี่ยวกับพริกไทยคุณภาพส่งออก มะพร้าวน้ําหอม 3.สวนส้มรุ่งอรุณ ตําบลแหลมสอม อําเภอปะเหลียน ทําการเกษตรเกี่ยวกับส้มโชกุน ทุเรียน กล้วย โดยมีสมาชิกตลาดเกษตรกรระดับอําเภอและเจ้าหน้าที่ระดับอําเภอเข้าร่วม จํานวน 22 ราย ซึ่งเกษตรกรให้ความสนใจเป็นอย่างมากและได้รับแนวคิดการทําธุรกิจเกษตรเพื่อไปปรับใช้ในแปลงของตนเองต่อไปทั้งนี้ ในปี 2566 กรมส่งเสริมการเกษตรกําหนดนโยบายให้เจ้าหน้าที่ส่งเสริมการเกษตรมุ่งมั่นในการพัฒนายกระดับคุณภาพชีวิตของเกษตรกรอย่างยั่งยืน พร้อมจะเดินเคียงข้างไปกับเกษตรกร โดยเน้นหลักตลาดนําการผลิต และนํานวัตกรรม เทคโนโลยี มาปฏิรูปภาคการเกษตรสู่ยุคดิจิทัลมากยิ่งขึ้น สอดรับกับนโยบาย “ตลาดนําการผลิต” ที่มุ่งพัฒนาการผลิตตั้งแต่ต้นน้ําถึงปลายน้ํา เพื่อยกระดับสู่เกษตรมูลค่าสูงตามหมุดหมายใหม่ของแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 13 โดยให้ความสําคัญกับการพัฒนาส่งเสริมด้านการตลาดเพื่อแก้ไขปัญหาสินค้าด้านการเกษตรล้นตลาด ราคาตกต่ํา ขาดการเชื่อมโยงกับตลาดภายในประเทศที่เป็นแหล่งข้อมูลความต้องการสินค้าเกษตร ต้นทุนการผลิตสูง โดยวางแผนการจัดการโลจิสติกส์สินค้าเกษตรที่สอดคล้องกับความต้องการของตลาดเพื่อแก้ไขปัญหาอย่างมีประสิทธิภาพ มีการวางแผนการผลิตสินค้าเกษตรจนจําหน่ายถึงมือผู้บริโภค โดยเน้นการพัฒนาประสิทธิภาพโลจิสติกส์การเกษตรเพื่อลดการสูญเสีย และพัฒนาระบบตลาดภายในสําหรับสินค้าเกษตร คือ ตลาดเกษตรกร ที่มีอยู่ในพื้นที่ทั้ง 77 จังหวัด รวมทั้งเชื่อมโยงตลาดภายในประเทศ ได้แก่ Modern Trade เพื่อเพิ่มพื้นที่การจําหน่ายให้กับเกษตรกร ยกระดับการผลิตให้มีคุณภาพมาตรฐานมากยิ่งขึ้น มีเครือข่ายด้านการตลาดหลากหลายช่องทาง เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันได้ และสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจได้อย่างยั่งยืน #สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
10/2/2023
ภาคใต้
ตรัง
สวท.ตรัง
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230210091127811
null
รองผู้ว่าฯ แพร่ ลงพื้นที่บัญชาการการดับไฟและสร้างแนวกันไฟป่า เน้นควบคุมไม่ให้ลุกลามเป็นวงกว้าง พบ Hot Sport ที่ไหนรีบเข้าถึงทันที
สํานักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดแพร่รายงานว่า วานนี้ (9 ก.พ.66) เวลา 15.30 น. ที่บ้านผาหมู หมู่ 8 ตําบลร้องกวาง อําเภอร้องกวาง จังหวัดแพร่ นายธาตรี บุญมาก รองผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ลงพื้นที่บัญชาการการดับไฟป่าในพื้นที่ เนื่องจากมีไฟไหม้ป่าไผ่ในบริเวณภูเขาสูง ครุกรุ่นอยู่หลายวัน ทําให้เกิดหมอกควันปกคลุมในพื้นที่บริเวณโดยรอบ สภาพไฟป่าที่เกิดขึ้นยากลําบากต่อการเข้าไปดับของเจ้าหน้าที่ ซึ่งสูงชันและรกทึบ โดยมีกําลังเจ้าหน้าที่ของฝ่ายปกครองนําโดยนายสมเกียรติ อาจสังข์ นายอําเภอร้องกวาง เจ้าหน้าที่จากหน่วยป่าไม้ พร. 4 ร้องกวาง ร่วมกับกําลังดับไฟป่าบ้าน หมู่ 8 และกําลังจากหน่วยเคลื่อนที่เร็วของหน่วยดับไฟป่าเข้าไปดับไฟทางรองผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่เข้าไปเมื่อเห็นสภาพของพื้นที่ซึ่งดับยาก จึงใช้วิธีทําแนวกันไฟดักไม่ให้ลุกลาม และพื้นที่บริเวณดังกล่าวมันยาว เจ้าหน้าที่มีไม่พอ จึงใช้รถแทรกเตอร์เข้าไปเกรดทําแนวกันไฟกันไม่ให้มันลุกลามได้ และพยายามดับในส่วนที่เหลืออย่างไรก็ตามจังหวัดแพร่ซึ่งมีภูมิประเทศเป็นแอ่งกระทะ เมื่อเกิดไฟป่าแล้วทําให้เกิดควันไฟลอยคลุ้งในอากาศ เกิดเป็นฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 แขวนลอยอยู่หหลายวัน เมื่อมีรายงานพบจุด Hot Spot บริเวณใด ก็จะต้องเข้าพื้นที่ไปดับไฟทันที ป้องกันการไหม้ลุกลามเป็นวงกว้าง แม้ว่าจังหวัดจะประกาศงดเผาในที่โล่งตลอดระยะเวลา 89 วัน คือตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ - 30 เมษายน 2566 แต่ก็ยังมีการแอบลักลอบเผาป่าอยู่ จึงขอความร่วมมือประชาชนที่อยู่ใกล้ป่าหรือเข้าไปใช้ประโยชน์จากป่า ทั้งหาไข่มดแดง หาผักหวานป่า ก็อย่าได้จุดไฟเผา นอกจากจะทําให้เกิดไฟไหม้ป่าแล้วยังสร้างความเสียหายต่อระบบนิเวศน์ สุขภาพของประชาชน และระบบเศรษฐกิจอีกด้วยทั้งนี้จังหวัดจะได้เอาจริงจังกับผู้ก่อเหตุที่สืบทราบว่ามีการลักลอบเผา หรือตั้งใจเผาในระยะนี้ โดยเมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2566 ที่ผ่านมาทางฝ่ายปกครองร่วมกับตํารวจภูธรเด่นชัย ได้จับกุมนายไพรวัล ชาวบ้านปากปานหมู่ 7 ตําบลไทรย้อย อําเภอเด่นชัย จังหวัดแพร่ เนื่องจากจุดกองไฟ ซึ่งเป็นการเผาในที่โล่ง โดยไม่มีเหตุอันควร หรือจําเป็น #สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND ฉัตรชัย พวงขจร / ข่าวสํานักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดแพร่
10/2/2023
ภาคเหนือ
แพร่
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดแพร่
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230210095000838
null
นักวิชาการส่งเสริมการเกษตรจังหวัดตรัง ปลูกถั่วฝักยาวปลอดสารพิษ พร้อมติดป้ายข้อมูลจีพีเอสแหล่งผลิต โดยจดสิทธิบัตรการสร้างสัญลักษณ์ผลผลิตเป็นรายแรกของไทยและเป็นรายแรกของโลกเมื่อ 10 ปีที่ผ่านมา
ที่สวนของนายประทิ่น วรรณงาม เลขที่ 202 หมู่ที่ 4 ตําบลบ้านควน อําเภอเมือง จังหวัดตรัง มีการปลูกถั่วฝักยาวในโรงเรือนจํานวน 4 โรง แต่ละโรงมีถั่วฝักยาวมากกว่า 130 ต้น โดยใช้เวลาปลูก 45 วันก็สามารถเก็บผลผลิตได้ ซึ่งนายประทิ่น วรรณงาม เป็นนักวิชาการส่งเสริมการเกษตรชํานาญการ สํานักงานเกษตรจังหวัดตรัง ทําให้มีความรู้เรื่องพืชเป็นอย่างดี จึงนําความรู้และประสบการณ์ที่สั่งสมมานานหลายปี หันมาปลูกถั่วฝักยาวปลอดสารพิษ เนื่องจากเห็นว่า ถั่วฝักยาวเป็นพืชที่ใช้สารเคมีมากที่สุด และมีประชาชนซื้อไปบริโภคมากเป็นลําดับต้นๆ ทําให้เป็นอันตรายต่อสุขภาพในระยะยาวดังนั้นจึงคิดใหม่ทําใหม่ด้วยการติดคิวอาร์โค้ด ข้อมูลการผลิต สถานที่ผลิต ชื่อเจ้าของแปลง เบอร์โทรศัพท์ และ GPS ลองติจูด ละติจูด ซึ่งป้อนข้อมูลเข้า Google หาตําแหน่งทางดาวเทียมได้ เพื่อให้ผู้บริโภคและหน่วยงานด้านการตรวจสอบ สามารถเข้าถึงข้อมูลได้ตั้งแต่ถั่วอยู่ในโรงเรือนจนกระทั่งถึงมือผู้บริโภค โดยไม่มีสารปนเปื้อน 100% ซึ่งเกษตรกรได้จดสิทธิบัตรเป็นชื่อของตัวเองในนาม “การสร้างสัญลักษณ์ผลผลิตก่อนการเก็บเกี่ยว” โดยป้ายข้อมูลจะติดอยู่ที่ฝักถั่วทุกฝัก ไม่สามารถแกะออกได้จนกว่าจะถึงมือผู้บริโภค เพื่อให้ผู้บริโภคมั่นใจว่า เป็นถั่วฝักยาวที่ปลอดภัยตั้งแต่ในโรงเรือนจนถึงปลายทาง โดยมีการจดสิทธิบัตรมานานถึง 10 ปีแล้ว และนับเป็นคนไทยคนแรกของประเทศและคนแรกของโลก สร้างความภาคภูมิใจให้กับเกษตรกรเป็นอย่างมาก ซึ่งที่ผ่านมา อาชีพรับราชการ ทําให้ทํางานส่วนตัวไม่เต็มเวลา และผลผลิตถั่วฝักยาวที่ได้ ได้นําไปแจกเพื่อนร่วมงาน พรรคพวกเพื่อนฝูง และนําไปออกงานตามสถานที่ต่างๆ เพื่อให้เป็นที่รู้จักของตลาด ก่อนจะเปิดตัวออกวางจําหน่ายครั้งแรกราวเดือนมีนาคม 2566 นี้ในราคากล่องละ 39 บาท น้ําหนัก 2 กรัมหรือประมาณ 8-9 ฝักนอกจากนี้ เกษตรกรยังปลูกแตงกวาในโรงเรือน โดยใช้ชันโรง (ภาษาปักษ์ใต้เรียกว่าอุง) เพื่อใช้ในการผสมเกสรแทนคนด้วย เนื่องจากในโรงเรือนแมลงไม่สามารถเข้าไปได้ ประกอบกับคนไม่มีเวลา จึงต้องอาศัยชันโรงเป็นตัวช่วยผสมเกสรแทน ปรากฏว่าได้ผลดี แตงกวาเริ่มให้ผลผลิตเป็นที่น่าพอใจ โดยจะเก็บแตงกวาปลอดสารได้ภายในสัปดาห์นี้#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
10/2/2023
ภาคใต้
ตรัง
สวท.ตรัง
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230210101654843
null
เกษตรกรชาวตรัง ดัดแปลงโรงเรือนเลี้ยงแพะเก่า มาเพาะเลี้ยงกระต่ายเนื้อและกระต่ายสวยงามขาย สร้างรายได้ดีกว่าการทำสวนยางพาราหลายเท่า
ที่บ้านสวนกรกานต์ เลขที่ 102/2 หมู่ที่ 8 ต.น้ําผุด อ.เมือง จ.ตรัง ซึ่งเป็นบ้านของนายนาวี จันทร์กระจ่าง อายุ 51 ปี ได้ดัดแปลงโรงเรือนเลี้ยงแพะเก่า มาเลี้ยงกระต่ายเนื้อและกระต่ายสวยงามรวม 6 สายพันธุ์ ได้แก่ พันธุ์นิวซีแลนด์ไวท์, แคลิฟอร์เนีย, ไจแอนท์, พันธุ์มาเลผสมอินโด และพันธุ์เร็กซ์ พันธุ์หูตกและพันธุ์เอ็นดี โดยเริ่มเลี้ยงกระต่ายเมื่อประมาณกันยายน 2565 ตอนนี้แม่กระต่ายเนื้อที่มีอยู่จํานวน 20 ตัว เริ่มออกลูกครั้งละ 1-8 ตัว โดยต้องเลี้ยงต่อไปอีก 45-50 วันก็สามารถขายกระต่ายสวยงามได้ในราคาตัวละ 500 บาท สร้างรายได้กว่า 30,000 บาทต่อเดือน ซึ่งดีกว่าการทําสวนยางพาราหลายเท่า ส่วนกระต่ายเนื้อใช้เวลาเลี้ยงประมาณ 4 เดือนกว่า เพื่อให้ได้น้ําหนักตัวละ 3-4 กิโลกรัมจะขายได้กิโลกรัมละ 120 บาท ตลาดกระต่ายเนื้อส่งขายทั้งตัวเป็นๆ ไปยัง 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ขณะที่กระต่ายสวยงามมีร้านขายสัตว์เลี้ยงหลายแห่ง สั่งจองไปขายรับปีกระต่ายกันอย่างต่อเนื่อง จนผลิตลูกกระต่ายไม่ทันกับความต้องการของลูกค้า นับเป็นสัตว์เศรษฐกิจตัวใหม่ที่ยังไม่มีคู่แข่งและเป็นเจ้าแรกในจังหวัดตรัง ทําให้มีเกษตรกรเดินทางมาดูงาน และซื้อกระต่ายไปเลี้ยงเป็นพ่อแม่พันธุ์ เพื่อเพาะขายสร้างรายได้เสริมอีกหลายรายสําหรับกระต่ายเนื้อเป็นสัตว์ไม่ดุร้าย มีโปรตีนสูง เนื้อแน่น ไม่คาว กินหญ้าสดประเภทหญ้าชนหรือหญ้าแห้งเป็นหลัก เสริมด้วยพืชตระกูลถั่ว ไม่ใช้พืชผักที่มียาง เช่น ผักบุ้ง หรือกระถินให้กินบ่อย ๆ เพราะจะทําให้ท้องอืด น้ําต้องสะอาด อากาศถ่ายเทสะอาด ควรยกพื้นสูง เพื่อป้องกันการเชื้อโรคในดิน ซึ่งกระต่ายเป็นที่เลี้ยงง่าย ขนฟูสวยงาม และมีหลายสี ซึ่งมีแนวโน้มว่าจะมีผู้นิยมบริโภคเนื้อกระต่ายเพิ่มมากขึ้นในอนาคตอันใกล้นี้ ส่วนเกษตรกรรายใดสนใจอยากซื้อกระต่ายเนื้อและกระต่ายสวยงามไปเลี้ยงรับปีกระต่าย 2566 สามารถติดต่อได้ทางเฟสบุ๊ค บ้านสวนกรกานต์ หรือ โทร 066-1434332#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
10/2/2023
ภาคใต้
ตรัง
สวท.ตรัง
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230210102151847
null
ค่าฝุ่น PM 2.5 กทม.และปริมณฑลคุณภาพอากาศอยู่ในเกณฑ์ดีมากต่อเนื่อง ส่วนภาคเหนือและภาคอีสานยังสูง โดยเฉพาะภาคเหนือระดับสีแดงถึง 4 พื้นที่
ค่าฝุ่น PM 2.5 กรุงเทพมหานครและปริมณฑลคุณภาพอากาศอยู่ในเกณฑ์ดีมากต่อเนื่อง ส่วนภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือยังสูงในระดับสีส้มและสีแดงหลายพื้นที่ โดยเฉพาะภาคเหนือระดับสีแดงถึง 4 พื้นที่ นายปิ่นสักก์ สุรัสวดี อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) ในฐานะประธานศูนย์แก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศ (ศกพ.) กล่าวว่า วันนี้ (10 ก.พ.66) ค่าฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM 2.5) ในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑลคุณภาพอากาศดีมากถึงปานกลาง โดยค่าฝุ่นยังคงลดลงต่อเนื่องในทุกพื้นที่ จากสภาพอากาศเปิดและมีลมพัดช่วยลดการสะสมของฝุ่นลง ทั้งนี้ ศูนย์แบบจําลองคุณภาพอากาศและภูมิศาสตร์สารสนเทศ กรมควบคุมมลพิษ (คพ.) ได้คาดการณ์สถานการณ์ฝุ่นละออง PM 2.5 ถึงวันที่ 17 กุมภาพันธ์ มีแนวโน้มคุณภาพอากาศอยู่ในเกณฑ์ดี เนื่องจากสภาพอากาศเปิดมากขึ้น และมีลมใต้ที่มีกําลังค่อนข้างแรงช่วยพัดพาฝุ่นละอองออกจากพื้นที่ ขณะที่พื้นที่ภาคเหนือ 17 จังหวัด พบหลายพื้นที่ค่าฝุ่น PM 2.5 ยังสูงในระดับสีส้ม 15 พื้นที่ และระดับสีแดง 4 พื้นที่ บริเวณ ต.เวียง อ.เชียงของ จ.เชียงราย // ต.หางดง อ.ฮอด และ ต.เมืองนะ อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ // ต.พระบาท อ.เมือง จ.ลําปาง อยู่ที่ 103 - 163 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร พร้อมขอความร่วมมือประชาชนงดการการบริหารจัดการเชื้อเพลิงจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลายลง ส่วนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ พบหลายพื้นที่ค่าฝุ่น PM 2.5 ยังสูงในระดับสีส้ม 5 พื้นที่ ทั้งนี้ ขอให้ประชาชนเฝ้าระวังสถานการณ์ หากอยู่บริเวณพื้นที่มีปริมาณฝุ่น PM 2.5 สูงเกินเกณฑ์มาตรฐาน หรือ พื้นที่สีส้มและสีแดง ให้หลีกเสี่ยงกิจกรรมกลางแจ้ง สวมใส่หน้ากากอนามัย 2 ชั้น หรือ N95 หรือใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเอง หากมีอาการทางสุขภาพควรปรึกษาแพทย์ โดยสามารถติดตามสถานการณ์คุณภาพอากาศได้ทั้งแบบค่าเฉลี่ยรายชั่วโมงและแบบค่าเฉลี่ย 24 ชั่วโมง ผ่านทางเว็บไซด์ Air4Thai.com และ bangkokairquality.com หรือทางแอปพลิเคชั่น Air4Thai และ AirBKK แล้วยังติดตามข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับสถานการณ์คุณภาพอากาศผ่านทาง Facebook Fanpage ศูนย์แก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศ (ศกพ.)
10/2/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230210104031856
null
รมว.ทส. ปล่อยขบวนรณรงค์ป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM 2.5) และภัยแล้ง ที่สุพรรณบุรี
(10 ก.พ.66) ที่บริเวณสนามกีฬากลางจังหวัดสุพรรณบุรี นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รับชมการสาธิตการวัดค่าความดําของรถยนต์จากปลายท่อไอเสีย กดปุ่มสาธิตการฉีดพ่นละอองน้ําเพื่อลดปริมาณฝุ่นละอองในอากาศ และเป็นประธานปล่อย "ปล่อยขบวนรณรงค์ป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM 2.5) และภัยแล้ง" จังหวัดสุพรรณบุรี พร้อมกล่าวให้กําลังใจชุดปฏิบัติการเคลื่อนที่เร็ว ที่ต้องมีความพร้อมในการช่วยเหลือประชาชนในพื้นเสี่ยงได้ตลอด 24 ชั่วโมง รวมถึงผู้ปฏิบัติหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง พร้อมทั้งได้เน้นย้ําเรื่องการป้องกันและลดการเกิดมลพิษจากแหล่งกําเนิดต่าง ๆ เช่น ยานพาหนะ การก่อสร้าง ภาคอุตสาหกรรม ภาคครัวเรือน และพื้นที่ที่มีการเผาหรือก่อให้เกิดฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM 2.5) ตลอดจนการสร้างการรับรู้ให้ประชาชนเข้าใจถึงสถานการณ์และผลกระทบจากสถานการณ์ภัยแล้งและฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM 2.5) ทั้งทางด้านร่างกาย จิตใจและสุขภาพของประชาชนด้านนายปริญญา เขมะชิต รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุพรรณบุรี กล่าวว่า จังหวัดสุพรรณบุรี ได้จัดตั้ง "ศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM 2.5) ปี 2565-2566" ขึ้น เพื่อติดตาม ตรวจสอบ และวิเคราะห์แนวโน้มสถานการณ์ไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM 2.5) อํานวยการบูรณาการหน่วยงานต่าง ๆ ทั้งภาครัฐและภาคเอกชน ในการแก้ไขปัญหาและให้ความช่วยเหลือประชาชน ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ดังกล่าว ให้คําแนะนําและประสานการปฏิบัติการณ์ได้รวดเร็วและทันท่วงทีในขณะที่ นายปภินวิช ละอองแก้ว หัวหน้าสํานักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสุพรรณบุรี กล่าวว่า จากการคาดการณ์ของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพบว่าในปี 2566 ค่าฝนจะน้อยความชื้นจะลดลงส่งผลให้มีจุดความร้อนสะสมหรือ Hot Spot เพิ่มขึ้น จะทําให้สถานการณ์ฝุ่นละอองมีแนวโน้มสูงกว่าปีที่ผ่านมา การจัดกิจกรรมในครั้งนี้ เป็นการขับเคลื่อนตามแผนเผชิญเหตุจังหวัดสุพรรณบุรี ภายใต้กรอบกฎหมายและแผนป้องกันและบรรเทาสาธารณถัยแห่งชาติ โดยแบ่งมอบหมายภารกิจความรับผิดชอบชัดเจน จัดทําข้อมูลพื้นที่เฝ้าระวัง การเกิดจุดความร้อนสะสม หรือ Hot Spot ในระดับตําบลหมู่บ้าน เพื่อเป็นฐานข้อมูลในการวางแผนปฏิบัติการของจังหวัด เฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์จุดความร้อนสะสมในพื้นที่อย่างใกล้ชิด ตลอดจนการเตรียมความพร้อมด้านกําลังพล อุปกรณ์ เครื่องมือ เครื่องจักร เพื่อสนับสนุนการป้องกันและแก้ไขสถานการณ์ได้ทันท่วงที#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
10/2/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
สุพรรณบุรี
สวท.สุพรรณบุรี
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230210131903911
null
กระทรวงเกษตรฯ สนับสนุนหมอดินอาสา เพื่อเสริมแกร่งด้วยนโยบายตลาดนำการผลิต เป็นต้นแบบการพัฒนาพื้นที่การเกษตรทั่วไทย
นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยหลังเป็นประธานเปิดงานวันหมอดินอาสา กรมพัฒนาที่ดิน ปี 2566 ภายใต้หัวข้อ หมอดินอาสา นําพาการผลิต พิชิตตลาด ที่จังหวัดอุบลราชธานี ว่า หมอดินอาสาเป็นกลไกการพัฒนาทางการเกษตรที่สําคัญที่ช่วยผลักดันให้เกิดการใช้ประโยชน์ทรัพยากรดินอย่างยั่งยืน สามารถผลิตอาหารที่มีคุณภาพ ปลอดภัย เป็นที่ต้องการของผู้บริโภคและตลาด ส่งผลให้เกิดรายได้ และคุณภาพชีวิตดี อย่างไรก็ตาม หลังจากผ่านวิกฤตโควิด-19 จะมีอัตราการบริโภคมากขึ้น สินค้าต้องมีคุณภาพมากขึ้น ขณะที่วิกฤตต่าง ๆ ยังไม่หมด สิ่งหนึ่งที่เกิดขึ้นในภาคการเกษตร เช่น ปุ๋ยแพง จึงต้องรณรงค์ลดการใช้ปุ๋ยเคมี ให้ใช้ปุ๋ยอินทรีย์หรือปุ๋ยพืชสดทดแทน เป็นต้น ซึ่งล้วนแต่เป็นผลงานของหมอดินทั้งสิ้น การจัดงานในวันนี้ จึงเป็นอีกหนึ่งวันที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ยินดีที่ได้มีการจัดงานวันหมอดินอาสาขึ้น เพื่อเชิดชูเกียรติแก่หมอดินอาสาที่ปฏิบัติงานเป็นจิตอาสาให้กับกระทรวงเกษตรฯ ซึ่งปฏิบัติงานโดยไม่มีค่าตอบแทน และขอสัญญาว่าจะพยายามผลักดันให้อาสาสมัครเกษตรทุกสาขาได้รับค่าตอบแทน เพื่อเป็นขวัญและกําลังใจในการปฏิบัติงานต่อไปทั้งนี้ ปัจจุบันมีหมอดินอาสา จํานวน 77,688 ราย หมอดิน 354 ราย ถือเป็นหนึ่งในเครือข่ายเกษตรกรที่ใหญ่ที่สุดของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ที่มีความสําคัญ และเพื่อแสดงถึงการยกระดับและพัฒนาเครือข่ายหมอดินอาสาให้เป็นผู้ประกอบการ โดยในปัจจุบันการหาช่องทางการตลาดหรือการผลิตที่ตอบสนองความต้องการของตลาดและผู้บริโภคเป็นสิ่งสําคัญ ถือเป็นการดําเนินการที่สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ที่ 1 ตลาดนําการผลิต ที่เร่งส่งเสริมด้านการตลาด ผลักดันให้สินค้าเกษตรมีคุณภาพและมาตรฐานตามที่ตลาดต้องการ
10/2/2023
null
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230210140956929
null
ปศุสัตว์จันทบุรี ร่วมกับตรวจบัญชีสหกรณ์ มอบพันธุ์ไก่ไข่ สอนทำบัญชีครัวเรือน เพิ่มคุณภาพชีวิตแก่เกษตรกร
(10 ก.พ.66) น.สพ.ชาติชาย ยิ้มเครือ ปศุสัตว์จังหวัดจันทบุรี พร้อมนางสาวเรณู จันทสิน หัวหน้าสํานักงานตรวจบัญชีสหกรณ์จันทบุรี นายภาณุ อินทฤทธิ์ หัวหน้ากลุ่มส่งเสริมและพัฒนาการปศุสัตว์ นายสุนทร บุญมีมาก เจ้าพนักงานสัตวบาลชํานาญงาน นางสาวประภาพรรณ ครองเคหา เจ้าพนักงานสัตวบาล อ.เขาคิชฌกูฏ ลงพื้นที่ บ้านชําตาเรือง ม.7 ต.คลองพูล อ.เขาคิชฌกูฏ ส่งมอบพันธุ์ไก่ไข่ อายุ 16 สัปดาห์ ให้แก่กลุ่มเกษตรกร รวมจํานวน 10 ราย รายละ 20 ตัว ซึ่งเป็นผู้ได้รับการจัดสรรที่ดินทํากินในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ แปลงป่าจันตาแป๊ะ แปลงป่าเขาวังแจง อ.เขาคิชฌกูฏ และได้รับการพิจารณาให้เข้าร่วมการส่งเสริมอาชีพด้านปศุสัตว์ รวมทั้งเจ้าหน้าที่ได้ให้คําแนะนําการทําบัญชีค่าใช้จ่ายครัวเรือน เพื่อให้ทราบต้นทุน ค่าใช้จ่าย และกําไร ในการเลี้ยงสัตว์ เป็นการประเมินผลตนเองถึงความสําเร็จในการประกอบอาชีพ พร้อมมอบปัจจัยการผลิต ได้แก่ อาหารไก่ไข่ รายละ 2 ถุง ถังใส่น้ํา ถังใส่อาหาร ตาข่ายพลาสติกเพื่อใช้ปรับปรุงโรงเรือนป้องกันนก หนู สัตว์พาหะนําโรค ยาปฏิชีวนะ และวิตามิน แนะนําการใช้วัตถุดิบในท้องถิ่นร่วมกับการให้อาหารสําเร็จรูป ลดต้นทุนค่าอาหารสัตว์ ได้แก่ หยวกกล้วยสับ แหนแดง พืชหญ้าอาหารสัตว์ เพื่อให้เกษตรกรนําไข่ไก่ไปเป็นอาหารในครัวเรือน และรวบรวมผลผลิตไข่ไก่ภายในกลุ่ม ขายตลาดในชุมชน สร้างอาชีพ สร้างรายได้ เพิ่มคุณภาพชีวิตให้แก่เกษตรกร รวมทั้งเป็นการแก้ไขปัญหาที่ดินทํากินอย่างยั่งยืน#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
10/2/2023
ภาคตะวันออก
จันทบุรี
สวท.จันทบุรี
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230210135842922
null
ผู้ว่าฯ สมุทรปราการ เยี่ยมชมศูนย์การเรียนรู้ด้านเกษตรผสมผสาน(ไร่นาสวนผสม)
ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการ เยี่ยมชมศูนย์การเรียนรู้ด้านเกษตรผสมผสาน(ไร่นาสวนผสม) พร้อมพบปะเกษตรกร ในพื้นที่อําเภอบางบ่อนายศุภมิตร ชิณศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการ พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการ เยี่ยมชมศูนย์การเรียนรู้ด้านเกษตรผสมผสาน(ไร่นาสวนผสม) หมู่ 4 ตําบลคลองสวน อําเภอบางบ่อ จังหวัดสมุทรปราการ พร้อมพบปะเกษตรกรในพื้นที่อําเภอบางบ่อ โดยมี นายสุธีร์ แป้นสมบูรณ์ เกษตรกรดีเด่น สาขาอาชีพไร่นาสวนผสม เจ้าของศูนย์ฯ บรรยายผลการดําเนินงานศูนย์การเรียนรู้ด้านเกษตรผสมผสาน(ไร่นาสวนผสม) แห่งนี้ เป็นแหล่งเรียนรู้ ศึกษาดูงานของเกษตรและผู้สนใจเป็นแบบอย่างแนวทางการปฏิบัติงานนําไปปรับใช้งาน โดยมีพื้นที่ 16 ไร่ ทําการเกษตรผสมผสาน มีการบริหารจัดการพื้นที่ออกเป็น 5 ส่วน ประกอบด้วย พื้นที่ปลูกข้าว 8 ไร่ ,พื้นที่ปลูกไม้ผลไม้ยืนต้น 2 ไร่ ,บ่อน้ํารวม 3 ไร่ ,พื้นที่ปลูกมัลเบอร์รี่ 2 ไร่ และที่อยู่อาศัย 1 ไร่ ภายในแปลงไร่นาสวนผสมแห่งนี้ ยังปลูกพืชผักสวนครัว ต่างๆที่รับประทานในชีวิตประจําวัน การเลี้ยงเป็ดปากน้ํา ซึ่งเป็นการอนุรักษ์พันธุ์พื้นเมือง โดยมีการจําหน่ายทั้งไข่สดและแปรรูปเป็นไข่เค็ม มีการทําน้ําหมักจุลินทรีย์ชีวภาพเป็นปุ๋ย เพื่อบํารุงให้พืชเจริญเติบโตงอกงาม ไร้สารพิษ โดยนายสุธีร์ แป้นสมบูรณ์ เกษตรกรเจ้าของศูนย์แห่งนี้ ได้รับรางวัลที่ 2 เกษตรกรดีเด่นระดับประเทศ สาขาอาชีพไร่นาสวนผสม ประจําปี พ.ศ. 2565#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
10/2/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
สมุทรปราการ
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสมุทรปราการ
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230210143058948
null
จังหวัดนครศรีธรรมราช จัดงานวันหมอดินอาสา ปี 2566 หมอดินอาสา นำพาการผลิต พิชิตตลาด
วันนี้ (10 ก.พ. 66) ที่โรงแรม เดอะพีค บูทิก โฮเทล อําเภอพระพรหม จังหวัดนครศรีธรรมราช นายไตรรัตน์ ไชยรัตน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นประธานในพิธีเปิดงานวันหมอดินอาสา กรมพัฒนาที่ดิน ปี 2566 โดยมีหัวหน้าส่วนราชการสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ในพื้นที่ พร้อมด้วยผู้แทนจากองค์กรภาคส่วนที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมงานนายคํานึง แสงขํา ผู้อํานวยการสถานีพัฒนาที่ดินนครศรีธรรมราช กล่าวว่า กรมพัฒนาที่ดินได้ริเริ่มโครงการหมอดินอาสา มาตั้งแต่ปี พ.ศ.2538 โดยได้คัดเลือกผู้นําหมู่บ้านที่มีจิตอาสาร่วมสนับสนุนภารกิจในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันจังหวัดนครศรีธรรมราช มีหมอดินอาสา จํานวน 1,831 คน แบ่งเป็นหมอดินอาสาประจําหมู่บ้าน ตําบล อําเภอ และจังหวัด ขณะที่ในภาพรวมทั่วประเทศมีหมอดินอาสาแล้วร่วม 80,000 คน โดยหมอดินอาสามีบทบาทสําคัญในการทําหน้าที่เชื่อมโยง เกษตรกร และสนับสนุนเจ้าหน้าที่กรมพัฒนาที่ดินในการถ่ายทอดเทคโนโลยีการพัฒนาที่ดินให้แก่เกษตรกร ส่งเสริมการประกอบอาชีพการเกษตรที่สร้างความมั่นคงทางอาหารในครัวเรือนและชุมชน รวมทั้งยังเป็นการยกระดับเกษตรกรให้เป็นผู้นําด้านการจัดการทรัพยากรดิน และในปัจจุบันหมอดินอาสาจํานวนหนึ่ง ได้มีการปรับเปลี่ยนตนเองจากผู้ผลิตเป็นผู้ประกอบการที่ผลิตพืชตามความต้องการของตลาด นอกจานี้ ทางกรมพัฒนาที่ดินยังได้กําหนดเพิ่มศักยภาพของหมอดินอาสาให้เป็นมืออาชีพด้านการผลิตและผู้ประกอบการตามนโยบายของรัฐ และรองรับสถานการณ์ภาคการเกษตร ที่จะต้องปรับเปลี่ยนตามสภาพเศรษฐกิจและสังคม ด้วยการถ่ายทอดวิชาการที่สามารถให้หมอดินอาสาปรับเปลี่ยนตนเองได้อย่างก้าวกระโดดและเป็นกองกําลังที่สําคัญในการขับเคลื่อนภารกิจด้านการใช้ที่ดินเพื่อเกษตรกรรมทั่วประเทศด้วย สําหรับการจัดงานในครั้งนี้ เพื่อเป็นการเชิดชูเกียรติแก่หมอดินอาสากรมพัฒนาที่ดินที่ได้สร้างคุณประโยชน์ต่อสาธารณะชนมาอย่างยาวนาน เป็นการเชื่อมสัมพันธ์ระหว่างหมอดินอาสาและเจ้าหน้าที่กรมพัฒนาที่ดิน รวมทั้งเพื่อสร้างขวัญกําลังใจ ช่วยเหลือดูแลกันและกันของหมอดินอาสาและสร้างความเข้มแข็งให้กับเครือข่ายหมอดินอาสาด้วยอุไรวรรณ/ข่าว/ภาพ พรรณี-ณัฐนันท์/ภาพ 10 ก.พ. 66สํานักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนครศรีธรรมราช#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
10/2/2023
ภาคใต้
นครศรีธรรมราช
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนครศรีธรรมราช
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230210152343983
null
กฟผ.เขื่อนวชิราลงกรณ จัดกิจกรรมปลูกป่าแบบมีส่วนร่วม สร้างแนวป้องกันไฟป่าเฝ้าระวังและดับไฟป่า สร้างฝายชะลอน้ำ รอบอ่างเก็บน้ำเขื่อนวชิราลงกรณ
การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เขื่อนวชิราลงกรณ ร่วมกับอุทยานแห่งชาติเขาแหลม หน่วยงานราชการในพื้นที่ และชุมชนรอบอ่างเก็บน้ําเขื่อนวชิราลงกรณ จัดกิจกรรมปลูกป่าแบบมีส่วนร่วม สร้างแนวป้องกันไฟป่าเฝ้าระวังและดับไฟป่า สร้างฝายชะลอน้ํา รอบอ่างเก็บน้ําเขื่อนวชิราลงกรณวันนี้ (10 กุมภาพันธ์ 2566) นายนรภัทร รัตนวรายุทธ ปลัดอําเภอ เจ้าพนักงานปกครองชํานาญการพิเศษ เป็นประธานเปิดกิจกรรม “ปลูกป่าแบบมีส่วนร่วม สร้างแนวป้องกันไฟป่าเฝ้าระวังและดับไฟป่า สร้างฝายชะลอน้ํา รอบอ่างเก็บน้ําเขื่อนวชิราลงกรณ” ตามโครงการอนุรักษ์ป่าต้นน้ําและแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อม โดยมี นายชวลิต กันคํา ผู้อํานวยการเขื่อนวชิราลงกรณ กล่าวต้อนรับหน่วยงานราชการ ผู้ร่วมกิจกรรม และประกาศเจตนารมย์ของ กฟผ. เขื่อนวชิราลงกรณ ในการอนุรักษ์ป่าต้นน้ํา เพื่อแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อม โดยการปลูกป่าแบบมีส่วนร่วม สร้างแนวป้องกันไฟป่า สร้างฝายชะลอน้ํา และมี นายอภิสิทธิ์ สมบัติมาศ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาแหลม กล่าววัตถุประสงค์ของจัดกิจกรรม ณ บริเวณรอบอ่างเก็บน้ําเขื่อนวชิราลงกรณ (เขาคลอรี่)สําหรับกิจกรรม “ปลูกป่าแบบมีส่วนร่วม สร้างแนวป้องกันไฟป่าเฝ้าระวังและดับไฟป่า สร้างฝายชะลอน้ํา รอบอ่างเก็บน้ําเขื่อนวชิราลงกรณ” เป็นหนึ่งในแผนงานด้านความรับผิดชอบต่อสังคม ชุมชน และสิ่งแวดล้อม เพื่อส่งเสริมการมีส่วนร่วมของชุมชนในการดําเนินกิจกรรม ฟื้นฟู และอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้ ในพื้นที่ตําบลท่าขนุน อําเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี พร้อมสนับสนุนให้ประชาชนในพื้นที่เข้ามามีส่วนร่วมเป็นเจ้าของ ดูแลรักษาทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม เพราะหากเกิดไฟป่า ที่เป็นสาเหตุหลักในการทําลายพื้นที่ป่านั้น จะทําให้เกิดความสูญเสียโครงสร้างของระบบนิเวศป่าไม้ ทําให้ป่าไม้ลดน้อยลง ก่อให้เกิดปัญหาอุทกภัยในช่วงฤดูฝน และปัญหาภัยแล้งในช่วงฤดูร้อนได้ นอกจากนี้ยังมีปัญหาควันไฟในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ ถึงเดือนเมษายน ซึ่งส่งผลต่อสุขภาพของประชาชน ในอําเภอทองผาภูมิ#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
10/2/2023
ภาคตะวันตก
กาญจนบุรี
สวท.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230210153148989
null
คณะเทคโนโลยีการเกษตร สจล. จัดงานเกษตรเจ้าคุณทหาร และงานนิทรรศการเกษตรเจ้าคุณทหาร ประจำปี 2566
คณะเทคโนโลยีการเกษตร สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง ร่วมกับสมาคมศิษย์เก่าคณะเทคโนโลยีการเกษตร จัดพิธีวางพวงมาลาเนื่องในโอกาสวันครบรอบสถาปณาคณะเทคโนโลยีการเกษตร ประจําปี 2566 โดยมี รศ.ดร.คมสัน มาลีสี รักษาการอธิการบดี เป็นประธานในการเปิดงาน ร่วมกับแขกผู้ทรงเกียรติ อาทิ ดร.สุมาลี อุทัยเฉลิม ที่ปรึกษาสภาสถาบัน ศ.ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ และ รศ.ดร.ประกิจ ตังติสานนท์ อดีตอธิการบดีผศ.ดร.ธงชัย พุฒทองศิริ คณบดีคณะเทคโนโลยีการเกษตร รวมถึงผู้บริหาร บุคลากรภายในและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมวางพวงมาลา ณ ลานอนุสาวรีย์ท่านเจ้าพระยาสุรวงษ์ไวยวัฒน์หลังจากพิธีเปิดงานและมอบรางวัลให้เชิดชูเกียรติให้กับนักศึกษา บุคลากรคณะเทคโนโลยีการเกษตร สจล. ได้จัดงานนิทรรศการวิชาการเกษตรเจ้าคุณทหาร ภายใต้ธีมงาน “เกษตรไร้มลพิษ เศรษฐกิจยั่งยืน : Sustainable Economy with Green Agriculture.” มีการออกบูธนําเสนองานวิชาการของนักศึกษา อาทิ“สร้างความสุขและสุขภาพผ่านการผลิตพืชที่ปลอดภัยและยั่งยืน” ของหลักสูตรเทคโนโลยีการผลิตพืช “เทคโนโลยีเพื่อการทําฟาร์มสมัยใหม่” หลักสูตรการจัดการสมาร์ตฟาร์ม“ ยั่งยืนด้วยภูมิทัศน์” หลักสูตรการออกแบบภูมิทัศน์เพื่อสิ่งแวดล้อม “การผลิตสัตว์ตลอดห่วงโซ่อุปทาน” หลักสูตรเทคโนโลยีการผลิตสัตว์และวิทยาศาสตร์เนื้อสัตว์ “ทําเกษตรเชิงธุรกิจ Startup” หลักสูตรเศรษฐศาตร์และธุรกิจเพื่อพัฒาการเกษตร “Digital Communication and Smart Agriculture” หลักสูตรนิเทศศาสตร์เกษตร”ซึ่งมีนวัตกรรมและผลงานทางวิชาการมากมายมาจัดแสดง รวมถึงมีตลาดจําหน่ายอาหาร สินค้า และผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร ระหว่างวันที่ 10 - 19 กุมภาพันธ์ 2566 นี้สนใจสามารถเข้าร่วมงานได้ที่ คณะเทคโนโลยีการเกษตร สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง
10/2/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
หน่วยงานสำนักข่าว
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230210154621006
null
ผู้ว่าฯ ศรีสะเกษ เป็นประธานเปิดโครงการคลินิกเกษตรเคลื่อนที่ในพระราชานุเคราะห์ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร
วันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2566 ที่หอประชุมที่ว่าการอําเภอโนนคูณ ตําบลโนนค้อ อําเภอโนนคูณ จังหวัดศรีสะเกษ นายสํารวย เกษกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ เป็นประธานเปิดโครงการคลินิกเกษตรเคลื่อนที่ในพระราชานุเคราะห์สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯสยามมกุฎราชกุมาร ประจําปีงบประมาณ 2566 ไตรมาส 2 โครงการคลินิกเกษตรเคลื่อนที่ในพระราชานุเคราะห์ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เป็นการดําเนินการเพื่อให้บริการแก่เกษตรกรในการแก้ไขปัญหาด้านการเกษตรในพื้นที่ห่างไกล สามารถเข้าถึงบริการทางวิชาการ ได้รับการแก้ไขปัญหาด้านการเกษตรอย่างครบวงจรในคราวเดียวกัน และสอดคล้องกับปัญหาความต้องการของเกษตรกร เป็นการดําเนินงานในลักษณะบูรณาการความร่วมมือกันระหว่างนักวิชาการ เกษตรของหน่วยงานต่างๆ ในแต่ละสาขา ทั้งด้านพืช สัตว์ ประมง ดิน และน้ํา โดยมีหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดให้บริการคลินิกเกษตรเคลื่อนที่แก่เกษตรกรและผู้สนใจ ในกิจกรรมดังกล่าว นายสํารวย เกษกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ พร้อมหัวหน้าส่วนราชการมอบปัจจัยการผลิตให้กับเกษตรกร ดังนี้- สํานักงานประมงจังหวัดศรีสะเกษ และศูนย์วิจัยและพัฒนาการ เพาะเลี้ยงสัตว์น้ําจืดศรีสะเกษ มอบพันธุ์ปลา จํานวน 10 ถุง- สถานีพัฒนาที่ดินศรีสะเกษ มอบน้ําหมักชีวภาพ จํานวน 10 ชุด-สํานักงานเกษตรจังหวัดศรีสะเกษ มอบเมล็ดพันธุ์ผัก สารชีวภัณฑ์ จํานวน 10 ชุด- ศูนย์วิจัยพืชสวนศรีสะเกษ และศูนย์พัฒนาการเกษตรภูสิงห์ อันเนื่องมาจากพระราชดําริ มอบพันธุ์ไม้ จํานวน 5 ชุด- สํานักงานปศุสัตว์จังหวัดศรีสะเกษ และศูนย์วิจัยและบํารุงพันธุ์สัตว์ศรีสะเกษ มอบเวชภัณฑ์สัตว์ จํานวน 5 ชุดจากนั้น ผู้ว่าฯ ศรีสะเกษ ได้เยี่ยมชมนิทรรศการคลินิกเกษตรเคลื่อนที่ของหน่วยงานและเยี่ยมชมตลาดนัดสินค้าเกษตรอินทรีย์ของเกษตรกรและกลุ่มแม่บ้านเกษตรกร โดยมีนายวิชัย ศรีโพธิ์งาม เกษตรจังหวัด นายโกวิท แก้วสุขอยู่เจริญ นายอําเภอโนนคูณ และหัวหน้าส่วนราชการข้าราชการในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และหัวหน้าส่วนราชการอําเภอร่วมดังกล่าว#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
10/2/2023
null
ศรีสะเกษ
สวท.ศรีสะเกษ
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230211223312314
null
อรรถพล ได้รับหนังสือร้องเรียนจากข้าราชการแต่งตั้งโยกย้ายไม่เป็นธรรม 45 ราย พร้อมปรับย้ายเพิ่มอีก 6 ตำแหน่งไม่เป็นธรรม เพื่อให้เหมาะสมกับพื้นที่อนุรักษ์และพร้อมรับมือไฟป่าหมอกควัน
รักษาราชการแทนอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ได้รับหนังสือร้องเรียนจากข้าราชการแต่งตั้งโยกย้ายไม่เป็นธรรม 45 ราย พร้อมปรับย้ายเพิ่มอีก 6 ตําแหน่งไม่เป็นธรรม เพื่อให้เหมาะสมกับพื้นที่อนุรักษ์และพร้อมรับมือไฟป่าหมอกควัน นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) และรักษาราชการแทนอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช กล่าวถึงความคืบหน้าการแก้ปัญหาการแต่งตั้งโยกย้ายไม่ได้รับความเป็นธรรมของบุคลากรกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืชว่า พบมีข้าราชการที่ได้รับผลกระทบจากการแต่งตั้งโยกย้ายไม่เป็นธรรมทําหนังสือขอความเป็นธรรม 45 ราย แบ่งเป็น ผู้อํานวยการสํานักบริหารพื้นที่อนุรักษ์สาขา 2 ราย // หัวหน้าอุทยานแห่งชาติ 19 ราย // ผู้อํานวยการส่วน 9 ราย // หัวหน้าหน่วยงานภาคสนามอื่นๆ 12 ราย และได้ยื่นเรื่องเข้ามาอีก 3 ราย โดยกรมอุทยานฯจะเปิดให้ยื่นหนังสือขอความเป็นธรรมถึงวันที่ 28 กุมภาพันธ์นี้ ซึ่งการโยกย้ายตําแหน่งจะพิจารณาจากตัวบุคคล ประสิทธิภาพการทํางาน ความซื่อสัตย์สุจริต และจากหลายองค์ประกอบเพื่อคัดสรรผู้ที่มีคุณสมบัติ โดยคําสั่งจะทยอยออกทุกสัปดาห์ที่พิจารณากลั่นกรองไม่ให้เกิดผลกระทบต่อการปฏิบัติงาน และจะมีคําสั่งปรับหัวหน้าหน่วยงานโครงการในพื้นที่ โดยเฉพาะโครงการที่อยู่ใกล้ชิดกับประชาชนจะตั้งคณะกรรมการประเมินการปฏิบัติงานในพื้นที่และปรับการทํางานให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับประชาชน ภาพรวมใช้การบริหารเชิงพื้นที่ให้แต่ละพื้นที่มีอํานาจเบ็ดเสร็จรูปแบบ Single Command ให้หัวหน้าพื้นที่เป็นผู้บริหารในพื้นที่ โดยใช้กลไกให้ทุกหน่วยงานทํางานร่วมกัน ต้องใช้งบประมาณครบถ้วนคุ้มค่า และทําเท่าที่จําเป็น หากโครงการใดไม่มีประโยชน์ให้ปรับแผนเพื่อไม่ให้สิ้นเปลืองงบประมาณ พร้อมเน้นย้ําให้ผู้อํานวยการสํานักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 1 - 16 ออกปฏิบัติงานภาคสนามมากขึ้นและให้ตรวจเยี่ยมเจ้าหน้าที่ เพื่อเป็นการเพิ่มกําลังใจให้เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานด้วย ด้าน นางรุ่งนภา พัฒนวิบูลย์ รองอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช กล่าวว่า ได้พิจารณาปรับย้ายเพิ่มเติมอีก 6 รายที่ได้รับความไม่เป็นธรรม คือ นายทัศเนศวร์ เพชรคง จากผู้อํานวยการสํานักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 16 สาขาแม่สะเรียง เป็นผู้อํานวยการสํานักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 13 สาขาลําปาง // นายประยูร พงศ์พันธ์ จากผู้อํานวยการสํานักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 6 สาขาปัตตานี เป็นหัวหน้าอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะอ่างทอง // นายพสวัตน์ โชติวัตพงษ์ชัย จากหัวหน้าอุทยานแห่งชาติน้ําตกพลิ้ว เป็นหัวหน้าอุทยานแห่งชาติน้ําตกคลองแก้ว และสิบตํารวจโท กุลบล พลวัน จากหัวหน้าอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า เป็นหัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาสก ส่วนกรณีผู้ที่มีรายชื่อปรากฏบนซองปรับย้าย 2 ราย คือ นายอัมพร ทองมี จากผู้อํานวยการส่วนอนุรักษ์และจัดการต้นน้ํา เป็นหัวหน้าศูนย์โครงการหลวงด้านป่าไม้ จังหวัดเชียงใหม่-เชียงราย-พะเยา โดยให้คงเหลือหน้าที่เดียว และนายสักรินทร์ ปัญญาใจ จากผู้อํานวยการสํานักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 13 สาขาลําปาง เป็นผู้อํานวยการผู้อํานวยการส่วนประสานความร่วมมือด้านทรัพยากรป่าไม้และสัตว์ป่า สํานักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 16 (เชียงใหม่) เนื่องจากพื้นที่อนุรักษ์แต่ละพื้นที่มีสภาพปัญหาที่แตกต่างกัน ดังนั้น การแก้ปัญหาแต่งตั้งโยกย้ายที่ไม่เป็นธรรมจําเป็นต้องพิจารณาด้วยความรอบคอบ เพื่อให้เหมาะสมกับพื้นที่อนุรักษ์นั้นๆ ประกอบกับ เริ่มเข้าสู่ช่วงไฟป่าหมอกควันจึงได้มีคําสั่งปรับเปลี่ยนหัวหน้าพื้นที่อนุรักษ์และหัวหน้าหน่วยงานภาคสนามอื่นๆ อาจส่งผลกระทบต่อการปฏิบัติงานได้
10/2/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230210155750013
null
ผู้ว่าฯ ศรีสะเกษ เป็นประธานพิธีเปิดการแข่งขันทักษะการใช้เครื่องจักรกลและเทคโนโลยีการเกษตร ประจำปีงบประมาณ 2566
วันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2566 เวลา 11.00 น. ที่องค์การบริหารส่วนตําบลพยุห์ อําเภอพยุห์ จังหวัดศรีสะเกษ นายสํารวย เกษกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ เป็นประธานพิธีเปิดการแข่งขันทักษะการใช้เครื่องจักรกลและเทคโนโลยีการเกษตร ประจําปีงบประมาณ 2566เนื่องจากสํานักงานเกษตรจังหวัดศรีสะเกษและแปลงใหญ่จังหวัดศรีสะเกษ ได้กําหนดจัดงานดังกล่าวขึ้น เพื่อเปิดโอกาสให้กลุ่มแปลงใหญ่จังหวัดศรีสะเกษได้เข้ามาแข่งขันและแสดงทักษะความสามารถการใช้เครื่องจักรกลและเทคโนโลยีการเกษตรของเกษตรกร สมาชิกกลุ่มแปลงใหญ่สอดคล้องและรองรับการเติบโตอย่างรวดเร็วของการใช้เครื่องจักรกลการเกษตรของประเทศนายสํารวย เกษกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ ได้แสดงทักษะการใช้เครื่องจักรกลและเทคโนโลยีการเกษตร ประเภทโดรน ในการควบคุมบังคับโดรน เพื่อหว่านเมล็ดปอเทือง หลังจากนั้นได้เป็นประธานในพิธีมอบรางวัลการแข่งขันทักษะการใช้เครื่องจักรกลและเทคโนโลยีการเกษตรของกลุ่มแปลงใหญ่จังหวัดศรีสะเกษ ประจําปีงบประมาณ พ.ศ. 2566จากนั้น ได้ตรวจเยี่ยมนิทรรศการการจัดบูธแสดงเครื่องจักรกลและเทคโนโลยีการเกษตรของภาคเอกชน ตลอดจนผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรสินค้า OTOP ของกลุ่มแปลงใหญ่และ ชุมชน และในส่วนที่เกี่ยวข้องที่ได้จัดแสดงภายในงาน โดยมีนายวิชัย ศรีโพธิ์งาม เกษตรจังหวัด นายปวิช รัตวาลย์ นายอําเภอพยุห์ นายนาวิน ป้องกัน เกษตรและสหกรณ์จังหวัด นายนคร บุตรดีวงศ์ พาณิชย์จังหวัด นายภาณุพงศ์ แสงคํา สหกรณ์จังหวัด ดร.ฐิตารีย์ ไตรสรณปัญญา ผู้แทนท้องถิ่นจังหวัด ผู้แทนปศุสัตว์จังหวัด ผู้บริหารองค์การบริหารส่วนตําบลพยุห์ นายทิวา รุ่งแก้ว ประธานชมรมคนรักในหลวงจังหวัด ภาคเอกชน กลุ่มแปลงใหญ่ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ร่วมงานดังกล่าว#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
10/2/2023
null
ศรีสะเกษ
สวท.ศรีสะเกษ
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230212003148336
null
สำนักงานสิ่งแวดล้อมและควบคุมมลพิษที่ 13 ชลบุรี เผย ฝุ่น PM2.5 ในจังหวัดชลบุรีเกิดจากการเผาไหม้เชื้อเพลิง มีความอันตรายสูง
นายอาวีระ ภัคมาตร์ ผู้อํานวยการสํานักงานสิ่งแวดล้อมและควบคุมมลพิษที่ 13 จังหวัดชลบุรี เปิดเผยว่า สถานการณ์ฝุ่น PM2.5 ในจังหวัดชลบุรี ปัจจุบัน อยู่ที่ประมาณ 15-16 มคก./ลบ.ม. ซึ่งอยู่ในเกณฑ์อากาศคุณภาพดีมาก ซึ่งที่ผ่านมาฝุ่น PM2.5 ส่วนใหญ่ในจังหวัดชลบุรีส่วนใหญ่ จะมาจากการขนส่ง และการใช้ยานพาหนะ เนื่องจากจังหวัดชลบุรีจะมีการคมนาคมในจังหวัดจํานวนมาก รวมถึงโรงงานอุสาหกรรมต่างๆซึ่งฝุ่น PM2.5 มีหลายลักษณะ ซึ่งฝุ่น PM2.5 ที่เกิดจากการเผาไหม้เชื้อเพลิง ทั้งจากโรงงานอุตสาหกรรมและยานยนต์ ซึ่งจะก่อให้เกิดก๊าซซัลเฟอร์ไดออกไซด์ มีความอันตรายสูงกว่า ภูมิภาคอื่นๆ ที่เกิดจากการเผาไหม้ใบไม้ หรือชีวมวล อย่างเช่นภาคเหนือจึงอยากฝากประชาชนติดตามข่าวสารทุกเช้า ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย ที่จะมีการรายงานปริมาณฝุ่นทั่วประเทศ หรือทาง application Air4Thai ของกรมควบคุมมลพิษ หากสภาพอากาศในวันนั้นเป็นสีส้มหรือสีแดง ควรใส่หน้ากากอนามัย N95 ก่อนออกจากบ้านทุกครั้ง#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
10/2/2023
ภาคตะวันออก
ชลบุรี
สวท.ชลบุรี
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230210163955054
null
กรมการข้าว เปิดหน่วยปฏิบัติการตรวจสอบเอกลักษณ์พันธุกรรมข้าวหอมมะลิไทย
นายณัฏฐกิตติ์ ของทิพย์ อธิบดีกรมการข้าว เปิดเผยหลังเปิดหน่วยปฏิบัติการตรวจสอบเอกลักษณ์พันธุกรรมข้าวหอมมะลิไทยอย่างเป็นทางการที่ศูนย์วิจัยข้าวอุบลราชธานี จังหวัดอุบลราชธานี ว่า ได้รับความร่วมมือกับกรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพานิชย์ สมาคมโรงสีข้าวภาคตะวันออกเฉียงเหนือ สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย สมาคมโรงสีข้าวไทย สมาคมการค้าเมล็ดพันธุ์ข้าวไทย และหน่วยงานในพื้นที่ เพื่อเพิ่มทางเลือกให้ผู้ที่เกี่ยวข้องในอุตสาหกรรมข้าวไทย ไม่ว่าจะเป็นเกษตรกร โรงสี และผู้ประกอบการค้าข้าว สามารถเข้าถึงบริการตรวจสอบการปลอมปนพันธุ์ข้าวด้วยเทคโนโลยีดีเอ็นเอที่ทันสมัยและแม่นยําสูง ได้อย่างสะดวก รวดเร็ว กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันจัดทํา ภายใต้หลักการ ตลาดนําการผลิต การจัดตั้ง ‘หน่วยปฏิบัติการตรวจสอบเอกลักษณ์พันธุกรรมข้าวหอมมะลิไทย’ ที่ศูนย์วิจัยข้าวอุบลราชธานี แห่งนี้เป็นหนึ่งในภารกิจหลักของกรมการข้าว ในการยกระดับมาตรฐานและสร้างความน่าเชื่อถือในการส่งออกข้าวไทย ด้วยการนําองค์ความรู้พื้นฐานจากงานวิจัยเกี่ยวกับฐานข้อมูลเอกลักษณ์ทางพันธุกรรมข้าวไทย มาต่อยอดให้เกิดประโยชน์อย่างเป็นรูปธรรม โดยได้วางแนวทางและเตรียมความพร้อมทั้งในด้านบุคลากรและห้องปฏิบัติการที่ได้มาตรฐาน ในการตรวจสอบเอกลักษณ์พันธุกรรม (DNA) ข้าวหอมมะลิไทย ซึ่งเป็นสินค้าเกษตรส่งออกมูลค่าสูงของไทย
10/2/2023
null
กรุงเทพมหานคร
Radio-สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230210194902129
null
เทศบาลนครภูเก็ต ลงพื้นที่จัดเก็บขยะใน กิจกรรม “นัดทิ้ง นัดเก็บ ขยะชิ้นใหญ่ และขยะอันตราย” ภายใต้แนวคิด “คุณทิ้ง...เราขอ”
วันนี้ (10 ก.พ.66) เวลา 10.00 น. เทศบาลนครภูเก็ต โดยกองสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม ร่วมกับ งานประชาสัมพันธ์ กองยุทธศาสตร์และงบประมาณ เทศบาลนครภูเก็ต ลงพื้นที่จัดเก็บขยะใน กิจกรรม “นัดทิ้ง นัดเก็บ ขยะชิ้นใหญ่ และขยะอันตราย” ภายใต้แนวคิด “คุณทิ้ง...เราขอ” ประจําเดือนกุมภาพันธ์ 2566 ณ ชุมชนปะเหลียนสําหรับวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2566 ขอเชิญชาวชุมชนศรีสุทัศน์ นําขยะชิ้นใหญ่ และขยะอันตราย มาวางไว้หน้าบ้าน เวลา 10.00 น. เทศบาลนครภูเก็ตจะจัดเจ้าหน้าที่เข้าไปเก็บขนขยะให้ถึงบ้าน ร่วมกันดูแลรักษาความสะอาดบ้านเรือนและชุมชนให้น่าอยู่ไปด้วยกัน สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ : กองสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม เทศบาลนครภูเก็ต โทร.076 – 211570 #สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
10/2/2023
ภาคใต้
ภูเก็ต
สวท.ภูเก็ต
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230210170716078
null
รัฐบาล ประสบความสำเร็จจัดสรรที่ทำกินและอยู่อาศัยในที่ดินของรัฐถูกกฎหมายไปแล้วเกือบ 6 ล้านไร่ ในพื้นที่ 70 จังหวัดทั่วประเทศ
พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวปาฐกถา "นโยบายรัฐบาลในการบริหารจัดการที่ดินและทรัพยากรดินของประเทศไทยในอนาคต" ภายในงานสัมมนา "สานพลังยกระดับการขับเคลื่อนการบริหารจัดการที่ดิน" จัดโดย สํานักงานคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ (สคทช.) ว่า รัฐบาล ได้มุ่งมั่นบริหารจัดการที่ดินและทรัพยากรดินของประเทศที่มีอยู่อย่างจํากัดให้มีประสิทธิภาพ เกิดประโยชน์สูงสุด สมดุล และเป็นธรรม โดยเฉพาะการแก้ปัญหาความเดือดร้อนและลดความเหลื่อมล้ําในสังคมให้ประชาชน เพื่อให้มีสิทธิทํากินและอยู่อาศัยในที่ดินของรัฐถูกต้องตามกฎหมาย ให้ความมั่นใจการประกอบอาชีพ สร้างความมั่นคงในการดํารงชีวิต ภายใต้ คทช. ภาพรวมตั้งแต่ปี 2558 จนถึงปัจจุบันประสบความสําเร็จและก้าวหน้าอย่างมาก โดยกําหนดพื้นที่เป้าหมายไปแล้ว 1,491 พื้นที่ รวมประมาณ 5.7 ล้านไร่ ครอบคลุมพื้นที่ 70 จังหวัด แล้วสามารถจัดคนเข้าใช้ประโยชน์ให้ได้มีที่อยู่อาศัยและมีที่ดินทํากินในการเลี้ยงชีพ 78,109 ราย ควบคู่กับพัฒนาและยกระดับการทํางานให้มีประสิทธิภาพ ทั้งการปรับปรุงแผนที่แนวเขตที่ดินของรัฐแบบบูรณาการ มาตราส่วน 1 : 4000 หรือ One Map แบ่งพื้นที่ทั่วประเทศออกเป็น 7 กลุ่ม กลุ่มละ 11 จังหวัด ซึ่งคณะรัฐมนตรีเห็นชอบไปแล้ว 2 กลุ่มจังหวัด จํานวน 22 จังหวัด ส่วนกลุ่มที่ 3 อยู่ระหว่างเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณา ตั้งเป้าจะเร่งขับเคลื่อนให้ครบถ้วนทุกจังหวัดทั่วประเทศภายในปี 2567 ทั้งนี้ ยังแก้ปัญหาการบุกรุกที่ดินของรัฐหรือการแก้ปัญหาข้อพิพาทเรื่องแนวเขตที่ดินระหว่างหน่วยงานของรัฐกับประชาชน โดยการพิสูจน์สิทธิการครอบครองที่ดินของบุคคลในเขตที่ดินของรัฐให้เกิดความเป็นธรรมกับประชาชนที่อาศัยอยู่ในที่ดินของรัฐรองนายกรัฐมนตรี กล่าวย้ําว่า รัฐบาล ยังเน้นสร้างมูลค่าที่ดินที่รัฐจัดให้กับประชาชน เพื่อช่วยให้เกษตรกรและผู้ที่ได้รับการจัดที่ดินจากหน่วยงานรัฐนําเอกสารหรือสมุดประจําตัวไปใช้เป็นหลักประกันการเข้าถึงแหล่งทุนสําหรับการประกอบอาชีพ เพื่อยกระดับรายได้ พึ่งพาตนเอง และมีคุณภาพชีวิตดีขึ้น ตามเป้าหมายนโยบายการจัดที่ดินทํากินให้ประสบความสําเร็จ รวมทั้ง กําหนดนโยบายและแผนการบริหารจัดการที่ดินและทรัพยากรดินของประเทศ (พ.ศ. 2566 – 2580) ใช้เป็นกรอบทิศทางนโยบายระยะ 15 ปี สอดคล้องกับรัฐธรรมนูญ ยุทธศาสตร์ชาติ แผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ แผนการปฏิรูปประเทศ และเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) ของสหประชาชาติด้วย
10/2/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230210101827845
null
พัฒนาชุมชนจังหวัดระยอง ขับเคลื่อนการน้อมนำแนวพระราชดำริของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี สู่ปฏิบัติการ ปลูกผักสวนครัว เพื่อสร้างความมั่นคงทางอาหาร
นางประภา ปานนิตยกุล พัฒนาการจังหวัดระยอง กล่าวว่า นายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง ได้นําหัวหน้าส่วนราชการ ปลูกผักสวนครัวเพื่อสร้างความมั่นคงทางอาหาร ณ จวนผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง ด้วยการน้อมนําแนวพระราชดําริของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี สู่การปฎิบัติ บ้านนี้มีรัก ปลูกผักกินเอง ภายใต้แนวคิด"ผู้นําต้องทําก่อน" ต้นแบบในการสร้างคลังอาหารของชาวจังหวัดระยอง พืชผักสวนครัว ที่ปลูกอย่างน้อย 10 ชนิด ได้แก่ ถั่วฝักยาวสีม่วง(สิรินธรเบอร์ 1) พริก กะเพรา ยี่หร่า ข่า แมงลัก มะกรูด มะนาว ชะอม สะระแหน่ ผักแพ้ว มะเขือ ผักบุ้ง และผักชีใบเลื่อย เป็นต้น เป้าหมายให้เป็นศูนย์ขยายเมล็ดพันธุ์และแบ่งปันแจกจ่ายให้กับพี่น้องชาวจังหวัดระยองเพื่อขยายผลต่อไป#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
10/2/2023
ภาคตะวันออก
ระยอง
สวท.ระยอง
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230210184335108
null
กระทุ้งภาครัฐตรวจสอบรอบด้าน หมูราคาลดเพราะหมูเถื่อน
ต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา พบข่าวกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ พูดเรื่องราคาสินค้ามีแนวโน้มลดลงหลายรายการ โดยเฉพาะ หมู ไก่ ไข่ บอกว่าราคาลงแล้วและจะทยอยลดลงอีก เช่น เนื้อหมู ปรับลดลง 2% จากกิโลกรัมละ 172 บาท เหลือ 168 บาท เนื้อไก่ลดลง 3% อาทิ เนื้อน่องจากกิโลกรัมละ 75 บาท เหลือ 73 บาท ไข่ไก่เบอร์ 3 ราคาฟองละ 3.90 โดยเฉพาะราคาเนื้อสุกรลดลงจากปริมาณผลผลิตที่เพิ่มขึ้นมาก และ เร็วๆ นี้ กรมฯ จะเชิญสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาหารือ เพื่อหามาตรการในการเชื่อมโยงตลาดเนื้อหมูออกจากแหล่งผลิต เพื่อให้เกิดความสมดุลด้านราคา อ่านในฐานะผู้บริโภคก็จะสดชื่นเพราะราคาอาหารจะลดลง แต่อ่านในฐานะเกษตรกรไม่ว่าจะผู้เลี้ยงหมู ไก่ หรือ ไก่ไข่ คงอยู่ในภาวะ “น้ําตาตกใน” ทั้งสิ้น มีคําถามภาครัฐ ว่า ข้อมูลที่ได้จากการสํารวจตลาด ครอบคลุมภาคการผลิตด้วยหรือไม่? หากภาครัฐ ทําหน้าที่กํากับดูแลให้กลไกตลาดทํางานสมบูรณ์ ราคาก็จะสะท้อนความเป็นจริงตามหลักเศรษฐศาสตร์พื้นฐาน อุปสงค์-อุปทาน นักเศรษฐศาตร์อาวุโสหลายท่านชี้แนะมาตลอด แต่ที่ผ่านมามาตรการ คือ “ตรึงราคา” วิธีการนี้อาจจะเหมาะกับสินค้าบางประเภทที่มีสต๊อกจํานวนมาก เช่น สบู่ ยาสระผม ผงซักฟอก เมื่อไม่ให้ปรับราคา ผู้ผลิตก็ลดขนาดบรรจุลง เพื่อชดเชยต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้น เป็นการบริหารจัดการธุรกิจอย่างสมดุลของผู้ผลิต วิธีการเหล่านี้เป็นกลยุทธ์ที่ดําเนินการมาช้านานแล้ว ผู้บริโภครับทราบดี สินค้าขนาดเล็กลงในราคาเท่าเดิม... ภาครัฐประสบความสําเร็จในการตรึงราคาสําหรับสินค้าเกษตรทั้งหมู ไก่ ไข่ ไม่สามารถลดปริมาณได้เหมือนสินค้าอื่น ซื้อเนื้อหมู 1 กิโลกรัมก็ต้องชั่งให้เต็มน้ําหนัก ขณะที่มองหาปัจจัยบวกทางการผลิตแทบไม่มี ภาคปศุสัตว์ยังคงประสบปัญหาต้นทุนการผลิตสูง วัตถุดิบอาหารสัตว์ราคาสูงเป็นประวัติการณ์ ตั้งแต่สงครามรัสเซีย-ยูเครน ที่จะครบ 1 ปี ในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ นี้ ราคาวัตถุดิบอาหารสัตว์และปัจจัยการผลิตอื่นๆ ปรับขึ้นเฉลี่ย 30% ทั้ง 2 รายการ ยังมีค่าพลังงาน ค่าไฟฟ้า ที่เดินแถวปรับขึ้นราคากันไม่หยุดยั้ง ที่สําคัญภาครัฐช่วยภาคการผลิตเพียงชั่วคราว ทั้งที่มาตรการกําหนดโควต้านําเข้า มาตรการภาษี และกลไกราคาอยู่ในมือภาครัฐทั้งสิ้น...อยู่ที่ว่าภาครัฐจะเลือกใคร?สําหรับกรณีเนื้อหมูที่ราคาถูกลงเพราะผลผลิตเพิ่มขึ้น เป็นข้อมูลส่วนหนึ่ง ด้านสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ รายงานสถานการณ์สุกรมีชีวิตหน้าฟาร์ม ทุกวันพระเป็นข้อมูลฝั่งเกษตรกรล่าสุดรายงานเมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2566 ว่า การค้าสุกรขุนเข้าสู่วัฏจักรที่ผู้เลี้ยงสุกรทั้งระบบต้องบริหารจัดการกันเอง (พึ่งพาตัวเอง) สุกรขุนมีชีวิตเริ่มผลักดันผ่านด่านเชียงแสน สู่ สปป.ลาว ที่มีราคาใกล้เคียงกับประเทศไทย ขายในประเทศขาดทุนจึงต้องไปขายต่างประเทศหรืออย่างไร? และในรายงานฉบับก่อนหน้านี้ ระบุ ตลาดการค้าสุกรขุนยังคงได้รับผลกระทบจากชิ้นส่วนสุกรลักลอบนําเข้า เพราะผลผลิตในปัจจุบันยังต่ํากว่าความต้องการบริโภค...ราคาในประเทศควรสูงแต่กลับต่ํา ภาครัฐได้ตรวจสอบหรือไม่ถึงสาเหตุที่แท้จริงของราคาที่ลดลง?นอกจากนี้ ต้นทุนวัตถุดิบอาหารสัตว์ยังอยู่ในระดับสูงมาก ประกอบกับปริมาณลูกสุกรพันธุ์ที่ยังไม่เพียงพอส่งผลให้มีการเลี้ยงสุกรขุนให้มีขนาดใหญ่มากขึ้น (ปล่อยให้หมูโตในเล้านานขึ้น ต้นทุนการเลี้ยงเพิ่มขึ้น) กระทบคุณภาพซากที่มีส่วนไขมันมากที่ซ้ําเติมราคาจําหน่ายให้ลดลง และไปอ้างอิงราคาสุกรขุนขนาดปกติ ทําให้หลายภูมิภาคต้องปรับราคาจําหน่ายที่มีการย่อตัวตาม...ประเด็นเหล่านี้ ภาครัฐได้ศึกษาอย่างถ่องแท้หรือไม่? ราคาสุกรมีชีวิตหน้าฟาร์มล่าสุดเฉลี่ยทั่วไทยอยู่ที่ประมาณ 90-96 บาทต่อกิโลกรัม ขณะที่ต้นทุนผลิตทั้งปีที่ผ่านมาของสมาคมฯ อยู่ที่ประมาณ 95 บาทต่อกิโลกรัม ที่สําคัญการปราบปรามชิ้นส่วนสุกรนําเข้าตามนโยบายของนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติจริงไม่เกิน 5% ของจํานวนลักลอบทั้งหมด (แปลว่าหมูเถื่อน เต็มบ้านเต็มเมือง กดราคาหมูไทยให้ต่ําไปด้วย) จึงถึงจุดที่ว่าหมูไทยขอไปตายต่างแดน...ภาครัฐต้องตระหนักว่า “หมูเถื่อน” ลักลอบนําเข้าเป็นชิ้นส่วนแช่แข็ง ไม่ผ่านการตรวจสอบโรคและสารปนเปื้อน โอกาสเป็นหมูติดโรคจากต้นทางได้ จึงขายได้ในราคาต่ํามาก ปะปนอยู่บนเขียงหมูในตลาดสดแบบแยกไม่ออก อันตรายต่อสุขภาพคนไทย ทําร้ายทําเกษตรกรรายย่อย-รายเล็กไทยขาดทุนกิจการเดินหน้าต่อไมได้ เพราะราคาตลาดต่ํากว่าต้นทุนการผลิตที่แท้จริง ภาครัฐอย่าละเลยความเดือดร้อนของเกษตรกร หากต้องพิจารณาอย่างรอบด้านและหาทางปราบ “หมูเถื่อน” ให้สิ้นซาก มีการตรวจสอบทั้งภาคการขายและภาคการผลิต เมื่อนั้นค่อยประกาศว่าราคาเนื้อหมูปรับลดลงแล้วจริงๆพบพระ เกศสุข ที่ปรึกษาด้านปศุสัตว์
10/2/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สำนักพัฒนานโยบายและแผนการประชาสัมพันธ์
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230210191415119
null
อำเภอสังขะ จังหวัดสุรินทร์ ส่งเสริมการเปลี่ยนเมล็ดพันธุ์ข้าว มุ่งให้ชาวนาเปลี่ยนใช้เมล็ดพันธุ์ดีเพาะปลูก เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตข้าว
วันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2566 นายสันทัด แสนทอง รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ เป็นประธานมอบเมล็ดพันธ์ุข้าว เพื่อส่งเสริมการเปลี่ยนเมล็ดพันธ์ข้าว ปี 2566 ณ องค์การบริหารส่วนตําบลดม อําเภอสังขะ จังหวัดสุรินทร์ โดยมีนายสันติ โอฆะพนม นายอําเภอสังขะ นายอภิวัฒน์ พัวภัทรพงศ์ นายกองค์การบริหารส่วนตําบลดม เจ้าหน้าที่ศูนย์ขยายพันธ์ุพืชจังหวัดสุรินทร์และคณะผู้บริหาร ร่วมมอบเมล็ดพันธ์ุข้าวในครั้งนี้ นายสันทัด แสนทอง รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ กล่าวว่า ข้าวเป็นพืชที่มีความสําคัญกับสังคมไทยทั้งทางด้านเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรม การทํานาเป็นอาชีพเกษตรกรรมส่วนใหญ่ของประชากรในประเทศ ประมาณ 4.6 ล้านครัวเรือน สามารถผลิตข้าวได้ปีละกว่า 30 ล้านตันข้าวเปลือก ดังนั้นชาวนาจึงมีความสําคัญอย่างยิ่งในการพัฒนาประเทศ และถึงแม้ว่าประเทศไทยจะเป็นประเทศผู้ส่งออกสินค้าข้าวคุณภาพดีเป็นอันดับต้นๆ ของโลก แต่ผลผลิตเฉลี่ยข้าว ยังมีผลผลิตต่อไร่อยู่ในเกณฑ์ต่ํา ผลผลิตเฉลี่ยเพียง 353 กิโลกรัมต่อไร่ สาเหตุหนึ่งมาจากการใช้เมล็ดพันธุ์ข้าวที่เกษตรกรเก็บไว้เองหลายรอบซึ่งมีคุณภาพต่ํา การที่จะปลูกข้าวให้ได้ผลดีมีปัจจัยหลายอย่าง ทั้งคุณภาพของดิน ปริมาณน้ํา และเทคโนโลยี แต่สิ่งที่สําคัญที่สุดก็คือ เมล็ดพันธุ์ดีที่เหมาะสมกับสภาพพื้นที่ ซึ่งให้ผลผลิตเฉลี่ยสูง ต้านทานต่อโรคและแมลงศัตรูพืชและได้เมล็ดพันธุ์ข้าวที่มีคุณภาพดีตรงตามความต้องการของตลาด จังหวัดสุรินทร์ร่วมกับอําเภอสังขะ องค์การบริหารส่วนตําบลดม จึงได้มีการส่งเสริมให้เกษตรกรเปลี่ยนไปใช้เมล็ดพันธุ์ข้าวคุณภาพดีเพื่อยกระดับปริมาณและคุณภาพผลผลิตข้าว ให้ตรงตามความต้องการของตลาด เกษตรกรสามารถจําหน่ายข้าวเปลือกได้ในราคาที่สูงขึ้น นายสันติ โอฆะพนม นายอําเภอสังขะ กล่าวว่า โครงการส่งเสริมการเปลี่ยนเมล็ดพันธุ์ข้าวปี 2566 ที่องค์การบริหารส่วนตําบลดม ได้มุ่งเน้นส่งเสริมให้ชาวนาสามารถเข้าถึง และได้ใช้เมล็ดพันธุ์ข้าวคุณภาพดี โดยเกษตรกรสามารถเข้าร่วมโครงการได้ผ่านกลุ่มเกษตร เพื่อให้ชาวนาได้มีเมล็ดพันธุ์ข้าวที่ดีสําหรับการเพาะปลูก และขยายพันธุ์ ซึ่งในปี 2566 องค์การบริหารส่วนตําบลดมได้ดําเนินการเปลี่ยนเมล็ดพันธุ์ข้าวคุณภาพดี อีกทั้งยังเป็นการยกระดับปริมาณและคุณภาพผลผลิตข้าว เพื่อให้เกษตรกรได้รับประโยชน์สูงสุดจากโครงการนี้#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
10/2/2023
null
null
สวท.สุรินทร์
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230210201732155
null
เกษตรจังหวัดนครราชสีมา จัดงานวันถ่ายทอดเทคโนโลยีเพื่อเริ่มต้นฤดูกาลผลิตใหม่ (Field Day) ประจำปี 2566 ที่อำเภอปักธงชัย เสริมความรู้เทคโนโลยีและนวัตกรรมทางการเกษตรให้แก่เกษตรกร
วันนี้ (10 ก.พ. 66) ที่กลุ่มเกษตรอินทรีย์ตําบลสําโรง หมู่ที่ 7 บ้านโคกขุนละคร ตําบลสําโรง อําเภอปักธงชัย จังหวัดนครราชสีมา นายภูมิสิทธิ์ วังคีรี รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เป็นประธานเปิดงานวันถ่ายทอดเทคโนโลยีเพื่อเริ่มต้นฤดูกาลผลิตใหม่ (Field Day) ประจําปี พ.ศ. 2566 ครั้งที่ 2 ซึ่งสํานักงานเกษตรจังหวัดนครราชสีมา จัดขึ้นเพื่อกระตุ้นให้มีการใช้เทคโนโลยีและภูมิปัญญาที่มีความเหมาะสมกับพื้นที่ โดยหน่วยงานต่าง ๆ ในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ บูรณาการการทํางานร่วมกัน มีการให้บริการด้านการเกษตรตามภารกิจเพื่อสนับสนุนเกษตรในการเริ่มต้นฤดูกาลผลิตในปีการเพาะปลูกใหม่ รวมทั้งเผยแพร่ให้เกษตรกรรู้จักและใช้ประโยชน์จากศูนย์เรียนรู้การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตร (ศพก.) และศูนย์เครือข่ายที่มีอยู่ในพื้นที่ บุคคลเป้าหมายประกอบด้วยคณะกรรมการศูนย์เรียนรู้การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตร และเกษตรกรในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมานางสมพิส ทองดีนอก เกษตรจังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยว่า งานวันถ่ายทอดเทคโนโลยีเพื่อเริ่มต้นฤดูกาลผลิตใหม่ (Field Day) ประจําปี 2566 ดําเนินการจัดงานทั้งสิ้น 4 ครั้ง ในวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2566 ที่อําเภอด่านขุนทด วันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2566 ที่อําเภอปักธงชัย วันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2566 ที่อําเภอคง และวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2566 ที่อําเภอชุมพวง โดยมีคณะกรรมการศูนย์เรียนรู้การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตร และเกษตรกรเข้าร่วมงานครั้งละ 240 ราย จาก 32 อําเภอๆ ละ 30 ราย รวมทั้งสิ้น 960 ราย เพื่อเปิดโอกาสให้เกษตรกรได้เข้ามาเรียนรู้ รับทราบเทคโนโลยีการผลิตและนวัตกรรมใหม่ ๆ เพิ่มช่องทางการตลาดข้อมูลข่าวสาร การเลือกใช้เทคโนโลยีที่เหมาะสมกับสภาพพื้นที่ เพื่อลดความเสี่ยงในการผลิต ตลอดจนได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้กับเกษตรกรด้วยกันเอง รวมทั้งนักวิชาการ ผู้เชี่ยวชาญในแต่ละสาขา ซึ่งเป็นตัวแทนจากหน่วยงานต่าง ๆ มาร่วมจัดงาน Field Day โดยใช้ศูนย์เรียนรู้การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตร หรือ ศพก. เป็นสถานที่จัดงานและเป็นแหล่งเรียนรู้ทางการเกษตร ที่มีเกษตรกรผู้นําเป็นผู้บริหารจัดการ ภายใต้การสนับสนุนของทุกหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ การจัดงาน Field Day จึงเป็นสัญญาณของการเริ่มต้นฤดูกาลผลิตใหม่ที่เหมาะสมของเกษตรกรสําหรับการจัดงานวัน Field Day ที่กลุ่มเกษตรอินทรีย์ตําบลสําโรง หมู่ที่ 7 บ้านโคกขุนละคร ตําบลสําโรง อําเภอปักธงชัย จังหวัดนครราชสีมา ได้มีการจัดสถานีเรียนรู้ จํานวน 5 สถานี ประกอบด้วย- สถานีเรียนรู้ที่ 1 : เรื่องการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตข้าวโดยศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรนครราชสีมา- สถานีเรียนรู้ที่ 2 : เรื่องดินดี ชีวีมั่นคง โดยสถานีพัฒนาที่ดินจังหวัดนครราชสีมา- สถานีเรียนรู้ที่ 3 : เรื่องสารชีวภัณฑ์ทําเองได้ ใช้ง่าย ปลอดภัย โดยศูนย์ส่งเสริมเทคโนโลยีการเกษตรด้านอารักขาพืช จังหวัดนครราชสีมา- สถานีเรียนรู้ที่ 4 : เรื่องรู้เท่าทัน ป้องกันโรคในสัตว์ โดย ปศุสัตว์จังหวัดนครราชสีมา- สถานีเรียนรู้ที่ 5 : เรื่องสร้างแหล่งอาหารโปรตีนคุณภาพดี มีรายได้ โดยสํานักงานประมงจังหวัดนครราชสีมานอกจากนี้ ยังมีการจัดกิจกรรมและจัดนิทรรศการ การให้บริการของหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และหน่วยงานภาคีต่าง ๆ สังกัดสํานักงานเกษตรจังหวัดนครราชสีมา ตลาดเกษตรกร และการแสดงและจัดจําหน่ายสินค้า/สถาบันเกษตรกร/วิสาหกิจชุมชน/Young Smart Farmer (YSF) รวมทั้งจุดแสดงเทคโนโลยีการเกษตรจากภาคเอกชน#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
10/2/2023
null
นครราชสีมา
สวท.นครราชสีมา
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230211000704178
null
สำนักงานปศุสัตว์อำเภอด่านซ้าย อำเภอด่านซ้าย จังหวัดเลย เกษตรกรขอรับบริการน้ำยาฆ่าเชื้อ วัคซีนอหิวาต์เปิด-ไก่ วัคซีนนิวคาสเซิลและหลอดลมอักเสบติดต่อในไก่
นายสุวัฒน์ มัตราช ปศุสัตว์จังหวัดเลย มอบหมายให้ สํานักงานปศุสัตว์อําเภอด่านซ้าย บริการเกษตรกร บริการเกษตรกรขอรับบริการน้ํายาฆ่าเชื้อ จํานวน 1 ลิตร วัคซีนอหิวาต์เปิด-ไก่ จํานวน 100 โด๊ส วัคซีนรวมนิวคาสเซิลและหลอดลมอักเสบติดต่อในไก่ จํานวน 100 โด๊ส จํานวน 1 รายเป็นนายวรากร แสนประสิทธิ์ บ้านเลขที่ 19 บ้านกกแหนใหม่ หมู่ที่ 9 ตําบลนาดี เลี้ยงพื้นเมือง 87 ตัว พร้อมให้คําแนะนําการผสมน้ํายาฆ่าเชื้อ การทําวัคซีนฯสัตว์ปีก การใช้ยาปฏิชีวนะละลายน้ํา การเลี้ยง การดูแลสุขภาพสัตว์ การป้องกันโรคฯ เพื่อให้เกษตรกรสร้างความเข้มแข็งในการเลี้ยงด้วยตนเอง แก่เกษตรกรผู้ขอรับบริการฯ ณ สํานักงานปศุสัตว์อําเภอด่านซ้าย อําเภอด่านซ้าย จังหวัดเลยจากนั้น สํานักงานปศุสัตว์อําเภอด่านซ้าย ตรวจเยี่ยมให้คําแนะนําการเลี้ยง การดูแลสุขภาพสัตว์ การป้องกันโรคฯ แก่เกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์ จํานวน 1 ราย เป็น นายสํารี พรหมดี บ้านเลขที่ 104 หมู่ที่ 7 ตําบลโคกงาม เลี้ยงโคเนื้อ 12 ตัว ไก่พื้นเมือง 49 ตัว ณ บ้านหนองสนุ่น หมู่ที่ 7 ตําบลโคกงาม อําเภอด่านซ้าย จังหวัดเลย#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
10/2/2023
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
เลย
สวท.ด่านซ้าย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230211131919267
null
หน่วยพิทักษ์สิ่งแวดล้อมที่ 11 ตรวจสอบผลกระทบน้ำเสียจากฟาร์มเลี้ยงสัตว์ จังหวัดนครราชสีมา
วันนี้ (10 ก.พ.66) หน่วยพิทักษ์สิ่งแวดล้อมที่ 11 (นครราชสีมา) โดยนายบัญชา ขุนสูงเนิน ผู้อํานวยการส่วนตรวจและบังคับใช้กฎหมาย และนายยศฐวพงศ์ วัชรมโนภาส นักวิชาการสิ่งแวดล้อมชํานาญการ และเจ้าหน้าที่ พร้อมด้วยศูนย์ดํารงธรรมอําเภอเฉลิมพระเกียรติ และองค์การบริหารส่วนตําบลช้างทอง ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีประชาชน ตําบลช้างทอง อําเภอเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดนครราชสีมา แจ้งข้อร้องเรียนว่าพื้นที่ปลูกมันสําปะหลังได้รับความเสียหายอันเนื่องมาจากน้ําเสียที่ไหลซึมมาจากระบบบําบัดน้ําเสียของฟาร์มเลี้ยงสัตว์ที่อยู่ใกล้เคียง โดยมีผลสรุป ดังนี้1. สภาพพื้นที่บริเวณที่ได้รับความเสียหายประกอบด้วยพื้นที่ทํานาซึ่งมีน้ําท่วมขัง และพื้นที่ปลูกมันสําปะหลัง ด้านทิศตะวันตกเฉียงใต้ใกล้กับบ่อพักน้ําเสียของฟาร์มเลี้ยงไก่ 2. ตรวจพิสูจน์การรั่วซึมของน้ําเสียจากฟาร์มเลี้ยงสัตว์โดยนํารถแบคโฮขุดดินเป็นร่องลึกประมาณ 2 เมตร บริเวณแนวเขตระหว่างฟาร์มกับพื้นที่ทําการเกษตรที่ได้รับผลกระทบ และขุดดินบริเวณพื้นที่ปลูกมันสําปะหลังเป็นร่องลึกประมาณ 2 เมตร ปล่อยให้น้ําไหลซึมเข้าไปในหลุม และตรวจวัดคุณภาพน้ําในบ่อบําบัดของฟาร์ม เปรียบเทียบกับตัวอย่างน้ําในหลุมสํารวจ กับตัวอย่างน้ําในพื้นที่ทําการเกษตรที่ได้รับผลกระทบ พบว่า 2.1 น้ําในบ่อบําบัดของฟาร์มมีค่าของแข็งละลายในน้ําทั้งหมด ระหว่าง 5,300- 8,310 มิลลิกรัม/ลิตร น้ําในหลุมสํารวจบริเวณระหว่างบ่อบําบัดน้ําเสียกับพื้นที่ทําการเกษตร มีค่าของแข็งละลายในน้ําทั้งหมดระหว่าง 190-1,290 มิลลิกรัม/ลิตร และน้ําในพื้นที่ทําการเกษตรที่ได้รับผลกระทบมีค่าของแข็งละลายในน้ําทั้งหมดระหว่าง 180-610 มิลลิกรัม/ลิตร2.2 น้ําในบ่อบําบัดของฟาร์มมีค่าแอมโมเนียทั้งหมด ระหว่าง 5.64- 44.59 มิลลิกรัม/ลิตร น้ําในหลุมสํารวจบริเวณระหว่างบ่อบําบัดน้ําเสียกับพื้นที่ทําการเกษตร มีค่าแอมโมเนียทั้งหมด ระหว่าง 0.22 - 3.52 มิลลิกรัม/ลิตร และน้ําในพื้นที่ทําการเกษตรที่ได้รับผลกระทบมีค่าแอมโมเนียทั้งหมด ระหว่าง 0.26-2.13 มิลลิกรัม/ลิตร3. สํานักงานสิ่งแวดล้อมและควบคุมมลพิษที่ 11 (นครราชสีมา) จะส่งผลการตรวจสอบคุณภาพน้ําแจ้งศูนย์ดํารงธรรมอําเภอเฉลิมพระเกียรติ เพื่อใช้เป็นข้อมูลประกอบการประชุมหารือแนวทางชดเชยเยียวยาผลกระทบที่เกิดขึ้นกับพื้นที่ทําการเกษตรของประชาชน รวมทั้งการปรับปรุงแก้ไขระบบบําบัดน้ําเสียของผู้ประกอบการต่อไป#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
10/2/2023
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
นครราชสีมา
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนครราชสีมา
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230211010622191
null
จังหวัดสุรินทร์จัดตลาดนัดข้าวเปลือก ครั้งที่ 1 ยอดจำหน่ายกว่า 16 ล้านบาท เกษตรกรจำหน่ายข้าวเปลือกได้ราคาสูงกว่าราคาตลาดตันละ 500 บาท
วันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2566 นางพิรุณวรรณน์ จงใจภักดิ์ พาณิชย์จังหวัดสุรินทร์ มอบหมายให้ นักวิชาการพาณิชย์ และเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ดําเนินงานจัดตลาดนัดข้าวเปลือก ปีการผลิต 2565/66 จังหวัดสุรินทร์ โดยสํานักงานพาณิชย์จังหวัดสุรินทร์ ร่วมกับกรมการค้าภายใน และ สกต.สาขาจอมพระ จัดงานตลาดนัดข้าวเปลือก ปีการผลิต 2565/66 จังหวัดสุรินทร์ ครั้งที่ 1 ระหว่างวันที่ 6 - 10 กุมภาพันธ์ 2566 ณ สหกรณ์การเกษตรเพื่อการตลาดลูกค้า ธ.ก.ส.สุรินทร์ จํากัด สาขาจอมพระ อําเภอจอมพระ จังหวัดสุรินทร์โดยวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2566 มีเกษตรกรนําข้าวมาขาย 170 ราย ปริมาณข้าว 311.31 ตัน คิดเป็นมูลค่า 4,473,732.10 บาท ผู้ประกอบการรับชื้อ 3 ราย ราคารับซื้อข้าวหอมมะลิในตลาดนัดข้าวเปลือก ตันละ 14,500 -15,000 บาท สูงกว่าราคาตลาดทั่วไปตันละ 500 บาทยอดสะสม วันที่ 6- 10 กุมภาพันธ์ 2566 มีเกษตรกรขายข้าวรวม 644 ราย ปริมาณข้าว 1,129.10 ตัน คิดเป็นมูลค่า 16,268,032.80 บาท#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
11/2/2023
null
null
สวท.สุรินทร์
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230211015105202
null
จังหวัดอุตรดิตถ์ จัดทำถังขยะเปียกลดโลกร้อนครบ 100 เปอร์เซนต์ เป็น 1 ใน 19 จังหวัดของประเทศไทย
นายสมหวัง พ่วงบางโพ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุตรดิตถ์ เปิดเผยว่า ตามที่จังหวัดอุตรดิตถ์ได้ดําเนินการขับเคลื่อน “จังหวัดสะอาด” ทุกครัวเรือนมีถังขยะเปียกลดโลกร้อน 100% จากข้อมูลการสรุปผลการรายงานการจัดทําถังขยะเปียกลดโลกร้อน ในระบบเมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2566 จังหวัดอุตรดิตถ์ทุกครัวเรือนจัดทําถังขยะเปียกลดโลกร้อนครบ 100 เปอร์เซนต์ เป็น 1 ใน 19 จังหวัดของประเทศไทย ซึ่งมีจังหวัดดําเนินการครบ 100% ได้แก่ สมุทรสงคราม/ลําพูน/อํานาจเจริญ/เลย/ศรีสะเกษ/ยโสธร/พะเยา/มหาสารคาม/สกลนคร/กาฬสินธุ์/ร้อยเอ็ด/นครศรีธรรมราช/นราธิวาส/มุกดาหาร/เชียงราย/อุบลราชธานี/ชลบุรี/อุตรดิตถ์ และนครพนม
11/2/2023
null
อุตรดิตถ์
สวท.อุตรดิตถ์
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230212110429361
null
ค่าฝุ่น PM 2.5 กทม.และปริมณฑลคุณภาพอากาศดีมากต่อเนื่อง ส่วนภาคเหนือและภาคอีสานยังสูงในระดับสีส้มและสีแดงหลายพื้นที่ โดยเฉพาะภาคเหนือระดับสีแดงถึง 4 พื้นที่
ค่าฝุ่น PM 2.5 กรุงเทพมหานครและปริมณฑลคุณภาพอากาศดีมากต่อเนื่อง ส่วนภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือยังสูงในระดับสีส้มและสีแดงหลายพื้นที่ โดยเฉพาะภาคเหนือระดับสีแดงถึง 4 พื้นที่ นายปิ่นสักก์ สุรัสวดี อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) ในฐานะประธานศูนย์แก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศ (ศกพ.) กล่าวว่า วันนี้ (11 ก.พ.66) ค่าฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM 2.5) ในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑลคุณภาพอากาศดีมากถึงปานกลาง โดยค่าฝุ่นยังคงลดลงต่อเนื่องในทุกพื้นที่ จากสภาพอากาศเปิดและมีลมพัดช่วยลดการสะสมของฝุ่นลง ทั้งนี้ ศูนย์แบบจําลองคุณภาพอากาศและภูมิศาสตร์สารสนเทศ กรมควบคุมมลพิษ (คพ.) ได้คาดการณ์สถานการณ์ฝุ่นละออง PM 2.5 ถึงวันที่ 18 กุมภาพันธ์ มีแนวโน้มคุณภาพอากาศอยู่ในเกณฑ์ดี เนื่องจากสภาพอากาศเปิดมากขึ้น และมีลมใต้ที่มีกําลังค่อนข้างแรงช่วยพัดพาฝุ่นละอองออกจากพื้นที่ ขณะที่พื้นที่ภาคเหนือ 17 จังหวัด พบหลายพื้นที่ค่าฝุ่น PM 2.5 ยังสูงในระดับสีส้ม 18 พื้นที่ และระดับสีแดง 4 พื้นที่ บริเวณ ต.หางดง อ.ฮอด และ ต.เมืองนะ อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ // ต.พระบาท อ.เมือง จ.ลําปาง และต.เวียงใต้ อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน อยู่ที่ 91 - 184 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร พร้อมขอความร่วมมือประชาชนงดการการบริหารจัดการเชื้อเพลิงจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลายลง ส่วนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ พบหลายพื้นที่ค่าฝุ่น PM 2.5 ยังสูงในระดับสีส้ม 6 พื้นที่ ทั้งนี้ สามารถติดตามสถานการณ์คุณภาพอากาศได้ทางแอปพลิเคชั่น Air4Thai และ AirBKK
11/2/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230211104841237
null
ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง ลงพื้นที่ติดตาม กำชับ รับฟังการทำงานการแก้ไขสถานการณ์ไฟป่าฯ อำเภอแจ้ห่ม หลังพบจุดความร้อนเกิดขึ้น 200 จุด
นายชัชวาลย์ ฉายะบุตร ผู้ว่าราชการจังหวัดลําปาง นําทีมลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ไฟป่าและหมอกควัน ณ ที่ว่าการอําเภอแจ้ห่ม เนื่องจากสถานการณ์ไฟป่าใน จ.ลําปาง ยังพบลุกลามต่อเนื่อง แม้ว่าทีมเจ้าหน้าที่และอาสาสมัครดับไฟป่าจะระดมสรรพกําลังเร่งดับไฟป่าในพื้นที่ภาคเหนืออย่างต่อเนื่องเป็นระยะเวลากว่าสัปดาห์ โดยจากการตรวจสอบตําแหน่งจุดความร้อน วันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2566 เวลา 02.05 น. จังหวัดลําปางมีจุดความร้อนเกิดขึ้น 200 จุด ส่วนใหญ่เกิดขึ้นในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ 113 จุด ป่าอนุรักษ์ 73 จุด พื้นที่เกษตร 1 จุด พื้นที่ชุมชนและอื่นๆ 7 จุด พื้นที่อ.แจ้ห่ม บนเขตป่าอนุรักษ์ฯ พบการลักลอบจุดไฟป่า สาเหตุเกิดจากการล่าสัตว์และไม่ทราบสาเหตุ ทางอําเภอได้มีการออกล่าตะเวน โดยเครือข่ายชุมชนในพื้นที่ จํานวน 15 เครือข่าย แต่ลักษณะพื้นที่มีความลาดชัน ประกอบกับช่วงเกิดเหตุกลางคืน การลงพื้นที่เข้าไปดับไฟจึงทําได้ยากกว่าปกติทั้งนี้ ในที่ประชุมได้มีมติสําคัญหลายประการ เช่น ให้ตั้งด่านจุดตรวจ จุดสกัดบุคคลที่ต้องสงสัย บุคคลที่ไม่อยู่ในพื้นที่ ป้องกันการเกิดปัญหาไฟป่าฯ ขอความร่วมมือชาวบ้านงดเผาหลังการประกาศห้ามเผาในวันที่ 15 ก.พ. 66 หากพบการเผา จะดําเนินมาตรการทางกฎหมายอย่างเข้มงวด พิจารณาจัดหาอุปกรณ์ที่มีความทันสมัย เสริมเจ้าหน้าที่เข้าไปประจําในหมู่บ้านต่างๆ ในพื้นที่ที่พบว่ามีการเผาบ่อยครั้งโดยผู้ว่าราชการจังหวัดลําปาง ได้เน้นย้ําให้นายอําเภอ นําเอานโยบายของรัฐบาล และทุกกระทรวง กรม เพื่อนําไปสู่การปฏิบัติในพื้นที่ ร่วมกับภาคีเครือข่ายทั้ง 7 ได้แก่ ภาครัฐ ภาควิชาการ ภาคผู้นําศาสนา ภาคเอกชน ภาคประชาชน ภาคประชาสังคม และภาคสื่อมวลชน ทําหน้าที่เป็นผู้ประสานการปฏิบัติในส่วนภูมิภาค และประสานงานร่วมกับผู้นําองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เพื่อความเป็นอยู่ของประชาชน#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILANDอัจฉราพร ปวงจันทร์/สวท.ลําปาง
11/2/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สวท.ลำปาง
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230212135200394
null
สำนักงานทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 6 ร่วมกับ สมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดพังงาลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ว่าด้วยการดำเนินการจัดทำมาตรการลดปริมาณขยะทะเล "มาตรการนำขยะคืนฝั่ง ลดปริมาณขยะทะเล"เป็นต้นแบบขยายผลไปยังพื้นที่อื่นๆของจังหวัดพังงาต่อไป
นายประถม รัสมี ผู้อํานวยการสํานักงานทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 6 กล่าวว่า สํานักงานทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 6 ร่วมกับ นายเลิศศักดิ์ ปนกลิ่น นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดพังงา ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ว่าด้วยการดําเนินการจัดทํามาตรการลดปริมาณขยะทะเล "มาตรการนําขยะคืนฝั่ง ลดปริมาณขยะทะเล" ในพื้นที่ตําบลลําแก่น อําเภอท้ายเหมือง จังหวัดพังงา ระหว่างสํานักงานทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 6 และชุมชนบ้านท่าดินแดง กับภาคีเครือข่ายความร่วมมือ จํานวน 20 หน่วยงาน เพื่อลดปริมาณขยะทะเลในพื้นที่ชุมชนชายฝั่ง เรือประมงพาณิชย์ เรือประมงพื้นบ้าน ผู้ประกอบการท่องเที่ยว และฐานทัพเรือพังงาให้บรรลุผลสําเร็จอย่างมีประสิทธิภาพ เป็นต้นแบบขยายผลไปยังพื้นที่อื่นๆพร้อมกันนี้พลเรือตรี กนกพล พิมพ์ทอง ผู้บัญชาการฐานทัพเรือพังงา เป็นประธานจัดกิจกรรมขยะพารวย สาธิตจัดทําไม้กวาดจากขยะพลาสติก และจัดกิจกรรมเก็บขยะที่ตกค้างในระบบนิเวศป่าชายเลน ชุมชนชายฝั่ง ท่าเทียบเรือ และแหล่งท่องเที่ยวทางทะเล กิจกรรมเก็บขยะใต้น้ํา บริเวณแหล่งปะการังเทียมพิพิธภัณฑ์ใต้น้ํา (เรือ ต.13) เขาหลัก จัดเก็บอวนซึ่งเป็นอวนปูม้า ได้ความยาวประมาณ 500 เมตร จัดเก็บขยะได้น้ําหนักรวมทั้งสิ้น 1,854 กก. ขยะส่วนใหญ่ คือ เสื้อผ้า ของใช้ในครัวเรือน ขวดเครื่องดื่มแก้วพลาสติก มีผู้เข้าร่วมกิจกรรมประกอบด้วย หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน เทศบาลตําบลลําแก่น ผู้ประกอบการท่องเที่ยว ชุมชนชายฝั่ง อาสาสมัครพิทักษ์ทะเล และจิตอาสา จํานวน 300 คน#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
11/2/2023
ภาคใต้
พังงา
สวท.พังงา
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230212142159396
null
ผู้ว่าฯ ลำปาง นำทีมลงพื้นที่ติดตาม กำชับ รับฟังการทำงานการแก้ไขสถานการณ์ไฟป่าฯ ขณะที่ค่า PM 2.5 ช่วงบ่ายวันนี้อยู่ที่ 122 มีผลกระทบต่อสุขภาพ
นายชัชวาลย์ ฉายะบุตร ผู้ว่าราชการจังหวัดลําปาง นําทีมลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ไฟป่าหมอกควัน และการป้องกันการบุกรุกพื้นที่ป่า โดยมี นายอําเภอเมืองลําปาง สํานักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดลําปาง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุมฯ ณ ที่ว่าการอําเภอเมืองลําปางทั้งนี้ สถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 ในพื้นที่จังหวัดลําปางสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยในช่วงบ่ายวันนี้อยู่ที่ 122 มีผลกระทบต่อสุขภาพ สาเหตุหลักเกิดจากการลักลอบจุดไฝเผาป่า ซึ่งที่ประชุมได้มีมติสําคัญ ประกอบด้วย หลังการประกาศห้ามเผาในวันที่ 15 ก.พ.66 หากพบการเผาจะดําเนินมาตรการทางกฎหมายอย่างเข้มงวด ขอความร่วมมือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จัดทํารายงานข้อสั่งการเป็นลายลักษณ์อักษร เพื่อรายงานการปฏิบัติงานให้จังหวัดทราบ เน้นย้ําจัดชุดลาดตระเวนในพื้นที่ไฟไหม้ซ้ําซ้อน การเพิ่มความชุ่มชื่นให้กับต้นไม้ บริเวณสวนสาธารณะ เขตเมืองที่ประชาชนอาศัยอยู่จํานวนมาก เป็นต้นโดยผู้ว่าราชการจังหวัดลําปาง เน้นย้ําว่าต้องดําเนินการอย่างรวดเร็วเฉียบขาด การปฏิบัติงานขอให้ใช้ความรอบคอบและยึดข้อกฎหมายเป็นหลัก ขณะเดียวกันต้องคํานึงถึงความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่อีกด้วย#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
11/2/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สวท.ลำปาง
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230212144007399
null
สำนักงานปศุสัตว์อำเภอด่านซ้าย บริการขอรับและออกใบรับรองฟาร์มที่มีระบบการป้องกันโรค และการเลี้ยงสัตว์ที่เหมาะสม (GFM) ประจำปีงบประมาณ 2566
สํานักงานปศุสัตว์อําเภอด่านซ้าย โดยนายทวีพงศ์ สาระทัศนานันท์ ปศุสัตว์อําเภอด่านซ้ายดําเนินงานการขอรับและออกใบรับรองฟาร์มที่มีระบบการป้องกันโรค และการเลี้ยงสัตว์ที่เหมาะสม (GFM) ประจําปีงบประมาณ 2566 จํานวน 2 ราย เป็นนายราชัน ใจเอื้อ บ้านเลขที่ 14/2 หมู่ที่ 1 ตําบลโคกงาม อําเภอด่านซ้าย เลี้ยงโคเนื้อ 42 ตัว และนางพัชรี เอี่ยมประชา บ้านเลขที่ 182 หมู่ที่ 3 ตําบลโคกงาม อําเภอด่านซ้าย เลี้ยงแพะ 17 ตัว ทั้งนี้ได้ดําเนินการตรวจประเมินสถานที่เลี้ยงสัตว์เบื้องต้นแล้ว ณ บ้านโคกงาม หมู่ที่ 1 บ้านนาเจียง หมู่ที่ 3 ตําบลโคกงาม อําเภอด่านซ้าย จังหวัดเลยจากนั้น สํานักงานปศุสัตว์อําเภอด่านซ้าย มีเกษตรกรขอรับบริการวัคซีนนิวคาสเซิลและหลอดลมอักเสบติดต่อในไก่ จํานวน 200 โดส เกษตรกร 1 ราย เป็นนายฐิติศักดิ์ วังคีรี บ้านเลขที่ 71 บ้านนาเจียง หมู่ที่ 3 ตําบลโคกงาม อําเภอด่านซ้าย เลี้ยงไก่พื้นเมือง 212 ตัว พร้อมให้คําแนะนําการทําวัคซีนฯ สัตว์ปีก การใช้ยาปฏิชีวนะละลายน้ํา การเลี้ยง การดูแลสุขภาพสัตว์ การป้องกันโรคฯ เพื่อให้เกษตรกรสร้างความเข้มแข็งในการเลี้ยงด้วยตนเอง แก่เกษตรกรผู้ขอรับบริการฯ ณ สํานักงานปศุสัตว์อําเภอด่านซ้าย อําเภอด่านซ้าย จังหวัดเลย#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
12/2/2023
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
เลย
สวท.ด่านซ้าย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230212171228419
null
กรุงเทพมหานครร่วมมือกับทุกภาคส่วน แก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก
นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า จากปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก หรือ PM.25 ในพื้นที่กรุงเทพมหานครที่พบช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาพบว่า ปัญหาฝุ่นมีหลายปัจจัยที่ก่อให้เกิด โดยจะเดินหน้าต่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว ซึ่งจะเห็นได้ชัดว่าสามารถเตือนประชาชนได้ และประชาชนเข้าใจถึงปัญหาเรื่องฝุ่นสามารถป้องกันตนเองได้ นับเป็นสิ่งที่สําคัญ ส่วนการจํากัดแหล่งกําเนิดฝุ่น ได้รับความร่วมมือทุกภาคส่วน อาทิ กรมควบคุมมลพิษ รวมถึงการควบคุมมาตรฐาน โดยเชื่อว่ามีเเผนแม่บทของประเทศอยู่แล้วที่ต้องดําเนินการต่อ โดยในอนาคตต้องเร่งการปรับเปลี่ยนใช้รถยนต์ไฟฟ้ามากยิ่งขึ้น การกําจัดเผาวัชพืชภาคการเกษตร ยืนยันว่าทุกหน่วยงานของรัฐบาลและทุกจังหวัดโดยเฉพาะภาคเหนือบริหารจัดการเรื่องดังกล่าวผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวอีกว่าการท่องเที่ยวในพื้นที่กรุงเทพมหานคร พบว่ามีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเดินทางเข้ากรุงเทพมหานครต่อเนื่อง โดยมีตัวเลขขาเข้าของวานนี้มีกว่า 40,000 คน ส่วนตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด-19 ขณะนี้ไม่มีปัญหา ทําให้สถานการณ์โควิด-19 ไม่น่าเป็นห่วงแต่อย่างใด
12/2/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
Radio-สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230212134213388
null
แจ้ง 62 จังหวัด และกรุงเทพมหานคร เฝ้าระวังสถานการณ์ฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และอุณหภูมิลดลง 14-17 กุมภาพันธ์นี้
กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย รายงานว่า จากการติดตามสภาวะอากาศและพิจารณาปัจจัยเสี่ยง ประกอบกับ ประกาศจากกรมอุตุนิยมวิทยา แจ้งว่า ช่วงวันที่ 14-17 กุมภาพันธ์ 2566 บริเวณความกดอากาศสูงกําลังค่อนข้างแรงจากสาธารณรัฐประชาชนจีนระลอกใหม่ จะแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ ในขณะที่ประเทศไทยตอนบนมีอากาศร้อนจะทําให้บริเวณประเทศไทยตอนบน มีพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางพื้นที่ จากนั้นอุณหภูมิจะลดลง กองอํานวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง หรือ กอปภ.ก. จึงได้ประสานแจ้ง 62 จังหวัด ในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลางและกรุงเทพมหานคร เฝ้าระวังและเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์ฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรงและอุณหภูมิลดลง ในระหว่างวันที่ 14–17 กุมภาพันธ์นี้ โดยประสานองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น แจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยทราบล่วงหน้า รวมถึงจัดเตรียมเครื่องมือเครื่องจักรกลสาธารณภัยและทีมปฏิบัติการเข้าประจําพื้นที่เสี่ยง ให้พร้อมเผชิญเหตุและช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ทันที ขอให้ประชาชน ติดตามพยากรณ์อากาศและข้อมูลข่าวสาร จากทางราชการอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะผู้ที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัย ให้ปฏิบัติตามคําเตือนอย่างเคร่งครัด โดยสามารถติดตามประกาศการแจ้งเตือนภัยได้ที่แอปพลิเคชัน “THAI DISASTER ALERT” และหากได้รับความเดือดร้อนจากสาธารณภัย สามารถแจ้งเหตุและขอความช่วยเหลือทางไลน์ “ปภ.รับแจ้งเหตุ1784” รวมถึง สายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง
12/2/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สวท.จันทบุรี
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230212210017454
null
เกษตรกรสวนฝรั่งจังหวัดพิจิตร พัฒนาคุณภาพผลผลิตฝรั่งกิมจู มาตรฐาน GAP จำหน่ายได้ราคาดี สร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภค
นางวรรณี กันเขียว เกษตรกรผู้ปลูกฝรั่งกิมจู อําเภอเมือง จังหวัดพิจิตร เปิดเผยว่า ตนเองได้ปลูกฝรั่งสายพันธุ์กิมจู ในพื้นที่ 22 ไร่ เนื่องจากเป็นสายพันธุ์ที่มีรสชาติหวานกรอบอร่อย นอกจากนี้ ยังพัฒนาคุณภาพผลผลิตเพื่อสร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภค ได้รับรองมาตรฐาน GAP การปฏิบัติทางการเกษตรที่ดีในการผลิตพืชเพื่อให้ได้ผลผลิตที่ดีมีคุณภาพได้มาตรฐานปลอดภัยทั้งต่อผู้ผลิตและผู้บริโภค โดยได้รับการสนับสนุนและคําแนะนําจากสํานักงานเกษตรจังหวัดพิจิตร และกรมวิชาการเกษตร ปัจจุบันได้จําหน่ายผลผลิตที่ตลาดเกษตรกรจังหวัดพิจิตร ทุกวันพฤหัสบดีและจะมีพ่อค้าจากตลาดไท ตลาดสี่มุมเมือง และตลาดในพื้นที่ใกล้เคียงมารับผลผลิตไปจําหน่าย ทําให้สร้างรายได้ให้กับครอบครัวเป็นอย่างดี พร้อมเชิญชวนเกษตรกรพัฒนาผลผลิตของตนเองให้มีคุณภาพ ในการขอรับรองมาตรฐาน GAP ซึ่งจะส่งผลดีด้านราคาจําหน่ายอีกด้วย
12/2/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
กรมประชาสัมพันธ์
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230212210207458
null
นวัตกรรมเครื่องจักรกลแปรรูปกาแฟอะราบิกา ช่วยลดต้นทุน ลดปัญหาการขาดแคลนแรงงาน ผลผลิตมีคุณภาพ
?นายระพีภัทร์ จันทรศรีวงศ์ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร กล่าวว่า ประเทศไทยมีพื้นที่ปลูกกาแฟกว่า 260,000 ไร่ มี 2 สายพันธุ์หลักคือ พันธุ์อะราบิกา ปลูกมากในภาคเหนือ และพันธุ์โรบัสตา ปลูกมากในภาคใต้ กรมวิชาการเกษตรโดยศูนย์วิจัยเกษตรวิศวกรรมเชียงใหม่ สถาบันวิจัยเกษตรวิศวกรรม ดําเนินการวิจัยด้านเครื่องจักรกลเกษตรสําหรับการแปรรูปกาแฟอะราบิกาพร้อมเผยแพร่ โดยเครื่องมือเก็บเกี่ยวกาแฟ ปัจจุบันใช้แรงงานคนเก็บเกี่ยวเป็นหลัก ประสบปัญหาขาดแคลนแรงงาน การเก็บเกี่ยวด้วยคน มีต้นทุนค่าเก็บ 5-8 บาทต่อกิโลกรัมผลสด ซึ่งเป็นต้นทุนที่สูง จึงพัฒนาเครื่องมือเก็บเกี่ยวกาแฟ เครื่องเป็นแบบพกพา ใช้แบตเตอรี่ขนาดเล็ก 12 โวลต์ ผลการทดสอบเครื่องมือเก็บเกี่ยว พบว่า ใช้เครื่องเร็วกว่าคนเก็บ 2 เท่า ลดต้นทุนค่าเก็บเกี่ยวเฉลี่ย 3 บาทต่อกิโลกรัมผลสด หรือประมาณ 1,425 บาทต่อไร่ การใช้เครื่องมือเก็บเกี่ยว ควรเก็บเกี่ยวในช่วงเวลาที่เหมาะสมหรือเก็บเกี่ยวในช่วงที่ผลกาแฟสุกแก่มากกว่า 70 เปอร์เซ็นต์ เครื่องล้างทําความสะอาดผลกาแฟอาราบิกา กระบวนการลอยแยกผลกาแฟ เป็นขั้นตอนที่สําคัญส่งผลต่อคุณภาพกาแฟกะลา ใช้แรงงานมาก หากไม่ทําการล้างสิ่งสกปรกและลอยแยกผลกาแฟที่คุณภาพต่ําออก ทําให้กาแฟกะลาที่ผลิตได้มีคุณภาพต่ํา ส่งผลให้ถูกตัดราคาจําหน่าย ระดับเกษตรกรยังไม่มีเครื่องจักรที่ใช้ในกระบวนการนี้เครื่องล้างทําความสะอาดผลกาแฟอาราบิกา ทํางานทดแทนแรงงานคนได้ เครื่องทํางานได้ 2,000 กิโลกรัมผลกาแฟสดต่อชั่วโมง นอกจากนี้ กรมวิชาการเกษตรได้พัฒนาต้นแบบเครื่องคัดแยกเมล็ดกาแฟกะลาเมือกจะช่วยคัดแยกผลกาแฟที่ไม่ถูกลอกเปลือกและเปลือกที่ปนมากับเมล็ดกาแฟกะลาเมือก เกษตรกรสามารถผลิตเมล็ดกาแฟที่มีคุณภาพและช่วยลดต้นทุนการผลิตเครื่องขัดล้างเมือกกาแฟอะราบิกา กรมวิชาการเกษตรได้พัฒนาเครื่องขัดล้างเมือกกาแฟ มีหลักการทํางานด้วยแกนขัดหมุนในแนวตั้ง โดยป้อนกาแฟเมือกเข้าทางด้านล่างและไหลออกทางด้านบน ติดด้วยก้านกวนเมล็ดกาแฟรอบแกน ความสามารถในการทํางานเฉลี่ย 700 กิโลกรัมต่อชั่วโมง เครื่องขัดล้างเมือกกาแฟจะช่วยลดขั้นตอนและระยะเวลาในการขัดล้างเมือกกาแฟ เกษตรกรสามารถผลิตเมล็ดกาแฟที่มีคุณภาพและช่วยลดต้นทุนการผลิต เชื่อมั่นว่านวัตกรรมเครื่องจักรกลเกษตรสําหรับกาแฟอะราบิกา จะช่วยให้เกษตรกรลดต้นทุนในการผลิต ลดปัญหาการขาดแคลนแรงงาน เกษตรกรสามารถทํางานได้เร็วขึ้นและทันต่อฤดูการเก็บเกี่ยว สุดท้ายจะทําให้ผลผลิตที่ได้มีคุณภาพที่ดีขึ้น ขายได้ราคา ส่งผลต่อคุณภาพชีวิตของเกษตรกร
13/2/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
Radio-สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230213093624499
null
อ.อ.ป. และองค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ร่วมกันพัฒนาองค์ความรู้ด้านงานวิชาการและงานวิจัยสัตวแพทย์เกี่ยวกับการจัดการช้าง ด้วยการใช้นวัตกรรมและเทคโนโลยีใหม่ๆ
องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ (อ.อ.ป.) และองค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ร่วมกันพัฒนาองค์ความรู้ด้านงานวิชาการและงานวิจัยสัตวแพทย์เกี่ยวกับการจัดการช้าง ด้วยการใช้นวัตกรรมและเทคโนโลยีใหม่ๆ นายสุกิจ จันทร์ทอง ผู้อํานวยการองค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ (อ.อ.ป.) กล่าวว่า องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ (อ.อ.ป.) ร่วมกับ องค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ เร่งพัฒนาองค์ความรู้ด้านวิชาการอันเกี่ยวข้องกับการปฏิบัติงานทางการแพทย์ การวิจัย การพัฒนาบุคลากรให้มีความรู้ความสามารถในงานที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติงานทางการสัตวแพทย์ การวิจัยและอนุรักษ์ เช่น การดูแลสุขภาพโภชนาการและสวัสดิภาพของช้าง โรคติดเชื้อต่างๆ พฤติกรรมวิทยา เทคโนโลยีด้านการสืบพันธุ์และพันธุกรรม การอนุรักษ์ช้าง แลกเปลี่ยนความรู้และการให้ความช่วยเหลือทางด้านวิชาการ ซึ่งแนวทางจากนี้จะร่วมกันแลกเปลี่ยนความรู้ ให้การช่วยเหลือทางวิชาการ จัดกิจกรรมหรือเข้าร่วมกิจกรรมของ 2 ฝ่าย ร่วมประชุมในระดับบริหารของ 2 หน่วยงานปีละ 1 ครั้ง และดําเนินงานตามโครงการหรือกิจกรรมในแต่ละครั้งต้องมีการประชุมเพื่อกําหนดรายละเอียดโครงการหรือกิจกรรม รวมถึง หน้าที่ความรับผิดชอบของแต่ละฝ่าย ระยะเวลาดําเนินการ ค่าใช้จ่ายและงบประมาณ เครื่องมือเครื่องใช้และวัสดุอุปกรณ์ภายใต้ระเบียบหลักเกณฑ์และข้อบังคับของแต่ละหน่วยงานเห็นร่วมกัน ทั้งนี้ ความร่วมมือทางวิชาการนี้จะสามารถเพิ่มองค์ความรู้ทางวิชาการสัตวแพทย์ นวัตกรรม และเทคโนโลยีใหม่ๆด้านการอนุรักษ์และบริบาลช้างไทยให้คงอยู่กับประเทศไทยต่อไป
13/2/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230213094129506
null
ค่าฝุ่น PM 2.5 กทม.และปริมณฑลคุณภาพอากาศดีมากต่อเนื่อง ส่วนภาคเหนือและภาคอีสานยังสูงในระดับสีส้มและสีแดงหลายพื้นที่
ค่าฝุ่น PM 2.5 กรุงเทพมหานครและปริมณฑลคุณภาพอากาศดีมากต่อเนื่อง ส่วนภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือยังสูงในระดับสีส้มและสีแดงหลายพื้นที่ พร้อมขอความร่วมมืองดการเผาในที่โล่งและพื้นที่การเกษตรช่วงนี้ นายปิ่นสักก์ สุรัสวดี อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) ในฐานะประธานศูนย์แก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศ (ศกพ.) กล่าวว่า วันนี้ (13 ก.พ.66) ค่าฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM 2.5) ในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑลคุณภาพอากาศดีมากถึงเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ โดยค่าฝุ่นยังคงลดลงในทุกพื้นที่ จากสภาพอากาศเปิดและมีลมพัดช่วยลดการสะสมของฝุ่นลง ยกเว้นบริเวณริมถนนกาญจนาภิเษก เขตบางขุนเทียน อยู่ในระดับสีส้มเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ จากสภาพการจราจรที่ค่อนข้างหนาแน่น ทั้งนี้ ศูนย์แบบจําลองคุณภาพอากาศและภูมิศาสตร์สารสนเทศ กรมควบคุมมลพิษ (คพ.) ได้คาดการณ์สถานการณ์ฝุ่นละออง PM 2.5 ถึงวันที่ 15 กุมภาพันธ์ มีแนวโน้มคุณภาพอากาศอยู่ในเกณฑ์ดี เนื่องจากสภาพอากาศเปิดมากขึ้น และมีลมใต้ที่มีกําลังค่อนข้างแรงช่วยพัดพาฝุ่นละอองออกจากพื้นที่ แต่หลังวันที่ 17 กุมภาพันธ์ไปอาจมีแนวโน้มฝุ่นละอองขึ้นสูงได้บางพื้นที่ ขณะที่พื้นที่ภาคเหนือ 17 จังหวัด พบหลายพื้นที่ค่าฝุ่น PM 2.5 ยังสูงในระดับสีส้ม 14 พื้นที่ และระดับสีแดง 10 พื้นที่ บริเวณ ต.หางดง อ.ฮอด , ต.ช่างเคิ่ง อ.แม่แจ่ม และ ต.เมืองนะ อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ // ต.เวียง อ.เชียงของ จ.เชียงราย // ต.พระบาท อ.เมือง จ.ลําปาง // ต.ลี้ อ.ลี้ จ.ลําพูน // ต.เวียงใต้ อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน // ต.ห้วยโก๋น อ.เฉลิมพระเกียรติ และ ต.ในเวียง อ.เมือง จ.น่าน // ต.บ้านต๋อม อ.เมือง จ.พะเยา และ ต.ธานี อ.เมือง จ.สุโขทัย อยู่ที่ 92 - 178 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร พร้อมขอความร่วมมือประชาชนงดการการบริหารจัดการเชื้อเพลิงจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลายลง สําหรับภาคตะวันออกเฉียงเหนือ พบหลายพื้นที่ค่าฝุ่น PM 2.5 ยังสูงในระดับสีส้ม 3 พื้นที่ และระดับสีแดง 2 พื้นที่ บริเวณ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครพนม และ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.อุบลราชธานี อยู่ที่ 100 - 111 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ทั้งนี้ สามารถติดตามสถานการณ์คุณภาพอากาศได้ทางแอปพลิเคชั่น Air4Thai และ AirBKK
13/2/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230213101251516
null
สหกรณ์ชลบุรี มอบรางวัลสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกรต้นแบบ
นายสนิท ต้นสมบัติ สหกรณ์จังหวัดชลบุรี เป็นประธานมอบโล่รางวัลแก่สหกรณ์ที่ผ่านการคัดเลือกเป็นสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกรต้นแบบที่น้อมนําหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงไปประยุกต์ใช้ในการดําเนินงาน ประจําปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 ของจังหวัดชลบุรี ณ ห้องประชุมสํานักงานสหกรณ์จังหวัดชลบุรี อําเภอเมืองชลบุรี จังหวัดชลบุรีตามที่ กรมส่งเสริมสหกรณ์ได้ดําเนินโครงการขับเคลื่อนปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงในสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกร ตั้งแต่ปี พ.ศ.2551 จนถึงปัจจุบัน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้สหกรณ์และกลุ่มเกษตรกร นําแนวทางตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงไปประยุกต์ใช้ในการดําเนินงานอย่างเป็นรูปธรรม พร้อมทั้งจัดให้มีการประกวดผลงานการขับเคลื่อนปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงในสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกร เพื่อเป็นแนวคิดปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงด้วยตัวอย่างสําเร็จของสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกรที่ได้น้อมนําแนวคิดปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงไปใช้ในการบริหารจัดการต่อไปสําหรับจังหวัดชลบุรี โดยสํานักงานสหกรณ์จังหวัดชลบุรี จัดพิธีมอบโล่รางวัลแก่สหกรณ์ที่ผ่านการคัดเลือกเป็นสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกรต้นแบบที่น้อมนําหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงไปประยุกต์ใช้ในการดําเนินงาน ประจําปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 ของจังหวัดชลบุรี แก่สหกรณ์การเกษตรสัตหีบ จํากัด ซึ่งในการมอบโล่รางวัลฯ ได้รับเกียรติจากรองอธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ (นายปรีชา พันธุ์วา) เป็นประธาน มอบโล่รางวัลแก่ นายประสิทธิ์ เงินชัย พร้อมผู้แทนของสหกรณ์การเกษตรสัตหีบ จํากัด เพื่อให้สหกรณ์แห่งนี้เป็นแบบอย่าง แก่สหกรณ์และกลุ่มเกษตรกรอื่น ในการขยายผลพร้อมนําแนวคิดตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ไปกระตุ้นและสร้างแรงจูงใจ ควบคู่กับการส่งเสริมสมาชิกให้ใช้ชีวิต อย่างพอเพียง เพื่อปลูกจิตสํานึก มีจิตสาธารณะและพัฒนาองค์กรสู่ความเข้มแข็งต่อไปปริญญา ข่าว/ภาพ#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
13/2/2023
ภาคตะวันออก
ชลบุรี
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดชลบุรี
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230213112506557
null
กอนช. เฝ้าระวังฝนฟ้าคะนองทางตอนบนของประเทศบางพื้นที่ช่วง 14 - 17 ก.พ. พร้อมระวังระดับน้ำทะเลหนุนสูงในพื้นที่ลุ่มต่ำริมปากแม่น้ำช่วง 19 – 22 ก.พ.
กองอํานวยการน้ําแห่งชาติ (กอนช.) เฝ้าระวังฝนฟ้าคะนองทางตอนบนของประเทศบางพื้นที่ช่วงวันที่ 14 - 17 กุมภาพันธ์ พร้อมระวังระดับน้ําทะเลหนุนสูงในพื้นที่ลุ่มต่ําริมปากแม่น้ําช่วงวันที่ 19 – 22 กุมภาพันธ์ นายสุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสํานักงานทรัพยากรน้ําแห่งชาติ (สทนช.) ในฐานะรองผู้อํานวยการกองอํานวยการน้ําแห่งชาติ (กอนช.) กล่าวถึงสถานการณ์น้ําภาพรวมของประเทศวันนี้ (13 ก.พ.66) ว่า ภาพรวมภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนล่าง กรุงเทพมหานคร และปริมณฑลมีฝนฟ้าคะนองบางพื้นที่ ส่วนภาคใต้มีฝนน้อย โดย กอนช. ยังติดตามสภาพอากาศในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือช่วงวันที่ 14 – 17 กุมภาพันธ์ เนื่องจากมวลอากาศเย็นกําลังแรงแผ่ปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ ประกอบกับ คลื่นกระแสลมฝ่ายตะวันตกเคลื่อนผ่านภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน และประเทศไทยมีอากาศร้อน ส่งผลให้ประเทศไทยตอนบนเกิดพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางแห่ง รวมทั้ง ต้องเฝ้าระวังระดับน้ําทะเลหนุนสูงในพื้นที่ลุ่มต่ําริมปากแม่น้ํา หลังกรมอุทกศาสตร์ กองทัพเรือ และสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ํา (องค์การมหาชน) ได้คาดการณ์น้ําทะเลหนุนสูงช่วงวันที่ 19 – 22 กุมภาพันธ์ โดยระดับน้ําทะเลหนุนจะขึ้นสูงสุดในวันที่ 20 กุมภาพันธ์อาจก่อให้เกิดน้ําเค็มรุกตัวเข้าสู่บริเวณปากแม่น้ําในพื้นที่ลุ่มต่ําริมชายฝั่งทะเลอ่าวไทย ส่งผลกระทบต่อคุณภาพน้ําใช้อุปโภค-บริโภค และการใช้น้ําเพื่อการเกษตร จึงเน้นย้ําให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกันบริหารจัดการน้ําและควบคุมค่าความเค็มบริเวณแม่น้ําเจ้าพระยา และเตรียมพร้อมรับมือและระวังน้ําเค็มรุกต่อเนื่อง เพื่อแก้ปัญหาคุณภาพน้ําช่วงน้ําทะเลหนุนตลอดช่วงแล้งนี้
13/2/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230213104744529
null
สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดลำปาง เตือนประชาชนดูแลสุขภาพ เนื่องจากคุณภาพอากาศอยู่ในระดับมีผลกระต่อสุขภาพ
วันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2565 สํานักงานสาธารณสุขจังหวัดลําปาง เปิดเผยว่า สถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 เฉลี่ย 24 ชั่วโมง ในพื้นที่จังหวัดลําปางอยู่ในระดับเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ ถึงมีผลกระทบต่อสุขภาพ โดยที่สถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศ ต.พระบาท อ.เมืองลําปาง พบค่า PM2.5 เท่ากับ 135 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร และที่สถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศ ต.สบป้าด ต.บ้านดง และ ต.แม่เมาะ อ.แม่เมาะ ลําปาง พบค่า PM2.5 อยู่ที่ระดับ 65-84 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตรขอให้ประชาชนทั่วไป ลด/งด เวลาทํากิจกรรมออกนอกบ้าน หลีกเลี่ยงกิจกรรมหรือออกกําลังกายกลางแจ้ง สวมหน้ากากอนามัยเมื่ออยู่นอกบ้าน หากมีอาการผิดปกติควรพบแพทย์ สําหรับกลุ่มเด็กเล็ก หญิงมีครรภ์ ผู้สูงอายุ และผู้มีโรคประจําตัว งดการทํากิจกรรมนอกบ้าน สวมหน้ากากอนามัยเมื่ออยู่นอกบ้าน หากมีอาการผิดปกติให้รีบพบแพทย์#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
13/2/2023
ภาคเหนือ
ลำปาง
สวท.ลำปาง
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230213113132561
null
สำนักงานเกษตรอำเภอกันตัง จังหวัดตรัง ลงพื้นที่ให้บริการขึ้นทะเบียนและปรับปรุงทะเบียนเกษตรกร ปี 2566
นางบุญญาพร กายเพ็ชร นักวิชาการส่งเสริมการเกษตรชํานาญการปฏิบัติราชการแทนเกษตรอําเภอกันตัง มอบหมายให้นางสาวสุคน ศรีเกตุ นักวิชาการส่งเสริมการเกษตร ลงพื้นที่ให้บริการขึ้นทะเบียนและปรับปรุงทะเบียนเกษตรกร ปี 2566 ณที่ทําการหมู่บ้าน หมู่ที่ 4 ตําบลกันตังใต้ อําเภอกันตัง จังหวัดตรัง โดยมีนายทวีศักดิ์ เกาะสมัน ผู้ใหญ่บ้านและผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 4 ตําบลกันตังใต้ ช่วยประสานงานและบริการเกษตรกรที่มาปรับปรุงสมุดทะเบียน มีเกษตรกรมาใช้บริการจํานวน 21 ราย ทั้งนี้ เพื่อให้ข้อมูลการปลูกพืชในพื้นที่มีความถูกต้อง เป็นปัจจุบันและเพื่อรองรับโครงการหรือมาตรการของต่างๆ จากทางภาครัฐ สําหรับการขึ้นทะเบียนและปรับปรุงทะเบียนเกษตรกรในพื้นที่อําเภอกันตังนั้น เกษตรกรจะต้องนําเอกสารสิทธิ์ที่ดินตัวจริงหรือในกรณีติดจํานอง ให้นําสําเนาที่มีการรับรองจากสถาบันการเงินนั้นๆ มายื่นแสดงเพื่อขอปรับปรุงข้อมูลให้เป็นปีปัจจุบัน ณ สํานักงานเกษตรอําเภอกันตัง ได้ในวันและเวลาราชการ หรือที่จุดให้บริการในพื้นที่ ที่มีการให้บริการตามความเหมาะสม#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
13/2/2023
ภาคใต้
ตรัง
สวท.ตรัง
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230213120037576
null
เจ้าหน้าที่สำนักงานเกษตรอำเภอเมืองตรัง ติดตามการดำเนินงานของศูนย์จัดการดินปุ๋ยชุมชนบ้านโพธิ์ โดยสมาชิกได้รวมกลุ่มผลิตปุ๋ยอินทรีย์ไว้ใช้เอง เพื่อลดต้นทุนการผลิต
นางนิตยา จันทร์ประทีป เกษตรอําเภอเมืองตรัง เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่สํานักงานเกษตรอําเภอเมืองตรัง เยี่ยมเยียน ศูนย์จัดการดินปุ๋ยชุมชนบ้านโพธิ์ โดยสมาชิกมีการดําเนินกิจกรรมรวมกลุ่มผลิตปุ๋ยอินทรีย์ไว้ใช้เอง เพื่อลดต้นทุนการผลิต สมาชิกของกลุ่มมีการนําปุ๋ยอินทรีย์ใช้กับ ผักกาดขาว ทุเรียน กาแฟ พืชผัก ไม้ผลและใช้ปุ๋ยอินทรีย์ร่วมกับปุ๋ยเคมีในยางพารา ณ ศูนย์จัดการดินปุ๋ยชุมชน หมู่ที่ 9 ตําบลบ้านโพธิ์ อําเภอเมืองตรัง จังหวัดตรังสําหรับศูนย์จัดการศัตรูพืชชุมชน (ศจช.) จัดตั้งขึ้นจากการรวมกลุ่มของเกษตรกรเพื่อการจัดการศัตรูพืชในพื้นที่ของตนเองและชุมชน โดยสมาชิกศูนย์จัดการศัตรูพืชชุมชนได้รับการถ่ายทอดความรู้จากเจ้าหน้าที่ส่งเสริมการเกษตร และนําความรู้ไปดําเนินการจัดการศัตรูพืชด้วยตนเอง ซึ่งกรมส่งเสริมการเกษตรใช้ ศจช. เป็นกลไกและเครือข่ายของการจัดการศัตรูพืช ในการแก้ปัญหาให้กับเกษตรกรจากการระบาดของศัตรูพืชและเป็นศูนย์กลางการพัฒนาเกษตรกร ชุมชน และท้องถิ่น โดยใช้เทคนิคการเรียนรู้แบบมีส่วนร่วม (participatory learning) ตามกระบวนการโรงเรียนเกษตรกร(Farmer Field School : FFS) เพื่อให้สามารถจัดการศัตรูพืชได้ด้วยตนเองอย่างครบวงจรและยั่งยืน โดยใช้เทคโนโลยีการควบคุมศัตรูพืชที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมซึ่งจะนําไปสู่ความเข้มแข็งในอาชีพเกษตรกรรม และรักษาสมดุลของระบบนิเวศทางการเกษตร พร้อมยกระดับคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ของเกษตรกรให้ดีขึ้นโดยมีเกษตรกร ชุมชน และหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องร่วมดําเนินการ#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
13/2/2023
ภาคใต้
ตรัง
สวท.ตรัง
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230213120229577
null
เกษตรกรชาวตรัง คิดค้น "มะนาวพันธุ์ศรีทองดำ" มะนาวสายพันธุ์ใหม่กินได้ทั้งเปลือก ไม่มีรสขม แถมรสชาติยังเปรี้ยวเหมือนมะนาวทั่วไป
นายประสิทธิ์ จิตรสุวรรณ อายุ 66 ปี เกษตรกรชาวตรัง ซึ่งมีพื้นที่ปลูกมะนาวประมาณ 2 ไร่ และได้ขยายพื้นที่ปลูกเพิ่มอีก 5 ไร่ ณ หมู่ที่ 8 ตําบลนาชุมเห็ด อําเภอย่านตาขาว จังหวัดตรัง โดยนายประสิทธิ์ จิตรสุวรรณ ได้คิดค้นมะนาวสายพันธุ์ใหม่กินได้ทั้งเปลือก ไม่มีรสขม แถมรสชาติยังเปรี้ยวเหมือนมะนาวทั่วไป และตั้งชื่อว่า "มะนาวพันธุ์ศรีทองดํา" ได้จากการนํายอดของมะนาวพันธุ์ตาฮิติ มาเสียบเข้ากับส้มโอพันธุ์ปัตตาเวีย เพียง 8 เดือน มะนาวก็จะออกดอกและให้ผลผลิตดกเต็มต้นตลอดทั้งปี สามารถปลูกได้ทั้งกลางแจ้ง ในที่ร่มรําไร และในกระถาง ชาวบ้านเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า มะนาวแก้ขัด มีผลใหญ่ คั้นน้ําได้เยอะ เปลือกอ่อนนุ่มคล้ายส้มโอ แต่ไม่มีรสขม ทําให้เป็นที่ต้องการของตลาดเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะร้านอาหารตามสั่ง ร้านส้มตํา โรงแรมและภัตตาคารที่ต้องใช้มะนาวจํานวนมากต่อวัน อีกทั้งยังทนแล้งได้ดี มีโรคและแมลงรบกวนน้อย อย่างไรก็ตาม หลังประสบความสําเร็จมานานกว่า 5 ปี เกษตรกรจึงตอนกิ่งขายราคากิ่งละ 50-100 บาท ตามออร์เดอร์ เพื่อไม่ให้กิ่งตอนเน่าเสีย และปัจจุบันเกษตรกรมีการแปรรูปหลากหลายเมนูด้วยกันคือ น้ําอัญชันมะนาว จําหน่ายแก้วละ 20 บาท วุ้นแก้วมะนาว (110 กรัม) จําหน่ายกล่องละ 40 บาท ส่วนผลสดเก็บขายทุกวัน ๆ ละไม่ต่ํากว่า 20 กิโลกรัม จําหน่ายกิโลกรัมละ 50 บาท (ไม่ว่าราคาตลาดของมะนาวจะขึ้นหรือลง เกษตรกรก็ยืนอยู่ที่กิโลกรัมละ 50 บาท) ทําให้เกษตรกรมีรายได้เฉลี่ยต่อเดือนไม่ต่ํากว่า 10,000 บาท (สนใจเยี่ยมชมสวนหรือติดต่อสั่งซื้อผลผลิตมะนาว และกิ่งพันธุ์ได้ที่ นายประสิทธิ์ จิตรสุวรรณ โทร.089-2969753)#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
13/2/2023
ภาคใต้
ตรัง
สวท.ตรัง
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230213120344578
null
เกษตรอำเภอนาโยง ร่วมกับเกษตรจังหวัดตรัง จัดเวทีวิเคราะห์ศักยภาพกลุ่มพื้นที่ชุมชน และจัดทำแผนการผลิตรายบุคคล IFPP ให้แก่กลุ่มแม่บ้านเกษตรกรบ้านป่ายางสามัคคี
นางสาวรัชนี นิลละออ เกษตรอําเภอนาโยง มอบหมายให้นางสุมาลี เสมอเชื้อ นักวิชาการส่งเสริมการเกษตรปฏิบัติการ สํานักงานเกษตรอําเภอนาโยง ร่วมกับเจ้าหน้าที่กลุ่มส่งเสริมและพัฒนาเกษตรกร สํานักงานเกษตรจังหวัดตรัง จัดเวทีวิเคราะห์ศักยภาพกลุ่มพื้นที่/ชุมชน และจัดทําแผนการผลิตรายบุคคล IFPP เพื่อสร้างรายได้ระดับชุมชนให้แก่กลุ่มแม่บ้านเกษตรกรบ้านป่ายางสามัคคี ณ กลุ่มแม่บ้านเกษตรกรบ้านป่ายางสามัคคี ม.4 ตําบลนาโยงเหนือ อําเภอนาโยง จังหวัดตรัง เพื่อสนับสนุนการสร้างและใช้ประโยชน์จากแหล่งอาหารในชุมชน สําหรับสร้างรายได้ หรือลดรายจ่ายให้ครัวเรือนและชุมชน เพื่อให้เกิดความมั่นคงด้านอาหารในระดับชุมชน โดยมีเกษตรกรเป้าหมาย จํานวน 15 ราย ทั้งนี้ การทําแผนผลิตรายบุคคล (Individual Farm Production Plan-IFPP) เพื่อส่งเสริมให้เกษตรกรได้นําไปบริหารจัดการกิจกรรมทางการเกษตร ได้เห็นประโยชน์ ความสําคัญและวิธีการดําเนินงานโครงการ วิเคราะห์จัดทําแผนรายแปลง เป้าหมายการพัฒนา ข้อมูลแผนการผลิตรายบุคคล โดยปัญหาการผลิตที่สําคัญของไทย ได้แก่ ต้นทุนการผลิตต่อไร่สูง และผลผลิตต่อไร่ต่ํา จึงมีจําเป็นต้องวิเคราะห์จัดทําแผนรายแปลงและจัดทําแผนธุรกิจ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต ให้มีต้นทุนการผลิตต่ํา โดยส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีเพื่อเพิ่มผลผลิตต่อไร่ และลดค่าใช้จ่ายในการผลิตให้ต่ําลง ให้เหมาะสมตามสภาพปัญหา ศักยภาพ และความต้องการของพื้นที่ เพื่อเพิ่มศักยภาพการผลิตของเกษตรกรต่อไป #สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
13/2/2023
ภาคใต้
ตรัง
สวท.ตรัง
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230213120545580
null
เกษตรระยอง ติวเข้มเจ้าของสวนผลไม้ท่องเที่ยวเชิงเกษตรสร้างความเข้มแข็ง-เพิ่มมูลค่าสินค้าเกษตร หวังดึงนักท่องเที่ยวกระตุ้นเศรษฐกิจฐานราก
เกษตรจังหวัดระยอง เปิดสัมมนาท่องเที่ยวเชิงเกษตรแก่เกษตรกรผู้ประกอบการสวนท่องเที่ยวเชิงเกษตรในพื้นที่ มุ่งสร้างความเข้มแข็ง ส่งเสริมการเพิ่มมูลค่าสินค้าเกษตร เพื่อดึงนักท่องเที่ยวเข้ามาในพื้นที่เพิ่มขึ้น เป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจฐานรากเมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 13 ก.พ.66 ที่ห้องประชุมโรงแรมโกลเด้นซิตี้ระยอง อ.เมือง จ.ระยอง ว่าที่ ร.ต.พิรุณ เหมะรักษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง เป็นประธานเปิดการสัมมนาท่องเที่ยวเชิงเกษตรแก่เกษตรกรผู้ประกอบการสวนท่องเที่ยวเชิงเกษตรทั้ง 8 อําเภอของจังหวัดระยอง จํานวน 80 ราย มี น.ส.วรนุช สีแดง เกษตรจังหวัดระยอง กล่าวรายงาน ในงานมีการบรรยายความรู้เรื่อง สถานการณ์การท่องเที่ยวในปัจจุบัน การบริหารจัดการแหล่งท่องเที่ยว และมาตรฐานแหล่งท่องเที่ยว การสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผลผลิตทางการเกษตร มาตรฐานผลิตภัณฑ์ และการตลาด แผนธุรกิจเพื่อเข้าถึงแหล่งเงินทุนน.ส.วรนุช สีแดง เกษตรจังหวัดระยอง กล่าวว่า ปัจจุบันจังหวัดระยอง มีแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร ประเภทสวนผลไม้ที่เป็นผลไม้ขึ้นชื่อ เช่น ทุเรียน มังคุด เงาะ สละ ลําไย และอื่นๆ อีกมากมาย รวม 83 แหล่งท่องเที่ยว ใน 8 อําเภอ ประกอบด้วย อําเภอเมืองระยอง จํานวน 32 แห่ง อําเภอแกลง 22 แห่ง อําเภอบ้านค่าย 8 แห่ง อําเภอวังจันทร์ 7 แห่ง อําเภอปลวกแดง 5 แห่ง อําเภอเขาชะเมา อําเภอนิคมพัฒนา และอําเภอบ้านฉาง อําเภอละ 3 แห่ง ซึ่งการสัมมนาท่องเที่ยวเชิงเกษตรแก่เกษตรกรผู้ประกอบการสวนท่องเที่ยวเชิงเกษตรในพื้นที่ดังกล่าว มุ่งเน้นเพื่อสร้างความเข้มแข็ง และส่งเสริมการเพิ่มมูลค่าสินค้าเกษตรให้แก่เกษตรกรผู้ประกอบการท่องเที่ยวเชิงเกษตร การบริหารจัดการแหล่งท่องเที่ยว มาตรฐานแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร ที่สามารถสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยว และมีการประชาสัมพันธ์แหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรเชิญชวนให้นักท่องเที่ยวเข้ามาเที่ยวในจังหวัดระยองเพิ่มขึ้น เป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจฐานราก เกิดการสร้างงาน สร้างรายได้ กระจายรายได้สู่ชุมชน นําไปสู่การพึ่งพาตนเองและพัฒนาเป็นผู้ประกอบการที่มีศักยภาพ เกิดแหล่งท่องเที่ยวที่ได้รับการรับรองมาตรฐานในระดับสากลต่อไป#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
13/2/2023
ภาคตะวันออก
ระยอง
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดระยอง
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230213121057583
null
กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดพะเยา ให้อำเภอและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ดำเนินการลดฝุ่นละอองและเพิ่มความชุ่มชื้นในอากาศในพื้นที่ที่เกิดไฟป่าพร้อมกันทั้งจังหวัด
ว่าที่ร้อยตรี ณรงค์ โรจนโสทร ผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยา ในฐานะผู้อํานวยการจังหวัดพะเยา เปิดเผยว่า กองอํานวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดพะเยา ได้ติดตามสถานการณ์ไฟป่าหมอกควันและฝุ่นละอองขนาดเล็ก พบว่า วันนี้ (13 ก.พ.66) ปริมาณคุณภาพอากาศฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 อยู่ที่ 146 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร , PM 10 อยู่ที่ 165 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร และค่า AQI หรือ ดัชนีคุณภาพอากาศ อยู่ที่ 256 ซึ่งอยู่ในเกณฑ์มีผลกระทบต่อสุขภาพทั้งนี้ สถานการณ์คุณภาพอากาศในพื้นที่จังหวัดพะเยาค่า PM 2.5 ได้เพิ่มสูงขึ้นในระดับมีผลกระทบต่อสุขภาพ และมีผลกระทบต่อประชาชนในพื้นที่จังหวัดพะเยา เพื่อเป็นการลดผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนในพื้นที่ จึงให้อําเภอรวมถึงองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่รับผิดชอบทุกแห่ง นํารถบรรทุกน้ําดับเพลิงระดมฉีดพ่นละอองน้ํา เพื่อลดฝุ่นละอองและเพิ่มความชุ่มชื้นในอากาศในพื้นที่ที่เกิดไฟป่า หรือแหล่งพื้นที่ชุมชนสําคัญพร้อมกันทั้งจังหวัดพะเยา ในวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2566 และดําเนินการทุกวันๆ ละ 2 ครั้ง (เช้า - เย็น) จนกว่าสถานการณ์จะดีขึ้นนอกจากนี้ให้อําเภอแจ้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กํานัน ผู้ใหญ่บ้าน ประชาสัมพันธ์ข้อมูลข่าวสารในทุกช่องทาง เช่น เสียงตามสายประจําหมู่บ้าน วิทยุโทรทัศน์ท้องถิ่น รถกระจายเสียงเคลื่อนที่ ในการชี้แจงทําความเข้าใจการห้ามเผาป่า ห้ามเผาเศษวัสดุทางการเกษตร การจับกุมผู้ลักลอบเผาป่า เพื่อให้ประชาชนตระหนักถึงอันตรายและผลกระทบของการเผาป่า และให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จัดชุดลาดตระเวนในพื้นที่ไฟไหม้ซ้ําช้อนและพิจารณาแนวทางในการเสริมเจ้าหน้าที่เข้าไปประจําในหมู่บ้านต่างๆ เพื่อเฝ้าระวังการลอบเผาป่าในพื้นที่ที่พบว่ามีการเผาบ่อยครั้ง#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
13/2/2023
ภาคเหนือ
พะเยา
สวท.พะเยา
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230213145717637
null
ปศุสัตว์จันทบุรี ร่วมกับด่านกักกันสัตว์ พัฒนามาตรฐานการชำแหละเนื้อสัตว์ สร้างความปลอดภัยแก่ผู้บริโภค
(13 ก.พ.66) เวลา 09.00 น. น.สพ.ชาติชาย ยิ้มเครือ ปศุสัตว์จังหวัดจันทบุรี ร่วมกับ นายสมหวัง ทองมั่นคง หัวหน้าด่านกักกันสัตว์จันทบุรี น.สพ.ปราโมช พวงชมพู หัวหน้ากลุ่มพัฒนาคุณภาพสินค้าปศุสัตว์ เสริมสร้างทักษะ และความรู้เกี่ยวกับกระบวนการชําแหละเนื้อสัตว์แก่ผู้ประกอบการประกอบกิจการฆ่าสัตว์ที่ได้รับอนุญาตทั้งหมด จํานวน 21 ราย ณ ห้องประชุมสํานักงานปศุสัตว์จังหวัดจันทบุรี พร้อมใบประกาศนียบัตรให้แก่ผู้เข้าร่วมอบรม เพื่อให้นําความรู้ไปพัฒนากระบวนการชําแหละเนื้อสัตว์ ให้ได้มาตรฐาน ได้เนื้อสัตว์ที่ถูกสุขลักษณะ และเป็นไปตามกฎกระทรวงว่าด้วยการประกอบกิจการฆ่าสัตว์ พ.ศ.2564 ที่ออกตามความพระราชบัญญัติควบคุมการฆ่าสัตว์เพื่อการจําหน่ายเนื้อสัตว์ พ.ศ.2559 ซึ่งกําหนดให้สถานที่ชําแหละเนื้อสัตว์ ต้องมีมาตรการป้องกันไม่ให้เนื้อสัตว์ปนเปื้อนสิ่งสกปรก มีการทําสลบสัตว์ มีการทําความสะอาดและฆ่าเชื้อโรคพื้น ผนัง อาคาร และวัสดุอุปกรณ์ ได้แก่ เขียง มีด อย่างสม่ําเสมอ จัดแบ่งพื้นที่โรงชําแหละเนื้อสัตว์เป็นส่วนสะอาดและส่วนสกปรก เพื่อป้องกันการปนเปื้อนเชื้อโรค มีการรวบรวม กําจัดสิ่งปฏิกูล ขยะมูลฝอย การระบายน้ําเสียที่มีประสิทธิภาพ ผู้ปฏิบัติงานได้รับการตรวจสุขภาพประจําปีว่าไม่เป็นโรคติดต่อร้ายแรง และเนื้อสัตว์ต้องได้รับการตรวจโรคจากพนักงานตรวจโรคสัตว์ประจําโรงชําแหละเนื้อสัตว์ก่อนนําออกไปจําหน่ายที่ตลาด เพื่อให้ได้เนื้อสัตว์ที่สด สะอาด ปลอดภัยต่อผู้บริโภค และกระบวนการชําแหละสัตว์ไม่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม เช่น เสียงดัง กลิ่นเหม็น และน้ําเสีย ทั้งนี้ ผู้ประกอบกิจการฆ่าสัตว์โดยไม่ได้รับอนุญาตมีความผิดตามกฎหมาย กําหนดโทษจําคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกินสองแสนบาท หรือทั้งจําทั้งปรับ#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
13/2/2023
ภาคตะวันออก
จันทบุรี
สวท.จันทบุรี
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230213150423639
null
จังหวัดแพร่ ใกล้วิกฤติ ดาวเทียมตรวจพบจุดความร้อนจากการเผาป่า วันเดียวกว่า 100 จุด ผู้ว่าฯ แพร่สั่งศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ ทบทวนมาตรการประกาศปิดป่า - ห้ามจำหน่ายของป่าในเขตทาง และบังคับใช้กฎหมายเข้มงวด
วันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2566 นายชุติเดช มีจันทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ในฐานะผู้บัญชาการเหตุการณ์ ได้รับรายงานพบจุดความร้อน (Hot Spot) ในพื้นที่จังหวัดแพร่ จากดาวเทียม Suomi NPP ระบบ VIIRS ช่วงเวลา 22.00 - 02.00 น. พบจุดความร้อน 100 จุด สูงสุดนับตั้งแต่จังหวัดแพร่ได้ออกประกาศ ขอความร่วมมือทุกพื้นที่ “งดการเผาทุกกรณี” 89 วัน ระหว่างวันที่ 1 กุมภาพันธ์-30 เมษายน 2566 จุดความร้อนที่เกิดขึ้นมากกว่า ร้อยละ 90 เกิดขึ้นในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ และป่าอนุรักษ์ โดยก่อนหน้านี้ที่ประชุมเตรียมพร้อมด้านการป้องกันและควบคุมไฟป่าประจําปี 2566 มีมติให้หน่วยงานรับผิดชอบที่พบการเกิดจุด Hotspot ในพื้นที่ของตนได้ดําเนินการตรวจสอบ และบูรณาการกําลังเข้าดับไฟทันทีได้รับข้อมูล พร้อมรายงานผลภายในเวลา 16.00 น ของวันที่ได้รับแจ้ง ขณะเดียวกัน ผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ได้เน้นย้ําทุกหน่วยงานเร่งประชาสัมพันธ์เชิงรุกสร้างความเข้าใจ ขอความร่วมมือประชาชน และหน่วยงานทุกพื้นที่ หากพบเห็นการเผาทุกกรณีให้แจ้งกํานัน ผู้ใหญ่บ้าน องค์การปกครองส่วนท้องถิ่น พื้นที่ใครให้หน่วยนั้นรับผิดชอบ หากไม่สามารถดําเนินการได้ ให้แจ้งศูนย์บัญชาการเหตุการณ์อําเภอเข้าไปช่วยดับไฟโดยเร็วที่สุด เพื่อไม่ให้ลุกลาม สร้างความเสียหาย และรายงานให้จังหวัดทราบอย่างต่อเนื่องจากการเพิ่มขึ้นต่อเนื่องของจุดความร้อนจากการเผาป่า ช่วงวันหยุดที่ผ่านมา ส่งผลให้ปริมาณฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน หรือ PM 2.5 ในพื้นที่จังหวัดแพร่ เกินค่ามาตรฐานอยู่ในเกณฑ์เริ่มส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยง เด็ก คนชรา หญิงมีครรภ์ และผู้ป่วยที่มีโรคประจําตัวในกลุ่มโรคทางเดินหายใจ โรคหัวใจและหลอดเลือด จึงให้ศูนย์ประชาสัมพันธ์ร่วมแจ้งเตือนประชาชนให้เฝ้าระวังสุขภาพอย่างใกล้ชิด หากมีอาการ ไอ หายใจลําบาก แน่นหน้าอก ปวดศีรษะ หัวใจเต้นไม่เป็นปกติ คลื่นไส้ อาเจียน อ่อนเพลีย ให้รับปรึกษาแพทย์ทันทีผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ ได้สั่งการให้ศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละอองขนาดเล็กจังหวัดแพร่ และศูนย์ฯ อําเภอ, องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น วิเคราะห์สาเหตุและทบทวนมาตรการในการรับมือสถานการณ์ไฟป่าและหมอกควันในพื้นที่ พร้อมกําชับกํานันผู้ใหญ่บ้าน แจ้งเตือนและขอความร่วมมือประชาชนผ่านทางหอกระจายข่าวประจําหมู่บ้านอย่างต่อเนื่อง“หากสถานการณ์ไม่ดีขึ้น ให้ปรับแผนและมาตรการตามประกาศจังหวัดแพร่ เช่น การประกาศปิดป่า ห้ามจําหน่ายของป่าในเขตทาง และบังคับใช้กฎหมายที่เข้มงวด เพื่อลดการเผาและจุดความร้อน สาเหตุของการเกิดหมอกควันและฝุ่นละอองขนาดเล็กในจังหวัดแพร่ให้ลดลงมากที่สุด” #สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
13/2/2023
ภาคเหนือ
แพร่
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดแพร่
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230213150312638
null
เกษตรจังหวัดระยอง จัดสัมมนาท่องเที่ยวเชิงเกษตร สร้างความเข้มแข็งและเพิ่มมูลค่าสินค้าเกษตรให้เกษตรกรผู้ประกอบการท่องเที่ยวเชิงเกษตร
นางสาววรนุช สีแดง เกษตรจังหวัดระยอง เปิดเผยว่า การจัดสัมมนาท่องเที่ยวเชิงเกษตร ให้เกษตรกรผู้ประกอบการท่องเที่ยวเชิงเกษตร จังหวัดระยอง ในครั้งนี้ เพื่อสร้างความเข้มแข็ง และส่งเสริมการเพิ่มมูลค่าสินค้าเกษตรให้เกษตรกรผู้ประกอบการท่องเที่ยวเชิงเกษตร บริหารจัดการแหล่งท่องเที่ยว ให้ได้มาตรฐาน ที่สามารถสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยวที่เข้ามาเที่ยวในจังหวัดระยอง ทั้งเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจระดับฐานราก เกิดการสร้างงาน สร้างรายได้ กระจายรายได้สู่ชุมชน นําไปสู่การพึ่งพาตนเอง และพัฒนาเป็นผู้ประกอบการที่มีศักยภาพ เกิดแหล่งท่องเที่ยวที่ได้การรับรองมาตรฐานในระดับสากล นางสาววรนุช สีแเดง กล่าวเพิ่มเติมว่า จังหวัดระยอง มีแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร ประเภทผลไม้ที่มีชื่อเสียง ได้แก่ ทุเรียน มังคุด เงาะ สละ ลําไย รวม 83 แหล่งท่องเที่ยว ใน 8 อําเภอ ดังนี้ อําเภอเมืองระยอง จํานวน 32 แหล่ง อําเภอแกลง 22 แหล่ง อําเภอบ้านค่าย 8 แหล่ง อําเภอปลวกแดง 5 แหล่ง อําเภอบ้านฉาง 3 แหล่ง อําเภอวังจันทร์ 7 แหล่ง อําเภอเขาชะเมา 3 แหล่ง และอําเภอนิคมพัฒนา 3 แหล่ง #สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
13/2/2023
ภาคตะวันออก
ระยอง
สวท.ระยอง
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230213152108646
null
ลำพูน KICK OFF NO FOAM ลด ละ เลิก การใช้โฟมบรรจุอาหาร ขับเคลื่อนนโยบาย ลำพูนเมืองสะอาด ปราศจากโฟม มุ่งลดปริมาณขยะ รักษาสิ่งแวดล้อม
วันนี้ (13 ก.พ.66) เวลา 13.30 น. ที่กาดลําพูนจุตจักรลําพูน นายสันติธร ยิ้มละมัย ผู้ว่าราชการจังหวัดลําพูน เป็นประธานเปิดกิจกรรมการรณรงค์ลด ละ เลิก การใช้ภาชนะโฟมบรรจุอาหาร (No Foam) เพื่อต่อยอดโครงการลําพูนเมืองสะอาด ปราศจากโฟม โดยมีนายอนุพงษ์ วาวงศ์มูล รองผู้ว่าราชการจังหวัดลําพูน หัวหน้าส่วนราชการจังหวัด ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ่อค้าแม่ค้าและประชาชนร่วมกิจกรรมนายรุ่งโรจน์ สุนทร ท้องถิ่นจังหวัดลําพูน กล่าวว่า จังหวัดลําพูนได้ประกาศใช้แผนปฏิบัติการ ลําพูนเมืองสะอาดสู่ความยั่งยืน ประจําปี 2566 โดยมีการจัดการขยะอย่างครบวงจร มีการดูแลบ้านเมืองให้สะอาด สวยงาม ตลอดจนรณรงค์ให้ประชาชน ลด ละ เลิกการใช้ภาชนะโฟมบรรจุอาหาร เพื่อต่อยอดโครงการลําพูนเมืองสะอาด ปราศจากโฟม (No Foam)ทั้งนี้ จังหวัดลําพูนได้ประกาศเป็นจังหวัดสะอาด ในปี 2560 และในปี 2561 จังหวัดลําพูนประกาศ เป็นจังหวัดปราศจากโฟม ( No Foam ) แห่งแรกของประเทศไทย ซึ่งการขับเคลื่อนแนวทาง “จังหวัดลําพูนเมืองสะอาด ปราศจากโฟม" จะมีการดําเนินงานในรูปแบบประชารัฐ ประกอบด้วย การรณรงค์ สร้างจิตสํานึก กําหนดกติกา/มาตรการ กลไกในระดับต่างๆ เชิญชวนหน่วยงานของรัฐ โรงเรียน ร้านค้า สถานประกอบการ เข้าร่วมโครงการ/สรุปเป้าหมาย และทําบันทึกข้อตกลง Kick off, สนับสนุนวัสดุ ภาชนะ ทดแทนโฟม เพื่อสร้างแรงจูงใจ, ส่งเสริมการจัดตั้งศูนย์ต้นแบบ/ศูนย์เรียนรู้เพื่อลดปริมาณขยะ ตรวจติดตามประเมินผล มอบรางวัล และประกาศเป็นพื้นที่สะอาดปราศจากโฟมโอกาสนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดลําพูน ได้มอบป้ายรณรงค์ลด ละ เลิก การใช้ภาชนะโฟมบรรจุอาหาร (No Foam) ให้กับสถานประกอบบการ ร้านค้าที่เข้าร่วมกิจรรมรณรงค์ดังกล่าว จากนั้นได้เดินเยี่ยมชม แผงตลาดที่ใช้วัสดุอื่นทดแทนการใช้โฟม ในการบรรจุอาการจําหน่าย โดยผู้ว่าราชการจังหวัดลําพูน ได้กล่าวขอบคุณและชื่นชมพ่อค้าแม่ค้าที่ร่วมกันลด ละ เลิกการใช้โฟม ได้อย่างจริงจัง ซึ่งนอกจากจะช่วยลดจํานวนขยะแล้ว ยังสามารถบรรลุเป้าหมายให้จังหวัดลําพูน ยังคงเป็นจังหวัดปลอดโฟมได้อย่างแท้จริง#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILANDติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่...https://lamphun.prd.go.th/th/page/item/index/id/12#PRLAMPHUN#ลําพูนไม่ลําพังรวมพลังเพื่อคนลําพูน
13/2/2023
ภาคเหนือ
ลำพูน
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดลำพูน
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230213152448647
null
จังหวัดลำพูน กิจกรรมรณรงค์ลด ละ เลิก การใช้ภาชนะโฟมบรรจุอาหาร No Foam
ลําพูน จัดกิจกรรม KICK OFF NO FOAM ลด ละ เลิก การใช้โฟมบรรจุอาหาร ขับเคลื่อนนโยบาย ลําพูนเมืองสะอาด ปราศจากโฟม มุ่งลดปริมาณขยะ รักษาสิ่งแวดล้อมที่ตลาดลําพูนจตุจักร ตําบลป่าสัก อําเภอเมือง จังหวัดลําพูน นายสันติธร ยิ้มละมัย ผู้ว่าราชการจังหวัดลําพูน เป็นประธานเปิดกิจกรรมการรณรงค์ลด ละ เลิก การใช้ภาชนะโฟมบรรจุอาหาร (No Foam) เพื่อต่อยอดโครงการลําพูนเมืองสะอาด ปราศจากโฟม โดยมีนายอนุพงษ์ วาวงศ์มูล รองผู้ว่าราชการจังหวัดลําพูน ปลัดจังหวัดลําพูน หัวหน้าส่วนราชการจังหวัด ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้ประกอบการ พ่อค้าแม่ค้า และประชาชน ในพื้นที่ร่วมกิจกรรม นายรุ่งโรจน์ สุนทร ท้องถิ่นจังหวัดลําพูน กล่าวว่า จังหวัดลําพูนได้ประกาศใช้แผนปฏิบัติการ ลําพูนเมืองสะอาดสู่ความยั่งยืน ประจําปี 2566 โดยมีการจัดการขยะอย่างครบวงจร มีการดูแลบ้านเมืองให้สะอาด สวยงาม ตลอดจนรณรงค์ให้ประชาชน ลด ละ เลิกการใช้ภาชนะโฟมบรรจุอาหาร เพื่อต่อยอดโครงการลําพูนเมืองสะอาด ปราศจากโฟม (No Foam) ทั้งนี้ จังหวัดลําพูนได้ประกาศเป็นจังหวัดสะอาด ในปี 2560 และในปี 2561 จังหวัดลําพูนประกาศเป็นจังหวัดปราศจากโฟม (No Foam) แห่งแรกของประเทศไทย ซึ่งการขับเคลื่อนแนวทาง “จังหวัดลําพูนเมืองสะอาด ปราศจากโฟม" จะมีการดําเนินงานในรูปแบบประชารัฐ ประกอบด้วย การรณรงค์ สร้างจิตสํานึก กําหนดกติกา/มาตรการกลไกในระดับต่างๆ เชิญชวนหน่วยงานของรัฐ โรงเรียน ร้านค้า สถานประกอบการ เข้าร่วมโครงการ/สรุปเป้าหมาย และทําบันทึกข้อตกลง Kick off, สนับสนุนวัสดุ ภาชนะ ทดแทนโฟม เพื่อสร้างแรงจูงใจ, ส่งเสริมการจัดตั้งศูนย์ต้นแบบ/ศูนย์เรียนรู้เพื่อลดปริมาณขยะ ตรวจติดตามประเมินผล มอบรางวัล และประกาศเป็นพื้นที่สะอาดปราศจากโฟม โอกาสนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดลําพูน ได้มอบป้ายรณรงค์ลด ละ เลิก การใช้ภาชนะโฟมบรรจุอาหาร (No Foam) ให้กับสถานประกอบการ ร้านค้าที่เข้าร่วมกิจกรรมรณรงค์ฯ จากนั้นได้ พบปะเยี่ยมชมแผงตลาดที่ใช้วัสดุอื่นทดแทนการใช้โฟม ในการบรรจุอาการจําหน่ายของพ่อค้า แม่ค้า ในตลาด โดยผู้ว่าราชการจังหวัดลําพูนได้กล่าวขอบคุณและชื่นชมพ่อค้าแม่ค้าที่ให้ความร่วมมือ และร่วมกันลด ละ เลิกการใช้โฟม อย่างจริงจัง ซึ่งนอกจากจะช่วยลดจํานวนขยะแล้ว ยังสามารถบรรลุเป้าหมายให้จังหวัดลําพูนเป็นจังหวัดปลอดโฟม ด้วยความร่วมมือจากทุกภาคส่วนอย่างแท้จริง#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILANDนายคมศักดิ์ หล่อเถิน .... ข่าว/ภาพ 13 กุมภาพันธ์ 2566
13/2/2023
ภาคเหนือ
ลำพูน
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดลำพูน
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230213153118649
null
สำนักงานปศุสัตว์อำเภอด่านซ้าย ขึ้นทะเบียนและปรับปรุงข้อมูลในระบบทะเบียนเกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์รายครัวเรือน กรมปศุสัตว์
สํานักงานปศุสัตว์อําเภอด่านซ้าย นําโดยนายทวีพงศ์ สาระทัศนานันท์ ปศุสัตว์อําเภอด่านซ้ายดําเนินการขึ้นทะเบียนเกษตรกรรายใหม่ ในระบบทะเบียนเกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์รายครัวเรือน กรมปศุสัตว์ จํานวน 1 ราย เป็น นายพนม พรหมอาภา บ้านเลขที่ 183 บ้านหัวนายูง หมู่ที่ 14 ตําบลด่านซ้าย เลี้ยงโคเนื้อ 3 ตัว ไก่พื้นเมือง 112 ตัว สุนัข 1 ตัว พร้อมให้คําแนะนําการเลี้ยง การดูแลสุขภาพสัตว์ การป้องกันโรคฯ แก่เกษตรกรที่มาขึ้นทะเบียนฯ ณ สํานักงานปศุสัตว์อําเภอด่านซ้าย อําเภอด่านซ้าย จังหวัดเลย#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
13/2/2023
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
เลย
สวท.ด่านซ้าย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230213153859654
null
สำนักงานปศุสัตว์จังหวัดเลย จัดโครงการฝึกอบรมเกษตรกร โครงการพัฒนาตามพระราชดำริ หลักสูตร "การสร้างกระบวนการเรียนรู้แบบมีส่วนร่วม" ประจำปีงบประมาณ 2566
วันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2566 ที่ทําการผู้ใหญ่บ้าน บ้านห้วยอ้อย หมู่ที่ 13 ตําบลด่านซ้าย อําเภอด่านซ้าย จังหวัดเลย ดร.สุวัฒน์ มัตราช ปศุสัตว์จังหวัดเลย มอบหมายให้กลุ่มส่งเสริมและพัฒนาการปศุสัตว์ สํานักงานปศุสัตว์จังหวัดเลย ร่วมกับสํานักงานปศุสัตว์อําเภอด่านซ้าย และศูนย์พัฒนาปศุสัตว์ตามพระราชดําริ อําเภอด่านซ้าย จังหวัดเลย ฝึกอบรมเกษตรกร โครงการพัฒนาตามพระราชดําริ ศูนย์พัฒนาปศุสัตว์ตามพระราชดําริ อําเภอด่านซ้าย จังหวัดเลย หลักสูตร "การสร้างกระบวนการเรียนรู้แบบมีส่วนร่วม" ประจําปีงบประมาณ 2566 เกษตรกรเข้ารับการอบรมฯ จํานวน 20 ราย ในหัวข้อ - หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง - ประสบการณ์การดําเนินงานของกลุ่มเกษตรกร - หลัก VRIO Model และกําหนดแผนการผลิตเพื่อการบริโภคและสร้างรายได้ในอาชีพ#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
13/2/2023
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
เลย
สวท.ด่านซ้าย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230213155558663
null
กรมชลประทาน เฝ้าระวังพื้นที่ภาคใต้จะมีฝนตกหนักบางพื้นที่ ช่วงวันที่ 15-19 ก.พ. นี้
นาย ธเนศ สมบูรณ์ ผู้อํานวยการสํานักบริหารจัดการน้ําและอุทกวิทยา เปิดเผยหลังเป็นประธานการประชุมคณะอนุกรรมการติดตามและวิเคราะห์แนวโน้มสถานการณ์น้ํา ว่า สถานการณ์น้ําในอ่างเก็บน้ําขนาดใหญ่และขนาดกลางทั่วประเทศ มีปริมาณน้ํารวมกัน 56,026 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 73 ของความจุอ่างฯ ภาพรวมปริมาณน้ําต้นทุนอยู่ในเกณฑ์ดี จนถึงขณะนี้มีการจัดสรรน้ําในช่วงแล้งนี้ ทั้งประเทศไปแล้ว 13,359 ล้าน ลบ.ม. หรือคิดเป็นร้อยละ 49 ของแผนฯ เฉพาะลุ่มเจ้าพระยามีการจัดสรรน้ําไปแล้ว 4,523 ล้าน ลบ.ม. ขณะที่ทั้งประเทศมีการเพาะปลูกไปแล้ว 8.74 ล้านไร่ เฉพาะลุ่มน้ําเจ้าพระยามีการเพาะปลูกไปแล้วประมาณ 6 ล้านไร่ สําหรับพื้นที่ลุ่มต่ําให้มีการจัดระเบียบการเพาะปลูก และเก็บเกี่ยวให้ทันตามแผนที่กําหนดไว้ สําหรับค่าความเค็มในแม่น้ําสายหลัก 4 สาย ได้แก่ แม่น้ําเจ้าพระยา แม่น้ําบางปะกง แม่น้ําท่าจีน แม่น้ําแม่กลอง ภาพรวมสถานการณ์ค่าความเค็มยังอยู่ในเกณฑ์ปกตินอกจากนี้ กรมอุตุนิยมวิทยาคาดการณ์ว่า ในช่วงวันที่ 15-19 ก.พ. นี้ ลมตะวันออกและลมตะวันออกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมอ่าวไทย ภาคใต้และทะเลอันดามันจะมีกําลังแรงขึ้น ทําให้ภาคใต้มีฝนตกเพิ่มขึ้นในบางพื้นที่ สําหรับในช่วงเดือนมิถุนายน-กรกฎาคมที่จะถึงนี้อาจจะเกิดภาวะฝนทิ้งช่วง กรมชลประทานได้กําชับให้สํานักงานชลประทานในพื้นที่เก็บกักน้ําไว้ในแหล่งน้ําทั่วประเทศ เพื่อรับมือภาวะฝนทิ้งช่วง พร้อมกันนี้ให้ทางสํานักเครื่องจักรกล และสํานักงานชลประทานในพื้นที่ ติดตั้งเครื่องมือ เครื่องจักร เครื่องสูบน้ํา ช่วยเหลือเกษตรกรในพื้นที่ จัดสรรน้ําเพื่อการอุปโภคบริโภค ลดการขาดแคลนน้ําและบรรเทาความเดือดร้อน ที่สําคัญให้บูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้ถึงสถานการณ์น้ําและแผนการบริหารจัดการน้ําในพื้นที่ให้ประชาชนรับทราบอย่างต่อเนื่อง เพื่อลดผลกระทบที่จะเกิดกับประชาชนให้ได้มากที่สุด
13/2/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
Radio-สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230213202356735
null
ผู้ตรวจฯ กระทรวงมหาดไทย ลงพื้นที่ตรวจติดตามการดำเนินการจัดทำถังขยะเปียก ลดโลกร้อนในพื้นที่เทศบาลตำบลค่ายเนินวง
ผู้ตรวจฯ กระทรวงมหาดไทย ลงพื้นที่ตรวจติดตามการดําเนินโครงการ ขับเคลื่อนและเร่งรัดติดตามการดําเนินการจัดทําถังขยะเปียก ลดโลกร้อนในพื้นที่ตําบลค่ายเนินวง ให้ครบทุกครัวเรือนตามเป้าหมายที่กระทรวงมหาดไทยวันที่ ( 13 ก.พ.66 ) เวลา 08.30 น. ที่ห้องรับรองชั้น 4 ศาลากลางจังหวัดจันทบุรี นายพิเชษฐ์ ปาณะพงศ์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย เขตตรวจราชการที่ 9 เข้าพบ นายมนต์สิทธิ์ ไพศาลธนวัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี เพื่อหารือข้อราชการ ติดตามการดําเนินโครงการตามนโยบายรัฐบาลและกระทรวงมหาดไทยในพื้นที่จังหวัดจันทบุรี จากนั้น ได้เดินทางไปยังเทศบาลตําบลค่ายเนินวง ต.บางกะจะ อ.เมืองจันทบุรี จ.จันทบุรี เพื่อติดตามการดําเนินโครงการ ขับเคลื่อนและเร่งรัดติดตามการดําเนินการจัดทําถังขยะเปียก ลดโลกร้อนในพื้นที่ตําบลค่ายเนินวง ให้ครบทุกครัวเรือนตามเป้าหมายที่กระทรวงมหาดไทยกําหนด โดยมี นายวิสิทธิ์ ประกอบความดี รองผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี ร่วมลงพื้นที่ด้วยเทศบาลตําบลค่ายเนินวงศ์ได้ร่วมขับเคลื่อนโครงการถังขยะเปียก ลดโลกร้อน ตั้งแต่ปี 2562 โดยดําเนินการจัดทําถังขยะเปียกครัวเรือน จํานวนทั้งสิ้น 448 ครัวเรือน และดําเนินการจัดกิจกรรมโครงการส่งเสริมสนับสนุนให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการคัดแยกขยะตั้งแต่ต้นทาง-กลางทาง-ปลายทาง ตามแผนปฏิบัติการ จัดการขยะมูลฝอยชุมชน “จังหวัดสะอาด” โดยให้เด็กและเยาวชนในพื้นที่เป็นแกนนํารวมทั้งจัดให้มีช่องทางประชาสัมพันธ์รูปแบบต่าง ๆ พร้อมทั้งจัดให้ทีมเคลื่อนที่เร็วจัดการขยะต้นทาง ที่เป็นขยะชิ้นใหญ่ เช่น ที่นอน ตู้ เตียง และเศษวัสดุก่อสร้าง พร้อมทําความสะอาดรอบถัง ล้างถังเปลี่ยนถังขยะเดือนละ 1 ครั้ง จัดให้มีเวทีแสดงความคิดเห็นและตกลงร่วมกันแก้ไขปัญหาขยะล้นถัง ซึ่งส่งผลให้พื้นที่เทศบาลตําบลค่ายเนินวงมีปัญหาขยะสะสมลดลง ปัจจุบันในพื้นที่เทศบาลตําบลค่ายหนึ่งวงมีปริมาณขยะมูลฝอย จํานวน 8 ตันต่อวัน โดยนําไปกําจัดอย่างถูกต้องที่สถานที่กําจัดขยะมูลฝอยแบบฝังกลบตาหลักสุขาภิบาลเทศบาลจันทบุรี อําเภอมะขาม จํานวน 5 ตันต่อวัน และถูกคัดแยกต้นทาง ณ ครัวเรือน การทิ้งและประชาชนที่มีอาชีพเก็บของเก่าขาย จํานวน 3 ตันต่อวัน ในปี 2566 เทศบาลตําบลค่ายเนินวง ได้ขับเคลื่อนโครงการถังขยะเปียกลดโลกร้อนจังหวัดจันทบุรีโดยจัดทําโครงการคัดแยกขยะภายใต้การขับเคลื่อนโครงการถังขยะเปียก ลดโลกร้อน โดยจัดทําโครงการคัดแยกขยะ ภายใต้การขับเคลื่อนขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น มีกลุ่มเป้าหมายจํานวน 786 ครัวเรือน และเริ่มจัดทําแผนปฏิบัติการขับเคลื่อนตั้งแต่วันที่ 31 ตุลาคม 2565 เป็นต้นมา#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
13/2/2023
ภาคตะวันออก
จันทบุรี
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดจันทบุรี
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230213161612671
null
เกษตรจังหวัดบึงกาฬ จัดวันถ่ายทอดเทคโนโลยีเพื่อเริ่มต้นฤดูกาลผลิตใหม่ (Field Day) สร้างการรับรู้ด้านเทคโนโลยี การเกษตรแก่ชาวเกษตรกรในจังหวัดบึงกาฬ
วันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2566 เวลา 08.30 น. ณ ศูนย์เครือข่าย ศพก.ตําบลศรีสําราญ หมู่ที่ 4 ตําบลศรีสําราญ อําเภอพรเจริญ จังหวัดบึงกาฬ นายนฤชา โฆษาศิวิไลซ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดบึงกาฬ เป็นประธานเปิดกิจกรรมวันถ่ายทอดเทคโนโลยีเพื่อเริ่มต้นฤดูกาลผลิตใหม่ (Field Day) ปี 2566 โดยมีเกษตรจังหวัดบึงกาฬ หัวหน้าหน่วยงานสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ในพื้นที่ นายกเทศมนตรีตําบลศรีสําราญ ข้าราชการ กํานัน ผู้ใหญ่บ้าน และเกษตรกรเข้าร่วมกิจกรรมงานวัน Field Day จัดขึ้น เพื่อเปิดโอกาสให้เกษตรกรได้เข้ามาเรียนรู้เทคโนโลยีการผลิตรูปแบบใหม่เพื่อเป็นช่องทางในการเลือกใช้เทคโนโลยีให้เหมาะสมกับสภาพพื้นที่ การเรียนรู้การทําไร่นาสวนผสม เพื่อลดต้นทุน เพิ่มผลผลิตและลดความเสี่ยงด้านการตลาด โดยภายในงานได้จัดสถานีถ่ายทอดความรู้ให้แก่เกษตรกร อาทิ สถานีการแปรรูปผลผลิตทางการเกษตร สถานีการผลิตและการใช้สารชีวภัณฑ์ สถานีเศรษฐกิจพอเพียง นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมออกร้าน จําหน่ายสินค้าของกลุ่มวิสาหกิจชุมชน กลุ่มแม่บ้านเกษตรกร#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
13/2/2023
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
บึงกาฬ
สวท.บึงกาฬ
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230213161131667
null
เกษตรอำเภอย่านตาขาว จังหวัดตรัง ลงพื้นที่ติดตามผลจากการปล่อยแตนเบียนควบคุมแมลงดำหนามในแปลงมะพร้าว ตำบลย่านตาขาว
วันนี้( 13 กุมภาพันธ์ 2566) นายนนท์นภนต์ นาพอ เกษตรอําเภอย่านตาขาว มอบหมายให้ นางแพรวพรรณ ทองพิทักษ์ นักวิชาการส่งเสริมการเกษตรชํานาญการ ลงพื้นที่ติดตามผลจากการปล่อยแตนเบียนควบคุมแมลงดําหนามในแปลงมะพร้าว ของนางจิระพันธ์ กุนหลัด เกษตรกรหมู่ที่ 2 ตําบลย่านตาขาว อําเภอย่านตาขาว จังหวัดตรัง ปลูกมะพร้าว พื้นที่ปลูก 5 ไร่ จํานวน 90 ต้น อายุประมาณ 1 ปี 8 เดือน พบว่าเปอร์เซ็นต์การเข้าทําลายของแมลงดําหนามลดลงอย่างเห็นได้ชัด ทั้งนี้ ได้ปล่อยแมลงหางหนีบเพื่อทําลายหนอนแมลงดําหนามในแปลงมะพร้าวอย่างต่อเนื่อง"แมลงดําหนาม" ปัจจุบันถือว่าเป็นแมลงศัตรูมะพร้าวประจําถิ่น พบการเข้าทําลายมะพร้าวได้ตลอดทั้งปี โดยทั้งตัวหนอนและตัวเต็มวัยของแมลงดําหนามมะพร้าวจะซ่อนตัวในใบอ่อนและกัดกินยอดอ่อน โดยเฉพาะยอดที่ยังไม่คลี่ ทําให้ยอดอ่อนของมะพร้าวชะงักการเจริญเติบโต หากต้นมะพร้าวถูกทําลายรุนแรงติดต่อกัน ทําให้ทางใบที่ถูกทําลายแห้งกลายเป็นสีน้ําตาล มองเห็นเป็นสีขาวโพลนชัดเจน หรือที่ชาวสวนมะพร้าวมักเรียกว่า "โรคหัวหงอก" หากเกษตรกรพบการระบาดไม่รุนแรง สามารถใช้วิธีตัดยอดที่ถูกแมลงดําหนามทําลายออกแล้วนําไปทําลายนอกแปลงปลูก หรือปล่อยแมลงหางหนีบ หรือแตนเบียนแมลงดําหนามมะพร้าว หรือใช้เชื้อราเขียวเมตตาไรเซียม ช่วยควบคุมการระบาดได้ ส่วนกรณีพบการระบาดของแมลงดําหนามในระดับรุนแรง ให้เกษตรใช้สารเคมีตามคําแนะนําของกรมวิชาการเกษตร ได้แก่ มะพร้าวต้นเตี้ยใช้สารเคมี cartap hydrochloride 4% GR อัตรา 30 กรัม/ต้น ห่อใส่ถุงผ้าเหน็บไว้ที่ยอดมะพร้าว จะมีประสิทธิภาพช่วยป้องกันกําจัดแมลงดําหนามได้นาน 1 เดือน สําหรับมะพร้าวต้นสูงให้ใช้สารเคมี emamectin benzoate 1.92% EC ฉีดเข้าลําต้น อัตรา 50 ซีซี/ต้น จะมีประสิทธิภาพป้องกันกําจัดแมลงดําหนามได้นานไม่น้อยกว่า 2 เดือน หากเกษตรกรพบการเข้าทําลายให้รีบแจ้งอาสาสมัครเกษตรหมู่บ้าน (อกม.) หรือเจ้าหน้าที่สํานักงานเกษตรอําเภอย่านตาขาว หรืออําเภอใกล้เคียงทันที #สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
13/2/2023
ภาคใต้
ตรัง
สวท.ตรัง
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230213162229677
null
วิสาหกิจชุมชนไตปลาแห้ง 5 แม่ครัวบ้านทุ่งไหม้ จังหวัดตรัง รวมกลุ่มผลิตแกงไตปลาแห้งจำหน่าย สร้างรายได้เสริมหลังจากการกรีดยางพารา ต่ำกว่า 10,500 บาทต่อเดือน
วันนี้ ( 13 กุมภาพันธ์ 2566) นายนนท์นภนต์ นาพอ เกษตรอําเภอย่านตาขาว มอบหมายให้ นางแพรวพรรณ ทองพิทักษ์ นักวิชาการส่งเสริมการเกษตรชํานาญการ ลงพื้นที่เยี่ยมเยียนและติดตามการดําเนินกิจกรรมของวิสาหกิจชุมชนไตปลาแห้ง 5 แม่ครัวบ้านทุ่งไหม้ ณ ที่ทําการกลุ่มตั้งอยู่ที่หมู่ 1 ตําบลทุ่งค่าย อําเภอย่านตาขาว จังหวัดตรังวิสาหกิจชุมชนไตปลาแห้ง 5 แม่ครัวบ้านทุ่งไหม้ ตําบลทุ่งค่าย อําเภอย่านตาขาว จังหวัดตรัง เน้นการผลิตแกงไตปลาแห้งตามออเดอร์ของลูกค้า และส่งให้ตัวแทนจําหน่าย ส่วนใหญ่จําหน่ายภายในชุมชน ชุมชนใกล้เคียง และต่างจังหวัด โดยจําหน่ายกิโลกรัมละ 400 บาท หรือเป็นแบบกระปุก ๆ ละ 20 บาท 35 บาท และ 50 บาท จากการรวมกลุ่มส่งผลให้สมาชิกมีรายได้เสริมหลังจากการกรีดยางพารา รายได้เฉลี่ยไม่ต่ํากว่า 10,500 บาท/เดือน (สนใจแกงไตปลาแห้ง สามารถติดต่อได้ที่คุณนงเยาว์ หาญแกล้ว ประธานกลุ่มฯ โทรศัพท์ 085-6717334 หรือทางเฟซบุ๊ก นงเยาว์ หาญแกล้ว)#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
13/2/2023
ภาคใต้
ตรัง
สวท.ตรัง
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230213162324679
null
จังหวัดเลย ขับเคลื่อนการทำไร่อ้อยสมัยใหม่รองรับเครื่องจักรกลเกษตร ยกระดับผลผลิตอ้อยจังหวัดเลย และแก้ปัญหาอ้อยไฟไหม้อย่างยั่งยืน
นายณรงค์ จีนอ่ํา รองผู้ว่าราชการจังหวัดเลย ร่วมกับโรงงานน้ําตาล และเกษตรชาวไร่อ้อยในพื้นที่จังหวัดเลย ใช้บริเวณแปลงไร่อ้อยต้นแบบศูนย์เรียนรู้การจัดการไร่อ้อยสมัยใหม่ของ นายชํานาญ คํามา บ้านหนองจิก ตําบลปวนพุ อําเภอหนองหิน จังหวัดเลย ร่วมกันขับเคลื่อนกิจกรรมการทําไร่อ้อยสมัยใหม่ ที่มุ่งเน้นการจัดการไร่อ้อยที่ยั่งยืน ด้วย 4 เสาหลักพลัส ในการทําไร่อ้อยยุคใหม่คือ นําเครื่องจักรกลเกษตรมาทําไร่อ้อย ทดแทนแรงงานคน ตั้งแต่เตรียมดิน ปลูก บํารุงรักษา จนถึงการเก็บเกี่ยวอ้อยสด ด้วยรถตัดเพื่อเก็บเกี่ยวอ้อยได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวดเร็ว ทันเวลา เพิ่มปริมาณอ้อยสด ลดอ้อยไฟไหม้ ช่วยแก้ไขปัญหาอ้อยไฟไหม้อย่างยั่งยืน ทั้งยังมีการส่งเสริมระบบชลประทานในพื้นที่ปลูกอ้อย เพื่อให้เกษตรกรชาวไร่อ้อยได้มีแหล่งน้ํา ลดความเสี่ยงงจากฝนแล้ง ต่อยอดพัฒนาเป็นพื้นที่ชลประทานแบบ Fully Irrigation ด้วยระบบน้ําหยด ควบคู่กับการให้ปุ๋ยเกล็ดผ่านระบบน้ําหยด ลดเวลา ลดต้นทุน เพิ่มผลผลิต รักษาสมดุลสิ่งแวดล้อม ลดฝุ่น PM 2.5 ตลอดจนสร้างความเข้มแข็งให้แก่ชุมชนอย่างยั่งยืน โดยมีฐานกิจกรรมสาธิตการปลูกอ้อยสมัยใหม่ 6 ฐาน คือ ฐานริปเปอร์ระเบิดดินดาน ฐานกิจกรรมพรวน 22 จาน ฐาน Power Harrow ฐานกิจกรรมปลูกอ้อยระยะร่อง 1.85 เมตร ฐานระบบชลประทาน (บ่อบาดาล โซล่าเซลล์ ระบบน้ําหยด) และฐานโดรนเกษตรกิจกรรมในครั้งนี้ เพื่อให้เกษตรกรชาวไร่มีความรู้ ความเข้าใจ ในทักษะการทําไร่อ้อยสมัยใหม่ ตั้งแต่กระบวนการเตรียมแปลง รองรับเครื่องจักรกลเกษตร แก้ไขปัญหาการขาดแคลนแรงงานในภาคเกษตร รวมถึง เป็นการส่งเสริมพัฒนาชาวไร่ เกิดการรวมกลุ่มเกษตรแปลงใหญ่ ปลูกอ้อยร่องห่าง ระยะ 1.85 เมตร รองรับรถตัดอ้อย ตัดอ้อยสด แก้ปัญหาอ้อยไฟไหม้อย่างยั่งยืน ตลอดจน ส่งเสริมให้เกษตรกรชาวไร่ เข้าร่วมโครงการ ปลูกอ้อย 10 ไร่ กําไรมากกว่าแสน เป็นการทําไร่อ้อยประณีต ผลผลิตอ้อยปลูก 20 ตันต่อไร่ อ้อยตอ 15 ตันต่อไร่ เป็นการยกระดับผลผลิตสูง มีรายได้สูง มีความมั่นคงในอาชีพการทําไร่อ้อย และมีคุณภาพชีวิตที่ดี#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
13/2/2023
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
เลย
สวท.เลย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230213170519696
null
เกษตรย่านตาขาว ลงพื้นที่เยี่ยมเยียนและติดตามการดำเนินกิจกรรมของวิสาหกิจชุมชนไตปลาแห้ง 5 แม่ครัวบ้านทุ่งไหม้ ตำบลทุ่งค่าย
วันนี้ (13 ก.พ.2566) นายนนท์นภนต์ นาพอ เกษตรอําเภอย่านตาขาว มอบหมายให้ นางแพรวพรรณ ทองพิทักษ์ นักวิชาการส่งเสริมการเกษตรชํานาญการ ลงพื้นที่เยี่ยมเยียนและติดตามการดําเนินกิจกรรมของวิสาหกิจชุมชนไตปลาแห้ง 5 แม่ครัวบ้านทุ่งไหม้ ณ ที่ทําการกลุ่มตั้งอยู่ที่หมู่ 1 ตําบลทุ่งค่าย อําเภอย่านตาขาว จังหวัดตรัง ซึ่งกลุ่มเน้นการผลิตแกงไตปลาแห้งตามออเดอร์ของลูกค้า และส่งให้ตัวแทนจําหน่าย ส่วนใหญ่จําหน่ายภายในชุมชน ชุมชนใกล้เคียง และต่างจังหวัด โดยจําหน่ายกิโลกรัมละ 400 บาท หรือเป็นแบบกระปุก ๆ ละ 20 บาท 35 บาท และ 50 บาท จากการรวมกลุ่มส่งผลให้สมาชิกมีรายได้เสริมหลังจากการกรีดยางพารา รายได้เฉลี่ยไม่ต่ํากว่า 10,500 บาท/เดือน ***สนใจแกงไตปลาแห้ง สามารถติดต่อได้ที่คุณนงเยาว์ หาญแกล้ว ประธานกลุ่มฯ โทรศัพท์ 085-6717334 หรือทางเฟซบุ๊ก นงเยาว์ หาญแกล้ว*** #สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
13/2/2023
ภาคใต้
ตรัง
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดตรัง
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230213181919715
null
ศรีสะเกษ !! นายอำเภลพยุห์เปิดโครงการปลูกพืขบำรุงตินหลังฤดูเก็นเกี่ยวของตำบลหนองค้า หนุนทำนาเกษตรอินทรีย์
ที่บริเวณทุ่งนาบ้านหนองค้า ตําบลหนองค้า อําเภอพยุห์ จังหวัดศรีสะเกษ นายปวิชรัตวาลย์ นายอําเภลพยุห์ และดร.ฐิตารีย์ ไตรสรณปัญญา คณะที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้เป็นประธานปลูกพืขบํารุงตินหลังฤดูเก็นเกี่ยวของตําบลหนองค้า โดยมีนายทองไข พรหมประดิษฐ์ นายก อบต.หนองค้า นายทิวา รุ้งแก้ว ประธานคณะกรรมการประสานงานเพื่อพัฒนาจังหวัดศรีสะเกษ นายสมหวัง พุ่มไม้ สจ.ศรีสะเกษ เขตอําเภอพยุห์ และตณะทํางนโครงการปลูกพืชบํารุงดินหลังฤดูเก็บเกี่ยวตําบลหนองค้า นําเกษตรกรจาก 4 ตําบล เข้าร่วมโครงการและรับมอบเมล็ดปอเทืองแมล็ดถั่วผ่า ที่ได้รับมาจากอธิบตึกรมพัฒนาที่ดินมอบให้แก่เกษตรกรมาร่วมงานคนละ 5 กิโลกรัม และเกษตรกรผู้ร่วมโครงการปลูกพืชบํารุงดินหลังฤดูเก็บเกี่ยวตําบลหนองค้า อําเภอพยุห์ จํานวน 2 กระสอบ การจัดกิจกรรมนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการสีบสานปณิงานงานของพ่อ สานส่องานที่พ่อทํา เพื่อเป็นการลดปัญหาฝุ่นละอองจากการผาตอชังข้าว เพื่อบํารุงตินให้เหมาะสมกับการปลูกข้าวในฤดูกาลถัดไป และเพื่อส่งเสริมการปลูกข้าวอินทรีย์ของอําเภอพยุห์ จังหวัดศรีสะเกษต่อไปหลังจากนั้น นายปวิช รัตวาลย์ นายอําเภลพยุห์ ดร.ฐิตารีย์ ไตรสรณปัญญา คณะที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และคณะ ก็ได้ร่วมกันสาธิตการหว่านเมล็ดปอเทืองและเมล็ดถั่วผ่าปลูกพืชบํารุงดินหลังฤดูเก็บเกี่ยวตําบลหนองค้า ในพื้นที่นาแปลงสาธิตําบลหนองค้า จํานวน 10 ไร่ และร่วมกันไถกลบตอซางข้าวเพื่อปลูกพืชบํารุงดินหลังฤดูเก็บเกี่ยวตําบลหนองค้า อําเภอพยุห์ ด้วยดร.ฐิตารีย์ ไตรสรณปัญญา คณะที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า ตําบลหนองค้า อําเภอพยุห์ จังหวัดศรีสะเกษ ได้ขอรับการสนับสนุนเมล็ดปอเทืองและเมล็ดถั่วผ่าจากอธิบตึกรมพัฒนาที่ดิน กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพื่อจัดทําโครงการปลูกพืชบํารุงดินหลังฤดูเก็บเกี่ยวตําบลหนองค้า ซึ่งอําเภอพยุห์ เป็นอําเภอต้นแบบปลูกพืชบํารุงดินหลังฤดูเก็บเกี่ยว เพื่อส่งเสริมการปลูกข้าวอินทรีย์ และคณะที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ประจําจังหวัดศรีสะเกษ จะได้ประสานขอรับการสนับสนุนจากอธิบตึกรมพัฒนาที่ดิน เพื่อจัดทําโครงการปลูกพืชบํารุงดินหลังฤดูเก็บเกี่ยวให้คลอบคุมพื้นที่ทํานาเกษตรอินทรีย์ทั้ง 22 อําเภอของจังหวัดศรีสะเกษต่อไป#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
13/2/2023
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ศรีสะเกษ
สวท.ศรีสะเกษ
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230213181741713
null
จ.ชัยภูมิ จัดการประชุมคณะกรรมการพิจารณาสิ่งล่วงล้ำลำน้ำในจังหวัดชัยภูมิ
นายอริยะ เชื้อชม ผู้อํานวยการสํานักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดชัยภูมิ มอบหมายให้ นางสาวศิริกุลยา ภิญโยดม นักวิชาการสิ่งแวดล้อมชํานาญการ และ นายกมลเชษฐ ช่วยวงษ์ญาติ นักวิชาการสิ่งแวดล้อมชํานาญการ เข้าร่วมประชุมคณะกรรมการพิจารณาความเหมาะสมสิ่งล่วงล้ําลําน้ํา จังหวัดชัยภูมิ ครั้งที่ 1/2566 ณ ห้องประชุมองค์การบริหารส่วนตําบลผักปัง อําเภอภูเขียว จังหวัดชัยภูมิเพื่อพิจารณาว่าการก่อสร้างอาคารบังคับน้ําลําน้ําพรม ก.ม.87+488 ของโครงการส่งน้ําและบํารุงรักษาพรม-เชิญ ณ บ้านพรมใต้ ตําบลผักปัง อําเภอภูเขียว จังหวัดชัยภูมิ เป็นอุปสรรคต่อแผนพัฒนาจังหวัด ผังเมือง และการรักษาสภาพแวดล้อมของจังหวัดหรือไม่อย่างไร ทางมติที่ประชุมแจ้งว่าไม่เป็นอุปสรรคต่อทั้ง 3 ด้าน สําหรับด้านสิ่งแวดล้อม โครงการดังกล่าวไม่อยู่ในประเภทและขนาดของโครงการหรือกิจการและต้องทําแบบรายงานการประเมินผลกระทบทางสิ่งแวดล้อม แต่ระหว่างการดําเนินการก่อสร้าง ขอให้ผู้รับผิดชอบโครงการ มีมาตรการป้องกันและลดผลกระทบสิ่งแวดล้อมที่อาจเกิดขึ้น เพื่อป้องกันผลกระทบที่อาจเกิดกับประชาชนและสิ่งแวดล้อมในพื้นที่#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
13/2/2023
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ชัยภูมิ
สวท.ชัยภูมิ
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230213192133724
null
เทศบาลเมืองหัวหิน ระดม ทำความสะอาดตลาดโต้รุ่ง หัวหิน ลดฝุ่น PM 2.5 ป้องกันผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนและนักท่องเที่ยว
เทศบาลเมืองหัวหิน ระดม ทําความสะอาดตลาดโต้รุ่ง หัวหิน ลดฝุ่น PM 2.5 ป้องกันผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนและนักท่องเที่ยว(13 ก.พ.66) นายนพพร วุฒิกุล นายกเทศมนตรีเมืองหัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ นําเจ้าหน้าที่กองสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม เจ้าหน้าที่ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ออกฉีดล้างทําความสะอาดผิวการจราจร ทางเท้า ช่องตะแกรงรับน้ําฝน ถนนเดชานุชิต ซึ่งเชื่อมต่อระหว่างตลาดโต้รุ่ง 1 และตลาดโต้รุ่ง 2 ในเขตเทศบาลเมืองหัวหิน เพื่อให้เกิดความสะอาด เป็นระเบียบเรียบร้อยและลดปัญหาการฟุ้งกระจายของฝุ่นละออง PM.2.5 ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนและนักท่องเที่ยว เนื่องจากตลาดโต้รุ่งหัวหินเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สําคัญของเมืองหัวหิน แต่ละวันจะมีนักท่องเที่ยวจํานวนมากใช้บริการ#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
13/2/2023
ภาคตะวันตก
ประจวบคีรีขันธ์
สวท.ประจวบคีรีขันธ์
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230213205111747
null
ผู้ว่าฯ ปราจีนบุรี ขึน ฮ.เฮลิคอปเตอร์ เพื่อสำรวจและประเมินสถานการณ์คุณภาพอากาศ พร้อมกำหนดแนวทางการป้องกันบรรเทาปัญหาไฟป่า หมอกควันและฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ในพื้นที่ จ.ปราจีนบุรี
วันจันทร์ที่ 13 กุมภาพันธ์ 2566 เวลา 09.00 น. นายรณรงค์ นครจินดา ผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี ประชุมเตรียมการบินและออกสํารวจสถานการณ์ไฟป่า หมอกควันและฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 โดยอากาศยานเฮลิคอปเตอร์ เพื่อประเมินสถานการณ์คุณภาพอากาศและการป้องกันบรรเทาปัญหาไฟป่า หมอกควันและฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 เช่น การควบคุมเชื้อเพลิงไฟป่า การเผาในที่โล่งและพื้นที่การเกษตร การปล่อยควันในภาคอุตสาหกรรม การขนส่งและยานยนต์ การก่อสร้าง การลอยตัวและกระจายตัวของฝุ่นละอองในพื้นที่จังหวัดปราจีนบุรี นายรณรงค์? นครจินดา? ผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี? พร้อมด้วย? พ.อ.อภิกฤช? ใจน้อม? รอง? ผอ.กอ.รมน.จว.ปจ? นางมาละนี? จินดารัตน์? หน.สนง.ปภ.จ.ปราจีนบุรี? และนายพิพัฒน์? พลอินทร์? หัวหน้าสถานีควบคุมไฟป่าปราจีนบุรี? (ผู้แทน? ทสจ.ปจ? ผู้แทน? สํานักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่? 1) ขึ้นเฮลิคอปเตอร์? แบบ? AS350 ขนาด? 6? ที่นั่ง? ณ? บริเวณหน้าหน้าศาลากลางจังหวัดปราจีนบุรี? เพื่อตรวจปริมาณเชื้อเพลิงในพื้นที่เสี่ยงไฟป่า? และตรวจพื้นที่ที่มีการเผา? 1.? ตรวจปริมาณเชื้อเพลิง(ปริมาณสะสมใบไม้)?ในพื้นที่ป่าอนุรักษ์ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่? อุทยานแห่งชาติทับลาน? ในเขตอําเภอเมืองปราจีนบุรี? อําเภอประจันตคาม? อําเภอกบินทร์บุรี? และอําเภอนาดี 2.? ตรวจปริมาณเชื้อเพลิง(ปริมาณการสะสมใบไม้)?ในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าน้ําตกเขาอีโต้? ป่าสงวนแห่งชาติแก่งดินสอ? ในเขตอําเภอเมืองปราจีนบุรี? อําเภอนาดี? ป่าเขานางจีน? อําเภอกบินทร์บุรี 3.? ตรวจการเผาพื้นที่ทางการเกษตร? ในพื้นที่อําเภอเมืองปราจีนบุรี? อําเภอประจันตคาม? อําเภอกบินทร์บุรี? อําเภอนาดี? และอําเภอบ้านสร้าง เวลา 14.00 น. ณ ห้องประชุม 201 ศาลากลางจังหวัดปราจีนบุรี นายรณรงค์ นครจินดา ผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี เป็นประธานประชุมติดตามสรุปผลการดําเนินการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM 2.5) จ.ปราจีนบุรี เพื่อติดตามสถานการณ์คุณภาพอากาศและขับเคลื่อนกําหนดแนวทางการป้องกันบรรเทาปัญหาไฟป่า หมอกควันและฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ต่อไป #กอ.ปภ.จ.ปราจีนบุรี#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
13/2/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดปราจีนบุรี
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230213220524767
null
ผู้ว่าโคราช ควงแขนนายกเหล่ากาชาดฯ นำนักเรียน สร้างโป่งเทียมรูปหัวใจเนื่องในวันวาเลนไทน์ เป็นแหล่งอาหารให้สัตว์ป่า
ที่บริเวณจุดสกัดเขาสูงเขาแผงม้า เขตห้ามล่าสัตว์ป่าเขาแผงม้า บ้านคลองทราย ตําบลวังน้ําเขียว อําเภอวังน้ําเขียว จังหวัดนครราชสีมา นายสยาม ศิริมงคล ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา พร้อมด้วย นางอรจิรา ศิริมงคล นายกเหล่ากาชาดจังหวัดนครราชสีมา ได้เดินทางมาทําโป่งเทียมเพื่อเสริมแร่ธาตุอาหารให้สัตว์ป่า เป็น 1 ในนโยบายที่จะแก้ไขปัญหาสัตว์ป่า เช่น กระทิง ช้าง ออกหากินนอกแนวเขต มี นายสมภพ มุกดาสนิท นายอําเภอวังน้ําเขียว นายอร่าม ทัพหิรัญ ผู้อํานวยการสํานักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 7 พันตํารวจเอก รุ่งโรจน์ ตังอํานวย ผู้กํากับการสถานีตํารวจภูธรอําเภอวังน้ําเขียว นายยงยุทธ ศิริชัยคีรีโกศล นายกเทศบาลตําบลศาลเจ้าพ่อ นายบรรพต โพธิ์คํา นายกองค์การบริหารส่วนตําบลวังน้ําเขียว นายอรรณพ บัวนวล หัวหน้าเขตห้ามล่าสัตว์ป่าเขาแผงม้า นายพงษ์เทพ มาลาชาสิงห์ ประธานชมรมส่งเสริมการท่องเที่ยวอําเภอวังน้ําเขียว จิตอาสา 904 ฝ่ายปกครอง ร่วมกับผู้นําชุมชน นักเรียนจากโรงเรียนบ้านบุไผ่ นักเรียนโรงงเรียนบ้านบุเจ้าคุณ โรงเรียนบ้านคลองทราย ฮุก31 ไทยสามัคคี ชมรมฮักเขาใหญ่ ภาคีเครือข่ายวิสาหกิจชุมชนอนุรักษ์สัตว์ป่าวังน้ําเขียว ชมรมฮักเขาใหญ่ จํานวน 200 คน ให้การต้อนรับ โดยนายสยาม ศิริมงคล ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ได้มอบอุปกรณ์สิ่งของ ที่ใช้ในการทําโป่งเทียม ให้กับทางเจ้าหน้าที่เขตห้ามล่าสัตว์ป่าเขาแผงม้า ไว้ใช้ในการทําโป่งเทียม และลงพื้นที่ร่วมกับเด็กนักเรียน ทําโป่งเทียมรูปหัวใจ เพื่อกระทิงป่า กับนางอรจิรา ศิริมงคล นายกเหล่ากาชาดจังหวัดนครราชสีมา เพื่อเป็นสื่อสัญญลักษณ์ในการมอบความรักให้สัตว์ป่า ในวันวาเลนไทน์ กิจกรรมดังกล่าว เป็น 1 ในนโยบายที่จะแก้ไขปัญหาสัตว์ป่า ออกหากินนอกแนวเขต สร้างความเดือดร้อนให้ชาวบ้าน รวมถึงการส่งเสริมการท่องเที่ยวชุมชนเชิงนิเวศ สร้างกิจกรรมสร้างรายได้ให้ชุมชน โดยคนสามารถอยู่ร่วมกับสัตว์ป่าได้ อย่างถ้อยทีถ้อยอาศัย ซึ่งการทําโป่งเทียมครั้งนี้ เป็นจุดเริ่มต้นในหลายวิธีที่แก้ปัญหา อย่างยั่งยืน เข้าใจ เข้าถึง และพัฒนา #สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
14/2/2023
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
นครราชสีมา
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนครราชสีมา
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230214091629794
null
กอนช. เฝ้าระวังฝนฟ้าคะนองทางตอนบนของประเทศบางพื้นที่ พร้อมระวังระดับน้ำทะเลหนุนสูงในพื้นที่ลุ่มต่ำริมปากแม่น้ำช่วง 19 – 22 ก.พ
กองอํานวยการน้ําแห่งชาติ (กอนช.) เฝ้าระวังฝนฟ้าคะนองทางตอนบนของประเทศบางพื้นที่ พร้อมระวังระดับน้ําทะเลหนุนสูงในพื้นที่ลุ่มต่ําริมปากแม่น้ําช่วงวันที่ 19 – 22 กุมภาพันธ์ นายสุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสํานักงานทรัพยากรน้ําแห่งชาติ (สทนช.) ในฐานะรองผู้อํานวยการกองอํานวยการน้ําแห่งชาติ (กอนช.) กล่าวถึงสถานการณ์น้ําภาพรวมของประเทศวันนี้ (14 ก.พ.66) ว่า ภาพรวมประเทศไทยตอนบนมีพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางแห่ง แล้วอาจมีฟ้าผ่าเกิดขึ้นได้ หลังจากนั้นอุณหภูมิจะลดลงกับมีลมแรง ช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา มีฝนตกปานกลางถึงหนักบริเวณ จ.ศรีสะเกษ , พระนครศรีอยุธยา และกระบี่ รวมทั้ง ต้องเฝ้าระวังระดับน้ําทะเลหนุนสูงในพื้นที่ลุ่มต่ําริมปากแม่น้ํา หลังกรมอุทกศาสตร์ กองทัพเรือ และสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ํา (องค์การมหาชน) ได้คาดการณ์น้ําทะเลหนุนสูงช่วงวันที่ 19 – 22 กุมภาพันธ์ โดยระดับน้ําทะเลหนุนจะขึ้นสูงสุดในวันที่ 20 กุมภาพันธ์อาจก่อให้เกิดน้ําเค็มรุกตัวเข้าสู่บริเวณปากแม่น้ําในพื้นที่ลุ่มต่ําริมชายฝั่งทะเลอ่าวไทย ส่งผลกระทบต่อคุณภาพน้ําใช้อุปโภค-บริโภค และการใช้น้ําเพื่อการเกษตร จึงเน้นย้ําให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกันบริหารจัดการน้ําและควบคุมค่าความเค็มบริเวณแม่น้ําเจ้าพระยา และเตรียมพร้อมรับมือและระวังน้ําเค็มรุกต่อเนื่อง เพื่อแก้ปัญหาคุณภาพน้ําช่วงน้ําทะเลหนุนตลอดช่วงแล้งนี้ ทั้งนี้ กอนช. ยังได้ให้ กรมชลประทาน เร่งกําจัดวัชพืชบนคันคลองและสิ่งกีดขวางทางน้ําในคลองส่งน้ําสายใหญ่ ในพื้นที่บ้านเพีย ต.เพีย อําเภอกุดจับ จังหวัดอุดรธานี เพื่อให้มีประสิทธิภาพการระบายเพิ่มมากขึ้นและสามารถส่งน้ําให้เกษตรหน้าแล้ง ปี 2565/2566 ได้ด้วย
14/2/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230214094420802
null
ทุกภาคเกิดพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง อากาศแปรปรวน ตั้งแต่วันนี้ถึง 17 กุมภาพันธ์
นางสาวชมภารี ชมภูรัตน์ อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา กล่าวว่า ออกประกาศแจ้งเตือนประชาชนรับมือสภาพอากาศแปรปรวนจากบริเวณความกดอากาศสูงกําลังค่อนข้างแรงระลอกใหม่จากประเทศจีนที่จะแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบน และทะเลจีนใต้ในช่วงที่ประเทศไทยตอนบนมีอากาศร้อน และจะมีคลื่นกระแสลมฝ่ายตะวันตกเคลื่อนผ่านภาคเหนือ จึงทําให้ตั้งแต่วันนี้ไปจนถึงวันที่ 17 กุมภาพันธ์ประเทศไทยตอนบนจะมีพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตก อาจมีฟ้าผ่าเกิดขึ้นได้บางแห่ง จากนั้นอุณหภูมิจะลดลงกับมีลมแรง ภาคตะวันออกเฉียงเหนืออุณหภูมิลดลง 4–6 องศาเซลเซียส ภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล และภาคตะวันออก อุณหภูมิลดลง 1–4 องศาเซลเซียส ขอให้ประชาชนระวังอันตรายจากพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางแห่ง รวมถึงฟ้าผ่า หลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่ ป้ายโฆษณาและสิ่งปลูกสร้างที่ไม่แข็งแรง เกษตรกรควรเตรียมการป้องกันและระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตร รวมทั้งดูแลสุขภาพจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงสําหรับในพื้นที่ภาคใต้จะมีฝนเพิ่มขึ้น ช่วงวันที่ 15–17 กุมภาพันธ์ จากอิทธิพลของลมตะวันออกและลมตะวันออกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมอ่าวไทย ภาคใต้ และทะเลอันดามันกําลังแรงขึ้นอ่าวไทยคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร หากมีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูง 2-3 เมตร ขอให้ชาวเรือเพิ่มความระมัดระวังหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง
14/2/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230214101858814
null
ค่าฝุ่น PM 2.5 ในภาคเหนือและภาคอีสานยังสูงในระดับสีส้มและสีแดงหลายพื้นที่ พร้อมขอความร่วมมืองดการเผาในที่โล่งและพื้นที่การเกษตรช่วงนี้ ส่วน กทม.และปริมณฑลคุณภาพอากาศดีมากต่อเนื่อง
ค่าฝุ่น PM 2.5 ในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือยังสูงในระดับสีส้มและสีแดงหลายพื้นที่ พร้อมขอความร่วมมืองดการเผาในที่โล่งและพื้นที่การเกษตรช่วงนี้ ส่วนกรุงเทพมหานครและปริมณฑลคุณภาพอากาศดีมากต่อเนื่อง แต่ต้องเฝ้าระวังฝุ่นสูงขึ้นวันที่ 18 กุมภาพันธ์นี้ นายปิ่นสักก์ สุรัสวดี อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) ในฐานะประธานศูนย์แก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศ (ศกพ.) กล่าวว่า วันนี้ (14 ก.พ.66) ค่าฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM 2.5) ในพื้นที่ภาคเหนือ 17 จังหวัด พบหลายพื้นที่ค่าฝุ่น PM 2.5 ยังสูงในระดับสีส้ม 14 พื้นที่ และระดับสีแดง 14 พื้นที่ เช่น ต.หางดง อ.ฮอด , ต.ช่างเคิ่ง อ.แม่แจ่ม และ ต.เมืองนะ อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ // ต.เวียง อ.เชียงของ จ.เชียงราย // ต.พระบาท อ.เมือง จ.ลําปาง // ต.ลี้ อ.ลี้ จ.ลําพูน // ต.เวียงใต้ อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน // ต.ห้วยโก๋น อ.เฉลิมพระเกียรติ และ ต.ในเวียง อ.เมือง จ.น่าน // ต.บ้านต๋อม อ.เมือง จ.พะเยา และ ต.ธานี อ.เมือง จ.สุโขทัย อยู่ที่ 101 - 196 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร พร้อมขอความร่วมมือประชาชนงดการการบริหารจัดการเชื้อเพลิงจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลายลง โดยต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษถึงวันที่ 19 กุมภาพันธ์นี้ ขณะที่ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ พบหลายพื้นที่ค่าฝุ่น PM 2.5 ยังสูงในระดับสีส้ม 8 พื้นที่ และระดับสีแดง 2 พื้นที่ บริเวณ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครพนม และ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.อุบลราชธานี อยู่ที่ 103 - 110 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร สําหรับกรุงเทพมหานครและปริมณฑลคุณภาพอากาศดีมากถึงเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ โดยค่าฝุ่นยังคงดีต่อเนื่องในทุกพื้นที่ จากสภาพอากาศเปิดและมีลมพัดช่วยลดการสะสมของฝุ่นลง ยกเว้นบริเวณริมถนนกาญจนาภิเษก เขตบางขุนเทียน อยู่ในระดับสีส้มเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ จากสภาพการจราจรที่ค่อนข้างหนาแน่น ทั้งนี้ ศูนย์แบบจําลองคุณภาพอากาศและภูมิศาสตร์สารสนเทศ กรมควบคุมมลพิษ (คพ.) ได้คาดการณ์สถานการณ์ฝุ่นละออง PM 2.5 ถึงวันที่ 15 กุมภาพันธ์ มีแนวโน้มคุณภาพอากาศอยู่ในเกณฑ์ดี เนื่องจากสภาพอากาศเปิดมากขึ้น และมีลมใต้ที่มีกําลังค่อนข้างแรงช่วยพัดพาฝุ่นละอองออกจากพื้นที่ แต่หลังวันที่ 17 กุมภาพันธ์ไปอาจมีแนวโน้มฝุ่นละอองขึ้นสูงได้บางพื้นที่ โดยเฉพาะวันที่ 18 กุมภาพันธ์ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ ทั้งนี้ สามารถติดตามสถานการณ์คุณภาพอากาศได้ทางแอปพลิเคชั่น Air4Thai และ AirBKK
14/2/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230214100802809
null
จตุพร กำชับ เร่งแก้ปัญหาที่ทำกินในพื้นที่ป่า อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ ให้กับประชาชนในพื้นที่มีที่ดินทำกินอย่างถูกกฎหมาย พร้อมวางแนวทางการแก้ปัญหาไร่หมุนเวียน
ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กําชับ เร่งแก้ปัญหาที่ทํากินในพื้นที่ป่า อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ ให้กับประชาชนในพื้นที่มีที่ดินทํากินอย่างถูกกฎหมาย พร้อมวางแนวทางการแก้ปัญหาไร่หมุนเวียน ด้วยการวงขอบเขตรอบนอกของไร่หมุนเวียนให้ชัดเจนภายในเดือนพฤษภาคมนี้ นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวถึงความก้าวหน้าผลการขับเคลื่อนมาตรการแก้ปัญหาการอยู่อาศัยและทํากินในพื้นที่ป่าไม้ อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ 7 ตําบล แผนพัฒนาสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐาน การพัฒนาอาชีพและคุณภาพชีวิตของชุมชนว่า การแก้ปัญหาต้องมีความชัดเจนและเน้น “เร็ว รุก บุกถึงที่” เพื่อแก้ปัญหาที่อยู่อาศัยและที่ทํากินให้กับประชาชน พร้อมการพัฒนาคุณภาพชีวิต โดยเฉพาะการพัฒนาแหล่งน้ําเพื่อเกษตรกรรม รวมทั้ง ยังพิจารณาแนวทางการแก้ปัญหาการอยู่อาศัยทํากินในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ และร่วมกันวางแนวทางการแก้ปัญหาไร่หมุนเวียน โดยให้วงขอบเขตรอบนอกของไร่หมุนเวียนให้ชัดเจนภายในเดือนพฤษภาคมนี้ เพื่อสนับสนุนการทําเกษตรกรรมปราศจากสารเคมี // การบริหารจัดการเชื้อเพลิงโดยขอความร่วมมืองดการเผา // การสร้างองค์ความรู้ให้กับประชาชนในการงดเผาและลดการทําไร่หมุนเวียน // ส่งเสริมการปลูกต้นไม้และปลูกป่าร่วมกับภาคเอกชนเพื่อสร้างคาร์บอนเครดิต // การพัฒนาการท่องเที่ยวเชิงนิเวศในพื้นที่โดยไม่กระทบกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เพื่อให้คนกับป่าอยู่ร่วมกันได้อย่างยั่งยืน และมีกรอบแนวทางการดําเนินงานแก้ปัญหาการอยู่อาศัยและทํากินในพื้นที่อย่างชัดเจน
14/2/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230214104347830
null
จังหวัดเชียงใหม่ระดมกำลังทั้งภาคพื้นดินและอากาศ เร่งดับไฟป่าในหลายพื้นที่
ชุดปฏิบัติการเหยี่ยวไฟ พร้อมทีมอําเภอแม่ออนและสันกําแพง เร่งดับไฟป่าในเขตรอยต่อ ขณะที่อําเภอฮอดขอสนับสนุนเฮลิคอปเตอร์จากกองทัพบกและกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยขึ้นบินโปรยน้ําในพื้นที่เกิดไฟป่าที่เข้าถึงยากนายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า ชุดปฏิบัติการพิเศษเหยี่ยวไฟ ประจําศูนย์ส่งเสริมการควบคุมไฟป่าเชียงใหม่ ได้นําอากาศยานไร้คนขับสํารวจพบกลุ่มควันบริเวณเขตรอยต่อระหว่างอําเภอสันกําแพงและอําเภอแม่ออน ซึ่งเป็นพื้นที่บริหารจัดการพิเศษ จึงได้นํากําลังพล 20 นาย เข้าสนธิกําลังดับไฟในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติแม่ออน เบื้องต้นพบไฟลุกลามเป็นวงกว้าง สามารถดับไฟได้บางส่วน ที่เหลือเป็นหน้าผาสูงชันไม่สามารถเข้าไปดับไฟได้ โดยนายอําเภอแม่ออนพร้อมทีมตําบลบ้านสหกรณ์ จะนํากําลังขึ้นสมทบดับไฟพร้อมทําแนวตีกลับ และได้ประสานนายอําเภอสันกําแพงนํากําลังขึ้นดับไฟในฝั่งอําเภอสันกําแพงด้วยส่วนสถานการณ์ไฟป่าที่อําเภอฮอด ศูนย์อํานวยการป้องกันและแก้ปัญหาหมอกควันและฝุ่นละออง ภาค 3 ได้ประสานขอสนับสนุนเฮลิคอปเตอร์ MI-17 ของกองทัพบก จํานวน 1 ลํา KA-32 ของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จํานวน 2 ลํา ขึ้นบินโปรยน้ํา 33,000 ลิตร รวม 11 เที่ยวบิน เพื่อดับไฟป่าในพื้นที่อําเภอฮอด ขณะที่ชุดลาดตระเวนของทหารได้เข้าพื้นที่เพื่อปฏิบัติการดับไฟแล้ว#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
14/2/2023
ภาคเหนือ
เชียงใหม่
สวท.เชียงใหม่
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230214104519831
null
ปศุสัตว์เพชรบุรีออกหน่วยผ่าตัดทำหมันสุนัข-แมว และฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า สัตว์ปลอดโรค คนปลอดภัย ลดภาวะเสี่ยงต่อการเกิดโรคพิษสุนัขบ้า
นายสัตวแพทย์กรรัตน์ คุ้มกระ ปศุสัตว์จังหวัดเพชรบุรี กล่าวว่า เทศบาลเมืองเพชรบุรี ร่วมกับสํานักงานปศุสัตว์อําเภอทุกอําเภอ กลุ่มพัฒนาสุขภาพสัตว์ ฝ่ายบริหารทั่วไป สํานักงานปศุสัตว์จังหวัดเพชรบุรี หน่วย Herd Health Unit และส่วนสุขภาพสัตว์ สํานักงานปศุสัตว์เขต 7 ด่านกักกันสัตว์เพชรบุรี และนักศึกษาฝึกงาน ดําเนินกิจกรรมให้บริการผ่าตัดทําหมันสุนัขและแมว ณ วัดชีว์ประเสริฐ ต.ท่าราบ อ.เมืองเพชรบุรี จ.เพชรบุรี ออกหน่วยผ่าตัดทําหมันสุนัข-แมว และฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า ครั้งที่ 38 ในปีงบประมาณ 2566 ภายใต้โครงการสัตว์ปลอดโรค คนปลอดภัย ตามพระปณิธาน ศาสตราจารย์ ดร.สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี เพื่อลดภาวะเสี่ยงต่อการเกิดโรคพิษสุนัขบ้า ในสัตว์ซึ่งเป็นพาหะนําโรค และเพื่อป้องกันการติดต่อของโรคพิษสุนัขบ้าจากสัตว์มาสู่คน ผลการปฏิบัติงาน ประชาชน 78 ราย พาสุนัขและแมวมารับการผ่าตัดทําหมันและฉีดวัคซีนสุนัขและแมว รวมทั้งสิ้น 207 ตัว ประกอบด้วย สุนัข 65 ตัว (รวมสุนัขจรจัดในวัดด้วย) (เพศผู้ 14 ตัว เพศเมีย 51 ตัว) แมว 142 ตัว (เพศผู้ 54 ตัว เพศเมีย 88 ตัว) ฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้ารวมทั้งสิ้น 250 ตัว พร้อมเน้นย้ําการดูแลและการป้อนยาให้สุนัขและแมวภายหลังการผ่าตัดทําหมันด้วยสวท.เพชรบุรี#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
14/2/2023
ภาคตะวันตก
เพชรบุรี
สวท.เพชรบุรี
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230214140953938
null