NewsTitle
stringlengths
11
31.5k
Detail
stringlengths
9
78.4k
NewsDate
stringlengths
3
5.77k
Region
stringclasses
48 values
Province
stringclasses
99 values
Department
stringclasses
211 values
Link_News
stringlengths
3
903
v
stringclasses
812 values
แนะประชาชน รับมือและป้องกันฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 เกินค่ามาตรฐาน
นายบุญธรรม เลิศสุขีเกษม อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กล่าวว่า ช่วงนี้ในหลายพื้นที่ของประเทศไทย มีปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 สูงเกินค่ามาตรฐาน เนื่องจากสภาพอากาศปิดและมีลมอ่อน ประกอบกับการจราจรหนาแน่น ส่งผลให้ฝุ่นเกิดการสะสมตัว จนอาจกระทบต่อสุขภาพของประชาชน เพื่อความปลอดภัย กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย แนะนําข้อควรปฏิบัติเพื่อป้องกันและลดปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 โดยปิดประตูและหน้าต่างให้มิดชิด เพื่อลดปริมาณฝุ่นละอองที่ลอยเข้ามาในบ้าน หรือติดตั้งระบบกรองอากาศแบบถอดล้างได้ จะช่วยลดผลกระทบจากการสูดดมฝุ่นละอองเข้าสู่ร่างกาย หลีกเลี่ยงการอยู่ในพื้นที่ฝุ่นละอองหนาแน่น หากจําเป็นควรสวมหน้ากากอนามัยและเปลี่ยนหน้ากากอนามัยทุกวันเพื่อซับกรองและป้องกันการสูดดมฝุ่นละอองเข้าสู่ร่างกาย ไม่ควรออกกําลังกายและทํางานหนักในที่โล่งแจ้ง เพราะร่างกายจะสูดดมฝุ่นละอองเข้าไปในปริมาณมาก นอกจากนี้ ขอให้สังเกตอาการผิดปกติของร่างกาย หากมีอาการผิดปกติให้รีบไปพบแพทย์ พร้อมดูแลกลุ่มเสี่ยงต่อการเจ็บป่วยเป็นพิเศษ โดยเฉพาะเด็กเล็ก ผู้สูงอายุ และผู้ป่วยโรคระบบทางเดินหายใจและภูมิแพ้ หากมีอาการผิดปกติให้รีบพบแพทย์ทันที รวมทั้งเพิ่มความระมัดระวังเมื่อต้องขับรถผ่านเส้นทางที่มีหมอกควันหรือฝุ่นหนา โดยเปิดไฟหน้ารถ ไฟตัดหมอก ไม่ขับรถเร็ว ไม่แซง หรือเปลี่ยนช่องทางกะทันหัน เพราะเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ
2/2/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สวท.จันทบุรี
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230202113318415
null
กรมวิชาการเกษตร เร่งผลิตเมล็ดงอกปาล์มน้ำมันพันธุ์ดี ตั้งเป้าล้านเมล็ดจำหน่ายเกษตรกร สร้างรายได้
นายภัสชญภณ หมื่นแจ้ง รองอธิบดีกรมวิชาการเกษตร เปิดเผยว่า จากความต้องการต้นกล้าปาล์มน้ํามันของเกษตรกรที่เพิ่มมากขึ้นในปัจจุบัน ส่งผลให้ราคาต้นกล้าปาล์มน้ํามันในท้องตลาดมีราคาสูงขึ้น 1-2 เท่า ในขณะที่เมล็ดพันธุ์ปาล์มน้ํามันยังไม่เพียงพอต่อความต้องการของเกษตรกรผู้ปลูกปาล์มน้ํามัน นางสาวมนัญญา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จึงได้สั่งการให้กรมวิชาการเกษตรเร่งรัดการผลิตเมล็ดพันธุ์ปาล์มน้ํามันที่มีคุณภาพดีตรงตามพันธุ์และมีศักยภาพในการให้ผลผลิตปาล์มน้ํามันและน้ํามันปาล์มต่อหน่วยพื้นที่สูง สามารถปรับตัวได้ดีในสภาพพื้นที่ปลูกของประเทศไทย สําหรับโครงการพัฒนาการผลิตเมล็ดงอกปาล์มน้ํามันพันธุ์ดี ของกรมวิชาการเกษตร มีวัตถุประสงค์เพื่อขยายผลงานวิจัยการผลิตเมล็ดงอกปาล์มน้ํามันพันธุ์ดีที่มีคุณภาพดี ตรงตามพันธุ์และได้มาตรฐานการผลิตพันธุ์ปาล์มน้ํามันลูกผสมสุราษฎร์ธานีจํานวน 1,000,000 เมล็ดงอก จําหน่ายให้แปลงเพาะกล้าปาล์มน้ํามันภาครัฐและเอกชน พร้อมทั้งสร้างการรับรู้การใช้ปาล์มน้ํามัน พันธุ์ดีมีคุณภาพและแหล่งข้อมูลของแปลงเพาะกล้าปาล์มน้ํามันที่ขึ้นทะเบียนกับกรมวิชาการเกษตรให้แก่เกษตรกรและผู้เกี่ยวข้องผ่านการประชาสัมพันธ์ในช่องทางต่างๆ โดยในเดือนกรกฎาคม 2565 - มิถุนายน 2567 ศูนย์วิจัยปาล์มน้ํามันสุราษฏร์ธานีร่วมกับศูนย์วิจัยปาล์มน้ํามันกระบี่ กรมวิชาการเกษตร ได้ตั้งเป้าหมายผลิตเมล็ดงอกจํานวน 1,000,000 เมล็ด จําหน่ายให้กับหน่วยงานภาครัฐและแปลงเพาะกล้าเอกชนที่ได้รับการรับรองจากกรมวิชาการเกษตรสําหรับแผนการส่งมอบเมล็ดงอกปาล์มน้ํามันลูกผสมสุราษฎร์ธานี จะเริ่มทยอยส่งมอบให้กับผู้ที่ลงทะเบียนจองไว้แล้ว ในช่วงเดือนเมษายน 2566 เป็นต้นไป โดยขณะนี้อยู่ในระหว่างการผลิตเมล็ดพันธุ์ ซึ่งเกษตรกรจะได้รับปาล์มมันน้ํามันพันธุ์ดีที่เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมในประเทศไทย รวมถึงนวัตกรรมปาล์มน้ํามันของกรมวิชาการเกษตรที่สามารถเพิ่มศักยภาพและลดต้นทุนในการผลิต ช่วยให้เกษตรกรมีความยั่งยืน เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมจากการใช้ปัจจัยการผลิต ทั้งพันธุ์และการจัดการสวนปาล์มน้ํามันอย่างมีประสิทธิภาพ เกษตรกรมีรายได้เฉลี่ยจากการปลูกปาล์มน้ํามันพันธุ์ลูกผสมสุราษฎร์ธานี 13,095-22,905 บาท/ไร่/ปี ขึ้นกับความเหมาะสมของพื้นที่และการจัดการ
2/2/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
Radio-สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230202113702420
null
สำนักงานเกษตรจังหวัดนครพนม ประกาศผลประกวด บุคลากรทางการเกษตร และสถาบันเกษตรกรดีเด่นจังหวัดนครพนม ประจำปี 2566
นางสาวกัญณฐา อภินนท์ธนา เกษตรจังหวัดนครพนม เปิดเผยว่า จากการที่กรมส่งเสริมการเกษตร ได้ดําเนินการคัดเลือกเกษตรกร บุคคลทางการเกษตร และสถาบันเกษตรกรดีเด่นระดับประเทศ เป็นประจําในทุกปี เพื่อเป็นการยกย่องเชิดชูเกียรติแก่เกษตรกร บุคคลทางการเกษตร และสถาบันเกษตรกรที่มีผลงานดีเด่นให้เป็นที่ปรากฏแก่สาธารณชน ตลอดจนเป็นการให้ความสําคัญ และสร้างขวัญกําลังใจให้ผู้ประกอบอาชีพเกษตรกรรม มีพลังใจสร้างผลงานที่เป็นประโยชน์ต่ออาชีพการเกษตรให้เกิดการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เกิดผลดีต่อประเทศ ในการนี้เพื่อให้การดําเนินการคัดเลือกเกษตรกร บุคคลทางการเกษตร และสถาบันเกษตรกรดีเด่นระดับประเทศ มีความถูกต้อง เป็นไปด้วยความยุติธรรม และบรรลุวัตถุประสงค์ และเป็นแนวทางในการปฏิบัติงานให้เกิดประสิทธิภาพ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อคัดเลือกผลงานเกษตรกร บุคคลทางการเกษตร และสถาบันเกษตรกรดีเด่นระดับประเทศ เพื่อให้เกษตรกร บุคคลทางการเกษตร และสถาบันเกษตรกรที่มีผลงานดีเด่น ได้รับการยกย่องเชิดชูเกียรติให้เป็นที่ปรากฏต่อสาธารณชน เกิดความภาคภูมิใจในอาชีพของตนเอง เพื่อให้เกษตรกร บุคคลทางการเกษตร และสถาบันเกษตรกรต้นแบบที่มีผลงานดีเด่นเป็นแหล่งเรียนรู้ และศึกษาผลงานจากตัวอย่างจริงของเกษตรกร บุคคลทางการเกษตร และสถาบันเกษตรกรดีเด่นที่ประสบความสําเร็จด้านวิชาชีพเกษตร และเพื่อพัฒนาและยกระดับมาตรฐานการดําเนินงานของเกษตรกร บุคคลทางการเกษตร และสถาบันเกษตรกร โดยแบ่งประเภทการคัดเลือก แบ่งเป็น 3 ประเภท คือ1. ประเภทเกษตรกรดีเด่น ได้แก่1.1 อาชีพทําสวน1.2 อาชีพทําไร่1.3 อาชีพไร่นาสวนผสม2. ประเภทบุคคลทางการเกษตรดีเด่น ได้แก่2.1 สมาชิกกลุ่มยุวเกษตรกร2.2 ที่ปรึกษากลุ่มยุวเกษตรกร3. ประเภทสถาบันเกษตรกรดีเด่น ได้แก่3.1 กลุ่มแม่บ้านเกษตรกร3.2 กลุ่มยุวเกษตรกรเกษตรจังหวัดนครพนม เปิดเผยเพิ่มเติมว่า ในส่วนของจังหวัดนครพนม ได้มีการดําเนินการตามคําสั่งจังหวัดนครพนม ที่ 3724/ 2565 ลงวันที่ 20 ธันวาคม พ.ศ. 2565 เรื่อง แต่งตั้งคณะกรรมการการประกวดกิจกรรมส่งเสริมการเกษตรระดับจังหวัด ประจําปี 2566 โดยดําเนินการประกวดคัดเลือกกิจกรรมส่งเสริมการเกษตร ประจําปี 2566 จํานวน 7 กิจกรรม ได้แก่ เกษตรกรดีเด่นสาขาอาชีพทําสวน เกษตรกรดีเด่นสาขาอาชีพทําไร่ เกษตรกรดีเด่นสาขาอาชีพทําไร่นาสวนผสม กลุ่มแม่บ้านเกษตรกรดีเด่น กลุ่มยุวเกษตรกรดีเด่น สมาชิกกลุ่มยุวเกษตรกร ที่ปรึกษายุวเกษตรกรดีเด่น เพื่อยกย่องเชิดชูเกียรติแก่บุคคล สถาบันเกษตรกรและองค์กรที่ชนะ โดยมีผลการประกวด ดังนี้1. กิจกรรมเกษตรกรดีเด่น สาขาทําสวน ชนะเลิศ คือ นายนคร เหลาศรี บ้านเลขที่ 90 หมู่ที่ 5 ตําบลกุตาไก้ อําเภอปลาปากรองชนะเลิศอันดับที่ 1 คือ นายชาติชาย คําเกษ บ้านเลขที่ 130 หมู่ที่ 3 ตําบลท่าบ่อสงคราม อําเภอศรีสงครามรองชนะเลิศอันดับที่ 2 คือ นางสาวยุพาพร พิกุลเงิน บ้านเลขที่ 112 หมู่ที่ 18 ตําบลบ้านผึ้ง อําเภอเมืองนครพนม 2. กิจกรรมประกวดเกษตรกรดีเด่น สาขาทําไร่ชนะเลิศ คือ นางกันยา พุ่มโยนก บ้านเลขที่ 151 หมู่ที่ 2 ตําบลกุตาไก้ อําเภอปลาปากรองชนะเลิศอันดับที่ 1 นางสาวสมบัติ สุวรรณราษฎร์ บ้านเลขที่ 59 หมู่ที่ 13 ตําบลนาทม อําเภอนาทมรองชนะเลิศอันดับที่ 2 นางสุรีย์พร ซองตา บ้านเลขที่ 110 หมู่ที่ 8 ตําบลวังตามัว อําเภอเมืองนครพนม3. กิจกรรมประกวดเกษตรกรดีเด่น สาขาไร่นาสวนผสม ชนะเลิศ คือ นางสาวราตรี เคนแสง บ้านเลขที่ 97 หมู่ที่ 4 ตําบลนาคํา อําเภอศรีสงครามรองชนะเลิศอันดับที่ 1 คือ นายวันไชย นาติโน บ้านเลขที่ 13 หมู่ที่ 10 ตําบลปลาปาก อําเภอปลาปากรองชนะเลิศอันดับที่ 2 คือ นางสายรุ้ง สุนะเทพ บ้านเลขที่ 161 หมูที่ 3 ตําบลเรณู อําเภอเรณูนคร4. กิจกรรมประกวดกลุ่มแม่บ้านเกษตรกร ชนะเลิศ คือ กลุ่มแม่บ้านเกษตรกรบ้านหนองฮี หมู่ที่ 1 ตําบลหนองฮี อําเภอปลาปากรองชนะเลิศอันดับที่ 1 คือ กลุ่มแม่บ้านเกษตรกรเพาะเห็ดบ้านดงคราม หมู่ที่ 12 ตําบลธาตุพนม อําเภอธาตุพนม รองชนะเลิศอันดับที่ 2 คือ กลุ่มแม่บ้านเกษตรกรโพนจานร่วมใจพัฒนา หมู่ที่ 10 ตําบลบ้านโพนจาน อําเภอโพนสวรรค์ 5. กิจกรรมประกวดกลุ่มยุวเกษตรกร ชนะเลิศ คือ กลุ่มยุวเกษตรกรศูนย์การเรียนตํารวจตระเวนชายแดนบานปากห้วยม่วง หมู่ที่ 2 ตําบลนาเข อําเภอบ้านแพงรองชนะเลิศอันดับที่ 1 คือ กลุ่มยุวเกษตรกรโรงเรียนชุมชนบ้านคําพอกท่าดอกแก้ว หมู่ที่ 3 ตําบลท่าจําปา อําเภอท่าอุเทนรองชนะเลิศอันดับที่ 2 คือ กลุ่มยุวเกษตรกรโรงเรียนบ้านแสนพันหมันหย่อน หมู่ที่ 4 ตําบลแสนพัน อําเภอธาตุพนม6. กิจกรรมประกวดสมาชิกกลุ่มยุวเกษตรกรชนะเลิศ คือ เด็กชายธนากร ทรายทวีป สมาชิกกลุ่มยุวเกษตรกรศูนย์การเรียนตํารวจตระเวนชายแดนบานปากห้วยม่วง หมู่ที่ 2 ตําบลนาเข อําเภอบ้านแพงรองชนะเลิศอันดับที่ 1 คือ นางสาวอุพาพร หลวงแก้ว สมาชิกกลุ่มยุวเกษตรกรโรงเรียนชุมชนบ้านคําพอกท่าดอกแก้ว หมู่ที่ 3 ตําบลท่าจําปา อําเภอท่าอุเทน รองชนะเลิศอันดับที่ 2 คือ เด็กชายอรรถกฤต แสนเจียม สมาชิกกลุ่มยุวเกษตรกรโรงเรียนบ้านแสนพันหมันหย่อน หมู่ที่ 4 ตําบลแสนพัน อําเภอธาตุพนม7. กิจกรรมประกวดที่ปรึกษากลุ่มยุวเกษตรกรดีเด่น ชนะเลิศ คือ สิบตํารวจโท พนมพร ตะระแจ่ม ที่ปรึกษากลุ่มยุวเกษตรกรศูนย์การเรียนตํารวจตระเวนชายแดนบานปากห้วยม่วง หมู่ที่ 2 ตําบลนาเข อําเภอบ้านแพงรองชนะเลิศอันดับที่ 1 คือ นายอดุลย์ บุตดีวงศ์ ที่ปรึกษากลุ่มยุวเกษตรกรโรงเรียนชุมชนบ้านคําพอกท่าดอกแก้ว หมู่ที่ 3 ตําบลท่าจําปา อําเภอท่าอุเทนรองชนะเลิศอันดับที่ 2 คือ นาอนุรักษ์ อุปทุม ที่ปรึกษากลุ่มยุวเกษตรกรโรงเรียน บ้านแสนพันหมันหย่อน หมู่ที่ 4 ตําบลแสนพัน อําเภอธาตุพนม#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
2/2/2023
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
นครพนม
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนครพนม
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230202142148481
null
ผู้บริหารเขื่อนวชิราลงกรณ ติดตามสภาพน้ำในเขื่อนฯ พบว่าน้ำมีสภาพใสขึ้น
ผู้บริหารเขื่อนวชิราลงกรณ ติดตามสภาพน้ําในเขื่อนฯ พบว่าน้ํามีสภาพใสขึ้น จากกรณีเขื่อนวชิราลงกรณตรวจสอบพบน้ําในอ่างเก็บน้ํามีสภาวะน้ําขุ่น ซึ่งเกิดจากปรากฏการณ์การพลิกกลับของชั้นน้ํา ตั้งแต่เมื่อวันที่ 31 มกราคม 2566 ที่ผ่านมา นายธนภัทร ฉัตรสุวรรณ ผู้ช่วยผู้อํานวยการเขื่อนวชิราลงกรณ-1 พร้อมด้วยผู้ปฏิบัติงาน ได้ติดตามสภาพน้ําในเขื่อน พบว่าน้ําในอ่างเก็บน้ํามีสภาพใสขึ้น จากเดิมมีความขุ่นตั้งแต่บริเวณสันเขื่อนไปประมาณ 6-7 กิโลเมตร แต่ปัจจุบันมีความขุ่นลดลง เหลือเพียงระยะจากสันเขื่อนไปประมาณ 3-4 กิโลเมตร ยังไม่มีผลกระทบกับกระชังปลาในอ่างเก็บน้ําเขื่อนวชิราลงกรณ ส่วนผู้เลี้ยงเองก็มีประสบการณ์ จากปี 2564 ได้มีการเตรียมการรับมือสถานการณ์ดังกล่าวไว้แล้ว เช่น เตรียมเครื่องเพิ่มออกซิเจน เตรียมแผนการโยกย้ายกระชังไปยังตําแหน่งที่ไม่เกิดปัญหา หรือการจัดกระชังให้โล่งเพื่อให้เกิดการถ่ายเทของน้ําและออกซิเจนได้ดียิ่งขึ้น เป็นต้น ส่วนเรื่องการบริโภคหรือจับปลาไปขาย ยังสามารถขายและบริโภค ได้ตามปกติ โดยไม่เกิดอันตรายต่อผู้บริโภค อย่างไรก็ตาม สภาวะน้ําขุ่นอาจจะมีผลกระทบกับระบบผลิตน้ําประปา ที่อาจต้องเฝ้าระวังมาตรฐานการผลิตอย่างใกล้ชิด เนื่องจากน้ํามีความขุ่นมากขึ้น จึงขอให้ดูแลเรื่องระบบการกรอง หรือเติมคลอรีนเพิ่มขึ้น คาดว่าจะกลับมาสู่สภาวะปกติ ภายใน 7 วัน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาพภูมิอากาศ ณัฏฐภัส เหลืองพฤกษชาติ / สวท.กาญจนบุรี#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
2/2/2023
ภาคตะวันตก
กาญจนบุรี
สวท.กาญจนบุรี
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230202131324446
null
องคมนตรี ลงพื้นที่ติดตามและขับเคลื่อน โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดําริ ในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ที่จังหวัดศรีสะเกษ เป็นวันที่สอง
วันนี้ (2 ก.พ.66) เวลา 09.30-13.00 น. นายจรัลธาดา กรรณสูต องคมนตรี ในฐานะประธานอนุกรรมการติดตามและขับเคลื่อนโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดําริพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และคณะฯ ติดตามและขับเคลื่อนการดําเนินงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดําริในเขตพื้นที่จังหวัดศรีสะเกษ ดังนี้ติดตามการดําเนินงานการขับเคลื่อนโครงการอ่างเก็บน้ําห้วยตาจูอันเนื่องมาจากพระราชดําริ ตําบลกันทรอม อําเภอขุนหาญ ซึ่งเป็นแหล่งน้ําขนาดกลาง เป็นโครงการที่กรมชลประทานดําเนินงานสนองพระราชดําริ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ 9 พระราชทานไว้เมื่อวันที่ 22 กันยายน 2529 เพื่อเป็นแหล่งน้ําสนับสนุนการทําการเกษตรให้กับราษฎรในพื้นที่ตามแนวชายแดนไทยกัมพูชา ในเขตอําเภอขุนหาญ จังหวัดศรีสะเกษ มีพื้นที่ชลประทานจํานวน 13,000 ไร่ ครอบคลุมพื้นที่ 3 ตําบล ได้แก่ ตําบลกันทรอม ตําบลโนนสูง และตําบลห้วยจันทร์ อําเภอขุนหาญ จังหวัดศรีสะเกษ มีการจัดตั้งกลุ่มผู้ใช้น้ําเป็นกลุ่มบริหาร จํานวน 2 กลุ่ม มีสมาชิกจํานวน 309 คน อาสาสมัครชลประทานจํานวน 5 คน ทั้งนี้ องคมนตรีได้มอบพันธุ์ปลาแก่ตัวแทนกลุ่มผู้ใช้น้ํา พบปะราษฎรและเยี่ยมชมสภาพพื้นที่โครงการ และร่วมปล่อยพันธุ์ปลาลงสู่อ่างเก็บน้ําห้วยตาจู จากนั้น ได้เดินทางไปยังบ้านนายไพโรจน์ มีวงศ์ หมู่ที่ 8 ตําบลกันทรอม อําเภอขุนหาญ จังหวัดศรีสะเกษ ประธานกลุ่มบริหารการใช้น้ําชลประทานคลองส่งน้ําสายใหญ่ฝั่งซ้าย เดิมประกอบอาชีพล้างจานที่กรุงเทพฯ ต่อมาได้เลื่อนตําแหน่งเป็นพ่อครัวในโรงแรม จากนั้นได้ไปทํางานต่อที่ประเทศจีน พอมีเงินเก็บเป็นทุนในการสร้างบ้าน จึงหวนกลับมาบ้านเพื่อทําการเกษตรเมื่อปี 2554 โดยทํานาและปลูกยางพารา และ กล้วยบริเวณคันนา อาศัยน้ําจากริมห้วยแต่เนื่องจากบริเวณริมห้วยเก็บน้ําไม่อยู่ ดังนั้นจึงคิดหาวิธีทําเกษตรใหม่ ในปี 2557 พอมีทุนจึงทําการปรับเปลี่ยนพื้นที่นาจากเดิมทํานาทั้งหมดมาเป็นปลูกไม้ผล ประกอบกับเข้าไปศึกษาดูงานจากโครงการศูนย์พัฒนาการเกษตรภูสิงห์อันเนื่องมาจากพระราชดําริ จากนั้นในปี 2558 สํานักงานส่งเสริมการเกษตรจังหวัดศรีสะเกษ สังกัดสํานักงานส่งเสริมและพัฒนาการเกษตรที่ 7 นครราชสีมา ส่งไปศึกษาดูงาน ณ เมืองดาว์วิน ประเทศออสเตรเลีย เกี่ยวกับการปลูกไม้ผลแปลงใหญ่ ระยะเวลา 1 สัปดาห์ ในปี 2560 จึงได้เริ่มทําการเกษตรผสมผสาน โดยแบ่งพื้นที่ทั้งหมดที่มีจํานวน 12 ไร่ แบ่งเป็นทํานา 3 ไร่ สระน้ํา 3 ไร่ ไม้ผลทุเรียน 1 ไร่ มะม่วง 3 ไร่ อีก 2 ไร่ปลูกยางนา ไผ่มะฮอกกานี และ พยุง นอกจากนี้ยังเลี้ยงโค กระบือ ไก่พื้นบ้าน และเป็ดไข่ ทําให้มีรายได้ต่อเนื่องจากการทําเกษตรผสมผสานต่อปี และเยี่ยมชมบูธผลผลิตของกลุ่มเกษตรกรที่ได้รับประโยชน์จากโครงการฯโดยมี นายสํารวย เกษกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ รองผู้อํานวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัด(ท) รองผู้บังคับการตํารวจภูธรจังหวัด หัวหน้าสํานักงานจังหวัด หัวหน้าสํานักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด เกษตรจังหวัด เกษตรและสหกรณ์จังหวัด ผู้อํานวยการโครงการชลประทานศรีสะเกษ หัวหน้าส่วนราชการในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายอําเภอขุนหาญ หัวหน้าส่วนราชการในสังกัดอําเภอขุนหาญ ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้บริหารสถานศึกษา จิตอาสาพระราชทาน อสม. ชรบ. สื่อมวลชน และพี่น้องประชาชนในเขตพื้นที่อําเภอขุนหาญร่วมให้การต้อนรับ และติดตามฯ ณ โครงการอ่างเก็บน้ําห้วยตาจูอันเนื่องมาจากพระราชดําริ และบ้านนายไพโรจน์ มีวงศ์ หมู่ที่ 8 ตําบลกันทรอม อําเภอขุนหาญ จังหวัดศรีสะเกษ#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
2/2/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สวท.ศรีสะเกษ
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230203001823715
null
กทม.ยังเจอฝุ่น PM2.5 ลากยาวถึง 7 ก.พ.นี้ หลังจากนั้นอากาศจะดีขึ้นเป็นปกติ
กรมควบคุมมลพิษ เผย ชาว กทม.ยังเจอฝุ่น PM2.5 ลากยาวถึง 7 ก.พ.นี้ หลังจากนั้นอากาศจะดีขึ้นเป็นเกณฑ์ปกติ ย้ําประชาชนใส่แมสก์-เช็กค่าฝุ่น-งดออกที่โล่งแจ้งนายปิ่นสักก์ สุรัสวดี อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) และผู้อํานวยการศูนย์แก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศ (ศกพ.) เปิดเผยว่า ระดับฝุ่นPM2.5 ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ภาคเหนือรวมถึงพื้นที่อื่น ๆ ขณะนี้อยู่ในเกณฑ์ที่มีผลกระทบต่อสุขภาพ(ระดับ3)โดยเฉพาะกลุ่มผู้ที่มีโรคประจําตัวระบบทางเดินหายใจ สาเหตุแหล่งกําเนิดของฝุ่นจากสภาพอากาศที่ปิด ลมนิ่ง การใช้รถ การจราจรหนาแน่น มลพิษจากรถยนต์ดีเซลเครื่องยนต์เก่า รวมถึงการเผาพื้นที่การเกษตร ซึ่งพบจุดความร้อนกําเนิดฝุ่นจากการเผาถึง 1,200 จุด โดยได้เสนอแนะให้ลดการใช้รถยนต์ ทํางานที่บ้าน ลดการเผาในพื้นที่การเกษตร และงดกิจกรรมกลางแจ้งเป็นหลักหากหน่วยงานใดสามารถดําเนินการได้ พร้อมย้ําประชาชนใส่หน้ากากอนามัยในระยะนี้ เช็กค่าฝุ่นในแอปพลิเคชันและหลีกเลี่ยงกิจกรรมกลางแจ้งอย่างเคร่งครัดนอกจากนี้ ยังร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและจังหวัดต่าง ๆ ลดต้นตอการเผาภาคการเกษตรด้วยการขยายการลงทะเบียนการเผา ไม่ให้มีการเผาป่า เผาหญ้าพร้อม ๆ กันเพื่อลดแหล่งกําเนิดฝุ่นลงไม่ให้เพิ่มสูงไปมากกว่านี้หรือไม่ให้รุนแรงไปถึงระดับ 4 พร้อมตั้งเป้าลดจุดความร้อนจากการเผาให้ลดลงร้อยละ 50
2/2/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
สมุทรปราการ
หน่วยงานสำนักข่าว
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230202130000442
null
กรมโยธาธิการและผังเมือง เปิดเวทีรับฟังความคิดเห็น ครั้งที่ 1 โครงการศึกษาเพื่อกำหนดแนวทางการป้องกันและแก้ไขปัญหาการกัดเซาะชายฝั่ง ระยะที่ 3 พื้นที่ชายฝั่งแหลมตะลุมพุก จังหวัดนครศรีธรรมราช
กรมโยธาธิการและผังเมือง ซึ่งเป็นหน่วยงานหนึ่งที่มีพันธกิจในการป้องกัน ดูแล และบํารุงรักษาที่ดินริมชายฝั่งไม่ให้ถูกคลื่นกัดเซาะจมหายไปในทะเล ได้ตระหนักถึงปัญหาการกัดเซาะชายฝั่งที่ส่งผลกระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน และคํานึงถึงผลกระทบอันอาจเกิดจากการดําเนินมาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหาการกัดเซาะชายฝั่งที่ผ่านมา จึงได้ดําเนินการออกแบบและก่อสร้างโครงสร้างป้องกันการกัดเซาะชายฝั่ง ควบคู่ไปกับการศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อมเบื้องต้น เพื่อให้การดําเนินงานก่อให้เกิดผลกระทบต่อสภาพแวดล้อม ชุมชน สังคม วัฒนธรรม อาชีพ ความปลอดภัย และวิถีชีวิตของประชาชนน้อยที่สุด โดยดําเนินการในพื้นที่ที่ประสบปัญหาการกัดเซาะและตามการร้องขอของประชาชนในพื้นที่ที่ประสบภัย และได้จัดทําโครงการศึกษาเพื่อกําหนดแนวทางการป้องกันและแก้ไขปัญหาการกัดเซาะชายฝั่ง ระยะที่ 3 พื้นที่ชายฝั่งตั้งแต่ระบบหาดแหลมตะลุมพุก-แหลมสมิหลา โดยนําแนวคิดระบบกลุ่มหาดมาใช้เป็นแนวทางในการศึกษาวันนี้ (2 ก.พ.66) กรมโยธาธิการและผังเมืองได้จัดประชุมรับฟังความคิดเห็น ครั้งที่ 1 โครงการศึกษาเพื่อกําหนดแนวทางป้องกันและแก้ไขปัญหาการกัดเซาะชายฝั่ง ระยะที่ 3 พื้นที่ชายฝั่งตั้งแต่ระบบหาดแหลมตะลุมพุก-แหลมสมิหลา (T6B151) ตําบลแหลมตะลุมพุก อําเภอปากพนัง จังหวัดนครศรีธรรมราช ถึงระบบหาดสะกอม(T6B153) ตําบลสะกอม อําเภอเทพา จังหวัดสงขลา โดยมี นายไตรรัตน์ ไชยรัตน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นประธานเปิดการประชุม พร้อมนายจิรวัฒน์ สุวรรณลิขิต โยธาธิการและผังเมืองจังหวัดนครศรีธรรมราช, ผู้แทนกรมโยธาธิการและผังเมือง ผู้แทนส่วนราชการ ตัวแทนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และผู้ที่เกี่ยวข้องในพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราช เข้าร่วมการประชุม ณ โรงแรมเดอะทวิน โลตัส ตําบลในเมือง อําเภอเมือง จังหวัดนครศรีธรรมราชสําหรับการจัดประชุมครั้งนี้เพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์โครงการ และชี้แจงสรุปผลการศึกษาร่างแผนหลักแนวทางและมาตรการการแก้ไขปัญหาการกัดเซาะชายฝั่งโดยใช้ระบบกลุ่มหาด พร้อมรับฟังความคิดเห็นและข้อเสนอแนะต่อโครงการในพื้นที่ชายฝั่งแหลมตะลุมพุก อําเภอปากพนัง จังหวัดนครศรีธรรมราช จากผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ซึ่งจะเป็นประโยชน์สําหรับการศึกษาและออกแบบรายละเอียดที่เหมาะสมต่อไป#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
2/2/2023
ภาคใต้
นครศรีธรรมราช
สวท.นครศรีธรรมราช
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230202135726465
null
สิงห์บุรี นายบุญชอบ ปลูกเมล่อนสร้างรายได้ตลอดทั้งปีแทนการทำนา
นายบุญชอบ อิ่มเชื้ออยู่ เจ้าของสวนเมล่อน เรียนไม่จบออกมาช่วยพ่อแม่ทํานาแล้วขาดทุน จึงหันมาเพาะปลูกเมล่อน ในพื้นที่ ขนาด 5 ไร่ มีโรงเรือนทั้งหมด 20 โรงเรือน โดยนายบุญชอบ จะทําการวางเเผนการผลิต สับเปลี่ยนหมุนเวียนการใช้โรงเรือนเพาะปลูกให้มีผลผลิตออกสู่ตลาดตลอดทั้งปี ซึ่งในปัจจุบัน สามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้มากถึงสัปดาห์ละ 3 - 5 ตัน เเละทําการรวบรวมผลผลิตไปจําหน่ายร่วมกับกลุ่มเครือข่าย ที่อําเภอราชบัวหลวง จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นหลัก โดยจําหน่ายในราคาขายส่งกิโลกรัมละ 50 บาท เเละปลีกหน้าสวน กิโลกรัมละ 70 บาท ด้วยประสบการณ์ยาวนานกว่า 23 ปี ทําให้มีผลผลิตมีคุณภาพ ได้รับการรับรองมาตรฐาน GAP ปลอดสารพิษ รสชาติดี หวาน กรอบ อร่อย มีผลผลิตตลอดทั้งปี จึงปลอดภัยต่อผู้บริโภคเเละเป็นที่ต้องการของตลาด ผลผลิตดังกล่าวจึงได้นําไปวางจําหน่าย ในตลาด Modern trade เช่น ห้าง Top Supermarket, Lotus’s, Big C เป็นต้น ทําให้เกษตรกรมีรายได้สม่ําเสมอตลอดทั้งปี สามารถเลี้ยงดูตนเองเเละครอบครัวได้อย่างมั่นคง เเละยั่งยืน อนาคตเจ้าของสวนจะปลูกดอกไม้สวยงามเพื่อเรียกลูกค้าให้มาท่องเที่ยวถ่ายรูปที่ไร่ โดยสํานักงานเกษตรจังหวัดสิงห์บุรี ดําเนินการจัดกิจกรรมประชาสัมพันธ์ผลไม้ประจําฤดูกาลของจังหวัดสิงห์บุรี ณ สวนเมล่อน ของนายบุญชอบ อิ่มเชื้ออยู่ เกษตรกรในพื้นที่ หมู่ที่ 1 ตําบลพักทัน อําเภอบางระจัน จังหวัดสิงห์บุรี วัตถุประสงค์เพื่อเป็นการส่งเสริมการผลิตและสนับสนุนการจําหน่ายผลผลิต พร้อมประชาสัมพันธ์สินค้าเกษตรประจําฤดูกาลของจังหวัดสิงห์บุรี ให้เป็นที่รู้จักของคนทั่วไป ตลอดจนเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงเกษตร เพื่อสร้างรายได้ ให้เกษตรกรผู้ผลิตสินค้าเกษตรอีกทางหนึ่ง สนใจติดต่อสอบถามสั่งซื้อได้ที่ Facebook : บุญชอบ อิ่มเชื้ออยู่ เบอร์โทรติดต่อ 093-782 2544#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
2/2/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
สิงห์บุรี
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสิงห์บุรี
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230202140145467
null
คพ. เฝ้าระวังฝุ่นละออง PM 2.5 สูงขึ้นติดต่อกันถึงวันที่ 4 ก.พ.นี้ จากนั้นช่วง 5 – 8 ก.พ.สภาพอากาศเปิดและมีลมแรงช่วยลดการสะสมตัวของฝุ่นลง
กรมควบคุมมลพิษ (คพ.) เฝ้าระวังฝุ่นละออง PM 2.5 สูงขึ้นติดต่อกันถึงวันที่ 4 กุมภาพันธ์นี้ จากนั้นช่วงวันที่ 5 – 8 กุมภาพันธ์สภาพอากาศเปิดและมีลมแรงช่วยลดการสะสมตัวของฝุ่นลง พร้อมขอให้ลดการเผาในที่โล่ง หรือพิจารณา Work From Home นายปิ่นสักก์ สุรัสวดี อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) ในฐานะประธานศูนย์แก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศ (ศกพ.) กล่าวถึงการยกระดับมาตรการเพื่อลดแหล่งกําเนิดฝุ่นละออง PM 2.5 และป้องกันผลกระทบต่อสุขภาพอนามัยว่า ช่วงนี้ที่ค่าฝุ่นละออง PM 2.5 สูงขึ้นจนมีผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนในกรุงเทพมหานครและปริมณฑลเกิดจากสภาพอากาศหรืออุตุนิยมวิทยาที่ส่งผลให้ฝุ่นเกิดการสะสมตัวสูงขึ้น ส่งผลให้ไม่เกิดการกระจายตัวจากอากาศปิดและลมสงบ ประกอบกับ หลายพื้นที่มีการจราจรหนาแน่นและติดขัด โดยเฉพาะชั่วโมงเร่งด่วนทั้งช่วงเช้าและช่วงเย็นถึงค่ํายิ่งส่งผลให้ฝุ่นสะสมตัวมากขึ้น โดยต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิดไปจนถึงวันที่ 4 กุมภาพันธ์ จากนั้นช่วงวันที่ 5 – 8 กุมภาพันธ์สภาพอากาศจะเปิดและมีลมแรงช่วยพัดให้ฝุ่นเกิดการกระจายตัวดีขึ้น แต่ระหว่างนี้ทุกหน่วยงานได้คุมเข้มมาตรการมาใช้ลดผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนก่อน ทั้งลดการเผาในที่โล่ง , ใช้รถเท่าที่จําเป็น , ขอความร่วมมือ Work From Home เพื่อลดปริมาณการจราจรบนท้องถนน , ขอให้ประชาชนเฝ้าระวังสถานการณ์ , ขอให้หลีกเสี่ยงกิจกรรมกลางแจ้ง , สวมใส่หน้ากากอนามัย 2 ชั้น หรือ N95 หรือใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเอง หากมีอาการทางสุขภาพควรรีบปรึกษาแพทย์ทันที ส่วนโรงเรียนยังไม่ประกาศปิดการเรียนการสอน แต่ให้งดทํากิจกรรมกลางแจ้งไปก่อน ทั้งนี้ คาดการณ์ฝุ่นปีนี้อาจรุนแรงกว่าปีที่ผ่านมา ปัจจัยหลักมาจากสภาพอากาศที่แล้งมากขึ้น เชื่อว่า สามารถควบคุมปริมาณฝุ่นไม่ให้รุนแรงไปกว่าปี 2565 ได้แน่นอน ซึ่งวันที่ 1 มิถุนายนนี้จะปรับเปลี่ยนค่ามาตรฐานฝุ่น PM 2.5 ค่าเฉลี่ย 24 ชั่วโมง จากเดิมไม่เกิน 50 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ให้ลดลงเหลือ 37.5 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร จะช่วยให้การบริหารจัดการฝุ่น PM 2.5 ของประเทศไทยเข้มข้นกันมากขึ้น อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) กล่าวถึงสถานการณ์ฝุ่นละออง PM 2.5 ในพื้นที่ 17 จังหวัดภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือว่า ภาพรวมพบจุดความร้อน (Hotspot) ทั่วประเทศประมาณ 1,200 จุด สิ่งสําคัญต้องบริหารจัดการเชื้อเพลิง โดยบางจังหวัดงดการเผาในบางช่วงเวลาแล้ว ซึ่งแต่ละจังหวัดมีอํานาจเต็มควบคุมการเผาในพื้นที่เกษตรได้ ผ่านการใช้แอปพลิเคชั่น Burn Check ซึ่งใน จ.เชียงใหม่ใช้แล้ว 100 เปอร์เซ็นต์ แต่บางจังหวัดใช้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น จึงต้องประสานความร่วมมืออย่างเข้มงวดต่อไป เบื้องต้นปีนี้ภาครัฐตั้งเป้าลดจุดความร้อนลงให้ได้ร้อยละ 50 - 60
2/2/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230202141357476
null
ติดกัน 3 วัน 14 จังหวัด ค่าฝุ่น PM2.5 เกินค่ามาตรฐาน ผู้ป่วยจากฝุ่นเพิ่มขึ้นนับแสนคน
นายแพทย์ณรงค์ อภิกุลวณิช รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า สถานการณ์ฝุ่น PM2.5 ในประเทศไทย ขณะนี้มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นในหลายพื้นที่ โดยวันนี้พื้นที่ที่มีค่าฝุ่น PM2.5 เกินมาตรฐาน ติดต่อกันเกิน 3 วัน พื้นที่สีแดง 14 จังหวัด ได้แก่ ลําพูน เชียงใหม่ สุโขทัย นนทบุรี ปทุมธานี พระนครศรีอยุธยา สระบุรี อ่างทอง สมุทรสาคร ราชบุรี สมุทรสงคราม สมุทรปราการ นครพนม และ กทม. พบ 23 เขตใน 50 เขต โดยค่าเฉลี่ย PM2.5 อยู่ที่ 101 - 158 มคก./ลบ.ม. จึงได้เปิดศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุขกรณีฝุ่น PM2.5 ใน 14 จังหวัด เพื่อบริหารจัดการสถานการณ์อย่างเป็นระบบ จากข้อมูลการเฝ้าระวังโรคจากมลพิษทางอากาศในระบบ HDC ระหว่างวันที่ 1-31 มกราคม 2566 พบสัปดาห์นี้มีผู้ป่วยด้วยโรคที่เกี่ยวข้องกับมลพิษทางอากาศ 376,165 ราย เพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ที่ผ่านมา 163,491 ราย โดยกลุ่มโรคที่เจ็บป่วยสูงสุด ได้แก่ กลุ่มโรคทางเดินหายใจ พบ 165,879 ราย เพิ่มขึ้น 72,430 ราย กลุ่มโรคผิวหนังอักเสบ พบ 80,248 ราย เพิ่มขึ้น 31,571 ราย กลุ่มโรคตาอักเสบ พบ 70,206 ราย เพิ่มขึ้น 29,605 ราย โรคหลอดเลือดหัวใจและสมองอุดตันขาดเลือด พบ 54,434 ราย เพิ่มขึ้น 26,828 ราย สําหรับข้อมูลพฤติกรรมการป้องกันตนเองจากการรับสัมผัส PM2.5 ของประชาชนพบช่วงวันที่ 23-29 มกราคม 2566 ประชาชนมีพฤติกรรมการสวมหน้ากากป้องกันฝุ่น ร้อยละ 76 ไม่เผาขยะ กระดาษ หรือจุดธูป ร้อยละ 59.7 และปิดประตูระหว่างทํางาน ร้อยละ 51.6 แนวโน้มเพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อนคือวันที่ 16-22 มกราคม 2566 แต่พฤติกรรมการงดออกกําลังกายกลางแจ้ง การลดระยะเวลาออกนอกบ้านและการตรวจเช็กคุณภาพอากาศก่อนออกนอกบ้านมีการปฏิบัติลดลงจากสัปดาห์ที่ผ่านมาขอย้ําให้ประชาชนตรวจสอบคุณภาพอากาศก่อนออกจากบ้าน หากค่าฝุ่นละอองอยู่ในระดับส่งผลกระทบต่อสุขภาพ ให้ลด หรืองดกิจกรรมกลางแจ้ง หรือสวมหน้ากากป้องกันฝุ่น โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยงที่อาจได้รับผลกระทบทางสุขภาพรุนแรงกว่าคนทั่วไป ส่วนประชาชนที่อยู่บริเวณพื้นที่มีผลกระทบต่อสุขภาพ หรือพื้นที่สีแดง ควรหลีกเลี่ยงกิจกรรมกลางแจ้ง หรือใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเองหากมีความจําเป็นต้องออกนอกบ้านและหากมีอาการทางสุขภาพควรปรึกษาแพทย์
2/2/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
Radio-สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230202151312533
null
ค่าฝุ่นละอองในอากาศที่จังหวัดขอนแก่นสูงขึ้นต่อเนื่องจนทำให้อยู่ในเกณฑ์มีผลกระทบต่อสุขภาพ สาเหตุหลักเกิดจากการเผาและมลพิษจากควันรถ
ข้อมูลจากกรมควบคุมมลพิษ ตรวจวัดสภาพอากาศในเขตตําบลในเมือง อําเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น ในวันนี้พบว่าปริมาณฝุ่นละออง ขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM 2.5) มีค่า 64 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร อยู่ในเกณฑ์เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ นอกจากนี้ ยังพบปริมาณฝุ่นละออง ขนาดไม่เกิน 10 ไมครอน (PM10) มีค่า 132 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร (?g/m3) อยู่ในเกณฑ์มีผลกระทบต่อสุขภาพ ในขณะที่ค่าดัชนีคุณภาพอากาศ หรือ AQI วัดได้ 202นายบุญประสงศ์ นวลสายย์ หัวหน้าสํานักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดขอนแก่น กล่าวว่า ปัญหา PM 2.5 ในจังหวัดขอนแก่น สาเหตุหลักมาจากการจราจร การขนส่ง ควันรถ การเผาขยะ การเผาไร่อ้อย และการเผาป่า โดยนายไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น ได้จัดตั้งศูนย์บัญชาการป้องกันและแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 จังหวัดขอนแก่น โดยได้ออกประกาศขอความร่วมมือประชาชนงดเผาในที่โล่งแจ้ง คุมเข้มควันรถ ใช้มาตรการตรวจควันดํากับรถยนต์ทุกชนิด นอกจากนี้ยังควบคุมมลพิษจากการก่อสร้าง และลดมลพิษจากภาคอุตสาหกรรม พร้อมทั้งกําชับให้เจ้าหน้าที่ดําเนินการตามกฎหมายและอํานาจหน้าที่ที่รับผิดชอบอย่างเข้มงวดประชาชนทั่วไปควรเฝ้าระวังสุขภาพ ถ้ามีอาการเบื้องต้น เช่น ไอ หายใจลําบาก ระคายเคืองตา ควรลดระยะเวลาการทํากิจกรรมกลางแจ้ง หรือใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเองหากมีความจําเป็น ประชาชนกลุ่มเสี่ยงได้แก่ เด็ก คนชรา หญิงมีครรภ์ และผู้ป่วยที่มีโรคประจําตัวในกลุ่มโรคทางเดินหายใจ และโรคหัวใจและหลอดเลือด ควรลดระยะเวลาการทํากิจกรรมกลางแจ้ง หรือใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเองหากมีความจําเป็น ถ้ามีอาการทางสุขภาพ เช่น ไอ หายใจลําบาก ตาอักเสบ แน่นหน้าอก ปวดศีรษะ หัวใจเต้นไม่เป็นปกติ คลื่นไส้ อ่อนเพลีย ควรปรึกษาแพทย์#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
2/2/2023
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ขอนแก่น
สวท.ขอนแก่น
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230202165935595
null
กรุงเทพมหานคร เดินหน้ามาตรการรับมือฝุ่น PM2.5 ให้หน่วยงาน Work From Home
นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวถึงสถานการณ์ฝุ่น PM2.5 ว่า สถานการณ์ฝุ่นปัจจุบันอยู่ในขั้นที่มีผลกระทบต่อสุขภาพร่างกาย โดยสาเหตุมาจากสภาพอากาศที่ปิดและกระแสลมต่ํา ทําให้ฝุ่นในกรุงเทพฯ ไม่ได้ระบายออก รวมถึงมีการเผาชีวมวลในพื้นที่รอบนอก ซึ่งพบจุด Hot Spot ราว 1,200 จุดในเขตประเทศไทยประกอบกับทิศทางลมเปลี่ยนแปลงทําให้พัดฝุ่นจากการเผาไหม้ในประเทศเพื่อนบ้านมายังประเทศไทย ส่งผลให้หลายจังหวัดค่าฝุ่นสูง ซึ่งปัญหาฝุ่นถือเป็นวาระแห่งชาติที่มีหลายหน่วยงานดําเนินการร่วมกัน กรุงเทพมหานครก็มีมาตรการรับมือฝุ่น PM2.5 ในกรณีที่ค่าฝุ่นสูงเกิน 75 ไมโครกรัมต่อลูกบาศ์กเมตร ต่อเนื่องกัน 3 วัน รวมการคาดการณ์ โดยล่าสุดได้ประกาศให้หน่วยงานของ กทม. ที่ไม่เกี่ยวข้องกับการให้บริการประชาชน Work From Home จนถึงวันที่ 3 กุมภาพันธ์ ให้ศูนย์บริการสาธารณสุขออกดูแลกลุ่มเปราะบาง พร้อมให้อํานาจผู้อํานวยการเขต ทั้ง 50 เขต ประกาศพื้นที่ควบคุมเหตุรําคาญ เพื่อควบคุมการเผาในที่โล่ง ส่วนโรงเรียนที่ไม่ได้สั่งปิด เนื่องจากครูและบุคลากรในโรงเรียน ได้เตรียมพร้อมอุปกรณ์ในการดูแลเด็กแล้วและจะช่วยให้ไม่เป็นภาระกับผู้ปกครองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวเพิ่มเติมว่า ปัจจุบันมีระบบพยากรณ์คุณภาพอากาศที่แม่นยําขึ้น ขอให้ประชาชนติดตามสถานการณ์และป้องกันตนเอง ส่วนการแก้ปัญหาฝุ่นระยะยาวต้องเป็นความร่วมมือกับทุกภาคส่วน ซึ่งที่ผ่านมากรุงเทพมหานครได้ดําเนินการอย่างเต็มที่
2/2/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230202182129637
null
รัฐบาลร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง วางมาตรการและให้คำแนะนำการป้องกันปัญหาฝุ่นละออง pm2.5
นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจําสํานักนายกรัฐมนตรี ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง แถลงข่าวปัญหาฝุ่นละออง PM 2.5 ที่ทําเนียบรัฐบาล โดยนายปิ่นสักก์ สุรัสวดี อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ กล่าวว่า ปัจจุบันค่า PM2.5 เริ่มมีผลกระทบกับสุขภาพของประชาชนในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ รวมทั้งกรุงเทพมหานคร หลายเขตอยู่ในระดับสีแดง สอดคล้องกับแผนที่ภาพถ่ายดาวเทียมแสดงให้เห็นว่ามีจุดความร้อนในหลายพื้นที่สําคัญ ประกอบกับมีหมอกควันลอยข้ามแดนมาจากประเทศเพื่อนบ้าน ทั้งนี้ปริมาณฝุ่นละออง PM. 2.5 ตั้งแต่วันที่ 5 กุมภาพันธ์เป็นต้นไป จะลดลงอยู่ระดับปานกลาง และวันที่ 7 กุมภาพันธ์ จะกลับมาอยู่ในระดับค่ามาตรฐาน ทั้งในกรุงเทพมหานคร และ 17 จังหวัดภาคเหนือ แต่ช่วงวันที่ 1-4 กุมภาพันธ์ ปริมาณฝุ่นละอองยังคงส่งผลกระทบต่อประชาชน นายกรัฐมนตรี กําชับให้มีมาตรการที่เข้มข้นขึ้น ซึ่งกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ร่วมกับกรุงเทพมหานคร ดําเนินการตามแผนงานในระยะที่ 3 คือ เริ่มให้มีการเวิร์คฟอร์มโฮม เพื่อลดการจราจร ลดแหล่ง pm2.5 ที่เกิดจากภาคการขนส่ง รวมถึงเข้มงวดการก่อสร้างและการเผาในพื้นที่โล่งศาสตราจารย์ นายแพทย์วินัย วนานุกูล หัวหน้าศูนย์พิษวิทยารามาธิบดี คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาสัยมหิดล กล่าวถึงการรับปริมาณของฝุ่นละออง PM2.5 ในระยะสั้น หากได้รับในปริมาณที่มาก อาจส่งผลให้เกิดโรคหัวใจ หรือโรคหลอดเลือดหัวใจอุดตันเฉียบพลันได้สูงกว่าปกติ รวมถึงหัวใจเต้นผิดจังหวะและโรคหลอดเลือดในสมองอุดตันเฉียบพลันเช่นกัน ส่วนในระยะยาว พบว่าทําให้การทํางานของไตเสื่อมลงเร็วกว่าคนที่อยู่ในสิ่งแวดล้อมที่ดีและยังสัมพันธ์กับการเกิดมะเร็งปอด ขณะที่ รศ.ดร.นพ. พงศกร ตันติลีปิกร กรรมการบริหารสมาคมโรคภูมีแพ้ โรคหืด และวิทยาภูมิคุ้มกันแห่งประเทศไทย/ ผู้ช่วยอธิการบตีฝ่ายวิจัยและวิชาการ มหาวิทยาลัยมหิดล แนะนําการดูแลรักษาโดยให้หลีกเลี่ยงการทํากิจกรรมนอกบ้าน ควรสวมใส่แมสตลอดเวลาที่อยู่นอกบ้านและรักษา หากเกิดอาการแสบตา ควรใช้น้ําตาเทียม ไม่ควรขยี้ตา ถ้าแสบจมูก หรือมีเลือดกําเดาไหล งดใช้นิ้วเข้าไปขยี้ในรูจมูกด้านนายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจําสํานักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีให้ความสําคัญกับการแก้ไขปัญหาฝุ่นละออง pm2.5 อย่างจริงจัง สั่งการเพิ่มเติม ให้ยกระดับมาตรการ ซึ่งต้องดําเนินการพร้อมกับความร่วมมือของประชาชน ปัจจุบันรัฐบาลดําเนินการ เรื่องการขนส่งสาธารณะ การส่งเสริมการใช้รถไฟฟ้า การใช้รถอีวี ซึ่งเป็นแผนในระยะยาว เพื่อส่งผลให้ในอนาคตมีสภาพแวดล้อมที่ดีและทําให้สุขภาพของประชาชนดีขึ้น
2/2/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230202181859634
null
กลุ่มอารักขาพืช สำนักงานเกษตรจังหวัดตรัง ลงพื้นที่ถ่ายทอดความรู้การจัดการศัตรูพืชโดยวิธีผสมผสานและการผลิตขยายสารชีวภัณฑ์ให้เกษตรกรในพื้นที่อำเภอย่านตาขาว
วันนี้ (2 ก.พ.66 ) นายนนท์นภนต์ นาพอ เกษตรอําเภอย่านตาขาว มอบหมายให้เจ้าหน้าที่สํานักงานเกษตรอําเภอย่านตาขาว ร่วมกับนางสุภัชชา ณ พัทลุง หัวหน้ากลุ่มอารักขาพืช พร้อมเจ้าหน้าที่กลุ่มอารักขาพืช สํานักงานเกษตรจังหวัดตรัง ลงพื้นที่ถ่ายทอดความรู้การจัดการศัตรูพืชโดยวิธีผสมผสานและการผลิตขยายชีวภัณฑ์ ซึ่งอยู่ภายใต้โครงการส่งเสริมการใช้สารชีวภัณฑ์และแมลงศัตรูธรรมชาติทดแทนสารเคมีทางการเกษตร ให้กับเกษตรกรในพื้นที่ตําบลในควน ตําบลนาชุมเห็ด และตําบลโพรงจระเข้ ณ ศาลาอเนกประสงค์ หมู่ที่ 5 ตําบลโพรงจระเข้ อําเภอย่านตาขาว จังหวัดตรังทั้งนี้ เจ้าหน้าที่กลุ่มอารักขาพืช สํานักงานเกษตรจังหวัดตรัง ได้ถ่ายทอดความรู้เรื่องการจัดการศัตรูพืชแบบผสมผสาน และการป้องกันโรคใบร่วงยางพาราชนิดใหม่ พร้อมทั้งสาธิตวิธีการผลิตขยายเชื้อ Bacillus subtilis (Bs) โดยมีเชื้อดังกล่าวมีประสิทธิภาพในการป้องกันกําจัดโรคที่เกิดจากแบคทีเรีย เช่น โรคเหี่ยวของพริก/มะเขือ ที่เกิดจากแบคทีเรีย วิธีการใช้และอัตราใช้ : ใช้ชีวภัณฑ์ Bs อัตรา 40-50 กรัมผสมน้ํา 20 ลิตร พ่นเมื่อเริ่มพบการระบาดของโรค หรือเมือต้นพืชเริ่มออกดอก หลังจากนั้นพ่นอีกทุก 5 วัน เป็นจํานวน 4-5 ครั้ง#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
2/2/2023
ภาคใต้
ตรัง
สวท.ตรัง
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230202160309564
null
เกษตรอำเภอเบตงเยี่ยมเกษตรกรรุ่นใหม่ปลูกกุยช่ายและผักเคลปลอดสารพิษ พร้อมติดตามสถานการณ์ผลผลิตทุเรียนนอกฤดูในพื้นที่อำเภอเบตง
วันนี้ (2 ก.พ.66) นายอารีฟ มหัศนียนนท์ เกษตรอําเภอเบตง พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สํานักงานเกษตรอําเภอเบตง ลงพื้นที่บ้านบ่อน้ําร้อน หมู่ที่ 2 ตําบลตาเนาะแมะเราะ อําเภอเบตง เยี่ยมเยียนเกษตรกรรุ่นใหม่ที่กลับมาบ้านเกิดหันมาทําอาชีพการเกษตร โดยมีการปลูกผักกุยช่าย ส่งให้กับร้านอาหารและวิสาหกิจชุมชน เพื่อแปรรูปเป็นขนมกุยช่าย หนึ่งในของดีอําเภอเบตง นอกจากนี้ยังมีการปลูกผักเคลจําหน่ายผ่านทางออนไลน์ ซึ่งเกษตรกรได้เน้นการจัดการศัตรูพืชด้วยการใช้สารชีวภัณฑ์ ได้แก่ เชื้อราไตรโคเดอร์มาและเชื้อราบิวเวอร์เรีย และหมั่นเดินสํารวจศัตรูพืชในแปลงผักและเก็บมาทําลาย ทําให้ผลผลิตผักปลอดสารพิษ มีรสชาติดีเป็นที่ต้องการของผู้บริโภคจากนั้นได้ติดตามสถานการณ์ผลผลิตทุเรียนนอกฤดูในพื้นที่ บ้านบ่อน้ําร้อน หมู่ที่ 2 ตําบลตาเนาะแมะเราะ ซึ่งเป็นช่วงเริ่มการเก็บเกี่ยวทุเรียนนอกฤดู คาดการณ์ว่าจะมีผลผลิตทุเรียนนอกฤดูอยู่ประมาณ 50 ตัน พร้อมทั้งได้แนะนําให้ผู้ประกอบการรับซื้อผลผลิตทุเรียน เน้นย้ําเกษตรกรให้มีการเก็บเกี่ยวผลผลิตในระยะที่เหมาะสม ไม่ตัดทุเรียนอ่อน และปฏิบัติตามหลักการเกษตรที่ดีและเหมาะสม (Good Agricultural Practices: GAP) เพื่อเป็นการสร้างชื่อเสียงและพัฒนาคุณภาพของทุเรียนเบตง#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
2/2/2023
ภาคใต้
ยะลา
สวท.เบตง จ.ยะลา
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230202161103570
null
สำนักงานเกษตรจังหวัดตรัง ติดตามแปลงสมาชิกตลาดเกษตรกร ตำบลทุ่งค่าย อำเภอย่านตาขาว จังหวัดตรัง พร้อมเก็บแตงโมไปสุ่มตรวจสารพิษตกค้าง สร้างความมั่นใจผู้บริโภค
นายวสันต์ สุขสุวรรณ เกษตรจังหวัดตรัง มอบหมาย นางอุไร แสงภักดี หัวหน้ากลุ่มส่งเสริมและพัฒนาการผลิตและเจ้าหน้าที่ออกติดตามแปลงสมาชิกตลาดเกษตรกร นายสมประสาน ขวัญเพชร ตําบลทุ่งค่าย อําเภอย่านตาขาว จังหวัดตรัง มีผลผลิต พืชผัก แตงโม กล้วย ละมุด แก้วมังกร ทั้งนี้ได้เก็บแตงโมไปสุ่มตรวจสารพิษตกค้างด้วยชุดตรวจสารพิษตกค้าง OC-KIT พบว่าไม่มีสารพิษตกค้าง ปลอดภัยต่อผู้บริโภค ผู้บริโภคจึงมั่นใจได้ว่าสินค้าเกษตรในตลาดเกษตรกรจังหวัดตรัง ปลอดภัยต่อผู้บริโภค ตามสโลแกนตลาดเกษตรกรที่ว่า “ เกษตรกรจริงๆ ทุกสิ่งปลอดภัย” ซึ่งประชาชนสามารถซื้อแตงโมและพืชผักปลอดภัยได้ที่ตลาดเกษตรกรจังหวัดตรัง บริเวณวงเวียนพะยูน ทุกวัน อังคาร และ ศุกร์ เวลา 06.00 -10.00 น.เกษตรจังหวัดตรัง เปิดเผยว่า จังหวัดตรัง ให้ความสําคัญและขับเคลื่อนโครงการส่งเสริมการพัฒนาระบบตลาดภายในสําหรับสินค้าเกษตร ผ่านตลาดเกษตรกร เพื่อเป็นสถานที่จําหน่ายสินค้าเกษตร เป็นแหล่งกระจายผลผลิตสินค้าเกษตรที่มีคุณภาพปลอดภัย โดยตลาดเกษตรกรจังหวัดตรัง ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 2557 สามารถสร้างรายได้ให้แก่เกษตรกรจํานวนมากกว่า 92 ล้านบาททั้งนี้ จังหวัดตรัง ได้ต่อยอดความสําเร็จของตลาดเกษตรกร โดยการจัดตั้งตลาดเกษตรกรระดับอําเภอ ทั้ง 10 อําเภอของจังหวัดตรัง อําเภอละ 1 แห่ง มีผลผลิตของเกษตรกรทั้งเกษตรกรรายเดี่ยว กลุ่มเกษตรกร Young Smart Farmer วิสาหกิจชุมชน แม่บ้านเกษตรกร กลุ่มเกษตรแปลงใหญ่ วางจําหน่าย ซึ่งล้วนแต่ได้รับการรับรองมาตรฐานและสามารถตรวจสอบย้อนกลับได้ มีมาตรฐานสินค้าเกษตร เช่น GAP อย. เกษตรอินทรีย์ มผช. สร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนผู้บริโภคได้ว่าสินค้าในตลาดเกษตรกรมีคุณภาพและความปลอดภัย สมดังสโลแกน “เกษตรกรจริงจริง ทุกสิ่งปลอดภัย”#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
2/2/2023
ภาคใต้
ตรัง
สวท.ตรัง
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230202194422671
null
สำนักงานเกษตรจังหวัดตรัง ลงพื้นที่เพื่อสำรวจแหล่งผลิตต้นพันธุ์พริกไทยพันธุ์ปะเหลียนคุณภาพ เพื่อนำมาสนับสนุนให้แก่เกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการพืชอัตลักษณ์(พริกไทย) ปี 2566
นายวสันต์ สุขสุวรรณ เกษตรจังหวัดตรัง มอบหมาย นางอุไร แสงภักดี หัวหน้ากลุ่มส่งเสริมและพัฒนาการผลิต พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กลุ่มส่งเสริมและพัฒนาการผลิต ลงพื้นที่เพื่อสํารวจแหล่งผลิตต้นพันธุ์พริกไทยพันธุ์ปะเหลียนคุณภาพ เพื่อนํามาสนับสนุนให้แก่เกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการพืชอัตลักษณ์ ชนิดพืช พริกไทย งบจังหวัดตรัง ปี 2566 โดยออกพื้นที่ร่วมบูรณาการกับสหกรณ์การเกษตรอําเภอปะเหลียน ณ แปลงพริกไทยของเกษตรกร จํานวน 3 แปลง อําเภอปะเหลียน จังหวัดตรังสําหรับ พริกไทยพันธุ์ปะเหลียน ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะที่โดดเด่นกว่าพริกไทยสายพันธุ์อื่นๆ ด้วยรสชาติที่เผ็ดร้อน มีกลิ่นหอมเฉพาะตัว และฝักแน่น จึงทําให้ได้รับความนิยมจากลูกค้า โดยเฉพาะร้านอาหารเป็นอย่างมาก อีกทั้งยังเป็นพืชที่ดูแลง่าย ทนทานต่อโรค ปลูกได้ทุกสภาพอากาศ ให้ผลผลิตเร็ว และสามารถเก็บได้ตลอดทั้งปี ที่สําคัญคือ มีราคาดี จึงถือเป็นพืชแซมในสวนยาง สวนปาล์ม ที่สร้างรายได้อย่างดีอีกชนิดหนึ่ง อีกทั้งยังได้รับการรับขึ้นทะเบียนสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ หรือ GI จากกรมทรัพย์สินทางปัญญา ด้วยแล้ว#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
2/2/2023
ภาคใต้
ตรัง
สวท.ตรัง
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230202164232585
null
องคมนตรึ ติดตามตรวจเยี่ยมโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ พื้นที่จังหวัดศรีสะเกษ
นายจรัลธาดา กรรณสูต องคมนตรี ในฐานะประธานอนุกรรมการติดตามและขับเคลื่อนโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดําริพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ พร้อมด้วย นายปวัตร์ นวะมะรัตน เลขาธิการ กปร. และคณะอนุกรรมการฯ ติดตามและขับเคลื่อนการดําเนินงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดําริในเขตพื้นที่จังหวัดศรีสะเกษ ประกอบด้วย ติดตามการดําเนินงานการขับเคลื่อนโครงการอ่างเก็บน้ําห้วยตาจูอันเนื่องมาจากพระราชดําริ ตําบลกันทรอม อําเภอขุนหาญ ซึ่งเป็นแหล่งน้ําขนาดกลาง เป็นโครงการที่กรมชลประทานดําเนินงานสนองพระราชดําริ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ 9 พระราชทานไว้เมื่อวันที่ 22 กันยายน 2529 เพื่อเป็นแหล่งน้ําสนับสนุนการทําการเกษตรให้กับราษฎรในพื้นที่ตามแนวชายแดนไทยกัมพูชา ในเขตอําเภอขุนหาญ จังหวัดศรีสะเกษ มีพื้นที่ชลประทานจํานวน 13,000 ไร่ ครอบคลุมพื้นที่ 3 ตําบล ได้แก่ ตําบลกันทรอม ตําบลโนนสูง และตําบลห้วยจันทร์ อําเภอขุนหาญ จังหวัดศรีสะเกษ มีการจัดตั้งกลุ่มผู้ใช้น้ําเป็นกลุ่มบริหาร จํานวน 2 กลุ่ม มีสมาชิกจํานวน 309 คน อาสาสมัครชลประทานจํานวน 5 คน ทั้งนี้ ท่านองคมนตรี ได้มอบพันธุ์ปลาแก่ตัวแทนกลุ่มผู้ใช้น้ํา พบปะราษฎรและเยี่ยมชมสภาพพื้นที่โครงการ และร่วมปล่อยพันธุ์ปลาลงสู่อ่างเก็บน้ําห้วยตาจูฯ จากนั้น ได้เดินทางไปยังบ้านนายไพโรจน์ มีวงศ์ หมู่ที่ 8 ตําบลกันทรอม อําเภอขุนหาญ จังหวัดศรีสะเกษ ประธานกลุ่มบริหารการใช้น้ําชลประทานคลองส่งน้ําสายใหญ่ฝั่งซ้าย เดิมประกอบอาชีพล้างจานที่กรุงเทพฯ ต่อมาได้เลื่อนตําแหน่งเป็นพ่อครัวในโรงแรม จากนั้นได้ไปทํางานต่อที่ประเทศจีน พอมีเงินเก็บเป็นทุนในการสร้างบ้าน จึงหวนกลับมาบ้านเพื่อทําการเกษตรเมื่อปี 2554 โดยทํานาและปลูกยางพารา และ กล้วยบริเวณคันนา อาศัยน้ําจากริมห้วยแต่เนื่องจากบริเวณริมห้วยเก็บน้ําไม่อยู่ ดังนั้นจึงคิดหาวิธีทําเกษตรใหม่ ในปี 2557 พอมีทุนจึงทําการปรับเปลี่ยนพื้นที่นาจากเดิมทํานาทั้งหมดมาเป็นปลูกไม้ผล ประกอบกับเข้าไปศึกษาดูงานจากโครงการศูนย์พัฒนาการเกษตรภูสิงห์อันเนื่องมาจากพระราชดําริ จากนั้นในปี 2558 สํานักงานส่งเสริมการเกษตรจังหวัดศรีสะเกษ สังกัดสํานักงานส่งเสริมและพัฒนาการเกษตรที่ 7 นครราชสีมา ส่งไปศึกษาดูงาน ณ เมืองดาว์วิน ประเทศออสเตรเลีย เกี่ยวกับการปลูกไม้ผลแปลงใหญ่ ระยะเวลา 1 สัปดาห์ ในปี 2560 จึงได้เริ่มทําการเกษตรผสมผสาน โดยแบ่งพื้นที่ทั้งหมดที่มีจํานวน 12 ไร่ แบ่งเป็นทํานา 3 ไร่ สระน้ํา 3 ไร่ ไม้ผลทุเรียน 1 ไร่ มะม่วง 3 ไร่ อีก 2 ไร่ปลูกยางนา ไผ่มะฮอกกานี และ พยุง นอกจากนี้ ยังเลี้ยงโค กระบือ ไก่พื้นบ้าน และเป็ดไข่ ทําให้มีรายได้ต่อเนื่องจากการทําเกษตรผสมผสานต่อปี และเยี่ยมชมบูธผลผลิตของกลุ่มเกษตรกรที่ได้รับประโยชน์จากโครงการฯด้วย#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
2/2/2023
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ศรีสะเกษ
สวท.ศรีสะเกษ
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230202174153621
null
คณะกรรมการการเลือกตั้งสมาชิกสภาเกษตรกรจังหวัด เตรียมความพร้อมเลือกตั้งสมาชิกสภาเกษตรกรจังหวัด ประเภทผู้แทนเกษตร
วันนี้ (2 ก.พ.66) ที่ห้องประชุมดีบุก ศาลากลางจังหวัดพังงา นายเอกรัฐ หลีเส็น ผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการการเลือกตั้งสมาชิกสภาเกษตรกรจังหวัด ประจําจังหวัดพังงา โดยมีนายเถลิงศักดิ์ นุชประหาร รองผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา นายพจน์ หรูวรนันท์ ปลัดจังหวัดพังงา และส่วนราชการที่เกี่ยวข้องร่วมประชุม เพื่อหารือการดําเนินการและเตรียมความพร้อมการเลือกตั้งสมาชิกสภาเกษตรกรจังหวัด ประจําจังหวัดพังงา โดยที่ประชุมได้พิจารณาร่างคําสั่งคณะอนุกรรมการพิจารณาเรื่องร้องเรียนและปัญหาอันเกิดมาจากการเลือกตั้งสมาชิกสภาเกษตรกรจังหวัด ประจําจังหวัดพังงา พิจารณาร่างคําสั่งคณะอนุกรรมการพิจารณาปัญหาข้อกฎหมายเกี่ยวกับการเลือกตั้งสมาชิกสภาเกษตรกรจังหวัด ประจําจังหวัดพังงา และร่างคําสั่งคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนการปฏิบัติงานของคณะกรรมการการเลือกตั้ง สมาชิกสภาเกษตรกรจังหวัด ประจําจังหวัดพังงาทั้งนี้ เนื่องจากสมาชิกสภาเกษตรกรจังหวัด ได้อยู่ในตําแหน่งจนครบวาระ 4 ปีแล้ว จึงต้องมีการเลือกตั้งสมาชิกสภาเกษตรกรจังหวัด ประเภทผู้แทนเกษตรกร ตามประกาศสํานักงานสภาเกษตรกรแห่งชาติ โดยได้กําหนดวันรับสมัครเลือกตั้งวันที่ 8 -12 กุมภาพันธ์ 2566 เวลา 08.30 น. ถึงเวลา 16.30 น. ไม่เว้นวันหยุดราชการ สถานที่สมัครรับเลือกตั้ง ณ ที่ว่าการอําเภอในเขตพื้นที่ที่มีสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง หรือสถานที่อื่น ที่ผู้อํานวยการการเลือกตั้งสมาชิกสภาเกษตรกรจังหวัดประจําอําเภอได้กําหนด และมีการเลือกตั้งในวันที่ 19 มีนาคมนี้#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
2/2/2023
ภาคใต้
พังงา
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดพังงา
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230202163142581
null
กลุ่มอารักขาพืชตรัง สำนักงานเกษตรจังหวัดตรัง ลงพื้นที่อำเภอกันตัง ถ่ายทอดความรู้การจัดการศัตรูพืชโดยวิธีผสมผสานและการผลิตขยายสารชีวภัณฑ์ให้เกษตรกร
สํานักงานเกษตรจังหวัดตรัง โดยนายวสันต์ สุขสุวรรณ เกษตรจังหวัดตรัง มอบหมายให้ นางสุภัชชา ณ พัทลุง หัวหน้ากลุ่มอารักขาพืช พร้อมเจ้าหน้าที่กลุ่มอารักขาพืช ถ่ายทอดความรู้การจัดการศัตรูพืชโดยวิธีผสมผสานและการผลิตขยายชีวภัณฑ์ (เชื้อสด) ให้กับเกษตรกร โครงการส่งเสริมการใช้สารชีวภัณฑ์และแมลงศัตรูธรรมชาติทดแทนสารเคมีทางการเกษตร กิจกรรมการบริหารจัดการการถ่ายทอดความรู้เกี่ยวกับการป้องกันและกําจัดศัตรูพืชโดยวิธีผสมผสานให้เกษตรกรสําหรับเชื้อเมตาไรเซียม เป็นเชื้อที่ทําให้เกิดโรคกับแมลงซึ่งมีการรายงานถึงความสามารถในการทําลายแมลงได้มากกว่า 200 ชนิด เช่น ตั๊กแตน หนอนด้วง หนอนผีเสื้อ มวน และเพลี้ยต่างๆ อีกทั้งเป็นเชื้อที่เพาะเลี้ยงได้ง่าย และพบทั่วไปในดิน จึงได้รับความนิยมนําไปใช้ในรูปแบบของสารชีวอินทรีย์ฆ่าแมลง จากลักษณะการเข้าทําลายของเชื้อราเขียวที่จะต้องมีกิจกรรมของเอนไซม์ย่อยผนังลําตัวแมลง และเพื่อช่วยเสริมความรุนแรงของเชื้อในการเข้าทําลายแมลง ซึ่งไคติเนสจัดเป็นเอนไซม์ชนิดหนึ่งที่มีบทบาทเกี่ยวข้องกับความรุนแรงในเข้าทําลายแมลงของเชื้อ เมื่อย่อยผนังลําตัวแมลง และปล่อยสารพิษทําลายแมลง ทําให้แมลงป่วย ร่างกายอ่อนแอ และตายในที่สุด สามารถทําให้เกิดโรคในแมลงได้หลายชนิด ส่วนใหญ่ใช้กําจัดแมลงในดินโดยเฉพาะในกลุ่มหนอนด้วงแรด ในระยะตัวหนอน ดักแด้ และตัวเต็มวัย แมลงศัตรูพืชที่สําคัญที่สามารถควบคุมได้ เช่น เพลี้ยกระโดดสีน้ําตาล เพลี้ยจั๊กจั่น เพลี้ยแป้ง หนอนม้วนใบ หนอนกอ เป็นแมลงศัตรูพืชที่มีความสําคัญทางการเกษตร เชื้อเมตาไรเซียมสามารถควบคุมและทําลายแมลงได้ โดยเมื่อเชื้อราเมตาไรเซียมเข้าสู่แมลงทางผิวหนัง หรือช่องว่างของลําตัวรวมทั้งจะสร้างเอนไซม์เพื่อช่วยย่อยผนังบางส่วนและงอกสปอร์แทงผ่านลําตัวเข้าไป เจริญ และเพิ่มปริมาณทําให้แมลงเกิดโรค ตายในที่สุด แมลงที่ตายด้วยเชื้อราเมตาไรเซียม จะมีลักษณะลําตัวแข็งมีเชื้อราขึ้นปกคลุมลําตัวภายนอกเป็นสีเขียว ซึ่งระยะเวลาในการทําลายจะเร็วหรือช้า ขึ้นกับสภาพแวดล้อม ได้แก่ อุณหภูมิ ความชื้นและแสงสว่าง ที่เหมาะสมคือ อุณหภูมิ 25-30 องศาเซลเซียส ความชื้น มากกว่า 80 เปอร์เซ็นต์ ส่วนแสงแดดมีรังสียูวีจะมีผลยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อรา นอกจากนี้ความรุนแรงของเชื้อ จะรุนแรงมากหรือน้อย ยังขึ้นกับลักษณะพันธุกรรมของเชื้อ ความแข็งแรง หรือภูมิต้านทานของแมลงอีกด้วย ซึ่งการใช้เชื้อราเมตาไรเซียม ควบคุมศัตรูพืชจะฉีดช่วงเช้า หรือช่วงเย็นก็ได้ แต่ช่วงเย็นจะเหมาะสมที่สุด สําหรับเชื้อราบิวเวอเรีย เป็นจุลินทรีย์ที่จัดเป็นพวกเชื้อราทําลายแมลง สามารถทําลายแมลงได้หลายชนิดทําลายแมลงโดยผลิต เอนไซม์ที่เป็นพิษต่อศัตรูพืช และเป็นเชื้อราที่อาศัยและกินเศษซากที่ผุพัง ซึ่งการเข้าทําลายแมลงของเชื้อราบิวเวอเรีย สปอร์เชื้อราตกติดอยู่กับผนังลําตัวแมลงเข้าสู่ตัวแมลงทางผนังลําตัว รูหายใจ บาดแผลบนผนังลําตัว ความชื้นเหมาะสมกับการงอก สปอร์จะแทงทะลุผิวหนังลําตัว เชื้อราจะงอกสู่ช่องว่างลําตัวแมลงเจริญเติบโตสร้างเส้นใยมากมายทําลายแมลง เมื่อแมลงตาย เส้นใยจะแทงผ่านผนังลําตัวแมลงออกสู่ภายนอกตัวแมลง สปอร์จะแพร่กระจายไปตามลม ฝนหรือติดกับตัวแมลง เชื้อราจึงสามารถขยายพันธุ์ต่อได้ และเมื่อสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมก็จะทําลายแมลงศัตรูต่อไป เชื้อราบิวเวอเรียสามารถทําลายแมลงศัตรูพืชที่สําคัญ เช่น แมลงหวี่ขาว หนอนเจาะสมอฝ้าย ไรแดง เพลี้ยไฟ เพลี้ยอ่อน เพลี้ยไก่แจ้ส้ม เพลี้ยจักจั่น เพลี้ยกระโดดสีน้ําตาล เป็นต้น เนื่องจากเชื้อค่อนข้างอ่อนแอต่อแสงแดด และอุณหภูมิสูง จึงควรใช้เชื้อราบิวเวอร์เรียในช่วงเวลาเย็นถึงค่ํา ระหว่างที่ฉีด ให้กวนน้ําเป็นระยะ และควรปรับหัวฉีดให้พ่นฝอยละเอียด จะฉีดได้ผลดีและได้พื้นที่เพิ่มขึ้น และควรฉีดเหนือลม สําหรับผู้ที่สนใจสามารถติดต่อขอรับบริการและฝึกผลิตขยายได้ที่ กลุ่มอารักขาพืช สํานักงานเกษตรจังหวัดตรัง#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
2/2/2023
ภาคใต้
ตรัง
สวท.ตรัง
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230202170023597
null
ปศุสัตว์จันทบุรี รณรงค์ฝังไมโครชิพควาย เพื่อการอนุรักษ์ควายไทยสายพันธุ์ดีไม่ให้สูญพันธุ์
น.สพ.ชาติชาย ยิ้มเครือ ปศุสัตว์จังหวัดจันทบุรี พร้อมนายวิทยา สุจิรวรกุล ปศุสัตว์อําเภอท่าใหม่ และนายพรพิทักษ์ พลารักษ์ เจ้าพนักงานสัตวบาล ลงพื้นที่ ฟาร์มชัย ชุมภู ตั้งอยู่ถ.เทศบาลสาย 8 ต.ท่าใหม่ อ.ท่าใหม่ ซึ่งเลี้ยงควายไทยสายพันธุ์ดี มีลักษณะสวยงาม รวม 11 ตัว ในพื้นที่ประมาณ 3 ไร่ มูลค่าของควายแต่ละตัวเฉลี่ยตัวละ 1 ล้านบาท เพื่อรณรงค์ฝังไมโครชิพควาย โดยจะฝังที่โคนหางด้านซ้ายของควายทุกตัว ซึ่งจะทําให้ทราบแหล่งที่มาของควาย ใครเป็นเจ้าของ ประวัติการรักษาพยาบาล ประวัติการฉีดวัคซีนป้องกันโรค และช่วยในการตรวจสอบหาเจ้าของ กรณีที่มีการลักขโมย หรือใช้เป็นข้อมูลในการพิจารณาอนุญาตให้เคลื่อนย้ายสัตว์ไปท้องที่ต่างๆ รวมทั้งใช้ในการตรวจสอบประวัติสัตว์ ป้องกันการนําแม่ควายตั้งท้องหรือแม่ควายเลี้ยงลูกอ่อนเข้าโรงฆ่าสัตว์ อันเป็นการกระทําที่ผิดกฎหมาย การฝังไมโครชิพ จึงช่วยป้องกันการลดลงของประชากรควายได้ ซึ่งสาเหตุหนึ่งที่จํานวนประชากรควายลดลงเนื่องมาจากการทําการเกษตรในปัจจุบันเปลี่ยนไป เกษตรกรใช้รถไถนาที่เป็นเครื่องจักรเพิ่มมากขึ้น เพราะทํางานเสร็จเร็วกว่าและสะดวกกว่า จึงขายควายเข้าโรงฆ่า โดยเฉพาะควายเพศเมียและควายอายุน้อย ขณะที่เกษตรกรที่เลี้ยงควายอยู่ก็ไม่ให้ความสนใจในการเลี้ยงดู การปรับปรุงพันธุ์ และการป้องกันโรค ฟาร์มควายชัย ชุมภู เจ้าของเลี้ยงควายไว้เพื่อการอนุรักษ์และพัฒนาควายสายพันธุ์ดี รวมทั้งให้เป็นแหล่งศึกษาเรียนรู้แก่ผู้สนใจในการเลี้ยงควาย ซึ่งเจ้าหน้าที่จะพัฒนาให้เป็นเครือข่ายสัตว์พันธุ์ดีของจังหวัด เพื่อเพิ่มจํานวนควายไทยสายเลือดดี มีลักษณะสวยงามในจังหวัดต่อไป สําหรับ ไมโครชิพที่ฝังในควายเป็นชนิดที่ไม่มีแบตเตอรี่ในตัว แต่รับคลื่นความถี่วิทยุจากเครื่องอ่าน แล้วสะท้อนข้อมูลรหัสเป็นตัวเลข 15 หลัก แสดงบนเครื่องอ่าน ไมโครชิพมีลักษณะเป็นหลอดแก้วมีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 3 มิลลิเมตร ความยาวหลอดแก้ว 13 มิลลิเมตร โดยไมโครชิพจะบรรจุอยู่ในเข็มและไซริงค์ บรรจุปิดผนึกอยู่ในซองที่ผ่านการฆ่าเชื้อโรคพร้อมใช้งานได้ทันที เมื่อฝังแล้วจะอยู่ในร่างกายสัตว์ได้นานตลอดชีวิต โดยไม่ทําปฏิกิริยากับร่างกายสัตว์ ขอเชิญชวนเจ้าของสัตว์ที่เลี้ยงควายในเชิงอนุรักษ์สายพันธุ์ ติดต่อขอขึ้นทะเบียนสัตว์ได้ที่ปศุสัตว์อําเภอ และฝังไมโครชิพ โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
2/2/2023
ภาคตะวันออก
จันทบุรี
สวท.จันทบุรี
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230202170822603
null
รองนายกรัฐมนตรี เปิดโครงการเติมน้ำเติมบุญเติมทุนพัฒนาอาชีพที่มุกดาหาร มุ่งเน้นการจัดการระบบน้ำในสวนยางให้มีประสิทธิภาพ
วันนี้ (2 ก.พ 66) พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เปิดโครงการ "เติมน้ําเติมบุญเติมทุนพัฒนาอาชีพ" ที่หน้าศาลากลางจังหวัดมุกดาหาร มุ่งเน้นการจัดการระบบน้ําในสวนยางให้มีประสิทธิภาพให้แก่เกษตรกรชาวสวนยาง โดยการส่งเสริมการขุดเจาะน้ําบาดาลและติดตั้งระบบสูบน้ําพลังงานแสงอาทิตย์ให้แก่เกษตรกรชาวสวนยางให้มีรายได้เพิ่มขึ้น โดยมีเกษตรกรและชาวมุกดาหาร มาร่วมในพิธีเปิดงานในครั้งนี้กว่า 10,000 คนด้านนายธรรม นิลสุวรรณ ผอ.การยางแห่งประเทศไทยเขตภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน กล่าวว่า ตามนโยบายของรัฐบาลที่ได้เล็งเห็นถึงความสําคัญในการบริหารจัดการทรัพยากรน้ําให้เป็นไปอย่างมีเอกภาพและบรรลุตามวัตถุประสงค์ จึงได้ดําเนินโครงการนี้ เพื่อแก้ไขปัญหาในเรื่องของน้ําสําหรับใช้ในภาคการเกษตรให้เกษตรกร มีทางเลือกในการสร้างรายได้และลดผลกระทบจากความผันผวนของราคายาง สนับสนุนกระบวนการผลิตยางของเกษตรกรให้มีประสิทธิภาพ ได้มาตรฐานและสอดคล้องกับแนวทาง BCG Model ซึ่งที่ผ่านมาพบว่า การปลูกพืชภาคการเกษตร มักจะประสบกับปัญหาเรื่องของแหล่งน้ําสําหรับการเพาะปลูกและดูแล หากเกษตรกร มีการบริหารวางแผนการกักเก็บหรือการใช้น้ําที่มีประสิทธิภาพ ควบคู่ไปกับการนํานวัตกรรม เช่น การใช้ระบบแก๊สเอทธิลีน จะเป็นการช่วยเพิ่มปริมาณของผลผลิตยางพาราที่ลดน้อยลงในช่วงที่ฝนทิ้งช่วงได้ ซึ่งระบบสูบน้ําพลังงานแสงอาทิตย์ มีข้อดีเป็นอุปกรณ์ที่เหมาะสมกับพื้นที่ห่างไกลไฟฟ้าเป็นทางเลือกพลังงานทดแทนที่สะอาดและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โครงการนี้ จะช่วยส่งเสริมการสร้างอาชีพเสริมในสวนยางให้แก่เกษตรกร เช่น การปลูกพืชแซม การเลี้ยงปลา การเลี้ยงสัตว์ เป็นการสร้างรายได้เพิ่มในช่วงที่สวนยางพาราพักกรีดได้อีกทางหนึ่งและเป็นการส่งเสริมให้เกษตรกร สามารถนํานวัตกรรมที่ช่วยลดต้นทุนและเพิ่มผลผลิตได้อย่างคุ้มค่าอีกด้วย#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
2/2/2023
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
มุกดาหาร
สวท.มุกดาหาร
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230202175034627
null
จังหวัดเชียงใหม่ สั่งงดบริหารจัดการเชื้อเพลิงในพื้นที่จนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย หลังพบค่าฝุ่น PM 2.5 สูงเกินมาตรฐาน พร้อมกำชับทุกหน่วยเร่งบูรณาการแก้ไขปัญหาฝุ่นควันอย่างเข้มงวด
นายชัชวาลย์ ปัญญา รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ได้สั่งการให้ทุกอําเภองดการบริหารจัดการเชื้อเพลิงโดยวิธีการเผาในระยะนี้ไปจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย หลังค่าคุณภาพอากาศของจังหวัดเชียงใหม่มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นอยู่ในเกณฑ์ที่มีผลกระทบต่อสุขภาพประชาชน พร้อมเน้นย้ําให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องบูรณาการดําเนินงานตามแผนปฏิบัติงานอย่างเคร่งครัดและเป็นไปในแนวทางเดียวกัน เตรียมความพร้อมในทุกด้านเพื่อแก้ไขปัญหาไฟป่าได้อย่างมีประสิทธิภาพ เร่งประชาสัมพันธ์สร้างความเข้าใจแก่ประชาชนให้ตระหนักถึงผลกระทบจากการเผาป่า และขอความร่วมมือส่วนราชการและประชาชนช่วยกันสอดส่องดูแลพื้นที่เสี่ยงป้องกันการเกิดปัญหาไฟป่า หมอกควัน ทั้งนี้ ประชาชนสามารถติดตามรายงานสถานการณ์ค่าคุณภาพอากาศได้ที่แอปพลิเคชัน Air4Thai#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
2/2/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สวท.เชียงใหม่
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230202201927679
null
อำเภอบัวลายจัดกิจกรรมแปลงต้นแบบปลอดการเผา “เกษตรกรโคราชยุคใหม่ร่วมใจไม่เผาพื้นที่การเกษตร”
วันนี้ (2 ก.พ. 66) เวลา 10.00 น. นายสามารถ สุวรรณมณี ปลัดจังหวัดนครราชสีมา เป็นประธานเปิดกิจกรรมแปลงต้นแบบปลอดการเผา “เกษตรกรโคราชยุคใหม่ร่วมใจไม่เผาพื้นที่การเกษตร” เพื่อรณรงค์และสาธิตการไถกลบตอซังและเศษซากพืช สร้างการรับรู้ให้แก่เกษตรกรในการหยุดเผาตอซังในพื้นที่การเกษตร เพื่อลดมลพิษหมอกควันและฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM 2.5)ในช่วงภัยแล้ง โดยมี นายจิรเดช พงษ์ประสิทธิ์ นายอําเภอบัวลาย พร้อมด้วย ส.อบจ. หัวหน้าส่วนราชการ ผู้บริหารท้องถิ่น ผู้นําท้องที่ และประชาชนในพื้นที่ ต.บัวลาย เข้าร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ ณ บ.หนองแสง ต.บัวลาย อ.บัวลาย จ.นครราชสีมา#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
2/2/2023
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
นครราชสีมา
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนครราชสีมา
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230202210618691
null
ธ.ก.ส.สาขาบ้านลาด ยกระดับธนาคารต้นไม้สู่ชุมชนไม้มีค่า นำวัสดุการเกษตรกลับมาใช้ประโยชน์ สร้างมูลค่าเพิ่ม ลดการเผาทิ้ง ลดมลพิษทางอากาศ
นายสุรเดช สืบบัวแก้ว พัฒนาลูกค้า ธ.ก.ส.เพชรบุรี กล่าวว่า ธ.ก.ส. มองเห็นความสําคัญของการปลูกต้นไม้ รักษาระบบนิเวศ และสิ่งแวดล้อม ด้วยการสนับสนุนให้ความรู้การทําผลิตภัณฑ์จากตาล สอดคล้องกับตามแนวทางปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง และการพัฒนาเศรษฐกิจแบบองค์รวม (BCG Model) เศรษฐกิจชีวภาพ (Bio economy) มุ่งเน้นการใช้ทรัพยากรชีวภาพเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่ม โดยเน้นการพัฒนาผลผลิตทางการเกษตรให้เป็นผลิตภัณฑ์มูลค่าสูง เชื่อมโยงกับ เศรษฐกิจหมุนเวียน โดยมีวัตถุประสงค์ นําผลิตภัณฑ์จากก้านตาลมาทําเฟอร์นิเจอร์ จัดกิจรรมส่งเสริมให้ความรู้ ธ.ก.ส.จะนําไปต่อยอด หาตลาด นําไปจําหน่ายให้กับผู้ที่สนใจ นําไปขายที่ ธ.ก.ส. สํานักงานใหญ่ กรุงเทพมหานคร และสํานักงาน ธ.ก.ส.จังหวัดเพชรบุรี ด้านนายธนกร น่วมด้วง ประธานกลุ่มวิสาหกิจชุมชนก้านตาลวิลเทรด ผู้จัดตั้งธนาคารต้นไม้บ้านหนองพลับ - ไร่สะท้อน อําเภอบ้านลาด จังหวัดเพชรบุรี กล่าวว่า ธ.ก.ส.เพชรบุรีได้ให้การสนับสนุนโครงการนี้ ยกระดับต้นไม้สร้างมูลค่าเพิ่ม ซึ่งในพื้นที่อําเภอบ้านลาดในชุมชนมีต้นตาลเป็นจํานวนมาก มองเห็นประโยชน์ของก้านตาลที่ร่วงหล่นปีละมากกว่า 1 ล้านก้าน ชาวบ้านนําไปเผาทิ้ง ก่อให้เกิดมลภาวะทางอากาศ จึงนํามาแปรรูปเป็นเฟอร์นิเจอร์ไม้ ผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ เช่น เก้าอี้จิ๋วรักษ์โลก เก้าอี้พับ โต๊ะกาแฟ โคมไฟวิลเทรด เก้าอี้เอนนอน ที่ทําจากก้านตาล ลดการเผาทิ้ง ลดมลพิษทางอากาศ เพิ่มมูลค่า สร้างงาน สร้างรายได้ สู่ชุมชน สวท.เพชรบุรี#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
3/2/2023
ภาคตะวันตก
เพชรบุรี
สวท.เพชรบุรี
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230203090610729
null
จังหวัดพังงา ประชุมคณะกรรมการคัดเลือกผู้แทนเกษตรกรในคณะกรรมการปฏิรูปที่ดิน
นายเอกรัฐ หลีเส็น ผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา มอบหมายให้นายเถลิงศักดิ์ นุชประหาร รองผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการคัดเลือกผู้แทนเกษตรกรในคณะกรรมการปฏิรูปที่ดินจังหวัดพังงา ครั้งที่ 1/2566 ณ ห้องประชุมสํานักงานเกษตรและสหกรณ์จังหวัด (อู่เรือ) ตําบลท้ายช้าง อําเภอเมืองพังงา จังหวัดพังงา การประชุมในครั้งนี้เพื่อทราบการครบกําหนดวาระการเป็นกรรมการผู้แทนเกษตรกรในคณะกรรมการปฏิรูปที่ดินจังหวัดพังงา และเพื่อพิจารณาคัดเลือกผู้แทนเกษตรกรเพื่อพิจารณา แต่งตั้งเป็นกรรมการในคณะกรรมการปฏิรูปที่ดินจังหวัดพังงาต่อไป#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
3/2/2023
ภาคใต้
พังงา
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดพังงา
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230203093555750
null
สถานการณ์ฝุ่น pm 2.5 จ.ระยองน่าเป็นห่วง พบเกินค่ามาตรฐานในหลายพื้นที่ เตือนประชาชนดูแลสุขภาพ
นายครรชิต ศรีนพวรรณ ผอ.สนง.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จ.ระยอง เปิดเผยว่า สถานการณ์ฝุ่น pm 2.5 จ.ระยองน่าเป็นห่วง พบปริมาณฝุ่นเกินค่ามาตรฐานในหลายพื้นที่ โดยสถานีตรวจวัดอากาศ ทั้ง 6 แห่ง คือ ที่สถานีตรวจวัดอากาศ ปลวกแดง มาบตาพุด ท่าประดู่ ห้วยโป่ง เนินพระ และ ตะพง มีปริมาณฝุ่นอยู่ที่ 62-79 ไมครอน เป็นสีส้ม เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ โดยมีสาเหตุจาก การเผาวัชพืช การก่อสร้าง เพลิงไหม้ ประกอบกับสภาพอากาศนิ่งสงบ ไม่มีลมพัดผ่าน ในช่วงวันที่ 1-4 ก.พ.นี้อย่างไรก็ตาม เพื่อป้องกันผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน ควรงดออกกําลังกายหรือทํากิจกรรมกลางแจ้ง ควรใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเอง หากมีปัญหาทางสุขภาพ ควรปรึกษาแพทย์ทั้งนี้ สามารติดตามสถานการณ์ผ่านทางเว็บไซต์ Air4Thai.com และ airbkk.com แอปพลิเคชัน Air4Thai และ AirBKสวท.ระยอง รายงาน#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
3/2/2023
ภาคตะวันออก
ระยอง
สวท.ระยอง
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230203093939752
null
จังหวัดตรัง ตรวจติดตามการปรับปรุงแก้ไขโรงงาน กรณีเกี่ยวกับการร้องเรียนการประกอบกิจการโรงงาน ที่ก่อให้เกิดฝุ่นละอองฟุ้งกระจาย และทำให้เกิดผลกระทบต่อประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณใกล้เคียง
นางพรทิพา อัครสุต อุตสาหกรรมจังหวัดตรัง มอบหมายให้นายเทอด อักษรทอง หัวหน้ากลุ่มโรงงานอุตสาหกรรม สํานักงานอุตสาหกรรมจังหวัดตรัง ร่วมตรวจติดตามการปรับปรุงแก้ไขโรงงาน กรณีเกี่ยวกับการร้องเรียน บริษัท ทีทีอาร์ กรีน พาวเวอร์ จํากัด ประกอบกิจการ ผลิตเชื้อเพลิงแข็งอัดเม็ดจากขี้เลื่อย ตั้งอยู่ ณ หมู่ที่ 2 ถนนตรัง - สิเกา ตําบลนาเมืองเพชร อําเภอสิเกา จังหวัดตรัง จากการประกอบกิจการโรงงาน ที่ก่อให้เกิดฝุ่นละอองฟุ้งกระจาย และทําให้เกิดผลกระทบต่อประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณใกล้เคียง โดยมีสํานักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดตรัง องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้นําชุมชน และตัวแทนภาคประชาชนในพื้นที่ ร่วมติดตามกรณีดังกล่าวด้วยทั้งนี้ สํานักงานอุตสาหกรรมจังหวัดตรัง ได้ดําเนินการตรวจกํากับโรงงานในพื้นที่จังหวัดตรังอย่างเข้มงวด เน้นตรวจเชิงรุกด้านฝุ่นละอองโรงงานที่มีกระบวนการเผาไหม้ เพื่อเป็นการป้องกันปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM2.5) จากการประกอบกิจการโรงงาน พร้อมกําชับผู้ประกอบการวางแผนการผลิต และควบคุมดูแลการประกอบกิจการ ให้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน ต้องดูแลรักษาระบบบําบัดมลพิษอากาศให้มีประสิทธิภาพตลอดเวลาด้วย#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
3/2/2023
ภาคใต้
ตรัง
สวท.ตรัง
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230203095416758
null
อุตสาหกรรมจังหวัดตรัง สำรวจพื้นที่เป้าหมายพร้อมเชิญชวนสมาชิกใหม่เข้าร่วมโครงการสร้างและพัฒนาเครือข่ายอุตสาหกรรมรักษ์สิ่งแวดล้อม ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566
นางพรทิพา อัครสุต อุตสาหกรรมจังหวัดตรัง มอบหมายให้เจ้าหน้าที่กลุ่มโรงงานอุตสาหกรรม ดําเนินจัดกิจกรรมประชาสัมพันธ์โครงการเชิญชวนสมาชิกใหม่เข้าร่วมโครงการ และสํารวจพื้นที่เป้าหมาย ภายใต้โครงการการสร้างและพัฒนาเครือข่ายอุตสาหกรรมรักษ์สิ่งแวดล้อม ประจําปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ณ พื้นที่เป้าหมาย ตําบลนาเมืองเพชร อําเภอสิเกา จังหวัดตรัง เพื่อส่งเสริมการมีส่วนร่วมของชุมชน สถานประกอบการ และส่วนราชการ ในรูปแบบเครือข่ายในการเฝ้าระวังการเกิดผลกระทบด้านมลพิษสิ่งแวดล้อมจากการประกอบธุรกิจอุตสาหกรรม เพื่อลดข้อร้องเรียนซ้ําซากจากปัญหาผลกระทบด้านมลพิษจากโรงงานอุตสาหกรรม ทั้งนี้ กิจกรรมดังกล่าวได้รับความร่วมมือที่ดีจากชาวบ้าน และส่วนราชการ ในการร่วมกันสร้างเครือข่ายอุตสาหกรรมรักษ์สิ่งแวดล้อมให้มีความมั่นคงและยั่งยืน เพื่อช่วยเหลือภาครัฐดําเนินงานป้องกันและเฝ้าระวังสิ่งแวดล้อมต่อไป#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
3/2/2023
ภาคใต้
ตรัง
สวท.ตรัง
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230203100230760
null
เช้านี้ค่าฝุ่น PM 2.5 กทม.และปริมณฑลยังสูงขึ้นในระดับสีแดงมีผลกระทบต่อสุขภาพวันที่ 3 ถึง 3 พื้นที่ เนื่องจากสภาพอากาศยังคงปิดและลมสงบต่อเนื่อง โดยต้องเฝ้าระวังพิเศษถึง 4 ก.พ.
เช้านี้ค่าฝุ่น PM 2.5 กรุงเทพมหานครและปริมณฑลยังสูงขึ้นในระดับสีแดงมีผลกระทบต่อสุขภาพวันที่ 3 ถึง 3 พื้นที่ เนื่องจากสภาพอากาศยังคงปิดและลมสงบต่อเนื่อง โดยต้องเฝ้าระวังพิเศษถึงวันที่ 4 กุมภาพันธ์ นายปิ่นสักก์ สุรัสวดี อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) ในฐานะประธานศูนย์แก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศ (ศกพ.) กล่าวว่า วันนี้ (3 ก.พ.66) ค่าฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM 2.5) ในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑลคุณภาพอากาศเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพถึงมีผลกระทบต่อสุขภาพ โดยค่าฝุ่นลดลงเล็กน้อยจากเมื่อวานนี้แต่ยังคงสูงติดต่อกันเป็นวันที่ 3 ทุกพื้นที่พบสูงสุด 92 - 105 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตรในระดับสีแดงมีผลกระทบต่อสุขภาพถึง 3 พื้นที่ คือ ริมถนนกาญจนาภิเษก เขตบางขุนเทียน , ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี และต.ปากน้ํา อ.เมือง จ.สมุทรปราการ เนื่องจากอากาศยังคงปิดและลมสงบต่อเนื่อง ประกอบกับ การจราจรหนาแน่นในหลายพื้นที่ ส่งผลให้ฝุ่นเกิดการสะสมตัวมากขึ้น ทั้งนี้ ศูนย์แบบจําลองคุณภาพอากาศและภูมิศาสตร์สารสนเทศ กรมควบคุมมลพิษ (คพ.) ได้คาดการณ์สถานการณ์ฝุ่นละออง PM 2.5 จําเป็นต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษถึงวันที่ 4 กุมภาพันธ์ เนื่องจากสภาพอากาศที่นิ่งและปิด บริเวณพื้นที่กรุงเทพกลาง กรุงธนเหนือ และกรุงธนใต้ (พื้นที่ท้ายลม) จึงขอความร่วมมือประชาชนบํารุงดูแลรักษารถยนต์อย่างสม่ําเสมอ จอดรถให้ดับเครื่อง ลดการเผาในที่โล่ง ใช้รถเท่าที่จําเป็น Work From Home และขอให้ประชาชนเฝ้าระวังสถานการณ์ หากอยู่บริเวณพื้นที่มีปริมาณฝุ่น PM 2.5 สูงเกินเกณฑ์มาตรฐาน หรือ พื้นที่สีส้มและสีแดง ให้หลีกเสี่ยงกิจกรรมกลางแจ้ง สวมใส่หน้ากากอนามัย 2 ชั้น หรือ N95 หรือใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเอง หากมีอาการทางสุขภาพควรปรึกษาแพทย์ ทั้งนี้ สามารถติดตามสถานการณ์คุณภาพอากาศได้ทั้งแบบค่าเฉลี่ยรายชั่วโมงและแบบค่าเฉลี่ย 24 ชั่วโมง ผ่านทางเว็บไซด์ Air4Thai.com และ bangkokairquality.com หรือทางแอปพลิเคชั่น Air4Thai และ AirBKK แล้วยังติดตามข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับสถานการณ์คุณภาพอากาศผ่านทาง Facebook Fanpage ศูนย์แก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศ (ศกพ.)
3/2/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230203103421769
null
ปิดอ่าวไทยตอนกลาง 15 ก.พ.–15 พ.ค. และ 16 พ.ค.–14 มิ.ย. คุ้มครองพ่อแม่พันธุ์ แพร่ขยายพันธุ์
นายเฉลิมชัย สุวรรณรักษ์ อธิบดีกรมประมง กล่าวว่า มาตรการบริหารจัดการทรัพยากรสัตว์น้ํามีไข่ วางไข่ เลี้ยงตัวอ่อน บริเวณอ่าวไทยตอนกลาง มีวัตถุประสงค์เพื่อคุ้มครองพ่อแม่พันธุ์สัตว์น้ําเศรษฐกิจโดยเฉพาะปลาทู ให้สามารถวางไข่ แพร่ขยายพันธุ์และคุ้มครองลูกสัตว์น้ําให้สามารถเจริญเติบโตทดแทนสัตว์น้ําที่ถูกจับไป ซึ่งเป็นมาตรการที่สําคัญของกรมประมงที่ดําเนินการมาอย่างต่อเนื่องยาวนาน โดยปัจจุบันนี้ใช้ประกาศ ฉบับลงวันที่ 31 มกราคม 2561 เรื่อง กําหนดพื้นที่ และระยะเวลาฤดูสัตว์น้ํามีไข่ วางไข่ เลี้ยงตัวอ่อน ในที่จับสัตว์น้ําบางส่วนของจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี โดยแบ่งการใช้มาตรการออกเป็น 2 ช่วง ได้แก่ ช่วงที่ 1 วันที่ 15 กุมภาพันธ์–15 พฤษภาคม 2566 เป็นระยะเวลา 90 วัน และช่วงที่ 2 ต่อด้วยอาณาเขตตามแผนที่แนบท้ายของประกาศปิดอ่าวไทยตอนกลางและเขตต่อเนื่องปลายแหลมเขาม่องไล่ ถึงอําเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ระหว่างวันที่ 16 พฤษภาคม–14 มิถุนายน 2566 เป็นระยะเวลา 30 วัน โดยห้ามใช้เครื่องมือที่มีผลกระทบต่อพ่อแม่พันธุ์และลูกพันธุ์สัตว์น้ําวัยอ่อน และอนุญาตให้ใช้เฉพาะเครื่องมือประมงบางชนิดของกลุ่มเรือประมงขนาดเล็กซึ่งไม่กระทบกับมาตรการปิดอ่าวไทยตอนกลาง ทั้งนี้ ปริมาณการจับปลาทูในอ่าวไทยปีที่ผ่านมา จับได้ถึง 31,999 ตัน มูลค่ากว่า 2,000 ล้านบาท มากกว่าผลจับของปี 2564 หรือคิดเป็นร้อยละ 63 ซึ่งถือเป็นสัญญาณอันดีที่แสดงถึงความเหมาะสมของการใช้มาตรการปิดอ่าวไทยอย่างต่อเนื่อง แต่อย่างไรก็ตาม ในการติดตามประเมินผลทางวิชาการของมาตรการฯ พบว่าในห้วงเวลาก่อนการประกาศปิดอ่าวไทยตอนกลาง ช่วงวันที่ 1–14 กุมภาพันธ์ พบพ่อแม่ปลาทูมีความสมบูรณ์เพศในอัตราที่สูง ติดต่อกัน 2 ปี ซึ่งแสดงให้เห็นว่าปลาทูมีความสมบูรณ์เพศก่อนช่วงมาตรการปิดอ่าวไทยตอนกลาง และพบความยาวเฉลี่ยของพ่อ-แม่ ปลาทูอยู่ที่ 18.5 เซนติเมตร ซึ่งพร้อมสืบพันธุ์วางไข่ จึงมีข้อเสนอแนะทางวิชาการว่าเห็นควรปรับปรุงมาตรการปิดอ่าวไทยตอนกลางให้สอดคล้องกับสภาวะทรัพยากรและสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลง และให้จัดเวทีประชุมรับฟังความคิดเห็นจากผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องด้วย อย่างไรก็ดีเพื่อไม่ให้กระทบต่อชาวประมง กรมประมงจึงคงใช้มาตรการปิดอ่าวไทยตอนกลาง ตามประกาศฉบับเดิม ลงวันที่ 31 มกราคม 2561 เรื่อง กําหนดพื้นที่ และระยะเวลาฤดูสัตว์น้ํามีไข่ วางไข่ เลี้ยงตัวอ่อน ในที่จับสัตว์น้ําบางส่วนของจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี กรมประมงจะมีการศึกษาทางวิชาการอย่างต่อเนื่องและรอบด้าน เพื่อเป็นข้อมูลในการปรับปรุงมาตรการให้เหมาะสมและสอดคล้องกับสถานการณ์ต่อไป ดังนั้น ในช่วงวันที่ 1–14 กุมภาพันธ์ 2566 ก่อนมาตรการปิดอ่าวกรมประมง ขอเชิญชวนให้พี่น้องชาวประมงช่วยกันคุ้มครองพ่อแม่พันธุ์ปลาทู เพื่อเปิดโอกาสให้พ่อแม่พันธุ์ปลาทูสามารถแพร่ขยายพันธุ์ได้
3/2/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
Radio-สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230203104905775
null
เทศบาลนครตรัง เดินหน้าขับเคลื่อนโครงการเมืองสิ่งแวดล้อมยั่งยืน จังหวัดตรัง ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566
นายวีร์รัศม์ เจือกโว้น รองนายกเทศมนตรีนครตรัง เป็นประธานการประชุมคณะทํางานดําเนินงานโครงการเมืองสิ่งแวดล้อมยั่งยืน ประจําปี 2566 สืบเนื่องจากเทศบาลนครตรัง ได้สมัครเข้าร่วมโครงการเมืองสิ่งแวดล้อมยั่งยืน จังหวัดตรัง ประจําปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 เพื่อส่งเสริมท้องถิ่นให้มีการปรับใช้ในการพัฒนาเมืองให้น่าอยู่ ควบคู่กับการพัฒนาองค์กร ได้แก่ 1) เมืองอยู่ดี 2) คนมีสุข 3) สิ่งแวดล้อมยั่งยืน และ 4) เทศบาลแห่งการเรียนรู้และบริหารจัดการที่ดี โดยการประชุมครั้งนี้ เป็นการชี้แจงตัวชี้วัดเมืองสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืน แก่ สํานัก/กอง ที่มีหน้าที่ดูแลแลและเกี่ยวข้อง เพื่อให้การดําเนินงานเป็นไปด้วยความเรียบร้อย บรรลุตามวัตถุประสงค์ทั้งนี้ หลักการดําเนินงานโครงการเมืองสิ่งแวดล้อมยั่งยืน คือ การมีส่วนร่วมของประชาชน เน้นการสร้างเครือข่าย สานพลังร่วมระหว่างภาคีทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องกับการจัดการสิ่งแวดล้อมเมือง ตั้งแต่ระดับชุมชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) จังหวัด ประเทศ จนถึงระดับภูมิภาคอาเซียน เพื่อส่งเสริมความเข้มแข็งให้ อปท. สามารถบริหารจัดการสิ่งแวดล้อมได้เอง และยกระดับสู่เมืองต้นแบบการจัดการสิ่งแวดล้อมยั่งยืนในภูมิภาคอาเซียน โดยมีเกณฑ์ชี้วัด 4 ด้าน ได้แก่ เมืองอยู่ดี คนมีสุข สิ่งแวดล้อมยั่งยืน และเทศบาลแห่งการเรียนรู้และการบริหารจัดการที่ดี โดยน้อมนําหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ซึ่งมุ่งเน้นการพัฒนาที่มีความสมดุลด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม มาเป็นแนวทางในการพัฒนา#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
3/2/2023
ภาคใต้
ตรัง
สวท.ตรัง
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230203103423770
null
จังหวัดสตูล จัดประชุมคณะกรรมการการเลือกตั้งสมาชิกสภาเกษตรจังหวัด ครั้งที่ 1/2566
วันนี้ (3 ก.พ. 66) ที่ห้องประชุมโต๊ะหยงกง ชั้น 3 ศาลากลางจังหวัดสตูล นายชูชีพ ธรรมเพชร รองผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการคณะกรรมการการเลือกตั้งสมาชิกสภาเกษตรจังหวัด ครั้งที่ 1/2566 โดยมีนายวิศาล กิตติประโยค หัวหน้าสํานักงานสภาเกษตรกรจังหวัด พร้อมด้วยคณะกรรมการที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุมดังกล่าวโดยพร้อมเพรียงกันสําหรับการประชุมในครั้งนี้ เพื่อรับทราบระเบียบสภาเกษตรกรแห่งชาติ ว่าด้วยหลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขการเลือกตั้งสมาชิกเกษตรกรจังหวัด ประเภทผู้แทนเกษตรกร พ.ศ.2565 การแต่งตั้งคณะกรรมการการเลือกตั้งสมาชิกเกษตรกรจังหวัด ประเภทผู้แทนเกษตรกร นอกจากนี้ คณะกรรมการได้ร่วมกันพิจารณาแต่งตั้งคณะอนุกรรมการเพื่อช่วยเหลือภารกิจของคณะกรรมการการเลือกตั้งสมาชิกสภาเกษตรกรจังหวัด ประจําจังหวัดสตูล พิจารณาแต่งตั้งคณะทํางานพิจารณาคําคัดค้านการเลือกตั้ง พิจารณาขอความร่วมมือนายอําเภอทั้ง 7 อําเภอในฐานะประธานกรรมการเลือกตั้งสมาชิกสภาเกตรกรจังหวัดประจําอําเภอ ประชาสัมพันธ์การเลือกตั้งฯ และพิจารณาขอความรร่วมมือหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรกรและสหกรณ์ประชาสัมพันธ์การเลือกตั้งสมาชิกสภาเกษตรกรจังหวัด ประเภทผู้แทนเกษตรกรอีกด้วย#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
3/2/2023
ภาคใต้
สตูล
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสตูล
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230203103640772
null
กรมฝนหลวงและการบินเกษตร เร่งทำฝนหลวง บรรเทาหมอกควันและฝุ่น PM2.5 ในพื้นที่ภาคเหนือ
นายสุพิศ พิทักษ์ธรรม รองอธิบดีกรมฝนหลวง และการบินเกษตร รักษาราชการแทนอธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตร เปิดเผยหลังลงพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ติดตามสถานการณ์การแก้ไขปัญหาหมอกควันและฝุ่นละอองขนาดเล็กในพื้นที่ภาคเหนือ ที่ศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคเหนือ จังหวัดเชียงใหม่ ว่า ตามที่ค่าคุณภาพอากาศในพื้นที่ภาคเหนือตั้งแต่ช่วงกลางเดือนมกราคมถึงต้นเดือนกุมภาพันธ์ เริ่มมีแนวโน้มสูงขึ้นและมีค่าสูงกว่าเกณฑ์มาตรฐาน ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน เนื่องจากลมที่พัดปกคลุมประเทศไทยบริเวณตอนบนมีกําลังอ่อนลง จึงทําให้มีการสะสมของฝุ่นละอองเพิ่มมากขึ้น โดยส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนในพื้นที่ภาคเหนือเป็นวงกว้างแล้วนั้น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มีความห่วงใยพี่น้องประชาชนจากสถานการณ์ดังกล่าว จึงได้สั่งการให้กรมฝนหลวงและการบินเกษตร วางแผนปฏิบัติการฝนหลวงช่วยเหลือพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบอย่างเร่งด่วน โดยขอให้ประสานกับหน่วยงานในพื้นที่ที่เกี่ยวข้อง เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับพื้นที่ป่าไม้ ลดโอกาสการเกิดไฟป่า บรรเทาปัญหาหมอกควันและปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก เพื่อให้ประชาชนได้รับผลกระทบน้อยที่สุดจึงได้ตั้งหน่วยปฏิบัติการฝนหลวงเคลื่อนที่เร็ว จังหวัดเชียงใหม่ ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป เพื่อทําฝนบรรเทาปัญหาหมอกควันและฝุ่นละอองขนาดเล็ก โดยมอบหมายให้ศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคเหนือ จังหวัดเชียงใหม่ ติดตามสภาพอากาศอย่างใกล้ชิด ซึ่งพบว่า ในทุกๆ ปี ภาคเหนือจะได้รับอิทธิพลจากบริเวณความกดอากาศสูงและคลื่นกระแสลมฝ่ายตะวันตกที่แผ่ปกคลุม ทําให้มีโอกาสเกิดฝน 3-5 วันต่อเดือน และติดตามสภาพอากาศอย่างใกล้ชิดเป็นประจําทุกวัน เพื่อวางแผนปฏิบัติการฝนหลวงเมื่อสภาพอากาศเหมาะสมและเข้าเงื่อนไข โดยมีพื้นที่เป้าหมายช่วยเหลือ จํานวน 6 ดอย รวมถึงพื้นที่เฝ้าระวังรอยต่อระหว่างจังหวัด จํานวน 19 รอยต่อของพื้นที่ภาคเหนือที่อาจเกิดไฟป่าอีกด้วย
3/2/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
Radio-สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230203105230779
null
อ.คอนสาร คัดเลือกเกษตรกรดีเด่นแห่งชาติ สาขาอาชีพปลูกหม่อนเลี้ยงไหม ประจำปี 2566
วันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2566 นายทินพล เฉลิมวสุธา นายอําเภอคอนสาร ร่วมเป็นเกียรติ ในการคัดเลือกเกษตรกรดีเด่นแห่งชาติ สาขาอาชีพปลูกหม่อนเลี้ยงไหม ประจําปี 2566 ราย นางหนูเพชร สายบัว เกษตรกรผู้ปลูกหม่อนเลี้ยงไหมบ้านดงบัง หมู่ที่ 1 ต.ดงบัง โดยมีนายประกอบ เผ่าพงศ์ อธิบดีกรมหม่อนไหม เป็นประธานคณะกรรมการคัดเลือกฯ เพื่อเข้ารับโล่รางวัลพระราชทานฯ และมี ผอ.ศูนย์หม่อนไหมเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดชัยภูมิ ขอนแก่น ร้อยเอ็ด มุกดาหาร (เขต 3) สกจ.ชัยภูมิ หัวหน้าส่วนราชการอําเภอคอนสาร ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กํานัน ผู้ใหญ่บ้าน ฯลฯ กลุ่มอินทรีย์วิถีไทคอนสาร ประชาชน คณะครูและนักเรียนในพื้นที่อําเภอคอนสาร เข้าร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ ณ บ้านดงบัง หมู่ที่ 1 ต.ดงบัง อ.คอนสาร จ.ชัยภูมิ#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
3/2/2023
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ชัยภูมิ
สวท.ชัยภูมิ
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230203110925806
null
ไทย - ญี่ปุ่น ครบรอบ 40 ปี เดินหน้าโครงการฝึกงานผู้นำเยาวชนเกษตรไทย พร้อมยกระดับความร่วมมือภาคการเกษตร
นายประยูร อินสกุล ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังร่วมพิธีลงนามบันทึกความเข้าใจระหว่างสภาแลกเปลี่ยนการเกษตรแห่งประเทศญี่ปุ่น กับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์แห่งประเทศไทย ว่าด้วยโครงการฝึกงานผู้นําเยาวชนเกษตรไทยในญี่ปุ่น ว่า ประเทศไทยและญี่ปุ่นมีความสัมพันธ์กันมาอย่างยาวนาน โดยในปีนี้ครบรอบ 136 ปี ของความสัมพันธ์ทางการทูต รวมถึงความร่วมมือด้านการฝึกงานผู้นําเยาวชนเกษตรไทยในประเทศญี่ปุ่น ซึ่งได้ดําเนินการมาตั้งแต่ปี 2526 จึงถือว่าเป็นความร่วมมือระหว่างไทย-ญี่ปุ่น อย่างยาวนานกว่า 40 ปี และมีผู้ผ่านการฝึกงานมาแล้วกว่า 662 คนกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้ดําเนินโครงการฝึกงานผู้นําเยาวชนเกษตรไทยในประเทศญี่ปุ่น เพื่อเปิดโอกาสให้เยาวชนเกษตรของไทยได้ไปเรียนรู้ในลักษณะการฝึกงานในฟาร์ม (On the Job Training) กับครอบครัวเกษตรกรญี่ปุ่นเป็นระยะเวลา 11 เดือน ซึ่งเป็นการเสริมสร้างความรู้และประสบการณ์ด้านการทําการเกษตรในมิติต่าง ๆ อาทิ การจัดการฟาร์ม การบริหารจัดการธุรกิจเกษตร การปฏิบัติทางการเกษตรที่ดี การทําการตลาด และการปรับใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมด้านการเกษตรอย่างเหมาะสม ตลอดจนการส่งเสริมความเข้าใจอันดี และแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมระหว่างเกษตรกรญี่ปุ่นกับเยาวชนเกษตรไทย เพื่อนํามาประยุกต์และพัฒนาการดําเนินอาชีพเกษตรกรของตนในอนาคต รวมทั้งการเป็น Young Smart Farmer ในการถ่ายทอดองค์ความรู้และแนวทางการปฏิบัติใหม่ ๆ ที่ถูกต้องให้แก่เกษตรกรรายอื่น ๆ อย่างกว้างขวางในลักษณะภาคีเครือข่าย ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาภาคการเกษตรของประเทศไทยโดยรวม ทั้งนี้ ต้องขอบคุณครอบครัวเกษตรกรชาวญี่ปุ่นที่มอบโอกาสและสนับสนุนผู้นําเยาวชนเกษตรไทยอย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นกําลังสําคัญในการพัฒนาภาคการเกษตรของประเทศไทย สําหรับการหารือในวันนี้จะช่วยเสริมสร้างความสัมพันธ์และความร่วมมืออันดีระหว่างทั้งสองฝ่าย ตลอดจนส่งเสริมความร่วมมือด้านการเกษตรระหว่างไทยกับญี่ปุ่นให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้นต่อไป
3/2/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
Radio-สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230203111854812
null
ศูนย์หม่อนไหมขอนแก่น ส่งเสริมกระบวนการผลิตผ้าไหม เพื่อให้ได้รับการรับรองตรานกยูงพระราชทาน ติดตามกิจกรรมสร้างอัตลักษณ์และเพิ่มมูลค่าผ้าไหมย้อมครั่งไปสู่เมืองหัตถกรรมโลกแห่งผ้ามัดหมี่
นางสาวจิราลักษณ์ ปรีดี ผู้อํานวยการศูนย์หม่อนไหมเฉลิมพระเกียรติฯ ขอนแก่น เปิดเผยว่า ศูนย์หม่อนไหมเฉลิมพระเกียรติฯ ขอนแก่น นําโดย นายปรมัตถ์ เหล่าวอ นักวิชาการเกษตร พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานด้านมาตรฐานหม่อนไหม ลงพื้นที่ส่งเสริมและให้คําแนะนํา กระบวนการผลิตผ้าไหมเพื่อให้ได้รับมาตรฐานตรานกยูงพระราชทาน สอบถามปัญหาในการผลิต พร้อมทั้งติดตามโครงการยกระดับการพัฒนาสินค้าเกษตรคุณภาพเพื่อสร้างรายได้อย่างยั่งยืน (งบจังหวัด) ปี 2566 กิจกรรมหลัก สร้างอัตลักษณ์และเพิ่มมูลค่าผ้าไหมย้อมครั่งไปสู่เมืองหัตถกรรมโลกแห่งผ้ามัดหมี่ หลักสูตร การย้อมครั่ง ในพื้นที่ อ.เมือง, อ.พระยืน และ อ.ชนบท จ.ขอนแก่น โดยมีผ้าไหมมัดหมี่ พร้อมรับการตรวจและติดตรานกยูงพระราชทานเป็นจํานวนมาก และเส้นไหมมัดหมี่ย้อมครั่งพร้อมทอที่ผ่านการตรวจการตกสีแล้ว ซึ่งเกษตรกรมีความพึงพอใจในการให้บริการ ให้ความร่วมมือและสนใจในกิจกรรมเป็นอย่างดียิ่ง#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
3/2/2023
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ขอนแก่น
สวท.ขอนแก่น
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230203113353816
null
กรมอุทยานฯ ปรับย้าย 4 ตำแหน่งไม่เป็นธรรมนำร่องในพื้นที่อุทยานแห่งชาติ เพื่อแก้ปัญหาที่ดินและข้อพิพาท ยืนยัน จะพิจารณาปรับตำแหน่งคนให้ตรงกับงานกับความสามารถ
กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ปรับย้าย 4 ตําแหน่งไม่เป็นธรรมนําร่องในพื้นที่อุทยานแห่งชาติ เพื่อแก้ปัญหาที่ดินและข้อพิพาท ยืนยัน จะพิจารณาปรับตําแหน่งคนให้ตรงกับงานกับความสามารถ นางรุ่งนภา พัฒนวิบูลย์ รองอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช กล่าวถึงความคืบหน้าการคืนความชอบธรรมให้กับบุคลากร หลังแต่งตั้งคณะกรรมการแก้ปัญหาการแต่งตั้งโยกย้ายที่ไม่ได้รับความเป็นธรรมตามคําสั่ง นายอรรถพล เจริญชันษา รักษาราชการแทนอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงว่า ได้แต่งตั้งและโยกย้ายหัวหน้าอุทยานแห่งชาติ 4 แห่ง คือ อุทยานแห่งชาติทับลาน , อุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า-หมู่เกาะเสม็ด , อุทยานแห่งชาติเขาชะเมา-เขาวง และอุทยานแห่งชาติตะรุเตา ที่พิจารณาตามความสามารถจากการบริหารพื้นที่ที่มีประสบการณ์และผลงานมาก่อนให้เข้าไปแก้ปัญหาที่ดินและข้อพิพาทในพื้นที่ ภาพรวมการพิจารณาแต่งตั้งตําแหน่งเปิดโอกาสให้ข้าราชการ ลูกจ้าง และพนักงานที่ถูกคําสั่งโยกย้ายไม่เป็นธรรมจัดทําหนังสือร้องเรียนโดยตรงและอยู่ระหว่างรวบรวมข้อร้องเรียน โดยจะพิจารณาในส่วนของตําแหน่งผู้อํานวยการส่วนและหัวหน้าหน่วยในอุทยานแห่งชาติและเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า จากนั้นจะพิจารณาในหน่วยงานย่อยอื่นๆต่อไป แต่กรณีผู้ที่ไม่ได้ยื่นร้องเรียนจะต้องถูกตรวจสอบความเหมาะสมเช่นกัน ทั้งนี้ การพิจารณาต้องดูความเหมาะสมของการทํางานเป็นหลัก เช่น หากใครที่เคยทํางานในพื้นที่ขนาดใหญ่แล้วถูกย้ายลงไปในพื้นที่ขนาดเล็กจะถูกพิจารณาย้ายไปปฏิบัติงานในพื้นที่ที่เหมาะสมมากขึ้น รวมถึง คนที่อยู่ในตําแหน่งระดับชั้นผู้น้อยที่กําลังจะเติบโตอาจถูกพิจารณาให้ไปปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ตามความถนัดด้วย ควบคู่กับดูว่าการโยกย้ายก่อนหน้าอาจมีบางคนที่ย้ายไปแล้วสามารถปรับตัวได้และสร้างผลงาน หรือมีความตั้งใจที่จะเข้าไปแก้ปัญหาในพื้นที่จะให้คงตําแหน่งเดิม เพราะการย้ายจากนี้ไปจะเป็นการย้ายให้เหมาะสมและแก้ปัญหาในพื้นที่ได้จริง รวมถึง เร่งสร้างขวัญและกําลังใจให้กับผู้ปฏิบัติงานให้มีความมั่นใจว่าได้รับการสนับสนุนของผู้บริหาร และปรับเพิ่มสวัสดิการให้มีความเหมาะสมมากขึ้น สําหรับคณะกรรมการแก้ปัญหาการแต่งตั้งโยกย้ายที่ไม่ได้รับความเป็นธรรมวางแนวทางดําเนินการพิจารณาในระยะเร่งด่วนใน 1 เดือนแรกก่อนจะขยายเวลาพิจารณาในส่วนอื่นๆต่อไปจนกว่าจะแล้วเสร็จ สําหรับกรณีการร้องเรียนของผู้ประกอบการและชาวบ้านบนพื้นที่เกาะเสม็ด จังหวัดระยอง เกี่ยวกับการถูกเรียกเก็บเงินนอกเหนือจากค่าธรรมเนียม รองอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช กล่าวว่า กรมอุทยานฯ กําลังติดตามผลการสอบสวนของ 2 คณะที่ตั้งขึ้น คือ คณะของสํานักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 2 ศรีราชา กับ คณะของผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง แต่กรมอุทยานฯ ได้สั่งย้ายหัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า-หมู่เกาะเสม็ด ออกนอกพื้นที่ไปแล้ว ด้วยการตําแหน่งสลับกับหัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาชะเมา-เขาวง เพื่อความสบายใจของประชาชนในพื้นที่เกาะเสม็ด คาดว่า จะใช้ระยะเวลาตรวจสอบให้เกิดคงามชัดเจนประมาณ 1 เดือน
3/2/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230203124654850
null
จังหวัดกระบี่ เร่งแก้ปัญหายาเสพติด การท่องเที่ยวและสินค้าทางการเกษตร
นายภาษกร บุญญลักษม์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ กล่าวถึงแนวทางในการทํางานและการแก้ไขปัญหาเร่งด่วนของจังหวัดกระบี่ว่า การทํางานต้องมีการวางด้วยยุทธศาสตร์มีการวางแผนล่วงหน้ามีการรับฟังปัญหาในพื้นที่โดยเฉพาะจังหวัดกระบี่มีสภาการศึกษาที่มีบุคคลากรที่ทรงคุณวุฒิมากมายจึงได้มีการร่วมประชุมเพื่อเสนอแนวทางในการพัฒนาจังหวัดและการรับฟังปัญหาต่างๆ นอกเหนือจากการประชุม กรอ.จังหวัด สําหรับปัญหาเร่งด่วนที่ต้องเร่งดําเนินแก้ไขในจังหวัดกระบี่ก็มีอยู่ประมาณ 3 เรื่อง เช่นการแก้ปัญหาผลผลิตทางการเกษตรปาล์มน้ํามัน ยางพารา ซึ่งล้วนแต่เป็นเรื่องของการบริหารจัดการทั้งสิ้น จึงได้เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งเกษตรจังหวัดอุตสาหกรรมจังหวัด พาณิชย์จังหวัด ในฐานะที่เป็นหน่วยงานรับผิดชอบมาร่วมวางแผน ตั้งแต่ต้นน้ํา กลางน้ํา มาช่วยกันวางแผน แก้ไขปัญหา อย่างเป็นรูปธรรม นามธรรม ไม่เพียงแค่จบจากห้องประชุม โดยเฉพาะพื้นที่ทางการเกษตรของจังหวัดกระบี่ที่มีอยู่ประมาณ 1,800,000ไร่ แบ่งเป็นปลูกปาล์มน้ํามันประมาณ 1,200,000ไร่ ปลูกยางพารา 600,000 ไร่ ซึ่งถ้าหากเราปลูกพื้ชเชิงเดี่ยวก็จะมีความเสี่ยง ส่วนปัญหายาเสพติในพื้นที่ได้มีการเชิญสาธารณสุขจังหวัดกระบี่ ตํารวจภูธรจังหวัดกระบี่ มาร่วมกันวางแนวทางในการทํางานให้เป็นไปในทางเดียวกัน เพื่อให้ลดปัญหายาเสพติดให้มากที่สุด เกิดประโยชน์แก่ประชาชน สนองต่อประเทศชาติยุทธศาสตร์ชาติ ทุกองค์กรต้องเป็นฟันเฟืองในการแก้ไขปัญหา ต้องมีจิตสํานึก สําหรับแนวทางในการแก้ไขและพัฒนาการท่องเที่ยวจังหวัดกระบี่จะค่อยๆพัฒนาไปไม่ต้องมีการพัฒนาแบบก้าวกระโดดไม่ต้องการความหรูหรามากมาย เพราะการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวแบบหรูหรามากมายจะไม่ยั่งยืน ต้องการรักษาเอกลักษณ์และธรรมชาติเอาไว้โดยเฉพาะอัตลักษณ์วัฒนธรรมท้องถิ่น การพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวในตัวเมืองกระบี่ให้มีการดึงดูดนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นพัฒนาย่านการค้าให้มีไชน่าทาวน์ของเมืองกระบี่ การขยับแนวพื้นที่ของปูดําออกไปเพื่อรองรับนักท่องเที่ยวที่จะเข้ามาท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นในอนาคต#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
3/2/2023
ภาคใต้
กระบี่
สวท.กระบี่
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230203132429866
null
กรมปศุสัตว์ร่วมมือกรมการค้าภายใน แก้ปัญหาราคาวัตถุดิบอาหารโคนมแพง ช่วยเกษตรกร
นายสัตวแพทย์สมชวน รัตนมังคลานนท์ อธิบดีกรมปศุสัตว์ เข้าพบอธิบดีกรมการค้าภายใน เพื่อขอหารือแนวทางการแก้ปัญหาราคาวัตถุดิบอาหารโคนมแพง เนื่องจากปัจจัยของวิกฤตทางเศรษฐกิจโลก ที่ส่งผลให้ต้นทุนการผลิตน้ํานมเพิ่มสูงขึ้น ทําให้เกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมเดือดร้อน โดยมีผู้แทนกลุ่มเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนม และหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม ทั้งนี้ได้ข้อสรุปแนวทางการแก้ปัญหาราคาวัตถุดิบอาหารโคนมแพง อาทิกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และกระทรวงพาณิชย์ ยินดีที่ร่วมมือกันและจัดตั้ง?ผู้ประสานงาน" ทั้ง 3 ฝ่าย? โดยมีผู้แทนกระทรวงเกษตรฯ? ผู้แทนกระทรวงพาณิชย์? ผู้แทนเกษตรกรที่เกี่ยวข้องเป็นรายภาคต่างๆ เพื่อเชื่อมโยง ข้อมูลแหล่งผลิตทั่วประเทศ เพื่อจัดทําโครงการร่วมกัน ในการเชื่อมโยงวัตถุดิบจากแหล่งผลิตโดยตรง และจัดหาวัตถุดิบเพื่อทดแทนที่เหมาะสมไม่กระทบต่อคุณภาพน้ํานมดิบ รวมทั้งสํารวจความต้องการของวัตถุดิบ?ในพื้นที่ ทั้งวัตถุดิบและอาหารข้น และมอบหมายรองอธิบดีกรมปศุสัตว์และรองอธิบดีกรมการค้าภายใน เป็นผู้ประสานงานระหว่างหน่วยงาน
3/2/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
Radio-สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230203140426890
null
ผู้ว่าฯ ปทุมธานี ห่วงใยสุขภาพประชาชน จับมือ อบจ. ลดฝุ่น PM 2.5 เร่งด่วน
วันนี้ (3 ก.พ.66) เวลา 09.00 – 12.00 น. นายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี พร้อมด้วย พล.ต.ท.คํารณวิทย์ ธูปกระจ่าง นายก อบจ.ปทุมธานี และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมติดตามการจัดกิจกรรม “ปทุมธานีรวมใจป้องกัน และลดฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM2.5)” เพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM2.5) ในพื้นที่จังหวัดปทุมธานี โดยสํานักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดปทุมธานี ร่วมกับ อบจ.ปทุมธานี ศูนย์ ปภ. เขต 1 เทศบาลเมืองปทุมธานี แขวงทางหลวงปทุมธานี นํารถน้ํามาร่วมกันทําความสะอาดฉีดล้างถนน พ่นละอองน้ําจับฝุ่น เพื่อช่วยบรรเทาปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM 2.5) ที่สูงเกินเกณฑ์มาตรฐาน อยู่ในระดับที่มีผลต่อสุขภาพของประชาชน ณ บริเวณถนนหน้าศาลากลางจังหวัดปทุมธานี - สะพานปทุมธานี 1 - แยกสันติสุข - หน้าโลตัสปทุมธานีทั้งนี้ จากสถานการณ์ค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM 2.5) เกินเกณฑ์มาตรฐานในหลายพื้นที่ทั่วประเทศ เมื่อวันที่ 2 ก.พ.66 กองอํานวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดปทุมธานี ได้ตรวจสอบคุณภาพอากาศประจําวัน พบว่า จังหวัดปทุมธานี มีค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM2.5) เกินค่ามาตรฐาน 100 มคก./ลบ.ม. และวันนี้ (3 ก.พ. 66) ค่าฝุ่นละออง 104 มคก./ลบ.ม. ) ซึ่งอยู่ในระดับมีผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน จึงร่วมกันแก้ไขปัญหาเร่งด่วนเพื่อลดค่าฝุ่นในเบื้องต้น พร้อมมอบหมายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งวางแผนแก้ไขปัญหาในระยะยาวต่อไป#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
3/2/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
ปทุมธานี
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดปทุมธานี
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230203143345929
null
จังหวัดสุราษฎร์ธานีพิจารณาโครงการก่อสร้างอาคารในเขตพื้นที่คุ้มครองสิ่งแวดล้อม ป้องกันทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมถูกทำลายและเสื่อมโทรม
วันนี้ (3 ก.พ.66) ที่ห้องตาปี ชั้น 4 ศาลากลางจังหวัดสุราษฎร์ธานี นายวิชวุทย์ จินโต ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี มอบหมายให้นายมนตรา พรมสินธุ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ประชุมคณะกรรมการผู้ชํานาญการพิจารณารายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อม ในเขตพื้นที่คุ้มครองสิ่งแวดล้อมจังหวัดสุราษฎร์ธานี ครั้งที่ 1/2566 เพื่อหารือและติดตามการดําเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องกับสิ่งปลูกสร้าง ที่อาจก่อให้เกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมในเขตพื้นที่คุ้มครองสิ่งแวดล้อมได้ในการนี้ ที่ประชุมได้ร่วมพิจารณาโครงการที่บริษัทเอกชนนําเสนอ จํานวน 1 ราย ได้แก่ โครงการละไมบุรี ของบริษัท ละไมบุรี จํากัด เป็นการดัดแปลงและเปลี่ยนการใช้อาคาร ตั้งอยู่หมู่ที่ 3 ตําบลมะเร็ต อําเภอเกาะสมุย เป็นโครงการประเภทโรงแรม มีจํานวนห้องพัก 45 ห้อง พื้นที่ใช้สอยอาคาร 2,388.98 ตารางเมตร โดยให้บริษัท กรีน เอ็นไว เอ็นจิเนียริ่ง จํากัด เป็นผู้จัดทํารายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อมเบื้องตัน มาเพื่อให้คณะกรรมการฯ พิจารณาตามระเบียบสํานักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวด้อม (สผ.) โดยคณะทํางานได้ลงตรวจพื้นที่โครงการแล้ว เมื่อวันที่ 30 มกราคม 2566 ให้เป็นไปตามหลักของการกําหนดมาตรการคุ้มครองสิ่งแวดล้อม เพื่อสงวนรักษาไว้ซึ่งความสมบูรณ์ของทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมที่มีอยู่มิให้ถูกทําลายเสียหาย และเสื่อมโทรมมากขึ้น.#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
3/2/2023
ภาคใต้
สุราษฎร์ธานี
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสุราษฎร์ธานี
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230203141622910
null
โคราชเปิดงานวันถ่ายทอดเทคโนโลยีเริ่มต้นฤดูกาลผลิตใหม่ เสริมทักษะเกษตรกรลดต้นทุนการผลิต พ่อเมืองขอความร่วมมือเกษตรกร 32 อำเภอ งดเผากลางแจ้ง ลดฝุ่น PM2.5
วันนี้ (3 ก.พ. 66) ที่ศูนย์เรียนรู้การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตร ม.2 ต.โนนเมืองพัฒนา อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา นายสยาม ศิริมงคล ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เป็นประธานเปิดงานวันถ่ายทอดเทคโนโลยีเพื่อเริ่มต้นฤดูกาลผลิตใหม่ (Field Day) ปี 2566 ซึ่งจัดขึ้นโดยสํานักงาน เกษตรจังหวัดนครราชสีมา เพื่อเปิดโอกาสให้เกษตรกรได้เข้ามาเรียนรู้ รับทราบเทคโนโลยีการผลิตและนวัตกรรมใหม่ เพิ่มช่องทางการตลาดข้อมูลข่าวสาร การเลือกใช้เทคโนโลยีที่เหมาะสมกับสภาพพื้นที่ เพื่อลดความเสี่ยงในการผลิต ตลอดจนได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้กับเกษตรกรด้วยกันเอง รวมทั้งนักวิชาการ ผู้เชี่ยวชาญในแต่ละสาขา ซึ่งเป็นตัวแทนจากหน่วยงานต่างๆ มาร่วม ให้ความรู้แก่เกษตรกรในพื้นที่ อ.ด่านขุนทด ที่มาเข้าร่วมงานเป็นจํานวนมาก ทั้งนี้กิจกรรมภายในงานได้มีการจัดสถานีเรียนรู้ ประกอบด้วย สถานีการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตมันสําปะหลัง และการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตข้าว สถานีอินดี้ ชีวีมั่นคง สถานีสารชีวภัณฑ์ทําเองได้ ใช้ง่าย ปลอดภัย สถานีรู้เท่าทัน ป้องกันโรคในสัตว์ และสถานีการสร้างแหล่งอาหารโปรตีนคุณภาพดี มีรายได้ นอกจากนี้ยังมีการจัดกิจกรรมและจัดนิทรรศการ การให้บริการของหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และหน่วยงานภาคีต่างๆ การจัด ตลาดเกษตรกร จําหน่ายสินค้าของกลุ่มวิสาหกิชชุมชน ตลอดจนการแสดงเทคโนโลยีทางการเกษตร อีกด้วยนายสยาม ศิริมงคล ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา กล่าวว่า การจัดงานในครั้งนี้นอกจากจะมีการให้ความรู้แก่เกษตรในเรื่องการใช้เทคโนโลยีในการผลิต การลดต้นทุนในการปลูกแล้ว ยังได้มีการให้ความรู้เกี่ยวกับเรื่องการรณรงค์ให้เกษตรกรงดการเผาพื้นที่ทางการเกษตร ซึ่งจะทําให้คุณภาพของดินหายไปจากการเผา รวมทั้งยังก่อให้เกิดมลพิษทางอากาศ โดยเฉพาะฝุ่น PM2.5 จึงอยากขอความร่วมมือกับเกษตรกร ประชาชนทั่วไป ให้งดการเผาในที่โล่งแจ้งทุกกรณี พร้อมทั้งได้กําชับทุกอําเภอและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องปฏิบัติตามมาตรการและแนวทางป้องกันปัญหาไฟป่าและการเผาในที่โล่งของจังหวัดที่กําหนดไว้อย่างเคร่งครัด และเร่งสร้างการรับรู้และประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนรับทราบ นายสยาม กล่าว #สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
3/2/2023
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
นครราชสีมา
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนครราชสีมา
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230203143804931
null
จังหวัดสุราษฎร์ธานีพิจารณาโครงการก่อสร้างอาคารในเขตพื้นที่คุ้มครองสิ่งแวดล้อม ป้องกันทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมถูกทำลายและเสื่อมโทรม
วันนี้ (3 ก.พ.66) ที่ห้องตาปี ชั้น 4 ศาลากลางจังหวัดสุราษฎร์ธานี นายวิชวุทย์ จินโต ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี มอบหมายให้นายมนตรา พรมสินธุ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ประชุมคณะกรรมการผู้ชํานาญการพิจารณารายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อม ในเขตพื้นที่คุ้มครองสิ่งแวดล้อมจังหวัดสุราษฎร์ธานี ครั้งที่ 1/2566 เพื่อหารือและติดตามการดําเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องกับสิ่งปลูกสร้าง ที่อาจก่อให้เกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมในเขตพื้นที่คุ้มครองสิ่งแวดล้อมได้ในการนี้ ที่ประชุมได้ร่วมพิจารณาโครงการที่บริษัทเอกชนนําเสนอ จํานวน 1 ราย ได้แก่ โครงการละไมบุรี ของบริษัท ละไมบุรี จํากัด เป็นการดัดแปลงและเปลี่ยนการใช้อาคาร ตั้งอยู่หมู่ที่ 3 ตําบลมะเร็ต อําเภอเกาะสมุย เป็นโครงการประเภทโรงแรม มีจํานวนห้องพัก 45 ห้อง พื้นที่ใช้สอยอาคาร 2,388.98 ตารางเมตร โดยให้บริษัท กรีน เอ็นไว เอ็นจิเนียริ่ง จํากัด เป็นผู้จัดทํารายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อมเบื้องตัน มาเพื่อให้คณะกรรมการฯ พิจารณาตามระเบียบสํานักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวด้อม (สผ.) โดยคณะทํางานได้ลงตรวจพื้นที่โครงการแล้ว เมื่อวันที่ 30 มกราคม 2566 ให้เป็นไปตามหลักของการกําหนดมาตรการคุ้มครองสิ่งแวดล้อม เพื่อสงวนรักษาไว้ซึ่งความสมบูรณ์ของทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมที่มีอยู่มิให้ถูกทําลายเสียหาย และเสื่อมโทรมมากขึ้น#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
3/2/2023
ภาคใต้
สุราษฎร์ธานี
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสุราษฎร์ธานี
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230203163216980
null
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ร่วมมือการส่งออกทุเรียนไปยังประเทศจีน ระหว่างบริษัท ควีน โฟรเซ่น ฟรุต จำกัด กับTsinghua Uniresource Company เพื่อเพิ่มช่องทางการส่งออกผลไม้ให้แก่พี่น้องเกษตรกร
นายประภัตร โพธสุธน รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยหลังร่วมเป็นสักขีพยานลงนามความร่วมมือในการส่งออกผลไม้ ระหว่างบริษัท ควีน โฟรเซ่น ฟรุต จํากัด กับTsinghua Uniresource Company ว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ได้ส่งผลกระทบต่อสภาพเศรษฐกิจของประเทศไทยและประเทศต่างๆ ทั่วโลก โดยเฉพาะการนําเข้าและส่งออกสินค้าเกษตรของไทยไปยังประเทศจีน กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้เร่งดําเนินการแก้ไขอย่างต่อเนื่องตลอดมาผลไม้ของประเทศไทยพอถึงฤดูกาล อาจจะทําให้ราคาตกต่ําลง และสร้างความเดือดร้อนกังวลใจให้แก่พี่น้องเกษตรกร วันนี้มีความยินดีและขอบคุณจากใจที่จะทําให้เกษตรกรได้เกิดความมั่นใจ ว่าจะมีตลาดในการส่งออกผลไม้ เพราะจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัลโควิด 19 ทําให้เกิดวิกฤตและมีความยากลําบากในการส่งออกสินค้าทางการเกษตร ซึ่งทางรัฐบาลไทยได้ช่วยเหลือ สร้างความมั่นใจให้ทั้งทางพี่น้องเกษตรกรและประเทศจีนอย่างเต็มที่ ว่าสามารถส่งได้ในทันที และจะให้ราคาที่ดี เพื่อช่วยเหลือพี่น้องเกษตรกรให้ได้มากที่สุด อนาคตหวังว่าจะสามารถส่งผลไม้ หรือสินค้าประเภทอื่นๆไม่ว่าจะเป็นหมาก ชมพู่ มะพร้าวน้ําหอม และอาหารทะเลไปยังประเทศจีนอีกด้วย โดยในปี 2566 ทางประเทศจีนจะรับซื้อทุเรียนประมาณ 2,000 - 3,000 ตู้คอนเทนเนอร์ และต้องขอบคุณ บริษัท ไทย อะกรีคัลเจอร์ จํากัด ที่ทําให้เกิดสัญญาซื้อขายนี้เกิดขึ้นด้วย นอกจากนี้ อยากจะขอความร่วมมือเกษตรกรอย่าตัดทุเรียนอ่อนออกจําหน่าย ทั้งที่ยังไม่ครบอายุการเก็บเกี่ยว เพราะจะผลต่อคุณภาพและความน่าเชื่อถือต่อทุเรียนไทย
3/2/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
Radio-สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230203150126945
null
จังหวัดอุทัยธานี จัดงานฤดูกาลเก็บเกี่ยวถั่วเหลืองฝักสด และวันถ่ายทอดเทคโนโลยีการปลูกพืชหลังนา
เวลา 10.30 น. วันนี้ (3 ก.พ.66) ที่โรงเรียนบ้านดงประดาพระ หมู่ที่ 1 ตําบลเขากวางทอง อําเภอหนองฉาง จังหวัดอุทัยธานี นายธีรพัฒน์ คัชมาตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุทัยธานี เป็นประธานเปิดงานฤดูกาลเก็บเกี่ยวถั่วเหลืองฝักสด และวันถ่ายทอดเทคโนโลยีการปลูกพืชหลังนา โดยมี นายอําเภอหนองฉาง หัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชน เข้าร่วมงาน และรับฟังคํากล่าววัตถุประสงค์การจัดงาน จากนายประเสริฐ วณิชชากรณ์วิวัฒน์ เกษตรจังหวัดอุทัยธานีการจัดงานในวันนี้ สํานักงานเกษตรจังหวัดอุทัยธานี ได้ร่วมกับกลุ่มแปลงใหญ่ถั่วเหลืองฝักสด ตําบลทุ่งโพ อําเภอหนองฉาง จังหวัดอุทัยธานี จัดงานฤดูกาลเก็บเกี่ยวถั่วเหลืองฝักสด และวันถ่ายทอดเทคโนโลยีการปลูกพืชหลังนาขึ้น โดยมีเกษตรกรและผู้เข้าร่วมงาน จํานวน 250 ราย มีวัตถุประสงค์เพื่อ ประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้ และถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิต การตลาดถั่วเหลืองฝักสดในรูปแบบแปลงใหญ่ ตลอดจนถ่ายทอดเทคโนโลยีการปลูกพืชหลังนาอื่นๆ เช่น ข้าวโพดฝักสด และข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ เพื่อเป็นทางเลือกให้เกษตรกร ในการเลือกชนิดพืชที่จะปลูกในช่วงภัยแล้งเพิ่มมากขึ้น โดยมีตลาดรองรับที่แน่นอน ซึ่งภายในงานมีกิจกรรมต่างๆ ได้แก่ การถ่ายทอดความรู้ เรื่องการผลิตและการตลาดพืชหลังนา การจัดนิทรรศการของหน่วยงานภาครัฐและเอกชน รวมทั้งมีร้านค้าจําหน่ายผลิตภัณฑ์และผลผลิตทางการเกษตร ของกลุ่มวิสาหกิจชุมชน และกลุ่มแปลงใหญ่อําเภอหนองฉางปัจจุบันอําเภอหนองฉางมีพื้นที่ปลูกถั่วเหลืองฝักสด จํานวน 2,400 ไร่ เกษตรกร จํานวน 100 ครัวเรือน โดยเกษตรกรได้มีการรวมกลุ่มกัน จัดตั้งเป็นกลุ่มแปลงใหญ่ถั่วเหลืองฝักสด ในปี 2559 และมีการบริหารจัดการโดยใช้ตลาดนําการผลิตในรูปแบบคอนแทคฟาร์มมิ่ง กับบริษัทลานนาเกษตรอุตสาหกรรม จํากัด ในการรับซื้อผลผลิตของเกษตรกร ราคาประกันกิโลกรัมละ 17 บาท ซึ่งในแต่ละปีสามารถสร้างรายได้ให้กับเกษตรกร มีมูลค่าไม่น้อยกว่า 30 ล้านบาท อีกทั้งยังเป็นการสร้างงาน สร้างรายได้ให้กับคนในชุมชนไม่น้อยกว่า 1.2 ล้านบาท สําหรับการส่งเสริมการปลูกถั่วเหลืองฝักสดดังกล่าว เป็นการทํางานเชิงบูรณาการในลักษณะประชารัฐ ประกอบด้วย ภาครัฐ ภาคเอกชน และเกษตรกร ร่วมกันบริหารจัดการส่งเสริมการผลิต และพัฒนาต่อยอดเพื่อเพิ่มมูลค่าผลผลิตถั่วเหลืองฝักสด จากส่วนที่เหลือจากการคัดเกรดของโรงงาน เป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ เช่น อาหารเพื่อสุขภาพ เครื่องสําอาง และอาหารสัตว์คุณภาพสูง เป็นต้น#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
3/2/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
อุทัยธานี
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดอุทัยธานี
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230203150959950
null
ปศุสัตว์จันทบุรี บูรณาการกับ ม.ราชมงคลตะวันออก ส่งเสริมศูนย์เรียนรู้โคเนื้อครบวงจร เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตแก่เกษตรกร
(3 ก.พ.66) น.สพ.ชาติชาย ยิ้มเครือ ปศุสัตว์จังหวัดจันทบุรี บูรณาการความร่วมมือทางวิชาการกับ ผศ.ดร.เทอดศักดิ์ ปุระมงคล คณบดีคณะเทคโนโลยีอุตสาหกรรมการเกษตร มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก วิทยาเขตจันทบุรี นายสมฤกษ์ ม่วงไหมทอง ปศุสัตว์อําเภอเขาคิชฌกูฏ และ นางสาวประภาพรรณ ครองเคหา เจ้าพนักงานสัตวบาล ในการลงพื้นที่ ฟาร์มสาธิตการเลี้ยงโคเนื้อของคณะเทคโนโลยีอุตสาหกรรมเกษตร ซึ่งเลี้ยงโคเนื้อ โคนม จํานวน 20 ตัว ในพื้นที่ 5 ไร่ ส่งเสริมฟาร์มโคเนื้อของมหาวิทยาลัยให้เป็นศูนย์เรียนรู้เทคโนโลยีการเลี้ยงสัตว์อย่างครบวงจร แก่เกษตรกรและผู้สนใจอาชีพการเลี้ยงโคเนื้อ ตั้งแต่การเลือกทําเลที่ตั้งฟาร์ม การออกแบบและสร้างโรงเรือน การคัดเลือกสายพันธุ์โค การผสมเทียม การใช้วัตถุดิบในท้องถิ่นเป็นอาหารสัตว์เพื่อลดต้นทุนการเลี้ยงสัตว์ เทคนิคการสูญเขา การดูแลสุขภาพสัตว์เบื้องต้น ได้แก่ การฉีดวัคซีนป้องกันโรค การกําจัดพยาธิ การพัฒนาฟาร์มตามระบบการป้องกันโรคและการเลี้ยงสัตว์ที่เหมาะสม(GFM) จนถึงการแปรรูปเนื้อโคเป็นผลิตภัณฑ์เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่ม การพัฒนาบรรจุภัณฑ์ การขนส่ง การสร้างแบรนด์ และการหาช่องทางตลาดออนไลน์และออฟไลน์ที่ตรงกับกลุ่มเป้าหมาย เป็นการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตโคเนื้อแก่เกษตรกร ซึ่งการเลี้ยงโคเนื้อ ช่วยสร้างรายได้ที่หลากหลาย ทั้ง การผลิตลูกโคสายพันธุ์ดีขาย และการเลี้ยงโคเพื่อขุนส่งขายตลาด รวมทั้งสามารถขายมูลโค ราคากระสอบละ 35 บาทให้แก่ชาวสวนผลไม้ในพื้นที่ ที่มีความต้องการมูลโคมาก ช่วยสร้างความมั่นคง สร้างรายได้อย่างยั่งยืนในการประกอบอาชีพให้แก่เกษตรกร นอกจากนี้ผลิตภัณฑ์จากเนื้อโคยังมีความปลอดภัยต่อผู้บริโภคอีกด้วย#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
3/2/2023
ภาคตะวันออก
จันทบุรี
สวท.จันทบุรี
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230203172214998
null
จตุพร มีคำสั่งให้ นายรัชฎาฯ อธิบดีกรมอุทยานฯ ออกราชการหลังพบผิดวินัยร้ายแรงจริงมีผลวันนี้ทันที พร้อมเดินหน้าสอบวินัยร้ายแรงต่อ
ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม มีคําสั่งให้ นายรัชฎา สุริยกุล ณ อยุธยา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ออกราชการหลังพบผิดวินัยร้ายแรงจริงมีผลวันนี้ (3 ก.พ.66) ทันที พร้อมเดินหน้าสอบวินัยร้ายแรงต่อ ขณะที่ คณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรงฯเร่งทําข้อกล่าวหาและเรียกตัวมารับทราบข้อกล่าวหา นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า วันนี้ (3 ก.พ.66) ได้ลงนามในเอกสารสรุปผลการสอบสวนวินัยร้ายแรง นายรัชฎา สุริยกุล ณ อยุธยา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช เรียกรับผลประโยชน์จากข้าราชการหน่วยงานในสังกัดกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช หลัง นายเถลิงศักดิ์ เพ็ชรสุวรรณ รองปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในฐานะประธานคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรงฯ ได้ส่งผลรายงานความก้าวหน้าจากการสอบปากคําพยานเพิ่มเติมกว่า 50 ปาก ส่วนใหญ่ให้การเป็นไปในทิศทางเดียวกันตามข้อกล่าวหาคือผิดวินัยร้ายแรง แต่มีเพียงบางคนให้การเป็นเงินจ่ายค่าจัดสร้างพระบรมรูปจําลองรัชกาลที่ 5 และการรวบรวมเอกสารหลักฐานต่างๆ เบื้องต้นข้อมูลดังกล่าวแสดงให้เห็นว่ามีการกระทําผิดจริงสอดคล้องกับหลักฐานที่รวบรวม จึงมีคําสั่งให้ นายรัชฎา สุริยกุล ณ อยุธยา ออกจากราชการไว้ก่อนมีผลตั้งแต่วันนี้ (3 ก.พ.66) เป็นต้นไป เพื่อให้การทํางานเป็นไปอย่างโปร่งใส ที่สําคัญลดแรงกดและความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของข้าราชการในสังกัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมลง จากนี้ยังคงต้องสอบพยานเพิ่มเติมในขั้นตอนการสอบวินัยร้ายแรงต่อไปให้เสร็จกระบวนการครบถ้วนทั้งหมด ทั้งนี้ คณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรงฯ จะสอบสวนเพิ่มเติมหากพบมีบุคคลใดในองค์กรมีส่วนเกี่ยวข้องกับการเรียกรับผลประโยชน์ในเรื่องนี้ โดยให้ยึดแนวปฏิบัติถูกคือถูกผิดคือผิดและให้เป็นไปตามพยานหลักฐานตามข้อเท็จจริง ด้าน นายเถลิงศักดิ์ เพ็ชรสุวรรณ รองปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในฐานะประธานคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรงฯ กล่าวว่า จากนี้คณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรงฯจะเร่งทําข้อกล่าวหาและทําหลักฐานข้อมูลประกอบการแจ้งข้อกล่าวหา ซึ่งต้องทําอย่างรัดกุมและรอบคอบมากที่สุด เมื่อแล้วเสร็จจะเรียก นายรัชฎาฯ เข้ามารับทราบข้อกล่าวหา โดยจะให้ชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาภายใน 1 สัปดาห์ ทั้งนี้ เบื้องต้นจากคําให้การของพยานและหลักฐานยังไม่สามารถเชื่อมโยงกับบุคคลอื่นๆว่ามีส่วนเกี่ยวข้อง
3/2/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230203152326954
null
ฝุ่น PM 2.5 ใน กทม.และปริมณฑลยังสูงในระดับสีส้มและสีแดงหลายพื้นที่ พร้อมเฝ้าระวังช่วงช่วงเย็นถึงค่ำฝุ่นอาจกลับมาสูงขึ้นอีก จากสภาพการจราจรที่หนาแน่น
ฝุ่นละออง PM 2.5 ในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑลยังสูงในระดับสีส้มและสีแดงหลายพื้นที่ พร้อมเฝ้าระวังช่วงช่วงเย็นถึงค่ําฝุ่นอาจกลับมาสูงขึ้นอีก จากสภาพการจราจรที่หนาแน่น ศูนย์แบบจําลองคุณภาพอากาศและภูมิศาสตร์สารสนเทศ กรมควบคุมมลพิษ (คพ.) ได้คาดการณ์สถานการณ์ฝุ่นละออง PM 2.5 ในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑลช่วงเย็นวันนี้ (3 ก.พ.66) ลดลงเล็กน้อย แต่ยังคงอยู่ในระดับสีส้มและสีแดงหลายพื้นที่ โดยพบสูงในระดับสีแดง 1 พื้นที่ บริเวณริมถนนกาญจนาภิเษก เขตบางขุนเทียน 99 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร เนื่องจากอากาศยังคงปิดและลมสงบ ซึ่งจําเป็นต้องเฝ้าระวังค่าฝุ่นอาจกลับมาสูงขึ้นได้ในชั่วโมงเร่งด่วนช่วงเย็นถึงค่ํา จากสภาพการจราจรที่หนาแน่นในหลายพื้นที่ ทั้งนี้ สามารถติดตามสถานการณ์คุณภาพอากาศได้ทางแอปพลิเคชั่น Air4Thai และ AirBKK
3/2/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230203160434968
null
จ.สมุทรสาครฉีดพ่นละอองน้ำกวาดล้างถนนเพื่อลดฝุ่นละออง PM 2.5
วันนี้ (3 กุมภาพันธ์ 2566) เวลา 14.00 น. นายณรงค์ รักร้อย ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร พร้อมด้วย นายสุรศักดิ์ ผลยังส่ง รองผู้ว่าราชการจังหวัด ร.ต.ต.สัณฐิติ ธรรมใจ หัวหน้าสํานักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด นายอุดม ไกรวัตนุสรณ์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสมุทรสาคร หัวหน้าส่วนราชการ นายอําเภอ เจ้าหน้าที่ส่วนราชการในศาลากลางจังหวัดและที่ว่าการอําเภอเมืองสมุทรสาคร ร่วมกิจกรรมกวาดล้างถนน บริเวณถนนเศรษฐกิจ 1 หน้าศาลากลางจังหวัดสมุทรสาคร และที่ว่าการอําเภอเมืองสมุทรสาคร ด้วย กองอํานวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสมุทรสาครได้ติดตามสถานการณ์ในพื้นที่กรุงเทพฯ 7 วันข้างหน้า ของกรมควบคุมมลพิษ พบว่าในวันที่ 3-4 กุมภาพันธ์ 2566 คาดว่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก(PM 2.5) จะเกินค่ามาตรฐานและเริ่มมีผลต่อสุขภาพของประชาชน จึงได้ดําเนินการป้องกันและแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก(PM 2.5) โดยจัดกิจกรรมล้างทําความสะอาดถนน โดยได้รับความร่วมมือจากเทศบาลนครสมุทรสาคร นํารถน้ํามาร่วมฉีดและทางศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต 1 ปทุมธานี นําชุดอุปกรณ์ดับเพลิงระยะไกล LUF60 ฉีดพ่นละอองน้ําเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นในอากาศ กําจัดฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 และเพื่อเป็นการป้องกันในเบื้องต้น ประชาชนควรใส่หน้ากากอนามัย N95 ไว้ก่อนหากจําเป็นต้องออกจากนอกบ้าน หรือไปในพื้นที่ที่มีค่าฝุ่นละออง PM 2.5 เกินมาตรฐาน ซึ่งค่าปริมาณฝุ่นละออง PM 2.5 ของจังหวัดสมุทรสาครในวันนี้ ที่บริเวณจุดวัดคู่ขนานถนนพระราม 2 อําเภอเมือง จังหวัดสมุทรสาคร และในตําบลอ้อมน้อย อําเภอกระทุ่มแบน ยังมีค่าเป็นสีส้ม เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ แต่ค่าฝุ่นละอองก็ได้ลดลงมาบ้างแล้ว ในการนี้ ผู้ว่าฯ สมุทรสาคร ได้กล่าวว่า ทางจังหวัดสมุทรสาครได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทําทุกทางและต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นการฉีดพ่นละอองน้ําจับฝุ่นละออง การตั้งด่านตรวจรถควันดํา การล้างถนน การรณรงค์ไม่ขับ ช่วยขับเครื่อง การแจกจ่ายหน้ากากเพื่อป้องกันฝุ่นละออง การสร้างความรู้ความเข้าใจในการป้องกันฝุ่นละออง PM 2.5 ซึ่งการดําเนินการต่างๆ เพื่อจะลดปริมาณฝุ่นละอองให้ได้ ต่อไป#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
3/2/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
สมุทรสาคร
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสมุทรสาคร
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230203154705966
null
ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ย้ำชัด “ ก้าวข้ามทุกวิกฤต ให้ได้ คือการสร้างโอกาส เร่งต่อยอด สายพันธุ์สัตว์น้ำ ส่งเสริมเกษตรกร ด้านประมง ยกระดับผลผลิตการแปรรูป การตลาด ยกระดับคุณภาพชีวิตเกษตรกร
เมื่อเวลา 08.30 น. วันนี้ ( 3 กุมภาพันธ์ 2566) นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นางวันเพ็ญ มังศรี รองผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี หัวหน้าส่วนราชการ กํานัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้นําชุมชน เกษตรกร ชาวประมง และประชาชน ร่วมกิจกรรมเพิ่มผลผลิตสัตว์น้ําในแหล่งน้ําธรรมชาติ และสร้างการรับรู้สู่เกษตรกรด้านประมงจังหวัดเพชรบุรี ณ บริเวณแม่น้ําเพชรบุรี หลังจวนผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี อําเภอเมือง จังหวัดเพชรบุรี นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า ผลพวงจากวิกฤตสถานการณ์โรคโควิด -19 และสงครามยูเครน นับเป็นวิกฤตซ้อนวิกฤต ที่ส่งผลกระทบเศรษฐกิจทุกด้าน ไม่เว้นพี่น้องเกษตรกร ทั้งผลกระทบจากราคาปุ๋ย อาหารสัตว์ ที่มีราคาพุ่งสูงขึ้น รัฐบาลมีความเป็นห่วงความเดือดร้อน เร่งหาแนวทางก้าวข้ามวิกฤตต่างๆ เพราะหากก้าวข้ามทุกวิกฤต ไปให้ได้ คือการสร้างโอกาสให้ชีวิต ซึ่งจําเป็นต้องมองอนาคต ใช้วิกฤตเป็นโอกาส ในทุกด้าน หนึ่งในกิจกรรมที่ดึงลู่ทางด้วยการเพิ่มผลผลิตสัตว์น้ําในแหล่งน้ําธรรมชาติ และสร้างการรับรู้ถึงมือพี่น้องเกษตรกรด้านการประมงพื้นบ้าน ต่อยอดการแปรรูปอาหาร รู้ลึกถึงด้านการตลาด ที่จะช่วยสร้างความเข้มแข็งให้พี่น้องเกษตรกร และรังสรรค์เมนูเด็ดเพชรบุรี ที่ไม่ทําแบบดั้งเดิม สร้างสรรค์เมนูอาหารให้หมู่บ้านสามารถสร้างมูลค่าเพิ่ม เสริมการท่องเที่ยวสนับสนุน ซอฟต์ พาวเวอร์ (Soft Power) พยายามสร้างตลาดใหม่ๆ เติมรายได้แก้ปัญหาหนี้สิน เน้นการพัฒนาชุมชน เพื่อชุมชน หลังจากนั้นที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้นําผู้เข้าร่วมกิจกรรมปล่อยปลาตะเพียน ลงในแม่น้ําเพชรบุรี และเยี่ยมชมผลผลิตพี่น้องเกษตรกร มีทั้งอาหารแปรรูป อาหารสดหลากชนิด พร้อมทั้งส่งมอบพันธุ์ปลาตะเพียนสองแสนตัว ให้ผู้แทนทุกชุมชนได้นําไปปล่อยในแหล่งน้ําธรรมชาติเพื่อเป็นประโยชนแก่ประชาชนต่อไป ทางด้าน นางวันเพ็ญ มังศรี รองผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี กล่าวขอบคุณทุกฝ่ายที่เห็นความสําคัญ สนับสนุนให้เกษตรกรและประชาชนเข้ามามีส่วนร่วม สร้างความตระหนักถึงคุณค่าการฟื้นฟูแหล่งน้ํา ด้วยการเพิ่มผลผลิตสัตว์น้ําในแม่น้ําเพชรบุรี และแหล่งน้ําธรรมชาติ การปล่อยพันธุ์สัตว์น้ําจืด นับเป็นวิธีการหนึ่ง ที่ช่วยให้ทรัพยากรน้ําและสัตว์น้ําให้มีความอุดมสมบูรณ์ ให้มีประชากรสัตว์น้ําเพิ่มมากขึ้น ช่วยส่งเสริมการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จามรี อนุรัตน์ ประชาสัมพันธ์จังหวัดเพชรบุรี รายงาน#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
3/2/2023
ภาคตะวันตก
เพชรบุรี
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเพชรบุรี
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230203160109967
null
อบต.ตาเนาะแมเราะ อ.เบตง จ.ยะลา จัดโครงการส่งเสริมการจัดการขยะอันตรายชุมชน ประจำปีงบประมาณ 2566 สร้างจิตสำนึกให้กับประชาชนในการคัดแยกขยะ ลดปริมาณขยะก่อนนำเข้าสู่กระบวนการกำจัดขยะอย่างถูกวิธี
วันนี้ 3 กุมภาพันธ์ 2566 ที่ห้องประชุมอาคารอเนกประสงค์องค์การบริหารส่วนตําบลตาเนาะแมเราะ(ข้างโรงไฟฟ้า กม.7) ตําบลตาเนาะแมเราะ อําเภอเบตง จังหวัดยะลา นายเอก ยังอภัย ณ สงขลา นายอําเภอเบตง เป็นประธานพิธีเปิดโครงการส่งเสริมการจัดการขยะอันตรายชุมชน ประจําปีงบประมาณ 2566 เพื่อรณรงค์สร้างจิตสํานึกให้กับประชาชนในการคัดแยกขยะ ลดปริมาณขยะก่อนนําเข้าสู่กระบวนการกําจัดขยะอย่างถูกวิธี พร้อมส่งเสริมและสนับสนุนกิจกรรมการมีส่วนร่วมของชุมชนในการจัดการขยะโดยชุมชน และพัฒนาคุณภาพชีวิต เสริมสร้างความเข้มแข็งให้แก่ครัวเรือนและชุมชนในการบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยมี นายวิรัต แซ่ตัน นายกองค์การบริหารส่วนตําบลตาเนาะแมเราะ ผู้นําท้องที่ ผู้นําท้องถิ่น ส่วนราชการ คณะกรรมการจัดการสิ่งปฏิกูลและมูลฝอยระดับตําบล และประชาชนในพื้นที่ เข้าร่วมนายวิรัต แซ่ตัน นายกองค์การบริหารส่วนตําบลตาเนาะแมเราะ กล่าวว่า ปัญหาด้านการจัดการขยะมูลฝอยถือเป็นปัญหาหลักด้านมลพิษของประเทศไทยในปัจจุบัน เนื่องจากจํานวนของประชาชนที่เพิ่มขึ้น พร้อมกับการพัฒนาด้านเศรษฐกิจและสังคม ซึ่งส่งผลให้รูปแบบ การดํารงชีวิตของประชาชนจากรูปแบบชุมชนชนบทซึ่งผลิตขยะมูลฝอยเพียงเล็กน้อยต่อวัน กลายเป็นการดํารงชีวิตแบบชุมชนเมือง ซึ่งก่อให้เกิดปริมาณมูลฝอยต่อวันเป็นจํานวนมาก รวมถึงข้อจํากัดด้านพื้นที่ในการจํากัดขยะมูลฝอย ในปัจจุบันมีพื้นที่ที่จะสามารถกําจัดขยะมูลฝอยเพียงเล็กน้อยต่อวัน กลายเป็นการดํารงชีวิตแบบชุมชนเมือง ซึ่งก่อให้เกิดปริมาณขยะมูลฝอยต่อวันเป็นจํานวนมาก รวมถึงข้อจํากัดด้านพื้นที่ในการกําจัดขยะมูลฝอย ทางองค์การบริหารส่วนตําบลตาเนาะแมเราะ และคณะกรรมการจัดการสิ่งปฏิกูลและมูลฝอยระดับตําบล จึงขอจัดทําโครงการส่งเสริมการจัดการขยะอันตรายชุมชน เพื่อกําจัดขยะที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อม โดยการสร้างจุดตัวอย่างการจัดการขยะอินทรีย์ และขยะอันตราย อีกทั้ง ยังเป็นการสร้างจิตสํานึกให้ประชาชนในชุมชนดูแลจัดการกับปัญหาขยะที่เกิดจากครัวเรือนได้อีกด้วย ในการแก้ไขปัญหาขยะในชุมชนส่วนใหญ่จะเป็นขยะที่สามารถนําไปรีไซเคิลได้ แต่ในส่วนของขยะอินทรีย์และอันตราย ยังไม่มีแนวทางในการบริหารจัดการ และเป็นขยะที่มีจํานวนมากในชุมชน ซึ่งสามารถเปลี่ยนเป็นสิ่งที่มีประโยชน์ต่อชุมชน และยังช่วยในการลดปัญหาสุขภาพ ทั้งยังส่งเสริมให้แต่ละครัวเรือนมีการจัดการขยะ ที่ต้นทาง กลางทาง และปลายทาง เพื่อไม่ให้ขยะดังกล่าวตกค้าง ทําให้ชุมชนสะอาด น่าอยู่ และไม่มีแหล่งเพาะพันธุ์โรคในชุมชน#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
3/2/2023
ภาคใต้
ยะลา
สวท.เบตง จ.ยะลา
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230203171409996
null
จังหวัดภูเก็ต หารือส่งเสริมการปลูกทุเรียนเกาะภูเก็ต เพื่อขับเคลื่อนและสร้างความมั่นคงแก่เกษตรกร
จังหวัดภูเก็ต หารือส่งเสริมการปลูกทุเรียนเกาะภูเก็ต เพื่อขับเคลื่อนและสร้างความมั่นคงแก่เกษตรกร นายณรงค์ วุ่นซิ้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตเปิดเผยหลัง เป็นประธานในการประชุมหารือเพื่อส่งเสริมการปลูกทุเรียนเกาะภูเก็ต ว่า ทุเรียนเป็นผลไม้เศรษฐกิจที่มีพื้นที่ปลูกมากที่สุดในภาคใต้ เป็นผลไม้ที่มีอัตลักษณ์และเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวชาวจีนและยังเป็นผลไม้มงคลของไทย จึงมีได้วางแผนและพัฒนาแนวคิดให้หน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์จังหวัดภูเก็ต จัดกิจกรรม "เกษตรเสวนากาแฟยามเช้า"เพื่อเป็นเวทีในการขับเคลื่อนงานด้านการเกษตร ให้เกษตรกรในจังหวัดภูเก็ต สามารถผลิตอาหารเพื่อบริโภคและจําหน่ายสร้างรายได้ พร้อมทั้งเป็นการปรึกษาหารือระหว่างหัวหน้าส่วนราชการในสังกัดกระทรวงเกษตรเพื่อหาแนวทางในการส่งเสริมการปลูกทุเรียนในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตพร้อมทั้งแนวทางการอนุรักษ์พันธุ์ทุเรียนพื้นเมืองตลอดจนถึงการพัฒนาพันธุ์ให้ดียิ่งขึ้นหลังจากนั้ยก็จะมีการส่งเสริมให้มีการขยายพื้นที่ปลูก ทั้งนี้ การหรือดังกล่าวเพื่อเป็นการความมั่นคงด้านอาหารและ สร้างรายได้ให้แก่เกษตรกรในจังหวัดภูเก็ต รวมไปถึงการเพิ่มพื้นที่สีเขียว และเป็นการสร้างความสมดุลทางด้านเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม และระบบนิเวศอย่างยั่งยืน ซึ่งจะนําไปสู่การพึ่งตนเองและพัฒนาคุณภาพชีวิตของเกษตรกรในจังหวัดภูเก็ตอย่างแท้จริง#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
3/2/2023
ภาคใต้
ภูเก็ต
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดภูเก็ต
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230203175746013
null
เกษตรกรชาวอำเภอย่านตาขาว จังหวัดตรัง ปลูกพืชอายุสั้นแซมปาล์มน้ำมันในพื้นที่เพียง 4 ไร่แต่สามารถสร้างรายได้ให้แก่ครอบครัวได้เป็นอย่างดี
วันนี้ (3 กุมภาพันธ์ 2566) นายนนท์นภนต์ นาพอ เกษตรอําเภอย่านตาขาว มอบหมายให้นางแพรวพรรณ ทองพิทักษ์ นักวิชาการส่งเสริมการเกษตรชํานาญการ ลงพื้นที่เยี่ยมเยียนเกษตรกรปลูกพืชอายุสั้น เช่น แตงโม ถั่วฝักยาว แตงกวา แตงร้าน และผักบุ้ง แซมปาล์มน้ํามันในพื้นที่เพียง 4 ไร่ ของนายสมประสาน ขวันเพ็ชร เกษตรกรหมู่ที่ 2 ตําบลทุ่งค่าย อําเภอย่านตาขาว จังหวัดตรัง ด้านลุงม่อน (นายสมประสาน ขวันเพ็ชร) เล่าว่า การปลูกพืชอายุสั้นดังกล่าว สามารถสร้างรายได้ให้แก่ครอบครัวได้เป็นอย่างดี ในช่วงฝนตกเกือบตลอดปีที่ตนไม่สามารถกรีดยางพาราได้ ซึ่งในขณะนี้พืชที่เกษตรกรเก็บผลผลิตจําหน่ายได้แก่ แตงโมลูกขนาดมาตรฐาน จําหน่ายราคากิโลกรัมละ 15-20 บาท ส่วนลูกเล็ก จําหน่ายลูกละ 10 บาท และถั่วฝักยาว จําหน่ายกิโลกรัมละ 30 บาท สร้างรายได้ให้แก่เกษตรกรไม่ต่ํากว่า 6,000 บาท/เดือน นอกจากนี้ เกษตรกรยังปลูกผักกาด ถั่วพู พริก กล้วย แก้วมังกร ละมุด ทุเรียน และเลี้ยงผึ้งจํานวน 15 ลัง แบบผสมผสานในพื้นที่ประมาณ 7 ไร่ ซึ่งสามารถสร้างรายได้ให้แก่เกษตรกรอย่างต่อเนื่อง#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
3/2/2023
ภาคใต้
ตรัง
สวท.ตรัง
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230203173217002
null
อำเภอย่านตาขาว จังหวัดตรัง ประชุมคณะกรรมการช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินอำเภอ เพื่อพิจารณาให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติจากสถานการณ์อุทกภัย น้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก
วันนี้ ( 3 กุมภาพันธ์ 2566) นายสมนึก ธูปหอม นายอําเภอย่านตาขาว จังหวัดตรัง เป็นประธานประชุมคณะกรรมการช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน(อุทกภัย) อําเภอย่านตาขาว(ก.ช.ภ.อ.ย่านตาขาว) ครั้งที่ 1/2566 โดยมีนายนนท์นภนต์ นาพอ เกษตรอําเภอย่านตาขาว พร้อมด้วย นางสาวเกศรินทร์ สุวรรณวัฒน์ นักวิชาการส่งเสริมการเกษตรปฏิบัติการ สํานักงานเกษตรอําเภอย่านตาขาว เข้าร่วม ณ ห้องประชุม 50 ปี มหาราช อําเภอย่านตาขาว จังหวัดตรัง ทั้งนี้ เพื่อพิจารณาให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติฯ เนื่องจากเกิดสถานการณ์อุทกภัย น้ําท่วมฉับพลันและน้ําป่าไหลหลาก เมื่อวันที่ 18 ธันวาคม 2565 ในพื้นที่ ตําบลโพรงจระเข้ อําเภอย่านตาขาว จังหวัดตรัง ซึ่งมีเกษตรกรยื่นเรื่องขอรับความช่วยเหลือ ด้านพืช จํานวน 4 ราย พื้นที่เสียหายรวมทั้งหมด 2-0-0 ไร่ โดยมีเกษตรกรผ่านหลักเกณฑ์ขอรับความช่วยเหลือด้านพืช จํานวน 4 ราย พื้นที่เสียหายรวมทั้งหมด 2-0-0 ไร่ ซึ่งมติที่ประชุมเห็นชอบให้ความช่วยเหลือทั้ง 4 ราย วงเงินช่วยเหลือ 8,096 บาท ตามระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยเงินทดรองราชการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน พ.ศ. 2562 ในเขตพื้นที่ให้ความช่วยเหลือ ตามประกาศของประกาศของจังหวัดตรัง เรื่องเขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน อําเภอย่านตาขาว จังหวัดตรัง #สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
3/2/2023
ภาคใต้
ตรัง
สวท.ตรัง
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230203173455003
null
ตลาดเกษตรกรอำเภอกันตัง จังหวัดตรัง เริ่มจำหน่ายสินค้าเกษตรตั้งแต่เดือนมกราคม 2565 จนกระทั่งปัจจุบัน มียอดจำหน่ายสินค้าสะสมกว่า 6 แสนบาท
วันนี้ ( 3 กุมภาพันธ์ 2566) นายธนากร ชูจิตต์ นายอําเภอกันตัง พร้อมด้วยนางบุญญาพร กายเพ็ชร นักวิชาการส่งเสริมการเกษตรชํานาญการปฏิบัติราชการแทนเกษตรอําเภอกันตัง เยี่ยมชมตลาดเกษตรกรระดับอําเภอกันตัง ณ บริเวณหน้าสํานักงานเกษตรอําเภอกันตัง อําเภอกันตัง จังหวัดตรัง สําหรับตลาดเกษตรอําเภอกันตังเริ่มจําหน่ายสินค้าเกษตรตั้งแต่เดือนมกราคม 2565 จนกระทั่งปัจจุบัน มียอดจําหน่ายสินค้าสะสม 683,749 บาท ปัจจุบันมีเกษตรกรสมัครเข้าร่วมโครงการจํานวน 8 ราย จุดประสงค์ในการตั้งตลาดเกษตรกรระดับอําเภอเพื่อพัฒนาตลาดให้เป็นที่จําหน่ายสินค้าหลักของเกษตรกรและกลุ่มสถาบันเกษตรกร และเพื่อส่งสินค้าจากเกษตรกรผู้ผลิตสู่ผู้บริโภคโดยตรง ในวันนี้มีเกษตรกร และกลุ่มเกษตรกรในพื้นที่อําเภอกันตัง นําสินค้าเกษตร ผลิตภัณฑ์จากสินค้าเกษตรคุณภาพปลอดสารเคมี ขนมและอาหารแปรรูป มาจําหน่ายจํานวน 7 ร้านค้า โดยตลาดเกษตรกรอําเภอกันตังเปิดทุกวันจันทร์ และวันศุกร์ เวลา 6.00 น. เป็นต้นไป#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
3/2/2023
ภาคใต้
ตรัง
สวท.ตรัง
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230203173942005
null
เกษตรอำเภอวังวิเศษ จังหวัดตรัง ลงพื้นที่เยี่ยมเยียนเกษตรกรปลูกผักและจำหน่ายผลผลิตจากแปลงด้วยรถพุ่มพวง ตำบลเขาวิเศษ
วันนี้ (3 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2566) นายนิกร ชิดเชื้อ เกษตรอําเภอวังวิเศษ จังหวัดตรัง พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่สํานักงานเกษตรอําเภอวังวิเศษ ลงพื้นที่เยี่ยมเยียนเกษตรกรปลูกพืชและจําหน่ายผลผลิตจากแปลงด้วยรถพุ่มพวง ของนางจิ้น บัวทอง หมู่ที่ 19 ตําบลเขาวิเศษ อําเภอวังวิเศษ จังหวัดตรัง เกษตรกรรายดังกล่าว มีการปลูกต้นพันธุ์ผักและผักต่างๆพร้อมสินค้าในครัวเรือนที่จําหน่าย เช่นต้นกล้าผัก เช่น ต้นกุยช่าย ต้นมะเขือ ต้นถั่วผักยาว ต้นผักชีฝรั่ง ขึ้นฉ่าย กระเพรา โหระพา เตยหอม มะระขี้นก ฟักทอง ฟักเขียว บวบเหลี่ยม จําหน่าย ราคา 10,20,30,50,100 บาท ขณะที่ พืชผัก เช่น ขิง ข่า ขมิ้น ตะไคร้ มัดละ 10-20 บาท นอกจากนี้ ยังมีสินค้า/อาหารอุปโภคบริโภคในครัวเรือน เช่น เครื่องแกง แกงที่ทําจากผลผลิตในแปลงหรือต้นพันธุ์ที่โตแล้ว เครื่องปรุง รับสินค้าจากเกษตรกรคนอื่นๆด้วย เกษตรกรบางคนนําต้นผักหรือผักต่างๆ เช่น ผักหวานป่า ผักเหรียงนํามาแลกแกง แลกปุ๋ย จําหน่ายให้กับลูกค้า จํานวน 30-50 ราย /วัน/คน เฉลี่ย 30-50 บาท มีกําไรจากการขาย สินค้า ประมาณ 3,000 บาท/เดือน #สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
3/2/2023
ภาคใต้
ตรัง
สวท.ตรัง
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230203174147006
null
ขนส่งจังหวัดมุกดาหาร ส่งเจ้าหน้าที่สุ่มตรวจ ตรอ.กำชับให้ตรวจเข้มรถทุกคัน แก้ปัญหา ฝุ่น PM 2.5
นางสาวนิราวรรณ ปัญสุทธิ์ ขนส่งจังหวัดมุกดาหาร กล่าวว่า ในจังหวัดมุกดาหาร มีสถานตรวจสภาพรถเอกชน ในกํากับดูแลของสํานักงานขนส่งจังหวัดมุกดาหาร จํานวน 22 แห่ง เพื่อใช้ตรวจสภาพรถ ว่ามีความพร้อมในการใช้งาน ตามข้อกําหนดของกรมการขนส่งทางบก เป็นการลดภาระการตรวจสภาพรถจากสํานักงานขนส่งจังหวัดมุกดาหาร ผู้ใช้รถสามารถนํารถเข้าตรวจสภาพ ก่อนเสียภาษีประจําปี เพื่อขอเอกสารการันตีว่า รถของตัวเองปลอดภัย พร้อมใช้งาน สามารถขับขี่ได้โดยไม่เป็นอันตราย ไม่สร้างมลพิษในอากาศ เมื่อนํารถไปตรวจสภาพที่ ตรอ. และสภาพรถผ่านเกณฑ์ ทางตรอ. จะออกใบรับรองการตรวจสภาพรถให้ เจ้าของรถสามารถนําใบนี้ไปทําการต่อภาษีประจําปี ต่อทะเบียนได้ที่สํานักงานขนส่งจังหวัดมุกดาหารเพื่อให้การตรวจสภาพรถของ ตรอ.ทุกแห่งเป็นไปตามข้อกําหนดของกรมการขนส่งทางบก สํานักงานขนส่งจังหวัดมุกดหาร จึงมอบหมายให้เจ้าหน้าที่เข้าไปกํากับดูแล และสุ่มตรวจ ตรอ.แต่ละแห่งให้ถี่ขึ้นในระยะนี้ โดยเฉพาะการตรวจควันดํา หรือระบบการเผาไหม้ของเครื่องยนต์ ต้องตรวจจริง เครื่องมือต้องพร้อม เพื่อจะได้ไม่ปล่อยให้รถควันดําออกมาวิ่งตามท้องถนน สร้างมลพิษทางอากาศ โดยเฉพาะฝุ่น PM2.5 สนิท ทองจํารัส สวท.มุกดาหาร รายงาน#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
3/2/2023
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
มุกดาหาร
สวท.มุกดาหาร
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230203193902036
null
นพค. 14 จัดชุดเคลื่อนที่เร็วฉีดพ่นน้ำล้างฝุ่นละอองลดปัญหา PM.2.5 ในพื้นที่ตำบลตะกาง อำเภอเมืองตราด
(3 ก.พ. 66) พันเอก อนุวัตร เหลืองวิลัย ผู้บังคับหน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 14 สํานักงานพัฒนาภาค 1 หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา จัดชุดเคลื่อนที่เร็วบรรเทาสาธารณภัย นพค.14 ร่วมกับเทศบาลตําบลตะกาง เข้าช่วยเหลือประชาชน ในการฉีดพ่นน้ําล้างฝุ่นละอองบนพื้นถนน และพื้นที่ต่าง ๆ ที่อาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน ทั้งยังเป็นการช่วยลดปัญหาหมอกควัน PM.2.5 ทั้งนี้เนื่องจากช่วงนี้ในพื้นที่จังหวัดตราดเริ่มมีผลกระทบ โดยเฉพาะตําบลตะกาง อําเภอเมืองตราด ตลอดจนเข้าช่วยเหลือโรงเรียนในพื้นที่ตําบลตะกาง ในการลดฝุ่นละอองที่เกิดขึ้นภายในโรงเรียนวัดตะกางและบริเวณโดยรอบ ซึ่งส่งผลกับระบบทางเดินหายใจของครูและนักเรียน ในพื้นที่ตําบลตะกาง อําเภอเมืองตราด จังหวัดตราด#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
3/2/2023
ภาคตะวันออก
ตราด
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดตราด
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230203231742069
null
พังงา ปลาตะหลังเค็ม ฉายาปลาเลื่อนขั้น ของฝากขึ้นชื่ออำเภอเกาะยาวหรอยอย่างแรง สร้างรายชาวประมงพื้นบ้าน
ที่เกาะยาวน้อย อ.เกาะยาว จ.พังงา นางอุษณี เจียมรา เกษตรอําเภอเกาะยาว นําผู้สื่อข่าวชมการทําปลาเค็ม ของฝากขึ้นชื่อของอําเภอเกาะยาวที่บ้าน ของนางสาวข้อดี้ย๊ะ ระวังชา ม.5 ต.เกาะยาวน้อย อ.เกาะยาว ซึ่งเป็นครอบครัวชาวประมงพื้นบ้าน ผู้ผลิตปลาเค็มรายใหญ่และมีชื่อเสียงในพื้นที่ โดยได้สาธิตวิธีการทําปลาเค็มที่ต้องใช้ปลาตะหลัง หรือปลาสีเสียด ปลาพื้นถิ่นของอําเภอเกาะยาว ที่ครอบครัวได้ออกไปจับในทะเล นํามาผ่ากลางลําตัวเอาเครื่องในออก ล้างให้สะอาด หมักด้วยเกลือเม็ดทิ้งไว้ 1 คืนจากนั้น น้ํามาล้างเกลือออกให้สะอาด แล้วนําไปตากแดด 2 วัน แล้วนํามาห่อด้วยกระดาษส่งขายให้กับลูกค้า ซึ่งส่วนใหญ่มารับที่บ้านและสั่งทางออนไลน์ ซึ่งทุกคนที่ได้ชิมต่างก็ติดใจสั่งซื้อเพิ่มอยู่เสมอ และมีเรื่องเล่าต่อกันมาว่า ในอดีตนั้นข้าราชการในเขตสามจังหวัด คือพังงา กระบี่ และภูเก็ต ถ้าได้นําปลาเค็มจากเกาะยาวไปฝากเจ้านายสักครั้ง รับรองว่าเจริญรุ่งเรืองในหน้าที่การงาน จนชาวบ้านเขาเรียกกัน "ปลาเลื่อนขั้น"นางสาวข้อดี้ย๊ะ ระวังชา หรือ "จ๊ะอีด ปลาเค็ม" เปิดเผยว่า ตนเองได้สืบทอดวิธีทําปลามาจากรุ่นบรรพบุรุษ สร้างรายได้หลักให้ครอบครัวอยู่ดีกินดี จนส่งลูกๆเรียนจบปริญญากันหมด ซึ่งกระบวนการไม่มีอะไรมาก โดยครอบครัวจะออกไปจับปลาในทะเล จะเลือกเฉพาะปลาตะหลังหรือว่าปลาสีเสียดที่มีอยู่มากในทะเลเกาะยาว นํามาทําเป็นปลาตะหลังเค็มและปลาตะหลังแดดเดียว ไม่มีการใช้สารเคมีใดๆทั้งสิ้นใช้แต่เกลือเม็ดเท่านั้น การตากแดดนั้นต้องใช้มุ้งครอบป้องกันแมลงวันมาวางไข่และคอยพลิกกลับตัวปลา เมื่อได้ที่ก็มามาห่อส่งให้ลูกค้า และขอรับรองว่า ปลาตะหลังเค็มของจ๊ะอี๊ดนั้นมีความอร่อย เปรี้ยวกําลังดี เค็มน้อย เนื้อปลามันมาก สําหรับผู้ที่สนใจสามารถติดต่อได้ที่ จ๊ะอี๊ด โทรศัพท์ 062-6379814#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
3/2/2023
ภาคใต้
พังงา
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดพังงา
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230203185248022
null
หมู-ไก่-ไข่ ชะตากรรมเดียวกัน ต้นทุนการผลิตสูง ร้องรัฐช่วยด่วน
สงครามรัสเซีย-ยูเครนยังไม่มีทีท่าว่าจะยุติ และจะฉลองครบรอบ 1 ปี ในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2566 ซึ่งสงครามส่งผลกระทบในวงกว้างทั้งเศรษฐกิจและสังคม โดยเฉพาะความมั่นคงทางอาหาร เนื่องจากทั้ง 2 ประเทศ เป็นผู้ส่งออกธัญพืชและวัตถุดิบอาหารสัตว์รวมกันติดอันดับ 1 ใน 5 ของโลก ทั้งข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ข้าวสาลี ข้าวบาร์เลย์ และยังเป็นประเทศผู้ส่งออกน้ํามันระดับต้นๆ ของโลก ขณะที่วันนี้ วิกฤตโควิด-19 อ่อนแรง เพราะโลกเข้มแข็งขึ้นด้วยวัคซีนป้องกันเชื้อโรคที่ถูกพัฒนาอย่างรวดเร็ว ควบคู่กับนโยบายป้องกันประเทศและป้องกันส่วนบุคคลดีขึ้น ซึ่งเป็นแรงกระตุ้นสําคัญทางเศรษฐกิจและความต้องการทั่วโลก แต่ธัญพืชและวัตถุดิบอาหารสัตว์ ไซโลเก็บผลผลิตและเส้นทางขนส่งถูกทําลาย ราคาในตลาดโลกจึงยังคงยืนแข็งในระดับสูง ส่งผลต่อต้นทุนการผลิตภาคปศุสัตว์ไม่ใช่ไทยประเทศเดียวแต่เผชิญชะตากรรมเดียวกันทั่วโลก สงครามยังกระทบต่อราคาอาหารรับรู้ได้ทั่วโลก เช่น ไข่ไก่ สหรัฐแพงจนผู้บริโภคบ่น สาเหตุจากไข้หวัดนกและต้นทุนการเลี้ยงไก่ไข่สูงขึ้น ทั้งราคาอาหารสัตว์ ค่าแรงงาน ค่าบริหารจัดการฟาร์ม ขณะที่ มาเลเซีย ต้องสั่งซื้อไข่ไก่ล็อตใหญ่ที่สุด 50 ล้านฟอง จากอินเดีย เพื่อแก้ปัญหาการขาดแคลนในประเทศ เนื่องจากต้นทุนวัตถุดิบอาหารปรับราคาสูงขึ้น จากผลกระทบของสงครามยูเครน กดดันให้ผู้เลี้ยงรายเล็กต้องลดปริมาณการเลี้ยงลง ผู้เลี้ยงไก่ไข่ไทยก็ไม่น้อยหน้าราคาอาหารไก่ปรับขึ้นประมาณ 3-4 บาทต่อกิโลกรัม ราคาไข่ไก่คละหน้าฟาร์มที่เหมาะสมควรอยู่ที่ 3.90-4.00 บาทต่อฟอง แต่ราคาที่เกษตรกรขายได้ปัจจุบัน คือ 3.60 บาทต่อฟองสําหรับภาคการเลี้ยงสัตว์ของไทย โดยเฉพาะหมู ไก่ ไข่ ซึ่งเป็นอาหารที่คนไทยนิยมบริโภคและเข้าถึงง่ายที่สุด ได้รับผลกระทบจากราคาวัตถุดิบอาหารสัตว์ถ้วนหน้า จากข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ที่เป็นวัตถุดิบสําคัญในสูตรอาหารสัตว์ราคาทะยานสูงสุด จากก่อนส่งครามไม่เกิน 10 บาทต่อกิโลกรัม ระหว่างสงครามปรับขึ้นไปมากกว่า 13.50 บาทต่อกิโลกรัม จนถึงขณะนี้ยังคงยืนสูงที่ 13.40-13.45 บาทต่อกิโลกรัม รวมถึงถั่วเหลือง ข้าวสาลี ขยับขึ้นตามกัน โดยเฉพาะอาหารของหมู มีข้าวโพดเป็นส่วนผสมสูงถึง 60-70% จึงกลายเป็นต้นทุนสําคัญ ผู้เลี้ยงไก่เนื้อและไก่ไข่ ก็อย่างไม่อาจหลีกเลี่ยงปัญหานี้ได้ สมาคมผู้ผลิตปศุสัตว์ต่างๆ ทั้ง หมู ไก่ ไข่ ร้องเป็นเสียงเดียวกันให้รัฐบาลหาทางแก้ปัญหาเรื่องวัตถุดิบอาหารสัตว์เร่งด่วน ทั้งระยะสั้นและระยะยาว เป้าหมาย คือ ช่วยลดต้นทุนให้เกษตรกรอยู่ได้-ผู้บริโภคซื้อคล่อง เนื่องจากปัจจุบันมาตรการด้านภาษีและโควต้านําเข้าวัตถุดิบอาหารสัตว์ของภาครัฐ ยังเป็นอุปสรรคและต้นทุนสําคัญในห่วงโซ่การผลิตที่เกษตรกรต้องรับภาระ นอกเหนือจากต้นทุนพลังงานและปัจจัยการผลิตที่เพิ่มในอัตราที่ใกล้เคียงกันเฉลี่ยประมาณ 20-30%จากปี 2565-ปัจจุบัน ผู้เลี้ยงหมูอยู่ในสถานการณ์ลําบาก เพราะนอกจากต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้นเป็นประวัติการณ์แล้ว ยังเจอปัญหา “หมูเถื่อน” ที่ลักลอบเข้าไทยมาทุกทิศทุกทาง แม้กรมปศุสัตว์ร่วมมือกับตํารวจและทหารจับและทําลายของกลางซากหมูไปมากกว่า 1 ล้านกิโลกรัม ก็ตาม แต่สมาคมผู้เลี้ยงสุกรยืนยันว่านั่นเป็นเพียงแค่ 5% ของหมูที่ลักลอบทั้งหมด ภาครัฐต้องปราบปรามอย่างจริงจังให้หมดภายในปีนี้ เพื่อให้สถานการณ์การผลิตกลับสู่ภาวะปกติ 18 ล้านตัว ในปี 2567 ตามเป้าหมายของกรมปศุสัตว์ ล่าสุดกรรมการสมาคมการค้าผู้เลี้ยงสุกรภาคใต้ ย้ําว่าเกษตรกรกําลังประสบปัญหาแบกรับต้นทุนการผลิตสูง ขณะที่ราคาสุกรหน้าฟาร์มตกต่ําเหลือเพียง กก.ละ 80 บาท และมีแนวโน้มดิ่งต่ําลงอีก ถึง 70 บาท ต่อ กก. จากการลักลอบนําเนื้อสุกรกล่องจากประเทศเพื่อนบ้านเข้ามา ขณะที่ต้นทุนการผลิตเฉลี่ยทั้งปี 2565 ของสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติอยู่ที่ 94.79 บาทต่อกิโลกรัม ด้านนายวีระพงษ์ ปัญจวัฒนกุล ที่ปรึกษาสมาคมผู้เลี้ยงไก่เนื้อ ย้ําขณะนี้ผู้เลี้ยงไก่เนื้อกําลังเดือดร้อนอย่างหนัก เนื่องจากต้นทุนการเลี้ยงไก่เนื้อได้ปรับสูงขึ้นต่อเนื่องทําสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยต้นทุนการเลี้ยงไก่ปีนี้ขยับขึ้นมาอยู่ที่ 45 บาทต่อกิโลกรัม เทียบกับต้นทุนปี 2565 ที่ 42-43 บาท เนื่องจากราคาอาหารสัตว์ปรับราคาขึ้นต่อเนื่อง ทําให้ประสบปัญหาขาดทุนติดต่อกันมา 2 เดือนแล้ว เห็นชัดว่าผู้เลี้ยงหมู ผู้เลี้ยงไก่ และผู้เลี้ยงไก่ไข่ ต้องการความช่วยเหลือจากภาครัฐเร่งด่วนร่วมกันในเรื่องวัตถุดิบอาหารสัตว์ ขณะที่ผู้เลี้ยงหมูต้องการให้มีการปราบปรามหมูเถื่อนควบคู่กันไปด้วย ให้ต้นทุนกับราคาที่ขายได้เหมาะสมพอมีกําไรเลี้ยงครอบครัวได้ และผู้บริโภคเข้าถึงอาหารโปรตีนดังกล่าวได้ในราคาที่สมเหตุผล ซึ่งภาครัฐต้องเป็นผู้ขับเคลื่อนนโยบายและกําหนดมาตรการช่วยเหลือที่ตรงกับความการของทุกภาคส่วน เพื่อความมั่นคงทางอาหารอย่างยั่งยืนของคนไทยสมสมัย หาญเมืองบน นักวิชาการอิสระ
3/2/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สำนักพัฒนานโยบายและแผนการประชาสัมพันธ์
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230203192919032
null
ผู้ว่าฯนครพนม เตรียมแผนพาชาวท่าอุเทนทำการเกษตรแนวใหม่ร่วมกับมูลนิธิปิดทองหลังพระ สืบสานแนวพระราชดำริ
วันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2566 ที่หอประชุมที่ว่าอําเภอท่าอุเทน จังหวัดนครพนม นายวันชัย จันทร์พร ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม นําคณะหัวหน้าส่วนราชการลงพื้นที่ติดตามการขับเคลื่อนนโยบายของรัฐบาล และภารกิจสําคัญของกระทรวง กรม และของจังหวัด พร้อมสร้างความเข้าใจและแนวทางการปฏิบัติราชการที่ผู้นําต้องทําก่อน เพื่อเป็นต้นแบบให้กับประชาชนในทุก ๆ เรื่อง กับคณะหัวหน้าส่วนราชการ เจ้าหน้าที่ ในระดับอําเภอ ตําบล รวมถึงกํานัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน โอกาสนี้ ยังได้พูดถึงแนวทางการพัฒนาอําเภอท่าอุเทน ที่จะมีการส่งเสริมการปลูกพืชหลังฤดูทํานา เพราะจากข้อมูลพบว่าในพื้นที่มีการปลูกพืชเพียงไม่กี่ชนิด เช่น สับปะรด GI และแตงโมไร้เมล็ด ขณะที่บางคนเลือกที่จะทํานาปรังซึ่งมีความเสี่ยงที่จะขาดทุน อีกทั้งยังทําให้สภาพพื้นดินที่ใช้ในการเพาะปลูกขาดแร่ธาตุเพราะเป็นการปลูกพืชชนิดเดิมซ้ํา ๆ ไม่มีการพักดินและปรับปรุงบํารุงดิน ซึ่งการทําการเกษตรแบบนี้จะทําให้มีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ดังนั้น จังหวัดนครพนมจึงมีแผนที่จะส่งเสริมให้เกษตรกรทุกคนได้มีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมทําเกษตรแนวใหม่หลังฤดูทํานา เริ่มตั้งแต่การตรวจวัดแร่ธาตุในดิน โดยจะส่งเจ้าหน้าที่ที่มีความเชี่ยวชาญเข้ามาช่วยดําเนินการให้ความรู้และตรวจวัดแร่ธาตุในดินให้ เพื่อร่วมกันวิเคราะห์ หาว่าขาดแร่ธาตุอะไร ต้องปรับปรุงบํารุงดิน ส่วนไหน อย่างไร เพื่อให้ดินกลับมามีความอุดมสมบูรณ์ จากนั้น จะเข้าสู่ขั้นตอนของการปรับปรุงบํารุงดิน และ พิจารณาอีกครั้งว่าพื้นที่มีความเหมาะสมที่จะปลูกพืชตัวไหน และที่ขาดไม่ได้คือการค้นหาและสร้างแหล่งน้ําเพื่อการเกษตรรองรับการทําการเกษตรในช่วงนี้ ซึ่งจะมีทั้งการขุดลอกแหล่งน้ําเดิม เพิ่มแหล่งน้ําใหม่ และเมื่อเสร็จขั้นตอนนี้ ก็จะได้ร่วมกับมูลนิธิปิดทองหลังพระ สืบสานแนวพระราชดําริ ดําเนินการขับเคลื่อนการเกษตรของชาวท่าอุเทนให้ไปสู่ความยั่งยืนที่พร้อมสร้างรายได้ให้กับทุกคนแทนการทํานาปรังที่มีความเสี่ยงมากในแต่ละปี โดยเบื้องต้นพืชที่จะมีปลูกหลังฤดูทํานา ที่มองไว้คือข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ซึ่งผู้ที่เข้าร่วมโครงการจะได้รับการประกันราคาให้ตลอดระยะเวลาการเพาะปลูกทําให้ไม่มีความเสี่ยงแต่ต้องปฏิบัติตามขั้นตอนที่กําหนด ส่วนการเลี้ยงสัตว์ก็มีแนวทางในการพัฒนาโคที่ชาวบ้านเลี้ยงโดยจะจัดหาน้ําเชื้อโคสายพันธุ์ดี ๆ มาให้ผสมเทียมเพื่อให้ทุกคนได้เลี้ยงโคที่มีความสมบูรณ์เวลาจําหน่ายจะได้ราคาที่สูงกว่าที่เป็นอยู่ ส่วนผู้ที่มีโคสายพันธุ์ดีอยู่แล้วที่มีการเลี้ยงอยู่ประมาณ 5,459 ตัว ก็จะมีการถ่ายทอดความรู้ เทคนิค วิธีการและขั้นตอนเลี้ยง เพื่อให้สามารถลดต้นทุนการผลิตลงไปจากเดิม ทําให้เมื่อจําหน่ายจะมีกําไรที่สูงมากขึ้นเช่นเดียวกัน นอกจากนี้ยังมีแนวทางในการส่งเสริมการเลี้ยงไก่ และสัตว์เลี้ยงเศรษฐกิจอื่น ๆ อีก ข่าว/ส.ปชส.นครพนม#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
3/2/2023
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
นครพนม
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนครพนม
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230203195138042
null
เกษตรย่านตาขาว ลงพื้นที่เยี่ยมเยียนเกษตรกรปลูกพืชอายุสั้น เช่น แตงโม ถั่วฝักยาว แตงกวา แตงร้าน และผักบุ้ง แซมปาล์มน้ำมัน ตำบลทุ่งค่าย
วันนี้ (3 กุมภาพันธุ์ 2566)? นายนนท์นภนต์ นาพอ เกษตรอําเภอย่านตาขาว มอบหมายให้ นางแพรวพรรณ ทองพิทักษ์ นักวิชาการส่งเสริมการเกษตรชํานาญการ ลงพื้นที่เยี่ยมเยียนเกษตรกรปลูกพืชอายุสั้น เช่น แตงโม ถั่วฝักยาว แตงกวา แตงร้าน และผักบุ้ง แซมปาล์มน้ํามันในพื้นที่เพียง 4 ไร่ ของนายสมประสาน ขวันเพ็ชร เกษตรกร หมู่ที่ 2 ตําบลทุ่งค่าย อําเภอย่านตาขาว จังหวัดตรัง ซึ่งลุงม่อน (นายสมประสาน ขวันเพ็ชร) เล่าว่าการปลูกพืชอายุสั้นดังกล่าว สามารถสร้างรายได้ให้แก่ครอบครัวได้เป็นอย่างดี ในช่วงฝนตกเกือบตลอดปีที่ตนไม่สามารถกรีดยางราพาได้ ซึ่งในขณะนี้พืชที่เกษตรกรเก็บผลผลิตจําหน่าย ได้แก่ แตงโมลูกขนาดมาตรฐาน จําหน่ายราคากิโลกรัมละ 15-20 บาท ส่วนลูกเล็ก จําหน่ายลูกละ 10 บาท และถั่วฝักยาว จําหน่ายกิโลกรัมละ 30 บาท สร้างรายได้ให้แก่เกษตรกรไม่ต่ํากว่า 6,000 บาท/เดือน นอกจากนี้เกษตรกรยังปลูกผักกาด ถั่วพู พริก กล้วย แก้วมังกร ละมุด ทุเรียน และเลี้ยงผึ้งจํานวน 15 ลัง แบบผสมผสานในพื้นที่ประมาณ 7 ไร่ ซึ่งสามารถสร้างรายได้ให้แก่เกษตรกรอย่างต่อเนื่อง#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
3/2/2023
ภาคใต้
ตรัง
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดตรัง
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230203203251051
null
หนองคาย งานวันถ่ายทอดเทคโนโลยีเพื่อร่วมต้นฤดูกาลผลิตใหม่
สํานักงานเกษตรจังหวัดหนองคาย จัดงานวันถ่ายทอดเทคโนโลยีเพื่อเริ่มต้นฤดูกาลผลิตใหม่ เพื่อเปิดโอกาสให้เกษตรกรได้เข้าเรียนรู้ รับทราบเทคโนโลยีการผลิตใหม่ ๆ ช่องทางการตลาด ข้อมูลข่าวสาร และการเลือกใช้เทคโนโลยีที่เหมาะสมกับสภาพพื้นที่ของตนเองวันนี้ (3 กุมภาพันธ์ 2566) ณ ศูนย์วิจัยข้าวหนองคาย บ้านโปร่งสําราญ หมู่ที่ 8 ตําบลพระบาทนาสิงห์ อําเภอรัตนวาปี จังหวัดหนองคาย นายชาญชัย คงทัน รองผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย เป็นประธานในพิธีเปิดงานวันถ่ายทอดเทคโนโลยีเพื่อเริ่มต้นฤดูกาลผลิตใหม่ (Field Day) ที่สํานักงานเกษตรจังหวัดหนองคาย จัดให้มีขึ้นสําหรับงานวันถ่ายทอดเทคโนโลยีเพื่อเริ่มต้นฤดูกาลผลิตใหม่ที่จัดขึ้นครั้งนี้ เพื่อเปิดโอกาสให้เกษตรกรได้เข้าเรียนรู้ รับทราบเทคโนโลยีการผลิตใหม่ ๆ ช่องทางการตลาด ข้อมูลข่าวสาร และการเลือกใช้เทคโนโลยีที่เหมาะสมกับสภาพพื้นที่ ตลอดจนได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้กับเกษตรกรด้วยกันเอง รวมทั้งนักวิชาการ ผู้เชี่ยวชาญในแต่ละสาขา ซึ่งเป็นตัวแทนจากหน่วยงานต่าง ๆ โดยจัดให้มีสถานีเรียนรู้ 5 สถานี ได้แก่ สถานีเรียนรู้ที่ 1 “ข้าวงาม ฮวงเต็ม เม็ดต่ง” สถานีเรียนรู้ที่ 2 “เลาะลงท่งอย่าสะเผา” สถานีเรียนรู้ที่ 3 “เซาซะสารเคมี”สถานีเรียนรู้ที่ 4 “เฮ็ดดี ๆ มีมาตรฐาน”สถานีเรียนรู้ที่ 5 “ให้เพิ่นเอิ้นขาน ข้าวแซ่บเมืองหนองคาย”#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
3/2/2023
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
หนองคาย
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดหนองคาย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230203204233054
null
สคร.9 เตือนประชาชนป้องกันฝุ่น PM 2.5 สวมหน้ากากป้องกันฝุ่น งดการเผาในที่โล่ง
ในช่วงนี้หลายพื้นที่ในประเทศไทยเกิดปัญหาจากฝุ่นละอองขนาดเล็ก หรือ PM 2.5 สูงเกินค่ามาตรฐาน ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน และเป็นปัญหาสําคัญที่ต้องเฝ้าระวังอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในกลุ่มเสี่ยงที่ต้องดูแลเป็นพิเศษ ได้แก่ เด็กเล็ก ผู้สูงอายุ หญิงตั้งครรภ์ กลุ่มโรคหัวใจและหลอดเลือด กลุ่มโรคระบบทางเดินหายใจ กลุ่มโรคผิวหนังอักเสบ และกลุ่มโรคตาอักเสบ หากได้รับมลพิษจากฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 เข้าสู่ร่างกาย อาจทําให้เกิดการเจ็บป่วย หรือมีผลกระทบต่อสุขภาพที่รุนแรงมากกว่าประชาชนทั่วไปได้นายแพทย์ทวีชัย วิษณุโยธิน ผู้อํานวยการสํานักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 9 จังหวัดนครราชสีมา กล่าวถึง ฝุ่น PM 2.5 ว่า เป็นฝุ่นละอองขนาดเล็กที่มีเส้นผ่านศูนย์กลางไม่เกิน 2.5 ไมครอน เกิดจากควันเผาไหม้ของโรงงานอุตสาหกรรม อุตสาหกรรมและโรงไฟฟ้า ไอเสียจากรถยนต์ หรือจากการจราจร การเผาในที่โล่ง ทําให้ฝุ่น PM 2.5 สามารถแพร่กระจายเข้าสู่ทางเดินหายใจ กระแสเลือด และแทรกซึมสู่กระบวนการทํางานในอวัยวะต่างๆ ของร่างกาย เพิ่มความเสี่ยงเป็นโรคเรื้อรัง ผู้ที่เป็นกลุ่มเสี่ยง ได้แก่ เด็กเล็ก ผู้สูงอายุ หญิงตั้งครรภ์ และ 4 กลุ่มโรคสําคัญที่ต้องเฝ้าระวังและดูแลเป็นพิเศษ คือ 1.กลุ่มโรคหัวใจและหลอดเลือด เช่น เหนื่อยง่าย หัวใจเต้นเร็ว แน่นหน้าอก 2.กลุ่มโรคระบบทางเดินหายใจ เช่น คัดจมูก น้ํามูกไหล แสบจมูกและลําคอ 3.กลุ่มโรคผิวหนังอักเสบ เช่น อาการคันตามร่างกาย มีผื่นแดงตามร่างกายและ 4.กลุ่มโรคตาอักเสบ เช่น อาการแสบหรือคันตา น้ําตาไหล และตาแดง นายแพทย์ทวีชัย วิษณุโยธิน กล่าวต่อไปว่า วิธีปฏิบัติให้ปลอดภัยจากฝุ่น PM 2.5 ทําได้โดยลดการก่อมลพิษและลดการเพิ่มปริมาณฝุ่นละอองในอากาศ เช่น ลดการใช้รถยนต์ที่มีควันดํา ลดการเผาขยะหรือเผาในที่โล่งแจ้ง รวมถึงดูแลทําความสะอาดบ้านให้ปลอดฝุ่น โดยการใช้ผ้าชุบน้ําเช็ด ปิดประตูหน้าต่างให้มิดชิด หากไม่จําเป็นไม่ควรออกนอกบ้านหรือทํากิจกรรมนอกบ้าน เช่น ออกกําลังกายหรือทํางานกลางแจ้ง โดยเฉพาะบริเวณหรือเส้นทางที่มีฝุ่นหนาแน่น หากจําเป็นควรสวมหน้ากากป้องกันฝุ่น ดื่มน้ําเพื่อบรรเทาอาการระคายเคืองคอ แสบคอ นอกจากนี้ ผู้ที่เดินทางด้วยรถจักรยานยนต์ ควรป้องกันตนเองโดยการสวมหน้ากาก แว่นตา เสื้อแขนยาว เพื่อป้องกันฝุ่น เพราะฝุ่นจะทําให้เกิดการระคายเคืองตาและผิวหนังได้ หากสงสัยหรือมีอาการผิดปกติ ควรรีบไปพบแพทย์โดยเร็ว ทั้งนี้ ขอให้ประชาชนเฝ้าระวังสถานการณ์ฝุ่นละอองอย่างใกล้ชิด และตรวจสอบคุณภาพอากาศในพื้นที่ โดยสามารถติดตามสถานการณ์ค่าปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 ได้ที่แอปพลิเคชัน Air4Thai หากมีข้อสงสัย สามารถสอบถามข้อมูลได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร.1422#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
3/2/2023
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
นครราชสีมา
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนครราชสีมา
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230204000954083
null
สำนักงานเกษตรจังหวัดบุรีรัมย์ เดินหน้ารณรงค์ส่งเสริมการไถกลบตอซังข้าว ปลูกพืชปุ๋ยสดทดแทนการเผาในพื้นที่เกษตรกรรม
วันนี้ (3 ก.พ.66) นายสิงหชัย ผ่องบุรุษ รองผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ เปิดงานรณรงค์ส่งเสริมการไถกลบตอซังข้าว ปลูกพืชปุ๋ยสดทดแทนการเผาในพื้นที่เกษตรกรรม โครงการส่งเสริมการหยุดเผาในพื้นที่การเกษตร ปี 2566 ที่นาแปลงใหญ่ หมู่ที่ 10 บ้านหินโคน ต.ลําดวน อ.กระสัง จ.บุรีรัมย์ โดยมี เกษตรจังหวัดบุรีรัมย์ ผู้อํานวยการสถานีพัฒนาที่ดินบุรีรัมย์ นายอําเภอกระสัง ผู้นําท้องที่ ผู้นําท้องถิ่น และเกษตรกรในพื้นที่กว่า 200 คนเข้าร่วมการจัดกิจกรรมในครั้งเพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้ และสร้างความเข้าใจให้กับเกษตรกร และสถาบันเกษตรกร ตระหนักถึงผลกระทบที่เกิดจากการเผาตอซังข้าว และเข้ามามีส่วนร่วมในการหยุดเผาในพื้นที่เกษตรกรรม, ส่งเสริมการปลูกพืชปุ๋ยสดปรับปรุงบํารุงดินจากการไถกลบตอซังข้าว รวมถึงส่งเสริมให้เกษตรกรจัดการเศษวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรอย่างมีประสิทธิภาพ โดยภายในกิจกรรม ได้มีการจัดฐานการเรียนรู้ การผลิตปุ๋ยอินทรีย์/ปุ๋ยชีวภาพ และการผลิตขยายจุลินทรีย์สังเคราะห์แสง เพื่อให้ความรู้แก่เกษตรกรที่เข้าร่วมกิจกรรม นําไปใช้ในการพัฒนาพื้นที่ตนเอง เป็นการเพิ่มประสิทธิภาพการทําการเกษตรที่ช่วยลดการใช้ปุ๋ยเคมีที่มีราคาแพง และอาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพ ซึ่งจังหวัดบุรีรัมย์มีเป้าหมายรณรงค์ให้เกษตรกรไถกลบตอซังข้าว 1,202,460 ไร่#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
3/2/2023
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
บุรีรัมย์
สวท.บุรีรัมย์
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230203235246073
null
โครงการชลประทานมหาสารคาม เตรียมพร้อมรถบรรทุกน้ำและเครื่องสูบน้ำเคลื่อนที่ ช่วยเหลือเกษตรกร
นายชลศักดิ์ สุขี ผอ.โครงการชลประทานมหาสารคาม เปิดเผยว่า โครงการชลประทานมหาสารคาม ดําเนินการตามแผนบริหารจัดการน้ํา เร่งเก็บกักน้ําในแหล่งน้ําทุกประเภท ติดตามเฝ้าระวังการใช้น้ําจากแหล่งน้ําสาขาต่างๆ ในเขตชลประทาน เตรียมพร้อมเครื่องจักรเครื่องมือ สร้างการรับรู้ให้ประชาชนใช้น้ําอย่างประหยัดเพื่อให้มีน้ําเพียงพอตลอดหน้าแล้งนี้ โดยแผนเพาะปลูกพืชหน้าแล้งในเขตจังหวัดมหาสารคาม ปี 2565/2566 เริ่มเดือนพฤศจิกายน 2565 สิ้นสุดเดือนเมษายน 2566 เพาะปลูกแล้ว 222,110 ไร่ คิดเป็นร้อยละ 81.96 โครงการชลประทานมหาสารคาม ได้ เตรียมพร้อมรถบรรทุกน้ํา ขนาดความจุ 6,000 ลิตร เรือกําจัดวัชพืช และเครื่องสูบน้ําเคลื่อนที่ขนาด 8 นิ้ว 12 นิ้ว รวม 19 เครื่อง เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรในพื้นที่ขาดแคลนน้ํา ซึ่งทําการติดตั้งเครื่องสูบน้ําเคลื่อนที่ไปแล้ว 4 เครื่อง มีพื้นที่ได้รับประโยชน์รวม 1,685 ไร่ ส่วนสถานการณ์น้ําในภาพรวม อ่างขนาดกลางทั้ง 17 แห่ง มีปริมาณน้ําคิดเป็นร้อยละ 74.99 อยู่ในเกณฑ์ปกติและสถานการณ์น้ําท่าในแม่น้ําชีในเขตจังหวัดมหาสารคาม อยู่ในเกณฑ์ปกติเช่นกัน
4/2/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
กรมประชาสัมพันธ์
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230204141734169
null
ชดเชยส่วนต่างประกันรายได้ข้าว งวดที่ 17 ธ.ก.ส. เตรียมโอนเงินภายใน8 กุมภาพันธ์นี้
นายอุดม ศรีสมทรง รองอธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า คณะอนุกรรมการกํากับดูแลและกําหนดเกณฑ์กลางอ้างอิงโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ได้พิจารณาราคาเกณฑ์กลางอ้างอิงและการชดเชยส่วนต่างราคาตามโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปี 2565/66 งวดที่ 17 สําหรับเกษตรกรที่แจ้งวันเก็บเกี่ยวระหว่างวันที่ 28 มกราคม – 3 กุมภาพันธ์ 2566 โดยราคาเกณฑ์กลางอ้างอิงสูงกว่าราคาประกันรายได้เกือบทุกชนิดข้าว ยกเว้นข้าวเปลือกหอมมะลินอกพื้นที่ ซึ่งเกษตรกรจะได้รับชดเชยส่วนต่างตันละ 341.19 บาท ได้รับชดเชยสูงสุดครัวเรือนละ 5,459.04 บาท สําหรับข้าวเปลือกเจ้า ข้าวเปลือกปทุมธานี และข้าวเปลือกเหนียว ไม่ต้องชดเชยส่วนต่าง ส่วนข้าวเปลือกหอมมะลิ สิ้นสุดฤดูเก็บเกี่ยวแล้ว ทั้งนี้ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) จะโอนเงินเข้าบัญชีเกษตรกรโดยตรง ภายในวันที่ 8 กุมภาพันธ์นี้สําหรับในงวดที่ 1 - 16 ที่ผ่านมา ได้จ่ายส่วนต่างแล้ว จํานวน 2.59 ล้านครัวเรือน วงเงิน 7,845.40 ล้านบาท ขณะที่ ค่าบริหารจัดการและพัฒนาคุณภาพผลผลิตเกษตรกรผู้ปลูกข้าว (ไร่ละพันบาท) ธ.ก.ส. ได้โอนเงินเข้าบัญชีเกษตรกรแล้ว กว่า 4.62 ล้านครัวเรือน วงเงิน 53,859.73 ล้านบาท หากเกษตรกรพบปัญหาในการรับเงินชดเชยดังกล่าว ขอให้ติดต่อกับ ธ.ก.ส. สาขาในพื้นที่ เพื่อดําเนินการแก้ไขต่อไป
4/2/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230204140148149
null
เช้านี้ค่าฝุ่น PM 2.5 กทม.และปริมณฑลลดลงมากในหลายพื้นที่ จากสภาพอากาศเริ่มเปิดและมีลมพัดช่วยลดการสะสมของฝุ่น แต่ยังมีบางพื้นที่เกินมาตรฐานระดับสีส้ม 2 พื้นที่
เช้านี้ค่าฝุ่น PM 2.5 กรุงเทพมหานครและปริมณฑลลดลงมากในหลายพื้นที่ จากสภาพอากาศเริ่มเปิดและมีลมพัดช่วยลดการสะสมของฝุ่น แต่ยังมีบางพื้นที่เกินมาตรฐานระดับสีส้ม 2 พื้นที่ นายปิ่นสักก์ สุรัสวดี อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) ในฐานะประธานศูนย์แก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศ (ศกพ.) กล่าวว่า วันนี้ (4 ก.พ.66) ค่าฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM 2.5) ในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑลคุณภาพอากาศดีมากถึงเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ โดยค่าฝุ่นลดลงมากในหลายพื้นที่เมื่อเทียบจากช่วง 2 - 3 วันที่ผ่านมา เนื่องจากสภาพอากาศเริ่มเปิดแบะมีลมพัดช่วยลดการสะสมของฝุ่นลง ประกอบกับการหนาแน่นของการจราจรบนท้องถนนลดลงด้วย แต่ยังคงมีบางพื้นที่เกินมาตรฐานในระดับสีส้มเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ 2 พื้นที่ บริเวณริมถนนกาญจนาภิเษก เขตบางขุนเทียน และริมถนนเลียบวารี เขตหนองจอก ทั้งนี้ ศูนย์แบบจําลองคุณภาพอากาศและภูมิศาสตร์สารสนเทศ กรมควบคุมมลพิษ (คพ.) ได้คาดการณ์สถานการณ์ฝุ่นละออง PM 2.5 ช่วงวันที่ 6 - 11 กุมภาพันธ์ มีแนวโน้มคุณภาพอากาศอยู่ในเกณฑ์ดี เนื่องจากสภาพอากาศเปิดมากขึ้น และมีลมใต้ที่มีกําลังค่อนข้างแรงช่วยพัดพาฝุ่นละอองออกจากพื้นที่ โดยยังขอความร่วมมือประชาชนบํารุงดูแลรักษารถยนต์อย่างสม่ําเสมอ จอดรถให้ดับเครื่อง ลดการเผาในที่โล่ง ใช้รถเท่าที่จําเป็น Work From Home และขอให้ประชาชนเฝ้าระวังสถานการณ์ หากอยู่บริเวณพื้นที่มีปริมาณฝุ่น PM 2.5 สูงเกินเกณฑ์มาตรฐาน หรือ พื้นที่สีส้มและสีแดง ให้หลีกเสี่ยงกิจกรรมกลางแจ้ง สวมใส่หน้ากากอนามัย 2 ชั้น หรือ N95 หรือใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเอง หากมีอาการทางสุขภาพควรปรึกษาแพทย์ ทั้งนี้ สามารถติดตามสถานการณ์คุณภาพอากาศได้ทั้งแบบค่าเฉลี่ยรายชั่วโมงและแบบค่าเฉลี่ย 24 ชั่วโมง ผ่านทางเว็บไซด์ Air4Thai.com และ bangkokairquality.com หรือทางแอปพลิเคชั่น Air4Thai และ AirBKK แล้วยังติดตามข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับสถานการณ์คุณภาพอากาศผ่านทาง Facebook Fanpage ศูนย์แก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศ (ศกพ.)
4/2/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230204101629120
null
โรงงานน้ำตาลที่มุกดาหาร ตัดราคาอ้อยเผา เพิ่มราคาอ้อยสด ช่วยลดฝุ่น PM2.5
นายประมวลศิลป์ โภคสวัสดิ์ ประธานกรรมการบริหารโรงงานน้ําตาล บริษัท สหเรือง จํากัด กล่าวว่า จากการที่ค่าฝุ่นละอองในพื้นที่จังหวัดมุกดาหาร เพิ่มสูงขึ้นทุกวัน สาเหตุที่เห็นชัดเจน คือเกษตรกรยังมีการเผาอ้อย ก่อนตัดมาส่งโรงงาน ด้วยข้ออ้างว่าถ้าไม่เผาก่อนตัด จะหาคนงานรับจ้างตัดยาก ทั้งๆ ที่รู้ว่าอ้อยที่เผาแล้วน้ําหนักจะลดลงมาก และค่าความหวานจะลดตามไปด้วย แต่เกษตรกรก็เลือกที่จะใช้วิธีเผาอยู่ดี เพื่อแก้ปัญหานี้ให้เกษตรกร ทางโรงงานได้จัดซื้อรถตัดอ้อยมาบริการให้เกษตรกร แต่ขณะนี้รถตัดอ้อยยังมีน้อยคัน อาจจะไม่ทันใจเกษตรกร จึงยังมีการลักลอบเผาอ้อยกันอยู่ ทางโรงงานจึงได้เชิญหัวหน้าโควตาเข้าร่วมประชุมเพื่อหาแนวทางแก้ไขปัญหา โดยที่ประชุมได้ข้อสรุปว่า โรงงานน้ําตาล บริษัท สหเรือง จํากัด จะตัดราคาอ้อยเผาลง แต่จะเพิ่มราคารับซื้ออ้อยสดเพิ่มขึ้น อีกตันละ 120 บาท ถ้าแปลงอ้อยอยู่ติดกันเกินกว่า 200 ไร่ โรงงานจะนํารถตัดอ้อยไปให้บริการส่วนการจัดการภายในโรงงานน้ําตาล ตนได้ได้กําชับผู้ปฏิบัติทุกคนให้ควบคุมการผลิตให้เป็นไปตามที่กรมควบคุมมลพิษกําหนด โดยมีการตรวจสอบค่าฝุ่น pm2.5 ทั้งภายในโรงงาน และพื้นที่ใกล้ อย่างสม่ําเสมอ ซึ่งจากการตรวจสอบล่าสุดพบว่าค่าฝุ่น pm2.5 อยู่ในเกณฑ์ปกติ สนิท ทองจํารัส สวท.มุกดาหาร รายงาน#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
4/2/2023
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
มุกดาหาร
สวท.มุกดาหาร
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230204102906124
null
กอนช. เฝ้าระวังฝนตกบางแห่งในหลายพื้นที่ทั่วประเทศ ส่วนภาคใต้ตอนล่างมีฝนตกหนักต่อเนื่อง จากอิทธิพลมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือและหย่อมความกดอากาศต่ำ
กองอํานวยการน้ําแห่งชาติ (กอนช.) เฝ้าระวังฝนตกบางแห่งในหลายพื้นที่ทั่วประเทศ ส่วนภาคใต้ตอนล่างมีฝนตกหนักต่อเนื่อง จากอิทธิพลมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือและหย่อมความกดอากาศต่ํา นายสุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสํานักงานทรัพยากรน้ําแห่งชาติ (สทนช.) ในฐานะรองผู้อํานวยการกองอํานวยการน้ําแห่งชาติ (กอนช.) กล่าวถึงสถานการณ์น้ําภาพรวมของประเทศวันนี้ (4 ก.พ.66) ว่า ภาพรวมภาคเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออกมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้น ส่วนภาคใต้ตอนล่างมีฝนตกหนักบางแห่ง ช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมามีฝนตกหนักถึงหนักมากบริเวณ จ.ปัตตานี , นราธิวาส และสุราษฎร์ธานี เนื่องจากมีลมตะวันออกเฉียงใต้พัดนําความชื้นเข้ามาปกคลุมอ่าวไทยและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ทําให้บริเวณดังกล่าวมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้น ซึ่งมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือและลมตะวันออกพัดปกคลุมอ่าวไทย ภาคใต้และทะเลอันดามัน ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ําปกคลุมบริเวณเกาะบอร์เนียว ส่งผลภาคใต้ตอนล่างมีฝนตกหนักบางแห่งและต้องเฝ้าระวังสถานการณ์ต่อเนื่อง
4/2/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230204102640122
null
จ.ลำปาง เร่งฉีดพ่นละอองน้ำเพิ่มความชุ่มชื้น เตรียมสร้างพื้นที่ Green Zone และ Safe Zone
จังหวัดลําปาง ร่วมกับ สํานักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดลําปาง เทศบาลนครลําปาง เทศบาลเมืองเขลางค์นคร ศูนย์ ปภ.เขต 10 ลําปาง แขวงทางหลวงลําปางที่ 1, 2 แขวงทางหลวงชนบทลําปาง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จัดกิจกรรมบูรณาการความร่วมมือฉีดพ่นละอองน้ํา เพื่อสร้างความชุ่มชื้นให้พื้นที่สีเขียว บริเวณมิวเซียมลําปาง โดยมี นายชนาธิป เสมแย้ม รองผู้ว่าราชการจังหวัดลําปาง นายจรัสพันธ์ อรุณคง หัวหน้าสํานักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดลําปาง นายสุรพล ตันสุวรรณ รองนายกเทศมนตรีนครลําปาง ตรวจเยี่ยมให้กําลังใจการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ ณ มิวเซียมลําปางทั้งนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดลําปาง ได้มอบนโยบายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งสร้างพื้นที่ Green Zone และ Safe Zone อีกทั้งขอความร่วมมือในการจัดทําสเปย์พ่นละอองน้ํา ทั้งสถานที่ราชการ สถานศึกษา สถานีขนส่ง ห้างสรรพสินค้า ร้านค้า และร้านอาหารต่าง ๆ ในการร่วมจัดพื้นที่ Safe Zone เพื่อให้เป็นพื้นที่ที่มีอากาศบริสุทธิ์ สะอาดและปลอดภัยต่อประชาชนในพื้นที่ต่อไป#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
4/2/2023
ภาคเหนือ
ลำปาง
สวท.ลำปาง
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230204112902130
null
โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษากิ่วลม-กิ่วคอหมา ติดสถานการณ์น้ำและความคืบหน้าการกำจัดวัชพืชบริเวณหน้าเขื่อนกิ่วลม จ.ลำปาง
นายพีรยุทธ์ เหมาะพิชัย ผู้อํานวยการโครงการส่งน้ําและบํารุงรักษากิ่วลม-กิ่วคอหมา พร้อมด้วย นายนิพลน์ ศรีวิลัย หัวหน้าฝ่ายจัดสรรน้ําและปรับปรุงระบบชลประทาน ร่วมกับ นายพูลสวัสดิ์ วงค์สุวรรณ หัวหน้าฝ่ายเครื่องจักรกลและเรือกําจัดวัชพืชที่ 1 ส่วนบริหารเครื่องจักรกล กรมชลประทาน ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ําและติดตามความก้าวหน้าการกําจัดวัชพืชบริเวณหน้าเขื่อนกิ่วลม จังหวัดลําปาง พร้อมรับทราบปัญหาและอุปสรรคในการดําเนินการกําจัดวัชพืชจอกหูหนูในเขื่อนกิ่วลมโครงการส่งน้ําและบํารุงรักษากิ่วลม-กิ่วคอหมา ได้ดําเนินการกําจัดวัชพืชในเขื่อนกิ่วลมอย่างต่อเนื่อง เพื่อบรรเทาปัญหาความเดือดร้อนให้กับประชาชนและผู้ประกอบการวิสาหกิจชุมชนเรือแพเขื่อนกิ่วลม-สําเภาทอง ให้สามารถประกอบอาชีพได้ทั้งนี้ หากการดําเนินงานแล้วเสร็จจะเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวให้กับชุมชนในพื้นที่ อีกทั้งยังช่วยให้การบริหารจัดการน้ําในช่วงฤดูแล้งเป็นไปตามแผนงานที่วางไว้อย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืนต่อไป#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
4/2/2023
ภาคเหนือ
ลำปาง
สวท.ลำปาง
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230204122012132
null
“ปลาหยก” นวัตกรรมอาหารกับความกังวลด้านสิ่งแวดล้อม
“ปลาหยก” ที่เอกชนรายหนึ่งได้รับอนุญาตจากกรมประมงในการนําเข้ามาทดลองเลี้ยงและทดลองตลาดนั้นมีการถกเถียงกันพอสมควร ในประเด็นหลักคือปลาชนิดนี้ถูกจัดเป็น 1 ใน 13 ปลาต่างถิ่นที่กรมไม่อนุญาตให้นําเข้าหากไม่ขออนุญาตอย่างถูกต้อง ด้วยความกังวลด้านระบบนิเวศน์หากมีการหลุดลอดออกสู่สาธารณะ ล่าสุด กรมประมงได้ออกมาชี้แจงว่าคณะกรรมการด้านความหลากหลายทางชีวภาพ (IBC) ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้อนุญาตให้บริษัทฯดังกล่าว นําปลาหยกมาทดลองเลี้ยงและทดลองตลาดได้ แต่ห้ามเพาะเลี้ยงเพื่อการจําหน่ายเป็นปลามีชีวิตที่เป็นลูกพันธุ์ เพื่อป้องกันการเล็ดลอดออกสู่สิ่งแวดล้อมเท่าที่ทราบ... กว่าจะอนุญาตได้นั้น กรมประมงและคณะกรรมการ IBC ใช้เวลาหลายปีในการพิจารณา เพราะต้องมั่นใจก่อนว่าการทดลองเลี้ยงปลาหยกนี้มีความปลอดภัยต่อสิ่งแวดล้อม ทั้งยังบังคับว่าการเลี้ยงต้องอยู่ภายใต้การควบคุมอย่างใกล้ชิดของกรมประมง การทดลอง-วิจัย-พัฒนา เพื่อสร้างสรรค์นวัตกรรมอาหารสําหรับมนุษย์ เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ประเทศต้องพัฒนาและยกระดับมาตรฐานงานทางวิทยาศาสตร์การประมงให้สูงขึ้น ซึ่งอาจนําไปสู่สัตว์เศรษฐกิจชนิดใหม่ของประเทศ รวมถึงช่วยเพิ่มความมั่นคงทางอาหาร ดีกว่าการย่ําอยู่กับที่โดยไม่กล้าพัฒนาสิ่งใดเลย เพียงแต่ต้องคํานึงและตระหนักถึงความปลอดภัยทางสิ่งแวดล้อมด้วย ทั้งนี้ งานวิจัยสําคัญที่ช่วยให้กรมประมง และ IBC มีความมั่นใจและอนุญาตให้ทําการทดลองได้นั้นน่าจะเป็นผลการประเมินความเสี่ยงทางนิเวศน์ของนักวิจัยจาก ม.บูรพา และ ม.เกษตร ดร.วันศุกร์ เสนานาญ ภาควิชาวาริชศาสตร์ คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา ชลบุรี และ ผศ.ดร.รัฐชา ชัยชนะ ภาควิชาเทคโนโลยีและการจัดการสิ่งแวดล้อม คณะสิ่งแวดล้อม มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ บางเขน ร่วมกันประเมินความเสี่ยงทางนิเวศน์ของปลาหยก หรือ JADE PERCH ต่อความหลากหลายทางชีวภาพของประเทศไทย ระบุบทสรุปสําหรับผู้บริหาร เสนอต่อ คณะกรรมการความปลอดภัยทางชีวภาพของกรมประมง ความว่า “คะแนนความเสี่ยงต่อการเป็นชนิดพันธุ์รุกรานของปลาชนิดนี้อยู่ในระดับปานกลาง มีคะแนนเฉลี่ย 7.5 เทียบกับปลาน้ําจืดต่างถิ่นที่รุกรานซึ่งมักจะมีคะแนนอยู่ที่มากกว่า 19 ดังนั้น ปลาชนิดนี้อยู่ในเกณฑ์ที่จะพอจะจัดการความเสี่ยงได้ หากมีการอนุญาตให้เพาะเลี้ยง” นั่นหมายความว่าปลาหยกห่างชั้นกับปลานักล่าไปหลายขุม ถ้าให้น้ําหนักเพื่อการพัฒนาวงการประมงเทียบกับความเสี่ยงที่รับได้เช่นนี้ ก็เป็นเหตุเป็นผลพอที่จะอนุญาต ภายใต้การควบคุมอย่างใกล้ชิดของกรมประมง ประกอบกับการตรวจสอบสถานที่เลี้ยงที่เป็นระบบปิดและมีทะเลล้อมรอบก็ยิ่งปลอดภัยขึ้นไปอีก นอกจากนี้ ผู้ประเมินยังให้ข้อมูลเพิ่มเติมอีกว่า รูปร่างที่อ้วนอุ้ยอ้ายของปลาหยกไม่สามารถหนีการรุกรานของเจ้าถิ่น เช่น ปลาช่อน หรือปลาชะโดไปได้เลย อีกทั้งการอนุญาตให้เลี้ยงเฉพาะพื้นที่ใกล้ชายทะเลก็เป็นการป้องกันอีกขั้นหนึ่ง เพราะปลาชนิดนี้ทนความเค็มไม่ได้ หากหลุดไปก็ตายอย่างเดียว จึงยิ่งตอกย้ําความปลอดภัยต่อสิ่งแวดล้อมได้อีกส่วนหนึ่ง หากเกษตรกรหรือเอกชนรายใด ทําการขออนุญาตนําเข้าปลาชนิดอื่นๆ เพื่อการวิจัยพัฒนา ก็ย่อมสามารถทําได้ โดยต้องทําให้กรมประมงและคณะกรรมการ IBC มั่นใจว่ามีระบบปิดที่รัดกุมเพียงพอ และมีหลักฐานยืนยันความปลอดภัยต่อระบบนิเวศน์ ตลอดจนความพร้อมด้านทีมงานวิจัยที่พร้อมรายงานความคืบหน้าการเลี้ยงตลอดเวลา ก็จะเป็นการร่วมกันยกระดับนวัตกรรมอาหาร พัฒนาวงการประมง สร้างสิ่งใหม่ภายใต้การดูแลสิ่งแวดล้อมเดิม เกิดประโยชน์ต่อประเทศชาติได้เช่นกัน โดย วงศ์อร อร่ามกูล
4/2/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สำนักพัฒนานโยบายและแผนการประชาสัมพันธ์
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230204125052135
null
บพท. หนุนข้าวโพดสีม่วง "แก่นมณี 109" รสชาติอร่อย หอม หวาน และมีสารด้านอนุมูลอิสระ ของฟาร์มมิสเตอร์คอร์นให้เป็นข้าวโพดเอกลักษณ์ของเมืองขอนแก่น
บพท. หนุนข้าวโพดสีม่วง "แก่นมณี 109" รสชาติอร่อย หอม หวาน และมีสารด้านอนุมูลอิสระ ของฟาร์มมิสเตอร์คอร์นให้เป็นข้าวโพดเอกลักษณ์ของเมืองขอนแก่น ที่ใครมาเมืองขอนแก่น ต้องมากินข้าวโพดสีม่วง แก่นมณี 109ที่ ฟาร์มมิสเตอร์คอร์น บ้านโนนท่อน ต.โนนท่อน อ.เมือง จ.ขอนแก่น หน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการพัฒนาระดับพื้นที่ หรือ บพท. สนับสนุนทุนวิจัยด้านการสร้างกลไกทางการเงินใหม่ เพื่อยกระดับและเพิ่มการกระจายตัวของเศรษฐกิจสีเขียวในพื้นที่ โดยได้ค้นพบเกษตรกรที่สนใจเข้าสู่ระบบการเงินใหม่ในการเข้าถึงแหล่งทุนในการนําเงินทุนมาขยายกิจการให้มากขึ้น และโครงการวิจัยได้พบว่า จุดเด่นอย่างหนึ่งของเกษตรกรที่ใช้ชื่อสวนว่า “ฟาร์มมิสเตอร์คอร์น” ของนางสาวนิตยา เหล่าบุรมย์ อายุ 42 ปี และ นายวรวุฒิ บุตรวิเชียร อายุ 45 ปี สองสามีภรรยา เจ้าของฟาร์มและเป็นนักปรับปรุงพันธุ์ข้าวโพดสีม่วงที่ผสมพันธุ์เอง ซึ่งมีธาตุอาหารทางโภชนาการสูง หอม หวาน อร่อย และมีสารต้านอนุมูลอิสระ ในชื่อ แก่นมณี 109 โครงการวิจัยจึงต้องการขับเคลื่อนให้เป็นข้าวโพดที่เป็นเอกลักษณ์ของเมืองขอนแก่น ที่ใครมาขอนแก่นต้องกิน “ข้าวโพดแก่นมณี 109”รศ.ดร.ไกรเลิศ ทวีกุล หัวหน้าโครงการวิจัย เรื่อง การสร้างกลไกทางการเงินใหม่เพื่อยกระดับและเพิ่มการกระจายตัวของเศรษฐกิจสีเขียวในพื้นที่ กล่าวว่า โครงการวิจัยนี้ได้รับทุนสนับสนุนจากหน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการพัฒนาระดับพื้นที่ หรือ บพท. เพื่อทําการศึกษาและค้นหากลไกทางการเงินใหม่มาขับเคลื่อนช่วยเกษตรกรให้เข้าสู่ระบบการเงินได้สะดวกมากยิ่งขึ้น และได้พบว่า "ฟาร์มมิสเตอร์คอร์น" ที่มีความสนใจในกลไกการเงินนี้ ขณะเดียวกันโครงการวิจัยได้ค้นพบจุดเด่นของเกษตรกรรายนี้ เช่น การสร้างสายพันธุ์ข้าวโพดของตนเอง การจัดการฟาร์ม การตลาด ทั้งในและต่างประเทศ การทําเป็นแหล่งเรียนรู้ การสร้างเครือข่าย รวมถึงการสนับสนุนภาครัฐและสถาบันการศึกษา โดยเฉพาะอย่างยิ่งการผสมพันธุ์ข้าวโพดที่มีสรรพคุณทางโภชนาการสูง และที่มีจุดเด่น คือ มีสีม่วง ทุกเมล็ด 100 % รสชาติอร่อย หอม หวาน และมีสารด้านอนุมูลอิสระ จากข้อมูลเหล่านี้จึงอยากช่วยขับเคลื่อนให้เป็นข้าวโพด สัญลักษณ์ของเมืองขอนแก่น เหมือนกับพืชหลายชนิด เช่น ข้าวทับทิมชุมแพ มะม่วงดินเอียดป่าปอ และข้าวโพดแก่นมณี 109 คู่เมืองขอนแก่น ซึ่งต่อจากนี้ไป หากใครมาเมืองขอนแก่น ต้องกินข้าวโพดสีม่วง ข้าวโพดแก่นมณี 109นางสาวนิตยา กล่าวว่า ฟาร์มมิสเตอร์คอร์น จุดเริ่มต้นจากที่เป็นนักวิจัยปรับปรุงพันธุ์พืชซึ่งพืชที่เลือกก็คือข้าวโพด โดยเริ่มทําข้าวโพดข้าวเหนียวและปรับปรุงสายพันธุ์เพื่อให้ปลูกได้ทั่วภาคอีสาน ต่อมาจึงมีแนวความคิดมาปรับปรุงพันธุ์ข้าวโพดที่มีเอกลักษณ์เป็นของตนเอง คือสามารถที่จะปลูกและเพิ่มมูลค่าได้ จึงได้แนวคิดในช่วงที่หลายคนพูดถึง ข้าวโพดหวานฮอกไกโดของประเทศญี่ปุ่นที่มีความหวานและสามารถกินฝักดิบได้ จึงเห็นว่าน่าจะปรับปรุงพันธุ์สายพันธุ์ข้าวโพดหวานให้สามารถกินสดได้เหมือนกับของญี่ปุ่น แต่ข้าวโพดหวานฮอกไกโดจะมีสีขาว จึงมีแนวความคิดว่าน่าจะเป็นสีม่วง ซึ่งสีม่วงนี้จะเพิ่มในเรื่องขอสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประโยชน์ต่อร่างกายสําหรับข้าวโพดพันธุ์แก่นมณี 109 และแก่นนิล 50 เป็นข้าวโพดหวาน โดยแก่นมณี 109 เป็นข้าวโพดที่มีเมล็ดพันธุ์เป็นสีดําเข้มและสามารถกินสดได้หรือถ้าไม่อยากกินสดก็สามารถนําไปนึ่งหรือไปเข้าไมโครเวฟได้ ถ้าเอาไปนึ่งหรือไปเข้าไมโคเวฟก็จะได้สารอาหารที่เรียกว่า สารแอนโทไซยานิน ออกมาด้วย ซึ่งมีประโยชน์ต่อร่างกาย“สําหรับสารแอนโทไซยานิน (Anthocyanin) เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ (antioxidant) ช่วยชะลอความเสื่อมของเซลล์ ช่วยลดอัตราเสี่ยงของการเกิดโรคหัวใจและเส้นเลือดอุดตันในสมอง ด้วยการยับยั้งไม่ให้เลือดจับตัวเป็นก้อน ชะลอความเสื่อมของดวงตา ช่วยยับยั้งจุลินทรีย์ก่อโรค (pathogen) อีโคไล (Escherichia coli) ในระบบทางเดินอาหาร ซึ่งเป็นสาเหตุของโรคท้องร่วงและอาหารเป็นพิษด้วย ซึ่งสารตัวนี้พบมากในกลุ่มของผลไม้หรือพืชผักที่มีสีม่วงหรือสีแดง ซึ่งในกลุ่มนี้จะเป็นผลไม้นําเข้าจากต่างประเทศและมีมูลค่าสูงแต่ว่าตัวที่ทําขึ้นมามูลค่าของมันจะถูกกว่าผลไม้ที่นําเข้าและเมื่อกินข้าวโพดสีม่วงที่มีสารแอนโทไซยานิน (Anthocyanin) นอกจากจะมีรสชาติที่หวานกรอบ อร่อยแล้วยังจะได้รับสารที่มีประโยชน์ต่อร่างกายด้วย”ทั้งนี้ มีหน่วยงานของมหาวิทยาลัยขอนแก่น กรมวิชาการเกษตร อําเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น ที่เข้ามามีส่วนร่วมในการช่วยขับเคลื่อน และสําหรับคนที่สนใจอยากเรียนรู้การปลูกข้าวโพด สายพันธุ์ข้าวโพดหรือสนใจเกี่ยวกับการเรียนรู้ในเรื่องของการทําข้าวโพดแบบครบวงจร สามารถติดต่อได้ที่เพจ facebook ฟาร์มมิสเตอร์คอร์น หรือจะเดินทางมาที่บ้านโนน ต.โนนท่อน อ.เมือง จ.ขอนแก่น หรือโทรสอบถามได้ที่เบอร์ 097-309 6859#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
4/2/2023
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ขอนแก่น
สวท.ขอนแก่น
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230204130824139
null
หน่วยเฉพาะกิจจงอางศึก จ.ประจวบคีรีขันธ์ ระดมกำลังพลฉีดล้างทำความสะอาดสถานที่สาธารณะ พร้อมรณรงค์สร้างความตระหนักให้กับประชาชนถึงผลกระทบของปัญหาฝุ่นละออง PM2.5
พันเอก พรรณศักย์ เพรียวพานิช รองผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจจงอางศึก จ.ประจวบคีรีขันธ์ นํากําลังพลจิตอาสาพระราชทานร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ฉีดล้างทําความสะอาดพื้นที่สาธารณะในเขตเทศบาลเมืองประจวบคีรีขันธ์ เช่น ที่หน้าศาลากลางจังหวัดฯ และบริเวณโดยรอบเขาช่องกระจก เพื่อลดการฟุ้งกระจายของฝุ่นละอองในอากาศโดยเฉพาะฝุ่นละออง PM2.5 แม้ขณะนี้ในพื้นที่จะยังไม่มีปัญหาฝุ่น PM2.5 เกินค่ามาตรฐาน นอกจากนี้ หน่วยเฉพาะกิจจงอางศึก ยังได้ร่วมรณรงค์ประชาสัมพันธ์ตามสถานที่ต่างๆ ให้ประชาชนช่วยกันงดการเผาทุกชนิดในที่โล่งแจ้ง ดูแลยานพาหนะไม่ให้ปล่อยควันดํา และสร้างความตระหนักถึงอันตรายของฝุ่นละออง PM2.5 ที่มีผลต่อสุขภาพ รวมถึงนํารถพยาบาลยุทธวิธีแบบเบา ออกให้การช่วยเหลือตรวจรักษาโรคเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ และแจกหน้ากากอนามัยให้กับประชาชนด้วย#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
4/2/2023
ภาคตะวันตก
ประจวบคีรีขันธ์
สวท.ประจวบคีรีขันธ์
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230204131105140
null
สถาบันการอาชีวศึกษาเกษตรภาคใต้ จัดพิธีไถ่ชีวิตและมอบโคบริจาคจากผู้มีจิตศรัทธาในพื้นที่จังหวัดตรัง
ที่วัดถ้ําเขาปินะ ตําบลนาวง อําเภอห้วยยอด จังหวัดตรัง นายภูวนัฐ สมใจ รองผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง เป็นประธานในพิธีไถ่ชีวิตและมอบโคบริจาคให้วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีสังกัดสถาบันการอาชีวศึกษาเกษตรภาคใต้ โดยมีนายยศกรและนางศิวรัตน์ อ่อนชื่นจิต รวมถึงผู้มีจิตศรัทธาร่วมกันบริจาคโคเนื้อพันธุ์พื้นเมือง และโคเนื้อพันธุ์ผสมจํานวน 54 ตัวและยังร่วมกันบริจาคทรัพย์เพื่อถวายแก่ วัดเขาปินะ ตําบลนาวง อําเภอห้วยยอด จังหวัดตรัง ซึ่งการบริจาคในครั้งนี้ เพื่อให้ทางสถาบันศึกษาในสังกัดสถาบันการอาชีวศึกษาเกษตรภาคใต้ได้นําไปใช้ประโยชน์เพื่อการศึกษาตามเจตนารมณ์ของผู้มีจิตศรัทธาต่อไป สําหรับการบริจาคในครั้งนี้ ได้มีการน้อมนําพระบรมราโชวาท พระสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ในเรื่องของการเป็นผู้ให้ซึ่งนําไปสู่การปฏิบัติ ส่งผลให้เกิดความสมัครสมานสามัคคีในการร่วมกันกระทําความดีเพื่อสังคม #สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
4/2/2023
ภาคใต้
ตรัง
สวท.ตรัง
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230204133659142
null
มอบเงินเยียวยาผู้ประสบภัยพิบัติด้านเกษตร 86 ล้านบาท บรรเทาความเดือดร้อน
นางสาวมนัญญา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวในโอกาสเป็นประธานพิธีมอบเงินช่วยเหลือเกษตรกรผู้ประสบภัยพิบัติด้านการเกษตรจังหวัดอุทัยธานี ว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มีภารกิจหลักในการช่วยเหลือเยียวยาให้กับเกษตรกรผู้ได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติต่างๆ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของเกษตรกร ตลอดจนส่งเสริมสนับสนุนปัจจัยพื้นฐานทางการเกษตร โดยในปี 2565 ที่ผ่านมา จังหวัดอุทัยธานี มีเกษตรกรที่ประสบอุทกภัยพิบัติด้านการเกษตร ส่งผลให้ได้รับความเดือดร้อนทั้งด้านพืช ด้านประมง และด้านปศุสัตว์ ครอบคลุมพื้นที่ทั้ง 8 อําเภอ ซึ่งจังหวัดอุทัยธานีได้รับการอนุมัติโอนเงินช่วยเหลือแล้ว จํานวนกว่า 86 ล้านบาท ส่วนที่เหลืออยู่ระหว่างขออนุมัติขยายวงเงินจากกรมบัญชีกลาง เพื่ออนุมัติโอนเงินให้แก่เกษตรกรต่อไป สําหรับข้อมูลความเสียหายภัยพิบัติด้านการเกษตรในปี 2565 เกษตรและสหกรณ์จังหวัดอุทัยธานี รายงานอาทิ เกษตรกรผู้ประสบอุทกภัยด้านพืช 9,391 ราย พื้นที่เสียหายรวมกว่า 96,000 ไร่ เกษตรกรผู้ประสบอุทกภัยด้านประมง 395 ราย และเกษตรกรผู้ประสบอุทกภัยด้านปศุสัตว์ 198 ราย นอกจากนี้ ยังได้มอบหนังสืออนุญาตการเข้าทําประโยชน์ในเขตปฏิรูปที่ดินให้แก่เกษตรกรที่ได้รับเอกสารสิทธิจาก ส.ป.ก.4-01 จํานวน 10 ราย และการออกร้านจําหน่ายผลผลิตทางการเกษตรของกลุ่มวิสาหกิจชุมชน พร้อมทั้งการสนับสนุนปัจจัยการผลิตเบื้องต้นให้แก่เกษตรกรอีกด้วย
4/2/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
Radio-สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230204185958205
null
ผู้ว่าฯ สมุทรสงคราม ลงพื้นที่เยี่ยมเกษตรกรชาวสวนลิ้นจี่ติดตามสถานการณ์การออกดอกของลิ้นจี่และส่งเสริมการใช้ผึ้งผสมเกสรลิ้นจี่เตรียมพร้อมจัดงานส่งเสริมการจำหน่ายผลผลิต
ลิ้นจี่ค่อมเป็นพืชเศรษฐกิจหลักของจังหวัดสมุทรสงคราม ได้รับการขึ้นทะเบียนสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI) มีเกษตรกรผู้ปลูกลิ้นจี่ จํานวน 1,954 ครัวเรือน พื้นที่ปลูก จํานวน 5,160 ไร่ โดยในปีนี้ คาดว่าผลผลิตจะออกสู่ตลาดในช่วงกลางเดือนเมษายน 2566 เนื่องจากสภาพอากาศหนาวเย็นต่ํากว่า 20 องศาเซลเซียสต่อเนื่องกันในช่วงเดือนธันวาคม 2565 – 20 มกราคม 2566 จึงส่งผลให้ต้นลิ้นจี่มีการแทงช่อดอกในหลายพื้นที่ วานนี้ (3 กุมภาพันธ์ 2566) นายสมนึก พรหมเขียว ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสงคราม พร้อมด้วย นายวิศิษ บ่อสารคาม หัวหน้ากลุ่มส่งเสริมและพัฒนาการผลิต ,นายเสนีย์ ตรุยานนท์ หัวหน้ากลุ่มยุทธศาสตร์และสารสนเทศ สํานักงานเกษตรจังหวัดสมุทรสงคราม ลงพื้นที่สวนลิ้นจี่ นางสนิท มัครพงษ์ หมู่ที่ 3 ตําบลแควอ้อม อําเภออัมพวา โดยมีประธานกลุ่มปรับปรุงคุณภาพไม้ผลจังหวัดสมุทรสงคราม พร้อมเกษตรกรในพื้นที่ให้การต้อนรับ ซึ่งสวนลิ้นจี่ดังกล่าวมีลิ้นจี่ที่กําลังออกดอกบานสะพรั่งกว่า 40 ต้น และกลุ่มผู้เลี้ยงผึ้งจากจังหวัดเพชรบูรณ์ได้นํารังผึ้งไปวางเพื่อช่วยผสมเกสรตั้งแต่วันที่ 21 มกราคมที่ผ่านมา โดยกลุ่มผู้เลี้ยงผึ้งได้วางรังผึ้งในสวนลิ้นจี่เช่น ในพื้นที่ตําบลแควอ้อม ตําบลสวนหลวง ตําบลเหมืองใหม่ อําเภออัมพวา และตําบลบางสะแก อําเภอบางคนที ครอบคลุมพื้นที่จังหวัดสมุทรสงคราม ผึ้งจัดเป็นแมลงที่มีความสําคัญในการผสมเกสรพืชทุกชนิด โดยเฉพาะลิ้นจี่ โดยผึ้งมีรัศมีการหากิน ประมาณ 3 กิโลเมตร และได้เวลานํารังผึ้งมาสลัดน้ําผึ้งรอบแรก โดยประมาณ 7 วัน จะได้น้ําผึ้ง 16 กิโลกรัม ต่อ 1 ลัง น้ําผึ้งที่ได้จากเกสรลิ้นจี่ จะมีความหอมดอกลิ้นจี่หวานอมเปรี้ยวนิดหน่อยอร่อยมาก อีกทั้งน้ําผึ้งได้ชื่อว่าเป็นอาหารที่อุดมไปด้วยสารอาหารที่ครบถ้วนมากที่สุดชนิดหนึ่ง ทั้งนี้ประมาณวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2566 นี้จะมอบหมายให้ทางสํานักงานเกษตรจังหวัดสมุทรสงคราม สํารวจปริมาณว่าจะมีผลผลิตทั้งจังหวัดเท่าไร ซึ่งชุดแรกจะเริ่มออกสู่ตลาดได้ประมาณต้นเดือนเมษายนและตลอดเดือนเมษายน 2566 ซึ่งทางจังหวัดสมุทรสงคราม พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะรีบประขุมหารือช่องทางการจําหน่ายผลผลิตให้เกษตรกรและส่งเสริมการเป็นการท่องเที่ยวของจังหวัดสมุทรสงคราม อีกทางหนึ่งด้วยอย่างไรก็ตาม ทางสํานักงานเกษตรจังหวัดสมุทรสงคราม ขอประชาสัมพันธ์ให้เกษตรกรผู้ปลูกลิ้นจี่ งดฉีดพ่นสารเคมีป้องกันและกําจัดแมลงศัตรูลิ้นจี่ ในช่วงระยะดอกลิ้นจี่บาน เนื่องจากจะเป็นอันตรายต่อผึ้งในสวนลิ้นจี่ และหากมีความจําเป็นที่จะฉีดพ่นสารเคมีป้องกันและกําจัดแมลงศัตรูลิ้นจี่ ให้เลือกกลุ่มสารเคมีที่ไม่เป็นพิษแก่ผึ้ง เช่น อะมิทราซ สารกําจัดไรศัตรูพืช กํามะถันผง ประเภทสารกําจัดไรศัตรูพืชรุ่งนภา/ข่าว/ภาพ/ธิติมา/เรียบเรียงทีมงานสํานักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสมุทรสงคราม#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
4/2/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
สมุทรสงคราม
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสมุทรสงคราม
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230204140505155
null
รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ลงพื้นที่ จ.อุทัยธานี มอบเงินเยียวยาช่วยเหลือเกษตรกรผู้ประสบภัยพิบัติด้านการเกษตรและมอบหนังสืออนุญาตการเข้าทำประโยชน์ในเขตปฏิรูปที่ดิน ส.ป.ก. 4 - 01
วันนี้(4 กุมภาพันธ์ 66) เวลา 09.30 น. ที่ หอประชุมอาคารภักดี เทศบาลตําบลสว่างอารมณ์ อ.สว่างอารณ์ จ.อุทัยธานี นางสาวมนัญญา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานพิธีมอบเงินช่วยเหลือเกษตรกรผู้ประสบภัยพิบัติด้านการเกษตรจังหวัดอุทัยธานี และมอบหนังสืออนุญาตการเข้าทําประโยชน์ในเขตปฏิรูปที่ดินให้แก่เกษตรกรที่ได้รับเอกสารสิทธิจาก ส.ป.ก. 4-01 จํานวน 10 ราย โดยมีนายอลงกต วรกี รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุทัยธานี หัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการและเจ้าหน้าที่สังกัดกระทรวงเกษตรให้การต้อนรับ พร้อมด้วยนายธนะสิทธิ์ ธนากีรตินันท์ เกษตรและสหกรณ์จังหวัดอุทัยธานี เป็นผู้กล่าวรายงานด้วยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มีภารกิจหลักสําคัญคือ การช่วยเหลือเยียวยาให้กับเกษตรกรผู้ได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติต่างๆ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของเกษตรกรและครอบครัว ตลอดจนส่งเสริมสนับสนุนปัจจัยพื้นฐานทางการเกษตรไม่ว่าจะเป็น แหล่งน้ํา ดิน องค์ความรู้ และสิ่งต่างๆ ซึ่งในปี 2565 ที่ผ่านมา จังหวัดอุทัยธานีมีเกษตรกรที่ประสบอุทกภัยพิบัติด้านการเกษตร ส่งผลให้เกษตรกรได้รับความเดือดร้อนทั้งด้านพืช ด้านประมง และด้านปศุสัตว์ ครอบคลุมพื้นที่ทั้ง 8 อําเภอ เกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากภัยครั้งนี้ วงเงินขอความช่วยเหลือ เป็นจํานวน 187,019,539.50 บาท (หนึ่งร้อยแปดสิบเจ็ดล้านหนึ่งหมื่นเก้าพันห้าร้อยสามสิบเก้าบาทห้าสิบสตางค์)ทั้งนี้ จังหวัดอุทัยธานีได้รับการอนุมัติโอนเงินช่วยเหลือแล้ว จํานวน 86,221,714.50 บาท (แปดสิบหกล้านสองแสนสองหมื่นหนึ่งพันเจ็ดร้อยสิบสี่บาทห้าสิบสตางค์) แบ่งเป็น ด้านพืช เกษตรกรได้รับเงินรวม 3,173 ราย ด้านประมง เกษตรกรได้รับเงินรวม 19 ราย และด้านปศุสัตว์ เกษตรกรได้รับเงินรวม 22 ราย ส่วนที่เหลืออยู่ระหว่างขออนุมัติขยายวงเงินจากกรมบัญชีกลางหากได้รับการอนุมัติเพิ่มเติมทางจังหวัดจะรีบดําเนินการโอนเงินให้แก่เกษตรกรต่อไปข่าว/ภาพ ส.ปชส.อุทัยธานี #สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
4/2/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
อุทัยธานี
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดอุทัยธานี
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230204144835173
null
ผู้ว่าฯสมุทรสงคราม เยี่ยมเกษตรกรชาวสวนทุเรียนสามน้ำพืชเศรษฐกิจที่สำคัญของจังหวัดอีกชนิดหนึ่ง
จังหวัดสมุทรสงคราม เป็นจังหวัดที่มีพิชเศรษฐกิจที่สําคัญหลากหลายและทุเรียนก็เป็นพืชเศรษฐกิจอีกชนิดหนึ่งที่จังหวัดส่งเสริมให้เป็นพืชปลูกแซมไว้ตามร่องสวนรวมพื้นที่ประมาณ 200 ไร่ และให้ผลผลิตที่ดีวันนี้(4 กุมภาพันธ์ 2566)นายสมนึก พรหมเขียว ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสงคราม พร้อมด้วย นายวิศิษ บ่อสารคาม หัวหน้ากลุ่มส่งเสริมและพัฒนาการผลิต ,นายเสนีย์ ตรุยานนท์ หัวหน้ากลุ่มยุทธศาสตร์และสารสนเทศ สํานักงานเกษตรจังหวัดสมุทรสงคราม ลงพื้นที่สวนทุเรียนสามน้ําของนายเอกชัย เทียนชัย หมู่ 3 ตําบลบ้านปราโมทย์ อําเภอบางคนที เจ้าของสวนทุเรียนสามน้ํากว่า 10 ไร่ เพื่อสอบถามผลผลิตของทุเรียนที่กําลังออกดอกกว่า 80 ต้น พันธุ์ทุเรียนหมอนทอง และพันธุ์ก้านยาว ที่ปลูกแซมไว้ในสวนมะพร้าว สวนมังคุด ส้มโอขาวใหญ่ กล้วย มะละกอ เงาะ ซึ่งผลผลิตทุเรียนปีนี้มี 2 รุ่น ๆ แรกจะออกสู่ตลาดประมาณต้นเดือนพฤษภาคมและรุ่นที่สองประมาณปลายเดือนพฤษภาคมนี้ ด้านผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสงคราม กล่าวว่า ปัจจุบันเกษตรกรหันมาปลูกทุเรียนแซมในสวนจํานวนกว่า 200 ไร่ เกษตรกรประมาณ 200 ราย ถึงแม้จะดูไม่มากนัก แต่จากการดูแลเอาใส่ใจของเกษตรกร ประกอบกับสมุทรสงคราม เป็นเมืองน้ําเค็ม น้ํากร่อย น้ําจืดทําให้ทุเรียนของจังหวัดสมุทรสงครามมีรสชาติดี และราคาสูง จึงกลายเป็นพืชเศรษฐกิจตัวใหม่ที่สร้างรายได้ไม่น้อยไปกว่าส้มโอและลิ้นจี่รุ่งนภา/ข่าว/ภาพ/ธิติมา/เรียบเรียง 4 กุมภาพันธ์ 2566ทีมงานสํานักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสมุทรสงคราม #สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
4/2/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
สมุทรสงคราม
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสมุทรสงคราม
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230204151704177
null
สนง.อุตสาหกรรมจังหวัดสุรินทร์ ตรวจ กำกับ ดูแล โรงงานที่มีความเสี่ยงอันอาจจะเป็นสาเหตุให้เกิดมลพิษทางอากาศและฝุ่น PM2.5
นางอิฐสราชัย ลําพา อุตสาหกรรมจังหวัดสุรินทร์ เปิดเผยว่า สํานักงานอุตสาหกรรมจังหวัดสุรินทร์ ได้ตรวจ กํากับ ดูแล โรงงานที่มีความเสี่ยงอันอาจจะเป็นสาเหตุให้เกิดมลพิษทางอากาศและฝุ่น PM2.5 ตามแผนตรวจกํากับโรงงานอุตสาหกรรม ประจําปี จํานวน 2 แห่ง ได้แก่ บริษัท มุ่งเจริญ ไบโอแมส จํากัด และ บริษัท สุรินทร์ ไบโอเพาเวอร์ จํากัด พร้อมกันนี้เจ้าหน้าที่ได้กําชับให้ผู้ประกอบกิจการโรงงานปฏิบัติตามกฎหมายโรงงานและที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด เพื่อป้องกันมิให้เกิดมลภาวะกับสิ่งแวดล้อมและปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM 2.5) นอกจากนี้ ยังขับเคลื่อนนโยบาย “สุรินทร์รุ่งเรือง เมืองสะอาด” ในการบริหารจัดการขยะมูลฝอยต้นทาง กลางทาง ปลายทาง สําหรับสถานประกอบการ เจ้าหน้าที่ได้ประชาสัมพันธ์โครงการ สร้างความเข้าใจและตระหนักถึงการรักษาความสะอาดตามหลัก 3 ช. คือใช้น้อย ใช้ซ้ํา และนํากลับมาใช้ใหม่ เพื่อความเป็นระเบียบเรียบร้อยของสถานประกอบการต่อไป#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
5/2/2023
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
สุรินทร์
สวท.สุรินทร์
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230205081637266
null
เมล่อน “อุมเราะห์ 64” สร้างรายได้
เกษตรกร ชาวยะหา ต่อยอดพัฒนาคุณภาพ เมล่อน “อุมเราะห์ 64” ขายออนไลน์ สร้างรายได้เกษตรกรชาว อ.ยะหา จ.ยะลา นายดอเล๊าะ สะตือบา ต่อยอดพัฒนาเมล่อนสายพันธุ์ใหม่ ลูกผสม คิโมจิและพันธุ์จากเมกกะ พร้อมเปิดจําหน่ายออนไลน์ เมล่อนอุมเราะห์ 64 รุ่นสอง ลูกสวย น้ําหนักดี โตใหญ่กว่าเดิม ให้ผู้ที่ชื่นชอบการรับประทานเมล่อนได้สั่งจอง แล้วนายดอเล๊าะ สะตือบา บอกว่า หลังจากปีที่แล้ว ได้ประสบผลสําเร็จจากการนําเมล็ดพันธุ์เมล่อนจากเมกกะ ซึ่งได้จากการไปประกอบพิธีอุมเราะห์ ของ ศอ.บต. มาผสมไขว้เกสร กับเมล่อนพันธุ์ คิโมจิ จนได้เมล่อนสายพันธุ์ใหม่ มีลูกค้าให้ความสนใจ สั่งซื้อผ่านทางออนไลน์เข้ามาจํานวนมาก ตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมา ก็ได้สร้างโรงเรือน ขยายพื้นที่ปลูกเมล่อนเพิ่ม และเริ่มลงเมล็ดพันธุ์ ปลูกเมล่อนได้ประมาณ 150 กว่าลูก ตอนนี้ ผลผลิตกําลังจะออกสู่ตลาด แต่ละลูกโตกว่าครั้งแรก สวยมาก ใหญ่และสมบูรณ์น้ําหนักจะได้ประมาณ 2 กิโลครึ่ง และได้เปิดให้ลูกค้า ได้จองผ่านทางออนไลน์ โดยใช้ชื่อ เมล่อนอุมเราะห์ 64 ขณะนี้ ก็มีผู้ที่สนใจทั้งจาก กทม. นราธิวาส พื้นที่อื่นๆ รวมถึงในพื้นที่ อ.ยะหา สั่งจองมาบ้างแล้ว ซึ่งรุ่นสองนี้ ก็จะมีกําหนดตัดส่งให้ลูกค้าในวันที่ 15 ก.พ.ที่จะถึงนี้สําหรับจุดเด่นเมล่อน ลูกผสมนี้ ลูกแต่ละลูกลายจะสวย ไม่เหมือนกัน ถือว่าประสบผลสําเร็จอีกขั้น ซึ่งรอบนี้ จะปลูกแตกต่างจากรอบที่แล้ว ซึ่งใส่ในถุงดํา รอบนี้ก็เลยทดลองปลูกลงดินผสม มูลวัว แกลบ มะพร้าวแห้งสับ และเมื่อก่อนเพาะเมล็ดพันธุ์ก่อนถึงจะนํามาปลูก แต่รอบนี้ ลงเมล็ดปลูกเลย ถ้าจะปลูกเมล่อนให้เสมอ ก็จะต้องเพาะก่อน แต่ก็ได้ผลผลิตดี ภูมิใจที่ได้พัฒนาการปลูกเมล่อนมาอีกขั้น ส่วนอุปสรรคตอนนี้ ก็จะมีที่ฝนตกบ่อย ซึ่งจะทําให้ความหวานเมล่อนไม่ค่อยมา อุปสรรคค่อนข้างเยอะ จริงๆ แล้ว เมล่อนต้องการแดดมาก ถ้าไม่มีแดดความหวานจะลดลง แต่ก็เป็นการศึกษา เรียนรู้ของเราด้วย เดือนนี้ลงได้ เดือนนี้ลงไม่ได้ ลงใหม่รอบหน้าจะได้สวยขึ้น แดดเยอะ ทําอย่างไรลูกจะสวย ทําอย่างไรจะให้ประสบผลสําเร็จ การขายออนไลน์ นั้น เราต้องทําลูกสวย ใหญ่ ถึงจะขายดี เพราะคนที่กินสั่งออนไลน์จะเป็นคนที่มีฐานะหน่อย ถ้าเป็นชาวบ้านก็จะชอบลูกเล็กไม่แพง ส่วนราคาที่จําหน่ายก็ยังเป็น กิโลละ 100 บาท ถ้าลูกใหญ่ 2 โลครึ่งก็ 250 บาท เมล่อน เป็นพืชที่มีรายได้ดี ปลูกง่ายแต่ดูแลยาก ต้องเอาใจใส่ ก่อนที่เราจะมาปลูกต้องรู้จัก ศึกษา พันธุ์เมล่อนก่อน พันธุ์ไหนดูแลง่าย ทนต่อโรค เมล่อนมีศัตรูเยอะไม่ว่าจะเป็นฝนตก เชื้อรา สําหรับเกษตรกรรุ่นใหม่ต้องเรียนรู้ลําดับต้นๆ เลย สําหรับตนเอง ก็ได้นําความรู้ภูมิปัญญาของปู่ ย่า ตายาย มาใช้ จบไม่ได้สูง ไม่ได้มีความรู้ทางวิชาการมากมาย แต่ก็อาศัยความชอบทางการเกษตร และได้ศึกษา เรียนรู้ ทดลอง ไม่หยุดนิ่ง ผ่านปัญหา อุปสรรค มาจนถึงเวลานี้ก็มีความภูมิใจมาก ซึ่งนอกจากนี้ ก็ยังได้ยึดหลักเศรษฐกิจพอเพียงของในหลวง รัชกาลที่ 9 มาใช้ในการดําเนินชีวิตมาโดยตลอด ทําให้ล่าสุด ได้เป็นตัวแทน 4 ศูนย์ 4 ภาค ของเกษตรกร 14 จังหวัดภาคใต้ อีกด้วยรุ่งสุรีย์ กิตติกุลสวัสดิ์ สทท.ยะลา#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
5/2/2023
ภาคใต้
ยะลา
สทท.ยะลา
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230205083554268
null
เช้านี้ค่าฝุ่น PM 2.5 กทม.และปริมณฑลลดลงมากในทุกพื้นที่ จากสภาพอากาศเปิดช่วยลดการสะสมของฝุ่น
เช้านี้ค่าฝุ่น PM 2.5 กรุงเทพมหานครและปริมณฑลลดลงมากในทุกพื้นที่ จากสภาพอากาศเปิดช่วยลดการสะสมของฝุ่น นายปิ่นสักก์ สุรัสวดี อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) ในฐานะประธานศูนย์แก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศ (ศกพ.) กล่าวว่า วันนี้ (5 ก.พ.66) ค่าฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM 2.5) ในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑลคุณภาพอากาศดีมากถึงปานกลาง โดยค่าฝุ่นลดลงมากในทุกพื้นที่ เนื่องจากสภาพอากาศเปิด บางพื้นที่มีฝนตก และมีลมพัดช่วยลดการสะสมของฝุ่นลง ประกอบกับการหนาแน่นของการจราจรบนท้องถนนลดลงด้วย ทั้งนี้ ศูนย์แบบจําลองคุณภาพอากาศและภูมิศาสตร์สารสนเทศ กรมควบคุมมลพิษ (คพ.) ได้คาดการณ์สถานการณ์ฝุ่นละออง PM 2.5 ช่วงวันที่ 6 - 12 กุมภาพันธ์ มีแนวโน้มคุณภาพอากาศอยู่ในเกณฑ์ดี เนื่องจากสภาพอากาศเปิดมากขึ้น และมีลมใต้ที่มีกําลังค่อนข้างแรงช่วยพัดพาฝุ่นละอองออกจากพื้นที่ โดยยังขอความร่วมมือประชาชนบํารุงดูแลรักษารถยนต์อย่างสม่ําเสมอ จอดรถให้ดับเครื่อง ลดการเผาในที่โล่ง ใช้รถเท่าที่จําเป็น Work From Home และขอให้ประชาชนเฝ้าระวังสถานการณ์ หากอยู่บริเวณพื้นที่มีปริมาณฝุ่น PM 2.5 สูงเกินเกณฑ์มาตรฐาน หรือ พื้นที่สีส้มและสีแดง ให้หลีกเสี่ยงกิจกรรมกลางแจ้ง สวมใส่หน้ากากอนามัย 2 ชั้น หรือ N95 หรือใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเอง หากมีอาการทางสุขภาพควรปรึกษาแพทย์ ทั้งนี้ สามารถติดตามสถานการณ์คุณภาพอากาศได้ทั้งแบบค่าเฉลี่ยรายชั่วโมงและแบบค่าเฉลี่ย 24 ชั่วโมง ผ่านทางเว็บไซด์ Air4Thai.com และ bangkokairquality.com หรือทางแอปพลิเคชั่น Air4Thai และ AirBKK แล้วยังติดตามข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับสถานการณ์คุณภาพอากาศผ่านทาง Facebook Fanpage ศูนย์แก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศ (ศกพ.)
5/2/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230205103606286
null
นายกเทศมนตรีนครยะลา เผย เร่งเดินหน้าการปลูกต้นไม้เพื่อเพิ่มพื้นที่สีเขียวให้กับเมือง เพื่อคุณภาพอากาศที่ดี ป้องกัน PM 2.5
นายพงษ์ศักดิ์ ยิ่งชนม์เจริญ นายกเทศมนตรีนครยะลา เปิดเผยว่า สิ่งหนึ่งที่เทศบาลนครยะลาตระหนักและเป็นปัญหาอย่างมาก คือ ปัญหา Global Warming หรือ ภาวะโลกร้อน ที่ได้ก่อให้เกิดภัยอันมากมาย ซึ่งGlobal Warming และปรากฏการณ์เรือนกระจก มาจากก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ซึ่งเป็นสิ่งที่มนุษย์สร้างขึ้น จากการใช้พลังงาน ที่มาจากการใช้รถยนต์ การเผาขยะ ที่ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ไปสู่ชั้นบรรยากาศ ซึ่งก๊าซเหล่านี้จะลอยตัวขึ้นสู่ชั้นบรรยากาศ และจะดูดซับความร้อนไว้ แต่เมื่อไม่สามารถทะลุชั้นบรรยากาศได้ มันก็รวมตัวกันเหมือนเป็นเรือนกระจกปกคลุมโลกใบนี้ไว้ และเมื่อสะสมในปริมาณมากก็จะทําให้เกิดปัญหามลพิษของฝุ่น PM 2.5 ดังที่กําลังปรากฏดังนั้น ก่อนหน้านี้ ในช่วงที่ผ่านมา เทศบาลนครยะลา ได้จัดทําโครงการความร่วมมือ ด้านการปลูกต้นไมเพื่อเพิ่มพื้นที่สีเขียว ซึ่งเป็นความร่วมมือ 5 เทศบาลในอําเภอเมืองยะลา ร่วมปลูกต้นไม้ เพื่อเพิ่มพื้นที่สีเขียว ทําให้เมืองยะลามีสิ่งแวดล้อมที่ดีและยั่งยืน ประกอบด้วยเทศบาลนครยะลา เทศบาลเมืองสะเตงนอก เทศบาลตําบลบุดี เทศบาลตําบลท่าสาป และเทศบาลตําบลยุโป ซึ่งนอกจากทําให้เมืองยะลามีสิ่งแวดล้อมที่ดีและยั่งยืน ซึ่งไม่เพียงแต่ประชาชนชาว จ.ยะลา จะได้คุณภาพอากาศที่ดีแล้ว ยังจะเป็นการดักหรือถูกคัดกรองจาก ฝุ่นละออง PM 2.5 จากพื้นที่สีเขียวที่เรามีอย่างไรก็ตาม วันนี้หากประชาชน ร่วมมือกันปลูกป่า ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ก็จะได้เมืองที่เป็นเมืองน่าอยู่ ตระหนักต่อสิ่งแวดล้อม ดังนั้น การเพิ่มพื้นที่สีเขียวจึงเป็นสิ่งที่สําคัญอย่างยิ่ง ในการป้องกันการเปลี่ยนแปลงของอากาศโลก การสร้างความสมดุลอันเป็นประโยชน์อย่างยั่งยืนให้แก่พี่น้องประชาชน#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
5/2/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สวท.ยะลา
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230205105544289
null
สนง.เกษตร? อ.สังขะ เปิดสอนการขายสินค้าเกษตรออนไลน์แก่เกษตรกร ขยายตลาด
วานนี้ 4 กุมภาพันธ์ 2566 สํานักงานเกษตร?อําเภอสังขะ จังหวัดสุรินทร์ เปิดสอนการขายสินค้า?ออนไลน์? ให้กับเกษตร?กรอําเภอ?สังขะ? เพื่อเพิ่มช่องทางการตลาดของการทําการเกษตรยุคใหม่ ตอบโจทย์พฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงในปัจจุบัน โดยมี นายมานิตย์ สีพูแพน หัวหน้าเกษตรอําเภอสังขะเเละคณะเป็นวิทยากร พร้อมด้วย นายชนะชล มูลจันทร์ นักธุรกิจที่มีประสบการณ์และประสบผลสําเร็จจากการขายออนไลน์โดยตรง เป็นวิทยากรรับเชิญนายชนะชล มูลจันทร์ เปิดเผยว่า การที่จะประสบผลสําเร็จจากการขายของออนไลน์ ผู้ขายต้องรู้จักค้นหาจุดเด่นของสินค้าว่าคืออะไร มีการเล่าเรื่องให้น่าสนใจและแปลกใหม่ ด้วยกลยุทธ์หลากหลาย เช่น ทําคลิปสั้นเผยแพร่ในเพจของเราเอง เล่าเรื่องความละเอียดในการดูแลรักษาและเก็บเกี่ยว หรือสร้างเรื่องราวด้วยการคิดแบบก้าวหน้า เช่น วิถีชุมชน เกษตรอินทรีย์ หรือคลิปสั้นแนวตลกก็ยังได้ เพราะสิ่งสําคัญของการเล่าเรื่องคือ เล่าให้คนฟังจําได้ นึกถึงได้เป็นรายแรกๆ นี่คือการสร้างการรับรู้ นอกจากนี้การจัดแพ็คเกจสินค้าที่ดึงดูดใจ และช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มได้อีกด้วย เป็นต้น#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
5/2/2023
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
สุรินทร์
สวท.สุรินทร์
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230205115845305
null
ซากพะยูนน้อยลอยอ่าวสัตหีบ คาดเป็นตัวเดียวกับในภาพขี่หลังเต่าทะเล ที่เพิ่งเป็นไวรัลไม่กี่วันที่ผ่านมา
เมื่อเวลา 13.00 น. ของวันที่ 2 ก.พ.66 พ.ต.ต.ขจร สมรูป สว.ส.รน.3 กก.5 บก.รน. (ตํารวจน้ําสัตหีบ) ได้รับแจ้ง จากเจ้าหน้าที่กู้ภัยทางทะเลหน่วยกู้ภัยสว่างโรจนธรรมสถาน พบซากพะยูนน้อย เพศผู้ ลอยตายบริเวณอ่าวสัตหีบ ม.2 ต.สัตหีบ จ.ชลบุรี จึงได้เดินทางเข้าตรวจสอบ พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่งานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเทศบาลเมืองสัตหีบ ศูนย์ประสานงานเครือข่ายช่วยชีวิตสัตว์ทะเลหายาก กองทัพเรือ เข้าตรวจสอบและเก็บซากจากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ เปิดเผยว่า พะยูนตัวนี้เป็นเพศผู้ โดยยังไม่ทราบสาเหตุการตายที่แน่ชัด ในเบื้องต้นจะได้นําซากพะยูนส่งไปผ่าพิสูจน์เพื่อหาสาเหตุการตายที่ชัดเจนต่อไป โดยเจ้าหน้าที่ยังได้รับแจ้งเรือประมงว่ามีสัตว์ทะเลคล้ายพะยูนติดอวนประมงชาวบ้าน บริเวณใกล้เคียงที่พบพะยูนตายลอยอยู่ จึงได้จัดชุดประดาน้ําลงดําสํารวจ แต่ไม่พบว่ามีสัตว์ทะเลติดอวนอยู่ก่อนหน้านี้ ทางเจ้าหน้าที่กองทัพเรือ ได้มีการบันทึกภาพพะยูนคล้ายตัวดังกล่าว เล่นว่ายน้ําทะเลอยู่กับเต่าทะเล บริเวณอ่าวสัตหีบ จนกลายเป็นไวรัลในโลกออนไลน์ด้าน ชาวประมงพื้นบ้านในพื้นที่ กล่าวว่า บริเวณหน้าอ่าวสัตหีบ จังหวัดชลบุรี มักพบฝูงพะยูนเข้ามาหากินอาหารประจํา เพราะบริเวณนั้นเป็นแหล่งอาหารของพะยูน มีหญ้าทะเลขึ้นจํานวนมาก ส่วนพะยูนที่พบนี้รับว่าเป็นพะยูนที่กําลังเติบโต น่าเสียดายที่ต้องมาตาย ซึ่งต้องรอผ่าพิสูจน์เพื่อหาสาเหตุการตายแน่ชัดต่อไป#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
5/2/2023
ภาคตะวันออก
ชลบุรี
สวท.ชลบุรี
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230205121209313
null
เตรียมกู้เรือคาเฟ่โจรสลัด ? หลังจากล่มจมทะเลพัทยา
จากกรณีเรือคาเฟ่ เรือโจรสลัดที่ตกแต่งเรือเหมือนเรือโจรสลัดแบบใน หนัง Pirates of the Caribbean โดยบนเรือมีทั้งอาหาร และเครื่องดื่มให้บริการ แถมยังมีดนตรีสดและ บริการตกหมึก ในคาเฟ่เรือโจรสลัดจะมีที่นั่งให้เลือก 2 โซน 2 ชั้น สามารถมองเห็นวิวทะเลรอบเมืองพัทยา 360 องศา ถูกคลื่นซัดอย่างหนักทําให้เกิดจมน้ําบริเวณอ่าวพัทยา โดยมีเรือท่องเที่ยวหลายลําวิ่งไปช่วยเหลือพนักงานที่อยู่ในเรือ โดยสามารถช่วยเหลือมาได้อย่างปลอดภัยล่าสุดช่วงบ่ายวันนี้ ( 2 ก.พ.66 ) ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่บริเวณอ่าวพัทยา เพื่อติดตามการกู้ซากเรือดังกล่าว พบว่ามีการเตรียมพร้อมในการกู้เรือ โดยทางด้านเจ้าหน้าที่ได้มีการลําเลียงทุ่นกั้นขอบเขตเรือที่จม เพื่อล้อมรอบกันไม่ให้น้ํามันที่อยู่ในห้องเครื่องรั่วไหล ออกมาในพื้นที่ทะเล ส่วนในเรือนั้นมีเจ้าหน้าที่กําลังทํางานเก็บกู้ คาดว่าจะมีการเคลื่อนไหว เตรียมที่จะกู้และย้ายซากเรือเร็วๆ นี้#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
5/2/2023
ภาคตะวันออก
ชลบุรี
สวท.ชลบุรี
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230205120757311
null
อบจ.ลำปาง จัดอบรมเชิงปฏิบัติหลักสูตรผู้ตรวจแปลงมาตรฐาเกษตรอินทรีย์
ที่ห้องประชุมองค์การบริหารส่วนจังหวัดลําปาง นางสาวตวงรัตน์ โล่ห์สุนทร นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดลําปาง มอบหมายให้ นายรุ่ง ศรีโพธิ์ ปลัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดลําปาง เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการอบรมเชิงปฏิบัติหลักสูตรผู้ตรวจแปลงมาตรฐาเกษตรอินทรีย์ และมี อาจารย์สุวรรณี เจียรสุวรรณ กล่าวรายงานทั้งนี้ องค์การบริหารส่วนจังหวัดลําปาง ได้บูรณาการกันทั้งภาคหน่วยงานของรัฐ ภาคประชาชนเกษตรกร และภาควิชาการจากมหาวิทยาลัย รวมถึงภาคีเครือข่ายต่างๆ ในจังหวัดลําปาง ขับเคลื่อนเกษตรอินทรีย์แบบสร้างสัมมาอาชีพเต็มพื้นที่โดยใช้พื้นที่เป็นตัวตั้งอย่างจริงจัง ตั้งแต่กระบวนการต้นน้ําซึ่งการอบรมหลักสูตรผู้ตรวจแปลงมาตรฐานรวมถึงแปลงเกษตรที่ได้รับการรับรองมาตรฐานถือว่าเป็นส่วนหนึ่งที่สําคัญของกระบวนการนี้ด้วยนอกจากนี้ยังรวมไปถึงการส่งเสริมกระบวนการที่อยู่กลางน้ํา ตลอดไปจนถึงกระบวนการที่อยู่ปลายน้ํา และการประชาสัมพันธ์เพื่อส่งเสริมให้ประชาชนได้ผลิตและบริโภคสินค้าเกษตรอินทรีย์ที่มีมาตรฐาน ซึ่งเชื่อว่าจะนําความยั่งยืนสู่เกษตรกรได้อย่างแท้จริง#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
5/2/2023
ภาคเหนือ
ลำปาง
สวท.ลำปาง
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230205153625342
null
จังหวัดสุรินทร์ คณะกรรมาธิการการเงิน การคลัง สถาบันการเงินและตลาดเงิน สภาผู้แทนราษฎร และคณะ ลงพื้นที่จัดกิจกรรมสัมมนา ให้แก่เกษตรกรและผู้สนใจ เรื่องเพิ่มรายได้ของเกษตรกร (กลุ่มข้าว ผักและสมุนไพร) ด้วยเทคโนโลยี ณ ตลาดอาเซียนช่องจอม อำเภอกาบเชิง
เมื่อวันเสาร์ที่ 4 กุมภาพันธ์ 2565 เวลา 8:30 น. ณ ตลาดอาเซียนช่องจอม อําเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ คณะกรรมาธิการการเงิน การคลัง สถาบันการเงินและตลาดเงิน สภาผู้แทนราษฎร และคณะ ลงพื้นที่จัดกิจกรรมสัมมนา ให้แก่เกษตรกรและผู้สนใจ เรื่องเพิ่มรายได้ของเกษตรกร (กลุ่มข้าว ผักและสมุนไพร) ด้วยเทคโนโลยี เพื่อส่งเสริมโอกาสทางการค้าและสนับสนุนการเข้าถึงแหล่งเงินทุน สร้างความเข้มแข็งให้แก่เศรษฐกิจไทย หลังจากการประชุมนําเสนอยุทธศาสตร์จังหวัดและนโยบายที่สนับสนุนส่งเสริมอาชีพ กับนายพิจิตร บุญทัน ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ พร้อมด้วย นายชํานาญ ชื่นตา รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ นายสันทัด แสนทอง รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ และ หัวหน้าส่วนราชการ ที่เกี่ยวข้องเมื่อวานนี้ (3 ก.พ. 2566) ณ ห้องประชุมข้าวสารหอมชั้น 2 ศาลากลางจังหวัดสุรินทร์ โดยมีนายสมบัติ ศรีสุรินทร์ ส.ส. จังหวัดสุรินทร์ ผู้แทนสํานักงานเกษตรจังหวัดสุรินทร์ ผู้แทนสํานักงานพาณิชย์จังหวัดสุรินทร์ เกษตรอําเภอกาบเชิง ผู้แทนโรงพยาบาลกาบเชิง ผู้แทนมหาวิทยาลัยราชภัฏสุรินทร์ และผู้แทนมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน วิทยาเขตสุรินทร์ ผู้นําชุมชน และเกษตรกร กลุ่มเกษตรกรในพื้นที่อําเภอกาบเชิง อําเภอสังขะ และอําเภอกาบเชิง เข้าร่วมโครงการฯ ประมาณ 350 คน. ทั้งนี้ เพื่อสร้างความเข้มแข็งให้แก่เศรษฐกิจไทยโดยการจัดกิจกรรมเพื่อฟื้นฟูและพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศผ่านการค้าชายแดนของประเทศ (สุรินทร์โมเดล) ซึ่งมีวัตถุประสงค์ ให้ความช่วยเหลือและสนับสนุนผู้ประกอบการครอบคลุมทุกกลุ่มทั้งในประเด็นการแก้ไขปัญหาการเข้าถึงเงินทุนของกลุ่มผู้ประกอบการขนาดย่อยและขนาดย่อม เกษตรกรและกลุ่มเกษตรกร กรมแรงงานพูดถูกเลือกได้หรือรายงานในระบบบางส่วน ที่ต้องการเปลี่ยนไปเป็นผู้ประกอบการรายย่อยรวมผู้ประกอบการค้ารายย่อยบริเวณชายแดนต่างๆของประเทศเพื่อให้มีโอกาสเข้าถึงแหล่งทุนได้อย่างทั่วถึงและยังเป็นการพัฒนาเศรษฐกิจการค้าชายแดนและการท่องเที่ยวของประเทศไทย สําหรับในวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2566 จะเป็นการสัมมนาเรื่อง สร้างเศรษฐกิจเข้มแข็งด้วยการใช้เทคโนโลยีระดับอุตสาหกรรมไหมแบบครบวงจร ใช้เป็นต้นแบบ การพัฒนาเศรษฐกิจการค้าชายแดน และการบูรณาการการทํางานของหน่วยงานต่างๆอย่างแท้จริง #สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
5/2/2023
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
สุรินทร์
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสุรินทร์
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230205152943341
null
คุณภาพอากาศ ค่าฝุ่นมลพิษสูงขึ้นมาก จนส่งผลกระทบต่อสุขภาพ เกิดขึ้นในพื้นที่ ต.หน้าพระลาน อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.สระบุรี
วันนี้ 5 ก.พ.66 นายผล ดําธรรม ผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรี มอบหมายให้ พ.อ.เพิ่มศักดิ์ ขุนโขลน รอง ผอ.รมน.จังหวัดสระบุรี ลงพื้นที่บ้านคุ้งเขาเขียว ม.3 ต.หน้าพระลาน อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.สระบุรี(เขตควบคุมมลพิษ) นํากําลัง กองร้อยบรรเทาสาธารณภัย มทบ.18 เข้าร่วมกิจกรรม รณรงค์ทําความสะอาด เพื่อลดค่าฝุ่นละออง (ค่า PM 2.5) ที่มีค่าสูงขึ้นเกินกําหนด ณ ถนนทางเข้าคุ้งเขาเขียว และบริเวณหน้าโรงโม่ ในชุมชนบ้านคุ้งเขาเขียวตลอดเส้นทาง โดยมี นายธนพิพัฒน์ วิธูชุลีโชติ นายกองค์การบริหารตําบลหน้าพระลาน/ประธานชมรมโรงโม่หิน ตําบลหน้าพระลาน นําพี่น้องประชาชน ,เจ้าหน้าที่ อบต.หน้าพระลาน,ผู้ประกอบการโรงโม่ และพนักงานโรงโม่ในตําบลหน้าพระลาน อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.สระบุรี จํานวนกว่า 200 คน มาร่วมกิจกรรมทําความสะอาด และจิตอาสา พร้อมด้วย รถน้ํา, รถพ่นน้ํา,รถดูดฝุ่น กว่า 10 คัน มาร่วมกิจกรรม เพื่อลดค่าฝุ่นละออง (ค่า PM 2.5) ที่เกินมาตรฐานใน ต.หน้าพระลาน อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.สระบุรี ครั้งนี้ และจะดําเนินการทําไปจนกว่า สภาพอากาศเข้าสู่สภาวะปกติ#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
5/2/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
สระบุรี
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสระบุรี
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230205164849347
null
ค่าฝุ่น PM 2.5 กทม.และปริมณฑลลดลงต่อเนื่องในทุกพื้นที่ หลังหลายพื้นที่มีฝนตกลงมาช่วยลดการสะสมของฝุ่นลง
ค่าฝุ่น PM 2.5 กรุงเทพมหานครและปริมณฑลลดลงต่อเนื่องในทุกพื้นที่ หลังหลายพื้นที่มีฝนตกลงมาช่วยลดการสะสมของฝุ่นลง นายปิ่นสักก์ สุรัสวดี อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) ในฐานะประธานศูนย์แก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศ (ศกพ.) กล่าวว่า ค่าฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM 2.5) ในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑลช่วงเย็นถึงค่ําคุณภาพอากาศดีมากถึงดี โดยค่าฝุ่นลดลงต่อเนื่องในทุกพื้นที่ เนื่องจากหลายพื้นที่มีฝนตกลงมาและมีลมพัดช่วยลดการสะสมของฝุ่นลง ประกอบกับการหนาแน่นของการจราจรบนท้องถนนลดลงด้วย ทั้งนี้ ศูนย์แบบจําลองคุณภาพอากาศและภูมิศาสตร์สารสนเทศ กรมควบคุมมลพิษ (คพ.) ได้คาดการณ์สถานการณ์ฝุ่นละออง PM 2.5 ช่วงวันที่ 6 - 12 กุมภาพันธ์ มีแนวโน้มคุณภาพอากาศอยู่ในเกณฑ์ดี เนื่องจากสภาพอากาศเปิดมากขึ้น และมีลมใต้ที่มีกําลังค่อนข้างแรงช่วยพัดพาฝุ่นละอองออกจากพื้นที่ ทั้งนี้ สามารถติดตามสถานการณ์คุณภาพอากาศได้ทั้งแบบค่าเฉลี่ยรายชั่วโมงและแบบค่าเฉลี่ย 24 ชั่วโมงทางแอปพลิเคชั่น Air4Thai และ AirBKK
5/2/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230205173335359
null
ทสจ.ยะลา ขานรับมาตรการป้องกันฝุ่น PM 2.5 สร้างสุขภาพดีให้ประชาชน
ทสจ.ยะลา ขานรับมาตรการป้องกันฝุ่น PM 2.5 สร้างสุขภาพดีให้ประชาชน ปัจจุบันปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ที่เกิดจากน้ํามือของมนุษย์ ในด้านต่างๆ ได้ส่งผลกระทบทําลายสิ่งแวดล้อม ชีวิตความเป็นอยู่ และสุขภาพของประชาชน หลายจังหวัดในประเทศไทย ซึ่งทางรัฐบาลเอง ได้เร่งแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ การเกิดฝุ่น PM 2.5 ซึ่งมาจากแหล่งกําเนิดที่แตกต่างกันในแต่ละพื้นที่ ทั้งภาคการขนส่ง ภาคอุตสาหกรรม ภาคการเกษตร ออกมาตรการแก้ปัญหามลพิษด้านฝุ่นละออง หมอกควันและไฟป่า ขับเคลื่อนวาระแห่งชาติ เพื่อ“สร้างอากาศดี เพื่อคนไทย และผู้มาเยือน” ควบคู่ไปกับแนวทางป้องกันสําหรับประชาชน ภายใต้ความร่วมมือของทุกภาคส่วน สะท้อนผลสําเร็จในปี 2565 สถานการณ์หมอกควัน ไฟป่า และฝุ่นละอองในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล พื้นที่ภาคเหนือ ดีขึ้นเป็นลําดับ ขณะที่ในส่วนของ จ.ยะลา ถึงแม้นว่าสภาพอากาศดี มีฝนตกอย่างต่อเนื่อง ทําให้สถานการณ์ฝุ่นละอองในพื้นที่มีจํานวนน้อย อย่างใดก็ตาม หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ยังคงต้องเฝ้าระวัง สถานการณ์หมอกควันที่มักจะเกิดขึ้นในช่วงที่ประเทศข้างเคียง หลังมีการเผาป่าในพื้นที่ พร้อมทั้งติดตามสถานการณ์อย่างต่อเนื่องนางสาวกัลยา โตะแวอายี ผู้อํานวยการส่วนสิ่งแวดล้อม สํานักงานทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อมจังหวัดยะลา ระบุว่า การติดตามค่า PM 2.5 ในพื้นที่ จ.ยะลา มี 2 สถานี ด้วยกัน คือ อ.เมืองยะลา ที่สนามโรงพิธีช้างเผือก และ อ.เบตง โดยเฉพาะ อ.เบตง จะมีค่าอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานต่ํามีคุณภาพอากาศที่ดีมาก ซึ่งถ้าประชาชนทั่วไปเปิด Website แอป Air4Thai ก็จะพบว่าอยู่ในสีฟ้า แสดงถึงสภาพอากาศขณะนั้น ดีมากก็ถือเป็นสถานการณ์ที่ดีสําหรับสถานการณ์ PM 2.5 เท่าที่ติดตามเฝ้าระวังกันมา จ.ยะลา คุณภาพไม่เคยเกินมาตรฐาน อยู่ในคุณภาพดีมาก แต่ในช่วงเวลาที่เกิดสถานการณ์หมอกควันข้ามแดน ซึ่งจะมี 2 ช่วง โดยเฉพาะในเดือน ก.ค. - ส.ค. บางช่วงจะถึง ต.ค. - พ.ย. ด้วย ช่วงระหว่างนั้นจะมีเหตุการณ์หมอกควันข้ามแดนจากประเทศอินโดนีเซีย ณ เวลานั้น สถานการณ์ฝุ่นละอองค่อนข้างสูง PM 2.5 ก็จะสูงขึ้น ในระหว่างนั้นก็ต้องมีการติดตาม เฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด ควบคุมไม่ให้แหล่งกําเนิดต่างๆ มีการปล่อยมลพิษขึ้นมา ให้อยู่ในระดับที่เป็นไปตามมาตรฐาน นอกจากนี้ ก็จะมีการตรวจวัดควันดําอย่างเข้มงวด โดยเฉพาะในเรื่องการขนส่ง โดยเฉพาะในพื้นที่เบตงเอง ซึ่งรูปแบบสถานการณ์ของคุณภาพอากาศ และรูปแบบของทั้งประเทศที่ค่อนข้างทําให้เกิดผลกระทบในเรื่องนี้ค่อนข้างสูง ก็จะต้องมีการเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิดแต่ในปีที่ผ่านมาในการเฝ้าระวังของเรา ก็ยังมีคุณภาพอากาศอยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน โดยเฉพาะ PM 2.5#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
6/2/2023
ภาคใต้
ยะลา
สทท.ยะลา
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230206091646398
null
คุณภาพอากาศในพื้นที่ จ.ลำปาง ดีขึ้น ภายหลังหน่วยปฏิบัติการฝนหลวงเคลื่อนที่เร็ว จ.เชียงใหม่ ปฏิบัติการฝนหลวงในพื้นที่ป่าไม้ดอยพระบาท
จากการปฏิบัติการฝนหลวงในพื้นที่ป่าไม้ดอยพระบาท อ.เมือง จ.ลําปาง ของหน่วยปฏิบัติการฝนหลวงเคลื่อนที่เร็ว จ.เชียงใหม่ เมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา โดยข้อมูลจากเว็บไซต์ http://air4thai.pcd.go.th/ของกรมควบคุมมลพิษ พบว่าคุณภาพอากาศในพื้นที่ จ.ลําปาง ช่วงเช้าวันนี้ (6 ก.พ.66) เวลา 07.00 น. ที่สถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศ ต.พระบาท อ.เมือง ตรวจพบค่าฝุ่น PM2.5 เท่ากับ 50 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร, ที่สถานีฯ ต.สบป้าด อ.แม่เมาะ เท่ากับ 46 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร และที่สถานีฯ ต.บ้านดง อ.แม่เมาะ เท่ากับ 43 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ทั้ง 3 สถานี คุณภาพอากาศดีขึ้นอยู่ในระดับปานกลาง ไม่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพ สําหรับสถานการณ์คุณภาพอากาศพื้นที่ภาคเหนือ ณ เวลาเดียวกัน คุณภาพอากาศอยู่ในระดับคุณภาพอากาศดีมาก ถึงเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ โดย PM2.5 เกินมาตรฐานที่บริเวณ ต.หางดง อ.ฮอด จ.เชียงใหม่, ต.เวียง อ.เชียงของ, ต.เวียงพางคํา อ.แม่สาย จ.เชียงราย, ต.ธานี อ.เมือง จ.สุโขทัย, ต.ลี้ อ.ลี้ จ.ลําพูน, ต.บ้านต๋อม อ.เมือง จ.พะเยา, และ ต.ในเวียง อ.เมือง จ.น่าน#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
6/2/2023
ภาคเหนือ
ลำปาง
สวท.ลำปาง
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230206093520412
null
กรมประมงเดินหน้าสร้างเยาวชนสร้างรายได้จากการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำสวยงาม เดินหน้านำร่อง 6 โรงเรียนในพื้นที่กรุงเทพมหานคร
นายประพันธ์ ลีปายะคุณ รองอธิบดีกรมประมง กล่าวว่า โครงการส่งเสริมการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ําสวยงามในโรงเรียนพื้นที่กรุงเทพมหานคร ถูกขับเคลื่อนผ่านการดําเนินงานอย่างบูรณาการร่วมกันระหว่างโครงการส่วนพระองค์สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี กรมประมง สํานักการศึกษากรุงเทพมหานคร และโรงเรียนในสังกัดกรุงเทพมหานคร เพื่อให้นักเรียนมีความรู้ด้านการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ําสวยงาม เป็นการฝึกทักษะอาชีพให้สามารถก่อให้เกิดรายได้จากการเลี้ยงและจําหน่ายสัตว์น้ําสวยงาม ผ่านการฝึกอบรมให้ความรู้ด้านการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ําสวยงาม และสนับสนุนปัจจัยการผลิตด้านการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ําสวยงาม อาทิ ตู้กระจกพร้อมชั้นวาง เครื่องสูบน้ําแบบจุ่ม ถังออกซิเจน เครื่องให้อากาศ พันธุ์ปลาหางนกยูง ปลากัด ปลาสอด อาหารปลาและวัสดุอุปกรณ์ เป็นต้น ให้กับโรงเรียนที่เข้าร่วมโครงการปัจจุบันโครงการดังกล่าว ได้มีการนําร่องการดําเนินงานโรงเรียนในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ที่มีความพร้อมเรียบร้อยแล้วจํานวน 6 โรงเรียน โดยสํานักงานประมงพื้นที่กรุงเทพมหานครลงพื้นที่รับฟังปัญหาและอุปสรรคกับโรงเรียนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อกําหนดแผนการดําเนินงานให้เหมาะสมกับศักยภาพของโรงเรียนแต่ละแห่ง นอกจากนี้ ยังเชิญเกษตรกรศูนย์เครือข่ายด้านการประมงในพื้นที่ เข้ามาร่วมเป็นพี่เลี้ยงในการให้คําแนะนําและให้องค์ความรู้จากเกษตรกรที่ประสบความสําเร็จจริง เพื่อเป็นการสร้างแรงบันดาลใจให้กับเยาวชนได้หันมาสนใจเรียนรู้ และนําความรู้ที่ได้มาต่อยอดสร้างเป็นอาชีพได้ในอนาคต ซึ่งนับเป็นอีกหนึ่งในโครงการที่กรมประมงมุ่งมั่นดําเนินการ พัฒนาให้สถานศึกษาเป็นจุดเรียนรู้หรือศูนย์ถ่ายทอดความรู้การเพาะเลี้ยงปลาสวยงามที่ใกล้ชิดกับเยาวชน ด้วยการสร้างแหล่งเรียนรู้ด้านการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ําสวยงามในโรงเรียน ทั้งการอบรมให้ความรู้ด้านการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ําสวยงาม การจัดการผลผลิตอย่างมีประสิทธิภาพ และการสร้างช่องทางตลาด และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าโครงการดังกล่าวอาจจะเป็นจุดเริ่มต้นในการสร้างสุดยอดนักเพาะปลาสวยงามของไทยให้สามารถแข่งขันในตลาดโลกต่อไปได้
6/2/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
Radio-สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230206103030438
null
กอนช. เฝ้าระวังฝนตกบางแห่งในบางพื้นที่ทั่วประเทศ ส่วนภาคใต้ยังมีฝนตกจากอิทธิพลลมตะวันออกและลมตะวันออกเฉียงใต้
กองอํานวยการน้ําแห่งชาติ (กอนช.) เฝ้าระวังฝนตกบางแห่งในบางพื้นที่ทั่วประเทศ ส่วนภาคใต้ยังมีฝนตกจากอิทธิพลลมตะวันออกและลมตะวันออกเฉียงใต้ นายสุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสํานักงานทรัพยากรน้ําแห่งชาติ (สทนช.) ในฐานะรองผู้อํานวยการกองอํานวยการน้ําแห่งชาติ (กอนช.) กล่าวถึงสถานการณ์น้ําภาพรวมของประเทศวันนี้ (6 ก.พ.66) ว่า ภาพรวมประเทศไทยตอนบนมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นได้บางพื้นที่ ส่วนภาคใต้ยังคงมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมามีฝนตกหนักบริเวณ จ.นครราชสีมา , ชลบุรี และขอนแก่น ซึ่งภาคใต้ยังคงมีฝนฟ้าคะนองบางแห่งจากอิทธิพลลมตะวันออกและลมตะวันออกเฉียงใต้พัดปกคลุมอ่าวไทย ภาคใต้ และทะเลอันดามัน ทั้งนี้ กอนช.ได้ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งสร้างประตูระบายน้ําบ้านวังชัน แก้ภัยแล้ง และน้ําท่วมซ้ําซาก ในจังหวัดปราจีนบุรี อย่างเช่น กรมชลประทาน แก้ปัญหาน้ําท่วม - น้ําแล้งในพื้นที่ลุ่มน้ําปราจีนบุรีเนื่องจากช่วงหน้าแล้งพื้นที่ลุ่มน้ําปราจีนบุรีประสบปัญหาน้ําแล้งและน้ําเค็มจากน้ําทะเลหนุนเป็นอย่างมาก แล้วช่วงฤดูฝนประสบปัญหาน้ําล้นตลิ่งและไหลบ่าเข้าท่วมพื้นที่จังหวัดปราจีนบุรี จนเกิดความเสียหายแก่พื้นที่ทางการเกษตร พื้นที่เศรษฐกิจ โรงงานอุตสาหกรรม และพื้นที่ชุมชน จึงได้ต้องทําโครงการประตูระบายน้ําบ้านวังชัน เพื่อจะช่วยควบคุมการไหลในแม่น้ําปราจีนบุรีที่ไหลผ่านอําเมืองปราจีนบุรีและอําเภอบ้านสร้างให้เหมาะสมสําหรับช่วงหน้าแล้ง เมื่อปริมาณน้ําในแม่น้ําเริ่มลดลงสามารถลดบานประตูระบายน้ําลงเพื่อเก็บกักน้ําไว้ใช้โดยมีการระบายน้ําออกตามความเหมาะสมใช้ในกิจกรรมต่างๆ รักษาระบบนิเวศ และผลักดันน้ําเค็มด้วย
6/2/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230206100658428
null
ททท.ลำปาง ร่วมกับบริษัททัวร์และนักท่องเที่ยว จัดกิจกรรม CSR สนับสนุนการปฏิบัติการแก้ไขปัญหาไฟป่าฯ
นางสาวยุรีพรรณ แสนใจยา ผู้อํานวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สํานักงานลําปาง เปิดเผยว่า ททท.สํานักงานลําปาง ได้จัดกิจกรรม CSR ร่วมกับ ธนบดีเซรามิค, มาลัยสยามทัวร์ และคณะนักท่องเที่ยวจากกรุงเทพ มอบสิ่งของจําเป็นใช้ในการปฏิบัติงานป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าหมอกควัน และฝุ่น PM2.5 ให้กับสํานักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดลําปาง และเจ้าหน้าที่ดับไฟป่า ได้แก่ น้ําดื่ม และอาหารแห้ง คือ ข้าวธัญพืช Energy Bar ที่นักท่องเที่ยวได้ทํากิจกรรม DIY ร่วมกับชุมชนบ้านศรีดอนมูล เพื่อให้ทีมเจ้าหน้าที่ได้นําพกติดตัวไปปฏิบัติงานได้สะดวก และร่วมเป็นกําลังใจในการช่วยลดมลพิษทางอากาศ อย่างไรก็ตาม จังหวัดลําปางได้บูรณาการร่วมกับทุกภาคส่วน เร่งดําเนินการแก้ไขไฟป่าดอยพระบาท และทั้ง 13 อําเภอ โดยการจัดตั้งกลุ่ม War Room ป้องกันไฟป่า และได้จัดกิจกรรมชิงเก็บลดเผา ทําแนวกันไฟ และดับไฟป่า ทั้งนี้ บริษัททัวร์และนักท่องเที่ยว รวมถึงผู้ที่สนใจบริจาคสิ่งของที่จําเป็นให้แก่เจ้าหน้าที่ในการปฏิบัติงานป้องกันแก้ไขปัญหาไฟป่าฯ สามารถติดต่อได้ที่สถานีไฟป่าม่อนพระยาแช่ โทร. 087-9890594 (หัวหน้าต่าย), สถานีรุกขชาติ โทร. 089-8508737 (หัวหน้าดวงพร) หรือสอบถามเจ้าหน้าที่ประสานงาน โทร. 081-7520799 (คุณสุรชัย) และ ททท.สํานักงานลําปาง โทร. 054-222214#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
6/2/2023
ภาคเหนือ
ลำปาง
สวท.ลำปาง
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230206100007424
null
เช้านี้ค่าฝุ่น PM 2.5 กทม.และปริมณฑลลดลงมากในทุกพื้นที่ จากสภาพอากาศเปิดและมีฝนตกลงมาช่วยลดการสะสมของฝุ่นลงได้มาก
เช้านี้ค่าฝุ่น PM 2.5 กรุงเทพมหานครและปริมณฑลลดลงมากในทุกพื้นที่ จากสภาพอากาศเปิดและมีฝนตกลงมาช่วยลดการสะสมของฝุ่นลงได้มาก นายปิ่นสักก์ สุรัสวดี อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) ในฐานะประธานศูนย์แก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศ (ศกพ.) กล่าวว่า วันนี้ (6 ก.พ.66) ค่าฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM 2.5) ในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑลคุณภาพอากาศดีมากถึงปานกลาง โดยค่าฝุ่นลดลงมากในทุกพื้นที่ เนื่องจากสภาพอากาศเปิด บางพื้นที่มีฝนตก และมีลมพัดช่วยลดการสะสมของฝุ่นลงได้มาก ทั้งนี้ ศูนย์แบบจําลองคุณภาพอากาศและภูมิศาสตร์สารสนเทศ กรมควบคุมมลพิษ (คพ.) ได้คาดการณ์สถานการณ์ฝุ่นละออง PM 2.5 ช่วงวันที่ 7 - 13 กุมภาพันธ์ มีแนวโน้มคุณภาพอากาศอยู่ในเกณฑ์ดี เนื่องจากสภาพอากาศเปิดมากขึ้น และมีลมใต้ที่มีกําลังค่อนข้างแรงช่วยพัดพาฝุ่นละอองออกจากพื้นที่ โดยยังขอความร่วมมือประชาชนบํารุงดูแลรักษารถยนต์อย่างสม่ําเสมอ จอดรถให้ดับเครื่อง ลดการเผาในที่โล่ง ใช้รถเท่าที่จําเป็น Work From Home และขอให้ประชาชนเฝ้าระวังสถานการณ์ หากอยู่บริเวณพื้นที่มีปริมาณฝุ่น PM 2.5 สูงเกินเกณฑ์มาตรฐาน หรือ พื้นที่สีส้มและสีแดง ให้หลีกเสี่ยงกิจกรรมกลางแจ้ง สวมใส่หน้ากากอนามัย 2 ชั้น หรือ N95 หรือใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเอง หากมีอาการทางสุขภาพควรปรึกษาแพทย์ ทั้งนี้ สามารถติดตามสถานการณ์คุณภาพอากาศได้ทั้งแบบค่าเฉลี่ยรายชั่วโมงและแบบค่าเฉลี่ย 24 ชั่วโมง ผ่านทางเว็บไซด์ Air4Thai.com และ bangkokairquality.com หรือทางแอปพลิเคชั่น Air4Thai และ AirBKK แล้วยังติดตามข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับสถานการณ์คุณภาพอากาศผ่านทาง Facebook Fanpage ศูนย์แก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศ (ศกพ.)
6/2/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230206100920429
null
พช.ชัยภูมิ ร่วมกับ อ.จัตุรัส ลงพื้นที่เยี่ยมให้กำลังใจ ครัวเรือนต้นแบบ โคก หนอง นา ตำบลบ้านขาม
สํานักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดชัยภูมิ ร่วมกับอําเภอจัตุรัส นําโดยนายเดช เสนาะคํา นายอําเภอจัตุรัส นําทีมผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กํานัน ผู้ใหญ่บ้าน กลุ่มองค์กร ภาคีการพัฒนา ร่วมลงพื้นที่ติดตามเยี่ยมให้กําลังใจครัวเรือนต้นแบบโครงการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิตตามหลักทฤษฏีใหม่ ประยุกต์สู่ “โคก หนอง นา โมเดล” ณ แปลงครัวเรือนต้นแบบ โคก หนอง นา พัฒนาชุมชน ของนางนะที มาตรังสี หมู่ที่ 2 ตําบลบ้านขาม อําเภอจัตุรัส จังหวัดชัยภูมิสําหรับแปลงครัวเรือนต้นแบบของ นางนะที มาตรังสี เข้าร่วมโครงการ ‘โคก หนอง นา โมเดล’ ขนาดพื้นที่ 1 ไร่ ทําการขุดปรับพื้นที่ตามแบบมาตรฐานของกรมการพัฒนาชุมชน พื้นที่แปลง ประกอบด้วย หนอง นา และคลองไส้ไก่ และบริหารจัดการพื้นที่ให้เป็นแหล่งเรียนรู้ ดังนี้1.โคก ได้ทําการปลูกป่า 3 อย่าง ประโยชน์ 4 อย่าง2.หนอง ได้ทําการเลี้ยงปลานิล ปลาตะเพียน หอยขม3.นา ได้ทําการปลูกข้าว ทํา “คันนาทองคํา” มีการปลูกพืชผักสวนครัว เช่น ผักชี ขิง ข่า ตะไคร้ มะนาว บวบ และถั่วฝักยาว เป็นต้นทั้งนี้นายเดช เสนาะคํา พ่อเมืองจัตุรัส ได้ชื่นชมและให้กําลังใจครัวเรือน ที่มีการบริหารจัดการพื้นที่ให้เกิดประโยชน์ ปลูกในสิ่งที่กิน กินในสิ่งที่ปลูก เหลือก็ค่อยแบ่งปันและสามารถสร้างความมั่นคงให้แก่ตนเองและครัวเรือนได้มีคุณภาพชีวิตที่ดีอย่างยั่งยืน #สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
6/2/2023
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ชัยภูมิ
สวท.ชัยภูมิ
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230206110906458
null
เกษตรอำเภอวังวิเศษ เยี่ยมเยียนเกษตรกรปลูกและจำหน่ายผักตำบลเขาวิเศษ อำเภอวังวิเศษ จังหวัดตรัง
นายนิกร ชิดเชื้อ เกษตรอําเภอวังวิเศษ พร้อมด้วย นางสาวสุมนรัตน์ ตรึกตรอง นักวิชาการส่งเสริมการเกษตรชํานาญการ รักษาการในตําแหน่ง นักวิชาการส่งเสริมการเกษตรชํานาญการพิเศษ, นายกฤษฎา บัวทอง นักวิชาการส่งเสริมการเกษตรปฏิบัติการ และนายบดินทร์ ภักดี นักวิชาการส่งเสริมการเกษตรปฏิบัติการ สํานักงานเกษตรอําเภอวังวิเศษ เยี่ยมเยียนเกษตรกรปลูกพืชและจําหน่ายผลผลิตจากแปลงด้วยรถพุ่มพวง ของนางจิ้น บัวทอง หมู่ที่ 19 ตําบลเขาวิเศษ อําเภอวังวิเศษ จังหวัดตรังโดยมีการปลูกต้นพันธุ์ผักและผักต่างๆ พร้อมสินค้าในครัวเรือนที่จําหน่าย เช่น ต้นกล้าผัก เช่น ต้นกุ้ยฉ่าย ต้นมะเขือ ต้นถั่วผักยาว ต้นผักชีฝรั่ง ขึ้นฉ่าย กระเพรา โหระพา เตยหอม มะระขี้นก ฟักทอง ฟักเขียว บวบเหลี่ยม จําหน่าย ราคา 10,20,30,50,100 บาท พืชผัก เช่น ขิง ข่า ขมิ้น ตะไคร้ มัดละ 10-20 บาท สินค้า อาหารอุปโภคบริโภคในครัวเรือน เช่น เครื่องแกง แกงที่ทําจากผลผลิตในแปลงหรือต้นพันธุ์ที่โตแล้ว เครื่องปรุง รับสินค้าจากเกษตรกรคนอื่นๆ ด้วย เกษตรกรบางคนเอาต้นผักหรือผักต่างๆ เช่น ผักหวานป่า ผักเหรียงนํามาแลกแกง แลกปุ๋ย จําหน่ายให้กับลูกค้า จํานวน 30-50 ราย/วัน/คน เฉลี่ย 30-50 บาท/รายได้ กําไรจากการขาย สินค้าจํานวน 3,000 บาท/เดือน#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
6/2/2023
ภาคใต้
ตรัง
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดตรัง
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230206111459464
null