NewsTitle
stringlengths
11
31.5k
Detail
stringlengths
9
78.4k
NewsDate
stringlengths
3
5.77k
Region
stringclasses
48 values
Province
stringclasses
99 values
Department
stringclasses
211 values
Link_News
stringlengths
3
903
v
stringclasses
812 values
ปฏิบัติอากาศยานปีกหมุน KA-32 ดับไฟป่าพื้นที่เขาหลวง จังหวัดนครสวรรค์
วันที่ 10 มีนาคม 2566 สํานักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดนครสวรรค์ สั่งปฏิบัติอากาศยานปีกหมุน KA-32 สํารวจติดตามสถานการณ์ไฟไหม้ป่า พร้อมใช้น้ําดับไฟป่าบริเวณเขาสูงชัน ในพื้นที่เขาหลวง จังหวัดนครสวรรค์ หลังเกิดไฟป่าในพื้นที่ โดยวันนี้ขึ้นบินเป็นวันที่ 2สืบเนื่องจากวันที่ 6 มีนาคม 2566 ได้เกิดไฟป่าในเขตพื้นที่วนอุทยานเขาหลวงและสถานการณ์มีแนวโน้มรุนแรงขึ้น เนื่องจากไฟป่าได้กระจายเป็นวงกว้างและเกิดขึ้นพร้อมกันหลายจุด โดยมีค่าจุดความร้อน(Hot Spot) ค่อนข้างสูง ซึ่งส่วนมากอยู่ในพื้นที่ป่าบนเขาหลวง ซึ่งมีลักษณะเป็นเขาสูงชัน จึงทําให้เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการดับไฟป่า ไม่สามารถเข้าตรวจสอบ และระงับเหตุได้ ส่งผลให้จังหวัดนครสวรรค์มีค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM2.5) มีปริมาณสูง ซึ่งส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนในพื้นที่เป็นอย่างมาก และเมื่อวัน 9 มีนาคม 2566 ได้รับการสนับสนุนจาก ปฏิบัติอากาศยานปีกหมุน KA-32 จากกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จํานวน 1 ลํา เพื่อปฏิบัติภารกิจดับไฟป่าและมีการปล่อยรถพ่นละอองน้ํา เพื่อลดหมอกควันและฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5ซึ่งวันนี้จะปฏิบัติงานควบคู่ระหว่างภาคพื้นดินและอากาศยาน โดยวันนี้หมอกควันไฟได้ลดจํานวนลงเป็นอย่างมาก ทําให้การปฏิบัติหน้าที่ทางอากาศยานเป็นไปอย่างราบรื่นและไฟป่าเริ่มลดลงอย่างเห็นได้ชัดแต่ยังคงมีกลุ่มควันเล็กน้อยบนยอดเขา และต่อไปเจ้าหน้าที่จะออกปฏิบัติหน้าที่ภาคพื้นดินเพื่อทําแนวกันกันไฟและระงับไฟป่าต่อไป คาดว่าในวันนี้จะระงับไฟป่าบนเขาหลวงได้หมด#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILANDสํานักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนครสวรรค์
10/3/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
นครสวรรค์
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนครสวรรค์
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230310151609942
null
กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดแพร่ส่งหนังสือด่วนถึงทุกส่วนราชการ อปท. พร้อมรับกับสภาวะอากาศในระยะนี้
นายธาตรี บุญมาก รองผู้ว่าราชการจังหวัด รักษาราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ในฐานะผู้อํานวยการจังหวัด สั่งให้ส่วนราชการ หน่วยงานต่างๆที่เกี่ยวข้อง รวมถึง องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่จังหวัดแพร่ เตรียมพร้อมรับมือกับสภาวะอากาศในระยะนี้ไปจนถึงวันที่ 14 มีนาคม 2566ทั้งนี้ กองอํานวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง แจ้งว่าได้ติดตามสภาวะอากาศ และพิจารณาปัจจัยเสี่ยง กอปรกับกรมอุดนิยมวิทยาได้มีประกาศฉบับที่ 1 (71/2566) ลงวันที่ 9 มีนาคม 2566 เวลา 05.00 น. แจ้งว่า บริเวณความกดอากาศสูงกําลังปานกลางจากสาธารณรัฐประชาชนจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ ในขณะที่ประเทศไทยตอนบนมีอากาศร้อน ประกอบกับมีคลื่นกระแสลมฝ่ายตะวันตกเคลื่อนผ่านภาคเหนือ ทําให้มีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น โดยมีลักษณะของพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางพื้นที่ บริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลางรวมทั้งกรุงเทพมหานคร และปริมณฑลโดยจังหวัดแพร่ อยู่ในพื้นที่เฝ้าระวังสถานการณ์ฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรง ในช่วงระหว่างวันที่ 12-14 มีนาคม 2566 เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมรับสถานการณ์ดังกล่าว จึงขอให้กองอํานวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยอําเภอ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดําเนินการ ให้แจ้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หน่วยงานที่เกี่ยวข้องและประชาชน ให้ติดตามข้อมูลสภาวะอากาศข่าวสารจากทางราชการ ประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้ให้กับประชาชน ระวังอันตรายจากฝนฟ้าคะนองลมกระโชกแรง โดยหลีกเสี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้ง ใต้ตันไม้ใหญ่ สิ่งก่อสร้างและป้ายโฆษณาที่ไม่แข็งแรง สําหรับเกษตรกรควรป้องกันผลิตผลทางการเกษตรที่อาจได้รับความเสียหายด้วย หากมีแนวโน้มจะเกิดสถานการณ์รุนแรงในพื้นที่ ให้ถือปฏิบัติตามข้อสั่งการและมาตรการตามหนังสือกองอํานวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดแพร่ ด่วนที่สุด ที่ พร (กปภจ) 0021.2/ว 18 ลงวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2566 พร้อมทั้งรายงานสถานการณ์ และการให้ความช่วยเหลือเบื้องตันให้กองอํานวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดทราบทันที ทางโทรศัพท์หมายเลข 0 5453 3680 โทรสาร 0 5452 2513 #สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
10/3/2023
ภาคเหนือ
แพร่
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดแพร่
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230310154938959
null
หัวหน้าวนอุทยานพนมสวาย เผยมาตรการป้องกันไฟป่าของวนอุทยาน ให้ประชาชาชนในพื้นที่รอบแนวเขตมีส่วนร่วมทำแนวกันไฟ ดูแลสอดส่องวัตถุก่อไฟ ไม่เผาป่า และรักษาผืนป่า
นางสาวทัตพิชา ประไวย์ หัวหน้าวนอุทยานพนมสวาย อําเภอเมืองสุรินทร์ จังหวัดสุรินทร์ กล่าวถึงแนวทางและมาตรการการป้องกันไฟป่าของวนอุทยานพนมสวายว่า วนอุทยานแห่งนี้ฯ มีพื้นที่ 2,160 ไร่ ที่ผ่านมายังไม่พบการเกิดไฟป่า แต่ทางวนอุทยานก็ไม่ได้วางใจ ตอนนี้ได้ทําแนวกันไฟ และประชาสัมพันธ์ให้กับชาวบ้านที่อยู่โดยรอบแนวเขต ให้ช่วยกันดูแลเรื่องวัตถุก่อไฟ และการไม่เผาป่า การช่วยกันรักษาป่า มีการจัดเจ้าหน้าที่เดินลาดตระเวน ให้ประชาชนเป็นหูเป็นตาร่วมป้องกันนอกจากนี้ หัวหน้าวนอุทยานพนมสวาย ยังฝากถึงประชาชนให้ช่วยกันดูแลรักษาผืนป่า เมื่อเรามีป่าอยู่ในพื้นที่ของเราแล้ว เป็นป่าอนุรักษ์ที่เราอยากรักษา อยากพี่น้องประชาชนทั้งในชุมชนท้องถิ่น หรือต่างถิ่น ได้ตระหนักในคุณค่าของผืนป่า ให้ช่วยกันรักษาและดูแลธรรมชาติของเราให้ยั่งยืนต่อไป.#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
11/3/2023
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
สุรินทร์
สวท.สุรินทร์
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230311075119113
null
อุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม จังหวัดตรัง กำหนดพื้นที่เป้าหมายในการเฝ้าระวังปัญหาไฟป่า พร้อมจัดกำลังลาดตระเวนและเฝ้าระวังปัญหาไฟป่าในพื้นที่อุทยาน
นายพริษฐ์ นราสฤษฏ์กุล หัวหน้าอุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม จังหวัดตรัง เปิดเผยว่า อุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม ได้เผ้าระวังพื้นที่เสี่ยงต่อการเกิดไฟป่าอย่างต่อเนื่อง มีการวางกําลังลาดตระเวนและเฝ้าระวังปัญหาไฟป่าในพื้นที่อุทยาน ซึ่งอุทยานแห่งชาติหาดเจ้าใหม่ได้กําหนดพื้นที่เป้าหมายที่จะต้องเฝ้าระวังปัญหาไฟป่า โดยพิจารณาจากพื้นที่ที่เคยเกิดปัญหาไฟป่าในอดีต ทั้งนี้ อุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม ได้จัดเวทีชุมชนเพื่อสร้างการมีส่วนร่วมจากภาคประชาชนอย่างต่อเนื่อง พร้อมบูรณาการการทํางานร่วมกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและประชาชนในพื้นที่ ร่วมกันเฝ้าระวังปัญหาไฟป่าโดยเฉพาะพื้นที่ป่าโปร่งที่มีโอกาสเกิดไฟป่าสูง โดยล่าสุดเกิดปัญหาไฟป่าบริเวณควนสามบาตร ซึ่งได้มีผู้นําชุมชนและประชาชนในพื้นที่ได้ร่วมกันดับไฟป่าที่เกิดขึ้น ซึ่งเป็นเรื่องที่ดีที่ประชาชนได้เข้ามามีส่วนร่วมในการแก้ปัญหาดังกล่าว ร่วมกันเป็นหูเป็นตาให้กับทางราชการ #สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
11/3/2023
ภาคใต้
ตรัง
สวท.ตรัง
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230311093950122
null
มูลนิธิราชประชานุเคราะห์ฯ ประจำจังหวัดนครสวรรค์ มอบสิ่งของในการดำรงชีพเบื้องต้น แก่ผู้ประสบอัคคีภัย อำเภอตากฟ้า จังหวัดนครสวรรค์
วันนี้ 14 มีนาคม 2566 ที่บ้านเลขที่ 142 หมู่ที่ 11 ตําบลอุดมธัญญา อําเภอตากฟ้า จังหวัดนครสวรรค์ นายชุมพิชญ์ เดชะรัฐ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครสวรรค์ เป็นประธานมอบสิ่งของในการดํารงชีพเบื้องต้น เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบอัคคีภัย ของมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ ประจําจังหวัดนครสวรรค์ พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการ นายกองค์การบริหารส่วนตําบลอุดมธัญญา นายอําเภอ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง มอบสิ่งของในการดํารงชีพเบื้องต้นให้กับนางสาวสุรีย์ สีจุ้ยสืบเนื่องจากวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2566 เวลา 16.00 น. เกิดเหตุอัคคีภัยที่บ้านเลขที่ 142 หมู่ที่ 11 ตําบลอุดมธัญญา อําเภอตากฟ้า จังหวัดนครสวรรค์ ของนางสาวสุรีย์ สีจุ้ย โดยได้รับความเสียหายทั้งหลัง เนื่องจากเกิดไฟฟ้าลัดวงจรบริเวณคัทเอาท์ไฟฟ้า ทางสํานักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ในฐานะกรรมการและผู้ช่วยเลขานุการ ฝ่ายบรรเทาทุกข์ จึงได้จัดซื้อสิ่งของในการดํารงชีพเบื้องต้น ตามหลักเกณฑ์ในการพิจารณาการจ่ายเงินช่วยเหลือประชาชน ผู้ประสบอัคคีภัยกรณีต่างๆ ของมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ และได้รับการช่วยจากหลายๆหน่วยงาน อาทิ สํานักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดนครสวรรค์ นายอําเภอ และองค์การบริหารส่วนตําบลอุดมธัญญา เป็นค่าซ่อมแซมที่อยู่อาศัยและสิ่งปลูกสร้างและเพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้นต่อไปสํานักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนครสวรรค์#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
14/3/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
นครสวรรค์
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนครสวรรค์
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230314150846922
null
จังหวัดสมุทรสงคราม จัดประชุมคณะทำงานออกแบบการฝึกโครงการฝึกการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย “อัคคีภัยบนเรือบรรทุกน้ำมันและคลังน้ำมัน”
วันนี้(14 มีนาคม 2566)ที่ห้องประชุมชั้น 3 ศาลากลางจังหวัด นายศิริศักดิ์ ศิริมังคะลา รองผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสงคราม เป็นประธานประชุมคณะทํางานออกแบบการฝึกโครงการฝึกการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสมุทรสงคราม หัวข้อ “อัคคีภัยบนเรือบรรทุกน้ํามันและคลังน้ํามัน” โดยมีหัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการและหน่วยงาน องค์กรที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุมเพื่อร่วมหารือและรับทราบแนวทางการฝึก,ร่างสถานการณ์สมมุติการฝึกฯ ลําดับขั้นตอน และวิธีการปฏิบัติ ในการบูรณาการฝึกร่วมกันทั้งนี้ สํานักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสมุทรสงคราม ได้ทําการร่างสถานการณ์สมมติว่า ได้เกิดเหตุเรือประมงบรรทุกแกลลอนน้ํามันเบนชินมาจํานวน 3 ถัง เพื่อออกทะเลหาปลา ขณะแล่นในแม่น้ําแม่กลอง ได้มีเรือนักท่องเที่ยวเหมาลํา แล่นกลับรีสอร์ทที่พัก หลังจากเที่ยวชมทะเลตอนหอยหลอด เมื่อแล่นมาถึงในแม่น้ําแม่กลอง บริเวณท่าเรือคลังน้ํามันเชลล์ คนขับเรือประมงสังเกตเห็นเรือนักท่องเที่ยวเหมาลําเสียหลักแล่นสวนมาเฉี่ยวชนเรือประมง ทําให้เรือประมงหักหลบจึงได้เสียหลักพุ่งไปชนเรือบรรทุกน้ํามันดีเซลความจุ 3,000 ลูกบาศก์เมตร ขณะจอดเทียบท่เทียบเรือขนถ่ายน้ํามันดีเซลขึ้นฝั่งคลังน้ํามันเชลล์สมุทรสงคราม ทําให้ตัวเรือประมงกระแทกเข้ากับเรือบรรทุกน้ํามันเกิดประกายไฟเพลิงลุกไหม้เรือประมงและเกิดระเบิดขึ้น เพลิงลุกไหม้ลุกลามไปยังเรือบรรทุกน้ํามันดีเซลเกิดน้ํามันดีเซลรั่วไหลลงในแม่น้ําแม่กลอง จํานวน 30 ลูกบาศก์เมตร ในขณะเดียวกันเรือประมงล่มแกลลอนน้ํามันเบนชิน จํานวน 30 ถังลอยกระจัดกระจายไปบนพื้นน้ําบางส่วนลุกติดไฟในน้ําเกิดเสียงระเบิดขึ้นเป็นระยะ ๆ ลุกลามไปติดบ้านเรือนประชาชนบริเวณริมแม่น้ําแม่กลอง รวมทั้ง เกิดเพลิงไหม้คราบน้ํามันที่ รั่วไหลอยู่เต็มพื้นน้ําเป็นระยะทาง 300 เมตร และข้ามฝั่งไปยังตําบลแหลมใหญ่ อําเภอเมืองสมุทรสงคราม ส่งผลกระทบต่อร่างกาย ชีวิต และทรัพย์สินของประชาชนเป็นวงกว้างในพื้นที่ ตําบลบางจะเกร็ง หมู่ที่ 1,2,5,8 และตําบลแหลมใหญ่ หมู่ที่ 8 รวมทั้ง บริเวณชายฝั่งของคลังน้ํามันเชลล์ คลังน้ํามันพีที และคลังก๊าช โดยกําหนดฝึกซ้อมในปลายเดือนมีนาคม 2566 ณ บริเวณคลังน้ํามันเซลล์ สมุทรสงคราม ตําบลบางจะเกร็ง อําเภอเมืองสมุทรสงคราม อย่างไรก็ตาม จะมีการฝึกบนโต๊ะ Table Top Exercise สถานการณ์การเกิด“อัคคีภัยบนเรือบรรทุกน้ํามันและคลังน้ํามัน”ที่ห้องประชุมศาลากลางจังหวัดสมุทรสงคราม เพื่อเป็นการฝึกซ้อมแผนมุ่งเน้น การระบุจุดแข็ง จุดอ่อน รวมทั้งการทําความเข้าใจแผน นโยบาย ข้อตกลงความร่วมมือ และขั้นตอนการ ปฏิบัติที่ใช้อยู่ของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยใช้การอภิปรายกลุ่มแบบไม่เป็นทางการบนพื้นฐานของ สถานการณ์สมมติที่กํา หนดขึ้นรุ่งนภา/ข่าว/จิตติพัฒน์/ภาพ/ธิติมา/เรียบเรียงทีมงานสํานักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสมุทรสงคราม14 มีนาคม 2566#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
14/3/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
สมุทรสงคราม
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสมุทรสงคราม
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230314153143945
null
ผู้ว่าฯนนท์ ห่วงประชาชนเผชิญน้ำท่วมถนนหากฝนตกหนัก เร่งสำรวจคลองสายหลักที่เป็นจุดเสี่ยงน้ำท่วมถนนแก้ปัญหาก่อนเข้าหน้าฝน
วันนี้ (14 มี.ค. 2566) เวลา 09.30 น. นายสุธี ทองแย้ม ผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรี พร้อมด้วยนางสาวอโรชา นันทมนตรี รองผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรี หัวหน้าสํานักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดนนทบุรี นายกเทศมนตรีนครปากเกร็ด ปลัดเทศบาลนครปากเกร็ด ผู้แทนจากอําเภอปากเกร็ด ลงเรือที่ศูนย์วิชาการเอมพันธ์ ต.บ้านใหม่ อ.ปากเกร็ด สํารวจสภาพพื้นที่และประสิทธิภาพการระบายน้ําคลองสายหลักในเขตอําเภอปากเกร็ด คือ คลองบ้านใหม่ โดยสํารวจ สภาพคลองและประสิทธิภาพการระบายน้ํา ของสถานีสูบน้ําปากคลองบ้านใหม่ ซึ่งมีเครื่องสูบน้ําขนาด 3 ลบ.ม.จํานวน 6 เครื่อง ช่วยระบายน้ําออกแม่น้ําเจ้าพระยา คลองแยกคลองบ้านเก่า และคลองบ้านเก่า จากนั้นได้ลงเดินทางเท้าสํารวจบริเวณสถานีสูบน้ําหน้าสถานีตํารวจภูธรปากเกร็ด ซึ่งเป็นพื้นที่ต่ําและลาดเอียงทําให้เมื่อเกิดฝนตกหนักเกิน 100 มิลลิเมตรต่อชั่วโมง จะเกิดปัญหาน้ําท่วมขังเพราะเป็นจุดรับน้ําจากหมู่บ้านมิตรประชาและพื้นที่ใกล้เคียง ปัจจุบันเทศบาลนครปากเกร็ดได้สร้างสถานีสูบน้ําและติดตั้งเครื่องสูบน้ําขนาด 3 ลบ.ม. จํานวน 2 เครื่อง เพื่อช่วยดึงน้ําลงคลองแยกคลองบ้านเก่า ทําให้ปัญหาน้ําท่วมขังลดลงภายในระยะเวลา 30 นาที ณ จุดนี้ผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรีได้สั่งการให้เทศบาลนครปากเกร็ด คํานวณระดับน้ําภายในท่อเพื่อนําไปใช้ในการกําหนดขนาดของเครื่องสูบน้ําให้เหมาะสม และเมื่อเดินเท้าสํารวจคลองแยกคลองบ้านเก่าบริเวณหลังร้านข้าวหมกไก่สยาม ซึ่งเทศบาลนครปากเกร็ดได้ก่อสร้างเขื่อน คสล.ระยะทางไปบรรจบคลองบ้านเก่าที่บริเวณหลังห้างสรรพสินค้าโรบินสันศรีสมาน ได้สั่งการให้เทศบาลนครปากเกร็ดหาแนวทางในการผันน้ําในคลองแยกคลองบ้านเก่าในช่วงปัจจุบันไม่ให้มีสภาพเน่าเสีย และแก้ไขปัญหาน้ําจากคลองแยกคลองบ้านเก่าไหลมาชนกับน้ําจากคลองบ้านเก่าทําให้น้ําไหลระบายได้ล่าช้าโดยการใช้รถแบ็คโฮลอกตะกอนดินในคลองไม่ให้ลึกถึงชั้นดิน ต่อจากนั้นผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรีและคณะได้ลงเรือใต้ทางด่วนสายบางปะอิน - ปากเกร็ด ต.คลองเกลือ ฝั่งเมืองทองธานี เพื่อสํารวจสภาพคลองบางพูด และประสิทธิภาพการระบายน้ํา พบว่าในบางจุดมีเศษขยะที่ประชาชนนํามาทิ้งลงคลอง จึงได้กําชับให้หน่วยรับผิดชอบตรวจตราและประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนงดทิ้งขยะลงคลอง พร้อมทั้งได้กําหนดแนวทางให้เทศบาลนครปากเกร็ดประสานเมืองทองธานีในการผันน้ําออกจากประตูระบายน้ําไม่ให้น้ําไหลมาปะทะกันส่งผลต่อประสิทธิภาพการระบายน้ําด้วย#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
14/3/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
นนทบุรี
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนนทบุรี
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230314185549025
null
มูลนิธิราชประชานุเคราะห์ พิธีมอบเงินและสิ่งของพระราชทานแก่ครอบครัวผู้ประสบอัคคีภัยในพื้นที่ จ.ศรีสะเกษ
มูลนิธิราชประชานุเคราะห์ในพระบรมราชูปถัมภ์จัดพิธีมอบเงินและสิ่งของพระราชทานแก่ครอบครัวผู้ประสบอัคคีภัยในพื้นที่อําเภอขุขันธ์ จังหวัดศรีสะเกษวันที่ (14 มี.ค. 66) ณ บริเวณบ้านเลขที่ 145 บ้านแทรง หมู่ที่ 1 ตําบลห้วยสําราญ อําเภอขุขันธ์ จังหวัดศรีสะเกษ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ให้มูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ เชิญเงินและสิ่งของพระราชทานไปมอบให้แก่ครอบครัวผู้ประสบอัคคีภัย เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนและเป็นขวัญกําลังใจที่บ้านเรือนเสียหายจากเพลิงไหม้ทั้งหลัง โดยมี นายสํารวย เกษกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ ในฐานะประธานกรรมการมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ประจําจังหวัดศรีสะเกษ เป็นประธานพิธีมอบเงินและสิ่งของพระราชทานแก่ นายเวช พันธ์ทอง อายุ 57 ปี เป็นเจ้าบ้าน ปัจจุบันไม่ได้ประกอบอาชีพ รายได้ต่อเดือน ประมาณ 1,000 บาท (เบี้ยคนพิการ) และได้รับสิทธิบัตรสวัสดิการแห่งรัฐโดยเหตุเกิดเมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2566 เวลาประมาณ 17.30 น. ได้เกิดเหตุอัคคีภัย บริเวณบ้านเลขที่ 144 หมู่ที่ 1 บ้านแทรง ตําบลห้วยสําราญ อําเภอขุขันธ์ ของนายเวช พันธ์ทอง ได้รับความเสียหายทั้งหลังพร้อมทรัพย์สิน มูลค่าความเสียหายประมาณ 40,000 บาท ซึ่งการได้รับเงินและสิ่งของพระราชทานในครั้งนี้ นําความซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้นอย่างหาที่สุดมิได้แก่ทั้งสองครอบครัวเป็นอย่างยิ่ง โอกาสนี้ หน่วยงานราชการและภาคเอกชน อาทิ สํานักงานเหล่ากาชาดจังหวัดศรีสะเกษ ชมรมแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดศรีสะเกษ สํานักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดศรีสะเกษ โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 29 จังหวัดศรีสะเกษ สํานักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดศรีสะเกษ ชมรมนุ่งผ้าไทยใส่บาตร ที่ว่าการอําเภอขุขันธ์ ตลอดจนกํานัน ผู้ใหญ่บ้าน ได้ร่วมมอบเงินและเครื่องอุปโภคบริโภค เพื่อช่วยบํารุงขวัญกําลังใจแก่ครอบครัวผู้ประสบอัคคีภัยในครั้งนี้ด้วย#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
14/3/2023
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ศรีสะเกษ
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดศรีสะเกษ
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230314191917037
null
จังหวัดลพบุรี รับมอบถังน้ำขนาด 1,000 ลิตร จำนวน 100 ถัง จากภาคเอกชน ส่งต่อให้พี่น้องประชาชนในพื้นที่ประสบภัยแล้ง
วันที่ 15 มีนาคม 2566 เวลา 10.00 น. ที่หอประชุมเทศบาลเมืองเขาสามยอด ตําบลเขาสามยอด อําเภอเมืองลพบุรี จังหวัดลพบุรี นายอําพล อังคภากรณ์กุล ผู้ว่าราชการจังหวัดลพบุรี เป็นประธานรับมอบถังน้ํา ขนาด 1,000 ลิตร จํานวน 100 ถัง เป็นเงิน 500,000 บาท เพื่อส่งต่อให้พี่น้องประชาชนในพื้นที่ประสบภัยแล้งในพื้นที่จังหวัดลพบุรี นําโดย นายวิรัช และ นางพรพิศ อาชวกุลเทพ กรรมการผู้จัดการบริษัท พรหมสิน พี.เอส.ซี.จํากัด เป็นผู้มอบ ในการนี้ นายวิบูลย์ สงวนพงศ์ อดีตปลัดกระทรวงมหาดไทย นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อดีตปลัดกระทรวงมหาดไทย นายอาทิตย์ บุญญะโสภัต อดีตอธิบดีกรมการปกครอง นายบุญธรรม เลิศสุขีเกษม อธิบดีกรมป้องกันบรรเทาสาธารณภัย คุณสมาน คุณเพียงเพ็ญ คุณากรไพบูลย์ศิริ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เกรียงถาวร คอนเทนเนอร์ จํากัด นายภานุ แย้มศรี อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดลพบุรี นายเรวัต ประสงค์ อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดอ่างทอง พร้อมด้วย หัวหน้าส่วนราชการ นายอําเภอ ทั้ง 11 อําเภอและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมในครั้งนี้ โดยได้จัดพิธีสงฆ์เพื่ออุทิศส่วนกุศลให้แก่บรรพชน ผู้มีคุณูปการต่อจังหวัดลพบุรี ซึ่งได้รับพระเมตตาจาก พระภาวนาวชิรมงคล วิ. รองเจ้าคณะจังหวัดลพบุรี เจ้าอาวาสวัดป่าธรรมโสภณ เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ สําหรับถังน้ํา ขนาด 1,000 ลิตร ได้ส่งมอบในพื้นที่ 11 อําเภอ ประกอบด้วย อําเภอเมืองลพบุรี จํานวน 12 ถัง อําเภอชัยบาดาล จํานวน 11 ถัง อําเภอบ้านหมี่ จํานวน 7 ถัง อําเภอท่าวุ้ง จํานวน 6 ถัง อําเภอโคกสําโรง จํานวน 8 ถัง อําเภอพัฒนานิคม จํานวน 16 ถัง อําเภอสนะโบสถ์ จํานวน 7 ถัง อําเภอท่าหลวง จํานวน 7 ถัง อําเภอหนองม่วง จํานวน 8 ถัง อําเภอโคกเจริญ จํานวน 7 ถัง และอําเภอลําสนธิ จํานวน 11 ถัง รวมทั้งสิ้น 100 ถัง นายอําพล อังคภากรณ์กุล ผู้ว่าราชการจังหวัดลพบุรี กล่าวว่า จากสถานการณ์ช่วงฤดูแล้งในปีที่ผ่านมา จังหวัดลพบุรีได้ประสบปัญหาการขาดแคลนน้ําในการอุปโภค บริโภค ซึ่งหน่วยงานต่างๆ ได้บูรณาการช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ และจังหวัดลพบุรีได้ปฏิบัติตามนโยบายของรัฐบาลอย่างเคร่งครัดในการบริหารจัดการน้ํา ประชาสัมพันธ์ให้ความรู้แก่เกษตรกรที่มีการปลูกพืชระยะยาว การปลูกข้าวนาปรังและให้เก็บกักน้ําไว้ใช้เพื่อการอุปโภคบริโภคเป็น อันดับแรก แต่ยังมีหลายหมู่บ้านที่ขาดแคลนภาชนะรองรับน้ํา ซึ่งผมเชื่อถังน้ํา ขนาด 1,000 ลิตร ที่ท่านนํามามอบให้แก่ผู้ยากไร้และผู้ด้อยโอกาสทางสังคม ตามโครงการ "สุขใจผู้ให้ ประโยชน์ยิ่งใหญ่ ผู้รับ" ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชนที่ได้รับได้นําไปใช้ในการแก้ไขปัญหาการขาดแคลนภาชนะเก็บกักน้ําไว้ใช้อุปโภค บริโภค และเป็นการสร้างความเข้มแข็ง ป้องกันการขาดแคลนน้ําเพื่อให้เป็นไปตามเจตนารมณ์ ในช่วงภัยแล้งที่กําลังจะถึงนี้ ข่าว : สํานักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดลพบุรี#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
15/3/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
ลพบุรี
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดลพบุรี
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230315145340288
null
ปภ.สุราษฎร์ธานี บูรณาการหน่วยงานภาครัฐและภาคีเครือข่าย จัดงาน "ลดความเสี่ยงเดิม ป้องกันความเสี่ยงใหม่ สู่สังคมเท่าทันภัยด้วยแผน ปภ.จังหวัด"
วันนี้ (15 มี.ค.66) นายวิชวุทย์ จินโต ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี มอบหมายให้นายนันธวัช เจริญวรรณ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี เป็นประธานเปิดงานงาน "ลดความเสี่ยงเดิม ป้องกันความเสี่ยงใหม่ สู่สังคมเท่าทันภัยด้วยแผน ปภ.จังหวัด" พร้อมมอบนโยบายในการขับเคลื่อนแผนการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสุราษฎร์ธานี พ.ศ.2564 – 2570 ณ อาคารวิทยพัฒน์ คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี อําเภอเมืองฯ จังหวัดสุราษฎร์ธานี ในการนี้ นายบุญเรือง หลงละลวด หัวหน้าสํานักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้กล่าวรายงานและวัตถุประสงค์ของการจัดงานดังกล่าว โดยมีผู้เข้าร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ จํานวน 250 คน ประกอบด้วย คณะกรรมการจัดทําแผนการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสุราษฎร์ธานี หัวหน้าส่วนราชการ นายอําเภอ ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น สื่อมวลชน คณาจารย์ และนักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี ตลอดจนภาคีเครือข่ายที่เกี่ยวข้อง หัวหน้าสํานักงาน ปภ.จังหวัดสุราษฎร์ธานี กล่าวว่า การจัดงานครั้งนี้เพื่อสื่อสารและสร้างองค์ความรู้พร้อมทั้งความเข้าใจเกี่ยวกับแผนการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด พ.ศ.2564 – 2570 ให้กับหน่วยงานภาคีเครือข่ายที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนเพื่อให้หน่วยงานทุกภาคส่วน เป็นหุ้นส่วนร่วมกันปฏิบัติการตามบทบาทหน้าที่ภายใต้แผนการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด อย่างเป็นระบบ และเป็นมาตรฐานเดียวกันทั้งจังหวัด#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
15/3/2023
ภาคใต้
สุราษฎร์ธานี
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสุราษฎร์ธานี
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230315160928321
null
ศูนย์บัญชาการเหตุการณ์จังหวัดสตูล เตรียมพร้อมป้องกันและแก้ปัญหาภัยแล้งให้กับประชาชน หลังมีพื้นที่ต้องเฝ้าระวังประสบภัยแล้งซ้ำซาก 5 อำเภอ 9 ตำบล 52 หมู่บ้าน
วันนี้ (15 มี.ค.66) เวลา 13.30 น. นายชาตรี ณ ถลาง รองผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล เป็นประธานประชุมศูนย์บัญชาการเหตุการณ์จังหวัดสตูล เพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยแล้ง ปี 2566 ณ อาคารเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา ศาลากลางจังหวัดสตูล พร้อมกล่าวว่า ขอให้ทุกหน่วยที่เกี่ยวข้องดําเนินการในส่วนภาระหน้าที่ที่รับผิดชอบอย่างเคร่งครัด ทั้งการบริหารจัดสรรการใช้น้ําให้ครอบคลุมการอุปโภคบริโภค การเลี้ยงสัตว์และภาคการเกษตร เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชนได้ทันที อีกทั้ง ในช่วงเดือนนี้จนถึงเดือนพฤษภาคมของทุกปี จังหวัดสตูลมักจะประสบปัญหาภัยแล้งส่วนหนึ่งจากฝนทิ้งช่วงติดต่อกันเป็นเวลานาน โดยในปีนี้ (2566) จังหวัดสตูลคาดการณ์มีพื้นที่เฝ้าระวังภัยแล้งซ้ําซาก รวม 5 อําเภอ 9 ตําบล 52 หมู่บ้าน จากทั้งหมด 7 อําเภอ เบื้องต้นในส่วนของมาตรการช่วยเหลือให้จัดสรรรถบรรทุกน้ําเข้าให้การช่วยเหลือในพื้นที่ประสบภัย รวมถึงการขอรับสนับสนุนน้ําประปา จากการประปาส่วนภูมิภาค สาขาสตูล ครอบคลุมการดูแลพื้นที่อําเภอเมือง อําเภอควนโดนและอําเภอควนกาหลง รวมถึงการประปาส่วนภูมิภาค สาขาละงู มีพื้นที่ดูแลอําเภอละงู และอําเภอทุ่งหว้า ขณะที่ปริมาณน้ําฝนพบว่าในเดือนมีนาคม 2566 นี้ มีฝนตกลงมาในพื้นที่เพียงแค่ 1 วัน (1 มี.ค.66) และคาดว่าจะไม่มีฝนตกเพิ่ม ทั้งนี้ หากประชาชนในพื้นที่ใดประสบปัญหาภัยแล้งไม่มีน้ําใช้ สามารถขอความช่วยเหลือได้ที่ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นใกล้บ้าน หรือ สํานักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสตูล โทรศัพท์ 0 7472 2121-2 #สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
15/3/2023
ภาคใต้
สตูล
สวท.สตูล
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230315174839383
null
คณะครู นักเรียน โรงเรียนบ้านสองแพรก อำเภอกระบุรี จังหวัดระนอง ดีใจที่นายกรัฐมนตรี มีกำหนดลงพื้นที่ติดตามการแก้ไขปัญหาอุทกภัยในพื้นที่ 16 มีนาคม 2566
นางเบญจพร ช่างตรึก ผู้อํานวยการโรงเรียนบ้านสองแพรก ตําบลลําเลียง อําเภอกระบุรี จังหวัดระนอง ระบุว่า ทางคณะครูและนักเรียน รู้สึกดีใจที่พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มีกําหนดลงพื้นที่ติดตามการแก้ไขปัญหาอุทกภัยที่บ้านสองแพรก ในช่วงบ่ายวันที่ 16 มีนาคม 2566 ณ โรงเรียนบ้านสองแพรก เพราะจะส่งผลดีต่อการแก้ไขปัญหาอุทกภัยดังกล่าวได้อย่างยั่งยืนผู้อํานวยการโรงเรียนบ้านสองแพรก บอกด้วยว่า ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา กระแสน้ําป่าได้ไหลบ่าเข้าท่วมโรงเรียนและชุมชน ทําให้ทรัพย์สินได้รับความเสียหายจํานวนมาก โดยเฉพาะอุปกรณ์ สื่อการเรียนการสอนนักเรียน บ้านพักครู รวมทั้งกําแพงโรงเรียนถูกกระแสน้ําพัดพังเสียหาย ที่ผ่านมาทางโรงเรียนแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าโดยการย้ายอุปกรณ์ ห้องเรียนไปอยู่ชั้นบนของอาคารเรียน แต่ก็มีข้อจํากัดทําให้ห้องเรียนไม่พอ เนื่องจากโรงเรียนมีนักเรียนเกือบ 700 คน ตั้งแต่ระดับชั้นอนุบาล – ชั้นมัธยมปีที่ 3 นอกจากนี้ ทางโรงเรียนต้องจัดหางบประมาณมาซ่อมแซมอาคารเรียน และทรัพย์สินที่ได้รับความเสียหาย ทําให้เสียโอกาสในการนํางบประมาณไปพัฒนาด้านการศึกษาของนักเรียนด้วย ซึ่งการที่นายกรัฐมนตรีลงมาติดตามการแก้ไขปัญหาในพื้นที่ด้วยตัวท่านเองถือเป็นเรื่องที่น่ายินดี จะทําให้การแก้ไขปัญหาอุกภัยในพื้นที่ได้อย่างยั่งยืนในอนาคต#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
15/3/2023
ภาคใต้
ระนอง
สวท.ระนอง
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230315171129357
null
ประชาชนบ้านสองแพรก ตำบลลำเลียง อำเภอกระบุรี จังหวัดระนอง รู้สึกดีใจที่นายกรัฐมนตรี มีกำหนดลงพื้นที่ติดตามการแก้ไขปัญหาอุทกภัย
หลังจากที่ทราบข่าวว่า พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มีกําหนดเดินทางลงพื้นที่ เพื่อรับฟังและติดตามการแก้ไขปัญหาอุทกภัยที่บ้านสองแพรก ตําบลลําเลียง อําเภอกระบุรี จังหวัดระนอง ในช่วงบ่ายวันที่ 16 มีนาคม 2566 ทําให้ประชาชนชาวบ้านสองแพรกและพื้นที่ใกล้เคียงต่างรู้สึกดีใจที่นายกรัฐมนตรีลงพื้นที่รับฟังและติดตามการแก้ไขปัญหาด้วยตัวเอง และหวังว่าจะสามารถแก้ไขปัญหาดังกล่าวได้อย่างยั่งยืน ซึ่งเมื่อปี 2565 ที่ผ่านมาบ้านสองแพรกและพื้นที่ใกล้เคียง ได้เกิดน้ําป่าไหลหลาก น้ําท่วมฉับพลันถึง 2 ครั้ง สร้างความเสียหายแก่ทรัพย์สินจํานวนมาก และมีผู้เสียชีวิต 1 รายด้วยนางจันทรา ไชยัญโต เจ้าของร้านขายของชําบ้านสองแพรก บอกว่า จากเหตุการณ์อุทกภัยเมื่อปี 2565 เกิดขึ้น 2 ครั้ง ทําให้ตู้เย็น ตู้แช่ และสินค้าในร้าน รวมทั้งสิ่งของเครื่องใช้ต่าง ๆ ได้รับความเสียหายคิดเป็นมูลค่ากว่า 2 แสนบาท เนื่องจากน้ําป่าที่สูงเกือบสองเมตรไหลบ่าจากคลองสองแพรกที่อยู่หลังร้าน ทําให้เก็บข้าวของไม่ทัน จมน้ําเสียหาย แต่เมื่อทราบข่าวว่านายกรัฐมนตรีจะลงพื้นที่มาแก้ไขปัญหาด้วยตัวเองก็รู้สึกดีใจและมีความหวังว่าจะสามารถแก้ไขได้ โดยเฉพาะการขุดลอกคลอง การก่อสร้างพนังกั้นน้ําและยกระดับสะพานข้ามคลองให้สูงขึ้น เพื่อให้น้ําไหลได้สะดวก เช่นเดียวกับนายณัฐพงษ์ ศรัทธา เจ้าของเขียงหมูตลาดบ้านสองแพรก ระบุว่า ในเมื่อนายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่มาติดตามการแก้ไขปัญหาด้วยตัวเอง มีความเชื่อมั่นว่าปัญหาต่าง ๆ ก็น่าจะได้รับการแก้ไข เพราะต้องใช้งบประมาณจํานวนมาก#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
15/3/2023
ภาคใต้
ระนอง
สวท.ระนอง
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230315171252359
null
จ.ยะลา ประชุมคณะกรรมการลุ่มน้ำภาคใต้ฝั่งตะวันออกตอนล่าง เตรียมรับมือแผนปฏิบัติการภายใต้ 10 มาตรการรองรับฤดูแล้ง ปี 2565/2566
วันนี้ 15 มีนาคม 66 เวลา 09.30 น. ห้องประชุมศรียะลา ชั้น 3 ศาลากลางจังหวัดยะลา นายธีรุตม์ ศุภวิบูลย์ผล รองผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา ประชุมคณะกรรมการลุ่มน้ําภาคใต้ฝั่งตะวันออกตอนล่าง ครั้งที่ 1/2566 โดยมีส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมประชุมรับทราบแผนปฏิบัติการภายใต้ 10 มาตรการรองรับฤดูแล้ง ปี 2565/2566สําหรับ 10 มาตรการรองรับฤดูแล้ง ปี 2565/2566 ประกอบไปด้วย 1)เร่งเก็บกักน้ํา 2)เฝ้าระวังและเตรียมจัดหาแหล่งน้ําสํารอง พร้อมวางแผนเตรียมเครื่องจักรเครื่องมือ3)ปฏิบัติการเติมน้ํา 4)กําหนดแผนจัดสรรน้ําและพื้นที่เพาะปลูกพืชฤดูแล้ง 5)เพิ่มประสิทธิภาพการใช้น้ําภาคการเกษตร 6)เตรียมน้ําสํารองสําหรับพื้นที่ลุ่มต่ํารับน้ํานอง7)เฝ้าระวังคุณภาพน้ํา 8)เสริมสร้างความเข้มแข็งด้านการบริหารจัดการน้ําของชุมชน 9)สร้างการรับรู้ประชาสัมพันธ์10)ติดตามและประเมินผลการดําเนินงานนอกจากนี้ ได้พิจารณาแผนงานและแนวทางแก้ปัญหาน้ําท่วมบริเวณพื้นที่ลุ่มต่ําแม่น้ําปัตตานี สถานการณ์น้ําลุ่มน้ําโก-ลก และแผนงานโครงการแก้ปัญหาประตูระบายน้ํา ปากคลองมูโนะ และแผนการป้องกันและแก้ไขภาวะน้ําท่วม ปี 2566#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
15/3/2023
ภาคใต้
ยะลา
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดยะลา
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230315181638397
null
เทศบาลนครตรัง นำรถดับเพลิงพร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ ออกปฏิบัติงานเหตุไฟไหม้ป่า บริเวณวัดมัชฌิมภูมิ
วันนี้ (15 มี.ค. 66) ดร.สัญญา ศรีวิเชียร นายกเทศมนตรีนครตรัง สั่งการให้ งานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เทศบาลนครตรัง นํารถดับเพลิงพร้อมกําลังเจ้าหน้าที่ ออกปฏิบัติงานเหตุไฟไหม้ป่า บริเวณวัดมัชฌิมภูมิ ซึ่งเหตุครั้งนี้ไม่มีบ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหาย หรือผู้ได้รับบาดเจ็บ อย่างไรก็ตาม หากพี่น้องประชาชนประสบเหตุอัคคีภัยหรือพบเห็นแหล่งที่อาจก่อให้เกิดเพลิงไหม้ สามารถติดต่อขอความช่วยเหลือได้ที่งานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เทศบาลนครตรัง เบอร์โทรศัพท์ 075 - 218777 หรือ 199 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง #สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
15/3/2023
ภาคใต้
ตรัง
สวท.ตรัง
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230315185204416
null
ผู้ว่าราชการจังหวัดสุโขทัย ลงพื้นที่จุดเสี่ยงขาดแคลนน้ำเพื่ออุปโภค - บริโภค และการเกษตร ในพื้นที่อำเภอกงไกรลาศ จังหวัดสุโขทัย
วันนี้ (15 มีนาคม 2566) เวลา 10.30 น. นายสุชาติ ทีคะสุข ผู้ว่าราชการจังหวัดสุโขทัย ลงพื้นที่จุดเสี่ยงขาดแคลนน้ําเพื่ออุปโภค - บริโภค และการเกษตรในพื้นที่อําเภอกงไกรลาศ จังหวัดสุโขทัย โดยมี นายอําเภอกงไกรลาศ หัวหน้าสํานักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสุโขทัย องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมลงพื้นที่ โดยตรวจพื้นที่ทั้งหมด 2 จุด ได้แก่ 1.หนองตบยาว หมู่ 4 ตําบลกง อําเภอกงไกรลาศ มีเนื้อที่ทั้งหมด 30 ไร่ ความจุ 100,000 ลบ.ม. น้ําต้นทุน แม่น้ํายมสายปัจจุบัน พื้นที่ที่ได้รับประโยชน์ จํานวน 200 ไร่ ราษฎรที่ได้รับประโยชน์ จํานวน 150 ครัวเรือน ระยะทาง 500 เมตร 2.หนองบึงมูล หมู่ที่ 4 ตําบลดงเดือย อําเภอกงไกรลาศ มีเนื้อที่ทั้งหมด 455 ไร่ ความจุ 3.5 ล้าน ลบ.ม. น้ําต้นทุน คลองเหมืองช้าง พื้นที่ที่ได้รับประโยชน์ จํานวน 1,200 ไร่ ราษฎรที่ได้รับประโยชน์ จํานวน 300 ครัวเรือน ระยะทาง 2 กิโลเมตร ทั้งนี้ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของพี่น้องระชาชน ผู้ว่าราชการจังหวัดสุโขทัย ได้หารือเร่งแก้ไขเพื่อให้ประชาชนในพื้นที่ได้รับผลกระทบน้อยที่สุด#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
15/3/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
สุโขทัย
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสุโขทัย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230315225234516
null
ไฟป่าไหม้ลงจากชายแดนไทย-กัมพูชาเชิงเขาบรรทัด ต.แหลมกลัด ฝั่งตรงข้ามหาดทับทิม ศาลาราชการุณย์ (เขาล้าน) จังหวัดตราด ปภ.ย้ำการห้ามเผาฯ โดยเด็ดขาด
วันนี้ (16 มี.ค. 66) สํานักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) จังหวัดตราด เผยสถานการณ์ไฟป่าหลังลุกลามบริเวณแนวเทือกเขาบรรทัด ช่วงบริเวณตําบลแหลมกลัด อําเภอเมือง จังหวัดตราด โดยมีเจ้าหน้าที่และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าไปช่วยกันดับไฟที่เกิดขึ้นด้วยความยากลําบาก เนื่องจากสภาพพื้นที่ และวัตถุระเบิดในพื้นที่ เมื่อคืนที่ผ่านมานั้น สถานการณ์ปัจจุบัน ไฟยังไม่ดับสนิท แต่สามารถควบคุมแนวเพลิงไว้ได้ในวงจํากัดที่จะไม่ลุกลามเข้าพื้นที่สวนยางของประชาชน และแนวถนนสายสุขุมวิท 3 โดยวันนี้ ปภ.จังหวัดตราดจะเข้าไปปฏิบัติการทําแนวกันไฟ และทําการดับด้วยน้ําในพื้นที่ที่สามารถเข้าดําเนินการได้ และนํารถแบ็คโฮเข้าพื้นที่ เพื่อทําทางให้รถน้ําเข้าให้ใกล้พื้นที่เกิดเหตุมากที่สุด สําหรับการดูแลสุขภาพพี่น้องประชาชนในพื้นที่เบื้องต้นได้ประสานพื้นที่ทําการประชาสัมพันธ์การใส่หน้ากากอนามัย และย้ําการห้ามเผาฯ โดยเด็ดขาด#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
16/3/2023
ภาคตะวันออก
ตราด
สวท.ตราด
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230316144738748
null
จังหวัดนครพนม จัดพิธีเชิญสิ่งของพระราชทานมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ แก่ครอบครัวผู้ประสบอัคคีภัย ที่อำเภอโพนสวรรค์
วันที่ 16 มีนาคม 2566 ที่ บ้านเลขที่ 256 หมู่ที่ 5 ตําบลโพนบก อําเภอโพนสวรรค์ จังหวัดนครพนม นายชวนินทร์ วงศ์สถิตจิรกาล รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม รองประธานกรรมการมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ประจําจังหวัดนครพนม เป็นประธานในพิธีเชิญสิ่งของพระราชทานมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชชูปถัมภ์ แก่ครอบครัวนายยุทธศิลป์ จันทร ผู้ประสบอัคคีภัย โดยมี เหล่ากาชาดจังหวัดนครพนม หัวหน้าส่วนราชการระดับจังหวัด ปลัดอาวุโสรักษาราชการแทนนายอําเภอโพนสวรรค์ ข้าราชการ พนักงานเจ้าหน้าที่องค์การบริหารส่วนตัวโพนบก ผู้นําท้องถิ่น ประชาชนจิตอาสา และแขกผู้มีเกียรติ ร่วมพิธีเมื่อวันที่ 13 มีนาคม 2566 เวลา 13.40 น. ที่ผ่านมา ได้เกิดเหตุเพลิงไหม้พี่พักอาศัยของ นายยุทธศิลป์ จันทร เป็นเหตุให้บ้านได้รับความเสียหายทั้งหลัง และทรัพย์สินต่างๆ ได้รับความเสียหาย ซึ่งได้รับความช่วยเหลือจาก องค์การบริหารส่วนตําบลโพนบก ประชาชนและจิตอาสาในพื้นที่ และสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ในเวลา 14.10 น. เพื่อเป็นการช่วยเหลือ และเป็นขวัญกําลังใจแก่ครอบครัวผู้ประสบอัคคีภัย ทางมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ประจําจังหวัดนครพนม ได้มอบขอบเงินเพื่อซื้อสิ่งของในการดํารงชีพเบื้องต้น ไปมอบให้เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน ในครั้งนี้ในการนี้ มูลนิธิราชประชานุเคราะห์ในพระบรมราชูปถัมภ์มอบสิ่งของพระราชทานเป็นสิ่งของในการดํารงชีพ และเงิน 3,000 บาท เหล่ากาชาดจังหวัดนครพนม มอบเงิน 8,000 บาท อุปโภคบริโภค จํานวน 1 ชุด สํานักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดนครพนม มอบเงินสงเคราะห์ผู้ประสบปัญหาทางสังคมกรณีฉุกเฉิน จํานวน 3,000 บาท มูลนิธิป่อเต็กตึ๊งฯ มอบเงินเงินช่วยเหลือ จํานวน 3,000 บาท และองค์การบริหารส่วนตําบลโพนบก ได้จัดตั้งศูนย์รับบริจาค และพิจารณาช่วยเหลือตามระเบียบและหลักเกณฑ์ ต่อไป#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
16/3/2023
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
สุรินทร์
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนครพนม
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230316195724880
null
เกิดเหตุไฟไหม้บ่อขยะเทศบาลตำบลวังชัย อ.น้าพอง จ.ขอนแก่น สาเหตุจากสภาพอากาศร้อนและแห้ง
ที่บ่อขยะเทศบาลตําบลวังชัย นายชาญชัย ศรศรีวิชัย รองผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น ลงพื้นที่ติดตาม ตรวจสอบและแก้ไขปัญหาไฟไหม้บ่อขยะเทศบาลตําบลวังชัย ตําบลวังชัย อําเภอน้ําพอง ร่วมกับ นายอําเภอน้ําพอง นายกเทศมนตรีตําบลวังชัย ที่ทําการปกครองอําเภอน้ําพอง สํานักงานสิ่งแวดล้อมและควบคุมมลพิษที่ 10 (ขอนแก่น) สํานักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดขอนแก่น สําหรับสาเหตุการเกิดไฟไหม้บ่อขยะเทศบาลตําบลวังชัย เกิดจากสภาพอากาศร้อนและแห้ง จึงส่งผลให้เกิดเพลิงลุกไหม้และเกิดกลุ่มควันขึ้น มีผลต่อบ้านเรือนประชาชนในพื้นที่เล็กน้อย เนื่องจากบริเวณโดยรอบรัศมี 2 กิโลเมตรไม่มีประชาชนอาศัยอยู่ ไม่มีผู้บาดเจ็บ/เสียชีวิต โดยสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ในเวลา 15.30 น.สถานการณ์ปัจจุบัน เจ้าหน้าที่เทศบาลตําบลวังชัย ได้เฝ้าระวังไม่ให้ไฟลุกลามขึ้นอีกเพื่อไม่ให้มีผลกระทบและเป็นอันตรายต่อประชาชนในพื้นที่โดยรอบ#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
16/3/2023
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ขอนแก่น
สวท.ขอนแก่น
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230316234533924
null
นายกรัฐมนตรีลงพื้นที่บ้านสองแพรก ตำบลลำเลียง อำเภอกระบุรี จังหวัดระนอง ตรวจติดตามสภาพปัญหาอุทกภัยในพื้นที่และวิธีการแก้ไขโดยการปรับปรุงพนังกั้นน้ำบ้านสองแพรก พร้อมพบปะพูดคุยกับประชาชน
วันนี้(16 มี.ค.66) เวลา 14.30 น. พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อมด้วย พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน นายธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีประจําสํานักนายกรัฐมนตรี นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค เลขาธิการนายกรัฐมนตรี และนายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจําสํานักนายกรัฐมนตรี ได้เดินทางไปยังโรงเรียนบ้านสองแพรก ตําบลลําเลียง อําเภอกระบุรี จังหวัดระนอง เพื่อติดตามสภาพปัญหาอุทกภัยในพื้นที่และวิธีการแก้ไขโดยการปรับปรุงพนังกั้นน้ําบ้านสองแพรก พร้อมพบปะพูดคุยกับประชาชน โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัด นายอําเภอ หัวหน้าส่วนราชการ ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กํานันผู้ใหญ่บ้าน ครูนักเรียน และประชาชนในพื้นที่ร่วมให้การต้อนรับอย่างเนื่องแน่นโอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีรับฟังสภาพปัญหาภัยพิบัติอุทกภัยในพื้นที่และวิธีการแก้ไขด้วยการปรับปรุงพนังกั้นน้ําบ้านสองแพรกจากผู้อํานวยการกรมชลประทานที่ 14 โดยคลองลําเลียงแพรกซ้ายมีสภาพลําน้ําคดเคี้ยวไปมา ความกว้างลําน้ําแคบมีท้องน้ําลาดชันสูง ตลิ่งคลองทั้งสองฝั่งค่อนข้างต่ําโดยเฉพาะบริเวณผ่านชุมชน บริเวณต้นน้ํามีลําน้ําสาขาหลายสายไหลลงสู่คลองลําเลียงแพรกซ้าย ทําให้มีพื้นที่รับน้ําขนาดใหญ่ เมื่อเกิดฝนตกหนักต้นน้ําจะมีปริมาณน้ําจํานวนมากไหลบ่าลงมาเข้าท่วมพื้นที่ชุมชนบริเวณโรงเรียนบ้านสองแพรก ทําให้เกิดน้ําท่วม และส่งผลกระทบให้ตลิ่ง คลองและที่ดินของประชาชนถูกกระแสน้ํากัดเซาะได้รับความเสียหาย ประกอบกับปากคลองลําเลียงมีความตื้นเขิน ทําให้ไม่สามารถระบายน้ําลงแม่น้ํากระบุรีได้อย่างมีประสิทธิภาพ และมีน้ําทะเลหนุนสูงเข้ามาในคลองลําเลียง ทําให้เป็นอุปสรรคในการระบายน้ํา โดยเฉพาะพื้นที่หมู่ที่ 7 ตําบลลําเลียง บริเวณหน้าโรงเรียนบ้านสองแพรก น้ําป่าไหลหลากล้นตลิ่งคลองแพรกซ้ายเข้าท่วมชุมชนเป็นวงกว้าง ส่งผลให้บ้านเรือน ทรัพย์สินและที่ดินของประชาชนได้รับความเสียหาย ทางกรมชลประทานจึงได้วางแนวทางแก้ไขด้วยแผนงานโครงการก่อสร้างอาคารป้องกันตลิ่งในคลองลําเลียงแพรกซ้าย คลองลําเลียงแพรกขวา และคลองลําเลียง จํานวน 5 โครงการ โดยมีแผนการดําเนินงานในปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 - 2570 ซึ่งจะสามารถช่วยบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนในพื้นที่ หมู่ที่ 1 หมู่ที่ 4 และหมู่ที่ 7 ของตําบลลําเลียงได้กว่า 140 ครัวเรือน และประชาชนอีกกว่า 560 คน ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีกําชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง กรมชลประทาน จังหวัด กํานัน ผู้ใหญ่บ้าน รวมถึงประชาชนในพื้นที่ร่วมศึกษาถึงปัญหา หาแนวทางแก้ไข เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในพื้นที่โดยเร็วนากยรัฐมนตรีกล่าวดีใจที่ได้มาเยี่ยมเยียนจังหวัดระนองอีกครั้งหนึ่ง วันนี้ที่มาพบทุกคนไม่ได้มาเพื่อต้องการอะไรจากทุกคน แต่มาติดตามดูว่ามีสิ่งใด โครงการใดที่ยังติดค้างอยู่ ซึ่งได้รับทราบว่าพื้นที่ตรงนี้ประสบปัญหาน้ําท่วมจึงต้องมาเห็นด้วยตัวเองเพื่อที่จะหาแนวทางแก้ไขปัญหาให้ได้ ทุกอย่างรัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจ แต่ปัญหาของประเทศมีมากมาย หลายปีที่ผ่านมารัฐบาลทยอยแก้ไขปัญหาตั้งแต่ ปัญหาขนาดใหญ่ ปัญหาขนาดกลาง จนถึงปัญหาขนาดเล็ก เมื่อปัญหาขนาดใหญ่และขนาดกลางแก้ไขแล้ว ต่อมาก็ต้องแก้ไขปัญหาขนาดเล็กต่อ ซึ่งวันนี้นายกรัฐมนตรีจะรับเรื่องไว้และจะให้ความสําคัญกับเรื่องนี้ แต่ต้องดูวิธีการว่าจะใช้จ่ายงบประมาณอย่างไร เพราะช่วงนี้เป็นช่วงปลายการทํางานของรัฐบาล แต่ยันยืนว่าจะดูแล เพราะพื้นที่นี้โดนน้ําท่วมซ้ําทุกปีก็ต้องหาแนวทางที่เหมาะสมในการแก้ไขปัญหาในเรื่องนี้จากนั้น นายกรัฐมนตรีเยี่ยมชมบูธสินค้า OTOP ของอําเภอกระบุรี จังหวัดระนอง ซึ่งประกอบด้วย สินค้าจักสาน ผลิตภัณฑ์แปรรูปทางการเกษตร เมล็ดกาแฟ เป็นต้น และเดินพบปะพูดคุย พร้อมถ่ายภาพกับประชาชนที่มารอต้อนรับ ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีแนะว่าวันนี้ประเทศของเรามีความอุดมสมบูรณ์ของสินค้าทางการเกษตรที่แข็งแกร่ง แต่ว่าเราต้องเพิ่มคุณภาพของสินค้าเพื่อให้ตรงตามความต้องการของตลาดโลกหรือตลาดกลาง เพราะขณะนี้การแข่งขันในตลาดมีมากขึ้น ดังนั้น การส่งออกไปสู่ประเทศต่าง ๆ จะมีการตรวจสอบคุณภาพของสินค้า การใช้สารเคมี พื้นที่เพาะปลูกว่ามาจากพื้นที่ไหน เป็นพื้นที่ป่าหรือพื้นที่บุกรุก วันนี้ทั้งโลกมีความต้องการอาหารมากขึ้น ซึ่งไทยมีความพร้อมในเรื่องนี้ ถ้าสินค้าเราไม่มีคุณภาพ ก็จะทําให้เราสูญเสียรายได้รวมถึงพื้นที่ตลาดนั้นไปจากนั้น นายกรัฐมนตรีได้เดินตรวจบริเวณพนังกั้นน้ําบ้านสองแพรก โดยนายกรัฐมนตรีแนะนําว่าการก่อสร้างพนังกั้นน้ํานั้นดี แต่ว่าจะต้องมีการศึกษาเพิ่มเติม คิดหาวิธีที่จะแก้ไขปัญหาให้หมดไป เช่น สร้างฝายเพื่อชะลอน้ํา หรือสร้างอ่างเก็บน้ําหากเป็นไปได้ ขอให้ทุกหน่วยงานมองความเดือดร้อนของประชาชนเป็นหลัก ช่วยกันแก้ไขปัญหาแล้วเราจะผ่านมันไปได้#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
16/3/2023
ภาคใต้
ระนอง
สวท.ระนอง
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230316231639909
null
กรมชลประทาน ลงพื้นที่สำรวจตรวจสอบการทำงานของอาคารควบคุมบานระบายเขื่อนกิ่วลม จ.ลำปาง
นายพีรยุทธ์ เหมาะพิชัย ผู้อํานวยการโครงการส่งน้ําและบํารุงรักษากิ่วลม-กิ่วคอหมา มอบหมายให้ นายมานพ สุวรรณบุตร หัวหน้าฝ่ายวิศวกรรม พร้อมด้วย นายอนันต์ อกกว้าง หัวหน้าฝ่ายช่างกล และเจ้าหน้าที่ ให้การต้อนรับคณะเจ้าหน้าที่จากส่วนโรงงาน สํานักงานเครื่องจักรกล กรมชลประทาน ในการลงพื้นที่สํารวจและตรวจสอบการทํางานของอาคารควบคุมบานระบายน้ําของเขื่อนกิ่วลม ให้มีความพร้อมใช้งานอยู่เสมอ พร้อมทั้งเก็บข้อมูลเพื่อใช้ประกอบการออกแบบพัฒนาอาคารชลประทานให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ณ เขื่อนกิ่วลม โครงการส่งน้ําและบํารุงรักษากิ่วลม-กิ่วคอหมา ตําบลบ้านแลง อําเภอเมือง จังหวัดลําปาง#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
17/3/2023
ภาคเหนือ
ลำปาง
สวท.ลำปาง
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230317143225144
null
มทบ.29 สกลนคร ร่วมกับ ภาคีเครือข่าย โครงการ ราษฎร์ รัฐ ร่วมใจ ช่วยภัยแล้ง ประจำปี 2566 ปล่อยขบวนรถบรรทุกน้ำช่วยเหลือประชาชน จากภัยแล้ง
ที่ลานอนุสาวรีย์วีรไทย ค่ายกฤษณ์สีวะรา อ.เมือง จ.สกลนคร พล.ต.ยงยุทธ ขันทวี ผบ.มทบ.29 เป็นประธานพิธีเปิดโครงการ ราษฎร์ รัฐ ร่วมใจ ช่วยภัยแล้ง ประจําปี 2566 ซึ่งกองทัพบก โดย กองทัพภาคที่ 2 มณฑลทหารบกที่ 29 กรมทหารราบที่ 3 กองพันทหารราบที่ 1 กรมทหารราบที่ 3 บูรณาการ ร่วมกับ ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต 7 สกลนคร สนง.ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสกลนคร องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พร้อมด้วยส่วนราชการในพื้นที่ นําศักยภาพด้าน กําลังพล ทรัพยากร เครื่องมือ และอุปกรณ์ต่างๆ ในการขนส่งน้ําอุปโภคบริโภค เพื่อไปแจกจ่าย ให้กับประชาชนที่ประสบภัยแล้ง โดยเฉพาะพื้นที่ประสบภัยแล้งรุนแรงตามโครงการ“ราษฎร์ รัฐร่วมใจ ช่วยภัยแล้ง” เป็นความร่วมมือกันระหว่าง กองทัพบก และภาคีเครือข่าย ปล่อยขบวนรถบรรทุกน้ํา รวม 64,000 ลิตร (หกหมื่นสี่พันลิตร) จากนั้น ผบ.มทบ.29 พร้อมด้วย คุณเพ็ญศรี ขันทวี ประธานสมาคมแม่บ้าน ทบ. สาขา มทบ.29 นางจิราภรณ์ เบิกบานดี นายอําเภอเมืองสกลนคร พร้อมด้วย ภาคีเครือข่าย ลงพื้นที่ ณ วัดสอนประชาราม ร่วมแจกจ่ายน้ําอุปโภคให้กับประชาชน เพื่อบรรเทาความเดือนร้อนจากการขาดแคลนน้ํา พร้อมมอบข้าวสาร อาหารแห้ง น้ําดื่ม ผ้าห่มกันหนาว และเวชภัณฑ์ยา ให้กับผู้สูงอายุและผู้ป่วยติดเตียง จํานวน 4 ราย สร้างความประทับใจ บรรเทาความเดือนร้อนให้กับประชาชนในพื้นที่เป็นอย่างมาก#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
17/3/2023
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
สกลนคร
สวท.สกลนคร
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230317164718229
null
จ.นราธิวาส กรมทหารราบที่ 151 เตรียมพร้อมรับมือภัยแล้งช่วยเหลือประชาชน ปี 2566
พันเอก ยุทธนา สายประเสริฐ ผู้บังคับการกรมทหารราบที่ 151 เปิดโครงการ ราษฎร์ รัฐ ร่วมใจช่วยภัยแล้ง ปี 2566 ที่กรมทหารราบที่ 151 ค่ายกัลยาณิวัฒนา อําเภอเมืองนราธิวาส ซึ่งมีผู้แทนการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจังหวัดนราธิวาส ผู้แทนการประปาส่วนภูมิภาคสาขานราธิวาส ผู้แทน อบต.กะลุวอ และกําลังพลจิตอาสาของหน่วย ร่วมในกิจกรรมพันเอก ยุทธนา กล่าวว่า กองทัพบก ได้เล็งเห็นถึงความสําคัญในการช่วยเหลือบรรเทาทุกข์ให้กับประชาชน โดยอนุมัติโครงการดังกล่าว และกําหนดให้หน่วยทหารในสังกัดกองทัพบกดําเนินการเตรียมความพร้อมให้การช่วยเหลือประชาชน ด้วยการบูรณาการทุกภาคส่วน ทั้งด้านบุคลากร ยุทโธปกรณ์ แหล่งน้ําดิบ รวมถึงเรื่องต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องในการแก้ไขปัญหาหากเกิดภัยแล้งในพื้นที่ พร้อมนี้พันเอก ยุทธนา ได้พบปะหารือกับส่วนราชการในการร่วมกันจัดทําแผนรับมือภัยแล้งอีกด้วย #สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
18/3/2023
ภาคใต้
นราธิวาส
สวท.นราธิวาส
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230318084516373
null
เจ้าหน้าที่รุดเข้าดับไฟป่าฯ เขต อ.แจ้ห่ม จ.ลำปาง พบพื้นที่เสียหาย กว่า 8 ไร่
วันที่ 18 มีนาคม 2566 นายอารี วงษ์เมือง หัวหน้าสถานีสถานีควบคุมไฟป่าถ้ําผาไท (ด้านทิศตะวันตก) สํานักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 13 สาขาลําปาง ศูนย์บริหารจัดการทรัพยากรป่าไม้ สัตว์ป่า และทรัพยากรธรรมชาติอื่นๆ เชิงพื้นที่ที่ 3 (ศบพ.3) เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่สถานีฯ ร่วมกับฐานปฏิบัติการที่ 2 แจ้คอน อุทยานแห่งชาติถ้ําผาไท ออกลาดตระเวนตรวจหาไฟในเขตพื้นที่รับผิดชอบตําบลทุ่งผึ้ง ตรวจพบไฟไหม้ จํานวน 1 จุด บริเวณไฟไหม้ห้วยโกงกาง ในเขตพื้นที่เตรียมการประกาศอุทยานแห่งชาติถ้ําผาไท ท้องที่บ้านหัวฝาย หมู่ที่ 3 ตําบลทุ่งผึ้ง อําเภอแจ้ห่ม จังหวัดลําปางเจ้าหน้าที่เริ่มดับเวลาไฟป่าเวลา 10.25 น. ดับเสร็จเวลา 11.15 น. พบเป็นพื้นที่ป่าเบญจพรรณ เสียหาย 8 ไร่ โดยไม่ทราบสาเหตุของการเกิดเหตุไฟไหม้ #สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
18/3/2023
ภาคเหนือ
ลำปาง
สวท.ลำปาง
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230318142002476
null
จังหวัดอำนาจเจริญ เร่งสูบน้ำจากลำห้วยไปกักเก็บไว้ที่สระน้ำสาธารณประโยชน์ บรรเทาความเดือดร้อนประชาชน แก้ไข ปัญหาภัยแล้ง ปี 2566
นางขนิษฐา แห่งธรรม หัวหน้าสํานักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดอํานาจเจริญ เปิดเผยว่า เพื่อเป็นการป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยแล้ง ปี 2566 การประเมินสถานการณ์ที่อาจส่งผลให้เกิดภัยแล้งในพื้นที่ การวางแผนบริหารจัดการน้ํารวมทั้งกําหนดแนวทางการเก็บกักน้ําไว้ใช้ประโยชน์ในแหล่งน้ําขนาดต่าง ๆ ให้เพียงพอ เป็นอีกมาตรการ ในการแก้ไข ปัญหาภัยแล้ง ให้กับประชาชน สํานักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดอํานาจเจริญ จึงได้ บูรณาการร่วมกับ สํานักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดอํานาจเจริญ สํานักงานทรัพยากรน้ําที่ 11 อุบลราชธานี เร่งทําการสํารวจพื้นที่เสี่ยงขาดแคลนน้ําอุปโภค บริโภค ทั้ง 7 อําเภอ พร้อมสูบน้ําจากลําห้วยไกล้เคียง ไปกักเก็บไว้ที่สระน้ําสาธารณประโยชน์ของชุมชน ขณะนี้ได้ทําการสําเร็จไปแล้วจํานวน 6 ชุมชน ในพื้นที่อําเภอเมืองอํานาจเจริญ ทั้งนี้ เพื่อเป็นแหล่งน้ําดิบผลิตประปาบรรเทาความเดือดร้อนให้ประชาชน โดยจะเน้นให้ความสําคัญกับน้ําเพื่อการอุปโภคบริโภคก่อนเป็นลําดับแรก และจะยังคงให้ความช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ต่างๆ ที่ประสบปัญหาอย่างต่อเนื่องจนกว่าจะสิ้นสุดหน้าแล้งปีนี้#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
20/3/2023
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
อำนาจเจริญ
สวท.อำนาจเจริญ
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230320110900828
null
กิ่งกาชาดอำเภออุ้มผางมอบถุงยังชีพเพื่อสร้างขวัญกำลังใจให้กับผู้ประสบวาตภัยเนื่องจากพายฤดูร้อนในพื้นที่อำเภออุ้มผาง จำนวน 3 หมู่บ้าน
กิ่งกาชาดอําเภออุ้มผางลงพื้นที่ร่วมกับส่วนราชการมอบถุงยังชีพเพื่อสร้างขวัญกําลังใจให้กับผู้ประสบวาตภัยเนื่องจากพายุฤดูร้อน ฝนตกหนัก ลมแรง ในพื้นที่อําเภออุ้มผาง จํานวน 3 หมู่บ้าน ได้แก่ บ้านอุ้มผาง ม.1 ต.อุ้มผาง บ้านแม่กลองใหม่ ม.1 และบ้านแม่กลอง ม.4 ต.แม่กลอง อ. อุ้มผาง จ.ตาก มีประชาชนได้รับผลกระทบรวม 15 ครัวเรือน 75 คน ทั้งนี้อําเภออุ้มผางได้ประสานองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นดําเนินการสํารวจ ให้ความช่วยเหลือตามระเบียบที่เกี่ยวข้องต่อไป #สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
20/3/2023
ภาคตะวันตก
ตาก
สวท.แม่สอด จ.ตาก
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230320195139077
null
ปลัดจังหวัดนครราชสีมา เชิญสิ่งของในการดำรงชีพเบื้องต้น จากมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนเฉพาะหน้า ให้แก่นางหนูอวน วิระฬา
วันนี้(20 มีนาคม 2566) เวลา 10.30 น. นายสามารถ สุวรรณมณี ปลัดจังหวัดนครราชสีมา เป็นผู้แทนประธานกรรมการมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ จังหวัดนครราชสีมา ในพิธีเชิญสิ่งของในการดํารงชีพเบื้องต้น จากมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนเฉพาะหน้า ให้แก่นางหนูอวน วิระฬา ราษฎร หมู่ที่ 8 ต.หนองหว้า อ.บัวลาย ผู้ประสบอัคคีภัยบ้านเรือนได้รับความเสียหายทั้งหลัง โดยมี นายทวีศักดิ์ ภาษี ปลัดอําเภอฝ่ายความมั่นคง พร้อมด้วย นายอนุ กว้างนอก ปลัดอําเภอฝ่ายปกครอง , กอ.ร.มน. จังหวัดนครราชสีมา หัวหน้าส่วนราชการ อ.บัวลาย นายทน พิรักษา นายก อบต.หนองหว้า บุคลากร อบต.หนองหว้า กํานัน ผู้ใหญ่บ้าน ตําบลหนองหว้า ทุกหมู่บ้าน และพี่น้องจิตอาสา ในพื้นที่ ต.หนองหว้า เข้าร่วมพิธิฯ ณ ศาลาประชาคม หมู่ที่ 8 ต.หนองหว้า อ.บัวลาย จ.นครราชสีมา#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
20/3/2023
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
นครราชสีมา
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนครราชสีมา
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230321013343116
null
จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ควบคุมสถานการณ์ไฟป่าบนเขาในพื้นที่ 2 อำเภอได้แล้ว แต่ต้องเฝ้าระวังการปะทุอย่างใกล้ชิด พร้อมขอความร่วมมือประชาชนงดการเผาทุกชนิดในที่โล่งแจ้ง
นายเดชา เรืองอ่อน หัวหน้าสํานักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยว่า จากกรณีเกิดไฟป่าบนเขาเบญจพาส ต.วังก์พง อ.ปราณบุรี และเขาหินเหล็กไฟ ต.หินเหล็กไฟ อ.หัวหิน ได้ระดมเจ้าหน้าที่กองอํานวยการดับไฟป่า และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าดําเนินการดับไฟ ล่าสุดสามารถควบคุมสถานการณ์ได้แล้วในวงจํากัด แต่ยังคงต้องเฝ้าระวังอย่างต่อเนื่องเพราะช่วงนี้สภาพอากาศร้อน ลมแรง อาจทําให้เกิดไฟปะทุขึ้นได้ตลอดเวลา โดยได้มีการทําแนวกันไฟไม่ให้ลุกลามไปสู่ชุมชน ส่วนสาเหตุของการเกิดไฟป่ายังไม่ทราบแน่ชัด แต่เชื่อว่าเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติได้ยาก ดังนั้น จึงขอความร่วมมือให้ประชาชนงดการเผาทุกชนิดในที่โล่งแจ้งเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการลุกกลายเป็นไฟป่า สร้างความเสียหาย และยังก่อให้เกิดมลพิษฝุ่นละออง PM2.5 ส่งผลกระทบต่อสุขภาพ และการเผาในที่โล่งแจ้งยังผิดกฎหมายอีกด้วย รวมถึงขอให้ผู้สูบบุหรี่อย่าทิ้งก้นบุหรี่ที่ยังติดไฟลงข้างทาง ทั้งนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดฯ ได้เน้นย้ําให้เฝ้าระวังสถานการณ์ไฟป่าอย่างใกล้ชิด รวมถึงเรื่องความปลอดภัยในการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ด้วย#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
21/3/2023
ภาคตะวันตก
ประจวบคีรีขันธ์
สวท.ประจวบคีรีขันธ์
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230321163653349
null
แม่สะเรียง ผนึกกำลังทุกภาคส่วนปฏิบัติการดับไฟป่าที่ลุกลามรุนแรง พร้อมมอบเสบียงยังชีพแก่ผู้ปฏิบัติงาน
วันนี้ (21 มี.ค. 2566) เวลา 09.00 น. นายพรเทพ เจริญสืบสกุล ผู้อํานวยการศูนย์อํานวยการป้องกันไฟป่า สํานักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 16 สาขาแม่สะเรียง ร่วมกับศูนย์อํานวยการไฟป่าอําเภอแม่สะเรียง โดย นายสุรเชษฐ์ พุ้ยน้อย นายอําเภอแม่สะเรียง จัดกําลังสนับสนุนเพื่อดับไฟป่า (เพิ่มเติม) ในเขตอุทยานแห่งชาติสาละวิน พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 36 หน่วยพิทักษ์สถานีไฟป่าแม่สะเรียง ชุมชนในพื้นที่ อส. จํานวน 70 นาย และเครือข่าย อส. หมู่บ้านในพื้นที่ จํานวน 40 คน กําลังที่อยู่ในพื้นที่ 30 นาย (รวม 140 นาย) โดยมีนายติณณ์ วงรินยอง หัวหน้าอุทยานแห่งชาติสาละวิน ผู้ประสานงานในพื้นที่ สนับสนุนกําลังดับไฟป่าที่ลุกลามรุนแรง ซึ่งสํานักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 16 สาขาแม่สะเรียง ได้มอบถุงเสบียงยังชีพในการปฏิบัติงานในครั้งนี้ด้วย โดยพบการเกิดไฟป่าในพื้นที่ ดังต่อไปนี้1.พื้นที่ บ้านโพซอ ต.เสาหินอ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน จํานวน 14 จุดได้ดําเนินการเเจ้งไปยังเจ้าหน้าที่จุดสกัดโพซอร่วมกับชาวบ้านโพซอ จํานวน 16 นาย2.พื้นที่ บ้านแม่ก๋อนใต้ ต.แม่คง อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน จํานวน 20 จุด ได้ดําเนินการเเจ้งไปยัง เจ้าหน้าที่สายตรวจอุทยานแห่งชาติสาละวิน เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการดับไฟป่าอุบลราชธาณี ชาวบ้านบ้านแม่ก๋อน จํานวน 18 นาย3.พื้นที่ บ้านห้วยแห้ง ต.แม่คง อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน จํานวน 7 จุด ได้ดําเนินการประสานงานไปยังเจ้าหน้าที่หน่วยพิทักษ์ห้วยหวาย เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการดับไฟป่าอุบลราชธานี ร่วมกับทหารพราน จํานวน 22 นาย4.พื้นที่ บ้านป่าเหว ต.แม่คง อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอนได้ดําเนินการประสานงานไปยัง เจ้าหน้าที่หน่วยพิทักษ์ฯศาลา เจ้าหน้าที่ อส. เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการดับไฟป่าอุบลราชธานี ชาวบ้านบ้านป่าเหว จํานวน 15 นาย5.พื้นที่ ห้วยแม่ปอ ต.แม่คง อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน จํานวน 24 จุดได้ดําเนินการประสานงานไปยัง เจ้าหน้าที่หน่วยพิทักษ์ฯอุมดา ชาวบ้านบ้านแม่ปอ จํานวน 28 นาย6.พื้นที่ บ้านแม่กองแป ต.แม่คง อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน จํานวน 48 จุด ได้ดําเนินการประสานงานไปยัง เจ้าหน้าที่หน่วยพิทักษ์ฯแม่สามแลบ เจ้าหน้าที่ทหารพราน ชาวบ้านบ้านแม่ปอ จํานวน 31 นาย7.พื้นที่ ห้วยหยวก ต.แม่คง อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน จํานวน 2 จุด ได้ดําเนินการประสานงานไปยัง เจ้าหน้าที่หน่วยพิทักษ์ฯห้วยบง จํานวน 10 นายรวมเจ้าหน้าที่ที่เข้าพื้นทั้งหมด 140 นาย พร้อมเข้าดับไฟป่า ทั้งนี้ ศูนย์ปฏิบัติการไฟป่าแม่ฮ่องสอน ได้สรุปผลการดําเนินงาน การป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละอองจังหวัดแม่ฮ่องสอน ประจําวันที่ 21 มีนาคม 2566 1.สถานการณ์ไฟป่า ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม – 20 มีนาคม 2566 จุดความร้อนสะสมตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม – 20 มีนาคม 2566 จังหวัดแม่ฮ่องสอน มีจุดความร้อนสะสม ทั้งหมด 3,030 จุด คิดเป็นร้อยละ 58.11 ของจุดความร้อนสะสมปี 2565 หรือ คิดเป็นร้อยละ 32.31 ของค่าเป้าหมายปี 2566 ซึ่งทางจังหวัดตั้งเป้าหมายปี 2566 ไม่เกิน 9,378 จุด โดยอําเภอที่มีจุดความร้อนสูงสุด ได้แก่ อําเภอแม่สะเรียง จํานวน 856 จุด#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
21/3/2023
ภาคเหนือ
แม่ฮ่องสอน
สวท.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230321172331389
null
อ.เบตง จ.ยะลา เกิดเหตุพายุฝน ฤดูร้อนพัดถล่มบ้านเรือน และต้นสนกว่า 40 ปี หักโค่นขวางถนน ส่งผลให้ไฟฟ้าดับและบ้านเรือนได้รับความเสียหาย โชคดีไม่มีใครได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต
เย็นวันนี้ (21 มี.ค.66) ที่หน้ากองบรรเทาสาธารณภัยเทศบาลเมืองเบตง อ.เบตง จ.ยะลา นายธงชัย เทพรอด ปลัดเทศบาลเมืองเบตง รักษาราชการแทนนายกเทศมนตรีเมืองเบตง เร่งประสานพนักงานการไฟฟ้า อําเภอเบตง จังหวัดยะลาให้เร่งระดมพนักงาน ออกไปยกและตัดกระแสไฟฟ้า หลังจากถูกพายุฤดูร้อนพัดถล่ม ทําให้ไฟฟ้าดับช่วงถนนสุขยางค์ ขาเข้าตัวเมืองเบตง ในขณะเดียวกันได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่บรรเทาสาธารณภัยเทศบาลเมืองเบตง สํารวจอาคารที่ทําการ กองบรรเทาสาธรณภัยฯและบ้านเรือนประชาชนที่ได้รับความ เพื่อบรรเทาสาธารณภัยเฉพาะหน้าก่อนที่จะนําวัสดุไปซ่อมแซมบ้านที่ได้รับความเสียหาย ในภายหลังเจ้าของบ้านที่ได้รับความเสีย บอกว่า ขณะเกิดเหตุ ได้เกิดฝนตกลงมาอย่างหนักพร้อมกับพายุพัดอย่างแรง ในขณะเดียวกันพายุได้พัดต้นสน อายุกว่า 40 ปี หักโค่นล้มลงกลางถนนพอดี เจ้าหน้าที่กองบรรเทาสาธรณภัยฯ ตชด. 445 ตํารวจ สภ.เบตง เร่งช่วยกันตัดต้นสน ออกจากถนน ซึ่งเป็นถนนเส้นหลักเข้าเมืองเบตง โชคดีขณะต้นสนหักโค่นไม่มีรถผ่านไปมาทําให้ไม่ใครได้รับบาดเจ็บจากความเสียหายจากเหตุการณ์ในครั้งนี้ มีบ้านได้รับความเสียหายเบื้องต้นในเขตเทศบาลเมืองเบตง จํานวน 1 หลังแต่ไม่ได้รับรายว่ามีผู้ใดได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต ในเบื้องต้นทางสํานักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ได้เร่งสํารวจความเสียของบ้านที่ได้รับความเสียหายและเร่งตัดต้นไม้ออกจากถนนเป็นการเร่งด่วนเพื่อรถจะได้สัญจรไปมาได้สะดวก#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
21/3/2023
ภาคใต้
ยะลา
สวท.เบตง จ.ยะลา
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230321190530422
null
ปภ.ประจวบคีรีขันธ์ ระบุ สถานการณ์ไฟป่าบนเขาหินเหล็กไฟสามารถควบคุมได้แล้ว และยังไม่ส่งผลกระทบต่อค่าฝุ่นละออง PM2.5 ของ อ.หัวหิน
นายเดชา เรืองอ่อน หัวหน้าสํานักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยว่า จากกรณีเกิดไฟป่าบนเขาหินเหล็กไฟ ต.หินเหล็กไฟ อ.หัวหิน ได้ระดมเจ้าหน้าที่กองอํานวยการดับไฟป่า และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าดําเนินการดับไฟ โดยสามารถควบคุมสถานการณ์ได้แล้ว แต่ยังคงต้องเฝ้าระวังอย่างต่อเนื่องเพราะช่วงนี้สภาพอากาศร้อน ลมแรง อาจทําให้เกิดไฟปะทุขึ้นได้ตลอดเวลา พร้อมทําแนวกันไฟไม่ให้ลุกลามไปสู่ชุมชน ทั้งนี้ จากการตรวจวัดค่าฝุ่นละออง PM2.5 ในพื้นที่ อ.หัวหิน พบว่ายังไม่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ไฟป่าในครั้งนี้ โดยค่าฝุ่นละออง PM2.5 วันนี้อยู่ในระดับ 21 ไมโครกรัม/ลบ.ม. ซึ่งคุณภาพอากาศอยู่ระดับปกติ อย่างไรก็ตาม ขอความร่วมมือให้ประชาชนงดการเผาทุกชนิดในที่โล่งแจ้งเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการลุกกลายเป็นไฟป่า สร้างความเสียหายในวงกว้าง #สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
22/3/2023
ภาคตะวันตก
ประจวบคีรีขันธ์
สวท.ประจวบคีรีขันธ์
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230322111556572
null
สาธารณสุขจังหวัดอำนาจเจริญ เตือนระวังโรคและภัยสุขภาพช่วงหน้าร้อน แนะประชาชนระมัดระวังยึดหลัก “กินร้อนช้อนกลางส่วนตัว ล้างมือ”
นายแพทย์ปฐมพงษ์ ปรุโปร่ง นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดอํานาจเจริญ กล่าวว่า ประเทศไทยเข้าสู่ฤดูร้อนแล้ว ส่งผลให้ประชาชนทั่วไปและกลุ่มเสี่ยงมีโอกาสเจ็บป่วยด้วยโรคและภัยสุขภาพที่เกิดในช่วงฤดูร้อน โดยแบ่งเป็น 2 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มที่ 1 โรคติดต่อทางเดินอาหารและน้ํา อาทิ โรคอุจจาระร่วง โรคอาหารเป็นพิษ เกิดจากการรับประทานอาหาร หรือน้ําที่ปนเปื้อนเชื้อโรค พบได้ในทุกกลุ่มวัย โรคอหิวาตกโรค ติดต่อโดยการรับประทานอาหาร หรือน้ําที่มีเชื้ออหิวาตกโรคปะปนอยู่ ส่วนใหญ่มีอาการถ่ายเหลวเป็นน้ํา คลื่นไส้อาเจียน สําหรับแนวทางการป้องกันโรคทางเดินอาหารและน้ํา ได้แก่ การยึดหลัก “กินร้อน ช้อนกลางส่วนตัว ล้างมือ” กลุ่มที่ 2 ภัยสุขภาพ อาทิ การเจ็บป่วยและเสียชีวิตจากภาวะอากาศร้อน ร่างกายปรับตัวไม่ทัน ทําให้เกิดอาการหน้ามืด กระสับกระส่าย หัวใจเต้นผิดจังหวะ การป้องกันคือ งดออกกําลังกายหรือทํางานกลางแดดเป็นเวลานาน ไม่ให้ร่างกายขาดน้ํา หากสงสัยผู้มีอาการเจ็บป่วยจากภาวะอากาศร้อน ควรให้การปฐมพยาบาลเบื้องต้นโดยให้ดื่มน้ําเย็นและเช็ดตัวด้วยน้ําเย็น และผลกระทบต่อสุขภาพจากปัญหา หมอกควัน ประชาชนมีความเสี่ยงที่จะป่วยโรคทางเดินหายใจ การป้องกันคือ ปิดประตูหน้าต่างบ้านให้มิดชิด ทําความสะอาดบ้านสม่ําเสมอ สวมหน้ากากอนามัยที่ป้องกันฝุ่นละอองขนาดเล็กได้ เช่น N95 และไม่เผาขยะ ไม่เผาป่า ลดการใช้รถยนต์ส่วนตัว ไม่สูบบุหรี่ในที่สาธารณะ #สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
23/3/2023
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
อำนาจเจริญ
สวท.อำนาจเจริญ
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230323094001915
null
เทศบาลนครตรัง นำรถดับเพลิงพร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ ออกปฏิบัติหน้าที่ระงับเหตุเพลิงไหม้เศษวัสดุที่ใช้ในการก่อสร้าง (ต่อเติมร้านอาหาร) บริเวณถนนวิเศษกุล
ดร.สัญญา ศรีวิเชียร นายกเทศมนตรีนครตรัง สั่งการให้ งานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เทศบาลนครตรัง นํารถดับเพลิงพร้อมกําลังเจ้าหน้าที่ ออกปฏิบัติหน้าที่ระงับเหตุเพลิงไหม้เศษวัสดุที่ใช้ในการก่อสร้าง (ต่อเติมร้านอาหาร) บริเวณถนนวิเศษกุล ข้างร้านกุ๊กศักดิ์ สาขา 1 โดยเหตุครั้งนี้เจ้าหน้าที่สามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ และไม่มีการติดลุกลามไปยังพื้นที่ข้างเคียงอย่างไรก็ตาม หากพี่น้องประชาชนประสบเหตุอัคคีภัยหรือพบเห็นแหล่งที่อาจก่อให้เกิดเพลิงไหม้ สามารถติดต่อขอความช่วยเหลือได้ที่งานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เทศบาลนครตรัง เบอร์โทรศัพท์ 075 - 218777 หรือ 199 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
23/3/2023
ภาคใต้
ตรัง
สวท.ตรัง
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230323163936169
null
จังหวัดศรีสะเกษ มอบเงินช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย ด้านพืช ปี 2565 ใน 19 อำเภอ วงเงินกว่า สองร้อยสี่สิบแปดล้านบาท คาดว่าในเดือนพฤษภาคม 2566 จะโอนเงินให้ผู้ประสบภัยในอีก 3 อำเภอที่เหลือจนครบ
ที่องค์การบริหารส่วนตําบลคูซอด อําเภอเมือง จังหวัดศรีสะเกษ นายสํารวย เกษกุล ผู้ว่าราชการจังหวัด เป็นประธานในพิธีมอบเงินช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน อุทกภัย ด้านพืช ปี 2565 เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้กับพี่น้องเกษตรกรผู้ประสบภัย และประชาสัมพันธ์ในเรื่องความก้าวหน้า การให้ความช่วยเหลือ ด้านนายวิชัย ศรีโพธิ์งาม เกษตรจังหวัดศรีสะเกษ กล่าวว่า ในปี 2565 ที่ผ่านมา เกิดสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ตั้งแต่วันที่ 12 กรกฎาคม 2565 ในอําเภอภูสิงห์เป็นพื้นที่แรก และสิ้นสุดสถานการณ์เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 2565 มีพื้นที่การเกษตรทั้งด้านประมง ปศุสัตว์ และด้านพืช ได้รับผลกระทบครอบคลุมทั้ง 22 อําเภอ 166 ตําบล 1,369 หมู่บ้าน เกษตรกรได้รับผลกระทบ 54,283 ราย พื้นที่ได้รับผลกระทบกว่า 346,000 ไร่ ได้โอนเงินช่วยเหลือผ่าน ธนาคาร ธ.ก.ส. เข้าบัญชีเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย แล้ว 2 รอบ จํานวน 21,838 ราย ใน 19 อําเภอ วงเงินกว่า สองร้อยสี่สิบแปดล้านบาท (247,822,346.68 บาท) โดยยังเหลืออีก 3 อําเภอ ได้แก่ อําเภอขุขันธ์ อําเภอราษีไศล และอําเภอศิลาลาด ที่คาดว่าจะได้รับการโอนเงินช่วยเหลือในช่วงเดือนพฤษภาคม 2566#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
23/3/2023
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ศรีสะเกษ
สวท.ศรีสะเกษ
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230323183136231
null
มูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ นำเงินและสิ่งของพระราชทานมอบช่วยเหลือผู้ประสบอัคคีภัย ที่ อ.หนองแซง จ.สระบุรี
วันนี้ (24 มี.ค.2566) พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ให้มูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ เชิญเงินและสิ่งของพระราชทานไปมอบให้แก่ครอบครัวผู้ประสบอัคคีภัย เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนและเป็นขวัญกําลังใจ ให้แก่ครอบครัวบ้านผู้ประสบอัคคีภัย นางสาวมาลี แย้มเกษร อายุ 61 ปี บ้านเลขที่ 3/2 หมู่ที่ 8 ตําบลหนองแชง อําเภอหนองแชง จังหวัดสระบุรี ซึ่งบ้านเรือนถูกเพลิงไหม้เสียหายทั้งหลัง เหตุเกิดเมื่อวันที่ 21 มีนาคม 2566 ซึ่งไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต โดยมี นางอังคณา ชิตะติตติ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรี ในฐานะรองประธานกรรมการมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ประจําจังหวัดสระบุรี เป็นประธานพิธีมอบเงินช่วยเหลือ สิ่งของเครื่องใช้อุปโภคและบริโภคมอบให้กับผู้ประสบภัยเพื่อเป็นขวัญกําลังใจและบรรเทาทุกข์ในเบื้องต้นทั้งนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีความห่วงใยพสกนิกร ที่ได้รับความเดือดร้อนจากภัยพิบัติต่างๆ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้นําเงินช่วยเหลือ ตามหลักเกณฑ์การพิจารณาการจ่ายเงินสํารองจ่ายมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ ในการช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบภัยพิบัติในครั้งนี้ ยังความปลาบปลื้มและสํานึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้แก่ครอบครัวผู้ได้รับพระราชทานความช่วยเหลือในครั้งนี้โดยรองผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรี ได้พูดคุยให้กําลังใจแก่ครอบครัว ผู้ประสบเหตุอัคคีภัย ซึ่งทางองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ฝ่ายปกครอง คณะกรรมการเหล่าสมาชิกกาชาดจังหวัดสระบุรี กํานัน ผู้ใหญ่บ้านฯลฯ ในพื้นที่ ได้ลงพื้นที่เยี่ยมเยียน มอบสิ่งของ ให้ความช่วยเหลือ ผู้ประสบอัคคีภัย เพื่อเป็นการช่วยเหลือในเบื้องต้นแล้ว โดยนางสาวมาลี แย้มเกษร ไม่ได้ประกอบอาชีพ มีรายได้จากเงินผู้สูงอายุ เดือนละ 600 บาท และเงินบํานาญชราภาพประกันสังคมเดือนละ 2,200 บาท อาศัยอยู่เพียงลําพัง และจังหวัดสระบุรีจะได้พิจารณาใช้เงินสํารองจ่ายมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ ที่มีอยู่ทางจังหวัดให้ความช่วยเหลือผู้ประสบอัคคีภัย เป็นค่าวัสดุซ่อมแซมก่อสร้างที่อยู่อาศัย และเป็นสิ่งของช่วยเหลือเบื้องต้นโดยจัดซื้อเครื่องครัว เครื่องนอน ตามความเหมาะสมต่อไป#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
24/3/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
สระบุรี
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสระบุรี
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230324174217545
null
จังหวัดอำนาจเจริญแจ้งเตือนประชาชนระวังพายุฤดูร้อน บริเวณประเทศไทยตอนบน ในช่วงวันที่ 26-29 มีนาคมนี้
นายฤทธิสรรค์ เทพพิทักษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดอํานาจเจริญ เปิดเผยว่า กองอํานวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก.) ได้ติดตามสภาวะอากาศและปัจจัยเสี่ยง กอปรกับกรมอุตุยมวิทยาได้มีประกาศ แจ้งว่า บริเวณความกดอากาศสูงกําลังปานกลางจากสาธารณรัฐประชาชนจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือและทะเลจีนใต้ ทําให้มีลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้พัดนําความชื้นจากอ่าวไทยและทะเลจีนใต้เข้ามาปกคลุมประทศไทยตอนบน ในขณะที่ประเทศไทยมีอากาศร้อนถึงร้อนจัด ทําให้ประเทศไทยตอนบนจะมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น โดยมีลักษณะของพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโซกแรงและลูกเห็บตกบางพื้นที่ รวมถึงอาจมีฟ้าผ่าเกิดขึ้นได้บางพื้นที่ โดยจะเริ่มมีผลกระทบในบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือก่อนเป็นลําดับแรก โดยเริ่มมีผลกระทบระหว่างวันที่26 - 29 มีนาคม 2566 จังหวัดอํานาจเจริญ จึงขอให้กองอํานวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยทุกระดับ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ติดตามสถานการณ์และแจ้งเตือนประชาชนที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยทราบล่วงหน้า และให้ติดตามข้อมูลสภาวะอากาศและข่าวสารจากทางราชการ ประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้ให้กับประชาชน ระวังอันตรายจากฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง โดยหลีกเสี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่ สิ่งก่อสร้าง และป้ายโฆษณาที่ไม่แข็งแรงรวมถึงระวังอันตรายจากฟ้าผ่า สําหรับเกษตรกรควรป้องกันผลิตผลทางการเกษตรที่อาจได้รับความเสียหายด้วยทั้งนี้ หากเกิดสถานการณ์รุนแรงในพื้นที่ ให้ดําเนินการตามแผนการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดอํานาจเจริญ และรายงานให้กองอํานวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดอํานาจเจริญทราบ ทางโทรสารหมายเลข ? 4552 3133 หรือทางไลน์กลุ่ม "งานป้องกันฯ จ.อํานาจเจริญ" โดยรายงานทุกระยะจนกว่าสถานการณ์จะสิ้นสุด#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
25/3/2023
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
อำนาจเจริญ
สวท.อำนาจเจริญ
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230325115258712
null
จังหวัดปราจีนบุรี ระดมกำลังระงับเหตุไฟลุกไหม้ทุ่งนาใกล้ชุมชน เพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาหมอกควัน PM 2.5 ลดผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน
วันนี้ (26 มี.ค.66) เวลา 18.40 น. สนง.ปภ.จ.ปราจีนบุรี ได้รับแจ้งจากนายสถาพร พงษ์นาค บ้านเลขที่ 40/2 หมู่ที่ 2 ต.โคกไม้ลาย ว่าเกิดไฟไหม้ทุ่งนาลุกลามเข้าใกล้บ้านเรือนประชาชน บริเวณด้านหลังวัดโคกอู่ทอง หมู่ที่ 2 บ้านเรือนประชาชนหมู่ที่ 1, 2 ต.โคกไม้ลาย อ.เมืองปราจีนบุรี และใกล้ชุมชนตลาดปากพลี อ.ปากพลี จ.นครนายก นายวิธรัช รามัญ นายอําเภอเมืองปราจีนบุรี พร้อมด้วย นายปราโมช สิงหกุล นายก อบต.โคกไม้ลาย ประสาน อปท.ใกล้เคียง ส่งรถดับเพลิงเข้าดับไฟที่ลุกไหม้ทุ่งนา จนกระทั่งเวลา 20.11 น. จึงสามารถดับไฟและแก้ไขปัญหาควันไฟที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนในพื้นที่ดังกล่าวได้ โดยได้รับการสนับสนุนการเผชิญเหตุจาก อบต.โคกไม้ลาย รถดับเพลิง จํานวน 1 คัน และ อบต.ไม้เค็ด รถดับเพลิง จํานวน 1 คัน #กอ.ปภ.จ.ปราจีนบุรี/26 มีค 66
26/3/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดปราจีนบุรี
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230326213238959
null
จังหวัดหนองบัวลำภู มอบสิ่งของช่วยเหลือผู้ประสบวาตภัยพายุฤดูร้อน จำนวน 2 อำเภอ 36 ครัวเรือน
วันที่ 27 มีนาคม 2566 เวลา 14.00 น. นางณัฐติกานต์ จันทร์หวร นายกเหล่ากาชาดจังหวัดหนองบัวลําภู มอบหมายให้คณะกรรมการเหล่ากาชาดจังหวัดหนองบัวลําภู นําถุงยังชีพ พร้อมสิ่งของช่วยเหลือ เครื่องอุปโภคบริโภค ไปมอบให้กับประชาชนผู้เดือดร้อนจากเหตุพายุฤดูร้อน พัดบ้านเรือนเสียหาย พร้อมด้วย สํานักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เพื่อช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนในเขตพื้นที่ อําเภอศรีบุญเรือง และเขตพื้นที่อําเภอเมือง เหตุเกิดเมื่อวันที่ 25 มีนาคม 2566 เวลา 17.00 น ได้พายุฤดูร้อนทําให้บ้านเรือนประชาชนถูกพายุพัดหลังคาเสียหาย ในพื้นที่ตําบลหนองแก หมู่ที่ 7, 8, 9 มีประชาชนได้รับความเดือดร้อน จํานวน 4 ครัวเรือน และในเขตพื้นที่ตําบลโนนขมิ้น หมู่ที่ 1, 2, 5, 6, 7, 10 อําเภอเมือง จังหวัดหนองบัวลําภู มีประชาชนได้รับความเดือดร้อน จํานวน 2 อําเภอ 9 หมู่บ้าน 36 ครัวเรือน#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
27/3/2023
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
หนองบัวลำภู
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดหนองบัวลำภู
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230327164241170
null
มทบ. 210 นำกำลังเข้าช่วยเหลือประชาชน หลังพายุฤดูร้อนพัดถล่มในพื้นที่ จ.นครพนม
วันนี้ (27 มี.ค.66) ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยมณฑลทหารบกที่ 210 โดยชุดช่วยเหลือประชาชน ลงพื้นที่สํารวจ บ้านเรือนประชาชนที่ได้รับความเสียหายจากพายุฤดูร้อน ในพื้นที่ ต.กุรุคุ และ ต.วังตามัว อ.เมือง จ.นครพนม ซึ่งมีประชาชนได้รับความเสียหายขั้นต้น จํานวน 3 ครัวเรือน เสียหายเล็กน้อย 2 หลัง เสียหายมาก 1 หลัง ทั้งนี้ยังมีบ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหาย ในอีก 2 อําเภอได้แก่ อ.ท่าอุเทน อ.โพนสวรรค์ ที่รอการสํารวจเพิ่มเติม โดยในวันนี้ได้ร่วมกันรื้อถอนซากหลังคา กิ่งไม้ ที่ทําให้บ้านเรือนเสียหาย เพื่อเตรียมการซ่อมแซมต่อไปศูนย์บรรเทาสาธารณภัยมณฑลทหารบกที่ 210 ได้ประสานกับส่วนราชการ และ อปท.ในพื้นที่ ที่เกี่ยวข้องเพื่อให้การช่วยเหลือและรายงานข้อมูลเพิ่มเติมต่อไป ประชาชนรู้สึกขอบคุณที่ทหารเข้ามาให้การช่วยเหลืออย่างเร่งด่วนในครั้งนี้#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
27/3/2023
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
นครพนม
สวท.นครพนม
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230327200459243
null
กองบิน 1 จัดชุดจิตอาสาฯ ต้านภัยแล้งเพราะน้ำคือชีวิต ศูนย์บรรเทาสาธารณภัย กองบิน 1 ช่วยเหลือพี่น้องประชาชน บรรเทาภัยแล้ง
วันนี้ (27 มีนาคม 2566) นาวาอากาศเอก กฤษณะ เปี่ยมศรี ผู้บังคับการกองบิน 1 ในฐานะผู้อํานวยการศูนย์บรรเทาสาธารณภัย กองบิน 1 มอบหมายให้ เจ้าหน้าที่ศูนย์บรรเทาสาธารณภัย กองบิน 1 นํารถบรรทุกน้ําสะอาดสําหรับอุปโภคใช้สอย จํานวน 6,000 ลิตร พร้อมด้วย จิตอาสาพระราชทาน กองบิน 1 ออกแจกจ่ายให้กับประชาชน ในพื้นที่บ้านโนนม่วง ต.โป่งแดง อ.ขามทะเลสอ จ.นครราชสีมา ซึ่งเป็นพื้นที่รับผิดชอบ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน ในยามปกติชาวบ้านจะสูบน้ําจากบ่อน้ําของหมู่บ้านมาใช้สําหรับอุปโภค แต่เมื่อเข้าสู้หน้าแล้ง ประกอบกับน้ําประปายังเข้าไม่ถึงหมู่บ้าน จึงทําให้ชาวบ้านในพื้นที่เกิดความเดือดร้อน ในภารกิจครั้งนี้สามารถเข้าช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชนได้ทั้งหมด 4 หลังคาเรือน และยังวางแผนปฏิบัติภารกิจต่อเนื่อง#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
27/3/2023
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
นครราชสีมา
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนครราชสีมา
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230327200641244
null
นายอำเภอวังน้ำเขียว นำจิตอาสา 904 ตำรวจ อบต. กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ช่วยชาวบ้านไฟไหม้บ้านเสียหายทั้งหลัง
ภายหลัง เมื่อเช้านี้เกิดไฟไหม้บ้านเรือนประชาชน ที่บ้านเลขที่ 138 หมู่ 12 บ้านวังไผ่ ต.สังน้ําเขียว อ.วังน้ําเขียว จ.นครราชสีมา เป็นบ้านของ นายก้าน มะกรูดอินทร์ 57 ปี และครอบครัวอีก 3 ชีวิต พ่อแม่ลูก เกิดไฟไหม้บ้านไม้ชั้นเดียว เสียหายทั้งหมด เครื่องมือช่าง รถจักรยานยนต์ 2 คัน อุปกรณ์ไฟฟ้า เสื้อผ้า ข้าวของถูกไฟไหม้ทั้งหมด เบื้องต้นสาเหตุเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร เพราะสายไฟมีสภาพเก่าล่าสุด นายสมภพ มุกดาสนิท นายอําเภอวังน้ําเขียว ร่วมกับ จิตอาสา 904 ฝ่ายปกครอง กํานัน ผู้ใหญ่บ้าน ตํารวจ กต.ตร. อบต.วังน้ําเขียว นําสิ่งของ ถุงยังชีพ เครื่องใช้ไฟฟ้า ไปมอบให้กับผู้ประสบภัย พร้อมประสานงานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งช่วยเหลือสร้างบ้านต่อไป#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
27/3/2023
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
นครราชสีมา
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนครราชสีมา
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230327201209248
null
นายอำเภอปากช่องเตือนพายุฤดูร้อน (ในช่วงวันที่ 27 - 29 มีนาคม 2566)
นายคณัสชนม์ ศรีเจริญ นายอําเภอปากช่อง เตือนพายุฤดูร้อน (ในช่วงวันที่ 27 - 29 มีนาคม 2566) โดยบริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกําลังปานกลางได้แผ่ลงมาปกคลุมถึงประเทศลาวและทะเลจีนใต้แล้ว คาดว่าจะแผ่ลงมาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือในระยะต่อไป ส่งผลทําให้มีลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้พัดนําความชื้นจากอ่าวไทยและทะเลจีนใต้เข้ามาปกคลุมประเทศไทยตอนบน ในขณะที่ประเทศไทยมีอากาศร้อนถึงร้อนจัด ลักษณะเช่นนี้ทําให้บริเวณดังกล่าวจะมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้นในช่วงวันที่ 27 - 29 มีนาคม 2566 โดยมีลักษณะของพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และมีลูกเห็บตกบางแห่ง รวมถึงอาจมีฟ้าผ่าเกิดขึ้นได้บางพื้นที่ โดยจะเริ่มมีผลกระทบในภาคตะวันออกเฉียงเหนือก่อน ส่วนภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑลจะได้รับผลกระทบในระยะถัดไป จึงขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากพายุฤดูร้อนที่อาจจะเกิดขึ้น โดยหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้งใต้ต้นไม้ใหญ่ สิ่งปลูกสร้างและป้ายโฆษณาที่ไม่แข็งแรง สําหรับเกษตรกรควรเตรียมการป้องกันและระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตรในช่วงวันและเวลาดังกล่าวไว้ด้วยจึงขอให้กํานัน/ผู้ใหญ่บ้าน/องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ทุกพื้นที่ได้เฝ้าระวังพายุฤดูร้อน หากเกิดเหตุในพื้นที่ให้เร่งรัดรายงาน ผ่านทางช่องทางระบบไลน์ ให้ทางอําเภอปากช่องทราบ เพื่อจะได้ประสานองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ให้ดําเนินการช่วยเหลือประชาชนที่เดือดร้อนต่อไป#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
27/3/2023
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
นครราชสีมา
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนครราชสีมา
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230327203546252
null
ผู้ว่าฯ นครพนม นำทีมลงพื้นที่ลงพื้นที่ตรวจสอบความเสียหายกรณีเกิดเหตุลมกระโชกแรงทำให้บ้านเรือนราษฎรได้รับความเสียหายในพื้นที่ 4 อำเภอ กว่า 67 หลังคาเรือน
วันที่ 27 มีนาคม 2566 เวลา 18.00 น. นายวันชัย จันทร์พร ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม นําปลัดจังหวัดนครพนม ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดนครพนม ลงพื้นที่ตรวจสอบความเสียหายกรณีเกิดเหตุลมกระโชกแรง ในวันนี้ เมื่อเวลา 16.45 น. ทําให้บ้านเรือนราษฎรได้รับความเสียหายในพื้นที่ 4 อําเภอของจังหวัดนครพนม คือ อําเภอเมืองนครพนม พื้นที่ตําบลอาจสามารถ ได้รับความเสียหาย จํานวน 21 หลังคาเรือน พื้นที่ตําบลวังตามัว ได้รับความเสียหาย จํานวน 1 หลังคาเรือน อําเภอท่าอุเทน - พื้นที่ตําบลเวินพระบาท ได้รับความเสียหาย จํานวน 11 หลังคาเรือน - พื้นที่ตําบลโนนตาล ได้รับความเสียหายจํานวน 1 หลังคาเรือน อําเภอนาหว้า - พื้นที่ตําบลเหล่าพัฒนา ได้รับความเสียหายจํานวน 1 หลังคาเรือน อําเภอศรีสงคราม- พื้นที่ตําบลหาดแพง ได้รับความเสียหายจํานวน 30 หลังคาเรือน รวมได้รับความเสียหายจํานวน 67 หลังคาเรือนทั้งนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบความเสียหายในพื้นที่อําเภอเมืองนครพนม, อําเภอท่าอุเทน ส่วนในพื้นที่อําเภอนาหว้าและอําเภอศรีสงคราม ได้มอบหมายให้นายอําเภอในพื้นที่ บูรณาการร่วมกับนายกองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ดําเนินการเร่งสํารวจความเสียหายและให้ความช่วยเหลือประชาชนในเบื้องต้น ในด้านที่อยู่อาศัย และบูรณาการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าให้ความช่วยเหลือ เช่น การไฟฟ้า เข้าดําเนินการแก้ไขกรณีไฟฟ้าดับในพื้นที่ประสบภัย พร้อมนี้ ได้มอบนโยบายให้ช่วยเหลือผู้ประสบภัยในทันทีที่กระทําได้ ความเดือดร้อนของประชาชนรอไม่ได้ โดยในพื้นที่ตําบลอาจสามารถอําเภอเมืองนครพนม ได้ดําเนินการส่งมอบวัสดุซ่อมแซมหลังคา สําหรับครัวเรือนที่ประสบเหตุทันทีหลังเกิดเหตุ#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
27/3/2023
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
นครพนม
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนครพนม
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230327204835254
null
ผู้ว่าฯ นครพนม นำทีมลงพื้นที่ลงพื้นที่ตรวจสอบความเสียหายกรณีเกิดเหตุวาตภัยทำให้บ้านเรือนราษฎรได้รับความเสียหายในพื้นที่ 5 อำเภอ กว่า 81 หลังคาเรือน
วันที่ 27 มีนาคม 2566 เวลา 18.00 น. นายวันชัย จันทร์พร ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม นําปลัดจังหวัดนครพนม หัวหน้าสํานักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดนครพนม ลงพื้นที่ตรวจสอบความเสียหายกรณีเกิดเหตุลมกระโชกแรงลมพายุฝนฟ้าคะนอง (วาตภัย) ในช่วงบ่ายวันนี้ ทําให้บ้านเรือนราษฎรได้รับความเสียหายในพื้นที่ 5 อําเภอของจังหวัดนครพนม คือ อําเภอเมืองนครพนม พื้นที่ตําบลอาจสามารถ ได้รับความเสียหาย จํานวน 21 หลังคาเรือน พื้นที่ตําบลวังตามัว ได้รับความเสียหาย จํานวน 1 หลังคาเรือน รวม 22 หลังคาเรือน อําเภอท่าอุเทน-พื้นที่ตําบลเวินพระบาท ได้รับความเสียหาย จํานวน 11 หลังคาเรือน-พื้นที่ตําบลโนนตาล ได้รับความเสียหายจํานวน 1 หลังคาเรือน รวม 12 หลังคาเรือน อําเภอนาหว้า-พื้นที่ตําบลเหล่าพัฒนา ได้รับความเสียหายจํานวน 1 หลังคาเรือน อําเภอศรีสงคราม - พื้นที่ตําบลหาดแพง 2 หมู่บ้าน ได้รับความเสียหายจํานวนกว่า 30 หลังคาเรือน อําเภอโพนสวรรค์-ต.นาหัวบ่อ 6 หลัง ตําบลโพนจาน 2 หลัง ตําบลโพนบก 4 หลัง ตําบลโพนสวรรค์ 2 หลัง รวม 4 ตําบล 14 หลังคาเรือน รวมได้รับความเสียหายจํานวนกว่า 81 หลังคาเรือนทั้งนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบความเสียหายในพื้นที่อําเภอเมืองนครพนม, อําเภอท่าอุเทน ส่วนในพื้นที่อําเภอนาหว้า อําเภอโพนสวรรค์ และอําเภอศรีสงคราม ได้มอบหมายให้นายอําเภอในพื้นที่ บูรณาการร่วมกับนายกองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ดําเนินการเร่งสํารวจความเสียหายและให้ความช่วยเหลือประชาชนในเบื้องต้น ในด้านที่อยู่อาศัย และบูรณาการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าให้ความช่วยเหลือ เช่น การไฟฟ้า เข้าดําเนินการแก้ไขกรณีไฟฟ้าดับในพื้นที่ประสบภัย พร้อมนี้ ได้มอบนโยบายให้ช่วยเหลือผู้ประสบภัยในทันทีที่กระทําได้ ความเดือดร้อนของประชาชนรอไม่ได้ โดยในพื้นที่ตําบลอาจสามารถอําเภอเมืองนครพนม ได้ดําเนินการส่งมอบวัสดุซ่อมแซมหลังคา สําหรับครัวเรือนที่ประสบเหตุทันทีหลังเกิดเหตุ#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
27/3/2023
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
นครพนม
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนครพนม
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230327211014261
null
จ.หนองคาย สภากาชาดไทยมอบชุดธารน้ำใจช่วยผู้ประสบภัย
สภากาชาดไทย มอบชุดธารน้ําใจช่วยผู้ประสบภัย ให้กับประชาชนในอําเภอโพนพิสัยและอําเภอสังคม ที่ประสบวาตภัย จํานวน 158 หลัง เหตุเกิดเมื่อวันที่ 21-22 มีนาคม 2566เวลา 15.50 น.วันนี้ (27 มี.ค. 66) ที่สํานักงานเหล่ากาชาดจังหวัดหนองคาย นายราชันย์ ซุ้นหั้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย เป็นประธานในพิธีมอบชุดธารน้ําใจช่วยผู้ประสบภัย ให้กับตัวแทนนายอําเภอสังคมและนายอําเภอโพนสัย เพื่อนําไปส่งมอบต่อให้กับประชาชนผู้ประสบวาตภัยในพื้นที่ของตนเองจังหวัดหนองคายได้ประสบวาตภัย เมื่อวันที่ 21-22 มีนาคม 2565 ส่งผลทําให้บ้านเรือนราษฎรในพื้นที่อําเภอโพนพิสัย และอําเภอสังคม เสียหายหลายหลังคาเรือน ทั้งนี้ยังมีประชาชนที่ประสบภัยยังไม่ได้รับการช่วยเหลือจากหน่วยงานใด จํานวน 158 ครัวเรือนดังนี้ อําเภอโพนพิสัย จํานวน 96 ครัวเรือน และอําเภอสังคม จํานวน 62 ครัวเรือน เหล่ากาชาดจังหวัดหนองคาย จึงได้ประสานไปยัง สถานีกาชาดที่ 9 อุดรธานี เพื่อขอรับการสนับสนุนชุดธารน้ําใจ สภากาชาดไทย เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยวาตภัย ในพื้นที่ดังกล่าว และได้รับการสนับสนุน ชุดธารน้ําใจช่วยผู้ประสบภัยครบตามที่ขอรับการสนับสนุน ซึ่งผู้ว่าราชการได้กําชับให้ทั้ง 2 อําเภอที่มารับชุดธารน้ําใจช่วยผู้ประสบภัยในครั้งนี้ เร่งนําชุดธารน้ําใจฯ ไปมอบให้กับประชาชนผู้ประสบภัยในพื้นที่ของตนเองโดยเร็วที่สุด.#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILANDจุมพล / หนองคาย
27/3/2023
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
หนองคาย
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดหนองคาย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230327213157270
null
กองบิน 5 จ.ประจวบคีรีขันธ์ ส่งหน่วยบินปฏิบัติภารกิจฝนหลวง สนับสนุนการแก้ปัญหาภัยแล้งในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
นาวาอากาศเอก สิทธิรัตน์ พู่ทรงชัย ผู้บังคับการกองบิน 5 จ.ประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยว่า ขณะนี้ กองบิน 5 ได้ส่งหน่วยบินปฏิบัติภารกิจฝนหลวง ร่วมแก้ไขปัญหาภัยแล้งในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ได้แก่ จังหวัดนครราชสีมา ชัยภูมิ และบุรีรัมย์ โดยสนับสนุนเครื่องบินพีชเมคเกอร์ หรือเครื่องบินโจมตีธุรการแบบที่ 2 จํานวน 3 เครื่อง นักบิน 6 นาย และเจ้าหน้าที่ชุดช่างประจําเครื่อง 39 นาย รวม 45 นาย พร้อมวัสดุอุปกรณ์ โดยมีฐานปฏิบัติการฝนหลวงที่กองบิน 1 จังหวัดนครราชสีมา ปฏิบัติภารกิจตามที่ได้รับมอบหมายจากกรมฝนหลวงและการบินเกษตร ใช้พลุสารดูดความชื้นที่มีสารเคมีโซเดียมคลอไรด์ แคลเซียมคลอไรด์ เป็นส่วนผสม และใช้หลักการจุดพลุซึ่งดัดแปลงจากระบบอาวุธเดิมที่ติดตั้งในเครื่องบินเพื่อให้สะดวกและง่ายต่อการทําฝนหลวง ซึ่งจะเริ่มแผนปฏิบัติการทําฝนหลวงตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย.- 30 ก.ย.66 หรือจนเสร็จสิ้นภารกิจ ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศแต่ละพื้นที่ปฏิบัติการ#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
28/3/2023
ภาคตะวันตก
ประจวบคีรีขันธ์
สวท.ประจวบคีรีขันธ์
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230328091138336
null
จังหวัดสตูล องค์การบริหารส่วนตำบลบ้านควน พร้อมจัดเจ้าหน้าที่ช่วยเหลือและเฝ้าระวังอัคคีภัยไม่เว้นวันหยุดราชการ ควบคู่อำนวยความสะดวกแก่ประชาชนที่ประสบภัยแล้งไม่มีน้ำอุปโภคบริโภค
วันนี้ (28 มี.ค.66) นายกูดานัน หลังจิ นายกองค์การบริหารส่วนตําบลบ้านควน (อบต.บ้านควน) เปิดเผยว่า เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมรับมือภัยแล้งในปีนี้ จึงได้แต่งตั้งเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานในวันหยุดราชการ เพื่อช่วยเหลือและเฝ้าระวังการเกิดอัคคีภัย ตั้งแต่บัดนี้จนถึงวันที่ 30 เมษายน 2566 (ไม่เว้นวันหยุดราชการ) เพื่อให้การช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ได้อย่างทันท่วงที เนื่องจากเมื่อถึงฤดูร้อนหรือหน้าแล้งพื้นที่ตําบลบ้านควนมักเกิดอัคคีภัยอยู่บ่อยครั้ง ซึ่งสร้างความเสียหายทั้งทรัพย์สินและพืชผลทางการเกษตรรวมถึงเกิดผลกระทบต่อการดํารงชีวิตประจําวันของประชาชนในพื้นที่ นอกจากนี้จากการจัดเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่สํารวจความต้องการใช้น้ํา พบว่ามีประชาชนประสบปัญหาขาดแคลนน้ําอุปโภคและบริโภคหลายครัวเรือน ซึ่งได้จัดรถบรรทุกน้ําแจกจ่ายให้กับประชาชนที่ได้รับผลกระทบแล้ว ทั้งนี้ประชาชนในพื้นที่ที่ได้รับความเดือดร้อนสามารถยื่นคําร้องขอน้ําเพื่ออุปโภคและบริโภคได้ที่งานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ห้องสํานักปลัด อบต.บ้านควน) และเตรียมภาชนะบรรจุน้ําไว้เพื่อรอเจ้าหน้าที่จัดส่งน้ําต่อไป พร้อมกันนี้จะเพิ่มจุดบริการน้ําในพื้นที่ เพื่ออํานวยความสะดวกและแก้ปัญหาให้แก่ประชาชนที่ประสบภัยแล้งอีกด้วย#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
28/3/2023
ภาคใต้
สตูล
สวท.สตูล
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230328111252377
null
อำเภอภูกระดึง ระดมสรรพกำลังแก้ปัญหาไฟป่าในพื้นที่
นายภูริวัจน์ โชตินพรัตน์ นายอําเภอภูกระดึง เป็นประธานปล่อยแถวชุดปฏิบัติการดับไฟป่า ที่ อุทยานแห่งชาติภูกระดึง โดยมี นายอดิสร เหมทานนท์ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติภูกระดึง นายณัฐวุฒิ นิลวิเชียร หัวหน้าสถานีไฟป่าภูกระดึง เจ้าหน้าที่ตํารวจจากสถานีตํารวจภูธรภูกระดึง เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติภูกระดึง สถานีควบคุมไฟป่าภูกระดึง เทศบาลตําบลภูกระดึง องค์การบริหารส่วนตําบลภูกระดึง องค์การบริหารส่วนตําบลศรีฐาน เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูหลวง ที่ทําการปกครองอําเภอภูกระดึง กํานัน ผู้ใหญ่บ้าน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จํานวน 40 นาย วางแผนร่วมกันควบคุมไฟป่าและทําแนวกันไฟ ดับไฟบนภูกระดึง โดยได้ระดมสรรพกําลังปฏิบัติการดับไฟป่าอย่างเต็มที่ สามารถควบคุมสถานการณ์ไว้ได้ #สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
28/3/2023
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
เลย
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเลย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230328202717665
null
พายุฤดูร้อนพัดบ้านเรือนประชาชน 4 อำเภอ ในจังหวัดสกลนคร เสียหายรวมกว่า 200 หลังคาเรือน
พายุฤดูร้อนพัดบ้านเรือนประชาชน 4 อําเภอ ในจังหวัดสกลนคร เสียหายรวมกว่า 200 หลังคาเรือนเกิดเหตุพายุฤดูร้อนในพื้นที่จังหวัดสกลนคร โดยเมื่อวันที่ 22 มีนาคม 2566 แรงลมพัดทําให้บ้านเรือนประชาชนและสิ่งปลูกสร้าง ในพื้นที่ตําบลเดื่อศรีคันไชย หมู่ที่ 5, 2, 10, 12, 9, 11 อําเภอวานรนิวาส ได้รับความเสียหาย รวม 45 หลังคาเรือน ซึ่งทางอําเภอวานรนิวาส ได้รายงานเหตุต่อผู้ว่าราชการจังหวัดสกลนครทราบ พร้อมได้สั่งการให้องค์การบริหารส่วนตําบลเดื่อศรีคันไชย เร่งดําเนินการสํารวจความเสียหายและให้ความช่วยเหลือตามอํานาจหน้าที่และในวันนี้ (28 มี.ค 66) นางจุรีรัตน์ เทพอาสน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสกลนคร ในฐานะนายกเหล่ากาชาดจังหวัดสกลนคร พร้อมด้วย นายสุขสันติ วิเวก อําเภอวานรนิวาส ประธานแม่บ้านมหาดไทยอําเภอวานรนิวาส นายกองค์การบริหารส่วนตําบลเดื่อศรีคันไชย ร่วมกันลงพื้นที่ ณ องค์การบริหารส่วนตําบลเดื่อศรีคันไชย อําเภอวานรนิวาส มอบถุงยังชีพเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยวาตภัย พร้อมได้ฝากให้พี่น้องประชาชนติดตามข่าวสารเตรียมความพร้อมรับมือสถานการณ์ที่อาจจะเกิดพายุฝน ลมแรง ดูแลบ้านเรือนซ่อมแซมให้มั่นคงแข็งแรง ขับรถด้วยความระมัดระวัง ลมกระโชกแรง ไม่อยู่ไกล้ต้นไม้ใหญ่ หรือ ป้ายโฆษณาที่ไม่มั่นคง นอกจากนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดสกลนคร ยังได้ลงพื้นที่ ณ หอประชุมที่ว่าการอําเภอโพนนาแก้ว เพื่อมอบถุงยังชีพช่วยเหลือผู้ประสบภัยวาตภัยที่บ้านเรือนและสิ่งปลูกสร้างในพื้นที่ตําบลบ้านโพน และตําบลนาตงวัฒนา ได้รับความเสียหาย รวมจํานวน 55 ครัวเรือน เหตุเกิดเมื่อวันที่ 27 มีนาคม 2566 โดยมีหัวหน้าสํานักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสกลนคร รักษาราชการแทนนายอําเภอโพนนาแก้ว ร่วมมอบ พร้อมทั้งได้สั่งการให้ฝ่ายความมั่นคง กํานัน ผู้ใหญ่บ้าน เทศบาลตําบลบ้านโพน และองค์การบริหารส่วนตําบลนาตงวัฒนา เร่งดําเนินการสํารวจความเสียหายและให้ความช่วยเหลือตามอํานาจหน้าที่ทั้งนี้ พายุฤดูร้อนที่เกิดขึ้นในจังหวัดสกลนคร ยังได้สร้างความเสียหายให้กับบ้านเรือนและสิ่งปลูกสร้างของราษฎร ที่ ตําบลโพธิไพศาล อําเภอกุสุมาลย์ จํานวน 31 หลังคาเรือน และในพื้นที่ อําเภอสว่างแดนดิน อีก 72 หลังคาเรือน ซึ่งทั้งหมดได้รายงานให้ทางผู้ว่าราชการจังหวัดสกลนคร ทราบเพื่อให้การช่วยเหลือต่อไปแล้ว#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
28/3/2023
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
สกลนคร
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสกลนคร
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230328202834666
null
สถานการณ์จุดความร้อนสะสมในพื้นที่ป่าอนุรักษ์จังหวัดกาญจนบุรี ตั้งแต่ 1 ตุลาคม 2565 - 29 มีนาคม 2566 พบจุดความร้อน (Hotspot) 7,611 จุด ติดอันดับจุดความร้อนสะสมสูงสุดของประเทศ
นายอนันต์ โพธิพันธุ์ ผู้อํานวยการสํานักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง) กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กล่าวว่า สถานการณ์จุดความร้อนสะสมในพื้นที่ป่าอนุรักษ์ของจังหวัดกาญจนบุรี ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2565 ถึงวันที่ 29 มีนาคม 2566 พบจุดความร้อน (Hotspot) รวมจํานวน 7,611 จุด ทําให้จังหวัดกาญจนบุรีเป็นจังหวัดที่มีจํานวนจุดความร้อนสะสมสูงที่สุดของประเทศ แม้ว่าปัจจุบันสถานการณ์จุดความร้อนในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรี จะมีสถานการณ์คงตัว และมีจํานวนจุดความร้อนลดลงเมื่อช่วงเช้า (29 มีนาคม 2566) เนื่องจากสภาพอากาศที่มีฝนเข้ามาช่วยในช่วงกลางดึกที่ผ่านมา แต่อย่างไรก็ตาม ทางสํานักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง) ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ควบคุมไฟป่าตามสถานีต่าง ๆ เข้าไปปฏิบัติการดับไฟป่าในพื้นที่ตามจุดที่เกิดจุดความร้อน Hotspot แล้ว ซึ่งคาดว่าจะสามารถควบคุมและดับไฟป่าตามจุดความร้อนต่าง ๆ ให้บรรเทาเบาบางลงได้ต่อไปทั้งนี้ สาเหตุสําคัญของสถานการณ์ไฟป่าที่เกิดขึ้นในพื้นที่ป่าอนุรักษ์ ยังคงมาจากการลักลอบเผาป่า จึงอยากขอความร่วมมือจากประชาชนในพื้นที่ หากพบเห็นไฟป่า หรือการลับลอบเผาป่า สามารถแจ้งได้ที่ สายด่วนกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช 1362 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
29/3/2023
ภาคตะวันตก
กาญจนบุรี
สวท.กาญจนบุรี
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230329140515855
null
จ.ลำปาง แถลงข่าวเตรียมการป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยแล้ง ปี 66 ยืนยันน้ำกินน้ำเพียงพอต่อการอุปโภคบริโภค
วันที่ 29 มีนาคม 2566 นายชัชวาลย์ ฉายะบุตร ผู้ว่าราชการจังหวัดลําปาง พร้อมด้วย นางสาวรตนพร กิติกาศ เกษตรและสหกรณ์จังหวัดลําปาง ผู้อํานวยการสํานักงานชลประทานที่ 2 ผู้อํานวยการโครงการชลประทานลําปาง ผู้อํานวยการโครงการส่งน้ําและบํารุงรักษากิ่วลม-กิ่วคอหมา หัวหน้าสํานักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดลําปาง ท้องถิ่นจังหวัดลําปาง ผู้อํานวยการสํานักงานทรัพยากรน้ําแห่งชาติ ภาค 1 ผู้อํานวยการส่วนแผนงานสํานักงานทรัพยากรน้ําบาดาล เขต 1 ลําปาง ผู้จัดการการประปาส่วนภูมิภาคสาขาลําปาง ร่วมให้แถลงข่าวให้ข้อมูลแก่สื่อมวลชน เพื่อติดตามการเตรียมความพร้อมด้านการบริหารจัดการน้ําตลอดจนมาตรการแก้ไขปัญหาภัยแล้งในทุกมิติ ณ เขื่อนกิ่วลม บ้านหาดเชี่ยว ต.บ้านแลง อ.เมืองลําปางขณะที่สถานการณ์น้ํา 2 อ่างขนาดใหญ่ คือ เขื่อนกิ่วลม และเขื่อนกิ่วคอหมา มีปริมาณน้ํา 191.85 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็น 69.38% ของความจุเก็บกักปริมาณน้ําเพียงพอสําหรับการอุปโภคบริโภค รักษาระบบนิเวศน์ตลอดฤดูแล้งถึงต้นฤดูฝน รวมทั้งการเตรียมแปลงตกกล้าข้าวนาปีเหลือน้ําสําหรับการเพาะปลูกพืชภัยแล้งตามแผนเพียง 5,300 ไร่ ซึ่งสํานักงานชลประทานที่ 2 มีมาตรการจ้างแรงงานเพื่อสร้างรายได้ให้เกษตรกรในเขตจังหวัดลําปางจํานวน 1,922 คน วงเงิน 24.4 ล้านบาททั้งนี้ ได้มีแผนการเตรียมความพร้อมการใช้เครื่องจักร กรณีการช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติในพื้นที่จังหวัดลําปางมาตรการเตรียมความพร้อมและแนวทางการช่วยเหลือ มีการติดตาม วิเคราะห์ แนวโน้มสถานการณ์และสั่งการโดยศูนย์ปฏิบัติการน้ําอัจฉริยะ (SWOC) และโครงการชลประทานลําปาง สํานักงานชลประทานที่ 2 ได้เตรียมความพร้อมและได้ให้ความช่วยเหลือ ได้แก่ เครื่องสูบน้ํา 42 เครื่อง รถบรรทุกน้ํา 3 คัน รถบรรทุก 6 ตัน 4 คัน รถบรรทุกเทท้าย 10 คัน และรถขุด 4 คัน#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
29/3/2023
ภาคเหนือ
ลำปาง
สวท.ลำปาง
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230329150954908
null
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าให้ มูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ เชิญสิ่งของพระราชทาน ไปมอบให้ผู้ประสบอัคคีภัยในพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
วันนี้ (29 มี.ค.66) เมื่อเวลา 09.30 น. มูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ เชิญสิ่งของพระราชทาน ไปมอบให้ผู้ประสบอัคคีภัย ณ องค์การบริหารส่วนตําบลบางปะหัน อําเภอบางปะหัน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยมี นายไพรัตน์ เพชรยวน รองผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นประธานในพิธีเชิญสิ่งของพระราชทาน ให้กับ นางพัชรินทร์ มะลิซ้อน เจ้าของบ้านเลขที่ 41/10 หมู่ที่ 5 ตําบลบางปะหัน อําเภอบางปะหัน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซึ่งประสบอัคคีภัย เมื่อวันที่ 21 มีนาคม 2566 เวลา 12.00 น. บ้านเรือนได้รับความเสียหายทั้งหลัง และมีผู้ได้รับความเดือดร้อน จํานวน 2 คน สาเหตุคาดว่าเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจรและครอบครัว นายสมชาย คงสมจิตร์ เจ้าของบ้านเลขที่ 217 หมู่ที่ 2 ตําบลลําตาเสา อําเภอวังน้อย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ประสบอัคคีภัย เมื่อวันที่ 18 มีนาคม 2566 เวลา 18.20 น. บ้านเรือนได้รับความเสียหายทั้งหลัง และมีผู้ได้รับความเดือดร้อน จํานวน 10 คน สาเหตุคาดว่าเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจรซึ่งการได้รับสิ่งของพระราชทาน ยังความซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว องค์พระบรมราชูปถัมภก แห่งมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ เป็นล้นพ้น โอกาสนี้ หน่วยงานต่างๆ ในพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา อาทิ เหล่ากาชาด ชมรมแม่บ้านมหาดไทย องค์การบริหารส่วนจังหวัดพระนครศรีอยุธยา สํานักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ สํานักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ข้าราชการ ผู้นําท้องที่ท้องถิ่น และเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ได้มอบเงินและเครื่องอุปโภคบริโภค เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนและเป็นขวัญกําลังใจด้วยข่าว : #สํานักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดพระนครศรีอยุธยา#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
29/3/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
พระนครศรีอยุธยา
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230329165144979
null
โครงการชลประทานนราธิวาส สำนักงานชลประทานที่ 17  ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ไฟไหม้ในเขตโครงการพรุบาเจาะ-ไม้แก่น อันเนื่องมาจากพระราชดำริ
วันนี้ (29 มี.ค.66) นายสยาม อิ่มเจริญ ผู้อํานวยการโครงการชลประทานนราธิวาส เปิดเผยว่า ได้มอบหมายให้ นายอดินันต์ หลานหมาด หัวหน้าฝ่ายส่งน้ําและบํารุงรักษาที่ 2 โครงการชลประทานนราธิวาส พร้อมด้วยผู้เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ไฟไหม้พื้นที่ป่าเสม็ด โครงการพรุบาเจาะ-ไม้แก่น อันเนื่องมาจากพระราชดําริ บ้านบากง หมู่ที่ 6 ตําบลลุโบะสาวอ อําเภอบาเจาะ จังหวัดนราธิวาส ซึ่งมีพื้นที่ไหม้ป่าเสม็ดเสียหายโดยประมาณ 8 ไร่ สาเหตุต้นเพลิงคาดว่าเกิดจากการเผาวัชพืชเพื่อทําการเกษตร เบื้องต้นมีรถดับเพลิง จํานวน 1 คัน เครื่องสูบน้ําระยะไกล จํานวน 2 เครื่องทั้งนี้ โครงการชลประทานนราธิวาสร่วมกับเจ้าหน้าที่องค์การบริหารส่วนตําบลบาเระใต้ สํานักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดนราธิวาส อําเภอบาเจาะ หน่วยทหารพรานนาวิกโยธินที่ 10 เข้าร่วมดับไฟ แหล่งน้ําใกล้เคียงจุดไฟไหม้คือ สระเก็บน้ําสํานักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ระยะห่างจุดไฟไหม้ 150 เมตร และคลองระบายน้ําพรุบาเจาะสายที่ 4 ระยะห่างจุดไฟไหม้ 700 เมตร ซึ่งปริมาณน้ําพอเพียงสําหรับเป็นน้ําต้นทุนในการดับไฟไหม้ สถานการณ์ปัจจุบัน วันที่ 29 มีนาคม 2566 สถานการณ์ไฟไหม้ป่าเสม็ดในพื้นที่ยังคงครุกรุ่นอยู่เล็กน้อย#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
29/3/2023
null
นราธิวาส
สวท.นราธิวาส
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230329175722017
null
นายอำเภอท่าตูม จังหวัดสุรินทร์ ลงพื้นที่ให้กำลังใจผู้ประสบภัยพายุฤดูร้อน
วันที่ 29 มีนาคม 2566 ผู้สื่อข่าวประจําจังหวัดสุรินทร์ ได้รับแจ้งจากชาวบ้านทุ่งโก หมู่ 2 ตําบลหนองเมธี อําเภอท่าตูม จังหวัดสุรินทร์ ว่าเมื่อช่วงใกล้ค่ําวันที่ 28 มีนาคม 2566 เกิดพายุฤดูร้อนฝนตก ลมกระโชกแรงพัดกระหน่ํารุนแรงมาก เกิดขึ้นในหมู่บ้าน บ้านเรือนได้รับความเสียหายจํานวนหลายหลังคาเรือน พร้อมด้วยยุ้งฉางข้าว คอกสัตว์ได้รับความเสียหายด้วยเช่นกันและในช่วงบ่ายวันนี้ (29 มี.ค.66) ผู้สื่อข่าวได้เดินทางลงพื้นที่ เข้าไปในหมู่บ้าน พบกับนายรองรัตน์ จงอุตส่าห์ นายอําเภอท่าตูม พร้อมด้วย กํานันตําบลหนองเมธี นายก อบต. ผู้ใหญ่บ้านทุ่งโก ผู้ใหญ่บ้านใกล้เคียงอีกหลายหมู่บ้าน และสมาชิก อบต.หนองเมธี เดินทางมาให้กําลังใจชาวบ้าน พร้อมสํารวจความเสียหาย เพื่อที่ให้ความช่วยเหลือชาวบ้าน เพื่อให้มีที่พักอาศัยหลับนอนในช่วงนี้ พบว่ามีบ้านครึ่งปูนเครื่องไม้สองหลัง หลังคาบ้านถูกแรงลม พัดยกเอาหลังคา ทั้งสังกระสีและไม้หลุดออกไปจากตัวบ้าน ตกห่างจากบ้านประมาณ 200 เมตร ทรัพย์สิน เสื้อผ้า อุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้า เครื่องรับทีวี ถูกน้ําฝนเปียก ในวันนี้ชาวบ้านได้ช่วยกันตามเก็บหลังคาสังกะสี มารวมไว้ที่ตัวบ้าน เพื่อทําการซ่อมแซม นอกจากนั้น ยังมีบ้านเรือนที่ถูกแรงลมพัดเอาหลังคาของบ้านบางส่วนหลุดออกไปจํานวนมาก คอกสัตว์เลี้ยง คอกวัว คอกกระบือ ยุ้งฉางเก็บข้าวเปลือกชาวบ้านได้รับความเสียหายจากถูกแรงลมพัดออกไป และคอกสัตว์ก็ได้รับความเสียหลายคอกนายรองรัตน์ จงอุตส่าห์ นายอําเภอท่าตูม เปิดเผยว่า ทางอําเภอได้รับรายงานเกิดพายุฤดูร้อน จากกํานัน ผู้ใหญ่บ้าน และ อบต.ในพื้นที่อําท่าตูม ในช่วงวันที่ 28-29 มีนาคม 2566 ว่า พายุฤดูร้อน เกิดขึ้นในพื้นที่ 5 ตําบล 16 หมู่บ้าน บ้านเรือนเสียหาย108 หลังคาเรือน ไม่รวมคอกสัตว์เลี้ยง ยุ้งฉางข้าว โรงเพาะเห็ด ที่บ้านทุ่งโก เสียหายกว่า 50 หลังคาเรือน ก็ได้สั่งการให้ท้องถิ่นเร่งสํารวจความเสียหาย เพื่อให้การช่วยเหลือประชาชนตามระเบียบของทางราชการต่อไป#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
29/3/2023
null
null
สวท.สุรินทร์
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230329233608114
null
อำเภอนาอาน จังหวัดเลย ประสบวาตภัย พายุฤดูร้อนเสียหายกว่า 15 หลังคาเรือน
บ่ายวันที่ 29 มีนาคม 2566 อําเภอนาอาน จังหวัดเลย ได้รับผลกระทบจากพายุฤดูร้อน มีฝนและพายุลมแรงทําให้บ้านเรือนเสียหาย เบื้องต้นตรวจสอบบ้านเรือนเสียหายประมาณ 15 หลังคาเรือน และตามถนนมีต้นไม้หักโค่น เสาไฟฟ้าล้มเสียหายเวลา 16.00 น. นายพยุง เหล็กดี นายอําเภอเมืองเลย พร้อมเจ้าหน้าที่เทศบาลนาอาน ลงพื้นที่เยี่ยมให้กําลังใจ และสํารวจความเสียหายที่พักอาศัยของประชาชนที่ประสบเหตุวาตภัย ณ บ้านฝากนา หมู่ที่ 11 ตําบลนาอาน พบว่ายังมีหลายจุดที่ได้รับความเสียหายทั้งนี้ ได้สั่งการไปยังหมู่บ้านตําบลต่างๆ สํารวจความเสียหายและรายงานพร้อมประสานองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ให้ความช่วยโดยเร่งด่วนต่อไป#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
30/3/2023
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
เลย
สวท.เลย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230330090152135
null
จ.ประจวบคีรีขันธ์ เร่งช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ประสบปัญหาขาดแคลนน้ำอุปโภคบริโภค หลังพบหลายพื้นที่เริ่มได้รับผลกระทบจากภัยแล้ง
นายเดชา เรืองอ่อน หัวหน้าสํานักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยว่า สถานการณ์น้ําในอ่างเก็บน้ําหลักทั้ง 9 แห่งของ จ.ประจวบฯ ขณะนี้มีปริมาณน้ํารวม 219 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 44 ของความจุอ่างทั้งหมด ลดลงกว่าช่วงเดียวกันของปีที่แล้วเนื่องจากฝนที่ตกตั้งแต่ต้นปีมีปริมาณน้อย และพบว่าหลายพื้นที่เริ่มได้รับผลกระทบจากสภาพอากาศที่แห้งแล้ง เช่น อบต.กําเนิดนพคุณ เทศบาลตําบลบ้านกรูด อ.บางสะพาน ได้ประสานขอรับการสนับสนุนรถสูบส่งน้ําระยะไกลแรงดันสูงเพื่อสูบน้ําดิบจากแหล่งน้ําใกล้เคียงนําเข้าสู่ระบบการผลิตประปา เนื่องจากไม่สามารถใช้แหล่งน้ําเดิมที่แห้งขอดได้ ส่วนพื้นที่ ต.เขาล้าน อ.ทับสะแก และ ต.บ่อนอก อ.เมืองประจวบฯ พบว่าประชาชนหลายครัวเรือนประสบปัญหาขาดแคลนน้ําอุปโภคบริโภค จึงได้นํารถบรรทุกน้ําสะอาดเข้าไปแจกจ่ายบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่ประชาชนอย่างต่อเนื่องจนกว่าจะสิ้นสุดช่วงหน้าแล้ง หากประชาชนพื้นที่ใดประสบปัญหาขาดแคลนน้ําอุปโภคบริโภคขอให้แจ้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเพื่อประสานการช่วยเหลือต่อไป #สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
30/3/2023
ภาคตะวันตก
ประจวบคีรีขันธ์
สวท.ประจวบคีรีขันธ์
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230330163337334
null
นครพนม พัฒนาชาวบ้านสู่การเป็นช่างไฟฟ้าชุมชน แก้ปัญหาไฟไหม้ในพื้นที่
นายวันชัย จันทร์พร ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม เปิดเผยว่า จากปัญหาอัคคีภัยที่เกิดขึ้นในพื้นที่ ส่วนใหญ่มาจากระบบไฟฟ้าลัดวงจร เนื่องจากอุปกรณ์ไฟฟ้าชํารุด เสื่อมสภาพ และอื่น ๆ นํามาซึ่งการสูญเสียในชีวิตและทรัพย์สิน ซึ่งก่อนหน้านี้ได้มอบหมายให้ทางอําเภอร่วมกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กํานัน ผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ ทําการสํารวจ ให้คําแนะนําประชาชน และช่วยกันปรับปรุงซ่อมแซมอุปกรณ์ไฟฟ้า รวมถึงเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านที่มีการชํารุดให้กับมามีสภาพพร้อมใช้งาน แต่ด้วยบุคลากรในแต่ละชุมชนมีผู้ที่เชี่ยวชาญในระบบไฟฟ้าน้อยและมีไม่เพียงพอ จึงเป็นที่มาของอบรมพัฒนาทักษะความสามารถตัวแทนชาวบ้านในหมู่บ้านต่าง ๆ และในวันนี้นายสมบูรณ์ นาคะอินทร์ นายกองค์การบริหารส่วนตําบลบ้านผึ้ง ได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่จัดการฝึกอบรมขึ้น จึงได้เดินทางมาเยี่ยมให้กําลังใจ และสอบถามถึงความก้าวหน้าในการอบรมที่แต่ละคนได้รับความรู้จากวิทยากรผู้เชี่ยวชาญของสถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน 41 นครพนม ก่อนที่จะได้นําความรู้ที่ได้รับไปใช้ในครอบครัวและชุมชนของตนเอง เพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งในแผนปฏิบัติการเฝ้าระวังป้องกันการเกิดอัคคีภัยจากสาเหตุไฟฟ้ารัดวงจรในหมู่บ้าน รวมถึงนําความรู้ที่ได้รับไปขยายผลต่อเป็นอาชีพ ด้านนางสาวพร้อมมงคล วงศ์บุญปู ผู้อํานวยการสถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน 41 นครพนม กล่าวเพิ่มเติมว่า ในวันนี้ได้นําคณะเจ้าหน้าที่ ทั้งหัวหน้าฝ่ายพัฒนาฝีมือแรงงาน และครูฝึกฝีมือแรงงาน ลงพื้นที่มาถ่ายทอดความรู้ ทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติแบบเน้นความเข้าใจก่อนลงมือทําเพื่อความปลอดภัย โดยผู้ที่เข้ารับการอบรมจะได้เรียนรู้เกี่ยวกับความปลอดภัยในการใช้ไฟฟ้า อุปกรณ์ป้องกันไฟฟ้า การต่อระบบสายดิน การต่อสายไฟฟ้าแบบต่าง ๆ การตรวจสอบจุดบกพร่องของระบบไฟฟ้าและการแก้ไขเบื้องต้น การแก้ไขอุปกรณ์ไฟฟ้าที่ชํารุดเบื้องต้น การเปลี่ยนหลอดไฟฟ้าจากหลอดฟลูออเรสเซนต์เป็นหลอด LED เพื่อช่วยในการประหยัดไฟในบ้านและช่วยประเทศลดการใช้พลังงานโดยจากการประเมินแล้วพบว่าผู้ที่เข้ารับการอบรมในครั้งนี้มีความสนใจใคร่รู้เป็นอย่างมาก มีคําถามตลอดเวลา ทําให้เพื่อนคนอื่น ๆ ที่ไม่กล้าซักถามได้คลายข้อสงสัยไปด้วย โดยเฉพาะภาคปฏิบัติที่มีการสังเกตและช่วยเตือนซึ่งกันและกัน จึงมองว่าทุกคนสามารถแก้ไขระบบไฟฟ้าภายในบ้านได้ด้วยตนเอง โดยที่ไม่ต้องพึ่งช่างไฟฟ้า ซึ่งนอกจากจะช่วยลดค่าใช้จ่ายในครัวเรือนและชุมชนแล้ว ยังเพิ่มความรวดเร็วในการแก้ไขปัญหาที่เป็นส่วนหนึ่งในสาเหตุของการเกิดระบบไฟฟ้ารัดวงจร นํามาซึ่งการสูญเสียของหลาย ๆ ครอบครัว และอยากให้ผู้ที่ฝึกอบรมในวันนี้ ได้ไปเข้าทดสอบความรู้ความสามารถ เพื่อขอหนังสือรับรองผู้ผ่านการทดสอบมาตรฐานฝีมือแรงงานแห่งชาติ ซึ่งถ้าได้มาจะเป็นเครื่องหมายการันตีได้เป็นอย่างดี ว่าเป็นช่างไฟฟ้าที่มีมาตรฐานได้รับการยอมรับ เวลาที่ไปสมัครงานบริษัทหรือแม้แต่ผู้บริโภคที่มาใช้บริการ ก็จะมีความเชื่อมั่น เชื่อใจว่าได้ช่างที่มีมาตรฐาน มีฝีมือ งานที่ได้มีความปลอดภัย และในโอกาสนี้ก็อยากจะฝากถึงประชาชนที่สนใจอยากจะมาฝึกกับสถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน 41 นครพนม ก็สามารถเข้าไปยื่นสมัครอบรมได้ที่สถาบันฯ หรือจะใช้วิธีรวมกลุ่มกันอย่างน้อย 20 คน แล้วให้ผู้นําชุมชน ผู้นําท้องถิ่นเป็นตัวแทนเข้าไปยื่นเอกสารขอการสนับสนุน ทางสถาบันฯ ก็พร้อมที่จะออกมาฝึกให้ในพื้นที่เลย ภาพ/ข่าว/.ส.ปชส.นครพนม#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
30/3/2023
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
นครพนม
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนครพนม
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230330174310365
null
เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติเขาค้อ เข้าตรวจสอบจุดความร้อน (Hotspot) และเข้าดับไฟ ท้องที่ ต.เเคมป์สน อ.เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์ ยังไม่สามารถควบคุมไฟได้ทั้งหมด เนื่องจากพื้นที่ไฟไหม้เป็นหน้าผาและภูเขาสูงชัน บางจุดเจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถเข้าถึงได้
นายประสาน เอียดสังข์ หน.อุทยานแห่งชาติเขาค้อ เปิดเผยว่า อุทยานแห่งชาติเขาค้อ ได้เข้าตรวจสอบจุดความร้อน (Hotspot) ที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2566 ท้องที่ ต.เเคมป์สน อ.เขาค้อค้อ จ.เพชรบูรณ์ รอบเวลา 01.43 น. พิกัด 0723464 E 1855977 N และรอบเวลา 12.54 น. พิกัด 723317 E 1855860 N ซึ่งเป็นจุดความร้อนต่อเนื่อง โดยเจ้าหน้าที่อุทยานฯ ได้ทําการตรวจสอบและเข้าดับไฟตั้งแต่เวลา 10.00 น. ต่อเนื่องถึงเวลา 20.15 น. ตั้งแต่วันที่ 28 มีนาคม แต่ยังไม่สามารถควบคุมไฟได้ทั้งหมดเนื่องจากจุดพิกัดที่ไฟยังไหม้อยู่ เป็นหน้าผาสูงชัน ประกอบกับสภาพป่าเป็นป่าเบญจพรรณผสมป่าไผ่ที่ตายขุย เชื้อเพลิงในป่าสะสมปริมาณมาก ทําให้ไฟไหม้รุนแรง เจ้าหน้าที่จึงได้ทําแนวกันไฟ ในบริเวณที่สามารถทําได้ เพื่อลดความเสียหายของพื้นที่ป่า พบพื้นที่เสียหายเบื้องต้นประมาณ 40 ไร่จากนั้น เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติเขาค้อ ได้ทําการตรวจสอบและเข้าดับไฟอีกครั้ง ในเช้าวันที่ 29 มีนาคม 2566 จุดความร้อนไม่ขึ้นแล้ว แต่ไฟยังลุกไหม้อยู่ จึงได้ร่วมกันดําเนินการดับไฟอีกครั้ง ตั้งแต่เวลา 08.00 น. ของวันที่ 29 มีนาคม 2566 ดับแล้วเสร็จ 21.15 น. ชนิดป่าเบญจพรรณผสมป่าไผ่ พื้นที่เสียหาย ประมาณ 95 ไร่ สาเหตุเกิดจากเก็บหาของป่าและล่าสัตว์โดยปัญหาอุปสรรคของการเข้าควบคุมไฟในครั้งนี้ คือ พื้นที่ไฟไหม้เป็นภูเขาสูงชัน มีเชื้อเพลิงปริมาณมากบางจุด ไม่สามารถเข้าถึงได้ จึงทําให้ใช้เวลาในการควบคุมไฟยาวนาน รวมถึงสภาพป่าเป็นป่าเบญจพรรณผสมป่าไผ่ที่ตายขุย มีเชื้อเพลิงในป่าสะสมปริมาณมาก ทําให้ไฟไหม้อย่างรุนแรง ทั้งนี้ ตั้งแต่ช่วงเช้าวันนี้ วันที่ 30 มีนาคม 2566 เจ้าหน้าที่ฯ ยังคงลงพื้นที่เฝ้าระวังอย่างต่อเนื่องอยู่ในพื้นที่ เพราะไฟป่าอาจปะทุขึ้นมาใหม่ เมื่อมีอากาศร้อนในช่วงกลางวันทั้งนี้ หากประชาชนพบเห็นไฟป่า สามารถแจ้งได้ที่สายด่วน 1362 ตลอดเวลาเพลินจิต สวนศิลป์พงศ์ สวท.เพชรบูรณ์ แหล่งข้อมูล : อช.เขาค้อ#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
30/3/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
เพชรบูรณ์
สวท.เพชรบูรณ์
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230330172451358
null
เกิดเหตุเพลิงไหม้บ้านเรือนราษฎรอำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ เสียหาย กว่า 2 ล้านบาท
วันที่ 30 มีนาคม 2566 เวลาประมาณ 14.35 น. อําเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ ได้รับแจ้งจากงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย สํานักปลัดองค์การบริหารส่วนตําบลตาเมียง แจ้งมีเหตุเพลิงไหม้บ้านประชาชนในพื้นที่บ้านพูนสุข หมู่ 9 ตําบลตาเมียง อําเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ จึงได้ประสานขอรถดับเพลิง รถกู้ชีพ จากองค์การบริหารส่วนตําบลบักได องค์การบริหารส่วนตําบลจีกแดก องค์การบริหารส่วนตําบลโคกกลาง และองค์การบริหารส่วนตําบลตาเมียง บูรณาการปฏิบัติร่วมกันตามแผนปฏิบัติการป้องกันและระงับอัคคีภัยในพื้นที่อําเภอพนมดงรักในการระงับเหตุอัคคีภัยดังกล่าว โดยใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง ในการระงับเหตุอัคคีภัยดังกล่าวเบื้องต้นบ้านของ นายสมจิตร นะรินทร์ บ้านเลขที่ 22 บ้านได้รับความเสียหายทั้งหลัง มูลค่าความเสียหายประมาณ 2 ล้านบาท และไฟลุกลามมายังบ้านของนายเสิด แยบเฉลียว บ้านเลขที่ 24 ทั้งนี้ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตทั้งผู้เสียหาย เจ้าของบ้าน และเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
30/3/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สวท.สุรินทร์
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230331063329509
null
อำเภอรัตนบุรี จังหวัดสุรินทร์ ช่วยเหลือผู้ประสบภัยพายุฤดูร้อนในพื้นที่ตำบลกุดคาคีม จำนวน 20 ราย
30 มีนาคม 2566 ณ ศาลาประชาคมหมู่บ้าน หมู่ที่ 8 ตําบลกุดขาคีม นายกานต์ กาญจนวงศ์สกุล นายอําเภอรัตนบุรี จังหวัดสุรินทร์ พร้อมด้วย นางสาวอรุณลักษณ์ ประคองใจ ปลัดอําเภอ งานสํานักงานอําเภอ เจ้าหน้าที่ตํารวจ สภ.รัตนบุรี คณะกรรมการกิ่งกาชาดอําเภอรัตนบุรี กํานัน ผู้ใหญ่บ้าน ตําบลกุดขาคีม นายกองค์การบริหารส่วนตําบลกุดขาคีม ร่วมกันลงพื้นที่ตําบลกุดขาคีม ตรวจเยี่ยมและช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติจากพายุฤดูร้อน เหตุเกิดเมื่อวันที่ 27 มีนาคม 2566 เวลาประมาณ 15.00 น. จํานวน 20 ราย ทั้งนี้ได้มอบถุงยังชีพและแจ้งให้ อบต.กุดขาคีมเร่งให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยตามอํานาจหน้าที่ต่อไป #สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
30/3/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สวท.สุรินทร์
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230331011949489
null
ราษฎรอำเภอบัวเชด จังหวัดสุรินทร์ ถูกพายุฤดูร้อนพัดบ้านเรือนเสียหาย 4 หลังคาเรือน
วันนี้ (30 มี.ค.66) เวลาประมาณ 15.30 น. ได้เกิดเหตุวาตภัยในพื้นที่อําเภอบัวเชด จังหวัดสุรินทร์ เนื่องจากพายุฤดูร้อน เป็นเหตุให้บ้านเรือนราษฎรได้รับความเสียหาย และราษฎรได้รับความเดือดร้อน จํานวน 1 ตําบล 1 หมู่บ้าน รวมจํานวน 4 หลังคาเรือน ราษฎรประสบภัยรวมจํานวน 10 คน ในพื้นที่บ้านตระเวง หมู่ 2 ต.จรัสทั้งนี้ ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตแต่อย่างใด อําเภอบัวเชด ได้ประสานองค์การบริหารส่วนตําบลจรัส กํานัน และผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ตําบลจรัส ดําเนินการเร่งสํารวจความเสียหาย และประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ความช่วยเหลือต่อไป#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
30/3/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สวท.สุรินทร์
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230331013445492
null
ปภ.ประจวบคีรีขันธ์ ประสานองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เร่งช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ประสบปัญหาภัยแล้ง 3 อำเภอ
นายเดชา เรืองอ่อน หัวหน้าสํานักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยว่า สถานการณ์น้ําในอ่างเก็บน้ําหลักทั้ง 9 แห่ง ของ จ.ประจวบฯ ขณะนี้มีปริมาณน้ํารวม 219 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 44 ของความจุอ่างทั้งหมด ลดลงกว่าช่วงเดียวกันของปีที่แล้วเนื่องจากฝนที่ตกตั้งแต่ต้นปีมีปริมาณน้อย และพบว่าหลายพื้นที่เริ่มได้รับผลกระทบจากสภาพอากาศที่แห้งแล้ง เช่น อบต.กําเนิดนพคุณ เทศบาลตําบลบ้านกรูด อ.บางสะพาน ได้ประสานขอรับการสนับสนุนรถสูบส่งน้ําระยะไกลแรงดันสูงเพื่อสูบน้ําดิบจากแหล่งน้ําใกล้เคียงนําเข้าสู่ระบบการผลิตประปา เนื่องจากไม่สามารถใช้แหล่งน้ําเดิมที่แห้งขอดได้ ส่วนพื้นที่ ต.เขาล้าน อ.ทับสะแก และ ต.บ่อนอก อ.เมืองประจวบฯ พบว่าประชาชนหลายครัวเรือนประสบปัญหาขาดแคลนน้ําอุปโภคบริโภค จึงได้นํารถบรรทุกน้ําสะอาดเข้าไปแจกจ่ายบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่ประชาชนอย่างต่อเนื่องจนกว่าจะสิ้นสุดช่วงหน้าแล้ง หากประชาชนพื้นที่ใดประสบปัญหาขาดแคลนน้ําอุปโภคบริโภคขอให้แจ้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเพื่อประสานการช่วยเหลือต่อไป #สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
31/3/2023
ภาคตะวันตก
ประจวบคีรีขันธ์
สวท.ประจวบคีรีขันธ์
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230331094035544
null
จ.เชียงราย เร่งฟื้นฟูภูชี้ฟ้าหลังโดนไฟป่าลามจากประเทศเพื่อนบ้านให้สวยงามกว่าเดิม
นายสุทธิชัย เสรีส่งแสง ผู้ตรวจราชการกระทรวงทรัพย์ฯ ขึ้นบินตรวจสถานการณ์ไฟป่าเชียงราย จากนั้นได้เดินทางไปตรวจเยี่ยมภูชี้ฟ้า ซึ่งได้รับความเสียหายจากไฟป่าที่ลุกลามมาจากประเทศเพื่อนบ้าน พร้อมมอบนโยบายให้เร่งฟื้นฟูภูชี้ฟ้าโดยเร็ว ให้พร้อมเปิดบริการนักท่องเที่ยวในฤดูหนาวปีนี้ให้ภูชี้ฟ้า ไฉไลกว่าเดิมด้านนายชุติเดช กมนณชุตม์ ผู้อํานวยการสํานักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ (สบอ.) ที่ 15 (เชียงราย) เปิดเผยว่า ความเสียหายของภูชี้ฟ้า ถูกไฟป่าไหม้เสียหายประมาณ 28 ไร่ ส่วนใหญ่เป็นพื้นที่หญ้าและต้นไม้ขนาดเล็ก ทางสํานักฯ เตรียมปลูกต้นไม้ทดแทนใว้ 3 ชนิด คือต้นโคลงเครง ต้นดอกเสี้ยวขาว และต้นพญาเสือโคร่ง ซึ่งเป็นไม้ประจําถิ่นในเขตนี้อยู่แล้วคาดใช้เวลาฟื้นฟูไม่กี่เดือน ช่วงนี้ได้สั่งปิดภูชี้ฟ้าชั่วคราวไปก่อน เพื่อสํารวจความเสียหายอย่างละเอียด และกําหนดจุดปลูกพืชทดแทนที่ถูกไฟป่าเผาเสียหาย ขอให้ประชาชนใว้วางใจทางเจ้าหน้าที่หลายฝ่ายจะปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มที่ให้ภูชี้ฟ้าพร้อมเปิดบริการนักท่องเที่ยวมาชมทะเลหมอกที่ภูชี้ฟ้าในฤดูหนาวตามเดิม#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
31/3/2023
ภาคเหนือ
เชียงราย
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230331092419535
null
รองแม่ทัพภาคที่ 4 ติดตามสถานการณ์ หารือแผนป้องกันไฟไหม้ป่าพรุโต๊ะแดง ช่วงหน้าแล้ง
รองแม่ทัพภาคที่ 4 ติดตามสถานการณ์ หารือแผนป้องกันไฟไหม้ป่าพรุโต๊ะแดง ช่วงหน้าแล้ง และสถานการณ์น้ําในพื้นที่จังหวัดนราธิวาส พลตรี ไพศาล หนูสังข์ รองแม่ทัพภาคที่ 4/ รองผู้อํานวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ลงพื้นที่ ศูนย์วิจัยและศึกษาธรรมชาติป่าพรุสิรินธร ตําบลปูโย๊ะ อําเภอสุไหงโกลก จังหวัดนราธิวาส ติดตามสถานการณ์ หารือแนวทางการเตรียมความพร้อมป้องกัน และแก้ไขปัญหาไฟไหม้ป่าพรุโต๊ะแดง โดยศูนย์วิจัยและศึกษาธรรมชาติป่าพรุสิรินธร (ป่าพรุโต๊ะแดง) รายงานสภาพป่าพรุโต๊ะแดง ซึ่งเป็นป่าพรุแห่งสุดท้ายของประเทศไทย ครอบคลุมพื้นที่ของ 3 อําเภอ คือ อําเภอตากใบ สุไหงโกลก และอําเภอสุไหงปาดี มีพื้นที่ประมาณ 120,000 ไร่ เป็นป่าที่ยังคงความอุดมสมบูรณ์ มีลําน้ําสําคัญหลายสายไหลผ่าน จากสภาพอากาศที่ร้อนจัด ในช่วงเดือนมีนาคม - พฤษภาคมของทุกปี ส่งผลให้ประสบกับปัญหาภัยแล้ง ขาดแคลนน้ําที่ใช้ในการอุปโภคบริโภค น้ําเพื่อการเกษตร และเกิดไฟไหม้ป่าบ่อยครั้ง สร้างความเดือดร้อนให้แก่พี่น้องประชาชนในพื้นที่จากนั้น รองแม่ทัพภาคที่ 4 และคณะ ไปติดตามและร่วมหารือถึงแนวโน้มสถานการณ์น้ํา ในพื้นที่ปากคลองปาเสมัส ตําบลปาเสมัส อําเภอสุไหงโก-ลก ร่วมกับนายเฉลิมชัย ตรีนรินทร์ ผู้อํานวยการสํานักงานชลประทานที่ 17 รายงานสถานการณ์น้ําในปีนี้ คาดว่าปริมาณน้ํายังอยู่ในระดับที่มากพอเพื่อนําไปใช้ช่วงหน้าแล้ง และร่วมกันหารือถึงการป้องกันไฟไหม้ป่าพรุในระยะยาว โดยการใช้ประโยชน์จากแหล่งน้ําในพื้นที่ เพื่อรักษาความชื้นให้กับป่าพรุโต๊ะแดง เพื่อช่วยกันรักษาพื้นป่าแห่งนี้ให้มีความอุดมสมบูรณ์ต่อไปทั้งนี้ พลตรี ไพศาล หนูสังข์ รองแม่ทัพภาคที่ 4 ได้สั่งการให้หน่วยทหารในพื้นที่บูรณาการกับทุกภาคส่วน เตรียมความพร้อมเฝ้าระวัง ติดตามสถานการณ์ เตรียมแผนบรรเทาสาธารณภัย ต้องมีความพร้อมในการช่วยเหลือพี่น้องประชาชนผู้ประสบภัยได้อย่างทันท่วงที รวมถึงแนวทางมาตรการป้องกันการบุกรุกพื้นที่ป่า พร้อมทั้งขอความร่วมมือประชาชนในการช่วยการสอดส่องดูแล ไม่ทิ้งก้นบุหรี่ หรือการเผาวัชพืชจนนําไปสู่การเกิดไฟไหม้ได้#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
31/3/2023
ภาคใต้
ยะลา
สทท.ยะลา
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230331103316579
null
สถานีพัฒนาที่ดินมหาสารคาม ส่งเสริมการปลูกปอเทือง ปรับปรุงบำรุงดิน สร้างรายได้ให้เกษตรกร
นายชูเกียรติ คําโสภา ผอ.สถานีพัฒนาที่ดินมหาสารคาม เปิดเผยว่า ธนาคารเมล็ดพันธุ์พืชปุ๋ยสดเป็นนโยบายของกรมพัฒนาที่ดิน โดยให้เกษตรกรยืมเมล็ดพันธุ์ไปปลูกเพื่อปรับปรุงบํารุงดินและส่วนหนึ่งเก็บเกี่ยวเมล็ดพันธุ์คืนธนาคาร เพื่อลดต้นทุนการผลิตของเกษตรกร สถานีพัฒนาที่ดินมหาสารคาม จัดตั้งธนาคารเมล็ดพันธุ์พืชปุ๋ยสดที่บ้านเหล่าพ่อหา ม.9,13,18 ตําบลเขวาไร่ อําเภอโกสุมพิสัย ครอบคลุมพื้นที่ 500 ไร่ ช่วยสร้างรายได้ให้เกษตรกรในพื้นที่ประสบปัญหาภัยแล้ง โดยปรับเปลี่ยนมาปลูกพืชที่ใช้น้ําน้อย ซึ่งตําบลเขวาไร่ เป็นพื้นที่นอกเขตชลประทาน หากทํานาปรังจะเพิ่มต้นทุนการผลิตที่สูง ปัจจุบันชาวนากว่า 40 ครัวเรือน หันมาปลูกปอเทืองหลังการเก็บเกี่ยว สร้างรายได้เพิ่ม 20,000-70,000 บาทต่อครัวเรือน โดยเจ้าหน้าที่จะให้ความรู้เรื่องการผลิตเมล็ดพันธุ์ให้ได้มาตรฐานตามหลักวิชาการ ในปีนี้สถานีพัฒนาที่ดินมหาสารคาม จะสนับสนุนให้มีการปลูกปอเทืองทั้งจังหวัด จํานวน 15,000 ไร่ เกษตรกรสามารถนําพืชปุ๋ยสดไปใช้ในการปรับปรุงบํารุงดินเพื่อปลูกพืชเศรษฐกิจอื่นได้ ส่งผลให้เกษตรกรมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
1/2/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
กรมประชาสัมพันธ์
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230201100830039
null
กรมชลประทาน เดินหน้ากำจัดผักตบชวาและฟื้นฟูแหล่งน้ำต่างๆ ทั่วประเทศ เพิ่มประสิทธิภาพในการส่งน้ำ
นายประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า กําชับให้สํานักเครื่องจักรกลและโครงการชลประทานทุกแห่ง นําเครื่องจักร เครื่องมือ เข้าไปกําจัดวัชพืชสิ่งกีดขวางทางน้ํา ในแหล่งน้ํา พร้อมขุดลอกคลองต่างๆ อย่างต่อเนื่อง ตามนโยบายของนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการส่งน้ําให้เกษตรกรได้เพาะปลูกในช่วงแล้งปีนี้ได้อย่างต่อเนื่องและเพียงพอ อาทิ โครงการส่งน้ําและบํารุงรักษาแม่ยม นําเครื่องจักรเข้าไปกําจัดวัชพืชและสิ่งกีดขวางทางน้ํา บริเวณคลองส่งน้ําสายใหญ่ฝั่งขวา ในเขตตําบลวังหงส์ อําเภอเมืองแพร่ ขณะที่โครงการส่งน้ําและบํารุงรักษาท่าโบสถ์ นํารถขุดไฮดรอลิคแบบลงโป๊ะ 1 คัน เข้าไปกําจัดวัชพืชและสิ่งกีดขวางทางน้ํา บริเวณคลองระบายใหญ่สุพรรณ 2 ตําบลยางนอน และตําบลเขาพระโครงการส่งน้ําและบํารุงรักษาบางบาล นํารถขุดไฮดรอลิคตีนตะขาบแบบแขนยาว 1 คัน เข้าไปกําจัดวัชพืชและสิ่งกีดขวางทางน้ํา บริเวณคลองส่งน้ํา 1 ขวา สาย 1 อําเภอบางบาล และโครงการส่งน้ําและบํารุงรักษารังสิตใต้นําเรือนวัตกรรม 1 ลํา เข้าไปกําจัดวัชพืชและสิ่งกีดขวางทางน้ํา บริเวณสถานีสูบน้ําปากคลองรังสิต ตําบลบ้านใหม่ อําเภอเมืองปทุมธานีนอกจากนี้ทางสํานักเครื่องจักรกล ดําเนินการติดตั้งเครื่องสูบน้ํา เพื่อเร่งระบายน้ํา ช่วยเหลือประชาชนที่ขาดแคลนน้ําในการทําเกษตร และการอุปโภคบริโภค ในพื้นที่ต่างๆ พร้อมได้กําชับให้เจ้าหน้าที่ติดตามและเฝ้าระวังวัชพืชและสิ่งกีดขวางทางน้ํา พร้อมกําจัดอย่างต่อเนื่อง เพื่อรักษาคุณภาพน้ําให้ดีอยู่เสมอ และยังทําให้การบริหารจัดการน้ําในช่วงฤดูแล้งเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ สามารถส่งน้ําให้กับเกษตรกรในพื้นที่เป้าหมายได้อย่างทั่วถึง ตามแผนจัดสรรน้ําช่วงแล้งที่วางไว้
1/2/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
Radio-สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230201094200028
null
ย้ำชาวนาเฝ้าระวังแมลงบั่วทำลายนาข้าว เจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ให้คำแนะนำเกษตรกรอย่างใกล้ชิด
นายเข้มแข็ง ยุติธรรมดํารง อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวว่า ช่วงนี้เป็นช่วงที่เกษตรกรในหลายพื้นที่มีการปลูกข้าวนาปรัง ประกอบกับสภาพอากาศมีความชื้นและเย็น ซึ่งเหมาะกับการระบาดของแมลงบั่ว โดยเฉพาะในเขตพื้นที่จังหวัดอุทัยธานีและจังหวัดเลย กรมส่งเสริมการเกษตร ขอเน้นย้ําให้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวเฝ้าระวัง แมลงบั่ว เข้าทําลายนาข้าวและกําชับให้เจ้าหน้าที่ส่งเสริมการเกษตรลงพื้นที่ให้คําแนะนําในการป้องกันกําจัดให้กับเกษตรกร รวมทั้งเผยแพร่ความรู้และวิธีการในการป้องกันกําจัดแมลงบั่วอย่างสม่ําเสมอแล้ว สําหรับการระบาดของแมลงบั่ว มักพบระบาดมากในระยะข้าวแตกกอ ซึ่งขณะนี้พื้นที่ปลูกข้าวส่วนใหญ่อยู่ในระยะกล้าจนถึงแตกกอ ดังนั้น เกษตรกรจึงควรเร่งป้องกันการวางไข่และกําจัดตัวหนอนของแมลงบั่ว ซึ่งจะคลานลงไปที่ซอกของใบยอดและกาบใบข้าวและเข้าทําลายยอดที่กําลังเจริญ สามารถสังเกตได้จากหลอดลักษณะคล้ายหลอดหอมซึ่งจะปรากฎภายใน 1 สัปดาห์หลังจากแมลงบั่ววางไข่ หากสํารวจพบควรรีบกําจัด ซึ่งเมื่อตัวหนอนเข้าไปทําลายจุดเจริญของข้าวแล้วจะทําให้ต้นข้าวและกอข้าวแสดงอาการแคระแกร็น เตี้ย ลําต้นกลม มีสีเขียวเข้ม ยอดที่ถูกทําลายไม่สามารถออกรวงได้และทําให้ผลผลิตข้าวลดลงอย่างมาก โดยเมื่อข้าวเกิดช่อดอกแล้วจะไม่พบการเข้าทําลาย แมลงบั่วจะอาศัยและเจริญเติบโตอยู่บนพืชอาศัยจําพวกข้าวป่าและหญ้าต่างๆ 1-2 ชั่วอายุ จนกระทั่งเริ่มมีการปลูกข้าวในฤดูฝน ก็จะออกเป็นตัวเต็มวัยลักษณะคล้ายยุงตัวสีส้มเข้าทําลายแปลงนาข้าวต่อไปได้ เกษตรกรจึงควรหมั่นสํารวจแปลงนาอย่างสม่ําเสมอและป้องกันกําจัดศัตรูพืชไม่ให้ก่อความเสียหายได้อย่างทันท่วงที ทั้งนี้ ศัตรูข้าวอย่างแมลงบั่วมักพบมากในสภาพที่มีความชื้นสูง เมฆมาก หรือมีฝนตก โดยเฉพาะพื้นที่ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ที่มีพื้นที่เป็นเขาหรือมีแนวเขาล้อมรอบ ทําให้มีความชื้นสูงเหมาะแก่การเจริญเติมโตของแมลงบั่ว
1/2/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
Radio-สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230201100147034
null
กอนช. เฝ้าระวังฝนตกหนักบางแห่งในภาคใต้ตอนล่าง ช่วงวันที่ 2 - 5 กุมภาพันธ์นี้
กองอํานวยการน้ําแห่งชาติ (กอนช.) เฝ้าระวังฝนตกหนักบางแห่งในภาคใต้ตอนล่าง ช่วงวันที่ 2 - 5 กุมภาพันธ์นี้ นายสุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสํานักงานทรัพยากรน้ําแห่งชาติ (สทนช.) ในฐานะรองผู้อํานวยการกองอํานวยการน้ําแห่งชาติ (กอนช.) กล่าวถึงสถานการณ์น้ําภาพรวมของประเทศวันนี้ (1 ก.พ.66) ว่า ภาพรวมภาคใต้ตอนล่างมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง โดยกรมอุตุนิยมวิทยาได้แจ้งเตือนประเทศไทยมีฝนฟ้าคะนองในพื้นที่ภาคใต้มีฝนตกหนักบางแห่งช่วงวันที่ 2 - 5 กุมภาพันธ์นี้ จากอิทธิพลลมตะวันออกเฉียงใต้พัดนําความชื้นจากทะเลจีนใต้ และอ่าวไทยเข้ามาปกคลุมภาคเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง กรุงเทพมหานคร ปริมณฑล และภาคตะวันออก ทําให้บริเวณดังกล่าวมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นได้ ส่วนภาคใต้มีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณภาคใต้ตอนล่าง จึงต้องเฝ้าระวังสถานการณ์ต่อเนื่อง
1/2/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230201094955031
null
สั่งด่านตรวจพืชกรมวิชาการเกษตร ยกระดับการควบคุมการนำเข้าพืชและผลิตภัณฑ์
นางสาวมนัญญา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า ได้สั่งให้กรมวิชาการเกษตร ยกระดับมาตรการควบคุมการนําเข้าพืชและผลิตภัณฑ์ ที่มีการแจ้งขออนุญาตนําเข้าผ่านทางด่านตรวจพืชของกรมวิชาการเกษตร รวมถึงป้องกันและเฝ้าระวังการลักลอบนําเข้า ซึ่งก่อให้เกิดความเสียหายต่อระบบการผลิต ในแปลงของเกษตรกร ปริมาณผลผลิตและกระทบต่อระบบการตลาดสินค้าเกษตรไทย จึงให้ด่านตรวจพืชของกรมวิชาการเกษตรตรวจสอบการนําเข้าพืชและผลิตภัณฑ์อย่างเข้มงวด และต้องทํางานบูรณการกับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องวานนี้อธิบดีกรมวิชาการเกษตรลงพื้นที่ ด่านตรวจพืชท่าเรือแหลมฉบัง อําเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี เพื่อติดตามการปฏิบัติงานการตรวจสอบการนําเข้าสินค้าพืชและผลิตภัณฑ์ที่มีความเสี่ยงของโรค แมลงศัตรูพืช ที่มีความเสียงสูง ต้องผ่านการวิเคราะห์ความเสี่ยงศัตรูพืชด้านนายระพีภัทร์ จันทรศรีวงศ์ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร กําชับให้เจ้าหน้าที่ด่านตรวจพืช เข้มงวดในการปฏิบัติหน้าที่ควบคุมการนําเข้าสินค้าเกษตรตามนโยบาย โดยเฉพาะกลุ่มสินค้าควบคุม มีความเสี่ยงจะกระทบกับเกษตรกร ระบบการผลิตพืช และสิ่งแวดล้อมในประเทศไทยด่านตรวจพืชของกรมวิชาการเกษตรต้องเข้มงวด กับการสําแดงเอกสารตรงตามรายการสินค้าที่ตรวจปล่อย ตามเงื่อนไขการอนุญาตนําเข้า เช่น มะพร้าว หอม กระเทียม เป็นกลุ่มสินค้าควบคุม มีความสําคัญทางเศรษฐกิจของประเทศไทย ดังนั้น ทุกด่านตรวจพืชต้องเข้มงวดในการควบคุมการนําเข้าเพื่อป้องกันการลักลอบ และการสําแดงเท็จ ซึ่งอาจส่งผลต่อราคาผลผลิตของเกษตรกรภายในประเทศ รวมถึงการป้องกัน ควบคุม เฝ้าระวัง โรคและศัตรูพืชที่อาจจะติดมาก่อให้เกิดการแพร่ระบาดของศัตรูพืชร้ายแรง ตลอดจนสร้างความเสียหายแก่พืชเศรษฐกิจและระบบการผลิตพืชของประเทศไทย
1/2/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
Radio-สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230201101329042
null
เช้านี้ค่าฝุ่น PM 2.5 กทม.และปริมณฑลสูงขึ้นทุกพื้นที่ โดยสูงในระดับสีแดงมีผลกระทบต่อสุขภาพ 3 พื้นที่ เนื่องจากสภาพอากาศปิดและลมอ่อน
เช้านี้ค่าฝุ่น PM 2.5 กรุงเทพมหานครและปริมณฑลสูงขึ้นทุกพื้นที่ โดยสูงในระดับสีแดงมีผลกระทบต่อสุขภาพ 3 พื้นที่ เนื่องจากสภาพอากาศปิดและลมอ่อน โดยต้องเฝ้าระวังพิเศษถึงวันที่ 4 กุมภาพันธ์ นายปิ่นสักก์ สุรัสวดี อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) ในฐานะประธานศูนย์แก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศ (ศกพ.) กล่าวว่า วันนี้ (1 ก.พ.66) ค่าฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM 2.5) ในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑลคุณภาพอากาศเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพถึงมีผลกระทบต่อสุขภาพ โดยค่าฝุ่นสูงขึ้นทุกพื้นที่พบสูงสุด 93 - 99 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตรในระดับสีแดงมีผลกระทบต่อสุขภาพ 3 พื้นที่ บริเวณริมถนนบางนา-ตราด เขตบางนา , ริมถนนศรีนครินทร์ เขตประเวศ และริมถนนมาเจริญ เพชรเกษม 81 เขตหนองแขม เนื่องจากอากาศปิดและลมสงบ ประกอบกับ การจราจรหนาแน่นในหลายพื้นที่ ส่งผลให้ฝุ่นเกิดการสะสมตัวมากขึ้น ทั้งนี้ ศูนย์แบบจําลองคุณภาพอากาศและภูมิศาสตร์สารสนเทศ กรมควบคุมมลพิษ (คพ.) ได้คาดการณ์สถานการณ์ฝุ่นละออง PM 2.5 จําเป็นต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษถึงวันที่ 4 กุมภาพันธ์ เนื่องจากสภาพอากาศที่นิ่งและปิด บริเวณพื้นที่กรุงเทพกลาง กรุงธนเหนือ และกรุงธนใต้ (พื้นที่ท้ายลม) จึงขอความร่วมมือประชาชนบํารุงดูแลรักษารถยนต์อย่างสม่ําเสมอ จอดรถให้ดับเครื่อง ลดการเผาในที่โล่ง ใช้รถเท่าที่จําเป็น Work From Home และขอให้ประชาชนเฝ้าระวังสถานการณ์ หากอยู่บริเวณพื้นที่มีปริมาณฝุ่น PM 2.5 สูงเกินเกณฑ์มาตรฐาน หรือ พื้นที่สีส้มและสีแดงให้หลีกเสี่ยงกิจกรรมกลางแจ้ง สวมใส่หน้ากากอนามัย หรือใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเอง หากมีอาการทางสุขภาพควรปรึกษาแพทย์ ทั้งนี้ สามารถติดตามสถานการณ์คุณภาพอากาศได้ทั้งแบบค่าเฉลี่ยรายชั่วโมงและแบบค่าเฉลี่ย 24 ชั่วโมง ผ่านทางเว็บไซด์ Air4Thai.com และ bangkokairquality.com หรือทางแอปพลิเคชั่น Air4Thai และ AirBKK แล้วยังติดตามข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับสถานการณ์คุณภาพอากาศผ่านทาง Facebook Fanpage ศูนย์แก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศ (ศกพ.)
1/2/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230201100413037
null
จังหวัดลำปาง ร่วมพิจารณาอนุมัติแผนจัดการป่าชุมชนและขอจัดตั้งป่าชุมชน (จัดตั้งใหม่) 13 แห่ง แก้ไขเพิ่มเติมแผนจัดการป่าชุมชน 8 แห่ง
วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2566 เวลา 09.00 น. ที่ห้องประชุมเวียงละกอน ศาลากลางจังหวัดลําปาง นายชัชวาลย์ ฉายะบุตร ผู้ว่าราชการจังหวัดลําปาง เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการป่าชุมชนประจําจังหวัดลําปาง ครั้งที่ 1/2566 โดยศูนย์ป่าไม้ สํานักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดลําปาง ในฐานะกรรมการและเลขานุการคณะกรรมการฯ จัดขึ้น โดยมีหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมประชุมฯ ตามที่พระราชบัญญัติป่าชุมชน พ.ศ. 2562 ได้ประกาศลงในราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2562 มาตรา 23 ได้กําหนดให้มีคณะกรรมการป่าชุมชนประจําจังหวัด ในจังหวัดที่มีคําขอจัดตั้งป่าชุมชน หรือที่มีการจัดตั้งป่าชุมชนแล้ว ทางจังหวัดลําปางจึงได้มีการจัดตั้งคณะกรรมการป่าชุมชนประจําฯ คณะนี้ขึ้น โดยมีอํานาจในการพิจารณาเกี่ยวกับการขอจัดตั้งป่าชุมชน การขยายเขตป่าชุมชน หรือการเพิกถอนป่าชุมชนไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนที่ประชุม คณะกรรมการได้ร่วมกันพิจารณาอนุมัติแผนจัดการป่าชุมชนและให้ความเห็นชอบข้อบังคับของคณะกรรมการจัดการป่าชุมชน คําขอจัดตั้งป่าชุมชน (จัดตั้งใหม่) ท้องที่จังหวัดลําปาง จํานวน 13 แห่ง แก้ไขเพิ่มเติมแผนจัดการป่าชุมชน จํานวน 8 แห่ง ได้แก่1. ป่าชุมชนบ้านเมาะหลวง หมู่ที่ 8 ตําบลแม่เมาะ อําเภอแม่เมาะ จังหวัดลําปางขอดําเนินการโครงการระบบสูบน้ําด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ โดยขอรับการสนับสนุนจากกองทุนพัฒนาไฟฟ้า2. ป่าชุมชนบ้านเมาะหลวง หมู่ที่ 8 ตําบลแม่เมาะ อําเภอแม่เมาะ จังหวัดลําปาง ขอดําเนินการสร้างถังกักเก็บน้ําบริเวณป่าชุมชนบ้านเมาะหลวง และป่าชุมชนบ้านหัวฝาย หมู่ที่ 4 ตําบลกล้วยแพะ อําเภอเมือง จังหวัดลําปาง ขอดําเนินการติดตั้งแทงค์น้ําด้วยระบบโซล่าเซลล์บริเวณป่าชุมชนบ้านหัวฝาย3. ป่าชุมชนบ้านสบปาน หมู่ที่ 8 ตําบลเมืองปาน อําเภอเมืองปาน จังหวัดลําปาง ขอดําเนินการสร้างพระพุทธรูปในพื้นที่เพื่อพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศน์ และส่งเสริมวัฒนธรรมประเพณีของชุมชน ในการอนุรักษ์ ควบคุมดูแลและใช้ประโยชน์ทรัพยากรธรรมชาติในป่าชุมชน4. โครงการบํารุงป่าชุมชนเพื่อการอนุรักษ์ และปลูกเสริมป่าในพื้นที่ป่าชุมชนท้องที่จังหวัดลําปาง โดยการสนับสนุนจากบริษัทปูนซิเมนต์ไทย (ลําปาง) จํากัด จํานวน 5 ป่าชุมชน ประกอบด้วย ป่าชุมชนบ้านร่องเคาะ หมู่ที่ 9 ป่าชุมชนบ้านขอใต้ หมู่ที่ 4 ป่าชุมชนบ้านสบลืน หมู่ที่ 7 ป่าชุมชนบ้านแม่เชียงรายลุ่ม หมู่ที่ 3 และป่าชุมชนบ้านหาดปู่ด้าย หมู่ที่ 1การเพิกถอนพื้นที่ป่าชุมชนบางส่วน จํานวน 2 แห่ง คือ 1.นายเสน่ห์ บุญทอง ผู้ใหญ่บ้านบ้านแม่งาว หมู่ที่ 5 ตําบลแม่ตีบ อําเภองาว จังหวัดลําปาง ขอเพิกถอนพื้นที่ป่าชุมชนบ้านแม่งาวเพื่อสนับสนุนโครงการก่อสร้างทางรถไฟสายเด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ เนื้อที่ 23 ไร่ 2 งาน 17 ตารางวา และ 2.นายถนอม กุลพินิจมาลา กํานันตําบลสบป้าด ขอเพิกถอนป่าชุมชนบางส่วน พื้นที่ป่าชุมชนบ้านแม่เกี๋ยง หมู่ที่ 7 ตําบลสบป้าดอําเภอแม่เมาะ จังหวัดลําปาง เพื่อดําเนินการผนวกเป็นพื้นที่ป่านันทนาการผาหอบ เนื้อที่ 632 ไร่ทั้งนี้ ป่าชุมชนเป็นวิถีปฏิบัติและเป็นการปรับตัวของการจัดการทรัพยากรภายในชุมชน ในการช่วยลดปัญหาความยากจนและความเหลื่อมล้ําทางสังคมของชุมชน จากการถูกแย่งชิงทรัพยากรเพื่อการพัฒนาประเทศ และเป็นแนวทางหนึ่งในการรักษาป่าและความสมบูรณ์ของนิเวศป่าไม้ เพื่อให้ระบบนิเวศคงความสมดุล เนื่องจากป่าชุมชนเป็นกลไกที่สําคัญเป็นช่องทางให้ชุมชนเข้ามีส่วนร่วมในการอนุรักษ์ จัดการฟื้นฟูให้ป่ามีความสมบูรณ์เพิ่มขึ้น และมีการใช้ทรัพยากรและผลผลิตจากป่าได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อความมั่นคงแห่งชีวิตของคนชุมชน ดังนั้นเมื่อชุมชนมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น จึงไม่ต้องอพยพย้ายถิ่นฐาน และที่สําคัญยิ่งคือเพิ่มความสามารถให้กับมนุษยชาติได้เรียนรู้การอยู่อย่างสมดุลกับธรรมชาติ และการดํารงชีพอย่างมีความสุข#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
1/2/2023
ภาคเหนือ
ลำปาง
สวท.ลำปาง
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230201104750059
null
จังหวัดตรัง ดำเนินการตามโครงการถังขยะเปียกลดโลกร้อนได้ร้อยละ 74.48 ของครัวเรือนเป้าหมาย ด้านผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง กำชับทุกอำเภอได้เร่งดำเนินงานให้ครบ 100% โดยเร็ว
วันนี้ (1 กุมภาพันธ์ 2566) นายขจรศักดิ์ เจริญโสภา ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง เป็นประธานในการประชุมหัวหน้าส่วนราชการประจําจังหวัด สังกัดกระทรวงมหาดไทยและนายอําเภอ ครั้งที่ 1/2566 ณ ห้องศรีตรัง ชั้น 3 ศาลากลางจังหวัดตรัง โดยได้ติดตามการดําเนินโครงการถังขยะเปียกลดโลกร้อน ซึ่งจังหวัดตรัง ได้มอบหมายให้ทุกอําเภอได้ดําเนินการประสานองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทุกแห่ง ขับเคลื่อนโครงการถังขยะเปียกลดโลกร้อน ตามแนวทางและแผนปฏิบัติการที่กําหนด ทั้งนี้ ล่าสุดจังหวัดตรัง มีผลการดําเนินการตามโครงการถังขยะเปียกลดโลกร้อน อยู่ที่ร้อยละ 74.48 โดยผู้ว่าราชการจังหวัดตรังได้กําชับให้ทุกอําเภอได้เร่งดําเนินงานโครงการถังขยะเปียกลดโลกร้อนในพื้นที่ให้ครบ 100% นอกจากนี้ ขอให้ทุกอําเภอ ทุกท้องถิ่นได้เร่งประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้ความเข้าใจ สร้างความตระหนักและความร่วมมือจากพี่น้องประชาชนในการคัดแยกขยะเศษอาหารหรือขยะเปียกในครัวเรือน เพื่อช่วยลดขยะที่ต้นทาง ลดภาระทางงบประมาณของท้องถิ่นในการจัดการขยะ และยังช่วยลดโลกร้อนด้วย#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
1/2/2023
ภาคใต้
ตรัง
สวท.ตรัง
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230201105454062
null
ม.เกษตรศาสตร์ เปิดตัวหลักสูตรประกาศนียบัตร "ผู้บริหารระดับสูงด้านการสร้างคุณค่า นวัตกรรม สังคม และความรับผิดชอบสังคมอย่างยั่งยืน" หรือ " KU VIPS " รุ่นที่ 1 เพื่อรับมือการเปลี่ยนแปลงของโลกและสังคม
นายจงรัก วัชรินทร์รัตน์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ กล่าวว่า คณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ได้เปิดตัวหลักสูตรประกาศนียบัตร "ผู้บริหารระดับสูงด้านการสร้างคุณค่า นวัตกรรม สังคม และความรับผิดชอบสังคมอย่างยั่งยืน" หรือ " KU VIPS " รุ่นที่ 1 เพื่อรับมือกับการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ทั้งด้านเศษฐกิจ สิ่งแวดล้อม และสังคมให้สามารถปรับตัวให้เข้ากับการดําเนินชีวิตแบบวิถีแนวใหม่ให้ทันโลกอนาคตที่มีความสําคัญของโลกยุคใหม่ นับเป็นหลักสูตรที่มีความทันสมัย สร้างต้นแบบ และเร่งพัฒนากําลังคนรองรับกับโลกอนาคต สิ่งสําคัญผู้เข้ารับการอบรมได้มีส่วนร่วมสร้างคุณค่าและสามารถสร้างสรรค์นวัตกรรมสังคม ด้วยการลงพื้นที่จริง เพื่อแก้ปัญหาสังคม ชุมชน และสิ่งแวดล้อมยั่งยืนในทุกมิติ ทั้งนี้ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์เน้นสร้างการเรียนรู้ วิจัย และสร้างนวัตกรรมระดับโลก เพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืนบนพื้นฐาน "ศาสตร์แห่งแผ่นดิน" ในการเพิ่มขีดความสามารถและสร้างสมรรถนะกําลังคนให้สามารถรองรับการเปลี่ยนแปลงของประเทศและของโลกในทุกช่วงทุกวัย รวมทั้ง สร้างต้นแบบสังคมแห่งการเรียนรู้ เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิต สังคม และชุมชน อย่างยั่งยืนด้านนาวาอากาศโทหญิง งามลมัย ผิวเหลือง คณบดีคณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ผู้อํานวยการหลักสูตร KU VIPS กล่าวว่า ครั้งนี้ได้ประยุกต์หลักสูตรให้สอดคล้องกับโลกปัจจุบันและอนาคต โดยหัวใจสําคัญของหลักสูตรนี้ผู้บริหารระดับสูงต้องเข้าใจแนวคิด ความรับผิดชอบต่อสังคมขององค์กร (CSR ) การสร้างคุณค่าร่วมขององค์กรที่มีต่อสังคม สิ่งแวดล้อม (CSV) การดําเนินงานที่คํานึงถึงสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG) และการนําเป้าหมายไปสู่ 17 เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDG Goals) มาวางแผน และนําหลักคิดนวัตกรรมสังคม Social Innovation มาแก้ปัญหาสังคม เศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อมเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีของสังคมและความยั่งยืนในทุกมิติ
1/2/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230201121311092
null
ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง กำชับทุกอำเภอได้เร่งดำเนินงานตามโครงการถังขยะเปียกลดโลกร้อนให้ครบ 100% โดยเร็ว ซึ่งปัจจุบันดำเนินการได้ร้อยละ 74.48 ของครัวเรือนเป้าหมาย
วันนี้ (1 ก.พ.66) นายขจรศักดิ์ เจริญโสภา ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง เป็นประธานในการประชุมหัวหน้าส่วนราชการประจําจังหวัด สังกัดกระทรวงมหาดไทยและนายอําเภอ ครั้งที่ 1/2566 ณ ห้องศรีตรัง ชั้น 3 ศาลากลางจังหวัดตรัง โดยได้ติดตามการดําเนินโครงการถังขยะเปียกลดโลกร้อน ซึ่งจังหวัดตรัง ได้มอบหมายให้ทุกอําเภอได้ดําเนินการประสานองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทุกแห่ง ขับเคลื่อนโครงการถังขยะเปียกลดโลกร้อน ตามแนวทางและแผนปฏิบัติการที่กําหนดทั้งนี้ล่าสุดจังหวัดตรังมีผลการดําเนินการตามโครงการถังขยะเปียกลดโลกร้อน อยู่ที่ร้อยละ 74.48 โดยผู้ว่าราชการจังหวัดตรังได้กําชับให้ทุกอําเภอได้เร่งดําเนินงานโครงการถังขยะเปียกลดโลกร้อนในพื้นที่ให้ครบ 100% นอกจากนี้ขอให้ทุกอําเภอทุกท้องถิ่นได้เร่งประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้ความเข้าใจ สร้างความตระหนักและความร่วมมือจากพี่น้องประชาชนในการคัดแยกขยะเศษอาหารหรือขยะเปียกในครัวเรือน เพื่อช่วยลดขยะที่ต้นทาง ลดภาระทางงบประมาณของท้องถิ่นในการจัดการขยะ และยังช่วยลดโลกร้อนด้วย#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
1/2/2023
ภาคใต้
ตรัง
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดตรัง
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230201105400061
null
นายอำเภอทองผาภูมิ พร้อมส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ตรวจสอบสภาพน้ำ พบสภาวะน้ำขุ่น สาเหตุจากการพลิกกลับของชั้นน้ำเมื่ออุณหภูมิลดต่ำลง
นายชาคริต ตันพิรุฬห์ นายอําเภอทองผาภูมิ พร้อมด้วยผู้บริหารเขื่อนวชิราลงกรณ และส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ตรวจสอบน้ําบริเวณสันเขื่อนฯ เกิดการเปลี่ยนสีเป็นสีน้ําตาล ซึ่งสาเหตุเกิดจาก การหมุนวนของน้ําด้านใต้เขื่อนซึ่งเป็นตะกอนที่ตีกลับขึ้นด้านบน ประกอบกับอุณหภูมิผิวน้ําที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว จึงเกิดปรากฏการณ์ดังกล่าวขึ้น เบื้องต้นได้แจ้งแก่ผู้ประกอบการแพปลา กระชังปลา และแพท่องเที่ยวในบริเวณเขื่อนฯ เพื่อเตรียมการรับมือ โดยให้จัดเตรียมเครื่องมือและอุปกรณ์ในการเพิ่มออกซิเจน นายชวลิต กันคํา ผู้อํานวยการเขื่อนวชิราลงกรณ กล่าวว่า ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นเนื่องจากเป็นช่วงเวลาที่อุณหภูมิในพื้นที่ อ.ทองผาภูมิ มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว โดยต่ําสุดอยู่ที่ 14 องศาเซลเซียส ส่งผลให้เกิดปรากฏการณ์การพลิกกลับของชั้นน้ํา ซึ่งถือว่าเป็นปรากฏการณ์ตามธรรมชาติ อย่างไรก็ตามปรากฏการณ์ดังกล่าวอาจส่งผลกระทบกับปลาหรือสิ่งมีชีวิตที่อาศัยอยู่บริเวณผิวน้ําได้ แต่ไม่ส่งผลกระทบ กับมนุษย์ สําหรับการดําเนินกิจกรรมการผลิตน้ําประปาและน้ําดื่มควรเฝ้าระวังให้เป็นไปตามมาตรฐาน ทั้งนี้ เขื่อนวชิราลงกรณจะติดตามปรากฏการณ์ดังกล่าวอย่างใกล้ชิด เพื่อแจ้งข้อมูลให้ประชาชนรับทราบต่อไป ณัฏฐภัส เหลืองพฤกษชาติ / สวท.กาญจนบุรี#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
1/2/2023
ภาคตะวันตก
กาญจนบุรี
สวท.กาญจนบุรี
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230201124711097
null
จังหวัดลำพูน บูรณาการร่วมขับเคลื่อนการพัฒนาและฟื้นฟู ลำน้ำปิงห่าง สร้างเป็นแหล่งน้ำต้นแบบ เฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
วันนี้ (1 ก.พ.66) เวลา 09.30 น. นายสันติธร ยิ้มละมัย ผู้ว่าราชการจังหวัดลําพูน ประธานคณะกรรมการพัฒนาและฟื้นฟูแหล่งน้ํา (ลําน้ําปิงห่าง) ตําบลอุโมงค์ อําเภอเมือง จังหวัดลําพูน และคณะกรรมการฯ ลงพื้นที่สํารวจเส้นทางน้ํา ลําน้ําปิงห่างในพื้นที่ตําบลอุโมงค์ เพื่อฟื้นฟูและพัฒนาเป็นแหล่งน้ําต้นแบบที่สําคัญ ภายใต้กิจกรรมพัฒนาฟื้นฟูและแก้ไขปัญหาแหล่งน้ําทั้งนี้ จังหวัดลําพูนได้ดําเนินการจัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 70 พรรษา 28 กรกฎาคม 2566 ภายใต้กิจกรรมพัฒนาฟื้นฟูและแก้ไขปัญหาแหล่งน้ํา ตามพระราชปณิธานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในการฟื้นฟูแหล่งน้ําธรรมชาติ แม่น้ํา คูคลอง หนอง บึง ให้สะอาดสวยงาม รวมทั้งการบริหารจัดการน้ําและแก้ไขปัญหาแหล่งน้ําอย่างเป็นระบบ โดยจังหวัดลําพูนได้กําหนดลําน้ําปิงห่างในเขตพื้นที่ตําบลอุโมงค์ อําเภอเมือง จังหวัดลําพูน เป็นแหล่งน้ําที่จะดําเนินการฟื้นฟู เพื่อเป็นต้นแบบของการพัฒนาแหล่งน้ํา ผู้ว่าราชการจังหวัดลําพูน มุ่งติดตามความคืบหน้า และรับฟังแนวทางในการพัฒนา ซึ่งจะต้องทําให้เกิดความต่อเนื่องและเกิดการพัฒนาอย่างยั่งยืน เพื่อให้เกิดการมีส่วนร่วมของประชาชน ทําให้ลําน้ําปิงห่างมีสภาพที่ดีขึ้นและเป็นสายน้ําแห่งชีวิตที่ผูกพันกับคนทั้งสายน้ําต่อไป#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
1/2/2023
ภาคเหนือ
ลำพูน
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดลำพูน
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230201132355103
null
เทศบาลเมืองเบตงได้รับเกียรติบัตรรับรองคุณภาพ ระบบบริการอนามัยสิ่งแวดล้อม (Environmental Health Accreditation : EHA ) ด้านการจัดการเหตุรำคาญ
นายธงชัย เทพรอด ปลัดเทศบาลเมืองเบตง รักษาราชการแทนนายกเทศมนตรีเมืองเบตง เปิดเผยว่า เทศบาลเมืองเบตง เข้ารับเกียรติบัตรรับรองคุณภาพ ระบบบริการอนามัยสิ่งแวดล้อม (Environmental Health Accreditation : EHA ) ด้านการจัดการเหตุรําคาญ จากนายแพทย์อรรถสิทธิ์ แดงมณี ผู้อํานวยการศูนย์อนามัยที่ 12 ยะลา ณ โรงแรมเซาห์เทอร์น แอร์พอร์ต อําเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ในการประชุมโครงการพัฒนาคุณภาพระบบบริการอนามัยสิ่งแวดล้อมองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (Environmental Health Accreditation : EHA) ปีงบประมาณ 2566 เมื่อวันที่ 31 ม.ค.66 ที่ผ่านมาปลัดเทศบาลเมืองเบตง กล่าวอีกว่า เทศบาลเมืองเบตง เป็นหนึ่งในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่ผ่านเกณฑ์การประเมิน ประจําปี 2565 ซึ่งมีความสามารถจัดบริการอนามัยสิ่งแวดล้อมในพื้นที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และพร้อมพัฒนาคุณภาพระบบบริการอนามัยสิ่งแวดล้อมขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น สามารถนําไปประยุกต์ใช้ในการพัฒนาการบริการอนามัยสิ่งแวดล้อมให้เหมาะสมกับองค์กร นําไปสู่การลดความเสี่ยงด้านอนามัยสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ ภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 โดยมีองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่ผ่านเกณฑ์การประเมินระดับเกียรติบัตรจํานวน 48 แห่ง และองค์การบริหารส่วนตําบลผ่านการประเมิน อบต. น่าอยู่ 17 แห่ง ทั้งนี้เทศบาลเมืองเบตง ต้องขอขอบคุณทุกภาคส่วนที่ให้ความร่วมมือในการดําเนินการจัดการเป็นอย่างดียิ่ง#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
1/2/2023
ภาคใต้
ยะลา
สวท.เบตง จ.ยะลา
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230201134510115
null
วาระแห่งชาติ “หมูเถื่อน” ผนึกกำลังภาครัฐปราบเคร่งครัดและรัดกุม
สัปดาห์ที่ผ่านมา มีข่าวดีของเกษตรกรผู้เลี้ยงหมูไทย เมื่อนายกรัฐมนตรีพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา สั่งการย้ําให้หน่วยงานภาครัฐปราบปราม “หมูเถื่อน” ทํางานอย่างเคร่งครัดรัดกุม ปราบปรามควบคู่กับการหาทางป้องกันในอนาคต สิ่งสําคัญคือต้องไม่ให้เกิดผลกระทบถึงผู้บริโภคและเกษตรกรผู้เลี้ยงสุกร หลังได้รับรายงานการปราบปรามหมูเถื่อนได้มากกว่า 1 ล้านกิโลกรัม คําสั่งดังกล่าวนับเป็นขวัญและกําลังใจให้คนเลี้ยงหมูทั่วประเทศมุ่งมั่นผลิตหมูคุณภาพดี ปลอดภัยจากสารปนเปื้อน และทดแทนส่วนที่ขาดหายไปช่วงเกิดโรคระบาด ASF ในปีที่ผ่านมา ประกาศิตนายกฯ อนุมานว่าต้องการยกระดับการปราบปรามขึ้นเป็น “วาระแห่งชาติ” หน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องไม่ควรเกี่ยงกันว่าเป็นหน้าที่ของกรมใดกรมหนึ่ง หรือ มองว่าเป็นงาน “จิ๊บจ๊อย” ทั้งกรมศุลกากร กรมปศุสัตว์ เจ้าหน้าที่ตํารวจ-ทหาร ล้วนเป็นกําลังสําคัญในการสอดส่องดูแลไม่ให้ของผิดกฎหมายเข้ามาในประเทศได้ เพราะของกลางหมูเถื่อนที่ถูกจับกุมได้มากกว่า 1 ล้านกิโลกรัม...ดูเหมือนเยอะ แล้วส่วนที่จับกุมไม่ได้มีอีกเท่าไร และหาคําตอบได้จากใคร? เมื่อการปราบหมูเถื่อนขยับฐานะขึ้นเป็น “วาระแห่งชาติ” กระทรวงที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงการคลัง สั่งการให้กรมศุลกากร กระตือรือร้นและจริงจังตรวจสอบสินค้าเข้ามาในราชอาณาจักรให้มากกว่าในปีที่ผ่านมา จากผลงานในการจับกุมเพียง 5 ครั้ง (นับจากข่าวที่มีการนําเสนอ) ที่เหลือมุ่งเน้นการจับยาเสพติด ยาไอซ์-ยาอี ไม่ว่าจะซุกซ่อนด้วยวิธีใดไม่มีคลาดสายตา แต่ชิ้นส่วนหมูเถื่อนชิ้นมหึมากลับตรวจไม่เจอและจับไม่ได้ ทั้งที่ช่องทางนําเข้าหลักเริ่มต้นที่ท่าเรือแหลมฉบัง แม้วันนี้เส้นทางการลักลอบจะเปลี่ยนไป แต่กรมฯ มีกฎหมายในมือที่จะตรวจสอบตู้สินค้าค้างท่าได้ ตลอดจนกระทรวงสาธารณสุข โดยกรมอนามัย ต้องตรวจสอบคุณภาพเนื้อสัตว์และวัตถุดิบในการปรุงอาหารทั้งที่ร้านอาหารตามสั่ง จนถึงฟู้ดเชนและภัตตาคาร ด้านกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยกรมปศุสัตว์ออกแรงเต็ม “คาราเบล” เพราะตระหนักดีถึงความเดือดร้อนของเกษตรกรและผู้บริโภค จึงร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตํารวจและทหาร ตรวจจับกันต่อเนื่องทั้งตะเข็บชายแดนไทยติดประเทศเพื่อนบ้านและห้องเย็นในพื้นที่เป้าหมายหลายจังหวัด และทําลายซากทันทีเพื่อป้องกันโรคระบาดไม่ให้เกิดซ้ํา หากได้กรมศุลกากร มาผนึกกําลังแล้ว “หมูเถื่อน” คงหมดช่องทางเข้าไทย สิ้นหนทางทํามาหากินและสิ้นซากในที่สุด ล่าสุดสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งประเทศไทย ย้ําว่าตลาดการค้าหมูขุนยังคงได้รับผลกระทบจากชิ้นส่วนสุกรที่ลักลอบนําเข้า เพราะผลผลิตในปัจจุบันยังคงต่ํากว่าความต้องการบริโภค โดยการปราบปรามชิ้นส่วนสุกรนําเข้าผิดกฎหมายประเมินว่าจับกุมได้ไม่เกิน 5% ของจํานวนลักลอบทั้งหมด...นัยว่าหมูเถื่อนยังคงซุกซ่อนอยู่ในประเทศและทยอยลักลอบเข้ามาอย่างต่อเนื่องนอกจากนี้ เกษตรกรยังประสบปัญหาปริมาณลูกหมูพันธุ์ยังไม่เพียงพอ จึงจําเป็นต้องเลี้ยงหมูขุนให้มีขนาดใหญ่ขึ้น กระทบคุณภาพซากที่มีส่วนไขมันมากที่ซ้ําเติมราคาจําหน่ายให้ลดลง โดยนําไปอ้างอิงราคาสุกรขุนขนาดปกติ (100 กิโลกรัม) ทําให้หลายภูมิภาคต้องปรับราคาจําหน่ายลง และราคาไม่สะท้อนต้นทุนที่แท้จริงของเกษตรกรจากข้อมูลเกษตรกร การยืดอายุหมูขุนให้อยู่ในฟาร์มนานขึ้น ทําให้ต้นทุนการผลิตสูงขึ้นและคุณภาพของเนื้อสัตว์ไม่ตรงกับความต้องการของตลาด ราคาที่ขายได้ไม่ดี หนําซ้ํายังโดนหมูเถื่อนที่เป็นชิ้นส่วนแช่แข็งขายถูกดั๊มพ์ราคา และสามารถส่งตรงไปยังเขียงหมูในตลาดสดได้ทันที กระทบกับเกษตรกรขายหมูเป็นหน้าฟาร์มไม่ได้ก็จําเป็นต้องลดราคา ให้ขาดทุนน้อยลงจากการยืดระยะเวลาการเลี้ยงต่อในฟาร์ม ที่น่าเป็นห่วง คือ ผู้บริโภคไม่มีสิทธิ์รับรู้ว่าได้รับหมูคุณภาพปลอดภัย หรือหมูเถื่อนที่ไม่ผ่านการตรวจสอบสารปนเปื้อนและเชื้อโรคต่าง ๆ ตามมาตรฐานของกรมปศุสัตว์หลังคําสั่งการของนายกฯ สังคมและผู้เลี้ยงหมูคาดหวังจะเห็นแผนปฏิบัติการแบบบูรณาการ จากหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องตามที่กล่าวมาแล้วข้างต้น ทํางานแบบครบวงจร “ตรวจ เจอ จับ” นําหัวหน้าขบวนการมาลงโทษสูงสุดตามกฎหมาย ให้สมกับที่ยกระดับ “หมูเถื่อน” ขึ้นเป็น “วาระแห่งชาติ”เอมอร อัมฤก นักวิชาการอิสระ
1/2/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สำนักพัฒนานโยบายและแผนการประชาสัมพันธ์
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230201133725109
null
บัญชานายกฯ ...ปราบหมูเถื่อนให้สิ้น!!
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีก็ออกมาสั่งการย้ําให้เจ้าหน้าที่รัฐปราบปราม “หมูเถื่อน” อย่างเคร่งครัดรัดกุม ควบคู่ไปกับการหาทางป้องกันหมูเถื่อนในอนาคต โดยต้องไม่ให้เกิดผลกระทบถึงผู้บริโภคและเกษตรกรผู้เลี้ยงสุกร ซึ่งถือเป็นส่วนสําคัญที่จะช่วยผลักดันให้เจ้าหน้าที่รัฐที่เกี่ยวข้องขยับแข้งขยับขาทําหน้าที่ได้เต็มที่ และเชื่อเหลือเกินว่าจะทําให้สามารถถอนรากถอนโคนขบวนการหมูเถื่อนได้ รวมไปถึงจะได้เห็นตัวบงการใหญ่ของขบวนการนี้อย่างแน่นอน เมื่อกลางมกราคม 2566 ได้เห็นข่าวการฝังทําลายหมูเถื่อนกว่า 7 แสนกิโลกรัม กับที่อยู่ระหว่างการดําเนินคดีอีกรวมๆแล้วก็กว่า 1 ล้านกิโลกรัม อาจจะดูจํานวนมากอยู่ในสายตาของหลายๆ คน แต่โดยข้อเท็จจริงแล้ว ปริมาณผลผลิตหมูของไทยในปัจจุบันอยู่ที่ 17-18 ล้านตัว หรือ ราว 2,000 ล้านกิโลกรัม “หมูเถื่อน” ยังสามารถกดดันราคาหมูไทยให้ต่ํากว่าที่ควรจะเป็นได้ แสดงว่าปริมาณหมูเถื่อนที่ปะปนอยู่ในตลาดเมืองไทยยังมีอยู่อีกมาก ดังเช่นที่ สมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ ประเมินไว้ว่าการตรวจจับได้ 1 ล้านกิโลกรัมนั้น อาจจะเป็นเพียงส่วนน้อยนิดของทั้งขบวนการ หรือราว 5% ของปริมาณหมูเถื่อนทั้งหมดเท่านั้น ภารกิจของเจ้าหน้าที่จึงยังไม่จบและจําเป็นต้องกวดขันกวาดล้างให้หนักยิ่งขึ้น หลักฐานที่เห็นได้ชัดคือจํานวนชิ้นส่วนหมูในพื้นที่ภาคเหนือ ปกติภาคเหนือเป็นภาคที่ผลิตหมูได้ไม่เพียงพอต่อการบริโภคในพื้นที่ ต้องอาศัยหมูจากภาคอื่นๆ ส่งเข้าไปขาย โดยในแต่ละเดือนจะมีหมูจากทุกภาคส่งเข้ามาราวๆ 2-3 ล้านกิโลกรัม แต่ปัจจุบันกลับพบว่ามีหมูจากภาคอื่นๆ เข้ามาถึงราวๆ 5 ล้านกิโลกรัม ซึ่งเป็นไปไม่ได้เลยว่าปริมาณหมูจะเพิ่มขึ้นมาเท่าตัว โดยที่ปริมาณการเลี้ยงไม่ได้เพิ่มขึ้น แนวโน้มชี้ชัดว่าเป็นการนํา “หมูเถื่อน” เข้ามาสวม และที่น่าแปลกใจอีกข้อก็คือ “หมูส่วนเกินนั้นเป็นหมูที่มีใบเคลื่อนย้ายถูกต้อง” ถามว่าถูกต้องได้อย่างไร? มีการฉ้อฉลเกิดขึ้นตรงขั้นตอนใดหรือไม่? คําถามนี้ก็คงมีแต่เจ้าหน้าที่รัฐมือสะอาดเท่านั้นที่จะหาคําตอบมาเฉลยได้ แหล่งพักพิงของหมูเถื่อนหนีไม่พ้น “ตู้คอนเทนเนอร์” ที่จอดพัก ณ ท่าเรือแหลมฉบัง รวมถึง “ห้องเย็น” ที่กระจายกันอยู่ทั่วประเทศ ความร่วมมือของเจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วนจึงสําคัญยิ่ง ไม่ว่าจะเป็นกรมศุลกากร กรมปศุสัตว์ กรมการค้าภายใน หรือ เจ้าหน้าที่ตํารวจที่ต้องผนึกกําลังกันตาม “บัญชาของท่านนายกรัฐมนตรี” ใครเพิกเฉยก็น่าจะเจอข้อหา “ละเลยการปฏิบัติหน้าที่” ได้ง่ายๆ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ผมไม่ห่วง เพราะเห็นความกระตือรือล้นของกรมปศุสัตว์ ที่มีผลงานจับกุมเชิงประจักษ์ แต่กับกรมศุลกากร สังกัดกระทรวงการคลังนี่สิ ไม่แน่ใจว่าให้ความสําคัญกับคําสั่งของนายกรัฐมนตรีแค่ไหน เพราะเท่าที่ทราบยังมีตู้คอนเทนเนอร์น่าสงสัยเรียงรายอยู่ในท่าเรือแหลมฉบังนับร้อยตู้ และมีแนวโน้มว่าในตู้จะเป็นหมูเถื่อนแช่แข็งมาจากทวีปอเมริกาใต้และยุโรปอยู่ไม่ต่ํากว่า 10 ตู้ทีเดียว ก็ไม่เข้าใจว่ารออะไร เหตุใดจึงไม่เข้าตรวจสอบจับกุมให้รู้แล้วรู้รอดไป นี่ยังไม่นับวิธีการกระจายสู่ประเทศเพื่อนบ้าน แล้วแตกย่อยเป็นกองทัพมดใส่รถปิคอัพเข้ามาทางชายแดน ซึ่งเป็นภาระหน้าที่ของกองกําลังต่างๆที่ต้องป้องกันตะเข็บชายแดนอย่างเข้มแข็งการประกาศย้ําให้จัดการหมูเถื่อนต่อเนื่อง เพื่อไม่ให้กระทบเกษตรกรและผู้บริโภค ตามที่ท่านนายกฯ กล่าวนั้นบางคนมองว่าเป็นการหาเสียง แต่อย่างน้อยท่านก็ได้ใจเกษตรกรคนเลี้ยงหมูไปแล้วนับแสนคน จะพรรครวมไทยสร้างชาติของนายกฯ หรือพรรคประชาธิปัตย์ของรัฐมนตรีฯ ก็ถือว่ามีภาษีดีกว่าพรรคอื่นๆ ที่ไม่คิดหยิบยกเอาความเดือดร้อนของคนเลี้ยงหมูมาช่วยแก้ไขเลย โดย สามารถ สิริรัมย์
1/2/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สำนักพัฒนานโยบายและแผนการประชาสัมพันธ์
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230201133752111
null
คพ. ขอให้เพิ่มความเข้มงวดมาตรการป้องกันเหตุเพลิงไหม้บ่อขยะให้มากขึ้น เพื่อลดผลกระทบต่อประชาชนและสิ่งแวดล้อม
กรมควบคุมมลพิษ(คพ.) ขอให้เพิ่มความเข้มงวดมาตรการป้องกันเหตุเพลิงไหม้บ่อขยะให้มากขึ้น เพื่อลดผลกระทบต่อประชาชนและสิ่งแวดล้อม นายปิ่นสักก์ สุรัสวดี อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ(คพ.) กล่าวว่า ประเทศไทย เมื่อเข้าสู่ฤดูหนาวไปถึงช่วงฤดูร้อนจะเกิดเพลิงไหม้บ่อขยะได้ง่ายในทุกพื้นที่ ทําให้กรมควบคุมมลพิษ(คพ.)ได้ขอความร่วมมือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้เข้มงวดมาตรการป้องกันเหตุเพลิงไหม้ในพื้นที่บ่อขยะ และป้องกันต้นเพลิงที่อาจเกิดจากความประมาทหรือรู้เท่าไม่ถึงการณ์ต่างๆ เช่น ควรกลบทับขยะด้วยดินทุกวัน ห้ามสูบบุหรี่หรือก่อกองไฟหรือเผากําจัดขยะหรือเศษกิ่งไม้ ห้ามบุคคลภายนอกเข้ามาคุ้ยเขี่ยขยะและเผาขยะเอาวัสดุมีค่า จัดหน่วยเฝ้าระวังตรวจตราป้องกันการเกิดเพลิงไหม้บ่อขยะและพื้นที่ใกล้เคียง จัดเตรียมอุปกรณ์ดับเพลิงไว้ภายในบ่อขยะ และขอความร่วมมือจากประชาชนที่อยู่โดยรอบบ่อขยะคอยสังเกต หากพบควันไฟหรือไฟไหม้ในบริเวณบ่อขยะให้รีบแจ้งหน่วยงานเจ้าของบ่อโดยเร็ว เพื่อป้องกันการลุกลามของไฟจนเกิดผลกระทบอย่างรุนแรงในพื้นที่ ด้าน นางสาวธีราพร วิริวุฒิกร ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านการจัดการกากของเสียและสารอันตราย กล่าวว่า ไฟไหม้บ่อขยะทําให้เกิดฝุ่นละอองขนาดเล็กทั้ง PM 10 , PM 2.5 และก๊าซพิษอื่นๆ เช่น คาร์บอนมอนอกไซด์ ไนโตรเจนไดออกไซด์ ซัลเฟอร์ไดออกไซด์ ไฮโดรเจนคลอไรด์ ฟอร์มาลดีไฮด์ รวมทั้ง อาจมีน้ําเสียจากการดับเพลิงไหลล้นสู่พื้นที่ใกล้เคียงหรือแหล่งน้ําสาธารณะ ทําให้คุณภาพน้ําเสื่อมโทรมส่งผลกระทบต่อสัตว์น้ํา สิ่งแวดล้อม และกระทบต่อสุขภาพอนามัยของประชาชนในพื้นที่ แล้วบางกรณีต้องอพยพประชาชนออกจากพื้นที่เสี่ยงอันตราย ซึ่งต้องใช้งบประมาณ เครื่องมืออุปกรณ์ และเจ้าหน้าที่จํานวนมากเข้าจัดการระงับเหตุ การดูแลสุขภาพประชาชน และแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อม สําหรับปีนี้ในเดือนมกราคมที่ผ่านมาเกิดเหตุไฟไหม้บ่อขยะแล้ว 4 ครั้ง คือ เมื่อวันที่ 5 มกราคม เกิดเหตุเพลิงไหม้บ่อขยะในพื้นที่ดงสีบู ตําบลไก่คํา อําเภอเมือง จังหวัดอํานาจเจริญ เป็นบ่อฝังกลบขนาดใหญ่ที่สุดของจังหวัดอํานาจเจริญรวม 95 ไร่ เกิดจากคนเก็บขยะคัดแยกของเก่าเผาซากสายไฟเพื่อเอาทองแดงบริเวณใกล้บ่อขยะ // เมื่อวันที่ 24 มกราคม เกิดเหตุเพลิงไหม้ที่พักขยะเก่าในเทศบาลเมืองเพชรบุรี จังหวัดเพชรบุรี ไม่ทราบสาเหตุ // เมื่อวันที่ 28 มกราคม เกิดเพลิงไหม้บ่อขยะของเทศบาลนครขอนแก่น บ้านคําบอน ตําบลโนนท่อน อําเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น ไม่ทราบสาเหตุ และสุดท้าย เมื่อวันที่ 30 มกราคม เกิดเหตุเพลิงไหม้บ่อขยะของบริษัท อีสเทิร์น เอเนอร์จี้ พลัส จํากัด บริเวณตําบลแพรกษา อําเภอเมือง จังหวัดสมุทรปราการ ที่ดําเนินธุรกิจกําจัดขยะชุมชน โดยนําขยะมาใช้ประโยชน์เป็นพลังงานทดแทน อยู่ระหว่างการสืบสวนหาสาเหตุ
1/2/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230201141220133
null
จ.มุกดาหาร เดินหน้าโครงการ “แล้งนี้ต้องมีน้ำ” ดึงน้ำโขงด้วยพลังงานแสงอาทิตย์มาให้เกษตรกทำการเกษตรตลอดแนวลำน้ำโขง
นายวรญาณ บุญณราช ผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร เปิดเผยว่า จังหวัดมุกดาหาร มีแนวเขตติดแม่น้ําโขงในพื้นที่ 3 อําเภอ ได้แก่ อําเภอเมือง อ.ดอนตาล และอ.หว้านใหญ่ ระยะทางประมาณ 72 กิโลเมตร ปัจจุบันยังขาดการบริหารจัดการน้ําจากแม่น้ําโขงมาใช้ประโยชน์ได้เต็มศักยภาพ โดยเฉพาะช่วงฤดูแล้ง เกษตรกรได้มีการทําการเกษตรตามฝั่งแม่น้ําโขง แต่ยังประสบปัญหาไม่มีน้ําเพียงพอสําหรับการทําการเกษตร จังหวัดจึงได้ทําโครงการ “แล้งนี้ต้องมีน้ํา” ด้วยพลังงานแสงอาทิตย์จากแม่น้ําโขง งบประมาณกว่า 100 ล้านบาท เสนอรับการจัดสรรจากรัฐบาล เพื่อให้เกษตรกรที่อยู่ติดกับแม่น้ําโขง หันมาใช้พลังงานแสงอาทิตย์ด้วยการติดตั้งระบบโซล่าเซลล์สูบน้ําจากแม่น้ําโขง ซึ่งเป็นแหล่งน้ําต้นทุน ในระยะทาง 300 - 500 เมตร ได้มีน้ําเพื่อใช้ในการเกษตรต่าง ๆ เพียงพอตลอดทั้งปี ทําให้เกษตรกรได้ปลูกพืชขาย มีรายได้สร้างความสุขและยกระดับคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้นผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร กล่าวด้วยว่า ขณะนี้ได้ทําโครงการต้นแบบ “แล้งนี้ต้องมีน้ํา” โดยการติดตั้งระบบโซล่าเซลล์สูบน้ําจากแม่น้ําโขงมาใช้ในการปลูกพืชผัก และไม้ยืนต้นหลากหลายในแปลงโคกหนองนาโมเดล อยู่ภายในบริเวณหลังจวนผู้ว่าราชการจังหวัด สามารถสูบน้ําได้วันละกว่า 200,000 ลิตร รองรับการทําการเกษตรในพื้นที่ประมาณ 10 ไร่ สามารถปลูกพืชผักได้ผลเป็นอย่างดี#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
1/2/2023
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
มุกดาหาร
สวท.มุกดาหาร
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230201142743149
null
ผู้ว่าฯ เซมเบ้ นำทีมลุยทำแนวกันไฟ ป้องกันไฟป่าแบบไร้รอยต่อ
ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ นําส่วนราชการ และประชาชนอําเภอแม่ออน-สันกําแพง ร่วมทําแนวกันไฟเตรียมป้องกันไฟป่าแบบไร้รอยต่อ ก่อนเข้าสู่ช่วงเกิดเหตุ วันนี้ (1 ก.พ. 66) นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานเปิดกิจกรรมรณรงค์ประชาสัมพันธ์การป้องกัน แก้ไขปัญหาไฟป่าและฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 พื้นที่บริหารจัดการพิเศษ อําเภอแม่ออน-อําเภอสันกําแพง ประจําปี 2566 ที่ บริเวณศูนย์ส่งเสริมการควบคุมไฟป่าเชียงใหม่ อําเภอแม่ออน จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อร่วมกันป้องกันไฟป่าแบบไร้รอยต่อ โดยมี นายชลิต ทิพย์คํา นายอําเภอแม่ออน นายภิญโญ พัวศรีพันธุ์ นายอําเภอสันกําแพง หน่วยงานภาครัฐ เอกชน และประชาชนอําเภอแม่ออน อําเภอสันกําแพง เข้าร่วมกิจกรรมเป็นจํานวนมากสําหรับอําเภอสันกําแพง และอําเภอแม่ออน เป็น 2 ใน 8 พื้นที่บริหารจัดการพิเศษของจังหวัดเชียงใหม่ ด้วยมักเกิดเหตุไฟไหม้ซ้ําซากในพื้นที่รอยต่อระหว่างอําเภอ นอกจากนี้ อําเภอแม่ออน ยังมีแนวเขตติดต่อกับหลายพื้นที่ในจังหวัดเชียงใหม่และจังหวัดใกล้เคียง จึงได้มีการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ ระหว่างอําเภอแม่ออน อําเภอสันกําแพง อําเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่ อําเภอบ้านธิ อําเภอแม่ทา จังหวัดลําพูน และอําเภอเมืองปาน จังหวัดลําปาง รวม 6 อําเภอ 3 จังหวัด เพื่อบูรณาการแก้ไขปัญหาไฟป่าหมอกควันและฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 แบบไร้รอยต่อ ตามเจตนารมณ์ของผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่โดยในวันนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ได้นําหลายภาคส่วนร่วมทําแนวกันไฟในพื้นที่หมู่ที่ 1-8 ตําบลบ้านสหกรณ์ อําเภอแม่ออน ระยะทาง 4 กิโลเมตร และ พื้นที่หมู่ที่ 2,10 ตําบลร้องวัวแดง หมู่ที่ 1,6,8 ตําบลห้วยทราย อําเภอสันกําแพง ระยะทาง 4 กิโลเมตร พร้อมเปิดเผยว่าขณะนี้ สถานการณ์ฝุ่นควันของจังหวัดเชียงใหม่ อยู่ในระดับที่สามารถควบคุมได้ โดยมีการบริหารจัดการเชื้อเพลิงผ่านระบบ FireD เพื่อควบคุมการเผาในแต่ละพื้นที่ และที่สําคัญคือในปีนี้ได้มีการเริ่มเตรียมการเร็วกว่าปีที่ผ่านมา ทั้งยังมีการบูรณาการความร่วมมือกับอีก 3 จังหวัดใกล้เคียง ได้แก่ จังหวัดลําพูน ลําปาง และแม่ฮ่องสอน เพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาแบบไร้รอยต่อ ประกอบกับมีการเตรียมความพร้อมของกําลังพล เจ้าหน้าที่ และยุทโธปกรณ์ต่างๆ จึงเชื่อว่าปีนี้จะสามารถแก้ปัญหาได้อย่างครอบคลุมและเกิดประสิทธิภาพมากที่สุด#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
1/2/2023
ภาคเหนือ
เชียงใหม่
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงใหม่
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230201145838160
null
กอนช. เร่งแก้ปัญหาอุทกภัยในลุ่มน้ำท่าจีน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำและลดผลกระทบให้กับประชาชน
กองอํานวยการน้ําแห่งชาติ (กอนช.) เร่งแก้ปัญหาอุทกภัยในลุ่มน้ําท่าจีน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ําและลดผลกระทบให้กับประชาชน นายสุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสํานักงานทรัพยากรน้ําแห่งชาติ (สทนช.) ในฐานะรองผู้อํานวยการกองอํานวยการน้ําแห่งชาติ (กอนช.) กล่าวถึงการแก้ปัญหาอุทกภัยในลุ่มน้ําท่าจีนและความก้าวหน้าการก่อสร้างกําแพงป้องกันน้ําท่วมริมแม่น้ําท่าจีน อ.นครชัยศรี และ จ.นครปฐมว่า จะเร่งปรับปรุงระบบชลประทานเจ้าพระยาฝั่งตะวันตก พร้อมเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ําแม่น้ําท่าจีนให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด เพื่อลดความเสี่ยงที่จะเกิดอุทกภัยและลดผลกระทบกับประชาชน เบื้องต้นได้ให้กรมชลประทานเร่งก่อสร้างระบบระบายน้ําในพื้นที่ลุ่มน้ําท่าจีนให้เป็นไปตามแผน รวมทั้ง วางแผนบริหารจัดการน้ําในหน้าน้ําหลากให้มีประสิทธิภาพ และเร่งทําโครงการก่อสร้างประตูระบายน้ําคลองบางแก้ว // กรมโยธาธิการและผังเมือง เร่งก่อสร้างพนังกั้นน้ําจุดสําคัญในแม่น้ําท่าจีน โดยเฉพาะพื้นที่ประสบปัญหาอุทกภัยรุนแรงปีที่ผ่านมา เช่น บริเวณกําแพงป้องกันตลิ่งริมคลองบางแก้วให้แล้วเสร็จแก้ปัญหาความเดือดร้อนให้ประชาชน // กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยและกรมส่งเสริมการเกษตร เร่งรัด ฟื้นฟูบ้านเรือนและสวนส้มโอที่ได้รับความเสียหาย
1/2/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230201152404182
null
ทช. และ มท. ร่วมกันเร่งหาแนวทางแก้ปัญหาการออกเอกสารสิทธิในพื้นที่ป่าชายเลน เพื่อเพิ่มการป้องกันและปรามปราบการรุกป่าชายเลน
กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) และกระทรวงมหาดไทย ร่วมกันเร่งหาแนวทางแก้ปัญหาการออกเอกสารสิทธิในพื้นที่ป่าชายเลน เพื่อเพิ่มการป้องกันและปรามปราบการรุกป่าชายเลน นายอภิชัย เอกวนากุล รองอธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) รักษาราชการแทนอธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กล่าวว่า กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) และกระทรวงมหาดไทย ได้ร่วมกันหาแนวทางการแก้ปัญหาการออกเอกสารสิทธิในพื้นที่ป่าชายเลน หลังเกิดกรณีการตรวจสอบเอกสารสิทธิที่ดินในพื้นที่ป่าชายเลน 93 ฉบับต่อแปลง เนื้อที่กว่า 2,574 ไร่ โดย ทช. ส่งเรื่องให้กรมที่ดินพิจารณาดําเนินการแล้ว เพื่อหารือแนวทางการแก้ปัญหาการออกเอกสารสิทธิในพื้นที่ป่าชายเลนที่รับผิดชอบ และข้อมูลการออกเอกสารสิทธิในเขตพื้นที่ป่าชายเลนที่อาจจะออกโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายหรือคลาดเคลื่อน เพื่อให้กรมที่ดินพิจารณาเพิกถอนหรือแก้ไขตามมาตรา 61 แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน ทั้งนี้ การป้องกันและปราบปรามการบุกรุกทําลายทรัพยากรป่าไม้ชายเลนเป็นนโยบายสําคัญของรัฐบาลที่มุ่งเน้นให้ทุกฝ่ายปฏิบัติหน้าที่ร่วมกันอย่างจริงจังและเข้มข้น โดย นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมได้ให้ ทช. กําชับเจ้าหน้าที่ในพื้นที่เข้มงวดตรวจตรา ลาดตระเวน เฝ้าระวัง ควบคุม ป้องกัน และปราบปรามต่อเนื่องสม่ําเสมอ พร้อมให้บังคับใช้กฎหมายตามกระบวนการขั้นตอนทางกฎหมาย ข้อระเบียบ มาตรการ และแนวทางปฏิบัติ รวมถึง บูรณาการกฎหมายหาข้อกําหนดรูปแบบความเกี่ยวเนื่อง เพื่อร่วมมือกันระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้องป้องกันและปราบปรามการบุกรุกพื้นที่ป่าชายเลนในพื้นที่รับผิดชอบเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด รักษาราชการแทนอธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กล่าวย้ําว่า ปัจจุบัน ทช.ให้ความสําคัญการแก้ปัญหาบุกรุกพื้นที่ป่าชายเลนเพื่อทําประโยชน์ในเชิงธุรกิจต่อเนื่อง เพราะการเปลี่ยนแปลงสภาพพื้นที่ป่าชายเลนก่อให้เกิดการสูญเสียและส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศป่าชายเลนอย่างมาก ดังนั้น ทช. จึงให้หน่วยงานในพื้นที่เร่งประสานความร่วมมือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและเครือข่ายอาสาสมัครพิทักษ์ทะเล เพื่อช่วยกันสอดส่องดูแลและเป็นกําลังสําคัญแจ้งเบาะแสต่างๆป้องกันและแก้ปัญหาการบุกรุกพื้นที่ป่าชายเลนได้รวดเร็ว โดย นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้กําชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องปฏิบัติตามนโยบายอย่างเคร่งครัดในการป้องกันและปราบปรามการลักลอบตัดไม้และแก้ปัญหาบุกรุกป่าชายเลน พร้อมวางแผนฟื้นฟูฟื้นที่ป่าชายเลนให้กลับคืนมาสมบูรณ์อีกครั้ง
1/2/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230201160609201
null
จ.นครสวรรค์ เปิดทีมพัฒนาเกษตรนครสวรรค์ เพื่อเป็นสมาชิกสภาเกษตรกร จังหวัดนครสวรรค์
วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2566? เมื่อเวลา? 13.30 น? เปิดตัวทีมพัฒนาเกษตรนครสวรรค์ นําโดยนายเศรณี?อนิลบล อดีตเกษตรจังหวัดนครสวรรค์ พร้อมด้วยสมาชิกสภาเกษตรจังหวัดนครสวรรค์เขตอําเภอเมือง ท่าตะโก เก้าเลี้ยว บรรพตพิสัย ลาดยาว แม่วงก์ ตากฟ้า หนองบัว ชุมแสง แม่เปิน ชุมตาบง ตาคลี พยุหะคีรี และอําเภอไพศาลี? เขต 1 และ?ไพศาลี? เขต 2? ตามที่สภาเกษตรกรแห่งชาติได้มีการประกาศให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาเกษตรกรจังหวัด ตามมาตรา 3? (1) แห่งพระราชบัญญัติสภาเกษตรกรแห่งชาติ พ.ศ 2553 ซึ่งจะมีการรับสมัครเลือกตั้งระหว่างวันที่ 8-12 กุมภาพันธ์ 2566 และจัดให้มีการเลือกตั้งพร้อมกันทั้งประเทศ ในวันอาทิตย์ที่ 19 มีนาคม 2566? นั้น? ซึ่งทีมพัฒนาเกษตรนครสวรรค์ได้มีการเตรียมความพร้อมในการเลือกตั้งผู้สมัคร ที่มีความรู้ ความสามารถ ทั้งคุณวุฒิ และวัยวุฒิ ซึ่งทีมพัฒนาเกษตรนครสวรรค์มีประสบการณ์ทางด้านการเกษตร ที่เป็นผู้นําด้านอาชีพเกษตรกรรมมาแล้วหลายปี โดยมีการส่งผู้สมัครที่มาจากทุกสาขาอาชีพมีความพร้อมที่จะบูรณาการ ทํางานกับภาคส่วนอย่างลงตัว โดยทางทีมพัฒนาเกษตรนครสวรรค์ได้มีนโยบายที่ชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการบริหารจัดการน้ําเพื่อการเกษตร ปัญหาดินเสื่อมโทรม แหล่งพืชพันธุ์ดี การยกระดับและผลิตผลอย่างมีประสิทธิภาพ การแปรรูปสินค้าเกษตรเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่ม และระบบการตลาดที่ยังคงมีปัญหาจะต้องดําเนินการแก้ไขต่อไป โดยทางทีมพัฒนาเกษตรนครสวรรค์มุ่งเน้นที่จะให้สภาเกษตรกร เป็นอีกหน่วยงานหนึ่งที่สามารถเป็นที่พึ่งของพี่น้องเกษตรกรชาวนครสวรรค์ได้อย่างแท้จริงโดยนโยบายการทํางานของทีมพัฒนาเกษตรกร ประกอบด้วย 1.การแก้ไขปัญหาเรื่องน้ําให้มีน้ําใช้อย่างเพียงพอในการเกษตรเพิ่มพื้นที่ชลประทานให้มากขึ้นและควบคุมพื้นที่การเกษตร 2. การแก้ไขปัญหาเรื่องดินเสื่อมโทรม 3. ส่งเสริมการเพิ่มผลผลิตพืชต่อพื้นที่ในพืชเกษตรกิจสําคัญทุกชนิดเช่น อ้อย ข้าว มันสําปะหลัง ข้าวโพด 4. ส่งเสริมการผลิตแหล่งพันธุ์พืชพันธุ์ดีและนําเทคโนโลยีนวัตกรรมการเกษตรมาใช้ในไร่นาเพื่อลดต้นทุนการผลิต 5. ส่งเสริมการแปรรูปผลผลิตการเกษตรให้เพิ่มมูลค่าการท่องเที่ยวเชิงเกษตรพื้นที่ 6. ส่งเสริมการจัดสร้างจัดทําบรรจุภัณฑ์ทางการเกษตรเพื่อยกระดับมาตรฐานสินค้าเกษตรกรรม 7.ส่งเสริมระบบการตลาดเกษตรกร 8. สนับสนุนการเกษตรปลอดภัย? GAP เกษตรอินทรีย์ และพืชสมุนไพร 9.เพื่อส่งเสริมการรวมกลุ่มองค์กรเกษตรกรเพื่อสร้างความเข้มแข็งของสถาบันเกษตรกร เช่นเกษตรแปลงใหญ่ และ 10.สนับสนุนการเข้าถึงแหล่งเงินทุนทางการเกษตร#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILANDสํานักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนครสวรรค์
1/2/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
นครสวรรค์
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนครสวรรค์
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230201154239186
null
จังหวัดกระบี่ส่งเสริมเกษตรกรเลี้ยงแพะในสวนปาล์มน้ำมันและแปรรูปเนื้อแพะรองรับตลาดนักท่องเที่ยว
นายอนุวัฒน์ โหมดพริ้ง รองผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ กล่าวถึงการส่งเสริมเกษตรกรเลี้ยงแพะในสวนปาล์มน้ํามันและแปรรูปเนื้อแพะรองรับตลาดนักท่องเที่ยวในพื้นที่จังหวัดกระบี่ว่าจังหวัดกระบี่มีเกษตรกรนินมเลี้ยงแพะจํานวนมาก การบริโภคเนื้อแพะก็มีอย่างต่อเนื่องและยาวนาน หน่วยงานภาครัฐก็มีการขับเคลื่อนตลอด นอกจากนี้ ยังมีสภาการศึกษาจังหวัดกระบี่ได้เข้ามาร่วมในการขับเคลื่อนอีกทางหนึ่ง โดยการให้ความรู้ในการเลี้ยงแพะ การนําแพะมาแปรรูปเป็นอาหารชนิดต่างๆเช่น แกงเนื้อแพะ แกงมัสมั่นแพะ อาหารทานเล่นเช่น ทอดมันแพะ ถุงทองแพะ สะเต๊ะแพะ นอกจากนี้ยังมีการประกวดการปรุงอาหารจากเนื้อแพะในอําเภอต่างๆเช่นที่อําเภอคลองท่อม มีการแข่งขันจํานวน 4 ทีมได้แก่ทีม กลุ่มวิสาหกิจชุมชนผู้เลี้ยงแพะและโคท่าประดู่ กล่มแกงแพะทรายขาว กลุ่มคลองปิ้ง กลุ่มแปลงใหญ่แพะคลองท่อม สรุปผลจากการแข่งขันปรากฏว่ากลุ่มวิสาหกิจชุมชนผู้เลี้ยงแพะและโคท่าประดู่ ชนะเลิศและจะเข้าแข่งขันระดับจังหวัดต่อไปในการแข่งขันแกงแพะจะมีการนําเนื้อแพะมาทําอาหารในรูปแบบเมนูต่างๆเพื่อคิดค้นในเรื่องของเมนูที่จะตอบโจทย์ให้กับนักท่องเที่ยวโดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจากตะวันออกกลางที่นับถือศาสนาอิสลามที่นิยมชมชอบรสชาดจากเนื้อแพะจากประเทศไทย บางคนที่เคยเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวและที่ได้มาลิ้มลองรสชาติอาหารเนื้อแพะจากประเทศไทยต่างก็ติดใจเมื่อกลับมาเที่ยวอีกครั้งก็ถามหาเพราะติดใจในรสชาดว่ามีความอร่อย สิ่งต่างๆเหล่านี้ก็จะเป็นส่วนหนึ่งที่เป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวได้อีกทางหนึ่ง ส่วนการเลี้ยงแพะในสวนปาล์มน้ํามันก็สามารถทําได้ง่ายเพราะแพะจะกินได้ทั้งหญ้าในสวนปาล์มน้ํามัน ทางใบปาล์มในอดีตถ้าอยากให้ได้ผลผลิตปาล์มดก ก็มักจะบอกให้เกษตรกรใส่ปุ๋ย หากมีหญ้าในสวนปาล์ม แต่ก็พบว่าสิ่งเหล่านี้ทําให้ต้นทุนสูงขึ้น สภาพดินเสื่อม จึงได้หาแนวทางใหม่ด้วยการทําเกษตรเชิงคู่ เลี้ยงแพะในสวนปาล์มน้ํามันแทน พร้อมๆ กับลดการใช้สารเคมีลง ปรากฏว่าได้ผลเป็นอย่างดี เพราะแพะที่เลี้ยงไว้ช่วยในการกําจัดหญ้าและวัชพืชในสวนปาล์ม ขณะเดียวกันมูลสัตว์ยังเป็นปุ๋ยช่วยบํารุงดิน ในแต่ละเดือนก็ยังสามารถขายเนื้อแพะเป็นรายได้เสริมอีกทางหนึ่ง#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
1/2/2023
ภาคใต้
กระบี่
สวท.กระบี่
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230201154243187
null
รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ประชุมคณะกรรมการส่งเสริมวิสาหกิจชุมชนจังหวัดสงขลา ครั้งที่ 1/2566
วันนี้ (1 ก.พ. 66) ที่สํานักงานเกษตรจังหวัดสงขลา อําเภอเมือง จังหวัดสงขลา นายกองเอก พุทธ กฤชคงพันธุ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการส่งเสริมวิสาหกิจชุมชนจังหวัดสงขลา ครั้งที่ 1/2566 โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน อาทิ ที่ทําการปกครองจังหวัดสงขลา สํานักงานเกษตรจังหวัดสงขลา สํานักงานอุตสาหกรรมจังหวัดสงขลา สํานักงานพาณิชย์จังหวัดสงขลา สํานักงานธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตรจังหวัดสงขลา เข้าร่วมประชุมอย่างพร้องเพรียง เพื่อพิจารณาคัดเลือกวิสาหกิจชุมชนที่มีการบริหารจัดการที่ดี มีแนวโน้มการพัฒนาที่ยั่งยืนโดยในที่ประชุมได้รายงานผลการประกวดวิสาหกิจชุมชนดีเด่นระดับจังหวัด ประจําปี 2565 ซึ่งได้ดําเนินการตัดสินการประกวดวิสาหกิจชุมชนระดับจังหวัดโดยมีชุมชนที่ได้รับรางวัลดังนี้ 1.รางวัลชนะเลิศ ได้แก่ วิสาหกิจชุมชนกลุ่มเพาะเลี้ยงชันโรงบ้านคลองต่อ ต.กําแพงเพชร อ.รัตภูมิ จ.สงขลา 2.รางวัลรองชนะเลิศ อันดับ 1 ได้แก่ วิสาหกิจชุมชนน้ําพริกแม่ปลื้ม ต.ท่าบอน อ.ระโนด จ.สงขลา 3.รางวัลชนะเลิศอันดับ 2 ได้แก่ วิสาหกิจชุมชนแปรรูปผลิตภัณฑ์ชุมชนบ้านนาออก ต.สทิงหม้อ อ.สิงหนคร จ.สงขลา 4.รางวัลชมเชย ได้แก่ วิสาหกิจชุมชนกลุ่มแม่บ้านเกษตรกรบ้านหน้าควน ต.บางเหรียง อ.ควนเนียง จ.สงขลา นอกจากนี้ผลการประกวดวิสาหกิจชุมชนดีเด่นระดับเขต วิสาหกิจที่ได้รับรางวัล มีจํานวน 6 รางวัล และผลการประกวดวิสาหกิจชุมชนดีเด่นระดับประเทศ ที่ได้รับรางวัล มีจํานวน 6 รางวัลสําหรับวิสาหกิจชุมชนจังหวัดสงขลา ปี 2566 มีวิสาหกิจชุมชนที่จดทะเบียนวิสาหกิจชุมชน จํานวน 932 แห่ง ข้อมูลวิสาหกิจชุมชนจําแนกตามประเภทกิจการ การให้บริการท่องเที่ยวจังหวัดสงขลา ผลการคัดเลือกวิสาหกิจชุมชนดีเด่นระดับอําเภอ ปี 2566 แผนส่งเสริมและพัฒนาวิสาหกิจชุมชนจังหวัดสงขลา ปี 2566 การส่งเสริมวิสาหกิจชุมชนของสํานักงานเกษตรจังหวัดสงขลา ปี 2566 และ การส่งเสริมวิสาหกิจชุมชนของหน่วยงานภาคี ปี 2566ด้านมาตรการให้ความช่วยเหลือ อุดหนุน วิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม “SME ปัง ตังได้คืน”ภายใต้โครงการส่งเสริมผู้ประกอบการผ่านระบบ BDS ปีงบประมาณ 2565 ผู้ประกอบการ SME สามารถยื่นข้อเสนอเพื่อขอรับการบริการและการพัฒนาในด้านต่างๆ เช่น ด้านการพัฒนาคุณภาพและมาตรฐานสินค้าและบริการจากผู้ให้บริการทางธุรกิจ(BDSP) ที่ได้ขึ้นทะเบียนไว้ผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ทั้งนี้ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา มอบหมายทางกองทุนหมู่บ้าน เรื่องของระบบธนาคารสถาบันทางการเงิน ที่มีการขับเคลื่อนแล้วมีการหลงเหลือแหล่งทุนอะไรบ้าง มีวิธีแก้ไขปัญหาอย่างไรให้วิสาหกิจชุมชนมีประสิทธิภาพต่อไปณ.กัลย์ ณะช้อย /ข่าว ประชา โชคผ่อง /ภาพสํานักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสงขลา 1 ก.พ. 66#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
1/2/2023
ภาคใต้
สงขลา
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสงขลา
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230201155305192
null
รองผู้ว่าฯ สระบุรี พร้อมนักวิชาการกรมส่งเสริมการเกษตรลงพื้นที่ให้ความรู้เกษตรกรด้านการจัดการศัตรูมะม่วงมันหนองแซง
วันที่ (1 กุมภาพันธ์ 2566) ที่สํานักงานเกษตรอําเภอหนองแซง จังหวัดสระบุรี นายผล ดําธรรม ผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรี มอบหมายให้ นายกิตติศักดิ์ ธีระวัฒนา รองผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรี ลงพื้นที่ติดตามการแก้ไขปัญหาให้กลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกมะม่วงมันหนองแซง พร้อมด้วย นายมนัสพันธ์ ดอนก้อนไพร นายอําเภอหนองแซง หลังพบว่าในปัจจุบันการปลูกมะม่วงมันหนองแซง ผลไม้ขึ้นชื่อของหนองแซงจังหวัดสระบุรี มีการปลูกน้อยมากจนไม่เพียงพอต่อความต้องการ เกษตรกรตัดทิ้งจนอาจจะส่งผลไปถึงการเลิกปลูก ทั้งนี้เกิดจากในช่วงที่ผ่านมาเกิดศัตรูพืชที่ทําลายลําต้นรบกวนจนมะม่วงยืนต้นตาย เกษตรกรต้องตัดทิ้งหันไปปลูกอย่างอื่นแทนโดยวันนี้ได้เชิญคณะจากกรมวิชาการเกษตร ได้แก่ นายประเสริฐ อนุพันธ์ ที่ปรึกษากรมวิชาการเกษตร ดร.ทวีศักดิ์ แสงอุดม ผู้อํานวยการกลุ่มวิชาการสถาบันวิจัยพืชสวนกรมวิชาการเกษตร ดร.ปาริชาติ พจศิลป์ นักวิชาการชํานาญการพิเศษสถาบันพืชสวน คุณอุราพร หนูนารถ นักจิตวิทยาชํานาญการ สํานักวิจัยพัฒนาการอารักขาพืช กรมวิชาการเกษตร ดําเนินการถ่ายทอดความรู้ เรื่องการจัดการศัตรูพืชในมะม่วงมันหนองแซง และรับฟังปัญหาของเกษตรกรที่ประสบปัญหาในหลายๆ ด้าน อาทิ หนอนด้วงหนวดยาวเจาะลําต้นมะม่วง เพลี้ยจักจั่นมะม่วง เกษตรกรตัดทิ้ง ทําให้ผลผลิตน้อย พร้อมร่วมหารือเพื่อหาแนวทางการแก้ไขปัญหาและให้การช่วยเหลือเกษตรผู้ปลูกมะม่วงมันหนองแซง โดยจะร่วมกันจัดทําแปลงตัวอย่างให้เกษตรกรได้ศึกษาเรียนรู้ในโอกาส ต่อไป#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
1/2/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
สระบุรี
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสระบุรี
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230201163220230
null
สำนักงานเกษตรจังหวัดตรัง จัดงานวันถ่ายทอดเทคโนโลยีเพื่อเริ่มต้นฤดูกาลผลิตใหม่ (Field day) ครั้งที่ 3 ประจำปีงบประมาณ 2566
วันนี้ (1 ก.พ.2566) นายสมนึก ธูปหอม นายอําเภอย่านตาขาว เป็นประธานในพิธีเปิดงานวันถ่ายทอดเทคโนโลยีเพื่อเริ่มต้นฤดูกาลผลิตใหม่ (Field day) ครั้งที่ 3 ประจําปีงบประมาณ 2566 และพบปะพี่น้องเกษตรอําเภอย่านตาขาว ณ ตลาดน้ําลําขนุน หมู่ที่ 8 ตําบลนาชุมเห็ด อําเภอย่านตาขาว จังหวัดตรัง โดยมี นายจําเริญ ศรีเพ็ชร ประธานคณะกรรมการศูนย์เรียนรู้การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตร (ศพก.) อําเภอย่านตาขาว กล่าวรายงานการจัดงานวันถ่ายทอดเทคโนโลยีเพื่อเริ่มต้นฤดูการผลิตใหม่ ปี 2566 ถือเป็นกิจกรรมหนึ่งที่ศูนย์เรียนรู้การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตรต้องดําเนินการ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อกระตุ้นให้เกษตรกรเริ่มต้นการผลิตในปีการเพาะปลูกใหม่ โดยใช้เทคโนโลยีและภูมิปัญญาที่เหมาะสมกับพื้นที่ และให้หน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ร่วมออกให้บริการด้านการเกษตรตามภารกิจ สําหรับการจัดงานวันถ่ายทอดเทคโนโลยีเพื่อเริ่มต้นฤดูการผลิตใหม่ (Field Day) ปี 2566 ของอําเภอย่านตาขาวในวันนี้ ณ ตลาดน้ําลําขนุน และศูนย์เรียนรู้การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตร (ศูนย์เครือข่าย) โดยมีนายหนูอิ่ม ปานนิล เป็นเกษตรต้นแบบ เกษตรกรส่วนใหญ่ในพื้นที่อําเภอย่านตาขาวประกอบอาชีพทําสวนยางพารา และปาล์มน้ํามัน ปัจจุบันประสบปัญหาในด้านของผลผลิตและราคาตกต่ํา การจัดฐานเรียนรู้ซึ่งเป็นกิจกรรมหลักในวันนี้ จึงมีเป้าหมายเพื่อนําเสนอพืชปลูกทดแทนยางพาราและปาล์มน้ํามัน และการสร้างรายได้เสริมให้แก่เกษตรกรซึ่งประกอบด้วย 5 ฐานการเรียนรู้ ดังนี้ 1.ฐานการเรียนรู้และสละสุมาลี 2.ฐานการเรียนรู้ทุเรียน 3.ฐานการเรียนรู้กาแฟ 4.ฐานการเรียนรู้มะนาวศรีทองดํา 5.ฐานการเรียนรู้ผึ้งโพรง และมีกิจกรรมการให้บริการทางการเกษตรในรูปแบบคลินิกเกษตร เป็นกิจกรรมเสริม ซึ่งประกอบด้วย คลินิกพืช คลินิกประมง คลินิกปศุสัตว์ คลินิกสหกรณ์ คลินิกบัญชี คลินิกชลประทาน เป็นต้น มีภาคเอกชน และกลุ่มสถาบันเกษตรร่วมจัดนิทรรศการและจําหน่ายปัจจัยการผลิตและผลผลิตทางการเกษตร#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
1/2/2023
ภาคใต้
ตรัง
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดตรัง
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230201174915248
null
จังหวัดตราด เตรียมทำหนังสือขอความร่วมมือไปยังจังหวัดโพธิสัต และจังหวัดเกาะกง กัมพูชา ในการขอให้เกษตรกรงดเว้นการเผาพื้นที่เกษตรกรรม หลังเริ่มพบปัญหา PM 2.5 เกินกว่าค่ามาตรฐาน
(1 ก.พ. 66) นายชํานาญวิทย์ เตรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดตราด เปิดเผยถึงกรณีปัญหาหมอกควันในพื้นที่จังหวัดตราด ว่า ทางจังหวัดตราดได้รับรายงานจากหน่วยงานในพื้นที่อําเภอคลองใหญ่ ว่า ในช่วงนี้หลายพื้นที่เริ่มพบปัญหาหมอกควันจากการเผาป่า และพื้นที่ทางการเกษตร ของพื้นที่ประเทศเพื่อนบ้าน ทําให้หลายพื้นที่โดยเฉพาะอําเภอคลองใหญ่ และอําเภอเมืองตราดบางส่วน พบปัญหา PM 2.5 เกินกว่าค่ามาตรฐานที่กําหนดไว้ ทางจังหวัดตราดได้เตรียมทําหนังสือไปยังจังหวัดโพธิสัต และจังหวัดเกาะกง ของราชอาณาจักรกัมพูชา ในการขอร้องให้เกษตรกรของประเทศเพื่อนบ้านงดเว้นการเผา ในส่วนของการปฏิบัติในระดับพื้นที่ได้ขอให้หน่วยทหารตามแนวชายแดนของฝ่ายเรา ประสานงานเรื่องดังกล่าวกับหน่วยทหารตามแนวชายแดนของประเทศเพื่อนบ้านคู่ขนานไปด้วย ทั้งนี้เพื่อให้ปัญหา PM 2.5 ในพื้นที่จังหวัดตราด ลดระดับลง #สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
1/2/2023
ภาคตะวันออก
ตราด
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดตราด
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230201181752251
null
อปท.ตรัง เร่งดำเนินการถังขยะเปียกลดโลกร้อน
ที่บริเวณป้อมตํารวจชุมชนตําบลห้วยนาง อ.ห้วยยอด จ.ตรัง เทศบาลตําบลห้วยนาง นําโดยนายพรชัย สุวรรณอัมพร นายกเทศมนตรีตําบลห้วยนาง นายสุพิศ สุขรักษา กํานันตําบลห้วยนาง พร้อมด้วยนายอนันต์ ทองอุ่น ท้องถิ่นจังหวัดตรัง และจ่าเอกสุวัฒน์ สัญวงศ์ นายอําเภอห้วยยอด ร่วมเป็นประธานรับมอบถังขยะเปียกลดโลกร้อน จํานวน 500 ถัง จากตัวแทนบริษัท ศรีตรังแอโกรอินดัสทรี จํากัด (มหาชน) และส่งมอบต่อให้กับผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ รวมทั้ง อาสาสมัครสาธารณสุขประจําหมู่บ้าน ตัวแทนโรงเรียน และพลังมวลชน และร่วมทํากิจกรรมรณรงค์จัดทําถังขยะเปียกลดโลกร้อนขึ้น เพื่อขานรับนโยบายของกระทรวงมหาดไทย และนโยบายจังหวัดในการดําเนินโครงการถังขยะเปียกลดโลกร้อน เพื่อรณรงค์ให้ประชาชนคัดแยกขยะ และนําขยะเปียกที่ได้จากครัวเรือนทั้งเศษอาหารและขยะเปียกอื่นๆ ไปกําจัดอย่างถูกวิธี และเป็นปุ๋ยเกิดประโยชน์กับพืชผักผลไม้ที่ปลูกไว้บริเวณบ้าน เป็นการลดขยะของชุมชนตั้งแต่ต้นทาง ลดงบประมาณในการจัดการขยะ และลดปัญหาก๊าซเรือนกระจก โดยขณะนี้ทางจังหวัดได้รณรงค์ให้ทุกองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเร่งดําเนินการ ซึ่งล่าสุด ผลการดําเนินการตามโครงการถังขยะเปียกลดโลกร้อนของ จ.ตรัง อยู่ที่ร้อยละ 74.48 โดยผู้ว่าราชการจังหวัดตรังได้กําชับให้ทุกอําเภอได้เร่งดําเนินงานโครงการถังขยะเปียกลดโลกร้อนในพื้นที่ให้ครบ 100% อย่างเร่งด่วนที่สุดทั้งนี้ มีการสาธิตการขุดหลุม วางถังขยะเปียกและการใช้ถังขยะเปียกลดโลกร้อน เพื่อให้ตัวแทนที่รับมอบนําไปดําเนินการเป็นแบบอย่างให้แก่ชาวบ้านทุกครัวเรือนต่อไป ทั้งนี้ ทางบริษัท ศรีตรังแอโกรอินดัสทรี จํากัด (มหาชน) เตรียมจะสนับสนุนถังขยะเปียกทั้งหมดรวม 1,500 ถัง ให้แก่ประชาชนทุกครัวเรือนในเขตเทศบาลตําบลห้วยนาง เพื่อนําไปใช้ในการจัดการขยะเปียกได้ครอบคลุมทุกครัวเรือนครบ 100% ต่อไป#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
1/2/2023
ภาคใต้
ตรัง
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดตรัง
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230201175101249
null
สสส.ร่วมกับภาคีเครือข่าย 44 หน่วยงานทั่วประเทศ ขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศ PM2.5
ดร.นพ.ไพโรจน์ เสาน่วม ผู้ช่วยผู้จัดการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กล่าวว่า ตั้งแต่ปี 2556 องค์การอนามัยโลก (WHO) กําหนดให้ฝุ่น PM2.5 จัดอยู่ในกลุ่มที่ 1 ของสารก่อมะเร็ง จะพบการเสียชีวิตเพิ่มขึ้นร้อยละ 6 ทุกระดับค่า PM2.5 ที่เพิ่มขึ้น 10 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ในส่วนของประเทศไทยจากสถิติการเก็บข้อมูลปัญหาค่าฝุ่น PM2.5 ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2564 ถึงวันที่ 15 มีนาคม 2565 พบว่ามีฝุ่นเกินค่ามาตรฐานถึงร้อยละ 61 หรือประมาณ 26 วัน แสดงให้เห็นว่าปัญหา PM2.5 เกิดขึ้นมากที่สุดช่วงฤดูหนาว ซึ่งมีผลกระทบต่อสุขภาพประชาชนหลายโรคตั้งแต่ระยะฉับพลัน จนถึงระยะยาว จากอาการเริ่มต้นแสบเคืองตา ระคายคอจมูก ไปจนถึงปอดอักเสบเรื้อรัง หากปล่อยไว้เป็นเวลานานอาจรุนแรงเกิดเป็นโรคมะเร็งปอด โดยในแต่ละปีพบผู้ป่วยจากโรคปอดอักเสบและมะเร็งปอดมากกว่า 10,000 ราย และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นทุกปี สสส. เล็งเห็นถึงความสําคัญของปัญหา PM2.5 ที่เกิดขึ้นทุกจังหวัดทั่วประเทศ ซึ่งแต่ละภูมิภาคสาเหตุการเกิด PM2.5 มาจากหลายปัจจัยที่แตกต่างกัน เช่น ในพื้นที่กรุงเทพฯ ค่า PM2.5 ส่วนใหญ่เกิดจากปัญหาการจราจรทางถนน การปล่อยควันเสียจากยานพาหนะ ขณะที่ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เกิดจากการเผาในพื้นที่โล่งจนเกิดกลุ่มควัน เพื่อลดปัจจัยเสี่ยงที่มีผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนจากปัญหาดังกล่าว สสส. ร่วมมือกับกรุงเทพมหานคร ผู้ประกอบการหน่วยงานภาครัฐและภาคีเครือข่าย รวม 44 หน่วยงาน สร้างความร่วมมือในการแก้ไขปัญหาร่วมกัน และป้องกันไม่สร้างปัญหาเพิ่มขึ้นผ่านองค์ความรู้จากงานวิจัยและด้านวิชาการ รณรงค์สร้างความตระหนักรู้ให้ทุกคนร่วมแก้ไขปัญหา PM2.5 ไปด้วยกัน ดร.นพ.ไพโรจน์ เสาน่วม กล่าวด้วยว่า สสส. ยังมียุทธศาสตร์ไตรพลังในการขับเคลื่อนแก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศ ซึ่งมีเป้าหมายในการรวมพลังทํางานแก่ไขปัญหาใหญ่และยากให้ประสบความสําเร็จ ประชาชนทุกคนต้องรับรู้และร่วมกันแก้ไขปัญหาฝุ่น PM2.5 ด้วยการลดใช้ยานพาหนะที่เกิดมลพิษไม่เผาในที่โล่ง ควบคู่การดูแลสุขภาพตนเองไม่ให้เกิดอาการเจ็บป่วย
2/2/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
นนทบุรี
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230202085246330
null
กอนช.เฝ้าระวังฝนตกบางแห่งในภาคใต้ตอนล่าง จากอิทธิพลมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ
กองอํานวยการน้ําแห่งชาติ (กอนช.) เฝ้าระวังฝนตกบางแห่งในภาคใต้ตอนล่าง จากอิทธิพลมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ นายสุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสํานักงานทรัพยากรน้ําแห่งชาติ (สทนช.) ในฐานะรองผู้อํานวยการกองอํานวยการน้ําแห่งชาติ (กอนช.) กล่าวถึงสถานการณ์น้ําภาพรวมของประเทศวันนี้ (2 ก.พ.66) ว่า ภาพรวมภาคใต้ตอนล่างมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมามีฝนตกเล็กน้อยถึงปานกลางบริเวณ จ.กระบี่ และนราธิวาส เนื่องจากอิทธิพลมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทย ภาคใต้ และทะเลอันดามันมีกําลังอ่อนลง จึงยังคงทําให้ภาคใต้ตอนล่างมีฝนฟ้าคะนองบางแห่งอยู่ และต้องเฝ้าระวังสถานการณ์ต่อเนื่อง
2/2/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230202101436364
null
เช้านี้ค่าฝุ่น PM 2.5 กทม.และปริมณฑลยังสูงขึ้นในระดับสีแดงมีผลกระทบต่อสุขภาพวันที่ 2 ถึง 51 พื้นที่ เนื่องจากสภาพอากาศยังคงปิดและลมสงบ ขอให้ใส่หน้ากากอนามัย 2 ชั้น หรือ N 95 เพื่อป้องกันฝุ่น
เช้านี้ค่าฝุ่น PM 2.5 กรุงเทพมหานครและปริมณฑลยังสูงขึ้นในระดับสีแดงมีผลกระทบต่อสุขภาพวันที่ 2 ถึง 51 พื้นที่ เนื่องจากสภาพอากาศยังคงปิดและลมสงบ ขอให้ใส่หน้ากากอนามัย 2 ชั้น หรือ N 95 เพื่อป้องกันฝุ่น โดยต้องเฝ้าระวังพิเศษถึงวันที่ 4 กุมภาพันธ์ นายปิ่นสักก์ สุรัสวดี อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) ในฐานะประธานศูนย์แก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศ (ศกพ.) กล่าวว่า วันนี้ (2 ก.พ.66) ค่าฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM 2.5) ในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑลคุณภาพอากาศเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพถึงมีผลกระทบต่อสุขภาพ โดยค่าฝุ่นยังคงสูงขึ้นติดต่อกันเป็นวันที่ 2 ทุกพื้นที่พบสูงสุด 91 - 146 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตรในระดับสีแดงมีผลกระทบต่อสุขภาพถึง 51 พื้นที่ เช่น ริมถนนกาญจนาภิเษก เขตบางขุนเทียน , ริมถนนศรีนครินทร์ เขตประเวศ , ริมถนนมาเจริญ เพชรเกษม 81 เขตหนองแขม , ต.ปากน้ํา อ.เมือง จ.สมุทรปราการ , ริมถนนคลองทวีวัฒนา เขตทวีวัฒนา , ริมถนนเลียบวารี เขตหนองจอก , ริมถนนลาดกระบัง เขตลาดกระบัง , ริมถนนบางนา-ตราด เขตบางนา , เขตบางคอแหลม , เขตคลองสามวา , เขตดอนเมือง เนื่องจากอากาศยังคงปิดและลมสงบ ประกอบกับ การจราจรหนาแน่นในหลายพื้นที่ ส่งผลให้ฝุ่นเกิดการสะสมตัวมากขึ้น ทั้งนี้ ศูนย์แบบจําลองคุณภาพอากาศและภูมิศาสตร์สารสนเทศ กรมควบคุมมลพิษ (คพ.) ได้คาดการณ์สถานการณ์ฝุ่นละออง PM 2.5 จําเป็นต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษถึงวันที่ 4 กุมภาพันธ์ เนื่องจากสภาพอากาศที่นิ่งและปิด บริเวณพื้นที่กรุงเทพกลาง กรุงธนเหนือ และกรุงธนใต้ (พื้นที่ท้ายลม) จึงขอความร่วมมือประชาชนบํารุงดูแลรักษารถยนต์อย่างสม่ําเสมอ จอดรถให้ดับเครื่อง ลดการเผาในที่โล่ง ใช้รถเท่าที่จําเป็น Work From Home และขอให้ประชาชนเฝ้าระวังสถานการณ์ หากอยู่บริเวณพื้นที่มีปริมาณฝุ่น PM 2.5 สูงเกินเกณฑ์มาตรฐาน หรือ พื้นที่สีส้มและสีแดง ให้หลีกเสี่ยงกิจกรรมกลางแจ้ง สวมใส่หน้ากากอนามัย 2 ชั้น หรือ N95 หรือใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเอง หากมีอาการทางสุขภาพควรปรึกษาแพทย์ ทั้งนี้ สามารถติดตามสถานการณ์คุณภาพอากาศได้ทั้งแบบค่าเฉลี่ยรายชั่วโมงและแบบค่าเฉลี่ย 24 ชั่วโมง ผ่านทางเว็บไซด์ Air4Thai.com และ bangkokairquality.com หรือทางแอปพลิเคชั่น Air4Thai และ AirBKK แล้วยังติดตามข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับสถานการณ์คุณภาพอากาศผ่านทาง Facebook Fanpage ศูนย์แก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศ (ศกพ.)
2/2/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230202101605368
null
รองนายกรัฐมนตรี มีกำหนดลงพื้นที่ตรวจราชการจัดระบบน้ำเพื่อการเกษตรที่ จ.มุกดาหาร
วันนี้ (2 ก.พ.66) เวลา 13.00 น. พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี มีกําหนดเดินทางมาตรวจราชการที่จังหวัดมุกดาหาร เพื่อรับฟังปัญหาการพัฒนาตลาดอินโดจีนและการจัดระบบน้ําเพื่อการเกษตรให้เกษตรกรที่จังหวัดมุกดาหาร โดยจุดแรก จะเดินทางไปตรวจติดตามการปรับปรุงตลาดอินโดจีนมุกดาหาร ที่ได้รับงบประมาณมาดําเนินการปรับปรุงตลาดเมื่อปี 2560 แต่เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทําให้การก่อสร้างหยุดชะงัก และงบประมาณถูกพับไป และรับฟังการนําเสนอโครงการก่อสร้างถนนสาย “มุกดาสนุก สุขชายโขง” ที่จะเสนอขอรับงบประมาณมาพัฒนาถนนเลียบชายแม่น้ําโขงของจังหวัดมุกดาหาร จากตลาดอินโดจีน-สะพานมิตรภาพ 2 ระยะทางประมาณ 6 กิโลเมตร เพื่อพัฒนาการท่องเที่ยวและเพิ่มศักยภาพของจังหวัดให้มีความทันสมัยและมีความงดงาม รองรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาท่องเที่ยวในพื้นที่ จากนั้นเวลา 14.00 น. จะเดินทางไปจวนผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร เพื่อรับฟังบรรยายสรุปโครงการ “แล้งนี้ต้องมีน้ํา” (ต้นแบบ) ด้วยพลังงานแสงอาทิตย์จากแม่น้ําโขง มาใช้ปลูกพืชในพื้นที่ 10 ไร่ตามรูปแบบโคก หนอง นา โมเดล ซึ่งเป็นโครงการที่จังหวัดมุกดาหาร จะเสนอของบประมาณมาติดตั้งระบบโซล่าเซลล์ เพื่อสูบน้ํามาให้เกษตรกรใช้ทําการเกษตร ตลอดแนวแม่น้ําโขง ระยะทางกว่า 72 กม. และเวลา 15.00 น. รองนายกรัฐมนตรี จะเป็นประธานเปิดโครงการเติมน้ํา เติมบุญ เติมทุน พัฒนาอาชีพ ที่บริเวณลานหน้าศาลากลางจังหวัด ซึ่งดําเนินการจัดระบบน้ําในสวนยางด้วยการเจาะน้ําบาดาลและติดตั้งระบบสูบน้ําพลังงานแสงอาทิตย์ให้เกษตรกรสวนยางในพื้นที่ได้มีน้ําใช้ทําการเกษตรอย่างเพียงพอตลอดทั้งปี#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
2/2/2023
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
มุกดาหาร
สวท.มุกดาหาร
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230202100834361
null
ทส. ผสานภาคีเครือข่ายพันธมิตรจังหวัดภูเก็ต บูรณาการฟื้นฟูทรัพยากรปะการัง ในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต
นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (รมว.ทส.) เปิดเผยว่า จังหวัดภูเก็ต เป็นจังหวัดเดียวที่มีลักษณะภูมิประเทศเป็นเกาะ และเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงระดับโลก เป็นที่รู้จักในเรื่องของหาดทรายที่สวยงาม น้ําทะเลใสเหมาะสําหรับการดําน้ําดูปะการัง ความสวยงามของทะเลอันดามันจึงเป็นจุดดึงดูดให้ผู้คนจากทั่วโลกเข้ามาเยือนทั้งบนเกาะและใต้ทะเล จึงเป็นเหตุผลที่ทําให้นักดําน้ําปักหมุดมุ่งหน้ามาดําน้ําในพื้นที่ทะเลจังหวัดภูเก็ต สําหรับนักดําน้ําที่หลงใหลบรรยากาศความเงียบสงบและความสวยงามของโลกใต้ทะเล คงไม่อยากให้สิ่งเหล่านี้ถูกทําลายไป ความรู้และความเข้าใจที่ถูกต้องในการปฏิบัติตัวของนักดําน้ําและนักท่องเที่ยวจึงจําเป็นต้องเรียนรู้ก่อนเสมอ ผู้ประกอบการจะต้องให้ความรู้ด้านการดําน้ําอย่างถูกวิธีแก่นักดําน้ําก่อนจะลงดําน้ําดูปะการัง รวมถึงเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง ที่ต้องประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้และเข้าใจด้านกฎ ระเบียบ ข้อบังคับของการดําน้ําดูปะการัง ตลอดจนอบรมให้ความรู้แก่ผู้ประกอบการและอาสาสมัครพิทักษ์ทะเล เพื่อย้ําเตือนให้นักดําน้ําและนักท่องเที่ยวปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด ในการนี้ ได้ให้กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ขยายความร่วมมือกับภาคส่วนอื่นๆ เพื่อแก้ไขปัญหาอย่างเป็นองค์รวม ยึดหลักการท่องเที่ยวอย่างปลอดภัยใส่ใจสิ่งแวดล้อม ไม่หยิบจับอะไรไปจากทะเล ไม่เหยียบ เตะ หรือยืนบนปะการัง ไม่ให้อาหารสัตว์ทะเล ไม่ทิ้งอะไรไว้ในทะเล ไม่เก็บอะไรมาจากทะเล รักษาระยะห่างจากสัตว์ทะเล ไม่ส่องแสงไฟไปยังสัตว์ทะเลโดยตรง ไม่บริโภคและส่งเสริมการค้าสัตว์ทะเลหายากหรือสัตว์ต้องห้าม ให้เก็บเพียงภาพถ่ายไว้ในความทรงจําจะดีที่สุด เพื่อลดการทําลายระบบนิเวศใต้ทะเล อีกทั้งเพิ่มความคงอยู่และความสมบูรณ์ของทรัพยากรทางทะเลเป็นสําคัญ ด้าน นายอภิชัย เอกวนากุล รองอธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง รักษาราชการแทนอธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กล่าวว่า กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) เป็นหน่วยงานที่มีหน้าที่ในการอนุรักษ์ และฟื้นฟูทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง โดยเฉพาะทรัพยากรปะการังของไทย ซึ่งมีพื้นที่แนวปะการังประมาณ 149,182 ไร่ แบ่งออกเป็นทะเลอ่าวไทยประมาณ 75,426 ไร่ และฝั่งทะเลอันดามัน 6 จังหวัดประมาณ 73,756 ไร่ กรม ทช. รับผิดชอบพื้นที่แนวปะการังนอกเขตอุทยานแห่งชาติทางทะเลครึ่งหนึ่งหรือประมาณ 70,906 ไร่ ซึ่งในประเทศมีพื้นที่แนวปะการังอยู่ทั่วไป 17 จังหวัด ในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตมีแนวปะการังประมาณ 13,732 ไร่ อยู่ตามเกาะ และอ่าวต่างๆ รอบเกาะภูเก็ต เช่น เกาะราชาใหญ่ ราชาน้อย เกาะเฮ เกาะโหลน อ่าวป่าตอง กะตะ กะรน รวมถึงบริเวณไม้ท่อน เป็นต้น ส่วนใหญ่อยู่ในสภาพสมบูรณ์ปานกลาง หรือประมาณร้อยละ 53 มีหลายแห่งที่อยู่ในสภาพเสียหายหรือเสื่อมโทรม โดยเฉพาะในพื้นที่ ที่เป็นแหล่งท่องเที่ยว กิจกรรมท่องเที่ยว การทิ้งสมอเรือ และภัยธรรมชาติ คือสาเหตุหลักที่ทําให้ปะการังในภูเก็ตเสื่อมโทรม โดยเฉพาะพื้นที่แนวปะการังเขากวางเมื่อตายก็จะผุกร่อนยุบตัวลง หรือถูกคลื่นซัดออกไปเหลือแต่พื้นที่ทรายหรือในหลายพื้นที่มีการเหยียบย่ําของนักท่องเที่ยวตลอดเวลาจนทําให้พื้นที่ที่เดิมเหลือแต่ทราย เกิดความไม่เหมาะสมไม่มีฐานให้ตัวอ่อนปะการังธรรมชาติที่ล่องลอยในน้ําลงยึดเกาะ ก่อเป็นตัวใหม่หรือสามารถฟื้นฟูกลับมาได้ด้วยตัวเอง จึงจําเป็นต้องดําเนินการฟื้นฟูโดยนําวัสดุรูปแบบต่างๆ จัดวางเป็นฐานให้ตัวอ่อนลงเกาะ กรม ทช. จึงร่วมกับบริษัท เอสซีจี นําเทคโนโลยี 3D Printing มาออกแบบวัสดุคอนกรีต ได้นําไปทดลองจัดวางพื้นที่ 3 จังหวัด ได้แก่ เกาะไม้ท่อน เกาะราชาใหญ่ จ.ภูเก็ต, เกาะเต่า จ.สุราษฎร์ธานี และเกาะสีซัง จ.ชลบุรี ซึ่งได้ผลดีมีตัวปะการังลงเกาะ และสัตว์น้ําเข้าไปอาศัยมากขึ้น กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ร่วมมือกับจังหวัดภูเก็ต กรมเจ้าท่า องค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต และสโมสรโรตารีเหมืองแร่ภูเก็ต ลงนามในพิธีบันทึกข้อตกลงความร่วมมือการบูรณาการความร่วมมือเพื่อฟื้นฟูแนวปะการังจังหวัดภูเก็ต ซึ่งตนเป็นผู้แทนกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงฯ กับนายณรงค์ วุ่นซิ้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง สําหรับการลงบันทึกข้อตกลงฉบับนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อจัดวางวัสดุฐานลงเกาะตัวอ่อนปะการังจํานวน 39 ชุด โดยมีรูปทรงสวยงามและกลมกลืนเข้ากับธรรมชาติ เป็นการนําเทคโนโลยี 3D Printing มาออกแบบวัสดุคอนกรีต สําหรับนําไปฟื้นฟูแนวปะการังในพื้นที่เกาะไม้ท่อน ตําบลวิชิต อําเภอเมืองภูเก็ต จังหวัดภูเก็ต และฟื้นฟูแนวปะการังธรรมชาติ ในรูปแบบการจัดวางฐานลงเกาะตัวอ่อนปะการัง เพิ่มความสมบูรณ์ความสวยงามของแนวปะการังและท้องทะเล รวมทั้งส่งเสริมสร้างศักยภาพแหล่งท่องเที่ยวของจังหวัดภูเก็ต อีกทั้งสร้างการมีส่วนร่วม และส่งเสริมการสร้างจิตสํานึกในการอนุรักษ์และฟื้นฟูแนวปะการัง ให้กับเยาวชนและประชาชนในจังหวัดภูเก็ตต่อไปในอนาคต เพื่อให้เกิดความสมบูรณ์และใช้ประโยชน์อย่างยั่งยืนตามเจตนารมณ์ของทุกฝ่าย
2/2/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
หน่วยงานสำนักข่าว
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230202100521360
null
ปลาการ์ตูนโกลด์ครอสทันเดอร์ กระตุ้นตลาดปลาสวยงามไทย สร้างความหลากหลายด้วยลวดลายแปลกใหม่
นายเฉลิมชัย สุวรรณรักษ์ อธิบดีกรมประมง เปิดเผยว่า ปลาการ์ตูนโกลด์ครอสทันเดอร์ (Gold x thunder maroon) เป็นปลาที่กรมประมงใช้วิธีการปรับปรุงพันธุ์ตามหลักพันธุศาสตร์ปลาสวยงามด้วยการผสมข้ามสายพันธุ์ระหว่าง ปลาการ์ตูนทองโกลด์นักเก็ตกับปลาการ์ตูนแดงทันเดอร์ ซึ่งเป็นสายพันธุ์ที่ไม่พบในธรรมชาติแต่เกิดขึ้นจากการปรับปรุงพันธุ์จากโรงเพาะฟัก โดยลูกพันธุ์ปลาที่ได้มีลักษณะลวดลายแปลกใหม่แตกต่างไปจากพ่อและแม่พันธุ์โดยปลาสายพันธุ์นี้เป็นปลาที่ถูกพัฒนาสายพันธุ์ เพื่อกระตุ้นศักยภาพการผลิตปลาสวยงามเท่านั้น กรมประมงไม่มีนโยบายปล่อยลงสู่แหล่งน้ําธรรมชาติโดยเด็ดขาด จากเบื้องต้นได้ศึกษาวิจัยการเพาะพันธุ์ปลาการ์ตูนโกลด์ครอสทันเดอร์ ตั้งแต่ปี 2563 และในปีงบประมาณ 2565 เพื่อศึกษาวิจัยตามหลักพันธุศาสตร์จนประสบความสําเร็จ ซึ่งความท้าทายของการเพาะพันธุ์ปลาสายพันธุ์นี้ สําหรับปลาการ์ตูนโกลด์ครอสทันเดอร์ ลักษณะเด่นจะอยู่ที่ลักษณะรูพรุนและความพลิ้วไหวของลายสีขาวบนพื้นลําตัวสีแดงซึ่งแตกต่างไปจากปลาการ์ตูนทั่วไปที่เคยมี เชื่อมั่นว่าปลาการ์ตูนโกลด์ครอสทันเดอร์ นับเป็นปลาสวยงามอีกหนึ่งสายพันธุ์ที่ปรับปรุงพันธุ์ขึ้นมาจากโรงเพาะฟักสามารถเลี้ยงร่วมกับปลาทะเลสวยงามอื่นๆ ในตู้ปลาได้ตามปกติ แต่ไม่ควรเลี้ยงร่วมกับปลาที่เป็นนักล่า และที่สําคัญปลาที่กรมประมงเพาะขยายพันธุ์ได้ทางนักวิชาการจะปรับพฤติกรรมการกินตั้งแต่ขั้นตอนอนุบาลให้สามารถกินอาหารเม็ดสําเร็จรูปได้โดยไม่จําเป็นต้องใช้อาหารสดจึงสะดวกสําหรับผู้เลี้ยงมากยิ่งขึ้น
2/2/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
Radio-สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230202102711372
null
จังหวัดลำปาง ฉีดพ่นละอองน้ำเพื่อลดปริมาณฝุ่นละออง และสร้างความชุ่มชื้นพื้นที่สีเขียวในพื้นที่สวนสาธารณะ
จังหวัดลําปาง ร่วมกับสํานักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดลําปาง เทศบาลนครลําปาง เทศบาลเมืองเขลางค์นคร ศูนย์ ปภ.เขต 10 ลําปาง แขวงทางหลวงลําปางที่ 1, 2 แขวงทางหลวงชนบทลําปาง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง บูรณาการความร่วมมือฉีดพ่นละอองน้ํา ณ สวนสาธารณะหนองกระทิง อําเภอเมืองลําปาง เพื่อลดปริมาณฝุ่นละออง ป้องกันมิให้เกิดการสะสมของหมอกควัน และสร้างความชุ่มชื้นพื้นที่สีเขียว โดยมี นายชัชวาลย์ ฉายะบุตร ผู้ว่าราชการจังหวัดลําปาง พร้อมด้วยนายชนาธิป เสมแย้ม รองผู้ว่าราชการจังหวัดลําปาง หัวหน้าส่วนราชการ ผู้บริหารท้องถิ่น และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตรวจเยี่ยมและเป็นกําลังใจเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน ทั้งนี้ เว็บไซต์ air4thai กรมควบคุมมลพิษ รายงานสถานการณ์คุณภาพอากาศพื้นที่ จ.ลําปาง ณ เวลา 09.00 น. พบฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM2.5) เกินมาตรฐานที่บริเวณ ต.บ้านดง และ ต.สบป้าด อ.แม่เมาะ และ ต.พระบาท อ.เมืองลําปาง เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ ขอให้ประชาชนเลี่ยงทํากิจกรรมกลางแจ้ง หากมีอาการระบบทางเดินหายใจควรรีบพบแพทย์ทันที#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
2/2/2023
ภาคเหนือ
ลำปาง
สวท.ลำปาง
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230202102304370
null
จิตอาสาพระราชทานอำเภอแจ้ห่ม จ.ลำปาง ร่วมทำแนวกันไฟรอบวัดพระบาทสุทธาวาส แหล่งท่องเที่ยว “Unseen Thailand”
ที่ลานจอดรถวัดพระบาทสุทธาวาส ตําบลวิเชตนคร อําเภอแจ้ห่ม จังหวัดลําปาง นายชาญ จูดคง นายอําเภอแจ้ห่ม/ผู้อํานวยการศูนย์อํานวยการจิตอาสาพระราชทานอําเภอแจ้ห่ม พร้อมด้วยจิตอาสาพระราชทานอําเภอแจ้ห่ม ประกอบด้วย เจ้าหน้าที่ส่วนราชการ หน่วยงานรัฐวิสากิจ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กํานัน ผู้ใหญ่บ้าน และจิตอาสาพระราชทานในพื้นที่วิเชตนคร จํานวนกว่า 200 คน เข้าร่วมกิจกรรมจิตอาสาพัฒนาทําแนวกันไฟ แบ่งชุดปฏิบัติการออกเป็น 3 ชุด ปฏิบัติภารกิจครอบคลุมพื้นที่โดยรอบวัดพระบาทสุทธาวาส โดยยึดร่องแนวกันไฟเดิม ระยะทางรวม 10 กม.วัดพุทธบาทสุทธาวาส ชื่อเดิม วัดเฉลิมพระเกียรติพระจอมเกล้าราชานุสรณ์ (วัดพระบาทปู่ผาแดง) หรืออีกชื่อที่ชาวบ้านนิยมเรียกกัน คือ “ดอยปู่ยักษ์ (ดอยพระบาทปู่ผาแดง)” ด้วยความงดงามของทัศนียภาพ จึงทําให้วัดแห่งนี้ได้รับการยกย่องให้เป็นแหล่งท่องเที่ยว “Unseen Thailand” ภายในวัดมีรอยพระพุทธบาทของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าจารึกไว้บนแผ่นหินขนาดใหญ่ ถ้ําผาสวรรค์ ปล่องลมมหัศจรรย์ ลายหินงาม เตาหินปูนแบบโบราณ และเมืองโบราณชื่อเมืองวิเชตนครอยู่บริเวณใกล้เคียงวัดพุทธบาทสุทธาวาสแบ่งออกเป็น 2 ชั้น คือ ชั้นล่าง นักท่องเที่ยวสามารถขับรถไปจอดในบริเวณหน้าวัดได้ ส่วนชั้นบนตั้งอยู่บนยอดเขา หากต้องการเที่ยวชมในจุดนี้ นักท่องเที่ยวต้องขับรถขึ้นไป ระยะทางประมาณ 3 กิโลเมตร ต่อจากนั้นเดินเท้าขึ้นเขาด้วยระยะทางประมาณ 1 กิโลเมตร ปัจจุบันวัดแห่งนี้เป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวขึ้นชื่อของจังหวัดลําปาง ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวจํานวนมากให้เดินทางไปเที่ยวชมความงดงาม ที่ตั้ง : หมู่ที่ 7 บ้านทุ่งทอง ตําบลวิเชตนคร อําเภอแจ้ห่ม จังหวัดลําปาง การเดินทางจากตัวเมืองลําปาง ใช้ทางหลวงหมายเลข 1035 ไปอําเภอแจ้ห่ม จากตัวเมืองแจ้ห่ม ระยะทางประมาณ 1 กิโลเมตร มีทางแยกด้านซ้ายมือ ให้สังเกตซุ้มประตูเข้าหมู่บ้านเหล่ายาว ต่อจากนั้นเลี้ยวเข้าไปประมาณ 200 เมตร เจอทางไปวัดพุทธบาทสุทธาวาสอยู่บริเวณแยกซ้ายมือ โดยเปิดให้เข้าชมทุกวัน ระหว่างเวลา 07.30-16.30 น.#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
2/2/2023
ภาคเหนือ
ลำปาง
สวท.ลำปาง
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230202110348396
null
อบจ.ตรัง ส่งเสริมการใช้ยางพาราช่วยเหลือเกษตรกร เปิดใช้ถนนลาดยางแบบพาราแอสฟัลต์คอนกรีตสายต้นแบบ พร้อมสะพานคอนกรีตเสริมเหล็ก และติดตั้งเสาไฟฟ้าส่องสว่างตลอดสาย งบประมาณกว่า 44 ล้านบาท
นายบุ่นเล้ง โล่สถาพรพิพิธ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดตรัง เปิดเผยว่า อบจ.ตรัง ส่งเสริมการใช้ยางพาราช่วยเหลือเกษตรกรมาอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดได้เปิดใช้ถนนลาดยางแบบพาราแอสฟัลต์คอนกรีต สายแยกทางหลวง 4235-บ้านหินคอกควาย ต.บ้านนา อ.ปะเหลียน และสะพานคอนกรีตเสริมเหล็ก พร้อมติดตั้งไฟฟ้าส่องสว่างตลอดสายสําหรับถนนสายดังกล่าวมีผิวจราจรกว้าง 6 เมตร ไหล่ทางข้างละ 1.50 เมตร ระยะทาง 7,000 เมตร หนา 0.05 เมตร และมีการก่อสร้างสะพานคอนกรีตเสริมเหล็ก กว้าง 10 เมตร ยาว 12 เมตร พร้อมติดตั้งไฟฟ้าแสงสว่างตลอดสาย โดยใช้งบประมาณในการก่อสร้างทั้งหมด 44,662,068.39 บาท เพื่อเพิ่มความสะดวกในการสัญจรไปมา มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น มีความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนน ตลอดจนช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจการขนส่งของพี่น้องประชาชนในพื้นที่ อําเภอปะเหลียน และอําเภอหาดสําราญ ให้มีความสะดวกรวดเร็ว ถนนสายนี้เป็นการปรับปรุงถนนที่รวมทั้งก่อสร้างสะพาน ติดตั้งระบบไฟฟ้าส่องสว่างแล้วเสร็จในคราวเดียวกัน อันจะทําให้ประชาชนได้รับประโยชน์ในคราวเดียวมิต้องรอนาน และเป็นโครงการที่ได้รับอนุมัติจากสภา อบจ.ตรัง มากกว่าโครงการอื่นๆ ที่ผ่านมา#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
2/2/2023
ภาคใต้
ตรัง
สวท.ตรัง
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230202111451399
null