NewsTitle
stringlengths 11
31.5k
⌀ | Detail
stringlengths 9
78.4k
⌀ | NewsDate
stringlengths 3
5.77k
⌀ | Region
stringclasses 48
values | Province
stringclasses 99
values | Department
stringclasses 211
values | Link_News
stringlengths 3
903
⌀ | v
stringclasses 812
values |
---|---|---|---|---|---|---|---|
ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองยะลาตรวจเข้มแรงงานต่างด้าว เพื่อป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ด้านแรงงานในจังหวัดยะลา
|
วันที่ 5 ม.ค.66 พ.ต.ท.สุกรี ปลัดสามะ สว.ตม.จ.ยะลา ได้สั่งการให้ให้ ร.ต.อ.เอกสิทธิ์ ลักษณาวงศ์ รอง สว.ตม.จ.ยะลา พร้อมชุดสืบสวน ,กก.สส.บก.ตม.6 ร่วมกับ จัดหางานจังหวัดยะลาและ กอ.รมน.จ.ยะลา นํารถตรวจการณ์อัจฉริยะ (Smart Patrol Car) ออกตรวจ สถานประกอบการโรงงาน แคมป์ที่พักคนงาน,ไซต์งานก่อสร้าง บ้านพัก เพื่อป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ด้านแรงงาน รวมถึงประชาสัมพันธ์การแจ้งที่พัก ม.38 และ ม.37 ตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ.2522 อีกทั้งแสวงหาความร่วมมือเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 และกําชับ ห้ามมิให้มีการให้ที่พักแก่แรงงานต่างด้าวผิดกฎหมาย ,ยาเสพติด,การพนันและอบายมุขต่างๆในสถานประกอบการ จุดแรก ที่บริษัท ยางไทยปักษ์ใต้ จํากัด เลขที่ 43 ถ.สาธารณประโยชน์ ม.6 ต.ท่าสาป อ.เมือง จ.ยะลา ผลการตรวจสอบมีการจ้างแรงงานต่างด้าวสัญชาติเมียนมาร์ จํานวน 145 คน (ชาย 111 คน หญิง 34 คน) มีเอกสารหนังสือเดินทางและใบอนุญาตทํางานถูกต้อง จุดที่2 หจก.เซาแลนด์รับเบอร์ จํากัด เลขที่ 99/9 ม.1ต.ท่าสาป อ.เมือง จ.ยะลา ผลจากการตรวจสอบ มีการจ้างแรงงานต่างด้าวสัญชาติเมียนมา จํานวน 45 คน ( ชาย 40 คน หญิง 5 คน) มีเอกสารหนังสือเดินทางและใบอนุญาตทํางานถูกต้องพ.ต.ท.สุกรี ปลัดสามะ สว.ตม.จ.ยะลา เปิดเผยว่า การออกตรวจแรงงานต่างด้าว เป็นไปตามนโยบายของผู้บังคับบัญชา ที่ให้เข้มงวด กวดขัน ตรวจสอบแรงงานต่างด้าวในพื้นที่รับผิดชอบ เนื่องมาจากการเปิดประเทศ อาจมีการลักลอบเข้ามาของแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมาย เข้ามาทํางานในสถานประกอบการ โรงงานอุตสาหกรรม ,ภาคการก่อสร้าง อาจมีการจ้างแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมาย จึงได้มีการออกแผนปฏิบัติ โดยบูรณาการการกําลัง 3 ฝ่าย ตรวจสอบสถานประกอบการเชิงรุก เพื่อป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ด้านแรงงานในพื้นที่ จ.ยะลา#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
|
5/1/2023
|
ภาคใต้
|
ยะลา
|
สวท.เบตง จ.ยะลา
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230105204112491
| null |
ตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต ฝึกซ้อมแผนเผชิญเหตุ โดยการจำลองเหตุการณ์ สถานีตำรวจภูธรเมืองภูเก็ต ถูกปิดล้อมด้วยกลุ่มวัยรุ่นที่รวมตัวกันแข่งรถจักรยานยนต์และมั่วสุมยาเสพติด
|
วันนี้ (5 มกราคม 2566) บริเวณหน้าสถานีตํารวจภูธรเมืองภูเก็ต พล.ต.ต.ศักย์ศิรา เผือกอ่ํา รองผู้บัญชาการตํารวจภูธรภาค 8 พร้อมด้วย พล.ต.ต.เสริมพันธ์ุ ศิริคง ผู้บังคับการตํารวจภูธรจังหวัดภูเก็ต พ.ต.อ.สราวุธ ชูประสิทธิ์ ผู้กํากับการ สภ.เมืองภูเก็ต รวมติดตามและประเมินการฝึกซ้อมแผนเผชิญเหตุ ด้วยการจําลองเหตุการณ์ กลุ่มวัยรุ่นปิดล้อม สภ.เมืองภูเก็ต หลังจากที่เจ้าหน้าที่ตํารวจ สภ.เมืองภูเก็ต ร่วมกับ สภ. วิชิต ระดมกําลังปิดล้อมปลายแหลมสะพานหิน ตามที่ได้รับแจ้งเหตุว่ามีกลุ่มวัยรุ่นรวมตัวกันแข่งรถจักรยานยนต์และมั่วสุมยาเสพติด สร้างความเดือดร้อนรําคาญและทําให้เกิดอุบัติเหตุแก่ผู้ใช้รถใช้ถนน โดยเบื้องต้นพบกลุ่มวัยรุ่นประมาณ 120 คน พร้อมรถจักรยานยนต์แต่งซิ่งกําลังรวมตัวและเมื่อเห็นเจ้าหน้าที่ตํารวจ ได้ขับรถหลบหนี เจ้าหน้าที่ตํารวจได้ติดตามไล่ล่าทําให้กลุ่มวัยรุ่นเฉี่ยวชนกันเอง และได้รับบาดเจ็บ เจ้าที่ตํารวจจึงสามารถจับกุมตัวได้จํานวน 10 คน พร้อมรถจักรยานยนต์จํานวนหนึ่ง โดยผู้ที่ถูกจับกุมได้ให้การปฏิเสธโดยอ้างว่าไม่ได้มีการแข่งรถ เพียงมาพบเจอกันโดยบังเอิญ และอ้างว่าการที่เจ้าหน้าที่ตํารวจเข้าปิดล้อมจับกุมทําให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นการกระทําเกินกว่าเหตุ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตํารวจได้นําตัวผู้บาดเจ็บรักษาพยาบาลเบื้องต้นจากนั้น ได้คุมตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองภูเก็ต ต่อมากลุ่มวัยรุ่นประมาณ 70-80 คน ได้ขี่รถจักรยานยนต์วนเวียนและรวมตัวกันบริเวณหน้า สภ.เมืองภูเก็ต พร้อมส่งเสียงตะโกนร้องกล่าวหาว่าเจ้าหน้าที่ตํารวจทําเกินกว่าเหตุ เข้าทําการปิดล้อมส่งผลให้ได้รับบาดเจ็บ พร้อมร้องขอไม่ให้มีการดําเนินคดีและปล่อยตัวผู้ที่ถูกจับกุมทันทีทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตํารวจได้ดําเนินการตามยุทธวิธี เพื่อควบคุมสถานการณ์ โดยประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้ง กองกํากับการสืบสวน มูลนิธิกุศลธรรมภูเก็ต โรงพยาบาลวชิระภูเก็ต กองบังคับการกองอาสาดินแดนจังหวัดภูเก็ต เจ้าหน้าที่ตํารวจสันติบาล หน่วยพิสูจน์หลักฐานจังหวัดภูเก็ต และเจ้าหน้าที่ฝ่ายต่างๆที่เกี่ยวข้อง เพื่อบูรณาการความร่วมมือ ยุติการชุมนุม เบื้องต้นการเจรจาไม่เป็นผล และยกระดับใช้ความรุนแรง บุกยึดอาคารที่ทําการ สภ.เมืองภูเก็ต กระทั่งเจ้าหน้าที่ตํารวจสามารถจับกุมผู้ก่อเหตุที่ใช้ความรุนแรงที่มีอาวุธ กลุ่มแกนนําด้วยวิธีการจับกุมแบบ UN ควบคุมตัวนําขึ้นรถควบคุมผู้ต้องหา แยกไปควบคุมที่ สภ.ใกล้เคียงเพื่อป้องกันการรวมกลุ่มของผู้ถูกจับกุม และนําตัวผู้ได้รับบาดเจ็บบางส่วนส่งรักษาที่โรงพยาบาลอย่างไรก็ตาม หลังจากการดําเนินการตามยุทธวิธีการจับกุมแบบ UN และสามารถยุติการชุมนุมได้แล้วนั้น ชุดปฏิบัติการได้ร่วมกันวิเคราะห์ ประเมินสถานการณ์ เพื่อวางแนวทางป้องกันเหตุที่อาจจะเกิดขึ้นจริงในพื้นที่ และสามารถยุติเหตุการณ์ได้อย่างทันท่วงที#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
|
5/1/2023
|
ภาคใต้
|
ภูเก็ต
|
สวท.ภูเก็ต
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230105212932510
| null |
นายกรัฐมนตรี พร้อมคณะ ลงพื้นที่ติดตามความก้าวหน้าพื้นที่ก่อสร้างพนังกั้นน้ำ และเป็นประธานเปิดกิจกรรม “ข้าวรักษ์โลก” ที่จังหวัดสิงห์บุรี
|
พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อมคณะ อาทิ พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีประจําสํานักนายกรัฐมนตรี และนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ออกเดินทางจากสนามเฮลิคอปเตอร์ พล.ม. 2 รอ. เขตพญาไท กรุงเทพฯ ไปยังสนามกีฬาอําเภออินทร์บุรี จังหวัดสิงห์บุรี โดยนายกรัฐมนตรี ตรวจเยี่ยมความก้าวหน้าพื้นที่ก่อสร้างพนังกั้นน้ํา ตําบลน้ําตาล อําเภออินทร์บุรี จังหวัดสิงห์บุรี จากนั้น จะเป็นประธานในพิธีเปิดกิจกรรม “ข้าวรักษ์โลก” บริเวณพื้นที่นานําร่อง หมู่ที่ 1 ตําบลน้ําตาล อําเภออินทร์บุรี จังหวัดสิงห์บุรี พร้อมรับฟังรายงานผลการดําเนินงาน ซึ่งโครงการข้าวรักษ์โลก BCG Model เป็นนโยบายที่นายกรัฐมนตรี ได้ผลักดันเพื่อสร้างรายได้ ยกระดับคุณภาพชีวิตให้กับเกษตรกร ควบคู่กับการใส่ใจสิ่งแวดล้อมและดูแลสุขภาพของผู้บริโภค พร้อมกันนี้ จะพบปะพูดคุยกับเกษตรกร ก่อนเดินทางกลับกรุงเทพมหานครในช่วงบ่ายวันเดียวกันนี้
|
6/1/2023
|
ภาคกลางและปริมณฑล
|
กรุงเทพมหานคร
|
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230106085221540
| null |
รัฐบาล เปิดเผยผลสำเร็จภารกิจด้านทรัพยากรน้ำ ตามแผนแม่บทการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ 20 ปี ตั้งแต่ปี 2561 - ปัจจุบัน เพิ่มประสิทธิภาพประปาหมู่บ้านได้ถึง 4,973 แห่ง พัฒนาน้ำบาดาลเพื่อการเกษตรได้ปริมาณ 149 ล้านลูกบาศก์เมตร
|
นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจําสํานักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาล โดยคณะกรรมการทรัพยากรน้ําแห่งชาติ (กนช.) เดินหน้าขับเคลื่อนภารกิจด้านทรัพยากรน้ํา ภายใต้แผนแม่บทการบริหารจัดการทรัพยากรน้ํา 20 ปี เชื่อมโยงกับแผนแม่บทลุ่มน้ํา แผนจังหวัดและแผนชุมชน ให้ความสําคัญกับการสร้างความเข้มแข็งการบริหารจัดการน้ําของชุมชนในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะพื้นที่ที่ไม่มีแหล่งน้ําของตัวเอง ซึ่งรัฐบาลให้ความสําคัญในการอนุมัติงบประมาณให้กับแหล่งน้ําขนาดเล็ก เพิ่มประสิทธิภาพประปาหมู่บ้าน พัฒนาแหล่งน้ําผิวดิน พัฒนาน้ําบาดาล เพื่อการเกษตร สร้างระบบรวบรวมและบําบัดน้ําเสียรวมของชุมชน ซึ่งจากการดําเนินการตามแผนแม่บทน้ําฯ ตั้งแต่ปี 2561 ถึงปัจจุบัน สามารถเพิ่มประสิทธิภาพประปาหมู่บ้านได้ถึง 4,973 แห่ง พัฒนาแหล่งน้ําผิวดิน สามารถเก็บกักน้ําได้เพิ่มขึ้น 1,189 ล้านลูกบาศก์เมตร พัฒนาน้ําบาดาลเพื่อการเกษตรได้ปริมาณน้ํา 149 ล้านลูกบาศก์เมตร ดําเนินการก่อสร้างระบบป้องกันอุทกภัย มีพื้นที่ที่ได้รับการป้องกัน 32,005 ไร่ ประชาชนได้รับการป้องกัน 27,364 ครัวเรือน สร้างระบบรวบรวมและบําบัดน้ําเสียรวมของชุมชน 14 แห่ง และอนุรักษ์ฟื้นฟูป่าต้นน้ําได้ถึง 156,070 ไร่ นายกรัฐมนตรี เน้นย้ําว่า การบริหารจัดการทรัพยากรน้ําทั้งระบบจะสําเร็จได้ ต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ขอให้พัฒนาแหล่งกักเก็บน้ํา พัฒนาแหล่งน้ําทั่วประเทศ และสนับสนุนโครงการในพระราชดําริที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ประเทศไทยมีความมั่นคงด้านทรัพยากรน้ําอย่างยั่งยืน รวมทั้งบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน
|
6/1/2023
| null |
กรุงเทพมหานคร
|
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230106104602581
| null |
สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง จัดประชุมชี้แจงแนวทางการดำเนินกิจการของพรรคการเมือง ครั้งที่ 1 ประจำปี 2566 เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการเลือกตั้ง
|
สํานักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง จัดประชุมชี้แจงแนวทางการดําเนินกิจการของพรรคการเมือง ครั้งที่ 1 ประจําปี 2566 โดยมี นายแสวง บุญมี เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง เป็นประธานการประชุม ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ (โปรแกรม Zoom Cloud Meetings) เพื่อชี้แจงและซักซ้อมความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับการดําเนินกิจการของพรรคการเมืองให้แก่ผู้บริหารพรรคการเมือง ผู้อํานวยการพรรคการเมือง เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานของพรรคการเมือง และผู้ที่เกี่ยวข้องตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560 โดย สํานักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง ชี้แจงข้อมูลเกี่ยวกับการสรรหาผู้สมัครรับเลือกตั้ง การจัดตั้งพรรคการเมือง และการแต่งตั้งตัวแทนพรรคการเมืองประจําจังหวัด ค่าใช้จ่าย ในการเลือกตั้งของผู้สมัครและพรรคการเมือง การสนับสนุนการโฆษณาหาเสียงเลือกตั้ง สมาชิกสภา ผู้แทนราษฎร ตามมาตรา 81 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2561 และการจัดสรรเงินอุดหนุนให้แก่พรรคการเมือง ประจําปี 2566
|
6/1/2023
| null |
กรุงเทพมหานคร
|
Radio-สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230106121130625
| null |
กองทัพบกจัดพิธีทำบุญตักบาตรเนื่องในโอกาสวันขึ้นปีใหม่ ประจำปี 2566 และพิธีทำบุญกำแพงแห่งความระลึกถึง ( Memorial Wall )
|
พลเอก ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก และพลตรีหญิง พิมพ์พิศา จิตต์แก้วแท้ นายกสมาคมแม่บ้านทหารบก เป็นประธานในพิธีทําบุญตักบาตร เนื่องในโอกาสวันขึ้นปีใหม่ ประจําปี 2566 พร้อมด้วยคณะผู้บังคับบัญชาโดยนิมนต์พระสงฆ์จากวัดโมลีโลกยารามราชวรวิหาร จํานวน 40 รูป ณ บริเวณลานหน้าพระบรมราชานุสาวรีย์ ร.5 กองบัญชาการกองทัพบกจากนั้น ผู้บัญชาการทหารบกและนายกสมาคมแม่บ้านทหารบกนําคณะผู้บังคับบัญชาพร้อมภริยา ร่วมในพิธีทําบุญกําแพงแห่งความระลึกถึง (Memorial Wall ) และพิธีรําลึกถึง“เหล่าทหารและอาสาสมัครผู้สละชีพเพื่อชาติ” ณบริเวณระหว่างอาคารพิพิธภัณฑ์กองทัพบก เฉลิมพระเกียรติ โดยหลังจากนี้กําแพงแห่งความระลึกถึงยังใช้เป็นสถานที่ประกอบพิธีในวาระสําคัญต่าง ๆ เพื่อสดุดีกําลังพลกองทัพบกผู้สละชีพเพื่อชาติ เช่น พิธีทางศาสนาและพิธีวางพวงมาลาเนื่องในวันกองทัพบก
|
6/1/2023
| null |
กรุงเทพมหานคร
|
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230106123932638
| null |
รัฐบาลพร้อมชี้แจงการอภิปรายทั่วไปโดยไม่ลงมติ พร้อมสนับสนุนให้ฝ่ายค้านใช้กลไกรัฐสภา ตรวจสอบการทำงานรัฐบาล
|
นายธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีประจําสํานักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปโดยไม่มีการลงมติ ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 152 ว่า เป็นสิทธิของฝ่ายค้านที่สามารถดําเนินการได้ตามรัฐธรรมนูญ ส่วนตัวแล้วก็เห็นด้วย ที่ฝ่ายค้านหันมาใช้กลไกของรัฐสภาในการตรวจสอบการทํางานของรัฐบาล เพราะดีกว่าการใช้สื่อโซเชียลมีเดีย หรือการไปให้ข่าวกับสื่อมวลชนรายวันโดยที่ไม่ทราบถึงข้อเท็จจริงที่ครบถ้วน ทําให้ประชาชนสับสนและหากคิดว่ามีหลักฐานที่เชื่อถือได้ ก็สามารถยื่นต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อดําเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายได้อีกด้วย ทั้งนี้ยืนยันว่า รัฐบาลมีความพร้อม โดยจะถือโอกาสใช้เวทีนี้เพื่อชี้แจงทําความเข้าใจกับประชาชน เพื่อไม่ให้ประชาชนสับสนกับข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง ไม่ครบถ้วน หรือบอกความจริงเพียงแค่ครึ่งเดียว จึงอยากขอร้องให้ฝ่ายค้านใช้เวทีนี้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด เพื่อผลประโยชน์ของประชาชน ไม่ใช่ทําไปเพียงเพื่อหวังผลทางการเมืองเท่านั้นสําหรับการอภิปรายครั้งนี้อยากให้ฝ่ายค้านอภิปราย ด้วยข้อมูลและข้อเท็จจริง ไม่ใช่ใช้วาทกรรมทางการเมืองเหมือนที่ผ่านๆ มา เพราะมีแต่จะเสียเวลาโดยเปล่าประโยชน์ ยืนยันว่า รัฐบาลบริหารประเทศเพื่อประชาชนทุกคน โดยเฉพาะนายกฯ ที่กําชับเสมอว่า ต้องเด็ดขาดกับการทุจริตคอร์รัปชัน อย่างไรก็ตาม ถือเป็นเรื่องธรรมดาที่ทุกนโยบายของรัฐบาลอาจจะไม่สามารถทําให้ทุกคนพอใจได้ แต่รัฐบาลภายใต้การนําของนายกฯ จะเดินหน้าทํางานอย่างเต็มที่ เพื่อแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนให้กับประชาชนอย่างต่อเนื่อง สุดท้ายประชาชนจะเป็นผู้ตัดสินใจเอง
|
6/1/2023
|
ภาคกลางและปริมณฑล
|
กรุงเทพมหานคร
|
Radio-สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230106155625722
| null |
กองทัพเรือ ยังคงค้นหากำลังพลที่สูญหายจากเหตุเรือหลวงสุโขทัยอับปาง ต่อเนื่องเป็นวันที่ 20
|
พลเรือเอก ปกครอง มนธาตุผลิน โฆษกกองทัพเรือ เปิดเผยว่า กองทัพเรือยังคงดําเนินการค้นหาผู้สูญหายจากเหตุเรือหลวงสุโขทัยอับปางอย่างต่อเนื่อง โดยได้จัดเรือหลวงตากสิน เรือหลวงปัตตานี เรือหลวงเทพา เรือหลวงราวี เรือต.115 เรือ ต.268 รวมถึงเครื่องบิน เฮลิคอปเตอร์ อากาศยานไร้คนขับและชุดปฏิบัติการพิเศษจาก หน่วยบัญชาการสงครามพิเศษทางเรือ กองเรือยุทธการ ชุดประดาน้ํา จากกรมสรรพาวุธทหารเรือ และยังได้รับความร่วมมือจากศูนย์อํานวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลภาคที่ 1 (ศรชล.ภาค 1) ศรชล.จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ศรชล.จังหวัดชุมพร ร่วมค้นหาและช่วยเหลือผู้สูญหายบนเกาะต่างๆ ซึ่งผลการค้นหาจนถึงขณะนี้ ยังไม่มีการพบผู้สูญหายเพิ่ม สรุปการช่วยเหลือผู้ประสบภัย เรือหลวงสุโขทัย 105 นาย รอดชีวิต จํานวน 76 นาย เสียชีวิตรวม 24 นาย สูญหาย 5 นาย
|
6/1/2023
| null |
กรุงเทพมหานคร
|
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230106133610667
| null |
ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เบตง จับโจรลักตู้บริจาคเงินมัสยิด รับสภาพ เคยติดคุกมา 2 ครั้งแล้ว ในรอบ 1 เดือน ลักตู้บริจาคเงินของมัสยิด 3 แห่ง ได้เงินหลายหมื่นบาท
|
เมื่อกลางดึก 6 ม.ค. 66 ที่ผ่านมา พ.ต.ท.มนพ ดําแดง สว.สส.สภ.เบตง พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตํารวจ ชุดสืบสวน ได้ร่วมกันจับกุมตัวนายสุกรี ชูหลง อายุ 32 ปี บริเวณริมถนนสุขยางค์ ตรงข้ามคิวรถแท็กซี่โดยสาร เบตง-ยะลา เขตเทศบาลเมืองเบตง อ.เบตง จ.ยะลา พร้อมของกลาง เงินสด 19,192 บาท กระเป๋าเงิน หนังสีน้ําตาล 1 ใบ กระเป๋าสะพาย สีเขียว 1 ใบ แหวนเงิน 4 วง รถจักรยานยนต์ยี่ห้อ ยามาฮ่า ฟีโน สีดํา-ขาว ทะเบียน กงษ 289 เบตง 1 คัน เสื้อแขนยาวมัดย้อม 7 สี สกรีนโอเคเบตง ผ้าโสร่งสีแดง 1 ผืน ซึ่งเป็นชุดที่สวมใส่ในช่วงก่อเหตุลักตู้รับบริจาคของมัสยิดอ.บันนังสตา ที่ตั้งอยู่ หน้าร้านขายเสื้อผ้า เลขที่ 253 ถ.ประชาธิปัตย์ เขตเทศบาลเมืองเบตง อ.เบตง จ.ยะลา เจ้าหน้าที่ตํารวจชุดสืบสวน เปิดเผยว่า เมื่อช่วงเช้าวันนี้ ได้มีนายฮัมซัม บินโมฮัมหมัด อลิ สัญชาติ มาเลเซีย มาแจ้งความว่า ตู้รับบริจาคเงิน ของมัสยิด อ.บันนังสตา ซึ่งตั้งรับบริจาคอยู่หน้าร้านขายเสื้อผ้า ของตนกับภรรยาชาวไทย ได้ถูกคนร้ายขโมยหายไป เจ้าหน้าที่ตํารวจจึงเดินทางไปตรวจสอบกล้องวงจรปิดระแวกนั้น จนพบว่า คนร้ายเป็นชายคือนายสุกรี ได้ขี่รถจักรยานยนต์ มาจอดและเดินไปหยิบตู้รับบริจาค ก่อนที่จะนําขึ้นรถขี่หนีหายไป เจ้าหน้าที่จึงได้ทําการติดตามจนสามารถจับกุมตัวไว้ได้ จากการสอบสวน รับสารภาพ เคยถูกจับกุมดําเนินคดีลักทรัพย์ มาแล้ว 2 ครั้ง ครั้งแรกจําคุก 3 ปี 3 เดือน ครั้งที่สอง จําคุก 8 ปี พ้นโทษมาเมื่อเดือนกรกฎาคม 2565 ก็ไม่ได้ทํางานทําการ เมื่อเดือนที่แล้ว ก็ได้ไปขโมยตู้รับบริจาคของมัสยิดกลางเบตง และมัสยิดบันนังสิแน แต่ได้เงินไม่กี่พันบาท เมื่อวานจึงได้ไปขโมยตู้รับบริจาคที่วางอยู่หน้าร้านเสื้อผ้า ได้เงินประมาณ 4-5 หมื่นบาท และได้นําตู้ไปทิ้งในคลอง เงินก็เอาไปใช้ ซื้อข้าวของต่างๆ อย่าง นาฬิกากระเป๋า โทรศัพท์ แว่นตา แหวน ที่จังหวัดยะลา เหลือเงินอยู่ประมาณ หมื่นกว่าบาท เจ้าหน้าที่จึงตั้งข้อหาลักทรัพย์เงินสด ( ในตู้รับบริจาค) โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกในการกระทําความผิดหรือพาทรัพย์นั้นไปหรือเพื่อให้พ้นจากการจับกุม พร้อมนําตัวและของกลาง ส่ง ร.ต.อ.บัณฑิต ประเสริฐ พนักงานสอบสวน สภ.เบตง ดําเนินคดีตามกฎหมายต่อไป#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
|
6/1/2023
|
ภาคใต้
|
ยะลา
|
สวท.เบตง จ.ยะลา
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230106141829686
| null |
กองทัพดูแลผู้บาดเจ็บ และครอบครัวของผู้เสียชีวิต ที่ประสบอุบัติเหตุขณะปฏิบัติงานเก็บกู้ทุ่นระเบิดในพื้นที่ช่องพระพะลัย ต.ละลาย จ.ศรีสะเกษ
|
พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้สั่งการให้กองทัพดูแลผู้บาดเจ็บ และครอบครัวของผู้เสียชีวิตอย่างดีที่สุด จากเหตุการณ์ที่กําลังพลของศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดแห่งชาติ ประสบอุบัติเหตุขณะปฏิบัติงานเก็บกู้ทุ่นระเบิดในพื้นที่ช่องพระพะลัย ตําบลละลาย อําเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ ส่งผลให้มีกําลังพลประสบเหตุเสียชีวิตจํานวน 1 ราย และได้รับบาดเจ็บ จํานวน 1 ราย เมื่อวันที่ 5 มกราคม 2566 ที่ผ่านมานั้นพลเอก เฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด มอบหมายให้ พลเอก ศุภธัช นรินทรภักดี ผู้อํานวยการศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดแห่งชาติ ศูนย์บัญชาการทางทหาร เป็นผู้แทนผู้บัญชาการทหารสูงสุด เข้าเยี่ยมอาการของ สิบเอก วรงค์กร ศรีงาม ซึ่งประสบอุบัติเหตุขณะปฏิบัติงานเก็บกู้ทุ่นระเบิด บริเวณพื้นที่ ช่องพระพะลัย ตําบลละลาย อําเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ โดยได้เข้ารักษาอาการบาดเจ็บ ณ โรงพยาบาลค่ายสรรพสิทธิประสงค์ ตําบลวารินชําราบ อําเภอวารินชําราบ จังหวัดอุบลราชธานี พร้อมมอบเงินช่วยเหลือในเบื้องต้น จํานวน 40,000 บาท จากนั้นได้เดินทางไปให้กําลังใจกับกําลังพลผู้ปฏิบัติงาน ณ ที่ตั้งหน่วย บริเวณอ่างเก็บน้ําห้วยทา ตําบลบักดอง อําเภอขุนหาญ จังหวัดศรีสะเกษ พร้อมทั้งได้นําความห่วงใยของผู้บัญชาการทหารสูงสุด ที่ได้กล่าวยกย่องกําลังพลในการปฏิบัติงานที่มีความยากลําบาก และเสียสละ จนได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต รวมทั้งขอชื่นชมกําลังพลของศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดแห่งชาติทุกนายที่ทุ่มเท อุทิศตน ปฏิบัติภารกิจอย่างเต็มกําลังความสามารถ ขอให้มีขวัญและกําลังใจในการปฏิบัติหน้าที่รักษาความมั่นคงปลอดภัยในพื้นที่ต่อไป จากนั้น ผู้อํานวยการศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดแห่งชาติ ศูนย์บัญชาการทางทหาร ได้เดินทางไปร่วมเคารพศพ สิบเอกอัครพล ภูวดลวรนารถ ณ โรงพยาบาลขุนหาญ อําเภอขุนหาญ จังหวัดศรีสะเกษ พร้อมทั้งมอบเงินช่วยเหลือแก่ครอบครัวผู้เสียชีวิต จํานวน 200,000 บาท ทั้งนี้ กองทัพจะดําเนินการด้านสิทธิประโยชน์ของกําลังพลผู้เสียชีวิตตามระเบียบราชการอย่างครบถ้วนต่อไป
|
6/1/2023
| null |
กรุงเทพมหานคร
|
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230106192541815
| null |
รองแม่ทัพภาคที่ 2 ตรวจเยี่ยมการฝึกทบทวนท่ากระบี่ให้กับนายทหาร และท่าธงให้กับหมู่ธง ให้กับหน่วยสวนสนามในพื้นที่กองทัพภาคที่ 2 ที่กระทำพิธีถวายสัตย์ปฏิญาณตนต่อธงชัยเฉลิมพล ประจำปี 2566
|
พลตรี อดุลย์ บุญธรรมเจริญ รองแม่ทัพภาคที่ 2 ตรวจเยี่ยมการฝึกทบทวนท่ากระบี่ให้กับนายทหาร และท่าธงให้กับหมู่ธง ให้กับหน่วยสวนสนามในพื้นที่กองทัพภาคที่ 2 ที่กระทําพิธีถวายสัตย์ปฏิญาณตนต่อธงชัยเฉลิมพล ประจําปี 2566 และหน่วยทหารที่ได้รับมอบภารกิจกองทหารเกียรติยศฯ และหน่วยที่ได้รับมอบภารกิจกองรักษาการณ์ รับ - ส่งเสด็จฯ เพื่อให้ปฏิบัติได้อย่างถูกต้อง สง่างาม โดยชุดครูฝึกจาก ฉก.ทม.รอ.904 นําโดย พ.อ.สมชัย กมล เสธ.ร.31 รอ. เป็นหัวหน้าคณะ ณ ลานสโมสรร่วมเริงไชย ค่ายสุรนารี อําเภอเมืองนครราชสีมา จังหวัดนครราชสีมา#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
|
6/1/2023
|
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
|
นครราชสีมา
|
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนครราชสีมา
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230107083947878
| null |
นายอำเภอสังขะตรวจเยี่ยมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ตำรวจตระเวนชายแดนพร้อมกระชับความสัมพันธ์เจ้าหน้าที่ไทย-กัมพูชา ร่วมกันป้องกันการกระทำผิดกฎหมายตามแนวชายแดน
|
นายสันติ โอฆะพนม นายอําเภอสังขะ นํา นายพัฒนา พึ่งผล ปลัดอําเภออาวุโส พร้อมเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอําเภอสังขะ ร่วมกับ ร้อยตํารวจเอก ก้องภพ สุนี รอง ผบ.ตชด.217 เดินทางเข้าพื้นที่แนวชายแดนไทย-กัมพูชา บริเวณเนิน 400 หลักเขตแดนไทย-กัมพูชาบริเวณหลักเขตที่ 9 ตําบลตาตุม อําสังขะ จังหวัดสุรินทร์ เพื่อนําสิ่งของเครื่องอุปโภค บริโภค ไปมอบให้ พร้อมเยี่ยมเยียนให้กําลังใจเจ้าหน้าที่ตํารวจตระเวนชายแดนที่ปฏิบัติหน้าที่ตามฐานปฏิบัติการแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ด้านอําเภอสังขะพร้อมกันนี้ นายอําเภอสังขะ ได้มอบกระเช้าให้กับเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาเพื่อกระชับความสัมพันธ์ในการปฏิบัติหน้าที่ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ในการสกัดกั้น ไม่ให้บุคคลต่างด้าวหลบหนีเข้าเมือง และกําชับ เจ้าหน้าที่หน่วยงานต่างๆ ที่รับผิดชอบแต่ละจุด อย่างเคร่งครัดเพื่อความปลอดภัย ของเจ้าหน้าที่เอง และประชาชนที่อยู่ในบริเวณพื้นที่ใกล้แนวชายแดน โดยมี ร้อยตรีจัน สเม รองฯ ผู้บังคับหมวดทหารประจําหลักเขตที่ 9 ประเทศกัมพูชาให้การต้อนรับนายสันติ โอฆะพนม นายอําเภอสังขะ กล่าวว่า แนวชายแดนไทย-กัมพูชา ด้านอําเภอสังขะ มีช่องทางธรรมชาติที่สามารถเดินทางข้ามเขตได้หลายช่องทาง และมีกําลังเจ้าหน้าที่ตํารวจตระเวนชายแดนที่ 217 ตั้งฐานปฏิบัติการป้องกันประเทศ มีการลาดตระเวนตามแนวชายแดน ป้องกันการลักลอบเข้าเมืองทางช่องทางธรรมชาติโดยผิดกฎหมาย การลักลอบทําลายทรัพยากรป่าไม้ ลักลอบตัดไม้พะยูง การลักลอบล่าสัตว์ป่า ซึ่งตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ได้ทําการลาดตระเวน จับผู้กระทําผิดกฎหมายทั้งชาวไทย และชาวกัมพูชาได้อย่างต่อเนื่อง จึงได้เน้นย้ําการลาดตระเวนป้องกันการลักลอบหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายตามช่องทางธรรมชาติ และการป้องกันปราบปรามการลักลอบทําลายทรัพยากรธรรมชาติและป่าไม้ในเขตพื้นที่ และการล่าสัตว์ป่า นอกจากนั้นยังได้เยี่ยมชมหลักเขตแดนที่ 9 รอยต่อชายแดนไทย-กัมพูชา ด้วย#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
|
7/1/2023
|
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
|
สุรินทร์
|
สวท.สุรินทร์
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230107120836903
| null |
ครม. อนุมัติ (ร่าง) แผนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ ฉบับที่ 7 ปี 66 - 70 ดันวงการกีฬาสู่ความมั่นคงมั่งคั่งของประเทศ
|
ที่ประชุม ครม. วันที่ 3 มกราคม 2566 อนุมัติร่างแผนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ ฉบับที่ 7 (พ.ศ.2566 - 2570) ซึ่งสอดคล้องกับแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี แผนแม่บท และแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฯ ให้การกีฬาเป็นกลไกสําคัญในการสร้างความมั่นคงทางสังคมและความมั่งคั่งทางเศรษฐกิจของประเทศด้วยทิศทางการพัฒนาอย่างเป็นรูปธรรมและต่อเนื่อง ให้ “กีฬาพัฒนาคน สังคม และเพิ่มมูลค่าเศรษฐกิจไทย” พร้อมกําหนดเป้าหมาย ดังนี้ 1.คนไทยเกินครึ่งออกกําลังกายและเล่นกีฬาอย่างสม่ําเสมอในปี 70 2.นักกีฬาไทยประสบความสําเร็จในการแข่งขันระดับนานาชาติ โดยติดอับดับ 6 ของเอเชียในการแข่งขันโอลิมปิก พาราลิมปิก เอเชียนเกมส์ และเอเชียนพาราเกมส์ในปี 70 3.บุคลากรด้านการกีฬาทั่วประเทศได้รับการรับรองมาตรฐานเพิ่มขึ้น 5% ต่อปี 4.อุตสาหกรรมการกีฬาเติบโตเฉลี่ยไม่น้อยกว่า 5% ต่อปี เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจของประเทศ#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
|
7/1/2023
|
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
|
อำนาจเจริญ
|
สวท.อำนาจเจริญ
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230107233140987
| null |
รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เตรียมนำคณะ ให้การต้อนรับนักท่องเที่ยวจีนที่เดินทางถึงประเทศไทยวันพรุ่งนี้
|
น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจําสํานักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า วันพรุ่งนี้ (9 ม.ค. 65) เวลาประมาณ 12.15 น. นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข พร้อมด้วย นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และผู้บริหารจากทั้ง 3 กระทรวง จะเข้าร่วมต้อนรับนักท่องเที่ยวจากสาธารณประชาชนจีน ซึ่งเดินทางมาประเทศไทย ภายหลังทางการจีนทยอยเปิดประเทศ ตั้งแต่วันนี้ (8 ม.ค. 66) ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ สําหรับเที่ยวบินจากสาธารณรัฐประชาชนจีน ที่รองนายกรัฐมนตรีและคณะจะให้การต้อนรับในครั้งนี้ คือ เที่ยวบิน MF833 เดินทางมาจากเมืองเซี่ยเหมิน มีผู้โดยสารทั้งหมด 286 คน ภายหลังกิจกรรมการต้อนรับนักท่องเที่ยวแล้วรองนายกรัฐมนตรีและคณะ จะให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนถึงแนวทางประสานการทํางานของ 3 กระทรวง ได้แก่กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงทรวงคมนาคม และการท่องเที่ยวและกีฬา ซึ่งเตรียมจัดตั้งศูนย์ประสานงานร่วม 3 กระทรวง (Tourist Help Center) เพื่อประสานงาน ติดตามข้อมูล แก้ไขปัญหา ตลอดจนให้ความช่วยเหลืออํานวยความสะดวกแก่นักท่องเที่ยวในระยะต่อไปโอกาสนี้ รองนายกรัฐมนตรีและคณะ จะได้ตรวจติดตามความพร้อมในบริการด้านต่างๆ ในท่าอากาศยาน อาทิ การให้บริการ ณ จุดตรวจหนังสือเดินทางขาเข้า ความคืบหน้าการแก้ไขปัญหากระเป๋าสัมภาระล่าช้า การให้บริการรถสาธารณะ ณ ท่าอากาศยาน เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนในประเทศ และนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางมาประเทศไทย ขับเคลื่อนให้ภาคการท่องเที่ยวฟื้นฟูเศรษฐกิจ จากความเสียหายของโรคโควิด19
|
8/1/2023
|
ภาคกลางและปริมณฑล
|
กรุงเทพมหานคร
|
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230108180648136
| null |
นายกฯ เชื่อมั่นสินค้าท้องถิ่นไทยมีศักยภาพได้รับการยอมรับในตลาดโลก เร่งเสริมศักยภาพเศรษฐกิจฐานราก
|
นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจําสํานักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ยอดขายและมูลค่าการส่งออกสินค้าที่มีเอกลักษณ์และอัตลักษณ์สิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ หรือ GI ของไทยในปี 2565 คาดว่าจะถึงยอด 48,000 ล้านบาท โดยพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม สั่งการมุ่งเพิ่มศักยภาพเศรษฐกิจฐานราก กระจายรายได้สู่ชุมชน สนับสนุนสินค้าอัตลักษณ์ท้องถิ่น และยกระดับวิสาหกิจชุมชนให้มีความเข้มแข็ง ตลอดจนใช้ประโยชน์และต่อยอดจากสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์อย่างเป็นรูปธรรม ส่งเสริมโอกาสทางการค้าของสินค้าไทยให้เติบโตสู่ตลาดโลก ตามแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปีสําหรับยอดขายสินค้า GI รวมถึงการส่งออกจะอยู่ที่ประมาณ 48,000 ล้านบาทในปี 2565 เพิ่มขึ้นจาก 39,000 ล้านบาทในปี 2564 ซึ่งกรมทรัพย์สินทางปัญญา กระทรวงพาณิชย์ ตั้งเป้าการขึ้นทะเบียนสินค้าที่ GI ใหม่ 22 รายการในปีนี้ และทั้งหมดได้รับการจดทะเบียนแล้ว อาทิ ปลาเม็งจากจังหวัดสุราษฎร์ธานี ขมิ้นชันจากจังหวัดสุราษฎร์ธานี มะม่วงเบาจากจังหวัดสงขลา มะขามหวานเพชรบูรณ์ เผือกบ้านหมอจากจังหวัดสระบุรี มะม่วงน้ําดอกไม้สีทองจากจังหวัดฉะเชิงเทรา ครกหินแกรนิตจากจังหวัดตาก ผ้าไหมปักธงชัยจากจังหวัดนครราชสีมา ส้มโอปราจีนจากจังหวัดปราจีนบุรี และพุทรานมบ้านโพนจากจังหวัดกาฬสินธุ์ ปัจจุบัน มีสินค้าที่ขึ้นทะเบียน GI แล้วกว่า 195 รายการ ครอบคลุม 77 จังหวัดทั่วประเทศ
|
8/1/2023
| null |
กรุงเทพมหานคร
|
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230108103533016
| null |
รัฐบาล ย้ำ 10 ม.ค.นี้ หน่วยงานของรัฐทั้งส่วนราชการและท้องถิ่นต้องรับเอกสารหรือหลักฐานอิเล็กทรอนิกส์ทุกรูปแบบ
|
นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจําสํานักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตามที่พระราชบัญญัติการปฏิบัติราชการทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. 2565 ได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 12 ตุลาคม 2565 ที่ผ่านมา และมีผลใช้บังคับเมื่อพ้นกําหนด 90 วัน นับแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป ยกเว้นบางมาตราที่มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป กองพัฒนากฎหมาย สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ได้มีข้ออธิบายถึงการใช้เอกสารหลักฐานในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ในการเบิกจ่ายเงิน ว่าเนื่องจากมาตรา 15 ของกฎหมายการปฏิบัติราชการทางอิเล็กทรอนิกส์ รับรองการใช้เอกสารหลักฐานอิเล็กทรอนิกส์เป็นหลักฐานเบิกจ่ายของส่วนราชการและท้องถิ่น ดังนั้น ตั้งแต่วันที่ 10 มกราคม 2566 เป็นต้นไป หน่วยงานของรัฐทั้งส่วนราชการและท้องถิ่น ต้องรับเอกสารหรือหลักฐานอิเล็กทรอนิกส์ทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นไฟล์ PDF หรือภาพทางดิจิทัลในการรับจ่ายเงิน ถ้าไม่รับอาจต้องรับผิดว่าจงใจฝ่าฝืนกฎหมายได้สําหรับพระราชบัญญัติการปฏิบัติราชการทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. 2565 มีแนวปฏิบัติที่สําคัญในการนําระบบอิเล็กทรอนิกส์มาใช้ในการปฏิบัติราชการและการให้บริการ เช่น การติดต่อระหว่างหน่วยงานกับเจ้าหน้าที่ของรัฐ หรือประชาชนทางอิเล็กทรอนิกส์ สามารถใช้เป็นหลักฐานตามกฎหมายได้ การสั่งการและการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ ซึ่งมีกฎหมายกําหนดให้เป็นหนังสือ สามารถใช้วิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ได้ เอกสารหลักฐานในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ สามารถใช้เป็นหลักฐานเบิกจ่ายได้ โดยการตรากฎหมายฉบับนี้ จะเป็นการขจัดอุปสรรคทางข้อกฎหมายของการดําเนินงานภาครัฐ ด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ เพิ่มประสิทธิภาพ ความรวดเร็ว ความประหยัด และความโปร่งใสตรวจสอบได้ในการปฏิบัติราชการ โดยหัวใจของการดําเนินการตามกฎหมายฉบับนี้ จะมุ่งเน้นประชาชนให้เกิดความสะดวกเป็นหลัก
|
8/1/2023
| null |
กรุงเทพมหานคร
|
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230108123605044
| null |
รัฐบาล ขับเคลื่อนนโนบายรัฐบาลดิจิทัลยกระดับการบริการประชาชนข้าราชการสามารถเบิกจ่ายค่ารักษาพยาบาลตามสิทธิโดยตรงกับกรมบัญชีกลาง ผ่าน “แอปเป๋าตัง”
|
นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจําสํานักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงการยกระดับการให้บริการประชาชนตามนโยบายรัฐบาลดิจิทัล ว่า ล่าสุดแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” ได้เพิ่มการบริการแก่ข้าราชการในการเบิกจ่ายเงินสวัสดิการรักษาพยาบาลประเภทผู้ป่วยนอกกับกรมบัญชีกลาง เพื่อเพิ่มความสะดวกและไม่ต้องรอคิว โดยสามารถกดเข้าไปในเมนู “กระเป๋าสุขภาพ” และดําเนินการตามขั้นตอน คือ เลือกเมนูชําระ/เบิกค่ารักษา , เลือกโรงพยาบาลและรายการที่ต้องการใช้สิทธิ และตรวจสอบรายละเอียดและกดปุ่มยืนยันการใช้สิทธิ ทั้งนี้ ในกรณีที่มีค่าใช้จ่ายส่วนเกินข้าราชการสามารถเลือกชําระผ่าน Krungthai NEXT หรือสแกน QR Code ได้ ซึ่งประวัติการทํารายการและรายละเอียดการชําระเงินจะบันทึกอยู่ในเมนูเอกสารทางการเงินสามารถเรียกดูได้ตลอดเวลา ซึ่งถือเป็นการขับเคลื่อนงานภายใต้นโยบายรัฐบาลดิจิทัลเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ ความโปร่งใส และยกระดับงานบริการแก่ประชาชน
|
8/1/2023
| null |
กรุงเทพมหานคร
|
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230108094850009
| null |
นายกรัฐมนตรีและภริยา ลงนามถวายพระพรชัยมงคลสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา
|
นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจําสํานักนายกรัฐมนตรี เผยว่า วันนี้ เวลา 09.30 น. พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย นางนราพร จันทร์โอชา ภริยา ลงนามถวายพระพรชัยมงคลสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา เนื่องในวันคล้ายวันประสูติ 8 มกราคม 2566 ฉลองพระชนมายุ 3 รอบ ณ ห้องแดง อาคารหน่วยราชการในพระองค์ 904 ในพระบรมมหาราชวังโดยมีรองนายกรัฐมนตรีและภริยา เข้าร่วมพิธี โดยนายกรัฐมนตรี ได้ถวายความเคารพและทูลเกล้าถวายแจกันดอกไม้ในนาม “นายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรี” พร้อมด้วยรองนายกรัฐมนตรี จากนั้น นายกรัฐมนตรีและภริยา ถวายความเคารพ โดยนายกรัฐมนตรีทูลเกล้าถวายแจกันดอกไม้ในนาม “นายกรัฐมนตรีและภริยา” เสร็จแล้วภริยานายกรัฐมนตรี ถวายความเคารพและทูลเกล้าถวายแจกันดอกไม้ในนาม “คณะคู่สมรสคณะรัฐมนตรี” พร้อมด้วยภริยารองนายกรัฐมนตรีจากนั้น นายกรัฐมนตรีและภริยา ลงนามถวายพระพรชัยมงคล ถวายความเคารพพระรูป สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ก่อนเดินทางกลับ
|
8/1/2023
| null |
กรุงเทพมหานคร
|
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230108185656161
| null |
จ.ยะลา เกิดน้ำท่วมบ้านเรือนประชาชนใน 2 อำเภอ หลังฝนตกหนักตลอดทั้งวันเมื่อวานนี้ ขณะที่ ปภ.ยะลา แจ้งเตือนเฝ้าระวังระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นและอาจล้นตลิ่ง
|
จ.ยะลา เกิดน้ําท่วมบ้านเรือนประชาชนใน 2 อําเภอ หลังฝนตกหนักตลอดทั้งวันเมื่อวานนี้ ขณะที่ ปภ.ยะลา แจ้งเตือนประชาชนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเฝ้าระวังระดับน้ําเพิ่มสูงขึ้นและอาจล้นตลิ่ง พร้อมทั้งให้ติดตามข่าวสารการแจ้งเตือนจากทางราชการอย่างใกล้ชิดวันนี้ (9 ม.ค.66) สนง.ปภ.ยะลา ได้รายงานหลังเกิดฝนตกหนักต่อเนื่อง ช่วงวันที่ 6-8 มกราคม 2566 ทําให้เกิดสถานการณ์อุทกภัยน้ําท่วมในพื้นที่ 2 อําเภอ ได้แก่ อําเภอยะหา และอําเภอเมืองยะลา รวม 6 ตําบล ประกอบด้วย ตําบลบาโร๊ะ ตําบลตาชี ตําบลยะหา ตําบลบาโงยซิแน ตําบลพร่อน และตําบลสะเตงนอก รวม 9 หมู่บ้าน ซึ่ง ปภ.ยะลา ได้ร่วมกับอําเภอ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หน่วยกําลังในพื้นที่ กํานัน ผู้ใหญ่บ้าน ประชาชนจิตอาสา ให้การช่วยเหลือประชาชนในเบื้องต้นแล้ว โดยที่ ต.บาโร๊ะ อ.ยะหา หมู่ที่ 5 บ้านซีเซะใน น้ําท่วมสะพานทางเข้าหมู่บ้าน รถทุกชนิดไม่สามารถใช้สัญจรได้ ประชาชนเลี่ยงไปใช้เส้นทางสํารองและที่หมู่ที่ 8 ดินสไลด์บริเวณป้ายหมู่บ้านเจาะกลาดี ถนนสาย ยะหา-ตาชี ส่วนที่อําเภอเมืองยะลา ต.พร่อน หมู่ที่ 3 และ 4 น้ําท่วมบ้านเรือนประชาชน ประมาณ 30 หลัง ต.สะเตงนอก หมู่ที่ 6 น้ําระบายไม่ทัน ท่วมขังในพื้นที่ลุ่มต่ําและบนถนน รถเล็กสามารถสัญจรได้ด้วยความระมัดระวังทั้งนี้ ล่าสุดสถานการณ์มีฝนตกเล็กน้อย น้ําที่เข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนลดลงต่อเนื่อง กองอํานวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดยะลาได้แจ้งเตือนประชาชนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเฝ้าระวังระดับน้ําเพิ่มสูงขึ้นและอาจล้นตลิ่งแม่น้ํายะหา อําเภอยะหา และให้ติดตามข่าวสารและการแจ้งเตือนจากทางราชการอย่างใกล้ชิด โดยหากประชาชนได้รับความเดือดร้อน สามารถโทรสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชม.#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
|
9/1/2023
|
ภาคกลางและปริมณฑล
|
กรุงเทพมหานคร
|
สวท.ยะลา
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230109102420223
| null |
เหล่ากาชาดจังหวัดบึงกาฬ สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดบึงกาฬ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่เยี่ยมเยียนปลอบขวัญให้กำลังใจผู้ประสบเหตุอัคคีภัย พร้อมมอบความช่วยเหลือในเบื้องต้น
|
นางวาทิณี โฆษาศิวิไลซ์ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดบึงกาฬ มอบหมายให้ นางเกศิณี กวนทา กรรมการเหล่ากาชาดจังหวัดบึงกาฬ/ ภริยาปลัดจังหวัดบึงกาฬ พร้อมด้วยกรรมการและสมาชิกเหล่ากาชาดจังหวัดบึงกาฬ กรรมการและสมาชิกกาชาดอําเภอโซ่พิสัย ร่วมด้วย เจ้าหน้าที่ของสํานักงานพัฒนาสังคมและความ มั่นคงของมนุษย์จังหวัดบึงกาฬ ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดบึงกาฬ อําเภอโซ่พิสัย อําเภอเมืองบึงกาฬ ผู้นําชุมชนลงพื้นที่ เยี่ยมเยียนปลอบขวัญให้กําลังใจผู้ประสบเหตุอัคคีภัย จํานวน 3 ราย แบ่งเป็นที่ อําเภอโซ่พิสัย จํานวน 2 ราย และที่ อําเภอเมืองบึงกาฬ จํานวน 1 ราย ซึ่งบ้านทั้ง 3 หลังของผู้ประสบอัคคีภัยเกิดความเสียหายทั้งหลัง ดังนี้1.นางพรมแพง ฮังกาสี บ้านเลขที่ 39 หมู่ 4 บ้านโนนชาด ตําบลโซ่ อําเภอโซ่พิสัย จังหวัดบึงกาฬ เสียหายทั้งหลัง2.นางทองคํา บุ่งวิเศษ บ้านเลขที่ 41 หมู่ที่ 9 บ้านโนนเค็ง ตําบลคําแก้ว อําเภอโซ่พิสัย จังหวัดบึงกาฬ เสียหายทั้งหลัง3. นายสวะ เสียงล้ํา บ้านเลขที่ 145 หมู่ที่ 5 บ้านหนองหมู ตําบลหนองเลิง อําเภอเมืองบึงกาฬ เสียหายทั้งหลังซึ่งในการลงพื้นที่ในครั้งนี้ เหล่ากาชาดจังหวัดบึงกาฬได้มอบเงินช่วยเหลือแก่ผู้ประสบเหตุอัคคีภัย รายละ 8,000 บาท พร้อมเครื่องอุปโภคบริโภคที่จําเป็นต่อการดํารงชีพ และสํานักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดบึงกาฬได้มอบเงินช่วยเหลืออีก รายละ 3,000 บาท ถือเป็นการบูรณาการให้ความช่วยเหลือครอบครัวผู้ประสบภัยในเบื้องต้น และทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะเร่งเข้าช่วยเหลือในส่วนอื่นๆต่อไป#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
|
9/1/2023
|
ภาคกลางและปริมณฑล
|
กรุงเทพมหานคร
|
สวท.บึงกาฬ
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230109093220208
| null |
ประธานสภาผู้แทนราษฎร เชื่อจะมี ส.ส.ทยอยลาออกอีก ยอมรับกังวลปัญหาองค์ประชุมหากเสียงรัฐบาลไม่พอ
|
นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงการลาออกของ ส.ส. ว่าอาจมีเพิ่มขึ้นอีกเพราะมีการเปิดตัวพรรคใหม่ แต่ไม่แน่ใจว่าจะมีจํานวนเท่าใดเพราะบางคนอาจจะยังอยู่ระหว่างการตัดสินใจ ทั้งนี้ส่วนตัวได้ติดตามตัวเลข ส.ส.ของฝ่ายรัฐบาลอยู่ว่าจะเหลือเท่าใดหากตัวเลขของฝ่ายรัฐบาลเปลี่ยนแปลงไปอาจมีผลเรื่องเสียงข้างมากในสภา แต่ขณะนี้ถือว่าตัวเลขของฝ่ายรัฐบาลยังมีมากกว่า ส่วนการลาออกของ ส.ส.จะนําไปสู่การยุบสภา วันที่ 6 กุมภาพันธ์ตามกระแสข่าวหรือไม่ นายชวน กล่าวว่า ไม่สามารถไปคาดหมายได้เพราะอยู่ที่ฝ่ายบริหาร แต่ที่เคยบอกไปแล้วว่ารัฐบาลน่าจะตัดสินใจช่วงก่อนวันที่ 23 มีนาคม 2566 พร้อมปฏิเสธแสดงความเห็นกรณีนายกรัฐมนตรีเปิดตัวร่วมงานการเมืองพรรครวมไทยสร้างชาติ อย่างไรก็ตาม จะขอหารือเพื่อเปิดประชุมนัดพิเศษในวันศุกร์ที่ 20 มกราคมนี้ เพื่อพิจารณาเรื่องที่เห็นว่ามีความจําเป็น เช่น ร่างพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัย ซึ่งเป็นประโยชน์ในเรื่องการศึกษาของชาติ แต่หากไม่พร้อมจะไม่นัด ประธานสภาผู้แทนราษฎร ยังกล่าวถึงการอภิปรายทั่วไป ตามมาตรา152 ว่า ขณะนี้รัฐบาลยังไม่แจ้งวันเข้ามา ซึ่งได้ส่งเรื่องไปตั้งแต่สัปดาห์ที่ผ่านมา แต่ในการหารือเบื้องต้นเป็นช่วงปลายเดือนมกราคมนี้ แต่ล่าสุดทราบจากนายชินวรณ์ บุณยเกียรติ รองประธานวิปรัฐบาล ว่า รัฐบาลอยากได้ช่วงต้นกุมภาพันธ์ 2566 ซึ่งเรื่องนี้จะให้นายสุชาติ ตันเจริญ รองประธานสภาผู้แทนราษฎรไปหารือเพื่อหาข้อสรุปต่อไป
|
9/1/2023
|
ภาคกลางและปริมณฑล
|
กรุงเทพมหานคร
|
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230109150305334
| null |
นายกรัฐมนตรี ไม่ตอบคำถามการเปิดตัวเข้าพรรครวมไทยสร้างชาติ นายกรัฐมนตรีขอลากิจช่วงบ่ายวันนี้
|
ภายหลัง พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานในพิธีมอบตราสัญลักษณ์เมืองอัจฉริยะประเทศไทย ประจําปี 2565 ได้ปฏิเสธตอบคําถามผู้สื่อข่าวถึงการเปิดตัวเข้าพรรครวมไทยสร้างชาติช่วงเย็นวันนี้ขณะที่ นางณัฐฏ์จารี อนันตศิลป์ เลขาธิการคณะรัฐมนตรี ได้มีหนังสือแจ้งไปยังรัฐมนตรีทุกคน ว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มีความประสงค์จะลากิจ ในวันจันทร์ที่ 9 มกราคม 2566 ตั้งแต่เวลา 13.00 น. เป็นต้นไป ทั้งนี้เพื่อปฏิบัติให้เป็นไปตามระเบียบสํานักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการลาของข้าราชการ พ.ศ. 2555 ข้อที่ 41 การลากิจครั้งนี้ คาดว่ามาจากกรณีที่พรรครวมไทยสร้างชาติ จะมีการเปิดตัว พลเอก ประยุทธ์ เข้าร่วมงานเป็นสมาชิกพรรค ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ เพื่อป้องกันการครหา ว่าใช้เวลาราชการในการร่วมกิจกรรมดังกล่าว
|
9/1/2023
|
ภาคกลางและปริมณฑล
|
กรุงเทพมหานคร
|
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230109145633329
| null |
เจ้าหน้าที่ ตชด. อส.อ.เบตง จ.ยะลา ค้นบ้านจับสองผัวเมียค้ายาบ้า จำหน่ายให้กลุ่มวัยรุ่นในพื้นที่
|
วันที่ 9 ม.ค. 66 ร.ต.ท.ณัฐีร์ ปัญจสิริวิทย์ หัวหน้าชุดป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ร้อย ตชด.445 สืบทราบว่า มีสองผัวเมียซึ่งพักอาศัยอยู่ที่เพิงพัก ข้างบ้านเลขที่ 112/1 บ้านมาลา ม.3 ต.ตาเนาะแมเราะ อ.เบตง จ.ยะลา ลักลอบจําหน่ายยาเสพติดให้กลุ่มวัยรุ่น จึงรายงานให้ พ.ต.ท.อรรถพล จินตาคม ผบ.ร้อย ตชด.445 และ ร.ต.อ.มาตุภูมิ ธรรเนียม ผบ.ร้อย ฉก.ตชด.445 รับทราบ พร้อมทั้งประสานนายพิชัย แก้วจํารัส ปลัดอําเภอเบตง รับผิดชอบงานยาเสพติด นํากําลังเจ้าหน้าที่ ชป.เอราวัณ ซึ่งเป็นชุดปฏิบัติการร่วม มีทั้ง เจ้าหน้าที่ ตชด.445 , ฉก.ตชด.445 , อส.อําเภอเบตง เข้าตรวจค้นเจ้าหน้าที่เดินทางไปถึงเพิงพักดังกล่าว อยู่ภายในสวนผลไม้ พบ น.ส.ณัฐสิมา อายุ 26 ปี อยู่ภายในบ้าน ส่วนสามีออกไปทําธุระ เจ้าหน้าที่ตรวจค้นพบยาบ้า จํานวน 78 เม็ด อยู่ในถุงแอบอยู่ในผมบนศีรษะ น.ส.ณัฐสิมา อ้างว่าสามีฝากเอาไว้ และขณะที่เจ้าหน้าที่กําลังตรวจค้นบ้านอยู่นั้น นายอนุชา ไชยทอง อายุ 30 ปี สามีได้ขี่รถจักรยานยนต์ สีดํา ทะเบียนสงขลา กลับมา เมื่อเห็นเจ้าหน้าที่ก็เร่งเครื่องรถหนีสุดชีวิต ไปตามทางในสวนมังคุด สวนทุเรียน จนรถตกลงไปในคลอง พอลุกขึ้นได้ก็ได้ทําการวิ่งหนีไปอีก แต่ถูกเจ้าหน้าที่วิ่งไล่ตามจนสามารถจับกุมตัวได้ห่างจากบ้านประมาณ 200 เมตร พร้อมของกลางยาบ้า 7 เม็ด ในกล่องเหล็กสีเขียวอยู่ในกระเป๋าคาดหน้าอก เจ้าหน้าที่จึงนําตัวมาสอบถามทําบันทึกจับกุมที่กองร้อย ตชด.445จากการสอบถามเบื้องต้น น.ส.ณัฐสิมา อ้างว่า สามีฝากยาบ้าเอาไว้ก่อนที่จะออกไปทําธุระข้างนอกเมื่อเช้า แต่เจ้าหน้าที่ไม่ปักใจเชื่อ เพราะจากข้อมูลที่เจ้าหน้าที่ได้สืบสวนมา ทราบว่าทั้ง 2 ช่วยกันขาย ส่วนสามี รับสารภาพ ซื้อยาบ้ามาบ้างครั้งก็ 100 เม็ด บ้างครั้งก็ 50 เม็ด นํามาเสพและแบ่งขายให้กับเพื่อนๆ ในหมู่บ้าน ที่ขี่รถหนีจนลงคลอง เพราะตกใจ เร่งเครื่องหนีอย่างเดียว พอถึงคลองเบรกไม่ทัน รถจึงตกลงไปในคลอง เจ้าหน้าที่จึงนําตัวทั้ง 2 พร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน สภ.เบตง ดําเนินคดีตามกฎหมายต่อไป#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
|
9/1/2023
|
ภาคใต้
|
ยะลา
|
สวท.เบตง จ.ยะลา
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230109130713287
| null |
ไทย-อินเดีย ส่งเสริมความร่วมมือด้านการท่องเที่ยว วัฒนธรรม ผลักดันมูลค่าทางการค้า การลงทุน
|
นายนาเคศ สิงห์ เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐอินเดียประจําประเทศไทย เข้าเยี่ยมคารวะ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในโอกาสเข้ารับหน้าที่ ณ ห้องสีงาช้าง ตึกไทยคู่ฟ้า ทําเนียบรัฐบาล ทั้งสองฝ่ายหารือถึงความร่วมมือด้านต่างๆ ทั้งการเมือง ที่เห็นพ้องผลักดันการแลกเปลี่ยนการเยือนระหว่างกันเพิ่มขึ้นในทุกระดับ โดยไทยพร้อมต้อนรับนายกรัฐมนตรีอินเดียเยือนไทยและเข้าร่วมการประชุมสุดยอด BIMSTEC ที่ไทยเป็นเจ้าภาพในช่วงเดือนสิงหาคมปีนี้ ด้านการท่องเที่ยว เอกอัครราชทูตอินเดียฯ ยินดีที่ชาวอินเดียมาท่องเที่ยวไทยเกือบ 1 ล้านคนในปี 2565 ซึ่งชาวอินเดียจํานวนมาก นอกจากจะเดินทางมาท่องเที่ยวแล้ว ยังชื่นชอบเดินทางมาไทยเพื่อจัดงานแต่งงาน จึงยินดีส่งเสริมการเดินทางไปมาหาสู่กันหวังว่าจะสามารถบรรลุเป้าหมายให้นักท่องเที่ยวจากอินเดียมาไทยปีละ 2 ล้านคน เหมือนช่วงก่อนหน้าสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19ทั้งสองฝ่าย ยังยินดีที่มูลค่าการค้าไทยและอินเดียเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง รวมทั้งยังมีศักยภาพเพิ่มการค้าการลงทุนในสาขาที่ทั้งสองฝ่ายเชี่ยวชาญและสนใจ นายกรัฐมนตรี หวังว่านักธุรกิจอินเดียจะพิจารณาลงทุนใน EEC โดยเฉพาะธุรกิจด้านยานยนต์สมัยใหม่ อิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะ หุ่นยนต์ การบิน และโลจิสติกส์ เชื้อเพลิงชีวภาพและเคมีชีวภาพ ดิจิทัล และการแพทย์ครบวงจร พร้อมเห็นพ้องพัฒนาความเชื่อมโยงทั้งทางบก ทะเล และอากาศ ภายใต้กรอบความร่วมมือในภูมิภาค มุ่งหวังให้ทุกฝ่ายเร่งบรรลุการพัฒนาโครงการถนนสามฝ่าย ไทย เมียนมา อินเดีย เชื่อมโยงอินเดียกับเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ส่งเสริมการค้าการลงทุนและการไปมาหาสู่ระหว่างประชาชน นอกจากนี้ ยังพร้อมส่งเสริมความร่วมมือด้านวัฒนธรรมและการศึกษา ด้านสาธารณสุขและความมั่นคงอย่างในสาขาด้านความมั่นคงรูปแบบใหม่ ความมั่นคงทางทะเล อุตสาหกรรมป้องกันประเทศ รวมถึงการแลกเปลี่ยนความร่วมมือและการฝึกอบรมด้านความมั่นคงไซเบอร์ระหว่างกัน
|
9/1/2023
|
ภาคกลางและปริมณฑล
|
กรุงเทพมหานคร
|
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230109151549348
| null |
คนเลี้ยงวัวพบยาบ้าวางริมถนนภายในหมู่บ้าน 2 แสนกว่าเม็ด
|
เมื่อช่วงของวันนี้ 9 มกราคม 2566 เจ้าหน้าที่ตํารวจ สภ.เมืองพัทลุง ได้รับแจ้งจาก นายพิทักพล เยาว์นุ่น กํานันตําบลชัยบุรี อําเภอเมือง จังหวัดพัทลุง พบว่าถุงกระสอบปุ๋ยจํานวน 2 กระสอบลึกลับวางริมถนน ที่บ้านท่าหนุน หมู่ที่ 13 ตําบลชัยบุรี หลังจากมีชาวบ้านนําวัวเลี้ยงเพื่อไปเลี้ยงบริเวณกลางทุ่ง ได้พบกับถุงกระสอบปุ๋ยจํานวน 2 กระสอบดังกล่าว จึงได้แจ้งนางวัชยาภรณ์ เคราแก้ว อายุ 42 ผู้ใหญ่บ้านหมูที่ 13 บ้านท่าหนุน ตําบลชัยบุรี และผู้ใหญ่บ้านได้แจ้งให้กํานันทราบ จึงแจ้งเจ้าหน้าที่ตํารวจเข้าสอบหลังได้รับแจ้ง พ.ต.อ.ชวลิต เพชรศรีเปีย รอง.ผบก.ภ.จว.พัทลุง พนักงานสอบสวน สภ.เมืองพัทลุง พร้อมกําลังเจ้าหน้าที่ตํารวจชุดสืบสวนสอบสวน และเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน เข้าที่เกิดเหตุพร้อมตรวจสอบภายในกระสอบปุ๋ยทั้ง 2 กระสอบที่วางไว้ริมถนนภายในหมู่บ้านพบเป็นยาบ้าและจากการตรวจสอบเบี้องต้นจํานวน 2 แสนกว่าเม็ด จึงได้ให้เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเก็บลายนิ้วมือแฝง เพื่อนําไปเป็นหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ในการขยายผลไปสู่กลุ่มผู้ต้องหาที่นําถุงยาบ้ามาทิ้งไว้ในที่เกิดเหตุ รวมทั้งการเร่งสืบสวนสอบสวนไปสู่กลุ่มผู้ต้องสงสัยที่นําถุงยาบ้ามาทิ้งไว้ในริมถนนคอนกรีตภายในหมู่บ้านดังกล่าว และเร่งตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดทั้งในและนอกหมู่บ้าน พร้อมการสอบปากคําชาวบ้านและพลเมืองดีที่พบถุงยาบ้าในพื้นที่ดังกล่าวนายพิทักพล เยาว์นุ่น กํานันตําบลชัยบุรี อําเภอเมือง จังหวัดพัทลุง กล่าวว่า ตนเองได้รับแจ้งนางชยาภร เกลแก้ว อายุ 42 ผู้ใหญ่บ้านหมูที่ 13 บ้านท่าหนุน ตําบลชัยบุรี หลังจากมีชาวบ้านนําวัวออกไปเลี้ยงกลางทุ่งกลางทุ่งและแจ้งกับผู้ใหญ่บ้านดังกล่าว จากนั้นแจ้งให้เจาหน้าที่เข้าตรวจสอบ พบเป็นยาบ้าบรรจุอยู่ในกระสอบปุ๋ยจํานวน 2 กระสอบ ปกติต้องยอมรับว่าภายในหมู่บ้านเกือบเกือบทุกพื้นที่มีการแพร่ระบาดของยาเสพติด เช่นเดียวกับที่หมู่ที่ 13 ตําบลชัยบุรี ก็มีกลุ่มวัยรุ่นบางส่วนเกี่ยวกับยาเสพติด แต่พบไม่มากเหมือนครั้งนี้และลักษณะแบบนี้เป็นกลุ่มผู้ค้า สําหรับเหตุการณ์ดังกล่าวที่เกิดขึ้นภายในหมู่บ้านทางฝ่ายปกครองยินดีให้ความร่วมมือเจ้าหน้าที่ตํารวจอย่างเต็มที่ทางด้าน พ.ต.อ.ชวลิต เพชรศรีเปีย รอง ผบก.ภ.จว.พัทลุง เผยว่า ในขณะนี้ทางตํารวจในพื้นที่ต่างๆได้ระดมการกวาดล้างการแพร่ระบาดของยาเสพติดอย่างต่อเนื่องและจริงจัง โดยเฉพาะการจัดตั้งจุดตรวจจุดสกัดตามจุดต่างๆ เพื่อป้องกันการนํายาเสพติดของกลุ่มค้ายาบ้ามาส่งให้กับพ่อค้ารายใหญ่และรายย่อยในพื้นที่ต่างๆ คาดว่าการนําของกลางดังกล่าวมาทิ้งไว้ในครั้งนี้น่าจะมาจากกลุ่มคนร้ายได้เห็นการตั้งจุดตรวจจุดสกัดของตํารวจ ฝ่ายปกครอง กํานัน ผู้ใหญ่บ้าน จึงได้นําของกลางมาทิ้งไว้เพื่อป้องกันการถูกจับกุม และยาบ้าที่พบดังกล่าวจะเร่งเจ้าหน้าที่ตํารวจชุดสืบสวนสอบสวน เร่งตามไล่กล้องวงจรปิดและพฤติกรรมของกลุ่มวัยรุ่นที่อาจมีส่วนเกี่ยวข้อง เพื่อเร่งนําตัวมาดําเนินคดีสํานักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดพัทลุง 074 6124040#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
|
9/1/2023
|
ภาคใต้
|
พัทลุง
|
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดพัทลุง
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230109144208315
| null |
นายกรัฐมนตรี ลงนามคำสั่งแต่งตั้งนายชัชวาลล์ คงอุดม และนายชุมพล กาญจนะ เป็นที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี
|
พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ลงนามคําสั่งสํานักนายกรัฐมนตรี เรื่องแต่งตั้งที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี เพื่อให้การบริหารราชการแผ่นดินและการขับเคลื่อนงานของรัฐบาลเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ อาศัยอํานาจตามความในมาตรา 11 (6) แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2534 นายกรัฐมนตรี จึงแต่งตั้ง นายชัชวาลล์ คงอุดม และนายชุมพล กาญจนะ เป็นที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี เพื่อทําหน้าที่ในการให้คําปรึกษาและพิจารณาเสนอความเห็นหรือข้อเสนอแนะต่างๆ ตามที่นายกรัฐมนตรีมอบหมาย ให้ส่วนราชการสนับสนุนการดําเนินงานของที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรีตามที่ได้รับการร้องขอ และให้สํานักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีอํานวยความสะดวกในการปฏิบัติหน้าที่ของที่ปรึกษาฯ สําหรับค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการบริหารจัดการที่จําเป็นต่อการปฏิบัติงาน ให้เป็นไปตามระเบียบของทางราชการ โดยให้เบิกจ่ายจากสํานักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ทั้งนี้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป
|
9/1/2023
|
ภาคกลางและปริมณฑล
|
กรุงเทพมหานคร
|
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230109195854493
| null |
จ.กาญจนบุรี ขอเชิญร่วมทำบุญตักบาตรพระสงฆ์ ในโครงการบรรพชาอุปสมบท 99 รูปฯ เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา ให้ทรงหายจากพระอาการประชวรและมีพลานามัยแข็งแรงโดยเร็ววัน
|
ร้อยโท ทศพล ไชยโกมินทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี เปิดเผยว่า จังหวัดกาญจนบุรี ได้จัดโครงการบรรพชาอุปสมบท 99 รูป ถวายพระพรชัยมงคลแด่สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา เพื่อเป็นการถวายพระพรชัยมงคลให้ทรงหายจากพระอาการประชวรและมีพลานามัยแข็งแรงโดยเร็ววัน โดยกําหนดบรรพชาอุปสมบท ระหว่างวันที่ 9-23 มกราคม 2566 ณ วัดไชยชุมพลชนะสงคราม พระอารามหลวง ตําบลบ้านใต้ อําเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี จึงขอเชิญชวน ส่วนราชการและประชาชนร่วมทําบุญตักบาตรพระสงฆ์ในโครงการบรรพชาอุปสมบท 99 รูปฯ ระหว่างวันที่ 10-13 มกราคม 2566 เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา ให้ทรงหายจากพระอาการประชวรและมีพลานามัยแข็งแรงโดยเร็ววัน#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
|
9/1/2023
|
ภาคกลางและปริมณฑล
|
กรุงเทพมหานคร
|
สวท.กาญจนบุรี
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230109192949474
| null |
ครม. เตรียมพิจารณาเพิ่มวันหยุด ปี 2566 เพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยว
|
การประชุม ครม. วันนี้ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานการประชุม มีวาระที่น่าสนใจ อาทิ สํานักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี เสนอการกําหนดวันหยุดราชการเพิ่มเป็นกรณีพิเศษ ประจําปี 2566 กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เสนออนุมัติโครงการ "เราเที่ยวด้วยกันเฟส 5" ภายหลังเลื่อนการพิจารณามาหลายรอบแล้ว พร้อมรับทราบรายงานนักท่องเที่ยวจีนเข้ามายังไทย เที่ยวบินแรก เมื่อวานนี้ พร้อมเห็นชอบ ร่างประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เรื่อง ขยายระยะเวลาการใช้บังคับประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เรื่อง กาหนดเขตพื้นที่และมาตรการคุ้มครองสิ่งแวดล้อม ในท้องที่อําเภอคุระบุรี อําเภอตะกั่วป่า อําเภอท้ายเหมือง อําเภอทับปุด อําเภอเมืองพังงา อําเภอตะกั่วทุ่ง และอําเภอเกาะยาว จังหวัดพังงา พร้อมรายงานสรุปผลการพิจารณาต่อข้อเสนอแนะแนวทางในการส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชนเกี่ยวกับกฎหมายลําดับรองประกอบพระราชบัญญัติ อุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2562 และพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2562ด้านสภาสภานโยบายการอุดมศึกษาฯ ขอพิจารณากรอบวงเงินงบประมําณด้านการอุดมศึกษาในความรับผิดชอบของกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม กรอบวงเงินงบประมาณ ด้านวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมของประเทศ ประจําปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 และระบบการจัดสรรและบริหารงบประมาณแบบบูรณาการที่มุ่งผลสัมฤทธิ์กระทรวงยุติธรรม เสนอร่างกฎกระทรวงว่าด้วยมาตรการเฝ้าระวังนักโทษเด็ดขาดภายหลังพ้นโทษ มาตรการคุมขังภายหลังพ้นโทษ และการคุมขังฉุกเฉิน พ.ศ. .... กระทรวงการคลัง เสนอการคัดเลือกเอกชนและร่างสัญญาร่วมลงทุน (โดยวิธีการอนุญาต) สําหรับโครงการพัฒนาปรับปรุงท่าเรือสงขลา รวมทั้งการสนับสนุนงบประมาณให้แก่กรมเจ้าท่า ในการขุดลอกและบํารุงรักษาความลึกของร่องน้ําสงขลาและร่างกฎกระทรวงกําหนดทรัพย์สินที่ได้รับยกเว้นจากการจัดเก็บภาษีที่ดิน และสิ่งปลูกสร้าง (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ตามพระราชบัญญัติภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง พ.ศ. 2562
|
10/1/2023
|
ภาคกลางและปริมณฑล
|
กรุงเทพมหานคร
|
Radio-สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230110110547594
| null |
ฝ่ายค้าน เรียกร้อง กกต. แจ้งส่วนราชการ ให้พรรคการเมืองยืมสถานที่เปิดเวทีปราศรัยหาเสียงได้
|
นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ในประธานวิปฝ่ายค้าน เปิดเผยผลการประชุมพรรคร่วมฝ่ายค้านในการเตรียมพิจารณารายงานประจําปีของ กกต.ว่า ฝ่ายค้านเรียกร้องไปยัง กกต. แจ้งส่วนราชการทั้งศาลากลางจังหวัดหรือสถานศึกษาเอื้อเฟื้อสถานที่ให้พรรคการเมืองยืมสถานที่เปิดเวทีปราศรัยหาเสียงได้ เนื่องจากขณะนี้ ใกล้ช่วงเวลาหาเสียงในการเลือกตั้งแล้ว ซึ่งอดีตเคยอนุญาตให้พรรคการเมืองใช้สถานที่ได้ แต่ปัจจุบันหน่วยงานราชการอ้างว่าหากจะเปิดให้พรรคการเมืองใช้สถานที่ต้องให้ทุกพรรคเข้ามาใช้สถานที่พร้อมกันซึ่งเป็นไปไม่ได้ แต่ควรให้พรรคการเมืองใดที่ต้องการใช้สามารถใช้ได้ หรือพรรคใดไม่ประสงค์จะใช้ไม่จําเป็นต้องใช้เพื่อไม่เป็นการจํากัดสิทธิพรรคการเมืองอื่นส่วนการเปิดตัวเข้าร่วมพรรครวมไทยสร้างชาติ ของพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เห็นว่าเป็นเรื่องที่ดีเพื่อความชัดเจนและให้ประชาชนได้ตัดสินใจตามกระบวนการประชาธิปไตย เช่นเดียวกับพรรคเพื่อไทยที่คณะกรรมการฝ่ายยุทธศาสตร์พรรคกําลังพิจารณาเปิดตัวแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีให้เร็วยิ่งขึ้น ซึ่งอาจจะเป็นภายในเดือนกุมภาพันธ์นี้ จากเดิมที่พรรคตั้งใจจะเปิดตัวหลังการยุบสภา ทั้งนี้เพื่อให้การสื่อสารกับประชาชนและการปราศรัยหาเสียงมีความชัดเจนไม่ทําให้ประชาชนสับสนประธานวิปฝ่ายค้าน ยังกล่าวถึงกรณีที่พรรคภูมิใจไทยเตรียมยื่นหนังสือถึง กกต. เพื่อขอให้ส่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยยุบพรรคเพื่อไทยจากกรณีที่พรรคภูมิใจไทยกล่าวหาพรรคเพื่อไทยใส่ร้ายว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. และพรรคภูมิใจไทย ว่า ยังไม่ทราบรายละเอียดดังกล่าว แต่พรรคเพื่อไทยมีข้อมูลเพียงพอที่จะยื่นให้ กกต.ยุบพรรคภูมิใจไทยได้เหมือนกัน แต่พรรคเพื่อไทยเห็นว่ากระบวนการดังกล่าวไม่ใช่วิธีการที่ถูกต้องและไม่ใช่ทิศทางที่ควรจะเป็น และอาจเข้าทางคู่แข่งได้จึงไม่ได้ตัดสินใจยื่นเรื่องดังกล่าวเพื่อไม่ให้เป็นผลเสียต่อกระบวนการประชาธิปไตย
|
10/1/2023
|
ภาคกลางและปริมณฑล
|
กรุงเทพมหานคร
|
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230110155629738
| null |
ผวจ.ยะลา เน้นย้ำ ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 10 เดินหน้าสร้างความมั่นใจให้กับประชาชน
|
วันนี้ (10 มกราคม 2566) ที่ ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 10 นายสุพจน์ รอดเรือง ณ หนองคาย ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา ได้เดินทางตรวจเยี่ยมและให้กําลังใจหน่วยงานด้านความมั่นคง (ด้านการพิสูจน์หลักฐานและเก็บกู้วัตถุระเบิด) พร้อมด้วยพันจ่าโท อนันต์ บุญสําราญ รองผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา นายธราวุธ ช่วยเกิด ปลัดจังหวัดยะลา โดยมี พล.ต.ต.วิสูตร นาคจู ผู้บังคับการศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 10 และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องให้การต้อนรับ ณ ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 10 ยะลาโดยทางหน่วยงานด้านความมั่นคงที่เกี่ยวข้องได้นําเสนอผลการปฎิบัติงานในพื้นที่จังหวัดใช้แดนภาคใต้ ซึ่งมีหน่วยงานปฏิบัติงานกระจายอยู่ในทุกจังหวัดของประเทศไทยโดย ในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้มีที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ของจังหวัดยะลา จังหวัดปัตตานี จังหวัดนราธิวาส ซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 10 จังหวัดยะลา ใน 2 หน่วยงานคือศูนย์พิสูจน์หลักฐานปัตตานี และศูนย์พิสูจน์หลักฐานนราธิวาส โดยอาศัยการนําวิทยาศาสตร์หรือนิติวิทยาศาสตร์มาใช้ในการวิเคราะห์พยานหลักฐานที่ได้จากสถานที่เกิดเหตุ เพื่อใช้พิสูจน์บุคคลที่เกี่ยวข้องในคดีต่างๆ ด้านความมั่นคงในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้สามารถที่จะอธิบายพฤติการณ์เพื่อให้เห็นถึงความเชื่อมโยงเหตุการณ์และเป็นการเก็บรวบรวมพยานยืนยันผู้กระทําความผิดตามหลักกฏหมายสําหรับการสํานักงานพิสูจน์หลักฐานตํารวจ มีวิสัยทัศน์ เป็นหลักประกันความยุติธรรม ด้านพิสูจน์หลักฐาน และวิทยาการตํารวจ ที่มีมาตรฐานสากล" การพิทักษ์ ปกป้อง และเทิดพระเกียรติเพื่อความจงรักภักดี ต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ มีหน้าที่รักษาความมั่นคงและความสงบเรียบร้อยในสังคม การป้องกันปราบปรามและลดระดับอาชญากรรม การแก้ไขปัญหายาเสพติดในทุกมิติการเร่งรัดขับเคลื่อนกระบวนการปฏิรูปองค์กรตํารวจในยุคประชาคมอาเซียน การเสริมสร้างความสามัคคี และการบํารุงขวัญข้าราชการตํารวจ#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
|
10/1/2023
|
ภาคใต้
|
ยะลา
|
สทท.ยะลา
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230110141227676
| null |
นายกรัฐมนตรี ไม่ขอแสดงความเห็นหลังเปิดตัวเข้าร่วมพรรครวมไทยสร้างชาติ เพราะวันนี้ทำหน้าที่นายกรัฐมนตรี
|
ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวว่า วันนี้ไม่ขอพูดอะไร ส่วนหลังเปิดตัวเข้าร่วมงานพรรครวมไทยสร้างชาติเมื่อวานนี้ (9 ม.ค.66) กระแสเป็นอย่างไรบ้าง พลเอก ประยุทธ์ กล่าวว่า วันนี้เป็นนายกรัฐมนตรีทั้งนี้นายกรัฐมนตรี ไม่ได้ตอบคําถามว่า คดีความที่เกิดขึ้นในขณะนี้ เหมือนเป็น สงครามตัวแทนระหว่างพลเอก ประยุทธ์ กับพลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีหรือไม่
|
10/1/2023
|
ภาคกลางและปริมณฑล
|
กรุงเทพมหานคร
|
Radio-สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230110155951742
| null |
หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 25 มีผลการจับกุมได้อย่างมีประสิทธิภาพในห้วง 3 เดือนเเรก ของปีงบประมาณ 66 มีจำนวนทั้งสิ้น 383 คดี ผู้ต้องหา 705 คน
|
พันเอก ภูมิพัฒน์ บุญเรืองขาว ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 25 ลงพื้นที่ให้กําลังใจเจ้าหน้าที่ ชุดปฏิบัติการกองร้อยทหารราบที่ 2521,ชุดปฏิบัติการหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 25 เเละชุดปฏิบัติการจุดตรวจศิลาสลัก จปร. พร้อมมอบนโยบายและมอบเงินรางวัลในการปฏิบัติงานด้านการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดในพื้นที่จังหวัดระนองได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตามนโยบายของผู้บังคับบัญชา รวมถึงได้ให้กําลังใจและขอเจ้าหน้าที่ทุกนายให้มีความอดทนในการปฏิบัติงาน เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับพี่น้องประชาชนในพื้นที่ในการปฏิบัติงานดูแลและป้องกันชายแดนของหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 25 ซึ่งหน่วยมีผลการจับกุมการกระทําผิดกฎหมายในปีงบประมาณ 2566 พื้นที่ จ.ระนอง และ อําเภอท่าแซะ จ.ชุมพร ในห้วง 3 เดือน (1 ต.ค.65 - 31 ธ.ค.65 ) มีจํานวนทั้งสิ้น 383 คดี ผู้ต้องหา 705 คน แยกออกเป็น ดังนี้ ด้านยาเสพติด จํานวน 162 คดี ผู้ต้องหา 202 คน ของกลางยาบ้ารวม 87,372 เม็ด ยาไอซ์ 4 กิโลกรัม ยาบ้าชนิดผง 3.57 กรัม ด้านแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมือง จํานวน 73 คดี ผู้ต้องหารวม 247 คน ด้านการลักลอบขนสินค้าหลบหนีภาษี จํานวน 115 คดี ผู้ต้องหา 133 คน ของกลางยางพาราแผ่นดิบ 51,405 กิโลกรัม ปาล์มน้ํามัน 4,980 กิโลกรัม หวายเส้น 2,560 เส้น ด้านการกระทําผิด พ.ร.บ.ป่าไม้ จํานวน 9 คดี ผู้ต้องหา 6 คน เนื้อที่ป่าเสียหาย 56-3-41 ไร่ ไม้แปรรูป 155 แผ่น ด้านการจับกุมอาวุธปืน จํานวน 24 คดี ผู้ต้องหา 25 คน ของกลางอาวุธปืน 20 กระบอก เครื่องกระสุนรวม 237 นัดทั้งนี้ หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 25 กองกําลังเทพสตรี ยังคงปฏิบัติหน้าที่ตามแนวชายแดนอย่างเข้มงวด ตามพันธกิจ 3 ประการ ของศูนย์ปฏิบัติการกองทัพบก ทั้งการเฝ้าตรวจและป้องกันชายแดน เพื่อป้องกันการกระทําผิดกฎหมายต่าง ๆ ตามแนวชายแดน การหลบหนีเข้าประเทศของแรงงานต่างด้าว การค้ายาเสพติด และสินค้าหนีภาษี รวมไปถึงการจัดระเบียบและแก้ไขปัญหาความมั่งคงในพื้นที่#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
|
10/1/2023
|
ภาคใต้
|
ระนอง
|
สวท.ระนอง
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230110151856720
| null |
ผู้บังคับการกรมทหารราบที่ 152 ตรวจสภาพความพร้อมรบและการปฏิบัติเป็นหน่วยของกองพันทหารราบที่ 3 กรมทหารราบที่ 152
|
พันเอก พีรพงศ์ วัลลภาทิตย์ ผู้บังคับการกรมทหารราบที่ 152 ตรวจเยี่ยมชมการซักซ้อม การตรวจสภาพความพร้อมรบ และการปฏิบัติของหน่วยกองพันทหารราบที่ 3 กรมทหารราบที่ 152 พร้อมทั้งได้ให้คําแนะนํา เรื่องการปฏิบัติ ในแต่ละขั้นตอน เพื่อให้กําลังพลสามารถปฏิบัติได้อย่างถูกต้อง พร้อมเพียง แข็งแรง อีกทั้งยังเป็นการเตรียมพร้อมด้านกําลังพล และยุทโธปกรณ์ต่าง ๆ ของหน่วยให้ มีความพร้อมใช้งานก่อนการเดินทางไกล ประจําเดือน มกราคม 2566 ณ ค่ายสิรินธร ตําบลเขาตูม อําเภอยะรัง จังหวัดปัตตานีสําหรับการตรวจสภาพความพร้อมรบในครั้งนี้ เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อม และพัฒนากําลังพลให้สามารถตอบสนองภารกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตลอดจนเป็นการฝึกทบทวนวิชาทหารตามนโยบายของกองทัพบก เพื่อให้ผู้บังคับบัญชาสามารถประเมินค่าขีดความสามารถของกําลังพล รวมทั้งเป็นการกํากับดูแล เอาใจใส่กําลังพลในการฝึกทุกภารกิจ พร้อมทั้งตระหนักถึงความสําคัญของกําลังพล ในการซักซ้อมทบทวนการตรวจสภาพความพร้อมรบ โดยมี กําลังพลนายทหาร นายสิบ ทหารกองประจําการและพนักงานราชการ ร่วมตรวจสภาพความพร้อมรบโดยพร้อมเพรียงกัน#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
|
10/1/2023
|
ภาคใต้
|
ยะลา
|
สทท.ยะลา
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230110155929741
| null |
ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา ร่วมหารือแลกเปลี่ยนแนวทางการทำงาน พร้อมอวยพรเนื่องในโอกาสปีใหม่2566 แม่ทัพภาคที่ 4 เน้นการทำงานต้องมีการบูรณาการทุกฝ่าย
|
วันนี้ 10 มกราคม 2566 ที่ ห้องประชุม 1 กองอํานวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า อําเภอยะรัง จังหวัดปัตตานี พลโท ศานติ ศกุนตนาค แม่ทัพภาคที่ 4 / ผู้อํานวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 และคณะ ให้การต้อนรับ นายสุพจน์ รอดเมือง ณ หนองคาย ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา และคณะ เข้าพบเนื่องในโอกาสปีใหม่ 2566 และถือโอกาสแนะนําคณะทํางานของจังหวัดยะลา รวมถึงร่วมพูดคุยหารือถึงทิศทางการทํางาน เพื่อให้สอดรับกับนโยบาย และเป็นไปในทิศทางเดียวกัน ทั้งเรื่องการรักษาความปลอดภัย งานการแก้ไขปัญหายาเสพติด รวมทั้งงานการพัฒนาต่างๆ เพื่อให้ประชาชนมีความปลอดภัย มีคุณภาพชีวิตที่ดี ภายใต้การทํางานบูรณาการร่วมกันของทุกฝ่าย ในโอกาสนี้ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา ได้กล่าวอวยพรและมอบกระเช้าปีใหม่ให้แม่ทัพภาคที่ 4 /ผู้อํานวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 อีกด้วยพลโท ศานติ ศกุนตนาค แม่ทัพภาคที่ 4 / ผู้อํานวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 กล่าวว่า ขอบคุณผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา และคณะที่มาพบปะ และร่วมหารือถึงปัญหาข้อขัดข้องต่างๆ และทุกท่านที่มาเป็นล้วนกุญแจเป็นกลไกสําคัญในการทํางาน ซึ่งทางกองอํานวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า พร้อมให้การสนับสนุน การทํางานในทุกด้าน ที่ผ่านมาได้มีการบูรณาการทํางานร่วมกันมาโดยตลอด ซึ่งสถานการณ์ต่างๆ เริ่มดีขึ้น แต่ยังคงต้องเข้มงวด และสร้างความเข้มแข็งของเจ้าหน้าที่ โดยเฉพาะศูนย์ปฏิบัติการอําเภอที่มีความใกล้ชิดกับประชาชน ต้องมีการประชุมคณะทํางานระดับอําเภอซึ่งมีการประชุมเป็นประจําทุกเดือน ทั้ง กํานัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้ศาสนา ตํารวจ ทหาร ฝ่ายปกรอง ทุกส่วนที่เกี่ยวข้องต้องคุยกัน ทําอย่างไรให้พื้นที่เกิดความสงบสุข ต้องพูดคุยกันและทํางานขับเคลื่อนไปทิศทางเดียวกัน เพื่อแก้ไขปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นในพื้นที่ การทํางานต้องบูรณาการร่วมกันทุกฝ่ายถึงจะประสบความสําเร็จด้าน นายสุพจน์ รอดเมือง ณ หนองคาย ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา กล่าวว่า ถือโอกาสเข้าพบ แม่ทัพภาคที่ 4 /ผู้อํานวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 และคณะ เนื่องในโอกาสปีใหม่ 2566 พร้อมนําคณะทํางานของจังหวัดยะลาร่วมเข้าพบแนะนําตัว และถือโอกาสหารือแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ถึงแนวทางการทํางาน ปัญหา ข้อขัดข้องต่างๆเพื่อนําไปปรับและบูรณาการทํางานร่วมกัน ให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน และสอดรับตามแนวทางนโยบาย#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
|
10/1/2023
|
ภาคใต้
|
ยะลา
|
สทท.ยะลา
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230110160408746
| null |
ผู้ว่าฯยะลา นำคณะทำงานฝ่ายปกครอง เข้าพบแม่ทัพภาค 4 หารือนโยบาย มิติด้านความมั่นคง เสริมสร้างสันติสุขในพื้นที่
|
วันนี้ 10 มค.66 เวลา 11.40 น. ที่ ห้องประชุม 1 กองอํานวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า อ.ยะรัง จ.ปัตตานี นายสุพจน์ รอดเรือง ณ หนองคาย ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา นําคณะรองผู้ว่าฯยะลา รอง ผอ.กอ.รมน.จังหวัดยะลา และนายอําเภอ เข้าพบพลโท ศานติ ศกุนตนาค แม่ทัพภาคที่ 4 / ผู้อํานวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 แม่ทัพภาคที่ 4 ร่วมหารือการขับเคลื่อนนโยบาย มิติงานด้านความมั่นคง ทิศทางการทํางาน เพื่อให้สอดรับกับนโยบายในทิศทางเดียวกัน ทั้งเรื่องการรักษาความปลอดภัย งานการแก้ไขปัญหายาเสพติด รวมทั้งงานการพัฒนาต่างๆ เพื่อให้ประชาชนมีความปลอดภัย มีคุณภาพชีวิตที่ดี ภายใต้การทํางานบูรณาการร่วมกันของทุกฝ่าย เสริมสร้างสันติสุขในพื้นที่พลโท ศานติ ศกุนตนาค แม่ทัพภาคที่ 4 / ผู้อํานวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 กล่าวว่า ขอบคุณผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา และคณะที่มาพบปะ และร่วมหารือถึงปัญหาข้อขัดข้องต่างๆ และทุกท่านที่มาเป็นล้วนกุญแจเป็นกลไกสําคัญในการทํางาน ซึ่งทางกองอํานวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า พร้อมให้การสนับสนุน การทํางานในทุกด้าน ที่ผ่านมาได้มีการบูรณาการทํางานร่วมกันมาโดยตลอด ซึ่งสถานการณ์ต่างๆ เริ่มดีขึ้น เแต่ยังคงต้องเข้มงวด และสร้างความเข้มแข็งของเจ้าหน้าที่ โดยเฉพาะศูนย์ปฏิบัติการอําเภอที่มีความใกล้ชิดกับประชาชน ต้องมีการประชุมคณะทํางานระดับอําเภอซึ่งมีการประชุมเป็นประจําทุกเดือน ทั้ง กํานัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้ศาสนา ตํารวจ ทหาร ฝ่ายปกรอง ทุกส่วนที่เกี่ยวข้องต้องคุยกัน ทําอย่างไรให้พื้นที่เกิดความสงบสุข ต้องพูดคุยกันและทํางานขับเคลื่อนไปทิศทางเดียวกัน เพื่อแก้ไขปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นในพื้นที่ การทํางานต้องบูรณาการร่วมกันทุกฝ่ายถึงจะประสบความสําเร็จ ด้าน นายสุพจน์ รอดเมือง ณ หนองคาย ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา กล่าวว่า ถือโอกาสเข้าพบ แม่ทัพภาคที่ 4 /ผู้อํานวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 และคณะ เนื่องในโอกาสปีใหม่ 2566 พร้อมนําคณะทํางานของจังหวัดยะลาร่วมเข้าพบแนะนําตัว และถือโอกาสหารือแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ถึงแนวทางการทํางาน ปัญหา ข้อขัดข้องต่างๆเพื่อนําไปปรับและบูรณาการทํางานร่วมกัน ให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน และสอดรับตามแนวทางนโยบาย#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
|
10/1/2023
|
ภาคใต้
|
ยะลา
|
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดยะลา
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230110160924752
| null |
ครม. เห็นชอบให้วันที่ 5 พฤษภาคม 2566 เป็นวันหยุดราชการเพิ่มเติมเป็นกรณีพิเศษ
|
นางสาวไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจําสํานักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี เห็นชอบกําหนดวันหยุดราชการเพิ่มเติมเป็นกรณีพิเศษ ประจําปี 2566 จํานวน 1 วัน คือวันศุกร์ที่ 5 พฤษภาคม 2566 เพื่อให้มีวันหยุดต่อเนื่องในช่วงเวลาดังกล่าว ซึ่งจะกระตุ้นให้เกิดการขับเคลื่อนทางเศรษฐกิจเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาคธุรกิจและการท่องเที่ยวของประเทศไทย อีกทั้งการที่ ครม. มีมติกําหนดวันหยุดเพิ่มเติมเป็นกรณีพิเศษล่วงหน้าจะช่วยให้ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ หน่วยงานของรัฐ รวมทั้งภาคเอกชนสามารถวางแผนการดําเนินการต่างๆ ที่เกี่ยวข้องล่วงหน้าได้อย่างเหมาะสมต่อไป ทั้งนี้เมื่อรวมวันหยุดราชการเพิ่มเติมเป็นกรณีพิเศษดังกล่าวแล้ว จะทําให้มีวันหยุดราชการประจําปี 2566 รวมทั้งสิ้น 19 วัน ซึ่งมีจํานวนเท่าวันหยุดราชการและวันหยุดชดเชยในปี 2563-2565 แต่เมื่อรวมวันหยุดชดเชยแล้ว จะมีวันหยุดราชการและวันหยุดชดเชยรวม 24 วัน
|
10/1/2023
|
ภาคกลางและปริมณฑล
|
กรุงเทพมหานคร
|
Radio-สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230110153923726
| null |
กอ.รมน.จังหวัดตรัง จัดโครงการพัฒนาด้านการเมืองและการสร้างความรักความสามัคคีของคนในชาติ กิจกรรม การฝึกจัดตั้ง ทสปช.ด้านการเสริมสร้างความมั่นคงของสถาบันหลักของชาติ
|
วันนี้ (10 มกราคม 66) พลตรี ดร.วรวุฒิ แสงทอง รองผู้อํานวยการศูนย์ประสานการปฏิบัติที่ 1 กองอํานวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการพัฒนาด้านการเมืองและการสร้างความรักความสามัคคีของคนในชาติ กิจกรรม การฝึกจัดตั้ง ทสปช.ด้านการเสริมสร้างความมั่นคงของสถาบันหลักของชาติ ณ โรงแรมอีโคอินน์ ตําบลทับเที่ยง อําเภอเมืองตรัง จังหวัดตรัง ทั้งนี้ กองอํานวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) ได้เล็งเห็นความสําคัญของการจัดตั้งไทยอาสาป้องกันชาติ จึงได้จัดสรรงบประมาณในการฝึกอบรมจัดตั้ง และกํากับดูแลในพื้นที่ส่วนกลาง สําหรับส่วนภูมิภาคได้มอบหมายให้ กองอํานวยการรักษาความมั่นคงภาค และกองอํานวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัด ดําเนินการฝึกอบรม ดังนั้น ไทยอาสาป้องกันชาติในปัจจุบันจึงมีกระจายอยู่ทั่วประเทศ ซึ่งสะดวกในการใช้ปฏิบัติภารกิจในพื้นที่ นอกจากนั้น หากต้องการระดมกําลัง เพื่อปฏิบัติภารกิจในส่วนกลาง หรือพื้นที่อื่นก็สามารถดําเนินการได้โดยง่าย สําหรับเนื้อหาของการฝึกอบรมคือ การเสริมสร้างลักษณะทางทหาร โดยจะมีการฝึกแถวชิดการเดินทางไกลและการดํารงชีพในป่า นอกจากนั้นจะมีการบรรยายพิเศษเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ชาติไทย อุดมการณ์ความรักชาติ สถาบันพระมหากษัตริย์กับการพัฒนาประเทศ และอื่น ๆ ที่เป็นการสร้างจิตสํานึกของผู้เข้ารับการอบรมให้มีความจงรักภักดีต่อสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ รวมทั้งยังให้มีการดูงานในสถานที่ที่ให้ความรู้ทางด้านประวัติศาสตร์และโครงการพระราชดําริด้วย สําหรับการจัดตั้งไทยอาสาป้องกันชาติมีวัตถุประสงค์เริ่มแรก เพื่อต่อต้านและป้องกันการก่อความไม่สงบเรียบร้อยทุกรูปแบบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการต่อต้านการปฏิบัติการของผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์ นอกจากนั้นในเมื่อมีการรวมตัวของราษฎร เป็นปึกแผ่นกลุ่มก้อนแล้ว จึงให้ทําหน้าที่เพื่อสาธารณประโยชน์ เช่น การป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยและการพัฒนาท้องถิ่นของตนเอง ปัจจุบันสิ่งแวดล้อมด้านภัยคุกคามของประเทศเปลี่ยนแปลงไปมาก ทําให้ในการจัดตั้งไทยอาสาป้องกันชาติในปัจจุบันจึงมีวัตถุประสงค์เปลี่ยนแปลงไปบ้าง ซึ่งส่วนใหญ่จะเน้นในเรื่องความรักความสามัคคีของคนในชาติ การมีส่วนร่วมในการป้องกันและแก้ไขปัญหา ที่มีผลกระทบต่อความมั่นคงรูปแบบใหม่นอกจากนั้น ยังมีการปลุกจิตสํานึกเรื่องอุดมการณ์รักชาติและความจงรักภักดีต่อสถาบันหลักของชาติด้วย โดย ทสปช.มีบทบาททั้งในด้านความมั่นคงและบทบาทต่อสถาบันหลักของชาติ ในด้านความมั่นคง ปัจจุบันผู้ที่สมัครเข้ารับการอบรม ทสปช. ส่วนใหญ่มีพื้นฐานความคิดที่มีจิตอาสา มีอุดมการณ์รักชาติ และมีความจงรักภักดีต่อสถาบันหลักของชาติอยู่แล้ว เพียงแต่หากไม่มีการชี้นําหรือบริหารจัดการโดยองค์กรภาครัฐที่มีหน้าที่ กลุ่มคนเหล่านี้จึงไม่รู้ว่าเขาสามารถทําอะไรให้กับประเทศชาติได้บ้าง แต่เมื่อเข้ามาอยู่ร่วมกันในหลักสูตรก็จะเกิดการรวมตัวกันเป็นกลุ่มเป็นก้อนที่สามารถจะทําประโยชน์ให้กับประเทศชาติได้มาก ในการฝึกอบรมนั้นได้มีการปลูกฝังให้มีการรวมตัวกันเป็นเครือข่ายเฝ้าระวังป้องกันและแก้ไขปัญหาที่มีผลกระทบต่อความมั่นคง การเผยแพร่อุดมการณ์รักชาติ และความจงรักภักดีต่อสถาบันหลักของชาติ โดยให้เริ่มจากบุคคลใกล้ตัวคือคนในครอบครัว พรรคพวกเพื่อนฝูง จากนั้น จึงขยายสู่ชุมชน รวทั้งบุคคลภายนอก ซึ่งจะทําให้มีเครือข่ายเพิ่มมากขึ้น ในการช่วยเป็นหูเป็นตาให้กับเจ้าหน้าที่รัฐในการป้องกันและแก้ไขปัญหาต่างๆ และที่ผ่านมา ทสปช.มีผลงานในการช่วยเหลือประเทศชาติและสังคมมาโดยตลอด#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
|
10/1/2023
|
ภาคใต้
|
ตรัง
|
สวท.ตรัง
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230110172114789
| null |
นายกรัฐมนตรี เชื่อมั่นการทำงานของรัฐบาล ดำเนินนโยบายมาถูกทาง พาเศรษฐกิจไทยโตต่อเนื่อง
|
นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจําสํานักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มั่นใจเศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มฟื้นตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่งและมีอัตราการขยายตัวอย่างต่อเนื่องในอีก 4 ปีข้างหน้า ท่ามกลางการชะลอตัวลงของเศรษฐกิจโลก อย่างไรก็ตาม ถือเป็นผลจากการดําเนินนโยบาย ที่เหมาะสมและทันต่อสถานการณ์ของรัฐบาล ที่ส่งผลให้เศรษฐกิจไทยมีสัญญาณบวกได้อย่างต่อเนื่อง พร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรีได้กําชับให้ทุกหน่วยงานเร่งเดินหน้าขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศในภาพรวมให้เติบโตในระยะต่อไปได้อย่างมั่นคง พร้อมรับต่อสถานการณ์ความท้าทายในระดับโลกกระทรวงการคลัง คาดการณ์เศรษฐกิจไทยปี 2566 จะขยายตัวได้ถึงร้อยละ 3.8 แม้ต้องเผชิญกับสภาวะเศรษฐกิจโลกถดถอย โดยมีปัจจัยสําคัญจากการลงทุนของภาครัฐและภาคเอกชน รวมถึงภาคการท่องเที่ยวและการบริโภคในประเทศ ยังคงเป็นแรงหนุนหลักต่อเนื่องจากปี 2565 โดยในปี 2566 คาดการณ์ว่าจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางมายังประเทศไทยกว่า 21 ล้านคน ซึ่งยังไม่รวมนักท่องเที่ยวจากจีน นอกจากนี้ กระทรวงการคลังประเมินอัตราการขยายตัว ของเศรษฐกิจไทยในระยะ 4 ปีข้างหน้า (2567 – 2570) มูลค่า GDP จะขยายตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยในปี 2567 ขยายตัวร้อยละ 3.8 มูลค่ากว่า 19.77 ล้านล้านบาท ปี 2568 ขยายตัวร้อยละ 3.4 มูลค่ากว่า 20.78 ล้านล้านบาท ซึ่งถือเป็นปีแรกที่ไทยมีมูลค่า GDP เกิน 20 ล้านล้านบาท ปี 2569 ขยายตัวร้อยละ 3.4 มูลค่ากว่า 21.86 ล้านล้านบาท และปี 2570 ขยายตัวร้อยละ 3.3 มูลค่ากว่า 23 ล้านล้านบาทนายกรัฐมนตรี ขอบคุณทุกภาคส่วนที่ร่วมแรงร่วมใจและดําเนินการตามนโยบายของรัฐบาลอย่างแข็งขัน มีส่วนร่วมในการฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศ ซึ่งนายกรัฐมนตรีเชื่อมั่นว่ามูลค่าเศรษฐกิจจะขยายตัวต่อเนื่อง ซึ่งถือว่าแนวทางการทํางานของรัฐบาลนั้นได้ดําเนินมาอย่างถูกต้อง พร้อมสั่งการให้ทุกหน่วยงานเร่งทํางานขับเคลื่อนเศรษฐกิจในระยะต่อไป โดยเฉพาะภาคการท่องเที่ยวซึ่งเป็นภาคส่วนสําคัญที่สร้างมูลค่ามหาศาลแก่เศรษฐกิจไทย
|
11/1/2023
|
ภาคกลางและปริมณฑล
|
กรุงเทพมหานคร
|
Radio-สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230111105843945
| null |
นายกรัฐมนตรี ไม่กังวลการอภิปรายทั่วไปโดยไม่ลงมติของฝ่ายค้าน
|
พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงการอภิปรายทั่วไปรัฐบาลโดยไม่ลงมติของฝ่ายค้าน ว่า เป็นดุลยพินิจของสภา ซึ่งวิปรัฐบาลและวิปฝ่ายค้าน จะต้องไปหารือตกลงกันว่าจะมีการอภิปรายกรอบระยะเวลาว่าจะอภิปรายกี่วัน แต่เวลานี้บ้านเมืองกําลังมีปัญหา ไม่อยากให้มีการต่อสู้กันทางการเมืองมากนักและข้อกล่าวหาก็ไม่มีอะไรแตกต่างไปจากเดิมเหมือนหลายๆปีที่ผ่านมา ทั้งนี้ไม่กังวลว่า จะมีองครักษ์พิทักษ์นายกรัฐมนตรีหรือไม่ ขอแต่เพียงให้ทุกคนช่วยกันคํานึงถึงบ้านเมืองเป็นหลักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณี ที่นายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีต กกต. ตั้งข้อสังเกตการจัดกิจกรรมเปิดตัวที่สมัครและสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติ เมื่อวานนี้ ว่า ทราบว่ามีการชี้แจงไปแล้วและเชื่อว่าฝ่ายกฎหมายของพรรคและ กกต. มีการหารือแล้วเช่นกัน ว่าอะไรทําได้ อะไรทําไม่ได้ ส่วนรัฐบาลจะอยู่จนครบวาระ หรือยุบสภาก่อน ยืนยันว่า จะไม่ทําให้ใครเสียหายแน่นอน โดยเฉพาะการย้ายพรรคของ ส.ส. และเชื่อว่า ทุกคนก็มีหลักการของตัวเองอยู่แล้ว ขณะที่ตนเองก็ต้องระมัดระวัง แยกแยะระหว่างงานของรัฐบาลและงานของพรรค เพื่อไม่ให้ผิดกฎหมายเลือกตั้งเช่นกันนายกรัฐมนตรี ย้ําว่า แม้จะต้องแข่งขันกันเอง กับพลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ ที่เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคพลังประชารัฐ ก็ไม่มีปัญหาขัดแย้งกัน ความผูกพันกับเรื่องการเมืองเป็นคนละเรื่องกัน เพราะคุยกันทุกวัน แต่ยังไม่ถึงขั้นที่จะพูดคุยเรื่องร่วมกันจัดตั้งรัฐบาล เพราะยังไม่ถึงเวลา ส่วนจะได้ ส.ส.กี่คน ประชาชนจะเป็นผู้ตัดสิน
|
11/1/2023
|
ภาคกลางและปริมณฑล
|
กรุงเทพมหานคร
|
Radio-สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230111162437079
| null |
กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดปัตตานี จัดประชุมบูรณาการร่วมกับหน่วยงานทุกภาคส่วนหารือในการดำเนินการซักซ้อมแผนเผชิญเหตุในเขตเมืองปัตตานี
|
วันนี้ (11 ม.ค.2566) ที่ห้องประชุม กองอํานวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดปัตตานี นายสนั่น สนธิเมือง รองผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี(ฝ่ายความมั่นคง)/รอง ผอ.รมน.จังหวัดปัตตานี เป็นประธานในการประชุมบูรณาการร่วมกับหน่วยงานทุกภาคส่วน ทั้งฝ่ายทหาร ตํารวจ ฝ่ายปกครอง ส่วนราชการในพื้นที่ และอาสาสมัครประจําพื้นที่ เพื่อหารือในการดําเนินการซักซ้อมแผนเผชิญเหตุในเขต อําเภอเมืองปัตตานี เพื่อป้องกันการก่อเหตุจากกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงที่อาจจะกระทําในห้วงนี้ ซึ่งเป็นไปตามข้อสั่งการของ แม่ทัพภาคที่4/ผอ.รมน.ภาค 4 อีกทั้ง เป็นการสร้างความเชื่อมั่น และความเข้าใจในหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วนในการปฏิบัติและการป้องกันการก่อเหตุจากกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงที่จะอาจจะลอบเข้ามาก่อเหตุในห้วงนี้ ผู้เข้าร่วมประชุมประกอบด้วย ผู้แทนหน่วยเฉพาะกิจปัตตานี ตํารวจภูธรจังหวัดปัตตานี กอ.รมน.จังหวัด พิสูจน์หลักฐานจังหวัด ชุด EOD สภ.เมืองปัตตานี ป้องกันจังหวัดปัตตานี หน่วยเฉพาะกิจ ตร.ป.น.๙๒สํานักงานสาธารณสุขจังหวัด เทศบาลเมืองปัตตานี และศูนย์ปฏิบัติการ อ.เมืองปัตตานี เข้าร่วมการประชุม ภาพ/ข่าว เพชรน้อย ส.ปชส.ปัตตานี#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
|
11/1/2023
|
ภาคใต้
|
ปัตตานี
|
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดปัตตานี
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230111180211132
| null |
อำเภอเมืองปัตตานี จัดประชุมผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านฝ่ายรักษาความสงบเพื่อช่วยดูแลและรักษาความปลอดภัยแก่ชุมชน
|
วันนี้ (11 มกราคม 2566) เวลา 09.00น.ที่ห้องประชุมอําเภอเมืองปัตตานี นายโอฬาร บิลสัน นายอําเภอเมืองปัตตานี และปลัดอําเภอ ได้จัดให้มีการประชุมชี้แจงและซักซ้อมการปฏิบัติงานของผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านฝ่ายรักษาความสงบ(ผรส.)ประจําเดือน มกราคม 2566 นายโอฬาร บิลสัน นายอําเภอเมืองปัตตานี กล่าวว่า ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านฝ่ายรักษาความสงบหรือ ผรส. เป็นบุคลากรที่สําคัญอีกคนหนึ่งของหมู่บ้าน/ชุมชน มีหน้าที่ในการตรวจตรารักษาความสงบเรียบร้อยภายในหมู่บ้าน ถ้ารู้เห็นหรือทราบว่าเหตุการณ์หรือจะเกิดขึ้นภายในหมู่บ้าน ให้แจ้งต่อผู้ใหญ่บ้าน สังเกตคนจรเข้ามาในหมู่บ้านและสงสัยว่าไม่ได้มาโดยสุจริตให้รายงานผู้ใหญ่บ้าน เมื่อมีเหตุร้ายเกิดขึ้นภายในหมู่บ้าน ต้องระงับเหตุปราบปราม ติดตามจับผู้ร้ายโดยเต็มกําลังและรายงานผู้ใหญ่บ้าน เมื่อตรวจพบหรือตามจับได้สิ่งของใดที่มีไว้มีความผิดหรือใช้การกระทําความผิดหรือได้มาโดยกระทําความผิด ให้รีบนําส่งผู้ใหญ่บ้าน รวมทั้งปฏิบัติตามคําสั่งผู้ใหญ่บ้าน ซึ่งสั่งการโดยชอบด้วยกฎหมายด้วย ซึ่งโดยทั่วไป ตําแหน่ง ผรส.จะมีหมู่บ้านละ 2 คน แต่ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และ 4 อําเภอของสงขลา กระทรวงมหาดไทยกําหนดให้มีจํานวนหมู่บ้านละ 5 คน เพื่อให้สามารถช่วยกันตรวจตราและรักษาความปลอดภัยในพื้นที่รับผิดชอบได้มากยิ่งขึ้น แต่การปฏิบัติหน้าที่ของ ผรส.ที่ผ่านมา ยังมีบางอย่างที่ยังปฏิบัติไม่ถูกต้องบ้าง เช่นการแต่งการ การพกพาอาวุธปืน การดูแลรักษาสิ่งของราชการเป็นต้น จึงต้องมีการประชุมเพื่อเน้นย้ําการปฏิบัติให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อยและถูกต้องต่อไปด้วย ภาพ/ข่าว เพชรน้อย ส.ปชส.ปัตตานี#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
|
11/1/2023
| null |
ปัตตานี
|
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดปัตตานี
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230111181223138
| null |
กระบี่ - รองผู้ว่าฯกระบี่ นำกำลังเจ้าหน้าที่คณะทำงานศูนย์บริหารจัดการแรงงานประมงจังหวัดกระบี่ ร่วมตรวจบูรณาการคุ้มครองแรงงานในเรือประมงทะเล
|
วันที่ 11 มกราคม 2566 เวลา 07.30 น. ณ ท่าเทียบเรือศูนย์ป้องกันและปราบปรามประมงทะเลกระบี่ ต.ไสไทย อ.เมืองกระบี่นายภาสกร บุญญลักษม์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ มอบหมายให้ นายสมชาย หาญภักดีปฏิมา รองผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ นํากําลังเจ้าหน้าที่คณะทํางานศูนย์บริหารจัดการแรงงานประมงจังหวัดกระบี่ ลงเรือตรวจการศูนย์ป้องกันและปราบปรามประมงทะเลจังหวัดกระบี่ 605 “การตรวจบูรณาการคุ้มครองแรงงานในเรือประมงทะเล” โดยมี นายฉลาดวิทย์ ประเทืองมาศ สวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดกระบี่ มีนางอรสิริภัค ศิวิโรจน์ จัดหางานจังหวัดกระบี่ นางนิรมล หมื่นจิต แรงงานจังหวัดกระบี่ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พร้อมด้วยคณะทํางานศูนย์บริหารจัดการประมงทะเล ทหาร ตํารวจ และทีมสหวิชาชีพ ร่วมทีมออกแผนบูรณาการป้องกันป้องปรามและปราบปรามตรวจตราให้ความคุ้มครองแรงงงานประมงทะเลในพื้นที่น่านน้ําอันดามันเขตรับผิดชอบ 16 ตําบล 5 อําเภอของจังหวัดกระบี่ ด้วยวิธีการซุ่มตรวจเรือประมงพาณิชย์ ประเภทเรืออวนล้อม หรือเรืออวนดํา จํานวน 7 ลํา พบแรงงานทั้งหมด 186 คน คนไทย 129 คน สัญชาติพม่า 34 คน สัญชาติกัมพูชา 23 คนผลปรากฎ ไม่พบการกระทําความผิดแต่อย่างใด โอกาสเดียวกันนี้ รองผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ ได้ตรวจเยี่ยมพบปะทักทายกับแรงงานเรือประมงทั้งชาวไทยและชาวต่างด้าว พร้อมให้กําลังใจในการประกอบอาชีพและให้ปฏิบัติตนให้ถูกต้อง และต้องเข้มงวดป้องกันตัวเองภายใต้มาตรการการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 กําชับให้แรงงานที่ได้รับวัคซีน 2 เข็ม เร่งให้ไปรับวัคซีนเข็มกระตุ้น และดูแลการบริหารจัดการขยะทะเลเนื่องจากจังหวัดกระบี่ เป็นเมืองท่องเที่ยว ให้นายจ้างหรือสถานประกอบการดูแลด้านสวัสดิการเป็นอย่างดี และขอให้ประกอบอาชีพ อยู่ในประเทศไทยและจังหวัดกระบี่อย่างปลอดภัยและมีความสุข ควบคู่มาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19//#ประชาสัมพันธ์จังหวัดกระบี่#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
|
12/1/2023
|
ภาคใต้
|
กระบี่
|
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดกระบี่
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230112094544269
| null |
ผู้ว่าฯ โคราช ประกาศวาระ “ตำบลเข้มแข็ง ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง” จังหวัดนครราชสีมา
|
นายสยาม ศิริมงคล ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เป็นประธานเปิดกิจกรรม Kick off ประกาศวาระ “ตําบลเข้มแข็ง ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง” จุดนําร่อง ณ ศาลาประชาคมบ้านห้วยทราย หมู่ที่ 6 ตําบลหนองมะนาว อําเภอคง มีนางอรุณรัตน์ ชิงชนะ พัฒนาการจังหวัดนครราชสีมา กล่าวรายงานวัตถุประสงค์ พร้อมด้วย นายนิติพัฒน์ ขอดทอง นายอําเภอคง หัวหน้าส่วนราชการประจําอําเภอคง ผู้นําชุมชน นายก และผู้นําองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทุกตําบล กํานัน/ผู้ใหญ่บ้าน ผู้นําอาสาพัฒนาชุมชน ผู้นําองค์กรสตรี และภาคีเครือข่ายพัฒนาชุมชน เข้าร่วมกิจกรรมฯ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา กล่าวว่า จังหวัดนครราชสีมา ได้เล็งเห็นถึงความสําคัญของการบริหารจัดการชุมชนโดยชุมชน ด้วยการพัฒนาเศรษฐกิจชุมชนให้เข้มแข็ง ประชาชนในตําบลน้อมนําหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงสู่การปฏิบัติจนเป็นวิถีชีวิต การส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิตเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน และการสร้างพลังชุมชน โดยใช้ของพลังชุมชน ในการพัฒนาชุมชน มาปรับใช้ในการขับเคลื่อนตําบลเข้มแข็ง ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ให้มีความเข้มแข็งครอบคลุมทั้ง 3 มิติ คือ มิติด้านความมั่นคง มิติด้านความมั่งคั่ง และมิติด้านความยั่งยืน การขับเคลื่อนตําบลให้เข้มแข็งจะสัมฤทธิ์ผลได้จะต้องเติมเต็มในส่วนที่ขาด พัฒนาต่อยอดในส่วนที่มีความพร้อมอย่างต่อเนื่อง โดยอาศัยความร่วมมือจาก 7 ภาคีเครือข่ายการพัฒนาของตําบล เพื่อให้ประชาชนทุกช่วงวัยในตําบล มีคุณภาพชีวิตที่ดีบนพื้นฐานของแนวคิด “ไม่ทิ้งใคร ไว้ข้างหลัง” นําสู่เศรษฐกิจฐานรากมั่นคง ชุมชนเข้มแข็งอย่างยั่งยืน ด้วยหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ด้านนางอรุณรัตน์ ชิงชนะ พัฒนาการจังหวัดนครราชสีมา กล่าวว่า ตําบลเข้มแข็ง ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง มีจุดมุ่งหมายเพื่อให้ตําบลมีการบริหารจัดการชุมชนโดยชุมชน เศรษฐกิจชุมชนเข้มแข็ง ประชาชนในตําบลน้อมนําหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงสู่การปฏิบัติจนเป็นวิถี มีการส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิตเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) โดยการบูรณาการ 7 ภาคีเครือข่ายการพัฒนา ประกอบด้วย ภาครัฐ ภาควิชาการ ภาคผู้นําศาสนา ภาคเอกชน ภาคประชาชน ภาคประชาสังคม และภาคสื่อมวลชน ทําหน้าที่ส่งเสริมพัฒนาตําบลให้มีความเข้มแข็ง ครอบคลุมใน 3 มิติ ซึ่งทุกอําเภอเริ่มดําเนินการตั้งแต่วันื่ 11 มกราคม 2566 เป็นต้นไปดังนี้ มิติที่ 1 ด้านความมั่นคง ประกอบด้วย การสร้างความมั่นคงทางอาหาร การให้ความมั่นคงในชีวิตของประชาชน การสร้างความสามัคคีปรองดอง การยึดหลักประชาธิปไตย การทําให้ตําบลปลอดอบายมุขและยาเสพติด และการมีส่วนร่วมในการบริหารจัดการชุมชนในทุกด้าน มิติที่ 2 ด้านความมั่งคั่ง ประกอบด้วย การสร้างโอกาสและลดความเหลื่อมล้ําทางสังคม การสร้างและพัฒนาแหล่งทุนชุมชน การสร้างเศรษฐกิจของตําบลให้เข้มแข็งอย่างยั่งยืน มิติที่ 3 ด้านความยั่งยืน ประกอบด้วย การส่งเสริมการน้อมนําหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงสู่การปฏิบัติจนเป็นวิถีชีวิต การอนุรักษ์ปกปักรักษาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม การส่งเสริมการเรียนรู้ ของประชาชน เพื่อการพึ่งตนเอง และการมีส่วนร่วมของเครือข่ายภาคีในการพัฒนา#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
|
12/1/2023
|
ภาคกลางและปริมณฑล
|
กรุงเทพมหานคร
|
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนครราชสีมา
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230112104353299
| null |
ผู้ว่าฯ โคราช ประกาศวาระ “ตำบลเข้มแข็ง ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง” จังหวัดนครราชสีมา
|
นายสยาม ศิริมงคล ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เป็นประธานเปิดกิจกรรม Kick off ประกาศวาระ “ตําบลเข้มแข็ง ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง” จุดนําร่อง ณ ศาลาประชาคมบ้านห้วยทราย หมู่ที่ 6 ตําบลหนองมะนาว อําเภอคง มีนางอรุณรัตน์ ชิงชนะ พัฒนาการจังหวัดนครราชสีมา กล่าวรายงานวัตถุประสงค์ พร้อมด้วย นายนิติพัฒน์ ขอดทอง นายอําเภอคง หัวหน้าส่วนราชการประจําอําเภอคง ผู้นําชุมชน นายก และผู้นําองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทุกตําบล กํานัน/ผู้ใหญ่บ้าน ผู้นําอาสาพัฒนาชุมชน ผู้นําองค์กรสตรี และภาคีเครือข่ายพัฒนาชุมชน เข้าร่วมกิจกรรมฯ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา กล่าวว่า จังหวัดนครราชสีมา ได้เล็งเห็นถึงความสําคัญของการบริหารจัดการชุมชนโดยชุมชน ด้วยการพัฒนาเศรษฐกิจชุมชนให้เข้มแข็ง ประชาชนในตําบลน้อมนําหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงสู่การปฏิบัติจนเป็นวิถีชีวิต การส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิตเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน และการสร้างพลังชุมชน โดยใช้ของพลังชุมชน ในการพัฒนาชุมชน มาปรับใช้ในการขับเคลื่อนตําบลเข้มแข็ง ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ให้มีความเข้มแข็งครอบคลุมทั้ง 3 มิติ คือ มิติด้านความมั่นคง มิติด้านความมั่งคั่ง และมิติด้านความยั่งยืน การขับเคลื่อนตําบลให้เข้มแข็งจะสัมฤทธิ์ผลได้จะต้องเติมเต็มในส่วนที่ขาด พัฒนาต่อยอดในส่วนที่มีความพร้อมอย่างต่อเนื่อง โดยอาศัยความร่วมมือจาก 7 ภาคีเครือข่ายการพัฒนาของตําบล เพื่อให้ประชาชนทุกช่วงวัยในตําบล มีคุณภาพชีวิตที่ดีบนพื้นฐานของแนวคิด “ไม่ทิ้งใคร ไว้ข้างหลัง” นําสู่เศรษฐกิจฐานรากมั่นคง ชุมชนเข้มแข็งอย่างยั่งยืน ด้วยหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ด้านนางอรุณรัตน์ ชิงชนะ พัฒนาการจังหวัดนครราชสีมา กล่าวว่า ตําบลเข้มแข็ง ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง มีจุดมุ่งหมายเพื่อให้ตําบลมีการบริหารจัดการชุมชนโดยชุมชน เศรษฐกิจชุมชนเข้มแข็ง ประชาชนในตําบลน้อมนําหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงสู่การปฏิบัติจนเป็นวิถี มีการส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิตเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) โดยการบูรณาการ 7 ภาคีเครือข่ายการพัฒนา ประกอบด้วย ภาครัฐ ภาควิชาการ ภาคผู้นําศาสนา ภาคเอกชน ภาคประชาชน ภาคประชาสังคม และภาคสื่อมวลชน ทําหน้าที่ส่งเสริมพัฒนาตําบลให้มีความเข้มแข็ง ครอบคลุมใน 3 มิติ ซึ่งทุกอําเภอเริ่มดําเนินการตั้งแต่วันื่ 11 มกราคม 2566 เป็นต้นไปดังนี้ มิติที่ 1 ด้านความมั่นคง ประกอบด้วย การสร้างความมั่นคงทางอาหาร การให้ความมั่นคงในชีวิตของประชาชน การสร้างความสามัคคีปรองดอง การยึดหลักประชาธิปไตย การทําให้ตําบลปลอดอบายมุขและยาเสพติด และการมีส่วนร่วมในการบริหารจัดการชุมชนในทุกด้าน มิติที่ 2 ด้านความมั่งคั่ง ประกอบด้วย การสร้างโอกาสและลดความเหลื่อมล้ําทางสังคม การสร้างและพัฒนาแหล่งทุนชุมชน การสร้างเศรษฐกิจของตําบลให้เข้มแข็งอย่างยั่งยืน มิติที่ 3 ด้านความยั่งยืน ประกอบด้วย การส่งเสริมการน้อมนําหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงสู่การปฏิบัติจนเป็นวิถีชีวิต การอนุรักษ์ปกปักรักษาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม การส่งเสริมการเรียนรู้ ของประชาชน เพื่อการพึ่งตนเอง และการมีส่วนร่วมของเครือข่ายภาคีในการพัฒนา#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
|
12/1/2023
|
ภาคกลางและปริมณฑล
|
กรุงเทพมหานคร
|
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนครราชสีมา
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230112103122293
| null |
ส.ปชส.ตราด ประชาสัมพันธ์มาตรการเฝ้าระวังนักโทษเด็ดขาดหลังพ้นโทษคดีเกี่ยวกับเพศ ป้องกันการกระทำความผิดซ้ำ
|
(12 ม.ค. 66) สํานักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดตราด รายงานว่า คณะรัฐมนตรีเห็นชอบร่างกฎกระทรวงมาตรการเฝ้าระวังนักโทษเด็ดขาดภายหลังพ้นโทษ เพื่อกําหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขต่าง ๆ ก่อนปล่อยตัวนักโทษเด็ดขาดในความผิดเกี่ยวกับเพศหรือที่ใช้ความรุนแรง สอดรับ พ.ร.บ. มาตรการป้องกันการกระทําผิดซ้ําฯ ที่มีผลบังคับใช้ 23 มกราคม 2565 ทั้งนี้เพื่อเป็นการแก้ปัญหาและลดอัตราการกระทําความผิดซ้ํา จากข้อมูลของกระทรวงยุติธรรม พบว่า ผู้กระทําผิดอุกฉกรรจ์ที่ใช้ความรุนแรง เมื่อพ้นโทษแล้ว จะกระทําความผิดซ้ํา ในระยะเวลา 3 ปี มากกว่าร้อยละ 50 จึงมีความจําเป็นต้องออกกฎหมายฉบับนี้ขึ้นขอบเขตการบังคับใช้ สําหรับนักโทษเด็ดขาดซึ่งศาลมีคําพิพากษาว่าเป็นผู้กระทําความผิดเกี่ยวกับเพศ ความผิดต่อชีวิต ความผิดต่อร่างกาย และความผิดต่อเสรีภาพ เช่น การข่มขืนกระทําชําเรา การฆ่าผู้อื่น การทําร้ายจนเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย การนําตัวบุคคลไปเรียกค่าไถ่ เป็นต้นพร้อมกําหนดให้มีคณะกรรมการประจําเรือนจําในแต่ละเรือนจํา ไม่น้อยกว่า 5 คน มีหน้าที่ทํารายงานจําแนกลักษณะของนักโทษเด็ดขาด และให้ความเห็นว่าสมควรใช้มาตรการเฝ้าระวังใด และระยะเวลาใช้มาตรการที่เหมาะสมภายในเวลาไม่เกิน 2 ปี ก่อนปล่อยตัวนักโทษเด็ดขาดแต่ละราย ให้เจ้าพนักงานเรือนจํารวบรวมข้อมูล จําแนกลักษณะของนักโทษเด็ดขาด และให้เสนอความเห็นต่อคณะกรรมการประจําเรือนจํา พิจารณากําหนดมาตรการป้องกันการกระทําความผิดซ้ํากรณีที่ปรากฏเหตุอันควรเชื่อได้ว่าผู้นั้นจะไปกระทําความผิดและไม่มีมาตรการอื่นที่อาจป้องกันไม่ให้ผู้นั้นไปกระทําความผิดได้ ให้พนักงานคุมประพฤติเสนอความเห็นต่อพนักงานอัยการภายใน 15 วัน เพื่อพิจารณายื่นคําร้องต่อศาลให้มีคําสั่งใช้มาตรการคุมขังแก่ผู้ถูกเฝ้าระวัง เพื่อป้องกันการกระทําความผิดซ้ําหากผู้ถูกเฝ้าระวังมีพฤติการณ์ว่าจะก่อเหตุร้ายให้เกิดอันตรายแก่บุคคลอื่นโดยมีเครื่องมือ อาวุธ หรือวัตถุอย่างอื่นในการกระทําความผิด ให้พนักงานคุมประพฤติเสนอความเห็นต่อพนักงานอัยการ เพื่อพิจารณายื่นคําร้องต่อศาลในท้องที่ เพื่อขอให้ศาลมีคําสั่งให้คุมขังฉุกเฉินภายใน 24 ชั่วโมง#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
|
12/1/2023
|
ภาคตะวันออก
|
ตราด
|
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดตราด
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230112123643341
| null |
มาตรการป้องกันการกระทำผิดซ้ำของนักโทษคดีเกี่ยวกับเพศและความรุนแรง
|
มาตรการป้องกันการกระทําผิดซ้ําของนักโทษคดีเกี่ยวกับเพศและความรุนแรง ครม. อนุมัติร่างกฎกระทรวงว่าด้วยมาตรการเฝ้าระวังนักโทษเด็ดขาดภายหลังพ้นโทษ มาตรการคุมขังภายหลังพ้นโทษ และการคุมขังฉุกเฉิน พ.ศ. .... ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ ครม. อนุมัติร่างกฎกระทรวงว่าด้วยมาตรการเฝ้าระวังนักโทษเด็ดขาดภายหลังพ้นโทษ มาตรการคุมขังภายหลังพ้นโทษ และการคุมขังฉุกเฉิน พ.ศ. .... ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ เพื่อให้สอดรับกับ พ.ร.บ. มาตรการป้องกันการกระท้าความผิดซ้ํา ในความผิดเกี่ยวกับเพศหรือที่ใช้ความรุนแรง พ.ศ. 2565 เพื่อป้องกันและเฝ้าระวังการก่ออาชญากรรมและสร้างความปลอดภัยให้สังคม พ.ร.บ. มาตรการป้องกันการกระทําความผิดซ้ําในความผิดเกี่ยวกับเพศหรือที่ใช้ความรุนแรง พ.ศ.2565 มีผลบังคับใช้เมื่อพ้นกําหนด 90 วัน นับแต่วันที่ 26 ตุลาคม 2565 ที่ประกาศในราชกิจจานุเบกษา เพื่อแก้ปัญหาและลดอัตราการกระทําความผิดซ้ํา จากข้อมูลของกระทรวงยุติธรรม พบว่า ผู้กระทําผิดอุกฉกรรจ์ที่ใช้ความรุนแรง เมื่อพ้นโทษแล้ว จะกระทําความผิดซ้ําในระยะเวลา 3 ปี มากกว่าร้อยละ 50 จึงมีความจําเป็นต้องออกกฎหมายฉบับนี้ขึ้น 1. กําหนดให้มีคณะกรรมการ 2 ชุด คณะกรรมการป้องกันการกระทําความผิดซ้ํา ที่กําหนดนโยบายและแผนการป้องกันการกระทําความผิดซ้ําของผู้กระทําความผิดให้คําปรึกษาและข้อเสนอแนะ คณะกรรมการพิจารณากําหนดมาตรการป้องกันการกระทําความผิดซ้ํา คอยกําหนดมาตรการเฝ้าระวังนักโทษเด็ดขาดภายหลังพ้นโทษ มาตรการคุมขังภายหลังพ้นโทษ เป็นต้น 2. มาตรการแก้ไขฟื้นฟูผู้กระทําความผิด พนักงานอัยการมีอํานาจยื่นคําร้องขอให้ศาลมีคําสั่งให้ใช้มาตรการแก้ไขฟื้นฟูผู้กระทําความผิดในระหว่างรับโทษจําคุก เพื่อป้องกันไม่ให้กระทําความผิดซ้ํา ด้วยมาตรการทางการแพทย์ หรือมาตรการอื่นๆ ที่รัฐมนตรีกระทรวงยุติธรรมกําหนดในกฎกระทรวง 3. มาตรการเฝ้าระวังนักโทษเด็ดขาดภายหลังพ้นโทษ หากมีเหตุให้เชื่อว่านักโทษเด็ดขาดจะกระทําความผิดซ้ําภายหลังพ้นโทษ ศาลอาจมีคําสั่งกําหนดมาตรการเฝ้าระวังนักโทษเด็ดขาดภายหลังพ้นโทษได้ เช่น ห้ามเข้าใกล้ผู้เสียหาย ห้ามทํากิจกรรมที่เสี่ยงต่อการกระทําความผิด ห้ามเข้าเขตกําหนด ห้ามออกนอกประเทศเว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากศาล ห้ามก่อให้เกิดอันตรายต่อละแวกชุมชนที่ตนพักอาศัย ให้พักอาศัยในสถานที่ที่กําหนด เป็นต้น 4.มาตรการคุมขังภายหลังพ้นโทษ ศาลอาจมีคําสั่งให้ใช้มาตรการคุมขังภายหลังพ้นโทษแก่นักโทษเด็ดขาด หากศาลเห็นว่ามีเหตุเชื่อได้ว่าผู้นั้นจะไปกระทําความผิดซ้ํา 5.การคุมขังฉุกเฉิน ป้องกันผู้ถูกเฝ้าระวังก่อเหตุฉุกเฉิน โดยเมื่อมีกรณีนี้พนักงานอัยการจะร้องขอศาลให้สั่งคุมขังฉุกเฉินผู้ถูกเฝ้าระวังได้ไม่เกิน 7 วันนับแต่วันที่ศาลมีคําสั่ง ภายหลังพ.ร.บ. ดังกล่าวมีผลบังคับใช้ ครม.จึงได้อนุมัติร่างกฎกระทรวงว่าด้วยมาตรการเฝ้าระวังนักโทษเด็ดขาดภายหลังพ้นโทษ มาตรการคุมขังภายหลังพ้นโทษ และการคุมขังฉุกเฉิน พ.ศ. ... เพื่อกําหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการพิจารณามาตรการเฝ้าระวังนักโทษเด็ดขาดภายหลังพ้นโทษ มาตรการคุมขังภายหลังพ้นโทษ และการคุมขังฉุกเฉิน เป็นต้น โดยจะมีผลกับนักโทษขั้นเด็ดขาด ได้แก่ กลุ่มผู้กระทําความผิดเกี่ยวกับเพศ ความผิดต่อชีวิต ความผิดต่อร่างกาย และความผิดต่อเสรีภาพ ตามประมวลกฎหมายอาญา ประกอบด้วย - ผู้กระทําความผิดเกี่ยวกับเพศ เช่น การข่มขืนกระทําชําเรา การกระทําชําเราเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี การพาบุคคล อายุ 15-18 ปี เพื่อการอนาจาร การพาผู้อื่น ไปเพื่อการอนาจารโดยใช้อุบายหลอกลวงขู่เข็ญ - ผู้กระทําความผิดต่อชีวิต เช่น การฆ่าผู้อื่น การฆ่าผู้อื่นโดยเหตุฉกรรจ์ - ผู้กระทําความผิดต่อร่างกาย เช่น ทําร้ายผู้อื่นจนถึงแก่ความตาย ได้รับอันตรายสาหัส หรือทําร้ายร่างกายผู้อื่นจนได้รับอันตรายสาหัสโดยเหตุฉกรรจ์ - ผู้ที่นําตัวบุคคลไปเรียกค่าไถ่ โดยมีคณะกรรมการประจําเรือนจําในแต่ละเรือนจํา ทั้งผู้บัญชาการเรือนจําและเจ้าพนักงานเรือนจํา ไม่ต่ํากว่า 5 คน ทําหน้าที่พิจารณากลั่นกรองข้อมูลจําแนกลักษณะของนักโทษเด็ดขาด และให้ความเห็นว่านักโทษเด็ดขาดสมควรใช้มาตรการเฝ้าระวังใด รวมทั้งเสนอวิธีการและระยะเวลาในการใช้มาตรการที่เหมาะสม โดยกรมราชทัณฑ์จะพิจารณารายกรณี 2 ปีก่อนปล่อยตัวอย่างไรก็ตาม หากเชื่อได้ว่าผู้ถูกเฝ้าระวังจะไปทําความผิดและไม่มีมาตรการอื่นป้องกันให้พนักงานคุมประพฤติเสนอความเห็นต่อพนักงานอัยการภายใน 15 วัน เพื่อพิจารณายื่นคําร้องต่อศาลให้มีคําสั่งใช้มาตรการคุมขังผู้ถูกเฝ้าระวัง หากผู้ถูกเฝ้าระวังจะไปกระทําความผิดซ้ํา และเป็นเหตุฉุกเฉิน โดยผู้ถูกเฝ้าระวังมีลักษระต้องสงสัยที่จะก่อเหตุร้าย ทั้งมีอาวุธหรือวัตถุที่เป็นอันตราย ให้พนักงานคุมประพฤติเสนอความเห็นต่อพนักงานอัยการ เพื่อพิจารณายื่นคําร้องต่อศาลในท้องที่ ให้ศาลมีคําสั่งให้คุมขังฉุกเฉินภายใน 24 ชั่วโมง สํานักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดกาญจนบุรี : ข่าว/ภาพภัสร์ภรณ์ เหลืองทอง-ข่าว #สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
|
12/1/2023
|
ภาคตะวันตก
|
กาญจนบุรี
|
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดกาญจนบุรี
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230112144734393
| null |
นายกรัฐมนตรี กล่าวถ้อยแถลง ผลักดันความร่วมมือระหว่างประเทศกำลังพัฒนา ยกระดับความเป็นอยู่ของประชาชน
|
พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถ้อยแถลงในพิธีเปิดการประชุม Voice of the South Summit ภายใต้หัวข้อหลัก “เสียงของประเทศกําลังพัฒนา สู่การพัฒนาที่มีมนุษย์เป็นศูนย์กลาง ” ผ่านระบบการประชุมทางไกล ตามคําเชิญของนายนเรนทร โมที นายกรัฐมนตรีอินเดีย นายกรัฐมนตรีได้เสนอ 3 แนวคิด ให้อินเดียในฐานะประธาน G20 เป็นกระบอกเสียงให้ผลักดันระบบเศรษฐกิจโลกไปสู่ “ยุคโลกาภิวัตน์ที่มีมนุษย์เป็นศูนย์กลาง” มีความยั่งยืนและครอบคลุม ได้แก่ แสวงหาแนวทางการพัฒนาแบบองค์รวม รับมือกับวิกฤตโลก ร่วมมือผลักดันกระบวนทัศน์ด้านการพัฒนา มุ่งยกระดับความเป็นอยู่ของประชาชนและความยืดหยุ่นเพื่อรับมือกับความไม่แน่นอนและวิกฤตต่างๆ ในอนาคต โดยเฉพาะวิกฤตด้านอาหาร พลังงานและปุ๋ย ไทยในฐานะประธาน BIMSTEC ปี 2566 ยินดีร่วมมือกับอินเดียเพื่อส่งเสริมความเชื่อมโยงด้านโครงสร้างพื้นฐาน การเดินเรือ พลังงานและดิจิทัลในภูมิภาคอ่าวเบงกอลให้มากยิ่งขึ้นโอกาสนี้ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ไทยพร้อมกระชับความเป็นหุ้นส่วนเพื่อการพัฒนากับอินเดียในฐานะประธาน G20 รักษาผลประโยชน์ร่วมกันของประเทศกําลังพัฒนาอย่างครอบคลุม เพื่อจะนํามาซึ่งความเจริญรุ่งเรืองร่วมกันอย่างยั่งยืนและเข้มแข็งสําหรับอนุชนคนรุ่นหลัง การประชุม Voice of the South Summit เป็นข้อริเริ่มของอินเดียในฐานะประธาน G20 เพื่อเป็นโอกาสและเวทีสําหรับประเทศกําลังพัฒนาที่ไม่ใช่สมาชิก G20 ให้สะท้อนมุมมองและแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นเกี่ยวกับประเด็นความท้าทายระดับโลกต่างๆ ที่ประเทศกําลังพัฒนากําลังประสบอยู่และหาทางออกด้านการพัฒนาอย่างรับผิดชอบและครอบคลุม โดยจะนําไปขยายผลประกอบการหารือในการประชุมผู้นํา G20 ปลายปีนี้ต่อไป
|
12/1/2023
|
ภาคกลางและปริมณฑล
|
กรุงเทพมหานคร
|
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230112145321397
| null |
กกต. ยืนยันเตรียมแบ่งเขตเลือกตั้งไว้แล้วตามกฎหมายและวิธีการจัดการเลือกตั้งต้องโปร่งใส ประชาชนมีส่วนร่วมในการตรวจสอบ
|
การประชุมสภาผู้แทนราษฎรวันนี้ (12 ม.ค.66) พิจารณารายงานผลการดําเนินงานของสํานักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง โดยมีนายแสวง บุญมี เลขาธิการ กกต. และผู้บริหารสํานักงาน กกต. เข้าชี้แจงต่อที่ประชุม โดยสมาชิกส่วนใหญ่ต่างอภิปรายขอให้ กกต. ดําเนินการแบ่งเขตเลือกตั้งด้วยความโปร่งใสเป็นธรรมและดําเนินการด้วยความรวดเร็วเพราะเขตเลือกตั้งมีส่วนสําคัญในการจัดสรรผู้สมัครและตั้งสาขาพรรคการเมือง เพื่อเข้าสู่กระบวนการเลือกตั้ง เพราะขั้นตอนเหล่านี้ต้องใช้เวลาพอสมควร หาก กกต. ยังไม่ประกาศเขตเลือกตั้งพรรคการเมืองไม่สามารถขับเคลื่อนกิจกรรมต่างๆ ได้ รวมทั้งเสนอแนะให้ กกต. พิจารณาวินิจฉัยคุณสมบัติของผู้สมัครที่จะลงรับเลือกตั้งก่อนวันเลือกตั้ง เพื่อให้ผู้สมัครได้รู้ความผิดพลาดและแก้ไขได้ทันเวลาจะได้ไม่เสียสิทธิในการลงสมัครรับเลือกตั้ง ขณะเดียวกันการวินิจฉัยความผิดต่างๆ เช่น ป้ายหาเสียง เรื่องร้องเรียนจะต้องทําด้วยความรวดเร็วและเป็นธรรมนายแสวง บุญมี ระบุว่า ยินดีรับคําชี้แนะของสมาชิกเพื่อนําไปปรับปรุงแก้ไขการทํางานให้เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ พร้อมยืนยันว่า สํานักงาน กกต. มีกติกาหรือกฎหมายที่ดี และ กกต. ปฏิบัติตามกฎหมายทุกเรื่องไม่มีใครอยู่เหนือกฎหมาย ซึ่งการจัดการเลือกตั้งที่ดี จะต้องมีองค์ประกอบสําคัญ 4 ส่วนคือ การมีหน่วยเลือกตั้งที่ดี ประชนชนเลือกผู้สมัครอย่างไรผลการเลือกตั้งต้องออกมาตามนั้น มีการบริหารจัดการอํานวยความสะดวก โปร่งใส และประชาชน พรรคการเมือง สื่อมวลชนมีส่วนร่วมในการตรวจสอบการเลือกตั้งให้เป็นไปตามกฎหมายเพื่อให้การเลือกตั้งเป็นไปอย่างบริสุทธิ์ยุติธรรมสําหรับการแบ่งเขต ขณะนี้กระทรวงมหาดไทย ได้ประกาศจํานวนประชากรปี 2565 เรียบร้อยแล้ว ซึ่งทางสํานักงาน กกต. เตรียมข้อมูลสําหรับการแบ่งเขตไว้แล้ว โดยมีวิธีการที่เป็นไปตามกฎหมาย คํานึงถึงความเที่ยงธรรม รับฟังความเห็นจาก ผู้สมัคร พรรคการเมือง ว่ารูปแบบการแบ่งเขตต้องการแบบใดบ้าง ซึ่งแต่ละจังหวัดต้องส่งมาให้พิจารณาอย่างน้อย 3 รูปแบบ เพื่อให้การแบ่งเขตเป็นที่ยอมรับของทุกฝ่าย ซึ่งในการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมาก็ใช้วิธีการเดียวกันนี้
|
12/1/2023
|
ภาคกลางและปริมณฑล
|
กรุงเทพมหานคร
|
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230112161008451
| null |
จ.สุพรรณบุรี จัดพิธีบรรพชาอุปสมบท ตามโครงการบรรพชาอุปสมบท 99 รูป ถวายพระพรชัยมงคลแด่สมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา
|
ที่ ศาลาธมฺมธโรนุสรณ์ 80 ปี วัดไทรงามธรรมธราราม ตําบลดอนมะสังข์ อําเภอเมืองสุพรรณบุรี จังหวัดสุพรรณบุรี นายณัฐภัทร สุวรรณประทีป ผู้ว่าราชการจังหวัดสุพรรณบุรี เป็นประธานฝ่ายฆราวาสในพิธีบรรพชาสามเณร ตามโครงการบรรพชาอุปสมบท 99 รูป ถวายพระพรชัยมงคลแด่สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา ให้พระองค์ทรงหายจากพระประชวร และทรงมีพระพลานามัยแข็งแรงในเร็ววัน โดยจังหวัดสุพรรณบุรีมีผู้เข้าร่วมโครงการบรรพชาอุปสมบทฯ จํานวน 103 รายโดยมีพระครูวิบูลเจติยานุรักษ์ ดร. เจ้าคณะจังหวัดสุพรรณบุรี เจ้าอาวาสวัดดอนเจดีย์ เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ มีข้าราชการตุลาการ ทหาร ตํารวจ หัวหน้าส่วนราชการ เหล่ากาชาดจังหวัดสุพรรณบุรี หน่วยงานรัฐวิสาหกิจ ภาคเอกชน และพุทธศาสนิกชน ประชาชน เข้าร่วมพิธีเป็นจํานวนมาก โดยหลังจากพิธีบรรพชาสามเณรแล้ว ได้มีพิธีอุปสมบท ณ พัทธสีมาวัดไทรงามธรรมธราราม วัดสองเขตสามัคคี วัดดอนเจดีย์ราษฎร์บูรณะ ตําบลดอนมะสังข์ อําเภอเมืองสุพรรณบุรี วัดดอนตาล และ วัดไผ่เกาะโพธิ์งาม ตําบลดอนตาล อําเภอเมืองสุพรรณบุรี โดยพระภิกษุสงฆ์ในโครงการทุกรูป จะศึกษาพระไตรปิฎกเพื่อการดํารงชีวิต พุทธประวัติ แนวทางปฏิบัติสมาธิเจริญจิตตภาวนา และร่วมพิธีเจริญพระพุทธมนต์ ถวายเป็นพระราชกุศล แด่สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา ณ วัดไทรงามธรรมธราราม เป็นเวลา 15 วัน และจะมีพิธีลาสิกขาในวันที่ 26 มกราคม 2566#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
|
12/1/2023
|
ภาคกลางและปริมณฑล
|
สุพรรณบุรี
|
สวท.สุพรรณบุรี
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230112193819543
| null |
ผู้อำนวยการสำนักงานประสานภารกิจด้านความมั่นคงกับกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร กองทัพเรือ ตรวจเยี่ยมและมอบนโยบายในการปฏิบัติงาน ณ กอ. รมน.จังหวัดนราธิวาส
|
ผู้อํานวยการสํานักงานประสานภารกิจด้านความมั่นคงกับกองอํานวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร กองทัพเรือ ตรวจเยี่ยมและมอบนโยบายในการปฏิบัติงาน ณ .กอ.รมน.จังหวัดนราธิวาสวันที่ 12 ม.ค. 66 เวลา 11.00 น. น.อ.ศิลป์ชัย ประสมศรี รองผู้อํานวยการสํานักประสานภารกิจรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดกลุ่มที่ 1 สํานักประสานภารกิจด้านความมั่นคงกับกองอํานวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร กองทัพเรือ/รอง ผอ.รมน. จังหวัด น.ธ.(ท.) และฝ่ายอํานวยการ บก.กอ.รมน.จังหวัดนราธิวาสให้การต้อนรับผู้อํานวยการสํานักงานประสานภารกิจด้านความมั่นคงกับกองอํานวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร กองทัพเรือและคณะ ในโอกาสตรวจเยี่ยมหน่วย สรมน.น.ธ.พร้อมฟังบรรยายสรุปและรับมอบนโยบายในการปฏิบัติงาน ณ ห้องประชุมชั้น 2 บก.กอ.รมน.จังหวัดนราธิวาส(ศาลากลางหลังเก่า)#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
|
12/1/2023
|
ภาคใต้
|
นราธิวาส
|
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนราธิวาส
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230112202509555
| null |
นายกรัฐมนตรี เชื่อพลเอก ประวิตร โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก เป็นความปรารถนาดี ย้ำ 3 ป ไม่เคยแตกแยกกัน
|
พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงกรณี พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี โพสต์จดหมายเปิดใจผ่าน Facebook ว่า ยังไม่เห็น แต่เชื่อว่า ท่านจะมอบความปรารถนาดีที่มีให้กันมาโดยตลอด ไม่มีปัญหาอะไร พร้อมย้ํา 3 ป. ไม่แตกแยกกัน ส่วนข้อความที่เขียนเป็นเชิงน้อยใจ พลเอก ประยุทธ์ กล่าวว่า ยังไม่ได้ฟังเลย จะน้อยใจได้อย่างไร เราไม่ใช่คนขี้ใจน้อยกันอยู่แล้ว หากมีเวลาก็จะร่วมดื่มกาแฟตอนเช้าอยู่แล้ว แต่ไม่ได้มีเวลาว่างทุกวัน เพราะมีงานต้องทํา แต่หากว่างเมื่อไหร่ก็จะไป ขออย่ามองทุกอย่างเป็นเรื่องการเมือง อยู่ด้วยกันมา 40 ถึง 50 ปี เคยร่วมเป็นร่วมตายกันในสนามรบ อยู่ชายแดนด้วยกันมาแล้วส่วนจะฝากอะไรถึง พลเอก ประวิตร หรือไม่ พลเอก ประยุทธ์ กล่าวว่า ไม่มี ไม่ต้องฝากใคร เพราะสามารถพูดคุยกันได้โดยตรงอยู่แล้ว พร้อมถามกลับสื่อมวลชนว่า ทําไมต้องขุดคุยเรื่องแบบนี้ออกมา แต่ก็ทนได้เพราะตนเองไม่จําเป็นต้องตอบทุกเรื่องอยู่แล้ว
|
13/1/2023
|
ภาคกลางและปริมณฑล
|
กรุงเทพมหานคร
|
Radio-สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230113155315783
| null |
ปัตตานี จัดกิจกรรมซักซ้อมแผนรักษาความปลอดภัยเมืองปัตตานีประจำเดือน มกราคม พ.ศ. 2566
|
วันนี้ (13 มกราคม 2566) เวลา 09.00น. ที่ลานศิลปวัฒนธรรม ถนนสายบุรี นายสนั่น สนธิเมือง รองผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี เป็นประธานในพิธีซักซ้อมแผนรักษาความปลอดภัยเขตเมืองปัตตานี โดยมีผู้บังคับบัญชา และเจ้าหน้าที่เข้าร่วมซักซ้อมอย่างพร้อมเพรียง พันตํารวจโท นริศ อัมพวัน รองผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจตํารวจปัตตานี 92 กล่าวว่า การจัดซักซ้อมแผนรักษาความปลอดภัยครั้งนี้ สืบเนื่องจาก กองอํานวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้าได้กําหนดให้หน่วยต่าง ๆ ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้มีการซักซ้อมแผนรักษาความปลอดภัยเขตเมือง โดยกําลัง 4 ฝ่ายได้วางแผนและจัดทําแผนรักษาความปลอดภัย เขตชุมชนเมืองขึ้น ซึ่งได้กําหนดขั้นตอนในการปฏิบัติให้ครอบคลุมทั้ง 3 มิติ คือขั้นก่อนการเกิดเหตุ ขั้นระหว่างเกิดเหตุ และขั้นหลังเกิดเหตุ โดยจําลองสถานการณ์ตามหลักนิยมของกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรง รวมถึงนําบทเรียนจากการรบมาเป็นแนวทาง ในการซักซ้อม เพื่อให้กําลัง’ทหาร ตํารวจ สมาชิกอาสาสมัคร์รักษาดินแดนและภาคประชาชน ได้มีความรู้ ความเข้าใจ ในการปฏิบัติงาน พร้อมรับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ได้ทราบขั้นตอน และแนวทางการปฏิบัติ สร้างความมั่นใจในการปฏิบัติงานร่วมกัน สามารถทําลายความพยายาม การก่อเหตุของกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรง ไม่ให้ก่อเหตุในพื้นที่ ซึ่งจะทําให้ประชาชนในพื้นที่ มีความเชื้อมั่นในการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่รัฐ สามารถรักษาดวามปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ของประชาชนในพื้นที่ ให้อยู่อย่างปกติสุข ซึ่งจะนําไปสู่การพัฒนาระบบเศรษฐกิจในพื้นที่จังหวัดปัตตานีอย่างยั่งยืน สําหรับการซักซ้อมแผนรักษาความปลอดภัยพื้นที่เมืองปัตตานี ในครั้งนี้ แบ่งการปฏิบัติเป็นขั้นตอน สําหรับวันนี้จะเป็นการฝึกปฏิบัติแผนระงับเหตุ เมื่อเกิดเหตุการณ์ขึ้น ซึ่งจะได้นําผลการปฏิบัติไปปรับปรุงเพื่อให้เป็นไปด้วยความราบรื่น เกิดความคล่องตัว และสามารถปฏิบัติได้อย่างถูกต้องเมื่อเกิดเหตุการณ์จริงต่อไป ภาพ/ข่าว เพชรน้อย ส.ปชส.ปัตตานี#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
|
13/1/2023
| null |
ปัตตานี
|
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดปัตตานี
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230113123157692
| null |
ศูนย์ประสานการปฏิบัติการที่ 4 กอ.รมน. ติดตามการขับเคลื่อนแผนงานโครงการในพื้นที่จังหวัดบุรีรัมย์
|
วันนี้ (13 ม.ค. 66) พลตรี ประพนธ์ กิติญาณทรัพย์ รองผู้อํานวยการศูนย์ประการการปฏิบัติที่ 4 กองอํานวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร พร้อมคณะ เดินทางไปตรวจติดตามการขับเคลื่อนงานตามแผนงานเสริมสร้างความมั่นคงทางทรัพยากรธรรมชาติ สิ่งแวดล้อม พลังงานและอาหาร ของกองอํานวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดบุรีรัมย์ ที่ดําเนินการในพื้นที่จังหวัดบุรีรัมย์ โดยมีพันเอกโอภาส จันทร์อุดม หัวหน้ากลุ่มงานกิจการมวลชน และหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้องให้การต้อนรับพร้อมนําเสนอผลการดําเนินงาน สําหรับการขับเคลื่อนโครงการตามแผนงานโดยร่วมบูรณาการกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดําเนินการในพื้นที่จังหวัดบุรีรัมย์ ประกอบด้วย การดําเนินการป้องกันและปราบรามการบุกรุกทรัพยากรป่าไม้ การบุกรุกที่ดินของรัฐ การบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติ การแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM.2.5 การดําเนินงานควบคุมโรคลัมปีสกิน การติดตามตรวจสอบอุปรกรณ์สูบน้ําด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ที่ได้รับการสนับสนุนจากกองทุนพลังงาน การมอบเมล็ดพันธุ์ผักพระราชทาน และการขยายผล การติดตามสถานการณ์ด้านสาธารณภัยในพื้นที่ ตลอดทั้งโครงการอื่นๆ นอกจากนั้น ยังได้ติดตามการขับเคลื่อนศูนย์การเรียนรู้ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง เกษตรทฤษฎีใหม่ตามแนวพระราชดําริ การขับเคลื่อนปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง เกษตรทฤษฎีใหม่ 6 มิติ ตามศาสตร์พระราชา ด้าน ดิน น้ํา เกษตรกรรม( ประมง ปศุสัตว์ เกษตรผสมผสาน) อนุรักษ์พลังงาน ป่าชุมชนทรัพยากรธรรมชาติ สิ่งแวดล้อมการมอบเมล็ดพันธุ์พระราชทาน เป็ด ไก่ พระราชทาน ปลานิลพระราชทาน เพื่อเป็นต้นทุนในการดําเนินชีวิต การจัดทําคณะทํางานของชุมชนเรื่อง พลังงานบริสุทธิ์ และขยะ โดยดําเนินงานแบบภาคีเครือข่าย ภาคประชาชน ปราชญ์ชาวบ้าน บัณฑิตชาวเมือง ภาคการศึกษา ภาคเอกชน เช่น ภาคท้องถิ่น ท้องที่ และภาครัฐต่าง ๆดํารง โค่นถอน ส.ปชส.บุรีรัมย์ ภาพ/ข่าว#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
|
13/1/2023
|
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
|
บุรีรัมย์
|
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดบุรีรัมย์
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230113183703881
| null |
ผอ.ศรชล.ภาค 3 ตรวจเยี่ยม ศรชล.จังหวัดพังงา พร้อมติดตามผลการดำเนินงานของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
|
วันที่ 13 มกราคม 2566 นายเอกรัฐ หลีเส็น ผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา ในฐานะ ผอ.ศรชล.จังหวัดพังงา พร้อมด้วยพลเรือโท อาภากร อยู่คงแก้ว ผอ.ศรชล.ภาค 3 พลเรือตรี สุชาติ เปรมประเสริฐ รอง ผอ.ศรชล.ภาค 3 พลเรือตรี กนกพล พิมพ์ทอง ผบ.ฐท.พง.ทรภ.3 นางสาวนิรชา บัณฑิตย์ชาติ รองผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา ตลอดจนส่วนราชการ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องและภาคเอกชน ร่วมประชุมเพื่อรับฟังผลการดําเนินงานและการปฏิบัติภารกิจของ ศรชล.จังหวัดพังงาในห้วงที่ผ่านมา พร้อมทั้งรับฟังปัญหาและอุปสรรคข้อขัดข้องต่าง ๆ ณ ห้องประชุมภูผา ศาลากลางจังหวัดพังงาก่อนประชุมพลเรือโท อาภากร อยู่คงแก้ว ผอ.ศรชล.ภาค 3 ได้มอบเครื่องหมายอภิรักษ์นาวี ให้กับนายเอกรัฐ หลีเส็น ผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา เพื่อเป็นการเชิดชูเกียรติที่ให้การสนับสนุนกองทัพเรือในการดําเนินกิจกรรมอํานวยประโยชน์ให้สาธารณชนและประเทศชาติร่วมกับกองทัพเรือจากนั้น ศรชล.จังหวัดพังงา ศคท.จังหวัดพังงา ได้บรรยายสรุปผลสถานการณ์ความมั่นคงทางทะเล รวมถึงการปฏิบัติภารกิจต่าง ๆในขอบเขตที่รับผิดชอบในพื้นที่จังหวัดพังงา พร้อมกับได้หารือพิจารณาใน 3 เรื่อง คือ การนําไม้ซุงมาใช้ประโยชน์จากกรณีเรือ Sea chart จม ซึ่งเหตุเกิดเมื่อ 12 ปี ก่อน ทําให้บริเวณพื้นที่นั้นได้กลายเป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์น้ําและปะการังไปแล้วส่วนท่อนซุงก็ไม่สามารถนํามาใช้ประโยชน์ได้อีกต่อไป โดยที่ประชุมมีความเห็นว่าควรให้ท่อนซุงและเรือจมอยู่ใต้น้ําเช่นเดิม, การพิจารณาจมเรือ ต.214 ที่ปัจจุบันอยู่บนคานรางซ่อมเรือ ฐานทัพเรือพังงา ทัพเรือภาค 3 เพื่อให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวใต้น้ําแนวปะการังเขาหลัก, และพิจารณาบริหารจัดการนําเรือประมงที่ยึดเป็นของกลางและคดีสิ้นสุดแล้ว ชื่อเรือ PERKASA MAHERA มาใช้ประโยชน์ศูนย์อํานวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล เป็นหน่วยงานสังกัดสํานักนายกรัฐมนตรี เป็นหน่วยราชการจาก 7 หน่วยงานหลัก คือ กองทัพเรือ กรมเจ้าท่า กรมประมง กรมศุลกากร กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กองบังคับการตํารวจน้ํา และกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน ที่บูรณาการการปฏิบัติงานในการแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล ทั้งภายในและภายนอกราชอาณาจักร ทั้งด้านความมั่นคง ด้านเศรษฐกิจ ด้านสังคม ด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ด้านทรัพยากร ด้านสิ่งแวดล้อม และด้านอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับผลประโยชน์ของชาติทางทะเลให้มีความมั่นคงและยั่งยืน#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
|
13/1/2023
|
ภาคใต้
|
พังงา
|
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดพังงา
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230113192733910
| null |
ตำรวจภูธรจังหวัดตรัง เร่งประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้เกี่ยวกับมาตรการตัดแต้มใบขับขี่ ควบคู่กับการสร้างการรับรู้เรื่องกฎหมายจราจรฉบับใหม่ ให้กับประชาชนในพื้นที่จังหวัดตรังอย่างต่อเนื่อง
|
พ.ต.อ.อาคม บัวทอง รองผู้บังคับการตํารวจภูธรจังหวัดตรัง เปิดเผยว่า หลังจากที่ สํานักงานตํารวจแห่งชาติ เริ่มใช้มาตรการตัดคะแนนความประพฤติในการขับรถ หรือ ตัดแต้มใบขับขี่ เพื่อเสริมสร้างวินัยจราจร เป้าหมายเพื่อลดการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน ตํารวจภูธรจังหวัดตรัง ได้เร่งประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้เกี่ยวกับมาตรการดังกล่าว ควบคู่กับการสร้างการรับรู้เรื่องกฎหมายจราจรฉบับใหม่ หรือ พ.ร.บ.จราจรทางบก ฉบับที่ 13 กับประชาชนในพื้นที่จังหวัดตรังอย่างต่อเนื่องเนื่องจากในช่วงของการรณรงค์ป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2566 ที่ผ่านมา มีผู้กระทําความผิดและถูกดําเนินคดีตามมาตรการ 10 รสขม วันละไม่ต่ํากว่า 1,000 คน ทั้งนี้ มุ่งหวังให้ระบบบันทึกคะแนนดังกล่าว เป็นส่วนสําคัญในการเสริมสร้างวินัยการขับขี่ให้ประชาชนได้ปฏิบัติตามกฎจราจร ป้องกันอุบัติเหตุและสร้างความปลอดภัยให้กับผู้ใช้รถใช้ถนนอย่างยั่งยืน #สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
|
15/1/2023
| null |
ตรัง
|
สวท.ตรัง
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230115181031368
| null |
ที่ประชุมวุฒิสภา เตรียมพิจารณากระทู้ถามรัฐบาลถึงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษ 4 ภาค
|
การประชุมวุฒิสภา ในเวลา 09.30 น. วันนี้ (16 ม.ค.66) ภายหลังประธานแจ้งต่อที่ประชุมรับทราบผลการดําเนินการของคณะรัฐมนตรีตามข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการฝ่ายอัยการ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... แล้ว จากนั้นเป็นกานพิจารณาวาระกระทู้ถามเป็นหนังสือ และกระทู้ถามด้วยวาจาที่ตั้งถามรัฐบาลหลายเรื่อง เช่น เรื่องการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษ 4 ภาค เรื่องแนวทางการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ เรื่อง ความคืบหน้าโครงการขยายทางหลวงหมายเลข 323 ช่วงอําเภอทองผาภูมิ - อําเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรีนอกจากนี้ ยังมีวาระพิจารณาเรื่องที่คณะกรรมาธิการพิจารณาเสร็จแล้ว ได้แก่ รายงานการพิจารณาศึกษา เรื่อง ข้อเสนอเชิงนโยบายการพัฒนาระบบการประกันสังคมของประเทศไทย : กรณีผู้ประกันตนภาคสมัครใจ มาตรา 40 ซึ่งคณะกรรมาธิการการแรงงานพิจารณาเสร็จแล้ว รวมถึงเรื่องที่เสนอใหม่ คือรายงานผลการประเมินสถานการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนของประเทศไทย ปี 2564 และรายงานประจําปี 2564 ศาลรัฐธรรมนูญ
|
16/1/2023
|
ภาคกลางและปริมณฑล
|
กรุงเทพมหานคร
|
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230116094042430
| null |
ปชส.สุราษฎร์ธานี เผย ครม.อนุมัติร่างกฎกระทรวงว่าด้วยมาตรการเฝ้าระวังนักโทษเด็ดขาดภายหลังพ้นโทษ มาตรการคุมขังภายหลังพ้นโทษ และการคุมขังฉุกเฉิน พ.ศ. .... ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ
|
นายณรงค์ หลักกําจร ประชาสัมพันธ์จังหวัดสุราษฎร์ธานี กล่าวถึงมาตรการป้องกันการกระทําผิดซ้ําของนักโทษคดีเกี่ยวกับเพศและความรุนแรง ว่า ครม. อนุมัติร่างกฎกระทรวงว่าด้วยมาตรการเฝ้าระวังนักโทษเด็ดขาดภายหลังพ้นโทษ มาตรการคุมขังภายหลังพ้นโทษ และการคุมขังฉุกเฉิน พ.ศ. .... ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ เพื่อให้สอดรับกับ พ.ร.บ. มาตรการป้องกันการกระท้าความผิดซ้ํา ในความผิดเกี่ยวกับเพศหรือที่ใช้ความรุนแรง พ.ศ. 2565 เพื่อป้องกันและเฝ้าระวังการก่ออาชญากรรมและสร้างความปลอดภัยให้สังคมโดย พ.ร.บ.มาตรการป้องกันการกระทําความผิดซ้ําในความผิดเกี่ยวกับเพศหรือที่ใช้ความรุนแรง พ.ศ.2565 มีผลบังคับใช้เมื่อพ้นกําหนด 90 วัน นับแต่วันที่ 26 ตุลาคม 2565 ที่ประกาศในราชกิจจานุเบกษา เพื่อแก้ปัญหาและลดอัตราการกระทําความผิดซ้ํา จากข้อมูลของกระทรวงยุติธรรม พบว่า ผู้กระทําผิดอุกฉกรรจ์ที่ใช้ความรุนแรง เมื่อพ้นโทษแล้ว จะกระทําความผิดซ้ํา ในระยะเวลา 3 ปี มากกว่าร้อยละ 50 จึงมีความจําเป็นต้องออกกฎหมายฉบับนี้ขึ้น โดยกําหนดให้มีคณะกรรมการ 2 ชุด ประกอบด้วย คณะกรรมการป้องกันการกระทําความผิดซ้ํา ที่กําหนดนโยบายและแผนการป้องกันการกระทําความผิดซ้ําของผู้กระทําความผิดให้คําปรึกษาและข้อเสนอแนะ และคณะกรรมการพิจารณากําหนดมาตรการป้องกันการกระทําความผิดซ้ํา คอยกําหนดมาตรการเฝ้าระวังนักโทษเด็ดขาดภายหลังพ้นโทษ มาตรการคุมขังภายหลังพ้นโทษ เป็นต้นทั้งนี้ หากผู้ถูกเฝ้าระวังจะไปกระทําความผิดซ้ํา และเป็นเหตุฉุกเฉิน โดยผู้ถูกเฝ้าระวังมีลักษณะต้องสงสัยที่จะก่อเหตุร้าย ทั้งมีอาวุธหรือวัตถุที่เป็นอันตราย ให้พนักงานคุมประพฤติเสนอความเห็นต่อพนักงานอัยการ เพื่อพิจารณายื่นคําร้องต่อศาลในท้องที่ ให้ศาลมีคําสั่งให้คุมขังฉุกเฉินภายใน 24 ชั่วโมง#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
|
16/1/2023
|
ภาคใต้
|
สุราษฎร์ธานี
|
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสุราษฎร์ธานี
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230116125920496
| null |
กระทรวงมหาดไทย เปิดตัวเว็บแอปพลิเคชั่น "เรียกช่าง" อำนวยความสะดวกข้อมูลช่างกว่า8,500 คน ในด้านงานซ่อมแซม ต่อเติม ปรับปรุงบ้าน เพื่อประชาชน
|
กระทรวงมหาดไทย เปิดตัวเว็บแอปพลิเคชั่น "เรียกช่าง" อํานวยความสะดวกข้อมูลช่างกว่า8,500 คน ในด้านงานซ่อมแซม ต่อเติม ปรับปรุงบ้าน เพื่อประชาชนพลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานเปิดการใช้งานเว็บแอปพลิเคชั่น "เรียกช่าง" เพื่ออํานวยความสะดวกประชาชนในการเรียกช่างผู้เชี่ยวชาญในการซ่อมแซมบ้านเรือน พร้อมกล่าวว่า กรมโยธาธิการและผังเมือง ได้เล็งเห็นความสําคัญของประชาชนที่มีความต้องการปรับปรุงซ่อมแซมบ้าน ซึ่งเป็นงานขนาดเล็ก และไม่สามารถที่จะหาช่างได้ หรือหากหาผู้รับจ้างมาซ่อมบ้านได้ก็อาจจะเป็นช่างที่ไม่มีคุณภาพ และอาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อประชาชนเพิ่มมากขึ้น จึงจัดทําเว็บแอปพลิเคชั่น "เรียกช่าง" เพิ่อสร้างความมั่นใจและอํานวยความสะดวกให้กับประชาชนในการ "ค้นหาช่าง" ให้ตรงกับความต้องการและสามารถเรียกช่างมาให้บริการทั้งนี้ กรมโยธาธิการและผังเมือง ได้พัฒนาการให้บริการประชาชนผ่านเว็บแอปพลิเคชั่น "เรียกช่าง" ด้วยการสํารวจข้อมูล คัดกรอง นําเข้าข้อมูลช่างที่มีฝีมือทั้ง 76 จังหวัด ซึ่งขณะนี้มีฐานข้อมูลช่างทั่วประเทศแล้ว 8,500 ราย ทั้งข้อมูลประสบการณ์ ที่อยู่ และเบอร์โทรศัพท์ติดต่อ และจะมีการนําเข้าอัพเดทข้อมูลอย่างต่อเนื่อง โดยประชาชนสามารถใช้งานเว็บแอปพลิเคชั่น"เรียกช่าง" ได้ทาง https://webs-apps.dpt.go.th/riakchang/main.php
|
16/1/2023
|
ภาคกลางและปริมณฑล
|
กรุงเทพมหานคร
|
สวท.จันทบุรี
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230116142231560
| null |
ตำรวจนราธิวาส แจงกรณีดราม่า สาธิตการควบคุมฝูงชนในวันเด็กแห่งชาติ เพื่อมุ่งให้ความรู้ผู้ปกครองและเด็กเข้าใจภารกิจการดูแลรักษาความปลอดภัยให้ประชาชน บรรยากาศจริงเน้นสนุกสนาน พร้อมน้อมรับทุกความคิดเห็นเพื่อนำไปปรับปรุงแก้ไข ส่วนเหตุลบโพสเพื่อยุติไม่ให้ความคิดเห็นขัดแย้งบนโซเชี่ยลบานปลาย
|
ตามที่มีการเสนอข่าวทางสื่อออนไลน์ ว่า เพจ สภ.เมืองนราธิวาส ลงภาพกิจกรรมวันเด็กแห่งชาติ 2566 สาธิตการปราบจลาจลของตํารวจ แต่เมื่อโพสภาพออกไป ผู้ใช้โซเชี่ยลได้วิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง บางส่วนมองว่าเป็นการปลูกฝังความรุนแรง มีการตั้งคําถามว่าทําเพื่ออะไร ล่าสุดมีการลบโพสต์ดังกล่าวจากเพจ สภ.เมืองนราธิวาสวันนี้ (16 ม.ค.66) พลตํารวจตรี ปราบพาล มีมงคล รองผู้บัญชาการตํารวจภูธรภาค 9 รักษาราชการแทนผู้บังคับการตํารวจภูธรจังหวัดนราธิวาส กล่าวว่า เนื่องในวันเด็กแห่งชาติ ประจําปี 2566 ทางตํารวจภูธรจังหวัดนราธิวาส ซึ่งเป็นหน่วยปฏิบัติงานในพื้นที่ ได้ตระหนักและเล็งเห็นความสําคัญของเด็กและเยาวชน ซึ่งเป็นทรัพยากรบุคคลที่มีคุณค่าและเป็นกําลังสําคัญของชาติต่อไปในอนาคต ซึ่งการจัดงานวันเด็กแห่งชาติเป็นกิจกรรมหนึ่งที่ได้จัดมาเป็นประจําทุกปีอย่างต่อเนื่อง เพื่อส่งเสริมให้เด็กได้มีเวทีแสดงออกถึงความดีงาม ตามความถนัดและความสามารถของแต่ละคนตลอดจนได้รับความสนุกสนาน เพลิดเพลินตามสมควรสําหรับกรณีข่าวที่มีข้อห่วงใยจากประชาชน กิจกรรมการแสดงการฝึกยุทธวิธีควบคุมฝูงชน โดยกองกํากับการสืบสวนสอบสวนตํารวจภูธรจังหวัดนราธิวาส และกองกํากับการปฏิบัติการพิเศษตํารวจภูธรจังหวัดนราธิวาส ซึ่งการจัดกิจกรรมดังกล่าวนั้น มีการแนะนําตํารวจมีหลายหน่วย (โชว์เครื่องแบบทุกชุด ทุกหน่วย ) รวมถึงให้ผู้ปกครองและเด็กที่มาชมกิจกรรมได้ทราบภารกิจการควบคุมฝูงชน โดยอธิบายแนะนํา ว่า ตํารวจชุดควบคุมฝูงชน มีหน้าที่ดูแลรักษาความปลอดภัย ป้องกันมิให้ผู้ชุมนุมไปกระทําผิดกฎหมาย ไม่ให้ทําลายทรัพย์สินราชการ และการปฏิบัติหน้าที่จริงๆ นั้น ตํารวจชุดควบคุมฝูงชนไม่มีอาวุธ ไม่ทําร้ายผู้ชุมนุมด้วย จึงทําการแสดงสาธิต และช่วงท้ายมีม็อบสมมติโดยเป็นเจ้าหน้าที่ตํารวจแต่งเป็นชุดนักเรียน “ประท้วงไม่เอาการบ้าน” การแสดงเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ผู้ปกครองและเด็กสนใจ มามุงดูจํานวนมาก และก่อนจบการสาธิต มีเด็กๆ จํานวนหนึ่งล้นเข้าในลานแสดง ทําให้บางคนสนุกแอบเข้าไปสนุกกับม็อบสมมติด้วย จึงเกิดภาพที่ไม่เหมาะสมเล็กน้อย จนเป็นกรณีเกิดดราม่าบนโซเชี่ยลดังกล่าวจึงขอทําความเข้าใจอีกครั้งว่า ช่วงท้ายของการสาธิตนั้น เพื่อให้เป็นบรรยากาศของความสนุกสนานตลกโปกฮาเด็กๆ ก็เลยร่วมสนุกไปตามผู้ชุมนุมสมมติ และขอเรียนกับพี่น้องประชาชนว่า เราต้องการประชาสัมพันธ์ตํารวจหน่วยนี้ เพื่อให้เข้าใจการปฏิบัติภารกิจ เนื่องจากไม่มีอาวุธ ต้องอดทน มีแต่โล่ไว้ป้องกันตัวเอง ต้องการให้เด็กรู้จักและเห็นใจหน่วยนี้ และเน้นความสนุกสนานเท่านั้น ไม่ได้มีเจตนาที่ทําให้เข้าใจผิดแต่อย่างใดด้านพันตํารวจเอก เจฟฟรีย์ ไศลมานกุล ผู้กํากับการสถานีตํารวจภูธรเมืองนราธิวาส (สภ.เมืองนราธิวาส) กล่าวว่าทาง สภ.เมืองนราธิวาส ร่วมจัดกิจกรรมในวันเด็กแห่งชาติ กับทางตํารวจภูธรเมืองนราธิวาส และหน่วยงานในพื้นที่โดยมุ่งเน้นกิจกรรมต่าง ๆ ที่สอดแทรกให้เด็ก ๆ ได้เป็นเด็กดี มีวินัย มีจิตอาสา เอื้อเฟื้อต่อกัน รวมถึงได้มีการแจกของเล่น ขนมขบเคี้ยว ข้าวสาร เพื่อสร้างความสุข สร้างรอยยิ้ม ส่วนกรณีที่มีการลบข้อความการจัดกิจกรรมในงานวันเด็ก ทางเฟซบุ๊กแฟนเพจ สถานีตํารวจภูธรเมืองนราธิวาส นั้น ก็เพราะไม่อยากให้เกิดความขัดแย้งของประชาชนในสังคม ที่ได้แสดงความคิดเห็นต่าง ๆ ทั้งเห็นด้วยและไม่เห็นด้วยอย่างไรก็ตาม ตํารวจพร้อมที่จะปรับปรุงแก้ไขพัฒนาการทํางาน เพื่อสร้างสิ่งดี ๆ ให้กับสังคม ร่วมกันสร้างสังคมน่าอยู่สู่สันติสุขในพื้นที่อย่างยั่งยืนต่อไปสําหรับกิจกรรมวันเด็กแห่งชาติของตํารวจภูธรจังหวัดนราธิวาส ปี 2566 เมื่อวันเสาร์ 14 มกราคม 2566 ตํารวจภูธรจังหวัดนราธิวาส ร่วมกับตํารวจในสังกัด จัดงานวันเด็กแห่งชาติ ที่หาดนราทัศน์ อําเภอเมืองนราธิวาส ซึ่งมีกิจกรรมต่าง ๆ มากมาย ได้แก่ กิจกรรมการละเล่นบนเวที//กิจกรรมในแต่ละซุ้ม ดังนี้ สภ.เมืองนราธิวาส เล่นเกมส์/ทายปัญหาแจกไอศกรีม ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด (EOD) การแสดงหุ่นยนต์ โชว์ชุดบอมสูตร โชว์อากาศยานไร้คนขับ (โดรน) ตํารวจพิสูจน์หลักฐาน (พฐ.) แจกของขวัญ กิจกรรมทางวิทยาศาสตร์ โชว์อุปกรณ์เครื่องมือพิสูจน์หลักฐาน ศูนย์อํานวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ศอ.ปส.) จัดบอร์ดข้อมูลความรู้เกี่ยวกับยาเสพติด แจกไอศกรีม แจกของขวัญ ศูนย์รับแจ้งเหตุฉุกเฉิน 191 เล่นเกมส์ทายปัญหา แจกไอศกรีม แจกของรางวัล นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมเดินแบบ ชุดข้าราชการตํารวจ ชุดขาว ชุดคอแบะ ชุดเขียว ชุดสายแดง ชุดสืบสวน ชุดตํารวจพิสูจน์หลักฐาน ชุดตํารวจจราจร และชุดตํารวจสายตรวจ และการแสดงจากโรงเรียนศรสมบูรณ์ โดยได้สร้างความสุข ความสนุกสนานให้แก่เด็กๆ ที่ไปร่วมกิจกรรมตลอดทั้งวัน#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
|
16/1/2023
|
ภาคใต้
|
นราธิวาส
|
สวท.นราธิวาส
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230116161219609
| null |
กอ.รมน.จังหวัดนราธิวาส บูรณาการกำลังร่วม จนท.ร้อย.ตชด.444 เข้าจับกุมผู้ค้ายาเสพติดในพื้นที่ อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส พบของกลางยาบ้า 20,000 เม็ด ก่อนส่งตัวดำเนินคดีตามกฏหมาย
|
วันที่ 16 ม.ค.66 เวลา 13.00 น. น.อ.ศิลป์ชัย ประสมศรี รองผู้อํานวยการสํานักประสานภารกิจรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดกลุ่มที่ 1 สํานักประสานภารกิจด้านความมั่นคงกับกองอํานวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร กองทัพเรือ / รองผู้อํานวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดนราธิวาส เดินทางไปตรวจสอบการจับกุมยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) จํานวน 10 มัด ประมาณ 20,000 เม็ด ณ บก.ชุดเฝ้าตรวจชายแดนที่ 4412 ต.มูโน๊ะ อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส จากกรณีเมื่อวันที่ 14 ม.ค.66 เวลา 08.30 น. บูรณาการกําลังร่วม จนท.ร้อย.ตชด.444 เข้าจับกุมผู้ค้ายาเสพติดในพื้นที่อ.สุไหงโก-ลก บริเวณ ถนนเจริญเขต ซอย 5 ต./อ.สุไหงโก-ลก จังหวัดนราธิวาส ได้ผู้ต้องหา จํานวน 1 คน ชื่อ นายมาหามะสาบูดิน อากาจิ พร้อมของกลางยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) โดยจะนําส่งผู้ต้องหาไปยัง สภ.สุไหงโก-ลก เพื่อดําเนินคดีตามกฎหมาย ต่อไป#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
|
16/1/2023
|
ภาคใต้
|
นราธิวาส
|
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนราธิวาส
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230116183849661
| null |
ตำรวจตระเวณชายแดน และเจ้าหน้าที่ปกครอง จับขบวนการลักลอบตัดไม้หวงห้าม อายุกว่า 100 ปี ใน ป่านิคมสร้างตนเองเบตง จังหวัดยะลา
|
วันที่ 16 ม.ค.66 ร.ต.ท.ณัฐีร์ ปัญจสิริวิทย์ รอง.ผบ.ร้อย ฉก.ตชด.445 ได้รับแจ้งว่า มีการลักลอบตัดโค่นไม้หวงห้ามขนาดใหญ่หลายต้นและบุกรุกทําลายพื้นที่ป่าเป็นวงกว้างในพื้นที่ ต.อัยเยอร์เวง อ.เบตง จ.ยะลา ซึ่งไม้บางส่วนถูกเคลื่อนย้ายออกไปแล้ว บางส่วนยังอยู่ในที่เกิดเหตุ และบางส่วนกองอยู่ข้างลําคลอง รอการเคลื่อนย้าย จึงรายงานให้ พ.ต.ท.อรรถพล จินตาคม ผบ.ร้อย ตชด.445 และ ร.ต.อ.มาตุภูมิ ธรรเนียม ผบ.ร้อย ฉก.ตชด.445 พร้อมประสานนายพิชัย แก้วจํารัส ปลัดอําเภอเบตง นํากําลังเจ้าหน้าที่ ตชด.445, ร้อย ฉก.ตชด.444, ร้อย ฉก.ตชด.445, ตํารวจ สภ.อัยเยอร์เวง, อส.อําเภอเบตง และเจ้าหน้าที่ป่าไม้ยะลา4 บ่อน้ําร้อนจันทรัตน์ เข้าตรวจสอบเจ้าหน้าที่เดินทางไปถึงพบมีไม้กองอยู่ข้างคลองช่องแคบ ม.1 ต.อัยเยอร์เวง ซึ่งมีทั้งเป็นท่อน และผ่าแบ่งเป็นซีกแล้ว มีทั้งไม้หลุมพอ ไม้สยา มีความยาวประมาณ 4 เมตร ฝั่งตรงข้ามคลองก็มองเห็นไม้ซุงขนาดใหญ่ผ่าแล้วอีก 1 ท่อน และมีร่องรอยเป็นทางลากไม้ยาวลงมาจากบนเขา เจ้าหน้าที่จึงข้ามคลองโดยใช้แพ ของชาวบ้าน เพื่อไปตรวจสอบ เดินไปตามทางชักลากไม้ ก็พบไม้ซุงที่ผ่าเป็นซีกแล้วเป็นจุดๆ พบมีบ้านไม้ยกพื้นไม่มีเลขที่หนึ่งหลัง หน้าบ้านมีไม้หลุมพอ 1 ท่อน ผ่าแบ่งครึ่งเป็น 2 ซีก ยาวประมาณ 4 เมตร และมีรถแม็คโคร ซึ่งใช้ทําทางในสวนและทําทางขึ้นไปในป่าบนเขาจอดอยู่ ตรวจสอบในบ้านมีชาย 2 คน ทราบชื่อนายสุรียา หรือยา อายุ 39 ปี อยู่เลขที่ 53 ม.7 ต.กะลุวอ อ.เมืองนราธิวาส จ.นราธิวาส และนายมาหามะ หรือมะ อายุ 31 ปี อยู่เลขที่ 23/6 ม.8 ต.เบตง อ.เบตง จ.ยะลา กําลังนั่งสูบยาบ้าอยู่บนบ้าน ค้นในตัวนายยา พบอาวุธปืนพกสั้น ขนาด 9 มม. 1 กระบอก บรรจุกระสุนในแม็กกาซีน 2 แม๊ก จํานวน 30 นัด อยู่ที่เอง ค้นตัวนายมะ พบอาวุธปืนขนาด .38 พร้อมกระสุน 5 นัด อยู่ที่เอง ตรวจสอบโดยละเอียด พบยาบ้าจํานวน 20 เม็ด อยู่ข้างบ้าน ซึ่งคาดว่าคงโยนทิ้งขณะเห็นเจ้าหน้าที่จากการสอบถามเบื้องต้น นายยารับว่าเป็นผู้ว่าจ้างรถแม็คโครมาทําทางในสวน ให้นายมะ เพื่อแลกกับการนําไม้ไปซ่อนแซมมัสยิดในพื้นที่ อ.รามัน จ.ยะลา และอ้างว่าทางผู้หลักผู้ใหญ่ของตนได้เคลียร์กับ ในพื้นที่แล้ว และได้ทําการเคลื่อนย้ายไม้ออกไปแล้ว 1 เที่ยว ในช่วงเวลากลางคืน โดยว่าจ้างรถหกล้อมาขน โดยไม่มีการปิดบังคลุมผ้าอําพราง เจ้าหน้าที่จึงขอดูเอกสารในการครอบครองที่ดินของนายมะ ซึ่งอ้างว่าเป็นเจ้าของที่ดิน แต่ก็ไม่สามารถนําเอกสารมาให้ตรวจสอบได้ เมื่อเจ้าหน้าที่เดินขึ้นไปดูบนยอดเขา ก็ต้องตกตะลึง เพราะรถแม็คโครได้ทําถนนเป็นทางยาวขึ้นไปจนถึงบนยอดเขา ซึ่งมีระยะทางเป็นกิโลเมตร พบพื้นที่ป่าถูกบุกรุกทําลายหลายสิบไร่ ไม้ขนาดกลางขนาดใหญ่รวมถึงไม้ขนาดเล็กถูกโค่นล้มอยู่ตามข้างทาง มีร่องรอยการเลื่อยไม้ขนาดใหญ่เหลือแต่ตอ บางตอต้องใช้คนสองถึงสามคนโอบ คาดว่ามีอายุเป็นร้อยปี เจ้าหน้าที่ยังพบไม้ที่ถูกเลื่อยเป็นท่อนซุงจํานวนหลายจุด มีทั้งไม้หลุมพอ ไม้แดง ไม้สยาเจ้าหน้าที่ป่าไม้ตรวจสอบพื้นที่ซึ่งถูกบุกรุกเป็นพื้นที่ ม.8 บ้านอัยเยอร์ควีน ซึ่งเป็นป่านิคมสร้างตนเองเบตง เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้พยายามทําการโทรศัพท์ติดต่อเจ้าหน้าที่นิคมสร้างตนเองเบตง แต่ก็ไม่สามารถติดต่อได้ เจ้าหน้าที่จึงนําตัวทั้งสองมาทําบันทึกจับกุมและจะทําการสํารวจโดยละเอียดอีกครั้ง ส่วนรถแม็คโครยังไม่สามารถเคลื่นย้ายออกมาได้ เจ้าหน้าที่จึงต้องจัดชุดนอนเฝ้า แล้วค่อยมาทําการเคลื่อนย้ายพร้อมมาตอกตะปูตรวดยึดไม้ที่ตรวจพบ #สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
|
16/1/2023
|
ภาคใต้
|
ยะลา
|
สวท.เบตง จ.ยะลา
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230116192834671
| null |
จังหวัดบุรีรัมย์ ออกให้บริการหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ พอ.สว. ณ โรงเรียนบ้านสาวเอ้ ตำบลหินเหล็กไฟ อำเภอดูเมือง พร้อมให้การช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ห่างไกลแบบครบ จบในที่เดียว
|
นายจําเริญ แหวนเพชร รองผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ นําหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ พอ.สว.จังหวัดบุรีรัมย์ ออกให้บริการประชาชน ที่ โรงเรียนบ้านสาวเอ้ ตําบลหินเหล็กไฟ อําเภอคูเมือง จังหวัดบุรีรัมย์ โดยมีประชาชนมารับบริการเป็นจํานวนมากโดยการลงพื้นที่ของหน่วยแพทย์ พอ.สว.ในครั้งนี้ ได้มีการมอบถุงยังชีพเครื่องอุปโภค-บริโภคแก่ประชาชนผู้ด้อยโอกาส พร้อมมอบหนังสือจากสํานักงานวัฒนธรรมจังหวัดเพื่อส่งเสริมด้านการศึกษา และมอบพันธุ์ปลาจากประมงจังหวัดบุรีรัมย์ เพื่อนําไปใช้ในการต่อยอดพัฒนาในแหล่งทํากินให้เกิดความยั่งยืนนอกจากนี้ ยังมีการให้บริการด้านการดูแลสุขภาพแก่ประชาชนในถิ่นทุรกันดาร ให้มีสุขภาพที่ดี ทั้งการให้บริการตรวจรักษาโรคทั่วไป การให้บริการทางทันตกรรม การให้บริการเวชกรรมฟื้นฟู การให้บริการการแพทย์แผนไทยและแพทย์ทางเลือกแก่ประชาชน การให้บริการในด้านอื่นๆจากส่วนราชการ โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย และยังเปิดโอกาสให้ประชาชนนําของดีของเด่นในพื้นที่มาขายสร้างรายได้เพิ่มให้กับครอบครัวอีกด้วย#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
|
16/1/2023
|
ภาคกลางและปริมณฑล
|
กรุงเทพมหานคร
|
สวท.บุรีรัมย์
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230116205300709
| null |
รอง ผอ.รมน.ภาค 4 สน. ตรวจเยี่ยม ติดตาม เสริมความเข้มแข็งชุดคุ้มครองตำบลในพื้นที่จังหวัดยะลา
|
วันนี้ (16 มกราคม 2566) พลตรี ปราโมทย์ พรหมอินทร์ รองแม่ทัพภาคที่ 4 / รองผู้อํานวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า พร้อมคณะฯ ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมให้กําลังใจชุดคุ้มครองตําบล (ชคต.) ในพื้นที่จังหวัดยะลา เพื่อรับทราบการปฏิบัติงานที่ผ่านมา พร้อมสอบปัญหาข้อขัดข้องของชุดคุ้มครองตําบล และร่วมหารือถึงแนวทางการปฏิบัติงานให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยได้ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมชุดคุ้มครองตําบล จํานวน 3 ชุด ประกอบด้วย ชุดคุ้มครองตําบลตลิ่งชัน, ชุดคุ้มครองตําบลตาเนาะปูเต๊ะ อําเภอบันนังสตา และชุดคุ้มครองตําบลกรงปินัง อําเภอกรงปินัง จังหวัดยะลาทั้งนี้ รองแม่ทัพภาคที่ 4 / รองผู้อํานวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ได้กล่าวพบปะให้โอวาทแก่เจ้าหน้าที่ และมอบสิ่งของอุปโภค-บริโภค เพื่อเป็นขวัญและกําลังใจในการปฏิบัติหน้าที่แก่ชุดคุ้มครองตําบลอีกด้วย โดยมี ผู้นําท้องที่ ฝ่ายปกครอง หัวหน้าชุดคุ้มครองตําบล, เจ้าหน้าที่ชุดคุ้มครองตําบล รวมทั้งส่วนที่เกี่ยวข้อง ให้การต้อนรับและร่วมประชุมพลตรี ปราโมทย์ พรหมอินทร์ รองแม่ทัพภาคที่ 4 / รองผู้อํานวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า กล่าวว่า การมาเยี่ยมชุดคุ้มครองตําบล เพื่อรับฟังแนวความคิดของเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน และสามารถนําไปปรับแผนการปฏิบัติงานให้มีความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น พร้อมนําข้อห่วงใยจาก แม่ทัพภาคที่ 4 / ผู้อํานวยการรักษาความมั่นคงภายใน 4 และคณะผู้บังคับบัญชาที่มีต่อการปฏิบัติงานของชุดคุ้มครองตําบลในพื้นที่ โดยในภาพรวมชุดคุ้มครองตําบลมีความเข้มแข็งอยู่แล้ว แต่ยังมีบางจุดที่เป็นจุดล่อแหลม ให้เจ้าหน้าที่มีความรัดกุมและปฏิบัติตามแผน 3 นอก 4 ใน ส่วนการลาดตระเวนเส้นทางให้หมั่นสังเกต วิเคราะห์ วางแผนการปฏิบัติงานให้รอบคอบ เจ้าหน้าที่ทุกนายต้องมีความตื่นตัวอยู่ตลอดเวลา ไม่ประมาท มีสติ มีความพร้อมทั้งทางด้านร่างกาย และจิตใจ เรียนรู้จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นบทเรียน และนํามาปรับปรุงแก้ไข หมั่นตรวจตรา สอดส่อง และปรับเปลี่ยนแผนการลาดตระเวนรอบฐานปฏิบัติการ เพิ่มความเข้มงวดฐานปฏิบัติการให้มีประสิทธิภาพสูงสุด พร้อมทั้งมีการบูรณาการในการปฏิบัติงานร่วมกันกับทุกฝ่าย รวมถึงประชาชนในพื้นที่ด้วย เพื่อให้เข้ามาช่วยเป็นหูเป็นตาสอดส่องและแจ้งเบาะแส ข้อมูล ข่าวสาร ในการดูแลพื้นที่ร่วมกัน เพื่อให้เกิดความปลอดภัยและสร้างความเชื่อมั่นแก่ประชาชนในพื้นที่ต่อไป#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
|
16/1/2023
|
ภาคใต้
|
ยะลา
|
สทท.ยะลา
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230116202130700
| null |
คลัง เสนอ ครม. พิจารณาขยายเวลามาตรการลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซล และติดตามเราเที่ยวด้วยกันเฟส 5
|
การประชุมคณะรัฐมนตรีวันนี้ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธาน มีวาระที่น่าติดตาม อาทิ กระทรวงการคลัง จะเสนอขยายเวลามาตรการลดภาษีสรรพสามิตน้ํามันดีเซล เพื่อแบ่งเบาภาระค่าครองชีพประชาชนและภาระกองทุนน้ํามันเชื้อเพลิง โดยมาตรการเดิมจะสิ้นสุดลงวันที่ 20 มกราคมนี้ จึงต้องพิจารณาว่าจะลดภาษีอีกลิตรละ 5 บาท เป็นเวลา 2 เดือนแบบเดิมหรือไม่ รวมทั้งอาจเสนอเพิ่มเงินสมทบ ให้สมาชิกกองทุนการออมแห่งชาติ ในฝั่งรัฐบาลเป็นสูงสุด 1,800 บาทต่อปี จากปัจจุบันที่ 1,200 บาทต่อปี ส่วนสมาชิกสามารถเพิ่มการออมเงินตัวเองได้สูงสุด 3 หมื่นบาท จากเดิม 13,200 บาทต่อปี เพื่อดึงดูดแรงงานนอกระบบ หรือแรงงานอิสระที่ไม่อยู่ในระบบของกองทุนประกันสังคม กองทุนสํารองเลี้ยงชีพ หรือกองทุนบําเหน็จบํานาญ ให้เข้ามาออมเงิน เพื่อรองรับวัยเกษียณกันมากขึ้นและต้องติดตามว่า โครงการเราเที่ยวด้วยกัน เฟส 5 เสนอเข้า ครม.วันนี้หรือไม่ หลังจากนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ระบุว่า ขณะนี้เหลือเพียง พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ลงนามบรรจุเข้าสู่วาระการประชุมเท่านั้น
|
17/1/2023
|
ภาคกลางและปริมณฑล
|
กรุงเทพมหานคร
|
Radio-สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230117090523748
| null |
รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ประชุม ครม.นัดแรก สานงานต่อ ’นิพนธ์’ มั่นใจคนใต้ยังเลือกประชาธิปัตย์
|
นายนริศ ขํานุรักษ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย และ ส.ส.พัทลุง พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวก่อนร่วมประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ครั้งแรก ภายหลังได้รับโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง ว่า ได้รับมอบหมายดูแลงานเดิมของนายนิพนธ์ บุญญามณี อดีต รมช.มหาดไทย อาทิ กรมที่ดิน กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) และการประปานครหลวง ซึ่งขณะนี้เริ่มดําเนินงานแล้ว พร้อมมั่นใจว่า แม้จะได้เข้ามาทํางานปลายรัฐบาล แต่ก็สามารถทํางานต่างๆ ได้ทัน เพราะจะสานงานต่อของนายนิพนธ์ บุญญามณี และรัฐบาลก็มีนโยบายเป็นแนวทางการทํางานเป็นตัวกําหนดอยู่แล้ว ซึ่งระยะเวลาไม่จําเป็นต้องยาว เวลาเท่าไหร่ก็ได้หากตั้งใจทําเพื่อประโยชน์ประชาชนนายนริศ กล่าวถึงสถานการณ์การเลือกตั้งในพื้นที่ภาคใต้ โดยเฉพาะจังหวัดพัทลุง ของพรรคประชาธิปัตย์ ยังไหวหรือไม่ ว่า ในพื้นที่ภาคใต้ยังได้อยู่ เพราะคิดว่าพรรคประชาธิปัตย์ ยังครองใจชาวบ้านได้ในระดับหนึ่ง ซึ่งเป็นไปตามที่หัวหน้าและเลขาธิการพรรค คาดการณ์ไว้ ส่วนยังมั่นใจจะได้กลับมาหรือไม่ เพราะในพื้นจังหวัดพัทลุง มีการแข่งขันสูงทั้งพรรคภูมิใจไทยและพรรครวมไทยสร้างชาติ นายนริศ เชื่อมั่นว่า ยังจะได้กลับมา เพราะคนพัทลุงเลือกตั้งอย่างมีเหตุมีผล และคิดว่าคนพัทลุงยังเลือกประชาธิปัตย์กลับมาเหมือนเดิม เพราะเขาเลือกมานานแล้ว เพียงแค่รอบที่ผ่านมาไม่ได้เท่านั้นเองสําหรับกระแสของพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในพื้นที่ภาคใต้ นายนริศ กล่าวว่า กระแส พลเอก ประยุทธ์ ก็ดี แต่กระแสจะมากจนถึงขนาดชนะการเลือกตั้ง ส.ส.เขตหรือไม่ ก็ต้องมาดูกันอีกที พร้อมยอมรับว่า พลเอก ประยุทธ์ มีกระแสเหมือนหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์
|
17/1/2023
|
ภาคกลางและปริมณฑล
|
กรุงเทพมหานคร
|
Radio-สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230117095248770
| null |
กอ.รมน.จ.สตูล ลงพื้นที่ อบต.เกาะสาหร่าย ร่วมขับเคลื่อนแผนตำบลมั่นคง มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน” ประจำปี 2566
|
ที่ห้องประชุมองค์การบริหารส่วนตําบลเกาะสาหร่าย นายณัฐพันธุ์ อังโชติพันธุ์ นายกองค์การบริหารส่วนตําบลเกาะสาหร่าย พร้อมด้วยบุคลากรและเจ้าหน้าที่ ร่วมให้การต้อนรับ พันเอก ณัฎฐ์ปฏิพล ฉิมแก้ว หัวหน้ากลุ่มงานนโยบายแผนและการข่าว กองอํานวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดสตูล พันโทหญิง ขนิษฐา จิตอรุโณทัย หัวหน้าฝ่ายบริหารงานบุคคล กองอํานวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดสตูล (กอ.รมน.จ.สตูล) เพื่อจัดการประชุมตามโครงการกํากับ ติดตาม และประเมินผล โดยกองอํานวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ภายใต้งานบริหารจัดการขับเคลื่อน “แผนตําบลมั่นคง มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน” ประจําปีงบประมาณ 2566” เพื่อกํากับดูแล และติดตาม รวมทั้งให้คําแนะนําการสร้างระบบการแจ้งเตือน และประเมินแนวโน้มสถานการณ์ภัยคุกคามด้านความมั่นคง พร้อมกันนี้ได้ให้คําแนะนําในการบูรณาการจัดทําแผนปฏิบัติการ และแผนงาน/โครงการด้านความมั่นคงของส่วนราชการที่เกี่ยวข้องในพื้นที่จังหวัด , ให้คําแนะนําในการซักซ้อมแผนและการดําเนินการตามแผนของส่วนราชการที่เกี่ยวข้องในพื้นที่จังหวัดทั้งในระดับจังหวัด อําเภอ และตําบล , ให้ส่วนราชการบูรณาการนําแผนงาน/โครงการของหน่วยงาน ลงไปยังพื้นที่ตําบลเป้าหมาย เพื่อพัฒนาและแก้ไขปัญหาของพื้นที่ได้อย่างเป็นรูปธรรม , รับทราบปัญหาข้อขัดข้อง ข้อเสนอแนะ และให้คําแนะนําการดําเนินการตามแผนงาน/โครงการด้านความมั่นคงในพื้นที่จังหวัด อีกทั้ง เพื่อเสริมสร้างให้ทุกภาคส่วนมีความตระหนักรู้เกี่ยวกับเหตุการณ์/ภัยคุกคามด้านความมั่นคงที่อาจส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของประเทศ และเสริมสร้างให้ทุกภาคส่วนเข้ามามีส่วนร่วมในการรักษาความสงบเรียบร้อยภายในประเทศ และการป้องกันและแก้ไขปัญหาที่มีผลกระทบต่อความมั่นคง โดยกองอํานวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร มอบหมายกองอํานวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดสตูล ดําเนินจัดทําโครงการฯ ดังกล่าว #สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
|
17/1/2023
|
ภาคใต้
|
สตูล
|
สวท.สตูล
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230117114054830
| null |
อำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี จัดพิธีปฏิญาณตนและมอบบัตรประจำตัวประชาชน แก่ผู้ที่ได้รับอนุมัติสัญชาติไทย ตามมาตรา 7 ทวิ จำนวน 50 คน
|
วันนี้ (17 ม.ค.66) เวลา 09.30 น. ที่ศาลาประชาคมอําเภอสังขละบุรี จัดพิธีแสดงความเป็นพลเมืองไทย และมอบบัตรประชาชนให้แก่ผู้ได้รับอนุมัติสัญชาติไทย โดยมี นายสุทธิพร ศิวเวทพิกุล นายอําเภอสังขละบุรี เป็นประธานในพิธีปฏิญาณตนและมอบบัตรประจําตัวประชาชน แก่ผู้ที่ได้รับสัญชาติไทย ตามพระราชบัญญัติสัญชาติ พ.ศ.2508 แก้ไขเพิ่มเติม(ฉบับที่ 4) พ.ศ.2551 ซึ่งมีภูมิลําเนาอยู่อาศัยในพื้นที่อําเภอสังขละบุรี ตามมาตรา 7 ทวิ วรรคสอง จํานวนทั้งสิ้น 50 ราย ที่ผ่านการตรวจสอบ จากหลักฐานต่าง ๆ ทั้งพยาน เอกสาร พยานบุคคล ตามที่ปรากฏ จนได้รับอนุมัติสัญชาติไทยโดยมี นายสมรักษ์ ท้วมสุข ปลัดอําเภองานทะเบียน อําเภอสังขละบุรี กล่าวรายงาน พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการ ทหาร ตํารวจ ตัวแทนกํานันผู้ใหญ่บ้าน และผู้นําชุมชน เข้าร่วมเป็นเกียรติในพิธีนายสุทธิพร ศิวเวทพิกุล นายอําเภอสังขละบุรี กล่าวว่า การดําเนินการด้านสัญชาติและให้สถานะทางทะเบียนแก่บุคคล ถือเป็นการขับเคลื่อนโครงการสําคัญของกรมการปกครอง ประจําปี 2565 ตามนโยบายโดยมีกิจกรรมประกอบด้วย การเพิ่มชื่อคนไทยที่ตกหล่นหรือตกสํารวจเข้าในทะเบียนบ้าน การขอมีสัญชาติไทยของบุคคลต่างด้าวที่ไร้สัญชาติ ซึ่งมีคุณสัมบัติตาม พ.ร.บ.สัญชาติ พ.ศ.2508 ของกระทรวงมหาดไทย การขอสถานะคนต่างด้าวเข้าเมืองโดยชอบด้วยกฎหมายตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ.2522 และการจัดทําทะเบียนประวัติแก่บุคคลที่ไม่มีสถานะทางทะเบียน โดยเฉพาะเด็กนักเรียนที่กําลังศึกษาเล่าเรียน เพื่อให้เด็กมีเอกสารแสดงตัวตนนอกจากนี้ นายสุทธิพร ยังกล่าวอีกว่า การดําเนินการตามนโยบายดังกล่าว มีเป้าหมายในการแก้ไขปัญหาเรื่องสัญชาติและสถานะบุคคล ที่ไร้สัญชาติในประเทศไทยให้ได้รับการเยียวยา แก้ไขปัญหาโดยเร็ว ซึ่งอําเภอสังขละบุรี เป็นอําเภอนําร่องของจังหวัดกาญจนบุรี และเพื่อรักษาสิทธิและแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน และขอให้ทุกคนที่เข้าร่วมการปฏิญาณตน ในวันนี้จงภาคภูมิใจในความเป็นคนไทย โดยสมบูรณ์ และดํารงตนในฐานะของพลเมืองไทย ในการร่วมพัฒนาประเทศให้มีความเจริญงอกงาม มีความจงรักภักดีในชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ เฉกเช่นคนไทยทุกคน ซึ่งการแสดงออกถึงความสามัคคีดังกล่าวที่ทุกท่านสามารถปฏิบัติได้อย่างง่าย คือ การประพฤติตนเป็นพลเมืองที่ดี โดยการดํารงตนอยู่ในศีลธรรม ระเบียบกฎหมายหรือกติกาของสังคม ประกอบสัมมาอาชีพ เรียนรู้และพัฒนาตนเอง เพื่อให้ตนเองมีคุณภาพชีวิตที่ดี มีความสุขบนวิถีชีวิตพอเพียงนายสมรักษ์ ท้วมสุข ปลัดอําเภองานทะเบียน อําเภอสังขละบุรี กล่าวว่า ปัญหาการไร้สัญชาติ ถือเป็นเรื่องสําคัญ ซึ่งหากบุคคลไร้สัญชาติ ไม่ว่าด้วยเหตุผลใด บุคคลนั้นย่อมไม่ถือเป็นพลเมือง และไม่ได้รับการคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพเทียบเท่ากับพลเมืองรัฐนั้น กรมการปกครองได้กําหนดให้งานสัญชาติและสถานะบุคคล เป็น 1 ใน 10 โครงการสําคัญของกรมการปกครอง อําเภอสังขละบุรีได้มีการดําเนินการและยกระดับงานดังกล่าวมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เกิดการพัฒนาและแก้ไขปัญหาสัญชาติได้อย่างครอบคลุมและทั่วถึง#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
|
17/1/2023
|
ภาคตะวันตก
|
กาญจนบุรี
|
สวท.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230117134945882
| null |
นายกรัฐมนตรี ยืนยันรัฐบาลพิจารณาโครงการต่างๆ เพื่อประโยชน์ของประชาชน ประคับประคองประเทศให้ผ่านวิกฤติต่างๆ
|
พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวว่า การประชุมคณะรัฐมนตรีในทุกสัปดาห์ จะมีการนําเสนอวาระใหม่ๆ มาให้พิจารณา ทั้งวาระเพื่อทราบ เพื่อทักท้วง เพื่อพิจารณาและวาระจร ทั้งนี้เพื่อรับฟังปัญหาและนําปัญหามาสู่การแก้ไข โดยก่อนเสนอวาระเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรี ต้องรับฟังปัญหามาจากหลายช่องทางและกระทรวงที่เกี่ยวข้องต้องรับเรื่องไปดําเนินการต่อ เช่น จัดทําโครงการขึ้นมาเพื่อที่จะขออนุมัติจากคณะรัฐมนตรี โดยที่ประชุม ครม.จะพิจารณารายละเอียดร่วมกัน ซึ่งสิ่งใดที่ยังไม่เรียบร้อย มีปัญหา ข้อสงสัย หรือข้อสังเกต ให้ชี้แจงข้อเท็จจริงทั้งหมดก่อนนําเข้าคณะรัฐมนตรี ซึ่งนี่คือการทํางานของรัฐบาล และวันนี้มีหลายเรื่องที่เป็นประโยชน์และเป็นการแก้ปัญหา รวมถึงหลายเรื่องเป็นมาตรการรองรับสถานการณ์เศรษฐกิจโลกและความขัดแย้งต่างๆ โดยรัฐบาลพยายามประคับประคองประเทศให้เดินหน้าต่อไปได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการใช้ประโยชน์จากดิจิทัลออนไลน์
|
17/1/2023
|
ภาคกลางและปริมณฑล
|
กรุงเทพมหานคร
|
Radio-สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230117150929935
| null |
’มีบ้าน มีรายได้ มีความมั่นคงในชีวิต’ กับโครงการเคหะสุขประชา ’บ้านล้านหลัง’
|
ปัญหาการขาดแคลนที่อยู่อาศัยนับเป็นปัญหาที่ประสบกับทั่วโลก โดยเฉพาะกลุ่มผู้มีรายได้น้อย เป็นกลุ่มคนที่ขาดแคลนทรัพย์สิน การเข้าถึงสิทธิโครงการต่าง ๆ น้อยกว่าคนอื่น ๆ ในสังคม แม้แต่ประเทศเจริญและมั่งคงอย่างสหรัฐอเมริกาที่สํารวจจํานวนคนไร้บ้านทั่วประเทศ พบว่า ในปี พ.ศ. 2561 รัฐที่มีคนไร้บ้านมากที่สุดคือ แคลิฟอร์เนียมีจํานวนถึง 129,972 คน สําหรับประเทศไทย มีครัวเรือนทั้งหมดประมาณ 21,325,000 ครัวเรือน โดยศูนย์ข้อมูลที่อยู่อาศัยแห่งชาติ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เผยว่า ครัวเรือนที่มีบ้านที่ดินเป็นของตัวเองมีสัดส่วนลดลง ขณะที่ครัวเรือนลักษณะเช่าอยู่มีสัดส่วนสูงขึ้น กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) จึงได้จัดทํา แผนแม่บทการพัฒนาที่อยู่อาศัยระยะ 20 ปี (พ.ศ.2560-2579) เสนอต่อรัฐบาลและได้รับการเห็นชอบในหลักการจากคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 12 ก.ย. 2560 โดยมีเป้าหมายให้คนไทยทุกคนเข้าถึงสิทธิในที่อยู่อาศัย มีสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการดํารงชีวิตที่มีคุณภาพ และเสริมสร้างความมั่นคงด้านที่อยู่อาศัยของประชาชนทุกกลุ่มเป้าหมายและครอบคลุมในทุกมิติ ด้วยวิสัยทัศน์ คือ “คนไทยทุกคนมีที่อยู่อาศัยถ้วนทั่ว และมีคุณภาพชีวิตที่ดีภายในปี 2579”จึงเป็นที่มาของนโยบายรัฐบาลที่ต้องการยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้มีรายได้น้อยให้มีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง ลดความเหลื่อมล้ําทางสังคมให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีกันถ้วนหน้า จากความเปราะบางของสถานการณ์ทางเศรษฐกิจทําให้ผู้มีรายได้น้อยเข้าถึงสินเชื่อที่อยู่อาศัยได้ยากขึ้น จากนโยบายรัฐบาลของ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่ต้องการช่วยเหลือประชาชนให้มีที่อยู่อาศัยของตนเองผ่านโครงการบ้านล้านหลัง โดยมุ่งเน้นกลุ่มผู้มีรายได้น้อย กลุ่มคนวัยทํางานหรือผู้ที่กําลังเริ่มต้นสร้างครอบครัว รวมถึงกลุ่มผู้สูงอายุ โดยปล่อยสินเชื่อบ้าน ธอส. ให้ผู้มีรายได้น้อยเข้าถึงง่ายขึ้น และโครงการเคหะสุขประชาที่สนับสนุนให้ผู้มีรายได้น้อย เช่าที่พักในราคาถูก ควบคู่ไปกับรัฐส่งเสริมอาชีพและพัฒนาคุณภาพชีวิตโครงการบ้านล้านหลัง สานฝันคนไทยมีบ้าน สร้างชีวิตอย่างมั่นคงเมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน 2561 ครม.ได้มีมติเห็นชอบให้ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ จัดทํา “โครงการบ้านล้านหลัง” ตามนโยบายรัฐบาลที่ต้องการช่วยเหลือให้ประชาชนได้มีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง โดยมุ่งเน้นกลุ่มผู้มีรายได้น้อย กลุ่มคนวัยทํางานหรือผู้ที่กําลังเริ่มต้นสร้างครอบครัว รวมถึงกลุ่มผู้สูงอายุ โดยเปิดให้จองสิทธิ์สินเชื่อทั่วประเทศ ซึ่งมีประชาชนจํานวนมากให้ความสนใจ โดยในปี 2564 ข้อมูล ณ วันที่ 5 กันยายน มียอดอนุมัติสินเชื่อแล้วกว่า 53,000 ราย วงเงินสินเชื่อรวมเกือบ 40,000 ล้านบาท จากความสําเร็จของโครงการที่ต่อยอดมาจนถึงระยะที่ 2 ธอส.จึงปรับปรุงการกําหนดราคาซื้อ-ขาย/ค่าก่อสร้าง และปรับวงเงินกู้ สูงสุดต่อรายต่อหลักประกัน ไม่เกิน 1,500,000 บาท เพื่อให้ประชาชนมีทางเลือกในการหาซื้อที่อยู่อาศัยเพิ่มขึ้น และสอดคล้องกับความสามารถในการผ่อนชําระเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดียิ่งขึ้น โดยเริ่มเปิดให้ประชาชนลงทะเบียนเพื่อรับรหัสสําหรับเข้าร่วมโครงการผ่านแอปพลิเคชัน "GHB ALL" โดยมีรายละเอียดโครงการ ดังนี้• สินเชื่ออัตราดอกเบี้ยคงที่ 4 ปีแรก เท่ากับ 1.99% ต่อปี• ผ่อนชําระได้นานสูงสุด 40 ปี• เงินงวดคงที่ 84 งวดแรก หรือ 7 ปี• ให้กู้เพื่อซื้อบ้าน หรือ คอนโดมิเนียม (ห้องชุด) ทั้งที่เป็นที่อยู่อาศัยใหม่ของผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ บ้านมือสอง รวมถึงบ้านมือสองของ ธอส. เพื่อปลูกสร้าง หรือซื้อที่ดินพร้อมปลูกสร้าง และซื้ออุปกรณ์ หรือสิ่งอํานวยความสะดวกในการอยู่อาศัยพร้อมกับการขอกู้ซื้อบ้านหรือคอนโดมิเนียม• ยกเว้นค่าธรรมเนียมให้กับผู้กู้ 2 ประเภท 1.ค่าประเมินราคาหลักประกัน และ 2.ค่าจดทะเบียนนิติกรรมจํานองข้อมูล ณ วันที่ 6 มิถุนายน 2565 มีลูกค้าลงทะเบียนแล้วกว่า 94,000 ราย ในจํานวนนี้มีลูกค้าที่มีความพร้อมและยื่นเอกสารหลักฐานเพื่อเข้าสู่กระบวนการพิจารณาสินเชื่อแล้ว โดยในเดือนพฤศจิกายน 2565 ธอส.เผยว่า ได้เสนอโครงการบ้านล้านหลัง ระยะที่ 3 วงเงิน 20,000 ล้านบาท อัตราร้อยละ 3 นาน 5 ปี ให้กับกระทรวงการคลังพิจารณา โดยคาดว่าจะเสนอให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติต่อไป และคาดว่าจะเริ่มปล่อยสินเชื่อได้ภายในต้นเดือน มกราคม 2566 จากการปรับขึ้นของอัตราดอกเบี้ยธนาคารกลาง (เฟด)โครงการเคหะสุขประชา บ้านพร้อมอาชีพโครงการบ้านเคหะสุขประชา โดยการเคหะแห่งชาติ ที่วางรากฐานตั้งแต่ต้นน้ํายันปลายน้ําสร้างที่อยู่อาศัยประเภทเช่าแก่ผู้มีรายได้น้อย ผู้สูงอายุ และกลุ่มเปราะบาง ด้วยค่าเช่าที่เหมาะสมประมาณ 1,500 - 3,000 บาทต่อเดือน ควบคู่ไปกับการสร้างเศรษฐกิจสุขประชา เพื่อสร้างอาชีพและรายได้แก่ผู้เช่าตามความเหมาะสม โดยในโครงการจะมีการจัดสรรพื้นที่สีเขียว พื้นที่สันทนาการ เป็นสัดส่วนตามแนวทางเศรษฐกิจพอเพียง เพื่อลดรายจ่ายในครัวเรือน มีบ้าน มีอาชีพ มีรายได้ ซึ่งนําร่องแล้ว 2 พื้นที่ คือ ฉลองกรุง 302 หน่วย และร่มเกล้า 270 หน่วย ภายใต้แนวคิด“บ้านเช่าพร้อมอาชีพ” เป็นการพัฒนาอาชีพและสร้างรายได้ให้กับผู้อยู่อาศัย ตามความเหมาะสมในการพัฒนาโครงการของแต่ละพื้นที่ ประกอบด้วย 6 อาชีพ ได้แก่ เกษตรอินทรีย์ ปศุสัตว์ อาชีพบริการชุมชนและชุมชนข้างเคียง ตลาด อุตสาหกรรมขนาดเล็ก และศูนย์การค้าปลีก-ส่ง เพื่อพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากของชุมชนให้สามารถพึ่งพาตนเองได้อย่างยั่งยืน รวมถึงสนับสนุนเศรษฐกิจชุมชนตามภูมิสังคมของพื้นที่นั้น ๆ เริ่มตั้งแต่การผลิตไปจนถึงช่องทางการจัดจําหน่าย นอกจากนี้ ยังมีพื้นที่ “เศรษฐกิจสุขประชา” ซึ่งจะได้รับการพัฒนาในรูปแบบคอมมูนิตี้มอลล์ เพื่อรองรับการจ้างงานและสร้างอาชีพให้กับผู้อยู่อาศัยในชุมชน รวมทั้งยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้อยู่อาศัยในชุมชนให้เกิดความยั่งยืนต่อไป หลักเกณฑ์คุณสมบัติและเงื่อนไข• เป็นประชาชนที่ถือสัญชาติไทย• เป็นผู้ได้รับผลกระทบจากสภาวะเศรษฐกิจถดถอย• เป็นผู้ว่างงาน เป็นครอบครัวเลี้ยงเดี่ยว เป็นคนพิการ เป็นผู้สูงอายุ และเป็นผู้ได้รับผลกระทบจาก การไล่รื้อเวณคืน ข้าราชการเกษียณ เป็นไปตามหลักเกณฑ์และกฎหมายกําหนด• บรรลุนิติภาวะ สามารถจัดทํานิติกรรมสัญญากับการเคหะแห่งชาติได้ เป็นไปตามที่กฎหมายกําหนด• เป็นผู้มีรายได้ไม่เกิน 30,000 บาท ต่อเดือนต่อครัวเรือน จากเอกสารรับรองตนเองและผ่านการพิสูจน์ ตรวจสอบหลักฐานจากการเคหะแห่งชาติอัตราค่าเช่าบ้านเคหะสุขประชา• ผู้สูงอายุ/ผู้พิการ เริ่มต้น 1,500 บาท/เดือน พื้นที่ 30 ตร.ม.• กลุ่มคนโสด เริ่มต้น 2,000 บาท/เดือน พื้นที่ 30 ตร.ม.• กลุ่มคนทํางาน เริ่มต้น 2,500 บาท/เดือน พื้นที่ 40 ตร.ม.• กลุ่มครอบครัว เริ่มต้น 3,000 บาท/เดือน พื้นที่ 50 ตร.ม.โครงการเคหะสุขประชา คือ ตัวแบบโครงการที่ไม่เพียงสร้างบ้าน แต่ยังสร้างสังคมคุณภาพ ท่ามกลางสิ่งแวดล้อมที่ดี และก่อให้เกิดรายได้กับคนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ พร้อมสร้างความสุขให้กับคนที่อาศัยในบ้าน#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
|
17/1/2023
|
ภาคตะวันออก
|
ระยอง
|
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดระยอง
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230117152046946
| null |
นายกรัฐมนตรี ไม่ทราบพลเอก ประวิตร ลาป่วยเหตุอ่อนเพลียจากการลงพื้นที่
|
พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงกรณีที่พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ลาการประชุมคณะรัฐมนตรี เนื่องจากมีอาการอ่อนเพลียว่า วันนี้เบื้องต้นทราบว่าพลเอก ประวิตร ลาไปจังหวัดราชบุรี เนื่องจากเมื่อวานนี้ไปจังหวัดพะเยาและลําปางแล้ว แต่ท้ายที่สุดยังไม่ทราบว่าได้เดินทางไปจังหวัดราชบุรีจริงหรือไม่ ซึ่งหากพลเอก ประวิตรป่วย ตนเองเป็นห่วงอยู่แล้ว และเคยเตือนให้ระมัดระวังเรื่องสุขภาพ แต่เชื่อว่าพลเอก ประวิตร จะหายป่วยในเร็ววัน เพราะมีสุขภาพแข็งแรงทั้งนี้นายกรัฐมนตรี ปฏิเสธตอบคําถาม กรณีที่มีการตั้งข้อสังเกตว่าพลเอกประวิตร ลาป่วยทางการเมือง เพราะไม่อยากเจอนายกรัฐมนตรีจากเรื่องจดหมายเปิดใจ รวมถึงไม่ตอบว่า ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พรรคเศรษฐกิจไทย จังหวัดพะเยา จะกลับเข้าสังกัดพรรคพลังประชารัฐหรือไม่
|
17/1/2023
|
ภาคกลางและปริมณฑล
|
กรุงเทพมหานคร
|
Radio-สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230117144035901
| null |
นายกรัฐมนตรี โทรศัพท์สอบถามพลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ์ ถึงสาเหตุลาการประชุมคณะรัฐมนตรี ด้านพลเอก ประวิตรชี้แจงติดภารกิจ
|
นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจําสํานักนายกรัฐมนตรี ชี้แจงกรณีที่ผู้สื่อข่าวสอบถามพลเอก ประยุทธ์? จันทรโอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ถึงการลาประชุมคณะรัฐมนตรีของพลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ์ รองนายกรัฐมนตรี หลังมีรายงานข่าวว่า พลเอก ประวิตร ไม่สบายและมีอาการอ่อนเพลียจากการลงพื้นที่ ซึ่งเมื่อนายกรัฐมนตรีกลับไปที่ห้องทํางานบนตึกไทยคู่ฟ้า ได้โทรศัพท์ไปหาพลเอก ประวิตร ทันทีด้วยความเป็นห่วง ทั้งนี้ข้อเท็จจริงคือ พลเอก ประวิตร ติดภารกิจในการทําหน้าที่ จึงได้ลาประชุม ครม. และยืนยันว่า พลเอก ประวิตร สุขภาพยังแข็งแรงดีและไม่ได้เป็นอุปสรรคต่อการทํางานใดๆ ทั้งสิ้น
|
17/1/2023
|
ภาคกลางและปริมณฑล
|
กรุงเทพมหานคร
|
Radio-สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230117162649966
| null |
กองทัพเรือ ร่วม จ.ตราด จัดพิธีลอยพวงมาลารำลึกถึงวีรกรรมทหารเรือในงาน “วันวีรกรรมทหารเรือไทยในยุทธนาวีที่เกาะช้าง” ประจำปี 2566
|
(17 ม.ค. 66) พลเรือเอก อะดุง พันธุ์เอี่ยม ผู้บัญชาการกองเรือยุทธการ เป็นประธานเปิดงาน “วันวีรกรรมทหารเรือไทยในยุทธนาวี ที่เกาะช้าง” ประจําปี 2566 ซึ่งกองทัพเรือร่วมกับจังหวัดตราดและหน่วยงานต่าง ๆ ร่วมกันจัดขึ้น โดยมี นายกัฬชัย เทพวรชัย รองผู้ว่าราชการจังหวัดตราด นําข้าราชการ ประชาชน เข้าร่วมพิธี โดยมีการเปิดงานบริเวณอนุสรณ์สถานวีรกรรมทหารเรือไทยในยุทธนาวีเกาะช้าง อําเภอแหลมงอบ จังหวัดตราด ผู้บัญชาการกองเรือยุทธการ กล่าวว่า งาน “วันวีรกรรมทหารเรือไทยในยุทธนาวี ที่เกาะช้าง” นับเป็นงานสําคัญที่กองทัพเรือร่วมกับจังหวัดตราดจัดขึ้นเป็นประจําทุกปี เพื่อให้ทหารเรือทุกคนได้แสดงความเคารพและรําลึกถึงวีรกรรมของทหารเรือจํานวน 36 นาย ที่ได้ทําการรบอย่างกล้าหาญ และยอมพลีชีพเพื่อปกป้องอธิปไตยของชาติ เมื่อวันที่ 17 มกราคม 2484 หรือเมื่อ 82 ปีที่แล้ว จากการรุกรานของฝรั่งเศสที่ระดมยิงหัวเมืองชายทะเลภาคตะวันออกของประเทศไทย โดยกําลังทางเรือของไทยประกอบด้วยเรือหลวงธนบุรี เรือหลวงชลบุรี เรือหลวงสงขลาได้ต่อสู้จนสุดความสามารถ จนต้องสูญเสียเรือรบทั้งสามลําไปสําหรับการจัดพิธีในครั้งนี้เหล่าทหารเรือ พร้อมด้วยข้าราชการ ร่วมประกอบพิธีลอยพวงมาลาเพื่อรําลึกในวีรกรรมของทหารเรือไทย โดยในปีนี้ทางกองทัพเรือได้นําเรือหลวงท้ายเหมือง พร้อมด้วยเรือตรวจการณ์ เข้าร่วมประกอบพิธีครั้งนี้ สําหรับงานวันวีรกรรมทหารเรือไทยในยุทธนาวีที่เกาะช้าง ในปีนี้จัดขึ้นระหว่างวันที่ 17 - 21 มกราคม 2566 ภายในงานดังกล่าวมีการจัดแสดงนิทรรศการเชิดชูวีรกรรมทหารเรือไทย การออกร้านจากหน่วยงานภาครัฐและเอกชน ตลอดจนการแสดงและจําหน่ายสินค้า OTOP และของดีเมืองตราด#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
|
17/1/2023
|
ภาคตะวันออก
|
ตราด
|
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดตราด
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230117180844028
| null |
พรรคก้าวไกล ประกาศไม่ร่วมงานการเมืองกับพลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ พร้อมเห็นว่าพรรคการเมืองควรฟังเสียงประชาชน
|
นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกลและโฆษกพรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณี พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ระบุพร้อมประสานงานกับทุกฝ่าย โดยนายรังสิมันต์ ยืนยันว่า พรรคก้าวไกลจะไม่ทํางานกับพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา และพลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ และเห็นว่าหากพรรคการเมืองใดไปร่วมมือกับพลเอก ประวิตร เชื่อว่ายากที่ประชาชนจะสนับสนุน ซึ่งจากการลงพื้นที่พบว่า ประชาชนไม่อยากเห็นพรรคการเมืองฝ่ายประชาธิปไตยไปร่วมงานกับพรรคฝ่ายเผด็จการ ดังนั้นต้องคํานึงถึงความรู้สึกประชาชนด้วย ส่วนที่พรรคพลังประชารัฐ เปิดนโยบายเพิ่มเงินบัตรสวัสดิการแห่งรัฐเป็น 700 บาทนั้น เห็นว่า พลเอก ประวิตร ควรลาออกจากคณะรัฐมนตรีเพื่อไปเปิดนโยบาย ซึ่งการประชุมคณะรัฐมนตรีคือ การทํางานเพื่อแก้ปัญหาให้กับประชาชน อย่างไรก็ตาม ไม่เชื่อว่านโยบายต่างๆ จะนําไปสู่ความเปลี่ยนแปลงได้ ดังนั้นเชื่อว่าการเมืองหลังจากนี้หากแข่งขันกันในเชิงนโยบายจะสร้างการเปลี่ยนแปลงได้และพรรคก้าวไกลพร้อมจะทําหน้าที่นั้น
|
18/1/2023
|
ภาคกลางและปริมณฑล
|
กรุงเทพมหานคร
|
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230118203322400
| null |
สำนักงานบังคับคดีจังหวัดปัตตานี จัดโครงการเสริมสร้างประสิทธิภาพด้านการบังคับคดี การไกล่เกลี่ยข้อพิพาท และลดการเหลื่อมล้ำในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ประจำปีงบประมาณ พ
|
วันนี้ (18 มกราคม 2566) เวลา 09.00น. ที่ห้องประชุม โรงแรมซี เอส ปัตตานี นายสนั่น สนธิเมือง รองผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี เป็นประธานเปิดโครงการเสริมสร้างประสิทธิภาพด้านการบังคับคดี การไกล่เกลี่ยข้อพิพาท และลดการเหลื่อมล้ําในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ประจําปีงบประมาณ พ.ศ.2566 ซึ่งจัดโดยสํานักงานบังคับคดีจังหวัดปัตตานี ร่วมกับหน่วยงานต่างๆที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและเอกชน มีประชาชนที่เป็นลูกหนี้และผู้สนใจเข้าร่วมกิจกรรม นายสมคิด แก้วนิล ผู้อํานวยการสํานักงานบังคับคดีจังหวัดปัตตานี กล่าวว่า การจัดโครงการ เสริมสร้างประสิทธิภาพด้านการบังคับคดี การไกล่เกลี่ยข้อพิพาท และลดการเหลื่อมล้ําในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ประจําปีงบประมาณ พ.ศ.2566 ในครั้งนี้ สืบเนื่องจากกรมบังคับคดี ซึ่งมีภารกิจในด้านการบังคับคดีแพ่ง คดีล้มละลาย การฟื้นฟูกิจการของลูกหนี้ การชําระบัญชี การวางทรัพย์ และการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทชั้นบังคับคดีภายหลังคําพิพากษา โดยมีการดําเนินการภารกิจต่าง ๆ ในพื้นที่ทั่วประเทศผ่านทางสํานักงานบังคับคดีจังหวัด/สาขา เพื่ออํานวยการความยุติธรรม ลดความเหลื่อมล้ํา โดยร่วมมือกับทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐและภาคประชาชน เข้าแก้ปัญหาและช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนไม่ได้รับความยุติธรรม ให้เข้าถึงกระบวนการยุติธรรมได้อย่างสะดวก รวดเร็ว และเนื่องมาจากสภาพปัญหาหนี้ภาคประชาชน ภาคเอกชน เช่น หนี้สินครัวเรือน หนี้รายย่อย และหนี้ธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SME) ที่เข้าสู่กระบวนการไกล่เกลี่ยมีเป็นจํานวนมาก ส่งผลกระทบต่อปัญหาเศรษฐกิจของประเทศ ดังนั้น เพื่อเป็นแนวทางในการชําระหนี้ มาตรการในการช่วยเหลือเพื่อเพิ่มโอกาลในการเจรจาระหว่างเจ้าหนี้และถูกหนี้ เพื่อลดการถูกบังกับคดี ยึด หรืออายัดทรัพย์สินของถูกหนี้ อํานวยความเป็นธรรมเพื่อความเหลื่อมล้ําและให้ประชาชนเข้าถึงกระบวนการยุติธรรมมากขึ้น สํานักงานบังคับคดีจังหวัดปัตตานี จึงได้จัดโครงการเสริมสร้างประสิทธิภาพด้านการบังคับคดี การไกล่เกลี่ยข้อพิพาท และลดการเหลื่อมล้ําพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ประจําปีงบประมาณ พ.ศ.2566 ขึ้นในวันนี้ โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อเพิ่มโอกาสในการเจรจาระหว่างเจ้าหนี้และลูกหนี้ เพื่อลดการถูกบังคับคดี ยึด หรืออายัดทรัพย์สินของลูกหนี้ อํานวยความเป็นธรรม และให้ประชาชนได้เข้าถึงกระบวนการยุดิธรรมมากขึ้น เพื่อให้ประชาชนเกิดความเชื่อมั่นในกระบวนการด้านอํานวยความยุดิธรรมและช่วยเหลือเยียวยา กิจกรรมภายในงาน มีการบรรยายให้ความรู้ การให้คําปรึกษาด้านกฎหมาย การไกล่เกลี่ยช้อพิพาทระหว่างประชาชนกับหน่วยงานต่างๆทั้งภาครัฐและเอกชน โดยมีหน่วยต่างๆมาตั้งโต๊ะเจรจาไกล่เกลี่ย เช่น กองทุน กยศ. ธนาคารออมสิน ธนาคารอาคารสงเคราะห์ รวมทั้งบริษัทภาคเอกชนด้วย ภาพ/ข่าว เพชรน้อย ส.ปชส.ปัตตานี#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
|
18/1/2023
|
ภาคใต้
|
ปัตตานี
|
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดปัตตานี
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230118120839213
| null |
ผบ.บก.ควบคุมสุริโยทัย ลาดตระเวนเฝ้าตรวจตะเข็บแนวชายแดน ช่องทางธรรมชาติ ไทย- มาเลเซีย สั่งคุมเข้มในทุกมิติ ทั้งทางอากาศ ทางบก และทางน้ำ
|
วานนี้ (17ม.ค. 66) เวลา 09.30 น. ณ ด่านศุลกากรตากใบ ตําบลเจ๊ะเห อําเภอตากใบ จังหวัดนราธิวาส พลตรี เฉลิมพร ขําเขียว ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 15 / ผู้บังคับกองบังคับการควบคุมสุริโยทัย ร่วมลาดตระเวนทางน้ํา พร้อมกําชับเพิ่มมาตรการ เข้มงวดในการดูแลรักษาความปลอดภัย ตามลําน้ําตลอดแนวชายแดนไทย-มาเลเซีย ตรวจสอบช่องทางข้ามธรรมชาติของแม่น้ําสุไหงโก-ลก ที่กั้นพรมแดนระหว่างประเทศไทย ด้านจังหวัดนราธิวาส กับรัฐกลันตันประเทศมาเลเซีย สั่งการให้หน่วยทหารในพื้นที่ เพิ่มมาตรการคุมเข้มตลอดแนวชายแดน สกัดกั้นพื้นที่รับผิดชอบ อําเภอตากใบ อําเภอสุไหงโก-ลก และ อําเภอแว้ง จังหวัดนราธิวาส เพิ่มมาตรการในการลาดตระเวน โดยให้หน่วยได้บูรณาการ การปฏิบัติงานในทุกมิติ ลาดตระเวนเฝ้าตรวจตะเข็บแนวชายแดน ช่องทางธรรมชาติ ทั้งทางอากาศ ทางบก และทางน้ํา ร่วมกันกับทุกภาคส่วนในการบังคับใช้กฎหมายตามแนวชายแดนอย่างเข้มงวด การเสริมกําลังตามแนวชายแดน โดยเฉพาะช่องทางที่มีชุมชนหรือหมู่บ้านอาศัยอยู่ใกล้แนวชายแดน การจัดตั้งจุดตรวจ/จุดสกัด และการจัดตั้งแหล่งข่าว เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการสกัดกั้นการลักลอบการหลบหนีเข้าประเทศโดยผิดกฎหมายจากนั้น พลตรี เฉลิมพร ขําเขียว ผู้บังคับกองบังคับการควบคุมสุริโยทัย เข้าตรวจเยี่ยม ติดตามผลการปฏิบัติงาน ของชุดควบคุมป้องกันชายแดนที่ 4 ได้มอบแนวทาง การปฎิบัติงาน รับทราบปัญหาข้อขัดข้อง พร้อมทั้งให้คําแนะนําในการปฏิบัติงานร่วมกันระหว่างไทย - มาเลเซีย เพื่อเป็นการเชื่อมความสัมพันธ์อันดีระหว่าง 2 ประเทศ ตลอดจนเน้นย้ําให้หน่วยปฏิบัติงานตามนโยบายของ พลโท ศานติ ศกุนตนาค แม่ทัพภาคที่ 4/ผู้อํานวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 การควบคุมพื้นที่ให้เกิดความปลอดภัยสูงสุด และการจัดตั้งแหล่งข่าว เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการสกัดกั้นการลักลอบการหลบหนีเข้าประเทศโดยผิดกฎหมาย รวมถึงการขับเคลื่อนการแก้ปัญหายาเสพติดในพื้นที่โดยบูรณาการการทํางานกับศูนย์ปฏิบัติการอําเภอ การป้องกัน สกัดกั้นชายแดน โดยกําชับในเรื่องการควบคุมบุคคล อาวุธ วัตถุระเบิด ยาเสพติด และสิ่งผิดกฎหมายต่างๆ ตามแนวชายแดน ไม่ให้เข้ามาในพื้นที่โดยเด็ดขาด ในการนี้ ได้ร่วมกับส่วนราชการ กํานัน ผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ เข้าเยี่ยมให้พี่น้องประชาชนผู้ป่วยติดเตียงในพื้นที่บ้านศรีพงัน ตลอดจนได้มอบเครื่องอุปโภค-บริโภค และผ้าอ้อมผู้ใหญ่ เพื่อเป็นการสร้างความสัมพันอันดีระหว่างเจ้าหน้าที่รัฐ และพี่น้องประชาชนในพื้นที่ต่อไป#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
|
18/1/2023
|
ภาคใต้
|
นราธิวาส
|
สวท.สุไหงโกลก จ.นราธิวาส
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230118125958233
| null |
จ.เลยเปิดจุดผ่อนปรนบ้านนาข่า ตำบลปากหมัน อำเภอด่านซ้าย
|
นายนที พรมภักดี นายอําเภอด่านซ้าย และท่านสมสนุก ไชอุดม เจ้าเมืองบ่อแตน แขวงไชยะบูลี สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ร่วมกันเปิดจุดผ่อนปรนบ้านนาข่า ตําบลปากหมัน อําเภอด่านซ้าย ตามที่จังหวัดเลยได้มีคําสั่งยกเลิกคําสั่งปิดจุดผ่อนปรน และมีคําสั่งเปิดจุดผ่อนปรน ณ ช่องทางเข้า - ออกระหว่างประเทศทางบก จังหวัดเลย ซึ่งประกาศจังหวัดเลย ฉบับลงวันที่ 21 กันยายน 2542 เรื่อง การเปิดจุดผ่อนปรนที่บ้านนาข่า อําเภอด่านซ้าย จังหวัดเลย และประกาศจังหวัดเลย ฉบับลงวันที่ 20 มิถุนายน 2551 เรื่อง ขยายวันเปิดจุดผ่อนปรนที่บ้านนาข่า อําเภอด่านซ้าย จังหวัดเลย จุดผ่อนปรนบ้านนาข่า ตําบลปากหมัน อําเภอด่านซ้าย จังหวัดเลย ได้กําหนดให้มีการผ่านเข้า - ออก บริเวณจุดผ่อนปรนบ้านนาข่า ได้ในวันอังคาร และวันพฤหัสบดี ของทุกสัปดาห์ ระหว่างเวลา 08.00. - 18.00 น. โดยมีคณะเจ้าเมืองบ่อแตน แขวงไชยะบูลี สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว, หัวหน้าส่วนราชการอําเภอด่านซ้าย, องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น, กํานัน ผู้ใหญ่บ้านตําบลปากหมัน และชาวบ้านนาข่า ร่วมพิธีเปิดดังกล่าว ณ จุดผ่อนปรนบ้านนาข่า หมู่ที่ 5 ตําบลปากหมัน อําเภอด่านซ้าย จังหวัดเลย#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
|
18/1/2023
|
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
|
เลย
|
สวท.ด่านซ้าย
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230118140534271
| null |
สภาผู้แทนราษฎร เกิดปัญหาองค์ประชุมไม่ครบระหว่างพิจารณาร่างพระราชบัญญัติกัญชา กัญชง พ.ศ…..
|
การประชุมสภาผู้แทนราษฎรวันนี้ (18 ม.ค.66) นายสุชาติ ตันเจริญ รองประธานสภาผู้แทนราษฎร ทําหน้าที่ประธานการประชุม พิจารณาร่างพระราชบัญญัติกัญชา กัญชง พ.ศ..... ต่อจากการประชุมครั้งที่แล้ว ทั้งนี้ทันทีที่เข้าสู่วาระที่ประชุมต้องลงมติในมาตรา 11 เกี่ยวกับอํานาจหน้าที่ของคณะกรรมการกัญชา กันชง ซึ่งประธานฯ ได้แจ้งให้ที่ประชุมได้แสดงตนเพื่อลงมติ ทั้งนี้ หลังใช้เวลารอองค์ประชุมประมาณ 17 นาที โดยเมื่อมีองค์ประชุมครบจํานวน 220 คน จึงให้ลงมติผลปรากฎว่า นายสุชาติ ให้เวลาสมาชิกลงมติเพียง 3 นาที ก่อนจะกล่าวปิดการลงมติ และให้แสดงผลการลงมติต่อที่ประชุม ซึ่งพบว่า มีผู้มาลงมติเพียง 203 คน เห็นด้วย 174 คน ไม่เห็นด้วย 4 คน และงดออกเสียง 24 เสียง โดยนายสุชาติ กล่าวกับที่ประชุมว่า ตอนเช็คองค์ประชุมครบ แต่ลงคะแนนองค์ประชุมไม่ถึง 216 คน การลงมติถือว่าไม่ครบองค์ประชุมและได้สั่งปิดประชุมเมื่อเวลา 11.11 น. ทันทีสําหรับการประชุมสภาผู้แทนราษฎร วันนี้ (18 ม.ค.66) รวมเวลาที่สภาเปิดประชุมและปิดประชุมเพียง 22 นาทีเท่านั้น ขณะที่ร่างพระราชบัญญัติกัญชา กัญชง ค้างในที่ประชุมสภามา 4 สัปดาห์แล้ว เนื่องจากปัญหาขององค์ประชุม
|
18/1/2023
|
ภาคกลางและปริมณฑล
|
กรุงเทพมหานคร
|
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230118203039398
| null |
รองประธานวิปรัฐบาล ยืนยันปัดไม่มีขบวนการคว่ำร่างพระราชบัญญัติกัญชา กัญชง พ.ศ…. แต่เป็นเพราะความเห็นต่าง
|
นายชินวรณ์ บุญเกียรติ รองประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล เปิดเผยว่า วิปรัฐบาลได้ปรึกษาหารือกันและเห็นว่าขณะนี้สถานการณ์ทางการเมืองมีความไม่แน่นอน และมีปัญหาองค์ประชุมสภาไม่ครบ เนื่องจากมีกฎหมายที่ยังไม่เห็นพ้องต้องกันจึงทําให้บางส่วนที่ไม่เห็นด้วยกับร่างพระราชบัญญัติกัญชา กัญชง พ.ศ..... ไม่ได้เข้าร่วมแสดงตนและส่วนหนึ่งเป็นช่วงปลายสมัยประชุม จึงเห็นว่าให้นําร่างกฎหมาย ที่มีความสําคัญและมีความเห็นพ้องต้องกันขึ้นมาพิจารณา โดยขณะนี้มีร่างกฎหมาย 4 ฉบับ ที่มีความเห็นสอดคล้องกัน จึงให้นําขึ้นมาพิจารณาก่อน และหากเป็นไปได้จะให้มีการนัดประชุมร่วมรัฐสภาเพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ มาพิจารณาด้วย ซึ่งพรรคพลังประชารัฐ พรรคประชาธิปัตย์ และพรรคภูมิใจไทย รวมทั้งฝ่ายค้าน ยืนยันจะร่วมเป็นองค์ประชุมเพื่อให้กฎหมายผ่านไปด้วยความเรียบร้อยก่อนที่จะยุบสภา ทั้งนี้ยืนยันไม่ได้มีขบวนการคว่ําร่างพพระราชบัญญัติกัญชากัญชง เพียงแต่ความเห็นไม่ตรงกันและฝ่ายค้านเรียกร้องให้ถอนร่างกฎหมายนี้ออกไป แต่ฝ่ายผู้เสนอเห็นว่าเสนอมาตามขั้นตอนจึงดําเนินการต่อ ซึ่งพรรคประชาธิปัตย์ ยืนยันว่าได้ร่วมเป็นองค์ประชุมตลอด แต่การลงมติอาจจะไม่เห็นด้วย ส่วนฝ่ายค้านอาจไม่ร่วมเป็นองค์ประชุม เพราะไม่เห็นชอบกับกฎหมายดังกล่าว จึงเห็นว่าเรื่องพระราชบัญญัติที่มีความไม่เห็นพ้องต้องกัน รวมถึงร่างพระราชบัญญัติการเข้าชื่อถอดถอนบริหารและสมาชิกสภาท้องถิ่นน่าจะไม่ผ่านในสมัยประชุมนี้สําหรับการอภิปรายทั่วไป โดยไม่ลงมติตามมาตรา 152 ที่ฝ่ายค้านมองว่า การที่รัฐบาลจะให้อภิปรายวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2566 อาจช้าไปนั้น นายชินวรณ์ กล่าวว่า เป็นไปตามข้อบังคับเมื่อฝ่ายค้านยื่นญัตติตามมาตรา 152 และสภาตรวจสอบความถูกต้องแล้วส่งเรื่องไปยังคณะรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรีตอบกลับมาแล้วว่ามีความพร้อมตั้งแต่วันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2566 เป็นต้นไป ซึ่งตามข้อบังคับฝ่ายรัฐบาล ยืนยันว่าวันที่ 15 และ 16 กุมภาพันธ์ ฝ่ายรัฐบาลพร้อมที่จะให้เปิดอภิปรายทั่วไป จึงขอให้ฝ่ายค้านเตรียมตัวทําหน้าที่ให้ดี โดยขอให้ทุกฝ่ายรับผิดชอบต่อประชาชนเพราะสุดท้ายประชาชนจะเป็นผู้ตัดสินใจเลือก
|
18/1/2023
|
ภาคกลางและปริมณฑล
|
กรุงเทพมหานคร
|
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230118204310405
| null |
รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า เป็นประธานเปิดการสัมมนายุทธศาสตร์งานด้านกฎหมายจังหวัดชายแดนภาคใต้ สร้างความรู้ ความเข้าใจและหลักการในกระบวนการยุติธรรม ตลอดจนข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ 3 ฝ่าย เพื่อเป็นกรอบในการแก้ไขปัญหาความไม่สงบที่เกิดขึ้นในพื้นที่
|
วันนี้ (18 ม.ค.66) เวลา 9.30 น. พลตรีไพศาล หนูสังข์ รองแม่ทัพภาคที่ 4 / รองผู้อํานวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้าเป็นประธานเปิดการสัมมนายุทธศาสตร์งานด้านกฎหมายจังหวัดชายแดนภาคใต้ ณ ห้องประชุมจามจุรี โรงแรมเฟรนด์ลี่เทล อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา โดยมี พันเอกเฉลิมชัย สุทธินวล ผู้อํานวยการสํานักกฎหมายและสิทธิมนุษยชน กองอํานวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้าพี้อมคณะวิทยากร และ เจ้าหน้าที่ 3 ฝ่าย (ทหาร ตํารวจ และฝ่ายปกครอง) จํานวน 120 นาย ร่วมกิจกรรมสัมมนาดังกล่าวพลตรี ไพศาล หนูสังข์ รองแม่ทัพภาคที่ 4 / รองผู้อํานวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า กล่าวว่า การจัดสัมมนายุทธศาสตร์งานด้านกฎหมายจังหวัดชายแดนภาคใต้ ในครั้งนี้ ได้เชิญเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานใน กองอํานวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค ๔ ส่วนหน้า จากทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องกับภารกิจบังคับใช้กฎหมายและ กระบวนการยุติธรรมในพื้นที่ 37 อําเภอ ของจังหวัดชายแดนภาคใต้ ให้มีความรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับการดําเนินการตามกระบวนการยุติธรรมชั้นก่อนฟ้องและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้เพื่อให้เจ้าหน้าที่กองอํานวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า เกิดความเข้าใจ และตระหนักในความสําคัญของกฎหมาย สิทธิมนุษยชน และกระบวนการยุติธรรม อันจะเป็นกรอบในการปฏิบัติงานในการแก้ไขปัญหาความไม่สงบที่เกิดขึ้นในพื้นที่ได้อย่างชอบธรรมและมีประสิทธิภาพด้าน พันเอก เฉลิมชัย สุทธินวล ผู้อํานวยการสํานักกฎหมายและสิทธิมนุษยชน กองอํานวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า กล่าวเพิ่มเติมว่า เจ้าหน้าที่ระดับสัญญาบัตรผู้ปฏิบัติงานใน กองอํานวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ทั้งทหาร ตํารวจและฝ่ายปกครอง ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องกับภารกิจบังคับใช้กฎหมาย และกระบวนการยุติธรรม สิ่งสําคัญสําหรับการปฏิบัติงานในพื้นที่ เจ้าหน้าที่ทุกนายต้องมีความรู้ ความเข้าใจในเจตนารมณ์แห่งกฎหมายและหลักการในกระบวนการยุติธรรม ตลอดจนข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับการปฏิบัติงานของตน ซึ่งจะเป็นเกราะป้องกันตัว ลดการกระทําที่จะเป็นการสร้างเงื่อนไข ต่าง ๆ อันจะนําไปสู่ความขัดแย้งความเกลียดชังที่จะเกิดขึ้นในอนาคตจึงได้มีการเสาวนาในวันนี้ขึ้น เพื่อเรียนรู้ไปด้วยกัน #สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
|
18/1/2023
|
ภาคใต้
|
สงขลา
|
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสงขลา
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230118184548374
| null |
รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า เป็นประธานเปิดการสัมมนายุทธศาสตร์งานด้านกฎหมายจังหวัดชายแดนภาคใต้ สร้างความรู้ ความเข้าใจและหลักการในกระบวนการยุติธรรม ตลอดจนข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ 3 ฝ่าย เพื่อเป็นกรอบในการแก้ไขปัญหาความไม่สงบที่เกิดขึ้นในพื้นที่
|
วันนี้ (18 ม.ค.66) เวลา 9.30 น. พลตรี ไพศาล หนูสังข์ รองแม่ทัพภาคที่ 4 / รองผู้อํานวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้าเป็นประธานเปิดการสัมมนายุทธศาสตร์งานด้านกฎหมายจังหวัดชายแดนภาคใต้ ณ ห้องประชุมจามจุรี โรงแรมเฟรนด์ลี่เทล อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา โดยมี พันเอกเฉลิมชัย สุทธินวล ผู้อํานวยการสํานักกฎหมายและสิทธิมนุษยชน กองอํานวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้าพี้อมคณะวิทยากร และ เจ้าหน้าที่ 3 ฝ่าย (ทหาร ตํารวจ และฝ่ายปกครอง) จํานวน 120 นาย ร่วมกิจกรรมสัมมนาดังกล่าวพลตรี ไพศาล หนูสังข์ รองแม่ทัพภาคที่ 4 / รองผู้อํานวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า กล่าวว่า การจัดสัมมนายุทธศาสตร์งานด้านกฎหมายจังหวัดชายแดนภาคใต้ ในครั้งนี้ ได้เชิญเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานใน กองอํานวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า จากทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องกับภารกิจบังคับใช้กฎหมายและ กระบวนการยุติธรรมในพื้นที่ 37 อําเภอของจังหวัดชายแดนภาคใต้ ให้มีความรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับการดําเนินการตามกระบวนการยุติธรรมชั้นก่อนฟ้องและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ เพื่อให้เจ้าหน้าที่กองอํานวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า เกิดความเข้าใจ และตระหนักในความสําคัญของกฎหมาย สิทธิมนุษยชน และกระบวนการยุติธรรม อันจะเป็นกรอบในการปฏิบัติงานในการแก้ไขปัญหาความไม่สงบที่เกิดขึ้นในพื้นที่ได้อย่างชอบธรรมและมีประสิทธิภาพด้าน พันเอก เฉลิมชัย สุทธินวล ผู้อํานวยการสํานักกฎหมายและสิทธิมนุษยชน กองอํานวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า กล่าวเพิ่มเติมว่า เจ้าหน้าที่ระดับสัญญาบัตรผู้ปฏิบัติงานใน กองอํานวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ทั้งทหาร ตํารวจและฝ่ายปกครอง ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องกับภารกิจบังคับใช้กฎหมาย และกระบวนการยุติธรรม สิ่งสําคัญสําหรับการปฏิบัติงานในพื้นที่ เจ้าหน้าที่ทุกนายต้องมีความรู้ ความเข้าใจในเจตนารมณ์แห่งกฎหมายและหลักการในกระบวนการยุติธรรม ตลอดจนข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับการปฏิบัติงานของตน ซึ่งจะเป็นเกราะป้องกันตัว ลดการกระทําที่จะเป็นการสร้างเงื่อนไข ต่าง ๆ อันจะนําไปสู่ความขัดแย้งความเกลียดชังที่จะเกิดขึ้นในอนาคตจึงได้มีการเสาวนาในวันนี้ขึ้น เพื่อเรียนรู้ไปด้วยกัน#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
|
18/1/2023
| null |
สงขลา
|
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสงขลา
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230118185453378
| null |
สคบ.ย้ำเตือน ‘เบบี้คริสตัล’ เป็น สินค้าห้ามขาย ประสานแพลตฟอร์มออนไลน์ ไม่ให้นำมาขาย มีโทษจำคุก 3 ปี ปรับ 600,000 บาท และหากผู้บริโภคได้รับอันตรายสาหัส จำคุก 5 ปี ปรับ 1,000,000 บาท
|
นายธสรณ์อัฑฒ์ ธนิทธิพันธ์ เลขาธิการคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.)กล่าวว่า กรณีที่ปรากฏเป็นข่าวโพสต์เตือนภัย เด็กเผลอกินเบบี้คริสตัล และทําให้ลําไส้อุดตันต้องเข้าไอซียูนั้น ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงในเรื่องดังกล่าว พบว่าผู้เสียหายได้ซื้อสินค้ามาจาก ‘แพลตฟอร์มออนไลน์’ ซึ่ง สคบ.ได้ประสานงานกับผู้ประกอบธุรกิจแพลตฟอร์มออนไลน์ต่าง ๆ ในการบังคับใช้กฎหมายเพื่อเป็นการป้องปรามผู้ประกอบธุรกิจ มิให้นําสินค้าที่ผิดกฎหมายมาเสนอขายในแพลตฟอร์ม โดยเฉพาะอย่างยิ่งสินค้าที่เป็นอันตรายต่อผู้บริโภคทั้งนี้ สคบ.ได้แจ้งเตือนให้ผู้ปกครองได้ดูแลบุตรหลานอย่างใกล้ชิด และตระหนักถึงอันตรายของ ‘เบบี้คริสตัล’ (ตัวดูดน้ํา) ซึ่งหากเด็กเผลอกินเข้าไปจะพองตัวได้ภายในระยะเวลาตามสภาพการย่อยในร่างกายของมนุษย์ได้ถึง 5 เท่า มีลักษณะเหนียว ไม่แยกหรือแตกร่วน และไม่มีการย่อยตัว ทําให้เกิดการผิดปกติต่อระบบการย่อยและการขับถ่าย ทําให้ลําไส้อุดตันได้หากผู้ใด ผลิตเพื่อขาย สั่ง หรือนําเข้ามาในราชอาณาจักรเพื่อขาย หรือขายสินค้ามีโทษจําคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 600,000 บาท หรือทั้งจําทั้งปรับ และกรณีที่ผู้บริโภคเกิดอันตรายแก่กาย สุขภาพอนามัย หรือจิตใจของผู้อื่นจากสินค้า เบบี้คริสตัล (ตัวดูดน้ํา) มีโทษจําคุกไม่เกิน 4 ปี หรือปรับไม่เกิน 800,000 บาท หรือทั้งจําทั้งปรับ หากได้รับอันตรายสาหัส มีโทษจําคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 1,000,000 บาท หรือทั้งจําทั้งปรับ และถ้าถึงแก่ความตาย มีโทษจําคุก ตั้งแต่ 1 ปี ถึง 10 ปี หรือปรับตั้งแต่ 200,000 บาท ถึง 2,000,000 บาท หรือทั้งจําทั้งปรับ ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ. 2522ทั้งนี้ ผู้ใดพบเห็นการขาย“เบบี้คริสตัล (ตัวดูดน้ํา)" สามารถแจ้งเบาะแส ได้ที่สายด่วน สคบ. 1166 และผ่านระบบออนไลน์ ได้ที่ "ระบบร้องทุกข์ผู้บริโภค" (https://complaint.ocpb.go.th) หรือ โมบายแอปพลิเคชัน "OCPB Connect" ได้ตลอด 24 ชั่วโมง หรือสถานีตํารวจในท้องที่
|
18/1/2023
|
ภาคกลางและปริมณฑล
|
กรุงเทพมหานคร
|
Radio-สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230119090639523
| null |
ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ นำหน่วยทหารในพื้นที่ จ.ลพบุรี 8 หน่วยงาน ร่วมพิธีสวนสนาม และกระทำสัตย์ปฏิญาณตน ต่อธงชัยเฉลิมพล เนื่องในวันกองทัพไทย
|
ที่ สนามสีหราชเดโช หน้ากองบัญชาการหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ ค่ายสมเด็จพระนารายณ์มหาราช อ.เมือง จ.ลพบุรี พลโท ณัฐวุฒิ นาคะนคร ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ นํากําลังพล จากหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ มณฑลทหารบกที่ 13 และหน่วยทหารในพื้นที่จังหวัดลพบุรี ทั้งกองทัพบก และกองทัพอากาศ รวม 8 กองพัน สวนสนาม โดยมีผู้ร่วมพิธี กว่า 3,000 คน เข้าร่วมพิธีสวนสนามกระทําสัตย์ปฏิญาณตน ต่อเบื้องหน้าธงชัยเฉลิมพล ซึ่งเป็นเครื่องหมายแทนองค์พระมหากษัตริย์ ผู้ทรงดํารงตําแหน่งจอมทัพไทยและเป็นหลักชัยของทหารทั้งปวง เป็นพิธีเพื่อให้ทหารยึดมั่นและรักษาคําสัตย์ในการปฏิบัติหน้าที่ในความรับผิดชอบ เพื่อส่วนรวมและประเทศชาติอย่างดีที่สุด และยังแสดงถึงการเป็นทหารอย่างสมบูรณ์ เนื่องใน วันกองทัพบก และ วันกองทัพไทย ประจําปี 2566 ในชุดเครื่องแบบเต็มยศสง่างาม เพื่อแสดงออกถึงความจงรักภักดี ความสามัคคี ความสามารถ ความเข้มแข็ง และความพร้อมเพรียงของกําลังพลทุกนาย สําหรับพิธีกระทําสัตย์ปฏิญาณตน และสวนสนามต่อหน้าธงชัยเฉลิมพล ของทหาร ถือเป็นพิธีอันทรงเกียรติ และเป็นกิจกรรมที่สําคัญยิ่งของทหาร ซึ่งทหารทุกคนจะต้องผ่านพิธีนี้ จึงจะถือว่าได้ผ่านการเป็นทหารโดยสมบูรณ์ และถือเป็นเกียรติประวัติของผู้เข้าร่วมพิธี#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
|
18/1/2023
|
ภาคกลางและปริมณฑล
|
ลพบุรี
|
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดลพบุรี
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230118233059438
| null |
สภาผู้แทนราษฎร เตรียมพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ ซึ่งคณะรัฐมนตรีเป็นผู้เสนอ รวมทั้งกลุ่มร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมพระราชกำหนดการประมง พ.ศ. 2558 พ.ศ.. 7 ฉบับ
|
การประชุมสภาผู้แทนราษฎร เป็นพิเศษ ในเวลา 09.30 น. วันนี้ (19 ม.ค.66) ภายหลังเปิดให้สมาชิกปรึกษาหารือปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนแล้ว จากนั้นเป็นการพิจารณากระทู้ถาม แบ่งเป็นกระทู้ถามสดด้วยวาจาและกระทู้ถามทั่วไปที่สมาชิกตั้งถามรัฐบาลหลายเรื่อง เช่น เรื่องการแพร่ระบาดของโรคลัมปี สกิน ในโค กระบือ , เรื่องขอทราบแนวทางการจัดทํานโยบายและแนวทางบริหารจัดการวัคซีนเพื่อรองรับต่อการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ระลอกใหม่ และเรื่องขอทราบผลการดําเนินการตามรายจ่ายงบกลาง ปี 2564 และ 2565นอกจากนี้ มีวาระพิจารณาเรื่องด่วนกรณีร่างพระราชบัญญัติ ซึงคณะรัฐมนตรีเป็นผู้เสนอ จํานวน 3 ฉบับ ได้แก่ ร่างพระราชบัญญัติราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... , ร่างพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์ พ.ศ. .... และร่างพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลภาษีอากรและวิธีพิจารณาคดีภาษีอากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... รวมทั้งกลุ่มร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมพระราชกําหนดการประมง พ.ศ. 2558 พ.ศ..... จํานวน 7 ฉบับ ที่เสนอโดย ส.ส. ทั้งฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาล
|
19/1/2023
|
ภาคกลางและปริมณฑล
|
กรุงเทพมหานคร
|
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230119085630519
| null |
องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ จัดเดินรถ Shuttle Bus บริการฟรี เริ่มวันนี้ เส้นทางสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์-สถานีรถไฟกรุงเทพ (หัวลำโพง) เพื่ออำนวยความสะดวกการเดินทางให้แก่ประชาชน
|
นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจําสํานักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตามที่การรถไฟแห่งประเทศไทย ได้ปรับเปลี่ยนสถานีต้นทางปลายทางของขบวนรถไฟทางไกล สายเหนือ ใต้ ตะวันออกเฉียงเหนือ ทั้งขบวนรถด่วนพิเศษ รถด่วน รถเร็ว จํานวน 52 ขบวน มาที่สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ โดยเริ่มจะจําหน่ายตั๋วโดยสารอย่างเต็มรูปแบบ เริ่มตั้งแต่วันนี้ (19 ม.ค.66) เป็นต้นไป องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ได้จัดเดินรถ Shuttle Bus บริการฟรี เส้นทางสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์-สถานีรถไฟกรุงเทพ (หัวลําโพง) (ทางด่วน) เพื่ออํานวยความสะดวกให้แก่ประชาชนในการเดินทาง เชื่อมต่อระหว่างสถานีรถไฟทั้ง 2 แห่งสําหรับรถ Shuttle Bus ที่ให้บริการฟรีนี้ มีจํานวน 6 คัน เป็นรถโดยสารปรับอากาศ NGV แบบชานต่ํา (Low Floor) มีท่าต้นทาง 2 แห่ง คือ สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ และสถานีรถไฟกรุงเทพ (หัวลําโพง) ให้บริการ ตั้งแต่เวลา 04.30-23.00 น. ความถี่ในการปล่อยรถ ทุกๆ 30 นาที หรือตามจํานวนเที่ยวที่ขบวนรถไฟมาถึงสถานี ทั้งนี้ เฉพาะวันนี้จะให้บริการตั้งแต่ เวลา 12.00-23.00 น. สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมทื่ สายด่วน ขสมก. โทร.1348
|
19/1/2023
| null |
กรุงเทพมหานคร
|
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230119100344558
| null |
ผู้ว่าฯ ร้อยเอ็ด เปิดงาน 144 ปี วิถีชุมชนคนพนมไพร ประจำปี 2566"
|
นายทรงพล ใจกริ่ม ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด เป็นประธานเปิดงาน 144 ปี วิถีชุมชนคนพนมไพร ประจําปี 2566 ที่ บริเวณหน้าที่ว่าการอําเภอพนมไพร จังหวัดร้อยเอ็ด โดยมีนายเศกสิทธิ์ ไวนิยมพงศ์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดร้อยเอ็ด/นางสาวนงนุช สีทาน้อย ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดร้อยเอ็ด/นายสุเทพ พิมพิรัตน์ นายอําเภอพนมไพร หัวหน้าส่วนราชการ ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กํานัน ผู้ใหญ่บ้าน และประชาชนในพื้นที่อําเภอพนมไพร เข้าร่วมงาน เพื่อเป็นการอนุรักษ์ สืบสาน ส่งเสริม ต่อยอด มรดกภูมิปัญญาอัตลักษณ์ทางวัฒนธรรมของอําเภอพนมไพรให้คงไว้ ตลอดจนกระตุ้นเศรษฐกิจและส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมอําเภอพนมไพร นอกจากนี้ ยังเป็นการปลูกจิตสํานึกให้เด็ก เยาวชน ประชาชน ให้ตระหนักและเรียนรู้ถึงประวัติศาสตร์ วัฒนธรรมประเพณี การมีส่วนร่วมในการอนุรักษ์ ฟื้นฟูสืบสานวัฒนธรรม ภูมิปัญญาท้องถิ่น ความหลากหลายของวัฒนธรรม ความรักหวงแหนถิ่นฐานบ้านเกิดตนเอง ส่งเสริมการท่องเที่ยวท้องถิ่นชุมชนและสร้างเศรษฐกิจรายได้ให้กับชุมชน เน้นการดึงนักท่องเที่ยวเข้าสู่ชุมชน เพื่อให้ชาวบ้านได้ขายสินค้าอยู่ในชุนชนของตนเองอีกด้วย โดยงาน 144 ปี วิถีชุมชนคนพนมไพร ประจําปี 2566 จัดขึ้นระหว่างวันที่ 18 - 20 มกราคม 2566 ในแต่ละวันมีกิจกรรมต่างๆ เช่น กิจกรรมบวงสรวงพระเศวตสุวรรณภาพรรณ และพระดํารงฤทธิไกร (บุญตา) กิจกรรมฟ้อนรําบวงสรวง 144 ปีเมืองพนมไพรแดนมฤค ซึ่งมีผู้ฟ้อนรําจํานวน 1,440 คน จากส่วนราชการและองค์การปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่อําเภอพนมไพรทุกแห่ง กิจกรรมการออกร้าน นิทรรศการผ้าฝ้ายผ้าไหม การออกร้านจําหน่ายสินค้าและผลิตภัณฑ์ชุมชน การแสดงผลงานส่วนราช และการออกร้านตามหลักเศรษฐกิจพอเพียงของภาครัฐและเอกชน การแสดงละคร “เล่าขานตํานานเมืองพนมไพร” การประกวดร้องเพลงลูกทุ่งหมอลําประกอบหางเครื่อง และกิจกรรมรื่นเริงต่างๆมากมาย#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
|
19/1/2023
|
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
|
ร้อยเอ็ด
|
สวท.ร้อยเอ็ด
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230119131333629
| null |
ปชส.สุราษฎร์ธานี เผย ครม.ต่อเวลาลดภาษี "ดีเซล" ลิตรละ 5 บาท อีก 4 เดือน
|
นายณรงค์ หลักกําจร ประชาสัมพันธ์จังหวัดสุราษฎร์ธานี กล่าวว่า ครม.อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกําหนดพิกัดอัตราภาษีสรรพสามิต (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... โดยเป็นการปรับลดอัตราภาษีสรรพสามิตน้ํามันดีเซล และน้ํามันอื่นๆ ที่คล้ายกันในบัญชีพิกัดภาษีสรรพสามิต ประเภทที่ 01.05 รายการน้ํามันดีเซลที่มีกํามะถันและรายการน้ํามันดีเซลที่มีไบโอดีเซล ประเภทเมทิลเอสเตอร์ของกรดไขมันผสมอยู่ โดยปรับอัตราภาษีลดลง ประมาณ 5 บาทต่อลิตร ตามชนิดของน้ํามันดีเซล ตั้งแต่วันที่ 21 มกราคม 2566 ถึง 20 พฤษภาคม 2566 โดยเป็นมาตรการต่อเนื่องตั้งแต่กุมภาพันธ์ 2565 เป็นต้นมา และจะสิ้นสุดในวันที่ 20 มกราคม 2566 นี้โดยร่างกฎกระทรวงนี้ คาดว่าจะก่อให้เกิดผลกระทบต่อรายได้ของรัฐ โดยกรมสรรพสามิตจัดเก็บรายได้ภาษีสรรพสามิตสินค้าน้ํามันและผลิตภัณฑ์น้ํามันลดลงประมาณ 10,000 ล้านบาทต่อเดือน ซึ่งมาตรการภาษีครั้งนี้ จะดําเนินการเป็นระยะเวลาประมาณ 4 เดือน (ตั้งแต่ 21 ม.ค. – 20 พ.ค. 66) คาดว่าจะสูญเสียรายได้ประมาณ 40,000 ล้านบาท แม้ภาครัฐจะปรับลดภาษีน้ํามันลงต่อเนื่องเป็นครั้งที่ 6 ยังมั่นใจว่า สถานะการคลังของไทยยังแข็งแกร่ง ทั้งนี้ ตั้งแต่ตั้งต้นปีงบประมาณ 2566 กระทรวงการคลัง สามารถจัดเก็บรายได้จากภาษีได้เกินกว่า 5.5 หมื่นล้านบาททั้งนี้ เนื่องจากน้ํามันดีเซลเป็นต้นทุนในภาคส่วนต่าง ๆ ตั้งแต่ต้นน้ําถึงปลายน้ํา ซึ่งการลดอัตราภาษีสรรพสามิตสินค้าน้ํามันและผลิตภัณฑ์น้ํามันในครั้งนี้จะช่วยรักษาระดับราคาขายปลีกน้ํามันดีเซลในประเทศไม่ให้สูงขึ้นอย่างรวดเร็ว จนส่งผลกระทบต่อค่าครองชีพของประชาชนและภาคธุรกิจในระดับที่อาจเป็นอุปสรรคต่อการฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศ โดยกระทรวงการคลังจะติดตามสถานการณ์ราคาน้ํามันอย่างใกล้ชิด เพื่อพิจารณาความเหมาะสมของการปรับลดอัตราภาษี เพื่อให้ฐานะการคลังของประเทศมีเสถียรภาพมากขึ้น รวมทั้งให้การจัดเก็บรายได้ของรัฐเป็นไปตามประมาณการการจัดเก็บรายได้ประจําปีงบประมาณ พ.ศ.2566#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
|
19/1/2023
|
ภาคใต้
|
สุราษฎร์ธานี
|
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสุราษฎร์ธานี
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230119132727636
| null |
ปชส.สุราษฎร์ธานี เผย ครม.เห็นชอบหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการกำหนดค่าใช้จ่ายในการดำเนินการผู้ป่วยฉุกเฉินวิกฤต
|
นายณรงค์ หลักกําจร ประชาสัมพันธ์จังหวัดสุราษฎร์ธานี กล่าวถึงการดูแลผู้ป่วยฉุกเฉิน (UCEP) เคาะเพิ่มค่าธรรมเนียมแพทย์ 30 % ว่า ครม.เห็นชอบหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการกําหนดค่าใช้จ่ายในการดําเนินการผู้ป่วยฉุกเฉินวิกฤต (UCEP) (ฉบับที่ 4 ) ซึ่งสิทธิ UCEP (Universal Coverage for Emergency Patients) เป็นสิทธิการรักษาตามนโยบายรัฐ เพื่อคุ้มครองผู้ป่วยฉุกเฉินวิกฤต ให้สามารถเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลทุกแห่งที่ใกล้ที่สุดได้ โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายจนพ้นวิกฤต และสามารถเคลื่อนย้ายได้อย่างปลอดภัย แต่ไม่เกิน 72 ชั่วโมงสําหรับหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่เสนอในครั้งนี้ เป็นการปรับปรุงแก้ไขบัญชีและอัตราค่าใช้จ่ายแนบท้ายหลักเกณฑ์ UCEP ครั้งที่ 4 จํานวน 2 รายการ ใน 2 หมวด คือ การจัดทํารายการยา และค่าธรรมเนียมแพทย์ทั้งนี้ ค่าธรรมเนียมแพทย์ (ค่าบริการวิชาชีพ) คิดเป็นร้อยละ 45 ของค่าบริการผู้ป่วย UCEP ทั้งหมด (ค่าบริการผู้ป่วย UCEP เช่น ค่าห้อง และค่าอาหาร ค่ายา ค่าเวชภัณฑ์ที่ไม่ใช่ยา ค่าทําหัตถการ และค่าบริการวิชาชีพ) ดังนั้น การปรับเพิ่มขึ้นของค่าธรรมเนียมแพทย์ในครั้งนี้ จะส่งผลให้ค่าบริการผู้ป่วย UCEP ในภาพรวมเพิ่มขึ้นร้อยละ 13.5#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
|
19/1/2023
| null |
สุราษฎร์ธานี
|
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสุราษฎร์ธานี
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230119133007638
| null |
หน่วยงานภาครัฐและเอกชนในพื้นที่ ร่วมกิจกรรมเสวนายามเช้า แลกเปลี่ยนข้อราชการ พร้อมประชาสัมพันธ์ขับเคลื่อนกิจกรรมสำคัญในพื้นที่
|
วันนี้ ( 19 ม.ค.66 ) เวลา 07.00 น. ที่ทําการตํารวจภูธรจังหวัดนราธิวาส ต.โคกเคียน อ.เมือง จ.นราธิวาส นายทศพล สวัสดิสุข รองผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส เป็นประธานการจัดกิจกรรมเสวนายามเช้า โดยมีพลตํารวจตรีปราบพาล มีมงคล รองผู้บัญชาการตํารวจภูธรภาค 9 รักษาราชการแทน ผู้บังคับการตํารวจภูธรจังหวัดนราธิวาส นาวาเอก ศิลป์ชัยประสมศรี รองผู้อํานวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดนราธิวาส นายปรีชา นวลน้อย รองผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส ตลอดจนผู้กํากับการสถานีตํารวจภูธรในพื้นที่ ผู้บังคับการหน่วยทหาร ประชาสัมพันธ์จังหวัดนราธิวาส หัวหน้าส่วนราชการ เจ้าหน้าที่ 3 ฝ่าย และเจ้าหน้าที่ในหน่วยงานต่างๆร่วมกิจกรรมเสวนายามเช้า ซึ่งตํารวจภูธรจังหวัดนราธิวาส ร่วมกันเป็นเจ้าภาพในครั้งนี้โอกาสนี้ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส ได้พบปะพูดคุยกับผู้เข้าร่วมเสวนายามเช้าในครั้งนี้ ซึ่งอยากให้ หน่วยงานราชการ ได้พบปะประสานข้อราชการระหว่างหน่วยงาน รวมถึงประชาสัมพันธ์กิจกรรมต่างๆที่จะเกิดขึ้นในพื้นที่ การขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหายาเสพติดในพื้นที่อย่างจริงจัง นอกจากนี้ได้เน้นย้ําการประชาสัมพันธ์การแจ้งเตือนสภาพอากาศแก่ประชาชนในพื้นที่อย่างทันท่วงที และการประสานการปฏิบัติงานร่วมกันของทุกหน่วยงาน เพื่อการขับเคลื่อนงานให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อยหลังจากนั้นได้เปิดโอกาสให้หน่วยงานได้ประชาสัมพันธ์กิจกรรมต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นในพื้นที่โดยทางผู้อํานวยการสํานักงานบังคับคดีจังหวัดนราธิวาส ได้แจ้งว่า ในวันที่ 24 มกราคม2566 จะดําเนินการจําหน่ายสินทรัพย์ที่มีการบังคับคดีที่ผ่านมา และการขายทอดตลาดทรัพย์สิน ในวันที่ 25 มกราคม 2566 สําหรับการจัดกิจกรรม "เสวนายามเช้า" ในครั้งต่อไป จะมีขึ้นในวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2566 โดยมีหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นเจ้าภาพจัดกิจกรรม#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
|
19/1/2023
|
ภาคใต้
|
นราธิวาส
|
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนราธิวาส
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230119140830649
| null |
สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง จัดโครงการพัฒนาช่องทางการมีส่วนร่วมทางการเมืองอย่างสร้างสรรค์ นำสื่อท้องถิ่น 20 จังหวัดภาคอีสานเข้าร่วม
|
วันนี้ (19 ม.ค.66) ที่โรงแรมอัศวรรณ อําเภอเมือง จังหวัดหนองคาย นางสาวปิยนาฏ กลางพนม ผู้อํานวยการสํานักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจําจังหวัดบุรีรัมย์ นําตัวแทนสื่อมวลชนจากจังหวัดบุรีรัมย์ เข้าร่วมโครงการพัฒนาช่องทางการมีส่วนร่วมทางการเมืองอย่างสร้างสรรค์ กิจกรรมหลัก : การสื่อสารกับเครือข่ายเอกชน ประชาชน และพรรคการเมืองอย่างสร้างสรรค์ กิจกรรม เสริมสร้างความร่วมมือและภาคีเครือข่ายสื่อมวลชน รุ่นที่ 1 โดยมีนายแสวง บุญมี เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง เป็นประธานเปิดการอบรม และมีนายราชันย์ ซุ้นหั้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย ให้การต้อนรับโดยการจัดการอบรมในครั้งนี้สํานักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง ได้นําภาคีเครือข่ายทั้งผู้บริหาร, พนักงานที่เกี่ยวกับการประชาสัมพันธ์ ของสํานักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจําจังหวัด ตัวแทนสื่อมวลชนจังหวัดและตัวแทนสื่อมวลชนภาครัฐใน 20 จังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือ รวมกว่า 60 คน เข้าร่วม ซึ่งการจัดการอบรม ได้มีการบรรยายในหัวข้อการมีส่วนร่วมของเครือข่ายในการประชาสัมพันธ์การเลือกตั้ง ส.ส., การบรรยายในหัวข้อการเป็นนักสื่อสารที่ทรงพลัง ที่นักสื่อสาร, กลยุทธ์การสื่อสารเพื่อเพิ่มจํานวนผู้มาใช้สิทธิ์เลือกตั้ง, การร่วมระดมความคิดเห็นและเเลกเปลี่ยนแนวคิดเรียนรู้หัวข้อและความร่วมมือระหว่างส่วนกลางและจังหวัดในการรณรงค์ทั้งนี้เพื่อเป็นการเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจในแนวปฏิบัติ กฎหมาย กฎ ระเบียบ ที่มีการปรับปรุงเเปลี่ยนแปลง ตามสถานการณ์ และเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารการเลือกตั้งทุกระดับที่ถูกต้อง เหมาะสม ไปยังประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ให้เข้ามามีส่วนร่วมในกระบวนการเลือกตั้งให้มากที่สุด#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
|
19/1/2023
|
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
|
บุรีรัมย์
|
สวท.บุรีรัมย์
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230119135618645
| null |
ประธานสภาผู้แทนราษฎร ยืนยันการยุบสภาไม่ใช่ทางแก้ปัญหาองค์ประชุมสภาไม่ครบ
|
นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร เปิดเผยภายหลังการประชุมวิป 2 ฝ่าย พร้อมตัวแทนรัฐบาล มีนายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจําสํานักนายกรัฐมนตรี เป็นตัวแทนรัฐบาลเข้าร่วมประชุม โดยนายชวน ย้ําว่า เวลาที่เหลืออยู่ของสภาเป็นสิ่งมีค่าและยังสามารถพิจารณาเรื่องต่างๆ ได้มาก ทั้งเรื่องเพื่อทราบ เรื่องที่คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาเสร็จแล้ว ซึ่งบางชุดเสียงบประมาณจํานวนมากและใช้เวลาศึกษาเป็นปี หากไม่ผ่านความเห็นชอบของสภาจะเสียโอกาสและเสียเวลา ดังนั้น จึงตั้งใจจะให้ผ่านสภาไปให้ได้ในช่วงเวลาที่เหลืออยู่ ส่วนข้อเสนอของ ส.ส.บางคนที่เสนอให้ยุบสภาเพราะมีปัญหาองค์ประชุมนั้น เห็นว่า ไม่ใช่วิธีการแก้ปัญหา จึงขอร้อง ส.ส. ทั้งฝ่ายค้านและรัฐบาลอย่าใช้วิธีการหนีปัญหาควรอยู่ร่วมกันทํางานโดยเฉพาะการพิจารณาร่างกฎหมายที่เห็นพ้องเลื่อนขึ้นมาพิจารณาก่อนและเชื่อว่าหากครบองค์ประชุมก็สามารถพิจารณาเสร็จได้ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงกรณีที่หากกฎหมายผ่านสภาผู้แทนราษฎรแล้วหมดสมัยประชุมวุฒิสภาจะขอให้เปิดประชุมสมัยวิสามัญได้หรือไม่ ว่า สภาสามารถขอไปได้แต่ขึ้นอยู่กับรัฐบาลว่าจะยอมให้เปิดหรือไม่ โดยปกติแล้วการขอเปิดประชุมสมัยวิสามัญจะเป็นเรื่องด่วนและสําคัญที่จะขอเปิด 3 วันหรือ 5 วัน ซึ่งกฎหมายหลายฉบับแม้จะผ่านสภาไปแล้วอาจจะไม่ทันวุฒิสภา แต่ต้องไม่ลืมว่าสภาชุดนี้หมดวาระในวันที่ 23 มีนาคม 2566 จึงถือว่ายังอยู่ในวาระของสภาอยู่ สมาชิกยังมีสมาชิกภาพและยังทํางานได้อยู่ดังนั้นต้องแล้วแต่ทางรัฐบาล
|
19/1/2023
|
ภาคกลางและปริมณฑล
|
กรุงเทพมหานคร
|
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230119185511785
| null |
ปภ. แจ้ง 11 จังหวัดภาคใต้ เตรียมรับมือน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และคลื่นลมแรง ช่วงวันที่ 20 – 25 ม.ค. นี้
|
กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย หรือ ปภ. รายงานว่า จากการติดตามสภาวะอากาศและพิจารณาปัจจัยเสี่ยง ประกอบกับกรมอุตุนิยมวิทยา มีประกาศฉบับที่ 1 แจ้งว่ามรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้ มีกําลังแรงขึ้น ทําให้บริเวณภาคใต้จะมีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ ระหว่างวันที่ 20 – 25 มกราคม 2566 จึงได้ประสานแจ้ง11 จังหวัดภาคใต้ ได้แก่ จังหวัดสุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลานราธิวาส ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และ สตูล เตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์ภัย น้ําท่วมฉับพลัน น้ําป่าไหลหลาก และคลื่นลมแรง โดยจัดเจ้าหน้าที่ ติดตามปริมาณฝนตกในแต่ละจุดอย่างใกล้ชิดและเฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงที่มีฝนตกหนักและปริมาณฝนตกสะสม โดยสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติ โดยเฉพาะถ้ํา น้ําตก ถ้ําลอด หากมีฝนตกหนัก มีความเสี่ยงที่จะเกิดภัย ให้ประกาศแจ้งเตือน และปิดกั้นห้ามบุคคลใดเข้าพื้นที่ รวมถึง จัดชุดเผชิญสถานการณ์วิกฤต และเครื่องมือเครื่องจักรกลด้านสาธารณภัยเข้าประจําพื้นที่เสี่ยงภัย ให้พร้อมเผชิญเหตุและช่วยเหลือประชาชนทันที สําหรับพื้นที่คลื่นลมแรง ให้แจ้งเตือนห้ามลงเล่นน้ําทะเล เดินเรือด้วยความระมัดระวัง เรือเล็กบริเวณอ่าวไทยควรงดออกจากฝั่ง หากสถานการณ์มีแนวโน้มรุนแรงให้พิจารณาสั่งห้ามการเดินเรือโดยเด็ดขาดด้านนายนริศ ขํานุรักษ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้ ปภ. กําชับหน่วยปฏิบัติในพื้นที่เฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์ภัยอย่างต่อเนื่อง รวมถึงประสานการปฏิบัติกับจังหวัดและหน่วยงานในพื้นที่เพื่อให้การเผชิญเหตุและช่วยเหลือประชาชนเป็นไปด้วยความรวดเร็ว
|
19/1/2023
| null |
กรุงเทพมหานคร
|
สวท.จันทบุรี
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230119162113715
| null |
นายกฯ เปิดเทศกาลตรุษจีน จ.ราชบุรี “สิริมงคล รุ่งเรือง โชคดี ปีกระต่าย” กระตุ้นการท่องเที่ยวไทย ชูวิถีชีวิต วัฒนธรรม ประวัติศาสตร์สองแผ่นดิน
|
พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานเปิดงานเทศกาลตรุษจีนจังหวัดราชบุรี ณ บริเวณริมเขื่อนรัฐประชาพัฒนา ตําบลหน้าเมือง อําเภอเมืองราชบุรี จังหวัดราชบุรี โดยมี พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา นายอิทธิพล คุณปลื้ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน นายธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีประจําสํานักนายกรัฐมนตรี นายพีรพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค เลขาธิการนายกรัฐมนตรี Mr. Yang Xin อุปทูตรักษาราชการแทนเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจําประเทศไทย พร้อมด้วย ผู้แทนสถานทูตจีน คณะผู้บริหาร ผู้แทนหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน ประชาชน และสื่อมวลชน เข้าร่วมงานเทศกาลตรุษจีนจังหวัดราชบุรี ซึ่งกําหนดจัดขึ้นในระหว่างวันที่ 19-23 มกราคม 2566นายกรัฐมนตรี กล่าวเปิดงานฯ ตรุษจีนราชบุรี “สิริมงคล รุ่งเรือง โชคดี ปีกระต่าย” ซึ่งเทศกาลตรุษจีนถือเป็นเทศกาลที่มีความสําคัญมากในวัฒนธรรมจีน เป็นการเฉลิมฉลองวันขึ้นปีใหม่ อีกทั้งยังเป็นโอกาสสําคัญที่ได้ระลึกถึงความสัมพันธ์อันดีระหว่างประเทศไทยและสาธารณรัฐประชาชนจีนในโอกาสเฉลิมฉลองความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-จีน ครบรอบ 48 ปี ด้วยมิตรภาพและความผูกพันระหว่างประชาชน รวมถึงความร่วมมือของทั้งสองประเทศที่พร้อมขับเคลื่อนความสัมพันธ์ให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น เพื่อร่วมกันสร้างความกินดีอยู่ดีและประโยชน์สุขให้ประชาชนของทั้งสองประเทศนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การจัดงานตรุษจีนราชบุรี นอกจากจะเป็นการเฉลิมฉลองวันขึ้นปีใหม่ตามธรรมเนียมจีนแล้ว ยังเป็นการสร้างบรรยากาศที่ดีด้านการท่องเที่ยวภายในประเทศ ส่งเสริมการท่องเที่ยวเมืองรอง และในขณะนี้มีนักท่องเที่ยวเป็นจํานวนมากเดินทางเข้ามาโดยเฉพาะช่วงเทศกาลตรุษจีน ดังนั้น การนําเสนอเอกลักษณ์และการสืบทอดทางวัฒนธรรมของชาวไทยเชื้อสายจีนจากรุ่นสู่รุ่นในแหล่งท่องเที่ยวชุมชนชาวจีนของจังหวัดราชบุรี ที่มีความหลากหลายและมีความน่าสนใจ และด้วยศักยภาพของจังหวัดที่ในอดีตได้รับการขนานนามว่า เป็นแหล่งรวมวัฒนธรรมของชนเผ่าต่าง ๆ ที่สําคัญทางประวัติศาสตร์ รวมถึงชาวจีนที่ได้เดินทางเข้ามาตั้งรกรากในพื้นที่ช่วงสมัยรัชกาลที่ 4 จนเกิดเป็นวิถีชีวิตและวัฒนธรรมที่ชาวไทยเชื้อสายจีนในจังหวัดราชบุรี ยังคงสืบทอดต่อกันมา และยังคงแสดงให้เห็นถึงอัตลักษณ์อันทรงคุณค่าของจังหวัดจึงช่วยดึงดูดนักท่องเที่ยวได้เป็นอย่างดี ขอให้คนไทยมีความรัก ความสามัคคี ช่วยกันทําให้บ้านเมืองสงบเรียบร้อย ร่วมเป็นเจ้าบ้านที่ดีด้วยรอยยิ้มสยาม เพราะภาคการท่องเที่ยวและบริการจะเป็นส่วนช่วยสร้างรายได้และเป็นส่วนสําคัญในการพัฒนาประเทศในช่วงเวลานี้ ขอให้ประคับประคองและร่วมมือกันพัฒนา เพื่อรักษาเสถียรภาพทางวินัยการเงินการคลังของประเทศนายกรัฐมนตรี ยังได้กล่าวถึงสถานการณ์แรงงาน ที่ปัญหาการว่างานเริ่มลดลง มีการจ้างงานมากขึ้น โดยได้กําชับผู้เกี่ยวข้องดูแลไม่ให้เกิดปัญหาขาดแคลนแรงงาน เพื่อให้สามารถบริการนักท่องเที่ยวได้อย่างเต็มศักยภาพ รวมทั้งการพัฒนาฝีมือแรงงานเพื่อส่งต่อไปยังสถานประกอบการที่ต้องการ เพื่อให้ทุกภาคส่วนมีรายได้ที่สูงขึ้นตามลําดับ พร้อมกล่าวเชิญชวนประชาชนร่วมเที่ยวชมงาน ร่วมกันอุดหนุนสินค้า และร่วมส่งมอบความสุขในช่วงเทศกาลตรุษจีนด้วยผลิตภัณฑ์จากสินค้าชุมชน เพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจ สร้างอาชีพ สร้างรายได้ให้กับประชาชนในตอนท้าย นายกรัฐมนตรี กล่าวอวยพรเป็นภาษาจีนว่า “ซินเจิ้งหรูอี้ ซินเหนียนฟาไฉ” ซึ่งหมายถึง “สุขสมหวังและร่ํารวยตลอดปี” และทําพิธีเปิดงานฯ ด้วยการตีกลองมหามงคลฤกษ์ โดยภายหลังพิธีเปิด นายกรัฐมนตรี เยี่ยมชมงานฯ ทักทายพ่อค้า แม่ค้า ผู้ประกอบการ ผู้เข้าร่วมชมงานด้วยความเป็นกันเอง
|
19/1/2023
|
ภาคกลางและปริมณฑล
|
กรุงเทพมหานคร
|
Radio-สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230119200706829
| null |
ครม.เพิ่มสิทธิผู้ป่วยฉุกเฉินวิกฤต เพื่อให้สามารถเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลทุกแห่งที่ใกล้ที่สุด พร้อมเพิ่มค่าธรรมเนียมแพทย์ 30%
|
สํานักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดแพร่รายงานว่า ครม. เห็นชอบหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการกําหนดค่าใช้จ่ายในการดําเนินการผู้ป่วยฉุกเฉินวิกฤต Universal Coverage for Emergency Patients หรือ UCEP (ฉบับที่ 4) ซึ่งสิทธิ UCEP เป็นสิทธิการรักษาตามนโยบายรัฐ เพื่อคุ้มครองผู้ป่วยฉุกเฉินวิกฤต ให้สามารถเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลทุกแห่งที่ใกล้ที่สุดได้ โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายจนพ้นวิกฤต และสามารถเคลื่อนย้ายได้อย่างปลอดภัย แต่ไม่เกิน 72 ชั่วโมงผู้ป่วยที่จะได้รับสิทธิฉุกเฉินวิกฤต ต้องมีอาการดังนี้ หมดสติ ไม่รู้สึกตัว ไม่หายใจ, หายใจเร็ว หอบเหนื่อยรุนแรงหายใจติดขัดมีเสียงดัง, ซึมลง เหงื่อแตก ตัวเย็น, เจ็บหน้าอกเฉียบพลัน รุนแรง, แขนขาอ่อนแรงครึ่งซีกพูดไม่ชัดแบบปัจจุบันทันด่วน หรือชักต่อเนื่องไม่หยุด, อาการอื่นที่มีผลต่อการหายใจ ระบบการไหลเวียนโลหิต และระบบสมองที่เป็นอันตรายต่อชีวิตหากพบอาการที่เข้าข่ายสําหรับหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่เสนอในครั้งนี้ เป็นการปรับปรุงแก้ไขบัญชีและอัตราค่าใช้จ่ายแนบท้ายหลักเกณฑ์ UCEP ครั้งที่ 4 จํานวน 2 รายการ ใน 2 หมวด คือ การจัดทํารายการยา และค่าธรรมเนียมแพทย์ ดังนี้ 1. การจัดทํารายการยา ในหมวดที่ 3 ค่ายาและสารอาหารทางเส้นเลือด เป็นการปรับรายการยาในบัญชีแนบท้ายหลักเกณฑ์ UCEP จํานวน 3,138 รายการ จากเดิมที่กําหนดตามชื่อการค้า (Trade name) ของยาทั้งหมดโดยปรับใหม่ดังนี้ ประเภทที่ 1 ยาต้นแบบ (Original drug) ให้ระบุในบัญชีแนบท้าย โดยใช้ทั้ง 2 ชื่อ คือ ชื่อสามัญทางยา (Generic name) และชื่อการค้า (Trade name) จํานวน 227 รายการ , ประเภทที่ 2 ยาสามัญ (Generic drug) ให้ระบุในบัญชีแนบท้าย โดยใช้เฉพาะชื่อสามัญทางยา (Generic name) เพียงอย่างเดียว จํานวน 1,060 รายการ เมื่อปรับปรุงแล้วจะส่งผลให้มีรายการยา ทั้ง 2 ประเภท คงเหลือในบัญชีแนบท้ายหลักเกณฑ์ UCEP รวมทั้งสิ้น 1,287 รายการการปรับปรุงรายการยาดังกล่าวจะช่วยลดปัญหาของการเบิกจ่ายยา เนื่องจากการใช้ชื่อทางการค้า จะทําให้ยาที่มีตัวยาสามัญชนิดเดียวกันแต่ต่างยี่ห้อหรือไม่อยู่ในบัญชีแนบท้าย จะไม่สามารถเบิกจ่ายได้ เช่น พาราเซตามอล (Paracetamol) เป็นชื่อสามัญของยาแก้ปวด ลดไข้ แต่มีชื่อทางการค้าหลายชื่อ เช่น ยี่ห้อ SARA ยี่ห้อ PARA GPO หรือยี่ห้อ PARACAP22. ค่าธรรมเนียมแพทย์ ในหมวดที่ 12 ค่าบริการวิชาชีพเป็นการปรับอัตราค่าบริการทางการแพทย์ (ค่าตรวจวินิจฉัยและทําหัตถการโดยแพทย์) เพื่อให้เป็นไปตามคู่มือแนวทางการกําหนดค่าธรรมเนียมการแพทย์ ปี 2563 ของแพทยสภา โดยปรับเพิ่มขึ้นประมาณร้อยละ 30 ได้แก่ การเย็บแผลฉีกขาดหรือบาดแผลของหนังศีรษะ ปรับค่าธรรมเนียมใหม่เป็น 9,000 บาท จากเดิม 6,000 บาท, การซ่อมแซมหลอดเลือดแดงโป่งพองในสมอง ปรับค่าธรรมเนียมใหม่เป็น 90,000 บาท จากเดิม 60,000 บาท, การใส่ท่อช่วยหายใจ ปรับค่าธรรมเนียมใหม่เป็น 2,250 บาท จากเดิม 1,500 บาททั้งนี้ ค่าธรรมเนียมแพทย์ (ค่าบริการวิชาชีพ) คิดเป็นร้อยละ 45 ของค่าบริการผู้ป่วย UCEP ทั้งหมด (ค่าบริการผู้ป่วย UCEP เช่นค่าห้อง และค่าอาหาร ค่ายา ค่าเวชภัณฑ์ที่ไม่ใช่ยา ค่าทําหัตถการ และค่าบริการวิชาชีพ) ดังนั้น การปรับเพิ่มขึ้นของค่าธรรมเนียมแพทย์ในครั้งนี้ จะส่งผลให้ค่าบริการผู้ป่วย UCEP ในภาพรวมเพิ่มขึ้นร้อยละ 13.5#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
|
20/1/2023
|
ภาคเหนือ
|
แพร่
|
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดแพร่
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230120110916976
| null |
ขยายเวลาลดภาษี น้ำมันดีเซล ลิตรละ 5 บาทต่อไปอีก 4 เดือน
|
สํานักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดแพร่รายงานว่า คณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกําหนดพิกัดอัตราภาษีสรรพสามิต (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... โดยเป็นการปรับลดอัตราภาษีสรรพสามิตน้ํามันดีเซล และน้ํามันอื่นๆ ที่คล้ายกันในบัญชีพิกัดภาษีสรรพสามิต ประเภทที่ 01.05 รายการน้ํามันดีเซลที่มีกํามะถันและรายการน้ํามันดีเซลที่มีไบโอดีเซล ประเภทเมทิลเอสเตอร์ของกรดไขมันผสมอยู่ โดยปรับอัตราภาษีลดลง ประมาณ 5 บาทต่อลิตร ตามชนิดของน้ํามันดีเซล ตั้งแต่วันที่ 21 มกราคม 2566 ถึง 20 พฤษภาคม 2566 โดยเป็นมาตรการต่อเนื่องตั้งแต่กุมภาพันธ์ 2565 เป็นต้นมา และจะสิ้นสุดในวันที่ 20 มกราคมนี้ร่างกฎกระทรวงนี้ คาดว่าจะก่อให้เกิดผลกระทบต่อรายได้ของรัฐ โดยกรมสรรพสามิตจัดเก็บรายได้ภาษีสรรพสามิตสินค้าน้ํามันและผลิตภัณฑ์น้ํามันลดลงประมาณ 10,000 ล้านบาทต่อเดือน คาดว่าจะสูญเสียรายได้ประมาณ 40,000 ล้านบาท แม้ภาครัฐจะปรับลดภาษีน้ํามันลงต่อเนื่องเป็นครั้งที่ 6 ยังมั่นใจว่า สถานะการคลังของไทยยังแข็งแกร่ง ทั้งนี้ ตั้งแต่ตั้งต้นปีงบประมาณ 2566 กระทรวงการคลังสามารถจัดเก็บรายได้จากภาษีได้เกินกว่า 5.5 หมื่นล้านบาทเนื่องจากน้ํามันดีเซลเป็นต้นทุนในภาคส่วนต่างๆ การลดอัตราภาษีสรรพสามิตสินค้าน้ํามันและผลิตภัณฑ์น้ํามันในครั้งนี้ จะช่วยรักษาระดับราคาขายปลีกน้ํามันดีเซลในประเทศไม่ให้สูงขึ้นอย่างรวดเร็ว จนส่งผลกระทบต่อค่าครองชีพของประชาชนและภาคธุรกิจในระดับที่อาจเป็นอุปสรรคต่อการฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศ โดยกระทรวงการคลังจะติดตามสถานการณ์ราคาน้ํามันอย่างใกล้ชิด เพื่อพิจารณาความเหมาะสมของการปรับลดอัตราภาษี เพื่อให้ฐานะการคลังของประเทศมีเสถียรภาพมากขึ้น รวมทั้งให้การจัดเก็บรายได้ของรัฐเป็นไปตามประมาณการการจัดเก็บรายได้ประจําปีงบประมาณ พ.ศ. 2566ด้านนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า เพื่อให้วัตถุประสงค์ของการปรับลดอัตราภาษีสรรพสามิตน้ํามันดีเซลลงในครั้งนี้ สามารถส่งผ่านไปถึงประชาชนโดยตรงและส่งผ่านถึงการลดต้นทุนของสินค้าและบริการได้ กระทรวงการคลังมีความเห็นเพิ่มเติมว่า กองทุนน้ํามันเชื้อเพลิงควรพิจารณาการบริหารจัดการเสถียรภาพของราคาน้ํามันดีเซลและสถานะทางการเงินของกองทุนฯ ให้เหมาะสม โดยพิจารณาปรับลดราคาขายปลีกน้ํามันดีเซลทันที 1-2 บาทต่อลิตร และบริหารจัดการให้ราคาขายปลีกน้ํามันดีเซลอยู่ในช่วงระหว่างราคา 33–35 บาทต่อลิตร ประกอบกับพิจารณาจัดเก็บเงินเข้ากองทุนในอัตราที่แตกต่างกันระหว่างประเภทน้ํามันดีเซล รวมทั้งพิจารณาความเป็นได้ในวิธีการนําเทคโนโลยี เช่น แอปพลิเคชันหรือบัตรส่วนลดมาใช้ในการอุดหนุนราคาน้ํามันในอนาคตเพื่อให้สามารถดําเนินการได้เฉพาะกลุ่มเป้าหมาย#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
|
20/1/2023
| null |
แพร่
|
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดแพร่
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230120111925981
| null |
ปภ. เตือน ประชาชนเพิ่มความระมัดระวังป้องกันอัคคีภัยช่วงเทศกาลตรุษจีน
|
นายบุญธรรม เลิศสุขีเกษม อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กล่าวว่า เทศกาลตรุษจีนปีนี้ ตรงกับช่วงวันที่ 20 - 22 มกราคม 2566 ซึ่งตามประเพณีมักมีการประกอบอาหารจุดธูปเทียนบูชาเทพเจ้า และไหว้บรรพบุรุษ การเผากระดาษเงินกระดาษทองและการจุดประทัดจึงเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดเพลิงไหม้ จึงแนะวิธีข้อควรปฎิบัติ เพื่อป้องกันเพลิงไหม้ในช่วงเทศกาลตรุษจีน โดยขอให้เพิ่มความระมัดระวังในการใช้ก๊าซหุงต้ม ดับไฟและปิดวาว์ลถังก๊าซให้สนิททุกครั้งหลังประกอบอาหาร รวมถึงไม่จุดธูปเทียนจํานวนมากในครั้งเดียวกัน เพราะอาจทําให้ไฟลุกไหม้ ควรใช้เชิงเทียนและกระถางธูปที่เป็นภาชนะที่ทนไฟและดับไฟให้สนิทก่อนออกจากบ้าน หากมีการเผากระดาษเงินกระดาษทอง ควรเผาในภาชนะที่ปิดมิดชิดหรือเผาในที่โล่งแจ้ง ห่างจากวัสดุที่ติดไฟง่าย เพื่อป้องกันสะเก็ดจากเถ้าถ่านปลิวไปติดวัสดุอื่นทําให้เกิดเพลิงไหม้ พร้อมทั้งจัดเตรียมถังน้ําไว้ใกล้ ๆ จะได้ควบคุมเพลิงหากลุกลามได้ทัน นอกจากนี้ ควรตรวจสอบโคมไฟประดับและไฟกะพริบบริเวณศาลตี่จูเอี๊ยะให้มีความปลอดภัย ก่อนออกจากบ้านควรดึงปลั๊กเครื่องใช้ไฟฟ้า ปิดสวิตช์ไฟเครื่องใช้ไฟฟ้าทุกครั้ง เพื่อป้องกันไฟฟ้าลัดวงจรที่อาจทําให้เกิดเพลิงไหม้ได้ อีกทั้งไม่จุดประทัดภายในบ้านเรือนบริเวณใกล้แนวสายไฟหรือแหล่งเชื้อเพลิง ควรจุดในพื้นที่โล่งแจ้ง ห่างจากวัสดุติดไฟง่ายเพื่อป้องกันการระเบิดและเพลิงไหม้ รวมทั้ง ไม่นําประทัดที่จุดไม่ติดหรือดับก่อนมาจุดซ้ํา เพราะอาจระเบิดทําให้เกิดอันตรายได้
|
20/1/2023
|
ภาคกลางและปริมณฑล
|
กรุงเทพมหานคร
|
สวท.จันทบุรี
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230120113307989
| null |
ส.ปชส.ตราด ประชาสัมพันธ์ ครม. ขยายเวลาลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซล 5 บ./ลิตร ออกไปอีก 4 เดือน ถึง 20 พ.ค. 66
|
(20 ม.ค. 66) สํานักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดตราด รายงานว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 17 มกราคม 2566 เห็นชอบปรับลดอัตราภาษีสรรพสามิต “สินค้าน้ํามันดีเซลและน้ํามันอื่น ๆ ที่คล้ายกัน” ในบัญชีพิกัดอัตราภาษีสรรพสามิตประเภทที่ 01.05 รายการน้ํามันดีเซลที่มีกํามะถัน และรายการน้ํามันดีเซลที่มีไบโอดีเซลประเภทเมทิลเอสเตอร์ของกรดไขมันผสมอยู่โดยปรับอัตราภาษีลงประมาณ 5 บาท/ลิตร ตามชนิดของน้ํามันดีเซล ตั้งแต่วันที่ 21 ม.ค. - 20 พ.ค. 66 โดยเป็นมาตรการต่อเนื่องตั้งแต่ ก.พ. 65 เป็นต้นมา และจะสิ้นสุดในวันที่ 20 ม.ค. 66 นี้ นับเป็นอีกหนึ่งมาตรการทางภาษีที่มุ่งลดระดับราคาขายปลีกของน้ํามันดีเซลในประเทศไม่ให้สูงขึ้นอย่างรวดเร็ว จนกระทบต่อภาระค่าครองชีพประชาชนและการฟื้นฟูเศรษฐกิจ ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้ย้ําว่า รัฐบาลดูแลมาตรการนี้ เป็นส่วนหนึ่งในการดูแลประชาชน ในสถานการณ์ที่ราคาพลังงานของโลกยังคงผันผวนและสูงอยู่ #สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
|
20/1/2023
|
ภาคตะวันออก
|
ตราด
|
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดตราด
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230120140726046
| null |
ส.ปชส.ตราด ประชาสัมพันธ์ เช็ก 6 อาการ คุ้มครองผู้ป่วยฉุกเฉินวิกฤต UCEP สิทธิการรักษาตามนโยบายรัฐ ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย จนพ้นวิกฤต แต่ไม่เกิน 72 ชั่วโมง .
|
(20 ม.ค. 66) สํานักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดตราด รายงานว่า คณะรัฐมนตรี เห็นชอบหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการกําหนดค่าใช้จ่ายในการดําเนินการผู้ป่วยฉุกเฉินวิกฤต (UCEP) (ฉบับที่ 4 ) ซึ่งสิทธิ UCEP (Universal Coverage for Emergency Patients) เป็นสิทธิการรักษาตามนโยบายรัฐ เพื่อคุ้มครองผู้ป่วยฉุกเฉินวิกฤต ให้สามารถเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลทุกแห่งที่ใกล้ที่สุดได้ โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายจนพ้นวิกฤต และสามารถเคลื่อนย้ายได้อย่างปลอดภัย แต่ไม่เกิน 72 ชั่วโมง6 อาการที่ได้รับสิทธิ ผู้ป่วยฉุกเฉินวิกฤต • หมดสติ ไม่รู้สึกตัว ไม่หายใจ • หายใจเร็ว หอบเหนื่อยรุนแรงหายใจติดขัดมีเสียงดัง • ซึมลง เหงื่อแตก ตัวเย็น • เจ็บหน้าอกเฉียบพลัน รุนแรง • แขนขาอ่อนแรงครึ่งซีกพูดไม่ชัดแบบปัจจุบันทันด่วน หรือ ชักต่อเนื่องไม่หยุด • อาการอื่นที่มีผลต่อการหายใจ ระบบการไหลเวียนโลหิต และระบบสมองที่เป็นอันตรายต่อชีวิต หากพบอาการที่เข้าข่ายสําหรับหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่เสนอในครั้งนี้ เป็นการปรับปรุงแก้ไขบัญชีและอัตราค่าใช้จ่ายแนบท้ายหลักเกณฑ์ UCEP ครั้งที่ 4 จํานวน 2 รายการ ใน 2 หมวด คือ การจัดทํารายการยา และค่าธรรมเนียมแพทย์ ดังนี้1. ค่ายาและสารอาหารทางเส้น ประเภท ยาต้นแบบ และยาสามัญ2. ค่าธรรมเนียมแพทย์ ค่าบริการวิชาชีพ เป็นการปรับอัตราค่าบริการทางการแพทย์ ค่าตรวจวินิจฉัยและทําหัตถการโดยแพทย์ #สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
|
20/1/2023
|
ภาคตะวันออก
|
ตราด
|
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดตราด
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230120142703063
| null |
สำนักงานสถิติแห่งชาติ เชิญชวนส่วนราชการจังหวัดลำพูนฝึกอบรมการจัดทำตัวชี้วัดการพัฒนาระบบบัญชีข้อมูลให้เป็นดิจิทัล ผ่านกิจกรรม Cinic Online
|
นายภาคิน วานิชดี สถิติจังหวัดลําพูน เปิดเผยว่า สํานักงานสถิติแห่งชาติ ได้ดําเนินการขับเคลื่อนโครงการจัดทําบัญชีข้อมูลภาครัฐ (Government Data Catalog) และสนับสนุนส่วนราชการ องค์การมหาชน รวมไปถึงจังหวัดในการจัดทําตัวขี้วัดการพัฒนาระบบข้อมูลให้เป็นดิจิทัล (Digitized Data) เพื่อนําไปสู่การเปิดเผยข้อมูลภาครัฐ (Open Data) ประจําปีงบประมาณ 2566 โดยได้กําหนดแผนการฝึกอบรมการจัดทําตัวชี้วัดฯ ดังกล่าว ผ่านกิจกรรม Cinic Online โดยการฝึกอบรมจะเน้นเนื้อหาความรู้เกี่ยวกับแนวทางการเขียนข้อกําหนดการวิเคราะห์ชุดข้อมูลสําหรับประเด็นการพัฒนาจังหวัด การขึ้นชุดข้อมูล การจัดหมวดหมู่ข้อมูลให้พร้อมใช้งานการลงทะเบียนชุดข้อมูล การวิเคราะห์สารสนทศ และการใช้ประโยชน์ระบบบัญชีข้อมูลภาครัฐ เพื่อให้ส่วนราชการ องค์การมหาชน และจังหวัด สามารถดําเนินงานตามตัวชี้วัดฯ ได้อย่างถูกต้อง ทั้งนี้ ขอเชิญชวนส่วนราชการในจังหวัดลําพูน เข้าร่วมการฝึกอบรมการจัดทําตัวชี้วัดการพัฒนาระบบบัญชีข้อมูลให้เป็นดิจิทัล (Digitized Data) สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ โทร 082-0094633#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILANDประชาสัมพันธ์จังหวัดลําพูน สามารถติดตามข่าวสารได้ที่https://lamphun.prd.go.th/th/page/item/index/id/12 #PRLAMPHUN #ลําพูนไม่ลําพังรวมพลังเพื่อลําพูน
|
20/1/2023
|
ภาคเหนือ
|
ลำพูน
|
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดลำพูน
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230120154606106
| null |
นายกรัฐมนตรี สั่งการให้ 3 หน่วยงานแถลงความคืบหน้าคดีสำคัญ? อย่างตรงไปตรงมา
|
นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฎิบัติหน้าที่โฆษกประจําสํานักนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย พล.ต.ต. อาชยน ไกรทอง โฆษกสํานักงานตํารวจแห่งชาติ นายวัลลภ นาคบัว รองปลัดกระทรวงยุติธรรม และนายกุศล โชติรัตน์ รองปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ร่วมแถลงข่าวความคืบหน้าคดีต่างๆ ที่ประชาชนให้ความสนใจ ได้แก่ เครือข่ายธุรกิจกลุ่มทุนจีนสีเทา ,กรณีการโยกย้ายอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช คดีเรียกรับผลประโยชน์ และกรณีมอบหมายให้อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ไปปฏิบัติหน้าที่ราชการที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ และรักษาราชการแทนผู้อํานวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ โฆษกจําสํานักนายกรัฐมนตรี ย้ําว่า นายกรัฐมนตรีไม่มีความประสงค์ที่จะปกป้องบุคคลที่กระทําความผิดในแต่ละคดีและต้องการให้เจ้าหน้าที่ สืบสวนหาข้อเท็จจริงอย่างตรงไปตรงมา ด้วยความโปร่งใสและมีความตั้งใจที่จะแก้ไขปัญหาการทุจริตในทุกเรื่อง ส่วนที่มีการพาดพิงหลานของนายกรัฐมนตรี เกี่ยวข้องกับคดีกลุ่มทุนธุรกิจจีนสีเทา? ? ยืนยันว่า ยังไม่มีข้อกล่าวหา เป็นเพียงการกล่าวอ้างเท่านั้น ซึ่งในส่วนของพนักงานสืบสวนสอบสวน เน้นไปที่ความตรงไปตรงมา หากพบผู้ที่เกี่ยวข้อง ทั้งเจ้าหน้าที่ของรัฐ หรือเอกชน จะดําเนินการตามกฎหมาย หากมีหลักฐานที่ชัดเจนโฆษกประจําสํานักนายกรัฐมนตรี ยัง?ยืนยันว่า การที่นายกรัฐมนตรี สั่งการเร่งกวาดล้างคดีต่างๆ ที่อยู่ในความสนใจของประชาชน ไม่เกี่ยวกับช่วงใกล้เลือกตั้ง แต่เป็นการสั่งการตามนโยบายและต้องการทราบความคืบหน้าการดําเนินการของคดีต่างๆ นอกจาก 3 คดีนี้แล้ว ยังมีคดีอื่นๆ ที่นายกรัฐมนตรีสั่งการให้รายงานผลความคืบหน้าการดําเนินการสืบสวน สอบสวน เช่น การตรวจสอบการประกอบธุรกิจจําหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาล ผ่านแฟลตฟอร์มออนไลน์ของเอกชน ซึ่งเป็นอีกคดีที่นายกรัฐมนตรีให้ความสําคัญและให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรายงานให้รับทราบ
|
20/1/2023
|
ภาคกลางและปริมณฑล
|
กรุงเทพมหานคร
|
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230120213546222
| null |
เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาประจำประเทศไทยพร้อมคณะ เข้าพบผู้ว่าเพื่อแสดงความยินดีในโอกาสเข้ารับตำแหน่ง
|
เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาประจําประเทศไทยพร้อมคณะ เข้าพบผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี เพื่อแสดงความยินดีในโอกาสเข้ารับตําแหน่ง และเพื่อเสริมสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างกัน วันนี้ (20 มกราคม 2566) เวลา 10.00 น. ณ ห้องทํางานผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี ฯพณฯ อู ชิต สเว (H.E. U Chit Swe) เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาประจําประเทศไทยพร้อมคณะ เดินทางเข้าพบ ร้อยโท ทศพล ไชยโกมินทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี เพื่อแสดงความยินดีกับผู้ว่าฯ ในโอกาสเข้ารับตําแหน่ง และเพื่อเสริมสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างกัน โดยทั้งสองฝ่ายย้ําความสําคัญของความสัมพันธ์ทวิภาคีของทั้งสองประเทศ และเห็นพ้องกันที่จะเพิ่มพูนความร่วมมือทวิภาคีในด้านต่าง ๆ ที่เป็นผลประโยชน์ร่วมกัน รวมถึงด้านเศรษฐกิจ แรงงาน โดยมี นายกองเอก พงศธร ศิริสาคร รองผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี นายรณภพ เวียงสิมมา รองผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี พันเอก บรรเจิด จันทร์ส่งเสริม รอง ผอ.รมน.จังหวัดกาญจนบุรี และหัวหน้าสํานักงานจังหวัดกาญจนบุรี ร่วมต้อนรับคณะทูตในการมาเยือนจังหวัดกาญจนบุรี ในครั้งนี้ สํานักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดกาญจนบุรี : ข่าว/ภาพภัสร์ภรณ์ เหลืองทอง-ข่าว /-พิมพ์-/ จิตริน มัชฌันติกะ-/ภาพนิ่ง พัชรพล เจริญสุข-/ภาพวีดีโอ-ส่งข่าว #สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
|
20/1/2023
|
ภาคตะวันตก
|
กาญจนบุรี
|
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดกาญจนบุรี
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230120185804158
| null |
Subsets and Splits
No community queries yet
The top public SQL queries from the community will appear here once available.