NewsTitle
stringlengths 11
31.5k
⌀ | Detail
stringlengths 9
78.4k
⌀ | NewsDate
stringlengths 3
5.77k
⌀ | Region
stringclasses 48
values | Province
stringclasses 99
values | Department
stringclasses 211
values | Link_News
stringlengths 3
903
⌀ | v
stringclasses 812
values |
---|---|---|---|---|---|---|---|
ผู้แสวงบุญ และนักท่องเที่ยว ยังคงขึ้นไปนมัสการรอยพระพุทธบาทเขาคิชฌกูฏ (พระบาทพลวง) อย่างต่อเนื่อง ขณะนี้มีจำนวนกว่า 200,000 ราย
|
นายชวินทฐ์ ปิ่นแก้ว หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาคิชฌกูฏ จังหวัดจันทบุรี รายงานว่า งานประเพณีนมัสการรอยพระพุทธบาทเขาคิชฌกูฏ (พระบาทพลวง) ประจําปี พ.ศ.2566 เมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2566 มีจํานวนนักท่องเที่ยวในงานประเพณีฯ จํานวนนักท่องเที่ยว 18,497 คน จํานวนที่จองผ่านแอป KCKQue คิดเป็น 0.86% ของจํานวนที่มา มีเงินรายได้ 744,560 บาทนอกจากนี้ อุทยานแห่งชาติเขาคิชฌกูฏ จังหวัดจันทบุรี ยังได้จัดเจ้าหน้าที่ดูแลความปลอดภัยนักท่องเที่ยว พร้อมด้านการสาธารณสุข และการปฐมพยาบาล ปรากฏว่าไม่มีการเกิดอุบัติเหตุร้ายแรงแต่อย่างใด และจัดเจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์โครงการทําความดีด้วยหัวใจ ลดภัยสิ่งแวดล้อม กิจกรรมขยะคืนถิ่น (ไม่ทิ้งขยะในพื้นที่จัดงาน) และกิจกรรมลดใช้ถุงพลาสติกหูหิ้ว (ใช้ถุงผ้าแทนถุงพลาสติก)ส่วนจํานวนผู้แสวงบุญ และนักท่องเที่ยว ตั้งแต่วันที่ 22 มกราคม 2566 ถึงวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2566 มีจํานวนทั้งสิ้น 292,416 คน มีเงินรายได้ 11,465,060 บาท ทั้งนี้ งานประเพณีนมัสการรอยพระพุทธบาทเขาคิชฌกูฏ (พระบาทพลวง) ประจําปี พ.ศ.2566 เปิดให้ผู้แสวงบุญ และนักท่องเที่ยว ขึ้นไปนมัสการจนถึงวันที่ 22 มีนาคม 2566 นี้#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
|
27/2/2023
|
ภาคตะวันออก
|
จันทบุรี
|
สวท.จันทบุรี
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230227113028916
| null |
สำนักสำรวจและออกแบบ กรมทางหลวง จัดประชุมหารือมาตรการลดผลกระทบสิ่งแวดล้อม โครงการจ้างวิศวกรที่ปรึกษาสำรวจและออกแบบทางหลวง 4 ช่องจราจร ทางเลี่ยงเมืองกาฬสินธุ์ด้านเหนือ
|
นายสมบูรณ์ เทียนธรรมชาติ ผู้อํานวยการสํานักสํารวจและออกแบบ กรมทางหลวง แจ้งว่า การดําเนินโครงการ จ้างวิศวกรที่ปรึกษาสํารวจและออกแบบทางหลวง 4 ช่องจราจร ทางเลี่ยงเมืองกาฬสินธุ์ ด้านเหนือ กรมทางหลวงได้เล็งเห็นถึงความสําคัญของการมีส่วนร่วมประชาชนในพื้นที่โครงการ ตลอดจนส่วนราชการ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อันจะเอื้อประโยชน์สูงสุดในการดําเนินงานบริการด้านวิศวกรรมการสํารวจ และออกแบบรายละเอียด จึงได้กําหนดให้มีการประชุมหารือ มาตรการลดผลกระทบสิ่งแวดล้อม กลุ่มย่อย ครั้งที่ 2 ระหว่างวันที่ 27 กุมภาพันธ์ ถึง 2 มีนาคม 2566 เพื่อนําเสนอข้อมูลรูปแบบการพัฒนาโครงการ /การศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อมเบื้องต้น / มาตรการลดผลกระทบสิ่งแวดล้อม / และขั้นตอนการดําเนินงานของโครงการ พร้อมรับฟังความคิดเห็น และข้อเสนอแนะเกี่ยวกับการศึกษาโครงการ เพื่อนําไปใช้พิจารณาประกอบการศึกษาออกแบบรายละเอียดให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยแบ่งการประชุมออกเป็น 4 กลุ่มได้แก่กลุ่มที่ 1 วันจันทร์ที่ 27 กุมภาพันธ์ 2566 เวลา 08:00-16.30 น ณ ห้องประชุมสํานักงานเทศบาลตําบลลําพานอําเภอเมืองกาฬสินธุ์กลุ่มที่ 2 วันอังคารที่ 28 กุมภาพันธ์ เวลา 08:00-16.30 น ณ ห้องประชุมสํานักงานเทศบาลตําบลลําพานอําเภอเมืองกาฬสินธุ์กลุ่มที่ 3 วันพุธที่ 1 มีนาคม 2566 เวลา 08.00-12.00 น. ณ ศาลาการเปรียญวัดวิเศษไชยาราม ตําบลบึงวิชัย อําเภอเมืองกาฬสินธุ์กลุ่มที่ 4 วันพฤหัสบดีที่ 2 มีนาคม 2566 เวลา 08.00-16.30 น. ณ ศาลาการเปรียญวัดคําเม็กโนนทอง ตําบลไผ่ อําเภอเมืองกาฬสินธุ์ ผู้สนใจ สามารถร่วมประชุมรับฟัง พร้อมแสดงความคิดเห็นและให้ข้อเสนอแนะได้ในวัน เวลา และสถานที่ดังกล่าว #สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
|
27/2/2023
|
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
|
กาฬสินธุ์
|
สวท.กาฬสินธุ์
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230227114101918
| null |
สถานีขนส่งอำเภอเบตง เชื่อมโยงกับระบบขนส่งอย่างไร้รอยต่อ รองรับนโยบายเมืองต้นแบบด้านการท่องเที่ยว ตามยุทธศาสตร์เมืองสามเหลี่ยมเศรษฐกิจจังหวัดชายแดนภาคใต้ "มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน" เตรียมเปิดบริการปลายปีนี้
|
รัฐบาลให้ความสําคัญกับการพัฒนาระบบขนส่งมวลชนให้มีประสิทธิภาพเพื่ออํานวยความสะดวกเป็นขนส่งหลักที่จะช่วยบรรเทาปัญหาการจราจร จึงมีนโยบายมุ่งเน้นการพัฒนาโครงข่ายคมนาคมขนส่งทั้งทางบก ทางรางและทางน้ํา ให้เกิดการเชื่อมโยงระบบกันแบบไร้รอยต่อผ่านการสร้างจุดเชื่อมต่อการเดินทาง “ล้อ ราง เรือ” แก้ไขปัญหาการจราจร เพิ่มทางเลือกให้ประชาชนเข้าถึงบริการสาธารณะต่าง ๆ เพื่อรองรับการขยายตัวของเมืองและพื้นที่เศรษฐกิจตลอดแนวเส้นทาง ประชาชนจะได้รับประโยชน์สูงสุดในการเดินทาง ตลอดจนสามารถเชื่อมโยงกับระบบขนส่งรูปแบบอื่นได้อย่างไร้รอยต่อ ช่วยลดปัญหาการคับคั่งของการจราจรทางบก ลดระยะเวลาในการเดินทาง สร้างภาพลักษณ์ที่ดีในการเดินทางในส่วนพื้นที่ อ.เบตง จ.ยะลา นั้น ได้มีการดําเนินการสร้างสถานีขนส่งอําเภอเบตงขึ้นมา เพื่อรองรับนโยบายเมืองต้นแบบด้านการท่องเที่ยว และบริการภายใต้การพัฒนาแบบพึ่งพาตนเองอย่างยั่งยืนตามยุทธศาสตร์เมืองสามเหลี่ยมเศรษฐกิจจังหวัดชายแดนภาคใต้ "มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน" เชื่อมโยงเศรษฐกิจ ของจังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อสร้างโอกาสครั้งสําคัญของจังหวัดชายแดนภาคใต้ มุ่งเป้าการพัฒนาเศรษฐกิจจังหวัดชายแดนภาคใต้และเศรษฐกิจของประเทศอย่างเต็มรูปแบบ เพื่อให้เกิดผลต่อเนื่องไปสู่การพัฒนาคุณภาพชีวิตให้กับประชาชนในพื้นที่ สร้างโอกาสและการเข้าถึงโอกาสให้กับประชาชนในพื้นที่อย่างเท่าเทียมกัน โดยการพัฒนาศักยภาพของท้องถิ่นทั้งด้านเกษตรกรรม อุตสาหกรรม การท่องเที่ยว ที่พัฒนาพร้อมๆ กับอัตลักษณ์ในพื้นที่ เป็นการพัฒนาเพื่อความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นของคนในพื้นที่ ซึ่งถือเป็นกลยุทธ์สําคัญที่มุ่งไปสู่การแก้ไขปัญหาในมิติด้านความมั่นคงและพัฒนาในจังหวัดชายแดนภาคใต้อย่างเต็มรูปแบบที่ผ่านมา นางคชาพร จินตนุกูล หัวหน้าสํานักงานขนส่งจังหวัดยะลา สาขาอําเภอเบตง หัวหน้าส่วนราชการ ผู้ประกอบการคิวรถโดยสารในพื้นที่อําเภอเบตง ได้มีการประชุมหารือเตรียมความพร้อมในด้านๆต่าง และลงพื้นที่ตรวจความคืบหน้าด้านต่างๆ ของสถานีขนส่งอําเภอเบตง เพื่อตรวจสอบเตรียมความพร้อมของสถานที่ในเปิดให้บริการสถานีขนส่งผู้โดยสารเบตง เพื่อให้เกิดความสะดวก ปลอดภัยตลอดจนเป็นการรองรับการเชื่อมต่อการเดินทางของนักท่องเที่ยวกับท่าอากาศยานนานาชาติเบตงในอนาคต โดยสถานีขนส่งผู้โดยสารเบตง เป็นจุดศูนย์รวมของรถโดยสารสาธารณะ และกระจายส่งผู้โดยสารไปยังพื้นที่ต่างๆ เช่น กรุงเทพฯ จังหวัดภูเก็ก อําเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา และในเขตพื้นที่สามจังหวัดชายแดนใต้ เพื่อเป็นโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมที่อํานวยความสะดวก ในการเดินทางและรองรับการใช้บริการของประชาชนชาวเบตงและรองรับการเดินทางของนักท่องเที่ยวที่เดินทางมายังอําเภอเบตง และจะเตรียมเปิดบริการปลายปีนี้#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
|
27/2/2023
|
ภาคใต้
|
ยะลา
|
สวท.เบตง จ.ยะลา
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230227133257954
| null |
เศรษฐกิจไทยเดือนมกราคม 2566 ได้รับปัจจัยสนับสนุนจากการบริโภคภาคเอกชนที่ปรับตัวดีขึ้น
|
นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อํานวยการสํานักงานเศรษฐกิจการคลัง เปิดเผยว่า เศรษฐกิจไทยในเดือนมกราคม 2566 ได้รับปัจจัยสนับสนุนจากการบริโภคภาคเอกชนที่ปรับตัวดีขึ้น โดยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค ปรับตัวเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 51.7 จากระดับ 49.7 ในเดือนก่อน ซึ่งเป็นการปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 8 และสูงสุดในรอบ 26 เดือน สะท้อนความเชื่อมั่นของผู้บริโภคต่อภาวะเศรษฐกิจที่ปรับตัวดีขึ้น หลังจากการท่องเที่ยวฟื้นตัวชัดเจนมากขึ้น ขณะที่ดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรม เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 93.9 จากระดับ 92.6 ในเดือนก่อนหน้า โดยองค์ประกอบที่สําคัญที่เพิ่มขึ้น ได้แก่ ยอดคําสั่งซื้อโดยรวม ยอดขายโดยรวม ปริมาณการผลิต และผลประกอบการ สอดคล้องกับการขยายตัวของการบริโภคสินค้าในหมวดสินค้าคงทนและสินค้าอุปโภคบริโภค รวมถึงการท่องเที่ยวภายในประเทศที่ขยายตัวต่อเนื่อง ส่งผลให้มีความต้องการสินค้าเพิ่มขึ้น ด้านเสถียรภาพเศรษฐกิจยังอยู่ในเกณฑ์ดี และแรงกดดันจากระดับราคาสินค้าลดลงต่อเนื่อง สะท้อนจากอัตราเงินเฟ้อทั่วไปในเดือนมกราคม 2566 อยู่ที่ร้อยละ 5.02 สัดส่วนหนี้สาธารณะ (ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2565) อยู่ที่ร้อยละ 60.7 ต่อ GDP ซึ่งยังอยู่ภายใต้กรอบวินัยการเงินการคลัง สําหรับเสถียรภาพภายนอกยังอยู่ในระดับที่มั่นคงและสามารถรองรับความเสี่ยงจากความผันผวนของเศรษฐกิจโลกได้ สะท้อนจากทุนสํารองระหว่างประเทศ อยู่ในระดับสูงที่ 225.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
|
27/2/2023
|
ภาคกลางและปริมณฑล
|
กรุงเทพมหานคร
|
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230227140752975
| null |
กว่า 72 ล้านบาท ให้โรงพยาบาลวชิระภูเก็ต เตรียมความพร้อมโครงการยกระดับการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ
|
นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ตามที่สํานักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุขได้ทําหนังสือเมื่อวันที่ 13 มกราคม 2566 ไปยังสํานักงบประมาณเพื่อเสนอขอรับการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจําปีงบประมาณ 2566 งบกลาง รายการเงินสํารองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจําเป็น 83,744,022 บาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการดําเนินโครงการเตรียมความพร้อมยกระดับการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ จังหวัดภูเก็ต สู่เมืองท่องเที่ยวเชิงสุขภาพระดับโลก ให้กับโรงพยาบาลวชิระภูเก็ตนั้น ล่าสุด เมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ได้รับหนังสือตอบกลับจาก นายกรณินทร์ กาญจโนมัย รองผู้อํานวยการสํานักงบประมาณ ปฏิบัติราชการแทนผู้อํานวยการสํานักงบประมาณ แจ้งว่า นายกรัฐมนตรีได้เห็นชอบตามที่สํานักงบประมาณเสนอให้สํานักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุขเบิกจ่ายจากงบกลาง 2566 รายการเงินสํารองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจําเป็น 72,277,389 บาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการดําเนินโครงการดังกล่าวแล้วโดยเบิกจ่ายในงบลงทุนค่าที่ดินและสิ่งก่อสร้าง การใช้จ่ายงบประมาณดังกล่าวจะดําเนินการโดยยึดเรื่องของความโปร่งใส สุจริต ประหยัด มีประสิทธิภาพ ตรวจสอบได้ ปฏิบัติตามกฎระเบียบข้อบังคับ มติคณะรัฐมนตรี คํานึงถึงประโยชน์สูงสุดของราชการและประชาชน โครงการยกระดับการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ จังหวัดภูเก็ต สู่เมืองท่องเที่ยวเชิงสุขภาพระดับโลก เป็นโครงการที่มุ่งเน้นการเพิ่มศักยภาพและยกระดับการบริการเชิงคุณภาพและสร้างมูลค่าเพิ่มส่งเสริมให้ภูเก็ตเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีมาตรฐานด้านสาธารณสุขและด้านความปลอดภัยด้านสุขภาพซึ่งการดําเนินการในส่วนของโรงพยาบาลวชิระภูเก็ต ประกอบด้วย ศูนย์สุขภาพและการแพทย์นานาชาติ ศูนย์อภิบาลผู้สูงอายุนานาชาติ ศูนย์ใจรักษ์ และศูนย์เวชศาสตร์ฟื้นฟูครบวงจร ซึ่งงบกลางที่ได้รับอนุมัตินี้เป็นงบในช่วงระยะแรกๆ ของการดําเนินโครงการจากวงเงินงบประมาณที่คณะรัฐมนตรีได้อนุมัติทั้งหมด 1,411 ล้านบาท เมื่อวันที่ 1 มีนาคม 2565
|
27/2/2023
|
ภาคกลางและปริมณฑล
|
กรุงเทพมหานคร
|
Radio-สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230227182632079
| null |
จ.สุราษฎร์ธานี ประชุมคณะกรรมการควบคุมการขนส่งทางบกประจำจังหวัดสุราษฎร์ธานี ครั้งที่ 3/2566
|
วันนี้ (27ก.พ. 66) ที่ห้องประชุมนางยวน ชั้น 5 ศาลากลางจังหวัดสุราษฎร์ธานี นายวิชวุทย์ จินโต ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี มอบหมายให้นายมนตรา พรมสินธุ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ประชุมคณะกรรมการควบคุมการขนส่งทางบกประจําจังหวัดสุราษฎร์ธานี ครั้งที่ 3/2566 พร้อมด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมประชุมดังกล่าว ผลการดําเนินการตามมติที่ประชุมคณะกรรมการควบคุมการขนส่งทางบกประจําจังหวัดสุราษฎร์ธานี ครั้งที่ 1/2564 เมื่อวันที่ 8 กันยายน 2564 ได้พิจารณาการพิจารณาต่ออายุใบอนุญาตประกอบการขนส่งประจําทางด้วยรถที่ใช้ในการขนส่งโดยสาร หมวด 4 สายที่ 8312 เส้นทางรอบเกาะ บ้านหน้าทอน โดยสหกรณ์เดินรถเกาะสมุย จํากัดสําหรับการพิจารณาออกใบอนุญาตประกอบการขนส่งประจําทางด้วยรถที่ใช้ในการขนส่งผู้โดยสาร หมวด 1 สายที่ 3 ตลาดเกษตร 1 - สถานีรถไฟพุนพิน และการพิจารณากําหนดปรับปรุง โดยเงื่อนไขเกี่ยวกับเส้นทางเดินรถและจํานวนเที่ยวเดินรถโดยสารประจําทาง หมวด 4 ให้มีรายละเอียดเส้นทางแยกช่วงเพิ่ม จํานวน 4 เส้นทาง 1. สายที่ 8516 วงกลมท้องศาลา - หาดหลัด โดยสหกรณ์บริการเดินรถ เกาะพะงัน จํากัด 2.สายที่ 8517 ท้องศาลา - หาดโฉลกหลํา โดยห้างหุ้นส่วนจํากัด เบญจสหมิตร์ 3. สายที่ 8518 ท้องศาลา - หาดริ้น โดยห้างหุ้นส่วนจํากัด เบญจสหมิตร์ 4. สายที่ 8519 ท้องศาลา - หาดท้องตาปาน โดยสหกรณ์บริการเดินรถ เกาะพะงัน จํากัด สําหรับการพิจารณากําหนด ปรับปรุง เงื่อนไขเกี่ยวกับเส้นทางเดินรถ จํานวนรถ (ลดขั้นต่ํา) และจํานวนเที่ยวการเดินรถ (ลดจํานวน) ในใบอนุญาตประกอบการขนส่งประจําทาง หมวด 4 จังหวัดสุราษฎร์ธานี สายที่ 8244 ท่าอากาศยานสุราษฎร์ธานี - ดอนสัก - เกาะสมุยอย่างไรก็ตาม การพิจารณากําหนด ปรับปรุง เงื่อนไขเกี่ยวกับจํานวนเที่ยวการเดินรถ (ขั้นต่ํา) และ(ปรับลด) จํานวนรถในใบอนุญาตประกอบการขนส่งผู้โดยสารรถหมวด 4 จํานวน 6 เส้นทาง ได้แก่ สายที่ 8363 พุนพิน - คีรีรัฐนิคม - บ้านพรุไทย โดยบริษัท สุราษฎร์สหพันธ์ จํากัด สายที่ 8364 สุราษฎร์ธานี - บ้านคลองสงค์ โดยบริษัท สุราษฎร์สหพันธ์ จํากัด สายที่ 8364 สุราษฎร์ธานี บ้านหนองหญ้าปล้อง-บ้านนาเดิม โดยบริษัท สุราษฎร์สหพันธ์ จํากัด สายที่ 8423 สุราษฎร์ธานี ศูนย์ศิลปชีพบ้านท่านหญิง โดยบริษัท สุราษฎร์สหพันธ์ จํากัด สายที่ 8563 สุราษฎร์ธานี - คีรีรัฐนิคม โดยบริษัท สุราษฎร์สหพันธ์ จํากัด และพิจารณาแก้ปัญหาเส้นทางการเดินรถและการจัดการระบบการเดินรถ เส้นทางการเดินรถโดยสารประจําทาง (ภายในจังหวัด) หมวด 4 จํานวน 3 เส้นทางและเส้นทางการเดินรถโดยสารประจําทาง (ระหว่างทาง) หมวด 3 จํานวน 1 เส้นทาง และพิจารณากําหนดอัตราค่าโดยสารรถโดยสารประจําทางหมวด 1 และหมวด 4 ในเขตจังหวัดสุราษฎร์ธานี.#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
|
27/2/2023
|
ภาคใต้
|
สุราษฎร์ธานี
|
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสุราษฎร์ธานี
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230227175226065
| null |
จังหวัดแพร่จัดอบรมเชิงปฏิบัติการยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันด้านการตลาดของผู้ประกอบการเฟอร์นิเจอร์และของแต่งบ้าน
|
วันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2566 เวลา 13.30 น. ที่ห้องประชุม 400 ที่นั่ง วิทยาลัยชุมชนแพร่ ตําบลน้ําชํา อําเภอเมือง จังหวัดแพร่ นางสาวนิติยา พงษ์พานิช รองผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ เป็นประธานในพิธีเปิดกิจกรรมอบรมเชิงปฏิบัติการยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันด้านการตลาดของผู้ประกอบการเฟอร์นิเจอร์และของแต่งบ้าน สํานักงานพาณิชย์จังหวัดแพร่ ได้บูรณาการร่วมกับวิทยาลัยชุมชนแพร่ และบริษัท เบ็ตเตอร์บี มาร์เก็ตเพลส จํากัด ดําเนินการจัดกิจกรรมอบรมเชิงปฏิบัติการยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันด้านการตลาดแก่ผู้ประกอบการเฟอร์นิเจอร์และของแต่งบ้าน เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้กลุ่มผู้ผลิต/ผู้ประกอบการ และเพิ่มช่องทางการตลาด รวมทั้งสร้างเครือข่ายทางการค้า การลงทุนเกิดเป็นเศรษฐกิจหมุนเวียนในจังหวัดแพร่#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
|
27/2/2023
|
ภาคเหนือ
|
แพร่
|
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดแพร่
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230227153109016
| null |
ปัตตานี จัดการประชุมถ่ายทอดองค์ความรู้โมเดลเศรษฐกิจใหม่สู่การพัฒนาที่ยั่งยืนในระดับจังหวัด
|
ปัตตานี จัดการประชุมถ่ายทอดองค์ความรู้โมเดลเศรษฐกิจใหม่ (BCG Model) สู่การพัฒนาที่ยั่งยืนในระดับจังหวัด ด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ประจําปีงบประมาณ พ.ศ.2566 วันที่ 27 กุมภาพันธ์2566 ที่ห้องประชุมจะบังติกอ โรงแรม ซี เอส ปัตตานี นายสนั่น สนธิเมือง รองผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี เป็นประธานเปิดการประชุมถ่ายทอดองค์ความรู้โมเดลเศรษฐกิจใหม่ (BCG Model) สู่การพัฒนาที่ยั่งยืนในระดับจังหวัด ด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ประจําปีงบประมาณ 2566 โดยมี นางสาวโสภิตา จันทมณีโชติ รักษาราชการแทนผู้อํานวยการสํานักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวรายงาน มีหัวหน้าส่วนราชการระดับจังหวัด ผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและคณะทํางานดําเนินโครงการฯเข้าร่วมประชุม นางสาวโสภิตา จันทมณีโชติ กล่าวว่า เมื่อวันที่ 19 มกราคม 2564 คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้การขับเคลื่อนการพัฒนาเศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน เศรษฐกิจสีเขียว ( BCG Model) โมเดลเศรษฐกิจสู่การพัฒนาที่ยั่งยืนเป็นวาระแห่งชาติ ตั้งแต่ปี พ.ศ.2564 เป็นต้นไป และให้คณะกรรมการบริหารการพัฒนาเศรษฐกิจชีวภาพ-เศรษฐกิจหมุนเวียน-เศรษฐกิจสีเขียว พิจารณากําหนดและดําเนินแผนงาน/โครงการต่าง ๆ ให้สอดคล้องกับแผนปฏิบัติการด้านการขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศไทย ด้วยโมเดลเศรษฐกิจ BCG พ.ศ.2564 - 2570 ดังนั้นสํานักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ กระทรวงการอุดมศึกษาวิทยาศาสตร์วิจัยและนวัตกรรม ในฐานะเลขานุการของคณะกรรมการบริหารฯ จึงจัดทําแผนปฏิบัติการด้านการขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศไทยด้วยโมเดลเศรษฐกิจ BCG พ.ศ2564 - 2570 เพื่อใช้เป็นกรอบการทํางานสําหรับหน่วยงานต่าง ๆ ในการร่วมขับเคลื่อนวาระแห่งชาติ ให้เกิดผลเป็นรูปธรรมโดยเร็วและยั่งยืน และได้มอบหมายให้ สํานักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัด ดําเนินโครงการดังกล่าว โดยมีกรอบแนวคิดการขับเคลื่อนโมเดลเศรษฐกิจ BCG ในภารกิจของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ใน 4 ประเด็น ได้แก่ อนุรักษ์และฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติเพื่อความสมดุลของระบบนิเวศและเป็นฐานการพัฒนา ใช้ประโยชน์ทรัพยากรธรรมชาติอย่างยั่งยืน เพื่อสร้างและกระจายรายได้อย่างเป็นธรรม ลดการใช้ทรัพยากร "ใช้น้อย ได้มาก" ลดขยะและของเสียหมุนเวียนทรัพยากรกลับมาใช้ และ มุ่งสู่สังคมคาร์บอนต่ําและวิถีชีวิตที่ เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม สําหรับการจัดประชุมฯ ในวันนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับโมเดลเศรษฐกิจใหม่ (BCG Model) สู่การพัฒนาที่ยั่งยืน เพื่อดําเนินการขับเคลื่อนการดําเนินงานตามเผนการขับเคลื่อนโมเดลเศรษฐกิจใหม่สู่การพัฒนาที่ยั่งยืน ด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ส่งเสริมให้เครือข่ายภาคส่วนต่าง ๆ ได้ร่วมกันค้นหาแนวคิด/รูปแบบในการพัฒนาชุมชน/พื้นที่นําร่อง ด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ภายใต้แนวคิดโมเดลเศรษฐกิจใหม่ (BCG Model) โดยกลุ่มเป้าหมายในการประชุมฯประกอบด้วย หน่วยงานที่เกี่ยวข้องระดับจังหวัด, หน่วยงานสังกัด ทส.ในพื้นที่และคณะทํางานดําเนินโครงการฯ ภาพ/ข่าว เพชรน้อย ส.ปชส.ปัตตานี#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
|
27/2/2023
|
ภาคใต้
|
ปัตตานี
|
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดปัตตานี
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230227163659045
| null |
มทร.ศรีวิชัย จัดกิจกรรมการเสวนาและนำเสนอผลการดำเนินงานระดับจังหวัด โครงการ “การฟื้นฟูทรัพยากรปูม้าและเสริมสร้างเศรษฐกิจฐานรากในชุมชนธนาคารปูม้า พื้นที่ชายฝั่งจังหวัดตรังและกระบี่”
|
วันนี้ ( 27 กุมภาพันธ์ 2566 ) นายวิศิษฐ์ อนันต์วรปัญญา รองผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง เป็นประธานเปิดกิจกรรมการเสวนาและนําเสนอผลการดําเนินงานระดับจังหวัด โครงการ “การฟื้นฟูทรัพยากรปูม้าและเสริมสร้างเศรษฐกิจฐานรากในชุมชนธนาคารปูม้า พื้นที่ชายฝั่งจังหวัดตรังและกระบี่” พร้อมทั้ง มอบโล่ประกาศเกียรติคุณและเกียรติบัตรให้กับธนาคารปูม้า/ศูนย์เรียนรู้ธนาคารปูม้าต้นแบบดีเด่นด้านการอนุรักษ์ปูม้าและการฟื้นฟูทรัพยากรชายฝั่งจังหวัดตรัง จํานวน 51 แห่ง โดยคณะ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย วิทยาเขตตรัง คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการประมง ร่วมกับ สํานักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) ภายใต้ โครงการขยายผลธนาคารปูม้าเพื่อ “คืนปูม้าสู่ทะเลไทย“ ตามมติคณะรัฐมนตรี ณ โรงแรมวัฒนาพาร์ค อําเภอเมืองตรัง ดร.วิกิจ ผินรับ อาจารย์ คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการประมง มทร.ศรีวิชัย หัวหน้าโครงการวิจัย “การฟื้นฟูทรัพยากรปูม้าและเสริมสร้างเศรษฐกิจฐานรากในชุมชนธนาคารปูม้าพื้นที่ชายฝั่งจังหวัดตรังและกระบี่” กล่าวว่า ได้รับทุนอุดหนุนการทํากิจกรรมส่งเสริมและสนับสนุนการวิจัยและนวัตกรรม ประจําปีงบประมาณ 2565 จากสํานักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) เพื่อดําเนินโครงการวิจัย เพื่อพัฒนาและเพิ่มศักยภาพของธนาคารปูม้าในพื้นที่จังหวัดตรังและกระบี่ให้มีความยั่งยืน นําไปสู่การพัฒนามาตรฐานผลิตภัณฑ์แปรรูปจากปูม้า และการใช้ปุ๋ยผสมเปลือกปูม้าปลูกแตงโมแบบลอยฟ้า ส่งเสริมกิจกรรมเพื่อสังคมและสร้างจิตสํานึกให้เยาชนในการอนุรักษ์ทรัพยากรปูม้า รวมถึงการประเมินผลกระทบของโครงการต่อชาวประมงและผู้เกี่ยวข้องในห่วงโซ่อุปทาน ตลอดจนการติดตามผลของการทําธนาคารปูม้าที่เชื่อมโยงกับการแปรรูปผลิตภัณฑ์จากปูม้า การท่องเที่ยวเชิง นิเวศ การจําหน่ายสินค้าผ่านช่องทางการตลาดออนไลน์ และการอนุรักษ์ทรัพยากรปูม้าในจังหวัดตรังและกระบี่ นอกจากนั้น ได้มีการเปิดเวทีเสวนา ในหัวข้อ “การทําธนาคารปูม้าเพื่อสร้างอาชีพสู่ความยั่งยืน” นําโดย ผศ.ดร.อภิรักษ์ สงรักษ์ รองอธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย ชึ่งเป็นคณะทํางานโครงการขยายผลธนาคารปูม้า พร้อมด้วยประมงจังหวัดตรัง และตัวแทนจากเครือข่ายธนาคารปูม้าทั้ง 4อําเภอของจังหวัดตรัง เพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนเรียนรู้จากการทํางานธนาคารปูม้าระหว่างธนาคารปูม้าชุมชนจังหวัดตรังเพื่อขยายผลสู่การทํางานธนาคารปูม้าแบบยั่งยืน#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
|
27/2/2023
|
ภาคใต้
|
ตรัง
|
สวท.ตรัง
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230227163920046
| null |
กฟผ. ร่วมกับ ธอส. ส่งเสริมบ้านประหยัดพลังงาน บ้านเบอร์ 5 ลดค่าใช้จ่ายผู้อยู่อาศัย
|
นายประเสริฐศักดิ์ เชิงชวโน รองผู้ว่าการยุทธศาสตร์ เป็นผู้แทนการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ร่วมกับนายวิทยา แสนภักดี รองกรรมการผู้จัดการธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ลงนามความร่วมมือโครงการยกระดับบ้านประหยัดพลังงานอย่างยั่งยืนเพื่อคนไทย นายประเสริฐศักดิ์ กล่าวว่า กฟผ. ดําเนินโครงการฉลากแสดงระดับประสิทธิภาพพลังงานสําหรับบ้านที่อยู่อาศัย หรือโครงการบ้านเบอร์ 5 ผ่านเกณฑ์ข้อกําหนดด้านการออกแบบการเลือกใช้วัสดุการก่อสร้าง และอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีประสิทธิภาพสูง ตามแผนอนุรักษ์พลังงานของประเทศ มีแบบบ้านเบอร์ 5 จํานวน 61 แบบ สร้างแล้วเสร็จ 5,400 หลัง ช่วยลดค่าไฟฟ้าของผู้อาศัยได้ประมาณ 44 ล้านบาทต่อปี ส่งผลให้ประเทศประหยัดพลังงานไฟฟ้าได้ประมาณ 11 ล้านหน่วยต่อปี ประหยัดค่าใช้จ่ายด้านพลังงานให้แก่ผู้อยู่อาศัยเพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 40ด้านนายวิทยา กล่าวเพิ่มเติมว่า ในปี 2565 มียอดอนุมัติสินเชื่อรวมแล้วกว่า 13,000 ล้านบาท และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง สะท้อนการตอบรับของประชาชนต่อที่อยู่อาศัยประหยัดพลังงานและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมที่เพิ่มมากขึ้น และ ธอส. ยังมุ่งมั่นส่งเสริมให้ความสําคัญด้านสิ่งแวดล้อม ด้านสังคม และบทบาทความรับผิดชอบของธุรกิจที่มีต่อผู้มีส่วนได้ส่วนเสียด้วยการมอบผลิตภัณฑ์ บริการที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เพื่อคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นของประชาชน กฟผ. และ ธอส. ตั้งเป้าหมายที่จะผลักดัน ให้เกิดการสร้างบ้านประหยัดพลังงาน ภายใต้บันทึกข้อตกลงความร่วมมือ 3 ปี (ปี 2566-2568) จํานวน 5,000 หลัง ซึ่งจะสามารถลดการใช้พลังงานของประเทศได้ประมาณ 32.5 ล้านหน่วยต่อปี หรือ 130 ล้านบาทต่อปี และลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ประมาณ 14,600 ตันต่อปี เป็นการสร้างการมีส่วนร่วมกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียภาคส่วนต่างๆ ในการลดก๊าซเรือนกระจกตามทิศทางการพัฒนาประเทศ มุ่งสู่สังคมคาร์บอนต่ําอย่างเป็นรูปธรรม
|
27/2/2023
|
ภาคกลางและปริมณฑล
|
กรุงเทพมหานคร
|
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230227191924110
| null |
Superstar Fight Phuket มวยไทย Live Streaming สู่จีน เสริมตลาดท่องเที่ยวช่วงไฮซีซั่น
|
นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเป็นประธานเปิดงาน Superstar Fight Phuket โดยมี นายธรรมวรรธ วงศ์เจริญยศ นายกสมาคมกีฬาแห่งจังหวัดภูเก็ต นายโอภาส สายไหม โปรโมเตอร์ จัดงานฯ พร้อมด้วยหน่วยงานภาครัฐ เอกชนเข้าร่วม ณ T&Y Arena Stadium ซอยตาเอียด ณ T&Y Muay Thai ซอยตาเอียด ต.ฉลอง อ.เมืองภูเก็ต นายธรรมวรรธ วงศ์เจริญยศ นายกสมาคมกีฬาแห่งจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า “สมาคมกีฬาแห่งประเทศไทย เล็งเห็นความสําคัญในกีฬาทุกประเภทในการที่จะผลักดันเพื่อสนับสนุนการท่องเที่ยวและกีฬาภายในจังหวัดภูเก็ต เพื่อเป็นการกระตุ้นให้นักท่องเที่ยวรู้จักจังหวัดภูเก็ตและส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงกีฬา ตอกย้ําการเป็นเมืองท่องเที่ยวและกีฬา (Sport Tourism City) มากยิ่งขึ้น”และรายได้ส่วนหนึ่งมอบช่วยเหลือชาวตุรกีที่ประสบภัยแผ่นดินไหว โดยการแข่งขัน Superstar Fight Phuket เป็นการแข่งมวยรูปแบบใหม่ที่ฉีกแนวออกไปจากการแข่งขันมวยไทยโดยทั่วไป โดยแบ่งแยกการแข่งขันออกเป็นหลายรูปแบบ ทั้งมวยไทย มวยสากล และมีการนําคู่มวยเด็ดชื่อดังมาช่วยกระตุ้นความน่าสนใจมากยิ่งขึ้น ด้าน นายโอภาส สายไหม โปรโมเตอร์ จัดงานฯ กล่าวว่า “สังเวียนเดือดเลือดนักสู้ Superstar Fight เป็นการจัดคู่มวยที่น่าสนใจ กระตุ้นการท่องเที่ยวด้านกีฬา ความน่าสนใจของคู่มวยที่ขึ้นสังเวียน จะมีทั้งดาราจากประเทศจีน ไทย อิหร่าน เนตไอดอลไทย อินเดีย รวมถึงดารานางแบบรัสเซียเข้าร่วมซึ่งรูปแบบการชกและกติกา มีมวยทั้งหมด 21 คู่ แบ่งเป็นมวยทั้งหมด 13 คู่ : มวยไทย 5 ยก 3 คู่, มวยไทย 3 ยก 1 คู่ กติกามวยไทยเต็มรูปแบบ, มวยสากล 4 ยก 3 คู่ กติกาชก 3 นาที พัก 2 นาที และอีกประเภทจะเป็นมวย HardCore จํานวน 8 คู่ กติกา นวมเล็ก 3 ยก ชก 3 นาที พัก 2 นาที ทั้งนี้ ความคาดหวังในการจัดเตรียมพื้นที่ T&Y Arena Stadium ซอยตาเอียด นอกจากจะรองรับผู้ชมได้ 4,000 – 5,000 คนแล้ว ผู้ชมต่างประเทศยังสามารถชมแม่ไม้มวยไทยแบบ Live Streaming ผ่านทาง Application ‘Mongthai’ ซึ่งมีผู้ใช้งาน 500,000 – 1,000,000 users#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
|
27/2/2023
|
ภาคใต้
|
ภูเก็ต
|
สวท.ภูเก็ต
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230227182020075
| null |
กรมบัญชีกลาง แนะร้านค้าที่รับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เปลี่ยนไปใช้แอปพลิเคชันถุงเงิน แทนเครื่อง EDC
|
นางสาววารี แว่นแก้ว รองอธิบดีกรมบัญชีกลาง ในฐานะโฆษกกรมบัญชีกลาง เปิดเผยว่า กรมบัญชีกลางในฐานะที่รับผิดชอบเกี่ยวกับการเบิกจ่ายเงินให้แก่ร้านค้าที่รับชําระเงินค่าสินค้าและบริการผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ โดยให้ธนาคารกรุงไทย ดําเนินการวางเครื่องรับชําระเงินอิเล็กทรอนิกส์ (EDC) ให้แก่ร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการธงฟ้า ซึ่งขณะนี้เครื่อง EDC เริ่มทยอยสิ้นสุดระยะเวลาการรับประกันการใช้งาน 5 ปี แล้ว หากร้านค้ามีความประสงค์จะใช้เครื่อง EDC ต่อ จะมีค่าใช้จ่ายเป็นค่าบริการที่ธนาคารกรุงไทย เรียกเก็บประมาณ 2,100 บาทต่อปี ซึ่งจะเริ่มเก็บค่าบริการตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2566 และปีถัดไปจะต้องชําระภายในเดือนมีนาคมของทุกปี สําหรับร้านค้าที่ไม่ประสงค์จะใช้งานเครื่อง EDC ต่อ สามารถเปลี่ยนไปใช้แอปพลิเคชันถุงเงินแทนได้ ซึ่งไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม โดยสามารถส่งคืนเครื่อง EDC พร้อมอุปกรณ์ที่อยู่ในสภาพพร้อมใช้งานได้ที่กรมบัญชีกลาง หรือสํานักงานคลังจังหวัด พร้อมยื่นคําร้องขอเปลี่ยนแปลงระบบรับชําระสิทธิบัตรสวัสดิการแห่งรัฐจากเครื่อง EDC เป็นแอปพลิเคชันถุงเงินที่สํานักงานพาณิชย์จังหวัดหรือกรมการค้าภายใน ทั้งนี้ ร้านค้าที่เครื่อง EDC มีอายุการใช้งานครบ 5 ปีแล้ว กรมบัญชีกลางจะมีหนังสือแจ้งไปยังร้านค้า เพื่อให้ติดต่อที่กรมบัญชีกลางหรือสํานักงานคลังจังหวัด 76 จังหวัดเท่านั้น จะไม่มีการโทรสอบถามข้อมูลใดๆ โปรดอย่าหลงเชื่อและระวังมิจฉาชีพแอบอ้าง
|
27/2/2023
|
ภาคกลางและปริมณฑล
|
กรุงเทพมหานคร
|
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230227191809106
| null |
ประเทศไทย ผ่านมาตรฐานการตรวจประเมินจากองค์การทางทะเลระหว่างประเทศภาคบังคับ จาก IMO
|
นายสรพงศ์ ไพฑูรย์พงษ์ รองปลัดกระทรวงคมนาคม รักษาการอธิบดีกรมเจ้าท่า กล่าวในโอกาสเข้าร่วมพิธีปิด การตรวจประเมินประเทศสมาชิกองค์การทางทะเลระหว่างประเทศภาคบังคับ (IMO Member State Audit Scheme : IMSAS) เพื่อสร้างมาตรฐานความปลอดภัยและสิ่งแวดล้อมทางทะเลของประเทศ ที่จัดขึ้นตั้งแต่วันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2566 ที่ผ่านมา พร้อมด้วย นายโมลเอน อาซอฟ (Mr. Moain Al Zoubi) หัวหน้าคณะผู้ตรวจประเมิน IMO ว่า ในฐานะที่ประเทศไทยเป็นสมาชิกขององค์การทางทะเลระหว่างประเทศ (IMO) นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม จึงมอบหมายให้กรมเจ้าท่า เป็นหน่วยงานหลักในการรับการตรวจประเมินจากองค์การทางทะเลระหว่างประเทศภาคบังคับ (IMSAS) โดยที่ผ่านมาประเทศไทยได้มีการปรับปรุงกระบวนการภายในอย่างบูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้การตรวจประเมินประเทศสมาชิกองค์การทางทะเลระหว่างประเทศภาคบังคับ (IMO Member State Audit Scheme: IMSAS) ระหว่างวันที่ 20 – 27 กุมภาพันธ์ 2566 ปรากฎว่าประเทศไทยสามารถดําเนินการได้ตามมาตรฐานของ IMO โดยทางคณะผู้ตรวจประเมินจาก IMO ได้แสดงความชื่นชมว่า ประเทศไทยมีระบบการปฏิบัติงานที่โดดเด่นในการใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการปฏิบัติงาน ซึ่งผลจากการดําเนินการของไทย IMO จะนําไปเป็นต้นแบบในการเพิ่มประสิทธิภาพการปฏิบัติงานของประเทศสมาชิก ซึ่งเป็นหนึ่งในวัตถุประสงค์ของการดําเนินการตรวจประเมินประเทศสมาชิกของ IMO ในการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ข้อปฏิบัติอันเป็นเลิศ (best practice) ระหว่างกันอย่างไรก็ตาม ในส่วนของประเทศไทย จะนําผลของการตรวจประเมินเกี่ยวกับการดําเนินการในฐานะรัฐเจ้าของธง (Flag State) รัฐเจ้าของท่าเรือ (Port State) และรัฐชายฝั่ง (Coastal State) ไปปรับปรุงเพื่อยกระดับมาตรฐานด้านความปลอดภัยและสิ่งแวดล้อมทางทะเล โดยจะมีการตรวจสอบและติดตามการดําเนินการเป็นระยะเวลาทุก 7 ปี เพื่อให้เกิดการปรับปรุงการปฏิบัติตามพันธกรณีของประเทศสมาชิกอย่างต่อเนื่องและมีประสิทธิภาพ พร้อมขอบคุณคณะผู้ตรวจประเมินที่ให้คําแนะนําแก่ประเทศไทยในการดําเนินการตามตราสารของ IMO เพื่อพัฒนาการขนส่งทางน้ําของประเทศไทยอย่างยั่งยืนต่อไป
|
27/2/2023
|
ภาคกลางและปริมณฑล
|
กรุงเทพมหานคร
|
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230227183213087
| null |
ประกวดข้าวหอมมะลิประเทศไทย ประจำปี 2565 สุรินทร์ คว้ารางวัลรองชนะเลิศลำดับ 1 ทั้ง 2 ประเภท และชมเชยอีก 4 รางวัลประเภทบุคคล รับโล่และเงินสดจากรองนายกรัฐมนตรี พร้อม MOU กับผู้รับซื้อ
|
วันนี้ (27 กุมภาพันธ์ 2566) เวลา 13.00 น. ที่ห้องประชุมบุรฉัตรไชยากร ชั้น 4 สํานักงานปลัดกระทรวงพาณิชย์ นางพิรุณวรรณน์ จงใจภักดิ์ พาณิชย์จังหวัดสุรินทร์ ร่วมพิธีมอบรางวัลการประกวดข้าวหอมมะลิของประเทศไทย ประจําปี 2565 โดยมี นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธานในพิธีฯผลการตัดสินการประกวดข้าวหอมมะลิของประเทศไทย ประจําปี 2565 ปรากฏว่า มีเกษตรกรจังหวัดสุรินทร์ที่ผ่านการคัดเลือกเข้าสู่รอบการตัดสินรอบสุดท้ายในระดับประเทศ ประเภทเกษตรกรรายบุคคล 4 ราย และประเภทสถาบันเกษตรกร 1 ราย ประกอบด้วยประเภทเกษตรกรรายบุคคล ประกอบด้วย รางวัลรองชนะเลิศลําดับที่ 1 นางกงใจ คํามีนาม เกษตรกรอําเภอรัตนบุรี ได้รับโล่จากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์และเงินสด 65,000 บาท รางวัลชมเชย (3 ราย) นางพรทิพย์ ฤทธิรณ เกษตรกรอําเภอชุมพลบุรี นายประเจน โสภาชัย เกษตรกรอําเภอชุมพลบุรี และ นางตาล ศรีเพชร เกษตรกรอําเภอสําโรงทาบ ได้รับโล่จากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์และเงินสด 8,000 บาทประเภทสถาบันเกษตรกร ได้รับรางวัลรองชนะเลิศลําดับที่ 1 ได้แก่ วิสาหกิจชุมชนนาแปลงใหญ่ตําบลเกาะแก้ว อําเภอสําโรงทาบ ได้รับโล่จากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์และเงินสด 100,000 บาทจากการได้รับรางวัลดังกล่าว ผู้รับซื้อได้มีการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) เชื่อมโยงตลาดผู้ชนะการประกวดฯ คือ เครือข่ายวิสาหกิจชุมชนนวัตกรรมเกษตรอินทรีย์จังหวัดสุรินทร์ (OASIS) โดยนางส้มป่อย จันทร์แสง กับ วิสาหกิจชุมชนนาแปลงใหญ่ตําบลเกาะแก้ว โดยนายเกียรติ อาจภักดี ประธานวิสาหกิจชุมชนฯ และ สหกรณ์การเกษตรเพื่อการตลาดลูกค้า ธ.ก.ส.สุรินทร์ จํากัด โดยนายบัวลิน คมกล้า กับ นางกงใจ คํามีนาม#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
|
27/2/2023
|
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
|
สุรินทร์
|
สวท.สุรินทร์
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230227192657117
| null |
ปรับราคาขายปลีกน้ำมันกลุ่มเบนซินและแก๊สโซฮอล์ทุกชนิดขึ้น 0.50 บาทลิตร ส่วนกลุ่มดีเซลคงเดิม
|
บริษัท ปตท. น้ํามันและการค้าปลีก จํากัด (มหาชน) และ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จํากัด แจ้งว่า ตั้งแต่เวลา 05.00 น. ของวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2566 เป็นต้นไป ประกาศปรับราคาขายปลีกน้ํามันกลุ่มเบนซินและแก๊สโซฮอล์ทุกชนิดขึ้น 50 สตางค์ต่อลิตร ส่วนกลุ่มดีเซลคงเดิม มีส่งผลให้ราคาขายปลีก น้ํามันหน้าสถานีบริการในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล เป็นดังนี้ น้ํามันเบนซิน ราคาอยู่ที่ 44.16 บาทต่อลิตร แก๊สโซฮอล์ 95 ราคา 36.35 บาทต่อลิตร แก๊สโซฮอล์ 91 ราคา 36.08 บาทต่อลิตร และโซฮอล์ E20 ราคา 34.04 บาทต่อลิตร แก๊สโซฮอล์ E85 ราคา 34.49 บาทต่อลิตร ส่วนราคาดีเซลไฮพรีเมียม ดีเซล B7 ราคา อยู่ที่ 43.06 บาทต่อลิตร ขณะที่กลุ่มไฮดีเซล B7 ไฮดีเซล S และไฮดีเซล B20 S ราคา 33.94 บาทต่อลิตร ทั้งนี้ราคาดังกล่าวยังไม่รวมภาษีบํารุงแต่ละท้องที่
|
27/2/2023
|
ภาคกลางและปริมณฑล
|
กรุงเทพมหานคร
|
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230227182333078
| null |
ททท. สำนักงานเพชรบุรี ร่วมกับโรงเรียนการท่องเที่ยวและการบริการ มหาวิทยาลัยสวนดุสิต ส่งเสริมการท่องเที่ยวคุณภาพ เพิ่มขีดความสามารถในการให้บริการที่เป็นสากล ยกระดับการให้บริการในอุตสาหกรรมท่องเที่ยว
|
นางสาวเอิบลาภ ศรีภิรมย์ ผู้อํานวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สํานักงานเพชรบุรี กล่าวว่า โรงเรียนการท่องเที่ยวและการบริการ มหาวิทยาลัยสวนดุสิต ที่ให้ความสนใจพื้นที่จังหวัดเพชรบุรีและร่วมเป็นพันธมิตรในการบูรณาการความร่วมมือเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวคุณภาพ เนื่องจากการส่งเสริมตลาดการท่องเที่ยวนั้นจะไม่สามารถบรรลุเป้าหมายได้ หากด้านสินค้า บริการและบุคลากรทางการท่องเที่ยวไม่มีการปรับปรุงคุณภาพ พัฒนาศักยภาพหรือเพิ่มขีดความสามาถในการให้บริการที่เป็นสากล ดังนั้น มหาวิทยาลัยสวนดุสิตจึงเป็นหน่วยงานสําคัญที่จะช่วยเผยแพร่และพัฒนาต่อยอดองค์ความรู้ เพื่อผลิตบุคลากรทางการท่องเที่ยวที่มีคุณภาพให้แก่อุตสาหกรรมท่องเที่ยว ด้านผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.พิมพ์มาดา วิชาศิลป์ คณบดีโรงเรียนการท่องเที่ยวและการบริการ มหาวิทยาลัยสวนดุสิต กล่าวว่าโรงเรียนการท่องเที่ยวและบริการในฐานะสถาบันการศึกษากลุ่ม 3 ที่เน้นการให้บริการทางวิชาการและพัฒนาท้องถิ่น มีความยินดีและมีความพร้อมด้านองค์ความรู้และบุคลากรของสถาบันในการให้ความร่วมมือในด้านวิชาการ โดยเฉพาะการพัฒนาและส่งเสริมท่องเที่ยวและบริการของบุคลากรในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวและชุมชนท่องเที่ยวในจังหวัดเพชรบุรี ทั้งนี้ทั้งสองฝ่ายจะได้มีการหารือเพื่อกําหนดแนวทางการดําเนินงานร่วมกันต่อไปสวท.เพชรบุรี#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
|
28/2/2023
|
ภาคตะวันตก
|
เพชรบุรี
|
สวท.เพชรบุรี
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230228094454199
| null |
พาณิชย์จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เตรียมเชื่อมโยงแหล่งค้าส่งขนาดใหญ่นำมะนาวราคาถูกกว่าท้องตลาดมาจำหน่ายในพื้นที่ หลังมีแนวโน้มปรับราคาสูงขึ้นในช่วงหน้าแล้ง
|
นางสาวศิริวรรณ คณะศร พาณิชย์จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยว่า ขณะนี้สํานักงานพาณิชย์จังหวัดฯ ได้ติดตามสถานการณ์การจําหน่ายมะนาวในพื้นที่ จ.ประจวบฯ อย่างใกล้ชิด หลังพบว่ามีแนวโน้มการปรับราคาสูงขึ้นในช่วงหน้าแล้ง ประกอบกับสภาพอากาศแปรปรวนในช่วงที่ผ่านมา ทําให้ผลผลิตออกสู่ตลาดน้อย โดยปัจจุบันราคามะนาวคละผลจําหน่ายอยู่ที่ผลละ 4.50 - 5 บาท ปริมาณยังมีเพียงพอต่อความต้องการบริโภคในพื้นที่ แต่หากราคาปรับสูงขึ้นมากจนส่งผลกระทบต่อประชาชน จะประสานเพื่อเชื่อมโยงจากแหล่งค้าส่งขนาดใหญ่นํามะนาวราคาถูกกว่าท้องตลาดมาจําหน่ายให้แก่ประชาชน และผู้ค้าผู้ประกอบการร้านอาหารเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนจนกว่าสถานการณ์ด้านราคาจะเข้าสู่สภาวะปกติ พร้อมเน้นย้ําให้ผู้ค้าติดป้ายแสดงราคาสินค้าให้ชัดเจนตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ.2542 #สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
|
28/2/2023
|
ภาคตะวันตก
|
ประจวบคีรีขันธ์
|
สวท.ประจวบคีรีขันธ์
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230228102512220
| null |
บรืษัท ขนส่ง จำกัด เดินหน้าจัดหารถโดยสารพลังงานไฟฟ้าให้บริการประชาชน 12 เส้นทาง รวม 75 คัน ภายในเดือน ก.พ. 67
|
นายสัญลักข์ ปัญวัฒนลิขิต กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ขนส่ง จํากัด (บขส.) เปิดเผยว่า กระทรวงคมนาคม มีนโยบายให้ บขส. ขับเคลื่อนการจัดหารถโดยสารพลังงานไฟฟ้า ( EV ) เพื่อร่วมลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ตลอดจนลดค่าฝุ่น PM 2.5 ล่าสุดที่ประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) บขส. มีมติเห็นชอบการจัดหารถโดยสารพลังงานไฟฟ้า (EV) รถโดยสารขนาดใหญ่ มาตรฐาน 1 (ข) ขนาดไม่ต่ํากว่า 36 ที่นั่ง จํานวน 21 คัน เส้นทางเดินรถ 7 เส้นทาง ประกอบด้วย เส้นทางกรุงเทพฯ - คลองลาน , กรุงเทพฯ - กําแพงเพชร , กรุงเทพฯ - สากเหล็ก พิษณุโลก, กรุงเทพฯ - พิษณุโลก , กรุงเทพฯ - บุรีรัมย์ , กรุงเทพฯ (เอกมัย) - แหลมงอบ และกรุงเทพฯ (จตุจักร) - ตราด กรอบวงเงินงบประมาณ 228.269 ล้านบาท และเห็นชอบการจัดหารถโดยสารพลังงานไฟฟ้า ขนาดเล็ก มาตรฐาน 2 ค ขนาดไม่ต่ํากว่า 27 ที่นั่ง จํานวน 54 คัน เส้นทางเดินรถ 5 เส้นทาง ประกอบด้วย เส้นทาง หมอชิต – สระบุรี , รังสิต - ม.บูรพา , รังสิต – แหลมฉบัง , รังสิต – นิคมอุตสาหกรรมบ่อวิน และ รังสิต - มาบตาพุด – ระยอง กรอบวงเงินงบประมาณกว่า 368 ล้านบาทอย่างไรก็ตาม บขส. ได้แต่งตั้งคณะกรรมการกําหนดคุณลักษณะ คณะกรรมการกําหนดร่างขอบเขตงาน และคณะกรรมการกําหนดราคากลางเรียบร้อยแล้ว จากนั้นจะเข้าสู่ขั้นตอนการจัดซื้อจัดจ้าง คาดว่าได้ผู้ชนะการประกวดราคาประมาณเดือนกรกฎาคมนี้ และจะส่งมอบรถโดยสารได้ประมาณเดือนกุมภาพันธ์ 2567
|
28/2/2023
|
ภาคกลางและปริมณฑล
|
กรุงเทพมหานคร
|
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230228093647192
| null |
โครงการพาณิชย์ลดราคา ออนทัวร์ ทั่วไทย จังหวัดกาญจนบุรี
|
สํานักงานพาณิชย์จังหวัดกาญจนบุรี เชิญชวนประชาชนเลือกซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคจําหน่ายต่ํากว่าท้องตลาด กับโครงการพาณิชย์ลดราคา ออนทัวร์ ทั่วไทย จังหวัดกาญจนบุรี นางสาวยุพา นาคา พาณิชย์จังหวัดกาญจนบุรี เปิดเผยว่า สํานักงานพาณิชย์จังหวัดกาญจนบุรี จัดโครงการ “พาณิชย์ลดราคา ออนทัวร์ ทั่วไทย จังหวัดกาญจนบุรี” ณ วัดอินทาราม อําเภอท่าม่วง ระหว่างวันที่ 3-5 มีนาคม 2566 เวลา 09.00-20.00น. โดยได้นําสินค้าอุปโภคบริโภคจําหน่ายในราคาต่ํากว่าท้องตลาด สินค้าราคาพิเศษจากห้างสรรสินค้าในจังหวัดกาญจนบุรี และสินค้าจําเป็นต่อการครองชีพราคาพิเศษ ได้แก่ หมูเนื้อแดง 100 บาทต่อกิโลกรัม น่องไก่ติดสะโพก 40 บาทต่อกิโลกรัม ไข่ไก่ 90 บาทต่อแผง น้ําตาลทราย 15 บาทต่อกิโลกรัม น้ํามันพืชปาล์ม ขวดละ 1 ลิตร 40 บาทต่อขวด ข้าวสารหอมมะลิ 5 กิโลรัม 110 บาทต่อถุง และข้าวขาว 5% 5 กิโลกรัม 80 บาทต่อถุง พร้อมทั้งยังมีกิจกรรมนาทีทองนาทีถูก กิจกรรมเล่นเกมส์แจกบัตรกํานัลแทนเงินสด (Gift Voucher) และกิจกรรมสุ่มแจกรางวัลเครื่องใช้ไฟฟ้าให้แก่ผู้เข้าร่วมงานที่ซื้อสินค้าภายในงาน#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
|
28/2/2023
|
ภาคตะวันตก
|
กาญจนบุรี
|
สวท.กาญจนบุรี
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230228174609441
| null |
จังหวัดยะลา จัดคาราวาน พาณิชย์...ลดราคา! ช่วยประชาชน งวด 2 ลุยทุกพื้นที่ ต้อนรับเดือนรอมฎอน
|
วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2566 จังหวัดยะลา โดยนายสุพจน์ รอดเรือง ณ หนองคาย ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา พร้อมด้วย นางผุสสดี จ๋ายเจริญ พาณิชย์จังหวัดยะลา และหัวหน้าส่วนราชการ ได้จัดพิธีเปิดตัวโครงการ “พาณิชย์...ลดราคา! ช่วยประชาชน ปี 2565 (งวดที่ 2) ภายใต้ชื่อ“พาณิชย์...ลดราคา! Mobile ทั่วไทย Lot 20 (ภูมิภาค)” จังหวัดยะลา เพื่อจําหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคที่จําเป็นต่อการครองชีพในราคาประหยัดให้แก่ประชาชนในพื้นที่จังหวัดยะลา ซึ่งเป็นการบรรเทาและลดภาระค่าครองชีพประชาชนที่ขณะนี้สินค้ามีแนวโน้มที่จะปรับราคาสูงขึ้น เนื่องจากผลกระทบราคาพลังงานที่มีการปรับขึ้นราคาอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับขณะนี้ใกล้ช่วงเดือนรอมฎอนเทศกาลถือศิลอดของพี่น้องชาวไทยนับถือศาสนาอิสลาม ที่จะต้องประกอบศาสนกิจสําคัญในช่วงเดือนรอมฎอนดังกล่าว ดังนั้นจึงได้จัดทําโครงการนี้ขึ้นซึ่งเป็นกิจกรรมที่ดําเนินการต่อเนื่องจากโครงการในงวดที่ 1 ที่ดําเนินการไปแล้วในช่วงระหว่าง เดือน กันยายน - พฤศจิกายน 2565 และในงวดนี้จะดําเนินการต่อเนื่องเป็นระยะเวลา 30 วัน ตั้งแต่วันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2566 เป็นต้นไปนางผุสสดี จ๋ายเจริญ พาณิชย์จังหวัดยะลา กล่าวว่า กิจกรรมการจําหน่ายสินค้าในครั้งนี้ ได้กําหนดไว้ครอบคลุม 8 อําเภอ ผ่านจุดจําหน่าย จํานวน 8 จุด/วัน รวม 120 จุดๆ ละ 2 วัน จําหน่ายสินค้าตั้งแต่เวลา 09.00 – 15.00 น โดยคํานึงถึงความสะดวกสะอาด ปลอดภัย ภายใต้วิถีใหม่ (New Normal) และการเข้าถึงประชาชนในทุกพื้นที่อย่างทั่วถึง เพื่อให้ประชาชนได้ประหยัดค่าใช้จ่ายในการเดินทางมาจับจ่ายซื้อหาสินค้าและเกิดประโยชน์ตรงกับวัตถุประสงค์ของโครงการในการบรรเทาลดภาระค่าครองชีพประชาชนอย่างแท้จริง โดยสินค้าที่เข้าร่วมโครงการมีทั้งหมด 80 กว่ารายการ ทั้งอาหารสดและสินค้าอุปโภคบริโภคที่จําเป็นต่อการดํารงชีวิตประจําวัน ซึ่งลดราคาสูงสุดถึง 50%สําหรับสินค้าที่ลดราคาเป็นพิเศษ มี 3 รายการและเป็นไฮไลท์ในครั้งนี้ ได้แก่ 1.ไข่ไก่เบอร์ 2 จําหน่ายราคาพิเศษ แผงละ 95 บาท จากราคาปกติ 115 บาท ลดต่ํากว่าราคาตลาดทั่วไป 17.4 % จําหน่ายวันละ 640 แผง 2.น่องไก่ติดสะโพก จําหน่ายราคาพิเศษ ราคากิโลกรัมละ 65 บาท จากราคาปกติ 90 บาท ลดต่ํากว่าราคาตลาดทั่วไป 27.7 % จําหน่ายวันละ 160 กก. 3.น้ําตาลทรายขาว ขนาด 1 กิโลกรัม จําหน่ายราคาพิเศษ ถุงละ 20 บาท จากราคาปกติ 26 บาท ลดต่ํากว่าราคาตลาดทั่วไป 23 % จําหน่ายวันละ 800 กก.ส่วนหมวดสินค้าทั่วไปที่จําเป็นต่อชีวิตประจําวัน ลดสูงสุดกว่า 5 - 50 % เช่น บะหมี่กึ่งสําเร็จรูป ข้าวสาร น้ํามันพืช ซอสปรุงรส ผลิตภัณฑ์ชําระร่างกาย ผลิตภัณฑ์ซักล้าง ของใช้ประจําวันอื่น ๆ เช่น แปรงสีฟัน ยาสีฟัน กระดาษทิชชู และหมวดรักษาโรค ยาแก้ไข้ หน้ากากอนามัย และสําหรับวันนี้ ท่านผู้ว่าราชการจังหวัดยะลาและหัวหน้าส่วนราชการได้ร่วมจําหน่ายสินค้าให้กับประชาชนในช่วงเวลานาทีทอง โดยจําหน่ายน้ํามันพืชปาล์ม ขนาด 1 ลิตต ราคาขวดละ 43 บาท จากราคาในโครงการ 47 บาท ลดเพิ่มอีก 4 บาท ซึ่งประชาชนให้ความสนใจร่วมซื้อสินค้ากันเป็นจํานวนมากทั้งนี้ คาดว่าตลอดโครงการฯ จะช่วยให้ประชาชนชาวจังหวัดยะลา สามารถลดภาระค่าครองชีพประชาชนได้เป็นมูลค่าไม่น้อยกว่า 3,000,000 ล้านบาท#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
|
28/2/2023
|
ภาคกลางและปริมณฑล
|
กรุงเทพมหานคร
|
สวท.ยะลา
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230228104919227
| null |
จังหวัดยะลา จัดคาราวาน พาณิชย์ลดราคา! ช่วยประชาชน งวด 2 ลุยทุกพื้นที่ ต้อนรับเดือนรอมฏอน ผู้ว่าฯ ร่วมจำหน่าย บรรยากาศคึกคัก
|
วันนี้ 28 กุมภาพันธ์ 2566 นายสุพจน์ รอดเรือง ณ หนองคาย ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา พร้อมด้วย นางผุสสดี จํายเจริญ พาณิชย์จังหวัดยะลา และ หัวหน้าส่วนราชการ ได้ร่วมเปิดตัวโครงการ "พาณิชย์...ลดราคา! ช่วยประชาชน ปี 2565 (งวดที่ 2) และ จําหน่ายสินค้าช่วงนาทีทอง ภายใต้ชื่อ"พาณิชย์...ลดราคา! Mobile ทั่วไทย Lot 20(ภูมิภาค)" จังหวัดยะลา เพื่อจําหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคที่จําเป็นต่อการครองชีพในราคาประหยัดให้แก่ประชาชนในพื้นที่จังหวัดยะลา บรรเทาและลดภาระค่าครองชีพประชาชน ที่ขณะนี้มีแนวโน้มที่สินค้าจะมีการปรับราคาสูงขึ้น เนื่องจากผลกระทบราคาพลังงานที่มีการปรับขึ้นราคาอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ต้นทุนการผลิตและค่าการขนส่งมีการปรับขึ้นราคา ประกอบกับขณะนี้ใกล้ช่วงเดือนรอมฎอนเทศกาลถือศีลอดของพี่น้องชาวไทย ที่นับถือศาสนาอิสลาม ซึ่งจะต้องประกอบศาสนกิจสําคัญในช่วงเดือนรอมฎอนดังกล่าว ทาง พาณิชย์จังหวัดยะลา จึงได้จัดโครงการดังกล่าวขึ้น ซึ่งเป็นโครงการต่อเนื่องในงวดที่ 1 ที่ดําเนินการไปแล้วในช่วงเดือนกันยายน - พฤศจิกายน 2565 และในงวดนี้ จะดําเนินการต่อเนื่องเป็นระยะเวลา 30 วัน ตั้งแต่วันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2566 เป็นต้นไป ซึ่งได้รับความสนใจจากประชาชนร่วมซื้อสินค้ากันเป็นจํานวนมาก โดยเฉพาะการจําหน่ายสินค้าช่วงนาทีทอง ซึ่งได้นําน้ํามันพืชปาล์ม ขนาด 1 ลิตร มาจําหน่ายในราคาขวดละ 43 บาท จากราคาในโครงการ 47 บาท ลดเพิ่มอีก 4 บาท ทั้งนี้ คาดว่าตลอดโครงการฯ จะช่วยให้ประชาชนชาวจังหวัดยะลา สามารถลดภาระค่าครองชีพประชาชนได้เป็นมูลค่าไม่น้อยกว่า 3 ล้านบาท และ ประชาชนได้รับประโยชน์จากโครงการไม่น้อยกว่า 30,000 คนสําหรับการจําหน่ายสินค้า "พาณิชย์...ลดราคา! ช่วยประชาชน ปี 2565 (งวดที่ 2) ได้กําหนดไว้ครอบคลุม 8 อําเภอ ผ่านจุดจําหน่าย จํานวน 8 จุด/วัน รวม 120 จุดๆ ละ 2 วัน จําหน่ายสินค้าตั้งแต่เวลา 09.00-15.00 น. โดยคํานึงถึงความสะดวกสะอาด ปลอดภัย ภายใต้วิถีใหม่ (New Normal) และ การเข้าถึงประชาชนในทุกพื้นที่อย่างทั่วถึง เพื่อให้ประชาชนได้ประหยัดคําใช้จ่ายในการเดินทางมาจับจ่ายซื้อหาสินค้าและเกิดประโยชน์ตรงกับวัตถุประสงค์ของโครงการในการบรรเทาลดภาระค่าครองชีพประชาชนอย่างแท้จริง สําหรับสินค้าที่เข้าร่วมโครงการมีทั้งหมด 80 กว่ารายการ ทั้งอาหารสดและสินค้าอุปโภคบริโภคที่จําเป็นต่อการดํารง ชีวิตประจําวัน ซึ่งลดราคาสูงสุดถึง 50% ส่วนสินค้าที่ลดราคาเป็นพิเศษ มี 3 รายการและเป็นไฮไลท์ในครั้งนี้ ได้แก่ ไข่ไก่เบอร์ 2 จําหน่ายราคาพิเศษ แผงละ 95 บาท จากราคาปกติ 115 บาท ลดต่ํากว่าราคาตลาดทั่วไป 17.4% จําหน่ายวันละ 640 แผง น่องไก่ติดสะโพก จําหน่ายราคาพิเศษ ราคากิโลกรัมละ 65 บาท จากราคา ปกติ 90 บาท ลดต่ํากว่าราคาตลาดทั่วไป 27.7 % จําหน่ายวันละ 160 กก. น้ําตาลทรายขาว ขนาด 1 กิโลกรัม จําหน่ายราคาพิเศษ ถุงละ 20 บาท จากราคา ปกติ 26 บาท ลดต่ํากว่าราคาตลาดทั่วไป 23 % จําหน่ายวันละ 800 กก. ส่วนหมวดสินค้าทั่วไปที่จําเป็นต่อชีวิตประจําวัน ลดสูงสุดกว่า 5-50 % อาทิ บะหมี่กึ่งสําเร็จรูป ข้าวสาร น้ํามันพืช ซอสปรุงรส ผลิตภัณฑ์ชําระร่างกาย ผลิตภัณฑ์ซักล้าง ของใช้ประจําวันอื่น ๆ เช่น แปรงสีฟัน ยาสีฟัน กระดาษทิชชู และหมวดรักษาโรค ยาแก้ไข้ หน้ากากอนามัย#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
|
28/2/2023
|
ภาคใต้
|
ยะลา
|
สทท.ยะลา
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230228111335242
| null |
จอดรถฟรี 5 วัน ลานจอดรถระยะยาวโซน C ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ 3–7 มีนาคมนี้
|
ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ทสภ.) ยกเว้นอัตราค่าบริการจอดรถ ณ ลานจอดรถระยะยาว (Long Term Parking) โซน C ซึ่งสามารถรองรับได้จํานวน 718 คัน ผู้โดยสาร ผู้ใช้บริการ สามารถนํารถยนต์เข้ามาจอดฟรี ระหว่างวันที่ 3–7 มีนาคม 2566 ตั้งแต่เวลา 00.01 น. ของวันศุกร์ที่ 3 มีนาคม 2566 ถึงเวลา 24.00 น. ของวันอังคารที่ 7 มีนาคม 2566 รวมทั้งสิ้น 5 วัน เพื่อเป็นการอํานวยความสะดวก เพิ่มพื้นที่บริการที่จอดรถ รองรับการเดินทางที่เพิ่มขึ้นของผู้โดยสาร ผู้ใช้บริการ ในช่วงวันหยุดยาววันมาฆบูชาทสภ. จัดรถ Shuttle Bus สาย A วิ่งให้บริการรับ - ส่ง เพื่ออํานวยความสะดวกแก่ผู้โดยสารและผู้ใช้บริการ ระหว่างลานจอดรถระยะยาวโซน C และอาคารผู้โดยสารทุกๆ 15 นาที ตลอด 24 ชั่วโมง โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย โดยรถ Shuttle Bus สาย A จะเริ่มวิ่งจากศูนย์การขนส่งสาธารณะ (Public Transportation Center) ไปยังลานจอดรถระยะยาวโซน C และแวะจอดรับ – ส่งตามจุดต่างๆ ก่อนจะไปจอดที่อาคารผู้โดยสารบริเวณ ชั้น 1 ประตู 3 และประตู 8 จากนั้นจะวนไปที่ลานจอดรถระยะยาวโซน A และกลับเข้าสู่ศูนย์การขนส่งสาธารณะ พร้อมขอความร่วมมือผู้โดยสารที่เดินทางในเที่ยวบินขาออกระหว่างประเทศเผื่อเวลาก่อนการเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมง และเที่ยวบินขาออกภายในประเทศเผื่อเวลาก่อนการเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง
|
28/2/2023
|
ภาคกลางและปริมณฑล
|
กรุงเทพมหานคร
|
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230228112015253
| null |
สำนักงานพาณิชย์ยะลา จัดคาราวาน พาณิชย์...ลดราคา! ช่วยประชาชน งวด 2 ลุยทุกพื้นที่ ต้อนรับเดือนรอมฎอน ขนสินค้ามาลดราคาหลายรายการ
|
วันที่ 28 ก.พ.66 ที่บริเวณด้านข้างสํานักงานพาณิชย์จังหวัดยะลา อ.เมือง จ.ยะลา นายสุพจน์ รอดเรือง ณ หนองคาย ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา ได้เป็นประธานเปิดโครงการ “พาณิชย์...ลดราคา! ช่วยประชาชน ปี 2565 (งวดที่ 2) ภายใต้ชื่อ“พาณิชย์...ลดราคา! Mobile ทั่วไทย Lot 20 (ภูมิภาค)” เพื่อจําหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคที่จําเป็นต่อการครองชีพในราคาประหยัดให้แก่ประชาชนในพื้นที่จังหวัดยะลา ซึ่งเป็นการบรรเทาและลดภาระค่าครองชีพประชาชนที่ขณะนี้สินค้ามีแนวโน้มที่จะปรับราคาสูงขึ้น เนื่องจากผลกระทบราคาพลังงานที่มีการปรับขึ้นราคาอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับขณะนี้ใกล้ช่วงเดือนรอมฎอนเทศกาลถือศีลอดของพี่น้องชาวไทยนับถือศาสนาอิสลาม ที่จะต้องประกอบศาสนกิจสําคัญในช่วงเดือนรอมฎอนดังกล่าว ดังนั้นจึงได้จัดทําโครงการนี้ขึ้นซึ่งเป็นกิจกรรมที่ดําเนินการต่อเนื่องจากโครงการในงวดที่ 1 ที่ดําเนินการไปแล้วในช่วงระหว่าง เดือน กันยายน - พฤศจิกายน 2565 และในงวดนี้จะดําเนินการต่อเนื่องเป็นระยะเวลา 30 วัน ตั้งแต่วันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2566 เป็นต้นไปนางผุสสดี จ๋ายเจริญ พาณิชย์จังหวัดยะลา กล่าวว่า กิจกรรมการจําหน่ายสินค้าในครั้งนี้ ได้กําหนดไว้ครอบคลุม 8 อําเภอ ผ่านจุดจําหน่าย จํานวน 8 จุด/วัน รวม 120 จุดๆ ละ 2 วัน จําหน่ายสินค้าตั้งแต่เวลา 09.00 – 15.00 น โดยคํานึงถึงความสะดวกสะอาด ปลอดภัย ภายใต้วิถีใหม่ (New Normal) และการเข้าถึงประชาชนในทุกพื้นที่อย่างทั่วถึง เพื่อให้ประชาชนได้ประหยัดค่าใช้จ่ายในการเดินทางมาจับจ่ายซื้อหาสินค้าและเกิดประโยชน์ตรงกับวัตถุประสงค์ของโครงการในการบรรเทาลดภาระค่าครองชีพประชาชนอย่างแท้จริง โดยสินค้าที่เข้าร่วมโครงการมีทั้งหมด 80 กว่ารายการ ทั้งอาหารสดและสินค้าอุปโภคบริโภคที่จําเป็นต่อการดํารงชีวิตประจําวัน ซึ่งลดราคาสูงสุดถึง 50%สําหรับสินค้าที่ลดราคาเป็นพิเศษ มี 3 รายการและเป็นไฮไลท์ในครั้งนี้ ได้แก่ ไข่ไก่เบอร์ 2 จําหน่ายราคาพิเศษ แผงละ 95 บาท จากราคาปกติ 115 บาท ลดต่ํากว่าราคาตลาดทั่วไป 17.4 % จําหน่ายวันละ 640 แผง น่องไก่ติดสะโพก จําหน่ายราคาพิเศษ ราคากิโลกรัมละ 65 บาท จากราคาปกติ 90 บาท ลดต่ํากว่าราคาตลาดทั่วไป 27.7 % จําหน่ายวันละ 160 กก.น้ําตาลทรายขาว ขนาด 1 กิโลกรัม จําหน่ายราคาพิเศษ ถุงละ 20 บาท จากราคาปกติ 26 บาท ลดต่ํากว่าราคาตลาดทั่วไป 23 % จําหน่ายวันละ 800 กก.ส่วนหมวดสินค้าทั่วไปที่จําเป็นต่อชีวิตประจําวัน ลดสูงสุดกว่า 5 - 50 % เช่น บะหมี่กึ่งสําเร็จรูป ข้าวสาร น้ํามันพืช ซอสปรุงรส ผลิตภัณฑ์ชําระร่างกาย ผลิตภัณฑ์ซักล้าง ของใช้ประจําวันอื่น ๆ เช่น แปรงสีฟัน ยาสีฟัน กระดาษทิชชู และหมวดรักษาโรค ยาแก้ไข้ หน้ากากอนามัย และสําหรับวันนี้ ท่านผู้ว่าราชการจังหวัดยะลาและหัวหน้าส่วนราชการได้ร่วมจําหน่ายสินค้าให้กับประชาชนในช่วงเวลานาทีทอง โดยจําหน่ายน้ํามันพืชปาล์ม ขนาด 1 ลิตต ราคาขวดละ 43 บาท จากราคาในโครงการ 47 บาท ลดเพิ่มอีก 4 บาท ซึ่งประชาชนให้ความสนใจร่วมซื้อสินค้ากันเป็นจํานวนมากทั้งนี้ คาดว่าตลอดโครงการฯ จะช่วยให้ประชาชนชาวจังหวัดยะลา สามารถลดภาระค่าครองชีพประชาชนได้เป็นมูลค่าไม่น้อยกว่า 3,000,000 ล้านบาท#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
|
28/2/2023
|
ภาคใต้
|
ยะลา
|
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดยะลา
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230228113443259
| null |
กระทรวงอุตฯ ระบุ MPI เดือน มกราคม ขยายตัวร้อยละ 6.61 รับเศรษฐกิจ – ท่องเที่ยวฟื้นตัว คาด MPI และ GDP ภาคอุตฯ ปี 66 ขยายตัวร้อยละ 1.5 – 2.5
|
นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยถึงผลผลิตอุตสาหกรรม (MPI) เดือนมกราคมปี2566 ขยายตัวร้อยละ 6.61 เมื่อเทียบจากเดือนก่อน เป็นผลมาจากการขยายตัวของกิจกรรมทางเศรษฐกิจในประเทศและการท่องเที่ยวที่ฟื้นตัวดีขึ้น สะท้อนจากตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติที่กลับเข้ามาท่องเที่ยวในไทยเพิ่มขึ้น รวมถึงที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวหลายอุตสาหกรรมยังขยายตัวได้ดี อาทิ การกลั่นน้ํามัน รถยนต์ จักรยานยนต์ รองเท้ากระเป๋า และเครื่องดื่ม ถึงแม้อุปสงค์ในตลาดโลกมีแนวโน้มชะลอตัวจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจประเทศสําคัญของโลกทั้งยุโรปและสหรัฐอเมริกา และฐานในปีก่อนอยู่ในระดับสูง ขณะที่ สํานักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) ได้ประมาณการผลผลิตอุตสาหกรรม (MPI) ปี 2566 คาดว่าขยายตัวร้อยละ 1.5 – 2.5 และผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) ภาคอุตสาหกรรม ปี 2566 ขยายตัวร้อยละ 1.5 – 2.5 โดยได้รับปัจจัยสนับสนุนจากการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยวทั้งภายในและต่างประเทศประกอบกับประเทศจีนกลับมาเปิดประเทศอีกครั้ง แนวโน้มเศรษฐกิจในประเทศมีทิศทางที่ดีขึ้น การบริโภคภาคเอกชนขยายตัวโดยเฉพาะในภาคบริการ และมาตรการช่วยเหลือของภาครัฐ เช่น ช้อปดีมีคืน และเราเที่ยวด้วยกัน รวมถึงในปีนี้จะมีการเลือกตั้งที่จะเป็นปัจจัยกระตุ้นเศรษฐกิจ อย่างไรก็ตาม ปัจจัยเสี่ยงที่ควรเฝ้าระวังและติดตามในปีนี้ ได้แก่ ทิศทางเศรษฐกิจโลกชะลอตัว ทิศทางราคาพลังงานที่อยู่ในระดับสูง อัตราดอกเบี้ยที่มีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้น และภาระหนี้ครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูง
|
28/2/2023
|
ภาคกลางและปริมณฑล
|
กรุงเทพมหานคร
|
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230228160158391
| null |
โคราช จับมือ ส.บาสสามคนอาชีพไทย จัดบาส 3 คน นานาชาติ
|
วันนี้ (28 ก.พ.66) ที่ห้องโคราชฮอลล์ เซ็นทรัลโคราช อําเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา นายชรินทร์ ทองสุข รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เป็นประธานแถลงข่าวการแข่งขันบาสเกตบอลอาชีพนานาชาติ รายการ 3 x 3 บาสเกตบอลไทย ซุปเปอร์ลีก 2023 ประจําปี 2566 โดยมี นายเกื้อ ชูศรี ผู้อํานวยการสํานักงาน กกท.ภาค 3 พลตํารวจตรีพิชิตชัยศรียานนท์ นายกสมาคมกีฬาบาสเกตบอลสามคนอาชีพไทย ดร.เนตรทราย วงศ์อุปราช นายกสมาคมกีฬาบาสเกตบอลสามคน นางสาวธีรารัตน์ ร่มรื่น ผู้อํานวยการการกีฬาแห่งประเทศไทย จังหวัดนครราชสีมา และน.ส.นิสา ชาภู่พวง ผู้จัดการทั่วไป ศูนย์การค้าเซ็นทรัลโคราช จ.นครราชสีมา ร่วมแถลงคามพร้อมในการจัดการแข่งขันในครั้งนี้ มีนักกีฬาจากสโมสรในประเทศไทย และต่างประเทศ รวม 10 ประเทศ 25 ทีม ประกอบไปด้วยทีมชาย 15 ทีม และทีมหญิง 10 ทีม เข้าร่วมการแข่งขัน โดยทีมที่ชนะเลิศรายการนี้ จะได้สิทธิ เข้าร่วมการแข่งชันรายการ FIBA 3x3 Challenger ซึ่งเป็นการแข่งชัน Qualifier for Montreal Masters เพื่อก้าวสู่ระดับโลก World Tour ต่อไปนอกจากการแข่งขันบาสเกตบอลสามคนอาชีพแล้ว ยังมีการแข่งขัน 2 Point Contest, การอบรมบาสเกตบอลสามคนให้กับเยาวชน CLINIC, การแข่งขันสแลมดั้ง Slam Dunk Contest, การแข่งขันบาสเกตบอลสามคนระดับเยาวชน และยังเพิ่มสีสัน Sport Entertainment ด้วยการจัดกิจกรรม Cover Dance เพื่อจุดประกายและกระตุ้นให้เยาวชน ตลอดจนผู้สนใจเข้ามาร่วมกิจกรรมกีฬาบาสเกตบอลสามคนอาชีพเพิ่มมากขึ้น ทั้งนี้ยังเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจ และสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับจังหวัดนครราชสีมาอีกด้วย โดยการแข่งขันสนามที่จังหวัดนครราชสีมา กําหนดจัดการแข่งขันที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัล โคราช อ.เมือง จ.นครราชสีมา ระหว่างวันที่ 25-26 มี.ค.นี้#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
|
28/2/2023
|
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
|
นครราชสีมา
|
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนครราชสีมา
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230228142445334
| null |
จ.นราธิวาส จัดฝึกอบรม “โมเดลเศรษฐกิจใหม่ (BCG Model) สู่การพัฒนาจังหวัดนราธิวาสที่ยั่งยืน” ด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
|
วันนี้ (28 ก.พ.66) เวลา 09.30 น. ที่ โรงแรมตันหยง อ.เมือง จ.นราธิวาส นายปรีชา นวลน้อย รองผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส เป็นประธานเปิดกิจกรรมฝึกอบรม “โมเดลเศรษฐกิจใหม่ (BCG Model) สู่การพัฒนาจังหวัดนราธิวาสที่ยั่งยืน ”ด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม” โดยมีผู้อํานวยการส่วนสิ่งแวดล้อมสํานักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จ.นราธิวาส พร้อมด้วย ภาคส่วนที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมอบรมในครั้งนี้กิจกรรมฝึกอบรม “โมเดลเศรษฐกิจใหม่ (BCG Model) สู่การพัฒนาจังหวัดนราธิวาสที่ยั่งยืน จัดขึ้นตามแผนงานโครงการส่งเสริมการดํารงวิธีชีวิตใหม่ตามแนวทางการขับเคลื่อนโมเดลเศรษฐกิจใหม่ (BCG Model) สู่การพัฒนาที่ยั่งยืน ประจําปีงบประมาณ 2566 โดยมีการดําเนินกิจกรรมถ่ายทอดองค์ความรู้โมเดลเศรษฐกิจใหม่ (BCG MODEL) สู่การพัฒนาที่ยั่งยืนในระดับพื้นที่ให้กลุ่มเป้าหมาย กิจกรรมจัดประชุมเพื่อจัดทําแผนการถ่ายทอดองค์ความรู้โมเดลเศรษฐกิจใหม่ (BCG MODEL) สู่การพัฒนาที่ยั่งยืนในระดับพื้นที่ของจังหวัด พร้อมทั้งกําหนดเป้าหมายการดําเนินงานที่เหมาะสม กับบริบทของแต่ละพื้นที่ กิจกรรมจัดฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการเพื่อขับเคลื่อนแผนงาน กิจกรรม โครงการ ภายใต้โมเดลเศรษฐกิจใหม่ (BCG MODEL) ของจังหวัด กิจกรรมสํารวจพื้นที่ที่มีศักยภาพในการพัฒนาด้านต่าง ๆ เช่น ด้านการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ ด้านการเพิ่มผลิตภัณฑ์ชุมชน โดยการมีส่วนร่วมของชุมชน เพื่อเป็นชุมชนต้นแบบของจังหวัดการฝึกอบรมครั้งนี้ เพื่อถ่ายทอดองค์ความรู้โมเดลเศรษฐกิจใหม่ (BCG MODEL) สู่การพัฒนาที่ยั่งยืนในระดับจังหวัด ด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมให้กับบุคลากรภาครัฐ ในพื้นที่จังหวัดนราธิวาส เพื่อเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาเศรษฐกิจโดยคํานึงถึงความยั่งยืนของทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมของจังหวัดนราธิวาสต่อไป#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
|
28/2/2023
|
ภาคใต้
|
นราธิวาส
|
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนราธิวาส
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230228143353336
| null |
องค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (องค์การมหาชน) เชิญชวนร่วมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ “สรรสร้าง…อย่างสร้างสรรค์ พัฒนานักออกแบบการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์-Creating Creative Tourism Program"
|
นายธรรมนูญ ภาคธูป ผู้จัดการสํานักงานพื้นที่พิเศษ 5 (จังหวัดเลย) เปิดเผยว่า สํานักท่องเที่ยวโดยชุมชนองค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (องค์การมหาชน) เปิดอบรมพัฒนาศักยภาพชุมชนรูปแบบออนไลน์ พร้อมร่วมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ หัวข้อ "สรรสร้าง...อย่างสร้างสรรค์ พัฒนานักออกแบบการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์- Creating Creative Tourism Program” โดย คุณประภัสสร วรรธนะภูติ ในวันที่ 14 มีนาคม 2566 เวลา 13.00-16.30 น. ผ่านระบบ DASTA CBT Zoom Meeting ผู้เข้าอบรมจะได้เรียนรู้กระบวนการยกระดับการท่องเที่ยวโดยชุมชนเชิงสร้างสรรค์ วิธีการตามแนวทาง 3S พร้อมกรณีศึกษาทั้งในและต่างประเทศ ท่านสามารถเข้ามาร่วมค้นหาคําตอบได้จากการเข้าอบรมครั้งนี้ขอเชิญชุมชนท่องเที่ยว ผู้ประกอบการท่องเที่ยว และผู้สนใจลงทะเบียนได้ที่ สนใจเชิญลงทะเบียน https://forms.gle/fF5FvxT7nae8Kkhk7คลิกลิงค์เข้าร่วมอบรม https://us02web.zoom.us/j/84491977050Meeting ID: 844 9197 7050สําหรับผู้ที่ลงทะเบียนเข้ามาแลกเปลี่ยนเรียนรู้และประเมินกิจกรรม จะได้รับวุฒิบัตรสําหรับการเข้าร่วม โดยผู้อํานวยการ อพท.#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
|
28/2/2023
|
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
|
เลย
|
สวท.เลย
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230228160436394
| null |
วิทยาลัยเทคนิคสตูล เสริมทักษะเพิ่มศักยภาพนักศึกษาสาขาวิชาการโรงแรม ทดสอบมาตรฐานฝีมือแรงงานแห่งชาติระดับ 1 สาขาการผสมเครื่องดื่ม สู่การเป็นแรงงานด้านท่องเที่ยวอย่างมีประสิทธิภาพ
|
วันนี้ (28 ก.พ.66) นายวิเชียร บุญเตี่ยว ผู้อํานวยการวิทยาลัยเทคนิคสตูล กล่าวว่า วิทยาลัยเทคนิคสตูล ร่วมกับสํานักงานพัฒนาฝีมือแรงงานสตูล จัดการฝึกอบรมและพัฒนาฝีมือแรงงานเพื่อสร้างงาน สร้างอาชีพ เสริมรายได้ หลักสตูรบาร์เทนเดอร์มืออาชีพ แก่นักศึกษาระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) และระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.) สาขาวิชาการโรงแรม เพื่อเพิ่มศักยภาพฝีมือแรงงานด้านการท่องเที่ยว อบรมรวมทั้งสิ้น 18 ชั่วโมง ทั้งภาคทฤษฎีและปฏิบัติ อาทิ ความรู้เกี่ยวกับ เครื่องมือและอุปกรณ์ที่ใช้ในการทําค็อกเทลและม็อกเทล, ความรู้เกี่ยวกับประเภทของสุราเบื้องต้น วิธีการเลือกสุรา และวิธีผสมเครื่องดื่ม เป็นต้น รวมถึงเข้ารับการทดสอบมาตรฐานฝีมือแรงงานแห่งชาติระดับ 1 สาขาการผสมเครื่องดื่มสําหรับการยกระดับพัฒนามาตรฐานฝีมือแรงงานนั้น เป็นไปตามเป้าประสงค์ของวิทยาลัยเทคนิคสตูล คือนักศึกษาจะต้องมีหนังสือรับรอง (certificate) อย่างน้อย 1 ใบ เพื่อเป็นการการันตีทักษะฝีมือให้มีเงินเดือนที่สูงกว่าวุฒิการศึกษาที่ได้รับ เพราะอาชีพบาร์เทนเดอร์จะต้องมีหนังสือทดสอบ ส่งผลให้ค่าแรงสูงขึ้นกว่าระดับปกติที่ไม่มีใบทดสอบ ปัจจุบันรายได้ต่อวัน 450 บาท ในส่วนของตลาดหลักๆ ที่รองรับอาชีพบาร์เทนเดอร์ในจังหวัดสตูล จะเป็นสถานประกอบการโรงแรมในสถานที่ท่องเที่ยวคือที่เกาะหลีเป๊ะ และจังหวัดท่องเที่ยวอื่น ๆ เช่น จังหวัดภูเก็ตและพังงา เป็นต้น ซึ่งกรณีเป็นแหล่งท่องเที่ยวรายได้จะสูงกว่าร้านทั่วไปอีกด้วย #สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
|
28/2/2023
|
ภาคใต้
|
สตูล
|
สวท.สตูล
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230228151513369
| null |
เทศบาลตำบลโคกก่อง ได้เปิดศูนย์จำหน่ายสินค้า ผลิตภัณฑ์ OTOP ณ หินสามวาฬ ตำบลโคกก่อง อำเภอเมือง จังหวัดบึงกาฬ
|
ณ หินสามวาฬ ตําบลโคกก่อง อําเภอเมือง จังหวัดบึงกาฬ เทศบาลตําบลโคกก่องได้เปิดศูนย์จําหน่ายสินค้า ผลิตภัณฑ์ชุมชน (OTOP) ตําบลโคกก่อง โดยนายบัวพันธ์ วงศ์จันทร์ นายกเทศมนตรี ตําบลโคกก่อง เป็นประธานในพิธี พร้อมด้วย คณะผู้บริหาร สมาชิกสภาเทศบาล กํานัน ผู้ใหญ่บ้าน รองปลัดเทศบาล หัวหน้าส่วนราชการ เจ้าหน้าที่เทศบาล ร่วมกับพัฒนาการอําเภอเมืองบึงกาฬ ผู้อํานวยการการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย ณ อาคารจําหน่ายสินค้า ภูสิงห์ หินสามวาฬ ตําบลโคกก่องซึ่งมีผลิตภัณฑ์ที่น่าสนใจมากมาย เช่น น้ําผึ้ง ไม้กวาด อาหาร ขนม กระเป๋า หมวก ยาหม่อง สมุนไพร พรมเช็ดเท้า ฯลฯ ทั้งนี้เพื่อส่งเสริมศักยภาพของผู้ประกอบการกลุ่มวิสาหกิจชุมชน ทั้งการพัฒนาการผลิต การตลาด การสร้างเครือข่าย การพัฒนาผลิตภัณฑ์ชุมชน เป็นการยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน และเป็นการสร้างงาน สร้างรายได้ให้กับประชาชนชนในพื้นที่#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
|
28/2/2023
|
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
|
บึงกาฬ
|
สวท.บึงกาฬ
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230228160031390
| null |
ททท.สำนักงานเลย เชิญชุมชนท่องเที่ยวจังหวัดเลย สมัครโครงการตรวจประเมินคุณภาพมาตรฐานโฮมสเตย์ไทย ประจำปี 2566
|
ททท.สํานักงานเลย : TAT Loei Office ขอเชิญชุมชนท่องเที่ยวจังหวัดเลย สมัครโครงการตรวจประเมินคุณภาพมาตรฐานโฮมสเตย์ไทย ประจําปี 2566 ตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 7 เมษายน 2566 ส่งใบสมัครได้ที่ กลุ่มส่งเสริมและพัฒนาด้านการท่องเที่ยว สํานักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดเลย วันจันทร์-วันศุกร์ ตามเวลาราชการ 08.30-16.30 น.มาตรฐานโฮมสเตย์ไทย หรือมาตรฐานที่พักสัมผัสวัฒนธรรมชนบทมาตรฐานไทย หมายถึง โฮมสเตย์ ที่จัดบริการอยู่ในระดับมาตรฐาน 10 ด้าน ประกอบไปด้วย ด้านที่พัก อาหาร ความปลอดภัย อัธยาศัยไมตรีของเจ้าบ้านและสมาชิก รายการนําเที่ยว ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม วัฒนธรรม การสร้างคุณค่าและมูลค่าของผลิตภัณฑ์ชุมชน การบริการของกลุ่มโฮมสเตย์ และการประชาสัมพันธ์ ตามประกาศกรมการท่องเที่ยวเรื่อง กําหนดมาตรฐานบริการท่องเที่ยว มาตรฐานโฮมสเตย์ไทย พ.ศ. 2554 นอกจากนี้ ต้องมีความพร้อมในการป็นโฮมสเตย์ โดยมีคุณสมบัติเบื้องตัน 10 ประการ ดังนี้1. เจ้าของบ้านและสมาชิกในครอบครัวต้องถือว่า การทําโฮมสเตย์เป็นเพียงรายได้เสริม นอกเหนือจากรายได้หลักของครอบครัว2.มีห้องพักหรือพื้นที่ใช้สอยภายในบ้านเหลือและไม่ได้ใช้ประโยชน์ สามารถนํามาดแปลงให้นักท่องเที่ยวพักได้ไม่เกิน 4 ห้อง หรือนักท่องเที่ยวพักได้ไม่เกิน 20 คน ต่อหลัง3.นักท่องเที่ยวต้องเข้าพักค้างแรมในชายคาเดียวกันกับเจ้าของบ้าน โดยมีโอกาสแลกเปลี่ยนเรียนรู้วัฒนธรรมและวิถีชีวิตระหว่างกันสมาชิกในครอบครัวต้องมีความยินดีและเต็มใจที่จะรับนักท่องเที่ยวให้เข้ามาพักค้างแรมในชายคาเดียวกับเจ้าของบ้าน พร้อมทั้งถ่ายทอดวัฒนธรรมอันดีงามของท้องถิ่นแก่นักท่องเที่ยว5.เจ้าของบ้านและสมาชิกในครอบครัวให้ความร่วมมือกับชุมชนในการจัดการโฮมสเตย์เป็นอย่างดี6.บ้านนั้นต้องเป็นสมาชิกของกลุ่ม ชมรม หรือสหกรณ์ ที่ร่วมกันจัดการโฮมสเตย์ของชุมชนนั้น7.จํานวนหลังคาเรือนที่เป็นสมาชิกของกลุ่ม/ซมรม/สหกรณ์โฮมสเตย์อย่างน้อย ๓ หลังคาเรือนขึ้นไป8. บ้านที่ขอรับการประเมินทุกหลังต้องมีเลขที่บ้าน ซึ่งออกโดยส่วนราชการ9.ที่ตั้งของชุมชนหรือกลุ่มโฮมสเตย์หรือบ้านพักต้องไม่อยู่ในพื้นที่อนุรักษ์ เช่น อุทยานแห่งชาติเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า เป็นต้น ยกเว้นได้รับอนุญาตจากเจ้าของพื้นที่เป็นลายลักษณ์อักษรแล้ว10.ดําเนินการจัดทําโฮมสเตย์ตามข้อกําหนดมาตรฐานโฮมสเตย์ไทยของกรมการท่องเที่ยวไม่ต่ํากว่า 6 เดือนการใช้ตราสัญลักษณ์และระยะเวลาการใช้1.การติดตั้งตราสัญลักษณ์นโฮมสเตย์จะต้องติดตั้งในจุดที่สามารถมองเห็นได้ซัดเจน2.ตราสัญลักษณ์ที่โฮมสเตย์ได้รับการรับรองมาตรฐาน มีอายุคราวละ ๓ ปี เมื่อหมดอายุจะต้องยื่นใบสมัครขอรับการประเมินโฮมสเตย์ใหม่3.หากผู้ประกอบการโฮมสเตย์รายใดใช้ตราสัญลักษณ์ไม่เป็นไปตามวัตถุประสงค์ หรือจัดทําขึ้นใช้เองโดยไม่ผ่านความเห็นชอบของกรมการท่องเที่ยว กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา จะมีความผิดตามกฎหมายสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ สํานักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดเลย โทร 042 813 086#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
|
28/2/2023
|
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
|
เลย
|
สวท.ด่านซ้าย
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230228155911388
| null |
จ.มุกดาหาร เปิดหาดมโนภิรมย์รับนักท่องเที่ยว เที่ยวชมชายหาดแม่น้ำโขงสวยงามช่วงหน้าร้อน
|
นายสําเนียง ใจสุข นายกเทศมนตรีตําบลชะโนด อําเภอหว้านใหญ่ จังหวัดมุกดาหาร กล่าวว่า ในช่วงเดือนธันวาคม - พฤษภาคม ของทุกปี ระดับน้ําของแม่น้ําโขงจะลดลง เป็นหาดทรายทอดยาวตลอดแนวพื้นที่ ระยะทางกว่า 3 กิโลเมตร เทศบาลตําบลชะโนด จึงร่วมกับอําภอหว้านใหญ่และหน่วยงานในพื้นที่ กําหนดจัดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวหาดมโนภิรมย์ ประจําปี 2566 “เยี่ยมชมวิว สองฝั่งโขง ร่วมสนุกรําวงย้อนยุค” เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว และสร้างรายได้ให้ประชาชนในพื้นที่ งานภาคกลางวันมีการจัดคลินิกพัฒนาทักษะกีฬาให้กับเยาวชน การแข่งขันกีฬาฟุตบอลชายหาด การเปิดซุ้มจําหน่ายอาหารของชาวบ้าน และกลางคืน มีรําวงย้อนยุคให้นักท่องเที่ยวและผู้มาร่วมงานได้รับชม เริ่มตั้งแต่วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2566 เป็นต้นไปนายกเทศมนตรีตําบลชะโนด กล่าวเชิญชวน นักท่องเที่ยวมาเที่ยวชมหาดมโนภิรมย์ สถานที่อยู่บ้านชะโนด ห่างจากตัวเมืองมุกดาหารประมาณ 17 กิโลเมตร จะได้สัมผัสบรรยากาศสวยงามของสองฝั่งแม่น้ําโขงมุกดาหาร-แขวงสะหวันนะเขต สปป.ลาว เลือกซื้อสินค้าชุมชนและรับประทานอาหารอร่อย สะอาด ถูกสุขอนามัย เช่น ส้มตํา ไก่อบฟางสูตรดั้งเดิม และเมนูปลาน้ําโขงหลากหลาย นอกจากนี้ ยังสามารถเดินทางไปเที่ยวชมสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจในพื้นที่ใกล้เคียง ได้แก่ วัดมโนภิรมย์ วัดเก่าแก่ริมแม่น้ําโขง อายุกว่า 300 ปี มีสิม วัตถุโบราณและพระพุทธรูปปูนปั้นนาคปรก สร้างขึ้นในสมัยอยุธยาตอนปลาย และชมบ้านหนูฮัก อนุสรณ์สถานท่านหนูฮัก พูมสะหวัน สร้างขึ้นเพื่อรําลึกถึงอดีตประธานประเทศของ สปป.ลาว ที่เคยได้มาอยู่อาศัยหลายปี ภายในมีภาพถ่าย การบอกเล่าประวัติ สิ่งของเครื่องใช้ต่างๆ ให้ชนรุ่นหลังได้ศึกษาเรียนรู้ท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ด้วย #สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
|
28/2/2023
|
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
|
มุกดาหาร
|
สวท.มุกดาหาร
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230228170047427
| null |
สำนักงานพาณิชย์จังหวัดบึงกาฬ ลงพื้นที่กำกับดูแลความเรียบร้อยในการจัดกิจกรรมจำหน่ายสินค้า “พาณิชย์...ลดราคา! Mobile ทั่วไทย Lot 20 จังหวัดบึงกาฬ” เพื่อช่วยลดภาระค่าครองชีพให้แก่ประชาชน
|
สํานักงานพาณิชย์จังหวัดบึงกาฬ โดยกลุ่มกํากับและพัฒนาเศรษฐกิจการค้าลงพื้นที่กํากับดูแลความเรียบร้อยในการจัดกิจกรรมจําหน่ายสินค้า “พาณิชย์...ลดราคา! Mobile ทั่วไทย Lot 20 จังหวัดบึงกาฬ” ตามโครงการพาณิชย์...ลดราคา! ช่วยประชาชน ปี 2565 (งวดที่ 2) โดยได้นําสินค้าอุปโภคบริโภคมากกว่า 80 รายการ และสินค้าส่งเสริมการขาย จํานวน 4 รายการ ได้แก่ หมูเนื้อแดง ราคากิโลกรัมละ 150 บาท น่องไก่ ราคากิโลกรัมละ 65 บาท ไข่ไก่ เบอร์ M แผงละ 95 บาท และน้ําตาลทราย ราคากิโลกรัมละ 20 บาท มาจําหน่ายในราคาประหยัด วันละ 8 จุดครอบคลุมพื้นที่ 8 อําเภอของจังหวัดบึงกาฬโดยวันที่ 26 กุมภาพันธ์-3 มีนาคม 2566 ดําเนินการจําหน่ายสินค้าในเขตพื้นที่อําเภอเมืองบึงกาฬ ซึ่งได้รับความร่วมมือจากนายอําเภอ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กํานัน ผู้ใหญ่บ้าน ช่วยอํานวยความสะดวกในด้านสถานที่ และประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนในพื้นที่ได้รับรู้โดยทั่วกัน จึงทําให้มีประชาชนจํานวนมากมาจับจ่ายใช้สอย ซื้อสินค้าจากโครงการพาณิชย์ลดราคาในรอบนี้อย่างมากมาย และคาดว่าจะสามารถช่วยลดค่าครองชีพของประชาชนในพื้นที่ จ.บึงกาฬได้เป็นอย่างดี#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
|
28/2/2023
|
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
|
บึงกาฬ
|
สวท.บึงกาฬ
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230228162839410
| null |
จังหวัดนครราชสีมาประชุมคัดเลือกแหล่งท่องเที่ยว Unseen New Chapter ผลักดันให้เกิดการกระจายพื้นที่ท่องเที่ยว ส่งเสริมผู้ประกอบการธุรกิจด้านการท่องเที่ยวได้อย่างยั่งยืน
|
วันนี้ (28 ก.พ.66) นายชรินทร์ ทองสุข รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เป็นประธานการประชุมคัดเลือกแหล่งท่องเที่ยวเข้าร่วมโครงการ Unseen New Chapter เพื่อกระตุ้นให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยวในประเทศ ผลักดันให้เกิดการกระจายพื้นที่ท่องเที่ยว ควบคู่กับการเพื่อสร้างรายได้ให้แก่ชุมชนท่องเที่ยว อีกทั้งส่งเสริมให้ผู้ประกอบการสามารถประกอบธุรกิจด้านการท่องเที่ยวได้อย่างยั่งยืน โดยมี นางภาวนา ประจิตต์ ผู้อํานวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สํานักงานจังหวัดนครราชสีมา พร้อมคณะกรรมการส่งเสริมและพัฒนาการท่องเที่ยวจังหวัดนครราชสีมาเข้าร่วมประชุมคัดเลือกสถานที่ท่องเที่ยว Unseen New Chapter จังหวัดนครราชสีมา ณ โรงแรมสีมาธานี จังหวัดนครราชสีมาทั้งนี้ ที่ประชุมได้คัดเลือกชุมชนบ้านปรางค์นคร เป็นแหล่งท่องเที่ยว Unseen New Chapter ของจังหวัดนครราชสีมา โดยจะเสนอชื่อให้แก่การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เพื่อบรรจุปฏิทินท่องเที่ยวในประเทศต่อไปนางภาวนา ประจิตต์ ผู้อํานวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สํานักงานจังหวัดนครราชสีมา กล่าวว่า ชุมชนบ้านปรางค์นคร ตั้งอยู่ที่ตําบลบ้านปรางค์ อําเภอคง จังหวัดนครราชสีมา เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมชุมชน ที่มีวิถีชีวิต วัฒนธรรม สถาปัตยกรรมเรือนโคราช โบราณและเสน่ห์อาหารพื้นถิ่นของโคราช มีความเชื่อในเรื่องความศักดิ์สิทธิ์ในเจ้าพ่อหินทับ และการรับพลังจักรวาลที่ปราสาทบ้านปรางค์ บ้านปรางค์นคร เป็นบ้านที่เก่าแก่ จากผู้อาวุโสหลายคนมีความรู้ความคิด และประสบการณ์ เป็นหลักของหมู่บ้าน ได้เล่าว่า เดิมบ้านปรางค์เป็นป่ารกทึบ มีหมูป่า และสัตว์ป่าอื่นๆ เริ่มมีคนเข้ามาอยู่หลายชั่วอายุคน สันนิษฐานจากการตั้งรกรากของคนสมัยขอมโบราณ กําหนดสถานที่ในการสร้างบ้านสร้างเมืองสมัยโบราณเป็นสถานที่ที่เหมาะสม ได้แก่ บึงเป็นแหล่งน้ําที่สําคัญ มีแหล่งแกลือที่ใช้ผลิตเกลืออยู่ทางทิศตะวันออกหมู่บ้าน ด้านทิศตะวันตกมีป่าไม้ที่อุดมสมบูรณ์ เรียกโบราณสถาน ปรางค์บ้านปรางค์ การพบพระพุทธรูปเก่าเมื่อ 50 ปี ก่อนบริเวณภายในชุมชนบ้านปรางค์ พบโครงกระดูกมนุษย์โบราณ พบเทวรูป เป็นทองสัมฤทธิ์ มีเม็ดพลอยขนาดใหญ่ที่หน้าผาก และบริเวณพระอุระ ที่ประเมินค่าไม่ได้ มีพบภาชนะดินเผาแตกอยู่โดยทั่วไป ใบเสมาธรรมจักรเก่า ปัจจุบันไม่เหลือไว้ให้ดู เพราะขาดการอนุรักษ์ ความเชื่อ และความรู้ของของคนในชุมชนเกี่ยวกับการเก็บรักษาของเก่า#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
|
28/2/2023
|
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
|
นครราชสีมา
|
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนครราชสีมา
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230228165610423
| null |
กระทรวงการคลัง เตรียมประกาศผลผู้ได้รับสิทธิ์บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ปี 65 วันพรุ่งนี้ (1 มีนาคม 2566) ซึ่งมีผู้ผ่านเกณฑ์พิจารณากว่า 14 ล้านราย
|
นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า โครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ ปี 2565 ขณะนี้ได้ตรวจสอบคุณสมบัติของผู้ลงทะเบียนเรียบร้อยแล้ว ซึ่งมีผู้ผ่านเกณฑ์รอบใหม่ จํานวน 14,596,820 คน จากผู้ที่ลงทะเบียนกว่า 20 ล้านคน โดยจะประกาศผลในวันพรุ่งนี้ (1 มีนาคม 2566) ทางเว็บไซต์ https://บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ.mof.go.th ตั้งแต่เวลา 6.00 น. ถึง 23.00 น. ของทุกวัน หรือสามารถตรวจสอบผลผ่านหน่วยงานรับลงทะเบียนทั้ง 7 หน่วยงาน ตามวันและเวลาทําการของแต่ละหน่วยงาน ทั้งนี้ ผู้ที่ผ่านเกณฑ์การพิจารณาคุณสมบัติ สามารถยืนยันตัวตนได้ตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2566 เป็นต้นไป ณ ธนาคารกรุงไทย ธนาคารออมสิน หรือ ธ.ก.ส. ซึ่งจะต้องนําบัตรประจําตัวประชาชน เพื่อใช้ในการยืนยันตัวตนด้วย และจะสามารถใช้สิทธิสวัสดิการผ่านบัตรประจําตัวประชาชนได้ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน นี้ สําหรับผู้ที่ไม่ผ่านเกณฑ์การพิจารณา สามารถยื่นขออุทธรณ์ได้ตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม – 1 พฤษภาคม 2566 ผ่าน 2 ช่องทาง ได้แก่เว็บไซต์ https://บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ.mof.go.th และหน่วยงานรับลงทะเบียนทั้ง 7 หน่วยงาน ทั้งนี้ ผู้เข้าร่วมโครงการฯ จะได้รับวงเงินซื้อสินค้าอุปโภคและบริโภค จากร้านธงฟ้า จํานวน 300 บาทต่อคนต่อเดือน วงเงินช่วยเหลือค่าแก๊สหุงต้ม ปรับจากเดิม 48 บาท เป็น 80 บาทต่อคนต่อเดือน จํานวน 3 เดือน เงินช่วยเหลือค่าเดินทางระบบขนส่งสาธารณะจํานวน 750 บาทต่อคนต่อเดือน ช่วยเหลือค่าไฟฟ้า 315 บาทต่อครัวเรือนต่อเดือน ช่วยเหลือค่าน้ําประปา 100 บาทต่อครัวเรือนต่อเดือน และเบี้ยยังชีพสําหรับผู้พิการ 200 บาทต่อคนต่อเดือน รวมวงเงินงบประมาณดําเนินโครงการทั้งสิ้น 63,427 ล้านบาท
|
28/2/2023
|
ภาคกลางและปริมณฑล
|
กรุงเทพมหานคร
|
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230228210119509
| null |
เริ่มแล้วงานแสดงและจำหน่ายสินค้า พาณิชย์ ลดราคาออนทัวร์ @ นครพนม 2023 ครั้งที่ 1
|
วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2566 ที่บริเวณสนามหน้าศาลากลางจังหวัดนครพนม บรรยากาศเป็นไปด้วยความคึกคักของประชาชนที่ทราบข่าวว่ามีการจัดงานแสดงและจําหน่ายสินค้า พาณิชย์ ลดราคาออนทัวร์ @ นครพนม 2023 ครั้งที่ 1 ภายใต้โครงการพาณิชย์ ลดราคาออนทัวร์ ทั่วไทย Lot 21 ซึ่งเป็นการเปิดบูธจําหน่ายสินค้าราคาถูกกว่าท้องตลาดให้กับประชาชนตามนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อน ลดภาระและค่าครองชีพให้แก่ประชาชน ทั้งเป็นการเพิ่มช่องทางการจําหน่ายสินค้าให้แก่ผู้ประกอบการ เกษตรกร กลุ่มเกษตร วิสาหกิจชุมชน SMEs และทําให้เศรษฐกิจภายในประเทศฟื้นตัวได้ นายวันชัย จันทร์พร ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม กล่าวว่า กิจกรรมในวันนี้เป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อประชาชน ในการที่จะได้มาจับจ่ายซื้อหาสินค้าอุปโภคบริโภคในราคาถูกกว่าท้องตลาด ซึ่งวันนี้มีถึง 100 ร้านค้า เป็นสินค้าในทุกภาคของประเทศไทยที่นํามาจําหน่าย นอกจากนี้ภายในงานยังมีกิจกรรมที่เปิดโอกาสให้เยาวชน ลูกๆ หลานๆ ได้มาแสดงความสามารถกับการประกวดวงดนตรีโฟล์คซอง ซึ่งต้องขอขอบคุณหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งกระทรวงพาณิชย์ ที่ได้เล็งเห็นความสําคัญจัดงานนี้ขึ้นมา ได้มอบหมายให้กรมการค้าจัดสรรงบประมาณให้สํานักงานพาณิชย์จังหวัดนครพนมมาดําเนินการในพื้นที่ จํานวน 4 ครั้ง จึงขอเชิญชวนชาวนครพนมได้มาเลือกซื้อหาสินค้าได้ตามความชอบ ที่บริเวณสนามหน้าศาลากลางจังหวัดนครพนม ตั้งแต่เวลา 09.00 - 21.00 น. โดยงานครั้งที่ 1 นี้จะมีไปจนถึงวันที่ 2 มีนาคม 2566 ส่วนครั้งที่ 2 จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 14 - 16 มีนาคม 2566 ที่ว่าการอําเภอบ้านแพง ครั้งที่ 3 ระหว่างวันที่ 29 - 31 มีนาคม 2566 ที่ว่าการอําเภอศรีสงคราม และครั้งที่ 4 ระหว่างวันที่ 10 - 12 เมษายน 2566 ที่โรงเรียนปลาปากราษฎร์บํารุง ด้านนางจุฑารัตน์ ศรีโมรา พาณิชย์จังหวัดนครพนม กล่าวเพิ่มเติมว่า กิจกรรมในครั้งนี้มีทั้ง Supplier กลุ่มเกษตรกร วิสาหกิจชุมชน SMEs BizClub และ Startup มาจัดจําหน่ายอย่างมากมาย ซึ่งสินค้าจะราคาถูกกว่าท้องตลาดประมาณ 20 - 40% เช่น เนื้อหมู-เนื้อแดง จําหน่ายในราคากิโลกรัมละ 130 บาท แต่ละคนซื้อได้ไม่เกิน 2 กิโลกรัม เนื้อไก่-น่องติดสะโพก กิโลกรัมละ 45 บาท ได้คนละไม่เกิน 2 กิโลกรัม ไข่ไก่เบอร์ 2-3 แผงละ 90 บาท/แผง ได้คนละไม่เกิน 2 แผง น้ําตาลทราย 1 กิโลกรัม ถุงละ 18 บาท ได้ไม่เกินคนละ 5 กิโลกรัม น้ํามันพืชปาล์มขวด 1 ลิตร ราคา 40 บาท ได้คนละไม่เกิน 3 ขวด ข้าวสารหอมมะลิถุงละ 5 กิโลกรัม ราคา 110 บาท ได้คนละไม่เกิน 3 ถุง ข้าวขาว 5% ราคาถุงละ 80 บาท ได้คนละไม่เกิน 3 ถุง โดยกําหนดช่วงจําหน่ายไว้ 3 ช่วงเวลาของการจัดงานทุกวัน คือช่วงที่ 1 เวลา 11.00-12.00 น. ช่วงที่ 2 เวลา 14.00-15.00 น. และ ช่วงที่ 3 เวลา 17.00 - 18.00 น. #สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILANDภาพ/ข่าว/.ส.ปชส.นครพนม
|
28/2/2023
|
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
|
นครพนม
|
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนครพนม
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230228184136453
| null |
สำนักงานพาณิชย์จังหวัดสุรินทร์ จัดกิจกรรม“พาณิชย์...ลดราคา! ออนทัวร์ ทั่วไทย จังหวัดสุรินทร์” LOT 21
|
วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2566 สํานักงานพาณิชย์จังหวัดสุรินทร์ โดยนางพิรุณวรรณน์ จงใจภักดิ์ พาณิชย์จังหวัดสุรินทร์ ได้ดําเนินโครงการ “พาณิชย์...ลดราคา! ออนทัวร์ ทั่วไทย” จังหวัดสุรินทร์ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนและลดภาระค่าครองชีพของประชาชน กระตุ้นเศรษฐกิจให้มีการจับจ่ายใช้สอยของประชาชน และมีช่องทางในการเลือกซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคที่มีความจําเป็นต่อการดํารงชีวิตประจําวันในราคาประหยัดได้มากขึ้น และเพิ่มช่องทางการจําหน่ายสินค้าและเสริมสร้างศักยภาพผู้ประกอบการและกลุ่มเกษตรกร ในรูปแบบคูหาจําหน่ายสินค้า จํานวนกว่า 100 คูหา โดยมีนางสาววันเพ็ญ หาญเสมอ นายอําเภอชุมพลบุรี หัวหน้าส่วนราชการ และประชาชน เข้าร่วมกิจกรรมจากสภาพเศรษฐกิจของประเทศไทยในปัจจุบันที่เกิดภาวะเงินเฟ้อปรับสูงขึ้น เกิดความผันผวน ทางการเงิน ความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจที่ลดลง ทําให้สินค้ากลุ่มพลังงานปรับตัวสูงขึ้นตามกลไกราคาในตลาดโลก ซึ่งเป็นต้นทุนการผลิตต่างๆ ทั้งการขนส่ง บรรจุภัณฑ์ วัตถุดิบ มีผลให้ราคาอาหาร ราคาสินค้าปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะสินค้าที่จําเป็นต่อการครองชีพ อาทิ เนื้อหมู เนื้อไก่ ไข่ไก่ น้ําตาล น้ํามันพืชบรรจุขวด ส่งผลกระทบต่อผู้บริโภคอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ กระทรวงพาณิชย์ โดยกรมการค้าภายใน ในฐานะหน่วยงานหลักเกี่ยวกับการเสริมสร้างประสิทธิภาพการค้าภายในประเทศ โดยกํากับดูแล พัฒนา และกระตุ้นการค้าในประเทศ ตลอดจนดูแลปากท้อง ของประชาชน มีความจําเป็นเร่งด่วนในการลดภาระค่าครองชีพให้แก่ประชาชนจากสถานการณ์ปัจจุบันราคาสินค้าที่ปรับราคาสูงขึ้นและยังมีแนวโน้มจะปรับสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนและเพิ่มช่องทางการจําหน่ายสินค้าให้แก่ผู้ประกอบการทุกระดับ จึงได้รับการสนับสนุนเงินงบประมาณรายจ่ายงบกลาง รายการเงินสํารองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจําเป็น พ.ศ. 2566 เพื่อดําเนินโครงการ “พาณิชย์ ...ลดราคา! ออนทัวร์ ทั่วไทย” ในส่วนภูมิภาค 76 จังหวัด ตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 5 ตุลาคม 2565 เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจให้เกิดการหมุนเวียนทางเศรษฐกิจเพิ่มขึ้น และให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน จังหวัดสุรินทร์ โดยสํานักงานพาณิชย์จังหวัดสุรินทร์ ร่วมกับกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์จํานวน 4 ครั้ง ได้แก่ ครั้งที่ 1 วันที่ 28 กุมภาพันธ์-2 มีนาคม 2566 ณ สนามหน้าที่ว่าการอําเภอชุมพลบุรี จังหวัดสุรินทร์ ครั้งที่ 2 วันที่ 8-10 มีนาคม 2566 ณ สนามหน้าหอประชุมที่ว่าการอําเภอสังขะ จังหวัดสุรินทร์ ครั้งที่ 3 วันที่ 22-24 มีนาคม 2566 ณ สนามข้างหอประชุมอําเภอปราสาท จังหวัดสุรินทร์ และครั้งที่ 4 วันที่ 1-10 เมษายน 2566 (สินค้าลดราคาพิเศษ วันที่ 3-7 เมษายน 2566) ทั้งนี้ จัดจําหน่ายตั้งแต่เวลา 09.00-20.00 น. โดยจําหน่ายสินค้าสินค้าอุปโภคบริโภค สินค้าชุมชน สินค้า OTOP สินค้าเกษตร และสินค้าไฮไลท์ลดราคาพิเศษ ดังนี้1) หมูเนื้อแดง จําหน่ายราคา 150 บาท/กก. (ราคาปกติ 200 บาท/กก.) ลดค่าครองชีพได้ร้อยละ 322) น่องไก่ติดสะโพก จําหน่าย ราคา 60 บาท/กก. (ราคาปกติ 90 บาท/กก.) ลดค่าครองชีพได้ร้อยละ 373) ไข่ไก่ เบอร์ 2-3 (แผง 30 ฟอง) จําหน่าย ราคา 90 บาท/แผง (ราคาปกติ 125 บาท/แผง) ลดค่าครองชีพได้ร้อยละ 284) น้ําตาลทราย จําหน่ายราคา 18 บาท/กก. (ราคาปกติ 26 บาท/กก.) ลดค่าครองชีพได้ร้อยละ285) น้ํามันพืชปาล์ม จําหน่ายราคา 45 บาท/ขวด (ราคาปกติ 52 บาท/กก.) ลดค่าครองชีพได้ร้อยละ 186) ข้าวสาร- ข้าวหอมมะลิ ขนาด 5 กก. จําหน่ายราคา 100 บาท/ถุง (ราคาปกติ 200 บาท/ถุง) ลดค่าครองชีพได้ร้อยละ 31- ข้าวขาว 5% ขนาด 5 กก. จําหน่ายราคา 80 บาท/ถุง (ราคาปกติถุงละ 150 บาท/ถุง) ลดค่าครองชีพได้ร้อยละ 41#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
|
28/2/2023
|
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
|
สุรินทร์
|
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสุรินทร์
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230228185953460
| null |
จังหวัดชลบุรี จัดพิธีเปิดงาน OTOP Chonburi Fair 2023 รวมของดีทั่วประเทศกว่า 300 ร้านค้า
|
วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2566 เวลา 16.30 น. นายธวัชชัย ศรีทอง ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี พร้อมด้วย นายวิทยา คุณปลื้ม นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดชลบุรี เป็นประธานในพิธีเปิดงาน OTOP Chonburi Fair 2023 โดยมีนางสาวประภัสรา ศรีทอง นายกเหล่ากาชาดจังหวัดชลบุรี นางสาวชุดากานต์ กําจัดภัย พัฒนาการจังหวัดชลบุรี หัวหน้าส่วนราชการ ผู้ประกอบการร้านค้า ประชาชน เข้าร่วมงาน ณ สนามหน้าศาลากลางจังหวัดชลบุรีสํานักงานพัฒนาชุมชนร่วมกับองค์การบริหารส่วนจังหวัดชลบุรี และเครือข่าย OTOP จังหวัดชลบุรี จัดงาน OTOP Chonburi Fair 2023 เพื่อเพิ่มช่องทางการจําหน่ายสินค้า OTOP ให้แก่ผู้ผลิต ผู้ประกอบการ ให้มีรายได้เพิ่มขึ้น จากสถานการณ์การแพร่ระบาดโรคโควิด-19 และเพื่อเชื่อมโยงเครือข่ายด้านการตลาดของผู้ผลิต ผู้ประกอบการ OTOP จังหวัดชลบุรี รวมถึงเครือข่ายต่างๆ ทั่วประเทศ โดยจัดขึ้นระหว่างวันที่ 26 กุมภาพันธ์-5 มีนาคม 2566 เวลา 09.30-20.00 น. ณ สนามหน้าศาลากลางจังหวัดชลบุรีภายในงานมีการจัดแสดงและจําหน่ายสินค้า OTOP คุณภาพดีจากผู้ผลิต ผู้ประกอบการ OTOP ทั่วประเทศ จํานวน 318 ร้านค้า อาทิ ชาชักจังหวัดสตูล/ ไก่ย่าง/ส้มตําเขาสวนกวาง ผ้าไหมนครราชสีมา ผ้าชนเผ่าจากเมืองเหนือ เครื่องประดับ/จิวเวอรี่จากเมืองจันทร์ น้ํามันเหลืองจังหวัดตราด อาหารทะเลเมืองชล นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมส่งเสริมการขายเพื่อกระตุ้นให้ประชาชนเข้ามาร่วมชมงาน เช่น การแสดงบนเวที การร้องเพลง กิจกรรมนาทีทองลดราคาสินค้า การเดินแบบผ้าไทย เป็นต้น#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
|
28/2/2023
|
ภาคตะวันออก
|
ชลบุรี
|
สวท.ชลบุรี
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230228191327476
| null |
จ.สุรินทร์ จัดโครงการพาณิชย์...ลดราคา! ออนทัวร์ ทั่วไทย" ครั้งที่ 1 ที่ อ.ชุมพลบุรี มีสินค้าลดราคามากมาย
|
ที่บริเวณสนามหน้าที่ว่าการอําเภอชุมพลบุรี จังหวัดสุรินทร์ โดยสํานักงานพาณิชย์จังหวัดสุรินทร์ จัดงานโครงการ "พาณิชย์...ลดราคา! ออนทัวร์ ทั่วไทย" จังหวัดสุรินทร์ โดยมี นางสาววันเพ็ญ หาญเสมอ นายอําเภอชุมพลบุรี เป็นประธาน นางพิรุณวรรณน์ จงใจภักดิ์ พาณิชย์จังหวัดสุรินทร์ กล่าวรายงาน มีหัวหน้าส่วนราชการทั้งระดับจังหวัด/อําเภอ ร่วมเป็นเกียรติ ซึ่งกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ ได้จัดสรรงบประมาณให้สํานักงานพาณิชย์จังหวัดสุรินทร์ ดําเนินการจําหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภค สินค้าชุมชน สินค้า OTOP และสินค้าไฮไลท์ลดราคพิเศษ ได้แก่ หมูเนื้อแดง ไข่ไก่ ไก่น่องติดสะโพก น้ําตาลทราย และข้าวสาร ในราคาประหยัดให้แก่ประชาชน ในรูปแบบจัดงานจําหน่ายสินค้า 100 คูหา จํานวน 4 ครั้ง โดยแต่ละครั้งดําเนินการไม่น้อยกว่า 3 วัน ครั้งแรก วันที่ 28 กุมภาพันธ์- 2 มีนาคม 2566 ณ สนามหน้าที่ว่าการอําเภอชุมพลบุรี ครั้งที่ 2 วันที่ 8-10 มีนาคม สนามหน้าหอประชุมอําเภอสังขะ ครั้งที่ 3 วันที่ 22-24 มีนาคม สนามข้างหอประชุมอําเภอปราสาท และครั้งที่ 4 วันที่ 1-10 เมษายน จัดร่วมกับงานเทศกาลวันช้างไทยจังหวัดสุรินทร์ ครั้งที่ 2 ประจําปี พ.ศ.2566 (260 ปี เมืองสุรินทร์) ณ สนามศรีณรงค์ อําเภอเมืองสุรินทร์ เชิญชวนชาวสุรินทร์ และผู้สนใจ ร่วมซื้อสินค้าได้ตามวัน เวลา และสถานที่ดังกล่าว#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
|
28/2/2023
|
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
|
สุรินทร์
|
สวท.สุรินทร์
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230228190107462
| null |
ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดเพชรบุรีผลักดันส่งเสริมการท่องเที่ยวเพชรบุรี-ชะอำ สู่ความเป็นสากล
|
วันนี้ (28 ก.พ.66) เวลา 13.30 น. ที่ห้องประชุม 1 พระนครคีรี ชั้น 5 สํานักงานสาธารณสุขจังหวัดเพชรบุรี นางวันเพ็ญ มังศรี รองผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี เป็นประธานประชุมคณะกรรมการเตรียมความพร้อมของภาคผู้ประกอบการสินค้าและบริการด้านการท่องเที่ยว ตามที่จังหวัดเพชรบุรี มีนโยบายที่จะส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัดเพชรบุรี-ชะอํา มุ่งสู่ความเป็นสากล โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อยกระดับแหล่งท่องเที่ยวและกระตุ้นเศรษฐกิจด้านการท่องเที่ยวของจังหวัดเพชรบุรี ให้เกิดประโยชน์แก่นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ ผู้ประกอบการ ร้านค้า และประชาชนในพื้นที่ รวมทั้งเป็นการสร้างภาพลักษณ์ใหม่ ในมิติการท่องเที่ยวเพชรบุรี-ชะอํานางวันเพ็ญ มังศรี รองผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี กล่าวว่า ในที่ประชุมได้กําหนดหาจุดดึงดูดที่น่าสนใจทางการท่องเที่ยว โดยเน้นเรื่องความปลอดภัยความสะอาดเป็นระเบียบเรียบร้อย รวมถึงการไม่เอารัดเอาเปรียบนักท่องเที่ยวในด้านราคาและการบริการ การจัดให้มีกิจกรรมที่สามารถท่องเที่ยวได้ตลอด 7 วัน โดยเฉพาะในวันธรรมดา เนื่องจากนักท่องเที่ยวเดินทางมาท่องเที่ยวโดยเฉพาะที่หาดชะอําในช่วงวันหยุดราชการ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ ตลอดจนหากิจกรรมที่เป็นกิจกรรมระดับนานาชาติเข้ามาจัดในพื้นที่ชะอํา เช่น การจัดคอนเสิร์ตนานาชาติกลางทะเล การจัดแข่งกีฬานานาชาติ การจัดเทศกาลอาหารนานาชาติเป็นต้น ทั้งนี้ ให้ศึกษาตัวอย่างจากจังหวัดที่เคยมีการจัดงานในระดับนานาชาติในพื้นที่ชายหาดทะเลเป็นแนวทางที่ปรับให้เข้ากับพื้นที่ชะอํา จังหวัดเพชรบุรีชัยพัทธ์ รชตเหมภาส / ข่าวสํานักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเพชรบุรี#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
|
28/2/2023
|
ภาคตะวันตก
|
เพชรบุรี
|
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเพชรบุรี
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230228201032486
| null |
คลังจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ แนะร้านค้าโครงการธงฟ้าที่ไม่ประสงค์ใช้งานเครื่อง EDC ต่อ ส่งคืนเครื่องได้ที่สำนักงานคลังจังหวัดฯ
|
คลังจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ แนะร้านค้าโครงการธงฟ้าที่ไม่ประสงค์ใช้งานเครื่อง EDC ต่อ ส่งคืนเครื่องได้ที่สํานักงานคลังจังหวัดฯ และเปลี่ยนไปใช้แอปพลิเคชั่นถุงเงินในการรับชําระค่าซื้อสินค้าผ่านสิทธิสวัสดิการแห่งรัฐ โดยไม่มีค่าบริการ นางพิสมัย แก้วแจ่มใส คลังจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยว่า ขณะนี้เครื่องรับชําระเงินอิเล็กทรอนิกส์ หรือ EDC ที่ธนาคารกรุงไทย ได้ดําเนินการให้แก่ร้านค้าต่างๆ ที่เข้าร่วมโครงการธงฟ้าเริ่มทยอยสิ้นสุดระยะเวลาการรับประกันการใช้งาน 5 ปี แล้ว ซึ่งกรมบัญชีกลางจะมีหนังสือแจ้งไปยังร้านค้าที่เครื่อง EDC มีอายุการใช้งานครบ 5 ปี หากผู้ประกอบการมีความประสงค์จะใช้เครื่องต่อ จะมีค่าใช้จ่ายเป็นค่าบริการที่ทางธนาคารกรุงไทย เรียกเก็บประมาณ 2,100 บาทต่อปี โดยจะเริ่มเก็บค่าบริการตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2566 และปีถัดไปจะต้องชําระภายในเดือนมีนาคมของทุกปี ส่วนผู้ประกอบการที่ไม่ประสงค์จะใช้งานเครื่อง EDC ต่อ สามารถเปลี่ยนไปใช้แอปพลิเคชันถุงเงินแทนได้ ซึ่งไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม โดยสามารถส่งคืนเครื่อง EDC พร้อมอุปกรณ์ได้ที่สํานักงานคลังจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ชั้น 1 ศาลากลางจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พร้อมยื่นคําขอเปลี่ยนแปลงระบบการรับชําระค่าซื้อสินค้าผ่านสิทธิสวัสดิการแห่งรัฐจากเครื่อง EDC เป็นแอปพลิเคชันถุงเงินได้ที่สํานักงานพาณิชย์จังหวัดฯ ซึ่งขณะนี้ พบว่ามีผู้ประกอบการทยอยนําเครื่องมาส่งคืนแล้ว แต่บางส่วนก็ยังคงประสงค์ที่จะใช้งานต่อไป อย่างไรก็ตาม ขอเตือนผู้ประกอบการว่าภาครัฐจะไม่มีการโทรไปสอบถามข้อมูลใดๆ กับทางร้านค้า จึงขอให้อย่าหลงเชื่อและระวังมิจฉาชีพแอบอ้าง#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
|
28/2/2023
|
ภาคกลางและปริมณฑล
|
กรุงเทพมหานคร
|
สำนักประชาสัมพันธ์เขต 8
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230228203500494
| null |
วัฒนธรรมจังหวัดนครราชสีมาจับมือภาคีเครือข่ายแถลงข่าว KORAT STREET ART 2023 ถนนปล่อยแสง สาดพลังศิลป์ ART REGISTER - ART CINEMATIC - MUSIC AREA
|
วันนี้ (28 ก.พ.66) ณ Mall Parc ชั้น 1 ห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์โคราช ตําบลในเมือง อําเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา นายศุภภิมิตร เปาริก รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมาแถลงข่าว KORAT STREET ART 2023 ถนนปล่อยแสง สาดพลังศิลป์ ART REGISTER - ART CINEMATIC - MUSIC AREA เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ งานศิลปะและวัฒนธรรมของจังหวัดนครราชสีมา ทั้งยังส่งเสริมให้เด็กและเยาวชนใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ และเกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ในการสร้างสรรค์งานศิลปะ และวัฒนธรรม และเพื่อต่อยอดงานศิลปวัฒนธรรมของจังหวัดนครราชสีมาด้วยนายไชยนันท์ แสงทอง วัฒนธรรมจังหวัดนครราชสีมา กล่าวว่า สํานักงานปลัดกระทรวงวัฒนธรรม ได้คัดเลือกงานเทศกาลโคราชเมืองศิลปะ KORAT Street Art ของ จังหวัดนครราชสีมา เพื่อยกระดับไปสู่ระดับชาติและระดับนานาชาติ ของสํานักงานวัฒนธรรมจังหวัด ประจําปีงบประมาณ 2566 ร่วมกับสํานักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย และจังหวัดนครราชสีมา จัดงาน KORAT STREET ART 2023 ถนนปล่อยแสง สาดพลังศิลป์ การจัดงานในครั้งนี้จะเกิดขึ้น ณ ลานกิจกรรม ถนนพลแสน ข้างวัดพายัพ ตําบลในเมือง อําเภอเมืองนครราชสีมา จังหวัดนครราชสีมา จํานวน 3 ครั้งคือครั้งที่ 1 วันที่ 10 - 12 มีนาคม 2566 ภายใต้แนวคิด “ART REGISTER” จุด CHECKIN สุดอาร์ทในเมืองโคราช ที่ไหนเด็ด จุดไหนปัง เราไม่พลาด ครั้งที่ 2 วันที่ 26 - 28 พฤษภาคม 2566 ภายใต้แนวคิด “ART CINEMATIC” เปิดเวทีให้ลุกเป็นไฟกับ performance ทุกแขนง เอาใจคนกล้า พร้อมสาดพลังศิลป์กับการแสดง ร้อง เล่น เต้น รํา มาครบจบในหนึ่งเดียว ครั้งที่ 3 วันที่ 23 - 25 มิถุนายน 2566 ภายใต้แนวคิด “MUSIC AREA” สุทรียภาพทางอารมณ์ กับบทเพลงตลอดค่ําคืน เพลงเก่าในความทรงจํา เพลงลูกทุ่ง ฮิปฮอป ป๊อป ร็อค มาใหญ่มาเต็มสําหรับพิธีเปิดงานอย่างเป็นทางการจะมีขึ้นในวันศุกร์ที่ 10 มีนาคม 2566 ณ ลานกิจกรรม ถนนพลแสน ข้างวัดพายัพ ตําบลในเมือง อําเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา โดยมีปลัดกระทรวงวัฒนธรรม เป็นประธานเปิดงาน การจัดงานในครั้งนี้ เป็นการร่วมมือของกระทรวงวัฒนธรรม สํานักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย จังหวัดนครราชสีมา โดยหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และสถานศึกษา วัตถุประสงค์ ของการจัดงานนี้เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ งานศิลปะและวัฒนธรรมของจังหวัดนครราชสีมา เพื่อส่งเสริมให้เด็กและเยาวชนใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ และเกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ในการสร้างสรรค์งานศิลปะ และวัฒนธรรม และเพื่อต่อยอดงานศิลปวัฒนธรรมของจังหวัด เช่น เทศกาลงานประเพณี อาหาร ตามนโยบาย 5F Soft Power ของกระทรวงวัฒนธรรม ให้เกิดคุณค่าและมูลค่าทางเศรษฐกิจภายในงานพบกับกิจกรรม ตลาดนัดศิลปะและการแสดงสร้างสรรค์ผลงานศิลปะ ของศิลปินท้องถิ่น เยาวชนและประชาชน มากกว่า 50 รายการ การแสดงจากศิลปินท้องถิ่น เยาวชน และประชาชน อาทิ การแสดง STREET DANCE, การแสดง B-BOY, การแสดง COVER DANCE, การแสดงลีลาศ, การแสดงละครเวที การแสดงดนตรี และการรังสรรค์อาหารท้องถิ่น (วัสดุท้องถิ่น) จากเชฟที่มีชื่อเสียงของจังหวัด และเชิญร้านอาหาร มิชลินไกด์ นครราชสีมา 2023 หรือร้านอาหารชื่อดัง ของจังหวัด ร่วมสาธิตการทําอาหาร จึงขอเชิญชวนทุกคน มาร่วมกันสนุก มีความสุขกับงานดีของโคราช ต่อยอดโคราชเมืองศิลปะ ซึ่งจะสร้างรายได้ให้จังหวัดไม่น้อยกว่า 10 ล้านบาท#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
|
28/2/2023
|
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
|
นครราชสีมา
|
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนครราชสีมา
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230228205736507
| null |
สำนักงานบังคับคดีจังหวัดนครพนม Sandbox 4 จัดโครงการมหกรรมไกล่เกลี่ยข้อพิพาทชั้นบังคับคดี สามารถไกล่เกลี่ยสำเร็จทุนทรัพย์กว่า 78 ล้านบาท
|
วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2566 เวลา 08.30 น. ณ ห้องประชุมแกรนด์ บอลรูม โรงแรมฟอร์จูน ริเวอร์วิว นครพนม อําเภอเมือง จังหวัดนครพนม นายชนะ พรหมพิทักษ์กุล ในฐานะหัวหน้าจังหวัด Sandbox กลุ่มที่ 4 และนางสาวดไนยา แก้วผสม ผู้อํานวยการสํานักงานบังคับคดีจังหวัดนครพนม ร่วมดูแลการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ในงานมหกรรมไกล่เกลี่ยข้อพิพาทชั้นบังคับคดี ซึ่งมีเจ้าหนี้ตามคําพิพากษาและสถาบันการเงิน 12 แห่ง ประกอบด้วย1.ธนาคารออมสิน2.ธนาคารอาคารสงเคราะห์3.ธนาคารกรุงไทย จํากัด (มหาชน)4.บริษัท บัตรกรุงไทย จํากัด (มหาชน)5.บริษัท บริหารสินทรัพย์ ฮาร์โมนิช จํากัด6.บริษัท ยุทธนอม จํากัด7.บริษัท เจเอ็มที เน็ทเวอร์ค เซอร์วิสเซ็ส จํากัด8.บริษัท บริหารสินทรัพย์ เจ จํากัด9.บริษัท บริหารสินทรัพย์ เจเค จํากัด10.บริษัท โตโยต้า ลีสซิ่ง จํากัด (มหาชน)11.สหกรณ์ออมทรัพย์ครูนครพนม จํากัด12.นายนําชัย เพ็ญธรรมกุลซึ่งมีผู้เข้าร่วมงานจํานวน 278 ราย ปรึกษากฎหมายและการไกล่เกลี่ย จํานวน 9 ราย เข้าชมบูธ จํานวน 9 ราย มีเรื่องเข้าสู่กระบวนการไกล่เกลี่ย จํานวน 194 เรื่อง ทุนทรัพย์ 97,985,813.64 บาท ผลการไกล่เกลี่ยสําเร็จ จํานวน 171 ราย ทุนทรัพย์ 78,836,397.70 บาท คิดเป็นร้อยละ 88.14 ลดค่าใช้จ่ายประชาชน 2,792,591.93 บาท โดยภายในงานได้จัดให้บริการคําปรึกษาทางกฎหมายเกี่ยวกับการบังคับคดี และแจกเอกสารประชาสัมพันธ์แก่ประชาชนที่มาร่วมงาน#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
|
28/2/2023
|
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
|
นครพนม
|
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนครพนม
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230228212444517
| null |
จังหวัดนครพนม ส่งเสริมการลดค่าครองชีพประชาชน จัด “พาณิชย์ ลดราคา ออนทัวร์ ทั่วไทย 2023” ครั้งที่ 1
|
วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2566 เวลา 16.00 น. ณ สนามหน้าศาลากลางจังหวัดนครพนม นายวันชัย จันทร์พร ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม เป็นประธานเปิดงานแสดงและจําหน่ายสินค้า “พาณิชย์ ลดราคา ออนทัวร์ ทั่วไทย 2023” ซึ่งจัดโดยสํานักงานสํานักงานพาณิชย์จังหวัดนครพนม ในระหว่างวันที่ 28 กุมภาพันธ์ - 2 มีนาคม 2566 โดยมีนายจิรศักดิ์ สีหามาตย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม นางสงวน จันทร์พร นายกเหล่ากาชาดจังหวัดนครพนม พ.ต.อ.ลือศักดิ์ ดําเนินสวัสดิ์ รองผู้บังคับการตํารวจภูธรจังหวัดนครพนม นายชัยณรงค์ กาญจะนะกันโห พัฒนาการจังหวัดนครพนม หัวหน้าส่วนราชการ ผู้บริหารส่วนท้องถิ่น/ท้องที่ ร่วมกิจกรรม มีนางสาวจุฑารัตน์ ศรีโมรา พาณิชย์จังหวัดนครพนม กล่าวรายงานวัตถุประสงค์การจัดงานภายในงานมีการจําหน่ายสินค้าราคาประหยัดเพื่อลดค่าครองชีพของประชาชนชาวจังหวัดนครพนม โดยมีผู้ประกอบการทั้งในและนอกจังหวัด สินค้าธงฟ้าราคาประหยัด จํานวนทั้งสิ้น 100 บูธ อีกทั้งมีการแสดงศิลปะและวัฒนธรรมจากศิลปินที่มีชื่อเสียง ทั้งนี้โครงการจําหน่ายสินค้าภายในงาน “พาณิชย์ ลดราคา ออนทัวร์ ทั่วไทย” จังหวัดนครพนม มีกําหนดจัดขึ้น จํานวน 4 ครั้ง ดังนี้ครั้งที่ 1 วันที่ 28 กุมภาพันธ์ - 2 มีนาคม 2566 ณ บริเวณหน้าศาลากลางจังหวัดนครพนม (หลังใหม่) อําเภอเมือง จังหวัดนครพนมครั้งที่ 2 วันที่ 14 - 16 มีนาคม 2566 ณ บริเวณหน้าที่ว่าการอําเภอบ้านแพง อําเภอบ้านแพง จังหวัดนครพนมครั้งที่ 3 วันที่ 29 - 31 มีนาคม 2566 ณ บริเวณหน้าที่ว่าการอําเภอศรีสงคราม อําเภอศรีสงคราม จังหวัดนครพนมครั้งที่ 4 วันที่ 10 - 12 เมษายน 2566 ณ ลานอเนกประสงค์โรงเรียนปลาปากราษฎร์บํารุง อ.ปลาปาก จังหวัดนครพนม#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
|
28/2/2023
|
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
|
นครพนม
|
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนครพนม
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230301000706005
| null |
นครพนมเปิดงาน "พาณิชย์...ลดราคา! ออนทัวร์” ครั้งที่ 1 วันแรกที่ศาลากลางจังหวัด ชวนประชาชนช้อปได้ถึง 2 มีนาคม 2566
|
วันนี้ (28 ก.พ.66) เวลา 16.30 น. ณ บริเวณสนามด้านหน้าศาลากลางจังหวัดนครพนม สํานักงานพาณิชย์จังหวัดนครพนมเปิดงานแสดงและจําหน่ายสินค้า "พาณิชย์...ลดราคา! ออนทัวร์ @นครพนม 2023" ครั้งที่ 1 โดยมีนายวันชัย จันทร์พร ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม และนางสงวน จันทร์พร นายกเหล่ากาชาดจังหวัดนครพนม เป็นประธานเปิดงานฯนางจุทารัตน์ ศรีโมรา พาณิชย์จังหวัดนครพนม กล่าวว่า งานแสดงและจําหน่ายสินค้า"พาณิชย์...ลดราคา! ออนทัวร์ @นครพนม 2023" เป็นการจัดกิจกรรมภายใต้โครงการพาณิชย์...ลดราคา! ออนทัวร์ทั่วไทย (ส่วนภูมิภาค) ตามนโยบายของกระทรวงพาณิชย์ โดยกรมการค้าภายใน ในฐานะหน่วยงานหลักเกี่ยวกับการเสริมสร้างประสิทธิภาพการค้าภายในประเทศ ในการกํากับดูแล พัฒนา และกระตุ้นการค้าภายในประเทศ ตลอดจนดูแลปากท้องของประชาชน จึงให้สํานักงานพาณิชย์จังหวัดทุกจังหวัด ทั่วประเทศ ดําเนินการจัดกิจกรรม การจัดงานแสดงและจําหน่ายสินค้า ภายใต้โครงการดังกล่าว สําหรับจังหวัดนครพนม ได้กําหนดจัดงาน"พาณิซย์...ลดราคา! ออนทัวร์ @นครพนม 2023" ขึ้น โดยมีกําหนดการจัดงานจํานวน 4 ครั้ง 4 อําเภอ ดังนี้ครั้งที่ 1 ระหว่างวันที่ 28 กุมภาพันธ์ -2 มีนาคม 2566 (อําเภอเมืองนครพนม) ณ บริเวณสนามหน้าศาลากลางจังหวัดนครพนม(หลังใหม่)ครั้งที่ 2 ระหว่างวันที่ 14 - 16 มีนาคม 2566 (อําเภอบ้านแพง) ณ บริเวณสนามหน้าที่ว่าการอําเภอบ้านแพงครั้งที่ 3 ระหว่างวันที่ 24 - 31 มีนาคม 2566 (อําเภอศรีสงคราม) ณ บริเวณสนามหน้าที่ว่าการอําเภอศรีสงครามครั้งที่ 4 ระหว่างวันที่ 10 - 12 เมษายน 2566 (อําเภอปลาปาก) ณ บริเวณสนามหน้าเสาธงโรงเรียนปลาปากราษฎร์บํารุงพาณิชย์จังหวัดนครพนม กล่าวว่า การจัดงานครั้งนี้วัตถุประสงค์เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนและลดภาระค่าครองชีพของประชาชน กระตุ้นเศรษฐกิจให้มีการจับจ่ายใช้สอยของประชาชนและการจ้างงานเพิ่มมากขึ้น ประชาชนได้มีช่องทางในการเลือกซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคที่มีความจําเป็นต่อการดํารงชีวิตประจําวันในราคาประหยัดได้มากขึ้น และชะลอการปรับขึ้นราคาสินค้าเพื่อเพิ่มช่องทางการจําหน่ายสินค้าและเสริมสร้างศักยภาพผู้ประกอบการและกลุ่มเกษตรกรการจัดงานทั้ง 4 ครั้ง มีกิจกรรมสําคัญในงานประกอบด้วย การแสดงและจําหน่ายสินค้าต่างๆ ของ OTOP/BiZClub/SMEs / ของจังหวัดนครพนม และจากจังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศ จํานวน 100 คูหา สินค้าอุปโภค - บริโภค ลดราคา ของห้างสรรพสินค้า เช่น บิ๊กซี และโลตัสของจังหวัดนครพนม การจําหน่ายสินค้าลดค่าครองชีพ ในราคาถูกกว่าท้องตลาดทั่วไป ร้อยละ 20- 40 อาทิ ได้แก่ หมู - หมูเนื้อแดง กก. ละ 130 บาท (ตลาด กก.ละ 190 บ.) ไก่ - น่องติดสะโพก กก.ละ 45 บาท (ตลาด กก.ละ 70 บ.) ไข่ไก่ เบอร์ M (เบอร์ 2-3) แผงละ 90 บาท(ทั่วไป แผงละ 119 บ.) น้ําตาลทรายถุง 1 กก. 18 บาท (ทั่วไป 23 บ.) น้ํามันพืชปาล์ม ขวดละ 1 ลิตร 40 บาท (ทั่วไป 48 บ.) ข้าวสารหอมมะลิ ถุงละ 5 กก. 110 บาท (ทั่วไป 150 บ.) และข้าวสารขาว 5% ถุงละ 5 กก. 80 บาท (ทั่วไป 105 บ.)นอกจากนี้ยังมีการแสดงศิลปวัฒนธรรมทุกวันตลอดการจัดงาน การจัดประกวดวงโฟล์คซองเยาวชน การแข่งชันส้มตําเฮฮา แข่งขันกินจุ "ข้าวปุ้น" และแข่งขันเต้น Cover Dance ของเยาวชน เป็นต้น#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
|
28/2/2023
|
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
|
นครพนม
|
สวท.นครพนม
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230301001534008
| null |
พาณิชย์จังหวัดเพชรบุรี โดยกลุ่มกำกับและพัฒนาเศรษฐกิจการค้า ร่วมกับคณะทำงานดำเนินการตรวจสอบสต็อกน้ำมันปาล์มคงเหลือทั้งระบบ ระดับจังหวัด บริหารจัดการอุปทานน้ำมันปาล์มมีความต่อเนื่อง
|
วันนี้ (28 ก.พ.66) สํานักงานพาณิชย์จังหวัดเพชรบุรี โดยกลุ่มกํากับและพัฒนาเศรษฐกิจการค้า ร่วมกับคณะทํางานดําเนินการตรวจสอบสต็อกน้ํามันปาล์มคงเหลือทั้งระบบ ระดับจังหวัด เป็นประจําทุกสัปดาห์ เพื่อให้การบริหารจัดการอุปทานน้ํามันปาล์มมีความต่อเนื่อง ผลการตรวจ ณ วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2566 ของผู้ประกอบการ จํานวน 3 แห่ง 1) บริษัท ปาล์มออยล์ เอ็นเนอร์ยี่ อินดัสทรี จํากัด จํานวน 1,205.177 ตัน 2) บริษัท โอพีจีเทค จํากัด สาขา 3 จํานวน 15.860 ตัน 3) บริษัท สยาม ออยล์ โปรดักส์ จํากัด จํานวน 21.015 ตัน ปริมาณสต็อกน้ํามันปาล์มดิบ รวมทั้งสิ้น 1,242.052 ตัน และผลการตรวจจุดรับซื้อผลปาล์ม ลานเท ณ วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2566 ของผู้ประกอบการ จํานวน 3 แห่ง 1) ห้างหุ้นส่วนจํากัด เพชรปาล์ม ตําบลหนองหญ้าปล้อง อําเภอหนองหญ้าปล้อง มีการรับซื้อผลปาล์มสดในลานเท จํานวน 32 ตัน 2) ชิตลานปาล์ม สาขาแก่งกระจาน ตําบลพุสวรรค์ อําเภอแก่งกระจาน มีการรับซื้อผลปาล์มสดในลานเท จํานวน 39 ตัน สถานการณ์การรับซื้อผลผลิตปาล์มสดในพื้นที่จังหวัดเพชรบุรี ของลานเทซึ่งจะรับซื้อและรวบรวมผลปาล์มสดไปจําหน่ายในพื้นที่จังหวัดชลบุรี และจังหวัดกาญจนบุรี โดยราคารับซื้อ ณ วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2566 อยู่ที่ 4.90 บาท/กก. ซึ่งเป็นราคาที่ปรับขึ้นจากสัปดาห์ที่แล้ว 0.30 สตางค์#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILANDสวท.เพชรบุรี/28 ก.พ..66
|
28/2/2023
|
ภาคตะวันตก
|
เพชรบุรี
|
สวท.เพชรบุรี
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230301010222023
| null |
นายกฯ กล่าวคำปราศรัย เนื่องในโอกาสวันขึ้นปีใหม่ 2566 ส่งความรัก ความปรารถนาดีถึงประชาชนชาวไทยทุกคน
|
พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวคําปราศรัยผ่านบันทึกเสียง เนื่องในโอกาสวันขึ้นปีใหม่ พุทธศักราช 2566 เผยแพร่ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย คลื่น FM.92.50 MHz และ AM 819,891 และเผยแพร่ผ่านบันทึกวีดิทัศน์ ทางโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย วันที่ 1 มกราคม 2566 เวลา 00.01 น. ส่งความรัก ระลึกถึง และความปรารถนาดีถึงประชาชนชาวไทยทุกคน ดังนี้นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เนื่องในศุภวาระขึ้นปีใหม่ พุทธศักราช 2566 ขอส่งความระลึกถึงและความปรารถนาดีมายังประชาชนชาวไทยทุกคน และขอเชิญชวนปวงชนชาวไทยทุกหมู่เหล่า ร่วมใจกันตั้งจิตอธิษฐาน อาราธนาคุณพระศรีรัตนตรัย และอํานาจสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในสากล โปรดดลบันดาลประทานพรให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง และพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ ทรงพระเจริญด้วยพระพลานามัยสมบูรณ์แข็งแรง มีพระชนมายุยิ่งยืนนาน ทรงพระเกษมสําราญ มีพระราชประสงค์จํานงค์หมายสิ่งใด ขอจงสัมฤทธิ์ดังพระราชหฤทัยปรารถนา ทรงสถิตเป็นมิ่งขวัญร่มเกล้าแก่เหล่าพสกนิกรชาวไทย ตราบนิจนิรันดร์นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงปี พ.ศ. 2565 ที่ผ่านมาว่า ถือเป็น “ปีแห่งชัยชนะ” ของประเทศไทยที่สามารถก้าวผ่านวิกฤตซ้อนวิกฤต ที่ส่งผลกระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่ของคนทั้งโลก โดยชัยชนะแรก คือ ชัยชนะเหนือสงครามโควิด ด้วยความเป็นน้ําหนึ่งใจเดียวกันของคนทั้งชาติ เอาชนะอุปสรรคนานัปการ เสียสละ อดทน และร่วมมือกันทําตามคําแนะนํา และมาตรการด้านสาธารณสุข จนสามารถกลับมาประกอบอาชีพ ใช้ชีวิต และไปมาหาสู่กันได้ แบบ New normal ซึ่งทั่วโลกให้การยอมรับ และถือเป็นโมเดลแห่งความสําเร็จหนึ่งของโลก รวมทั้งสามารถเปิดประเทศต้อนรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ มากกว่าเป้าหมาย 10 ล้านคน ยิ่งกว่านั้นยังสามารถสร้างความเชื่อมั่น และประสบความสําเร็จอย่างสูง ในการเป็นเจ้าภาพ จัดการประชุมสุดยอดผู้นําเขตเศรษฐกิจเอเปค 2022 ตลอดจนการประชุมที่เกี่ยวเนื่อง อีกนับร้อยเวทีการประชุม และการเป็นเจ้าบ้านที่ดีของชาวไทยทั้งประเทศ ที่ช่วยเสริมสร้างบรรยากาศที่ดี ต่อการแสวงหาความร่วมมือระหว่างกันในทุกมิติ อีกทั้งยกระดับบทบาทของไทยในเวทีโลกให้โดดเด่นขึ้นชัยชนะต่อมา คือ ไม่เพียงประเทศไทยจะสามารถรักษาเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ และลดผลกระทบทั้งทางตรงและทางอ้อมต่อความเป็นอยู่ของประชาชนในภาพรวม จากความขัดแย้งทางการเมือง และภูมิรัฐศาสตร์ระหว่างประเทศในช่วงปีที่ผ่านมาแล้ว ไทยยังสามารถพลิกสถานการณ์ภาคเศรษฐกิจที่ทั่วโลกกําลังซบเซา โดยการส่งออกของไทยยังเข้มแข็งต่อเนื่อง การค้าขายก็เริ่มมีสัญญาณที่ดี การลงทุนยิ่งกลับมาโดดเด่นอีกครั้ง และการท่องเที่ยวก็กําลังฟื้นตัวแรง ซึ่งเชื่อมั่นว่ากิจกรรมเหล่านี้จะเป็นเครื่องยนต์สําคัญ ในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศไทยต่อไปในปีหน้า และปีถัด ๆ ไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งการพลิกบทบาทของประเทศ ไปสู่ฐานการผลิตและส่งออกยานยนต์ไฟฟ้า หรือ EV รวมทั้งชิ้นส่วนอะไหล่ ที่สําคัญแห่งหนึ่งของโลก ซึ่งเป็นผลมาจากความชัดเจนในระดับนโยบาย การมียุทธศาสตร์ชาติระยะยาว และการเร่งรัดลงทุนโครงสร้างพื้นฐานสําคัญ ๆ ของประเทศ ในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งสะท้อนความจริงใจของรัฐบาล และสร้างความเชื่อมั่นประเทศไทยในสายตาชาวโลกนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงปีหน้า และต่อจากนี้ไปว่า ยังมีความท้าทายด้านเศรษฐกิจและสังคมที่ต้องเผชิญอีกหลายประการ รวมทั้งวิกฤตซ้อนวิกฤตข้างต้น ก็ยังไม่รู้ว่าจะยุติลงเมื่อใด แต่เชื่อว่าพลังแห่งความรัก ความสามัคคี ของทุกคน จะหนุนนําให้ชาติบ้านเมืองผ่านพ้นอุปสรรค และความท้าทายเหล่านั้นไปได้ด้วยดี มีความมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน บรรลุตามเป้าหมายร่วมกัน ที่ได้กําหนดเอาไว้ โดยขอเชิญชวนให้ร่วมกันปฏิบัติภารกิจเพื่อชาติอีกครั้ง คือ ประการแรก ยังคง “ไม่ประมาท การ์ดไม่ตก” เพื่อลดความเสี่ยง และเน้นการป้องกัน ไม่ให้โควิด-19 กลับมาแพร่ระบาดใหญ่ซ้ําอีก ประการที่ 2 เป็น “เจ้าบ้านที่ดี” ต้อนรับการมาเยือนของนักท่องเที่ยว นักธุรกิจ นักลงทุน จากทั่วโลก เพื่อให้ชาวต่างชาติรู้สึกประทับใจ อบอุ่น และปลอดภัย เมื่ออยู่เมืองไทย...เหมือนอยู่บ้านตนเอง และประการที่ 3 เป็น “พลเมืองที่ดี” โดยทําหน้าที่ของตนเองอย่างเต็มศักยภาพ และพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่อง เพื่อร่วมกันเป็นพลังขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศและสังคม ให้เจริญก้าวหน้าอย่างแข็งแกร่งต่อไปนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ช่วงบรรยากาศแห่งความสุขในการต้อนรับปีใหม่นี้ หวังเป็นอย่างยิ่งว่าทุกคนจะได้ใช้เวลาอันมีค่าร่วมกับครอบครัว พี่น้อง และญาติมิตรอย่างมีความสุข มอบความรักและความปรารถนาดีให้เป็นของขวัญอันประเสริฐแก่กันและกัน เฉลิมฉลองอย่างมีสติและไม่ประมาท มีน้ําใจและเอื้ออาทรต่อผู้ร่วมทางในการเดินทางกลับภูมิลําเนาโดยสวัสดิภาพ เพื่อให้เทศกาลแห่งความอบอุ่นนี้ มีแต่ความทรงจําที่ดี ก้าวเข้าสู่ศักราชใหม่ด้วยความสดชื่นแจ่มใส เต็มเปี่ยมไปด้วยพลังบวก พร้อมขอบคุณเจ้าหน้าที่พลเรือน ตํารวจ ทหาร และอาสาสมัครทุกคน ที่ปฏิบัติงานอยู่ตามแนวชายแดน หรือพื้นที่ธุรกันดารห่างไกล และพื้นที่ประสบภัยต่าง ๆ ทั่วประเทศ ในการช่วยเหลือ ดูแลชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ให้อยู่ในความปลอดภัยเป็นอย่างดี ตลอดทั้งปีที่ผ่านมา และขอเป็นกําลังใจให้แก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานในช่วงเทศกาลเฉลิมฉลอง ที่คอยอํานวยความสะดวก และดูแลช่วยเหลือประชาชนที่เดินทางกลับภูมิลําเนาด้วยความราบรื่น เพื่อร่วมกันเติมความสุขให้คนไทยจากใจจริงพร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวอวยพรเนื่องในวาระอันเป็นศุภมิ่งมงคลขึ้นปีใหม่ พุทธศักราช 2566 ขออัญเชิญคุณพระศรีรัตนตรัย และอํานาจสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายที่ทุกคนเคารพนับถือ อีกทั้ง เดชะพระบารมีแห่งองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี โปรดดลบันดาลประทานพร ให้ประชาชนชาวไทยที่เคารพรักทุกคน ประสบแต่สิ่งอันเป็นมงคล มีความสุข ความเจริญ มีสุขภาพพลานามัยสมบูรณ์แข็งแรง ปราศจากภยันอันตรายทั้งปวง มีกําลังกาย กําลังใจ และกําลังสติปัญญา ที่เข้มแข็ง และขอจงสัมฤทธิผลดั่งใจ ในสิ่งพึงปรารถนาทุกประการโดยทั่วกัน
|
1/1/2023
|
ภาคกลางและปริมณฑล
|
กรุงเทพมหานคร
|
Radio-สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230101111924125
| null |
นายกรัฐมนตรีและภริยา ลงนามถวายพระพรพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เนื่องในโอกาสขึ้นปีใหม่ พุทธศักราช 2566
|
วันนี้ (1 มกราคม 2566) เวลา 09.00 น. ณ ห้องแดง อาคารหน่วยราชการในพระองค์ 904 ด้านตะวันออก ในพระบรมมหาราชวัง พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และนางนราพร จันทร์โอชา ภริยา ลงนามถวายพระพรพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เนื่องในโอกาสขึ้นปีใหม่ พุทธศักราช 2566 โดยมีรองนายกรัฐมนตรีและภริยา เข้าร่วมด้วยโดยนายกรัฐมนตรีและภริยา ถวายความเคารพพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี แล้วทูลเกล้าฯ ถวายแจกันดอกไม้เบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ฯ คือ ชุดที่ 1 นายกรัฐมนตรี พร้อมรองนายกรัฐมนตรี ในนาม นายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรี ชุดที่ 2 นายกรัฐมนตรีและภริยา ในนาม นายกรัฐมนตรีและภริยา ชุดที่ 3 ภริยานายกรัฐมนตรี พร้อมภริยารองนายกรัฐมนตรี ในนาม คณะคู่สมรสคณะรัฐมนตรี จากนั้น นายกรัฐมนตรีและภริยา ลงนามถวายพระพร ถวายความเคารพพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี
|
1/1/2023
| null |
กรุงเทพมหานคร
|
Radio-สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230101115713134
| null |
พระบรมราโชวาทสำหรับพระราชทานลงพิมพ์ในหนังสือวันเด็กแห่งชาติ ปี 2566
|
นางสาวตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานพระบรมราโชวาท สําหรับลงพิมพ์ในหนังสือวันเด็กแห่งชาติ ปี 2566 ดังนี้"เด็กทุกคนเติบโตขึ้นได้ ด้วยอาศัยการโอบอุ้มช่วยเหลือ ทั้งจากผู้ใหญ่และสังคม การรู้และเห็นความดีของผู้ที่ได้โอบอุ้มช่วยเหลือนั้น นับเป็นคุณธรรมสําคัญประการหนึ่ง ชื่อว่าความกตัญญู เด็ก ๆ จึงควรเรียนรู้ และสร้างสมอบรมคุณธรรมข้อนี้ ให้บริบูรณ์" พระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต วันที่ 23 ธันวาคม พุทธศักราช 2565
|
1/1/2023
| null |
กรุงเทพมหานคร
|
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230101153938258
| null |
ผู้บัญชาการทหารสูงสุด นำคณะนายทหารชั้นผู้ใหญ่ กองบัญชาการกองทัพไทยพร้อมภริยา ร่วมลงนามถวายพระพรชัยมงคล
|
พลเอก เฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด นําคณะนายทหารชั้นผู้ใหญ่ กองบัญชาการกองทัพไทยพร้อมภริยา ร่วมลงนามถวายพระพรชัยมงคลพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เนื่องในโอกาสวันขึ้นปีใหม่ 2566 ณ ศาลาสหทัยสมาคม ในพระบรมมหาราชวัง
|
1/1/2023
| null |
กรุงเทพมหานคร
|
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230101161818284
| null |
คณะผู้บริหารกทม. ร่วมลงนามถวายพระพร พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เนื่องในโอกาสวันขึ้นปีใหม่ พุทธศักราช 2566
|
นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร นายวิรัตน์ มีนชัยนันท์ ประธานสภากรุงเทพมหานคร นําคณะผู้บริหาร สมาชิกสภากรุงเทพมหานคร และข้าราชการกรุงเทพมหานคร เข้าถวายแจกันดอกไม้และลงนามถวายพระพร เนื่องในโอกาสวันขึ้นปีใหม่ พุทธศักราช 2566 ณ ศาลาสหทัยสมาคม ในพระบรมมหาราชวัง
|
1/1/2023
| null |
กรุงเทพมหานคร
|
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230101161708283
| null |
กองทัพเรือ ยังคงค้นหากำลังพลเรือหลวงสุโขทัยที่สูญหายอย่างต่อเนื่อง โดยวันนี้จะมุ่งค้นหาตามเกาะต่าง ๆ และชายฝั่ง
|
พลเรือเอก ปกครอง มนธาตุผลิน โฆษกกองทัพเรือ เปิดเผยว่า กองทัพเรือก็ยังคงดําเนินการค้นหากําลังพล เรือหลวงสุโขทัย ที่สูญหายอีก 5 นาย แต่เนื่องจากวันนี้คลื่นลมค่อนข้างแรงเป็นอุปสรรคต่อการค้นหาของเรือขนาดเล็ก จึงมีการปฏิบัติในการค้นหาเฉพาะเรือขนาดใหญ่และอากาศยานนอกจากนี้ หน่วยบัญชาการสงครามพิเศษทางเรือ กองเรือยุทธการ ได้นําเรือปฏิบัติการความเร็วสูง และเรือยางจํานวน 4 ลํา ค้นหาบริเวณเกาะต่าง ๆ ของจังหวัดชุมพร ด้านศูนย์อํานวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลภาคที่ 1 หรือ ศรชล.ภาค 1 ยังคงวางกําลังในพื้นที่ค้นหา ตั้งแต่ท่าเรือประจวบ อําเภอบางสะพาน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ไปจนถึงอําเภอหลังสวน จังหวัดชุมพรโดยเน้นสํารวจตามชายหาดและโดยรอบเกาะต่างๆ ผลการค้นหาและช่วยเหลือวันนี้ ยังไม่มีการพบผู้สูญหายเพิ่ม คงเหลือผู้สูญหาย 5 นาย
|
1/1/2023
| null |
กรุงเทพมหานคร
|
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230101142823220
| null |
ผบ.ตร.พอใจภาพรวมการจัดงานปีใหม่ทั่วประเทศ กำชับเข้มตรวจจับความเร็วและเมาแล้วขับในแรกที่ปชช. เริ่มเดินทางกลับ
|
พล.ต.อ.ดํารงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตํารวจแห่งชาติ เปิดเผยในการตรวจเยี่ยมบํารุงขวัญและประชุมเตรียมความพร้อมการอํานวยความสะดวกการจราจรและการป้องกันลดอุบัติเหตุช่วงเทศกาลปีใหม่ 2566 ที่ห้องประชุมตํารวจภูธรภาค 5 ว่า การจัดงานเคานต์ดาวน์ในพื้นที่ขนาดใหญ่ เช่น ห้างสรรพสินค้า รวมถึงงานสวดมนต์ข้ามปีทั่วประเทศเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ไม่มีเหตุร้ายแรงแต่อย่างใด และวันนี้เป็นวันแรกที่ประชาชนจะเริ่มเดินทางกลับเข้ากรุงเทพมหานคร จึงได้สั่งการให้ตํารวจเตรียมพร้อมรับมือ อํานวยความสะดวก จัดการจราจร ทั้งตามสัญญาณไฟแดง การเปิดช่องทางพิเศษ ให้รถคล่องตัวมากที่สุด ส่วนสถิติอุบัติเหตุในปีนี้ ตั้งแต่วันที่ 30 - 31 ธ.ค. 65 มียอดเกิดอุบัติเหตุสะสม 715 ครั้ง สถิติผู้เสียชีวิต 85 ราย สถิติผู้บาดเจ็บ 714 คน ถือว่าลดลงกว่าปีที่ผ่านมาพร้อมกันนี้ ยังได้กําชับให้ปรับแผนการตั้งจุดตรวจ โดยเน้นตรวจจับเรื่องเมาแล้วขับ, จักรยานยนต์ไม่สวมหมวกนิรภัยบนถนนสายรอง ส่วนถนนสายหลักให้เน้นตรวจจับความเร็ว และย้ําให้ทุกหน่วยร่วมบูรณาการกับทุกภาคส่วนเพื่อร่วมกันแก้ไขอุบัติเหตุในพื้นที่ พร้อมขอบคุณขอบคุณเจ้าหน้าที่ตํารวจทุกนาย ที่ได้ปฏิบัติหน้าที่ในช่วงผ่านมา
|
1/1/2023
|
ภาคกลางและปริมณฑล
|
กรุงเทพมหานคร
|
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230101155727268
| null |
ประธานรัฐสภา เตรียมนัดประชุมวิป 3 ฝ่าย เร่งรัดการพิจารณาร่างกฎหมายสำคัญก่อนปิดสมัยประชุม 28 กุมภาพันธ์นี้
|
นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภาและประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงการทําหน้าที่ของสภาผู้แทนราษฎรก่อนที่จะปิดสมัยประชุมในวันที่ 28 กุมภาพันธ์นี้ ว่า ในวันที่ 4 มกราคมนี้ จะเชิญผู้แทนจากวิปรัฐบาล ฝ่ายค้าน และวุฒิสภา มาหารือร่วมกันเพื่อเร่งรัดการพิจารณากฎหมาย 3 ฉบับ ได้แก่ ร่างพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ , ร่างพระราชบัญญัติมาตรฐานวิชาชีพสื่อ และร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ ที่ฝ่ายค้านเสนอล่าสุด เนื่องจากรัฐสภาใกล้จะปิดสมัยประชุม และ ส.ส.จะหมดวาระ จึงจะขอความร่วมมือทุกฝ่ายและใช้เวลาที่เหลืออยู่ของสภาทําหน้าที่ให้ลุล่วงไปให้ได้ส่วนการควบคุมเสียง ส.ส.ในการเป็นองค์ประชุม นายชวน ยอมรับว่า เห็นใจวิปรัฐบาล เนื่องจากเป็นสิทธิของ ส.ส.ที่จะร่วมเป็นองค์ประชุมหรือไม่ จึงทําได้เพียงการขอความร่วมมือ และยอมรับอีกว่าการที่หัวหน้ารัฐบาลหรือนายกรัฐมนตรีไม่ได้เป็น ส.ส. และหัวหน้าพรรคการเมืองที่เป็นแกนนําจัดตั้งรัฐบาลไม่ได้เป็น ส.ส.ปัญหาบางเรื่อง เนื่องจากไม่มีผู้ตัดสินใจจึงต้องประสานผ่านรัฐมนตรีประจําสํานักนายกรัฐมนตรีแทน ซึ่งบางครั้งก็ไม่สามารถตัดสินบางเรื่องได้ประธานสภาผู้แทนราษฎร ยังไม่ประเมินการเตรียมลาออกของ ส.ส.เพื่อย้ายพรรคการเมืองก่อนที่สภาจะปิดสมัยประชุม และครบวาระ เนื่อจากยังต้องรอดูทิศทาง และความพร้อมของแต่ละพรรคการเมืองอีกครั้ง และขณะนี้มีความชัดเจนว่า ส.ส.คนใดจะอยู่พรรคใดเท่านั้น โดยมองว่าการเตรียมโยกย้ายพรรคการเมืองใหม่ของ ส.ส. อาจจะทําให้รวบรวมองค์ประชุมได้ง่ายขึ้น โดยหัวหน้าพรรคการเมืองใหม่ที่ ส.ส.จะไปสังกัดอาจขอให้ ส.ส.ชะลอการลาออกเพื่อทําหน้าที่ในสภาก่อนในระยะเวลาสุดท้ายที่เหลืออยู่ไม่มาก
|
2/1/2023
|
ภาคกลางและปริมณฑล
|
กรุงเทพมหานคร
|
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230102125858451
| null |
ผบ.ตร.ลงใต้ รวบแล้ว 2 มือก่อ เหตุคาร์บอมบ์แฟลตตำรวจนราธิวาส เร่งขยายผลออกหมายจับผู้ร่วมขบวนการอีก 7 ราย พร้อมแถลงความคืบหน้าคดีลอบวางระเบิดรถไฟพื้นที่สงขลา ออกหมายจับแกนนำ
|
วันนี้ (2 ม.ค.2566 ) เวลา 11.00 น. พล.ต.อ.ดํารงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. , พล.ต.ท.นันทเดช ย้อยนวล ผบช.ภ.9,พล.ต.ท.ณัฐ สิงห์อุดม ผบช.ตชด. นายสนั่น พงษ์อักษร ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส, พล.ต.ต.สุนทร เฉลิมเกียรติ รอง ผบช.ตชด., พล.ต.ต.ปราบพาล มีมงคล รอง ผบช.ภ.9,พล.ต.ต.วรา เวชชาภินันท์ ผบก.ภ.จว.สงขลา , น.อ.พงษ์ศักดิ์ ทองไสย ผบ.ฉก.นย.ทร. ร่วมกับแถลงข่าวจับกุมตัว 2 ผู้ต้องหาเกี่ยวข้องคดีลอบวางระเบิดแฟลตตํารวจนราธิวาส และความคืบหน้าคดีลอบวางระเบิดทางรถไฟพื้นที่สงขลา พล.ต.อ.ดํารงศักดิ์ฯ กล่าวว่า “จากกรณีคนร้ายลอบวางระเบิดแฟลตข้าราชการตํารวจ สภ.เมืองนราธิวาส เมื่อ 22 พ.ย.65 ที่ผ่านมา เป็นเหตุให้ข้าราชการตํารวจเสียชีวิต 1 นาย บาดเจ็บ 25 นาย และครอบครัวเจ้าหน้าที่ตํารวจ บาดเจ็บ 18 ราย แฟลตและบ้านพักทางราชการได้รับความเสียหาย 70 ห้อง และทรัพย์สินส่วนตัวได้รับความเสียหายจํานวนมาก หลังเกิดเหตุ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ห่วงใยต่อสถานการณ์ สั่งการให้เร่งสืบสวนติดตามผู้กระทําผิด และดูแลขวัญกําลังใจตํารวจให้ดี ตนได้สั่งระดมชุดสืบสวนลงพื้นที่ตรวจสอบข้อมูลเชิงลึกจนพบว่า คนร้ายขับรถยนต์กระบะ คันประกอบระเบิด หรือ คาร์บอมบ์ มาจอดภายในบริเวณแฟลตที่พักข้าราชการตํารวจ แล้วเดินลงจากรถออกไปขึ้นรถจักรยานยนต์ของคนร้ายที่มารอรับด้านหน้าแล้วหลบหนีไปตรวจสอบทางทะเบียนรถยนต์ที่นํามาใช้ก่อเหตุ เป็นรถยนต์กระบะ ยี่ห้อ ISUZU สีดํา ทะเบียนตรัง พบว่ามีการโอนขายลอยกันเป็นทอด ๆ ตั้งแต่ปี 2564 และนางสาวไซนะ เป็นผู้ครอบครองคนสุดท้ายก่อนที่จะได้มีการประกาศขายทางเฟสบุ๊ค ต่อมามีคนมาติดต่อซื้อนัด ส่งมอบรถกันบริเวณตําบลกะลุวอ อําเภอเมือง จังหวัดนราธิวาส เมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน 2565 โดยมีชาย 2 คน ขับขี่รถจักรยานยนต์มารับรถมีพยานยืนยันว่า 1 ใน 2 คน ที่มารับรถเป็นนายฮัสบูเล๊าะ สะนิ จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดเส้นทางที่ใช้ในการก่อเหตุ พบว่าคนร้าย เดินทางออกมาจากพื้นที่อําเภอตากใบ มียานพาหนะเกี่ยวข้องกับการก่อเหตุจํานวน 6 คัน ตรวจยึดแล้ว 5 คัน และขยายผลควบคุมผู้ต้องสงสัย 2 คน คือ นายอับดุลมูบิน ลาเต๊ะ และ นายอุสมัน สะนิ ซึ่งให้การรับสารภาพว่าร่วมกันกับพวกก่อเหตุคดีนี้สามารถพิสูจน์ทราบรู้ตัวบุคคลที่ร่วมกระทําผิดแล้ว 9 คนขณะนี้ศาลจังหวัดนราธิวาส ได้อนุมัติหมายจับผู้ต้องหาคดีนี้แล้ว จํานวน 9 คน ประกอบด้วย 1.นายฮัสบูเลาะ 2.นายอับดุลมูบิน 3.นายอับดุลมาทิน มามะ 4.นายอุสมัน 5.นายอับดุลฮาฟิซ ดือเระ 6.นายวาฟี 7.นายอีซาล 8.นายไซปูรูสมัน 9.นายมูฮําหมัดฮาฟิส ซึ่งตํารวจจับกุมได้ 2 ราย ส่วนอีก 7 ราย อยู่ระหว่างการติดตามจับกุมคดีที่ 2 ความคืบหน้า "คดีลอบวางระเบิดขบวนรถไฟขนสินค้า" ระหว่างสถานีรถไฟคลองแงะ – ปาดังเบซาร์ ตําบลท่าโพธิ์ อําเภอสะเดา จังหวัดสงขลา เมื่อวันที่ 3 ธ.ค.65 ทําให้ขบวนรถไฟตกราง รางรถไฟ และสินค้าได้รับความเสียหายไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บและกรณีเหตุ วันที่ 6 ธ.ค.65 ขณะเจ้าหน้าที่การรถไฟเข้าทําการเก็บกู้รางและขบวนรถไฟ ได้เกิดระเบิดอีกหนึ่งลูก ทําให้เจ้าหน้าที่การรถไฟ เสียชีวิต 3 นาย บาดเจ็บ 4 นาย จากการตรวจที่เกิดเหตุ พบชิ้นส่วนถังแก๊ส และชิ้นส่วนองค์ประกอบระเบิดบางส่วน เชื่อว่าเป็นระเบิดแบบเหยียบโดยในส่วนของนายอัซมันฯ ขณะนี้พนักงานสอบสวนได้รวบรวมพยานหลักฐานออกหมายจับไว้แล้ว ส่วนกลุ่มขบวนที่ร่วมกันก่อเหตุในครั้งนี้อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานออกหมายจับเพิ่มเติมต่อไป “ด้านนายสนั่น พงษ์อักษร ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส กล่าวว่า ศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือเยียวยาฯ จ.นราธิวาส ได้มอบเงินช่วยเหลือเยียวยาด้านร่างกายไปแล้ว จํานวน 46 ราย เป็นเงินทั้งสิ้น 950,000 บาท เรียบร้อยแล้ว เมื่อวันที่ 23 พ.ย. 65 แบ่งเป็น กรณีเสียชีวิต จํานวน 1 ราย เป็นเงิน 500,000 บาท กรณีบาดเจ็บ จํานวน 45 ราย เป็นเงิน 450,000 บาท และวันนี้ได้มอบเงินช่วยเหลือเยียวยาด้านทรัพย์สิน เช่น รถยนต์ รถจักรยานยนต์ จํานวน 46 ราย ทั้งสิ้น 6,146,414 บาทผบ.ตร. กล่าวอีกว่า “ คดีความมั่นคงจังหวัดชายแดนใต้ เจ้าหน้าที่ตํารวจให้ความสําคัญในการสืบสวนติดตาม รวบรวมหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ และฐานข้อมูลความเชื่อมโยงของคดี จนนําไปสู่การออกหมายจับ ต้องขอบคุณและชมเชย คณะทํางานที่สามารถคลี่คลายทั้ง 2 คดี โดยได้สั่งการขยายผลติดตามผู้กระทําผิดที่ถูกออกหมายจับมาดําเนินคดี และเพิ่มมาตรการป้องกันการก่อเหตุในพื้นที่ รวมทั้งขวัญกําลังใจ ความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน ตามข้อห่วงใยของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี “ #สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
|
2/1/2023
|
ภาคใต้
|
นราธิวาส
|
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนราธิวาส
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230102135108459
| null |
ผบ.ตร. แถลงความคืบหน้าคดีความมั่นคง เหตุลอบวางระเบิดแฟลตตำรวจนราธิวาสและเหตุระเบิดรางรถไฟ พื้นที่ จ.สงขลา
|
วันนี้ (2 ม.ค.66) พลตํารวจเอก ดํารงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตํารวจแห่งชาติ เป็นประธานแถลงข่าวความคืบหน้าคดีความมั่นคง ที่ตํารวจภูธรจังหวัดนราธิวาส อําเภอเมืองนราธิวาส ซึ่งมีพลตํารวจตรี ปราบพาล มีมงคล รองผู้บัญชาการตํารวจภูธรภาค 9 รักษาราชการแทนผู้บังคับการตํารวจภูธรจังหวัดนราธิวาส และผู้เกี่ยวข้อง ร่วมในกิจกรรมพลตํารวจเอก ดํารงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตํารวจแห่งชาติ กล่าวว่า ตนพร้อมด้วยผู้บัญชาการตํารวจแห่งชาติ มาติดตามความคืบหน้าคดีระเบิดแฟลตตํารวจ อําเภอเมืองนราธิวาส และคดีลอบวางระเบิดรางรถไฟ ที่จังหวัดสงขลา ทั้ง 2 คดีมีความคืบหน้าจนสามารถออกหมายจับได้ โดยคดีลอบวางระเบิดที่แฟลตตํารวจ สามารถออกหมายจับได้ 9 หมาย จับกุมผู้ต้องหาได้ 2 ราย ที่เหลืออยู่ระหว่างสืบสวนจับกุม ส่วนคดีลอบวางระเบิดรางรถไฟ สามารถออกหมายจับได้ 2 หมาย อยู่ระหว่างการติดตามจับกุมคนร้าย ทั้งนี้ ได้มีการเพิ่มความเข้มงวดในการดูแลต่าง ๆ ร่วมกับฝ่ายทหาร ฝ่ายปกครอง ในการทํางานร่วมกัน เพื่อพี่น้องประชาชน ให้พื้นที่ต่าง ๆ มีความปลอดภัยไม่มีเหตุเกิดขึ้นหรือหากมีเหตุก็ต้องจับกุมคนร้ายให้ได้ ย้ําว่ามีมาตรการทั้งเชิงรุกเชิงรับที่จะทํางานเชิงป้องกันให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นขณะที่พลตํารวจโท นันทเดช ย้อยนวล ผู้บัญชาการตํารวจภูธรภาค 9 กล่าวว่า การทํางานได้เน้นพยานหลักฐานทางพยานบุคคลและพยานทางนิติวิทยาศาสตร์ ควบคู่หลักสิทธิมนุษยชน ซึ่งการสืบสวนสอบสวนทั้ง 2 คดี ทําให้ทราบว่าคนร้ายต้องการตอบโต้การทํางานของเจ้าหน้าที่ตํารวจ อย่างไรก็ตามขอให้ประชาชนมีความเชื่อมั่น ตํารวจทํางานตลอด 24 ชั่วโมง ควบคุมพื้นที่ให้มีความปลอดภัยด้านนายสนั่น พงษ์อักษร ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส กล่าวว่า การช่วยเหลือเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความไม่สงบ เหตุลอบวางระเบิดคาร์บอมบ์แฟลตตํารวจ อําเภอเมืองนราธิวาส เมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน2565 ทางศูนย์ช่วยเหลือเยียวยาจังหวัดฯ ได้ดําเนินการไปแล้ว 2 ส่วน (1) กรณีความสูญเสียชีวิตและบาดเจ็บ 46 ราย รวมเป็นเงิน 9.5 แสนบาท มอบหลังจากเกิดเหตุ 1 วัน (2) กรณีทรัพย์สินที่เสียหาย ได้มีการตั้งคณะกรรมการประเมินความเสียหาย และดําเนินการที่เกี่ยวข้องไปเรียบร้อยแล้ว มีการมอบเงินช่วยเหลือไปเมื่อวันที่ 27 ธันวาคม2565 รวม 46 รายการ อาทิ รถยนต์/รถจักรยานยนต์เสียหายทั้งคัน รวมเป็นเงินกว่า 6 ล้าน 1 แสนบาท อีกทั้ง วันที่ 5 มกราคม นี้ จะมีการมอบเงินช่วยเหลือกรณีทรัพย์สินภายในบ้านได้รับความเสียหายต่อไป#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
|
2/1/2023
|
ภาคใต้
|
นราธิวาส
|
สวท.นราธิวาส
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230102135837461
| null |
ผู้บังคับกองพันทหารราบที่ 2 กรมทหารราบที่ 152 ตรวจเยี่ยมชุด ชคต. มอบสิ่งของอุปโภคบริโภค เสริมขวัญกำลังใจ กำลังพล
|
พันโท สว่างพงษ์ อบแพทย์ ผู้บังคับกองพันทหารราบที่ 2 กรมทหารราบที่ 152 ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยม พบปะให้กําลังใจกําลังพลชุดคุ้มครองตําบล ที่ปฏิบัติหน้าที่ ในพื้นที่รับผิดชอบ อําเภอกรงปินัง จังหวัดยะลา 3 ชุดคุ้มครองตําบล ประกอบด้วย ชุดคุ้มครองตําบลห้วยกระทิง ,ชุดคุ้มครองตําบลสะเอะ ,ชุดคุ้มครองตําบลปุโรง เพื่อรับทราบปัญหาข้อขัดข้องต่างๆ ในการปฏิบัติภารกิจ พร้อมทั้งได้มอบแนวทางการปฏิบัติงานให้กับกําลังพล และกําชับให้ปฏิบัติตามนโยบายและข้อสั่งการของแม่ทัพภาคที่ 4/ผู้อํานวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 เกี่ยวกับมาตรการการรักษาความปลอดภัย ฐานปฏิบัติงาน (3 นอก 4 ใน) ทั้งนี้ได้ชมการซักซ้อมแผนเผชิญเหตุของแต่ละฐาน พร้อมทั้งให้คําแนะนําการปฏิบัติแก่กําลังพล เมื่อเกิดสถานการณ์ สามารถตอบโต้ได้ทันท่วงนี้ในโอกาสนี้ ผู้บังคับกองพันทหารราบที่ 2 กรมทหารราบที่ 152 ได้กล่าวอวยพรปีใหม่ และมอบสิ่งของอุปโภค-บริโภค ให้แก่กําลังพล เพื่อเป็นขวัญกําลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ต่อไป#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
|
2/1/2023
|
ภาคใต้
|
ยะลา
|
สทท.ยะลา
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230102163948495
| null |
คณะรัฐมนตรี ประชุมนัดแรกของปี 2566 พิจารณาแผนเฉพาะกิจแก้ไขปัญหาฝุ่นละออง
|
การประชุมคณะรัฐมนตรีวันนี้ (3 ม.ค.66) ถือเป็นนัดแรกของปี 2566 และมีพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานการประชุม โดยมีหลายวาระน่าสนใจ เช่น แผนเฉพาะกิจเพื่อการแก้ไขปัญหามลพิษด้านฝุ่นละออง ปี 2566 รวมถึงแผนพัฒนาการท่องเที่ยวแห่งชาติ ฉบับที่ 3 (พ.ศ.2566 -2570) นอกจากนี้ ยังมีวาระอื่นๆ อาทิ ร่างกฎกระทรวงการต่ออายุใบสําคัญการขึ้นทะเบียนตํารับยา พ.ศ... ,ร่างกฎกระทรวงยกเว้นค่าธรรมเนียมใบแทนหนังสือสําคัญแสดงการขึ้นทะเบียนประกันสังคมและใบแทนบัตร ประกันสังคม พ.ศ...,รายงานการประเมินผลโครงการหรือแผนงานภายใต้พระราชกําหนดให้อํานาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไข ปัญหา เยียวยา และฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคม ที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 พ.ศ.2563 รอบ 6 เดือน ครั้งที่ 2 ,การรับรองแผนปฎิบัติการด้านการศึกษาอาเซียน-สหพันธรัฐรัสเซีย พ.ศ.2565 – 2569ส่วนโครงการเราเที่ยวด้วยกัน ระยะที่ 5 คาดว่า ยังไม่เข้าสู่การพิจารณาในสัปดาห์นี้ หลังจากนายกรัฐมนตรีให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา นํากลับไปปรับแผนและรายละเอียดงบประมาณใหม่
|
3/1/2023
|
ภาคกลางและปริมณฑล
|
กรุงเทพมหานคร
|
Radio-สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230103090703557
| null |
หากการอภิปรายทั่วไป ภายใต้ยุทธการ “ถอดหน้ากากคนดี” เข้า ครม.วันนี้จึงจะกำหนดวันได้
|
นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะกํากับดูแลฝ่ายกฎหมาย กล่าวถึงการอภิปรายทั่วไป ตามมาตรา 152 ภายใต้ยุทธการถอดหน้ากากคนดี ว่า หากสภาผู้แทนราษฎรส่งมาถึงคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ ก็จะมีการปรึกษาหารือทันที ว่าจะพร้อมไปชี้แจงต่อสภาเมื่อใด โดยตอนนี้ยังไม่สามารถคาดเดาได้ว่าจะเป็นช่วงใด เนื่องจากต้องถามความพร้อม ครม. ทั้งคณะ การอภิปรายครั้งนี้ ต่างจากการอภิปรายไม่ไว้วางใจที่ระบุเป็นตัวบุคคล แต่ครั้งนี้เป็นการอภิปรายทั่วไป ซึ่ง ครม.ทั้งคณะต้องไปตอบข้อซักถาม ทั้งนี้ หากสภายังไม่ส่งมา ก็ไม่เหมาะสมที่จะตีตนไปก่อนไข้ ส่วนกังวลหรือไม่กับการอภิปรายทั่วไปครั้งนี้ นายวิษณุ กล่าวว่า ไม่กังวล เนื่องจากเป็นเรื่องที่ทํากันมาทุกครั้ง ซึ่งตามกฎหมายระบุไว้ชัดว่า สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร สามารถสอบถามข้อเท็จจริง หรือให้ข้อเสนอแนะ ไม่กล่าวหาหรือโจมตี เหมือนการอภิปรายไม่ไว้วางใจ
|
3/1/2023
|
ภาคกลางและปริมณฑล
|
กรุงเทพมหานคร
|
Radio-สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230103093350566
| null |
รัฐบาลกำหนดให้ธุรกิจเช่าซื้อรถยนต์และจักรยานยนต์เป็นธุรกิจที่ควบคุมสัญญา มุ่งหวังช่วยให้ประชาชนที่เช่าซื้อยานพาหนะได้รับการคิดดอกเบี้ยที่เป็นธรรม
|
น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ รองโฆษกประจําสํานักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกฎหมายใหม่เพื่อประชาชนที่จะมีผลบังคับใช้ ในเดือนมกราคมและกุมภาพันธ์ 2566 นี้ คือ ประกาศคณะกรรมการว่าด้วยสัญญา เรื่อง การ ให้ธุรกิจเช่าซื้อรถยนต์และจักรยานยนต์เป็นธุรกิจที่ควบคุมสัญญา พ.ศ.2565 รวมถึงพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ (ฉบับที่ 23) พ.ศ. 2565 ว่าด้วยเรื่องหุ้นส่วนบริษัท ซึ่งกฏหมายทั้ง 2 ฉบับนี้ จะช่วยให้ประชาชนที่เช่าซื้อยานพาหนะต่างๆ ได้รับการคิดดอกเบี้ยที่เป็นธรรมกว่าเดิม ขณะที่ผู้ประกอบการและผู้ทําธุรกิจจะได้รับประโยชน์ด้านการอํานวยความสะดวกในการประกอบธุรกิจทั้งนี้ การปรับปรุงกฎหมายให้ทันสมัย เป็นแนวทางที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้ให้ความสําคัญและติดตามให้มีการดําเนินการปรับปรุงมาอย่างต่อเนื่อง และเพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับทุกคนในสังคม
|
3/1/2023
| null |
กรุงเทพมหานคร
|
Radio-สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230103200807794
| null |
รัฐมนตรีกระทรวงยุติธรรม ชวนวัดไอคิวเด็กฟรีที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ วางแผนพัฒนาศักยภาพลูกได้ถูกทาง
|
นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวว่า สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ เปิดให้ผู้ปกครองพาบุตรหลานเข้าทดสอบวัดระดับเชาวน์ปัญญาเด็กและเยาวชน ตั้งแต่อายุ 6 - 16 ปี 11 เดือน โดยไม่มีค่าใช้จ่าย เพื่อให้เข้าใจศักยภาพ ลักษณะเฉพาะตัวและจุดเด่นของเด็กเพื่อวางแนวทางส่งเสริมพัฒนาเด็กได้อย่างเหมาะสม ผ่านแบบทดสอมาตรฐานและนักจิตวิทยาคลินิก ผู้มีใบประกอบโรคศิลป์สามารถโทรนัดวันเวลาได้จนถึง 3 ม.ค.นี้ ที่โทร. 0-2142-3594, 0-2142-3630 และเข้ารับทดสอบตั้งแต่วันที่ 2 ม.ค.- 2 มี.ค.66 ทราบผลการทดสอบในอีก 7 วัน
|
3/1/2023
| null |
กรุงเทพมหานคร
|
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230103100813578
| null |
หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ มั่นใจ พรรคประชาธิปัตย์ มีสิทธิ์ชนะการเลือกตั้งครั้งหน้า โดยเฉพาะพื้นที่ภาคใต้
|
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ มั่นใจว่าการเลือกตั้งครั้งหน้า พรรคประชาธิปัตย์จะชนะการเลือกตั้ง จากปัจจัยที่พรรคเป็นสถาบันการเมืองที่จะนําประเทศไปสู่ความสําเร็จและแก้ปัญหาต่างๆ ได้ อีกทั้งพรรคได้เตรียมผู้สมัครไว้แล้วทั้งหมดแล้ว รวมถึงได้เปิดนโยบายของพรรค ในการเดินหน้าสร้างเงิน สร้างงานและสร้างชาตินอกจากนี้ ไม่กังวลเรื่องคะแนนเสียงในพื้นที่ภาคใต้ โดยยังมั่นใจว่าจะได้รับชัยชนะ ประมาณ 30-40 ที่นั่ง จาก 58 ที่นั่ง เพราะทั้งผู้สมัครเก่าและใหม่ ช่วยกันลงพื้นที่อย่างต่อเนื่อง ดังนั้นแม้ว่าจะมีสมาชิกพรรคบางคนย้ายไปสังกัดพรรคภูมิใจไทย ก็ไม่กังวล เพราะมีเพียง 1-2 คนเท่านั้น และส่วนใหญ่ยังมั่นคงอยู่กับพรรค ทั้งนี้ไม่ขอแสดงความเห็นว่านางสาวรังสิมา รอดรัศมี ส.ส.สมุทรสงคราม พรรคประชาธิปัตย์ จะย้ายพรรคหรือไม่ เพราะอาจจะส่งผลกระทบ แต่ก็ยอมรับจะมีการย้ายพรรคบ้าง แต่มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้น ขณะนี้จึงไม่มีอะไรที่จะกระทบเป้าหมายของพรรคที่วางไว้
|
3/1/2023
|
ภาคกลางและปริมณฑล
|
กรุงเทพมหานคร
|
Radio-สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230103101427580
| null |
นายกฯ ขื่นชมนักกีฬายกน้ำหนักไทย ทำผลงานยอดเยี่ยมคว้า 6 เหรียญทอง จากการแข่งขัน 7th Qatar Cup ที่กรุงโดฮา ประเทศกาตาร์
|
นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจําสํานักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ยินดีที่ได้ทราบว่า นักกีฬายกน้ําหนักไทยทําผลงานได้ดีเยี่ยม ชนะการแข่งขันได้รับเหรียญทองแล้ว 6 รายการ จากการแข่งขัน 7th Qatar Cup ที่กรุงโดฮา ประเทศกาตาร์ ระหว่างวันที่ 30 ธันวาคม 2565 ถึง 4 มกราคม 2566 การแข่งขันครั้งนี้ ประเทศไทยส่ง นักกีฬาเข้าร่วมจํานวน 3 คน โดยนักกีฬายกน้ําหนักไทย สามารถทําผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม ได้ 3 เหรียญทอง ในรุ่น 49 กิโลกรัมหญิง จาก สุรจนา คําเบ้า และ 3 เหรียญทอง ในรุ่น 81 กิโลกรัมหญิง จาก สิริยากร ไขพันดุง ทั้งนี้ ประเทศไทยยังมีลุ้นเหรียญรางวัลเพิ่มเติม จาก รุ่งสุริยา ปัญญะ ในรุ่น 109 กิโลกรัมชาย ที่จะแข่งขันในวันนี้ (3 มกราคม 2566) เวลา 22.00น ตามเวลาประเทศไทย นายกรัฐมนตรี ชื่นชมผลงานนักกีฬายกน้ําหนักไทย ถือว่าเป็นอีกครั้งหนึ่งที่นักกีฬาไทย สามารถทําผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม พร้อมเชิญชวนคนไทย ร่วมเชียร์ให้กําลังใจนักกีฬาไทยจนจบการแข่งขัน
|
3/1/2023
|
ภาคกลางและปริมณฑล
|
กรุงเทพมหานคร
|
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230103145628697
| null |
ปภ. เน้นย้ำให้จังหวัดเข้มงวดควบคุมการใช้ความเร็วที่อาจก่อให้เกิดอุบัติเหตุรุนแรง ในช่วงการเดินทางกลับเข้ากรุงเทพฯ ขณะที่ ช่วง 5 วันของการรณรงค์เข้มข้น มีการเกิดอุบัติเหตุสะสมเกือบ 2,000 ครั้ง
|
นายบุญธรรม เลิศสุขีเกษม อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เปิดเผยว่า ศูนย์อํานวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ พ.ศ.2566 สรุปสถิติอุบัติเหตุทางถนนประจําวันที่ 2 มกราคม 2566 เกิดอุบัติเหตุ 294 ครั้ง ผู้บาดเจ็บ 295 คน ผู้เสียชีวิต 40 ราย ทําให้อุบัติเหตุทางถนนสะสมในช่วง 5 วันของการรณรงค์ (29 ธ.ค.65 – 2 ม.ค.66) เกิดอุบัติเหตุรวม 1,960 ครั้ง ผู้บาดเจ็บรวม 1,938 ราย และผู้เสียชีวิตรวม 263 ราย โดยจังหวัดที่ไม่มีผู้เสียชีวิต (ตายเป็นศูนย์) มี 6 จังหวัด ได้แก่ นราธิวาส บึงกาฬ พังงา ยะลา สตูล และสุโขทัย ขณะที่ จังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุและมีผู้บาดเจ็บสะสมสูงสุด คือ นครศรีธรรมราช จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสะสมสูงสุด คือ เชียงราย ซึ่งสาเหตุที่ทําให้เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ยังคงเป็น ขับรถเร็ว และดื่มแล้วขับ ส่วนยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด คือ รถจักรยานยนต์ ส่วนใหญ่เกิดบนเส้นทางตรงอย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบสภาพการจราจร พบว่า บางเส้นทางสายหลัก ยังคงมีปริมาณการจราจรหนาแน่น ขณะที่หลายเส้นทาง ปริมาณรถเริ่มเบาบาง โดยเฉพาะ ถนนสายหลักของจังหวัดใหญ่และเส้นทางจากภูมิภาคต่าง ๆ เข้าสู่กรุงเทพฯ ทําให้ผู้ขับขี่สามารถใช้ความเร็วสูง ศูนย์อํานวยการความปลอดภัยทางถนน จึงเน้นย้ําให้จังหวัดเข้มงวดควบคุมการใช้ความเร็วที่อาจก่อให้เกิดอุบัติเหตุรุนแรง พร้อมดูแลความปลอดภัยในการเดินทางของประชาชนต่อเนื่อง รวมถึงคุมเข้มพฤติกรรมเสี่ยงอุบัติเหตุทั้งขับรถเร็ว ดื่มแล้วขับ และการไม่คาดเข็มขัดนิรภัย ตลอดจนกําชับให้เจ้าหน้าที่ประจําจุดตรวจกวดขันเรียกตรวจยานพาหนะ เพื่อชะลอความเร็วรถและประเมินความพร้อมของผู้ขับขี่ เพื่อป้องกันอุบัติเหตุจากการง่วงหลับใน
|
3/1/2023
| null |
กรุงเทพมหานคร
|
สวท.จันทบุรี
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230103112157613
| null |
นายกรัฐมนตรี ยืนยันเตรียมมาตรการรองรับนักท่องเที่ยวจีนแล้ว ขอให้เชื่อมั่นมาตรการสาธารณสุข
|
พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีวันนี้พิจารณาหลายเรื่องและทบทวนว่าที่ผ่านมามีปัญหาอะไรบ้าง เพื่อแก้ไขอย่างตรงจุด โดยเฉพาะเรื่องโครงสร้าง กลไก และกฎหมายต่างๆ เพื่อประโยชน์ของประชาชน ขณะเดียวกันรัฐบาลต้องการให้ประชาชน และประเทศมีรายได้ที่สูงขึ้น เพราะหากทั้ง 2 สิ่งยังไม่สมดุลกันก็จะเกิดปัญหา ดังนั้นยืนยันจะพยายามดูแลทุกกลุ่มให้ดีที่สุด แต่สิ่งสําคัญคือ ทุกคนต้องร่วมมือกัน จึงจะเดินหน้าต่อไปได้สําหรับมาตรการรองรับนักท่องเที่ยวชาวจีน ที่จะเปิดประเทศในวันที่ 8 ม.ค.นี้ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลได้เตรียมมาตรการไว้พร้อมแล้ว โดยกระทรวงสาธารณสุขและคณะแพทย์ ได้กําหนดมาตรการในการดูแลโควิด-19 อยู่แล้ว ขณะเดียวกันหลายประเทศก็กําลังเตรียมการรองรับนักท่องเที่ยวจีนเช่นกัน ซึ่งมาตรการอาจจะมีความเหมือนหรือแตกต่างกันบ้าง เพราะมาตรฐานในการดูแลรักษาพยาบาลของแต่ละประเทศไม่เท่าเทียมกัน ซึ่งของไทยนั้นอยู่ในระดับที่ดีมากหรือเกรดเอ จึงขอให้เชื่อมั่น เนื่องจากการท่องเที่ยวถือว่าเป็นรายได้ให้กับประเทศไทยในช่วงนี้ นอกจากนี้ขอให้ทุกคนเน้นย้ําการปฎิบัติตามมาตรการป้องกันตนเองอย่างเคร่งครัด หากเจ็บป่วยก็รักษาพยาบาล ซึ่งไทยถือว่ามีประสบการณ์ด้านนี้และต่างประเทศก็ได้นําไปเป็นแบบอย่างด้วยส่วนการค้นหาลูกเรือหลวงสุโขทัยที่ยังสูญหายอีก 5 ราย นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ได้สั่งการให้ค้นหาจนกว่าจะเจอทุกคน ส่วนการสอบสวนให้ดําเนินการตามขั้นตอนโอกาสนี้นายกรัฐมนตรีกล่าวสวัสดีปีใหม่ ผู้สื่อข่าวประจําทําเนียบรัฐบาล ขอให้ทุกคนมีความสุข สุขภาพแข็งแรง ขอให้ช่วยกันพัฒนาบ้านเมือง สร้างความเข้าใจ ในเรื่องที่สําคัญๆ ด้วย
|
3/1/2023
|
ภาคกลางและปริมณฑล
|
กรุงเทพมหานคร
|
Radio-สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230103153039714
| null |
เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ ระบุ แคนดิเดต นายกรัฐมนตรี ของพรรคจะมีความชัดเจนหลังการประชุมปรับโครงสร้างพรรค
|
นายสันติ พร้อมพัฒน์ เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ เปิดเผยว่า เร็วๆ นี้ พรรคจะมีการประชุมเพื่อปรับโครงสร้างพรรค ซึ่งจะมีการแต่งตั้งบุคคลเพื่อทดแทนผู้ที่ลาออกไป เป็นการเสริมกําลังให้กับพรรค รวมถึงนายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ ยังคงอยู่และทํางานกับพรรค แต่ยังไม่ชัดเจนว่าจะอยู่ในโครงสร้างของพรรคในการปรับครั้งนี้หรือไม่ เพราะมีบุคคลอื่นที่มีความรู้ ความสามารถด้านเศรษฐกิจเข้ามา และข่าวที่บอกว่า นายมิ่งขวัญ ลาออกจากพรรคนั้น คงเป็นเพียงเฟคนิวส์สําหรับรายชื่อแคนดิเดต ของพรรคพลังประชารัฐ จะเป็นพลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เพียงคนเดียวหรือไม่ ขึ้นอยู่กับที่ประชุมกรรมการบริหารพรรค ที่จะมีการประชุมหลังได้คณะทํางานต่างๆ ซึ่งน่าจะได้ความชัดเจนและประกาศให้ทุกคนได้รับทราบเร็วที่สุด หรือประมาณใกล้ๆ สิ้นเดือนมกราคมนี้ ซึ่งโดยส่วนตัวเห็นว่า เพื่อความเป็นเอกภาพก็จะมีแคนดิเดตเพียงคนเดียว เพราะจะทําให้เกิดเอกภาพมากที่สุดและทุกอย่างเป็นไปในทิศทางเดียว เชื่อว่า จะไม่ตัดคะแนนกันเองกับพรรครวมไทยสร้างชาติที่จะเสนอชื่อ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นแคนดิเดต เพราะพลเอก ประวิตร เน้นไปที่พี่น้องประชาชนทุกคนในชนบท ที่ได้ลงไปแก้ไขปัญหา ทั้งที่ดินทํากิน ที่อยู่อาศัย ปัญหาปากท้องและเพิ่มศักยภาพให้กับเยาวชนและแรงงาน ซึ่งส่วนตัวยังมั่นใจว่า พรรคพลังประชารัฐจะได้ ส.ส. ตามเป้าที่เคยคาดการณ์ไว้ไม่ต่ํากว่า 150 ที่นั่ง ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับประชาชนขณะนี้ไม่สามารถประเมินได้ แต่ยังคงเชื่อมั่นอยู่ โดยเฉพาะการแก้ไขปัญหาน้ํา ที่ทําให้ปีที่ผ่านมาประเทศไม่ประสบภาวะภัยแล้ง รวมถึงที่ดินทํากิน ที่อยู่อาศัย ที่ดินทับซ้อนและกําลังจะเดินหน้าแก้ไขปัญหาดังกล่าว ด้วยการ one map 4 ภาคทั่วประเทศ ที่ขณะนี้เดินหน้าเรียบร้อยแล้ว 2 ภาค อีกทั้ง พลเอก ประวิตร มีท่าทีและบุคลิกที่ประนีประนอมทําให้เป็นที่ยอมรับจากทุกภาคส่วน ทั้งพ่อค้า นักธุรกิจ นักลงทุน ชาวนา ทุกคนชื่นชอบส่วนพรรคพลังประชารัฐ จะไปจับขั้วหลังการเลือกตั้งกับพรรคการเมืองใดนั้น คงขึ้นอยู่กับประชาชน แต่พรรคพลังประชารัฐ จะทํางานร่วมกับทุกพรรคที่ทํางานให้กับประชาชนได้ ตามนโยบายอยู่ดี กินดี ของพรรคขณะที่การยื่นขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจแบบไม่ลงมติตามมาตรา 152 ของฝ่ายค้าน จะเป็นผลดีหรือผลเสียกับรัฐบาลหรือไม่ ในช่วงปลายสมัยของรัฐบาล นายสันติ เชื่อว่า ไม่เสีย เมื่อฝ่ายค้านถามมาก็ตอบไปด้วยเหตุและผล ซึ่งผลงานช่วงวิกฤตโควิดที่ผ่านมา รัฐบาลนําพาประเทศ ทําให้พื้นฐานทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งและฟื้นตัวเร็ว และเชื่อมั่นว่า รัฐมนตรีทุกคนที่ถูกถามจะตอบได้เพราะทุกคนมีผลงาน
|
3/1/2023
|
ภาคกลางและปริมณฑล
|
กรุงเทพมหานคร
|
Radio-สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230103190049776
| null |
ผบ.ทร. เผย การสอบสวนสาเหตุเรือหลวงสุโขทัยอับปางต้องใช้เวลา พร้อมตั้งคณะกรรมการสอบสวนทางละเมิดกรณีเรือหลวงสุโขทัยอับปาง
|
พลเรือเอก เชิงชาย ชมเชิงแพทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ เปิดเผยถึงความคืบหน้าการสอบสวนสาเหตุเรือหลวงสุโขทัยอับปาง ว่า ขณะนี้คณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงกรณีเรือหลวงสุโขทัยอับปาง ทั้ง 2 คณะ อยู่ระหว่างสอบสวนข้อเท็จจริง จําเป็นต้องใช้เวลาและทางกองทัพเรือก็ไม่ได้เร่งรัดผลสรุปแต่อย่าใด ซึ่งทางคณะกรรมการฯ ต้องสอบสวนลูกเรือที่รอดชีวิต และบุคคลภายนอก ทั้งเรือสินค้าเอกชน เรือประมงที่เข้ามาช่วยเหลือกําลังพล รวมถึงข้อมูลที่ต้นกลเรือหลวงสุโขทัยไม่ได้เดินทางไปด้วยจะอยู่ในการสอบสวนทั้งหมดสวนความผิดที่เกิดขึ้นจากเหตุเรือหลวงสุโขทัยอับปาง ได้มีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนทางละเมิดขึ้นเพื่อพิจารณาเพื่อว่าจะมีต้องมีผู้รับผิดทางละเมิดหรือไม่ โดยจะมีการนําเสนอเรื่องให้กับผู้บังคับบัญชาตามระดับชั้นต่อไปขณะที่แนวทางการกู้เรือหลวงสุโขทัย ขณะนี้ได้มีการตั้งคณะกรรมการพิจารณาการกู้เรือ โดยมีผู้บัญชาการกองเรือยุทธการเป็นประธานคณะกรรมการ ซึ่งได้มีการประชุมและสํารวจบริเวณใต้น้ําในจุดที่เรือจม รวมถึงวางแผนในการกู้เรือ ซึ่งต้องใช้เวลา เพราะต้องไปดูวิธี เทคนิคและบริษัทที่ดําเนินการ รวมถึงงบประมาณที่ใช้ด้วย ทั้งนี้ ยืนยันว่า เครื่องยนต์ที่ใช้ในเรือหลวงสุโขทัย ไม่ใช่เครื่องยนต์รุ่นเดียวกับที่จะนํามาใช้ในเรือดําน้ํา
|
3/1/2023
| null |
กรุงเทพมหานคร
|
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230103144545693
| null |
ครม. เห็นชอบแผนเฉพาะกิจแก้ไขปัญหามลพิษด้านฝุ่นละออง เน้น “สื่อสารเชิงรุก ยกระดับปฏิบัติการ สร้างการมีส่วนร่วม”
|
นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจําสํานักนายกรัฐมนตรี แถลงว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี เห็นชอบแผนเฉพาะกิจเพื่อการแก้ไขปัญหามลพิษด้านฝุ่นละออง ปี 2566 ประกอบด้วยแนวทางการดําเนินงาน 7 แนวทาง ภายใต้กรอบ “สื่อสารเชิงรุก ยกระดับปฏิบัติการ สร้างการมีส่วนร่วม” เพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งรัดดําเนินการแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองโดยเฉพาะในช่วงเกิดสถานการณ์คือ เร่งประชาสัมพันธ์เชิงรุกและแจ้งเตือนล่วงหน้า 7 วัน ทุกพื้นที่ ยกระดับมาตรการการดําเนินงานตามแผนปฏิบัติการขับเคลื่อนวาระแห่งชาติ “การแก้ไขปัญหามลพิษด้านฝุ่นละออง” เตรียมความพร้อมกําลังพล บุคลากร อุปกรณ์เครื่องมือให้พร้อมใช้งานตลอดเวลา เพิ่มความเข้มงวดในการควบคุมฝุ่นละอองจากยานพาหนะและภาคอุตสาหกรรมยกระดับการบริหารจัดการเชื้อเพลิงแบบครบวงจร [ชิงเก็บ ลดเผา และระบบบริการการเผาในที่โล่ง] กํากับ ดูแลการดําเนินการในทุกระดับอย่างเข้มงวด ติดตามผลการดําเนินการและประเมินสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง โดยปฏิบัติการเชิงรุก เพิ่มการลงพื้นที่ควบคุมและลดฝุ่นจากแหล่งกําเนิดต่างๆ และบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวดกับผู้ที่ไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย จัดให้มีแพลตฟอร์ม ศูนย์รวมข้อมูลหรือช่องทางที่ประชาชนสามารถเข้าถึงข้อมูลหรือแจ้งเหตุด้านมลพิษ และติดตามการแก้ไขปัญหาของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ ลดจุดความร้อน ป้องกันและควบคุมการเกิดไฟในทุกพื้นที่และพัฒนา ระบบพยากรณ์ความรุนแรงและอันตรายของไฟ ผลักดันกลไกระหว่างประเทศเพื่อให้การป้องกันและแก้ไขปัญหา หมอกควันข้ามแดนมีประสิทธิภาพสูงสุด โดยจัดทํา Roadmap และกําหนด เป้าหมายการลดจํานวนจุดความร้อน/พื้นที่เผาไหม้ในภูมิภาคอาเซียน ให้ทุกภาคส่วนเข้ามามีส่วนร่วมวางแผนและดําเนินการป้องกัน และแก้ไขปัญหาหมอกควัน ไฟป่า และฝุ่นละออง สร้างความเข้าใจ กับประชาชน เปิดโอกาสและสร้างช่องทางให้ทุกภาคส่วนมีส่วนร่วม โดยเฉพาะหน่วยงาน ท้องถิ่น ชุมชน และผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในพื้นที่นอกจากนี้ แผนเฉพาะกิจฯ ปี 2566 นี้ มาจากการถอดบทเรียนการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควันและฝุ่นละออง ปี 2565 โดยปรับปรุงแนวทางการปฏิบัติให้เหมาะสมและมีประสิทธิภาพมากขึ้น ยกระดับความเข้มงวดในการดําเนินมาตรการต่างๆ เน้นประชาสัมพันธ์เชิงรุกผ่านสื่อใหม่มากขึ้น รวมถึงส่งเสริมให้ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องและประชาชนได้มีส่วนร่วมในการดําเนินการป้องกันแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควันและฝุ่นละอองด้วย
|
3/1/2023
|
ภาคกลางและปริมณฑล
|
กรุงเทพมหานคร
|
Radio-สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230103152108709
| null |
ครม. มอบของขวัญปีใหม่ 2566 ให้แก่พี่น้องจังหวัดชายแดนใต้ มุ่งหวังยกระดับคุณภาพชีวิต
|
นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจําสํานักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรี รับทราบของขวัญปีใหม่ 2566 ของคณะกรรมการยุทธศาสตร์ด้านการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ แบ่งเป็น 4 ด้าน ดังนี้ 1.ด้านการพัฒนาที่สอดคล้องกับความต้องการของประชาชน ประกอบด้วย การสนับสนุนอาหาร วิตามินเสริม และบริการทางสุขภาพแม่และเด็ก การสนับสนุนอาหารกลางวันให้แก่โรงเรียน การส่งเสริมการเรียนรู้และพัฒนาทักษะการเรียนรู้ภาษา เพื่อรองรับการประกอบอาชีพในอนาคต และการแก้ไขปัญหาครัวเรือนยากจนที่ยั่งยืนส่วนด้านที่ 2 คือ การส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชนทุกภาคส่วนในการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ 3.ด้านการผลักดันจังหวัดชายแดนภาคใต้ไปสู่ "มหานครแห่งอาหารและบริการฮาลาล สู่ ตลาดโลก" และ 4.ด้านการเสริมสร้างพหุสังคมที่เข้มแข็ง
|
3/1/2023
| null |
กรุงเทพมหานคร
|
Radio-สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230103150246700
| null |
ที่ประชุม ครม. เห็นชอบแผนพัฒนาการท่องเที่ยวแห่งชาติ ฉบับที่ 3 พ.ศ. 2566-70
|
น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจําสํานักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) พิจารณาเห็นชอบและประกาศใช้แผนพัฒนาการท่องเที่ยวแห่งชาติ ฉบับที่ 3 (พ.ศ. 2566-70) หรือ แผนพัฒนาการท่องเที่ยว ฉบับที่3 เพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องใช้เป็นแนวทางในการจัดทําแผนงานเพื่อขับเคลื่อนการท่องเที่ยวในทุกระดับตั้งแต่ระดับชาติ ระดับพื้นที่ และท้องถิ่นให้เป็นไปในทิศทางเดียวกันต่อไป โดยแผนนี้จะเป็นกรอบการพัฒนาด้านการท่องเที่ยวของประเทศไทยภายหลังสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคโควิด19 ซึ่งจะมีทั้งมิติการพัฒนา และการแก้ไข ฟื้นฟูภาคการท่องเที่ยว เพื่อเปลี่ยนแปลงและพัฒนาอุตสาหกรรมให้สอดรับกับความปกติถัดไป(Next Normal) แผนมีระยะเวลา 5 ปี มีวิสัยทัศน์ตามแผนคือ "การท่องเที่ยวของประเทศไทยเป็นอุตสาหกรรมที่เน้นคุณค่า มีความสามารถในการปรับตัว เติบโตอย่างยั่งยืนและมีส่วนร่วม"น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า แผนพัฒนาการท่องเที่ยว ฉบับที่ 3 มีเป้าหมายหลัก คือ การท่องเที่ยวไทยต้องมีความเข้มแข็งและสมดุล ยกระดับการเชื่อมโยงโครงสร้างพื้นฐานด้านการท่องเที่ยว สร้างความเชื่อมั่นและมอบประสบการณ์ท่องเที่ยวคุณค่าสูง และการบริหารจัดการการท่องเที่ยวที่ยั่งยืน เป้าหมายรอง คือ การพัฒนาปัจจัยสนับสนุนด้านการท่องเที่ยวให้มีคุณภาพสูงทุกกลุ่ม ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลและโครงสร้างพื้นฐานด้านข้อมูลส่งเสริมภาคการท่องเที่ยว มีความพร้อมในการรับมือและจัดการความเสี่ยงทุกรูปแบบเสมอ มีตัวชี้วัดสําคัญในระยะ 5 ปี เช่น สัดส่วนจีดีพีด้านการท่องเที่ยวต่อจีดีพีประเทศไม่ต่ํากว่าร้อยละ 25, จํานวนธุรกิจบริการท่องเที่ยวและแหล่งท่องเที่ยวได้รับการรับรองมาตรฐานการท่องเที่ยวไทย และอาเซียนเพิ่มขึ้นปีละไม่ต่ํากว่า 3,000 ราย โดยดําเนินการผ่าน 4 ยุทธศาสตร์ ได้แก่ ยุทธศาสตร์ ที่ 1 เสริมสร้างความเข้มแข็งและภูมิคุ้มกันของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไทย ยุทธศาสตร์ ที่ 2 พัฒนาปัจจัยพื้นฐานอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวให้มีคุณภาพสูงยุทธศาสตร์ ที่ 3 ยกระดับประสบการณ์ด้านการท่องเที่ยว ยุทธศาสตร์ ที่ 4 ส่งเสริมการพัฒนาการท่องเที่ยวที่ยั่งยืนสําหรับการขับเคลื่อนแผนนั้น จะมีการขับเคลื่อนผ่าน 3 ระดับ ได้แก่ ระดับชาติ ผ่านคณะกรรมการนโยบายการท่องเที่ยวแห่งชาติ(ท.ท.ช.), ระดับพื้นที่ ผ่านคณะกรรมการพัฒนาการท่องเที่ยวประจําเขตพัฒนาการท่องเที่ยว คณะกรรมการบริหารงานจังหวัดแบบบูรณาการ และคณะกรรมการบริหารงานกลุ่มจังหวัดแบบบูรณาการ รวมทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและเอกชน และ ระดับท้องถิ่น ผ่าน กลุ่ม/องค์กร หรือเครือข่ายองค์กร ส่วนการติดตามและประเมินผลตามแผนนั้น ประกอบด้วยการประเมินผลรายปี ในส่วนของการดําเนินการตามเป้าหมายและตัวชี้วัดหลัก, รายยุทธศาสตร์ และรายโครงการ รวมถึงการประเมินผลในแต่ละระยะแบ่งเป็น ระยะที่ 1 สําหรับการดําเนินการตามแผนในปีที่ 1-2 (2566-67) และระยะที่ 2 สําหรับการดําเนินการตามแผนในปีที่ 3-5 (2568-70)
|
3/1/2023
|
ภาคกลางและปริมณฑล
|
กรุงเทพมหานคร
|
Radio-สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230103150541702
| null |
รอง ผบช ตชด ตรวจเยี่ยมบำรุงขวัญกำลังพล ณ ฐานปฏิบัติการกำลังพลภาคใต้
|
พล.ต.ต.สุนทร เฉลิมเกียรติ รองผู้บัญชาการตํารวจตระเวนชายแดน (ผบช.ตชด.) ตรวจราชการพื้นที่ภาคใต้ ได้เดินทางมาตรวจเยี่ยมมอบของสําหรับกําลังพลที่ปฏิบัติหน้าที่ เพื่อเป็นขวัญและกําลังใจ มอบเหรียญที่ละลึก 80 ปี พระราชวรธรรมโกศล 2552 วัดธรรมโฆษณ์ จังหวัดสงขลาให้กับเจ้าหน้าที่ทุกนาย พร้อมอวยพรในช่วงปีใหม่ วันนี้ที่ 2 มกราคม 2566 พล.ต.ต.สุนทร เฉลิมเกียรติ รองผู้บังคับบัญชาตํารวจตระเวนชายแดน (ผบช.ตชด.) ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมอาคารการซ่อมอาคารที่พัก ที่จังหวัดนราธิวาส พร้อมคณะที่ถูกคนร้ายได้ก่อเหตุลอบวางระเบิดได้รับความเสียหาย จนเจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต และเดินทางโดยรถยนต์ไปยังประจําจุดบริการประชาชน ตํารวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง สาธารณสุข หน้าปั๊ม ปตท.ปลัดปลา อําเภอเมือง จังหวัดนราธิวาส ฟังบรรยายสรุปคดีระเบิดแฟลตตํารวจ และคดีลอบวางระเบิดทางรถไฟ พื้นที่ จังหวัดสงขลา โดยมี พล.ต.ต.สมกูล กาญจนอุดมการณ์ ผบก.ตชด.ภาค 4, พ.ต.อ.เสกสรร อินทรสิทธิ์ รอง ผบก.ตชด.ภาค 4 พ.ต.อ.ยงศักดิ์ รัตนดิลก ณ ภูเก็ต ผกก.ตชด. 43 และ พ.ต.ท.วิษณุ ชนะอักษร ผบ.ฉก.ตชด. 43 ให้การต้อนรับ หลังจากนั้นได้เดินทางต่อด้วยเฮลิคอปเตอร์สํานักงานตํารวจแห่งชาติ มาลงที่กองร้อยตํารวจตระเวนชายแดนที่ 433 กองกํากับการตํารวจตะเวนชายแดนที่ 43 อําเภอนาทวี จังหวัดสงขลาและได้เดินทางโดยรถยนต์ไปตรวจเยี่ยมมอบของสําหรับกําลังพลที่ปฏิบัติหน้าที่กองร้อยเฉพาะกิจตํารวจตระเวนชายแดนที่ 431 ตําบลปลักหนู อําเภอนาทวี จังหวัดสงขลา ได้ให้โอวาสโดยเน้นย้ําในออกปฏิบัติหน้าที่ต้องมีความพร้อม เสื้อเกราะ อาวุธ กระสุน ความรักความสามัคคี ดูแลเรื่องสวัสดิการของกําลังพล ปฏิบัติตามนโยบายของ ผบ.ตร. และห้ามยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด สิ่งผิดกฎหมายทุกชนิด และมอบของสําหรับกําลังพลที่ปฏิบัติหน้าที่ เพื่อเป็นขวัญและกําลังใจ และมอบเหรียญที่ละลึก 80 ปี พระราชวรธรรมโกศล 2552 วัดธรรมโฆษณ์ จังหวัดสงขลา ให้กับเจ้าหน้าที่ทุกนาย พร้อมอวยพรให้เจ้าหน้าที่ทุกนายประสบแต่ความสําเร็จตลอดไป หลังจากได้มอบหมายจากผู้บัญชาการตํารวจตระเวนชายแดน ให้มาตรวจเยี่ยมบํารุงขวัญให้กับเจ้าหน้าที่ ในพื้นที่ 3 จังหวัด 4 อําเภอในจังหวัดสงขลา ตามนโยบายของ ผู้บัญชาการตํารวจแห่งชาติ ซึ่งในห่วงปีใหม่ ให้ผู้บังคับบัญชาทุกหน่วยลงมาเยี่ยมผู้ปฏิบัติงานในพื้นที่ ในส่วนที่ผมรับผิดชอบในด้านความมั่นคงและการป้องกันแนวชายแดน ของ ตชด. ภ.4 ซึ่งผมได้เดินทางมาตั้งแต่วันที่ 30 ธันวาคม 2564 และได้เดินทางตรวจเยี่ยมหน่วย ที่จังหวัด ยะลา นราธิวาส ปัตตานี และในพื้นที่ 4 อําเภอ จังหวัดสงขลา ซึ่งในช่วงก่อนปีใหม่ได้มีเหตุการณ์คนร้ายลอบวางระเบิด ลอบยิงฐานปฏิบัติการเพื่อสร้างสถานการณ์ในช่วงเทศกาลปีใหม่ ทําให้เจ้าหน้าที่แต่ละหน่วย แต่ละจังหวัดได้มีมาตรการป้องกันตั้งจุดตรวจ จุดสกัดมาอย่างต่อเนื่องทางด้าน พล.ต.อ. ดํารงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตํารวจแห่งชาติ ได้มอบนโยบายให้หัวหน้าหน่วย มาเยี่ยมบํารุงขวัญ ให้กําลังใจมอบสิ่งของมาให้กับเจ้าหน้าที่ทุกหน่วยที่ปฏิบัติงานในพื้นที่ภาคใต้#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
|
3/1/2023
|
ภาคใต้
|
นราธิวาส
|
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนราธิวาส
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230103151144704
| null |
ครม. เห็นชอบแผนปฏิบัติการด้านการศึกษาอาเซียน - รัสเซีย ยกระดับความร่วมมือการศึกษาไทยกับนานาชาติ
|
นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจําสํานักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า คณะรัฐมนตรี เห็นชอบแผนปฏิบัติการด้านการศึกษาอาเซียน - รัสเซีย พ.ศ.2565-2569 (ASEAN - Russian Federation Plan of Action on Education 2022 - 2026) แผนปฏิบัติการนี้จัดทําขึ้นโดยคณะทํางานด้านการศึกษาอาเซียน - รัสเซีย เพื่อเสริมสร้างความร่วมมือด้านการศึกษาระหว่างอาเซียนกับรัสเซีย โดยมีกลไกการดําเนินกิจกรรมผ่านคณะทํางานด้านการศึกษาอาเซียน - รัสเซีย ซึ่งจะมีการจัดประชุมคณะทํางานครั้งต่อไปในปี 2567 โดยไทยเป็นประธานร่วมกับรัสเซียสําหรับแผนปฏิบัติการด้านการศึกษาอาเซียน - รัสเซีย พ.ศ.2565 - 2569 มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นแนวทางการดําเนินงาน ตรวจสอบ และประเมินกิจกรรมที่จะเสริมสร้างความร่วมมือด้านการศึกษาระหว่างอาเซียนกับรัสเซีย โดยจะขับเคลื่อนแผนปฏิบัติการผ่าน 5 ยุทธศาสตร์ ดังนี้เสริมสร้างและพัฒนากิจกรรมร่วมทางการศึกษา เสริมสร้าง พัฒนา และส่งเสริมความเชื่อมโยงระหว่างประชาชน และภาควิชาการ ส่งเสริมความร่วมมือระหว่างภาครัฐ สถาบันการศึกษา และภาคเอกชน สร้างเครือข่ายทางการศึกษาเพื่อยกระดับความร่วมมือระหว่างประเทศ เสริมสร้างยุทธศาสตร์ความร่วมมือระหว่างอาเซียน - รัสเซียส่วนประโยชน์ที่ไทยจะได้รับจากแผนปฏิบัติการฉบับนี้ คือ นักเรียนและเยาวชนไทยจะได้รับโอกาสในการพัฒนาด้านวิชาการ ศิลปวัฒนธรรมและทักษะในการใช้ชีวิต ตลอดจนเสริมสร้างเครือข่ายความร่วมมือระหว่างสถาบันการศึกษาในการพัฒนาการศึกษาและการเรียนรู้ระหว่างกัน และส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างประเทศสมาชิกอาเซียนและรัสเซีย
|
3/1/2023
| null |
กรุงเทพมหานคร
|
Radio-สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230103151613707
| null |
ผู้บัญชาการทหารบก ระบุ ปี 2566 ให้กำลังพลปฏิบัติหน้าที่ให้ดีที่สุด สร้างความเข้มแข็งให้กองทัพ สร้างความเชื่อมั่นศรัทธาให้กับประชาชน
|
พลเอก ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก ประชุมกับหน่วยทหารทั่วประเทศผ่านระบบวีดีโอคอนเฟอร์เรนซ์ โดยได้กล่าวขอบคุณในการปฏิบัติงานในช่วงเทศกาลปีใหม่ทั้งเรื่องการรักษาความสงบเรียบร้อยและรักษาความปลอดภัย การตั้งจุดบริการประชาชนร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ใน 86 จุดทั่วประเทศ มีประชาชนเข้ามารับบริการรวม 8,749 คน รวมถึงการที่กําลังพลของกองทัพบกตระหนักถึงความปลอดภัยในการเดินทาง ทําให้จํานวนอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นกับกําลังพลของกองทัพบกในเทศกาลปีใหม่ลดลงอย่างมากเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา นอกจากนี้ยังมีกําลังพลที่ปฏิบัติภารกิจในพื้นที่ชายแดนโดยเฉพาะกองกําลังป้องกันชายแดนกองทัพบก ที่คอยสกัดกั้นและจับกุมยาเสพติดมาอย่างต่อเนื่อง สําหรับการปฏิบัติงานในปี 2566 นี้ ผู้บัญชาการทหารบกเน้นย้ําให้กําลังพลปฏิบัติงานตามหน้าที่และความรับผิดชอบให้ดีที่สุด สร้างความเข้มแข็งให้กับหน่วยทหารและกองทัพบก รวมถึงสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชน โดยเฉพาะการปฎิบัติภารกิจป้องกันประเทศและเป็นเกราะคุ้มครองปกป้องประชาชน
|
3/1/2023
| null |
กรุงเทพมหานคร
|
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230103200451792
| null |
กระทรวงมหาดไทย คุมเข้มป้องกันและแก้ไขปัญหาการทุจริตสวมบัตรประชาชน เน้นย้ำ เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน ต้องปฏิบัติตามระเบียบกฎหมายอย่างเคร่งครัด ตัดช่องทางการทุจริต
|
นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า ช่วงที่ผ่านมากระทรวงมหาดไทย ได้รับร้องเรียนปัญหาการทุจริตสวมตัวทําบัตรประชาชนอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดมีข่าวการทุจริตสวมตัวทําบัตรประชาชนของสํานักทะเบียนอําเภอแห่งหนึ่งของจังหวัดเชียงใหม่ หรือข่าวการจับกุมนายทุนจีนในพื้นที่อําเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี ดังนั้น เพื่อป้องกันการทุจริตในการทําบัตรประชาชนเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้น กระทรวงมหาดไทย จึงได้กําหนดมาตรการเพิ่มเติม ด้วยการพัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อป้องกันการทุจริตสวมตัวทําบัตรประชาชน โดยให้มีระบบยืนยันการอนุญาต ซึ่งพนักงานเจ้าหน้าที่ผู้อนุญาต ต้องสแกนลายนิ้วมือของตนเองในระบบทุกครั้ง ควบคู่กับการลงนามในเอกสาร เพื่อให้พนักงานเจ้าหน้าที่ผู้มีอํานาจอนุญาต เพิ่มความระมัดระวังในการพิจารณาอนุญาตมากขึ้นนอกจากนี้ เพื่อให้เกิดความรอบคอบ รัดกุม ในการตรวจสอบความน่าเชื่อถือของพยานเอกสารและพยานบุคคลผู้ให้การรับรองประกอบคําขอมีบัตรประชาชน 13 กรณี โดยเฉพาะ กรณีขอมีบัตรใหม่ หรือขอเปลี่ยนบัตร ที่มีความเสี่ยงต่อการทุจริตจัดทําบัตร หรือการจัดทําบัตรที่ต้องมีการสอบสวนทุกกรณี กรมการปกครอง ได้จัดทําระบบเฝ้าระวังตรวจสอบอีกทางหนึ่งด้วย
|
3/1/2023
| null |
กรุงเทพมหานคร
|
สวท.จันทบุรี
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230103194704784
| null |
จังหวัดนครราชสีมา สรุปอุบัติเหตุทางถนนวันที่ห้าของช่วงควบคุมเข้มข้นเทศกาลปีใหม่ 2566 ยังพบสาเหตุการเกิดอุบัติเหตุจากการหลับใน และดื่มแล้วขับ ย้ำเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกการเดินทางกลับ พร้อมคุมเข้มทุกมาตรการ
|
วันนี้ (3 ม.ค.65) ที่ห้องประชุมท้าวสุรนารี ชั้น 1 ศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา พลตํารวจตรี อิทธิพล นาคคํา ผู้บังคับการตํารวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา เป็นประธานการประชุมศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ พ.ศ. 2566 โดยกล่าวว่า การอํานวยความสะดวกในขากลับเข้ากรุงเทพฯ เมื่อวานนี้ ตํารวจได้ประสานงานกับทุกหน่วยในการระบายการจราจรให้เคลื่อนตัวได้ต่อเนื่อง แต่มีรถติดสะสมในจุดการก่อสร้างถนนวงแหวนบายพาส โดยคาดว่า บ่ายวันนี้ จะมีปริมาณรถหนาแน่น จึงฝากเจ้าหน้าที่อํานวยความสะดวกและเข้มข้นทุกมาตรการ เพื่อป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ 2566ข้อมูลการเกิดอุบัติเหตุทางถนน วันที่ 2 ม.ค.65 จังหวัดนครราชสีมา เกิดอุบัติเหตุ 2 ครั้ง บาดเจ็บ 3 คน เสียชีวิต 1 ราย โดยเกิดอุบัติเหตุ 1 ครั้ง ในพื้นที่ตําบลโตนด อําเภอโนนสูง บาดเจ็บ 2 คน (ช 1, ญ 1) เสียชีวิต 1 ราย เพศชาย สาเหตุอุบัติเหตุเกิดจากการหลับใน และเกิดอุบัติเหตุ 1 ครั้ง ในพื้นที่ตําบลบ้านเกาะ อําเภอเมืองฯ บาดเจ็บ 1 คน เพศชาย สาเหตุอุบัติเหตุเกิดจาก ดื่มแล้วขับ ข้อมูลสะสม 5 วันช่วงเทศกาลปีใหม่ 2566 อุบัติเหตุ 16 ครั้ง บาดเจ็บ 15 คน เสียชีวิต 5 รายสําหรับข้อมูลการเรียกตรวจตามมาตรการ 10 ข้อหาหลัก เทศกาลปีใหม่นี้มีการดําเนินคดี รวม 2762 คัน มาก 3 ลําดับแรกคือ ไม่สวมหมวกนิรภัย ไม่มีใบขับขี่ รถจักรยานยนต์ไม่ปลอดภัย มีการเรียกตรวจไปแล้ว กว่า 259,000 คันทางด้านแขวงทางหลวงนครราชสีมา ที่ 1 ที่ 2 และที่ 3 ได้บริหารจัดการระบายรถเปิดช่องทางพิเศษในจุดที่รถมาก และติดสะสม โดยร่วมกับตํารวจทางหลวง ตํารวจท้องที่ รวมทั้งแนะนําการใช้เส้นทางมอเตอร์เวย์ M 6 ซึ่งจะเปิดให้บริการไปจนถึงวันที่ 4 มกราคมนี้ ส่วนถนนทางหลวงชนบทที่เป็นเส้นทางเลี่ยงจราจร มีผู้ใช้เส้นทางมาก แต่ไม่มีอุบัติเหตุ โดยมีด่านชุมชนคอยแจ้งเตือนเป็นระยะ#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
|
3/1/2023
|
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
|
นครราชสีมา
|
สวท.นครราชสีมา
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230103172920764
| null |
รัฐบาล ย้ำมาตรการของขวัญปีใหม่ เพิ่มเงินพิเศษ 200 บาทให้ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐในเดือนม.ค.นี้ เพื่อช่วยเหลือบรรเทาภาระค่าครองชีพให้กลุ่มผู้มีรายได้น้อย
|
นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจําสํานักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีคณะรัฐมนตรีอนุมัติให้กระทรวงการคลังใช้งบประมาณ 2,600 ล้านบาท มอบของขวัญปีใหม่ 2566 ให้กับผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 13 ล้าน 2 แสนคน ด้วยการเพิ่มเงินพิเศษ 200 บาท ระยะเวลา 1 เดือน ว่า เพื่อช่วยเหลือและบรรเทาภาระค่าครองชีพเป็นการชั่วคราว โดยช่วยเหลือวงเงินค่าซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคที่จําเป็น สินค้าเพื่อการศึกษา และวัตถุดิบเพื่อเกษตรกรรม จากร้านธงฟ้าราคาประหยัดพัฒนาเศรษฐกิจท้องถิ่นและร้านอื่น ๆ ตามที่กระทรวงพาณิชย์กําหนด ผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ (บัตรฯ) เพิ่มเติมจากเดิมอีก จํานวน 200 บาท/คน/เดือน เป็นระยะเวลา 1 เดือน ในเดือนมกราคม 2566 โดยผู้มีบัตรฯ ที่เดิมได้รับวงเงิน 200 บาท/คน/เดือน จะได้รับเพิ่มอีก 200 บาท รวมเป็น 400 บาท/คน/เดือน ส่วนผู้มีบัตรฯ ที่เดิมได้รับวงเงิน 300 บาท/คน/เดือน จะได้รับเพิ่มอีก 200 บาทรวมเป็น 500 บาท/คน/เดือน
|
4/1/2023
| null |
กรุงเทพมหานคร
|
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230104094006827
| null |
นายกฯ พอใจผลไม้ไทยมีชื่อเสียง สับปะรดกระป๋องของไทยครองอันดับ 1 ของโลก และมะม่วงเบาสงขลา ขึ้นทะเบียน GI แล้ว กำชับการทำงานเพิ่มรายได้ให้เกษตรกร
|
นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจําสํานักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม รับทราบถึงศักยภาพของประเทศไทยในฐานะประเทศผู้ส่งออกสับปะรด และผลิตภัณฑ์สับปะรดกระป๋องไทยเป็นอันดับ 1 ของโลก มูลค่า 2 หมื่นล้านบาท ครองสัดส่วนตลาดโลกถึง ร้อยละ 32 และชื่นชมการทํางานของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ที่ช่วยส่งเสริม สนับสนุนชื่อเสียงผลิตภัณฑ์สับปะรดกระป๋องของไทยจนมียอดส่งออกอันดับ 1 รัฐบาลยังได้จัดทําแบบแผนพัฒนาสับปะรด 5 ปี (2566-2570) เพื่อส่งเสริมอุตสาหกรรมผลิตสับปะรด เพิ่มศักยภาพการผลิต การแปรรูป และการตลาด ทั้งนี้ยังมีแผนใช้กองทุนพัฒนาผลไม้เป็นกลไกสําคัญเพื่อยกระดับรายได้ เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของอุตสาหกรรมสับปะรด อย่างยั่งยืนด้วยแนวทางเกษตรมูลค่าสูงนายกรัฐมนตรี รับทราบรายงานมะม่วงเบาสงขลา ซึ่งเป็นสินค้าที่ได้รับความนิยมของคนในจังหวัดสงขลา และนักท่องเที่ยวที่มักจะซื้อนําไปเป็นของฝากขึ้นชื่อของจังหวัด ทั้งในรูปแบบผลสดและแปรรูป ได้รับการขึ้นทะเบียน GI แล้ว เพื่อคุ้มครองสินค้าท้องถิ่นที่มีเอกลักษณ์เฉพาะ สร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าตลอดจนส่งเสริมการจัดทําระบบควบคุมคุณภาพสินค้า เพื่อสร้างความเชื่อมั่นแก่ผู้บริโภค และขยายช่องทางการตลาดอย่างต่อเนื่องนายกรัฐมนตรี ชื่นชมและขอบคุณการทํางานของทุกภาคส่วน ทั้งหน่วยงานรัฐบาล เกษตรกรในพื้นที่ และผู้ประกอบการ เอกชนที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ร่วมกันดําเนินการตามมาตรการของรัฐ ร่วมกันพัฒนาศักยภาพ คงคุณภาพของสินค้าไทย เพื่อชื่อเสียง ความน่าเชื่อถือในการส่งออก พร้อมกําชับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งส่งเสริมและพัฒนาขีดความสามารถด้านการผลิต และการส่งออกสินค้า รวมทั้งศึกษาหารูปแบบที่เหมาะสมกับกระแสโลกในทุกช่วงเวลา เพื่อจักได้เพิ่มรายได้ ตลอดจนกระจายรายได้สู่เกษตรกรและผู้ประกอบการท้องถิ่น
|
4/1/2023
| null |
กรุงเทพมหานคร
|
Radio-สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230104093347824
| null |
ตำรวจเบตง จับชาวอินเดีย 4 คน ลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมาย เตรียมลักลอบข้ามไปยังประเทศเพื่อนบ้าน
|
วันนี้ 4 ม.ค.66 พ.ต.ท.สมเจตน์ หนูชัยแก้ว สว.ด่าน ตม.เบตง พร้อมด้วย พ.ต.ท.มนพ ดําแดง สว.สส.สภ.เบตงเจ้าหน้าที่ตํารวจตรวจคนเข้าเมือง, ตํารวจ ชุดสืบสวน สภ.เบตง, ตํารวจท่องเที่ยว ร่วมกันออกตรวจดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยและอํานวยความสะดวกให้กับนักท่องเที่ยวในช่วงหยุดยาวเทศกาลปีใหม่ 2566 ภายในเขตเทศบาลเมืองเบตง อ.เบตง จ.ยะลา เมื่อออกตรวจมาถึงบริเวณสี่แยกศรีเบตง ถ.สุขยางค์ ซึ่งอยู่ใจกลางเมืองเบตง พบชายชาวต่างชาติ จํานวน 4 คน ยืนรวมกลุ่มกันอยู่ และท่าทางมีพิรุธ เจ้าหน้าที่จึงขอตรวจสอบหนังสือเดินทาง ทราบชื่อ 1.นายสูชา ชาย อายุ 40 ปี สัญชาติอินเดีย 2.นายแนนดีฟ อายุ 23 ปี สัญชาติอินเดีย 3.นายแจ๊สเพรส ชาย อายุ 26 ปีสัญชาติอินเดีย ซึ่งทั้ง 3 คน อยู่ในประเทศเกินกําหนดอนุญาต ส่วนอีกคน นายกิล ชาย อายุ 32 ปี สัญชาติอินเดียเช่นกัน ไม่พบตราการอนุญาตให้เข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักร จึงควบคุมตัวชาวอินเดียทั้ง 4 คน ไปสอบสวนและทําบันทึกจับกุมจากการสอบสวนทราบว่า นายสูชา, นายแนนดีฟ, และนายแจ๊สเพรส ได้เดินทางเข้ามาและอยู่ในกรุงเทพฯ หลังจากการอนุญาตสิ้นสุด ก็เดินทางออกมาพักอยู่ตามต่างจังหวัด เพราะเกรงกลัวเจ้าหน้าที่กวดขันจับกุม และได้ทําการติดต่อขอความช่วยเหลือจากนายกิล ซึ่งอยู่ในประเทศมาเลเซีย ให้ลักลอบเดินทางเข้ามายังอําเภอเบตง เพื่อมารับพวกตนทั้ง 3 หลบหนีเข้าไปอยู่ในประเทศมาเลเซียด้วย เจ้าหน้าที่จึงนําตัวทั้งหมดส่งพนักงานสอบสวน สภ.เบตงดําเนินคดีตามกฎหมายต่อไป#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
|
4/1/2023
|
ภาคใต้
|
ยะลา
|
สวท.เบตง จ.ยะลา
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230104111129873
| null |
สำนักงานสลากฯ ยกระดับให้บริการและอำนวยความสะดวก โอนเงินเข้าบัญชีได้ทุกธนาคาร ภายใน 2 ชั่วโมง เริ่มวันที่ 17 ม.ค.นี้
|
นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจําสํานักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตามที่รัฐบาลส่งเสริมให้หน่วยงานภาครัฐ มุ่งมั่นพัฒนาหน่วยงานไปสู่การเป็นรัฐบาลดิจิทัล และกระตุ้นให้หน่วยงานภาครัฐยกระดับการให้บริการเพื่ออํานวยความสะดวกให้ประชาชนได้เข้าถึงการให้บริการมากขึ้น สํานักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล เป็นอีกหน่วยงานที่ดําเนินการยกระดับการให้บริการผ่านแอปพลิเคชัน ล่าสุดเพื่อเป็นการยกระดับการบริการและอํานวยความสะดวกในการขึ้นเงินรางวัลสลากดิจิทัล หากถูกรางวัลสลากดิจิทัล ตั้งแต่งวดวันที่ 17 มกราคม 2566 เป็นต้นไป สามารถเลือกรับเงินรางวัลผ่านการโอนเข้าบัญชีได้ทุกธนาคาร ภายใน 2 ชั่วโมง (จากเดิมที่ต้องโอนเข้าบัญชีธนาคารกรุงไทย) ถือเป็นการพัฒนารูปแบบการให้บริการ ตอบโจทย์ความต้องการของประชาชนมากขึ้นตามนโยบายของรัฐบาลรองโฆษกสํานักนายกรัฐมนตรี กล่าวเพิ่มเติมว่า ที่ผ่านมา สํานักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ได้ดําเนินการจําหน่ายสลากดิจิทัล ราคา 80 บาท ผ่านแอปเป๋าตังมาแล้ว 13 งวด พร้อมกับเพิ่มจุดจําหน่ายสลาก 80 (สลากแบบใบ) กระจายทั่วประเทศอีก 1,047 จุด เป็นเครื่องมือสําคัญในการแก้ไขปัญหาสลากเกินราคาอย่างเป็นรูปธรรม สําหรับปริมาณสลากดิจิทัลที่เปิดขายงวด 17 มกราคมนี้ มีจํานวน 17,129,000 ใบ เป็นสลากของตัวแทนจําหน่าย 34,258 ราย ซึ่งได้เพิ่มปริมาณสลากจากงวดที่ผ่านมา จํานวน 901,500 ใบ
|
4/1/2023
|
ภาคกลางและปริมณฑล
|
กรุงเทพมหานคร
|
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230104100852842
| null |
นายกรัฐมนตรี ประชุมพิจารณากำหนดวงเงินงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567
|
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมพิจารณากําหนดวงเงินงบประมาณรายจ่ายประจําปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 โดยมีนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ปลัดกระทรวงการคลัง เลขาธิการนายกรัฐมนตรี เลขาธิการคณะรัฐมนตรี เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ผู้อํานวยการสํานักงบประมาณเข้าร่วมประชุม โดยนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า วันนี้เป็นการประชุมเรื่องแผนการเงินระยะปานกลาง รายรับรายจ่ายปีงบประมาณ 2567 และประเมินไปถึงปี 2570 ซึ่งจําเป็นต้องประเมิน เพราะเป็นหน้าที่ของรัฐบาลในการวางพื้นฐานการใช้จ่ายงบประมาณ ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบันและอนาคตอย่างระมัดระวัง โอกาสนี้ ยังได้อวยพรปีใหม่ให้กับทุกคน เพราะถือเป็นการประชุมครั้งแรกของปี 2566 ที่พยายามจะทําให้สถานะการเงินการคลังมีความมั่นคงในทุกด้าน และขอให้ทุกคนมีความสุขประสบความสําเร็จทุกประการ
|
4/1/2023
| null |
กรุงเทพมหานคร
|
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230104113505884
| null |
ศปถ. พบสถิติการเกิดอุบัติเหตุและความสุญเสียในช่วงเทศกาลปีใหม่ ส่วนใหญ่เกิดจากการขับรถเร็ว กำชับจังหวัด ยังคงเข้มงวดพฤติกรรมเสี่ยง ดูแลความปลอดภัยในการเดินทางของประชาชนต่อเนื่อง
|
นายโชตินรินทร์ เกิดสม รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า ศูนย์อํานวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ พ.ศ. 2566 หรือ คปถ. สรุปสถิติอุบัติเหตุทางถนนประจําวันที่ 3 มกราคม 2566 เกิดอุบัติเหตุ 239 ครั้ง ผู้บาดเจ็บ 259 ราย ผู้เสียชีวิต 15 ราย ส่งผลให้อุบัติเหตุทางถนนสะสมในช่วง 6 วันของการรณรงค์ (29 ธ.ค. 65 – 3 ม.ค. 66) เกิดอุบัติเหตุรวม 2,201 ครั้ง ผู้บาดเจ็บรวม 2,197 ราย ผู้เสียชีวิตรวม 282 ราย โดยจังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุและผู้บาดเจ็บสะสมสูงสุด ได้แก่ นครศรีธรรมราช ส่วนจังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสะสมสูงสุด ได้แก่ เชียงราย 13 ราย / กรุงเทพมหานครและปทุมธานี จังหวัดละ 11 ราย ขณะที่ จังหวัดที่ไม่มีผู้เสียชีวิต (ตายเป็นศูนย์) มี 6 จังหวัด ได้แก่ นราธิวาส บึงกาฬ พังงา ยะลา สตูล และสุโขทัย ซึ่งจากช่วง 6 วันที่ผ่านมาพบว่า การขับเร็ว เป็นหนึ่งในปัจจัยเสี่ยงที่ทําให้เกิดอุบัติเหตุทางถนน มีอัตราการบาดเจ็บและเสียชีวิตสูง ศูนย์อํานวยการความปลอดภัยทางถนน จึงได้กําชับจังหวัดและกรุงเทพมหานคร เข้มงวดผู้ขับขี่ที่ขับรถด้วยความเร็วสูง เพื่อควบคุมการใช้ความเร็วที่อาจก่อให้เกิดอุบัติเหตุรุนแรง และคาดว่า เส้นทางสายหลักบางเส้นทาง จะยังคงมีปริมาณการจราจรหนาแน่นในบางจุด จึงให้จังหวัดดูแลความปลอดภัยในการเดินทางของประชาชนอย่างต่อเนื่อง เพื่ออํานวยการจราจรและดูแลความปลอดภัยแก่ประชาชนตลอดเส้นทาง
|
4/1/2023
| null |
กรุงเทพมหานคร
|
สวท.จันทบุรี
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230104112614881
| null |
นายกฯ ใช้อำนาจตามพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน มาตรา 11 สั่งย้ายอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติฯ เพื่อให้ฝ่ายการสืบสวนหาข้อเท็จจริงได้อย่างเต็มที่ ยืนยัน ไม่ปกป้องใคร
|
นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจําสํานักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงกรณีคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) จับกุมอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้ลงนามในคําสั่งให้นําตัวเข้ามาช่วยราชการที่สํานักนายกรัฐมนตรี โดยใช้อํานาจ ตามพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน มาตรา 11 ทั้งนี้ กรณีดังกล่าวเป็นประเด็นที่สังคมให้ความสนใจ นายกรัฐมนตรี ต้องการให้เกิดความโปร่งใสที่สุดในการสอบสวนหาข้อเท็จจริง ซึ่งการลงนามในคําสั่งดังกล่าวนั้น เพื่อไม่ต้องการให้เกิดการแทรกแซง และให้เจ้าหน้าที่สามารถดําเนินการสอบสวนได้อย่างเต็มที่นายอนุชา กล่าวว่า นายกรัฐมนตรี ไม่ได้ต้องการปกป้องความผิดของผู้ใด และต้องการให้เจ้าหน้าที่สืบสวน หาข้อเท็จจริง สอบสวนด้วยความโปร่งใส ไม่มีการแทรกแซง เพื่อให้เกิดความกระจ่างในสังคม ซึ่งหนึ่งในข้อปฏิบัติในการทํางานที่นายกรัฐมนตรียึดถือมาตลอดคือ ตั้งใจจะแก้ปัญหาทุจริตคอรัปชันในทุกแวดวง ต้องโปร่งใส เป็นธรรม ตรวจสอบได้
|
4/1/2023
| null |
กรุงเทพมหานคร
|
Radio-สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230104143036950
| null |
ผู้แทนอุลามะฮฺโลก จากประเทศเยเมน เยือนประเทศไทย เชื่อมสัมพันธ์สร้างความเข้าใจ หลักศาสนาอิสลาม พร้อมรับฟังนโยบายรัฐ การดูแลพี่น้องชาวไทยมุสลิมในพื้นที่ชายแดนภาคใต้
|
พลโท ศานติ ศกุนตนาค แม่ทัพภาคที่ 4/ ผู้อํานวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ให้การต้อนรับ ท่านฮาบีบ ABDULRAHMAN BIN ALI BIN MOHAMMED BIN HAFEEDH (อับดุลเราะห์มาน บิน อาลี บิน โมฮัมเหม็ด บิน ฮาฟีส) ผู้แทนอุลามะฮฺโลก และคณะจากประเทศเยเมน เพื่อเสริมสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างพี่น้องมุสลิมในประเทศไทยกับพี่น้องมุสลิมในโลกอาหรับ เพื่อให้ท่านฮาร์บีฟและคณะได้รับทราบถึงนโยบายภาครัฐของไทยที่มีต่อพี่น้องมุสลิม ซึ่งต้องอาศัยความเข้าใจที่ดี ถูกต้องแก่โลกมุสลิม และเพื่อสร้างขวัญกําลังใจจากที่น้องมุสลิมในพื้นที่ เพื่อการปฏิบัติศาสนาและดํารงตนในหลักการอิสลามที่ถูกต้อง ทั้งยังส่งเสริมเยาวชนกลุ่มสตรีให้ปฏิบัติตามหลักศาสนาอิสลาม ไม่ยุ่งเกี่ยวกับอบายมุขและสิ่งเสพติด มีความรักความสามัคคีในหมู่คณะ และมีความภาคภูมิใจในความเป็นไทย มีความรักในสถาบันของประเทศไทย และอยู่ร่วมกันในสังคมพหุวัฒนธรรมอย่างสันติ ซึ่งตรงกับแนวนโยบายของผู้อํานวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ที่ต้องการขับเคลื่อนพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และ 4 อําเภอของจังหวัดสงขลา เข้าใจบริบทของการอยู่ร่วมกันในสังคมพหุวัฒนธรรมสร้างสันติสุขอย่างแท้จริง ตลอดจนนโยบายการแก้ไขปัญหายาเสพติดในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ และเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่กองอํานวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ศูนย์สันติวิธี ได้จัดกิจกรรมเสริมสร้างความเข้าใจในศาสนาอิสลามที่ถูกต้องขึ้น โดยได้รับเกียรติจากผู้รู้ศาสนาจากต่างประเทศ ร่วมกับ มัจลิสมูวาซอละห์ จังหวัดชายแดนภาคใต้ สมาคมคนรักนบี จังหวัดชายแดนภาคใต้ และสภาอุลามาอฺฟาฏอนี ดารุสสลาม ร่วมจัดกิจกรรมสร้างสันติสุขให้ความรู้ความเข้าใจแก่พี่น้องไทยมุสลิม ในพื้นที่ยะลา ปัตตานี สงขลาสตูล และนราธิวาส โดยมี หัวหน้าส่วนราชการ ผู้นําท้องที่ ท้องถิ่น โต๊ะอิหม่าม คณะกรรมการมัสยิด เข้าร่วมกิจกรรม ณ กองอํานวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ค่ายสิรินธร อําเภอยะรัง จังหวัดปัตตานีท่านฮาบีบ ABDULRAHMAN BIN ALI BIN MOHAMMED BIN HAFEEDH (อับดุลเราะห์มาน บิน อาลี บิน โมฮัมเหม็ด บิน ฮาฟีส) ผู้แทนอุลามะฮฺโลก กล่าวว่า การได้มาเยือน ประเทศไทยและพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่น ได้รับการอํานวยความสะดวก การดูแลเป็นอย่างดีจาก กองอํานวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า โดย ท่านแม่ทัพภาคที่ 4 และคณะ สิ่งที่ได้สัมผัสและเห็นจากการมาเยือนครั้งนี้ คือได้เห็นถึงความจริงใจของรัฐบาลไทยที่ให้การดูแลประชาชนที่นับถือศาสนาอิสลามในประเทศเป็นอย่างดี และขอบคุณไปยังกษัตริย์ของประเทศไทยที่ให้ความเสมอภาคแก่ประชาชนในทุกศาสนา รู้สึกประทับใจและปลื้มใจแทนประชาชนคนไทย “สําหรับพี่น้องมุสลิมทุกคน ขอให้ทุกท่านจงอยู่ในแนวทางที่รักท่านศาสดานบีมูฮัมหมัด (ซ.ล.) แนวทางที่ถูกต้องของหลักศาสนาอิสลาม เป็นแนวทางที่จะนําไปสู่หนทางที่สว่าง และให้สํารวจตนเองว่าวันนี้เราอยู่ในหนทางที่ถูกต้องหรือไม่ หรือหากวันนี้เราหลงทางหลงผิดอยู่ในหนทางที่มืด จงรีบทบทวนตนเอง และรีบกลับมาสู่หนทางที่ถูกต้องโดยเร็ว เพราะหนทางที่ผิดนั้นจะนําไปสู่หนทางที่มืดมน จงนําตนเองกลับมายังหนทางของศาสนาของท่านศาสดานบีมูฮัมหมัด (ซ.ล.) หนทางแห่งแสงสว่าง ที่จะนําไปสู่ความสงบสุข และเจริญมั่นคงยั่งยืนทั้งโลกนี้และโลกหน้า”ด้านแม่ทัพภาคที่ 4 กล่าวว่า "รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่มีโอกาสต้อนรับแขกสําคัญที่มีเชื้อสายท่านศาสดา ท่านนบีมูฮัมหมัดจากประเทศเยเมน ซึ่งแน่นอนว่า ประเทศไทยเรามีพี่น้องประชาชนอาศัยอยู่หลายเชื้อชาติหลายศาสนา เช่นเดียวกับหลายประเทศทั่วโลก ซึ่งมีผู้คนหลายเชื้อชาติศาสนาอาศัยอยู่ แต่ต้องยอมรับว่าในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ของประเทศไทยนั้น ประชากรส่วนใหญ่จะนับถือศาสนาอิสลาม ซึ่งรัฐบาลไทยก็ให้การดูแลอย่างเสมอภาคเท่าเทียมกัน ไม่แบ่งเชื้อชาติ ไม่แบ่งศาสนา เช่นเดียวกับประชาชนทุกภาคที่อยู่ในประเทศ ไม่ว่าจะเรื่องของการประกอบกิจทางศาสนา การเรียนการศึกษา การประกอบวิชาอาชีพ ตลอดถึงการมีเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น ผมในฐานะผู้อํานวยการรักษาความ มั่นคงภายในภาค 4 และส่วนที่เกี่ยวข้อง มีความยินดีอย่างยิ่งที่จะเอานโยบายต่างๆ เพื่อส่งเสริมและขับเคลื่อนสังคมที่สันติสุข โดยเฉพาะปัญหาหลัก ๆ คือการสร้างบรรยากาศที่ดีในการอยู่ร่วมกัน เน้นการพูดคุย ทุกเรื่องที่เห็นต่าง ผ่านสภาประชาธิปไตยตําบล สิ่งที่ทุกคนอยากเห็นนั้นก็คือการอยู่ด้วยกันอย่างสันติโดยปราศจากเหตุรุนแรงต้นเหตุของการสูญเสียบุคคลอันเป็นที่รัก และเรื่องเร่งด่วนนั้นก็ไม่พ้นเรื่องของยาเสพติด เพราะถือเป็นภัยร้ายแรงต่อสังคม เราได้ดําเนินการในส่วนของการแก้ไขปัญหายาเสพติด นําผู้ที่เสพยาและมีปัญหาทางจิตเวช คุ้มคลั่งทําร้ายร่างกายผู้อื่น เข้ารับการบําบัดรักษาอย่างเร่งด่วน ซึ่งก็เป็นแนวทางเดียวกันที่ท่านได้เดินทางมาให้ความรู้เสริมสร้างความเข้าใจแก่พี่น้องมุสลิมในเรื่องของการไม่ยุ่งเกี่ยวกับอบายมุขและสารเสพติด ถือว่าเรามีแนวทางเดียวกันที่จะสร้างบรรยากาศที่ดีสร้างความสุขให้กับพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ให้ยั่งยืนภายใต้สังคมพหุวัฒนธรรมร่วมกัน"#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
|
4/1/2023
|
ภาคใต้
|
ยะลา
|
สทท.ยะลา
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230104134940925
| null |
ผบ.ตร. ร่วมกับอัยการสูงสุด แถลงเตรียมสรุปสำนวนคดีตู้ห่าวส่งอัยการสูงสุด 8 มค.นี้ มั่นใจพยานหลักฐานเอาผิดผู้ต้องหาทั้งหมดได้
|
นายกุลธนิต มงคลสวัสดิ์ อธิบดีอัยการ สํานักงานการสอบสวน เปิดเผยความคืบหน้าในการดําเนินคดีกลุ่มทุนจีนสีเทา และนายชัยณัฐร์ กรณ์ชายานันท์ หรือตู้ห่าวว่า ได้ศาลอาญากรุงเทพใต้อนุมัติหมายจับจํานวน 25 หมาย จับกุมได้แล้ว 17 หมาย หลังจากนั้นในวันที่ 31 ธันวาคม 2565 ได้ขออนุมัติหมายจับเพิ่มเติมจํานวน 12 หมาย จับกุมได้แล้ว 2 ราย ในฐานความผิดทั้งที่เกี่ยวกับการสมคบกันกระทําร้ายกระทําความผิดร้ายแรงเกี่ยวกับจําหน่ายยาเสพติด สมคบกันกระทําในลักษณะองค์กรอาชญากรรมข้ามขาติ และการสมคบตั้งแต่ 2 คนขึ้นไปเพื่อฟอกเงิน ซึ่งคดีนี้ได้รวมสํานวนทั้งหมด 5 สํานวนเป็นสํานวนเดียวเนื่องจากเป็นพฤติกรรมร่วมในการกระทําความผิด มั่นใจว่าจะแล้วเสร็จในวันที่ 8 มกราคม เพื่อให้อัยการสูงสุดได้พิจารณาและทันฝากขังในกรอบเวลาวันที่ 20 มกราคม ขณะนี้ได้มีการสอบปากคําพยานไปแล้วกว่า 400 ปาก และยืนยันว่าสํานวนการสอบสวนของพนักงานสอบสวนและมีความสมบูรณ์ ทางอัยการได้มีการเพิ่มเติมสํานวนเพียงบางส่วนเท่านั้น และไม่ถือว่าเป็นช่องโหว่ในกรณีที่มีการแจ้งข้อหาล่าช้ากับกลุ่มผู้ต้องหากับกลุ่มผู้ต้องหาส่วนการเก็บรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติมของเจ้าหน้าที่ที่ผับจินหลิงนั้น ไม่มีผลในทางคดีแต่อย่างใดเนื่องจากเจ้าหน้าที่ได้เก็บพยานหลักฐานครบถ้วนแล้วตั้งแต่วันเกิดเหตุรอบแรกด้านพลตํารวจเอกดํารงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตํารวจแห่งชาติ กล่าวว่า ได้มีการตั้งคณะกรรมการเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง 2 ชุด เพื่อสอบสวนข้อเท็จจริงกรณีที่นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ได้เปิดเผยคลิปวิดีโอและหลักฐานที่เกี่ยวข้องกับคดี รวมทั้งตําหนิการทํางานของตํารวจเกี่ยวกับเรื่องสํานวนคดีโดยมีพลตํารวจเอกวิสนุ ปราสาททองโอสถ จเรตํารวจแห่งชาติ เป็นหัวหน้าคณะ และผู้บัญชาการตํารวจสอบสวนกลาง เป็นคณะกรรมการร่วมตรวจสอบเรื่องดังกล่าว รวมทั้งจะมีการเชิญอัยการ 2-3 ท่าน มาร่วมเป็นคณะกรรมการเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวคลิปและข้อมูลอื่นๆที่มีการเผยแพร่ทั้งหมดโดยจะต้องรายงานให้ทราบภายใน 15 วัน อย่างไรก็ตาม การเผยแพร่คลิปหรือข้อมูลผ่านทางสื่อเกรงว่าอาจเป็นช่องโหว่ให้กับกลุ่มผู้ต้องหานําไปต่อสู้ทางคดีได้ หากมีข้อมูลหลักฐานก็สามารถสามารถนํามาส่งให้กับตํารวจหรืออัยการได้โดยตรง ส่วนการดําเนินคดีข้าราชการตํารวจที่เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับการปล่อยของกลางและปล่อยตัวผู้ต้องหาในคดีผับจินหลิง ได้ดําเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ไปแล้ว 4 นาย ประกอบด้วย พนักงานสอบสวน สน. ยานนาวา2 นาย และรองผู้กํากับจราจร สน.ลาดพร้าว 1 นาย ขณะนี้ได้ส่งสํานวนทั้ง 3 นายไปยังคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เพื่อพิจารณาฐานความผิดมาตรา 157 ส่วนรองผู้บังคับการนครบาล 6 อีกหนึ่งนายอยู่ระหว่างการทําสํานวนส่งให้กับ ป.ป.ช.เช่นกัน พร้อมทั้งให้การตํารวจนครบาลตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรงทั้ง 4 รายแล้วผู้บัญชาการตํารวจแห่งชาติ กล่าวเพิ่มเติมว่า สําหรับการโยกย้ายผู้บัญชาการตํารวจนครบาลตามที่นายชูวิทย์ร้องขอ ยืนยันว่า ต้องให้ความเป็นธรรมกับผู้บัญชาการตํารวจนครบาลด้วย เนื่องจากที่ผ่านมาทํางานทํางานด้วยดีมาโดยตลอด
|
4/1/2023
| null |
กรุงเทพมหานคร
|
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230104132927913
| null |
เปิดประชุมสภากรุงเทพมหานครสมัยแรก ประจำปี 2566 สมาชิกสภากรุงเทพมหานครลงมติเห็นชอบร่างข้อบัญญัติสำนักงานพัฒนาที่อยู่อาศัย กทม. ช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยผู้ด้อยโอกาส
|
นายวิรัตน์ มีนชัยนันท์ ประธานสภากรุงเทพมหานคร เป็นประธานการประชุมสภากรุงเทพมหานครสมัยประชุมสามัญสมัยแรก (ครั้งที่ 1) ประจําปีพุทธศักราช 2566 โดยมีสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร คณะผู้บริหารกรุงเทพมหานคร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมประชุม ณ ห้องประชุมสภากรุงเทพมหานคร อาคารไอราวัตพัฒนา ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร ดินแดง สําหรับการประชุมในช่วง นาย สุชัยพงษ์เพียรชอบ สมาชิกสภากรุงเทพมหานครเขตคลองเตย ในฐานะประธานคณะกรรมการวิสามัญได้เสนอพิจารณาญัตติร่างข้อบัญญัติกรุงเทพมหานคร เรื่อง สํานักงานพัฒนาที่อยู่อาศัย พ.ศ.... เนื่องจากข้อบัญญัติเดิมที่ใช้บังคับอยู่ในปัจจุบันได้ใช้บังคับเป็นเวลานานมีเนื้อหาไม่สอดคล้องและเหมาะสมกับสภาพปัจจุบัน สมควรปรับปรุงหลักเกณฑ์และวิธีการ ซึ่งที่ประชุมสภากรุงเทพมหานคร มีมติเห็นชอบร่างข้อบัญญัติดังกล่าวเป็นเอกฉันท์ และจะจัดส่งให้ฝ่ายบริหารพิจารณาดําเนินการต่อไปนอกจากนี้ ที่ประชุมสภากรุงเทพมหานคร ได้มีมติเห็นชอบร่างข้อบัญญัติกรุงเทพมหานคร เรื่อง รางวัลคุณภาพการให้บริการของกรุงเทพมหานคร พ.ศ..... ในวาระที่สองและวาระที่สาม และจะจัดส่งให้ฝ่ายบริหารพิจารณาดําเนินการต่อไป
|
4/1/2023
|
ภาคกลางและปริมณฑล
|
กรุงเทพมหานคร
|
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230104132339910
| null |
ไทยและสาธารณรัฐเช็ก หารือกระชับความสัมพันธ์ และพัฒนาความร่วมมืออย่างรอบด้าน เพื่อประโยชน์ร่วมกันของทั้งสองฝ่าย
|
นายปาเวล ปีเตล เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐเช็กประจําประเทศไทย เข้าเยี่ยมคารวะ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในโอกาสเข้ารับหน้าที่ ห้องสีงาช้าง ตึกไทยคู่ฟ้า ทําเนียบรัฐบาล นายกรัฐมนตรี กล่าวยินดีกับการเข้ารับตําแหน่ง พร้อมอวยพรให้การทํางานประสบความราบรื่นตลอดประจําการที่ประเทศไทย โอกาสนี้ ทั้งสองฝ่าย ยังได้หารือผลักดันความร่วมมือในด้านต่างๆ ให้บรรลุผลอย่างเป็นรูปธรรม อาทิ ความร่วมมือการทูตด้านอวกาศ ยานยนต์ ด้านความมั่นคงและสาธารณสุข หวังว่า ไทยและสาธารณรัฐเช็ก จะจัดการประชุมคณะกรรมาธิการร่วมว่าด้วยความร่วมมือด้านเศรษฐกิจ ครั้งที่ 3 เพื่อหารือแนวทางส่งเสริมความร่วมมือที่มีอยู่เดิมและความร่วมมือในสาขาใหม่ๆ ที่มีศักยภาพร่วมกัน ด้านเศรษฐกิจและการลงทุน นายกรัฐมนตรีเชื่อว่า ทั้งสองฝ่ายยังมีศักยภาพ สามารถเพิ่มพูนการค้าระหว่างกันได้อีกมาก พร้อมเชิญชวนนักลงทุนจากเช็กเข้ามาลงทุนในเขต EEC ในอุตสาหกรรมที่มีศักยภาพสูงและขอให้สาธารณรัฐเช็ก สนับสนุนการเป็นเจ้าภาพจัดงานเอ็กซ์โปวาระพิเศษ ในปี ค.ศ. 2028 ที่จังหวัดภูเก็ต ซึ่งการเลือกตั้งจะมีขึ้น ณ กรุงปารีสในเดือนมิถุนายนนี้ด้านเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐเช็กประจําประเทศไทย เห็นพ้องว่า ไทยและสาธารณรัฐเช็ก ยังมีความร่วมมือที่สามารถพัฒนาระหว่างกันได้อีกมาก ทั้งสองฝ่ายต่างหวังที่จะส่งเสริมด้านการท่องเที่ยว โดยไทยยินดีเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมของชาวเช็ก เชิญชวนนักท่องเที่ยวชาวเช็กเดินทางมาเที่ยวไทยมากขึ้น เพื่อสานต่อความร่วมมือด้านการท่องเที่ยวและกระตุ้นเศรษฐกิจ
|
4/1/2023
|
ภาคกลางและปริมณฑล
|
กรุงเทพมหานคร
|
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230104190302049
| null |
รัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ ขอบคุณคนไทย-ผู้ประกอบการ ช่วยเดินหน้าเศรษฐกิจไทย พอใจยอดนักท่องเที่ยวช่วงปีใหม่คึกคัก
|
นายธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีประจําสํานักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า จากการติดตามและสังเกตการณ์บรรยากาศการท่องเที่ยวในช่วงวันหยุดยาวเนื่องในเทศกาลปีใหม่ที่ผ่านมา พบว่า บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก จํานวนนักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน ชี้ ชัดถึงความสําเร็จในการฟื้นฟูการท่องเที่ยวให้สอดรับกับความปกติถัดไป (Next Normal) และยังตอบรับแคมเปญ “Visit Thailand Year 2022-2023 : Amazing New Chapters” อีกด้วย ต้องขอขอบคุณพี่น้องประชาชน ผู้ประกอบการ และทุกภาคส่วน ที่ช่วยกันเดินหน้าเศรษฐกิจไทย ส่งผลให้ภาคอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว และภาคบริการ รวมถึงจํานวนนักท่องเที่ยว กลับมาเติบโตเร็วกว่าที่คาดการณ์ หลังจากนี้ รัฐบาล โดยกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาและการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย จะพิจารณาปรับเพิ่มจํานวนนักท่องเที่ยวเป้าหมายในปี 2566 เพื่อเดินหน้าสร้างความสมดุลทางเศรษฐกิจและสาธารณสุข ตามแนวทางที่ท่านนายกฯ ได้ให้นโยบายไว้
|
4/1/2023
| null |
กรุงเทพมหานคร
|
Radio-สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230104152326981
| null |
ประธานมูลนิธิ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว มอบทุนการศึกษาและสิ่งของเป็นสวัสดิการแก่ข้าราชการตำรวจ
|
พลตํารวจเอก อดุลย์ แสงสิงแก้ว สมาชิกวุฒิสภา ประธานคณะกรรมาธิการการแรงงานวุฒิสภา ประธานกรรมการมูลนิธิ พลตํารวจเอก อดุลย์ แสงสิงแก้ว พร้อมด้วยคุณอรัญญา แสงสิงแก้ว และกรรมการมูลนิธิฯ ได้ร่วมกันมอบทุนการศึกษาแก่นักศึกษาพยาบาล วิทยาลัยพยาบาลตํารวจ มอบเงินและสิ่งของอุปโภคบริโภคเพื่อเป็นสวัสดิการให้แก่ข้าราชการตํารวจ โดยมีผู้แทนจากกองบัญชาการตํารวจตระเวนชายแดน โรงพยาบาลตํารวจ กองบังคับการตํารวจจราจร กองบินตํารวจ พยาบาลโรงพยาบาลตํารวจ ชมรมผู้สูงอายุโรงพยาบาลตํารวจ และเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยโรงพยาบาลตํารวจ รวมมูลค่าทั้งสิ้น 685,000 บาท ณ มูลนิธิ พลตํารวจเอก อดุลย์ แสงสิงแก้ว
|
4/1/2023
|
ภาคกลางและปริมณฑล
|
กรุงเทพมหานคร
|
หน่วยงานสำนักข่าว
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230104155039990
| null |
ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร พิจารณาร่างพระราชบัญญัติกัญชา กัญชง พ.ศ…. ถึงมาตรา 11 เกิดปัญหาองค์ประชุมไม่ครบอีกครั้ง
|
การประชุมสภาผู้แทนราษฎร วันนี้ (4 ม.ค.66) พิจารณาร่างพระราชบัญญัติกัญชา กัญชง พ.ศ. .... ที่คณะกรรมาธิการวิสามัญได้พิจารณาเสร็จแล้ว โดยพิจารณาต่อจากครั้งที่แล้ว มาตรา 8 ที่สมาชิกต่างอภิปรายไม่เห็นด้วยกับการตั้งคณะกรรมการกัญชา กัญชง ซึ่งรายชื่อของคณะกรรมการชุดนี้ ประกอบด้วย ข้าราชการจากกระทรวงสาธารณสุข และหน่วยงานตํารวจ โดยมองว่าหากสภามอบอํานาจให้หน่วยงานเหล่านี้จะเป็นการผิดหลักการหรือไม่ นอกจากนี้ ยังไม่มีรายชื่อผู้แทนของประชาชนเข้ามาร่วมในคณะกรรมการ ดังนั้นยืนยันให้ตัดหมวด 2 คณะกรรมการกัญชากัญชงออกไป อีกทั้งมองว่ากัญชามีผลในด้านจิตทําให้เกิดโรคจิตเรื้อรัง มีอาการประสาทหลอน รวมถึงการใช้กัญชายังมีผลต่อสมองและร่างกาย ดังนั้นจะต้องเพิ่มจิตแพทย์ อายุรแพทย์ กุมารแพทย์ เข้ามาเป็นคณะกรรมการด้วย เนื่องจากบุคคลเหล่านี้มีความสําคัญอย่างยิ่งด้านนายศุภชัย ใจสมุทร ประธานคณะกรรมการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติกัญชา กัญชง พ.ศ. .... กล่าวว่า เดิมทีคณะกรรมการกัญชา กัญชง ที่เสนอมาในร่างแรกมีจํานวนอย่างที่สมาชิกได้อภิปราย แต่หลังจากที่คณะกรรมาธิการได้พิจารณากันแล้ว พบว่ามีโครงสร้างที่ขนาดใหญ่ ซึ่งมีความเป็นห่วงว่าจะไม่สามารถขับเคลื่อนการทํางานไปได้ด้วยความรวดเร็ว ซึ่งคณะกรรมการกัญชา กัญชง ประกอบไปด้วย 2 ส่วนคือ กรรมการโดยตําแหน่งและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ โดยทั้ง 2 ส่วนนี้คณะกรรมาธิการได้พิจารณาแล้วเห็นว่า คณะกรรมการชุดนี้ควรทําหน้าที่ด้วยความกระชับครอบคลุมไปถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดังนั้นกรรมการทั้ง 16 คน ถือว่าครอบคลุมทุกหน่วยงานทุกภาคส่วนแล้ว ทั้งนี้ ที่ประชุมมีมติเห็นด้วยกับคณะกรรมาธิการเสียงข้างมาก 116 เสียง ไม่เห็นด้วย 83 เสียง และงดออกเสียง 54 เสียงจากนั้น การประชุมตลอดทั้งวันยังเป็นไปด้วยความล่าช้า ส่วนใหญ่เกิดขึ้นเมื่อต้องนับองค์ประชุมเพื่อลงมติ ซึ่งต้องรอสมาชิกเป็นเวลานาน โดยเมื่อพิจารณาถึงมาตรา 11 เรื่องอํานาจหน้าที่ของคณะกรรมการกัญชา กัญชง ที่ต้องให้เวลาสมาชิกแสดงตนกว่า 30 นาที กระทั่งประธานการประชุมได้ขอให้เจ้าหน้าที่แสดงผลปรากฏว่า มีจํานวนสมาชิกมาลงมติ จํานวน 204 คน เห็นด้วย 147 เสียง ไม่เห็นด้วย 2 เสียง แต่ตัวเลขผู้ลงมติไม่ถึง 218 คน ซึ่งเป็นกึ่งหนึ่งขององค์ประชุมทําให้ต้องปิดประชุมในเวลา 15.03 น.
|
4/1/2023
|
ภาคกลางและปริมณฑล
|
กรุงเทพมหานคร
|
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230104195457079
| null |
การประชุมวิป 3 ฝ่ายมีข้อสรุป เสนอให้เลื่อนร่างกฎหมายคู่ชีวิต-สมรสเท่าเทียม ก่อนกฎหมาย กัญชา
|
นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภาและประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการประสาน 3 ฝ่ายคือ ฝั่งรัฐบาล ฝ่ายค้านและฝ่ายวุฒิสภา เพื่อหารือถึงการกําหนดกรอบการประชุมร่วมกันของรัฐสภา วันที่ 10 -11 มกราคม 2566 ทั้งนี้นายชวน เปิดเผยภายหลังการประชุมว่า การนัดประชุมรัฐสภา 2 วันดังกล่าว คาดว่าจะพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญที่พรรคฝ่ายค้านเสนอไม่แล้วเสร็จ ดังนั้นอาจต้องยกไปพิจารณาในคราวถัดไป เนื่องจากร่าง พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ นั้นมีเนื้อหาจํานวนมากและคาดว่าอาจต้องใช้เวลาพิจารณาถึง 2 วัน สําหรับการพิจารณาร่างกฎหมายของสภาฯ นั้น มีข้อเสนอที่อยากให้นัดประชุมครั้งพิเศษ เพื่อพิจารณาร่างพ.ร.บ.คู่ชีวิต และร่างแก้ไขประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ หรือร่างกฎหมายสมรสเท่าเทียม เนื่องจากร่างกฎหมายกัญชา กัญชง ยังมีเนื้อหาสาระอีกจํานวนมาก อย่างไรก็ดีประเด็นดังกล่าวต้องหารือกับพรรคภูมิใจไทยด้วย ดังนั้นในการหารือกรอบกว้างๆ เบื้องต้นคือ จะพิจารณาไปตามวาระปกติก่อนเมื่อถามย้ําว่า จะเร่งรัดการพิจารณาร่างกฎหมายที่ค้างให้เสร็จก่อน หมดสมัยประชุมได้อย่างไร นายชวน กล่าวว่า เป็นความตั้งใจของ ส.ส.ที่ต้องการให้ร่างกฎหมายได้รับการพิจารณาวาระแรก เพราะหากยุบสภาแล้วยังมีขั้นตอนที่รัฐบาลชุดใหม่สามารถยืนยันให้ดําเนินการต่อไปได้ แต่หากร่างกฎหมายที่ไม่ผ่านวาระแรกถือว่าตกไปสําหรับในประเด็นเกี่ยวกับร่างกฎหมายกัญชา กัญชง ที่พบว่าไม่สามารถพิจารณาให้คืบหน้าไปได้อย่างรวดเร็ว โดยตัวแทนพรรคฝ่ายค้านที่เข้าประชุม ได้แก่ นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ฐานะประธานวิปฝ่ายค้าน ได้เสนอให้เปลี่ยนแปลงระเบียบวาระ โดยนําร่าง พ.ร.บ.คู่ชีวิต และร่างกฎหมายสมรสเท่าเทียมขึ้นมาพิจารณาแทนที่ร่างกฎหมายกัญชา เนื่องจากมีความเป็นไปได้ที่จะพิจารณาให้แล้วเสร็จทันสมัยประชุมนี้ นายสุทิน กล่าวประเมินว่า ร่างกฎหมายกัญชานั้นเชื่อว่าจะไม่จบได้ทันสมัยประชุมนี้ หากรอให้พิจารณาร่างกฎหมายตามลําดับ เชื่อว่าสภาฯ จะไม่มีทางที่ผ่านร่างกฎหมายได้สักฉบับ อย่างไรก็ดีนายชวนแสดงความเห็นด้วย แต่ต้องถามความเห็นของพรรคภูมิใจไทยด้วย แต่พบว่าวิปฝั่งพรรคภูมิใจไทยไม่ได้เข้าร่วมประชุม ทําให้การหารือเรื่องดังกล่าวไม่มีข้อสรุป ขณะเดียวกันตัวแทนวิปรัฐบาล ยังมองว่าควรให้พิจารณาไปตามลําดับวาระ
|
4/1/2023
|
ภาคกลางและปริมณฑล
|
กรุงเทพมหานคร
|
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230104185232041
| null |
หน.กองพัน อรบ.จังหวัดปัตตานี เข้าเยี่ยมคารวะ ผอ.รมน.ภาค 4 เพื่อหารือแนวทางในการปฏิบัติงาน
|
วันนี้ (4 ม.ค. 66) เวลา 13.30 น. ที่ ห้องประชุม 1 กองอํานวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ค่ายสิรินธร ตําบลเขาตูม อําเภอยะรัง จังหวัดปัตตานี พลตรี ขจรศักดิ์ อินทร์ทอง ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจปัตตานี ร่วมพบปะหัวหน้ากองพันราษฎรอาสารักษาหมู่บ้านจังหวัดปัตตานี ในโอกาสเดินทางเข้าเยี่ยมคารวะ พลโท ศานติ ศกุนตนาค ผู้อํานวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 เพื่อหารือแนวทางในการปฏิบัติงานเนื่องจากสถานการณ์ความรุนแรงในพื้นที่ทําให้วิถีชีวิตของชาวบ้านไทยพุทธในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้เปลี่ยนแปลงจากเดิมส่งผลกระทบและก่อให้เกิดปัญหาต่างๆ รวมไปถึงเพื่อให้รับทราบข้อมูลและสาเหตุที่แท้จริงที่มีผลกระทบต่อวิถีของชาวไทยพุทธจากสถานการณ์ความรุนแรงในพื้นที่ทั้งนี้ ผอ.รมน.ภาค 4 ได้กล่าวว่า สมาชิกกองพันราษฎรอาสารักษาหมู่บ้าน เป็นกลุ่มบุคคลที่ช่วยเหลือทางราชการเป็นอย่างดี จากการพูดคุยในวันนี้ได้รับทราบถึงข้อมูลและปัญหาข้อขัดข้องต่างๆ โดยจะหารือถึงแนวทางในการแก้ปัญหาร่วมกับส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป และกําหนดทิศทางการทํางานว่าต่อไปจะดําเนินการอย่างไรให้สอดคล้องกับสถานการณ์ และนโยบายของหน่วยต่างๆ นอกจากนี้ ก็ขอฝากให้สมาชิกกองพันราษฎรอาสารักษาหมู่บ้าน ปฏิบัติหน้าที่ของการเป็นราษฎรรักษาหมู่บ้านอย่างมีวินัย ความซื่อสัตย์สุจริต เรียนรู้การอยู่ร่วมกัน รู้จักเคารพสิทธิผู้อื่น สร้างความคุ้นเคยและให้ปฏิบัติงานร่วมกันได้ซึ่งจะก่อให้เกิดความสามัคคีในหมู่คณะ และเหนือสิ่งอื่นใด จะเป็นการแสดงออกถึงความจงรัก ภักดี และความหวงแหนในสถาบัน ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ เพื่อแสดงออกถึงพลังในความสามัคคีของประชาชนในพื้นที่และยึดมั่น สืบสาน รักษา ต่อยอด ตามพระราชเสาวนีย์ ของ สมเด็จพระนางเจ้าของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง สืบไป#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
|
4/1/2023
|
ภาคใต้
|
ปัตตานี
|
สวท.ปัตตานี
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230104210109120
| null |
ตม.บุรีรัมย์ คุมเข้มช่วงเทศกาลปีใหม่ 2566 จับหนุ่มลาว Overstay 575 วัน
|
วันที่ 4 ม.ค. ภายใต้การอํานวยการของ พล.ต.ต.เกติ์ฉกาจ นิลประดับ ผบก.ตม.4 และ พ.ต.อ.กฤษฎากรณ์ กลิ่นเกษร รอง ผบก.ตม.4 โดย พ.ต.ท.พิศุทธิ์ สุวรรณภาษิต สั่งการให้ เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนปราบปราม ตม.จว.บุรีรัมย์ สนธิกําลังกับ เจ้าหน้าที่ตํารวจ สภ.เมืองบุรีรัมย์ จับกุม นายไล สัญชาติลาว หมายเลขหนังสือเดินทาง P1814957 โดยกล่าวหาว่า “เป็นคนต่างด้าวเดินทางเข้ามาอยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด” จํานวน 575 วัน สถานที่จับกุมบริเวณใต้สะพานลอยตรงข้ามวิทยาลัยเทคนิคบุรีรัมย์ทั้งนี้ ในห้วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ 2566 ตั้งแต่วันที่ 21 ธ.ค.65 – 3 ม.ค.66 ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดบุรีรัมย์ได้เร่งรัดกวดขันจับกุมผู้กระทําความผิดในพื้นที่รับผิดชอบร่วมกับหน่วยความมั่นคงในพื้นที่ ตามนโยบายของ พล.ต.อ.ดํารงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. พล.ต.ท.ภาคภูมิภิภัทฒ์ สัจจพันธุ์ ผบช.สตม. และ พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ รอง ผบช.สตม. โดยแยกเป็น ความผิดตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ.2522 จํานวน 5 คดี ความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด จํานวน 5 คดี ความผิดเกี่ยวกับอาวุธปืนเครื่องกระสุนปืน จํานวน 4 คดี จับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับ 2 หมาย รวมผู้ต้องหา 16 คน#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
|
4/1/2023
|
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
|
บุรีรัมย์
|
สวท.บุรีรัมย์
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230104215415126
| null |
ราษฎรอาสารักษาหมู่บ้าน พบปะเยี่ยม มทภ.4 หารือแนวทาง ปัญหา และข้อเสนอแนะ เพื่อสร้างความปลอดภัยในพื้นที่
|
ที่ห้องประชุม 1 กองอํานวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ค่ายสิรินธร ตําบลเขาตูม อําเภอยะรัง จังหวัดปัตตานี พลโท ศานติ ศกุนตนาค แม่ทัพภาคที่ 4/ผู้อํานวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 พร้อมด้วย พลตรี กรกฎ ภู่โชติ รองผู้อํานวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ,พลตรี เฉลิมพร ขําเขียว ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 15 /ผู้อํานวยการศูนย์ประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดําริ , พลตรี ขจรศักดิ์ อินทร์ทอง ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 46 /ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจปัตตานี และส่วนที่เกี่ยวข้องร่วมพบปะหารือมอบนโยบายแนวทางการปฏิบัติงาน แก่หัวหน้ากองพันอาสารักษาหมู่บ้าน (อรบ.) จังหวัดปัตตานี ด้วยการนําเรียนปัญหาข้อขัดข้องที่เกิดขึ้นในพื้นที่มาพูดคุย หาข้อแก้ไขให้ตรงจุดตามแผนนโยบาย ตลอดจนสนับสนุนการต่อต้านยาเสพติดที่เข้ามาในพื้นที่ ณ ห้องประชุม 1 กองอํานวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ค่ายสิรินธร ตําบลเขาตูม อําเภอยะรัง จังหวัดปัตตานีพลโท ศานติ ศกุนตนาค แม่ทัพภาคที่ 4/ผู้อํานวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 กล่าวว่า ยินดีต้อนรับคณะกองพันอาสารักษาหมู่บ้าน (อรบ.) จังหวัดปัตตานี ที่ได้เดินทางเข้ามาเยี่ยมและให้กําลังใจแม่ทัพภาคที่ 4 ตลอดจนเดินทางเข้ามาอวยพรปีใหม่ด้วยในวันนี้ ซึ่งกองพันอาสารักษาหมู่บ้านในทุกพื้นที่ ทั้ง3 จังหวัด และ 4 อําเภอของจังหวัดสงขลา ถือเป็นทรัพยากรสําคัญที่ช่วยงานเจ้าหน้าที่รัฐได้อย่างดียิ่ง การปฏิบัติหน้าที่ในห้วงที่ผ่านมา ถือเป็นการทํางานที่เสียสละ เพื่อรักษาหมู่บ้าน ชุมชนของตนเอง ปัจจุบันได้ขยายวงกว้างมากขึ้นด้วยเวลายาวนานถึง 19 ปี แม่ทัพได้ติดตามคณะทํางานตั้งแต่รุ่นแรกๆมาจนถึงปัจจุบัน เป็นสมาชิกที่เข้มแข็งในการปฏิบัติหน้าที่ เนื่องด้วยหวงแหนแล้วรักในชุมชนบ้านเกิด ต้องการความสงบสุขปราศจากเหตุรุนแรง นั่นคือแนวทางที่ทุกคนหวังไว้เหมือนกัน เพื่อให้เกิดความร่วมมือขึ้นในชุมชน ทางกองอํานวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ร่วมมือกับ ศูนย์อํานวยการบริหารจังหวัดใช้แดนภาคใต้ มีการสนับสนุนโครงการและผลักดันส่งเสริมอาชีพให้กับกลุ่มสตรี หรือกลุ่มวิสาหกิจชุมชน ตลอดจนเรื่องยาเสพติดซึ่งเป็นนโยบายหลักที่แม่ทัพภาคที่ 4 ได้ดําเนินการ นําพาเยาวชนที่ติดยาเสพติดเข้าบําบัดโดยโครงการ CBTx ที่จะทําให้เยาวชนเลิกยุ่งกับยาเสพติดและทําให้เยาวชนมีอาชีพอีกด้วย ขอเน้นย้ําเรื่องความปลอดภัยของกลุ่มสมาชิกให้ทันกับสถานการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้นในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อให้เกิดความเข้มแข็งสร้างพื้นที่ปลอดเหตุประชาชนปลอดภัยในพื้นที่ชุมชนของตนเองต่อไปโอกาสนี้แม่ทัพภาคที่ 4 ถือโอกาสอวยพรปีใหม่ให้กับกองพันอาสารักษาหมู่บ้าน (อรบ.)ให้ปฏิบัติหน้าที่ให้ปลอดภัยตลอดจนให้มีสุขภาพแข็งแรงและมีความสุขตลอดทั้งปี และขอบคุณที่เป็นตัวแทนในการดูแลพี่น้องประชาชนให้มีความปลอดภัย ช่วยงานเจ้าหน้าที่รัฐด้วยดีเสมอมาอีกด้วย#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
|
5/1/2023
|
ภาคใต้
|
ยะลา
|
สทท.ยะลา
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230105095014189
| null |
นพค.56 อุบลราชธานี ได้ส่งมอบอาคารบริการน้ำดื่ม "เติมความสุขให้กับคนไทย ตามแนวทางวิถีใหม่ จากใจทหาร" เพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ให้แก่ประชาชนในพื้นที่ตามแนวชายแดน
|
กองบัญชาการกองทัพไทย โดยหน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 56 สํานักงานพัฒนาภาค 5 หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา ได้ส่งมอบอาคารบริการน้ําดื่ม เพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ให้แก่ประชาชนในพื้นที่ตามแนวชายแดน จังหวัดอุบลราชธานี ตามนโยบาย กระทรวงกลาโหม "เติมความสุขให้กับคนไทย ตามแนวทางวิถีใหม่ จากใจทหาร"พันเอก สิทธิชัย เสาวคนธ์ ผู้บังคับหน่วย นพค. 56 ส่งมอบอาคารบริการน้ําดื่ม ระบบ RO ตามแผนงานโครงการประจําปี งบประมาณ พ.ศ.2566 เพื่อเป็นของขวัญปีใหม่สําหรับประชาชน "เติมความสุขให้กับคนไทย ตามแนวทางวิถีใหม่ จากใจทหาร" ที่หน่วยได้ดําเนินการเสร็จแล้ว ในพื้นที่ ตําบลโนนก่อ อําเภอสิรินธร จังหวัดอุบลราชธานี แล้วได้มีการส่งมอบอาคารบริการน้ําดื่ม ให้แก่โรงเรียน และศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก จํานวน 6 แห่ง ได้แก่ โรงเรียนบ้านพลาญชัย โรงเรียนบ้านห้วยเดื่อ ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านเหล่าคํา ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านโนนก่อ ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านแก่งศรีโคตร และศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านบากชุม ซึ่งเป็นโรงเรียนขยายโอกาสในพื้นที่ชายแดนเด็กๆนักเรียนๆ คณะครู ต่างมีความรู้สึกยินดีที่ได้รับโครงการอาคารบริการน้ําดื่ม เป็นของขวัญปีใหม่ในปี 2566 นี้โดยอาคารบริการน้ําดื่มนี้ามารถผลิตน้ําดื่มสะอาด ได้มาตรฐานผ่านการตรวจจากหน่วยงานราชการ ระบบ RO มีกําลังการผลิตน้ําอยู่ที่ 250 ลิตรต่อชั่วโมง เพียงพอต่อความต้องการและเป็นน้ําเย็นในตัวเดียวกัน ครู นักเรียนสามารถดื่มน้ํานี้ที่โรงเรียน หรือประชาชนสามารถนําถังหรือภาชนะมาบรรจุนํากลับไปบริโภคที่บ้านได้ เป็นการประหยัดและพัฒนาคุณภาพชีวิตของนักเรียนและประชาชนในพื้นที่ชายแดนให้ได้มีน้ําบริโภคที่สะอาด ถูกสุขอนามัย ซึ่งเป็นการแสดงถึงความห่วงใยคุณภาพชีวิตของประชาชนจากกองบัญชาการกองทัพไทยให้ได้อยู่ดีมีสุข และมีความยั่งยืนต่อไป#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
|
5/1/2023
| null |
อุบลราชธานี
|
สวท.อุบลราชธานี
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230105093046181
| null |
สภาผู้แทนราษฏร เปิดให้สมาชิกปรึกษาหารือปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน ก่อนพิจารณากระทู้ถามปัญหาค่าไฟฟ้าราคาแพง
|
การประขุมสภาผู้แทนราษฎร ในเวลา 09.30 น. วันนี้ (5 ม.ค.65) ภายหลังการเปิดให้สมาชิกปรึกษาหารือปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนตามข้อบังคับการประชุมแล้ว เป็นการพิจารณาวาระกระทู้ถามสดด้วยวาจาและกระทู้ถามทั่วไป เช่น กระทู้ถาม เรื่อง ปัญหาค่าไฟฟ้าราคาแพงและการปรับโครงสร้างการบริหารจัดการไฟฟ้าของประเทศ เรื่องการแก้ไขปัญหาให้แก่ผู้ประกอบการธุรกิจโรงแรมขนาดเล็ก และเรื่องขอให้ขยายถนนไหล่ทางพร้อมติดตั้งไฟฟ้าส่องสว่างในจังหวัดสุรินทร์ จากนั้นมีเรื่องที่ประธานจะแจ้งต่อที่ประชุมรับทราบต่างๆ เช่น รับทราบการพิจารณาของวุฒิสภา จํานวน 2 เรื่อง ได้แก่ รับทราบรายงานผลการปฏิบัติงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง ประจําปีงบประมาณ 2563 และรับทราบวุฒิสภาลงมติเห็นชอบร่างพระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ซึ่งสภาผู้แทนราษฎรลงมติเห็นชอบแล้วนอกจากนี้ มีวาระพิจารณาเรื่องที่คณะกรรมาธิการพิจารณาเสร็จแล้ว จํานวน 12 ฉบับ เช่น รายงานผลการพิจารณาศึกษา เรื่อง การคมนาคมขนส่งทางน้ํา , รายงานการพิจารณาศึกษาปัญหาอุปสรรคในการจัดบริการสาธารณะ กิจกรรมสาธารณะ และหาแนวทางในการแก้ไขเรื่องการถ่ายโอนภารกิจด้านการพัฒนาแหล่งน้ําให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และรายงานการพิจารณาศึกษา เรื่องแนวทางการแก้ไขปัญหาการจัดการข้อมูลประวัติอาชญากรรม และรายงานการพิจารณาศึกษาผลกระทบกรณีการควบรวมกิจการโทรคมนาคมระหว่าง True กับ DTAC และการค้าปลีก – ค้าส่ง
|
5/1/2023
|
ภาคกลางและปริมณฑล
|
กรุงเทพมหานคร
|
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230105085907161
| null |
รมว.ทรัพย์ฯ เผย ปลัดกระทรวงทรัพย์ ฯ ลงนามตั้งกรรมการสอบวินัยร้ายแรงอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืชแล้ว หากฝ่ายค้านนำมาอภิปรายทั่วไปพร้อมชี้แจงทุกกรณี
|
นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวถึงความคืบหน้าการสอบสวนข้อเท็จจริง นายรัชฎา สุริยกุล ณ อยุธยา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เรียกรับผลประโยชน์จากข้าราชการหน่วยงานในสังกัดกรมอุทยานแห่งชาติฯ ว่า ได้รับรายงานจาก นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ว่า คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงได้ข้อสรุปและเสนอเรื่องไปยังปลัดกระทรวงฯ เพื่อให้ตั้งคณะกรรมการสอบวินัยร้ายแรงนายรัชฎาแล้ว ส่วนการสอบผู้อํานวยการสํานักต่างๆ ยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อเท็จจริงเพิ่มเติม ซึ่งจะเสร็จสิ้นคงต้องใช้เวลาอีกสักระยะหนึ่ง นายวราวุธ ยังกล่าวถึงผลการสอบของคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงว่า ข้อมูลเบื้องต้นส่อไปในทางมีเหตุผลที่สนับสนุนการตัดสินใจให้ตั้งกรรมการสอบวินัยร้ายแรงถือเป็นความเห็นของคณะกรรมการที่เสนอขึ้นมา อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 4 มกราคมที่ผ่านมา ตนเองได้มอบนโยบายให้กับข้าราชการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมอีกครั้ง โดยย้ําถึงความโปร่งใสและความเป็นธรรมในการทํางาน ยึดถือประโยชน์ของประชาชนเป็นหลัก และหากข้าราชการคนใดรู้สึกว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมในการทํางาน หรือมีประเด็นใดให้ส่งคําร้องมาได้ตามช่องทางปกติของกระทรวงฯ หรือส่งจดหมายถึงตนเองโดยตรงเรื่องจะได้รับการตรวจสอบและดําเนินการในทุกกรณีไม่มีข้อยกเว้นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวอีกว่า ส่วนการไต่สวนของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) และกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) นั้น กระทรวงฯ ยังไม่ได้รับข้อมูลเพิ่มเติม แต่หากทางหน่วยงานที่ไต่สวนขอเอกสารใด ๆ ยินดีให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่ไม่มีอะไรต้องปกปิด ที่นายกรัฐมนตรีสั่งการในที่ประชุมคณะรัฐมนตรีให้ทุกกระทรวงเตรียมพร้อมในการชี้แจงต่อสภาผู้แทนราษฎร หลังฝ่ายค้านยื่นขอเปิดอภิปรายทั่วไป ตามมาตรา 152 นั้น ยืนยัน พร้อมชี้แจงทุกประเด็นที่ฝ่ายค้านจะหยิบยกขึ้นมาอภิปราย.
|
5/1/2023
|
ภาคกลางและปริมณฑล
|
กรุงเทพมหานคร
|
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230105100339197
| null |
รองประธานวิปรัฐบาล ยืนยันเดินหน้าพิจารณากฎหมายกัญชาให้ได้มากที่สุด
|
นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ รองประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล หรือวิปรัฐบาล กล่าวถึงการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.กัญชา กัญชง ว่า เป็นหนึ่งในร่างกฎหมายที่เลื่อนวาระขึ้นมาพิจารณา จึงไม่สามารถเลื่อนออกไปได้ เว้นแต่ให้ประธานขอเปิดประชุมนัดพิเศษ ซึ่งวิปรัฐบาลได้ประสานภายในแล้วและพรรคภูมิใจไทย ยืนยันที่จะดําเนินการต่อ ซึ่งเห็นว่า เมื่อเจ้าของร่างยังยืนยันต่อ ก็เป็นเรื่องต้องดําเนินการให้เป็นไปตามวาระ ได้เท่าไหร่ก็เอาเท่านั้น และวานนี้(4 ม.ค.66) ในการประชุมวิป 3 ฝ่าย ได้พูดถึงการนัดเปิดประชุมนัดพิเศษ แต่ยังตกลงกันไม่ได้ จึงต้องรอตกลงกันอีกครั้ง พร้อมมองว่า หากกฎหมายฉบับนี้ผ่านสภา ก็ต้องเสนอไปยังวุฒิสภา ซึ่งไม่รู้จะทันสมัยประชุมนี้หรือไม่ แต่หากไม่เห็นชอบก็ถือเป็นอันตกใหม่ และเป็นเรื่องของพรรคการเมืองนั้นๆ จะเสนอเป็นนโยบายและเสนอเข้าสภาใหม่หลังการเลือกตั้ง แต่คิดว่าจะใช้เวลาการประชุมสภาที่เหลืออยู่ให้เกิดประโยชน์สูงสุด อย่างไรก็ตาม กฎหมายฉบับนี้ สามารถถอนได้ แต่หากถอนไป เจ้าของร่างต้องไปตอบคําถามประชาชนอีกว่าเหตุผลของการถอนคืออะไร ส่วนการประชุมร่วมกันของรัฐสภา ในวันที่ 10-11 มกราคมนี้ ที่ประชุมเห็นว่า ยังมีกฎหมายที่ค้างอยู่ซึ่งที่ประชุมจะหยิบยกร่าง พ.ร.บ. การศึกษาแห่งชาติ เป็นเรื่องแรก จากนั้นจะพิจารณา ร่าง พ.ร.บ. มาตรฐานจริยธรรมสื่อ รวมถึงการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญที่ฝ่ายค้านเสนอเข้ามา แต่หากพิจารณาไม่จบให้ประธานรัฐสภาพิจารณานัดประชุมร่วมกันอีกครั้งได้ เพื่อไม่ให้มีกฎหมายคั่งค้าง เพราะต่างเป็นกฎหมายที่สําคัญขณะที่การขอเปิดญัตติอภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติ ตามมาตรา 152 นั้น ขณะนี้รัฐบาลยังไม่ได้กําหนดวัน เพราะหนังสือของสภาพึ่งส่งไปยัง ครม. วานนี้ แต่ในส่วนของวิป รัฐบาล เห็นว่า ช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์เป็นช่วงที่เหมาะเหมาะสม โดยใช้เวลา 2 วันในการอภิปรายน่าจะเพียงพอ พร้อมยืนยัน ว่าการอภิปรายครั้งนี้ ไม่ใช่ใบเบิกทางนําไปสู่การยุบสภา ซึ่งเป็นไปไม่ได้ เพราะรัฐบาลมีความพร้อมที่จะชี้แจง และถือเป็นการอภิปรายครั้งสุดท้ายที่ฝ่ายค้านจะได้ตรวจสอบและเสนอแนะการทํางานให้รัฐบาลขอฝ่ายค้านเตรียมข้อมูลและอภิปรายอย่างตรงไปตรงมา ฝ่ายรัฐบาลก็ต้องเตรียมตัวให้พร้อม เพราะเหมือนเป็นการดีเบตครั้งสุดท้าย ที่จะมีผลต่อการตัดสินใจของประชาชนในการเลือกตั้งครั้งหน้า
|
5/1/2023
|
ภาคกลางและปริมณฑล
|
กรุงเทพมหานคร
|
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230105183409423
| null |
เคาะแล้ว 7 มาตรการแก้ปัญหามลพิษด้านฝุ่นละออง ปี 2566 ภายใต้กรอบ “สื่อสารเชิงรุก ยกระดับปฏิบัติการ สร้างการมีส่วนร่วม”
|
สํานักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดแพร่รายงานว่า คณะรัฐมนตรี(ครม.) เห็นชอบแผนเฉพาะกิจเพื่อการแก้ไขปัญหามลพิษด้านฝุ่นละออง ปี 2566 ประกอบด้วยแนวทางการดําเนินงาน 7 แนวทาง ภายใต้กรอบ “สื่อสารเชิงรุก ยกระดับปฏิบัติการ สร้างการมีส่วนร่วม” เพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งรัดดําเนินการแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองโดยเฉพาะในช่วงเกิดสถานการณ์สําหรับแผนเฉพาะกิจเพื่อการแก้ไขปัญหามลพิษด้านฝุ่นละออง ปี 2566 ด้วย 7 แนวทางดังนี้ 1. ประชาสัมพันธ์เชิงรุก และให้แจ้งเตือนล่วงหน้า 7 วัน ทุกพื้นที่ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นต่อประชาชน โต้ตอบ Fake News ต่อสถานการณ์ที่ทําให้ประชาชนสับสน และเน้นสื่อสารผ่านช่องทางใหม่อย่าง TikTok ที่เข้าถึงเยาวชนได้ง่าย2. ยกระดับมาตรการดําเนินงานตามแผนปฏิบัติการขับเคลื่อนวาระแห่งชาติ อาทิ การแก้ไขปัญหามลพิษด้านฝุ่นละอองและแผนอื่นที่เกี่ยวข้อง ควบคุมฝุ่นละอองทั้งในช่วงวิกฤตในพื้นที่ป่าจากยานพาหนะ และภาคอุตสาหกรรม เตรียมความพร้อมของบุคลากรและอุปกรณ์เครื่องมือพร้อมใช้งานตลอดเวลา นอกจากนี้ให้ภาคเอกชนและภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง นําน้ํามันกํามะถันต่ํามาจําหน่าย ซึ่งจะช่วยให้ปริมาณฝุ่นละลองขนาดเล็ก (PM2.5) ลดลง3. ยกระดับการบริหารจัดการเชื้อเพลิง อาทิ ลดการเผาในที่โล่ง พร้อมทั้งการจัดเก็บเชื้อเพลิงในพื้นที่ป่า และพื้นที่การเกษตร รวมถึงพื้นที่เสี่ยงต่อการเผาหรือมีการเผาซ้ําซาก ส่งเสริมและสนับสนุนให้เกษตรกรนําเศษวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร เช่น ตอซัง ฟางข้าว และ ใบอ้อยไปใช้ประโยชน์หรือเพิ่มมูลค่าเพื่อลดการเผา4. กํากับดูแลการปฏิบัติการเชิงรุก ติดตามผลการดําเนินการ ประเมินสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง อาทิ การลงพื้นที่ควบคุมและลดฝุ่นจากแหล่งกําเนิดต่างๆ และบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวดกับผู้ที่ไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย จัดทําแพลตฟอร์มศูนย์รวมข้อมูลที่ประชาชนสามารถเข้าถึงข้อมูลหรือแจ้งเหตุด้านมลพิษ และติดตามการแก้ไขปัญหาของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้5. ป้องกันและควบคุมการเกิดไฟในทุกพื้นที่ และพัฒนาระบบพยากรณ์ความรุนแรงและอันตรายของไฟเพื่อเป็นข้อมูลคาดการณ์ พร้อมทั้งจัดหาเครื่องมือ อุปกรณ์ป้องกันและดับไฟป่าขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) รวมถึงสํารวจและตรวจสอบความสมบูรณ์ของเครื่องมือเพื่อจัดทําฐานข้อมูลสําหรับการปฏิบัติการป้องกันและควบคุมการเกิดไฟ6. ผลักดันกลไกระหว่างประเทศเพื่อให้การป้องกันและแก้ไขปัญหา หมอกควันข้ามแดนมีประสิทธิภาพสูงสุด โดยจัดทํา Roadmap และกําหนด เป้าหมายการลดจํานวนจุดความร้อน/พื้นที่เผาไหม้ในภูมิภาคอาเซียน และยกระดับความร่วมมือในกรอบคณะกรรมการชายแดนและจังหวัดคู่ขนานเพื่อกํากับควบคุมแหล่งกําเนิดจากประเทศเพื่อนบ้านโดยเฉพาะการเผา7.ประชาชนและทุกภาคส่วนเข้ามามีส่วนร่วมในวางแผน ดําเนินการป้องกันและแก้ไขปัญหาหมอกควัน ไฟป่า และฝุ่นละออง สร้างความเข้าใจ พร้อมเปิดโอกาสและช่องทางให้มีการรายงานผล การแก้ไขปัญหาให้ประชาชนรับทราบอย่างต่อเนื่อง รวมถึงช่องทางสําหรับร้องทุกข์ เพื่อแจ้งเหตุการณ์เกิดไฟป่าหรือการเผาในที่โล่ง#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
|
5/1/2023
|
ภาคเหนือ
|
แพร่
|
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดแพร่
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230105154433327
| null |
จังหวัดนครราชสีมา สรุปผลการดำเนินงาน 7 วัน ช่วงควบคุมเข้มข้นเทศกาลปีใหม่ 2566 เกิดอุบัติเหตุ 18 ครั้ง บาดเจ็บ 18 คน เสียชีวิต 5 ราย เกิดอุบัติเหตุลดลงเมื่อเปรียบเทียบข้อมูลกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
|
วันนี้ (5 ม.ค.66) ที่ห้องประชุมท้าวสุรนารี ชั้น 1 ศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา นายสมเกียรติ วิริยะกุลนันท์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เป็นประธานการประชุมศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ พ.ศ. 2566 ซึ่งเป็นการประชุมสรุปผลการดําเนินงานป้องกันและอุบัติเหตุทางถนน 7 วัน ช่วงควบคุมเข้มข้นเทศกาลปีใหม่ 2566 โดยมีการสรุปรายงานสถิติการเกิดอุบัติเหตุทางถนน ช่วงควบคุมเข้มข้น ระหว่างวันที่ 29 ธันวาคม 2565 – 4 มกราคม 2566 (รวม 7 วัน)1. ข้อมูลประจําวันที่ 4 ม.ค. 2566 (วันที่ 7 ของช่วงควบคุมเข้มข้น)- เกิดอุบัติเหตุ จํานวน - ครั้ง- บาดเจ็บ จํานวน - คน- เสียชีวิต จํานวน - ราย2. ข้อมูลสะสม 7 วัน (29 ธ.ค. 65 – 4 ม.ค. 66)-เกิดอุบัติเหตุ จํานวน 18 ครั้ง-บาดเจ็บ จํานวน 18 คน (ช 15 คน / ญ 3 คน)-เสียชีวิต จํานวน 5 ราย (ช 3 ราย/ ญ 2 ราย)จังหวัดนครราชสีมามีการเกิดอุบัติเหตุลดลงเมื่อเปรียบเทียบข้อมูลกับช่วงเดียวกันของปีก่อน คือเทศกาลปีใหม่ 2565 ซึ่งเกิดอุบัติเหตุ 27 ครั้ง บาดเจ็บ 20 คน เสียชีวิต 8 ราย โดยในเทศกาลปีใหม่ 2566 เกิดอุบัติเหตุลดลง 9 ครั้ง บาดเจ็บลดลง 2 คน เสียชีวิตลดลง 3 ราย#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
|
5/1/2023
|
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
|
นครราชสีมา
|
สวท.นครราชสีมา
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230105190937459
| null |
นายกรัฐมนตรีมอบคำขวัญวันครูประจำปี 2566
|
นายกรัฐมนตรีมอบคําขวัญวันครูประจําปี 2566พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มอบคําขวัญเนื่องในโอกาสวันครู ครั้งที่ 67 ประจําปี 2566 ว่า “ครูดี ศิษย์ดี มีอนาคต”
|
5/1/2023
|
ภาคกลางและปริมณฑล
|
กรุงเทพมหานคร
|
Radio-สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230105205956501
| null |
ตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต ฝึกซ้อมแผนเผชิญเหตุ เพื่อฝึกความพร้อมของเจ้าหน้าที่ฝ่ายต่างๆ ให้มีความเชี่ยวชาญในการรองรับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น
|
วันนี้ (5 มกราคม 2566) บริเวณหน้าสถานีตํารวจภูธรเมืองภูเก็ต พล.ต.ต.ศักย์ศิรา เผือกอ่ํา รองผู้บัญชาการตํารวจภูธรภาค 8 พร้อมด้วยนาย อานุภาพ รอดขวัญ ยอดระบํา รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต พล.ต.ต.เสริมพันธุ์ ศิริคง ผู้บังคับการตํารวจภูธรจังหวัดภูเก็ต พ.ต.อ.สราวุธ ชูประสิทธิ์ ผู้กํากับการ สภ.เมืองภูเก็ต ร่วมติดตามและประเมินการฝึกซ้อมแผนเผชิญเหตุ ด้วยการจําลองเหตุการณ์ กลุ่มวัยรุ่นปิดล้อม สภ.เมืองภูเก็ต หลังจากที่เจ้าหน้าที่ตํารวจ สภ.เมืองภูเก็ต ร่วมกับ สภ. วิชิต ระดมกําลังปิดล้อมปลายแหลมสะพานหิน ตามที่ได้รับแจ้งเหตุว่ามีกลุ่มวัยรุ่นรวมตัวกันแข่งรถจักรยานยนต์และมั่วสุมยาเสพติด สร้างความเดือดร้อนรําคาญและทําให้เกิดอุบัติเหตุแก่ผู้ใช้รถใช้ถนน โดยเบื้องต้นพบกลุ่มวัยรุ่นประมาณ 120 คน พร้อมรถจักรยานยนต์แต่งซิ่งกําลังรวมตัวและเมื่อเห็นเจ้าหน้าที่ตํารวจ ได้ขับรถหลบหนี เจ้าหน้าที่ตํารวจได้ติดตามไล่ล่าทําให้กลุ่มวัยรุ่นเฉี่ยวชนกันเอง และได้รับบาดเจ็บ เจ้าที่ตํารวจจึงสามารถจับกุมตัวได้จํานวน 10 คน พร้อมรถจักรยานยนต์จํานวนหนึ่ง โดยผู้ที่ถูกจับกุมได้ให้การปฏิเสธโดยอ้างว่าไม่ได้มีการแข่งรถ เพียงมาพบเจอกันโดยบังเอิญ และอ้างว่าการที่เจ้าหน้าที่ตํารวจเข้าปิดล้อมจับกุมทําให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นการกระทําเกินกว่าเหตุ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตํารวจได้นําตัวผู้บาดเจ็บรักษาพยาบาลเบื้องต้น จากนั้น ได้คุมตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองภูเก็ต ต่อมากลุ่มวัยรุ่นประมาณ 70-80 คน ได้ขี่รถจักรยานยนต์วนเวียนและรวมตัวกันบริเวณหน้า สภ.เมืองภูเก็ต พร้อมส่งเสียงตะโกนร้องกล่าวหาว่าเจ้าหน้าที่ตํารวจทําเกินกว่าเหตุ เข้าทําการปิดล้อมส่งผลให้ได้รับบาดเจ็บ พร้อมร้องขอไม่ให้มีการดําเนินคดีและปล่อยตัวผู้ที่ถูกจับกุมทันที ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตํารวจได้ดําเนินการตามยุทธวิธี เพื่อควบคุมสถานการณ์ โดยประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้ง กองกํากับการสืบสวน มูลนิธิกุศลธรรมภูเก็ต โรงพยาบาลวชิระภูเก็ต กองบังคับการกองอาสาดินแดนจังหวัดภูเก็ต เจ้าหน้าที่ตํารวจสันติบาล หน่วยพิสูจน์หลักฐานจังหวัดภูเก็ต และเจ้าหน้าที่ฝ่ายต่างๆที่เกี่ยวข้อง เพื่อบูรณาการความร่วมมือ เพื่อยุติการชุมนุม เบื้องต้นการเจรจาไม่เป็นผลและยกระดับใช้ความรุนแรงบุกยึดอาคารที่ทําการ สภ.เมืองภูเก็ต กระทั่งเจ้าหน้าที่ตํารวจสามารถจับกุมผู้ก่อเหตุที่ใช้ความรุนแรงที่มีอาวุธ กลุ่มแกนนําด้วยวิธีการจับกุมแบบ UN ควบคุมตัวนําขึ้นรถควบคุมผู้ต้องหา แยกไปควบคุมที่ สภ.ใกล้เคียงเพื่อป้องกันการรวมกลุ่มของผู้ถูกจับกุม และนําตัวผู้ได้รับบาดเจ็บบางส่วนส่งรักษาที่โรงพยาบาล อย่างไรก็ตาม หลังจากการดําเนินการตามยุทธวิธีการจับกุมแบบ UN และสามารถยุติการชุมนุมได้แล้วนั้น ชุดปฏิบัติการได้ร่วมกันวิเคราะห์ ประเมินสถานการณ์ เพื่อวางแนวทางป้องกันเหตุที่อาจจะเกิดขึ้นจริงในพื้นที่ และสามารถระงับเหตุการณ์ได้อย่างทันท่วงทีและถือเป็นการฝึกซ้อมให้เจ้าหน้าที่ทุกนายได้มีความพร้อมในการปฏิบัติหน้าที่เมื่อมีเหตุการณ์เกิดขึ้นในพื้นที่ที่รับผิดชอบ#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
|
5/1/2023
|
ภาคใต้
|
ภูเก็ต
|
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดภูเก็ต
|
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230105204536493
| null |
Subsets and Splits
No community queries yet
The top public SQL queries from the community will appear here once available.