NewsTitle
stringlengths
11
31.5k
Detail
stringlengths
9
78.4k
NewsDate
stringlengths
3
5.77k
Region
stringclasses
48 values
Province
stringclasses
99 values
Department
stringclasses
211 values
Link_News
stringlengths
3
903
v
stringclasses
812 values
เกษตรและสหกรณ์จังหวัดชัยภูมิ ลงพื้นที่ติดตามผลการดำเนินงานโครงการขับเคลื่อนการเกษตรระดับหมู่บ้านสู่การผลิตสินค้าเกษตรมูลค่าสูง
วันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2566 นางศศิมาภรณ์ พันธโคตร เกษตรและสหกรณ์ จังหวัดชัยภูมิ พร้อมด้วยนางสาวทิพย์วรรณ อรุณศรี หัวหน้ากลุ่มยุทธศาสตร์พัฒนาการเกษตร และเจ้าหน้าที่กลุ่มยุทธศาสตร์พัฒนาการเกษตร ร่วมกับผู้อํานวยการสถานีพัฒนาที่ดินชัยภูมิ สหกรณ์จังหวัดชัยภูมิ ปฏิรูปที่ดินจังหวัดชัยภูมิ เกษตรอําเภอเนินสง่า นายกองค์การบริหารส่วนตําบลรังงาม นางสาวกัลยา จอมสันเทียะ ประธานกลุ่มวิสาหกิจชุมชนกลุ่มปลูกผักบ้านรังงาม และเกษตรกรในพื้นที่ ลงพื้นที่ติดตามผลการต่ําเนินงานโครงการขับเคลื่อนการเกษตรระดับหมู่บ้านสู่การผลิตสินค้าเกษตรมูลค่าสูง บ้านรังงาม อําเภอเนินสง่า จังหวัดชัยภูมิ และร่วมบันทึกรายการโทรทัศน์ในการประชาสัมพันธ์และเผยแพร่องค์ความรู้ ในด้านการพัฒนาแหล่งนําและดินของกลุ่มเกษตรกรได้รับการสนับสนุนแหล่งน้ําในไร่นานอกเขตชลประทานการส่งเสริมการปรับปรุงบํารุงดินโดยการทําปุ๋ยหมัก การผลิตสารควบคุมแมลงศัตรูพืชการรับรองมาตรฐาน GAP การจัดทําบัญชี การสร้างกระบวนการรวมกลุ่มให้มีความเข้มแข็งการบริหารจัดการสินค้าเกษตรในการจําหน่ายและเชื่อมโยงการตลาด Modern Trade โดยใช้หลักคิด "การตลาดนําการเกษตร" โดยการบูรณาการร่วมกันกับหน่วยงานทุกภาคส่วน รวมทั้งเยี่ยมชมแปลงของเกษตรกรในพื้นที่บ้านรังงาม ต.รังงาม อ.เนินสง่า จ.ชัยภูมิ#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
17/2/2023
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ชัยภูมิ
สวท.ชัยภูมิ
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230217164102289
null
ปศุสัตว์ชัยภูมิฝึกอบรมเกษตรกร ภายใต้โครงการระบบส่งเสริมการเกษตรแบบแปลงใหญ่
เมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2566 นายบุญส่ง รัตนพร ปศุสัตว์จังหวัดชัยภูมิ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กลุ่มส่งเสริมและพัฒนาการปศุสัตว และนางเกยูร เผือกศิลา ปศุสัตว์อําเภอบ้านเขว้า ดําเนินการฝึกอบรมเกษตรกรตามโครงการระบบส่งเสริมการเกษตรแบบแปลงใหญ่ หลักสูตร การเพิ่มประสิทธิภาพการจัดการอาหารสัตว์และยกระดับมาตรฐานฟาร์ม แก่เกษตรกรแปลงใหญ่กลุ่มวิสาหกิจชุมชนผู้เลี้ยงกระบือตําบลชีบน อําเภอบ้านเขว้า จังหวัดชัยภูมิ จํานวน 10 ราย เพื่อสนับสนุนให้เกษตรกรผู้เลี้ยงกระบือมีการรวมกลุ่มและการบริหารจัดการ สามารถลดต้นทุนการผลิตและมีผลผลิตต่อหน่วยเพิ่มขึ้น รวมถึงการยกระดับมาตรฐานฟาร์ม (GFM) โดยได้การสนับสนุนจาก นายวุฒิพันธุ์ เนตรวิชัย ผู้อํานวยการศูนย์วิจัยและพัฒนาอาหารสัตว์นครราชสีมา และนายวิวัฒน์ นนทสร นายช่างเครื่องกล ศูนย์ซ่อมบํารุงเครื่องจักรกลอาหารสัตว์ บรรยายให้ความรู้เรื่องหลักการคิดต้นทุนการผลิตและแนวทางการลดต้นทุนการผลิตอาหารสัตว์ ด้วยการนําเทคโนโลยีนวัตกรรมเครื่องจักรกลการเกษตรด้านปศุสัตว์ (Motor Pool) มาประยุกต์ใช้ในการจัดการแปลงพืชอาหารสัตว์และสํารองเสบียงสัตว์ของเกษตรกรต่อไป รวมทั้งได้มอบเวชภัณฑ์ให้แก่เกษตรกรผู้เข้าอบรมด้วย#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
17/2/2023
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ชัยภูมิ
สวท.ชัยภูมิ
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230217164245290
null
เกษตรอำเภอย่านตาขาว จังหวัดตรัง ลงพื้นที่ขับเคลื่อนการดำเนินกิจกรรมของศูนย์จัดการศัตรูพืชชุมชน (ศจช.) บ้านปากคลองกลาง ตำบลโพรงจระเข้
นายนนท์นภนต์ นาพอ เกษตรอําเภอย่านตาขาว มอบหมายให้นางแพรวพรรณ ทองพิทักษ์ นักวิชาการส่งเสริมการเกษตรชํานาญการ ลงพื้นที่ประชุมคณะกรรมการ ศจช.บ้านปากคลองกลาง เรื่องการศึกษาดูงานผลิตปุ๋ยอินทรีย์ ณ ศดปช.บ้านทุ่งไหม้ หมู่ที่ 1 ตําบลทุ่งค่าย การลงหุ้นเพื่อผลิตปุ๋ยหมักใช้เองในชุมชน เพื่อขับเคลื่อนการดําเนินกิจกรรมของศูนย์จัดการศัตรูพืชชุมชนบ้านปากคลองกลาง หมู่ที่ 5 ตําบลโพรงจระเข้ อําเภอย่านตาขาว จังหวัดตรัง ทั้งนี้ ได้ร่วมกันการผลิตขยายเชื้อราไตรโคเดอร์มา เพื่อนําไปใช้ในการป้องกันเชื้อราสาเหตุโรคพืชที่ โดยได้แนะนําวิธีการใช้เชื้อราไตรโคเดอร์มาในอัตราส่วนดังนี้ ทางดิน ผสมเชื้อสด 1 กิโลกรัม : รําละเอียด 4 กิโลกรัม : ปุ๋ยหมัก 100 กิโลกรัม โรยรอบโคนต้น ต้นละ 1 กิโลกรัม หรือใช้เชื้อราไตรโคเดอร์มา 1 กิโลกรัม ต่อน้ําสะอาด 100-200 ลิตร ฉีดพ่นให้ทั่วแปลง ในกรณีพืชผักแนะนําให้ใช้เชื้อราไตรโคเดอร์มาสดคลุกเมล็ดก่อนนําไปปลูก โดยผสมเชื้อสด 10 กรัม (1 ช้อนแกง) : เมล็ด 1 กิโลกรัม : น้ํา 10 ซีซี (1 ช้อนแกง) เขย่าให้เชื้อสดคลุกเคล้าจนติดผิวเมล็ด นําเมล็ดผึ่งลมให้แห้งหรือใช้ปลูกได้ทันที ซึ่งเชื้อราไตรโคเดอรมามีกลไกการทํางานในการกําจัดโรคพืช ดังนี้ 1.แข่งขันกับเชื้อราสาเหตุโรคพืช2.เป็นปรสิตกับเชื้อราสาเหตุโรคพืช 3.สร้างสารยับยั้งหรือทําลายเชื้อราสาเหตุโรคพืช 4.ชักนําให้พืชมีความทนทาน เกษตรกรที่สนใจ เรียนรู้การผลิตขยายเชื้อราไตรโคเดอร์มา สามารถติดต่อได้ที่ สํานักงานเกษตรอําเภอย่านตาขาว โทร 075-281241#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
17/2/2023
ภาคใต้
ตรัง
สวท.ตรัง
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230217161356277
null
สำนักงานเกษตรจังหวัดตรัง เข้าร่วมประชุมชี้แจงแนวทางคัดเลือกอาสาสมัครเกษตรหมู่บ้าน (อกม.) ประจำปี 2566
นายวสันต์ สุขสุวรรณ เกษตรจังหวัดตรัง มอบหมายให้นางสาวจิรณี คชภูมิ นักวิชาการส่งเสริมการเกษตรปฏิบัติการ กลุ่มส่งเสริมและพัฒนาเกษตรกร เข้าร่วมประชุมชี้แจงแนวทางคัดเลือกอาสาสมัครเกษตรหมู่บ้าน (อกม.) ประจําปี 2566 สําหรับเจ้าหน้าที่ของกรมส่งเสริมการเกษตร ที่รับผิดชอบงาน อกม. ทั่วประเทศ ผ่านระบบออนไลน์ (Zoom Meeting) ณ สํานักงานเกษตรจังหวัดตรัง มีนางปุณยนุช วงศธรวรกุล ผู้อํานวยการกองพัฒนาเกษตรกร เป็นประธาน สําหรับการประชุมในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อชี้แจงกรอบการดําเนินการคัดเลือก อกม. ตามระเบียบกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ว่าด้วยการบริหารงานอาสาสมัครเกษตร ที่กําหนดให้มีการคัดเลือกพร้อมกันทั่วประเทศ ในช่วงเดือนมีนาคม-เมษายน 2566 เพื่อให้การขับเคลื่อนงาน อกม. ในพื้นที่เกิดความต่อเนื่องซึ่งถือเป็นกลไกสําคัญในการขับเคลื่อนงานส่งเสริมการเกษตร และสนับสนุนภารกิจของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ให้เกิดผลสําเร็จในระดับพื้นที่อย่างเป็นรูปธรรม#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
17/2/2023
ภาคใต้
ตรัง
สวท.ตรัง
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230217161506279
null
สำนักงานเกษตรอำเภอปะเหลียน จังหวัดตรัง ติดตามสถานการณ์การผลิตลำไยนอกฤดู และตรวจประเมินแปลงปลูกแตงโมที่ขอรับรองมาตรฐาน GAP
นายสุภัทธ คงด้วง เกษตรอําเภอปะเหลียน มอบหมายให้นักวิชาการส่งเสริมการเกษตร สํานักงานเกษตรอําเภอปะเหลียน ลงพื้นที่ เยี่ยมเยียนและติดตามสถานการณ์การผลิตลําไยนอกฤดูของนางสาวปราณี แซ่โค้ว หมู่ที่ 1 ตําบลปะเหลียน อําเภอปะเหลียน จังหวัดตรัง ซึ่งปลูกลําไยพันธุ์เพชรเวียงพิงค์ อายุ 19 ปี ประมาณ 300 ต้น บนเนื้อที่ 13 ไร่ 1 งาน โดยปัจจุบัน ลําไยอยู่ในช่วงกําลังออกดอก คาดว่าผลผลิตจะออกสู่ตลาดในช่วงเดือนมิถุนายน 2566 ซึ่งที่ผ่านมา ลําไยที่ได้มีคุณภาพ ลูกขนาดใหญ่ เม็ดลีบเล็ก รสชาติหวาน กรอบ และปลอดภัย เนื่องจากได้รับการรับรองระบบการผลิตที่ดี ตามมาตรฐาน GAP ของกรมวิชาการเกษตร นอกจากนี้ ยังได้มอบหมายนักวิชาการส่งเสริมการเกษตร สํานักงานเกษตรอําเภอปะเหลียน ลงพื้นที่เพื่อตรวจประเมินแปลงปลูกแตงโม ตําบลเกาะสุกร อําเภอปะเหลียน จังหวัดตรัง ซึ่งเกษตรกรสมัครขอการรับรองมาตรฐาน GAP (มาตรฐานการปฏิบัติทางการเกษตรที่ดี สําหรับพืชอาหาร) โดยใช้วิธีการสอบถาม สํารวจ และตรวจประเมินแปลงของเกษตรกร ข้อมูลการประเมินจะถูกส่งไปยังศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรตรัง เพื่อรับการตรวจประเมินและออกใบรับรองต่อไป#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
17/2/2023
ภาคใต้
ตรัง
สวท.ตรัง
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230217161558280
null
กรมชลประทาน เดินหน้าพัฒนาแหล่งน้ำเพิ่มเติมเมืองเพชรบูรณ์ สร้างโครงการก่อสร้างอ่างเก็บน้ำห้วยสะดวงใหญ่อันเนื่องมาจากพระราชดำริ เพื่อแก้ไขปัญหาทั้งน้ำท่วมและภัยแล้งให้กับชาวหล่มสัก
นายปรัชญา ฉายวัฒนา ผู้เชี่ยวชาญด้านวิศวกรรมโยธา(ด้านวางแผน) เป็นผู้แทนกรมชลประทาน เข้าร่วมประชุมปัจฉิมนิเทศโครงการศึกษาความเหมาะสมและประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมอ่างเก็บน้ําห้วยสะดวงใหญ่อันเนื่องมาจากพระราชดําริ จังหวัดเพชรบูรณ์ โดยการจัดการประชุมปัจฉิมนิเทศโครงการศึกษาความเหมาะสมฯ โครงการดังกล่าว เพื่อชี้แจงผลสรุปการศึกษาความเหมาะสมและประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมของโครงการฯ ให้ทุกภาคส่วน ทั้งที่มีส่วนได้เสีย ได้รับทราบ รวมทั้งรับฟังความคิดเห็นจากทุกภาคส่วน เพื่อนําข้อเสนอแนะและข้อคิดเห็นต่างๆ นําไปปรับปรุงและพัฒนาโครงการฯ ให้ตรงกับความต้องการของประชาชนในพื้นที่ให้มากที่สุดต่อไปสําหรับโครงการอ่างเก็บน้ําห้วยสะดวงใหญ่อันเนื่องมาจากพระราชดําริ จังหวัดเพชรบูรณ์ เป็นโครงการตามแนวพระราชดําริของ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร โดยโครงการนี้เป็นโครงการชลประทานขนาดกลาง บนพื้นที่ลุ่มน้ําห้วยสะดวงใหญ่เป็นลําน้ําสาขาย่อยของลุ่มน้ําสาขาแม่น้ําป่าสักตอนบน หากโครงการแล้วเสร็จ จะสามารถเก็บกักน้ําได้ประมาณ 13.75 ล้าน ลบ.ม. ส่งน้ําด้วยระบบท่อส่งน้ําให้พื้นที่ชลประทานในช่วงฤดูฝนได้ 8,300 ไร่ และฤดูแล้งได้ประมาณ 2,900 ไร่ คลอบคลุมพื้นที่ 2 ตําบล ช่วยบรรเทาปัญหาทั้งน้ําท่วมและภัยแล้ง เป็นแหล่งเพาะพันธุ์ปลาและสถานที่พักผ่อนหย่อนใจให้กับประชาชนในพื้นที่ ทําให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นในอนาคต
17/2/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
Radio-สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230217192209357
null
จังหวัดตราดจัดโครงการคลินิกเกษตรเคลื่อนที่ฯ ในพื้นที่ตำบลเกาะช้างใต้ อำเภอเกาะช้าง
(17 ก.พ. 66) นายชํานาญวิทย์ เตรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดตราด เป็นประธานเปิดโครงการคลินิกเกษตรเคลื่อนที่ในพระราชานุเคราะห์สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ซึ่งจังหวัดตราด โดยสํานักงานเกษตรจังหวัดตราด ร่วมกับหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รวมทั้งเทศบาลตําบลเกาะช้างใต้ จัดขึ้นที่โรงเรียนวัดสลักเพชร หมู่ที่ 5 ตําบลเกาะช้างใต้ อําเภอเกาะช้าง จังหวัดตราด สําหรับการจัดโครงการคลินิกเกษตรเคลื่อนที่ในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์ในการให้บริการทางวิชาการแก่เกษตรกร องค์กรเกษตรกร ชุมชน ให้สามารถดําเนินกิจการได้อย่างต่อเนื่อง มีการบริหารจัดการที่เป็นระบบสามารถแก้ไขปัญหาในการประกอบอาชีพทางด้านการเกษตรให้กับเกษตรกร องค์กรเกษตรกร และประชาชนแต่ละชุมชน ได้อย่างรวดเร็ว โดยมีกิจกรรมคลินิกต่าง ๆ เช่น คลินิกพืช คลินิกสัตว์ คลินิกดิน คลินิกประมง นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมเสริม ได้แก่ คลินิกบัญชี คลินิกสหกรณ์ คลินิกกฎหมาย (สปก.) คลินิกตรวจเลือดหาสารตกค้างให้กับเกษตรกร รวมไปถึงจัดแสดงนิทรรศการที่ก่อให้เกิดประโยชน์แก่เกษตรกร อีกด้วย #สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
17/2/2023
ภาคตะวันออก
ตราด
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดตราด
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230217173313309
null
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์พบเกษตรกร ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรอำนาจเจริญ ร่วมกับ ศูนย์เมล็ดพันธุ์ข้าวอำนาจเจริญ ให้ความรู้กับประชาชน
“รายการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์พบเกษตรกร” วันศุกร์ที่ 17 กุมภาพันธ์ 2566 โดย ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรอํานาจเจริญ ร่วมกับ ศูนย์เมล็ดพันธุ์ข้าวอํานาจเจริญ และ สํานักงานเกษตรและสหกรณ์จังหวัดอํานาจเจริญ นายชาญวิทย์ ธานี เกษตรและสหกรณ์จังหวัดอํานาจเจริญ มอบหมายกลุ่มสารสนเทศการเกษตร สํานักงานฯ ดําเนินรายการวิทยุ “รายการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์พบเกษตรกร” ร่วมกับ นายวิชัย ศิริวรรณ นักวิชาการเกษตร , น.ส.วราทิพย์ จันทร์เรืองเรือง พนักงานประจําสํานักงาน ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรอํานาจเจริญ นายนิติทรัพย์ โสภา เจ้าหน้าที่โครงการแปลงใหญ่ นายเกรียงไกร โล่ห์ชัย เจ้าหน้าที่โครงการแปลงใหญ่ และ น.ส.อารีรัตน์ ปานพิมพ์ เจ้าหน้าที่โครงการแปลงใหญ่ ศูนย์เมล็ดพันธุ์ข้าวอํานาจเจริญ นําเสนอเรื่องราวข่าวสารดังต่อไปนี้ 1. ศวพ. เชิญเที่ยวงานเกษตรอีสานใต้ ประจําปี 2566 ระหว่างวันที่ 10-19 กุมภาพันธ์ 2566 ณ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี สุดยอด นิทรรศการเกษตรมีชีวิต ที่ใหญ่ที่สุดในอีสานใต้ โคก หนอง นา สัตว์เศรษฐกิจ สัตว์เลี้ยงสวยงาม ทุ่งทานตะวัน สวนดอกไม้หลากสี อุโมงค์พืชผัก ระบบเพาะปลูกพืชไฮโดรโปนิค การผลิตมะเขือเทศในโรงเรือน นวัตกรรม ผลงานวิจัย ผลงานทางวิชาการ ผลผลิตจากการเรียนการสอน การให้คําปรึกษาจากหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ การแสดงสินค้าและการออกร้านจําหน่ายสินค้าของเกษตรกร บริษัทเอกชน เครื่องจักรกล อุปกรณ์ต่อพ่วง และเทคโนโลยีทางการเกษตร พันธุ์พืช พันธุ์สัตว์เลี้ยง สินค้ากลุ่มชุมชนและเกษตรกร การเสวนาวิชาการ การแลกเปลี่ยนเรียนรู้ การประกวดผลผลิตทางการเกษตร การแสดงศิลปวัฒนธรรมนักเรียน นักศึกษา เยาวชน และศิลปินมากมาย 2. ศวพ. เชิญร่วมงานวันถ่ายทอดเทคโนโลยี ภายใต้แนวคิดวิชาการนํานวัตกรรมเสริม เพิ่มรายได้การผลิตพืช วันที่ 8-9 มีนาคม 2566 ณ ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรร้อยเอ็ด พบกับแปลงสาธิตพันธุ์พืชและพืชอินทรีย์ นิทรรศการเทคโนโลยีการเกษตร แปลงสาธิตพันธุ์พืชและพืชอินทรีย์ นิทรรศการเทคโนโลยีการเกษตรครบวงจรสู่ตลาด จับคู่ธุรกิจเกษตร พืชสมุนไพรและกาแฟเสวนาการผลิตพืชเศรษฐกิจในพื้นที่ การสาธิตแปรรูปผลิตภัณฑ์จากงานวิจัย การจําหน่ายผลผลิตทางการเกษตรจากเกษตรกร การแจกเมล็ดพันธุ์พืช โชว์นวัตกรรมเกษตรอัจฉริยะ งานบริการวิชาการและคลินิกเกษตร 3. ศวพ. เตือนเกษตรกรระวังปุ๋ยเคมีปลอมระบาด จากสถานการณ์ปัจจุบันปุ๋ยเคมีมีราคาแพงจึงทําให้เกิดกลุ่มมิจฉาชีพนําปุ๋ยเคมีปลอม มาขายผ่านสื่อออนไลน์ต่างๆ ในราคาที่ถูกกว่าท้องตลาด ทําให้มีเกษตรกรลวงเชื่อ เสียเงินซื้อปุ๋ยปลอมมาใช้ กลับกลายเป็นเพิ่มต้นทุนในการเพาะปลูกแต่ไม่เกิดประโยชน์ต่อพืชผล จึงแนะนําวิธีการตรวจสอบในเบื้องต้นคือ 3.1 ตรวจดูภาชนะบรรจุภัณฑ์ ให้เกษตรกรตรวจสอบที่ฉลากสินค้า เลขทะเบียนปุ๋ย สูตรปุ๋ย สถานที่ผลิต ชื่อการค้า ให้ชัดเจน 3.2 ให้เลือกซื้อสินค้าจากร้านที่มีที่ตั้งชัดเจนน่าเชื่อถือแต่หากจะเลือกซื้อผ่านสื่อออนไลน์ ร้านค้านั้นต้องมีใบอนุญาตขายปุ๋ยมาแสดงให้ชัดเจน สําหรับผู้ที่พบเห็นหรือตกเป็นเหยื่อของผู้ผลิตปุ๋ยปลอมสามารถแจ้งพนักงานเจ้าหน้าที่สารวัตรเกษตร หรือ ที่ ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรอํานาจเจริญ ที่ตั้ง : 172 หมู่ 3 บ้านโนนโพธิ์ ตําบลโนนโพธิ์ อําเภอเมืองอํานาจเจริญ โทรศัพท์ 045-525-756-7 4. ศวพ. แนะเกี่ยวกับการขอใบอนุญาตจําหน่ายปุ๋ย ฯลฯ การขออนุญาตใช้สารไกลโฟเซต ติดต่อได้ที่ ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรอํานาจเจริญ ที่ตั้ง : 172 หมู่ 3 บ้านโนนโพธิ์ ตําบลโนนโพธิ์ อําเภอเมืองอํานาจเจริญ โทรศัพท์ 045-525-756-7 5. ศวพ. แจ้งเตือนภัยเกษตรด้านพืช ช่วงนี้ฝากพี่น้องเกษตรกรผู้ปลูกพืช เฝ้าระวัง แมลฃงวันผลไม้ในมะม่วง โรคราแป้ง ด้วงหนวดยาวในอ้อย แมลงวันหนอนชอนใบในพืชตระกูลแตง หนอนกระทู้ผักในถั่วเขขียว และแมลงวันผลไม้ในพุทธทรานมสด *** ติดต่อขอคําแนะนําในการปลูกพืช การดูแลรักษา ตลอดจนการป้องกันกําจัดโรคพืชและแมลงศัตรูพืช ได้ที่ ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรอํานาจเจริญ ที่ตั้ง : 172 หมู่ 3 บ้านโนนโพธิ์ ตําบลโนนโพธิ์ อําเภอเมืองอํานาจเจริญ โทรศัพท์ 045-525-756-7 6. ศวพ.อํานาจเจริญ จําหน่ายท่อนพันธุ์มันสําปะหลัง ระยอง 72 (ท่อนละ 1 บาท) สนใจติดต่อได้ที่เบอร์ 045-525756 และ ศวพ. สนับสนุนให้เกษตรกรลดต้นทุนในการผลิตพืช สนับสนุนพันธุ์แหนแดง กรมวิชาการเกษตร สนใจติดต่อได้ที่เบอร์ 045-525756 7. ศมข. ประชาสัมพันธ์ข่าว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ลงพื้นที่จังหวัดอํานาจเจริญ เปิดงานรณรงค์การถ่ายทอดเทคโนโลยีการลดต้นทุนการผลิตข้าวให้ปฏิบัติได้จริง วันพฤหัสบดีที่ 8 กุมภาพันธ์ 2566 เวลา 13.30 น. ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เดินทางลงพื้นที่จังหวัดอํานาจเจริญเป็นประธานเปิด“การจัดงานรณรงค์การถ่ายทอดเทคโนโลยีการลดต้นทุนการผลิตข้าวให้ปฏิบัติได้จริง ภายใต้โครงการสนับสนุนลดต้นทุนการผลิตด้านการเกษตรสําหรับเกษตรกรผู้ปลูกข้าว” ณ ศูนย์เมล็ดพันธุ์ข้าวอํานาจเจริญ ตําบลคึมใหญ่ อําเภอเมืองอํานาจเจริญ จังหวัดอํานาจเจริญ พร้อมด้วยผู้บริหารในระดับกระทรวงและระดับกรมที่สังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เดินทางลงพื้นที่ในครั้งนี้ด้วย โดยมีนายชนาส ชัชวาลวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดอํานาจเจริญ หัวหน้าส่วนราชการและเกษตรกรในพื้นที่จังหวัดอํานาจเจริญให้การต้อนรับและร่วมกิจกรรมตามโครงการดังกล่าว 8. ศมข. ประชาสัมพันธ์โครงการส่งเสริมการเปลี่ยนเมล็ดพันธุ์ข้าว ปี 2566 ติดต่อสอบถามและสมัครเข้าร่วมโครงการฯ ได้ที่ ศูนย์เมล็ดพันธุ์ข้าวอํานาจเจริญ ที่ตั้ง : 169 หมู่ 10 บ.คําสมบูรณ์ ต.คึมใหญ่ อ.เมืองฯ โทรศัพท์ 045-525-677 ในวันและเวลาราชการ 9. ศมข. ประชาสัมพันธ์ “รณรงค์หยุดเผาในพื้นที่การเกษตร” ปี 2566โดยการปรับเปลี่ยนวิธีการจัดการเศษวัสดุทางการเกษตรเพื่อทดแทนการเผา เช่น การไถกลบตอซังฟางข้าว ใบอ้อย หรือเศษซากพืช เพื่อช่วยเพิ่มความอุดมสมบูรณ์และคืนชีวิตให้ดิน การนําฟางข้าว หรือเศษวัสดุการเกษตรที่เหลือทิ้งในแปลงเพาะปลูกมาผลิตปุ๋ยอินทรีย์ ปุ๋ยหมักทดแทนปุ๋ยเคมี เป็นการลดต้นทุนการใช้ปุ๋ย หรือการเพิ่มมูลค่าจากเศษศวัสดุ เช่น การอัดฟางก้อน การเพาะเห็ดฟาง การผลิตอาหารสัตว์ การผลิตเชื้อเพลิงอัดแท่ง หรือแม้แต่การห่มดินโดยนําเศษใบไม้ เศษฟาง เศษหญ้า มาคลุมบริเวณโคนต้นพืช จึงอยากขอความร่วมมือเกษตรกรงดการเผาในพื้นที่เกษตร เพื่อร่วมกันบรรเทาปัญหาฝุ่นละออง PM2.5 และ หมอกควันในพื้นที่ร่วมกันอย่างต่อเนื่อง 10. ศมข. เปิดจําหน่ายเมล็ดพันธุ์ข้าว คุณภาพดี มาตรฐานกรมการข้าว “ข้าวหอมมะลิ 105” กระสอบละ 625 บาท เริ่ม 19 กุมภาพันธ์ 2566 นี้ สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ ศูนย์เมล็ดพันธุ์ข้าวอํานาจเจริญ ที่ตั้ง : 169 หมู่ 10 บ.คําสมบูรณ์ ต.คึมใหญ่ อ.เมืองอํานาจเจริญ จังหวัดอํานาจเจริญ โทรศัพท์ 045-525-677 11. ศมข. เตรียมจัดกิจกรรมเวทีชุมชนสําหรับกลุ่มเกษตรแปลงใหญ่ข้าวที่ได้รับงบประมาณในปีงบ 2566 จํานวน 66 แปลง ในช่วงเดือนมีนาคม 2566 - เมษายน 2566 การตั้งคณะกรรมการ ชี้แจงเป้าหมายในการทําโครงการ วิเคราะห์พื้นที่ คํานวณต้นทุนการผลิต วางแผนลดต้นทุน การแบ่งพื้นที่แปลงใหญ่ข้าวเพื่อพัฒนา จัดทําแผนในการปลูกข้าว 12. ศมข. เชิญชวนเกษตรกรไปชมการสาธิตการใช้เครื่องปรับระดับหน้าดินด้วยเซนเซอร์เลเซอร์ ในวันที่ 21-22 มีนาคม 2566 ณ ศูนย์ข้าวชุมชนตําบลห้วยไร่ อําเภอเมืองอํานาจเจริญ จังหวัดอํานาจเจริญ (จัดโดย : ศูนย์วิจัยข้าวอุบลราชธานี ศูนย์เมล็ดพันธุ์ข้าวอํานาจเจริญ ศูนย์ข้าวชุมชน และผู้ประกอบการ)#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
17/2/2023
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
อำนาจเจริญ
สวท.อำนาจเจริญ
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230217193415363
null
ผู้ว่าฯ บึงกาฬ รณรงค์เฝ้าระวังป้องกันไฟป่าและหมอกควัน พร้อมเน้นย้ำการสนับสนุนขับเคลื่อนรณรงค์เผยแพร่ความรู้สู่ประชาชนทุกพื้นที่อย่างต่อเนื่อง
ที่บริเวณลานสถานีควบคุมไฟป่าภูวัว-ภูลังกา ต.หนองเดิ่น อ.บุ่งคล้า จ.บึงกาฬ นายนฤชา โฆษาศิวิไลซ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดบึงกาฬ เปิดกิจกรรมรณรงค์เฝ้าระวังป้องกันไฟป่าและหมอกควันจังหวัดบึงกาฬ ประจําปี พ.ศ.2566 โดยกิจกรรมดังกล่าวจัดขึ้นโดยสํานักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดบึงกาฬ มีวัตถุประสงค์เพื่อจัดกิจกรรมรณรงค์เฝ้าระวังป้องกันไฟป่าและหมอกควันจังหวัดบึงกาฬ สร้างความรับรู้ถึงภัยพิบัติของไฟป่า ให้ทุกภาคส่วนและเครือข่ายกลุ่มพลังมวลชนได้เกิดจิตสํานึกร่วมกันรณรงค์เฝ้าระวังไฟป่าและหมอกควันของจังหวัดบึงกาฬให้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน รวมทั้งเพื่อสนับสนุนการขับเคลื่อนรณรงค์เผยแพร่ความรู้สู่ประชาชนทุกพื้นที่อย่างต่อเนื่องด้วยโดยกิจกรรม ประกอบด้วย การเสวนา แลกเปลี่ยน รณรงค์ สร้างจิตสํานึก ในการระวังป้องกันไฟป่าและหมอกควันในทุกภาคส่วนและเครือข่ายฯ โดยเฉพาะผู้นําท้องที่ ผู้นําท้องถิ่นที่จะนําไปขยายผลต่อในพื้นที่ของตน นอกจากนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดบึงกาฬ ยังได้มอบเครื่องมือ/ อุปกรณ์ที่ใช้ในการดับไฟป่า พร้อมทั้งได้ร่วมกันทําแนวกันไฟ และชมการสาธิตการปฏิบัติงานดับไฟป่าด้วยสําหรับปัญหาไฟป่าและหมอกควันมักเกิดขึ้นได้ง่ายในช่วงหน้าแล้งของทุกปี เนื่องมาจาก ประชาชน เกษตรกรอาจจะมีการเผาป่าเพื่อล่าสัตว์ หรือเพื่อปรับปรุงพื้นที่การเกษตร ทําให้เกิดไฟไหม้ป่าและหมอกควัน ส่งผลกระทบกับสภาพอากาศ และความเป็นอยู่ของประชาชน จังหวัดบึงกาฬจึงขอความร่วมมือไม่ให้มีการเผาป่าในทุกพื้นที่ รวมทั้งประชาสัมพันธ์สร้างความรู้ความเข้าใจในการป้องกันเฝ้าระวังไฟป่าและหมอกควัน จนถึงภัยพิบัติที่เกิดขึ้นหากเกิดไฟป่าในพื้นที่ซึ่งทุกภาคส่วนต้องร่วมมือร่วมใจกันอย่างจริงจัง โดยเฉพาะประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ต้องให้ความสําคัญ ไม่มีการเผาทุกชนิด หากพบเห็นไฟไหม้ป่าต้องช่วยกันดับทันที หากเกินกําลังให้แจ้งหน่วยงานรับผิดชอบมาดับไฟทันที และหากแก้ไขปัญหานี้ได้ ก็จะทําให้บึงกาฬเป็นเมืองสะอาด ธรรมชาติสวยงาม และผู้คนก็จะอายุยืนด้วย และหากพบเห็นเหตุลักลอบเผาป่า จุดไฟล่าสัตว์ สามารถแจ้งผ่านสายด่วนกรมอุทยานแห่งชาติ หมายเลข 1362 ได้ทันที หรือกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย 1784 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
17/2/2023
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
บึงกาฬ
สวท.บึงกาฬ
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230217201820375
null
คณะทำงานการประกวดวิสาหกิจชุมชนดีเด่น ระดับจังหวัดสุรินทร์ ลงพื้นที่ติดตาม ประเมินผล และเยี่ยมชมผลงานของวิสาหกิจชุมชน ที่เข้ารับการคัดเลือก 2 แห่ง จังหวัดสุรินทร์
คณะทํางานการประกวดวิสาหกิจชุมชนดีเด่น ระดับจังหวัดสุรินทร์ นําโดย นายสุรพงษ์ เนตรพระ หัวหน้ากลุ่มส่งเสริมและพัฒนาเกษตรกร สํานักงานเกษตรจังหวัดสุรินทร์ และผู้แทนหัวหน้าส่วนราชการ จาก 6 หน่วยงาน ลงพื้นที่ติดตาม ประเมินผล และเยี่ยมชมผลงานของวิสาหกิจชุมชน เข้ารับการคัดเลือกให้เป็นวิสาหกิจชุมชนดีเด่น ระดับจังหวัดสุรินทร์ 2 แห่ง ประกอบด้วย1) วิสาหกิจชุมชนทอผ้าไหมพื้นเมืองบ้านอาลึ ตั้งอยู่ที่ 47 หมู่ที่ 4 ตําบลสําโรงทาบ อําเภอสําโรงทาบ มีกิจกรรมปลูกหม่อนเลี้ยงไหม และทอผ้าไหมพื้นเมือง ทางกลุ่มสามารถผลิตผ้าไหมเป็นผลิตภัณฑ์หลักเพื่อจําหน่ายได้ตลอดทั้งปี และนําผ้าไหมมาตัดเย็บและแปรรูปเป็นเสื้อผ้า ผ้าคลุมไหล่ กระเป๋า เข็มกลัด โบว์ผูกผม พวงกุญแจ และผ้าปิดปาก ภายใต้แบรนด์ “คองกูย” โดยสร้างรายได้ให้กับชุมชนเป็นอย่างดี เคยได้รับรางวัลหลายรางวัล และนอกจากนี้ยังสร้างรายได้จากการท่องเที่ยวเชิงเกษตรและวัฒนธรรม “บ้านอาลึโฮมสเตย์” อีกด้วย2) วิสาหกิจชุมชนศูนย์ผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าวบ้านโคกกระดวด ตั้งอยู่ที่ 97 หมู่ 9 ตําบลลําดวน อําเภอลําดวน จัดตั้งขึ้นเพื่อเป็นเครือข่ายผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าวพันธุ์ดีและการผลิตข้าวที่เหมาะสม จัดทําแปลงผลิตและกระจายเมล็ดพันธุ์ข้าวพันธุ์ดี มีมาตรฐาน ปัจจุบันมีสมาชิก 25 ราย จํานวนพื้นที่ทําแปลงเมล็ดพันธุ์ 152 ไร่#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
17/2/2023
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
สุรินทร์
สวท.สุรินทร์
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230217191531349
null
“เกษตรกรคนเลี้ยงสัตว์” แซนวิชที่ถูกบีบ
ปลายปีที่แล้วจนถึงปัจจุบัน เกษตรกรภาคปศุสัตว์ทยอยออกมาส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือจากรัฐบาลอย่างต่อเนื่อง ไล่มาตั้งแต่เกษตรกรผู้เลี้ยงไก่ไข่ภาคกลาง คุณพเยาว์ อริกุล ระบุว่าต้นทุนการผลิตไข่ไก่สูงสูงกว่าช่วงปกติถึง 30% จากราคาธัญพืชวัตถุดิบอาหารสัตว์พุ่งสูงขึ้นอย่างมากและยืนแข็งในเกณฑ์สูง โดยเฉพาะข้าวโพดเลี้ยงสัตว์และกากถั่วเหลือง ด้านผู้เลี้ยงสุกรภาคตะวันออกเฉียงเหนือ คุณสิทธิพันธ์ ธนาเกียรติภิญโญ ก็ระบุชัดเจนว่าฟาร์มเลี้ยงสุกรกําลังเผชิญปัญหาด้านต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้น จากวัตถุดิบอาหารสัตว์ที่แพงขึ้นมาก ถัดมาไม่นาน ดร.ฉวีวรรณ คําพา สมาคมส่งเสริมการเลี้ยงไก่แห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ ก็ให้สัมภาษณ์ผ่านสื่อว่า ต้นทุนการเลี้ยงไก่เพิ่มรอบด้าน อาจแบกต่อไม่ไหว หากรัฐไม่แก้ไขราคาวัตถุดิบอาหารสัตว์- ค่าไฟ- ค่าแรง ด้านสมาคมผู้เลี้ยงไก่เนื้อ คุณวีระพงษ์ ปัญจวัฒนกุล ก็กล่าวในทิศทางเดียวกันว่า รัฐบาลควรช่วยเหลือดูแลเรื่องราคาวัตถุดิบอาหารสัตว์ อยากให้เห็นใจคนเลี้ยงไก่ด้วย ไม่ใช่ดูแลเฉพาะเกษตรกรผู้ปลูกพืชวัตถุดิบอาหารสัตว์ ขณะที่คุณอําพล แสนนา เกษตรกรผู้เลี้ยงเป็ดไข่ จ.ขอนแก่น ก็ยืนยันว่าสงครามรัสเซีย-ยูเครน ทําให้วัตถุดิบผลิตอาหารสัตว์แพงขึ้น และช่วงที่ผ่านมารัฐบาลขึ้นค่าไฟฟ้า จึงทําให้ค่าอาหารสัตว์ปรับราคาสูงขึ้นและยังมีแนวโน้มสูงอย่างต่อเนื่อง กระทบต้นทุนไข่เป็ด ล่าสุด เกษตรกรผู้เลี้ยงสุกรในภาคใต้ ย้ําว่าปัญหาหมูเถื่อนทําให้ต้องยืดระยะเวลาการเลี้ยงสุกรและต้องใช้อาหารมากขึ้น ซึ่งวัตถุดิบผลิตอาหารสัตว์มีราคาสูงขึ้นทุกตัว ไม่ว่าจะเป็นกากถั่วเหลือง ข้าวโพด ปลาป่น หรือปลายข้าว กระทบต้นทุนการผลิตอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ สะท้อนให้เห็นว่า “ปัญหาร่วม” ของเกษตรกรภาคปศุสัตว์ทั่วประเทศ ที่กําลังเผชิญอยู่คือ 1.) ปัญหาต้นทุนการผลิต ที่มีสาเหตุหลักมาจาก “วัตถุดิบอาหารสัตว์” ราคาพุ่งสูงขึ้นทุกชนิด 2.) ราคาขายผลผลิตที่ไม่สามารถขยับให้สอดคล้องกับต้นทุน คนเลี้ยงสัตว์จึงเหมือนเป็นอาชีพที่ถูกบีบคั้นกดดันจาก “ภาครํฐ” ที่อ้างว่าต้องการดูแล “เกษตรกรพืชไร่” ที่ต้นทาง และดูแล “ผู้บริโภค” ที่ปลายทาง ... การถูกบีบเป็นไส้แซนวิชอยู่ตรงกลางเช่นนี้ นับว่าน่าเห็นใจอย่างยิ่ง ปัญหาข้อแรก : ต้นทุนการผลิตจากวัตถุดิบราคาแพง ดังที่เกษตรกรทุกคนกล่าวแล้วข้างต้น ราคาวัตถุดิบเป็นปัจจัยหลักที่ทําให้ต้นทุนการผลิตเนื้อสัตว์สูงขึ้น เนื่องจากอาหารมีสัดส่วนในต้นทุนถึง 60-70% โดยราคาวัตถุดิบแต่ละชนิดพุ่งสูงขึ้นมาก เช่น ราคาข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ในปี 2564 เฉลี่ยอยู่ที่ 10.05 บาท/กก. ปี 2565 ขยับขึ้นมาเฉลี่ยอยู่ที่ 12.34 บาท/กก. ส่วนราคาข้าวสาลี ปี 2564 ราคาเฉลี่ย 8.94 บาท /กก. และ ปี 2565 ราคาเฉลี่ยพุ่งขึ้นสูงมาก มาอยู่ที่ 14.17 บาท /กก. ในแต่ละปีประเทศไทยต้องการใช้ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ มาเป็นวัตถุดิบผลิตอาหารสัตว์ราว 8 ล้านตัน แต่ในไทยปลูกข้าวโพดได้เพียง 5 ล้านตัน จึงขาดแคลนถึง 3 ล้านตันซึ่งต้องอาศัยการนําเข้าจากต่างประเทศ ปัญหาอยู่ตรงที่ราคาข้าวโพดนี่ล่ะ รู้หรือไม่ว่าข้าวโพดในประเทศไทยนั้นแพงกว่าข้าวโพดจากต่างประเทศมาก เช่น ปัจจุบัน ราคาข้าวโพดไทยอยู่ที่ 13.65 บาท/กก. ขณะที่ข้าวโพดในตลาดโลก ราคาเพียง 9.10 บาท/กก. เท่านั้น ซึ่งมีสาเหตุจากนโยบายรัฐ ที่ไม่เอื้อต่อเกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์ แต่กลับสร้างปัญหาให้ต้นทุนการผลิตสัตว์ของไทยสูงขึ้นกว่าที่ควรจะเป็น สมาพันธ์ปศุสัตว์และเพาะเลี้ยงสัตว์นํ้า จึงเสนอทางออกให้รัฐแก้ปมปัญหาข้าวโพดอย่างเร่งด่วนใน 2 หัวข้อ คือ 1.) เปิดให้นําเข้าเสรีข้าวโพด 3 ล้านตัน ทดแทนส่วนที่ขาดในประเทศ และ 2.) ยกเลิกมาตรการ 3:1 ที่เป็นอุปสรรคซ้ําเติมต้นทุนการผลิตสัตว์ และส่งผลต่อราคาสินค้าให้ผู้บริโภคต้องแบกรับ ส่วนกากถั่วเหลืองอีกหนึ่งวัตถุดิบสําคัญที่นโยบายรัฐกําลังทําร้ายเกษตรกรคนเลี้ยงสัตว์ ด้วยการเก็บภาษีนําเข้า 2% จากวัตถุประสงค์เพื่อช่วยเหลือโรงสกัดน้ํามันถั่วเหลืองในประเทศให้ได้ประโยชน์จากการขายกากถั่วเหลืองราคาสูงให้โรงงานอาหารสัตว์ แต่ในสถานการณ์ที่คนเลี้ยงสัตว์กําลังย่ําแย่จากต้นทุนวัตถุดิบแพงเช่นนี้ รัฐควรยกเลิกภาษีดังกล่าวทันที ซึ่งจะไม่กระทบโรงงานน้ํามันพืช เพราะข้อบังคับให้ผู้ผลิตอาหารสัตว์ต้องซื้อกากถั่วเหลืองจากในประเทศให้หมดนั้นยังคงอยู่เช่นเดิม ปัญหาข้อที่ 2 : ราคาขายผลผลิตเนื้อสัตว์ไม่สอดคล้องต้นทุน เมื่อต้นทุนการผลิตสูงขึ้น เกษตรกรควรที่จะสามารถขายผลผลิตที่ได้ในราคาที่สอดคล้องต้นทุน และมีกําไรพอที่จะดําเนินกิจการฟาร์มของตนต่อไปได้ เพราะไม่มีธุรกิจใดอยู่รอดหากถูกควบคุมให้ขายในราคาที่ไม่คุ้มทุน การลดแรงบีบคั้นเกษตรกรคนเลี้ยงสัตว์ในขณะที่ต้นทุนวัตถุดิบมีราคาสูง โดยปล่อยให้ราคาผลผลิตเป็นไปตามกลไกตลาด จะช่วยผ่อนคลายให้พวกเขาสามารถต่อลมหายใจและมีแรงพอที่จะพยุงฟาร์มของตนต่อไป หากถูกกดดันทั้งขึ้นทั้งล่อง ย่อมไปต่อไม่ไหว เมื่อเกษตรกรล้มเลิกกิจการกันหมดจะเหลือใครเลี้ยงสัตว์ผลิตอาหารให้คนกิน เมื่อนั้นผลผลิตขาดแคลนหนัก เนื้อสัตว์กลายเป็นของหายาก คงไม่ต้องพูดถึงราคาที่ผู้บริโภคอย่างเราต้องจ่ายว่ามันจะสูงลิ่วขนาดไหน สุดท้ายก็คือการบั่นทอนความมั่นคงทางอาหารของประเทศ ซึ่งเลวร้ายที่สุดอย่างไม่ควรปล่อยให้เกิดขึ้น การให้ความสําคัญกับห่วงโซ่การผลิตอาหารตลอดทั้งสายการผลิตอย่างเป็นธรรม จะทําให้ทั้งองคาพยพเดินหน้าไปด้วยกันได้ทั้งระบบ เกิดประโยชน์ต่อส่วนรวมและประเทศชาติ ยิ่งเมื่อพบว่า “นโยบายรัฐ” เป็นต้นเหตุของปัญหา ผู้มีอํานาจยิ่งต้องเร่งแก้ไขในทันที ไม่ใช่ปล่อยให้เป็นดินพอกหางหมู และบานปลายจนอาจจะยากเกินเยียวยาเช่นที่กําลังเกิดขึ้นในขณะนี้ โดย ลักขณา นิราวัลย์
17/2/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สำนักพัฒนานโยบายและแผนการประชาสัมพันธ์
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230217172216304
null
ค่าฝุ่น PM 2.5 จังหวัดลำปางลดลงเหลือเพียง 27 ไมโครกรัมลูกบาศก์เมตร หลังมีฝนตกในหลายพื้นที่ ขณะที่สำนักงานสิ่งแวดล้อมและควบคุมมลพิษที่ 2 บูรณาหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตั้งจุดตรวจวัดควันดำรถยนต์ ป้องกันการเกิดฝุ่นเกินมาตรฐาน
ภายหลังจากที่มีฝนตกลงมาในหลายพื้นที่ของจังหวัดลําปาง ในช่วงคืนที่ผ่านมา ส่งผลให้ตลอดทั้งวันค่าฝุ่น PM 2.5 ลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยในช่วงเย็นที่ ต.พระบาท อ.เมืองลําปาง เหลือเพียง 27 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร มองเห็นทัศนวิสัยได้ชัดเจน ประชาชนต่างรู้สึกผ่อนคลาย ออกมาใช้ชีวิตปกติมากยิ่งขึ้น หลังคุณภาพอากาศเกินเกณฑ์มาตรฐานจนส่งกระทบต่อสุขภาพตลอดหลายวันที่ผ่านมาขณะที่สํานักงานสิ่งแวดล้อมและควบคุมมลพิษที่ 2 ได้บูรณาการร่วมกับสํานักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดลําปาง สํานักงานขนส่งจังหวัดลําปาง สถานีตํารวจภูธรเมืองลําปาง และเทศบาลเมืองพิชัย จัดกิจกรรมตรวจวัดควันดํา ที่มีสาเหตุมาจากยานพาหนะขนส่งทางบกที่ระบายมลพิษเกินมาตรฐาน อีกทั้งเพื่อรณรงค์ให้ประชาชนในพื้นที่เกิดความตระหนัก ในการที่จะดูแลบํารุงรักษาเครื่องยนต์ยานพาหนะ ให้ทํางานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ณ ที่ทําการสายตรวจ ต.พิชัย สถานีตํารวจภูธเมืองลําปาง ถ.ลําปาง - งาว (ขาขึ้น) ซึ่งจังหวัดลําปางถือเป็นจังหวัดที่มีเส้นทางสัญจรหลักไปสู่จังหวัดอื่น ๆ และเป็นพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบเกิดปัญหาฝุ่น PM 2.5 ที่มาจากการจราจรและการขนส่งทางบก โดยมีรถยนต์ถูกเรียกตรวจควันดํา รวมจํานวน 154 คัน พบควันดําเกินมาตรฐาน จํานวน 6 คัน#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
17/2/2023
ภาคเหนือ
ลำปาง
สวท.ลำปาง
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230217193253362
null
คณะทำงานการประกวดวิสาหกิจชุมชนดีเด่น ระดับจังหวัดสุรินทร์ ติดตามและประเมินผล พร้อมทั้งเยี่ยมชมผลงานของวิสาหกิจชุมชนศูนย์ส่งเสริมผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าวชุมชนพระแก้ว อ.สังขะ
นายวันชัย ประยงค์หอม เกษตรจังหวัดสุรินทร์ เปิดเผยว่า ได้มอบหมายให้คณะทํางานการประกวดวิสาหกิจชุมชนดีเด่น ระดับจังหวัดสุรินทร์ ินําโดยนายสุรพงษ์ เนตรพระ หัวหน้ากลุ่มส่งเสริมและพัฒนาเกษตรกร สํานักงานเกษตรจังหวัดสุรินทร์ และผู้แทนหัวหน้าส่วนราชการ จาก 6 ิหน่วยงาน ลงพื้นที่อําเภอสังขะ เพื่อติดตามและประเมินผล พร้อมทั้งเยี่ยมชมผลงานของวิสาหกิจชุมชนศูนย์ส่งเสริมผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าวชุมชนพระแก้ว ตั้งอยู่ที่ 29 หมู่ที่ 15 ตําบลพระแก้ว จัดตั้งขึ้นเพื่อผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าวมาตรฐานไว้ใช้ในกลุ่มและชุมชน เป็นพันธุ์ข้าวขาวดอกมะลิ 105 และ กข 15 และจําหน่ายข้าวสารหอมมะลิข้าวกล้อง โดยได้รับมาตรฐาน Organic Thailand และมาตรฐานการผลิตข้าวอินทรีย์ตําบลพระแก้ว ที่เข้ารับการคัดเลือกให้เป็นวิสาหกิจชุมชนดีเด่น ระดับจังหวัดสุรินทร์#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
17/2/2023
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
สุรินทร์
สวท.สุรินทร์
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230217194949370
null
วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยียโสธร แถลงข่าวจัดงาน“มหกรรมเกษตรอินทรีย์ วิถีอีสาน” การประชุมวิชาการ อกท. ระดับชาติ ครั้งที่ 43
วันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2566 เวลา 09.00 น. ที่วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยียโสธร ต.บากเรือ อ.มหาชนะชัย จ.ยโสธร จัดแถลงข่าว การจัดงาน“มหกรรมเกษตรอินทรีย์ วิถีอีสาน”การประชุมวิชาการระดับชาติ องค์การเกษตรกรในอนาคตแห่งประเทศไทย ในพระราชูปถัมภ์ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ครั้งที่ 43 หรือ การประชุมวิชาการ อกท. ระดับชาติ ครั้งที่ 43 โดยมี เรืออากาศโท สมพร ปานดํา รองเลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา เป็นประธานในการแถลงข่าว พร้อมด้วย นายสุวัฒน์ เข็มเพชร รองผู้ว่าราชการจังหวัดยโสธร นายทองอาบ บุญอาจ ประธานคณะกรรมการอํานวยการ อกท. ระดับชาติ นายจักรภพ มงคลสวัสดิ์ ผู้อํานวยการวิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยียโสธร และ นายณรงค์ศักดิ์ ดวงแก้ว นายก อกท. ระดับชาติ หน่วยอุบลราชธานี ดําเนินรายการ โดย นางสาวนรีรัตน์ เจริญศิริรัตนา นักประชาสัมพันธ์ชํานาญการ สํานักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดยโสธร และมีหัวหน้าส่วนราชการ ผู้บริหารสถานศึกษา คณาจารย์ นักเรียน นักศึกษา และ สื่อมวลชนร่วมการแถลง พร้อมถ่ายทอดเสียงผ่านทาง สวท.ยโสธร FM.90.0 MHz และเผยแพร่การแลงข่าวผ่านกเพจเฟสบุ๊ค สวท.ยโสธร และ สํานักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดยโสธร ด้วยสําหรับการจัดแถลงข่าวในครั้งนี้ เพื่อประชาสัมพันธ์การจัดงาน “มหกรรมเกษตรอินทรีย์ วิถีอีสาน”การประชุมวิชาการระดับชาติ องค์การเกษตรกรในอนาคตแห่งประเทศไทย ในพระราชูปถัมภ์ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ครั้งที่ 43 หรือ การประชุมวิชาการ อกท. ระดับชาติ ครั้งที่ 43 ระหว่างวันที่ 26 กุมภาพันธ์ - วันที่ 3 มีนาคม 2566 ณ วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยียโสธร ต.บากเรือ อ.มหาชนะชัย จ.ยโสธร ทั้งนี้ องค์การเกษตรกรในอนาคตแห่งประเทศไทย (อกท.) ในพระราชูปถัมภ์ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี คือ องค์การวิชาชีพเกษตร เป็นองค์การของนักเรียน นักศึกษาอาชีวศึกษาเกษตร ผู้ซึ่งจะเป็นเกษตรกรรุ่นใหม่ของประเทศไทย องค์การนี้นํารูปแบบมาจากองค์การเกษตรกรในอนาคตแห่งประเทศสหรัฐอเมริกา เป็นกิจกรรมหลักที่มีความสําคัญอย่างยิ่งในฐานะที่เป็นยุทธศาสตร์หรือเครื่องมืออย่างหนึ่งที่สํานักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา ใช้เป็นสื่อในการพัฒนาศักยภาพของนักเรียน นักศึกษา ครู อาจารย์ และบุคลากร มุ่งเน้นให้สมาชิกเรียนรู้จากการปฏิบัติจริง เน้นผู้เรียนเป็นสําคัญ เพื่อพัฒนาความรู้ ทักษะและประสบการณ์ทางวิชาชีพ และจะหมุนเวียนการจัดงานทุก ๆ 4 ปี ซึ่งในปี 2566 นี้ วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยียโสธร เป็นเจ้าภาพการจัดงาน และจะมีวิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยี จํานวน 51 แห่ง เข้าร่วมงานครั้งนี้ภายในงานมีการเชิดชูเกียรติสมาชิก อกท.ดีเด่น , ศิษย์เก่าดีเด่น, อกท.ดีเด่น, ผู้ทําคุณประโยชน์แก่องค์การ , การนําเสนอผลงานวิจัยดีเด่น , การนําเสนองานในรูปแบบนิทรรศการเกี่ยวกับงานเกษตรอินทรีย์วิถีอีสาน เทคโนโลยีการเกษตร และนวัตกรรมการเกษตรที่ทันสมัย จากหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชน การสัมมนาผลงานทางวิชาการ การแสดงนันทนาการ ศิลปะและวัฒนธรรม จากสมาชิก อกท. ทั้ง 4 ภาค การแข่งขันทักษะทางวิชาชีพ 8 สาขาวิชา ได้แก่ สาชาพืชศาสตร์ สาขาสัตวศาสตร์ สาขาช่างกลเกษตร สาขาประมง สาขาศิลปะเกษตร สาขาอุสาหกรรมเกษตร สาขาบริหารธุรกิจ และสาขาพื้นฐาน การประกวดสิ่งประดิษฐ์ทางการเกษตร การจัดฝึกอบรมระยะสั้น 108 อาชีพ ให้แก่ผู้ที่สนใจ การจําหน่ายสินค้าทางการเกษตร สินค้าโอทอป และของกินของฝากมากมาย จึงขอเชิญชวนพี่น้องประชาชน ผู้ปกครอง นักเรียน นักศึกษาและภาครัฐ ภาคเอกชนและนักท่องเที่ยว มาร่วมงาน “มหกรรมเกษตรอินทรีย์ วิถีอีสาน”การประชุมวิชาการระดับชาติ องค์การเกษตรกรในอนาคตแห่งประเทศไทย ในพระราชูปถัมภ์ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ครั้งที่ 43 หรือ การประชุมวิชาการ อกท. ระดับชาติ ครั้งที่ 43 ระหว่างวันที่ 26 กุมภาพันธ์ - วันที่ 3 มีนาคม 2566 ณ วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยียโสธร ต.บากเรือ อ.มหาชนะชัย จ.ยโสธร และในห้วงดังกล่าวยังมีการจัดงานประเพณีแห่มาลัยข้าวตอก ระหว่างวันที่ 1-5 มีนาคม 2566 ณ บริเวณหน้าที่ว่าการอําเภอมหาชนะชัย และ งานสถานปนาจังหวัดยโสธร ครบ 51 ปี และงานกาชาด ประจําปี 2566 ณ บริเวณสวนสาธารณะบุ่งน้อย-บุ่งใหญ่ เทศบาลเมืองยโสธร จังหวัดยโสธร พร้อมท่องเที่ยววิมานพญาแถน จุดแลนด์มาร์คจังหวัดยโสธร และ มาชิมลาบยโสธร ช้อปสินค้ามากมาย รับรองจะประทับใจอย่างแน่นอน#สํานักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดยโสธร / ข่าว 17 ก.พ. 66#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
17/2/2023
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ยโสธร
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดยโสธร
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230217195417372
null
กรมอุทยานฯ ปรับย้ายเพิ่มอีก 10 ตำแหน่งไม่เป็นธรรม ขณะที่ "จตุพร" มีคำสั่งให้ นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร มาปฏิบัติหน้าที่ผู้อำนวยการสำนักอุทยานแห่งชาติ
กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ปรับย้ายเพิ่มอีก 10 ตําแหน่งไม่เป็นธรรม ขณะที่ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมมีคําสั่งให้ นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร มาปฏิบัติหน้าที่ผู้อํานวยการสํานักอุทยานแห่งชาติ นางรุ่งนภา พัฒนวิบูลย์ รองอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช กล่าวถึงความคืบหน้าการแก้ปัญหาการแต่งตั้งโยกย้ายไม่ได้รับความเป็นธรรมของบุคลากรกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืชว่า หลังเปิดโอกาสให้ข้าราชการที่ได้รับผลกระทบจากการแต่งตั้งโยกย้ายที่ไม่ได้รับความเป็นธรรมยื่นหนังสือเสนอต่ออธิบดี มีผู้ยื่นขอความเป็นธรรม 52 ราย แบ่งเป็น ผู้อํานวยการสํานักบริหารพื้นที่อนุรักษ์สาขา 2 ราย // หัวหน้าอุทยานแห่งชาติ 22 ราย // ผู้อํานวยการส่วน 12 ราย // หัวหน้าหน่วยงานภาคสนามอื่นๆ 16 ราย ซึ่งมีจํานวนคําสั่ง 7 คําสั่ง รวม 33 ราย แบ่งเป็น กรณีเป็นผู้ได้รับผลกระทบ 10 ราย กรณีปรับปรุงประสิทธิภาพ และการปฏิบัติงาน 23 ราย จึงได้พิจารณาปรับย้ายเพิ่มเติมอีก 10 ตําแหน่งที่ได้รับความไม่เป็นธรรม คือ นายกิตติศักดิ์ สมศรี ทําหน้าที่หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอุทยานเสด็จในกรม กรมหลวงชุมพร ด้านทิศเหนือ (ตอนบน) จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ // นายณัฐพันธ์ ศรียา ทําหน้าที่ผู้อํานวยการส่วนประสานความร่วมมือด้านทรัพยากรป่าไม้และสัตว์ป่า สํานักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 4 // นายกัณฑ์พงษ์ ดวงสินกุลศักดิ์ ทําหน้าที่หัวหน้าหน่วยจัดการต้นน้ําคลองสอง จังหวัดนครราชสีมา และทําหน้าที่หัวหน้าโครงการพัฒนาป่าไม้ตามแนวพระราชดําริ ป่าวังน้ําเขียว จังหวัดนครราชสีมา อีกหน้าที่หนึ่ง // นายณัฐยศ ชัยชนะทรัพย์ ทําหน้าที่ผู้อํานวยการส่วนอุทยานแห่งชาติ สํานักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 8 (ขอนแก่น) // นางจิตร อาจสัญจร ทําหน้าที่หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร // นายธงชัย นาราษฎร์ ทําหน้าที่หัวหน้าอุทยานแห่งชาติภูเก้า-ภูพานคํา // นายเอกชัย เพ็ชรัตน์ ทําหน้าที่หัวหน้าอุทยานแห่งชาติภูผายล // นายลํายอง ศรีเสวก ทําหน้าที่หัวหน้าอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า // นายณัฐวัฒน์ นุ้ยศรีราม ทําหน้าที่หัวหน้าอุทยานแห่งชาติอ่าวพังงา จังหวัดพังงา และนายณรงค์ คงเอียด ทําหน้าที่หัวหน้าอุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม จังหวัดตรัง สําหรับกรณีปรับปรุงประสิทธิภาพการปฏิบัติงานภายในกรม 23 ราย เป็นการให้กลับไปปฏิบัติราชการต้นสังกัด 5 ราย และเป็นการให้สับเปลี่ยนหน้าที่ 18 ราย นอกจากนี้ นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้มีคําสั่งให้ นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ผู้อํานวยการสํานักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 9 (อุบลราชธานี) มาปฏิบัติหน้าที่ผู้อํานวยการสํานักอุทยานแห่งชาติ กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช มีผลตั้งแต่วันนี้ (17 ก.พ.66) เป็นต้นไป โดย นายชัยวัฒน์ฯ กล่าวว่า ขอเวลา 1 ปีพิสูจน์ผลงานการแก้ปัญหาทุจริตก่อนเกษียณและจะทํางานอย่างเต็มกําลังความสามารถ รวมถึง การบริหารจัดการอุทยานแห่งชาติทั่วประเทศ การป้องกันรักษาพื้นที่ และการของจัดเก็บรายได้เข้าอุทยานไม่ให้รั่วไหลหรือเกิดการทุจริต
17/2/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230217214555391
null
สพด.นครราชสีมา ดำเนินการ! ร่วมเป็นวิทยากรให้ความรู้ : จัดนิทรรศการ "วันถ่ายทอดเทคโนโลยีเพื่อเริ่มต้นฤดูกาลผลิตใหม่ (Field Day)" ปี 2566
วันนี้(17 กุมภาพันธ์ 2566) เวลา 08.30 น. นายสามารถ สุวรรณมณี ปลัดจังหวัดนครราชสีมา เปิดงาน "วันถ่ายทอดเทคโนโลยีเพื่อเริ่มต้นฤดูกาลผลิตใหม่ (Field Day)" ประจําปี พ.ศ. 2566 พร้อมจัดนิทรรศการให้ความรู้ด้านการจัดการดิน แลกเปลี่ยนเรียนรู้ในสถานเรียนรู้ที่ 2 : เรื่องดินดี ชีวีมั่นคง ณ โครงการสาธิตการปลูกพืชในพื้นที่ดินเค็ม ตําบลตาจั่น อําเภอคง จังหวัดนครราชสีมา ร่วมกับสํานักงานเกษตรจังหวัดนครราชสีมา ซึ่งการจัดกิจกรรม "วันถ่ายทอดเทคโนโลยีเพื่อเริ่มต้นฤดูกาลผลิตใหม่ (Field Day)" มีวัตถุประสงค์ เพื่อกระตุ้นให้มีการใช้เทคโนโลยีและภูมิปัญญาที่มีความเหมาะสมกับพื้นที่โดยหน่วยงานต่างๆ ในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์บูรณาการการทํางานร่วมกัน มีการให้บริการด้านการเกษตรตามภารกิจเพื่อสนับสนุนเกษตรในการเริ่มต้นฤดูกลผลิตในปีการเพาะปลูกใหม่ รวมทั้งเผยแพร่ให้เกษตรกรรู้จักและใช้ประโยชน์จากศูนย์เรียนรู้การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตรต่อไป#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
17/2/2023
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
นครราชสีมา
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนครราชสีมา
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230218080305405
null
วราวุธ กำชับให้ ทช. เร่งหาแนวทางแก้ปัญหาภาษีที่ดินกับพื้นที่ป่าชายเลนที่มีเอกสารสิทธิ์ เพื่อช่วยสนับสนุนให้ประชาชนเพิ่มพื้นที่ป่าชายเลนของประเทศ โดยตั้งเป้าหมายเพิ่มพื้นที่ป่าชายเลน 300,000 ไร่ ภายใน 10 ปี
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กําชับให้กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) เร่งหาแนวทางแก้ปัญหาภาษีที่ดินกับพื้นที่ป่าชายเลนที่มีเอกสารสิทธิ์ เพื่อช่วยสนับสนุนให้ประชาชนเพิ่มพื้นที่ป่าชายเลนของประเทศ โดยตั้งเป้าหมายเพิ่มพื้นที่ป่าชายเลน 300,000 ไร่ ภายใน 10 ปี นายอภิชัย เอกวนากุล รองอธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง รักษาราชการแทนอธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) กล่าวถึงจากกรณีประชาชนในจังหวัดสมุทรสงครามได้แสดงความวิตกกังวลต่อพระราชบัญญัติภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง พ.ศ. 2562 เนื่องจากคําจํากัดความของพื้นที่เกษตรกรรมว่า จากการลงพื้นที่ร่วมกับคณะกรรมาธิการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมวุฒิสภา หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ผู้นําชุมชนท้องถิ่น และประชาชนจังหวัดสมุทรสงครามเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา พร้อมประชุมรับฟังปัญหาจากผู้แทนภาคประชาชนและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นจากภาครัฐเกี่ยวกับปัญหาหลักเกณฑ์การลดหย่อนภาษีที่ดินป่าชายเลนกรรมสิทธิ์ เบื้องต้นได้อธิบายรายละเอียดการส่งเสริมและสนับสนุนโครงการปลูกป่าชายเลนในที่ดินเอกสารสิทธิ์ // การสนับสนุนแจกจ่ายกล้าไม้ป่าชายเลนเพื่อช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ และการสํารวจป่าชายเลนที่มีเอกสารสิทธิ์ที่ปรับพื้นที่เพื่อปลูกไม้สนให้เกิดความเข้าใจ ทั้งนี้ นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม มีความรู้สึกเป็นห่วงเกรงว่าพื้นที่ป่าชายเลนในอนาคตอาจลดลง หากป่าชายเลนในพื้นที่เอกสารสิทธิ์ถูกแผ้วถางเปลี่ยนแปลงสภาพลง จึงกําชับให้กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) เร่งหาแนวทางแก้ปัญหาและอยู่ระหว่างหารือกับกระทรวงการคลังและกระทรวงมหาดไทย เกี่ยวกับนิยามของคําว่า “พื้นที่สีเขียว” โดยเพิ่มให้เป็นประเภทที่ดินที่ไม่เข้าข่ายเป็นที่ดินที่ทิ้งไว้ว่างเปล่า หรือไม่ได้ทําประโยชน์ให้พื้นที่ป่าชายเลนของประชาชนได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษี สําหรับปีงบประมาณ 2566 มีโครงการส่งเสริมปลูกป่าชายเลนในที่ดินเอกสารสิทธิ์ในจังหวัดเพชรบุรีและสมุทรสงคราม เพื่อให้ประชาชนปลูกสวนป่าชายเลนในพื้นที่เอกสารสิทธิ์ของตนเอง ในอัตราไร่ละ 3,850 บาท และบํารุงแปลงปลูกปีที่ 2 – 3 ไร่ละ 420 บาท พร้อมขอตั้งงบประมาณในจังหวัดชายฝั่งอื่นในปีต่อไป เพื่อช่วยป้องกันรักษาพื้นที่ป่าชายเลนไม่ให้ถูกเปลี่ยนเป็นพื้นที่เกษตรกรรมจากอัตราภาษีที่ดิน ทั้งนี้ ทช. ได้ตั้งเป้าหมายเพิ่มพื้นที่ป่าชายเลน 300,000 ไร่ ภายใน 10 ปี ภายใต้การดําเนินโครงการปลูกป่าชายเลนเพื่อประโยชน์จากคาร์บอนเครดิต โดยอาศัยความร่วมมือจากองค์กรภาคเอกชนและประชาชน รักษาราชการแทนอธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) กล่าวย้ําว่า ในส่วนของระเบียบคณะกรรมการนโยบายและแผนพัฒนาเกษตรและสหกรณ์ ว่าด้วยการขึ้นทะเบียนเกษตรกร พ.ศ. 2560 กําหนดว่า การประกอบเกษตรกรรม หมายถึง “การปลูกพืชฯ เพื่อการบริโภคหรือจําหน่ายหรือใช้งานในฟาร์มฯ ทําให้พื้นที่ป่าชายเลนในที่ดินกรรมสิทธิ์ของประชาชนไม่เข้าข่ายนิยามพื้นที่เกษตรกรรม แต่ถูกประเมินให้เป็นลักษณะที่ดินตามมาตรา 37 (4) แห่งพระราชบัญญัติภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง พ.ศ. 2562 และเข้าข่ายที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างที่ทิ้งไว้ว่างเปล่าหรือไม่ได้ทําประโยชน์ตามควรแก่สภาพ ซึ่งมีอัตราภาษีแพงกว่าพื้นที่ใช้ประโยชน์ในการประกอบเกษตรกรรม ส่งผลให้พื้นที่ป่าชายเลนในที่ดินกรรมสิทธิ์ลดจํานวนลง และต้นไม้ป่าชายเลนในพื้นที่เอกสารสิทธิ์ถูกแผ้วถางเพื่อปลูกพืชเกษตรกรรม ทั้งที่พื้นที่บริเวณนั้นเป็นพื้นที่ดินเลนไม่เหมาะสมต่อการทําเกษตรกรรม ซึ่งป่าชายเลนมีสําคัญเป็นแนวป้องกันการกัดเซาะชายฝั่งตามธรรมชาติที่ไม่ต้องใช้งบประมาณดําเนินการ รวมทั้ง ช่วยสร้างมูลค่าให้กับประเทศและรายได้ให้ประชาชนในพื้นที่ ทั้งแหล่งเพาะพันธุ์สัตว์น้ํา เป็นฐานต้นทุนในการพัฒนาอาชีพด้านการท่องเที่ยว และแหล่งเรียนรู้ธรรมชาติ
18/2/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230218082837412
null
ค่าฝุ่น PM 2.5 ในภาคเหนือและภาคอีสานปรับตัวดีขึ้นบางพื้นที่ ส่วน กทม.และปริมณฑลฝุ่นสูงขึ้นทุกพื้นที่ พบสูงระดับสีส้ม 9 พื้นที่ โดยต้องเฝ้าระวังพิเศษ 19 ก.พ.นี้
ค่าฝุ่น PM 2.5 ในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือปรับตัวดีขึ้นบางพื้นที่ ส่วนกรุงเทพมหานครและปริมณฑลฝุ่นสูงขึ้นทุกพื้นที่ พบสูงระดับสีส้ม 9 พื้นที่ โดยต้องเฝ้าระวังพิเศษวันที่ 19 กุมภาพันธ์นี้ นายปิ่นสักก์ สุรัสวดี อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) ในฐานะประธานศูนย์แก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศ (ศกพ.) กล่าวว่า วันนี้ (18 ก.พ.66) ค่าฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM 2.5) ในพื้นที่ภาคเหนือ 17 จังหวัด พบทุกพื้นที่ค่าฝุ่น PM 2.5 ปรับตัวสูงขึ้นเล็กน้อยบางพื้นที่ โดยมี 2 พื้นที่ยังสูงในระดับสีส้มเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ บริเวณ ต.ในเวียง อ.เมือง จ.น่าน และต.ธานี อ.เมือง จ.สุโขทัย อยู่ที่ 53 – 62 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร เพราะยังพบการเผาในที่โล่งและการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศที่มีผลต่อการสะสมของหมอกควัน พร้อมขอความร่วมมือประชาชนงดการการบริหารจัดการเชื้อเพลิงจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลายลง ขณะที่ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ พบหลายพื้นที่ค่าฝุ่น PM 2.5 ปรับตัวขึ้นบางพื้นที่ ภาพรวมคุณภาพอากาศดีมากถึงปานกลาง สําหรับกรุงเทพมหานครและปริมณฑลคุณภาพอากาศดีถึงเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ โดยค่าฝุ่นปรับตัวสูงขึ้นทุกพื้นที่ จากสภาพอากาศปิดและลมอ่อนทําให้ฝุ่นสะสมตัวสูงขึ้น ซึ่งมีค่าสูงระดับสีส้ม 9 พื้นที่ อยู่ที่ 51 - 60 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร คือ ต.บางพูด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี , แขวงคลองกุ่ม เขตบึงกุ่ม , เขตคลองสามวา , ริมถนนพระราม 3 เขตยานนาวา , ริมถนนบางนา-ตราด เขตบางนา , ริมถนนลาดกระบัง เขตลาดกระบัง , ริมถนนศรีนครินทร์ เขตประเวศ , ริมถนนมาเจริญ เพชรเกษม 81 เขตหนองแขม และริมถนนพหลโยธิน เขตบางเขน ทั้งนี้ ศูนย์แบบจําลองคุณภาพอากาศและภูมิศาสตร์สารสนเทศ กรมควบคุมมลพิษ (คพ.) ได้คาดการณ์สถานการณ์ฝุ่นละออง PM 2.5 ช่วงวันที่ 19 – 20กุมภาพันธ์ มีแนวโน้มฝุ่นละอองขึ้นสูงได้บางพื้นที่ โดยเฉพาะวันที่ 19 กุมภาพันธ์ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ ทั้งนี้ สามารถติดตามสถานการณ์คุณภาพอากาศได้ทางแอปพลิเคชั่น Air4Thai และ AirBKK
18/2/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230218103513430
null
รองผู้ว่าฯ เพชรบุรี ชี้ “ ความเป็นมืออาชีพ มือหนึ่ง ในการทำนา คือการสามารถเพิ่มประสิทธิภาพผลผลิตข้าว เพิ่มผลตอบแทน ชาวนาเพชรบุรียุคใหม่ กับการทำนาวิถีใหม่ คือการสร้างความมั่งคั่งในแปลงนา
เมื่อเวลา 09.00 น. วันนี้ (18 กุมภาพันธ์ 2566) นายปิยพงศ์ ชูวงศ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี ร.ศ.อุไรวรรณ ไอยสุวรรณ์ คณะสัตวศาสตร์และเทคโนโลยีการเกษตร ฯ หัวหน้าส่วนราชการ เจ้าหน้าที่ ตัวแทนกลุ่มเกษตรกรนาแปลงใหญ่, เกษตรกรชาวนา คณะผู้วิจัยมหาวิทยาลัยศิลปากร ร่วมพิธีเปิดการอบรมถ่ายทอดองค์ความรู้และเสวนา เรื่อง”การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีการจัดการปุ๋ยและน้ําเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและผลตอบแทนทางเศรษฐศาสตร์ของการผลิตข้าวในพื้นที่จังหวัดเพชรบุรี ณ ห้องประชุม โรงแรมรอยัลไดมอน จังหวัดเพชรบุรี นายปิยพงศ์ ชูวงศ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี กล่าวชื่นชมผลงานการสามารถนํานวัตกรรม จากการประยุกต์ใช้เทคโนโลยี มาจัดการด้านปุ๋ยและน้ํา ซึ่งเป็นปัจจัยสําคัญในการทํานา สร้างผลผลิตข้าว ซึ่งที่ผ่านมาเพชรบุรีผลิตข้าวได้เป็นลําดับที่ 31 ของประเทศ การอบรมเพื่อถ่ายทอดองค์ความรู้ให้ทั้งพี่น้องเกษตรกรนาแปลงใหญ่ เกษตรกรชาวนาจะช่วยเพิ่มศักยภาพความเป็นมืออาชีพ มือหนึ่ง ในการทํานา ที่จะสามารถเพิ่มประสิทธิภาพผลผลิตข้าว เพิ่มผลตอบแทน ให้ชาวนาเพชรบุรียุคใหม่ ภายใต้การทํานาวิถีใหม่ ที่จะบ่งชี้ถึงแนวทางการสร้างความมั่งคั่งในแปลงนา ชาวนาเพชรบุรีต้องมีความคุ้มค่า ที่จะส่งผลถึงเงินรายได้ มีเงินมาก อย่างมั่นคง การเข้าอบรมในวันนี้จะสามารถเก็บเกี่ยวความรู้นําไปต่อยอดได้ นําไปลงมือปฏิบัติได้ดีต่อไป สําหรับการถ่ายทอดองค์ความรู้ให้พี่น้องเกษตรกรในวันนี้ เน้นการเปรียบเทียบให้เห็นภาพอย่างชัดเจนว่า การจัดการปุ๋ย จัดการน้ํา แบบเดิมๆ กับรูปแบบวิถีใหม่ที่นําความทันสมัย โดยใช้แอปพลิเคชัน All – rice 1 มาคํานวณปริมาณการใส่ปุ๋ย ร่วมกับการจัดการน้ําแบบเปียก สลับแห้ง ซึ่งจากการทดสอบผลการศึกษาพบว่า ผลผลิตจํานวนรวงต่อตารางเมตรเพิ่มขึ้น เมล็ดต่อรวงก็มีจํานวนมากขึ้น มีผลผลิตถึง 850 กิโลกรัมต่อไร่ แต่ถ้าเป็นแบบเดิมๆได้ผลผลิตเพียง 730 กิโลกรัมต่อไร่ จามรี อนุรัตน์ ประชาสัมพันธ์จังหวัดเพชรบุรี รายงาน#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
18/2/2023
ภาคตะวันตก
เพชรบุรี
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเพชรบุรี
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230218111506434
null
ทหารพรานในพื้นที่ จ.นราธิวาส ช่วยชาวบ้านลงแขกเกี่ยวข้าวแปลงนาโครงการฟาร์มตัวอย่างฯ บ้านตอหลัง อนุรักษ์ประเพณีวิถีพื้นบ้าน พร้อมต่อยอดแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร
วันนี้ (18 ก.พ.66) พันเอก ทวีรัตน์ เบญจาทิกุล ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 45 นํากําลังพลในสังกัดพร้อมด้วยสมาชิกโครงการฟาร์มตัวอย่างฯ และประชาชนในพื้นที่ ร่วมกิจกรรมลงแขกเกี่ยวข้าว บริเวณแปลงนาภายในโครงการฟาร์มตัวอย่างในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง บ้านตอหลัง ตําบลตันหยงลิมอ อําเภอระแงะ จังหวัดนราธิวาส ซึ่งการลงแขกเกี่ยวข้าวเป็นประเพณีไทยที่แสดงออกถึงความมีน้ําใจ ช่วยเหลือเกื้อกูลกัน แสดงออกถึงความสามัคคีของคนในชุมชน อีกทั้งกิจกรรมในวันนี้ ยังช่วยเสริมสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างเจ้าหน้าที่รัฐกับประชาชน และร่วมกันอนุรักษณ์ประเพณีวิถีพื้นบ้านให้คงอยู่กับพื้นที่ด้าน นางสาวนันทนา สุขเต๊ะ เจ้าหน้าที่งานพืชและประมง โครงการฟาร์มตัวอย่างฯ บ้านตอหลัง กล่าวว่า แปลงนาที่ร่วมกันลงแขกเกี่ยวข้าวครั้งนี้ อยู่ในพื้นที่โครงการฟาร์มตัวอย่างฯ ต้านภัยโควิด-19 แปลงเกษตรทฤษฎีใหม่ ซึ่งทางศูนย์อํานวยการใหญ่โครงการจิตอาสาพระราชทาน ได้จัดทําโครงการฯ เพื่อช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 กลับถิ่นฐานภูมิลําเนา ตกงาน ขาดรายได้ โดยน้อมนําโครงการฟาร์มตัวอย่างในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ในการช่วยเหลือประชาชนอย่างมีประสิทธิภาพและเกิดประโยชน์สูงสุด ทั้งนี้ โครงการฟาร์มตัวอย่างฯ ต้านภัยโควิด-19 มีเนื้อที่รวม 5 ไร่ ข้าวที่ปลูกเป็นข้าวพันธุ์พื้นเมือง “ซีบูกันตัง” ซึ่งจะนําไปจําหน่ายสร้างรายได้ และแจกจ่ายให้กับประชาชนกลุ่มเปราะบาง อาทิ ผู้ยากไร้ ผู้ป่วยติดเตียง เพื่อช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อน ลดรายจ่ายในครัวเรือน ปัจจุบันหลังสถานการณ์โควิด-19 เริ่มคลี่คลาย ได้เปิดเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรให้ผู้สนใจทั่วไปได้เข้ามาศึกษาเรียนรู้ตามหลักเศรษฐกิจพอเพียง#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
18/2/2023
ภาคใต้
นราธิวาส
สวท.นราธิวาส
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230218115930437
null
ผู้ว่าฯ กทม. สั่งสำนักงานเขตกรุงเทพมหานครทุกแห่ง เฝ้าระวังปัญหาการเผาในพื้นที่ โดยนำกฎหมายเข้าไปบังคับใช้
นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวถึงการแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็กหรือ PM 2.5 ว่า ช่วงวันที่ 19-20 กุมภาพันธ์นี้ จะต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ เนื่องจากค่าฝุ่นจะสูงขึ้น เป็นช่วงที่ลมทางทิศตะวันออกปะทะกับลมทางทิศใต้ โดยช่วง 10 วันที่ผ่านมามีอากาศที่ดี และขณะนี้จากการติดตามค่าฝุ่นยังไม่สูงมาก เนื่องจากมีฝนตก และวันนี้ได้มอบอุปกรณ์กรองอากาศให้กับศูนย์เด็กเล็กสังกัดกรุงเทพมหานคร ทั้งหมด 270 แห่ง เชื่อว่าจากการดูพยากรณ์สถานการณ์ยังไม่รุงเเรง จะบรรเทาลงช่วง 2-3 วันข้างหน้า ทั้งนี้ เขตลาดกระบังจะพบปัญหาเรื่องการเผาถ่านในบางพื้นที่จึงสั่งการให้สํานักงานเขตลงพื้นที่ชี้จุด โดยนํากฎหมายเข้าไปบังคับอย่างเข้มงวด รวมถึงปัญหาการจราจร โดยจะประสานงานให้ดีขึ้น ซึ่งมีโครงการที่ปรับปรุงทางข้ามอยู่แล้วกว่า 50 แห่ง จะเร่งปรับรปรุงทางข้ามม้าลายมีความปลอดภัยแก่ประชาชนมากยิ่งขึ้น
18/2/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
Radio-สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230218174031505
null
ผู้ว่าราชการจังหวัดอุตรดิตถ์ แนะเกษตรกรยุคใหม่ ร่วมใจหยุดเผา เน้นจัดการเศษวัสดุทางการเกษตรสร้างสรรค์ ลดฝุ่นละออง PM 2.5
นายสมหวัง พ่วงบางโพ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุตรดิตถ์ เปิดเผยว่า สถานการณ์ฝุ่นละออง PM 2.5 ของภาพเหนือคุณภาพอากาศโดยรวมอยู่ในระดับเกินค่ามาตรฐาน เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ จังหวัดอุตรดิตถ์ จึงเน้นย้ํา การงดเว้นการเผาเด็ดขาด 90 วัน ไปจนถึง วันที่ 30 เมษายน 2566 เพื่อสุขภาพชีวิตที่ดีของตัวคุณเองและคนที่คุณรัก พร้อมแนะเกษตรกรยุคใหม่ ร่วมใจหยุดเผาด้วย 9 ทางเลือกจัดการเศษวัสดุทางการเกษตร อาทิ ไถกลบทดแทนการเผา เป็นการเพิ่มปุ๋ย และความอุดมสมบูรณ์ของดิน ผลิตปุ๋ยหมัก ลดการใช้ปุ๋ยเคมี ลดต้นทุนการผลิต ลดปัญหาสิ่งแวดล้อม นําเศษวัสดุทางการเกษตรมาอัดก้อน หรือนํามาทําอาหารหมัก เพื่อใช้เลี้ยงสัตว์ หรือผลิตเป็นเชื้อเพลิงอัดก้อน มาเป็นเชื้อเพลิงในครัวเรือน นําเศษใบไม้ เศษฟาง เศษหญ้า ที่แห้งมาคลุมบริเวณโคนต้นพืช เก็บรักษาความชื้น อุ้มน้ําอุ้มปุ้ย หรือส่งจําหน่ายโรงไฟฟ้าชีวมวล และแปรรูปเพิ่มมูลค่า #สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
18/2/2023
ภาคเหนือ
อุตรดิตถ์
สวท.อุตรดิตถ์
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230218144803474
null
จังหวัดตราดออกประกาศ มาตรการป้องกันผลผลิตทุเรียนด้อยคุณภาพ (ทุเรียนอ่อน) ออกสู่ตลาด ปี 2566
วันนี้(18 ก.พ. 66) นายชํานาญวิทย์ เตรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดตราด เปิดเผยว่า จังหวัดตราด เป็นแหล่งผลิตผลไม้คุณภาพที่มีชื่อเสียงของประเทศไทย บางครั้งผู้ประกอบการและเกษตรกรที่ไม่มีความซื่อสัตย์ต่ออาชีพ มุ่งหาผลประโยชน์อันมิชอบต่อผู้บริโภค นําทุเรียนด้อยคุณภาพ (ทุเรียนอ่อน) มาซื้อขายในตลาด ซึ่งการกระทําดังกล่าวเป็นการทําลายเศรษฐกิจ สร้างความเดือดร้อยแก่เกษตรกรชาวสวนผลไม้ ผู้ค้า และผู้บริโภค และภาพลักษณ์ที่ดีของผลไม้จังหวัดตราด ดังนั้นเพื่อดําเนินงานตามมาตรการควบคุมทุเรียนด้อยคุณภาพ (ทุเรียนอ่อน) ออกสู่ตลาด จังหวัดตราดจึงประกาศให้เกษตรกรผู้ผลิตผลไม้ ผู้ประกอบการ และผู้บริโภค ทราบโดยทั่วกันว่า หากพบผู้จําหน่ายทุเรียนด้อยคุณภาพ (ทุเรียนอ่อน) ซึ่งเป็นไปตามมาตรฐานที่ระบุไว้ ตามพระราชบัญญัติมาตรฐานสินค้าเกษตร พ.ศ. 2551 และแก้ไขเพิ่มเติม โดยเจตนาจะต้องมีความผิดระวางโทษดังนี้ ความผิดประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 271 ผู้ใดขายของโดยหลอกลวงด้วยประการใด ๆ ให้ผู้ซื้อหลงเชื่อในแหล่งกําเนิด สภาพ คุณภาพ หรือปริมาณแห่งนั้นเป็นเท็จ ต้องระวางโทษจําคุก ไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจําทั้งปรับ ความผิดตาม พ.ร.บ. คุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ. 2522 มาตรา 47 ผู้ใดเจตนาก่อให้เกิดความเข้าใจผิด ในแหล่งกําเนิด สภาพ คุณภาพ หรือ สาระสําคัญ ประการอื่นอันเกี่ยวกับสินค้าหรือบริการต้องระวางโทษจําคุก ไม่เกิน 6 เดือน หรือ ปรับไม่เกิน 50,000 บาท หรือทั้งจําทั้งปรับ ทั้งนี้ หากผู้บริโภค ผู้ค้า หรือประชาชน รายใดได้รับความเดือดร้อน จากการซื้อขายทุเรียนด้อยคุณภาพ (ทุเรียนอ่อน) สามารถแจ้งความดําเนินคดีได้ที่ สถานีตํารวจในทุกพื้นที่ ศูนย์ดํารงธรรมอําเภอ หรือศูนย์ดํารงธรรมจังหวัด #สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
18/2/2023
ภาคตะวันออก
ตราด
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดตราด
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230218155359489
null
การแข่งขันทักษะ นำเสนอผลงานวิจัย และนวัตกรรมเกษตรปลายด้ามขวาน ครั้งที่ 8
มรย. มอ. มนร. และวิทยาลัยเกษตรนราธิวาส จัดแข่งขันทักษะ นําเสนอผลงานวิจัย และนวัตกรรมเกษตรปลายด้ามขวาน ครั้งที่ 8 วันนี้ (18 ก.พ.66) นางพาตีเมาะ สะดียามู ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี เป็นประธานเปิดงาน “แข่งขันทักษะ นําเสนอผลงานวิจัย และนวัตกรรมเกษตรปลายด้ามขวาน ครั้งที่ 8” โดยมี ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.บุญสิทธิ์ ไชยชนะ รักษาราชการแทนอธิการบดี มหาวิทยาลัยราชภัฏยะลา กล่าวต้อนรับ ซึ่งคณะวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีและการเกษตร มหาวิทยาลัยราชภัฏยะลา เป็นเจ้าภาพในการจัดการแข่งขันในครั้งนี้ โดยร่วมกับ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ มหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์ และวิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีนราธิวาส ระหว่าง 18 - 19 กุมภาพันธ์ 2566 ณ ศูนย์การเรียนรู้้แม่ลาน มหาวิทยาลัยราชภัฏยะลารองศาสตราจารย์ ดร.ลิลลา อดุลยศาสน์ คณบดีคณะวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีและการเกษตร มหาวิทยาลัยราชภัฏยะลา กล่าวว่า การแข่งขันทักษะ นําเสนอผลงานวิจัย ฯ เพื่อเปิดโอกาสให้นักศึกษาทั้ง 4 สถาบันได้แสดงศักยภาพด้านการเกษตรและนําประสบการณ์ที่ได้รับไปปรับใช้ในการเรียนการสอนและสร้างอาชีพภายหลังสําเร็จการศึกษา อีกทั้งสร้างโอกาสในการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ทักษะและความรู้ด้านการเกษตร เพื่อนําไปสู่การทํางานร่วมกันในอนาคตทั้งการจัดการเรียนการสอน งานวิจัยและบริการวิชาการ ตลอดจนสร้างความร่วมมือระหว่างสถาบันอุดมศึกษา และเผยแพร่ผลงานและศักยภาพด้านการเกษตรของทั้ง 4 สถาบัน ต่อสาธารณชนผ่านสื่อต่างๆภายในงานมีการประกวดแข่งขันทักษะนําเสนอผลงานวิจัยและนวัตกรรมเกษตร การแข่งขันทักษะการจัดสวนถาด การแข่งขันการประกวดการจัดตู้ปลา การแข่งขันทักษะการอัดก้อนขี้เลื่อยเพาะเห็ด การแข่งขันทักษะการขยายพันธุ์พืช การแข่งขันการตอบปัญหาทางการเกษตร การประกวดการเสนอผลงานวิจัยภาคโปสเตอร์์ การแข่งขันการเข้าด้ามจอบเตรียมแปลง การแข่งขันทักษะการจัดทําแผนธุรกิจ การแข่งขันนวัตกรรมทางการเกษตรด้วย design thinking ตอบโจทย์ BCG model การแข่งขันทักษะการตัดแต่งซากสัตว์ปีก การแข่งขันทักษะการเก็บเชือกเข้าห่วง การแข่งขันทักษะการสะบัดแส้ กิจกรรมกิจกรรมสันทนาการระหว่่างคณาจารย์และนักศึกษา 3 สถาบัน กิจกรรมประกวดการแสดงศิลปะและวัฒนธรรม กิจกรรมประกวดร้องเพลงพร้อมหางเครื่อง กิจกรรมประกวด ดาว เดือน เกษตรปลายด้ามขวานครั้งที่ 8 และแข่งขันกีฬาพื้นบ้านเชื่อมความสัมพันธ์#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
18/2/2023
ภาคใต้
ยะลา
สทท.ยะลา
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230218175948512
null
ปศุสัตว์อำเภอพระทองคำจัดพิธีมอบโค จำนวน 50 ตัว ให้เกษตรกรยืมเพื่อการผลิต ตามโครงการธนาคารโค-กระบือ เพื่อเกษตรกร ตามพระราชดำริ
นายอํานวยศิลป์ มานะงาน นายอําเภอพระทองคํา เป็นประธานในพิธีมอบโค จํานวน 50 ตัว มูลค่า 1,400,000 บาท ให้เกษตรกร จํานวน 50 ราย ยืมเพื่อการผลิต ตามโครงการธนาคารโค-กระบือ เพื่อเกษตรกร ตามพระราชดําริ โดยมีปศุสัตว์อําเภอพระทองคํา พร้อมด้วยผู้นําท้องที่/ท้องถิ่น ร่วมในพิธีเปิด ณ ศาลาประชาคมบ้านป่าเพกา-โนนพุดซา หมู่ที่ 20 ตําบลพังเทียม อําเภอพระทองคํา จังหวัดนครราชสีมาโครงการธนาคารโค-กระบือเพื่อเกษตรกร ตามพระราชดําริ เป็นโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดําริ ที่จะช่วยเหลือเกษตรกรยากจนที่ไม่มีโค-กระบือ เป็นของตนเอง โดยการแบ่งเบาภาระค่าเช่า หรือดําเนินการเพื่อให้เกษตรกรมีโอกาสได้เป็นเจ้าของโค-กระบือเพื่อใช้แรงงานต่อไป ธนาคารเป็นเรื่องที่ต้องเกี่ยวข้องกับกระแสเงินตรา แต่สําหรับธนาคารโค-กระบือ นี้ ขออัญเชิญพระราชดํารัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งพระราชทานแก่สมาชิกกลุ่มเกษตรกรทั่วประเทศ เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2523 อันเป็นที่มาของคําว่า "ธนาคารโค-กระบือ" ซึ่งสํานักงานปศุสัตว์อําเภอท่าแซะ ดําเนินการส่งมอบโคลูกขยาย(เพศเมีย) จํานวน 2 ราย โค(เพศเมีย) จํานวน 2 ตัว #สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
18/2/2023
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
นครราชสีมา
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนครราชสีมา
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230218204531526
null
ปศุสัตว์โคราชตรวจเยี่ยมการลดต้นทุนเลี้ยงกระบือด้วยวัสุดเหลือใช้(ยอดอ้อย)
นายพศวีร์ สมใจ ปศุสัตว์จังหวัดนครราชสีมา เยี่ยมกลุ่มผู้เลี้ยงกระบืออําเภอครบุรีซึ่งมีการนําวัสดุเหลือใช้คือยอดอ้อยนํามาเป็นอาหารสัตว์โดยยอดอ้อย 25 ไร่ จะสามารถเลี้ยงกระบือ 20 ตัวไ้ด้ราว 2 เดือน(ยอดอ้อยกระบือกินดีมาก) สามารถลดต้นทุนอาหารสัตว์ได้ราว 30,000 บาท ทั้งนี้ยอดอ้อยมีคุณค่าทางอาหารโดยให้โปรตีนราว 4-6% ในขณะที่ฟางแห้งให้โปรตีนราว 1-2% อีกทั้งการนํายอดอ้อยมาเป็นอาหารสัตว์ยังช่วยลดมลพิษจากการเผาได้อีกด้วย ณ บ้านตลิ่งชัน ต.จระเข้หิน อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
18/2/2023
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
นครราชสีมา
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนครราชสีมา
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230218210157532
null
กลุ่มพัฒนาคุณภาพสินค้าปศุสัตว์ ร่วมกับสำนักงานปศุสัตว์อำเภอเมืองเพชรบุรีตรวจประเมินโครงการปศุสัตว์ OK สร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภค
นายสัตวแพทย์สุระพงษ์ ธีวีระปัญญา หัวหน้ากลุ่มพัฒนาคุณภาพสินค้าปศุสัตว์ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กลุ่มพัฒนาคุณภาพสินค้าปศุสัตว์ สํานักงานปศุสัตว์จังหวัดเพชรบุรี ร่วมกับสํานักงานปศุสัตว์อําเภอเมืองเพชรบุรี ดําเนินการตรวจประเมินสถานที่จําหน่ายเนื้อสัตว์และไข่สด (ปศุสัตว์ OK) โดยตรวจติดตาม จํานวน 2 แห่ง ได้แก่ บริษัทไทยฟู้ดส์ เฟรช มาร์เก็ต จํากัด สาขาเพชรบุรี เทสโก้โลตัส โก เฟรช (สาขาโพไร่หวาน) อ.เมืองเพชรบุรี และตรวจรับรองใหม่ 1 แห่ง ได้แก่ บริษัท V.C. Meat สาขาเพชรบุรี ผลการตรวจประเมินทั้ง 3 แห่ง พบว่าเนื้อสัตว์มีแหล่งที่มาสามารถตรวจสอบย้อนกลับได้ มาจากโรงฆ่าสัตว์ที่ถูกกฎหมาย สถานที่จําหน่ายสะอาด ถูกสุขลักษณะ เอกสารถูกต้องครบถ้วนตามหลักเกณฑ์โครงการปศุสัตว์ ok สร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภค สวท.เพชรบุรี/19 ก.พ.66#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
19/2/2023
ภาคตะวันตก
เพชรบุรี
สวท.เพชรบุรี
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230219080528549
null
เกษตรและสหกรณ์จังหวัดเพชรบุรี เตรียม Kick Off เกษตรกรรมยั่งยืนในเมือง จังหวัดเพชรบุรี
นางสาวศิริวรรณ เครือเล็ก เกษตรและสหกรณ์จังหวัดเพชรบุรี กล่าวว่า หน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์จังหวัดเพชรบุรีเตรียม Kick Off เกษตรกรรมยั่งยืนในเมือง จังหวัดเพชรบุรี ร่วมกันจัดกิจกรรมถ่ายทอดองค์ความรู้ด้านการเกษตร มอบปัจจัยสนับสนุนการปลูกผักในกระถาง เห็ดภูฐาน เมล็ดพันธุ์ผักนานาชนิด การปลูกผักแบบปลอดภัยไร้สารเคมี โดยสารชีวภัณฑ์ป้องกันโรคพืช ดินดี ปุ๋ยดีด้วยสาร พด. แหนแดง-พืชน้ํามหัศจรรย์ วิธีให้น้ําพืชโดยอุปกรณ์ พบกับแรงบันดาลใจของนักธุรกิจแนวหน้าที่ประสบความสําเร็จที่ปลูกผักทานเอง พร้อมมอบปัจจัยการปลูกพืชในกระถาง เกษตรกรสามารถนําความรู้ด้านการเกษตรไปปรับใช้ให้เหมาะสมกับพื้นที่ ทั้งนี้ ขอเชิญชวนผู้สนใจ ร่วมกิจกรรม วันพฤหัสบดีที่ 23 กุมภาพันธ์ 2566 เวลา 09.00 น. เป็นต้นไป ณ สํานักงานเกษตรอําเภอเมืองเพชรบุรี สวท.เพชรบุรี/19 ก.พ.66#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
19/2/2023
ภาคตะวันตก
เพชรบุรี
สวท.เพชรบุรี
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230219081331551
null
ขอนแก่น คุมเข้มตรวจจับรถควันดำ แก้ฝุ่น PM 2.5 ลดมลพิษที่ต้นทาง
ที่ บริเวณถนนมิตรภาพ (หน้าสวนประตูเมือง) นายบุญฤทธิ์ พาณิชย์รุ่งเรือง รองนายกเทศมนตรีนครขอนแก่น เจ้าหน้าที่ฝ่ายควบคุมและจัดการคุณภาพสิ่งแวดล้อม สํานักการสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม, เจ้าหน้าที่เทศกิจ ฝ่ายปกครอง สํานักปลัดฯ ร่วมกับสํานักงานสิ่งแวดล้อมและควบคุมมลพิษที่ 10 (ขอนแก่น), สภ.เมืองขอนแก่น, สํานักงานขนส่งจังหวัดขอนแก่น และ ปภ.จังหวัดขอนแก่น ดําเนินการตามมาตรการในการป้องกันและลดการเกิดมลพิษที่ต้นทาง โดยกําหนดแนวทางควบคุมและลดมลพิษจากยานพาหนะตามแผนปฏิบัติการขับเคลื่อนวาระแห่งชาติ การแก้ไขปัญหามลพิษฝุ่นละออง PM 2.5 โดยปฏิบัติงานตรวจสอบและห้ามใช้รถยนต์ควันดําในพื้นที่จังหวัดขอนแก่น ณ บริเวณถนนมิตรภาพ(หน้าสวนประตูเมือง) อ.เมืองขอนแก่น จ. ขอนแก่นซึ่งผลการปฏิบัติเรียกรถยนต์ตรวจสอบ จํานวน 80 คัน แบ่งออกเป็น รถยนต์ตาม พ.ร.บ.สิ่งแวดล้อมฯ จํานวน 66 คัน พบควันดําเกินค่ามาตรฐานและออกคําสั่งห้ามใช้ชั่วคราว จํานวน 18 คัน, รถยนต์ตาม พ.ร.บ. ขนส่งฯ จํานวน 14 คัน พบควันดําเกินค่ามาตรฐาน จํานวน 1 คัน ผู้ตรวจการ พ่นห้ามใช้ 1 คันจากสถานการณ์ปัจจุบันนี้ปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 เป็นปัญหาสําคัญที่ประเทศไทยกําลังเผชิญอยู่ในขณะนี้ และส่งผลกระทบต่อสุขอนามัยของประชาชน ซึ่งหนึ่งในสาเหตุสําคัญมาจากควันดําของท่อไอเสียรถยนต์ การเผาไหม้ไม่สมบูรณ์ ทําให้รถยนต์แต่ละคันอาจมีควันดําออกมามากทั้งนี้ เทศบาลนครขอนแก่น พร้อมเครือข่าย ได้ดําเนินการตามมาตรการเพื่อแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ได้จัดผู้ตรวจการออกตรวจวัดควันดําจากท่อไอเสียของรถบรรทุกและรถโดยสาร โดยจะลงพื้นที่เฝ้าระวัง ตรวจสอบ ตรวจจับและห้ามใช้รถยนต์ควันดํา ในฟื้นที่จังหวัดขอนแก่น อีก 2 จุด ถ.กลางเมือง หน้า รร.กัลยาณวัตร, ถนนศรีจันทร์ หน้าเรือนจํา เพื่อแก้ไขปัญหารถควันดําสร้างมลพิษ เพื่อช่วยลดปัญหาฝุ่น PM 2.5#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
19/2/2023
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ขอนแก่น
สวท.ขอนแก่น
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230219085121559
null
ค่าฝุ่น PM 2.5 ในภาคเหนือและภาคอีสานปรับสูงขึ้น พบสูงในระดับสีแดงบางพื้นที่ ส่วน กทม.และปริมณฑลฝุ่นสูงขึ้นทุกพื้นที่ พบสูงระดับสีส้ม 44 พื้นที่ โดยต้องเฝ้าระวังถึง 25 ก.พ.นี้
ค่าฝุ่น PM 2.5 ในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือปรับสูงขึ้น พบสูงในระดับสีแดงบางพื้นที่ ส่วนกรุงเทพมหานครและปริมณฑลฝุ่นสูงขึ้นทุกพื้นที่ พบสูงระดับสีส้ม 44 พื้นที่ โดยต้องเฝ้าระวังถึงวันที่ 25 กุมภาพันธ์นี้ นายปิ่นสักก์ สุรัสวดี อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) ในฐานะประธานศูนย์แก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศ (ศกพ.) กล่าวว่า วันนี้ (19 ก.พ.66) ค่าฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM 2.5) ในพื้นที่ภาคเหนือ 17 จังหวัด พบทุกพื้นที่ค่าฝุ่น PM 2.5 ปรับตัวสูงขึ้นบางพื้นที่ โดยสูงในระดับสีส้ม 2 พื้นที่ ยกเว้นบริเวณ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.พิษณุโลก สูงในระดับสีแดงมีผลกระทบต่อสุขภาพ อยู่ที่ 123 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร เพราะยังพบการเผาในที่โล่งและการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศที่มีผลต่อการสะสมของหมอกควัน พร้อมขอความร่วมมือประชาชนงดการบริหารจัดการเชื้อเพลิงจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลายลง ขณะที่ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ พบหลายพื้นที่ค่าฝุ่น PM 2.5 ปรับตัวสูงขึ้นเช่นกัน โดยสูงระดับสีส้ม 4 พื้นที่ ยกเว้นบริเวณ ต.กุดป่อง อ.เมือง จ.เลย สูงในระดับสีแดง อยู่ที่ 107 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร สําหรับกรุงเทพมหานครและปริมณฑลคุณภาพอากาศดีถึงเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ โดยค่าฝุ่นปรับตัวสูงขึ้นทุกพื้นที่ จากสภาพอากาศปิดและลมอ่อนทําให้ฝุ่นสะสมตัวสูงขึ้น ซึ่งมีค่าสูงระดับสีส้ม 44 พื้นที่ อยู่ที่ 51 - 70 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร เช่น ต.บางพูด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี , ริมถนนพระราม 4 เขตปทุมวัน , ต.ปากน้ํา อ.เมือง จ.สมุทรปราการ , เขตคลองสามวา , ริมถนนตรีมิตร วงเวียนโอเดียน์ เขตสัมพันธวงศ์ , ริมถนนบางนา-ตราด เขตบางนา , ริมถนนนวมินทร์ แยกบางกะปิ เขตบางกะปิ , ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี ทั้งนี้ ศูนย์แบบจําลองคุณภาพอากาศและภูมิศาสตร์สารสนเทศ กรมควบคุมมลพิษ (คพ.) ได้คาดการณ์สถานการณ์ฝุ่นละออง PM 2.5 ถึงวันที่ 25 กุมภาพันธ์ มีแนวโน้มฝุ่นละอองขึ้นสูงอีกบางพื้นที่ ทั้งนี้ สามารถติดตามสถานการณ์คุณภาพอากาศได้ทางแอปพลิเคชั่น Air4Thai
19/2/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230219101652572
null
เกษตรอำเภอย่านตาขาว จังหวัดตรัง นำเกษตรกรผู้ปลูกมะพร้าวตำบลโพรงจระเข้ ศึกษาดูงานแปลงมะพร้าวที่ประสบความสำเร็จ ณ จังหวัดนครศรีธรรมราช
นายนนท์นภนต์ นาพอ เกษตรอําเภอย่านตาขาว มอบหมายให้ นางแพรวพรรณ ทองพิทักษ์ นักวิชาการส่งเสริมการเกษตรชํานาญการ นําเกษตรกรผู้ปลูกมะพร้าวตําบลโพรงจระเข้ ศึกษาดูงานแปลงมะพร้าวที่ประสบความสําเร็จของนายบุญเสริม อาทรวิริยกุล ณ หมู่ที่ 5 ตําบลท่าซัก อําเภอเมืองนครศรีธรรมราช ภายใต้โครงการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตร ประจําปีงบประมาณ 2566 ซึ่งได้ฟังการบรรยายถึงทักษะและประสบการณ์ในการปลูกมะพร้าวเพื่อส่งไปจําหน่ายยังประเทศจีน และได้เยี่ยมชมแปลงมะพร้าว พร้อมทั้งซักถามข้อสงสัยจากนายบุญเสริม อาทรวิริยกุล และในการศึกษาดูงานครั้งนี้ได้รับการต้อนรับจาก นางสมใจ วงศ์เทพ เกษตรอําเภอเมืองนครศรีธรรมราช นางสาวอนงค์ ขุนดํา นักวิชาการส่งเสริมการเกษตรชํานาญการ และนายธีรพงศ์ จันทร์เรือง นักวิชาการส่งเสริมการเกษตรปฏิบัติการ เจ้าหน้าที่สํานักงานเกษตรอําเภอเมืองนครศรีธรรมราช เป็นอย่างดีสําหรับการศึกษาดูงาน เป็นการส่งเสริมให้เกษตรกรมองเห็นถึงสภาพในพื้นที่จริง และสามารถนําความรู้ที่ได้จากผู้มีประสบการณ์ที่ประสบความสําเร็จในการปลูกมะพร้าวมาประยุกต์ใช้ในแปลงมะพร้าวของตนเองได้อย่างมีประสิทธิภาพต่อไป#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
19/2/2023
ภาคใต้
ตรัง
สวท.ตรัง
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230219105129574
null
อำเภอศรีสวัสดิ์ จังหวัดกาญจนบุรี จัดงานประกวดมะขามหวานของดีตำบลแม่กระบุง ประจำปี 2566 เพื่อยกระดับมาตรฐานสินค้าเกษตร กระตุ้นเศรษฐกิจของท้องถิ่น
ที่ สนามกีฬาหน้าที่ทําการองค์การบริหารส่วนตําบลแม่กระบุง อําเภอศรีสวัสดิ์ จังหวัดกาญจนบุรี นายธนยศ หิรัญเนตร นายอําเภอศรีสวัสดิ์ เป็นประธานเปิดงานประกวดมะขามหวานของดีตําบลแม่กระบุง โดยมีหัวหน้าส่วนราชการ ผู้นําท้องถิ่น กลุ่มเกษตรกร ภาคเอกชน ร่วมงาน มะขาม เป็นพืชเศรษฐกิจหลักที่สําคัญในการสร้างอาชีพ สร้างรายได้ให้แก่กลุ่มเกษตรกรและประชาชนในพื้นที่ตําบลแม่กระบุง ซึ่งในแต่ละปีสามารถสร้างรายได้มากกว่า 30 ล้านบาท มะขามหวานสายพันธุ์หลักที่ทําการเพาะปลูกในพื้นที่ อาทิ พันธุ์สีทอง พันธุ์ศรีชมภู พันธุ์ขันตี พันธุ์ประกายทอง พันธุ์ประกายเพชร พันธุ์เพชรน้ําผึ้ง เป็นต้น ซึ่งการจัดงานในครั้งนี้เป็นการส่งเสริมสินค้าทางเกษตรและเป็นการตอบสนองนโยบายของรัฐบาลในการส่งเสริมการท่องเที่ยว การพาณิชย์ ยกระดับมาตรฐานคุณภาพ โดยได้มีการจัดการประกวดมะขามหวานของดีตําบลแม่กระบุง การประกวดหญิงงามมะขามหวานตําบลแม่กระบุง การแสดงศิลปวัฒนธรรมของท้องถิ่น การจําหน่ายสินค้าพื้นบ้าน ณัฏฐภัส เหลืองพฤกษชาติ / สวท.กาญจนบุรี#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
19/2/2023
ภาคตะวันตก
กาญจนบุรี
สวท.กาญจนบุรี
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230219123910593
null
เกษตร อ.สามร้อยยอด จ. ประจวบฯ เร่งส่งเสริมชาวนา จัดการวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรในแปลงข้าว ลดปัญหาหมอกควันฝุ่นละออง PM 2.5 ที่เกิดจากการเผา
นายนพดล เบ็ญจกุล เกษตรอําเภอสามร้อยยอดจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้เร่งรณรงค์ส่งเสริมเกษตรกรใน อ.สามร้อยยอด ซึ่งมีพื้นที่ปลูกข้าวกว่า 7,600 ไร่ ให้หยุดการเผาในพื้นที่การเกษตรเพื่อป้องกันการเกิดปัญหาหมอกควันฝุ่นละออง PM 2.5 โดยให้ความรู้เกี่ยวกับการจัดการแปลงข้าวเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพจากวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรในแปลง ซึ่งโดยปกติเศษฟางข้าวที่เหลือจากการเก็บเกี่ยวสามารถอัดเป็นก้อนจําหน่ายและใช้เป็นส่วนผสมอาหารสัตว์ได้ แต่ในช่วงที่ฝนตกไม่สามารถใช้ประโยชน์ฟางข้าวได้ เกษตรกรก็จะมีการเผาเพื่อสะดวกต่อการปลูกรอบใหม่ ก่อให้เกิดมลพิษทางอากาศ สูญเสียธาตุอาหารในดิน ดินมีความแข็งกระด้างและจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์จึงแนะนําให้เกษตรกรปรับใช้การไถกลบตอซังและเศษฟางข้าวแล้วใช้ปุ๋ยน้ําหมักชีวภาพฉีดเพื่อช่วยย่อยสลายเพิ่มแร่ธาตุอาหารในดิน สามารถช่วยลดต้นทุนการใส่ปุ๋ยเพื่อปรับปรุงบํารุงดินให้กับเกษตรกรได้อีกทางหนึ่งด้วย#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
19/2/2023
ภาคตะวันตก
ประจวบคีรีขันธ์
สวท.ประจวบคีรีขันธ์
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230219141341601
null
สำนักงานเกษตรจังหวัดเลย จัดงานวันถ่ายทอดเทคโนโลยีเพื่อเริ่มต้นฤดูกาลผลิตใหม่ (Field day) ครั้งที่ 2
สํานักงานเกษตรจังหวัดเลยผนึกกําลังหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ในพื้นที่จังหวัดเลย และสํานักงานเกษตรอําเภอผาขาว หนองหิน ภูกระดึง ภูหลวง วังสะพุงและเอราวัณ จัดงานวันถ่ายทอดเทคโนโลยีเพื่อเริ่มต้นฤดูกาลผลิตใหม่ (Field day) ที่บริเวณศูนย์เครือข่ายการเรียนรู้การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตร “เกษตรผสมผสาน (พืชผัก)” ตําบลโนนปอแดง อําเภอผาขาว จังหวัดเลย โดยมีนายศิริวัฒน์ พินิจพานิชย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเลย ร่วมเปิดงานในครั้งนี้นายฉลอง อินทนนท์ เกษตรจังหวัดเลย กล่าวว่า ในการจัดงาน Field day ครั้งนี้ เป็นครั้ง 2 ในปีงบประมาณ พ.ศ.2566 เพื่อสร้างความเข้าใจกับเกษตรกรในพื้นที่ในการเตรียมความพร้อมก่อนเริ่มต้นฤดูกาลผลิตใหม่ ซึ่งจะทําให้เกษตรกรมีต้นทุนในการผลิตที่ลดลง มีรายได้เพิ่มขึ้น ทั้งยังเป็นการเรียนรู้ในการทําอาชีพเสริมเพิ่มรายได้ และเป็นการทําการเกษตรที่ยั่งยืนในอนาคตทั้งนี้ ได้รับความสนใจจากเกษตรกรเป้าหมายร่วมงานอําเภอละ 30 ราย รวมกว่า 200 รายเข้าร่วมฐานสถานีเรียนรู้ทางการเกษตร ประกอบด้วย ฐานเรียนรู้ สารชีวภัณฑ์ โดยสํานักงานเกษตรจังหวัดเลย ฐานเรียนรู้การขยายพันธุ์ไม้ผล โดยพืชสวนเลย ฐานเรียนรู้การแปรรูปสินค้าทางการเกษตร โดยประธานกลุ่มวิสาหกิจเกษตรยั่งยืน เป็นต้น โดยมีเจ้าหน้าที่ให้คําแนะนําเพื่อให้เกษตรกรสามารถนําไปปรับใช้ในพื้นที่เกษตรของตน นอกจากนี้ ภายในงานมีการให้บริการด้านการเกษตรแบบครบวงจร พร้อมจัดแสดงนิทรรศการองค์ความรู้ในการลดต้นทุนการผลิตแก่เกษตรกร พร้อมแก้ไขปัญหาด้านการเกษตรในพื้นที่ จากหน่วยงานของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ตลอดจน การออกร้านจําหน่ายสินค้าการเกษตรจากกลุ่มวิสาหกิจชุมชน กลุ่มแปลงใหญ่ กลุ่มแม่บ้านเกษตรกร กลุ่ม young smart farmer ของอําเภอผาขาว จังหวัดเลย#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
19/2/2023
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
เลย
สวท.เลย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230219144742605
null
รัฐมนตรีเกษตรฯ ติดตามการดำเนินงานกลุ่มเกษตรกรในพื้นที่จังหวัดชุมพร
วันนี้ (19 ก.พ. 66) ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ลงพื้นที่ติดตามการขับเคลื่อนนโยบายสําคัญของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ตามนโยบายตลาดนําการผลิต ณ วิสาหกิจชุมชนกลุ่มมังคุดคุณภาพหาดสําราญสามัคคี ตําบลหาดยาย อําเภอหลังสวน จังหวัดชุมพร ซึ่งวิสาหกิจชุมชนดังกล่าว จัดตั้งขึ้นเพื่อแก้ไขปัญหาผลผลิตมังคุดล้นตลาด เนื่องจากสภาพแวดล้อมเหมาะสม ทําให้ผลผลิตกระจุกตัว ส่งผลให้ราคาตกต่ํา เกษตรกรจึงได้รวมตัวเพื่อผลิตมังคุดคุณภาพ และรวบรวมจําหน่ายโดยวิธีประมูล ซึ่งขณะนี้มีเครือข่ายประมูลมังคุด 28 กลุ่ม ทั้งนี้ จังหวัดชุมพรเป็นแหล่งผลิตไม้ผลเขตร้อนที่สําคัญของประเทศไทย โดยเฉพาะพื้นที่อําเภอหลังสวนที่เป็นแหล่งผลิตมังคุดและทุเรียน รวมทั้งเป็นแหล่งรวบรวมผลผลิตเพื่อการส่งออก มีประเทศคู่ค้าที่สําคัญ คือ สาธารณรัฐประชาชนจีน มีโรงงานคัดบรรจุทุเรียนและมังคุดไม่ต่ํากว่า 400 แห่งสําหรับวิสาหกิจชุมชนกลุ่มมังคุดคุณภาพหาดสําราญสามัคคี ได้จดทะเบียนเป็นวิสาหกิจชุมชน เมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม 2560 โดยมี นายประเสริฐ ช่วยละแม เป็นประธานกลุ่ม สมาชิกร่วมกันตั้งจุดรวบรวมผลผลิตมังคุด โดยขอเช่าพื้นที่ของเอกชนเป็นจุดรวบรวมผลผลิตมังคุด มีสมาชิกจํานวน 59 ราย กิจกรรมของกลุ่ม ได้แก่ การผลิตมังคุดคุณภาพ การรวบรวมผลผลิต คัดแยก จัดจําหน่าย โดยวิธีประมูลและเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร โดยในปี 2564 กลุ่มสามารถผลิตมังคุดคุณภาพได้ จํานวน 495 ตัน ราคาที่ประมูลได้เฉลี่ย 27.10 บาท/กิโลกรัม คิดเป็นมูลค่า 13,414,500 บาท สําหรับในปี 2565 ภาคใต้มีปริมาณฝนตกชุกก่อนมังคุดออกดอก ทําให้ไม่เกิดช่อดอก จึงมีผลผลิตมังคุดเพียงเล็กน้อยทั้งภาค ทั้งนี้ การคาดการณ์ผลผลิตมังคุดในปี 2566 ผลผลิตมังคุดจะมีปริมาณมากใกล้เคียงกับปี 2564 ในช่วงที่มังคุดออกสู่ตลาดมากที่สุด กลุ่มจะประสบปัญหาตะกร้าหูเหล็กที่ใช้บรรจุเพื่อขนส่งผลผลิตและกระจายผลผลิตมังคุดไม่เพียงพอ เกษตรกรจําหน่ายได้ราคาลดลง นอกจากนี้ ยังพบว่าจํานวนสมาชิกและปริมาณผลผลิตมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น กลุ่มไม่มีพื้นที่เป็นของตนเอง และสถานที่ไม่เพียงพอในการรวบรวมผลผลิต การจําหน่าย รวมทั้งการแปรรูป กลุ่มจึงขอใช้พื้นที่ของสหกรณ์นิคมอําเภอหลังสวนดําเนินกิจกรรมในส่วนของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้เข้ามาสนับสนุนปัจจัยการผลิตในด้านต่าง ๆ รวมถึงเล็งเห็นถึงความสําคัญของสถานที่ในการรวบรวมผลผลิต การจําหน่าย รวมทั้งการแปรรูป จึงได้มอบกรรมสิทธิ์การใช้ที่ดินพื้นที่ของสหกรณ์นิคมหลังสวน หมู่ที่ 4 ตําบลหาดยาย อําเภอหลังสวน จังหวัดชุมพร จํานวน 7 ไร่ 2 งาน เพื่อให้กลุ่มมีการพัฒนาอย่างยั่งยืน นอกจากนี้ ยังร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น สํานักงานพาณิชย์จังหวัดชุมพร สถาบันการศึกษา องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ส่งเสริมการบริหารจัดการกลุ่ม การผลิต การพัฒนาคุณภาพผลผลิต การตลาด การยกระดับมาตรฐานและเพิ่มมูลค่าสินค้าเกษตร ซึ่งส่งผลให้กลุ่มสามารถบริหารจัดการกลุ่มให้มีความเข้มแข็งมากขึ้น เกิดความมั่นคงและสร้างรายได้ให้แก่สมาชิกได้เป็นอย่างดีดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า จังหวัดชุมพรได้นํานโยบายตลาดนําการผลิตมาขับเคลื่อนจนประสบความสําเร็จ มีตัวอย่างเป็นที่ประจักษ์ เกษตรกรสามารถรวมกลุ่มผลิตมังคุดคุณภาพ และรวบรวมผลผลิตจําหน่ายโดยวิธีการประมูลให้แก่ผู้ประกอบการได้ตรงตามความต้องการของประเทศคู่ค้า จนสามารถแก้ไขปัญหาผลผลิตล้นตลาดในช่วงผลผลิตกระจุกตัว ซึ่งจังหวัดชุมพรมีกลุ่มผลิตมังคุดคุณภาพ จํานวน 28 กลุ่ม โดยรวมตัวกันในลักษณะของเครือข่าย ดําเนินกิจกรรมด้านการผลิตและการตลาดร่วมกัน สามารถทําให้มังคุดมากกว่า 50 เปอร์เซ็นต์ เข้าสู่ระบบตลาดประมูล ทําให้มูลค่าผลผลิตสูงขึ้น สามารถสร้างรายได้เพิ่มให้เกษตรกร โดยเฉพาะวิสาหกิจชุมชนกลุ่มมังคุดคุณภาพหาดสําราญสามัคคี ตําบลหาดยาย อําเภอหลังสวน จังหวัดชุมพร ที่แสดงให้เห็นว่ากลุ่มสามารถผลิตสินค้าได้อย่างมีคุณภาพ ตามแนวทางการผลิตเกษตรดีที่เหมาะสม ซึ่งเป็นมาตรฐานที่ประเทศคู่ค้ากําหนดไว้ และการจําหน่ายโดยวิธีการประมูลทําให้มังคุดของกลุ่มเป็นที่ยอมรับของผู้ประกอบการ สอดคล้องกับนโยบายตลาดนําการผลิต เกษตรกรมีความสามารถในการวางแผนตามความต้องการของตลาด ทั้งปริมาณและคุณภาพ รวมทั้งสร้างรายได้จากการประมูลสูงกว่าราคาตามท้องตลาด อย่างไรก็ตาม ได้กําชับให้เจ้าหน้าที่ในสังกัดกระทรวงเกษตรฯ บูรณาการการทํางานร่วมกับทุกภาคส่วน รวมถึงส่งเสริมให้เกษตรกรรักษาคุณภาพผลผลิต เพื่อสร้างความเชื่อมั่นแก่ผู้บริโภคด้วยหลังจากนั้น ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เดินทางลงพื้นที่ตรวจราชการและพบปะเกษตรกร ณ กลุ่มเกษตรกรทําสวนทุ่งคาวัด ตําบลทุ่งคาวัด อําเภอละแม จังหวัดชุมพร ซึ่งกลุ่มเกษตรกรทําสวนทุ่งคาวัด เป็นกลุ่มเกษตรกรที่รวมกลุ่มกันเพื่อทําการผลิตกล้วยหอมทองปลอดสารเคมีเพื่อส่งออกไปยังประเทศญี่ปุ่น ซึ่งรวบรวมกลุ่มผู้ที่สนใจผลิตกล้วยหอมทองปลอดสารเคมีมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2536 และได้ดําเนินงานมาถึงปัจจุบัน ซึ่งกลุ่มมีกําลังผลิตกล้วยหอมทองอยู่ที่ประมาณ 20 - 40 ตันต่อสัปดาห์ ในส่วนของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยกรมส่งเสริมสหกรณ์ได้มีการจัดทําโครงการสร้างความเข้มแข็งให้กับกลุ่มเกษตรกร เพื่อเข้าถึงแหล่งทุนในการผลิตและการตลาด เป็นทุนหมุนเวียนในการรวบรวมผลผลิต นอกจากนี้ ยังมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาสนับสนุนปัจจัยการผลิตต่าง ๆ ด้วย#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
19/2/2023
ภาคใต้
ชุมพร
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดชุมพร
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230219170418616
null
จังหวัดตราดออกประกาศ กำหนดเปอร์เซ็นต์น้ำหนักแห้งในเนื้อทุเรียนแต่ละพันธุ์ ป้องกันปัญหาทุเรียนอ่อนออกสู่ตลาด
วันนี้(19 ก.พ. 66) นายชํานาญวิทย์ เตรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดตราด เปิดเผยว่า จังหวัดตราดขอประกาศให้เกษตรกรผู้ปลูกทุเรียน พ่อค้าคนกลางหรือผู้มีอาชีพตัดทุเรียนได้ทราบโดยทั่วกันว่า จังหวัดตราดได้กําหนดระดับความสุกแก่ของทุเรียน ด้วยการวัดเปอร์เซ็นต์น้ําหนักแห้งในเนื้อทุเรียน โดยการตรวจสอบน้ําหนักแห้งด้วยเครื่องเตาอบไมโครเวฟ โดยใช่ค่ามาตรฐานเปอร์เซ็นต์น้ําหนักแห้งในเนื้อทุเรียน ของกรมวิชาการเกษตร และสํานักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ ตามมาตรฐานสินค้าเกษตร มกษ. 3-2556 ซึ่งกําหนดค่าเฉลี่ยเปอร์เซ็นต์น้ําหนักแห้งในเนื้อทุเรียนแต่ละสายพันธุ์ ดังนี้ 1.สายพันธุ์กระดุม 27 เปอร์เซ็นต์แป้ง2.สายพันธุ์ชะนี 30 เปอร์เซ็นต์แป้ง3.สายพันธุ์พวงมณี 30 เปอร์เซ็นต์แป้ง4.สายพันธุ์หมอนทอง 32 เปอร์เซ็นต์แป้งถ้าเปอร์เซ็นต์น้ําหนักแห้งต่ํากว่านี้ ถือว่าเป็นทุเรียนด้อยคุณภาพ (ทุเรียนอ่อน) ดังนั้น หากผู้ใดจําหน่ายทุเรียนด้อยคุณภาพ (ทุเรียนอ่อน) เข้าข่ายความผิด ดังนี้ (1) ความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 271 ผู้ใดขายของโดยหลอกลวงด้วยประการใด ๆ ให้ผู้ซื้อหลงเชื้อในแหล่งกําเนิด สภาพคุณภาพ หรือปริมาณแห่งของนั้นอันเป็นเท็จ ถ้าการกระทํานั้นไม่เป็นความผิดฐานฉ้อโกง ต้องระวงโทษจําคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจําทั้งปรับ (2) การกระทําผิด ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ.2522 มาตรา 47 ผู้ใดโดยเจตนาก่อให้เกิดความเข้าใจผิด ในแหล่งกําเนิด สภาพ คุณภาพ หรือ สาระสําคัญ ประการอื่นอันเกี่ยวกับสินค้าหรือบริการ ไม่ว่าจะเป็นของตนเองหรือของผู้อื่น โฆษณาหรือใช้ฉลากที่มีข้อความอันเป็นเท็จ หรือข้อความที่รู้หรือควรรู้อยู่แล้วว่าอาจก่อให้เกิดความเข้าใจผิดว่าเช่นนั้น ต้องระวางโทษจําคุก ไม่เกิน 6 เดือน หรือ ปรับไม่เกิน 50,000 บาท หรือทั้งจําทั้งปรับ จังหวัดตราดจึงขอแจ้งให้ทราบโดยทั่วกัน#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
19/2/2023
ภาคตะวันออก
ตราด
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดตราด
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230219170609617
null
กอนช. เฝ้าระวังฝนฟ้าคะนองในภาคใต้ พร้อมระวังระดับน้ำทะเลหนุนสูงในพื้นที่ลุ่มต่ำริมปากแม่น้ำช่วง 19 - 22 ก.พ.
กองอํานวยการน้ําแห่งชาติ (กอนช.) เฝ้าระวังฝนฟ้าคะนองในภาคใต้ พร้อมระวังระดับน้ําทะเลหนุนสูงในพื้นที่ลุ่มต่ําริมปากแม่น้ําช่วงวันที่ 19 - 22 กุมภาพันธ์ นายสุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสํานักงานทรัพยากรน้ําแห่งชาติ (สทนช.) ในฐานะรองผู้อํานวยการกองอํานวยการน้ําแห่งชาติ (กอนช.) กล่าวถึงสถานการณ์น้ําภาพรวมของประเทศวันนี้ (19 ก.พ.66) ว่า ภาพรวมภาคใต้มีฝนฟ้าคะนอง เนื่องจากมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทย ภาคใต้ และทะเลอันดามันเริ่มมีกําลังอ่อนลง แต่ยังคงทําให้ภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองอยู่ในระยะนี้ โดยเฉพาะมีฝนตกปานกลางถึงหนักบริเวณ จ.พัทลุง , สุราษฎร์ธานี และ กระบี่ ทั้งนี้ ยังต้องเฝ้าระวังระดับน้ําทะเลหนุนสูงในพื้นที่ลุ่มต่ําริมปากแม่น้ํา หลังกรมอุทกศาสตร์ กองทัพเรือ และสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ํา (องค์การมหาชน) คาดการณ์น้ําทะเลหนุนสูงช่วงวันที่ 19 – 22 กุมภาพันธ์ โดยระดับน้ําทะเลหนุนจะขึ้นสูงสุดวันที่ 20 กุมภาพันธ์ ซึ่งอาจก่อให้เกิดน้ําเค็มรุกตัวเข้าสู่บริเวณปากแม่น้ําในพื้นที่ลุ่มต่ําริมชายฝั่งทะเลอ่าวไทย ส่งผลกระทบต่อคุณภาพน้ําใช้อุปโภค-บริโภค และการใช้น้ําเพื่อการเกษตร
19/2/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230219172149618
null
สำนักงานสิ่งแวดล้อมและควบคุมมลพิษที่ 11 ตรวจสอบกรณีปลาตายในแหล่งน้ำลำตะคอง จังหวัดนครราชสีมา
วันนี้(19 กุมภาพันธ์ 2566) นายสมพงษ์ บุญเฟรือง ผู้อํานวยการส่วนการจัดการคุณภาพน้ํา อากาศ และเสียง พร้อมด้วย นางสาวปริศนา สุตะพันธ์ นักวิชาการสิ่งแวดล้อมชํานาญการ ตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีมีเหตุร้องเรียนผ่านสื่อสังคมออนไลน์ (Line) ว่าพบปลาตายเป็นจํานวนมากในลําตะคองช่วงไหลผ่านเขตเทศบาลนครนครราชสีมา อําเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา เมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2566 ผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงและตรวจวัดคุณภาพน้ําเบื้องต้น จํานวน 4 จุด สรุปได้ดังนี้ 1.คุณภาพน้ําลําตะคอง บริเวณชุมชนมิตรภาพซอย 4 มีค่าออกซิเจนละลายน้ํา (DO) 4.80 มิลลิกรัมต่อลิตร และความเป็นกรดด่าง 7.56 มีกลิ่นเล็กน้อยและไม่พบว่ามีปลาตายในบริเวณดังกล่าว 2.คุณภาพน้ําลําตะคอง บริเวณซอยสําโรงจันทร์ ด้านหลังห้างสรรพสินค้าเทอมินัล 21 มีค่าออกซิเจนละลายน้ํา (DO) 4.08 มิลลิกรัมต่อลิตร และความเป็นกรดด่าง 7.38 ขณะตรวจสอบพบว่าน้ํามีกลิ่นและมีปลาตายในบริเวณดังกล่าว 3.คุณภาพน้ําลําตะคอง บริเวณด้านหลังโรงเรียนสุรนารีวิทยา มีค่าออกซิเจนละลายน้ํา (DO) 3.81 มิลลิกรัมต่อลิตร และความเป็นกรดด่าง 7.32 ขณะตรวจสอบพบว่าน้ํามีลักษณะใส ไม่มีกลิ่น และไม่พบว่ามีปลาตายในบริเวณดังกล่าว 4.คุณภาพน้ําลําตะคองบริเวณสะพานสุรนารายณ์ ด้านหลังวัดสามัคคี มีค่าออกซิเจนละลายน้ํา (DO) 3.23 มิลลิกรัมต่อลิตร ความเป็นกรดด่าง 7.27 ขณะตรวจสอบพบว่าน้ําไม่มีกลิ่นและไม่พบว่ามีปลาตายในบริเวณดังกล่าว จากผลการตรวจวัดคุณภาพน้ําภาคสนามในลําตะคองทั้ง 4 จุด ค่าออกซิเจนละลายน้ํามีค่าอยู่ในช่วงปกติ ซึ่งสาเหตุที่มีปลาตายในลําตะคองในช่วงวันที่ 17-18 กุมภาพันธ์ 2566 นั้น อาจเนื่องมาจากภาวะการแปรปรวนของสภาพอากาศ และบางช่วงมีฝนตกนอกฤดู อาจทําให้ปลาน็อคน้ํา ทั้งนี้สํานักงานสิ่งแวดล้อมและควบคุมมลพิษที่ 11 ได้เก็บตัวอย่างน้ําส่งวิเคราะห์ ณ ห้องปฏิบัติการสิ่งแวดล้อม สํานักงานสิ่งแวดล้อมและควบคุมมลพิษที่ 11 เพื่อประกอบการวิเคราะห์หาสาเหตุที่แท้จริงต่อไป#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
19/2/2023
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
นครราชสีมา
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนครราชสีมา
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230220064621657
null
ผู้ว่าฯ นครพนม พร้อมคณะฯ เยี่ยมชมงานเกษตรลุ่มน้ำโขง ครั้งที่ 24 !!ข่าวดี!!ขยายเวลาการจำหน่ายสินค้าภายในงาน ต่อเนื่องไปจนถึงวันที่ 22 กุมภาพันธ์ นี้
ที่คณะเกษตรและเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยนครพนม ต.ขามเฒ่า อ.เมือง จ.นครพนม ซึ่งเป็นสถานที่จัดงานงานเกษตรลุ่มน้ําโขง ครั้งที่ 24 ประจําปี 2566 นายวันชัย จันทร์พร ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม พร้อมด้วย นางสงวน จันทร์พร นายกเหล่ากาชาดจังหวัดนครพนม และหัวหน้าส่วนราชการสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ร่วมเยี่ยมชมงานเกษตรลุ่มน้ําโขง ครั้งที่ 24 ประจําปี 2566 ที่คณะเกษตรและเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยนครพนม ได้บูรณาการร่วมกับหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน จัดขึ้นระหว่างวันที่ 16 - 20 กุมภาพันธ์ 2566 ภายใต้ธีม "เกษตร DIY ง่าย ๆ พาลงมือทํา" เพื่อร่วมกันพิจารณาแนวทางในการพัฒนาต่อยอดการผลิตและการตลาด ต้นน้ํา กลางน้ํา ปลายน้ํา สินค้าด้านเกษตร ประมง และปศุสัตว์ ของเกษตรกรในพื้นที่จังหวัดนครพนม โดยภายในงานมีการนําเสนอผลงานส่งเสริมการเกษตร และการส่งเสริมการหยุดเผาในพื้นที่ และการสร้างมูลค่าเพิ่มจากวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร โดยบรรยากาศภายในงานเป็นไปด้วยความคึกคักของนักเรียน นักศึกษา นักวิชาการ เกษตรกร และประชาชนทั่วไป ที่ให้ความสนใจเดินทางมาร่วมเยี่ยมชมงานเป็นจํานวนมาก พร้อมชิม ช้อป แชร์ สินค้า อาหาร ผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร ที่มีพ่อค้าแม่นํามาจําหน่ายในงานและจากที่ผู้ว่าฯ นครพนม พร้อมคณะ ได้เยี่ยมชมงาน พบปะ พูดคุยกับพ่อค้าแม่ค้าในวันนี้ได้แจ้งความประสงค์ขอให้ช่วยขยายเวลาขายสินค้าออกไปอีก ทางคณะฯ จึงได้หารือร่วมกับหน่วยจัดงานฯ โดยผู้ช่วยศาสตราจารย์ ถนอม ทาทอง คณบดีคณะเกษตรและเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยนครพนม มีความเห็นร่วมกันว่าสามารถขยายเวลาให้จําหน่ายสินค้าในงานฯ ต่อเนื่องได้อีกไปจนถึงวันพุธที่ 22 กุมภาพันธ์ 2566 ซึ่งพ่อค้าแม่ค้าต่างดีใจขอบคุณทางจังหวัดและคณะเกษตรฯ เป็นอย่างมากที่ให้การช่วยเหลือขยายเวลาการจําหน่ายสินค้าต่อไปได้อีกสองวันทําให้สามารถมีรายได้จากการจําหน่ายเพิ่มขึ้นสําหรับงานเกษตรลุ่มน้ําโขง ถือเป็นงานที่ยิ่งใหญ่ของเกษตรกรและหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องทางด้านการเกษตร ทั้งในจังหวัดนครพนมและจังหวัดใกล้เคียง ที่มาร่วมกันจัดนิทรรศการถ่ายทอดความรู้จากประสบการณ์ในรอบ 1 ปีที่ผ่านมา ที่มีอะไรดี ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการเกษตร ที่เกิดขึ้นมาจัดแสดงโชว์ มาสาธิต มานําเสนอให้ผู้ที่มาร่วมงานได้รับรู้ในสิ่งใหม่ ๆ นําไปสู่การพัฒนาด้านการเกษตรของเกษตรลุ่มน้ําโขง เพื่อกระจายโอกาสในการให้บริการวิชาการ บริการวิชาชีพทางการเกษตรและเทคโนโลยี นําเสนองานวิจัย นวัตกรรมการเกษตร การแข่งขันทักษะและการประกวด นอกจากนี้ยังมีการฝึกอบรม การเสวนาถ่ายทอดความรู้ทางการเกษตร รวมถึงการส่งเสริม เผยแพร่ และอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมภูมิปัญญาท้องถิ่น ให้กับผู้ที่สนใจได้มาศึกษาหาความรู้ โดยเฉพาะในปีนี้ที่จัดในธีมเกษตร DIY ง่าย ๆ พาลงมือทํา ยิ่งเป็นการนําเสนอในรูปแบบที่พร้อมให้ทุกคนทําได้ด้วยตนเอง เพื่อนําไปสู่การประกอบอาชีพเกษตรกรรมที่พึ่งพาตนเองได้ สอดคล้องกับยุทธศาสตร์เกษตรและสหกรณ์ ระยะ 20 ปี (พ.ศ. 2560 - 2579) ที่มุ่งเสริมจุดแข็งและแก้ไขจุดอ่อนให้เอื้อต่อการพัฒนาภาคการเกษตรในระยะยาว เพื่อบรรลุวิสัยทัศน์ "เกษตรกรมั่นคง ภาคการเกษตรมั่งคั่ง ทรัพยากรการเกษตรยั่งยืน" โดยสร้างความเข้มแข็งให้กับเกษตรกรและสถาบันเกษตรกร เพิ่มประสิทธิภาพการผลิต และยกระดับมาตรฐานสินค้าเกษตร เพิ่มความสามารถในการแข่งขันภาคการเกษตรด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรม"#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
20/2/2023
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
นครพนม
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนครพนม
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230220091327673
null
ปศุสัตว์ จังหวัดมุกดาหาร คุมเข้มโรงฆ่าสัตว์ ต้องปฏิบัติตามกฎหมาย
นายต่อพงศ์ ประเสริฐสังข์ ปศุสัตว์จังหวัดมุกดาหาร เปิดเผยว่า ปัจจุบันพบว่ามีร้านจําหน่ายเนื้อวัวสดหรือเขียงเนื้อ ในพื้นที่จังหวัดมุกดาหารเพิ่มขึ้นเป็นจํานวนมาก และกําลังเป็นที่นิยมของผู้บริโภคเนื้อ สํานักงานปศุสัตว์จังหวัดมุกดาหาร จึงมอบหมายให้ปศุสัตว์อําเภอทุกอําเภอ ออกปฏิบัติงานบังคับใช้กฎหมายตามพระราชบัญญัติควบคุมโรงฆ่าสัตว์เพื่อการจําหน่ายเนื้อสัตว์ พ.ศ.2559 เพื่อกํากับดูแลการฆ่าสัตว์ในกระบวนการผลิตเนื้อสัตว์ที่ปลอดภัยต่อผู้บริโภคให้เป็นไปตามข้อกฎหมาย และตรวจประเมินโรงฆ่าสัตว์ที่ได้รับอนุญาตประกอบกิจการในพื้นที่ ประจําปีงบประมาณ 2566 ผลการตรวจพบว่าทุกโรงฆ่าสัตว์ผลิตเนื้อสัตว์ที่ปลอดภัยต่อผู้บริโภค สด สะอาด ปลอดภัย เป็นไปตามข้อกฎหมายกําหนด นอกจากนั้นยังได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมสถานที่จําหน่ายสินค้าปศุสัตว์ ตามกิจกรรม กรมปศุสัตว์มั่นใจ สินค้าปศุสัตว์ปลอดภัย เพื่อเป็นการสร้างความมั่นใจแก่ผู้บริโภคในการเลือกซื้อสินค้าปศุสัตว์ เพื่อให้ผู้บริโภคได้บริโภคเนื้อสัตว์ที่ถูกสุขลักษณะและสุขอนามัย และขอให้ประชาชนเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ปศุสัตว์จากแหล่งจําหน่ายที่น่าเชื่อถือ โดยต้องมีความสะอาด ถูกสุขลักษณะ สามารถตรวจสอบย้อนกลับไปถึงแหล่งผลิตได้ โดยเฉพาะสถานที่จําหน่ายภายใต้สัญลักษณ์ “ปศุสัตว์ OK” ซึ่งเป็นโครงการที่กรมปศุสัตว์จัดทําขึ้นเพื่อรับรองว่า ร้านค้าที่จําหน่ายเนื้อสัตว์หรือผลิตภัณฑ์ปศุสัตว์นั้นๆ ผ่านการตรวจสอบมาตรฐานจากกรมปศุสัตว์ สนิท ทองจํารัส สวท.มุกดาหาร รายงาน #สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
20/2/2023
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
มุกดาหาร
สวท.มุกดาหาร
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230220090440670
null
1 มีนาคมนี้ กรมฝนหลวงและการบินเกษตร เตรียมแผนปฏิบัติการฝนหลวงเชิงรุกแก้ปัญหาภัยแล้งปี 66
นายวีรวัฒน์ อังศุพาณิชย์ รองอธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตร กล่าวว่า ตั้งแต่เกิดปัญหาหมอกควันเกินค่ามาตรฐานในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล กรมฝนหลวงและการบินเกษตร จึงได้จัดตั้งหน่วยปฏิบัติการฝนหลวงเคลื่อนที่เร็วเพื่อเร่งแก้ปัญหาดังกล่าว จํานวน 2 หน่วยคือ หน่วยปฏิบัติการฝนหลวงเคลื่อนที่เร็วประจําการที่จังหวัดเชียงใหม่ 1 ชุด ตั้งแต่วันที่ 3 -7 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา และหน่วยปฏิบัติการฝนหลวงเคลื่อนที่เร็วประจําการที่จังหวัดระยอง ตั้งแต่วันที่ 3 -12 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เพื่อทํางานเชิงรุกแก้ปัญหาลดผลกระทบทันที ซึ่งนอกจากหมอกควันแล้วยังดับไฟป่าด้วย ทั้งนี้ทําให้เกิดฝนตกและค่า PM 2.5 ลดลง จากการคาดการณ์ในปี 2566 เชื่อว่า จากปรากฎการณ์ลานีญ่าจะส่งผลให้เกิดภัยแล้วเพิ่มมากขึ้น ดังนั้นคาดว่าจะต้องปฏิบัติการฝนหลวงเชิงรุกเพิ่มมากขึ้นกว่าปีที่ผ่านมา โดยตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคมนี้ จะตั้งศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงกระจายครอบคลุมครบทั่วทุกพื้นที่ยกเว้นภาคใต้ที่จะมีการตั้งหน่วยปฏิบัติการเติมน้ําในเขื่อนช่วงเดือนพฤษภาคม เพื่อช่วยพื้นที่การเกษตรสําหรับเกษตรกรที่ได้รับความเดือดร้อนจากปัญหาภัยแล้ง ซึ่งส่วนใหญ่เกษตรกรจะร่วมเป็นเครือข่ายอาสาฝนหลวงเพื่อแจ้งสถานการณ์ภัยแล้งกับกรมฝนหลวงและการบินเกษตร ในการทําฝนหลวงช่วยบรรเทาความเดือดร้อนอยู่แล้ว
20/2/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230220100842688
null
เจ้าหน้าที่ชุดค้นหา เร่งระดมกำลังเข้าไปช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ชุดลาดตระเวนอุทยานแห่งชาติเอราวัณหายตัวไป หลังได้รับการติดต่อทางโทรศัพท์มือถือ
เจ้าหน้าที่ชุดค้นหา เร่งระดมกําลังเข้าไปช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ชุดลาดตระเวนอุทยานแห่งชาติเอราวัณหายตัวไป หลังได้รับการติดต่อทางโทรศัพท์มือถือ นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) และรักษาราชการแทนอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช กล่าวถึงความคืบหน้ากรณี นายอนุวัตน์ นาเอี่ยม บุคคลภายนอกปฏิบัติงานให้ส่วนราชการประจําหน่วยฯ ถ้ําพระธาตุ อุทยานแห่งชาติเอราวัณ หายตัวไปหลังออกลาดตระเวนพร้อมกับทีมลาดตระเวน บริเวณป่าลําต้น - ถ้ําพระธาตุ เมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมาว่า เจ้าหน้าที่ชุดค้นหาได้รับการติดต่อจากเจ้าหน้าที่ชุดลาดตระเวนที่หายตัวไปผ่านทางโทรศัพท์มือถือ จากการสอบถามอยู่ห่างจากจุดอํานวยการค้นหาประมาณ 10 กิโลเมตร จึงเร่งระดมกําลังเข้าไปช่วยเหลือ คาดว่า จะถึงจุดที่ส่งสัญญาณมาในเวลาประมาณ 12.00 น.
20/2/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230220094056680
null
กอนช. เฝ้าระวังฝนฟ้าคะนองบางแห่งในภาคใต้ พร้อมระวังระดับน้ำทะเลหนุนสูงในพื้นที่ลุ่มต่ำริมปากแม่น้ำ โดยวันนี้ระดับน้ำทะเลหนุนจะขึ้นสูงสุด
กองอํานวยการน้ําแห่งชาติ (กอนช.) เฝ้าระวังฝนฟ้าคะนองบางแห่งในภาคใต้ พร้อมระวังระดับน้ําทะเลหนุนสูงในพื้นที่ลุ่มต่ําริมปากแม่น้ํา โดยวันนี้ (20 ก.พ.66) ระดับน้ําทะเลหนุนจะขึ้นสูงสุด นายสุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสํานักงานทรัพยากรน้ําแห่งชาติ (สทนช.) ในฐานะรองผู้อํานวยการกองอํานวยการน้ําแห่งชาติ (กอนช.) กล่าวถึงสถานการณ์น้ําภาพรวมของประเทศวันนี้ (20 ก.พ.66) ว่า ภาพรวมภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง เนื่องจากมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทย ภาคใต้ และทะเลอันดามันเริ่มมีกําลังอ่อนลง แต่ยังคงทําให้ภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองอยู่ในระยะนี้ โดยเฉพาะมีฝนตกปานกลางถึงหนักบริเวณ จ.ภูเก็ต , พัทลุง และนครศรีธรรมราช ทั้งนี้ ยังต้องเฝ้าระวังระดับน้ําทะเลหนุนสูงในพื้นที่ลุ่มต่ําริมปากแม่น้ํา หลังกรมอุทกศาสตร์ กองทัพเรือ และสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ํา (องค์การมหาชน) คาดการณ์น้ําทะเลหนุนสูงช่วงวันที่ 19 – 22 กุมภาพันธ์ โดยระดับน้ําทะเลหนุนจะขึ้นสูงสุดวันนี้ (20 ก.พ.66) อาจก่อให้เกิดน้ําเค็มรุกตัวเข้าสู่บริเวณปากแม่น้ําในพื้นที่ลุ่มต่ําริมชายฝั่งทะเลอ่าวไทย ส่งผลกระทบต่อคุณภาพน้ําใช้อุปโภค-บริโภค และการใช้น้ําเพื่อการเกษตร
20/2/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230220100338687
null
ค่าฝุ่น PM 2.5 ในภาคเหนือ กทม. และปริมณฑลฝุ่นสูงขึ้นทุกพื้นที่ ส่วนภาคอีสานปรับตัวลดลงทุกพื้นที่
ค่าฝุ่น PM 2.5 ในภาคเหนือ กรุงเทพมหานคร และปริมณฑลฝุ่นสูงขึ้นทุกพื้นที่ ส่วนภาคตะวันออกเฉียงเหนือปรับตัวลดลงทุกพื้นที่ โดยกรุงเทพมหานครและปริมณฑลต้องเฝ้าระวังถึงวันที่ 25 กุมภาพันธ์นี้ นายปิ่นสักก์ สุรัสวดี อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) ในฐานะประธานศูนย์แก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศ (ศกพ.) กล่าวว่า วันนี้ (19 ก.พ.66) ค่าฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM 2.5) ในพื้นที่ภาคเหนือ 17 จังหวัด พบทุกพื้นที่ค่าฝุ่น PM 2.5 ปรับตัวสูงขึ้นบางพื้นที่ โดยสูงในระดับสีส้ม 10 พื้นที่ และสีแดง 2 พื้นที่ บริเวณ ต.ธานี อ.เมือง จ.สุโขทัย และ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.พิษณุโลก อยู่ที่ 122 - 124 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร เพราะยังพบการเผาในที่โล่งและการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศที่มีผลต่อการสะสมของฝุ่น พร้อมขอความร่วมมือประชาชนงดการบริหารจัดการเชื้อเพลิงจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลายลง ขณะที่ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ พบหลายพื้นที่ค่าฝุ่น PM 2.5 ปรับตัวลดลงทุกพื้นที่ ภาพรวมคุณภาพอากาศอยู่ในระดับดีมากถึงปานกลาง สําหรับกรุงเทพมหานครและปริมณฑลคุณภาพอากาศปานกลางถึงมีผลกระทบต่อสุขภาพ โดยค่าฝุ่นปรับตัวสูงขึ้นทุกพื้นที่ จากสภาพอากาศปิดและลมอ่อนทําให้ฝุ่นสะสมตัวสูงขึ้น ซึ่งมีค่าสูงระดับสีส้ม 87 พื้นที่ และสีแดง 2 พื้นที่ บริเวณริมถนนกาญจนาภิเษก เขตบางขุนเทียน และ ต.บางพูด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี อยู่ที่ 99 - 107 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ทั้งนี้ ศูนย์แบบจําลองคุณภาพอากาศและภูมิศาสตร์สารสนเทศ กรมควบคุมมลพิษ (คพ.) ได้คาดการณ์สถานการณ์ฝุ่นละออง PM 2.5 ถึงวันที่ 25 กุมภาพันธ์ มีแนวโน้มฝุ่นละอองขึ้นสูงอีกบางพื้นที่ ทั้งนี้ สามารถติดตามสถานการณ์คุณภาพอากาศได้ทางแอปพลิเคชั่น Air4Thai
20/2/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230220102225702
null
กรมอุตุนิยมวิทยา แจ้งประชาชนในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือยังมีอากาศเย็นจนถึง 25 กุมภาพันธ์นี้
ว่าที่ร้อยตรี ธนะสิทธิ์ เอี่ยมอนันชัย รองอธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา กล่าวว่า สัปดาห์นี้ประเทศไทยตอนบนยังมีอากาศเย็นถึงหนาว เนื่องจากมีมวลอากาศเย็นกําลังปานกลางระลอกใหม่จากประเทศจีนได้แผ่ลงมาปกคลุมถึงภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ทําให้จังหวัดในพื้นที่ดังกล่าวมีอากาศเย็นถึงหนาวในตอนเช้าอุณหภูมิลดลง 2-4 องศาเซลเซียส ส่วนภาคกลางและภาคตะวันออกอุณหภูมิจะลดลง 1-2 องศา ขอให้ประชาชนดูแลสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงจนถึงวันที่ 25 กุมภาพันธ์ รวมถึงการป้องกันฝุ่นละอองเนื่องจากประเทศไทยตอนบนมีแนวโน้มการสะสมของฝุ่นละอองและหมอกควันเพิ่มขึ้น ส่วนพื้นที่ภาคใต้ลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ และลมตะวันออกที่พัดปกคลุมอ่าวไทย ภาคใต้ และทะเลอันดามันมีกําลังปานกลาง ทําให้มีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง โดยเฉพาะช่วงวันที่ 22-25 กุมภาพันธ์ คลื่นลมบริเวณอ่าวไทยตอนล่างสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ส่วนอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร
20/2/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230220105926731
null
“บิ๊กป้อม” มอบสิทธิในที่ดินทำกินให้แก่เกษตรกร จ.จันทบุรี
พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่จังหวัดจันทบุรี เปิดงาน "บจธ. มอบสิทธิ มอบสุข ในที่ดินทํากินฯ ตามนโยบายการจัดที่ดินทํากินให้ชุมชน” ให้กับเกษตรกร วิสาหกิจชุมชนเกษตรกรรุ่นใหม่พัฒนา ต.ทับไทร อ.โป่งน้ําร้อน เนื้อที่ 77 ไร่เศษเช้าวันนี้ (22 ก.พ.66) ที่ วิสาหกิจชุมชนเกษตรกรรุ่นใหม่ ต. ทับไทร อ.โป่งน้ําร้อน จ. จันทบุรี พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานเปิดงาน " บจธ. มอบสิทธิ มอบสุข ในที่ดินทํากินฯ ตามนโยบายการจัดที่ดินทํากินให้ชุมชน” ของสถาบันบริหารจัดการธนาคารที่ดิน (องค์การมหาชน) หรือ บจธ. ที่สนับสนุนที่ดินทํากินแก่สมาชิก พร้อมมอบป้ายสัญลักษณ์สิทธิในที่ดินให้แก่ตัวแทนวิสาหกิจชุมชนฯ จํานวน 10 คน , มอบหนังสืออนุญาตให้เข้าทําประโยชน์หรืออยู่อาศัยในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ให้กับผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี และมอบสมุดประจําตัวผู้ได้รับการคัดเลือกทํากินในชุมชนตามนโยบายรัฐบาล (คทช.)ให้กับผู้แทนประชาชน 5 คน ตามนโยบายการจัดที่ดินทํากินให้ชุมชน มุ่งแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ํา เพื่อการใช้ประโยชน์ในที่ดินอย่างเต็มศักยภาพ ส่งเสริมเกษตรกรให้พึ่งพาตนเองได้อย่างมั่นคงและยั่งยืนตามนโยบายรัฐบาล โดยมี นายมนต์สิทธิ์ ไพศาลธนวัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี และสมาชิกวิสาหกิจชุมชนให้การต้อนรับ โดยระบุว่า รัฐบาลได้ให้ความสําคัญในการช่วยเหลือพี่น้องเกษตรกรและผู้ยากจนเรื่องที่ดินทํากินมาโดยตลอด และได้ดําเนินการผ่านโครงการหน่วยงานต่าง ๆ ของรัฐ เช่น สถาบันบริหารจัดการธนาคารที่ดิน สํานักงานคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ได้รับมอบหมายให้ดําเนินการในภารกิจการกระจายถือครองที่ดินอย่างเป็นธรรมและยั่งยืน และได้แก้ปัญหาเรื่องที่ดินทํากิน ที่อยู่ที่อาศัยและป้องกันการสูญเสียสิทธิ์ในที่ดินจากการจํานอง การขายฝาก เพื่อให้เกษตรกรยังคงมีสิทธิ์ในที่ดินทํากินของตนเอง ตลอดจนส่งเสริมการใช้ประโยชน์ที่ดินอย่างเต็มศักยภาพในการพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืน เพื่อให้ประชาชนมีที่อยู่อาศัยที่ทํากิน มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นรองนายกรัฐมนตรีกล่าวต่อไปว่า การมีส่วนร่วมของหน่วยงานภาครัฐ ภาคประชาชน และภาคประชาสังคม นํามาซึ่งความร่วมมือกันในการแก้ปัญหา สะท้อนถึงการแก้ปัญหาโดยยึดมิติทางสังคมเป็นหลัก ไม่ใช่มิติด้านการเงินการธนาคาร โดยหน่วยงานต่าง ๆ ทุกกระทรวง ทบวง กรม บูรณาการทํางานร่วมกันเพื่อแก้ปัญหาที่ดินในภาพรวมของทั้งประเทศอย่างเป็นธรรมและยั่งยืน รวมทั้งในการปฏิบัติหน้าที่ของข้าราชการทุกคนต้องทํางานเพื่อประชาชน เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนให้ประชาชนมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ไม่เป็นนายของประชาชน เพื่อเป็นแรงสนับสนุนให้รัฐบาลในการพัฒนาประเทศให้มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืนตลอดไปหลังจากนั้น พลเอก ประวิตร เดินเยี่ยมชมร้านค้าจําหน่ายผลผลิตทางการเกษตรในพื้นที่ และชมแปลงเกษตรของเกษตรกรดร.เอก วรรณประทีป รองผู้อํานวยการสถาบันบริหารจัดการธนาคารที่ดิน กล่าวว่า สําหรับพื้นที่วิสาหกิจชุมชนเกษตรกรรุ่นใหม่พัฒนา ตําบลทับไทร อําเภอโป่งน้ําร้อน จังหวัดจันทบุรี มีสมาชิก 30 ครัวเรือน เข้าใช้ประโยชน์โดยการทําสัญญาเช่าที่ดิน บจธ. ในเนื้อที่ 77 ไร่เศษ เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม 2563 จุดเด่นชุมชนคือ เป็น "ชุมชนเกษตรกรรุ่นใหม่ ผลิตอาหารปลอดภัย ใช้นวัตกรรมในการทําเกษตร เพื่อสร้างสินค้าเกษตรมูลค่าสูง" ซึ่งระยะเวลา 2 ปีเศษ สมาชิกในชุมชนได้ร่วมกันพัฒนาพื้นที่ มีความก้าวหน้าในการใช้ประโยชน์ที่ดินเป็นอย่างมาก มีการทําบัญชีเงินออม และมีรายใด้จากการจําหน่ายพืชผักอายุสั้น เช่น พริก มะเขือ ถั่วหู ผักชีฝรั่ง ผักสลัด ถั่วฝักยาว แตงกวา ชะอม กะเพรา โหระพา ข่า ตะไคร่ ใบมะกรูด มะนาว กลัวย เป็นต้น#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
20/2/2023
ภาคตะวันออก
จันทบุรี
สวท.จันทบุรี
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230220133229775
null
เกษตรยะลา เปิดช่องทาง "ตลาดออนไลน์" ส่งเสริมความรู้แก่เกษตรกรในพื้นที่
นางสาวจารุภา คงชะนะ หัวหน้ากลุ่มยุทธศาสตร์และสารสนเทศ พบปะเกษตรกรในการจัดอบรมหลักสูตร การตลาดในรูปแบบออนไลน์ โครงการส่งเสริมการตลาดในรูปแบบออนไลน์ ซึ่งได้รับการสนับสนุนงบประมาณตามแผนปฏิบัติราชการประจําปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ของจังหวัดยะลา ดําเนินการจัดฝึกอบรมเกษตรกรเป้าหมายซึ่งประกอบด้วย กลุ่มแม่บ้านเกษตรกร กลุ่มแปลงใหญ่ วิสาหกิจชุมชน และเกษตรกรผู้สนใจ จํานวน 2 รุ่นๆ ละ 80 คน รุ่นที่ 1 ประกอบด้วย เกษตรกรจากอําเภอเบตง อําเภอธารโต อําเภอบันนังสตา และอําเภอกาบัง รวม 80 คน จากนั้น นายกัสมัน ยะมาแล เกษตรจังหวัดยะลา ได้พบปะเกษตรกรในรุ่นที่ 2 ประกอบด้วย เกษตรกรจากอําเภอเมือง อําเภอยะหา อําเภอรามัน และอําเภอกรงปินัง รวม 80 คน ณ ห้องประชุม 3 สํานักงานเกษตรจังหวัดยะลา อําเภอเมือง จังหวัดยะลา โดยมุ่งเน้นให้เกษตรกรมีความรู้เกี่ยวกับช่องทางการตลาดออนไลน์และฝึกปฏิบัติในการสร้างตัวตนและ Content ในสื่อโซเชียลมีเดีย (Tiktok) เพื่อเพิ่มช่องทางการเข้าถึง รวมถึงแนวทางการโฆษณาเพจ ร้านค้าออนไลน์การอบรมในครั้งนี้ได้รับเกียรติจาก อาจารย์ศลิลสิริ รัตนมหันต์ และ อาจารย์อภิชญา ติ้นเส้ง จากวิทยาลัยอาชีวศึกษายะลา จังหวัดยะลา เป็นวิทยากรในการฝึกอบรม#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
20/2/2023
ภาคใต้
ยะลา
สทท.ยะลา
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230220142612802
null
คพ. และ ม.เทคโนโลยีสุรนารี ร่วมกันเร่งหาองค์ประกอบทางเคมีของ PM 2.5 ในการจำแนกแหล่งกำเนิดหลักในเขตเทศบาลเมืองหนองคาย เพื่อหาแนวทางแก้ปัญหาฝุ่น หลังพบสูงขึ้นบ่อยครั้ง
กรมควบคุมมลพิษ (คพ.) และมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี ร่วมกันเร่งหาองค์ประกอบทางเคมีของ PM 2.5 ในการจําแนกแหล่งกําเนิดหลักในเขตเทศบาลเมืองหนองคาย เพื่อหาแนวทางแก้ปัญหาฝุ่น หลังพบสูงขึ้นบ่อยครั้ง นายปิ่นสักก์ สุรัสวดี อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) กล่าวว่า กรมควบคุมมลพิษ (คพ.) และมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี ทําโครงการ “องค์ประกอบทางเคมีของฝุ่นละออง PM 2.5 ในการจําแนกแหล่งกําเนิดหลักในพื้นที่เขตเทศบาลเมืองหนองคาย” ได้รับงบประมาณสนับสนุนจากสํานักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) เพื่อวิเคราะห์องค์ประกอบหลักทางเคมีของฝุ่นละออง PM 2.5 ในพื้นที่เทศบาลเมืองหนองคาย // เพื่อประเมินสัดส่วนของแหล่งกําเนิดหลักของฝุ่นละออง PM 2.5 ในพื้นที่เทศบาลเมืองหนองคาย และสุดท้าย เพื่อค้นหาปัจจัยที่มีผลต่อการสะสมฝุ่นละออง PM 2.5ในพื้นที่เทศบาลเมืองหนองคาย ขณะเดียวกันได้ศึกษาการวิเคราะห์ลักษณะขององค์ประกอบทางเคมีและหาสัดส่วนของแหล่งกําเนิดหลักของ PM 2.5 ร่วมกับข้อมูลทางอุตุนิยมวิทยา , ข้อมูลการเคลื่อนที่ของกระแสอากาศ (Back Trajectory) , การใช้ภาพถ่ายดาวเทียมแสดงจุดเผาไหม้ในพื้นที่ใกล้เคียงและประเทศเพื่อนบ้าน และการใช้แบบจําลอง (PMF) มาช่วยวิเคราะห์ ซึ่งผลจากการศึกษาได้ข้อมูลสําคัญที่บ่งชี้ถึงองค์ประกอบทางเคมี สัดส่วนของแหล่งกําเนิดสําคัญ และปัจจัยที่มีผลต่อการสะสมของ PM 2.5 ในพื้นที่เทศบาลเมืองหนองคายได้ รวมทั้ง ยังได้แลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะผลการศึกษาระหว่างหน่วยงานต่างๆนําไปสู่การแก้ปัญหา PM 2.5 ในเทศบาลเมืองหนองคาย พร้อมขยายผลสู่จังหวัดต่างๆในภูมิภาคที่มีลักษณะคล้ายคลึงกันต่อไป อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) กล่าวย้ําว่า พื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ค่อนข้างได้รับผลกระทบจากฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM 2.5) พบฝุ่น PM 2.5 สะสมสูงในบางช่วงของปี ซึ่งเทศบาลเมืองหนองคายเป็นเมืองขนาดกลางตั้งอยู่ริมแม่น้ําโขงจากลักษณะดังกล่าวไม่ควรมีการสะสมของ PM 2.5 สูงบ่อยครั้ง แต่ที่ผ่านมากลับพบมีปริมาณ PM 2.5 สูงบ่อยครั้งและบางครั้งสูงกว่าเมืองใหญ่ที่อยู่ใกล้เคียง จึงจําเป็นต้องหาสาเหตุและเร่งแก้ปัญหา
20/2/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230220144047811
null
สำนักงานปศุสัตว์อำเภอด่านซ้าย ตรวจเยี่ยมเกษตรกรผู้เลี้ยงโคเนื้อ
สํานักงานปศุสัตว์อําเภอด่านซ้าย นําโดยนายทวีพงศ์ สาระทัศนานันท์ ปสุสัตว์อําเภอด่านซ้ายตรวจเยี่ยม ให้คําแนะนําการเลี้ยง การดูแลสุขภาพสัตว์ การป้องกันโรคฯ แก่เกษตรกรผู้เลี้ยงโคเนื้อ เป็น นายสํารี พรหมดี บ้านเลขที่ 104 หมู่ที่ 7 ตําบลโคกงาม เลี้ยงโคเนื้อ 12 ตัว ณ บ้านหนองสนุ่น หมู่ที่ 7 ตําบลโคกงาม อําเภอด่านซ้าย จังหวัดเลย#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
20/2/2023
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
เลย
สวท.ด่านซ้าย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230220150119820
null
จังหวัดนครปฐม จัดกิจกรรมตรวจวัดควันดำรถยนต์ในศูนย์ราชการจังหวัด เพื่อลดปัญหาฝุ่นละออง PM2.5 และเป็นตัวอย่างที่ดีในการให้ความร่วมมือการดำเนินการป้องกันและแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก
วันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2566 ที่บริเวณอาคารอเนกประสงค์ กองอาสารักษาดินแดนจังหวัดนครปฐม ศาลากลางจังหวัดนครปฐม นายสุรศักดิ์ เจริญศิริโชติ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม เป็นประธานเปิดกิจกรรมตรวจวัดควันดํารถยนต์ในศูนย์ราชการจังหวัด โดยมี รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม รองนายกเหล่ากาชาดจังหวัด หัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ ตามที่ รัฐบาลโดยคณะรัฐมนตรี มีมติเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2562 เห็นชอบแผนปฏิบัติการขับเคลื่อนวาระแห่งชาติ "การแก้ไขปัญหามลพิษต้านฝุ่นละออง" ใช้กลไกการจัดการแบบเบ็ดเสร็จ และจังหวัดนครปฐมโดยผู้ว่าราซการจังหวัด เป็นผู้บัญชาการเหตุการณ์กําหนดสถานการณ์ฝุ่นละออง แบ่งออกเป็น 4 ระดับ ตามความรุนแรงของปัญหาและกําหนดมาตรการแก้ไขในแต่ละระดับอย่างชัดเจน สําหรับจังหวัดนครปฐม ในช่วงเดือนมกราคม 2566 ถึงปัจจุบันนี้ มีค่า PM2.5 เกินมาตรฐาน 50 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร จํานวน 7 วัน ค่าเฉลี่ยสูงสุด 69 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร อยู่ในระดับที่ 2 ที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพและต้องมีการยกระดับมาตรการต่างๆ ให้เข้มงวดขึ้นในการป้องกันและแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็กสํานักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดนครปฐม จึงจัดกิจกรรมตรวจควันดํารถยนต์ราชการในศูนย์ราชการจังหวัดนครปฐม เพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์และรณรงค์ให้หน่อยงานราชการในศูนย์ราชการ ควบคุม ดูแลรักษารถยนต์ราชการให้เป็นไปตามประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เรื่อง กําหนดมาตรฐานค่าควันดําของรถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์แบบจุดระเบิดด้วยการอัด พ.ศ. 2564 โดยมาตรฐานค่าควันดํารถยนต์ เมื่อตรวจวัดด้วยเครื่องมือควันดําระบบวัดทับแสง ขณะเครื่องยนต์ไม่มีภาระ ค่าความดําสูงสุดไม่เกินร้อยละ 30 และเพื่อเป็นตัวอย่างที่ดีในการร่วมมือดําเนินการป้องกันและแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก ซึ่งกิจกรรมวันนี้ ได้รับความร่วมมือจากสํานักงานขนส่งจังหวัดนครปฐม และสํานักงานสิ่งแวดล้อมและควบคุมมลพิษที่ 5 ส่งเจ้าหน้าที่และเครื่องมือมาดําเนินการตรวจวัดควันดําให้แก่รถยนต์ราขการด้วย สําหรับการจัดกิจกรรมฯ ในครั้งนี้ กําหนดจัดขึ้นเป็นเวลา 2 วัน โดยมีรถยนต์ราชการจากหน่วยงานราชการ รวมทั้งสิ้น 42 หน่วยงานและมีรถยนต์ราชการเข้าร่วมกิจกรรมฯ จํานวน 138 คัน#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
20/2/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
นครปฐม
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนครปฐม
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230220150454823
null
ปศุสัตว์จังหวัดเพชรบุรีออกหน่วยผ่าตัดทำหมันสุนัข-แมว และฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า ในเขตพื้นที่อำเภอเมือง จังหวัดเพชรบุรี
วันนี้ (20 กุมภาพันธ์ 2566) ณ วัดอัมพวันปิยาราม ตําบลคลองกระแชง อําเภอเมืองเพชรบุรี จังหวัดเพชรบุรี ปศุสัตว์เพชรบุรีออกหน่วยผ่าตัดทําหมันสุนัข-แมว และฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า ครั้งที่ 41 ในปีงบประมาณ 2566 ภายใต้โครงการสัตว์ปลอดโรค คนปลอดภัย ตามพระปณิธาน ศาสตราจารย์ ดร. สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี เทศบาลเมืองเพชรบุรี ร่วมกับ สํานักงานปศุสัตว์อําเภอทุกอําเภอ กลุ่มพัฒนาสุขภาพสัตว์ ฝ่ายบริหารทั่วไป สํานักงานปศุสัตว์จังหวัดเพชรบุรี หน่วย Herd Health Unit และส่วนสุขภาพสัตว์ สํานักงานปศุสัตว์เขต 7 ด่านกักกันสัตว์เพชรบุรี และนักศึกษาฝึกงาน ดําเนินกิจกรรมให้บริการผ่าตัดทําหมันและฉีดวัคซีนป้องกันโรคให้พิษสุนัขบ้าให้กับสุนัขและแมว โดยมีประชาชน 51 ราย พาสุนัขและแมว รวมกับสุนัขจรจัดในกองพันล่าง มารับการผ่าตัดทําหมันและฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า รวมทั้งสิ้น 99 ตัว ประกอบด้วย สุนัข 26 ตัว (เพศผู้ 8 ตัว เพศเมีย 15 ตัว ฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าอย่างเดียว 3 ตัว) แมว 73 ตัว (เพศผู้ 22 ตัว เพศเมีย 36 ตัว ฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าอย่างเดียว 15 ตัว) ทั้งนี้ สัตวแพทย์ได้เน้นย้ําการดูแลและการป้อนยาให้สุนัขและแมวภายหลังการผ่าตัดทําหมันด้วยสวท.เพชรบุรี#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
20/2/2023
ภาคตะวันตก
เพชรบุรี
สวท.เพชรบุรี
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230220151235824
null
ประวิตร มอบหนังสืออนุญาตให้เข้าทำประโยชน์หรืออยู่อาศัยภายในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ตามนโยบาย คทช. ใน 3 พื้นที่ของ จ.จันทบุรี
รองนายกรัฐมนตรี มอบหนังสืออนุญาตให้เข้าทําประโยชน์หรืออยู่อาศัยภายในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ตามนโยบายการจัดที่ดินทํากินให้ชุมชน (คทช.) ใน 3 พื้นที่ของจังหวัดจันทบุรี นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ได้เป็นประธานมอบสิทธิในที่ดินทํากิน สู่ความมั่นคง ยั่งยืนให้กับประชาชนในพื้นที่วิสาหกิจชุมชนเกษตรกรรุ่นใหม่พัฒนา ตําบลทับไทร อําเภอโป่งน้ําร้อน จังหวัดจันทบุรี และมอบหนังสืออนุญาตให้เข้าทําประโยชน์หรืออยู่อาศัยภายในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ตามนโยบายการจัดที่ดินทํากินให้ชุมชน (คทช.) ใน 3 พื้นที่ รวมกว่า 36,423 ไร่ ประกอบด้วย ป่าปัถวี อําเภอมะขาม จังหวัดจันทบุรี เนื้อที่ประมาณ 915 ไร่ // ป่าจันตาแป๊ะและป่าเขาวังแจง อําเภอเขาคิชฌกูฏและอําเภอแก่งหางแมว จังหวัดจันทบุรี เนื้อที่ประมาณ 34,933 ไร่ และป่าท่าสอน อําเภอขลุง จังหวัดจันทบุรี เนื้อที่ประมาณ 575 ไร่ โดยมี นายมนต์สิทธิ์ ไพศาลธนวัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี ในฐานะประธานอนุกรรมการนโยบายที่ดินจังหวัดจันทบุรี ผู้ขออนุญาตเป็นตัวแทนรับมอบหนังสืออนุญาตให้เข้าทําประโยชน์หรืออยู่อาศัยภายในเขตป่าสงวนแห่งชาติทั้ง 3 ฉบับดังกล่าว
20/2/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230220151802826
null
จิสด้า ใช้ดาวเทียมติดตามการเกิดไฟป่าพบจุดความร้อนในไทยยังสูง โดยเฉพาะป่าสงวนแห่งชาติและป่าอนุรักษ์ ส่วนจุดความร้อนจากประเทศเพื่อนบ้านสูงสุดในเมียนมา
สํานักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) หรือ GISTDA (จิสด้า) ใช้ดาวเทียมติดตามการเกิดไฟป่าพบจุดความร้อนในไทยยังสูง โดยเฉพาะป่าสงวนแห่งชาติและป่าอนุรักษ์ ส่วนจุดความร้อนจากประเทศเพื่อนบ้านสูงสุดในเมียนมา สํานักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) หรือ GISTDA (จิสด้า) ได้เปิดเผยข้อมูลจากดาวเทียมซูโอมิ เอ็นพีพี (Suomi NPP) ของระบบเวียร์ (VIIRS) เมื่อวานนี้ (19 ก.พ.66) พบจุดความร้อน (Hotspot) ทั้งประเทศ 682 จุด พบมากที่สุดในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ 179 จุด // พื้นที่ป่าอนุรักษ์ 279 จุด // พื้นที่เกษตร 86 จุด // พื้นที่เขต สปก. 69 จุด // พื้นที่ชุมชนและอื่นๆ 68 จุด และพื้นที่ริมทางหลวง 4 จุด ส่วนจังหวัดที่พบจุดความร้อนมากที่สุด คือ กาญจนบุรี 123 จุด , อุตรดิตถ์ 60 จุด และเลย 55 จุด ทั้งนี้ จากการตรวจสอบค่าฝุ่น PM 2.5 ผ่านแอปพลิเคชัน “เช็คฝุ่น” พบหลายพื้นที่อยู่ระดับปานกลาง ยกเว้นภาคกลางอยู่ระดับที่เริ่มมีผลต่อสุขภาพ จึงควรสวมหน้ากากอนามัยทุกครั้งเพื่อป้องกันโรคระบบทางเดินหายใจที่อาจจะตามมา สําหรับจุดความร้อนของประเทศเพื่อนบ้านพบสูงสุดในเมียนมา 1,729 จุด รองลงมาเป็น กัมพูชา 517 จุด , สปป.ลาว 410 จุด , เวียดนาม 55 จุด และมาเลเซีย 11 จุด
20/2/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230220160438845
null
อบต.ท่าอิฐ จังหวัดนนทบุรี จัดโครงการการส่งเสริมสนับสนุนการจัดการขยะมูลฝอยและสิ่งปฏิกูล ถังขยะเปียกลดโลกร้อน ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566
วันนี้ (20 ก.พ. 66) เวลา 10.00 น. นายปรีดา เชื้อผู้ดี ที่ปรึกษาจุฬาราชมนตรี และนายก อบต.ท่าอิฐ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี เป็นประธานเปิดการประชุมเพื่อโครงการการส่งเสริมสนับสนุนการจัดการขยะมูลฝอยและสิ่งปฏิกูล ถังขยะเปียกลดโลกร้อนประจําปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 พร้อมด้วย กํานัน ผู้ใหญ่บ้าน สมาชิกสภาท้องถิ่น ผู้แทนภาคประชาชน หัวหน้าส่วนราชการ อบต.ท่าอิฐ และพนักงานกองสาธารณสุข และสิ่งแวดล้อม อบต.ท่าอิฐ เข้าร่วมการประชุม ณ ห้องประชุม ชั้น 3 องค์การบริหารส่วนตําบลท่าอิฐ อําเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรีด้วยกระทรวงมหาดไทย กําหนดนโยบายการดําเนินการด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เพื่อบรรลุเป้าหมายการลดก๊าชเรือนกระจก และดําเนินงานด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของประเทศตามนโยบายของรัฐบาล โดยขึ้นทะเบียนของโครงการถังขยะเปียกลดโลกร้อนขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ประเทศไทย ตามโครงการลดก๊าชเรือนกระจกภาคสมัครใจตามมาตรฐานของประเทศไทย (T-VER) ของกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น และแจ้งให้อําเภอและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทุกแห่งดําเนินการสํารวจ และเก็บข้อมูลถังขยะเปียกลดโลกร้อนในระดับครัวเรือน โรงเรียนในสังกัดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และศูนย์พัฒนาเด็กเล็กในสังกัดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เพื่อนําข้อมูลไปคํานวณปริมาณก๊าชเรือนกระจก และรับรองคาร์บอนเครดิต โดยการรับรองคาร์บอนเครดิตเป็นขั้นตอนที่ดําเนินการโดยผู้ประเมินภายนอกหรือ Validation and Verification Body : WB ในการนี้ กระทรวงมหาดไทย โดยกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ได้กําหนดแนวทางการขับเคลื่อนโครงการถังขยะเปียกลดโลกร้อนในระดับจังหวัด อําเภอ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ภายใต้กลไกคณะกรรมการจัดการสิ่งปฏิกูลมูลฝอยในระดับจังหวัด อําเภอ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และการดําเนินงานเชิงรุกของทีมปฎิบัติการ สํารวจ และรายงานข้อมูลถังขยะเปียกในระบบสารสนเทศฯ เป็นประจําทุกเดือนให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 10 ของทุกเดือน#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
20/2/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
นนทบุรี
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนนทบุรี
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230220161859853
null
เกษตรจังหวัดนนทบุรี ให้การต้อนรับคณะกรรมการฯ คัดเลือกกลุ่มยุวเกษตรกรดีเด่น ระดับเขต ชูผลงาน สร้างเยาวชนรักในการทำเกษตร
วันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2566 นางธมลทัศน์ ทัพพระจันทร์ เกษตรจังหวัดนนทบุรี หัวหน้าส่วนราชการ หัวหน้ากลุ่ม ฯ เกษตรอําเภอ ร่วมกับนายจักรกฤษณ โป้แดง รักษาการในตําแหน่ง ผู้อํานวยการโรงเรียนวัดใหญ่สว่างอารมณ์ พร้อมคณาจารย์ เจ้าหน้าที่ และกลุ่มยุวเกษตรกรโรงเรียนวัดใหญ่สว่างอารมณ์ ร่วมให้การต้อนรับคณะกรรมการพิจารณาการคัดเลือกกลุ่มยุวเกษตรกรดีเด่นระดับเขต ประจําปี 2566 ในโอกาสที่โรงเรียนได้รับคัดเลือกในสาขากลุ่มยุวเกษตรกรดีเด่น ระดับจังหวัด ประจําปี 2566 และสาขาสมาชิกยุวเกษตรกรดีเด่น ระดับจังหวัด ประจําปี 2566 โดยร่วมให้กําลังใจและให้ข้อมูลสนับสนุนกลุ่มยุวเกษตรกร ฯ ในการนําเสนอผลงานของแต่ละกิจกรรม เพื่อทําการประเมินผลงานสู่ระดับเขต ณ โรงเรียนวัดใหญ่สว่างอารมณ์ ตําบลบางพลับ อําเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรีนางธมลทัศน์ ทัพพระจันทร์ เกษตรจังหวัดนนทบุรี กล่าวว่า กลุ่มยุวเกษตรกรโรงเรียนวัดใหญ่สว่างอารมณ์ และสมาชิกยุวเกษตรกรโรงเรียนวัดใหญ่สว่างอารมณ์ ที่ได้รับการคัดเลือกในปีนี้ ล้วนเป็นผู้ที่มีความสามารถเชิงประจักษ์ทั้งในด้านความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ มีความรอบรู้ เป็นผู้นํา เสียสละเพื่อประโยชน์ส่วนรวม สามารถดําเนินกิจการทางด้านการเกษตร ได้อย่างขยันขันแข็ง จนประสบความสําเร็จในระดับหนึ่ง ถือเป็นกลุ่มยุวเกษตรกรที่มีผลงานเด่น ในการปลูกฝังให้เยาวชนรักในการทําการเกษตร สามารถสร้างอาชีพให้กับตนเองทั้งในปัจจุบันและอนาคตได้#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
20/2/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
นนทบุรี
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนนทบุรี
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230220161814852
null
ขนส่งจังหวัดแพร่ ร่วมดำเนินการลดปัญหาฝุ่นละออง pm2.5 ภาคการขนส่ง ออกตรวจวัดควันดำยานพาหนะ พร้อมแนะเจ้าของรถตรวจเช็กสภาพเครื่องยนต์ให้สมบูรณ์อยู่เสมอ
นายมานพ พุทธวงค์ ขนส่งจังหวัดแพร่ เปิดเผยว่า สํานักงานขนส่งจังหวัดแพร่ได้ร่วมดําเนินการป้องกันและแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก pm 2.5 เพื่อติดตามตรวจสอบ และควบคุมมลพิษทางอากาศที่มีสาเหตุมาจากภาคการขนส่งที่ระบายมลพิษเกินมาตรฐาน โดยได้เข้มงวดกวดขันในการตรวจสภาพรถก่อนการชําระภาษีประจําปีต้องไม่มีค่าควันดําเกินเกณฑ์มาตรฐาน พร้อมทั้งดําเนินการควบคู่กับการมอบหมายให้ผู้ตรวจการของสํานักงานขนส่งจังหวัดแพร่ออกตรวจวัดควันดําของยานพาหนะ ณ จุดตรวจบนถนนทางหลวง รวมถึงจุด checking point ของรถโดยสารสาธารณะด้วย โดยการตรวจวัดควันดําด้วยเครื่องวัดควันดําระบบวัดความทึบแสงขณะเครื่องยนต์ไม่มีภาระ ค่าควันดําจะต้องไม่เกินมาตรฐานร้อยละ 30 หากเกินมาตรฐานเจ้าหน้าที่จะออกคําสั่งห้ามใช้รถชั่วคราว และให้เจ้าของรถนํารถไปปรับปรุงแก้ไขให้มีค่าควันดําเป็นไปตามมาตรฐานภายใน 30 วันทั้งนี้ เพื่อให้ยานพาหนะลดการปล่อยควันดํา ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งของการเกิดฝุ่นละออง pm2.5 จึงแนะนําให้เจ้าของรถทําการตรวจเช็กและซ่อมเครื่องยนต์ให้อยู่ในสภาพที่สมบูรณ์อยู่เสมอ โดยทําความสะอาดหรือเปลี่ยนกรองอากาศใหม่ เปลี่ยนกรองน้ํามันเชื้อเพลิง น้ํามันเครื่องและกรองน้ํามันเครื่องตามระยะเวลา ปรับตั้งปั๊มน้ํามันเชื้อเพลิงตั้งจังหวะการฉีดเชื้อเพลิงให้ถูกต้อง#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
20/2/2023
ภาคเหนือ
แพร่
สวท.แพร่
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230220170051876
null
จี้กรมศุลกากรหาฤกษ์ดีเปิดตู้ค้างหน้าท่าฯ ตรวจสอบหมูเถื่อน
เกือบ 6 เดือนแล้ว ที่ข้อเรียกร้องของสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติและสมาคมผู้เลี้ยงสุกรทั่วประเทศ ยังไม่ได้รับการตอบสนองจาก “กรมศุลกากร” ตามที่ได้ร่วมกันชี้เบาะแสช่องทางหลักการลักลอบนํา “หมูเถื่อน” จํานวนมากเข้ามาในราชอาณาจักร คือ “ท่าเรือแหลมฉบัง” และประเมินว่า 10% ของตู้คอนเทนเนอร์แบบตู้เย็นที่วางเรียงรายอยู่หน้าท่าเรือ จะมีหมูผิดกฎหมายที่มิจฉาชีพซุกซ่อนไว้เพื่อรอเวลา “ฟอกขาว” ให้เป็นสินค้าถูกกฎหมายก่อนลากตู้ออกไปส่งลูกค้าคนสําคัญ หรือ ไปพักรอที่ใหม่ตามห้องเย็นในจังหวัดต่างๆ เพื่อความสะดวกในการขนส่งไปยังจุดหมายปลายทางแม้ว่า “หมูเถื่อน” แช่แข็งในตู้คอนเทนเนอร์ปรับอุณหภูมิให้เหมาะสมจะยืดอายุการเก็บรักษาได้นานกว่า 1 ปี ก็ตาม ในฐานะผู้บริโภคคงไม่ต้องการรับประทาน “เนื้อหมูค้างปี” ที่ไม่มีโอกาสรู้ได้ว่าเนื้อหมูนั้นมีความปลอดภัยต่อสุขภาพเพียงไร เพราะไม่ผ่านการตรวจสอบคุณภาพ มาตรฐานสุขอนามัยและสารปนเปื้อน จากกรมปศุสัตว์ ที่สําคัญหมูเถื่อนเหล่านี้ขายในราคาต่ํากว่าราคาหมูไทยมาก เกิดคําถามว่าทําไมหมูเถื่อนจึงขายต่ํากดดันราคาหมูไทย จึงเป็นไปได้สูงมากที่เป็นหมูติดโรคจากประเทศต้นทางและดั๊มพ์ขายในราคาถูก คนไม่รู้...อาจใส่ใจราคามากกว่าคุณภาพ แต่ขอยืนยันว่าหมูไทยปลอดภัยกว่าหมูเถื่อนแน่นอน อีก 1 คําถามที่ฝากถึง กรมศุลกากร คือ กรมฯ ไม่มีกฎหมายใดๆ จัดการ หรือทําลายสินค้าที่ค้างท่าเรือมาเป็นแรมเดือน-แรมปี หรือ เรียกเจ้าของสินค้าที่ระบุชื่อในเอกสารนําเข้ามาเคลียร์สินค้าในตู้ฯ หากเป็นสินค้าอันตราย เช่น ขยะอิเลคทรอนิคส์ หรือ ขยะสารเคมีอันตราย รวมทั้งหมูเถื่อนที่อาจหมดอายุแล้ว จะได้จัดการได้ทันท่วงที ส่งกลับประเทศต้นทาง ไม่ใช่ปล่อยให้ค้างหน้าท่านานเท่าที่จะสามารถจ่ายค่าไฟฟ้าและค่าระวางหน้าท่าได้ เพราะไทยไม่ใช่สถานที่ทิ้ง “ขยะพิษ” จากทั่วโลกตั้งแต่ประเทศไทยประกาศพบโรคระบาด ASF เมื่อต้นเดือนมกราคม 2565 ราคาเนื้อหมูในประเทศปรับสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์ตามกลไกตลาด เนื่องจากอุปทาน (supply) หายไปประมาณ 50% ราคาหมูมีชีวิตหน้าฟาร์มขยับขึ้นสูงเกินกว่า 110 บาทต่อกิโลกรัม ส่งผลให้หมูเนื้อแดงราคาทะยานสูงกว่า 210 บาทต่อกิโลกรัม ช่วงไตรมาสแรกของปี 2565 และตั้งแต่เดือนพฤษภาคม ปีเดียวกัน สมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติและผู้เลี้ยงสุกรทั่วประเทศ ให้ความร่วมมือกับภาครัฐรักษาราคาหมูเป็นหน้าฟาร์มไว้ที่ 100 บาทต่อกิโลกรัม เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของผู้บริโภค จนถึงช่วงต้นเดือนมกราคมปี 2566 ที่ผ่านมา ราคาสุกรมีชีวิตหน้าฟาร์มลดต่ํากว่า 100 บาทต่อกิโลกรัมเป็นครั้งแรกในรอบ 1 ปี เนื่องจากมีหมูเถื่อนจากประเทศเพื่อนบ้านลักลอบเข้าไทยจํานวนมากโดยเฉพาะทางชายแดนภาคใต้ ทําให้เกษตรกรเร่งจับหมูก่อนเวลาเพราะกลัวว่าราคาจะลดลงต่ํากว่าต้นทุนการผลิต ผลผลิตจึงออกสู่ตลาดจํานวนมาก ราคาจึงย่อตัวลงตามกลไกตลาด สวนทางกับต้นทุนวัตถุดิบอาหารสัตว์ที่ผันผวนในระดับสูงและเกษตรกรยังต้องแบกภาระนี้มาตั้งแต่ปลายปี 2564 โดยเฉพาะช่วงการเผชิญหน้าของรัสเซีย-ยูเครน ส่งผลให้ต้นทุนวัตถุดิบอาหารสัตว์สูงขึ้นไม่ต่ํากว่า 30% ตลอดจนต้นทุนพลังงานและปัจจัยการผลิตอื่นๆ ก็มีการปรับขึ้นอัตราเดียวกัน กลายเป็นทุกช์หนักไม่รู้จบของเกษตรกรถึงวันนี้กรมศุลกากรต้องบังคับใช้กฎหมายในมือให้มีการเปิดตู้คอนเทนเนอร์ที่ค้างที่ท่าเรือนานเกินกําหนด เพื่อตรวจสอบอย่างละเอียด ตามแนวทางการปราบปรามหมูเถื่อนอย่างเคร่งครัดและรัดกุม ไม่ให้เกิดผลกระทบกับผู้เลี้ยงและผู้บริโภค...ที่พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มอบเป็นนโยบายให้กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องภาครัฐ จึงขอให้กรมศุลกากร เร่งหา “ฤกษ์ดี” ในการตรวจสอบตู้สินค้าต้องสงสัยอย่างเป็นทางการด้วยความรวดเร็ว เพื่อส่งเสริมให้เกษตรกรผู้เลี้ยงหมูซึ่งเป็น “คนไทย” ด้วยกัน ลืมตาอ้าปากสานต่อกิจการได้อย่างยั่งยืนอาบอรุณ ธรรมทาน นักวิชาการอิสระ
20/2/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สำนักพัฒนานโยบายและแผนการประชาสัมพันธ์
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230220191056912
null
วิทยาลัยชุมชนบุรีรัมย์ จัดโครงการพัฒนารูปแบบการเลี้ยงโคเนื้อด้วยระบบเทคโนโลยีอัจริยะ พร้อมยกระดับมาตรฐานฟาร์มที่มีระบบการป้องกันโรค
วันนี้ (20 ก.พ.66) ที่ศูนย์เรียนรู้กลุ่มเลี้ยงโคเนื้อโคกเพ็กหนองไผ่ใหญ่ ตําบลชุมเห็ด อําเภอเมือง จังหวัดบุรีรัมย์ นายเลิศ สาราจารย์ รองนายกเทศมนตรีเมืองชุมเห็ด เป็นประธานเปิดโครงการพัฒนารูปแบบการเลี้ยงโคเนื้อด้วยระบบเทคโนโลยีอัจริยะ กิจกรรมหลักสูตรการอบรมปฏิบัติการพัฒนาเกษตรกรผู้เลี้ยงโคเนื้อด้วยการนําระบบเทคโนโลยี iot หรือ Internet of Things มาใช้ในการบริหารจัดการฟาร์มเพื่อลดต้นทุนและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ผ่านการรับรองมาตรฐาน GFM โดยมี นายกรตศรินทร์ มูลดี อาจารย์ประจําสาขาคอมพิวเตอร์ธุรกิจ วิทยาลัยชุมชนบุรีรัมย์, วิทยากกรจากสํานักงานปศุสัตว์จังหวัดบุรีรัมย์ วิทยากรจากสํานักงานเกษตรจังหวัดบุรีรัมย์, นายพงษ์อนันต์ สืบสิงห์. ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 12 บ้านโคกเพ็ก และเกษตรกรผู้เลี้ยงโค ในพื้นที่ตําบลชุมเห็ด, ผู้ที่สนใจในการพัฒนาการเลี้ยงโคเนื้อ และกลุ่มนักศึกษาวิทยาลัยชุมชนบุรีรัมย์ เข้าร่วมโดย นายกรตศรินทร์ มูลดี ผู้รับผิดชอบโครงการ เปิดเผยว่า โครงการดังกล่าวได้รับการสนับสนุนจากมหาวิทยาลัยชุมชนบุรีรัมย์ จัดขึ้นเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ พัฒนาคุณภาพ และลดต้นทุนการผลิต เพื่อให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้น จากการประกอบอาชีพเลี้ยงโคเนื้อ, เร่งรัดการผลิตพืชอาหารสัตว์คุณภาพสูง บริหารจัดการวัตถุดิบอาหารสัตว์ในพื้นที่ ให้มีปริมาณและมีคุณภาพเพียงพอและเหมาะสมต่อการเลี้ยงโคเนื้อในพื้นที่, ถ่ายทอดความรู้และสาธิตการใช้เทคโนโลยีเก็บรักษาพืชอาหารสัตว์ในรูปแบบที่เหมาะสม นําไปปฏิบัติได้ถูกต้อง ส่งเสริมให้เกษตรกรนําเทคโนโลยีมาใช้ในการบริหารจัดการฟาร์ม พร้อมบริหารจัดการฟาร์มโคเนื้อที่ผ่านการรับรองมาตรฐานฟาร์มที่มีระบบการป้องกันโรค และการเลี้ยงสัตว์ที่เหมาะสม หรือ Good farming management (GFM) ในระดับเกษตรกรรายย่อย ซึ่งจะช่วยป้องกันการเกิดโรคในสัตว์ได้มากกว่า 50% รวมถึงการส่งเสริมให้เกษตรกรรวมกลุ่มเป็น กลุ่มผู้เลี้ยงวัว เพิ่มอํานาจการต่อรอง และสามารถจัดทําโครงการเพื่อขอรับการสนับสนุนด้านองค์ความรู้ที่เกี่ยวข้องได้ ซึ่งการจัดการอบรมในวันนี้ ได้มีการนําผู้เข้าร่วมอบรม กว่า 40 คนเข้ารับการอบรมด้านการพัฒนาปรับปรุงฟาร์มหรือคอกให้ผ่านเกณฑ์การรับรองมาตรฐาน GFM, การรวมกลุ่มจัดตั้งวิสาหกิจชุมชนเลี้ยงเนื้อโคกเพ็กหนองไผ่ใหญ่, การเรียนรู้ด้านการบริหาร และการสรุป ถอดบทเรียนเพื่อพัฒนาการเลี้ยงโคให้มีคุณภาพมากยิ่งขึ้น ด้านนายสัตวแพทย์สุริยะ กาวงษ์กลาง หัวหน้ากลุ่มพัฒนาสุขภาพสัตว์ สํานักงานปศุสัตว์จังหวัดบุรีรัมย์ เปิดเผยว่า การเสริมสร้างองค์ความรู้ด้านการบริหารจัดการฟาร์มให้มีระบบป้องกันโรค ถือเป็นเรื่องสําคัญที่เกษตรกรควรรู้ ซึ่งสํานักงานปศุสัตว์จังหวัดบุรีรัมย์ ได้มีดําเนินการจัดการอบรมเกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์ในแต่ละพื้นที่อย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นเกษตรผู้เลี้ยงสุกร โค กระบือ ซึ่งภายในฟาร์มจะต้องมีการแยกโรงเรือน, มีตาข่ายป้องกันแมลง มีการฆ่าเชื้อก่อนเข้าออกจากฟาร์ม ส่วนสถานการณ์การแพร่ระบาดของลัมปีสกิน ขณะนี้ใกล้เข้าช่วงฤดูร้อน ทําให้โรคลัมปีสกินแพร่ระบาดได้ง่าย จึงอยากให้เกษตรกรหมั่นดูแลรักษาสุขภาพสัตว์ หากพบว่ามีความผิดปกติให้รีบแจ้งอาสาปศุสัตว์ทันที เพื่อดําเนินการรักษา ส่วนความคืบหน้าเรื่องวัคซีน ขณะนี้ประเทศไทยได้นําเข้าวัคซีนกว่า 6 ล้าน 3 แสนโดส ทยอยส่งเข้ามาในจังหวัดบุรีรัมย์ 359,700 โดส และมีแผนกระจายวัคซีนในช่วงเดือน กุมภาพันธ์-มีนาคม โดยกระจายให้โคนม ลูกโคที่เกิดใหม่และโคยังไม่ได้รับวัคซีน ในพื้นที่อําเภอโนนสุวรรณและอําเภอปะคําก่อนส่งไปยังพื้นที่อื่น#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
20/2/2023
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
บุรีรัมย์
สวท.บุรีรัมย์
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230221002700958
null
ฝุ่นภาคเหนือยังวิกฤติ สสส.-กรมอนามัย-WHO เปิดตัวนวัตกรรม “ห้องปลอดฝุ่น” รับมือ PM2.5
สํานักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) องค์การอนามัยโลก ประจําประเทศไทย จังหวัดเชียงใหม่ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ สมาคมส่งเสริมคุณภาพอากาศในอาคาร และภาคีเครือข่าย ร่วมจัดประชุมเชิงปฏิบัติการ เรื่อง “นวัตกรรมห้องปลอดฝุ่นและขับเคลื่อนชุมชนเพื่อลดและป้องกันผลกระทบต่อสุขภาพจากฝุ่นละอองขนาดเล็กอย่างยั่งยืน” เพื่อติดตามสถานการณ์ พร้อมร่วมกําหนดมาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหาฝุ่น PM2.5 เกินมาตรฐานในระดับที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพประชาชนหลายจังหวัด โดยเฉพาะภาคเหนือของไทย นายชาติวุฒิ วังวล ผู้อํานวยการสํานักสนับสนุนการควบคุมปัจจัยเสี่ยงทางสุขภาพ สสส. กล่าวว่า มลพิษทางอากาศมีแนวโน้มรุนแรงมากขึ้นในหลายพื้นที่ทั่วโลก จากข้อมูล WHO พบว่า มีประชาชนที่ต้องเสียชีวิตจากมลพิษทางอากาศทั้งในบรรยากาศและในครัวเรือนทั่วโลก ปีละประมาณ 7 ล้านคน โดยฝุ่นละอองขนาดเล็ก เป็นหนึ่งในสาเหตุของโรคหัวใจและหลอดเลือด โรคระบบทางเดินหายใจ และโรคมะเร็งปอด สําหรับไทย พื้นที่ 17 จังหวัดภาคเหนือ และกรุงเทพมหานคร สถานการณ์ฝุ่น PM2.5 อยู่ในระดับสีแดงที่มีผลกระทบต่อสุขภาพ จากฐานข้อมูลสุขภาพของ สธ. พบว่า ตั้งแต่ ม.ค.2566 เป็นต้นมา มีการเจ็บป่วยด้วยโรคที่เกี่ยวข้องกับมลพิษทางอากาศเพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะโรคระบบทางเดินหายใจ สอดคล้องกับสถานการณ์ฝุ่นละอองที่เกินค่ามาตรฐานในหลายพื้นที่ สสส. สานพลังกับ กรมอนามัย เปิดตัว “ห้องปลอดฝุ่น” เพื่อลดและป้องกันผลกระทบต่อสุขภาพประชาชนจากฝุ่น PM2.5 โดยเริ่มสร้างต้นแบบที่ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กในพื้นที่เสี่ยง และจะขยายความร่วมมือดําเนินการในสถานที่ที่มีกลุ่มเสี่ยงจากมลพิษทางอากาศต่อไปอื่นๆ ต่อไป“ห้องปลอดฝุ่น (Clean air Shelter) เป็นนวัตกรรมหนึ่งที่พัฒนาขึ้นมาเพื่อลดโอกาสการสัมผัสมลพิษทางอากาศภายในอาคารในภาวะที่เกิดฝุ่นละอองสูงในบรรยากาศ โดยมีตัวอย่างในหลายประเทศ เช่น แคนาดา ออสเตรเลีย ซึ่งใช้ห้องปลอดฝุ่นเป็นมาตรการหนึ่งที่สําคัญที่จะช่วยปกป้องกลุ่มเปราะบางให้ได้รับบริการในสิ่งแวดล้อมที่ปลอดภัย (Environmental Health Service) ลดปัญหาความเหลื่อมล้ําด้านสุขภาพ (Health inequity) และลดความเสี่ยงต่อสุขภาพ” นายชาติวุฒิ กล่าวนพ.อรรถพล แก้วสัมฤทธิ์ รองอธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า สธ.ได้ยกระดับปฏิบัติการเพื่อดูแลและคุ้มครองสุขภาพประชาชน หนึ่งในมาตรการสําคัญ คือ การผลักดันให้มีห้องปลอดฝุ่นในพื้นที่เสี่ยง เพื่อให้ประชาชนได้อยู่ในพื้นที่ที่มีอากาศสะอาดอยู่ในระดับที่ปลอดภัยต่อสุขภาพในช่วงที่ฝุ่น PM2.5 สูง มีหลักการคือ “กันฝุ่นเข้า กรองฝุ่นภายในห้อง และดันฝุ่นออก” ซึ่งสามารถทําได้ทั้งในที่อยู่อาศัยและสถานที่สาธารณะทั่วไป โดยเฉพาะศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก ควรต้องมีห้องปลอดฝุ่น เนื่องจากเด็กมีอัตราการหายใจเร็วกว่าผู้ใหญ่ และปอดยังพัฒนาไม่เต็มที่ ส่งผลกระทบต่อสมรรถนะของปอดและคุณภาพชีวิตในระยะยาว ซึ่งปัจจุบันพบว่า มีเด็กอายุ 0 - 6 ปี กว่า 2.6 ล้านคนอยู่ในพื้นที่เสี่ยงจากฝุ่น PM2.5 กรมอนามัย จึงดําเนินร่วมกับ สสส. ดําเนินโครงการขับเคลื่อนห้องปลอดฝุ่นเพื่อป้องกันและผลกระทบต่อสุขภาพจากฝุ่นละอองขนาดเล็กในพื้นที่เสี่ยง พัฒนาแนวทางและสร้างต้นแบบห้องปลอดฝุ่นในศูนย์พัฒนาเด็กเล็กทั่วประเทศ อีกทั้งยังได้ร่วมกับกับภาคีเครือข่าย ทั้งภาครัฐ สถาบันการศึกษา แกนนําชุมชน สมาคม และภาคเอกชน แลกเปลี่ยนเรียนรู้นวัตกรรมการจัดทําห้องปลอดฝุ่น แนวทางการขับเคลื่อนชุมชนอย่างมีส่วนร่วม เพื่อป้องกันผลกระทบต่อสุขภาพและร่วมจัดการปัญหาฝุ่น PM2.5 อย่างยั่งยืนดร.จอส ฟอนเดลาร์ ผู้แทนองค์การอนามัยโลก ประจําประเทศไทย (WHO Thailand) กล่าวว่า มลพิษทางอากาศ โดยเฉพาะ PM2.5 เป็นปัจจัยเสี่ยงหนึ่งที่สําคัญเป็นสาเหตุของการเสียชีวิตก่อนวัยอันควร ไทยเป็นประเทศที่มีการดําเนินงานอย่างเข้มแข็งในการรับมือกับมลพิษทางอากาศ เพื่อลดการเจ็บป่วยและเสียชีวิตจากสาเหตุดังกล่าว ตามเป้าหมายวาระการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDG) ทั้งการขับเคลื่อนในระดับนโยบาย การปรับปรุงค่ามาตรฐานมลพิษทางอากาศที่คํานึงถึงสุขภาพ และการสื่อสารสร้างความรอบรู้ในระดับชุมชน ประชาชนอย่างเป็นรูปธรรม เพื่อการคุ้มครองสุขภาพประชาชน ซึ่งในปีนี้ WHO ร่วมกับกรมอนามัย รวบรวมและเผยแพร่ต้นแบบ (Best Practice) ทั้งนวัตกรรมห้องปลอดฝุ่นและแนวทางการขับเคลื่อนชุมชน ที่มีการจัดการและป้องกันผลกระทบต่อสุขภาพที่ดี เพื่อเป็นแนวทางให้แก่ประเทศอื่นๆ ต่อไป
20/2/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
สมุทรปราการ
หน่วยงานสำนักข่าว
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230221074817959
null
กรมปศุสัตว์ สนธิกำลังชุดลาดตระเวน ยึดกระบือลับลอบเคลื่อนย้ายเข้าพื้นที่ จังหวัดแม่ฮ่องสอน โดยไม่พบเจ้าของแสดงตัว
นายสัตวแพทย์สมชวน รัตนมังคลานนท์ อธิบดีกรมปศุสัตว์ เปิดเผยว่า ได้รับรายงานจากสารวัตรกรมปศุสัตว์ว่า มีสายลับ ที่ไม่ประสงค์ออกนามแจ้งว่าจะมีการลักลอบเคลื่อนย้ายโค กระบือมีชีวิตเข้าราชอาณาจักรผ่านเส้นทางบ้านเสาหิน อําเภอแม่สะเรียง จังหวัดแม่ฮ่องสอน จึงได้ประสานงานกับเจ้าหน้าที่ชุดลาดตระเวนศุลกากรแม่สะเรียง จากการปฏิบัติงานของชุดลาดตระเวนพบกระบือจํานวน 6 ตัว ผูกไว้ริมถนน ซึ่งเป็นเส้นทางไปยังจุดผ่อนปรนการค้าบ้านเสาหิน ประกอบกับเป็นช่วงเวลาใกล้เที่ยงวันซึ่งมีอากาศค่อนข้างร้อน โดยผิดปกติวิสัยของกระบือซึ่งไม่ชอบอากาศร้อนและบริเวณดังกล่าวไม่มีหญ้า หรือฟางเลี้ยงสัตว์สําหรับกระบือ จึงมีเหตุอันควรสงสัยว่าเป็นกระบือที่มีถิ่นกําเนิดจากต่างประเทศที่ได้รับแจ้งว่าลักลอบนําเข้ามา เจ้าหน้าที่ชุดลาดตระเวนได้ทําการสอบถามชาวบ้านบริเวณนั้น ให้การว่าพบรถกระบะต้องสงสัยขับมาจอดบริเวณดังกล่าวแล้วนํากระบือลงมาผูกไว้ จากนั้นขับขี่รถออกไปด้วยความรวดเร็ว โดยชาวบ้านไม่เคยรู้จักบุคคลดังกล่าวมาก่อน เจ้าหน้าที่จึงได้เฝ้ารออยู่ที่บริเวณดังกล่าว แต่ไม่ปรากฏผู้แสดงตนเป็นเจ้าของกระบือ จึงเชื่อได้ว่าเป็นกระบือลักลอบตามที่สายลับรายงาน และผู้กระทําผิดพบเห็นชุดลาดตระเวนจึงกลัวความผิดและละทิ้งกระบือไว้บริเวณนั้น ซึ่งกระบือมีชีวิตดังกล่าวไม่มีหลักฐานการผ่านพิธีการทางศุลกากรอย่างถูกต้อง อันเป็นของพึงต้องริบตามมาตรา 166 และความผิดตามมาตรา 31 แห่ง พ.ร.บ.โรคระบาดสัตว์ พ.ศ. 2558 ส่วนกระบือมีชีวิต จํานวน 6 ตัว ให้ด่านกักกันสัตว์แม่ฮ่องสอนกัก และทดสอบโรคระบาดสัตว์ ณ คอกกักด่านกักกันสัตว์แม่ฮ่องสอน อําเภอแม่สะเรียง จังหวัดแม่ฮ่องสอน ตามระเบียบต่อไป
21/2/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
Radio-สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230221090000966
null
คณะกรรมการบริหารจัดการห่วงโซ่การผลิตกุ้งทะเลและผลิตภัณฑ์ เดินหน้าแผนฟื้นฟูกุ้งทะเล 4 แสนตัน
นายเฉลิมชัย สุวรรณรักษ์ อธิบดีกรมประมง เปิดเผยว่า จากการประชุมสัญจรที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี ที่ผ่านมา คณะกรรมการบริหารจัดการห่วงโซ่การผลิตกุ้งทะเลและผลิตภัณฑ์ หรือชริมพ์บอร์ดได้ติดตามความก้าวหน้าการดําเนินงานในประเด็นต่างๆ ตามแผนปฏิบัติการด้านกุ้งทะเล ปี พ.ศ. 2566 อาทิ การดําเนินงานของคณะทํางานถอดบทเรียนการเลี้ยงกุ้งทะเล คณะทํางานคัดเลือกสายพันธุ์กุ้งทะเลให้เหมาะสมในแต่ละพื้นที่ ความก้าวหน้าการแก้ไขปัญหาด้านโรคผ่านการดําเนินงานโครงการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตกุ้งทะเลด้วยระบบป้องกันโรคตลอดห่วงโซ่การผลิต โครงการอาหารกุ้งทะเลธงเขียวเพื่อการเลี้ยงกุ้งทะเลสําหรับบริโภคภายในประเทศ ปี 2566 และโครงการเสริมสภาพคล่องเกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้งทะเล ปี 2565 ระยะที่ 1 พร้อมทั้งร่วมหารือแนวทางการบังคับใช้ระบบ APD และมาตรการรองรับ รวมถึงการแก้ปัญหาต้นทุนพลังงานไฟฟ้าที่เพิ่มสูงขึ้นในการเลี้ยงกุ้งทะเล ซึ่งมีการนําเสนอรูปแบบนวัตกรรมการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานเพื่อเป็นทางเลือกให้เกษตรกรเกษตรกรเลือกใช้หลายโมเดล จึงได้เห็นชอบให้แต่งตั้งคณะทํางานจัดทําต้นทุนการผลิตกุ้งทะเล และคณะทํางานด้านการตลาด เพื่อร่วมขับเคลื่อนการดําเนินงานแผนปฏิบัติการด้านกุ้งทะเลปี พ.ศ. 2566 ภายใต้กลยุทธ์การส่งเสริมด้านการตลาด โดยที่ผ่านมาชริมพ์บอร์ดได้แต่งตั้งคณะทํางานเพื่อขับเคลื่อนงานด้านการผลิตไปแล้ว 3 คณะ ทั้งการการถอดบทเรียนเกษตรกร การคัดเลือกสายพันธุ์ และแก้ไขปัญหาด้านโรค โดยชริมพ์บอร์ดหวังว่า ทุกคณะทํางานที่ได้แต่งตั้งขึ้นจะสามารถดําเนินตามเป้าหมาย 4 แสนตันที่ตั้งไว้อธิบดีกรมประมง กล่าวอีกว่า สําหรับประเด็น APD ที่เกษตรกรมีข้อห่วงกังวลนั้น เพื่อมิให้กระทบต่อการประกอบอาชีพของเกษตรกรรายย่อยที่ไม่มีความพร้อม จึงเลื่อนการบังคับใช้ออกไป 1 ปี เป็น 1 มีนาคม 2567 พร้อมเตรียมเปิดโครการเสริมสภาพคล่องฯ ที่จะเปิดรับสมัครในวันที่ 15 มีนาคมนี้
21/2/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
Radio-สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230221090134968
null
เกษตรย่านตาขาว จังหวัดตรัง ร่วมบูรณาการกับกรมวิชาการเกษตร จัดอบรมหลักสูตรเทคโนโลยีการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสละคุณภาพให้แก่สมาชิกแปลงใหญ่สละสุมาลี ตำบลทุ่งค่าย
นายนนท์นภนต์ นาพอ เกษตรอําเภอย่านตาขาว มอบหมายให้นางแพรวพรรณ ทองพิทักษ์ นักวิชาการส่งเสริมการเกษตรชํานาญการ ร่วมบูรณาการกับกรมวิชาการเกษตร นําโดย นางสาวลภัสรดา อักษรเนียม นักวิชาการเกษตรปฏิบัติพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่จากศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรตรัง ลงพื้นที่จัดอบรมหลักสูตรเทคโนโลยีการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสละคุณภาพให้แก่สมาชิกแปลงใหญ่สละสุมาลี ภายใต้โครงการระบบส่งเสริมเกษตรแบบแปลงใหญ่ ปีงบประมาณ 2566 โดยมีวิทยากรจากศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรพัทลุง บรรยายให้ความรู้เรื่องการจัดการสวนสละให้มีคุณภาพ และได้มาตรฐานตรงตามความต้องการของตลาดมากยิ่งขึ้น ทั้งนี้ เพื่อเป็นการส่งเสริมให้เกษตรกรนําความรู้ที่ได้จากการอบรมไปประยุกต์ใช้ในแปลงสละของตนเองได้อย่างมีประสิทธิภาพต่อไป#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
21/2/2023
ภาคใต้
ตรัง
สวท.ตรัง
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230221090919972
null
เกษตรหาดสำราญ จังหวัดตรัง สุ่มตรวจสารพิษตกค้างในผลผลิตทางการเกษตรของเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการพัฒนาประสิทธิภาพโลจิสติกส์เกษตรเพื่อลดการสูญเสีย
นายธีรพงศ์ มนต์แก้ว เกษตรอําเภอหาดสําราญ มอบหมายให้นางสาวจันจิรา ขันเงิน นักวิชาการส่งเสริมการเกษตรปฏิบัติการ ดําเนินการสุ่มตรวจสารพิษตกค้างในผลผลิตของเกษตรกร จํานวน 10 ตัวอย่าง ที่เข้าร่วมโครงการพัฒนาประสิทธิภาพโลจิสติกส์เกษตรเพื่อลดการสูญเสีย กิจกรรม พัฒนาตลาดเกษตรกรให้มีศักยภาพทั้งนี้ จากการสุ่มตรวจสารพิษตกค้างในผลผลิตทางการเกษตรของเกษตรกรผลปรากฏว่า ไม่พบสารพิษ/สารเคมีตกค้าง จํานวน 10 ตัวอย่าง ทําให้เชื่อมั่นได้ว่าผลผลิตของเกษตรกรมีความปลอดภัยทั้งผู้ผลิตและผู้บริโภค#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
21/2/2023
ภาคใต้
ตรัง
สวท.ตรัง
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230221091117973
null
อารักขาพืชตรัง เปิดให้บริการคลินิกพืช โครงการคลินิกเกษตรเคลื่อนที่ในพระราชานุเคราะห์สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช ฯ สยามมกุฎราชกุมาร ครั้งที่ 2
นายวสันต์ สุขสุวรรณ เกษตรจังหวัดตรัง มอบหมายให้ นางสุภัชชา ณ พัทลุง หัวหน้ากลุ่มอารักขาพืช พร้อมเจ้าหน้าที่กลุ่มอารักขาพืช ร่วมกับศูนย์ส่งเสริมเทคโนโลยีการเกษตรด้านอารักขาพืช จังหวัดสงขลา เปิดคลินิกพืชให้บริการประชาชน ในงานโครงการคลินิกเกษตรเคลื่อนที่ในพระราชานุเคราะห์สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช ฯ สยามมกุฎราชกุมาร ครั้งที่ 2 ณ ศาลาอเนกประสงค์องค์การบริหารส่วนตําบลละมอ อําเภอนาโยง จังหวัดตรังสําหรับ คลินิกพืช คือ จุดให้บริการวินิจฉัยอาการผิดปกติของพืชเบื้องต้นให้กับเกษตรกรในพื้นที่ รวมถึงให้คําแนะนําเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาอาการผิดปกติ ยึดการจัดการศัตรูพืชโดยวิธีผสมผสานที่มีความยืดหยุ่นและเหมาะสมกับบริบทของเกษตรกรและบริบทของพื้นที่ โดยมีกลุ่มอารักขาพืช สํานักงานเกษตรจังหวัด ปฏิบัติหน้าที่ให้บริการด้านการอารักขาพืชแก่เกษตรกรในพื้นที่ ทําหน้าที่ตรวจวินิจฉัยอาการผิดปกติของพืชเป็นอันดับแรก เพื่อนําไปสู่การให้คําแนะนําการปฏิบัติและสนับสนุนปัจจัยการควบคุมศัตรูพืชที่ถูกต้องและเหมาะสมแก่เกษตรกรต่อไป#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
21/2/2023
ภาคใต้
ตรัง
สวท.ตรัง
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230221091249974
null
สำนักงานเกษตรอำเภอกันตัง จังหวัดตรัง ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ไม้ผลในพื้นที่อำเภอกันตัง
นางบุญญาพร กายเพ็ชร นักวิชาการส่งเสริมการเกษตรชํานาญการปฏิบัติราชการแทนเกษตรอําเภอกันตัง มอบหมายให้นายสมุห์ภัทร์ สังข์ไชย นักวิชาการส่งเสริมการเกษตรปฏิบัติการ ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์การออกดอกของทุเรียน ในพื้นที่ตําบลควนธานี และตําบลบางหมาก ทั้งนี้ พบว่าทุเรียนภายในอําเภอกันตังออกดอกในระยะหัวกําไล และดอกขาว ร้อยละ 70 ได้มีการแนะนําการจัดการน้ําให้เป็นไปตามความต้องการของต้นทุเรียนในช่วงระยะการออกดอกช่วงต่างๆ อย่างเหมาะสม แนะนําแนวทางการใส่ปุ๋ยและธาตุอาหารเสริมให้ต้นทุเรียนมีความอุดมสมบูรณ์ เพื่อให้ผลผลิตที่ได้มีปริมาณและคุณภาพสูง และส่งเสริมให้มีการปลูกทุเรียนตามแนวทางหลักมาตรฐานการเกษตรที่ดี (GAP) เพื่อให้เกษตรกรสามารถใช้สารเคมีในการป้องกันและกําจัดโรคและแมลงศัตรูทุเรียนอย่างถูกต้องและปลอดภัยต่อทั้งเกษตรกรและผู้บริโภค#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
21/2/2023
ภาคใต้
ตรัง
สวท.ตรัง
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230221091410976
null
เกษตรอำเภอกันตัง จังหวัดตรัง ลงพื้นที่ให้บริการขึ้นทะเบียนและปรับปรุงทะเบียนเกษตรกร ปี 2566
นางบุญญาพร กายเพ็ชร นักวิชาการส่งเสริมการเกษตรชํานาญการปฏิบัติราชการแทนเกษตรอําเภอกันตัง มอบหมายให้นางสาวบุณยานุช หาดสุด และนางสาวอมรรัตน์ ชูเมฆ นักวิชาการส่งเสริมการเกษตรปฏิบัติการ ลงพื้นที่ให้บริการขึ้นทะเบียนและปรับปรุงทะเบียนเกษตรกร ปี 2566 ณ ศาลาอเนกประสงค์หมู่ที่ 2 ตําบลโคกยาง อําเภอกันตัง จังหวัดตรัง โดยมี นายอาคม โชติกมาศ ผู้ใหญ่บ้าน พร้อมด้วย ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน และอาสาสมัครเกษตร หมู่ที่ 2 ตําบลโคกยาง ช่วยประสานงานและบริการเกษตรกร มีเกษตรกร มาใช้บริการจํานวน 70 ราย ทั้งนี้เพื่อให้ข้อมูลการปลูกพืชในพื้นที่มีความถูกต้อง เป็นปัจจุบันและเพื่อรองรับโครงการหรือมาตรการของต่างๆ จากทางภาครัฐ สําหรับการขึ้นทะเบียนและปรับปรุงทะเบียนเกษตรกรในพื้นที่อําเภอกันตังนั้น เกษตรกรจะต้องนําเอกสารสิทธิ์ที่ดินตัวจริงหรือในกรณีติดจํานอง ให้นําสําเนาที่มีการรับรองจากสถาบันการเงินนั้นๆ มายื่นแสดงเพื่อขอปรับปรุงข้อมูลให้เป็นปีปัจจุบัน ณ สํานักงานเกษตรอําเภอกันตัง ได้ในวันและเวลาราชการ หรือที่จุดให้บริการในพื้นที่ที่มีการให้บริการตามความเหมาะสม#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
21/2/2023
ภาคใต้
ตรัง
สวท.ตรัง
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230221091655978
null
สพอช.เมืองนครพนม ลงพื้นที่ขับเคลื่อน ติดตามผลสำเร็จ “โครงการพัฒนาหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียงกิจกรรมพัฒนาศูนย์เรียนรู้ทฤษฎีใหม่ประยุกต์สู่ "โคก หนอง นา”
ที่แปลง "โคก หนอง นา" นายประดิษฐ์ หนองอุดม บ้านดงยอ หมู่ที่ 8 ตําบลบ้านกลาง อําเภอเมือง จังหวัดนครพนม นายชัยณรงค์ กาญจะนะกันโห พัฒนาการจังหวัดนครพนม พร้อมด้วย นายสนิท แสงสว่าง นักวิชาการพัฒนาชุมชนชํานาญการ ลงพื้นที่ติดตามตรวจเยี่ยมการดําเนินงานโครงการพัฒนาหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียงกิจกรรมพัฒนาศูนย์เรียนรู้ทฤษฎีใหม่ประยุกต์สู่ "โคก หนอง นา” อําเภอเมืองนครพนม แปลงนายประดิษฐ์ หนองอุดม บ้านดงยอ หมู่ที่ 8 ตําบลบ้านกลาง ขนาดพื้นที่ 3 ไร่นายประดิษฐ์ หนองอุดม ผู้นําต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิตตามหลักทฤษฎีใหม่รูปแบบประยุกต์ "โคก หนอง นา โมเดล" และมีผลการดําเนินงานเป็นที่พอใจอย่างยิ่ง บริเวณแปลงต้นแบบมีการปลูกป่า 5 ระดับ ไม้ 3 อย่างประโยชน์ 4 อย่าง ทั่วบริเวณแปลง ครัวเรือนมีการดําเนินกิจกรรมต่างๆ ได้แก่ การเลี้ยงปลา เลี้ยงไก่ ปลูกผักสวนครัว ปลูกไม้ผล การทํานาข้าวอินทรีย์ ปลูกหญ้า มีการห่มดิน และมีฐานเรียนรู้ต่างๆที่สามารถให้ความรู้แก่ผู้ที่มาศึกษาดูงานได้จากการสัมภาษณ์ครัวเรือนต้นแบบ นายประดิษฐ์ หนองอุดม กล่าวด้วยความภาคภูมิใจว่า ตั้งแต่เริ่มทํา "โคก หนอง นา" โดยใช้งบประมาณของตัวเองและได้รับการสนับสนุนจากกรมการพัฒนาชุมชนตลอดระยะเวลา 3 ปี หลังจากดําเนินการขุดปรับพื้นที่แล้วเสร็จ ได้นําความรู้ที่ได้รับจากการฝึกอบรมมาใช้ในการปรับปรุง พัฒนาแปลงของตน ทั้งการปลูกป่า 5 ระดับ การห่มดินโดยการเลี้ยงดินให้ดินเลี้ยงพืช การทําการเพาะปลูกแบบอินทรีย์ ใช้ปุ๋ยคอก ปุ๋ยแห้งชามน้ําชามในแปลง ทําให้ได้ผลผลิตที่ปลอดภัย และที่สําคัญยิ่ง คือ ได้เรียนรู้ ลงมือทําในการบริหารจัดการน้ําตามหลักทฤษฎีใหม่ รูปแบบ โคก หนอง นา ทําให้พืชชนิดต่าง ๆ เติบโตได้ดีและรวดเร็ว ทําให้ตนเองรู้สึกมีความสุขที่ได้ผลผลิตพอกิน พอใช้ เหลือก็แบ่งปันญาติพี่น้องและเพื่อนบ้าน ถือเป็นการทําบุญ ทําทาน ทําให้จิตใจเป็นสุข และบางส่วนสามารถนําไปขายเพื่อเป็นรายได้เสริมของครัวเรือน เช่น ปลูกข่า ตะไคร้ ใบมะกรูด ที่สามารถเก็บผลผลิตไปขายได้ทุกวันทําให้มีรายได้เพิ่มขึ้นจากการขายผักประมาณ 3-5 พันบาท/เดือนพัฒนาการจังหวัดได้มอบนโยบายและให้กําลังใจครัวเรือนต้นแบบในการขับเคลื่อนการพัฒนาพื้นที่แปลง "โคก หนอง นา" เพื่อสร้างรายได้ให้แก่ครอบครัวในอนาคตอย่างยั่งยืน ซึ่งครัวเรือนต้นแบบมีความพึงพอใจที่ได้เข้าร่วมโครงการฯ โดยได้มีการเรียนรู้การแก้ไขปัญหาด้วยตนเองในสถานการณ์การดําเนินกิจกรรมจากสภาพความเป็นจริงของพื้นที่ตนเองทั้งนี้ นางสาวณิชาทิพย์ อุบลบาลไชโรจน์ พัฒนาการอําเภอเมืองนครพนม พร้อมด้วยพัฒนากรอําเภอเมืองนครพนม ร่วมลงพื้นที่ติดตามตรวจเยี่ยมการดําเนินงานและให้การสนับสนุนข้อมูลในส่วนที่เกี่ยวข้อง#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
21/2/2023
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
นครพนม
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนครพนม
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230221091621977
null
War Room จังหวัดลำปาง ติดตามสถานการณ์ไฟป่าหมอกควัน และ PM2.5
นายชนาธิป เสมแย้ม รองผู้ว่าราชการจังหวัดลําปาง เป็นประธานการประชุมศูนย์รวบรวมข้อมูลและสั่งการ (War Room) ระดับจังหวัด เพื่อดําเนินการติดตาม ป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าหมอกควัน Pm 2.5 ในพื้นที่จังหวัดลําปาง โดยมีหัวหน้าส่วนราชการ และเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุมฯ ณ ห้องประชุมสํานักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดลําปางจากการติดตามจุดความร้อน Hotspot ที่เกิดขึ้นในพื้นที่จังหวัดลําปาง ระหว่างวันที่ 15-19 กุมภาพันธ์ 2566 รวมจํานวน 70 จุด และสถานการณ์ฝุ่น PM2.5 ในพื้นที่จังหวัดลําปาง จากค่าเฉลี่ย 24 ชั่วโมง ในวันที่ 19-20 กุมภาพันธ์ 2566 พบว่าทั้ง 4 สถานี มีค่าคุณภาพอากาศไม่เกินเกณฑ์มาตรฐาน โดย 3 สถานี มีค่าคุณภาพอากาศอยู่ในเกณฑ์คุณภาพอากาศดี และ 1 สถานี มีค่าคุณภาพอากาศอยู่ในเกณฑ์ปานกลางทั้งนี้ จากการดําเนินการตามมาตรการประกาศห้ามเผา (ตั้งแต่วันที่ 15 กุมภาพันธ์ - 30 เมษายน 2566) จับกุมผู้กระทําความผิดได้ 2 ราย ในพื้นที่อําเภองาวและอําเภอเสริมงาม#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
21/2/2023
ภาคเหนือ
ลำปาง
สวท.ลำปาง
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230221094641998
null
กอนช. เฝ้าระวังฝนฟ้าคะนองบางพื้นที่ในภาคใต้ ขณะที่กรมชลประทานกำหนดแนวทางแก้ปัญหาการบริหารจัดการน้ำรองรับหน้าแล้ง
กองอํานวยการน้ําแห่งชาติ (กอนช.) เฝ้าระวังฝนฟ้าคะนองบางพื้นที่ในภาคใต้ ขณะที่กรมชลประทานกําหนดแนวทางแก้ปัญหาการบริหารจัดการน้ํารองรับหน้าแล้ง นายสุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสํานักงานทรัพยากรน้ําแห่งชาติ (สทนช.) ในฐานะรองผู้อํานวยการกองอํานวยการน้ําแห่งชาติ (กอนช.) กล่าวถึงสถานการณ์น้ําภาพรวมของประเทศวันนี้ (21 ก.พ.66) ว่า ภาพรวมภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง เนื่องจากมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทย ภาคใต้ และทะเลอันดามันมีกําลังอ่อน แต่ยังคงทําให้ภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองบางแห่งในระยะนี้ ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันมีกําลังอ่อนลง โดยเฉพาะมีฝนตกหนักบริเวณ จ.นครศรีธรรมราช , สุราษฎร์ธานี และพังงา ทั้งนี้ กอนช. ยังได้ขอให้กรมชลประทานสํารวจบริเวณคลองส่งน้ํา พร้อมกําหนดแนวทางในการแก้ปัญหาการบริหารจัดการน้ํา เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการน้ําให้กับเกษตรกรในพื้นที่ // ดําเนินการกําจัดวัชพืช บริเวณคลองพระยาบันลือ ตําบลคลองพระยาบันลือ อําเภอลาดบัวหลวง จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เพื่อบรรเทาปัญหาน้ําท่วมให้กับประชาชนและเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ํา // ดําเนินการกําจัดผักตบชวา บริเวณหน้าประตูระบายน้ําอุทกวิภาชประสิทธิ อําเภอปากพนัง จังหวัดนครศรีธรรมราช เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ําและเพิ่มความจุการกักเก็บน้ําได้เต็มประสิทธิภาพขึ้นในการรับมือช่วงหน้าแล้ง ขณะที่ กรมทรัพยากรน้ํา ได้ตรวจสอบและบํารุงรักษาสถานีโทรมาตร (Telemetering) ลุ่มน้ําท่าจีน และระบบส่งสัญญานภาพ (CCTV) 6 สถานี ในเขตพื้นที่ จ.นครปฐม และสมุทรสาคร โดยตรวจสอบการทํางานของระบบไฟฟ้า ระบบสื่อสาร อุปกรณ์ตรวจวัดน้ําฝน และคุณภาพน้ําแบบอัตโนมัติ พร้อมทําความสะอาดบริเวณภายในตู้ควบคุม และโดยรอบสถานีเพื่อให้มีความพร้อมใช้งานได้ตลอดเวลา
21/2/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230221095314003
null
จังหวัดแพร่จัดโครงการฝึกอบรมเยาวชนขับขี่ปลอดภัยเสริมสร้างวินัย และการป้องกันอุบัติภัยในโรงเรียน และกิจกรรมรณรงค์ “วันความปลอดภัยของผู้ใช้ถนน”
วันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2566 สํานักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดแพร่รายงานว่า ที่โรงเรียนนารีรัตน์จังหวัดแพร่ ตําบลในเวียง อําเภอเมือง จังหวัดแพร่ นายชุติเดช มีจันทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ เป็นประธานเปิดโครงการฝึกอบรมเยาวชนขับขี่ปลอดภัยเสริมสร้างวินัยจราจร และการป้องกันอุบัติภัยในโรงเรียน ประจําปีงบประมาณ 2566 ซึ่งศูนย์อํานวยการความปลอดภัยทางถนนจังหวัดแพร่ ร่วมกับสํานักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดแพร่จัดขึ้น เพื่อเสริมสร้างจิตสํานึกในด้านความปลอดภัยทางถนนและวินัยจราจรรวมถึงการป้องกันอุบัติภัยในโรงเรียน ให้กับกลุ่มเป้าหมายที่อยู่ในวัยเด็กและเยาวชนนายสายัณห์ กาวีวงค์ หัวหน้าสํานักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดแพร่ ในฐานะเลขานุการศูนย์อํานวยการความปลอดภัยทางถนนจังหวัดแพร่กล่าวว่า อุบัติเหตุจากการจราจร ก่อให้เกิดความสูญเสียในชีวิตและทรัพย์สิน โดยเฉพาะอุบัติเหตุอันเนื่องมาจากการขับขี่รถจักรยานยนต์ เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต บาดเจ็บ และพิการเป็นจํานวนมาก ส่วนใหญ่อยู่ในวัยเด็กและเยาวชน ซึ่งเป็นทรัพยากรบุคคลที่มีคุณค่าในการพัฒนาประเทศ แต่ต้องมาเสียชีวิต บาดเจ็บ และพิการกับอุบัติเหตุดังกล่าว สํานักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดแพร่ จึงได้จัดทําโครงการฝึกอบรมเยาวชนขับขี่ปลอดภัยเสริมสร้างวินัยจราจรและการป้องกันอุบัติภัยในโรงเรียน ประจําปีงบประมาณ 2566 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ผู้เข้ารับการฝึกอบรมได้รับความรู้และทักษะเกี่ยวกับการขับขี่ รถจักรยานยนต์อย่างถูกต้อง ตามหลักการขับขี่ปลอดภัย และถูกกฎจราจร นําความรู้จากการฝึกอบรมไปสอบเพื่อขอรับใบอนุญาตขับขี่รถจักรยานยนต์จากกรมการขนส่งทางบก เพื่อลดปัญหาอุบัติเหตุจราจรให้น้อยลงตามนโยบายของรัฐบาล ตลอดจนได้รับความรู้ในการป้องกันอุบัติภัยในโรงเรียน และสามารถปฏิบัติตนได้อย่างถูกต้องเมื่อเกิดอุบัติภัยขึ้น การฝึกอบรมดังกล่าวมีนักเรียนของโรงเรียนนารีรัตน์จังหวัดแพร่ จํานวน 108 คนพร้อมกันนี้จังหวัดแพร่ยังได้จัดกิจกรรมรณรงค์ “วันความปลอดภัยของผู้ใช้ถนน” ขึ้น ณ บริเวณทางข้ามหน้าโรงเรียนนารีรัตน์จังหวัดแพร่ ซึ่งรัฐบาลเห็นชอบกําหนดให้วันที่ 21 มกราคม ของทุกปีเป็น “วันความปลอดภัยของผู้ใช้ถนน” เพื่อกระตุ้นเตือนให้ประชาชนตระหนักถึงการใช้รถใช้ถนนอย่างปลอดภัย สร้างจิตสํานึกส่งเสริมให้เกิดเป็นวัฒนธรรมความปลอดภัย เกิดระเบียบวินัย ปฏิบัติตามกฎจราจรอย่างเคร่งครัด เพื่อหยุดความสูญเสียจากอุบัติเหตุบนท้องถนนและเหตุการณ์รถชนคนข้ามทางม้าลายไม่ให้เกิดขึ้นอีก#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
21/2/2023
ภาคเหนือ
แพร่
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดแพร่
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230221101659012
null
ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมด้วยพาณิชย์จังหวัดเพชรบุรี ส่งเสริมเกษตรกรปลูกแตงโมเป็นอาชีพเสริม หลังฤดูกาลทำนา สร้างรายได้
นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมด้วย นางสาวจินตะณา ปิ่นสุภา พาณิชย์จังหวัดเพชรบุรี ลงพื้นที่พบปะเกษตรกรผู้ปลูกแตงโม บ้านดอนหัวกรวด ตําบลนาพันสาม อําเภอเมือง จังหวัดเพชรบุรี ซึ่งปลูกแตงโมพันธุ์กินรี เป็นอาชีพเสริม หลังฤดูกาลทํานา ช่วยสร้างรายได้จากการจําหน่ายแตงโมไม่น้อยกว่า 10,000 บาท/ไร่ ทั้งนี้ สํานักงานพาณิชย์จังหวัดเพชรบุรี ได้บูรณาการทํางานร่วมกับสํานักงานเกษตรจังหวัดเพชรบุรี ภายใต้หลักการ “เกษตรผลิต พาณิชย์ตลาด” ซึ่งได้ส่งเสริมตลาดโดยการประชาสัมพันธ์แตงโมบ้านดอนหัวกรวด ซึ่งมีรสชาติ หวาน กรอบ อร่อย ผ่านช่องทางเพจ “ของเด็ด เพชรพาณิชย์” ให้เป็นที่รู้จักแพร่หลายมากยิ่งขึ้นสวท.เพชรบุรี#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
21/2/2023
ภาคตะวันตก
เพชรบุรี
สวท.เพชรบุรี
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230221101252011
null
ค่าฝุ่น PM 2.5 ในภาคเหนือ ภาคอีสาน กทม. และปริมณฑล ลดลงเกือบทุกพื้นที่ เนื่องจากสภาพอากาศเปิดและมีลม โดย กทม.และปริมณฑลต้องเฝ้าระวังถึง 25 ก.พ.
ค่าฝุ่น PM 2.5 ในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ กรุงเทพมหานคร และปริมณฑล ลดลงเกือบทุกพื้นที่ เนื่องจากสภาพอากาศเปิดและมีลม โดยกรุงเทพมหานครและปริมณฑลต้องเฝ้าระวังถึงวันที่ 25 กุมภาพันธ์นี้ นายปิ่นสักก์ สุรัสวดี อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) ในฐานะประธานศูนย์แก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศ (ศกพ.) กล่าวว่า วันนี้ (21 ก.พ.66) ค่าฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM 2.5) ในพื้นที่ภาคเหนือ 17 จังหวัด พบค่าฝุ่น PM 2.5 ปรับตัวลดลงบางพื้นที่ โดยสูงในระดับสีส้ม 20 พื้นที่ และสีแดง 1 พื้นที่ บริเวณ ต.แม่ปะ อ.แม่สอด จ.ตาก อยู่ที่ 121 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร เพราะยังพบการเผาในที่โล่งและการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศที่มีผลต่อการสะสมของฝุ่น พร้อมขอความร่วมมือประชาชนงดการบริหารจัดการเชื้อเพลิงจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลายลง ขณะที่ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ พบหลายพื้นที่ค่าฝุ่น PM 2.5 ปรับตัวลดลงทุกพื้นที่ ภาพรวมคุณภาพอากาศอยู่ในระดับดีมากถึงปานกลาง สําหรับกรุงเทพมหานครและปริมณฑลคุณภาพอากาศปานกลางถึงเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ โดยค่าฝุ่นปรับตัวลดลงทุกพื้นที่ จากสภาพอากาศเปิดและมีลมพัดทําให้ฝุ่นกระจายตัวมากขึ้น ยกเว้นมี 3 พื้นที่ค่าฝุ่นยังเกินระดับสีส้มเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพบริเวณแขวงหิรัญรูจี เขตธนบุรี , ริมถนนลาดกระบัง เขตลาดกระบัง และ ต.บางพูด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี อยู่ที่ 51 - 54 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ทั้งนี้ ศูนย์แบบจําลองคุณภาพอากาศและภูมิศาสตร์สารสนเทศ กรมควบคุมมลพิษ (คพ.) ได้คาดการณ์สถานการณ์ฝุ่นละออง PM 2.5 ถึงวันที่ 25 กุมภาพันธ์ มีแนวโน้มฝุ่นละอองขึ้นสูงอีกบางพื้นที่ ทั้งนี้ สามารถติดตามสถานการณ์คุณภาพอากาศได้ทางแอปพลิเคชั่น Air4Thai
21/2/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230221102921014
null
สำนักงานเกษตรจังหวัดเลย ถ่ายทอดความรู้การปลูกดูแลผักปลอดภัย และป้องกันกำจัดศัตรูพืช วิธีผสมผสาน (IPM) ในโครงการทหารพันธุ์ดี
นางนันทิยา ศรีทัดจันทา นักวิชาการส่งเสริมการเกษตรชํานาญการพิเศษ หัวหน้ากลุ่มอารักขาพืช พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กลุ่มอารักขาพืช สํานักงานเกษตรจังหวัดเลย ลงพื้นที่มณฑลทหารบกที่ 28 ค่ายศรีสองรัก ตําบลศรีสองรัก อําเภอเมืองเลย จังหวัดเลย จัดอบรม ถ่ายทอดองค์ความรู้เทคโนโลยีด้านการเกษตร ในหลักสูตรการปลูก ดูแลผักปลอดภัย และการป้องกันกําจัดศัตรูพืชโดยวิธีผสมผสาน (IPM) ให้กับนายทหาร 20 นาย ภายใต้โครงการในพระราชดําริโครงการทหารพันธุ์ดี พร้อมกันนี้ ได้ลงแปลงผักเพื่อสํารวจโรคและแมลงศัตรูพืช รวมถึง ให้คําแนะนําในการจัดการแปลงที่ถูกต้องตามหลักวิชาการสําหรับโครงการทหารพันธุ์ดี เป็นโครงการในพระราชดําริของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เพื่อพระราชทานแก่ประชาชนที่ประสบภัยพิบัติต่าง ๆ ในพื้นที่ใกล้เคียงและพระราชทานให้ทหารกองประจําการที่ปลดประจําการไปแล้วนําไปขยายผลในพื้นที่ชุมชนของตนเอง ดังมีพระกระแสรับสั่งว่า “ในท้องตลาดนั้น เมล็ดพันธุ์มีราคาแพง การผลิตเมล็ดพันธุ์นี้ เพื่อช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัย โดยการผลิตนี้ ด้วยเราเอง และนําออกไปช่วยเหลือประชาชนต่อไป และเป็นเมล็ดพันธุ์ที่ดีที่สุดไม่มีเจือปน เน้นการใช้ธรรมชาติมากที่สุด ไม่มีสารเคมี และผักที่ปลอดภัยรับรองโดยกรมการเกษตร ต้องได้รับ GAP การเก็บเกี่ยวต้องใช้ด้วยมือ”#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
21/2/2023
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
เลย
สวท.เลย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230221103729017
null
สำนักงานเกษตรจังหวัดเลย ส่งเสริมการหยุดเผาและสร้างมูลค่าเพิ่มจากวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรในพื้นที่อำเภอเชียงคาน จังหวัดเลย
นางนันทิยา ศรีทัดจันทา นักวิชาการส่งเสริมการเกษตรชํานาญการพิเศษ หัวหน้ากลุ่มอารักขาพืช พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กลุ่มอารักขาพืช สํานักงานเกษตรจังหวัดเลย ได้ร่วมกับสํานักงานเกษตรอําเภอเชียงคาน จังหวัดเลย จัดอบรมส่งเสริมการหยุดเผาและสร้างมูลค่าเพิ่มจากวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร ภายใต้โครงการส่งเสริมการหยุดเผาในพื้นที่การเกษตร และโครงการสร้างมูลค่าเพิ่มจากวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร ที่เทศบาลตําบลธาตุ อําเภอเชียงคาน จังหวัดเลยทั้งนี้ เพื่อสร้างการรับรู้ถึงผลกระทบจากการเผาวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร รวมถึงแนวทางในการจัดการและเพิ่มมูลค่าวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร ตลอดจน เป็นการแก้ไขปัญหาฝุ่นละออง PM 2.5 #สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
21/2/2023
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
เลย
สวท.เลย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230221105246025
null
เจ้าหน้าที่ชุดค้นหา พบตัวเจ้าหน้าที่ชุดลาดตระเวนอุทยานแห่งชาติเอราวัณที่หายตัวไปแล้ว พร้อมส่งตรวจร่างกายอย่างละเอียดแล้ว
เจ้าหน้าที่ชุดค้นหา พบตัวเจ้าหน้าที่ชุดลาดตระเวนอุทยานแห่งชาติเอราวัณที่หายตัวไปแล้ว พร้อมส่งตรวจร่างกายอย่างละเอียดแล้ว นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) และรักษาราชการแทนอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช กล่าวถึงความคืบหน้ากรณี นายอนุวัตน์ นาเอี่ยม บุคคลภายนอกปฏิบัติงานให้ส่วนราชการประจําหน่วยฯ ถ้ําพระธาตุ อุทยานแห่งชาติเอราวัณ หายตัวไปหลังออกลาดตระเวนพร้อมกับทีมลาดตระเวน บริเวณป่าลําต้น - ถ้ําพระธาตุ เมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมาว่า เมื่อวานนี้ (20 ก.พ.66) เจ้าหน้าที่ชุดค้นหาได้พบและให้การช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ลาดตระเวนประจําหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติ ที่ อว.1 (ถ้ําพระธาตุ) ของอุทยานแห่งชาติเอราวัณที่หายตัวไปแล้ว เบื้องต้นปลอดภัยดีแต่อยู่ในสภาพอิดโรย เพราะขาดอาหารนานถึง 4 วัน โดยพบนั่งอยู่บริเวณโพรงเขาหินปูนในพื้นที่อุทยานแห่งชาติเอราวัณ ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ให้การช่วยเหลือเบื้องต้นด้วยการให้อาหารเหลวและนั่งพัก จากนั้นได้ส่งตัวไปยังโรงพยาบาลท่ากระดาน เพื่อให้แพทย์ทําการตรวจร่างกายอย่างละเอียดแล้ว
21/2/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230221110147028
null
จิสด้า ใช้ดาวเทียมติดตามการเกิดไฟป่าพบจุดความร้อนในไทยยังสูง โดยเฉพาะป่าสงวนแห่งชาติและป่าอนุรักษ์ ส่วนจุดความร้อนจากประเทศเพื่อนบ้านยังคงเป็นเมียนมาสูงสุดกว่า 2,000 จุด
สํานักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) หรือ GISTDA (จิสด้า) ใช้ดาวเทียมติดตามการเกิดไฟป่าพบจุดความร้อนในไทยยังสูง โดยเฉพาะป่าสงวนแห่งชาติและป่าอนุรักษ์ ส่วนจุดความร้อนจากประเทศเพื่อนบ้านยังคงเป็นเมียนมาสูงสุดกว่า 2,000 จุด สํานักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) หรือ GISTDA (จิสด้า) ได้เปิดเผยข้อมูลจากดาวเทียมซูโอมิ เอ็นพีพี (Suomi NPP) ของระบบเวียร์ (VIIRS) เมื่อวานนี้ (20 ก.พ.66) พบจุดความร้อน (Hotspot) ทั้งประเทศ 735 จุด พบมากที่สุดในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ 225 จุด // พื้นที่ป่าอนุรักษ์ 261 จุด // พื้นที่เกษตร 107 จุด // พื้นที่เขต สปก. 77 จุด // พื้นที่ชุมชนและอื่นๆ 64 จุด และพื้นที่ริมทางหลวง 1 จุด ส่วนจังหวัดที่พบจุดความร้อนมากที่สุด คือ ตาก 73 จุด , อุตรดิตถ์ 88 จุด และเลย 62 จุด ทั้งนี้ จากการตรวจสอบค่าฝุ่น PM 2.5 ผ่านแอปพลิเคชัน “เช็คฝุ่น” พบหลายพื้นที่่ทางภาคเหนือค่าฝุ่นอยู่ในระดับที่ยังมีผลกระทบต่อสุขภาพ เช่น แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ ตาก ลําพูน เชียงราย น่าน พะเยา และลําปาง จึงควรสวมหน้ากากอนามัยทุกครั้งเพื่อป้องกันโรคระบบทางเดินหายใจที่อาจจะตามมา สําหรับจุดความร้อนของประเทศเพื่อนบ้านพบสูงสุดในเมียนมา 2,046 จุด รองลงมาเป็น กัมพูชา 692 จุด , สปป.ลาว 655 จุด , เวียดนาม 107 จุด และมาเลเซีย 5 จุด
21/2/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230221113315049
null
ปัตตานี-ประชุมหารือเชิงนโยบายการเชื่อมโยงและบูรณาการกระบวนการนโยบายสาธารณะเพื่อขับเคลื่อนระบบอาหารและการเกษตรในท้องถิ่นชายแดนภาคใต้
ผู้สื่อข่าวปัตตานีรายงานวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2566 นางพาตีเมาะ สะดียามู ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี เปิดกิจกรรมประชุมหารือเชิงนโยบาย“การเชื่อมโยงและบูรณาการกระบวนการนโยบายสาธารณะเพื่อขับเคลื่อนระบบอาหารและการเกษตรในท้องถิ่นชายแดนภาคใต้" ณ โรงแรมซี.เอส.ปัตตานี ผู้เข้าร่วมประชุมประกอบด้วยหน่วยงาน เจ้าหน้าที่ ภาครัฐ เอกชน ที่เกี่ยวข้องกับด้านการเกษตร ซึ่งที่มาของโครงการ ในภาคใต้ นอกเหนือจากการมีส่วนร่วมของชุมชนและกลไกการปรึกษาหารือแบบเดิมโครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ ร่วมกับ Agirrelehendakaria Center for Social and Political Studies ตั้งแต่ปี 2563 ได้ดําเนินกระบวนการรับฟังเชิงลึกในจังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อรวบรวมเรื่องเล่าจากกลุ่มผู้มีส่วนได้ส่วนเสียที่หลากหลาย ทั้งเจ้าหน้าที่ภาครัฐ นักเคลื่อนไหวภาคประชาสังคม นักวิชาการ เยาวชน เกษตรกร ชาวประมง องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นผู้ประกอบการ และบริษัทเอกชน เพื่อทําความเข้าใจความต้องการและโอกาสของพื้นที่ ผลจากการรับฟังดังกล่าว นํามาสู่โครงการนําร่องกระบวนการแพลตฟอร์มนวัตกรรมทางสังคม เพื่อแก้ไขปัญหาเชิงระบบจังหวัดชายแดนใต้ ที่มีวัตถุประสงค์ เพื่อนําร่องให้เกิดการเปลี่ยนผ่านจากการทําโครงการเชิงเดี่ยวไปสู่การขับเคลื่อนด้วยการคิดและปฏิบัติการเชิงระบบ (รวมองค์กร วิธีการ และกิจกรรมที่เชื่อมต่อกันและหลากหลายโครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติด้วยความร่วมมือกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในระบบอาหารท้องถิ่นจังหวัดชายแดนภาคใต้ดําเนินโครงการและกิจกรรมที่มีความเชื่อมโยงกันในปี 2564-2565 และได้มีการทบทวนรับฟังประสบการณ์และถอดบทเรียน เพื่อโอกาสในการต่อยอดและเชื่อมโยงขบวนการขับเคลื่อนในท้องถิ่นสู่การเปลี่ยนแปลงเชิงนโยบายที่เกี่ยวข้อง จึงเป็นที่มาของการพัฒนาร่างเอกสาร ข้อเสนอเชิงนโยบายเกี่ยวกับกระบวนการพัฒนาระบบอาหาร ด้วยการคิดและปฏิบัติการเชิงระบบ: บทเรียนและประสบการณ์จากชายแดนใต้ ซึ่งเกิดขึ้นจากการวิเคราะห์เชิงวิชาการและสังเคราะห์จากประสบการณ์การทํางานร่วมกับหลากหลายภาคส่วนในระบบอาหารในพื้นที่ภายใต้การขับเคลื่อนกระบวนการแพลตฟอร์มนวัตกรรมทางสังคม (Social Innovation Platform) ตลอดระยะเวลาสองปีที่ผ่านมา โดยได้กําหนด จัดกิจกรรมประชุมหารือเชิงนโยบายในวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2556 โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อหารือร่างเอกสารข้อเสนอเชิงนโยบายเกี่ยวกับกระบวนการพัฒนาระบบอาหารด้วยการคิดและปฏิบัติการเชิงระบบ และเพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับข้อเสนอเชิงนโยบายดังกล่าว ในแง่ของการเชื่อมโยงกับกลไกการบริหารกํากับ ดูแล และวางแผนระดับท้องถิ่น ในการบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) ในท้องถิ่น ความท้าทายในการการนํานโยบายไปสู่การปฏิบัติ และร่วมวิเคราะห์จุดบูรณาการความร่วมมือที่นําไปปฏิบัติได้จริงในบริบทของจังหวัดชายแดนภาคใต้ #สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
21/2/2023
ภาคใต้
ปัตตานี
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดปัตตานี
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230221124016072
null
จ.ลำปาง ขับเคลื่อนโครงการจัดที่ดินทำกินให้ชุมชน
ที่ห้องประชุมเวียงละกอน ชั้น 4 ศาลากลางจังหวัดลําปาง นายชัชวาลย์ ฉายะบุตร ผู้ว่าราชการจังหวัดลําปาง เป็นประธานการประชุมคณะอนุกรรมการนโยบายที่ดินจังหวัด (คทช.จังหวัด) ครั้งที่ 1/2566 โดยมีหัวหน้าส่วนราชการ เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุมฯ ทั้งนี้ เพื่อขับเคลื่อนโครงการจัดที่ดินทํากินให้ชุมชน ให้เป็นไปตามแผนงานและเป้าหมายตามนโยบายรัฐบาล และติดตามความคืบหน้าในการดําเนินการจัดที่ดินทํากินให้ชุมชนก่อนเริ่มการประชุมผู้ว่าราชการจังหวัดลําปาง ได้มอบประกาศเกียรติคุณผู้ทําคุณประโยชน์และสนับสนุนการดําเนินงาน คทช.จังหวัดลําปาง ประจําปีงบประมาณ 2566 แก่ผู้ปฏิบัติงานดีเด่นภายใต้ คทช.จังหวัด ประกอบด้วย 1.นายสิธิชัย จินดาหลวง ข้าราชการบํานาญ อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดลําปาง (ติดภารกิจ) 2.นายมนต์ชัย หาญพงษ์พันธ์ เจ้าพนักงานป่าไม้อาวุโส 3.นายสมศักดิ์ สกุลวรรณรักษ์ ผู้อํานวยการสํานักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 3 ลําปาง 4.นายเกษม คํามา นักวิชาการป่าไม้ชํานาญการพิเศษ 5.นายสราวุธ ธรรมศิลป์ นักวิชาการที่ดินชํานาญการพิเศษ 6.นางสาวกัญศิมนณ์ บุญทาโส นักวิชาการที่ดินปฏิบัติการ และประชาชนผู้อุทิศตนทําประโยชน์ และสนับสนุนการดําเนินงานให้ คทช.จังหวัด ได้แก่ นายสมจินต์ ชุ่มอินจักร์ กํานันตําบลนายาง อ.สบปราบสําหรับการประชุมครั้งนี้ ที่ประชุมได้ติดตามความคืบหน้าการขออนุญาตเข้าทําประโยชน์พื้นที่ป่าไม้ของการรถไฟแห่งประเทศไทย ในการก่อสร้างทางรถไฟสายเด่นชัย - เชียงราย - เชียงของ รวมระยะทาง 323 กิโลเมตร ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับจังหวัดลําปาง ที่จะต้องดําเนินการขออนุญาตเข้าทําประโยชน์พื้นที่ป่าไม้ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าแม่งาวฝั่งซ้าย มีแปลงที่ดินราษฎรทับซ้อนกับเขตของการรถไฟแห่งประเทศไทย จํานวน 76 ราย 82 แปลง 158 ไร่ 1 งาน 33 ตารางวา ขณะนี้อยู่ระหว่างอนุมัติการจ่ายเงินชดเชยให้กับราษฎร และป่าสงวนแห่งชาติป่าแม่งาวฝั่งขวา จํานวน 23 ราย 26 แปลง 65 ไร่ 2 งาน 69 ตารางวา ขณะนี้อยู่ระหว่างเข้าสํารวจอสังหาริมทรัพย์ในพื้นที่จริงและติดตามความคืบหน้าผลการดําเนินการจัดที่ดินทํากินให้ชุมชนตามนโยบายรัฐบาล (คทช.) ในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติจังหวัดลําปาง#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
21/2/2023
ภาคเหนือ
ลำปาง
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดลำปาง
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230221112812046
null
จังหวัดสุรินทร์จ่ายเงินชดเชยส่วนต่างประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวแล้ว 131,129 ราย รวมเงินกว่า 284 ล้านบาท
นางพิรุณวรรณน์ จงใจภักดิ์ พาณิชย์จังหวัดสุรินทร์ เปิดเผยว่า จังหวัดสุรินทร์มีพื้นที่ทั้งหมด 5,077,535 ไร่ มีพื้นที่ทําการเกษตรกรวม 4,207,585 ไร่ คิดเป็นร้อยละ 82.87 ของพื้นที่ทั้งหมด สําหรับพื้นที่ทําการเกษตร แยกประเภทการปลูกพืช โดยเฉพาะพืชประกันรายได้ ดังนี้ ข้าวมีพื้นที่เพาะปลูก 3,133,308 ไร่ ผลผลิต 1,234,493 ตัน มีเกษตรกรขึ้นทะเบียน 218,612 ครัวเรือน มันสําปะหลังมีพื้นที่เพาะปลูก 155,340 ไร่ ผลผลิต 571,651 ตัน มีเกษตรกรขึ้นทะเบียน 16,854 ครัวเรือนยางพาราพื้นที่เพาะปลูก 252,943 ไร่ ผลผลิต 56,154 ตัน มีเกษตรกรขึ้นทะเบียน 21,307 ครัวเรือน ปาล์มน้ํามันพื้นที่เพาะปลูก 5,583 ไร่ ผลผลิต 56,154 ตัน มีเกษตรกรขึ้นทะเบียน 21,307 ครัวเรือนสําหรับโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปีการผลิต 2565/66 กรมการค้าภายในได้ออกประกาศเกณฑ์กลางอ้างอิงแล้ว จํานวน 19 งวด จากจํานวนทั้งสิ้น 33 งวด และจังหวัดสุรินทร์มีเกษตรกรได้รับเงินชดเชยส่วนต่างประกันรายได้แล้ว จํานวน 131,129 ราย คิดเป็นร้อยละ 59.98 ของเกษตรกรที่ขึ้นทะเบียน จํานวนเงิน 384,080,259 บาท สําหรับมาตรการคู่ขนาน ปี 2565/66 ได้แก่- โครงการสนับสนุนค่าบริหารจัดการและพัฒนาคุณภาพผลผลิตเกษตรกรผู้ปลูกข้าวไร่ละ 1,000 บาท มีเกษตรกรได้รับเงิน จํานวน 210,888 ราย จํานวนเงิน 2,679,085,377 บาท - โครงการสินเชื่อชะลอการขายข้าวเปลือกนาปี มีเกษตรกรเข้าร่วมโครงการ จํานวน 48,729 ราย ปริมาณข้าวเปลือก 308,782,400 ตัน จํานวนเงิน 3,346,966,800 บาท มีเกษตรกรได้ชําระเงินกู้แล้ว จํานวน 45 ราย ปริมาณข้าวเปลือก 286,000 ตัน จํานวนเงิน 4,355,600 บาท - โครงการสินเชื่อเพื่อรวบรวมข้าวและสร้างมูลค่าเพิ่มโดยสถาบันเกษตรกร มีสถาบันเกษตรกรเข้าร่วมโครงการ จํานวน 2 ราย วงเงินกู้รวม 115 ล้านบาท- โครงการชดเชยดอกเบี้ยให้ผู้ประกอบการค้าข้าวในการเก็บสต็อกฯ มีผู้ประกอบการค้าข้าว เข้าร่วมโครงการ 9 ราย วงเงินสินเชื่อ 2,339 บาท เปิดตั๋วสัญญาใช้เงิน จํานวน 65 ฉบับ คิดเป็นมูลค่า 1,437 ล้านบาท#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
21/2/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สวท.สุรินทร์
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230221120629063
null
สืบสานภูมิปัญญาท้องถิ่น ลงแขกเกี่ยวข้าวอนุรักษ์วิถีชีวิตพื้นบ้าน ชาวบาโงย จ.ยะลา
อบต.บาโงย จัดโครงการโรงเรียนชาวนา ฟื้นฟูนาร้างด้วยเกษตรอินทรีย์แบบยั่งยืนกิจกรรมลงแขกเกี่ยวข้าว อนุรักษ์วิถีชีวิตและภูมิปัญญาท้องถิ่น เพื่อพัฒนาการเกษตรอย่างยั่งยืน เสริมสร้างความสามัคคีและสมานฉันท์ในชุมชนพาไปดูกิจกรรมดีๆ ในพื้นที่ หมู่ 1 บ้านลูโบ๊ะลาบี ตําบลบาโงย อําเภอรามัน จังหวัดยะลา “ลงแขกเกี่ยวข้าว” อนุรักษ์วิถีชีวิตและภูมิปัญญาท้องถิ่นเพื่อพัฒนาการเกษตรอย่างยั่งยืน เสริมสร้างความสามัคคีและสมานฉันท์ในชุมชน ซึ่งทางองค์การบริหารส่วนตําบลบาโงย อําเภอรามัน จังหวัดยะลา ได้บูรณาการ หน่วยงานภาคี อบต. องค์การปกครองส่วนท้องถิ่น หน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรเเละสหกรณ์ กลุ่มเกษตรกร กลุ่มเเม่บ้าน ร่วมกันจัดขึ้น และเพื่อให้เข้ากับบรรยากาศลงแขกเกี่ยวข้าวในท้องทุ่งนา ที่ข้าวกําลังออกผลผลิตสีเหลืองอร่าม ทางนายสุพจน์ รองเรือง ณ หนองคาย ประธานในพิธีนายจรูญศักดิ์ หมาดเท่ง นายอําเภอรามัน หัวหน้าส่วนราชการ ผู้นําชุมชน ผู้นําท้องถิ่น ประชาชน เกษตรกร ต่างก็แต่งกายด้วยเสื้อม่อฮ่อม เสื้อมลายูท้องถิ่นเข้าร่วมงาน ในขณะที่ บรรยากาศการร่วมลงแขกเกี่ยวข้าวเป็นไปด้วยความสนุกสนาน แสดงให้เห็นถึงอาชีพการเกษตร ทํานา ทําสวน ของคนในพื้นที่ตําบลบาโงย ที่มีวิถีชีวิตเรียบง่ายแบบดั้งเดิมงานนี้นอกจากจะมีการลงเเขกเกี่ยวข้าว แล้ว ยังมี นิทรรศการเกี่ยวกับพันธุ์ข้าว การสาธิตการทําเส้นขนมจีนสูตรโบราณจากปลายข้าว โครงการเกษตรเพื่ออาหารกลางวัน รวมไปถึง ฐานการเรียนรู้ตามหลักสูตรโรงเรียนชาวนา จํานวน 5 ฐาน ทั้ง การคัดแยกพันธุ์ข้าว คือ พันธุ์ข้าวที่เกษตรกรนิยมนํามาปลูกเป็นพันธุ์ข้าวดั้งเดิมในพื้นที่ ได้แก่ พันธุ์เวาะปูเตะห์ และการแปรรูปข้าวให้เกิดเป็นอาหารที่มีประโยชน์ให้กับคนในชุมชนการเกี่ยวข้าวด้วยแกระ คือ การเกี่ยวข้าวด้วยอุปกรณ์แบบดั้งเดิม ใช้แกระในการเกี่ยวข้าว การนวดข้าว คือ การนวดข้าวโดยใช้เท้าในการเหยียบและย่ําให้เมล็ดข้าวหลุดออกมาจากรวงข้าว ซึ่งต้องอาศัยแรงหลายคนในการนวดข้าว เป็นการนวดข้าวแบบโบราณดั้งเดิม การร่อนข้าว คือ การร่อนข้าวแบบวิธีบ้านๆ คือการนําอุปกรณ์ที่ใช้ในการร่อนข้าว มี 2 ประเภท คือกระด้งรูห่าง และกระด้งรูชิด โดยการนําเอาเมล็ดข้าวเปลือกที่ได้จากการนวดข้าวมาร่อนข้าวเพื่อคัดเอาเศษของใบและก้านของต้นข้าวออก และ การสีข้าว คือ การตําข้าวด้วยครก และ สาก ขนาดใหญ่แบบโบราณ เพื่อให้ประชาชน เกษตรกรที่มีอาชีพทํานาในพื้นที่ 4 หมู่บ้านของตําบลบาโงย นักเรียนและบุคลากรทางศึกษา ที่เข้าร่วมกิจกรรม กว่า 100 คน ได้ร่วมเรียนรู้วิถีชาวนาบ้านบาโงย อีกด้วย นอกจากนี้ ยังมีการประกวดพันธุ์ข้าวดั้งเดิม การประกวดขนมโบราณที่มีวัตถุดิบจากข้าว การแข่งขันเกี่ยวข้าว การแข่งขันนวดข้าว การแข่งขันร่อนข้าว และการจัดแสดงนิทรรศการเกี่ยวกับพันธ์ข้าว การบํารุงดินและรักษาดิน การจัดทําปุ๋ยอินทรีย์สําหรับพันธุ์ข้าวนายยาการียา ซิมะ นายกองค์การบริหารส่วนตําบลบาโงย บอกว่า กิจกรรมลงแขกเกี่ยวข้าว อนุรักษ์วิถีชีวิตและภูมิปัญญาท้องถิ่น เพื่อพัฒนาการเกษตรอย่างยั่งยืน เสริมสร้างความสามัคคีและสมานฉันท์ในชุมชน จัดขึ้น ภายใต้โครงการโรงเรียนชาวนา ฟื้นฟูนาร้างด้วยเกษตรอินทรีย์แบบยั่งยืน ซึ่งทางองค์การบริหารส่วนตําบลบาโงย ได้จัดกิจกรรมที่ส่งเสริมให้คนในพื้นที่ตําบลบาโงย ทํานาด้วยตนเอง ลดพื้นที่นาร้างให้ลดน้อยลงเพื่อลดต้นทุนค่าใช้จ่ายในครัวเรือน ตั้งแต่ปี 2559 จนถึงปัจจุบัน โดยมีโครงการคนบาโงยไม่ทอดทิ้งกัน กิจกรรม “ ดํานาตามรอยพ่อ พร้อมนําปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง เพื่อพัฒนาการเกษตรอย่างยั่งยืน ” และ “ กิจกรรมลงแขกเกี่ยวข้าว อนุรักษ์วิถีชีวิต และภูมิปัญญาท้องถิ่น ตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง เสริมสร้างความสามัคคีและความปรองดองสมานฉันท์ในชุมชน ” เพื่อส่งเสริมให้มีจิตสํานึกที่ดีต่อการประกอบอาชีพของบรรพบุรุษ ที่ผูกพันกับวิถีชีวิตและวัฒนธรรมของคนในชุมชนมาอย่างยาวนาน โดยการน้อมนําเอาพระราชดําริเศรษฐกิจพอเพียงมาเป็นแนวทางจากผลการดําเนินกิจกรรมอย่างต่อเนื่องเข้าสู่ปีที่ 7 ประชาชนในพื้นที่ ได้หันมาสนใจอาชีพการทํานามากขึ้น ปัญหานาร้างลดน้อยลง และยังคงอนุรักษ์พันธุ์ข้าวในพื้นที่ให้อยู่คู่ตําบลต่อไป อีกทั้ง ยังเกิดการบูรณาการกิจกรรมที่ประชาชนให้ความร่วมมือ เมื่อหน่วยงานราชการในพื้นที่เข้ามามีส่วนร่วมในการส่งเสริมและแก้ไขปัญหาคุณภาพชีวิต#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
21/2/2023
ภาคใต้
ยะลา
สทท.ยะลา
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230221122940065
null
ที่ปรึกษา รมต.เกษตรและสหกรณ์ Kick off โรงเรียนสีเขียว และวิทยาลัยสีเขียว เพิ่มศักยภาพทางการเกษตร พัฒนาเกษตรกรรมอย่างยั่งยืนในโรงเรียน ลดปัญหาฝุ่น PM 2.5
ที่ปรึกษา รมต.เกษตรและสหกรณ์ Kick off โรงเรียนสีเขียว และวิทยาลัยสีเขียว เพิ่มศักยภาพทางการเกษตร พัฒนาเกษตรกรรมอย่างยั่งยืนในโรงเรียน ลดปัญหาฝุ่น PM 2.5 วันนี้ (21 ก.พ.66) ณ ห้องประชุมภูมิมินทร์ อาคารศรีทิพยปัญญา วิทยาลัยสารพัดช่างเพชรบุรี นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธาน Kick off โครงการโรงเรียนสีเขียวและวิทยาลัยสีเขียว ร่วมด้วย นางสาวศิริวรรณ เครือเล็ก เกษตรและสหกรณ์จังหวัดเพชรบุรี หน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และสถานศึกษา ร่วมกิจกรรม นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ให้ความสําคัญกับการทําการเกษตรอย่างยั่งยืน เพื่อเพิ่มศักยภาพทางการเกษตร การพัฒนาเกษตรกรรมอย่างยั่งยืนในโรงเรียน เป็นต้นแบบในการทําเกษตรกรรมยั่งยืนตามแนวเศรษฐกิจพอเพียง เป็นแหล่งผลิตอาหารปลอดภัย เพิ่มพื้นที่สีเขียว สอดคล้องกับ BCG โมเดล ประกอบด้วย 3 เศรษฐกิจหลัก คือ เศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน และเศรษฐกิจสีเขียว โครงการโรงเรียนสีเขียวและวิทยาลัยสีเขียว เป็นโครงการในรูปแบบการพัฒนาที่ยั่งยืนมิติใหม่ของเพชรบุรีโมเดล โดยชุมชนเพื่อชุมชน ลดปัญหาฝุ่น PM 2.5 ทําให้มีคุณภาพอากาศที่ดี เป็นต้นแบบลดค่าใช้จ่าย ทั้งนี้ มีสถานศึกษาเข้าร่วมโครงการ ประกอบด้วย วิทยาลัยอาชีวศึกษาเพชรบุรี วิทยาลัยการอาชีพบ้านลาด วิทยาลัยสารพัดช่างเพชรบุรี โรงเรียนดอนยางวิทยา และโรงเรียนอรุณประดิษฐเพชรบุรี เพื่อปลูกฝังให้นักเรียน นักศึกษา มีความตระหนักในการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม สร้างพื้นที่สีเขียว ลดก๊าชเรือนกระจก และลดภาวะโลกร้อน ประหยัดพลังงาน มีการจัดการของเสียโดยนํามาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดสวท.เพชรบุรี/21 ก.พ.66#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
21/2/2023
ภาคตะวันตก
เพชรบุรี
สวท.เพชรบุรี
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230221132006085
null
ปศุสัตว์จันทบุรี สนธิกำลังด่านกักกันสัตว์ เข้มงวดตรวจการเคลื่อนย้ายผ่านชายแดน ป้องกันขบวนการขนเนื้อเถื่อน
(21 ก.พ.66) เวลา 11.00 น. น.สพ.ชาติชาย ยิ้มเครือ ปศุสัตว์จังหวัดจันทบุรี สนธิกําลังกับนายสมหวัง ทองมั่นคง หัวหน้าด่านกักกันสัตว์จันทบุรี ทหาร ศุลกากร และเจ้าหน้าที่ในสังกัด ลงพื้นที่ ด่านผ่านแดนถาวรบ้านแหลม ต.เทพนิมิต อ.โป่งน้ําร้อน ตรวจสอบการเคลื่อนย้ายเนื้อสัตว์ที่นําเข้า-ออก ชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งจะมีการเคลื่อนย้ายสัตว์ปีก ได้แก่ ไก่พื้นเมือง ลูกไก่เนื้อ จากฟาร์มเลี้ยงสัตว์ในจังหวัดทางภาคตะวันออก ได้แก่ ชลบุรี ฉะเชิงเทรา นครนายก เข้าไปส่งในเขตประเทศกัมพูชา รวมทั้งเนื้อไก่สดแช่แข็ง ไข่ไก่ และอาหารสําเร็จรูปสําหรับสุกร เพื่อป้องกันลักลอบเคลื่อนย้ายเนื้อสัตว์ข้ามแดน ที่ไม่ผ่านการตรวจโรค อาจมีเชื้อโรคปนเปื้อนโดยเฉพาะโรคไข้หวัดนก และโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกร ที่หากมีการระบาดในพื้นที่จะส่งผลเสียหายต่อเกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์และอุตสาหกรรมที่ต่อเนื่องกับการผลิต มูลค่านับแสนล้านบาท เจ้าหน้าที่ได้พ่นน้ํายาฆ่าเชื้อโรคยานพาหนะทุกคันที่ผ่านเข้า-ออกด่านผ่านแดน และให้คําแนะนําแก่ผู้ขอเคลื่อนย้ายให้ปฏิบัติให้ถูกต้องตาม พ.ร.บ. โรคระบาดสัตว์ พ.ศ.2558 โดยต้องแสดงผลการตรวจโรคไข้หวัดนก และโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกรจากห้องปฏิบัติการ เนื้อสัตว์ต้องมาจากโรงฆ่าสัตว์ที่ได้รับอนุญาตตามกฎหมาย มีใบอนุญาตเคลื่อนย้ายจากเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์ต้นทางอย่างถูกต้อง ต้องล้างทําความสะอาด ฆ่าเชื้อโรควัสดุ อุปกรณ์ และภาชนะบรรจุเนื้อสัตว์ ก่อนนํากลับเข้ามาในประเทศ เพื่อป้องกันเชื้อโรค จึงขอแจ้งเตือนผู้ลักลอบเคลื่อนย้ายสัตว์หรือเนื้อสัตว์โดยไม่ได้รับอนุญาตจะมีความผิดตาม พ.ร.บ.โรคระบาดสัตว์ พ.ศ.2558 กําหนดโทษจําคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจําทั้งปรับ รวมทั้งจะยึดทําลายเนื้อสัตว์ทั้งหมด#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
21/2/2023
ภาคตะวันออก
จันทบุรี
สวท.จันทบุรี
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230221133934101
null
ขนส่งจังหวัดร้อยเอ็ด คุมเข้ม ตรวจวัดควันดำรถยนต์ส่วนราชการ รถขนส่งโดยสาร และรถยนต์ส่วนตัว เพื่อลดและแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5
วันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2566 นางวรุณยุพา วิเศษสรรค์ ขนส่งจังหวัดมหาสารคาม รักษาราชการแทน ขนส่งจังหวัดร้อยเอ็ด เปิดเผยว่า สํานักงานขนส่งจังหวัดร้อยเอ็ดได้กําหนดแผนเชิงรุกออกตรวจวัดค่าควันดํา เพื่อยกระดับความเข้มข้นในการปฏิบัติตามมาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ประจําปีงบประมาณ 2566 เพื่อให้เป็นไปตามที่กระทรวงคมนาคมกําหนด ในการป้องกันและแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 อย่างเข้มข้นและต่อเนื่อง เป็นการยกระดับความเข้มข้นในด้านการปฏิบัติ โดยเพิ่มความถี่ในการออกตรวจวัดค่าควันดํา เป็นการลดการสะสมของฝุ่นควันที่สะสมบนชั้นบรรยากาศ โดยแนวทางการปฏิบัติหากตรวจพบรถที่มีควันดําเกินค่ามาตรฐานตามที่กฎหมายกําหนด (ค่าควันดําเกิน 45%) เจ้าหน้าที่จะทําการแจ้งผู้ขับขี่หรือผู้ครอบครองให้งดใช้รถคันนั้นๆ จนกว่าจะดําเนินการปรับปรุง และผ่านการตรวจสอบสภาพให้ใช้รถได้ สําหรับฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ในจังหวัดร้อยเอ็ด ปัจจุบันยังอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานที่กําหนด ประชาชนในพื้นที่ยังไม่ได้รับผลกระทบ อย่างไรก็ตาม สํานักงานขนส่งจังหวัดร้อยเอ็ด สาขาโพนทอง, และสาขาสุวรรณภูมิ ได้ทําการตรวจวัดค่าควันดํากับรถยนต์ส่วนราชการ และสถานตรวจสภาพรถของเอกชน ยอดสะสมประจําปี 2566 มีจํานวน 36,666 คัน พบควันดํา 892 คัน และได้แจ้งให้ผู้ครอบครองได้ทําการปรับปรุงสภาพรถให้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐานที่กําหนดต่อไป#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILANDทีมข่าว สวท.รอ./รายงาน
21/2/2023
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ร้อยเอ็ด
สวท.ร้อยเอ็ด
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230221134151102
null
ครม. อนุมัติงบเยียวยาซื้อเรือประมงปัตตานี 96 ลำ วงเงิน 163 ล้านบาท ตามโครงการนำเรือประมงออกนอกระบบ
นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจําสํานักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (21 ก.พ.66) พิจารณาอนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจําปี พ.ศ. 2566 งบกลาง ในรายการเงินสํารองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉิน หรือจําเป็น สําหรับเป็นค่าใช้จ่ายช่วยเหลือเยียวยาซื้อเรือประมงในพื้นที่จังหวัดปัตตานี ในโครงการนําเรือประมงออกนอกระบบเพื่อการจัดการทรัพยากรประมงทะเลที่ยั่งยืน พื้นที่จังหวัดชายแดนใต้เป็นกรณีเร่งด่วน ตามการเสนอของคณะกรรมการยุทธศาสตร์ด้านการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (กพต.) โดยอนุมัตินําเรือประมงออกนอกระบบชุดแรก จํานวน 96 ลํา งบประมาณ 163.36 ล้านบาท เพื่อสนับสนุนมาตรการลดจํานวนเรือประมงของรัฐบาล และให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการกิจการประมง และธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับการประมงในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งผ่านการตรวจสอบประวัติ เกี่ยวกับการใช้แรงงานเด็ก คุณสมบัติเรือประมง และเจ้าของเรือพื้นที่จังหวัดปัตตานี จากคณะทํางานด้านการตรวจสอบประวัติความถูกต้องและคุณสมบัติเรือประมง โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี เป็นประธานคณะทํางานสําหรับโครงการนําเรือประมงออกนอกระบบ เพื่อการจัดการทรัพยากรประมงทะเลที่ยั่งยืนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ จะทําให้ประเทศไทยสามารถบริหารจัดการกองเรือให้มีความเหมาะสมกับปริมาณสัตว์น้ํา เพื่อการใช้ประโยชน์อย่างยั่งยืน การจัดสรรปริมาณสัตว์น้ําให้กับเรือประมงที่อยู่ในระบบเหมาะสมกับปริมาณสัตว์น้ําทั้งหมดที่อนุญาตให้ทําการประมง ลดความเสี่ยงที่จะเกิดการทําประมงผิดกฎหมายจากการใช้เรือประมงที่ไม่มีใบอนุญาตทําการประมง ชาวประมงที่ไม่ประสงค์จะประกอบอาชีพประมงสามารถนําเงินที่ได้รับไปเป็นทุนประกอบอาชีพอื่นๆ ได้ตามที่ต้องการ
21/2/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
Radio-สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230221151519158
null
รองผู้ว่าฯ เชียงใหม่ ย้ำมาตรการ “ห้ามเผาเด็ดขาด” ในช่วงนี้
รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เน้นย้ํามาตรการห้ามเผาเด็ดขาด ในช่วงนี้ 15 กุมภาพันธ์ - 30 เมษายน 2566 พร้อมเชิญชวนประชาชนร่วม ชม ชิม ช้อป ในงานของดีแต่ละอําเภอ เพื่อร่วมกันกระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่ วันนี้ (21 ก.พ.66) นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ มอบหมายให้ นายวรวิทย์ ชัยสวัสดิ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานการแถลงข่าวสื่อมวลชนประจําสัปดาห์จังหวัดเชียงใหม่ ณ ห้องประชุม 4 ชั้น 4 อาคารอํานวยการ ศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ได้เน้นย้ําถึงมาตรการ “ห้ามเผาเด็ดขาด” ในห้วงวันที่ 15 กุมภาพันธ์-30 เมษายน 2566 จึงขอให้ประชาชนปฏิบัติตามมาตรการอย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ป่า และประกอบอาชีพทางการเกษตร ซึ่งหากมีผู้ใดฝ่าฝืนทําการเผาในห้วงเวลาดังกล่าวจะถูกดําเนินคดีตามกฎหมาย นอกจากนี้การเผายังเป็นการสร้างมลพิษทางอากาศที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนในพื้นที่ ซึ่งจะกระทบต่อไปยังการท่องเที่ยว เศรษฐกิจ และการสร้างงาน สร้างรายได้ของประชาชนรองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวอีกว่า ในช่วงนี้จังหวัดเชียงใหม่มีการจัดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวตามสถานที่ท่องเที่ยวและอําเภอต่างๆ โดยเฉพาะอําเภอที่มีการจัดงาน OTOP และงานของดีประจําอําเภอ เพื่อประชาสัมพันธ์ผลิตภัณฑ์ วิถีชีวิต และวัฒนธรรมของอําเภอนั้นๆ ให้เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลาย จึงขอเชิญชวนประชาชนและนักท่องเที่ยว ร่วมชม ชิม ช้อป ในงานของดีแต่ละอําเภอ เพื่อร่วมกันกระตุ้นเศรษฐกิจ และเกิดเงินหมุนเวียนในพื้นที่#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
21/2/2023
ภาคเหนือ
เชียงใหม่
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงใหม่
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230221142111114
null
สสจ.เชียงใหม่ เผยผู้ป่วยจาก PM2.5 เพิ่มขึ้นเล็กน้อยในกลุ่มโรคตาอักเสบ และผิวหนังอักเสบ
สํานักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ เผยสถานการณ์ผู้ป่วยจาก PM2.5 เพิ่มขึ้นเล็กน้อยในกลุ่มผู้ป่วยโรคตาอักเสบ และโรคผิวหนังอักเสบ ขณะที่ห้องปลอดฝุ่นมีแล้วเกือบ 200 ห้อง พร้อมเพิ่มให้ครอบคลุมทั้ง 25 อําเภอตามนโยบายผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่วันนี้ (21 ก.พ.66) นายธนิสร ธิติปภาดา หัวหน้ากลุ่มงานอนามัยสิ่งแวดล้อมและอาชีวอนามัย สํานักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยในการแถลงข่าวสื่อมวลชนประจําสัปดาห์จังหวัดเชียงใหม่ ถึงสถานการณ์ผู้ป่วยจากฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งประกอบด้วย 4 กลุ่มโรค ได้แก่ กลุ่มโรคระบบทางเดินหายใจ, กลุ่มโรคหัวใจและหลอดเลือดสมอง, กลุ่มโรคผิวหนังอักเสบ และกลุ่มโรคตาอักเสบโดยข้อมูลจากระบบการเฝ้าระวังผลกระทบต่อสุขภาพจากปัญหาหมอกควัน (SMOG-Epinorth) สํานักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 1 เชียงใหม่ สัปดาห์ที่ 1-7 เริ่มจากเดือน มกราคม 2566 พบว่า มีเพียงผู้ป่วยกลุ่มโรคตาอักเสบ และผิวหนังอักเสบ ที่มีจํานวนเพิ่มขึ้นเล็กน้อย ซึ่งแนวทางการดําเนินการดูแลกลุ่มเปราะบางและกลุ่มผู้ป่วยดังกล่าวในช่วงสถานการณ์ช่วงวิกฤต สํานักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ได้ดําเนินการให้หน่วยบริการสุขภาพทุกแห่งออกติดตามเยี่ยมบ้านและให้คําแนะนําในการปฏิบัติตัวผ่านกลไกทีม 3 หมอ ซึ่งมีครอบคลุมอยู่ในทุกพื้นที่สําหรับข้อมูลการดําเนินการ “ห้องปลอดฝุ่น” ขณะนี้จังหวัดเชียงใหม่มีสมาชิกเข้าร่วมโครงการห้องปลอดฝุ่น จํานวน 232 หน่วยงาน มีห้องปลอดฝุ่นทั้งหมด 199 ห้อง อยู่ในโรงพยาบาล สถานบริการสาธารณสุข 153 ห้อง ในอาคารสํานักงาน สถานที่ราชการ 43 ห้อง ในสถานศึกษา มหาวิทยาลัย 2 ห้อง และในร้านอาหารเครื่องดื่ม 1 ห้อง ด้าน นายวรวิทย์ ชัยสวัสดิ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า จํานวนห้องปลอดฝุ่นที่มีอยู่ในขณะนี้เป็นจํานวนที่เพียงพอต่อความต้องการของประชาชน และจากสถานการณ์ค่าฝุ่นที่มักจะสูงขึ้นในช่วงเวลาเย็น จังหวัดเชียงใหม่จึงจะได้มีการขับเคลื่อนห้องปลอดฝุ่นลงสู่ครัวเรือน ชุมชน และโรงเรียน เพื่อสร้างความปลอดภัยให้กับประชาชน ควบคู่ไปกับการเพิ่มห้องปลอดฝุ่นให้มีความครอบคลุมทั้ง 25 อําเภอ ตามนโยบายของนายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ที่มุ่งหวังให้ประชาชนเข้าถึงห้องปลอดฝุ่นได้ง่ายและสามารถป้องกันตนเองจาก PM2.5 #สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
21/2/2023
ภาคเหนือ
เชียงใหม่
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงใหม่
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230221142551118
null
กรมชลประทาน เดินหน้าโครงการมุ่งเป้าสู่การชลประทานอัจฉริยะมุ่งบริหารจัดการน้ำให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด
นายทวีศักดิ์ ธนเดโชพล รองอธิบดีกรมชลประทาน ลงพื้นที่ติดตามการบริหารจัดการน้ําและการดําเนินงานระบบติดตามสถานการณ์น้ํา โครงการมุ่งเป้าสู่การชลประทานอัจฉริยะ และโครงการส่งน้ําและบํารุงรักษาประแสร์ จ.ระยอง โดยรองอธิบดีกรมชลประทาน กล่าวว่า ปัจจุบันอ่างเก็บน้ําประแสร์ มีปริมาณน้ําเก็บกักรวมประมาณ 243 ล้าน ลบ.ม. หรือคิดเป็นร้อยละ 98 ของความจุฯ เป็นน้ําใช้การได้ 223 หรือคิดเป็นร้อยละ 98 ของปริมาณน้ําใช้การได้ทั้งหมด จนถึงขณะนี้มีการจัดสรรน้ําช่วงฤดูแล้งไปแล้ว 53.31 ล้าน ลบ.ม. หรือคิดเป็นร้อยละ 40 ของแผน ภาพรวมสถานการณ์น้ําอยู่ในเกณฑ์ดีและเป็นไปตามแผนที่วางไว้เพื่อให้การบริหารจัดการน้ํามีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น กรมชลประทาน จึงได้วางแผนดําเนินโครงการมุ่งเป้าสู่การชลประทานอัจฉริยะ โดยติดตั้งระบบโทรมาตร เพื่อติดตามสถานการณ์น้ําฝน น้ําท่า และพัฒนาระบบคาดการณ์พยากรณ์ สําหรับสนับสนุนการตัดสินใจในการบริหารจัดการน้ํา พร้อมทั้งติดตั้งระบบ ที่สามารถควบคุมการทํางานของอาคารชลประทานจากระยะไกล เพื่อให้การบริหารจัดการน้ําสอดคล้องกับสถานการณ์ได้อย่างทันท่วงที โดยได้กําหนดพื้นที่เป้าหมายในเขตพื้นที่อ่างเก็บน้ําประแสร์เป็นที่แรก เพื่อเป็นโครงการนําร่องในการพัฒนาระบบการบริหารจัดการน้ําให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดไปยังพื้นที่อื่นๆ ต่อไป
21/2/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
Radio-สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230221145123132
null
กรมชลประทาน สานต่อความร่วมมือไทย-ญี่ปุ่น ประชุมการแลกเปลี่ยนเทคโนโลยีด้านการชลประทานและการระบายน้ำ ครั้งที่ 5
นายประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทาน ร่วมประชุมการแลกเปลี่ยนเทคโนโลยีด้านการชลประทานและการระบายน้ํา ญี่ปุ่น-ไทย ครั้งที่ 5 โดยมี นายชินจิ อาเบะ (Mr.Shinji ABE) รองอธิบดีกรมพัฒนาชนบท กระทรวงเกษตร ป่าไม้ และประมงญี่ปุ่น และนายฮิโรมิจิ คิตาดะ (Mr.Hiromichi KITADA) ผู้อํานวยการสํานักงานความร่วมมือต่างประเทศเพื่อการปรับปรุงที่ดิน ร่วมให้การต้อนรับ พร้อมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ในประเด็นความพยายามลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเพื่อตอบสนองต่อสภาวะการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ความปลอดภัยของเขื่อน และอ่างเก็บน้ําใต้ดิน (Underground reservoir) ที่กรมพัฒนาชนบท กระทรวงเกษตร ป่าไม้ และประมงญี่ปุ่น กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น โดยที่ผ่านมา กรมชลประทาน และกรมพัฒนาชนบท ประเทศญี่ปุ่น ได้ลงนามร่วมกันในบันทึกการหารือว่าด้วยการแลกเปลี่ยนเทคโนโลยีด้านการชลประทานและการระบายน้ําเมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน 2559 และตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ทั้งสองฝ่ายได้จัดการประชุมการแลกเปลี่ยนเทคโนโลยีด้านการชลประทานและการระบายน้ําอย่างต่อเนื่องทุกปี เพื่อผลักดันและขับเคลื่อนการดําเนินงานความร่วมมือระหว่างกัน
21/2/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
Radio-สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230221160408193
null
เกาะจันทร์ จัดกิจกรรมจิตอาสาพัฒนาเมืองสะอาด
นายธวัชชัย ศรีทอง ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี เป็นประธานพิธีเปิดกิจกรรมจิตอาสาพัฒนาเมืองสะอาด จังหวัดชลบุรี ณ บริเวณถนนเกาะโพธิ์ - สามแยก เทศบาลตําบลท่าบุญมี อําเภอเกาะจันทร์ จังหวัดชลบุรี โดยมี นางสาวฐิติลักษณ์ คําพา รองผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี นางสาวสุดินา แก้วดี ท้องถิ่นจังหวัดชลบุรี นายศรายุทธ ไชยกอง นายอําเภอเกาะจันทร์ นายศรีรัฐ ศรีจันทร์ฉาย นายกเทศมนตรีตําบลท่าบุญมี นายสมยศ พนัสอนุสรณ์ นายกองค์การบริหารส่วนตําบลท่าบุญมี กํานัน ผู้ใหญ่บ้าน เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องและประชาชนจิตอาสา ร่วมกิจกรรมเป็นจํานวนมากตามที่ จังหวัดชลบุรี มีนโยบายเร่งด่วนในการขับเคลื่อนเมืองสะอาด เริ่มต้นนําร่องในพื้นที่เส้นทางสายหลักของจังหวัดชลบุรีให้มีความเป็นระเบียบเรียบร้อย เน้นการจัดระเบียบสายไฟฟ้าและสายสื่อสาร การจัดเก็บขยะและป้ายโฆษณาและป้ายประชาสัมพันธ์ที่กีดขวางการจราจร การขุดลอกคูคลองที่ไหลผ่านถนนสุขุมวิท การเก็บผักตบชวาและสิ่งปฏิกูลที่กิดขวางทางน้ํา การขุดลอกท่อระบายน้ํา เพื่อให้มีความเป็นระเบียบเรียบร้อย สะอาด และปลอดภัย ในบริเวณถนนเส้นหลักทําให้เกิดความเป็นระเบียบเรียบร้อย สร้างความประทับใจและปลอดภัยในการขับขี่สัญจรของผู้ใช้รถใช้ถนน ประชาชนและนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาในพื้นที่จังหวัดชลบุรีทั้งนี้ ได้ตรวจเยี่ยมครัวเรือนในพื้นที่เทศบาลตําบลท่าบุญมี ที่จัดทํา “ถังขยะเปียก ลดโลกร้อน” เพื่อเป็นการคัดแยกขยะ และการกําจัดขยะมูลฝอยตั้งแต่ต้นทาง ทําให้สามารถลดขยะ ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซต์ ลดการเกิดภาวะโลกร้อน สร้างสิ่งแวดล้อมที่ดีเพื่อโลกของเรา ไปสู่เป้าหมายพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs)ปริญญา/ข่าว/ภาพ#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
21/2/2023
ภาคตะวันออก
ชลบุรี
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดชลบุรี
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230221152146167
null
สำนักงานปศุสัตว์จังหวัดแพร่มอบกระบือ ตามโครงการธนาคารโค-กระบือเพื่อเกษตรกร ตามพระราชดำริ
วันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2566 เวลา 09.00 น. ที่บ้านผาสุก ตําบลเวียงทอง อําเภอสูงเม่น จังหวัดแพร่ นายสมพร พรวิเศษศิริกุล ปศุสัตว์จังหวัดแพร่ พร้อมด้วยนางสาวอาทิยา แปลงใจ หัวหน้ากลุ่มส่งเสริมและพัฒนาการปศุสัตว์ นายประเสริฐ ลี้ประเสริฐ ปศุสัตว์อําเภอสูงเม่น และนายเฉลิมพิพัทธ์ ศรีโพลา ปศุสัตว์อําเภอเด่นชัย ดําเนินการส่งมอบกระบือเพศเมีย ให้แก่เกษตรกรในพื้นที่จังหวัดแพร่ ยืมเลี้ยงเพื่อการผลิต จํานวน 30 ตัว โดยส่งมอบแม่กระบือ ให้แก่สมาชิกกลุ่มผู้เลี้ยงกระบือ ตําบลเวียงทอง อําเภอสูงเม่น จังหวัดแพร่ จํานวน 12 ราย กระบือ 21 ตัว ตามโครงการประชารัฐพัฒนาอาชีพการเลี้ยงกระบือ ภายใต้โครงการ ธคก., ส่งมอบแม่กระบือให้แก่สมาชิกกลุ่มพัฒนากระบือเด่นชัย จังหวัดแพร่ จํานวน 4 ราย กระบือ 4 ตัว ตามโครงการประชารัฐพัฒนาอาชีพการเลี้ยงกระบือ ภายใต้โครงการ ธคก. และส่งมอบแม่กระบือ ให้แก่เกษตรกรดีเด่น ประจําปี 2565 แก่ จ.ส.อ.ประชัน ไหวคิด จํานวน 5 ตัว ตามโครงการคัดเลือกเกษตรกร สถาบันเกษตรกรและสหกรณ์ดีเด่นแห่งชาติ ภายใต้โครงการ ธคก.พร้อมทั้งดําเนินการชี้แจงหลักเกณฑ์โครงการธนาคารโค-กระบือเพื่อเกษตรกร ตามพระราชดําริ สร้างความเข้าใจให้แก่เกษตรกรผู้ยืมสัตว์ของโครงการฯ และให้คําแนะนําในการจัดการ การเลี้ยงดูกระบือที่ได้รับ #สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
21/2/2023
ภาคเหนือ
แพร่
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดแพร่
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230221161138197
null
กรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม รณรงค์สร้างการรับรู้และประชาสัมพันธ์เครือข่ายผู้ประกอบการร้านกาแฟที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม 5 แห่ง ในพื้นที่ 3 จังหวัด พร้อมตั้งเป้าดึงผู้ประกอบการร้านกาแฟแบรนด์ท้องถิ่นเข้าร่วมอีก 20 แห่ง
กรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม (สส.) รณรงค์สร้างการรับรู้และประชาสัมพันธ์เครือข่ายผู้ประกอบการร้านกาแฟที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม (Green Coffee Shop) 5 แห่ง ในพื้นที่ 3 จังหวัด พร้อมตั้งเป้าดึงผู้ประกอบการร้านกาแฟแบรนด์ท้องถิ่นตามแหล่งท่องเที่ยวและชุมชนเข้าร่วมอีก 20 แห่ง นายสมศักดิ์ สรรพโกศลกุล อธิบดีกรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม (สส.) กล่าวว่า กรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม (สส.) ร่วมกับภาคีเครือข่ายสมาคมกาแฟไทยและผู้ประกอบการร้านกาแฟ 30 บริษัท รวม 9,580 สาขาทั่วประเทศ หลังได้ร่วมประกาศเจตนารมณ์ความร่วมมือ ร้านกาแฟที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม (Green Coffee Shop) เมื่อวันที่ 22 เมษายน 2565 ในการปรับเปลี่ยนรูปแบบการผลิต การบริการ และการบริโภคที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมที่คํานึงถึงการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรอย่างคุ้มค่า เกิดประโยชน์สูงสุด ลดปริมาณขยะและผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมให้น้อยที่สุด โดยปีนี้เน้นจัดกิจกรรมรณรงค์สร้างการรับรู้และประชาสัมพันธ์เครือข่ายผู้ประกอบการร้านกาแฟที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม (Green Coffee Shop) 5 แห่ง ในพื้นที่ 3 จังหวัด คือ เชียงใหม่ , ขอนแก่น และกาญจนบุรี เพื่อรณรงค์และขยายผลการขับเคลื่อนร้านกาแฟที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม สร้างสังคมแห่งการผลิต การบริการ และการบริโภคที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี (พ.ศ. 2561 - 2580) , ยุทธศาสตร์ด้านการสร้างการเติบโตบนคุณภาพชีวิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และ Roadmap การจัดการขยะพลาสติก พ.ศ. 2561 – 2573 ซึ่งจะช่วยกระตุ้นจิตสํานึกอย่างมีส่วนร่วมให้กับประชาชน เกิดการคัดแยกบรรจุภัณฑ์หรือวัสดุใช้แล้วหลังจากบริโภค หรือนํากลับเข้าสู่กระบวนการรีไซเคิลหรือการหมุนเวียนกลับมาใช้ประโยชน์ใหม่ ตามหลักการเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) ทั้งนี้ ตั้งเป้าจะขับเคลื่อนร้านกาแฟที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม (Green Coffee Shop) จาก 30 แบรนด์ชั้นนําไปสู่ร้านกาแฟแบรนด์ท้องถิ่นตามแหล่งท่องเที่ยวและชุมชนให้เข้าร่วมโครงการนี้เพิ่มอีก 20 แห่ง อธิบดีกรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม (สส.) กล่าวย้ําว่า ช่วง 10 ปีที่ผ่านมาประเทศไทยมีขยะพลาสติกเกิดขึ้นประมาณร้อยละ 12 ของปริมาณขยะที่เกิดขึ้นทั้งหมด หรือประมาณปีละ 2 ล้านตัน พบนําขยะพลาสติกกลับไปใช้ประโยชน์เฉลี่ยเพียงประมาณปีละ 500,000 ตัน แล้วที่เหลือ 1.5 ล้านตันส่วนใหญ่เป็นพลาสติกแบบใช้ครั้งเดียว (Single-Use Plastics) เช่น ถุงร้อน ถุงเย็น ถุงหูหิ้ว แก้วพลาสติก หลอดพลาสติก กล่องพลาสติก โดยไม่นํากลับไปใช้ประโยชน์หรือเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจหมุนเวียน ถือเป็นการเสียโอกาสการใช้ทรัพยากรให้คุ้มค่า ซึ่งข้อมูลจากกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) ระบุว่าประเทศไทยมีปริมาณขยะมูลฝอยประเภทแก้วพลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวเกิดขึ้น 9,750 ล้านใบต่อปี และหลอดพลาสติกเกิดขึ้น 5,000 ล้านหลอดต่อปี โดยมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นจากพฤติกรรมการบริโภคและการเติบโตทางเศรษฐกิจในกลุ่มธุรกิจร้านกาแฟและตลาดกาแฟในไทยด้วย
21/2/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230221160617194
null
สมาคมสหพันธ์ชาวสวนยางฯ พร้อมเครือข่ายรัฐ-เอกชน และสถาบันการศึกษา รวมพลังจัดงาน “มหกรรมยางพาราและพืชเศรษฐกิจ EEC 2023”
สมาคมสหพันธ์ชาวสวนยางฯ พร้อมเครือข่ายรัฐ-เอกชน และสถาบันการศึกษา รวมพลังจัดงาน “มหกรรมยางพาราและพืชเศรษฐกิจ EEC 2023” เพื่อผลักดันพืชยางพาราให้เป็นเป้าหมายคลัสเตอร์ที่ 6 ในแผนฯ EEC พร้อมชูให้ยางพาราเป็นพืชวาระแห่งชาติของประเทศไทยพร้อมก้าวเข้าสู่การเป็นศูนย์กลางยางพารา ( Hub) ในเวทีการค้าโลก ดร. อุทัย สอนหลักทรัพย์ นายกสมาคมสมาพันธ์ชาวสวนยาง เปิดเผยว่า ประเทศไทยมีศักยภาพทางด้านการเกษตร โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านยางพาราที่มีผลผลิตยางพารามากเป็นอันดับหนึ่งของโลก ซึ่งเป็นจุดได้เปรียบด้านวัตถุดิบที่จะป้อนโรงงานอุตสาหกรรมยางพารา จากข้อมูลของกองการยาง กรมวิชาการเกษตร ระบุว่า ไทยส่งออกยางพาราเป็นอันดับหนึ่งของโลกมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2534 และยางพาราเป็นพืชเศรษฐกิจที่ทํารายได้เข้าประเทศ เป็นอันดับหนึ่งในทุกๆ ปี โดยในปี พ.ศ.2564 มีข้อมูลระบุว่า ประเทศไทยมีปริมาณการผลิตยางพารา 5,168,837 ตัน ส่งออกในรูปยางดิบ 4,176,529 ตัน คิดเป็นร้อยละ 80.80 ของผลผลิตยางพารา ใช้ในประเทศเพื่อแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ 925,808 ตัน คิดเป็นร้อยละ 17.91 ของผลผลิตยางพารา มีมูลค่าการส่งออกเป็นยางพาราดิบ 175,977 ล้านบาท และมูลค่าส่งออกในรูปผลิตภัณฑ์ยางพารา 379,424 ล้านบาท จากข้อมูลดังกล่าวนี้ จึงจําเป็นต้องสร้างกลยุทธ์เพื่อกระตุ้นให้นักลงทุนจากทั่วโลกมาลงทุนในประเทศไทย และเร่งรัดให้มีการใช้ยางพาราในประเทศเพิ่มมากขึ้น สมาคมสหพันธ์ชาวสวนยางแห่งประเทศไทย, สมาคมนักวิชาการยางและถุงมือยาง และมหาวิทยาลัยแม่โจ้ พร้อมเครือข่ายภาครัฐ-เอกชน ร่วมจัดงาน “มหกรรมยางพาราและพืชเศรษฐกิจ EEC 2023” เพื่อผลักดันพืชยางพาราให้เป็นเป้าหมายคลัสเตอร์ที่ 6 ตามในแผนปฏิบัติการพัฒนาการเกษตรในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) พ.ศ. 2566 – 2570 ปี 2566 รวมทั้งเพื่อเป็นการกระตุ้นให้ผู้เกี่ยวข้อง มีความกระตือรือร้นด้านการสร้างความร่วมมือกันของประเทศผู้ผลิตยางพารา ทั้งเกษตรกรสวนยางพาราอุตสาหกรรมแปรรูปยางพารา และอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์ โดยเน้นความต้องการของผู้บริโภค การประยุกต์ และการพัฒนาเทคโนโลยีทางการเกษตรที่ตอบสนองต่อความต้องการของตลาดสินค้าเกษตร และเกิดการกระจายรายได้ไปสู่เกษตรกร ภายใต้การขับเคลื่อน “โครงการเกษตรปลอดภัยครัวไทยสู่ครัวโลก” และ “ระบบเกษตรสุขภาพรักษ์สิ่งแวดล้อม” เพื่อแก้ปัญหาภาพรวมเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมของประเทศไทย โดยงานครั้งนี้จัดขึ้นระหว่างวันที่ 22-26 กุมภาพันธ์ 2566 ณ ตลาดกลางยางพาราภาคตะวันออก ตําบลชุมแสง อําเภอวังจันทร์ จังหวัดระยอง โดยมี พลเอประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มาเป็นประธานเปิดงานในวันพรุ่งนี้#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
21/2/2023
ภาคตะวันออก
ระยอง
สวท.ระยอง
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230221195254271
null
ผู้ว่าฯ ปราจีนบุรี พร้อมการจัดการสิ่งปฏิกูลและมูลฝอย เพื่อขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาขยะมูลฝอยในพื้นที่ โดยการจัดทำถังขยะเปียกลดโลกร้อน การจัดการขยะมูลฝอยชุมชน
วันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2566 เวลา 09.30 น. นายรณรงค์ นครจินดา ผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี เป็นประธานประชุมคณะกรรมการจัดการสิ่งปฏิกูลและมูลฝอยจังหวัดปราจีนบุรี เพื่อขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาขยะมูลฝอยในพื้นที่ เช่น การจัดทําถังขยะเปียกลดโลกร้อน การจัดการขยะมูลฝอยชุมชน การคัดแยกขยะในครัวเรือน ณ ห้องประชุมสํานักงานส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นจังหวัดปราจีนบุรี ชั้น 3 ศาลากลางจังหวัดปราจีนบุรี #สนง.ท้องถิ่นจังหวัดปราจีนบุรี #จังหวัดปราจีนบุรี#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
21/2/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดปราจีนบุรี
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230221194314267
null
ชาวรามัน ที่บาโงย ลงแขกเกี่ยวข้าว แข่งขันนวดข้าวสร้างความสนุกสนาน อนุรักษ์วิถีชีวิตและภูมิปัญญาท้องถิ่น เพื่อพัฒนาการเกษตรอย่างยั่งยืน
วันนี้ 21 ก.พ.66 ที่หมู่ 1 บ้านลูโบ๊ะลาบี ต.บาโงย อ.รามัน จ.ยะลา องค์การบริหารส่วนตําบลบาโงย อําเภอรามัน ร่วมกับสํานักงานเกษตรจังหวัดยะลา หน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรเเละสหกรณ์ กลุ่มเกษตรกร กลุ่มเเม่บ้าน ได้จัดกิจกรรมลงแขกเกี่ยวข้าว อนุรักษ์วิถีชีวิตและภูมิปัญญาท้องถิ่น เพื่อพัฒนาการเกษตรอย่างยั่งยืน เสริมสร้างความสามัคคีและสมานฉันท์ในชุมชน ภายใต้โครงการโรงเรียนชาวนา ฟื้นฟูนาร้างด้วยเกษตรอินทรีย์แบบยั่งยืน โดยมี นายสุพจน์ รองเรือง ณ หนองคาย ได้ประธานในพิธีเปิด พร้อมด้วย นายจรูญศักดิ์ หมาดเท่ง นายอําเภอรามัน หัวหน้าส่วนราชการ ผู้นําชุมชน ผู้นําท้องถิ่น และประชาชนในพื้นที่ เข้าร่วม มีการมอบปัจจัยการผลิต และร่วมลงแขกเกี่ยวข้าว สร้างความสนุกสนานแสดงให้เห็นถึงอาชีพการเกษตร ทํานา ทําสวน ของคนในพื้นที่ตําบลบาโงย ที่มีวิถีชีวิตเรียบง่ายแบบดั้งเดิมนอกจากนี้ ยังมีการจัดนิทรรศการเกี่ยวกับพันธุ์ข้าว การสาธิตการทําเส้นขนมจีนสูตรโบราณจากปลายข้าว โครงการเกษตรเพื่ออาหารกลางวัน รวมไปถึงฐานการเรียนรู้ตามหลักสูตรโรงเรียนชาวนา จํานวน 5 ฐาน ทั้งการคัดแยกพันธุ์ข้าว คือ พันธุ์ข้าวที่เกษตรกรนิยมนํามาปลูกเป็นพันธุ์ข้าวดั้งเดิมในพื้นที่ ได้แก่ พันธุ์เวาะปูเตะห์ และการแปรรูปข้าวให้เกิดเป็นอาหารที่มีประโยชน์ให้กับคนในชุมชน การเกี่ยวข้าวด้วยแกระ คือ การเกี่ยวข้าวด้วยใช้อุปกรณ์แบบดั้งเดิม ใช้แกระในการเกี่ยวข้าว การนวดข้าว คือ การนวดข้าวโดยใช้เท้าในการเหยียบและย่ําให้เมล็ดข้าวหลุดออกมาจากรวงข้าว ซึ่งต้องอาศัยแรงหลายคนในการนวดข้าว เป็นการนวดข้าวแบบโบราณดั้งเดิม การร่อนข้าว คือ การร่อนข้าวแบบวิธีบ้านๆ คือการนําอุปกรณ์ที่ใช้ในการร่อนข้าว มี 2 ประเภท คือกระด้งรูห่าง และกระด้งรูชิด โดยการนําเอาเมล็ดข้าวเปลือกที่ได้จากการนวดข้าวมาร่อนข้าวเพื่อคัดเอาเศษของใบและก้านของต้นข้าวออก และการสีข้าว คือ การตําข้าวด้วยครก และ สาก ขนาดใหญ่แบบโบราณ เพื่อให้ประชาชน เกษตรกรที่มีอาชีพทํานาในพื้นที่ 4 หมู่บ้านของตําบลบาโงย นักเรียนและบุคลากรทางศึกษา ที่เข้าร่วมกิจกรรม กว่า 100 คน ได้ร่วมเรียนรู้วิถีชาวนาบ้านบาโงย อีกด้วย นอกจากนี้ ยังมีการประกวดพันธุ์ข้าวดั้งเดิม การประกวดขนมโบราณที่มีวัตถุดิบจากข้าว การแข่งขันเกี่ยวข้าว การแข่งขันนวดข้าว การแข่งขันร่อนข้าว และการจัดแสดงนิทรรศการเกี่ยวกับพันธุ์ข้าว การบํารุงดินและรักษาดิน การจัดทําปุ๋ยอินทรีย์สําหรับพันธุ์ข้าว#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
21/2/2023
ภาคใต้
ยะลา
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดยะลา
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230221204924290
null
อำเภอศีขรภูมิ จังหวัดสุรินทร์ จัดกิจกรรมวันถ่ายทอดเทคโนโลยี เพื่อเริ่มต้นฤดูการผลิตใหม่
วันนี้ (21 ก.พ. 66) นายกิตติ สัตย์ซื่อ นายอําเภอศีขรภูมิ จังหวัดสุรินทร์ บูรณาการภาคีเครือข่ายภายใต้โครงการ "รักษ์น้ํา(ใจ) สู่ทฤษฎีใหม่ประยุกต์ เพื่อพลิกชีวิตและความหวัง จัดกิจกรรมวันถ่ายทอดเทคโนโลยีเพื่อเริ่มต้นฤดูการผลิตใหม่ (Field Day) ปี 2566 ณ สวนเก้าตะวัน ของนายอนุรักษ์ นึกดี หมู่ที่ 1 ตําบลยาง อําเภอศีขรภูมิ จังหวัดสุรินทร์ ทั้งนี้เพื่อเพิ่มพูนทักษะและถ่ายทอดประสบการณ์ทางการเกษตรให้แก่เกษตรกรในพื้นที่อําเภอศีขรภูมิ จํานวน 38 ราย ซึ่งได้รับการสนับสนุนวิทยากรจากหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ประกอบด้วย กิจกรรมถ่ายทอดความรู้ รวม 3 ฐานกิจกรรม ได้แก่ การปรับปรุงบํารุงดิน การผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าวและการลดต้นทุนการผลิต และการถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิตพืชไร่ ณ สวนเก้าตะวัน ของนายอนุรักษ์ นึกดี หมู่ที่ 1 ตําบลยาง อําเภอศีขรภูมิ จังหวัดสุรินทร์#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
21/2/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สวท.สุรินทร์
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230221221642300
null
จังหวัดนครราชสีมาประชุมคณะกรรมการจัดการสิ่งปฏิกูลและมูลฝอยจังหวัดนครราชสีมา ครั้งที่ 1
วันนี้ ( 21 กุมภาพันธ์ 2566) เวลา 09.30 น. นายสมเกียรติ วิริยะกุลนันท์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เป็นประธานในการประชุมคณะกรรมการจัดการสิ่งปฏิกูลและมูลฝอยจังหวัดนครราชสีมา ครั้งที่ 1/2566 โดยมีท้องถิ่นจังหวัดนครราชสีมา คณะกรรมการสิ่งปฏิกูลและมูลฝอยฯ ผอ.กลุ่มงานบริการสาธารณะฯ และข้าราชการสํานักงานส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นจังหวัดนครราชสีมาร่วมประชุม ณ ห้องประชุมสํานักงานส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นจังหวัดนครราชสีมา #สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
21/2/2023
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
นครราชสีมา
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนครราชสีมา
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230221222248303
null
สพด.นครราชสีมา ร่วมลงพื้นที่ ตรวจเยี่ยมแปลงเกษตรกร งานจัดระบบอนุรักษ์ดินและน้ำ "โครงการงานจัดระบบอนุรักษ์ดินและน้ำพร้อมปลูกไม้เศรษฐกิจทนดินเค็ม ปี 2565"
วันนี้ (21 กุมภาพันธ์ 2566) เวลา 09.00 น. นายวิรุธ คงเมือง ผู้อํานวยการสถานีพัฒนาที่ดินนครราชสีมา พร้อมด้วยคณะเจ้าหน้าที่สถานีพัฒนาที่ดินนครราชสีมา ร่วมลงพื้นที่ ตรวจเยี่ยมแปลงเกษตรกร งานจัดระบบอนุรักษ์ดินและน้ํา "โครงการงานจัดระบบอนุรักษ์ดินและน้ําพร้อมปลูกไม้เศรษฐกิจทนดินเค็ม ปี 2565" โดยกลุ่มวิชาการเพื่อการพัฒนาที่ดิน สํานักงานพัฒนาที่พัฒนาที่ดินเขต 3 ณ บ้านหนองตูม หมู่ที่ 7 ตําบลมะค่า อําเภอโนนไทย จังหวัดนครราชสีมา ซึ่งได้รับเกียรติจาก นายชาติชาย ประสาระวัน ผู้อํานวยการสํานักงานพัฒนาที่ดินเขต 3 นางสาวเสาวนีย์ ประจันศรี ผู้เชี่ยวชาญด้านวางระบบการพัฒนาที่ดิน พร้อมคณะผู้บริหารฯ และเจ้าหน้าที่สังกัดสํานักงานพัฒนาที่ดินเขต 3 ร่วมลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมแปลงเกษตรกร งานจัดระบบอนุรักษ์ดินและน้ํา "โครงการงานจัดระบบอนุรักษ์ดินและน้ําพร้อมปลูกไม้เศรษฐกิจทนดินเค็ม ปี 2565" โดยมุ่งหวังให้เกษตรกรลดต้นทุนการผลิตและรักษาระดับผลผลิตให้มีปริมาณและคุณภาพสมดุลกับความต้องการของตลาด สามารถแก้ไขปัญหาฟื้นฟูดินเค็ม ซึ่งเกษตรกรมีส่วนร่วมในโครงการฯ ได้รับความรู้ความเข้าใจสามารถดําเนินการฝึกอบรมเกษตรกรในพื้นที่ใกล้เคียง หรือภาคีเครือข่าย ให้มีความรู้ในเรื่องการจัดการดินเค็ม และเสริมสร้างทัศนคติของเกษตรกรในการช่วยกันป้องกันการแพร่กระจาย และฟื้นฟูพื้นที่ดินเค็มอย่างมีประสิทธิภาพ รับมือแก้ไขปัญหารักษาความสมดุลของสภาพแวดล้อมในพื้นที่ดินเค็ม ก่อให้เกิดประโยชน์ในการสร้างอาชีพ เพิ่มรายได้ และเกิดผลสําเร็จอย่างมีประสิทธิภาพ#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
21/2/2023
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
นครราชสีมา
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนครราชสีมา
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230221223542308
null
มทส. จับมือ เบทาโกร ยกระดับเกษตรกรไทย สร้างตลาดไก่โคราช ด้วยการขับเคลื่อนในรูปแบบ Social Enterprise ต่อเนื่องระยะที่ 2
ไก่โคราชเป็นผลงานวิจัยที่มีจุดเริ่มต้นตั้งแต่ ปี พ.ศ. 2552 มีความร่วมมือจากหลากหลายฝ่าย ได้แก่ มทส. สํานักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.) กรมปศุสัตว์ สํานักงานการวิจัยแห่งชาติ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร สถาบันวิจัยแสงซินโครตรอน (องค์การมหาชน) และบริษัท พีเอส นิวทริชั่น จํากัด โดยมีเป้าหมายเพื่อให้ “ไก่โคราช” เป็นเครื่องมือในการพัฒนาความสามารถในการพึ่งพาตนเอง และยกระดับความสามารถของเกษตรกรไปสู่การเป็นผู้ประกอบการ เพื่อแก้ปัญหาที่หยั่งรากลึกของประเทศคือความเหลื่อมล้ําทางเศรษฐกิจและสังคม วันนี้ (21 ก.พ.66) มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี (มทส.) และ บริษัท เบทาโกรเกษตรอุตสาหกรรม จํากัด (เครือเบทาโกร) ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ โครงการความร่วมมือด้านการยกระดับความสามารถ ของเกษตรกรในการผลิตไก่โคราชในระบบอาหารปลอดภัย และยกระดับตลาดไก่โคราช ด้วยการขับเคลื่อนในรูปแบบ Social Enterprise ระยะที่ 2 โดยมี รองศาสตราจารย์ ดร.อนันต์ ทองระอา อธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี นายคมสันติ์ พินทะปะกัง รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ปฏิบัติการผลิตปศุสัตว์ บริษัท เบทาโกรเกษตรอุตสาหกรรม จํากัด (เครือเบทาโกร) ร่วมลงนาม พร้อมด้วย ศาสตราจารย์ ดร.หนึ่ง เตียอํารุง รองอธิการบดีฝ่ายวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยี และคณบดีสํานักวิชาเทคโนโลยีการเกษตร มทส. และ นางอุสาห์ หอมทวนลม รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สํานักผลิตปศุสัตว์ สัตว์ปีก บริษัท เบทาโกรเกษตรอุตสาหกรรม จํากัด (เครือเบทาโกร) โดยมี รองศาสตราจารย์ ดร.อมรรัตน์ โมฬี หัวหน้าศูนย์ความเป็นเลิศด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมเพื่อการพัฒนาธุรกิจไก่โคราช ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.พิพัฒน์ เหลืองลาวัณย์ ผู้จัดการฟาร์มมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี และคณะผู้บริหารจาก บริษัท เบทาโกรเกษตรอุตสาหกรรม จํากัด (เครือเบทาโกร) ร่วมเป็นเกียรติในพิธี ณ ห้องประชุมพจนสาร หน่วยประสานงาน มทส. อาคารพญาไท พลาซ่า กรุงเทพฯรศ.ดร.อนันต์ ทองระอา อธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี กล่าวถึงความร่วมมือในการครั้งนี้ว่า การลงนามความร่วมมือนี้ เกิดขึ้นเป็นครั้งที่ 2 โดยในครั้งแรกเกิดขึ้นเมื่อ 14 มิถุนายน 2562 ซึ่งแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าทั้งสองหน่วยงานมีอุดมการณ์ของการร่วมกันสร้างความเปลี่ยนแปลงครั้งสําคัญให้กับประเทศชาติ ด้วยการใช้รูปแบบของ Social Enterprise ที่จะร่วมกันสร้างและพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากของประเทศ ไปพร้อมกับการยกระดับความสามารถของเกษตรกรไทยในการผลิตอาหารปลอดภัย และมีความสามารถในการพึ่งพาตนเองได้อย่างยั่งยืน โดยใช้ไก่โคราชเป็นตัวเดินงาน และมีความเข้มแข็งของเกษตรกรไทย เป็นเป้าหมาย เชื่อมั่นว่าความร่วมมือในครั้งนี้ จะเป็นไปตามวัตถุประสงค์กล่าวคือ สามารถขยายจํานวนเกษตรกรได้มากขึ้นเพื่อเพิ่มโอกาสให้เกษตร ได้มีโอกาสเข้าสู่กระบวนการพัฒนา รวมถึงเพื่อเป็นการรักษาและขยายฐานตลาดระดับบนของไก่โคราชไว้ รวมทั้งทําให้เกษตรกรไทยมีความสามารถที่จะใช้ไก่โคราชเป็นเครื่องมือในการประกอบอาชีพที่เข้มแข็ง และยั่งยืนและจะขยับเศรษฐกิจฐานรากของประเทศได้” นายคมสันติ์ พินทะปะกัง รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ปฏิบัติการผลิตปศุสัตว์ บริษัท เบทาโกรเกษตรอุตสาหกรรม จํากัด (เครือเบทาโกร) กล่าวว่า “สําหรับความร่วมมือครั้งนี้ นับว่าเป็นการสานต่อความสําเร็จของเบทาโกร และ มทส. ที่ได้ดําเนินการโครงการนี้ร่วมกันมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2562 โดยเบทาโกรในฐานะบริษัทอาหารชั้นนําระดับสากล (World-class Branded Food Company) ดําเนินธุรกิจแบบครบวงจรครอบคลุมห่วงโซ่คุณค่าของผลิตภัณฑ์อาหารที่มีคุณภาพและปลอดภัยสูง พร้อมที่จะนําความรู้ความเชี่ยวชาญ และประสบการณ์ในการดําเนินธุรกิจมาร่วมสนับสนุนตั้งแต่รับซื้อลูกไก่ และจัดส่งให้เกษตรกรผู้ร่วมโครงการ การสนับสนุนบุคลากรที่มีความรู้ ความเชี่ยวชาญเข้าไปช่วยพัฒนาเกษตรกรเพื่อให้กระบวนการเลี้ยงได้ตามมาตรฐานอาหารปลอดภัย และรับซื้อไก่มีชีวิตจากฟาร์มเกษตรกร นําเข้าสู่กระบวนการแปรรูปและผลิตเนื้อไก่สด โดยทีมงานบุคลากรจะทํางานร่วมกันอย่างใกล้ชิดและสม่ําเสมอ ซึ่งเบทาโกร มุ่งหวังว่ากระบวนการทั้งหมดนี้ จะช่วยยกระดับความสามารถด้านการผลิตไก่โคราชในระบบมาตรฐานอาหารปลอดภัย และช่วยสนับสนุนการสร้างอาชีพและรายได้ที่มั่นคงให้กับเกษตรกรไทย พร้อมยกระดับตลาดไก่โคราชให้มีคุณภาพและความปลอดภัยที่เหมาะสม ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อสังคมและชุมชนอย่างยั่งยืน”#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
21/2/2023
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
นครราชสีมา
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนครราชสีมา
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230221224116309
null
อุดรธานีประชุมติดตามการแก้ไขปัญหาหมอกควันครั้งที่ 3 ปี 2566
จังหวัดอุดรธานีประชุมคณะทํางานติดตามสถานการณ์ไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM 2.5) ปี 2565 - 2566 ครั้งที่ 3/2566 เพื่อติดตามข้อมูลข่าวสาร วิเคราะห์และประเมินสถานการณ์ในการแก้ไขปัญหา เวลา 14.30 น.วันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2566 ที่ห้องประชุมพระยาศรีสุริยราชวรานุวัตร (โพธิ์ เนติโพธิ์) อาคาร 1 ชั้น 3 ศาลากลางจังหวัดอุดรธานี นายวันชัย คงเกษม ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี มอบหมายให้ นายเจนเจตน์ เจนนาวิน รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี เป็นประธานการประชุมคณะทํางานติดตามสถานการณ์ไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM 2.5) ปี 2565 - 2566 ครั้งที่ 3/2566 เพื่อติดตามผลการดําเนินงานของคณะทํางานฯ ข้อมูลข่าวสาร ที่จะใช้ในการวิเคราะห์และประเมินสถานการณ์ โดยมีนายธนทร ศรีนาค หัวหน้าสํานักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดอุดรธานี นายบัญชา กันหาสินธุ์ ประชาสัมพันธ์จังหวัดอุดรธานี หัวหน้าส่วนราชการ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมประชุม ซึ่งในการประชุมครั้งนี้ที่ประชุม ได้ร่วมกันพิจารณาร่างประกาศกองอํานวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดอุดรธานี เรื่องมาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM2.5) จังหวัดอุดรธานี พ.ศ.2566 เพื่อควบคุมและลดปัจจัยเสี่ยงสาเหตุก่อให้เกิดฝุ่นละอองขนาดเล็กในพื้นที่ ตามพระราชบัญญัติป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย พ.ศ.2550 มาตรา 15 ,21,29 และ 49 จํานวน 5 มาตรการ ประกอบด้วย 1.มาตรการควบคุมการเผา และห้ามเผาเด็ดขาด โดยจังหวัดออกประกาศห้ามเผาในที่โล่งและพื้นที่การเกษตร 90 วัน เริ่ม 1 มีนาคม 2566-29 พฤษภาคม 2566 ฝ่าฝืนมีความผิดระวางโทษจําคุกไม่เกิน 3 เดือน ปรับไม่เกินหกพันบาท หรือทั้งจําและปรับ , 2.มาตรการควบคุมยานพาหนะ ให้ตํารวจและขนส่ง ตรวจจับรถที่มีควันดํา และบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด 3.มาตรการควบคุมการก่อสร้าง ให้แขวงทางหลวงอุดรธานีที่ 1 และ 2 แขวงทางหลวงชนบท และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กํากับดูแลผู้รับจ้างก่อสร้าง ซ่อมบํารุงทางในการป้องกันและแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองอย่างเข้มงวด เพื่อป้องกันและลดปัญหาฝุ่นละออง 4. มาตรการต่อภาคอุตสาหกรรม ให้สํานักงานอุตสาหกรรมจังหวัดอุดรธานี ขอความร่วมมือและเข้มงวดกวดขันผู้ประกอบการอุตสาหกรรมให้ควบคุมการผลิตและปล่อยควันจากภาคการผลิตให้เป็นไปตามกฎหมาย 5. มาตรการทําความสะอาดผิวจราจร ให้แขวงทางหลวง ,แขวงทางหลวงชนบท จัดทําแผนงานและปฏิบัติในการทําความสะอาดเส้นทางทั้งกวาด และพ่นชําระล้าง กําจัดฝุ่นให้เป็นประจําและสม่ําเสมอ ทีมข่าวส.ปชส.อด. ศรีภูมิ ทองใหญ่ ณ อยุธยา ข่าว/ภาพ#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
21/2/2023
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
อุดรธานี
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดอุดรธานี
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230221230303315
null
ผู้ว่าฯ ลพบุรี เป็นประธานเปิดงานโครงการคลินิกเกษตรเคลื่อนที่ในพระราชานุเคราะห์ ณ อำเภอท่าหลวง จังหวัดลพบุรี
วันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2566 ณ หอประชุมที่ว่าการอําเภอท่าหลวง จังหวัดลพบุรี นายอําพล อังคภากรณ์กุล ผู้ว่าราชการจังหวัดลพบุรี เป็นประธานเปิดงานโครงการคลินิกเกษตรเคลื่อนที่ในพระราชานุเคราะห์ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช ฯ สยามมกุฎราชกุมารเฉลิมพระเกียรติ โดยมี นายเดชวุฒิ นิลแย้ม นายอําเภอท่าหลวง พร้อมด้วย นายสุชาติ กลิ่นทองหลาง เกษตรจังหวัดลพบุรี หัวหน้าส่วนราชการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และหน่วยงานภาคีเครือข่าย เข้าร่วมกิจกรรม สําหรับ งานโครงการคลินิกเกษตรเคลื่อนที่ในพระราชานุเคราะห์ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช ฯ สยามมกุฎราชกุมารเฉลิมพระเกียรติ มีวัตถุประสงค์เพื่อให้บริการแก่เกษตรกรในการแก้ไขปัญหาการผลิตด้านการเกษตรได้อย่างรวดเร็วทั่วถึงและสอดคล้องกับความต้องการของเกษตรกร ซึ่งมีการบูรณาการความร่วมมือกันระหว่างหน่วยงานวิชาการ หน่วยงานส่งเสริมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมพัฒนาฟื้นฟูเกษตรกร ให้สามารถทําการผลิตทางการเกษตรได้อย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืนโดยเป็นการปฏิบัติงานในเชิงรุก ที่ทําให้เกษตรกรในพื้นที่มีปัญหาให้ได้รับบริการทางการเกษตร โดยกิจกรรมภายในงานประกอบด้วย การให้บริการคลินิกเกษตรเคลื่อนที่ จํานวน 16 คลินิก เช่น คลินิกด้านพืช ด้านสัตว์ ด้นประมง ด้านดินและปุ๋ย และคลินิกอื่น ๆ มีเกษตรกรมาร่วมงานและเข้าร่วมบริการทางการเกษตร 200 กว่าคน ข่าว : สํานักงานประชาสัมพันธ์ลพบุรี#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
21/2/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
ลพบุรี
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดลพบุรี
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230221231205324
null