NewsTitle
stringlengths
11
31.5k
Detail
stringlengths
9
78.4k
NewsDate
stringlengths
3
5.77k
Region
stringclasses
48 values
Province
stringclasses
99 values
Department
stringclasses
211 values
Link_News
stringlengths
3
903
v
stringclasses
812 values
ผลตรวจสารตกค้างสีฟ้าในต้นหอม ว่าปริมาณสารตกค้างไม่เป็นอันตราย พร้อมย้ำประชาชนควรล้างทำความสะอาดก่อนนำไปบริโภค
นางสาวมนัญญา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่าจากการที่ได้สั่งการให้กรมวิชาการเกษตรเร่งตรวจสอบสารตกค้างสีฟ้าในตัวอย่างต้นหอมที่จําหน่ายในตลาดสี่มุมเมืองและรายงานให้ทราบโดยเร็วเพื่อคลายข้อกังวลต่อผู้บริโภคนั้น ในวันนี้ (18 มกราคม 2566) ได้รับรายงานจากนายระพีภัทร์ จันทรศรีวงศ์ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร ว่าผลการตรวจวิเคราะห์สารตกค้างในห้องปฏิบัติการด้วยเครื่อง GC-MS พบว่าเป็นสารแมนโคเซบ (mancozeb) ตกค้างประมาณ 2 mg/kg ซึ่งอยู่ในระดับที่ปลอดภัยไม่เกินค่ามาตรฐาน รวมทั้งสารแมนโคเซบเป็นยาชนิดสัมผัสบริเวณผิว ไม่ใช่สารที่ดูดซึมเข้าในต้นหอม ดังนั้นการล้างให้สะอาดโดยให้สารที่เคลือบออกหมดก่อนจําหน่ายหรือบริโภคจะทําให้ผู้บริโภคไม่ได้รับอันตราย และแม้ผลการตรวจวิเคราะห์จะยืนยันออกมาแล้วว่าปริมาณสารตกค้างดังกล่าวไม่เป็นอันตราย แต่ก็ขอเน้นย้ําให้ทั้งผู้ค้าและผู้บริโภคล้างทําความสะอาดต้นหอม หรือพืชผัก ผลไม้ทุกชนิด เพื่อไม่ให้มีสารตกค้างปนเปื้อนก่อนนําไปจําหน่ายหรือนําไปบริโภค พร้อมกับได้เน้นย้ําให้กรมวิชาการเกษตร เร่งสร้างการรับรู้ให้เกษตรกรผู้ปลูกหอมใช้สารดังกล่าวในการป้องกันกําจัดเชื้อราให้ปลอดภัย หรือปลอดสารตกค้างต่อไปโดยให้ปฏิบัติตามคําแนะนําในฉลากอย่างเคร่งครัด ที่สําคัญคือการใช้สารดังกล่าวในต้นหอมต้องเก็บเกี่ยวต้นหอมหลังจากพ่นครั้งสุดท้ายอย่างน้อย 15 วัน
18/1/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
Radio-สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230118210145419
null
มูลนิธิสืบนาคะเสถียร ยื่นหนังสือทวงถามความคืบหน้าและคืนความชอบธรรมให้บุคลากรกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช กรณีการสอบสวนข้อเท็จจริงอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืชเรียกรับผลประโยชน์หน่วยงานในสังกัด
มูลนิธิสืบนาคะเสถียร ยื่นหนังสือทวงถามความคืบหน้าและคืนความชอบธรรมให้บุคลากรกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช กรณีการสอบสวนข้อเท็จจริงอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืชเรียกรับผลประโยชน์หน่วยงานในสังกัด นายภาณุเดช เกิดมะลิ เลขาธิการมูลนิธิสืบนาคะเสถียร ได้ยื่นแถลงการณ์ฉบับที่ 2 ให้กับกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เพื่อทวงถามความคืบหน้าการคืนความชอบธรรมให้บุคลากรกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช และกระบวนการสอบสวนข้อเท็จจริง กรณี นายรัชฏา สุริยกุล ณ อยุธยา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ถูกกล่าวหาเรียกรับเงินแต่งตั้งโยกย้ายตําแหน่งจากผู้ใต้บังคับบัญชาและเรียกรับสินบน โดยมี นายกุศล โชติรัตน์ รองปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในฐานะประธานคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง เป็นผู้แทนรับหนังสือฉบับดังกล่าว โดย เลขาธิการมูลนิธิสืบนาคะเสถียร กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่มีความชัดเจนในกระบวนการตรวจสอบของกระทรวงทรัพย์ หรือการออกมาชี้แจงกระบวนการคืนความชอบธรรมให้กับบุคลากรของกรมอุทยานฯ แม้เบื้องต้นพบมีมูลความผิดทางวินัยการเรียกรับเงินจริง จนได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรงต่อเนื่องในชุดที่ 2 จึงอยากขอให้ตรวจสอบเส้นทางการเงินขบวนการทุจริตเรียกรับผลประโยชน์ของกรมอุทยานฯ โดยขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องโปรดขยายผลเพื่อให้เชื่อมโยงถึงผู้ร่วมกระบวนการกระทําผิดและผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในกระบวนการทุจริตครั้งนี้ทั้งหมด โดยเฉพาะผู้มีรายชื่อปรากฏอยู่บนซองในห้องทํางานอธิบดีกรมอุทยานฯ และควรโยกย้ายให้กระบวนการตรวจสอบเป็นไปอย่างยุติธรรมและโปร่งใส // ขอให้แถลงความคืบหน้าการสืบสวนต่อเนื่องทุกสัปดาห์ เพราะเป็นคดีใหญ่อยู่ในความสนใจของประชาชน // ขอให้กรมอุทยานฯ กระทรวงทรัพย์ฯ และรัฐบาลชี้แจงความคืบหน้าการคืนความชอบธรรมให้บุคลากรของกรมอุทยานฯที่ถูกโยกย้ายไม่เหมาะสมและไม่เป็นธรรม พร้อมเร่งทําโครงสร้างเส้นทางความก้าวหน้าในอาชีพ (Career Path) ให้การบังคับใช้เป็นรูปธรรมโดยเร่งด่วนภายใน 3 เดือน
18/1/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230118140146270
null
กรมอุทยานฯ เร่งวิเคราะห์ข้อมูลพยานหลักฐานประกอบการพิจารณาทางวินัยอธิบดีกรมอุทยานฯ พร้อมทำโครงสร้าง Career Path คาดภายใน 3 เดือนเห็นความชัดเจน
กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช เร่งวิเคราะห์ข้อมูลพยานหลักฐานประกอบการพิจารณาทางวินัยอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช พร้อมทําโครงสร้าง Career Path คาดภายใน 3 เดือนเห็นความชัดเจน นางรุ่งนภา พัฒนวิบูลย์ รองอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช รักษาราชการแทนอธิบดีกรมอุทยานฯ กล่าวว่า เรื่องการตรวจสอบเส้นทางการเงินมีหน่วยงานของกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) , สํานักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ป.ป.ง.) และคณะกรรมการสอบสวนทางวินัยร้ายแรงของกระทรวงทรัพย์ฯ กําลังรวบรวมข้อมูลหลักฐานตรงนี้อยู่แล้ว ซึ่งต้องขอเวลาให้หน่วยงานได้ทํางานอย่างรอบคอบและให้มีหลักฐานที่ชัดเจน เพื่อใช้การวิเคราะห์ข้อมูลต่างๆแล้วนําไปประกอบการพิจารณาทางวินัยของเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องต่อไป ส่วนเรื่องโยกย้ายผู้ที่มีรายชื่อปรากฏอยู่บนซองเอกสารยังไม่ได้พิจารณาการโยกย้ายตําแหน่ง เพราะทุกคนอยู่ในฐานะพยานในคดีนี้ พร้อมยืนยันกรมอุทยานฯไม่ได้นิ่งนอนใจแน่นอน สําหรับการจัดทําโครงสร้าง Career Path กรมอุทยานฯมีแผนงานอยู่แล้วแต่อาจต้องเพิ่มเนื้อหาข้อมูลบางส่วนเพื่อให้โครงสร้างฯมีประสิทธิภาพ และเป็นการสร้างขวัญกําลังใจให้ข้าราชการ-พนักงานของกรมอุทยานฯที่ทํางานอยู่ทุกแห่งได้มีหลักประกันความเติบโตของหน้าที่การงานภายใน 3 เดือนจะมีความคืบหน้าอย่างเป็นรูปธรรมมากขึ้น
18/1/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230118142910278
null
เกษตรจังหวัดสิงห์บุรี จัดโครงการคลินิกเกษตรเคลื่อนที่ ในพระราชานุเคราะห์
เกษตรจังหวัดสิงห์บุรี จัดโครงการคลินิกเกษตรเคลื่อนที่ ในพระราชานุเคราะห์ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ครั้งที่ 2 วันที่ 18 มกราคม 2566 สํานักงานเกษตรจังหวัดสิงห์บุรี นําโดย นายปัทพงศ์ สารบรรณ์ เกษตรจังหวัดสิงห์บุรี ดําเนินการจัดโครงการคลินิกเกษตรเคลื่อนที่ ครั้งที่ 2 ประจําปีงบประมาณ พ.ศ.2566 ในการนี้ได้รับเกียรติจาก นายสุพจน์ ยศสิงห์คํา ผู้ว่าราชการจังหวัดสิงห์บุรี เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการฯ ณ โรงเรียนพรหมบุรีรัชดาภิเษก ตําบลบ้านหม้อ อําเภอพรหมบุรี จังหวัดสิงห์บุรี โดยมี นายสัมฤทธิ์ กองเงิน ผู้ว่าราชการจังหวัดสิงห์บุรี นายอําเภอพรหมบุรี หัวหน้าส่วนราชการ ครู นักเรียน และเกษตรกรในพื้นที่อําเภอพรหมบุรี เข้าร่วมกิจกรรมฯเป็นจํานวนมาก โครงการคลินิกเกษตรเคลื่อนที่ อันเป็นโครงการฯ ที่พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว เมื่อครั้งทรงดํารงพระราชอิสริยยศเป็นสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ทรงมีพระชนมายุครบ 50 พรรษา ในพุทธศักราช 2545 กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จึงกราบบังคมทูลขอพระราชทานพระราชานุญาตจัดทําโครงการคลินิกเกษตรเคลื่อนที่ถวาย และขอรับพระมหากรุณาธิคุณให้โครงการอยู่ในพระราชานุเคราะห์ ของสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมารโดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อให้บริการแก่เกษตรกร ในการแก้ไขปัญหาด้านการผลิตทางการเกษตรได้อย่างรวดเร็วสอดคล้องกับพื้นที่และความต้องการของเกษตรกร ซึ่งมีการบูรณาการความร่วมมือกันระหว่างหน่วยงานวิชาการ หน่วยงานส่งเสริมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมพัฒนา ฟื้นฟูเกษตรกรให้สามารถทําการผลิตทางการเกษตรได้อย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน ภายในงานจัดให้มีบริการคลินิกหลักประกอบด้วย คลินิกพืช คลินิกดิน คลินิกปศุสัตว์ คลินิกประมง คลินิกบัญชี/กฎหมาย คลินิกชลประทาน คลินิกสหกรณ์ และคลินิกเสริม จากหน่วยงานทั้งภาครัฐและภาคเอกชนในพื้นที่ซึ่งเป็นการเข้ามาให้บริการความรู้และแก้ไขปัญหาทางด้านการเกษตรให้กับเกษตรกรในพื้นที่เพื่อลดภาระในการเดินทางของเกษตรกรตลอดจนมีการจําหน่ายสินค้าเกษตรกร กลุ่มวิสาหกิจชุมชน เพื่อเป็นการสนับสนุนและส่งเสริมกลุ่มอาชีพให้มีรายได้ พร้อมประชาสัมพันธ์ผลิตภัณฑ์ของชุมชน ให้เป็นที่ประจักษ์ ต่อสาธารณชน ในการนี้เกษตรกรผู้เข้าร่วมงานได้รับการบริการองค์ความรู้การช่วยเหลือแก้ไขปัญหาทางด้านการเกษตรได้อย่างครบครัน และได้รับการสนับสนุนปัจจัยการผลิตติดไม้ติดมือกลับบ้านกันอย่างถ้วนหน้า#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
18/1/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
สิงห์บุรี
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสิงห์บุรี
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230118163514335
null
จ.ลำปาง จัด “โครงการคลินิกเกษตรเคลื่อนที่ในพระราชานุเคราะห์ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร” ออกหน่วยให้บริการแก่เกษตรกร
วันที่ 18 มกราคม 2566 จังหวัดลําปาง โดยสํานักงานเกษตรจังหวัดลําปาง จัดโครงการคลินิกเกษตรเคลื่อนที่ในพระราชานุเคราะห์ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ครั้งที่ 1 ประจําปีงบประมาณ 2566 ณ โรงเรียนไหล่หินวิทยา ตําบลไหล่หิน อําเภอเกาะคา จังหวัดลําปาง เพื่อให้เกษตรกรที่มีปัญหาด้านการเกษตรในพื้นที่ห่างไกล สามารถเข้าถึงการบริการทางวิชาการ ได้รับการแก้ไขปัญหาด้านการเกษตรอย่างครบวงจรได้อย่างรวดเร็วในคราวเดียวกัน โดยมีเกษตรกรกลุ่มเป้าหมายร่วมงานและเข้ารับบริการทางการเกษตร จํานวนกว่า 100 คนนายธีระพงศ์ ฤทธิโชติ เกษตรจังหวัดลําปาง กล่าวว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จัดทําโครงการ ฯ โดยบูรณาการความร่วมมือระหว่างหน่วยงานวิชาการ หน่วยงานส่งเสริม ศูนย์เรียนรู้การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตร(ศพก.) ในการให้บริการและแก้ไขปัญหาทางการเกษตรร่วมกัน โดยให้บริการ ได้แก่ คลินิกดิน คลินิกพืช คลินิกปศุสัตว์ คลินิกประมง คลินิกชลประทาน คลินิกสหกรณ์ คลินิกบัญชี คลินิกกฎหมาย คลินิกข้าว และคลินิกอื่นๆ เช่น คลินิกเกษตรและสหกรณ์ คลินิกยางพารา คลินิกอารักขาพืช คลินิกสาธารณสุข ด้าน นายชัชวาลย์ ฉายะบุตร ผู้ว่าราชการจังหวัดลําปาง ประธานในพิธี กล่าวว่า โครงการคลินิกเกษตรเคลื่อนที่ในพระราชานุเคราะห์ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เป็นรูปแบบหนึ่งของการแก้ไขปัญหาให้กับเกษตรกรในพื้นที่ พร้อมกับถ่ายทอดความรู้ให้แก่เกษตรกรไปในคราวเดียวกัน เป็นโครงการที่มีประโยชน์ต่อเกษตรกรเป็นอย่างยิ่งเพราะเกษตรกรจะได้รับบริการแบบครบวงจรในทุกๆ ด้าน ซึ่งเป็นการนําบุคลากร อุปกรณ์ เครื่องมือ และองค์ความรู้ด้านการเกษตร มาให้บริการแก่พี่น้องเกษตรกรถึงในพื้นที่ โดยจะเกิดประโยชน์สูงสุดแก่เกษตรกรทั้งนี้ เนื่องในวโรกาสอันเป็นมิ่งมหามงคลที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เมื่อครั้งทรงดํารงพระราชอิสริยยศสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ทรงมีพระชนมายุครบ 50 พรรษา ในพุทธศักราช 2545 กระทรวงเกษตรและสหกรณ์จึงขอพระราชานุญาตจัดทําโครงการคลินิกเกษตรเคลื่อนที่ กราบบังคมทูลถวายและสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ทรงรับโครงการไว้ในพระราชานุเคราะห์ และทรงพระราชทานพระราชานุญาตอัญเชิญพระนามาภิไธยย่อไว้ในเครื่องหมายตราสัญลักษณ์โครงการ โดยเปิดให้บริการครั้งแรก เมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม 2545 ณ ตําบลบ้านหลวง อําเภอดอนพุด จังหวัดสระบุรี และได้ดําเนินงานมาอย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
18/1/2023
ภาคเหนือ
ลำปาง
สวท.ลำปาง
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230118153546307
null
เจ้าท่าประจวบฯ และเทศบาลเมืองหัวหิน ปรับปรุงภูมิทัศน์รื้อถอนสิ่งปลูกสร้างล่วงล้ำคลองเขาตะเกียบ
(18 ม.ค.66) นายอภิสิทธิ์ คําภิโร ผู้อํานวยการสํานักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาประจวบคีรีขันธ์ นางจิรัฎฐ์ ปรานต์ประสิทธิ์ ผอ.ส่วนสิ่งแวดล้อม สํานักงานทรัพยากร ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จ.ประจวบฯ นางสาวบุษบา โชคสุชาติ รองนายกเทศมนตรีเมืองหัวหิน นายจีรวัฒน์ พราหมณี ปลัดเทศบาลเมืองหัวหิน พร้อมเจ้าหน้าที่เทศกิจและเจ้าท่าประจวบฯ กว่า 30 คน นํารถแบคโฮเข้าทําการปรับปรุงภูมิทัศน์และรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างที่ล่วงล้ําลําน้ําในคลองเขาตะเกียบ หมู่บ้านเขาตะเกียบ อ.หัวหิน หลังจากก่อนหน้านี้กลุ่มชาวประมงร้องเรียนว่า มีสิ่งปลูกสร้างจํานวนมากล่วงล้ําในคลองเขาตะเกียบ กีดขวางและเป็นอุปสรรคต่อการเดินเรือประมง ทางสํานักงานเจ้าท่าฯ จึงลงพื้นที่ตรวจสอบแล้วพบว่ามีสิ่งปลูกสร้างที่ไม่ได้ขออนุญาตยื่นลงไปเกือบเต็มความกว้างของคลอง เป็นอุปสรรคต่อการเดินเรือจริง จึงเข้ารื้อถอนเพื่อให้เกิดความสวยงามและป้องกันอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นนายอภิสิทธิ์ คําภิโร ผู้อํานวยการสํานักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า ได้พูดคุยทําความเข้าใจกับผู้ปลูกสร้างสิ่งล่วงล้ําลําคลองว่า ที่ผ่านมามีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสร้างความเดือดร้อน ซึ่งทั้งหมดก็เข้าใจ โดยได้ยืดระยะเวลาทําการรื้อถอนส่วนที่เหลือให้อีกประมาณ 20 วัน จากนั้นจะดําเนินการตามที่กําหนด พร้อมกันนี้สํานักงานเจ้าท่าฯ ได้อนุญาตให้เทศบาลเมืองหัวหินก่อสร้างทางลาด(คานเรือ) บริเวณใกล้เคียงดังกล่าว เพื่อใช้สําหรับเป็นทางขึ้นลงของเรือประมงที่จะนํามาซ่อมแซมต่อไปด้าน นางสาวบุษบา โชคสุชาติ กล่าวว่า ทางเทศบาลฯ ได้ประชุมร่วมกับกรมเจ้าท่าประจวบฯ และสํานักงานสิ่งแวดล้อมจังหวัดฯ หลังมีเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับสภาพแวดล้อมในคลองเขาตะเกียบซึ่งเป็นพื้นที่รับผิดชอบของกรมเจ้าท่า และอยู่ในเขตเทศบาลเมืองหัวหิน ว่ามีความสกปรกและมีสิ่งล่วงล้ําลําน้ําจํานวนมาก จึงได้นัดหมายกันทําความสะอาดลอกคลอง โดยทางเทศบาลได้สนับสนุนเครื่องจักร เครื่องมือและอุปกรณ์ พร้อมเจ้าหน้าที่เข้าดําเนินการเพื่อปรับปรุงภูมิทัศน์คลองเขาตะเกียบให้เกิดความเรียบร้อยสวยงามให้สมกับที่เป็นเมืองท่องเที่ยวต่อไป#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
18/1/2023
ภาคตะวันตก
ประจวบคีรีขันธ์
สวท.ประจวบคีรีขันธ์
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230118173449352
null
ปศุสัตว์จันทบุรี ร่วมกับศูนย์อาหารสัตว์สระแก้ว พัฒนาสูตรอาหารสัตว์ต้นทุนต่ำ สร้างความมั่นคงด้านอาหาร
(18 ม.ค.66) น.สพ.ชาติชาย ยิ้มเครือ ปศุสัตว์จังหวัดจันทบุรี ร่วมกับ นางสาวศุภลักษณ์ ศรีจันดี นักวิชาการสัตวบาลชํานาญการ จากศูนย์วิจัยและพัฒนาอาหารสัตว์สระแก้ว นายทยากร เพ็ชรผ่อง ปศุสัตว์อําเภอนายายอาม และเจ้าหน้าที่กลุ่มส่งเสริมและพัฒนาการปศุสัตว์ ลงพื้นที่ศาลาอเนกประสงค์บ้านหนองหงษ์ ม.1 ต.สนามไชย อ.นายายอาม สาธิตการผสมอาหารสัตว์ สําหรับนําไปเลี้ยงไก่ไข่ แก่กลุ่มเกษตรกร จํานวน 15 ราย มีนายชญานนท์ คงจํารูญ เป็นประธานกลุ่ม โดยใช้วัตถุดิบทางการเกษตรจากพืชและสัตว์ที่หาได้ในท้องถิ่น ได้แก่ เปลือกปูจากการเลี้ยงปูนิ่ม แกลบกุ้ง รําละเอียด ปลายข้าว ข้าวโพดป่น มาผสมในสูตรอาหารสัตว์เพื่อลดการใช้อาหารสําเร็จรูป ซึ่งมีราคาแพง เป็นการลดต้นทุนการเลี้ยงสัตว์ โดยอาหารสัตว์ที่ผสมเสร็จแล้วจะมีโปรตีนประมาณร้อยละ 18 ซึ่งเพียงพอต่อการเจริญเติบโตของสัตว์และการให้ผลผลิต นอกจากนี้ ได้แนะนําให้มีการรวมกลุ่มเกษตรกรในการจัดซื้อวัตถุดิบทางการเกษตรจํานวนมากได้ในราคาต่ํา รวมทัังการให้ยืมเครื่องผสมอาหารสัตว์จากศูนย์อาหารสัตว์ฯ ตามโครงการ Motor Pool เพื่อผลิตอาหารสัตว์ให้เพียงพอใช้ในกลุ่ม และจะได้ขยายผลสูตรอาหารสัตว์ต้นทุนต่ําแก่กลุ่มเกษตรกรในพื้นที่อื่นๆ สร้างความมั่นคงด้านอาหาร สร้างรายได้แก่เกษตรกรอย่างยั่งยืนต่อไป#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
18/1/2023
ภาคตะวันออก
จันทบุรี
สวท.จันทบุรี
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230118195233389
null
จ.สระบุรีจัดโครงการคลินิกเกษตรเคลื่อนที่ในพระราชานุเคราะห์ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร
วันที่ 18 มกราคม 2566 นายพลวรรธน์ เทียนชัยมงคล รองผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรี เป็นประธานในพิธีเปิดงานโครงการคลินิกเกษตรเคลื่อนที่ในพระบรมราชานุเคราะห์ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ปีงบประมาณ 2566 ครั้งที่ 2 ณ องค์การบริหารส่วนตําบลลําพญากลาง หมู่ที่ 1 ตําบลลําพญากลาง อําเภอมวกเหล็ก จังหวัดสระบุรีโดยสํานักงานเกษตรจังหวัดสระบุรี ได้จัดงานคลินิกเกษตรเคลื่อนที่ในพระบรมราชานุเคราะห์ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เพื่อให้บริการเกษตรกรในการแก้ไขปัญหาการผลิตด้านการเกษตรอย่างรวดเร็ว อย่างทั่วถึง และสอดคล้องกับความต้องการของเกษตรกร บูรณาการความร่วมมือกันระหว่างหน่วยงานส่งเสริม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่างๆ ในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในการให้บริการและแก้ไขปัญหาทางการเกษตรร่วมกัน ให้สามารถผลิตพืชผลทางการเกษตรได้อย่างมีประสิทธิภาพ และยั่งยืนสําหรับหน่วยคลินิกเกษตรที่เปิดให้บริการ ได้แก่ คลินิกดิน คลินิกพืช คลินิกปศุสัตว์ คลินิกประมง คลินิกชลประทาน คลินิกสหกรณ์ คลินิกบัญชี คลินิกกฎหมาย คลินิกข้าว คลินิกหม่อนไหม และคลินิกอื่นๆ ซึ่งเป็นการให้บริการคลินิกเกษตรของหน่วยงานกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และการให้บริการของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มีเกษตรกรให้ความสนใจมาร่วมงานและเข้ารับบริการทางการเกษตรจํานวนมาก#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
18/1/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
สระบุรี
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสระบุรี
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230118161326324
null
กรมอุทยานฯ ชี้แจง ค่าธรรมเนียมเข้าพื้นที่อุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า-หมู่เกาะเสม็ดเป็นไปตามระเบียบ และสอดคล้องกับการเปลี่ยนของสถานการณ์ปัจจุบัน ส่วนการก่อสร้างรีสอร์ทรุกล้ำเขตอุทยานแห่งชาติดำเนินคดีแล้ว
กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ชี้แจง ค่าธรรมเนียมเข้าพื้นที่อุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า-หมู่เกาะเสม็ดเป็นไปตามระเบียบ และสอดคล้องกับการเปลี่ยนของสถานการณ์ปัจจุบัน ส่วนการก่อสร้างรีสอร์ทรุกล้ําเขตอุทยานแห่งชาติดําเนินคดีแล้ว พร้อมตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงในทุกประเด็น นายก้องเกียรติ เต็มตํานาน ผู้อํานวยการสํานักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 2 กล่าวถึงกรณีอุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า-หมู่เกาะเสม็ด จ.ระยอง เก็บค่าธรรมเนียม 3 เท่า และทุจริตในการปฏิบัติหน้าที่ว่า มีความคลาดเคลื่อนจากความเป็นจริงและมีแนวโน้มอาจจะขยายกว้างออกไป อาจทําให้เกิดความเสียหายกับทางราชการได้ จึงขอชี้แจงกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืชได้มีกฎกระทรวงกําหนดค่าธรรมเนียมใบอนุญาตดําเนินการในอุทยานแห่งชาติ วนอุทยาน สวนพฤกษศาสตร์ และสวนรุกขชาติ พ.ศ. 2565 ประกาศการบริการนําเที่ยวโดยใช้เรือด้วยเครื่องจักรกลเรือเร็วขนาดบรรทุกคนโดยสารไม่เกิน 15 คน ลําละ 2,000 บาท ทําให้ค่าธรรมเนียมเรือเพิ่มขึ้นจากเดิม 3-4 เท่าตัว จากเดิมเมื่อปี 2547 กําหนดให้เรือขนาดบรรทุกผู้โดยสารตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป ไม่เกิน 25 คน ค่าธรรมเนียมใบอนุญาตฉบับละ 500 บาทต่อลําต่อปี ส่วนเรื่องความเดือดร้อนของผู้ประกอบการจากค่าธรรมเนียมใหม่อยู่ในขั้นตอนพิจารณา ด้านปัญหารถโดยสารเกาะเสม็ดเดิมไม่มีกําหนดอัตราค่าธรรมเนียมใบอนุญาต แต่ปัจจุบันมีกฎกระทรวงฯการบริการนําเที่ยวโดยใช้รถยนต์ สําหรับรถขนาดบรรทุกคนโดยสาร ก. ขนาดบรรทุกคนโดยสารเกิน 7 คน แต่ไม่เกิน 13 คน คันละ 2,000 บาท ส่วนรถจักรยานยนต์ยังไม่กําหนดอัตราค่าธรรมเนียมใบอนุญาต สําหรับการขึ้นค่าธรรมเนียมเกาะทะลุ เกาะกุฎี เกาะขาม และเกาะกรวย ได้กําหนดแหล่งท่องเที่ยวที่ต้องชําระค่าบริการเป็นพิเศษ 5 อุทยานแห่งชาติ คือ อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ , อุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า - หมู่เกาะเสม็ด , อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะอ่างทอง , อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา - หมู่เกาะพีพี และอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะลันตา ซึ่งอุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้าฯได้กําหนดให้บริเวณเกาะทะลุ เกาะกุฎี เกาะขาม และเกาะกรวยมีอัตราค่าบริการสําหรับบุคคลชาวต่างประเทศผู้ใหญ่ 300 บาท เด็ก 150 บาท โดยนักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศที่เดินมาจากเกาะเสม็ดจะต้องชําระเพิ่ม โดยผู้ใหญ่เพิ่ม 100 บาท และเด็กเพิ่ม 50 บาท เพราะบริเวณเกาะเสม็ดยังเก็บค่าบริการในอัตราเดิมอยู่ ทั้งนี้ ในส่วนการก่อสร้างรีสอร์ทในพื้นที่ของกรมธนารักษ์ สําหรับพื้นที่ล้ําเข้ามาในอุทยานแห่งชาติฯได้ตรวจยึดจับกุมแล้ว หลังพบมีการรื้อถอนปรับปรุงสิ่งก่อสร้าง 2 กิจการ เมื่อวันที่ 15 มกราคม 2565 คือ กิจการบาร์แอนด์เบสท์ รีสอร์ท พื้นที่ส่วนใหญ่อยู่นอกเขตอุทยานแห่งชาติฯ ส่วนพื้นที่รุกล้ําเข้ามาในเขตอุทยานแห่งชาติผู้ประกอบการได้รื้อถอนออกไปแล้ว และกิจการนากะบาร์ อยู่ในพื้นที่กลุ่ม 49 ราย ที่ได้รับการแก้ปัญหาตามมติคณะกรรมการแก้ไขปัญหาการบุกรุกที่ดินของรัฐ (กบร.) ปี 2543 ขณะเข้าตรวจสอบพบเจ้าของกิจการกําลังปรับปรุงซ่อมแซมจึงได้แจ้งให้ชะลอการก่อสร้างจนกว่าจะได้รับความเห็นชอบจากกรมอุทยานฯก่อน แล้วเมื่อ 13 ตุลาคม 2543 รัฐบาลได้มีมติในพื้นที่ 49 ราย ให้ขอเช่าจากกรมธนารักษ์โดยกรมอุทยานฯมีหน้าที่แค่รับรองแบบแปลนเกี่ยวกับด้านวิชาการด้านลักษณะแบบต้องกลืนกับธรรมชาติเท่านั้น ส่วนมีการทํารีสอร์ทเกินแนวเขตที่ กบร. มีมติ ชุดพญาเสือได้ตรวจยึดจับกุมแล้ว ปัจจุบันไม่มีการก่อสร้างแต่อย่างใด ผู้อํานวยการสํานักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 2 กล่าวย้ําว่า สํานักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 2 (ศรีราชา) และกรมอุทยานฯ ได้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงและขอให้รอฟังผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงจากคณะกรรมการที่ต้องแสวงหาพยานบุคคล พยานเอกสาร และข้อเท็จจริงต่างๆ เพื่อทําความจริงให้ปรากฏแล้วต้องอาศัยระยะเวลาให้คณะกรรมการได้ทํางาน เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย
18/1/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230118165800340
null
จ.สระบุรีจัดโครงการคลินิกเกษตรเคลื่อนที่ในพระราชานุเคราะห์ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร
วันที่ 18 มกราคม 2566 นายพลวรรธน์ เทียนชัยมงคล รองผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรี เป็นประธานในพิธีเปิดงานโครงการคลินิกเกษตรเคลื่อนที่ในพระบรมราชานุเคราะห์ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ปีงบประมาณ 2566 ครั้งที่ 2 ณ องค์การบริหารส่วนตําบลลําพญากลาง หมู่ที่ 1 ตําบลลําพญากลาง อําเภอมวกเหล็ก จังหวัดสระบุรีโดยสํานักงานเกษตรจังหวัดสระบุรี ได้จัดงานคลินิกเกษตรเคลื่อนที่ในพระบรมราชานุเคราะห์ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เพื่อให้บริการเกษตรกรในการแก้ไขปัญหาการผลิตด้านการเกษตรอย่างรวดเร็ว อย่างทั่วถึง และสอดคล้องกับความต้องการของเกษตรกร บูรณาการความร่วมมือกันระหว่างหน่วยงานส่งเสริม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่างๆ ในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในการให้บริการและแก้ไขปัญหาทางการเกษตรร่วมกัน ให้สามารถผลิตพืชผลทางการเกษตรได้อย่างมีประสิทธิภาพ และยั่งยืนสําหรับหน่วยคลินิกเกษตรที่เปิดให้บริการ ได้แก่ คลินิกดิน คลินิกพืช คลินิกปศุสัตว์ คลินิกประมง คลินิกชลประทาน คลินิกสหกรณ์ คลินิกบัญชี คลินิกกฎหมาย คลินิกข้าว คลินิกหม่อนไหม และคลินิกอื่นๆ ซึ่งเป็นการให้บริการคลินิกเกษตรของหน่วยงานกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และการให้บริการของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มีเกษตรกรให้ความสนใจมาร่วมงานและเข้ารับบริการทางการเกษตรจํานวนมาก#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
18/1/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
สระบุรี
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสระบุรี
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230118223400430
null
รมช.เกษตรและสหกรณ์ รับข้อเรียกร้องเครือข่ายชาวสวนมะพร้าว จ.ประจวบฯ เร่งแก้ปัญหาผลกระทบจากมะพร้าวนำเข้า
(18 ม.ค.66) น.ส.มนัญญา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ลงพื้นที่พบปะเกษตรกรชาวสวนมะพร้าว ที่ศาลาเอนกประสงค์ บ้านตะเคียนสองพี่น้อง หมู่ที่ 8 ต.ธงชัย อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ เพื่อรับฟังข้อคิดเห็นข้อเสนอแนะเกี่ยวกับการพัฒนาการเพาะปลูกมะพร้าวและสร้างเสถียรภาพด้านราคา โดยมี นายเสถียร เจริญเหรียญ ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ นายกิตติพงศ์ สุขภาคกุล รองผู้ว่าราชการจังหวัดฯ หัวหน้าส่วนราชการในจังหวัดร่วมให้การต้อนรับ ซึ่งกลุ่มเกษตรกรเครือข่ายชาวสวนมะพร้าว จ.ประจวบคีรีขันธ์ ได้สะท้อนให้เห็นถึงผลกระทบจากการนําเข้ามะพร้าวทั้งที่ถูกกฎหมายและผิดกฎหมาย พร้อมยื่นหนังสือข้อเรียกร้องให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ตั้งงบประมาณและจัดจ้างสถาบันที่เป็นกลางมาศึกษาข้อมูลมะพร้าวในประเทศใหม่ เช่น ค่าเฉลี่ย/ต้น/ไร่ จํานวนผลผลิตทั้งประเทศ ตัวเลขการนําเข้ามะพร้าวที่ไม่ส่งผลกระทบต่อเกษตรกรไทย ควบคุมการกะเทาะมะพร้าวนอกโรงงานทั้งมะพร้าวที่นําเข้าภายใต้กรอบ WTO และ AFTA เพราะทําให้เกิดปัญหาไม่สามารถควบคุมปริมาณได้ จนทําให้มีปัญหามะพร้าวล้นไปยังตลาดหัวขูด และเกิดโรคระบาด ศัตรูพืช คัดค้านการเปิดเสรีมะพร้าวขาวแช่แข็ง น้ํากะทิแช่แข็ง และน้ํากะทิสําเร็จรูปแบบไม่ควบคุม ผลักดันให้มะพร้าวเป็นพืชเศรษฐกิจ และออกกฎหมายปกป้องควบคุมเกษตรกรชาวสวนมะพร้าว ก่อนจะมีการพิจารณานําเข้ามะพร้าวต้องเปิดเผยข้อมูลและรับฟังความคิดเห็นของเกษตรกรในอําเภอที่มีพื้นที่ปลูกมะพร้าว ผลักดันให้มีคณะกรรมการมะพร้าวแห่งชาติ โดยมีตัวแทนชาวสวนมะพร้าวแต่ละจังหวัดที่มาจากการเลือกตั้งของเกษตรกรในจํานวนที่เกินกว่าครึ่งของคณะกรรมการ และขอให้ภาครัฐส่งเสริมพัฒนาการผลิตมะพร้าว เช่น การวิจัยพันธุ์มะพร้าวที่เหมาะสมกับพื้นที่ ทนทานต่อโรค และให้ผลผลิตสูง การสนับสนุนงบประมาณในการป้องกันและแก้ไขปัญหาโรคระบาดมะพร้าว การออกกฎหมายควบคุมป้องกันโรคระบาดมะพร้าว การส่งเสริมเกษตรกรปลูกพืชทดแทนต้นมะพร้าวที่มีอายุหลายสิบปี การผลักดันให้มีอุตสาหกรรมแปรรูปมะพร้าวในพื้นที่ เช่น โรงงานกะทิ และกะทิผงทั้งนี้ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้รับหนังสือข้อเรียกร้องดังกล่าวเพื่อประสานการดําเนินการกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะเรื่องโครงสร้างการนําเข้ามะพร้าว ขณะที่ในปี 2567 จะมีอาสาสมัครเกษตรประจําหมู่บ้าน หรือ อกม.ทุกตําบลในทุกจังหวัด เพื่อสํารวจจัดเก็บข้อมูลด้านพืชในแต่ละพื้นที่ เป็นประโยชน์ต่อการวางแผนบริหารจัดการที่เหมาะสมต่อไป#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
18/1/2023
ภาคตะวันตก
ประจวบคีรีขันธ์
สวท.ประจวบคีรีขันธ์
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230118221403425
null
เกษตรอำเภอวังยาง เปิดเวทีถ่ายทอดความรู้และพัฒนาศักยภาพเกษตรกรให้เป็นวิทยากรในการทำเกษตรปลอดการเผาในพื้นที่การเกษตร “สร้างจิตสำนึกลดการเผา”
วันนี้ (18 ม.ค.66) ที่ศาลาประชาคมบ้านโคกสี หมู่ที่ 1 ตําบลโคกสี อําเภอวังยาง จังหวัดนครพนม สํานักงานเกษตรจังหวัดนครพนม ร่วมกับสํานักงานเกษตรอําเภอวังยาง เปิดเวทีถ่ายทอดความรู้และพัฒนาศักยภาพเกษตรกรให้เป็นวิทยากรในการทําเกษตรปลอดการเผาในพื้นที่การเกษตร ภายใต้โครงการส่งเสริมการหยุดเผาในพื้นที่การเกษตร เพื่อเป็นการถ่ายทอดความรู้และพัฒนาศักยภาพเกษตรกร ให้มีความรู้ความเข้าใจในการทําเกษตรปลอดการเผา และเป็นการทําการเกษตรที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ซึ่งมีเกษตรกรในพื้นที่ให้ความสนใจเข้าร่วมกิจกรรมนายชํานาญ โพธิ์สุข เกษตรอําเภอวังยาง เปิดเผยว่า สําหรับกิจกรรมที่จัดขึ้นในวันนี้เป็นการถ่ายทอดความรู้และพัฒนาเกษตรกรให้สามารถเป็นวิทยากรในการถ่ายทอดความรู้ในการทําเกษตรปลอดการเผาในพื้นที่การเกษตร ได้อย่างเข้าใจและสามารถต่อยอดและให้คําแนะนําในการใช้เทคโนโลยีในการกําจัดเศษวัสดุที่เหลือใช้ทางการเกษตร รวมทั้งการปรับปรุงบํารุงดิน เช่น การสาธิตจการไถกลบตอซังข้าว และการหว่านปุ๋ยพืชสด (ปอเทือง) โดยมุ่งเน้นลดการเผาในพื้นที่เกษตรและที่โล่งแจ้งป้องกันปัญหาหมอกควันและฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ซึ่งเป็นมลพิษทางอากาศส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนและสิ่งแวดล้อมโดยตรง โดยยึดการใช้พื้นที่และองค์ความรู้จาก ศพก. เป็นจุดต้นแบบในการเรียนรู้การหยุดเผาในพื้นที่การเกษตรและใช้ประโยชน์และสร้างมูลค่าเพิ่มจากวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรให้กับเกษตรกรในพื้นที่#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
18/1/2023
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
นครพนม
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนครพนม
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230119053612482
null
เกษตรอำเภอปลาปาก ถ่ายทอดความรู้และพัฒนาเกษตรกร สาธิตการใช้วัสดุการเกษตรสร้างรายได้เสริม “ใช้เทคโนโลยีลดการเผา สร้างรายได้”
วันนี้ (18 ม.ค.66) ที่ศูนย์จัดการดินปุ๋ยชุมชนตําบลโคกสูง ตําบลโคกสูง อําเภอปลาปาก จังหวัดนครพนม สํานักงานเกษตรจังหวัดนครพนม ร่วมกับสํานักงานเกษตรอําเภอปลาปาก ถ่ายทอดความรู้และพัฒนาศักยภาพเกษตรกรให้เป็นวิทยากรในการทําเกษตรปลอดการเผาในพื้นที่การเกษตร ภายใต้โครงการส่งเสริมการหยุดเผาในพื้นที่การเกษตร พร้อมสาธิตการใช้วัสดุการเกษตรสร้างรายได้เสริมให้แก่เกษตรกร เพื่อเป็นการถ่ายทอดความรู้และพัฒนาศักยภาพเกษตรกร ให้มีความรู้ความเข้าใจในการทําเกษตรปลอดการเผา และเป็นการทําการเกษตรที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ซึ่งมีเกษตรกรในพื้นที่ให้ความสนใจเข้าร่วมกิจกรรมนางนัยนา คนครอง รักษาการเกษตรอําเภอปลาปาก เปิดเผยว่า การเผาในพื้นที่การเกษตรเป็นสาเหตุที่สําคัญของปัญหาที่ทําให้คุณภาพของดินขาดความอุดมสมบูรณ์ ส่งผลให้พืชไม่สามารถเจริญเติบโตได้เต็มที่ ผลผลิตที่ได้รับต่ํากว่าที่ควรจะเป็น และเป็นแหล่งกําเนิดมลพิษทางอากาศที่สําคัญแหล่งหนึ่ง ซึ่งก่อให้เกิดก๊าซพิษ หมอกควัน ฝุ่นละออง เถ้า และเขม่าควัน ระบายออกสู่ชั้นบรรยากาศ ส่งผลให้เกิดปัญหาหมอกควันปกคลุมประเทศไทย มีผลกระทบต่อสุขภาพอนามัยของประชาชนและเศรษฐกิจของประเทศ ซึ่งพื้นที่การเกษตรที่มีการเผาสูง คือ นาข้าว ไร่อ้อย และไร่ข้าวโพด และสําหรับในพื้นที่อําเภอนาหว้า ภายหลังจากการเก็บเกี่ยวผลผลิตข้าวแล้วเกษตรกรมักจะทําการเผาทําลายตอซังข้าว ซึ่งเป็นการทําลายจุลินทรีย์ในดิน ทําให้หน้าดินแห้งผลผลิตของพืชตกต่ํา รวมทั้งยังส่งผลเสียต่อสภาพแวดล้อมต่างๆสําหรับการจัดกิจกรรมในครั้งนี้ เป็นการสร้างความรู้ ความเข้าใจให้กับเกษตรกรได้ตระหนักถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้น พร้อมแนะนําทางเลือกในการใช้เทคโนโลยีการเกษตรทดแทนการเผา สร้างการมีส่วนร่วมของเกษตรกรในการป้องกันและแก้ไขปัญหาการเผา รวมทั้งสร้างต้นแบบในการทําการเกษตรปลอดการเผาเพื่อสนับสนุนการหยุดเผาในพื้นที่การเกษตร ภายในงานประกอบด้วย กิจกรรมการเรียนรู้นําร่องสาธิตเทคโนโลยีการจัดการเศษวัสดุการเกษตรทดแทนการเผาในพื้นที่การเกษตรทั้งหมด 4 กิจกรรม ดังนี้กิจกรรมที่ 1 การไถกลับตอซังข้าวแห้งโดยใช้รถแทรกเตอร์กิจกรรมที่ 2 การปรับปรุงบํารุงดินกิจกรรมที่ 3 สาธิตการเพาะเห็ดฟางจากเศษวัสดุทางการเกษตรกิจกรรมที่ 4 สาธิตการทําปุ๋ยหมักจากเศษวัสดุทางการเกษตรสําหรับการสร้างการรับรู้และถ่ายทอดข้อมูลการหยุดเผาในพื้นที่การเกษตร ได้มีการดําเนินการมาอย่างต่อเนื่อง โดยเน้นการถ่ายทอดความรู้พร้อมแนะนําการใช้ประโยชน์จากวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร ที่ช่วยสร้างอาชีพและรายได้ให้กับเกษตรกร เช่น การเพาะเห็ดฟาง การทําอาหารสัตว์ และการทําประมง ซึ่งเน้นในการลดต้นทุนการผลิตเป็นหลัก และสามารถสร้างรายได้ให้กับเกษตรกรนในพื้นที่ ทั้งนี้เกษตรกรที่เข้าร่วมกิจกรรมจะได้รับความรู้ถึงผลกระทบจากการเผาในพื้นที่การเกษตรเพิ่มมากขึ้น ก่อให้เกิดการสํานึกและรับผิดชอบต่อส่วนรวม#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
18/1/2023
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
นครพนม
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนครพนม
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230119053725483
null
อธิบดี ทช. ย้ำ เหตุไฟไหม้เรือบรรทุกน้ำมันขนาดใหญ่ใน จ.สมุทรสงคราม ไม่มีการรั่วไหลของน้ำมันประมาณ 30,000 ลิตร และควบคุมในวงจำกัดได้
อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) ย้ํา เหตุไฟไหม้เรือบรรทุกน้ํามันขนาดใหญ่ใน จ.สมุทรสงคราม ไม่มีการรั่วไหลของน้ํามันประมาณ 30,000 ลิตร และควบคุมในวงจํากัดได้ นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) กล่าวถึงการเกิดเหตุไฟไหม้เรือบรรทุกน้ํามันขนาดใหญ่ในเขตพื้นที่ อบต.แหลมใหญ่ อ.เมือง จ.สมุทรสงคราม ว่า ได้ส่งเจ้าหน้าที่กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) ลงพื้นที่ตรวจสอบผลกระทบต่อทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมโดยรอบจุดเกิดเหตุ ส่วนปริมาณน้ําไม่ได้รั่วไหลออกมายังอยู่ภายในแทงค์ประมาณ 30,000 ลิตร ภาพรวมสามารถควบคุมได้และอยู่ในพื้นที่จํากัดแล้ว แต่ต้องดูอย่างรอบคอบในเรื่องของความปลอดภัยจุดที่เกิดไฟไหม้และแผนการกู้เรือ ส่วนกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจะดูสิ่งที่จะก่อให้เกิดผลกระทบต่อมลพิษในแหล่งน้ําในทะเลและแม่น้ําแม่กลองหรือไม่อย่างละเอียดอีกครั้งจากการเกิดไฟไหม้ขึ้น ส่วนสารที่ใช้ดับเพลิงไม่มีสารเคมีที่กระทบต่อสิ่งแวดล้อม แหล่งน้ํา และประชาชนในพื้นที่
18/1/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230118171839344
null
เพชรบุรีอนุรักษ์และสืบสานภูมิปัญญาด้านเกลือทะเล "ประเพณีการทำขวัญเกลือ"
วันนี้ (18 ม.ค. 66) เวลา 09.00 น. ที่แปลงนาเกลือของเกษตรกร (นายคทาวุธ บุญมา) สหกรณ์การเกษตรเกลือทะเลไทยเพชร ตําบลบ้านแหลม อําเภอบ้านแหลม จังหวัดเพชรบุรี นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานเปิดงานอนุรักษ์และสืบสานภูมิปัญญาด้านเกลือทะเล "ประเพณีการทําขวัญเกลือ" โดยมี นางวันเพ็ญ มังศรี รองผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี กล่าวต้อนรับ พร้อมร่วมพิธีทําขวัญเกลือ นําเกลือแรกของฤดูกาลผลิตเข้ายุ้งเกลือตามประเพณีที่สืบทอดกันมายาวนาน สําหรับการทําขวัญเกลือ เป็นพิธีกรรมที่เกิดขึ้นจากความเชื่อในเรื่องสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เพื่อให้เกิดสิริมงคลในการทํานาเกลือ ทําให้เกลือได้ราคาดีและไม่มีอุปสรรค ช่วงเวลาในการทําพิธีจะรับผลผลิตเป็นครั้งแรก ซึ่งเชื่อว่าจะก่อให้เกิดความเป็นสิริมงคล และความมั่นคงในจิวิกับการประกอบอาชีพทํานาเกลือ จึงมีพีธีบวงสรวงบูชาผู้พิทักษ์นาเกลือ ได้แก่ พระวายุ พระแม่คงคา และพระแม่ธรณี เพราะเทพยดาดังกล่าวจะช่วยให้ลมที่ดี น้ําที่เค็ม พื้นดินที่ดี เพื่อให้การทํานาเกลือได้ผลผลิตตามที่ต้องการ และประสบผลสําเร็จในการทํานาเกลือ นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า การขับเคลื่อนการพัฒนาเกลือทะแลไทยตามนโยบายของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ตลอดเวลาที่ผ่านมาคณะกรรมการการพัฒนาเกลือทะเลไทย กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้ดําเนินการพัฒนาเกลือทะเลไทยทั้งแบบครบวงจรตั้งแต่การวิจัยพัฒนา การผลิต การแปรรูป การพัฒนาผลิตภัณฑ์ การสร้างแบรนด์และการตลาดด้านการค้าสินค้าและบริการเชื่อมโยงการท่องเที่ยวเชิงเกษตร และพัฒนาระบบสมดุลนิเวศเพื่อความยั่งยืน ซึ่งทรัพยากรที่สําคัญอย่างหนึ่งของเพชรบุรีนั่นก็คือ "เกลือทะเล" เนื่องจากมีการผลิตและการใช้มาตั้งแต่สมัยโบราณ และก็ถือว่าเป็นอาชีพที่เก่าแก่ของคนท้องถิ่นที่อาศัยอยู่แถบชายฝั่งทะเล อาชีพหนึ่งของโลกและของคนไทย โดยที่ได้มีการกําหนดให้เป็นสินค้าเกษตรกรรมขั้นต้นตามพระราชบัญญัติธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร พ.ศ. 2509 กิจกรรมอนุรักษ์และสืบสานภูมิปัญญาด้านเกลือทะเล "ประเพณีการทําขวัญเกลือ" เพื่อให้เห็นถึงความสําคัญของเกลือทะเลไทย และเป็นหนึ่งในแนวทางการส่งเสริม Soft power ตลอดจนการคุ้มครองเกลือทะเลไทยโดยคาดหวังว่าจะเป็นการเริ่มต้นในการขับเคลื่อนและผลักดันการพัฒนาเกลือทะเลไทยภายใต้ยุทธศาสตร์ตลาดนําการผลิตให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ชัยพัทธ์ รชตเหมภาส / ข่าว สํานักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเพชรบุรี#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
18/1/2023
ภาคตะวันตก
เพชรบุรี
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเพชรบุรี
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230118192947386
null
ปศุสัตว์เพชรบุรีออกหน่วยผ่าตัดทำหมันสุนัข-แมว และฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า ภายใต้โครงการสัตว์ปลอดโรค คนปลอดภัย ตามพระปณิธาน ศาสตราจารย์ ดร.สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา
วันนี้ (18 ม.ค.66) เทศบาลตําบลเขาย้อย ร่วมกับสํานักงานปศุสัตว์อําเภอเขาย้อย กลุ่มพัฒนาสุขภาพสัตว์ สํานักงานปศุสัตว์จังหวัดเพชรบุรี นําทีมโดย สพ.ญ.ภัทริน โอภาสชัยทัตต์ หัวหน้ากลุ่มพัฒนาสุขภาพสัตว์ จัดกิจกรรมให้บริการผ่าตัดทําหมันสุนัขและแมวของประชาชน และโรงเรียนโยธินบูรณะปฏิบัติงาน ทําหมันสุนัขและแมว และฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า รวมทั้งสิ้น 58 ตัว ประกอบด้วย สุนัข 21 ตัว แมว 37 ตัว โดยมี นายสัตวแพทย์อติกัณต์ หว่านพืช และสพ.ญ.จารุวรรณ เหรียญปรีชาได้เน้นย้ําการดูแลและการป้อนยาให้สุนัขและแมวภายหลังการผ่าตัดทําหมัน ทั้งนี้ ชุมชนใดสนใจให้ไปปศุสัตว์จังหวัดเพชรบุรี ออกหน่วยทําหมันสุนัขและแมว ติดต่อ อบต./เทศบาลใกล้บ้าน เพื่อให้ อบต./เทศบาล ดําเนินการต่างๆ เพื่อนัดวันออกหน่วย-อบต./เทศบาลประกาศแจ้งวันออกหน่วยผ่านเสียงตามสายสวท.เพชรบุรี#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
18/1/2023
ภาคตะวันตก
เพชรบุรี
สวท.เพชรบุรี
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230118201411392
null
รายการ “ผู้ว่าฯ คุยกับประชาชน” ประจำวันพุธที่ 18 มกราคม 2566
นายชนาส ชัชวาลวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดอํานาจเจริญ ได้มอบหมายให้นายฤทธิสรรค์ เทพพิทักษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดอํานาจเจริญ มาร่วมรายการ พร้อมด้วย นางสาวศิริพร พิลาพันธ์ นักวิชาการพาณิชย์ชํานาญการสํานักงานพาณิชย์จังหวัดอํานาจเจริญ ออกอากาศทาง สวท.อํานาจเจริญ ระบบ FM คลื่นความถี่ 103.25 MHz.รองผู้ว่าฯ ได้กล่าวถึง การออกหน่วยบริการตามโครงการบําบัดทุกข์ บํารุงสุข สร้างรอยยิ้มให้ประชาชนจังหวัดอํานาจเจริญ และหน่วยแพทย์อาสาสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี พอ.สว. จังหวัดอํานาจเจริญกําหนดจัดในวันที่ 19 มกราคม 2566 ณ โรงเรียนม่วงโป้หนองน้ําขุ่น หมู่ที่ 1,2 ตําบลโนนงาม อําเภอปทุมราชวงศา เพื่อให้ส่วนราชการ หน่วยงานรัฐวิสาหกิจและภาคเอกชน แจ้งข่อราชการสําคัญ โดยมีกิจกรรมประกอบด้วย จัดเวทีเสวนารับฟังปัญหาและข้อเสนอแนะของประชาชน พิธีเปิดหน่วยบริการหน่วยแพทย์อาสาสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี พอ.สว. การทอดผ้าป่ากองทุนแม่ของแผ่นดินของหมู่บ้าน พิธีเทิดทูนสถาบันของชาติ พิธีเปิดโครงการบําบัดทุกข์บํารุงสุข สร้างรอยยิ้มให้ประชาชน กิจกรรมบรรเทาทุกข์และการช่วยเหลือ/ให้การสงเคราะห์แก่ประชาชน พร้อมทั้ง ตรวจเยี่ยมและให้กําลังใจแก่หน่วยงานที่ออกให้บริการประชาชน ขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนในพื้นที่และพื้นที่ใกล้เคียงร่วมรับบริการนางสาวศิริพร พิลาพันธ์ นักวิชาการพาณิชย์ชํานาญการ กล่าวถึงการประกวดข้าวหอมมะลิของประเทศไทย (ระดับจังหวัด) จังหวัดอํานาจเจริญ ประจําปี 2566 เพื่อคัดเลือกตัวอย่างข้าวหอมมะลิส่งเข้าประกวดระดับประเทศ อันจะเป็นการส่งเสริมให้เกษตรกร และสถาบันเกษตรกร อนุรักษ์พัฒนาคุณภาพข้าวหอมมะลิไว้อย่างต่อเนื่อง ส่งเสริมภาพลักษณ์ที่ดีของข้าวหอมมะลิไทย ช่วยรักษาตลาดและขยายการส่งออกข้าวหอมมะลิ จํานวน 2 ประเภท ดังนี้ 1.) ประเภทเกษตรกรรายบุคคล 2.) ประเภทสถาบันเกษตรกร (ประกอบด้วย ชุมนุมสหกรณ์การเกษตร สหกรณ์การเกษตร กลุ่มเกษตรกร วิสาหกิจชุมชน และศูนย์ข้าวชุมชน) คุณสมบัติกรณีเกษตรกรรายบุคคล ต้องมีพื้นที่ทําการเพาะปลูกข้าวหอมมะลิไม่น้อยกว่า 5 ไร่ /กรณีเป็นสถาบันเกษตรกร ต้องมีสมาชิกเป็นเกษตรกรชาวนาตั้งแต่ 10 รายขึ้นไป โดยมีพื้นที่ทําการเพาะปลูกข้าวหอมมะลิรวมกันไม่น้อยกว่า 100 ไร่ ตัวอย่างข้าวเปลือกหอมมะลิที่ส่งเข้าประกวดจะต้องเป็นข้าวเปลือกหอมมะลิที่ผลิตได้ในปีการเพาะปลูก 2565/66 โดยบรรจุถุงพลาสติกให้เรียบร้อย พร้อมทั้งเขียนชื่อที่อยู่ของผู้สมัครเข้าประกวดให้ชัดเจน เกษตรกร และสถาบันเกษตรกร ที่มีความประสงค์จะส่งข้าวเปลือกหอมมะลิ ที่ผลิตได้ในปีการเพาะปลูก 2565/66 เข้าประกวด ยื่นใบสมัครพร้อมสําเนาหลักฐานการขึ้นทะเบียนเกษตรกร หรือสําเนาการจดทะเบียนจากส่วนราชการที่กํากับดูแล พร้อมตัวอย่างข้าวเปลือกหอมมะลิ ได้ตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 19 มกราคม 2566 ณ สํานักงานเกษตรอําเภอแห่งท้องที่ที่เกษตรกร หรือสถาบันเกษตรกร มีภูมิลําเนาตั้งอยู่ สํานักงานเกษตรอําเภอ ตรวจสอบคุณสมบัติผู้ส่งข้าวเปลือกหอมมะลิเข้าประกวด ลงนามรับรองใบสมัคร และจัดส่งใบสมัครพร้อมสําเนาหลักฐานการขึ้นทะเบียนเกษตรกร หรือสําเนาการจดทะเบียนจากส่วนราชการที่กํากับดูแล และตัวอย่างข้าวเปลือกหอมมะลิให้จังหวัดอํานาจเจริญ ณ สํานักงานเกษตรจังหวัดอํานาจเจริญ ภายในวันที่ 20 มกราคม 2566 หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม สํานักงานพาณิชย์จังหวัดอํานาจเจริญ โทร 045-523054 หรือสํานักงานเกษตรอําเภอ ในพื้นที่ผช.พีระพล บัวทอง/ดําเนินรายการ สวท.อจ./ภาพ สมพร ภูมลี/สรุป พิมพ์#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
18/1/2023
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
อำนาจเจริญ
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดอำนาจเจริญ
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230119061607505
null
เกษตรจังหวัดตรังและเกษตรวังวิเศษ ลงพื้นที่เยี่ยมเกษตรกร และกลุ่มเกษตรกรอำเภอวังวิเศษ จังหวัดตรัง
วันนี้ (18 มกราคม พ.ศ. 2566)?นายวสันต์ สุขสุวรรณ เกษตรจังหวัดตรัง, นายนิกร ชิดเชื้อ เกษตรอําเภอวังวิเศษ พร้อมด้วย นางสาวศรินทร แก่นแก้ว นักวิชาการส่งเสริมการเกษตรชํานาญการ และนางสาวศศิธร รักษ์เจริญ นักวิชาการส่งเสริมการเกษตรปฏิบัติการ สํานักงานเกษตรอําเภอวังวิเศษ เยี่ยมกิจกรรมกลุ่มวิสาหกิจชุมชนกลุ่มทําการเกษตรบ้านห้วยใหญ่หมู่ที่ 12 ตําบลอ่าวตง มีกิจกรรมการปลูกกัญชา กิจกรรมแปรรูปผลผลิตทางการเกษตร, เยี่ยมเกษตรกรผู้ปลูกสับปะรดฉีกตา หมู่ที่ 6 ตําบลอ่าวตง ซึ่งแปลงดังกล่าวปลูกสับปะรดแซมในสวนยางพารา โดยปลูกสับปะรดเนื้อที่ 2 ไร่งาน จํานวน 6,000 ต้น และเยี่ยมเกษตรกรผู้ปลูกผักกระถาง,ผักยกแคร่ และผลิตต้นพันธุ์ผักจําหน่าย หมู่ที่ 10 ตําบลวังมะปรางเหนือ อําเภอวังวิเศษ จังหวัดตรัง#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
18/1/2023
ภาคใต้
ตรัง
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดตรัง
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230118205742414
null
ทช. และ สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ ร่วมกันยกระดับการดูแลช่วยเหลือผู้ป่วยฉุกเฉินทางทะเลอย่างทั่วถึง เท่าเทียม และมีคุณภาพมาตรฐานมากขึ้นในอนาคต
กรมทรัพยากรทางทะเลชายฝั่ง (ทช.) และ สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ ร่วมกันยกระดับการดูแลช่วยเหลือผู้ป่วยฉุกเฉินทางทะเลอย่างทั่วถึง เท่าเทียม และมีคุณภาพมาตรฐานมากขึ้นในอนาคต นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) กล่าวว่า กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) และสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (สพฉ.) ร่วมกันลงนามบันทึกความร่วมมือว่าด้วยการช่วยเหลือผู้ป่วยฉุกเฉินทางทะเล เพื่อคุ้มครองสิทธิในการเข้าถึงระบบการแพทย์ฉุกเฉินอย่างทั่วถึง เท่าเทียม และมีคุณภาพมาตรฐาน เนื่องจากปัจจุบันได้ทํากิจกรรมทางทะเลอยู่มากมายทั้งการประมง การท่องเที่ยว การแสวงประโยชน์จากทรัพยากรทางทะเล การจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมทางทะเลบริเวณชายฝั่ง การสํารวจและวิจัยวิทยาศาสตร์ทางทะเล ซึ่งอาจมีเหตุการณ์อุบัติเหตุเกิดขึ้นแบบคาดไม่ถึง เช่น เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานกลางทะเลประสบอุบัติเหตุ นักท่องเที่ยวเกิดอาการเจ็บป่วยกําเริบ หรือเกิดภัยพิบัติทางธรรมชาติขึ้นในทะเล ทั้งนี้ เดิม ทช. มีหน้าที่ตรวจติดตามและเฝ้าระวังสถานการณ์ฉุกเฉินทางทะเลอย่างใกล้ชิด พร้อมสนับสนุนกําลังและยานพาหนะในการเข้าช่วยเหลือผู้เจ็บป่วยฉุกเฉินในทะเลและให้การช่วยเหลือทางการแพทย์อยู่แล้ว แต่ความร่วมมือนี้จะช่วยการสนับสนุนการปฏิบัติการฉุกเฉินเพื่อคุ้มครองสิทธิให้เข้าถึงระบบการแพทย์ฉุกเฉินอย่างทั่วถึง เท่าเทียม มีคุณภาพมาตรฐานให้มีความพร้อมช่วยเหลือผู้ป่วยฉุกเฉินทางทะเล สนับสนุนเจ้าหน้าที่และผู้ปฏิบัติการ อุปกรณ์เครื่องมือ พาหนะทางบก ทางน้ํา ระบบสื่อสารและฐานข้อมูลที่จําเป็น รวมทั้ง จะเร่งอบรมเจ้าหน้าที่ในสังกัดที่ปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ให้ปฏิบัติหน้าที่ช่วยเหลือทางการแพทย์ให้มากกว่าการปฐมพยาบาลเบื้องต้น พร้อมเตรียมจะก่อตั้งกู้ภัยทางทะเลเข้ามาเป็นหน่วยเสริมการทํางานทางทะเลช่วยเหลืออุบัติเหตุและภัยพิบัติให้ครอบคลุมมีประสิทธิภาพมากขึ้นในอนาคต ด้าน เรืออากาศเอก นายแพทย์ อัจฉริยะ แพงมา เลขาธิการสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ กล่าวว่า สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติทํางานทั้งบนทางบก ทางอากาศ และทางน้ํา จะมีเจ้าหน้าที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่กว่า 100,000 คน ซึ่งปกติจะใช้การทํางานร่วมกับท้องถิ่น หรือหน่วยงานที่มีศักยภาพสนับสนุนอุปกรณ์และบุคลากรในการทํางานและจิตอาสา ขณะที่ในอดีตอุบัติเหตุหรือภัยพิบัติทางทะเลแต่ละปีจะเกิดขึ้นบ่อย แต่ให้การช่วยเหลือได้น้อยครั้ง ทําให้ครั้งนี้จะเป็นการบูรณาการทรัพยากรสนับสนุนปฏิบัติการฉุกเฉินให้พร้อมช่วยเหลือผู้ป่วยฉุกเฉินทางน้ําและทางทะเลอย่างมีประสิทธิภาพสอดคล้องกับ ทช. โดย สพฉ. จะเป็นศูนย์กลางประสานงานหน่วยปฏิบัติการแพทย์ หน่วยปฏิบัติการอํานวยการ สถานพยาบาล และ ทช. ที่จะเป็นหน่วยรับผู้ป่วยฉุกเฉินนําส่งสถานพยาบาล แล้วเป็นศูนย์กลางประสานหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนทั้งในประเทศและต่างประเทศเกี่ยวกับการปฏิบัติการฉุกเฉิน
18/1/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230118212726421
null
อธิบดีกรมวิชาการเกษตรลงพื้นที่นครพนม มุ่งเน้น งานวิจัยการเกษตรควบคู่คุณภาพมาตรฐานสินค้าเกษตร เน้นย้ำ เกษตรปลอดภัย
?วันที่ 18 มกราคม 2566 นายระพีภัทร์ จันทรศรีวงศ์ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร ลงพื้นที่จังหวัดนครพนม เพื่อตรวจเยี่ยมและติดตามผลการปฏิบัติงานของด่านตรวจพืชนครพนม ตามภารกิจด้านการควบคุม ตรวจสอบพืช ผลิตผลพืชและวัสดุการเกษตรที่นําเข้า นําผ่าน และส่งออก ตามตาม พ.ร.บ. กักพืช วัตถุอันตราย ปุ๋ย พันธุ์พืช ยาง และคุ้มครองพันธุ์พืชโดยข้อมูลในปี 2565 มีการนําเข้าสินค้าเกษตร จํานวน 40,622.37 ตัน มูลค่ารวม 269 ล้านบาท สินค้าเกษตรที่นําเข้ามากที่สุด 3 อันดับแรก ได้แก่ มันเส้น (Tapioca chip) ไม้แปรรูป และแครอท โดยสินค้าที่นําเข้าส่วนใหญ่มาจาก สปป.ลาว นอกจากนี้มีการนําเข้าปุ๋ยจาก สปป.ลาว เป็นชนิดปุ๋ยเคมี สูตร 0-0-60 จาก สปป.ลาว ปริมาณ 306,562 ตัน มูลค่ารวม 1,555 ล้านบาทการส่งออกสินค้าเกษตรทางด่านตรวจพืชนครพนม ดําเนินการออกใบรับรองสุขอนามัยพืชจํานวน 8,229 ฉบับ ปริมาณ 166,100 ตัน มูลค่ารวม 14,493 ล้านบาท ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบกับปี 2564 มีการออกใบรับรองสุขอนามัยพืช 34,187 ฉบับ ปริมาณการส่งออก 626,823 ตัน มูลค่ารวม 59,404 ล้านบาท ซึ่งมีปริมาณการส่งออกลดลง 76%สินค้าเกษตรที่ส่งออกสูงสุด 5 อับดับแรก ได้แก่ ทุเรียน มังคุด ลําไย หมาก และขนุน ประเทศปลายทาง ได้แก่ จีน เวียดนาม และ สปป.ลาวนอกจากนี้ มีการส่งออกปุ๋ยเคมี 28 สูตร ปริมาณ 5,998 ตัน มูลค่ารวม 132 ล้านบาท ประเทศปลายทาง สปป.ลาว การส่งออกในปี 2565 ลดลงอย่างมากเนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด 19 โดเฉพาะประเทศคู่ค้าสําคัญอย่างจีนได้ประกาศมาตรการ ZERO Covid รวมถึงการตรวจสอบการปนเปื้อนสินค้าอาหารที่ส่งผ่านระบบห่วงโซ่ความเย็นอย่างเคร่งครัด ผู้ประกอบการขนส่งประสบปัญหารถติดที่หน้าด่านนําเข้าของจีน โดยเฉพาะด่านโหย่วอี้กวนซึ่งเป็นด่านนําเข้าหลักของผู้ประกอบการที่ส่งออกสินค้าทางด่านนครพนมไปจีน จากการขนส่งที่ล่าช้าส่งผลโดยตรงต่อคุณภาพผลไม้ ทําให้ปริมาณการส่งออกสินค้าผ่านด่านนครพนมมีจํานวนน้อยลงอย่างเห็นได้ชัด?อธิบดีกรมวิชาการเกษตร กล่าวว่า จากรายงานของฝ่ายเกษตร ประจําสถานกงสุลใหญ่ ณ นครกว่างโจว ศุลกากรแห่งชาติจีน (GACC) ยกเลิกมาตรการการทดสอบการเฝ้าระวังเชื้อไวรัสโควิด – 19 กับผลิตภัณฑ์อาหารที่ขนส่งผ่านระบบห่วงโซ่ความเย็นและสินค้าที่ไม่ได้ขนส่งผ่านระบบห่วงโซ่ความเย็นที่นําเข้า ตั้งแต่วันที่ 8 มกราคม 2566 เป็นต้นไป ซึ่งส่งผลดีต่อการส่งออกผลไม้ให้ถึงมือผู้บริโภคชาวจีนได้อย่างรวดเร็ว และได้ผลไม้ที่สดใหม่และมีคุณภาพยิ่งขึ้นส่งผลให้ราคาผลผลิตสูงขึ้นตามไปด้วยอย่างไรก็ตาม กรมวิชาการเกษตรยังคงเข้มงวดในการป้องกันเชื้อโควิดปนเปื้อนในผลไม้ไทยส่งออก เพื่อให้ผู้บริโภคมั่นใจว่าสินค้าเกษตรไทยมีมาตรการคุมเข้มการป้องกันการปนเปื้อนเชื้อโควิด พร้อมกําชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเตรียมพร้อมรับการส่งออกผลไม้ฤดูกาล ปี 2566 โดยเฉพาะทุเรียนภาคตะวันออกที่จะเริ่มมีการเก็บเกี่ยวและส่งออกช่วงกลางเดือนกุมภาพันธ์นี้ ตรวจสอบคุณภาพของทุเรียนให้ได้ตามมาตรฐานการส่งออกรวมถึงการออกใบรับรองสุขอนามัยพืชเพื่อให้เป็นไปตามเงื่อนไขข้อตกลงพิธีสารไทย-จีน เพื่อยกระดับคุณภาพและมาตรฐานผลไม้ไทยให้เป็นที่ต้องการแก่ผู้บริโภคยิ่งขึ้น?ท้ายที่สุดอธิบดีกรมวิชาการเกษตร เน้นย้ํา ผลผลิตทางการเกษตร ต้องมีความปลอดภัย ทั้งเกษตรกร และผู้บริโภค กรมวิชาการเกษตรต้องมุ่งเน้น งานวิจัย ควบคู่กับมาตรฐานสินค้าเกษตร เกษตรกรต้องปลอดภัย แนะนําเกษตรกรใช้ชีวภัณฑ์ทดแทนเคมีเกษตร#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
18/1/2023
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
นครพนม
สวท.นครพนม
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230119055704495
null
เกษตรกรอำเภอปลาปาก จ.นครพนมใช้เทคโนโลยีลดการเผา ปลอดฝุ่นPM2.5 สร้างรายได้เสริม
วันที่ 18 ม.ค.65 ที่ศูนย์จัดการดินปุ๋ยชุมชนตําบลโคกสูง อําเภอปลาปาก จังหวัดนครพนม สํานักงานเกษตรจังหวัดนครพนม ร่วมกับสํานักงานเกษตรอําเภอปลาปาก ถ่ายทอดความรู้และพัฒนาศักยภาพเกษตรกรให้เป็นวิทยากรในการทําเกษตรปลอดการเผาในพื้นที่ ภายใต้โครงการส่งเสริมการหยุดเผาในพื้นที่การเกษตร พร้อมสาธิตการใช้วัสดุการเกษตรสร้างรายได้เสริมให้แก่เกษตรกร เพื่อมีความรู้ความเข้าใจในการทําเกษตรปลอดการเผา และเป็นการทําการเกษตรที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมนางนัยนา คนครอง รักษาการเกษตรอําเภอปลาปาก เปิดเผยว่า การเผาในพื้นที่การเกษตรเป็นสาเหตุที่สําคัญของปัญหาที่ทําให้คุณภาพของดินขาดความอุดมสมบูรณ์ ส่งผลให้พืชไม่สามารถเจริญเติบโตได้เต็มที่ ผลผลิตที่ได้รับต่ํากว่าที่ควรจะเป็น และเป็นแหล่งกําเนิดมลพิษทางอากาศที่สําคัญแหล่งหนึ่ง ซึ่งก่อให้เกิดก๊าซพิษ หมอกควัน ฝุ่นละออง เถ้า และเขม่าควัน ระบายออกสู่ชั้นบรรยากาศ ส่งผลให้เกิดปัญหาหมอกควันปกคลุมประเทศไทย มีผลกระทบต่อสุขภาพอนามัยของประชาชนและเศรษฐกิจของประเทศ ซึ่งพื้นที่การเกษตรที่มีการเผาสูง คือ นาข้าว ไร่อ้อย และไร่ข้าวโพด และสําหรับในพื้นที่อําเภอปลาปาก เกษตรกรมักจะทําการเผาทําลายตอซังข้าว ซึ่งเป็นการทําลายจุลินทรีย์ในดิน ทําให้หน้าดินแห้งผลผลิตของพืชตกต่ํา รวมทั้งยังส่งผลเสียต่อสภาพแวดล้อมต่างๆการจัดกิจกรรมในครั้งนี้ จึงเป็นการสร้างความรู้ ความเข้าใจให้กับเกษตรกรได้ตระหนักถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้น พร้อมแนะนําทางเลือกในการใช้เทคโนโลยีการเกษตรทดแทนการเผา สร้างการมีส่วนร่วมของเกษตรกรในการป้องกันและแก้ไขปัญหาการเผา รวมทั้งสร้างต้นแบบในการทําการเกษตรปลอดการเผา เพื่อสนับสนุนการหยุดเผาในพื้นที่การเกษตรภายในงานประกอบด้วย กิจกรรมการเรียนรู้นําร่องสาธิตเทคโนโลยีการจัดการเศษวัสดุการเกษตรทดแทนการเผาในพื้นที่การเกษตรทั้งหมด 4 กิจกรรม ดังนี้ 1.การไถกลับตอซังข้าวแห้งโดยใช้รถแทรกเตอร์ 2.การปรับปรุงบํารุงดิน 3.สาธิตการเพาะเห็ดฟางจากเศษวัสดุทางการเกษตร 4.สาธิตการทําปุ๋ยหมักจากเศษวัสดุทางการเกษตร#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
18/1/2023
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
นครพนม
สวท.นครพนม
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230119055052492
null
โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมาประชุมหารือด้านสิ่งแวดล้อม โครงการเงินกู้เพื่อพัฒนาเศษรฐกิจและสังคม (ADB) จังหวัดนครราชสีมา
นายแพทย์ประวีณ ตัณฑประภา ผู้อํานวยการโรงพยาบาลมหาราช เป็นประธานประชุมหารือด้านสิ่งแวดล้อมและสังคม โครงการเงินกู้เพื่อพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมธนาคารพัฒนาเอเชีย (ADB) ของโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา โดยมีคณะผู้บริหารโรงพยาบาล ทีมงานด้านสิ่งแวดล้อมและสังคมของธนาคารพัฒนาเอเชีย และผู้แทนจากสํานักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ร่วมหารือ ให้ข้อมูลด้านสิ่งแวดล้อม และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา จะดําเนินการโครงการขอรับการสนับสนุนเงินเพื่อจัดสร้างอาคารศูนย์ความเป็นเลิศทางการแพทย์ 18 ชั้น พร้อมครุภัณฑ์และอาคารพักอาศัยของแพทย์พยาบาล ขนาดความสูง 18 ชั้น จากโครงการเงินกู้เพื่อพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม กระทรวงการคลัง และธนาคารพัฒนาเอเชีย เพื่อให้เกิดความยั่งยืนของการใช้ประโยชน์ของพื้นที่และการรักษาสภาพแวดล้อมโดยรอบของโรงพยาบาลต่อไป#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
18/1/2023
null
นครราชสีมา
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนครราชสีมา
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230119005604474
null
เกษตรจังหวัดบึงกาฬ ร่วมกิจกรรมออกหน่วยให้บริการเคลื่อนที่ด้านการเกษตร ให้ความรู้ คำแนะนำด้านการเกษตรที่มีประโยชน์แก่ประชาชนและเกษตรกร
นายกฤษฎา พลสิทธิ์ เกษตรจังหวัดบึงกาฬ มอบหมายให้ นายอภิชาติ? เสริม?พงศ์? หัวหน้า?กลุ่ม?ส่งเสริม?และ?พัฒนา?การผลิต? พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่?กลุ่มส่งเสริม?และ?พัฒนา?การผลิต? สํานักงาน?เกษตร?จังหวัด?บึงกาฬ? ร่วมกิจกรรมออกหน่วยให้บริการเคลื่อนที่ด้านการเกษตรเพื่ออํานวยความสะดวกให้แก่ประชาชนและเกษตรกรในโครงการ“ปกป้องและเชิดชูสถาบันพระมหากษัตริย์และหน่วยบําบัดทุกข์ บํารุงสุข สร้างรอยยิ้มให้ประชาชนจังหวัดบึงกาฬ” ประจําปีงบประมาณ 2566 ณ โรงเรียนบ้านหนองเดิ่นทุ่ง ตําบลหนองเดิ่น อําเภอบุ่งคล้า จังหวัดบึงกาฬซึ่งการออกหน่วยให้บริการฯ ครั้งนี้ ประกอบด้วย การให้คําปรึกษา คําแนะนําเกี่ยวกับการเกษตร และประชาสัมพันธ์การหยุดเผาในพื้นที่การเกษตร สร้างการรับรู้ให้แก่เกษตรกรและประชาชนทั่วไปรับทราบ พร้อมทั้งเสนอทางเลือกเพื่อทดแทนการเผาโดยให้เกษตรกรหันมาใช้พื้นที่และนําวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรมาคลุมพืชผัก หรือทําปุ๋ยหมัก ทําให้เกิดประโยชน์ทั้งต่อเกษตรกรและสิ่งแวดล้อม นอกจากนี้ยังได้สนับสนุนเมล็ดพันธุ์ผักสวนครัวเพื่อให้นําไปเพาะปลูกไว้บริโภคเป็นการลดรายจ่ายในครัวเรือนด้วย#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
19/1/2023
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
บึงกาฬ
สวท.บึงกาฬ
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230119090422521
null
ปศุสัตว์เพชรบุรี ผลักดันร้านค้าจำหน่ายเนื้อสัตว์ เข้าโครงการปศุสัตว์ OK สร้างอาหารปลอดภัยสู่ผู้บริโภค ต้อนรับเทศกาลตรุษจีน 2566
นายสัตวแพทย์กรรัตน์ คุ้มกระ ปศุสัตว์จังหวัดเพชรบุรี นําทีมงานสํานักงานปศุสัตว์อําเภอเมืองเพชรบุรี ลงพื้นที่ตลาดสดอําเภอเมืองเพชรบุรี เพื่อตรวจเยี่ยมร้านค้าที่จําหน่ายสินค้าปศุสัตว์ ที่เข้าร่วม“โครงการเนื้อสัตว์ปลอดภัย ใส่ใจผู้บริโภค” หรือ “ปศุสัตว์ OK” โดยได้เน้นย้ําให้ผู้ประกอบการรักษาความสะอาดสถานที่ขายสินค้า มีสุขลักษณะส่วนบุคคลที่ดี มีสุขลักษณะในการจัดเก็บและการจําหน่ายสินค้าโดยใช้กรรมวิธีที่เหมาะสม รวมทั้งรักษาความสะอาดของอุปกรณ์และของใช้ต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง จําหน่ายสินค้าที่สะอาดและปลอดภัยต่อผู้บริโภค ต้อนรับเทศกาลตรุษจีน 2566 พร้อมนี้ได้ประชาสัมพันธ์เชิญชวนผู้ประกอบการร้านค้าที่จําหน่ายเนื้อสัตว์ ไข่ไก่ เข้าร่วม “ โครงการ ปศุสัตว์ OK ” เพื่อเป็นการรับรองสถานที่จําหน่ายเนื้อสัตว์ ไข่ไก่ ที่มีสุขลักษณะที่ดี ปลอดโรค ถูกสุขอนามัย สามารถตรวจสอบย้อนกลับได้ตลอดกระบวนการผลิต โดยสถานที่จําหน่ายที่ผ่านการรับรองภายใต้โครงการฯ จะได้รับใบประกาศและป้ายสัญลักษณ์ "ปศุสัตว์ OK" ไว้แสดง ณ จุดจําหน่าย เมื่อผู้บริโภคเห็นตราสัญลักษณ์นี้ จึงมั่นใจได้ว่า เนื้อสัตว์ และไข่ไก่ ที่ซื้อไปบริโภคนั้น มีคุณภาพ ปลอดภัย และผ่านการตรวจสอบรับรองจากกรมปศุสัตว์ เป็นอีกหนึ่งทางเลือกของผู้บริโภคในการเลือกซื้อสินค้าปศุสัตว์ปลอดภัย มั่นใจได้ว่าสินค้าปศุสัตว์ที่ซื้อจากสถานที่จําหน่ายที่มีตราสัญลักษณ์ “ ปศุสัตว์ OK ” นภสวรรณ มีลิ/สวท.เพชรบุรี#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
19/1/2023
ภาคตะวันตก
เพชรบุรี
สวท.เพชรบุรี
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230119091043528
null
จ.ลำปาง Kick Off รณรงค์ประชาสัมพันธ์การแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 ประจำปี 2566
นายชัชวาลย์ ฉายะบุตร ผู้ว่าราชการจังหวัดลําปาง เป็นประธานพิธีเปิดกิจกรรม Kick Off รณรงค์ประชาสัมพันธ์การแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 จังหวัดลําปาง ประจําปี 2566 ที่บริเวณสนามด้านหน้าศาลากลางจังหวัดลําปาง โดยได้รับความร่วมมือจากส่วนราชการส่วนกลางและภูมิภาค หน่วยงานรัฐวิสาหกิจ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ข้าราชการพลเรือน ทหาร ตํารวจ และพลังมวลชนจากทุกภาคส่วน จํานวนกว่า 300 คน เข้าร่วมกิจกรรมเพื่อแสดงพลังการแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควัน และฝุ่นละอองจังหวัดลําปาง ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการดําเนินการตามมาตรการเตรียมการ เพื่อเน้นย้ําให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องให้ความสําคัญและประสานความร่วมมือในการดําเนินการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควัน การแจ้งทุกหน่วยงานรณรงค์ประชาสัมพันธ์ให้ชุมชนงดเว้นกิจกรรมการเผาทุกประเภทที่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพประชาชนโดยรวมนายสุรชัย แสงศิริ ผู้อํานวยการสํานักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดลําปาง กล่าวว่า จากสภาพปัญหาไฟป่าและหมอกควันที่ผ่านมา โดยเฉพาะในห้วงเดือนมกราคมถึงเดือนเมษายนของทุกปี 9 จังหวัดภาคเหนือตอนบน และพื้นที่จังหวัดลําปาง จะประสบปัญหาไฟป่าและหมอกควันปกคลุมพื้นที่อย่างมาก โดยเป็นผลสืบเนื่องมาจากการเผาในที่โล่ง การเผาในพื้นที่ป่าไม้ การเผาวัชพืช การเผาขยะ สิ่งเหลือใช้ทางการเกษตร การคมนาคม ซึ่งส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศป่าไม้ สภาวะแวดล้อม เศรษฐกิจการท่องเที่ยวของจังหวัด และสุขภาพอนามัยของประชาชนในปี 2566 จังหวัดลําปางได้กําหนดมาตรการในการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่า และหมอกควัน ภายใต้วิสัยทัศน์ "ลําปางฟ้าใส ไร้หมอกควัน" และกรอบแนวคิด Single Command สั่งการและควบคุมการเผา บูรณาการทุกภาคส่วนมีส่วนร่วม และป้องกันก่อนเกิดเหตุ ระดมสรรพกําลังเพื่อเฝ้าระวัง ซึ่งเป้าหมายในปีนี้ คือ 1.ประชาชนมีสุขภาพดี ลดอัตราการเจ็บป่วย สาเหตุจากหมอกควัน 2.จํานวนจุดความร้อน Hotspot ลดลงร้อยละ 20 จากค่าเฉลี่ย 5 ปีย้อนหลัง และ 3.ควบคุมไม่ให้เกิดฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM.25) เกินค่ามาตรฐาน (50 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร)#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
19/1/2023
ภาคเหนือ
ลำปาง
สวท.ลำปาง
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230119090249520
null
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ หารือประเทศญี่ปุ่น ชู 3 ประเด็นหลัก เสริมสร้างระบบเกษตรและอาหาร เชื่อมโยงตลาดส่งออกในภูมิภาค
นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า จากการหารือร่วมกับนายอัตสึชิ โนนากะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตร ป่าไม้ และประมงญี่ปุ่น เพื่อเสริมสร้างความร่วมมือด้านการเกษตรในมิติต่างๆ ทั้งด้านการส่งเสริมความมั่นคงทางอาหารระดับภูมิภาค การอํานวยความสะดวกตลาดสินค้าเกษตรเพื่อการส่งออก ตลอดจนกรอบความร่วมมือในสถานการณ์วิกฤตคับขัน ประเทศไทยหยิบยกประเด็นหารือใน 3 เรื่อง ได้แก่ การผลักดันการยกระดับความร่วมมือด้านความมั่นคงอาหารและปัจจัยการผลิต สนับสนุนให้มีการเสริมสร้างความร่วมมือด้านการเกษตรต่างๆ ให้มีประสิทธิภาพสูงสุดและเป็นรูปธรรม และเร่งรัดกระบวนการพิจารณาการเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขการนําเข้ามังคุดของไทยและส้มของญี่ปุ่น และการเปิดตลาดสินค้าเกษตรรายการใหม่ ได้แก่ ส้มโอพันธุ์ขาวน้ําผึ้งของไทยและข้าวกล้องของญี่ปุ่น เพื่อให้ทั้งสองประเทศได้มีการนําเข้าสินค้าเกษตรได้ง่ายและมีความหลากหลายมากขึ้น ถือว่าการหารือร่วมกับญี่ปุ่นในครั้งนี้ นับเป็นโอกาสดีของทั้ง 2 ประเทศ ที่จะได้ต่อยอดแนวทางความร่วมมือด้านการเกษตรร่วมกันในเชิงลึกยิ่งขึ้นและยังเป็นการส่งเสริมขยายความเชื่อมโยงในระดับภูมิภาคให้ยั่งยืน
19/1/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
Radio-สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230119094629548
null
กรมส่งเสริมการเกษตร ระบุ ขณะนี้มีเกษตรกรเข้าร่วมโครงการส่งเสริมการใช้เครื่องจักรกลทางการเกษตรพื้นฐานครบ 3 พันรายแล้ว พร้อมเริ่มหลักสูตรทั้ง 3 หลักสูตร
นายเข้มแข็ง ยุติธรรมดํารง อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวว่า ตามที่กรมส่งเสริมการเกษตรได้ประกาศรับสมัครเกษตรกรเพื่อเข้าร่วมโครงการส่งเสริมการใช้เครื่องจักรกลทางการเกษตร ประจําปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ใน 3 หลักสูตร คือ หลักสูตรช่างพื้นฐาน หลักสูตรช่างเน้นหนัก และหลักสูตรช่างแทรกเตอร์เพื่อการเกษตร มีเกษตรกรให้ความสนใจสมัครเข้ารับการอบรมในครั้งนี้เป็นจํานวนมาก ครบตามเป้า 3 พันราย ใน 72 จังหวัด เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยขณะนี้กรมส่งเสริมการเกษตรได้เริ่มอบรมช่างเกษตร หลักสูตรช่างพื้นฐาน ในหลายจังหวัดแล้ว ส่วนอีก 2 หลักสูตรที่เหลือนั้น จะเริ่มเปิดอบรมในเดือนเมษายนเป็นต้นไป ซึ่งจะต้องคัดเลือกจากเกษตรกรที่ผ่านการอบรมหลักสูตรช่างพื้นฐานแล้วเท่านั้น เนื่องจากเป็นหลักสูตรที่ต่อยอดความรู้และทักษะจากหลักสูตรระดับพื้นฐาน ล่าสุดสํานักงานเกษตรจังหวัดนครสวรรค์ ได้รายงานว่า กําลังดําเนินการจัดอบรมช่างเกษตร หลักสูตรช่างพื้นฐาน โดยแบ่งออกเป็น 3 รุ่น ทั้งในอําเภอชุมแสง อําเภอพยุหะคีรี และอําเภอเมืองนครสวรรค์ เพื่อกระจายการอบรมให้ครอบคลุมเกษตรกรในหลายพื้นที่ โดยเกษตรกรที่เข้าอบรมจะได้รับความรู้พื้นฐานด้านการซ่อมเครื่องยนต์ ได้แก่ การใช้งานเครื่องยนต์เกษตรและเครื่องจักรกลการเกษตร การบํารุงรักษาเครื่องยนต์เกษตรก่อนและหลังการใช้งาน การเลือกใช้น้ํามันเครื่อง การจําแนกและเลือกใช้อะไหล่ที่มีคุณภาพ โดยมีเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญด้านเครื่องจักรกลจากศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาอาชีพการเกษตรจังหวัดกําแพงเพชร เจ้าหน้าที่จากกองส่งเสริมโครงการพระราชดําริการจัดการพื้นที่และวิศวกรรมเกษตร กรมส่งเสริมการเกษตร เป็นวิทยากรถ่ายทอดความรู้ ซึ่งเกษตรกรผู้เข้าอบรมมั่นใจได้ว่า การเข้าอบรมช่างเกษตรจากกรมส่งเสริมการเกษตรนั้น จะได้รับความรู้ที่ถูกต้อง สามารถซ่อมบํารุงอุปกรณ์และเครื่องยนต์ทางการเกษตรได้ในเบื้องต้น และลดค่าใช้จ่ายให้กับตัวเกษตรกรเองได้
19/1/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
Radio-สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230119100632559
null
วราวุธ กำชับ คณะกรรมการองค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทย ทำงานอย่างเต็มกำลังความสามารถและก่อสร้างสวนสัตว์แห่งใหม่อย่างโปร่งใส เพื่อให้เป็นศูนย์กลางแห่งการเรียนรู้แห่งใหม่ของไทยในอนาคต
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กําชับ คณะกรรมการองค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทย ทํางานอย่างเต็มกําลังความสามารถและก่อสร้างสวนสัตว์แห่งใหม่อย่างโปร่งใส เพื่อให้เป็นศูนย์กลางแห่งการเรียนรู้แห่งใหม่ของประเทศไทยในอนาคต นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า ได้มอบนโยบายให้คณะกรรมการองค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทย เพื่อเป็นแนวทางดําเนินงานและพัฒนางานขององค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ โดยขอให้คณะกรรมการและองค์การสวนสัตว์ฯปฏิบัติงานตามภารกิจหน้าที่อย่างเต็มกําลังความสามารถ ให้ความสําคัญ และใส่ใจดูแลผู้ใต้บังคับบัญชาทุกระดับ เพื่อให้องค์กรเกิดความเข้มแข็ง พร้อมกําชับการดําเนินงานก่อสร้างสวนสัตว์แห่งใหม่ในพื้นที่คลองหก จังหวัดปทุมธานี ที่ได้รับพระราชทานโฉนดที่ดิน 300 ไร่ จากสํานักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ มาทดแทนพื้นที่เดิมของสวนสัตว์ดุสิต โดยขอให้ก่อสร้างด้วยความโปร่งใส รอบคอบ และรวดเร็ว รวมทั้ง วางแผนการพัฒนาให้เป็นสวนสัตว์ที่ทันสมัยในระดับนานาชาติ มีพื้นที่และสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมกับธรรมชาติของสัตว์ เพื่อให้สัตว์ที่นํามาจัดแสดงมีความเป็นอยู่ที่ดี ไม่แออัด และมีความปลอดภัย ใช้รองรับการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะสามารถเป็นศูนย์กลางแห่งการเรียนรู้แห่งใหม่ของประเทศไทยในอนาคตต่อไป
19/1/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230119102347563
null
อธิบดีกรมชลประทาน สั่งทุกโครงการชลประทานในพื้นที่ภาคใต้ รับมือฝนตกหนักในพื้นที่ภาคใต้ช่วงวันที่ 20-25 ม.ค. นี้
นายประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า จากการคาดการณ์สภาพอากาศของกรมอุตุนิยมวิทยา ประกาศแจ้งเตือนเรื่อง ฝนตกหนักถึงหนักมากและคลื่นลมแรงบริเวณภาคใต้ มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้มีกําลังแรงขึ้น ทําให้บริเวณภาคใต้มีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ในช่วงวันที่ 20-25 มกราคม นี้ บริเวณจังหวัดสุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช ภูเก็ต กระบี่ พัทลุง สงขลา ตรัง สตูล ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส ซึ่งอาจทําให้เกิดน้ําท่วมฉับพลัน และน้ําป่าไหลหลากนั้น จึงได้สั่งการให้โครงการชลประทานในพื้นที่ภาคใต้ เตรียมพร้อมรับมือฝนตกหนัก โดยเน้นย้ําให้เฝ้าติดตามและตรวจสอบสภาพอาคารชลประทานให้มีประสิทธิภาพพร้อมใช้งาน รวมทั้งบริหารจัดการน้ําในอ่างเก็บน้ําขนาดใหญ่และขนาดกลางให้อยู่ในเกณฑ์ควบคุม ตลอดจนปรับการระบายน้ําให้เหมาะสม สอดคล้องกับสถานการณ์ นอกจากนี้ ยังได้กําชับเจ้าหน้าที่ติดตามสถานการณ์น้ําและสภาพอากาศจากกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิด พร้อมทั้งบูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องประสานแจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่เพื่อเตรียมรับมือน้ําหลาก และเตรียมเครื่องจักร เครื่องมือ รถแบคโฮ รถขุด รถเทรลเลอร์ เครื่องสูบน้ําเคลื่อนที่ เครื่องผลักดันน้ําประจําจุดพื้นที่เสี่ยงให้สามารถเข้าให้ความช่วยเหลือได้ทันท่วงที
19/1/2023
null
กรุงเทพมหานคร
Radio-สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230119110143575
null
กอนช. เฝ้าระวังฟ้าคะนองบางแห่งในภาคใต้ พร้อมให้กรมชลประทานเร่งทำโครงการบรรเทาอุทกภัยใน อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เพื่อแก้ปัญหาอุทกภัยและภัยแล้งในพื้นที่
กองอํานวยการน้ําแห่งชาติ (กอนช.) เฝ้าระวังฟ้าคะนองบางแห่งในภาคใต้ พร้อมให้กรมชลประทานเร่งทําโครงการบรรเทาอุทกภัยใน อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เพื่อแก้ปัญหาอุทกภัยและภัยแล้งในพื้นที่ นายสุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสํานักงานทรัพยากรน้ําแห่งชาติ (สทนช.) ในฐานะรองผู้อํานวยการกองอํานวยการน้ําแห่งชาติ (กอนช.) กล่าวถึงสถานการณ์น้ําภาพรวมของประเทศวันนี้ (19 ม.ค.66) ว่า ภาคใต้ตอนล่างมีฝนผ้าคะนองบางแห่ง ช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมามีฝนตกปานกลางถึงหนักบริเวณ จ.สงขลา , ภูเก็ต และพังงา จึงต้องติดตามโครงการบรรเทาอุทกภัยใน อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา โดยให้กรมชลประทานทําโครงการบรรเทาอุทกภัย อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ต่อเนื่อง เบื้องต้นโครงการบรรเทาอุทกภัยอําเภอหาดใหญ่ (ระยะที่ 2) จ.สงขลา ได้เสร็จแล้วช่วงปลายปี 2565 จะช่วยป้องกันและบรรเทาปัญหาอุทกภัยตัวเมืองหาดใหญ่และเป็นแหล่งน้ําสํารองไว้ใช้เพื่ออุปโภค-บริโภค การเกษตร และผลิตน้ําประปาใน จ.สงขลา ช่วงหน้าแล้งได้อีก 5 ล้านลูกบาศก์เมตร ส่วนโครงการบรรเทาอุทกภัย อ.หาดใหญ่ (ระยะที่ 2) จ.สงขลา ได้ปรับปรุงคลองภูมินาถดําริ หรือคลองระบายน้ํา ร.1 ความยาว 21.34 กิโลเมตร โดยขยายความกว้างท้องคลองจาก 24 เมตร เป็นคลองคอนกรีตเสริมเหล็กรูปตัวยูท้องคลองกว้าง 70 เมตร เพิ่มศักยภาพระบายน้ําจากเดิม 465 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เป็น 1,200 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ทั้งนี้ เมื่อรวมปริมาณน้ําระบายจากคลองอู่ตะเภาอีก 465 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เพิ่มการระบายน้ําได้สูงสุด 1,665 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ช่วยบรรเทาน้ําท่วมในเทศบาลนครหาดใหญ่และพื้นที่ใกล้เคียง โดยมีประตูระบายน้ําหน้าควน 2 บริเวณปากคลองระบายน้ํา ร.1 ทําหน้าที่เปิด-ปิดบานระบายน้ํา เพื่อใช้ควบคุมปริมาณน้ําที่จะไหลเข้าสู่คลองภูมินาถดําริก่อนระบายน้ําทั้งหมดลงสู่ทะเลสาบสงขลา
19/1/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230119105110570
null
อย. แนะใช้ 4 วิธี เลือกอาหารไหว้เจ้าตรุษจีน ให้อุ่นใจ ห่างไกลโรค
นายแพทย์วิทิต สฤษฎีชัยกุล รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา เปิดเผยว่า เทศกาลตรุษจีน เป็นประเพณีสําคัญที่สุดของชาวจีน ซึ่งคนไทยเชื้อสายจีนมักมีการจับจ่ายซื้ออาหารสําหรับกราบไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์และบรรพบุรุษ ซึ่งอาหารล้วนมีการปรุงสุกไว้ล่วงหน้า ทําให้เสี่ยงต่อการเน่าเสียได้ง่าย หรืออาจมีการใส่สีหรือวัตถุกันเสียเกินกว่าที่กฎหมายกําหนด หากไม่ระวังในการเลือกซื้อ อาจได้รับอันตรายจากอาหารที่ไม่มีคุณภาพและไม่ปลอดภัยในการบริโภค สํานักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ขอแนะ 4 วิธีการเลือกซื้ออาหารในช่วงเทศกาลตรุษจีนคือ อาหารสด ต้องเลือกสภาพสดใหม่ เนื้อแน่น มีสี กลิ่นตามธรรมชาติ ไม่มีจ้ําเลือด ขนมมงคล ควรเลือกที่มีสีไม่ฉูดฉาด มีสีกลิ่นรสปกติ บรรจุอยู่ในภาชนะที่สะอาด ไม่มีสีออกมาปนเปื้อนกับอาหาร อาหารกระป๋อง ควรเลือกที่ลักษณะกระป๋องอยู่ในสภาพดี ไม่บุบ บวม หรือเป็นสนิม ฉลากแสดงรายละเอียด ชื่ออาหาร เลขสารบบอาหารในกรอบเครื่องหมาย อย. ชื่อและที่ตั้งของสถานที่ผลิต หรือผู้นําเข้าและประเทศผู้ผลิต น้ําหนักสุทธิ ส่วนประกอบที่สําคัญ วันเดือนและปีที่ผลิตและหมดอายุ ผักและผลไม้ ควรเลือกซื้อที่สด สะอาด และควรล้างทําความสะอาดก่อนนํามาบริโภค สามารถลดการตกค้างของสารกําจัดศัตรูพืชได้โดยการล้างด้วยผงฟู หรือเบคกิ้งโซดาครึ่งช้อนโต๊ะ ต่อน้ํา 10 ลิตร แช่ทิ้งไว้ 15 นาที แล้วล้างด้วยน้ําสะอาด หรือล้างด้วยน้ําส้มสายชู 1 ช้อนโต๊ะ ต่อน้ํา 4 ลิตร แช่ทิ้งไว้ประมาณ 15 นาที แล้วล้างด้วยน้ําสะอาด หรือสามารถซื้อชุดทดสอบสารตกค้างสารเคมีกําจัดแมลงในผักและผลไม้ด้วยตนเอง ตรวจสารตกค้างสารเคมีจํากัดแมลงในผักและผลไม้ได้อย่างรวดเร็วภายในเวลา 45 นาที หากผู้บริโภคพบเห็นผลิตภัณฑ์สุขภาพที่ไม่ได้มาตรฐาน หรือไม่ได้รับความปลอดภัยจากการบริโภค ขอให้ร้องเรียนมาได้ที่ สายด่วน อย. โทร. 1556 ทาง Oryor Smart Application หรือแจ้งสํานักงานสาธารณสุขจังหวัดได้ทุกจังหวัดทั่วประเทศ
19/1/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
Radio-สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230119113138584
null
จังหวัดร้อยเอ็ด เร่งฉีดพ่นยาฆ่าเชื้อป้องกันโรคไข้หวัดนกและโรคระบาดในสัตว์ปีก
นายปัญญา มูลคํากาเจริญ ปศุสัตว์จังหวัดร้อยเอ็ด นําเจ้าหน้าที่กลุ่มพัฒนาสุขภาพสัตว์ /ปศุสัตว์อําเภอเมือง /อําเภอธวัชบุรี และด่านกักกันสัตว์มหาสารคาม ลงพื้นที่เสี่ยงซึ่งคาดว่าจะเกิดโรคไข้หวัดนก ได้แก่ ฟาร์มสัตว์ปีก /สถานที่ฆ่าสัตว์ปีก และสนามไก่ชน ในพื้นที่ อําเภอเมือง และอําเภอธวัชบุรี เพื่อฉีดพ่นยาฆ่าเชื้อเพื่อทําลายเชื้อโรคในพื้นที่ และโรคระบาดอื่นๆในสัตว์ปีก ซึ่งปัจจุบันพื้นที่จังหวัดร้อยเอ็ด มีอากาศหนาวเย็น เหมาะสําหรับการแพร่ระบาดของเชื้ออย่างรวดเร็ว ขณะเดียวกันยังมีนกชนิดต่างๆได้อพยพมาอาศัยอยู่ในพื้นที่จํานวนมาก และเกษตรกรได้ทําการเลี้ยงเป็ดไล่ทุ่งอีกด้วย ซึ่งเสี่ยงต่อการเกิดโรคระบาด เพื่อเป็นการป้องกันการระบาดของไข้หวัดนก และโรคอื่นๆ ในสัตว์ปีก ปศุสัตว์จังหวัดร้อยเอ็ด จึงได้ทําการฉีดพ่นยาฆ่าเชื้อ ที่สนามไก่ชนเทศบาลตําบลมะอึ อําเภอธวัชบุรี/โรงฆ่าสัตว์ปีก อําเภอเมืองร้อยเอ็ด และ สถานกักกันสัตว์มหาสารคาม ทั้งนี้ เพื่อเป็นการป้องกันและสกัดกั้นการแพร่ระบาดของเชื้อไม่ให้แพร่ระบาดไปในวงกว้างต่อไป#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
19/1/2023
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ร้อยเอ็ด
สวท.ร้อยเอ็ด
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230119125003618
null
ปศุสัตว์จังหวัดสมุทรปราการ ลงพื้นที่ตรวจตลาดสดและตรวจสอบราคาสินค้าปศุสัตว์ในช่วงเทศกาลตรุษจีน
นายกฤษฎา ทองสวัสดิ์ ปศุสัตว์จังหวัดสมุทรปราการ พร้อมด้วยผู้แทนจากสํานักงานพาณิชย์จังหวัดสมุทรปราการ นายแก่นเพชร เนียนแนบ นายสัตวแพทย์ชํานาญการ รักษาราชการแทนปศุสัตว์อําเภอบางพลี และกลุ่มพัฒนาคุณภาพสินค้าปศุสัตว์ สํานักงานปศุสัตว์จังหวัดสมุทรปราการ ร่วมลงพื้นที่ตรวจตลาดสดและตรวจสอบราคาสินค้าปศุสัตว์ในช่วงเทศกาลตรุษจีน ณ ตลาดทิพย์นิมิตร ตําบลบางพลีใหญ่ อําเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ เพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่ผู้บริโภคในการเลือกซื้อสินค้าปศุสัตว์ เช่น เนื้อสุกร เนื้อไก่ และไข่สด นําไปประกอบพิธีไหว้ขอพรเทพเจ้าและบรรพบุรุษที่ล่วงลับไปแล้ว ในช่วงเทศกาลตรุษจีนกรมปศุสัตว์ได้มีความห่วงใยประชาชนชาวไทยเชื้อสายจีนที่ออกมาเลือกซื้อสินค้าปศุสัตว์ในช่วงเทศกาลตรุษจีน เพื่อเตรียมจัดพิธีไหว้ขอพรเทพเจ้า และบรรพบุรุษที่ล่วงลับไปแล้วในวันปีใหม่ของจีน ซึ่งสํานักงานปศุสัตว์จังหวัดสมุทรปราการ ได้มีการเข้มงวดตรวจสอบกระบวนการผลิตสินค้าปศุสัตว์ให้เป็นไปตามมาตรฐานการผลิตของกรมปศุสัตว์ รวมถึงการสุ่มเก็บตัวอย่างเนื้อสัตว์ตรวจวิเคราะห์ทางห้องปฏิบัติการ เพื่อตรวจหาสารตกค้างต่างๆ ที่อาจเป็นอันตรายต่อผู้บริโภค ให้ผู้บริโภคเกิดความมั่นใจว่าสินค้าปศุสัตว์ที่ผ่านการตรวจสอบจากกรมปศุสัตว์นั้น มีคุณภาพและปลอดภัย นอกจากนี้ สํานักงานปศุสัตว์จังหวัดสมุทรปราการ ได้ดําเนินโครงการปศุสัตว์ OK เพื่อยกระดับมาตรฐานการผลิตสินค้าปศุสัตว์ทั้งระบบ โดยมุ่งหวังให้ตราสัญลักษณ์ปศุสัตว์ OK ช่วยสร้างความมั่นใจในการพิจารณาเลือกซื้อสินค้าปศุสัตว์ของผู้บริโภคได้ง่ายขึ้นทั้งนี้ ผู้บริโภคควรเลือกซื้อเนื้อสัตว์ที่ดี เพื่อความปลอดภัยต่อสุขภาพ และขอให้ประชาชนผู้บริโภคมั่นใจว่า สินค้าปศุสัตว์ที่กรมปศุสัตว์ให้การรับรองนั้น มีมาตรฐานการผลิตที่สะอาด ปลอดภัย เหมาะสมแก่การบริโภค ปลอดจากสารตกค้าง และที่สําคัญสามารถตรวจสอบย้อนกลับได้ตลอดกระบวนการผลิต ดังนั้น ในช่วงเทศกาลตรุษจีนนี้ มั่นใจซื้อสินค้าปศุสัตว์ ให้สังเกตตราสัญลักษณ์ “ปศุสัตว์ OK” สําหรับการลงพื้นที่สํารวจตรวจสอบตลาดสดในครั้งนี้ ผู้แทนพาณิชย์จังหวัดสมุทรปราการ ได้กําชับให้ผู้ประกอบการ ติดป้ายแสดงราคาสินค้าอย่างชัดเจน เพื่อให้ผู้บริโภคได้ตัดสินใจในการเลือกซื้อสินค้าได้#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
19/1/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
สมุทรปราการ
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสมุทรปราการ
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230119131612631
null
ผู้ว่าฯ สมุทรปราการ ร่วมรณรงค์ให้ชุมชนช่วยลดขยะที่ต้นทาง ติดตั้ง “ถังขยะเปียก ลดโลกร้อน” เปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของโลก
นายศุภมิตร ชิณศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการ เปิดโครงการ “ถังขยะเปียก ลดโลกร้อน” พร้อมทั้งรณรงค์การติดตั้ง ถังขยะเปียก ลดโลกร้อน ในพื้นที่ชุมชนสุนทรศาลทูล ตําบลบางเมืองใหม่ อําเภอเมืองฯ จังหวัดสมุทรปราการ สร้างความตระหนักและความร่วมมือจากพี่น้องประชาชนในการคัดแยกขยะเศษอาหารหรือขยะเปียกในครัวเรือน เพื่อช่วยลดขยะที่ต้นทาง โดยมีนายสมศักดิ์ แก้วเสนา นายอําเภอเมืองสมุทรปราการ ท้องถิ่นจังหวัดสมุทรปราการ นาวาเอกอนุศักดิ์ นาคทิม นายกเทศมนตรีตําบลบางเมือง ผู้นําชุมชนและประชาชนชุมชนสุนทรศาลทูล ร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ตามที่กระทรวงมหาดไทย มีนโยบายให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น รณรงค์ส่งเสริมให้มีการจัดทําถังขยะเปียกลดโลกร้อนให้ครบทุกครัวเรือน เพื่อทําความดีถวายสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 90 พรรษา 12 สิงหาคม 2565 และรณรงค์ให้ประชาชนมีการคัดแยกขยะตั้งแต่ต้นทาง ลดงบประมาณขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในการจัดการขยะให้น้อยลงเทศบาลตําบลบางเมือง จังหวัดสมุทรปราการ จึงได้จัดทําโครงการดังกล่าวขึ้น โดยการจัดทําถังขยะเปียก ลดโลกร้อนเป็นการจัดการขยะต้นทาง ซึ่งการลดปริมาณขยะเปียกหรือขยะเศษอาหารที่มีปริมาณน้ําหนักมากที่สุด จะช่วยลดปัญหากลิ่นน้ําเสียจากการเก็บขนขยะ ลดภาระงบประมาณขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในการจัดการขยะ ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากบ่อฝังกลบ อีกทั้งขยะเปียกที่เปลี่ยนเป็นสารบํารุงดินสามารถนําไปใช้ประโยชน์ในครัวเรือนและยังสามารถสร้างรายได้ให้กับครัวเรือนได้อีกด้วย#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
19/1/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
สมุทรปราการ
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสมุทรปราการ
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230119211444861
null
อีอีซี เปิดความสำเร็จ รวมพลังเครือข่ายพลังสตรีกว่า 600 คน สร้างการรับรู้คนในพื้นที่ เฝ้าระวังดูแลสิ่งแวดล้อม พร้อมร่วมพัฒนาสินค้าวิสาหกิจชุมชน สร้างงาน เพิ่มรายได้ให้คนอีอีซีต่อเนื่อง
??วันนี้ (19 ม.ค. 2566) นายคณิศ แสงสุพรรณ ประธานที่ปรึกษาพิเศษ สํานักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) หรืออีอีซี เข้าร่วมมอบนโยบายการดําเนินงานของเครือข่ายพลังสตรี อีอีซี ปี 2566 ภายในงานประชุมเชิงปฏิบัติการสรุปผลโครงการเสริมสร้างเครือข่ายการดูแลสิ่งแวดล้อม ชุมชน และเฝ้าระวังการใช้ประโยชน์ที่ดินตามแผนผัง อีอีซี (EEC Woman Power) โดยมี นายเกษมสันต์ จิณณวาโส ที่ปรึกษาพิเศษด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม อีอีซี เป็นประธานในพิธี ร่วมด้วยนายธัชพล กาญจนกูล รองเลขาธิการสายงานพื้นที่และชุมชน อีอีซี เข้ามอบรางวัลเชิดชูเกียรติให้แก่เครือข่ายพลังสตรีอีอีซี จากพื้นที่อีอีซี 3 จังหวัด ที่เข้าร่วมงานฯ ณ โรงแรมบางแสน เฮอริเทจ จังหวัดชลบุรี?โครงการ เครือข่ายพลังสตรี อีอีซี นับเป็นโครงการสําคัญที่ อีอีซี ได้ดําเนินการมาต่อเนื่องจนเข้าสู่ปีที่ 4 ในปี 2566 นี้ เพื่อให้กลุ่มพลังสตรีใน 3 จังหวัด (ระยอง ชลบุรี ฉะเชิงเทรา) ที่เข้าร่วมโครงการฯ กว่า 600 คน เป็นกลไกสําคัญในการสร้างการรับรู้และความเข้าใจนโยบายต่างๆ ของอีอีซี และร่วมเป็นเครือข่ายในการดูแลเฝ้าระวังการใช้ประโยชน์ที่ดินในอีอีซี ให้สอดคล้องกับข้อกําหนดในแผนผังการใช้ประโยชน์ที่ดิน อีอีซี รวมถึงการยกระดับอาชีพ และผลิตภัณฑ์ชุมชนในพื้นที่ ซึ่งพลังสตรีได้มีส่วนร่วมในการสร้างงาน สร้างรายได้ให้แก่วิสาหกิจชุมชนให้ขายสินค้าท้องถิ่นได้เพิ่มมากขึ้นอีกด้วย?ทั้งนี้ การดําเนินกิจกรรมที่เด่น ๆ ของเครือข่ายพลังสตรีอีอีซี ซึ่งได้มีกลไกความร่วมมือกับหน่วยงานท้องถิ่น อาสาสมัครพิทักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมหมู่บ้าน เช่น กรณีการลักลอบประกอบกิจการโรงงานหลอมทองเหลืองในพื้นที่ สปก. จังหวัดฉะเชิงเทรา การลับลอบทิ้งขยะและกากอุตสาหกรรมในพื้นที่ส่วนบุคคล ในพื้นที่อําเภอนิคมพัฒนา จังหวัดระยอง ซึ่งพลังสตรีอีอีซีได้ร่วมสังเกตการณ์และเฝ้าระวังการกระทําผิดด้านสิ่งแวดล้อมเหล่านี้มาอย่างต่อเนื่อง รวมถึงในช่วงสถานการณ์โควิด -19 และช่วงอุทกภัยในพื้นที่ที่ผ่านมา กลุ่มพลังสตรี ได้ร่วมกับอีอีซี ดําเนินกิจการที่เป็นสาธารณประโยชน์ เช่น การจัดทําถุงยังชีพเพื่อเป็นกําลังใจให้ชุมชน เป็นต้น?โดยการดําเนินงานของกลุ่มพลังสตรีอีอีซี ในระยะต่อไป นอกจากบทบาทด้านการเฝ้าระวังการใช้ประโยชน์ในที่ดินให้เป็นไปตามแผนผัง อีอีซี และด้านสิ่งแวดล้อมแล้ว พลังสตรีอีอีซี จะสามารถขยายบทบาทด้านการยกระดับคุณภาพชีวิตของคนในชุมชนเพิ่มมากขึ้นด้วย เช่น ด้านสาธารณสุข ด้านการพัฒนาผลิตภัณฑ์ชุมชน วิสาหกิจชุมชน เพื่อยกระดับรายได้ชุมชน สอดคล้องกับเป้าหมายการดําเนินงานในระยะที่ 4 ของอีอีซี ที่จะมุ่งพัฒนาไปที่ประชาชน ชุมชน ให้มีรายได้ดี มีคุณภาพชีวิตที่ดี มีความสุข มีงานทําและเป็นเมืองที่น่าอยู่ต่อไป?สําหรับโครงการ พลังสตรีอีอีซี หรือโครงการเสริมสร้างเครือข่ายการดูแลสิ่งแวดล้อม ชุมชน และเฝ้าระวังการใช้ประโยชน์ที่ดินตามแผนผัง อีอีซี (EEC Woman Power) อีอีซี เริ่มดําเนินการตั้งแต่ปี 2563 เพื่อให้กลุ่มสตรีใน อีอีซี ได้มีส่วนร่วมและเป็นกลไกสําคัญในการสร้างการรับรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับ อีอีซี และร่วมเป็นพลังเครือข่ายในการดูแลและเฝ้าระวังการใช้ประโยชน์ที่ดินใน อีอีซี ให้สอดคล้องกับข้อกําหนดในแผนผังการใช้ประโยชน์ในที่ดิน ซึ่งจุดเริ่มต้นของโครงการฯ ได้รับการสนับสนุนอย่างดียิ่งจากประธานเครือข่ายอาสาสมัครพิทักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมหมู่บ้าน หรือ ทสม. ทั้ง 3 จังหวัด โดยปัจจุบันมีเครือข่ายพลังสตรี อีอีซี ที่จะร่วมกับอีอีซี เสริมสร้างชุมชนให้มีความเข้มแข็ง และร่วมรักษาสิ่งแวดล้อมในพื้นที่ได้อย่างยั่งยืน#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
19/1/2023
ภาคตะวันออก
ชลบุรี
สวท.ชลบุรี
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230119183656773
null
จังหวัดลำพูนเปิดศูนย์การเรียนรู้งานส่งเสริมการเกษตร DOAE Learning Center ขับเคลื่อนองค์ความรู้ การทำงานและพัฒนาการเกษตรอย่างยั่งยืน
วันนี้ (19 ม.ค.66) ที่สํานักงานเกษตรจังหวัดลําพูน นายรพีทัศน์ อุ่นจิตตพันธุ์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร เป็นประธานเปิดศูนย์การเรียนรู้งานส่งเสริมการเกษตรจังหวัดลําพูน DOAE Learning Center ปี 2565 เพื่อเป็นแหล่งเรียนรู้งานส่งเสริมการเกษตรให้กับเจ้าหน้าที่ส่งเสริมการเกษตร และเกษตรกรทั่วไปเข้ามาศึกษาเรียนรู้ตามสถานีเรียนรู้ต่างๆ โดยมีส่วนราชการสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ตัวแทนเกษตรกรทั้ง 8 อําเภอเข้าร่วมพิธี นางสาวอรชร ปันเตจ๊ะ หัวหน้ากลุ่มอารักขาพืช รักษาราชการแทน เกษตรจังหวัดลําพูน กล่าวว่า สํานักงานเกษตรจังหวัดลําพูนได้จัดทําโครงการศูนย์การเรียนรู้งานส่งเสริมการเกษตรจังหวัดลําพูน DOAE Learning Center เพื่อเป็นแหล่งเรียนรู้งานส่งเสริมการเกษตรให้กับเจ้าหน้าที่ส่งเสริมการเกษตร และเกษตรกรทั่วไปได้เข้ามาศึกษาเรียนรู้ตามสถานีเรียนรู้ต่างๆ จํานวน 5 สถานี ได้แก่ 1.สถานีเรียนรู้การจัดการไม้ผลแบบผสมผสาน 2. สถานีเรียนรู้การผลิตพืช สมุนไพร และพืชผักสวนครัว 3. สถานีเรียนรู้การขยายพันธุ์แหนแดง และพันธุ์พืชพันธุ์ดี 4. สถานีเรียนรู้การผลิตปุ๋ยหมัก และวัสดุปลูก และ5. สถานีเรียนรู้สวนผักคนเมือง โดยมีเป้าหมายให้เจ้าหน้าที่ของสํานักงานเกษตรจังหวัดและสํานักงานเกษตรอําเภอทุกอําเภอ เกษตรกร ตลอดจนผู้ที่สนใจด้านการเกษตร ได้มาเรียนรู้และสามารถนําองค์ความรู้ที่ได้ไปประยุกต์และปรับใช้ในการส่งเสริมเกษตรกรในพื้นที่ได้ ด้านรองอธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวว่า การเปิดศูนย์การเรียนรู้ฯ ดังกล่าว เห็นได้ว่าทุกสถานีเรียนรู้มีความสําคัญ และสามารถตอบโจทย์การแก้ไขปัญหาที่ตรงกับสถานการณ์ทางด้านการเกษตรในปัจจุบันแก่ เกษตรกรและเจ้าหน้าที่สามารถนําเอาองค์ความรู้แต่ละสถานีไปปรับใช้ในการบรรเทาและแก้ไขปัญหาที่พบอยู่ในปัจจุบัน เช่น การใช้แหนแดง เพื่อลดการใช้ปุ๋ยเคมี การผลิตปุ๋ยหมักแบบเร่งการย่อยสลาย เพื่อสามารถนําไปใช้และช่วยให้ดินมีโครงสร้างและคุณสมบัติที่เหมาะสมต่อการเจริญเติบโตของพืชในช่วงที่ปุ๋ยเคมีมีราคาที่สูงขึ้น รวมถึงการปลูกพืชผักสวนครัว สวนผักคนเมืองเพื่อบริโภคในครัวเรือน ช่วยให้เกษตรกรลดการพึ่งพาปัจจัยภายนอก ลดรายจ่ายในครัวเรือนได้อีกด้วย#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
19/1/2023
ภาคเหนือ
ลำพูน
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดลำพูน
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230119145622666
null
จ.นราธิวาส โดยสำนักงานเกษตรอำเภอเมืองนราธิวาส วันถ่ายทอดเทคโนโลยี เพื่อเริ่มต้นฤดูกาลผลิตใหม่ ปี 2566 (Field Day) เพื่อถ่ายทอดความรู้ และให้บริการแก่เกษตรกรในชุมชนผ่าน 5 สถานีถ่ายทอดความรู้
วันนี้ (19 ม.ค.66) นายกฤษฎา สุขสบาย หัวหน้ากลุ่มงานบริหารงานปกครองอําเภอเมืองนราธิวาส เป็นประธานเปิดงานวันถ่ายทอดเทคโนโลยี เพื่อเริ่มต้นฤดูกาลผลิตใหม่ ปี 2566 (Field Day) อําเภอเมืองนราธิวาส ที่ศูนย์เรียนรู้เกษตรผสมผสาน ชนากานต์ฟาร์ม (เครือข่าย ศพก.) บ้านบือราเป๊ะ หมู่ที่ 3 ตําบลโคกเคียน อําเภอเมืองนราธิวาสพร้อมกล่าวว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้ขับเคลื่อนภาคการเกษตรด้วย BCG Model มีเป้าหมายเพื่อปรับเปลี่ยนระบบการเกษตรของประเทศไทยสู่ 3 สูง คือ ประสิทธิภาพสูง มาตรฐานสูง รายได้สูง ด้วยการใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรม ผสานภูมิปัญญา ยกระดับผลผลิตเกษตรสู่มาตรฐานสูง ครอบคลุมทั้งด้านคุณภาพ โภชนาการ ความปลอดภัย และระบบการผลิตที่ยั่งยืน ให้การทําการเกษตรเป็นอาชีพที่รายได้สูง ผลิตสินค้าเกษตรพรีเมียม สินค้าเชิงนวัตกรรมที่หลากหลาย อันจะส่งผลให้ GDP ภาคเกษตรเติบโตอย่างสมดุลและมีเสถียรภาพ รายได้เกษตรกรเพิ่มขึ้นเกิดการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรการเกษตรอย่างสมดุลและยั่งยืนการขับเคลื่อนดังกล่าว มีศูนย์เรียนรู้การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตร หรือ ศพก. เครือข่าย เป็นกลไกสําคัญในการสร้างกระบวนการเรียนรู้ และให้ความรู้เกษตรกร อีกทั้งหน่วยงานภาคีที่เกี่ยวข้องจะต้องร่วมกันดําเนินการขณะเดียวกันเกษตรในพื้นที่จังหวัดนราธิวาส เป็นเกษตรกรรายย่อย ยังมีการผลิตและการจําหน่ายสินค้าเกษตร การเข้าถึงข้อมูล แหล่งทุน ทรัพยากร และการตลาดได้น้อย ที่สําคัญยังทําการเกษตรในลักษณะต่างคนต่างทํา ขาดการรวมกลุ่มการผลิต จึงทําให้ยากต่อการจัดการผลผลิตและผลิตสินค้าเกษตรไม่สอดคล้องกับความต้องการของตลาดทั้งนี้จากสภาพปัญหารัฐบาลโดยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้ดําเนินการจัดกิจกรรมต่าง ๆ ผ่าน ศพก. มุ่งเน้นการสร้างความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเกษตร และในวันนี้ (19 ม.ค.66) ได้จัดงานฯ ขึ้น เป็นการช่วยเตรียมความพร้อมของเกษตรกรก่อนเข้าสู่การเริ่มต้นฤดูกาลผลิตใหม่ ปี 2566ด้านนายซูไฮดี บาซอ เกษตรอําเภอเมืองนราธิวาส กล่าวว่า การจัดงานในวันนี้ (19 ม.ค.66) เป็นไปตามนโยบายของรัฐบาล เพื่อถ่ายทอดความรู้ และให้บริการแก่เกษตรกรในชุมชน ให้ได้รับความรู้ เข้าถึงปัจจัยการผลิต ลดความเสี่ยงในการบริหารจัดการ และให้เกิดความเข้มแข็งขึ้นในชุมชน ซึ่งมีการจัดสถานีถ่ายทอดความรู้ จํานวน 5 สถานีประกอบด้วย สถานที่ 1 สถานีพัฒนาที่ดินนราธิวาส//สถานที่ 2 โครงการชลประทานนราธิวาส//สถานีที่ 3 สํานักงานประมงอําเภอเมืองนราธิวาส//สถานีที่ 4 สํานักงานปศุสัตว์อําเภอเมืองนราธิวาส//สถานีที่ 5 ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรนราธิวาสทั้งนี้ มีเกษตรกรในพื้นที่อําเภอเมืองนราธิวาส จํานวน 40 คน มาร่วมกิจกรรม พร้อมนี้ขอขอบคุณหน่วยงานฝ่ายปกครอง องค์กรปกครองส่วนถิ่น หน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ สถาบันเกษตรกร Smart Farmer ศพก.เครือข่ายอําเภอเมืองนราธิวาส ที่ให้ความร่วมมือในการจัดงานฯ ในครั้งนี้ด้วยดี #สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
19/1/2023
null
นราธิวาส
สวท.นราธิวาส
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230119152645680
null
จังหวัดสุรินทร์ขอความร่วมมือเกษตรกรงดการเผาซากพืชและเศษวัสดุทางการเกษตรลดภาวะโลกร้อน
ด้วยสถานการณ์การเข้าสู่ฤดูหนาวของประเทศไทยในปัจจุบันซึ่งจะส่งผลให้เกิดสถานการณ์หมอกควันและฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM2.5) มีแนวโน้มทวีความรุนแรงมากขึ้น สํานักงานเกษตรและสหกรณ์จังหวัดสุรินทร์ในฐานะศูนย์ติดตามและแก้ไขปัญหาภัยพิบัติด้านการเกษตรจังหวัด บูรณาการหน่วยงานสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ในจังหวัดสุรินทร์ ประชาสัมพันธ์ สร้างความรู้ความเข้าใจ ให้เกษตรกรและประชาชนตระหนักถึงผลกระทบที่เกิดจากการเผาในที่โล่ง การเผาเศษวัสดุทางการเกษตร ทําให้พื้นที่เพาะปลูกเสื่อมโทรมเผาผลาญอินทรียวัตถุและธาตุอาหารในดิน ทําลายโครงสร้างดินที่เหมาะสมต่อการเพาะปลูกพืชลงอย่างต่อเนื่องทุกปี ก่อให้เกิดเขม่าควัน เถ้า ฝุ่นละออง ก๊าซพิษ ส่งผลเสียต่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อม ส่งผลให้เกิดการเสียสมดุลธรรมชาติ อากาศร้อนขึ้น โดยมีเป้าหมายคือลดจุดความร้อนจากการเผาในพื้นที่เกษตรกรรมไม่น้อยกว่าร้อยละ 10 เมื่อเทียบกับปี 2565 ซึ่งใช้หลักการดําเนินงาน “แบ่งคน แบ่งพื้นที่ แบ่งทรัพยากร” กําหนดหน่วยงานผู้รับผิดชอบหลักในการบูรณาการ ตามพื้นที่ในความรับผิดชอบ แบ่งเป็น 1) พื้นที่ในเขตชลประทาน มอบโครงการชลประทานสุรินทร์ 2) พื้นที่นอกเขตชลประทาน มอบสํานักงานเกษตรจังหวัดสุรินทร์และสถานีพัฒนาที่ดินสุรินทร์ 3) พื้นที่ในเขตปฏิรูปที่ดิน มอบสํานักงานการปฏิรูปที่ดินจังหวัดสุรินทร์ และบูรณาการร่วมกับอาสาสมัครเกษตรทุกหน่วยงาน ลงพื้นที่ขอความร่วมมือให้เกษตรกรงดเผาซากพืชหรือวัชพืชและเศษวัสดุทางการเกษตร รวมถึงให้ความรู้ คําแนะนําในการบริหารจัดการเศษวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร ให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพต่อไป#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
19/1/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สวท.สุรินทร์
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230119162203716
null
จ.ชัยภูมิเปิดงาน "สมุนไพรพื้นบ้าน อาหารเป็นยา" ขยายตลาดสมุนไพร่ ขับเคลื่อนสินค้าเกษตรอินทรีย์
นายโสภณ สุวรรณรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ เป็นประธานเบิดงาน "สมุนไพรพื้นบ้านอาหารเป็นยา" ณ บริเวณสนามหน้าศาลากลางจังหวัดชัยภูมิ พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการ ซึ่งงานดังกล่าวจัดขึ้นระหว่างวันที่ 12 - 20 มกราคม 2566 จะสามารถเพิ่มช่องทางการจําหน่ายสินค้าเกษตรอินทรีย์ พร้อมเปิดโอกาสให้กลุ่มคนรักสุขภาพได้มีช่องทางเข้าถึงสินค้าเกษตรอินทรีย์ของเกษตรกรตัวจริง ที่นําสินค้าเกษตรอินทรีย์มาจําหน่ายด้วยตนเอง นอกจากนี้ยังเป็นการประชาสัมพันธ์สินค้าเกษตรวินทรีย์ให้รู้จักมากยิ่งขึ้นนางศศิพิมล มงคล พาณิชย์จังหวัดชัยภูมิ กล่าวว่าการจัดงาน ระหว่างวันที่ 12-20 มกราคม 2566 เป็นการจัดงานพร้อมกับงานเจ้าพ่อพญาแล โดยผู้ประกอบการที่มาจําหน่ายสินค้าในงานนี้ประกอบด้วย กลุ่มเกษตรกร ผู้ประกอบการ SME วิสาหกิจชุมขน เครือข่ายธุรกิจ Biz Club จากภาคตะวันวอกเฉียงเหนือ 9 จังหวัด ได้แก่ กาฬสินธ์/ขอนแก่น/ นครราชสีมา/ยโสธร/ร้อยเอ็ด/เลย/อุบลราชธานี/มหาสารคาม/สกลนคร และผู้ประกอบการของจังหวัดชัยภูมิรวมเป็น 30 ราย สับเปลี่ยนกันจําหน่าย รายละไม่น้อยกว่า 3 วัน โดยมุ่งหวังที่จะให้เกษตรกรรายย่อยได้มีโอกาสประชาสัมพันธ์สินค้าและเป็นช่องทางการนําเสนอสินค้า ให้เป็นที่รู้จักแพร่หลายต่อบุคคลที่มาท่องเที่ยวในงานนี้กิจกรรมส่งเสริมการขาย กระตุ้นยอดจําหน่ายสินค้าระหว่างวันเป็นประจําทุกวัน เช่น จัดสินค้านาทีทอง การจําหน่ายสินค้าราคาพิเศษ การทํากิจกรรมที่ให้ผู้ซื้อมีส่วนร่วม เช่น การสาธิตทําน้ําตาลจากน้ําอ้อยสด เป็นต้นนอกจากนี้สํานักงานพาณิชย์ ยังได้จัดบูจําหน่ายสินค้าราคาประหยัด เช่น เพื่อลดค่าครองชีพประชาชน สินค้าได้แก่น้ํามันพืชไข่ไก่ น้ําตาลทราย ผงซักฟอก น้ํายาล้างจาน#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
19/1/2023
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ชัยภูมิ
สวท.ชัยภูมิ
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230119174351755
null
กรมเจ้าท่า ออกประกาศเตือนให้ระมัดระวังการเดินเรือจากฝนตกหนักและคลื่นลมแรงบริเวณภาคใต้ 20-25 มกราคมนี้
นายสมชาย สุมนัสขจรกุล รองอธิบดีกรมเจ้าท่า ลงนามในประกาศฉบับที่ 21 ของกรมเจ้าท่า เตือนให้ระมัดระวังการเดินเรือจากฝนตกหนักและคลื่นลมแรงบริเวณภาคใต้ ทั้งนี้ ตามประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา เรื่อง ฝนตกหนักถึงหนักมากและคลื่นลมแรงบริเวณภาคใต้ ในช่วงวันที่ 20-25 มกราคมนี้ มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้มีกําลังแรงขึ้น ลักษณะเช่นนี้ทําให้บริเวณภาคใต้มีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งจังหวัดที่คาดว่าจะมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ในพื้นที่ภาคใต้ ที่จังหวัดนครศรีธรรมราช สุราษฎร์ธานีพัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา นราธิวาส ตรัง ภูเก็ต กระบี่ และจังหวัดสตูล สําหรับคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยจะมีกําลังแรงขึ้น อ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตรส่วนบริเวณอ่าวไทยตอนล่างทะเลมีคลื่นสูง 2-3 มตร บริเวณฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ชาวเรือในบริเวณดังกล่าวเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงเดินเรือบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองเรือเล็กบริเวณอ่าวไทยตอนล่างควรงดออกจากฝั่งในช่วงวันดังกล่าว นั้นเพื่อความปลอดภัยในการเดินเรือ กรมเจ้าท่า ขอให้นายเรือและผู้ควบคุมเรือระมัดระวังการเดินเรือ หลีกเลี่ยงบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง ติดตามข่าวอากาศอย่างต่อเนื่อง เรือเล็กบริเวณอ่าวไทยที่มีขนาดความยาวเรือน้อยกว่า 10 เมตร ห้ามออกจากฝั่งไปยังทะเลเปิดในระยะนี้
19/1/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230119194027810
null
กรมวิชาการเกษตร ร่วมกับภาคเอกชน สร้างและขยายเครือข่ายผู้ผลิตเมล็ดพันธุ์ เสริมสร้างประเทศไทยเป็นผู้นำด้านเมล็ดพันธุ์ผักระดับโลก
นายระพีภัทร์ จันทรศรีวงศ์ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร เปิดเผยระหว่างการเข้าเยี่ยมชมการผลิตเมล็ดพันธุ์ผักคุณภาพสูง ณ ศูนย์ผลิตเมล็ดพันธุ์ไบเออร์ จังหวัดสกลนคร ว่า กรมวิชาการเกษตรได้ดําเนินงานตามนโยบาย ตลาดนําการวิจัย และตลาดนําการผลิต โดยใช้เทคโนโลยีชีวภาพและชีวภาพขั้นสูงเพื่อผลิตเมล็ดพันธุ์คุณภาพสูงในราคาเป็นธรรมต่อเกษตรกร และได้เน้นย้ําต่อที่ประชุม Asian Seed Congress 2022 ว่าประเทศไทยได้ตั้งเป้าหมายสู่การเป็นผู้นําด้านเมล็ดพันธุ์ผักในระดับโลก ด้วยกลยยุทธ์การขับเคลื่อนเสริมสร้างความร่วมมือระหว่างภาครัฐและภาคเอกชนสู่ความเข้มแข็งของชุมชนและการเติบโตของอุตสาหกรรมเมล็ดพันธุ์อย่างยั่งยืนและเป็นที่น่ายินดีกับบริษัทไบเออร์ไทย จํากัด ที่จะได้รับหนังสือการยอมรับความสามารถของห้องปฏิบัติการตรวจสอบศัตรูพืช จากกรมวิชาการเกษตร เป็นการเสริมสร้างความเชื่อมั่นในระบบการตรวจสอบศัตรูพืชของไทย เพื่ออํานวยความสะดวกในการเคลื่อนย้ายเมล็ดพันธุ์สนับสนุนเป้าหมายการส่งออกเมล็ดพันธุ์มูลค่ามากกว่า 15,000 ล้านบาทต่อปี โดยหลังจากนี้กรมวิชาการเกษตรและบริษัทไบเออร์จะมีโครงการความร่วมมือในลักษณะการสร้างและขยายเครือข่ายผู้ผลิตเมล็ดพันธุ์ เพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งในการผลักดันให้ประเทศไทยเป็นผู้นําด้านเมล็ดพันธุ์ผักระดับโลก
19/1/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
Radio-สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230119194317814
null
เกษตรจังหวัดเลย จับมือเกษตรอำเภอในพื้นที่ เร่งขับเคลื่อน BCG Model แบบบูรณาการ หนุนพืชเกษตรเด่น ยกระดับสู่มาตรฐานสูง
นายฉลอง อินทนนท์ เกษตรจังหวัดเลย เปิดเผยว่า ได้หารือร่วมสํานักงานเกษตรอําเภอทั้ง 14 อําเภอ ผ่านระบบออนไลน์ ด้วยโปรแกรม Zoom Meeting เร่งขับเคลื่อนภาคเกษตรของจังหวัดเลยด้วย BCG Model แบบบูรณาการเชิงพื้นที่ โดยได้วิเคราะห์ชนิดผลผลิตทางการเกษตร เพื่อส่งเสริมพืชเกษตรตามศักยภาพเด่นของแต่ละพื้นที่ ได้แก่ กาแฟ มันสําปะหลัง มะคาเดเมีย ข้าว ไผ่เลี้ยง และพืชสมุนไพร พร้อมกับจัดทํา BCG Value Chain ดําเนินการตั้งแต่ต้นน้ํา กลางน้ํา และปลายน้ํา โดยมุ่งเป้าหมายปรับเปลี่ยนภาคเกษตรในพื้นที่ยกระดับไปสู่ 3 สูง คือ ประสิทธิภาพสูง มาตรฐานสูง และรายได้สูง ด้วยการส่งเสริมให้เกษตรกรนําวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม มาช่วยด้านการผลิตให้มีมูลค่าสูงขึ้น และเน้นเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เพื่อให้เกิดความยั่งยืน ตามแนวทางการขับเคลื่อนภาคเกษตรด้วยโมเดลเศรษฐกิจ BCG#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
19/1/2023
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
เลย
สวท.เลย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230119183056769
null
รองผู้ว่าฯ เลย แนะเกษตรกรปลูกพืชให้เหมาะสมกับสภาพพื้นที่ และใช้หลักการตลาดนำการผลิต เพื่อเริ่มต้นฤดูกาลผลิต ปี 2566 ในงานวันถ่ายทอดเทคโนโลยี (Field Day)
นายณรงค์ จีนอ่ํา รองผู้ว่าราชการจังหวัดเลย เปิดกิจกรรมงานวันถ่ายทอดเทคโนโลยี (Field Day) และบริการการเกษตร เพื่อเริ่มต้นฤดูกาลผลิตใหม่ ปี 2566 พร้อมกันนี้ ได้มอบพันธุ์กล้าไม้ และพันธุ์ปลาแก่เกษตร โดยมีนางรานีย์ ท่าโพธิ์ หัวหน้ากลุ่มยุทธศาสตร์และสารสนเทศ สํานักงานเกษตรจังหวัดเลย ปฏิบัติหน้าที่แทนเกษตรจังหวัดเลย นําหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์พื้นที่จังหวัดเลย ร่วมออกบูธจัดกิจกรรมฐานเรียนรู้ ที่บริเวณศูนย์การเรียนรู้เพิ่มการประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตรศูนย์เครือข่าย “ไร่ไพชยนต์” บ้านปากห้วย หมู่ 7 ตําบลหนองผือ อําเภอท่าลี่ จังหวัดเลย เพื่อสร้างความเข้าใจกับเกษตรกรในพื้นที่ในการเตรียมความพร้อมก่อนเริ่มต้นฤดูกาลผลิตใหม่ ซึ่งจะทําให้เกษตรกรมีต้นทุนในการผลิตที่ลดลง มีรายได้เพิ่มขึ้น ทั้งยังเป็นการเรียนรู้ในการทําอาชีพเสริมเพิ่มรายได้ และเป็นการทําการเกษตรที่ยั่งยืนในอนาคตซึ่งได้รับความสนใจจากเกษตรกรเข้าร่วมฐานสถานีเรียนรู้ทางการเกษตร ประกอบด้วย ฐานประมง, ฐานปศุสัตว์, ฐานบัญชีครัวเรือน, ฐานศูนย์ข้าวชุมชน, ฐานการผลิตและการใช้ปุ๋ยหมักและปุ๋ยพืชสด, ฐานปลูกพืชผัก ไม้ผลเมืองหนาว, ฐานปลูกหม่อนเลี้ยงไหม, ฐานเรียนรู้ สารชีวภัณฑ์, และฐานเรียนรู้ระบบการให้น้ําทางการเกษตรโดยใช้พลังงานแสงอาทิตย์ โดยมีเจ้าหน้าที่ให้คําแนะนําเพื่อให้เกษตรกรสามารถนําไปปรับใช้ในพื้นที่เกษตรของตน นอกจากนี้ ภายในงานมีการให้บริการด้านการเกษตรแบบครบวงจร พร้อมจัดแสดงนิทรรศการองค์ความรู้ในการลดต้นทุนการผลิตแก่เกษตรกร พร้อมแก้ไขปัญหาด้านการเกษตรในพื้นที่จากหน่วยงานของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ตลอดจนการออกร้านจําหน่ายสินค้าการเกษตรจากกลุ่มวิสาหกิจชุมชน กลุ่มแปลงใหญ่ กลุ่มแม่บ้านเกษตรกร กลุ่ม young smart farmer ของอําเภอท่าลี่รองผู้ว่าราชการจังหวัดเลย กล่าวว่า ในการเริ่มต้นฤดูกาลผลิตใหม่ ปี 2566 ให้เกษตรกรได้คํานึงถึงแหล่งน้ําในการทําการเกษตร เลือกปลูกพืชที่เหมาะสมกับสภาพดิน ลดปริมาณการใช้สารเคมี อีกทั้งปลูกพืชให้หลากหลายชนิด เพื่อลดความเสี่ยงด้านการตลาด รวมถึงใช้หลักการตลาดนําการผลิต และขอความร่วมมือให้เกษตรกรงดเผาตอซังและวัสดุทางการเกษตร เพื่อสร้างดินยั่งยืน ฟื้นสิ่งแวดล้อม#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
19/1/2023
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
เลย
สวท.เลย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230119175836761
null
สำนักงานปศุสัตว์อำเภอด่านซ้าย ตรวจเยี่ยมเกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์และโครงการศูนย์เรียนรู้การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตร (ศพก.)
สํานักงานปศุสัตว์อําเภอด่านซ้าย นําโดยนายทวีพงศ์ สาระท้ศนานันท์ ปศุสัตว์อําเภอด่านซ้าย ตรวจเยี่ยมให้คําแนะนําการเลี้ยง การดูแลสุขภาพสัตว์ การป้องกันโรคฯ รักษาโคป่วยแก่เกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์ จํานวน 2 ราย เป็นนางสุพัตรา จันธิจร บ้านเลขที่ 322 หมู่ที่ 9 ตําบลโป่ง เลี้ยงโคเนื้อ 2 ตัว ไก่งวง 14 ตัว และนายวัฒนา อินปลัด บ้านเลขที่ 112 หมู่ที่ 7 ตําบลปากหมัน เลี้ยงกระบือ 16 ตัว รักษากระบือป่วย 1 ตัว ณ บ้านโป่งชี หมู่ที่ 9 ตําบลโป่ง บ้านห้วยน้ําเมย หมู่ที่ 7 ตําบลปากหมัน อําเภอด่านซ้าย จังหวัดเลยจากนั้น สํานักงานปศุสัตว์อําเภอด่านซ้ายคัดเลือก และประสานงานเจ้าของศูนย์เครือข่ายศูนย์เรียนรู้การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตรด้านปศุสัตว์ ประจําปีงบประมาณ 2566 นายชัยวัฒน์ ศรีบุตรตา บ้านเลขที่ 64 หมู่ที่ 1 ตําบลปากหมัน อําเภอด่านซ้าย เพื่อทําหนังสือแสดงความจํานงเลือกอาชีพด้านปศุสัตว์ พ.ศ. 2564 (เลือกอาชีพเลี้ยงไก่พื้นเมือง) โครงการศูนย์เรียนรู้การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตร (ศพก.) ณ บ้านนาทอง หมู่ที่ 1 ตําบลปากหมัน อําเภอด่านซ้าย จังหวัดเลย#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
19/1/2023
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
เลย
สวท.ด่านซ้าย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230119190310789
null
สผ. และกรมทรัพยากรน้ำ ร่วมกันจัดทำระบบคลังข้อมูลความหลากหลายทางชีวภาพของประเทศไทย หวังผลักดัน Biodiversity Big Data ในพื้นที่ชุ่มน้ำทั่วประเทศ
สํานักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) และกรมทรัพยากรน้ํา ร่วมกันจัดทําระบบคลังข้อมูลความหลากหลายทางชีวภาพของประเทศไทย หวังผลักดัน Biodiversity Big Data ในพื้นที่ชุ่มน้ําทั่วประเทศ นายพิรุณ สัยยะสิทธิ์พานิช เลขาธิการสํานักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) พร้อมด้วย นายภาดล ถาวรกฤชรัตน์ อธิบดีกรมทรัพยากรน้ํา ได้ร่วมกันลงนามบันทึกความเข้าใจการจัดทําระบบคลังข้อมูลความหลากหลายทางชีวภาพของประเทศไทย เพื่อสนับสนุนและผลักดันการดําเนินงานการจัดทําระบบคลังข้อมูลความหลากหลายทางชีวภาพของประเทศไทย และทําหน้าที่เป็นศูนย์ข้อมูลกลางด้านความหลากหลายทางชีวภาพของไทย ซึ่งข้อมูลจากกรมทรัพยากรน้ําจะเข้ามาช่วยเติมเต็มให้เกิดความสมบูรณ์ของข้อมูล โดยเฉพาะข้อมูลเกี่ยวกับพื้นที่ชุ่มน้ําและความหลากหลายทางชีวภาพในพื้นที่สําคัญให้มีฐานข้อมูลทรัพยากรมากพอต่อการประมวลผล และแสดงผลข้อมูลที่ครบถ้วนและถูกต้องในการใช้งานเชิงวิชาการและการวางแผนเชิงพื้นที่ในทุกระดับ แล้วสามารถใช้ประโยชน์ได้จริง โดยจะปรับปรุงและนําเข้าข้อมูลสิ่งมีชีวิตในพื้นที่ชุ่มน้ําที่มีความสําคัญระหว่างประเทศ 15 แห่ง , พื้นที่ชุ่มน้ําที่มีความสําคัญระดับชาติ 47 แห่ง , ระดับนานาชาติ 69 แห่ง และพัฒนาการแสดงข้อมูลองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (พื้นที่นําร่อง) เพื่อใช้เป็นข้อมูลพื้นฐานที่สําคัญบริหารจัดการพื้นที่อนุรักษ์และเป็นฐานทรัพยากรในระดับชุมชน ระดับจังหวัด และระดับประเทศ สําหรับระบบคลังข้อมูลความหลากหลายทางชีวภาพของประเทศไทย (TH-BIF) พัฒนาขึ้น เพื่อทําหน้าที่เป็นศูนย์ข้อมูลกลางด้านความหลากหลายทางชีวภาพของประเทศไทย ตั้งแต่ ปี 2561 มีการจัดเก็บข้อมูลพืช สัตว์ จุลินทรีย์ ชนิดพันธุ์ที่ถูกคุกคาม ชนิดพันธุ์ต่างถิ่นที่รุกราน ผู้เชี่ยวชาญ งานวิจัย การใช้ประโยชน์ และสถานภาพตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง มุ่งเชื่อมโยงข้อมูลกับหน่วยงานที่มีภารกิจหลักที่เกี่ยวข้องกับความหลากหลายทางชีวภาพของไทย รวมทั้ง จัดเก็บรวบรวมข้อมูลความหลากหลายทางชีวภาพที่เป็นระบบตามมาตรฐานสากล การพัฒนาแพลตฟอร์มของผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูล การพัฒนาระบบข้อมูลภูมิสารสนเทศด้านความหลากหลายทางชีวภาพ และจากจุดเริ่มต้นระบบคลังข้อมูลฯได้ประสานและขยายเครือข่ายข้อมูลให้ครอบคลุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับความหลากหลายทางชีวภาพ ปัจจุบันระบบคลังข้อมูลฯได้นําเข้าและเชื่อมต่อข้อมูลจากหน่วยงานเครือข่ายแล้วมากกว่า 120,000 รายการ
19/1/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230119195816823
null
เกษตรจังหวัดกระบี่ จัดงานวันถ่ายทอดเทคโนโลยีเพื่อเริ่มต้นฤดูกาลผลิตใหม่ (Field Day) ปี 2566
วันที่ 19 มกราคม 2566 นายชํานาญ นุ่นดํา เกษตรจังหวัดกระบี่ เป็นประธานเปิดงานวันถ่ายทอดเทคโนโลยีเพื่อเริ่มต้นฤดูกาลผลิตใหม่ (Field Day) ประจําปี 2566 ณ ศูนย์เรียนรู้การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตร (ศพก.) หมู่ 5 ตําบลโคกยาง อําเภอเหนือคลอง จังหวัดกระบี่ วัตถุประสงค์เพื่อกระตุ้นให้เกษตรกรเริ่มต้นการผลิตในปีการเพาะปลูกใหม่ โดยใช้เทคโนโลยีและภูมิปัญญาที่มีตามความเหมาะสมของพื้นที่ หน่วยงานต่างๆ มีการให้บริการด้านการเกษตรตามภารกิจ เพื่อสนับสนุนเกษตรกรเริ่มต้นการผลิตในปีการเพาะปลูกใหม่ และเผยแพร่ให้เกษตรกรรู้จักและใช้ประโยชน์จากศูนย์เรียนรู้การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตร ศูนย์เครือข่าย ฯลฯ โดยมีการบูรณาการจากหน่วยงานต่างๆ มาจัดนิทรรศการถ่ายทอดองค์ความรู้ของหน่วยงานราชการ รัฐวิสาหกิจ กลุ่ม สถาบันเกษตรกร สถาบันการศึกษา ภาคเอกชนที่ให้การสนับสนุน ฯลฯ รวมทั้งการแสดงและจําหน่ายสินค้าของกลุ่ม สถาบันเกษตรกร วิสาหกิจชุมชน ฯลฯ#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
19/1/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สวท.กระบี่
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230119203546837
null
รองผู้ว่าฯ เลย เปิดงานวันถ่ายทอดเทคโนโลยี (Field Day) แนะเกษตรกรปลูกพืชให้เหมาะสมกับสภาพพื้นที่ และใช้หลักการตลาดนำการผลิต เพื่อเริ่มต้นฤดูกาลผลิต ปี 2566
ที่บริเวณศูนย์การเรียนรู้เพิ่มการประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตรศูนย์เครือข่าย “ไร่ไพชยนต์” บ้านปากห้วย หมู่ 7 ตําบลหนองผือ อําเภอท่าลี่ จังหวัดเลย นายณรงค์ จีนอ่ํา รองผู้ว่าราชการจังหวัดเลย เปิดกิจกรรมงานวันถ่ายทอดเทคโนโลยี (Field Day) และบริการการเกษตร เพื่อเริ่มต้นฤดูกาลผลิตใหม่ ปี 2566พร้อมกันนี้ ได้มอบพันธุ์กล้าไม้ และพันธุ์ปลาแก่เกษตร โดยมี นางรานีย์ ท่าโพธิ์ หัวหน้ากลุ่มยุทธศาสตร์และสารสนเทศ สํานักงานเกษตรจังหวัดเลย ปฏิบัติหน้าที่แทนเกษตรจังหวัดเลย นําหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์พื้นที่จังหวัดเลย ร่วมออกบูธจัดกิจกรรมฐานเรียนรู้ เพื่อสร้างความเข้าใจกับเกษตรกรในพื้นที่ในการเตรียมความพร้อมก่อนเริ่มต้นฤดูกาลผลิตใหม่ ซึ่งจะทําให้เกษตรกรมีต้นทุนในการผลิตที่ลดลง มีรายได้เพิ่มขึ้น ทั้งยังเป็นการเรียนรู้ในการทําอาชีพเสริมเพิ่มรายได้ และเป็นการทําการเกษตรที่ยั่งยืนในอนาคต ซึ่งได้รับความสนใจจากเกษตรกรเข้าร่วมฐานสถานีเรียนรู้ทางการเกษตร ประกอบด้วย ฐานประมง, ฐานปศุสัตว์, ฐานบัญชีครัวเรือน, ฐานศูนย์ข้าวชุมชน, ฐานการผลิตและการใช้ปุ๋ยหมักและปุ๋ยพืชสด, ฐานปลูกพืชผัก ไม้ผลเมืองหนาว, ฐานปลูกหม่อนเลี้ยงไหม, ฐานเรียนรู้สารชีวภัณฑ์ และฐานเรียนรู้ระบบการให้น้ําทางการเกษตรโดยใช้พลังงานแสงอาทิตย์ โดยมีเจ้าหน้าที่ให้คําแนะนําเพื่อให้เกษตรกรสามารถนําไปปรับใช้ในพื้นที่เกษตรของตน นอกจากนี้ ภายในงานมีการให้บริการด้านการเกษตรแบบครบวงจร พร้อมจัดแสดงนิทรรศการองค์ความรู้ในการลดต้นทุนการผลิตแก่เกษตรกรพร้อมแก้ไขปัญหาด้านการเกษตรในพื้นที่จากหน่วยงานของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ตลอดจนการออกร้านจําหน่ายสินค้าการเกษตรจากกลุ่มวิสาหกิจชุมชน กลุ่มแปลงใหญ่ กลุ่มแม่บ้านเกษตรกร กลุ่ม young smart farmer ของอําเภอท่าลี่รองผู้ว่าราชการจังหวัดเลย กล่าวว่า ในการเริ่มต้นฤดูกาลผลิตใหม่ ปี 2566 ให้เกษตรกรได้คํานึงถึงแหล่งน้ําในการทําการเกษตร เลือกปลูกพืชที่เหมาะสมกับสภาพดิน ลดปริมาณการใช้สารเคมี อีกทั้งปลูกพืชให้หลากหลายชนิด เพื่อลดความเสี่ยงด้านการตลาด รวมถึงใช้หลักการตลาดนําการผลิต และขอความร่วมมือให้เกษตรกรงดเผาตอซังและวัสดุทางการเกษตร เพื่อสร้างดินยั่งยืน ฟื้นสิ่งแวดล้อม#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
19/1/2023
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
เลย
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเลย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230119233542890
null
พัฒนาที่ดินมุกดาหาร ส่งเสริมไถกลบแทนเผา ลดปัญหาหมอกควันและลดโลกร้อน
นายอธิวัฒน์ สิทธิภิญญาพัฒน์ ผู้อํานวยการสถานีพัฒนาที่ดินมุกดาหาร เปิดเผยว่า ตามที่ประเทศไทยประสบปัญหามลพิษทางอากาศ ซึ่งสาเหตุหนึ่งเกิดจากการเผาวัสดุทางการเกษตรและพื้นที่ป่าไม้ เพื่อเตรียมเพาะปลูกในฤดูกาลถัดไป ซึ่งการเผาวัสดุเป็นการสร้างมลพิษทางอากาศ นําไปสู่ภาวะโลกร้อน พื้นที่ป่าเสื่อมโทรม สูญเสียอินทรีย์วัตถุ และธาตุอาหารในดิน ทําลายโครงสร้างดินที่เหมาะสมและทําลายห่วงโซ่อาหาร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มีนโยบายการป้องกันและแก้ไขปัญหาการเผาในพื้นที่เกษตรกรรม โดยร่วมบูรณาการกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตามยุทธศาสตร์ด้านการลดการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกของประเทศให้บรรลุตามเป้าหมาย การลดการปลดปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สุทธิให้เป็นศูนย์ภายในปี 2608 โดยการไถกลบตอซังพืชแทนการเผา ซึ่งก่อให้เกิดปัญหาการปล่อยก๊าซเรือนกระจก จึงสนับสนุนส่งเสริมให้เกษตรกร ลด ละ เลิกการเผาเศษวัสดุทางการเกษตร ที่จะส่งผลกระทบต่อการเกิดภาวะโลกร้อน ผู้อํานวยการสถานีพัฒนาที่ดินมุกดาหาร กล่าวว่า จากข้อมูลของกองวิจัยและพัฒนาการจัดการที่ดิน กรมพัฒนาที่ดิน พบว่า จังหวัดมุกดาหารมีพื้นที่เสี่ยงต่อการเกิดการเผา (Hot Spot) ครอบคลุม 39 ตําบล กระจายทั้ง 7 อําเภอ รวมพื้นที่ 2,306,203 ไร่ โดยสถานีพัฒนาที่ดินมุกดาหาร ได้สนับสนุนเมล็ดพันธุ์พืชปุ๋ยสด ปอเทือง ให้เกษตรกรหว่านพร้อมกับไถกลบตอซังหลังเก็บเกี่ยวข้าว รวมพื้นที่ทั้งจังหวัดที่ดําเนินการแล้ว ณ ปัจจุบัน จํานวน 800 ไร่ กระจายทั้งพื้นที่ 7 อําเภอ ซึ่งได้สร้างความตระหนักให้เกษตรกรทําเกษตรกรรมที่ไม่เผาตอซังพืช ช่วยทําให้คุณสมบัติดินไม่ถูกทําลาย เพิ่มปริมาณอินทรียวัตถุและธาตุอาหารพืชในดินและสามารถใช้ประโยชน์ที่ดินได้อย่างยั่งยืน ช่วยลดปัญหาหมอกควันและฝุ่นละออง ลดผลกระทบต่อการเกิดภาวะโลกร้อน พื้นที่เกษตรกรรมที่มีความเสี่ยงต่อการเผาหรือ Hot Spot ลดลง ส่งผลดีต่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อม ทางด้านนางสาวเกวลี ใจสุข เกษตรกรบ้านนาสองห้อง ตําบลคําป่าหลาย อําเภอเมือง จังหวัดมุกดาหาร เกษตรกรผู้ปลูกปอเทืองหลังเก็บเกี่ยว ให้ข้อมูลว่า ปีที่ผ่านมาก็มีการหว่านปอเทืองและไถกลบตอซังข้าวในพื้นที่ของตนเอง หลังปลูกข้าวได้ผลผลิตเพิ่มมากขึ้น ไม่มีการเผาในแปลงนา ปีนี้เกษตรกรเพื่อนบ้านให้ความสนใจมาก ไปขอรับสนับสนุนเมล็ดพันธุ์ปอเทืองจากสถานีพัฒนาที่ดินมุกดาหาร และนํามาหว่านไถกลบตอซังในพื้นที่ ช่วยลดปัญหาการเผาในพื้นที่ เกษตรกรเข้าใจให้ความสําคัญว่ามีผลดีทั้งต่อตนเองและช่วยลดปัญหาสิ่งแวดล้อม เป็นกิจกรรมที่ดีที่ทุกคนต้องช่วยกัน ร่วมมือกัน #สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
20/1/2023
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
มุกดาหาร
สวท.มุกดาหาร
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230120091504908
null
คพ. เสริมสร้างศักยภาพการควบคุมน้ำทิ้งจากสถานประกอบการขนาดเล็กใน กทม. 50 เขต ให้กับเจ้าหน้าที่ หลังพบหลายสถานประกอบการไม่มีมาตรฐานควบคุมคุณภาพน้ำทิ้ง
กรมควบคุมมลพิษ (คพ.) จัดอบรมเสริมสร้างศักยภาพการควบคุมน้ําทิ้งจากสถานประกอบการขนาดเล็กในกรุงเทพมหานคร 50 เขต ให้กับเจ้าหน้าที่ หลังพบหลายสถานประกอบการไม่มีมาตรฐานควบคุมคุณภาพน้ําทิ้ง นายปิ่นสักก์ สุรัสวดี อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) กล่าวว่า สถานประกอบการขนาดเล็กของประเทศไทยที่มีจํานวนมากส่วนใหญ่ปะปนอยู่กับชุมชน พบยังไม่มีมาตรฐานควบคุมคุณภาพน้ําทิ้ง โดยมีเพียงข้อกําหนดทั่วไปของกิจการที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพที่ต้องกํากับดูแลการประกอบการ ภายใต้พระราชบัญญัติการสาธารณสุข พ.ศ. 2535 เท่านั้น ทําให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้ประกาศเรื่องกําหนดมาตรฐานควบคุมการระบายน้ําทิ้งจากสถานประกอบการขนาดเล็กที่ผลิตสินค้าหรือให้บริการบางประเภท พ.ศ. 2564 เมื่อวันที่ 24 ธันวาคม 2564 ซึ่งมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2565 ซึ่งสถานประกอบการขนาดเล็กที่ผลิตสินค้าหรือให้บริการที่กําหนดไว้ในประกาศฯ จะต้องบําบัดน้ําเสียที่เกิดจากกิจกรรมหลักของสถานประกอบการให้มีค่าเป็นไปตามมาตรฐานที่กําหนด เพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีความรู้ มีความเข้าใจ และใช้เป็นแนวทางกํากับดูแลสถานประกอบการให้จัดการน้ําเสียที่ดีและเหมาะสม ไม่ก่อให้เกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม หรือก่อให้เกิดเหตุเดือดร้อนรําคาญ ขณะเดียวกัน คพ. ยังได้จัดอบรมเสริมสร้างศักยภาพการปฏิบัติตามมาตรฐานควบคุมการระบายน้ําทิ้งจากสถานประกอบการขนาดเล็กในกรุงเทพมหานครให้กับเจ้าหน้าที่สํานักงานเขตกรุงเทพมหานครทั้ง 50 เขต เจ้าหน้าที่หน่วยงานราชการ และผู้ประกอบการที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ปฏิบัติอย่างถูกต้องตามประกาศดังกล่าว
20/1/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230120090755907
null
กอนช. เฝ้าระวังฝนตกเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งในภาคใต้ 11 จังหวัด พร้อมระวังเกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากถึง 25 ม.ค.
กองอํานวยการน้ําแห่งชาติ (กอนช.) เฝ้าระวังฝนตกเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งในภาคใต้ 11 จังหวัด พร้อมระวังเกิดน้ําท่วมฉับพลันและน้ําป่าไหลหลากถึงวันที่ 25 มกราคม นายสุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสํานักงานทรัพยากรน้ําแห่งชาติ (สทนช.) ในฐานะรองผู้อํานวยการกองอํานวยการน้ําแห่งชาติ (กอนช.) กล่าวถึงสถานการณ์น้ําภาพรวมของประเทศวันนี้ (20 ม.ค.66) ว่า ภาคใต้มีฝนเพิ่มมากขึ้นและมีฝนตกหนักบางแห่ง ช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมามีฝนตกปานกลางถึงหนักบริเวณ จ.สงขลา และสตูล โดยกําชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเฝ้าระวังสถานการณ์น้ําในภาคใต้อย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะ เฝ้าระวังปริมาณฝนตกเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง เนื่องจากมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้มีกําลังแรงขึ้น อาจทําให้เกิดน้ําท่วมฉับพลันและน้ําป่าไหลหลากถึงวันที่ 25 มกราคม ในพื้นที่ จ.สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา นราธิวาส ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล ประกอบกับคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยจะมีกําลังแรงขึ้น โดยอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนบริเวณอ่าวไทยตอนล่างทะเลมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร พร้อมทั้ง ให้กรมทรัพยากรน้ําเฝ้าระวังพื้นที่มีความชื้นในดินสูงช่วงวันที่ 20 – 25 มกราคม เพื่อแจ้งเตือนสถานการณ์ได้ทันท่วงที ทั้งนี้ กอนช. ยังให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเฝ้าระวังระดับน้ําทะเลหนุนสูงในพื้นที่ลุ่มต่ําริมปากแม่น้ําของภาคใต้ฝั่งอ่าวไทยช่วงวันที่ 21 – 26 มกราคมนี้ โดยระดับน้ําทะเลหนุนจะขึ้นสูงสุดในวันที่ 23 – 24 มกราคม อาจก่อให้เกิดผลกระทบต่อพื้นที่ลุ่มต่ําริมชายฝั่งทะเลอ่าวไทยใน จ.สุราษฎร์ธานี สงขลา นครศรีธรรมราช ปัตตานี และนราธิวาส
20/1/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230120092445910
null
ปศุสัตว์จังหวัดเพชรบุรีออกหน่วยผ่าตัดทำหมันสุนัข-แมว และฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า ป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า
วานนี้ (19 ม.ค.66) ที่วัดกุ่ม ตําบลบ้านหาด อําเภอบ้านลาด จังหวัดเพชรบุรี ปศุสัตว์เพชรบุรีออกหน่วยผ่าตัดทําหมันสุนัข-แมว และฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า ครั้งที่ 31 ในปีงบประมาณ 2566 ภายใต้โครงการสัตว์ปลอดโรค คนปลอดภัย ตามพระปณิธาน ศาสตราจารย์ ดร.สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี องค์การบริหารส่วนตําบลบ้านหาดร่วมกับสํานักงานปศุสัตว์อําเภอบ้านลาด นําทีมโดย นายมานะ บุตรเพชร ปศุสัตว์อําเภอบ้านลาด กลุ่มพัฒนาสุขภาพสัตว์ สํานักงานปศุสัตว์จังหวัดเพชรบุรี นําทีมโดย สพ.ญ.ภัทริน โอภาสชัยทัตต์ หัวหน้ากลุ่มพัฒนาสุขภาพสัตว์ ดําเนินกิจกรรมให้บริการผ่าตัดทําหมันสุนัขและแมว ฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า พร้อมตรวจสุขภาพสัตว์ของประชาชน และวัดในชุมชน เพื่อควบคุมจํานวนประชากรสัตว์ แก้ไขปัญหาความเดือดร้อนในชุมชน ควบคุมป้องกันโรคระบาดสัตว์ ชนิด โรคพิษสุนัขบ้า ซึ่งมีสุนัขและแมว ภายในวัดและสถานที่ใกล้เคียง รวมทั้งประชาชนพื้นที่ใกล้เคียงนําสุนัขและแมวมารับบริการ รวมทั้งหมดจํานวน 93 ตัว โดยแบ่งเป็น - สุนัข เพศผู้ 13 ตัว เพศเมีย 35ตัว - เเมว เพศผู้ 25 ตัว เพศเมีย 20 ตัว ทั้งนี้ ชุมชนที่สนใจให้ไปออกหน่วยทําหมันสุนัขและแมว ติดต่อ อบต./เทศบาลของท่าน เพื่อให้ อบต./เทศบาล ดําเนินการสํารวจจํานวนสุนัขและแมวจรจัด กลุ่มด้อยโอกาส วัด โรงเรียน ประสานกลุ่มคนที่จับสัตว์เหล่านั้นได้ เช่น คนให้อาหาร เพื่อร่วมด้วยช่วยกันจับสุนัขและแมวมาเตรียมตัว งดน้ําและอาหารอย่างน้อย 8-12 ชั่วโมงก่อนผ่าตัด โดยขังกรงหรือขังในที่ที่เหมาะสม เพื่อจะประสานกับปศุสัตว์อําเภอ เพื่อนัดวันออกหน่วย โดย อบต. และเทศบาลประกาศแจ้งวันออกหน่วยผ่านเสียงตามสายสวท.เพชรบุรี#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
20/1/2023
ภาคตะวันตก
เพชรบุรี
สวท.เพชรบุรี
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230120094954917
null
ปศุสัตว์ร้อยเอ็ด ออกตรวจเข้มร้านค้าจำหน่ายเนื้อสัตว์ในช่วงเทศกาลตรุษจีน
เช้าวันนี้ 20 มกราคม 2566 เวลา 07.00 น. นายปัญญา มูลคํากาเจริญ ปศุสัตว์จังหวัดร้อยเอ็ด พร้อมคณะได้ออกตรวจเยี่ยมร้านค้าจําหน่ายสินค้าปศุสัตว์ จําพวกเนื้อสด ที่ตลาดสดสระทอง อําเภอเมืองร้อยเอ็ด จังหวัดร้อยเอ็ด เพื่อคุมเข้มการจําหน่ายสินค้าจําพวกเนื้อสด ได้แก่ ไก่สด หมูสด เป็ดสด เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภคในการเลือกซื้อสินค้าด้านปศุสัตว์ในช่วงเทศกาลตรุษจีน ว่ามีความปลอดภัย และผ่านการตรวจสอบมาตรฐานจากเจ้าหน้าที่กรมปศุสัตว์นายปัญญา มูลคํากาเจริญ ปศุสัตว์จังหวัดร้อยเอ็ด เปิดเผยว่า สําหรับสินค้าด้านปศุสัตว์ที่เปิดจําหน่ายตามท้องตลาดต่างๆ ซึ่งมีปริมาณมากขึ้นในช่วงเทศกาลตรุษจีน โดยเฉพาะสินค้าปศุสัตว์ประเภท เนื้อหมู เนื้อไก่ และเป็ดต้ม ที่ชาวไทยเชื้อสายจีนนิยมเลือกซื้อกัน เพื่อจัดเตรียมพิธีไหว้ขอพรเทพเจ้าและบรรพบุรุษที่ล่วงลับ สํานักงานปศุสัตว์จังหวัดร้อยเอ็ด จึงเพิ่มความเข้มงวดในการตรวจสอบกระบวนการผลิตเนื้อสัตว์ให้เข้มข้นยิ่งขึ้น เพื่อให้ผู้บริโภคได้บริโภคเนื้อสัตว์ที่ถูกสุขลักษณะ สะอาด และปลอดภัยสุขอนามัย ตลอดจนราคาก็ให้เป็นไปตามราคาควบคุมของกระทรวงพาณิชย์ ทั้งนี้ คาดว่าปริมาณอาหารด้านปศุสัตว์ จะเพียงพอต่อความต้องการของผู้บริโภคในช่วงเทศกาลตรุษจีน 2566 นี้ อย่างแน่นอน#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
20/1/2023
null
ร้อยเอ็ด
สวท.ร้อยเอ็ด
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230120095253920
null
เกษตรกรจังหวัดสิงห์บุรีปลูกกะหล่ำปลียักษ์ สร้างรายได้ส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงเกษตร
สํานักงานเกษตรกรจังหวัดสิงห์บุรี แนะนํา นางสาวปวีณา อ่อนมี เกษตรในพื้นที่ หมู่ที่ 2 ตําบลน้ําตาล อําเภออินทร์บุรี จังหวัดสิงห์บุรี ให้ปลูกพืชผักช่วงฤดูหนาว ส่งเสริมการปลูกโดยการจัดหาเมล็ดพันธุ์ให้เกษตรกรทําการเพาะปลูกกะหล่ําปลี กะหล่ําดอก และบล็อกโคลี่ บนพื้นที่ข้างบ้าน ขนาด 2 งาน ซึ่ง นางสาวปวีณา เกษตรกรและครอบครัวมีแนวคิดทําการปลูกพืชผัก ราคาดี อายุสั้น ใช้น้ําน้อย ไม่ใช้สารเคมี ปลอดภัยต่อผู้บริโภค เป็นที่ต้องการของตลาด และยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร โดยการให้ลูกค้าเดินทางมาจากต่างจังหวัด เข้ามาแวะเช็คอินถ่ายรูป กับกะหล่ําปลียักษ์ แล้วตัดขายให้กับลูกค้าสดๆ จากแปลงผัก เพราะอยู่ติดกับถนนสายเอเชีย ขายกิโลกรัมละ 30 บาท ลูกหนึ่งหนักประมาณ 2-3 กิโลกรัม ส่วนใหญ่ลูกค้าจะมากันตอนช่วงเช้าและช่วงเย็นเพราะอากาศดีเหมาะกับการถ่ายรูป ในอนาคตเกษตรกรจะปลูกให้หลากสีมากขึ้นเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวที่เดินทางผ่านถนนสายเชียขึ้นเหนือเข้ามาเที่ยวกันเยอะขึ้นแล้วพืชผลทางเกษตรก็จะขายดีตามเพราะเป็นของขวัญของฝากให้ญาติพี่น้องไปทําอาหารรับประทานกันที่บ้านอย่างปลอดภัย ซึ่งสามารถสร้างรายได้ให้กับครอบครัวของเกษตรกรได้เป็นอย่างดี ในการปลูกพืชตามฤดูกาล เพื่อสร้างความหลากหลายของการผลิตสินค้าเกษตร ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคในฤดูกาลต่างๆ นําไปสู่ความมั่นคง มั่งคั่งและยั่งยืนในการประกอบอาชีพเกษตรกร ต่อไป#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
20/1/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
สิงห์บุรี
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสิงห์บุรี
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230120101633943
null
ปศุสัตว์จังหวัดลพบุรีลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมร้านจำหน่ายผลิตภัณฑ์ปศุสัตว์สร้างความเชื่อมั่นในช่วงเทศกาลตรุษจีน
วันที่ 20 มกราคม 2566 เวลา 07.00 น. นายสัตวแพทย์จรูญ ชูเกียรติวัฒนา ปศุสัตว์จังหวัดลพบุรี พร้อมด้วย นายสัตวแพทย์,นักวิชาการสัตวบาลและเจ้าหน้าที่กลุ่มพัฒนาคุณภาพสินค้าปศุสัตว์ สํานักงานปศุสัตว์จังหวัดลพบุรีตรวจเยี่ยมร้านจําหน่ายผลิตภัณฑ์ปศุสัตว์ ณ ตลาดสดเสาธง ตําบลเขาพระงาม อําเภอเมืองลพบุรี จังหวัดลพบุรีซึ่งเป็นตลาดสดที่มีมาตรฐานและสุขอนามัยของสถานที่จําหน่ายสินค้าซึ่งมีสถานที่จําหน่าย “ปศุสัตว์ OK”ภายในตลาด เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ผู้บริโภคที่มาเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ปศุสัตว์เป็นของไหว้ในเทศกาลตรุษจีน ปศุสัตว์จังหวัดลพบุรี กล่าวเพิ่มเติมว่า ในช่วงเทศกาลตรุษจีนของทุกปีเทศกาลมงคลแห่งความสุข ชาวไทยเชื้อสายจีน นิยมเลือกซื้อของไหว้จําพวก เนื้อหมู เนื้อไก่ เนื้อเป็ด รวมถึงไข่ไก่ไข่เป็ด ทําให้อัตราการบริโภคผลิตภัณฑ์ปศุสัตว์จะมีปริมาณที่สูงขึ้น ประกอบกับประเทศไทยได้มีการผ่อนคลายมาตรการป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ทําให้เทศกาลตรุษจีนที่จะถึงนี้ประชาชนออกมาจับจ่ายเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ปศุสัตว์เป็นส่วนประกอบในพิธีไหว้ขอพรเทพเจ้าและบรรพบุรุษมากกว่าปีที่ผ่านมา ดังนั้นเกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์และผู้ประกอบการโรงงานแปรรูปจะต้องเตรียมความพร้อมในการผลิตเนื้อสัตว์ที่ได้มาตรฐาน สะอาดถูกสุขลักษณะ สํานักงานปศุสัตว์จังหวัดลพบุรีซึ่งเป็นหน่วยงานของรัฐ มีหน้าที่ในการกํากับดูแล การผลิตเนื้อสัตว์ในจังหวัดลพบุรีตลอดทั้งกระบวนการตั้งแต่ฟาร์มจนถึงมือผู้บริโภค จึงเพิ่มความเข้มงวดในการตรวจสอบกระบวนการผลิตเนื้อสัตว์ยิ่งขึ้นให้ผู้บริโภคของจังหวัดลพบุรีได้รับผลิตภัณฑ์ปศุสัตว์ที่ได้มาตรฐาน สะอาดถูกสุขลักษณะและสุขอนามัยเพื่อความปลอดภัยและสุขภาพของประชาชน นอกจากนี้ ยังได้เพิ่มความเข้มงวดในการตรวจสอบกระบวนการผลิตเนื้อสัตว์ โดยการตรวจเยี่ยมร้านจําหน่ายผลิตภัณฑ์ปศุสัตว์ในตลาดสดในทุกอําเภอของจังหวัดลพบุรีในช่วงเทศกาลตรุษจีน 2566 นี้ เพื่อเป็นการเฝ้าระวังผลิตภัณฑ์ปศุสัตว์ที่ไม่เหมาะสมต่อการบริโภค รวมถึงเพื่อเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ประชาชน พร้อมทั้งได้แนะนําให้พี่น้องประชาชนเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ปศุสัตว์จากแหล่งจําหน่ายที่น่าเชื่อถือ โดยต้องมีความสะอาดถูกสุขลักษณะ สามารถตรวจสอบย้อนกลับไปถึงแหล่งผลิตได้#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
20/1/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
ลพบุรี
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดลพบุรี
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230120105044965
null
ปศุสัตว์ราชบุรี และด่านกักกันสัตว์ราชบุรี ร่วมกับตลาดกลางผักและผลไม้ ประชาสัมพันธ์และจัดกิจกรรม กรมปศุสัตว์มั่นใจ สินค้าปศุสัตว์ปลอดภัย รับเทศกาลตรุษจีน
สํานักงานปศุสัตว์จังหวัดราชบุรี และด่านกักกันสัตว์ราชบุรี ร่วมกับตลาดกลางผักและผลไม้ (ตลาดศรีเมือง) ประชาสัมพันธ์และจัดกิจกรรม กรมปศุสัตว์มั่นใจ สินค้าปศุสัตว์ปลอดภัย รับเทศกาลตรุษจีน แก่ผู้ที่มาเลือกซื้อสินค้าปศุสัตว์ ประเภทเนื้อหมู เนื้อไก่ และเนื้อเป็ด รวมทั้งเข้มงวดในการตรวจสอบกระบวนการผลิตเนื้อสัตว์ และการเคลื่อนย้ายให้มากยิ่งขึ้น เพื่อให้ผู้บริโภคได้บริโภคเนื้อสัตว์ที่ถูกสุขลักษณะและถูกสุขอนามัยทั้งนี้ ได้ทําการตรวจเยี่ยมร้านจําหน่ายสินค้าปศุสัตว์ในตลาดสด เขตเทศบาลเมืองราชบุรี จํานวน 1 แห่ง คือ ตลาดกลางผักและผลไม้ (ตลาดศรีเมือง) ซึ่งมีร้านจําหน่ายเนื้อสัตว์ที่เข้าร่วมโครงการปศุสัตว์ OK และได้รับการรับรองปศุสัตว์ OK จํานวน 18 ร้าน เป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้ผู้บริโภคได้เลือกซื้อสินค้าปศุสัตว์ที่ปลอดภัย จากร้านที่ผ่านการรับรอง โดยสังเกตจากป้ายสีเขียวที่มีสัญลักษณ์ปศุสัตว์ OK#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
20/1/2023
ภาคตะวันตก
ราชบุรี
สวท.ราชบุรี
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230120124829004
null
จังหวัดสระบุรีจัดกิจกรรม Kick off ตรวจจับควันดำ เพื่อลดฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอนตรวจจับ ปรับจริง ห้ามใช้รถควันดำ
วันนี้ (20 ม.ค.2566) นายธีระพงษ์ วิมลจิตรานนท์ ผู้อํานวยการสํานักงานสิ่งแวดล้อม ภาคที่ 7 (สระบุรี) และกองตรวจมลพิษ กรมควบคุมมลพิษ ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ สํานักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดสระบุรี สํานักงานขนส่งจังหวัดสระบุรี สํานักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสระบุรี สํานักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสระบุรี สถานีตํารวจภูธรหน้าพระลาน และเทศบาลตําบลหน้าพระลาน ลงพื้นที่เพื่อตรวจวัดควันดําที่ระบายออกจากท่อไอเสียของรถยนต์เครื่องยนต์ดีเซลและดําเนินการบังคับใช้กฎหมายกับรถยนต์ที่มีค่าควันดําเกินค่ามาตรฐาน ณ บริเวณริมถนนพหลโยธิน หน้าสํานักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 5 (สระบุรี) โดยกิจกรรมดังกล่าวนี้ เป็นไปตามนโยบายเข้มงวดการตรวจจับรถยนต์ควันดําของภาครัฐ เพื่อให้ผู้ขับขี่ยานยนต์ทําการบํารุงรักษาเครื่องยนต์ให้อยู่ในสภาพดี ลดการเผาไหม้ที่ไม่สมบูรณ์จากเชื้อเพลิงรถยนต์ดีเซลอันจะส่งผลต่อการลดการระบายควันดํา และฝุ่น PM2.5 โดยเจ้าหน้าที่จะทําการตรวจวัดควันดําด้วยเครื่องมือวัดความทึบแสง จากรถยนต์ตาม พ.ร.บ. ขนส่งทางบก พ.ศ.2522 (รถบรรทุก รถโดยสารประจําทาง รถตู้โดยสาร) และรถที่จดทะเบียนตามกฎหมายว่าด้วยรถยนต์ (รถยนต์ส่วนบุคคล รถจักรยานยนต์) ซึ่งตาม พ.ร.บ.ส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ.2535 หากพบว่ามีปริมาณควันดําเกินกว่าที่กฎหมายกําหนด พนักงานเจ้าหน้าที่มีอํานาจออกคําสั่งห้ามใช้ยานพาหนะ โดยสามารถทําเครื่องหมายให้เห็นปรากฏเด่นชัด เป็นตัวอักษรที่มีข้อความว่า "ห้ามใช้ชั่วคราว" หรือ "ห้ามใช้เด็ดขาด"โดยได้กําหนดเป้าหมายตรวจจับควันดําจากเครื่องยนต์ดีเซลตั้งแต่วันที่ 20 มกราคม 2565 – วันที่ 31 มีนาคม 2566 ซึ่งจากข้อมูลสถานการณ์คุณภาพอากาศของกรมควบคุมมลพิษ พบว่าทั่วทุกภาคของประเทศไทยได้รับผลกระทบจากฝุ่นละอองขนาดเล็กกว่า 2.5 ไมครอน หรือที่เรียกกันว่าฝุ่น PM 2.5 ซึ่งมีแนวโน้มทวีความรุนแรงมากขึ้นจนกระทั่งรัฐบาลได้กําหนดให้เป็นวาระแห่งชาติที่จะต้องดําเนินการป้องกันและแก้ไขปัญหาให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ประกอบกับในปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 นายปิ่นสักก์ สุรัสวดี อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ ได้กําหนดนโยบายให้สํานักงานสิ่งแวดล้อมและควบคุมมลพิษที่ 1 - 16 ทุกแห่งทั่วประเทศ ประสานความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในจังหวัด ตรวจวัดควันดําที่ระบายออกจากท่อไอเสียของรถยนต์เครื่องยนต์ดีเซล ตลอดจนบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจังกับรถยนต์ที่มีค่าควันดําเกินกว่าที่กฎหมายกําหนด เพื่อให้นําไปสู่การควบคุมป้องกันมลพิษดังกล่าว ซึ่งสามารถดําเนินการได้ตั้งแต่การควบคุมที่แหล่งกําเนิด ได้แก่ การดูแลรักษาเครื่องยนต์ คุณภาพของน้ํามันเชื้อเพลิงและการสันดาป ตลอดจนการควบคุมการระบายควันดําที่ปลายท่อไอเสียของรถยนต์ เป็นต้น ทั้งนี้ รถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์ดีเซลซึ่งมีผลการตรวจวัดค่าควันดําเกินมาตรฐาน (เกิน 30%) พนักงานเจ้าหน้าที่จะติดสติ๊กเกอร์ห้ามใช้ยานพาหนะซึ่งถือว่าเป็นคําสั่งทางปกครอง โดยเจ้าของรถยนต์จะต้องนํารถไปจัดการแก้ไขหรือซ่อมบํารุงภายในระยะเวลา 30 วัน และนําหลักฐานไปขอยกเลิกคําสั่งห้ามใช้ยานพาหนะ ณ จุดยกเลิกคําสั่งตามที่ทางจังหวัดสระบุรีกําหนด ต่อไป#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
20/1/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
สระบุรี
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสระบุรี
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230120140355042
null
จังหวัดตรัง จัดกิจกรรมส่งเสริมการปลูกพริกไทยพันธุ์ปะเหลียนเพื่อรองรับการจดทะเบียนสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ ตามโครงการสร้างมูลค่าเพิ่มพืชอัตลักษณ์ประจำถิ่น
นายวสันต์ สุขสุวรรณ เกษตรจังหวัดตรัง เป็นประธานในพิธีเปิดกิจกรรมส่งเสริมการปลูกพริกไทยพันธุ์ปะเหลียนเพื่อรองรับการจดทะเบียนสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ ตามโครงการสร้างมูลค่าเพิ่มพืชอัตลักษณ์ประจําถิ่น ณ ห้องธนารมย์ 1 – 2 โรงแรมธรรมรินทร์ ธนา ตําบลทับเที่ยง อําเภอเมืองตรัง จังหวัดตรัง โดยได้รับเกียรติจากรองศาสตราจารย์ชุตินุช สุจริต และคณะอาจารย์ มหาวิทยาลัยราชมงคลศรีวิชัย บรรยายเรื่องกระบวนการผลิตพริกไทยตรังโดยใช้อัตลักษณ์ภูมิปัญญาสู่มาตรฐานการผลิตระดับพรีเมียม และได้รับองค์ความรู้จากเกษตรกรต้นแบบผู้มีความชํานาญในเรื่องพริกไทยคือ นายกิตติ ศิริรัตนบุญชัย บรรยายเรื่อง การปลูกพริกไทยคุณภาพ นายบัณฑิต ภิรมย์ทอง บรรยายเรื่องการแปรรูปพริกไทยดํา พริกไทยขาว และพริกไทยแดง โครงการสร้างมูลค่าเพิ่มพืชอัตลักษณ์ประจําถิ่น กิจกรรมส่งเสริมการปลูกพริกไทยพันธุ์ปะเหลียนเพื่อรองรับการจดทะเบียนสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ มีวัตถุประสงค์เพื่อถ่ายทอดความรู้ให้เกษตรกรสามารถปลูกพริกไทย ให้มีคุณภาพ มีพืชสมุนไพรบริโภคในครัวเรือน เกษตรกรมีรายได้เสริม และมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นตามไปด้วย เพิ่มพื้นที่ปลูกพริกไทยพันธุ์ปะเหลียนเพื่อสร้างมูลค่าให้สินค้า GI จังหวัดตรัง โดยกลุ่มเป้าหมายประกอบด้วยเกษตรกรรายย่อยในพื้นที่จังหวัดตรัง จํานวน 200 คน โดยเกษตรกรที่เข้ารับการอบรมในวันนี้จะได้รับต้นพันธุ์พริกไทยพันธุ์ปะเหลียน คนละ 10 ต้น มีการสนับสนุนแปลงเรียนรู้ระบบน้ําอําเภอละ 1 แปลง สนับสนุนกลุ่มเครือข่ายผู้ผลิตที่มีความพร้อมในการส่งเสริมการแปรรูปและพัฒนาด้านการตลาด จํานวน 5 กลุ่ม การดําเนินการโครงการนี้ ได้รับ เกียรติจากอาจารย์มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย ซึ่งทํางานวิจัยเกี่ยวกับพริกไทยพันธุ์ปะเหลียนและตัวแทนเกษตรกรเจ้าของ แปลงพริกไทยที่มาถ่ายทอดองค์ความรู้ การจัดการ แปลงพริกไทยให้มีประสิทธิภาพตลอดจนกระบวนการผลิตพริกไทยให้ได้มาตรฐาน กิจกรรมในวันนี้ประกอบด้วย การอบรมเกษตรกรเรื่องกระบวนการผลิตพริกไทยตรังโดยใช้อัตลักษณ์ภูมิปัญญาสู่มาตรฐานการผลิตระดับพรีเมียมและการปลูกพริกไทยคุณภาพ รวมถึงมีการจัดนิทรรศการร่วมถ่ายทอดความรู้ให้กับพี่น้องเกษตรกร#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
20/1/2023
ภาคใต้
ตรัง
สวท.ตรัง
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230120140451044
null
จังหวัดสระแก้วจัดงานวันถ่ายทอดเทคโนโลยีเพื่อเริ่มต้นฤดูกาลผลิตใหม่ (Field Day)และสาธิตเทคโนโลยีการจัดการเศษวัสดุการเกษตรทดแทนการเผา ปี 2566
(20 ม.ค.66) ณ ศูนย์การเรียนรู้การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตรและแปลงใหญ่อ้อย ตําบลสระขวัญ หมู่ที่ 19 บ้านหนองโสน อําเภอเมืองสระแก้ว จังหวัดสระแก้ว นายปริญญา โพธิสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว เป็นประธานเปิดงานวันถ่ายทอดเทคโนโลยีเพื่อเริ่มต้นฤดูกาลผลิตใหม่ (Field Day) และสาธิตเทคโนโลยีการจัดการเศษวัสดุการเกษตรทดเเทนการเผา ปี 2566 การจัดงาน Field day จึงเป็นสัญญาณของการเริ่มต้นฤดูการผลิตใหม่ ที่เหมาะสมของเกษตรกร และด้วยสถานการณ์วิกฤตหมอกควันและฝุ่นละอองขนาดเล็กที่เกิดขึ้น ในช่วงฤดูแล้ง โดยในภาคการเกษตร โดยเฉพาะในพื้นที่ปลูกอ้อยที่มีการเผาเพื่อการเก็บเกี่ยว อันมีสาเหตุมาจากจํานวนรถตัดอ้อยไม่เพียงพอ แรงงานตัดอ้อยไม่สะดวกในการตัดอ้อยสด รวมทั้งระยะการปลูกที่ไม่เหมาะสมกับการใช้รถตัดอ้อย กรมส่งเสริมการเกษตร จึงได้กําหนดให้มีการจัดงานสาธิตทดแทนการเผาเศษวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร ภายใต้โครงการส่งเสริมการหยุดเผาในพื้นที่การเกษตร ซึ่งในวันนี้มีกิจกรรมประกอบด้วย สถานีเรียนรู้และนิทรรศการของหน่วยงานภายในงาน ซึ่งสถานีเรียนรู้ มีทั้งหมด 4 สถานี สถานีเรียนรู้ที่ 1 การตัดอ้อยสดด้วยรถตัดอ้อย สถานีเรียนรู้ที่ 2 การจัดการเศษวัสดุด้วยเครื่องม้วนใบอ้อย สถานีเรียนรู้ที่ 3 การเตรียมดิน - ปลูก - บํารุงรักษา การบํารุงตออ้อย (กรณีไม่เผา) / สถานีเรียนรู้ที่ 4 เพิ่มศักยภาพการผลิตอ้อย เพื่อเปิดโอกาสให้เกษตรกรได้เข้ามาเรียนรู้ รับทราบเทคโนโลยีการผลิตใหม่ๆ ช่องทางการตลาด ข้อมูลข่าวสาร การเลือกใช้เทคโนโลยีที่เหมาะสมกับสภาพพื้นที่ตลอดจนได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้กับเกษตรกรด้วยกันเอง รวมทั้งนักวิชาการ ผู้เชี่ยวชาญในแต่ละสาขา ซึ่งเป็นตัวแทนจากหน่วยงานต่างๆ ภายใต้การสนับสนุนของทุกหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์มาให้ความรู้แก่เกษตรกรในวันนี้ประจัก สารการ – สุชีวิน ปิยะมิตรบัณฑิต /ภาพ/ข่าว#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
20/1/2023
ภาคตะวันออก
สระแก้ว
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสระแก้ว
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230120143459068
null
สำนักงานเกษตรจังหวัดกาญจนบุรี จัดงานสินค้าเกษตรปลอดภัยและเกษตรอินทรีย์
ที่ ตลาดเกษตรกรจังหวัดกาญจนบุรี นายประสาน ปานคง เกษตรจังหวัดกาญจนบุรี เป็นประธานเปิดงาน มหกรรมสินค้ากษตรปลอดภัยและเกษตรอินทรีย์ ภายใต้แนวคิดเทศกาลตรุษจีน โดยมี นายไพรวัลย์ คันศร หัวหน้ากลุ่มส่งเสริมและพัฒนาเกษตรกร กล่าวรายงาน เจ้าหน้าที่ และเกษตรกร เข้าร่วมตามที่ สํานักงานเกษตรจังหวัดกาญจนบุรี กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เล็งเห็นถึงความปลอดภัยของผู้บริโภคในช่วงเทศกาลตรุษจีน และในช่วงที่ภาวะเศรษฐกิจกําลังถดถอย นั้น ส่งผลให้สินค้าแต่ละชนิดมีการปรับราคาสูงขึ้น จึงกําหนดงัดงานมหกรรมสินค้าเกษตรปลอดภัยและเกษตรอินทรีย์ ภายใต้แนวคิดเทศกาลตรุษจีนขึ้น เพื่อให้ผู้บริโภคได้รับสินค้าทางการเกษตรที่สะอาดปลอดภัย และราคายุติธรรม สร้างช่องทางการจําหน่ายสินค้าให้กับสมาชิกศูนย์เรียนรู้การบริหารจัดการสินค้าเกษตรตลาดเกษตรกรจังหวัดกาญจนบุรี พัฒนาตลาดเกษตรกรให้เกิดอัตลักษณ์ เกิดสินค้านวัตกรรม เป็นแหล่งรวบรวมผลผลิต และจําหน่ายผลผลิตทางการเกษตรหลักของเกษตรกรในพื้นที่ ตลอดจนประชาสัมพันธ์และส่งเสริมการตลาดศูนย์เรียนรู้การบริหารจัดการสินค้าเกษตรตลาดเกษตรกร จังหวัดกาญจนบุรี ให้เป็นที่รู้จักเพิ่มมากขึ้นงานมหกรรมสินค้ากษตรปลอดภัยและเกษตรอินทรีย์ ภายใต้แนวคิดเทศกาลตรุษจีนมีการจําหน่ายสินค้าเกษตรปลอดภัย (GAP) และเกษตรอินทรีย์ สินค้าแปรรูป และขนมสําหรับไหว้ช่วงเทศกาลตรุษจีน โดยเป็นการจําหน่ายจากเกษตรกรตัวจริง เสียงจริง ภายใต้แนวคิด เกษตรกรจริงๆ ทุกสิ่งปลอดภัย ทั้งนี้ จะมีกิจกรรมนาทีทองแลกรับสินค้าเกษตร มะพร้าว สําหรับผู้ที่มาลงทะเบียนเข้าร่วมงาน เช็คอิน Like & Shere Facebook รับของที่ระลึก เป็นกระเป๋าผ้า สําหรับ ชิม ช้อป สินค้าภายในงาน#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
20/1/2023
ภาคตะวันตก
กาญจนบุรี
สวท.กาญจนบุรี
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230120142359059
null
ปศุสัตว์จังหวัดบึงกาฬ ดำเนินการรณรงค์ฉีดวัคซีนปากและเท้าเปื่อยในโคเนื้อ-กระบือ พร้อมทั้งให้คําแนะนําด้านการป้องกันโรคปากและเท้าเปื่อย
นางวัลลภา วราอัศวปติ ปศุสัตว์จังหวัดบึงกาฬ มอบหมายให้ เจ้าหน้าที่สํานักงานปศุสัตว์อําเภอปากคาดและอาสาปศุสัตว์ประจําหมู่บ้าน ออกดําเนินการรณรงค์ฉีดวัคซีนปากและเท้าเปื่อยในโคเนื้อ-กระบือ ให้แก่โค-กระบือ ของเกษตรกรผู้เลี้ยงโค-กระบือในพื้นที่อําเภอปากคาด หมู่ที่ 6 ตําบลนากั้ง อําเภอปากคาด จังหวัดบึงกาฬ จํานวนโคเนื้อที่ได้รับวัคซีนปากและเท้าเปื่อย โคเนื้อ จํานวน 58 ตัว และให้คําแนะนําด้านการป้องกันโรคปากและเท้าเปื่อย ในการรณรงค์ฉีดวัคซีนในครั้งนี้ได้รับความร่วมมือจากอาสาปศุสัตว์ประจําหมู่บ้าน และเจ้าของสัตว์เป็นอย่างดียิ่ง ทั้งนี้เพื่อให้สัตว์มีสุขภาพที่แข็งแรงสมบูรณ์ ห่างไกลจากโรคปากและเท้าเปื่อย#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
20/1/2023
null
บึงกาฬ
สวท.บึงกาฬ
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230120145041076
null
เกษตรลำปาง เตือนวิสาหกิจชุมชน-เครือข่ายฯ ต่อทะเบียนวิสาหกิจชุมชน วันที่ 1-30 มกราคมนี้ เพื่อรักษาสิทธิในการได้รับการสนับสนุนและบริการจากภาครัฐ
นายธีระพงศ์ ฤทธิโชติ เกษตรจังหวัดลําปาง เปิดเผยว่า กรมส่งเสริมการเกษตรมีนโยบายในการสร้างความเข้มแข็งขององค์กรเกษตรกร วิสาหกิจชุมชน-เครือข่ายวิสาหกิจชุมชน และภาคการเกษตร โดยส่งเสริมให้เป็นผู้ประกอบการที่เข้มแข็ง สามารถประกอบกิจการได้อย่างต่อเนื่องยั่งยืน และเป็นกลไกสําคัญในการสร้างความเข้มแข็งให้กับเศรษฐกิจฐานราก กลุ่มเกษตรกรที่ต้องการจะพัฒนาอาชีพจะต้องจดทะเบียนเป็นวิสาหกิจชุมชนเพื่อให้ได้รับการรับรองตามกฎหมาย มีสิทธิได้รับการส่งเสริมและสนับสนุนการพัฒนากิจการวิสาหกิจชุมชนตามที่คณะกรรมการฯ กําหนดและตรงกับความต้องการของชุมชน รวมทั้งการสนับสนุนจากภาคส่วนต่างๆ ที่เกี่ยวข้องในการส่งเสริมศักยภาพของกลุ่มเกษตรกรในด้านต่างๆ และเป็นการส่งเสริมให้วิสาหกิจชุมชนมีความเข้มแข็งสามารถพัฒนาไปสู่การเป็นผู้ประกอบกิจการขนาดกลางและขนาดย่อมได้อย่างมีประสิทธิภาพในอนาคต ซึ่งการต่อทะเบียนวิสาหกิจชุมชนจะต้องดําเนินการทุกปีในระหว่างวันที่ 1-30 มกคราคม ณ สํานักงานเกษตรอําเภอ หรือสํานักงานเกษตรพื้นที่ 1-4 (กรุงเทพมหานคร) ที่จดทะเบียนฯ ไว้ เพื่อรักษาสิทธิในการได้รับการสนับสนุนและบริการจากภาครัฐ ตลอดจนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างต่อเนื่อง หากวิสาหกิจชุมชน/เครือข่ายวิสาหกิจชุมชน ไม่มาต่อทะเบียนติดต่อกัน 2 ปี จะถูกเพิกถอนทะเบียน และจะเสียสิทธิ์ที่จะได้รับการสนับสนุนในการพัฒนาอาชีพหรือบริการต่างๆสําหรับการเตรียมเอกสารประกอบการขอต่อทะเบียนวิสาหกิจชุมชนและเครือข่ายวิสาหกิจชุมชน ประจําปี 2566 เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา (Covid-19) กรมส่งเสริมการเกษตร ขอให้วิสาหกิจชุมชนและเครือข่ายฯ ที่จะมาขอต่อทะเบียนฯ ศึกษาวิธีการและดาวน์โหลดเอกสารต่างๆ ที่ http://www.sceb.doae.go.th/ext65.html ทั้งนี้ ให้กรอกข้อมูลพร้อมจัดเตรียมเอกสารให้ครบถ้วนเรียบร้อย และนํามายื่นต่อเจ้าหน้าที่ที่สํานักงานเกษตรอําเภอที่จดทะเบียนฯ ไว้ เพื่อความรวดเร็วในการตรวจสอบความถูกต้อง และสามารถดําเนินการต่อทะเบียนวิสาหกิจชุมชนได้อย่างรวดเร็ว ลดระยะเวลาเผชิญหน้า ลดความเสี่ยง และลดความแออัดได้#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
20/1/2023
null
ลำปาง
สวท.ลำปาง
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230120150144082
null
สมาชิกวุฒิสภาลงพื้นที่จังหวัดพะเยา เป็นวันที่สองเข้าสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์เมืองพะเยา และติดตามการป้องกันหมอกควันไฟป่าและฝุ่นละออง PM 2.5 การบริหารจัดการน้ำ เพื่อแก้ปัญหาภัยแล้ง และการจัดการที่ดิน
สมาชิกวุฒิสภา ลงพื้นที่จังหวัดพะเยา เป็นวันที่สอง เข้าสัการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์เมืองพะเยา และติดตามการป้องกันหมอกควันไฟป่าและฝุ่นละออง PM 2.5 การบริหารจัดการน้ํา เพื่อแก้ปัญหาภัยแล้ง และการจัดการที่ดิน วันที่ 20 มกราคม 2566 พลเอก สกนธ์ สัจจานิตย์ สมาชิกวุฒิสภา รองประธานคณะกรรมการโครงการสมาชิกวุฒิสภาพบประชาชนในพื้นที่จังหวัดภาคเหนือ (ตอนบน) คนที่หนึ่ง พร้อมด้วย พันตํารวจตรี ยงยุทธ สาระสมบัติ ที่ปรึกษาคณะกรรมการฯ, นายณรงค์ อ่อนสอาด, นายดุสิต เขมะศักดิ์ชัย, พลเอก สมศักดิ์ นิลบรรเจิดกุล สมาชิกวุฒิสภา และคณะ ลงพื้นที่จังหวัดพะเยา เป็นวันที่ 2 โดยช่วงเช้าที่ผ่านมาคณะได้เข้าสัการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์เมืองพะเยา ก่อนจะเข้าร่วมประชุมที่ห้องประชุมภูกามยาวชั้น 5 ศาลากลางจังหวัดพะเยา โดยมีว่าที่ร้อยตรี ณรงค์ โรจนโสทร ผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยา หัวหน้าสํานักงานจังหวัดพะเยา หัวหน้าส่วนราชการ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม ในประเด็นเกี่ยวกับการป้องกันและแนวทางการแก้ไขหมอกควัน ไฟป่า และฝุ่นละออง PM 2.5, แนวทางการบริหารจัดการน้ํา เพื่อแก้ปัญหาภัยแล้ง ปี 2566, การจัดที่ดินทํากิน ตามนโยบายของคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ และประเด็นสําคัญอื่นๆ ด้วย โดยมีการรับฟังข้อมูล พร้อมแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะ ร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมถึงประเด็นที่เกี่ยวข้องอื่นๆ ด้วย โดยผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยา กล่าวถึงการควบคุมปัญหาหมอกควันไฟป่าของจังหวัดพะเยาว่า ทางจังหวัดพะเยาได้มีการจัดหน่วยเคลื่อนที่เร็วค่อยประสานงานควบคุมเพื่อเข้าระงับเหตุ ซึ่งมีหน่วยทหารในพื้นที่รับผิดชอบร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้การดําเนินการมีประสิทธิภาพสูงสุดในการระงับเหตุไฟป่า รวมถึงการเฝ้าระวังด้วย โดยในวันพรุ่งนี้ (21 ม.ค.66) คณะเดินทางไปยังระเบียงสุข ริมกว้านพะเยา เพื่อให้กําลังใจแก่ผู้ประกอบการ และประชาชน พร้อมทั้งรับฟัง และแลกเปลี่ยนความคิดเห็นข้อเสนอแนะร่วมกัน ก่อนจะเดินทางไปยังจังหวัดเชียงรายต่อไป#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
20/1/2023
null
พะเยา
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดพะเยา
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230120150859086
null
ปศุสัตว์จังหวัดบึงกาฬ ตรวจติดตามการดำเนินงานโครงการปศุสัตว์เพื่ออาหารกลางวัน? โรงเรียนกองทุนพัฒนาเด็กและเยาวชนในถิ่นทุรกันดาร? (กพด.) ตามพระราชดำริของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า? กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ? สยามบรมราชกุมารี
นางวัลลภา วราอัศวปติ ปศุสัตว์จังหวัดบึงกาฬ พร้อมด้วย นายนิคม? สนั่นเครื่อง? ปศุสัตว์อําเภอศรีวิไล? เข้าตรวจติดตามการดําเนินงานโครงการปศุสัตว์เพื่ออาหารกลางวัน? โรงเรียนบ้านนาคําแคน อ.ศรีวิไล? จ.บึงกาฬ? ซึ่งเป็นโรงเรียนกองทุนพัฒนาเด็กและเยาวชนในถิ่นทุรกันดาร? (กพด.) ตามพระราชดําริของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า? กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ? สยามบรมราชกุมารี? ซึ่งมีกิจกรรมด้านปศุสัตว์? ดังนี้ 1. การเลี้ยงไก่พื้นเมือง? 2. การเลี้ยงหมูหลุม? 3. การเลี้ยงเป็ดไข่ ถือเป็นการปลูกฝังการเลี้ยงสัตว์อย่างถูกวิธีให้แก่เด็กและเยาวชน เพื่อต่อยอดสู่องค์ความรู้ในการประกอบอาชีพในอนาคตต่อไป#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
20/1/2023
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
บึงกาฬ
สวท.บึงกาฬ
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230120150741085
null
สำนักงานเกษตรจังหวัดสมุทรสงคราม จัดงานวันถ่ายทอดเทคโนโลยี เพื่อเริ่มต้นฤดูกาลผลิตใหม่ (Field Day) ปี 2566 เตรียมพร้อมการกับดูแลดอกลิ้นจี่ที่กำลังผลิดอกต้อนรับฤดูหนาว
สํานักงานเกษตรจังหวัดสมุทรสงคราม โดยนางสมพิส ทองดีนอก เกษตรจังหวัดสมุทรสงคราม จัดงานวันถ่ายทอดเทคโนโลยี เพื่อเริ่มต้นฤดูกาลผลิตใหม่ (Field Day) ปี 2566 ครั้งที่ 1 ณ สวนลิ้นจี่ลักษณา ตําบลแควอ้อม อําเภออัมพวา โดยนางกชนัฑ พัฒนะวิชัย นายอําเภออัมพวา เป็นประธานในพิธีเปิดงาน พร้อมทั้งเยี่ยมชมฐานเรียนรู้ด้านการเกษตร อาทิเช่น ฐานวิธีการกําจัดศัตรูพืช/โรคพืช จากกลุ่มอารักพืช ฐานการปรับปรุงบํารุงดินจากสถานีพัฒนาที่ดิน ฐานการผลิตแคลเซียมโบรอน สารชีวภัณฑ์ BS ฐานการใช้ชันโรงช่วยผสมเกสรลิ้นจี่ ฐานการแปรรูปสมุนไพร และส่งเสริมการผลิตตามนโยบาย BCG Model ซึ่งมีเกษตรกรสนใจเข้าร่วมกิจกรรมและเข้าฐานเรียนรู้ จํานวนกว่า 100 ราย รวมทั้งส่วนราชการในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ในพื้นที่ เข้าร่วมงานเกษตรจังหวัดสมุทรสงคราม กล่าวว่า การจัดกิจกรรมในครั้งนี้เป็นไปตามนโยบายของรัฐบาลเพื่อให้ศูนย์ถ่ายทอดเข้าถึงเกษตรกรในชุมชนให้ได้รับความรู้ และเข้าถึงปัจจัยการผลิตสินค้าหลักในพื้นที่ และเหมาะสมกับศักยภาพของพื้นที่โดยมีองค์ประกอบเกษตรกรต้นแบบ แปลงการเรียนรู้ ที่เกษตรกรสามารถเข้ามาเรียนรู้ได้ตลอดเวลา หลักสูตรการเรียนรู้ที่สอดคล้องกับช่วงฤดูกาลผลิต และฐานการเรียนรู้ที่เป็นต้นแบบของจริง โดยการน้อมนําหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงและองค์ความรู้จากศูนย์ศึกษาการพัฒนาและโครงการพระราชดําริต่าง ๆ รวมทั้งมีการใช้น้ําอย่างรู้คุณค่าให้เข้าถึงเกษตรกรและนําไปประยุกต์ใช้ได้อย่างกว้างขวางยิ่งขึ้น และเตรียมพร้อมการกับดูแลดอกลิ้นจี่ที่กําลังผลิดอกต้อนรับฤดูหนาวนี้เป็นจํานวนมาก รุ่งนภา/ข่าว/ธิติมา /เรียบเรียง/สํานักงานเกษตรจังหวัดฯ/ภาพทีมงานสํานักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสมุทรสงคราม#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
20/1/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
สมุทรสงคราม
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสมุทรสงคราม
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230120165205131
null
ปศุสัตว์จังหวัดสุพรรณบุรี จัดฝึกอบรมเกษตรกรหลักสูตร "การปลูกพืชอาหารสัตว์พันธุ์ดีเพื่อจำหน่ายในเชิงธุรกิจ" กิจกรรมส่งเสริมการปลูกพืชอาหารสัตว์พันธุ์ดีเพื่อจำหน่ายในเชิงธุรกิจ
วันนี้ (20 ม.ค.66) ที่ทําการกลุ่มเกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์บ้านสระ หมู่ที่ 9 ตําบลบ้านสระ อําเภอสามชุก จังหวัดสุพรรณบุรี นายณัฐภัทร สุวรรณประทีป ผู้ว่าราชการจังหวัดสุพรรณบุรี ประธานพิธีเปิดการฝึกอบรมเกษตรกรตามหลักสูตร “การปลูกพืชอาหารสัตว์พันธุ์ดีเพื่อจําหน่ายในเชิงธุรกิจ” พร้อมเป็นสักขีพยานการลงนามบันทึกข้อตกลงการซื้อขายพืชพันธุ์อาหารสัตว์ และเยี่ยมชมการดําเนินงานของกลุ่มผู้ผลิตหญ้าแพงโกล่าแห้งเพื่อการจําหน่ายนายเยี่ยม คงสวัสดิ์ ปศุสัตว์จังหวัดสุพรรณบุรี กล่าวว่า สํานักงานปศุสัตว์จังหวัดสุพรรณบุรีดําเนินการโครงการพัฒนาศักยภาพการผลิตสินค้าเกษตรให้มีคุณภาพ ปลอดภัยได้มาตรฐาน และเกษตรแปรรูปเพื่อเพิ่มมูลค่า กิจกรรมส่งเสริมการปลูกพืชอาหารสัตว์พันธุ์ดีเพื่อจําหน่ายในเชิงธุรกิจ โดยมีเป้าหมายส่งเสริมอาชีพการปลูกพืชอาหารสัตว์ ให้เกษตรกร จํานวน 20 ราย พื้นที่ปลูกพืชอาหารสัตว์ตามโครงการ รวม 200 ไร่ เกษตรกรที่เข้าร่วมกิจกรรมจะมีการจัดทําบันทึกข้อตกลงความร่วมมือซื้อขายพืชอาหารสัตว์ เพื่อเป็นหลักประกันรับรองว่า มีตลาดรองรับผลผลิตแน่นอน สร้างความเชื่อมั่นให้เกษตรกรผู้เข้าร่วมกิจกรรมในการจําหน่ายผลผลิตที่ผลิตได้สอดคล้องกับประเด็นการพัฒนาจังหวัด ในเรื่องของการเพิ่มศักยภาพการผลิตสินค้าเกษตรให้ได้มาตรฐาน เพื่อการแข่งขันทางการค้าและพัฒนาที่ยั่งยืน รวมทั้งสอดคล้องกับนโยบายกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เรื่องตลาดนําการผลิตฝึกอบรมตามหลักสูตร ประกอบด้วย ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับพืชอาหารสัตว์ โดยวิทยากรจากศูนย์วิจัยและพัฒนาอาหารสัตว์สุพรรณบุรี การถ่ายทอดประสบการณ์การผลิตหญ้าแพงโกล่าแห้งเพื่อการจําหน่าย โดยประธานกลุ่มเกษตรกรทํานาหญ้าเลี้ยงสัตว์บ้านสระ และการศึกษาดูงานการปลูกหญ้าแพงโกล่าในพื้นที่ปลูก รวมทั้งการเยี่ยมชมนิทรรศการด้านพืชอาหารสัตว์ที่ได้จัดแสดงไว้ ผู้เข้ารับการฝึกอบรมมาจากอําเภอหนองหญ้าไซ จํานวน 6 ราย และอําเภอสามชุกจํานวน 14 ราย รวม 20 ราย #สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
20/1/2023
ภาคตะวันตก
กาญจนบุรี
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสุพรรณบุรี
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230120190822162
null
รัฐต้องเอาจริง กำจัดอุปสรรค-เดินหน้าปราบหมูเถื่อนสิ้นซาก
“หมูเถื่อน” เป็นปัญหาที่หลอกหลอนผู้เลี้ยงหมูมากว่า 1 ปี บั่นทอนกําลังใจในการฟื้นฟูการเลี้ยง และสร้างความเสียหายในทุกมิติ ยังเป็นปัญหาใหญ่ที่ต้องฝ่าฟัน โดยในปี 2566 นี้ ผู้เลี้ยงหมูไทยยังต้องเผชิญ ทั้ง “ต้นทุนการผลิตสูง” หลังราคาวัตถุดิบอาหารสัตว์มีแนวโน้มปรับเพิ่มขึ้นจากสถานการณ์ยูเครน-รัสเซียที่ยืดเยื้อ รวมถึงต้นทุนอื่นๆ ทั้งค่าแรงงาน ค่าพลังงาน และค่าขนส่ง และ “โรคอหิวาต์แอฟริกาในหมู” หรือ “โรค ASF” ที่ยังมีรายงานการเกิดโรคอยู่เป็นระยะ หากประมาท เชื้อโรคก็พร้อมสร้างความเสียหายได้ตลอดเวลา ปัญหาเหล่านี้เป็นความท้าทายที่ผู้เลี้ยงหมูไทยต้องปรับตัว พร้อมเรียนรู้พัฒนาตนเองตลอดเวลา โดยเฉพาะการจัดการเฝ้าระวังป้องกันโรค เนื่องจากโรค ASF ในหมู แม้ดูเหมือนสงบลง แต่ก็ยังมีรายงานการพบโรคเป็นระยะ ดังนั้น เกษตรกรที่ฟื้นฟูกลับมาลงเลี้ยงใหม่ จําเป็นต้องล้างทําความสะอาดฆ่าเชื้อโรค พร้อมยกระดับระบบไบโอซีเคียวริตี้ในฟาร์มให้มีประสิทธิภาพ และปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัดเป็นประจํา เปรียบเสมือนการใส่หน้ากากอนามัยป้องกันโควิด-19 กับการล้างมือฆ่าเชื้อด้วยแอลกอฮอลเป็นประจํา เช่นเดียวกับ ASF ที่เชื้อยังวนเวียนอยู่ในสิ่งแวดล้อม หรืออาจมากับเนื้อหมูเถื่อนลักลอบนําเข้า ถ้าผู้เลี้ยงละเลยการจัดการ เพราะเข้าใจว่า โรคสงบแล้ว ก็มีความเสี่ยงเสียหายจาก ASF ได้ทันที ซึ่งหากเป็นเช่นนั้น อาจทําให้เกษตรกรบางรายสูญเสียเงินทุนก้อนสุดท้ายไปจนกลับมาเลี้ยงใหม่ไม่ได้ การจัดการเฝ้าระวังป้องกันโรคอย่างเคร่งครัด ช่วยลดความเสียหายที่จะเกิดในระหว่างการเลี้ยง ทําให้ต้นทุนการผลิตต่อหน่วยต่ําลง ถือเป็นการแบ่งเบาภาระต้นทุนการผลิตสูงจากภาวะวัตถุดิบอาหารสัตว์ราคาแพงได้อีกทางหนึ่ง เพราะปี 2566 นี้ ยังคาดการณ์ว่า ราคาวัตถุดิบมีแนวโน้มปรับเพิ่มขึ้น ซึ่งอาหารสัตว์มีสัดส่วนประมาณ 60-70% ของต้นทุนทั้งหมด หากเกษตรกรดูแลจัดการให้หมูไม่ป่วย สุขภาพแข็งแรง กินอาหารแล้วย่อยดูดซึมได้ดี เจริญเติบโตเร็ว ลดระยะเวลาเลี้ยงให้สั้นลงก็เป็นการช่วยลดต้นทุนได้ นอกจากนั้นผู้เลี้ยงควรเก็บข้อมูล เพื่อใช้ประเมินประสิทธิภาพการเลี้ยง ซึ่งที่ผ่านมามักถูกละเลย คิดว่า ไม่ใช่ฟาร์มใหญ่ เลี้ยงหมูไม่กี่ตัว ไม่จําเป็นต้องทําก็ได้ ทั้งๆ ที่ความจริงแล้วข้อมูลมีความสําคัญต่อการเลี้ยงหมูทุกระดับ เพราะช่วยให้ทราบสถานะของฟาร์มว่าเป็นอย่างไร ประสิทธิภาพการผลิตยังอยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสมหรือไม่ มีจุดบกพร่องในส่วนใด ที่ต้องแก้หรือพัฒนา เพื่อลดต้นทุนการผลิตได้อีก สิ่งเหล่านี้ จะเป็นตัวช่วยให้เกษตรกรยกระดับการเลี้ยงหมูให้อยู่ได้และมีกําไรได้อย่างยั่งยืน อย่างไรก็ดี ยังมีปัจจัยที่ผู้เลี้ยงควบคุมไม่ได้และส่งผลกระทบต่อต้นทุนการผลิต โดยเฉพาะนโยบายภาครัฐที่มีผลต่อราคาวัตถุดิบอาหารสัตว์ ทั้งมาตรการควบคุมการนําเข้าข้าวสาลี 3:1 ส่วน การจํากัดเวลานําเข้าข้าวโพดจากประเทศเพื่อนบ้าน และการจัดเก็บภาษีนําเข้า ที่รัฐควรพิจารณาแก้ไข ยกเลิก หรือปรับเปลี่ยนให้มีความเหมาะสม และเกิดประโยชน์กับทุกฝ่าย ทั้งเกษตรกรผู้ปลูกพืชไร่ ผู้ผลิตอาหารสัตว์ ผู้เลี้ยงสัตว์ไม่ต้องแบกรับภาระต้นทุนการผลิตสูง ผู้บริโภคได้ซื้อเนื้อสัตว์ในราคาที่เหมาะสม รวมถึงการส่งเสริมและพัฒนาให้เกษตรกรผู้ปลูกพืชไร่ลดต้นทุน เพิ่มประสิทธิภาพการผลิตดีขึ้น เพิ่มปริมาณผลผลิตให้เพียงพอกับความต้องการ ลดการพึ่งพาวัตถุดิบนําเข้าจากต่างประเทศที่ราคาผันแปรตามภาวะตลาดโลกปัญหาที่เกิดขึ้น เป็นเรื่องที่ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องต้องให้ความร่วมมือแก้ปัญหาอย่างจริงจัง เพื่อให้ผู้เลี้ยงมีอาชีพ สร้างรายได้ และผลิตเนื้อหมูคุณภาพดีให้กับคนไทยต่อไป ในสิ่งที่เกษตรกรพอทําได้ คือ การช่วยกันให้ข้อมูล เบาะแสผู้กระทําผิดกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อจับกุมดําเนินคดีทันที ขณะที่ภาครัฐต้องจัดการอย่างเด็ดขาด เหมือนกับที่ทํามาในช่วงไตรมาส 3-4 ของปี 2565 ที่ผ่านมา จนห้องเย็นไม่กล้ารับฝากเนื้อหมูหรือซากสัตว์ที่ไม่มีเอกสารรับรอง การโยกย้ายข้าราชการมาติดตามแก้ปัญหาอย่างใกล้ชิด ทําให้มิจฉาชีพปรับเปลี่ยนวิธีการลักลอบนําเข้าไปที่ท่าเรือเพื่อนบ้านแล้วลักลอบขนแบบกองทัพมดเข้าตามแนวชายแดน ส่งผลให้ปัญหาหมูเถื่อนดูเหมือนจะเบาบางลง แต่ก็ประมาทไม่ได้ ควรต้องติดตามตรวจจับหมูเถื่อนลักลอบนําเข้า อย่างเข้มงวดต่อไป ขณะที่ภาครัฐจําเป็นต้องปราบปรามขบวนการหมูเถื่อนนําเข้าอย่างจริงจัง เพราะเนื้อหมูลักลอบนําเข้าไม่เพียงฉุดราคาเนื้อหมูและหมูหน้าฟาร์มในประเทศให้ตกต่ํา เกษตรกรผู้เลี้ยงหมูขาดทุนเท่านั้น แต่ยังมีความเสี่ยงต่อคนไทยทุกคนที่อาจได้รับอันตรายจากการทานเนื้อหมูเถื่อนหมดอายุ ไม่ผ่านการตรวจโรค สารปนเปื้อน โดยเฉพาะสารเร่งเนื้อแดง และเชื้อโรคเข้าไปโดยไม่รู้ตัว ที่จะส่งผลกระทบต่อสุขภาพในระยะยาว หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องเร่งจัดการด้วยการทํางานเชิงรุกแบบบูรณาการร่วมกัน เมื่อพบเบาะแสความผิดปกติก็ตรวจสอบ เมื่อพบการกระทําความผิดก็จับกุมดําเนินคดี พร้อมขยายผลสืบสวนสาวไปให้ถึงตัวการใหญ่ เพื่อจัดการลงโทษตามกฎหมาย เป็นการกําจัดขบวนการหมูเถื่อนให้สิ้นซาก เพื่อให้ผู้เลี้ยงหมูไทยผ่านอุปสรรคและอยู่ได้อย่างมีกําไรในปีเถาะนี้ได้ ปริวรรธน์ โพธนาม
20/1/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สำนักพัฒนานโยบายและแผนการประชาสัมพันธ์
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230120175522146
null
จังหวัดปราจีนบุรี จัดสัมมนาการส่งเสริมให้ความรู้เกษตรกรผู้เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำในจังหวัดปราจีนบุรี และคณะกรรมาธิการแก้ไขปัญหาราคาผลิตผลเกษตรกรรม สภาผู้แทนราษฎร ลงพื้นที่เพื่อรับฟังปัญหาความเดือดร้อนต้องการของเกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์น้ำ
วันที่ 20 มกราคม 2566 เวลา 09.00 น. นายรณรงค์ นครจินดา ผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี เป็นประธานเปิดสัมมนาการส่งเสริมให้ความรู้เกษตรกรผู้เพาะเลี้ยงสัตว์น้ําในจังหวัดปราจีนบุรี โดยคณะกรรมาธิการแก้ไขปัญหาราคาผลิตผลเกษตรกรรม สภาผู้แทนราษฎร เพื่อรับฟังปัญหาความเดือดร้อนต้องการของเกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์น้ําและแนวทางส่งเสริมเกษตรกรด้านมาตรฐานฟาร์มเพาะเลี้ยงสัตว์น้ํา การควบคุมต้นทุนการผลิต การแข่งขันในตลาดการค้า ณ หอประชุมภัตตาคารแสนสว่างใจ อ.เมืองปราจีนบุรี จ.ปราจีนบุรี โดยมี นายอํานาจ วิลาวัลย์ รองประธานคณะกรรมาธิการแก้ไขปัญหาราคาผลิตผลเกษตรกรรม สภาผู้แทนราษฎร ร่วมรับฟังปัญหา ของเกษตรกรฯ ด้วย #สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
20/1/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดปราจีนบุรี
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230120224011238
null
ผู้ว่าฯ ร้อยเอ็ด ลงพื้นที่เยี่ยมชมโรงสีสหกรณ์เกษตรวิสัย จำกัด เตรียมผลักดันการใช้พลังงานสะอาด (Solar Rooftop) ช่วยลดต้นทุน-เพิ่มรายได้ อย่างยั่งยืน
(20 มกราคม 2566) เวลา 11.00 น. นายทรงพล ใจกริ่ม ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด พร้อมด้วย นายพิชัยยา ตุระซอง หัวหน้าสํานักงานจังหวัดร้อยเอ็ด ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมผลการดําเนินงานสหกรณ์การเกษตรเกษตรวิสัย จํากัด ณ โรงสีสหกรณ์เกษตรวิสัย จํากัด (สาขานกเหาะ) ตําบลดงครั่งใหญ่ อําเภอเกษตรวิสัย จังหวัดร้อยเอ็ด โดยมี นางบุญเกิด ภานนท์ ผู้จัดการสหกรณ์ พร้อมด้วยคณะกรรมการและเจ้าหน้าที่โรงสีสหกรณ์ฯ ให้การต้อนรับนางบุญเกิด ภานนท์ ผู้จัดการสหกรณ์การเกษตรเกษตรวิสัย จํากัด กล่าวว่า สหกรณ์แห่งนี้ก่อตั้งเมื่อวันที่ 18 เมษายน 2520 มีสํานักงานใหญ่ ตั้งอยู่เลขที่ 206 หมู่ 2 ถนนปัทมานนท์ ตําบลเกษตรวิสัย อําเภอเกษตรวิสัย จังหวัดร้อยเอ็ด สมาชิกแรกตั้ง 170 คน ปัจจุบันมีสมาชิกทั้งสิ้น 8,868 คน (ณ 31 ธ.ค. 65) สังกัดตามหมู่บ้านต่างๆ ในอําเภอเกษตรวิสัย จํานวน 13 ตําบล 153 กลุ่ม อีกทั้งยังมีอุปกรณ์ที่คอยให้บริการอย่างครบครันไว้บริการสมาชิกและเกษตรกรทั่วไป สหกรณ์ฯ ดําเนินธุรกิจด้านการเกษตรอย่างครบวงจร ได้แก่ ธุรกิจสินเชื่อ ธุรกิจรวบรวมผลิตผล (ข้าวเปลือก) ธุรกิจการแปรรูป ธุรกิจจัดหาสินค้ามาจําหน่าย ธุรกิจให้บริการรับ - ฝากเงิน ธุรกิจศูนย์กระจายสินค้าสหกรณ์ฯ ธุรกิจด้านการปศุสัตว์ และให้บริการด้าน เครื่องจักรกลการเกษตรผู้จัดการสหกรณ์การเกษตรเกษตรวิสัย จํากัด กล่าวต่อว่า สหกรณ์ของเรายังมีในพื้นที่อําเภอเกษตรวิสัย อีก 2 สาขา ได้แก่ สาขากู่กาสิงห์ และสาขานกเหาะ โดยเฉพาะที่สาขานกเหาะเป็นที่เป็นที่ตั้งของโรงสีสหกรณ์เกษตรวิสัย จํากัด ตั้งอยู่เลขที่ 215 หมู่ 11 ตําบลดงครั่งใหญ่ อําเภอเกษตรวิสัย ประกอบด้วยโรงสีข้าวจํานวน 2 โรง กําลังการผลิตรวม 120 ตัน/วัน โรงปรับปรุงคุณภาพข้าวสาร กําลังการผลิต 120 ตัน/วัน นอกจากนี้สหกรณ์ฯ ยังมี โรงอบลดความชื้น ขนาด 1,000 ตัน/วัน ไซโลเป่าเย็นข้าวเปลือก ขนาดบรรจุ 13,000 ตัน ซึ่งสามารถรักษาคุณภาพข้าวเปลือกให้มีคุณภาพดี และสามารถรักษาความหอมของข้าหอมมะลิได้ลอดทั้งปี มีโกดังเป่าลมเย็น 2 โกดัง เก็บรักษาข้าวเปลือกได้ 42,000 ตัน มีไซโลเป่าเย็นข้าวสาร ขนาด 1,200 ตัน มีกระบวนการผสิตที่สะอาด ปลอดภัย ขึ้นทะเบียน อย. ได้รับรองระบบมาตรฐาน GHPs, HACCP, ได้รับการรับรองว่าโรงสีที่ผลิตและจําหน่ายข้าวหอมมะสิที่ได้ มาตรฐานจังหวัดร้อยเอ็ด , ได้รับการรับรองเครื่องหมายรูปพนมมือ จากกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิซย์,ได้รับการอนุญาตให้ใช้เครื่องหมายรับรองข้าวหอมมะสิไทย กรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ บรรจุภัณฑ์ข้าวเกรด พรีเมียม ได้แก่ ตราคนหาบข้าว, ตราทุ่งกุลา 101 ถุงสีทอง, ตรา TK ทุ่งกุลาฟาร์ม ตราเกิดบุญ และผลิตภัณฑ์ข้าวหอมมะลิอินทรีย์ ตรา คู่บุญนายทรงพล ใจกริ่ม ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด กล่าวว่า สหกรณ์การเกษตรเกษตรวิสัย จํากัด เป็นสหกรณ์ประเภทการเกษตร ตั้งอยู่ในพื้นที่ทุ่งกุลาร้องไห้ ซึ่งเป็นพื้นที่ปลูกข้าวหอมมะลิคุณภาพดีของประเทศ ดําเนินธุรกิจให้การบริการแก่สมาชิกเกษตรกร ในด้านการให้สินเชื่อเพื่อประกอบอาชีพเกษตรกร การจัดหุาวัสดุการเกษตรเพิ่มมูลราคาการจัดสวัสดิการให้กับสมาชิก ซึ่งจากการดําเนินงานที่ผ่านมาได้ใช้การตลาดนําการผลิต การส่งเสริมการใช้เครื่องจักรในการทําเกษตร การผลิตข้าวแบบครบวงจร ซึ่งสามารถสร้างรายได้ให้กับเกษตรกรและสมาชิกสหกรณ์ให้อยู่ดีกินดี ได้บริโภคสินค้าที่ดีมีคุณภาพ และไม่ถูกเอารัดเอาเปรียบในด้านการกดราคา ซึ่งคือหัวใจหลักในการจัดตั้งสหกรณ์และทํางานร่วมกันผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด กล่าวต่อว่า ผลงานโดดเด่นของสหกรณ์การเกษตรเกษตรวิสัย จํากัด คือการรวบรวมและแปรรูปผลิตภัณฑ์หอมมะลิซึ่งมีความพร้อมด้านอุปกรณ์ อาทิ ลานตาก เครื่องชั่งโรงอบลดความชื้น โกดังเป่าลมเย็น โรงสี ไซลเก็บข้าวสารเป่าเย็น เครื่องบรรจุข้าวสารขนาดต่างๆ ซึ่งโรงสีได้รับ การรับรอง มาตรฐาน GMP ISO HACCP ผ่านการสนับสนุนจากหลายหน่วยงานต่างๆ สําหรับผลผลิตในปีการผลิต 2565/66 สหกรณ์การเกษตรเกษตรวิสัยจํากัดได้รวบรวมข้าวเปลือกจากเกษตรกรสมาชิกจํานวน 57,689 ตัน คิดเป็นมูลค่า 668,955,705 บาทนายทรงพล ใจกริ่ม ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด กล่าวเพิ่มเติมว่า ใน ปี 2566 จังหวัดร้อยเอ็ดมีแผนงานโครงการที่จะการส่งเสริมสนับสนุนและพัฒนาให้สหกรณ์การเกษตรที่ดําเนินธุรกิจโรงสีข้าว หันมาใช้พลังงานสะอาดโดยเฉพาะการผลิตไฟฟ้าจากเซลล์แสงอาทิตย์ (Solar Roof Top) เพื่อลดค่าใช้จ่ายเกี่ยวไฟฟ้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งในส่วนของสหกรณ์การเกษตรเกษตรวิสัย จํากัด ซึ่งสูญเสียเงินทุนดําเนินการไปกับค่ากระแสไฟฟ้าที่ใช้ในโรงสีข้าวเป็นจํานวนมากปีหนึ่งๆ ประมาณ 13 ล้านบาท หรือเฉลี่ยเดือนละ 1.083 ล้านบาท ทําให้สหกรณ์มีต้นทุนการผลิตและแปรรูปข้าวเพิ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ และในขณะเดียวกันสหกรณ์จะนําเงินทุนดังกล่าวกลับมาใช้เพื่อรับซื้อข้าวจากสมาชิกและเกษตรกรในราคาที่สูงขึ้น และเพื่อลดค่าใช้จ่ายเกี่ยวไฟฟ้าซึ่งสหกรณ์การเกษตรเกษตรวิสัย จํากัด จะแปรรูปผลิตผลทางการเกษตรโดยเฉพาะข้าวสารให้มีคุณภาพและเพิ่มมูลค่า รวมทั้งสหกรณ์ช่วยรับซื้อข้าวเปลือกจากเครือข่ายสหกรณ์ได้อีกทางหนึ่งด้วย ซึ่งจะทําให้เกษตรกรสมาชิกมีรายได้เพิ่มขึ้นจากการข้าวเปลือกให้กับสหกรณ์ สิ่งเหล่านี้สอดคล้องกับนโยบายของจังหวัดในการมุ่งสนับสนุนส่งเสริมให้เกษตรกรมีการรวมกลุ่มและบริหาร จัดการร่วมกัน ด้วยการรวมกันผลิตและรวมกันจําหน่ายใช้ตลาดนําการผลิต โดยมีตลาดรองรับที่แน่นอน เพื่อให้ เกษตรกรสามารถลดต้นทุนการผลิตและรายได้เพิ่มขึ้น ตามเป้าหมายการพัฒนาจังหวัด ที่ว่า “ร้อยเอ็ดเมืองเกษตรอัจฉริยะ ท่องเที่ยวสร้างสรรค์ วัฒนธรรมสร้างมูลค่า สังคมพัฒนาอย่างยั่งยืน”สวท.ร้อยเอ็ด#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
20/1/2023
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ร้อยเอ็ด
สวท.ร้อยเอ็ด
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230120233110245
null
สำนักงานสิ่งแวดล้อมและควบคุมมลพิษที่ 11 ติดตามตรวจสอบความเค็มชุมชนใกล้เหมืองแร่โพแทช จังหวัดนครราชสีมา
วันนี้ (20 มกราคม 2566) นายบัญชา ขุนสูงเนิน ผู้อํานวยการส่วนตรวจและบังคับใช้กฎหมาย พร้อมด้วย นางสาวอัจฉรา อิ่มมณี นักวิชาการสิ่งแวดล้อมชํานาญการ นายยศฐ์วพงศ์ วัชรมโนภาส นักวิชาการสิ่งแวดล้อมชํานาญการ และเจ้าหน้าที่ ร่วมกับชุมชนบ้านหนองไทร ตําบลหนองไทร อําเภอด่านขุนทด จังหวัดนครราชสีมา ลงพื้นที่ตรวจสอบการแพร่กระจายความเค็มบริเวณวัดหนองไทร ตามข้อสั่งการของ นายสมเกียรติ วิริยะกุลนันท์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ประธานคณะทํางานศึกษาและประเมินผลกระทบจากโครงการเหมืองแร่โพแทช ที่มอบหมายให้ตรวจสอบการแพร่กระจายความเค็มจากบ่อน้ําบาดาล ตามที่องค์การบริหารส่วนตําบลหนองไทรแจ้งว่าเป็นสาเหตุที่ทําให้เกิดการรั่วซึมของน้ําเค็มและไหลลงในบ่อน้ําของวัดหนองไทร ผลการตรวจสอบสรุปได้ ดังนี้1. ตรวจพบบ่อบาดาลบริเวณวัดหนองไทร จํานวน 2 บ่อ ห่างจากแนวเขตโครงการเหมืองแร่โพแทชประมาณ 30 เมตร มีลักษณะเป็นท่อ PVC โผล่ขึ้นมาเหนือพื้นดิน โดยบ่อที่ 1 มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางของท่อประมาณ 3 นิ้ว ระดับน้ําลึกจากผิวดิน 23 เซนติเมตร ก้นบ่อลึก 52.60 เมตร ตรวจวัดค่าความมีค่าเท่ากับ 37.2 กรัมต่อลิตร บ่อที่ 2 อยู่ห่างจากบ่อที่ 1 ประมาณ 10 เมตร มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางของท่อประมาณ 1.5 นิ้ว ระดับน้ําลึกจากผิวดิน 8 เซนติเมตร ก้นบ่อลึก 47.83 เมตร ตรวจวัดค่าความมีค่าเท่ากับ 46.8 กรัมต่อลิตร และไม่พบว่ามีน้ํารั่วซึมออกจากบ่อบาดาลทั้งสองบ่อแต่อย่างใด2. ตรวจวัดค่าความเค็มของบ่อน้ําในวัดหนองไทรที่อยู่ติดกับโครงการเหมืองแร่โพแทช พบว่ามีค่าสูงเกินกว่าที่จะสามารถตรวจวัดได้ (มากกว่า 70 กรัมต่อลิตร)3. ตรวจพบน้ํารั่วซึมบริเวณวัดหนองไทรไหลลงสู่บ่อน้ําของประชาชนด้านทิศตะวันตก โดยบ่อที่เป็นแหล่งรองรับน้ําที่รั่วซึม มีค่าความเค็มมากกว่า 70 กรัมต่อลิตร ส่วนบ่อน้ําบริเวณติดกันที่มิได้รองรับน้ําที่รั่วซึม จํานวน 2 บ่อ มีค่าความเค็มเท่ากับ 0.4 และ 3.3 กรัมต่อลิตร4. ตรวจวัดค่าความเค็มของแหล่งน้ําบริเวณด้านทิศเหนือของพื้นที่โครงการ พบหอถังสูงสําหรับผลิตน้ําประปาบาดาล มีค่าความเค็มเท่ากับ 1.3 กรัมต่อลิตร และบ่อน้ําสาธารณะที่อยู่ใกล้กับหอถังสูง มีค่าความเค็มเท่ากับ 0.2 กรัมต่อลิตรทั้งนี้ สํานักงานสิ่งแวดล้อมและควบคุมมลพิษที่ 11 (นครราชสีมา) จะสรุปผลการตรวจสอบนําเรียน นายสมเกียรติ วิริยะกุลนันท์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ประธานคณะทํางานศึกษาและประเมินผลกระทบจากโครงการเหมืองแร่โพแทชทราบ ต่อไป#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
20/1/2023
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
นครราชสีมา
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนครราชสีมา
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230120235401248
null
สำนักงานสิ่งแวดล้อมและควบคุมมลพิษที่ 11 ตรวจสอบและบำรุงรักษาสถานีตรวจวัดคุณภาพน้ำอัตโนมัติ จังหวัดนครราชสีมา
วันนี้ (20 มกราคม 2566) นายสมพงษ์ บุญเฟรือง ผู้อํานวยการส่วนการจัดการคุณภาพน้ํา อากาศและเสียง พร้อมด้วย นางสาวณัฐชนก พาละเอ็น นักวิชาการสิ่งแวดล้อมชํานาญการพิเศษ และเจ้าหน้าที่ ตรวจสอบการทํางานและบํารุงรักษาสถานีตรวจวัดคุณภาพน้ําแบบอัตโนมัติในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา สถานีตรวจวัดคุณภาพน้ําลําตะคอง บริเวณวัดป่าอํานวยผล ตําบลหนองน้ําแดง อําเภอปากช่อง และบริเวณชุมชนบ้านเหนือ ตําบลสีคิ้ว อําเภอสีคิ้ว จังหวัดนครราชสีมา ซึ่งเป็นการดําเนินการภายใต้ภารกิจการติดตามตรวจสอบคุณภาพน้ําในแหล่งน้ําผิวดิน ประจําปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ในการติดตามตรวจสอบและประเมินผลคุณภาพน้ํา ทั้งนี้ เพื่อให้ระบบการทํางานสถานีตรวจวัดคุณภาพน้ําแบบอัตโนมัติ สามารถตรวจวัดคุณภาพน้ํา และรายงานผลแบบ Real Time ทุกๆ 30 นาที ตลอด 24 ชั่วโมง และแจ้งเตือนผ่านทางไลน์ (Line) ไปยังผู้มีส่วนเกี่ยวข้องเพื่อการเตือนภัย และดําเนินการป้องกันแก้ไขปัญหาที่อาจเกิดขึ้นได้อย่างต่อเนื่อง#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
20/1/2023
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
นครราชสีมา
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนครราชสีมา
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230121000411250
null
ปศุสัตว์จังหวัดบึงกาฬ จัดกิจกรรมกรมปศุสัตว์มั่นใจ สินค้าปศุสัตว์ปลอดภัย รับเทศกาลตุรษจีน ปี 2566
นางวัลลภา วราอัศวปติ ปศุสัตว์จังหวัดบึงกาฬ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สํานักงานปศุสัตว์จังหวัดบึงกาฬ ดําเนินการจัดกิจกรรมกรมปศุสัตว์มั่นใจ สินค้าปศุสัตว์ปลอดภัย รับตุรษจีน ณ ห้าง Makro สาขาบึงกาฬการจัดกิจกรรมครั้งนี้ เพื่อเป็นการสร้างความมั่นใจให้แก่ผู้บริโภคในการเลือกซื้อสินค้าปศุสัตว์ในช่วงตุรษจีน ปี 2566 ว่ามีความปลอดภัยและผ่านการตรวจสอบมาตรฐานจากกรมปศุสัตว์ ทั้งนี้ปศุสัตว์จังหวัดบึงกาฬ ได้ประชาสัมพันธ์และสร้างการรับรู้เกี่ยวกับโครงการเนื้อสัตว์ปลอดภัย ใส่ใจผู้บริโภค (ปศุสัตว์ OK) ให้กับประชาชนที่มาเลือกซื้อเนื้อสัตว์ การดําเนินกิจกรรมครั้งนี้ได้รับความร่วมมือจากผู้ประกอบการจําหน่ายเนื้อสัตว์และประชาชนที่มาเลือกซื้อเนื้อสัตว์เป็นอย่างดี#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
20/1/2023
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
บึงกาฬ
สวท.บึงกาฬ
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230121001311253
null
ปศุสัตว์จังหวัดเพชรบุรี ลงพื้นที่ตลาดสดเมืองเพชรบุรี ตรวจเยี่ยมสถานที่จำหน่ายสินค้าปศุสัตว์ สร้างความมั่นใจ ผู้บริโภคปลอดภัย ต้อนรับวันตรุษจีน"
(วานนี้ 20 ม.ค.66) นายสัตวแพทย์กรรัตน์ คุ้มกระ ปศุสัตว์จังหวัดเพชรบุรี มอบหมายให้ นายสัตวแพทย์สุระพงษ์ ธีวีระปัญญา หัวหน้ากลุ่มพัฒนาคุณภาพสินค้าปศุสัตว์ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กลุ่มพัฒนาคุณภาพสินค้าปศุสัตว์ สํานักงานปศุสัตว์จังหวัดเพชรบุรี ร่วมกับสํานักงานปศุสัตว์อําเภอเมืองเพชรบุรี นําทีมโดย นายอิสรา หล้าสุดตา ปศุสัตว์อําเภอเมืองเพชรบุรี ตรวจเยี่ยมร้านจําหน่ายผลิตภัณฑ์ปศุสัตว์ ณ ตลาดสดเทศบาลเมืองเพชรบุรี จังหวัดเพชรบุรี ซึ่งเป็นตลาดสดที่มีมาตรฐานและสุขอนามัยของสถานที่จําหน่ายสินค้า และมีสถานที่จําหน่าย “ปศุสัตว์ OK” ภายในตลาด เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ผู้บริโภคที่มาเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ปศุสัตว์เป็นของไหว้ในเทศกาลตรุษจีน ตามกิจกรรมกรมปศุสัตว์มั่นใจ สินค้าปศุสัตว์ปลอดภัย รับตรุษจีน พร้อมทั้งได้แนะนําให้พี่น้องประชาชนเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ปศุสัตว์จากแหล่งจําหน่ายที่น่าเชื่อถือ โดยต้องมีความสะอาด ถูกสุขลักษณะ สามารถตรวจสอบย้อนกลับไปถึงแหล่งผลิตได้ โดยเฉพาะสถานที่จําหน่ายภายใต้สัญลักษณ์ “ปศุสัตว์ OK” ซึ่งเป็นโครงการที่กรมปศุสัตว์จัดทําขึ้นเพื่อรับรองว่า ร้านค้าที่จําหน่ายเนื้อสัตว์หรือผลิตภัณฑ์ปศุสัตว์นั้นๆ ผ่านการตรวจสอบมาตรฐานจากกรมปศุสัตว์ และประชาสัมพันธ์เชิญชวนผู้ประกอบการที่จําหน่ายเนื้อสัตว์และไข่สด เข้าร่วมโครงการปศุสัตว์ OK เพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่ผู้บริโภคในการเลือกซื้อเนื้อสัตว์ที่ปลอดภัยสวท.เพชรบุรี#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
21/1/2023
ภาคตะวันตก
เพชรบุรี
สวท.เพชรบุรี
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230121081231258
null
รมช.มนัญญา ลงพื้นที่จังหวัดกระบี่ ตรวจเยี่ยมชุมนุมสหกรณ์ชาวสวนปาล์มน้ำมันกระบี่ จำกัด หนุนเพิ่มมูลค่าปาล์มน้ำมัน เพื่อเกษตรกรสมาชิกมีรายได้อย่างยั่งยืน
วันนี้ (21 ม.ค. 66) นางสาวมนัญญา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมด้วย นายวิศิษฐ์ ศรีสุวรรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ นายประวัติแดงบรรจง ผู้ตรวจราชการกรม เขตตรวจราชการที่ 4 และ 6 ลงพื้นที่จังหวัดกระบี่ เยี่ยมชมการดําเนินงานของชุมนุมสหกรณ์ชาวสวนปาล์มน้ํามันกระบี่ จํากัด โดยมี นายอนุวรรตน์ โหมดพริ้ง รองผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ นายประเสริฐศักดิ์ ณ นคร สหกรณ์จังหวัดกระบี่ นายเกียรติศักดิ์ นารีเลิศ เกษตรและสหกรณ์จังหวัดกระบี่ นายชํานาญ นุ่นดําเกษตรจังหวัดกระบี่ นายสมชาย เทพจิตร ประธานกรรมการชุมนุมสหกรณ์ชาวสวนปาล์มน้ํามันกระบี่ จํากัด หัวหน้าส่วนราชการ เจ้าหน้าที่ สมาชิกสหกรณ์ และเกษตรกรให้การต้อนรับ ณ ชุมนุมสหกรณ์ชาวสวนปาล์มน้ํามันกระบี่ จํากัด ตําบลคลองยาอําเภออ่าวลึก จังหวัดกระบี่ จากนั้น เดินทางไปเยี่ยมชมแปลงสาธิต RSPO ของ นายจรัส ปทุมสุวรรณ์ ตําบลคีรีวงอําเภอปลายพระยา จังหวัดกระบี่โอกาสนี้ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้พบปะเกษตรกร ผู้แทนสมาชิกชุมนุมสหกรณ์ เพื่อรับฟังผลการดําเนินงานและปัญหาด้านในต่างๆ พร้อมกล่าวว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ให้ความสําคัญในการขับเคลื่อนให้สถาบันเกษตรกรเป็นองค์กรหลักในการช่วยเหลือเกษตรกรให้มีความอยู่ดี กินดี ผ่านนโยบายสําคัญต่าง ๆ เช่น โครงการนําลูกหลานเกษตรกรกลับบ้าน สานต่ออาชีพการเกษตร เพื่อเป็นการสนับสนุนให้ลูกหลานสมาชิกสหกรณ์ กลับมาทําการเกษตรที่บ้านเกิดสานต่ออาชีพการเกษตร โครงการส่งเสริมและพัฒนาอาชีพอาชีพเพื่อแก้ไขปัญหาที่ดินทํากินของเกษตรกร ภายใต้โครงการจัดที่ดินทํากินให้ชุมชนตามนโยบายรัฐบาล โครงการแปลงใหญ่ โครงการส่งเสริมให้เกษตรกรให้ความสําคัญในการพัฒนาผลผลิตทางการเกษตรให้มีคุณภาพ และอีกหลาย ๆ โครงการ เพื่อให้องค์กรเข้มแข็ง สามารถดําเนินงานด้วยการบริหารจัดการที่ดีเป็นที่พึ่งของมวลสมาชิก“การที่สหกรณ์ได้รวมตัวกันจัดตั้งเป็นชุมนุมสหกรณ์แห่งนี้ ถือเป็นการช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกปาล์มน้ํามันให้สามารถสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผลผลิตปาล์มน้ํามันเป็นรายได้หลักให้กับครอบครัว รวมทั้งสมาชิกสหกรณ์ได้รับประโยชน์และสร้างมูลค่าจากต้นปาล์มน้ํามันในหลาย ๆ เรื่อง ซึ่งปาล์มน้ํามัน เป็นพืชเศรษฐกิจที่สําคัญ มีเกษตรกรปลูกปาล์มน้ํามัน จํานวน 41,156 ราย พื้นที่เพาะปลูกปาล์มน้ํามัน จํานวน 1,151,415 ไร่ผลผลิตที่ได้ 3,345,467 ตัน/ปี ผลผลิตเฉลี่ย 3 ตัน/ไร่ มีสหกรณ์ที่ดําเนินธุรกิจรวบรวมผลผลิตปาล์มน้ํามัน จํานวน 14 แห่ง รวมชุมนุมสหกรณ์ชาวสวนปาล์มน้ํามันกระบี่ จํากัด ด้วย ซึ่งจากการจัดตั้งชุมนุมสหกรณ์ฯ นั้น ถือเป็นโอกาสดีของเกษตรกรผู้ปลูกปาล์มน้ํามันในจังหวัดกระบี่ เนื่องจากชุมนุมสหกรณ์ฯ เป็นองค์กรหลักที่สําคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจที่สําคัญของจังหวัด สามารถช่วยเหลือเกษตรกรสมาชิกให้ได้รับราคาผลผลิตปาล์มน้ํามันที่เป็นธรรม มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีเหมาะสมกับพื้นที่ แม้ในสถานการณ์ที่ผลผลิตปาล์มน้ํามันล้นตลาด ลานเทเอกชนหยุดการรับซื้อผลผลผลิต แต่ชุมนุมสหกรณ์ฯ ยังสามารถเปิดบริการรับซื้อผลผลิตปาล์มน้ํามันจากเกษตรกรสมาชิกได้อย่างต่อเนื่อง” รมช.มนัญญา กล่าว ชุมนุมสหกรณ์ชาวสวนปาล์มน้ํามันกระบี่ จํากัด จดทะเบียนสหกรณ์เมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2540 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรในการประกอบอาชีพทําสวนปาล์มน้ํามันและสร้างมูลค่าเพิ่มของผลผลิตปาล์มน้ํามัน ปัจจุบันชุมนุมสหกรณ์ฯมีทุนดําเนินงาน 391.18 ล้านบาท มีโรงงานสกัดน้ํามันปาล์ม จํานวน 2 แห่ง คือ โรงงานสกัดน้ํามันปาล์ม สาขาอําเภออ่าวลึก ขนาดกําลังการผลิต 90 ตันทะลาย/ชั่วโมง สามารถรองรับผลผลิตปาล์มน้ํามันได้ 2,000 – 2,200 ตัน/วัน และโรงงานสกัดน้ํามันปาล์ม สาขาอําเภอคลองท่อม ขนาดกําลังการผลิต 45 ตันทะลาย/ชั่วโมง สามารถรองรับผลผลิตปาล์มน้ํามันได้ 1,200 – 1,400 ตัน/วัน ซึ่งปัจจุบันอยู่ในการครอบครองของบริษัท กระบี่วิเศษน้ํามันปาล์ม จํากัด#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
21/1/2023
ภาคใต้
กระบี่
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดกระบี่
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230121134317312
null
ศูนย์หม่อนไหมฯ ขอนแก่น อบรมการย้อมครั่งให้กับเกษตรกรในโครงการสินค้าเกษตรคุณภาพเพื่อสร้างรายได้อย่างยั่งยืน
“ศูนย์หม่อนไหมฯ ขอนแก่น อบรมการย้อมครั่งให้กับเกษตรกรในโครงการสินค้าเกษตรคุณภาพเพื่อสร้างรายได้อย่างยั่งยืน ที่ บ้านสวนกล้วย ต.บ้านเรือ อ.ภูเวียง จ.ขอนแก่น” วันที่ 19-20 มกราคม 2566 ที่ผ่านมาทาง ศูนย์หม่อนไหมเฉลิมพระเกียรติฯ ขอนแก่น นําโดย นางสาวพิมลรัตน์ เมธินธังสรรค์ นักวิชาการเกษตรชํานาญการ นางสาววีราภรณ์ อินทรักษ์ นักวิชาการเกษตรปฏิบัติการ นายสุพจน์ บรรเทา และ นายวิรัตน์ พานขันธ์ เจ้าพนักงานการเกษตร ลงพื้นที่เพื่ออบรม เกษตรกรในโครงการสินค้าเกษตรคุณภาพเพื่อสร้างรายได้อย่างยั่งยืน ซึ่งได้รับงบประมาณจากจังหวัดขอนแก่นปี 2566 กิจกรรมหลัก สร้างอัตลักษณ์และเพิ่มมูลค่าผ้าไหมย้อมครั่งไปสู่เมืองหัตถกรรมโลกแห่งผ้ามัดหมี่ เป๋็นหลักสูตร การย้อมครั่ง จัดอบรมที่บ้านสวนกล้วย ต.บ้านเรือ อ.ภูเวียง จ.ขอนแก่น โดยมีเกษตรกรเข้าร่วมอบรม จํานวน 20 ราย ซึ่งเกษตรกรมีความตั้งใจ และให้ความสนใจการอบรมเป็นอย่างดี#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
21/1/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดขอนแก่น
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230121154342327
null
กรมทรัพยากรธรณี ขอให้อาสาสมัครเครือข่ายเฝ้าระวังดินถล่มและน้ำป่าไหลหลากถึง 23 ม.ค.นี้ในพื้นที่ 8 จังหวัด หลังเกิดฝนตกหนักต่อเนื่อง
กรมทรัพยากรธรณี ขอให้อาสาสมัครเครือข่ายเฝ้าระวังดินถล่มและน้ําป่าไหลหลากถึงวันที่ 23 มกราคมนี้ในพื้นที่ 8 จังหวัด หลังเกิดฝนตกหนักต่อเนื่อง ศูนย์ปฏิบัติการธรณีพิบัติภัย กรมทรัพยากรธรณี ได้ออกประกาศขอให้อาสาสมัครเครือข่ายกรมทรัพยากรธรณีและประชาชนทั่วไปเฝ้าระวังภัยดินถล่มและน้ําป่าไหลหลากถึงวันที่ 23 มกราคมในพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราช พัทลุง ตรัง สตูล สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส โดยเฉพาะในพื้นที่เสี่ยงภัยดินถล่มบริเวณอําเภอศรีนครินทร์ ศรีบรรพต กงหรา ตะโหมด จังหวัดพัทลุง // อําเภอหาดใหญ่ สะบ้าย้อย สะเดา รัตภูมิ เทพา จะนะ จังหวัดสงขลา // อําเภอโคกโพธิ์ สายบุรี จังหวัดปัตตานี // อําเภอบันนังสตา ธารโต เบตง ยะหา จังหวัดยะลา และอําเภอระแงะ ศรีสาคร สุคิริน รือเสาะ แว้ง เจาะไอร้อง จะแนะ จังหวัดนราธิวาส เนื่องจากอิทธิพลของมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือกําลังแรงพัดปกคลุมอ่าวไทย และภาคใต้ ทําให้มีฝนตกหนักต่อเนื่องวัดปริมาณน้ําฝนในรอบ 24 ชั่วโมงได้มากกว่า 100 มิลลิเมตร อาจส่งผลให้เกิดดินถล่มและน้ําป่าไหลหลากได้ ทั้งนี้ ขอให้อาสาสมัครเครือข่ายเฝ้าระวังแจ้งเตือนธรณีพิบัติภัยของกรมทรัพยากรธรณี เตรียมความพร้อมเฝ้าระวังภัยและวัดปริมาณน้ําฝนอย่างต่อเนื่อง หากเกิดเหตุให้แจ้งเตือนสถานการณ์ดินถล่มและน้ําป่าไหลหลากให้ประชาชนในหมู่บ้านได้รับทราบ และแจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพร้อมปฏิบัติตามแผนเฝ้าระวังด้วย
21/1/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230121161613332
null
กอนช. เฝ้าระวังฝนตกเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งในภาคใต้ พร้อมระวังระดับน้ำทะเลหนุนสูงในพื้นที่ลุ่มต่ำริมปากแม่น้ำถึง 26 ม.ค.นี้
กองอํานวยการน้ําแห่งชาติ (กอนช.) เฝ้าระวังฝนตกเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งในภาคใต้ พร้อมระวังระดับน้ําทะเลหนุนสูงในพื้นที่ลุ่มต่ําริมปากแม่น้ําถึงวันที่ 26 มกราคมนี้ นายสุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสํานักงานทรัพยากรน้ําแห่งชาติ (สทนช.) ในฐานะรองผู้อํานวยการกองอํานวยการน้ําแห่งชาติ (กอนช.) กล่าวถึงสถานการณ์น้ําภาพรวมของประเทศวันนี้ (21 ม.ค.66) ว่า ภาคใต้มีฝนเพิ่มมากขึ้นและมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมามีฝนตกหนักถึงหนักมากบริเวณ จ.นราธิวาส , สงขลา และพัทลุง พร้อมทั้ง ต้องเฝ้าระวังระดับน้ําทะเลหนุนสูงในพื้นที่ลุ่มต่ําริมปากแม่น้ําช่วงวันที่ 21–26 มกราคม โดยระดับน้ําทะเลหนุนจะขึ้นสูงสุดในวันที่ 23–24 มกราคม จะส่งผลให้ระดับน้ําในแม่น้ําเพิ่มสูงขึ้น อาจก่อให้เกิดผลกระทบต่อพื้นที่ลุ่มต่ําริมชายฝั่งทะเลอ่าวไทย และปัญหาน้ําเค็มรุกล้ําบริเวณปากแม่น้ําใน จ.นนทบุรี สมุทรปราการ กรุงเทพมหานคร สุราษฎร์ธานี สงขลา นครศรีธรรมราช ปัตตานี และนราธิวาส
21/1/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230121164759338
null
รมช.มนัญญา ลงพื้นที่จังหวัดกระบี่ ตรวจเยี่ยมชุมนุมสหกรณ์ชาวสวนปาล์มน้ำมันกระบี่ จำกัดหนุนเพิ่มมูลค่าปาล์มน้ำมัน เพื่อเกษตรกรสมาชิกมีรายได้อย่างยั่งยืน
วันที่ 21 ม.ค. 66 นางสาวมนัญญา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมด้วยนายวิศิษฐ์ ศรีสุวรรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ นายประวัติ แดงบรรจง ผู้ตรวจราชการกรม เขตตรวจราชการที่ 4 และ 6 ลงพื้นที่จังหวัดกระบี่ เยี่ยมชมการดําเนินงานของชุมนุมสหกรณ์ชาวสวนปาล์มน้ํามันกระบี่ จํากัด โดยมี นายอนุวรรตน์ โหมดพริ้ง รองผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ นายประเสริฐศักดิ์ ณ นคร สหกรณ์จังหวัดกระบี่ นายสมชาย เทพจิตร ประธานกรรมการชุมนุมสหกรณ์ชาวสวนปาล์มน้ํามันกระบี่ จํากัด หัวหน้าส่วนราชการ เจ้าหน้าที่ สมาชิกสหกรณ์ และเกษตรกรให้การต้อนรับ ณ ชุมนุมสหกรณ์ชาวสวนปาล์มน้ํามันกระบี่ จํากัด ตําบลคลองยา อําเภออ่าวลึก จังหวัดกระบี่ โอกาสนี้ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้พบปะเกษตรกร ผู้แทนสมาชิกชุมนุมสหกรณ์ เพื่อรับฟังผลการดําเนินงานและปัญหาด้านในต่างๆ พร้อมกล่าวว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ให้ความสําคัญในการขับเคลื่อน ให้สถาบันเกษตรกรเป็นองค์กรหลักในการช่วยเหลือเกษตรกรให้มีความอยู่ดี กินดี ผ่านนโยบายสําคัญต่าง ๆ เช่น โครงการนําลูกหลานเกษตรกรกลับบ้าน สานต่ออาชีพการเกษตร เพื่อเป็นการสนับสนุนให้ลูกหลานสมาชิกสหกรณ์ กลับมาทําการเกษตรที่บ้านเกิดสานต่ออาชีพการเกษตร โครงการส่งเสริมและพัฒนาอาชีพอาชีพเพื่อแก้ไขปัญหาที่ดินทํากินของเกษตรกร ภายใต้โครงการจัดที่ดินทํากินให้ชุมชนตามนโยบายรัฐบาล โครงการแปลงใหญ่ โครงการส่งเสริมให้เกษตรกรให้ความสําคัญในการพัฒนาผลผลิตทางการเกษตรให้มีคุณภาพ และอีกหลาย ๆ โครงการ เพื่อให้องค์กรเข้มแข็ง สามารถดําเนินงานด้วยการบริหารจัดการที่ดีเป็นที่พึ่งของมวลสมาชิก การที่สหกรณ์ได้รวมตัวกันจัดตั้งเป็นชุมนุมสหกรณ์แห่งนี้ ถือเป็นการช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกปาล์มน้ํามันให้สามารถสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผลผลิตปาล์มน้ํามัน เป็นรายได้หลักให้กับครอบครัว รวมทั้งสมาชิกสหกรณ์ได้รับประโยชน์และสร้างมูลค่าจากต้นปาล์มน้ํามันในหลาย ๆ เรื่อง ซึ่งปาล์มน้ํามัน เป็นพืชเศรษฐกิจที่สําคัญ มีเกษตรกรปลูกปาล์มน้ํามันจํานวน 41,156 ราย พื้นที่เพาะปลูกปาล์มน้ํามัน จํานวน 1,151,415 ไร่ ผลผลิตที่ได้ 3,345,467 ตัน/ปี ผลผลิตเฉลี่ย 3 ตัน/ไร่ มีสหกรณ์ที่ดําเนินธุรกิจรวบรวมผลผลิตปาล์มน้ํามันจํานวน 14 แห่ง รวมชุมนุมสหกรณ์ชาวสวนปาล์มน้ํามันกระบี่ จํากัด ด้วย จากการจัดตั้งชุมนุมสหกรณ์ฯ นั้น ถือเป็นโอกาสดีของเกษตรกรผู้ปลูกปาล์มน้ํามันในจังหวัดกระบี่ เนื่องจากชุมนุมสหกรณ์ฯ เป็นองค์กรหลักที่สําคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจที่สําคัญของจังหวัด สามารถช่วยเหลือเกษตรกรสมาชิกให้ได้รับราคาผลผลิตปาล์มน้ํามันที่เป็นธรรม มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีเหมาะสมกับพื้นที่ แม้ในสถานการณ์ที่ผลผลิตปาล์มน้ํามันล้นตลาด ลานเทเอกชนหยุดการรับซื้อผลผลผลิต แต่ชุมนุมสหกรณ์ฯ ยังสามารถเปิดบริการรับซื้อผลผลิตปาล์มน้ํามันจากเกษตรกรสมาชิกได้อย่างต่อเนื่อง เพราะในช่วงที่ผลปาล์มล้นโรงงาน ราคาปาล์มตกทันที ไม่ต่ํากว่า 50 สตางค์ต่อกิโลกรัม โชคดีที่ราคา ณ รง.ชุมนุมสหกรณ์ไม่ได้ลดลงตามราคาโรงงานของเอกชนจึงทําให้ราคาปาล์มเด็กกลับขึ้นมาอยู่ที่ 4 บาทกว่าถึง 5 บาทปัจจุบันชุมนุมสหกรณ์ฯ มีทุนดําเนินงาน 391.18 ล้านบาท มีโรงงานสกัดน้ํามันปาล์ม จํานวน 2 แห่ง คือ โรงงานสกัด น้ํามันปาล์ม สาขาอําเภออ่าวลึก ขนาดกําลังการผลิต 90 ตันทะลาย/ชั่วโมง สามารถรองรับผลผลิตปาล์มน้ํามันได้ 2,000 – 2,200 ตัน/วัน และโรงงานสกัดน้ํามันปาล์ม สาขาอําเภอคลองท่อม ขนาดกําลังการผลิต 45 ตันทะลาย/ชั่วโมง สามารถรองรับผลผลิตปาล์มน้ํามันได้ 1,200 – 1,400 ตัน/วัน ซึ่งปัจจุบันอยู่ในการครอบครองของบริษัท กระบี่วิเศษน้ํามันปาล์ม จํากัด เส้นทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะเร่งดําเนินการเอาโรงงานของชุมนุมสหกรณ์คลองท่อมกลับมาอยู่ในความดูแลของชุมนุมสหกรณ์ให้เร็วที่สุด ซึ่งต้องบอกว่าที่ผ่านมาการซื้อขายโรงงานชุมนุมสหกรณ์ไม่ชอบด้วยกฎหมายถึงแม้ว่าจะมีการซื้อขายกันไปแล้วก็จะต้องนํากลับมา โดยในวันที่ 25 นี้ทาง DSI ก็จะเข้ามาตรวจสอบในการทําหนังสือสัญญาซื้อขายกันต่อไป#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
21/1/2023
ภาคใต้
กระบี่
สวท.กระบี่
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230121174701346
null
หน่วยงานสังกัดกระทรวงเกษตรฯ จัดกิจกรรมเปิดบ้านกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในงานประเพณีบุญเบิกฟ้าและงานกาชาดจังหวัดมหาสารคาม ประจำปี 2566
วันนี้(21 มกราคม 2566) เวลา 16.00 น. ที่บริเวณหน้าที่ว่าการอําเภอเมืองมหาสารคาม นายเกียรติศักดิ์ ตรงศิริ ผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม เป็นประธานเปิดกิจกรรม “เปิดบ้านกระทรวงเกษตรและสหกรณ์จังหวัดมหาสารคาม” โดยมี นางพรศรี ตรงศิริ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดมหาสารคาม นายธัญญวัฒน์ ชาญพินิจ นายวิวัฒน์ อินทร์ไทยวงศ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม หัวหน้าส่วนราชการ และประชาชนเข้าร่วม โดยการจัดกิจกรรมดังกล่าวเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่จัดขึ้นในงานประเพณีบุญเบิกฟ้าและงานกาชาดจังหวัดมหาสารคาม ประจําปี 2566 มีการจัดนิทรรศการจากหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพื่อให้บริการและให้ความรู้แก่ประชาชน ด้านการเกษตร ด้านการประมง และปศุสัตว์ นอกจากนี้ยังมีการจัดกิจกรรมประกวดผลผลิตทางการเกษตร อาทิ มันสําปะหลัง มะพร้าวน้ําหอม กล้วยน้ําว้า แตงโม มันแกว และข้าวโอกาสนี้ นายเกียรติศักดิ์ ตรงศิริ ผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม เป็นประธานในการมอบเงินรางวัลและเกียรติบัตร แก่เกษตรกรที่นําผลผลิตทางการเกษตรเข้าร่วมประกวดในครั้งนี้ด้วย#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
21/1/2023
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
มหาสารคาม
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดมหาสารคาม
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230121224944377
null
คณะกรรมการการเลือกตั้งสมาชิกสภาเกษตรกรจังหวัด เตรียมความพร้อม เลือกตั้งสมาชิกสภาเกษตรกรจังหวัด ประเภทผู้แทนเกษตร
วานนี้ (20 มกราคม 2566) เวลา 13.30 น. ที่ห้องประชุมศูนย์บริหารจัดการน้ําจังหวัดศรีสะเกษ ชั้น 1 ศาลากลางจังหวัดศรีสะเกษ นายสํารวย เกษกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการการเลือกตั้งสมาชิกสภาเกษตรกรจังหวัด ประจําจังหวัดศรีสะเกษ ครั้งที่ 1/2566 เพื่อหารือการดําเนินงาน แผนการเตรียมความพร้อมในการจัดการการเลือกตั้งสมาชิกสภาเกษตรกรจังหวัด ประเภทผู้แทนเกษตร ซึ่งกําหนดวันเลือกตั้งฯ ในวันอาทิตย์ที่ 19 มีนาคม 2566 โดยมีปลัดจังหวัด ท้องถิ่นจังหวัด เกษตรจังหวัด เกษตรและสหกรณ์จังหวัด หัวหน้าสํานักงานสภาเกษตรกรจังหวัด ผู้แทนปศุสัตว์จังหวัด ผู้แทนพัฒนาการจังหวัด และผู้เกี่ยวข้องร่วมประชุม #สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
21/1/2023
null
ศรีสะเกษ
สวท.ศรีสะเกษ
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230121231548387
null
ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง เผยจังหวัดตรังจัดทำถังขยะเปียก ลดโลกร้อน ไปแล้วเกินครึ่งของเป้าหมาย โดยอำเภอที่มีผลการดำเนินงานมากที่สุด คือ อำเภอปะเหลียน
นายขจรศักดิ์ เจริญโสภา ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง เปิดเผยถึงความคืบหน้าในการจัดทําถังขยะเปียก ลดโลกร้อน ซึ่งภาพรวมทั้งจังหวัดมีครัวเรือนเป้าหมายใน THAI QM จํานวน 145,208 ครัวเรือน และจํานวนครัวเรือนที่จัดทําถังขยะเปียกลดโลกร้อนไปแล้วในขณะนี้ มีจํานวน 79,561 ครัวเรือน คิดเป็นร้อยละ 54.79 เกินครึ่งของเป้าหมายที่กําหนดไว้ โดยอําเภอที่มีผลการดําเนินงานมากที่สุด คือ อําเภอปะเหลียน มีครัวเรือนที่จัดทําถังขยะเปียกมากสุดถึงร้อยละ 81.80 ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง กล่าวว่า ผลการดําเนินงานจัดทําถังขยะเปียกลดโลกร้อน มีเพียงอําเภอเดียวที่ยังดําเนินการได้ต่ํากว่า 50 % คืออําเภอเมืองตรัง ร้อยละ 20.97 ซึ่งผู้ว่าราชการจังหวัดตรังได้เน้นย้ําให้ทุกอําเภอได้เร่งรัดการดําเนินการ ขับเคลื่อน ‘ถังขยะเปียก ลดโลกร้อน’ ให้ครบทุกครัวเรือน 100% ตั้งเป้าลดขยะที่ต้นทาง-ลดภาระงบประมาณของท้องถิ่นในการจัดการขยะ ลดภาวะโลกร้อน สร้างสิ่งแวดล้อมที่ดีนําไปสู่เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนต่อไป#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
22/1/2023
ภาคใต้
ตรัง
สวท.ตรัง
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230122080719403
null
กอนช. เฝ้าระวังฝนฟ้าคะนองในภาคใต้ พร้อมระวังระดับน้ำทะเลหนุนสูงในพื้นที่ 8 จังหวัดลุ่มต่ำริมปากแม่น้ำถึง 26 ม.ค.นี้
กองอํานวยการน้ําแห่งชาติ (กอนช.) เฝ้าระวังฝนฟ้าคะนองในภาคใต้ พร้อมระวังระดับน้ําทะเลหนุนสูงในพื้นที่ 8 จังหวัดลุ่มต่ําริมปากแม่น้ําถึงวันที่ 26 มกราคมนี้ นายสุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสํานักงานทรัพยากรน้ําแห่งชาติ (สทนช.) ในฐานะรองผู้อํานวยการกองอํานวยการน้ําแห่งชาติ (กอนช.) กล่าวถึงสถานการณ์น้ําภาพรวมของประเทศวันนี้ (22 ม.ค.66) ว่า ภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมามีฝนตกปานกลางถึงหนักมากบริเวณ จ.นราธิวาส , ยะลา และสงขลา พร้อมทั้งเฝ้าระวังระดับน้ําทะเลหนุนสูงในพื้นที่ลุ่มต่ําริมปากแม่น้ําถึงวันที่ 26 มกราคม โดยระดับน้ําทะเลหนุนจะขึ้นสูงสุดวันที่ 23–24 มกราคม จะส่งผลให้ระดับน้ําในแม่น้ําเพิ่มสูงขึ้น อาจก่อให้เกิดผลกระทบต่อพื้นที่ลุ่มต่ําริมชายฝั่งทะเลอ่าวไทย และปัญหาน้ําเค็มรุกล้ําบริเวณปากแม่น้ําในพื้นที่ จ.นนทบุรี สมุทรปราการ กรุงเทพมหานคร สุราษฎร์ธานี สงขลา นครศรีธรรมราช ปัตตานี และนราธิวาส
22/1/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230122142013481
null
ปัตตานี-เปิดตัวโครงการส่งเสริมเครือข่าย ทสม.โคก หนอง นา โมเดล และการทำเกษตรกรรมยั่งยืน
ผู้สื่อข่าวปัตตานีรายงานวันที่ 22 มกราคม 2566 ที่หมู่ 4 บ้านม่วงเตี้ย ตําบลม่วงเตี้ย อําเภอแม่ลาน จังหวัดปัตตานี นางพาตีเมาะ สะดียามู ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี เปิดกิจกรรมเปิดตัวโครงการทําความเข้าใจและเสริมสร้างกลไกความร่วมมือในการดําเนินการโครงการส่งเสริมเครือข่าย ทสม. ในการดําเนินงาน โคก หนอง นา โมเดล และการทําเกษตรกรรมยั่งยืน เนื่องจากปัจจุบันตําบลม่วงเตี้ย มีการทําเกษตรเชิงเดี่ยว ทําให้มีรายได้ไม่เพียงพอต่อรายจ่ายเพื่อใช้ในครัวเรือน ทําให้คนในชุมชนต้องซื้อวัตถุดิบจากพื้นที่อื่นมาประกอบอาหาร ประกอบกับการทําเกษตรเชิงพาณิชย์ ทําให้มีการใช้สารเคมีทางการเกษตรมากขึ้น ทําให้เกิดปัญหาต่อสุขภาพของประชาชนและสิ่งแวดล้อม และในช่วงเวลาที่ผ่านมาพื้นที่ดําเนินโครงการแห่งนี้เคยได้รับการสนับสนุนงบประมาณเพื่อดําเนินกิจกรรม โคก หนอง นา โมเดล จากสํานักงานพัฒนาชุมชนอําเภอแม่ลาน เพื่อขุดสระน้ํา และสํานักงานเกษตรอําเภอแม่ลานสนับสนุนพันธุ์พืช ดังนั้น เพื่อให้มีการดําเนินกิจกรรมที่ต่อเนื่อง เครือข่าย ทสม. ตําบลม่วงเตี้ย ได้ยื่นเสนอขอรับการสนับสนุนงบประมาณเพิ่มเติมจากกองทุนสิ่งแวดล้อม และในปีงบประมาณ 2566สํานักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยคณะกรรมการกองทุนสิ่งแวดล้อม ได้อนุมัติจัดสรรเงินอุดหนุนจากกองทุนสิ่งแวดล้อม วงเงิน 500,000 บาท ระยะเวลาดําเนินโครงการ 2 ปี (วันที่ 2 ตุลาคม 2565 - 30 กันยายน 2567 ) เพื่อเสริมสร้างศักยภาพและพัฒนาบทบาทเครือข่าย ทสม. ด้านการอนุรักษ์และฟื้นฟูระบบนิเวศ โคก หนอง นา และการทําเกษตรกรรมยั่งยืน และเพื่อให้ ทสม. ในพื้นที่ตําบลม่วงเตี้ยได้รับการพัฒนาและมีความรู้ในการขยายผลสู่พื้นที่ของตนเอง สําหรับกิจกรรมเปิดตัวโครงการฯ ในวันนี้ เพื่อให้เครือข่าย ทสม. ชุมชน และผู้เข้าร่วมเข้าใจวัตถุประสงค์ของโครงการเกิดความร่วมมือในการดําเนินกิจกรรมต่างๆ ตลอดโครงการ ผู้เข้าร่วมกิจกรรม จํานวน 60 คน กิจกรรมย่อยประกอบด้วย การปลูกต้นไม้และปล่อยพันธุ์สัตว์น้ํา เวทีเสวนา เรื่องประโยชน์ของโคก หนอง นา โมเดล และการทําเกษตรกรรมยั่งยืน กิจกรรมดูงานการดําเนินงานโคก หนอง นา โมเดล และการทําเกษตรแบบยั่งยืน#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
22/1/2023
ภาคใต้
ปัตตานี
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดปัตตานี
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230122134451470
null
จังหวัดหนองคาย รณรงค์หยุดเผาในพื้นที่การเกษตร ลดมลพิษฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM 2.5)
นายราชันย์ ซุ้นหั้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย มอบหมายให้นายณัฐวัสส์ วิริยานภาภรณ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย เป็นประธานเปิดโครงการส่งเสริมการหยุดเผาในพื้นที่การเกษตร ประจําปีงบประมาณ พ.ศ.2566 ณ แปลงนานายอัษฎาวุธ ขุนรอง (ศพก) และแปลงโคก หนอง นา หมู่ที่ 1 ตําบลบ้านเดื่อ อําเภอเมืองหนองคาย จังหวัดหนองคาย โดยมีนายประยูร อรัญรุท นายอําเภอเมืองหนองคาย กล่าวต้อนรับ และเกษตรจังหวัดหนองคายกล่าวรายงาน ซึ่งมีส่วนราชการในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์จังหวัดหนองคาย ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นตําบลบ้านเดื่อ กํานัน ผู้ใหญ่บ้าน และผู้แทนเกษตรกรจาก 9 อําเภอ พร้อมด้วยภาคเอกชนร่วมโครงการสําหรับกิจกรรมประกอบด้วย การบรรยายให้ความรู้การลดการเผาในพื้นที่การเกษตรโดยการไถ่กลบ หรือการนําไปทําปุ๋ย การรณรงค์การหยุดเผาในพื้นที่การเกษตร การสาธิตการไถ่กลบตอซังข้าวพร้อมทั้งการใช้รถอัดฟางเป็นก้อนเพื่อนําไปใช้ประโยชน์อย่างอื่น การทําปุ๋ยสดโดยการปลูกปอเทือง การจัดนิทรรศการให้ความรู้การหยุดเผา การทําปุ๋ยหมัก การส่งเสริมการผลิตพันธุ์ข้าวต่างๆ การจําหน่ายผลิตผลทางการเกษตรและผลิตภัณฑ์เครื่องจักรสานของกลุ่มอาชีพในพื้นที่
22/1/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
หน่วยงานสำนักข่าว
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230122215122556
null
จังหวัดพังงา อำเภอเกาะยาว ร่วมกับนักดำน้ำจิตอาสา ส่วนท้องถิ่น และผู้ประกอบการ จัดกิจกรรมเก็บขยะใต้น้ำฟื้นฟูประการังคืนธรรมชาติ
สํานักงานทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 6 โดยส่วนอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเล ส่วนบริหารทั่วไป และส่วนส่งเสริมและประสานงานเครือข่ายทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ร่วมกับเทศบาลตําบลพรุใน กํานันตําบลพรุใน ผู้ประกอบการบนเกาะไข่ และเครือข่ายนักดําน้ําอาสาสมัคร ร่วมกันจัดกิจกรรมดําน้ําปลูกฟื้นฟูปะการัง เก็บขยะในแนวปะการัง และเก็บขยะชายหาดตามโครงการส่งเสริมและสนับสนุนการฟื้นฟูทรัพยากรปะการัง ณ หมู่เกาะไข่ ตําบลพรุใน อําเภอเกาะยาว โดยมีนายประถม รัสมี ผอ.สทช.6 เป็นผู้กล่าวรายงาน ว่าที่พันตรีอภิญญา ศักดินันท์ นายอําเภอเกาะยาว ผอ.ศูนย์อํานวยการจิตอาสาพระราชทานอําเภอเกาะยาวเป็นประธานในพิธีเปิด นักดําน้ํา SCUBA เข้าร่วมกิจกรรม 30 คนการดําน้ําเก็บขยะในแนวประการังบริเวณเกาะไข่นอกและเกาะไข่ใน ได้ขยะน้ําหนักรวม 283 กิโลกรัม ขยะที่พบได้แก่ อวน เศษเชือก และขวดแก้ว ส่วนการเก็บขยะบริเวณชายหาดบริเวณเกาะไข่นอก และเกาะไข่ใน ได้ขยะน้ําหนักรวม 525 กิโลกรัม ขยะที่พบได้แก่ ขวดแก้ว ขวดพลาสติก และถุงพลาสติก และกิจกรรมตรวจสอบการปลูกฟื้นฟูประการังและปลูกปะการังเพิ่มเติมบริเวณเกาะไข่ใน จํานวน 200 กิ่งซึ่งส่งผลให้ผู้เข้าร่วมกิจกรรมตระหนักในความสําคัญของการอนุรักษ์และฟื้นฟูแนวปะการังในหมู่เกาะไข่ ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สําคัญของจังหวัดพังงา รวมถึงผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวบนหมู่เกาะไข่ มีจิตสํานึกในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมมากขี้น โดยเฉพาะการคัดแยกขยะและเก็บขยะคืนสู่ฝั่งซึ่งจะเป็นผลให้การท่องเที่ยวทางธรรมชาติเป็นไปอย่างมีคุณค่าและยั่งยืน#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
23/1/2023
ภาคใต้
พังงา
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดพังงา
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230123104444584
null
กอนช. เฝ้าระวังฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง พร้อมระวังระดับน้ำทะเลหนุนสูงในพื้นที่ลุ่มต่ำริมปากแม่น้ำถึง 26 ม.ค.นี้
กองอํานวยการน้ําแห่งชาติ (กอนช.) เฝ้าระวังฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง พร้อมระวังระดับน้ําทะเลหนุนสูงในพื้นที่ลุ่มต่ําริมปากแม่น้ําถึงวันที่ 26 มกราคมนี้ นายสุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสํานักงานทรัพยากรน้ําแห่งชาติ (สทนช.) ในฐานะรองผู้อํานวยการกองอํานวยการน้ําแห่งชาติ (กอนช.) กล่าวถึงสถานการณ์น้ําภาพรวมของประเทศวันนี้ (23 ม.ค.66) ว่า ภาคใต้ตอนล่างมีฝนตกหนักบางแห่ง ช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมามีฝนตกปานกลางถึงหนักบริเวณ จ.กระบี่ , นราธิวาส และสตูล เนื่องจากมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยตอนล่างและภาคใต้ยังคงมีกําลังค่อนข้างแรง ทําให้ภาคใต้ตอนล่างมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง อาจทําให้เกิดน้ําท่วมฉับพลันและน้ําป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ําไหลผ่านและพื้นที่ลุ่มในระยะนี้ ทั้งนี้ ต้องเฝ้าระวังระดับน้ําทะเลหนุนสูงในพื้นที่ลุ่มต่ําริมปากแม่น้ําถึงวันที่ 26 มกราคม โดยระดับน้ําทะเลหนุนจะขึ้นสูงสุดวันที่ 23–24 มกราคม จะส่งผลให้ระดับน้ําในแม่น้ําเพิ่มสูงขึ้น อาจก่อให้เกิดผลกระทบต่อพื้นที่ลุ่มต่ําริมชายฝั่งทะเลอ่าวไทย และปัญหาน้ําเค็มรุกล้ําบริเวณปากแม่น้ําในพื้นที่ จ.นนทบุรี สมุทรปราการ กรุงเทพมหานคร สุราษฎร์ธานี สงขลา นครศรีธรรมราช ปัตตานี และนราธิวาส
23/1/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230123100025577
null
กลุ่มอารักขาพืชตรัง สำนักงานเกษตรจังหวัดตรัง จัดเวทีชุมชนโครงการสร้างมูลค่าเพิ่มจากวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร ครั้งที่ 1
นายวสันต์ สุขสุวรรณ เกษตรจังหวัดตรัง มอบหมายให้ เจ้าหน้าที่กลุ่มอารักขาพืช สํานักงานเกษตรจังหวัดตรัง ร่วมกับเจ้าหน้าที่สํานักงานเกษตรอําเภอกันตัง จัดกิจกรรมสร้างมูลค่าเพิ่มจากวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร ภายใต้โครงการสร้างมูลค่าเพิ่มจากวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร ณ หมู่ที่ 4 ตําบลบางหมาก อําเภอกันตัง จังหวัดตรัง ซึ่งเป็นการจัดเวทีชุมชนครั้งที่ 1 เพื่อวิเคราะห์สถานการณ์และศักยภาพของชุมชน ทั้งพื้นที่-คน-สินค้า ตลอดจนข้อมูลสถานการณ์ปัจจุบัน จุดเด่นและปัญหา และการหาความต้องการในการสนับสนุนปัจจัยการผลิต โดยมีเป้าหมายเกษตรกรจากตําบลบางหมากเข้าร่วม จํานวน 40 ราย โดยโครงการนี้ได้เลือกพืชสินค้าเป็น "ต้นจาก" ในอําเภอกันตัง เป็นพืชวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร ซึ่งจากเป็นพืชที่มีถิ่นกําเนิดอยู่ในบริเวณชายฝั่งทะเลของประเทศไทย จัดเป็นปาล์มแตกกอจากลําต้นใต้ดินหรือลําต้นที่เลื้อยไปบนดิน โดยจะโผล่ส่วนของก้านจากและตัวใบขึ้นมาอยูาเหนือดิน ลําต้นจะแตกแขนงอยู่ใต้ดินทําให้ขึ้นเป็นกอๆ ต้นจากเป็นพืชที่สามารถนํามาใช้ประโยชน์ได้ทุกส่วน ขึ้นอยู่กับบริบทของพื้นที่ ตําบลบางหมากได้มีการนําส่วนของยอดจากมาทําใบยาสูบ ส่วนช่อดอกนํามาประกอบอาหาร ส่วนใบจาก นํามาสานเป็นตับจากมุงหลังคา ลูกจากนํามาทําเป็นอาหารคาวหวาน และส่วนที่เหลือใช้มากที่สุดในพื้นที่ คือ ทางจาก เปลือกลูกจาก และเยื้อใบพร้อมก้านจาก ซึ่งได้มีการวางแผนการจัดการร่วมกันเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มต่อไป#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
23/1/2023
ภาคใต้
ตรัง
สวท.ตรัง
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230123105200593
null
สำนักงานเกษตรอำเภอเมืองตรัง จัดเวทีและเปลี่ยนเรียนรู้เกษตรหมู่บ้าน พร้อมแนะนำการปรับปรุงทะเบียนเกษตรกรด้วยตนเอง ผ่านแอปพลิเคชั่น Farmbook
นางนิตยา จันทร์ประทีป เกษตรอําเภอเมืองตรัง เปิดเยว่า สํานักงานเกษตรอําเภอเมืองตรัง จัดเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้เกษตรหมู่บ้าน(กม.) ภายใต้โครงการ พัฒนาอาสาสมัครเกษตรหมู่บ้าน ซึ่งได้มีการแนะนําการปรับปรุงทะเบียนเกษตรกรด้วยตนเอง ผ่านแอปพลิเคชั่นโทรศัพท์มือถือที่มีชื่อว่า Farmbook ที่สามารถใช้ได้ทั้งระบบปฏิบัติการ IOS และ Android มีการแนะนําเทคนิคการปลูกพืชกินใบเพื่อให้ได้ผลผลิตที่มีคุณภาพออกสู่ตลาด นอกจากนี้ ยังมีการให้ความรู้ และคําแนะนําในเรื่องโรคใบร่วงยางพาราอีกด้วย สําหรับแอปพลิเคชั่น Farmbook ทางกรมส่งเสริมการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ได้ทําขึ้นมาเพื่อให้เกษตรกรสามารถปรับปรุงข้อมูลการเกษตรของตัวเอง ได้ด้วยตัวเองผ่านโทรศัพท์มือถือ รวมถึงสามารถตรวจสอบข้อมูลการขึ้นทะเบียนเกษตรกรของตนเองว่าครบถ้วนถูกต้องหรือไม่ และสามารถตรวจสอบการเข้าร่วมมาตรการช่วยเหลือของรัฐได้ ซึ่งจะเป็นประโยชน์อย่างมาก โดยที่ไม่ต้องเสียเวลาเดินทางไปที่สํานักงานเกษตรตําบล อําเภอ หรือจังหวัดที่ตัวเองทําการเกษตรอยู่ ซึ่งเมื่อดาวน์โหลดแล้วจะต้องใส่รหัสทะเบียนเกษตรกร หรือหมายเลขโทรศัพท์มือถือที่ลงทะเบียนเกษตรกรไว้ รวมถึงรหัสผ่าน ภายในก็จะปรากฏข้อมูลขึ้นมา หากต้องการแก้ไขปรับปรุงข้อมูลก็สามารถทําได้ #สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
23/1/2023
ภาคใต้
ตรัง
สวท.ตรัง
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230123105608594
null
เกษตรอำเภอย่านตาขาว จังหวัดตรัง ลงพื้นที่สาธิตการผลิตขยายเชื้อราไตรโคเดอร์มาป้องกันเชื้อราสาเหตุโรคพืช ให้แก่นักเรียนโรงเรียนบ้านควนโพธิ์
นายนนท์นภนต์ นาพอ เกษตรอําเภอย่านตาขาว จังหวัดตรัง เปิดเผยว่า สํานักงานเกษตรอําเภอย่านตาขาว จังหวัดตรัง ได้ลงพื้นที่ถ่ายทอดความรู้และสาธิตวิธีการผลิตขยายเชื้อราไตรโคเดอร์มา พร้อมแนะนําวิธีการใช้เชื้อราไตรโคเดอร์มา เพื่อป้องกันเชื้อราสาเหตุโรคพืช ในอัตราส่วนดังนี้ ทางดิน โดยผสมเชื้อสด 1 กิโลกรัม : รําละเอียด 4 กิโลกรัม : ปุ๋ยหมัก 100 กิโลกรัม โรยรอบโคนต้นไม้ยืนต้น ต้นละ 1 กิโลกรัม หรือผสมดินปลูกพืชผัก หรือใช้เชื้อราไตรโคเดอร์มา 1 กิโลกรัม ต่อน้ําสะอาด 100-200 ลิตร ฉีดพ่นให้ทั่วแปลง ให้แก่ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4-6 โดยมีนักเรียนสนใจเข้าร่วมกิจกรรมจํานวน 60 คน ณ โรงเรียนบ้านควนโพธิ์ หมู่ที่ 3 ตําบลย่านตาขาว อําเภอย่านตาขาว จังหวัดตรังทั้งนี้ ในสภาวะปัจจุบันสภาพดินในแปลงปลูกพืชทั่วไปมีความเสื่อมโทรมลงอย่างมาก เนื่องจากเกษตรกรมีการใช้สารเคมีปราบศัตรูพืชและปุ๋ยเคมีอย่างหนัก โดยไม่เคยปรับปรุงบํารุงดิน จึงทําให้ประสบปัญหาการระบาดของโรคเชื้อราทางดิน ซึ่งเมื่อพืชเป็นโรคแล้วไม่สามารถแก้ไขได้ การใช้สารเคมีจึงเป็นการสิ้นเปลืองและไม่คุ้มค่า นอกจากนั้น ยังทําให้เกิดปัญหาหลายประการ การใช้เชื้อราไตรโคเดอร์ม่า เพื่อป้องกันกําจัดโรคร่วมกับการใช้ปุ๋ยอินทรีย์บํารุงดิน จึงเป็นวิธีการที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดในขณะนี้ เพราะเสียค่าใช้จ่ายน้อย และยังมีความปลอดภัยสูง วิธีการนี้จึงเป็นทางเลือกที่ดีอีกทางหนึ่งสําหรับเกษตรกร#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
23/1/2023
ภาคใต้
ตรัง
สวท.ตรัง
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230123110145597
null
กทม.และปริมณฑลเช้านี้ค่าฝุ่น PM 2.5 เกินมาตรฐานในระดับสีส้มเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ 48 พื้นที่ เนื่องจากสภาพเพดานการลอยตัวอากาศที่ต่ำและอากาศปิด
กรุงเทพมหานครและปริมณฑลเช้านี้ค่าฝุ่น PM 2.5 เกินมาตรฐานในระดับสีส้มเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ 48 พื้นที่ เนื่องจากสภาพเพดานการลอยตัวอากาศที่ต่ําและอากาศปิด นายปิ่นสักก์ สุรัสวดี อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) ในฐานะประธานศูนย์แก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศ (ศกพ.) กล่าวว่า ช่วงเช้าวันนี้ (23 ม.ค.66) ค่าฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM 2.5) ในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑลคุณภาพอากาศดีมากถึงเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ โดยค่าฝุ่นปรับตัวสูงขึ้นเกินมาตรฐานในระดับสีส้มเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ 48 พื้นที่ เช่น ต.ปากน้ํา อ.เมือง จ.สมุทรปราการ , ต.บางพูด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี, ต.มหาชัย อ.เมือง จ.สมุทรสาคร, ริมถนนลาดพร้าว เขตวังทองหลาง , ต.นครปฐม อ.เมือง จ.นครปฐม , แขวงคลองกุ่ม เขตบึงกุ่ม , เขตคลองสามวา , ริมถนนจรัญสนิทวงศ์ เขตบางพลัด , ริมถนนวิภาวดีรังสิต เขตดินแดง , ริมถนนลาดพร้าว ซอยลาดพร้าว 95 เขตวังทองหลาง ทั้งนี้ ศูนย์แบบจําลองคุณภาพอากาศและภูมิศาสตร์สารสนเทศ กรมควบคุมมลพิษ (คพ.) ได้คาดการณ์สถานการณ์ฝุ่นละออง PM 2.5 จําเป็นต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษวันที่ 24 และ 27 – 28 มกราคม เนื่องจากสภาพอากาศที่นิ่งและปิด บริเวณพื้นที่กรุงเทพกลาง กรุงธนเหนือ และกรุงธนใต้ ประกอบกับ มีมวลอากาศเย็นระลอกใหม่จากประเทศจีนแผ่เข้ามา จึงขอความร่วมมือประชาชนบํารุงดูแลรักษารถยนต์อย่างสม่ําเสมอ จอดรถให้ดับเครื่อง ลดการเผาในที่โล่ง และขอให้ประชาชนเฝ้าระวังสถานการณ์ หากอยู่บริเวณพื้นที่มีปริมาณฝุ่น PM 2.5 สูงเกินเกณฑ์มาตรฐาน หรือ พื้นที่สีส้ม ให้หลีกเสี่ยงกิจกรรมกลางแจ้ง สวมใส่หน้ากากอนามัย หรือใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเอง หากมีอาการทางสุขภาพควรปรึกษาแพทย์ ทั้งนี้ สามารถติดตามสถานการณ์คุณภาพอากาศได้ทั้งแบบค่าเฉลี่ยรายชั่วโมงและแบบค่าเฉลี่ย 24 ชั่วโมง ผ่านทางเว็บไซด์ Air4Thai.com และ bangkokairquality.com หรือทางแอปพลิเคชั่น Air4Thai และ AirBKK แล้วยังติดตามข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับสถานการณ์คุณภาพอากาศผ่านทาง Facebook Fanpage ศูนย์แก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศ (ศกพ.)
23/1/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230123101819578
null
ผอ.สำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า ย้ำ เสือโคร่งเพศผู้ที่ออกมาเดินบนสันเขื่อนศรีนครินทร์เป็นการเคลื่อนย้ายถิ่นฐานหรือแหล่งอาหารตามปกติ พร้อมกำชับให้เจ้าหน้าที่เร่งติดตามร่องรอยให้แน่ใจเพื่อความปลอดภัยของประชาชน
ผู้อํานวยการสํานักอนุรักษ์สัตว์ป่า ย้ํา เสือโคร่งเพศผู้ที่ออกมาเดินบนสันเขื่อนศรีนครินทร์เป็นการเคลื่อนย้ายถิ่นฐานหรือแหล่งอาหารตามปกติ คาดว่า อาจกลับเข้าป่าแล้ว พร้อมกําชับให้เจ้าหน้าที่เร่งติดตามร่องรอยให้แน่ใจเพื่อความปลอดภัยของประชาชน นายเผด็จ ลายทอง ผู้อํานวยการสํานักอนุรักษ์สัตว์ป่า กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช กล่าวว่า ได้รับรายงานจากหัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสลักพระ จ.กาญจนบุรี หลังพบเสือโคร่งเพศผู้บริเวณทางลงสันเขื่อนศรีนครินทร์ฝั่งซ้าย อ.ศรีสวัสดิ์ แล้ววิ่งหนีลงบันไดลิงฝั่งโรงไฟฟ้า จึงกําชับให้เจ้าหน้าที่ในพื้นที่ประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบพื้นที่ ติดตามร่องรอย ประชาชาสัมพันธ์แจ้งเตือนประชาชนให้เฝ้าระวัง และปฏิบัติตามคําแนะนําของเจ้าหน้าที่อย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะการเข้าออกพื้นที่ในบริเวณนั้นเพื่อความปลอดภัย เบื้องต้นเชื่อการออกมาปรากฎตัวของเสือโคร่งดังกล่าวที่ออกมาเดินช่วงกลางดึกบริเวณสันเขื่อนน่าจะเป็นลักษณะการเดินกลับเข้าป่า โดยมีโอกาสน้อยมากที่เสือจะยังอยู่บริเวณดังกล่าว ซึ่งได้รับยืนยันแล้วว่าเสือโคร่งจากเขตป่าอุทยานแห่งชาติเขาสลักพระดูจากลายที่ปรากฎบนตัวเสือ จากกล้องดักจับสัตว์ป่าของทีมวิจัยองค์กรแพนเทอร่า (Thailand) ที่ถ่ายติดเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2565 สําหรับการออกมาเดินของเสือโคร่งตัวนี้มีลักษณะการเดินออกหากินตามปกติ เพราะเสือเป็นสัตว์ที่มีอาณาเขตการออกหากินกว้างมาก คาดว่า การออกมาเดินนอกพื้นที่ป่าช่วงกลางดึก เป็นลักษณะนิสัยที่ต้องการความเงียบและหลบผู้คน ถือเป็นการเคลื่อนย้ายพื้นที่หากินหรือถิ่นอาศัยตามปกติของสัตว์ป่า ส่วนความกังวลอาจจะมีพวกนายพรานล่าสัตว์เข้ามาล่าสัตว์หรือไม่อาจเป็นอันตรายต่อเสือโคร่งได้ จึงกําชับให้เจ้าหน้าที่คอยดูแลและเฝ้าระวังตลอดเวลา แต่กังวลเรื่องความปลอดภัยของประชาชนมากกว่า เพราะอาจมีโอกาสจะออกมาเจอสัตว์ป่าโดยบังเอิญได้ อยากเน้นย้ําให้ปฏิบัติตามคําแนะนําของเจ้าหน้าที่อย่างเคร่งครัดเรื่องการเข้า-ออก พื้นที่บริเวณเขื่อนศรีนครินทร์ช่วงนี้ที่มีการปิดชั่วคราว เพื่อติดตามร่องรอยเสือกลับเข้าป่าไปแล้วหรือยัง ผู้อํานวยการสํานักอนุรักษ์สัตว์ป่า กล่าวย้ําว่า ปัจจุบันสถานการณ์ประชากรเสือโคร่งในประเทศไทยมีแนวโน้มที่ดีขึ้น ภาพรวมพบร่องรอยเสือมากขึ้นในผืนป่า เป็นผลดีมาจากการรับรู้ของประชาชนที่เห็นความสําคัญของสัตว์ชนิดนี้ต้องได้รับการสงวนอนุรักษ์ จึงได้รับการช่วยเหลือและช่วยเฝ้าระวังเป็นหูเป็นตามากขึ้น โดยกรมอุทยานฯเน้นการทํางานลาดตะเวนเชิงคุณภาพ นําเทคโนโลยีสมัยใหม่เข้ามาใช้ และติดตั้งกล้องดักถ่ายสัตว์ ทําให้สามารถติดตามสถานการณ์ประชากรเสือโคร่งได้ต่อเนื่อง ถือเป็นส่วนช่วยให้การดํารงชีวิตของเสือโคร่งในผืนป่าไทยมีความปลอดภัยมากกว่าในอดีต
23/1/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230123145432705
null
กรมวิชาการเกษตร ถ่ายทอดเทคนิคการเพาะเลี้ยงพืชสมุนไพร จากงานวิจัยสู่การผลิตเชิงพาณิชย์ เพิ่มผลผลิตและคุณภาพสมุนไพรเพื่อการแพทย์ รองรับภาคอุตสาหกรรม สู่การสร้างอาชีพ
นายระพีภัทร์ จันทรศรีวงศ์ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร เปิดเผยว่า จากปัญหาขาดแคลนวัตถุดิบสมุนไพรในระบบอุตสาหกรรมยา เวชสําอาง เครื่องดื่มและอาหารเสริมสุขภาพซึ่งมีมูลค่าการตลาดสูงถึง 1 แสนล้านบาทต่อปี แม้ปัจจุบันเกษตรกรสามารถผลิตพืชสมุนไพรได้มากมาย แต่กลับพบว่ากว่าร้อยละ 80 มีปริมาณสารสําคัญต่ํากว่าค่ามาตรฐานทางการแพทย์ เนื่องจากเป็นผลผลิตจากสมุนไพรพันธุ์พื้นเมืองและหัวพันธุ์ที่ไม่สะอาด เมื่อนําหัวพันธุ์ดังกล่าวไปปลูกผลผลิตจะต่ําลง 30 – 50 % และเมื่อนําไปแปรรูปเป็นวัตถุดิบสมุนไพรแห้งพบว่า สารสําคัญทางการแพทย์มีปริมาณไม่แน่นอน ไม่สามารถคาดการณ์คุณภาพผลผลิต ทําให้ผู้ประกอบการจําเป็นต้องซื้อวัตถุดิบเพิ่มขึ้นถึง เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทําให้ประเทศไทยยังต้องนําเข้าวัตถุดิบสมุนไพรแห้งและสารสกัดจากต่างประเทศเพิ่มขึ้นทุกปีทั้งที่เป็นพืชสมุนไพรที่ประเทศไทยปลูกเป็นจํานวนมากกรมวิชาการเกษตร มีพันธุ์พืชสมุนไพรเพื่อการแพทย์โดยตรงหลายหลากชนิด ซึ่งล้วนมีปริมาณสารสําคัญสูงกว่าค่ามาตรฐานทางการแพทย์และยังมีเทคนิคในการขยายปริมาณหัวพันธุ์พืชอย่างรวดเร็ว ผ่านเทคนิคเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อพืชสมุนไพรเฉพาะชนิด จึงได้จัดการฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการ หลักสูตร ถ่ายทอดเทคนิคการเพาะเลี้ยงพืชสมุนไพร จากงานวิจัยสู่การผลิตเชิงพาณิชย์ รุ่นที่ 2 ในวันที่ 1 – 2 กุมภาพันธ์ 2566 ที่ศูนย์วิจัยพืชสวนเชียงราย กรมวิชาการเกษตร เพื่อผลักดันให้มีผู้ผลิตต้นพันธุ์พืชสมุนไพรเหล่านี้เพิ่มขึ้น โดยการฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการครั้งนี้จะเน้นการทดลองฝึกปฏิบัติจริง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการเรียนรู้ ได้แลกเปลี่ยนประสบการณ์กับวิทยากรที่ทํางานวิจัยและพัฒนาเทคนิคการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อพืชสมุนไพรมามากกว่า 20 ปี ในขั้นตอนสําคัญที่เป็นหัวใจของความสําเร็จในขบวนการเพาะเลี้ยงเนื้อมี 3 เรื่อง เชื่อมั่นว่าการอบรมดังกล่าว จะเป็นแนวทางการขับเคลื่อนการหัวพันธุ์สมุนไพรที่เหมาะสมและเพียงพอ ส่งเสริมให้มีแหล่งขยายปริมาณมากขึ้น สร้างรายได้สู่ชุมชน และขับเคลื่อนประเทศไทยไปสู่ประเทศพัฒนาแล้วในอนาคตต่อไป
23/1/2023
null
กรุงเทพมหานคร
Radio-สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230123131822651
null
ปศุสัตว์จันทบุรี ส่งเสริมการเลี้ยงสัตว์ปีก ในพื้นที่ป่ารอยต่อ 5 จังหวัด พัฒนาคุณภาพชีวิตเกษตรกร
(23 ม.ค.66) น.สพ.ชาติชาย ยิ้มเครือ ปศุสัตว์จังหวัดจันทบุรี พร้อมนายภาณุ อินทฤทธิ์ หัวหน้ากลุ่มส่งเสริมและพัฒนาการปศุสัตว์ ลงพื้นที่ ม.3 ต.พวา อ.แก่งหางแมว ส่งเสริมอาชีพการเลี้ยงสัตว์ เพื่อพัฒนาอาชีพเกษตรกรรมในเขตพื้นที่ป่ารอยต่อ 5 จังหวัด (ภาคตะวันออก) โครงการพัชรสุธาคชานุรักษ์ พร้อมมอบอาหารสัตว์ วิตามิน ยาถ่ายพยาธิ สร้างขวัญกําลังใจแก่ นางสําเนา เข้มอาด เกษตรกรผู้เลี้ยงเป็ดเทศ 9 ตัว เป็นตัวผู้ 2 ตัว ตัวเมีย 7 ตัว โดยจะเลี้ยงเป็ดนาน 4 เดือน จนได้น้ําหนักประมาณ 3-4 กิโลกรัม ขายราคา 300-400 บาทต่อตัว ในตลาดชุมชน ช่วยสร้างรายได้เสริม และใช้ผลผลิตบริโภคภายในครัวเรือน เกษตรกรจะเก็บไข่ส่วนหนึ่งนําไปให้แม่เป็ดฟัก เพื่อขยายจํานวนลูกเป็ด นอกจากนี้ ยังใช้มูลเป็ดเป็นปุ๋ยในแปลงผัก และสวนผลไม้อีกด้วย ทําให้เกษตรกรที่อาศัยทํากินในพื้นที่ป่ามีรายได้เพิ่มขึ้น ส่งผลให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น และเกิดจิตสํานึกที่ดีในการอนุรักษ์ป่าและสัตว์ป่าทําให้ทรัพยากรธรรมชาติได้รับการพื้นฟู และระบบนิเวศที่สภาพเสื่อมโทรมกลับคืนสู่ความอุดมสมบูรณ์ มีความหลากหลายทางพันธุกรรมเพิ่มมากขึ้น#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
23/1/2023
ภาคตะวันออก
จันทบุรี
สวท.จันทบุรี
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230123134736674
null
ปศุสัตว์เพชรบุรีออกหน่วยผ่าตัดทำหมันสุนัข-แมว และฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า ครั้งที่ 32 ในปีงบประมาณ 2566 ภายใต้โครงการสัตว์ปลอดโรค คนปลอดภัย ตามพระปณิธาน ศาสตราจารย์ ดร. สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี
วันนี้ (23 ม.ค.66) ณ วัดพลับพลาชัย อําเภอเมืองเพชรบุรี จังหวัดเพชรบุรี เทศบาลเมืองเพชรบุรี ร่วมกับสํานักงานปศุสัตว์อําเภอทุกอําเภอ กลุ่มพัฒนาสุขภาพสัตว์ ฝ่ายบริหารทั่วไป สํานักงานปศุสัตว์จังหวัดเพชรบุรี หน่วย Herd Health Unit และส่วนสุขภาพสัตว์ สํานักงานปศุสัตว์เขต 7 ด่านกักกันสัตว์เพชรบุรี และนักศึกษาฝึกงาน ดําเนินกิจกรรมให้บริการผ่าตัดทําหมันสุนัขและแมว ภายใต้โครงการสัตว์ปลอดโรค คนปลอดภัย ตามพระปณิธาน ศาสตราจารย์ ดร. สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี มีประชาชน 72 ราย พาสุนัขและแมวมารับการผ่าตัดทําหมันและฉีดวัคซีนสุนัขและแมว รวมทั้งสิ้น 118 ตัว ประกอบด้วย สุนัข 16 ตัว (เพศผู้ 2 ตัว เพศเมีย 13 ตัว ฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า อย่างเดียว 1 ตัว) แมว 102 ตัว (เพศผู้ 26 ตัว เพศเมีย 67 ตัว ฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า อย่างเดียว 9 ตัว) ทั้งนี้ สัตวแพทย์ได้เน้นย้ําการดูแลและการป้อนยาให้สุนัขและแมวภายหลังการผ่าตัดทําหมัน โดยมี นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้เข้าเยี่ยมหน่วยทําหมันเพื่อให้กําลังใจเจ้าหน้าที่กรมปศุสัตว์ที่มาร่วมกันทํางานเพื่อประชาชน สวท.เพชรบุรี#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
23/1/2023
null
เพชรบุรี
สวท.เพชรบุรี
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230123145314704
null
กรมชลประทาน เดินหน้าบริหารจัดการน้ำ รองรับฤดูฝน พร้อมนำมาตรการ หยุด เก็บ บ่อย มาปฎิบัติเพื่อเพิ่มการระบายน้ำแต่ละพื้นที่
นาย ทวีศักดิ์ ธนเดโชพล รองอธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า กรมชลประทานได้ดําเนินการตาม 13 มาตรการที่ คณะกรรมการทรัพยากรน้ําแห่งชาติ (กนช.) กําหนด ในการบริหารจัดการน้ําเพื่อรองรับในช่วงฤดูฝนปี 2565 โดยได้กําหนดเป็นแนวทางปฏิบัติ 5 แนวทาง ได้แก่ เก็บกักเต็มประสิทธิภาพ คาดการณ์พื้นที่เสี่ยง หลีกเลี่ยงสิ่งกีดขวาง ระบบชลประทานเร่งระบาย และ การเตรียมความพร้อมเครื่องมือเครื่องจักร และการดําเนินการตาม 12 มาตรการ ซึ่งทางกรมชลประทานได้ถือเป็นแนวทางปฏิบัติมาอย่างต่อเนื่อง อาทิ การสํารวจพื้นที่เสี่ยงและพื้นที่ลุ่มต่ําเจ้าพระยาทั้ง 11 ทุ่ง เพื่อรองรับช่วงน้ําหลาก การติดตั้งเครื่องสูบน้ําและเครื่องผลักดันน้ํา สามารถระบายน้ําให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด รวมทั้งการซ่อมแซม ปรับปรุงอาคารชลประทานให้พร้อมใช้งานอยู่เสมอ กําจัดสิ่งกีดขวางทางน้ํา ขุดลอกคูคลอง ซึ่งกรมชลประทานได้ใช้มาตรการ “หยุด เก็บ บ่อย” ได้แก่ หยุดการแพร่กระจาย เก็บโดยใช้เครื่องจักรเมื่อมีวัชพืชหนาแน่น และการใช้เรือนวัตกรรมเก็บย่อยบ่อยครั้งและสม่ําเสมอ เพื่อให้การระบายน้ําในแต่ละพื้นที่เป็นไปอย่างเต็มประสิทธิภาพ อีกทั้งประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้ และส่งเสริมให้ประชาชนและกลุ่มเกษตรกรผู้ใช้น้ํา ร่วมแรงร่วมใจกันใช้น้ําอย่างประหยัด เพื่อให้มีน้ําเพียงพอต่อการอุปโภคและบริโภคตลอดแล้งนี้
23/1/2023
null
กรุงเทพมหานคร
Radio-สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230123160739728
null
รองผู้ว่าฯ ลำพูน เน้นย้ำประชาชนต้องได้รับประโยชน์ในที่ดินของตนเองมากที่สุด
วันนี้ 23 มกราคม 2566 เวลา 13.30 น. ที่ห้องประชุมหริภุญชัย ชั้น 4 ศาลากลางจังหวัดลําพูน นายสันติธร ยิ้มละมัย ผู้ว่าราชการจังหวัดลําพูน มอบหมายให้ นายอนุพงษ์ วาวงศ์มูล รองผู้ว่าราชการจังหวัดลําพูน เป็นประธานประชุมคณะอนุกรรมการนโยบายที่ดินจังหวัด (คทช.จังหวัด) จังหวัดลําพูน ครั้งที่ 1/2566 โดยมี นายบุญส่ง ไชยมณี หัวหน้าสํานักงานจังหวัดลําพูน และหัวหน้าส่วนราชการเข้าร่วมการประชุม ในที่ประชุมได้หารือเรื่องการพัฒนาพื้นที่ที่ได้รับอนุญาตจากกรมป่าไม้เพื่อดําเนินโครงการจัดที่ดินทํากินให้ชุมชน การแก้ไขปัญหาของชุมชนตามข้อเรียกร้องของขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม การแก้ไขปัญหาที่ดินของประชาชนในเขตป่าอนุรักษณ์ในจังหวัดลําพูน และการแก้ไขปัญหาการอยู่อาศัยและทํากินในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ เพื่อให้เป็นไปตามเงื่อนไขและข้อปฏิบัติในการอาศัยในที่ดินทํากินของประชน รองผู้ว่าราชการจังหวัดลําพูน ประธานในที่ประชุม ได้เน้นย้ําเรื่องการพัฒนาพื้นที่ ที่ได้รับอนุญาตจากกรมป่าไม้เพื่อดําเนินโครงการจัดที่ดินทํากินให้ชุมชน เรื่องการขออนุญาตขุดสระน้ําในพื้นที่ของตนเอง ซึ่งต้องเป็นผู้ได้รับสมุดประจําตัวผู้ได้รับการคัดเลือกให้ทํากินในชุมชนตามนโยบายของรัฐบาล เพื่อประโยชน์ในการเกษตรและอุปโภคบริโภค ให้ดําเนินการได้โดยไม่ต้องขออนุญาต โดยถือว่าได้รับอนุญาตอยู่อาศัยและทํากินในพื้นที่ดังกล่าวแล้ว โดยการขุดสระน้ําต้องเป็นไปเพื่อการดํารงชีวิตและพัฒนาอาชีพ ซึ่งถือเป็นวัตถุประสงค์ตามโครงการจัดที่ดินทํากิน การดําเนินการต้องไม่เป็นการขุดดินเพื่อการค้า และไม่ส่งผลระทบต่อประชาชนในพื้นที่ใกล้เคียง#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILANDภาพ/ข่าว : นายชนาธิป เมืองมูล ผู้สื่อข่าว ส.ปชส.ลําพูน บรรณาธิการ นางสาวมัณฑนา อาษากิจ ประชาสัมพันธ์จังหวัดลําพูน
23/1/2023
ภาคเหนือ
ลำพูน
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดลำพูน
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230123155546727
null
วราวุธ กำชับให้อธิบดีกรมป่าไม้เร่งหาตัวผู้กระทำผิดบุกรุกป่าสงวนฯในพื้นที่ป่าภูเขาใน อ.บางขัน พร้อมให้ย้ายเจ้าหน้าที่ที่ดูแลออกนอกพื้นที่ไปก่อน เพื่อสืบสวนสอบสวนมีเจ้าหน้าที่รัฐรู้เห็นกับกลุ่มนายทุนหรือไม่
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กําชับให้อธิบดีกรมป่าไม้เร่งหาตัวผู้กระทําผิดบุกรุกป่าสงวนแห่งชาติในพื้นที่ป่าภูเขาในอําเภอบางขัน จังหวัดนครศรีธรรมราช พร้อมให้ย้ายเจ้าหน้าที่ที่ดูแลออกนอกพื้นที่ไปก่อน เพื่อสืบสวนสอบสวนมีเจ้าหน้าที่รัฐรู้เห็นกับกลุ่มนายทุนหรือไม่ นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวถึงกรณีสํานักงานการบินกระทรวงทรัพยากรและสิ่งแวดล้อมได้บินขึ้นตรวจสอบพื้นที่ป่าภูเขาในอําเภอบางขัน จังหวัดนครศรีธรรมราช หลังจากได้รับการร้องเรียนมีนายทุนใหญ่บุกรุกยึดพื้นที่กลางหุบเขาหลายร้อยไร่จนภูเขาและป่าสงวนแห่งชาติที่เป็นป่าต้นน้ํากลายเป็นภูเขาหัวโล้น แล้วมีการบุกรุกขยายพื้นที่ตัดโค่นต้นไม้ขนาดใหญ่และแผ้วถางพื้นที่ป่าจนเตียนโล่งเพิ่มมากขึ้น และปรับพื้นดินให้เป็นแบบขั้นบันไดสวยงามว่า นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้กําชับให้เร่งตรวจสอบเรื่องดังกล่าว พร้อมให้เร่งนําเฮลิคอปเตอร์และอากาศยานไร้คนขับ (โดรน) ปูพรมบินสํารวจพื้นที่เพิ่มเติมในภาคใต้ก่อนจะขยายสํารวจไปทั่วประเทศ เพื่อสํารวจมีผืนป่าผืนใดอีกบ้างที่ถูกบุกรุกแผ้วถางป่าในลักษณะเช่นนี้ เบื้องต้นกําชับให้อธิบดีกรมป่าไม้ออกคําสั่งโยกย้ายเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องดูแลในพื้นที่ป่าดังกล่าวออกนอกพื้นที่ไปก่อน เพื่อป้องกันไม่ให้เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับพยานหลักฐาน และจะเร่งดําเนินการสืบสวนสอบสวนให้แน่ใจว่ามีเจ้าหน้าที่รัฐเข้าไปเกี่ยวข้องหรือไม่ โดยจะต้องเร่งดําเนินการให้เร็วที่สุด เพราะเรื่องที่ยอมไม่ได้และต้องหาผู้กระทําผิดมาดําเนินคดีตามกฎหมายโดยเร็ว ด้าน นายสุรชัย อจลบุญ อธิบดีกรมป่าไม้ กล่าวว่า ได้กําชับให้สํานักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 12 (นครศรีธรรมราช) พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันเข้าตรวจสอบพื้นที่มีพื้นที่ป่าได้รับความเสียหายกี่แปลง จากที่เห็นในภาพและคลิปพบมีหลายแปลงที่ถูกแผ้วถางไป ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวติดอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าเขาขาวและป่าสงวนแห่งชาติป่าคลองกรุงหยัน มีพื้นที่ติดต่อกันระหว่างอําเภอบางขัน อําเภอทุ่งใหญ่ และอําเภอทุ่งสง จังหวัดนครศรีธรรมราช พร้อมให้แจ้งความลงบันทึกประจําวันเพื่อเป็นหลักฐานดําเนินคดีต่อไป
23/1/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230123161628732
null
พาณิชย์ชัยภูมิ ตรวจเข้มลานรับซื้อสินค้าเกษตร ต้องใช้เครื่องชั่งได้มาตรฐาน
นางศศิพิมล มงคล พาณิชย์จังหวัดชัยภูมิ มอบหมายให้นางสาวกิจติญา วูงษ์เนตร์ หัวหน้ากลุ่มกํากับและพัฒนาเศรษฐกิจการค้า พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ของสํานักงานชั่งตวงวัดเขต 2-6 นครราชสีมา ลงพื้นที่ตรวจสอบการปิดป้ายแสดงราคา และเครื่องชั่ง ตลาดสด ลานรับซื้อสินค้าเกษตร จํานวน 4 อําเภอ ได้แก่ หนองบัวระเหว เกษตรสมบูรณ์ ซับใหญ่ และจัตุรัส เพื่อสร้างคามเป็นธรรมให้กับผู้บริโภค เกษตรกรผู้ปลูกสินค้าเกษตร ได้แก่ อ้อย มันสําปะหลัง ได้ดําเนินการตรวจสอบเครื่องขังสปริง ตลาดสด จ้ํานวน 28 เครื่อง พบเครื่องชั่งไม่ได้มาตรฐาน จํานวน 3 เครื่อง ซึ่งเจ้าหน้าที่สํานักงานสาขาชั่งตวงวัด เขต 2-6 นครราชสีมา ได้ทําการยึดเพื่อทําลายต่อไป สําหรับการตรวจสอบเครื่องชั่งรถยนต์ ณ ลานรับ ซื้อสินค้าเกษตร จํานวน 12 เครื่อง ปฏิบัติถูกต้อง จํานวน 9 เครื่อง และเปรียบเทียบปรับ จํานวน 3 เครื่อง เนื่องจากไม่ปฏิบัติตามพระราชบัญญัติมาตราชั่งตวงวัด พ.ศ. 2542 จากการดํานินการดังกล่าวผู้ประกอบการให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี จากการตรวจสอบพบว่าราคารับซื้อหัวมันสําปะหลังสด เชื้อแป้ง 30% ราคา 3.45-3.60 บาทต่อกิโลกรัม ซึ่งเป็นราคาค่อนข้างสูงเนื่องจากเป็นที่ต้องการของตลาด แต่ผลผลิตออกสู่ตลาดน้อย ประกอบกับลานรับซื้อมีการแข่งขันกันทําให้เกษตรมีทางเลือกมากในการนํามันลําปะหลังไปขาย ทั้งนี้ได้กําชับให้ผู้ประกอบการปิดป้ายแสดงราคาสินค้า และแสดงราคารับซื้หัวมันสําปะหลังสดตามเปอร์เซ็นต์เชื้อแป้ง#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
23/1/2023
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ชัยภูมิ
สวท.ชัยภูมิ
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230123184150781
null
กษ.อำนาจเจริญ ร่วมประชุมสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI) คณะกรรมการอำนวยการสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ และคณะทำงานด้านพืช
วันที่ 23 มกราคม 2566 เวลา 09.30 น. นายชาญวิทย์ ธานี เกษตรและสหกรณ์จังหวัดอํานาจเจริญ เข้าร่วมประชุมสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI) จังหวัดอํานาจเจริญ คณะกรรมการอํานวยการสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์และคณะทํางานด้าน โดยมีนายชนาส ชัชวาลวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดอํานาจเจริญ เป็นประธานการประชุม เพื่อส่งเสริมให้มีการขึ้นทะเบียนสินค้าสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ของจังหวัดอํานาจเจริญเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์เป็นเครื่องมือทางการค้า เป็นการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน และหาแนวทางที่เหมาะสมในการให้สิ่งบ่งชี้ ทางภูมิศาสตร์ไทยได้รับความคุ้มครองโดยกฎหมายตลอดจนสนับสนุนให้สิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์มีระบบการบริหารจัดการที่ดีในการใช้สิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์เป็นเครื่องมือในการเพิ่มมูลค่าและส่งเสริมการตลาด ตลอดจนการขอรับการจัดสรรงบประมาณในกระบวนการขอขึ้นทะเบียนสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI) ณ ห้องประชุมฝ้ายขิดคําพระ ชั้น 2 ศาลากลางจังหวัดอํานาจเจริญ#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
23/1/2023
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
อำนาจเจริญ
สวท.อำนาจเจริญ
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230123210119813
null
กษ.อำนาจเจริญ ร่วมประชุมติดตามการดำเนินงานโครงการส่งเสริมและพัฒนาผลิตสินค้าเกษตรชีวภาพ (สมุนไพร) ครั้งที่ 1/2566 ผ่านระบบประชุมออนไลน์ ZOOM MEETING
วันที่ 23 มกราคม 2566 เวลา 13.30 น. นายชาญวิทย์ ธานี เกษตรและสหกรณ์จังหวัดอํานาจเจริญ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กลุ่มยุทธศาสตร์พัฒนาการเกษตร สํานักงานฯ เข้าร่วมประชุมติดตามความก้าวหน้าโครงการส่งเสริมและพัฒนาผลิตสินค้าเกษตรชีวภาพ (สมุนไพร) ครั้งที่ 1/2566 โดยมีนายจิตติศักดิ์ ศรีปัญญา ผู้อํานวยการกองนโยบายเทคโนโลยีเพื่อการเกษตรและเกษตรกรรมยั่งยืน สํานักงานปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธาน ถ่ายทอดสัญญาณผ่านระบบประชุมออนไลน์ Zoom Meeting จากห้องประชุมกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (ห้อง 123) ไปยังจังหวัดที่เข้าร่วมโครงการฯ ทั้งสิ้น 24 จังหวัด เพื่อติดตามความก้าวหน้าโครงการส่งเสริมและพัฒนาสินค้าเกษตรชีวภาพ (สมุนไพร) รายการ Herbal Champion ภายใต้แผนปฏิบัติการด้านสมุนไพรแห่งชาติ ฉบับที่ 2 พ.ศ. 2566-2570 ฐานข้อมูลขับเคลื่อนสมุนไพร ความก้าวหน้าโครงการส่งเสริมและพัฒนาสินค้าเกษตรชีวภาพ (สมุนไพร) จังหวัดนําเสนอข้อมูล และการพิจารณาข้อมูลรายงานแบบฟอร์ม Herb 1-5 แผนปฏิบัติงานโครงการส่งเสริมและพัฒนาสินค้าเกษตรชีวภาพ (สมุนไพร) และแผนธุรกิจสมุนไพร#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
23/1/2023
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
อำนาจเจริญ
สวท.อำนาจเจริญ
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230123205949812
null
นายอำเภอสูงเนิน ลงพื้นที่ ตรวจสอบข้อเท็จจริงและประชุมหาแนวทางแก้ไขปัญหา กรณี โรงงานผลิตอาหารสัตว์ฯ ปล่อยน้ำเสียจากโรงงานลงสู่แหล่งน้ำธรรมชาติและพื้นที่ทำการเกษตรของประชาชน
วันนี้ (23 ม.ค.66) เวลา 14.00 น. นายกฤษณธร เลิศสําโรง นายอําเภอสูงเนิน พร้อมด้วย ปลัดอําเภอ นายก อบต.มะเกลือใหม่ กํานันต.มะเกลือใหม่ ตัวแทนอุตสาหกรรมจังหวัดนครราชสีมา เกษตรอําเภอสูงเนิน ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงและประชุมหาแนวทางแก้ไขปัญหา กรณีโรงงานผลิตอาหารสัตว์ฯ ปล่อยน้ําเสียจากโรงงานลงสู่แหล่งน้ําธรรมชาติและพื้นที่ทําการเกษตรของประชาชนผลการดําเนินการ ที่ประชุมมีมติ ดังนี้1.ให้โรงงานปรับปรุงบ่อ และวางแผนการบริหารจัดการน้ํา ไม่ให้น้ําล้นบ่อ พล้องน้ําเพื่อใช้ประโยชน์ กรณีน่าจะเกิดเหตุน้ําล้นบ่อ ให้แจ้งกํานันผู้ใหญ่บ้านและกํานันในพื้นที่ทราบ เพื่อเตรียมการป้องกัน2.ให้ตรวจสอบรายละเอียดจํานวนผู้เสียหายและพื้นที่การเสียหายอีกครั้งหนึ่ง เพื่อให้โรงงานช่วยเหลือเยียวยาชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบ3. ดําเนินการสูบน้ําออกจากบ่อปลาที่ได้รับผลกระทบจากการปล่อยน้ํารอบเดือนมกราคม จํานวน 8 บ่อ#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
23/1/2023
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
นครราชสีมา
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนครราชสีมา
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230124000931833
null