NewsTitle
stringlengths
11
31.5k
Detail
stringlengths
9
78.4k
NewsDate
stringlengths
3
5.77k
Region
stringclasses
48 values
Province
stringclasses
99 values
Department
stringclasses
211 values
Link_News
stringlengths
3
903
v
stringclasses
812 values
ปศุสัตว์เพชรบุรีออกหน่วยผ่าตัดทำหมันสุนัข-แมว และฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า ภายใต้โครงการสัตว์ปลอดโรค คนปลอดภัย ตามพระปณิธาน ศาสตราจารย์ ดร.สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี
ศาสตราจารย์ ดร.สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี องค์การบริหารส่วนตําบลไร่มะขาม ร่วมกับสํานักงานปศุสัตว์อําเภอบ้านลาด นําทีมโดย นายมานะ? บุตรเพชร?ปศุสัตว์อําเภอบ้านลาด กลุ่มพัฒนาสุขภาพสัตว์ สํานักงานปศุสัตว์จังหวัดเพชรบุรี นําทีมโดย สพ.ญ.ภัทริน โอภาสชัยทัตต์ หัวหน้ากลุ่มพัฒนาสุขภาพสัตว์ ดําเนินกิจกรรมให้บริการผ่าตัดทําหมันสุนัขและแมวของประชาชน และวัดในพื้นที่? ผลการปฏิบัติงาน ทําหมันสุนัขและแมว และฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า รวมทั้งสิ้น 47 ตัว ประกอบด้วย สุนัข 17 ตัว แมว 30 ตัว ทั้งนี้ สัตวแพทย์หญิงภัทริน โอภาสชัยทัตต์ ได้ให้คําแนะนําการดูแลสุขภาพสุนัข-แมวหลังผ่าตัด โดยเน้นย้ําให้เจ้าของสัตว์ดูแลความสะอาดของแผลอย่างใกล้ชิด ชุมชนใดสนใจให้ปศุสัตว์ไปออกหน่วยทําหมันสุนัขและแมว กรุณาติดต่อ อบต. เทศบาลใกล้บ้าน ซึ่ง อบต. เทศบาลจะประสานกับปศุสัตว์อําเภอ เพื่อนัดวันออกหน่วยโดย ประกาศแจ้งวันออกหน่วยผ่านเสียงตามสาย สวท.เพชรบุรี#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
12/1/2023
ภาคตะวันตก
เพชรบุรี
สวท.เพชรบุรี
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230112094507268
null
เดินหน้าวิจัยพืชไร่ดูดซับก๊าซเรือนกระจกและกักเก็บคาร์บอน พบพันธุ์อ้อยให้ผลผลิตสูงมีศักยภาพกักเก็บคาร์บอน
กรมวิชาการเกษตร เดินหน้าวิจัยพืชไร่ดูดซับก๊าซเรือนกระจกและกักเก็บคาร์บอน พบพันธุ์อ้อยให้ผลผลิตสูงมีศักยภาพกักเก็บคาร์บอน?นายระพีภัทร์ จันทรศรีวงศ์ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร เปิดเผยว่า กรมวิชาการเกษตรได้ให้ความสําคัญกับการศึกษาวิจัยพืชไร่เศรษฐกิจที่สําคัญของประเทศไทยที่มีศักยภาพในการดูดซับก๊าซเรือนกระจกและกักเก็บคาร์บอนไว้ในพืชและในดินเพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมในการร่วมมือเพื่อป้องกันปัญหาภาวะโลกร้อน และการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ ซึ่งเป็นบทบาทและภารกิจที่สําคัญประการหนึ่งของกรมวิชาการเกษตร ซึ่งนอกเหนือจากพื้นที่ป่าไม้แล้วพื้นที่เพาะปลูกพืชยังเป็นแหล่งดูดซับก๊าซเรือนกระจกและกักเก็บคาร์บอนที่สําคัญเช่นกัน โดยข้อมูลในปี 2563/2564 ที่มีพื้นที่ปลูกอ้อยรวมกว่า 10 ล้านไร่ จึงมีโอกาสที่จะกักเก็บคาร์บอนไว้ในระบบปลูกอ้อยได้ สามารถดูดซัคาร์บอนไดออกไซด์จากบรรยากาศ โดยกระบวนการสังเคราะห์แสงและนํามาสะสมในรูปของมวลชีวภาพในส่วนต่างๆ ของอ้อย จากการศึกษาวิจัยและประเมินศักยภาพในการดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) ของอ้อยจํานวน 6 พันธุ์ ที่ศูนย์วิจัยพืชไร่สุพรรณบุรี พบว่า ปริมาณอินทรีย์คาร์บอนมีความแตกต่างกันระหว่างพันธุ์ ระยะการเจริญเติบโต และสภาพแปลงปลูก แต่เปอร์เซ็นต์อินทรีย์คาร์บอนในชีวมวลไม่มีแตกต่างกันระหว่างพันธุ์และการเจริญเติบโต แต่แตกต่างตามส่วนต่างๆ ของอ้อย และระยะการเจริญเติบโตของพืช ตําแหน่งใบ สภาพพื้นที่ปลูกและการจัดการดินและน้ํา เป็นต้น นอกจากนี้ งานวิจัยยังสรุปได้ว่า พื้นที่ปลูกกว่า 10 ล้านไร่นั้น ผลผลิตเฉลี่ย 7.21 ตันต่อไร่จะสามารถช่วยดูดซับคาร์บอนในบรรยากาศมาอยู่ในรูปของลําอ้อยทั้งหมดได้ 215.1 ล้านตัน
12/1/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
Radio-สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230112115845328
null
โครงการส่งเสริมเครือข่าย ทสม. กิจกรรมโคก หนอง นา โมเดล การทำเกษตรยั่งยืน บ้านปลาค้าว ตำบลปลาค้าว อำเภอเมืองอำนาจเจริญ จังหวัดอำนาจเจริญ
โครงการสิงเสริมเครือข่าย ทสม. กิจกรรมโคก หนอง นา โมเดล การทําเกษตรยั่งยืน บ้านปลาค้าว ตําบลปลาค้าว อําเภอเมืองอํานาจเจริญ จังหวัดอํานาจเจริญวานนี้ 11 มกราคม 2566 เวลา 09.00 น. นายธนูศักดิ์ เสมอภาค นายอําเภอเมืองอํานาจเจริญ ประธานเปิดกิจกรรม เปิดตัวโครงการส่งเสริมเครือข่าย ทสม. ในการดําเนินงานโคก หนอง นาโมเดล ณ แหล่งเรียนรู้สวนสัมมะปิ บ้านปลาค้าว ตําบลปลาค้าว อําเภอเมืองอํานาจเจริญ จังหวัดอํานาจเจริญนายสมาน ต้นจันทร์ กํานันตําบลปลาค้าว ในฐานะประธานโครงการ กล่าวว่า การเปิดศูนย์เรียนรู้ครั้งนี้ เป็น 1 ใน 12 กิจกรรม ซึ่งจะต้องดําเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 2 ปี เป็นโครงการระดับประเทศ ได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากกองทุนสิ่งแวดล้อมกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จํานวน 95 โครงการ ในจังหวัดอํานาจเจริญ ได้ 1 โครงการ ณ สวนสัมมะปิ แห่งนี้ จึงได้มีการเปิดโครงการ ผู้เข้าสัมมนาจํานวน 100 คน ประกอบด้วย พระสงฆ์ ผู้บริหารองค์การบริหารส่วนตําบลปลาค้าว(นายบุญเลิศ โลห์คํา ) ผู้ใหญ่บ้าน สมาชิกกลุ่ม เยาวชน เพื่อสร้างเครือข่าย ให้เกิดการมีส่วนร่วม การเรียนรู้ ทําให้ศูนย์สัมมะปิแห่งนี้ถอดบทเรียน นําไปสู่การดํารงชีวิตประจําวันตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง #สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
12/1/2023
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
อำนาจเจริญ
สวท.อำนาจเจริญ
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230112102136288
null
กอนช. เฝ้าระวังน้ำฝนตกหนักบางพื้นที่ในภาคใต้ พร้อมเร่งช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัยน้ำท่วม เพื่อลดความเดือดร้อนลง
กองอํานวยการน้ําแห่งชาติ (กอนช.) เฝ้าระวังน้ําฝนตกหนักบางพื้นที่ในภาคใต้ พร้อมเร่งช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัยน้ําท่วม เพื่อลดความเดือดร้อนลง นายสุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสํานักงานทรัพยากรน้ําแห่งชาติ (สทนช.) ในฐานะรองผู้อํานวยการกองอํานวยการน้ําแห่งชาติ (กอนช.) กล่าวถึงสถานการณ์น้ําภาพรวมของประเทศวันนี้ (12 ม.ค.66) ว่า ภาคใต้คงมีฝนตกหนักบางแห่ง ช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมามีฝนตกหนักบริเวณ จ.ยะลา , นครราชสีมา และประจวบคีรีขันธ์ โดยศูนย์บริหารจัดการน้ําส่วนหน้าฯ ภาคใต้ พบยังมีฝนตกหนักบางแห่ง ภาพรวมสถานการณ์น้ําล้นตลิ่งที่สถานี X.275 อ.เมือง จ.ปัตตานี มีแนวโน้มลดลง คาดว่า จะกลับสู่ภาวะปกติภายใน 1-2 วัน ส่วนที่สถานี X.40 อ.เมือง จ.ยะลา ยังสามารถรับปริมาณน้ําที่เพิ่มขึ้น จากการการปรับแผนการระบายน้ําของเขื่อนบางลางเป็นวันละ 4 ล้านลูกบาศก์เมตร ปัจจุบันยังคงมีพื้นที่ประสบอุทกภัย 1 อําเภอ และได้ติดตั้งเครื่องสูบน้ําเพื่อเร่งระบายน้ําออกบริเวณโรงพยาบาลโคกโพธิ์ อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี ขณะที่กองทัพบก ฟื้นฟูปรับภูมิทัศน์ ทําความสะอาด ขนย้ายสิ่งของให้อยู่ในสภาวะปกติจากฝนตกหนักที่ผ่านมา เพื่อสร้างกําลังใจและบรรเทาความเดือดร้อนให้กับโรงเรียนบ้านนาค้อใต้และมัสยิดดารุสลาม ม.4 ต.มะกรูด อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี สําหรับ กรุงเทพมหานคร ตรวจสอบความพร้อมแก้มลิงบึงหมู่บ้านเฟรนชิฟ ความก้าวหน้างานก่อสร้างสถานีสูบน้ําคลองไผ่เขียว และตรวจสอบท่อลอดถนนรามอินทรา บริเวณซอยรามอินทรา 25 คลองกระเฉด คลองลําไผ่ คลองบางขวด คลองลําชะล่า
12/1/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230112102311289
null
เทศบาลตำบลตะกาง นำร่อง รวมพลังชาวบ้านในพื้นที่ ร่วมจัดทำถังขยะเปียก ลดโลกร้อน เพื่อเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน และยกระดับคุณภาพชีวิตให้มั่นคง
นายอภิเดช บุญล้อม นายกเทศมนตรีตําบลตะกาง อ.เมือง จ. ตราด เปิดเผยว่า ถังขยะเปียกลดโลกร้อน ในพื้นที่เทศบาลตําบลตะกางได้ขับเคลื่อน เกือบจะถึง 100 เปอร์เซ็นต์แล้ว วิธีการใช้ถังขยะเปียกลดโลกร้อน ใช้ถังพลาสติกเจาะรูทางด้านล่าง ขุดหลุมประมาณสามในสี่ ฝังถังขยะลงไป แล้วนําเศษอาหารที่เหลือทิ้งภายในครัวเรือนมาเทลงไป จากนั้นนําฝามาปิด และรอให้ดินเป็นตัวย่อยนอกจากนี้ ทางเทศบาลตําบลตะกางยังได้มีการพัฒนาต่อยอดสร้างนวัตกรรม โข่ลดโลกร้อน โดยมีตะแกรงอยู่ด้านล่าง และใช้ท่อเจาะรูเติมอากาศในการทํางาน สําหรับใส่เศษอาหารจํานวนมากๆ ไม่ว่าจะเป็นเปลือกอาหารทะเล เปลือกเงาะ เปลือกมังคุด เปลือกทุเรียน และต่อยอดไปจนถึงสร้างนวัตกรรม คีย์โฮล ลดโลกร้อน ที่ทําจากสังกะสี หรือวัสดุที่หาได้ง่ายในพื้นที่ จากนั้นก็นําถังขยะเจาะรูไว้ตรงกลางและรอบๆ บริเวณสามารถปลูกพืชผักสวนครัวได้ และนําเศษวัชพืช ใบไม้กิ่งไม้ เข้าสู่กระบวนการหมักได้ และเกิดการย่อยสลาย และนําไปทําปุ๋ยใส่ต้นไม้บํารุงต้นไม้ได้เป็นอย่างดี#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
12/1/2023
ภาคตะวันออก
ตราด
สวท.ตราด
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230112113459320
null
กรมอุทยานฯ เปิดให้เข้าท่องเที่ยวฟรี “วันเด็กแห่งชาติ ประจำปี 66” ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า และเขตห้ามล่าสัตว์ป่าทั่วประเทศ
กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช เปิดให้เข้าท่องเที่ยวฟรี “วันเด็กแห่งชาติ ประจําปี 2566” ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า และเขตห้ามล่าสัตว์ป่าทั่วประเทศ พร้อมจัดตั้งศูนย์กู้ภัยฯมาช่วยเหลือนักท่องเที่ยว หากเกิดเหตุฉุกเฉินขึ้น นายนรินทร์ ประทวนชัย รองอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช กล่าวว่า กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ได้เปิดให้เข้าท่องเที่ยวฟรี “วันเด็กแห่งชาติ ประจําปี 2566” ปีนี้ตรงกับวันเสาร์ที่ 14 มกราคม ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า และเขตห้ามล่าสัตว์ป่าทั่วประเทศ เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนให้ประชาชนทั่วไปได้ศึกษาเรียนรู้เกี่ยวกับการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ สิ่งแวดล้อมและสัตว์ป่า ด้านนันทนาการ และพักผ่อนหย่อนใจในอุทยานแห่งชาติ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า หรือเขตห้ามล่าสัตว์ป่า โดยได้ยกเว้นค่าบริการเข้าพื้นที่ให้กับบุคคลชาวไทยและยานพาหนะ พร้อมยังกําชับสํานักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 1 - 16 และสาขาทุกสาขา เตรียมความพร้อมรองรับการท่องเที่ยวของอุทยานแห่งชาติ แล้วให้รวบรวมและรายงานข้อมูลเกี่ยวกับสถิตินักท่องเที่ยว และการประเมินความพึงพอใจของนักท่องเที่ยวด้วย QR Code ทั้งนี้ กรมอุทยานฯ ได้จัดตั้งศูนย์กู้ภัยฯมาปฏิบัติการและช่วยเหลือนักท่องเที่ยวในอุทยานแห่งชาติทั่วประเทศ เพื่อช่วยเหลือนักท่องเที่ยวหากมีเหตุฉุกเฉินต่างๆ ด้วยการจัดเจ้าหน้าที่พร้อมยานพาหนะ อุปกรณ์การกู้ชีพ กู้ภัย และการปฐมพยาบาลเบื้องต้น อุปกรณ์ การสื่อสาร การเตรียมความพร้อมประสานกับหน่วยงานอื่นๆ หากเกิดกรณีฉุกเฉินเกินความสามารถของเจ้าหน้าที่ รองอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช กล่าวย้ําว่า กรมอุทยานฯ ได้อํานวยความสะดวกให้กับนักท่องเที่ยวตลอด 24 ชั่วโมง จึงขอให้ประชาชนปฏิบัติตามข้อแนะนําของเจ้าหน้าที่ระหว่างท่องเที่ยวด้วย เพื่อให้อยู่ในความควบคุมดูแลของหัวหน้าอุทยานแห่งชาติ พิจารณาขีดความสามารถการรองรับนักท่องเที่ยวของอุทยานแห่งชาติ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า และเขตห้ามล่าสัตว์ป่า พร้อมให้ทุกหน่วยงานทั่วประเทศดูแลความปลอดภัยนักท่องเที่ยวอย่างเต็มที่
12/1/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230112103356295
null
จังหวัดเพชรบุรีจัดงานวันถ่ายทอดเทคโนโลยีเพื่อเริ่มต้นฤดูกาลผลิตใหม่ (Field Day) ปี 2566 ลดต้นทุนการผลิต เพิ่มมูลค่าสินค้าเกษตร
วันนี้ (12 ม.ค.66) เวลา 09.00 น. ณ ศูนย์ข้าวชุมชนตําบลหนองจอก หมู่ 2 ตําบลหนองจอก อําเภอท่ายาง จังหวัดเพชรบุรี นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ร่วมด้วย นางวันเพ็ญ มังศรี รองผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี นางสาวสุจิรา กิจเจริญ หัวหน้ากลุ่มส่งเสริมและพัฒนาการผลิต รักษาราชการแทนเกษตรจังหวัดเพชรบุรี หัวหน้าส่วนราชการ ประธาน ศพก. ประธานแปลงใหญ่ กํานัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้นําชุมชน เกษตรกร ร่วมกิจกรรม นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า การถ่ายทอดความรู้และเทคโนโลยีมีเป้าหมายสําคัญ 2 ระดับ คือ การทําให้กลุ่มเป้าหมายรับรู้ถึงข้อมูลที่ต้องการเผยแพร่ และทําให้กลุ่มเป้าหมายนําข้อมูลไปใช้และสามารถปรับเปลี่ยนพฤติกรรมให้สอดคล้องกับความรู้ที่ได้รับ ด้วยสภาพภูมิอากาศที่แปรปรวน และการแข่งขันในตลาดโลกที่เพิ่มมากขึ้น ทําให้ราคาสินค้าเกษตรมีความผันผวนเป็นอย่างมาก รวมถึงกลไกการค้าที่มุ่งเน้นคุณภาพและการตรวจสอบคุณภาพสินค้าเกษตร ตั้งแต่การผลิตต้นทางและการบริโภคปลายทาง เกษตรกรต้องมีความรู้ในการปรับตัวให้สอดคล้องกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ลดต้นทุนการผลิต การเพาะปลูกตามความเหมาะสมของดิน เพิ่มมูลค่าให้กับที่ดินของตนเองและลดการพึ่งพากลไกราคาด้วยการทําไร่นาสวนผสม เศรษฐกิจพอเพียง และเกษตรทฤษฎีใหม่ การเพิ่มมูลค่าสินค้าเกษตรด้วยการแปรรูปการผลิต การบริหารจัดการน้ําเพื่อรองรับความเปลี่ยนแปลงของภูมิอากาศ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้ตระหนัก ถึงความเปลี่ยนแปลง จึงสร้างกลไกการถ่ายทอดความรู้ที่จําเป็นสู่เกษตรกรผ่านศูนย์เรียนรู้การเพิ่มประสิทธิภาพสินค้าเกษตร (ศพก.) ประยุกต์องค์ความรู้ให้มีความเหมาะสมกับสภาพแวดล้อมของพื้นที่ เพื่อให้เกิดองค์ความรู้ที่เกษตรกรสามารถนําไปปฏิบัติได้จริง การจัดงานวันถ่ายทอดเทคโนโลยีเพื่อเริ่มต้นฤดูกาลผลิตใหม่ (Field Day) ปี 2566 พืชหลัก ข้าว โดยการจัดงานครั้งนี้ มีเกษตรกรผู้ปลูกข้าว จากทุกอําเภอในจังหวัดเพชรบุรี มาร่วมเรียนรู้ แบ่งสถานีถ่ายทอดความรู้ ออกเป็น 4 สถานี ประกอบด้วย การปรับปรุงดิน คุณภาพเมล็ดพันธุ์ข้าว การควบคุมศัตรูพืชโดยวิธีผสมผสาน และการสร้างมูลค่าเพิ่มสวท.เพชรบุรี#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
12/1/2023
ภาคตะวันตก
เพชรบุรี
สวท.เพชรบุรี
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230112121654338
null
กรมชลประทาน จ้างแรงงานชลประทาน แล้วกว่า 20,000 คน ตั้งเป้าจ้างแรงงานทั่วประเทศ 86,000 คน เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรและประชาชนให้มีรายได้เสริมในช่วงแล้ง
นายประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า กรมชลประทาน ได้จัดจ้างแรงงาน เพื่อช่วยเหลือเกษตรกร ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ตามนโยบายของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพื่อให้เกษตรกรมีรายได้เสริมในช่วงฤดูแล้ง โดยการปฏิบัติงานด้านต่างๆ อาทิ งานซ่อมแซม บํารุงรักษา ขุดลอก ปรับปรุงงานชลประทาน โครงการส่งเสริมการดําเนินงานอันเนื่องมาจากพระราชดําริ งานก่อสร้างแหล่งน้ําและระบบส่งน้ําเพื่อชุมชน แก้มลิง การจัดการคุณภาพน้ํา รวมทั้งโครงการป้องกันและบรรเทาภัยจากน้ํา เป็นต้น ซึ่งในปีนี้มีแผนจ้างแรงงานในวงเงิน 5,336 ล้านบาท สามารถจ้างแรงงานได้ประมาณ 86,000 คน ระยะเวลาการจ้างอยู่ระหว่าง 3 - 10 เดือน คาดว่าจะทําให้เกษตรกรมีรายได้ทดแทนจากการว่างเว้นทําการเกษตรประมาณ 26,100 – 87,000 บาท/คน (ขึ้นอยู่กับระยะเวลาในการจ้าง/คน) โดยมีเกณฑ์การจ้างแรงงานได้แก่ เกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนกับกรมส่งเสริมการเกษตรหรือเกษตรกรในพื้นที่ /เป็นสมาชิกกลุ่มผู้ใช้น้ําของกรมชลประทานในพื้นที่ /ประชาชน และผู้ใช้แรงงานทั่วไป หากแรงงานในพื้นที่มีไม่เพียงพอให้พิจารณาจ้างเกษตรกรหรือแรงงานในพื้นที่ใกล้เคียง จากหมู่บ้าน ตําบล อําเภอ จังหวัด และลุ่มน้ํา ตามลําดับ ทําให้ปัจจุบันมีผู้สนใจเข้ารับการสมัครจ้างแรงงานทั่วประเทศไปแล้วกว่า 19,700 คน จังหวัดที่มีผลการจ้างแรงงานมากที่สุด 3 ลําดับ ได้แก่ จังหวัดนครพนม 1,861 คน จังหวัดเชียงใหม่ 1,445 คน และจังหวัดเพชรบุรี 1,291 คนกรมชลประทาน จึงขอเชิญชวนพี่น้องเกษตรกรและประชาชนทั่วไป เข้าร่วมโครงการฯ เพื่อเป็นการสร้างรายได้เสริมหรือทดแทนจากการสูญเสียรายได้ด้านการเกษตร
12/1/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
Radio-สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230112220119567
null
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ฝังทำลายหมูเถื่อนกว่า 7 แสนกิโลกรัม มูลค่ากว่า 123 ล้านบาท
นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยหลังเป็นประธานในพิธีฝังทําลายชิ้นส่วนเครื่องในและเนื้อสุกรของกลางลักลอบนําเข้าผิดกฎหมายมากที่สุดครั้งแรกในประวัติการณ์ จํานวนทั้งสิ้น 723,786 กิโลกรัม คิดเป็นมูลค่า 123 ล้านบาท ที้จังหวัดเพชรบุรี ว่า กรมปศุสัตว์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ร่วมกันปฏิบัติงานบังคับใช้กฎหมาย ในกรณีของการตรวจสอบและดําเนินคดีกับผู้ลักลอบนําเข้าชิ้นส่วนเครื่องในและเนื้อสุกรอย่างเคร่งครัดเสมอมา การปราบปรามการลักลอบนําเข้าชิ้นส่วนเครื่องในและเนื้อสุกรอย่างผิดกฎหมาย เป็นการปกป้องเกษตรกรผู้เลี้ยงสุกรโดยเฉพาะรายย่อย และเป็นการคุ้มครองผู้บริโภค เนื่องจากชิ้นส่วนเครื่องในและเนื้อสุกรที่ลักลอบนําเข้าโดยไม่ผ่านการตรวจสอบอาจมีเชื้อโรคระบาดต่อสัตว์และไม่ปลอดภัยต่อผู้บริโภค รวมถึงทําลายกลไกราคาสุกรภายในประเทศ สร้างความเสียหายต่อระบบการเลี้ยงสุกรของประเทศไทยอย่างมหาศาล การฝังทําลายชิ้นส่วนเครื่องในและเนื้อสุกรของกลางในวันนี้มีจํานวนมากถึง 723,786 กิโลกรัม คิดเป็นมูลค่า 123 ล้านบาท ซึ่งจําเป็นต้องใช้รถบรรทุกสิบล้อพ่วง จํานวน 35 เที่ยว รถบรรทุกสิบล้อ จํานวน 3 เที่ยว รถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ จํานวน 1 เที่ยว ถือเป็นจํานวนมากที่สุดในประวัติศาสตร์ที่เคยดําเนินการมา พร้อมขอให้พี่น้องเกษตรกรและผู้บริโภค มั่นใจว่ากระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้ปกป้องอาชีพของเกษตรกรและได้คุ้มครองสุขภาพของผู้บริโภคอย่างเต็มที่และยังคงดําเนินการอย่างเข้มข้นต่อไป
12/1/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
Radio-สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230112152732431
null
จ.อุทัยธานี จัดกิจกรรมการรณรงค์ลดการเผาอ้อย ลดปัญหาฝุ่นละออง PM 2.5 และส่งเสริมให้เกษตรกรมีรายได้เสริมจากการจำหน่ายใบอ้อย (ตันละ 1,000 บาท)
วันที่ 11 มกราคม 2566 ณ แปลงสาธิตของเกษตรกร หมู่ที่ 12 ตําบลทัพหลวง อําเภอบ้านไร่ จังหวัดอุทัยธานี นายธีรพัฒน์ คัชมาตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุทัยธานี เป็นประธานในกิจกรรมการรณรงค์ลดการเผาอ้อยลดปัญหาฝุ่นละออง PM 2.5 พร้อมด้วย นางไพรินทร์ กันทะวงษ์ อุตสาหกรรมจังหวัดอุทัยธานี หัวหน้าส่วนราชการ ผู้บริหารโรงงานบริษัท อุตสาหกรรมน้ําตาลบ้านไร่ ผู้บริหารโรงงานน้ําตาล บริษัท มิตรเกษตรอุทัยธานี จํากัด ผู้แทนสมาคมชาวไร่อ้อยอุทัยธานี (ไทยเศรษฐ์) และชาวไร่อ้อยร่วมกิจกรรม เนื่องจากปัจจุบันสถานการณ์ฝุ่นละออง PM 2.5 ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนในชุมชน สาเหตุเกิดจากปัญหาการเผาพื้นที่ป่าและพื้นที่เกษตรกรรม อันได้แก่ นาข้าว ข้าวโพด/ไร่เลื่อนลอย พื้นที่เกษตรอื่นๆ และอ้อย โดยกิจกรรมมีการสาธิต กระบวนการตัดอ้อยสดด้วยรถตัดอ้อย กระบวนการ/ขั้นตอน การเก็บใบอ้อย ด้วยรถอัดแบบม้วนกลม การบรรทุกอ้อย เพื่อนําส่งโรงงานผลิตกระแสไฟฟ้า เพื่อเป็นเชื้อเพลิง รับฟังบรรยาย การรณรงค์ลดการเผาไร่อ้อย การส่งเสริมชาวไร่ให้ตัดอ้อยสดของ บริษัท อุตสาหกรรมน้ําตาลบ้านไร่ จํากัด เรื่องการปลูกอ้อย การควบคุมคุณภาพอ้อย และการไม่เผาอ้อย ทั้งนี้ ทางจังหวัดฯ จึงจัดกิจกรรมนี้ขึ้นเพื่อส่งเสริมให้เกษตรกรนําใบอ้อยที่เหลือทิ้งจากการตัดขายให้กับโรงงานน้ําตาลในพื้นที่ (ตันละ 1,000 บาท) เพื่อนําใบอ้อยไปใช้เป็นพลังงานทดแทนหรือเชื้อเพลิงในกระบวนการผลิต ซึ่งเป็นการส่งเสริมให้เกษตรกรชาวไร่อ้อยมีรายได้ และจะสามารถลดปัญหาฝุ่นละออง PM2.5 จากการเผาอ้อย อันจะเป็นการลดผลกระทบความเดือดร้อนของชุมชน เป็นการตอบสนองนโยบายรัฐบาลในการส่งเสริมการตัดอ้อยสด ลดปัญหาอ้อยไฟไหม้ และนําเศษวัสดุทางการเกษตรที่เหลือใช้มาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดทดแทนการเผา#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILANDข่าว/ภาพ ส.ปชส.อุทัยธานี
12/1/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
อุทัยธานี
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดอุทัยธานี
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230112135238371
null
จังหวัดลำปางเดินหน้าขับเคลื่อนโครงการถังขยะเปียก ลดโลกร้อน ตามนโยบายกระทรวงมหาดไทย
วันที่ 11 มกราคม 2566 นายวิชญ์ธวัช อัจฉริยฉัตรา ท้องถิ่นจังหวัดลําปาง พร้อมด้วยผู้อํานวยการกลุ่มงาน ท้องถิ่นอําเภอ และข้าราชการในสังกัดลงพื้นที่ตามโครงการท้องถิ่นสัญจร เร่งรัด ทวนสอบ ติดตามถังขยะเปียกลดโลกร้อนขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เพื่อขับเคลื่อนการจัดทําถังขยะเปียกลดโลกร้อนให้ครบทุกครัวเรือนตามนโยบายกระทรวงมหาดไทย ณ อบต.บ้านดง อําเภอแม่เมาะ และเวลา 13.30 น. ณ เทศบาลตําบลหลวงใต้ อําเภองาว ตั้งเป้าหมายลดขยะที่ต้นทาง-ลดภาระทางงบประมาณของท้องถิ่นในการจัดการขยะของประเทศ และเพื่อบรรลุเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน ภายในปี พ.ศ. 2593 (ค.ศ. 2050) และบรรลุเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ได้ในปี พ.ศ. 2608 (ค.ศ. 2065)”จังหวัดลําปางมีเป้าหมายให้ทุกโรงเรียนในสังกัดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กในสังกัดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และทุกครัวเรือนจัดทําถังขยะเปียกลดโลกร้อนให้ครบ 100% พร้อมทั้งดําเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องตามแผนปฏิบัติการเพื่อเตรียมรับการทวนสอบจากผู้ประเมินภายนอก (Validation and verification Body :VVB) ในขั้นตอนการรับรองคาร์บอนเครดิต ซึ่งสอดรับกับนโยบายของรัฐบาลในด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของประเทศดังกล่าว โครงการถังขยะเปียกลดโลกร้อนขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เป็นโครงการที่ได้รับการขึ้นทะเบียนตามโครงการลดก๊าซเรือนกระจกภาคสมัครใจตามมาตรฐานของประเทศไทย (T-VER) โดยองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) ซึ่งเป็นกิจกรรมที่ช่วยลดก๊าซเรือนกระจกและสามารถนํามารับรองคาร์บอนเครดิตได้ โดยมีระยะเวลาการรับรองคาร์บอนเครดิตตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2562-30 มิถุนายน 2569 สอดคล้องกับนโยบายของกระทรวงมหาดไทย ในการดําเนินงานด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เพื่อบรรลุ เป้าหมายการลดก๊าซเรือนกระจกของรัฐบาล และยังเป็นการดําเนินการตามนโยบายสําคัญของกระทรวงมหาดไทยในการแก้ไขปัญหาขยะ ตามแผนปฏิบัติการจัดการขยะมูลฝอยชุมชน “จังหวัดสะอาด” ที่มีมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2560 ภายใต้กรอบการดําเนินงาน 3 ระยะ ได้แก่ ต้นทาง คือ การลดปริมาณขยะ การส่งเสริมการคัดแยกขยะที่ต้นทาง กลางทาง คือ การจัดทําระบบเก็บขนอย่างมีประสิทธิภาพ และปลายทาง คือ ขยะมูลฝอยได้รับการกําจัดอย่างถูกต้องตามหลักวิชาการและกําจัดให้หมดไป#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
12/1/2023
ภาคเหนือ
ลำปาง
สวท.ลำปาง
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230112133953361
null
เกษตรยะลา ร่วมเวทีชุมชน ส่งเสริมการเกษตรเชิงพื้นที่
นางสาวจารุภา คงชะนะ หัวหน้ากลุ่มยุทธศาสตร์และสารสนเทศ พร้อมด้วย นายธรรมธัช ปราชญาวงศ์ นักวิชาการส่งเสริมการเกษตรชํานาญการ และนายสุริยา คงมาก นักวิชาการส่งเสริมการเกษตร กลุ่มยุทธศาสตร์และสารสนเทศ เข้าร่วมการจัดเวทีชุมชนครั้งที่ 1 ตามแนวทางส่งเสริมการเกษตรเชิงพื้นที่ภายใต้โครงการพัฒนาตามศักยภาพของพื้นที่ของตําบลวังพญา อําเภอรามัน จัดโดย สํานักงานเกษตรอําเภอรามัน ณ ที่ทําการกํานัน หมู่ที่ 4 ตําบลวังพญา อําเภอรามัน เกษตรกรเป้าหมาย 75 คน เพื่อวิเคราะห์คน พื้นที่ สินค้า โดยได้มีการทบทวนข้อมูลพื้นฐานของชุมชนและแบ่งกลุ่มตามประเด็นสินค้าเกษตรที่สําคัญในพื้นที่ของตําบล ได้แก่ ข้าวและปาล์มน้ํามัน ระดมความคิดเห็นด้านสภาพในปัจจุบันและความฝันในอนาคต เพื่อนําไปสู่การวางแผนการพัฒนาแบบองค์รวมอย่างมีส่วนร่วมต่อไป#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
12/1/2023
null
ยะลา
สทท.ยะลา
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230112131309344
null
ไทย และซาอุดีอาระเบีย ร่วมกันต่อยอดความร่วมมือด้านการจัดการน้ำและสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะการแก้ปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่ใช้ BCG Model เป็นกลไกขับเคลื่อน
ประเทศไทย และซาอุดีอาระเบีย ร่วมกันต่อยอดความร่วมมือด้านการจัดการน้ําและสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะการแก้ปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่ใช้ BCG Model เป็นกลไกขับเคลื่อน นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พร้อมด้วย นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้หารือกับ นายอับดุรเราะห์มาน บิน อับดุลมัวะห์ซิน อัลฟัฎลี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสิ่งแวดล้อม น้ํา และเกษตร ณ กรุงริยาด ราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย เกี่ยวกับประเด็นและแนวทางการดําเนินความร่วมมือด้านสิ่งแวดล้อมของสองประเทศที่สานต่อจากแผนการขับเคลื่อนและส่งเสริมความสัมพันธ์ทวิภาคีไทย – ซาอุดีอาระเบีย ซึ่งไทยและซาอุดีอาระเบียได้ลงนามร่วมกันไว้เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2565 โดย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า ไทยให้ความสําคัญกับการแก้ปัญหาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เช่น การบริหารจัดการน้ํา การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การบริหารจัดการทรัพยากรป่าไม้และป่าชายเลน ปัญหาภัยแล้ง และดินเสื่อมโทรม โดยได้นํา BCG Model และยุทธศาสตร์ 20 ปีมาใช้บริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเพื่อนําไปสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน ทั้งนี้ เห็นว่าซาอุดีอาระเบียมีการบริหารจัดการด้านสิ่งแวดล้อมและการบริหารจัดการน้ําที่โดดเด่น มีเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่ทันสมัย จึงมีความสนใจจะแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์ในเรื่องดังกล่าว ขณะที่ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสิ่งแวดล้อม น้ํา และเกษตร ของซาอุดีอาระเบีย กล่าวว่า ซาอุดีอาระเบียให้ความสําคัญกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เช่น การจัดการทรัพยากรน้ํา การเพิ่มพื้นที่สีเขียวและสัตว์ป่า การจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง สําหรับการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ด้านการจัดการสิ่งแวดล้อมและด้านน้ําร่วมกันนั้น ซาอุดีอาระเบียได้เสนอให้จัดทําบันทึกความเข้าใจด้านสิ่งแวดล้อมและบันทึกความเข้าใจด้านการจัดการทรัพยากรน้ําต่อไป
12/1/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230112125048343
null
ปศุสัตว์จันทบุรี ร่วมกับศูนย์วิจัยผสมเทียม สร้างเยาวชนรุ่นใหม่ สืบทอดอาชีพการเลี้ยงสัตว์
(12 ม.ค.66) น.สพ.ชาติชาย ยิ้มเครือ ปศุสัตว์จังหวัดจันทบุรี ร่วมกับ นายประมูล ยิ่งยืน นักจัดการงานทั่วไป จากศูนย์วิจัยการผสมเทียมและเทคโนโลยีชีวภาพชลบุรี เจ้าหน้าที่กลุ่มส่งเสริมและพัฒนาการปศุสัตว์ และนายนพดล อิงประภานนท์ ปศุสัตว์อําเภอสอยดาว นายชุติเทพ ภูมิพันธุ์ เจ้าพนักงานสัตวบาลชํานาญงาน และนายสมชาย จันทร์สําราญ เจ้าพนักงานสัตวบาล เสริมสร้างศักยภาพเยาวชน ซึ่งเป็นเกษตรกรรุ่นใหม่ จํานวน 10 ราย ในการประกอบอาชีพการเลี้ยงสัตว์ ณ สถานีพัฒนาการผสมเทียมสอยดาว ม.1 ต.ทับช้าง อ.สอยดาวโดยให้องค์ความรู้ในการเลี้ยงสัตว์ การปลูกพืชอาหารสัตว์เพื่อลดต้นทุนการผลิต การเพิ่มจํานวนสัตว์พันธุ์ดีด้วยเทคโนโลยีการผสมเทียม พร้อมมอบปัจจัยการผลิตที่จําเป็นในการประกอบอาชีพเลี้ยงสัตว์ ได้แก่ อาหารสัตว์สําเร็จรูป แร่ธาตุก้อน วิตามิน ยาถ่ายพยาธิ เสริมสร้างขวัญกําลังใจ และพัฒนาเกษตรกรรุ่นใหม่ (Young Smart Farmer) ให้มีทักษะทางด้านวิชาการและการปฏิบัติด้านเทคโนโลยี ทําให้ผลิตสินค้าปศุสัตว์ ตรงกับความต้องการของตลาด ได้มาตรฐาน ปลอดภัยต่อผู้บริโภค รวมทั้งมีการบริหารจัดการผลผลิตและประกอบธุรกิจการเกษตร เพื่อเพิ่มมูลค่าสินค้าปศุสัตว์ เป็นตัวอย่างที่ดีแก่เกษตรกรและเยาวชนคนอื่นๆ ได้ และเกิดการสืบทอดอาชีพการเลี้ยงสัตว์จากรุ่นพ่อแม่ ผู้สูงวัย สู่รุ่นลูกหลาน คนรุ่นใหม่ต่อไป#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
12/1/2023
ภาคตะวันออก
จันทบุรี
สวท.จันทบุรี
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230112150609413
null
เกษตรจังหวัดเพชรบุรีเปิดงานวันถ่ายทอดเทคโนโลยีเพื่อเริ่มต้นฤดูกาลผลิตใหม่ (Field Day) ปี 2566
วันนี้ (12 มกราคม 2566) เวลา 09.00 น. ที่ศูนย์ข้าวชุมชนตําบลหนองจอก หมู่ที่ 2 ตําบลหนองจอก อําเภอท่ายาง จังหวัดเพชรบุรี นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานเปิดงานวันถ่ายทอดเทคโนโลยีเพื่อเริ่มต้นฤดูกาลผลิตใหม่ (Field Day) ปี 2566 โดยมี นางวันเพ็ญ มังศรี รองผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี กล่าวต้อนรับ สําหรับการดําเนินงานจัดงานวันถ่ายทอดเทคโนโลยีเพื่อเริ่มต้นฤดูกาลผลิตใหม่ (Field Day) ปี 2566 ซึ่งจัดขึ้นที่ศูนย์ข้าวชุมชนตําบลหนองจอก หมู่ที่ 2 ตําบลหนองจอก อําเภอท่ายาง จังหวัดเพชรบุรี ตามนโยบายของรัฐบาล เพื่อถ่ายทอดความรู้ และให้บริการแก่เกษตรกรในชุมชน ให้เกษตรกรได้รับความรู้ เข้าถึงปัจจัยการผลิต ลดความเสี่ยงในการบริหารจัดการ และให้เกิดความเข้มแข็งของเกษตรกร ซึ่งกิจกรรมการเรียนรู้จะแบ่งสถานีถ่ายทอดความรู้ ออกเป็น 4 สถานี ประกอบด้วย สถานีเรียนรู้ที่ 1 การปรับปรุงบํารุงดิน สถานีเรียนรู้ที่ 2 คุณภาพเมล็ดพันธุ์ข้าว สถานีเรียนรู้ที่ 3 การควบคุมศัตรูพืชโดยวิธีผสมผสาน สถานีเรียนรู้ที่ 4 การสร้างมูลค่าเพิ่ม นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า การถ่ายทอดความรู้และเทคโนโลยีมีเป้าหมายสําคัญ 2 ระดับ กล่าวคือ (1) การทําให้กลุ่มเป้าหมายรับรู้ถึงข้อมูลที่ต้องการเผยแพร่ และ (2) การทําให้กลุ่มเป้าหมายนําข้อมูลไปใช้และสามารถปรับเปลี่ยนพฤติกรรมให้สอดคล้องกับความรู้ที่ได้รับ ทั้งนี้ด้วยภูมิอากาศที่แปรปรวน และการแข่งขันในตลาดโลกที่เพิ่มมากขึ้น ทําให้ราคาสินค้าเกษตรมีความผันผวนเป็นอย่างมาก รวมถึงกลไกการค้าที่มุ่งเน้นคุณภาพและการตรวจสอบคุณภาพสินค้าเกษตร ตั้งแต่การผลิตที่ต้นทางและการบริโภคที่ปลายทาง เกษตรกรจึงจําเป็นต้องมีข้อมูลและความรู้ในการปรับตัวให้สอดคล้องกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ชัยพัทธ์ รชตเหมภาส / ข่าว สํานักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเพชรบุรี#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
12/1/2023
ภาคตะวันตก
เพชรบุรี
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเพชรบุรี
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230112173443492
null
นายอำเภอโพธิ์ศรีสุวรรณ ขับเคลื่อจัดทำถังขยะเปียกลดโลกร้อนของครัวเรือนให้ครบ100%
ที่ศาลาประชาคมบ้านเสียว ม. 2 ตําบลเสียว อําเภอโพธิ์ศรีสุวรรณ จังหวัดศรีสะเกษ นายสุวรรณ เนตรเนติกุล นายอําเภอโพธิ์ศรีสุวรรณ เป็นประธานประชุมคณะกรรมการตรวจประเมินโครงการจัดทําถังขยะเปียกลดโลกร้อนของครัวเรือน ระดับพื้นที่ตําบลเสียว โดยมีนางขวัญตา คิดดี ปลัดอําเภอหัวหน้ากลุ่มงานบริหารงานปกครอง นางปวีณา คุณสิงห์ ปลัดอําเภอกลุ่มงานบริหารงานปกครอง นายวีระยุทธ ศรีละพันธ์ ท้องถิ่นอําเภอโพธิ์ศรีสุวรรณ นายจันทร์ โต๊ะสิงห์ นายกองค์การบริหารส่วนตําบลเสียว ร.ต.อ.เสถียร พรหมสุวรรณ นายกองค์การบริหารส่วนตําบลหนองม้า นายเสถียร น้อยดํา รองนายกเทศมนตรีตําบลโดด นายอารยะ จันทร์มหา ปลัดองค์การบริหารส่วนตําบลหนองม้า นางสาวจันทร์สุดาจันทร์โท รักษาการปลัดเทศบาลตําบลผือใหญ่ นายบุญเริ่ม นิลโชติ หัวหน้าสํานักปลัดองค์การบริหารส่วนตําบลเสียว สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตําบลเสียว นายวิจิตร ธรรมบุตร ผอ.รพ.สต.เสียว ผู้แทนนายกองค์การบริหารส่วนตําบลอีเซ นายประสาน ขันติวงศ์ กํานันตําบลเสียว ผู้ใหญ่บ้าน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน แพทย์ สารวัตรกํานัน ในพื้นที่อําเภอโพธิ์ศรีสุวรรณ เข้าร่วมกิจกรรม ในการนี้ ได้ดําเนินการตรวจประเมินการจัดทําถังขยะเปียกรายครัวเรือนในพื้นที่บ้านเสียวหมู่ที่ 2 ตําบลเสียว และจัดกิจกรรม บํารุงรักษาดิน "วันดินโลก" World Soil Dayนายสุวรรณ เนตรเนติกุล นายอําเภอโพธิ์ศรีสุวรรณ กล่าวว่า อําเภอโพธิ์ศรีสุวรรณ ได้มอบนโยบายให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทุกแห่ง ขับเคลื่อนโครงการถังขยะเปียกลดโลกร้อนตามแนวทางและแผนปฏิบัติการที่กําหนดโดยให้มีการจัดทําแผนการดําเนินงานในพื้นที่และประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้สร้างความเข้าใจสร้างความตระหนัก และความร่วมมือจากพี่น้องประชาชนในการคัดแยกขยะเศษอาหารหรือขยะเปียกในครัวเรือน เพื่อช่วยลดขยะที่ต้นทางลดภาระทางงบประมาณของท้องถิ่นในการจัดการขยะและยังช่วยแก้ไขปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของโลก ทําให้ลูกหลานได้อยู่อาศัยได้อย่างยั่งยืน นายอําเภอโพธิ์ศรีสุวรรณ กล่าวต่อไปว่า อําเภอโพธิ์ศรีสุวรรณ มีเป้าหมายในการจัดทําถังขยะเปียกลดโลกร้อนให้ครบ 100% ของจํานวนครัวเรือน โดยตําบลเสียว ตําบลหนองม้าและตําบลอีเซ ได้ดําเนินการรณรงค์จัดทําถังขยะเปียกในพื้นที่ครบ 100% แล้ว ยังเหลือตําบลโดดและตําบลผือใหญ่ และได้มอบหมายให้เทศบาลตําบลโดดและเทศบาลตําบลผือใหญ่นัดประชุมร่วมกับกํานัน ผู้ใหญ่บ้าน ในพื้นที่ของตนเองเพื่อขับเคลื่อนการทําถังขยะเปียกลดโลกร้อน ให้ครบ 100% ต่อไป#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
12/1/2023
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ศรีสะเกษ
สวท.ศรีสะเกษ
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230112171750474
null
รมว.เกษตรฯ เอาจริง!! ฝังทำลายหมูเถื่อน 7 แสนกิโลกรัม มากสุดเป็นประวัติการณ์
วันพฤหัสบดีที่ 12 มกราคม 2566 เวลา 10.00 น. นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังการเป็นประธานในพิธีฝังทําลายชิ้นส่วนเครื่องในและเนื้อสุกรของกลางลักลอบนําเข้าผิดกฎหมาย ณ ศูนย์วิจัยและพัฒนาอาหารสัตว์เพชรบุรี อําเภอชะอํา จังหวัดเพชรบุรี ว่า กรมปศุสัตว์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ร่วมกันปฏิบัติงานบังคับใช้กฎหมาย ในกรณีของการตรวจสอบและดําเนินคดีกับผู้ลักลอบนําเข้าชิ้นส่วนเครื่องในและเนื้อสุกรอย่างเคร่งครัดเสมอมา การปราบปรามการลักลอบนําเข้าชิ้นส่วนเครื่องในและเนื้อสุกรอย่างผิดกฎหมาย เป็นการปกป้องเกษตรกรผู้เลี้ยงสุกรโดยเฉพาะรายย่อย และเป็นการคุ้มครองผู้บริโภค เนื่องจากชิ้นส่วนเครื่องในและเนื้อสุกรที่ลักลอบนําเข้าโดยไม่ผ่านการตรวจสอบอาจมีเชื้อโรคระบาดต่อสัตว์และไม่ปลอดภัยต่อผู้บริโภค รวมถึงทําลายกลไกราคาสุกรภายในประเทศ สร้างความเสียหายต่อระบบการเลี้ยงสุกรของประเทศไทยอย่างมหาศาล การฝังทําลายชิ้นส่วนเครื่องในและเนื้อสุกรของกลางในวันนี้ มีจํานวนมากถึง จํานวน 723,786 กิโลกรัม คิดเป็นมูลค่า 123 ล้านบาท ซึ่งจําเป็นต้องใช้รถบรรทุกสิบล้อพ่วง จํานวน 35 เที่ยว รถบรรทุกสิบล้อ จํานวน 3 เที่ยว รถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ จํานวน 1 เที่ยว ถือเป็นจํานวนมากที่สุดในประวัติศาสตร์ที่เคยดําเนินการมา "ขอให้พี่น้องเกษตรกรและผู้บริโภคมั่นใจว่ากระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้ปกป้องอาชีพของเกษตรกรและได้คุ้มครองสุขภาพของผู้บริโภคอย่างเต็มที่ และยังคงดําเนินการอย่างเข้มข้นต่อไป” นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน กล่าวด้าน น.สพ.สมชวน รัตนมังคลานนท์ อธิบดีกรมปศุสัตว์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ในปี พ.ศ.2565 ที่ผ่านมา กรมปศุสัตว์ได้สนธิกําลังกับเจ้าหน้าที่ตํารวจ ทหาร และกรมศุลกากร ดําเนินการบังคับใช้กฎหมายกรณีการลักลอบนําเข้าชิ้นส่วนเครื่องในและเนื้อสุกรจํานวนทั้งสิ้น 42 คดี, ปริมาณน้ําหนักรวม 1,089,514 กิโลกรัม, คิดเป็นมูลค่ากว่า 219 ล้านบาท การดําเนินการกับซากสุกรของกลาง แบ่งเป็น 3 ส่วน ดังนี้ ส่วนที่หนึ่งทําลายไปแล้ว จํานวน 179,612 กิโลกรัม คิดเป็นมูลค่า 71 ล้านบาท ส่วนที่สองอยู่ในระหว่างดําเนินคดี จํานวน 186,116 กิโลกรัม คิดเป็นมูลค่า 25 ล้านบาท เมื่อคดีสิ้นสุดจะได้ดําเนินการทําลายต่อไป และส่วนที่สามรวบรวมเพื่อทําลายในวันนี้ จํานวน 723,786 กิโลกรัม คิดเป็นมูลค่า 123 ล้านบาท ชิ้นส่วนเครื่องในและเนื้อสุกรของกลาง ส่วนใหญ่มีแหล่งผลิตมาจากต่างประเทศ เช่น ประเทศบราซิล ประเทศเยอรมนี ประเทศอิตาลี เป็นต้นทั้งนี้ วิธีการฝังทําลายชิ้นส่วนเครื่องในและเนื้อสุกรของกลางเป็นไปตามมาตรฐานขององค์การสุขภาพสัตว์โลก (World Organization for Animal Health หรือ WOAH) ซึ่งเป็นวิธีที่เหมาะสมในการทําลายซากและของเสียจากสัตว์ปริมาณมากที่สามารถทําได้ง่าย ประหยัดค่าใช้จ่าย มีประสิทธิภาพในการป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อโรค และไม่กระทบต่อสิ่งแวดล้อม
12/1/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สำนักพัฒนานโยบายและแผนการประชาสัมพันธ์
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230112162317457
null
ผู้ว่าฯ นราธิวาส เปิดงานวันถ่ายทอดเทคโนโลยี (Field Day) เพื่อเริ่มต้นฤดูกาลผลิตใหม่ ปี 2566 ที่แปลงนาบ้านโคก (ศูนย์เครือข่าย) อ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส
วันนี้ (12 ม.ค.66) นายสนั่น พงษ์อักษร ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส เปิดงานวันถ่ายทอดเทคโนโลยี (Field Day) เพื่อเริ่มต้นฤดูกาลผลิตใหม่ ปี 2566 ที่แปลงนาบ้านโคก (ศูนย์เครือข่าย) หมู่ที่ 5 ตําบลจวบ อําเภอเจาะไอร้อง จังหวัดนราธิวาส พร้อมกล่าวว่า การจัดงานในวันนี้ (12 ม.ค.66) ถือเป็นจุดเริ่มต้นการผลิตในฤดูเพาะปลูกใหม่ และเป็นโอกาสที่ดีของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ที่จะช่วยให้เกษตรกรได้รับการถ่ายทอดความรู้และเทคโนโลยี การเข้าถึงปัจจัยการผลิต ลดความเสี่ยงในการบริหารจัดการ การลดต้นทุนตลอดกระบวนการผลิต เกิดความเข้มแข็งในชุมชน พร้อมฝากเกษตรกรได้นําองค์ความรู้ที่ได้รับในแต่ละสถานีการเรียนรู้ไปประยุกต์ใช้ในไร่นา/สวน ของตน เพื่อให้การผลิตในฤดูกาลใหม่นี้เป็นการผลิตที่มีคุรภาพได้มาตรฐาน สามารถสร้างผลตอบแทนได้เป็นอย่างดี ด้านนายจตุรงค์ พรหมวิจิต เกษตรจังหวัดนราธิวาส กล่าวว่า การจัดงานฯ เพื่อกระตุ้นให้เกษตรกรได้เริ่มการผลิตในปีการเพาะปลูกใหม่ โดยใช้เทคโนโลยีและภูมิปัญญา ที่มีความเหมาะสมกับพื้นที่ ตลอดจนหน่วยงานต่าง ๆ ให้บริการด้านการเกษตรตามภารกิจ และเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ให้เกษตรกรรู้จักใช้ประโยชน์จากศูนย์เรียนรู้การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตร หรือ ศพก. สามารถนําองค์ความรู้ไปประยุกต์ใช้ ซึ่งจะช่วยให้เกษตรกรมีความเข้มแข็งและพึ่งพาตนเองได้ในระยะยาวทั้งนี้ มีประเด็นการเรียนรู้ การเพิ่มรายได้ ลดรายจ่าย การพัฒนาคุณภาพผลผลิตให้ได้มาตรฐาน การลดต้นทุนการผลิต การแปรรูปการผลิต ซึ่งมีการจัดสถานีเรียนรู้ จํานวน 10 สถานี นอกจากนี้ มีกิจกรรมการจัดนิทรรสการจากหน่วยงานบูรณาการ การจําหน่ายผลผลิตและผลิตภัณฑ์ของสถาบันเกษตรกรในพื้นที่ #สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
12/1/2023
ภาคใต้
นราธิวาส
สวท.นราธิวาส
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230112195322548
null
สำนักงานสิ่งแวดล้อมและควบคุมมลพิษที่ 11 ติดตามตรวจสอบคุณภาพแหล่งน้ำผิวดิน ครั้งที่ 1 ปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 จังหวัดนครราชสีมา
วันนี้(12 มกราคม 2566) สํานักงานสิ่งแวดล้อมและควบคุมมลพิษที่ 11 (นครราชสีมา) ดําเนินการเก็บตัวอย่างน้ํา และตรวจวัดคุณภาพน้ําภาคสนาม แม่น้ํามูลและลําตะคอง ในเขตพื้นที่อําเภอปากช่อง สีคิ้ว สูงเนินเฉลิมพระเกียรติ และอําเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา ตั้งแต่บริเวณสะพานลําตะคอง ตําบลขนงพระ อําเภอปากช่อง จนถึงบริเวณสะพานแม่น้ํามูล ตําบลท่าช้าง อําเภอเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดนครราชสีมา รวม 14 ตัวอย่างโดยส่งตรวจวิเคราะห์ผลคุณภาพน้ํา ณ ห้องปฏิบัติการสํานักงานสิ่งแวดล้อมและควบคุมมลพิษที่ 11 ซึ่งเป็นการดําเนินการภายใต้แผนปฏิบัติการโครงการ เฝ้าระวังคุณภาพแหล่งน้ําผิวดินครั้งที่ 1 ประจําปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ทั้งนี้ ผลที่ได้จากการติดตามตรวจสอบและประเมินผลคุณภาพน้ํา จะนําไปใช้ประกอบการจัดทํารายงานผลคุณภาพน้ํา ต่อกรมควบคุมมลพิษและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อใช้เป็นข้อมูลในการวางแผนการบริหารจัดการคุณภาพน้ําต่อไป#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
12/1/2023
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
นครราชสีมา
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนครราชสีมา
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230114125844083
null
สำนักงานสิ่งแวดล้อมและควบคุมมลพิษที่ 11 ร่วมประชุมชี้แจงความคืบหน้าการแก้ไขปัญหา กรณีเหตุร้องเรียนผลกระทบจากโรงงานหลอมพลาสติก จังหวัดนครราชสีมา
วันนี้ (12 มกกราคม 2566) นายบัญชา ขุนสูงเนิน ผู้อํานวยการส่วนตรวจและบังคับใช้กฎหมาย พร้อมด้วยนางสาวอัจฉรา อิ่มมณี นักวิชาการสิ่งแวดล้อมชํานาญการ และนายยศวพงศ์ วัชรมโนภาส นักวิชาการสิ่งแวดล้อมชํานาญการ ร่วมกับเทศบาลตําบลโพธิ์กลาง สํานักงานสาธารณสุขจังหวัดนครราชสีมา สถานีตํารวจภูธรเมืองนครราชสีมา ผู้นําชุมชนและประชาชนที่ได้รับผลกระทบ เข้าร่วมการประชุมชี้แจงความคืบหน้าการดําเนินการแก้ไขปัญหาผลกระทบจากการประกอบกิจการโรงงานบดย่อย และหลอมพลาสติก ณ วัดหนองบ่อ ตําบลโพธิ์กลาง อําเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา มีสาระสําคัญโดยสรุป ดังนี้ 1. สํานักงานสิ่งแวดล้อมและควบคุมมลพิษที่ 11 (นครราชสีมา) ได้ชี้แจงผลการตรวจคัดกรองก๊าซอันตรายบริเวณชุมชนที่ได้รับผลกระทบเมื่อวันที่ 16 ธันวาคม 2565 ซึ่งตรวจพบก๊าซอันตรายที่มีแนวโน้มส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน จํานวน 3 ชนิด ได้แก่ Phosphine, Furan และ Phosgene จึงแจ้งผลการตรวจสอบไปยังเทศบาลตําบลโพธิ์กลาง และอุตสาหกรรมจังหวัดนครราชสีมาให้พิจารณาดําเนินการกํากับควบคุมตามอํานาจหน้าที่แล้ว 2. เทศบาลตําบลโพธิ์กลางได้ออกคําสั่งให้ผู้ประกอบการหยุดประกอบการเพื่อปรับปรุงแก้ไข แต่ยังคงมีการประกอบกิจการอย่างต่อเนื่อง จึงแจ้งความร้องทุกข์ กล่าวโทษต่อเจ้าพนักงานสอบสวนเพื่อดําเนินคดีข้อหาฝ่าฝืนคําสั่งเจ้าพนักงานควบคุมมลพิษ ในขณะนี้เจ้าพนักงานสอบสวนได้ส่งสํานวนไปให้อัยการจังหวัดนครราชสีมาพิจารณา ซึ่งพนักงานอัยการแจ้งให้พนักงานสอบสวนดําเนินการสอบสวนข้อมูลเพิ่มเติม โดยเทศบาลตําบลโพธิ์กลางจะประสานสถานีตํารวจภูธรเมืองนครราชสีมา และอัยการจังหวัดนครราชสีมา เพื่อติดตามความคืบหน้าของการดําเนินการทางกฎหมายดังกล่าว ต่อไป#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
12/1/2023
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
นครราชสีมา
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนครราชสีมา
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230114141321119
null
สำนักงานสิ่งแวดล้อมและควบคุมมลพิษที่ 11 ตรวจสอบการระบายน้ำทิ้งจากโรงงานบด ย่อย และหลอมพลาสติก จังหวัดนครราชสีมา
วันนี้(12 มกกราคม 2566) นายบัญชา ขุนสูงเนิน ผู้อํานวยการส่วนตรวจและบังคับใช้กกฎหมาย พร้อมด้วยนางสาวอัจฉรา อิ่มมณี นักวิชาการสิ่งแวดล้อมชํานาญการ และนายยศวพงศ์ วัชรมโนภาส นักวิชาการสิ่งแวดล้อมชํานาญการ ร่วมกับเทศบาลตําบลโพธิ์กลาง และผู้นําชุมชนในพื้นที่ ตรวจสอบข้อเท็จจริงเหตุร้องเรียนผลกระทบการระบายน้ําเสียจากโรงงานบด ย่อย และหลอมพลาสติก ในพื้นที่ตําบลโพธิ์กลาง อําเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมาผลการตรวจสอบพบว่ามีการระบายน้ําทิ้งออกจากโรงงาน 1 จุด จึงเก็บตัวอย่างน้ําทิ้งที่ระบายออกสู่ภายนอกไปตรวจสอบในห้องปฏิบัติการ จํานวน 1 ตัวอย่าง โดยสํานักงานสิ่งแวดล้อมและควบคุมมลพิษที่ 11 (นครราชสีมา) จะแจ้งผลการตรวจสอบไปยังเทศบาลตําบลโพธิ์กลาง และสํานักงานอุตสาหกรรมจังหวัดนครราชสีมา เพื่อพิจารณากํากับ ควบคุมการประกอบกิจการตามอํานาจหน้าที่ ต่อไป#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
12/1/2023
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
นครราชสีมา
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนครราชสีมา
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230114141532121
null
พัฒนาที่ดินนครราชสีมา จัดนิทรรศการให้ความรู้ “กิจกรรมส่งเสริมการหยุดเผาในพื้นที่การเกษตร” ปี 2566 พื้นที่ต.คลองม่วง อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา
วันนี้ (12 มกราคม 2566) เวลา 08.30 น. นายอุดม ราสูงเนิน นักวิชาการเกษตร ดําเนินการ! ร่วมจัดนิทรรศการให้ความรู้ “กิจกรรมส่งเสริมการหยุดเผาในพื้นที่การเกษตร” ประจําปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 โดยสํานักงานเกษตรอําเภอปากช่อง ณ ศาลาประชาคมบ้านวังสีสด หมู่ที่ 3 ตําบลคลองม่วง อําเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา ในการจัดกิจกรรมฯ ได้เล็งเห็นความสําคัญกับปัญหาหมอกควันปกคลุมและเกิดมลพิษทางอากาศในช่วงฤดูแล้งเป็นประจําทุกปี สาเหตุอาจเกิดมาจากการเผาในพื้นที่ป่าและพื้นที่การเกษตร ซึ่งการเผาดังกล่าว ส่งผลเสียต่อการทําอาชีพการเกษตรโดยตรง ทําให้ดินเสื่อมโทรม ขาดความอุดมสมบูรณ์ อีกทั้งเป็นสาเหตุที่ทําให้เกิดปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM2.5) สร้างความเสียหายต่อทรัพย์สิน รวมถึงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ก่อให้เกิดผลเสียต่อสุขภาพอนามัยของประชาชนเป็นอย่างมาก จึงได้มีการรณรงค์สร้างความรู้ความเข้าใจให้เกษตรกรตระหนักถึงผลกระทบที่เกิดขึ้น พร้อมนําเสนอทางเลือกในการใช้เทคโนโลยีการเกษตรทดแทนการเผา สร้างการมีส่วนร่วมของเกษตรกรในการป้องกันและแก้ไขปัญหาการเผา รวมทั้งสร้างต้นแบบในการทําเกษตรปลอดการเผาเพื่อสนับสนุนการหยุดเผาในพื้นที่การเกษตร ต่อไป#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
12/1/2023
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
นครราชสีมา
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนครราชสีมา
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230114142409123
null
เกษตรโคราช จัดประชุมคณะกรรมการกลุ่มแม่บ้านเกษตรกรระดับจังหวัด จังหวัดนครราชสีมา
วันนี้ 12 มกราคม 2566 นายสุรพล ชมภู หัวหน้ากลุ่มส่งเสริมและพัฒนาการผลิต รักษาราชการแทนเกษตรจังหวัดนครราชสีมา เป็นประธานเปิดการประชุมคณะกรรมการกลุ่มแม่บ้านเกษตรกรระดับจังหวัด จังหวัดนครราชสีมา ครั้งที่ 1/2566 ณ ห้องประชุมสํานักงานเกษตรจังหวัดนครราชสีมา ชั้น 2 พร้อมด้วย นางสาวสมนิตย์ เหล็กอุ่นวงษ์ เกษตรอําเภอเมืองนครราชสีมา รักษาการในตําแหน่ง หัวหน้ากลุ่มส่งเสริมและพัฒนาเกษตรกร และเจ้าหน้าที่กลุ่มส่งเสริมและพัฒนาเกษตรกร สํานักงานเกษตรจังหวัดนครราชสีมา ร่วมประชุมเพื่อแจ้งผลการขับเคลื่อนงานกลุ่มแม่บ้านเกษตรกร ระดับตําบล ระดับอําเภอ และระดับจังหวัด ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2565นอกจากนี้ยังร่วมกันวางแผนการพัฒนาขับเคลื่อนงานแม่บ้านเกษตรกรของจังหวัดนครราชสีมา ในปี 2566 โดยเน้นการมีส่วนร่วมของกลุ่มแม่บ้านเกษตรกรทุกอําเภอ เพื่อให้เห็นการพัฒนาที่เป็นรูปธรรม#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
12/1/2023
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
นครราชสีมา
สวท.นครราชสีมา
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230113123052691
null
จังหวัดตรัง ลุยตรวจสอบสถานการณ์การรับซื้อผลผลิตปาล์มน้ำมันจากเกษตรกรที่กำลังประสบปัญหาปริมาณปาล์มออกสู่ตลาดจำนวนมาก และตรวจสอบสต็อกน้ำมันปาล์มดิบคงเหลือทั้งระบบ
คณะทํางานตรวจสอบสต็อกน้ํามันปาล์มคงเหลือทั้งระบบระดับจังหวัดตรัง เข้าตรวจสอบสถานการณ์การรับซื้อผลผลิตปาล์มน้ํามันจากเกษตรกรที่กําลังประสบปัญหาปริมาณปาล์มออกสู่ตลาดจํานวนมาก และตรวจสอบสต็อกน้ํามันปาล์มดิบคงเหลือทั้งระบบของจังหวัดตรัง ของโรงงานสกัดน้ํามันปาล์มทั้ง 5 แห่งในพื้นที่ นางทิพยรัตน์ สมทอง ผู้อํานวยการกลุ่มกํากับและพัฒนาเศรษฐกิจการค้า สํานักงานพาณิชย์จังหวัดตรัง เปิดเผยว่า แต่ละโรงงานมีรถบรรทุกขนผลผลิตปาล์มมาจอดรอเป็นจํานวนมาก เป็นรถบรรทุกจากลานเทภายในจังหวัดตรัง และจังหวัดใกล้เคียงที่โรงงานเคยส่งประจําปิดการรับซื้อ แต่หากเป็นรถยนต์กระบะของเกษตรกรโดยตรง ทุกโรงงานจะอนุญาตให้เข้าไปชั่งน้ําหนักขายได้ในทันที ไม่ต้องจอดรอคิว ขณะที่ภายในโรงงานทั้ง 5 แห่ง พบว่าพนักงานต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในการสกัดน้ํามันปาล์ม เพื่อเร่งระบายผลผลิตปาล์มน้ํามัน ขณะการตรวจสต็อกปริมาณน้ํามันปาล์มคงเหลือภายในถังน้ํามันต่างๆ ของโรงงาน มีประมาณ 8,000 - 10,000 ตัน ซึ่งเป็นปริมาณสต็อกปกติ ส่วนราคาการรับซื้อผลปาล์มดิบลดลงจากเมื่อวานนี้ จึงขอให้เกษตรกรชะลอการตัดหรือยืดเวลาการตัดปาล์มน้ํามันออกไปก่อน#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
13/1/2023
ภาคใต้
ตรัง
สวท.ตรัง
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230113091352590
null
เกษตรสุรินทร์ ติดตามการจัดเวทีถ่ายทอดความรู้การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ (หลังฤดูทำนา) ณ อำเภอบัวเชด
นายชิตะภัทร โพธิ์แสน นักวิชาการส่งเสริมการเกษตรชํานาญ พร้อมด้วยนางสาววราภรณ์ จรจรัญ นักวิชาการส่งเสริมการเกษตรชํานาญการ กลุ่มส่งเสริมและพัฒนาการผลิต สํานักงานเกษตรจังหวัดสุรินทร์ ติดตามการจัดเวทีถ่ายทอดความรู้การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ (หลังฤดูทํานา) ณ อําเภอบัวเชด จังหวัดสุรินทร์ ดําเนินการจัดโดยสํานักงานเกษตรอําเภอเถินกาบเชิง โดยได้รับการสนับสนุนวิทยากรจากศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรจังหวัดสุรินทร์ บรรยายหัวข้อเทคโนโลยีการผลิตข้าวโพดเลี้ยงสัตว์หลังฤดูทํานา และทีมวิทยากรจากบริษัทสยามคูโบต้า แทรคเตอร์ แอนด์ คอมบาย สาธิตการใช้เครื่องจักรในการเตรียมแปลงปลูก และการใช้โครนการเกษตรในการฉีดพ่นธาตุอาหารพืช โดยมีนางจริยา ดีเสมอ เกษตรอําเภอบัวเชด และเจ้าหน้าที่ร่วมให้การสนับสนุน#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
13/1/2023
null
สุรินทร์
สวท.สุรินทร์
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230114134729110
null
สำนักงานเกษตรจังหวัดกาญจนบุรี จัดงานคลินิกเกษตรเคลื่อนที่ในพระราชานุเคราะห์ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ออกหน่วยให้บริการแก่ประชาชน
ที่ หอประชุมโรงเรียนบ้านกุยแหย่ อําเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี ว่าที่ร้อยตรีศุภมงคล บูชาถ่ายเทศ รองผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี เป็นประธานเปิดงานคลินิกเกษตรเคลื่อนที่ ในพระราชานุเคราะห์ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช ฯ สยามมกุฎราชกุมาร ครั้งที่ 1 ประจําปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 โดยมีหน่วยงานสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ในจังหวัดกาญจนบุรี ส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง และภาคเอกชน ร่วมให้บริการด้านการเกษตรแก่เกษตรกร การจัดงานในครั้งนี้ ได้ให้บริการทางวิชาการด้านการเกษตรแก่เกษตรกร จํานวน 19 คลินิก เน้นการแก้ไขปัญหาเร่งด่วน การให้คําปรึกษา แนะนํา วิเคราะห์ วิจัย พร้อมสนับสนุนวัสดุการเกษตร ให้กับเกษตรกร โดยเป็นการปฏิบัติงานในเชิงรุกที่ทําให้เกษตรกรในพื้นที่เป้าหมายได้รับบริการ ทางการเกษตรอย่างรวดเร็ว สร้างแรงดึงดูดใจและกระตุ้นให้เกษตรกรตื่นตัว ยอมรับเทคโนโลยีใหม่ ๆ เพื่อช่วยแก้ไขปัญหาของเกษตรกร และรับบริการได้อย่างถูกต้องครบถ้วน ณัฏฐภัส เหลืองพฤกษชาติ / สวท.กาญจนบุรี#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
13/1/2023
ภาคตะวันตก
กาญจนบุรี
สวท.กาญจนบุรี
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230113093249595
null
มทร.ศรีวิชัย วิทยาเขตตรัง ส่งมอบลูกพันธุ์หอยนางรมแก่เกษตรกรต้นแบบ โครงการวิจัย “การส่งเสริมการเลี้ยงหอยนางรมแก่เกษตรกรชุมชนชายฝั่งเพื่อสร้างเศรษฐกิจหมุนเวียนในธุรกิจประมง”
ที่ห้องประชุมใหญ่ อาคารเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา 5 ธันวาคม 2550 มทร.ศรีวิชัย วิทยาเขตตรัง คณะผู้บริหารมหาวิทยาลัย นําโดยศาสตราจารย์ ดร.สุวัจน์ ธัญรส อธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย เป็นประธานในพิธีเปิดงานส่งมอบลูกพันธุ์หอยนางรมแก่เกษตรกรต้นแบบ โครงการวิจัย “การส่งเสริมการเลี้ยงหอยนางรมแก่เกษตรกรชุมชนชายฝั่งเพื่อสร้างเศรษฐกิจหมุนเวียนในธุรกิจประมง” พร้อมกับบรรยายพิเศษเรื่อง “แนวโน้มการเพาะเลี้ยงหอยนางรม” ให้กับผู้เข้าร่วมงานโดยมี ผศ. ดร.ประเสริฐ ทองหนูนุ้ย คณบดีคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการประมง ร่วมบรรยายพิเศษในหัวข้อการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ําในคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการประมง และ คุณณัฐรัฐ พรเดชอนันต์ ประมงจังหวัดตรัง ร่วมบรรยายพิเศษ ในหัวข้อระเบียบข้อบังคับการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ําชายฝั่งผศ.ดร.สุพัชชา ชูเสียงแจ้ว อาจารย์ประจําสาขาเพาะเลี้ยงสัตว์น้ําและผลิตภัณฑ์ประมง คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการประมง หัวหน้าโครงการ “การส่งเสริมการเลี้ยงหอยนางรมแก่เกษตรกรชุมชนชายฝั่งเพื่อสร้างเศรษฐกิจหมุนเวียนในธุรกิจประมง” กล่าวว่า โครงการดังกล่าวได้รับการสนับสนุนจาก สํานักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) จากเดิมได้มีการถ่ายทอดความรู้สู่เกษตรกรผู้เลี้ยงหอยนางรม พบปัญหาการขาดแคลนลูกพันธุ์หอยนางรมเนื่องจากปริมาณลูกพันธุ์หอยนางรมในธรรมชาติลดลงไม่สอดคล้องกับความต้องการของผู้บริโภค ส่งผลให้ปัจจุบันราคาลูกพันธ์หอยนางรมขยับสูงขึ้น ซึ่งการเพาะพันธุ์เพื่อผลิตลูกหอยนางรมจากโรงเพาะฟักจึงเป็นแนวทางสําคัญในการแก้ปัญหาการขาดแคลนลูกพันธ์หอยดังกล่าว เนื่องจากสามารถควบคุมการผลิตทั้งในด้านปริมาณและคุณภาพ ปัจจุบันคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการประมง มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย สามารถผลิตลูกพันธุ์หอยนางรมจากโรงเพาะฟักได้อย่างมีคุณภาพ อีกทั้งยังสามารถถ่ายทอดรูปแบบและวิธีการผลิตสู่เกษตรกรต้นแบบ ดังนั้น เพื่อส่งเสริมการเพาะเลี้ยงหอยนางรม และ พัฒนาทักษะเกษตรกรผู้เลี้ยงหอยนางรม คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการประมง มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย จึงจัดกิจกรรมส่งมอบลูกพันธ์หอยนางรมแก่เกษตรกรต้นแบบ โดยส่งมอบลูกพันธ์หอยนางรมจากโรงเพาะฟักขนาด 3-5 เซนติเมตร แก่เกษตรกรในพื้นที่ชุมชนชายฝั่งของจังหวัดตรัง จังหวัดกระบี่ และ จังหวัดสุราษฎร์ธานี เพื่อให้เกษตรกรสามารถนําไปเลี้ยงต่อในรูปแบบต่าง ๆ ตามบริบทของพื้นที่สําหรับจําหน่ายต่อไปการจัดกิจกรรมในครั้งนี้มีผู้เข้าร่วม ซึ่งเป็นเกษตรกรและตัวแทนจากองค์การบริหารส่วนตําบลจากชุมชนชายฝั่ง จํานวน 5 ชุมชน ได้แก่ ชุมชนบ้านเกาะลิบง และชุมชนบ้านแหลม อําเภอกันตัง จังหวัดตรัง ชุมชนบ้านแหลมมะขาม อําเภอสิเกา จังหวัดตรัง ชุมชนบ้านทรายขาว อําเภอคลองท่อม จังหวัดกระบี่ และ ชุมชนบ้านพลายวาส อําเภอกาญจนดิษฐ์ จังหวัดสุราษฎร์ธานี นอกจากนั้นยังมีการจัดนิทรรศการนําเสนอผลงานวิจัย เรื่องหอยนางรมและผลผลิตจากการเพาะเลี้ยง และการแปรรูปหอยนางรมแก่เกษตรกรชุมชนชายฝั่งเพื่อสร้างเศรษฐกิจหมุนเวียนในธุรกิจประมง” จากคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการประมงอีกด้วย #สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
13/1/2023
ภาคใต้
ตรัง
สวท.ตรัง
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230113101412618
null
กลุ่มอารักขาพืช สำนักงานเกษตรจังหวัดตรัง จัดอบรมกิจกรรมส่งเสริมการใช้เครื่องจักรกลทางการเกษตรทดแทนแรงงานเกษตร
นายวสันต์ สุขสุวรรณ เกษตรจังหวัดตรัง เป็นประธานเปิดการจัดอบรมกิจกรรมส่งเสริมการใช้เครื่องจักรกลทางการเกษตรทดแทนแรงงานเกษตร พร้อมทั้งให้คําแนะนําแก่เกษตรกรในการนําความรู้ที่ได้จากการอบรม ไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจําวันเพื่อเป็นลดต้นทุนการผลิต ภายใต้โครงการส่งเสริมการใช้เครื่องจักรกลทางการเกษตร ปี 2566 ณ วิทยาลัยสารพัดช่างตรัง ตําบลนาตาล่วง อําเภอเมืองตรัง จังหวัดตรัง โดยมีเกษตรกรเป้าหมายเข้าร่วม 25 ราย ทั้งนี้ เพื่อส่งเสริมการใช้เครื่องจักรกลทางการเกษตรทดแทนแรงงาน สามารถลดต้นทุนการผลิตและเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการ โดย นางสุภัชชา ณ พัทลุง หัวหน้ากลุ่มอารักขาพืช พร้อมเจ้าหน้าที่กลุ่มอารักขาพืช ได้ประสานนายชยุต คงเมือง เป็นวิทยากรถ่ายทอดความรู้ การใช้และบํารุงรักษาเครื่องยนต์เกษตร ก่อน-หลังใช้งาน การเลือกใช้น้ํามันเครื่อง การจําแนกและการเลือกใช้อะไหล่แท้จากบริษัทผู้ผลิต ร่วมถึงถ่ายทอดประสบการณ์ในเรื่องการใช้ ดูแล ซ่อมแซมเครื่องตัดหญ้าเบื้องต้น เพื่อให้ผู้เข้าร่วมกิจกรรมได้เข้าใจ ถึงหลักการ พร้อมทั้งแนะเทคนิคต่างๆ ในการใช้เครื่องตัดหญ้าอีกด้วย #สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
13/1/2023
ภาคใต้
ตรัง
สวท.ตรัง
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230113101401617
null
ก.ทรัพย์ และ องค์กรต่อต้านคอรัปชัน (ประเทศไทย) ค.ป.ท. ลงนามข้อตกลงคุณธรรมความร่วมมือป้องกันการทุจริตในการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ ในโครงการจัดสร้างพิพิธภัณฑ์องค์ความรู้เรื่องไม้มีค่าฯ เพื่อใช้เงินงบประมาณอย่างคุ้มค่าและโปร่งใส่
กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และ องค์กรต่อต้านคอรัปชัน (ประเทศไทย) ค.ป.ท. ลงนามข้อตกลงคุณธรรมความร่วมมือป้องกันการทุจริตในการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ ในโครงการจัดสร้างพิพิธภัณฑ์องค์ความรู้เรื่องไม้มีค่าฯ เพื่อใช้เงินงบประมาณอย่างคุ้มค่าและโปร่งใส่ นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พร้อมด้วย องค์กรต่อต้านคอรัปชัน (ประเทศไทย) ค.ป.ท. และกรมบัญชีกลาง ได้ร่วมลงนามข้อตกลงคุณธรรม (Integrity Pact) ความร่วมมือป้องกันการทุจริตในการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ ในโครงการจัดสร้างพิพิธภัณฑ์องค์ความรู้เรื่องไม้มีค่าเพื่อประโยชน์ของแผ่นดินเฉลิมพระเกียรติ เนื่องในโอกาสมหามงคลพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ระยะที่ 2 (ค่าก่อสร้างอาคารพิพิธภัณฑ์ : ค่าตกแต่งสถาปัตยกรรม การตกแต่งภายใน ระบบสาธารณูปโภค) เขตวังทองหลาง กรุงเทพมหานคร วงเงินงบประมาณกว่า 2,061 ล้านบาท เพื่อให้การใช้เงินงบประมาณเป็นไปอย่างคุ้มค่า มีประสิทธิผล มีการจัดซื้อจัดจ้างด้วยความสุจริต โปร่งใส และเป็นธรรมขึ้น สิ่งสําคัญสร้างความร่วมมือป้องกันการทุจริตในการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ ตามพระราชบัญญัติการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560 มาตรา 17 และมาตรา 18 ในโครงการจัดสร้างพิพิธภัณฑ์องค์ความรู้เรื่องไม้มีค่าฯ ทั้งนี้ หน่วยงานภาครัฐเจ้าของโครงการต้องเปิดเผยข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการจัดซื้อจัดจ้างของโครงการทุกขั้นตอน เพื่อเปิดโอกาสให้ประชาชนมีส่วนร่วมตรวจสอบกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐได้ มีการปฏิบัติต่อผู้เสนอราคาทุกรายอย่างเท่าเทียม มีมาตรการป้องกันการกระทําที่อาจส่อไปในทางทุจริต และอํานวยความสะดวกให้ผู้สังเกตการณ์เข้าร่วมสังเกตการณ์ในทุกขั้นตอนของการจัดซื้อจัดจ้าง
13/1/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230113123029690
null
คณะกรรมการตรวจสอบวินัยร้ายแรง อธิบดีกรมอุทยานฯ เตรียมสืบสวนสอบสวนพยานบุคคลและพยานหลักฐานทั้งหมด โดยวางกรอบเร่งดำเนินการภายใน 30 วัน หากผิดจริงให้ออกจากราชการทันที
คณะกรรมการตรวจสอบวินัยร้ายแรง อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช เตรียมสืบสวนสอบสวนพยานบุคคลและพยานหลักฐานทั้งหมด โดยวางกรอบเร่งดําเนินการภายใน 30 วัน หากผิดจริงให้ออกจากราชการทันที นายเถลิงศักดิ์ เพ็ชรสุวรรณ รองปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในฐานะประธานคณะกรรมการตรวจสอบวินัยร้ายแรงฯ กล่าวถึงความคืบหน้ากรณีการสอบวินัย นายรัชฎา สุริยกุล ณ อยุธยา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช เรียกรับผลประโยชน์จากหน่วยงานในสังกัดกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืชว่า เบื้องต้นได้ประชุมอย่างไม่เป็นทางการแล้วภายในคณะกรรมการตรวจสอบวินัยร้ายแรงที่แต่งตั้งขึ้น เพื่อกําหนดกรอบสืบสวนสอบสวนพยานหลักฐานและพยานบุคคลที่มีรายชื่ออยู่บนซองเงินและบุคคลที่เกี่ยวข้อง รวมถึง นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ผู้อํานวยการสํานักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 9 (อุบลราชธานี) เพื่อรวมรวบพยานหลักฐานให้แล้วเสร็จทั้งหมด ก่อนที่จะเรียก นายรัชฎาฯ เข้ามารับทราบข้อกล่าวหา โดยเน้นตรวจสอบแหล่งที่มาที่ไปของเงิน 2 ก้อน คือ ก้อนแรก 98,000 บาท และ ก้อนที่ 2 จํานวน 4.9 ล้านบาท ที่พบใส่ซองในห้องทํางานของอธิบดีกรมอุทยานฯ จากนั้นจะเชิญพยานบุคคลที่เกี่ยวข้องมาให้ข้อมูลและสอบปากคําเพิ่มเติม เบื้องต้นบุคคลดังกล่าวจะเป็นพยานในคดีนี้ ซึ่งจะต้องรวบรวมพยานหลักฐานให้ละเอียดและแน่นหนาที่จะนําข้อมูลไปเทียบข้อมูลกับคณะกรรมการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (ปปป.) ว่าตรงกันหรือไม่ ก่อนจะนําไปพิจารณาบทลงโทษทางวินัย หากมีความผิดจริงตามข้อมูลพยานหลักฐาน โทษสูงสุด คือ ให้ออกจากราชการ ส่วนกระบวนการทางอาญาเป็นอํานาจหน้าที่ของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) และคณะกรรมการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (ปปป.) โดย นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้กําชับให้เร่งดําเนินการสืบสวนสอบสวนข้อเท็จจริงให้เร็วที่สุดและพยายามจะไม่ให้เกิน 30 วัน เพราะเป็นเรื่องที่สังคมให้ความสนใจและต้องการพิสูจน์ความโปร่งใสการทํางานของกระทรวงทรัพย์ฯด้วย รองปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวย้ําว่า การดําเนินการสืบสวนสอบสวนแม้ไม่รู้สึกกังวลมากนัก แต่มีความกดดันเล็กน้อย แต่ยืนยันปฏิบัติตามกรอบและระเบียบของทางราชการอยู่แล้ว โดยจะทําอย่างตรงไปตรงมาและดูตามพยานหลักฐานที่มีอยู่ คาดว่า คณะกรรมการชุดนี้จะเริ่มประชุมนัดแรกอย่างเป็นทางการได้สัปดาห์หน้า
13/1/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230113120749688
null
ผู้ว่าฯ ลำปาง นำหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมประชุมประสานแนวทางป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าหมอกควันและฝุ่นละอองภาคเหนือ
วันที่ 13 มกราคม 2566 เวลา 09.30 น. ที่ห้องประชุม กอ.รมน.จังหวัดลําปาง ศาลากลางจังหวัดลําปาง นายชัชวาลย์ ฉายะบุตร ผู้ว่าราชการจังหวัดลําปาง นําหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุมประสานแนวทางป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าหมอกควันและฝุ่นละอองภาคเหนือ ประจําปี 2566 (ผ่านระบบ Zoom) โดยมี พลโท สุริยะ เอี่ยมสุโร แม่ทัพภาคที่ 3 /ผู้อํานวยการศูนย์อํานวยการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควันภาค 3 เป็นประธานในการประชุมในครั้งนี้ เพื่อให้การดําเนินการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าหมอกควันและฝุ่นละอองในพื้นที่ 17 จังหวัดภาคเหนือ เกิดความยั่งยืนและเป็นรูปธรรมตามนโยบายของกองทัพภาคที่ 3 และกองทัพบก โดยในที่ประชุมได้มีภาคส่วนที่เกี่ยวข้องร่วมรับฟังและนําเสนอผลการดําเนินงาน รวมถึงการจัดเตรียมแผนการดําเนินงานการแก้ไขปัญหาไฟป่าหมอกควันและฝุ่นละอองในแต่ละพื้นที่ 17 จังหวัดภาคเหนือ#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
13/1/2023
ภาคเหนือ
ลำปาง
สวท.ลำปาง
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230113132323711
null
จังหวัดกระบี่ เรียกประชุมหารือหน่วยงานเกี่ยวข้องเร่งแก้ปัญหาลานเทและโรงงานสกัดน้ำมันปาล์ม หยุดรับซื้อผลปาล์มน้ำมัน
เมื่อวันที่ 12 มกราคม 2566 เวลา 10.00 น. ที่ห้องประชุมราชสีห์ชั้น 4 ศาลากลางจังหวัดกระบี่ นายภาสกร บุญญลักษม์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ มอบหมายให้ นายสมชาย หาญภักดีปฏิมา รองผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ เป็นประธานการประชุม หารือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มีนางวิภารัตน์ ภูเก้าล้วน พาณิชย์จังหวัดกระบี่ นายชํานาญ นุ่นดํา เกษตรจังหวัดกระบี่ นายวัชรินทร์ ไชยานุพงศ์ อุตสาหกรรมจังหวัด นายเกียรติศักดิ์นารีเลิศ เกษตรและสหกรณ์จังหวัดกระบี่ นายพันศักดิ์ จิตรรัตน์ ประธานสภาเกษตรกรจังหวัดกระบี่และผู้แทนกลุ่มเกษตรกร ร่วมประชุมหารือเพื่อแก้ไขปัญหา กรณี ตัวแทนกลุ่มเกษตรกรนําโดย นายพันศักดิ์ จิตรรัตน์ ประธานสภาเกษตรกรจังหวัดกระบี่ตัวแทนสมาชิกแปลงใหญ่ ปาล์มน้ํามันจังหวัดกระบี่ ลานเทปาล์มน้ํามัน และเกษตรกรชาวสวนปาล์มน้ํามัน ได้ยื่นหนังสือต่อผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ เมื่อวันที่ 11 มกราคม2566 ที่ผ่านมา เพื่อแก้ปัญหาลานเทและโรงงานสกัดน้ํามันปาล์ม หยุดรับซื้อผลปาล์มน้ํามันโดยที่ประชุมได้ร่วมกันหารือถึงปัญหาการหยุดรับซื้อผลปาล์มน้ํามันของผู้ประกอบการลานเทปาล์ม พบว่า โรงงานสกัดฯ ยังเปิดรับซื้อตามปกติ แต่เนื่องจากช่วงเทศกาลปีใหม่ลานเทและโรงงานสกัดน้ํามันปาล์มส่วนใหญ่ปิดรับซื้อ ตั้งแต่วันที่ 25 ธ.ค. 65 และเริ่มเปิดรับซื้อในวันที่ 2 ม.ค. 66 เกษตรกรที่มีรอบเก็บเกี่ยวในช่วงปีใหม่และมีผลปาล์มสุกเต็มที่ ต้องเร่งเก็บเกี่ยวพร้อมๆ กัน ส่งผลให้ปริมาณผลปาล์มที่เข้าสู่ตลาดมากกว่าปกติ เกินกําลังการผลิตของโรงงานฯ ทําให้บางรายต้องเร่งเคลียร์ผลผลิตปาล์มน้ํามันที่มีอยู่ก่อน และรถบรรทุกต้องรอคิวนานกว่าปกติหลังจากได้ทราบข้อเท็จจริงแล้วที่ประชุมจึงมีมติมอบหมายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปดําเนินการดังนี้1.ให้สํานักงานเกษตรจังหวัด สํานักงานสหกรณ์จังหวัด และสํานักงานสภาเกษตรกรจังหวัดประชาสัมพันธ์ให้เกษตรกรผู้ปลูกปาล์มน้ํามันชะลอการเก็บเกี่ยวผลผลิตในห้วงระยะเวลาหนึ่งจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย2.ให้สํานักงานพาณิชย์จังหวัด ขอความร่วมมือผุ้ประกอบการลานเทให้เปิดรับซื้อผลผลิตปาล์มน้ํามันเพื่อช่วยเกษตรกร3.ให้สํานักงานอุตสาหกรรมจังหวัด ขอความร่วมมือโรงงานสกัดฯ ให้ดําเนินการ ดังนี้ 1.จัดทําแผนเปิด -ปิด แผนรองรับการรับซื้อ ของโรงงานล่วงหน้าในช่วงเทศกาลสําคัญและหรือช่วงที่ซ่อมบํารุงเครื่องจักร 2.เร่งกระบวนการผลิต ( Capacity ) เพื่อรับซื้อผลปาล์มจากผู้ประกอบการลานเทและเพิ่มช่องทาง ( Expressway ) 3.เร่งรัดโรงงานสกัดปาล์มน้ํามัน ที่ปิดซ่อมบํารุงเครื่องจักรให้เปิดดําเนินการรับซื้อผลผลิต เพื่อช่วยเหลือเกษตรกร ในส่วนของโรงงานสกัดฯ ที่ยังไม่ปิดซ่อมบํารุงเครื่องจักร ให้ชะลอหรือเลื่อนการปรับปรุงออกไปก่อน จนกว่าสถานการณ์เข้าสู่ปกติ คาดหวังว่าสถานการณ์จะคลี่คลายและเข้าสู่ภาวะปกติกลางเดือน ม.ค. 66 #สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
13/1/2023
ภาคใต้
กระบี่
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดกระบี่
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230113150536761
null
กรมอุตุนิยมวิทยา แจ้งสภาพอากาศกรุงเทพมหานครและปริมณฑลระยะนี้ อากาศนิ่งและมีลมอ่อนทำให้เกิดหมอกบางตอนเช้า
เพจกรมอุตุนิยมวิทยา ชี้แจงกรณีที่การเผยแพร่ภาพและข้อความเกี่ยวกับสภาพอากาศในตอนเช้าที่มีลักษณะคล้ายหมอก หรือ PM 2.5 บริเวณกรุงเทพมหานคร อาจส่งผลกระทบต่อการดําเนินชีวิตหรือต่อสุขภาพของประชาชนในพื้นที่ ว่า จากการติดตามและคาดการณ์สภาพอากาศในระยะ 2-3 วันนี้ บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นที่ปกคลุมประเทศไทยมีกําลังอ่อน ประกอบกับมีคลื่นกระแสลมฝ่ายตะวันตกปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีลมตะวันออกเฉียงใต้พัดนําความชื่นจากทะเลจีนใต้เข้าปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหาครและปริมณฑล และภาคตะวันออก ทําให้ประเทศไทยตอนบนยังมีอากาศเย็นถึงหนาว และมีหมอกบางในตอนเช้า กับมีฝนบางแห่งเกิดขึ้นได้ สําหรับกรุงเทพมหานคร ได้รับอิทธิพลจากลมตะวันออกเฉียงใต้เช่นเดียวกัน เป็นลมที่พัดจากทะเลนําความชื้นเข้าปกคลุมก่อให้เกิดหมอกเหนือพื้นดินได้ในเวลากลางคืนและจากหายไปในเวลาเช้าภายหลังดวงอาทิตย์ขึ้น เกิดจากตอนกลางคืนพื้นดินจะคลายความร้อน หรือแผ่รังสีออกได้มากเป็นเหตุให้พื้นดินเย็นลง อากาศในชั้นล่างที่อยู่ใกล้พื้นดินจะเย็นลงด้วย จนมีอุณหภูมิเท่ากับจุดน้ําค้างทําให้ไอน้ําในอากาศที่อยู่ใกล้พื้นดินกลั่นตัวเกิดเป็นหมอก โดยลักษณะอากาศที่นิ่งและลมอ่อน ประกอบกับช่วงเช้ากิจกรรมของคนในเขตเมืองเพิ่มมากขึ้น ทําให้เกิดฝุ่นละอองมากขึ้นในตอนเช้า จึงเกิดการคลุกเคล้าของหมอกและฝุ่นรวมกันได้ ส่งผลให้ทัศนวิสัยการมองเห็นลดลง
13/1/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230113154325779
null
ชาวบ้านในตำบลยะรม อำเภอเบตง จังหวัดยะลา ดำเนินโครงการจัดทำถังขยะเปียก ลดโลกร้อน
วันที่ 13 มกราคม 2566 นายเอก ยังอภัย ณ สงขลา นายอําเภอเบตง พร้อมด้วย ร้อยตํารวจเอก สิทธิพงศ์ เหมกุสุมา นายกองค์การบริหารส่วนตําบลยะรม และเจ้าหน้าที่องค์การบริหารส่วนตําบลยะรม ร่วมลงพื้นที่ หมู่ที่ 7 ซอยซียง ตําบลยะรม อําเภอเบตง จังหวัดยะลา ตรวจเยี่ยมติดตามผล โครงการจัดทําถังขยะเปียก ลดโลกร้อน เพื่อเป็นการส่งเสริมการคัดแยกขยะครัวเรือนลดการปนเปื้อนขยะเปียกกับของเหลือใช้อื่นๆ สร้างรายได้เพิ่มจากการคัดแยกขยะ ลดภาระค่าใช้จ่าย โดยการใช้ปุ๋ยหมักที่เกิดจากถังขยะเปียก เพิ่มความอุดมสมบูรณ์ของดิน ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและชุมชน ตลอดจนลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ร้อยตํารวจเอก สิทธิพงศ์ เหมกุสุมา นายกองค์การบริหารส่วนตําบลยะรม กล่าวว่า จากการลงพื้นที่ครั้งนี้ พบว่าประชาชนในพื้นที่ให้ความร่วมมือ และให้ความสนใจในการทําปุ๋ยจากเศษอาหาร รวมถึงมีการจัดทําปุ๋ยหมักจากเศษใบไม้ซึ่งร่วงหล่นในสวน นํามากองรวมกัน ลดการเผาซึ่งทําให้เกิดควันพิษ นอกจากนี้ยังพบว่าการเจริญเติบโตของพืชผักสวนครัวที่ปลูกในครัวเรือน เจริญงอกงามเป็นอย่างดี ลดต้นทุนการซื้อปุ๋ย และได้ผักปลอดสารพิษรับประทานในครัวเรือน#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
13/1/2023
ภาคใต้
ยะลา
สวท.เบตง จ.ยะลา
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230113144415750
null
กลุ่มเกษตรกรชาวสวนปาล์มน้ำมันแปลงใหญ่ จ.ตรัง ไม่ง้อรัฐ ศึกษาเรียนรู้พัฒนาและต่อยอด นำผลปาล์มน้ำมันสดจากต้น มาสกัดด้วยวิธีธรรมชาติ เพื่อเอาน้ำมันปาล์มบริสุทธิ์ไม่ผ่านกรรมวิธีมาทำผลิตภัณฑ์ได้หลากหลายทั้งกิน ทั้งบำรุงผิว ส่งขายออนไลน์ภายใต้ชื่อแบรนด์ “ Peora หรือ พีโอร่า” หวังพึ่งพาตนเองให้มากที่สุด ผลิตเอง แปรรูปเอง ขายเอง ยกระดับคุณภาพปาล์มน้ำมัน แก้ปัญหาราคาตกต่ำ
ที่ทําการกลุ่มวิสาหกิจแปลงใหญ่ปาล์มน้ํามันท่าสะบ้า หมู่ที่ 3 ต.ท่าสะบ้า อ.วังวิเศษ จ.ตรัง ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีการรวมตัวกันของเกษตรกรชาวสวนปาล์มในต.ท่าสะบ้า จํานวน 30 คน มีเนื้อที่สวนปาล์มน้ํามันรวมกว่า 500 ไร่ โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อยกระดับพัฒนาคุณภาพปาล์มน้ํามันให้ได้มาตรฐาน เพิ่มผลผลิตต่อไร่ต่อปี ลดต้นทุนการผลิต และคิดค้นพัฒนาต่อยอดแปรรูปผลปาล์มน้ํามันนํามาใช้เป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ ได้สําเร็จ เป็นแห่งแรกของไทยที่ทําในรูปแบบกลุ่มวิสาหกิจเกษตรกร โดยเกษตรกรเจ้าของผลผลิต เพื่อดูดซับปริมาณปาล์มน้ํามันที่ออกสู่ตลาด และยกระดับด้านราคาผลผลิตในอนาคต แก้ปัญหาราคาปาล์มตกต่ํา ถือเป็นจุดเริ่มต้นของการลงมือทําโดยเกษตรกรเจ้าของผลผลิต โดยไม่หวังพึ่งรัฐในการนําผลผลิตไปใช้ภายในประเทศ โดยผลิตภัณฑ์ที่ได้เป็นน้ํามันปาล์มจากธรรมชาติไม่ผ่านกรรมวิธี โดยผ่านเครื่องสกัดและเครื่องแยกธรรมชาติ รักษาคุณภาพของน้ํามับดิบไว้ได้ 100% ทั้งนี้ ทําโดยการนําเอาเมล็ดปาล์มน้ํามันสดจากแปลงของสมาชิกมาล้างทําความสะอาด จากนั้นผ่านเครื่องแยก เครื่องสกัดอย่างง่ายแบบธรรมชาติ รักษาคุณภาพน้ํามันได้ 100% ตั้งแต่การเอาไปอบด้วยเครื่องอบไมโครเวฟ และเครื่องอบลมร้อน ก็จะได้เป็นลูกปาล์มที่อบแล้ว จากนั้นเอาไปแยกเปลือกกับเมล็ดในปาล์มออกจากกัน เมื่อสกัดโดยวิธีธรรมชาติจะได้น้ํามันปาล์มออกมา 2 ชนิด ประกอบด้วย 1. น้ํามันปาล์ม ( Crude Palm Oil ) หรือน้ํามันปาล์มออย หรือน้ํามันปาล์มแดงบริสุทธิ์ ไม่ผ่านกรรมวิธี จะมีสีแดง และมีไขแดงอยู่ด้านบน ซึ่งสกัดจากเนื้อปาล์มหรือเปลือกสดของผลปาล์ม (ลักษณะฝอยๆเหมือนหมูหยอง) นําไปแยกอีกชั้นจะได้น้ํามันอีก 2 ชนิด คือ 1.1น้ํามันปาล์มโอเลอีน และ 1.2 น้ํามันปาล์มสเตียริน 2. น้ํามันเมล็ดในปาล์ม ( Crude Palm Kernel Oil ) สกัดได้จากเมล็ดในของผลปาล์มน้ํามัน ซึ่งน้ํามันบริสุทธิ์ที่ได้ทั้ง 2 ชนิด โดยเฉพาะน้ํามันปาล์มแดง มีประโยชน์ต่อร่างกาย อุดมด้วยวิตามินต่างๆ มากมาย ทั้งวิตามันเอ วิตามันอี โคเอนไซม์ ไฟโตสเตอรอล จนสามารถแปรรูปทําเป็นผลิตภัณฑ์ได้หลากหลายซึ่งเป็นสิ่งที่ทุกคนจําเป็นต้องใช้ ทั้งใช้กิน ใช้ทาในรูปแบบผลิตบํารุงผิว ต่างๆ มากมายนางจันทร์เพ็ญ ชิดเชื้อ อายุ 65 ปี ประธานวิสาหกิจแปลงใหญ่ปาล์มน้ํามันท่าสะบ้า หมู่ที่ 3 ต.ท่าสะบ้า อ.วังวิเศษ จ.ตรัง พร้อมด้วยนางอภิญญา วงศ์วิวัฒน์ และสมาชิกร่วมโชว์ผลิตภัณฑ์ที่กลุ่มประสบความสําเร็จในการต่อยอดนําผลปาล์มน้ํามันจากแปลงสมาชิกมาต่อยอดทําผลิตภัณฑ์ กล่าวว่า กลุ่มเป็นการรวมตัวกันของเกษตรกรชาวสวนปาล์มในต.ท่าสะบ้า จํานวน 30 คน มีเนื้อที่สวนปาล์มน้ํามันรวมกว่า 500 ไร่ โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อยกระดับพัฒนาคุณภาพปาล์มน้ํามันให้ได้มาตรฐาน เพิ่มผลผลิตต่อไร่ต่อปี ลดต้นทุนการผลิต และพัฒนาต่อยอดแปรรูปผลปาล์มน้ํามันนํามาใช้เป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ เพื่อดูดซับปริมาณปาล์มน้ํามันที่ออกสู่ตลาด และยกระดับด้านราคาผลผลิต ซึ่งเป็นแห่งแรกแห่งเดียวในประเทศไทย ที่ประสบความสําเร็จทํานามกลุ่มวิสาหกิจในการสกัดเอาน้ํามันปาล์มดิบ หรือน้ํามันปาล์มแดง มาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ เพราะราคาปาล์มตกต่ํา และไม่อยากง้อรัฐในการแก้ไขปัญหาปาล์มน้ํามันราคาตกต่ํา โดยได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากจังหวัดตรัง และสํานักงานเกษตรจังหวัดตรัง ซึ่งน้ํามันปาล์มแดงมีประโยชน์ต่อการบริโภค เป็นน้ํามันคุณภาพดี ดีต่อสุขภาพ และปัจจุบันทางวิสาหกิจชุมชนแปลงใหญ่ปาล์มน้ํามัน ได้นํามาเป็นสารตั้งต้นผลิตเป็นสบู่ก้อน สบู่เหลว เจลนวดสมุนไพร โดยดําเนินการมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2564 โดยแนวคิดนี้ได้จากการศึกษาดูงานที่มูลนิธิชัยพัฒนาของในหลวง ร.9 หลังจากดูงาน ก็เริ่มทําอย่างจริงจัง และพัฒนามาเรื่อยๆ การพัฒนาที่ดีคือ ต้องขายได้ด้วย ตอนแรก ๆ ทําใช้กันเองในครอบครัวสมาชิก ต่อมาก็พัฒนารูปแบบและเกิดเป็นแบรนด์จําหน่ายภายใต้ชื่อ “ Peora หรือ พีโอร่า” บรรจุภัณฑ์โลโก้ที่ทันสมัย และเริ่มขายออนไลน์ มุ่งตลาดคนทุกเพศ ทุกวัย รวมทั้งโรงแรม รีสอร์ท ห้องพักต่างๆ จนสามารถเปิดตลาดได้ระดับหนึ่ง และได้ไปออกงานเกี่ยวกับการส่งเสริมผลิตภัณฑ์อยู่เรื่อย ๆและบางงานก็ส่งสินค้าเข้าประกวดด้วย ล่าสุดได้รางวัลชนะเลิศโครงการSMEดีเด่น ได้สิทธินําสินค้าไปวางขายในห้างสรรพสินค้าชั้นนํา ทั้งนี้น้ํามันปาล์มแดงที่อุดมไปด้วยวิตามินต่าง ๆ และสารเบต้าแคโรทีน นํามาแปรรูปเป็นสบู่ สามารถบํารุงผิว ลดริ้วรอยลดรอยเหี่ยวย่น ลดการอักเสบ โดยเฉพาะคนที่ผิวแห้ง มุ่งเพิ่มมูลค่าของน้ํามันปาล์มแดง และพัฒนาต่อยอดจําหน่ายในเชิงพาณิชย์ได้ โดยขณะนี้มีผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย ได้แก่ น้ํามันปาล์มแดงสําหรับบริโภคแทนน้ํามันพืช , ทําน้ําสลัด หรือผสมในอาหาร ,ไขปาล์ม , สบู่เหลวน้ํามันปาล์มแดง , สบู่ก้อนน้ํามันปาล์มแดง สบู่กรีเซอรีน สูตรน้ําผึ้ง ,เจลนวดแก้ปวดเมื่อยน้ํามันปาล์มแดง ชุดเบสสบู่สําหรับนําไปทําเองพร้อมแนบวิธีทําง่ายๆ โดยสามารถเข้าไมโครเวฟได้ ไปเติมกลิ่น เติมน้ําหอมตามชอบได้ ขนาดทั้งแบบจิ๋ว ส่งขาย รีสอร์ท โรงแรมต่างๆ ขนาดทดลอง และบรรจุขวด ราคาตั้งแต่ชิ้นละ 5 – 120 บาท และกําลังคิดพัฒนาต่อยอด ร่วมกับอาจารย์มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ จะเอาน้ํามันปาล์มแดงไปพัฒนาเป็นซอฟเจล นําไปผสมเป็นพริกไทย เพื่อลดความอ้วน ผสมกับเห็ดหลินจือ เพื่อบํารุงร่างกาย และทําเป็นเครื่องสําอางต่อไปซึ่งสามารถชมสินค้าของวิสาหกิจแปลงใหญ่ปาล์มน้ํามัน หมู่3 ได้ที่แฟนเพจเฟสบุ๊ก Red Palm Oil at Trang ,ไอดีไลน์ redpalmoil หรือสอบถามได้ที่ 090-9479715 , 090-9479716 #สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
13/1/2023
ภาคใต้
ตรัง
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดตรัง
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230113155057782
null
สำนักงานเกษตรอำเภอฝาง จัดงานวันถ่ายทอดเทคโนโลยี (Field Day) เริ่มต้นฤดูกาลผลิตใหม่ ปี 2566
สํานักงานเกษตรอําเภอฝาง จัดงานวันถ่ายทอดเทคโนโลยี(Field Day) เริ่มต้นฤดูกาลผลิตใหม่ เพื่อให้เกษตรกรได้เรียนรู้ การใช้เทคโนโลยี และภูมิปัญญาที่มีความเหมาะสมกับพื้นที่ สามารถผลิตสินค้าเกษตรได้อย่างมีประสิทธิภาพเช้าวันนี้ (13 ม.ค.66) ที่ศูนย์เรียนรู้การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตรมันเทศ บ้านใหม่สันต้นดู่ ตําบลสันทราย อําเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่ ว่าที่ร้อยตรี นพรัตน์ ศุภกิจโกศล นายอําเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานเปิดงานวันถ่ายทอดเทคโนโลยี (Field Day) เริ่มต้นฤดูกาลผลิตใหม่ ปี 2566 ซึ่งจัดโดยสํานักงานเกษตรอําเภอฝาง เพื่อส่งเสริมให้เกษตรกรได้เรียนรู้ การใช้เทคโนโลยีและภูมิปัญญา ที่มีความเหมาะสมกับพื้นที่ด้วยการถ่ายทอดความรู้แบบเห็นจริง โดยภายในงานมีหน่วยงานสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และหน่วยงานในจังหวัดเชียงใหม่ให้บริการและให้ความรู้ด้านต่างๆ อาทิ การใช้สารเคมีอย่างถูกต้อง การปรับปรุงบํารุงดิน การผลิตสารชีวภัณฑ์ การแปรรูปมันเทศ การใช้เทคโนโลยีทางการเกษตร ทั้งนี้เพื่อให้เกษตรกรได้นําความรู้ที่ได้รับไปใช้ประโยชน์ สามารถผลิตสินค้าเกษตรได้อย่างมีประสิทธิภาพ#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
13/1/2023
ภาคเหนือ
เชียงใหม่
สวท.ฝาง
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230113152454772
null
ทหารพันธุ์ดี มทบ.25 สนใจปลูกหญ้าเนเปียร์ ฝึกอาชีพ สร้างรายได้ให้กำลังพล นายอำเภอสังขะพร้อมให้การสนับสนุนส่งเสริมเกษตรกรผู้ปลูกหญ้าเลี้ยงสัตว์
ร.ต.นิวัฒน์ วันทมาศ รองหัวหน้าชุด ทหารพันธุ์ดี มทบ.25 จังหวัดสุรินทร์ พร้อมทหารจากโครงการทหารพันธุ์ดี จํานวน 5 นาย ได้เดินทางไปศึกษาการปลูกหญ้าเนเปียร์พันธุ์ปากช่อง 1 แปลงของนายสังขะ ศรีบุญ บ้านเลขที่ 68 หมู่ที่ 10 บ้านหนองกุง ตําบลกระเทียม อําเภอสังขะ จังหวัดสุรินทร์ ซึ่งมีนายสันติ โอฆะพนม อําเภอสังขะ เดินทางมอบใบสําคัญการจัดตั้งวิสาหกิจชุมชนกลุ่มผู้ปลูกหญ้าเนเปียร์เลี้ยงสัตว์บ้านหนองกุง โดยมี นายศิวเทพ วงศ์พรหม หัวหน้าสํานักงานปศุสัตว์อําเภอสังขะ นายมานิตย์ สีพูแพน หัวหน้าเกษตรอําเภอสังขะ นายชนะชล มูลจันทร์ ประธานฯกต.ตร.สภ.บัวเชด และชาวบ้านให้การต้อนรับนายสันติ โอฆะพนม นายอําเภอสังขะ กล่าวว่า ปัจจุบันการทําปศุสัตว์กําลังได้รับความนิยมควบคู่กับการทําเกษตรผสมผสานมากขึ้น โดยแบ่งพื้นที่จากที่เคยทําสวนทําไร่เพียงอย่างเดียว แบ่งสันปันส่วนสําหรับเลี้ยงสัตว์สร้างรายได้อีกช่องทาง เช่น การเลี้ยงโค แพะ แกะ ซึ่งสัตว์เหล่านี้กําลังเป็นที่นิยมของตลาด สามารถขายได้ราคา ส่งผลตอบแทนกับผู้เลี้ยงได้ค่อนข้างดีด้าน นายสังขะ ศรีบุญ เจ้าของแปลงหญ้าเนเปียร์ กล่าวด้วยว่า ขั้นตอนในการปลูกหญ้าเนเปียร์นั้น ไม่ซับซ้อน โดยช่วงแรกก่อนที่จะนําหญ้าลงปลูก จะไถ พรวนดิน และตากแดดทิ้งไว้ 1 สัปดาห์ จากนั้นไถ พรวนดินอีกครั้ง เพื่อเพิ่มความละเอียดให้ดินมากขึ้น พร้อมกับผสมปุ๋ยคอกที่ได้จากโคที่เลี้ยงไว้ มาใส่ลงไปภายในแปลง ตากดินทิ้งไว้อีก 1 สัปดาห์จากนั้น ก่อนนําหญ้าเนเปียร์ลงปลูกในแปลง จะปล่อยน้ําเข้าแปลงให้แฉะทั้งหมดก่อน แล้วจึงนําท่อนพันธุ์หญ้าเนเปียร์มาปลูกให้มีลักษณะตั้งเอียงอยู่ที่ 45 องศา ซึ่งท่อนพันธุ์หญ้าเนเปียร์ที่นํามาปลูก มีลักษณะความยาวอยู่ที่ 20 เซนติเมตร ปลูกให้มีระยะห่างระหว่างต้นอยู่ที่ 40-50 เซนติเมตร และระยะห่างระหว่างแถว อยู่ที่ 1.20 เมตร คล้ายๆ กับปลูกอ้อย เมื่อปลูกลงไปแล้วดูแลจนโตให้เกิดหน่อใหม่ คอยหมั่นดูดินในแปลงถ้าเห็นว่าดินแห้งก็ใส่น้ําเข้าแปลง พอหญ้าเนเปียร์ได้อายุ 2 เดือน ใส่ปุ๋ยสูตรเสมอ 15-15-15 ประมาณ 3 กระสอบในพื้นที่ 5 ไร่ จากนั้นรอต่อไปอีก 2 เดือน หญ้าเนเปียร์ชุดแรกก็จะโตพร้อมให้ตัดขายได้#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
13/1/2023
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
สุรินทร์
สวท.สุรินทร์
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230113154350780
null
อำเภอชะอวด จังหวัดนครศรีธรรมราช จัดงานนิทรรศการเทคโนโลยีการเกษตรและท่องเที่ยววิถีคนลุ่มน้ำปากพนัง ระหว่างวันที่ 12 - 20 มกราคม 2566
ที่โรงเรียนชุมชนควนดินแดงมิตรภาพที่ 173 ตําบลเกาะขันธ์ อําเภอชะอวด จังหวัดนครศรีธรรมราช นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นประธานในพิธีเปิดงานนิทรรศการเทคโนโลยีการเกษตรและท่องเที่ยววิถีคนลุ่มน้ําปากพนัง ซึ่งเป็นผลงานจากวิสาหกิจชุมชนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในการนําเสนอสินค้า ผลิตภัณฑ์ และนวัตกรรมองค์ความรู้ด้านการเกษตรหลากหลายแขนง โดยมีนายไตรรัตน์ ไชยรัตน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช นายเตชสิทธิ์ ชูแก้ว ผู้นําเครือข่ายเกษตรกร ในฐานะประธานคณะกรรมการจัดงาน นายวิระชัย ชุมแก้ว นายอําเภอชะอวด นายอุดม ไชยภักดี นายกองค์การบริหารส่วนตําบลเกาะขันธ์ พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ภาคเอกชน ผู้นําท้องที่ เกษตรกร ประชาชน และเยาวชนในพื้นที่ เข้าร่วมภายในงานโดยงานดังกล่าวจัดขึ้นเพื่อเป็นการเผยแพร่ให้ความรู้วิชาการเทคโนโลยีการเกษตรให้แก่เกษตรกรและเยาวชนในพื้นที่ ตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง อีกทั้งยังเป็นการแนะนําแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรในพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราช พร้อมการจําหน่ายสินค้าชุมชน สินค้า OTOP และสินค้าจากเครือข่ายวิสาหกิจชุมชนและท่องเที่ยวชุมชนเชิงเกษตรจังหวัดนครศรีธรรมราช เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจฐานรากของประชาชนในพื้นที่ นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรมอีกมากมายในช่วงวันที่จัดงาน เพื่อเป็นการสร้างความสมัครสมานสามัคคีของคนในชุมชนอีกด้วยทั้งนี้งานดังกล่าว จัดขึ้นระหว่างวันที่ 12 - 20 มกราคม 2566 ที่โรงเรียนชุมชนควนดินแดงมิตรภาพที่ 173 ตําบลเกาะขันธ์ อําเภอชะอวด จังหวัดนครศรีธรรมราช ภายในงานเต็มไปด้วยนิทรรศการและการจําหน่ายสินค้าเกษตร ผลิตภัณฑ์ชุมชน และแนะนําแหล่งท่องเที่ยว นิทรรศการให้ความรู้ กิจกรรมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ กิจกรรมสาธิต กิจกรรมการเจรจาการค้า กิจกรรมประเพณี และกิจกรรมการแสดงต่างๆ #สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
13/1/2023
ภาคใต้
นครศรีธรรมราช
สวท.อำเภอทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230113235005994
null
อำเภอชะอวด จังหวัดนครศรีธรรมราช จัดงานนิทรรศการเทคโนโลยีการเกษตรและท่องเที่ยววิถีคนลุ่มน้ำปากพนัง ระหว่างวันที่ 12 - 20 มกราคม 2566
ที่โรงเรียนชุมชนควนดินแดงมิตรภาพที่ 173 ตําบลเกาะขันธ์ อําเภอชะอวด จังหวัดนครศรีธรรมราช นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นประธานในพิธีเปิดงานนิทรรศการเทคโนโลยีการเกษตรและท่องเที่ยววิถีคนลุ่มน้ําปากพนัง ซึ่งเป็นผลงานจากวิสาหกิจชุมชนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในการนําเสนอสินค้า ผลิตภัณฑ์ และนวัตกรรมองค์ความรู้ด้านการเกษตรหลากหลายแขนง โดยมีนายไตรรัตน์ ไชยรัตน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช นายเตชสิทธิ์ ชูแก้ว ผู้นําเครือข่ายเกษตรกร ในฐานะประธานคณะกรรมการจัดงาน นายวิระชัย ชุมแก้ว นายอําเภอชะอวด นายอุดม ไชยภักดี นายกองค์การบริหารส่วนตําบลเกาะขันธ์ พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ภาคเอกชน ผู้นําท้องที่ เกษตรกร ประชาชน และเยาวชนในพื้นที่ เข้าร่วมภายในงานโดยงานดังกล่าว จัดขึ้นเพื่อเป็นการเผยแพร่ให้ความรู้วิชาการเทคโนโลยีการเกษตรให้แก่เกษตรกรและเยาวชนในพื้นที่ ตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง อีกทั้งยังเป็นการแนะนําแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรในพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราช พร้อมการจําหน่ายสินค้าชุมชน สินค้า OTOP และสินค้าจากเครือข่ายวิสาหกิจชุมชนและท่องเที่ยวชุมชนเชิงเกษตรจังหวัดนครศรีธรรมราช เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจฐานรากของประชาชนในพื้นที่ นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรมอีกมากมายในช่วงวันที่จัดงาน เพื่อเป็นการสร้างความสมัครสมานสามัคคีของคนในชุมชนอีกด้วยทั้งนี้งานดังกล่าว จัดขึ้นระหว่างวันที่ 12 - 20 มกราคม 2566 ที่โรงเรียนชุมชนควนดินแดงมิตรภาพที่ 173 ตําบลเกาะขันธ์ อําเภอชะอวด จังหวัดนครศรีธรรมราช ภายในงานเต็มไปด้วยนิทรรศการและการจําหน่ายสินค้าเกษตร ผลิตภัณฑ์ชุมชน และแนะนําแหล่งท่องเที่ยว นิทรรศการให้ความรู้ กิจกรรมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ กิจกรรมสาธิต กิจกรรมการเจรจาการค้า กิจกรรมประเพณี และกิจกรรมการแสดงต่างๆ #สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
13/1/2023
ภาคใต้
นครศรีธรรมราช
สวท.อำเภอทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230113182156871
null
อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ หารือแนวทางแก้ปัญหา PM2.5 ร่วมกับผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร
นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ให้การต้อนรับนายปิ่นสักก์ สุรัสวดี อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ(คพ.) และผู้อํานวยการศูนย์แก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศ (ศกพ.) และคณะ โดยทั้งสองหน่วยงานพูดคุยถึงการดําเนินงานป้องกันและแก้ไขปัญหาฝุ่นละออง PM2.5 ที่แต่ละหน่วยงานได้ดําเนินการมาอย่างต่อเนื่อง พร้อมหารือถึงแนวทางการพัฒนาความร่วมมือระหว่างกัน อาทิ การยกระดับการสื่อสาร การพัฒนาแอปพลิเคชัน AirBKK และ Air4Thai การให้ความรู้และสร้างความเข้าใจแก่ประชาชน การจัดประชุมติดตามสถานการณ์ร่วมกันต่อไป
13/1/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230113194902922
null
เทศบาลตำบลทับมา จับมือ รพ.ระยอง กำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลาย (Big Cleaning Day) ในพื้นที่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายประเสริฐ วงษ์ศรี นายกเทศมนตรีตําบลทับมา พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร หัวหน้าส่วนราชการ เจ้าหน้าที่กองสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม และเจ้าหน้าที่ อสม.หมู่ที่ 2 และเจ้าหน้าที่ รพ.ระยอง ได้จับมือกันจัดกิจกรรมการจัดการสิ่งแวดล้อม กําจัดแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลาย (Big Cleaning Day) โดยการทําความสะอาดชุมชน พร้อมเดินรณรงค์และประชาสัมพันธ์ให้ความรู้เกี่ยวกับโรคไข้เลือดออก เพื่อกําจัดลูกน้ํายุงลาย สํารวจและกําจัดภาชนะที่เป็นแหล่งเพาะพันธุ์ลูกน้ํายุงลาย พร้อมแจกแผ่นพับ ทรายอะเบท และดําเนินการฉีดพ่นหมอกควันกําจัดยุงลาย เพื่อให้ชุมชนปลอดลูกน้ํายุงลาย ประชาชนปลอดภัยจากโรคไข้เลือดออก ในหมู่บ้านเอื้ออาทร 2 หมู่ที่ 2 อ.เมืองระยอง จ. ระยอง#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
13/1/2023
ภาคตะวันออก
ระยอง
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดระยอง
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230113184954891
null
องค์การสวนสัตว์ฯ จัดกิจกรรมวันเด็กแห่งชาติเปิดสวนสัตว์ทั่วประเทศ 6 แห่งให้เด็กเข้าฟรี เพื่อมอบความสุข สนุกสนาน และความรู้ด้านสัตว์ป่าให้เยาวชน
องค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ จัดกิจกรรมวันเด็กแห่งชาติเปิดสวนสัตว์ทั่วประเทศ 6 แห่งให้เด็กเข้าฟรี เพื่อมอบความสุข สนุกสนาน และความรู้ด้านสัตว์ป่าให้เยาวชน นายอรรถพร ศรีเหรัญ ผู้อํานวยการองค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทย กล่าวว่า องค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ จัดกิจกรรมฉลองวันเด็กแห่งชาติ ประจําปี 2566 วันพรุ่งนี้ (14 ม.ค.66) ด้วยการเปิดสวนสัตว์ในสังกัด 6 แห่ง ให้เด็กที่มีส่วนสูงไม่เกิน 135 เซนติเมตรเข้าชมฟรี เพื่อสร้างความสุข สนุกสนาน และสาระความรู้ด้านทรัพยากรสัตว์ป่า แล้วยังได้สัมผัสกับกิจกรรมสร้างองค์ความรู้ต่างๆ ภายในสวนสัตว์ตลอดทั้งวัน เช่น สวนสัตว์เปิดเขาเขียว จัดกิจกรรมขบวนมาสคอตสัตว์แดนซ์โชว์ บูทเกมส์มหาสนุก พร้อมของรางวัล // สวนสัตว์เชียงใหม่ กิจกรรมชมพาเหรดมาสคอตสัตว์นานาชนิด และชมความน่ารักของครอบครัวกระต่ายต้อนรับปีกระต่ายทอง พร้อมชุมนุมลูกสัตว์นานาชนิด บริเวณมินิซู // สวนสัตว์นครราชสีมา กิจกรรม Keeper Talk , กิจกรรม DIY ประดิษฐ์สิ่งของจากวัสดุธรรมชาติหรือของเหลือใช้ วาดภาพระบายสีสัตว์ป่า // โครงการคชอาณาจักร จังหวัดสุรินทร์ จัดนิทรรศการเรื่องช้าง กิจกรรมทดลองเป็นหมอช้าง กิจกรรมสนับสนุนหญ้าอาหารช้างเพื่อช้างเด็ก พบกับเหล่าช้างเซเลบช้างดังแห่ง 3,000 ไร่ ถือเป็นการเปิดโอกาสให้เด็กและเยาวชนเห็นคุณค่าของการอนุรักษ์สัตว์ป่า ทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อมของประเทศได้มากขึ้น
13/1/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230113191321899
null
เกษตรกรแท็กทีมขอบคุณ “รมว.เกษตรฯ และกรมปศุสัตว์” ปราบหมูเถื่อนต่อเนื่อง มั่นใจอีกไม่นานได้เห็นตัวบงการ
ผู้เลี้ยงหมูทั่วประเทศประสานเสียงขอบคุณ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ - กรมปศุสัตว์ หลังเดินหน้าปราบปราม “หมูเถื่อน” ต่อเนื่องและจริงจัง ล่าสุด สามารถฝังทําลายหมูเถื่อนของกลางจํานวนถึง 723,786 กิโลกรัม มากที่สุดเป็นประวัติการณ์ ตัดตอนวงจรหมูเถื่อนที่เกาะกินทําร้ายทําลายเกษตรกรไทยมานานนับปี ส่งผลเกษตรกรมั่นใจลงหมูเข้าเลี้ยงเร่งเพิ่มผลผลิตหมูปลอดภัยเพื่อคนไทย พร้อมฝากความหวังเดินหน้าจับ “ผู้บงการ” ล้างบางขบวนการนําเข้าหมูผิดกฏหมายให้สิ้น นายสุรชัย สุทธิธรรม นายกสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ เปิดเผยว่า การติดตามการปราบปรามหมูเถื่อนอย่างใกล้ชิดของนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ส่งผลให้กรมปศุสัตว์และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง สามารถปฏิบัติหน้าที่ตรวจสอบ จับกุม และดําเนินคดีกับผู้กระทําได้อย่างคล่องตัว ผลงานการปราบปรามชัดเจนเป็นที่ประจักษ์ถึงกว่า 1 ล้านกิโลกรัม ซึ่งช่วยป้องกันไม่ให้หมูอันตรายเหล่านี้ปะปนเข้าสู่ตลาดทําลายกลไกราคาสุกรในประเทศ และลดความเสี่ยงของการเกิดโรคระบาด ASF ลงได้อย่างมาก รวมถึงเป็นการปกป้องผู้บริโภคให้ปลอดภัยจากสารปนเปื้อนอันตรายในหมูเถื่อนด้วย ในนามของเกษตรกรผู้เลี้ยงหมูขอชื่นชมและขอบคุณรัฐมนตรีกระทรวงเกษตรฯ อธิบดีกรมปศุสัตว์ ตลอดจนเจ้าหน้าที่ตํารวจกองบังคับการปราบปรามการกระทําความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค ที่ได้ประสานความร่วมมือกันจนนําไปสู่ความสําเร็จ และฝังทําลายหมูเถื่อนได้มากที่สุดเป็นประวัติการณ์ในครั้งนี้ ฝากความหวังให้ทุกภาคส่วนยังคงเดินหน้าปราบปรามต่อเนื่องเชื่อว่าอีกไม่นานจะสามารถจับกุมผู้บงการและทําลายล้างขบวนการนี้ได้อย่างถอนรากถอนโคน นายสิทธิพันธ์ ธนาเกียรติภิญโญ นายกสมาคมผู้เลี้ยงสุกรภาคตะวันออกเฉียงเหนือ กล่าวว่า การกําจัดขบวนการหมูเถื่อนที่กรมปศุสัตว์ดําเนินการอย่างเข้มข้น ส่งผลให้ราคาสุกรในประเทศเริ่มคงที่ นับเป็นภารกิจที่กระทรวงเกษตรฯ ให้การดูแลปกป้องเกษตรกรได้สําเร็จ ซึ่งต้องขอขอบคุณเป็นอย่างสูง สิ่งนี้ช่วยสร้างความมั่นใจให้เกษตรกรในภาคอีสาน กล้าที่จะลงหมูเข้าเลี้ยง ลดความกังวลเกี่ยวกับราคาที่ตกต่ําลงในช่วงที่มีหมูเถื่อนระบาดอย่างหนัก รวมถึงความกังวลด้านโรคระบาดที่อาจติดมากับหมูเถื่อน โดยขณะนี้สถานการณ์การเลี้ยงหมูในภาคอีสานมีผลผลิตแมพันธุ์อยู่ในระดับ 70% แล้ว เมื่อมีแนวโน้มการจัดการที่ดีเช่นนี้คาดว่าปริมาณแม่พันธุ์จะเพิ่มเป็น 90% ได้ภายในสิ้นปีนี้ การกําจัดอุปสรรคด้านหมูเถื่อนที่เข้ามาเบียดเบียนตลาดหมูของเกษตรกรไทย นับว่าช่วยให้เกษตรกรเกิดกําลังใจในการเลี้ยงหมู แม้จะมีต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้นจากวัตถุดิบอาหารสัตว์ที่แพงขึ้นก็ตาม นายสุนทราภรณ์ สิงห์เสรีวงศ์ นายกสมาคมผู้เลี้ยงสุกรภาคเหนือ กล่าวว่า หมูเถื่อนที่จับกุมได้ตลอดปี 2565 มีมากถึงกว่า 1 ล้านกิโลกรัม ไม่รู้ว่าเข้ามายังราชอาณาจักรไทยมากมายขนาดนี้ได้อย่างไร และส่วนใหญ่ขนส่งกันมาเป็นตู้คอนเทนเนอร์จากแดนไกล แถบอเมริกาใต้และยุโรป สามารถผ่านด่านศุลกากรเข้ามาได้ แสดงว่าผู้บงการที่อยู่เบื้องหลังน่าจะมีอิทธิพลพอควรทีเดียว ต้องชื่นชมการทํางานของกรมปศุสัตว์ และเจ้าหน้าที่ทุกท่านอย่างมากที่กล้ากวาดล้าง และรักษาไว้ซึ่งกฏหมายบ้านเมือง ปกป้องทั้งเกษตรกรและผู้บริโภคให้ปลอดภัยจากผลกระทบมากมายของหมูเถื่อน ด้านนายปรีชา กิจถาวร นายกสมาคมการค้าผู้เลี้ยงสุกรภาคใต้ ระบุว่า ปัจจุบันสถานการณ์หมูเถื่อน ในพื้นที่ลดลงพอสมควร ซึ่งต้องขอบคุณกรมปศุสัตว์และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งขณะนี้ชายแดนปีนัง มาเลเซีย กําลังเกิดการระบาดของโรค ASF การจับกุมหมูเถื่อนเป็นอีกปัจจัยที่ช่วยป้องกันเชื้อดังกล่าว ควบคู่ไปกับมาตรฐานการเลี้ยงหมูในพื้นที่ที่เน้นการป้องกันโรคอย่างรัดกุมมาโดยตลอด ขณะที่เกษตรกรมีความมั่นใจในการเลี้ยงหมูมากขึ้น ส่งผลให้ปริมาณสุกรในพื้นที่เพิ่มขึ้นอยู่ในเกณฑ์ดี ที่ระดับ 80,000-90,000 แม่พันธุ์แล้ว อนึ่ง ผลงานในปี 2565 ที่กรมปศุสัตว์ได้สนธิกําลังกับเจ้าหน้าที่ตํารวจ ทหาร และกรมศุลกากร ดําเนินการบังคับใช้กฎหมาย กรณีหมูเถื่อน มีจํานวนรวม 42 คดี ปริมาณน้ําหนักรวม 1,089,514 กิโลกรัม คิดเป็นมูลค่ากว่า 219 ล้านบาท โดยได้ดําเนินการกับซากสุกรของกลางเป็น 3 ส่วน ได้แก่ 1.) เป็นส่วนที่ทําลายไปแล้ว จํานวน 179,612 กิโลกรัม คิดเป็นมูลค่า 71 ล้านบาท 2.) อยู่ในระหว่างดําเนินคดี จํานวน 186,116 กิโลกรัม คิดเป็นมูลค่า 25 ล้านบาท เมื่อคดีสิ้นสุดจะได้ดําเนินการทําลายต่อไป และ 3.) เป็นหมูเถื่อนที่เพิ่งทําลายไปเมื่อวันที่ 12 มค.2566 จํานวน 723,786 กิโลกรัม คิดเป็นมูลค่า 123 ล้านบาท
13/1/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สำนักพัฒนานโยบายและแผนการประชาสัมพันธ์
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230113191826902
null
ศูนย์ส่งเสริมเทคโนโลยีการเกษตรด้านอารักขาพืช จังหวัดขอนแก่น กรมส่งเสริมการเกษตร แจ้งเตือนภัย โรคราน้ำค้าง (Downy mildew)
นายเสงี่ยม กอนไธสง ผู้อํานวยการศูนย์ส่งเสริมเทคโนโลยีการเกษตรด้านอารักขาพืชจังหวัดขอนแก่น กรมส่งเสริมการเกษตร เปิดเผยว่า จากลักษณะอากาศที่เปลี่ยนแปลงฉับพลันและมีฝนตกบางพื้นที่ เกษตรกรควรหมั่นดูแลและสํารวจแปลงเพาะปลูกพืชอย่างสม่ําเสมอ เพื่อป้องกันความเสี่ยงในการเข้าทําลายของโรคราน้ําค้าง (Downy mildew) ซึ่งเป็นโรคพืชที่พบการระบาดมากในช่วงอากาศเย็น ความชื้นสูง และฝนตก ทําให้เชื้อราสาเหตุโรคสามารถแพร่ระบาดได้ดีไปกับ ลม น้ําฝน หรือเครื่องมือทางการเกษตร และการเคลื่อนย้ายพืชปลูก ดังนั้น เมื่อเกษตรกรเก็บเกี่ยวผลผลิตแล้ว ต้องกําจัดเศษซากพืช วัชพืชในแปลง โดยนําออกไปทําลายนอกแปลงทันที เพื่อไม่ให้เป็นที่อยู่อาศัยข้ามฤดูของเชื้อราสาเหตุได้นอกจากนี้ เกษตรกรควรปลูกพืชอื่นหมุนเวียน ใช้เมล็ดพันธุ์ดีมีคุณภาพจากแหล่งปลอดโรค โดยแช่เมล็ดพันธุ์ในน้ําอุ่นอุณหภูมิ 50 องศาเซลเซียส นาน 20-30 นาที หรือคลุกเมล็ดพันธุ์ด้วยสารเคมีป้องกันกําจัดโรคพืช เช่น เมทาแลกซิล 35% DS อัตรา 7 กรัมต่อเมล็ดพันธุ์ 1 กิโลกรัม หรือเมทาแลกซิล-เอ็ม 35% ES อัตรา 3.5 มิลลิลิตรต่อเมล็ดพันธุ์ 1 กิโลกรัม หรือ ไดเมโทมอร์ฟ 50% WP อัตรา 30 กรัมต่อเมล็ดพันธุ์ 1 กิโลกรัม เพื่อลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรค รวมทั้งไม่ปลูกพืชในระยะชิดกันเกินไป เพื่อช่วยระบายอากาศและความชื้นในแปลง หลีกเลี่ยงการให้น้ําในตอนเย็น หรือช่วงอากาศเย็นมีความชื้นสูง และหมั่นสํารวจแปลงปลูกอยู่เสมอสําหรับโรคราน้ําค้างสามารถเข้าทําลายพืชได้หลายชนิด เช่น พืชตระกูลแตง พืชตระกูลกะหล่ําผักกาด ข้าวโพด และองุ่น เป็นต้น โดยเชื้อราสาเหตุของโรคราน้ําค้าง มักฝังอยู่ในเศษซากพืชที่ตกค้างในแปลง วัชพืช รวมทั้งพืชอาศัยอื่น สามารถมีชีวิตอยู่ในดินได้นานหลายปี โดยจะเจริญเติบโตได้ดีในสภาพอุณหภูมิค่อนข้างต่ําประมาณ 18-25 องศาเซลเซียส มีความชื้นในแปลงสูง หากเข้าทําลายพืชปลูกจะสร้างความเสียหายได้ทุกระยะการเจริญเติบโต ทําให้ผลผลิตพืชลดลง รวมถึงขนาดและคุณภาพลดลงด้วย หากอาการรุนแรงจะทําให้ใบเหลืองและแห้งตายทั้งต้น สําหรับวิธีการสังเกตและสํารวจเพื่อป้องกันโรคราน้ําค้างในแปลงปลูก แนะนําให้เกษตรกรหมั่นสํารวจแปลงปลูกในช่วงเช้าเนื่องจากมีอากาศค่อนข้างเย็นและมีความชื้นสูง โดยพลิกดูใต้ใบพืช หากพบเส้นใยสีขาวหรือเทาคล้ายปุยฝ้าย หรือจุดแผลรูปสี่เหลี่ยม ให้ป้องกันกําจัดทันทีโดยพ่นด้วยสารป้องกันกําจัดโรคพืช เช่น ไดเมโทมอร์ฟ 50% WP อัตรา 40 กรัมต่อน้ํา 20 ลิตร หรือ เมทาแลกซิล 25% WP อัตรา 40 กรัมต่อน้ํา 20 ลิตร โดยพ่นให้ทั่วทั้งด้านบนใบและใต้ใบ ทุก 5-7 วัน หากพบปัญหาเกี่ยวกับศัตรูพืชเข้าทําลาย สามารถขอคําแนะนําเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์ส่งเสริมเทคโนโลยีการเกษตรด้านอารักขาพืช จังหวัดขอนแก่น กรมส่งเสริมการเกษตร ถนนมิตรภาพ ตําบลศิลา อําเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น โทร 043-203512#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
13/1/2023
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ขอนแก่น
สทท.ขอนแก่น
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230114104008026
null
จังหวัดกระบี่ ลงพื้นที่ลุยตรวจสอบ การรับซื้อผลผลิตปาล์มน้ำมันจากเกษตรกรที่กำลังประสบปัญหา พื้นที่ อ.เขาพนม และ อ.ลำทับ
วันที่ 13 มกราคม 2566 นายภาสกร บุญญลักษม์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ มอบหมายให้ สํานักงานพาณิชย์จังหวัดกระบี่ และสํานักงานเกษตรจังหวัดกระบี่ ส่งเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ตรวจสอบสถานการณ์การรับซื้อผลผลิตปาล์มน้ํามันจากเกษตรกรในพื้นที่ อ.เขาพนม และ อ.ลําทับ จ.กระบี่ นางวิภารัตน์ ภูเก้าล้วน พาณิชย์จังหวัดกระบี่ กล่าวว่า จากการลงพื้นที่ตรวจสอบพื้นที่ อําเภอเขาพนม พบว่า มีโรงงานสกัดปาล์มน้ํามัน หยุดรับซื้อ 2 ราย คือ ชุมนุมสหกรณ์ชาวสวนปาล์มน้ํามัน กระบี่ จํากัด อ.อ่าวลึก และ บจ.ปาล์มพันล้าน อ.คลองท่อม และรับซื้อเฉพาะเกษตรกรรายย่อย 3 ราย คือ โรงงาน ป.พานิชรุ่งเรืองปาล์มออยล์ 2 อ.เมือง และโรงงาน ป.พานิชรุ่งเรืองปาล์มออยล์ 3 อ.เขาพนม เนื่องจากมีปริมาณผลปาล์มสะสมในโรงงานมากกว่า 3,000 ตัน และมีรถบรรทุกติดคิวหน้าโรงงาน จึงรับซื้อเฉพาะเกษตรกรรายย่อย และ บมจ.สหอุตสาหกรรมน้ํามันปาล์ม อ.เหนือคลอง หยุดซ่อมโรงงาน แต่จะเปิดรับซื้อเฉพาะเกษตรกรรายย่อย นอกจากนี้โรงงานสกัดอีก 12 ราย เปิดรับซื้อปกติตามคิว และเปิด fast lane ให้เกษตรกร และโรงงาน บจ.ลาภภักดี มีแผนการหยุดซ่อมเครื่องจักร จําช่วงต้นเดือน กุมภาพันธ์ 2566 ส่วนในพื้นที่อําเภอลําทับ ได้ตรวจสอบ โรงงานสกัดจํานวน 2 ราย คือ บมจ.ยูนิวานิช มีปริมาณผลปาล์มในโรงงาน ประมาณ 3600 ตัน มีรถบรรทุกติดคิว 50 คัน และบจ.ไทยอินโดปาล์มออยล์ มีปริมาณผลปาล์มในโรงงาน 3000 ตัน รถบรรทุกติดคิว 50 คัน แต่ยังคงรับซื้อผลปาล์มตามคิว และเปิด fast lane ให้เกษตรกรจําหน่ายเองทั้งนี้ ราคาการรับซื้อผลปาล์มดิบยังคงลดลงจากเมื่อวานนี้ จึงขอให้เกษตรกรชะลอการตัดหรือยืดเวลาการตัดปาล์มน้ํามันออกไปก่อน#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
13/1/2023
ภาคใต้
กระบี่
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดกระบี่
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230113193534916
null
จังหวัดศรีสะเกษ ประกาศวาระ “ตำบลเข้มแข็ง ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง”
นายสํารวย เกษกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ มอบหมายให้นางสาวชนมณัฐ รอดบุญธรรม รองผู้ว่าราชการจังหวัด เป็นประธานประกาศวาระ “ตําบลเข้มแข็ง ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง” เป็นวาระสําคัญของจังหวัดศรีสะเกษที่จะต้องดําเนินการให้บรรลุเป้าหมาย ภายในปีงบประมาณ 2566 พร้อมแสดงเจตนารมณ์ในการขับเคลื่อนการดําเนินงานตามนโยบายรัฐบาล และกระทรวงมหาดไทย พัฒนาตําบลคูซอตให้เป็น “ตําบลเข้มแข็ง ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง” ณ ศาลาอเนกประสงค์บ้านดงเปือย หมู่ที่ 4 ตําบลคูซอต อําเภอเมือง จังหวัดศรีสะเกษนางสาวชนมณัฐ รอดบุญธรรม กล่าวว่า "การขับเคลื่อนตําบลเข้มแข็ง ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ให้ยึดพื้นที่ตําบลเป็นฐานรากการพัฒนา โดยบูรณาการความร่วมมือทุกภาคส่วน ภายใต้กลไกเครือข่ายผู้นําการเปลี่ยนแปลง ผู้นําชุมชน อาสาสมัคร กลุ่ม/องค์กร และกลไก 7 ภาคีเครือข่าย ได้แก่ ภาครัฐ ภาควิชาการ ภาคศาสนา ภาคเอกชน ภาคประชาชน ภาคประชาสังคม และภาคสื่อมวลชน ในการขับเคลื่อน เพื่อให้ตําบลมีความเข้มแข็งอย่างยั่งยืน เศรษฐกิจฐานรากมั่นคง ประชาชนในตําบลน้อมนําหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงสู่การปฏิบัติจนเป็นวิถี มีคุณภาพชีวิตที่ดี มีการเรียนรู้เพื่อการพึ่งตนเอง" สุดท้ายได้เป็นสักขีพยานการลงนามความร่วมมือ (MOU) การขับเคลื่อนตําบลเข้มแข็ง ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ระหว่างผู้นําชุมชน กับหน่วยงานภาคีเครือข่ายการพัฒนา โดยมีหัวหน้าส่วนราชการเข้าร่วมกิจกรรมครั้งนี้ อาทิ นางสาววริศรา โสภาค พัฒนาการจังหวัด นายวิชัย ศรีโพธิ์งามเกษตรจังหวัด นายนคร บุตรดีวงศ์ พาณิชย์จังหวัด นายปรีชา ปิยะพันธ์ รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดศรีสะเกษ ผู้แทนปลัดจังหวัด ผู้แทนประชาสัมพันธ์จังหวัด ผู้อํานวยการสํานักงาน กศน.จังหวัดศรีสะเกษ และหัวหน้าส่วนระดับอําเภอ นําโดย นายคมป์ สังข์วงษ์ อําเภอเมืองศรีสะเกษ พร้อมด้วยผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้นําชุมชน กํานัน ผู้ใหญ่บ้าน ประชาชนในพื้นที่ รวมถึงภาคีเครือข่ายพัฒนาต่าง ๆ ประธานเครือข่ายโคกหนองนาจังหวัดศรีสะเกษ ประธานเครือข่ายกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองจังหวัดศรีสะเกษ ประธานเครือข่ายกองทุนแม่จังหวัดศรีสะเกษ และประธานศูนย์ผู้นําจิตอาสาจังหวัดศรีสะเกษ เข้าร่วมงานโดยพร้อมเพรียง#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
13/1/2023
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ศรีสะเกษ
สวท.ศรีสะเกษ
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230113200608942
null
จังหวัดกระบี่ลงพื้นที่ตรวจสอบ การรับซื้อผลผลิตปาล์มน้ำมันจากเกษตรกรที่กำลังประสบปัญหา
นางวิภารัตน์ ภูเก้าล้วน พาณิชย์จังหวัดกระบี่ กล่าวถึงการลงพื้นที่ตรวจสอบสถานการณ์การรับซื้อผลผลิตปาล์มน้ํามันจากเกษตรกรในพื้นที่จังหวัดกระบี่ว่า จากการลงพื้นที่ตรวจสอบการรับซื้อผลผลิตปาล์มน้ํามันในพื้นที่อําเภอเขาพนม จังหวัดกระบี่ พบว่ามีโรงงานสกัดปาล์มน้ํามัน หยุดรับซื้อ 2 ราย คือ ชุมนุมสหกรณ์ชาวสวนปาล์มน้ํามัน กระบี่ จํากัด อําเภออ่าวลึก และ บจ.ปาล์มพันล้าน อําเภอคลองท่อม จังหวัดกระบี่ และรับซื้อเฉพาะเกษตรกรรายย่อย 3 ราย คือ โรงงาน ป.พานิชรุ่งเรืองปาล์มออยล์ 2 อําเภอเภอเมือง จังหวัดกระบี่ และโรงงาน ป.พานิชรุ่งเรืองปาล์มออยล์ 3 อําเภอเขาพนม จังหวัดกระบี่ เนื่องจากมีปริมาณผลปาล์มสะสมในโรงงานมากกว่า 3,000 ตัน และมีรถบรรทุกติดคิวหน้าโรงงาน จึงรับซื้อเฉพาะเกษตรกรรายย่อย และ บมจ.สหอุตสาหกรรมน้ํามันปาล์ม อําเภอเหนือคลอง หยุดซ่อมโรงงาน แต่จะเปิดรับซื้อเฉพาะเกษตรกรรายย่อย นอกจากนี้โรงงานสกัดอีก 12 ราย เปิดรับซื้อปกติตามคิว และเปิด fast lane ให้เกษตรกร และโรงงาน บจ.ลาภภักดี มีแผนการหยุดซ่อมเครื่องจักร ช่วงต้นเดือน กุมภาพันธ์ 2566 ส่วนในพื้นที่อําเภอลําทับ ได้ตรวจสอบ โรงงานสกัดจํานวน 2 ราย คือ บมจ.ยูนิวานิช มีปริมาณผลปาล์มในโรงงาน ประมาณ 3,600 ตัน มีรถบรรทุกติดคิว 50 คัน และบจ.ไทยอินโดปาล์มออยล์ มีปริมาณผลปาล์มในโรงงาน 3,000 ตัน รถบรรทุกติดคิว 50 คัน แต่ยังคงรับซื้อผลปาล์มตามคิว และเปิด fast lane ให้เกษตรกรจําหน่ายเองทั้งนี้ราคาการรับซื้อผลปาล์มดิบยังคงลดลงจากเมื่อวานนี้ จึงขอให้เกษตรกรชะลอการตัดหรือยืดเวลาการตัดปาล์มน้ํามันออกไปก่อนเพราะทางรัฐบาลก็กําลังดําเนินการแก้ไขปัญหาให้อยู่#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
13/1/2023
ภาคใต้
กระบี่
สวท.กระบี่
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230114113148052
null
ศูนย์หม่อนไหมฯ ขอนแก่น อบรมการย้อมครั่งให้กับเกษตรกรในโครงการสินค้าเกษตรคุณภาพเพื่อสร้างรายได้อย่างยั่งยืน ที่ บ้านดอนหญ้านาง ต.ดอนช้าง อ.เมืองขอนแก่น จ.ขอนแก่น
ศูนย์หม่อนไหมเฉลิมพระเกียรติฯ ขอนแก่น นําโดย นางอมรรัตน์ โวหาร นักวิชาการเกษตรชํานาญการ นายวีระพงศ์ ศรีหาพล นายปรมัตถ์ เหล่าวอ นักวิชาการเกษตร และ นางสาวมินตรา ธนาบูรณ์ เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานด้านมาตรฐานหม่อนไหม ลงพื้นที่เพื่ออบรมเกษตรกรในโครงการสินค้าเกษตรคุณภาพเพื่อสร้างรายได้อย่างยั่งยืน (งบจังหวัด) ปี 2566 กิจกรรมหลัก สร้างอัตลักษณ์และเพิ่มมูลค่าผ้าไหมย้อมครั่งไปสู่เมืองหัตถกรรมโลกแห่งผ้ามัดหมี่ หลักสูตร การย้อมครั่ง ณ บ้านดอนหญ้านาง ต.ดอนช้าง อ.เมืองขอนแก่น จ.ขอนแก่น โดยมีเกษตรกรเข้าร่วมอบรม จํานวน 20 ราย ซึ่งเกษตรกรที่เข้าร่วมการอบรมต่างมีความตั้งใจ และให้ความสนใจการอบรมเป็นอย่างดี#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
14/1/2023
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ขอนแก่น
สวท.ขอนแก่น
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230114122140070
null
สำนักงานปศุสัตว์อำเภอด่านซ้าย เกษตรกรขอรับบริการน้ำยาฆ่าเชื้อ เพื่อฉีดพ่นฆ่าเชื้อบริเวณโรงเรือนเลี้ยงโคเนื้อ
สํานักงานปศุสัตว์อําเภอด่านซ้าย มีเกษตรกรขอรับบริการน้ํายาฆ่าเชื้อ เพื่อฉีดพ่นฆ่าเชื้อบริเวณโรงเรือนเลี้ยงโคเนื้อ จํานวน 2 ลิตร เกษตรกร 1 ราย นายสุรินทร์ ฤทธิ์ศักดิ์ บ้านเลขที่ 257 บ้านห้วยมุ่น หมู่ที่ 8 ตําบลกกสะทอน อําเภอด่านซ้าย เลี้ยงโคเนื้อ 58 ตัว พร้อมให้คําแนะนําการผสมน้ํายาฆ่าเชื้อ การพ่นน้ํายาฆ่าเชื้อบริเวณโรงเรือนเลี้ยงสัตว์ การเลี้ยง การดูแลสุขภาพสัตว์ การป้องกันโรคฯ เพื่อให้เกษตรกรสร้างความเข้มแข็งในการเลี้ยงด้วยตนเอง แก่เกษตรกรผู้ขอรับบริการฯ ณ สํานักงานปศุสัตว์อําเภอด่านซ้าย อําเภอด่านซ้าย จังหวัดเลย#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
14/1/2023
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
เลย
สวท.ด่านซ้าย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230115100525288
null
คณะทำงานตรวจสอบสต็อกน้ำมันปาล์มคงเหลือทั้งระบบระดับจังหวัดตรัง เร่งตรวจสอบสถานการณ์การรับซื้อผลผลิตปาล์มน้ำมัน หลังประสบปัญหาปริมาณปาล์มออกสู่ตลาดเป็นจำนวนมาก
คณะทํางานตรวจสอบสต็อกน้ํามันปาล์มคงเหลือทั้งระบบระดับจังหวัดตรัง เข้าตรวจสอบสถานการณ์การรับซื้อผลผลิตปาล์มน้ํามันจากเกษตรกรที่กําลังประสบปัญหาปริมาณปาล์มออกสู่ตลาดจํานวนมาก และตรวจสอบสต็อกน้ํามันปาล์มดิบคงเหลือทั้งระบบของจังหวัดตรัง ของโรงงานสกัดน้ํามันปาล์มทั้ง 5 แห่งในพื้นที่ นางทิพยรัตน์ สมทอง ผู้อํานวยการกลุ่มกํากับและพัฒนาเศรษฐกิจการค้า สํานักงานพาณิชย์จังหวัดตรัง เปิดเผยว่า แต่ละโรงงานมีรถบรรทุกขนผลผลิตปาล์มมาจอดรอเป็นจํานวนมาก เป็นรถบรรทุกจากลานเทภายในจังหวัดตรัง และจังหวัดใกล้เคียงที่โรงงานเคยส่งประจําปิดการรับซื้อ แต่หากเป็นรถยนต์กระบะของเกษตรกรโดยตรง ทุกโรงงานจะอนุญาตให้เข้าไปชั่งน้ําหนักขายได้ในทันที ไม่ต้องจอดรอคิว ขณะที่ภายในโรงงานทั้ง 5 แห่ง พบว่าพนักงานต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในการสกัดน้ํามันปาล์ม เพื่อเร่งระบายผลผลิตปาล์มน้ํามัน ขณะการตรวจสต็อกปริมาณน้ํามันปาล์มคงเหลือภายในถังน้ํามันต่างๆของโรงงาน มีประมาณ 8,000 -10,000 ตัน ซึ่งเป็นปริมาณสต็อกปกติ ส่วนราคาการรับซื้อผลปาล์มดิบลดลงจากเมื่อวานนี้ จึงขอให้เกษตรกรชะลอการตัดหรือยืดเวลาการตัดปาล์มน้ํามันออกไปก่อน #สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
15/1/2023
ภาคใต้
ตรัง
สวท.ตรัง
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230115151109338
null
ปศุสัตว์จังหวัดเพชรบุรี ส่งเสริมกลุ่มแปลงใหญ่ตำบลหนองขนาน อำเภอเมืองเพชรบุรี แปรรูปผลผลิตปศุสัตว์ (โคเนื้อ) นำเมนูเนื้อโคขุนแดดเดียว เนื้อโคขุนแผ่นปรุงรส เนื้อโคขุนปิ้งย่าง และลูกชิ้นเนื้อโคขุน สร้างมูลค่าเพิ่ม
นายกรรัตน์ คุ้มกระ ปศุสัตว์จังหวัดเพชรบุรี กล่าวว่า ปศุสัตว์จังหวัดเพชรบุรี ร่วมกับ กองผลิตภัณฑ์ปศุสัตว์ โดย ศูนย์วิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ปศุสัตว์ปทุมธานี ส่งเสริมกลุ่มแปลงใหญ่ตําบลหนองขนานอบรมหลักสูตร “การแปรรูปผลิตภัณฑ์เนื้อสัตว์เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่ม” ภายใต้โครงการส่งเสริมการเกษตรแบบแปลงใหญ่ ประจําปีงบประมาณ 2566 แก่สมาชิกกลุ่มวิสาหกิจชุมชนกลุ่มเกษตรกรผู้เลี้ยงโคเนื้อแปลงใหญ่ตําบลหนองขนาน อําเภอเมืองเพชรบุรี วัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการแปรรูปผลิตภัณฑ์ปศุสัตว์สร้างมูลค่าเพิ่ม สร้างความเข้มแข็งให้กลุ่มเกษตรกรแปลงใหญ่ด้านปศุสัตว์ และเพื่อเป็นต้นแบบการแปรรูปผลิตภัณฑ์ปศุสัตว์ โดยได้ให้ความรู้ หลักการแปรรูปผลิตภัณฑ์ปศุสัตว์เบื้องต้น สุขลักษณะที่ดีในการแปรรูปผลิตภัณฑ์ปศุสัตว์ และการตัดแต่งเนื้อโคเพื่อการแปรรูป สําหรับสูตรอาหารที่นําผลิตภัณฑ์ปศุสัตว์ (โคเนื้อ) มาสาธิตการแปรรูป ได้แก่ เมนูเนื้อโคขุนแดดเดียว เนื้อโคขุนแผ่นปรุงรส เนื้อโคขุนปิ้งย่าง และลูกชิ้นเนื้อโคขุน เกษตรแปลงใหญ่ คือ โครงการระบบส่งเสริมการเกษตรแบบแปลงใหญ่ เป็นหนึ่งในโครงการสําคัญ ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพื่อสนับสนุนให้เกษตรกรมีการรวมกลุ่มและบริหาร จัดการร่วมกัน ทําให้เกิดการรวมกันผลิตและรวมกันจําหน่ายโดยมีตลาดรองรับที่แน่นอน และ เกษตรกรสามารถลดต้นทุนการผลิตและมีผลผลิตต่อหน่วยเพิ่มขึ้น รวมทั้งผลผลิตมีคุณภาพได้มาตรฐานภายใต้การบูรณาการของหน่วยงานภาครัฐและเอกชน สวท.เพชรบุรี/15 ม.ค.66#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
15/1/2023
ภาคตะวันตก
เพชรบุรี
สวท.เพชรบุรี
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230115080555283
null
ข่าวดี!! ลูกเต่ามะเฟืองฟักออกจากหลุม เป็นรังแรกของฤดูกาล พร้อมปล่อยกลับสู่ทะเล 64 ตัว
นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กล่าวว่า กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) โดยศูนย์เฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์เต่ามะเฟืองหาดบางขวัญ จ.พังงา สํานักงานทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 6 (พังงา) และศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งทะเลอันดามันตอนบน แจ้งให้ทราบถึงสถานการณ์เฝ้าระวังหลุมฟักไข่เต่ามะเฟือง หลังตรวจพบการยุบตัวของปากหลุมของรังที่ 1 เมื่อวันที่ 13 มกราคม 2566 จนกระทั่งผ่านไปอย่างยาวนานไม่พบลูกเต่าขึ้นมาจากหลุมฟักแต่อย่างใด ทีมสัตวแพทย์และผู้เชี่ยวชาญจึงตัดสินใจเปิดปากหลุมเพื่อให้ลูกเต่ามะเฟืองที่ฟักตัวคลานออกมา แต่พอขุดลงไปกลับพบรากไม้ที่มีขนาดใหญ่และเป็นรากฝอยเป็นจํานวนมาก จึงเร่งดําเนินการขุดรังเต่ามะเฟืองเพื่อช่วยเหลือลูกเต่ามะเฟืองที่ฟักออกจากไข่ขึ้นมาจากหลุมเนื่องจากเกรงว่าหากปล่อยไปนานมากกว่านี้ลูกเต่ามะเฟืองจะตายได้ จากนั้นได้ช่วยเหลือลูกเต่ามะเฟืองในหลุมที่ยังแข็งแรงและนําไปปล่อยคืนสู่ธรรมชาติจํานวน 64 ตัว รวมถึงช่วยลูกเต่ามะเฟืองที่อ่อนแอรอการพักฟื้นในตู้ ICU Box เพื่อกระตุ้นการฟัก จํานวน 4 ตัว ยังพบไข่เต่ามะเฟืองที่ไม่พัฒนาจํานวน 37 ฟอง และลูกเต่ามะเฟืองตายแรกคลอดจํานวน 1 ตัว รวมทั้งหมดแม่เต่ามะเฟืองขึ้นมาวางไข่จํานวน 106 ฟอง สําหรับรังไข่เต่ามะเฟืองรังถัดไป กรมทะเลชายฝั่ง ได้วางแผนนําเต่ามะเฟืองที่ได้จากการฟักตามธรรมชาติ นํามาเลี้ยงอนุบาลให้แข็งแรงในระยะเวลา 1 ปี หรือกระดองเต่ามีขนาดมากกว่า 30 เซนติเมตร ก่อนที่จะปล่อยกลับไปสู่ทะเล เพื่อให้ลูกเต่ามะเฟืองนั้นมีโอกาสในการอยู่รอดและเติบโตจนสามารถสืบพันธุ์และวางไข่ได้ตามธรรมชาติต่อไป
15/1/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
หน่วยงานสำนักข่าว
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230115081030284
null
เกษตรโคราช นำคณะกรรมการคัดเลือกกลุ่มแม่บ้านเกษตรกรดีเด่นระดับจังหวัด ประจำปี 2566 ลงพื้นที่คัดเลือกเกษตรกร บุคคลทางการเกษตร และสถาบันเกษตรกรดีเด่นระดับจังหวัด ประจำปี 2566 ประเภทกลุ่มแม่บ้านเกษตรกรดีเด่น อำเภอโนนสูง และอำเภอประทาย
วันที่ 15 มกราคม 2566 นายสุรพล ชมภู นักวิชาการส่งเสริมการเกษตรชํานาญการพิเศษ รักษาราชการแทนเกษตรจังหวัดนครราชสีมา มอบหมายให้ นางรัชนีกร พบบุญ หัวหน้ากลุ่มยุทธศาสตร์และสารสนเทศ สํานักงานเกษตรจังหวัดนครราชสีมา พร้อมด้วยคณะกรรมการคัดเลือกกลุ่มแม่บ้านเกษตรกรดีเด่นระดับจังหวัด ประจําปี 2566 ลงพื้นที่เพื่อคัดเลือกเกษตรกร บุคคลทางการเกษตร และสถาบันเกษตรกรดีเด่นระดับจังหวัดประจําปี 2566 ประเภทกลุ่มแม่บ้านเกษตรกร ณ ตําบลด่านคล้า อําเภอโนนสูงและ ตําบลวังไม้แดง อําเภอประทาย จังหวัดนครราชสีมา โดยมีกลุ่มแม่บ้านเกษตรกรเสนอผลงานเข้ารับการคัดเลือกจํานวน 4 กลุ่มในครั้งนี้คณะกรรมการได้ลงพื้นที่ เพื่อรับฟังการนําเสนอ ตามประเด็นหลักเกณฑ์การประกวดกลุ่มแม่บ้านเกษตรกรดีเด่นระดับจังหวัด จํานวน 2 กลุ่ม คือ 1. กลุ่มแม่บ้านเกษตรกร บ้านคอนน้อย ตําบลด่านคล้า อําเภอโนนสูง 2. กลุ่มแม่บ้านเกษตรกร บ้านโคกสี ตําบลวังไม้แดง อําเภอประทาย จังหวัดนครราชสีมา ซึ่งคณะกรรมการคัดเลือกกลุ่มแม่บ้านเกษตรกรดีเด่นระดับจังหวัด ได้ลงพื้นที่ เพื่อเก็บข้อมูลครบทั้ง 4 กลุ่มแล้ว และจะประชุมเพื่อสรุปผลการคัดเลือกกลุ่มแม่บ้านเกษตรกรดีเด่นระดับจังหวัดประจําปี 2566 โดยคัดเลือกกลุ่มที่มีความเหมาะ เพื่อเป็นตัวแทนจังหวัดนครราชสีมา เข้ารับการคัดเลือกในระดับเขตต่อไป#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
15/1/2023
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
นครราชสีมา
สวท.นครราชสีมา
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230115233647400
null
กลุ่มเกษตรกร อำเภอบ้านโป่ง จังหวัดราชบุรี จัดกิจกรรม กินลั่นทุ่ง ณ สวนหลังบ้าน มุ่งเน้นสร้างการเรียนรู้ที่มาพร้อมความสนุก ภายใต้แนวคิด เกษตรสนุก ความสุขที่ปลูกได้
ที่ศูนย์เรียนรู้สวนหลังบ้านราชบุรี ตําบลท่าผา อําเภอบ้านโป่ง จังหวัดราชบุรี กลุ่มเกษตรกร ได้มีการจัดกิจกรรมกินลั่นทุ่ง ครั้งที่ 1 ณ สวนหลังบ้านราชบุรี โดยกิจกรรม มุ่งเน้นสร้างการเรียนรู้ที่มาพร้อมกับความสนุก สร้างประสบการณ์นอกห้องเรียน เปลี่ยนมุมมองทัศนคติเด็กและเยาวชน ภายใต้แนวคิด เกษตรสนุก ความสุขที่ปลูกได้ ด้วยการเข้าร่วมกิจกรรมตามฐานต่างๆ โดยมี นายเฉลัมชัย ศรีอ่อน รัญมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์พร้อมด้วย นาย อัครเดช วงศ์พิทักษ์โรจน์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดราชบุรี ร่วมเป็นประธานเปิดนางสาวนงนุช เสลาหอม ประธานกลุ่มวิสาหกิจชุมชนเกษตรพอเพียง บ้านห้วยขวาง สวนหลังบ้าน กล่าวว่า ศูนย์เรียนรู้แห่งนี้เป็นแหล่งเรียนรู้ด้านเศรษฐกิจพอเพียง เกษตรทฤษฎีใหม่และเกษตรผสมผสาน เพื่อให้เกษตรกร และ เด็ก ๆ ได้เข้ามาศึกษาเรียนรู้วิธีการทําเกษตรพร้อมๆับได้ความสนุกไปด้วยทางด้านเด็กหญิงประภัสรา บัวแพงนักเรียนโรงเรียนบ้านฆ้องน้อย อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี กล่าวว่าคุณครูพามาศึกษาวิธีการทําเกษตรแบบพอเพียงตามรอยพ่อสานต่อศาสตร์พระราชาซึ่งนอกจากจะได้เรียนรู้เรื่องการทําเกษตรแล้วยังได้รับความสนุกสนานและสามารถนํากลับไปทําที่บ้านได้ด้วยสําหรับเกษตรกรที่สนใจ จะเรียนรู้วิธีการทําเกษตรทฤษฎีใหม่ และเกษตรผสมผสาน สามารถ สอบถามได้ที่ ศูนย์เรียนรู้สวนหลังบ้านราชบุรี หมายเลขโทรศัพท์ 032337867,..............ปล่อยเสียงสัมภาษณ์......ฟาสีย๊ะ อาพิโล๊ะ สวท.ราชบุรีรายงาน
15/1/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สวท.ราชบุรี
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230115113215312
null
นครพนมวันนี้ค่าฝุ่น PM2.5(ค่าเฉลี่ย 24 ชม.) 46 มคก.ลบ.ม. อยู่ในเกณฑ์คุณภาพอากาศปานกลาง
วันที่ 15 มกราคม 2566 (เวลา 09.00 น.) สํานักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดนครพนมรายงาน ค่าฝุ่น PM2.5(ค่าเฉลี่ย 24 ชม.) 46 มคก./ลบ.ม. อยู่ในเกณฑ์คุณภาพอากาศปานกลาง และมีแนวโน้มทรงตัว ค่าฝุ่น PM10 มีค่า 79 มคก./ลบ.ม. อยู่ในเกณฑ์คุณภาพอากาศดี ค่ามลพิษในอากาศ ค่า โอโซน ไนโตรเจนไดออกไซด์ คาร์บอนมอนอกไซด์ และซัลเฟอร์ไดออกไซด์ อยู่ในเกณฑ์ คุณภาพดีมาก ค่าดัชนีคุณภาพอากาศ(AQI) ของจังหวัดนครพนม อยู่ในระดับ คุณภาพอากาศปานกลาง คําแนะนําสุขภาพ ประชาชนทั่วไป สามารถทํากิจกรรมกลางแจ้งได้ตามปกติกลุ่มเสี่ยง ควรเฝ้าระวังสุขภาพ ถ้ามีอาการเบื้องต้น เช่น ไอ หายใจลําบากระคายเคืองตา ควรลดระยะเวลาการทํากิจกรรมกลางแจ้ง#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
15/1/2023
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
นครพนม
สวท.นครพนม
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230115123753317
null
กอนช. เฝ้าระวังน้ำฝนตกหนักบางพื้นที่ในภาคใต้ช่วง 19 - 23 ม.ค.นี้ โดยกำชับทุกหน่วยงานพร้อมรับมือสถานการณ์น้ำ
กองอํานวยการน้ําแห่งชาติ (กอนช.) เฝ้าระวังน้ําฝนตกหนักบางพื้นที่ในภาคใต้ช่วงวันที่ 19 - 23 มกราคมนี้ โดยกําชับทุกหน่วยงานพร้อมรับมือสถานการณ์น้ํา นายสุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสํานักงานทรัพยากรน้ําแห่งชาติ (สทนช.) ในฐานะรองผู้อํานวยการกองอํานวยการน้ําแห่งชาติ (กอนช.) กล่าวถึงสถานการณ์น้ําภาพรวมของประเทศวันนี้ (15 ม.ค.66) ว่า ภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมามีฝนตกปานกลางถึงหนักบริเวณ จ.พัทลุง , นครศรีธรรมราช และตรัง โดย กอนช. ได้ติดตามสถานการณ์น้ําผ่านศูนย์บริหารจัดการน้ําส่วนหน้าในพื้นที่เสี่ยงอุทกภัยภาคใต้ หลังกรมอุตุนิยมวิทยาและสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ํา (องค์การมหาชน) คาดการณ์ตั้งแต่วันที่ 19 มกราคม ภาคใต้มีฝนตกเพิ่มขึ้น และช่วงวันที่ 20 - 23 มกราคม อาจมีฝนตกหนักในบางพื้นที่ เนื่องจากลมตะวันออกและลมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมภาคใต้และอ่าวไทยจะมีกําลังแรงขึ้น จึงกําชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เช่น กรมอุตุนิยมวิทยาและสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ํา (องค์การมหาชน) วิเคราะห์และคาดการณ์พายุหรือหย่อมความกดอากาศที่จะส่งผลกระทบในพื้นที่ภาคใต้ // การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) พิจารณาปริมาณน้ําและศักยภาพของเขื่อนบางลางรองรับความเสี่ยงกรณีที่อาจเกิดพายุหรือหย่อมความกดอากาศกําลังแรงได้อย่างปลอดภัย // กรมชลประทาน พิจารณาการระบายน้ําด้านท้ายน้ํา โดยให้เกิดผลกระทบในพื้นที่น้อยที่สุด
15/1/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230115142350331
null
เกษตรกรผู้ปลูกกล้วยหอมทองพบพระ พัฒนาผลิตภัณฑ์ แก้ปัญหาผลผลิตล้นตลาด
นายภักดี เดชจินดา เกษตรกรผู้ปลูกกล้วยหอมทองพบพระไร่ภักดี เปิดเผยว่า มีการแก้ปัญหาราคากล้วยตกต่ําในช่วงที่ผลผลิตล้นตลาด ด้วยการพัฒนาผลิตภัณฑ์กล้วยหอมทอง ทอดด้วยเครื่องสุญญากาศเป็นการเพิ่มมูลค่าสินค้า เนื่องจากกล้วยหอมทองพบพระ มีเนื้อแน่น เหนียวหนึบ รสชาติแตกต่างจากในพื้นที่อื่นๆ การใช้กล้วยคุณภาพที่ได้ GI มาทอด เมื่อนํามาแปรรูปจะได้รสชาติที่แตกต่างจากในท้องตลาดไร่ภักดีร่วมกับลูกไร่วิสาหกิจชุมชน มีพื้นที่ปลูกประมาณ 500 ไร่ ส่งผลผลิตวันละกว่า 2.2 หมื่นลูก ขายที่ร้านสะดวกซื้อ 7 – 11 ในพื้นที่ภาคเหนือตอนล่าง 9 จังหวัด (นครสวรรค์ ตาก กําแพงเพชร อุทัยธานี ชัยนาท พิจิตร เพชรบูรณ์ สุโขทัย และพิษณุโลก) ประมาณ 600 สาขาสร้างรายได้กว่า 150,000 บาทต่อไร่#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
15/1/2023
ภาคตะวันตก
ตาก
สวท.แม่สอด จ.ตาก
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230115143947333
null
นายกเหล่ากาชาดจังหวัดเพชรบุรี รุกนำ ปลุกกระแส จัดทำถังขยะเปียก ลดโลกร้อน ครอบครัวเพชรบุรี ห่วงใยสิ่งแวดล้อม
วันนี้ (15 มกราคม 2566) นางพัณณ์ชิตา นําพูลสุขสันติ์ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดเพชรบุรี , ประธานแม่บ้านมหาดไทย นางวันเพ็ญ มังศรี รองผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี นายภคพัส ส่งวัฒนายุทธ ปลัดจังหวัดเพชรบุรี คณะกรรมการเหล่ากาชาดจังหวัดเพชรบุรี คณะแม่บ้านมหาดไทยร่วมลงพื้นที่ จัดทําถังขยะเปียก ลดโลกร้อน ของเหล่ากาชาดจังหวัดเพชรบุรี ณ พื้นที่องการบริหารส่วนตําบลถ้ํารงค์ อําเภอบ้านลาด จังหวัดเพชรบุรี นางพัณณ์ชิตา นําพูลสุขสันติ์ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดเพชรบุรี เปิดเผยว่าปัญหาขยะนับวันจะทวีความรุนแรง สร้างปัญหาไม่จบสิ้น จึงนําคณะเหล่ากาชาดจังหวัดเพชรบุรี คณะแม่บ้านมหาดไทย ร่วมแนวคิด “ครอบครัวเพชรบุรี ห่วงใยสิ่งแวดล้อม” โดยมุ่งเน้นให้กลุ่มแม่บ้าน ได้มีส่วนร่วมลดปริมาณขยะตั้งแต่ต้นทาง คือคนในครอบครัว ร่วมรณรงค์ให้มีการคัดแยกขยะ สร้างถังขยะอินทรีย์ครัวเรือน จัดทําถังขยะเปียก รองรับเศษอาหาร การผลิตปุ๋ยหมักจากขยะอินทรีย์ ที่มาจากเศษอาหาร เศษผัก ผลไม้ หรือใบไม้ โดยหมักขยะอินทรีย์ในถังจนย่อยสลายกลายมาเป็นปุ๋ยไว้ใช้กับแปลงผักหรือผักริมรั้วในครอบครัว ทางด้านนางวันเพ็ญ มังศรี รองผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี เปิดเผยว่าจังหวัดเพชรบุรีสานต่อนโยบายรัฐบาลร่วมแก้ไขปัญหาขยะ โดยมุ่งมั่นให้ทุกอําเภอตื่นตัว ทุกตําบลมีส่วนร่วม ชุมชนคนในหมู่บ้านกระตือรือร้นร่วมกันรณรงค์ส่งเสริมการปลูกฝังจิตสํานึกในการคัดแยกขยะ ทิ้งเศษอาหารให้ถูกที่ มาตรการ "ถังขยะเปียก ลดโลกร้อน" สาธิต การทําถังขยะเปียกลดโลกร้อน ด้วยถังหรือเศษวัสดุเหลือใช้ เพื่อรองรับการนําเศษอาหารเหลือทิ้งจากครัวเรือน หรือขยะอินทรีย์มาใส่ในถังขยะเปียกลดโลกร้อน เพื่อเป็นต้นแบบและขยายผลการจัดทําถังขยะเปียกลดโลกร้อน ให้กับพี่น้องประชาชนในพื้นที่ โดยได้ดําเนินการสาธิตการทําถังขยะเปียกที่บ้าน นางสาวจิราภรณ์ นาคปานเอี่ยม หมู่ที่ 3 บ้านถ้ํารงค์ และที่สวนตาลลุงถนอม พร้อมเยี่ยมชุมชน ชมผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรของชุมชน นอกจากนั้น นายกเหล่ากาชาดจังหวัดเพชรบุรีได้กล่าวย้ําว่า มาร่วมสร้างพฤติกรรมในการกําจัดขยะ โดยเฉพาะขยะในครัวเรือน ต้องทําให้เห็นว่า เรื่องขยะเป็นหน้าที่ของทุกคนไม่ใช่หน้าที่ของคนใดคนหนึ่ง จึงจะแก้ปัญหาขยะได้อย่างยั่งยืนซึ่งต้องเริ่มจากคนในครัวเรือนเป็นลําดับแรก จามรี อนุรัตน์ ประชาสัมพันธ์จังหวัดเพชรบุรี รายงาน#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
15/1/2023
ภาคตะวันตก
เพชรบุรี
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเพชรบุรี
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230115164044356
null
จังหวัดมุกดาหารจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการป้องกันไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM2.5) ปี 2566
นายวรญาณ บุญณราช ผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร เปิดเผยว่า ช่วงเดือนธันวาคมถึงเดือนเมษายนของทุกปี จังหวัดมุกดาหารได้รับผลกระทบด้านมลพิษจากหมอกควันและปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM2.5) ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพอนามัยของประชนชน จังหวัดมุกดาหารจึงกําหนดให้ทุกพื้นที่ในจังหวัดมุกดาหารเป็นเขตควบคุมการเผาในที่โล่งทุกกรณี เพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาหมอกควัน และมลพิษจากฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM2.5) ในพื้นที่จังหวัดมุกดาหาร จังหวัดมุกดาหารขอให้หน่วยงานที่รับผิดชอบ ได้ดําเนินการตามแผนปฏิบัติการขับเคลื่อนวาระแห่งชาติ การแก้ไขปัญหามลพิษด้วยฝุ่นละออง ตามคติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2562 โดยมอบให้ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทุกแห่งปฏิบัติเป็นแบบอย่างในการงดเผาวัสดุทางการเกษตร วัชพืช และขยะมูลฝอย หากผู้ใดกระทําอันก่อให้เกิดเพลิงไหม้ต่อผู้อื่นและทรัพย์สินของผู้อื่น ต้องระวางโทษ จําคุกไม่เกินเจ็ดปี และปรับไม่เกิน 140,000 บาท พร้อมทั้งขอความร่วมมือประชาชนงดกระทําการใดๆ ที่ก่อให้เกิดกลิ่น แสง รังสี เสียง ความร้อน ฝุ่นละออง ความสั่นสะเทือน เขม่า สิ่งมีพิษ รวมถึงกรณีอื่นๆ หากฝ่าฝืนต้องระวางโทษจําคุกไม่เกิน 3 เดือน หรือปรับไม่เกิน 25,000 บาท และขอความร่วมมือสอดส่องดูแล ห้ามก่อสร้าง แผ้วถาง หรือเผาป่าฯ อันเป็นการทําลายป่าหรือเสื่อมสภาพ ฝ่าฝืนต้องระวางโทษจําคุก 1-20 ปี หรือปรับ10,000-2,000,000 บาท ทั้งนี้หากพบเห็นไฟไหม้ป่า หรือไฟไหม้ในที่โล่งพื้นที่ต่างๆ แจ้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หรือสายด่วนแจ้งเหตุไฟไหม้-ดับเพลิง โทร.191#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
16/1/2023
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
มุกดาหาร
สวท.มุกดาหาร
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230116085717409
null
กอนช. เฝ้าระวังน้ำฝนตกหนักบางพื้นที่ในภาคใต้ช่วงวันที่ 19 - 23 มกราคมนี้ จากอิทธิพลลมตะวันออกและลมตะวันออกเฉียงเหนือ
กองอํานวยการน้ําแห่งชาติ (กอนช.) เฝ้าระวังน้ําฝนตกหนักบางพื้นที่ในภาคใต้ช่วงวันที่ 19 - 23 มกราคมนี้ จากอิทธิพลลมตะวันออกและลมตะวันออกเฉียงเหนือ นายสุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสํานักงานทรัพยากรน้ําแห่งชาติ (สทนช.) ในฐานะรองผู้อํานวยการกองอํานวยการน้ําแห่งชาติ (กอนช.) กล่าวถึงสถานการณ์น้ําภาพรวมของประเทศวันนี้ (16 ม.ค.66) ว่า ภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมามีฝนตกเล็กน้อยถึงปานกลางบริเวณ จ.สงขลา เนื่องจากลมตะวันออกและลมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมภาคใต้และอ่าวไทยจะมีกําลังแรงขึ้น ทําให้ภาคใต้ยังคงมีฝนตกหนักช่วงวันที่ 19 - 23 มกราคม ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยมีกําลังแรงขึ้น บริเวณอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูง 2 - 3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร จึงกําชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เช่น กรมอุตุนิยมวิทยาและสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ํา (องค์การมหาชน) วิเคราะห์และคาดการณ์พายุหรือหย่อมความกดอากาศที่จะส่งผลกระทบในพื้นที่ภาคใต้ // การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) พิจารณาปริมาณน้ําและศักยภาพของเขื่อนบางลางรองรับความเสี่ยงกรณีที่อาจเกิดพายุหรือหย่อมความกดอากาศกําลังแรงได้อย่างปลอดภัย // กรมชลประทาน พิจารณาการระบายน้ําด้านท้ายน้ํา โดยให้เกิดผลกระทบในพื้นที่น้อยที่สุด
16/1/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230116094957432
null
คุณภาพอากาศ ต้องเฝ้าระวังช่วง 17-18 มกราคม และ 20-23 มกราคมนี้ ค่าฝุ่น PM 2.5 จะสูงขึ้น
นายปิ่นสักก์ สุรัสวดี อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) ในฐานะประธานศูนย์แก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศ (ศกพ.) กล่าวว่า ช่วงเช้าวันนี้ (16 ม.ค.66) ค่าฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM 2.5) ในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑลคุณภาพอากาศดีมากถึงปานกลาง โดยค่าฝุ่นอยู่ในเกณฑ์ดีทุกพื้นที่ เนื่องจากสภาพอากาศเปิดและมีลม จึงลดการสะสมของฝุ่นลง ศูนย์แบบจําลองคุณภาพอากาศและภูมิศาสตร์สารสนเทศ กรมควบคุมมลพิษ (คพ.) คาดการณ์สถานการณ์ฝุ่นละออง PM 2.5 ช่วงวันที่ 17 - 18 มกราคม และ 20 - 23 มกราคม ต้องเฝ้าระวังการสะสมของฝุ่นละออง เนื่องจากสภาพอากาศที่นิ่งและปิด ประกอบกับมีมวลอากาศเย็นระลอกใหม่จากประเทศจีนแผ่เข้ามา โดยพื้นที่ควรเฝ้าระวังบริเวณพื้นที่กรุงเทพกลาง กรุงธนเหนือและกรุงธนใต้ ขอความร่วมมือประชาชนบํารุงดูแลรักษารถยนต์อย่างสม่ําเสมอ จอดรถให้ดับเครื่อง ลดการเผาในที่โล่งและขอให้ประชาชนเฝ้าระวังสถานการณ์ หากอยู่บริเวณพื้นที่มีปริมาณฝุ่น PM 2.5 สูงเกินเกณฑ์มาตรฐาน หรือพื้นที่สีส้ม ให้หลีกเสี่ยงกิจกรรมกลางแจ้ง สวมใส่หน้ากากอนามัย หรือใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเอง หากมีอาการทางสุขภาพควรปรึกษาแพทย์ ทั้งนี้ สามารถติดตามสถานการณ์คุณภาพอากาศได้ ทั้งแบบค่าเฉลี่ยรายชั่วโมงและแบบค่าเฉลี่ย 24 ชั่วโมง ผ่านทางเว็บไซด์ Air4Thai.com และ bangkokairquality.com หรือทางแอปพลิเคชัน Air4Thai และ AirBKK แล้วยังติดตามข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับสถานการณ์คุณภาพอากาศผ่านทาง Facebook Fanpage ศูนย์แก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศ (ศกพ.)
16/1/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230116102354440
null
จังหวัดยะลา เดินหน้ามาตรการลดผลกระทบสิ่งแวดล้อม เพิ่มเส้นทางเลี่ยงเมืองในการจราจร
วันนี้ (16 มกราคม 2566) ที่ ห้องประชุมเทศบาลนครยะลา ต.สะเตง อ.เมือง จ.ยะลา นายสมบูรณ์ พรหมณี ปลัดอําเภอหัวหน้ากลุ่มงานบริหารและงานปกครอง ได้เป็นประธานการประชุมหารือมาตรการลดผลกระทบสิ่งแวดล้อม (กลุ่มย่อย ครั้งที่2) กลุ่มที่4 ในโครงการจ้างวิศวกรที่ปรึกษาสํารวจและออกแบบทางหลวง 4 ช่องจราจร ทางเลี่ยงเมืองยะลา(ด้านตะวันตก) ของกรมทางหลวง กระทรวงคมนาคม พร้อมด้วย นายสุพัฒน์ ชุ่มมุณีรัตน์ วิศวกรโยธาชํานาญการพิเศษ ผู้จัดการโครงการ สําหรับการประชุมในครั้งนี้ จัดขึ้นเพื่อนําเสนอข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับรูปแบบของโครงการและมาตรการป้องกันการแก้ไขและลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมที่คาดว่าจะเกิดขึ้นจากการพัฒนาโครงการพร้อมทั้งรับฟังความคิดเห็นและข้อเสนอแนะจากกลุ่มผู้มีส่วนได้ส่วนเสียเพื่อนําไปใช้ประกอบการปรับปรุงรูปแบบของโครงการให้มีความเหมาะสมมากยิ่งขึ้น โดยประชาชนทุกท่าน สามารถติดตามข้อมูลเพิ่มเติมของโครงการได้ที่ www.ทางเลี่ยงเมืองยะลา.com หรือเพจ Facebook ทางเลี่ยงเมืองยะลาผู้จัดการโครงการ เผยว่า โครงการสํารวจและออกแบบทางหลวง 4 ช่องจราจรทางเลี่ยงเมืองยะลา (ด้านตะวันตก) เป็นโครงการที่อยู่ในแผนพัฒนาทางหลวงโดยกรมทางหลวง เล็งเห็นว่าอําเภอเมืองยะลาเป็นเมืองที่มีอัตราการขยายตัวด้านเศรษฐกิจมากขึ้นทุกปี ส่งผลให้มีความต้องการเดินทางในโครงข่ายทางหลวงและถนนในเขตเมืองยะลาสูงมากยิ่งขึ้น จึงต้องเตรียมความพร้อมด้านโครงข่ายถนนเพื่อรองรับการจราจรและขนส่งสินค้าในอนาคต โดยมีแนวคิดในการก่อสร้างทางเลี่ยงเมืองยะลาด้านตะวันตกเป็นทางเลือกสําหรับผู้เดินทางระยะไกลที่ไม่จําเป็นต้องผ่านเขตตัวเมืองยะลาใช้เป็นทางเลี่ยงเมือง ด้านกรมทางหลวงจึงว่าจ้างกลุ่มบริษัทที่ปรึกษาเพื่อดําเนินงานในโครงการนี้#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
16/1/2023
ภาคใต้
ยะลา
สทท.ยะลา
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230116114346477
null
ช่วงเทศกาลตรุษจีน แนะนำประชาชนเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ปศุสัตว์จากแหล่งจำหน่ายที่น่าเชื่อถือ ที่มีสัญลักษณ์ ปศุสัตว์ OK
นายสัตวแพทย์สมชวน รัตนมังคลานนท์ อธิบดีกรมปศุสัตว์ เปิดเผยหลังตรวจเยี่ยมร้านจําหน่ายผลิตภัณฑ์ปศุสัตว์และมอบป้าย ปศุสัตว์ OK แก่ร้านจําหน่ายผลิตภัณฑ์ปศุสัตว์ในตลาดสดองค์การตลาดเพื่อเกษตรกร (อ.ต.ก.) เพื่อสร้างความมั่นใจแก่ผู้บริโภคที่มาเลือกซื้อสินค้าปศุสัตว์เป็นของไหว้ในเทศกาลตรุษจีน ว่า การบริโภคผลิตภัณฑ์ปศุสัตว์จะมีปริมาณสูงขึ้นในช่วงเทศกาลตรุษจีนของทุกปี โดยสินค้าปศุสัตว์ที่นิยมเลือกซื้อเพื่อเตรียมจัดพิธีไหว้ขอพรเทพเจ้าและบรรพบุรุษที่ล่วงลับ ได้แก่ เนื้อหมู เนื้อไก่ เนื้อเป็ด รวมถึงไข่ไก่ไข่เป็ด ดังนั้นเกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์และผู้ประกอบการโรงแปรรูปจะต้องเตรียมความพร้อมเพื่อผลิตเนื้อสัตว์ให้เพียงพอต่อความต้องการของผู้บริโภค กรมปศุสัตว์ซึ่งเป็นหน่วยงานของรัฐที่มีหน้าที่ในการกํากับดูแลการผลิตเนื้อสัตว์ตลอดทั้งกระบวนการตั้งแต่ฟาร์มเลี้ยงสัตว์จนกระทั่งเป็นเนื้อสัตว์ก่อนถึงมือผู้บริโภค จึงเพิ่มความเข้มงวดในการตรวจสอบกระบวนการผลิตเนื้อสัตว์ยิ่งขึ้น เพื่อให้ผู้บริโภคได้บริโภคเนื้อสัตว์ที่ถูกสุขลักษณะและสุขอนามัยในเทศกาลตรุษจีนที่กําลังจะมาถึงนี้กรมปศุสัตว์ เชิญชวนผู้บริโภคและประชาชน สนใจเลือกซื้อสินค้าปศุสัตว์ ที่มีตราสัญลักษณ์ปศุสัตว์ OK สร้างความมั่นใจแก่ประชาชน ปัจจุบันร้านที่มีตราสัญลักษณ์แล้วว่า 8,000 ร้านทั่วประเทศ ที่ตรวจสอบแหล่งที่มาได้ถูกต้อง ได้มาตรฐาน พร้อมยืนยันมีปริมาณสินค้าปศุสัตว์เพียงพอต่อความต้องการแน่นอน โดยเฉพาะช่วงตรุษจีนที่ใกล้จะถึงนี้ ส่วนเรื่องราคาคงเป็นไปตามกลไกลทางการตลาด
16/1/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
Radio-สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230116120341492
null
จังหวัดยะลา เดินหน้ามาตรการลดผลกระทบสิ่งแวดล้อม เพิ่มเส้นทางเลี่ยงเมืองในการจราจร
วันนี้ (16 มกราคม 2566) ที่ ห้องประชุมเทศบาลนครยะลา ต.สะเตง อ.เมือง จ.ยะลา นายสมบูรณ์ พรหมณี ปลัดอําเภอหัวหน้ากลุ่มงานบริหารและงานปกครอง ได้เป็นประธานการประชุมหารือมาตรการลดผลกระทบสิ่งแวดล้อม (กลุ่มย่อย ครั้งที่2) กลุ่มที่4 ในโครงการจ้างวิศวกรที่ปรึกษาสํารวจและออกแบบทางหลวง 4 ช่องจราจร ทางเลี่ยงเมืองยะลา(ด้านตะวันตก) ของกรมทางหลวง กระทรวงคมนาคม พร้อมด้วย นายสุพัฒน์ ชุ่มมุณีรัตน์ วิศวกรโยธาชํานาญการพิเศษ ผู้จัดการโครงการสําหรับการประชุมในครั้งนี้ จัดขึ้นเพื่อนําเสนอข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับรูปแบบของโครงการและมาตรการป้องกันการแก้ไขและลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมที่คาดว่าจะเกิดขึ้นจากการพัฒนาโครงการพร้อมทั้งรับฟังความคิดเห็นและข้อเสนอแนะจากกลุ่มผู้มีส่วนได้ส่วนเสียเพื่อนําไปใช้ประกอบการปรับปรุงรูปแบบของโครงการให้มีความเหมาะสมมากยิ่งขึ้น โดยประชาชนทุกท่าน สามารถติดตามข้อมูลเพิ่มเติมของโครงการได้ที่ www.ทางเลี่ยงเมืองยะลา.com หรือเพจ Facebook ทางเลี่ยงเมืองยะลาผู้จัดการโครงการ เผยว่า โครงการสํารวจและออกแบบทางหลวง 4 ช่องจราจรทางเลี่ยงเมืองยะลา (ด้านตะวันตก) เป็นโครงการที่อยู่ในแผนพัฒนาทางหลวงโดยกรมทางหลวง เล็งเห็นว่าอําเภอเมืองยะลาเป็นเมืองที่มีอัตราการขยายตัวด้านเศรษฐกิจมากขึ้นทุกปี ส่งผลให้มีความต้องการเดินทางในโครงข่ายทางหลวงและถนนในเขตเมืองยะลาสูงมากยิ่งขึ้น จึงต้องเตรียมความพร้อมด้านโครงข่ายถนนเพื่อรองรับการจราจรและขนส่งสินค้าในอนาคต โดยมีแนวคิดในการก่อสร้างทางเลี่ยงเมืองยะลาด้านตะวันตกเป็นทางเลือกสําหรับผู้เดินทางระยะไกลที่ไม่จําเป็นต้องผ่านเขตตัวเมืองยะลาใช้เป็นทางเลี่ยงเมือง ด้านกรมทางหลวงจึงว่าจ้างกลุ่มบริษัทที่ปรึกษาเพื่อดําเนินงานในโครงการนี้#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
16/1/2023
ภาคใต้
ยะลา
สทท.ยะลา
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230116115020480
null
“พลเอก ประวิตร” ลงพื้นที่ จ.ลำปาง ติดตามผลการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาล เร่งเก็บกักน้ำป้องกันภัยแล้งไว้ล่วงหน้า
วันนี้ (16 ม.ค.66) พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้อํานวยการกองอํานวยการน้ําแห่งชาติ (กอนช.) พร้อมด้วย ดร.สุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสํานักงานทรัพยากรน้ําแห่งชาติ และคณะ ลงพื้นที่ตรวจราชการ ณ จังหวัดลําปาง เป็นประธานการประชุมติดตามผลการดําเนินงานตามนโยบายรัฐบาล ณ ศาลากลาง จ.ลําปาง โดยมี นายชัชวาลย์ ฉายะบุตร ผู้ว่าราชการจังหวัดลําปาง กล่าวต้อนรับพร้อมบรรยายภาพรวมของจังหวัดรองนายกรัฐมนตรี ได้เน้นย้ําหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดําเนินการบริหารจัดการน้ํา เพื่อป้องกันและบรรเทาผลกระทบช่วงภัยแล้งไว้ล่วงหน้า เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบกับประชาชนหรือเกิดให้น้อยที่สุด โดยมอบหมายให้ สทนช. บูรณาการร่วมกับทุกหน่วยงาน ดําเนินการตามมาตรการรองรับฤดูแล้ง 2565/2566 อย่างเคร่งครัด และโครงการเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการทรัพยากรน้ําเพื่อรองรับสถานการณ์ภัยแล้งและฝนทิ้งช่วง ปี 2566 รวมทั้งให้จังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเตรียมการป้องกันและบรรเทาปัญหาพื้นที่เสี่ยงขาดแคลนน้ําด้าน ดร.สุรสีห์ กล่าวเพิ่มเติมถึงการเตรียมการป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยแล้งในพื้นที่ จ.ลําปาง ภัยแล้งปี 2565/2566 ตามที่ กอนช. ได้มีการวิเคราะห์พื้นที่เสี่ยงขาดแคลนน้ําในพื้นที่พบว่า จ.ลําปาง ไม่มีพื้นที่เสี่ยงขาดแคลนน้ําด้านอุปโภคบริโภค ทั้งในเขตและนอกเขตการประปาส่วนภูมิภาคแต่อย่างใด ขณะที่ด้านเกษตรกรรม นารอบที่ 2 (นาปรัง) ไม่มีพื้นที่เสี่ยงเช่นกัน ยกเว้นพืชต่อเนื่องประเภทไม้ผลที่มีคุณค่าทางเศรษฐกิจ) มี 2 ตําบล 2 อําเภอ ได้แก่ ต.บ้านบอม อ.แม่ทะ และ ต.บ้านหวด อ.งาว ซึ่ง กอนช. ได้ส่งข้อมูลให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเตรียมแผนงานโครงการในการสนับสนุนน้ําต้นทุน เพื่อป้องกันการขาดแคลนน้ําอุปโภคบริโภคและการเกษตรไม่ให้ผลผลิตได้รับความเสียหายเรียบร้อยแล้ว#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
16/1/2023
null
ลำปาง
สวท.ลำปาง
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230116113626471
null
ทช. เร่งถอดบทเรียนการตายของเต่าทะเล 11 ตัว หลังพบเกิดจากการกินขยะพลาสติกเข้าไป พร้อมรณรงค์ให้ประชาชนให้ความสำคัญกับการทิ้งและแยกขยะให้มากขึ้น
กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) เร่งถอดบทเรียนการตายของเต่าทะเล 11 ตัว หลังพบเกิดจากการกินขยะพลาสติกเข้าไป พร้อมรณรงค์ให้ประชาชนให้ความสําคัญกับการทิ้งและแยกขยะให้มากขึ้น นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) กล่าวว่า หลังเกิดเหตุพบลูกเต่าทะเลติดแพขยะขนาดใหญ่กว่า 700 เมตร ถูกซัดขึ้นมาบนชายหาดบ้านอําเภอ ตําบลนาจอมเทียน อําเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี เมื่อวันที่ 8 กันยายน 2565 เจ้าหน้าที่กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) ได้นําลูกเต่า 11 ตัว ไปรักษาที่โรงพยาบาลสัตว์ทะเลหายาก จังหวัดระยอง โดยลูกเต่ามีอายุไม่ถึง 1 เดือน มีอาการอ่อนแรง ส่วนใหญ่ซึม ไม่ยอมกินอาหาร จึงต้องดูแลอย่างใกล้ชิด หลังจากสัตวแพทย์กรม ทช. พยายามดูแลรักษา ประคับประคองอาการมาได้ 1 เดือน ลูกเต่าเริ่มทยอยตาย จนเข้าสู่เดือนที่ 3 ลูกเต่าตัวสุดท้ายได้ตายลง จากการชันสูตรของทีมสัตวแพทย์ ทช. พบลูกเต่าตัวเล็กทุกตัวมีขยะอยู่ในทางเดินอาหาร แม้จะได้รับการรักษาแต่ยังไม่สามารถขับถ่ายขยะจํานวนมากออกมาได้ ทําให้ทางเดินอาหารอุดตันไปด้วยขยะและลูกเต่าไม่สามารถกินอาหารได้ ส่งผลให้เกิดภาวะแทรกซ้อนและตายในที่สุด แม้ขยะที่อุดตันในลําไส้ลูกเต่าจะเป็นเพียงขยะชิ้นเล็กๆสําหรับมนุษย์ แต่ทําให้สัตว์ทะเลเจ็บปวดและทรมานจนตายได้ โดยเฉพาะกรณีสัตว์ทะเลหายากที่ใกล้สูญพันธุ์อย่างเต่าทะเลมีอัตราการรอดน้อยมากอยู่แล้ว และภัยคุกคามจากขยะทะเลยิ่งทําให้เต่าทะเลมีโอกาสสูญพันธุ์มากขึ้น ทั้งนี้ จากการพูดคุยกับสัตวแพทย์ ประจําศูนย์ช่วยชีวิตสัตว์ทะเลหายากสิรีธาร ทช. พบขยะพลาสติกเป็นภัยกับเต่าทะเลตั้งแต่เกิดจนตาย เมื่อเต่าทะเลโตขึ้นต้องแหวกว่ายผ่านแพขยะพลาสติกระหว่างทางที่อพยพไปหากินแหล่งอื่น ซึ่งสิ่งที่น่าตกใจคือเต่าทะเลอาจกินขยะพลาสติกเข้าไป เพราะเข้าใจผิดคิดว่าขยะที่ล่องลอยอยู่ในทะเลเป็นอาหาร นอกจากขยะพลาสติกจะมีผลกระทบต่อสัตว์ทะเลแล้ว มนุษย์อาจได้รับผลกระทบจากพลาสติกเช่นกันในรูปแบบของไมโครพลาสติก หรือพลาสติกที่เล็กกว่า 5 มิลลิเมตร ที่ทํามาจากพลาสติกที่เราใช้ในชีวิตประจําวัน อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) กล่าวย้ําว่า สามารถเป็นส่วนหนึ่งหยุดไม่ให้ขยะพลาสติกไหลลงสู่ทะเล หรือหยุดสร้างไมโครพลาสติกได้ คือ ลดการสร้างขยะพลาสติก เพราะสัตว์ทะเลยังคงเป็นเหยื่ออยู่เสมอ จึงควรหันมาใส่ใจสิ่งแวดล้อมและปลูกจิตสํานึกสร้างการรับรู้เข้าใจในสังคม ซึ่งปัญหาขยะทะเลที่กําลังวิกฤติขณะนี้สามารถบรรเทาด้วยความร่วมมือของทุกภาคส่วน ช่วยกันลดการสร้างขยะและแยกขยะ เพื่อให้เกิดการรีไซเคิล หรือใช้ซ้ําให้มากที่สุด และช่วยกันเก็บขยะที่ตกค้างในสิ่งแวดล้อมทางทะเล
16/1/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230116113903474
null
แจ้งเตือนมวลอากาศเย็นระลอกใหม่ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีลมแรงอุณหภูมิลดลง
ว่าที่ร้อยตรี ธนะสิทธิ์ เอี่ยมอนันชัย รองอธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา กล่าวว่า ได้ออกประกาศแจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่ประเทศไทยตอนบนและภาคใต้จากบริเวณความกดอากาศต่ํา หรือมวลอากาศเย็นกําลังแรงระลอกใหม่ที่แผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ไปจนถึงวันที่ 19 มกราคม 2566 ทําให้วันนี้ภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีลมแรง อุณหภูมิลดลง 2 - 4 องศาเซลเซียส และลดลงได้อีกถึง 6 องศาเซลเซียส ขณะที่ภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก กรุงเทพมหานครและปริมณฑลอุณหภูมิลดลง 2 - 4 องศาเช่นกัน แต่ในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑลระยะนี้จะมีฝุ่นละออง PM.2.5 เพิ่มขึ้นในช่วงเช้าเนื่องจากลมนิ่งเมื่อมีหมอกรวมกับการประกอบกิจกรรมในเขตเมืองจึงทําให้เกิดฝุ่นละอองมากขึ้น ประชาชนควรเพิ่มการดูแลตัวเองด้วยการสวมหน้ากากที่ป้องกัน PM.2.5 ไปต่อเนื่องซึ่งคาดว่าหลังจากวันที่ 19 มกราคม 2566 มวลอากาศเย็นจะอ่อนกําลังจะทําให้ค่าฝุ่นละอองกลับมาเพิ่มขึ้นอีกครั้งสําหรับประชาชนในพื้นที่ภาคใต้ โดยเฉพาะภาคใต้ฝั่งอ่าวไทยขอให้ระมัดระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนตกสะสมซึ่งคาดว่าจะมีฝนตกไปจนถึงวันที่ 22 มกราคม 2566 ซึ่งบางพื้นที่อาจจะมีเกิดน้ําท่วมฉับพลันและน้ําป่าไหลหลากได้ ขณะที่คลื่นลมอ่าวไทยคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูง 2 - 3 เมตร เรือเล็กไม่ควรออกจากฝั่งในระยะเวลาดังกล่าว
16/1/2023
null
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230116145453576
null
กรมส่งเสริมสหกรณ์ เร่งผลักดันสหกรณ์ให้เป็นกลไกหลักในการพัฒนาเศรษฐกิจฐานราก
นางสาวมนัญญา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยหลังเป็นประธานเปิดโครงการฝึกอบรมหลักสูตร การพัฒนาศักยภาพผู้บริหารเพื่อการบริหารงานสํานักงานสหกรณ์จังหวัด รวมถึงมอบนโยบาย ภาพรวมนโยบายด้านการเกษตรของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ให้กับสหกรณ์จังหวัด ว่า สํานักงานสหกรณ์จังหวัด เป็นหน่วยงานที่ทํางานใกล้ชิดกับเกษตรกรมากที่สุดหน่วยงานหนึ่ง สหกรณ์และกลุ่มเกษตรกรถือเป็นองค์กรหลักของภาคเกษตรกรในระดับฐานราก และเป็นฐานสําคัญของการพัฒนาระบบเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ ซึ่งรัฐบาล และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้ให้ความสําคัญเป็นอย่างมาก ขอให้สหกรณ์จังหวัดช่วยกันผลักดันและดําเนินโครงการสําคัญให้สําเร็จผล เพื่อให้เกษตรกรและกลุ่มเกษตรกรสามารถช่วยเหลือมวลสมาชิกให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น โดยผลักดันโครงการต่างๆ ให้ประสบความสําเร็จ นอกจากนี้ ย้ําการนํานโยบายจากกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ไปสู่การปฏิบัติ เพื่อให้เกิดความเจริญก้าวหน้าแก่สหกรณ์และกลุ่มเกษตรกร พัฒนาสหกรณ์ ฟื้นฟู เสริมสร้าง กระจายความเข้มแข็งสู่เกษตรกรเพื่อความมั่นคง ตลอดจนส่งผลให้สมาชิกมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น เชื่อมั่นว่า สหกรณ์และกลุ่มเกษตรกรถือเป็นองค์กรกรหลักของภาคการเกษตรในระดับพื้นที่และเป็นฐานสําคัญของการพัฒนาระบบเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ ซึ่งกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้ให้ความสําคัญต่อการนําระบบสหกรณ์เป็นกลไกในการยกระดับคุณภาพชีวิตให้กับประชาชนในทุกพื้นที่ โดยคาดหวังว่าสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกรจะเป็นองค์กรที่ช่วยส่งเสริมให้สมาชิกมีความเป็นอยู่และคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
16/1/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
Radio-สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230116150832584
null
ปศุสัตว์จันทบุรี kick off “โครงการ จันทบูร หมู่บ้านปศุสัตว์พัฒนา” สร้างความเข้มแข็งให้เกษตรกร
(16 ม.ค.66) น.สพ.ชาติชาย ยิ้มเครือ ปศุสัตว์จังหวัดจันทบุรี พร้อม นางสาวจีรวรรณ สาระทัศนานันท์ ปศุสัตว์อําเภอเมืองจันทบุรี นายอยุทธ รจนากูล ปศุสัตว์อําเภอขลุง สพ.ญ.นพสิริ นาคสิทธิวงศ์ กลุ่มยุทธศาสตร์และสารสนเทศการปศุสัตว์ ลงพื้นที่บ้านเก่า ม.4 ต.บางกะจะ อ.เมืองจันทบุรี เกษตรกรเลี้ยงไก่พื้นเมือง และโคเนื้อ รวม 300 ตัว มี นายสิทธิรัตน์ ศรีจันทร์ เป็นนายก อบต.บางกะจะ และบ้านซึ้งบน ม.4 ต.ซึ้ง อ.ขลุง เกษตรกรเลี้ยงสัตว์ไก่ไข่ ไก่พื้นเมือง รวม 1,000 ตัว มีนายสงัด เมธวัน เป็นประธานกลุ่ม เพื่อ kick off นําร่อง “โครงการ จันทบูร หมู่บ้านปศุสัตว์พัฒนา” เพื่อส่งเสริมความเข้มแข็งของเกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์และเครือข่ายในหมู่บ้าน จัดตั้งกองทุนเวชภัณฑ์ประจําหมู่บ้าน รองรับการดูแล รักษาพยาบาลสัตว์ตามระบบสัตวแพทย์ทางไกลของกรมปศุสัตว์ (DLD-Televet) เพื่อให้เกษตรกรเข้าถึงเวชภัณฑ์ที่จําเป็นได้โดยง่าย ซึ่งจะกํากับ ดูแลโดยคณะกรรมการหมู่บ้าน จัดให้มีอาสาปศุสัตว์ และปศุสัตว์ตําบล สนับสนุนการเลี้ยงและการป้องกันโรคสัตว์ ให้การรับรองคุณภาพสินค้าปศุสัตว์ของหมู่บ้าน ส่งเสริมการแปรรูปและจําหน่ายผลิตภัณฑ์สินค้าปศุสัตว์ ส่งเสริมการปลูกหญ้าอาหารสัตว์ เพื่อลดปัญหาอาหารสัตว์มีราคาแพง และพัฒนาฟาร์มเลี้ยงสัตว์เข้าสู่ระบบการป้องกันโรคและการเลี้ยงสัตว์ที่เหมาะสม (GFM) เป็นการพัฒนา ยกระดับการเลี้ยงสัตว์ของหมู่บ้านในทุกๆ ด้าน สร้างความมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืนในการประกอบอาชีพเลี้ยงสัตว์ และจะขยายผลสู่หมู่บ้านอื่นๆ ต่อไป#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
16/1/2023
ภาคตะวันออก
จันทบุรี
สวท.จันทบุรี
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230116182406659
null
เกษตรย่านตาขาว ลงพื้นที่เยี่ยมเยียนและติดตามผลการดำเนินงานกลุ่มแม่บ้านเกษตรกรบ้านต้นปรง ตำบลนาชุมเห็ด
วันนี้ (16 มกราคม 2566)?นายนนท์นภนต์ นาพอ เกษตรอําเภอย่านตาขาว มอบหมายให้นางสาวอภันตรี มีบุญ และนายฮูสรี หีมมะหมัด นักวิชาการส่งเสริมการเกษตรปฏิบัติการ ลงพื้นที่เยี่ยมเยียนและติดตามผลการดําเนินงานกลุ่มแม่บ้านเกษตรกรบ้านต้นปรง ณ ที่ทําการวิสาหกิจชุมชนกลุ่มแม่บ้านเกษตรกรบ้านต้นปรงครบวงจร หมู่ที่ 3 ตําบลนาชุมเห็ด อําเภอย่านตาขาว จังหวัดตรัง โดยกลุ่มมีการดําเนินกิจกรรมอย่างต่อเนื่อง เน้นผลิตเครื่องแกงตามออเดอร์ และส่งให้ตัวแทนจําหน่าย ส่วนใหญ่จําหน่ายภายในชุมชน ชุมชนใกล้เคียง และต่างจังหวัด กลุ่มฯ มีการผลิตเครื่องแกงหลากหลาย ดังนี้ เครื่องแกงคั่วพริก เครื่องแกงกะทิ เครื่องแกงผัดเผ็ด และเครื่องแกงส้ม จําหน่ายราคากิโลกรัมละ 110 บาท สามารถสั่งซื้อเครื่องแกงได้ที่วิสาหกิจชุมชนกลุ่มแม่บ้านเกษตรกรบ้านต้นปรงครบวงจร หมู่ที่ 3 ตําบลนาชุมเห็ด อําเภอย่านตาขาว จังหวัดตรัง โทร. 098-5646299, 069-6350823#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
16/1/2023
ภาคใต้
ตรัง
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดตรัง
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230116192246670
null
ปศุสัตว์ลพบุรี ระดมเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังโรคลัมปี สกิน ไม่ให้ระบาดในวัว-ควาย
วันที่ 16 มกราคม 2566 นายจรูญ ชูเกียรติวัฒนา ปศุสัตว์จังหวัดลพบุรี ได้ระดมเจ้าหน้าที่จากสํานักงานปศุสัตว์อําเภอทั้ง 11 อําเภอ ของจังหวัดลพบุรี เร่งดําเนินการประชาสัมพันธ์ให้เกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์ได้รับรู้ลักษณะของโรคลัมปี สกิน ส่วนใหญ่เป็นในวัวและควาย โดยจะมีตุ่มเนื้อบนผิวหนังและเยื่อเมือกทั่วร่างกาย ต่อมาจะตกสะเก็ดและเป็นแผลหลุม สัตว์จะมีไข้และหายใจลําบาก โรคนี้ไม่ติดต่อจากสัตว์สู่คน จังหวัดลพบุรีได้ยกระดับการเฝ้าระวังอย่างเข้มข้น หลังจากพบว่ามีโรคนี้ระบาดในจังหวัดข้างเคียงของจังหวัดลพบุรี โดยเฉพาะการควบคุมการเคลื่อนย้ายสัตว์ และแนะนําเกษตรกรควบคุมแมลงดูดเลือด พาหะนําโรค ได้แก่ ยุง แมลงวัน เหลือบ และเห็บ โดยทําลายแหล่งเพาะพันธุ์ ใช้ยาฆ่าแมลง หรือกางมุ้งป้องกัน ตลอดจนขอความร่วมมือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้แก่ สหกรณ์/ศูนย์รับน้ํานมดิบทุกแห่งในจังหวัด อาสาสมัครปศุสัตว์ประจําหมู่บ้าน และเครือข่ายเฝ้าระวัง ค้นหาโรค หากตรวจพบฟาร์มที่สงสัยให้แจ้งเจ้าหน้าที่สํานักงานปศุสัตว์จังหวัดลพบุรีหรือสํานักงานปศุสัตว์อําเภอในท้องที่ อีกทั้งยังได้ขอความร่วมมือพ่อค้าสัตว์และเกษตรกร งดการซื้อขายวัว-ควาย ที่มาจากแหล่งที่เกิดโรค หรือจากพื้นที่ในรัศมี 50 กิโลเมตร รอบจุดเกิดโรคอีกด้วย#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
16/1/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
ลพบุรี
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดลพบุรี
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230116201003693
null
ปศุสัตว์จังหวัดเพชรบุรี ตรวจติดตามโรงฆ่าสัตว์ในพื้นที่อำเภอเมืองเพชรบุรี สร้างความเชื่อมั่นแก่ผู้บริโภคสินค้าปศุสัตว์ ได้บริโภคเนื้อสัตว์ที่สะอาด ปลอดภัย ถูกสุขลักษณะ
วันนี้ (16 มกราคม 2566) สัตวแพทย์หญิงณิชกานต์ ค่อมบุญ พร้อมเจ้าหน้าที่กลุ่มพัฒนาคุณภาพสินค้าปศุสัตว์ สํานักงานปศุสัตว์จังหวัดเพชรบุรี ร่วมกับ นายอิสรา หล้าสุดตา ปศุสัตว์อําเภอเมืองเพชรบุรี และเจ้าหน้าที่สํานักงานปศุสัตว์อําเภอเมืองเพชรบุรี ตรวจติดตามโรงฆ่าสัตว์ที่ได้รับใบอนุญาตประกอบกิจการฆ่าสัตว์ ในพื้นที่อําเภอเมืองเพชรบุรี ประกอบด้วย โรงฆ่าสุกร 3 แห่ง โค 3 แห่ง และไก่ 1 แห่ง โดยมีวัตถุประสงค์ให้โรงฆ่าสัตว์ปฏิบัติได้ถูกต้องตามกฎกระทรวงและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ผู้บริโภคเนื้อสัตว์ในพื้นที่จังหวัดเพชรบุรี ได้บริโภคเนื้อสัตว์ที่สะอาด ปลอดภัย ถูกสุขลักษณะ สร้างความเชื่อมั่นแก่ผู้บริโภคสินค้าปศุสัตว์ที่ได้รับการตรวจสอบจากพนักงานตรวจโรคสัตว์ รวมถึงสามารถตรวจสอบย้อนกลับแหล่งที่มาของสัตว์ได้สวท.เพชรบุรี#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
16/1/2023
ภาคตะวันตก
เพชรบุรี
สวท.เพชรบุรี
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230116201149695
null
ปศุสัตว์ จังหวัดบุรีรัมย์ แนะ เกษตรกรควรให้ยาบำรุงและวิตามินต่างๆ และนำสัตว์เลี้ยงไปอยู่ในพื้นที่ลมไม่โกรก ในช่วงนี้ ส่วนกรณีวัคซีนลัมปีสกิน เมื่อวัคซีนล็อตใหม่มาถึง จะเร่งกระจายลงทุกพื้นที่ทันที
นายอภิชาติ สุวรรณชัยรบ ปศุสัตว์ จังหวัดบุรีรัมย์ เปิดเผยถึงความพร้อม สําหรับการสนับสนุนวัคซีนลัมปีสกินเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรว่า ขณะนี้ กรมปศุสัตว์ สามารถผลิตวัคซีนลัมปีสกินได้แล้ว ที่กองผลิตชีวภัณฑ์สัตว์ แต่การผลิตนั้นยังไม่เพียงพอ จึงต้องมีการนําเข้าจากต่างประเทศ สําหรับจังหวัดบุรีรัมย์ ได้มีการกระจายวัคซีนลงทุกพื้นที่แล้วก่อนหน้านี้ ส่วนกรณีโค-กระเบือตายในพื้นที่ หมู่ 7 ตําบลบ้านไทร ขณะนี้ได้มีการประสานงานไปยังปศุสัตว์อําเภอ เพื่อเร่งให้การช่วยเหลือด้านวัคซีนและการรักษาแล้วอย่างไรก็ตาม ช่วงนี้อยู่ในช่วงฤดูหนาว ทําให้เชื้อไวรัสสามารถอยู่ได้นาน และกระจายโรคได้เร็วขึ้น รวมถึงทําให้สัตว์เลี้ยงเกิดอาการป่วยได้ง่าย เกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์ ไม่ว่าจะเป็นผู้เลี้ยงโค,กระบือ,แพะ,แกะ หรือสัตว์ปีก ควรสังเกตอาการสัตว์เลี้ยง ควรให้ยาบํารุงและวิตามินต่างๆ และนําสัตว์เลี้ยงไปอยู่ในพื้นที่ลมไม่โกรก สําหรับผู้เลี้ยงโค-กระบือ ควรติดต่อปศุสัตว์อําเภอ หรืออาสาปศุสัตว์ เพื่อดําเนินการฉีดวัคซีนป้องกันโรคปากและเท้าเปื่อย ส่วนกรณีโรคลัมปีสกิน สําหรับโค-กระบือที่ได้รับวัคซีนแล้วจะมีภูมิต้านทานโรคอยู่ ให้เกษตรกรเฝ้าระวังลูกโค-กระบือ ที่ยังไม่ได้รับวัคซีน อาจมีโอกาสติดโรคลัมปีสกินได้ หากพบอาการควรเร่งติดต่ออาสาปศุสัตว์ทันที ส่วนวัคซีนลัมปีสกินล็อตใหม่เมื่อทางปศุสัตว์จังหวัดได้รับ จะเร่งกระจายลงทุกพื้นที่โดยด่วนเพื่อช่วยเหลือเกษตรกร #สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
16/1/2023
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
บุรีรัมย์
สวท.บุรีรัมย์
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230116225046716
null
จังหวัดตรังเร่งรัดทุกอำเภอดำเนินการขับเคลื่อน ‘ถังขยะเปียก ลดโลกร้อน’ ให้ครบทุกครัวเรือน เพื่อลดขยะที่ต้นทาง-ลดภาระงบประมาณของท้องถิ่นในการจัดการขยะ
นายขจรศักดิ์ เจริญโสภา ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง เปิดเผยถึงความคืบหน้าในการจัดทําถังขยะเปียก ลดโลกร้อน ซึ่งภาพรวมทั้งจังหวัดมีครัวเรือนเป้าหมายใน THAI QM จํานวน 145,208 ครัวเรือน และจํานวนครัวเรือนที่จัดทําถังขยะเปียกลดโลกร้อนไปแล้วในขณะนี้ มีจํานวน 76,773 ครัวเรือน คิดเป็นร้อยละ 52.87 โดยอําเภอที่มีผลการดําเนินงานมากที่สุด คือ อําเภอปะเหลียน มีครัวเรือนที่จัดทําถังขยะเปียกมากสุดถึงร้อยละ 81.80 ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง กล่าวว่า ผลการดําเนินงานจัดทําถังขยะเปียกลดโลกร้อน มีเพียง 2 อําเภอที่ยังดําเนินการได้ต่ํากว่า 50% คืออําเภอวังวิเศษและอําเภอเมืองตรัง ร้อยละ 19.29 ซึ่งผู้ว่าราชการจังหวัดตรังได้เน้นย้ําให้ทุกอําเภอได้เร่งรัดการดําเนินการ ขับเคลื่อน ‘ถังขยะเปียก ลดโลกร้อน’ ให้ครบทุกครัวเรือน 100% ตั้งเป้าลดขยะที่ต้นทาง-ลดภาระงบประมาณของท้องถิ่นในการจัดการขยะ ลดภาวะโลกร้อน สร้างสิ่งแวดล้อมที่ดีนําไปสู่เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนต่อไป#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
17/1/2023
ภาคใต้
ตรัง
สวท.ตรัง
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230117094821768
null
กรมชลประทาน เดินหน้าโครงการปรับปรุงระบบชลประทานเจ้าพระยาฝั่งตะวันตก เพิ่มประสิทธิภาพโครงข่ายการระบายน้ำ
นายประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทาน กล่าวว่า โครงการปรับปรุงระบบชลประทานเจ้าพระยาฝั่งตะวันตก ซึ่งเป็น 1 ใน 9 แผนงานของแผนบรรเทาอุทกภัยลุ่มน้ําเจ้าพระยาตอนล่าง ก่อนเสนอให้คณะรัฐมนตรี พิจารณาอนุมัติโครงการต่อไป ซึ่งโครงการดังกล่าว จะเป็นการปรับปรุง/ขุดลอกคลอง งานอาคารบังคับน้ํา งานก่อสร้างคลองถนน งานก่อสร้างอุโมงค์ระบายน้ํา และงานปรับปรุงคันควบคุมน้ําทะเลและอาคารประกอบ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ําตั้งแต่คลองเจ้าเจ็ด-บางยี่หน จนออกสู่ชายทะเลอ่าวไทย ซึ่งจะช่วยลดภาระการระบายน้ําออกสู่แม่น้ําท่าจีนและแม่น้ําเจ้าพระยา เป็นการบรรเทาความเสียหายจากอุทกภัยให้กับพื้นที่ลุ่มเจ้าพระยาตอนล่างอีกทางหนึ่งด้วย โดยมีแผนดําเนินโครงการ 4 ปี ตั้งแต่ พ.ศ. 2568 – พ.ศ. 2571 อาทิ งานปรับปรุง/ขุดลอกคลองในแนวเหนือ-ใต้ และอาคารบังคับน้ํา ช่วงตั้งแต่คลองเจ้าเจ็ด-บางยี่หน ถึงคลองพิทยาลงกรณ์ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ํา ตั้งแต่คลองเจ้าเจ็ด-บางยี่หน จนออกสู่ชายทะเลอ่าวไทยระยะทางประมาณ 300 กิโลเมตร /งานปรับปรุงคลองเดิมระยะทาง และก่อสร้างคลองถนน บริเวณถนนพุทธมณฑลสาย 5 ระยะทางประมาณ 4 กิโลเมตร และก่อสร้างอุโมงค์ระบายน้ําใต้คลองแนวลิขิต 1 ที่มีอัตราการสูบน้ํารวม 30 ลบ.ม./วินาที ,งานปรับปรุงคันควบคุมน้ําทะเลพร้อมอาคารประกอบแนวคันแก้มลิงคลองมหาชัย–คลองสนามชัย เพิ่มประสิทธิภาพในการเก็บกักน้ําในแก้มลิง และระบายน้ําออกจากแก้มลิงคลองมหาชัย–คลองสนามชัยลงสู่ทะเล เป็นต้น ปัจจุบันกรมชลประทาน ดําเนินการออกแบบเสร็จเรียบร้อยแล้ว โดยหลังจากนี้จะประสานงานและบูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้มีความพร้อมก่อนเสนอให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติดําเนินโครงการต่อไป ซึ่งหากโครงการดําเนินการแล้วเสร็จ จะเป็นเครื่องมือสําคัญในการบริหารจัดการน้ํา ซึ่งจะช่วยระบายน้ําจากพื้นที่ตอนบนผ่านโครงข่ายคลองในแนวเหนือ-ใต้ และยังสามารถเพิ่มศักยภาพในการเก็บกักน้ําและระบายน้ําของพื้นที่แก้มลิงคลองมหาชัย-คลองสนามชัย รวมทั้งยังสามารถเพิ่มปริมาณการระบายน้ําลงสู่ทะเลในพื้นที่ตอนล่างบริเวณชายทะเลและยังเป็นแหล่งเก็บกักน้ําในคลองสําหรับใช้ในช่วงแล้งอีกด้วย
17/1/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
Radio-สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230117094413766
null
เกษตรลำปาง เตรียมออกหน่วยให้บริการ “โครงการคลินิกเกษตรเคลื่อนที่ในพระราชานุเคราะห์ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร” 18 มกราคมนี้
นายธีระพงศ์ ฤทธิโชติ เกษตรจังหวัดลําปาง เปิดเผยว่า จังหวัดลําปาง โดยสํานักงานเกษตรจังหวัดลําปาง กําหนดจัดโครงการคลินิกเกษตรเคลื่อนที่ในพระราชานุเคราะห์ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ครั้งที่ 1 ประจําปีงบประมาณ 2566 ณ โรงเรียนไหล่หินวิทยา ตําบลไหล่หิน อําเภอเกาะคา จังหวัดลําปาง โดยมีเป้าหมายเกษตรกรร่วมงานและเข้ารับบริการทางการเกษตร จํานวน 100 คน จัดโครงการฯ เพื่อให้บริการแก่เกษตรกรในการแก้ไขปัญหาด้านการเกษตรได้อย่างรวดเร็วทั่วพื้นที่ โดยที่เกษตรกรไม่ต้องเดินทางไปหาเจ้าหน้าที่ และสอดคล้องกับความต้องการของเกษตรกร ตลอดจนสร้างการรับรู้ตระหนักถึงความสําคัญ ของทรัพยากรธรรมชาติและเกิดจิตสํานึกในการช่วยกันอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติอย่างยั่งยืน ซึ่งมีการบูรณาการความร่วมมือกันระหว่างหน่วยงานวิชาการ หน่วยงานส่งเสริมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมให้บริการเกษตรกรให้สามารถทําการผลิตทางการเกษตรได้อย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืนโดยเป็น การปฏิบัติงานในเชิงรุกที่ทําให้เกษตรกรในพื้นที่เป้าหมายที่มีปัญหาได้รับบริการทางการเกษตร เช่น การวิเคราะห์ดิน การวินิจฉัยโรคพืช โรคสัตว์ รวมถึงการถ่ายทอดเทคโนโลยี และฝึกอบรมความรู้การเกษตรทั้งนี้ โครงการคลินิกเกษตรเคลื่อนที่ฯ เกิดจากในวโรกาสอันเป็นมิ่งมหามงคล ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เมื่อครั้งทรงดํารงพระราชอิสริยยศสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ทรงมีพระชนมายุครบ 50 พรรษา ในปี 2545 โดยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้ขอพระราชานุญาตจัดทําโครงการคลินิกเกษตรเคลื่อนที่กราบบังคมทูลถวาย และสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ทรงรับโครงการไว้ในพระราชานุเคราะห์ และทรงพระราชทานพระราชานุญาตอัญเชิญพระนามาภิไธยย่อไว้ในเครื่องหมายตราสัญลักษณ์โครงการ โดยเปิดให้บริการครั้งแรกเมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม 2545 ณ ตําบลบ้านหลวง อําเภอดอนพุด จังหวัดสระบุรี และได้ดําเนินงานมาอย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
17/1/2023
ภาคเหนือ
ลำปาง
สวท.ลำปาง
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230117091751755
null
เกษตรย่านตาขาว จังหวัดตรัง ลงพื้นที่ขับเคลื่อนการดำเนินกิจกรรมของศูนย์จัดการศัตรูพืชชุมชน (ศจช.) บ้านปากคลองกลาง ตำบลโพรงจระเข้
นายนนท์นภนต์ นาพอ เกษตรอําเภอย่านตาขาว มอบหมายให้นางแพรวพรรณ ทองพิทักษ์ นักวิชาการส่งเสริมการเกษตรชํานาญการ ลงพื้นที่ประชุมคณะกรรมการ ศจช. เพื่อขับเคลื่อนการดําเนินกิจกรรมของศูนย์จัดการศัตรูพืชชุมชนบ้านปากคลองกลาง หมู่ที่ 5 ตําบลโพรงจระเข้ อําเภอย่านตาขาว จังหวัดตรังทั้งนี้ เพื่อผลิตปุ๋ยหมักชีวภาพ โดยการลงหุ้นอย่างน้อยคนละ 1 หุ้นๆ ละ 100 ไม่เกิน 10 หุ้น และร่วมกันการผลิตขยายเชื้อราไตรโคเดอร์มา เพื่อนําไปใช้ในการป้องกันเชื้อราสาเหตุโรคพืชที่เกิดขึ้นหลังจากฝนตกหนักอย่างต่อเนื่อง โดยได้แนะนําวิธีการใช้เชื้อราไตรโคเดอร์มาในอัตราส่วนดังนี้ ทางดิน ผสมเชื้อสด 1 กิโลกรัม : รําละเอียด 4 กิโลกรัม : ปุ๋ยหมัก 100 กิโลกรัม โรยรอบโคนต้น ต้นละ 1 กิโลกรัม หรือใช้เชื้อราไตรโคเดอร์มา 1 กิโลกรัม ต่อน้ําสะอาด 100-200 ลิตร ฉีดพ่นให้ทั่วแปลง ในกรณีพืชผักแนะนําให้ใช้เชื้อราไตรโคเดอร์มาสดคลุกเมล็ดก่อนนําไปปลูก โดยผสมเชื้อสด 10 กรัม (1 ช้อนแกง) : เมล็ด 1 กิโลกรัม : น้ํา 10 ซีซี (1 ช้อนแกง) เขย่าให้เชื้อสดคลุกเคล้าจนติดผิวเมล็ด นําเมล็ดผึ่งลมให้แห้งหรือใช้ปลูกได้ทันที สําหรับเกษตรกรที่สนใจสามารถติดต่อขอรับคําแนะนําในการผลิตเชื้อราไตรโคเดอร์มา ได้ที่สํานักงานเกษตรอําเภอย่านตาขาว หรือติดต่อสอบถามผ่านเบอร์โทรศัพท์ 075-281241#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
17/1/2023
ภาคใต้
ตรัง
สวท.ตรัง
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230117095237769
null
เกษตรวังวิเศษ จังหวัดตรัง ลงพื้นที่ตรวจแปลงปาล์มน้ำมันที่เกิดปัญหาใบไหม้ หมู่ที่ 7 ตำบลท่าสะบ้า
นายนิกร ชิดเชื้อ เกษตรอําเภอวังวิเศษ มอบหมายให้เจ้าหน้าที่สํานักงานเกษตรอําเภอวังวิเศษ ลงพื้นที่ตรวจแปลงปาล์มน้ํามันที่เกิดปัญหาใบไหม้ ของนายจรัล บัวจันทร์ พบว่าปัญหาใบไหม้เกิดจากการใช้ปุ๋ยในปริมาณมาก และมีการใส่ปุ๋ยใกล้บริเวณโคนต้นมากเกินไป ณ หมู่ที่ 7 ตําบลท่าสะบ้า อําเภอวังวิเศษ จังหวัดตรังอย่างไรก็ตาม โรคปาล์มน้ํามัน สามารถเกิดขึ้นได้กับต้นปาล์มน้ํามันในทุกระยะ เช่น ระยะเมล็ด ระยะต้นกล้า ระยะปลูกลงแปลง ระยะที่ให้ผลผลิต ซึ่งโรคต่างๆ นั้น มีระดับความรุนแรงในการสร้างความเสียหายให้กับปาล์มน้ํามันแตกต่างกันไป เกษตรกรจึงควรทําความเข้าใจลักษณะอาการของโรคเพื่อวินิจฉัยและแก้ไขให้ถูกต้อง#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
17/1/2023
ภาคใต้
ตรัง
สวท.ตรัง
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230117095402771
null
สำนักงานเกษตรอำเภอย่านตาขาว จังหวัดตรัง ปล่อยแตนเบียนควบคุมแมลงดำหนามในสวนมะพร้าว ตำบลย่านตาขาว
นายนนท์นภนต์ นาพอ เกษตรอําเภอย่านตาขาว มอบหมายให้ นางแพรวพรรณ ทองพิทักษ์ นักวิชาการส่งเสริมการเกษตรชํานาญ ลงพื้นที่ปล่อยแตนเบียนอะซีโคเดส ที่ได้รับการสนับสนุนจากศูนย์ส่งเสริมเทคโนโลยีการเกษตรด้านอารักขาพืช จ.สงขลา โดยประสานผ่านกลุ่มอารักขาพืช สํานักงานเกษตรจังหวัดตรัง ในแปลงมะพร้าวของของนางจิระพันธ์ กุนหลัด เกษตรกรหมู่ที่ 2 ตําบลย่านตาขาว อําเภอย่านตาขาว จังหวัดตรัง ปลูกมะพร้าว พื้นที่ปลูก 5 ไร่ จํานวน 90 ต้น อายุประมาณ 1 ปี 8 เดือน เพื่อทําลายของแมลงดําหนาม ระยะตัวหนอนซ่อนตัวกัดกินใบมะพร้าวอ่อนที่ยังไม่คลี่ แทรกตัวตามรอยพับ และกัดกินผิวใบด้านที่พับอยู่กระจายทั่วทั้งแปลง โดยใบที่ถูกทําลายเมื่อคลี่ออกจะเห็นเป็นรอยสีน้ําตาลแห้งเป็นทางยาวตามใบ ทําให้ใบอ่อนมะพร้าวชะงักการเจริญเติบโตแตนเบียนอะซีโคเดส เป็นแมลงที่มีประโยชน์ช่วยทําลาย "แมลงดําหนาม" ซึ่งสร้างความเสียหายอย่างมากโดยเฉพาะยอดที่ยังไม่คลี่ ทําให้ยอดอ่อนของมะพร้าวชะงักการเจริญเติบโต หากต้นมะพร้าวถูกทําลายรุนแรงติดต่อกัน ทําให้ทางใบที่ถูกทําลายแห้งกลายเป็นสีน้ําตาล มองเห็นเป็นสีขาวโพลนชัดเจน หรือที่ชาวสวนมะพร้าวมักเรียกว่า "โรคหัวหงอก" หากเกษตรกรพบการเข้าทําลายให้รีบแจ้งอาสาสมัครเกษตรหมู่บ้าน หรือเจ้าหน้าที่สํานักงานเกษตรอําเภอย่านตาขาว หรืออําเภอใกล้เคียงทันที#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
17/1/2023
ภาคใต้
ตรัง
สวท.ตรัง
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230117095654772
null
เกษตรนาโยง เยี่ยมเยียนพร้อมให้คำแนะนำเกษตรกรผู้ปลูกกาแฟแซมในสวนยางพารา ตำบลนาข้าวเสีย ที่ประสบปัญหาโรคแอนแทรคโนส
นางสาวรัชนี นิลละออ เกษตรอําเภอนาโยง พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สํานักงานเกษตรอําเภอนาโยง ลงพื้นที่ ม.6 ต.นาข้าวเสีย อ.นาโยง จ.ตรัง เยี่ยมสวนกาแฟของนายอุดม ว่องที่ ผู้ปลูกกาแฟสายพันธุ์โรบัสต้า 600 ต้น และสายพันธุ์อาราบิก้า 1000 ต้น ปลูกแซมในสวนยางพารา พื้นที่กว่า 12 ไร่ อายุต้นกาแฟ เฉลี่ยประมาณ 4-5 ปี กําลังทยอยให้ผลผลิต และในช่วงฝนตกติดต่อกันหลายวัน สภาพอากาศเหมาะต่อการเกิดโรคทั้งนี้ จากการสํารวจแปลงพบลักษณะการเกิดโรคจากเชื้อรา ได้แก่ โรคแอนแทรคโนส ลักษณะอาการบริเวณส่วนของใบ กิ่ง และผล พบจุดลึกสีน้ําตาลเข้ม จากนั้นจะแห้งและเปลี่ยนเป็นสีดํา ส่วนใบจะเหลืองและมีผลแห้ง และพบโรคราดํา ลักษณะอาการที่พบ แมลงพวกปากดูดถ่ายน้ําหวานมาปกคลุมส่วนต่างๆ ของต้นกาแฟ เชื้อราที่อยู่ในอากาศจะปลิวมาขึ้นบนส่วนที่มีน้ําหวานสีดําของเชื้อราขึ้นปกคลุมใบ กิ่ง ช่อดอก ทําให้เห็นเป็นคราบสีดําคล้ายเขม่า บนใบที่ถูกเคลือบด้วยแผ่นคราบดําของเชื้อ อาการที่ปรากฏที่ช่อดอกถ้าเป็นรุนแรงทําให้ดอกร่วงไม่สามารถผสมเกสรได้ เบื้องต้นแนะนําให้เกษตรกรตัดแต่งกิ่ง ทรงพุ่ม ใบ และเก็บผลที่เป็นโรคไปเผาทําลายนอกแปลงปลูก เพื่อให้โล่ง โปร่ง อากาศถ่ายเทสะดวก และแสงแดดลอดผ่านได้ จากนั้นให้ใส่ปุ๋ยบํารุงต้น เพื่อให้ต้นกาแฟมีความแข็งแรง พร้อมแนะนําการใช้เชื้อราไตรโคเดอร์มา ฉีดพ่นในแปลงกาแฟด้วย#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
17/1/2023
ภาคใต้
ตรัง
สวท.ตรัง
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230117100025773
null
เกษตรยะลา ลงพื้นที่ ติดตามงานระบบส่งเสริมการเกษตร
เกษตรยะลา ลงพื้นที่ อําเภอเมือง - บันนังสตา ติดตามนิเทศงานตามระบบส่งเสริมการเกษตรครั้งที่ 1/2566นายกัสมัน ยะมาแล เกษตรจังหวัดยะลา มอบหมายให้ นางสาวจารุภา คงชะนะ หัวหน้ากลุ่มยุทธศาสตร์และสารสนเทศ พร้อมด้วยหัวหน้ากลุ่ม/ฝ่าย และเจ้าหน้าที่สํานักงานเกษตรจังหวัดยะลา ลงพื้นที่ติดตามนิเทศงานตามระบบส่งเสริมการเกษตร ครั้งที่ 1/2566 ณ สํานักงานเกษตรอําเภอเมืองยะลา และสํานักงานเกษตรอําเภอบันนังสตา โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้คําชี้แนะแนวทางการดําเนินงาน รับฟังบรรยายสรุปผลการดําเนินงาน ปัญหา อุปสรรค พร้อมทั้งติดตามงานในพื้นที่ที่อําเภอต้องการนําเสนอ เพื่อให้คําชี้แนะแนวทางการดําเนินงาน แก้ไขปัญหาให้สํานักงานเกษตรอําเภอดําเนินงานให้บรรลุเป้าหมาย และวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้ ภายในห้วงเวลาที่กําหนด#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
17/1/2023
ภาคใต้
ยะลา
สทท.ยะลา
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230117130044858
null
กรมส่งเสริมสหกรณ์ ชูหลักสูตรธุรกิจเกษตรแบบมืออาชีพ มุ่งให้สหกรณ์เป็นศูนย์กลางในระดับชุมชน ขับเคลื่อนเศรษฐกิจพื้นที่
นายวิศิษฐ์ ศรีสุวรรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ เปิดเผยหลังเป็นประธานในพิธีเปิดโครงการอบรมหลักสูตรธุรกิจเกษตรและการบริหารจัดการธุรกิจเกษตรแบบมืออาชีพ ว่า แม้ที่ผ่านมาสหกรณ์ภาคการเกษตรของไทยจะสามารถผลิตผลผลิตทางการเกษตรได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มไม้ผล พืชไร่ พืชผัก ปศุสัตว์ และโคนม แต่ว่าการเจริญเติบโตทางธุรกิจยังถือว่าน้อยเมื่อเทียบกับธุรกิจประเภทอื่น กรมส่งเสริมสหกรณ์ คิดจะช่วยให้สมาชิกสหกรณ์ สามารถดําเนินธุรกิจภาคการเกษตรได้อย่างมั่นคงและเป็นมืออาชีพ ท่ามกลางสถานการณ์ปัจจุบันที่การแข่งขันทางธุรกิจมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ โดยโครงการอบรมหลักสูตรธุรกิจเกษตรและการบริหารจัดการธุรกิจเกษตรแบบมืออาชีพที่กองพัฒนาสหกรณ์ภาคการเกษตรและกลุ่มเกษตรกรจัดขึ้นในครั้งนี้ จะสามารถช่วยให้ผู้เข้ารับการอบรมมีความรู้ในด้านการดําเนินธุรกิจเกษตร สําหรับลงสนามแข่งขันด้วยกลไกตลาด ต่อธุรกิจประเภทอื่นได้อย่างมั่นคง พร้อมเน้นย้ําว่าการเป็นผู้ประกอบการธุรกิจเกษตร ต้องมีมุมมองเปิดโลกทัศน์รับการเปลี่ยนแปลงและบริหารจัดการได้แบบมืออาชีพ เพื่อให้สหกรณ์เป็นศูนย์กลางในระดับชุมชนที่จะขับเคลื่อนเศรษฐกิจในระดับพื้นที่ สามารถยกระดับรายได้ของสมาชิกและเกษตรกรให้เพิ่มขึ้นเป็นระดับต่อไป
17/1/2023
null
กรุงเทพมหานคร
Radio-สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230117150144926
null
เกษตรกรชาวสวนปาล์มน้ำมันในจังหวัดสงขลาเดือดร้อนหนัก รวมตัวบุกศาลากลางยื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี ช่วยแก้ปัญหาราคาปาล์มน้ำมันตกต่ำ เหลือกิโลกรัมละ 3 บาท ขณะที่ราคาปุ๋ยปรับเพิ่มสูงขึ้นถึงกระสอบละ 1,700 บาท
วันที่ (17 ม.ค. 66) เกษตรกรชาวสวนปาล์มน้ํามัน นําโดยนายนครินทร์ บุญคง ในฐานะตัวแทนเครือข่ายชาวสวนปาล์มสงขลา พร้อมคณะ ได้เดินทางมาที่ศาลากลางจังหวัดสงขลา ยื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ผ่านนายรุ่งโรจน์ และสูบ ผู้อํานวยการกลุ่มงานศูนย์ดํารงธรรมจังหวัดสงขลา เพื่อเรียกร้องราคาผลปาล์มน้ํามันที่กําลังตกต่ําอย่างหนักในขณะนี้ ให้รัฐบาลสร้างราคาให้เป็นมาตรฐานจากการสอบถามเบื้องต้น สาเหตุการออกมาชุมนุมในครั้งนี้ เนื่องจากราคาผลปาล์มน้ํามันตกต่ําอย่างหนักและต่อเนื่อง โดยล่าสุดราคาอยู่ที่กิโลกรัมละ 2-3 บาท ทําให้แก่เกษตรกรชาวสวนปาล์มน้ํามันได้รับผลกระทบและเดือดร้อนอย่างมาก ทั้งที่ในระยะนี้ ผลผลิตปาล์มน้ํามันไม่ได้มีปริมาณมาก แต่ราคากลับตกต่ําลงไป ไม่สอดคล้องกับราคาปุ๋ยที่ปรับเพิ่มสูงขึ้นถึงกระสอบละ 1,700 บาท ซึ่งเป็นภาระต้นทุนที่ปรับเพิ่มขึ้นด้านนายนครินทร์ กล่าวว่า ขณะนี้เกษตรกรผู้ปลูกปาล์มน้ํามันเจอวิกฤตราคาปาล์มน้ํามันตกต่ํา ปัญหาที่พบ คือ ปาล์มน้ํามันจากราคาเดิม 12 บาทต่อกิโลกรัม ลดลงเหลือ 3 บาทต่อกิโลกรัม และราคาปุ๋ยจากราคาเดิม 830 บาทต่อกระสอบ ปรับราคาขึ้นเป็น 1,700 บาทต่อกระสอบ อีกทั้งลานปาล์มซื้อปาล์มดิบ ปิดรับซื้อผลปาล์มจากเกษตรกร ซึ่งได้ส่งผลกระทบและสร้างความเดือดร้อนให้กับเกษตรกรชาวสวนปาล์มน้ํามันเป็นอย่างมาก ดังนั้นทางเครือข่ายชาวสวนปาล์มน้ํามันจังหวัดสงขลา จึงได้เดินทางมาร้องทุกข์ถึงนายกรัฐมนตรีหรือผู้ที่เกี่ยวข้องได้แก้ไขปัญหา พร้อมตรวจสอบการลักลอบการนําเข้าน้ํามันปาล์มจากประเทศเพื่อนบ้าน รวมถึงหามาตรการรองรับวันหยุดยาวของโรงงานผลิตและลานรับซื้อผลปาล์มสําหรับการเดินทางมายื่นหนังสือครั้งนี้ กลุ่มเกษตรกรมีข้อเสนอ 4 ข้อ คือ แก้ปัญหาราคาปาล์มน้ํามันให้มีราคาไม่ต่ํากว่าต้นทุนการผลิตคือ ไม่ต่ํากว่า 5 บาท/กิโลกรัม, ลดราคาปัจจัยการผลิตเช่น ปุ๋ยเคมีราคา ไม่เกิน 800 บาท/กระสอบ ในระดับคุณภาพของปุ๋ยเคมีเท่าเดิม พร้อมทั้งให้สั่งการตรวจสอบการลักลอบ นําเข้าน้ํามันปาล์มปาล์มจากประเทศเพื่อนบ้าน โดยเฉพาะการขนส่งผ่านเส้นทางด่านต่างๆ ภายใน 7วัน และให้นําน้ํามันปาล์มไปผลิตเป็นไบโอดีเซล เพื่อลดปริมาณน้ํามันปาล์มส่วนเกินทั้งนี้ ผู้อํานวยการกลุ่มงานศูนย์ดํารงธรรมจังหวัดสงขลา รับปากว่าจะนําข้อเรียกร้องทั้งหมดรายงานผู้บังคับบัญชาระดับสูงและผู้ที่เกี่ยวข้องได้รับทราบอย่างเร่งด่วน เพื่อพิจารณาดําเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป ทําให้กลุ่มเกษตรกรพอใจและแยกย้ายเดินทางกลับ แต่หากไม่มีความคืบหน้าหรือไม่ได้รับการช่วยเหลือภายใน 15 วัน ก็จะยกระดับการรวมตัวเพื่อประท้วงต่อไปศิริลักษณ์ แคล้วคลาด/ข่าวประชา - วรปรัชญ์ /ภาพสํานักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสงขลา17 ม.ค. 66
17/1/2023
ภาคใต้
สงขลา
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสงขลา
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230117142845897
null
ข้าวโพด-กากถั่วแพงจัด ดันต้นทุนไข่ไก่พุ่ง เกษตรกรวอนรัฐเร่งแก้-ขอผู้บริโภคเข้าใจ
นางพเยาว์ อริกุล นายกสมาคมการค้าผู้เลี้ยงไก่ไข่รายย่อยภาคกลาง เปิดเผยว่า ปัจจุบันไข่ไก่มีต้นทุนการผลิตสูงถึง 3.45-3.50 บาท/ฟอง สูงกว่าช่วงปกติถึง 30% เกิดจากราคาธัญพืชวัตถุดิบอาหารสัตว์พุ่งสูงขึ้นอย่างมากและยืนแข็งในเกณฑ์สูงมาต่อเนื่อง โดยเฉพาะข้าวโพดเลี้ยงสัตว์และกากถั่วเหลือง ซึ่งเป็นวัตถุดิบสําคัญของอาหารเลี้ยงไก่ไข่ เกษตรกรผู้เลี้ยงไก่ไข่แทบจะไม่สามารถแบกรับภาระต้นทุนสูงต่อไปได้อีก เครือข่ายสหกรณ์ผู้เลี้ยงไก่ไข่ ซึ่งประกอบด้วย สหกรณ์ผู้เลี้ยงไก่ไข่แปดริ้ว จํากัด สหกรณ์ผู้เลี้ยงไก่ไข่ชลบุรี จํากัด สหกรณ์ผู้เลี้ยงไก่ไข่เชียงใหม่-ลําพูน จํากัด และ สหกรณ์ผู้เลี้ยงไก่ไข่ลุ่มแม่น้ําน้อย จํากัด จึงประกาศขยับราคาขายขึ้นเป็น 3.60 บาท/ฟองเมื่อสองสัปดาห์ก่อน และคาดว่าอาจต้องขยับอีกหากต้นทุนยังพุ่งไม่หยุด วอนภาครัฐเร่งแก้ปัญหาวัตถุดิบ และขอพี่น้องประชาชนโปรดเข้าใจสถานการณ์ เพราะไม่มีใครอยู่รอดได้หากต้องขายของในราคาขาดทุน “รัฐปล่อยให้ราคาวัตถุดิบสูงอยู่เช่นนี้มานาน ควรเร่งหาทางแก้ไขและเปิดทางราคาขายผลผลิตให้สอดคล้องกับต้นทุน เพื่อให้เกษตรกรพอมีกําไรและทําธุรกิจฟาร์มต่อไปได้ อย่าลืมว่ายังมีต้นทุนอื่นๆอีกที่ล้วนขยับสูงขึ้นทุกตัว ไม่ว่าจะเป็นค่าพลังงาน น้ํามัน แก๊ส หรือแม้แต่ค่าไฟฟ้า รวมถึงค่าแรงงานต่างๆภายในฟาร์ม ทําให้ส่วนต่างจากการขายไข่ทุกวันนี้ แทบไม่พอจ่ายดอกเบี้ยเงินกู้ธนาคารแล้ว” นางพเยาว์กล่าว ทั้งนี้ พืชวัตถุดิบเป็นต้นทุนถึง 90% ของการผลิตอาหารสัตว์ และอาหารสัตว์ก็เป็นต้นทุนการผลิตไข่ไก่ถึง 60-70 % แม้ตนจะรับทราบมาตลอดว่าราคาธัญพืชสูงขึ้นจากสงครามรัสเซีย-ยูเครน ปัญหาภัยแล้งหรือการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ รวมถึงการที่จีนกว้านซื้อธัญพืชวัตถุดิบจากทั่วโลก ซึ่งล้วนเป็นปัจจัยระดับโลกที่แก้ได้ยาก แต่ยังมีปัจจัยภายในประเทศที่สามารถช่วยแบ่งเบาภาระต้นทุนให้เกษตรผู้เลี้ยงสัตว์และบรรเทาภาวะค่าครองชีพให้ผู้บริโภคได้ นั่นก็คือ “นโยบายรัฐ” ในด้านการจัดการวัตถุดิบอาหารสัตว์ อาทิ การกําหนดเพดานราคาข้าวโพดไม่ให้เกินกว่าข้าวโพดนําเข้า หรือ การลดภาษีนําเข้ากากถั่วเหลืองให้เป็นศูนย์ การยกเลิกมาตรการ 3:1 ฯลฯ ซึ่งน่าจะช่วยลดภาระให้เกษตรกรผู้เลี้ยงไก่ไข่ให้พออยู่ได้ท่ามกลางราคาต้นทุนการผลิตที่ถีบตัวสูงขึ้นทุกด้าน รวมถึงดอกเบี้ยขาขึ้นที่สถาบันการเงินต่างทยอยประกาศปรับอัตราดอกเบี้ยออกมา “ปัจจุบันข้าวโพดเลี้ยงสัตว์มีราคาสูงถึง 13.40 บาท/กก. และกากถั่วเหลืองมีราคาถึง 23.70 บาท/กก. โดยมีการคาดการณ์กันว่า ราคาวัตถุดิบในปี 2566 นี้มีแนวโน้มจะเพิ่มขึ้นอีก 10% เป็นภาระต้นทุนที่รออยู่ของเกษตรกรคนเลี้ยงสัตว์ทุกคนที่ภาครัฐจําเป็นต้องช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน” นางพเยาว์กล่าวทิ้งท้าย
17/1/2023
null
กรุงเทพมหานคร
สำนักพัฒนานโยบายและแผนการประชาสัมพันธ์
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230117152658947
null
“ปศุสัตว์จันทบุรี รับรองปศุสัตว์ OK ร้านจำหน่ายเนื้อสัตว์ปลอดภัย รองรับเทศกาลตรุษจีน”
(17 ม.ค.66) เวลา 14.00 น. น.สพ.ชาติชาย ยิ้มเครือ ปศุสัตว์จังหวัดจันทบุรี พร้อมน.สพ.ปราโมช พวงชมภู นายสัตวแพทย์ชํานาญการ นางสาวจีรวรรณ สาระทัศนานันท์ ปศุสัตว์อําเภอเมืองจันทบุรี และเจ้าหน้าที่กลุ่มพัฒนาคุณภาพสินค้าปศุสัตว์ ลงพื้นที่ ตลาดสดเจริญสุข อ.เมืองจันทบุรีให้การรับรองร้านจําหน่ายเนื้อสัตว์ ตามโครงการเนื้อสัตว์ปลอดภัย ใส่ใจผู้บริโภค หรือปศุสัตว์ OK ซึ่งร้านจําหน่ายเนื้อสัตว์ต้องมีกระบวนการชําแหละเนื้อสัตว์ถูกสุขลักษณะ มีการจัดวางเนื้อสัตว์แยกกันกับเครื่องใน เพื่อป้องกันการปนเปื้อนเชื้อโรคข้าม หมั่นทําความสะอาด อุปกรณ์ เครื่องมือ เครื่องใช้ ได้แก่ เขียง มีด ผู้จําหน่ายเนื้อสัตว์แต่งกายสะอาด สวมหมวกคลุมผม สวมผ้ากันเปื้อน และนําเนื้อสัตว์มาจากโรงชําแหละเนื้อสัตว์ที่ได้รับอนุญาตเท่านั้น รวมทั้ง มีเอกสารที่สามารถตรวจสอบย้อนกลับที่มาของเนื้อสัตว์ได้ นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ได้สุ่มเก็บตัวอย่างเนื้อสัตว์ ตรวจสารเร่งเนื้อแดง ตรวจยาปฏิชีวนะตกค้าง ตรวจเชื้อโรคที่เป็นสาเหตุของโรคระบบทางเดินอาหาร และตรวจฮอร์โมน สร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภคว่าเนื้อสัตว์ที่นํามาจําหน่ายที่ตลาดสดในช่วงตรุษจีน มีความปลอดภัย ทั้งนี้ ผู้บริโภคสามารถเลือกซื้อเนื้อสัตว์จากร้านจําหน่ายเนื้อสัตว์ที่ได้รับการรับรองจากกรมปศุสัตว์โดยสังเกตป้ายสัญลักษณ์ ปศุสัตว์ OK ซึ่ง ปศุสัตว์จังหวัดจันทบุรี ได้ให้การรับรองร้านจําหน่ายเนื้อสัตว์ ปศุสัตว์ OK กระจายในตลาดสดของทุกอําเภอ#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
17/1/2023
ภาคตะวันออก
จันทบุรี
สวท.จันทบุรี
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230117175639020
null
คทช. เห็นชอบการจัดที่ดินทำกินให้ชุมชน และการดำเนินการปรับปรุงแผนที่แนวเขตที่ดินของรัฐในพื้นที่กลุ่มที่ 3 จำนวน 11 จังหวัด
คณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ (คทช.) เห็นชอบการจัดที่ดินทํากินให้ชุมชน และการดําเนินการปรับปรุงแผนที่แนวเขตที่ดินของรัฐในพื้นที่กลุ่มที่ 3 จํานวน 11 จังหวัด นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า คณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ (คทช.) ได้ประชุมติดตามความก้าวหน้าผลการดําเนินงานจัดที่ดินทํากินให้ชุมชนและแก้ปัญหาที่ดินทํากินต่อเนื่อง เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน พร้อมให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายตามหลักเกณฑ์และกฎหมายที่มีอยู่ โดยที่ประชุมได้เห็นชอบประเด็นสําคัญที่เกี่ยวข้องกับกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม คือ การติดตามความก้าวหน้างานการจัดที่ดินทํากินให้ชุมชน // การดําเนินการปรับปรุงแผนที่แนวเขตที่ดินของรัฐแบบบูรณาการ มาตราส่วน 1 : 4000 (One Map) ในพื้นที่กลุ่มที่ 3 จํานวน 11 จังหวัด // แนวทางการแก้ปัญหากรณีพื้นที่อุทยานแห่งชาติทับลาน จังหวัดนครราชสีมา และปราจีนบุรี (กรณีเร่งด่วน) และการแก้ปัญหาข้อพิพาทกรณีป่าสงวนแห่งชาติป่าพระแท่นดงรัง ในพื้นที่ตําบลพระแท่น อําเภอท่ามะกา จังหวัดกาญจนบุรี ทับซ้อนกับวัดพระแท่นดงรังวรวิหาร โดยให้กรมป่าไม้เพิกถอนป่าสงวนแห่งชาติป่าพระแท่นดงรัง (บางส่วน) เนื้อที่ประมาณ 193 ไร่ เพื่อให้เป็นอาณาเขตของวัดพระแท่นดงรังฯ และเป็นที่ธรณีสงฆ์ ทั้งนี้ มอบหมายให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พิจารณาดําเนินการตามระเบียบต่อไป
17/1/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230117162053964
null
กอนช. เฝ้าระวังน้ำฝนตกบางพื้นที่ในภาคใต้ พร้อมให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเตรียมแผนรับมือลดผลกระทบประชาชนในพื้นที่
กองอํานวยการน้ําแห่งชาติ (กอนช.) เฝ้าระวังน้ําฝนตกบางพื้นที่ในภาคใต้ พร้อมให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเตรียมแผนรับมือลดผลกระทบประชาชนในพื้นที่ นายสุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสํานักงานทรัพยากรน้ําแห่งชาติ (สทนช.) ในฐานะรองผู้อํานวยการกองอํานวยการน้ําแห่งชาติ (กอนช.) กล่าวถึงสถานการณ์น้ําภาพรวมของประเทศวันนี้ (17 ม.ค.66) ว่า ภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมามีฝนตกเล็กน้อยบริเวณ จ.สงขลา และสตูล เนื่องจากมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือพัดปกคลุมอ่าวไทย ภาคใต้ และทะเลอันดามัน ทําให้ภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง โดยเฉพาะช่วงวันที่ 19 - 23 มกราคม ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร จึงกําชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เช่น การคาดการณ์พายุหรือหย่อมความกดอากาศที่จะส่งผลกระทบในพื้นที่ภาคใต้ // การพิจารณาปริมาณน้ําและศักยภาพของเขื่อนบางลางรองรับความเสี่ยงกรณีที่อาจเกิดพายุหรือหย่อมความกดอากาศกําลังแรงได้อย่างปลอดภัย และการพิจารณาการระบายน้ําด้านท้ายน้ํา โดยให้เกิดผลกระทบในพื้นที่น้อยที่สุด
17/1/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230117162713968
null
ปราบ “หมูเถื่อน” กรมศุลกากร อยู่ข้างใคร?
เมื่อวันก่อน กรมศุลกากรแถลงข่าวใหญ่โชว์จับกุมยาเสพติด ประเภทยาไอซ์ จํานวน 51 ตัน มูลค่ามากกว่า 30 ล้านบาท ถูกซุกซ่อนมาในพรมเตรียมส่งออกจากท่าเรือกรุงเทพ ปลายทางฮ่องกง นับเป็นผลงานชิ้นโบว์แดงของกรมฯ นี้ ในปีที่ผ่าน เน้นการจับกุมการลักลอบนําเข้ามาในราชอาณาจักรของยาเสพติดอย่างจริงจัง การจับกุมสินค้าผิดกฎหมายประเภทอื่นกลายเป็น “เบี้ยใบ้รายทาง” ทั้งที่ผลกระทบกับเศรษฐกิจและสังคมไม่น้อยเช่นกัน แสดงให้เห็นว่าการบริหารจัดการปราบปรามมีการเลือกปฏิบัติจากผลงานดังกล่าว อนุมานได้ว่ากรมศุลกากร “ด้อยค่า” ความสําคัญการจับกุมสินค้าผิดกฎหมายอื่นๆ รวมทั้ง “หมูเถื่อน” ทําให้ออกมาเพ่นพ่านนอกท่าเรือไร้การจับกุม เล็ดลอดการตรวจสอบจากเทคโนโลยีสแกนขั้นเทพเห็นได้ของที่ซุกอยู่ใต้พรมได้ แม้กระทั่ง “ขนหมู” ก็ไม่รอดสายตาไปได้ หากแต่มีเพียงส่วนน้อยที่บังเอิญเจอบนท้องถนนจึงจับกุม นี่ก็เป็นเรื่องนแปลก!! ขณะที่เหตุผลที่แจงกับสังคม คือ ตรวจไม่พบเพราะมีการสําแดงเท็จ เป็นอาหารทะเล หรืออาหารสัตว์ เหตุผลนี้...อมหลวงพ่อโตมาทางขว้าง ก็ไม่อาจเชื่อได้ เจ้ากระทรวงควรตรวจสอบความสําเร็จในการปฏิบัติงาน (KPI) ของกรมฯ ในสังกัดอย่างละเอียดต่างกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยกรมปศุสัตว์ จัดความสําคัญการปราบ “หมูเถื่อน” ไว้ในอันดับต้นๆ ...อาจจะมีข้อโต้แย้งว่าต้นเหตุของหมูเถื่อน มาจากโรคระบาด ASF ผลผลิตสุกรของประเทศหายไปประมาณ 50% เปิดช่องว่างให้ หมูเถื่อนเข้ามาทํากําไรจากส่วนต่างราคาในประเทศที่ปรับสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์ กรมปศุสัตว์ดูแลก็ถูกต้องแล้ว ซึ่งสิ่งที่กรมฯ ปฏิบัติให้เห็น คือ มีส่วนร่วมในการจับกุมทุกครั้ง แม้จะล่าช้าในตอนต้นแต่ก็เร่งสปีดและแสดงความเป็นเจ้าภาพในการจับกุมให้ประจักษ์ต่อสายตาประชาชน ที่สําคัญวันนี้ (12 มกราคม 2566) กรมปศุสัตว์ โดยนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานในการทําลายชิ้นส่วนและเนื้อสุกร ของกลางที่ลักลอบนําเข้าจํานวน 700 ตัน (700,000 กิโลกรัม) ซึ่งมีจํานวนมากที่สุดของไทย ที่จังหวัดเพชรบุรี นอกจากนี้ กรมปศุสัตว์ยังประกาศนโยบายสําคัญในการยกระดับการเลี้ยงหมู เพื่อป้องกันโรคระบาดและเพิ่มประสิทธิภาพเลี้ยง สร้างหลักประกันอาหารปลอดภัยให้กับผู้บริโภค ประกอบด้วย โครงการ Pig Sandbox โครงการส่งเสริมการนําระบบไบโอซีเคียวริตี้ (Biosecurity) ตลอดจนจ้างงานเพิ่มเติม 6,000 คน เพื่อเสริมประสิทธิภาพการจับกุมอย่างเข้มงวด ซึ่งปัจจุบันมีข้าราชการที่รับผิดชอบงานนี้อยู่ 4,000 คน ซึ่งไม่เพียงพอต่อการปราบปราม และมั่นใจว่าในปี 2566 เกษตรกรเริ่มมีการเลี้ยงใหม่มากขึ้น คาดว่าผลผลิตสุกรจะมีจํานวนประมาณ 16-18 ล้านตัว เพิ่มขึ้นจากปี 2565 ที่มีจํานวนสุกร 15.5 ล้านตัว ซึ่งเป็นการบริโภคในประเทศประมาณ 80-90% ที่เหลือส่งออกในรูปแบบเนื้อแปรรูป เช่น เนื้อปรุงสุกไปที่ญี่ปุ่น และส่งเนื้อดิบไปที่ฮ่องกง ส่วนราคาหน้าฟาร์มคาดว่าจะอยู่ที่ประมาณ 96 บาทต่อกิโลกรัม และส่งเสริมให้ผู้บริโภคเลือกซื้อเนื้อหมูที่มีสัญญลักษณ์ “ปศุสัตว์ OK” เพื่อความปลอดภัยของผู้บริโภค สําหรับปี 2566 กรมปศุสัตว์ยังมีแผนติดตามการขนย้ายซากหมูด้วยระบบ GPS ตรวจและติดตามแบบเรียลไทม์ และป้องกันการสวมสิทธิ์สินค้า โดยจะเริ่มได้ในปีหน้า ใช้งบฯกลาง 32 ล้านบาท ครอบคลุมถึงเรือขนส่งสินค้าเห็นแผนงานของกรมปศุสัตว์แล้ว เกษตรกรผู้เลี้ยงหมูมีความมั่นใจเพิ่มขึ้นแน่ เพราะหมูเถื่อนจะไม่ทะลักเข้ามากดราคาในประเทศให้ต่ํา ราคาสะท้อนต้นทุนการผลิตที่แท้จริง ต่างจากช่วงที่ผ่านมาผลิตแล้วขายไม่ได้ราคาหรือขาดทุน จึงจําเป็นต้องชะลอการเลี้ยงออกไป ผลผลิตน้อยไม่เป็นตามแผนการฟื้นฟูของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ สุดท้าย ขอตั้งคําถามกับกรมศุลกากร ว่า ท่านเจ้ากรมฯ มีแผนปราบปรามหมูเถื่อนอย่างไร ขอให้ชี้แจงแถลงไขให้เกิดความชัดเจนกับสังคมด้วย ว่า จะเน้นจับแต่ยาเสพติด (เป็นเพราะส่วนแบ่งที่จะได้รับหรืออย่างไร) หรือทุกสินค้าที่ลักลอบเข้ามาผิดกฎหมาย “หมูเถี่อน” เป็นเรื่องปากท้องและความปลอดภัยของคนไทย ควรได้รับการจัดอันดับการปราบปรามอยู่ในระดับต้น... หากปี 2566 กรมฯ ยังไม่จริงจังกับปราบปราม เจ้ากระทรวงการคลัง ควรพิจารณาโยกย้ายข้าราชการมือปราบ มือสะอาด มาแทนที่นงพนา สอนสิทธิ์ ที่ปรึกษาด้านปศุสัตว์
17/1/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สำนักพัฒนานโยบายและแผนการประชาสัมพันธ์
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230117175246017
null
ต่อยอดผลงานวิจัยสู่โครงการศูนย์ศึกษาการพัฒนาภูพานอันเนื่องมาจากพระราชดำริ สร้างรายได้ให้เกษตรกร
?นายระพีภัทร์ จันทรศรีวงศ์ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร เปิดเผยว่า ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรสกลนคร กรมวิชาการเกษตร ดําเนินงานโครงการศูนย์ศึกษาการพัฒนาภูพานอันเนื่องมาจากพระราชดําริ ร่วมกับศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรนครพนม มี 6 กิจกรรมเด่น ได้แก่ เพาะเห็ด ศึกษาและพัฒนาระบบเกษตรผสมผสาน พืชสวน พืชไร่ ยางพารา และกิจกรรมแปรรูปผลผลิตทางการเกษตร ผ่านการสาธิต ทดสอบ ฝึกอบรมให้ความรู้เกษตรกร และขยายผลการดําเนินงานสู่เกษตรกรในพื้นที่ ?โดยเฉพาะกิจกรรมเพาะเห็ด พัฒนาการผลิตเชื้อเห็ดเพื่อให้บริการแก่เกษตรกรในพื้นที่ ทั้งเห็ดเศรษฐกิจและเห็ดพื้นเมืองที่สําคัญ ได้แก่ เห็ดนางฟ้า เห็ดนางรม เห็ดขอนขาว โดยใช้เชื้อพันธุ์จากกรมวิชาการเกษตร และเห็ดที่คัดเลือกสายพันธุ์จากเทือกเขาภูพาน ได้แก่ เห็ดบด ซึ่งเป็นเห็ดที่ได้รับความนิยมบริโภคในพื้นที่ โดยมีราคาเฉลี่ย 150-200 บาทต่อกิโลกรัม ซึ่งส่งผลทําให้เกิดกลุ่มเกษตรกรทั้งหมด 5 กลุ่ม มีสมาชิกแล้ว 85 คน สามารถผลิตก้อนเชื้อเห็ดได้ 153,000 ก้อนต่อปี มูลค่ามากกกว่าปีละ 1,530,000 บาท มีเกษตรกรนําไปเปิดดอกเพื่อจําหน่าย สร้างรายได้ไม่น้อยกว่า 2,544,000 บาทต่อปี กิจกรรมศึกษาและพัฒนาระบบเกษตรผสมผสาน เน้นให้เกิดการพึ่งพาตนเอง สร้างความมั่นคงให้คนที่ต้องการทําอาชีพเกษตรกรรม ลดรายจ่ายด้านอาหารในครัวเรือนและเสริมรายได้และลดการใช้ปุ๋ยเคมีลง 25 เปอร์เซ็นต์ และยังนําแหนแดงไปเลี้ยง เป็ด ห่าน สุกร และจิ้งหรีด ซึ่งช่วยลดต้นทุนค่าอาหารสัตว์ลงได้ ทั้งนี้ ยังได้ให้คําแนะนํา สนับสนุน แนวทางในการทดสอบพืชทางเลือกใหม่ มูลค่าสูงไปทดสอบการปรับตัวในพื้นที่โครงการ โดยกรมวิชาการเกษตรจะสนองตอบพระราชดําริในหลวงรัชกาลที่ 9 และในหลวงรัชกาลที่ 10 สืบสาน รักษา ต่อยอด เกี่ยวกับแนวทางการดําเนินงานของศูนย์ศึกษาการพัฒนาภูพานฯ ให้เป็นศูนย์ให้บริการในด้านเทคนิคและวิชาการครบวงจร เพื่อให้ราษฎรเข้ามาเรียนรู้และมีส่วนร่วมในการดําเนินงานต่อไป
18/1/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
Radio-สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230118112813194
null
กอนช. เฝ้าระวังฟ้าคะนองและฝนตกหนักบางแห่งในภาคใต้ พร้อมให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเตรียมแผนรับมือลดผลกระทบประชาชนในพื้นที่
กองอํานวยการน้ําแห่งชาติ (กอนช.) เฝ้าระวังฟ้าคะนองและฝนตกหนักบางแห่งในภาคใต้ พร้อมให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเตรียมแผนรับมือลดผลกระทบประชาชนในพื้นที่ นายสุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสํานักงานทรัพยากรน้ําแห่งชาติ (สทนช.) ในฐานะรองผู้อํานวยการกองอํานวยการน้ําแห่งชาติ (กอนช.) กล่าวถึงสถานการณ์น้ําภาพรวมของประเทศวันนี้ (18 ม.ค.66) ว่า ภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองและฝนตกหนักบางแห่ง ช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมามีฝนตกปานกลางบริเวณ จ.ชุมพร และสุราษฎร์ธานี โดยอิทธิพลจากมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทย ภาคใต้ และทะเลอันดามันเริ่มมีกําลังแรงขึ้น ทําให้คลื่นลมบริเวณอ่าวไทยตอนล่างมีกําลังแรงขึ้น ซึ่งอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ส่วนอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูง 2 - 3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร จึงกําชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เช่น การคาดการณ์พายุหรือหย่อมความกดอากาศที่จะส่งผลกระทบในพื้นที่ภาคใต้ // การพิจารณาปริมาณน้ําและศักยภาพของเขื่อนบางลางรองรับความเสี่ยงกรณีที่อาจเกิดพายุหรือหย่อมความกดอากาศกําลังแรงได้อย่างปลอดภัย
18/1/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230118100521154
null
กระทรวงพาณิชย์ คาดราคาปาล์มไทยปรับสูงขึ้น แนะเกษตรกรตัดปาล์มสุก ได้น้ำหนักและราคาดี
นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยถึงสถานการณ์ปาล์มน้ํามันในตลาดโลก ว่า อินโดนีเซียที่เป็นผู้ผลิตและผู้ส่งออกน้ํามันปาล์มอันดับหนึ่งของโลก ได้ประกาศปรับมาตรการส่งออกให้ลดลง มีผลตั้งแต่มกราคม 2566 ประกอบกับรัฐบาลมีนโยบายปรับสัดส่วนการใช้น้ํามันปาล์มในภาคพลังงาน คาดว่าราคาน้ํามันปาล์มดิบในตลาดโลกจะมีแนวโน้มขยับสูงขึ้น และจะส่งผลทําให้ราคาปาล์มน้ํามันและน้ํามันปาล์มในประเทศไทยปรับสูงขึ้นไปในทิศทางเดียวกัน จึงขอให้เกษตรกรชาวสวนปาล์มไม่ควรเร่งตัดปาล์ม ขอให้ตัดปาล์มสุก เพื่อให้ได้น้ําหนักและราคาดีขึ้น ส่วนสถานการณ์รถบรรทุกติดคิวหน้าโรงงาน ปัจจุบันได้ผ่อนคลายลงมากแล้ว และจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติภายในสัปดาห์นี้ หลังจากที่โรงงานสกัดน้ํามันปาล์มในพื้นที่ภาคใต้ ได้เปิดรับซื้อตามปกติทุกโรงงานแล้ว ส่งผลให้ราคาปาล์มน้ํามันในแหล่งผลิตสําคัญเริ่มปรับตัวสูงขึ้น ทั้งนี้ กรมการค้าภายในจะยังคงตรวจสอบสถานการณ์ การซื้อขายอย่างใกล้ชิดต่อไป หากพบเห็นผู้ประกอบการโรงสกัดและลานเทรายใด ไม่ปิดป้ายแสดงราคารับซื้อ หรือกดราคารับซื้อ จะดําเนินคดีตามกฎหมายอย่างถึงที่สุด และหากเกษตรกรพบเห็นการกดราคา หรือไม่ปิดป้ายแสดงราคารับซื้อ สามารถแจ้งได้ที่สายด่วน กรมการค้าภายใน 1569 จะจัดส่งเจ้าหน้าที่ออกไปตรวจสอบ และหากพบการกระทําผิด ก็จะดําเนินการตามกฎหมายต่อไป
18/1/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230118113208197
null
ศูนย์หม่อนไหมฯ ขอนแก่น อบรมการย้อมครั่งให้กับเกษตรกรในโครงการสินค้าเกษตรคุณภาพเพื่อสร้างรายได้อย่างยั่งยืน ที่บ้านหนองแวงหมู่ 10 ต.บ้านหัน อ.โนนศิลา จ.ขอนแก่น
ศูนย์หม่อนไหมเฉลิมพระเกียรติฯ ขอนแก่น นําโดย นางอารีย์รัตน์ พระภูวงศ์ นักวิชาการเกษตรปฏิบัติการ นายสุพจน์ บรรเทา ช่างต้นแบบสิ่งทอ ช2 นายวิรัตน์ พานขันธ์ เจ้าพนักงานการเกษตร นางสาวภัทราพร ผ่อนจรุง และ นางสาวอนงค์นาถ แสงทอง เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานด้านมาตรฐานหม่อนไหม ลงพื้นที่เพื่ออบรม เกษตรกรในโครงการสินค้าเกษตรคุณภาพเพื่อสร้างรายได้อย่างยั่งยืน (งบจังหวัด) ปี 2566 กิจกรรมหลัก สร้างอัตลักษณ์และเพิ่มมูลค่าผ้าไหมย้อมครั่งไปสู่เมืองหัตถกรรมโลกแห่งผ้ามัดหมี่ หลักสูตร การย้อมครั่ง ณ บ้านหนองแวงหมู่ 10 ต.บ้านหัน อ.โนนศิลา จ.ขอนแก่น โดยมีเกษตรกรเข้าร่วมอบรม จํานวน 20 ราย ซึ่งเกษตรกรมีความตั้งใจ และให้ความสนใจการอบรมเป็นอย่างดี“ครั่ง” เป็นแมลงชนิดหนึ่ง มีตัวสีแดง ขนาดเล็กมาก ซึ่งอาศัยอยู่ตามกิ่งของต้นไม้ที่ใช้เลี้ยงครั่ง ต้นไม้ที่เลี้ยงครั่งมีหลายชนิด แต่มีสามารถเลี้ยงครั่งได้ผลดี คือต้นจามจุรี ต้นพุทรา ต้นสะแก ต้นปันเถ สถานที่เลี้ยงจะเลี้ยงกันมากทางภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ การเจริญเติบโตของครั่ง มี 4 ขั้นตอน คือ เป็นไข่ ตัวอ่อน ดักแด้ และตัวแก่ ตามลําดับ ตัวเมียอายุคราวละ 6 เดือน สืบพันธุ์ได้ 2 ครั้งในหนึ่งปีครั่ง นิยมนํามาใช้ในการย้อมสีเส้นไหมมานานแล้ว สีเส้นไหมที่ย้อมได้จะขึ้นอยู่กับอายุของครั่งอายุของการเก็บรักษาครั่ง และชนิดของพืชอาศัย สีที่ได้จะมีความแตกต่างกันไปตั้งแต่สีแดงอมม่วง จนถึงสีแดงสด การเก็บครั่งนานกว่า 2 ปี อาจทําให้สีและความคงทนของสีไม่ดีนัก ซึ่งควรใช้ครั่งที่แก่เต็มที่ ที่ยังใหม่อยู่ ในการสกัดสีครั่ง ใช้ครั่งจํานวน 3 กิโลกรัม เมื่อสกัดน้ําสีอัตราส่วน 1 : 10 สามารถย้อมสีเส้นไหมได้ 1 กิโลกรัม วิธีการสกัดสี นําครั่งมาล้างในน้ําสะอาด เพื่อกําจัดฝุ่นละออง และเศษผงที่ติดมากับครั่ง แล้วนําไปแช่ในแอลกอฮอล์นาน 5-10 นาที เพื่อละลายส่วนที่เป็นสีเหลืองออก จากนั้นล้างด้วยน้ําสะอาดก่อนนําไปต้มสกัดสี นาน 1 ชั่วโมง กรองใช้เฉพาะน้ํา การย้อมเส้นไหมด้วยกรรมวิธีการย้อมร้อน โดยใส่สารส้ม และน้ํามะขามเปียกเป็นสารช่วยติดสีขณะย้อม ในบางแห่งใช้กรดทาร์ทาริค (Tartaric acid) แทนน้ํามะขามเปียก เส้นไหมที่ผ่านการย้อมจะมีสีแดง#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
18/1/2023
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ขอนแก่น
สวท.ขอนแก่น
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230118101023156
null
ทีมสัตวแพทย์สำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า ได้รับลูกเสือโคร่งของกลาง 3 ตัวไปดูแลในศูนย์พัฒนาการจัดการสัตว์ป่าบึงฉวาก จ.สุพรรณบุรี แล้ว
ทีมสัตวแพทย์สํานักอนุรักษ์สัตว์ป่า ได้รับลูกเสือโคร่งของกลาง 3 ตัวไปดูแลในศูนย์พัฒนาการจัดการสัตว์ป่าบึงฉวาก จ.สุพรรณบุรี แล้ว ซึ่งมีความพร้อมดูแลมากกว่าในทุกด้าน นางสาวธชพรรณ ลีลาพตะ นายสัตวแพทย์ และ นางสาวมาริษา ชุ่มวิจิตร นายสัตวแพทย์ กลุ่มงานจัดการสุขภาพสัตว์ป่า สํานักอนุรักษ์สัตว์ป่า ได้รับมอบลูกเสือโคร่งของกลางตามคดีอาญายึดทรัพย์จากการจับกุมเมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน 2565 รวม 3 ตัว ได้แก่ มุกดา เพศเมีย สะหวัน เพศเมีย และข้ามโขง เพศผู้ จากสํานักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 9 (อุบลราชธานี) มาดูแล ณ ศูนย์พัฒนาการจัดการสัตว์ป่าบึงฉวาก จ.สุพรรณบุรี เรียบร้อยแล้ว ซึ่งใช้การเคลื่อนย้ายลูกเสือโคร่งด้วยใช้รถยนต์ราชการ 2 คัน ที่มีทีมสัตวแพทย์ดูแลอย่างใกล้ชิดระหว่างการเคลื่อนย้ายรวมระยะเวลา 8 ชั่วโมง 33 นาที ตลอดการเดินทางไม่เกิดเหตุฉุกเฉิน สภาพร่างกายลูกเสือโคร่ง 3 ตัวปกติ นอนหลับตลอดการเดินทาง ทั้งนี้ ตามปกติแล้วลูกเสือโคร่ง 3 ตัว จะมีพฤติกรรมนอนหลับช่วงเวลากลางคืนเป็นส่วนใหญ่ ทีมสัตวแพทย์จึงวางแผนการเดินทางเป็นช่วงเวลากลางคืน หากพบความผิดปกติจะทําการแจ้งทีมสัตวแพทย์และสัตวบาลทันที ภาพรวมแล้วภารกิจขนย้ายลูกเสือโคร่งเป็นไปด้วยความเรียบร้อย สําหรับการเคลื่อนย้ายเสือโคร่งดังกล่าวมาเลี้ยงที่ศูนย์พัฒนาการจัดการสัตว์ป่าบึงฉวาก จ.สุพรรณบุรี จะมีข้อดีมากกว่าทั้งเรื่องงบประมาณที่สถานีเพาะเลี้ยงจุฬาภรณ์มีไม่เพียงพอ ด้านการดูแลรักษาสุขภาพที่ศูนย์พัฒนาฯบึงฉวากมีความพร้อมกว่า โดยเฉพาะบุคลากรที่สถานีเพาะเลี้ยงจุฬาภรณ์มีน้อยกว่ามาก
18/1/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230118102453159
null
ค่าฝุ่น PM 2.5 ใน กทม.และปริมณฑลเช้านี้เกินมาตรฐานในระดับสีส้มเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ 6 พื้นที่ โดยช่วง 22-24 ม.ค. จำเป็นต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ
ค่าฝุ่น PM 2.5 ในกรุงเทพมหานครและปริมณฑลเช้านี้เกินมาตรฐานในระดับสีส้มเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ 6 พื้นที่ โดยช่วงวันที่ 22-24 มกราคมจําเป็นต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ เนื่องจากสภาพเพดานการลอยตัวอากาศที่ต่ําและอากาศปิด นายปิ่นสักก์ สุรัสวดี อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) ในฐานะประธานศูนย์แก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศ (ศกพ.) กล่าวว่า ช่วงเช้าวันนี้ (18 ม.ค.66) ค่าฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM 2.5) ในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑลคุณภาพอากาศดีมากถึงเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ โดยค่าฝุ่นปรับตัวสูงขึ้นเกินมาตรฐานในระดับสีส้มเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ 6 พื้นที่ บริเวณ ต.อ้อมน้อย อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร , ต.นครปฐม อ.เมือง จ.นครปฐม , ริมถนนพระราม 2 เขตบางขุนเทียน , สวนทวีวนารมย์ เขตทวีวัฒนา , ริมถนนคลองทวีวัฒนา เขตทวีวัฒนา และริมถนนมาเจริญ เพชรเกษม 81 เขตหนองแขม เนื่องจากสภาพอากาศนิ่งและลมสงบจึงเกิดการสะสมของฝุ่น ทั้งนี้ ศูนย์แบบจําลองคุณภาพอากาศและภูมิศาสตร์สารสนเทศ กรมควบคุมมลพิษ (คพ.) ได้คาดการณ์สถานการณ์ฝุ่นละออง PM 2.5 ช่วงวันที่ 22-24 มกราคม จําเป็นต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ เนื่องจากสภาพเพดานการลอยตัวอากาศที่ต่ํา สภาวะอากาศที่นิ่ง และลมสงบ บริเวณพื้นที่กรุงเทพกลาง กรุงธนเหนือ และกรุงธนใต้ ประกอบกับ มีมวลอากาศเย็นระลอกใหม่จากประเทศจีนแผ่เข้ามา จึงขอความร่วมมือประชาชนบํารุงดูแลรักษารถยนต์อย่างสม่ําเสมอ จอดรถให้ดับเครื่อง ลดการเผาในที่โล่ง และขอให้ประชาชนเฝ้าระวังสถานการณ์ หากอยู่บริเวณพื้นที่มีปริมาณฝุ่น PM 2.5 สูงเกินเกณฑ์มาตรฐาน หรือ พื้นที่สีส้ม ให้หลีกเสี่ยงกิจกรรมกลางแจ้ง สวมใส่หน้ากากอนามัย หรือใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเอง หากมีอาการทางสุขภาพควรปรึกษาแพทย์ ทั้งนี้ สามารถติดตามสถานการณ์คุณภาพอากาศได้ทั้งแบบค่าเฉลี่ยรายชั่วโมงและแบบค่าเฉลี่ย 24 ชั่วโมง ผ่านทางเว็บไซด์ Air4Thai.com และ bangkokairquality.com หรือทางแอปพลิเคชั่น Air4Thai และ AirBKK แล้วยังติดตามข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับสถานการณ์คุณภาพอากาศผ่านทาง Facebook Fanpage ศูนย์แก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศ (ศกพ.)
18/1/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230118103722166
null
สำนักงานเกษตรจังหวัดสตูล จัดเวทีชุมชนวิเคราะห์ข้อมูลแปลงใหญ่ยางพารา สร้างมาตรฐานการผลิตเพิ่มประสิทธิภาพและลดต้นทุน
วันนี้ (18 ม.ค.66) นายชาญณรงค์ วิรุณสาร เกษตรจังหวัดสตูล เปิดเผยว่า สํานักงานเกษตรจังหวัดสตูล โดยกลุ่มส่งเสริมและพัฒนาการผลิต และสํานักงานเกษตรอําเภอมะนัง บูรณาการร่วมกับการยางแห่งประเทศไทยจังหวัดสตูล ลงพื้นที่จัดเวทีวิเคราะห์ จัดทําแผน ทบทวนและปรับปรุงข้อมูลของแปลงใหญ่ ยางพารา ตําบลนิคมพัฒนา อําเภอมะนัง จังหวัดสตูล ซึ่งมีคณะกรรมการแปลงใหญ่และสมาชิกเข้าร่วม จํานวน 20 คน สําหรับการจัดเวทีวิเคราะห์ฯ ดังกล่าว เพื่อทบทวนและปรับปรุงข้อมูลแผนและเป้าหมายการพัฒนาของกลุ่ม ด้วยการใช้แบบจัดเก็บข้อมูลพื้นฐานรายบุคคลประกอบการวิเคราะห์เชิงพื้นที่ เพื่อให้บรรลุเป้าหมาย 5 ด้าน ได้แก่ การลดต้นทุนการผลิต การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต การพัฒนาคุณภาพ การบริหารจัดการ และการตลาด พร้อมทั้งประเมินผลการดําเนินงานของกลุ่มและสมาชิกในปีที่ผ่านมา ในประเด็นต่าง ๆ ประกอบด้วย ผลผลิตที่ได้ ต้นทุนการผลิต คุณภาพ มาตรฐานการผลิต ตลาดจําหน่าย และการวิเคราะห์ความเข้มแข็งของกลุ่มในการบริหารจัดการกลุ่ม นอกจากนี้ยังได้ร่วมกันกําหนดหลักสูตรการอบรมตามความต้องการของสมาชิกกลุ่มอีกด้วย #สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
18/1/2023
ภาคใต้
สตูล
สวท.สตูล
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230118105546174
null
กรมวิชาการเกษตร เร่งขับเคลื่อนโครงการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีอัจฉริยะผลิตสับปะรดผลสด ขยายผลสู่เกษตรกรทั่วถึง
นายภัสชญภณ หมื่นแจ้ง รองอธิบดีกรมวิชาการเกษตร เปิดเผยว่า จากการลงพื้นที่จังหวัดเพชรบุรี ติดตามการดําเนินงานโครงการการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีอัจฉริยะในการผลิตสับปะรดผลสด พบว่าความก้าวหน้าของการดําเนินงานโครงการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีอัจฉริยะในการผลิตสับปะรดผลสด ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการเตรียมแปลงและยกร่องปลูกแล้วพื้นที่รวม 3 ไร่ และดําเนินการติดตั้งระบบน้ําแบบสปริงเกอร์ ติดตั้งตู้ควบคุมและเซนเซอร์วัดน้ําฝนอัจฉริยะ คาดว่าในปี 2567 จะได้เทคโนโลยีที่เกี่ยวกับระบบให้น้ําอัตโนมัติและให้ปุ๋ยตามความต้องการของพืช และเกษตรกรสามารถนําไปใช้ประโยชน์ได้จริง สามารถเพิ่มประสิทธิภาพการใช้ปัจจัยการผลิตตามความต้องการของพืช ลดการสูญเสียปัจจัยการผลิตและเพิ่มปริมาณและคุณภาพของผลผลิต รวมทั้งระบบการปลูกสับปะรดโดยใช้เครื่องจักรกลเกษตรที่เหมาะสม ซึ่งจะช่วยให้เกษตรกรลดปัญหาต้นทุนการผลิตเรื่องแรงงานได้ โดยกลุ่มเป้าหมายที่สามารถนําไปใช้ประโยชน์ ได้แก่ กลุ่มเกษตรกรแปลงใหญ่สับปะรด จังหวัดเพชรบุรี บริษัท และผู้ประกอบการที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้การบริหารจัดการแปลงผลิตสับปะรดมีประสิทธิภาพมากขึ้น รวมทั้งนักวิชาการ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่มีความสนใจในด้านนี้สามารถนําไปต่อยอดในการวิจัยได้ต่อไป
18/1/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
Radio-สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230118205746415
null
รมช.เกษตรและสหกรณ์ ลงพื้นที่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ติดตามการแก้ไขปัญหาที่ดินทำกิน หนุนระบบสหกรณ์แก้ไขปัญหาอาชีพ สร้างรายอย่างได้มั่นคง
(18 ม.ค.66) ที่อาคารโดมเอนกประสงค์ องค์การบริหารส่วนตําบลทองมงคล ตําบลทองมงคล อําเภอบางสะพาน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ นางสาวมนัญญา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมด้วย นายวิศิษฐ์ ศรีสุวรรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ นายนิรันดร์ มูลธิดา รองอธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ นายประยูร พะมะ สหกรณ์จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และผู้บริหารหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ติดตามการแก้ไขปัญหาที่ดินทํากินให้กับสมาชิกนิคมสหกรณ์บางสะพาน จํากัด และพบปะสมาชิกสหกรณ์ในพื้นที่ โดยมี นายกิตติพงศ์ สุขภาคกุล รองผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ นายนิตย์ ตั่นอนุพันธ์ ผู้แทนสมาชิกสหกรณ์นิคมบางสะพาน จํากัด หัวหน้าส่วนราชการ คณะกรรมการดําเนินการสหกรณ์ สมาชิกสหกรณ์ และประชาชนในพื้นที่กว่า 1,000 คน ให้การต้อนรับ นางสาวมนัญญา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวภายหลังการประชุมติดตามการแก้ไขปัญหาที่ดินทํากินของสมาชิกสหกรณ์นิคมบางสะพาน จํากัด ว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์โดยกรมส่งเสริมสหกรณ์ได้ดําเนินการนําที่ดินป่าสงวนแห่งชาติป่าเขาไชยราช และป่าคลองกรูด และป่าสงวนแห่งชาติ พุน้ําเค็ม ที่ได้รับมอบมาเข้าสู่กระบวนการจัดที่ดินทํากินให้ชุมชนตามนโยบายรัฐบาล (คทช.) เพื่อให้สอดคล้องกับนโยบาย ระเบียบกฎหมาย มติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง และการบริหารจัดการที่ดินและทรัพยากรดินของประเทศให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ แก้ไขความเดือดร้อนของประชาชน การกระจายการถือครองที่ดินอย่างเป็นธรรม โดยประธานคณะกรรมการ นโยบายที่ดินแห่งชาติได้แต่งตั้งอธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์เป็นอนุกรรมการและเลขานุการในคณะอนุกรรมการส่งเสริมพัฒนาอาชีพและการตลาด มีอํานาจหน้าที่ในการส่งเสริมพัฒนาอาชีพและการตลาดในรูปแบบของชุมชน เช่น สหกรณ์ วิสาหกิจชุมชน กลุ่มเกษตรกร ตามแนวทางเศรษฐกิจพอเพียง ภายใต้การใช้ระบบอนุรักษ์ดินและน้ําที่เหมาะสม และพัฒนาระบบสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐาน เพื่อสนับสนุนการดํารงชีวิตของผู้ที่ได้รับการจัดสรรที่ดิน นอกจากนี้ กรมส่งเสริมสหกรณ์ยังมีภารกิจหลักในการส่งเสริมแนะนําสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกรทั้งทางด้านเศรษฐกิจและสังคม โดยมีเป้าหมายหลักเพื่อให้ระบบสหกรณ์ได้รับการส่งเสริมและพัฒนาให้เป็นกลไกการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมเพื่อเพิ่มขีดความสามารถของชุมชนทั้งนี้ ได้มอบนโยบายตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 16 ธันวาคม 2513 และวันที่ 13 สิงหาคม 2517 ให้กรมส่งเสริมสหกรณ์จัดที่ดินในพื้นที่ป่าสงวนที่เสื่อมโทรม คือในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าเขาไชยราช และป่าคลองกรูด-ป่าพุน้ําเค็ม อําเภอบางสะพาน และอําเภอบางสะพานน้อย เนื้อที่ 156,078 ไร่ 1 งาน 53 วา โดยนํามาบริหารจัดการที่ดินในรูปแบบสหกรณ์นิคม ดําเนินการตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา โดยมีนิคมสหกรณ์บางสะพานเป็นผู้รับผิดชอบการจัดพื้นที่ในพื้นที่นิคมสหกรณ์ พื้นที่สหกรณ์นิคมบางสะพาน จํากัด มีเกษตรกรเป็นสมาชิกใน 2 อําเภอ คือบางสะพาน และบางสะพานน้อยรวม 10 ตําบล มีพื้นที่ 160,000 ไร่ มีเกษตรกรกว่า 7,000 ราย ประกอบอาชีพในที่ดินกว่่ 9,000 แปลง ต่อมาปี 2562 สิ้นอายุสัญญาอนุญาตของกรมป่าไม้ ชาวบ้านจึงไม่มีสิทธิ์เข้าทํากิน ทางนิคมสหกรณ์จึงได้ประสานหมู่บ้านต่างๆ ทําประชาคมเพื่อทําเรื่องขออนุญาตใหม่ โดยผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ได้ลงนามส่งหนังสือถึงกรมป่าไม้ ขอใช้ประโยชน์ที่ดิน เพื่อขออนุญาตใช้เป็นหนังสือ ป.ส.23 ต่อมาได้มีมติคณะกรรมการจัดที่ดินแห่งชาติให้กรมส่งเสริมสหกรณ์ส่งคืนพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติที่เสื่อมโทรมให้กรมป่าไม้ดําเนินการตามอํานาจหน้าที่การแก้ไขปัญหาพื้นที่นิคมสหกรณ์ 13 นิคม 14 ป่า ภายใต้การจัดที่ดินทํากินให้ชุมชน (คทช.)นอกจากนี้ ยังได้เน้นย้ําในเรื่องการส่งเสริมการทําอาชีพการเกษตร ส่งเสริมการผลิตสินค้าเกษตรที่มีคุณภาพอย่างครบวงจร ตั้งแต่ต้นน้ํา กลางน้ํา และปลายน้ํา โดยการส่งเสริมให้เกษตรกร ลด ละ เลิก การใช้สารเคมี ในการกําจัดวัชพืชหรือศัตรูพืช ส่งเสริมการผลิตสินค้าเกษตรในรูปแบบการทําเกษตรที่ดีและเหมาะสม (GAP) เพื่อให้สินค้าเกษตรมีความปลอดภัยต่อผู้บริโภค ยกระดับความเข้มแข็งของสหกรณ์ให้เป็นองค์กรในระดับชุมชนในการรวบรวม จัดเก็บ แปรรูป ผลผลิตทางการเกษตรในระดับพื้นที่ รวมทั้งการจัดทําโครงการซูเปอร์มาร์เก็ตสหกรณ์ เพื่อให้เป็นสถานที่จําหน่ายสินค้าของสมาชิกที่มีคุณภาพ และการเชื่อมโยงเครือข่ายการตลาดระหว่างขบวนการสหกรณ์ ภาคเอกชน เพื่อกระจายผลผลิตที่มีคุณภาพปลอดภัยไปสู่ผู้บริโภค นอกจากนี้ โครงการนําลูกหลานเกษตรกรกลับบ้าน สานต่ออาชีพการเกษตร เป็นการให้ลูกหลานเกษตรกรได้กลับมาอยู่กับครอบครัว ใช้ความรู้ประสบการณ์จากภาคอุตสาหกรรมและบริการ รวมทั้งเทคโนโลยีต่าง ๆ มาพัฒนาการเกษตรของครอบครัวเป็นการสร้างงาน สร้างอาชีพการเกษตร ให้เกิดความยั่งยืนจากนั้น รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เดินทางไปพบปะสมาชิกสหกรณ์นิคมบางสะพาน จํากัด จํานวน 3 หลังคาเรือน ได้แก่ บ้านนายลด วงศ์เณร หมู่ที่ 6 ตําบลทองมงคล อําเภอบางสะพาน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ บ้านนายวัน วงค์จันทร์ทอง หมู่ ที่ 6 ตําบลทองมงคล อําเภอบางสะพาน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และบ้านนายลําดวน หนูยิ้มซ้าย หมู่ที่ 4 ตําบลทองมงคล อําเภอบางสะพาน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พร้อมเยี่ยมเยียนสถานที่ที่เป็นปัจจัยพื้นฐาน เช่น โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตําบลทองมงคล วัดทองมงคล โรงเรียนบ้านทองมงคล อ่างน้ําโป่งสามสิบ เป็นต้น ในพื้นที่ตําบลทองมงคล อําเภอบางสะพาน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ #สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
18/1/2023
null
ประจวบคีรีขันธ์
สวท.ประจวบคีรีขันธ์
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230118141601273
null
รองผู้ว่าฯ ประธานเปิดอบรมถ่ายทอดความรู้การผลิตมังคุดคุณภาพ ขณะที่เกษตรจังหวัดยะลาเตรียมผลักดัน มังคุดยะลา พืชอัตลักษณ์ประจำถิ่น สิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ GI สู่ตลาด
วันนี้ 18 ม.ค.66 ที่ ศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาอาชีพการเกษตรจังหวัดยะลา ต.ปุโรง อ.กรงปินัง จ.ยะลา นายอํานาจ ชูทอง รองผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา ได้เป็นประธานเปิดการอบรมถ่ายทอดความรู้พัฒนาทักษะการผลิตมังคุดคุณภาพ เพื่อพัฒนาเกษตรกร ให้มีความรู้ความเข้าใจด้านการผลิตมังคุดของเกษตรกรให้มีคุณภาพ ได้ตามมาตรฐานการผลิตพืชปลอดภัย และตรงกับความต้องการของตลาด จัดโดยสํานักงานเกษตรจังหวัดยะลา ร่วมกับศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาอาชีพการเกษตรจังหวัดยะลา อําเภอกรงปินัง สํานักงานพาณิชย์จังหวัดยะลา และหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์จังหวัดยะลา โดยมีเกษตรกรผู้ปลูกมังคุดในพื้นที่จังหวัดยะลา จํานวน 200 คน เข้าร่วมนายกัสมัน ยะมาแล เกษตรจังหวัดยะลา เปิดเผยว่า มังคุด เป็นไม้ผลเศรษฐกิจที่สําคัญและเป็นไม้ผลเด่นที่สร้างชื่อเสียงให้กับจังหวัดยะลา เนื่องจากมังคุดที่ปลูกในจังหวัดยะลามีคุณลักษณะและรสชาติโดดเด่นแตกต่างจากแหล่งปลูกอื่น แต่ปัจจุบันเกษตรกรปล่อยปละละเลยไม่จัดการดูแลสวนเนื่องจากมีราคาต่ํา ประกอบกับกระแสนิยมการปลูกทุเรียนมากขึ้น ทําให้พื้นที่ปลูกมังคุดลดลง ข้อมูลการผลิตมังคุดจากสํานักงานเศรษฐกิจการเกษตร ปี 2564 มีผลผลิตเฉลี่ย 637 กิโลกรัมต่อไร่ต่อปี เปรียบเทียบกับในปี 2565 จังหวัดยะลามีเนื้อที่เพาะปลูกเหลือเพียง 6,468 ไร่ เนื้อที่เก็บเกี่ยว 6,238 ไร่ มีผลผลิตเฉลี่ย 120 กิโลกรัมต่อไร่ต่อปี การผลิตมังคุดในจังหวัดยะลายังคงมีผลผลิตเฉลี่ยต่อไร่ต่ํากว่าค่าเฉลี่ยทั้งประเทศ และคุณภาพของผลผลิตยังมีน้อยกว่าภูมิภาคอื่นเมื่อเปรียบเทียบกับพื้นที่ปลูกทั้งหมด เนื่องจากเกษตรกรขาดการดูแล ส่งผลให้ผลผลิตที่ได้ไม่มีคุณภาพและขายได้ราคาต่ํา แต่สถานการณ์ปัจจุบันพบมีกระแสการบริโภคมังคุดเพิ่มมากขึ้น จังหวัดยะลา จึงได้เตรียมผลักดันมังคุดสู่พืชอัตลักษณ์ประจําถิ่น จึงมีความจําเป็นต้องพัฒนาความรู้ของเกษตรกรผู้ปลูกมังคุดในจังหวัดยะลา โดยเฉพาะเกษตรกรรุ่นใหม่ ให้สามารถผลิตมังคุดที่มีคุณภาพออกสู่ตลาด จึงได้จัดกิจกรรมการอบรมถ่ายทอดความรู้พัฒนาทักษะการผลิตมังคุดคุณภาพ ภายใต้โครงการขยายผลการพัฒนาไม้ผลที่มีศักยภาพ ในกลุ่มจังหวัดภาคใต้ชายแดน จากงบประมาณ แผนงานโครงการตามแผนปฏิบัติราชการ ประจําปี 2566 ของกลุ่มจังหวัดภาคใต้ชายแดน เพื่อพัฒนาเกษตรกร ให้มีความรู้ความเข้าใจด้านการผลิตมังคุดของเกษตรกรให้มีคุณภาพได้ตามมาตรฐานการผลิตพืชปลอดภัย และตรงกับความต้องการของตลาด กิจกรรมการอบรม ประกอบด้วยการให้ความรู้การจัดการผลิตมังคุดในระยะเตรียมต้น ระยะออกดอก ระยะติดผล ระยะเก็บเกี่ยว รวมทั้งการจัดชั้นคุณภาพมังคุด การประเมิณความสุกแก่ของมังคุด และช่องทางการจําหน่าย ด้านการตลาด#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
18/1/2023
ภาคใต้
ยะลา
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดยะลา
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230118123757220
null
จ.ยะลา เตรียมผลักดัน"มังคุด"สู่พืชอัตลักษณ์ประจำถิ่น
วันนี้ 18 มกราคม 2566 สํานักงานเกษตรจังหวัดยะลา ได้จัดกิจกรรมการอบรมถ่ายทอดความรู้พัฒนาทักษะการผลิตมังคุดคุณภาพ เกษตรกรผู้ปลูกมังคุดในพื้นที่จังหวัดยะลา จํานวน 200 คน ณ ศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาอาชีพการเกษตรจังหวัดยะลา ตําบลปุโรง อําเภอกรงปินัง จังหวัดยะลา โดยมีนายอํานาจ ชูทอง รองผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา นายกัสมัน ยะมาแล เกษตรจังหวัดยะลา หัวหน้า/ ผู้แทนส่วนราชการจังหวัด อําเภอ ผู้นําท้องถิ่น ผู้เกี่ยวข้อง และเกษตรกรเข้าร่วมสําหรับกิจกรรมอบรมถ่ายทอดความรู้พัฒนาทักษะการผลิตมังคุดคุณภาพ เป็นโครงการภายใต้การขยายผลการพัฒนาไม้ผลที่มีศักยภาพ ในกลุ่มจังหวัดภาคใต้ชายแดน จัดขึ้น เพื่อพัฒนาเกษตรกร ให้มีความรู้ความเข้าใจด้านการผลิตมังคุดของเกษตรกรให้มีคุณภาพได้ตามมาตรฐานการผลิตพืชปลอดภัย และตรงกับความต้องการของตลาดโดย มังคุด เป็นไม้ผลเศรษฐกิจที่สําคัญและเป็นไม้ผลเด่นที่สร้างชื่อเสียงให้กับจังหวัดยะลา เนื่องจากมังคุดที่ปลูกในจังหวัดยะลามีคุณลักษณะและรสชาติโดดเด่นแตกต่างจากแหล่งปลูกอื่น แต่ปัจจุบันเกษตรกรปล่อยปละละเลยไม่จัดการดูแลสวนเนื่องจากมีราคาต่ํา ประกอบกับกระแสนิยมการปลูกทุเรียนมากขึ้น ทําให้พื้นที่ปลูกมังคุดลดลง ซึ่งจากข้อมูลการผลิตมังคุด สํานักงานเศรษฐกิจการเกษตร ปี 2564 พบว่ามีผลผลิตเฉลี่ย 637 กิโลกรัมต่อไร่ต่อปี เปรียบเทียบกับในปี 2565 จังหวัดยะลามีเนื้อที่เพาะปลูกเหลือเพียง 6,468 ไร่ เนื้อที่เก็บเกี่ยว 6,238 ไร่ มีผลผลิตเฉลี่ย 120 กิโลกรัมต่อไร่ต่อปี จะเห็นได้ว่าการผลิตมังคุดในจังหวัดยะลายังคงมีผลผลิตเฉลี่ยต่อไร่ต่ํากว่าค่าเฉลี่ยทั้งประเทศ และคุณภาพของผลผลิตยังมีน้อยกว่าภูมิภาคอื่นเมื่อเปรียบเทียบกับพื้นที่ปลูกทั้งหมด เนื่องจากเกษตรกรขาดการดูแล ส่งผลให้ผลผลิตที่ได้ไม่มีคุณภาพและขายได้ราคาต่ํา แต่ทว่าสถานการณ์ปัจจุบันพบมีกระแสการบริโภคมังคุดเพิ่มมากขึ้น จังหวัดยะลา จึงเตรียมที่จะผลักดันมังคุดสู่พืชอัตลักษณ์ประจําถิ่น และจําเป็นที่จะต้องพัฒนาความรู้ของเกษตรกรผู้ปลูกมังคุดในจังหวัดยะลา โดยเฉพาะเกษตรกรรุ่นใหม่ ให้สามารถผลิตมังคุดที่มีคุณภาพออกสู่ตลาดต่อไป#สํานักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
18/1/2023
ภาคใต้
ยะลา
สทท.ยะลา
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230118124010221
null
ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ส่งเสริม Soft power ขับเคลื่อนและผลักดันการพัฒนาเกลือทะเลไทย จังหวัดเพชรบุรี ชู ตลาดนำการผลิต เชื่อมโยงการท่องเที่ยววิถีชุมชน
วันนี้ (18 ม.ค.66) เวลา 10.00 น. ที่แปลงนาเกลือของเกษตรกร นายคทาวุธ บุญมา สหกรณ์การเกษตรเกลือทะเลไทยเพชรบุรี ตําบลบ้านแหลม อําเภอบ้านแหลม จังหวัดเพชรบุรี นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายนวนิตย์ พลเคน รองอธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร นางวันเพ็ญ มังศรี รองผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี ผู้บริหารกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ หัวหน้าส่วนราชการ และเกษตรกร ร่วมกิจกรรม อนุรักษ์และสืบสานภูมิปัญญาด้านเกลือทะเล นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้พัฒนาเกลือทะเลไทยแบบครบวงจรตั้งแต่การวิจัยพัฒนา การผลิต การแปรรูป การพัฒนาผลิตภัณฑ์ การสร้างแบรนด์และการตลาด ผสมผสานการค้าสินค้าและการบริการเชื่อมโยงการท่องเที่ยวเชิงเกษตร การพัฒนาระบบสมดุลนิเวศเพื่อความยั่งยืน การสืบสานภูมิปัญญาด้านเกลือทะเล “ประเพณีการทําขวัญเกลือ” เพื่อให้เห็นถึงความสําคัญของเกลือทะเลไทย เป็นแนวทางในการส่งเสริม Soft power การคุ้มครองเกลือทะเลไทย ขับเคลื่อนและผลักดันการพัฒนาเกลือ ภายใต้ยุทธศาสตร์ ตลาดนําการผลิต ทั้งนี้ จังหวัดเพชรบุรี มีความโดดเด่นด้านการท่องเที่ยวด้านการเกษตร ธรรมชาติ ประวัติศาสตร์ ศิลปวัฒนธรรม เป็นเมือง 3 รส รสเปรี้ยวจากมะนาว รสหวานจากตาลโตนด และรสเค็มจากเกลือ พื้นที่ริมทะเลตั้งแต่ตําบลบางตะบูนถึงตําบลบ้านแหลม จังหวัดเพชรบุรี มีพื้นที่การผลิตนาเกลือกว่า 20,000 ไร่ เป็นพื้นที่สวยงามเหมาะสําคัญการท่องเที่ยวเชิงเกษตรสัมผัสวิถีชีวิตชุมชน กระตุ้นเศรษฐกิจการท่องเที่ยวในพื้นที่นภสวรรณ มีลิ/สวท.เพชรบุรี#สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
18/1/2023
null
เพชรบุรี
สวท.เพชรบุรี
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230118134427264
null